• สุขภาพดี..อายุยืน 120 ปี ควรหลีกเลี่ยง

    1. น้ำอัดลม ทำลายกระดูก และ ฟัน
    2. อาหารแปรรูป ทำลายระบบย่อยอาหาร
    3. แอลกอฮอล์ ทำลายสมอง
    4. สารกันบูด ทำลายตับ
    5. ยาปฏิชีวนะ ทำลายไต
    6. ฝุ่น ควัน บุหรี่ ทำลายปอด
    สุขภาพดี..อายุยืน 120 ปี ควรหลีกเลี่ยง 1. น้ำอัดลม ทำลายกระดูก และ ฟัน 2. อาหารแปรรูป ทำลายระบบย่อยอาหาร 3. แอลกอฮอล์ ทำลายสมอง 4. สารกันบูด ทำลายตับ 5. ยาปฏิชีวนะ ทำลายไต 6. ฝุ่น ควัน บุหรี่ ทำลายปอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลไกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศเศรษฐกิจผสมผสาน (Integrated Economy) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการผสานความแข็งแกร่งจากหลายภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรและวัฒนธรรม สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนานี้ได้---1. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันการวิจัยและพัฒนา (R&D): สนับสนุนการวิจัยในสถาบันการศึกษาและเอกชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้: ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IoT และ Big Data ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการการพัฒนาสตาร์ทอัพ: ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างแนวคิดธุรกิจที่เชื่อมโยงทรัพยากรในประเทศเข้ากับตลาดโลก---2. การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy)เศรษฐกิจที่ยั่งยืนไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวลการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน: ส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียว: พัฒนาสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก---3. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)เศรษฐกิจสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มมูลค่าผ่านความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมศิลปะและวัฒนธรรม: นำมรดกวัฒนธรรมไทย เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม และอาหาร มาปรับใช้ในตลาดสมัยใหม่การออกแบบและสื่อดิจิทัล: ส่งเสริมการพัฒนาภาพยนตร์ ดนตรี และเกมที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: พัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อการส่งออก---4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจผสมผสานประสบความสำเร็จการศึกษาและการฝึกอบรม: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21การส่งเสริมทักษะที่หลากหลาย: เช่น ทักษะด้านดิจิทัล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์การสนับสนุนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม: เพิ่มโอกาสให้แรงงานได้รับความรู้ใหม่และเทคโนโลยี---5. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนการผสานความร่วมมือระหว่างเกษตร อุตสาหกรรม และบริการช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมเกษตรกรรมอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่การท่องเที่ยวแบบครบวงจร: ผสมผสานวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว---6. การสนับสนุนนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำนโยบายที่ยั่งยืน: เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจสีเขียวและสร้างสรรค์การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์: สร้างเครือข่ายการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพผ่านกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ---สรุปการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน หากประเทศไทยสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งได้ในระยะยาว
    กลไกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศเศรษฐกิจผสมผสาน (Integrated Economy) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการผสานความแข็งแกร่งจากหลายภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรและวัฒนธรรม สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนานี้ได้---1. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันการวิจัยและพัฒนา (R&D): สนับสนุนการวิจัยในสถาบันการศึกษาและเอกชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้: ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IoT และ Big Data ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการการพัฒนาสตาร์ทอัพ: ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างแนวคิดธุรกิจที่เชื่อมโยงทรัพยากรในประเทศเข้ากับตลาดโลก---2. การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy)เศรษฐกิจที่ยั่งยืนไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวลการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน: ส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียว: พัฒนาสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก---3. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)เศรษฐกิจสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มมูลค่าผ่านความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมศิลปะและวัฒนธรรม: นำมรดกวัฒนธรรมไทย เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม และอาหาร มาปรับใช้ในตลาดสมัยใหม่การออกแบบและสื่อดิจิทัล: ส่งเสริมการพัฒนาภาพยนตร์ ดนตรี และเกมที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: พัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อการส่งออก---4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจผสมผสานประสบความสำเร็จการศึกษาและการฝึกอบรม: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21การส่งเสริมทักษะที่หลากหลาย: เช่น ทักษะด้านดิจิทัล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์การสนับสนุนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม: เพิ่มโอกาสให้แรงงานได้รับความรู้ใหม่และเทคโนโลยี---5. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนการผสานความร่วมมือระหว่างเกษตร อุตสาหกรรม และบริการช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมเกษตรกรรมอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่การท่องเที่ยวแบบครบวงจร: ผสมผสานวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว---6. การสนับสนุนนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำนโยบายที่ยั่งยืน: เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจสีเขียวและสร้างสรรค์การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์: สร้างเครือข่ายการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพผ่านกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ---สรุปการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน หากประเทศไทยสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งได้ในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💰💵เมื่อ FDA รับทรัพย์ รับเงินผลประโยชน์มานานมากแล้ว โลกจึงโดนหลอก ว่า "ไขมันสัตว์เลว ไขมันพืชดี"😱

    บริษัทบุหรี่😈 ใช้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆคิดค้นผลิตสูตรเคมี เพื่อทำให้บุหรี่ติดง่ายขึ้น หลังจากเจอแรงกดดันและคนเริ่มรู้ว่าบุหรี่อันตราย บริษัทบุหรี่จึงเข้าไปซื้อบริษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก ใช้นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น คิดสูตรให้คนเสพติดอาหารได้ง่ายขึ้น และเอาส่วนผสมเหล่านั้นมาใช้ในอาหารแปรรูป ตั้งใจให้เด็กติดงอมแงม สร้าง "ลูกค้าถาวรตลอดชีวิต"

    ด้วยความรวยจึงจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือให้ผลประโยชน์ต่างๆนานากับ FDA, USDA รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, Standford ✨เพื่อให้ตั้งธงผลิตงานวิจัยที่ส่งเสริมยอดขายของบริษัทตนเอง (คาร์โบไฮเดรตดี น้ำตาลไม่เป็นอันตราย) รวมถึงบิดเบือนข้อมูลว่า ไขมันสัตว์ไม่ดี น้ำมันพืชดีกว่า

    จอห์น ดี ร็อคเคเฟลเลอร์ 💰😈 มหาเศรษฐีน้ำมันผู้มากอิทธิพล ใช้อำนาจเงินเข้าล็อบบี้ FDA เพื่ออนุมัติให้น้ำมันพืชถูกนำมาใช้เป็นอาหารได้ ทั้งที่มันถูกผลิตมาเพื่อใช้ "หล่อลื่นเครื่องจักร" แต่การเอามาขายให้คน มันได้ยอดขายเยอะกว่า!

    มันเป็นสัจธรรม!💰อำนาจเงินซื้อได้ทุกสิ่ง!! แม้กระทั่ง FDA WHO ☠องค์การอนามัยโลก
    https://t.me/awakened_thailand/521
    💰💵เมื่อ FDA รับทรัพย์ รับเงินผลประโยชน์มานานมากแล้ว โลกจึงโดนหลอก ว่า "ไขมันสัตว์เลว ไขมันพืชดี"😱 บริษัทบุหรี่😈 ใช้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆคิดค้นผลิตสูตรเคมี เพื่อทำให้บุหรี่ติดง่ายขึ้น หลังจากเจอแรงกดดันและคนเริ่มรู้ว่าบุหรี่อันตราย บริษัทบุหรี่จึงเข้าไปซื้อบริษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก ใช้นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น คิดสูตรให้คนเสพติดอาหารได้ง่ายขึ้น และเอาส่วนผสมเหล่านั้นมาใช้ในอาหารแปรรูป ตั้งใจให้เด็กติดงอมแงม สร้าง "ลูกค้าถาวรตลอดชีวิต" ด้วยความรวยจึงจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือให้ผลประโยชน์ต่างๆนานากับ FDA, USDA รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, Standford ✨เพื่อให้ตั้งธงผลิตงานวิจัยที่ส่งเสริมยอดขายของบริษัทตนเอง (คาร์โบไฮเดรตดี น้ำตาลไม่เป็นอันตราย) รวมถึงบิดเบือนข้อมูลว่า ไขมันสัตว์ไม่ดี น้ำมันพืชดีกว่า จอห์น ดี ร็อคเคเฟลเลอร์ 💰😈 มหาเศรษฐีน้ำมันผู้มากอิทธิพล ใช้อำนาจเงินเข้าล็อบบี้ FDA เพื่ออนุมัติให้น้ำมันพืชถูกนำมาใช้เป็นอาหารได้ ทั้งที่มันถูกผลิตมาเพื่อใช้ "หล่อลื่นเครื่องจักร" แต่การเอามาขายให้คน มันได้ยอดขายเยอะกว่า! มันเป็นสัจธรรม!💰อำนาจเงินซื้อได้ทุกสิ่ง!! แม้กระทั่ง FDA WHO ☠องค์การอนามัยโลก https://t.me/awakened_thailand/521
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 607 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • การรักษาโรคมะเร็งแบบแพทย์บูรณาการ (Integrative Medicine) เป็นการผสมผสานระหว่างการรักษามะเร็งด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันกับการบำบัดทางเลือกหรือการรักษาทางธรรมชาติ โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษาหลัก

    แนวทางในการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ

    1. การรักษาหลักด้วยวิธีทางการแพทย์

    ใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy)

    การฉายแสง (Radiation Therapy)

    การผ่าตัด (Surgery)

    การใช้ยามุ่งเป้าหรือยาชีวบำบัด (Targeted Therapy/Immunotherapy)



    2. การเสริมด้วยวิธีธรรมชาติและทางเลือก

    การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายมีการอักเสบสูง เช่น น้ำตาลขาว อาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์

    การบำบัดด้วยสมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน เห็ดหลินจือ หรือตรีผลา สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบหรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

    การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะ ไทเก็ก หรือการเดิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

    การบำบัดด้านจิตใจ: เช่น การฝึกสมาธิ การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจ เพื่อช่วยควบคุมความเครียดและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง

    การใช้วิทยาการเสริมจากธรรมชาติ: เช่น การฝังเข็ม การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) การนวดบำบัด ซึ่งอาจช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างจากการรักษาหลัก เช่น คลื่นไส้ ปวด หรืออาการอ่อนเพลีย


    ประโยชน์ของการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ

    ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน

    เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย

    ลดความเครียดและสร้างความมั่นใจในการเผชิญกับโรค

    ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยในระหว่างและหลังการรักษา


    ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด
    ☎️. 090-465-6360

    ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์
    https://lin.ee/pBbSqSD

    #โรคมะเร็ง #มะเร็ง #มะเร็งปอด #มะเร็งเต้านม #มะเร็งตับ #รักษามะเร็ง #อาการมะเร็ง #ป้องกันมะเร็ง #สุขภาพ #สู้มะเร็ง #ตรวจมะเร็ง #ความรู้เรื่องมะเร็ง #มะเร็งผิวหนัง #เคมีบำบัด #การฉายรังสี #ภูมิคุ้มกันบำบัด #วิธีรักษามะเร็ง #คำแนะนำมะเร็ง #ข้อมูลสุขภาพ #ชีวิตสู้มะเร็ง
    การรักษาโรคมะเร็งแบบแพทย์บูรณาการ (Integrative Medicine) เป็นการผสมผสานระหว่างการรักษามะเร็งด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันกับการบำบัดทางเลือกหรือการรักษาทางธรรมชาติ โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษาหลัก แนวทางในการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ 1. การรักษาหลักด้วยวิธีทางการแพทย์ ใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) การฉายแสง (Radiation Therapy) การผ่าตัด (Surgery) การใช้ยามุ่งเป้าหรือยาชีวบำบัด (Targeted Therapy/Immunotherapy) 2. การเสริมด้วยวิธีธรรมชาติและทางเลือก การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายมีการอักเสบสูง เช่น น้ำตาลขาว อาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์ การบำบัดด้วยสมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน เห็ดหลินจือ หรือตรีผลา สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบหรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะ ไทเก็ก หรือการเดิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย การบำบัดด้านจิตใจ: เช่น การฝึกสมาธิ การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจ เพื่อช่วยควบคุมความเครียดและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง การใช้วิทยาการเสริมจากธรรมชาติ: เช่น การฝังเข็ม การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) การนวดบำบัด ซึ่งอาจช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างจากการรักษาหลัก เช่น คลื่นไส้ ปวด หรืออาการอ่อนเพลีย ประโยชน์ของการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย ลดความเครียดและสร้างความมั่นใจในการเผชิญกับโรค ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยในระหว่างและหลังการรักษา ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด ☎️. 090-465-6360 ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์ https://lin.ee/pBbSqSD #โรคมะเร็ง #มะเร็ง #มะเร็งปอด #มะเร็งเต้านม #มะเร็งตับ #รักษามะเร็ง #อาการมะเร็ง #ป้องกันมะเร็ง #สุขภาพ #สู้มะเร็ง #ตรวจมะเร็ง #ความรู้เรื่องมะเร็ง #มะเร็งผิวหนัง #เคมีบำบัด #การฉายรังสี #ภูมิคุ้มกันบำบัด #วิธีรักษามะเร็ง #คำแนะนำมะเร็ง #ข้อมูลสุขภาพ #ชีวิตสู้มะเร็ง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1162 มุมมอง 86 0 รีวิว
  • ภัยเงียบ ไม่แสดงอาการ อันตรายถึงชีวิต
    โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง Brain Aneurysm


    เกิดจาก #ผนังของหลอดเลือด(บาง)+แรงดันเลือด(สูง)=เปลี่ยนรูปโป่งพองเป็น(กระเปาะ)โดยไม่แสดงอาการใดๆ


    โรคนี้อันตรายมาก เพราะ..โรคนี้มักตรวจไม่พบ ?
    เพราะ การตรวจให้พบ จำเป็นต้องฉีดสี+CT SCAN (เจ็บตัว+ยาก+แพง)


    เมื่อตรวจพบ แรงดันเลือด มักจะดัน(กระเปาะ) หลอดเลือดแตก จะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงฉับพลัน และ เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่นาที !!!


    สาเหตุการเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อ(กระเปาะ) หลอดเลือดสมอง บาง โป่ง พอง ปริแตก ทำให้เลือดในหลอดเลือด ไหลออกมา ไปกดทับ เส้นประสาทอัตโนมัติ ในส่วนที่ควบคุมกระบังลม การหายใจ และการเต้นของหัวใจ โรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ พบในผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย



    โรคนี้เกิดจากการบริโภคอาหารน้ำตาล+แป้ง+อาหารแปรรูปมากเกินไปเครียด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ นอนดึก ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายสะสมพลังงานที่อยู่ในรูปของ #ไตรกลีเซอรายด์สูง ล้นเกินเนื้อเยื่อ ใต้ผิวหนัง และในช่องท้อง ทะลักเข้าสู่หลอดเลือด ในบางราย..เลือดของผู้ป่วย จะมีสีแดงปนสีเหลืองเนื่องจากไขมัน !!!

    สังเกตอาการเบื้องต้น ได้จาก ประวัติมีญาติสายตรงเสียชีวิตด้วยโรคนี้ มีถุงน้ำในไต กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่ง มองภาพเบลอ ไม่เห็น หรือ มองภาพซ้อน

    การป้องกัน+แก้ไข(สรุป)ย่อ

    - กินไขมันดี เข้าไปล้างไขมันเลว
    - เลี่ยงน้ำตาล ลดแป้ง และพวกอาหารชุบแป้งทอด
    - เพิ่มกากใยต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้หวานน้อย-แป้งต่ำ
    - กินผัก+ผลไม้ที่กากใยสูง และ ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 15 นาที
    - ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ
    - งดการดื่มแอลกอฮอล์ เลิกบุหรี่
    - ทำ IF
    - นอนหัวค่ำ-ตื่นเช้าออกกำลังกาย
    .
    .
    พัชรี ว่องไววิทย์
    October27, 2024
    San Francisco, CA94108
    ภัยเงียบ ไม่แสดงอาการ อันตรายถึงชีวิต โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง Brain Aneurysm เกิดจาก #ผนังของหลอดเลือด(บาง)+แรงดันเลือด(สูง)=เปลี่ยนรูปโป่งพองเป็น(กระเปาะ)โดยไม่แสดงอาการใดๆ โรคนี้อันตรายมาก เพราะ..โรคนี้มักตรวจไม่พบ ? เพราะ การตรวจให้พบ จำเป็นต้องฉีดสี+CT SCAN (เจ็บตัว+ยาก+แพง) เมื่อตรวจพบ แรงดันเลือด มักจะดัน(กระเปาะ) หลอดเลือดแตก จะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงฉับพลัน และ เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่นาที !!! สาเหตุการเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อ(กระเปาะ) หลอดเลือดสมอง บาง โป่ง พอง ปริแตก ทำให้เลือดในหลอดเลือด ไหลออกมา ไปกดทับ เส้นประสาทอัตโนมัติ ในส่วนที่ควบคุมกระบังลม การหายใจ และการเต้นของหัวใจ โรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ พบในผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย โรคนี้เกิดจากการบริโภคอาหารน้ำตาล+แป้ง+อาหารแปรรูปมากเกินไปเครียด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ นอนดึก ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายสะสมพลังงานที่อยู่ในรูปของ #ไตรกลีเซอรายด์สูง ล้นเกินเนื้อเยื่อ ใต้ผิวหนัง และในช่องท้อง ทะลักเข้าสู่หลอดเลือด ในบางราย..เลือดของผู้ป่วย จะมีสีแดงปนสีเหลืองเนื่องจากไขมัน !!! สังเกตอาการเบื้องต้น ได้จาก ประวัติมีญาติสายตรงเสียชีวิตด้วยโรคนี้ มีถุงน้ำในไต กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่ง มองภาพเบลอ ไม่เห็น หรือ มองภาพซ้อน การป้องกัน+แก้ไข(สรุป)ย่อ - กินไขมันดี เข้าไปล้างไขมันเลว - เลี่ยงน้ำตาล ลดแป้ง และพวกอาหารชุบแป้งทอด - เพิ่มกากใยต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้หวานน้อย-แป้งต่ำ - กินผัก+ผลไม้ที่กากใยสูง และ ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 15 นาที - ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ - งดการดื่มแอลกอฮอล์ เลิกบุหรี่ - ทำ IF - นอนหัวค่ำ-ตื่นเช้าออกกำลังกาย . . พัชรี ว่องไววิทย์ October27, 2024 San Francisco, CA94108
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25/

    10/67

    มาตรวจสุขภาพ เจอหมอ (พญ อิสรีย์ ประดิษฐ์กุล) ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยพบมาในชีวิต อธิบายละเอียดทุกตัวเลขครึ่งขั่วโมง และได้ความรู้ใหม่คือ

    1. ห้ามออกกำลังกายด้วยการขึ้นลงบันไดเด็ดขาด ทำให้เข่าพัง

    2. ห้ามเล่นฮูลาฮูป เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อน

    3. ถ้าออกกำลังด้วยการเดินสายพาน ห้ามใข้โหมดขึ้นเขา

    4. ควรให้ร่างกายสัมผัสแดดอ่อนๆ ทุกวัน

    5. คนอายุ 50+ ต้องออกกำลังแบบ cardio และ ยกเวท (ดัมเบล ห้ามบาร์เบล) เบาๆ เพื่อออกกำลังหลังให้แข็งแรง

    6. ใครที่เป็นไขมันพอกตับต้องออกกำลังเท่านั้น ไขมันถึงจะหลุด

    7. ลด LDL ด้วยการลดอาหารทอด มัน ทะเล อาหารแปรรูป(ไส้กรอก)

    8. กะทิกินได้เป็น HDL (หมอคำนวณให้เห็นว่า ถ้า HDL สูงพอจะไป cover LDL ได้)

    9. ส่องกล้องหามะเร็งลำไส้ไม่จำเป็นถ้าตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทุกปี และถ้าไม่มีอาการท้องผูกปวดท้องต่อเนื่อง

    Cr:ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์
    25/ 10/67 มาตรวจสุขภาพ เจอหมอ (พญ อิสรีย์ ประดิษฐ์กุล) ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยพบมาในชีวิต อธิบายละเอียดทุกตัวเลขครึ่งขั่วโมง และได้ความรู้ใหม่คือ 1. ห้ามออกกำลังกายด้วยการขึ้นลงบันไดเด็ดขาด ทำให้เข่าพัง 2. ห้ามเล่นฮูลาฮูป เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อน 3. ถ้าออกกำลังด้วยการเดินสายพาน ห้ามใข้โหมดขึ้นเขา 4. ควรให้ร่างกายสัมผัสแดดอ่อนๆ ทุกวัน 5. คนอายุ 50+ ต้องออกกำลังแบบ cardio และ ยกเวท (ดัมเบล ห้ามบาร์เบล) เบาๆ เพื่อออกกำลังหลังให้แข็งแรง 6. ใครที่เป็นไขมันพอกตับต้องออกกำลังเท่านั้น ไขมันถึงจะหลุด 7. ลด LDL ด้วยการลดอาหารทอด มัน ทะเล อาหารแปรรูป(ไส้กรอก) 8. กะทิกินได้เป็น HDL (หมอคำนวณให้เห็นว่า ถ้า HDL สูงพอจะไป cover LDL ได้) 9. ส่องกล้องหามะเร็งลำไส้ไม่จำเป็นถ้าตรวจสารบ่งชี้มะเร็งทุกปี และถ้าไม่มีอาการท้องผูกปวดท้องต่อเนื่อง Cr:ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี่เราจะพามาดูวิธีทำลูกชิ้นปลาอินทรีย์#ep1
    #ปลาทะเล #ของกิน #ขายของออนไลน์ #อาหารแปรรูป #วิธีทำ
    วันนี่เราจะพามาดูวิธีทำลูกชิ้นปลาอินทรีย์#ep1 #ปลาทะเล #ของกิน #ขายของออนไลน์ #อาหารแปรรูป #วิธีทำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 60 0 รีวิว