AMD เปิดตัว FSR 4 “Redstone”
AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026
นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้
นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด
สรุปสาระสำคัญ
ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone
Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล
Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น
Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026
การรองรับเกม
กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025
เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök
ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ
ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4)
รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback
ข้อจำกัดและคำเตือน
ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้
ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026
ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต
https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026
นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้
นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด
สรุปสาระสำคัญ
ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone
Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล
Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น
Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026
การรองรับเกม
กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025
เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök
ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ
ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4)
รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback
ข้อจำกัดและคำเตือน
ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้
ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026
ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต
https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
📰 AMD เปิดตัว FSR 4 “Redstone”
AMD ได้เปิดตัว FSR 4 Redstone อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของระบบ FidelityFX Super Resolution ที่ใช้ Machine Learning เป็นแกนหลักในการสร้างภาพและเพิ่มเฟรมเรต ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นไหลขึ้น, Ray Regeneration ที่ช่วยลด Noise ในการเรนเดอร์ Ray Tracing และ Radiance Caching ที่คาดว่าจะช่วยให้การจัดการแสงในเกมสมจริงขึ้น แต่จะเริ่มถูกนำไปใช้จริงในปี 2026
นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA DLSS 4 ซึ่งครองตลาดมานาน โดย AMD พยายามปิดช่องว่างด้านคุณภาพภาพและประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ AI Core ที่ฝังอยู่ในสถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้
นอกจากคุณภาพภาพที่ดีขึ้นแล้ว AMD ยังประกาศว่า กว่า 200 เกม จะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025 โดยมีเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong และ God of War Ragnarök อยู่ในรายชื่อ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มความน่าสนใจให้กับการ์ดจอ Radeon รุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้มีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ Radeon RX 9000 Series เท่านั้น และยังมีข่าวว่าราคา GPU รุ่นนี้จะปรับขึ้นในปี 2026 จากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทั้งประสิทธิภาพและงบประมาณก่อนตัดสินใจอัปเกรด
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน FSR Redstone
➡️ Frame Generation: ใช้ ML สร้างเฟรมเสริมให้ภาพลื่นไหล
➡️ Ray Regeneration: ลด Noise ใน Ray Tracing ให้ภาพคมชัดขึ้น
➡️ Radiance Caching: ระบบจัดการแสงสมจริง คาดว่าจะใช้จริงปี 2026
✅ การรองรับเกม
➡️ กว่า 200 เกมจะรองรับ FSR Redstone ภายในสิ้นปี 2025
➡️ เกมดังที่รองรับ เช่น Call of Duty: Black Ops 7, Black Myth: Wukong, God of War Ragnarök
✅ ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ
➡️ ใช้งานได้เฉพาะ Radeon RX 9000 Series (RDNA 4)
➡️ รุ่นเก่าใช้ได้เพียง FSR 3.1 แบบ fallback
‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน
⛔ ผู้ใช้การ์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ได้
⛔ ราคาการ์ดจอ RX 9000 Series มีแนวโน้มปรับขึ้นในปี 2026
⛔ ฟีเจอร์ Radiance Caching ยังไม่พร้อมใช้งาน ต้องรอการอัปเดตเกมในอนาคต
https://www.techpowerup.com/review/amd-fsr-4-redstone/
0 Comments
0 Shares
49 Views
0 Reviews