ข่าวใหญ่: BMW PHEV ซ่อมยากหลังอุบัติเหตุ
บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก
BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่
ความซับซ้อนของการซ่อม
แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ
ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง
สรุปประเด็นสำคัญ
BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้
ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร
ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย
ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้
การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง
คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม
หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร
BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง
https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก
BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่
ความซับซ้อนของการซ่อม
แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ
ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง
สรุปประเด็นสำคัญ
BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้
ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร
ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย
ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้
การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง
คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม
หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร
BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง
https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
🚗 ข่าวใหญ่: BMW PHEV ซ่อมยากหลังอุบัติเหตุ
บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก
BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่
🔧 ความซับซ้อนของการซ่อม
แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล
🌍 ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ
⚠️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้
➡️ ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร
✅ ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย
➡️ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย
✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้
➡️ การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง
‼️ คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม
⛔ หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร
⛔ BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง
https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
8 มุมมอง
0 รีวิว