• ภารกิจเพื่อ ‘การศึกษาไทย’ ‘ดร.เอ้’ ลุยงานเป็นประธานมอบทุนการศึกษา ชี้ ‘เด็กไทยเก่งไม่แพ้ชาติใด’ พร้อมผลักดันเต็มที่
    https://www.thai-tai.tv/news/21579/
    .
    #ไทยไท #เอ้สุชัชวีร์ #การศึกษา #โรงเรียน #KMIDS
    ภารกิจเพื่อ ‘การศึกษาไทย’ ‘ดร.เอ้’ ลุยงานเป็นประธานมอบทุนการศึกษา ชี้ ‘เด็กไทยเก่งไม่แพ้ชาติใด’ พร้อมผลักดันเต็มที่ https://www.thai-tai.tv/news/21579/ . #ไทยไท #เอ้สุชัชวีร์ #การศึกษา #โรงเรียน #KMIDS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้" นำทัพไทยก้าวใหม่ ชูนโยบายปฏิรูปการศึกษา หวังดึงคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างอนาคตประเทศ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นเดือนตุลาคมนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090895

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "ดร.เอ้" นำทัพไทยก้าวใหม่ ชูนโยบายปฏิรูปการศึกษา หวังดึงคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างอนาคตประเทศ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นเดือนตุลาคมนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090895 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้" นำทัพไทยก้าวใหม่ ชูนโยบายปฏิรูปการศึกษา หวังดึงคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างอนาคตประเทศ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นเดือนตุลาคมนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090852

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "ดร.เอ้" นำทัพไทยก้าวใหม่ ชูนโยบายปฏิรูปการศึกษา หวังดึงคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างอนาคตประเทศ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นเดือนตุลาคมนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090852 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ตาลีบันสั่งตัดไฟเบอร์อินเทอร์เน็ตทั่วอัฟกานิสถาน — อ้าง ‘ป้องกันความผิดศีลธรรม’ แต่ผลกระทบกระจายถึงการศึกษา ธุรกิจ และสิทธิสตรี”

    ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2025 รัฐบาลตาลีบันในอัฟกานิสถานเริ่มดำเนินการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ออปติกในหลายจังหวัด โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อ “ป้องกันความผิดศีลธรรม” ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงเนื้อหาลามก การพูดคุยระหว่างชายหญิง และการใช้งานสื่อที่ไม่เหมาะสม

    คำสั่งนี้มาจากผู้นำสูงสุดของตาลีบัน Hibatullah Akhundzada และเริ่มมีผลในจังหวัด Balkh ก่อนจะขยายไปยังอีกอย่างน้อย 10 จังหวัด เช่น Kunduz, Badakhshan, Baghlan, Takhar และ Nangarhar โดยมีแนวโน้มว่าจะบังคับใช้ทั่วประเทศในไม่ช้า

    แม้เครือข่ายมือถือยังคงใช้งานได้ แต่ก็มีข้อจำกัดด้านความเร็วและค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจ ธนาคาร และหน่วยงานราชการประสบปัญหาในการดำเนินงานอย่างรุนแรง

    ผลกระทบที่น่าห่วงที่สุดคือด้านการศึกษา โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่ถูกห้ามเข้าเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2021 การเรียนออนไลน์จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่พวกเธอพึ่งพาได้ และการตัดอินเทอร์เน็ตครั้งนี้อาจทำลายโอกาสนั้นอย่างสิ้นเชิง

    องค์กรสื่อและสิทธิมนุษยชน เช่น NetBlocks และ CPJ ต่างออกมาเตือนว่าการตัดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์คือการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก และเป็นการเพิ่มระดับการเซ็นเซอร์อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศนี้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ตาลีบันเริ่มตัดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ในหลายจังหวัดของอัฟกานิสถานตั้งแต่กลางกันยายน 2025
    เหตุผลที่ให้คือ “ป้องกันความผิดศีลธรรม” เช่น การเข้าถึงเนื้อหาลามกและการพูดคุยระหว่างชายหญิง
    จังหวัดที่ได้รับผลกระทบแล้ว ได้แก่ Balkh, Kunduz, Badakhshan, Baghlan, Takhar, Nangarhar และอื่น ๆ
    เครือข่ายมือถือยังใช้งานได้ แต่ช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง

    ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
    ธุรกิจ ธนาคาร และหน่วยงานราชการไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ
    การเรียนออนไลน์ของเด็กผู้หญิงถูกตัดขาด ซึ่งเป็นทางเลือกเดียวหลังถูกห้ามเข้าเรียน
    สื่อมวลชนไม่สามารถรายงานข่าวได้อย่างอิสระ และเสี่ยงต่อการถูกจับกุม
    การตัดอินเทอร์เน็ตส่งผลต่อการเชื่อมต่อระหว่างประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    อัฟกานิสถานมีเครือข่ายไฟเบอร์กว่า 1,800 กิโลเมตร และเคยอนุมัติเพิ่มอีก 488 กิโลเมตร
    การตัดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์คล้ายกับระบบอินเทอร์เน็ตภายในประเทศแบบปิด เช่นในเกาหลีเหนือ
    ผู้หญิงในอัฟกานิสถานใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้ เชื่อมต่อ และหลบหนีจากการกดขี่
    การตัดอินเทอร์เน็ตอาจเป็นการป้องกันการประท้วงและการเผยแพร่ข้อมูลที่ตาลีบันไม่ต้องการให้ประชาชนเห็น

    https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/the-taliban-begins-implementing-fiber-optic-internet-ban-to-prevent-immorality-in-afghanistan-swathes-of-the-country-plunged-into-cyberspace-darkness
    🌐 “ตาลีบันสั่งตัดไฟเบอร์อินเทอร์เน็ตทั่วอัฟกานิสถาน — อ้าง ‘ป้องกันความผิดศีลธรรม’ แต่ผลกระทบกระจายถึงการศึกษา ธุรกิจ และสิทธิสตรี” ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2025 รัฐบาลตาลีบันในอัฟกานิสถานเริ่มดำเนินการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ออปติกในหลายจังหวัด โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อ “ป้องกันความผิดศีลธรรม” ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงเนื้อหาลามก การพูดคุยระหว่างชายหญิง และการใช้งานสื่อที่ไม่เหมาะสม คำสั่งนี้มาจากผู้นำสูงสุดของตาลีบัน Hibatullah Akhundzada และเริ่มมีผลในจังหวัด Balkh ก่อนจะขยายไปยังอีกอย่างน้อย 10 จังหวัด เช่น Kunduz, Badakhshan, Baghlan, Takhar และ Nangarhar โดยมีแนวโน้มว่าจะบังคับใช้ทั่วประเทศในไม่ช้า แม้เครือข่ายมือถือยังคงใช้งานได้ แต่ก็มีข้อจำกัดด้านความเร็วและค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจ ธนาคาร และหน่วยงานราชการประสบปัญหาในการดำเนินงานอย่างรุนแรง ผลกระทบที่น่าห่วงที่สุดคือด้านการศึกษา โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่ถูกห้ามเข้าเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2021 การเรียนออนไลน์จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่พวกเธอพึ่งพาได้ และการตัดอินเทอร์เน็ตครั้งนี้อาจทำลายโอกาสนั้นอย่างสิ้นเชิง องค์กรสื่อและสิทธิมนุษยชน เช่น NetBlocks และ CPJ ต่างออกมาเตือนว่าการตัดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์คือการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก และเป็นการเพิ่มระดับการเซ็นเซอร์อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศนี้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ตาลีบันเริ่มตัดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ในหลายจังหวัดของอัฟกานิสถานตั้งแต่กลางกันยายน 2025 ➡️ เหตุผลที่ให้คือ “ป้องกันความผิดศีลธรรม” เช่น การเข้าถึงเนื้อหาลามกและการพูดคุยระหว่างชายหญิง ➡️ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบแล้ว ได้แก่ Balkh, Kunduz, Badakhshan, Baghlan, Takhar, Nangarhar และอื่น ๆ ➡️ เครือข่ายมือถือยังใช้งานได้ แต่ช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ✅ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ➡️ ธุรกิจ ธนาคาร และหน่วยงานราชการไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ ➡️ การเรียนออนไลน์ของเด็กผู้หญิงถูกตัดขาด ซึ่งเป็นทางเลือกเดียวหลังถูกห้ามเข้าเรียน ➡️ สื่อมวลชนไม่สามารถรายงานข่าวได้อย่างอิสระ และเสี่ยงต่อการถูกจับกุม ➡️ การตัดอินเทอร์เน็ตส่งผลต่อการเชื่อมต่อระหว่างประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ อัฟกานิสถานมีเครือข่ายไฟเบอร์กว่า 1,800 กิโลเมตร และเคยอนุมัติเพิ่มอีก 488 กิโลเมตร ➡️ การตัดอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์คล้ายกับระบบอินเทอร์เน็ตภายในประเทศแบบปิด เช่นในเกาหลีเหนือ ➡️ ผู้หญิงในอัฟกานิสถานใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้ เชื่อมต่อ และหลบหนีจากการกดขี่ ➡️ การตัดอินเทอร์เน็ตอาจเป็นการป้องกันการประท้วงและการเผยแพร่ข้อมูลที่ตาลีบันไม่ต้องการให้ประชาชนเห็น https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/the-taliban-begins-implementing-fiber-optic-internet-ban-to-prevent-immorality-in-afghanistan-swathes-of-the-country-plunged-into-cyberspace-darkness
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง บันทึกวันฉลอง
    “บันทึกวันฉลอง”
    เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม
    ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง
    ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน)
    นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ)
    อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย
    (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ)
    สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้
    อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย
    พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ
    ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก
    ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง
    พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง
    สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง)
    สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
    นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart
    มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้)
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้)
    ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง)
    ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน)
    ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ)
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ)
    เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก)
    ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา)
    คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี
    หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ)
    เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง )
    จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว
    เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา
    ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767
    มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง
    อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี
    สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    เรื่อง บันทึกวันฉลอง “บันทึกวันฉลอง” เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน) นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ) อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ) สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้ อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง) สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้) ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้) ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง) ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน) ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ) เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ) เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก) ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา) คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ) เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง ) จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767 มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แต่แล้วมันก็สายเกินไป” — บทเรียนจากเยอรมนีในยุคนาซี ที่สะท้อนถึงการนิ่งเฉยของคนดี

    ในหนังสือ They Thought They Were Free: The Germans, 1933–45 โดย Milton Mayer มีตอนหนึ่งที่ทรงพลังและสะเทือนใจที่สุดคือบทสัมภาษณ์นักวิชาการชาวเยอรมันที่เล่าย้อนถึงช่วงเวลาที่เขาและเพื่อนร่วมงานค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับระบอบนาซีโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง — และมันก็สายเกินไปที่จะต่อต้าน

    เขาเล่าว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละน้อย ทุกมาตรการดูเหมือนจะเป็น “ชั่วคราว” หรือ “เพื่อความมั่นคงของชาติ” และประชาชนก็ยุ่งอยู่กับชีวิตประจำวันจนไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งสำคัญ การประชุม การกรอกเอกสาร การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กลายเป็นสิ่งที่กลืนกินเวลาและพลังงานของผู้คน แม้แต่คนมีการศึกษาอย่างเขาก็ยอมรับว่า “ไม่มีเวลาคิด” และรู้สึก “ขอบคุณ” ที่ระบอบเผด็จการทำให้ไม่ต้องเผชิญกับคำถามที่ยากลำบาก

    เมื่อมีการละเมิดสิทธิของกลุ่มต่าง ๆ เช่น คอมมิวนิสต์ นักสังคมนิยม สื่อมวลชน ชาวยิว และในที่สุดคือศาสนจักร คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทำอะไร เพราะคิดว่า “มันยังไม่แย่ขนาดนั้น” หรือ “ฉันไม่ใช่คนกลุ่มนั้น” จนกระทั่งทุกอย่างลุกลามไปถึงตัวเอง

    เขายังเล่าเรื่องผู้พิพากษาคนหนึ่งที่ตัดสินให้ชาวยิวพ้นผิดตามหลักกฎหมาย แต่กลับรู้สึกผิด เพราะรู้ดีว่าการปล่อยตัวคือการส่งเขาไปสู่ความตายโดยพรรคฯ และสุดท้ายผู้พิพากษาคนนั้นก็ถูกจับหลังจากการพยายามลอบสังหารฮิตเลอร์ในปี 1944

    ข้อความสุดท้ายของบทนี้คือการยอมรับว่า “ความละอาย” คือสิ่งที่เหลืออยู่สำหรับคนดีที่ไม่ทำอะไรเลยในเวลาที่ควรทำ และมันคือรูปแบบหนึ่งของความกล้าหาญที่น่าเศร้าที่สุด

    การเปลี่ยนผ่านสู่เผด็จการเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และแนบเนียน
    ทุกมาตรการถูกอธิบายว่าเป็นเรื่องชั่วคราวหรือเพื่อความมั่นคง
    ประชาชนค่อย ๆ ปรับตัวจนไม่รู้ตัวว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป

    คนดีจำนวนมากไม่ต่อต้าน เพราะ “ไม่มีเวลา” หรือ “ไม่ใช่เรื่องของฉัน”
    แม้แต่ผู้มีการศึกษาก็หลีกเลี่ยงการคิดถึงสิ่งสำคัญ
    ความยุ่งเหยิงในชีวิตประจำวันกลายเป็นข้ออ้างในการนิ่งเฉย

    การละเมิดสิทธิเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ แล้วขยายไปเรื่อย ๆ
    เริ่มจากคอมมิวนิสต์ นักสังคมนิยม สื่อ ชาวยิว และศาสนจักร
    คนส่วนใหญ่ไม่ทำอะไร เพราะคิดว่า “ยังไม่ถึงขั้นนั้น”

    ความละอายกลายเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่
    ผู้พิพากษาที่ตัดสินอย่างถูกต้องกลับรู้สึกผิด เพราะรู้ผลลัพธ์
    หลายคนต้องใช้ชีวิตกับความละอายที่ไม่อาจแก้ไขได้

    https://press.uchicago.edu/Misc/Chicago/511928.html
    📰 “แต่แล้วมันก็สายเกินไป” — บทเรียนจากเยอรมนีในยุคนาซี ที่สะท้อนถึงการนิ่งเฉยของคนดี ในหนังสือ They Thought They Were Free: The Germans, 1933–45 โดย Milton Mayer มีตอนหนึ่งที่ทรงพลังและสะเทือนใจที่สุดคือบทสัมภาษณ์นักวิชาการชาวเยอรมันที่เล่าย้อนถึงช่วงเวลาที่เขาและเพื่อนร่วมงานค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับระบอบนาซีโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง — และมันก็สายเกินไปที่จะต่อต้าน เขาเล่าว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละน้อย ทุกมาตรการดูเหมือนจะเป็น “ชั่วคราว” หรือ “เพื่อความมั่นคงของชาติ” และประชาชนก็ยุ่งอยู่กับชีวิตประจำวันจนไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งสำคัญ การประชุม การกรอกเอกสาร การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กลายเป็นสิ่งที่กลืนกินเวลาและพลังงานของผู้คน แม้แต่คนมีการศึกษาอย่างเขาก็ยอมรับว่า “ไม่มีเวลาคิด” และรู้สึก “ขอบคุณ” ที่ระบอบเผด็จการทำให้ไม่ต้องเผชิญกับคำถามที่ยากลำบาก เมื่อมีการละเมิดสิทธิของกลุ่มต่าง ๆ เช่น คอมมิวนิสต์ นักสังคมนิยม สื่อมวลชน ชาวยิว และในที่สุดคือศาสนจักร คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทำอะไร เพราะคิดว่า “มันยังไม่แย่ขนาดนั้น” หรือ “ฉันไม่ใช่คนกลุ่มนั้น” จนกระทั่งทุกอย่างลุกลามไปถึงตัวเอง เขายังเล่าเรื่องผู้พิพากษาคนหนึ่งที่ตัดสินให้ชาวยิวพ้นผิดตามหลักกฎหมาย แต่กลับรู้สึกผิด เพราะรู้ดีว่าการปล่อยตัวคือการส่งเขาไปสู่ความตายโดยพรรคฯ และสุดท้ายผู้พิพากษาคนนั้นก็ถูกจับหลังจากการพยายามลอบสังหารฮิตเลอร์ในปี 1944 ข้อความสุดท้ายของบทนี้คือการยอมรับว่า “ความละอาย” คือสิ่งที่เหลืออยู่สำหรับคนดีที่ไม่ทำอะไรเลยในเวลาที่ควรทำ และมันคือรูปแบบหนึ่งของความกล้าหาญที่น่าเศร้าที่สุด ✅ การเปลี่ยนผ่านสู่เผด็จการเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และแนบเนียน ➡️ ทุกมาตรการถูกอธิบายว่าเป็นเรื่องชั่วคราวหรือเพื่อความมั่นคง ➡️ ประชาชนค่อย ๆ ปรับตัวจนไม่รู้ตัวว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป ✅ คนดีจำนวนมากไม่ต่อต้าน เพราะ “ไม่มีเวลา” หรือ “ไม่ใช่เรื่องของฉัน” ➡️ แม้แต่ผู้มีการศึกษาก็หลีกเลี่ยงการคิดถึงสิ่งสำคัญ ➡️ ความยุ่งเหยิงในชีวิตประจำวันกลายเป็นข้ออ้างในการนิ่งเฉย ✅ การละเมิดสิทธิเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ แล้วขยายไปเรื่อย ๆ ➡️ เริ่มจากคอมมิวนิสต์ นักสังคมนิยม สื่อ ชาวยิว และศาสนจักร ➡️ คนส่วนใหญ่ไม่ทำอะไร เพราะคิดว่า “ยังไม่ถึงขั้นนั้น” ✅ ความละอายกลายเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ ➡️ ผู้พิพากษาที่ตัดสินอย่างถูกต้องกลับรู้สึกผิด เพราะรู้ผลลัพธ์ ➡️ หลายคนต้องใช้ชีวิตกับความละอายที่ไม่อาจแก้ไขได้ https://press.uchicago.edu/Misc/Chicago/511928.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • การศึกษาไทยรั้งท้ายอาเซียน จริงหรือไม่ แนะ 3 แนวทางการดูผลการจัดอันดับการศึกษาอย่างมีสติและเท่าทัน
    https://www.thai-tai.tv/news/21562/
    .
    #ไทยไท #การศึกษาไทย #ข่าวการศึกษา #ข่าววันนี้ #สภาการศึกษา #จัดอันดับการศึกษา
    การศึกษาไทยรั้งท้ายอาเซียน จริงหรือไม่ แนะ 3 แนวทางการดูผลการจัดอันดับการศึกษาอย่างมีสติและเท่าทัน https://www.thai-tai.tv/news/21562/ . #ไทยไท #การศึกษาไทย #ข่าวการศึกษา #ข่าววันนี้ #สภาการศึกษา #จัดอันดับการศึกษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ณัฐพงษ์ VS ณัฐพงศ์ ประชาธิปไตยคนหล่อ

    หลังจากพรรคเพื่อไทยเสียรังวัด กรณีที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้กลับมารับโทษจำคุก 1 ปี ปรากฎว่าคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ปรากฎตัวที่พรรคเพื่อไทย สร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรค พร้อมกับกระแสข่าวว่าจะทาบทาม นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท สามีของ เอม-พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปะทะกับ เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน

    ปฎิเสธไม่ได้ว่ากระแสความนิยมของพรรคส้ม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน้าตา ที่จุดประกายความหวังของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 เกิดกระแส "ฟ้ารักพ่อ" ที่ชาว LGBTQ รายหนึ่ง ตะโกนคำนี้อยู่หลายครั้ง ระหว่างปรากฎตัวในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 73 หรือจะเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกรีหนุ่มนักเรียนนอก อดีตนายแบบขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง ความหล่อของเขาช่วยเอาชนะการเลือกตั้งมาได้ถึง 14 ล้านเสียง ถึงกระนั้น แม้นายณัฐพงษ์จะดูมีแคริสมา หรือเสน่ห์น้อยกว่า แต่ประวัติการศึกษาก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน

    นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เกิดเมื่อปี 2530 จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบธุรกิจผู้ผลิตซอฟต์แวร์ เป็นลูกชายของ นายสุชาติ เรืองปัญญาวุฒิ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป

    ส่วนนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ เกิดเมื่อปี 2523 จบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทบริหารธุรกิจจาก DePaul University ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ครอบครัวทำธุรกิจการ์เมนต์ส่งออกย่านประตูน้ำ เคยได้รับการโหวตให้เป็นขวัญใจไฮโซ ของนิตยสารคลีโอในปี 2007 เคยผ่านการทำงานหลายบริษัท ก่อนร่วมกับครอบครัวเปิดบริษัทด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงลงทุนโครงการโรงแรมย่านประตูน้ำ พบรักกับเอม-พินทองทา ก่อนแต่งงานเมื่อปี 2554 มีบุตรด้วยกัน 3 คน ก่อนเข้ามาเป็นผู้บริหารใน เอสซี แอสเสท บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร

    แม้ในวันที่ไปเยี่ยมนายทักษิณที่เรือนจำ นายณัฐพงศ์ปฎิเสธว่าจะเล่นการเมือง โดยกล่าวสั้นๆ ว่า "ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย" แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายณัฐพงศ์เป็นคนสมาร์ท หล่ออยู่แล้ว ก็ต้องถามเจ้าตัวก่อน แต่หากกระแสสังคมเชียร์นายณัฐพงศ์เสียงดังมากๆ อาจจะไปเจรจาคุณหญิงพจมาน และเอม-พินทองทา ภรรยาของนายณัฐพงศ์

    #Newskit
    ณัฐพงษ์ VS ณัฐพงศ์ ประชาธิปไตยคนหล่อ หลังจากพรรคเพื่อไทยเสียรังวัด กรณีที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้กลับมารับโทษจำคุก 1 ปี ปรากฎว่าคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ปรากฎตัวที่พรรคเพื่อไทย สร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรค พร้อมกับกระแสข่าวว่าจะทาบทาม นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท สามีของ เอม-พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปะทะกับ เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฎิเสธไม่ได้ว่ากระแสความนิยมของพรรคส้ม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน้าตา ที่จุดประกายความหวังของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 เกิดกระแส "ฟ้ารักพ่อ" ที่ชาว LGBTQ รายหนึ่ง ตะโกนคำนี้อยู่หลายครั้ง ระหว่างปรากฎตัวในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 73 หรือจะเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกรีหนุ่มนักเรียนนอก อดีตนายแบบขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง ความหล่อของเขาช่วยเอาชนะการเลือกตั้งมาได้ถึง 14 ล้านเสียง ถึงกระนั้น แม้นายณัฐพงษ์จะดูมีแคริสมา หรือเสน่ห์น้อยกว่า แต่ประวัติการศึกษาก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เกิดเมื่อปี 2530 จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบธุรกิจผู้ผลิตซอฟต์แวร์ เป็นลูกชายของ นายสุชาติ เรืองปัญญาวุฒิ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป ส่วนนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ เกิดเมื่อปี 2523 จบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทบริหารธุรกิจจาก DePaul University ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ครอบครัวทำธุรกิจการ์เมนต์ส่งออกย่านประตูน้ำ เคยได้รับการโหวตให้เป็นขวัญใจไฮโซ ของนิตยสารคลีโอในปี 2007 เคยผ่านการทำงานหลายบริษัท ก่อนร่วมกับครอบครัวเปิดบริษัทด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงลงทุนโครงการโรงแรมย่านประตูน้ำ พบรักกับเอม-พินทองทา ก่อนแต่งงานเมื่อปี 2554 มีบุตรด้วยกัน 3 คน ก่อนเข้ามาเป็นผู้บริหารใน เอสซี แอสเสท บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร แม้ในวันที่ไปเยี่ยมนายทักษิณที่เรือนจำ นายณัฐพงศ์ปฎิเสธว่าจะเล่นการเมือง โดยกล่าวสั้นๆ ว่า "ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย" แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายณัฐพงศ์เป็นคนสมาร์ท หล่ออยู่แล้ว ก็ต้องถามเจ้าตัวก่อน แต่หากกระแสสังคมเชียร์นายณัฐพงศ์เสียงดังมากๆ อาจจะไปเจรจาคุณหญิงพจมาน และเอม-พินทองทา ภรรยาของนายณัฐพงศ์ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Internet Archive ยอมความคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง 621 ล้านดอลลาร์ — เมื่อการอนุรักษ์เสียงกลายเป็นสนามรบของกฎหมาย”

    หลังจากต่อสู้ในศาลมานานกว่า 2 ปี Internet Archive ได้บรรลุข้อตกลงยุติคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับกลุ่มค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ นำโดย Universal Music Group, Capitol Records และ Sony Music Entertainment ซึ่งฟ้องร้องโครงการ Great 78 Project ที่มีเป้าหมายในการอนุรักษ์และเผยแพร่เพลงเก่าจากแผ่นเสียง shellac ขนาด 78 รอบต่อนาที ที่ผลิตระหว่างปี 1890–1950

    ค่ายเพลงกล่าวหาว่า Internet Archive ทำตัวเป็น “ร้านขายแผ่นเสียงเถื่อน” โดยอ้างว่าโครงการนี้เป็นเพียงข้ออ้างในการเผยแพร่เพลงโดยไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ และอาจทำให้สูญเสียรายได้จากการสตรีมเพลง โดยมีการประเมินความเสียหายสูงถึง 621 ล้านดอลลาร์ จากการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงกว่า 4,000 รายการ รวมถึงเพลงของศิลปินระดับตำนานอย่าง Billie Holiday, Frank Sinatra และ Louis Armstrong

    ฝ่าย Internet Archive ยืนยันว่าโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อการศึกษาและการอนุรักษ์วัฒนธรรมเสียงที่กำลังจะสูญหาย โดยอ้างสิทธิ์ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ที่อนุญาตให้ห้องสมุดสามารถใช้เนื้อหาบางส่วนเพื่อการศึกษาได้ แต่ศาลไม่รับฟังข้อโต้แย้งนี้ และคดีมีแนวโน้มจะเข้าสู่การพิจารณาความเสียหายเต็มรูปแบบก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตัดสินใจยุติข้อพิพาทด้วยข้อตกลงลับ

    แม้จะไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินที่ตกลงกัน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า Internet Archive ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรนี้ถูกฟ้อง — ก่อนหน้านี้ก็เคยแพ้คดีจากกลุ่มสำนักพิมพ์หนังสือที่กล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์จากการสแกนและเผยแพร่หนังสือออนไลน์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Internet Archive ยุติคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับค่ายเพลงด้วยข้อตกลงลับ
    คดีเกี่ยวข้องกับโครงการ Great 78 Project ที่ดิจิไทซ์เพลงจากแผ่น shellac
    ค่ายเพลงกล่าวหาว่าโครงการนี้เป็นการเผยแพร่เพลงโดยไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์
    ประเมินความเสียหายสูงถึง 621 ล้านดอลลาร์จากเพลงกว่า 4,000 รายการ

    จุดยืนของ Internet Archive
    อ้างว่าโครงการมีเป้าหมายเพื่อการศึกษาและการอนุรักษ์วัฒนธรรม
    ใช้ข้อยกเว้นตามกฎหมายลิขสิทธิ์สำหรับห้องสมุดและการใช้เพื่อการศึกษา
    โครงการ Great 78 มีแผนดิจิไทซ์แผ่นเสียงกว่า 400,000 รายการ
    ได้รับการสนับสนุนจากนักอนุรักษ์เสียงและนักวิชาการหลายคน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    แผ่นเสียง 78 rpm เป็นสื่อบันทึกเสียงหลักก่อนยุคแผ่นไวนิล
    นักดนตรีกว่า 850 คนเคยลงชื่อคัดค้านการฟ้องร้อง Internet Archive
    การใช้ fair use ในคดีลิขสิทธิ์ยังเป็นประเด็นถกเถียงในวงกฎหมาย
    Internet Archive เคยแพ้คดีสแกนหนังสือกับสำนักพิมพ์ใหญ่ในปี 2024

    https://arstechnica.com/tech-policy/2025/09/internet-archives-big-battle-with-music-publishers-ends-in-settlement/
    🎙️ “Internet Archive ยอมความคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง 621 ล้านดอลลาร์ — เมื่อการอนุรักษ์เสียงกลายเป็นสนามรบของกฎหมาย” หลังจากต่อสู้ในศาลมานานกว่า 2 ปี Internet Archive ได้บรรลุข้อตกลงยุติคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับกลุ่มค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ นำโดย Universal Music Group, Capitol Records และ Sony Music Entertainment ซึ่งฟ้องร้องโครงการ Great 78 Project ที่มีเป้าหมายในการอนุรักษ์และเผยแพร่เพลงเก่าจากแผ่นเสียง shellac ขนาด 78 รอบต่อนาที ที่ผลิตระหว่างปี 1890–1950 ค่ายเพลงกล่าวหาว่า Internet Archive ทำตัวเป็น “ร้านขายแผ่นเสียงเถื่อน” โดยอ้างว่าโครงการนี้เป็นเพียงข้ออ้างในการเผยแพร่เพลงโดยไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ และอาจทำให้สูญเสียรายได้จากการสตรีมเพลง โดยมีการประเมินความเสียหายสูงถึง 621 ล้านดอลลาร์ จากการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงกว่า 4,000 รายการ รวมถึงเพลงของศิลปินระดับตำนานอย่าง Billie Holiday, Frank Sinatra และ Louis Armstrong ฝ่าย Internet Archive ยืนยันว่าโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อการศึกษาและการอนุรักษ์วัฒนธรรมเสียงที่กำลังจะสูญหาย โดยอ้างสิทธิ์ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ที่อนุญาตให้ห้องสมุดสามารถใช้เนื้อหาบางส่วนเพื่อการศึกษาได้ แต่ศาลไม่รับฟังข้อโต้แย้งนี้ และคดีมีแนวโน้มจะเข้าสู่การพิจารณาความเสียหายเต็มรูปแบบก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตัดสินใจยุติข้อพิพาทด้วยข้อตกลงลับ แม้จะไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินที่ตกลงกัน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า Internet Archive ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรนี้ถูกฟ้อง — ก่อนหน้านี้ก็เคยแพ้คดีจากกลุ่มสำนักพิมพ์หนังสือที่กล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์จากการสแกนและเผยแพร่หนังสือออนไลน์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Internet Archive ยุติคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับค่ายเพลงด้วยข้อตกลงลับ ➡️ คดีเกี่ยวข้องกับโครงการ Great 78 Project ที่ดิจิไทซ์เพลงจากแผ่น shellac ➡️ ค่ายเพลงกล่าวหาว่าโครงการนี้เป็นการเผยแพร่เพลงโดยไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ ➡️ ประเมินความเสียหายสูงถึง 621 ล้านดอลลาร์จากเพลงกว่า 4,000 รายการ ✅ จุดยืนของ Internet Archive ➡️ อ้างว่าโครงการมีเป้าหมายเพื่อการศึกษาและการอนุรักษ์วัฒนธรรม ➡️ ใช้ข้อยกเว้นตามกฎหมายลิขสิทธิ์สำหรับห้องสมุดและการใช้เพื่อการศึกษา ➡️ โครงการ Great 78 มีแผนดิจิไทซ์แผ่นเสียงกว่า 400,000 รายการ ➡️ ได้รับการสนับสนุนจากนักอนุรักษ์เสียงและนักวิชาการหลายคน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ แผ่นเสียง 78 rpm เป็นสื่อบันทึกเสียงหลักก่อนยุคแผ่นไวนิล ➡️ นักดนตรีกว่า 850 คนเคยลงชื่อคัดค้านการฟ้องร้อง Internet Archive ➡️ การใช้ fair use ในคดีลิขสิทธิ์ยังเป็นประเด็นถกเถียงในวงกฎหมาย ➡️ Internet Archive เคยแพ้คดีสแกนหนังสือกับสำนักพิมพ์ใหญ่ในปี 2024 https://arstechnica.com/tech-policy/2025/09/internet-archives-big-battle-with-music-publishers-ends-in-settlement/
    ARSTECHNICA.COM
    Internet Archive’s big battle with music publishers ends in settlement
    The true cost of keeping the Internet Archive alive will likely remain unknown.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Learn Your Way: Google ปฏิวัติหนังสือเรียนด้วย AI — เปลี่ยนเนื้อหาคงที่ให้กลายเป็นประสบการณ์เรียนรู้เฉพาะตัว”

    Google Research เปิดตัวโครงการ “Learn Your Way” ซึ่งเป็นการทดลองใช้ Generative AI เพื่อเปลี่ยนหนังสือเรียนแบบเดิมให้กลายเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ปรับแต่งได้ตามผู้เรียนแต่ละคน โดยใช้โมเดล LearnLM ที่ฝังหลักการด้านการเรียนรู้ไว้โดยตรง และผสานเข้ากับ Gemini 2.5 Pro เพื่อสร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบจากต้นฉบับเดียวกัน เช่น แผนภาพความคิด, สไลด์พร้อมเสียงบรรยาย, บทเรียนเสียง, แบบทดสอบ และข้อความเชิงโต้ตอบ

    แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนหลักการ “dual coding theory” ที่ระบุว่าการเชื่อมโยงข้อมูลในหลายรูปแบบจะช่วยสร้างโครงสร้างความเข้าใจที่แข็งแรงขึ้นในสมอง โดย Learn Your Way ให้ผู้เรียนเลือกระดับชั้นและความสนใจ เช่น กีฬา ดนตรี หรืออาหาร จากนั้นระบบจะปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับความเข้าใจ พร้อมแทนตัวอย่างทั่วไปด้วยสิ่งที่ผู้เรียนสนใจ

    ผลการทดลองกับนักเรียน 60 คนในชิคาโกพบว่า กลุ่มที่ใช้ Learn Your Way มีคะแนนการจดจำเนื้อหาในระยะยาวสูงกว่ากลุ่มที่ใช้ PDF ปกติถึง 11% และ 93% ของผู้เรียนกล่าวว่าต้องการใช้เครื่องมือนี้ในการเรียนครั้งต่อไป

    Google ยังพัฒนาโมเดลเฉพาะสำหรับสร้างภาพประกอบการเรียนรู้ เนื่องจากโมเดลภาพทั่วไปยังไม่สามารถสร้างภาพที่มีคุณภาพทางการศึกษาได้อย่างแม่นยำ โดยใช้กระบวนการหลายขั้นตอนร่วมกับ AI agent เฉพาะทาง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Learn Your Way เป็นโครงการทดลองจาก Google ที่ใช้ GenAI ปรับเนื้อหาหนังสือเรียนให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน
    ใช้โมเดล LearnLM ผสานกับ Gemini 2.5 Pro เพื่อสร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ
    ผู้เรียนสามารถเลือกระดับชั้นและความสนใจเพื่อให้ระบบปรับเนื้อหาให้ตรงกับตน
    ผลการทดลองพบว่าผู้ใช้ Learn Your Way มีคะแนนจดจำเนื้อหาสูงกว่ากลุ่มควบคุมถึง 11%

    รูปแบบเนื้อหาที่สร้างได้
    ข้อความเชิงโต้ตอบพร้อมภาพและคำถามฝังในเนื้อหา
    แบบทดสอบรายบทเพื่อประเมินความเข้าใจแบบเรียลไทม์
    สไลด์พร้อมเสียงบรรยายและกิจกรรมเติมคำ
    บทเรียนเสียงจำลองบทสนทนาระหว่างครูและนักเรียน
    แผนภาพความคิดที่สามารถขยายและย่อเพื่อดูภาพรวมและรายละเอียด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    หลักการ dual coding theory ถูกใช้ในงานวิจัยด้านการเรียนรู้มานานกว่า 40 ปี
    OpenStax เป็นผู้ให้เนื้อหาต้นฉบับสำหรับการทดลอง Learn Your Way
    การปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้
    การใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาเฉพาะบุคคลเริ่มเป็นมาตรฐานใน K-12 ทั่วโลก

    https://research.google/blog/learn-your-way-reimagining-textbooks-with-generative-ai/
    📚 “Learn Your Way: Google ปฏิวัติหนังสือเรียนด้วย AI — เปลี่ยนเนื้อหาคงที่ให้กลายเป็นประสบการณ์เรียนรู้เฉพาะตัว” Google Research เปิดตัวโครงการ “Learn Your Way” ซึ่งเป็นการทดลองใช้ Generative AI เพื่อเปลี่ยนหนังสือเรียนแบบเดิมให้กลายเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ปรับแต่งได้ตามผู้เรียนแต่ละคน โดยใช้โมเดล LearnLM ที่ฝังหลักการด้านการเรียนรู้ไว้โดยตรง และผสานเข้ากับ Gemini 2.5 Pro เพื่อสร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบจากต้นฉบับเดียวกัน เช่น แผนภาพความคิด, สไลด์พร้อมเสียงบรรยาย, บทเรียนเสียง, แบบทดสอบ และข้อความเชิงโต้ตอบ แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนหลักการ “dual coding theory” ที่ระบุว่าการเชื่อมโยงข้อมูลในหลายรูปแบบจะช่วยสร้างโครงสร้างความเข้าใจที่แข็งแรงขึ้นในสมอง โดย Learn Your Way ให้ผู้เรียนเลือกระดับชั้นและความสนใจ เช่น กีฬา ดนตรี หรืออาหาร จากนั้นระบบจะปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับความเข้าใจ พร้อมแทนตัวอย่างทั่วไปด้วยสิ่งที่ผู้เรียนสนใจ ผลการทดลองกับนักเรียน 60 คนในชิคาโกพบว่า กลุ่มที่ใช้ Learn Your Way มีคะแนนการจดจำเนื้อหาในระยะยาวสูงกว่ากลุ่มที่ใช้ PDF ปกติถึง 11% และ 93% ของผู้เรียนกล่าวว่าต้องการใช้เครื่องมือนี้ในการเรียนครั้งต่อไป Google ยังพัฒนาโมเดลเฉพาะสำหรับสร้างภาพประกอบการเรียนรู้ เนื่องจากโมเดลภาพทั่วไปยังไม่สามารถสร้างภาพที่มีคุณภาพทางการศึกษาได้อย่างแม่นยำ โดยใช้กระบวนการหลายขั้นตอนร่วมกับ AI agent เฉพาะทาง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Learn Your Way เป็นโครงการทดลองจาก Google ที่ใช้ GenAI ปรับเนื้อหาหนังสือเรียนให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน ➡️ ใช้โมเดล LearnLM ผสานกับ Gemini 2.5 Pro เพื่อสร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ ➡️ ผู้เรียนสามารถเลือกระดับชั้นและความสนใจเพื่อให้ระบบปรับเนื้อหาให้ตรงกับตน ➡️ ผลการทดลองพบว่าผู้ใช้ Learn Your Way มีคะแนนจดจำเนื้อหาสูงกว่ากลุ่มควบคุมถึง 11% ✅ รูปแบบเนื้อหาที่สร้างได้ ➡️ ข้อความเชิงโต้ตอบพร้อมภาพและคำถามฝังในเนื้อหา ➡️ แบบทดสอบรายบทเพื่อประเมินความเข้าใจแบบเรียลไทม์ ➡️ สไลด์พร้อมเสียงบรรยายและกิจกรรมเติมคำ ➡️ บทเรียนเสียงจำลองบทสนทนาระหว่างครูและนักเรียน ➡️ แผนภาพความคิดที่สามารถขยายและย่อเพื่อดูภาพรวมและรายละเอียด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ หลักการ dual coding theory ถูกใช้ในงานวิจัยด้านการเรียนรู้มานานกว่า 40 ปี ➡️ OpenStax เป็นผู้ให้เนื้อหาต้นฉบับสำหรับการทดลอง Learn Your Way ➡️ การปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้ ➡️ การใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาเฉพาะบุคคลเริ่มเป็นมาตรฐานใน K-12 ทั่วโลก https://research.google/blog/learn-your-way-reimagining-textbooks-with-generative-ai/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศษฝรั่ง ต้นแบบประชาธิปไตยที่แกนนำสามกีบ นักวิชาเกินล้มล้าง และสาวกด้อมส้มเชิดชู กำลังเผชิญวิกฤตต่อต้านรัฐบาล เพราะดันรัดเข็มขัดด้วยการ
    ตัดลดงบประมาณด้านบริการสาธารณะ ทั้งการศึกษา การแพทย์ สวัสดิการสังคม ขณะที่ค่าครองชีพพุ่ง ค่าแรงไม่ขยับ ชาวฝรั่งเศสกว่า 8 แสนคนจึงชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เศษฝรั่ง ต้นแบบประชาธิปไตยที่แกนนำสามกีบ นักวิชาเกินล้มล้าง และสาวกด้อมส้มเชิดชู กำลังเผชิญวิกฤตต่อต้านรัฐบาล เพราะดันรัดเข็มขัดด้วยการ ตัดลดงบประมาณด้านบริการสาธารณะ ทั้งการศึกษา การแพทย์ สวัสดิการสังคม ขณะที่ค่าครองชีพพุ่ง ค่าแรงไม่ขยับ ชาวฝรั่งเศสกว่า 8 แสนคนจึงชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI เปลี่ยนเกมการจ้างงานสายไซเบอร์ระดับเริ่มต้น — เมื่อ “ทักษะมนุษย์” กลายเป็นสิ่งที่ AI แทนไม่ได้

    ในปี 2025 โลกไซเบอร์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการจ้างงาน โดยเฉพาะตำแหน่งระดับเริ่มต้น (entry-level) ที่เคยเน้นทักษะเทคนิค เช่น cloud security หรือ data protection กลับถูกแทนที่ด้วยความสำคัญของ “ทักษะมนุษย์” เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสื่อสารข้ามทีม

    รายงานจาก ISC2 ที่สำรวจผู้จัดการฝ่ายจ้างงานกว่า 900 คนทั่วโลก พบว่า AI เข้ามารับหน้าที่ตรวจจับภัยคุกคามและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับทักษะที่ AI ไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับทีมกฎหมาย การตลาด และ HR

    ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า การพึ่งพาใบประกาศนียบัตรหรือวุฒิการศึกษามากเกินไป กลายเป็นอุปสรรคต่อการจ้างงาน เพราะผู้มีประสบการณ์จริงกลับถูกมองข้าม หากไม่มี “ใบรับรองที่ถูกต้อง” ขณะที่ผู้มีความสามารถจากสายอาชีพอื่น เช่น เกมเมอร์ นักสร้างสรรค์ หรือผู้มีความคิดลึกซึ้งในชุมชนออนไลน์ กลับมีศักยภาพสูงในการเป็นนักไซเบอร์

    AI ยังส่งผลให้บทบาทของ SOC Analyst ระดับ 1 ถูกลดความสำคัญลง เพราะระบบสามารถจัดการงานตรวจสอบเบื้องต้นได้เอง ทำให้ตำแหน่งใหม่ต้องเน้นการให้คำปรึกษา การวางกลยุทธ์ และการสื่อสารกับผู้บริหารมากขึ้น

    องค์กรที่ปรับตัวได้ดี เช่น e2e-assure และ Bridewell เริ่มเปิดรับบุคลากรจากกลุ่ม neurodiverse และผู้เปลี่ยนอาชีพ โดยเน้นการฝึกอบรมผ่านเวิร์กช็อปและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย รวมถึงกลุ่มสนับสนุนทหารผ่านศึกและผู้หญิงในสายไซเบอร์

    AI เปลี่ยนแนวทางการจ้างงานในสายไซเบอร์ระดับเริ่มต้น
    ทักษะมนุษย์ เช่น การแก้ปัญหาและการสื่อสาร มีความสำคัญมากขึ้น
    ทักษะเทคนิคพื้นฐานถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ

    รายงานจาก ISC2 ยืนยันแนวโน้มนี้
    สำรวจผู้จัดการจ้างงานจาก 6 ประเทศ
    พบว่าทักษะวิเคราะห์และ teamwork สำคัญกว่าใบประกาศ

    องค์กรเริ่มเปิดรับบุคลากรจากสายอาชีพหลากหลาย
    เช่น neurodiverse, ทหารผ่านศึก, ผู้เปลี่ยนอาชีพ
    ใช้เวิร์กช็อปและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการฝึกอบรม

    SOC Analyst ระดับ 1 อาจถูกแทนที่โดย AI
    งานตรวจสอบเบื้องต้นถูกจัดการโดยระบบอัตโนมัติ
    บทบาทใหม่เน้นการให้คำปรึกษาและการสื่อสารกับผู้บริหาร

    การพึ่งพาใบประกาศมากเกินไปเป็นอุปสรรค
    ผู้มีประสบการณ์จริงถูกมองข้ามหากไม่มี “ใบรับรองที่ถูกต้อง”
    อุตสาหกรรมควรเปิดรับผู้มีความสามารถจากชุมชนออนไลน์

    คำเตือนเกี่ยวกับการปรับตัวขององค์กร
    หากยังเน้นวุฒิการศึกษาและใบประกาศ อาจพลาดคนเก่ง
    การลดตำแหน่งระดับเริ่มต้นอาจทำให้ขาดแคลนบุคลากรในระยะยาว
    การใช้ AI โดยไม่มีการฝึกอบรมพนักงาน อาจสร้างช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    การไม่เปิดรับความหลากหลาย อาจทำให้องค์กรขาดมุมมองใหม่ ๆ

    https://www.csoonline.com/article/4058190/ai-is-altering-entry-level-cyber-hiring-and-the-nature-of-the-skills-gap.html
    📰 AI เปลี่ยนเกมการจ้างงานสายไซเบอร์ระดับเริ่มต้น — เมื่อ “ทักษะมนุษย์” กลายเป็นสิ่งที่ AI แทนไม่ได้ ในปี 2025 โลกไซเบอร์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการจ้างงาน โดยเฉพาะตำแหน่งระดับเริ่มต้น (entry-level) ที่เคยเน้นทักษะเทคนิค เช่น cloud security หรือ data protection กลับถูกแทนที่ด้วยความสำคัญของ “ทักษะมนุษย์” เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสื่อสารข้ามทีม รายงานจาก ISC2 ที่สำรวจผู้จัดการฝ่ายจ้างงานกว่า 900 คนทั่วโลก พบว่า AI เข้ามารับหน้าที่ตรวจจับภัยคุกคามและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับทักษะที่ AI ไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับทีมกฎหมาย การตลาด และ HR ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า การพึ่งพาใบประกาศนียบัตรหรือวุฒิการศึกษามากเกินไป กลายเป็นอุปสรรคต่อการจ้างงาน เพราะผู้มีประสบการณ์จริงกลับถูกมองข้าม หากไม่มี “ใบรับรองที่ถูกต้อง” ขณะที่ผู้มีความสามารถจากสายอาชีพอื่น เช่น เกมเมอร์ นักสร้างสรรค์ หรือผู้มีความคิดลึกซึ้งในชุมชนออนไลน์ กลับมีศักยภาพสูงในการเป็นนักไซเบอร์ AI ยังส่งผลให้บทบาทของ SOC Analyst ระดับ 1 ถูกลดความสำคัญลง เพราะระบบสามารถจัดการงานตรวจสอบเบื้องต้นได้เอง ทำให้ตำแหน่งใหม่ต้องเน้นการให้คำปรึกษา การวางกลยุทธ์ และการสื่อสารกับผู้บริหารมากขึ้น องค์กรที่ปรับตัวได้ดี เช่น e2e-assure และ Bridewell เริ่มเปิดรับบุคลากรจากกลุ่ม neurodiverse และผู้เปลี่ยนอาชีพ โดยเน้นการฝึกอบรมผ่านเวิร์กช็อปและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย รวมถึงกลุ่มสนับสนุนทหารผ่านศึกและผู้หญิงในสายไซเบอร์ ✅ AI เปลี่ยนแนวทางการจ้างงานในสายไซเบอร์ระดับเริ่มต้น ➡️ ทักษะมนุษย์ เช่น การแก้ปัญหาและการสื่อสาร มีความสำคัญมากขึ้น ➡️ ทักษะเทคนิคพื้นฐานถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ ✅ รายงานจาก ISC2 ยืนยันแนวโน้มนี้ ➡️ สำรวจผู้จัดการจ้างงานจาก 6 ประเทศ ➡️ พบว่าทักษะวิเคราะห์และ teamwork สำคัญกว่าใบประกาศ ✅ องค์กรเริ่มเปิดรับบุคลากรจากสายอาชีพหลากหลาย ➡️ เช่น neurodiverse, ทหารผ่านศึก, ผู้เปลี่ยนอาชีพ ➡️ ใช้เวิร์กช็อปและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการฝึกอบรม ✅ SOC Analyst ระดับ 1 อาจถูกแทนที่โดย AI ➡️ งานตรวจสอบเบื้องต้นถูกจัดการโดยระบบอัตโนมัติ ➡️ บทบาทใหม่เน้นการให้คำปรึกษาและการสื่อสารกับผู้บริหาร ✅ การพึ่งพาใบประกาศมากเกินไปเป็นอุปสรรค ➡️ ผู้มีประสบการณ์จริงถูกมองข้ามหากไม่มี “ใบรับรองที่ถูกต้อง” ➡️ อุตสาหกรรมควรเปิดรับผู้มีความสามารถจากชุมชนออนไลน์ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการปรับตัวขององค์กร ⛔ หากยังเน้นวุฒิการศึกษาและใบประกาศ อาจพลาดคนเก่ง ⛔ การลดตำแหน่งระดับเริ่มต้นอาจทำให้ขาดแคลนบุคลากรในระยะยาว ⛔ การใช้ AI โดยไม่มีการฝึกอบรมพนักงาน อาจสร้างช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ⛔ การไม่เปิดรับความหลากหลาย อาจทำให้องค์กรขาดมุมมองใหม่ ๆ https://www.csoonline.com/article/4058190/ai-is-altering-entry-level-cyber-hiring-and-the-nature-of-the-skills-gap.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI is altering entry-level cyber hiring — and the nature of the skills gap
    To build a stronger future workforce, CISOs need to prioritize problem-solving over existing technical knowledge, while broadening their search for talent beyond traditional pipelines.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Slack vs Hack Club: เมื่อ SaaS ยักษ์ใหญ่เรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม 39 เท่าในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

    Hack Club องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ให้การศึกษาด้านการเขียนโปรแกรมแก่เยาวชนทั่วโลก กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อ Slack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้สื่อสารภายในองค์กรมากว่า 11 ปี ได้แจ้งว่าหากไม่จ่ายเงินเพิ่มอีก $50,000 ภายในสัปดาห์นี้ และเปลี่ยนแผนเป็น $195,000 ต่อปี พื้นที่ทำงานของ Hack Club จะถูกปิดและข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบ

    เดิมที Hack Club เคยใช้แผนฟรีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแผน $5,000/ปี ซึ่งพวกเขายินดีจ่าย เพราะเห็นคุณค่าของบริการ แต่การขึ้นราคาครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มถึง 39 เท่า โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าอย่างเหมาะสม ทำให้ทีมงานต้องเร่งย้ายระบบทั้งหมดไปยัง Mattermost ภายในเวลาอันจำกัด

    หลังโพสต์ของ Mahad Kalam จาก Hack Club ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Hacker News และ X (Twitter) ซีอีโอของ Slack ได้ติดต่อกลับมาเพื่อ “แก้ไขสถานการณ์” แม้จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่ Hack Club ยืนยันว่าเงื่อนไขใหม่ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้จุดประกายคำถามสำคัญเกี่ยวกับการพึ่งพา SaaS และความจำเป็นในการ “เป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเอง”

    https://skyfall.dev/posts/slack
    📰 Slack vs Hack Club: เมื่อ SaaS ยักษ์ใหญ่เรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม 39 เท่าในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ Hack Club องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ให้การศึกษาด้านการเขียนโปรแกรมแก่เยาวชนทั่วโลก กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อ Slack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้สื่อสารภายในองค์กรมากว่า 11 ปี ได้แจ้งว่าหากไม่จ่ายเงินเพิ่มอีก $50,000 ภายในสัปดาห์นี้ และเปลี่ยนแผนเป็น $195,000 ต่อปี พื้นที่ทำงานของ Hack Club จะถูกปิดและข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบ เดิมที Hack Club เคยใช้แผนฟรีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแผน $5,000/ปี ซึ่งพวกเขายินดีจ่าย เพราะเห็นคุณค่าของบริการ แต่การขึ้นราคาครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มถึง 39 เท่า โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าอย่างเหมาะสม ทำให้ทีมงานต้องเร่งย้ายระบบทั้งหมดไปยัง Mattermost ภายในเวลาอันจำกัด หลังโพสต์ของ Mahad Kalam จาก Hack Club ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Hacker News และ X (Twitter) ซีอีโอของ Slack ได้ติดต่อกลับมาเพื่อ “แก้ไขสถานการณ์” แม้จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่ Hack Club ยืนยันว่าเงื่อนไขใหม่ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้จุดประกายคำถามสำคัญเกี่ยวกับการพึ่งพา SaaS และความจำเป็นในการ “เป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเอง” https://skyfall.dev/posts/slack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!!! ‘คุณหญิงกัลยา’ ลาออกจาก ‘ประชาธิปัตย์’ ลั่นอุทิศชีวิตเพื่อ ‘การศึกษา’
    https://www.thai-tai.tv/news/21545/
    ด่วน!!! ‘คุณหญิงกัลยา’ ลาออกจาก ‘ประชาธิปัตย์’ ลั่นอุทิศชีวิตเพื่อ ‘การศึกษา’ https://www.thai-tai.tv/news/21545/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสามารถห้ามนำเข้าได้หมดล่ะ ตลอดแรงงานต่างชาติ ต่างด้าวทั้งหมดด้วย เอกชนไทยหรือต่างชาติใดไม่ยอมก็ถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจบนแผ่นดินไทยทุกๆประเภทได้ทันทีเลย,ย้ายฐานโรงงานตนไปประกอบการค้าที่ประเทศอื่น,จ้างแรงงานในชาตินั้นทันทีได้ ซื้อราคาวัตถุดิบในทันทีได้ ส่วนรัฐบาลไทยจะให้เอกชนนั้นๆนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้อีกหรือไม่ก็อีกกรณีหนึ่งเช่นกัน,เพราะไม่ยอมส่งเสริมการจ้างงานคนไทย ไม่ส่งเสริมรับซื้อผลผลิตจากคนไทย ,ฝันอะไรที่รัฐบาลประชาชนจะตีตราอนุญาตสินค้าของบริษัทกิจการนี้มาขายมานำเข้ามาขายในประเทศไทยได้ เราสามารถแบนสินค้าของธุรกิจกิจการนายทุนคนไหนก็ได้เมื่อรัฐบาลไทยเข้มแข็ง การสร้างงานสร้างอาชีพคนไทยต้องมาก่อน ,คนไทยมีงานทำก็มีรายได้,มิใช่ให้ต่างชาติต่างด้าวมาแย่งงานคนไทยทั้งสุมหัวกับเจ้าของกิจการเอกชนภายในไทยทำลายสถานะสัมมาอาชีพคนไทยได้ ทั้งทำงานในกิจการต่างๆในไทยและอิสระดำเนินกิจการเอง,กรมแรงงานไทยต้องพลิกบทบาทใหม่หมดครบคุมกิจการบริษัทได้ ยกเลิกและถอนใบประกอบกิจการได้หากปฏิเสธแรงงานที่รัฐบาลจัดสรรแรงงานให้,กรมแรงงานสามารถวางแผนอัตรางานและกำลังงานได้ เตรียมพร้อมเยาวชนผู้จบใหม่มาทำงานได้ไม่ตกงาน,ยกเลิกกพ.ด้วย.,ให้กรมแรงงานรับผิดชอบการทำงานทั้งของภาครัฐและเอกชนครบวงจรทั้งหมด,การกำกับดูแลจะเป็นในทิศทางเดียวกัน,นักศึกษาจะจบมาสามารถคาดการณ์ว่าตนสามารถเข้างานภาครัฐหรือเอกชนได้ทันทีอย่างไรด้วยเกรดคะแนนที่เล่าเรียนมาตลอดขี้นลำดับการศึกษา,ยกเลิกการสอบครู สอบกพ.ทั้งหมด,ให้ประเมินวิธีอื่นที่เหมาะสมทดแทน ไม่บ้าไม่ประสาทก็จบแล้ว,เพราะเยาวชนไทยเราสามารถฝึกทดลองงานให้เข้ากับเนื้องานหน้างานได้ภายใน1ปี,บรรจุทันทีในทางราชการหรือเอกชนเพื่อให้เยาวชนไทยเรามั่นใจในการทำงานสน้างฐานะรายได้ได้,ปัจจุบันเหี้ยหมดเลอะเทอะไร้ระบบ,เททิ้งเทเยาวชนตกงานหมด,ควบคุมกิจการบริษัทนายลงทุนไม่ได้,นำเข้าแรงงานต่างชาติทำลายเยาวชนตนให้ด้อยค่าอีก,นี้คือการทำลายอธิปไตยด้านความมั่นคงเราอีกนัยยะหนึ่งด้วย.
    ..ผู้นำผู้ปกครองจึงสำคัญมาก เรากากมานานเกินพอจริงๆ,ระบบกากๆต้องถูกทำลาย.

    https://youtube.com/shorts/qd0_qakCj0A?si=lmaEG7-LqFnoGD5q
    รัฐบาลสามารถห้ามนำเข้าได้หมดล่ะ ตลอดแรงงานต่างชาติ ต่างด้าวทั้งหมดด้วย เอกชนไทยหรือต่างชาติใดไม่ยอมก็ถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจบนแผ่นดินไทยทุกๆประเภทได้ทันทีเลย,ย้ายฐานโรงงานตนไปประกอบการค้าที่ประเทศอื่น,จ้างแรงงานในชาตินั้นทันทีได้ ซื้อราคาวัตถุดิบในทันทีได้ ส่วนรัฐบาลไทยจะให้เอกชนนั้นๆนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้อีกหรือไม่ก็อีกกรณีหนึ่งเช่นกัน,เพราะไม่ยอมส่งเสริมการจ้างงานคนไทย ไม่ส่งเสริมรับซื้อผลผลิตจากคนไทย ,ฝันอะไรที่รัฐบาลประชาชนจะตีตราอนุญาตสินค้าของบริษัทกิจการนี้มาขายมานำเข้ามาขายในประเทศไทยได้ เราสามารถแบนสินค้าของธุรกิจกิจการนายทุนคนไหนก็ได้เมื่อรัฐบาลไทยเข้มแข็ง การสร้างงานสร้างอาชีพคนไทยต้องมาก่อน ,คนไทยมีงานทำก็มีรายได้,มิใช่ให้ต่างชาติต่างด้าวมาแย่งงานคนไทยทั้งสุมหัวกับเจ้าของกิจการเอกชนภายในไทยทำลายสถานะสัมมาอาชีพคนไทยได้ ทั้งทำงานในกิจการต่างๆในไทยและอิสระดำเนินกิจการเอง,กรมแรงงานไทยต้องพลิกบทบาทใหม่หมดครบคุมกิจการบริษัทได้ ยกเลิกและถอนใบประกอบกิจการได้หากปฏิเสธแรงงานที่รัฐบาลจัดสรรแรงงานให้,กรมแรงงานสามารถวางแผนอัตรางานและกำลังงานได้ เตรียมพร้อมเยาวชนผู้จบใหม่มาทำงานได้ไม่ตกงาน,ยกเลิกกพ.ด้วย.,ให้กรมแรงงานรับผิดชอบการทำงานทั้งของภาครัฐและเอกชนครบวงจรทั้งหมด,การกำกับดูแลจะเป็นในทิศทางเดียวกัน,นักศึกษาจะจบมาสามารถคาดการณ์ว่าตนสามารถเข้างานภาครัฐหรือเอกชนได้ทันทีอย่างไรด้วยเกรดคะแนนที่เล่าเรียนมาตลอดขี้นลำดับการศึกษา,ยกเลิกการสอบครู สอบกพ.ทั้งหมด,ให้ประเมินวิธีอื่นที่เหมาะสมทดแทน ไม่บ้าไม่ประสาทก็จบแล้ว,เพราะเยาวชนไทยเราสามารถฝึกทดลองงานให้เข้ากับเนื้องานหน้างานได้ภายใน1ปี,บรรจุทันทีในทางราชการหรือเอกชนเพื่อให้เยาวชนไทยเรามั่นใจในการทำงานสน้างฐานะรายได้ได้,ปัจจุบันเหี้ยหมดเลอะเทอะไร้ระบบ,เททิ้งเทเยาวชนตกงานหมด,ควบคุมกิจการบริษัทนายลงทุนไม่ได้,นำเข้าแรงงานต่างชาติทำลายเยาวชนตนให้ด้อยค่าอีก,นี้คือการทำลายอธิปไตยด้านความมั่นคงเราอีกนัยยะหนึ่งด้วย. ..ผู้นำผู้ปกครองจึงสำคัญมาก เรากากมานานเกินพอจริงๆ,ระบบกากๆต้องถูกทำลาย. https://youtube.com/shorts/qd0_qakCj0A?si=lmaEG7-LqFnoGD5q
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1

    ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก

    อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ?

    อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ?

    อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ

    อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ?

    อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่

    อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู

    อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้

    ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ

    ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย?

    แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว

    อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ

    อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที)

    อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่

    อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน)

    หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่!

    LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง

    สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ)

    อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย?

    (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน)

    อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ

    อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่

    สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง

    อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้

    1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้
    2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น
    3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที
    4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ
    5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง
    6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป
    7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ
    8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ
    9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง
    10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว
    11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร.
    12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70
    13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด
    14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ
    15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง

    หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน

    สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ

    อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย

    สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ

    อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง?

    ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ)

    ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย?

    นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ"

    บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที

    ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1 ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ? อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ? อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ? อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่ อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้ ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย? แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่) สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที) อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที) สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่ อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน) หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่! LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ) อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย? (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน) อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่ สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้ 1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้ 2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น 3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที 4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ 5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง 6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป 7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ 8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ 9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง 10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว 11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร. 12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70 13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด 14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ 15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง? ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ) ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย? นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ" บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP31 | อาคาร 100 ปี โดดเด่นเคียงคู่ มัสยิดบางอ้อ

    ท่ามกลางชุมชนมุสลิมย่านบางอ้อ นอกจากมัสยิดที่งดงามสมคำร่ำลือ ยังมี “อาคาร 100 ปี” ที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างมัสยิด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความทรงจำและประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้

    อาคารหลังนี้ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง การเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และการรวมพลังของผู้คนหลายยุคหลายสมัย

    จากอาคารไม้หลังเก่า สู่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และกิจกรรมของชาวมุสลิมบางอ้อ อาคาร 100 ปีหลังนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของชุมชนอย่างใกล้ชิด

    ติดตามเรื่องราวของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ และบทบาทสำคัญที่ยังคงมีอยู่จวบจนปัจจุบัน

    #สลามเมืองไทย #EP31 #อาคาร100ปี #มัสยิดบางอ้อ #มรดกชุมชน #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ #ศรัทธาและกาลเวลา #ThaiMuslimCommunity #MuslimHeritage #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP31 | อาคาร 100 ปี โดดเด่นเคียงคู่ มัสยิดบางอ้อ ท่ามกลางชุมชนมุสลิมย่านบางอ้อ นอกจากมัสยิดที่งดงามสมคำร่ำลือ ยังมี “อาคาร 100 ปี” ที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างมัสยิด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความทรงจำและประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ อาคารหลังนี้ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง การเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และการรวมพลังของผู้คนหลายยุคหลายสมัย จากอาคารไม้หลังเก่า สู่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และกิจกรรมของชาวมุสลิมบางอ้อ อาคาร 100 ปีหลังนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของชุมชนอย่างใกล้ชิด ติดตามเรื่องราวของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ และบทบาทสำคัญที่ยังคงมีอยู่จวบจนปัจจุบัน #สลามเมืองไทย #EP31 #อาคาร100ปี #มัสยิดบางอ้อ #มรดกชุมชน #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ #ศรัทธาและกาลเวลา #ThaiMuslimCommunity #MuslimHeritage #ThaiTimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “ฮ่องกงเตรียมปรับแนวทางการใช้หน้าจอของเด็ก — แก้ปัญาสายตาสั้นและสุขภาพจิตในยุคดิจิทัล”

    รัฐบาลฮ่องกงเตรียมประกาศแนวทางใหม่ในการจำกัดเวลาใช้หน้าจอของเด็กในนโยบายสุขภาพที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยจะเน้นการลดการใช้มือถือและโซเชียลมีเดียในกลุ่มเด็กเล็ก ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน โดยไม่ใช้มาตรการทางกฎหมาย แต่จะปรับปรุงแนวทางแนะนำให้ชัดเจนและทันสมัยมากขึ้น

    การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากความกังวลเรื่องอัตราสายตาสั้นในเด็กฮ่องกงที่สูงที่สุดในโลก และแนวโน้มการใช้หน้าจอเพื่อความบันเทิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนประถมและมัธยม ซึ่งมีการใช้มือถือเพื่อเรียนและเล่นในระดับที่เกินคำแนะนำเดิมของกรมอนามัย

    ปัจจุบันฮ่องกงไม่มีข้อบังคับทางกฎหมายเกี่ยวกับเวลาใช้หน้าจอ แต่มีแนวทางแนะนำ เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีควรหลีกเลี่ยงหน้าจอ ยกเว้นการวิดีโอคอลกับผู้ปกครอง เด็กอายุ 2–5 ปีควรจำกัดไว้ที่ 1 ชั่วโมงต่อวัน และเด็กอายุ 6–12 ปีไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน

    รัฐบาลจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการศึกษาเพื่อปรับปรุงแนวทางให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน โดยอาจพิจารณาให้โรงเรียนจำกัดการใช้มือถือในชั้นเรียน และตั้งคำถามว่าเด็กประถมควรเข้าถึงโซเชียลมีเดียหรือไม่

    ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น เช่น จีนจำกัดเวลาเล่นเกมออนไลน์ของเด็กไว้แค่ 1 ชั่วโมงต่อวันในวันหยุด, ออสเตรเลียเตรียมแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี และฝรั่งเศสออกกฎหมายให้แพลตฟอร์มต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้และขอความยินยอมจากผู้ปกครอง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ฮ่องกงเตรียมปรับแนวทางการใช้หน้าจอของเด็กในนโยบายสุขภาพ
    เน้นลดการใช้มือถือและโซเชียลมีเดียในกลุ่มเด็กเล็ก
    ไม่มีการออกกฎหมาย แต่จะปรับปรุงแนวทางแนะนำให้ทันสมัย
    ปัจจุบันแนวทางแนะนำคือ 1–2 ชั่วโมงต่อวันตามช่วงอายุ

    เหตุผลและแรงจูงใจ
    เด็กฮ่องกงมีอัตราสายตาสั้นสูงที่สุดในโลก
    การใช้หน้าจอเพื่อความบันเทิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    นักเรียนใช้มือถือเพื่อเรียนและเล่นเกินคำแนะนำเดิม
    รัฐบาลจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการศึกษา

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    จีนจำกัดเวลาเล่นเกมออนไลน์ของเด็กไว้ที่ 1 ชั่วโมงต่อวันในวันหยุด
    ออสเตรเลียเตรียมแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี
    ฝรั่งเศสออกกฎหมายให้แพลตฟอร์มต้องตรวจสอบอายุและขอความยินยอม
    สหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมาย Kids Off Social Media Act เพื่อแบนเด็กต่ำกว่า 13 ปี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/17/how-much-screen-time-should-kids-have-hong-kong-leader-to-seek-expert-advice
    📱 “ฮ่องกงเตรียมปรับแนวทางการใช้หน้าจอของเด็ก — แก้ปัญาสายตาสั้นและสุขภาพจิตในยุคดิจิทัล” รัฐบาลฮ่องกงเตรียมประกาศแนวทางใหม่ในการจำกัดเวลาใช้หน้าจอของเด็กในนโยบายสุขภาพที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยจะเน้นการลดการใช้มือถือและโซเชียลมีเดียในกลุ่มเด็กเล็ก ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน โดยไม่ใช้มาตรการทางกฎหมาย แต่จะปรับปรุงแนวทางแนะนำให้ชัดเจนและทันสมัยมากขึ้น การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากความกังวลเรื่องอัตราสายตาสั้นในเด็กฮ่องกงที่สูงที่สุดในโลก และแนวโน้มการใช้หน้าจอเพื่อความบันเทิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนประถมและมัธยม ซึ่งมีการใช้มือถือเพื่อเรียนและเล่นในระดับที่เกินคำแนะนำเดิมของกรมอนามัย ปัจจุบันฮ่องกงไม่มีข้อบังคับทางกฎหมายเกี่ยวกับเวลาใช้หน้าจอ แต่มีแนวทางแนะนำ เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีควรหลีกเลี่ยงหน้าจอ ยกเว้นการวิดีโอคอลกับผู้ปกครอง เด็กอายุ 2–5 ปีควรจำกัดไว้ที่ 1 ชั่วโมงต่อวัน และเด็กอายุ 6–12 ปีไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน รัฐบาลจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการศึกษาเพื่อปรับปรุงแนวทางให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน โดยอาจพิจารณาให้โรงเรียนจำกัดการใช้มือถือในชั้นเรียน และตั้งคำถามว่าเด็กประถมควรเข้าถึงโซเชียลมีเดียหรือไม่ ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น เช่น จีนจำกัดเวลาเล่นเกมออนไลน์ของเด็กไว้แค่ 1 ชั่วโมงต่อวันในวันหยุด, ออสเตรเลียเตรียมแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี และฝรั่งเศสออกกฎหมายให้แพลตฟอร์มต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้และขอความยินยอมจากผู้ปกครอง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ฮ่องกงเตรียมปรับแนวทางการใช้หน้าจอของเด็กในนโยบายสุขภาพ ➡️ เน้นลดการใช้มือถือและโซเชียลมีเดียในกลุ่มเด็กเล็ก ➡️ ไม่มีการออกกฎหมาย แต่จะปรับปรุงแนวทางแนะนำให้ทันสมัย ➡️ ปัจจุบันแนวทางแนะนำคือ 1–2 ชั่วโมงต่อวันตามช่วงอายุ ✅ เหตุผลและแรงจูงใจ ➡️ เด็กฮ่องกงมีอัตราสายตาสั้นสูงที่สุดในโลก ➡️ การใช้หน้าจอเพื่อความบันเทิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ➡️ นักเรียนใช้มือถือเพื่อเรียนและเล่นเกินคำแนะนำเดิม ➡️ รัฐบาลจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการศึกษา ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ จีนจำกัดเวลาเล่นเกมออนไลน์ของเด็กไว้ที่ 1 ชั่วโมงต่อวันในวันหยุด ➡️ ออสเตรเลียเตรียมแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ➡️ ฝรั่งเศสออกกฎหมายให้แพลตฟอร์มต้องตรวจสอบอายุและขอความยินยอม ➡️ สหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมาย Kids Off Social Media Act เพื่อแบนเด็กต่ำกว่า 13 ปี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/17/how-much-screen-time-should-kids-have-hong-kong-leader-to-seek-expert-advice
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How much screen time should kids have? Hong Kong leader to seek expert advice
    Government source rules out bans but backs tougher restrictions on device use in schools and homes under new initiative within policy address.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Apple-1 ในตำนานเตรียมประมูลทะลุ $300,000 — คอมพิวเตอร์ไม้ที่เปลี่ยนโลก และเรื่องราวของเจ้าของผู้บุกเบิก”

    ในวันที่ 20 กันยายน 2025 ที่งาน Remarkable Rarities ของ RR Auctions ณ เมืองบอสตัน จะมีการประมูล Apple-1 เครื่องหายากที่ยังใช้งานได้จริง พร้อมกล่องไม้ Byte Shop ดั้งเดิม ซึ่งเชื่อว่าหลงเหลืออยู่เพียง 9 เครื่องในโลกเท่านั้น

    Apple-1 เครื่องนี้ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่เป็น “ของจริง” ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุดจากยุค 1976 ได้แก่ แผงวงจร Apple-1 หมายเลข “01-0020”, แป้นพิมพ์ Datanetics, จอภาพ, อินเทอร์เฟซเทป, ซอฟต์แวร์บนเทปคาสเซ็ต และคู่มือการใช้งานแบบร่วมสมัย ทุกชิ้นเป็นของแท้หรือถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วนที่ถูกต้องตามยุคสมัย

    สิ่งที่ทำให้เครื่องนี้พิเศษยิ่งขึ้นคือ “เจ้าของเดิม” — June Blodgett Moore ผู้หญิงคนแรกที่จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งทำให้เครื่องนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งด้านเทคโนโลยีและสังคม

    ตัวเครื่องได้รับการตรวจสอบและฟื้นฟูโดยผู้เชี่ยวชาญ Corey Cohen ในช่วงกลางปี 2025 และได้รับการประเมินสภาพที่ 8.0/10 โดยมีรอยร้าวเล็ก ๆ บนกล่องไม้ และแผ่นหลังที่ถูกถอดออกเพื่อเข้าถึงสายไฟ

    ภายในยังคงมีชิป MOS 6502 แบบเซรามิกขาว และตัวเก็บประจุ Sprague “Big Blue” ทั้งสามตัวดั้งเดิม ซึ่งหายากมากในเครื่องที่ยังหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนไดโอดบางตัวด้วยชิ้นส่วนที่ถูกต้องตามยุคเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของระบบ

    กล่องไม้ Byte Shop นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นผลจากดีลครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง Steve Jobs และ Steve Wozniak กับร้าน Byte Shop ที่สั่งซื้อ Apple-1 จำนวน 50 เครื่องในราคาต่อเครื่อง $500 และขายต่อที่ $666.66 ซึ่ง Wozniakเคยกล่าวว่า “ไม่มีเหตุการณ์ใดในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ยิ่งใหญ่และเหนือความคาดหมายเท่านี้อีกแล้ว”

    https://www.tomshardware.com/pc-components/pc-cases/rare-apple-1-with-storied-ownership-could-fetch-over-usd300-000-at-auction-unit-housed-in-original-wood-case-thought-to-be-one-of-just-nine-surviving-examples
    🍏 “Apple-1 ในตำนานเตรียมประมูลทะลุ $300,000 — คอมพิวเตอร์ไม้ที่เปลี่ยนโลก และเรื่องราวของเจ้าของผู้บุกเบิก” ในวันที่ 20 กันยายน 2025 ที่งาน Remarkable Rarities ของ RR Auctions ณ เมืองบอสตัน จะมีการประมูล Apple-1 เครื่องหายากที่ยังใช้งานได้จริง พร้อมกล่องไม้ Byte Shop ดั้งเดิม ซึ่งเชื่อว่าหลงเหลืออยู่เพียง 9 เครื่องในโลกเท่านั้น Apple-1 เครื่องนี้ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่เป็น “ของจริง” ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุดจากยุค 1976 ได้แก่ แผงวงจร Apple-1 หมายเลข “01-0020”, แป้นพิมพ์ Datanetics, จอภาพ, อินเทอร์เฟซเทป, ซอฟต์แวร์บนเทปคาสเซ็ต และคู่มือการใช้งานแบบร่วมสมัย ทุกชิ้นเป็นของแท้หรือถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วนที่ถูกต้องตามยุคสมัย สิ่งที่ทำให้เครื่องนี้พิเศษยิ่งขึ้นคือ “เจ้าของเดิม” — June Blodgett Moore ผู้หญิงคนแรกที่จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งทำให้เครื่องนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งด้านเทคโนโลยีและสังคม ตัวเครื่องได้รับการตรวจสอบและฟื้นฟูโดยผู้เชี่ยวชาญ Corey Cohen ในช่วงกลางปี 2025 และได้รับการประเมินสภาพที่ 8.0/10 โดยมีรอยร้าวเล็ก ๆ บนกล่องไม้ และแผ่นหลังที่ถูกถอดออกเพื่อเข้าถึงสายไฟ ภายในยังคงมีชิป MOS 6502 แบบเซรามิกขาว และตัวเก็บประจุ Sprague “Big Blue” ทั้งสามตัวดั้งเดิม ซึ่งหายากมากในเครื่องที่ยังหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนไดโอดบางตัวด้วยชิ้นส่วนที่ถูกต้องตามยุคเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของระบบ กล่องไม้ Byte Shop นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นผลจากดีลครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง Steve Jobs และ Steve Wozniak กับร้าน Byte Shop ที่สั่งซื้อ Apple-1 จำนวน 50 เครื่องในราคาต่อเครื่อง $500 และขายต่อที่ $666.66 ซึ่ง Wozniakเคยกล่าวว่า “ไม่มีเหตุการณ์ใดในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ยิ่งใหญ่และเหนือความคาดหมายเท่านี้อีกแล้ว” https://www.tomshardware.com/pc-components/pc-cases/rare-apple-1-with-storied-ownership-could-fetch-over-usd300-000-at-auction-unit-housed-in-original-wood-case-thought-to-be-one-of-just-nine-surviving-examples
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google ปลดพนักงาน AI กว่า 200 คน — เบื้องหลังไม่ใช่แค่ ‘ลดโปรเจกต์’ แต่คือความไม่มั่นคงและแรงต้านจากแรงงาน”

    กลางเดือนสิงหาคม 2025 Google ได้ปลดพนักงานสัญญาจ้างกว่า 200 คนที่ทำงานเกี่ยวกับโครงการ AI เช่น Gemini และ AI Overviews โดยอ้างว่าเป็นการ “ลดขนาดโปรเจกต์” แต่เสียงจากคนทำงานกลับสะท้อนอีกด้าน—ว่าการปลดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และความพยายามรวมตัวเพื่อสร้างสหภาพแรงงาน

    พนักงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานผ่านบริษัท GlobalLogic ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Hitachi โดยมีหน้าที่เป็น “super raters” คือผู้ตรวจสอบและปรับแต่งคำตอบที่สร้างโดย AI ให้มีความถูกต้องและเป็นธรรมชาติ หลายคนมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอก และทำงานในสาขาวิชาชีพ เช่น การศึกษา การเขียน และการวิจัย

    แม้จะมีความเชี่ยวชาญสูง แต่พวกเขากลับได้รับค่าตอบแทนต่ำ โดยผู้ที่จ้างตรงจาก GlobalLogic ได้รับ $28–$32 ต่อชั่วโมง ขณะที่ผู้รับเหมาผ่านบริษัทตัวกลางได้เพียง $18–$22 ต่อชั่วโมงสำหรับงานเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการห้ามทำงานจากระยะไกล และจำกัดการเข้าถึงช่องทางสื่อสารภายในที่ใช้พูดคุยเรื่องความเหลื่อมล้ำ

    หลายคนเชื่อว่าการปลดครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อความพยายามรวมตัวเป็นสหภาพแรงงาน โดยมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของสหรัฐฯ (NLRB) แล้วอย่างน้อยสองราย และมีรายงานว่า GlobalLogic กำลังพัฒนา AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในด้านการให้คะแนนคำตอบ ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองกำลัง “ฝึก AI เพื่อมาแทนที่ตัวเอง”

    เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรม AI ที่แม้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีความไม่มั่นคงในระดับแรงงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล เช่น การจัดหมวดหมู่ การให้คะแนน และการตรวจสอบคำตอบ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นงานระดับล่าง ทั้งที่มีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพของระบบ AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-terminates-200-ai-contractors-ramp-down-blamed-but-workers-claim-questions-over-pay-and-job-insecurity-are-the-real-reason-behind-layoffs
    🧠 “Google ปลดพนักงาน AI กว่า 200 คน — เบื้องหลังไม่ใช่แค่ ‘ลดโปรเจกต์’ แต่คือความไม่มั่นคงและแรงต้านจากแรงงาน” กลางเดือนสิงหาคม 2025 Google ได้ปลดพนักงานสัญญาจ้างกว่า 200 คนที่ทำงานเกี่ยวกับโครงการ AI เช่น Gemini และ AI Overviews โดยอ้างว่าเป็นการ “ลดขนาดโปรเจกต์” แต่เสียงจากคนทำงานกลับสะท้อนอีกด้าน—ว่าการปลดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และความพยายามรวมตัวเพื่อสร้างสหภาพแรงงาน พนักงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานผ่านบริษัท GlobalLogic ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Hitachi โดยมีหน้าที่เป็น “super raters” คือผู้ตรวจสอบและปรับแต่งคำตอบที่สร้างโดย AI ให้มีความถูกต้องและเป็นธรรมชาติ หลายคนมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอก และทำงานในสาขาวิชาชีพ เช่น การศึกษา การเขียน และการวิจัย แม้จะมีความเชี่ยวชาญสูง แต่พวกเขากลับได้รับค่าตอบแทนต่ำ โดยผู้ที่จ้างตรงจาก GlobalLogic ได้รับ $28–$32 ต่อชั่วโมง ขณะที่ผู้รับเหมาผ่านบริษัทตัวกลางได้เพียง $18–$22 ต่อชั่วโมงสำหรับงานเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการห้ามทำงานจากระยะไกล และจำกัดการเข้าถึงช่องทางสื่อสารภายในที่ใช้พูดคุยเรื่องความเหลื่อมล้ำ หลายคนเชื่อว่าการปลดครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อความพยายามรวมตัวเป็นสหภาพแรงงาน โดยมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของสหรัฐฯ (NLRB) แล้วอย่างน้อยสองราย และมีรายงานว่า GlobalLogic กำลังพัฒนา AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในด้านการให้คะแนนคำตอบ ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองกำลัง “ฝึก AI เพื่อมาแทนที่ตัวเอง” เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรม AI ที่แม้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีความไม่มั่นคงในระดับแรงงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล เช่น การจัดหมวดหมู่ การให้คะแนน และการตรวจสอบคำตอบ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นงานระดับล่าง ทั้งที่มีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพของระบบ AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-terminates-200-ai-contractors-ramp-down-blamed-but-workers-claim-questions-over-pay-and-job-insecurity-are-the-real-reason-behind-layoffs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • “React ชนะเพราะความเคยชิน ไม่ใช่คุณภาพ — เมื่อการเลือกแบบอัตโนมัติกลายเป็นตัวขวางนวัตกรรมของเว็บ”

    Loren Stewart นักพัฒนาและนักเขียนสายเทคโนโลยี ได้เขียนบทความวิจารณ์ที่สะเทือนวงการ frontend ว่า “React ไม่ได้ชนะเพราะดีที่สุด แต่ชนะเพราะกลายเป็นค่าเริ่มต้น” ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาเว็บในปัจจุบันติดอยู่ในกรอบเดิม ๆ และขาดการทดลองกับแนวทางใหม่ที่อาจดีกว่า

    เขาอธิบายว่าเมื่อทีมเริ่มต้นโปรเจกต์ใหม่ มักจะเลือก React โดยไม่ถามว่า “อะไรเหมาะกับงานนี้” แต่กลับเริ่มต้นด้วย “ใช้ React เพราะทุกคนรู้จัก” ซึ่งสร้างวงจรที่ตอกย้ำตัวเองผ่านการจ้างงาน ไลบรารี และความเคยชินของทีม

    React ไม่ได้แย่ — แต่การเลือก React โดยไม่พิจารณาทางเลือกอื่นคือปัญหา เพราะมันทำให้เฟรมเวิร์กที่มีนวัตกรรมจริง เช่น Svelte, Solid และ Qwik ไม่ได้รับโอกาส ทั้งที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว เช่น:
    - Svelte ใช้การ compile ล่วงหน้าแทน virtual DOM
    - Solid ใช้ reactivity แบบละเอียดโดยไม่ต้อง reconcile
    - Qwik ใช้ resumability เพื่อเริ่มต้นแอปทันทีโดยไม่ต้อง hydrate

    Stewart ยังชี้ว่า React เองก็มีข้อจำกัด เช่น virtual DOM ที่กลายเป็น overhead ในยุคปัจจุบัน, hooks ที่ซับซ้อนเกินไป, และ Server Components ที่เพิ่มความยุ่งยากด้านสถาปัตยกรรม

    เขาเสนอว่าเราควรเลือกเฟรมเวิร์กจาก “ข้อจำกัดของงาน” ไม่ใช่ “ความเคยชินของทีม” และควรเปิดพื้นที่ให้เฟรมเวิร์กใหม่ได้เติบโต เช่น ทดลองในส่วนที่ไม่สำคัญก่อน หรือสอนแนวคิด framework-agnostic ในหลักสูตรการศึกษา

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    React กลายเป็นตัวเลือกเริ่มต้นโดยไม่พิจารณาทางเลือกอื่น
    การเลือก React แบบอัตโนมัติทำให้เฟรมเวิร์กใหม่ไม่ถูกทดลอง
    React มีข้อจำกัด เช่น virtual DOM, hooks ที่ซับซ้อน, และ Server Components ที่เพิ่มความยุ่งยาก
    การเลือกเฟรมเวิร์กควรพิจารณาจากข้อจำกัดของงาน ไม่ใช่ความเคยชิน

    ทางเลือกที่มีนวัตกรรมสูง
    Svelte ใช้การ compile ล่วงหน้า — ลด runtime overhead
    Solid ใช้ reactivity แบบละเอียด — อัปเดตเฉพาะ DOM ที่เปลี่ยน
    Qwik ใช้ resumability — โหลดเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในแต่ละ interaction
    ทั้งสามเฟรมเวิร์กมี API ที่เล็กกว่าและง่ายต่อการเรียนรู้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Svelte ลดขนาด bundle ได้ถึง 60–70% เมื่อเทียบกับ React
    Solid ถูกใช้งานโดยบริษัทใหญ่ เช่น Netflix และ Cloudflare2
    Qwik มี startup time ที่เร็วที่สุดใน benchmark ปี 2025
    React ยังมีข้อดีด้าน ecosystem แต่ก็สร้าง inertia ที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง

    https://www.lorenstew.art/blog/react-won-by-default/
    🧠 “React ชนะเพราะความเคยชิน ไม่ใช่คุณภาพ — เมื่อการเลือกแบบอัตโนมัติกลายเป็นตัวขวางนวัตกรรมของเว็บ” Loren Stewart นักพัฒนาและนักเขียนสายเทคโนโลยี ได้เขียนบทความวิจารณ์ที่สะเทือนวงการ frontend ว่า “React ไม่ได้ชนะเพราะดีที่สุด แต่ชนะเพราะกลายเป็นค่าเริ่มต้น” ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาเว็บในปัจจุบันติดอยู่ในกรอบเดิม ๆ และขาดการทดลองกับแนวทางใหม่ที่อาจดีกว่า เขาอธิบายว่าเมื่อทีมเริ่มต้นโปรเจกต์ใหม่ มักจะเลือก React โดยไม่ถามว่า “อะไรเหมาะกับงานนี้” แต่กลับเริ่มต้นด้วย “ใช้ React เพราะทุกคนรู้จัก” ซึ่งสร้างวงจรที่ตอกย้ำตัวเองผ่านการจ้างงาน ไลบรารี และความเคยชินของทีม React ไม่ได้แย่ — แต่การเลือก React โดยไม่พิจารณาทางเลือกอื่นคือปัญหา เพราะมันทำให้เฟรมเวิร์กที่มีนวัตกรรมจริง เช่น Svelte, Solid และ Qwik ไม่ได้รับโอกาส ทั้งที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว เช่น: - Svelte ใช้การ compile ล่วงหน้าแทน virtual DOM - Solid ใช้ reactivity แบบละเอียดโดยไม่ต้อง reconcile - Qwik ใช้ resumability เพื่อเริ่มต้นแอปทันทีโดยไม่ต้อง hydrate Stewart ยังชี้ว่า React เองก็มีข้อจำกัด เช่น virtual DOM ที่กลายเป็น overhead ในยุคปัจจุบัน, hooks ที่ซับซ้อนเกินไป, และ Server Components ที่เพิ่มความยุ่งยากด้านสถาปัตยกรรม เขาเสนอว่าเราควรเลือกเฟรมเวิร์กจาก “ข้อจำกัดของงาน” ไม่ใช่ “ความเคยชินของทีม” และควรเปิดพื้นที่ให้เฟรมเวิร์กใหม่ได้เติบโต เช่น ทดลองในส่วนที่ไม่สำคัญก่อน หรือสอนแนวคิด framework-agnostic ในหลักสูตรการศึกษา ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ React กลายเป็นตัวเลือกเริ่มต้นโดยไม่พิจารณาทางเลือกอื่น ➡️ การเลือก React แบบอัตโนมัติทำให้เฟรมเวิร์กใหม่ไม่ถูกทดลอง ➡️ React มีข้อจำกัด เช่น virtual DOM, hooks ที่ซับซ้อน, และ Server Components ที่เพิ่มความยุ่งยาก ➡️ การเลือกเฟรมเวิร์กควรพิจารณาจากข้อจำกัดของงาน ไม่ใช่ความเคยชิน ✅ ทางเลือกที่มีนวัตกรรมสูง ➡️ Svelte ใช้การ compile ล่วงหน้า — ลด runtime overhead ➡️ Solid ใช้ reactivity แบบละเอียด — อัปเดตเฉพาะ DOM ที่เปลี่ยน ➡️ Qwik ใช้ resumability — โหลดเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในแต่ละ interaction ➡️ ทั้งสามเฟรมเวิร์กมี API ที่เล็กกว่าและง่ายต่อการเรียนรู้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Svelte ลดขนาด bundle ได้ถึง 60–70% เมื่อเทียบกับ React ➡️ Solid ถูกใช้งานโดยบริษัทใหญ่ เช่น Netflix และ Cloudflare2 ➡️ Qwik มี startup time ที่เร็วที่สุดใน benchmark ปี 2025 ➡️ React ยังมีข้อดีด้าน ecosystem แต่ก็สร้าง inertia ที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง https://www.lorenstew.art/blog/react-won-by-default/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/B9IVuKCDOrQ?si=Rwx3qFxrhrBr5Lmmความรู้ฟังเพลินๆ #sondhitalk #news1 #สนธิเล่าเรื่อง #แอฟริกา #การศึกษา #ว่างว่างก็แวะมา
    https://youtu.be/B9IVuKCDOrQ?si=Rwx3qFxrhrBr5Lmmความรู้ฟังเพลินๆ #sondhitalk #news1 #สนธิเล่าเรื่อง #แอฟริกา #การศึกษา #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/zXQi4kK37oA?si=EGkoIa5VRNJkuRdZ ความรู้ฟังเพลินๆ #podcast #kku #ประวัติศาสตร์ #ไทยกัมพูชา #การศึกษา #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    https://youtu.be/zXQi4kK37oA?si=EGkoIa5VRNJkuRdZ ความรู้ฟังเพลินๆ #podcast #kku #ประวัติศาสตร์ #ไทยกัมพูชา #การศึกษา #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ”

    ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ

    การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ

    ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน

    นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย
    ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
    ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง
    ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ
    ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป

    กลไกที่อธิบายผลกระทบ
    การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น
    เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา
    แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด
    ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี
    RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ
    การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม
    การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ

    https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    🧠 “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ” ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ➡️ ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง ➡️ ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ ➡️ ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ✅ กลไกที่อธิบายผลกระทบ ➡️ การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น ➡️ เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ➡️ แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด ➡️ ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี ➡️ RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ ➡️ การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม ➡️ การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.เอ้' เดินหน้า! ชี้ 'การศึกษา' คือ 'ก้าวแรก' ที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
    https://www.thai-tai.tv/news/21473/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #การศึกษาไทย #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ดร.เอ้' เดินหน้า! ชี้ 'การศึกษา' คือ 'ก้าวแรก' ที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้าอย่างมั่นคง https://www.thai-tai.tv/news/21473/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #การศึกษาไทย #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts