เครื่องมือคัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอาจไม่แม่นยำ

การประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจในสหรัฐฯ มักใช้คะแนน ASCVD (Atherosclerotic Cardiovascular Disease) ซึ่งวัดจากปัจจัยอย่างความดันโลหิต คอเลสเตอรอล อายุ และเชื้อชาติ แต่ผลการศึกษาพบว่า 45% ของผู้ป่วยที่เกิดหัวใจวายในอีกสองวันถัดมา ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง” ทำให้ไม่ได้รับการตรวจเพิ่มเติมหรือการรักษาป้องกัน

การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น
นักวิจัยยังทดสอบคะแนน PREVENT ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ แต่กลับพบว่ามีถึง 61% ของผู้ป่วยที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเครื่องมืออาจไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงของผู้ป่วยรายบุคคลได้

ความท้าทายในการประเมินความเสี่ยง
แม้เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์ในระดับประชากร แต่เมื่อใช้กับบุคคลจริง ๆ อาจไม่แม่นยำพอ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีอาการชัดเจน เช่น เจ็บหน้าอกหรือหายใจติดขัด ทำให้หลายคนไม่ได้รับการป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย

ความหมายต่อการแพทย์
นักวิจัยเสนอว่าควรพัฒนาแนวทางใหม่ที่เน้นการตรวจหาสัญญาณของหลอดเลือดตีบ (atherosclerosis) โดยตรง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรอง และช่วยป้องกันหัวใจวายในกลุ่มที่ดูเหมือน “ปลอดภัย” แต่จริง ๆ แล้วมีความเสี่ยงสูง

สรุปสาระสำคัญ
ผลการศึกษาใหม่
ASCVD และ PREVENT พลาดการตรวจพบผู้ป่วยหัวใจวายเกือบครึ่งหนึ่ง

ข้อจำกัดของเครื่องมือ
ใช้ได้ดีในระดับประชากร แต่ไม่แม่นยำในรายบุคคล

ความท้าทายทางคลินิก
ผู้ไม่มีอาการชัดเจนมักถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ

แนวทางใหม่ที่เสนอ
ตรวจหาสัญญาณหลอดเลือดตีบโดยตรงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ

ความเสี่ยงจากการพลาดการตรวจ
ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการรักษาป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย

ความเปราะบางของระบบคัดกรอง
การพึ่งพาเพียงคะแนนความเสี่ยงอาจทำให้แพทย์มองข้ามผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจริง

https://www.sciencealert.com/nearly-half-of-all-heart-attacks-may-be-missed-by-current-screening-tools
❤️เครื่องมือคัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอาจไม่แม่นยำ การประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจในสหรัฐฯ มักใช้คะแนน ASCVD (Atherosclerotic Cardiovascular Disease) ซึ่งวัดจากปัจจัยอย่างความดันโลหิต คอเลสเตอรอล อายุ และเชื้อชาติ แต่ผลการศึกษาพบว่า 45% ของผู้ป่วยที่เกิดหัวใจวายในอีกสองวันถัดมา ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง” ทำให้ไม่ได้รับการตรวจเพิ่มเติมหรือการรักษาป้องกัน 🔬 การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น นักวิจัยยังทดสอบคะแนน PREVENT ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ แต่กลับพบว่ามีถึง 61% ของผู้ป่วยที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเครื่องมืออาจไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงของผู้ป่วยรายบุคคลได้ 🧩 ความท้าทายในการประเมินความเสี่ยง แม้เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์ในระดับประชากร แต่เมื่อใช้กับบุคคลจริง ๆ อาจไม่แม่นยำพอ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีอาการชัดเจน เช่น เจ็บหน้าอกหรือหายใจติดขัด ทำให้หลายคนไม่ได้รับการป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย 🌍 ความหมายต่อการแพทย์ นักวิจัยเสนอว่าควรพัฒนาแนวทางใหม่ที่เน้นการตรวจหาสัญญาณของหลอดเลือดตีบ (atherosclerosis) โดยตรง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรอง และช่วยป้องกันหัวใจวายในกลุ่มที่ดูเหมือน “ปลอดภัย” แต่จริง ๆ แล้วมีความเสี่ยงสูง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการศึกษาใหม่ ➡️ ASCVD และ PREVENT พลาดการตรวจพบผู้ป่วยหัวใจวายเกือบครึ่งหนึ่ง ✅ ข้อจำกัดของเครื่องมือ ➡️ ใช้ได้ดีในระดับประชากร แต่ไม่แม่นยำในรายบุคคล ✅ ความท้าทายทางคลินิก ➡️ ผู้ไม่มีอาการชัดเจนมักถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ ✅ แนวทางใหม่ที่เสนอ ➡️ ตรวจหาสัญญาณหลอดเลือดตีบโดยตรงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ‼️ ความเสี่ยงจากการพลาดการตรวจ ⛔ ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการรักษาป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย ‼️ ความเปราะบางของระบบคัดกรอง ⛔ การพึ่งพาเพียงคะแนนความเสี่ยงอาจทำให้แพทย์มองข้ามผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจริง https://www.sciencealert.com/nearly-half-of-all-heart-attacks-may-be-missed-by-current-screening-tools
WWW.SCIENCEALERT.COM
Nearly Half of All Heart Attacks May Be Missed by Current Screening Tools
Current medical screening techniques could be failing to catch nearly half of those who experience a heart attack, according to new research, suggesting many of the millions of heart attacks that happen each year could be prevented with improved methods.
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว