• ฟื้นทางรถไฟ สุไหงโก-ลกไปมาเลเซีย

    เมื่อวันก่อน นายฮัสบิ ฮาบิโบลเลาะห์ รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะศึกษาความต้องการในการฟื้นฟูทางรถไฟ ช่วงระหว่างด่านรันเตาปันจัง กับสถานีปาซีร์มัส รัฐกลันตัน ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และศึกษาความเป็นไปได้ในการกลับมาให้บริการรถไฟ จากสถานีรันเตาปันจัง ไปยังสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประเทศไทย โดยต้องคำนึงถึงการจัดสรรงบประมาณ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย

    สำหรับทางรถไฟที่เชื่อมต่อมาเลเซียกับไทย หยุดให้บริการผู้โดยสารตั้งแต่ปี 2525 และหยุดให้บริการขนส่งสินค้าเมื่อปี 2549 เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยและผลกระทบจากอุทกภัย นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส้นทางรถไฟถูกปิดตาย โครงสร้างพื้นฐานรวมถึงสถานีรถไฟรันเตาปันจังอยู่ในสภาพทรุดโทรม จำเป็นต้องได้รับการบูรณะ บำรุงรักษา และยกระดับก่อนจะสามารถเปิดให้บริการอีกครั้ง

    ส่วนข้อเสนอของนางซาอิลาห์ โมห์ด ยูซอฟฟ์ ส.ส.เมืองรันเตาปันจัง เกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูทางรถไฟและการกลับมาให้บริการรถไฟจากรันเตาปันจังไปยังสุไหงโก-ลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น เสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและไทย เติมเต็มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลรับทราบข้อเสนอดังกล่าว ถือเป็นหนทางที่จะปรับปรุงการเข้าถึงและกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างมาเลเซียและไทย หากโครงการนี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเพิ่มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย

    นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออก (ECRL) ไปยังสถานีปาซีร์มัส ของการรถไฟมาลายา (KTMB) ซึ่งจะทำให้ทางรถไฟ ECRL มีประสิทธิภาพที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจบนชายฝั่งทะเลตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย และช่วยลดช่องว่างทางเศรษฐกิจกับชายฝั่งทะเลตะวันตก นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกสำหรับขนส่งสินค้าและโดยสารระหว่างมาเลเซียกับไทยอีกด้วย

    เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 แหล่งข่าวจากตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทยรายหนึ่งเปิดเผยว่า การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะพัฒนาทางรถไฟเชื่อมไปยังฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพูดคุยกับการรถไฟมาลายา (KTMB) เป็นระยะ แต่โครงการจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ที่ผ่านมานับตั้งแต่หยุดการเดินรถ และฝั่งประเทศมาเลเซียเคยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ถึงบัดนี้ ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพทางรถไฟฝั่งประเทศมาเลเซียในปัจจุบันได้

    #Newskit
    ฟื้นทางรถไฟ สุไหงโก-ลกไปมาเลเซีย เมื่อวันก่อน นายฮัสบิ ฮาบิโบลเลาะห์ รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะศึกษาความต้องการในการฟื้นฟูทางรถไฟ ช่วงระหว่างด่านรันเตาปันจัง กับสถานีปาซีร์มัส รัฐกลันตัน ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และศึกษาความเป็นไปได้ในการกลับมาให้บริการรถไฟ จากสถานีรันเตาปันจัง ไปยังสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประเทศไทย โดยต้องคำนึงถึงการจัดสรรงบประมาณ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย สำหรับทางรถไฟที่เชื่อมต่อมาเลเซียกับไทย หยุดให้บริการผู้โดยสารตั้งแต่ปี 2525 และหยุดให้บริการขนส่งสินค้าเมื่อปี 2549 เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยและผลกระทบจากอุทกภัย นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส้นทางรถไฟถูกปิดตาย โครงสร้างพื้นฐานรวมถึงสถานีรถไฟรันเตาปันจังอยู่ในสภาพทรุดโทรม จำเป็นต้องได้รับการบูรณะ บำรุงรักษา และยกระดับก่อนจะสามารถเปิดให้บริการอีกครั้ง ส่วนข้อเสนอของนางซาอิลาห์ โมห์ด ยูซอฟฟ์ ส.ส.เมืองรันเตาปันจัง เกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูทางรถไฟและการกลับมาให้บริการรถไฟจากรันเตาปันจังไปยังสุไหงโก-ลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น เสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและไทย เติมเต็มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลรับทราบข้อเสนอดังกล่าว ถือเป็นหนทางที่จะปรับปรุงการเข้าถึงและกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างมาเลเซียและไทย หากโครงการนี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเพิ่มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออก (ECRL) ไปยังสถานีปาซีร์มัส ของการรถไฟมาลายา (KTMB) ซึ่งจะทำให้ทางรถไฟ ECRL มีประสิทธิภาพที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจบนชายฝั่งทะเลตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย และช่วยลดช่องว่างทางเศรษฐกิจกับชายฝั่งทะเลตะวันตก นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกสำหรับขนส่งสินค้าและโดยสารระหว่างมาเลเซียกับไทยอีกด้วย เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 แหล่งข่าวจากตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทยรายหนึ่งเปิดเผยว่า การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะพัฒนาทางรถไฟเชื่อมไปยังฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพูดคุยกับการรถไฟมาลายา (KTMB) เป็นระยะ แต่โครงการจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ที่ผ่านมานับตั้งแต่หยุดการเดินรถ และฝั่งประเทศมาเลเซียเคยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ถึงบัดนี้ ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพทางรถไฟฝั่งประเทศมาเลเซียในปัจจุบันได้ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ผู้ใหญ่ใจดี"
    รัฐบาลไบเดนยกหนี้เงินกู้ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐที่สหรัฐฯ มอบให้กับยูเครน

    แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลของไบเดนกำลังเคลื่อนไหวเพื่อยกหนี้ของสหรัฐมูลค่าประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน

    เงินกู้เหล่านี้ได้รับการอนุมัติเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับยูเครนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำหรับเงินกู้ก้อนนี้ จะถูกแบ่งมา 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้สำหรับการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและงบประมาณแก่รัฐบาลยูเครน ซึ่งเป็นจำนวนที่รัฐบาลไบเดนสามารถอนุมัติเพื่อยกหนี้ได้ครึ่งหนึ่งคือ 4,700 ล้านดอลลาร์ หลังจากผ่านวันที่ 15 พฤศจิกายนไปแล้ว

    "เราทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในกฎหมายการจัดสรรเงินทุนเพื่อยูเครนที่ผ่านโดยรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งรวมถึงการยกเลิกเงินกู้เหล่านั้น" มิลเลอร์กล่าวในการแถลงข่าว และเสริมว่าขั้นตอนดังกล่าวได้ดำเนินการไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

    มิลเลอร์ ยังกล่าวอีกว่า ขั้นตอนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมของรัฐสภา ซึ่งยังคงสามารถขัดขวางการดำเนินการดังกล่าวได้

    หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้นลง รัฐบาลของไบเดน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือยูเครนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ท่ามกลางความกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจยกเลิกการสนับสนุนของสหรัฐฯที่มีต่อยูเครน
    "ผู้ใหญ่ใจดี" รัฐบาลไบเดนยกหนี้เงินกู้ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐที่สหรัฐฯ มอบให้กับยูเครน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลของไบเดนกำลังเคลื่อนไหวเพื่อยกหนี้ของสหรัฐมูลค่าประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน เงินกู้เหล่านี้ได้รับการอนุมัติเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับยูเครนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำหรับเงินกู้ก้อนนี้ จะถูกแบ่งมา 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้สำหรับการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและงบประมาณแก่รัฐบาลยูเครน ซึ่งเป็นจำนวนที่รัฐบาลไบเดนสามารถอนุมัติเพื่อยกหนี้ได้ครึ่งหนึ่งคือ 4,700 ล้านดอลลาร์ หลังจากผ่านวันที่ 15 พฤศจิกายนไปแล้ว "เราทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในกฎหมายการจัดสรรเงินทุนเพื่อยูเครนที่ผ่านโดยรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งรวมถึงการยกเลิกเงินกู้เหล่านั้น" มิลเลอร์กล่าวในการแถลงข่าว และเสริมว่าขั้นตอนดังกล่าวได้ดำเนินการไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มิลเลอร์ ยังกล่าวอีกว่า ขั้นตอนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมของรัฐสภา ซึ่งยังคงสามารถขัดขวางการดำเนินการดังกล่าวได้ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้นลง รัฐบาลของไบเดน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือยูเครนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ท่ามกลางความกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจยกเลิกการสนับสนุนของสหรัฐฯที่มีต่อยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDU5OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=

    มีเวลาเหลืออีก 2 วัน ร่วมด้วยช่วยกันครับ เข้าเวป ไปตอบ ไม่เห็นด้วย ทั้ง 15 ข้อ คัดค้านระบบทาสจากคาร์บอนเครดิตที่จะบวกในสินค้า,บริการและกิจกรรมทั้งหมดที่เราทำ หลังจากการหลอกลวงเรื่องโลกร้อน เพื่อบีบให้เราจน เศรษฐกิจล่มสลาย กวดต้อนผู้คนให้พึ่งพารัฐ แล้วจำกัดเสรีภาพ

    ด่วนที่สุด❗️สำคัญมากขอเวลา 2 นาที
    เราทุกคนช่วยกันเข้าไปคัดค้านกฎหมาย Carbon tax
    ภายในวันนี้
    ก่อนทึ่จะสายเกินไป
    แบบสอบถามมี 15ข้อ
    ตอบ "ไม่เห็นด้วย"
    ทั้งหมดทุกข้อ
    ในร่างพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDU5OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
    ✳️ ทำความเข้าใจ
    หลอกลวงเรื่องโลกร้อน
    https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=QXbUqUz06sFgzsj8
    โลกร้อนเพราะคาร์บอน
    เป็นเรื่องหลอกลวง ตอนที่ 1
    https://t.me/awakened_thailand/424
    ตอนที่ 2
    https://t.me/awakened_thailand/425
    ตอนทึ่ 3
    https://t.me/awakened_thailand/426
    อธิบายเมื่อมีกฎหมายคาร์บอนเครดิต แล้วจะเกิดอะไรขึ้น 20พย.67
    https://www.youtube.com/live/OiOyuFyxjdw?si=MxBbCuLK-QukI5xu
    #agenda2030 #ทาส #ตกงาน #ภาษี
    #carbontax #แพง #carboncredit
    https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDU5OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= มีเวลาเหลืออีก 2 วัน ร่วมด้วยช่วยกันครับ เข้าเวป ไปตอบ ไม่เห็นด้วย ทั้ง 15 ข้อ คัดค้านระบบทาสจากคาร์บอนเครดิตที่จะบวกในสินค้า,บริการและกิจกรรมทั้งหมดที่เราทำ หลังจากการหลอกลวงเรื่องโลกร้อน เพื่อบีบให้เราจน เศรษฐกิจล่มสลาย กวดต้อนผู้คนให้พึ่งพารัฐ แล้วจำกัดเสรีภาพ ด่วนที่สุด❗️สำคัญมากขอเวลา 2 นาที เราทุกคนช่วยกันเข้าไปคัดค้านกฎหมาย Carbon tax ภายในวันนี้ ก่อนทึ่จะสายเกินไป แบบสอบถามมี 15ข้อ ตอบ "ไม่เห็นด้วย" ทั้งหมดทุกข้อ ในร่างพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDU5OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ✳️ ทำความเข้าใจ หลอกลวงเรื่องโลกร้อน https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=QXbUqUz06sFgzsj8 โลกร้อนเพราะคาร์บอน เป็นเรื่องหลอกลวง ตอนที่ 1 https://t.me/awakened_thailand/424 ตอนที่ 2 https://t.me/awakened_thailand/425 ตอนทึ่ 3 https://t.me/awakened_thailand/426 อธิบายเมื่อมีกฎหมายคาร์บอนเครดิต แล้วจะเกิดอะไรขึ้น 20พย.67 https://www.youtube.com/live/OiOyuFyxjdw?si=MxBbCuLK-QukI5xu #agenda2030 #ทาส #ตกงาน #ภาษี #carbontax #แพง #carboncredit
    LAW.GO.TH
    ระบบกลางทางกฎหมาย
    ระบบกลางทางกฎหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุไหงโก-ลกวุ่น มาเลย์เข้มข้ามแดน

    ปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่าง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ที่พบปัญหาชาวไทยและมาเลเซียใช้ช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกผ่านแม่น้ำโกลก โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปถึงการจับกุมยาเสพติด อาวุธปืน สินค้าผิดกฎหมาย ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป ทางการมาเลเซียประกาศให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องเข้า-ออกพรมแดนผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น

    กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย ติดป้ายเตือนริมแม่น้ำโกลกที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำผิดกฎหมายหลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยระบุว่า "บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและประเทศไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ"

    นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ยืนยันว่ามีทางเข้า-ออกรัฐกลันตันและไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ศูนย์ ICQS รันเตาปันจัง (ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ด่านบูกิตบุหงา (ตรงข้ามด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง) และด่านเป็งกาลันกูโบ (ตรงข้ามด่านตากใบ อ.ตากใบ) นอกนั้นเป็นช่องทางผิดกฎหมาย

    ขณะที่ดาโต๊ะ โมฮ้มหมัด ซูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน ระบุว่า ได้กำชับตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกนาย จับกุมชาวมาเลเซียที่มาจากไทยโดยใช้ช่องทางผิดกฎหมาย พร้อมเตือนทุกคนที่ต้องการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายว่าจะจับกุมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมเช่นกัน

    ที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังลักลอบขนยาเสพติด อาวุธปืนพก และสินค้าหนีภาษีอย่างเสรี ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้าประเทศผ่านศูนย์ ICQS เพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบยานพาหนะและควบคุมการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีได้ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยตามแนวชายแดนจะมีความเข้มงวดมากขึ้น

    อีกด้านหนึ่ง มาตรการเข้มงวดในการข้ามแดนของทางการมาเลเซีย ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมพบว่าผู้เข้าพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลดลงจากเดิม 100-200 ห้องเหลือ 15-20 ห้องต่อคืน ขณะที่มาตรการของทางการมาเลเซีย ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศวิตกกังวล ไม่กล้าเข้า-ออกประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว งานบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

    #Newskit
    สุไหงโก-ลกวุ่น มาเลย์เข้มข้ามแดน ปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่าง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ที่พบปัญหาชาวไทยและมาเลเซียใช้ช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกผ่านแม่น้ำโกลก โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปถึงการจับกุมยาเสพติด อาวุธปืน สินค้าผิดกฎหมาย ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป ทางการมาเลเซียประกาศให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องเข้า-ออกพรมแดนผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย ติดป้ายเตือนริมแม่น้ำโกลกที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำผิดกฎหมายหลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยระบุว่า "บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและประเทศไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ยืนยันว่ามีทางเข้า-ออกรัฐกลันตันและไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ศูนย์ ICQS รันเตาปันจัง (ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ด่านบูกิตบุหงา (ตรงข้ามด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง) และด่านเป็งกาลันกูโบ (ตรงข้ามด่านตากใบ อ.ตากใบ) นอกนั้นเป็นช่องทางผิดกฎหมาย ขณะที่ดาโต๊ะ โมฮ้มหมัด ซูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน ระบุว่า ได้กำชับตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกนาย จับกุมชาวมาเลเซียที่มาจากไทยโดยใช้ช่องทางผิดกฎหมาย พร้อมเตือนทุกคนที่ต้องการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายว่าจะจับกุมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมเช่นกัน ที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังลักลอบขนยาเสพติด อาวุธปืนพก และสินค้าหนีภาษีอย่างเสรี ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้าประเทศผ่านศูนย์ ICQS เพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบยานพาหนะและควบคุมการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีได้ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยตามแนวชายแดนจะมีความเข้มงวดมากขึ้น อีกด้านหนึ่ง มาตรการเข้มงวดในการข้ามแดนของทางการมาเลเซีย ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมพบว่าผู้เข้าพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลดลงจากเดิม 100-200 ห้องเหลือ 15-20 ห้องต่อคืน ขณะที่มาตรการของทางการมาเลเซีย ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศวิตกกังวล ไม่กล้าเข้า-ออกประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว งานบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ The House of Rothschild จักรวรรดิที่มองไม่เห็น : คนเคาะข่าว 20-11-67
    : ทวีสุข ธรรมศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างประเทศ
    : นงวดี ถนิมมาลย์ ดำเนินรายการ
    หนังสือ The House of Rothschild จักรวรรดิที่มองไม่เห็น : คนเคาะข่าว 20-11-67 : ทวีสุข ธรรมศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างประเทศ : นงวดี ถนิมมาลย์ ดำเนินรายการ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • ขีดเส้น สคบ.30 วัน เร่งเพิกถอนใบอนุญาต ธุรกิจขายตรง 'ดิ ไอคอน'
    .
    ความคืบหน้าในการตรวจสอบการกระทำผิดของบริษัท ดิ ไอคอน มีความคืบหน้าเป็นระยะ โดยเวลานี้มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว ทำให้ในเรื่องนี้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เวลานี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่ง บริษัทดิไอคอนจดทะเบียบแบบขายตรง การถอนใบอนุญาตต้องทำด้วยความรัดกุม และให้ความเป็นธรรม
    .
    "ที่ผ่านมาได้เข้าพิจารณาอนุฯกรรมการข้อกฎหมายของ สคบ. และมีมติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ให้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งช่วงระหว่างนั้น สคบ. ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและพอมีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มเติม สคบ.จึงนำข้อมูลไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งเราจะรอฟังข้อสรุป รวมถึงนำมาประกอบการดำเนินคดีต่อไป ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานครบกำหนด 30 วันแล้วแต่เเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่่สุด จึงขยายเวลาเพิ่มเติม 30 วัน"
    .
    ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง ที่มีการอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีนั้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้แทนดีเอสไอ รับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วจะประสานทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทั้งนี้ต้องก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด
    .
    พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนเท่านั้น
    ..............
    Sondhi X
    ขีดเส้น สคบ.30 วัน เร่งเพิกถอนใบอนุญาต ธุรกิจขายตรง 'ดิ ไอคอน' . ความคืบหน้าในการตรวจสอบการกระทำผิดของบริษัท ดิ ไอคอน มีความคืบหน้าเป็นระยะ โดยเวลานี้มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว ทำให้ในเรื่องนี้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เวลานี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่ง บริษัทดิไอคอนจดทะเบียบแบบขายตรง การถอนใบอนุญาตต้องทำด้วยความรัดกุม และให้ความเป็นธรรม . "ที่ผ่านมาได้เข้าพิจารณาอนุฯกรรมการข้อกฎหมายของ สคบ. และมีมติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ให้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งช่วงระหว่างนั้น สคบ. ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและพอมีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มเติม สคบ.จึงนำข้อมูลไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งเราจะรอฟังข้อสรุป รวมถึงนำมาประกอบการดำเนินคดีต่อไป ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานครบกำหนด 30 วันแล้วแต่เเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่่สุด จึงขยายเวลาเพิ่มเติม 30 วัน" . ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง ที่มีการอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีนั้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้แทนดีเอสไอ รับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วจะประสานทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทั้งนี้ต้องก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด . พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนเท่านั้น .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯอยู่ในภาวะถดถอยทางการเงินอย่างเสรี

    วิกฤตเศรษฐกิจกำลังใกล้เข้ามา, ซึ่งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการผ่อนปรนเชิงปริมาณไม่สามารถหยุดยั้งได้

    ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด, จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในโครงสร้างการป้องกันประเทศ, ความเป็นผู้นำ,ฅ และแนวคิด

    Douglas Macgregor
    .
    The United States is in fiscal free fall.

    An economic crisis looms, one that bailouts and quantitative easing cannot stop.

    Regardless of the circumstances, profound changes in defense structure, leadership, and thinking are needed.
    .
    3:30 AM · Nov 20, 2024 · 39.2K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1858971241732075832
    สหรัฐฯอยู่ในภาวะถดถอยทางการเงินอย่างเสรี วิกฤตเศรษฐกิจกำลังใกล้เข้ามา, ซึ่งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและการผ่อนปรนเชิงปริมาณไม่สามารถหยุดยั้งได้ ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด, จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในโครงสร้างการป้องกันประเทศ, ความเป็นผู้นำ,ฅ และแนวคิด Douglas Macgregor . The United States is in fiscal free fall. An economic crisis looms, one that bailouts and quantitative easing cannot stop. Regardless of the circumstances, profound changes in defense structure, leadership, and thinking are needed. . 3:30 AM · Nov 20, 2024 · 39.2K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1858971241732075832
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาวิลิต ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยยึดหลักพุทธศาสนาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
    👨‍🌾👩‍🌾

    เพราะสุขภาพดี มีขายที่บ้านนาวิลิต 💚💚
    #baannavilit #ข้าวสาร #ข้าวสารออร์แกนิค
    #ข้าวนาวิลิต #ข้าว #ออร์แกนิค #สุขภาพดี #คุณประโยชน์ #บ้านนาวิลิต #thaitimes
    🛒 Shopee >>> https://shopee.co.th/baannavilit
    นาวิลิต ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยยึดหลักพุทธศาสนาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 👨‍🌾👩‍🌾 เพราะสุขภาพดี มีขายที่บ้านนาวิลิต 💚💚 #baannavilit #ข้าวสาร #ข้าวสารออร์แกนิค #ข้าวนาวิลิต #ข้าว #ออร์แกนิค #สุขภาพดี #คุณประโยชน์ #บ้านนาวิลิต #thaitimes 🛒 Shopee >>> https://shopee.co.th/baannavilit
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก เคาะเดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ราว 3-4 ล้านคน โดยเป็นการแจกเงินสดเหมือนเฟสแรก คาดใช้วงเงินราว 40,000 ล้านบาท ได้เงินไม่เกินตรุษจีนปี 68 ส่วนเฟสถัดไป คาดว่าจะดำเนินการได้ใน เม.ย.-มิ.ย.68 เนื่องจากต้องรอทบทวนรายละเอียดและรอระบบให้พร้อมก่อน

    นอกจากนี้ คณะกรรมการยังเห็นชอบหลักการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนใน 3 กลุ่ม ได้แก่ บ้าน รถยนต์ และหนี้เพื่อการบริโภค โดยให้มีการพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี เพื่อบรรเทาภาระในช่วงแก้ไขปัญหา

    #MGROnline #แจกเงินหมื่น #แจกเงินหมื่นเฟส2 #ผู้สูงอายุ60ปีขึ้นไป #กระทรวงการคลัง #เงินดิจิทัล #ดิจิทัลวอลเล็ต #กระตุ้นเศรษฐกิจ
    คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก เคาะเดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ราว 3-4 ล้านคน โดยเป็นการแจกเงินสดเหมือนเฟสแรก คาดใช้วงเงินราว 40,000 ล้านบาท ได้เงินไม่เกินตรุษจีนปี 68 ส่วนเฟสถัดไป คาดว่าจะดำเนินการได้ใน เม.ย.-มิ.ย.68 เนื่องจากต้องรอทบทวนรายละเอียดและรอระบบให้พร้อมก่อน • นอกจากนี้ คณะกรรมการยังเห็นชอบหลักการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนใน 3 กลุ่ม ได้แก่ บ้าน รถยนต์ และหนี้เพื่อการบริโภค โดยให้มีการพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี เพื่อบรรเทาภาระในช่วงแก้ไขปัญหา • #MGROnline #แจกเงินหมื่น #แจกเงินหมื่นเฟส2 #ผู้สูงอายุ60ปีขึ้นไป #กระทรวงการคลัง #เงินดิจิทัล #ดิจิทัลวอลเล็ต #กระตุ้นเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เศรษฐกิจขาขึ้นมาม่าขายดีขอบคุณนายกอิ๊งครับผ๊ม
    ต้องให้ได้แบบนี้ พนง คงยิ้มเลย น่าอิจเนาะ
    ได้โบววนัส 5 เดือน รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทำถึง
    มาม่าถึงขายดีขนาดนี้ครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #เศรษฐกิจขาขึ้นมาม่าขายดีขอบคุณนายกอิ๊งครับผ๊ม ต้องให้ได้แบบนี้ พนง คงยิ้มเลย น่าอิจเนาะ ได้โบววนัส 5 เดือน รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทำถึง มาม่าถึงขายดีขนาดนี้ครับ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Love
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 1 รีวิว
  • ใครว่าเศรษฐกิจไทยแย่ มาม่ายอดขายทะลุเป้าแจกโบนัสพนักงาน 4-5เดือน ปั๊ดโถ่วว!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    ใครว่าเศรษฐกิจไทยแย่ มาม่ายอดขายทะลุเป้าแจกโบนัสพนักงาน 4-5เดือน ปั๊ดโถ่วว! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีจากพรรคกรีน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชอลซ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะอนุมัติการส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลทอรัส(Taurus)ให้กับยูเครน

    ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยทำการไกลถึงมอสโก กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการเมืองเยอรมนี ซึ่งชอลซ์ปฏิเสธคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
    โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีจากพรรคกรีน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชอลซ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะอนุมัติการส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลทอรัส(Taurus)ให้กับยูเครน ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยทำการไกลถึงมอสโก กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการเมืองเยอรมนี ซึ่งชอลซ์ปฏิเสธคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14_15 ปีก่อน..ได้มีโอกาสกินโต๊ะจีนในงานแห่งนึง...ก็มีอาเฮียคนนึง..คุยโม้เรื่อง ทองคำ สารพัด บอก มีพอร์ทอยู่200 ล. ในการซื้อขาย..ตอนนั้นทองรู้สึกจะบาทละ 19000 เขาบอกอย่าไปยุ่ง..ราคาที่เหมาะสมควรอยู่ทีี่ 17000 ถ้าจะเก็บยาว.....เราสะดุดตรงคำว่า "เก็บยาว" ถ้าไไม่มีคำนี้ คงนั่งฟังเฉยๆ....เราก็โพล่งออกไปว่า...ถ้าเก็บยาว เงินเย็นๆ 19000 ผมจะซื้อเป็นกิโลเลย...ไม่ซื้อเป็นบาท...พอดีผมเป็นธุรกิจเงินหมุน..เลยทำไม่ได้...ใครมีกำลัง...ลุยไปเลย...ไอ้เฮียคนนั้น มันมองหน้า..ประมาณว่า มึงเป็นใครวะ....แต่ไม่พูดอะไร...ผมแนะนำคนเก็บจนถึงทองบาทละ 26000-27000 ผมก็ยังยืนยันว่า..ลุย...แต่ถือยาวๆนะ....ผมเดาว่า ปีหน้า อเมริกาอาจมีวิกฤติใหญ่ทางเศรษฐกิจ...ราคาก็ น่าจะไปอีก..เฉพาะท่านที่เงินเย็นนะ...เงินกู้เสียดอก...อย่า....".
    14_15 ปีก่อน..ได้มีโอกาสกินโต๊ะจีนในงานแห่งนึง...ก็มีอาเฮียคนนึง..คุยโม้เรื่อง ทองคำ สารพัด บอก มีพอร์ทอยู่200 ล. ในการซื้อขาย..ตอนนั้นทองรู้สึกจะบาทละ 19000 เขาบอกอย่าไปยุ่ง..ราคาที่เหมาะสมควรอยู่ทีี่ 17000 ถ้าจะเก็บยาว.....เราสะดุดตรงคำว่า "เก็บยาว" ถ้าไไม่มีคำนี้ คงนั่งฟังเฉยๆ....เราก็โพล่งออกไปว่า...ถ้าเก็บยาว เงินเย็นๆ 19000 ผมจะซื้อเป็นกิโลเลย...ไม่ซื้อเป็นบาท...พอดีผมเป็นธุรกิจเงินหมุน..เลยทำไม่ได้...ใครมีกำลัง...ลุยไปเลย...ไอ้เฮียคนนั้น มันมองหน้า..ประมาณว่า มึงเป็นใครวะ....แต่ไม่พูดอะไร...ผมแนะนำคนเก็บจนถึงทองบาทละ 26000-27000 ผมก็ยังยืนยันว่า..ลุย...แต่ถือยาวๆนะ....ผมเดาว่า ปีหน้า อเมริกาอาจมีวิกฤติใหญ่ทางเศรษฐกิจ...ราคาก็ น่าจะไปอีก..เฉพาะท่านที่เงินเย็นนะ...เงินกู้เสียดอก...อย่า....".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีนและประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ของเปรู ได้ร่วมพิธีเปิดท่าเรือขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่นครชานไค (Chancay) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลิมา ประเทศเปรู ท่าเรือนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน โดยมีการลงนามข้อตกลงการค้าในพิธีเปิดผ่านการเชื่อมโยงวิดีโอจากทำเนียบรัฐบาลเปรู
    .
    ประธานาธิบดีสี กล่าวในพิธีเปิดว่า "เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนา ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ระหว่างเอเชียและลาตินอเมริกา โดยผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญในระยะยาว"
    .
    โครงการท่าเรือชานไคซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท COSCO ของจีนและบริษัท Volcan ของเปรู โดย COSCO ถือหุ้นในบริษัทที่บริหารท่าเรือประมาณ 60% การสร้างท่าเรือนี้จะช่วยเสริมความสามารถในการขนส่งสินค้าของเปรู โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น อะโวคาโดและบลูเบอร์รี ไปยังจีน ซึ่งการขนส่งจะใช้เวลาน้อยลงจากเดิม 35 วัน เหลือเพียง 23 วัน และคาดว่าจะสร้างรายได้ประจำปีถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    นอกจากนี้ ท่าเรือนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำหรับประเทศในลาตินอเมริกา เช่น ชิลี เอกวาดอร์ โคลอมเบีย บราซิล และปารากวัย โดยคาดว่าจะมีการขนส่งสินค้าอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง กาแฟ และแร่เหล็ก ซึ่งจะทำให้ท่าเรือชานไคกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาค
    .
    การเปิดท่าเรือชานไคได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศในลาตินอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เปรูกลายเป็น "คลังสินค้าของโลก" ตามที่ประธานาธิบดีโบลูอาร์เตกล่าว
    .
    แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากจีนและเปรู แต่ทางการสหรัฐฯ ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงการ โดยมีการเตือนว่าท่าเรือนี้อาจกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จีนสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บข้อมูลหรือการเฝ้าระวัง เนื่องจากท่าเรือชานไคตั้งอยู่ในภูมิภาคที่สำคัญและใกล้กับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
    .
    อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคกล่าวว่า "ท่าเรือนี้จะทำให้จีนสามารถเข้าถึงทรัพยากรในภูมิภาคได้ง่ายขึ้น" ขณะที่บางฝ่ายมีความกังวลว่าอาจมีการใช้งานท่าเรือเพื่อการสอดแนมหรือการรักษาความปลอดภัยในอนาคต
    .
    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ความกังวลเกี่ยวกับท่าเรือที่สร้างโดยจีนในประเทศต่างๆ เช่น ศรีลังกาและกรีซ ไม่ได้กลายเป็นปัญหาจริงจัง และชี้ให้เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ของสหรัฐฯ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการกับความกังวลเหล่านี้
    .
    ทางการเปรูได้ปฏิเสธข้อกังวลจากสหรัฐฯ โดยระบุว่า หากสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของจีนในประเทศเปรู ควรเพิ่มการลงทุนในประเทศนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110712
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีนและประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ของเปรู ได้ร่วมพิธีเปิดท่าเรือขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่นครชานไค (Chancay) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลิมา ประเทศเปรู ท่าเรือนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน โดยมีการลงนามข้อตกลงการค้าในพิธีเปิดผ่านการเชื่อมโยงวิดีโอจากทำเนียบรัฐบาลเปรู . ประธานาธิบดีสี กล่าวในพิธีเปิดว่า "เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนา ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ระหว่างเอเชียและลาตินอเมริกา โดยผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญในระยะยาว" . โครงการท่าเรือชานไคซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท COSCO ของจีนและบริษัท Volcan ของเปรู โดย COSCO ถือหุ้นในบริษัทที่บริหารท่าเรือประมาณ 60% การสร้างท่าเรือนี้จะช่วยเสริมความสามารถในการขนส่งสินค้าของเปรู โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น อะโวคาโดและบลูเบอร์รี ไปยังจีน ซึ่งการขนส่งจะใช้เวลาน้อยลงจากเดิม 35 วัน เหลือเพียง 23 วัน และคาดว่าจะสร้างรายได้ประจำปีถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ . นอกจากนี้ ท่าเรือนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำหรับประเทศในลาตินอเมริกา เช่น ชิลี เอกวาดอร์ โคลอมเบีย บราซิล และปารากวัย โดยคาดว่าจะมีการขนส่งสินค้าอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง กาแฟ และแร่เหล็ก ซึ่งจะทำให้ท่าเรือชานไคกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาค . การเปิดท่าเรือชานไคได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศในลาตินอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เปรูกลายเป็น "คลังสินค้าของโลก" ตามที่ประธานาธิบดีโบลูอาร์เตกล่าว . แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากจีนและเปรู แต่ทางการสหรัฐฯ ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงการ โดยมีการเตือนว่าท่าเรือนี้อาจกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จีนสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บข้อมูลหรือการเฝ้าระวัง เนื่องจากท่าเรือชานไคตั้งอยู่ในภูมิภาคที่สำคัญและใกล้กับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ . อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคกล่าวว่า "ท่าเรือนี้จะทำให้จีนสามารถเข้าถึงทรัพยากรในภูมิภาคได้ง่ายขึ้น" ขณะที่บางฝ่ายมีความกังวลว่าอาจมีการใช้งานท่าเรือเพื่อการสอดแนมหรือการรักษาความปลอดภัยในอนาคต . อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ความกังวลเกี่ยวกับท่าเรือที่สร้างโดยจีนในประเทศต่างๆ เช่น ศรีลังกาและกรีซ ไม่ได้กลายเป็นปัญหาจริงจัง และชี้ให้เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ของสหรัฐฯ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการกับความกังวลเหล่านี้ . ทางการเปรูได้ปฏิเสธข้อกังวลจากสหรัฐฯ โดยระบุว่า หากสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของจีนในประเทศเปรู ควรเพิ่มการลงทุนในประเทศนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110712 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังอิสราเอลยังคงทำลายล้างอาคารที่พักของพลเมืองเลบานอนต่อไป
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่คือกรุงเบรุต ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ
    กองกำลังอิสราเอลยังคงทำลายล้างอาคารที่พักของพลเมืองเลบานอนต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่คือกรุงเบรุต ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาพ่าย “สงครามเทคโนโลยี” จีนแซงหน้า.ประโยคติดปากกับสโลแกนของนายทรัมป์ คือ "ทำอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง" หรือ Make America Great Again ผมไม่รู้ว่าลึกๆ นายทรัมป์ ให้ความหมายของคำนี้ว่าอย่างไร ทุกวันนี้แม้ว่าอเมริกายังถือว่าตัวเองยังคงเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก 28.7 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยจีน ที่ 28.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ถ้าเราวัดขนาดเศรษฐกิจเทียบกับอำนาจการซื้อ คือขนาดเศรษฐกิจ กับอำนาจการซื้อ PPP (Purchasing Power Priority)ถ้าวัดกันตรงนี้ เศรษฐกิจจีนถือว่าแซงหน้าอเมริกาเรื่องอำนาจในการซื้อข้าวซื้อของ .แต่สิ่งสำคัญกว่าขนาดหรือตัวเลขเศรษฐกิจ คือ เศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เขาเรียกว่า "เทคโนโลยีที่มาชี้ขาด" (Critical Technology) มีคำเปรียบเปรยว่า รัฐใดสามารถผูกขาดเทคโนโลยีได้ รัฐนั้นสามารถปกครองโลกได้ จีนกลายเป็นศูนย์กลางการกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21.เมื่อเดือนสิงหาคม หรือ2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มีสถาบันนโยบายเชิงกลยุทธ์ออสเตรเลีย ที่เขาเรียกว่า Australian Politics Policy Institute ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากอเมริกา ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง"เทคโนโลยีชี้ขาด"(Critical Technology Tracker)ว่า จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการวิจัยเทคโนโลยีที่สำคัญด้านการป้องกันประเทศ อวกาศ พลังงาน เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีเกิดใหม่ของโลกเกือบ 90% หรือมีมากถึง 57 หมวดหมู่ จาก 64 หมวดหมู่เทคโนโลยี แต่ยังเหลืออยู่ 7 สาขา ที่อเมริกายังเป็นผู้นำเช่น สาขาประมวลผลภาษาธรรมชาติ สาขาพันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) ,เวชศาสตร์นิวเคลียร์และรังสีบำบัด,วัคซีน ,ดาวเทียมขนาดเล็ก,Quantum Computing และนาฬิกาอะตอม.สื่อThe Economist รายงานและ Voice of America รายงานเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ออกมายอมรับว่าจีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำ เขาพบว่าอเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่งด้านการวิจัยเทคโนโลยีชี้ขาดเรียบร้อยแล้ว .ข้อมูลที่ผมเล่าให้ฟังนี้ มันชี้ให้เราเห็นว่าช่วงเวลาสำคัญที่ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีจีนเป็นศูนย์กลาง การกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21 การเติบโตของจีนเป็นปรากฏการณ์อันซับซ้อนที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเป็นเรื่องราวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ จีนกำลังผงาดขึ้นมาแทนที่สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ นี่คือบทเรียนที่สหรัฐฯ และประเทศทางตะวันตกต้องรีบทำความเข้าใจ.นี่ไม่ใช่แค่เกมหมากรุกทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นนามธรรม เพราะธุรกิจอเมริกาที่ควบคุมทุกอย่างในการแข่งขัน ตอนนี้ต้องมาเผชิญความจริงที่ยากขึ้นไปอีก เพราะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งทางจีน ซึ่งมีเทคโนโลยีสูงกว่าตัวเอง อเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่ง.ทั้งนี้และทั้งนั้นอนาคตเศรษฐกิจโลกจะถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือ หรือแข่งขัน หรือสงครามแห่งความขัดแย้ง ความแข็งแกร่งและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมของจีนผลักดันให้จีนก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำยุคใหม่ที่มีอิทธิพลระดับโลก ท้าทายระเบียบโลกเก่าที่นำโดยสหรัฐฯ
    อเมริกาพ่าย “สงครามเทคโนโลยี” จีนแซงหน้า.ประโยคติดปากกับสโลแกนของนายทรัมป์ คือ "ทำอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง" หรือ Make America Great Again ผมไม่รู้ว่าลึกๆ นายทรัมป์ ให้ความหมายของคำนี้ว่าอย่างไร ทุกวันนี้แม้ว่าอเมริกายังถือว่าตัวเองยังคงเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก 28.7 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยจีน ที่ 28.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ถ้าเราวัดขนาดเศรษฐกิจเทียบกับอำนาจการซื้อ คือขนาดเศรษฐกิจ กับอำนาจการซื้อ PPP (Purchasing Power Priority)ถ้าวัดกันตรงนี้ เศรษฐกิจจีนถือว่าแซงหน้าอเมริกาเรื่องอำนาจในการซื้อข้าวซื้อของ .แต่สิ่งสำคัญกว่าขนาดหรือตัวเลขเศรษฐกิจ คือ เศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เขาเรียกว่า "เทคโนโลยีที่มาชี้ขาด" (Critical Technology) มีคำเปรียบเปรยว่า รัฐใดสามารถผูกขาดเทคโนโลยีได้ รัฐนั้นสามารถปกครองโลกได้ จีนกลายเป็นศูนย์กลางการกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21.เมื่อเดือนสิงหาคม หรือ2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มีสถาบันนโยบายเชิงกลยุทธ์ออสเตรเลีย ที่เขาเรียกว่า Australian Politics Policy Institute ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากอเมริกา ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง"เทคโนโลยีชี้ขาด"(Critical Technology Tracker)ว่า จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการวิจัยเทคโนโลยีที่สำคัญด้านการป้องกันประเทศ อวกาศ พลังงาน เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีเกิดใหม่ของโลกเกือบ 90% หรือมีมากถึง 57 หมวดหมู่ จาก 64 หมวดหมู่เทคโนโลยี แต่ยังเหลืออยู่ 7 สาขา ที่อเมริกายังเป็นผู้นำเช่น สาขาประมวลผลภาษาธรรมชาติ สาขาพันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) ,เวชศาสตร์นิวเคลียร์และรังสีบำบัด,วัคซีน ,ดาวเทียมขนาดเล็ก,Quantum Computing และนาฬิกาอะตอม.สื่อThe Economist รายงานและ Voice of America รายงานเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ออกมายอมรับว่าจีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำ เขาพบว่าอเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่งด้านการวิจัยเทคโนโลยีชี้ขาดเรียบร้อยแล้ว .ข้อมูลที่ผมเล่าให้ฟังนี้ มันชี้ให้เราเห็นว่าช่วงเวลาสำคัญที่ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีจีนเป็นศูนย์กลาง การกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21 การเติบโตของจีนเป็นปรากฏการณ์อันซับซ้อนที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเป็นเรื่องราวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ จีนกำลังผงาดขึ้นมาแทนที่สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ นี่คือบทเรียนที่สหรัฐฯ และประเทศทางตะวันตกต้องรีบทำความเข้าใจ.นี่ไม่ใช่แค่เกมหมากรุกทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นนามธรรม เพราะธุรกิจอเมริกาที่ควบคุมทุกอย่างในการแข่งขัน ตอนนี้ต้องมาเผชิญความจริงที่ยากขึ้นไปอีก เพราะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งทางจีน ซึ่งมีเทคโนโลยีสูงกว่าตัวเอง อเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่ง.ทั้งนี้และทั้งนั้นอนาคตเศรษฐกิจโลกจะถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือ หรือแข่งขัน หรือสงครามแห่งความขัดแย้ง ความแข็งแกร่งและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมของจีนผลักดันให้จีนก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำยุคใหม่ที่มีอิทธิพลระดับโลก ท้าทายระเบียบโลกเก่าที่นำโดยสหรัฐฯ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนผงาดผู้นำเศรษฐกิจโลก : SondhitalkEP268 VDO
    ประเทศมหาอำนาจวิกฤต เศรษฐกิจและเทคโนโลยี ถดถอย
    #Sondhitalk #สนธิทอล์ค #สนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #sondhiapp #sondhiX #จีน #อเมริกา #ผู้นำเศรษฐกิจโลก
    จีนผงาดผู้นำเศรษฐกิจโลก : SondhitalkEP268 VDO ประเทศมหาอำนาจวิกฤต เศรษฐกิจและเทคโนโลยี ถดถอย #Sondhitalk #สนธิทอล์ค #สนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #sondhiapp #sondhiX #จีน #อเมริกา #ผู้นำเศรษฐกิจโลก
    Like
    Love
    29
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2038 มุมมอง 408 2 รีวิว
  • ทรัมป์กำลังวางแผนทำให้เศรษฐกิจอิหร่านล้มละลาย เพื่อต้องการหยุดการพัฒนารอบด้านของอิหร่านด้วยการคว่ำบาตรครั้งใหม่อย่างเข้มข้นกว่าเดิม!

    ทรัมป์ตั้งเป้าที่จะฟื้นกลยุทธ์ "กดดันขั้นสูงสุด" ของเขา โดยกำหนดเป้าหมายการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเพื่อทำลายเศรษฐกิจอิหร่านอย่างรุนแรงที่สุด เพื่อหยุดยั้งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และบังคับให้อิหร่านเข้าร่วมการเจรจาโครงการนิเคลียร์

    หนึ่งในแผนการดังกล่าวของทรัมป์คือ บังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดโดยการคว่ำบาตรเพื่อลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านจาก 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันให้เหลือระดับต่ำสุดก่อนปี 2020
    ทรัมป์กำลังวางแผนทำให้เศรษฐกิจอิหร่านล้มละลาย เพื่อต้องการหยุดการพัฒนารอบด้านของอิหร่านด้วยการคว่ำบาตรครั้งใหม่อย่างเข้มข้นกว่าเดิม! ทรัมป์ตั้งเป้าที่จะฟื้นกลยุทธ์ "กดดันขั้นสูงสุด" ของเขา โดยกำหนดเป้าหมายการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเพื่อทำลายเศรษฐกิจอิหร่านอย่างรุนแรงที่สุด เพื่อหยุดยั้งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และบังคับให้อิหร่านเข้าร่วมการเจรจาโครงการนิเคลียร์ หนึ่งในแผนการดังกล่าวของทรัมป์คือ บังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดโดยการคว่ำบาตรเพื่อลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านจาก 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันให้เหลือระดับต่ำสุดก่อนปี 2020
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศจำกัดการส่งออกยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ (Enriched Uranium) หรือยูเรเนียมที่ใช้ในการผลิตนิวเคลียร์ไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว!

    จากสถานการณ์นี้ ส่งผลให้ราคาเสนอซื้อยูเรเนียมสำหรับการส่งมอบในเดือนพฤศจิกายน 2025 พุ่งขึ้นอีก 4 ดอลลาร์ เป็น 84 ดอลลาร์ต่อปอนด์

    นี่เป็นมาตรการตอบโต้จากทางรัสเซีย หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯห้ามการนำเข้ายูเรเนียมจากรัสเซียจนถึงปี 2040 โดยอนุญาตให้มีข้อยกเว้นได้จนถึงปี 2028 แม้จะมีคำเตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

    การประกาศของรัสเซียครั้งนี้ ส่งผลต่อการจัดหาวัตถุดิบด้านนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ของอเมริกาในระยะใกล้นี้อย่างแน่นอน

    ข้อจำกัดดังกล่าว ครอบคลุมถึงประเทศอื่นที่ทำข้อตกลงการค้าต่างประเทศกับสหรัฐอเมริกาด้วย

    หลังการจำกัดการส่งมอบยูเรเนียมเสริมสมรรถนะให้กับสหรัฐฯ คาดว่ารัสเซียจะพื่อเส้นทางไปยังอินเดีย อิหร่าน และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์ที่ผลิตในประเทศ

    รัสเซียมีกำลังการผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะประมาณ 44% ของโลก
    ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศจำกัดการส่งออกยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ (Enriched Uranium) หรือยูเรเนียมที่ใช้ในการผลิตนิวเคลียร์ไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว! จากสถานการณ์นี้ ส่งผลให้ราคาเสนอซื้อยูเรเนียมสำหรับการส่งมอบในเดือนพฤศจิกายน 2025 พุ่งขึ้นอีก 4 ดอลลาร์ เป็น 84 ดอลลาร์ต่อปอนด์ นี่เป็นมาตรการตอบโต้จากทางรัสเซีย หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯห้ามการนำเข้ายูเรเนียมจากรัสเซียจนถึงปี 2040 โดยอนุญาตให้มีข้อยกเว้นได้จนถึงปี 2028 แม้จะมีคำเตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การประกาศของรัสเซียครั้งนี้ ส่งผลต่อการจัดหาวัตถุดิบด้านนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ของอเมริกาในระยะใกล้นี้อย่างแน่นอน ข้อจำกัดดังกล่าว ครอบคลุมถึงประเทศอื่นที่ทำข้อตกลงการค้าต่างประเทศกับสหรัฐอเมริกาด้วย หลังการจำกัดการส่งมอบยูเรเนียมเสริมสมรรถนะให้กับสหรัฐฯ คาดว่ารัสเซียจะพื่อเส้นทางไปยังอินเดีย อิหร่าน และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์ที่ผลิตในประเทศ รัสเซียมีกำลังการผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะประมาณ 44% ของโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมที่ชี้เป็นชี้ตาย" หมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือโลก และหากเกิดปัญหาในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปกติจะหมายถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น:1. อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ2. อุตสาหกรรมพลังงาน3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ4. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร5. อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์6. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์7. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์8. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง9. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม10. อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงิน11. อุตสาหกรรมเหมืองแร่12. อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ13. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี14. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร15. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอาวุธ16. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์17. อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ18. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ19. อุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ20. อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ21. อุตสาหกรรมการศึกษาและการฝึกอบรม22. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม)23. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ24. อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์25. อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์26. อุตสาหกรรมเกมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน27. อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ28. อุตสาหกรรมการขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานนี่คืออุตสาหกรรมเพิ่มเติมที่มีความสำคัญ:29. อุตสาหกรรมการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย30. อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ31. อุตสาหกรรมการประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเล32. อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง33. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์34. อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา35. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว36. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งภายใน37. อุตสาหกรรมการศึกษาออนไลน์และการเรียนรู้ดิจิทัล38. อุตสาหกรรมการค้าปลีก (ทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์)39. อุตสาหกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (เช่น ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย)40. อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ41. อุตสาหกรรมการพัฒนาและขายซอฟต์แวร์42. อุตสาหกรรมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง43. อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน (เช่น บริษัทประกันภัย)44. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์45. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่46. อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์47. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร (เช่น พืชดัดแปลงพันธุกรรม)48. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ49. อุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)50. อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Data Centers)51. อุตสาหกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง52. อุตสาหกรรมการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)53. อุตสาหกรรมการวิเคราะห์และวิจัยตลาด54. อุตสาหกรรมการทดสอบและควบคุมคุณภาพ55. อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์56. อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์57. อุตสาหกรรมการแพทย์ทางเลือกและการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม58. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการจัดการโครงข่ายพลังงาน (Smart Grid)59. อุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ60. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะและห่วงโซ่อุปทาน61. อุตสาหกรรมการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรูหรา62. อุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุ63. อุตสาหกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียว64. อุตสาหกรรมระบบการเกษตรแบบยั่งยืนและเทคโนโลยีเกษตร (AgriTech)65. อุตสาหกรรมที่พักอาศัยและการบริการ (Hospitality)66. อุตสาหกรรมสถาบันทางการเงินระหว่างประเทศ67. อุตสาหกรรมการจัดการและบำบัดน้ำ
    "อุตสาหกรรมที่ชี้เป็นชี้ตาย" หมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือโลก และหากเกิดปัญหาในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปกติจะหมายถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น:1. อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ2. อุตสาหกรรมพลังงาน3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ4. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร5. อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์6. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์7. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์8. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง9. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม10. อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงิน11. อุตสาหกรรมเหมืองแร่12. อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ13. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี14. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร15. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอาวุธ16. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์17. อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ18. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ19. อุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ20. อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ21. อุตสาหกรรมการศึกษาและการฝึกอบรม22. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม)23. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ24. อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์25. อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์26. อุตสาหกรรมเกมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน27. อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ28. อุตสาหกรรมการขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานนี่คืออุตสาหกรรมเพิ่มเติมที่มีความสำคัญ:29. อุตสาหกรรมการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย30. อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ31. อุตสาหกรรมการประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเล32. อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง33. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์34. อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา35. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว36. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งภายใน37. อุตสาหกรรมการศึกษาออนไลน์และการเรียนรู้ดิจิทัล38. อุตสาหกรรมการค้าปลีก (ทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์)39. อุตสาหกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (เช่น ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย)40. อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ41. อุตสาหกรรมการพัฒนาและขายซอฟต์แวร์42. อุตสาหกรรมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง43. อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน (เช่น บริษัทประกันภัย)44. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์45. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่46. อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์47. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร (เช่น พืชดัดแปลงพันธุกรรม)48. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ49. อุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)50. อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Data Centers)51. อุตสาหกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง52. อุตสาหกรรมการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)53. อุตสาหกรรมการวิเคราะห์และวิจัยตลาด54. อุตสาหกรรมการทดสอบและควบคุมคุณภาพ55. อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์56. อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์57. อุตสาหกรรมการแพทย์ทางเลือกและการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม58. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการจัดการโครงข่ายพลังงาน (Smart Grid)59. อุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ60. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะและห่วงโซ่อุปทาน61. อุตสาหกรรมการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรูหรา62. อุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุ63. อุตสาหกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียว64. อุตสาหกรรมระบบการเกษตรแบบยั่งยืนและเทคโนโลยีเกษตร (AgriTech)65. อุตสาหกรรมที่พักอาศัยและการบริการ (Hospitality)66. อุตสาหกรรมสถาบันทางการเงินระหว่างประเทศ67. อุตสาหกรรมการจัดการและบำบัดน้ำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดตำนานแมว 9 ชีวิต : SondhitalkEP268 VDO
    เบื้องลึก "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" อดกลับ ตร. ศาลปกครองสูงสุดตีตกคำร้อง
    #Sondhitalk #สนธิทอล์ค #สนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #sondhiapp #sondhiX #จีน #อเมริกา #ผู้นำเศรษฐกิจโลก
    ปิดตำนานแมว 9 ชีวิต : SondhitalkEP268 VDO เบื้องลึก "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" อดกลับ ตร. ศาลปกครองสูงสุดตีตกคำร้อง #Sondhitalk #สนธิทอล์ค #สนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #sondhiapp #sondhiX #จีน #อเมริกา #ผู้นำเศรษฐกิจโลก
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Sad
    25
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2415 มุมมอง 337 1 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.95 : “กัมพูชา” ฐานการลงทุนใหม่แห่งอาเซียน ?
    .
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็นการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติออกจากเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้ย้ายฐานจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ยกตัวอย่างเช่น พานาโซนิก ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ที่ปิดโรงงานและศูนย์วิจัยในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยย้ายไปตั้งที่เวียดนามแทน จนมีความกังวลกันว่า ญี่ปุ่นจะทิ้งเมืองไทย
    .
    แม้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ต่างยืนยันว่า จะยังไม่ทิ้งประเทศไทย...แต่ก็ต้องยอมรับว่า สภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ และศักยภาพการแข่งขันของไทยที่ด้อยลง ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นก็จำเป็นต้อง ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า Thailand+1 ...... โดยประเทศหนึ่งที่ธุรกิจญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากก็คือ “กัมพูชา”
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=hH9jo-vt0Ns
    บูรพาไม่แพ้ Ep.95 : “กัมพูชา” ฐานการลงทุนใหม่แห่งอาเซียน ? . ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็นการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติออกจากเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้ย้ายฐานจากประเทศไทยไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ยกตัวอย่างเช่น พานาโซนิก ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ที่ปิดโรงงานและศูนย์วิจัยในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยย้ายไปตั้งที่เวียดนามแทน จนมีความกังวลกันว่า ญี่ปุ่นจะทิ้งเมืองไทย . แม้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ต่างยืนยันว่า จะยังไม่ทิ้งประเทศไทย...แต่ก็ต้องยอมรับว่า สภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ และศักยภาพการแข่งขันของไทยที่ด้อยลง ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นก็จำเป็นต้อง ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า Thailand+1 ...... โดยประเทศหนึ่งที่ธุรกิจญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากก็คือ “กัมพูชา” . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=hH9jo-vt0Ns
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เกาะกูด และ เขตเศรษฐกิจจำเพาะในทะเล คือ "อธิปไตย" ของ ราชอาณาจักรไทย" ##
    ..
    ..
    รายการ สภากาแฟ เวทีชาวบ้าน
    .
    โดย คุณ ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และ ทนาย นิติธร ล้ำเหลือ
    .
    https://www.youtube.com/live/QFe69_CVlhg?si=4Dg4InUov7hk5WSs
    ## เกาะกูด และ เขตเศรษฐกิจจำเพาะในทะเล คือ "อธิปไตย" ของ ราชอาณาจักรไทย" ## .. .. รายการ สภากาแฟ เวทีชาวบ้าน . โดย คุณ ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และ ทนาย นิติธร ล้ำเหลือ . https://www.youtube.com/live/QFe69_CVlhg?si=4Dg4InUov7hk5WSs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวนี้สะท้อนถึง ความแตกต่างในทัศนคติทางสังคมและการรับรู้ค่าของเงิน ที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่มีฐานะกับคนที่มีความลำบากทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องการซื้อขายและการต่อรองราคา ที่ผู้คนมักจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้ต่อรองราคาจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในราคาต่ำ แต่กลับไม่รู้สึกต้องการทำเช่นเดียวกันเมื่อซื้อสินค้าที่มีราคาสูงจากร้านค้าหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ที่กำหนดราคามาแล้วสิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ: 1. การต่อรองราคากับคนจน: พฤติกรรมที่มักจะเกิดขึ้นคือการที่ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้ “ชัยชนะ” เมื่อสามารถต่อรองราคาของสินค้าจากผู้ที่มีรายได้น้อยลงไปได้ แม้ว่าราคาที่ตนจ่ายนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้ผู้ขายได้กำไรจริงๆ หรือไม่ได้ทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้นก็ตาม 2. การไม่ต่อรองในร้านค้าราคาแพง: ในทางกลับกัน ผู้คนมักจะยอมจ่ายราคาที่ตั้งไว้โดยร้านค้าหรือภัตตาคารใหญ่ โดยไม่ต่อรองหรือถามหาความเป็นไปได้ในการลดราคา ทั้งที่บางครั้งการ “ทิ้งทอน” หรือการไม่ขอส่วนลดที่ถูกต้องอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป 3. การให้ราคาสูงกว่าเพื่อช่วยเหลือ: การที่ผู้เขียนเลือกที่จะให้ราคาสูงกว่าที่ต้องการเพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่มีความยากจน ถือเป็นการทำบุญที่มีความหมาย ทั้งในแง่ของการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และการให้เกียรติในความพยายามของคนที่ทำงานหนักในแต่ละวันข้อคิดสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการสะท้อนคือการใช้ “ความเมตตา” และ “การช่วยเหลือ” ในการให้เงินหรือให้สิ่งต่างๆ แก่คนที่มีฐานะยากจน หรือผู้ที่ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพ การไม่ทำให้พวกเขารู้สึกถูกเอาเปรียบ และการพยายามทำให้พวกเขามีศักดิ์ศรีมากขึ้นผ่านการให้ความเคารพในราคาและการซื้อขาย.
    เรื่องราวนี้สะท้อนถึง ความแตกต่างในทัศนคติทางสังคมและการรับรู้ค่าของเงิน ที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่มีฐานะกับคนที่มีความลำบากทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องการซื้อขายและการต่อรองราคา ที่ผู้คนมักจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้ต่อรองราคาจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในราคาต่ำ แต่กลับไม่รู้สึกต้องการทำเช่นเดียวกันเมื่อซื้อสินค้าที่มีราคาสูงจากร้านค้าหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ที่กำหนดราคามาแล้วสิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ: 1. การต่อรองราคากับคนจน: พฤติกรรมที่มักจะเกิดขึ้นคือการที่ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้ “ชัยชนะ” เมื่อสามารถต่อรองราคาของสินค้าจากผู้ที่มีรายได้น้อยลงไปได้ แม้ว่าราคาที่ตนจ่ายนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้ผู้ขายได้กำไรจริงๆ หรือไม่ได้ทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้นก็ตาม 2. การไม่ต่อรองในร้านค้าราคาแพง: ในทางกลับกัน ผู้คนมักจะยอมจ่ายราคาที่ตั้งไว้โดยร้านค้าหรือภัตตาคารใหญ่ โดยไม่ต่อรองหรือถามหาความเป็นไปได้ในการลดราคา ทั้งที่บางครั้งการ “ทิ้งทอน” หรือการไม่ขอส่วนลดที่ถูกต้องอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป 3. การให้ราคาสูงกว่าเพื่อช่วยเหลือ: การที่ผู้เขียนเลือกที่จะให้ราคาสูงกว่าที่ต้องการเพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่มีความยากจน ถือเป็นการทำบุญที่มีความหมาย ทั้งในแง่ของการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และการให้เกียรติในความพยายามของคนที่ทำงานหนักในแต่ละวันข้อคิดสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการสะท้อนคือการใช้ “ความเมตตา” และ “การช่วยเหลือ” ในการให้เงินหรือให้สิ่งต่างๆ แก่คนที่มีฐานะยากจน หรือผู้ที่ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพ การไม่ทำให้พวกเขารู้สึกถูกเอาเปรียบ และการพยายามทำให้พวกเขามีศักดิ์ศรีมากขึ้นผ่านการให้ความเคารพในราคาและการซื้อขาย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา Javier Milei เป็นผู้นำโลกคนแรกที่เข้าพบกับ ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

    การพบกันดังกล่าวเกิดขึ้นที่คฤหาสน์สุดหรูมาร์อาลาโกของทรัมป์ในรัฐฟลอริดา ซึ่งทั้งสองผู้นำได้หารือถึงผลประโยชน์ร่วมกันในนโยบายเศรษฐกิจและการปกครอง
    ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา Javier Milei เป็นผู้นำโลกคนแรกที่เข้าพบกับ ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง การพบกันดังกล่าวเกิดขึ้นที่คฤหาสน์สุดหรูมาร์อาลาโกของทรัมป์ในรัฐฟลอริดา ซึ่งทั้งสองผู้นำได้หารือถึงผลประโยชน์ร่วมกันในนโยบายเศรษฐกิจและการปกครอง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts