• พบชื่อวิศวกรคุมงาน 51 ราย หลัง "ดีเอสไอ" ยึดหลักฐานกิจการร่วมค้า PKW
    https://www.thai-tai.tv/news/18201/
    พบชื่อวิศวกรคุมงาน 51 ราย หลัง "ดีเอสไอ" ยึดหลักฐานกิจการร่วมค้า PKW https://www.thai-tai.tv/news/18201/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรายกระซิบว่า
    ผู้บริหารสตง. มั่นใจพ้นผิด
    อ้างคำตัดสินศาลในอดีต
    วิศวกรผิด ยกฟ้องผู้ว่าจ้าง
    พวกมันจึงโนสน โนแคร์ ช่างแม่เสียงก่นด่า
    #คิงส์โพธิ์แดง
    พรายกระซิบว่า ผู้บริหารสตง. มั่นใจพ้นผิด อ้างคำตัดสินศาลในอดีต วิศวกรผิด ยกฟ้องผู้ว่าจ้าง พวกมันจึงโนสน โนแคร์ ช่างแม่เสียงก่นด่า #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังเผชิญกับปัญหาภายในที่ส่งผลให้ Siri ล้าหลังคู่แข่งด้าน AI อย่าง OpenAI และ Google โดยมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา และ การขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Siri ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่แข่งขันได้

    ✅ Apple ล้มเหลวในการพัฒนา Siri ให้ทันคู่แข่ง
    - Apple ต้องเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Siri เนื่องจาก ปัญหาด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ
    - อดีตพนักงานของ Apple ระบุว่า การขาดวิสัยทัศน์และการเน้นพัฒนาเพียงฟีเจอร์เล็กๆ เป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา AI และวิศวกรซอฟต์แวร์
    - ทีม AI ได้รับ เงินเดือนสูงกว่า, การเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า
    - ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์รู้สึกว่า ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และมีการบันทึกหลักฐานเพื่อโยนความผิดให้ทีมอื่นหากโครงการล้มเหลว

    ✅ อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Apple ไม่เชื่อว่า Chatbots มีประโยชน์
    - John Giannandrea เคยบอกทีมงานในปี 2022 ว่า Chatbots อย่าง ChatGPT ไม่มีประโยชน์
    - ในปี 2023 Apple สั่งห้ามวิศวกร ใช้โมเดล AI จากบริษัทอื่น แม้จะเห็นว่าเทคโนโลยีของ Apple ยังตามหลังคู่แข่ง

    ✅ Craig Federighi เข้ามากู้สถานการณ์ Siri
    - Federighi ได้สั่งให้ทีม Siri ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนา AI ให้ดีขึ้น
    - Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อแก้ไขปัญหาภายใน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/hey-siri-explain-how-internal-feuding-at-apple-left-the-company-losing-the-ai-race
    Apple กำลังเผชิญกับปัญหาภายในที่ส่งผลให้ Siri ล้าหลังคู่แข่งด้าน AI อย่าง OpenAI และ Google โดยมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา และ การขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Siri ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่แข่งขันได้ ✅ Apple ล้มเหลวในการพัฒนา Siri ให้ทันคู่แข่ง - Apple ต้องเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Siri เนื่องจาก ปัญหาด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ - อดีตพนักงานของ Apple ระบุว่า การขาดวิสัยทัศน์และการเน้นพัฒนาเพียงฟีเจอร์เล็กๆ เป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา AI และวิศวกรซอฟต์แวร์ - ทีม AI ได้รับ เงินเดือนสูงกว่า, การเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า - ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์รู้สึกว่า ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และมีการบันทึกหลักฐานเพื่อโยนความผิดให้ทีมอื่นหากโครงการล้มเหลว ✅ อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Apple ไม่เชื่อว่า Chatbots มีประโยชน์ - John Giannandrea เคยบอกทีมงานในปี 2022 ว่า Chatbots อย่าง ChatGPT ไม่มีประโยชน์ - ในปี 2023 Apple สั่งห้ามวิศวกร ใช้โมเดล AI จากบริษัทอื่น แม้จะเห็นว่าเทคโนโลยีของ Apple ยังตามหลังคู่แข่ง ✅ Craig Federighi เข้ามากู้สถานการณ์ Siri - Federighi ได้สั่งให้ทีม Siri ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนา AI ให้ดีขึ้น - Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อแก้ไขปัญหาภายใน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/hey-siri-explain-how-internal-feuding-at-apple-left-the-company-losing-the-ai-race
    WWW.THESTAR.COM.MY
    ‘Hey Siri: Explain how internal feuding at Apple left the company losing the AI race’
    A damning expose of Apple's missteps trying upgrade Siri delivers a masterclass on how competing teams build resentment inside a company.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจ"ช่างกฎหมายมันส์ - Letitbelaw" โพสต์ข้อความแฉเหตุสาเหตุตึก สตง. ถึงมี "การปลอมลายเซ็นวิศวกร" ชี้ เป็นการทุจริตที่ทำให้เกิดคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ วอนหน่วยงานที่ตรวจสอบอย่าเป็นมวยล้มต้มคนดู

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036001

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เพจ"ช่างกฎหมายมันส์ - Letitbelaw" โพสต์ข้อความแฉเหตุสาเหตุตึก สตง. ถึงมี "การปลอมลายเซ็นวิศวกร" ชี้ เป็นการทุจริตที่ทำให้เกิดคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ วอนหน่วยงานที่ตรวจสอบอย่าเป็นมวยล้มต้มคนดู อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036001 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจ"ช่างกฎหมายมันส์ - Letitbelaw" โพสต์ข้อความแฉเหตุสาเหตุตึก สตง. ถึงมี "การปลอมลายเซ็นวิศวกร" ชี้ เป็นการทุจริตที่ทำให้เกิดคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ วอนหน่วยงานที่ตรวจสอบอย่าเป็นมวยล้มต้มคนดู

    จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ทำให้ตึก สตง. มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ย่านจตุจักรพังถล่ม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก บริษัทก่อสร้างยืนยันว่าทำตามขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีกระแสข่าวว่ามีการใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐานและปลอมลายเซ็นวิศวกรควบคุมงาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอย่างเข้มข้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035974

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    เพจ"ช่างกฎหมายมันส์ - Letitbelaw" โพสต์ข้อความแฉเหตุสาเหตุตึก สตง. ถึงมี "การปลอมลายเซ็นวิศวกร" ชี้ เป็นการทุจริตที่ทำให้เกิดคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ วอนหน่วยงานที่ตรวจสอบอย่าเป็นมวยล้มต้มคนดู • จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ทำให้ตึก สตง. มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ย่านจตุจักรพังถล่ม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก บริษัทก่อสร้างยืนยันว่าทำตามขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีกระแสข่าวว่ามีการใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐานและปลอมลายเซ็นวิศวกรควบคุมงาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอย่างเข้มข้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035974 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในดีเอสไอ พบว่า วิศวกร รายนี้มีชื่อว่า นายพิมล เจริญยิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2482 ปัจจุบันอายุประมาณ 86 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายพิมล เจริญยิ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเซ็นชื่อออกแบบก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า" นายพิมลกล่าวทิ้งท้าย https://www.isranews.org/article/isranews/137278-invesbuuu.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR5qo6Z1xEJKIlQDMPzBvhCaet1TNeiQBQPUq9i7eyTRIWTX8yfMcGC74mZMVg_aem_7v2l-bG-EkBzQ1ythAALXQ#xgl270v9n291i1ri0op7msw94v3gt9sdi
    สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในดีเอสไอ พบว่า วิศวกร รายนี้มีชื่อว่า นายพิมล เจริญยิ่ง เกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2482 ปัจจุบันอายุประมาณ 86 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายพิมล เจริญยิ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเซ็นชื่อออกแบบก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า" นายพิมลกล่าวทิ้งท้าย https://www.isranews.org/article/isranews/137278-invesbuuu.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR5qo6Z1xEJKIlQDMPzBvhCaet1TNeiQBQPUq9i7eyTRIWTX8yfMcGC74mZMVg_aem_7v2l-bG-EkBzQ1ythAALXQ#xgl270v9n291i1ri0op7msw94v3gt9sdi
    WWW.ISRANEWS.ORG
    เปิดตัว 'วิศวกร' อายุ 85 ปี ผู้เซ็นชื่อออกแบบสร้างตึกสตง.- เจ้าตัวแจงไม่รู้เรื่องด้วย?
    นายพิมล ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า เขาเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคารสตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า ...เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักต้มตุ๋นกำลังใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อหลอกลวงประชาชนในช่วง Tax Day โดย Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ การโจมตีแบบ vishing (voice phishing) ที่กำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS
    - ใช้ deepfake voice เพื่อทำให้เสียงดูน่าเชื่อถือ
    - หลอกให้เหยื่อเปิดเผย ข้อมูลทางการเงินและเอกสารภาษี

    ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการโจมตีแบบ vishing
    - แนะนำให้ใช้ multi-factor authentication เพื่อป้องกันบัญชีออนไลน์
    - ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ปลอม

    ✅ IRS ไม่ติดต่อประชาชนผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย
    - หากได้รับข้อความจาก IRS ผ่านช่องทางเหล่านี้ ควรสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง
    - IRS จะติดต่อผ่าน จดหมายหรือโทรศัพท์ที่สามารถตรวจสอบได้

    ✅ นักต้มตุ๋นใช้เทคนิคใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    - ใช้ AI-generated emails, voice calls และวิดีโอ deepfake
    - สามารถ ปรับแต่งผลการค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมดูเหมือนเป็นของจริง

    ✅ กลุ่มเป้าหมายหลักของการโจมตี
    - วิศวกร, ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และที่ปรึกษา เป็นกลุ่มที่ถูกโจมตีมากที่สุด
    - ใช้ QR codes และบริการฝากไฟล์ เช่น Dropbox เพื่อหลอกลวงเหยื่อ

    https://www.techradar.com/pro/security/scammers-are-using-ai-generated-voices-to-impersonate-irs-tax-officials
    นักต้มตุ๋นกำลังใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อหลอกลวงประชาชนในช่วง Tax Day โดย Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ การโจมตีแบบ vishing (voice phishing) ที่กำลังเพิ่มขึ้น ✅ นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS - ใช้ deepfake voice เพื่อทำให้เสียงดูน่าเชื่อถือ - หลอกให้เหยื่อเปิดเผย ข้อมูลทางการเงินและเอกสารภาษี ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการโจมตีแบบ vishing - แนะนำให้ใช้ multi-factor authentication เพื่อป้องกันบัญชีออนไลน์ - ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ปลอม ✅ IRS ไม่ติดต่อประชาชนผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย - หากได้รับข้อความจาก IRS ผ่านช่องทางเหล่านี้ ควรสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง - IRS จะติดต่อผ่าน จดหมายหรือโทรศัพท์ที่สามารถตรวจสอบได้ ✅ นักต้มตุ๋นใช้เทคนิคใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ - ใช้ AI-generated emails, voice calls และวิดีโอ deepfake - สามารถ ปรับแต่งผลการค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมดูเหมือนเป็นของจริง ✅ กลุ่มเป้าหมายหลักของการโจมตี - วิศวกร, ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และที่ปรึกษา เป็นกลุ่มที่ถูกโจมตีมากที่สุด - ใช้ QR codes และบริการฝากไฟล์ เช่น Dropbox เพื่อหลอกลวงเหยื่อ https://www.techradar.com/pro/security/scammers-are-using-ai-generated-voices-to-impersonate-irs-tax-officials
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Cloud ประสบปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้เกิด ระบบล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศูนย์ข้อมูล us-east5-c ที่ตั้งอยู่ใน Columbus, Ohio โดยสาเหตุหลักมาจาก ความล้มเหลวของระบบสำรองไฟ (UPS) ซึ่งควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักดับ

    ✅ ไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบล่มในศูนย์ข้อมูลของ Google Cloud
    - เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 และกินเวลานาน 6 ชั่วโมง 10 นาที
    - ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบใช้ AMD EPYC และ Intel Xeon processors

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - ระบบสำรองไฟ UPS ควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ แต่เกิด ความล้มเหลวของแบตเตอรี่
    - ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ในโซน us-east5-c ดับลง และเกิด packet loss ในเครือข่าย

    ✅ ผลกระทบต่อบริการของ Google Cloud
    - ลูกค้าหลายรายพบว่า VM instances ในโซนนี้ไม่สามารถใช้งานได้
    - มี ดิสก์บางส่วน ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงที่เกิดเหตุ

    ✅ การแก้ไขปัญหา
    - วิศวกรของ Google เปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก ไปยังโซนอื่นเพื่อลดผลกระทบ
    - ระบบถูกกู้คืนโดยใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกลับมาออนไลน์เมื่อเวลา 14:49 น. ตามเวลาสหรัฐฯ แปซิฟิก

    ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต
    - Google จะ ปรับปรุงระบบสำรองไฟ เพื่อให้สามารถกู้คืนได้เร็วขึ้น
    - มีการตรวจสอบ ระบบ failover เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา
    - Google จะทำงานร่วมกับ ผู้ผลิต UPS เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้ Google Cloud
    - บริษัทที่พึ่งพา Google Cloud อาจต้องพิจารณา กลยุทธ์สำรองข้อมูล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้

    ℹ️ ความเสี่ยงของระบบสำรองไฟ
    - แม้ UPS จะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับ แต่ ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ อาจทำให้ระบบล่มได้
    - ควรมี ระบบสำรองเพิ่มเติม เช่น การใช้ multi-zone redundancy

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์
    - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องลงทุนใน ระบบสำรองไฟที่มีความเสถียรสูงขึ้น
    - อาจมีการพัฒนา AI-based monitoring เพื่อช่วยตรวจจับปัญหาก่อนเกิดเหตุ

    https://www.neowin.net/news/googles-uninterruptible-power-supply-ironically-interrupted-cloud-with-a-six-hour-outage/
    Google Cloud ประสบปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้เกิด ระบบล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศูนย์ข้อมูล us-east5-c ที่ตั้งอยู่ใน Columbus, Ohio โดยสาเหตุหลักมาจาก ความล้มเหลวของระบบสำรองไฟ (UPS) ซึ่งควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักดับ ✅ ไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบล่มในศูนย์ข้อมูลของ Google Cloud - เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 และกินเวลานาน 6 ชั่วโมง 10 นาที - ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบใช้ AMD EPYC และ Intel Xeon processors ✅ สาเหตุของปัญหา - ระบบสำรองไฟ UPS ควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ แต่เกิด ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ - ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ในโซน us-east5-c ดับลง และเกิด packet loss ในเครือข่าย ✅ ผลกระทบต่อบริการของ Google Cloud - ลูกค้าหลายรายพบว่า VM instances ในโซนนี้ไม่สามารถใช้งานได้ - มี ดิสก์บางส่วน ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงที่เกิดเหตุ ✅ การแก้ไขปัญหา - วิศวกรของ Google เปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก ไปยังโซนอื่นเพื่อลดผลกระทบ - ระบบถูกกู้คืนโดยใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกลับมาออนไลน์เมื่อเวลา 14:49 น. ตามเวลาสหรัฐฯ แปซิฟิก ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต - Google จะ ปรับปรุงระบบสำรองไฟ เพื่อให้สามารถกู้คืนได้เร็วขึ้น - มีการตรวจสอบ ระบบ failover เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา - Google จะทำงานร่วมกับ ผู้ผลิต UPS เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้ Google Cloud - บริษัทที่พึ่งพา Google Cloud อาจต้องพิจารณา กลยุทธ์สำรองข้อมูล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ℹ️ ความเสี่ยงของระบบสำรองไฟ - แม้ UPS จะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับ แต่ ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ อาจทำให้ระบบล่มได้ - ควรมี ระบบสำรองเพิ่มเติม เช่น การใช้ multi-zone redundancy ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องลงทุนใน ระบบสำรองไฟที่มีความเสถียรสูงขึ้น - อาจมีการพัฒนา AI-based monitoring เพื่อช่วยตรวจจับปัญหาก่อนเกิดเหตุ https://www.neowin.net/news/googles-uninterruptible-power-supply-ironically-interrupted-cloud-with-a-six-hour-outage/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google's 'uninterruptible' power supply ironically interrupted Cloud with a six hour outage
    Google Cloud was hit with a six-hour-long outage at the end of the last month when its uninterruptible power supply system failed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิศวกรอาวุโสและวุฒิสมาชิกเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน DSI กรณีอาคารสตง.ถล่ม
    https://www.thai-tai.tv/news/18180/
    วิศวกรอาวุโสและวุฒิสมาชิกเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน DSI กรณีอาคารสตง.ถล่ม https://www.thai-tai.tv/news/18180/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'วิศวกรดัง' แจ้งความถูกปลอมลายเซ็นคุมงานสร้างตึก สตง. 5 ปี แอบอ้างชื่อในเอกสารแก้ไขเเบบปล่องลิฟท์ ยันไม่เกี่ยวข้องโครงการ
    https://www.thai-tai.tv/news/18177/
    'วิศวกรดัง' แจ้งความถูกปลอมลายเซ็นคุมงานสร้างตึก สตง. 5 ปี แอบอ้างชื่อในเอกสารแก้ไขเเบบปล่องลิฟท์ ยันไม่เกี่ยวข้องโครงการ https://www.thai-tai.tv/news/18177/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิตสาขาวิศวกรรมโครงสร้าง ได้ออกมาเปิดเผยบทสันนิษฐานสุดท้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มลงมาอย่างสิ้นเชิงในลักษณะ "แพนเค้ก" เมื่อกว่าสองสัปดาห์ก่อน โดยระบุถึงช่วงเวลาวิกฤตเพียง 8 วินาทีที่อาคารทั้งหลังทรุดตัวลงมา พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่ออธิบายกลไกการพังทลายอย่างละเอียด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035649

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิตสาขาวิศวกรรมโครงสร้าง ได้ออกมาเปิดเผยบทสันนิษฐานสุดท้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มลงมาอย่างสิ้นเชิงในลักษณะ "แพนเค้ก" เมื่อกว่าสองสัปดาห์ก่อน โดยระบุถึงช่วงเวลาวิกฤตเพียง 8 วินาทีที่อาคารทั้งหลังทรุดตัวลงมา พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่ออธิบายกลไกการพังทลายอย่างละเอียด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035649 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ
    .
    ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน
    ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง
    รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน
    โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain
    ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย
    อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
    นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน
    แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน
    แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด
    ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต
    อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan
    โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2%
    แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก
    Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา
    หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่
    1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน
    2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น
    3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์
    4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho
    5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์
    6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน
    7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ
    ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก
    ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก
    พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง
    ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย
    ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย
    แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด


    อ้างอิง :
    • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    https://www.bbc.com/thai/international-53264790
    • EarthRights International, Global Witness
    Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ . ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2% แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่ 1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน 2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น 3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์ 4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho 5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์ 6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน 7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด อ้างอิง : • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ • https://www.bbc.com/thai/international-53264790 • EarthRights International, Global Witness
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 14.27 น.วันนี้ ( 14 เม.ย.68) จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ขนาด 3.5 ความลึก 2 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนได้รับแจ้งรู้สึกถึงแรงสั่นไหวบริเวณ อ.เหนือคลอง และ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ล่าสุดเพจ “มิตรเอิร์ธ – mitrearth” เพจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรม ได้ให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กระบี่ วันนี้ เกิดจาก “รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย”

    สำหรับรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย นั้น จัดกลุ่มรอยเลื่อนระนอง-คลองมะรุ่ย ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยกลุ่มรอยเลื่อนทั้งสองวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ และถือเป็นรอยเลื่อนมีพลัง

    กลุ่มรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย พาดผ่าน จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต เป็นกลุ่มรอยเลื่อนตามแนวระนาบ ที่วางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนระนองแบบเหลื่อมซ้าย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9680000035509

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย
    จากกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 14.27 น.วันนี้ ( 14 เม.ย.68) จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ขนาด 3.5 ความลึก 2 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนได้รับแจ้งรู้สึกถึงแรงสั่นไหวบริเวณ อ.เหนือคลอง และ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ล่าสุดเพจ “มิตรเอิร์ธ – mitrearth” เพจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรม ได้ให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กระบี่ วันนี้ เกิดจาก “รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย” • สำหรับรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย นั้น จัดกลุ่มรอยเลื่อนระนอง-คลองมะรุ่ย ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยกลุ่มรอยเลื่อนทั้งสองวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ และถือเป็นรอยเลื่อนมีพลัง • กลุ่มรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย พาดผ่าน จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต เป็นกลุ่มรอยเลื่อนตามแนวระนาบ ที่วางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนระนองแบบเหลื่อมซ้าย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9680000035509 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย
    MGRONLINE.COM
    “รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย” ต้นตอแผ่นดินไหว เหนือคลอง กระบี่ รอยเลื่อนที่ยังมีพลัง พาดผ่าน สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต
    จากกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว เมื่อเวลา 14.27 น.วันนี้ ( 14 เม.ย.68) จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ขนาด 3.5 ความลึก 2 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนได้รับแจ้งรู้สึกถึงแรงสั่นไหวบริเวณ อ.เหนือคลอง และ อ.เมืองกระบี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายสมเกียรติ ปธ.อนุกรรมการคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานฯ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ร่วมกับ สน.บางซื่อ ยืนยันไม่เคยเซ็นเอกสารงานก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม

    วันนี้(14 เม.ย.) ที่ สน.วังทองหลาง นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง ภายใต้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และวุฒิสมาชิก สาขาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง โดยมีเจ้าหน้าที่ตํารวจจาก สน.บางซื่อ ร่วมด้วย จากกรณีถูกแอบอ้างชื่อและปลอมแปลงลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงายก่อสร้างตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่ม

    นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวานจากน้องในคลินิกช่างฯ ว่า ถูกนําชื่อไปใช้ในโครงการก่อสร้างตึก สตง. ที่ถล่ม ตนจึงไปตรวจดูว่าที่ผ่านมาเคยไปเซ็นเอกสารใดๆให้กับโครงการของ สตง. หรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีชื่อตนในระบบของทางสภาวิศวกรฯ ที่ปกติหากจะรับงานออกแบบ ต่อเติม หรือควบคุมงานจะต้องมีใบรับรองจากสภาวิศวกรฯตามกฎหมาย จากนั้นมีเอกสารอีกฉบับที่ใช้ประชุมโดยมีชื่อและลายเซ็นของตนอยู่ในนั้นด้วย โดยระบุว่าเป็นผู้ควบคุมงาน ปัญหาคือตั้งแต่ตนเป็นวุฒิวิศวกรมานานกว่า 20 ปี ไม่เคยรับเซ็นคุมงานใดๆ ทั้งสิ้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035485

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    นายสมเกียรติ ปธ.อนุกรรมการคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานฯ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ร่วมกับ สน.บางซื่อ ยืนยันไม่เคยเซ็นเอกสารงานก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม • วันนี้(14 เม.ย.) ที่ สน.วังทองหลาง นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง ภายใต้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และวุฒิสมาชิก สาขาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง โดยมีเจ้าหน้าที่ตํารวจจาก สน.บางซื่อ ร่วมด้วย จากกรณีถูกแอบอ้างชื่อและปลอมแปลงลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงายก่อสร้างตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่ม • นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวานจากน้องในคลินิกช่างฯ ว่า ถูกนําชื่อไปใช้ในโครงการก่อสร้างตึก สตง. ที่ถล่ม ตนจึงไปตรวจดูว่าที่ผ่านมาเคยไปเซ็นเอกสารใดๆให้กับโครงการของ สตง. หรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีชื่อตนในระบบของทางสภาวิศวกรฯ ที่ปกติหากจะรับงานออกแบบ ต่อเติม หรือควบคุมงานจะต้องมีใบรับรองจากสภาวิศวกรฯตามกฎหมาย จากนั้นมีเอกสารอีกฉบับที่ใช้ประชุมโดยมีชื่อและลายเซ็นของตนอยู่ในนั้นด้วย โดยระบุว่าเป็นผู้ควบคุมงาน ปัญหาคือตั้งแต่ตนเป็นวุฒิวิศวกรมานานกว่า 20 ปี ไม่เคยรับเซ็นคุมงานใดๆ ทั้งสิ้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035485 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ:

    Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา"

    ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้

    แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด

    ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger
    - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์

    ✅ การทำงานของแอป Nate
    - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า
    - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า

    ✅ การระดมทุนของ Nate
    - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์
    - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI
    - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI

    ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน
    - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง

    https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ: Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา" ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้ แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์ ✅ การทำงานของแอป Nate - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า ✅ การระดมทุนของ Nate - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Founder of Nate app faces fraud charge for using "AI" that was really human call center workers
    Saniger launched the Nate app in 2018. It promises to act as a universal shopping cart that simplifies online shopping by enabling users to skip the checkout...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังพิจารณาการลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในปีนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในองค์กร

    ✅ การลดจำนวนพนักงาน:
    - Microsoft มีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในเดือนพฤษภาคม โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด
    - การลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มอัตราส่วนระหว่างวิศวกรและผู้จัดการ

    ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง:
    - Microsoft ต้องการเพิ่มอัตราส่วนวิศวกรต่อผู้จัดการในบางแผนก เช่น แผนกความปลอดภัยที่ตั้งเป้าอัตราส่วน 10:1
    - การปรับโครงสร้างนี้สอดคล้องกับแนวโน้มของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Amazon และ Google

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม:
    - Microsoft CTO Kevin Scott คาดการณ์ว่า 95% ของโค้ดทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 ซึ่งอาจลดความต้องการนักพัฒนาในอนาคต

    ✅ การประเมินผลการทำงาน:
    - Microsoft ใช้ระบบการประเมินผลการทำงานที่มีคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 200 โดยพนักงานที่มีคะแนนต่ำกว่า 100 อาจถูกพิจารณาให้ออกจากงาน

    https://www.techspot.com/news/107494-more-microsoft-job-cuts-could-hit-non-coding.html
    Microsoft กำลังพิจารณาการลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในปีนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในองค์กร ✅ การลดจำนวนพนักงาน: - Microsoft มีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในเดือนพฤษภาคม โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด - การลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มอัตราส่วนระหว่างวิศวกรและผู้จัดการ ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง: - Microsoft ต้องการเพิ่มอัตราส่วนวิศวกรต่อผู้จัดการในบางแผนก เช่น แผนกความปลอดภัยที่ตั้งเป้าอัตราส่วน 10:1 - การปรับโครงสร้างนี้สอดคล้องกับแนวโน้มของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Amazon และ Google ✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม: - Microsoft CTO Kevin Scott คาดการณ์ว่า 95% ของโค้ดทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 ซึ่งอาจลดความต้องการนักพัฒนาในอนาคต ✅ การประเมินผลการทำงาน: - Microsoft ใช้ระบบการประเมินผลการทำงานที่มีคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 200 โดยพนักงานที่มีคะแนนต่ำกว่า 100 อาจถูกพิจารณาให้ออกจากงาน https://www.techspot.com/news/107494-more-microsoft-job-cuts-could-hit-non-coding.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    More Microsoft job cuts could hit non-coding staff and middle managers
    Some Microsoft organizations are looking to increase their span of control, defined as the number of direct reports or subordinates a manager or supervisor oversees. It also...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ ย้อนไปอ่านนิยายเก่าๆ และกลับมาอ่านนิยายต้นฉบับที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> อดไม่ได้ที่จะพูดถึงสาระที่อัดแน่นในนิยายเรื่องนี้อย่างมากมาย โดยเฉพาะบทกวีโบราณ

    วันนี้เราจะคุยถึงฉากที่นางเอก (ภาคปัจจุบัน) ปรับเสียงของสายพิณของพิณโบราณ (กู่ฉิน) ให้เด็กข้างบ้าน พระเอกได้ยินฝีมือบรรเลงแล้วก็รู้สึกชื่นชมในฝีมือของนางเอก ในนิยายบรรยายไว้ดังนี้
    ... โจวเซิงเฉินกล่าว “เมื่อครู่ที่เธอบรรเลงพิณ ทำให้ผมนึกถึงกลอนบทหนึ่ง... แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน”
    สืออี๋หัวเราะแล้วเอ่ย “คุณชายใหญ่คะ วลีนั้นมีไว้ชมพิณคงโหวนะนั่น”
    - จาก <ทุกชาติภพกระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องบทกวี นอกจากจะเกริ่นแค่สั้นๆ ว่า บทกวีนี้มีชื่อว่า ‘หลี่ผิงคงโหวอิ่ง’ (李凭箜篌引 แปลได้ประมาณว่า หลี่ผิงบรรเลงพิณนำพา) มีทั้งหมด 14 วรรค บรรยายถึงความงดงามของทิวทัศน์และเสียงพิณของนักดนตรีเลื่องชื่อในยุคเดียวกันคือหลี่ผิง โดยวลีที่โด่งดังก็คือ “แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน” ที่กล่าวถึงข้างบน มีความหมายว่าเสียงพิณนั้นไพเราะจนสามารถละลายความหนาวของสารถฤดู และได้ยินไปถึงชั้นในของเมืองกระทั่งไปถึงจนแดนสวรรค์

    บทกวีนี้เป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อของหลี่เฮ่อ (李贺 ค.ศ. 790-816) จะเรียกว่าหลี่เฮ่อเป็นอัจฉริยะก็ว่าได้ เพราะเขาเริ่มแต่งโคลงกลอนตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อ ‘หลี่ไป๋’ กวีเอกผู้โด่งดังจากยุคถัง แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า หลี่เฮ่อผู้นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสี่ยอดนักกวีแห่งสมัยถังเช่นเดียวกับหลี่ไป๋? สี่ยอดกวีที่ว่านี้คือ: เซียนกวีหลี่ไป๋ ราชันกวีตู้ฝู่ พระเจ้ากวีหวางเหว่ย และภูติกวีหลี่เฮ่อ

    แต่วันนี้ที่ Storyฯ ตั้งใจมาคุยถึงเกร็ดที่แฝงอยู่ในวลีนี้ คือ 1) ทำไมประตูสิบสองบาน? และ 2) เส้นไหมยี่สิบสามเส้นคืออะไร?

    ประเด็นแรกคือเรื่อง ‘สิบสองประตู’ จริงๆ แล้วมันเป็นการกล่าวถึงเมืองฉางอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยถัง มีประตูเมืองสิบสองประตู (ดูภาพประกอบ2 ซ้าย ที่ Storyฯ วงสีแดงไว้ ไม่นับประตูพระราชวัง) คือทิศละสามประตู แต่ละประตูสร้างเป็นอาคารชั้นในและนอกรวมสามชั้น

    Storyฯ ค้นพบว่าแนวคิดการมีประตูเมืองสิบสองประตูนี้มีมาแต่โบราณ ปรากฏการบันทึกไว้ในบันทึกพิธีการสมัยราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’ ในบรรพที่ว่าด้วยการค้าและงานวิศวกรรมหรือที่เรียกว่า ‘เข่ากงจี้’ (考工记) โดยบันทึกดังกล่าวมีการบรรยายถึงลักษณะที่ถูกต้องของเมืองหลวงไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนและทิศทาง โดยเน้นเลขเก้าเป็นเลขมงคล เช่น แต่ละด้านของเมืองให้หันตรงทิศและมีความยาวเก้าหลี่ มีประตูเมืองสามประตูในแต่ละทิศ แต่ละประตูมีถนนสามสายตรงเข้าสู่บริเวณพระราชวังตรงใจกลางเมือง นับได้เป็นเหนือ-ใต้เก้าเส้น และตะวันออก-ตะวันตกอีกเก้าเส้น อาคารต่างๆ ให้เริ่มจากด้านในเป็นพระราชวังแล้วค่อยขยายออกมาเป็นวง (ดูภาพประกอบ2 ขวา)

    หลักการสิบสองประตูนี้ถูกใช้กับนครฉางอัน แต่รายละเอียดแปรเปลี่ยนไปตามแนวทางการวางผังเมืองที่พัฒนาไปให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรและลักษณะการใช้งาน และหลักการนี้ไม่ปรากฏในเมืองหลวงยุคต่อๆ มา แม้ว่าจะยังคงหลักการให้มีประตูเมืองครบสี่ทิศ

    อาทิตย์หน้าเรามาต่อกันด้วยเรื่องของ ‘เส้นไหมยี่สิบสามเส้น’ กันค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://zh.wikipedia.org/wiki/一生一世_%282021年电视剧%29
    https://www.sohu.com/a/155060661_701638
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.gushimi.org/shangxi/7477.html
    https://baike.baidu.com/item/李凭箜篌引/2880645
    https://baike.baidu.com/item/周礼·考工记·匠人/18164579
    http://www.kaogu.cn/uploads/soft/2017/20171027xulongguo.pdf

    #กระดูกงดงาม #หลี่เฮ่อ #นครโบราณฉางอัน #ประตูเมืองฉางอัน #กวีเอกยุคถัง
    Storyฯ ย้อนไปอ่านนิยายเก่าๆ และกลับมาอ่านนิยายต้นฉบับที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> อดไม่ได้ที่จะพูดถึงสาระที่อัดแน่นในนิยายเรื่องนี้อย่างมากมาย โดยเฉพาะบทกวีโบราณ วันนี้เราจะคุยถึงฉากที่นางเอก (ภาคปัจจุบัน) ปรับเสียงของสายพิณของพิณโบราณ (กู่ฉิน) ให้เด็กข้างบ้าน พระเอกได้ยินฝีมือบรรเลงแล้วก็รู้สึกชื่นชมในฝีมือของนางเอก ในนิยายบรรยายไว้ดังนี้ ... โจวเซิงเฉินกล่าว “เมื่อครู่ที่เธอบรรเลงพิณ ทำให้ผมนึกถึงกลอนบทหนึ่ง... แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน” สืออี๋หัวเราะแล้วเอ่ย “คุณชายใหญ่คะ วลีนั้นมีไว้ชมพิณคงโหวนะนั่น” - จาก <ทุกชาติภพกระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องบทกวี นอกจากจะเกริ่นแค่สั้นๆ ว่า บทกวีนี้มีชื่อว่า ‘หลี่ผิงคงโหวอิ่ง’ (李凭箜篌引 แปลได้ประมาณว่า หลี่ผิงบรรเลงพิณนำพา) มีทั้งหมด 14 วรรค บรรยายถึงความงดงามของทิวทัศน์และเสียงพิณของนักดนตรีเลื่องชื่อในยุคเดียวกันคือหลี่ผิง โดยวลีที่โด่งดังก็คือ “แสงและไอเย็นหลอมละลายเข้ากันหน้าสิบสองประตู ยี่สิบสามเส้นไหมสะท้านถึงในพระราชฐาน” ที่กล่าวถึงข้างบน มีความหมายว่าเสียงพิณนั้นไพเราะจนสามารถละลายความหนาวของสารถฤดู และได้ยินไปถึงชั้นในของเมืองกระทั่งไปถึงจนแดนสวรรค์ บทกวีนี้เป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อของหลี่เฮ่อ (李贺 ค.ศ. 790-816) จะเรียกว่าหลี่เฮ่อเป็นอัจฉริยะก็ว่าได้ เพราะเขาเริ่มแต่งโคลงกลอนตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อ ‘หลี่ไป๋’ กวีเอกผู้โด่งดังจากยุคถัง แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า หลี่เฮ่อผู้นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสี่ยอดนักกวีแห่งสมัยถังเช่นเดียวกับหลี่ไป๋? สี่ยอดกวีที่ว่านี้คือ: เซียนกวีหลี่ไป๋ ราชันกวีตู้ฝู่ พระเจ้ากวีหวางเหว่ย และภูติกวีหลี่เฮ่อ แต่วันนี้ที่ Storyฯ ตั้งใจมาคุยถึงเกร็ดที่แฝงอยู่ในวลีนี้ คือ 1) ทำไมประตูสิบสองบาน? และ 2) เส้นไหมยี่สิบสามเส้นคืออะไร? ประเด็นแรกคือเรื่อง ‘สิบสองประตู’ จริงๆ แล้วมันเป็นการกล่าวถึงเมืองฉางอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยถัง มีประตูเมืองสิบสองประตู (ดูภาพประกอบ2 ซ้าย ที่ Storyฯ วงสีแดงไว้ ไม่นับประตูพระราชวัง) คือทิศละสามประตู แต่ละประตูสร้างเป็นอาคารชั้นในและนอกรวมสามชั้น Storyฯ ค้นพบว่าแนวคิดการมีประตูเมืองสิบสองประตูนี้มีมาแต่โบราณ ปรากฏการบันทึกไว้ในบันทึกพิธีการสมัยราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’ ในบรรพที่ว่าด้วยการค้าและงานวิศวกรรมหรือที่เรียกว่า ‘เข่ากงจี้’ (考工记) โดยบันทึกดังกล่าวมีการบรรยายถึงลักษณะที่ถูกต้องของเมืองหลวงไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนและทิศทาง โดยเน้นเลขเก้าเป็นเลขมงคล เช่น แต่ละด้านของเมืองให้หันตรงทิศและมีความยาวเก้าหลี่ มีประตูเมืองสามประตูในแต่ละทิศ แต่ละประตูมีถนนสามสายตรงเข้าสู่บริเวณพระราชวังตรงใจกลางเมือง นับได้เป็นเหนือ-ใต้เก้าเส้น และตะวันออก-ตะวันตกอีกเก้าเส้น อาคารต่างๆ ให้เริ่มจากด้านในเป็นพระราชวังแล้วค่อยขยายออกมาเป็นวง (ดูภาพประกอบ2 ขวา) หลักการสิบสองประตูนี้ถูกใช้กับนครฉางอัน แต่รายละเอียดแปรเปลี่ยนไปตามแนวทางการวางผังเมืองที่พัฒนาไปให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรและลักษณะการใช้งาน และหลักการนี้ไม่ปรากฏในเมืองหลวงยุคต่อๆ มา แม้ว่าจะยังคงหลักการให้มีประตูเมืองครบสี่ทิศ อาทิตย์หน้าเรามาต่อกันด้วยเรื่องของ ‘เส้นไหมยี่สิบสามเส้น’ กันค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zh.wikipedia.org/wiki/一生一世_%282021年电视剧%29 https://www.sohu.com/a/155060661_701638 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.gushimi.org/shangxi/7477.html https://baike.baidu.com/item/李凭箜篌引/2880645 https://baike.baidu.com/item/周礼·考工记·匠人/18164579 http://www.kaogu.cn/uploads/soft/2017/20171027xulongguo.pdf #กระดูกงดงาม #หลี่เฮ่อ #นครโบราณฉางอัน #ประตูเมืองฉางอัน #กวีเอกยุคถัง
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.ธเนศ นายกสภาวิศวกรเผยต้องเร่งนำเศษซากด้านบนสุดของตึก สตง.ลงมาก่อน เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034402

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ดร.ธเนศ นายกสภาวิศวกรเผยต้องเร่งนำเศษซากด้านบนสุดของตึก สตง.ลงมาก่อน เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034402 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 751 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสองแห่ง นิวเดลี ประเทศอินเดีย ช่างเทคนิคกลุ่มหนึ่งกำลังต่อสู้กับแนวโน้ม "planned obsolescence" หรือการทำให้อุปกรณ์หมดอายุเร็วเกินควร ด้วยการสร้าง แล็ปท็อปราคา 100 ดอลลาร์ หรือที่เรียกว่า "Franken-laptops" อุปกรณ์เหล่านี้เกิดจากการรวบรวมและดัดแปลงชิ้นส่วนจากแล็ปท็อปเก่าและเสีย

    ✅ ประหยัดต้นทุนและเข้าถึงได้ง่าย:
    - แล็ปท็อปเหล่านี้มีราคาประมาณ 10,000 รูปี (110 ดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าราคาของแล็ปท็อปใหม่ในตลาดที่อยู่ราว 50,000 รูปี (600 ดอลลาร์)
    - ช่วยให้นักเรียน คนทำงานฟรีแลนซ์ และธุรกิจขนาดเล็ก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในราคาที่จ่ายไหว

    ✅ ที่มาของชิ้นส่วน:
    - ส่วนประกอบมาจากตลาด e-waste ขนาดใหญ่ในอินเดีย เช่น Seelampur ซึ่งช่างซ่อมสามารถหาชิ้นส่วนที่ใช้งานได้ เช่น RAM, เมนบอร์ด และแบตเตอรี่

    ✅ เรื่องราวน่าประทับใจ:
    - ตัวอย่างหนึ่งคือนักศึกษาวิศวกรรมที่เกือบไม่สามารถจบการศึกษาได้ เนื่องจากไม่มีแล็ปท็อป แต่ได้รับการช่วยเหลือด้วย "Franken-laptop" ที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนเหลือใช้

    == ปัญหาที่ต้องเผชิญ ==
    - บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใช้วิธีการ proprietary designs เช่น สกรูเฉพาะทางและซอฟต์แวร์ล็อก เพื่อกีดกันการซ่อมแซม DIY
    - ช่างซ่อมท้องถิ่นไม่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนจากผู้ผลิต OEM ได้โดยถูกกฎหมาย

    https://www.techspot.com/news/107477-india-repair-shops-fighting-planned-obsolescence-creating-100.html
    ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสองแห่ง นิวเดลี ประเทศอินเดีย ช่างเทคนิคกลุ่มหนึ่งกำลังต่อสู้กับแนวโน้ม "planned obsolescence" หรือการทำให้อุปกรณ์หมดอายุเร็วเกินควร ด้วยการสร้าง แล็ปท็อปราคา 100 ดอลลาร์ หรือที่เรียกว่า "Franken-laptops" อุปกรณ์เหล่านี้เกิดจากการรวบรวมและดัดแปลงชิ้นส่วนจากแล็ปท็อปเก่าและเสีย ✅ ประหยัดต้นทุนและเข้าถึงได้ง่าย: - แล็ปท็อปเหล่านี้มีราคาประมาณ 10,000 รูปี (110 ดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าราคาของแล็ปท็อปใหม่ในตลาดที่อยู่ราว 50,000 รูปี (600 ดอลลาร์) - ช่วยให้นักเรียน คนทำงานฟรีแลนซ์ และธุรกิจขนาดเล็ก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในราคาที่จ่ายไหว ✅ ที่มาของชิ้นส่วน: - ส่วนประกอบมาจากตลาด e-waste ขนาดใหญ่ในอินเดีย เช่น Seelampur ซึ่งช่างซ่อมสามารถหาชิ้นส่วนที่ใช้งานได้ เช่น RAM, เมนบอร์ด และแบตเตอรี่ ✅ เรื่องราวน่าประทับใจ: - ตัวอย่างหนึ่งคือนักศึกษาวิศวกรรมที่เกือบไม่สามารถจบการศึกษาได้ เนื่องจากไม่มีแล็ปท็อป แต่ได้รับการช่วยเหลือด้วย "Franken-laptop" ที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนเหลือใช้ == ปัญหาที่ต้องเผชิญ == - บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใช้วิธีการ proprietary designs เช่น สกรูเฉพาะทางและซอฟต์แวร์ล็อก เพื่อกีดกันการซ่อมแซม DIY - ช่างซ่อมท้องถิ่นไม่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนจากผู้ผลิต OEM ได้โดยถูกกฎหมาย https://www.techspot.com/news/107477-india-repair-shops-fighting-planned-obsolescence-creating-100.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Repair shops in India are fighting planned obsolescence by creating $100 laptops
    Delhi's Nehru Place is one of the largest commercial centres in the city, and though its significance as a financial centre has declined in recent years, it's...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทั่วโลกรอฟังคำตอบ ต้นเหตุตึกสตง.ไทยถล่ม : [NEWS UPDATE]
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริง อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม มีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็ก มีสถาบันต่างๆ มาช่วยดูว่า สิ่งใดทำให้เกิดเหตุ ต้องมีผู้รับผิดชอบ และจะทำโมเดลจำลองเหตุการณ์เพื่อทราบเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม โดยใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษา ทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คาดใช้เวลา 90 วัน ต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบตึกและอาคารทั้งหมด ทั้งของเอกชนและราชการ ว่าการอนุมัติปลอดภัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไป เรื่องนี้ต้องสืบสวนสอบสวนใกล้ชิด ขอรายละเอียดชัดเจน เพื่อให้ได้คำตอบ ไม่ใช่แค่กับประเทศของเรา แต่ต้องตอบทั่วโลกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร


    หนุนท่องเที่ยวไม่เกี่ยวศาสนา

    ยื้อเวลาชี้แจงประชาชน

    เครื่องมือฟอกเงินระดับชาติ

    ตื่นคุมเข้มตรวจโรงงานเสี่ยง
    ทั่วโลกรอฟังคำตอบ ต้นเหตุตึกสตง.ไทยถล่ม : [NEWS UPDATE] น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริง อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม มีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็ก มีสถาบันต่างๆ มาช่วยดูว่า สิ่งใดทำให้เกิดเหตุ ต้องมีผู้รับผิดชอบ และจะทำโมเดลจำลองเหตุการณ์เพื่อทราบเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม โดยใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษา ทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คาดใช้เวลา 90 วัน ต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบตึกและอาคารทั้งหมด ทั้งของเอกชนและราชการ ว่าการอนุมัติปลอดภัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไป เรื่องนี้ต้องสืบสวนสอบสวนใกล้ชิด ขอรายละเอียดชัดเจน เพื่อให้ได้คำตอบ ไม่ใช่แค่กับประเทศของเรา แต่ต้องตอบทั่วโลกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หนุนท่องเที่ยวไม่เกี่ยวศาสนา ยื้อเวลาชี้แจงประชาชน เครื่องมือฟอกเงินระดับชาติ ตื่นคุมเข้มตรวจโรงงานเสี่ยง
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 565 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • ตรวจตึกเอกชน-ราชการ ทำโมเดลตึก สตง.ถล่ม : [THE MESSAGE]
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างโดยข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็กมีสถาบันต่างๆ มาช่วยดูว่า สิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบสาเหตุจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน และจะทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นจริง เพื่อทราบเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม โดยใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษา ทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและมั่นใจได้ คาดใช้เวลา 90 วัน และต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องตึกและอาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชนและราชการ ว่าการอนุมัตินั้นปลอดภัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไปด้วย ส่วนที่มีการข่มขู่ย้ายรมว. อุตสาหกรรม เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครโอเคกับการวิ่งเต้น ไม่สนับสนุนเรื่องนี้ ถ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการก็ต้องพูดคุยกัน
    ตรวจตึกเอกชน-ราชการ ทำโมเดลตึก สตง.ถล่ม : [THE MESSAGE] น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างโดยข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็กมีสถาบันต่างๆ มาช่วยดูว่า สิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบสาเหตุจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน และจะทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นจริง เพื่อทราบเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม โดยใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษา ทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและมั่นใจได้ คาดใช้เวลา 90 วัน และต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องตึกและอาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชนและราชการ ว่าการอนุมัตินั้นปลอดภัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไปด้วย ส่วนที่มีการข่มขู่ย้ายรมว. อุตสาหกรรม เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครโอเคกับการวิ่งเต้น ไม่สนับสนุนเรื่องนี้ ถ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการก็ต้องพูดคุยกัน
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 56 0 รีวิว
  • ..พวกมันขึ้นบินพ่นโลหะหนัก&สารพิษหนักใส่คนไทยใส่เพื่อนบ้านปลิวมาถูกถึงไทยและทั่วโลกทุกๆวันนะในยุคนี้,นาซ่ามาเยือนไทยและขึ้นบินให้ชมแล้ว,คนไทยเราเจ็บป่วยทางเดินอาหารลมหายใจมิใช่น้อย ไม่รวมวัคซีนที่ออกฤทธิ์ออกเดชวูบๆตาย หัวใจล้มเลว เส้นเลือดแตกในสมองพื้นๆของมันก่อการฆ่าคนไทยที่ฉีดๆนะ&ภูมิตกเลยนะ.

    ..“วิทยาศาสตร์การหว่านเมฆ” เป็นเพียงอีกคำศัพท์หนึ่งสำหรับวิศวกรรมธรณีและการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ

    พวกเขา "หว่าน" เมฆด้วยอนุภาคโลหะหนักก่อน จากนั้นจึงใช้ HAARP เพื่อเหนี่ยวนำฝนผ่านความถี่แม่เหล็กไฟฟ้า

    พวกเขาได้ยืนยันทุกอย่างที่เรารู้มาหลายปีแล้วว่าการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศเป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเรียกร้องให้พวกเขาออกมาพูด มันก็เป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดเท่านั้น

    ..พวกมันขึ้นบินพ่นโลหะหนัก&สารพิษหนักใส่คนไทยใส่เพื่อนบ้านปลิวมาถูกถึงไทยและทั่วโลกทุกๆวันนะในยุคนี้,นาซ่ามาเยือนไทยและขึ้นบินให้ชมแล้ว,คนไทยเราเจ็บป่วยทางเดินอาหารลมหายใจมิใช่น้อย ไม่รวมวัคซีนที่ออกฤทธิ์ออกเดชวูบๆตาย หัวใจล้มเลว เส้นเลือดแตกในสมองพื้นๆของมันก่อการฆ่าคนไทยที่ฉีดๆนะ&ภูมิตกเลยนะ. ..“วิทยาศาสตร์การหว่านเมฆ” เป็นเพียงอีกคำศัพท์หนึ่งสำหรับวิศวกรรมธรณีและการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ พวกเขา "หว่าน" เมฆด้วยอนุภาคโลหะหนักก่อน จากนั้นจึงใช้ HAARP เพื่อเหนี่ยวนำฝนผ่านความถี่แม่เหล็กไฟฟ้า พวกเขาได้ยืนยันทุกอย่างที่เรารู้มาหลายปีแล้วว่าการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศเป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเรียกร้องให้พวกเขาออกมาพูด มันก็เป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดเท่านั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดย Elon Musk ประกาศแผนจัด "Hackathon" เพื่อพัฒนาระบบ Mega API สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของ IRS (Internal Revenue Service) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การ รวมศูนย์ข้อมูลของ IRS บนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว โดยจะช่วยให้การแชร์ข้อมูลข้ามหน่วยงานทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา Mega API:
    - ระบบ Mega API นี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประกันสังคม (SSN) รายได้จากการเสียภาษี และข้อมูลการจ้างงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

    ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีศักยภาพ:
    - Palantir Technologies ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นพันธมิตรรายสำคัญในการพัฒนาระบบนี้ โดยบริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และมีลูกค้ารัฐบาลจำนวนมาก

    ✅ การจัด Hackathon เพื่อผลักดันการพัฒนา:
    - DOGE ได้เชิญวิศวกร IRS หลายสิบคนร่วมกิจกรรม Hackathon ที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบ API นี้ภายในระยะเวลา 30 วัน แม้จะมีนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นเกินไปและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย

    ✅ เสียงตอบรับและข้อกังวล:
    - นักวิจารณ์บางส่วนแสดงความกังวลว่า Mega API นี้อาจกลายเป็น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เกิดการละเมิดข้อมูล เนื่องจากการรวมศูนย์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด

    ✅ สาระเพิ่มเติมที่น่าสนใจ:
    - โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรในระบบรัฐ เป้าหมายของคำสั่งนี้คือการ ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงและการใช้จ่ายเกินจำเป็น

    https://www.techradar.com/pro/doge-is-hosting-a-hackathon-to-build-a-mega-api-for-accessing-all-irs-and-taxpayer-data
    Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดย Elon Musk ประกาศแผนจัด "Hackathon" เพื่อพัฒนาระบบ Mega API สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของ IRS (Internal Revenue Service) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การ รวมศูนย์ข้อมูลของ IRS บนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว โดยจะช่วยให้การแชร์ข้อมูลข้ามหน่วยงานทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ✅ เป้าหมายของการพัฒนา Mega API: - ระบบ Mega API นี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประกันสังคม (SSN) รายได้จากการเสียภาษี และข้อมูลการจ้างงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีศักยภาพ: - Palantir Technologies ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นพันธมิตรรายสำคัญในการพัฒนาระบบนี้ โดยบริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และมีลูกค้ารัฐบาลจำนวนมาก ✅ การจัด Hackathon เพื่อผลักดันการพัฒนา: - DOGE ได้เชิญวิศวกร IRS หลายสิบคนร่วมกิจกรรม Hackathon ที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบ API นี้ภายในระยะเวลา 30 วัน แม้จะมีนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นเกินไปและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย ✅ เสียงตอบรับและข้อกังวล: - นักวิจารณ์บางส่วนแสดงความกังวลว่า Mega API นี้อาจกลายเป็น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เกิดการละเมิดข้อมูล เนื่องจากการรวมศูนย์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด ✅ สาระเพิ่มเติมที่น่าสนใจ: - โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรในระบบรัฐ เป้าหมายของคำสั่งนี้คือการ ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงและการใช้จ่ายเกินจำเป็น https://www.techradar.com/pro/doge-is-hosting-a-hackathon-to-build-a-mega-api-for-accessing-all-irs-and-taxpayer-data
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงจากแชทบ็อต Claude ประกาศการขยายตัวครั้งสำคัญในยุโรป โดยเตรียมสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 100 ตำแหน่ง ในสำนักงานที่ ดับลินและลอนดอน พร้อมทั้งเปิดตัว Guillaume Princen เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)

    ✅ การเติบโตในตลาดยุโรป:
    - Anthropic มุ่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งในด้าน การขาย, วิศวกรรม, การวิจัย, และ การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ AI ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ระบบดิจิทัล
    - Claude ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทถูกนำไปใช้งานโดย WPP ในวงการโฆษณา, BMW ในอุตสาหกรรมยานยนต์, และ Novo Nordisk ในอุตสาหกรรมยา

    ✅ การสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่:
    - Anthropic ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Amazon และ Google รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 61.5 พันล้านดอลลาร์

    ✅ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - Guillaume Princen มีประสบการณ์ด้านการขยายธุรกิจยุโรปของ Stripe และเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Mooncard เขาเชื่อว่า AI ของ Anthropic มีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจปรับตัวในยุคที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
    - Claude ซึ่งแข่งขันกับ OpenAI's ChatGPT และ Google Gemini แสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในหลายด้าน เช่น ความสามารถในการเข้าใจภาษาและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/ai-firm-anthropic-announces-100-roles-in-europe-new-emea-head
    Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงจากแชทบ็อต Claude ประกาศการขยายตัวครั้งสำคัญในยุโรป โดยเตรียมสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 100 ตำแหน่ง ในสำนักงานที่ ดับลินและลอนดอน พร้อมทั้งเปิดตัว Guillaume Princen เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ✅ การเติบโตในตลาดยุโรป: - Anthropic มุ่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งในด้าน การขาย, วิศวกรรม, การวิจัย, และ การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ AI ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ระบบดิจิทัล - Claude ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทถูกนำไปใช้งานโดย WPP ในวงการโฆษณา, BMW ในอุตสาหกรรมยานยนต์, และ Novo Nordisk ในอุตสาหกรรมยา ✅ การสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่: - Anthropic ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Amazon และ Google รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 61.5 พันล้านดอลลาร์ ✅ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - Guillaume Princen มีประสบการณ์ด้านการขยายธุรกิจยุโรปของ Stripe และเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Mooncard เขาเชื่อว่า AI ของ Anthropic มีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจปรับตัวในยุคที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง - Claude ซึ่งแข่งขันกับ OpenAI's ChatGPT และ Google Gemini แสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในหลายด้าน เช่น ความสามารถในการเข้าใจภาษาและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/ai-firm-anthropic-announces-100-roles-in-europe-new-emea-head
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI firm Anthropic announces 100 roles in Europe, new EMEA head
    LONDON (Reuters) - Anthropic, the U.S. AI company behind the Claude chatbot, said on Monday it would create more than 100 roles in Europe, including in Dublin and London, as it appointed Guillaume Princen as its Europe, Middle East and Africa head.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts