ดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b กับหางก๊าซยักษ์สองเส้น
ทีมนักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b หรือที่เรียกว่า Tylos ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 880 ปีแสง ดาวเคราะห์แก๊สยักษ์นี้กำลังสูญเสียบรรยากาศอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น หางก๊าซฮีเลียมสองเส้นขนาดมหึมา ที่ทอดยาวครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจรรอบดาวแม่
การค้นพบที่ไม่ธรรมดา
ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยพบดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศรั่วไหล แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงชั่วคราวเมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวแม่ ครั้งนี้ JWST สามารถติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบกว่า 30 ชั่วโมง ทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบ
ปริศนาของหางคู่
สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการเกิดหางสองเส้นที่พุ่งไปคนละทิศทาง หางหนึ่งทอดตามหลังดาวเคราะห์ ขณะที่อีกหางหนึ่งกลับพุ่งนำหน้า ซึ่งแบบจำลองเดิมไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าแรงโน้มถ่วงของดาวแม่และลมดาวฤกษ์อาจมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของหางเหล่านี้
ความหมายต่อวิวัฒนาการดาวเคราะห์
การค้นพบนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจว่าดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อาจสูญเสียบรรยากาศจนกลายเป็นดาวเคราะห์หินในอนาคต การศึกษาลักษณะการรั่วไหลของก๊าซจะช่วยให้นักดาราศาสตร์สร้างแบบจำลองใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวเคราะห์และความเป็นไปได้ในการเกิดระบบที่คล้ายโลก
สรุปสาระสำคัญ
การค้นพบจาก JWST
พบดาว WASP-121b มีหางก๊าซฮีเลียมสองเส้น
ครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจร
ความพิเศษ
เป็นครั้งแรกที่ติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบ
หางหนึ่งตามหลัง อีกหางหนึ่งนำหน้า
ความหมายทางวิทยาศาสตร์
ช่วยเข้าใจการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์
อาจอธิบายการเปลี่ยนจากดาวแก๊สยักษ์เป็นดาวหิน
ข้อจำกัดและปริศนา
แบบจำลองปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายหางคู่ได้ครบถ้วน
ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสร้างแบบจำลอง 3D ที่แม่นยำ
https://www.sciencealert.com/jwst-catches-record-breaking-planet-sprouting-two-enormous-tails
ทีมนักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b หรือที่เรียกว่า Tylos ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 880 ปีแสง ดาวเคราะห์แก๊สยักษ์นี้กำลังสูญเสียบรรยากาศอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น หางก๊าซฮีเลียมสองเส้นขนาดมหึมา ที่ทอดยาวครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจรรอบดาวแม่
การค้นพบที่ไม่ธรรมดา
ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยพบดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศรั่วไหล แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงชั่วคราวเมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวแม่ ครั้งนี้ JWST สามารถติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบกว่า 30 ชั่วโมง ทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบ
ปริศนาของหางคู่
สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการเกิดหางสองเส้นที่พุ่งไปคนละทิศทาง หางหนึ่งทอดตามหลังดาวเคราะห์ ขณะที่อีกหางหนึ่งกลับพุ่งนำหน้า ซึ่งแบบจำลองเดิมไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าแรงโน้มถ่วงของดาวแม่และลมดาวฤกษ์อาจมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของหางเหล่านี้
ความหมายต่อวิวัฒนาการดาวเคราะห์
การค้นพบนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจว่าดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อาจสูญเสียบรรยากาศจนกลายเป็นดาวเคราะห์หินในอนาคต การศึกษาลักษณะการรั่วไหลของก๊าซจะช่วยให้นักดาราศาสตร์สร้างแบบจำลองใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวเคราะห์และความเป็นไปได้ในการเกิดระบบที่คล้ายโลก
สรุปสาระสำคัญ
การค้นพบจาก JWST
พบดาว WASP-121b มีหางก๊าซฮีเลียมสองเส้น
ครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจร
ความพิเศษ
เป็นครั้งแรกที่ติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบ
หางหนึ่งตามหลัง อีกหางหนึ่งนำหน้า
ความหมายทางวิทยาศาสตร์
ช่วยเข้าใจการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์
อาจอธิบายการเปลี่ยนจากดาวแก๊สยักษ์เป็นดาวหิน
ข้อจำกัดและปริศนา
แบบจำลองปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายหางคู่ได้ครบถ้วน
ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสร้างแบบจำลอง 3D ที่แม่นยำ
https://www.sciencealert.com/jwst-catches-record-breaking-planet-sprouting-two-enormous-tails
🌌 ดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b กับหางก๊าซยักษ์สองเส้น
ทีมนักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-121b หรือที่เรียกว่า Tylos ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 880 ปีแสง ดาวเคราะห์แก๊สยักษ์นี้กำลังสูญเสียบรรยากาศอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น หางก๊าซฮีเลียมสองเส้นขนาดมหึมา ที่ทอดยาวครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจรรอบดาวแม่
🔬 การค้นพบที่ไม่ธรรมดา
ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยพบดาวเคราะห์ที่มีบรรยากาศรั่วไหล แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงชั่วคราวเมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวแม่ ครั้งนี้ JWST สามารถติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบกว่า 30 ชั่วโมง ทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบ
🌪️ ปริศนาของหางคู่
สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการเกิดหางสองเส้นที่พุ่งไปคนละทิศทาง หางหนึ่งทอดตามหลังดาวเคราะห์ ขณะที่อีกหางหนึ่งกลับพุ่งนำหน้า ซึ่งแบบจำลองเดิมไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าแรงโน้มถ่วงของดาวแม่และลมดาวฤกษ์อาจมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของหางเหล่านี้
🚀 ความหมายต่อวิวัฒนาการดาวเคราะห์
การค้นพบนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจว่าดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อาจสูญเสียบรรยากาศจนกลายเป็นดาวเคราะห์หินในอนาคต การศึกษาลักษณะการรั่วไหลของก๊าซจะช่วยให้นักดาราศาสตร์สร้างแบบจำลองใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวเคราะห์และความเป็นไปได้ในการเกิดระบบที่คล้ายโลก
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ การค้นพบจาก JWST
➡️ พบดาว WASP-121b มีหางก๊าซฮีเลียมสองเส้น
➡️ ครอบคลุมเกือบ 60% ของวงโคจร
✅ ความพิเศษ
➡️ เป็นครั้งแรกที่ติดตามการรั่วไหลตลอดวงโคจรเต็มรอบ
➡️ หางหนึ่งตามหลัง อีกหางหนึ่งนำหน้า
✅ ความหมายทางวิทยาศาสตร์
➡️ ช่วยเข้าใจการสูญเสียบรรยากาศของดาวเคราะห์
➡️ อาจอธิบายการเปลี่ยนจากดาวแก๊สยักษ์เป็นดาวหิน
‼️ ข้อจำกัดและปริศนา
⛔ แบบจำลองปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายหางคู่ได้ครบถ้วน
⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสร้างแบบจำลอง 3D ที่แม่นยำ
https://www.sciencealert.com/jwst-catches-record-breaking-planet-sprouting-two-enormous-tails
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
7 มุมมอง
0 รีวิว