• เรียนรู้จากสิงคโปร์! "ดร.สุชัชวีร์" ชี้แม้คุณภาพการศึกษาดีแล้ว ก็ยังพัฒนาต่อเนื่อง แนะไทยทำตามเพื่อ "สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ"
    https://www.thai-tai.tv/news/21254/
    .
    #ไทยไท #ดรสุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #สิงคโปร์ #ข่าวการศึกษา #พัฒนาคน #เศรษฐกิจ
    เรียนรู้จากสิงคโปร์! "ดร.สุชัชวีร์" ชี้แม้คุณภาพการศึกษาดีแล้ว ก็ยังพัฒนาต่อเนื่อง แนะไทยทำตามเพื่อ "สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ" https://www.thai-tai.tv/news/21254/ . #ไทยไท #ดรสุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #สิงคโปร์ #ข่าวการศึกษา #พัฒนาคน #เศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดร.เอ้” เปิด 3 สูตรสำเร็จ! ยกระดับ “การศึกษาไทย”...หนุนโรงเรียนมีอิสระ-ดันอังกฤษเป็นภาษาที่ 2-เสริมทักษะ AI
    https://www.thai-tai.tv/news/21036/
    .
    #ดรเอ้สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #ปฏิรูปการศึกษา #เทคโนโลยี #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #ไทยไท
    “ดร.เอ้” เปิด 3 สูตรสำเร็จ! ยกระดับ “การศึกษาไทย”...หนุนโรงเรียนมีอิสระ-ดันอังกฤษเป็นภาษาที่ 2-เสริมทักษะ AI https://www.thai-tai.tv/news/21036/ . #ดรเอ้สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #ปฏิรูปการศึกษา #เทคโนโลยี #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตมีอะไรที่สวยงามกว่านั้น,เรากำลังทำลายเยาวชนเรา ปล้นวัยสดใสเขาไป ปล้นวิถีธรรมชาติเขาไป,ระบบที่ดีสร้างสมดุลและอัพเรเวลของความเจริญทั้งทางวัตถุและศีลธรรมดีงามได้,นี้คือการทารุนกรรมทางการศึกษาชัดๆ,กระทรวงการศึกษาไทยเราอย่าเอามาใช้ในไทยนะ,เด็กๆเขาสมควรเป็นไปตามวัยธรรมชาติ.อัจฉริยะแบบไม่ปัญญานิ่มมีตรึมบนแผ่นดินไทย.



    https://youtube.com/shorts/-rRvt-GM8IU?si=uvYleqJadMZ7IO8G
    ชีวิตมีอะไรที่สวยงามกว่านั้น,เรากำลังทำลายเยาวชนเรา ปล้นวัยสดใสเขาไป ปล้นวิถีธรรมชาติเขาไป,ระบบที่ดีสร้างสมดุลและอัพเรเวลของความเจริญทั้งทางวัตถุและศีลธรรมดีงามได้,นี้คือการทารุนกรรมทางการศึกษาชัดๆ,กระทรวงการศึกษาไทยเราอย่าเอามาใช้ในไทยนะ,เด็กๆเขาสมควรเป็นไปตามวัยธรรมชาติ.อัจฉริยะแบบไม่ปัญญานิ่มมีตรึมบนแผ่นดินไทย. https://youtube.com/shorts/-rRvt-GM8IU?si=uvYleqJadMZ7IO8G
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เอ้ สุชัชวีร์” เตือนวิกฤต! ชี้การเมืองไม่จริงใจ...ไม่พัฒนาการศึกษาไทย...เศรษฐกิจถดถอย-ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง
    https://www.thai-tai.tv/news/20949/
    .
    #เอ้สุชัชวีร์ #การศึกษา #การเมืองไทย #พัฒนาคนไทย #เศรษฐกิจ #ไทยไท
    “เอ้ สุชัชวีร์” เตือนวิกฤต! ชี้การเมืองไม่จริงใจ...ไม่พัฒนาการศึกษาไทย...เศรษฐกิจถดถอย-ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง https://www.thai-tai.tv/news/20949/ . #เอ้สุชัชวีร์ #การศึกษา #การเมืองไทย #พัฒนาคนไทย #เศรษฐกิจ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.เอ้ สุชัชวีร์' ชวนคนไทยหนุน AI Education ชี้ 'CMU' ต้นแบบ "การให้ที่ยิ่งใหญ่" สู่สุดยอด AI ของโลก!
    https://www.thai-tai.tv/news/20408/
    .
    #สุชัชวีร์ #CMKL #คาร์เนกีเมลลอน #AI #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #แอนดรูว์คาร์เนกี #ยกระดับการศึกษา

    'ดร.เอ้ สุชัชวีร์' ชวนคนไทยหนุน AI Education ชี้ 'CMU' ต้นแบบ "การให้ที่ยิ่งใหญ่" สู่สุดยอด AI ของโลก! https://www.thai-tai.tv/news/20408/ . #สุชัชวีร์ #CMKL #คาร์เนกีเมลลอน #AI #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #แอนดรูว์คาร์เนกี #ยกระดับการศึกษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.เอ้' ชี้เวียดนามแซงไทยด้วย 'มันสมอง' จี้รัฐบาลไทยเร่งหนุน 'เด็กไทย' คว้าทุนเรียนสหรัฐฯ สร้างเศรษฐกิจใหม่
    https://www.thai-tai.tv/news/20391/
    .
    #สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #ทุนการศึกษา #สหรัฐอเมริกา #IIE #เศรษฐกิจใหม่ #วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ #เด็กไทย #เวียดนาม #อนาคตประเทศไทย

    'ดร.เอ้' ชี้เวียดนามแซงไทยด้วย 'มันสมอง' จี้รัฐบาลไทยเร่งหนุน 'เด็กไทย' คว้าทุนเรียนสหรัฐฯ สร้างเศรษฐกิจใหม่ https://www.thai-tai.tv/news/20391/ . #สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #ทุนการศึกษา #สหรัฐอเมริกา #IIE #เศรษฐกิจใหม่ #วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ #เด็กไทย #เวียดนาม #อนาคตประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุชัชวีร์” ชี้ “คุณภาพการศึกษา” คือขุมทรัพย์ชาติ แนะไทยเรียนรู้โมเดลแคลิฟอร์เนีย สร้างนักวิจัยสู่ผู้ประกอบการพันล้าน!
    https://www.thai-tai.tv/news/20325/
    .
    #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #การศึกษาไทย #คุณภาพการศึกษา #งานวิจัย #เศรษฐกิจใหม่ #แคลิฟอร์เนียโมเดล #ผู้ประกอบการ #ชีวการแพทย์ #นวัตกรรม #คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก
    “สุชัชวีร์” ชี้ “คุณภาพการศึกษา” คือขุมทรัพย์ชาติ แนะไทยเรียนรู้โมเดลแคลิฟอร์เนีย สร้างนักวิจัยสู่ผู้ประกอบการพันล้าน! https://www.thai-tai.tv/news/20325/ . #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #การศึกษาไทย #คุณภาพการศึกษา #งานวิจัย #เศรษฐกิจใหม่ #แคลิฟอร์เนียโมเดล #ผู้ประกอบการ #ชีวการแพทย์ #นวัตกรรม #คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้ สุชัชวีร์" ชื่นชมสะพาน Golden Gate ต้นแบบ "พลังความรู้" ชี้รากฐานพัฒนาชาติ วาดฝันยกระดับการศึกษาไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20292/
    .
    #การศึกษา #วิศวกร #วิศวกรโยธา #สะพาน #GoldenGate #สุชัชวีร์ #ซานฟรานซิสโก #อเมริกา #พัฒนาประเทศ
    "ดร.เอ้ สุชัชวีร์" ชื่นชมสะพาน Golden Gate ต้นแบบ "พลังความรู้" ชี้รากฐานพัฒนาชาติ วาดฝันยกระดับการศึกษาไทย https://www.thai-tai.tv/news/20292/ . #การศึกษา #วิศวกร #วิศวกรโยธา #สะพาน #GoldenGate #สุชัชวีร์ #ซานฟรานซิสโก #อเมริกา #พัฒนาประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้" ชูแนวคิดพลิกโฉมประเทศด้วย "Education Complex" อนาคตที่แท้จริงของคนไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20244/
    .
    #ดรเอ้ #สุชัชวีร์ #EducationComplex #การศึกษาไทย #อนาคตประเทศไทย #CMKLUniversity #ClaremontUniversity #AI #เศรษฐกิจใหม่ #เด็กไทย #พลิกโฉมประเทศ
    "ดร.เอ้" ชูแนวคิดพลิกโฉมประเทศด้วย "Education Complex" อนาคตที่แท้จริงของคนไทย https://www.thai-tai.tv/news/20244/ . #ดรเอ้ #สุชัชวีร์ #EducationComplex #การศึกษาไทย #อนาคตประเทศไทย #CMKLUniversity #ClaremontUniversity #AI #เศรษฐกิจใหม่ #เด็กไทย #พลิกโฉมประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอ้ สุชัชวีร์" ลุยแคลิฟอร์เนีย! จับมือ Claremont University ดึงเด็กไทยเรียน AI เสริมแกร่งเศรษฐกิจใหม่
    https://www.thai-tai.tv/news/20241/
    .
    #การศึกษา #มหาวิทยาลัย #ประเทศไทย #claremont #CMKL #เอ้สุชัชวีร์ #เอ้สุชัชวีร์ #สุชัชวีร์ #CMKLUniversity #ClaremontUniversity #AI #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #เทคโนโลยีAI #PeterDrucker #ประเทศไทย
    "เอ้ สุชัชวีร์" ลุยแคลิฟอร์เนีย! จับมือ Claremont University ดึงเด็กไทยเรียน AI เสริมแกร่งเศรษฐกิจใหม่ https://www.thai-tai.tv/news/20241/ . #การศึกษา #มหาวิทยาลัย #ประเทศไทย #claremont #CMKL #เอ้สุชัชวีร์ #เอ้สุชัชวีร์ #สุชัชวีร์ #CMKLUniversity #ClaremontUniversity #AI #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #เทคโนโลยีAI #PeterDrucker #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้ สุชัชวีร์" ชวนคนไทยปั้น "Education Complex" ดันไทยสู่ศูนย์กลางการศึกษาโลก!
    https://www.thai-tai.tv/news/20218/
    .
    #EducationComplex #สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #เด็กไทย #พลิกโฉมการศึกษา #มหาวิทยาลัยระดับโลก #เศรษฐกิจใหม่ #พลเมืองระดับโลก #อนาคตประเทศไทย
    "ดร.เอ้ สุชัชวีร์" ชวนคนไทยปั้น "Education Complex" ดันไทยสู่ศูนย์กลางการศึกษาโลก! https://www.thai-tai.tv/news/20218/ . #EducationComplex #สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #เด็กไทย #พลิกโฉมการศึกษา #มหาวิทยาลัยระดับโลก #เศรษฐกิจใหม่ #พลเมืองระดับโลก #อนาคตประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิรูปการศึกษาไทย โจทย์ใหญ่ 'กล้าธรรม' ถึงเวลาต้องยกระดับ : ข่าวลึกปมลับ 08/07/68
    ปฏิรูปการศึกษาไทย โจทย์ใหญ่ 'กล้าธรรม' ถึงเวลาต้องยกระดับ : ข่าวลึกปมลับ 08/07/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "เอ้ สุชัชวีร์" เตือน: หากไม่เร่ง "สร้างคนทักษะสูง" เศรษฐกิจไทยถึงทางตัน – การท่องเที่ยวแบกไม่ไหว การลงทุนถดถอย
    https://www.thai-tai.tv/news/20114/
    .
    #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #เรียนรู้ #ความรู้ #ครู #ประเทศไทย #เอ้สุชัชวีร์
    "เอ้ สุชัชวีร์" เตือน: หากไม่เร่ง "สร้างคนทักษะสูง" เศรษฐกิจไทยถึงทางตัน – การท่องเที่ยวแบกไม่ไหว การลงทุนถดถอย https://www.thai-tai.tv/news/20114/ . #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #เรียนรู้ #ความรู้ #ครู #ประเทศไทย #เอ้สุชัชวีร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คุณหญิงกัลยา" หนุน "เอ้ สุชัชวีร์" สานต่อภารกิจการศึกษา "T-WAVE" ดันคนไทยสู่พลเมืองโลก
    https://www.thai-tai.tv/news/20040/
    .
    #คุณหญิงกัลยา #ดรเอ้ #สุชัชวีร์ #TWAVE #คลื่นลูกใหม่ไทยนิยม #การศึกษาไทย #ปฏิรูปสู่ปฏิบัติ #พลเมืองชั้นหนึ่งของโลก #ชาติศาสน์ราชา #THAI_TECH_TEEN
    "คุณหญิงกัลยา" หนุน "เอ้ สุชัชวีร์" สานต่อภารกิจการศึกษา "T-WAVE" ดันคนไทยสู่พลเมืองโลก https://www.thai-tai.tv/news/20040/ . #คุณหญิงกัลยา #ดรเอ้ #สุชัชวีร์ #TWAVE #คลื่นลูกใหม่ไทยนิยม #การศึกษาไทย #ปฏิรูปสู่ปฏิบัติ #พลเมืองชั้นหนึ่งของโลก #ชาติศาสน์ราชา #THAI_TECH_TEEN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยกมือขึ้นแล้วไปต่อ!!! 'ดร.เอ้' โบกมือลาปชป. ลั่นจะขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา ร่วมสร้างสรรค์การเมืองให้ดีขึ้นกว่าเดิม
    https://www.thai-tai.tv/news/20004/
    .
    #ดรเอ้ลาออก #ประชาธิปัตย์ #สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #ปฏิรูปการศึกษา #อนาคตการศึกษาไทย #การเมืองไทย #อุดมการณ์ประชาธิปไตย #ประเทศไทยก้าวใหม่
    ยกมือขึ้นแล้วไปต่อ!!! 'ดร.เอ้' โบกมือลาปชป. ลั่นจะขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา ร่วมสร้างสรรค์การเมืองให้ดีขึ้นกว่าเดิม https://www.thai-tai.tv/news/20004/ . #ดรเอ้ลาออก #ประชาธิปัตย์ #สุชัชวีร์ #การศึกษาไทย #ปฏิรูปการศึกษา #อนาคตการศึกษาไทย #การเมืองไทย #อุดมการณ์ประชาธิปไตย #ประเทศไทยก้าวใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..พวกมันโชว์สัญลักษณ์ว่าพวกกู พวกเดียวกันนะ พวกกูนะ เหมือนกันนะ อย่างเปิดเผย,สถาบันกษัตริย์คือสิ่งแรกที่มันต้องทำลายลงในทุกๆประเทศถ้ามีบนโลกใบนี้,deep stateรับไม่ได้,จึงเกิดปรากฎการณ์ชูสามนิ้วในประเทศไทย เยาวชนไทยเราถูกล้างสมองเสียสิ้น,โง่บรมโง่แม้จะในยุคล้ำๆขนาดนี้ก็ว่า.,มหาลัยเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มประเทศทำไมโง่เพราะซาตานมันคุมการศึกษาไทยไง,การตอแหลการหลอกลวงการโกหกการบอกสิ่งไม่จริงจึงอยู่ในกระบวนการศึกษาไทยเรา.
    ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว.
    ..พวกมันโชว์สัญลักษณ์ว่าพวกกู พวกเดียวกันนะ พวกกูนะ เหมือนกันนะ อย่างเปิดเผย,สถาบันกษัตริย์คือสิ่งแรกที่มันต้องทำลายลงในทุกๆประเทศถ้ามีบนโลกใบนี้,deep stateรับไม่ได้,จึงเกิดปรากฎการณ์ชูสามนิ้วในประเทศไทย เยาวชนไทยเราถูกล้างสมองเสียสิ้น,โง่บรมโง่แม้จะในยุคล้ำๆขนาดนี้ก็ว่า.,มหาลัยเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มประเทศทำไมโง่เพราะซาตานมันคุมการศึกษาไทยไง,การตอแหลการหลอกลวงการโกหกการบอกสิ่งไม่จริงจึงอยู่ในกระบวนการศึกษาไทยเรา. ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดประตูสู่โอกาส! ม.วงษ์ชวลิตกุล ร่วมหารือ “ไทย-จีน” ขับเคลื่อนทุนการศึกษาสู่เด็กโคราช
    .
    เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลเข้าร่วมหารือกับจังหวัดนครราชสีมา นำโดย อาจารย์ ดร.โชติกา วงษ์ชวลิตกุล ผู้ช่วยธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ อาจารย์ ดร.ลัดดาวัลย์ โชคถาวร รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร พร้อมด้วย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ดร.ธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกฯ และนายจิรพิสิษฐ์ รุจเจริญ เลขานุการนายกฯ ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากศูนย์ความร่วมมือการศึกษาไทย–จีน นำโดย ดร.ขจรวรรณ ภู่ขจร (ฝ่ายไทย), ดร.เปา หลุน เถียน (ฝ่ายจีน) และอาจารย์โจว อี้หมิ่น จากมหาวิทยาลัยกุ้ยหลินอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี
    .
    ในการนี้ ได้มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการจัดสรรทุนการศึกษาจากองค์กรการศึกษาของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าถึงการศึกษาหลักสูตรทันสมัยในหลากหลายสาขา อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), เทคโนโลยี, โลจิสติกส์ และอื่น ๆ ทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา
    .
    โดยการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างศูนย์ความร่วมมือไทย–จีน กับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างความเสมอภาค และลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในพื้นที่
    .
    ทั้งนี้ ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยในจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เข้าร่วมวงหารือ เพื่อผลักดันแนวทางความร่วมมือเชิงรูปธรรมในอนาคต โดยมีศูนย์ความร่วมมือไทย–จีน เป็นศูนย์กลางการประสานงานและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
    เปิดประตูสู่โอกาส! ม.วงษ์ชวลิตกุล ร่วมหารือ “ไทย-จีน” ขับเคลื่อนทุนการศึกษาสู่เด็กโคราช . เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลเข้าร่วมหารือกับจังหวัดนครราชสีมา นำโดย อาจารย์ ดร.โชติกา วงษ์ชวลิตกุล ผู้ช่วยธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ อาจารย์ ดร.ลัดดาวัลย์ โชคถาวร รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร พร้อมด้วย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ดร.ธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกฯ และนายจิรพิสิษฐ์ รุจเจริญ เลขานุการนายกฯ ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากศูนย์ความร่วมมือการศึกษาไทย–จีน นำโดย ดร.ขจรวรรณ ภู่ขจร (ฝ่ายไทย), ดร.เปา หลุน เถียน (ฝ่ายจีน) และอาจารย์โจว อี้หมิ่น จากมหาวิทยาลัยกุ้ยหลินอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี . ในการนี้ ได้มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการจัดสรรทุนการศึกษาจากองค์กรการศึกษาของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าถึงการศึกษาหลักสูตรทันสมัยในหลากหลายสาขา อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), เทคโนโลยี, โลจิสติกส์ และอื่น ๆ ทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา . โดยการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างศูนย์ความร่วมมือไทย–จีน กับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างความเสมอภาค และลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในพื้นที่ . ทั้งนี้ ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยในจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เข้าร่วมวงหารือ เพื่อผลักดันแนวทางความร่วมมือเชิงรูปธรรมในอนาคต โดยมีศูนย์ความร่วมมือไทย–จีน เป็นศูนย์กลางการประสานงานและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้ล่ะจึงสมควรมีครูอย่างน้อย2คนประจำห้องเพื่อป้องกันการกระทำชั่วเลวของครูบางคนต่อเด็ก,เพราะครู2คนจะชั่วเลวพร้อมกันยากกว่า,สมคบคิดกันโทษหนักสองเท่าแน่.
    ..อย่าลืมว่าครูอาจเป็นโรคจิตโรคประสาทง่ายๆเช่นกันหลังรับวัคซีนโควิดmRNAนั้นและครูไม่มีจิตสำนึกรักเด็กแบบศิษย์แบบครูอาจารย์อะไร,บ่อนทำลายการศึกษาไทยหรือมีกระบวนการทำลายการศึกษาของเด็กไทยก็มีมานานเช่นกัน อาทิ ถอดวิชาศีลธรรมจริยธรรมเด็กออก,ถอดวิชาหน้าที่พลเมืองไทยออก.และหรืออื่นๆอีกตรึมโดยเฉพาะความรักชาติไทยตน.



    https://youtube.com/shorts/aApEUp8lvZo?si=9XE5vJiaPF9Vr0GW
    ..นี้ล่ะจึงสมควรมีครูอย่างน้อย2คนประจำห้องเพื่อป้องกันการกระทำชั่วเลวของครูบางคนต่อเด็ก,เพราะครู2คนจะชั่วเลวพร้อมกันยากกว่า,สมคบคิดกันโทษหนักสองเท่าแน่. ..อย่าลืมว่าครูอาจเป็นโรคจิตโรคประสาทง่ายๆเช่นกันหลังรับวัคซีนโควิดmRNAนั้นและครูไม่มีจิตสำนึกรักเด็กแบบศิษย์แบบครูอาจารย์อะไร,บ่อนทำลายการศึกษาไทยหรือมีกระบวนการทำลายการศึกษาของเด็กไทยก็มีมานานเช่นกัน อาทิ ถอดวิชาศีลธรรมจริยธรรมเด็กออก,ถอดวิชาหน้าที่พลเมืองไทยออก.และหรืออื่นๆอีกตรึมโดยเฉพาะความรักชาติไทยตน. https://youtube.com/shorts/aApEUp8lvZo?si=9XE5vJiaPF9Vr0GW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดร.เอ้ สุชัชวีร์" ถามแรง! การศึกษาไทย "ล้าหลัง-ภาระผู้ปกครอง" ครูถูกทอดทิ้ง อนาคตเด็กไทยอยู่ไหน?
    https://www.thai-tai.tv/news/18786/
    "ดร.เอ้ สุชัชวีร์" ถามแรง! การศึกษาไทย "ล้าหลัง-ภาระผู้ปกครอง" ครูถูกทอดทิ้ง อนาคตเด็กไทยอยู่ไหน? https://www.thai-tai.tv/news/18786/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..การศึกษาไทย ผู้นำทุกๆยุคสมัยล้วนต่างมองข้ามและไม่จริงใจในการส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานเยาวชนไทยตนเล่าเรียนดีๆมีคุณภาพและฟรีจริงตลอดการศึกษา,ปัญหานี้ลูกหลานคนต่างด้าวต่างชาติคนเถื่อนเต็มแผ่นดินไทยล้วนคือตัวปัญหาหลักด้วยในการแย่งชิงทรัพยากรของมิติตังสนับสนุนการศึกษาของคนไทยเรา,การผลักดันคนต่างด้าวออกจากประเทศไทยจึงต้องชัดเจนทันทีและเร่งรีบผลักดันไปให้หมด,จะแก้ปมปัญหาภายในสังคมไทยมากมายหลากหลายมิติได้ด้วย มิใช่แค่การศึกษาที่ต่างมาแย่งชิงทรัพยากรเราแบบการรักษาพยาบาลนั้นล่ะ,ตังมากมายต้องสูญเสียไปเพื่อคนต่างชาติต่างประเทศ&ต่างด้าวด้วย,
    ..การศึกษาไทยเราถึงเวลาเรียนฟรีแล้วจริงๆและขยายจริงประกาศชัดเจนอย่างเป็นทางการว่า ตามใจผู้เรียน ช่วงไหนก็ได้เมื่อผ่านภาคบังคับปกติก็ตาม,ภาคบังคับปกตยุคใหม่ในอนาคตคือ อนุบาล ประถม ม.ต้น ม.ปลาย(หรือปวช.ก็ได้),ถึงสายอาชีพใดๆก็ด้วยหรือมหาลัย ป.ตรี ป.โท ป.เอก ก็ตาม เหล่านี้เรียนฟรีหมด,และโรงเรียนรัฐ มหาลัยรัฐทั้งหมดจะถูกดึงกลับมาในระบบที่รัฐควบคุม100%ทั้งหมดมิใช่ออกจากระบบแบบปัจจุบัน,เอกชนทั้งหมดไม่มีตังใดๆที่รัฐสนับสนุนทุกๆกรณี,และต้องเป็นไปในมาตราฐานพื้นฐานแห่งรัฐด้วยในเอกชนที่เปิดสถานศึกษานั้นๆ,ประเมินตามกำหนดนั้นเอง.
    ..เด็กๆเยาวชนเรียนภาคบังคับคืออนุบาลถึงป.ตรี รวมทั้งหมด19ปีซึ่งเรียนฟรีทั้งหมดจริง.,จบมามีตังสนับสนุนฟรีๆสร้างสัมมาอาชีพที่ต้องการเริ่มต้นได้ทันทีคนละ100,000บาท เป็นต้น,นี้วิวัฒนาการระบบการศึกษาไทยเราต้องสร้างคนไทยกันในระดับนี้ได้แล้ว,มีใช่อยากเรียนต้องเป็นหนี้,&กู้กยศ.จนขายที่ดินขายบ้านขายรถสิ้นสัมมาอาชีพติดวงจรอุบาทก์แห่งหนี้ไม่จบไม่สิ้น,ขนาดสว.ในยุคนั้นๆยังขัดขวางไม่ล้างหนี้เยาวชนไทยจริงในช่วงเดียวกันกับอเมริกาล้างหนีันักเรียนนักศึกษาเขาทันทีถึงคนละ350,000บาทถึง700,000บาทต่อคนในเบื้องต้นฟรีๆกันก็ว่า,หรือ10,000-20,000$ต่อคนอเมริกาที่เป็นหนี้กยศ.ในบ้านเขา,ขนาดเขาเองมีหนี้สะสมถึง30ล้านล้านเหรียญนะนั้น ปัจจุบันกว่า36-37ล้านล้านเหรียญแล้วคงไม่เกิน5ปีหนี้อาจถึง100ล้านล้านเหรียญก็ว่า ไบเดลยังล้างหนี้ช่วยบางส่วนเลย,ถ้าคนไทยตัง350,000-700,000฿มันล้างหนี้ทันทีหลายล้านบัญชีกันเลยล่ะ,แต่สว.ไม่อนุมัติ ซึ่งสส.หมายจะล้างหนี้เลย แต่สส.ทรยศ.ไม่สนใจลูกหลานคนไทยก็ดึงงานไว้จนลากให้สว.ดึงไปด้วย,แต่เงื่อนไขผีบ้ามุกไม่ล้างหนี้อะไรจริงใจเลย ให้ชำระหนี้เหมือนเดิมไม่จริงใจอะไรในการปกครองประเทศของผู้นำ,จริงใจแค่ยกบ่อน้ำมันเปิดสัมปทานบ้าบอให้ต่างชาติทำตังจนร่ำรวยมั่งคั่งแทนคนไทย,รายได้กำไรถ้าเปิดกันจริงๆมันกว่าปีละหลายสิบล้านล้านบาทแน่นอน เอามาส่งเสริมสนับสนุนการสร้างคนไทยพัฒนาคุณภาพองค์รอบรู้องค์รู้คนไทยฟรีๆได้มากมายเหลือล้น,เรียนฟรีแทบขนหน้าแข้งตังคลังของแผ่นดินไทยไม่ร่วงอะไร,นี้คือการปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลวด้านการปกครองสิ้นเชิง,ผีบ้าผู้นำผู้ปกครองห่าอะไรไปยกโคตรทำตังโคตรสร้างความร่ำรวยให้คนอื่นไป ตนเองเสือกไม่มีอะไรเลยแม้เนื้อปิโตรเลียมยังไม่มีสิทธิ์ได้บนแผ่นดินไทยตนแท้ๆ,ขายความมั่งคั่งร่ำรวยแก่คนอื่น มันผีบ้าจริงๆนะ.,เสือกมีอำนาจ มีตำแหน่งในการปกครองประเทศ.,เรามียุคการปกครองของคนปกครองที่ไม่รักประชาชนคนไทย รักประเทศไทยตนเอง,ขลาดกลัว เห็นแก่ตัวและเดอะแก๊งมันๆ,ไม่สมควรอนุรักษ์ไว้หรือเก็บรักษาไว้เลยคนพวกนี้ หนักแผ่นดินไทย ถ่วงความพ้นทุกข์พ้นยากจนคนไทยคู่ศีลธรรมอันดีมากมายด้วย,จนเสื่อมไปทุกๆด้านในปัจจุบันเพราะหมายเข้ามาปกครองเพื่อทำลายความดีทุกๆมิตินั้นเองก็ว่าด้วย.
    ..ผู้ปกครองในยุคสมัยปัจจุบันนี้ จริงๆลูกหลานเราสมควรเล่าเรียนฟรีไร้ค่าใช้จ่ายเรี่ยไรใดๆอีกเลยในกระบวนการเล่าเรียนตลอดเทอมการเรียนการสอนและผู้ปกครองก็ไร้ชำระค่าใช้จ่ายใดๆด้วย,เยาวชนไทยเราแค่10ล้านกว่าคนเองแบบคำนวนสูงสุดไว้,คนละ100,000บาทต่อปี แค่1ล้านล้านบาทเองต่อปี,นักการเมืองโกงชาติ ต่างชาติมาปล้มทรัพยากรมีค่ามากมายผ่านสัมปทานหรือการผูกขาดกิจการใดๆในไทย มันเดอะแก๊งมันเหล่านี้ ไทยเราสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์แก่พวกมันไปอาจกว่าปีละ10ล้านล้านบาทกันเลยทีเดียว.,เรามีวิถีการปกครองที่เป็นภัยต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสียเอง,เช่นนั้น จะเอาวิธีการสัมปทานส่งเข้าสภาสส.สว.ร่วมแสดงความเห็นตีแผ่ความจริงออกสู่สายตาประชาชนคนไทยทั้งประเทศมิใช่ปกปิดจนถึงปัจจุบันทั้งแสดงเหตุอันเป็นเท็จต่อดาต้าข้อมูลทั้งหมดที่ปกปิดไว้,ตัดสินใจกันเองในผลกระทบที่ทั้งประเทศได้รับผลกระทบตรงจากมันจริงๆ,เช่นข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน,ต้นทุนแพงรอบทิศกระทบทุกๆการดำรงชีวิตของคนไทย,เสือกไม่นำเข้าสภาอภิปรายบอกกล่าวเล่าความจริงห่าอะไร,
    ..เรามีวิถีการปกครองที่ล้มเหลวและเป็นความมั่นคงเสียเองต่อคนไทยทุกๆคนจึงไม่ผิดไปจากนี้ใดๆเลย.


    https://youtu.be/aCut0LQPS5s?si=NXRiwMESVBLsjO3z
    ..การศึกษาไทย ผู้นำทุกๆยุคสมัยล้วนต่างมองข้ามและไม่จริงใจในการส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานเยาวชนไทยตนเล่าเรียนดีๆมีคุณภาพและฟรีจริงตลอดการศึกษา,ปัญหานี้ลูกหลานคนต่างด้าวต่างชาติคนเถื่อนเต็มแผ่นดินไทยล้วนคือตัวปัญหาหลักด้วยในการแย่งชิงทรัพยากรของมิติตังสนับสนุนการศึกษาของคนไทยเรา,การผลักดันคนต่างด้าวออกจากประเทศไทยจึงต้องชัดเจนทันทีและเร่งรีบผลักดันไปให้หมด,จะแก้ปมปัญหาภายในสังคมไทยมากมายหลากหลายมิติได้ด้วย มิใช่แค่การศึกษาที่ต่างมาแย่งชิงทรัพยากรเราแบบการรักษาพยาบาลนั้นล่ะ,ตังมากมายต้องสูญเสียไปเพื่อคนต่างชาติต่างประเทศ&ต่างด้าวด้วย, ..การศึกษาไทยเราถึงเวลาเรียนฟรีแล้วจริงๆและขยายจริงประกาศชัดเจนอย่างเป็นทางการว่า ตามใจผู้เรียน ช่วงไหนก็ได้เมื่อผ่านภาคบังคับปกติก็ตาม,ภาคบังคับปกตยุคใหม่ในอนาคตคือ อนุบาล ประถม ม.ต้น ม.ปลาย(หรือปวช.ก็ได้),ถึงสายอาชีพใดๆก็ด้วยหรือมหาลัย ป.ตรี ป.โท ป.เอก ก็ตาม เหล่านี้เรียนฟรีหมด,และโรงเรียนรัฐ มหาลัยรัฐทั้งหมดจะถูกดึงกลับมาในระบบที่รัฐควบคุม100%ทั้งหมดมิใช่ออกจากระบบแบบปัจจุบัน,เอกชนทั้งหมดไม่มีตังใดๆที่รัฐสนับสนุนทุกๆกรณี,และต้องเป็นไปในมาตราฐานพื้นฐานแห่งรัฐด้วยในเอกชนที่เปิดสถานศึกษานั้นๆ,ประเมินตามกำหนดนั้นเอง. ..เด็กๆเยาวชนเรียนภาคบังคับคืออนุบาลถึงป.ตรี รวมทั้งหมด19ปีซึ่งเรียนฟรีทั้งหมดจริง.,จบมามีตังสนับสนุนฟรีๆสร้างสัมมาอาชีพที่ต้องการเริ่มต้นได้ทันทีคนละ100,000บาท เป็นต้น,นี้วิวัฒนาการระบบการศึกษาไทยเราต้องสร้างคนไทยกันในระดับนี้ได้แล้ว,มีใช่อยากเรียนต้องเป็นหนี้,&กู้กยศ.จนขายที่ดินขายบ้านขายรถสิ้นสัมมาอาชีพติดวงจรอุบาทก์แห่งหนี้ไม่จบไม่สิ้น,ขนาดสว.ในยุคนั้นๆยังขัดขวางไม่ล้างหนี้เยาวชนไทยจริงในช่วงเดียวกันกับอเมริกาล้างหนีันักเรียนนักศึกษาเขาทันทีถึงคนละ350,000บาทถึง700,000บาทต่อคนในเบื้องต้นฟรีๆกันก็ว่า,หรือ10,000-20,000$ต่อคนอเมริกาที่เป็นหนี้กยศ.ในบ้านเขา,ขนาดเขาเองมีหนี้สะสมถึง30ล้านล้านเหรียญนะนั้น ปัจจุบันกว่า36-37ล้านล้านเหรียญแล้วคงไม่เกิน5ปีหนี้อาจถึง100ล้านล้านเหรียญก็ว่า ไบเดลยังล้างหนี้ช่วยบางส่วนเลย,ถ้าคนไทยตัง350,000-700,000฿มันล้างหนี้ทันทีหลายล้านบัญชีกันเลยล่ะ,แต่สว.ไม่อนุมัติ ซึ่งสส.หมายจะล้างหนี้เลย แต่สส.ทรยศ.ไม่สนใจลูกหลานคนไทยก็ดึงงานไว้จนลากให้สว.ดึงไปด้วย,แต่เงื่อนไขผีบ้ามุกไม่ล้างหนี้อะไรจริงใจเลย ให้ชำระหนี้เหมือนเดิมไม่จริงใจอะไรในการปกครองประเทศของผู้นำ,จริงใจแค่ยกบ่อน้ำมันเปิดสัมปทานบ้าบอให้ต่างชาติทำตังจนร่ำรวยมั่งคั่งแทนคนไทย,รายได้กำไรถ้าเปิดกันจริงๆมันกว่าปีละหลายสิบล้านล้านบาทแน่นอน เอามาส่งเสริมสนับสนุนการสร้างคนไทยพัฒนาคุณภาพองค์รอบรู้องค์รู้คนไทยฟรีๆได้มากมายเหลือล้น,เรียนฟรีแทบขนหน้าแข้งตังคลังของแผ่นดินไทยไม่ร่วงอะไร,นี้คือการปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลวด้านการปกครองสิ้นเชิง,ผีบ้าผู้นำผู้ปกครองห่าอะไรไปยกโคตรทำตังโคตรสร้างความร่ำรวยให้คนอื่นไป ตนเองเสือกไม่มีอะไรเลยแม้เนื้อปิโตรเลียมยังไม่มีสิทธิ์ได้บนแผ่นดินไทยตนแท้ๆ,ขายความมั่งคั่งร่ำรวยแก่คนอื่น มันผีบ้าจริงๆนะ.,เสือกมีอำนาจ มีตำแหน่งในการปกครองประเทศ.,เรามียุคการปกครองของคนปกครองที่ไม่รักประชาชนคนไทย รักประเทศไทยตนเอง,ขลาดกลัว เห็นแก่ตัวและเดอะแก๊งมันๆ,ไม่สมควรอนุรักษ์ไว้หรือเก็บรักษาไว้เลยคนพวกนี้ หนักแผ่นดินไทย ถ่วงความพ้นทุกข์พ้นยากจนคนไทยคู่ศีลธรรมอันดีมากมายด้วย,จนเสื่อมไปทุกๆด้านในปัจจุบันเพราะหมายเข้ามาปกครองเพื่อทำลายความดีทุกๆมิตินั้นเองก็ว่าด้วย. ..ผู้ปกครองในยุคสมัยปัจจุบันนี้ จริงๆลูกหลานเราสมควรเล่าเรียนฟรีไร้ค่าใช้จ่ายเรี่ยไรใดๆอีกเลยในกระบวนการเล่าเรียนตลอดเทอมการเรียนการสอนและผู้ปกครองก็ไร้ชำระค่าใช้จ่ายใดๆด้วย,เยาวชนไทยเราแค่10ล้านกว่าคนเองแบบคำนวนสูงสุดไว้,คนละ100,000บาทต่อปี แค่1ล้านล้านบาทเองต่อปี,นักการเมืองโกงชาติ ต่างชาติมาปล้มทรัพยากรมีค่ามากมายผ่านสัมปทานหรือการผูกขาดกิจการใดๆในไทย มันเดอะแก๊งมันเหล่านี้ ไทยเราสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์แก่พวกมันไปอาจกว่าปีละ10ล้านล้านบาทกันเลยทีเดียว.,เรามีวิถีการปกครองที่เป็นภัยต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสียเอง,เช่นนั้น จะเอาวิธีการสัมปทานส่งเข้าสภาสส.สว.ร่วมแสดงความเห็นตีแผ่ความจริงออกสู่สายตาประชาชนคนไทยทั้งประเทศมิใช่ปกปิดจนถึงปัจจุบันทั้งแสดงเหตุอันเป็นเท็จต่อดาต้าข้อมูลทั้งหมดที่ปกปิดไว้,ตัดสินใจกันเองในผลกระทบที่ทั้งประเทศได้รับผลกระทบตรงจากมันจริงๆ,เช่นข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน,ต้นทุนแพงรอบทิศกระทบทุกๆการดำรงชีวิตของคนไทย,เสือกไม่นำเข้าสภาอภิปรายบอกกล่าวเล่าความจริงห่าอะไร, ..เรามีวิถีการปกครองที่ล้มเหลวและเป็นความมั่นคงเสียเองต่อคนไทยทุกๆคนจึงไม่ผิดไปจากนี้ใดๆเลย. https://youtu.be/aCut0LQPS5s?si=NXRiwMESVBLsjO3z
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 795 มุมมอง 0 รีวิว
  • แลกเปลี่ยน รับรู้ เข้าใจ
    พัฒนาการศึกษาไทยที่เท่าเทียม

    วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามความก้าวหน้าการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) และพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อแลกเปลี่ยน สร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา ระดับพื้นที่ ตามหลักการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในเป้าหมายที่ 4 คือการสร้างหลักประกันว่าทุกคนต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม และเท่าเทียม สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    แลกเปลี่ยน รับรู้ เข้าใจ พัฒนาการศึกษาไทยที่เท่าเทียม วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามความก้าวหน้าการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) และพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อแลกเปลี่ยน สร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา ระดับพื้นที่ ตามหลักการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในเป้าหมายที่ 4 คือการสร้างหลักประกันว่าทุกคนต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม และเท่าเทียม สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • แท็บเล็ต หรือเศษขยะทางการศึกษา? : SondhitalkEP291 VDO
    แจกแท็บเลต แก้ปัญหาการศึกษาไทย !?! หรือหาเรื่องผลาญงบ?
    #Sondhitalk #สนธิทอล์ค #สนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #sondhiapp #SondhiX #การศึกษาไทย #ปัญหาการศึกษาไทย #แจกแท็บเล็ต
    • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    แท็บเล็ต หรือเศษขยะทางการศึกษา? : SondhitalkEP291 VDO แจกแท็บเลต แก้ปัญหาการศึกษาไทย !?! หรือหาเรื่องผลาญงบ? #Sondhitalk #สนธิทอล์ค #สนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #sondhiapp #SondhiX #การศึกษาไทย #ปัญหาการศึกษาไทย #แจกแท็บเล็ต • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Like
    Love
    Angry
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2852 มุมมอง 56 2 รีวิว

  • ..นี้ก็ด้วย
    ..แผนสร้างความแตกแยก
    ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม.
    ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว,
    ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน,
    ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้.
    ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว,

    ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5

    ..นี้ก็ด้วย ..แผนสร้างความแตกแยก ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม. ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว, ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน, ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้. ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว, ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ. https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1045 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด”

    จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย

    ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ

    “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน

    สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ

    เหยื่อ
    - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์
    - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย

    การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที

    บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ

    ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว
    ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล
    ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน
    ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม"

    หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่

    จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566

    ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹

    ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท

    ความผิดตามกฎหมาย
    - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
    - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ยิงปืนในที่ชุมชน
    - สมคบก่ออาชญากรรม

    วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่

    พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม”

    “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก
    มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง

    จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน
    วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น

    คำถามที่ต้องถามคือ...

    วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ?

    บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า…

    ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ”
    ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ
    ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568

    #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย 🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌ 🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน 📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ 🔫 เหยื่อ - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์ - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢 🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣 🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว 🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล 🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน 📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม" หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่ 🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566 👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹 🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท 👉 ความผิดตามกฎหมาย - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต - ยิงปืนในที่ชุมชน - สมคบก่ออาชญากรรม 🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣 พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม” “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨 มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง 🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น 🧠 คำถามที่ต้องถามคือ... 👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ? 🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า… 🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ” 🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ 🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568 📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1461 มุมมอง 0 รีวิว
  • 54 ปี ลอบสังหาร “ครูโกมล คีมทอง” คอมมิวนิสต์เข้าใจผิด! คิดว่าเป็น… สายลับรัฐบาลไทย

    ย้อนรอยโศกนาฏกรรม ครูหนุ่มผู้มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาในชนบท แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความเข้าใจผิด ในยุคสมัย ที่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ร้อนระอุ

    เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นปริศนา ย้อนไปเมื่อ 54 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 เสียงปืนดังขึ้นที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 4 ตำบลสินเจริญ กิ่งอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ครูหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย

    "โกมล คีมทอง ครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์แรงกล้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการศึกษา ที่เหมาะสมกับชุมชน ทว่า… ด้วยความเข้าใจผิด ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ถูกตราหน้าว่า เป็นสายลับของรัฐบาลไทย และนำไปสู่การสังหารอันน่าเศร้า

    เรื่องราวของครูโกมล เต็มไปด้วยความซับซ้อน เป็นเหยื่อของสงครามอุดมการณ์ ที่ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายคอมมิวนิสต์ ต่างก็เพ่งเล็งและไม่ไว้ใจ จนกระทั่งความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ได้คร่าชีวิตพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกสองคน

    ครูโกมล คีมทอง จากเด็กหนุ่มหัวใจนักสู้ สู่ครูผู้เสียสละ
    👦🏻 "ครูโกมล คีมทอง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่ให้ความสำคัญ กับการศึกษา

    จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ และเข้าศึกษาต่อ ที่คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู

    เส้นทางสู่อาชีพครู และอุดมการณ์ที่แรงกล้า
    ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โกมลเป็นนิสิตที่กระตือรือร้น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา และค่ายพัฒนาชนบทเป็นประจำ ทำให้เห็นถึงความลำบากของเด็ก ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจแน่วแน่ว่า "ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการศึกษาในชนบท"

    ในปีสุดท้ายของการเรียน ครูโกมลได้รับโอกาสเข้าร่วม “ค่ายพัฒนากำลังคน เหมืองห้วยในเขา” ซึ่งจัดขึ้นที่เหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่เอง ที่โกมลได้เห็นปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ "สร้างโรงเรียนชุมชน"

    โรงเรียนชุมชนที่เหมืองห้วยในเขา อุดมการณ์ที่เป็นภัย
    จุดมุ่งหมายของครูโกมล โรงเรียนที่ครูโกมลตั้งใจสร้าง ไม่ใช่แค่สถานศึกษาแบบทั่วไป แต่เป็นโรงเรียนที่ออกแบบมา ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน

    หลักสูตรพิเศษ เน้นวิชาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ และงานช่าง
    วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และนิทานพื้นบ้าน
    ชุมชนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ไม่ใช่รัฐ

    แนวคิดเช่นนี้ ทำให้ทั้งรัฐบาล และพรรคคอมมิวนิสต์จับตามอง ด้วยความสงสัยว่า "แท้จริงแล้ว ครูโกมลทำงานให้ฝ่ายใด?"

    สงครามอุดมการณ์ จุดเริ่มต้นของความหวาดระแวง
    ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ครูโกมลเป็น "แนวร่วมคอมมิวนิสต์"
    รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเห็นว่า แนวคิดของครูโกมล อาจสนับสนุนอุดมการณ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โรงเรียนของครูโกมล ไม่ได้ใช้หลักสูตร จากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นศูนย์กลาง ของขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ

    ฝ่ายคอมมิวนิสต์มองว่า "สายลับรัฐบาล"
    ขณะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กำลังทำสงครามกองโจร กับรัฐบาลไทย การที่ครูโกมล เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ถ่ายภาพ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ทำให้พคท.เข้าใจว่ากำลังสอดแนม อีกทั้งการที่ครูโกมล ได้รับเงินสนับสนุนจาก "มูลนิธิเอเชีย" ซึ่งเป็นองค์กรต่างชาติ ยิ่งทำให้พคท.เชื่อว่า กำลังทำงานให้รัฐบาลไทย สุดท้าย... ความเข้าใจผิดนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม ที่ไม่มีวันย้อนคืน

    โศกนาฏกรรม คืนสังหารที่ไม่มีวันลืม
    22 กุมภาพันธ์ 2514 บ้านเหนือคลอง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ครูโกมล คีมทอง, รัตนา สกุลไทย บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเสรี ปรีชา หมอเร่ขายยา ถูกกลุ่มกองกำลัง พรรคคอมมิวนิสต จับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด

    หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยได้โปรยใบปลิวปฏิเสธว่า "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร" ขณะที่ พคท. ออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่า "เป็นผู้ลงมือสังหาร เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า ครูโกมลเป็นสายลับรัฐบาลไทย"

    แม้ว่า "ครูโกมล คีมทอง" จะจากไป แต่สิ่งที่ได้ทำไว้ ยังคงเป็นที่จดจำ
    การเสียสละทำให้เกิด “มูลนิธิโกมล คีมทอง” ในปี พ.ศ. 2514
    สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นหลังอุทิศตน เพื่อพัฒนาสังคม
    หลักสูตรการศึกษา ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง ยังคงเป็นแนวคิด ที่นำมาใช้ในการศึกษายุคใหม่

    ครูโกมลถูกฆ่าโดยใคร?
    ฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคคอมมิวนิสต์?
    เป็นเพียงครูธรรมดา หรือมีบทบาทที่ลึกซึ้งกว่านั้น?
    ถ้าไม่มีการสังหารในวันนั้น ครูโกมลจะสามารถเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ได้มากแค่ไหน?

    แม้ข้อเท็จจริง จะได้รับการเปิดเผยไปแล้ว แต่คำถามเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมา จนถึงทุกวันนี้...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221245 ก.พ. 2568

    #️⃣ #ครูโกมลคีมทอง #54ปีลอบสังหาร #โกมลคีมทอง #ประวัติศาสตร์ไทย #คอมมิวนิสต์ไทย #การศึกษาชนบท #ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ #มูลนิธิโกมลคีมทอง #ครูผู้เสียสละ #ประวัติศาสตร์ต้องรู้
    54 ปี ลอบสังหาร “ครูโกมล คีมทอง” คอมมิวนิสต์เข้าใจผิด! คิดว่าเป็น… สายลับรัฐบาลไทย ย้อนรอยโศกนาฏกรรม ครูหนุ่มผู้มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาในชนบท แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความเข้าใจผิด ในยุคสมัย ที่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ร้อนระอุ 📌 เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นปริศนา ย้อนไปเมื่อ 54 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 เสียงปืนดังขึ้นที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 4 ตำบลสินเจริญ กิ่งอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ครูหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย "โกมล คีมทอง ครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์แรงกล้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการศึกษา ที่เหมาะสมกับชุมชน ทว่า… ด้วยความเข้าใจผิด ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ถูกตราหน้าว่า เป็นสายลับของรัฐบาลไทย และนำไปสู่การสังหารอันน่าเศร้า เรื่องราวของครูโกมล เต็มไปด้วยความซับซ้อน เป็นเหยื่อของสงครามอุดมการณ์ ที่ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายคอมมิวนิสต์ ต่างก็เพ่งเล็งและไม่ไว้ใจ จนกระทั่งความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ได้คร่าชีวิตพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกสองคน 📖 ครูโกมล คีมทอง จากเด็กหนุ่มหัวใจนักสู้ สู่ครูผู้เสียสละ 👦🏻 "ครูโกมล คีมทอง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่ให้ความสำคัญ กับการศึกษา จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ และเข้าศึกษาต่อ ที่คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู 🎓 เส้นทางสู่อาชีพครู และอุดมการณ์ที่แรงกล้า ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โกมลเป็นนิสิตที่กระตือรือร้น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา และค่ายพัฒนาชนบทเป็นประจำ ทำให้เห็นถึงความลำบากของเด็ก ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจแน่วแน่ว่า "ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการศึกษาในชนบท" ในปีสุดท้ายของการเรียน ครูโกมลได้รับโอกาสเข้าร่วม “ค่ายพัฒนากำลังคน เหมืองห้วยในเขา” ซึ่งจัดขึ้นที่เหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่เอง ที่โกมลได้เห็นปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ "สร้างโรงเรียนชุมชน" 🏫 โรงเรียนชุมชนที่เหมืองห้วยในเขา อุดมการณ์ที่เป็นภัย 🎯 จุดมุ่งหมายของครูโกมล โรงเรียนที่ครูโกมลตั้งใจสร้าง ไม่ใช่แค่สถานศึกษาแบบทั่วไป แต่เป็นโรงเรียนที่ออกแบบมา ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ✔️ หลักสูตรพิเศษ เน้นวิชาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ และงานช่าง ✔️ วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และนิทานพื้นบ้าน ✔️ ชุมชนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ไม่ใช่รัฐ แนวคิดเช่นนี้ ทำให้ทั้งรัฐบาล และพรรคคอมมิวนิสต์จับตามอง ด้วยความสงสัยว่า "แท้จริงแล้ว ครูโกมลทำงานให้ฝ่ายใด?" 🔥 สงครามอุดมการณ์ จุดเริ่มต้นของความหวาดระแวง 🏴 ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ครูโกมลเป็น "แนวร่วมคอมมิวนิสต์" รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเห็นว่า แนวคิดของครูโกมล อาจสนับสนุนอุดมการณ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โรงเรียนของครูโกมล ไม่ได้ใช้หลักสูตร จากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นศูนย์กลาง ของขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ 🚩 ฝ่ายคอมมิวนิสต์มองว่า "สายลับรัฐบาล" ขณะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กำลังทำสงครามกองโจร กับรัฐบาลไทย การที่ครูโกมล เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ถ่ายภาพ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ทำให้พคท.เข้าใจว่ากำลังสอดแนม อีกทั้งการที่ครูโกมล ได้รับเงินสนับสนุนจาก "มูลนิธิเอเชีย" ซึ่งเป็นองค์กรต่างชาติ ยิ่งทำให้พคท.เชื่อว่า กำลังทำงานให้รัฐบาลไทย สุดท้าย... ความเข้าใจผิดนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม ที่ไม่มีวันย้อนคืน ☠️ โศกนาฏกรรม คืนสังหารที่ไม่มีวันลืม 22 กุมภาพันธ์ 2514 📍 บ้านเหนือคลอง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครูโกมล คีมทอง, รัตนา สกุลไทย บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเสรี ปรีชา หมอเร่ขายยา ถูกกลุ่มกองกำลัง พรรคคอมมิวนิสต จับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยได้โปรยใบปลิวปฏิเสธว่า "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร" ขณะที่ พคท. ออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่า "เป็นผู้ลงมือสังหาร เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า ครูโกมลเป็นสายลับรัฐบาลไทย" 🏛️ แม้ว่า "ครูโกมล คีมทอง" จะจากไป แต่สิ่งที่ได้ทำไว้ ยังคงเป็นที่จดจำ ✔️ การเสียสละทำให้เกิด “มูลนิธิโกมล คีมทอง” ในปี พ.ศ. 2514 ✔️ สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นหลังอุทิศตน เพื่อพัฒนาสังคม ✔️ หลักสูตรการศึกษา ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง ยังคงเป็นแนวคิด ที่นำมาใช้ในการศึกษายุคใหม่ 🎭 ครูโกมลถูกฆ่าโดยใคร? 👉 ฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคคอมมิวนิสต์? 👉 เป็นเพียงครูธรรมดา หรือมีบทบาทที่ลึกซึ้งกว่านั้น? 👉 ถ้าไม่มีการสังหารในวันนั้น ครูโกมลจะสามารถเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ได้มากแค่ไหน? แม้ข้อเท็จจริง จะได้รับการเปิดเผยไปแล้ว แต่คำถามเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมา จนถึงทุกวันนี้... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221245 ก.พ. 2568 #️⃣ #ครูโกมลคีมทอง #54ปีลอบสังหาร #โกมลคีมทอง #ประวัติศาสตร์ไทย #คอมมิวนิสต์ไทย #การศึกษาชนบท #ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ #มูลนิธิโกมลคีมทอง #ครูผู้เสียสละ #ประวัติศาสตร์ต้องรู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1854 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts