• https://youtu.be/Exa_ruMH2QE?si=2EfwRSmEa8hbmLVG
    https://youtu.be/Exa_ruMH2QE?si=2EfwRSmEa8hbmLVG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีทางไซเบอร์ที่พุ่งเป้าไปยังหน่วยงานต่างๆ ของไต้หวันเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2024 มาอยู่ที่เฉลี่ย 2.4 ล้านครั้งต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการของกองกำลังไซเบอร์ในจีน ตามข้อมูลจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไต้หวัน

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไต้หวันร้องเรียนว่าถูกปักกิ่งข่มขู่ด้วยกลยุทธ์พื้นที่สีเทา (grey zone harrassment) ซึ่งมีตั้งแต่การเปิดซ้อมรบทางทหาร การส่งบอลลูนเข้าน่านฟ้าไต้หวัน และปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อที่จะบีบบังคับให้เกาะประชาธิปไตยแห่งนี้ยอมรับว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน

    รายงานของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไต้หวันที่เผยแพร่วานนี้ (5 ม.ค.) ระบุว่า เครือข่ายบริการแห่งรัฐบาลไต้หวัน (Government Service Network - GSN) ตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ต่อหน่วยงานต่างๆ เฉลี่ย 2.4 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากค่าเฉลี่ย 1.2 ล้านครั้งต่อวันในปี 2023

    ทางสำนักงานยังออกมาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุโจมตีเหล่านี้ โดยโทษว่าส่วนใหญ่เป็นฝีมือกองกำลังไซเบอร์จีน และมีเครือข่ายโทรคมนาคม การขนส่ง และหน่วยงานด้านกลาโหม เป็นเป้าหมายหลัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000001338

    #MGROnline #ไต้หวัน #ปักกิ่ง
    การโจมตีทางไซเบอร์ที่พุ่งเป้าไปยังหน่วยงานต่างๆ ของไต้หวันเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2024 มาอยู่ที่เฉลี่ย 2.4 ล้านครั้งต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการของกองกำลังไซเบอร์ในจีน ตามข้อมูลจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไต้หวัน • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไต้หวันร้องเรียนว่าถูกปักกิ่งข่มขู่ด้วยกลยุทธ์พื้นที่สีเทา (grey zone harrassment) ซึ่งมีตั้งแต่การเปิดซ้อมรบทางทหาร การส่งบอลลูนเข้าน่านฟ้าไต้หวัน และปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อที่จะบีบบังคับให้เกาะประชาธิปไตยแห่งนี้ยอมรับว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน • รายงานของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไต้หวันที่เผยแพร่วานนี้ (5 ม.ค.) ระบุว่า เครือข่ายบริการแห่งรัฐบาลไต้หวัน (Government Service Network - GSN) ตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ต่อหน่วยงานต่างๆ เฉลี่ย 2.4 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากค่าเฉลี่ย 1.2 ล้านครั้งต่อวันในปี 2023 • ทางสำนักงานยังออกมาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุโจมตีเหล่านี้ โดยโทษว่าส่วนใหญ่เป็นฝีมือกองกำลังไซเบอร์จีน และมีเครือข่ายโทรคมนาคม การขนส่ง และหน่วยงานด้านกลาโหม เป็นเป้าหมายหลัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000001338 • #MGROnline #ไต้หวัน #ปักกิ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติ และ ที่มาของ..ไส้อั่ว
    คำแปล(ภาษาไทย)อยู่ล่างสุด

    "Sai Oua" (Thai: ไส้อั่ว) or "Northern Thai Sausage" is a traditional food of the northern part of Thailand.
    .
    The culture of stuffing meat into the intestines is a way to preserve food since ancient times. It was found that this method of food preservation began in the Babylonian Empire tens of thousands of years ago. It is said that the Babylonians used finely ground meat to stuff into the intestines of goats and dried them in the sun until they were dry and stored as supplies when traveling to transport goods across the desert to sell in various lands before spreading to Europe and Asia, especially in southern China where there were many tribes such as the Tai Yai, Zhuang and Bai Yue, etc., which became the origin of the Silk Road in the later era.
    .
    "Sai Oua" in the northern part of Thailand, some people assume that this type of food was influenced by the Shan people or Tai Yai people who added spices to season the meat and grilled it until it had a fragrant smell. Later, the Shan people or Tai Yai had to flee from the war to settle in a new place in the northern part of Thailand. The Shan people brought this type of cooking culture with them, making "Sai Oua" a local food of the northern part of Thailand by default.
    .
    But some people assume that in ancient times, when it was a merit-making festival, villagers often brought a lot of pork to cook. But sometimes there was too much pork. Therefore, there is leftover pork, so there is a method of food preservation to prevent spoilage. Originally, it was cut into pieces and grilled or dried in the sun to store for later consumption. However, it was later developed and modified to be stored for a longer period of time by making fermented pork sausage and "Sai Oua", etc.
    .
    How to make "Sai Oua" It can be made by mixing finely ground pork with herbs and spices such as galangal, lemongrass, coriander root, garlic, shallots, kaffir lime peel, shrimp paste, turmeric and coriander. Then stuff it into the pork intestines and grill until cooked, which is popularly eaten with sticky rice and "Nam Prik Num" (Northern Thai Green Chilli Dip), which is a Thai sauce from the northern part of Thailand. Herbs and spices are what give "Sai Oua" its distinctive flavor and aroma. However, there is no fixed recipe for making "Sai Oua" because each region has its own unique flavoring, but the basics are still similar.
    .
    Note: The meaning of the word "Sai Oua" in the northern language, by starting with the word "Sai" which means "Intestines". The word "Oua" means to insert or stuff or stuff ingredients into the intestines.
    .

    “ไส้อั่ว” อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย
    .
    วัฒนธรรมการยัดเนื้อและไขมันสัตว์ เข้าไปในลำไส้เป็นวิธีถนอมอาหาร มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรบาบิลอนเมื่อหลายหมื่นปีก่อน กล่าวกันว่าชาวบาบิลอนใช้เนื้อบดละเอียดยัดเข้าไปในลำไส้แพะแล้วตากแดดให้แห้ง จากนั้นจึงเก็บเอาไว้เป็นเสบียงในการเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าข้ามทะเลทรายไปขายในดินแดนต่างๆ ก่อนจะแพร่หลายไปสู่ทวีปยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะทางตอนใต้ของจีนซึ่งมีชนเผ่าหลายเผ่า เช่น ไทใหญ่ จ้วง และไป๋เยว่ บนเส้นทางสายไหม
    .
    “ไส้อั่ว” ในภาคเหนือของไทย สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากรัฐฉาน หรือ ชาวไทใหญ่ที่ปรุงรสเนื้อด้วยเครื่องเทศและย่างจนมีกลิ่นหอม ต่อมาชาวไทใหญ่หรือชาวไทใหญ่ต้องอพยพหนีสงครามไปตั้งถิ่นฐานใหม่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวไทใหญ่ได้นำวัฒนธรรมการทำอาหารแบบนี้ติดตัวมาด้วย ทำให้ "ไส้อั่ว" เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือของประเทศไทยโดยปริยาย
    .
    แต่บางคนก็เข้าใจว่าในสมัยโบราณเมื่อเป็นงานบุญชาวบ้านมักจะนำเนื้อหมูมาทำอาหารเป็นจำนวนมาก แต่บางครั้งก็มีเนื้อหมูมากเกินไป จึงมีเนื้อหมูเหลือ จึงมีวิธีถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย เดิมทีจะหั่นเป็นชิ้นแล้วย่างหรือตากแห้งเพื่อเก็บไว้รับประทานภายหลัง แต่ภายหลังได้มีการพัฒนาและดัดแปลงให้เก็บไว้ได้นานขึ้นโดยทำเป็นไส้กรอกหมูหมักและ "ไส้อั่ว" เป็นต้น

    วิธีทำ “ไส้อั่ว” ทำได้โดยนำเนื้อหมูบดละเอียดมาผสมกับสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น ข่า ตะไคร้ รากผักชี กระเทียม หอมแดง เปลือกมะกรูด กะปิ ขมิ้น ผักชี แล้วนำไปยัดใส่เครื่องในหมูแล้วปิ้งให้สุก นิยมทานคู่กับข้าวเหนียวและ “น้ำพริกหนุ่ม” ซึ่งเป็นน้ำจิ้มไทยภาคเหนือของประเทศไทย สมุนไพรและเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ “ไส้อั่ว” มีรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่ไม่มีสูตรการทำ “ไส้อั่ว” ตายตัว เพราะแต่ละภาคจะมีรสชาติเฉพาะตัว แต่หลักการทำยังคงคล้ายๆ กัน
    .
    หมายเหตุ: ความหมายของคำว่า “ไส้อั่ว” ในภาษาเหนือ โดยขึ้นต้นด้วยคำว่า “ไส้” คำว่า “ไส้อั่ว” แปลว่า การสอดหรือยัดวัตถุดิบเข้าไปในไส้

    ไส้อั่ว รสลิ้นคนไทย ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี รสเข้มข้น หอมมาก
    แนะนำ "ไส้อั่วเม็งราย" ของ ร้านอัมพร
    เปิดมานานหลายสิบปี (เดิม)ร้านตั้งอยู่ที่ เชิงสะพานเม็งราย ฝั่งหนองหอย
    ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา
    ปัจจุบัน ย้ายยาอยู่ริมถนนมหิดล ตรงข้ามปากทางเข้าเชียงใหม่แลนด์
    มี ไส้อั่ว แหนม แหนมหม้อ น้ำพริกหนุ่ม แค๊บหมู หมูกระจก แกงฮังเล..

    https://maps.app.goo.gl/jfhXDnJbQL1w8Kk9A
    .
    ประวัติ และ ที่มาของ..ไส้อั่ว คำแปล(ภาษาไทย)อยู่ล่างสุด "Sai Oua" (Thai: ไส้อั่ว) or "Northern Thai Sausage" is a traditional food of the northern part of Thailand. . The culture of stuffing meat into the intestines is a way to preserve food since ancient times. It was found that this method of food preservation began in the Babylonian Empire tens of thousands of years ago. It is said that the Babylonians used finely ground meat to stuff into the intestines of goats and dried them in the sun until they were dry and stored as supplies when traveling to transport goods across the desert to sell in various lands before spreading to Europe and Asia, especially in southern China where there were many tribes such as the Tai Yai, Zhuang and Bai Yue, etc., which became the origin of the Silk Road in the later era. . "Sai Oua" in the northern part of Thailand, some people assume that this type of food was influenced by the Shan people or Tai Yai people who added spices to season the meat and grilled it until it had a fragrant smell. Later, the Shan people or Tai Yai had to flee from the war to settle in a new place in the northern part of Thailand. The Shan people brought this type of cooking culture with them, making "Sai Oua" a local food of the northern part of Thailand by default. . But some people assume that in ancient times, when it was a merit-making festival, villagers often brought a lot of pork to cook. But sometimes there was too much pork. Therefore, there is leftover pork, so there is a method of food preservation to prevent spoilage. Originally, it was cut into pieces and grilled or dried in the sun to store for later consumption. However, it was later developed and modified to be stored for a longer period of time by making fermented pork sausage and "Sai Oua", etc. . How to make "Sai Oua" It can be made by mixing finely ground pork with herbs and spices such as galangal, lemongrass, coriander root, garlic, shallots, kaffir lime peel, shrimp paste, turmeric and coriander. Then stuff it into the pork intestines and grill until cooked, which is popularly eaten with sticky rice and "Nam Prik Num" (Northern Thai Green Chilli Dip), which is a Thai sauce from the northern part of Thailand. Herbs and spices are what give "Sai Oua" its distinctive flavor and aroma. However, there is no fixed recipe for making "Sai Oua" because each region has its own unique flavoring, but the basics are still similar. . Note: The meaning of the word "Sai Oua" in the northern language, by starting with the word "Sai" which means "Intestines". The word "Oua" means to insert or stuff or stuff ingredients into the intestines. . “ไส้อั่ว” อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย . วัฒนธรรมการยัดเนื้อและไขมันสัตว์ เข้าไปในลำไส้เป็นวิธีถนอมอาหาร มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรบาบิลอนเมื่อหลายหมื่นปีก่อน กล่าวกันว่าชาวบาบิลอนใช้เนื้อบดละเอียดยัดเข้าไปในลำไส้แพะแล้วตากแดดให้แห้ง จากนั้นจึงเก็บเอาไว้เป็นเสบียงในการเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าข้ามทะเลทรายไปขายในดินแดนต่างๆ ก่อนจะแพร่หลายไปสู่ทวีปยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะทางตอนใต้ของจีนซึ่งมีชนเผ่าหลายเผ่า เช่น ไทใหญ่ จ้วง และไป๋เยว่ บนเส้นทางสายไหม . “ไส้อั่ว” ในภาคเหนือของไทย สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากรัฐฉาน หรือ ชาวไทใหญ่ที่ปรุงรสเนื้อด้วยเครื่องเทศและย่างจนมีกลิ่นหอม ต่อมาชาวไทใหญ่หรือชาวไทใหญ่ต้องอพยพหนีสงครามไปตั้งถิ่นฐานใหม่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวไทใหญ่ได้นำวัฒนธรรมการทำอาหารแบบนี้ติดตัวมาด้วย ทำให้ "ไส้อั่ว" เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือของประเทศไทยโดยปริยาย . แต่บางคนก็เข้าใจว่าในสมัยโบราณเมื่อเป็นงานบุญชาวบ้านมักจะนำเนื้อหมูมาทำอาหารเป็นจำนวนมาก แต่บางครั้งก็มีเนื้อหมูมากเกินไป จึงมีเนื้อหมูเหลือ จึงมีวิธีถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย เดิมทีจะหั่นเป็นชิ้นแล้วย่างหรือตากแห้งเพื่อเก็บไว้รับประทานภายหลัง แต่ภายหลังได้มีการพัฒนาและดัดแปลงให้เก็บไว้ได้นานขึ้นโดยทำเป็นไส้กรอกหมูหมักและ "ไส้อั่ว" เป็นต้น วิธีทำ “ไส้อั่ว” ทำได้โดยนำเนื้อหมูบดละเอียดมาผสมกับสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น ข่า ตะไคร้ รากผักชี กระเทียม หอมแดง เปลือกมะกรูด กะปิ ขมิ้น ผักชี แล้วนำไปยัดใส่เครื่องในหมูแล้วปิ้งให้สุก นิยมทานคู่กับข้าวเหนียวและ “น้ำพริกหนุ่ม” ซึ่งเป็นน้ำจิ้มไทยภาคเหนือของประเทศไทย สมุนไพรและเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ “ไส้อั่ว” มีรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่ไม่มีสูตรการทำ “ไส้อั่ว” ตายตัว เพราะแต่ละภาคจะมีรสชาติเฉพาะตัว แต่หลักการทำยังคงคล้ายๆ กัน . หมายเหตุ: ความหมายของคำว่า “ไส้อั่ว” ในภาษาเหนือ โดยขึ้นต้นด้วยคำว่า “ไส้” คำว่า “ไส้อั่ว” แปลว่า การสอดหรือยัดวัตถุดิบเข้าไปในไส้ ไส้อั่ว รสลิ้นคนไทย ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี รสเข้มข้น หอมมาก แนะนำ "ไส้อั่วเม็งราย" ของ ร้านอัมพร เปิดมานานหลายสิบปี (เดิม)ร้านตั้งอยู่ที่ เชิงสะพานเม็งราย ฝั่งหนองหอย ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ปัจจุบัน ย้ายยาอยู่ริมถนนมหิดล ตรงข้ามปากทางเข้าเชียงใหม่แลนด์ มี ไส้อั่ว แหนม แหนมหม้อ น้ำพริกหนุ่ม แค๊บหมู หมูกระจก แกงฮังเล.. https://maps.app.goo.gl/jfhXDnJbQL1w8Kk9A .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP5 นี้ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านความปลอดภัยทางการบินที่ขอมุ่งเน้นไปทางด้านความปลอดภัยของเครื่องบินขณะทำการวิ่งขึ้นหรือกำลังวิ่งลงบนทางวิ่งที่สนามบินนะครับ

    จากข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัย (Safety Report) ปี 2024 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ได้จำแนกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอยู่ 5 เหตุการณ์ คือ 1 การควบคุมอากาศยานเข้าสู่สภาพภูมิประเทศ (Controlled Flight Into Terrain: CFIT) 2 การสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (Loss Of Control In-Flight: LOC-I) 3 การชนกันกลางอากาศ (Mid-Air Collision: MAC) 4 การเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion: RE) และ 5 การล่วงล้ำบนทางวิ่ง (Runway Incursion: RI)

    ที่จะขอพูดถึงในครั้งนี้ขอกล่าวถึงอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งเป็นหลักเพื่อที่จะนำเข้าสู่หัวข้อและเนื้อหาการประชุมของ ICAO ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( ICAO APAC) เมื่อต้นป 67 ที่ผ่านมา

    การไถลออกนอกทางวิ่ง ICAO ได้ให้นิยามไว้คือการที่เครื่องบินเบี่ยงเบนออกจากทางวิ่งหรือการวิ่งเลยออกปลายทางวิ่งในขณะที่ทำการบินลงหรือวิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวจากต่างประเทศตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยเราก็มีกรณีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งเช่นเดียวกันที่จังหวัดเชียงรายซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงฉบับสุดท้าย (Final Aircraft Serious Incident Investigation Report) ที่จะแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นั้นว่าคืออะไร (โดยตามมาตรฐาน ICAO นั้น รายงานฉบับสุดท้ายควรออกมาภายใน 12 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์)

    การไถลออกนอกทางวิ่งบนพื้นที่ของสนามบินที่ออกแบบและสร้างได้ตามมาตรฐานหรือสูงกว่ามาตรฐานจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อตัวอากาศยานและการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้ายๆกับการที่เราบังเอิญขับรถพุ่งออกจากถนนจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พอดีพื้นที่ด้านข้างหรือไหล่ถนนนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอให้เราควบคุมรถยนต์ให้ค่อยๆหยุดลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ปะทะหรือชนเข้ากับสิ่งใดเราก็ปลอดภัย แต่ถ้าหากพื้นที่ด้านข้างถนนแคบหรือมีน้อยแถมมีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนนหรือเป็นคลองส่งน้ำชลประทานหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด เราก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันตรายมากเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้เป็นอากาศยานหรือวัตถุที่มีขนาด มวล น้ำหนัก และความเร็วที่แตกต่างกันกับรถยนต์มาก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างจากกรณีของรถยนต์อย่างสิ้นเชิง

    ในส่วนของพื้นที่ที่รองรับการออกนอกทางวิ่งของเครื่องบินเราเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ซึ่งจะมีขนาดที่แตกต่างกันตามประเภทของทางวิ่งที่รองรับอากาศยานรวมทั้งทางหยุด (Stop Way) (ถ้ามี) ทั้งนี้ยังรวมถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็คือพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ที่เอาไว้สำหรับรองรับการวิ่งเลยปลายทางวิ่งออกไปและในกรณีที่เครื่องบินลงก่อนถึงจุดเริ่มต้นของหัวทางวิ่ง (Runway Threshold) ด้วยเช่นกัน (สามารถดาวน์โหลดข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ฉบับที่ 37 ในเว็ปไซต์ กพท.หรือ ICAO Annex 14 Vol.1 ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อดูในรายละเอียดได้) พื้นที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยในกรณีเกิด Runway excursion ขึ้น

    เราลองมาดูนิยามและมาตรฐานในข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนดีกว่า ความหมายของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 (อ้างอิงจากมาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations) กำหนดไว้ว่า “พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) หมายความว่า พื้นที่ที่กําหนดไว้ซึ่งรวมถึงทางวิ่งและทางหยุด (ถ้ามี) ที่กําหนดไว้เพื่อ (1) ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่วิ่งออกนอกทางวิ่ง และ (2) ป้องกันอากาศยานที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติการวิ่งขึ้นหรือการบินลงของอากาศยาน
    2. ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง
    ข้อ 145 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งต้องขยายต่อออกไปจากหัวทางวิ่งและยาวเลยปลายทางวิ่งหรือทางหยุดไม่น้อยกว่าระยะทาง ดังต่อไปนี้
    (1) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 2, 3 หรือ 4
    (2) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน
    (3) สามสิบ (30) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบการบิน
    ข้อ 146 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบพรีซิชั่น (Precision) และทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (Non-Precision) ต้องขยายไปทางด้านข้างแต่ละด้านของเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปตลอดความยาวของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนั้นเป็นระยะทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
    (1) หนึ่งร้อยสี่สิบ (140) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4
    (2) เจ็ดสิบ (70) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 หรือ 2
    4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง
    ข้อ 152 เพื่อประโยชน์ในการรองรับเครื่องบินที่จะใช้ทางวิ่ง ในกรณีที่เครื่องบินวิ่งออกนอกทางวิ่ง สนามบินต้องปรับระดับ (Graded portion) ส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัด

    ประกอบการบิน อย่างน้อยภายในระยะจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ขยายออกไปดังต่อไปนี้
    (1) หนึ่งร้อยห้า (105) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 ตามรูปที่ 9
    (2) เจ็ดสิบห้า (75) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4
    (3) สี่สิบ (40) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นและทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1หรือ 2
    ข้อ 161 หากมีความจำเป็นต้องมีการระบายน้ำที่เหมาะสม สนามบินอาจจัดให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบริเวณพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งได้ แต่ต้องวางตําแหน่งของรางระบายน้ำให้อยู่ห่างจากทางวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” อันนี้คือข้อมูลที่อยู่ในข้อกำหนด กพท.ฉบับ37

    สนามบินสุวรรณภูมิมีรหัสอ้างอิงของสนามบิน 4E (ตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ส่วนที่ 4 รหัสอ้างอิงสนามบิน ข้อ 23, 24 และ25) คือมีความยาวของทางวิ่งเกิน 1800 เมตร และรองรับเครื่องบินที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีก 65 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 เมตร ดังนั้นพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งด้านข้างที่วัดออกจากจุดเส้นกึ่งกลางทางวิ่งจึงต้องมีขนาดอย่างน้อย 140 เมตรตลอดแนวความยาวของทางวิ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่ามีการใช้คำว่า “อย่างน้อย” นั้น ถ้ามากกว่าก็จะยิ่งดี

    สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักของบ้านเราที่มีภาพประกอบวาระการประชุมของ ICAO Asia and Pacific (ICAO APAC) ที่จะได้กล่าวต่อไป ได้มีการติดตั้งรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งตามความยาวของทางวิ่งฝั่งตะวันออกห่างจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ระยะ 120 เมตร (ข้อมูลจาก AIP Thailand) เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยระบายน้ำสำหรับกรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากอยู่บนทางวิ่งหรือพื้นที่โดยรอบ ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion of Runway Strip) หรือตั้งแต่ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งเป็นต้นไป (ตามข้อกำหนด กพท. 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 วงเล็บ 1)

    ขณะที่มาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition July 2022 หน้า 3-13 ข้อ 3.4.16 บันทึก (Note) 1 ได้ระบุว่า รางระบายน้ำแบบเปิดโล่งสามารถที่จะติดตั้งได้ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อการระบายน้ำฝนจำนวนมากแต่จะต้องพิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับหรือพื้นที่ “Non-graded portion” ของทางวิ่ง (Note 1. - Where deemed necessary for proper drainage, an open-air storm water conveyance may be allowed in the non-graded portion of a runway strip and would be placed as far as practicable from the runway.) ดังนั้นการมีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งของสนามบินนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สอดคล้องหรือผิดจากมาตรฐานการก่อสร้างแต่อย่างใด

    อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมครั้งที่ 5 ของ ICAO APAC ของคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force เมื่อวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 67 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศภาคีสมาชิก 14 ประเทศและองค์กรทางการบินระหว่างประเทศอีก 3 หน่วยงานรวม 62 คน ( The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force: AP-ADO/TF/5: Chiang Rai) ในหัวข้อวาระประชุมที่ 4 เรื่อง “การวางแผน การออกแบบ และการก่อสร้างสนามบิน” (Planning, Design and Construction of Aerodromes) นั้น มีการหยิบยกประเด็นของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งที่อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (OPEN-AIR STORM WATER CONVEYANCE IN RUNWAY STRIP) ขึ้นมาใหม่ซึ่งนำเสนอโดย ICAO-The Cooperative Development of Operational Safety and Continuing Airworthiness Programme – South East Asia (COSCAP-SEA) โดยระบุว่าการมีอยู่ของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) อาจนำมาซึ่งอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกับเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่ง ยิ่งในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกและทางวิ่งเปียกลื่น การมีอยู่ของรางระบายน้ำนั้นอาจจะทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(ที่ไปถึงบริเวณที่ติดตั้งรางระบายน้ำฯ) รุนแรงยิ่งขึ้น อันนี้เองอาจจะถือได้ว่าเป็นการเริ่มทบทวนมาตรฐานด้านกายภาพสนามบินของ ICAO ก็เป็นได้ และจากการนำเสนอข้อมูลในวาระนี้ก่อนที่จะสรุปอยู่ในรายงานในภาพรวมนั้นได้มีการนำรูปภาพตัวอย่างของกรณีการไถลออกนอกทางวิ่งในประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างภาพของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งและหยุดอยู่ตรงหน้ารางระบายน้ำคอนกรีตเพียงไม่กี่เมตรมาแสดงด้วย

    มีข้อที่น่าสนใจและน่าสังเกตก็คือจากภาพที่มีการนำเสนอที่มีการไถลออกนอกทางวิ่งจากวาระการประชุมนี้รูปหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการไถลออกจากทางวิ่งไปจนเกือบถึงขอบของ Runway Strip ซึ่งไม่โครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างใดหรือแม้แต่รางระบายน้ำคอนกรีตอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) นี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีรางระบายน้ำอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ซึ่งตามมาตรฐานของ ICAO สามารถอยู่ได้เราคงพอจะนึกภาพออก และเมื่อไปดูข้อมูลด้านกายภาพของสนามบินฮิโรชิมานี้ใน AIP Japan (Aeronautical Information Publication, Japan) พบว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ของสนามบินนี้อยู่ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันซึ่งมีการก่อสร้างมานานแล้วนั่นหมายความว่าถ้าหากมีรางระบายน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนี้แม้มาตรฐานสากลจะยอมให้อยู่ได้ อากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงก็สามารถจะคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบินสมุยที่มีอาคาร Tower เก่าอยู่บน Runway Strip แล้วเครื่องไถลออกไปก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วเมื่อ 4 สิงหาคม 2552 หรือกรณีของสายการบิน One to Go ที่สนามบินภูเก็ตที่ผ่านมาหลายปีมาแล้วเช่นกันที่พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรองรับอากาศยาน

    ในที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force - ICAO APAC ยังได้มีการกล่าวถึงข้อมูลสถิติการศึกษาการออกนอกทางวิ่งของอากาศยานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ทำไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ออกนอกทางวิ่ง 90 เปอร์เซ็นต์เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) บนขอบเขตของพื้นที่ปรับระดับ (Graded portion) คืออยู่ในระยะ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์จะเลย 105 เมตรออกไปถึงพื้นที่ที่ไม่ปรับระดับ (Non-graded portion) คือตั้งแต่ 105 เมตรขึ้นไปจนถึงขอบของ Runway strip ซึ่งจากสถิติข้อมูลการศึกษาอันนี้ในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นี้ในบางครั้งมีการไถลออกไปไกลถึง 152 เมตร และบางครั้งถึง 210 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างหนึ่งที่เครื่องบินไถลออกไปจากทางวิ่งไปถึง 219 เมตรที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2019 ก็มีมาแล้ว (มีภาพประกอบ)

    เนื้อหาข้อมูลใน Final Report ของที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force นี้ (ในหน้า 4-5) นี้ มีการระบุให้ข้อมูลว่ามีตัวอย่างของเอกสารคำแนะนำ (Advisory circular) AC150/5300-13B ของหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ว่าตำแหน่งของร่องน้ำหรือรางระบายน้ำหรือกำแพงป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่บริเวณนั้นแต่ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามจะไม่มีการตั้งอยู่บนขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งเลย โดยความกว้างของพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่งของเขาจะอยู่ที่ 500 ฟุต หรือ152 เมตร
    “4.28 The WP/20 provided an example of the FAA advisory circular: AC150/5300-13B where it reads, “location of ditch, swale, or headwall depends on the site condition but in no case within the limits of runway safety area (RSA).” The width of the RSA, as specified in Appendix G of the AC is 500 feet (152m).”
    นอกจากนี้ผู้แทนของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาให้การสนับสนุนประเด็นหัวข้อนี้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบด้านการบินของเกาหลีใต้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับมาตรฐานพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของสนามบินนั้นออกข้อกำหนดไว้ว่าการก่อสร้างรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งจะต้องก่อสร้างให้เลยจากพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ออกไปเท่านั้นและยังเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ พัฒนาคู่มือนโนบายและวิธีปฏิบัติในการที่จะยอมรับกายภาพที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานของตนบนพื้นฐานจากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    “4.31 The Republic of Korea supported the Working Paper and shared that their regulations required open air drains to be constructed beyond the non-graded portion of the runway strips and expressed the need for States to develop Policy and Procedures for accepting non-compliances based on safety risk assessment”.

    สำหรับสนามบินหลักของบ้านเราที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ในส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) นี้นั้น ถ้าดูจากสถิติตามรายงานของที่ประชุมนี้แล้ว 90 เปอร์เซ็นของเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่งจะออกไปไม่ถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ หรือบริเวณที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตฯนี้ ยกเว้นเพียง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐหรือผู้ดำเนินการสนามบินจะนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนข้อมูลสถิติ จำนวนและชนิดของอากาศยานที่มาใช้บริการ โอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบหรือทำการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกครั้งตามที่หน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ได้นำเสนอมาในรายงาน เพื่อลดโอกาสความรุนแรงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถ้าตัวเลขในปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินของทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จำนวนการไถลออกนอกทางวิ่งของทั้ง 90 เปอร์เซ็นและของ 10 เปอร์เซ็นก็น่าจะมากตาม คงไม่น่าจะมีใครอยากคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นนั้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดูข้อมูลเหตุการณ์ของสายการบิน Asiana airlines ที่ออกนอกทางวิ่งสนามบินฮิโรชิมาของญี่ปุ่นที่มี Runway strip ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งโดยไถลไปไกลจนเกือบถึงขอบ Runway strip โดยไม่มีรางระบายน้ำฯหรือสิ่งปลูกสร้างใดบนพื้นที่บริเวณนี้แม้แต่น้อยตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกับในขณะที่เหตุการณ์ของสุวรรณภูมิที่เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งจนไปเกือบถึงรางระบายน้ำแบบเปิดโล่ง แต่โชคดีที่คานยึดของฐานล้อเครื่องบินมีการครูดเป็นร่องลึกและเป็นทางยาวไปกับทางวิ่งประมาณเกือบ 400 เมตร (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน) ก่อนหยุดลง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดอากาศยานอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ทุกครั้ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้างกับการไม่ได้ป้องกันกันแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะนำไปพิจารณาทบทวนดูหรือไม่

    โดยรวมแล้วการที่สนามบินมีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่ง (Open-Air Storm Water Conveyance) อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ(Non-Graded Portion) สามารถทำได้หรือจัดให้มีอยู่ได้โดยไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดจากมาตรฐานแต่อย่างใดเพราะ ICAO Annex 14 Vol. 1 เปิดไว้ให้ทำได้เพียงแต่ขอให้พิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดจากทางวิ่งซึ่งไม่ได้กำหนดว่าระยะเท่าไร ดังนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินหรือการดำเนินการของสนามบินในแต่ละประเทศที่จะพิจารณากันในมิติต่าง ๆ อย่างรอบคอบ
    จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ซึ่งรวมถึงเนื้อหาในรายงานการประชุมของ ICAO ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า
    1. ประเทศบางประเทศอย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการพัฒนาให้มีกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านความปลอดภัยทางการบินของตนเองที่สูงกว่ามาตรฐานของ ICAO โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานที่ชัดเจนของ ICAO Annex ออกมาแต่อย่างใด
    2. มาตรฐานที่ ICAO ออกมาในรูปแบบ Annex ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปออกเป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับของตนเองนั้นยังมีช่องว่าง (Gap) ส่วนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้นหรือปลอดภัยมากขึ้นอยู่เสมอ
    3. กรณีที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอีก โอกาสของ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เครื่องบินจะวิ่งเลยไปถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ยังมีอยู่หากยังไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงและมีการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะสนามบินที่รองรับแบบอากาศยาน (Aircraft Code) ชนิดใหญ่ ๆ ได้
    4. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321ที่ไถลออกนอกทางวิ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 8 กันยายน 2556 มีการระบุถึงการครูดของคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาประมาณ 365 เมตร และวิ่งพ้นขอบทางวิ่งไปบนพื้นดินที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตรจึงหยุดนิ่ง กรณีเช่นนี้ถ้าหากไม่มีการครูดกับทางวิ่งด้วยระยะทางและความลึกตามรายงานดังกล่าว โอกาสที่อากาศยานอาจจะไปถึงรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งก็เป็นได้เมื่อลองเปรียบเทียบกับกรณีของสายการบิน Asiana Airlines ที่สนามบินฮิโรชิมา อย่างไรก็ตามรายงานผลการสอบสวนฯควรมีข้อแนะนำโดยตรงไปยัง ICAO (Safety recommendations to ICAO) ด้วยหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ของสภาวะอันตรายนี้เพื่อให้ ICAO มีการพิจารณาหรืออาจจะทบทวนมาตรฐานกายภาพของทางวิ่งที่ยอมให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้

    ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่จะนำสรุปได้ว่าแต่ละประเทศที่มีลักษณะทางกายภาพทางวิ่งของสนามบินแบบนี้โดยเฉพาะประเทศเรานั้นจะดำเนินการไปในในทิศทางใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเสนออีกครั้งการจะทำให้สมดุลกันระหว่างการลงทุนรายจ่ายการป้องกันด้านความปลอดภัย (Protection) กับการสร้างรายได้การดำเนินงาน (Production) เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องจะเลือกวิธีแบบใด และแบบไหนจะยั่งยืนกว่ากัน ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่

    ข้อมูลทั้งหมดเป็นทัศนคติส่วนบุคคลที่อ้างอิงจากเอกสารและรายงานที่เปิดเผยในเวปไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถค้นหาและสืบค้นได้โดยทั่วไป อาจมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงและข้อมูลบางอย่างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจและพิจารณาอีกครั้ง

    เอกสารอ้างอิง(สามารสืบค้นได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต):
    1. ICAO Safety Report 2024Edition
    2. ICAO Annex 14 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition, July 2022
    3. ข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนฉบับที่ 37
    4. Aircraft Accident Investigation Report, Asiana Airlines INC. HL-7762, November 24,2016 - JTSB
    5. www.telegraph.co.uk/travel/news/asiana-plane-skids-off-runway-in-japan-leaving-20-injured/
    6. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TEFฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานประเทศไทย
    7. Agenda Item 4: Planning, Design and Construction of Aerodromes/ “Open-Air Strom Water Conveyance in Runway Strip” - The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024
    8. Final Report: The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024
    9. AIP Japan HIROSHIMA, RJOA AD2-6 (13/9/18)
    10. AIP Thailand, AD 2-VTBS-1-16, 28 NOV 24, VTBS AD2.12 RUNWAY PHYSICAL CHARACTERISTICS
    11. https://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok_Airways_Flight_266
    12. https://www.theguardian.com/world/2009/aug/04/thailand-plane-crash
    13. https://en.wikipedia.org/wiki/One-Two-Go_Airlines_Flight_269
    14. https://www.aviation-accidents.net/jet-airways-boeing-b737-800-vt-jbg-flight-9w2374/



    EP5 นี้ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านความปลอดภัยทางการบินที่ขอมุ่งเน้นไปทางด้านความปลอดภัยของเครื่องบินขณะทำการวิ่งขึ้นหรือกำลังวิ่งลงบนทางวิ่งที่สนามบินนะครับ จากข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัย (Safety Report) ปี 2024 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ได้จำแนกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอยู่ 5 เหตุการณ์ คือ 1 การควบคุมอากาศยานเข้าสู่สภาพภูมิประเทศ (Controlled Flight Into Terrain: CFIT) 2 การสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (Loss Of Control In-Flight: LOC-I) 3 การชนกันกลางอากาศ (Mid-Air Collision: MAC) 4 การเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion: RE) และ 5 การล่วงล้ำบนทางวิ่ง (Runway Incursion: RI) ที่จะขอพูดถึงในครั้งนี้ขอกล่าวถึงอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งเป็นหลักเพื่อที่จะนำเข้าสู่หัวข้อและเนื้อหาการประชุมของ ICAO ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( ICAO APAC) เมื่อต้นป 67 ที่ผ่านมา การไถลออกนอกทางวิ่ง ICAO ได้ให้นิยามไว้คือการที่เครื่องบินเบี่ยงเบนออกจากทางวิ่งหรือการวิ่งเลยออกปลายทางวิ่งในขณะที่ทำการบินลงหรือวิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวจากต่างประเทศตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยเราก็มีกรณีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งเช่นเดียวกันที่จังหวัดเชียงรายซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงฉบับสุดท้าย (Final Aircraft Serious Incident Investigation Report) ที่จะแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นั้นว่าคืออะไร (โดยตามมาตรฐาน ICAO นั้น รายงานฉบับสุดท้ายควรออกมาภายใน 12 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์) การไถลออกนอกทางวิ่งบนพื้นที่ของสนามบินที่ออกแบบและสร้างได้ตามมาตรฐานหรือสูงกว่ามาตรฐานจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อตัวอากาศยานและการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้ายๆกับการที่เราบังเอิญขับรถพุ่งออกจากถนนจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พอดีพื้นที่ด้านข้างหรือไหล่ถนนนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอให้เราควบคุมรถยนต์ให้ค่อยๆหยุดลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ปะทะหรือชนเข้ากับสิ่งใดเราก็ปลอดภัย แต่ถ้าหากพื้นที่ด้านข้างถนนแคบหรือมีน้อยแถมมีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนนหรือเป็นคลองส่งน้ำชลประทานหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด เราก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันตรายมากเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้เป็นอากาศยานหรือวัตถุที่มีขนาด มวล น้ำหนัก และความเร็วที่แตกต่างกันกับรถยนต์มาก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างจากกรณีของรถยนต์อย่างสิ้นเชิง ในส่วนของพื้นที่ที่รองรับการออกนอกทางวิ่งของเครื่องบินเราเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ซึ่งจะมีขนาดที่แตกต่างกันตามประเภทของทางวิ่งที่รองรับอากาศยานรวมทั้งทางหยุด (Stop Way) (ถ้ามี) ทั้งนี้ยังรวมถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็คือพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ที่เอาไว้สำหรับรองรับการวิ่งเลยปลายทางวิ่งออกไปและในกรณีที่เครื่องบินลงก่อนถึงจุดเริ่มต้นของหัวทางวิ่ง (Runway Threshold) ด้วยเช่นกัน (สามารถดาวน์โหลดข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ฉบับที่ 37 ในเว็ปไซต์ กพท.หรือ ICAO Annex 14 Vol.1 ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อดูในรายละเอียดได้) พื้นที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยในกรณีเกิด Runway excursion ขึ้น เราลองมาดูนิยามและมาตรฐานในข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนดีกว่า ความหมายของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 (อ้างอิงจากมาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations) กำหนดไว้ว่า “พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) หมายความว่า พื้นที่ที่กําหนดไว้ซึ่งรวมถึงทางวิ่งและทางหยุด (ถ้ามี) ที่กําหนดไว้เพื่อ (1) ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่วิ่งออกนอกทางวิ่ง และ (2) ป้องกันอากาศยานที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติการวิ่งขึ้นหรือการบินลงของอากาศยาน 2. ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 145 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งต้องขยายต่อออกไปจากหัวทางวิ่งและยาวเลยปลายทางวิ่งหรือทางหยุดไม่น้อยกว่าระยะทาง ดังต่อไปนี้ (1) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 2, 3 หรือ 4 (2) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน (3) สามสิบ (30) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบการบิน ข้อ 146 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบพรีซิชั่น (Precision) และทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (Non-Precision) ต้องขยายไปทางด้านข้างแต่ละด้านของเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปตลอดความยาวของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนั้นเป็นระยะทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (1) หนึ่งร้อยสี่สิบ (140) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 (2) เจ็ดสิบ (70) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 หรือ 2 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 เพื่อประโยชน์ในการรองรับเครื่องบินที่จะใช้ทางวิ่ง ในกรณีที่เครื่องบินวิ่งออกนอกทางวิ่ง สนามบินต้องปรับระดับ (Graded portion) ส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัด ประกอบการบิน อย่างน้อยภายในระยะจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ขยายออกไปดังต่อไปนี้ (1) หนึ่งร้อยห้า (105) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 ตามรูปที่ 9 (2) เจ็ดสิบห้า (75) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 (3) สี่สิบ (40) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นและทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1หรือ 2 ข้อ 161 หากมีความจำเป็นต้องมีการระบายน้ำที่เหมาะสม สนามบินอาจจัดให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบริเวณพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งได้ แต่ต้องวางตําแหน่งของรางระบายน้ำให้อยู่ห่างจากทางวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” อันนี้คือข้อมูลที่อยู่ในข้อกำหนด กพท.ฉบับ37 สนามบินสุวรรณภูมิมีรหัสอ้างอิงของสนามบิน 4E (ตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ส่วนที่ 4 รหัสอ้างอิงสนามบิน ข้อ 23, 24 และ25) คือมีความยาวของทางวิ่งเกิน 1800 เมตร และรองรับเครื่องบินที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีก 65 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 เมตร ดังนั้นพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งด้านข้างที่วัดออกจากจุดเส้นกึ่งกลางทางวิ่งจึงต้องมีขนาดอย่างน้อย 140 เมตรตลอดแนวความยาวของทางวิ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่ามีการใช้คำว่า “อย่างน้อย” นั้น ถ้ามากกว่าก็จะยิ่งดี สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักของบ้านเราที่มีภาพประกอบวาระการประชุมของ ICAO Asia and Pacific (ICAO APAC) ที่จะได้กล่าวต่อไป ได้มีการติดตั้งรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งตามความยาวของทางวิ่งฝั่งตะวันออกห่างจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ระยะ 120 เมตร (ข้อมูลจาก AIP Thailand) เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยระบายน้ำสำหรับกรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากอยู่บนทางวิ่งหรือพื้นที่โดยรอบ ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion of Runway Strip) หรือตั้งแต่ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งเป็นต้นไป (ตามข้อกำหนด กพท. 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 วงเล็บ 1) ขณะที่มาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition July 2022 หน้า 3-13 ข้อ 3.4.16 บันทึก (Note) 1 ได้ระบุว่า รางระบายน้ำแบบเปิดโล่งสามารถที่จะติดตั้งได้ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อการระบายน้ำฝนจำนวนมากแต่จะต้องพิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับหรือพื้นที่ “Non-graded portion” ของทางวิ่ง (Note 1. - Where deemed necessary for proper drainage, an open-air storm water conveyance may be allowed in the non-graded portion of a runway strip and would be placed as far as practicable from the runway.) ดังนั้นการมีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งของสนามบินนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สอดคล้องหรือผิดจากมาตรฐานการก่อสร้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมครั้งที่ 5 ของ ICAO APAC ของคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force เมื่อวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 67 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศภาคีสมาชิก 14 ประเทศและองค์กรทางการบินระหว่างประเทศอีก 3 หน่วยงานรวม 62 คน ( The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force: AP-ADO/TF/5: Chiang Rai) ในหัวข้อวาระประชุมที่ 4 เรื่อง “การวางแผน การออกแบบ และการก่อสร้างสนามบิน” (Planning, Design and Construction of Aerodromes) นั้น มีการหยิบยกประเด็นของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งที่อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (OPEN-AIR STORM WATER CONVEYANCE IN RUNWAY STRIP) ขึ้นมาใหม่ซึ่งนำเสนอโดย ICAO-The Cooperative Development of Operational Safety and Continuing Airworthiness Programme – South East Asia (COSCAP-SEA) โดยระบุว่าการมีอยู่ของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) อาจนำมาซึ่งอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกับเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่ง ยิ่งในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกและทางวิ่งเปียกลื่น การมีอยู่ของรางระบายน้ำนั้นอาจจะทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(ที่ไปถึงบริเวณที่ติดตั้งรางระบายน้ำฯ) รุนแรงยิ่งขึ้น อันนี้เองอาจจะถือได้ว่าเป็นการเริ่มทบทวนมาตรฐานด้านกายภาพสนามบินของ ICAO ก็เป็นได้ และจากการนำเสนอข้อมูลในวาระนี้ก่อนที่จะสรุปอยู่ในรายงานในภาพรวมนั้นได้มีการนำรูปภาพตัวอย่างของกรณีการไถลออกนอกทางวิ่งในประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างภาพของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งและหยุดอยู่ตรงหน้ารางระบายน้ำคอนกรีตเพียงไม่กี่เมตรมาแสดงด้วย มีข้อที่น่าสนใจและน่าสังเกตก็คือจากภาพที่มีการนำเสนอที่มีการไถลออกนอกทางวิ่งจากวาระการประชุมนี้รูปหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการไถลออกจากทางวิ่งไปจนเกือบถึงขอบของ Runway Strip ซึ่งไม่โครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างใดหรือแม้แต่รางระบายน้ำคอนกรีตอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) นี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีรางระบายน้ำอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ซึ่งตามมาตรฐานของ ICAO สามารถอยู่ได้เราคงพอจะนึกภาพออก และเมื่อไปดูข้อมูลด้านกายภาพของสนามบินฮิโรชิมานี้ใน AIP Japan (Aeronautical Information Publication, Japan) พบว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ของสนามบินนี้อยู่ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันซึ่งมีการก่อสร้างมานานแล้วนั่นหมายความว่าถ้าหากมีรางระบายน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนี้แม้มาตรฐานสากลจะยอมให้อยู่ได้ อากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงก็สามารถจะคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบินสมุยที่มีอาคาร Tower เก่าอยู่บน Runway Strip แล้วเครื่องไถลออกไปก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วเมื่อ 4 สิงหาคม 2552 หรือกรณีของสายการบิน One to Go ที่สนามบินภูเก็ตที่ผ่านมาหลายปีมาแล้วเช่นกันที่พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรองรับอากาศยาน ในที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force - ICAO APAC ยังได้มีการกล่าวถึงข้อมูลสถิติการศึกษาการออกนอกทางวิ่งของอากาศยานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ทำไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ออกนอกทางวิ่ง 90 เปอร์เซ็นต์เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) บนขอบเขตของพื้นที่ปรับระดับ (Graded portion) คืออยู่ในระยะ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์จะเลย 105 เมตรออกไปถึงพื้นที่ที่ไม่ปรับระดับ (Non-graded portion) คือตั้งแต่ 105 เมตรขึ้นไปจนถึงขอบของ Runway strip ซึ่งจากสถิติข้อมูลการศึกษาอันนี้ในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นี้ในบางครั้งมีการไถลออกไปไกลถึง 152 เมตร และบางครั้งถึง 210 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างหนึ่งที่เครื่องบินไถลออกไปจากทางวิ่งไปถึง 219 เมตรที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2019 ก็มีมาแล้ว (มีภาพประกอบ) เนื้อหาข้อมูลใน Final Report ของที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force นี้ (ในหน้า 4-5) นี้ มีการระบุให้ข้อมูลว่ามีตัวอย่างของเอกสารคำแนะนำ (Advisory circular) AC150/5300-13B ของหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ว่าตำแหน่งของร่องน้ำหรือรางระบายน้ำหรือกำแพงป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่บริเวณนั้นแต่ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามจะไม่มีการตั้งอยู่บนขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งเลย โดยความกว้างของพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่งของเขาจะอยู่ที่ 500 ฟุต หรือ152 เมตร “4.28 The WP/20 provided an example of the FAA advisory circular: AC150/5300-13B where it reads, “location of ditch, swale, or headwall depends on the site condition but in no case within the limits of runway safety area (RSA).” The width of the RSA, as specified in Appendix G of the AC is 500 feet (152m).” นอกจากนี้ผู้แทนของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาให้การสนับสนุนประเด็นหัวข้อนี้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบด้านการบินของเกาหลีใต้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับมาตรฐานพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของสนามบินนั้นออกข้อกำหนดไว้ว่าการก่อสร้างรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งจะต้องก่อสร้างให้เลยจากพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ออกไปเท่านั้นและยังเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ พัฒนาคู่มือนโนบายและวิธีปฏิบัติในการที่จะยอมรับกายภาพที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานของตนบนพื้นฐานจากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย “4.31 The Republic of Korea supported the Working Paper and shared that their regulations required open air drains to be constructed beyond the non-graded portion of the runway strips and expressed the need for States to develop Policy and Procedures for accepting non-compliances based on safety risk assessment”. สำหรับสนามบินหลักของบ้านเราที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ในส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) นี้นั้น ถ้าดูจากสถิติตามรายงานของที่ประชุมนี้แล้ว 90 เปอร์เซ็นของเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่งจะออกไปไม่ถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ หรือบริเวณที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตฯนี้ ยกเว้นเพียง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐหรือผู้ดำเนินการสนามบินจะนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนข้อมูลสถิติ จำนวนและชนิดของอากาศยานที่มาใช้บริการ โอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบหรือทำการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกครั้งตามที่หน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ได้นำเสนอมาในรายงาน เพื่อลดโอกาสความรุนแรงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถ้าตัวเลขในปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินของทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จำนวนการไถลออกนอกทางวิ่งของทั้ง 90 เปอร์เซ็นและของ 10 เปอร์เซ็นก็น่าจะมากตาม คงไม่น่าจะมีใครอยากคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นนั้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดูข้อมูลเหตุการณ์ของสายการบิน Asiana airlines ที่ออกนอกทางวิ่งสนามบินฮิโรชิมาของญี่ปุ่นที่มี Runway strip ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งโดยไถลไปไกลจนเกือบถึงขอบ Runway strip โดยไม่มีรางระบายน้ำฯหรือสิ่งปลูกสร้างใดบนพื้นที่บริเวณนี้แม้แต่น้อยตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกับในขณะที่เหตุการณ์ของสุวรรณภูมิที่เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งจนไปเกือบถึงรางระบายน้ำแบบเปิดโล่ง แต่โชคดีที่คานยึดของฐานล้อเครื่องบินมีการครูดเป็นร่องลึกและเป็นทางยาวไปกับทางวิ่งประมาณเกือบ 400 เมตร (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน) ก่อนหยุดลง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดอากาศยานอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ทุกครั้ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้างกับการไม่ได้ป้องกันกันแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะนำไปพิจารณาทบทวนดูหรือไม่ โดยรวมแล้วการที่สนามบินมีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่ง (Open-Air Storm Water Conveyance) อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ(Non-Graded Portion) สามารถทำได้หรือจัดให้มีอยู่ได้โดยไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดจากมาตรฐานแต่อย่างใดเพราะ ICAO Annex 14 Vol. 1 เปิดไว้ให้ทำได้เพียงแต่ขอให้พิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดจากทางวิ่งซึ่งไม่ได้กำหนดว่าระยะเท่าไร ดังนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินหรือการดำเนินการของสนามบินในแต่ละประเทศที่จะพิจารณากันในมิติต่าง ๆ อย่างรอบคอบ จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ซึ่งรวมถึงเนื้อหาในรายงานการประชุมของ ICAO ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า 1. ประเทศบางประเทศอย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการพัฒนาให้มีกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านความปลอดภัยทางการบินของตนเองที่สูงกว่ามาตรฐานของ ICAO โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานที่ชัดเจนของ ICAO Annex ออกมาแต่อย่างใด 2. มาตรฐานที่ ICAO ออกมาในรูปแบบ Annex ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปออกเป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับของตนเองนั้นยังมีช่องว่าง (Gap) ส่วนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้นหรือปลอดภัยมากขึ้นอยู่เสมอ 3. กรณีที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอีก โอกาสของ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เครื่องบินจะวิ่งเลยไปถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ยังมีอยู่หากยังไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงและมีการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะสนามบินที่รองรับแบบอากาศยาน (Aircraft Code) ชนิดใหญ่ ๆ ได้ 4. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321ที่ไถลออกนอกทางวิ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 8 กันยายน 2556 มีการระบุถึงการครูดของคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาประมาณ 365 เมตร และวิ่งพ้นขอบทางวิ่งไปบนพื้นดินที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตรจึงหยุดนิ่ง กรณีเช่นนี้ถ้าหากไม่มีการครูดกับทางวิ่งด้วยระยะทางและความลึกตามรายงานดังกล่าว โอกาสที่อากาศยานอาจจะไปถึงรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งก็เป็นได้เมื่อลองเปรียบเทียบกับกรณีของสายการบิน Asiana Airlines ที่สนามบินฮิโรชิมา อย่างไรก็ตามรายงานผลการสอบสวนฯควรมีข้อแนะนำโดยตรงไปยัง ICAO (Safety recommendations to ICAO) ด้วยหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ของสภาวะอันตรายนี้เพื่อให้ ICAO มีการพิจารณาหรืออาจจะทบทวนมาตรฐานกายภาพของทางวิ่งที่ยอมให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่จะนำสรุปได้ว่าแต่ละประเทศที่มีลักษณะทางกายภาพทางวิ่งของสนามบินแบบนี้โดยเฉพาะประเทศเรานั้นจะดำเนินการไปในในทิศทางใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเสนออีกครั้งการจะทำให้สมดุลกันระหว่างการลงทุนรายจ่ายการป้องกันด้านความปลอดภัย (Protection) กับการสร้างรายได้การดำเนินงาน (Production) เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องจะเลือกวิธีแบบใด และแบบไหนจะยั่งยืนกว่ากัน ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่ ข้อมูลทั้งหมดเป็นทัศนคติส่วนบุคคลที่อ้างอิงจากเอกสารและรายงานที่เปิดเผยในเวปไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถค้นหาและสืบค้นได้โดยทั่วไป อาจมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงและข้อมูลบางอย่างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจและพิจารณาอีกครั้ง เอกสารอ้างอิง(สามารสืบค้นได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต): 1. ICAO Safety Report 2024Edition 2. ICAO Annex 14 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition, July 2022 3. ข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนฉบับที่ 37 4. Aircraft Accident Investigation Report, Asiana Airlines INC. HL-7762, November 24,2016 - JTSB 5. www.telegraph.co.uk/travel/news/asiana-plane-skids-off-runway-in-japan-leaving-20-injured/ 6. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TEFฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานประเทศไทย 7. Agenda Item 4: Planning, Design and Construction of Aerodromes/ “Open-Air Strom Water Conveyance in Runway Strip” - The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024 8. Final Report: The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024 9. AIP Japan HIROSHIMA, RJOA AD2-6 (13/9/18) 10. AIP Thailand, AD 2-VTBS-1-16, 28 NOV 24, VTBS AD2.12 RUNWAY PHYSICAL CHARACTERISTICS 11. https://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok_Airways_Flight_266 12. https://www.theguardian.com/world/2009/aug/04/thailand-plane-crash 13. https://en.wikipedia.org/wiki/One-Two-Go_Airlines_Flight_269 14. https://www.aviation-accidents.net/jet-airways-boeing-b737-800-vt-jbg-flight-9w2374/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇱 ภริยาของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู ถูกสอบสวนในข้อหาข่มขู่และคุกคามพยาน
    .
    JUST IN: 🇮🇱 Israeli Prime Minister Netanyahu's wife under investigation for witness intimidation and harassment.
    .
    4:53 AM · Dec 27, 2024 · 492.9K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1872400256438300746
    🇮🇱 ภริยาของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู ถูกสอบสวนในข้อหาข่มขู่และคุกคามพยาน . JUST IN: 🇮🇱 Israeli Prime Minister Netanyahu's wife under investigation for witness intimidation and harassment. . 4:53 AM · Dec 27, 2024 · 492.9K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1872400256438300746
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ประกาศการแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Arrow Lake โดยการอัปเดตนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและฟื้นฟูการทำงานของโปรเซสเซอร์ Core Ultra 200S Arrow Lake ให้กลับมาเป็นปกติ การอัปเดตนี้รวมถึงการอัปเดต BIOS ของเมนบอร์ดและการอัปเดต Windows ที่แก้ไขปัญหาหลายอย่าง

    สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Arrow Lake ของ Intel มีดังนี้:

    =สาเหตุ=
    - แพ็คเกจการจัดการประสิทธิภาพและพลังงาน (PPM) ขาดหายไป: ส่งผลให้การควบคุมพฤติกรรมของ CPU โดยแผนพลังงานของ Windows ไม่สมบูรณ์.
    - Intel Application Performance Optimizer (APO) ไม่สามารถทำงานได้: เนื่องจาก PPM ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประสิทธิภาพลดลง 2% ถึง 14%.
    - เกิด BSOD เมื่อพยายามเปิดเกมที่ใช้บริการ Easy Anti-Cheat: ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขโดยการอัปเดตไดรเวอร์ Easy Anti-Cheat.
    - การตั้งค่าประสิทธิภาพบางอย่างใน BIOS ของเมนบอร์ดไม่ถูกต้อง: ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง 2% ถึง 14%.
    - การปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ใน BIOS: การอัปเดต BIOS และ CSME firmware kit ใหม่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมอีกเล็กน้อย.

    =วิธีแก้ไข=
    - อัปเดต Windows: ติดตั้ง Windows 11 build 26100.2161 (KB5044384) หรือใหม่กว่า เพื่อเพิ่ม PPM ที่ถูกต้อง.
    - อัปเดต BIOS ของเมนบอร์ด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า BIOS ของเมนบอร์ดได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดจากผู้ผลิต.
    - อัปเดตไดรเวอร์ Easy Anti-Cheat: ติดตั้งการอัปเดตไดรเวอร์ Easy Anti-Cheat ที่ได้รับการแจกจ่ายโดย Epic Games.
    - ตรวจสอบการตั้งค่า BIOS: ตรวจสอบและปรับการตั้งค่า BIOS ให้ถูกต้องตามที่ Intel แนะนำ.
    - รอการอัปเดต BIOS ใหม่ในเดือนมกราคม 2025: Intel จะปล่อยการอัปเดต BIOS ใหม่ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มเติม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-arrow-lake-performance-fix-is-now-available-another-update-coming-next-month
    Intel ประกาศการแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Arrow Lake โดยการอัปเดตนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและฟื้นฟูการทำงานของโปรเซสเซอร์ Core Ultra 200S Arrow Lake ให้กลับมาเป็นปกติ การอัปเดตนี้รวมถึงการอัปเดต BIOS ของเมนบอร์ดและการอัปเดต Windows ที่แก้ไขปัญหาหลายอย่าง สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Arrow Lake ของ Intel มีดังนี้: =สาเหตุ= - แพ็คเกจการจัดการประสิทธิภาพและพลังงาน (PPM) ขาดหายไป: ส่งผลให้การควบคุมพฤติกรรมของ CPU โดยแผนพลังงานของ Windows ไม่สมบูรณ์. - Intel Application Performance Optimizer (APO) ไม่สามารถทำงานได้: เนื่องจาก PPM ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประสิทธิภาพลดลง 2% ถึง 14%. - เกิด BSOD เมื่อพยายามเปิดเกมที่ใช้บริการ Easy Anti-Cheat: ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขโดยการอัปเดตไดรเวอร์ Easy Anti-Cheat. - การตั้งค่าประสิทธิภาพบางอย่างใน BIOS ของเมนบอร์ดไม่ถูกต้อง: ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง 2% ถึง 14%. - การปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ใน BIOS: การอัปเดต BIOS และ CSME firmware kit ใหม่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมอีกเล็กน้อย. =วิธีแก้ไข= - อัปเดต Windows: ติดตั้ง Windows 11 build 26100.2161 (KB5044384) หรือใหม่กว่า เพื่อเพิ่ม PPM ที่ถูกต้อง. - อัปเดต BIOS ของเมนบอร์ด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า BIOS ของเมนบอร์ดได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดจากผู้ผลิต. - อัปเดตไดรเวอร์ Easy Anti-Cheat: ติดตั้งการอัปเดตไดรเวอร์ Easy Anti-Cheat ที่ได้รับการแจกจ่ายโดย Epic Games. - ตรวจสอบการตั้งค่า BIOS: ตรวจสอบและปรับการตั้งค่า BIOS ให้ถูกต้องตามที่ Intel แนะนำ. - รอการอัปเดต BIOS ใหม่ในเดือนมกราคม 2025: Intel จะปล่อยการอัปเดต BIOS ใหม่ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มเติม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-arrow-lake-performance-fix-is-now-available-another-update-coming-next-month
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ

    การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้

    นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น

    นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด

    #Newskit
    อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้ นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด #Newskit
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องที่เขียนนี้ ฟังดูแล้วเหมือนนวนิยาย “กรุงเทพมหานครฯ คือ ศูนย์กลางสงครามจารชน ทุกชาติมีจารชนแฝงอยู่ในรูปแบบต่างๆ” แต่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต แห่งที่แสวงหาข่าว “ย่านบาร์ที่เป็นสถานที่เปิด เช่น ถนนคนเดิน ซอยคาวบอย พัฒน์พงษ์ FCCT การสัมมนาต่างตามมหาวิทยาลัยและพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง” เป็นต้นมีประวัติเช่นนี้มานานแล้ว “เริ่มต้นในยุคก่อนสงครามมหาเอเชียบูรพา ร่ายยาวมาจนทุกวันนี้” แม้กระทั่ง เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน Peace Corps บางคนเป็น CIA Trained (มาวิเคราะห์อุปนิสัยและมโนสำนึกของคนไทยที่อยู่ในระดับฐานะชนชั้นกลาง)ทุกสถานทูตจะมี “เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง (เปิดเผย) และจารชนมืออาชีพ เช่น CIA, MI 6 หรือ SIS (อังกฤษ), SVR RF (รัสเซีย) MSS (จีน) MOSSAD (อิสราเอล) เป็นต้นก่อนหน้ารัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช รถนั่งจารชนก็ติดป้ายรถทูต ต่อมาหลายๆ ประเทศส่งจารชนมามากมายโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักพิธีการทูตที่กำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตไว้จำนวนหนึ่งชัดเจนที่ได้รับสิทธิทางการทูตคุ้มครอง ในสมัยรัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จารชนเต็มเมืองและถือสิทธิ์นักการทูต นายกรัฐมนตรี มรว.คึกฤทธิ์ เห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงกำหนดรถราชการองค์ต่างชาติให้ใช้ป้ายสีฟ้าเพื่อแยกแยะ คณะทูตกับเจ้าหน้าที่องค์ต่างชาติต่างๆ และจารชน ซึ่งไม่ใช่ทูตและไม่มีสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองกัมพูชาก็มีจารชนด้วยเช่นกันและครั้งหนึ่ง ๓๐ กว่าปีมาแล้วผมพบกับเลขาเอกสถานทูตเขมรและเข้าใจหน้าที่ของเขาดีว่าเขา “ต้องการอะไร The needed Intelligence Assessment”และในปี ๒๕๕๖ ก่อนการชุมนุม กปท./กองทัพธรรม เลขานุการฝ่ายการเมืองสถาทูตสหรัฐฯ ขอพบผม ๒ ครั้งและเราพบทั้ง ๒ ครั้ง “ผมก็ให้เหตุผลการชุมนุมของ กปท./กองทัพธรรมและยืนหนังสือถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ชี้แจ้งยืนยันเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อขจัดเผด็จการรัฐสภา (ช่วงนั้นเป็นยุคนางคริสตี้ Christy ซึ่งเข้าข้างฝ่ายระบอบทักษิณ)หลักการสรรหาแหล่งข่าว Human Intelligent ๑. คนมีปมด้อยหรือคิดว่าตัวเองถูกรัฐหรือสังคมเอาผิดอย่างไม่ยุติธรรมทั้งที่ตัวเองผิดเต็มประตู (อย่างที่นายทักษิณ ไปเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน) ๒. คนโลภเห็นแก่เงิน ๓. คนไร้อุดมการณ์ระบอบการเมืองของรัฐนั้นๆ ๔. คนทีความทะเยอทะยานใฝ่สูง ๕. พวกหลงตัวเองโดยเฉพาะนักวิชาการสมเด็จฮุนเซนจึงไม่ได้ลงทุนอะไรมากเลยแต่กลับได้ข่าวที่แทบจะไม่ต้อง “กรอง” เลยโดยเฉพาะ “จุดอ่อนของประเทศไทยที่หน่วยข่าวกรองไทยเราเองประเมินไว้ตามหลัก “รู้เขารู้เรา” ในนายกรัฐมนตรีรับทราบและกำหนดนโยบายแก้ไขในฐานะที่ผมเคยเป็น “ผู้ช่วยเจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เป็น ๑ ในกลุ่มผู้วิเคราะห์ข่าวยุทธศาสตร์/ยุทธวิธีและการต่อต้านการจารกรรม (ขั้นพื้นฐาน คือ การยึดระเบียบการรักษาความปลอดภัยของชาติ ๒๕๔๔)ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้อง “ตั้งประเด็นโดยเฉพาะ ปปช.” ซึ่งสามารถตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนและหาความจริงเท่าที่จะทำได้ ว่านายทักษิณให้คำปรึกษาอะไรบ้าง ที่อาจจะเป็นการเผยความลับที่สุดของชาติ ด้วยการนำเอารายละเอียดหลักการต่างๆ ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมีมติยกเลิก MOU44 ฉบับทรยศชาติมาวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบVachara Riddhagni
    เรื่องที่เขียนนี้ ฟังดูแล้วเหมือนนวนิยาย “กรุงเทพมหานครฯ คือ ศูนย์กลางสงครามจารชน ทุกชาติมีจารชนแฝงอยู่ในรูปแบบต่างๆ” แต่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต แห่งที่แสวงหาข่าว “ย่านบาร์ที่เป็นสถานที่เปิด เช่น ถนนคนเดิน ซอยคาวบอย พัฒน์พงษ์ FCCT การสัมมนาต่างตามมหาวิทยาลัยและพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง” เป็นต้นมีประวัติเช่นนี้มานานแล้ว “เริ่มต้นในยุคก่อนสงครามมหาเอเชียบูรพา ร่ายยาวมาจนทุกวันนี้” แม้กระทั่ง เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน Peace Corps บางคนเป็น CIA Trained (มาวิเคราะห์อุปนิสัยและมโนสำนึกของคนไทยที่อยู่ในระดับฐานะชนชั้นกลาง)ทุกสถานทูตจะมี “เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง (เปิดเผย) และจารชนมืออาชีพ เช่น CIA, MI 6 หรือ SIS (อังกฤษ), SVR RF (รัสเซีย) MSS (จีน) MOSSAD (อิสราเอล) เป็นต้นก่อนหน้ารัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช รถนั่งจารชนก็ติดป้ายรถทูต ต่อมาหลายๆ ประเทศส่งจารชนมามากมายโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักพิธีการทูตที่กำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตไว้จำนวนหนึ่งชัดเจนที่ได้รับสิทธิทางการทูตคุ้มครอง ในสมัยรัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จารชนเต็มเมืองและถือสิทธิ์นักการทูต นายกรัฐมนตรี มรว.คึกฤทธิ์ เห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงกำหนดรถราชการองค์ต่างชาติให้ใช้ป้ายสีฟ้าเพื่อแยกแยะ คณะทูตกับเจ้าหน้าที่องค์ต่างชาติต่างๆ และจารชน ซึ่งไม่ใช่ทูตและไม่มีสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองกัมพูชาก็มีจารชนด้วยเช่นกันและครั้งหนึ่ง ๓๐ กว่าปีมาแล้วผมพบกับเลขาเอกสถานทูตเขมรและเข้าใจหน้าที่ของเขาดีว่าเขา “ต้องการอะไร The needed Intelligence Assessment”และในปี ๒๕๕๖ ก่อนการชุมนุม กปท./กองทัพธรรม เลขานุการฝ่ายการเมืองสถาทูตสหรัฐฯ ขอพบผม ๒ ครั้งและเราพบทั้ง ๒ ครั้ง “ผมก็ให้เหตุผลการชุมนุมของ กปท./กองทัพธรรมและยืนหนังสือถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ชี้แจ้งยืนยันเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อขจัดเผด็จการรัฐสภา (ช่วงนั้นเป็นยุคนางคริสตี้ Christy ซึ่งเข้าข้างฝ่ายระบอบทักษิณ)หลักการสรรหาแหล่งข่าว Human Intelligent ๑. คนมีปมด้อยหรือคิดว่าตัวเองถูกรัฐหรือสังคมเอาผิดอย่างไม่ยุติธรรมทั้งที่ตัวเองผิดเต็มประตู (อย่างที่นายทักษิณ ไปเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน) ๒. คนโลภเห็นแก่เงิน ๓. คนไร้อุดมการณ์ระบอบการเมืองของรัฐนั้นๆ ๔. คนทีความทะเยอทะยานใฝ่สูง ๕. พวกหลงตัวเองโดยเฉพาะนักวิชาการสมเด็จฮุนเซนจึงไม่ได้ลงทุนอะไรมากเลยแต่กลับได้ข่าวที่แทบจะไม่ต้อง “กรอง” เลยโดยเฉพาะ “จุดอ่อนของประเทศไทยที่หน่วยข่าวกรองไทยเราเองประเมินไว้ตามหลัก “รู้เขารู้เรา” ในนายกรัฐมนตรีรับทราบและกำหนดนโยบายแก้ไขในฐานะที่ผมเคยเป็น “ผู้ช่วยเจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เป็น ๑ ในกลุ่มผู้วิเคราะห์ข่าวยุทธศาสตร์/ยุทธวิธีและการต่อต้านการจารกรรม (ขั้นพื้นฐาน คือ การยึดระเบียบการรักษาความปลอดภัยของชาติ ๒๕๔๔)ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้อง “ตั้งประเด็นโดยเฉพาะ ปปช.” ซึ่งสามารถตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนและหาความจริงเท่าที่จะทำได้ ว่านายทักษิณให้คำปรึกษาอะไรบ้าง ที่อาจจะเป็นการเผยความลับที่สุดของชาติ ด้วยการนำเอารายละเอียดหลักการต่างๆ ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมีมติยกเลิก MOU44 ฉบับทรยศชาติมาวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบVachara Riddhagni
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลไกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศเศรษฐกิจผสมผสาน (Integrated Economy) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการผสานความแข็งแกร่งจากหลายภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรและวัฒนธรรม สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนานี้ได้---1. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันการวิจัยและพัฒนา (R&D): สนับสนุนการวิจัยในสถาบันการศึกษาและเอกชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้: ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IoT และ Big Data ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการการพัฒนาสตาร์ทอัพ: ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างแนวคิดธุรกิจที่เชื่อมโยงทรัพยากรในประเทศเข้ากับตลาดโลก---2. การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy)เศรษฐกิจที่ยั่งยืนไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวลการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน: ส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียว: พัฒนาสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก---3. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)เศรษฐกิจสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มมูลค่าผ่านความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมศิลปะและวัฒนธรรม: นำมรดกวัฒนธรรมไทย เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม และอาหาร มาปรับใช้ในตลาดสมัยใหม่การออกแบบและสื่อดิจิทัล: ส่งเสริมการพัฒนาภาพยนตร์ ดนตรี และเกมที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: พัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อการส่งออก---4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจผสมผสานประสบความสำเร็จการศึกษาและการฝึกอบรม: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21การส่งเสริมทักษะที่หลากหลาย: เช่น ทักษะด้านดิจิทัล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์การสนับสนุนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม: เพิ่มโอกาสให้แรงงานได้รับความรู้ใหม่และเทคโนโลยี---5. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนการผสานความร่วมมือระหว่างเกษตร อุตสาหกรรม และบริการช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมเกษตรกรรมอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่การท่องเที่ยวแบบครบวงจร: ผสมผสานวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว---6. การสนับสนุนนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำนโยบายที่ยั่งยืน: เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจสีเขียวและสร้างสรรค์การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์: สร้างเครือข่ายการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพผ่านกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ---สรุปการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน หากประเทศไทยสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งได้ในระยะยาว
    กลไกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศเศรษฐกิจผสมผสาน (Integrated Economy) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการผสานความแข็งแกร่งจากหลายภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรและวัฒนธรรม สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนานี้ได้---1. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันการวิจัยและพัฒนา (R&D): สนับสนุนการวิจัยในสถาบันการศึกษาและเอกชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้: ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IoT และ Big Data ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการการพัฒนาสตาร์ทอัพ: ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างแนวคิดธุรกิจที่เชื่อมโยงทรัพยากรในประเทศเข้ากับตลาดโลก---2. การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy)เศรษฐกิจที่ยั่งยืนไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวลการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน: ส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียว: พัฒนาสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก---3. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)เศรษฐกิจสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มมูลค่าผ่านความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมศิลปะและวัฒนธรรม: นำมรดกวัฒนธรรมไทย เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม และอาหาร มาปรับใช้ในตลาดสมัยใหม่การออกแบบและสื่อดิจิทัล: ส่งเสริมการพัฒนาภาพยนตร์ ดนตรี และเกมที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: พัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อการส่งออก---4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจผสมผสานประสบความสำเร็จการศึกษาและการฝึกอบรม: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21การส่งเสริมทักษะที่หลากหลาย: เช่น ทักษะด้านดิจิทัล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์การสนับสนุนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม: เพิ่มโอกาสให้แรงงานได้รับความรู้ใหม่และเทคโนโลยี---5. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนการผสานความร่วมมือระหว่างเกษตร อุตสาหกรรม และบริการช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมเกษตรกรรมอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่การท่องเที่ยวแบบครบวงจร: ผสมผสานวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว---6. การสนับสนุนนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำนโยบายที่ยั่งยืน: เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจสีเขียวและสร้างสรรค์การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์: สร้างเครือข่ายการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพผ่านกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ---สรุปการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน หากประเทศไทยสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งได้ในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=rRzhMOHBPHg
    บทสนทนาเที่ยวงานกาชาด
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเที่ยวงานกาชาด
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #งานกาชาด

    The conversations from the clip :

    Sarah: Wow, Emma, look at all the food stalls! This place smells amazing!
    Emma: I know! I can't decide where to start. Do you feel like trying something sweet or savory first?
    Sarah: Let's go savory. Those grilled sausages over there look so good.
    Emma: Great idea. I'll grab some, and we can share.
    Sarah: While you’re doing that, I’ll get us some drinks. What do you want?
    Emma: Lemonade, please. It’s perfect for this hot weather.
    Sarah: This sausage is delicious! I think it’s locally made.
    Emma: Totally! And this lemonade is so refreshing. What do you want to try next?
    Sarah: Let’s check out the dessert stall. I saw some colorful cotton candy earlier.
    Emma: Look at these cupcakes! They’re so pretty. Should we get one?
    Sarah: Definitely. I’ll also get some cotton candy. it’s a fair classic.
    Emma: Hey, did you see the Red Cross lottery booth? The prizes look amazing!
    Sarah: Yeah, I heard there’s a chance to win a new bike! Should we buy some tickets?
    Emma: Let’s do it! I’ll get two, and you can get two. Who knows? We might get lucky.
    Sarah: Agreed. Plus, it’s for a good cause. Fingers crossed we win something!

    ซาราห์: ว้าว เอ็มม่า ดูสิร้านอาหารเต็มไปหมดเลย! ที่นี่มีกลิ่นหอมมากเลยนะ!
    เอ็มม่า: ใช่เลย! ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธออยากลองของหวานหรือของคาวก่อน?
    ซาราห์: ลองของคาวก่อนดีกว่า ไส้กรอกย่างตรงนั้นดูน่าอร่อยมากเลย
    เอ็มม่า: ไอเดียดีเลย ฉันจะไปซื้อมาบ้าง แล้วเรามาแบ่งกันกิน
    ซาราห์: ระหว่างที่เธอไปซื้อ ฉันจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เรา เธออยากได้อะไร?
    เอ็มม่า: น้ำมะนาวค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย
    ซาราห์: ไส้กรอกนี้อร่อยมาก! ฉันว่ามันน่าจะทำจากท้องถิ่นนะ
    เอ็มม่า: จริงเลย! และน้ำมะนาวนี้ก็สดชื่นมาก เธออยากลองอะไรต่อไป?
    ซาราห์: ไปดูร้านขนมหวานกันเถอะ ฉันเห็นสายไหมหลากสีตรงนั้นด้วย
    เอ็มม่า: ดูพวกคัพเค้กนี่สิ! มันดูสวยมากเลย เราควรจะซื้อมาสักชิ้นดีไหม?
    ซาราห์: แน่นอนเลย แล้วฉันจะซื้อสายไหมด้วย—มันคือของคลาสสิคของงานแฟร์
    เอ็มม่า: เฮ้ เธอเห็นบูธลอตเตอรี่ของสภากาชาดหรือยัง? ของรางวัลดูดีมากเลย!
    ซาราห์: เห็นสิ ฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสลุ้นจักรยานคันใหม่ด้วย! เราควรจะซื้อลอตเตอรี่กันดีไหม?
    เอ็มม่า: ซื้อลองดูสิ! ฉันจะซื้อสองใบ แล้วเธอก็ซื้อสองใบ ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะโชคดีก็ได้
    ซาราห์: เห็นด้วยเลย แถมยังเป็นการทำบุญอีก หวังว่าเราจะถูกรางวัลอะไรบ้างนะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Stall (สตอล) n. แปลว่า แผงขายของ
    Savory (เซ-เวอ-รี) adj. แปลว่า รสชาติคาว
    Sausage (ซอ-ซิจ) n. แปลว่า ไส้กรอก
    Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง
    Lemonade (เลม-โอะ-เนด) n. แปลว่า น้ำมะนาว
    Refreshing (ริ-เฟรช-อิง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Dessert (ดี-เซิร์ท) n. แปลว่า ของหวาน
    Cotton candy (คอท-เทิน แคน-ดี้) n. แปลว่า ขนมสายไหม
    Cupcake (คัพ-เค้ก) n. แปลว่า คัพเค้ก
    Lottery (ลอท-เทอรี) n. แปลว่า สลากกินแบ่ง
    Booth (บูธ) n. แปลว่า บูธ
    Prize (ไพรซ์) n. แปลว่า รางวัล
    Ticket (ทิ-เก็ต) n. แปลว่า ตั๋ว
    Cause (คอร์ส) n. แปลว่า วัตถุประสงค์, สาเหตุ
    Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    https://www.youtube.com/watch?v=rRzhMOHBPHg บทสนทนาเที่ยวงานกาชาด (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเที่ยวงานกาชาด มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #งานกาชาด The conversations from the clip : Sarah: Wow, Emma, look at all the food stalls! This place smells amazing! Emma: I know! I can't decide where to start. Do you feel like trying something sweet or savory first? Sarah: Let's go savory. Those grilled sausages over there look so good. Emma: Great idea. I'll grab some, and we can share. Sarah: While you’re doing that, I’ll get us some drinks. What do you want? Emma: Lemonade, please. It’s perfect for this hot weather. Sarah: This sausage is delicious! I think it’s locally made. Emma: Totally! And this lemonade is so refreshing. What do you want to try next? Sarah: Let’s check out the dessert stall. I saw some colorful cotton candy earlier. Emma: Look at these cupcakes! They’re so pretty. Should we get one? Sarah: Definitely. I’ll also get some cotton candy. it’s a fair classic. Emma: Hey, did you see the Red Cross lottery booth? The prizes look amazing! Sarah: Yeah, I heard there’s a chance to win a new bike! Should we buy some tickets? Emma: Let’s do it! I’ll get two, and you can get two. Who knows? We might get lucky. Sarah: Agreed. Plus, it’s for a good cause. Fingers crossed we win something! ซาราห์: ว้าว เอ็มม่า ดูสิร้านอาหารเต็มไปหมดเลย! ที่นี่มีกลิ่นหอมมากเลยนะ! เอ็มม่า: ใช่เลย! ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธออยากลองของหวานหรือของคาวก่อน? ซาราห์: ลองของคาวก่อนดีกว่า ไส้กรอกย่างตรงนั้นดูน่าอร่อยมากเลย เอ็มม่า: ไอเดียดีเลย ฉันจะไปซื้อมาบ้าง แล้วเรามาแบ่งกันกิน ซาราห์: ระหว่างที่เธอไปซื้อ ฉันจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เรา เธออยากได้อะไร? เอ็มม่า: น้ำมะนาวค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย ซาราห์: ไส้กรอกนี้อร่อยมาก! ฉันว่ามันน่าจะทำจากท้องถิ่นนะ เอ็มม่า: จริงเลย! และน้ำมะนาวนี้ก็สดชื่นมาก เธออยากลองอะไรต่อไป? ซาราห์: ไปดูร้านขนมหวานกันเถอะ ฉันเห็นสายไหมหลากสีตรงนั้นด้วย เอ็มม่า: ดูพวกคัพเค้กนี่สิ! มันดูสวยมากเลย เราควรจะซื้อมาสักชิ้นดีไหม? ซาราห์: แน่นอนเลย แล้วฉันจะซื้อสายไหมด้วย—มันคือของคลาสสิคของงานแฟร์ เอ็มม่า: เฮ้ เธอเห็นบูธลอตเตอรี่ของสภากาชาดหรือยัง? ของรางวัลดูดีมากเลย! ซาราห์: เห็นสิ ฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสลุ้นจักรยานคันใหม่ด้วย! เราควรจะซื้อลอตเตอรี่กันดีไหม? เอ็มม่า: ซื้อลองดูสิ! ฉันจะซื้อสองใบ แล้วเธอก็ซื้อสองใบ ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะโชคดีก็ได้ ซาราห์: เห็นด้วยเลย แถมยังเป็นการทำบุญอีก หวังว่าเราจะถูกรางวัลอะไรบ้างนะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Stall (สตอล) n. แปลว่า แผงขายของ Savory (เซ-เวอ-รี) adj. แปลว่า รสชาติคาว Sausage (ซอ-ซิจ) n. แปลว่า ไส้กรอก Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง Lemonade (เลม-โอะ-เนด) n. แปลว่า น้ำมะนาว Refreshing (ริ-เฟรช-อิง) adj. แปลว่า สดชื่น Dessert (ดี-เซิร์ท) n. แปลว่า ของหวาน Cotton candy (คอท-เทิน แคน-ดี้) n. แปลว่า ขนมสายไหม Cupcake (คัพ-เค้ก) n. แปลว่า คัพเค้ก Lottery (ลอท-เทอรี) n. แปลว่า สลากกินแบ่ง Booth (บูธ) n. แปลว่า บูธ Prize (ไพรซ์) n. แปลว่า รางวัล Ticket (ทิ-เก็ต) n. แปลว่า ตั๋ว Cause (คอร์ส) n. แปลว่า วัตถุประสงค์, สาเหตุ Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇸🇾รัสเซียกำลังจับตาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรียอย่างใกล้ชิด และ กำลังเจรจากับดามัสกัสอย่างต่อเนื่อง - โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ

    “ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์, เราอาจพูดคุยกันถึงระดับความช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับทางการซีเรีย ในการรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายและกำจัดภัยคุกคามนี้,” เปสคอฟกล่าวเสริม
    .
    🇸🇾RUSSIA IS CLOSELY MONITORING WHAT IS HAPPENING IN SYRIA AND IS IN CONSTANT DIALOGUE WITH DAMASCUS - KREMLIN SPOKESMAN DMITRY PESKOV

    “Depending on the assessment of the situation, it will be possible to talk about the degree of assistance that is necessary for the Syrian authorities to cope with the militants and eliminate this threat,” Peskov added.
    .
    5:10 PM · Dec 5, 2024 · 2,026 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1864613383640662122
    🇸🇾รัสเซียกำลังจับตาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรียอย่างใกล้ชิด และ กำลังเจรจากับดามัสกัสอย่างต่อเนื่อง - โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ “ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์, เราอาจพูดคุยกันถึงระดับความช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับทางการซีเรีย ในการรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายและกำจัดภัยคุกคามนี้,” เปสคอฟกล่าวเสริม . 🇸🇾RUSSIA IS CLOSELY MONITORING WHAT IS HAPPENING IN SYRIA AND IS IN CONSTANT DIALOGUE WITH DAMASCUS - KREMLIN SPOKESMAN DMITRY PESKOV “Depending on the assessment of the situation, it will be possible to talk about the degree of assistance that is necessary for the Syrian authorities to cope with the militants and eliminate this threat,” Peskov added. . 5:10 PM · Dec 5, 2024 · 2,026 Views https://x.com/SputnikInt/status/1864613383640662122
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลจัดชุดใหญ่ เยียวยาน้ำท่วมใต้ หวังสยบดราม่า
    .
    ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดนดราม่าทัวร์ลงถล่มเกี่ยวกับน้ำท่วมภาคใต้ ปรากฎว่ารัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณและมาตรการเยียวยาประชาชนในพื้นที่มาเป็นชุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มกรอบเงินทดรองของจังหวัด จาก 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท ในจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประกาศเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 6 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ต่อด้วยการเห็นชอบใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงิน โดยให้ปรับหลักเกณฑ์กรณีที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายน้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย และที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันจะช่วยในอัตราเดียวคือ 9,000 บาททุกครัวเรือน จากเดิมในพื้นที่ 57จังหวัด จะเพิ่มอีก 16 จังหวัด วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเร่งด่วน
    .
    ขณะเดียวกัน สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมดูแลสินค้า อุปโภค-บริโภค ต้องห้ามขาด ห้ามแพง เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ถ้าพบว่ามีการกักตุนสินค้า หรือพบว่าราคาแพงผิดปกติ กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทำโครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย โดยประชาชนและลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี พักชำระหนี้ นาน 3 เดือน นอกจากนี้ ประชาชนที่ต้องการกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม ธอส.ได้เปิดสินเชื่อวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด 3 เดือน สำหรับประชาชนลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการ “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” สามารถติดต่อได้ที่ 0-2645-9000 หรือสาขาของ ธอส. ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568
    .
    เช่นเดียวกับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กระทรวงการคลัง ออกนมาตรการเร่งด่วนเยียวยา “ลูกค้า – ลูกหนี้” น้ำท่วมภาคใต้ พักค่าธรรมเนียม – พักหนี้ 6 เดือน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภาคใต้ฟื้นฟูกิจการ เช่น พักชำระค่าธรรมเนียมและค่าจัดการค้ำประกัน 6 เดือน สำหรับ SMEs ลูกค้า บสย. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ปี 2567 มาตรการช่วยลูกหนี้บสย.ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ และไม่ผิดนัดชำระหนี้ ระยะเวลารับคำขอพักชำระ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2567 โดยพักชำระค่างวดที่ถึงกำหนดชำระเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลจัดชุดใหญ่ เยียวยาน้ำท่วมใต้ หวังสยบดราม่า . ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดนดราม่าทัวร์ลงถล่มเกี่ยวกับน้ำท่วมภาคใต้ ปรากฎว่ารัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณและมาตรการเยียวยาประชาชนในพื้นที่มาเป็นชุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มกรอบเงินทดรองของจังหวัด จาก 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท ในจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประกาศเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 6 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ต่อด้วยการเห็นชอบใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงิน โดยให้ปรับหลักเกณฑ์กรณีที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายน้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย และที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวันจะช่วยในอัตราเดียวคือ 9,000 บาททุกครัวเรือน จากเดิมในพื้นที่ 57จังหวัด จะเพิ่มอีก 16 จังหวัด วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเร่งด่วน . ขณะเดียวกัน สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมดูแลสินค้า อุปโภค-บริโภค ต้องห้ามขาด ห้ามแพง เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ถ้าพบว่ามีการกักตุนสินค้า หรือพบว่าราคาแพงผิดปกติ กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทำโครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย โดยประชาชนและลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี พักชำระหนี้ นาน 3 เดือน นอกจากนี้ ประชาชนที่ต้องการกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม ธอส.ได้เปิดสินเชื่อวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด 3 เดือน สำหรับประชาชนลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการ “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” สามารถติดต่อได้ที่ 0-2645-9000 หรือสาขาของ ธอส. ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 . เช่นเดียวกับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กระทรวงการคลัง ออกนมาตรการเร่งด่วนเยียวยา “ลูกค้า – ลูกหนี้” น้ำท่วมภาคใต้ พักค่าธรรมเนียม – พักหนี้ 6 เดือน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภาคใต้ฟื้นฟูกิจการ เช่น พักชำระค่าธรรมเนียมและค่าจัดการค้ำประกัน 6 เดือน สำหรับ SMEs ลูกค้า บสย. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ปี 2567 มาตรการช่วยลูกหนี้บสย.ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ และไม่ผิดนัดชำระหนี้ ระยะเวลารับคำขอพักชำระ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2567 โดยพักชำระค่างวดที่ถึงกำหนดชำระเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 928 มุมมอง 0 รีวิว
  • Add A Pop Of Color With The Vibrant Purple Synonyms

    When you hear the word purple, what pops into your head? Chances are it’s one of a huge number of different shades, ranging from pale lavender to deep burgundy. There are so many different colors that fall under the vast umbrella of purple, so when you’re writing or talking about something in the shade, it’s helpful to be a bit more specific. Shades of purple can be found on everything from fruit to plants to wild animals. Here are 15 unique and vibrant words you can use when talking about the color purple.

    lilac

    Lilac is a “pale, reddish purple” that might call to mind a stroll through a garden. The color is named for the purplish flowers that grow on the shrub of the same name. This pale violet color is at home in a spring scene or even in the color palette of a sunrise. First recorded in the early 1600s, the word lilac comes from the Persian līlak, meaning “bluish.”

    plum

    If you need a darker shade of purple, plum will do. Plum is “a deep purple varying from bluish to reddish.” Like many words on the list, plum gets its name from something in nature. In this case, it’s the fruit that grows on plum trees. It can be traced to the Greek proúmnē, or “plum tree,” and it has been in use in English since at least the 900s.

    violaceous

    Is it purple or is it violaceous? This adjective means “of a violet color; bluish-purple.” It’s a perfect descriptor for anything with purplish hues, from fruit to flowers to the looming mountains in the distance. Violaceous is related to violet and was first recorded in English in the mid-1600s.

    magenta

    Magenta is a “purplish red.” It’s also the name of a town in Italy where the French and Sardinians defeated Austrian troops in 1859. The color was named for this battle site, as the famous fight took place shortly before magenta dye was discovered. But why was the town called Magenta? The town’s name may trace back to the Roman emperor Marcus Aurelius Valerius Maxentius, who is believed to have had a headquarters there.

    amethyst

    Some shades of purple really shine. Amethyst is “a purplish tint,” consistent with the purple or violet color of a type of quartz that shares the same name. It has a surprising backstory. Though the word has been in use in English since the mid-1200s, it has roots in the Greek améthystos, meaning “not intoxicating, not intoxicated.” This is because it was once believed the stone amethyst could prevent intoxication.

    amaranthine

    If you’re describing a red wine or something else that’s “of purplish-red color,” consider amaranthine. Amaranthine is the color of amaranth, a flowering plant known for its striking foliage or flower clusters. Amaranth comes from the Latin amarantus, an alteration of the Greek amáranton, meaning “unfading flower.”

    periwinkle

    Is it blue or is it purple? If it’s periwinkle, it must be somewhere in between. Periwinkle means “a blue-violet color,” and it’s associated with myrtle, a trailing plant with evergreen foliage and blue-violet flowers. Periwinkle is a common color used on furniture or clothing. The word has been in use in English since before the year 1500.

    grape

    If you asked someone to name something purple, a grape would probably come to mind. Because of the appearance of the fruit, grape has also come to mean “a dull, dark purplish-red color.” When something is grape, it has the flat, muted shade we associate with grapes, and it may range from a very deep purple to one with shades of pink or red. Grape comes from Middle English and was first recorded in the early 1200s.

    lavender

    While the plant lavender is well known for its scent, it has also influenced the name of a well-known shade of purple. Lavender, as a color, is “a pale bluish purple.” It’s a popular choice for weddings. There’s even lavender ice cream! Lavender comes from the Medieval Latin lavendula, meaning “a plant livid in color.”

    wine

    Wine isn’t just a drink you have with dinner. It’s also “a dark reddish color, as of red wines.” Wine might describe the particular shade of purple you want to paint your kitchen or the pretty new lipstick that’s on sale at the cosmetics store. While wine certainly indicates a deep purple-red color, you could be even more specific by naming a certain type of wine. For example, burgundy can be used to mean a “grayish red-brown to dark blackish-purple.”

    violet

    As a flower, violets are known for their vibrant purple color. That’s why the “reddish-blue” color of the same name is called violet. Violet exists at the opposite end of the visible spectrum from red. You probably recognize it as the “V” in the abbreviation ROYGBIV, the colors of the rainbow. Typically, violet is more red in hue than a standard purple, like the color of the sky at sunset or the feathers of a Violet-backed starling.

    pomegranate

    Much like the fruit, pomegranate is a deep reddish or pinkish-purple color. Because of its complexity, it’s a great color for decorating. Pomegranate has been in use in English since at least the late 1200s, and it has a pretty straightforward origin. The name for the many-seeded fruit comes from the Medieval Latin pomum granatum, which literally means “a seedy apple.”

    heliotrope

    For a lighter shade of purple, give heliotrope a try. It’s “a light tint of purple; reddish lavender.” Not only is this word fun to say, but it also has a cool backstory. Like other purple shades, the color heliotrope shares its name with a plant. Helios is Greek for “sun,” while the Greek trópos means “a turn, change.” The plant heliotrope was named for the way its flowers and leaves turn towards the sun.

    orchid

    The word orchid calls to mind the delicate flowers of an orchid plant, which are sometimes a light “bluish to reddish purple color.” You can use orchid to talk about light shades of purple that fall somewhere between lilac and lavender. Orchid entered English in 1845 in the third edition of School Botany by John Lindley, and you might be surprised by its origins. This plant-name-turned-color can be traced to the Greek órchis, meaning “testicle.”

    perse

    Perse means “of a very deep shade of blue or purple.” You might use perse to describe fabric or pigments that are a deep indigo or even purple with hints of black. Though a less common term for purple, the word has been in use in English since the 1300s. It comes from the Middle English pers, perhaps a variant of the Medieval Latin persus, a kind of blue.

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    Add A Pop Of Color With The Vibrant Purple Synonyms When you hear the word purple, what pops into your head? Chances are it’s one of a huge number of different shades, ranging from pale lavender to deep burgundy. There are so many different colors that fall under the vast umbrella of purple, so when you’re writing or talking about something in the shade, it’s helpful to be a bit more specific. Shades of purple can be found on everything from fruit to plants to wild animals. Here are 15 unique and vibrant words you can use when talking about the color purple. lilac Lilac is a “pale, reddish purple” that might call to mind a stroll through a garden. The color is named for the purplish flowers that grow on the shrub of the same name. This pale violet color is at home in a spring scene or even in the color palette of a sunrise. First recorded in the early 1600s, the word lilac comes from the Persian līlak, meaning “bluish.” plum If you need a darker shade of purple, plum will do. Plum is “a deep purple varying from bluish to reddish.” Like many words on the list, plum gets its name from something in nature. In this case, it’s the fruit that grows on plum trees. It can be traced to the Greek proúmnē, or “plum tree,” and it has been in use in English since at least the 900s. violaceous Is it purple or is it violaceous? This adjective means “of a violet color; bluish-purple.” It’s a perfect descriptor for anything with purplish hues, from fruit to flowers to the looming mountains in the distance. Violaceous is related to violet and was first recorded in English in the mid-1600s. magenta Magenta is a “purplish red.” It’s also the name of a town in Italy where the French and Sardinians defeated Austrian troops in 1859. The color was named for this battle site, as the famous fight took place shortly before magenta dye was discovered. But why was the town called Magenta? The town’s name may trace back to the Roman emperor Marcus Aurelius Valerius Maxentius, who is believed to have had a headquarters there. amethyst Some shades of purple really shine. Amethyst is “a purplish tint,” consistent with the purple or violet color of a type of quartz that shares the same name. It has a surprising backstory. Though the word has been in use in English since the mid-1200s, it has roots in the Greek améthystos, meaning “not intoxicating, not intoxicated.” This is because it was once believed the stone amethyst could prevent intoxication. amaranthine If you’re describing a red wine or something else that’s “of purplish-red color,” consider amaranthine. Amaranthine is the color of amaranth, a flowering plant known for its striking foliage or flower clusters. Amaranth comes from the Latin amarantus, an alteration of the Greek amáranton, meaning “unfading flower.” periwinkle Is it blue or is it purple? If it’s periwinkle, it must be somewhere in between. Periwinkle means “a blue-violet color,” and it’s associated with myrtle, a trailing plant with evergreen foliage and blue-violet flowers. Periwinkle is a common color used on furniture or clothing. The word has been in use in English since before the year 1500. grape If you asked someone to name something purple, a grape would probably come to mind. Because of the appearance of the fruit, grape has also come to mean “a dull, dark purplish-red color.” When something is grape, it has the flat, muted shade we associate with grapes, and it may range from a very deep purple to one with shades of pink or red. Grape comes from Middle English and was first recorded in the early 1200s. lavender While the plant lavender is well known for its scent, it has also influenced the name of a well-known shade of purple. Lavender, as a color, is “a pale bluish purple.” It’s a popular choice for weddings. There’s even lavender ice cream! Lavender comes from the Medieval Latin lavendula, meaning “a plant livid in color.” wine Wine isn’t just a drink you have with dinner. It’s also “a dark reddish color, as of red wines.” Wine might describe the particular shade of purple you want to paint your kitchen or the pretty new lipstick that’s on sale at the cosmetics store. While wine certainly indicates a deep purple-red color, you could be even more specific by naming a certain type of wine. For example, burgundy can be used to mean a “grayish red-brown to dark blackish-purple.” violet As a flower, violets are known for their vibrant purple color. That’s why the “reddish-blue” color of the same name is called violet. Violet exists at the opposite end of the visible spectrum from red. You probably recognize it as the “V” in the abbreviation ROYGBIV, the colors of the rainbow. Typically, violet is more red in hue than a standard purple, like the color of the sky at sunset or the feathers of a Violet-backed starling. pomegranate Much like the fruit, pomegranate is a deep reddish or pinkish-purple color. Because of its complexity, it’s a great color for decorating. Pomegranate has been in use in English since at least the late 1200s, and it has a pretty straightforward origin. The name for the many-seeded fruit comes from the Medieval Latin pomum granatum, which literally means “a seedy apple.” heliotrope For a lighter shade of purple, give heliotrope a try. It’s “a light tint of purple; reddish lavender.” Not only is this word fun to say, but it also has a cool backstory. Like other purple shades, the color heliotrope shares its name with a plant. Helios is Greek for “sun,” while the Greek trópos means “a turn, change.” The plant heliotrope was named for the way its flowers and leaves turn towards the sun. orchid The word orchid calls to mind the delicate flowers of an orchid plant, which are sometimes a light “bluish to reddish purple color.” You can use orchid to talk about light shades of purple that fall somewhere between lilac and lavender. Orchid entered English in 1845 in the third edition of School Botany by John Lindley, and you might be surprised by its origins. This plant-name-turned-color can be traced to the Greek órchis, meaning “testicle.” perse Perse means “of a very deep shade of blue or purple.” You might use perse to describe fabric or pigments that are a deep indigo or even purple with hints of black. Though a less common term for purple, the word has been in use in English since the 1300s. It comes from the Middle English pers, perhaps a variant of the Medieval Latin persus, a kind of blue. Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 690 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fancy Spring Words To Breathe Life Into Your Budding Vocabulary

    As Leo Tolstoy wrote in the classic Anna Karenina, “spring is the time of plans and projects.” To put it more bluntly, spring is a time of new growth, new experiences, and, in most of the world, temperamental weather. To encourage your personal growth during this season of change, why not try out some of these sophisticated vocabulary terms related to spring?

    verdurous
    Verdurous is an adjective meaning “rich in verdure; freshly green; verdant.” Verdure is a fancy word meaning “greenness, especially of fresh, flourishing vegetation.” The word comes from the Middle French verd, meaning “green.” (The modern French equivalent of this word is vert.)

    vernal
    An adjective that directly relates to the season is vernal, meaning “of or relating to spring.” It is also used figuratively to mean “belonging to or characteristic of youth,” which is just one of many examples of spring being related to new birth or adolescence. Vernal comes from Latin vernālis, meaning “of spring.”

    recrudesce
    Many of the words in this list end in the suffixes -esce, -escent, or -escence, which are used to denote the beginning of an action. This makes sense if you consider the overall theme of spring, which is the beginning of new life or new experiences. One such word is recrudesce, “to break out afresh, as a sore, a disease, or anything else that has been quiescent.” Quiescent is another fancy word that means “being at rest.”

    frondescence
    Another word that describes plants shaking off their winter slumber and waking up to spring is frondescence, “the process or period of putting forth leaves, as a tree, plant, or the like.” The word comes from the Latin frondescēns, “becoming leafy.” If the frond- part of the word looks familiar, that’s probably because the English frond means “an often large, finely divided leaf,” from the Latin frond meaning “branch.”

    effloresce
    Yet another -esce verb on this list is effloresce, “to burst into bloom, blossom.” In chemistry, however, the verb has a specific meaning to describe a surface becoming covered in a “mealy or powdery substance upon exposure to air” or “covered with crystals of salt.” You can imagine it looks like crystals “blooming” on the surface of a substance.

    juvenescence
    The word is a noun meaning “youth or immaturity” or “the act or process of growing from childhood to youth.” The juven- part of the word comes from the Latin for “young.” This is ultimately the same Latin root we see in the more familiar juvenile, meaning “young” or “youthful.”

    renascent
    In the spring, it seems as if everything is renascent after the long, cold winter. Renascent means “being reborn; springing again into being or vigor.” The Latin root of this word can also be seen in the word Renaissance, a term given to the “great revival of art, literature, and learning in Europe beginning in the 14th century and extending to the 17th century,” a time when culture was being reborn after the medieval ages.

    incalescent
    One of the most pleasant aspects of spring is that the weather is incalescent, or “increasing in heat or ardor.” While this term can be used literally to describe something becoming warm, it is also used to describe a growing romance or love, when things are “heating up.”

    provenience
    The spring is a time when new things begin. In other words, it is the provenience of many creatures. Provenience means “origin; source.” The word provenience is primarily used in archaeology to describe the spot where an object is found or originated, to differentiate from provenance, which describes the chain of ownership of an object.

    risorgimento
    A term similar to renascent is risorgimento [ ri-zawr-juh–men-toh ], “any period or instance of rebirth or renewed activity.” When capitalized, it refers to a specific period of Italian history during “the period of or movement for the liberation and unification of Italy, 1750–1870.” As you may have guessed, the word risorgimento comes from Italian for “to rise again.”

    pullulate
    Pullulate is a verb with a variety of meanings, including “to send forth sprouts, buds, etc.; germinate; sprout” and “to exist abundantly; swarm; teem.” In the spring, plants and animals pullulate. The verb pullulate comes from the Latin pullulāre, meaning “to sprout, bring forth young.” Specifically, a pullus in Latin means “chicken,” which is ultimately the root of the French word for chicken, poulet.

    fecundate
    A verb related to pullulate is fecundate, “to make prolific or fruitful.” The word fecund and its verb form fecundate is ultimately related to root fētus, “bringing forth of young.” If that word looks familiar, that’s because it’s at the root of the English fetus, “the young of an animal in the womb or egg.” It’s all about the birth of new life.

    erumpent
    One of the first signs of spring is when the crocuses grow erumpent from the cold, hard earth. Erumpent is an adjective that means “bursting forth.” It is also used particularly to describe fungi or algae “projecting from or bursting through host tissue.” The way that mushrooms pop up on the bark of decomposing trees is a good visualization of the meaning of erumpent.

    burgeon
    Another word that describes the proliferation of new growth that occurs in the spring is burgeon, “to grow or develop quickly; flourish.” Burgeon is generally used as a verb, but it can also be used as a noun to mean “a bud; sprout.” The origin of burgeon is pretty interesting; it ultimately comes from the Latin burra meaning “wool, fluff,” likely a reference to the down covering certain buds in spring.

    redolent
    With all of the new flowers blossoming, trees leafing, and the rain making the world smell of wet dirt, one good word to describe spring is redolent, “having a pleasant odor; fragrant.” This is an adjective that is also used figuratively to mean “suggestive; reminiscent [of].” For example, Her poems are redolent of Keats’s sonnets, or they make one think of Keats’s sonnets.

    hyetal
    Speaking of the general dampness of spring, one good word to describe this weather is hyetal [ hahy-i-tl ], “of or relating to rain or rainfall.” Unlike the majority of the words on this list which have Latin roots, hyetal comes from the Greek hyetós, which means “rain.” This is why the study of rainfall is technically known as hyetography or hyetology.

    salubrious
    When the gray clouds of winter lift and a crisp spring breeze blows in, the weather feels especially salubrious, “favorable to or promoting health; healthful.” There’s nothing like a little fresh air to perk you up. Salubrious comes from the Latin salūbris, meaning “promoting health.” The word salutary comes from a similar root, and it means “favorable to or promoting health; healthful.”

    Chelidonian
    One way to describe a spring breeze is Chelidonian, which is what the ancient Greeks called it. The name comes from the Greek for swallow, because the appearance of the spring wind augured their appearance. It was believed that the swallows flew from Africa to Europe on the Chelidonian winds.

    bucolic
    Another term from Greek we can use to describe the spring is bucolic, which literally means “of or relating to shepherds; pastoral.” However, it is typically used figuratively to describe any pleasant natural or country scene. Historically, a bucolic was a specific kind of “pastoral poem” that describes the peacefulness or beauty of rural life.

    vivify
    You may feel particularly vivified in the spring months. Vivify is a verb that means “to give life to; animate; quicken.” The root of vivify is the Late Latin vīvificāre, which roughly translates to “to make live.”

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    Fancy Spring Words To Breathe Life Into Your Budding Vocabulary As Leo Tolstoy wrote in the classic Anna Karenina, “spring is the time of plans and projects.” To put it more bluntly, spring is a time of new growth, new experiences, and, in most of the world, temperamental weather. To encourage your personal growth during this season of change, why not try out some of these sophisticated vocabulary terms related to spring? verdurous Verdurous is an adjective meaning “rich in verdure; freshly green; verdant.” Verdure is a fancy word meaning “greenness, especially of fresh, flourishing vegetation.” The word comes from the Middle French verd, meaning “green.” (The modern French equivalent of this word is vert.) vernal An adjective that directly relates to the season is vernal, meaning “of or relating to spring.” It is also used figuratively to mean “belonging to or characteristic of youth,” which is just one of many examples of spring being related to new birth or adolescence. Vernal comes from Latin vernālis, meaning “of spring.” recrudesce Many of the words in this list end in the suffixes -esce, -escent, or -escence, which are used to denote the beginning of an action. This makes sense if you consider the overall theme of spring, which is the beginning of new life or new experiences. One such word is recrudesce, “to break out afresh, as a sore, a disease, or anything else that has been quiescent.” Quiescent is another fancy word that means “being at rest.” frondescence Another word that describes plants shaking off their winter slumber and waking up to spring is frondescence, “the process or period of putting forth leaves, as a tree, plant, or the like.” The word comes from the Latin frondescēns, “becoming leafy.” If the frond- part of the word looks familiar, that’s probably because the English frond means “an often large, finely divided leaf,” from the Latin frond meaning “branch.” effloresce Yet another -esce verb on this list is effloresce, “to burst into bloom, blossom.” In chemistry, however, the verb has a specific meaning to describe a surface becoming covered in a “mealy or powdery substance upon exposure to air” or “covered with crystals of salt.” You can imagine it looks like crystals “blooming” on the surface of a substance. juvenescence The word is a noun meaning “youth or immaturity” or “the act or process of growing from childhood to youth.” The juven- part of the word comes from the Latin for “young.” This is ultimately the same Latin root we see in the more familiar juvenile, meaning “young” or “youthful.” renascent In the spring, it seems as if everything is renascent after the long, cold winter. Renascent means “being reborn; springing again into being or vigor.” The Latin root of this word can also be seen in the word Renaissance, a term given to the “great revival of art, literature, and learning in Europe beginning in the 14th century and extending to the 17th century,” a time when culture was being reborn after the medieval ages. incalescent One of the most pleasant aspects of spring is that the weather is incalescent, or “increasing in heat or ardor.” While this term can be used literally to describe something becoming warm, it is also used to describe a growing romance or love, when things are “heating up.” provenience The spring is a time when new things begin. In other words, it is the provenience of many creatures. Provenience means “origin; source.” The word provenience is primarily used in archaeology to describe the spot where an object is found or originated, to differentiate from provenance, which describes the chain of ownership of an object. risorgimento A term similar to renascent is risorgimento [ ri-zawr-juh–men-toh ], “any period or instance of rebirth or renewed activity.” When capitalized, it refers to a specific period of Italian history during “the period of or movement for the liberation and unification of Italy, 1750–1870.” As you may have guessed, the word risorgimento comes from Italian for “to rise again.” pullulate Pullulate is a verb with a variety of meanings, including “to send forth sprouts, buds, etc.; germinate; sprout” and “to exist abundantly; swarm; teem.” In the spring, plants and animals pullulate. The verb pullulate comes from the Latin pullulāre, meaning “to sprout, bring forth young.” Specifically, a pullus in Latin means “chicken,” which is ultimately the root of the French word for chicken, poulet. fecundate A verb related to pullulate is fecundate, “to make prolific or fruitful.” The word fecund and its verb form fecundate is ultimately related to root fētus, “bringing forth of young.” If that word looks familiar, that’s because it’s at the root of the English fetus, “the young of an animal in the womb or egg.” It’s all about the birth of new life. erumpent One of the first signs of spring is when the crocuses grow erumpent from the cold, hard earth. Erumpent is an adjective that means “bursting forth.” It is also used particularly to describe fungi or algae “projecting from or bursting through host tissue.” The way that mushrooms pop up on the bark of decomposing trees is a good visualization of the meaning of erumpent. burgeon Another word that describes the proliferation of new growth that occurs in the spring is burgeon, “to grow or develop quickly; flourish.” Burgeon is generally used as a verb, but it can also be used as a noun to mean “a bud; sprout.” The origin of burgeon is pretty interesting; it ultimately comes from the Latin burra meaning “wool, fluff,” likely a reference to the down covering certain buds in spring. redolent With all of the new flowers blossoming, trees leafing, and the rain making the world smell of wet dirt, one good word to describe spring is redolent, “having a pleasant odor; fragrant.” This is an adjective that is also used figuratively to mean “suggestive; reminiscent [of].” For example, Her poems are redolent of Keats’s sonnets, or they make one think of Keats’s sonnets. hyetal Speaking of the general dampness of spring, one good word to describe this weather is hyetal [ hahy-i-tl ], “of or relating to rain or rainfall.” Unlike the majority of the words on this list which have Latin roots, hyetal comes from the Greek hyetós, which means “rain.” This is why the study of rainfall is technically known as hyetography or hyetology. salubrious When the gray clouds of winter lift and a crisp spring breeze blows in, the weather feels especially salubrious, “favorable to or promoting health; healthful.” There’s nothing like a little fresh air to perk you up. Salubrious comes from the Latin salūbris, meaning “promoting health.” The word salutary comes from a similar root, and it means “favorable to or promoting health; healthful.” Chelidonian One way to describe a spring breeze is Chelidonian, which is what the ancient Greeks called it. The name comes from the Greek for swallow, because the appearance of the spring wind augured their appearance. It was believed that the swallows flew from Africa to Europe on the Chelidonian winds. bucolic Another term from Greek we can use to describe the spring is bucolic, which literally means “of or relating to shepherds; pastoral.” However, it is typically used figuratively to describe any pleasant natural or country scene. Historically, a bucolic was a specific kind of “pastoral poem” that describes the peacefulness or beauty of rural life. vivify You may feel particularly vivified in the spring months. Vivify is a verb that means “to give life to; animate; quicken.” The root of vivify is the Late Latin vīvificāre, which roughly translates to “to make live.” Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤡 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ คีร์ สตาร์เมอร์ วิจารณ์ X หลังจากพบกับ แลร์รี ฟิงค์ ซีอีโอของแบล็คร็อค

    🗣️"ผมมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโต, สร้างความมั่งคั่ง, และเพิ่มเงินในกระเป๋าของผู้คน," สตาร์เมอร์ โพสต์บนบัญชี X ของเขา "สิ่งนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทำงานร่วมกับธุรกิจชั้นนำ, เช่น แบล็คร็อค, เพื่อใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของสหราชอาณาจักรในฐานะศูนย์กลางการลงทุนชั้นนำของโลก

    แต่ประชาชนชาวอังกฤษไม่พอใจกับความร่วมมือนี้:

    💬เขาภูมิใจจริงๆที่ขายเราให้กับ Blackrock นี่มันไม่น่าเชื่อ

    💬คุณน่าอายนะ, นายกรัฐมนตรี

    💬ไอ้เวรฟัคเอ๊ย ไอ้หุ่นเชิด WEF! พวกเรารู้ว่าแกมีเจ้านายที่จ่ายเงินให้ แกไม่ได้รับใช้คนอังกฤษ แต่รับใช้ Blackrock, บริษัทการลงทุน และกลุ่มโลกาภิวัตน์

    💬คุณเป็นคนน่าละอายมาก และสิ่งที่คุณทำกับผู้รับบำนาญนั้นน่าละอายและน่ารังเกียจ

    💬บิล เกตส์ และ แบล็กร็อค คือเจ้านายของคุณ…

    💬สหราชอาณาจักรไม่ควรต้องรอจนถึงปี ๒๐๒๙ ถึงกำจัดคุณ

    💬หมายเหตุ, นายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่าเขา “ตั้งใจ” ที่จะ “ใส่เงินเพิ่ม” ใน “กระเป๋าของผู้คน” คนไหน

    การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นท่ามกลางการประท้วงของเกษตรกรชาวอังกฤษต่อมาตรการในงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลพรรคแรงงาน ในการเรียกเก็บภาษีมรดกจากที่ดินเกษตรกรรม, ซึ่งอาจบังคับให้ครอบครัวต่างๆ ต้องขายที่ดินและคุกคามความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ
    .
    🤡 BRITISH PRIME MINISTER KEIR STARMER ROASTED ON X AFTER MEETING BLACKROCK CEO LARRY FINK

    🗣️"I'm determined to deliver growth, create wealth, and put more money in people’s pockets," Starmer posted on his X account. "This can only be achieved by working in partnership with leading businesses, like BlackRock, to capitalize on the UK’s position as a world-leading hub for investment"

    But the British public were not pleased with the partnership:

    💬He's actually proud to be selling us out to Blackrock. Unreal

    💬You’re an embarrassment, Prime Minister

    💬You sick f*** You WEF puppet! We knew you had pay masters. You don’t serve the British people you serve Blackrock, the investment companies and the globalists

    💬You are an absolute disgrace and what you have done to pensioners is shameful and sickening

    💬Bill Gates and BlackRock are your masters…

    💬The UK must not wait until 2029 to get rid of you

    💬Note, the Prime Minister does not say which “people’s pockets” he is “determined” to “put more money in”

    The meeting took place against the backdrop of protests by British farmers opposed to measures in the Labour government’s first budget to charge inheritance tax on agricultural land, which could force families to sell up and threaten the country’s food security.
    .
    3:38 AM · Nov 23, 2024 · 3,139 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860060286377480384
    🤡 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ คีร์ สตาร์เมอร์ วิจารณ์ X หลังจากพบกับ แลร์รี ฟิงค์ ซีอีโอของแบล็คร็อค 🗣️"ผมมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโต, สร้างความมั่งคั่ง, และเพิ่มเงินในกระเป๋าของผู้คน," สตาร์เมอร์ โพสต์บนบัญชี X ของเขา "สิ่งนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทำงานร่วมกับธุรกิจชั้นนำ, เช่น แบล็คร็อค, เพื่อใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของสหราชอาณาจักรในฐานะศูนย์กลางการลงทุนชั้นนำของโลก แต่ประชาชนชาวอังกฤษไม่พอใจกับความร่วมมือนี้: 💬เขาภูมิใจจริงๆที่ขายเราให้กับ Blackrock นี่มันไม่น่าเชื่อ 💬คุณน่าอายนะ, นายกรัฐมนตรี 💬ไอ้เวรฟัคเอ๊ย ไอ้หุ่นเชิด WEF! พวกเรารู้ว่าแกมีเจ้านายที่จ่ายเงินให้ แกไม่ได้รับใช้คนอังกฤษ แต่รับใช้ Blackrock, บริษัทการลงทุน และกลุ่มโลกาภิวัตน์ 💬คุณเป็นคนน่าละอายมาก และสิ่งที่คุณทำกับผู้รับบำนาญนั้นน่าละอายและน่ารังเกียจ 💬บิล เกตส์ และ แบล็กร็อค คือเจ้านายของคุณ… 💬สหราชอาณาจักรไม่ควรต้องรอจนถึงปี ๒๐๒๙ ถึงกำจัดคุณ 💬หมายเหตุ, นายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่าเขา “ตั้งใจ” ที่จะ “ใส่เงินเพิ่ม” ใน “กระเป๋าของผู้คน” คนไหน การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นท่ามกลางการประท้วงของเกษตรกรชาวอังกฤษต่อมาตรการในงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลพรรคแรงงาน ในการเรียกเก็บภาษีมรดกจากที่ดินเกษตรกรรม, ซึ่งอาจบังคับให้ครอบครัวต่างๆ ต้องขายที่ดินและคุกคามความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ . 🤡 BRITISH PRIME MINISTER KEIR STARMER ROASTED ON X AFTER MEETING BLACKROCK CEO LARRY FINK 🗣️"I'm determined to deliver growth, create wealth, and put more money in people’s pockets," Starmer posted on his X account. "This can only be achieved by working in partnership with leading businesses, like BlackRock, to capitalize on the UK’s position as a world-leading hub for investment" But the British public were not pleased with the partnership: 💬He's actually proud to be selling us out to Blackrock. Unreal 💬You’re an embarrassment, Prime Minister 💬You sick f*** You WEF puppet! We knew you had pay masters. You don’t serve the British people you serve Blackrock, the investment companies and the globalists 💬You are an absolute disgrace and what you have done to pensioners is shameful and sickening 💬Bill Gates and BlackRock are your masters… 💬The UK must not wait until 2029 to get rid of you 💬Note, the Prime Minister does not say which “people’s pockets” he is “determined” to “put more money in” The meeting took place against the backdrop of protests by British farmers opposed to measures in the Labour government’s first budget to charge inheritance tax on agricultural land, which could force families to sell up and threaten the country’s food security. . 3:38 AM · Nov 23, 2024 · 3,139 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860060286377480384
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 737 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายตัวเราให้แกลูกค้าก่อนที่จะแสวงผลกำไรจากมัน...หลายธุรกิจขาดทุนก่อน หลายธุรกิจโปรโมชั่นเลยตั้งแต่เปิด ลองนึกภาพตามครับ facebook ใช้ฟรีกี่ปี...? youtube ใช้แบบไม่มีโฆษณาแฝงกี่ปี...? ย้อนไปสัก 13_14 ปีก่อน..ผมยังนึกเลย..ว่า ช่องทางรายได้มาจากไหน...และจะประคองธุรกิจไปนานแค่ไหน....นั่นคือ สิ่งที่คิดในตอนนี้น....แล้วคุณดูปัจจุบัน...ของ 2 สิ่งที่เขียน...กอบโกยแบบมหาศาล.....จนมาแชร์แบ่งปันให้คนสร้างรายได้ กับพวกเขาด้วยในโหมดมืออาชีพ...เอาสิ...แต่เขาไม่ให้คุณธรรมดา มันมีกลยุทธทางการตลาดที่ซ่อนอยู่ในนั้น ดูแล้ว...ย้อนนึกถึง otop ไทย..มั่นใจสูง ของข้าดี มีคุณภาพ ตั้งราคาเทียบเคียงของแบรนด์ที่อยู่ในตลาดก่อนแล้ว..ความคิดแรก..เป็นคุณจะเลือกอะไร?.คุณก็ต้องเลือกสิ่งที่คุณรู้จัก คุ้นเคย..ถูกต้องไหม...นอกจากมีแรงจูงใจอื่นๆ...sme ครับ สมัยก่อน ผมบรรยายเรื่องการตลาดมาหลายที่...แต่หยุดเป็น 10 ปี แล้ว..แต่ไม่ได้หยุดติดตาม..หรือหยุดเรียนรู้เลย...ยกตัวอย่าง สุกี้สารพัดทั้งหลาย..เกิดขึ้นจากอะไร โตจากอะไร บุฟเฟต์ 299 ...ใช่สิ่งใหม่ไหม .ไม่ใช่เลย...แค่กลยุทธ์ด้านราคา...แต่ได้ผล...แต่ส่วนมีความเห็นว่า ธุรกิจแนวบุฟเฟต์ ไม่ยั่งยืนนาน...อีกหน่อย ผู้บริโภคก็จะชินชา ...มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย Hotpot daidomon และพวกหมูกระทะอีกมากมาย...ที่ล้วนหายไป.. อีกเรื่อง คนจำนวนไม่น้อย ในการลงทุนอะไรสักอย่าง ต้นทุนคงที่เท่าไร ต้นทุนผันแปรที่ควรต้องเผื่อไว้เท่าไร จุดคุ้มทุนเป็นไงบ้าง กี่ปี่กี่เดือน เหมาะสมกับมูลค่าการลงทุนไหม เงินธุรกิจเงินส่วนตัวกระเป๋าเดียวไม่ได้ยังไม่รู้เลย บัญชีรับจ่ายได้ทำไหม? ..คือ เห็นแล้ว เสียดายแทน ไปกู้หนี้ยืมสินเขามาลงทุน สุดท้าย เอาไปละลายในน้ำ...
    ขายตัวเราให้แกลูกค้าก่อนที่จะแสวงผลกำไรจากมัน...หลายธุรกิจขาดทุนก่อน หลายธุรกิจโปรโมชั่นเลยตั้งแต่เปิด ลองนึกภาพตามครับ facebook ใช้ฟรีกี่ปี...? youtube ใช้แบบไม่มีโฆษณาแฝงกี่ปี...? ย้อนไปสัก 13_14 ปีก่อน..ผมยังนึกเลย..ว่า ช่องทางรายได้มาจากไหน...และจะประคองธุรกิจไปนานแค่ไหน....นั่นคือ สิ่งที่คิดในตอนนี้น....แล้วคุณดูปัจจุบัน...ของ 2 สิ่งที่เขียน...กอบโกยแบบมหาศาล.....จนมาแชร์แบ่งปันให้คนสร้างรายได้ กับพวกเขาด้วยในโหมดมืออาชีพ...เอาสิ...แต่เขาไม่ให้คุณธรรมดา มันมีกลยุทธทางการตลาดที่ซ่อนอยู่ในนั้น ดูแล้ว...ย้อนนึกถึง otop ไทย..มั่นใจสูง ของข้าดี มีคุณภาพ ตั้งราคาเทียบเคียงของแบรนด์ที่อยู่ในตลาดก่อนแล้ว..ความคิดแรก..เป็นคุณจะเลือกอะไร?.คุณก็ต้องเลือกสิ่งที่คุณรู้จัก คุ้นเคย..ถูกต้องไหม...นอกจากมีแรงจูงใจอื่นๆ...sme ครับ สมัยก่อน ผมบรรยายเรื่องการตลาดมาหลายที่...แต่หยุดเป็น 10 ปี แล้ว..แต่ไม่ได้หยุดติดตาม..หรือหยุดเรียนรู้เลย...ยกตัวอย่าง สุกี้สารพัดทั้งหลาย..เกิดขึ้นจากอะไร โตจากอะไร บุฟเฟต์ 299 ...ใช่สิ่งใหม่ไหม .ไม่ใช่เลย...แค่กลยุทธ์ด้านราคา...แต่ได้ผล...แต่ส่วนมีความเห็นว่า ธุรกิจแนวบุฟเฟต์ ไม่ยั่งยืนนาน...อีกหน่อย ผู้บริโภคก็จะชินชา ...มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย Hotpot daidomon และพวกหมูกระทะอีกมากมาย...ที่ล้วนหายไป.. อีกเรื่อง คนจำนวนไม่น้อย ในการลงทุนอะไรสักอย่าง ต้นทุนคงที่เท่าไร ต้นทุนผันแปรที่ควรต้องเผื่อไว้เท่าไร จุดคุ้มทุนเป็นไงบ้าง กี่ปี่กี่เดือน เหมาะสมกับมูลค่าการลงทุนไหม เงินธุรกิจเงินส่วนตัวกระเป๋าเดียวไม่ได้ยังไม่รู้เลย บัญชีรับจ่ายได้ทำไหม? ..คือ เห็นแล้ว เสียดายแทน ไปกู้หนี้ยืมสินเขามาลงทุน สุดท้าย เอาไปละลายในน้ำ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายตัวเราให้แกลูกค้าก่อนที่จะแสวงผลกำไรจากมัน...หลายธุรกิจขาดทุนก่อน หลายธุรกิจโปรโมชั่นเลยตั้งแต่เปิด ลองนึกภาพตามครับ facebook ใช้ฟรีกี่ปี...? youtube ใช้แบบไม่มีโฆษณาแฝงกี่ปี...? ย้อนไปสัก 13_14 ปีก่อน..ผมยังนึกเลย..ว่า ช่องทางรายได้มาจากไหน...และจะประคองธุรกิจไปนานแค่ไหน....นั่นคือ สิ่งที่คิดในตอนนี้น....แล้วคุณดูปัจจุบัน...ของ 2 สิ่งที่เขียน...กอบโกยแบบมหาศาล.....จนมาแชร์แบ่งปันให้คนสร้างรายได้ กับพวกเขาด้วยในโหมดมืออาชีพ...เอาสิ...แต่เขาไม่ให้คุณธรรมดา มันมีกลยุทธทางการตลาดที่ซ่อนอยู่ในนั้น ดูแล้ว...ย้อนนึกถึง otop ไทย..มั่นใจสูง ของข้าดี มีคุณภาพ ตั้งราคาเทียบเคียงของแบรนด์ที่อยู่ในตลาดก่อนแล้ว..ความคิดแรก..เป็นคุณจะเลือกอะไร?.คุณก็ต้องเลือกสิ่งที่คุณรู้จัก คุ้นเคย..ถูกต้องไหม...นอกจากมีแรงจูงใจอื่นๆ...sme ครับ สมัยก่อน ผมบรรยายเรื่องการตลาดมาหลายที่...แต่หยุดเป็น 10 ปี แล้ว..แต่ไม่ได้หยุดติดตาม..หรือหยุดเรียนรู้เลย...ยกตัวอย่าง สุกี้สารพัดทั้งหลาย..เกิดขึ้นจากอะไร โตจากอะไร บุฟเฟต์ 299 ...ใช่สิ่งใหม่ไหม .ไม่ใช่เลย...แค่กลยุทธ์ด้านราคา...แต่ได้ผล...แต่ส่วนมีความเห็นว่า ธุรกิจแนวบุฟเฟต์ ไม่ยั่งยืนนาน...อีกหน่อย ผู้บริโภคก็จะชินชา ...มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย Hotpot daidomon และพวกหมูกระทะอีกมากมาย...ที่ล้วนหายไป.. อีกเรื่อง คนจำนวนไม่น้อย ในการลงทุนอะไรสักอย่าง ต้นทุนคงที่เท่าไร ต้นทุนผันแปรที่ควรต้องเผื่อไว้เท่าไร จุดคุ้มทุนเป็นไงบ้าง กี่ปี่กี่เดือน เหมาะสมกับมูลค่าการลงทุนไหม เงินธุรกิจเงินส่วนตัวกระเป๋าเดียวไม่ได้ยังไม่รู้เลย บัญชีรับจ่ายได้ทำไหม? ..คือ เห็นแล้ว เสียดายแทน ไปกู้หนี้ยืมสินเขามาลงทุน สุดท้าย เอาไปละลายในน้ำ...
    ขายตัวเราให้แกลูกค้าก่อนที่จะแสวงผลกำไรจากมัน...หลายธุรกิจขาดทุนก่อน หลายธุรกิจโปรโมชั่นเลยตั้งแต่เปิด ลองนึกภาพตามครับ facebook ใช้ฟรีกี่ปี...? youtube ใช้แบบไม่มีโฆษณาแฝงกี่ปี...? ย้อนไปสัก 13_14 ปีก่อน..ผมยังนึกเลย..ว่า ช่องทางรายได้มาจากไหน...และจะประคองธุรกิจไปนานแค่ไหน....นั่นคือ สิ่งที่คิดในตอนนี้น....แล้วคุณดูปัจจุบัน...ของ 2 สิ่งที่เขียน...กอบโกยแบบมหาศาล.....จนมาแชร์แบ่งปันให้คนสร้างรายได้ กับพวกเขาด้วยในโหมดมืออาชีพ...เอาสิ...แต่เขาไม่ให้คุณธรรมดา มันมีกลยุทธทางการตลาดที่ซ่อนอยู่ในนั้น ดูแล้ว...ย้อนนึกถึง otop ไทย..มั่นใจสูง ของข้าดี มีคุณภาพ ตั้งราคาเทียบเคียงของแบรนด์ที่อยู่ในตลาดก่อนแล้ว..ความคิดแรก..เป็นคุณจะเลือกอะไร?.คุณก็ต้องเลือกสิ่งที่คุณรู้จัก คุ้นเคย..ถูกต้องไหม...นอกจากมีแรงจูงใจอื่นๆ...sme ครับ สมัยก่อน ผมบรรยายเรื่องการตลาดมาหลายที่...แต่หยุดเป็น 10 ปี แล้ว..แต่ไม่ได้หยุดติดตาม..หรือหยุดเรียนรู้เลย...ยกตัวอย่าง สุกี้สารพัดทั้งหลาย..เกิดขึ้นจากอะไร โตจากอะไร บุฟเฟต์ 299 ...ใช่สิ่งใหม่ไหม .ไม่ใช่เลย...แค่กลยุทธ์ด้านราคา...แต่ได้ผล...แต่ส่วนมีความเห็นว่า ธุรกิจแนวบุฟเฟต์ ไม่ยั่งยืนนาน...อีกหน่อย ผู้บริโภคก็จะชินชา ...มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย Hotpot daidomon และพวกหมูกระทะอีกมากมาย...ที่ล้วนหายไป.. อีกเรื่อง คนจำนวนไม่น้อย ในการลงทุนอะไรสักอย่าง ต้นทุนคงที่เท่าไร ต้นทุนผันแปรที่ควรต้องเผื่อไว้เท่าไร จุดคุ้มทุนเป็นไงบ้าง กี่ปี่กี่เดือน เหมาะสมกับมูลค่าการลงทุนไหม เงินธุรกิจเงินส่วนตัวกระเป๋าเดียวไม่ได้ยังไม่รู้เลย บัญชีรับจ่ายได้ทำไหม? ..คือ เห็นแล้ว เสียดายแทน ไปกู้หนี้ยืมสินเขามาลงทุน สุดท้าย เอาไปละลายในน้ำ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชมคลิป 9 นาที:
    - การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (หลอกลวง) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
    - ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อรองรับเครดิตคาร์บอน แผนทำลาย SME และเพิ่มค่าครองชีพ
    Facebook : https://fb.watch/v-Y9M4uxbd/
    Youtube : https://youtu.be/lM_ZXNjdjYg
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@adithepchawla01?_t=8rbKMSdXMQ6&_r=1
    ชมคลิป 9 นาที: - การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (หลอกลวง) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง - ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อรองรับเครดิตคาร์บอน แผนทำลาย SME และเพิ่มค่าครองชีพ Facebook : https://fb.watch/v-Y9M4uxbd/ Youtube : https://youtu.be/lM_ZXNjdjYg Tiktok : https://www.tiktok.com/@adithepchawla01?_t=8rbKMSdXMQ6&_r=1
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 788 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=4cbYTHIphoM
    บทสนทนาเทศกาลลอยกระทง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเทศกาลลอยกระทง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #ลอยกระทง

    The conversations from the clip :

    Boy: This is incredible! The river is full of glowing krathongs, and there’s so much happening around us.
    Girl: I know! Look at all the food stalls. The smell of grilled satay and pad Thai is amazing!
    Boy: I’m definitely going to try some food later. But first, let’s float our krathongs. Have you made a wish?
    Girl: Yes, I wished for peace and happiness in my life. What about you?
    Boy: I wished for a wonderful year of travel and adventure! This festival feels so magical.
    Girl: It really does! The atmosphere is so lively with all the lights, the music, and the crowds. I love it!
    Boy: Me too! And the traditional Thai dance performances are so beautiful. Do you want to watch one later?
    Girl: Absolutely! I also want to try those sugarcane juice drinks. They look so refreshing.
    Boy: I had one earlier! It’s sweet and so refreshing after the hot weather. We should get another one.
    Girl: I definitely will. And look over there! There’s a game booth where you can throw rings at bottles. It looks fun!
    Boy: I’ve never played that game before. Do you want to try it?
    Girl: Let’s do it! I’m feeling lucky tonight. Oh, look, they’re also selling glowing toys and lanterns!
    Boy: That would make such a cute souvenir. We should get one before we leave.
    Girl: For sure! This is such an unforgettable experience. I’m so glad we’re here together.

    เด็กผู้ชาย: นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ! แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงเรืองแสง แถมยังมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเราเต็มไปหมดเลย
    เด็กผู้หญิง: ใช่เลย! ดูสิ มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด กลิ่นของสะเต๊ะย่างกับผัดไทยหอมมาก!
    เด็กผู้ชาย: ฉันจะลองชิมอาหารทีหลังแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาลอยกระทงกันก่อน คุณอธิษฐานหรือยัง?
    เด็กผู้หญิง: อธิษฐานแล้ว ฉันขอให้ชีวิตมีแต่ความสงบสุขและความสุข แล้วคุณล่ะ?
    เด็กผู้ชาย: ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางและการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม! เทศกาลนี้ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย
    เด็กผู้หญิง: จริงด้วย! บรรยากาศคึกคักไปด้วยแสงไฟ เสียงดนตรี และผู้คนมากมาย ฉันชอบจัง!
    เด็กผู้ชาย: ฉันก็เหมือนกัน! การแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมก็สวยงามมาก คุณอยากดูไหม?
    เด็กผู้หญิง: อยากมาก! ฉันก็อยากลองน้ำอ้อยที่ขายอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะสดชื่นมาก ๆ
    เด็กผู้ชาย: ฉันเพิ่งลองไปตอนบ่ายเอง! รสหวานและสดชื่นสุด ๆ หลังจากเจออากาศร้อน เราน่าจะซื้อมาดื่มกันอีกนะ
    เด็กผู้หญิง: แน่นอน เดี๋ยวจะไปซื้อเลย ดูนั่นสิ! มีซุ้มเกมที่ให้โยนห่วงใส่ขวดด้วย ดูสนุกนะ!
    เด็กผู้ชาย: ฉันยังไม่เคยเล่นเกมนี้เลย คุณอยากลองไหม?
    เด็กผู้หญิง: ลองกันเถอะ! คืนนี้รู้สึกโชคดีจัง โอ้ ดูนั่นสิ! พวกเขายังขายของเล่นและโคมไฟเรืองแสงด้วยนะ!
    เด็กผู้ชาย: อันนั้นเป็นของที่ระลึกที่น่ารักมาก เราควรจะซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน
    เด็กผู้หญิง: แน่นอน! นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ ฉันดีใจมากที่เราได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Incredible (อิน-เครด-ดิเบิล) adj. แปลว่า น่าทึ่ง
    River (ริฟ-เวอะ) n. แปลว่า แม่น้ำ
    Glowing (โกล-วิง) adj. แปลว่า ส่องแสง
    Stall (สตอล) n. แปลว่า ร้านเล็ก ๆ
    Smell (สเมล) n./v. แปลว่า กลิ่น / ได้กลิ่น
    Grilled (กริล-ด) adj. แปลว่า ย่าง
    Magical (แมจ-จิ-เคิล) adj. แปลว่า มหัศจรรย์
    Atmosphere (แอท-เมิส-เฟียร์) n. แปลว่า บรรยากาศ
    Crowds (เคราดส์) n. แปลว่า ฝูงชน
    Performance (เพอะ-ฟอร์-เมินซ) n. แปลว่า การแสดง
    Refreshing (รี-เฟรช-ชิง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Weather (เวธ-เธอะ) n. แปลว่า สภาพอากาศ
    Booth (บูธ) n. แปลว่า ซุ้ม / บูธ
    Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    Unforgettable (อัน-เฟอะ-เก็ท-ทะ-เบิล) adj. แปลว่า น่าจดจำ / ไม่มีวันลืม
    https://www.youtube.com/watch?v=4cbYTHIphoM บทสนทนาเทศกาลลอยกระทง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเทศกาลลอยกระทง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #ลอยกระทง The conversations from the clip : Boy: This is incredible! The river is full of glowing krathongs, and there’s so much happening around us. Girl: I know! Look at all the food stalls. The smell of grilled satay and pad Thai is amazing! Boy: I’m definitely going to try some food later. But first, let’s float our krathongs. Have you made a wish? Girl: Yes, I wished for peace and happiness in my life. What about you? Boy: I wished for a wonderful year of travel and adventure! This festival feels so magical. Girl: It really does! The atmosphere is so lively with all the lights, the music, and the crowds. I love it! Boy: Me too! And the traditional Thai dance performances are so beautiful. Do you want to watch one later? Girl: Absolutely! I also want to try those sugarcane juice drinks. They look so refreshing. Boy: I had one earlier! It’s sweet and so refreshing after the hot weather. We should get another one. Girl: I definitely will. And look over there! There’s a game booth where you can throw rings at bottles. It looks fun! Boy: I’ve never played that game before. Do you want to try it? Girl: Let’s do it! I’m feeling lucky tonight. Oh, look, they’re also selling glowing toys and lanterns! Boy: That would make such a cute souvenir. We should get one before we leave. Girl: For sure! This is such an unforgettable experience. I’m so glad we’re here together. เด็กผู้ชาย: นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ! แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงเรืองแสง แถมยังมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเราเต็มไปหมดเลย เด็กผู้หญิง: ใช่เลย! ดูสิ มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด กลิ่นของสะเต๊ะย่างกับผัดไทยหอมมาก! เด็กผู้ชาย: ฉันจะลองชิมอาหารทีหลังแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาลอยกระทงกันก่อน คุณอธิษฐานหรือยัง? เด็กผู้หญิง: อธิษฐานแล้ว ฉันขอให้ชีวิตมีแต่ความสงบสุขและความสุข แล้วคุณล่ะ? เด็กผู้ชาย: ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางและการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม! เทศกาลนี้ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย เด็กผู้หญิง: จริงด้วย! บรรยากาศคึกคักไปด้วยแสงไฟ เสียงดนตรี และผู้คนมากมาย ฉันชอบจัง! เด็กผู้ชาย: ฉันก็เหมือนกัน! การแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมก็สวยงามมาก คุณอยากดูไหม? เด็กผู้หญิง: อยากมาก! ฉันก็อยากลองน้ำอ้อยที่ขายอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะสดชื่นมาก ๆ เด็กผู้ชาย: ฉันเพิ่งลองไปตอนบ่ายเอง! รสหวานและสดชื่นสุด ๆ หลังจากเจออากาศร้อน เราน่าจะซื้อมาดื่มกันอีกนะ เด็กผู้หญิง: แน่นอน เดี๋ยวจะไปซื้อเลย ดูนั่นสิ! มีซุ้มเกมที่ให้โยนห่วงใส่ขวดด้วย ดูสนุกนะ! เด็กผู้ชาย: ฉันยังไม่เคยเล่นเกมนี้เลย คุณอยากลองไหม? เด็กผู้หญิง: ลองกันเถอะ! คืนนี้รู้สึกโชคดีจัง โอ้ ดูนั่นสิ! พวกเขายังขายของเล่นและโคมไฟเรืองแสงด้วยนะ! เด็กผู้ชาย: อันนั้นเป็นของที่ระลึกที่น่ารักมาก เราควรจะซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน เด็กผู้หญิง: แน่นอน! นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ ฉันดีใจมากที่เราได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Incredible (อิน-เครด-ดิเบิล) adj. แปลว่า น่าทึ่ง River (ริฟ-เวอะ) n. แปลว่า แม่น้ำ Glowing (โกล-วิง) adj. แปลว่า ส่องแสง Stall (สตอล) n. แปลว่า ร้านเล็ก ๆ Smell (สเมล) n./v. แปลว่า กลิ่น / ได้กลิ่น Grilled (กริล-ด) adj. แปลว่า ย่าง Magical (แมจ-จิ-เคิล) adj. แปลว่า มหัศจรรย์ Atmosphere (แอท-เมิส-เฟียร์) n. แปลว่า บรรยากาศ Crowds (เคราดส์) n. แปลว่า ฝูงชน Performance (เพอะ-ฟอร์-เมินซ) n. แปลว่า การแสดง Refreshing (รี-เฟรช-ชิง) adj. แปลว่า สดชื่น Weather (เวธ-เธอะ) n. แปลว่า สภาพอากาศ Booth (บูธ) n. แปลว่า ซุ้ม / บูธ Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี Unforgettable (อัน-เฟอะ-เก็ท-ทะ-เบิล) adj. แปลว่า น่าจดจำ / ไม่มีวันลืม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 932 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้ "การประเมินในเชิงบวก" สำหรับการจ่ายเงินปกติครั้งที่ ๒ จำนวน ๔.๑ พันล้านยูโรแก่เคียฟภายใต้โครงการสิ่งอำนวยความสะดวกของยูเครน; โดยขณะนี้การตัดสินใจดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป, คณะกรรมาธิการกล่าวในแถลงการณ์:
    .
    The European Commission has given "a positive assessment" for the second regular payment of 4.1 bln euros to Kiev under the Ukraine Facility; the decision will now have to be adopted by the Council of the EU, the commission said in a statement:
    https://tass.com/world/1872521
    .
    1:07 AM · Nov 15, 2024 · 1,777 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857123133515280830
    คณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้ "การประเมินในเชิงบวก" สำหรับการจ่ายเงินปกติครั้งที่ ๒ จำนวน ๔.๑ พันล้านยูโรแก่เคียฟภายใต้โครงการสิ่งอำนวยความสะดวกของยูเครน; โดยขณะนี้การตัดสินใจดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป, คณะกรรมาธิการกล่าวในแถลงการณ์: . The European Commission has given "a positive assessment" for the second regular payment of 4.1 bln euros to Kiev under the Ukraine Facility; the decision will now have to be adopted by the Council of the EU, the commission said in a statement: https://tass.com/world/1872521 . 1:07 AM · Nov 15, 2024 · 1,777 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857123133515280830
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pun, Pangrams, Palindromes, And More: Discover Types Of Word Play

    Words are powerful, and a masterful use of words can change the world. At the same time, words have a fun side to them too. While the English language often seems to exist purely to confuse us, English also has a silly side that can make us laugh and smile. Are you skeptical? Well, we have dug deep into the English toy box to find a bunch of different ways we can play with words. Fair warning: those that have a low tolerance for dad jokes will want to leave immediately.

    Puns

    By definition, a pun is a humorous use of a word with multiple meanings or a funny use of a word as a substitute for a similar sounding word. The related terms punning, play on words, and paronomasia are often used to refer to the act of making puns. The term double entendre refers to a type of wordplay that also uses words with multiple meanings, albeit usually in a more risqué manner than a whimsical pun.

    Examples of puns

    Puns that involve words with multiple meanings:

    The young monkeys went to the jungle gym for some exercise.
    The investor in the bakery demanded a larger piece of the pie.
    The art competition ended in a draw.
    The maestro turned away from the orchestra as they told him the bad news; he couldn’t face the music.

    Puns that involve similar sounding words:

    - She claimed the big cat was a tiger, but we knew she was lion.
    - When he asked me what the flowers should smell like, I told him to use common scents.
    - As it turned out, the runners themselves had rigged the race. It was an inside jog.
    - The negotiations over the birds went poorly; neither side would give a finch.

    Tom Swifty

    A Tom Swifty is a fun use of words that follows a quote, usually said by a fictional Tom, using a punny adverb. The term Tom Swifty was coined by writer Willard Espy and named after the Tom Swift series of books, which tended to use a lot of adverbs to describe dialogue.

    Examples of Tom Swifties

    “I have frostbite,” Tom said coldly.
    “I’m stocked on all the essentials,” Jess said needlessly.
    “We feel really bad about what we did,” the children said shamefully.

    Stinky Pinky

    Stinky pinky, also known as stinky pinkie and by many other names, is a word game in which players try to guess a rhyming phrase based on a definition. The phrase “stinky pinky” itself is a possible answer when playing the game. It is unknown who invented the game or named it, but word games with the name “stinky pinky” can be traced back to at least the 1940s.

    Stinky Pinky examples

    Clue: “Stone timepiece” Answer: Rock clock.
    Clue: “Road pork” Answer: Street meat.
    Clue: “A young cat’s gloves” Answer: Kitten’s mittens.

    Spoonerisms

    A spoonerism is a, usually accidental, swapping of initial sounds of two words. The term spoonerism is named for Oxford lecturer William Archibald Spooner, a notoriously nervous speaker who often swapped the beginnings of words when he spoke publicly.

    Spoonerism examples

    - It is tinner dime. (“dinner time”)
    - He used to work on a bail soat. (“sail boat”)
    - Happy dogs love to tag their wails. (“wag their tails”)

    Kennings

    A kenning is a metaphorical or poetic phrase that is conventionally used in place of another term.

    Kenning examples

    gumshoe = a detective
    pencil pusher = an office worker
    tree-hugger = an environmentalist

    Pig Latin

    Pig Latin is a form of language, usually used by children, in which the first consonant or consonant sound is placed at the end of a word followed by the sound ā (written as “ay”).

    Example: Ancay ouyay eakspay igpay atinlay? (“Can you speak pig Latin?”)

    Palindromes

    A palindrome is a word, phrase, or sentence that reads the same if read forward or backward.

    Palindrome examples

    Single words:

    madam
    eve
    noon

    Multiple words:

    dog god
    ward draw
    live evil

    Sentences:

    A man, a plan, a canal. Panama!
    Madam, I’m Adam!
    Was it a cat I saw?

    Anagrams

    An anagram is a word, phrase, or sentence formed by rearranging the letters of another.

    Anagram examples

    porter is an anagram of report
    attics is an anagram of static
    pub toss is an anagram of bus stop

    Antigrams

    An antigram is an anagram that means the opposite of the original word or phrase it was formed from.

    Examples

    on the sly is an antigram of honestly
    arise late is an antigram of earliest
    over fifty is an antigram of forty-five

    Pangrams

    A pangram is a phrase or sentence that includes every letter of the alphabet. The quick brown fox jumps over the lazy dog is a famous example of a pangram. Some other fun examples of things that rely on alphabet-based challenges include lipograms, heterograms, tautograms, autograms, and kangaroo words.

    Ambigrams

    An ambigram is a word or visual design that reads the same or creates a new word or image when flipped upside down or reversed. For example, the word dollop is an example of an ambigram because it would still theoretically read as “dollop” even when turned upside down.

    Acrostics

    An acrostic is a set of lines or verses where certain letters spell out a hidden message.

    Example:

    Curious
    Agile
    Territorial
    Smart

    Backronyms

    A backronym is an existing word turned into an acronym by creating an appropriate phrase that it could serve as an acronym for.

    Examples

    Ghost is a backronym of “ghoul haunting our spooky town.”
    Car is a backronym of “carrying all riders.”
    Alligator is a backronym of “a large lizard is grinning at the other reptiles.”

    Rhyming, alliteration, assonance, and consonance

    These four words all have to do with using words that have similar sounds. Most people are familiar with rhyming, which typically refers to using words with similar-sounding endings as in The big pig ate a fig. The word alliteration means to use words with similar-sounding beginnings or words that start with the same letter. Assonance means to use similar-sounding vowels anywhere in words when rhyming, whereas consonance means to use similar-sounding consonant sounds anywhere in words when making a rhyme.

    Alliteration examples

    She sells seashells by the sea shore.
    Big bunnies bounded behind busy birds.
    Ten tenants took twenty tents to Thailand.

    Assonance examples

    We see these bees.
    Leave the cleaver for the skeevy beaver.
    Doodle the Cool Poodle wants oodles of noodle strudel.

    Consonance examples

    Look! The crook took cook books!
    Ross, toss the sauce to our boss Joss.
    We heard the third nerdy bird’s words.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Pun, Pangrams, Palindromes, And More: Discover Types Of Word Play Words are powerful, and a masterful use of words can change the world. At the same time, words have a fun side to them too. While the English language often seems to exist purely to confuse us, English also has a silly side that can make us laugh and smile. Are you skeptical? Well, we have dug deep into the English toy box to find a bunch of different ways we can play with words. Fair warning: those that have a low tolerance for dad jokes will want to leave immediately. Puns By definition, a pun is a humorous use of a word with multiple meanings or a funny use of a word as a substitute for a similar sounding word. The related terms punning, play on words, and paronomasia are often used to refer to the act of making puns. The term double entendre refers to a type of wordplay that also uses words with multiple meanings, albeit usually in a more risqué manner than a whimsical pun. Examples of puns Puns that involve words with multiple meanings: The young monkeys went to the jungle gym for some exercise. The investor in the bakery demanded a larger piece of the pie. The art competition ended in a draw. The maestro turned away from the orchestra as they told him the bad news; he couldn’t face the music. Puns that involve similar sounding words: - She claimed the big cat was a tiger, but we knew she was lion. - When he asked me what the flowers should smell like, I told him to use common scents. - As it turned out, the runners themselves had rigged the race. It was an inside jog. - The negotiations over the birds went poorly; neither side would give a finch. Tom Swifty A Tom Swifty is a fun use of words that follows a quote, usually said by a fictional Tom, using a punny adverb. The term Tom Swifty was coined by writer Willard Espy and named after the Tom Swift series of books, which tended to use a lot of adverbs to describe dialogue. Examples of Tom Swifties “I have frostbite,” Tom said coldly. “I’m stocked on all the essentials,” Jess said needlessly. “We feel really bad about what we did,” the children said shamefully. Stinky Pinky Stinky pinky, also known as stinky pinkie and by many other names, is a word game in which players try to guess a rhyming phrase based on a definition. The phrase “stinky pinky” itself is a possible answer when playing the game. It is unknown who invented the game or named it, but word games with the name “stinky pinky” can be traced back to at least the 1940s. Stinky Pinky examples Clue: “Stone timepiece” Answer: Rock clock. Clue: “Road pork” Answer: Street meat. Clue: “A young cat’s gloves” Answer: Kitten’s mittens. Spoonerisms A spoonerism is a, usually accidental, swapping of initial sounds of two words. The term spoonerism is named for Oxford lecturer William Archibald Spooner, a notoriously nervous speaker who often swapped the beginnings of words when he spoke publicly. Spoonerism examples - It is tinner dime. (“dinner time”) - He used to work on a bail soat. (“sail boat”) - Happy dogs love to tag their wails. (“wag their tails”) Kennings A kenning is a metaphorical or poetic phrase that is conventionally used in place of another term. Kenning examples gumshoe = a detective pencil pusher = an office worker tree-hugger = an environmentalist Pig Latin Pig Latin is a form of language, usually used by children, in which the first consonant or consonant sound is placed at the end of a word followed by the sound ā (written as “ay”). Example: Ancay ouyay eakspay igpay atinlay? (“Can you speak pig Latin?”) Palindromes A palindrome is a word, phrase, or sentence that reads the same if read forward or backward. Palindrome examples Single words: madam eve noon Multiple words: dog god ward draw live evil Sentences: A man, a plan, a canal. Panama! Madam, I’m Adam! Was it a cat I saw? Anagrams An anagram is a word, phrase, or sentence formed by rearranging the letters of another. Anagram examples porter is an anagram of report attics is an anagram of static pub toss is an anagram of bus stop Antigrams An antigram is an anagram that means the opposite of the original word or phrase it was formed from. Examples on the sly is an antigram of honestly arise late is an antigram of earliest over fifty is an antigram of forty-five Pangrams A pangram is a phrase or sentence that includes every letter of the alphabet. The quick brown fox jumps over the lazy dog is a famous example of a pangram. Some other fun examples of things that rely on alphabet-based challenges include lipograms, heterograms, tautograms, autograms, and kangaroo words. Ambigrams An ambigram is a word or visual design that reads the same or creates a new word or image when flipped upside down or reversed. For example, the word dollop is an example of an ambigram because it would still theoretically read as “dollop” even when turned upside down. Acrostics An acrostic is a set of lines or verses where certain letters spell out a hidden message. Example: Curious Agile Territorial Smart Backronyms A backronym is an existing word turned into an acronym by creating an appropriate phrase that it could serve as an acronym for. Examples Ghost is a backronym of “ghoul haunting our spooky town.” Car is a backronym of “carrying all riders.” Alligator is a backronym of “a large lizard is grinning at the other reptiles.” Rhyming, alliteration, assonance, and consonance These four words all have to do with using words that have similar sounds. Most people are familiar with rhyming, which typically refers to using words with similar-sounding endings as in The big pig ate a fig. The word alliteration means to use words with similar-sounding beginnings or words that start with the same letter. Assonance means to use similar-sounding vowels anywhere in words when rhyming, whereas consonance means to use similar-sounding consonant sounds anywhere in words when making a rhyme. Alliteration examples She sells seashells by the sea shore. Big bunnies bounded behind busy birds. Ten tenants took twenty tents to Thailand. Assonance examples We see these bees. Leave the cleaver for the skeevy beaver. Doodle the Cool Poodle wants oodles of noodle strudel. Consonance examples Look! The crook took cook books! Ross, toss the sauce to our boss Joss. We heard the third nerdy bird’s words. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 976 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🥳สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งผ่านการทำสีผมมา
    แต่ต้องการทำสีครั้งต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะแก้สี
    หรือเบื่ออยากเปลี่ยนสีใหม่
    .
    👉ยูจีแนะนำ... ควรรอให้โคนผมงอกยาวอย่างน้อย 1-2 cm หรือประมาณ 1-2 เดือน แล้วค่อยทำสีครั้งต่อไปค่ะเพราะแม้การทำสีผมจะไม่เป็นอันตราย แต่การทำเคมีกับผมบ่อยๆก็ทำให้โครงสร้างผมอ่อนแอได้ จึงไม่ควรทำติดๆ กันนะ

    -------------------------------------------------
    🛒 สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่าน
    Fb inbox : http://m.me/Yougeethailand
    Shopee : https://shopee.co.th/yougee.th
    Tiktok shop : https://vt.tiktok.com/ZMhf1PL41/?page=TikTokShop

    🌿Ciaca ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมจากสมุนไพรและเทคโนโลยีด้านการสกัดสารจากธรรมชาติ จากทีมนักวิจัยและเภสัชกรที่เชี่ยวชาญทางเครื่องสำอาง ดาริน แล็บบอราทอรี่ส์ มหาวิทยาลัย นเรศวร

    🌿Yougee วิจัยและพัฒนาจาก Colornow Cosmetic Limited ลิขสิทธิ์จากประเทศแคนาดา
    #Yougee #ความอ่อนโยนจากธรรมชาติคืนสู่เส้นผม #บำรุงผม
    🥳สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งผ่านการทำสีผมมา แต่ต้องการทำสีครั้งต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะแก้สี หรือเบื่ออยากเปลี่ยนสีใหม่ . 👉ยูจีแนะนำ... ควรรอให้โคนผมงอกยาวอย่างน้อย 1-2 cm หรือประมาณ 1-2 เดือน แล้วค่อยทำสีครั้งต่อไปค่ะเพราะแม้การทำสีผมจะไม่เป็นอันตราย แต่การทำเคมีกับผมบ่อยๆก็ทำให้โครงสร้างผมอ่อนแอได้ จึงไม่ควรทำติดๆ กันนะ ------------------------------------------------- 🛒 สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่าน Fb inbox : http://m.me/Yougeethailand Shopee : https://shopee.co.th/yougee.th Tiktok shop : https://vt.tiktok.com/ZMhf1PL41/?page=TikTokShop 🌿Ciaca ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมจากสมุนไพรและเทคโนโลยีด้านการสกัดสารจากธรรมชาติ จากทีมนักวิจัยและเภสัชกรที่เชี่ยวชาญทางเครื่องสำอาง ดาริน แล็บบอราทอรี่ส์ มหาวิทยาลัย นเรศวร 🌿Yougee วิจัยและพัฒนาจาก Colornow Cosmetic Limited ลิขสิทธิ์จากประเทศแคนาดา #Yougee #ความอ่อนโยนจากธรรมชาติคืนสู่เส้นผม #บำรุงผม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🥳สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งผ่านการทำสีผมมา
    แต่ต้องการทำสีครั้งต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะแก้สี
    หรือเบื่ออยากเปลี่ยนสีใหม่
    .
    👉ยูจีแนะนำ... ควรรอให้โคนผมงอกยาวอย่างน้อย 1-2 cm หรือประมาณ 1-2 เดือน แล้วค่อยทำสีครั้งต่อไปค่ะเพราะแม้การทำสีผมจะไม่เป็นอันตราย แต่การทำเคมีกับผมบ่อยๆก็ทำให้โครงสร้างผมอ่อนแอได้ จึงไม่ควรทำติดๆ กันนะ
    .
    #yougee #yougee_thailand #ciaca #ciaca_thailand #treatment #color #yougee #yougee_thailand #ciaca #treatment #color #ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ #สูตรสีผม #ครีมเปลี่ยนสีผม #บำรุงเส้นผม #เคราตินผม #สีผมแฟชั่น #ผมสวย #บอกลาผมเสีย #สีผม #วิธีฟอกผม #เทรนด์สีผม #เซียก้าซุปเปอร์เคราติน #ฟอกผม #เปลี่ยนสีผม #ทรีทเมนท์ยูจี
    #บำรุงผม #ผมสวยเงางาม #น้ำมันบำรุงผม #น้ำมันแมคาเดเมีย #macademia #ปกป้องเส้นผม #ป้องกันผมจากความร้อน

    -------------------------------------------------
    🛒 สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่าน
    Fb inbox : http://m.me/Yougeethailand
    Shopee : https://shopee.co.th/yougee.th
    Tiktok shop : https://vt.tiktok.com/ZMhf1PL41/?page=TikTokShop

    🌿Ciaca ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมจากสมุนไพรและเทคโนโลยีด้านการสกัดสารจากธรรมชาติ จากทีมนักวิจัยและเภสัชกรที่เชี่ยวชาญทางเครื่องสำอาง ดาริน แล็บบอราทอรี่ส์ มหาวิทยาลัย นเรศวร

    🌿Yougee วิจัยและพัฒนาจาก Colornow Cosmetic Limited ลิขสิทธิ์จากประเทศแคนาดา
    #Yougee #ความอ่อนโยนจากธรรมชาติคืนสู่เส้นผม #บำรุงผม
    🥳สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งผ่านการทำสีผมมา แต่ต้องการทำสีครั้งต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะแก้สี หรือเบื่ออยากเปลี่ยนสีใหม่ . 👉ยูจีแนะนำ... ควรรอให้โคนผมงอกยาวอย่างน้อย 1-2 cm หรือประมาณ 1-2 เดือน แล้วค่อยทำสีครั้งต่อไปค่ะเพราะแม้การทำสีผมจะไม่เป็นอันตราย แต่การทำเคมีกับผมบ่อยๆก็ทำให้โครงสร้างผมอ่อนแอได้ จึงไม่ควรทำติดๆ กันนะ . #yougee #yougee_thailand #ciaca #ciaca_thailand #treatment #color #yougee #yougee_thailand #ciaca #treatment #color #ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ #สูตรสีผม #ครีมเปลี่ยนสีผม #บำรุงเส้นผม #เคราตินผม #สีผมแฟชั่น #ผมสวย #บอกลาผมเสีย #สีผม #วิธีฟอกผม #เทรนด์สีผม #เซียก้าซุปเปอร์เคราติน #ฟอกผม #เปลี่ยนสีผม #ทรีทเมนท์ยูจี #บำรุงผม #ผมสวยเงางาม #น้ำมันบำรุงผม #น้ำมันแมคาเดเมีย #macademia #ปกป้องเส้นผม #ป้องกันผมจากความร้อน ------------------------------------------------- 🛒 สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่าน Fb inbox : http://m.me/Yougeethailand Shopee : https://shopee.co.th/yougee.th Tiktok shop : https://vt.tiktok.com/ZMhf1PL41/?page=TikTokShop 🌿Ciaca ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมจากสมุนไพรและเทคโนโลยีด้านการสกัดสารจากธรรมชาติ จากทีมนักวิจัยและเภสัชกรที่เชี่ยวชาญทางเครื่องสำอาง ดาริน แล็บบอราทอรี่ส์ มหาวิทยาลัย นเรศวร 🌿Yougee วิจัยและพัฒนาจาก Colornow Cosmetic Limited ลิขสิทธิ์จากประเทศแคนาดา #Yougee #ความอ่อนโยนจากธรรมชาติคืนสู่เส้นผม #บำรุงผม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 739 มุมมอง 0 รีวิว
  • แจกสูตรทำสีผมน้ำตาลหม่นม่วงเหลือบเทา สวยปังมากกก ฮอตตลอดกาล
    ขอบคุณสูตรสีผมสวยๆ By อาจารย์ทราย เหมือนเดิมค่ะ
    .
    💈 พื้นผมเดิมนางแบบคนนี้สีบลอนด์เขียวนะคะ
    .
    สีนี้เป็นโทนออกน้ำตาลหม่นม่วงเหลือบเทาเทคนิคนี้ในการทำให้ดึงเป็นช่อไฮไลท์บางๆให้ทั่วศีรษะหลังจากที่ทำไฮไลท์เน้นไปเยอะๆแล้วล้างออกให้สะอาดสระด้วยแชมพูล้างสารเคมี 1-2 รอบแล้วทำการลงสี
    .
    💚 💁‍♀️ ส่วนผสม (สำหรับผมสั้น ถ้าผมยาวเพิ่มเป็น 100ml นะคะ
    ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ S87 (50ml)
    ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ ​5/0 (50ml)
    ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 0/11 (50ml)
    ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 8/11 (50ml)
    ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 0/88 (1 หน้าแปรง)
    ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 0/45 (1 หน้าแปรง)
    ไฮโดรเจนยูจี​ 6%
    .
    ทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณ 45 นาที
    -------------------------------------------------
    🛒 สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่าน
    Fb inbox : http://m.me/Yougeethailand
    Shopee : https://shopee.co.th/yougee.th
    Tiktok shop : https://vt.tiktok.com/ZMhf1PL41/?page=TikTokShop
    🌿Ciaca ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมจากสมุนไพรและเทคโนโลยีด้านการสกัดสารจากธรรมชาติ จากทีมนักวิจัยและเภสัชกรที่เชี่ยวชาญทางเครื่องสำอาง ดาริน แล็บบอราทอรี่ส์ มหาวิทยาลัย นเรศวร
    🌿Yougee วิจัยและพัฒนาจาก Colornow Cosmetic Limited ลิขสิทธิ์จากประเทศแคนาดา
    #Yougee #ความอ่อนโยนจากธรรมชาติคืนสู่เส้นผม #บำรุงผม
    แจกสูตรทำสีผมน้ำตาลหม่นม่วงเหลือบเทา สวยปังมากกก ฮอตตลอดกาล ขอบคุณสูตรสีผมสวยๆ By อาจารย์ทราย เหมือนเดิมค่ะ . 💈 พื้นผมเดิมนางแบบคนนี้สีบลอนด์เขียวนะคะ . สีนี้เป็นโทนออกน้ำตาลหม่นม่วงเหลือบเทาเทคนิคนี้ในการทำให้ดึงเป็นช่อไฮไลท์บางๆให้ทั่วศีรษะหลังจากที่ทำไฮไลท์เน้นไปเยอะๆแล้วล้างออกให้สะอาดสระด้วยแชมพูล้างสารเคมี 1-2 รอบแล้วทำการลงสี . 💚 💁‍♀️ ส่วนผสม (สำหรับผมสั้น ถ้าผมยาวเพิ่มเป็น 100ml นะคะ ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ S87 (50ml) ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ ​5/0 (50ml) ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 0/11 (50ml) ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 8/11 (50ml) ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 0/88 (1 หน้าแปรง) ครีมเปลี่ยนสีผมยูจีเบอร์ 0/45 (1 หน้าแปรง) ไฮโดรเจนยูจี​ 6% . ทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณ 45 นาที ------------------------------------------------- 🛒 สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่าน Fb inbox : http://m.me/Yougeethailand Shopee : https://shopee.co.th/yougee.th Tiktok shop : https://vt.tiktok.com/ZMhf1PL41/?page=TikTokShop 🌿Ciaca ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมจากสมุนไพรและเทคโนโลยีด้านการสกัดสารจากธรรมชาติ จากทีมนักวิจัยและเภสัชกรที่เชี่ยวชาญทางเครื่องสำอาง ดาริน แล็บบอราทอรี่ส์ มหาวิทยาลัย นเรศวร 🌿Yougee วิจัยและพัฒนาจาก Colornow Cosmetic Limited ลิขสิทธิ์จากประเทศแคนาดา #Yougee #ความอ่อนโยนจากธรรมชาติคืนสู่เส้นผม #บำรุงผม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 471 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกร้อนขึ้นเป็นวัฏจักรธรรมชาติ และในภาพรวมกำลังจะเย็นลง
    แต่…
    เราถูกฝังหัวกันมานานว่ามนุษย์เป็นคนทำให้โลกร้อน
    เพื่อนำไปสู่การใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อการบีบบังคับนำไปสู่การเป็นทาส
    ไลฟ์สด โลกร้อนลวงโลก โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.facebook.com/share/v/JjrAnsFTf9vwcQ4u/
    ชี้แหล่งศึกษาข้อมูล
    https://www.rookon.com/?p=339
    https://www.rookon.com/?p=975
    https://www.rookon.com/?p=1011
    https://www.rookon.com/?p=1076
    https://www.rookon.com/?p=119เก้า ลิงก์นี้ต้องแก้คำว่าเก้าเป็นตัวเลขก่อน FBแบน
    https://www.rookon.com/?p=1147
    https://vt.tiktok.com/ZSFvhkGKK/
    ตอน 1. https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783535104953601...
    ตอน 2.
    https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783574783200513...
    https://vt.tiktok.com/ZSYeFkn5t/ หรือ
    https://fb.watch/s0HF9m7C09/ (ไลฟ์สดกับอ.ทีน่า อ.เกรซ)
    #คลิป 1 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥
    https://t.me/awakened_thailand/424
    ✨หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการขุดเจาะแท่งน้ำแข็งพบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ☀️ ต่อมาอีก 800 ปี CO2 ถึงจะสูงขึ้นตามมา...แปลว่า CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน 😳 แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นต่างหากที่ทำให้ CO2 เพิ่มขึ้น
    สั้นๆ ง่ายๆ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดแล้ว! โลกร้อนตามวัฏจักรของโลก มันเป็นธรรมชาติ 😎 มนุษย์ไม่ได้ทำให้โลกร้อน แต่เราทำให้โลกสกปรก...ฉะนั้น CO2 ไม่เกี่ยวอะไรเลย
    แยกให้ออก 🧐 โลกร้อน กับ โลกสกปรก มันคือคนละเรื่องกัน เรื่องง่ายๆ เด็กป.4 ยังรู้เรื่อง
    #คลิป 2 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥
    https://t.me/awakened_thailand/425
    โลกร้อนขึ้น และเย็นลง เป็นวัฏจักร เป็นธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับ CO2 แม้แต่น้อย
    คำถาม ❓: รู้ได้ไง? 🤔
    ตอบ: เจาะน้ำแข็งลงไปหลายกิโล แล้วดึงแท่งน้ำแข็งขึ้นมาศึกษา (เหมือนศึกษาวงปีของต้นไม้) 😎
    มหาสมุทรกักเก็บ CO2 ไว้เป็นจำนวนมาก 🥵เมื่อโลกร้อนขึ้นเอง ทะเลคือตัวคาย CO2 ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ
    🌎อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ส่งผลให้ CO2 สูงตามมาทีหลัง
    หมายความว่า CO2 ไม่ใช่ "เหตุ" ที่ทำให้โลกร้อน...แต่ CO2 คือ "ผล" จากโลกร้อน👍✨
    ฉะนั้นสรุป CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน ✨
    ถาม ❓: แล้วเขาหลอกเราทำไม? ตั้งนานหลายสิบปี 😈
    ตอบ: เขาใช้ CO2 เป็นข้ออ้างในการบังคับเรา เช่น ออกกฎบังคับเรื่อง CO2 เก็บภาษีฟาร์มวัว เพราะต้องการให้ฟาร์มเจ๊ง 😱 นายทุนจะได้เข้ามาฮุบ, เก็บภาษีทุกอย่าง โดยเอาไปผูกกับ CO2 หลอกลวง เพราะจุดประสงค์ของกลุ่มทุนสามานต่างชาติ คือ การควบคุมอาหารแบบเบ็ดเสร็จ 👎
    #คลิป 3 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎
    https://t.me/awakened_thailand/426
    💸💵💰Dan Pena มหาเศรษฐีอเมริกัน แฉว่า เรื่องโลกร้อน เป็นเรื่องหลอกลวง นักวิทยาศาสตร์ขุดแท่งน้ำแข็งขึ้นมาให้ดู แล้วบอกว่า หลายหมื่นปีก่อน ทุกประเทศบนโลกมันร้อนกว่าตอนนี้เลย! วิทยาศาสตร์ไม่หลอกลวง! มันคือหลักฐาน! มีแต่คนนี่แหละ ที่หลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องของตนเอง 😡
    โลกร้อนฝรั่งหลอกเรามานานมากแล้ว หลอกเพื่อให้เราเชื่อ และยอมรับ กฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่เขาจะบังคับ เช่น ขึ้นภาษีคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ธุรกิจเราเจ๊ง เป้าหมายคือ เพื่อฮุบทรัพยากรของคนทั้งโลก 😈
    อย่าหลงทาง!! 🐑🐏
    "โลกร้อน" กับ "โลกสกปรก" มันคนละประเด็น
    🌎✨อยากให้โลกสวยใช่มั้ย? ไปไล่ให้บริษัทขายยาเคมี มันเลิกขายเคมีนู่น! เลิกใช้ซะ พวกไกลโฟเซตน่ะ ☠
    #คลิป 4 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎
    https://t.me/awakened_thailand/444
    คาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งจำเป็นสำหรับพืช เป็นอย่างมาก 🍀
    ต่างประเทศใช้อุปกรณ์เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ สำหรับพืชที่ปลูกในโรงเรือน ทำให้มันแข็งแรงทนทานต่อโรค และแมลง 🍊🍎 ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 30%
    คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืช/ต้นไม้
    พืช/ต้นไม้ ก็จำเป็นสำหรับมนุษย์และโลกของเรา
    คาร์บอนไดออกไซด์จึงจำเป็นสำหรับโลกเรา อย่าให้ใครมาหลอกเราว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งไม่ดี หรือ ทำให้โลกร้อน ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นคุณกำลังโดนหลอก
    คลิป #5 โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง
    https://t.me/awakened_thailand/468
    🌎🔥 ข้อมูลจากนาซ่ายืนยันว่า โลกของเราเขียวขึ้น เพราะมีต้นไม้มากขึ้น 🌳🍀ซึ่งเป็นผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้น (ต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์)
    โลกร้อนขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกมาจากทะเลมากขึ้น
    คาร์บอนไดออกไซด์ จึงไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อนแม้แต่นิดเดียว ✨ ข้อมูลในอดีต เช่น อุณหภูมิ และระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้เป็นแสนๆปี ด้วยการเจาะแท่งน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลกขึ้นมาวิเคราะห์ นี่คือวิทยาศาสตร์!
    แต่พวกคุมโลก คุมสื่อ คุมนักการเมือง 😈 ต้องการคุมพฤติกรรมประชากรโลก จึงต้องกุเรื่องแหกตาชาวโลกมาเป็นเวลาหลายสิบปี เตรียมล่วงหน้าไว้ก่อน จนเราๆเชื่อสนิทใจ ว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสิ่งไม่ดี บัดนี้ได้เวลาตื่นจากการหลับใหลมาเป็นเวลานาน อย่าหลงคารมนักการเมือง หรือข่าว ให้ยึดหลักวิทยาศาสตร์ และพิจารณาเอาเอง
    "คาร์บอนไดออกไซด์ คือ ฮีโร่ ที่มาช่วยให้โลกเรามีต้นไม้มากขึ้น" 🌿🌳🌲
    #คลิปไลฟ์สด https://t.me/awakened_thailand/445
    ❗️สาเหตุที่เขาหลอกเราเรื่อง CO2 🌎
    เพราะจะเอามันมาผูกกับระบบเงินดิจิตอล Digital Currency และจะใช้ระบบใหม่นี้ควบคุมพฤติกรรมของเรา เพราะเงินดิจิตอลถูกโปรแกรมได้ เช่น ห้ามใช้นอกรัศมี 4 กิโลเมตร 😱
    การเอาเรื่อง CO2 มาผูกกับเงินดิจิตอลจึงเป็นเรื่องง่ายมาก
    หากเราเชื่อว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน 🔥และต้องร่วมมือกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง เขาก็จะใช้ความเชื่อนี้ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ 👿 เช่น เอาระบบคะแนนคาร์บอนมาใช้กับอาหาร โดยให้เหตุผลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การทำฟาร์มสัตว์ 🐮🐷 ปลูกผัก 🌾ล้วนแต่ผลิต คาร์บอนไดออกไซด์ จึงต้องกำหนดคะแนนไปเลยว่า อาหารจานไหน ต้องใช้คะแนนคาร์บอนเท่าไหร่ในการซื้อ สมมุติว่าเรามีคะแนนไม่พอ เราก็จะไม่สามารถซื้ออาหารนั้นได้แม้ว่าเราจะมีเงินอยู่ในกระเป๋าก็ตาม
    ระบบที่ใช้คะแนนลักษณะนี้ ได้ถูกใช้งานในจีนมาหลายปีแล้ว เรียกว่า Social Credit System ดูคลิปได้ที่นี่:
    https://t.me/awakened_thailand/148
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณ Patrick Moore ใน Rumble.com
    แกเป็น cofounder และ อดีต ceo ของ Greenpeace ครับ
    ✍️ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส
    โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง
    ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn
    เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/
    ✍️ชมคลิป 9 นาที: https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/2358
    - การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (หลอกลวง) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
    - ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อรองรับเครดิตคาร์บอน แผนทำลาย SME และเพิ่มค่าครองชีพ
    Facebook : https://fb.watch/v-Y9M4uxbd/
    Youtube : https://youtu.be/lM_ZXNjdjYg
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@adithepchawla01?_t=8rbKMSdXMQ6&_r=1
    Cr.อดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com
    และคลิปจากเทเลแกรม คนไทยตื่นรู้ https://t.me/awakened_thailand
    โลกร้อนขึ้นเป็นวัฏจักรธรรมชาติ และในภาพรวมกำลังจะเย็นลง แต่… เราถูกฝังหัวกันมานานว่ามนุษย์เป็นคนทำให้โลกร้อน เพื่อนำไปสู่การใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อการบีบบังคับนำไปสู่การเป็นทาส ไลฟ์สด โลกร้อนลวงโลก โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.facebook.com/share/v/JjrAnsFTf9vwcQ4u/ ชี้แหล่งศึกษาข้อมูล https://www.rookon.com/?p=339 https://www.rookon.com/?p=975 https://www.rookon.com/?p=1011 https://www.rookon.com/?p=1076 https://www.rookon.com/?p=119เก้า ลิงก์นี้ต้องแก้คำว่าเก้าเป็นตัวเลขก่อน FBแบน https://www.rookon.com/?p=1147 https://vt.tiktok.com/ZSFvhkGKK/ ตอน 1. https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783535104953601... ตอน 2. https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783574783200513... https://vt.tiktok.com/ZSYeFkn5t/ หรือ https://fb.watch/s0HF9m7C09/ (ไลฟ์สดกับอ.ทีน่า อ.เกรซ) #คลิป 1 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥 https://t.me/awakened_thailand/424 ✨หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการขุดเจาะแท่งน้ำแข็งพบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ☀️ ต่อมาอีก 800 ปี CO2 ถึงจะสูงขึ้นตามมา...แปลว่า CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน 😳 แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นต่างหากที่ทำให้ CO2 เพิ่มขึ้น สั้นๆ ง่ายๆ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดแล้ว! โลกร้อนตามวัฏจักรของโลก มันเป็นธรรมชาติ 😎 มนุษย์ไม่ได้ทำให้โลกร้อน แต่เราทำให้โลกสกปรก...ฉะนั้น CO2 ไม่เกี่ยวอะไรเลย แยกให้ออก 🧐 โลกร้อน กับ โลกสกปรก มันคือคนละเรื่องกัน เรื่องง่ายๆ เด็กป.4 ยังรู้เรื่อง #คลิป 2 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥 https://t.me/awakened_thailand/425 โลกร้อนขึ้น และเย็นลง เป็นวัฏจักร เป็นธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับ CO2 แม้แต่น้อย คำถาม ❓: รู้ได้ไง? 🤔 ตอบ: เจาะน้ำแข็งลงไปหลายกิโล แล้วดึงแท่งน้ำแข็งขึ้นมาศึกษา (เหมือนศึกษาวงปีของต้นไม้) 😎 มหาสมุทรกักเก็บ CO2 ไว้เป็นจำนวนมาก 🥵เมื่อโลกร้อนขึ้นเอง ทะเลคือตัวคาย CO2 ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ 🌎อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ส่งผลให้ CO2 สูงตามมาทีหลัง หมายความว่า CO2 ไม่ใช่ "เหตุ" ที่ทำให้โลกร้อน...แต่ CO2 คือ "ผล" จากโลกร้อน👍✨ ฉะนั้นสรุป CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน ✨ ถาม ❓: แล้วเขาหลอกเราทำไม? ตั้งนานหลายสิบปี 😈 ตอบ: เขาใช้ CO2 เป็นข้ออ้างในการบังคับเรา เช่น ออกกฎบังคับเรื่อง CO2 เก็บภาษีฟาร์มวัว เพราะต้องการให้ฟาร์มเจ๊ง 😱 นายทุนจะได้เข้ามาฮุบ, เก็บภาษีทุกอย่าง โดยเอาไปผูกกับ CO2 หลอกลวง เพราะจุดประสงค์ของกลุ่มทุนสามานต่างชาติ คือ การควบคุมอาหารแบบเบ็ดเสร็จ 👎 #คลิป 3 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎 https://t.me/awakened_thailand/426 💸💵💰Dan Pena มหาเศรษฐีอเมริกัน แฉว่า เรื่องโลกร้อน เป็นเรื่องหลอกลวง นักวิทยาศาสตร์ขุดแท่งน้ำแข็งขึ้นมาให้ดู แล้วบอกว่า หลายหมื่นปีก่อน ทุกประเทศบนโลกมันร้อนกว่าตอนนี้เลย! วิทยาศาสตร์ไม่หลอกลวง! มันคือหลักฐาน! มีแต่คนนี่แหละ ที่หลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องของตนเอง 😡 โลกร้อนฝรั่งหลอกเรามานานมากแล้ว หลอกเพื่อให้เราเชื่อ และยอมรับ กฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่เขาจะบังคับ เช่น ขึ้นภาษีคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ธุรกิจเราเจ๊ง เป้าหมายคือ เพื่อฮุบทรัพยากรของคนทั้งโลก 😈 อย่าหลงทาง!! 🐑🐏 "โลกร้อน" กับ "โลกสกปรก" มันคนละประเด็น 🌎✨อยากให้โลกสวยใช่มั้ย? ไปไล่ให้บริษัทขายยาเคมี มันเลิกขายเคมีนู่น! เลิกใช้ซะ พวกไกลโฟเซตน่ะ ☠ #คลิป 4 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎 https://t.me/awakened_thailand/444 คาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งจำเป็นสำหรับพืช เป็นอย่างมาก 🍀 ต่างประเทศใช้อุปกรณ์เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ สำหรับพืชที่ปลูกในโรงเรือน ทำให้มันแข็งแรงทนทานต่อโรค และแมลง 🍊🍎 ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 30% คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืช/ต้นไม้ พืช/ต้นไม้ ก็จำเป็นสำหรับมนุษย์และโลกของเรา คาร์บอนไดออกไซด์จึงจำเป็นสำหรับโลกเรา อย่าให้ใครมาหลอกเราว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งไม่ดี หรือ ทำให้โลกร้อน ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นคุณกำลังโดนหลอก คลิป #5 โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง https://t.me/awakened_thailand/468 🌎🔥 ข้อมูลจากนาซ่ายืนยันว่า โลกของเราเขียวขึ้น เพราะมีต้นไม้มากขึ้น 🌳🍀ซึ่งเป็นผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้น (ต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) โลกร้อนขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกมาจากทะเลมากขึ้น คาร์บอนไดออกไซด์ จึงไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อนแม้แต่นิดเดียว ✨ ข้อมูลในอดีต เช่น อุณหภูมิ และระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้เป็นแสนๆปี ด้วยการเจาะแท่งน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลกขึ้นมาวิเคราะห์ นี่คือวิทยาศาสตร์! แต่พวกคุมโลก คุมสื่อ คุมนักการเมือง 😈 ต้องการคุมพฤติกรรมประชากรโลก จึงต้องกุเรื่องแหกตาชาวโลกมาเป็นเวลาหลายสิบปี เตรียมล่วงหน้าไว้ก่อน จนเราๆเชื่อสนิทใจ ว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสิ่งไม่ดี บัดนี้ได้เวลาตื่นจากการหลับใหลมาเป็นเวลานาน อย่าหลงคารมนักการเมือง หรือข่าว ให้ยึดหลักวิทยาศาสตร์ และพิจารณาเอาเอง "คาร์บอนไดออกไซด์ คือ ฮีโร่ ที่มาช่วยให้โลกเรามีต้นไม้มากขึ้น" 🌿🌳🌲 #คลิปไลฟ์สด https://t.me/awakened_thailand/445 ❗️สาเหตุที่เขาหลอกเราเรื่อง CO2 🌎 เพราะจะเอามันมาผูกกับระบบเงินดิจิตอล Digital Currency และจะใช้ระบบใหม่นี้ควบคุมพฤติกรรมของเรา เพราะเงินดิจิตอลถูกโปรแกรมได้ เช่น ห้ามใช้นอกรัศมี 4 กิโลเมตร 😱 การเอาเรื่อง CO2 มาผูกกับเงินดิจิตอลจึงเป็นเรื่องง่ายมาก หากเราเชื่อว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน 🔥และต้องร่วมมือกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง เขาก็จะใช้ความเชื่อนี้ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ 👿 เช่น เอาระบบคะแนนคาร์บอนมาใช้กับอาหาร โดยให้เหตุผลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การทำฟาร์มสัตว์ 🐮🐷 ปลูกผัก 🌾ล้วนแต่ผลิต คาร์บอนไดออกไซด์ จึงต้องกำหนดคะแนนไปเลยว่า อาหารจานไหน ต้องใช้คะแนนคาร์บอนเท่าไหร่ในการซื้อ สมมุติว่าเรามีคะแนนไม่พอ เราก็จะไม่สามารถซื้ออาหารนั้นได้แม้ว่าเราจะมีเงินอยู่ในกระเป๋าก็ตาม ระบบที่ใช้คะแนนลักษณะนี้ ได้ถูกใช้งานในจีนมาหลายปีแล้ว เรียกว่า Social Credit System ดูคลิปได้ที่นี่: https://t.me/awakened_thailand/148 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณ Patrick Moore ใน Rumble.com แกเป็น cofounder และ อดีต ceo ของ Greenpeace ครับ ✍️ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/ ✍️ชมคลิป 9 นาที: https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/2358 - การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (หลอกลวง) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง - ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อรองรับเครดิตคาร์บอน แผนทำลาย SME และเพิ่มค่าครองชีพ Facebook : https://fb.watch/v-Y9M4uxbd/ Youtube : https://youtu.be/lM_ZXNjdjYg Tiktok : https://www.tiktok.com/@adithepchawla01?_t=8rbKMSdXMQ6&_r=1 Cr.อดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com และคลิปจากเทเลแกรม คนไทยตื่นรู้ https://t.me/awakened_thailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts