• “Meta ปรับโครงสร้าง AI ครั้งใหญ่ – ปลด 600 ตำแหน่ง FAIR พร้อมเร่งสร้างทีม Superintelligence”

    Meta กำลังปรับทิศทางการพัฒนา AI ครั้งใหญ่ โดยประกาศปลดพนักงานกว่า 600 คน จากแผนก Fundamental AI Research (FAIR) และฝ่ายผลิตภัณฑ์ AI กับโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะดูเหมือนถอยหลัง แต่จริง ๆ แล้ว Meta กำลัง “เร่งเครื่อง” ไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า นั่นคือการสร้าง ทีม Superintelligence ภายใต้ชื่อ TBD Lab

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta ลงทุนกว่า 14.3 พันล้านดอลลาร์ ในบริษัท Scale AI และดึงตัว CEO Alexandr Wang เข้ามาเป็นหัวหน้าทีม AI ของบริษัท โดยเขาได้ประกาศว่าจะนำไอเดียจาก FAIR ไปต่อยอดในโมเดลขนาดใหญ่ของ TBD Lab

    การปลดพนักงานครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่เป็นการปรับโฟกัสใหม่ให้แต่ละคนมี “ภาระงานที่ชัดเจนและมีผลกระทบมากขึ้น” ตามคำกล่าวของ Wang ซึ่งสะท้อนแนวคิดแบบ startup ที่เน้นความคล่องตัวและผลลัพธ์

    แม้ FAIR เคยเป็นหัวใจของงานวิจัย AI ระดับโลก เช่นการพัฒนา PyTorch และโมเดลภาษา LLaMA แต่ในยุคที่ AI เชิงผลิตภัณฑ์และโมเดลขนาดใหญ่กลายเป็นจุดแข่งหลักของบริษัทเทคโนโลยี Meta จึงเลือกเดินหน้าสร้างทีมใหม่ที่เน้นการ “รวมงานวิจัยเข้ากับการใช้งานจริง”

    พนักงานที่ได้รับผลกระทบสามารถสมัครตำแหน่งอื่นภายในบริษัทได้ และการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นสัญญาณว่า Meta กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI ที่เน้น “ผลลัพธ์เชิงธุรกิจ” มากกว่าการทดลองเชิงวิชาการ

    การปรับโครงสร้างของ Meta
    ปลดพนักงานกว่า 600 คนจาก FAIR และฝ่าย AI Infrastructure
    สร้างทีมใหม่ชื่อ TBD Lab เพื่อพัฒนา Superintelligence
    นำไอเดียจาก FAIR ไปใช้ในโมเดลขนาดใหญ่
    พนักงานที่ถูกปลดสามารถสมัครตำแหน่งอื่นในบริษัทได้

    การลงทุนและการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์
    Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI
    ดึง Alexandr Wang เป็นหัวหน้าทีม AI
    หยุดการจ้างงานชั่วคราวก่อนประกาศปรับโครงสร้าง
    เน้นการรวมงานวิจัยเข้ากับการใช้งานจริงในผลิตภัณฑ์

    ความเปลี่ยนแปลงในบทบาทของ FAIR
    FAIR เคยเป็นผู้นำด้านงานวิจัย เช่น PyTorch และ LLaMA
    ผู้นำ FAIR Joelle Pineau ลาออกเมื่อต้นปี
    งานวิจัยจาก FAIR จะถูกนำไป scale ใน TBD Lab
    Meta เน้นให้แต่ละคนมีภาระงานที่มีผลกระทบมากขึ้น

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    การลดขนาดทีมวิจัยอาจทำให้ Meta สูญเสียความได้เปรียบด้านนวัตกรรม
    การเน้นผลลัพธ์เชิงธุรกิจอาจลดความหลากหลายของงานวิจัยพื้นฐาน
    การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอาจกระทบขวัญกำลังใจของทีมงาน
    การรวมงานวิจัยเข้ากับผลิตภัณฑ์ต้องใช้การจัดการที่รอบคอบ
    หาก TBD Lab ล้มเหลว อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Meta ในวงการ AI

    https://www.theverge.com/news/804253/meta-ai-research-layoffs-fair-superintelligence
    🧠 “Meta ปรับโครงสร้าง AI ครั้งใหญ่ – ปลด 600 ตำแหน่ง FAIR พร้อมเร่งสร้างทีม Superintelligence” Meta กำลังปรับทิศทางการพัฒนา AI ครั้งใหญ่ โดยประกาศปลดพนักงานกว่า 600 คน จากแผนก Fundamental AI Research (FAIR) และฝ่ายผลิตภัณฑ์ AI กับโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะดูเหมือนถอยหลัง แต่จริง ๆ แล้ว Meta กำลัง “เร่งเครื่อง” ไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า นั่นคือการสร้าง ทีม Superintelligence ภายใต้ชื่อ TBD Lab การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta ลงทุนกว่า 14.3 พันล้านดอลลาร์ ในบริษัท Scale AI และดึงตัว CEO Alexandr Wang เข้ามาเป็นหัวหน้าทีม AI ของบริษัท โดยเขาได้ประกาศว่าจะนำไอเดียจาก FAIR ไปต่อยอดในโมเดลขนาดใหญ่ของ TBD Lab การปลดพนักงานครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่เป็นการปรับโฟกัสใหม่ให้แต่ละคนมี “ภาระงานที่ชัดเจนและมีผลกระทบมากขึ้น” ตามคำกล่าวของ Wang ซึ่งสะท้อนแนวคิดแบบ startup ที่เน้นความคล่องตัวและผลลัพธ์ แม้ FAIR เคยเป็นหัวใจของงานวิจัย AI ระดับโลก เช่นการพัฒนา PyTorch และโมเดลภาษา LLaMA แต่ในยุคที่ AI เชิงผลิตภัณฑ์และโมเดลขนาดใหญ่กลายเป็นจุดแข่งหลักของบริษัทเทคโนโลยี Meta จึงเลือกเดินหน้าสร้างทีมใหม่ที่เน้นการ “รวมงานวิจัยเข้ากับการใช้งานจริง” พนักงานที่ได้รับผลกระทบสามารถสมัครตำแหน่งอื่นภายในบริษัทได้ และการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นสัญญาณว่า Meta กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI ที่เน้น “ผลลัพธ์เชิงธุรกิจ” มากกว่าการทดลองเชิงวิชาการ ✅ การปรับโครงสร้างของ Meta ➡️ ปลดพนักงานกว่า 600 คนจาก FAIR และฝ่าย AI Infrastructure ➡️ สร้างทีมใหม่ชื่อ TBD Lab เพื่อพัฒนา Superintelligence ➡️ นำไอเดียจาก FAIR ไปใช้ในโมเดลขนาดใหญ่ ➡️ พนักงานที่ถูกปลดสามารถสมัครตำแหน่งอื่นในบริษัทได้ ✅ การลงทุนและการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ ➡️ Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI ➡️ ดึง Alexandr Wang เป็นหัวหน้าทีม AI ➡️ หยุดการจ้างงานชั่วคราวก่อนประกาศปรับโครงสร้าง ➡️ เน้นการรวมงานวิจัยเข้ากับการใช้งานจริงในผลิตภัณฑ์ ✅ ความเปลี่ยนแปลงในบทบาทของ FAIR ➡️ FAIR เคยเป็นผู้นำด้านงานวิจัย เช่น PyTorch และ LLaMA ➡️ ผู้นำ FAIR Joelle Pineau ลาออกเมื่อต้นปี ➡️ งานวิจัยจาก FAIR จะถูกนำไป scale ใน TBD Lab ➡️ Meta เน้นให้แต่ละคนมีภาระงานที่มีผลกระทบมากขึ้น ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ การลดขนาดทีมวิจัยอาจทำให้ Meta สูญเสียความได้เปรียบด้านนวัตกรรม ⛔ การเน้นผลลัพธ์เชิงธุรกิจอาจลดความหลากหลายของงานวิจัยพื้นฐาน ⛔ การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอาจกระทบขวัญกำลังใจของทีมงาน ⛔ การรวมงานวิจัยเข้ากับผลิตภัณฑ์ต้องใช้การจัดการที่รอบคอบ ⛔ หาก TBD Lab ล้มเหลว อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Meta ในวงการ AI https://www.theverge.com/news/804253/meta-ai-research-layoffs-fair-superintelligence
    WWW.THEVERGE.COM
    Meta is axing 600 roles across its AI division
    But Meta is still hiring for its team tasked with achieving superintelligence, according to a report from Axios.
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • ข้อมูลก่อนหน้า
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6914

    เปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน จากรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567
    https://fb.watch/qpJFWeLSO0/?
    “หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงต้นตอที่มาโควิด พร้อมแจงละเอียดยิบเหตุยุติวิจัยไวรัสค้างคาว
    https://news1live.com/detail/9670000005954
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0mcjQWeLT6R55prCBLgHHxQXfATwsQjRnh8dTuNmaYYhrC1eigXFAWG6tZUweSTTUl/?
    ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    สารคดี Died Suddenly เป็นการค้นพบเส้นอุดตันในเส้นเลือด ที่ไม่ใช่การอุดตันปกติ นักแต่งศพหลายๆคน มีปัญหาฉีดน้ำยารักษาศพเข้าเส้นเลือดไม่ได้ จึงทำการผ่าดู ปรากฏว่าเจอการอุดตันผิดปกติ ยาวเป็นฟุต!! ฝรั่งเขารู้ก่อนเรามานานแล้ว แล้วคุณยังจะเชื่อว่ามันคือ ฮีทสโตรกอยู่เหรอ สารคดีที่ลงสื่อหลักไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้คุณรู้
    https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html
    Thai sub https://rumble.com/v1ytofw-died-suddenly-thai-subtitles-.html
    https://t.me/awakened_thailand/415
    “หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    “หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    “หมอธีระวัฒน์” เผย 5 เหตุผล ลาออก หน.ศูนย์ฯโรคอุบัติใหม่
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000037010
    วัคซีน : ที่ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับทางจริยธรรมทางการแพทย์ทั้งหมดหรือไม่? (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000036764
    หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรดตัวไว? รายการสภากาแฟ ช่อง News1
    https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x
    "หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ" เชิญร่วมเสวนา “อันตรายจากวัคซีนร้ายแรงกว่าที่คิด” ณ หอศิลป์กรุงเทพฯ 3 พ.ค.นี้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647
    เรื่องใหญ่! “หมอธีระวัฒน์” เผยนักวิจัย “โมเดอร์นา” ยอมรับเอง วัคซีน mRNA ยังต้องผ่านการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000035583
    มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152
    ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130
    นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769
    อจ หมออรรถพล CDC Webinar Live Talk 04 มี.ค. 2567 หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    ชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343
    คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ฯ ร้องดีอีปรับปรุงศูนย์ต้านข่าวปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลเท็จ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019152
    ฝ่ายค้านแคนาดาแฉ “ทรูโด” ปกปิดหลักฐานวิจัยไวรัสร่วมกับจีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000018855
    "ปานเทพ" เผย 7 ประเด็นสำคัญผลกระทบจากวัคซีนโควิด อันตราย-อำมหิตกว่าที่คิด จี้หยุดฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000018762
    Save หมอธีระวัฒน์ ผู้เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    https://youtu.be/ucQZu7LbZCM?si=YPMxtmhRnYQrnAnk
    จี้คณบดีแพทยศาสตร์ ศิริราช-จุฬาฯ เลิกติดต่อ “เฟาซี” และ EHA ที่ให้ทุนวิจัยสร้างไวรัสอันตราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000016687
    “ปานเทพ” เสียดายคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000016219


    จวก “หมอธีระ” ยืนข้างบริษัทยา ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง ท้าดีเบตกับวิชาการตัวจริง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015945
    หมอธีระ หมอที่ยืนข้างบริษัทยา
    https://www.facebook.com/share/p/9x61sF5dLf2dy6wk/?mibextid=Nif5oz
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid049af37rusAcp8AW12nnFEe2MehpUHd5buVdroxoPy6tmSBFnx7M4RRcHoCSXLFYWl&id=100064810775743&mibextid=Nif5oz
    ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    “หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334
    โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก! | สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1
    เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก)
    https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W
    https://www.rookon.com/?p=1176
    สภาทนายความ แถลงข่าว เรื่อง ประกันโควิด กับผลกระทบวัคซีน 05-06-2024
    https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html
    เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม : Sondhitalk (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) EP.230
    https://m.youtube.com/watch?si=Q9kw0ho0R0JfKya5&fbclid=IwAR2tadgM38rB01iG7B_EKK8lvTA4DScCO4-iSpyg9bBZyAmXfGLsiExEFmI_aem_AZq7B_ZfF8BLBoKcmTknNdVCH9GPFMRKMg6tuV_UV8w2m106s6kASAKDgBYMmG3Lzmg&v=ucQZu7LbZCM&feature=youtu.be
    นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    สร้างเท็จเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นเท็จ
    https://m.youtube.com/watch?si=XN7rAI1qEWlI-kr6&fbclid=IwAR1mynXiLAbnauASWUlJJWFbJ9YUkDlYd3MpVN975-j1XiXKT8m6LK2stvs_aem_AQH-ZkLmZSDYhXTbonKF3fZqbmCD50usAsDLiZk9cI9WNJJdVKVS7dUUuc-N1nedwd8&v=D6NboVSczKU&feature=youtu.be
    “หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงปรากฏ โควิดหลุดจากแล็บเป็นเรื่องจริง ฝีมือหมอใหญ่สหรัฐฯ ผ่านองค์กร Eco Health Alliance
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000042959
    เราจะรอดพ้นจากการเป็นซอมบี้ได้อย่างไร ?!! / โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://youtu.be/RLWADSjPdC0?si=6oot2AiWzNbH7efq
    “อีลอน มัสก์” ร้องเอาผิด “เฟาซี” ตอกย้ำโควิดมาจากแล็บอู่ฮั่นที่อเมริกาให้เงินอุดหนุน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000043013
    อย่าเงียบ!กดดันไฟเซอร์-โมเดอร์นาถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิด อ้างพบตายมากกว่าแอสตร้าฯ3เท่า
    https://mgronline.com/around/detail/9670000040887
    “หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามหลังแอสตร้าฯ หยุดขาย แล้ววัคซีนชนิดอื่นทำไมทางการไทยยังปกป้อง แฉไฟเซอร์ต้องยอมความ 1 หมื่นคดี
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040486
    “หมอธีระวัฒน์” ถามแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ รับเงิน 2 พันล้านก๊อปปี้วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้ผลสำเร็จอย่างไร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040290
    “ปานเทพ” ชี้แอสตร้าฯ ถอนใบอนุญาตการตลาดวัคซีนทั่วโลกหลังยอมรับก่อผลข้างเคียง แต่องค์กรรัฐไทยเงียบกริบ สะท้อนสำนึกความปลอดภัยที่ตกต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040078
    “ฉีดแล้ว แถมอะไรบ้าง?” ฟังเวอร์ชั่นมึผู้ดัดแปลง แรพเตอร์ประยุกต์
    https://fb.watch/rY3hwhondy/?
    https://fb.watch/rY3jv7hMym/?
    เปิดวิธีป้องกัน ความอันตราย จากพิษของวัคซีน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สัมภาษณ์โดย ปากซอย 105 รู้ก่อนใคร ลึกจากข่าววงใน
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g
    “หมอธีระวัฒน์” เผยเคสคนป่วยจากแอสตร้า-ไฟเซอร์ ชี้ทั้งวัคซีนเชื้อเป็นและ mRNA ส่งผลกระทบระยะสั้นถึงยาว ต่อสมอง-กล้ามเนื้อ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000037733
    แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ
    https://fb.watch/s0hNc3DymZ/?
    https://fb.watch/s0hJ12wEyq/?
    ช็อค!!! คำสารภาพของไฟเซอร์ รีบชมและแชร์ก่อนโดนลบ
    https://fb.watch/s0bmq6HW8P/?
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152
    ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130
    “หมอชลธวัช” เผยวัคซีน mRNA โยงโรคสมองเสื่อม แนะคนกลัวอัลไซเมอร์-พาร์กินสัน ไม่ควรฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000052341
    เงินสำคัญกว่าชีวิต! ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ US บิดเบือนวัคซีน 'โควิด' จีน มีเป้าหมายเพื่อสกัดคู่แข่ง
    https://mgronline.com/around/detail/9670000051671

    วัคซีนเทพระส่ำ! รัฐแคนซัสลุยฟ้องเอาผิด 'ไฟเซอร์' กล่าวหาปกปิดความเสี่ยง-โป้ปดประสิทธิภาพ
    https://mgronline.com/around/detail/9670000052000
    ความจริงปรากฏ! รอยเตอร์แฉเอง US ใช้ยุทธการบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนโควิดของจีน
    https://mgronline.com/around/detail/9670000051466
    “หมอธีระวัฒน์” เผยผลชันสูตรคนตาย วัคซีนโควิดอาจเป็นสาเหตุเชื้ออสุจิไม่วิ่ง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000051903
    สะเทือนแน่! ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วัคซีนโควิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนตามความหมายเดิม
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000051429
    เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851
    วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    เรื่องใหญ่! 'หมอธีระวัฒน์'แฉนักวิทยาศาสตร์ของ 'โมเดนา' ยอมรับ วัคซีน mRNR มีอันตรายต้องปรับปรุง https://www.thaipost.net/x-cite-news/574701/
    ตัวเร่งอัลไซเมอร์ ปัจจัยสมองเสื่อม
    https://www.thairath.co.th/news/local/2780279?fbclid=IwZXh0bgNhZW0BMQABHasG0naYhGMWkauoJynJJogiy5_NDCd315hbeWbq9VKsujvb0QlhIDaYXw_aem_AVdXSF5wlAW6xu0DqygB78_9MAXrrrSl80nxmlnJULaXM7V7p4XE8sSaW8nA80wGr9U
    “หมอธีระวัฒน์” แฉวัคซีนไฟเซอร์โดนฟ้องแหลกในสหรัฐฯ แต่ในไทยยังประชาสัมพันธ์ให้ฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000052545
    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749
    ขึ้นเครื่องบิน ตอนนี้ต้องถามว่า นักบินฉีดกี่เข็ม มีมรณา mRNA ด้วยไหม ถ้าตอบว่ามี รอไฟลต์หน้าปลอดภัย กว่า
    https://x.com/makismd/status/1805541350026199289?s=53&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA
    งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร
    https://youtu.be/S32-hkJBJKA
    รูต่ายส่ายสะโพก เสนอ ความจริงที่สื่อกระแสหลักไม่กล้าพูดถึง การหลอกลวงและความเชื่อมโยง...
    วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง)
    https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html?e9s=src_v1_upp_a
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, กำเนิดเชื้อโควิด และ RFK JR. แหกทุจริตในอเมริกา)
    https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?e9s=src_v1_upp_a
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK (วัคซีนก่อมะเร็ง,การลอบสังหาร, รัฐลึก, 911)
    https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html?e9s=src_v1_upp_a
    ตัวอย่างหนังสือปฏิเสธวัคซีน
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6897
    ชำแหละหมอธนีย์
    ตอนที่ 1. ใครกันแน่ที่หาแสง เพื่อขายของ https://www.facebook.com/share/p/1GzjbbbCHp/
    ตอนที่ 2.สื่อไหนนะที่ให้ข่าวปลอม https://www.facebook.com/share/p/1MVZc5gBdM/
    ตอนที่ 3.ก่อนอ่านงานวิจัย อ่านเอกสารกำกับยาก่อนดีไหม
    https://www.facebook.com/share/p/17W8FE6zLY/
    ตอนที่ 4. มีคนเอาข้อมูลไฟเซอร์มาเขียนรายงาน 102 ฉบับ หมอเคยอ่านไหม https://www.facebook.com/share/p/1JCYxQopJV/
    ตอนที่ 5. อาจารย์ธีระวัฒน์ที่เป็น ครู ของหมอ อธิบายได้ดีพร้อมมีหลักฐานแสดง https://www.facebook.com/share/p/1GU7bL72BH/
    ตอนที่ 6.ไหนว่า อ่านงานวิจัยเป็น ทำไมหมอโดนหลอก?
    https://www.facebook.com/share/p/16YVXEaET1/
    ตอนที่ 7.หมอเข้าใจ mRNA มากแค่ไหน Antigen คืออะไร ตอบได้รึเปล่า? https://www.facebook.com/share/p/1BcP47gdMN/
    ตอนที่ 8. อคติ คือ อะไร ทำไม หมอไม่รู้ตัว ?
    https://www.facebook.com/share/p/1GnAz468Kk/
    ตอนที่ 9.หมอสนใจข้อมูล จริงๆ หรือ? แค่พูดให้ดูดี หรือ กล้าไปขอมาดูจริงๆ
    https://www.facebook.com/share/p/14M6mFcCrE2/
    ตอนที่ 10.กาลามสูตรคือ อะไร ต่างจากใช้ AI อย่างไร
    https://www.facebook.com/share/p/17Wua35Hmi/
    โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320
    ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549
    ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922
    ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797
    ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/
    ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/
    ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/
    ตอน 10
    https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 11
    https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 12
    https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr





    ข้อมูลก่อนหน้า https://t.me/ThaiPitaksithData/6914 ✍️เปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน จากรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 https://fb.watch/qpJFWeLSO0/? ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงต้นตอที่มาโควิด พร้อมแจงละเอียดยิบเหตุยุติวิจัยไวรัสค้างคาว https://news1live.com/detail/9670000005954 ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0mcjQWeLT6R55prCBLgHHxQXfATwsQjRnh8dTuNmaYYhrC1eigXFAWG6tZUweSTTUl/? ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️สารคดี Died Suddenly เป็นการค้นพบเส้นอุดตันในเส้นเลือด ที่ไม่ใช่การอุดตันปกติ นักแต่งศพหลายๆคน มีปัญหาฉีดน้ำยารักษาศพเข้าเส้นเลือดไม่ได้ จึงทำการผ่าดู ปรากฏว่าเจอการอุดตันผิดปกติ ยาวเป็นฟุต!! ฝรั่งเขารู้ก่อนเรามานานแล้ว แล้วคุณยังจะเชื่อว่ามันคือ ฮีทสโตรกอยู่เหรอ สารคดีที่ลงสื่อหลักไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้คุณรู้ https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html Thai sub https://rumble.com/v1ytofw-died-suddenly-thai-subtitles-.html https://t.me/awakened_thailand/415 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผย 5 เหตุผล ลาออก หน.ศูนย์ฯโรคอุบัติใหม่ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000037010 ✍️วัคซีน : ที่ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับทางจริยธรรมทางการแพทย์ทั้งหมดหรือไม่? (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/qol/detail/9670000036764 ✍️หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรดตัวไว? รายการสภากาแฟ ช่อง News1 https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x ✍️"หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ" เชิญร่วมเสวนา “อันตรายจากวัคซีนร้ายแรงกว่าที่คิด” ณ หอศิลป์กรุงเทพฯ 3 พ.ค.นี้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647 ✍️เรื่องใหญ่! “หมอธีระวัฒน์” เผยนักวิจัย “โมเดอร์นา” ยอมรับเอง วัคซีน mRNA ยังต้องผ่านการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน https://mgronline.com/qol/detail/9670000035583 ✍️มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152 ✍️ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018 https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130 ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769 ✍️อจ หมออรรถพล CDC Webinar Live Talk 04 มี.ค. 2567 หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html ✍️ชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343 ✍️คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ฯ ร้องดีอีปรับปรุงศูนย์ต้านข่าวปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลเท็จ https://mgronline.com/qol/detail/9670000019152 ✍️ฝ่ายค้านแคนาดาแฉ “ทรูโด” ปกปิดหลักฐานวิจัยไวรัสร่วมกับจีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000018855 ✍️"ปานเทพ" เผย 7 ประเด็นสำคัญผลกระทบจากวัคซีนโควิด อันตราย-อำมหิตกว่าที่คิด จี้หยุดฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000018762 ✍️Save หมอธีระวัฒน์ ผู้เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172 https://youtu.be/ucQZu7LbZCM?si=YPMxtmhRnYQrnAnk ✍️จี้คณบดีแพทยศาสตร์ ศิริราช-จุฬาฯ เลิกติดต่อ “เฟาซี” และ EHA ที่ให้ทุนวิจัยสร้างไวรัสอันตราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000016687 ✍️“ปานเทพ” เสียดายคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000016219 ✍️จวก “หมอธีระ” ยืนข้างบริษัทยา ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง ท้าดีเบตกับวิชาการตัวจริง https://mgronline.com/qol/detail/9670000015945 ✍️หมอธีระ หมอที่ยืนข้างบริษัทยา https://www.facebook.com/share/p/9x61sF5dLf2dy6wk/?mibextid=Nif5oz https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid049af37rusAcp8AW12nnFEe2MehpUHd5buVdroxoPy6tmSBFnx7M4RRcHoCSXLFYWl&id=100064810775743&mibextid=Nif5oz ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334 ✍️ โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก! | สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W https://www.rookon.com/?p=1176 ✍️ สภาทนายความ แถลงข่าว เรื่อง ประกันโควิด กับผลกระทบวัคซีน 05-06-2024 https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html ✍️ เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม : Sondhitalk (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) EP.230 https://m.youtube.com/watch?si=Q9kw0ho0R0JfKya5&fbclid=IwAR2tadgM38rB01iG7B_EKK8lvTA4DScCO4-iSpyg9bBZyAmXfGLsiExEFmI_aem_AZq7B_ZfF8BLBoKcmTknNdVCH9GPFMRKMg6tuV_UV8w2m106s6kASAKDgBYMmG3Lzmg&v=ucQZu7LbZCM&feature=youtu.be ✍️ นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️ สร้างเท็จเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นเท็จ https://m.youtube.com/watch?si=XN7rAI1qEWlI-kr6&fbclid=IwAR1mynXiLAbnauASWUlJJWFbJ9YUkDlYd3MpVN975-j1XiXKT8m6LK2stvs_aem_AQH-ZkLmZSDYhXTbonKF3fZqbmCD50usAsDLiZk9cI9WNJJdVKVS7dUUuc-N1nedwd8&v=D6NboVSczKU&feature=youtu.be ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงปรากฏ โควิดหลุดจากแล็บเป็นเรื่องจริง ฝีมือหมอใหญ่สหรัฐฯ ผ่านองค์กร Eco Health Alliance https://mgronline.com/qol/detail/9670000042959 ✍️เราจะรอดพ้นจากการเป็นซอมบี้ได้อย่างไร ?!! / โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://youtu.be/RLWADSjPdC0?si=6oot2AiWzNbH7efq ✍️“อีลอน มัสก์” ร้องเอาผิด “เฟาซี” ตอกย้ำโควิดมาจากแล็บอู่ฮั่นที่อเมริกาให้เงินอุดหนุน https://mgronline.com/qol/detail/9670000043013 ✍️อย่าเงียบ!กดดันไฟเซอร์-โมเดอร์นาถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิด อ้างพบตายมากกว่าแอสตร้าฯ3เท่า https://mgronline.com/around/detail/9670000040887 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามหลังแอสตร้าฯ หยุดขาย แล้ววัคซีนชนิดอื่นทำไมทางการไทยยังปกป้อง แฉไฟเซอร์ต้องยอมความ 1 หมื่นคดี https://mgronline.com/qol/detail/9670000040486 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ถามแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ รับเงิน 2 พันล้านก๊อปปี้วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้ผลสำเร็จอย่างไร https://mgronline.com/qol/detail/9670000040290 ✍️“ปานเทพ” ชี้แอสตร้าฯ ถอนใบอนุญาตการตลาดวัคซีนทั่วโลกหลังยอมรับก่อผลข้างเคียง แต่องค์กรรัฐไทยเงียบกริบ สะท้อนสำนึกความปลอดภัยที่ตกต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000040078 ✍️“ฉีดแล้ว แถมอะไรบ้าง?” ฟังเวอร์ชั่นมึผู้ดัดแปลง แรพเตอร์ประยุกต์ https://fb.watch/rY3hwhondy/? https://fb.watch/rY3jv7hMym/? ✍️เปิดวิธีป้องกัน ความอันตราย จากพิษของวัคซีน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สัมภาษณ์โดย ปากซอย 105 รู้ก่อนใคร ลึกจากข่าววงใน https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยเคสคนป่วยจากแอสตร้า-ไฟเซอร์ ชี้ทั้งวัคซีนเชื้อเป็นและ mRNA ส่งผลกระทบระยะสั้นถึงยาว ต่อสมอง-กล้ามเนื้อ https://mgronline.com/qol/detail/9670000037733 ✍️แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ https://fb.watch/s0hNc3DymZ/? https://fb.watch/s0hJ12wEyq/? ✍️ช็อค!!! คำสารภาพของไฟเซอร์ รีบชมและแชร์ก่อนโดนลบ https://fb.watch/s0bmq6HW8P/? ✍️ “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/? https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152 ✍️ ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018 https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130 ✍️ “หมอชลธวัช” เผยวัคซีน mRNA โยงโรคสมองเสื่อม แนะคนกลัวอัลไซเมอร์-พาร์กินสัน ไม่ควรฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000052341 ✍️ เงินสำคัญกว่าชีวิต! ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ US บิดเบือนวัคซีน 'โควิด' จีน มีเป้าหมายเพื่อสกัดคู่แข่ง https://mgronline.com/around/detail/9670000051671 ✍️ วัคซีนเทพระส่ำ! รัฐแคนซัสลุยฟ้องเอาผิด 'ไฟเซอร์' กล่าวหาปกปิดความเสี่ยง-โป้ปดประสิทธิภาพ https://mgronline.com/around/detail/9670000052000 ✍️ ความจริงปรากฏ! รอยเตอร์แฉเอง US ใช้ยุทธการบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนโควิดของจีน https://mgronline.com/around/detail/9670000051466 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยผลชันสูตรคนตาย วัคซีนโควิดอาจเป็นสาเหตุเชื้ออสุจิไม่วิ่ง https://mgronline.com/qol/detail/9670000051903 ✍️ สะเทือนแน่! ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วัคซีนโควิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนตามความหมายเดิม https://mgronline.com/qol/detail/9670000051429 ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ✍️ วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✍️ เรื่องใหญ่! 'หมอธีระวัฒน์'แฉนักวิทยาศาสตร์ของ 'โมเดนา' ยอมรับ วัคซีน mRNR มีอันตรายต้องปรับปรุง https://www.thaipost.net/x-cite-news/574701/ ✍️ ตัวเร่งอัลไซเมอร์ ปัจจัยสมองเสื่อม https://www.thairath.co.th/news/local/2780279?fbclid=IwZXh0bgNhZW0BMQABHasG0naYhGMWkauoJynJJogiy5_NDCd315hbeWbq9VKsujvb0QlhIDaYXw_aem_AVdXSF5wlAW6xu0DqygB78_9MAXrrrSl80nxmlnJULaXM7V7p4XE8sSaW8nA80wGr9U ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แฉวัคซีนไฟเซอร์โดนฟ้องแหลกในสหรัฐฯ แต่ในไทยยังประชาสัมพันธ์ให้ฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000052545 ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 ✍️ขึ้นเครื่องบิน ตอนนี้ต้องถามว่า นักบินฉีดกี่เข็ม มีมรณา mRNA ด้วยไหม ถ้าตอบว่ามี รอไฟลต์หน้าปลอดภัย กว่า https://x.com/makismd/status/1805541350026199289?s=53&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร https://youtu.be/S32-hkJBJKA รูต่ายส่ายสะโพก เสนอ ความจริงที่สื่อกระแสหลักไม่กล้าพูดถึง การหลอกลวงและความเชื่อมโยง... ✍️วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง) https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, กำเนิดเชื้อโควิด และ RFK JR. แหกทุจริตในอเมริกา) https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK (วัคซีนก่อมะเร็ง,การลอบสังหาร, รัฐลึก, 911) https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️ตัวอย่างหนังสือปฏิเสธวัคซีน https://t.me/ThaiPitaksithData/6897 ✍️🔪ชำแหละหมอธนีย์ ตอนที่ 1. ใครกันแน่ที่หาแสง เพื่อขายของ https://www.facebook.com/share/p/1GzjbbbCHp/ ตอนที่ 2.สื่อไหนนะที่ให้ข่าวปลอม https://www.facebook.com/share/p/1MVZc5gBdM/ ตอนที่ 3.ก่อนอ่านงานวิจัย อ่านเอกสารกำกับยาก่อนดีไหม https://www.facebook.com/share/p/17W8FE6zLY/ ตอนที่ 4. มีคนเอาข้อมูลไฟเซอร์มาเขียนรายงาน 102 ฉบับ หมอเคยอ่านไหม https://www.facebook.com/share/p/1JCYxQopJV/ ตอนที่ 5. อาจารย์ธีระวัฒน์ที่เป็น ครู ของหมอ อธิบายได้ดีพร้อมมีหลักฐานแสดง https://www.facebook.com/share/p/1GU7bL72BH/ ตอนที่ 6.ไหนว่า อ่านงานวิจัยเป็น ทำไมหมอโดนหลอก? https://www.facebook.com/share/p/16YVXEaET1/ ตอนที่ 7.หมอเข้าใจ mRNA มากแค่ไหน Antigen คืออะไร ตอบได้รึเปล่า? https://www.facebook.com/share/p/1BcP47gdMN/ ตอนที่ 8. อคติ คือ อะไร ทำไม หมอไม่รู้ตัว ? https://www.facebook.com/share/p/1GnAz468Kk/ ตอนที่ 9.หมอสนใจข้อมูล จริงๆ หรือ? แค่พูดให้ดูดี หรือ กล้าไปขอมาดูจริงๆ https://www.facebook.com/share/p/14M6mFcCrE2/ ตอนที่ 10.กาลามสูตรคือ อะไร ต่างจากใช้ AI อย่างไร https://www.facebook.com/share/p/17Wua35Hmi/ ✍️โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320 ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549 ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922 ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797 ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/ ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/ ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/ ตอน 10 https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr ตอน 11 https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr ตอน 12 https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 352 Views 0 Reviews
  • “Nvidia H100 เตรียมขึ้นสู่อวกาศ! Crusoe จับมือ Starcloud สร้างศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์นอกโลก”

    Crusoe บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ AI และ Starcloud สตาร์ทอัพจาก Redmond กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ด้วยการส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่วงโคจรโลก เพื่อสร้าง “ศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์ในอวกาศ” เป็นครั้งแรกของโลก

    แนวคิดนี้คือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางในอวกาศ (ไม่มีเมฆ ไม่มีเวลากลางคืน) เพื่อจ่ายไฟให้กับระบบประมวลผล AI ที่ใช้พลังงานสูงอย่าง H100 โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าบนโลก ซึ่งมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม

    Starcloud จะเป็นผู้สร้างดาวเทียมที่ติดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ และระบบระบายความร้อนที่ใช้ “สูญญากาศของอวกาศ” เป็น heat sink แบบไร้ขีดจำกัด ส่วน Crusoe จะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ AI ที่รันบนระบบเหล่านี้

    ดาวเทียมดวงแรกของ Starcloud จะถูกปล่อยขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2025 และ Crusoe จะเริ่มให้บริการคลาวด์จากอวกาศในช่วงต้นปี 2027 โดยมีแผนขยายกำลังประมวลผลเป็นระดับกิกะวัตต์ในอนาคต

    ความร่วมมือระหว่าง Crusoe และ Starcloud
    ส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่อวกาศเพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูล AI
    ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
    ลดต้นทุนพลังงานได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับบนโลก
    ใช้สูญญากาศในอวกาศเป็น heat sink สำหรับระบายความร้อน
    ไม่ใช้พื้นที่บนโลกและไม่รบกวนโครงข่ายไฟฟ้า

    แผนการดำเนินงาน
    ดาวเทียมดวงแรกจะปล่อยในพฤศจิกายน 2025
    Crusoe Cloud จะเริ่มให้บริการจากอวกาศต้นปี 2027
    เป้าหมายคือสร้างศูนย์ข้อมูลระดับกิกะวัตต์ในอวกาศ
    Starcloud เป็นบริษัทในโครงการ Nvidia Inception
    Crusoe มีประสบการณ์วางระบบใกล้แหล่งพลังงาน เช่น แก๊สเหลือทิ้ง

    วิสัยทัศน์และผลกระทบ
    เปิดทางให้การประมวลผล AI ขยายสู่พื้นที่นอกโลก
    ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานบนโลก
    อาจเป็นต้นแบบของ “AI factory” ในอวกาศ
    สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมที่ต้องการพลังประมวลผลสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/first-nvidia-h100-gpus-will-reach-orbit-next-month-crusoe-and-starcloud-pioneer-space-based-solar-powered-ai-compute-cloud-data-centers
    🛰️ “Nvidia H100 เตรียมขึ้นสู่อวกาศ! Crusoe จับมือ Starcloud สร้างศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์นอกโลก” Crusoe บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ AI และ Starcloud สตาร์ทอัพจาก Redmond กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ด้วยการส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่วงโคจรโลก เพื่อสร้าง “ศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์ในอวกาศ” เป็นครั้งแรกของโลก แนวคิดนี้คือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางในอวกาศ (ไม่มีเมฆ ไม่มีเวลากลางคืน) เพื่อจ่ายไฟให้กับระบบประมวลผล AI ที่ใช้พลังงานสูงอย่าง H100 โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าบนโลก ซึ่งมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม Starcloud จะเป็นผู้สร้างดาวเทียมที่ติดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ และระบบระบายความร้อนที่ใช้ “สูญญากาศของอวกาศ” เป็น heat sink แบบไร้ขีดจำกัด ส่วน Crusoe จะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ AI ที่รันบนระบบเหล่านี้ ดาวเทียมดวงแรกของ Starcloud จะถูกปล่อยขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2025 และ Crusoe จะเริ่มให้บริการคลาวด์จากอวกาศในช่วงต้นปี 2027 โดยมีแผนขยายกำลังประมวลผลเป็นระดับกิกะวัตต์ในอนาคต ✅ ความร่วมมือระหว่าง Crusoe และ Starcloud ➡️ ส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่อวกาศเพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ➡️ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง ➡️ ลดต้นทุนพลังงานได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับบนโลก ➡️ ใช้สูญญากาศในอวกาศเป็น heat sink สำหรับระบายความร้อน ➡️ ไม่ใช้พื้นที่บนโลกและไม่รบกวนโครงข่ายไฟฟ้า ✅ แผนการดำเนินงาน ➡️ ดาวเทียมดวงแรกจะปล่อยในพฤศจิกายน 2025 ➡️ Crusoe Cloud จะเริ่มให้บริการจากอวกาศต้นปี 2027 ➡️ เป้าหมายคือสร้างศูนย์ข้อมูลระดับกิกะวัตต์ในอวกาศ ➡️ Starcloud เป็นบริษัทในโครงการ Nvidia Inception ➡️ Crusoe มีประสบการณ์วางระบบใกล้แหล่งพลังงาน เช่น แก๊สเหลือทิ้ง ✅ วิสัยทัศน์และผลกระทบ ➡️ เปิดทางให้การประมวลผล AI ขยายสู่พื้นที่นอกโลก ➡️ ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานบนโลก ➡️ อาจเป็นต้นแบบของ “AI factory” ในอวกาศ ➡️ สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมที่ต้องการพลังประมวลผลสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/first-nvidia-h100-gpus-will-reach-orbit-next-month-crusoe-and-starcloud-pioneer-space-based-solar-powered-ai-compute-cloud-data-centers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia's H100 GPUs are going to space — Crusoe and Starcloud pioneer space-based solar-powered AI compute cloud data centers
    Space age partners claim the H100 delivers ‘100x more powerful GPU (AI) compute than has been in space before.’
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • “จีนโชว์นวัตกรรมชิปครั้งใหญ่ – เปิดตัวเครื่อง Lithography, EDA และวัสดุ EUV ฝีมือคนจีนล้วน!”

    ในงาน WeSemiBay Semiconductor Ecosystem Expo ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน บริษัทจีนหลายแห่งได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านการผลิตชิปที่น่าทึ่งมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันความสามารถในการผลิตชิปแบบพึ่งพาตนเองให้ได้เต็มรูปแบบ

    บริษัท Amies Technologies ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SMEE (Shanghai Micro Electronics Equipment) ได้เปิดตัวเครื่อง Lithography สำหรับสารกึ่งตัวนำแบบ compound เช่น GaAs, GaN และ InP รวมถึงระบบ laser annealing และเครื่องตรวจสอบ wafer ขั้นสูง โดย Amies เพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นปี 2025 แต่สามารถส่งมอบเครื่อง Lithography ไปแล้วกว่า 500 เครื่อง

    อีกด้านหนึ่ง SiCarrier ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Huawei และรัฐบาลจีน ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA tools) ที่พัฒนาเองทั้งหมด โดยอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบได้ถึง 30% และลดเวลาในการพัฒนา hardware ลง 40% เมื่อเทียบกับเครื่องมือจาก Cadence, Synopsys และ Siemens

    ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Skyverse Technology ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SiCarrier ได้เปิดตัววัสดุ photoresist ที่สามารถใช้กับ EUV lithography ได้ แม้จีนจะยังไม่มีเครื่อง EUV จาก ASML ก็ตาม โดยวัสดุนี้ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster และสามารถสร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm ได้ ซึ่งใกล้เคียงกับวัสดุจาก JSR ที่ใช้ในระบบ EUV จริง

    นอกจากนี้ Long Sight ซึ่งเป็นอีกบริษัทลูกของ SiCarrier ก็เปิดตัวออสซิลโลสโคปแบบ real-time ที่ทำงานได้ถึง 90GHz ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าของจีนถึง 5 เท่า และสามารถใช้วิเคราะห์สัญญาณในชิประดับ 3nm และ 5nm ได้

    นวัตกรรมจาก Amies Technologies
    เครื่อง Lithography สำหรับ GaAs, GaN, InP
    ระบบ laser annealing และ wafer inspection
    ส่งมอบเครื่องไปแล้วกว่า 500 เครื่องในปีแรก

    นวัตกรรมจาก SiCarrier
    ซอฟต์แวร์ EDA พัฒนาเองทั้งหมด
    เพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบ 30%
    ลดเวลา hardware development 40%
    มีวิศวกรใช้งานแล้วกว่า 20,000 คน
    ความสามารถด้าน EDA ยังต่ำกว่า 10% ของการพึ่งพาตนเอง

    วัสดุ EUV จาก Skyverse Technology
    photoresist ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster
    สร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm
    แม้ไม่มีเครื่อง EUV แต่วัสดุพร้อมแล้ว
    มีการจดสิทธิบัตรหลายฉบับ
    รายชื่อผู้คิดค้นส่วนใหญ่ไม่เปิดเผย

    อุปกรณ์วิเคราะห์จาก Long Sight
    ออสซิลโลสโคป real-time 90GHz
    ใช้กับชิประดับ 3nm และ 5nm ได้
    เหมาะกับโรงงาน SMIC และ Huawei ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-companies-unveil-a-swathe-of-breakthrough-chipmaking-innovations-at-tradeshow-chipmaking-lithography-tools-software-design-tools-and-resists-all-on-display-as-the-nation-pursues-self-sufficiency
    🇨🇳 “จีนโชว์นวัตกรรมชิปครั้งใหญ่ – เปิดตัวเครื่อง Lithography, EDA และวัสดุ EUV ฝีมือคนจีนล้วน!” ในงาน WeSemiBay Semiconductor Ecosystem Expo ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน บริษัทจีนหลายแห่งได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านการผลิตชิปที่น่าทึ่งมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันความสามารถในการผลิตชิปแบบพึ่งพาตนเองให้ได้เต็มรูปแบบ บริษัท Amies Technologies ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SMEE (Shanghai Micro Electronics Equipment) ได้เปิดตัวเครื่อง Lithography สำหรับสารกึ่งตัวนำแบบ compound เช่น GaAs, GaN และ InP รวมถึงระบบ laser annealing และเครื่องตรวจสอบ wafer ขั้นสูง โดย Amies เพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นปี 2025 แต่สามารถส่งมอบเครื่อง Lithography ไปแล้วกว่า 500 เครื่อง อีกด้านหนึ่ง SiCarrier ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Huawei และรัฐบาลจีน ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA tools) ที่พัฒนาเองทั้งหมด โดยอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบได้ถึง 30% และลดเวลาในการพัฒนา hardware ลง 40% เมื่อเทียบกับเครื่องมือจาก Cadence, Synopsys และ Siemens ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Skyverse Technology ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SiCarrier ได้เปิดตัววัสดุ photoresist ที่สามารถใช้กับ EUV lithography ได้ แม้จีนจะยังไม่มีเครื่อง EUV จาก ASML ก็ตาม โดยวัสดุนี้ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster และสามารถสร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm ได้ ซึ่งใกล้เคียงกับวัสดุจาก JSR ที่ใช้ในระบบ EUV จริง นอกจากนี้ Long Sight ซึ่งเป็นอีกบริษัทลูกของ SiCarrier ก็เปิดตัวออสซิลโลสโคปแบบ real-time ที่ทำงานได้ถึง 90GHz ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าของจีนถึง 5 เท่า และสามารถใช้วิเคราะห์สัญญาณในชิประดับ 3nm และ 5nm ได้ ✅ นวัตกรรมจาก Amies Technologies ➡️ เครื่อง Lithography สำหรับ GaAs, GaN, InP ➡️ ระบบ laser annealing และ wafer inspection ➡️ ส่งมอบเครื่องไปแล้วกว่า 500 เครื่องในปีแรก ✅ นวัตกรรมจาก SiCarrier ➡️ ซอฟต์แวร์ EDA พัฒนาเองทั้งหมด ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบ 30% ➡️ ลดเวลา hardware development 40% ➡️ มีวิศวกรใช้งานแล้วกว่า 20,000 คน ➡️ ความสามารถด้าน EDA ยังต่ำกว่า 10% ของการพึ่งพาตนเอง ✅ วัสดุ EUV จาก Skyverse Technology ➡️ photoresist ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster ➡️ สร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm ➡️ แม้ไม่มีเครื่อง EUV แต่วัสดุพร้อมแล้ว ➡️ มีการจดสิทธิบัตรหลายฉบับ ➡️ รายชื่อผู้คิดค้นส่วนใหญ่ไม่เปิดเผย ✅ อุปกรณ์วิเคราะห์จาก Long Sight ➡️ ออสซิลโลสโคป real-time 90GHz ➡️ ใช้กับชิประดับ 3nm และ 5nm ได้ ➡️ เหมาะกับโรงงาน SMIC และ Huawei ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-companies-unveil-a-swathe-of-breakthrough-chipmaking-innovations-at-tradeshow-chipmaking-lithography-tools-software-design-tools-and-resists-all-on-display-as-the-nation-pursues-self-sufficiency
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • “Stanford โชว์นวัตกรรม ‘ผ้าห่มเพชร’ ลดความร้อนทรานซิสเตอร์ได้ถึง 70°C – อนาคตของชิปยุค 1nm ใกล้เข้ามาแล้ว!”

    ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ในการจัดการความร้อนของทรานซิสเตอร์ ด้วยการใช้ “เพชร” เป็นวัสดุห่อหุ้มชิปโดยตรง ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และถึง 90% ในการจำลองการทำงาน ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในสงครามกับความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

    เทคนิคนี้เรียกว่า “Diamond Blanket” โดยใช้เพชรแบบ polycrystalline ที่มีเม็ดใหญ่พิเศษ เติบโตโดยตรงบนพื้นผิวของทรานซิสเตอร์ที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งถือว่าต่ำพอที่จะไม่ทำลายชิ้นส่วน CMOS ภายในชิป ต่างจากวิธีเดิมที่ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 1,000°C

    ความลับของความสำเร็จอยู่ที่การเติมออกซิเจนในระดับสูงระหว่างการเติบโตของเพชร ซึ่งช่วยกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชรออกไป ทำให้ได้ผลึกเพชรที่นำความร้อนได้ดีมาก โดยเพชรชนิดนี้นำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า!

    เทคนิคนี้ไม่ใช่แค่แนวคิด เพราะ DARPA หน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ว่าจ้าง Raytheon ให้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ปี 2024 และตอนนี้ Stanford ก็เตรียมนำไปใช้ร่วมกับบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Micron และ Samsung เพื่อผลักดันสู่การผลิตจริงภายในปี 2027

    นวัตกรรม Diamond Blanket จาก Stanford
    ใช้เพชรห่อหุ้มทรานซิสเตอร์โดยตรงเพื่อลดความร้อน
    ลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และ 90% ในการจำลอง
    ใช้เพชรแบบ polycrystalline เม็ดใหญ่พิเศษ
    เติบโตที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งปลอดภัยต่อ CMOS
    เติมออกซิเจนเพื่อกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชร
    เพชรนำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า
    เหมาะกับชิปแบบ 3D ที่มีปัญหาความร้อนสะสมภายใน

    การสนับสนุนและแผนการนำไปใช้
    DARPA เคยว่าจ้าง Raytheon พัฒนาเทคโนโลยีนี้ในปี 2024
    Stanford เตรียมร่วมมือกับ TSMC, Micron และ Samsung
    คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในอุตสาหกรรมภายในปี 2027
    อาจเป็นทางออกก่อนเข้าสู่ยุคหลังซิลิคอน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/diamond-blanket-transistor-cooling-method-sees-incredible-success-in-testing-growing-micrometer-scale-diamond-layer-directly-on-transistors-drops-temps-by-70-c
    💎 “Stanford โชว์นวัตกรรม ‘ผ้าห่มเพชร’ ลดความร้อนทรานซิสเตอร์ได้ถึง 70°C – อนาคตของชิปยุค 1nm ใกล้เข้ามาแล้ว!” ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ในการจัดการความร้อนของทรานซิสเตอร์ ด้วยการใช้ “เพชร” เป็นวัสดุห่อหุ้มชิปโดยตรง ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และถึง 90% ในการจำลองการทำงาน ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในสงครามกับความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทคนิคนี้เรียกว่า “Diamond Blanket” โดยใช้เพชรแบบ polycrystalline ที่มีเม็ดใหญ่พิเศษ เติบโตโดยตรงบนพื้นผิวของทรานซิสเตอร์ที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งถือว่าต่ำพอที่จะไม่ทำลายชิ้นส่วน CMOS ภายในชิป ต่างจากวิธีเดิมที่ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 1,000°C ความลับของความสำเร็จอยู่ที่การเติมออกซิเจนในระดับสูงระหว่างการเติบโตของเพชร ซึ่งช่วยกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชรออกไป ทำให้ได้ผลึกเพชรที่นำความร้อนได้ดีมาก โดยเพชรชนิดนี้นำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า! เทคนิคนี้ไม่ใช่แค่แนวคิด เพราะ DARPA หน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ว่าจ้าง Raytheon ให้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ปี 2024 และตอนนี้ Stanford ก็เตรียมนำไปใช้ร่วมกับบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Micron และ Samsung เพื่อผลักดันสู่การผลิตจริงภายในปี 2027 ✅ นวัตกรรม Diamond Blanket จาก Stanford ➡️ ใช้เพชรห่อหุ้มทรานซิสเตอร์โดยตรงเพื่อลดความร้อน ➡️ ลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และ 90% ในการจำลอง ➡️ ใช้เพชรแบบ polycrystalline เม็ดใหญ่พิเศษ ➡️ เติบโตที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งปลอดภัยต่อ CMOS ➡️ เติมออกซิเจนเพื่อกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชร ➡️ เพชรนำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า ➡️ เหมาะกับชิปแบบ 3D ที่มีปัญหาความร้อนสะสมภายใน ✅ การสนับสนุนและแผนการนำไปใช้ ➡️ DARPA เคยว่าจ้าง Raytheon พัฒนาเทคโนโลยีนี้ในปี 2024 ➡️ Stanford เตรียมร่วมมือกับ TSMC, Micron และ Samsung ➡️ คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในอุตสาหกรรมภายในปี 2027 ➡️ อาจเป็นทางออกก่อนเข้าสู่ยุคหลังซิลิคอน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/diamond-blanket-transistor-cooling-method-sees-incredible-success-in-testing-growing-micrometer-scale-diamond-layer-directly-on-transistors-drops-temps-by-70-c
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • “20 ปีแห่งการต่อสู้ของ TurboTax” — เมื่อบริษัทซอฟต์แวร์พยายามขัดขวางคนอเมริกันจากการยื่นภาษีฟรี

    บทความจาก ProPublica เปิดเผยเบื้องหลังการล็อบบี้และกลยุทธ์ของ Intuit บริษัทเจ้าของ TurboTax ที่ใช้เวลากว่า 20 ปีในการขัดขวางไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯ สร้างระบบยื่นภาษีฟรีสำหรับประชาชน ทั้งที่เทคโนโลยีและข้อมูลพร้อมแล้ว

    Intuit ใช้งบประมาณมหาศาลในการล็อบบี้รัฐสภาและหน่วยงานภาษี (IRS) เพื่อผลักดันข้อตกลง “Free File” ซึ่งให้บริษัทเอกชนสร้างระบบยื่นภาษีฟรีแทนรัฐบาล แต่แฝงข้อจำกัดมากมาย เช่น:

    จำกัดเฉพาะผู้มีรายได้น้อย
    ซ่อนช่องทางฟรีจากการค้นหา
    บังคับให้ผู้ใช้ซื้อบริการเสริมที่ไม่จำเป็น

    แม้จะมีผู้ใช้หลายล้านคนที่ควรได้รับสิทธิ์ยื่นภาษีฟรี แต่กลับถูกนำไปสู่หน้าเสียเงินโดยเจตนา ผ่านการออกแบบ UX ที่ซับซ้อนและการใช้ SEO เพื่อเบี่ยงเบนการค้นหา

    Intuit ยังพยายามขัดขวางโครงการ “Direct File” ของ IRS ที่จะให้ประชาชนยื่นภาษีตรงกับรัฐบาลโดยไม่ผ่านบริษัทเอกชน โดยอ้างว่า “จะทำให้เกิดความสับสนและลดนวัตกรรม”

    ข้อมูลในข่าว
    Intuit ใช้เวลากว่า 20 ปีในการขัดขวางระบบยื่นภาษีฟรีของรัฐบาล
    ข้อตกลง Free File ให้บริษัทเอกชนสร้างระบบยื่นภาษีฟรีแทนรัฐบาล
    ระบบฟรีถูกจำกัดเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และถูกซ่อนจากการค้นหา
    UX ถูกออกแบบให้ผู้ใช้หลงไปใช้บริการเสียเงิน
    SEO ถูกใช้เพื่อเบี่ยงเบนการค้นหาจากช่องทางฟรี
    Intuit ต่อต้านโครงการ Direct File ของ IRS
    อ้างว่า Direct File จะลดนวัตกรรมและทำให้ผู้ใช้สับสน
    มีการล็อบบี้รัฐสภาและหน่วยงานภาษีอย่างต่อเนื่อง
    ผู้ใช้หลายล้านคนเสียเงินโดยไม่จำเป็น ทั้งที่ควรยื่นภาษีฟรีได้

    https://www.propublica.org/article/inside-turbotax-20-year-fight-to-stop-americans-from-filing-their-taxes-for-free
    💸 “20 ปีแห่งการต่อสู้ของ TurboTax” — เมื่อบริษัทซอฟต์แวร์พยายามขัดขวางคนอเมริกันจากการยื่นภาษีฟรี บทความจาก ProPublica เปิดเผยเบื้องหลังการล็อบบี้และกลยุทธ์ของ Intuit บริษัทเจ้าของ TurboTax ที่ใช้เวลากว่า 20 ปีในการขัดขวางไม่ให้รัฐบาลสหรัฐฯ สร้างระบบยื่นภาษีฟรีสำหรับประชาชน ทั้งที่เทคโนโลยีและข้อมูลพร้อมแล้ว Intuit ใช้งบประมาณมหาศาลในการล็อบบี้รัฐสภาและหน่วยงานภาษี (IRS) เพื่อผลักดันข้อตกลง “Free File” ซึ่งให้บริษัทเอกชนสร้างระบบยื่นภาษีฟรีแทนรัฐบาล แต่แฝงข้อจำกัดมากมาย เช่น: 💸 จำกัดเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 💸 ซ่อนช่องทางฟรีจากการค้นหา 💸 บังคับให้ผู้ใช้ซื้อบริการเสริมที่ไม่จำเป็น แม้จะมีผู้ใช้หลายล้านคนที่ควรได้รับสิทธิ์ยื่นภาษีฟรี แต่กลับถูกนำไปสู่หน้าเสียเงินโดยเจตนา ผ่านการออกแบบ UX ที่ซับซ้อนและการใช้ SEO เพื่อเบี่ยงเบนการค้นหา Intuit ยังพยายามขัดขวางโครงการ “Direct File” ของ IRS ที่จะให้ประชาชนยื่นภาษีตรงกับรัฐบาลโดยไม่ผ่านบริษัทเอกชน โดยอ้างว่า “จะทำให้เกิดความสับสนและลดนวัตกรรม” ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Intuit ใช้เวลากว่า 20 ปีในการขัดขวางระบบยื่นภาษีฟรีของรัฐบาล ➡️ ข้อตกลง Free File ให้บริษัทเอกชนสร้างระบบยื่นภาษีฟรีแทนรัฐบาล ➡️ ระบบฟรีถูกจำกัดเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และถูกซ่อนจากการค้นหา ➡️ UX ถูกออกแบบให้ผู้ใช้หลงไปใช้บริการเสียเงิน ➡️ SEO ถูกใช้เพื่อเบี่ยงเบนการค้นหาจากช่องทางฟรี ➡️ Intuit ต่อต้านโครงการ Direct File ของ IRS ➡️ อ้างว่า Direct File จะลดนวัตกรรมและทำให้ผู้ใช้สับสน ➡️ มีการล็อบบี้รัฐสภาและหน่วยงานภาษีอย่างต่อเนื่อง ➡️ ผู้ใช้หลายล้านคนเสียเงินโดยไม่จำเป็น ทั้งที่ควรยื่นภาษีฟรีได้ https://www.propublica.org/article/inside-turbotax-20-year-fight-to-stop-americans-from-filing-their-taxes-for-free
    WWW.PROPUBLICA.ORG
    Inside TurboTax’s 20-Year Fight to Stop Americans From Filing Their Taxes for Free
    Using lobbying, the revolving door and “dark pattern” customer tricks, Intuit fended off the government’s attempts to make tax filing free and easy, and created its multi-billion-dollar franchise.
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • “ญี่ปุ่นเตือน OpenAI เรื่อง Sora 2” — หวั่นละเมิดลิขสิทธิ์อนิเมะและมังงะที่ถือเป็น ‘สมบัติวัฒนธรรมที่ไม่อาจทดแทนได้’

    รัฐบาลญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรี Minoru Kōno ได้ออกแถลงการณ์เตือน OpenAI อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความกังวลด้านลิขสิทธิ์ หลังจากการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Sora 2 ซึ่งเป็นระบบสร้างวิดีโอ AI ที่สามารถผลิตคลิป 1080p พร้อมเสียงได้ภายใน 20 วินาที

    ญี่ปุ่นระบุว่า อนิเมะและมังงะเป็น “อัญมณีทางวัฒนธรรมที่ไม่อาจทดแทนได้” และการที่ผู้ใช้ Sora 2 นำเนื้อหาจากแฟรนไชส์ดังอย่าง Dragon Ball หรือ Pokémon ไปสร้างวิดีโอโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์อย่างร้ายแรง

    แม้ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งเสริม AI อย่างแข็งขัน แต่ก็พยายามสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีการออกกฎหมาย AI Promotion Act และแนวทางปฏิบัติด้านลิขสิทธิ์

    ในเบื้องต้น OpenAI ได้ติดต่อพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อเสนอให้ “opt-out” จากการใช้ข้อมูลของพวกเขาในการฝึกโมเดล Sora 2 แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าบริษัทญี่ปุ่นใดตอบรับหรือปฏิเสธ

    นักการเมืองญี่ปุ่นอย่าง Akihisa Shiozaki ยังกล่าวว่า “ญี่ปุ่นมีหน้าที่เป็นผู้นำในการถกเถียงระดับโลกเรื่อง AI และลิขสิทธิ์ เพราะเราเป็นประเทศที่สร้างอนิเมะ เกม และดนตรี”

    ข้อมูลในข่าว
    ญี่ปุ่นเตือน OpenAI เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านแพลตฟอร์ม Sora 2
    Sora 2 สามารถสร้างวิดีโอ 1080p พร้อมเสียงได้ภายใน 20 วินาที
    ผู้ใช้บางรายนำเนื้อหาจาก Dragon Ball และ Pokémon ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ญี่ปุ่นมองว่าอนิเมะและมังงะเป็น “สมบัติวัฒนธรรมที่ไม่อาจทดแทนได้”
    รัฐบาลญี่ปุ่นมี AI Promotion Act และแนวทางด้านลิขสิทธิ์
    OpenAI เสนอให้พันธมิตร opt-out จากการใช้ข้อมูลในการฝึกโมเดล
    ยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทญี่ปุ่นใดตอบรับหรือปฏิเสธ
    Akihisa Shiozaki ระบุว่าญี่ปุ่นควรเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐาน AI และลิขสิทธิ์

    https://securityonline.info/japan-warns-openai-over-sora-2-copyright-infringement-of-irreplaceable-anime-and-manga/
    🎌 “ญี่ปุ่นเตือน OpenAI เรื่อง Sora 2” — หวั่นละเมิดลิขสิทธิ์อนิเมะและมังงะที่ถือเป็น ‘สมบัติวัฒนธรรมที่ไม่อาจทดแทนได้’ รัฐบาลญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรี Minoru Kōno ได้ออกแถลงการณ์เตือน OpenAI อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความกังวลด้านลิขสิทธิ์ หลังจากการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Sora 2 ซึ่งเป็นระบบสร้างวิดีโอ AI ที่สามารถผลิตคลิป 1080p พร้อมเสียงได้ภายใน 20 วินาที ญี่ปุ่นระบุว่า อนิเมะและมังงะเป็น “อัญมณีทางวัฒนธรรมที่ไม่อาจทดแทนได้” และการที่ผู้ใช้ Sora 2 นำเนื้อหาจากแฟรนไชส์ดังอย่าง Dragon Ball หรือ Pokémon ไปสร้างวิดีโอโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์อย่างร้ายแรง แม้ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งเสริม AI อย่างแข็งขัน แต่ก็พยายามสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีการออกกฎหมาย AI Promotion Act และแนวทางปฏิบัติด้านลิขสิทธิ์ ในเบื้องต้น OpenAI ได้ติดต่อพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อเสนอให้ “opt-out” จากการใช้ข้อมูลของพวกเขาในการฝึกโมเดล Sora 2 แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าบริษัทญี่ปุ่นใดตอบรับหรือปฏิเสธ นักการเมืองญี่ปุ่นอย่าง Akihisa Shiozaki ยังกล่าวว่า “ญี่ปุ่นมีหน้าที่เป็นผู้นำในการถกเถียงระดับโลกเรื่อง AI และลิขสิทธิ์ เพราะเราเป็นประเทศที่สร้างอนิเมะ เกม และดนตรี” ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ญี่ปุ่นเตือน OpenAI เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านแพลตฟอร์ม Sora 2 ➡️ Sora 2 สามารถสร้างวิดีโอ 1080p พร้อมเสียงได้ภายใน 20 วินาที ➡️ ผู้ใช้บางรายนำเนื้อหาจาก Dragon Ball และ Pokémon ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ ญี่ปุ่นมองว่าอนิเมะและมังงะเป็น “สมบัติวัฒนธรรมที่ไม่อาจทดแทนได้” ➡️ รัฐบาลญี่ปุ่นมี AI Promotion Act และแนวทางด้านลิขสิทธิ์ ➡️ OpenAI เสนอให้พันธมิตร opt-out จากการใช้ข้อมูลในการฝึกโมเดล ➡️ ยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทญี่ปุ่นใดตอบรับหรือปฏิเสธ ➡️ Akihisa Shiozaki ระบุว่าญี่ปุ่นควรเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐาน AI และลิขสิทธิ์ https://securityonline.info/japan-warns-openai-over-sora-2-copyright-infringement-of-irreplaceable-anime-and-manga/
    SECURITYONLINE.INFO
    Japan Warns OpenAI Over Sora 2 Copyright Infringement of "Irreplaceable" Anime and Manga
    Japan formally requested OpenAI to stop Sora 2 from infringing on its "irreplaceable" anime and manga IP after users generated videos of Dragon Ball and Pokémon.
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • SME D Bank หารือ BDMS หนุนผู้ประกอบการกลุ่ม Health Tech เข้าถึงการพัฒนาคู่เงินทุน ยกระดับสู่มาตรฐานสากล เติบโตยั่งยืน
    https://www.thai-tai.tv/news/21921/
    .
    #ไทยไท #SMEDBank #BDMS #HealthTech #นวัตกรรมสุขภาพ #SME #สตาร์ทอัพไทย

    SME D Bank หารือ BDMS หนุนผู้ประกอบการกลุ่ม Health Tech เข้าถึงการพัฒนาคู่เงินทุน ยกระดับสู่มาตรฐานสากล เติบโตยั่งยืน https://www.thai-tai.tv/news/21921/ . #ไทยไท #SMEDBank #BDMS #HealthTech #นวัตกรรมสุขภาพ #SME #สตาร์ทอัพไทย
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • “Synaptics เปิดตัว Astra SL2600” — โปรเซสเซอร์ Edge AI ยุคใหม่ที่รวมพลังมัลติโหมดและ RISC-V เพื่อโลก IoT อัจฉริยะ

    Synaptics ประกาศเปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์อัจฉริยะในยุค Internet of Things (IoT) โดยเน้นการประมวลผลแบบมัลติโหมด (multimodal) ที่รวมภาพ เสียง เซ็นเซอร์ และข้อมูลเครือข่ายไว้ในชิปเดียว

    ชิป SL2610 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีส์นี้ ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวมสถาปัตยกรรม NPU แบบ RISC-V จาก Coral ของ Google พร้อมคอมไพเลอร์แบบ open-source (IREE/MLIR) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

    SL2610 ยังรวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU เพื่อรองรับงานประมวลผลทั่วไปและกราฟิก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust, threat detection และ crypto coprocessor สำหรับงาน AI ที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617 และ SL2619 ซึ่งออกแบบให้ pin-to-pin compatible เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนรุ่นตามความต้องการของอุปกรณ์ ตั้งแต่แบบใช้แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบวิชั่นอุตสาหกรรม

    ชิปยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Synaptics Veros Connectivity เช่น Wi-Fi 6/6E/7, Bluetooth/BLE, Thread และ UWB เพื่อให้การพัฒนาอุปกรณ์ IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบวงจร

    Synaptics ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ซึ่งต่างยืนยันถึงความสามารถของ Astra SL2600 ในการผลักดันนวัตกรรม Edge AI

    ข้อมูลในข่าว
    Synaptics เปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่
    SL2610 ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวม Coral NPU จาก Google
    ใช้คอมไพเลอร์ open-source IREE/MLIR เพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนา
    รวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU
    มีระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust และ crypto coprocessor
    มี 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617, SL2619 ที่ pin-to-pin compatible
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Veros Connectivity: Wi-Fi 6/6E/7, BT/BLE, Thread, UWB
    เหมาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบอัตโนมัติ, UAV, เกม, POS, หุ่นยนต์
    ได้รับความร่วมมือจาก Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm
    ชิปเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 2026

    https://www.techpowerup.com/341933/synaptics-launches-the-next-generation-of-astra-multimodal-genai-edge-processors
    🧠 “Synaptics เปิดตัว Astra SL2600” — โปรเซสเซอร์ Edge AI ยุคใหม่ที่รวมพลังมัลติโหมดและ RISC-V เพื่อโลก IoT อัจฉริยะ Synaptics ประกาศเปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์อัจฉริยะในยุค Internet of Things (IoT) โดยเน้นการประมวลผลแบบมัลติโหมด (multimodal) ที่รวมภาพ เสียง เซ็นเซอร์ และข้อมูลเครือข่ายไว้ในชิปเดียว ชิป SL2610 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีส์นี้ ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวมสถาปัตยกรรม NPU แบบ RISC-V จาก Coral ของ Google พร้อมคอมไพเลอร์แบบ open-source (IREE/MLIR) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ SL2610 ยังรวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU เพื่อรองรับงานประมวลผลทั่วไปและกราฟิก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust, threat detection และ crypto coprocessor สำหรับงาน AI ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617 และ SL2619 ซึ่งออกแบบให้ pin-to-pin compatible เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนรุ่นตามความต้องการของอุปกรณ์ ตั้งแต่แบบใช้แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบวิชั่นอุตสาหกรรม ชิปยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Synaptics Veros Connectivity เช่น Wi-Fi 6/6E/7, Bluetooth/BLE, Thread และ UWB เพื่อให้การพัฒนาอุปกรณ์ IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบวงจร Synaptics ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ซึ่งต่างยืนยันถึงความสามารถของ Astra SL2600 ในการผลักดันนวัตกรรม Edge AI ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Synaptics เปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ ➡️ SL2610 ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวม Coral NPU จาก Google ➡️ ใช้คอมไพเลอร์ open-source IREE/MLIR เพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนา ➡️ รวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU ➡️ มีระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust และ crypto coprocessor ➡️ มี 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617, SL2619 ที่ pin-to-pin compatible ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Veros Connectivity: Wi-Fi 6/6E/7, BT/BLE, Thread, UWB ➡️ เหมาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบอัตโนมัติ, UAV, เกม, POS, หุ่นยนต์ ➡️ ได้รับความร่วมมือจาก Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ➡️ ชิปเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 2026 https://www.techpowerup.com/341933/synaptics-launches-the-next-generation-of-astra-multimodal-genai-edge-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Synaptics Launches the Next Generation of Astra Multimodal GenAI Edge Processors
    Synaptics Incorporated (Nasdaq: SYNA), announces the new Astra SL2600 Series of multimodal Edge AI processors designed to deliver exceptional power and performance. The Astra SL2600 series enables a new generation of cost-effective intelligent devices that make the cognitive Internet of Things (IoT)...
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • “Steve Jobs จะปรากฏบนเหรียญที่ระลึกมูลค่า $1” — สหรัฐฯ เตรียมยกย่องผู้บุกเบิกนวัตกรรมแห่งแคลิฟอร์เนีย

    Steve Jobs อดีต CEO ของ Apple และบุคคลสำคัญในโลกเทคโนโลยี กำลังจะได้รับเกียรติให้ปรากฏบนเหรียญที่ระลึกมูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2026 โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ American Innovation $1 Coin Program ซึ่งจัดทำโดย United States Mint เพื่อยกย่องนักนวัตกรรมจากแต่ละรัฐในสหรัฐฯ

    Jobs ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเหรียญจะมีภาพของเขาในวัยหนุ่มนั่งอยู่หน้าภูมิประเทศแบบ “Northern California” ที่เต็มไปด้วยเนินเขาปกคลุมด้วยต้นโอ๊ก พร้อมคำจารึกว่า:

    UNITED STATES OF AMERICA CALIFORNIA STEVE JOBS MAKE SOMETHING WONDERFUL

    การออกแบบนี้สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และการเปลี่ยนโลกด้วยเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่ Jobs ได้ฝากไว้ผ่านผลิตภัณฑ์ของ Apple เช่น iPhone, iPad และ Mac

    โครงการนี้ยังครอบคลุมรัฐอื่น ๆ เช่น Iowa, Wisconsin และ Minnesota โดยมีเป้าหมายเพื่อยกย่องบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมในแต่ละภูมิภาคของประเทศ

    ข้อมูลในข่าว
    Steve Jobs จะปรากฏบนเหรียญที่ระลึกมูลค่า $1 ในปี 2026
    เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ American Innovation $1 Coin Program โดย United States Mint
    Jobs ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของรัฐแคลิฟอร์เนีย
    เหรียญมีภาพ Jobs นั่งหน้าภูมิประเทศ Northern California
    มีคำจารึกว่า “MAKE SOMETHING WONDERFUL”
    โครงการนี้ยกย่องนักนวัตกรรมจากแต่ละรัฐในสหรัฐฯ
    ครอบคลุมรัฐอื่น ๆ เช่น Iowa, Wisconsin และ Minnesota

    https://wccftech.com/apples-steve-jobs-to-feature-on-a-1-commemorative-coin/
    🪙 “Steve Jobs จะปรากฏบนเหรียญที่ระลึกมูลค่า $1” — สหรัฐฯ เตรียมยกย่องผู้บุกเบิกนวัตกรรมแห่งแคลิฟอร์เนีย Steve Jobs อดีต CEO ของ Apple และบุคคลสำคัญในโลกเทคโนโลยี กำลังจะได้รับเกียรติให้ปรากฏบนเหรียญที่ระลึกมูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2026 โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ American Innovation $1 Coin Program ซึ่งจัดทำโดย United States Mint เพื่อยกย่องนักนวัตกรรมจากแต่ละรัฐในสหรัฐฯ Jobs ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเหรียญจะมีภาพของเขาในวัยหนุ่มนั่งอยู่หน้าภูมิประเทศแบบ “Northern California” ที่เต็มไปด้วยเนินเขาปกคลุมด้วยต้นโอ๊ก พร้อมคำจารึกว่า: UNITED STATES OF AMERICA CALIFORNIA STEVE JOBS MAKE SOMETHING WONDERFUL การออกแบบนี้สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และการเปลี่ยนโลกด้วยเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่ Jobs ได้ฝากไว้ผ่านผลิตภัณฑ์ของ Apple เช่น iPhone, iPad และ Mac โครงการนี้ยังครอบคลุมรัฐอื่น ๆ เช่น Iowa, Wisconsin และ Minnesota โดยมีเป้าหมายเพื่อยกย่องบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมในแต่ละภูมิภาคของประเทศ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Steve Jobs จะปรากฏบนเหรียญที่ระลึกมูลค่า $1 ในปี 2026 ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ American Innovation $1 Coin Program โดย United States Mint ➡️ Jobs ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของรัฐแคลิฟอร์เนีย ➡️ เหรียญมีภาพ Jobs นั่งหน้าภูมิประเทศ Northern California ➡️ มีคำจารึกว่า “MAKE SOMETHING WONDERFUL” ➡️ โครงการนี้ยกย่องนักนวัตกรรมจากแต่ละรัฐในสหรัฐฯ ➡️ ครอบคลุมรัฐอื่น ๆ เช่น Iowa, Wisconsin และ Minnesota https://wccftech.com/apples-steve-jobs-to-feature-on-a-1-commemorative-coin/
    WCCFTECH.COM
    Apple's Steve Jobs To Feature On A $1 Commemorative Coin
    The ex-CEO of Apple and a veritable tech icon, Steve Jobs, is slated to receive a posthumous honor from the United States Mint in 2026.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • “22 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ที่องค์กรควรเลิกเชื่อ” — เมื่อแนวทางความปลอดภัยแบบเดิมกลายเป็นกับดักในยุค AI

    บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 22 ความเชื่อผิด ๆ ที่องค์กรจำนวนมากยังยึดติดอยู่ แม้โลกไซเบอร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และการโจมตีแบบซับซ้อนเข้ามาเปลี่ยนเกม

    ตัวอย่างเช่น ความเชื่อว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย” นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ AI จะช่วยกรองข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น แต่มันยังขาดความเข้าใจบริบทและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มนุษย์ทำได้

    อีกหนึ่งความเชื่อที่อันตรายคือ “การยืนยันตัวตนแบบวิดีโอหรือเสียงสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้” ซึ่งในยุค deepfake นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่หลอกระบบได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน

    นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดว่า “การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาหลักมักอยู่ที่การขาดกลยุทธ์และการบูรณาการ ไม่ใช่จำนวนเครื่องมือ

    บทความยังเตือนว่า “การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ” อาจทำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายขึ้น เช่น เปลี่ยนจาก Summer2025! เป็น Winter2025! ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง

    รายการ 13 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์
    AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย
    แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแรงพอจะป้องกันการปลอมแปลง
    การลงทุนในผู้ให้บริการยืนยันตัวตนจะป้องกันการโจมตีล่าสุดได้
    การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น
    การจ้างคนเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ได้
    หากเราป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ เราก็ปลอดภัยแล้ว
    การทดสอบและวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดจะครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด
    ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
    สามารถจัดการใบรับรองดิจิทัลทั้งหมดด้วยสเปรดชีตได้
    การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance) เท่ากับความปลอดภัย
    ภัยจากควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ไกล ไม่ต้องกังวลตอนนี้
    ควรอนุญาตให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อความปลอดภัย
    การปล่อยให้ AI เติบโตโดยไม่มีการควบคุมจะช่วยเร่งนวัตกรรม

    https://www.csoonline.com/article/571943/22-cybersecurity-myths-organizations-need-to-stop-believing-in-2022.html
    🛡️ “22 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ที่องค์กรควรเลิกเชื่อ” — เมื่อแนวทางความปลอดภัยแบบเดิมกลายเป็นกับดักในยุค AI บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 22 ความเชื่อผิด ๆ ที่องค์กรจำนวนมากยังยึดติดอยู่ แม้โลกไซเบอร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และการโจมตีแบบซับซ้อนเข้ามาเปลี่ยนเกม ตัวอย่างเช่น ความเชื่อว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย” นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ AI จะช่วยกรองข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น แต่มันยังขาดความเข้าใจบริบทและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มนุษย์ทำได้ อีกหนึ่งความเชื่อที่อันตรายคือ “การยืนยันตัวตนแบบวิดีโอหรือเสียงสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้” ซึ่งในยุค deepfake นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่หลอกระบบได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดว่า “การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาหลักมักอยู่ที่การขาดกลยุทธ์และการบูรณาการ ไม่ใช่จำนวนเครื่องมือ บทความยังเตือนว่า “การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ” อาจทำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายขึ้น เช่น เปลี่ยนจาก Summer2025! เป็น Winter2025! ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง 🧠 รายการ 13 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ 🪙 AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย 🪙 แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแรงพอจะป้องกันการปลอมแปลง 🪙 การลงทุนในผู้ให้บริการยืนยันตัวตนจะป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ 🪙 การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น 🪙 การจ้างคนเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ได้ 🪙 หากเราป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ เราก็ปลอดภัยแล้ว 🪙 การทดสอบและวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดจะครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด 🪙 ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย 🪙 สามารถจัดการใบรับรองดิจิทัลทั้งหมดด้วยสเปรดชีตได้ 🪙 การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance) เท่ากับความปลอดภัย 🪙 ภัยจากควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ไกล ไม่ต้องกังวลตอนนี้ 🪙 ควรอนุญาตให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อความปลอดภัย 🪙 การปล่อยให้ AI เติบโตโดยไม่มีการควบคุมจะช่วยเร่งนวัตกรรม https://www.csoonline.com/article/571943/22-cybersecurity-myths-organizations-need-to-stop-believing-in-2022.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    13 cybersecurity myths organizations need to stop believing
    Security teams trying to defend their organizations need to adapt quickly to new challenges. Yesterday's best practices have become today's myths.
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • "อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์ชี้แจงกรณีโดรนลาดตระเวนไทยฝีมือคนไทยที่ส่งมอบให้กองทัพภาคที่ 2 ตกในฝั่งกัมพูชาเป็นครั้งแรกในรอบ 49 วัน หลังปฏิบัติภารกิจมานาน สาเหตุจากความผิดพลาดของ "นักบินใหม่" ที่นำไป "ฝึกบิน" ใกล้ชายแดนใกล้ปราสาทตาควาย จนถูกเทคโนโลยีกัมพูชา "หลอกพิกัด" และลากโดรนออกไป 2 กม. แม้โดรนจะถูกยึดได้ แต่ "อ.ปานเทพ" ยืนยันไม่น่าห่วง เพราะเป็นซอฟต์แวร์ไทย อีกทั้งการตกครั้งนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ทราบถึงเทคโนโลยีใหม่ของกัมพูชา ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา "นวัตกรรม" โดรนชุดใหม่ที่คู่แข่งจะคาดไม่ถึงต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098567

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์ชี้แจงกรณีโดรนลาดตระเวนไทยฝีมือคนไทยที่ส่งมอบให้กองทัพภาคที่ 2 ตกในฝั่งกัมพูชาเป็นครั้งแรกในรอบ 49 วัน หลังปฏิบัติภารกิจมานาน สาเหตุจากความผิดพลาดของ "นักบินใหม่" ที่นำไป "ฝึกบิน" ใกล้ชายแดนใกล้ปราสาทตาควาย จนถูกเทคโนโลยีกัมพูชา "หลอกพิกัด" และลากโดรนออกไป 2 กม. แม้โดรนจะถูกยึดได้ แต่ "อ.ปานเทพ" ยืนยันไม่น่าห่วง เพราะเป็นซอฟต์แวร์ไทย อีกทั้งการตกครั้งนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ทราบถึงเทคโนโลยีใหม่ของกัมพูชา ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา "นวัตกรรม" โดรนชุดใหม่ที่คู่แข่งจะคาดไม่ถึงต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098567 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • 'ดร.เอ้ สุชัชวีร์' ขอบคุณ "ร่วมกตัญญู" บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ
    https://www.thai-tai.tv/news/21916/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์ #มูลนิธิร่วมกตัญญู #โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ #นวัตกรรมการแพทย์ #บิณฑ์เอกพัน #บริจาค

    'ดร.เอ้ สุชัชวีร์' ขอบคุณ "ร่วมกตัญญู" บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ https://www.thai-tai.tv/news/21916/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์ #มูลนิธิร่วมกตัญญู #โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ #นวัตกรรมการแพทย์ #บิณฑ์เอกพัน #บริจาค
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • "ไทยก้าวใหม่" เปิดรับสมัคร "ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส." ทั่วประเทศ ชูสโลแกน “ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง”
    https://www.thai-tai.tv/news/21915/
    .
    #ไทยไท #ไทยก้าวใหม่ #สุชัชวีร์ #เลือกตั้ง #สมัครสส #การเมือง #นวัตกรรม
    "ไทยก้าวใหม่" เปิดรับสมัคร "ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส." ทั่วประเทศ ชูสโลแกน “ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง” https://www.thai-tai.tv/news/21915/ . #ไทยไท #ไทยก้าวใหม่ #สุชัชวีร์ #เลือกตั้ง #สมัครสส #การเมือง #นวัตกรรม
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • “MSI โชว์นวัตกรรมศูนย์ข้อมูล” — เปิดตัว ORv3, DC-MHS และ MGX ที่งาน OCP Global Summit 2025

    ในงาน OCP Global Summit ปี 2025 MSI ได้เปิดตัวโซลูชันศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระดับ hyperscale และ AI โดยเน้นการผสานเทคโนโลยีแบบเปิดกับการเร่งความเร็วด้วย GPU เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและดูแลรักษาได้ง่าย

    หนึ่งในไฮไลต์คือ ORv3 Rack ขนาด 21 นิ้ว 44OU ที่มาพร้อมระบบพลังงาน 48V แบบรวมศูนย์ และเซิร์ฟเวอร์แบบ dual-node 16 ตัว ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับ CPU, RAM และ Storage พร้อมระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง

    MSI ยังเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ DC-MHS ที่รองรับทั้ง Intel Xeon 6 และ AMD EPYC 9005 โดยใช้โมดูล DC-SCM เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันระหว่างผู้ผลิตได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับ PCIe 5.0 และ DDR5 สำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง

    ในด้าน GPU MSI ใช้สถาปัตยกรรม MGX ของ NVIDIA โดยมีรุ่น CG481-S6053 ที่รองรับ GPU PCIe 6.0 ได้ถึง 8 ตัว และ CG290-S3063 ที่ออกแบบมาเพื่องาน inference และ fine-tuning โดยใช้ GPU PCIe 5.0 จำนวน 4 ตัว

    ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวทางของ MSI ที่ต้องการสร้างศูนย์ข้อมูลที่สามารถปรับขนาดได้ง่าย รองรับงาน AI และ cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลดความซับซ้อนในการติดตั้งและดูแลรักษา

    ข้อมูลในข่าว
    MSI เปิดตัว ORv3 Rack ขนาด 21 นิ้ว 44OU พร้อมระบบพลังงานรวมศูนย์ 48V
    รองรับเซิร์ฟเวอร์แบบ dual-node 16 ตัว พร้อม I/O ด้านหน้าเพื่อการดูแลจาก cold aisle
    เซิร์ฟเวอร์ DC-MHS รองรับ Intel Xeon 6 และ AMD EPYC 9005 ด้วยโมดูล DC-SCM
    รองรับ PCIe 5.0, DDR5 และ NVMe แบบ front-service
    GPU server ใช้สถาปัตยกรรม MGX ของ NVIDIA
    รุ่น CG481-S6053 รองรับ GPU PCIe 6.0 ได้ถึง 8 ตัว
    รุ่น CG290-S3063 รองรับ GPU PCIe 5.0 จำนวน 4 ตัว สำหรับงาน inference
    ออกแบบมาเพื่อศูนย์ข้อมูล AI และ cloud ที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การใช้ GPU จำนวนมากต้องมีระบบระบายความร้อนและพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
    หากไม่ใช้โมดูล DC-SCM อาจทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างผู้ผลิต
    การออกแบบศูนย์ข้อมูลแบบ rack-scale ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างละเอียด
    การเปลี่ยนไปใช้ PCIe 6.0 ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์เดิม

    https://www.techpowerup.com/341907/msi-highlights-orv3-dc-mhs-and-mgx-solutions-at-2025-ocp-global-summit
    🏢 “MSI โชว์นวัตกรรมศูนย์ข้อมูล” — เปิดตัว ORv3, DC-MHS และ MGX ที่งาน OCP Global Summit 2025 ในงาน OCP Global Summit ปี 2025 MSI ได้เปิดตัวโซลูชันศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระดับ hyperscale และ AI โดยเน้นการผสานเทคโนโลยีแบบเปิดกับการเร่งความเร็วด้วย GPU เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและดูแลรักษาได้ง่าย หนึ่งในไฮไลต์คือ ORv3 Rack ขนาด 21 นิ้ว 44OU ที่มาพร้อมระบบพลังงาน 48V แบบรวมศูนย์ และเซิร์ฟเวอร์แบบ dual-node 16 ตัว ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับ CPU, RAM และ Storage พร้อมระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง MSI ยังเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ DC-MHS ที่รองรับทั้ง Intel Xeon 6 และ AMD EPYC 9005 โดยใช้โมดูล DC-SCM เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันระหว่างผู้ผลิตได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับ PCIe 5.0 และ DDR5 สำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง ในด้าน GPU MSI ใช้สถาปัตยกรรม MGX ของ NVIDIA โดยมีรุ่น CG481-S6053 ที่รองรับ GPU PCIe 6.0 ได้ถึง 8 ตัว และ CG290-S3063 ที่ออกแบบมาเพื่องาน inference และ fine-tuning โดยใช้ GPU PCIe 5.0 จำนวน 4 ตัว ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวทางของ MSI ที่ต้องการสร้างศูนย์ข้อมูลที่สามารถปรับขนาดได้ง่าย รองรับงาน AI และ cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลดความซับซ้อนในการติดตั้งและดูแลรักษา ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ MSI เปิดตัว ORv3 Rack ขนาด 21 นิ้ว 44OU พร้อมระบบพลังงานรวมศูนย์ 48V ➡️ รองรับเซิร์ฟเวอร์แบบ dual-node 16 ตัว พร้อม I/O ด้านหน้าเพื่อการดูแลจาก cold aisle ➡️ เซิร์ฟเวอร์ DC-MHS รองรับ Intel Xeon 6 และ AMD EPYC 9005 ด้วยโมดูล DC-SCM ➡️ รองรับ PCIe 5.0, DDR5 และ NVMe แบบ front-service ➡️ GPU server ใช้สถาปัตยกรรม MGX ของ NVIDIA ➡️ รุ่น CG481-S6053 รองรับ GPU PCIe 6.0 ได้ถึง 8 ตัว ➡️ รุ่น CG290-S3063 รองรับ GPU PCIe 5.0 จำนวน 4 ตัว สำหรับงาน inference ➡️ ออกแบบมาเพื่อศูนย์ข้อมูล AI และ cloud ที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การใช้ GPU จำนวนมากต้องมีระบบระบายความร้อนและพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ⛔ หากไม่ใช้โมดูล DC-SCM อาจทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างผู้ผลิต ⛔ การออกแบบศูนย์ข้อมูลแบบ rack-scale ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างละเอียด ⛔ การเปลี่ยนไปใช้ PCIe 6.0 ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์เดิม https://www.techpowerup.com/341907/msi-highlights-orv3-dc-mhs-and-mgx-solutions-at-2025-ocp-global-summit
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    MSI Highlights ORv3, DC-MHS, and MGX Solutions at 2025 OCP Global Summit
    At 2025 OCP Global Summit (Booth #A55), MSI, a leading global provider of high-performance server solutions, highlights the ORv3 21" 44OU rack, OCP DC-MHS platforms, and GPU servers built on NVIDIA MGX architecture, accelerated by the latest NVIDIA Hopper GPUs and NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Serve...
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • “ไม่มีวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีสตาร์ทอัพ — เมื่อเครื่องยนต์แห่งนวัตกรรมกำลังถูกปิดโดยไม่รู้ตัว”

    Steve Blank ผู้บุกเบิกแนวคิด Lean Startup ได้เขียนบทความสะท้อนถึงวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา — การลดงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรมและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ

    เขาอธิบายว่า “วิทยาศาสตร์” ไม่ใช่แค่การทดลองในห้องแล็บ แต่คือระบบที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ (ทั้งทฤษฎีและทดลอง), วิศวกร, ผู้ประกอบการ และนักลงทุน โดยแต่ละบทบาทมีหน้าที่เฉพาะที่เสริมกันอย่างกลมกลืน:

    นักวิทยาศาสตร์สร้างองค์ความรู้ใหม่
    วิศวกรนำความรู้นั้นไปสร้างสิ่งของ
    ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
    นักลงทุนให้ทุนเพื่อขยายผล

    Blank เตือนว่า หากตัดบทบาทใดบทบาทหนึ่งออก โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์” ที่มักถูกมองข้ามเพราะไม่สร้างรายได้ทันที ระบบนวัตกรรมทั้งหมดจะล่มสลาย

    เขายกตัวอย่างว่า เทคโนโลยีอย่าง ChatGPT, SpaceX, หรือแม้แต่วัคซีน ล้วนมีรากฐานจากการวิจัยขั้นพื้นฐานที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยหรือห้องแล็บของรัฐเมื่อหลายสิบปีก่อน

    นักวิทยาศาสตร์มี 2 ประเภทหลัก: ทฤษฎี (Theorists) และทดลอง (Experimentalists)
    ทฤษฎีสร้างแบบจำลองความจริง ส่วนทดลองทดสอบสมมติฐาน

    วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น “พื้นฐาน” และ “ประยุกต์”
    พื้นฐานเพื่อความเข้าใจโลก ประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง

    มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นแหล่งวิจัยหลักของประเทศ
    มีระบบสนับสนุนจากรัฐ เช่น NIH, NSF, DoD

    นักวิจัยในมหาวิทยาลัยทำงานเหมือนสตาร์ทอัพขนาดเล็ก
    มีการเขียน proposal, บริหารทีม, สร้างนวัตกรรม

    วิศวกรสร้างสิ่งของจากองค์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์
    เช่น ชิป Nvidia, จรวด SpaceX, อัลกอริทึม AI

    ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
    ใช้หลักการทดลองแบบวิทยาศาสตร์เพื่อหาความต้องการจริง

    นักลงทุน (VC) สนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์โดยตรง
    เพราะต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น

    การลดงบวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ จะทำให้ประเทศอ่อนแอลง
    ทั้งด้านเศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และความมั่นคง

    https://steveblank.com/2025/10/13/no-science-no-startups-the-unseen-engine-were-switching-off/
    🧪 “ไม่มีวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีสตาร์ทอัพ — เมื่อเครื่องยนต์แห่งนวัตกรรมกำลังถูกปิดโดยไม่รู้ตัว” Steve Blank ผู้บุกเบิกแนวคิด Lean Startup ได้เขียนบทความสะท้อนถึงวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา — การลดงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรมและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ เขาอธิบายว่า “วิทยาศาสตร์” ไม่ใช่แค่การทดลองในห้องแล็บ แต่คือระบบที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ (ทั้งทฤษฎีและทดลอง), วิศวกร, ผู้ประกอบการ และนักลงทุน โดยแต่ละบทบาทมีหน้าที่เฉพาะที่เสริมกันอย่างกลมกลืน: ⭐ นักวิทยาศาสตร์สร้างองค์ความรู้ใหม่ ⭐ วิศวกรนำความรู้นั้นไปสร้างสิ่งของ ⭐ ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด ⭐ นักลงทุนให้ทุนเพื่อขยายผล Blank เตือนว่า หากตัดบทบาทใดบทบาทหนึ่งออก โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์” ที่มักถูกมองข้ามเพราะไม่สร้างรายได้ทันที ระบบนวัตกรรมทั้งหมดจะล่มสลาย เขายกตัวอย่างว่า เทคโนโลยีอย่าง ChatGPT, SpaceX, หรือแม้แต่วัคซีน ล้วนมีรากฐานจากการวิจัยขั้นพื้นฐานที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยหรือห้องแล็บของรัฐเมื่อหลายสิบปีก่อน ✅ นักวิทยาศาสตร์มี 2 ประเภทหลัก: ทฤษฎี (Theorists) และทดลอง (Experimentalists) ➡️ ทฤษฎีสร้างแบบจำลองความจริง ส่วนทดลองทดสอบสมมติฐาน ✅ วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น “พื้นฐาน” และ “ประยุกต์” ➡️ พื้นฐานเพื่อความเข้าใจโลก ประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง ✅ มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นแหล่งวิจัยหลักของประเทศ ➡️ มีระบบสนับสนุนจากรัฐ เช่น NIH, NSF, DoD ✅ นักวิจัยในมหาวิทยาลัยทำงานเหมือนสตาร์ทอัพขนาดเล็ก ➡️ มีการเขียน proposal, บริหารทีม, สร้างนวัตกรรม ✅ วิศวกรสร้างสิ่งของจากองค์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์ ➡️ เช่น ชิป Nvidia, จรวด SpaceX, อัลกอริทึม AI ✅ ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด ➡️ ใช้หลักการทดลองแบบวิทยาศาสตร์เพื่อหาความต้องการจริง ✅ นักลงทุน (VC) สนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์โดยตรง ➡️ เพราะต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น ✅ การลดงบวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ จะทำให้ประเทศอ่อนแอลง ➡️ ทั้งด้านเศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และความมั่นคง https://steveblank.com/2025/10/13/no-science-no-startups-the-unseen-engine-were-switching-off/
    STEVEBLANK.COM
    No Science, No Startups: The Innovation Engine We’re Switching Off
    Tons of words have been written about the Trump Administrations war on Science in Universities. But few people have asked what, exactly, is science? How does it work? Who are the scientists? What d…
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • “Criminal IP เตรียมโชว์นวัตกรรม ASM และ CTI ที่ GovWare 2025 — ขยายพลัง AI ด้านความปลอดภัยสู่เวทีโลก”

    Criminal IP บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลกจากเกาหลีใต้ ประกาศเข้าร่วมงาน GovWare 2025 ซึ่งเป็นงานประชุมด้านไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดขึ้นที่ Sands Expo ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 21–23 ตุลาคม 2025 โดยจะนำเสนอแพลตฟอร์มที่รวมเทคโนโลยี AI เข้ากับการจัดการพื้นผิวการโจมตี (ASM) และข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ (CTI)

    Criminal IP ใช้เทคโนโลยี AI ร่วมกับการเก็บข้อมูลแบบ OSINT (Open Source Intelligence) เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับทรัพย์สินภายนอกที่เปิดเผย และตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เชื่อมโยงกับเวกเตอร์การโจมตีจริงได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ และเป็นพันธมิตรกับบริษัทด้านความปลอดภัยกว่า 40 รายทั่วโลก เช่น Cisco, Tenable และ Snowflake

    ภายในงาน GovWare 2025 ทีมงานของ Criminal IP นำโดย CEO Byungtak Kang จะจัดเซสชันพิเศษและประชุมกับลูกค้าระดับนานาชาติ พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัล รวมถึง “Passport Event” ที่จัดโดยผู้จัดงาน

    Criminal IP เข้าร่วม GovWare 2025 ที่สิงคโปร์
    จัดขึ้นวันที่ 21–23 ตุลาคม 2025 ที่ Sands Expo

    เตรียมโชว์แพลตฟอร์มด้าน ASM และ CTI ที่ใช้ AI และ OSINT
    ช่วยตรวจจับทรัพย์สินภายนอกและตอบสนองต่อภัยคุกคาม

    มีผู้ใช้งานในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
    รวมถึงพันธมิตรด้านความปลอดภัยกว่า 40 ราย เช่น Cisco และ Tenable

    CEO Byungtak Kang จะเข้าร่วมงานพร้อมทีมธุรกิจระดับโลก
    จัดเซสชันพิเศษและประชุมกับลูกค้าระดับนานาชาติ

    มีบูธจัดแสดงที่ J30 พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัล
    รวมถึง “Passport Event” ที่จัดโดยผู้จัดงาน

    Criminal IP เคยร่วมงาน RSAC, Infosecurity Europe และ Interop Tokyo
    สะท้อนการขยายตัวในตลาดต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลางและยุโรป

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การเปิดเผยทรัพย์สินภายนอกโดยไม่รู้ตัว
    อาจกลายเป็นช่องทางให้แฮ็กเกอร์โจมตีได้

    องค์กรที่ไม่มีระบบ ASM อาจไม่รู้ว่าตนเองมีจุดอ่อนภายนอก
    เช่น subdomain ที่ไม่ได้ใช้งานหรือ API ที่เปิดไว้

    การไม่ใช้ CTI ในการวิเคราะห์ภัยคุกคาม
    อาจทำให้ตอบสนองช้าและเกิดความเสียหายมากขึ้น

    การพึ่งพาเครื่องมือที่ไม่มีการอัปเดตข้อมูลแบบ real-time
    อาจทำให้ตรวจจับภัยคุกคามไม่ทันเวลา

    https://securityonline.info/criminal-ip-to-showcase-asm-and-cti-innovations-at-govware-2025-in-singapore/
    🌏 “Criminal IP เตรียมโชว์นวัตกรรม ASM และ CTI ที่ GovWare 2025 — ขยายพลัง AI ด้านความปลอดภัยสู่เวทีโลก” Criminal IP บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลกจากเกาหลีใต้ ประกาศเข้าร่วมงาน GovWare 2025 ซึ่งเป็นงานประชุมด้านไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดขึ้นที่ Sands Expo ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 21–23 ตุลาคม 2025 โดยจะนำเสนอแพลตฟอร์มที่รวมเทคโนโลยี AI เข้ากับการจัดการพื้นผิวการโจมตี (ASM) และข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ (CTI) Criminal IP ใช้เทคโนโลยี AI ร่วมกับการเก็บข้อมูลแบบ OSINT (Open Source Intelligence) เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับทรัพย์สินภายนอกที่เปิดเผย และตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เชื่อมโยงกับเวกเตอร์การโจมตีจริงได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ และเป็นพันธมิตรกับบริษัทด้านความปลอดภัยกว่า 40 รายทั่วโลก เช่น Cisco, Tenable และ Snowflake ภายในงาน GovWare 2025 ทีมงานของ Criminal IP นำโดย CEO Byungtak Kang จะจัดเซสชันพิเศษและประชุมกับลูกค้าระดับนานาชาติ พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัล รวมถึง “Passport Event” ที่จัดโดยผู้จัดงาน ✅ Criminal IP เข้าร่วม GovWare 2025 ที่สิงคโปร์ ➡️ จัดขึ้นวันที่ 21–23 ตุลาคม 2025 ที่ Sands Expo ✅ เตรียมโชว์แพลตฟอร์มด้าน ASM และ CTI ที่ใช้ AI และ OSINT ➡️ ช่วยตรวจจับทรัพย์สินภายนอกและตอบสนองต่อภัยคุกคาม ✅ มีผู้ใช้งานในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ➡️ รวมถึงพันธมิตรด้านความปลอดภัยกว่า 40 ราย เช่น Cisco และ Tenable ✅ CEO Byungtak Kang จะเข้าร่วมงานพร้อมทีมธุรกิจระดับโลก ➡️ จัดเซสชันพิเศษและประชุมกับลูกค้าระดับนานาชาติ ✅ มีบูธจัดแสดงที่ J30 พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัล ➡️ รวมถึง “Passport Event” ที่จัดโดยผู้จัดงาน ✅ Criminal IP เคยร่วมงาน RSAC, Infosecurity Europe และ Interop Tokyo ➡️ สะท้อนการขยายตัวในตลาดต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลางและยุโรป ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ‼️ การเปิดเผยทรัพย์สินภายนอกโดยไม่รู้ตัว ⛔ อาจกลายเป็นช่องทางให้แฮ็กเกอร์โจมตีได้ ‼️ องค์กรที่ไม่มีระบบ ASM อาจไม่รู้ว่าตนเองมีจุดอ่อนภายนอก ⛔ เช่น subdomain ที่ไม่ได้ใช้งานหรือ API ที่เปิดไว้ ‼️ การไม่ใช้ CTI ในการวิเคราะห์ภัยคุกคาม ⛔ อาจทำให้ตอบสนองช้าและเกิดความเสียหายมากขึ้น ‼️ การพึ่งพาเครื่องมือที่ไม่มีการอัปเดตข้อมูลแบบ real-time ⛔ อาจทำให้ตรวจจับภัยคุกคามไม่ทันเวลา https://securityonline.info/criminal-ip-to-showcase-asm-and-cti-innovations-at-govware-2025-in-singapore/
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • ถอดรหัสโอกาสทางการตลาด: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากงานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับ

    งานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปและการบูรณาการเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าโรคนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ผลกระทบทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาของโรคนี้กำลังกระตุ้นให้บริษัทยาและเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าการบำบัดด้วยยาแบบดั้งเดิม การบำบัดพฤติกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัล และอุปกรณ์ติดตามแบบสวมใส่ได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการรักษาแบบไม่ใช้ยากำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขัน ช่วยให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่และสตาร์ทอัพสามารถเติบโตได้

    อ้างอิง - https://www.marketresearchfuture.com/reports/insomnia-market-545
    อ่านน้อยลง
    ถอดรหัสโอกาสทางการตลาด: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากงานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับ งานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปและการบูรณาการเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าโรคนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ผลกระทบทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาของโรคนี้กำลังกระตุ้นให้บริษัทยาและเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าการบำบัดด้วยยาแบบดั้งเดิม การบำบัดพฤติกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัล และอุปกรณ์ติดตามแบบสวมใส่ได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการรักษาแบบไม่ใช้ยากำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขัน ช่วยให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่และสตาร์ทอัพสามารถเติบโตได้ อ้างอิง - https://www.marketresearchfuture.com/reports/insomnia-market-545 อ่านน้อยลง
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Insomnia Market Size, Trends Analysis, Growth Report 2035
    Insomnia Market growth is projected to reach 8.64 USD billion, at a 5.8% CAGR by driving industry size, share, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2024 to 2032.
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • “Solidigm เปิดตัวคลัสเตอร์ SSD ขนาด 23.6PB ในพื้นที่แค่ 16U — ปลดล็อกศักยภาพ AI ด้วยความหนาแน่นระดับใหม่”

    Solidigm บริษัทในเครือ SK hynix ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร ได้เปิดตัว AI Central Lab ที่เมือง Rancho Cordova รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นศูนย์ทดสอบระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยใช้ SSD ขนาด 122TB จำนวน 192 ตัว รวมเป็นคลัสเตอร์ขนาด 23.6PB ในพื้นที่เพียง 16U ของแร็คเซิร์ฟเวอร์

    คลัสเตอร์นี้ใช้ SSD รุ่น D5-P5336 สำหรับความจุ และ D7-PS1010 สำหรับความเร็ว โดยสามารถทำ throughput ได้สูงถึง 116GB/s ต่อ node ในการทดสอบ MLPerf Storage ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับงานฝึกโมเดล AI แม้จะเป็นการทดสอบแบบ synthetic แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบในการรองรับงาน AI ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูงมาก

    AI Central Lab ยังใช้ GPU ระดับสูงอย่าง NVIDIA B200 และ H200 พร้อมระบบเครือข่าย Ethernet 800Gbps เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมของศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาว่า “การจัดเก็บข้อมูลใกล้ GPU” จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ AI ได้มากแค่ไหน

    หนึ่งในความร่วมมือที่น่าสนใจคือกับ Metrum AI ซึ่งพัฒนาเทคนิคการ offload ข้อมูลจาก DRAM ไปยัง SSD เพื่อลดการใช้หน่วยความจำลงถึง 57% ในงาน inference แบบ RAG (Retrieval-Augmented Generation) ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมในงาน AI สมัยใหม่

    Solidigm ระบุว่า AI Central Lab ไม่ใช่แค่พื้นที่ทดสอบ แต่เป็นเวทีสำหรับนวัตกรรมร่วมกับนักพัฒนาและพันธมิตร เพื่อสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านพลังงาน ความเร็ว และต้นทุนต่อ token

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Solidigm เปิดตัว AI Central Lab ที่ Rancho Cordova, California
    ใช้ SSD D5-P5336 ขนาด 122TB จำนวน 192 ตัว รวมเป็น 23.6PB ในพื้นที่ 16U
    ใช้ SSD D7-PS1010 สำหรับความเร็ว throughput สูงสุด 116GB/s ต่อ node
    ใช้ GPU NVIDIA B200 และ H200 พร้อมเครือข่าย Ethernet 800Gbps
    ทดสอบงาน AI จริง เช่น training, inference, KV cache offload และ VectorDB tuning
    ร่วมมือกับ Metrum AI เพื่อลดการใช้ DRAM ลง 57% ด้วยการ offload ไปยัง SSD
    ศูนย์นี้ช่วยแปลงสเปก SSD ให้เป็น metric ที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น tokens per watt
    Solidigm เป็นบริษัทในเครือ SK hynix ที่เน้นโซลูชันจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SSD ขนาดใหญ่ช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ในงาน AI ที่ใช้ GPU หนัก
    MLPerf Storage เป็น benchmark ที่ใช้วัดประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลในงาน AI
    RAG เป็นเทคนิคที่ใช้ข้อมูลภายนอกมาช่วยตอบคำถามในโมเดล AI
    การจัดเก็บข้อมูลใกล้ GPU ช่วยลด bottleneck และเพิ่ม utilization ของ accelerator
    การใช้ SSD แทน DRAM ช่วยลดต้นทุนและพลังงานในระบบขนาดใหญ่

    https://www.techradar.com/pro/solidigm-packed-usd2-7-million-worth-of-ssds-into-the-biggest-storage-cluster-ive-ever-seen-nearly-200-192tb-ssds-used-to-build-a-23-6pb-cluster-in-16u-rackspace
    📦 “Solidigm เปิดตัวคลัสเตอร์ SSD ขนาด 23.6PB ในพื้นที่แค่ 16U — ปลดล็อกศักยภาพ AI ด้วยความหนาแน่นระดับใหม่” Solidigm บริษัทในเครือ SK hynix ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร ได้เปิดตัว AI Central Lab ที่เมือง Rancho Cordova รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นศูนย์ทดสอบระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยใช้ SSD ขนาด 122TB จำนวน 192 ตัว รวมเป็นคลัสเตอร์ขนาด 23.6PB ในพื้นที่เพียง 16U ของแร็คเซิร์ฟเวอร์ คลัสเตอร์นี้ใช้ SSD รุ่น D5-P5336 สำหรับความจุ และ D7-PS1010 สำหรับความเร็ว โดยสามารถทำ throughput ได้สูงถึง 116GB/s ต่อ node ในการทดสอบ MLPerf Storage ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับงานฝึกโมเดล AI แม้จะเป็นการทดสอบแบบ synthetic แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบในการรองรับงาน AI ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูงมาก AI Central Lab ยังใช้ GPU ระดับสูงอย่าง NVIDIA B200 และ H200 พร้อมระบบเครือข่าย Ethernet 800Gbps เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมของศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาว่า “การจัดเก็บข้อมูลใกล้ GPU” จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ AI ได้มากแค่ไหน หนึ่งในความร่วมมือที่น่าสนใจคือกับ Metrum AI ซึ่งพัฒนาเทคนิคการ offload ข้อมูลจาก DRAM ไปยัง SSD เพื่อลดการใช้หน่วยความจำลงถึง 57% ในงาน inference แบบ RAG (Retrieval-Augmented Generation) ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมในงาน AI สมัยใหม่ Solidigm ระบุว่า AI Central Lab ไม่ใช่แค่พื้นที่ทดสอบ แต่เป็นเวทีสำหรับนวัตกรรมร่วมกับนักพัฒนาและพันธมิตร เพื่อสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านพลังงาน ความเร็ว และต้นทุนต่อ token ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Solidigm เปิดตัว AI Central Lab ที่ Rancho Cordova, California ➡️ ใช้ SSD D5-P5336 ขนาด 122TB จำนวน 192 ตัว รวมเป็น 23.6PB ในพื้นที่ 16U ➡️ ใช้ SSD D7-PS1010 สำหรับความเร็ว throughput สูงสุด 116GB/s ต่อ node ➡️ ใช้ GPU NVIDIA B200 และ H200 พร้อมเครือข่าย Ethernet 800Gbps ➡️ ทดสอบงาน AI จริง เช่น training, inference, KV cache offload และ VectorDB tuning ➡️ ร่วมมือกับ Metrum AI เพื่อลดการใช้ DRAM ลง 57% ด้วยการ offload ไปยัง SSD ➡️ ศูนย์นี้ช่วยแปลงสเปก SSD ให้เป็น metric ที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น tokens per watt ➡️ Solidigm เป็นบริษัทในเครือ SK hynix ที่เน้นโซลูชันจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SSD ขนาดใหญ่ช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ในงาน AI ที่ใช้ GPU หนัก ➡️ MLPerf Storage เป็น benchmark ที่ใช้วัดประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลในงาน AI ➡️ RAG เป็นเทคนิคที่ใช้ข้อมูลภายนอกมาช่วยตอบคำถามในโมเดล AI ➡️ การจัดเก็บข้อมูลใกล้ GPU ช่วยลด bottleneck และเพิ่ม utilization ของ accelerator ➡️ การใช้ SSD แทน DRAM ช่วยลดต้นทุนและพลังงานในระบบขนาดใหญ่ https://www.techradar.com/pro/solidigm-packed-usd2-7-million-worth-of-ssds-into-the-biggest-storage-cluster-ive-ever-seen-nearly-200-192tb-ssds-used-to-build-a-23-6pb-cluster-in-16u-rackspace
    WWW.TECHRADAR.COM
    Solidigm unveils dense cluster pushing storage limits
    Performance tests remain synthetic, raising doubts about real workloads
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • “Miggo Security คว้าตำแหน่ง Gartner Cool Vendor — พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI ด้วยการตรวจจับแบบเรียลไทม์”

    ในวันที่ AI กลายเป็นทั้งเครื่องมือสร้างสรรค์และช่องทางโจมตีใหม่สำหรับภัยไซเบอร์ บริษัท Miggo Security จาก Tel Aviv ได้รับการยกย่องจาก Gartner ให้เป็นหนึ่งใน “Cool Vendor” ด้าน AI Security ประจำปี 2025 จากความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามในแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ ผ่านแพลตฟอร์ม Application Detection & Response (ADR)

    Miggo มุ่งเน้นการแก้ปัญหา “ช่องว่างระหว่างการตรวจจับและการตอบสนอง” ซึ่งเป็นจุดอ่อนของระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิม โดยใช้เทคโนโลยี DeepTracing ที่สามารถตรวจจับภัยคุกคามใหม่ ๆ เช่น zero-day และรูปแบบการโจมตีที่เกิดขึ้นเฉพาะในแอปพลิเคชันที่มี AI ฝังอยู่

    แพลตฟอร์มของ Miggo ยังมีฐานข้อมูล AppDNA และ Predictive Vulnerability Database ที่ช่วยลด backlog ของช่องโหว่ได้ถึง 99% โดยใช้ AI วิเคราะห์บริบทของแอปพลิเคชันและจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ที่ควรแก้ก่อน

    นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ WAF Copilot ที่สามารถสร้างกฎป้องกันเว็บแอปพลิเคชันแบบ custom ได้ภายในไม่กี่นาที และระบบ Agentless Integration ที่สามารถติดตั้งร่วมกับ Kubernetes และระบบ CI/CD ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างเดิม

    Gartner เตือนว่า “ภายในปี 2029 กว่า 50% ของการโจมตีไซเบอร์ที่สำเร็จต่อ AI agents จะเกิดจากการเจาะระบบควบคุมสิทธิ์ เช่น prompt injection” ซึ่งทำให้การป้องกันแบบ runtime และการวิเคราะห์พฤติกรรมของแอปพลิเคชันกลายเป็นสิ่งจำเป็น

    CEO ของ Miggo, Daniel Shechter กล่าวว่า “การได้รับการยอมรับจาก Gartner คือการยืนยันว่า ADR คืออนาคตของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI” โดยเน้นว่าองค์กรต้องสามารถ “รู้ พิสูจน์ และป้องกัน” ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในแอปพลิเคชันได้ทันที

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Miggo Security ได้รับการยกย่องเป็น Gartner Cool Vendor ด้าน AI Security ปี 2025
    ใช้แพลตฟอร์ม Application Detection & Response (ADR) สำหรับการตรวจจับแบบ runtime
    เทคโนโลยี DeepTracing ตรวจจับ AI-native threats และ zero-day ได้แบบเรียลไทม์
    ฐานข้อมูล AppDNA และ Predictive Vulnerability Database ลด backlog ช่องโหว่ได้ 99%
    WAF Copilot สร้างกฎป้องกันเว็บแอปแบบ custom ได้ภายในไม่กี่นาที
    Agentless Integration รองรับ Kubernetes และระบบ CI/CD โดยไม่ต้องติดตั้ง agent
    Gartner เตือนภัย prompt injection จะเป็นช่องโหว่หลักของ AI agents ภายในปี 2029
    CEO Daniel Shechter ยืนยันว่า ADR คืออนาคตของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Prompt injection คือการแทรกคำสั่งใน input เพื่อควบคุมพฤติกรรมของ AI
    Zero-day คือช่องโหว่ที่ยังไม่มีแพตช์แก้ไข และมักถูกใช้ในการโจมตีขั้นสูง
    Runtime security คือการตรวจสอบพฤติกรรมของแอปพลิเคชันขณะทำงานจริง
    Gartner Cool Vendor เป็นการยกย่องบริษัทที่มีนวัตกรรมโดดเด่นในอุตสาหกรรม
    การใช้ AI ในระบบรักษาความปลอดภัยช่วยลดเวลาในการตอบสนองและเพิ่มความแม่นยำ

    https://hackread.com/miggo-security-named-a-gartner-cool-vendor-in-ai-security/
    🛡️ “Miggo Security คว้าตำแหน่ง Gartner Cool Vendor — พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI ด้วยการตรวจจับแบบเรียลไทม์” ในวันที่ AI กลายเป็นทั้งเครื่องมือสร้างสรรค์และช่องทางโจมตีใหม่สำหรับภัยไซเบอร์ บริษัท Miggo Security จาก Tel Aviv ได้รับการยกย่องจาก Gartner ให้เป็นหนึ่งใน “Cool Vendor” ด้าน AI Security ประจำปี 2025 จากความสามารถในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามในแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ ผ่านแพลตฟอร์ม Application Detection & Response (ADR) Miggo มุ่งเน้นการแก้ปัญหา “ช่องว่างระหว่างการตรวจจับและการตอบสนอง” ซึ่งเป็นจุดอ่อนของระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิม โดยใช้เทคโนโลยี DeepTracing ที่สามารถตรวจจับภัยคุกคามใหม่ ๆ เช่น zero-day และรูปแบบการโจมตีที่เกิดขึ้นเฉพาะในแอปพลิเคชันที่มี AI ฝังอยู่ แพลตฟอร์มของ Miggo ยังมีฐานข้อมูล AppDNA และ Predictive Vulnerability Database ที่ช่วยลด backlog ของช่องโหว่ได้ถึง 99% โดยใช้ AI วิเคราะห์บริบทของแอปพลิเคชันและจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ที่ควรแก้ก่อน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ WAF Copilot ที่สามารถสร้างกฎป้องกันเว็บแอปพลิเคชันแบบ custom ได้ภายในไม่กี่นาที และระบบ Agentless Integration ที่สามารถติดตั้งร่วมกับ Kubernetes และระบบ CI/CD ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างเดิม Gartner เตือนว่า “ภายในปี 2029 กว่า 50% ของการโจมตีไซเบอร์ที่สำเร็จต่อ AI agents จะเกิดจากการเจาะระบบควบคุมสิทธิ์ เช่น prompt injection” ซึ่งทำให้การป้องกันแบบ runtime และการวิเคราะห์พฤติกรรมของแอปพลิเคชันกลายเป็นสิ่งจำเป็น CEO ของ Miggo, Daniel Shechter กล่าวว่า “การได้รับการยอมรับจาก Gartner คือการยืนยันว่า ADR คืออนาคตของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI” โดยเน้นว่าองค์กรต้องสามารถ “รู้ พิสูจน์ และป้องกัน” ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในแอปพลิเคชันได้ทันที ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Miggo Security ได้รับการยกย่องเป็น Gartner Cool Vendor ด้าน AI Security ปี 2025 ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Application Detection & Response (ADR) สำหรับการตรวจจับแบบ runtime ➡️ เทคโนโลยี DeepTracing ตรวจจับ AI-native threats และ zero-day ได้แบบเรียลไทม์ ➡️ ฐานข้อมูล AppDNA และ Predictive Vulnerability Database ลด backlog ช่องโหว่ได้ 99% ➡️ WAF Copilot สร้างกฎป้องกันเว็บแอปแบบ custom ได้ภายในไม่กี่นาที ➡️ Agentless Integration รองรับ Kubernetes และระบบ CI/CD โดยไม่ต้องติดตั้ง agent ➡️ Gartner เตือนภัย prompt injection จะเป็นช่องโหว่หลักของ AI agents ภายในปี 2029 ➡️ CEO Daniel Shechter ยืนยันว่า ADR คืออนาคตของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Prompt injection คือการแทรกคำสั่งใน input เพื่อควบคุมพฤติกรรมของ AI ➡️ Zero-day คือช่องโหว่ที่ยังไม่มีแพตช์แก้ไข และมักถูกใช้ในการโจมตีขั้นสูง ➡️ Runtime security คือการตรวจสอบพฤติกรรมของแอปพลิเคชันขณะทำงานจริง ➡️ Gartner Cool Vendor เป็นการยกย่องบริษัทที่มีนวัตกรรมโดดเด่นในอุตสาหกรรม ➡️ การใช้ AI ในระบบรักษาความปลอดภัยช่วยลดเวลาในการตอบสนองและเพิ่มความแม่นยำ https://hackread.com/miggo-security-named-a-gartner-cool-vendor-in-ai-security/
    HACKREAD.COM
    Miggo Security Named a Gartner® Cool Vendor in AI Security
    Tel Aviv, Israel, 8th October 2025, CyberNewsWire
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • “เทคโนโลยีเบื้องหลังภารกิจ Apollo — จากคอมพิวเตอร์ 4KB สู่แรงบันดาลใจแห่งยุคอวกาศ”

    แม้หลายคนจะรู้จัก Apollo 11 ในฐานะภารกิจที่พามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในปี 1969 แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นคือการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุคนั้น และกลายเป็นรากฐานของนวัตกรรมที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้

    หนึ่งในหัวใจของภารกิจคือ Apollo Guidance Computer (AGC) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ onboard ที่ใช้ควบคุมการนำทางและการบินของยาน Apollo โดยมีหน่วยความจำเพียง 74KB ROM และ 4KB RAM เท่านั้น แต่สามารถควบคุมการลงจอดบนดวงจันทร์ได้อย่างแม่นยำ AGC ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับระบบควบคุมในเครื่องบินสมัยใหม่และแม้แต่สมาร์ตโฟนที่เราใช้ทุกวัน

    ชุดอวกาศของนักบิน Apollo ก็เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าทางวิศวกรรม โดยใช้วัสดุสังเคราะห์ถึง 12 ชนิด รวมเป็น 25 ชั้น เพื่อป้องกันอุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -250°F ถึง +230°F พร้อมระบบสนับสนุนชีวิตแบบไร้สาย และซิปสามชั้นที่สร้างซีลกันอากาศได้อย่างสมบูรณ์

    การสื่อสารระหว่างนักบินกับโลกใช้ระบบ S-Band Transponder ซึ่งสามารถส่งข้อมูลเสียง วิดีโอ และชีวภาพผ่านคลื่นวิทยุจากระยะไกลถึง 30,000 ไมล์จากโลก ระบบนี้ยังสามารถติดตามตำแหน่งของยานและส่งข้อมูลภารกิจกลับมายังศูนย์ควบคุม

    ยาน Saturn V ที่ใช้ส่งนักบินขึ้นสู่อวกาศมีความสูงถึง 363 ฟุต สูงกว่ารูปปั้นเทพีเสรีภาพถึง 60 ฟุต และสามารถสร้างแรงขับได้ถึง 7.6 ล้านปอนด์ ถือเป็นจรวดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น และเป็นต้นแบบของระบบส่งยานในยุคปัจจุบัน เช่น SLS ของ NASA

    สุดท้ายคือ Command Module หรือที่พักของนักบิน ซึ่งมีขนาดเพียง 3.9 เมตร และเป็นส่วนเดียวของยานที่กลับสู่โลกได้ โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบรังผึ้งและแผ่นกันความร้อนที่ออกแบบมาเฉพาะ ปัจจุบัน NASA ยังใช้แนวคิดนี้ในยาน Orion ที่จะพานักบินกลับไปยังดวงจันทร์ในภารกิจ Artemis

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Apollo Program ดำเนินตั้งแต่ปี 1962–1972 รวม 14 ภารกิจ
    AGC มีหน่วยความจำ 74KB ROM และ 4KB RAM
    AGC ใช้ควบคุมการบินและการนำทางของยาน Apollo
    ชุดอวกาศใช้วัสดุสังเคราะห์ 12 ชนิด รวม 25 ชั้น
    ป้องกันอุณหภูมิ -250°F ถึง +230°F และมีระบบสนับสนุนชีวิตแบบไร้สาย
    S-Band Transponder ส่งข้อมูลเสียง วิดีโอ และชีวภาพจากระยะ 30,000 ไมล์
    Saturn V สูง 363 ฟุต สร้างแรงขับ 7.6 ล้านปอนด์
    Command Module มีขนาด 3.9 เมตร ใช้วัสดุอลูมิเนียมรังผึ้งและแผ่นกันความร้อน
    NASA ใช้แนวคิด Command Module ในยาน Orion สำหรับภารกิจ Artemis

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    AGC ถูกพัฒนาโดย MIT Instrumentation Lab และใช้ชิป NOR gate แบบเชื่อมด้วยแรงดัน
    ชุดอวกาศ Apollo มีชื่อเฉพาะ เช่น “Sirius” ของ Neil Armstrong
    S-Band Transponder รวมฟังก์ชัน telemetry, voice, video และ tracking ในระบบเดียว
    Saturn V ใช้ในภารกิจ Skylab และเป็นต้นแบบของจรวด heavy-lift ในยุคใหม่
    Command Module “Columbia” เป็นส่วนเดียวที่กลับสู่โลก และสามารถชมแบบ 3D ได้ผ่าน Smithsonian

    https://www.slashgear.com/1462356/apollo-mission-successful-technology/
    🌕 “เทคโนโลยีเบื้องหลังภารกิจ Apollo — จากคอมพิวเตอร์ 4KB สู่แรงบันดาลใจแห่งยุคอวกาศ” แม้หลายคนจะรู้จัก Apollo 11 ในฐานะภารกิจที่พามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในปี 1969 แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นคือการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุคนั้น และกลายเป็นรากฐานของนวัตกรรมที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ หนึ่งในหัวใจของภารกิจคือ Apollo Guidance Computer (AGC) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ onboard ที่ใช้ควบคุมการนำทางและการบินของยาน Apollo โดยมีหน่วยความจำเพียง 74KB ROM และ 4KB RAM เท่านั้น แต่สามารถควบคุมการลงจอดบนดวงจันทร์ได้อย่างแม่นยำ AGC ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับระบบควบคุมในเครื่องบินสมัยใหม่และแม้แต่สมาร์ตโฟนที่เราใช้ทุกวัน ชุดอวกาศของนักบิน Apollo ก็เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าทางวิศวกรรม โดยใช้วัสดุสังเคราะห์ถึง 12 ชนิด รวมเป็น 25 ชั้น เพื่อป้องกันอุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -250°F ถึง +230°F พร้อมระบบสนับสนุนชีวิตแบบไร้สาย และซิปสามชั้นที่สร้างซีลกันอากาศได้อย่างสมบูรณ์ การสื่อสารระหว่างนักบินกับโลกใช้ระบบ S-Band Transponder ซึ่งสามารถส่งข้อมูลเสียง วิดีโอ และชีวภาพผ่านคลื่นวิทยุจากระยะไกลถึง 30,000 ไมล์จากโลก ระบบนี้ยังสามารถติดตามตำแหน่งของยานและส่งข้อมูลภารกิจกลับมายังศูนย์ควบคุม ยาน Saturn V ที่ใช้ส่งนักบินขึ้นสู่อวกาศมีความสูงถึง 363 ฟุต สูงกว่ารูปปั้นเทพีเสรีภาพถึง 60 ฟุต และสามารถสร้างแรงขับได้ถึง 7.6 ล้านปอนด์ ถือเป็นจรวดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น และเป็นต้นแบบของระบบส่งยานในยุคปัจจุบัน เช่น SLS ของ NASA สุดท้ายคือ Command Module หรือที่พักของนักบิน ซึ่งมีขนาดเพียง 3.9 เมตร และเป็นส่วนเดียวของยานที่กลับสู่โลกได้ โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบรังผึ้งและแผ่นกันความร้อนที่ออกแบบมาเฉพาะ ปัจจุบัน NASA ยังใช้แนวคิดนี้ในยาน Orion ที่จะพานักบินกลับไปยังดวงจันทร์ในภารกิจ Artemis ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Apollo Program ดำเนินตั้งแต่ปี 1962–1972 รวม 14 ภารกิจ ➡️ AGC มีหน่วยความจำ 74KB ROM และ 4KB RAM ➡️ AGC ใช้ควบคุมการบินและการนำทางของยาน Apollo ➡️ ชุดอวกาศใช้วัสดุสังเคราะห์ 12 ชนิด รวม 25 ชั้น ➡️ ป้องกันอุณหภูมิ -250°F ถึง +230°F และมีระบบสนับสนุนชีวิตแบบไร้สาย ➡️ S-Band Transponder ส่งข้อมูลเสียง วิดีโอ และชีวภาพจากระยะ 30,000 ไมล์ ➡️ Saturn V สูง 363 ฟุต สร้างแรงขับ 7.6 ล้านปอนด์ ➡️ Command Module มีขนาด 3.9 เมตร ใช้วัสดุอลูมิเนียมรังผึ้งและแผ่นกันความร้อน ➡️ NASA ใช้แนวคิด Command Module ในยาน Orion สำหรับภารกิจ Artemis ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ AGC ถูกพัฒนาโดย MIT Instrumentation Lab และใช้ชิป NOR gate แบบเชื่อมด้วยแรงดัน ➡️ ชุดอวกาศ Apollo มีชื่อเฉพาะ เช่น “Sirius” ของ Neil Armstrong ➡️ S-Band Transponder รวมฟังก์ชัน telemetry, voice, video และ tracking ในระบบเดียว ➡️ Saturn V ใช้ในภารกิจ Skylab และเป็นต้นแบบของจรวด heavy-lift ในยุคใหม่ ➡️ Command Module “Columbia” เป็นส่วนเดียวที่กลับสู่โลก และสามารถชมแบบ 3D ได้ผ่าน Smithsonian https://www.slashgear.com/1462356/apollo-mission-successful-technology/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Giant Leap: The Technology That Made The Apollo Mission Successful - SlashGear
    For many, it's common knowledge that the Apollo 11 mission successfully landed on the moon, but the technology that got them there was way before its time.
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • “Meta เปิดตัวเคเบิลใต้น้ำ ‘Candle’ ความเร็ว 570 Tbps — ปูทางสู่ยุค AI ในเอเชียแปซิฟิก”

    Meta ประกาศลงทุนสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำใหม่ชื่อว่า “Candle” ซึ่งจะเชื่อมโยงประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยมีระยะทางรวมกว่า 8,000 กิโลเมตร และความสามารถในการส่งข้อมูลสูงถึง 570 Tbps ถือเป็นเครือข่ายข้อมูลใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความมั่นคงของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน และรองรับความต้องการด้าน AI และแอปพลิเคชันดิจิทัลที่ใช้แบนด์วิดท์สูง โดยจะใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้ความหนาแน่นและความเร็วสูงกว่าระบบเดิมหลายเท่า

    นอกจาก Candle แล้ว Meta ยังอัปเดตความคืบหน้าของเคเบิลใต้น้ำอีก 3 เส้น ได้แก่

    1️⃣ Apricot ที่เชื่อมไต้หวัน ญี่ปุ่น และกวม พร้อมแผนขยายไปยังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ รวมระยะทาง 12,000 กิโลเมตร และเพิ่มความจุอีก 290 Tbps

    2️⃣ Bifrost ที่เชื่อมสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ พร้อมแผนขยายไปเม็กซิโกในปี 2026 ให้ความจุ 260 Tbps

    3️⃣ Echo ที่เชื่อมกวมกับแคลิฟอร์เนีย ให้ความจุ 260 Tbps เช่นกัน และอาจขยายไปยังประเทศในเอเชียเพิ่มเติมตามความต้องการ

    Meta เน้นว่าเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 58% ของโลก จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อรองรับการประมวลผล AI และบริการคลาวด์ โดย Candle จะเป็นแกนหลักของการเชื่อมต่อยุคใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างทั่วถึง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Meta ลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำ “Candle” ความเร็ว 570 Tbps
    เชื่อมโยง 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก: ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์
    ระยะทางรวม 8,000 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028
    ใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย (24-fiber pair)
    รองรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 580 ล้านคนในภูมิภาค
    เสริมความมั่นคงของโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน
    สนับสนุนการพัฒนา AI และระบบดิจิทัลยุคใหม่
    Apricot เพิ่มความจุ 290 Tbps เชื่อม 5 ประเทศ
    Bifrost และ Echo ให้ความจุ 260 Tbps ต่อเส้น
    Meta มีแผนขยายเคเบิลไปยังเม็กซิโกและประเทศอื่นในเอเชีย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของอินเทอร์เน็ตโลก โดยส่งข้อมูลกว่า 95% ของทั้งหมด
    ความเร็ว 570 Tbps เทียบเท่าการส่งวิดีโอ 4K พร้อมกันหลายสิบล้านสตรีม
    การใช้ 24-fiber pair เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
    เคเบิลใต้น้ำมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25 ปี และต้องการการดูแลตลอดเวลา
    Meta ยังมีโครงการ “Waterworth” และ “2Africa” เพื่อเชื่อมโยง 5 ทวีปและภูมิภาคอื่น

    https://securityonline.info/meta-unveils-candle-submarine-cable-the-largest-570-tbps-data-network-for-asia-pacific-ai/
    🌊 “Meta เปิดตัวเคเบิลใต้น้ำ ‘Candle’ ความเร็ว 570 Tbps — ปูทางสู่ยุค AI ในเอเชียแปซิฟิก” Meta ประกาศลงทุนสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำใหม่ชื่อว่า “Candle” ซึ่งจะเชื่อมโยงประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยมีระยะทางรวมกว่า 8,000 กิโลเมตร และความสามารถในการส่งข้อมูลสูงถึง 570 Tbps ถือเป็นเครือข่ายข้อมูลใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความมั่นคงของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน และรองรับความต้องการด้าน AI และแอปพลิเคชันดิจิทัลที่ใช้แบนด์วิดท์สูง โดยจะใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้ความหนาแน่นและความเร็วสูงกว่าระบบเดิมหลายเท่า นอกจาก Candle แล้ว Meta ยังอัปเดตความคืบหน้าของเคเบิลใต้น้ำอีก 3 เส้น ได้แก่ 1️⃣ Apricot ที่เชื่อมไต้หวัน ญี่ปุ่น และกวม พร้อมแผนขยายไปยังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ รวมระยะทาง 12,000 กิโลเมตร และเพิ่มความจุอีก 290 Tbps 2️⃣ Bifrost ที่เชื่อมสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ พร้อมแผนขยายไปเม็กซิโกในปี 2026 ให้ความจุ 260 Tbps 3️⃣ Echo ที่เชื่อมกวมกับแคลิฟอร์เนีย ให้ความจุ 260 Tbps เช่นกัน และอาจขยายไปยังประเทศในเอเชียเพิ่มเติมตามความต้องการ Meta เน้นว่าเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 58% ของโลก จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อรองรับการประมวลผล AI และบริการคลาวด์ โดย Candle จะเป็นแกนหลักของการเชื่อมต่อยุคใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างทั่วถึง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Meta ลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำ “Candle” ความเร็ว 570 Tbps ➡️ เชื่อมโยง 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก: ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ➡️ ระยะทางรวม 8,000 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028 ➡️ ใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย (24-fiber pair) ➡️ รองรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 580 ล้านคนในภูมิภาค ➡️ เสริมความมั่นคงของโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน ➡️ สนับสนุนการพัฒนา AI และระบบดิจิทัลยุคใหม่ ➡️ Apricot เพิ่มความจุ 290 Tbps เชื่อม 5 ประเทศ ➡️ Bifrost และ Echo ให้ความจุ 260 Tbps ต่อเส้น ➡️ Meta มีแผนขยายเคเบิลไปยังเม็กซิโกและประเทศอื่นในเอเชีย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของอินเทอร์เน็ตโลก โดยส่งข้อมูลกว่า 95% ของทั้งหมด ➡️ ความเร็ว 570 Tbps เทียบเท่าการส่งวิดีโอ 4K พร้อมกันหลายสิบล้านสตรีม ➡️ การใช้ 24-fiber pair เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ➡️ เคเบิลใต้น้ำมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25 ปี และต้องการการดูแลตลอดเวลา ➡️ Meta ยังมีโครงการ “Waterworth” และ “2Africa” เพื่อเชื่อมโยง 5 ทวีปและภูมิภาคอื่น https://securityonline.info/meta-unveils-candle-submarine-cable-the-largest-570-tbps-data-network-for-asia-pacific-ai/
    SECURITYONLINE.INFO
    Meta Unveils "Candle" Submarine Cable: The Largest 570 Tbps Data Network for Asia-Pacific AI
    Meta announced a $570 Tbps "Candle" submarine cable to connect Taiwan, Japan, Philippines, Indonesia, Malaysia, and Singapore, strengthening Asia-Pacific AI data capacity by 2028.
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • “Florida เปิดตัวศูนย์กลาง AI มูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ — เปลี่ยนชายฝั่งทองให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งนวัตกรรม”

    West Palm Beach เมืองชายฝั่งที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของรีสอร์ตหรูและอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของเศรษฐกิจ AI ในสหรัฐฯ เมื่อ ServiceNow บริษัทด้านแพลตฟอร์ม AI สำหรับธุรกิจ ประกาศเปิดตัว “AI Hub” ขนาด 200,000 ตารางฟุต พร้อม AI Institute, Startup Accelerator และศูนย์ฝึกอบรมที่ครอบคลุมทุกมิติของการพัฒนาเทคโนโลยี

    โครงการนี้คาดว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี และสร้างงานใหม่กว่า 850 ตำแหน่งภายในปี 2030 โดยเน้นการพัฒนาทักษะให้กับประชาชนในท้องถิ่น ทั้งทหารผ่านศึก คนเปลี่ยนอาชีพ และนักศึกษา ผ่านโปรแกรมฝึกอบรมจาก ServiceNow University

    AI Hub แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับการทดลองใช้เครื่องมือ AI จริงในภาคธุรกิจและภาครัฐ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ลูกค้า พาร์ตเนอร์ และนักคิดร่วมกันออกแบบอนาคตของ AI สำหรับองค์กร นอกจากนี้ยังมี Startup Accelerator ที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจเกิดใหม่เข้าถึงทรัพยากรและการให้คำปรึกษา

    การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ Florida ในการท้าทายเมืองเทคโนโลยีดั้งเดิมอย่าง Silicon Valley และ Austin โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมที่ยั่งยืน และหากประสบความสำเร็จ อาจกลายเป็นต้นแบบให้รัฐอื่น ๆ ใช้ในการดึงดูดการลงทุนด้าน AI

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ServiceNow เปิดตัว AI Hub ขนาด 200,000 ตารางฟุตใน West Palm Beach
    โครงการคาดว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่า $1.8 พันล้านภายใน 5 ปี
    คาดว่าจะสร้างงานใหม่กว่า 850 ตำแหน่งภายในปี 2030
    มี AI Institute, Startup Accelerator และศูนย์ฝึกอบรม ServiceNow University
    เน้นการฝึกทักษะให้กับทหารผ่านศึก คนเปลี่ยนอาชีพ และนักศึกษา
    เปิดพื้นที่ให้ธุรกิจและภาครัฐทดลองใช้เครื่องมือ AI จริง
    Startup Accelerator สนับสนุนธุรกิจเกิดใหม่ด้วยทรัพยากรและคำปรึกษา
    ตั้งเป้าให้ Florida เป็นศูนย์กลาง AI แข่งกับ Silicon Valley และ Austin

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    West Palm Beach มีการเติบโตด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
    ServiceNow เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนด้าน AI สำหรับองค์กรอย่างจริงจัง
    การมี AI Hub ช่วยลดช่องว่างทักษะและเพิ่มโอกาสให้กับแรงงานท้องถิ่น
    Startup Accelerator เป็นกลไกสำคัญในการสร้างนวัตกรรมจากระดับรากหญ้า
    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ช่วยให้รัฐมีความสามารถแข่งขันระดับโลก

    https://www.slashgear.com/1982848/florida-servicenow-ai-hub-details/
    🏗️ “Florida เปิดตัวศูนย์กลาง AI มูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ — เปลี่ยนชายฝั่งทองให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งนวัตกรรม” West Palm Beach เมืองชายฝั่งที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของรีสอร์ตหรูและอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของเศรษฐกิจ AI ในสหรัฐฯ เมื่อ ServiceNow บริษัทด้านแพลตฟอร์ม AI สำหรับธุรกิจ ประกาศเปิดตัว “AI Hub” ขนาด 200,000 ตารางฟุต พร้อม AI Institute, Startup Accelerator และศูนย์ฝึกอบรมที่ครอบคลุมทุกมิติของการพัฒนาเทคโนโลยี โครงการนี้คาดว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี และสร้างงานใหม่กว่า 850 ตำแหน่งภายในปี 2030 โดยเน้นการพัฒนาทักษะให้กับประชาชนในท้องถิ่น ทั้งทหารผ่านศึก คนเปลี่ยนอาชีพ และนักศึกษา ผ่านโปรแกรมฝึกอบรมจาก ServiceNow University AI Hub แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับการทดลองใช้เครื่องมือ AI จริงในภาคธุรกิจและภาครัฐ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ลูกค้า พาร์ตเนอร์ และนักคิดร่วมกันออกแบบอนาคตของ AI สำหรับองค์กร นอกจากนี้ยังมี Startup Accelerator ที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจเกิดใหม่เข้าถึงทรัพยากรและการให้คำปรึกษา การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ Florida ในการท้าทายเมืองเทคโนโลยีดั้งเดิมอย่าง Silicon Valley และ Austin โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมที่ยั่งยืน และหากประสบความสำเร็จ อาจกลายเป็นต้นแบบให้รัฐอื่น ๆ ใช้ในการดึงดูดการลงทุนด้าน AI ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ServiceNow เปิดตัว AI Hub ขนาด 200,000 ตารางฟุตใน West Palm Beach ➡️ โครงการคาดว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่า $1.8 พันล้านภายใน 5 ปี ➡️ คาดว่าจะสร้างงานใหม่กว่า 850 ตำแหน่งภายในปี 2030 ➡️ มี AI Institute, Startup Accelerator และศูนย์ฝึกอบรม ServiceNow University ➡️ เน้นการฝึกทักษะให้กับทหารผ่านศึก คนเปลี่ยนอาชีพ และนักศึกษา ➡️ เปิดพื้นที่ให้ธุรกิจและภาครัฐทดลองใช้เครื่องมือ AI จริง ➡️ Startup Accelerator สนับสนุนธุรกิจเกิดใหม่ด้วยทรัพยากรและคำปรึกษา ➡️ ตั้งเป้าให้ Florida เป็นศูนย์กลาง AI แข่งกับ Silicon Valley และ Austin ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ West Palm Beach มีการเติบโตด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ➡️ ServiceNow เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนด้าน AI สำหรับองค์กรอย่างจริงจัง ➡️ การมี AI Hub ช่วยลดช่องว่างทักษะและเพิ่มโอกาสให้กับแรงงานท้องถิ่น ➡️ Startup Accelerator เป็นกลไกสำคัญในการสร้างนวัตกรรมจากระดับรากหญ้า ➡️ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ช่วยให้รัฐมีความสามารถแข่งขันระดับโลก https://www.slashgear.com/1982848/florida-servicenow-ai-hub-details/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Florida Is Getting A Massive New AI Hub – Here's What It Will Be Used For - SlashGear
    A development project for Florida aims to bring an ambitious, AI-driven enterprise to West Palm Beach, promising benefits for both businesses and communities.
    0 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • "ดร.เอ้" เปิดตัว 'พรรคไทยก้าวใหม่' ชูธง 'การศึกษาคืออนาคต' ประกาศวิสัยทัศน์ 'ธนู 4 ดอก'
    https://www.thai-tai.tv/news/21741/
    .
    #พรรคไทยก้าวใหม่ #สุชัชวีร์ #การศึกษาคือยาแก้จน #ธนู4ดอก #ปฏิรูปประเทศไทย #การเมืองยุคใหม่ #แก้คอร์รัปชัน #เศรษฐกิจนวัตกรรม
    "ดร.เอ้" เปิดตัว 'พรรคไทยก้าวใหม่' ชูธง 'การศึกษาคืออนาคต' ประกาศวิสัยทัศน์ 'ธนู 4 ดอก' https://www.thai-tai.tv/news/21741/ . #พรรคไทยก้าวใหม่ #สุชัชวีร์ #การศึกษาคือยาแก้จน #ธนู4ดอก #ปฏิรูปประเทศไทย #การเมืองยุคใหม่ #แก้คอร์รัปชัน #เศรษฐกิจนวัตกรรม
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • "ดร.เอ้" เปิดตัว 'พรรคไทยก้าวใหม่' ชูธง 'การศึกษาคืออนาคต' ประกาศวิสัยทัศน์ 'ธนู 4 ดอก'
    https://www.thai-tai.tv/news/21741/
    .
    #พรรคไทยก้าวใหม่ #สุชัชวีร์ #การศึกษาคือยาแก้จน #ธนู4ดอก #ปฏิรูปประเทศไทย #การเมืองยุคใหม่ #แก้คอร์รัปชัน #เศรษฐกิจนวัตกรรม

    "ดร.เอ้" เปิดตัว 'พรรคไทยก้าวใหม่' ชูธง 'การศึกษาคืออนาคต' ประกาศวิสัยทัศน์ 'ธนู 4 ดอก' https://www.thai-tai.tv/news/21741/ . #พรรคไทยก้าวใหม่ #สุชัชวีร์ #การศึกษาคือยาแก้จน #ธนู4ดอก #ปฏิรูปประเทศไทย #การเมืองยุคใหม่ #แก้คอร์รัปชัน #เศรษฐกิจนวัตกรรม
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
More Results