ยินดีต้อนรับสู่เพจของคนรักคอมพิวเตอร์! ที่นี่คือแหล่งรวมข่าวสารและข้อมูลล่าสุดในวงการเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การพัฒนาโปรแกรม และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่มีความสนใจในโลกของคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
อัปเดตล่าสุด
- ข่าวนี้เล่าถึงการปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในประเทศจีนโดยบริษัท Gigabyte ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางการค้า
Gigabyte ได้ประกาศปรับขึ้นราคาการ์ดจอหลายรุ่น เช่น NVIDIA GeForce RTX 5090D, RTX 4060 Ti และ AMD Radeon RX 9070 XT โดยการปรับขึ้นราคานี้มีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาก่อนหน้า การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษีใหม่ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับผู้บริโภคในอุตสาหกรรมไอที เนื่องจากภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ได้ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ทำให้อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น
✅ การปรับขึ้นราคาการ์ดจอในจีน
- Gigabyte ปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในจีน
- การปรับขึ้นราคามีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4%
✅ ผลกระทบจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน
- ความตึงเครียดทางการค้าอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับขึ้นราคา
- การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษี
✅ ข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมไอที
- ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน
- อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น
ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
- การปรับขึ้นราคาอาจเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภคในจีน
- ความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานอาจส่งผลต่อราคาสินค้าในอนาคต
ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า
- ความตึงเครียดทางการค้าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรม
https://wccftech.com/gigabyte-has-raised-prices-of-several-nvidia-amd-gpus-in-china/ข่าวนี้เล่าถึงการปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในประเทศจีนโดยบริษัท Gigabyte ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางการค้า Gigabyte ได้ประกาศปรับขึ้นราคาการ์ดจอหลายรุ่น เช่น NVIDIA GeForce RTX 5090D, RTX 4060 Ti และ AMD Radeon RX 9070 XT โดยการปรับขึ้นราคานี้มีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาก่อนหน้า การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษีใหม่ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับผู้บริโภคในอุตสาหกรรมไอที เนื่องจากภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ได้ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ทำให้อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น ✅ การปรับขึ้นราคาการ์ดจอในจีน - Gigabyte ปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในจีน - การปรับขึ้นราคามีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4% ✅ ผลกระทบจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน - ความตึงเครียดทางการค้าอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับขึ้นราคา - การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษี ✅ ข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมไอที - ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน - อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค - การปรับขึ้นราคาอาจเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภคในจีน - ความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานอาจส่งผลต่อราคาสินค้าในอนาคต ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า - ความตึงเครียดทางการค้าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ - การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรม https://wccftech.com/gigabyte-has-raised-prices-of-several-nvidia-amd-gpus-in-china/WCCFTECH.COMGigabyte Has Reportedly Raised Prices of Several NVIDIA & AMD GPUs in China, But The Increases Are Relatively SmallGigabyte has raised the prices of its NVIDIA/AMD GPUs in China, signaling that the supply chain is starting to feel the trade uncertainty.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิวกรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น! - ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า
Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD
- พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera
- ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า
✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
- รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
- ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40%
✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว
- เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development
- ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO
ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี
- การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ
- อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง
ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
- การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว
- การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น
https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centersข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centersWWW.TECHRADAR.COMIt's broadband, Jim, but not as we know it: Japanese tech giants are developing a broadband optical SSD for data centersKioxia, AIO Core, and Kyocera are all working on separate parts of the project0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว - ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Broadcast Positioning System (BPS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS เพื่อเป็นระบบสำรองในกรณีที่ GPS ถูกโจมตีหรือขัดข้อง
Broadcast Positioning System (BPS) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลในการให้ข้อมูลตำแหน่งและเวลา โดยมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ซึ่งแม้จะน้อยกว่า GPS ที่มีความแม่นยำ 10 นาโนวินาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน BPS ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง และมีความแม่นยำในรัศมีประมาณ 100 เมตร
เทคโนโลยีนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในปี 2029 นอกจากนี้ BPS ยังสามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี
✅ การพัฒนา Broadcast Positioning System (BPS)
- ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS
- มีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที
✅ การใช้งานและความพร้อม
- ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง
- คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และเพิ่มฟีเจอร์ในปี 2029
✅ การยืนยันข้อมูล GPS
- BPS สามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS
- ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี
ℹ️ ข้อจำกัดของ BPS
- ความแม่นยำต่ำกว่า GPS และต้องการสถานีส่งสัญญาณหลายแห่ง
- การใช้งานอาจจำกัดในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ATSC 3.0
ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
- หากระบบ BPS ถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่พึ่งพาเทคโนโลยีนี้
- การพัฒนาระบบสำรองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งสำคัญ
https://www.tomshardware.com/service-providers/tv-signal-based-bps-tested-as-fallback-for-gps-digital-tv-infrastructure-could-come-to-the-rescue-if-satellites-are-compromisedข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Broadcast Positioning System (BPS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS เพื่อเป็นระบบสำรองในกรณีที่ GPS ถูกโจมตีหรือขัดข้อง Broadcast Positioning System (BPS) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลในการให้ข้อมูลตำแหน่งและเวลา โดยมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ซึ่งแม้จะน้อยกว่า GPS ที่มีความแม่นยำ 10 นาโนวินาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน BPS ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง และมีความแม่นยำในรัศมีประมาณ 100 เมตร เทคโนโลยีนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในปี 2029 นอกจากนี้ BPS ยังสามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี ✅ การพัฒนา Broadcast Positioning System (BPS) - ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS - มีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ✅ การใช้งานและความพร้อม - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง - คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และเพิ่มฟีเจอร์ในปี 2029 ✅ การยืนยันข้อมูล GPS - BPS สามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS - ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี ℹ️ ข้อจำกัดของ BPS - ความแม่นยำต่ำกว่า GPS และต้องการสถานีส่งสัญญาณหลายแห่ง - การใช้งานอาจจำกัดในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ATSC 3.0 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - หากระบบ BPS ถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่พึ่งพาเทคโนโลยีนี้ - การพัฒนาระบบสำรองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งสำคัญ https://www.tomshardware.com/service-providers/tv-signal-based-bps-tested-as-fallback-for-gps-digital-tv-infrastructure-could-come-to-the-rescue-if-satellites-are-compromisedWWW.TOMSHARDWARE.COMTV-signal based BPS tested as fallback for GPS — digital TV infrastructure could come to the rescue if satellites are compromisedBroadcast Positioning System (BPS) replaces satellites with ATSC 3.0 digital TV signal data.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว - บริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีน เช่น Cambricon Technologies, Loongson, และ Maxscend Microelectronics ได้แจ้งนักลงทุนว่าภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขา เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากตลาดภายในประเทศจีน และการคว่ำบาตรที่มีอยู่แล้วทำให้ไม่สามารถขายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ ได้
นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้ยังมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทาย เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นตลาดภายในประเทศ และการสร้างความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล เพื่อลดผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้า
✅ การตอบสนองต่อภาษีของสหรัฐฯ
- บริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีนระบุว่าภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ
- การคว่ำบาตรที่มีอยู่แล้วทำให้ไม่สามารถขายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ ได้
✅ การปรับตัวของบริษัทจีน
- บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นตลาดภายในประเทศ
- สร้างความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล
ℹ️ ความเสี่ยงต่อการพัฒนาเทคโนโลยี
- การคว่ำบาตรและภาษีอาจลดโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
- การพึ่งพาตลาดภายในประเทศอาจจำกัดการเติบโตในระยะยาว
ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- ความขัดแย้งทางการค้าอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
- การตอบโต้ทางการค้าอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก
https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-chip-giants-say-they-dont-care-about-u-s-tariffs-many-dont-sell-to-the-u-s-anyway-due-to-existing-sanctionsบริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีน เช่น Cambricon Technologies, Loongson, และ Maxscend Microelectronics ได้แจ้งนักลงทุนว่าภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเขา เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากตลาดภายในประเทศจีน และการคว่ำบาตรที่มีอยู่แล้วทำให้ไม่สามารถขายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้ยังมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทาย เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นตลาดภายในประเทศ และการสร้างความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล เพื่อลดผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้า ✅ การตอบสนองต่อภาษีของสหรัฐฯ - บริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีนระบุว่าภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ - การคว่ำบาตรที่มีอยู่แล้วทำให้ไม่สามารถขายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ ได้ ✅ การปรับตัวของบริษัทจีน - บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นตลาดภายในประเทศ - สร้างความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล ℹ️ ความเสี่ยงต่อการพัฒนาเทคโนโลยี - การคว่ำบาตรและภาษีอาจลดโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง - การพึ่งพาตลาดภายในประเทศอาจจำกัดการเติบโตในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - ความขัดแย้งทางการค้าอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - การตอบโต้ทางการค้าอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-chip-giants-say-they-dont-care-about-u-s-tariffs-many-dont-sell-to-the-u-s-anyway-due-to-existing-sanctions0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว - AmigaOS 3.2.3 ได้รับการพัฒนาโดย Hyperion Entertainment ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระบบปฏิบัติการนี้ให้ทันสมัย แม้ว่าจะเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 การอัปเดตครั้งนี้รวมถึงการปรับปรุงเครื่องมือ GUI อย่าง ReAction การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน TextEditor และการปลดล็อกพื้นที่ RAM 12KB ที่เคยถูกสงวนไว้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว ROM รุ่นใหม่ Kickstart 3.2.3 เพื่อรองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
น่าสนใจที่ AmigaOS 3.2.3 ยังรองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500 รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ใช้ Arm accelerators อย่าง PiStorm ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับระบบปฏิบัติการนี้ได้ทั้งในรูปแบบคลาสสิกและทันสมัย
✅ การอัปเดต AmigaOS 3.2.3
- มีการปรับปรุงและแก้ไขมากกว่า 50 รายการ
- รวมถึงการปรับปรุง GUI และ TextEditor
✅ การเปิดตัว Kickstart 3.2.3 ROM
- รองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นสำหรับฮาร์ดแวร์ Amiga
✅ การรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าและใหม่
- รองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500
- รองรับ Arm accelerators อย่าง PiStorm
ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา
- การพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีอายุยาวนานอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
- การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม
ℹ️ ผลกระทบต่อชุมชนผู้ใช้งาน
- การอัปเดตนี้อาจช่วยฟื้นฟูความสนใจใน AmigaOS
- ชุมชนผู้ใช้งานอาจต้องปรับตัวกับฟีเจอร์ใหม่
https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/33-year-old-amigaos-for-commodore-computers-gets-an-unexpected-updateAmigaOS 3.2.3 ได้รับการพัฒนาโดย Hyperion Entertainment ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระบบปฏิบัติการนี้ให้ทันสมัย แม้ว่าจะเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 การอัปเดตครั้งนี้รวมถึงการปรับปรุงเครื่องมือ GUI อย่าง ReAction การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน TextEditor และการปลดล็อกพื้นที่ RAM 12KB ที่เคยถูกสงวนไว้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว ROM รุ่นใหม่ Kickstart 3.2.3 เพื่อรองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น น่าสนใจที่ AmigaOS 3.2.3 ยังรองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500 รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ใช้ Arm accelerators อย่าง PiStorm ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับระบบปฏิบัติการนี้ได้ทั้งในรูปแบบคลาสสิกและทันสมัย ✅ การอัปเดต AmigaOS 3.2.3 - มีการปรับปรุงและแก้ไขมากกว่า 50 รายการ - รวมถึงการปรับปรุง GUI และ TextEditor ✅ การเปิดตัว Kickstart 3.2.3 ROM - รองรับการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นสำหรับฮาร์ดแวร์ Amiga ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าและใหม่ - รองรับฮาร์ดแวร์ Amiga รุ่นเก่า เช่น MC68000 และ A500 - รองรับ Arm accelerators อย่าง PiStorm ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา - การพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีอายุยาวนานอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี - การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม ℹ️ ผลกระทบต่อชุมชนผู้ใช้งาน - การอัปเดตนี้อาจช่วยฟื้นฟูความสนใจใน AmigaOS - ชุมชนผู้ใช้งานอาจต้องปรับตัวกับฟีเจอร์ใหม่ https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/33-year-old-amigaos-for-commodore-computers-gets-an-unexpected-updateWWW.TOMSHARDWARE.COM33-year-old AmigaOS for Commodore computers gets an unexpected updateClassic Motorola 680x0-friendly AmigaOS 3.2.3 released with over 50 fixes and enhancements.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว - แฮกเกอร์ได้ใช้สคริปต์ที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ในโหมด Supremacy และ Galactic Assault ได้ ส่งผลให้เกมกลายเป็นโหมดที่ว่างเปล่าโดยไม่มีผู้เล่นเลย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้เล่นบางคนได้รับข้อความแชทที่ไม่เหมาะสมและถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (doxxing) โดยแฮกเกอร์
Kyber ซึ่งเป็นกลุ่มนักพัฒนา modding ได้รายงานว่า EA ได้แก้ไขช่องโหว่บางส่วนในเซิร์ฟเวอร์ แต่ยังไม่มีการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากบริษัท
✅ ปัญหาในเกม Star Wars Battlefront II
- แฮกเกอร์ใช้สคริปต์ที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ในโหมด Supremacy และ Galactic Assault
- ผู้เล่นบางคนได้รับข้อความแชทที่ไม่เหมาะสมและถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
✅ การตอบสนองจาก EA
- EA ได้แก้ไขช่องโหว่บางส่วนในเซิร์ฟเวอร์
- ยังไม่มีการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากบริษัท
✅ บทบาทของ Kyber
- Kyber รายงานปัญหาและกำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม modding ใหม่ที่ชื่อ Kyber V2
- Kyber V2 จะเพิ่มฟีเจอร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์แบบอิสระและการสนับสนุน Nexus Mods
ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้เล่น
- การโจมตีอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นตกอยู่ในความเสี่ยง
- การแสดงข้อความแชทที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นเกม
ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน EA
- การแก้ไขปัญหาที่ล่าช้าอาจลดความเชื่อมั่นของผู้เล่นในบริษัท
- การจัดการปัญหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น
https://www.techspot.com/news/107519-pc-gamers-report-hackers-have-taken-over-star.htmlแฮกเกอร์ได้ใช้สคริปต์ที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ในโหมด Supremacy และ Galactic Assault ได้ ส่งผลให้เกมกลายเป็นโหมดที่ว่างเปล่าโดยไม่มีผู้เล่นเลย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้เล่นบางคนได้รับข้อความแชทที่ไม่เหมาะสมและถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (doxxing) โดยแฮกเกอร์ Kyber ซึ่งเป็นกลุ่มนักพัฒนา modding ได้รายงานว่า EA ได้แก้ไขช่องโหว่บางส่วนในเซิร์ฟเวอร์ แต่ยังไม่มีการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากบริษัท ✅ ปัญหาในเกม Star Wars Battlefront II - แฮกเกอร์ใช้สคริปต์ที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ในโหมด Supremacy และ Galactic Assault - ผู้เล่นบางคนได้รับข้อความแชทที่ไม่เหมาะสมและถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ✅ การตอบสนองจาก EA - EA ได้แก้ไขช่องโหว่บางส่วนในเซิร์ฟเวอร์ - ยังไม่มีการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากบริษัท ✅ บทบาทของ Kyber - Kyber รายงานปัญหาและกำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม modding ใหม่ที่ชื่อ Kyber V2 - Kyber V2 จะเพิ่มฟีเจอร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์แบบอิสระและการสนับสนุน Nexus Mods ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้เล่น - การโจมตีอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นตกอยู่ในความเสี่ยง - การแสดงข้อความแชทที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นเกม ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน EA - การแก้ไขปัญหาที่ล่าช้าอาจลดความเชื่อมั่นของผู้เล่นในบริษัท - การจัดการปัญหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techspot.com/news/107519-pc-gamers-report-hackers-have-taken-over-star.htmlWWW.TECHSPOT.COMPC gamers report hackers have taken over Star Wars Battlefront IIThe subreddit and official support forums for Star Wars Battlefront II are currently filled with complaints about a hack that has broken some parts of the game...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว - ผลสำรวจออนไลน์โดย Talker Research พบว่าคนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ลดลงเหลือ 38% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่าการแจ้งเตือนของ iPhone ที่มักเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่า 20% นอกจากนี้ยังพบว่าคนรุ่น Millennials และ Generation Z มีความกังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers โดยเริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 43%
การสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ (61%) เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่บนหน้าจอ ขณะที่อีก 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ
ในด้านเทคโนโลยี ผู้ผลิตยังคงพยายามแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เช่น Apple ที่มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หรือ Google ที่ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ
✅ ผลสำรวจเกี่ยวกับความกังวลเรื่องแบตเตอรี่
- คนส่วนใหญ่เริ่มกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 38%
- Millennials และ Generation Z กังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers
✅ การแสดงผลแบตเตอรี่บนหน้าจอ
- 61% เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่
- 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ
✅ การแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
- Apple มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
- Google ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ
ℹ️ ความเสี่ยงจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
- แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจลดประสิทธิภาพการใช้งานโทรศัพท์
- การชาร์จแบตเตอรี่บ่อยครั้งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน
ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
- ความกังวลเรื่องแบตเตอรี่อาจเพิ่มความเครียดในชีวิตประจำวัน
- การเลือกใช้แบตเตอรี่สำรองหรือโทรศัพท์ที่มีความจุสูงอาจช่วยลดความกังวล
https://www.techspot.com/news/107518-americans-panic-when-their-phone-battery-hits-38.htmlผลสำรวจออนไลน์โดย Talker Research พบว่าคนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ลดลงเหลือ 38% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่าการแจ้งเตือนของ iPhone ที่มักเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่า 20% นอกจากนี้ยังพบว่าคนรุ่น Millennials และ Generation Z มีความกังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers โดยเริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 43% การสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ (61%) เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่บนหน้าจอ ขณะที่อีก 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ในด้านเทคโนโลยี ผู้ผลิตยังคงพยายามแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เช่น Apple ที่มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หรือ Google ที่ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ ✅ ผลสำรวจเกี่ยวกับความกังวลเรื่องแบตเตอรี่ - คนส่วนใหญ่เริ่มกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 38% - Millennials และ Generation Z กังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers ✅ การแสดงผลแบตเตอรี่บนหน้าจอ - 61% เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ - 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ✅ การแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ - Apple มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ - Google ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ ℹ️ ความเสี่ยงจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ - แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจลดประสิทธิภาพการใช้งานโทรศัพท์ - การชาร์จแบตเตอรี่บ่อยครั้งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ความกังวลเรื่องแบตเตอรี่อาจเพิ่มความเครียดในชีวิตประจำวัน - การเลือกใช้แบตเตอรี่สำรองหรือโทรศัพท์ที่มีความจุสูงอาจช่วยลดความกังวล https://www.techspot.com/news/107518-americans-panic-when-their-phone-battery-hits-38.htmlWWW.TECHSPOT.COMSurvey reveals most people panic when their phone battery drops to 38%An online survey by Talker Research found that Americans begin worrying about phone battery life when it hits 38 percent on average. Some might view that threshold...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว - Trump ได้กล่าวถึง Musk ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรี โดยชื่นชมว่า Musk ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ CEO ของ Tesla และ SpaceX อย่างไรก็ตาม Trump ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล แม้ว่า Musk จะมีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency ที่มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล
Trump ยังกล่าวถึงการซื้อรถ Tesla ของเขาเอง โดยยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษใดๆ การแสดงออกนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ท่ามกลางการประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla
✅ ความคิดเห็นของ Trump เกี่ยวกับ Musk
- Trump ชื่นชม Musk ว่าเป็นบุคคลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
- ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล
✅ บทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาล
- Musk มีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency
- โครงการนี้มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล
✅ การซื้อรถ Tesla ของ Trump
- Trump ยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษ
- การซื้อรถ Tesla ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk
ℹ️ ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของ Musk
- การประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Musk
- การสนับสนุนจาก Trump อาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคม
ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาล
- การมีบทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์
- ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามในแง่ความโปร่งใส
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/donald-trump-says-elon-musk-hasnt-been-treated-properly-but-he-doesnt-need-tesla-ceo-for-anythingTrump ได้กล่าวถึง Musk ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรี โดยชื่นชมว่า Musk ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ CEO ของ Tesla และ SpaceX อย่างไรก็ตาม Trump ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล แม้ว่า Musk จะมีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency ที่มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล Trump ยังกล่าวถึงการซื้อรถ Tesla ของเขาเอง โดยยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษใดๆ การแสดงออกนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ท่ามกลางการประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla ✅ ความคิดเห็นของ Trump เกี่ยวกับ Musk - Trump ชื่นชม Musk ว่าเป็นบุคคลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม - ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล ✅ บทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาล - Musk มีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency - โครงการนี้มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล ✅ การซื้อรถ Tesla ของ Trump - Trump ยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษ - การซื้อรถ Tesla ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ℹ️ ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของ Musk - การประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Musk - การสนับสนุนจาก Trump อาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคม ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาล - การมีบทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ - ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามในแง่ความโปร่งใส https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/donald-trump-says-elon-musk-hasnt-been-treated-properly-but-he-doesnt-need-tesla-ceo-for-anythingWWW.THESTAR.COM.MYDonald Trump says Elon Musk ‘hasn’t been treated properly’ but he doesn’t need Tesla CEO ‘for anything’Trump has been accused of using his presidency to benefit Musk, including turning the White House into a Tesla showroom during a press event last month.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว - รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump ได้ออกคำแนะนำใหม่ที่ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% การยกเว้นภาษีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 และช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภคและบริษัทที่พึ่งพาการผลิตจากจีน
อย่างไรก็ตาม จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% โดยไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใดเลย นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
✅ การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี
- สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์
- การยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025
✅ การตอบโต้จากจีน
- จีนเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125%
- ไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใด
✅ ผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆ
- เวียดนามและอินเดียได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น
- เวียดนามเผชิญภาษี 46% และอินเดีย 27%
ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
- ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ℹ️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัท
- ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายราคาสินค้าที่สูงขึ้นหากไม่มีการยกเว้นภาษี
- บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
https://www.neowin.net/news/tech-gets-a-pass-smartphones-computers-and-chips-exempted-from-trump-tariffs/รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump ได้ออกคำแนะนำใหม่ที่ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% การยกเว้นภาษีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 และช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภคและบริษัทที่พึ่งพาการผลิตจากจีน อย่างไรก็ตาม จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% โดยไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใดเลย นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ✅ การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี - สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ - การยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 ✅ การตอบโต้จากจีน - จีนเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% - ไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใด ✅ ผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆ - เวียดนามและอินเดียได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น - เวียดนามเผชิญภาษี 46% และอินเดีย 27% ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ℹ️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัท - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายราคาสินค้าที่สูงขึ้นหากไม่มีการยกเว้นภาษี - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน https://www.neowin.net/news/tech-gets-a-pass-smartphones-computers-and-chips-exempted-from-trump-tariffs/WWW.NEOWIN.NETTech gets a pass; Smartphones, computers, and chips exempted from Trump tariffsDonald Trump has exempted some widely used electronic devices from paying hefty tariffs, temporarily relieving American consumers.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว - Meta ได้เปิดตัว Llama 4 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI ที่ประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth โดยในช่วงแรก Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ แต่ต่อมาผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันที่ใช้ในการทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า Meta ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส
Meta ได้ออกมาชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อการสนทนา และยืนยันว่าเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริงยังคงมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ Meta ยังได้เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส
✅ การเปิดตัว Llama 4
- Meta เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth
- Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ
✅ ข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส
- ผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง
- Meta ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใสในการทดสอบ
✅ การตอบสนองของ Meta
- Meta ชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเพื่อการสนทนา
- เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส
ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ
- ข้อกล่าวหาอาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Meta
- การใช้เวอร์ชันทดสอบที่แตกต่างอาจถูกมองว่าเป็นการหลอกลวง
ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI
-กรณีนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ต้องเพิ่มความโปร่งใสในการทดสอบ AI
- การแข่งขันในวงการ AI อาจเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์
https://www.neowin.net/news/unmodified-llama-4-maverick-ranks-below-rivals-following-meta-cheating-allegations/Meta ได้เปิดตัว Llama 4 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI ที่ประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth โดยในช่วงแรก Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ แต่ต่อมาผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันที่ใช้ในการทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า Meta ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส Meta ได้ออกมาชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อการสนทนา และยืนยันว่าเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริงยังคงมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ Meta ยังได้เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส ✅ การเปิดตัว Llama 4 - Meta เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth - Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ ✅ ข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส - ผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง - Meta ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใสในการทดสอบ ✅ การตอบสนองของ Meta - Meta ชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเพื่อการสนทนา - เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ - ข้อกล่าวหาอาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Meta - การใช้เวอร์ชันทดสอบที่แตกต่างอาจถูกมองว่าเป็นการหลอกลวง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI -กรณีนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ต้องเพิ่มความโปร่งใสในการทดสอบ AI - การแข่งขันในวงการ AI อาจเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ https://www.neowin.net/news/unmodified-llama-4-maverick-ranks-below-rivals-following-meta-cheating-allegations/WWW.NEOWIN.NETUnmodified Llama 4 Maverick ranks below rivals following Meta cheating allegationsMeta's Llama 4 release was no doubt controversial for its ranking on the LMArena dashboard. Now, an unmodified version of Llama 4 Maverick has seen its ranking fall below months-old rivals.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว - SSI (Safe Superintelligence Inc.) ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Nvidia และ Google โดย Google Cloud ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ SSI ในการใช้ชิป TPUs เพื่อเร่งการวิจัยและพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง การเปลี่ยนแปลงนี้น่าสนใจเพราะปกติแล้ว AI มักใช้ชิป GPU ของ Nvidia แต่การใช้ TPUs ของ Google อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการ
นอกจากนี้ SSI ยังได้รับการประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความสามารถของ Sutskever ในการพัฒนา AI ที่ล้ำสมัย
✅ การสนับสนุนจาก Nvidia และ Google
- SSI ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Nvidia และ Google
- Google Cloud ร่วมมือกับ SSI ในการใช้ชิป TPUs เพื่อเร่งการวิจัย
✅ มูลค่าของ SSI
- SSI ได้รับการประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์
- ความเชื่อมั่นในความสามารถของ Sutskever เป็นปัจจัยสำคัญ
✅ การเปลี่ยนแปลงในวงการ AI
- การใช้ TPUs ของ Google อาจเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการใช้ชิปในวงการ AI
- Nvidia ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดชิป AI
ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
- การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Nvidia ต้องปรับตัว
- การแข่งขันในตลาดชิป AI อาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรม
ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI
- การสนับสนุน SSI อาจเร่งการพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- การเปลี่ยนแปลงในวงการชิปอาจส่งผลต่อการพัฒนา AI ในอนาคต
https://www.neowin.net/news/nvidia-and-google-back-sutskevers-quest-for-artificial-superintelligence/SSI (Safe Superintelligence Inc.) ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Nvidia และ Google โดย Google Cloud ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ SSI ในการใช้ชิป TPUs เพื่อเร่งการวิจัยและพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง การเปลี่ยนแปลงนี้น่าสนใจเพราะปกติแล้ว AI มักใช้ชิป GPU ของ Nvidia แต่การใช้ TPUs ของ Google อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการ นอกจากนี้ SSI ยังได้รับการประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความสามารถของ Sutskever ในการพัฒนา AI ที่ล้ำสมัย ✅ การสนับสนุนจาก Nvidia และ Google - SSI ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Nvidia และ Google - Google Cloud ร่วมมือกับ SSI ในการใช้ชิป TPUs เพื่อเร่งการวิจัย ✅ มูลค่าของ SSI - SSI ได้รับการประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ - ความเชื่อมั่นในความสามารถของ Sutskever เป็นปัจจัยสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงในวงการ AI - การใช้ TPUs ของ Google อาจเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการใช้ชิปในวงการ AI - Nvidia ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดชิป AI ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Nvidia ต้องปรับตัว - การแข่งขันในตลาดชิป AI อาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรม ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI - การสนับสนุน SSI อาจเร่งการพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ - การเปลี่ยนแปลงในวงการชิปอาจส่งผลต่อการพัฒนา AI ในอนาคต https://www.neowin.net/news/nvidia-and-google-back-sutskevers-quest-for-artificial-superintelligence/WWW.NEOWIN.NETNvidia and Google back Sutskever's quest for artificial superintelligenceAn anonymous source has revealed that Nvidia and Google have thrown their financial weight behind Ilya Sutskever's company, Safe Superintelligence.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว - เยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Jörg Kukies ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ทางภาษีที่อาจเกิดขึ้นจาก EU หากการเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว โดยเฉพาะการพิจารณาภาษีใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศใน EU เช่น ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก มีความกังวล เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าทุกมาตรการยังคงอยู่บนโต๊ะ รวมถึงการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Google
✅ การเรียกร้องของเยอรมนี
- เยอรมนีเรียกร้องให้ EU ใช้ความระมัดระวังในการตอบโต้ทางภาษี
- รัฐมนตรี Jörg Kukies เน้นถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรรม
✅ การพิจารณาภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล
- ฝรั่งเศสเสนอการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์
- ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี
✅ การลดภาษีชั่วคราว
- สหรัฐฯ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 10% ในช่วง 90 วัน
- การลดภาษีนี้อาจถูกยกเลิกหาก EU ตอบโต้ทางภาษี
ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐฯ
- ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ℹ️ ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี
- การเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัลอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทเทคโนโลยี
- บริษัทในไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กอาจได้รับผลกระทบโดยตรง
https://wccftech.com/germany-pushes-for-caution-on-tariffs-retaliation/เยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Jörg Kukies ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ทางภาษีที่อาจเกิดขึ้นจาก EU หากการเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว โดยเฉพาะการพิจารณาภาษีใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศใน EU เช่น ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก มีความกังวล เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าทุกมาตรการยังคงอยู่บนโต๊ะ รวมถึงการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Google ✅ การเรียกร้องของเยอรมนี - เยอรมนีเรียกร้องให้ EU ใช้ความระมัดระวังในการตอบโต้ทางภาษี - รัฐมนตรี Jörg Kukies เน้นถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรรม ✅ การพิจารณาภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล - ฝรั่งเศสเสนอการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ - ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี ✅ การลดภาษีชั่วคราว - สหรัฐฯ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 10% ในช่วง 90 วัน - การลดภาษีนี้อาจถูกยกเลิกหาก EU ตอบโต้ทางภาษี ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐฯ - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ℹ️ ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี - การเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัลอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทเทคโนโลยี - บริษัทในไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กอาจได้รับผลกระทบโดยตรง https://wccftech.com/germany-pushes-for-caution-on-tariffs-retaliation/WCCFTECH.COMGermany Pushes for Caution on EU Tariff RetaliationIn response to proposed retaliation on the tariffs on the EU, Germany has pushed for caution on what actions may be taken.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว - ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel เผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เสถียรของ CPU ที่ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคในจีนหันไปเลือกใช้ CPU ของ AMD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs
AMD สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดที่เคยถูกครอบครองโดย Intel
✅ การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดของ Intel
- Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนให้กับ AMD อย่างรวดเร็ว
- ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh
✅ การเพิ่มขึ้นของ AMD ในตลาดจีน
- AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025
- ผู้บริโภคในจีนเลือกใช้ Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs
✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Intel
- การลดลงของยอดขาย CPU ส่งผลต่อยอดขายเมนบอร์ดของ Intel
- Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์
ℹ️ ความเสี่ยงต่อ Intel
- ปัญหาด้านความไม่เสถียรของ CPU อาจลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
- การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับโลก
ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU
- การเพิ่มขึ้นของ AMD อาจสร้างแรงกดดันให้ Intel ต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์
- การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว
https://wccftech.com/intel-has-reportedly-started-to-lose-its-ground-in-the-china-cpu-markets/ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel เผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เสถียรของ CPU ที่ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคในจีนหันไปเลือกใช้ CPU ของ AMD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs AMD สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดที่เคยถูกครอบครองโดย Intel ✅ การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดของ Intel - Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนให้กับ AMD อย่างรวดเร็ว - ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ✅ การเพิ่มขึ้นของ AMD ในตลาดจีน - AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 - ผู้บริโภคในจีนเลือกใช้ Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Intel - การลดลงของยอดขาย CPU ส่งผลต่อยอดขายเมนบอร์ดของ Intel - Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์ ℹ️ ความเสี่ยงต่อ Intel - ปัญหาด้านความไม่เสถียรของ CPU อาจลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับโลก ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU - การเพิ่มขึ้นของ AMD อาจสร้างแรงกดดันให้ Intel ต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว https://wccftech.com/intel-has-reportedly-started-to-lose-its-ground-in-the-china-cpu-markets/WCCFTECH.COMIntel Has Reportedly Started To Lose Its Ground In China's CPU Markets; AMD Sees a Massive Rise In Domestic Market ShareWell, with Intel's sluggish recent-gen CPU performance, it seems like the China markets have started to respond, now prioritizing AMD.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว - ในเดือนธันวาคม 2024 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ยอมรับอย่างไม่เป็นทางการว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์เหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้จีนเคยปฏิเสธข้อกล่าวหา การยอมรับนี้ถูกตีความโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน
Volt Typhoon เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายของสหรัฐฯ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สำคัญ การโจมตีเหล่านี้สะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย
✅ การยอมรับของจีนเกี่ยวกับ Volt Typhoon
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์
- การยอมรับนี้ถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับไต้หวัน
✅ เป้าหมายของการโจมตี
- Volt Typhoon มุ่งเป้าหมายไปยังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เช่น พลังงาน การสื่อสาร และการขนส่ง
✅ ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
- การโจมตีสะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ
- อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย
ℹ️ ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐาน
- การโจมตีไซเบอร์อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกทำลาย
- การเข้าถึงเครือข่ายเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสียหายในระยะยาว
ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต
- การตอบโต้ทางไซเบอร์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในระดับโลก
https://www.techradar.com/pro/china-admits-behind-closed-doors-it-was-involved-in-volt-typhoon-attacksในเดือนธันวาคม 2024 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ยอมรับอย่างไม่เป็นทางการว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์เหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้จีนเคยปฏิเสธข้อกล่าวหา การยอมรับนี้ถูกตีความโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน Volt Typhoon เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายของสหรัฐฯ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สำคัญ การโจมตีเหล่านี้สะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย ✅ การยอมรับของจีนเกี่ยวกับ Volt Typhoon - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์ - การยอมรับนี้ถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับไต้หวัน ✅ เป้าหมายของการโจมตี - Volt Typhoon มุ่งเป้าหมายไปยังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เช่น พลังงาน การสื่อสาร และการขนส่ง ✅ ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - การโจมตีสะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ - อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย ℹ️ ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐาน - การโจมตีไซเบอร์อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกทำลาย - การเข้าถึงเครือข่ายเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสียหายในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต - การตอบโต้ทางไซเบอร์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในระดับโลก https://www.techradar.com/pro/china-admits-behind-closed-doors-it-was-involved-in-volt-typhoon-attacksWWW.TECHRADAR.COMChina admits behind closed doors it was involved in Volt Typhoon attacksChinese officials have privately claimed responsibility for the intrusions0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว - Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ได้ให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Meta และ Zuckerberg พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน รวมถึงการเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน
Meta ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยโฆษกของ Meta ระบุว่าข้อกล่าวหานั้น "ไม่เป็นความจริงและห่างไกลจากความเป็นจริง" และยืนยันว่า Meta ไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน
นอกจากนี้ Wynn-Williams ยังกล่าวว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีนผ่านการเปิดเผยโมเดล Llama AI และยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์
✅ ข้อกล่าวหาต่อ Mark Zuckerberg และ Meta
- Sarah Wynn-Williams กล่าวหาว่า Zuckerberg เสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน
- Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน
✅ การพัฒนา AI และเครื่องมือเซ็นเซอร์
- Wynn-Williams อ้างว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีน
- Meta ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์
ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล
- การเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล
- การเปิดเผยโมเดล AI อาจเพิ่มความสามารถของจีนในด้านเทคโนโลยี
ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน Meta
- ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนใน Meta
- การจัดการข้อกล่าวหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น
https://www.techradar.com/pro/security/zuckerberg-offered-us-data-to-china-in-bid-to-enter-market-ex-meta-exec-tells-senateSarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ได้ให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Meta และ Zuckerberg พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน รวมถึงการเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน Meta ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยโฆษกของ Meta ระบุว่าข้อกล่าวหานั้น "ไม่เป็นความจริงและห่างไกลจากความเป็นจริง" และยืนยันว่า Meta ไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน นอกจากนี้ Wynn-Williams ยังกล่าวว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีนผ่านการเปิดเผยโมเดล Llama AI และยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Mark Zuckerberg และ Meta - Sarah Wynn-Williams กล่าวหาว่า Zuckerberg เสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน - Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน ✅ การพัฒนา AI และเครื่องมือเซ็นเซอร์ - Wynn-Williams อ้างว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีน - Meta ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล - การเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล - การเปิดเผยโมเดล AI อาจเพิ่มความสามารถของจีนในด้านเทคโนโลยี ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน Meta - ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนใน Meta - การจัดการข้อกล่าวหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/zuckerberg-offered-us-data-to-china-in-bid-to-enter-market-ex-meta-exec-tells-senateWWW.TECHRADAR.COMMark Zuckerberg allegedly offered US data to China in bid to enter market, ex-Meta exec tells SenateFacebook was desperate to enter the Chinese market, whistleblower claims0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว - WhatsApp ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น การซูมในวิดีโอคอล การเพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท และการตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป รวมถึงการบันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) และการจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้คือปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ และฟีเจอร์ที่แสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว
✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน WhatsApp
- การซูมในวิดีโอคอล
- เพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท
- ตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone
- สแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป
- บันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels)
- จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม
✅ ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจ
- ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้
- การแสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์
ℹ️ ความเสี่ยงและข้อกังวล
- ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้
- การแสดงสถานะออนไลน์อาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว
ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
- ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ
- การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม
https://www.techradar.com/computing/software/whatsapp-has-just-dropped-these-9-new-features-including-2-that-im-not-happy-aboutWhatsApp ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น การซูมในวิดีโอคอล การเพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท และการตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป รวมถึงการบันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) และการจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้คือปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ และฟีเจอร์ที่แสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน WhatsApp - การซูมในวิดีโอคอล - เพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท - ตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone - สแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป - บันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) - จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม ✅ ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจ - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ - การแสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ℹ️ ความเสี่ยงและข้อกังวล - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ - การแสดงสถานะออนไลน์อาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ - การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม https://www.techradar.com/computing/software/whatsapp-has-just-dropped-these-9-new-features-including-2-that-im-not-happy-about0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว - Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้
✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies
- Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย
- ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ
✅ การตอบสนองของบริษัท
- ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย
- แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ
✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ
- บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ
- จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ
- Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025
ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
- การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง
- การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว
ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า
- เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท
- การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น
https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attackSensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้ ✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ ✅ การตอบสนองของบริษัท - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ ✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attackWWW.TECHRADAR.COMTop US sensor maker Sensata hit by worrying ransomware attackHowever Sensata doesn't expect a material impact0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว - การโจมตีแบบ Quishing เกิดขึ้นเมื่ออาชญากรไซเบอร์สร้าง QR Code ปลอมและนำไปติดทับ QR Code จริงในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและเมนูร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้สแกน QR Code ปลอมนี้ พวกเขาจะถูกนำไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยอาชญากร ซึ่งอาจขโมยข้อมูลการเงินหรือปล่อยมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังและตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
✅ การโจมตีแบบ Quishing คืออะไร
- การฟิชชิงผ่าน QR Code ที่อาชญากรสร้าง QR Code ปลอม
- มักเกิดในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและร้านอาหาร
✅ ผลกระทบของการโจมตี
- ผู้ใช้ถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ควบคุมโดยอาชญากร
- ข้อมูลการเงินอาจถูกขโมย หรืออุปกรณ์อาจติดมัลแวร์
✅ จำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น
- มีรายงานเหตุการณ์มากกว่า 1,300 ครั้งในปี 2024
- เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2019 ที่มีเพียง 100 ครั้ง
ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
- QR Code ปลอมมักดูเหมือนจริง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
- การโจมตีอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ
ℹ️ คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย
- ตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
- ใช้ความระมัดระวังและสังเกตความผิดปกติใน QR Code
https://www.techradar.com/pro/security/mass-quishing-attacks-linked-to-organized-crime-gangs-across-the-ukการโจมตีแบบ Quishing เกิดขึ้นเมื่ออาชญากรไซเบอร์สร้าง QR Code ปลอมและนำไปติดทับ QR Code จริงในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและเมนูร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้สแกน QR Code ปลอมนี้ พวกเขาจะถูกนำไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยอาชญากร ซึ่งอาจขโมยข้อมูลการเงินหรือปล่อยมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังและตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ✅ การโจมตีแบบ Quishing คืออะไร - การฟิชชิงผ่าน QR Code ที่อาชญากรสร้าง QR Code ปลอม - มักเกิดในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและร้านอาหาร ✅ ผลกระทบของการโจมตี - ผู้ใช้ถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ควบคุมโดยอาชญากร - ข้อมูลการเงินอาจถูกขโมย หรืออุปกรณ์อาจติดมัลแวร์ ✅ จำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น - มีรายงานเหตุการณ์มากกว่า 1,300 ครั้งในปี 2024 - เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2019 ที่มีเพียง 100 ครั้ง ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ - QR Code ปลอมมักดูเหมือนจริง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ - การโจมตีอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ ℹ️ คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย - ตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ - ใช้ความระมัดระวังและสังเกตความผิดปกติใน QR Code https://www.techradar.com/pro/security/mass-quishing-attacks-linked-to-organized-crime-gangs-across-the-ukWWW.TECHRADAR.COMMass quishing attacks linked to organized crime gangs across the UKCriminals are fuelling a sharp rise in the scams0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว - Microsoft ได้เผยแพร่บทความที่ชื่อว่า "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11" โดยมีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับแต่ง Start Menu, Snap Layouts, Virtual Desktops, Widgets และ Focus Sessions อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากพอ
นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอัปเกรด เนื่องจากการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 แต่บทความนี้กลับไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น ความปลอดภัยที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่ราบรื่นกว่าเดิม
✅ บทความเพื่อกระตุ้นการอัปเกรด
- Microsoft เผยแพร่บทความ "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11"
- มีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรด
✅ ฟีเจอร์ที่นำเสนอในบทความ
- การปรับแต่ง Start Menu
- Snap Layouts และ Virtual Desktops
- Widgets และ Focus Sessions
✅ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10
- Microsoft เน้นย้ำว่าการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025
ℹ️ ข้อวิจารณ์ต่อบทความ
- ฟีเจอร์ที่นำเสนอไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มากพอ
- บทความไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์สำคัญ เช่น ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10
- ผู้ใช้ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดหรือจ่ายเงินเพื่อรักษาการสนับสนุน Windows 10
- การสิ้นสุดการสนับสนุนอาจสร้างแรงกดดันให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ
https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-latest-attempt-to-persuade-upgrades-to-windows-11-falls-spectacularly-flat-on-its-faceMicrosoft ได้เผยแพร่บทความที่ชื่อว่า "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11" โดยมีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับแต่ง Start Menu, Snap Layouts, Virtual Desktops, Widgets และ Focus Sessions อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากพอ นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอัปเกรด เนื่องจากการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 แต่บทความนี้กลับไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น ความปลอดภัยที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่ราบรื่นกว่าเดิม ✅ บทความเพื่อกระตุ้นการอัปเกรด - Microsoft เผยแพร่บทความ "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11" - มีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรด ✅ ฟีเจอร์ที่นำเสนอในบทความ - การปรับแต่ง Start Menu - Snap Layouts และ Virtual Desktops - Widgets และ Focus Sessions ✅ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 - Microsoft เน้นย้ำว่าการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 ℹ️ ข้อวิจารณ์ต่อบทความ - ฟีเจอร์ที่นำเสนอไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มากพอ - บทความไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์สำคัญ เช่น ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10 - ผู้ใช้ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดหรือจ่ายเงินเพื่อรักษาการสนับสนุน Windows 10 - การสิ้นสุดการสนับสนุนอาจสร้างแรงกดดันให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-latest-attempt-to-persuade-upgrades-to-windows-11-falls-spectacularly-flat-on-its-faceWWW.TECHRADAR.COMMicrosoft’s latest attempt to persuade upgrades to Windows 11 falls spectacularly flat on its faceI don’t know what Microsoft’s thinking, but this is the oddest attempt I’ve ever seen to prod folks to upgrade to Windows 110 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว - Canva ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Canva AI Assistant ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปขนาดเล็กแบบโต้ตอบ เช่น แผนที่และเครื่องคิดเลข โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดลึกซึ้ง
นอกจากนี้ Canva ยังเปิดตัว Canva Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ โดยมีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสูตรได้อย่างง่ายดาย
การอัปเกรดครั้งนี้ยังรวมถึงฟีเจอร์ Magic Write สำหรับการเติมข้อความ และ Magic Resize ที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
✅ การเปิดตัว Canva Visual Suite 2.0
- Canva เปิดตัว Visual Suite 2.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่
- รวมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Canva AI Assistant, Canva Code และ Canva Sheets
✅ ฟีเจอร์ Canva AI Assistant
- ช่วยสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบ
- ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code
✅ Canva Sheets และฟีเจอร์ AI
- Canva Sheets ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ
- มีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas
✅ ฟีเจอร์ Magic Write และ Magic Resize
- Magic Write ช่วยเติมข้อความ
- Magic Resize ช่วยปรับขนาดภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย
ℹ️ ความท้าทายในการใช้งาน AI
- ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่
- การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้
ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด
- การอัปเกรดครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Adobe ต้องปรับตัว
- การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว
https://www.techradar.com/pro/canva-launches-canva-ai-for-coding-photo-editing-and-spreadsheetsCanva ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Canva AI Assistant ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปขนาดเล็กแบบโต้ตอบ เช่น แผนที่และเครื่องคิดเลข โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดลึกซึ้ง นอกจากนี้ Canva ยังเปิดตัว Canva Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ โดยมีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสูตรได้อย่างง่ายดาย การอัปเกรดครั้งนี้ยังรวมถึงฟีเจอร์ Magic Write สำหรับการเติมข้อความ และ Magic Resize ที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ✅ การเปิดตัว Canva Visual Suite 2.0 - Canva เปิดตัว Visual Suite 2.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ - รวมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Canva AI Assistant, Canva Code และ Canva Sheets ✅ ฟีเจอร์ Canva AI Assistant - ช่วยสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบ - ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ✅ Canva Sheets และฟีเจอร์ AI - Canva Sheets ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ - มีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ✅ ฟีเจอร์ Magic Write และ Magic Resize - Magic Write ช่วยเติมข้อความ - Magic Resize ช่วยปรับขนาดภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย ℹ️ ความท้าทายในการใช้งาน AI - ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด - การอัปเกรดครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Adobe ต้องปรับตัว - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/canva-launches-canva-ai-for-coding-photo-editing-and-spreadsheetsWWW.TECHRADAR.COMCanva launches Canva AI for coding, photo editing and spreadsheetsVisual Suite 2.0 brings huge AI upgrades to Canva0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว - เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น
เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น
✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95
- เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ
- เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง
✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno
- เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง
- ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง
✅ ความสำคัญของ Windows 95
- Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์
- นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น
ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง
- การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
- การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง
ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
- Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์
- การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม
https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congressเสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น ✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95 - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง ✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง ✅ ความสำคัญของ Windows 95 - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์ - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congressWWW.TOMSHARDWARE.COMMicrosoft's Windows 95 startup sound has been immortalized in the Library of CongressThe National Recording Registry has officially added the Windows 95 startup sound.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว - จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว
การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน
✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน
- กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป
- ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125%
✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
- บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น
- บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้
✅ จุดยืนของจีน
- จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน
- สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ
- บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
- การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
- อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต
https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instrumentsจีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ✅ จุดยืนของจีน - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instrumentsWWW.TOMSHARDWARE.COMChina's new semiconductor rule spares Taiwan fabs, punishes Intel, GlobalFoundries & Texas InstrumentsKilling two birds with one stone.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว - John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ
แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที
✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง
- John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ
- ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง
✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ
- ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้
- โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ
✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
- Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
- ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
- การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว
ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
- ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
- การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.htmlJohn Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้ - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.htmlWWW.TECHSPOT.COMResearcher uncovers network of risky Chrome extensions with over 4 million installsJohn Tucker, founder of browser security firm Secure Annex, discovered the suspicious extensions while assisting a client who had installed one or more for security monitoring. The...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว - ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ โดยใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งที่เคยใช้ในเทคโนโลยีโฮโลแกรมแบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับโฮโลแกรมได้โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การหมุนหรือการบีบโฮโลแกรมเหมือนที่ทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน
การทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ เนื่องจากรู้สึกว่าการสัมผัสมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า
เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่
✅ ความก้าวหน้าของโฮโลแกรมแบบ 3 มิติ
- ทีมนักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้
- ใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งเพื่อความปลอดภัย
✅ การทดลองและผลตอบรับ
- ผู้เข้าร่วมการทดลองชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ
- การสัมผัสให้ความรู้สึกแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า
✅ ศักยภาพในการใช้งาน
- เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ในด้านการศึกษาและพิพิธภัณฑ์
- ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่
ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา
- เทคโนโลยียังต้องการการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสมบูรณ์ของภาพ
ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
- การใช้งานในวงกว้างอาจต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
https://www.techspot.com/news/107514-touchable-3d-holograms-now-reality-world-first-breakthrough.htmlทีมนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ โดยใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งที่เคยใช้ในเทคโนโลยีโฮโลแกรมแบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับโฮโลแกรมได้โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การหมุนหรือการบีบโฮโลแกรมเหมือนที่ทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน การทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ เนื่องจากรู้สึกว่าการสัมผัสมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่ ✅ ความก้าวหน้าของโฮโลแกรมแบบ 3 มิติ - ทีมนักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ - ใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งเพื่อความปลอดภัย ✅ การทดลองและผลตอบรับ - ผู้เข้าร่วมการทดลองชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ - การสัมผัสให้ความรู้สึกแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า ✅ ศักยภาพในการใช้งาน - เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ในด้านการศึกษาและพิพิธภัณฑ์ - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่ ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา - เทคโนโลยียังต้องการการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสมบูรณ์ของภาพ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - การใช้งานในวงกว้างอาจต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107514-touchable-3d-holograms-now-reality-world-first-breakthrough.htmlWWW.TECHSPOT.COMTouchable 3D holograms are now a reality in world-first breakthroughAs New Atlas explains, traditional holograms are created using swept volumetric displays. Images are projected at varying heights onto a rigid oscillating surface known as a diffuser...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล
Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี
Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน
การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน
✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace
- Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71%
- ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025
✅ การรับรองความปลอดภัย
- Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High
- การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง
✅ เป้าหมายของการลดราคา
- Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล
- คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี
ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
- การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์
- การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว
ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT
- การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง
- อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย
https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.htmlGoogle ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 ✅ การรับรองความปลอดภัย - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง ✅ เป้าหมายของการลดราคา - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.htmlWWW.TECHSPOT.COMGoogle Workspace undercuts Microsoft offer with 71% discount for US government agenciesTony Orlando, GM of specialty sales for Google Public Sector, positioned Workspace as a secure, AI-powered alternative to Microsoft's offerings.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
เรื่องราวเพิ่มเติม