SONDHIX
SONDHIX
  • 2336 คนติดตามเรื่องนี้
  • 302 โพสต์
  • 261 รูปภาพ
  • 41 วิดีโอ
  • 112 รีวิว 4.9
  • ข่าวและการเมือง
ลิงก์โซเชียล
อัปเดตล่าสุด
  • จับตาดูกันต่อไปว่า กองทัพบกจะเอาจริง ด้วยการลงโทษนายทหารระดับเจ้ากรม เพื่อไม่ได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นายพลคนอื่นๆ หรือไม่


    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #กองทัพบก #ซ้อมทำร้ายทหาร #กรมยุทธศึกษาทหารบก
    จับตาดูกันต่อไปว่า กองทัพบกจะเอาจริง ด้วยการลงโทษนายทหารระดับเจ้ากรม เพื่อไม่ได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นายพลคนอื่นๆ หรือไม่ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #กองทัพบก #ซ้อมทำร้ายทหาร #กรมยุทธศึกษาทหารบก
    Like
    Sad
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • 'เพื่อไทย' ไม่แคร์คดีล้มล้าง มั่นใจข้อกฎหมายไร้ปัญหา ศาล รธน.เตรียมถก 22 พ.ย.
    .
    ถนนทุกสายกำลังมุ่งไปที่การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากมีวาระการพิจารณา คำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 ภายหลัง นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ทำหนังสือตอบกลับส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน
    .
    ทั้งนี้ ในรายงานของสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีบันทึกสอบถ้อยคำทั้งพยานฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีความเห็นแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
    .
    ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นว่า ทั้งหมดเป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะเห็นอย่างไร แต่เราสู้ไปว่าไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง คนไปแสดงความเห็นจะเป็นการล้มล้างการปกครองไปได้อย่างไร พวกเราทราบดีว่าการล้มล้างการปกครองต้องเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่นี่ตรงกันข้าม เช่น คุยกันว่าจะตั้งรัฐบาล จะไปล้มล้างการปกครองตรงไหน คิดว่ามันไม่เข้าเกณฑ์ ก็สู้ไปว่าไม่เข้าเกณฑ์ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้หรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล ไม่ก้าวล่วง
    .
    "รู้อยู่แล้วว่าข้อกฎหมายมันไปไม่ได้ รู้ตั้งแต่ต้นแล้วหลังจากเห็นคำร้องว่ามันไปไม่ได้"
    .
    นายชูศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่คิดที่จะฟ้องกลับเพราะมองว่าการฟ้องกันไปฟ้องกันมา ใจจริงอยากให้ประเทศมันเดินหน้า ไม่อยากเอาเรื่องที่ไม่มีสาระอะไร แต่หลายคนในพรรคก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเราจะหยุดขบวนการนี้อย่างไร ก็ว่ากันไป
    ..............
    Sondhi X
    'เพื่อไทย' ไม่แคร์คดีล้มล้าง มั่นใจข้อกฎหมายไร้ปัญหา ศาล รธน.เตรียมถก 22 พ.ย. . ถนนทุกสายกำลังมุ่งไปที่การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากมีวาระการพิจารณา คำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 ภายหลัง นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ทำหนังสือตอบกลับส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน . ทั้งนี้ ในรายงานของสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีบันทึกสอบถ้อยคำทั้งพยานฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีความเห็นแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ . ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นว่า ทั้งหมดเป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะเห็นอย่างไร แต่เราสู้ไปว่าไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง คนไปแสดงความเห็นจะเป็นการล้มล้างการปกครองไปได้อย่างไร พวกเราทราบดีว่าการล้มล้างการปกครองต้องเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่นี่ตรงกันข้าม เช่น คุยกันว่าจะตั้งรัฐบาล จะไปล้มล้างการปกครองตรงไหน คิดว่ามันไม่เข้าเกณฑ์ ก็สู้ไปว่าไม่เข้าเกณฑ์ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้หรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล ไม่ก้าวล่วง . "รู้อยู่แล้วว่าข้อกฎหมายมันไปไม่ได้ รู้ตั้งแต่ต้นแล้วหลังจากเห็นคำร้องว่ามันไปไม่ได้" . นายชูศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่คิดที่จะฟ้องกลับเพราะมองว่าการฟ้องกันไปฟ้องกันมา ใจจริงอยากให้ประเทศมันเดินหน้า ไม่อยากเอาเรื่องที่ไม่มีสาระอะไร แต่หลายคนในพรรคก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเราจะหยุดขบวนการนี้อย่างไร ก็ว่ากันไป .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี
    .
    การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก
    .
    "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร
    .
    "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป
    .
    "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว
    .
    ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก
    .
    ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย
    .
    "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857
    ..............
    Sondhi X
    ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี . การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก . "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร . "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป . "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว . ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก . ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย . "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) และ คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลแห่งนี้ ควรถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร หากว่ายังคงเดินหาทางจับกุมพวกผู้นำอิสราเอล จากเสียงขู่ของ จอห์น ธูน ว่าที่ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาอเมริกา เมื่อช่วงต้นสัปดาห์
    .
    ข่าน แถลงเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าเขากำลังหาทางเดินหน้าดำเนินคดีกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล และ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม ณ ขณะนั้น เช่นเดียวกับพวกผู้นำฮามาส 3 คน โทษฐานก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติในกาซา
    .
    "ถ้าไอซีซีและอัยการของศาลแห่งนี้ ไม่กลับลำการกระทำที่น่าโมโหและไม่ชอบด้วยกฎหมายของพวกเขา ในการหาทางออกหมายจับพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอล วุฒิสภาควรเดินหน้าออกกฎหมายคว่ำบาตรในทันที ในขณะที่สภาผู้แทนราษฏร ได้ดำเนินการไปแล้ว บนพื้นฐานความร่วมมือของทั้ง 2 พรรค" ธูนกล่าวในช่วงเย็นวันจันทร์(18พ.ย.)
    .
    "ถ้า ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากไม่ลงมือ วุฒิสภาที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล พันธมิตรสำคัญของเรา และจะทำให้เรื่องนี้ และกฎหมายสนับสนุนอื่นๆ มีความสำคัญลำดับต้นๆในสภาคองเกรสชุดใหม่" เขากล่าว
    .
    ธูน สมาชิกรีพับลิกันจากเซาท์ ดาโคตา ได้รับเลือกเป็นการภายในให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าพันธมิตรของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขามีความใกล้ชิดกับสถาบันดั้งเดิมมากเกินไป
    .
    ชูเมอร์ สมาชิกเดโมแครตจากนิวยอร์ก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่พรรคของเขาครองเสียงข้างมากอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตามสภาแห่งนี้เตรียมตกไปอยู่ภายใต้การนำของรีพับลิกัน ครั้งที่บรรดาวุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งหนล่าสุด เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
    .
    ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จะยกเลิกวีซ่าและกำหนดข้อจำกัดทางการเงินกับบรรดาเจ้าหน้าที่ไอซีซีรายใดก็ตามที่ดำเนินคดีกับเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯ ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 247 ต่อ 155 เสียง โดยมีสมาชิกเดโมแครต 42 ราย ข้ามฟากยกมือเห็นชอบ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าเขาคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อร่างกฎหมายนี้
    .
    อ้างอิงกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2022 ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีอำนาจในการใช้ "ทุกวิถีทางที่จำเป็นและเหมาะสม ในการปลดปล่อยบุคคลกรสหรัฐฯหรือพันธมิตรรายใดก็ตาม ที่ถูกควบคุมหรือกังขัง ภายในนามหรือตามคำร้องขอของไอซซี" กฎหมายฉบับนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "The Hague Invasion Act"
    .
    ปัจจุบันศาลอาญาระหว่างประเทศยังไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของอัยการข่าน ในการออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนท์ และนับตั้งแต่นั้น อิสราเอล ได้สังหารพวกผู้นำฮามาสทั้ง 3 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ กัลแลนท์ ถูก เนทันยาฮู ตะเพิดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111856
    ..............
    Sondhi X
    ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) และ คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลแห่งนี้ ควรถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร หากว่ายังคงเดินหาทางจับกุมพวกผู้นำอิสราเอล จากเสียงขู่ของ จอห์น ธูน ว่าที่ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาอเมริกา เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ . ข่าน แถลงเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าเขากำลังหาทางเดินหน้าดำเนินคดีกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล และ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม ณ ขณะนั้น เช่นเดียวกับพวกผู้นำฮามาส 3 คน โทษฐานก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติในกาซา . "ถ้าไอซีซีและอัยการของศาลแห่งนี้ ไม่กลับลำการกระทำที่น่าโมโหและไม่ชอบด้วยกฎหมายของพวกเขา ในการหาทางออกหมายจับพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอล วุฒิสภาควรเดินหน้าออกกฎหมายคว่ำบาตรในทันที ในขณะที่สภาผู้แทนราษฏร ได้ดำเนินการไปแล้ว บนพื้นฐานความร่วมมือของทั้ง 2 พรรค" ธูนกล่าวในช่วงเย็นวันจันทร์(18พ.ย.) . "ถ้า ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากไม่ลงมือ วุฒิสภาที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล พันธมิตรสำคัญของเรา และจะทำให้เรื่องนี้ และกฎหมายสนับสนุนอื่นๆ มีความสำคัญลำดับต้นๆในสภาคองเกรสชุดใหม่" เขากล่าว . ธูน สมาชิกรีพับลิกันจากเซาท์ ดาโคตา ได้รับเลือกเป็นการภายในให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าพันธมิตรของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขามีความใกล้ชิดกับสถาบันดั้งเดิมมากเกินไป . ชูเมอร์ สมาชิกเดโมแครตจากนิวยอร์ก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่พรรคของเขาครองเสียงข้างมากอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตามสภาแห่งนี้เตรียมตกไปอยู่ภายใต้การนำของรีพับลิกัน ครั้งที่บรรดาวุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งหนล่าสุด เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม . ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จะยกเลิกวีซ่าและกำหนดข้อจำกัดทางการเงินกับบรรดาเจ้าหน้าที่ไอซีซีรายใดก็ตามที่ดำเนินคดีกับเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯ ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 247 ต่อ 155 เสียง โดยมีสมาชิกเดโมแครต 42 ราย ข้ามฟากยกมือเห็นชอบ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าเขาคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อร่างกฎหมายนี้ . อ้างอิงกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2022 ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีอำนาจในการใช้ "ทุกวิถีทางที่จำเป็นและเหมาะสม ในการปลดปล่อยบุคคลกรสหรัฐฯหรือพันธมิตรรายใดก็ตาม ที่ถูกควบคุมหรือกังขัง ภายในนามหรือตามคำร้องขอของไอซซี" กฎหมายฉบับนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "The Hague Invasion Act" . ปัจจุบันศาลอาญาระหว่างประเทศยังไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของอัยการข่าน ในการออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนท์ และนับตั้งแต่นั้น อิสราเอล ได้สังหารพวกผู้นำฮามาสทั้ง 3 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ กัลแลนท์ ถูก เนทันยาฮู ตะเพิดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111856 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร เข้าใส่รัสเซียเป็นครั้งแรก ตามรายงานของสื่อมวลชนสหราชอาณาจักร หลังได้รับไฟเขียวจากลอนดอน
    .
    หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าขีปนาวธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายทางทหารของรัสเซียอย่างน้อย 1 เป้าหมาย พร้อมรายงานต่อว่าแหล่งข่าวยืนยัน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลสตอร์ม ชาโดว์ เป็นครั้งแรก
    .
    ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่าสหราชอาณจักรให้ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธในรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของมอสโก ที่ประจำการทหารเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน
    .
    เหล่าบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียฝักใฝ่เครมลิน เขียนว่าขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ นับสิบลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายหนึ่งในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งถูกกองกำลังเคียฟยึดครองบางส่วน
    .
    ขณะที่สื่อมวลชนยูเครนโพสต์ภาพคลิปวิดีโอภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน เป็นภาพการระเบิดป็นชุดๆ ณ จุดๆ หนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์หลังหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ที่พวกชาวบ้านเรียกว่าเขต "มารีโน" พร้อมระบุว่าการโจมตีน่าจะเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการทหารที่อยู่ใต้ดิน
    .
    ทั้งมอสโก และเคียฟ ต่างยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธ หรือการใช้สตอร์ม ชาโดว์
    .
    รายงานข่าวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ วอชิงตันเปิดเผยว่าพวกเขาอนญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขา ATACMS โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ภายในรัสเซีย ตามคำร้องขอที่มีมาอย่างยาวนานของเคียฟ
    .
    ในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้เล่นงานที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่งของพวกเขาในแคว้นบรีอันสค์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน
    .
    ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีล่าสุด มีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางแก้แค้นยูเครน สำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ เข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และคำกล่าวหาจากเครมลิน ที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังหาทางลากยาวสงคราม
    .
    รัสเซียยกระดับการโจมตีนองเลือดด้วยขีปนาวุธในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เล็งเป้าเล่นงานพื้นที่ที่อยู่อาศัยต่างๆ และเครือข่ายพลังงานของยูเครน กระตุ้นให้ระบบเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศดังระงมในทุกวัน
    .
    สหรัฐฯ เปิดเผยในตอนเช้าวันพุธ (20 พ.ย.) ว่ากำลังปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังได้รับข้อมูลอย่างเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ จากนั้นแคนาดา กรีซ ฮังการี อิตาลี และสเปนก็ทำตาม
    .
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางสถานทูตสหรัฐฯ เผยว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ภายใต้ปฏิบัติการที่เปลี่ยนไปเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ
    .
    เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วกรุงเคียฟในวันพุธ (20 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเศษซากของโดรนโจมตีที่ถูกยิงสกัด ได้ก่อความเสียหายเล็กน้อย
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เตือนว่าข้อความแห่งความตื่นตระหนกที่โพสต์ซ้ำๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ รังแต่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่รัสเซีย
    .
    คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่ความกังวลกำลังแผ่ลามในกรุงเคียฟ ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี เนื่องจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนรอบใหม่ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่จะมอบแก่เคียฟในอนาคต
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ วิพากษ์วิจารณ์แรงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาจะเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมง ความเห็นที่กระพือความกังวลในเคียฟและยุโรป เกี่ยวกับศักยภาพของยูเครนในการยืนหยัดรับมือการโจมตีของรัสเซีย โดยปราศจากแรงสนับสนุนของอเมริกา
    .
    ในวันพุธ (20 พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน ลากยาวสงคราม ด้วยการยกระดับป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่ง "ถ้าคุณมองดูทิศทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าสงครามในยูเครน และทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อให้เป็นเช่นนั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินกล่าว
    .
    ความคิดเห็นของ เปสคอฟ เป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่บอกว่าพวกเขาจะจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านกำลังพลแก่ยูเครนเร็วๆ นี้ การตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรการกุศลต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงระยะยาวที่จะเกิดกับพลเมือง แต่ เซเลนสกี เน้นว่าทุ่นระเบิดมีความสำคัญยิ่งที่จะหยุดการจู่โจมของรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111854
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร เข้าใส่รัสเซียเป็นครั้งแรก ตามรายงานของสื่อมวลชนสหราชอาณาจักร หลังได้รับไฟเขียวจากลอนดอน . หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าขีปนาวธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายทางทหารของรัสเซียอย่างน้อย 1 เป้าหมาย พร้อมรายงานต่อว่าแหล่งข่าวยืนยัน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลสตอร์ม ชาโดว์ เป็นครั้งแรก . ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่าสหราชอาณจักรให้ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธในรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของมอสโก ที่ประจำการทหารเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน . เหล่าบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียฝักใฝ่เครมลิน เขียนว่าขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ นับสิบลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายหนึ่งในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งถูกกองกำลังเคียฟยึดครองบางส่วน . ขณะที่สื่อมวลชนยูเครนโพสต์ภาพคลิปวิดีโอภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน เป็นภาพการระเบิดป็นชุดๆ ณ จุดๆ หนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์หลังหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ที่พวกชาวบ้านเรียกว่าเขต "มารีโน" พร้อมระบุว่าการโจมตีน่าจะเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการทหารที่อยู่ใต้ดิน . ทั้งมอสโก และเคียฟ ต่างยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธ หรือการใช้สตอร์ม ชาโดว์ . รายงานข่าวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ วอชิงตันเปิดเผยว่าพวกเขาอนญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขา ATACMS โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ภายในรัสเซีย ตามคำร้องขอที่มีมาอย่างยาวนานของเคียฟ . ในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้เล่นงานที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่งของพวกเขาในแคว้นบรีอันสค์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน . ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีล่าสุด มีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางแก้แค้นยูเครน สำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ เข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และคำกล่าวหาจากเครมลิน ที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังหาทางลากยาวสงคราม . รัสเซียยกระดับการโจมตีนองเลือดด้วยขีปนาวุธในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เล็งเป้าเล่นงานพื้นที่ที่อยู่อาศัยต่างๆ และเครือข่ายพลังงานของยูเครน กระตุ้นให้ระบบเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศดังระงมในทุกวัน . สหรัฐฯ เปิดเผยในตอนเช้าวันพุธ (20 พ.ย.) ว่ากำลังปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังได้รับข้อมูลอย่างเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ จากนั้นแคนาดา กรีซ ฮังการี อิตาลี และสเปนก็ทำตาม . อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางสถานทูตสหรัฐฯ เผยว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ภายใต้ปฏิบัติการที่เปลี่ยนไปเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ . เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วกรุงเคียฟในวันพุธ (20 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเศษซากของโดรนโจมตีที่ถูกยิงสกัด ได้ก่อความเสียหายเล็กน้อย . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เตือนว่าข้อความแห่งความตื่นตระหนกที่โพสต์ซ้ำๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ รังแต่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่รัสเซีย . คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่ความกังวลกำลังแผ่ลามในกรุงเคียฟ ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี เนื่องจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนรอบใหม่ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่จะมอบแก่เคียฟในอนาคต . ว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ วิพากษ์วิจารณ์แรงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาจะเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมง ความเห็นที่กระพือความกังวลในเคียฟและยุโรป เกี่ยวกับศักยภาพของยูเครนในการยืนหยัดรับมือการโจมตีของรัสเซีย โดยปราศจากแรงสนับสนุนของอเมริกา . ในวันพุธ (20 พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน ลากยาวสงคราม ด้วยการยกระดับป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่ง "ถ้าคุณมองดูทิศทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าสงครามในยูเครน และทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อให้เป็นเช่นนั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินกล่าว . ความคิดเห็นของ เปสคอฟ เป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่บอกว่าพวกเขาจะจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านกำลังพลแก่ยูเครนเร็วๆ นี้ การตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรการกุศลต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงระยะยาวที่จะเกิดกับพลเมือง แต่ เซเลนสกี เน้นว่าทุ่นระเบิดมีความสำคัญยิ่งที่จะหยุดการจู่โจมของรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111854 .............. Sondhi X
    Angry
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกกร้าวเอาคืนยูเครน รวมถึงนาโตที่จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีดินแดนรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาอเมริกาต้องการยื้อสงครามด้วยการเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ในวันพุธ (20 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตในเคียฟและเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนเตรียมพร้อมหาที่หลบภัยรวมถึงเสบียงและของใช้จำเป็นโดยด่วน หลังได้รับข้อมูลว่า อาจมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
    .
    กองทัพยูเครนแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียห่างจากชายแดนราว 110 กม. เมื่อเช้าวันอังคาร (19) ซึ่งทำให้เกิดระเบิดตามมา แต่ไม่ได้ระบุว่า ใช้อาวุธชนิดใด กระนั้น แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งยืนยันว่า อาวุธที่ใช้โจมตีคือ อะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบ เอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งอนุมัติให้ยูเครนใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซียได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ด้านรัสเซียระบุว่า ยิงขีปนาวุธอะแทคซิมส์จำนวน 5 จาก 6 ลูกตก ในพื้นที่ทางทหารในแคว้นบรีแยนสก์ของตน และซากจรวดทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีความเสียหายใดๆ
    .
    การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นขณะสงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน โดยที่ยูเครนเสียดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ให้รัสเซีย และท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความช่วยเหลือของตะวันตกที่จะให้แก่ยูเครนในอนาคต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า
    .
    เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามกฤษฎีกาแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้น การรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่าแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่บราซิลเมื่อวันอังคาร (19) ว่า การโจมตีของยูเครนด้วยจรวดอะแทคซิมส์ของอเมริกา เป็นเครื่องฟ้องว่า ตะวันตกต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม และถือเป็นเฟสใหม่ของสงครามที่ฝ่ายตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย
    .
    ขณะที่ เซียร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) ว่า รัสเซียจะแก้แค้นชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และสำทับว่า การแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของปูตินหมายความว่า ศัตรูไม่มีทางเอาชนะรัสเซียในสนามรบได้
    .
    วันเดียวกันนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแถลงกล่าวหาอเมริกาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อสงครามในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรีบเร่งจัดส่งอาวุธให้เคียฟก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยที่ผ่านมา ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอเมริกาผู้นี้วิจารณ์การสนับสนุนยูเครนของคณะบริหารไบเดน และประกาศว่า จะผลักดันให้มีข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้อเมริกาจะจัดส่งกับระเบิดสังหารบุคคลไปให้ยูเครน โดยขอให้เคียฟใช้อาวุธนี้เฉพาะในบริเวณที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและในดินแดนของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ โดยกล่าวว่าเนื่องจากได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนให้เตรียมพร้อมหาที่หลบภัยโดยด่วน รวมทั้งสำรองน้ำ อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย
    .
    ทางด้าน อันดริว โควาเลนโก ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของสภาความมั่นคงแห่งยูเครน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้น และสำทับว่า รัสเซียตุนขีปนาวุธสำหรับโจมตียูเครนมานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเคเอช-101 และคาลิบร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111834
    ..............
    Sondhi X
    มอสโกกร้าวเอาคืนยูเครน รวมถึงนาโตที่จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีดินแดนรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาอเมริกาต้องการยื้อสงครามด้วยการเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ในวันพุธ (20 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตในเคียฟและเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนเตรียมพร้อมหาที่หลบภัยรวมถึงเสบียงและของใช้จำเป็นโดยด่วน หลังได้รับข้อมูลว่า อาจมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ . กองทัพยูเครนแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียห่างจากชายแดนราว 110 กม. เมื่อเช้าวันอังคาร (19) ซึ่งทำให้เกิดระเบิดตามมา แต่ไม่ได้ระบุว่า ใช้อาวุธชนิดใด กระนั้น แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งยืนยันว่า อาวุธที่ใช้โจมตีคือ อะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบ เอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งอนุมัติให้ยูเครนใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซียได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . ด้านรัสเซียระบุว่า ยิงขีปนาวุธอะแทคซิมส์จำนวน 5 จาก 6 ลูกตก ในพื้นที่ทางทหารในแคว้นบรีแยนสก์ของตน และซากจรวดทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีความเสียหายใดๆ . การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นขณะสงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน โดยที่ยูเครนเสียดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ให้รัสเซีย และท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความช่วยเหลือของตะวันตกที่จะให้แก่ยูเครนในอนาคต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า . เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามกฤษฎีกาแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้น การรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่าแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่บราซิลเมื่อวันอังคาร (19) ว่า การโจมตีของยูเครนด้วยจรวดอะแทคซิมส์ของอเมริกา เป็นเครื่องฟ้องว่า ตะวันตกต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม และถือเป็นเฟสใหม่ของสงครามที่ฝ่ายตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย . ขณะที่ เซียร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) ว่า รัสเซียจะแก้แค้นชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และสำทับว่า การแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของปูตินหมายความว่า ศัตรูไม่มีทางเอาชนะรัสเซียในสนามรบได้ . วันเดียวกันนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแถลงกล่าวหาอเมริกาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อสงครามในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรีบเร่งจัดส่งอาวุธให้เคียฟก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยที่ผ่านมา ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอเมริกาผู้นี้วิจารณ์การสนับสนุนยูเครนของคณะบริหารไบเดน และประกาศว่า จะผลักดันให้มีข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง . นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้อเมริกาจะจัดส่งกับระเบิดสังหารบุคคลไปให้ยูเครน โดยขอให้เคียฟใช้อาวุธนี้เฉพาะในบริเวณที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและในดินแดนของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือน . ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ โดยกล่าวว่าเนื่องจากได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนให้เตรียมพร้อมหาที่หลบภัยโดยด่วน รวมทั้งสำรองน้ำ อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย . ทางด้าน อันดริว โควาเลนโก ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของสภาความมั่นคงแห่งยูเครน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้น และสำทับว่า รัสเซียตุนขีปนาวุธสำหรับโจมตียูเครนมานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเคเอช-101 และคาลิบร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111834 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง "ทนายตั้ม" ทำตัวผู้จัดการมรดก ส่อง GPS รถเบนซ์ เปิดแผนลวงเข้าป่า-ล่องแพ
    .
    รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น
    .
    วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้
    .
    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน
    .
    - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย
    .
    - เมื่อรู้ว่าคุณอ้อยร่ำรวยเป็นหมื่นล้านบาท และการศึกษาน้อย ร่ำรวยจากการเสี่ยงโชค คุณอ้อยพลาดตรงที่หาทนายความจากเฟซบุ๊ก เห็นว่าทนายตั้มหน้าตาดี เป็นทนายความเพื่อประชาชน แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นึกไม่ถึงว่าเป็นคนเลวถึงขนาดนั้น
    .
    - พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแค่ 9 วัน ทนายตั้มก็คิดจะฮุบเงินฮุบทอง ทำพินัยกรรมที่สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม มีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีทนายตั้มเป็นผู้เขียนและพิมพ์พินัยกรรม คุณเดวิดสามีคุณอ้อย และคุณน้อย เป็นพยาน ทีแรกไม่ผิดสังเกต แต่ภายหลังพบว่าทนายตั้มไม่ได้ทำงานสมค่าจ้าง ยกครอบครัวเที่ยวหรูอยู่สบาย รวมทั้งสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จัดทริปพาพนักงาน 20 คนเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขอเงินคุณอ้อยหลายล้านบาท และขอเงินยิบย่อย
    .
    - ผ่านไป 1 ปี คุณอ้อยเห็นว่าทำงานไม่คุ้ม ไม่ไหว เลยยกเลิกสัญญาเป็นที่ปรึกษา แต่ทนายตั้มยังตื้อขอต่อสัญญาอีก 1 ปี พร้อมข้อเสนอการลงทุนตามมา เป็นที่มาของเงิน 2 ล้านยูโร ทำแอปฯ นาคี ต่อด้วยคดีสมคบกับนายนุวัฒน์และ น.ส.สาลินีหลอกลวงว่าถูกแฮกคริปโตฯ สูญ 39 ล้านบาท ฉ้อโกงเขียนแบบโรงแรม และอื่นๆ
    .
    - ทนายตั้มร่างพินัยกรรมคุณอ้อยฉบับใหม่ ทำที่บ้านชีวา ลงวันที่ 7 ส.ค. 2566 แก้ไขจากฉบับแรก แต่พินัยกรรมมีปัญหารายละเอียดสำคัญว่า สินทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศให้ลูกชายคนเดียว แต่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ ติด GPS เอาไว้ โดยทนายตั้มติดเอง แสดงว่าจะตามว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง จึงสงสัยว่าทำไมถึงติด GPS เอาไว้ แต่ทนายตั้มยังโกหก
    .
    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มเคยชวนไปเชียงราย อ้างว่าทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง แต่ไม่ไปเพราะไกล เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน และไม่ได้รู้จักคนทางโน้น และชวนไปล่องแพที่ภาคใต้ เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ไปเพราะกลัวเป็นน้ำ ไปลำบากเลยปฎิเสธ ไม่ได้คิดเบื้องหน้าเบื้องหลัง พอรู้จากคนใกล้ชิดก็กลัวว่าอยู่ใต้แพ
    .
    - ในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่าทนายตั้มแอบดูข้อมูลการเดินทางว่าไปไหนบ้าง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาหลังมีเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้มยังแอบเข้าไปดู GPS ว่ารถคุณอ้อยเดินทางไปที่ไหน
    .
    - คุณอ้อยและคุณน้อยพบว่า หลังทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ทนายตั้มยังชักชวนไปเที่ยวแพที่เขื่อนรัชประภา อ้างว่าจะพาไปรู้จักนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใต้ คือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือโจ๊ก เหมือนกับที่ไปฮ่องกง ไปเจอนายอนุทิน ชาญวีรกุล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่คุณอ้อยไม่อยากไป เพราะไม่อยากลำบาก และไม่อยากรู้จักใคร
    .
    - เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ใครจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ สมมติกรณีที่จัดการกับเจ้าของมรดกก็ไม่มีใครรู้ อ้างได้ว่าอุบัติเหตุทางน้ำ
    .
    - หลังจากทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 คุณอ้อยและคุณน้อยพยายามทวงถามพินัยกรรมคู่ฉบับก็ไม่นำมาให้ กระทั่งแตกหักเรื่องรถเบนซ์ ได้ทำหนังสือทวงถามพินัยกรรม แต่ทนายตั้มตอบกลับว่า ทำลายไปหมดแล้ว ทั้งที่ไม่ได้ถามหรือทำลายต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า เพราะฉะนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้
    .
    - ต้นปี 2567 หลังจากคุณอ้อยใจสลาย ก็ได้ยกเลิกพินัยกรรมกับทนายตั้มทุกฉบับ แล้วไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง จัดทำที่อำเภอ มีเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง
    ..............
    Sondhi X
    สนธิเล่าเรื่อง "ทนายตั้ม" ทำตัวผู้จัดการมรดก ส่อง GPS รถเบนซ์ เปิดแผนลวงเข้าป่า-ล่องแพ . รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น . วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้ . - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน . - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย . - เมื่อรู้ว่าคุณอ้อยร่ำรวยเป็นหมื่นล้านบาท และการศึกษาน้อย ร่ำรวยจากการเสี่ยงโชค คุณอ้อยพลาดตรงที่หาทนายความจากเฟซบุ๊ก เห็นว่าทนายตั้มหน้าตาดี เป็นทนายความเพื่อประชาชน แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นึกไม่ถึงว่าเป็นคนเลวถึงขนาดนั้น . - พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแค่ 9 วัน ทนายตั้มก็คิดจะฮุบเงินฮุบทอง ทำพินัยกรรมที่สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม มีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีทนายตั้มเป็นผู้เขียนและพิมพ์พินัยกรรม คุณเดวิดสามีคุณอ้อย และคุณน้อย เป็นพยาน ทีแรกไม่ผิดสังเกต แต่ภายหลังพบว่าทนายตั้มไม่ได้ทำงานสมค่าจ้าง ยกครอบครัวเที่ยวหรูอยู่สบาย รวมทั้งสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จัดทริปพาพนักงาน 20 คนเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขอเงินคุณอ้อยหลายล้านบาท และขอเงินยิบย่อย . - ผ่านไป 1 ปี คุณอ้อยเห็นว่าทำงานไม่คุ้ม ไม่ไหว เลยยกเลิกสัญญาเป็นที่ปรึกษา แต่ทนายตั้มยังตื้อขอต่อสัญญาอีก 1 ปี พร้อมข้อเสนอการลงทุนตามมา เป็นที่มาของเงิน 2 ล้านยูโร ทำแอปฯ นาคี ต่อด้วยคดีสมคบกับนายนุวัฒน์และ น.ส.สาลินีหลอกลวงว่าถูกแฮกคริปโตฯ สูญ 39 ล้านบาท ฉ้อโกงเขียนแบบโรงแรม และอื่นๆ . - ทนายตั้มร่างพินัยกรรมคุณอ้อยฉบับใหม่ ทำที่บ้านชีวา ลงวันที่ 7 ส.ค. 2566 แก้ไขจากฉบับแรก แต่พินัยกรรมมีปัญหารายละเอียดสำคัญว่า สินทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศให้ลูกชายคนเดียว แต่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ ติด GPS เอาไว้ โดยทนายตั้มติดเอง แสดงว่าจะตามว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง จึงสงสัยว่าทำไมถึงติด GPS เอาไว้ แต่ทนายตั้มยังโกหก . - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มเคยชวนไปเชียงราย อ้างว่าทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง แต่ไม่ไปเพราะไกล เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน และไม่ได้รู้จักคนทางโน้น และชวนไปล่องแพที่ภาคใต้ เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ไปเพราะกลัวเป็นน้ำ ไปลำบากเลยปฎิเสธ ไม่ได้คิดเบื้องหน้าเบื้องหลัง พอรู้จากคนใกล้ชิดก็กลัวว่าอยู่ใต้แพ . - ในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่าทนายตั้มแอบดูข้อมูลการเดินทางว่าไปไหนบ้าง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาหลังมีเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้มยังแอบเข้าไปดู GPS ว่ารถคุณอ้อยเดินทางไปที่ไหน . - คุณอ้อยและคุณน้อยพบว่า หลังทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ทนายตั้มยังชักชวนไปเที่ยวแพที่เขื่อนรัชประภา อ้างว่าจะพาไปรู้จักนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใต้ คือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือโจ๊ก เหมือนกับที่ไปฮ่องกง ไปเจอนายอนุทิน ชาญวีรกุล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่คุณอ้อยไม่อยากไป เพราะไม่อยากลำบาก และไม่อยากรู้จักใคร . - เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ใครจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ สมมติกรณีที่จัดการกับเจ้าของมรดกก็ไม่มีใครรู้ อ้างได้ว่าอุบัติเหตุทางน้ำ . - หลังจากทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 คุณอ้อยและคุณน้อยพยายามทวงถามพินัยกรรมคู่ฉบับก็ไม่นำมาให้ กระทั่งแตกหักเรื่องรถเบนซ์ ได้ทำหนังสือทวงถามพินัยกรรม แต่ทนายตั้มตอบกลับว่า ทำลายไปหมดแล้ว ทั้งที่ไม่ได้ถามหรือทำลายต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า เพราะฉะนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้ . - ต้นปี 2567 หลังจากคุณอ้อยใจสลาย ก็ได้ยกเลิกพินัยกรรมกับทนายตั้มทุกฉบับ แล้วไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง จัดทำที่อำเภอ มีเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    6
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอรู้ตัวว่าจะแพ้แน่นอน จึงยอมจะขอคืนเงิน กมลสันดานของโจรที่มาเป็นทนาย ก็คงไม่ได้สำนึกผิดใดๆ การจะขอคืนเงินจึงแค่เป็นหมาก ไม่ให้ “ติดคุกยาว” ก็เท่านั้น

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #ทนายสายหยุด #เหลี่ยมกลับลำ
    พอรู้ตัวว่าจะแพ้แน่นอน จึงยอมจะขอคืนเงิน กมลสันดานของโจรที่มาเป็นทนาย ก็คงไม่ได้สำนึกผิดใดๆ การจะขอคืนเงินจึงแค่เป็นหมาก ไม่ให้ “ติดคุกยาว” ก็เท่านั้น #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #ทนายสายหยุด #เหลี่ยมกลับลำ
    Like
    Haha
    Yay
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • ขีดเส้น สคบ.30 วัน เร่งเพิกถอนใบอนุญาต ธุรกิจขายตรง 'ดิ ไอคอน'
    .
    ความคืบหน้าในการตรวจสอบการกระทำผิดของบริษัท ดิ ไอคอน มีความคืบหน้าเป็นระยะ โดยเวลานี้มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว ทำให้ในเรื่องนี้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เวลานี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่ง บริษัทดิไอคอนจดทะเบียบแบบขายตรง การถอนใบอนุญาตต้องทำด้วยความรัดกุม และให้ความเป็นธรรม
    .
    "ที่ผ่านมาได้เข้าพิจารณาอนุฯกรรมการข้อกฎหมายของ สคบ. และมีมติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ให้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งช่วงระหว่างนั้น สคบ. ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและพอมีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มเติม สคบ.จึงนำข้อมูลไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งเราจะรอฟังข้อสรุป รวมถึงนำมาประกอบการดำเนินคดีต่อไป ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานครบกำหนด 30 วันแล้วแต่เเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่่สุด จึงขยายเวลาเพิ่มเติม 30 วัน"
    .
    ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง ที่มีการอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีนั้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้แทนดีเอสไอ รับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วจะประสานทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทั้งนี้ต้องก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด
    .
    พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนเท่านั้น
    ..............
    Sondhi X
    ขีดเส้น สคบ.30 วัน เร่งเพิกถอนใบอนุญาต ธุรกิจขายตรง 'ดิ ไอคอน' . ความคืบหน้าในการตรวจสอบการกระทำผิดของบริษัท ดิ ไอคอน มีความคืบหน้าเป็นระยะ โดยเวลานี้มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว ทำให้ในเรื่องนี้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เวลานี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่ง บริษัทดิไอคอนจดทะเบียบแบบขายตรง การถอนใบอนุญาตต้องทำด้วยความรัดกุม และให้ความเป็นธรรม . "ที่ผ่านมาได้เข้าพิจารณาอนุฯกรรมการข้อกฎหมายของ สคบ. และมีมติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ให้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งช่วงระหว่างนั้น สคบ. ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและพอมีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มเติม สคบ.จึงนำข้อมูลไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งเราจะรอฟังข้อสรุป รวมถึงนำมาประกอบการดำเนินคดีต่อไป ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานครบกำหนด 30 วันแล้วแต่เเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่่สุด จึงขยายเวลาเพิ่มเติม 30 วัน" . ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง ที่มีการอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีนั้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้แทนดีเอสไอ รับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วจะประสานทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทั้งนี้ต้องก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด . พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนเท่านั้น .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสือกทุกเรื่อง พาน้องปูกลับบ้าน หลานอิ๊งค์ยังไม่รู้เรื่อง
    .
    กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อนิตยสาร Nikkei Asia ระหว่างลงพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานีที่ระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้กลับประเทศไทยช่วงสงกรานต์ปีหน้า เนื่องจากไม่มีเห็นว่จะมีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม การออกมาพูดเช่นนี้ทำให้สปอตไลท์จับไปที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งในฐานะผู้บริหารประเทศและญาติสนิทคนสำคัญ
    .
    นายกฯแพทองธาร เลือกที่จะปฏิเสธตอบข้อสงสัยโดยอ้างว่า "อย่างที่บอกท่านทักษิณกลับมาแล้วเชิญสัมภาษณ์ท่านทักษิณได้เลย ไม่ได้มีการประสานรัฐบาลมาเลย ถ้ามีคือโทรหาหลานค่ะ"
    .
    ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงความคิดเห็นว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานมา แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เพราะคนที่จะเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ต้องเริ่มต้นที่กระบวนการศาลก่อน คือมีหมายขังที่ออกโดยศาล เมื่อรับหมายแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็ปฏิบัติตาม และตามกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบันมีการยกระดับมากขึ้น หากเป็นผู้หญิงก็ต้องอยู่ในทัณฑสถานกลาง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
    .
    "สมัยที่นายทักษิณกลับมา ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่สำหรับการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์ และไม่ได้เป็นโมเดลอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย" รมว.ยุติธรรม กล่าวย้ำ
    .
    สำหรับนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีโครงการรับจำนำข้าว
    .............
    Sondhi X
    เสือกทุกเรื่อง พาน้องปูกลับบ้าน หลานอิ๊งค์ยังไม่รู้เรื่อง . กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีกับการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อนิตยสาร Nikkei Asia ระหว่างลงพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานีที่ระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้กลับประเทศไทยช่วงสงกรานต์ปีหน้า เนื่องจากไม่มีเห็นว่จะมีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม การออกมาพูดเช่นนี้ทำให้สปอตไลท์จับไปที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งในฐานะผู้บริหารประเทศและญาติสนิทคนสำคัญ . นายกฯแพทองธาร เลือกที่จะปฏิเสธตอบข้อสงสัยโดยอ้างว่า "อย่างที่บอกท่านทักษิณกลับมาแล้วเชิญสัมภาษณ์ท่านทักษิณได้เลย ไม่ได้มีการประสานรัฐบาลมาเลย ถ้ามีคือโทรหาหลานค่ะ" . ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงความคิดเห็นว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานมา แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เพราะคนที่จะเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ต้องเริ่มต้นที่กระบวนการศาลก่อน คือมีหมายขังที่ออกโดยศาล เมื่อรับหมายแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็ปฏิบัติตาม และตามกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบันมีการยกระดับมากขึ้น หากเป็นผู้หญิงก็ต้องอยู่ในทัณฑสถานกลาง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย . "สมัยที่นายทักษิณกลับมา ยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่สำหรับการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์ และไม่ได้เป็นโมเดลอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย" รมว.ยุติธรรม กล่าวย้ำ . สำหรับนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีโครงการรับจำนำข้าว ............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว

  • แฉเหลี่ยมกลับลำ ตั้มเดินหมากถอย จะได้ไม่ติดคุกยาว
    .
    แม้กำลังจะจนตรอก ไม่เหลือหนทางสู้แล้ว แต่หมากล่าสุดที่ก๊วนทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ขยับเดิน นับว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนเดิม
    .
    เป็นความเคลื่อนไหวแบบ 2 ประสาน ลงมือพร้อมๆ กัน
    .
    สายหนึ่งคือ ทนายปาเกียว นายสายหยุด เพ็งบุญชู จัดการต่อสายถึงทนายความของพี่อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เพื่อเปิดเจรจา จะขอคืนเงินทั้งหมดให้พี่อ้อย
    .
    จากเดิมที่ทนายตั้ม เคยโวยใส่ทนายความของพี่อ้อย “กล้าดียังไงมาแจ้งจับผม” ทั้งขู่จะแจ้งความกลับพี่อ้อย โวยว่าทำให้ชื่อเสียงแบรนด์เนมเสียหาย
    .
    ตอนนี้ ทนายตั้มกลับลำ จะขอคืนเงินที่โกงมาทุกบาททุกสตางค์ จนถูกแซวเจ็บๆ “กล้าดียังไงจะคืนเงิน”
    .
    พอพี่อ้อยรับสารจากทนายปาเกียว ก็แจ้งกลับเบื้องต้นไปว่า งานนี้แล้วแต่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” จะตัดสินใจ
    .
    ถือว่าพี่อ้อยฝากชีวิต และเชื่อมั่นในสื่ออาวุโส ว่าจะตัดสินใจได้ดีที่สุด
    .
    ถามว่าพี่อ้อย อยากได้เงินกว่า 100 ล้านบาท ที่ถูกทนายตั้มโกงไปหรือไม่? ใครก็คาดเดาได้ว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นมันแค่เศษเงินของจำนวนทั้งหมดที่พี่อ้อยมี
    .
    อีกทั้งกระบวนการทางคดี ก็เดินหน้ามาไกล จนเกินกว่าจะหันหลังกลับได้แล้ว
    .
    ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มโลกโซเชียล พี่อ้อยอย่าไปใจอ่อนให้กับคนเนรคุณเด็ดขาด จัดหนัก “สุดซอย” เท่านั้น
    .
    เพราะต่างแน่ใจ คนอย่างทนายตั้ม เป็นภัยสังคมร้ายแรง ขืนปล่อยออกจากคุก ก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า จะมีคนต้องตกเป็นเหยื่อของทนายตั้ม อีกไม่รู้เท่าไร
    .
    นอกจากนี้ ทรัพย์สินเงินในธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ที่ ป.ป.ง. อายัดไว้เรียบร้อยแล้วนับร้อยล้านบาทนั้น เมื่อคดีถึงที่สุด ก็ต้องตกเป็นของพี่อ้อยอยู่ดี พี่อ้อยไม่จำเป็นต้องไปรับการชดใช้ใดๆ จากทนายตั้ม
    .
    ในแง่ของจังหวะเวลา ก็ถือว่าสายเกินไป พอรู้ว่าตัวเองจะแพ้แน่นอน จึงจะยอมขอคืนเงิน การแสดงออกแบบนี้ มันไม่น่าสงสาร
    กมลสันดานของโจรที่มาเป็นทนาย ก็คงไม่รู้สึกสำนึกผิดใดๆ การจะขอคืนเงินจึงแค่เป็นหมาก เพื่อหวังดิ้นให้หลุดจากการ “ติดคุกยาว” ก็เท่านั้น
    .
    อีกสายของทนายตั้ม ที่เคลื่อนไหวอย่างสอดประสานกัน คือการปรากฏตัวออกสื่อของพี่ชายคนสนิทที่ชื่อ “โอ๋” คนสมุทรสาครบ้านเดียวกัน ที่ย้ายไปตั้งรกรากที่ จ.เชียงราย
    ก่อนหน้านี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศให้ช่วยกันติดตามค้นหาที่ซ่อนสมบัติของทนายตั้ม ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทไป จนตู้เซฟยักษ์เหลือแต่ความว่างเปล่า
    .
    หนึ่งในรายชื่อที่สนธิชี้เป้า ก็คือ นายโอ๋ คนนี้เอง
    .
    โอ๋เหมือนเตรียมตัวมาอย่างดี ในการพูดกับสื่อ ยอมรับว่าสนิทกันจริงกับทนายตั้ม แต่ไม่รู้เรื่องทรัพย์สินใดๆ
    .
    แล้วก็พยายามเคลียร์ให้ทนายตั้ม ดูชั่วช้าสารเลวน้อยลง เช่น อ้างว่าทนายตั้ม ไม่ใช่ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แค่มาร่วมงานกันเท่านั้น
    .
    แต่เมื่อมองย้อนพฤติกรรมของทนายตั้ม ไม่ว่าจะสร้างเรื่องใส่ร้ายบิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สมัยเป็น ผบ.ตร. เรื่องจัดซื้อไบโอเมตริกซ์
    .
    โผล่มาอาละวาดกับบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือไปตอแยยียวนใส่บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ระหว่างทำคดีบิ๊กโจ๊กฟอกเงิน
    .
    แต่ละบิ๊กที่ถูกทนายตั้มตามราวี ล้วนแต่เป็นคู่ปรับของบิ๊กโจ๊กทั้งสิ้น และคนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากลีลาของทนายตั้ม ก็มีแต่บิ๊กโจ๊กคนเดียว
    .
    พฤติกรรมที่ผ่านมามันชัดเจน ไม่มีอะไรต้องสงสัย ทนายตั้มเป็นแค่ “ม้าใช้” ของบิ๊กโจ๊ก
    พี่โอ๋ของน้องตั้ม ยังพยายามเคลียร์ใจสนธิ ลิ้มทองกุล แทนให้ด้วย ถึงขนาดร่ำไห้แบบไม่มีน้ำตาออกมา
    .
    ชาวเนตได้เห็นได้ฟังทุกสิ่งที่โอ๋พร่ำพูดออกมา ก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าคนๆ นี้ เชื่อถือไม่ได้
    .
    หลายคนวิเคราะห์ว่า โอ๋น่าจะกลัวโดนกองปราบฯ ขุดไปถึงตัวเขาทางใดทางหนึ่ง เพราะเขาเองก็ดูร่ำรวย มีทรงของคนไม่ขาวปลอดสักเท่าไร
    .
    ตรรกะง่ายๆ ใครที่จะสนิทสนมซี้ปึ้กกับทนายตั้ม ก็ต้องมีศีลเสมอกัน มิฉะนั้น คงคบกันไม่ได้ยาวนานขนาดนี้
    .
    อย่างพี่อ้อย ไปสนิทกับทนายตั้ม ความสัมพันธ์ก็พังครืนในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น เพราะทนายตั้มไม่ได้นับพี่อ้อยเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นผู้มีพระคุณใดๆ
    .
    แต่มองพี่อ้อยเป็นเหยื่อโอชะ วางแผนที่จะฮุบทรัพย์สินมหาศาลของพี่อ้อย อย่างเป็นระบบ
    ...........
    Sondhi X
    แฉเหลี่ยมกลับลำ ตั้มเดินหมากถอย จะได้ไม่ติดคุกยาว . แม้กำลังจะจนตรอก ไม่เหลือหนทางสู้แล้ว แต่หมากล่าสุดที่ก๊วนทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ขยับเดิน นับว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนเดิม . เป็นความเคลื่อนไหวแบบ 2 ประสาน ลงมือพร้อมๆ กัน . สายหนึ่งคือ ทนายปาเกียว นายสายหยุด เพ็งบุญชู จัดการต่อสายถึงทนายความของพี่อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เพื่อเปิดเจรจา จะขอคืนเงินทั้งหมดให้พี่อ้อย . จากเดิมที่ทนายตั้ม เคยโวยใส่ทนายความของพี่อ้อย “กล้าดียังไงมาแจ้งจับผม” ทั้งขู่จะแจ้งความกลับพี่อ้อย โวยว่าทำให้ชื่อเสียงแบรนด์เนมเสียหาย . ตอนนี้ ทนายตั้มกลับลำ จะขอคืนเงินที่โกงมาทุกบาททุกสตางค์ จนถูกแซวเจ็บๆ “กล้าดียังไงจะคืนเงิน” . พอพี่อ้อยรับสารจากทนายปาเกียว ก็แจ้งกลับเบื้องต้นไปว่า งานนี้แล้วแต่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” จะตัดสินใจ . ถือว่าพี่อ้อยฝากชีวิต และเชื่อมั่นในสื่ออาวุโส ว่าจะตัดสินใจได้ดีที่สุด . ถามว่าพี่อ้อย อยากได้เงินกว่า 100 ล้านบาท ที่ถูกทนายตั้มโกงไปหรือไม่? ใครก็คาดเดาได้ว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นมันแค่เศษเงินของจำนวนทั้งหมดที่พี่อ้อยมี . อีกทั้งกระบวนการทางคดี ก็เดินหน้ามาไกล จนเกินกว่าจะหันหลังกลับได้แล้ว . ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มโลกโซเชียล พี่อ้อยอย่าไปใจอ่อนให้กับคนเนรคุณเด็ดขาด จัดหนัก “สุดซอย” เท่านั้น . เพราะต่างแน่ใจ คนอย่างทนายตั้ม เป็นภัยสังคมร้ายแรง ขืนปล่อยออกจากคุก ก็เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า จะมีคนต้องตกเป็นเหยื่อของทนายตั้ม อีกไม่รู้เท่าไร . นอกจากนี้ ทรัพย์สินเงินในธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ที่ ป.ป.ง. อายัดไว้เรียบร้อยแล้วนับร้อยล้านบาทนั้น เมื่อคดีถึงที่สุด ก็ต้องตกเป็นของพี่อ้อยอยู่ดี พี่อ้อยไม่จำเป็นต้องไปรับการชดใช้ใดๆ จากทนายตั้ม . ในแง่ของจังหวะเวลา ก็ถือว่าสายเกินไป พอรู้ว่าตัวเองจะแพ้แน่นอน จึงจะยอมขอคืนเงิน การแสดงออกแบบนี้ มันไม่น่าสงสาร กมลสันดานของโจรที่มาเป็นทนาย ก็คงไม่รู้สึกสำนึกผิดใดๆ การจะขอคืนเงินจึงแค่เป็นหมาก เพื่อหวังดิ้นให้หลุดจากการ “ติดคุกยาว” ก็เท่านั้น . อีกสายของทนายตั้ม ที่เคลื่อนไหวอย่างสอดประสานกัน คือการปรากฏตัวออกสื่อของพี่ชายคนสนิทที่ชื่อ “โอ๋” คนสมุทรสาครบ้านเดียวกัน ที่ย้ายไปตั้งรกรากที่ จ.เชียงราย ก่อนหน้านี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศให้ช่วยกันติดตามค้นหาที่ซ่อนสมบัติของทนายตั้ม ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทไป จนตู้เซฟยักษ์เหลือแต่ความว่างเปล่า . หนึ่งในรายชื่อที่สนธิชี้เป้า ก็คือ นายโอ๋ คนนี้เอง . โอ๋เหมือนเตรียมตัวมาอย่างดี ในการพูดกับสื่อ ยอมรับว่าสนิทกันจริงกับทนายตั้ม แต่ไม่รู้เรื่องทรัพย์สินใดๆ . แล้วก็พยายามเคลียร์ให้ทนายตั้ม ดูชั่วช้าสารเลวน้อยลง เช่น อ้างว่าทนายตั้ม ไม่ใช่ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แค่มาร่วมงานกันเท่านั้น . แต่เมื่อมองย้อนพฤติกรรมของทนายตั้ม ไม่ว่าจะสร้างเรื่องใส่ร้ายบิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สมัยเป็น ผบ.ตร. เรื่องจัดซื้อไบโอเมตริกซ์ . โผล่มาอาละวาดกับบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือไปตอแยยียวนใส่บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ระหว่างทำคดีบิ๊กโจ๊กฟอกเงิน . แต่ละบิ๊กที่ถูกทนายตั้มตามราวี ล้วนแต่เป็นคู่ปรับของบิ๊กโจ๊กทั้งสิ้น และคนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากลีลาของทนายตั้ม ก็มีแต่บิ๊กโจ๊กคนเดียว . พฤติกรรมที่ผ่านมามันชัดเจน ไม่มีอะไรต้องสงสัย ทนายตั้มเป็นแค่ “ม้าใช้” ของบิ๊กโจ๊ก พี่โอ๋ของน้องตั้ม ยังพยายามเคลียร์ใจสนธิ ลิ้มทองกุล แทนให้ด้วย ถึงขนาดร่ำไห้แบบไม่มีน้ำตาออกมา . ชาวเนตได้เห็นได้ฟังทุกสิ่งที่โอ๋พร่ำพูดออกมา ก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าคนๆ นี้ เชื่อถือไม่ได้ . หลายคนวิเคราะห์ว่า โอ๋น่าจะกลัวโดนกองปราบฯ ขุดไปถึงตัวเขาทางใดทางหนึ่ง เพราะเขาเองก็ดูร่ำรวย มีทรงของคนไม่ขาวปลอดสักเท่าไร . ตรรกะง่ายๆ ใครที่จะสนิทสนมซี้ปึ้กกับทนายตั้ม ก็ต้องมีศีลเสมอกัน มิฉะนั้น คงคบกันไม่ได้ยาวนานขนาดนี้ . อย่างพี่อ้อย ไปสนิทกับทนายตั้ม ความสัมพันธ์ก็พังครืนในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น เพราะทนายตั้มไม่ได้นับพี่อ้อยเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นผู้มีพระคุณใดๆ . แต่มองพี่อ้อยเป็นเหยื่อโอชะ วางแผนที่จะฮุบทรัพย์สินมหาศาลของพี่อ้อย อย่างเป็นระบบ ........... Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลโจมตีทางอากาศย่านที่พักอาศัยที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงเบรุต ใกล้ๆ พวกอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตสำคัญๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน
    .
    สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกถล่มย่านโซแกก อัล-แบลต ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำเลบานอน อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอน
    .
    กองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนระบุว่า นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน
    .
    ปัจจุบัน หลายบริเวณทางตอนกลางของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงย่านโซแกก อัล-แบลต กลายเป็นที่หลบภัยของชาวเลบานอนราว 1 ล้านคนที่หลบหนีออกมาจากทางภาคใต้ของเลบานอน ตลอดจนชานเมืองด้านใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างกองทหารอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์
    .
    สำหรับเป้าหมายการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ของรัฐยิวยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่อิสราเอลโจมตีตอนกลางของเบรุตหลังจากหยุดมากว่าเดือน โดยในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) มีการโจมตีย่านราส เอล-นาบา ทำให้โมฮัมเหม็ด อาฟิก โฆษกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมเหยื่ออื่นๆ อีก 6 คน ที่รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่ง และวันเดียวกันนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากการโจมตีในย่านการค้ามาร์ เอเลียส
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลหลายสิบลูกเมื่อวันจันทร์ ทำให้ที่เมืองเชฟาราม ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บอีก 10 คน นอกจากนั้น ย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ก็ถูกโจมตีเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บ 5 คน
    .
    ภายหลังการโจมตีกลางกรุงเบรุตเมื่อวันจันทร์ไม่นาน นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ให้ทุกประเทศและผู้มีอำนาจตัดสินใจยุติการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายมากมายและเกิดความเสียหายรุนแรง รวมทั้งปฏิบัติตามมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น
    .
    มติดังกล่าวกำหนดให้กองกำลังทุกฝ่ายถอนออกจากชายแดนทางใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล ยกเว้นกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นและกองทัพเลบานอน และขณะนี้อเมริกานำเอามตินี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหยุดยิง 60 วันที่กำลังเร่งผลักดันเพื่อยุติการยิงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยืดเยื้อมา 13 เดือน
    .
    รายงานคาดว่า นาบีฮ์ เบอร์รี ผู้ไกล่เกลี่ยของฮิซบอลเลาะห์ จะพบกับอามอส ฮอชสตีน ผู้แทนของอเมริกาที่เดินทางถึงกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันอังคาร (19)
    .
    มอสตาฟา เบย์รัม รัฐมนตรีแรงงานเลบานอนที่ได้พบเบอร์รีเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า เลบานอนมองแง่ดีกับข้อเสนอล่าสุดของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิสราเอลยืนกรานว่า ต้องมีการรับประกันว่า ตนจะสามารถดำเนินปฏิบัติการทางทหารกับฮิซบอลเลาะห์ต่อไปหากจำเป็น ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า เลบานอนจะยอมรับ
    .
    เดวิด เมนเซอร์ โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ ระหว่างที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ จัดการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังแถลงต่อรัฐสภาว่า แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลจะยังคงโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไปเมื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก
    .
    อนึ่ง นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอน พร้อมประกาศกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
    .
    ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,510 คนนับจากที่ฮิซบอลเลาะห์ปะทะกับอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทว่า ส่วนใหญ่เสียชีวิตนับจากปลายเดือนกันยายน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111449
    ..............
    อิสราเอลโจมตีทางอากาศย่านที่พักอาศัยที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงเบรุต ใกล้ๆ พวกอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตสำคัญๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน . สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกถล่มย่านโซแกก อัล-แบลต ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำเลบานอน อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอน . กองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนระบุว่า นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน . ปัจจุบัน หลายบริเวณทางตอนกลางของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงย่านโซแกก อัล-แบลต กลายเป็นที่หลบภัยของชาวเลบานอนราว 1 ล้านคนที่หลบหนีออกมาจากทางภาคใต้ของเลบานอน ตลอดจนชานเมืองด้านใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างกองทหารอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ . สำหรับเป้าหมายการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ของรัฐยิวยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า . เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่อิสราเอลโจมตีตอนกลางของเบรุตหลังจากหยุดมากว่าเดือน โดยในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) มีการโจมตีย่านราส เอล-นาบา ทำให้โมฮัมเหม็ด อาฟิก โฆษกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมเหยื่ออื่นๆ อีก 6 คน ที่รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่ง และวันเดียวกันนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากการโจมตีในย่านการค้ามาร์ เอเลียส . ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลหลายสิบลูกเมื่อวันจันทร์ ทำให้ที่เมืองเชฟาราม ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บอีก 10 คน นอกจากนั้น ย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ก็ถูกโจมตีเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บ 5 คน . ภายหลังการโจมตีกลางกรุงเบรุตเมื่อวันจันทร์ไม่นาน นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ให้ทุกประเทศและผู้มีอำนาจตัดสินใจยุติการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายมากมายและเกิดความเสียหายรุนแรง รวมทั้งปฏิบัติตามมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น . มติดังกล่าวกำหนดให้กองกำลังทุกฝ่ายถอนออกจากชายแดนทางใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล ยกเว้นกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นและกองทัพเลบานอน และขณะนี้อเมริกานำเอามตินี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหยุดยิง 60 วันที่กำลังเร่งผลักดันเพื่อยุติการยิงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยืดเยื้อมา 13 เดือน . รายงานคาดว่า นาบีฮ์ เบอร์รี ผู้ไกล่เกลี่ยของฮิซบอลเลาะห์ จะพบกับอามอส ฮอชสตีน ผู้แทนของอเมริกาที่เดินทางถึงกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันอังคาร (19) . มอสตาฟา เบย์รัม รัฐมนตรีแรงงานเลบานอนที่ได้พบเบอร์รีเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า เลบานอนมองแง่ดีกับข้อเสนอล่าสุดของอเมริกา . อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิสราเอลยืนกรานว่า ต้องมีการรับประกันว่า ตนจะสามารถดำเนินปฏิบัติการทางทหารกับฮิซบอลเลาะห์ต่อไปหากจำเป็น ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า เลบานอนจะยอมรับ . เดวิด เมนเซอร์ โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ ระหว่างที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ จัดการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังแถลงต่อรัฐสภาว่า แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลจะยังคงโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไปเมื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก . อนึ่ง นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอน พร้อมประกาศกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน . ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,510 คนนับจากที่ฮิซบอลเลาะห์ปะทะกับอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทว่า ส่วนใหญ่เสียชีวิตนับจากปลายเดือนกันยายน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111449 ..............
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน
    .
    ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก
    .
    เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย
    .
    เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว
    .
    ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416
    ..............
    Sondhi X
    ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน . ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก . เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์ . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน . ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย . ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย . เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว . ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA แถลงว่า ขบวนคอนวอยรถบรรทุกบรรเทาทุกข์ขนอาหารจำนวน 109 คันของ UN โดนปล้นสะดมอย่างป่าเถื่อน โดยกลุ่มกองกำลังปิดหน้า คนขับรถบรรทุกโดนปืนจ่อทางใต้ของกาซา ขณะที่กาตาร์ประกาศ สำนักงานฮามาสในโดฮาปิดแค่ชั่วคราวส่วนตัวแทนเจรจาฮามาสถูกสั่งออกนอกประเทศ
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(19 พ.ย)ว่า ขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์ร่วม 109 คันขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติถูกปล้นสะดมวันเสาร์(16) ด้วยความป่าเถื่อน
    .
    และพบว่ารถบรรทุก 97 คันจากทั้งหมดสูญหายและคนขับถูกใช้ปืนจ่อสั่งให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมาหลังข้ามจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลเข้าสู่ทางใต้ของเขตฉวนกาซา
    .
    อ้างอิงการรายงานจากรอยเตอร์ ลุยส์ เวตริดจ์ ( Louise Wateridge )เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงของ UNRWA เปิดเผยว่า ขบวนคอนวอบขนอาหารบรรเทาทุกข์ถูกสั่งโดยอิสราเอลให้ออกเดินทางในช่วงเวลาการแจ้งอย่างกระชั้นชิดเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจากจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม
    .
    การปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์สหประชาชาติล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    .
    เวตริดจ์กล่าวยืนยันว่า รถบรรทุก 98 คันจากทั้งหมด 109 คันถูกบุกค้นและมีเจ้าหน้าที่ขนส่งให้สหประชาชาติบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุที่เกิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อระบุไปถึงคนร้ายที่บุกโจมตีคอนวอยขนส่งอาหาร UN เข้ากาซา
    .
    บีบีซีรายงานว่า ฟิลิปป์ ลาซซารินี ( Philippe Lazzarini )ผู้อำนวยการใหญ่ UNRWA ไม่ได้กล่าวไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นกัน แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่ไร้การควบคุมอย่างเป็นระบบในเขตฉนวนกาซานี้ทำให้เป็นการยากที่ทางหน่วยจะออกปฎิบัติการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ระหว่างสงครามได้
    .
    และหากปราศจากการเข้าแทรกแซงทันที เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารร้ายแรงจะเลวร้ายลงสำหรับชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนที่พึ่งพาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอ้างอิงจาก UNRWA
    .
    กระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกาซาที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊งไปไม่ต่ำกว่า 20 คนในการขโมยรถบรรทุกเพื่อการบรรเทาทุกข์ในปฎิบัติการในความร่วมมือกับคณะกรรมการชนเผ่า
    .
    ทั้งนี้สัปดาห์ที่แล้ว องค์กร NGO จำนวน 29 แห่งเปิดเผยในรายงานว่า การปล้นสะดมขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์นั้นเป็นผลที่ตามมาจากการที่อิสราเอลตั้งเป้าโจมตีกองกำลังตำรวจที่ยังเหลืออยู่ในกาซา
    .
    ขณะเดียวกันกาตาร์ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ยเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส เอเอฟพีรายงานว่า โดฮาแถลงวันอังคาร(19)กล่าวว่า การปิดสำนักงานฮามาสนี้เป็นการปิดแค่ชั่วคราว
    .
    มาเจด อัล-อันซารี (Majed Al-Ansari) โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บรรดาผู้นำของฮามาสที่อยู่ในทีมเจรจาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในกรุงโดฮา”
    .
    และเสริมต่อว่า “การตัดสินใจ..ในการปิดสำนักงาน(ฮามาส)อย่างถาวรจะเป็นสิ่งที่พวกคุณจะได้ยินโดยตรงจากพวกเรา”
    .
    อย่างไรก็ตาม แกนนำระดับสูงของฮามาสได้ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีวันจันทร์(18)ว่า “ไม่มีใครขอให้พวกเราเดินทางออกไป”
    .
    พร้อมกันนั้นยังได้โต้รายงานที่อ้างว่าบรรดาสมาชิกได้โยกย้ายไปอยู่ในตุรกีแทน โดยกล่าวว่า “บรรดาผู้นำจากระดับที่แตกต่างในหน่วยการเมืองของฮามาสต่างเดินทางเข้าตุรกีเป็นระยะๆ”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111413
    ..............
    Sondhi X
    องค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA แถลงว่า ขบวนคอนวอยรถบรรทุกบรรเทาทุกข์ขนอาหารจำนวน 109 คันของ UN โดนปล้นสะดมอย่างป่าเถื่อน โดยกลุ่มกองกำลังปิดหน้า คนขับรถบรรทุกโดนปืนจ่อทางใต้ของกาซา ขณะที่กาตาร์ประกาศ สำนักงานฮามาสในโดฮาปิดแค่ชั่วคราวส่วนตัวแทนเจรจาฮามาสถูกสั่งออกนอกประเทศ . บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(19 พ.ย)ว่า ขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์ร่วม 109 คันขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติถูกปล้นสะดมวันเสาร์(16) ด้วยความป่าเถื่อน . และพบว่ารถบรรทุก 97 คันจากทั้งหมดสูญหายและคนขับถูกใช้ปืนจ่อสั่งให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมาหลังข้ามจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลเข้าสู่ทางใต้ของเขตฉวนกาซา . อ้างอิงการรายงานจากรอยเตอร์ ลุยส์ เวตริดจ์ ( Louise Wateridge )เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงของ UNRWA เปิดเผยว่า ขบวนคอนวอบขนอาหารบรรเทาทุกข์ถูกสั่งโดยอิสราเอลให้ออกเดินทางในช่วงเวลาการแจ้งอย่างกระชั้นชิดเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจากจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม . การปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์สหประชาชาติล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา . เวตริดจ์กล่าวยืนยันว่า รถบรรทุก 98 คันจากทั้งหมด 109 คันถูกบุกค้นและมีเจ้าหน้าที่ขนส่งให้สหประชาชาติบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุที่เกิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อระบุไปถึงคนร้ายที่บุกโจมตีคอนวอยขนส่งอาหาร UN เข้ากาซา . บีบีซีรายงานว่า ฟิลิปป์ ลาซซารินี ( Philippe Lazzarini )ผู้อำนวยการใหญ่ UNRWA ไม่ได้กล่าวไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นกัน แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่ไร้การควบคุมอย่างเป็นระบบในเขตฉนวนกาซานี้ทำให้เป็นการยากที่ทางหน่วยจะออกปฎิบัติการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ระหว่างสงครามได้ . และหากปราศจากการเข้าแทรกแซงทันที เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารร้ายแรงจะเลวร้ายลงสำหรับชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนที่พึ่งพาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอ้างอิงจาก UNRWA . กระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกาซาที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊งไปไม่ต่ำกว่า 20 คนในการขโมยรถบรรทุกเพื่อการบรรเทาทุกข์ในปฎิบัติการในความร่วมมือกับคณะกรรมการชนเผ่า . ทั้งนี้สัปดาห์ที่แล้ว องค์กร NGO จำนวน 29 แห่งเปิดเผยในรายงานว่า การปล้นสะดมขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์นั้นเป็นผลที่ตามมาจากการที่อิสราเอลตั้งเป้าโจมตีกองกำลังตำรวจที่ยังเหลืออยู่ในกาซา . ขณะเดียวกันกาตาร์ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ยเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส เอเอฟพีรายงานว่า โดฮาแถลงวันอังคาร(19)กล่าวว่า การปิดสำนักงานฮามาสนี้เป็นการปิดแค่ชั่วคราว . มาเจด อัล-อันซารี (Majed Al-Ansari) โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บรรดาผู้นำของฮามาสที่อยู่ในทีมเจรจาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในกรุงโดฮา” . และเสริมต่อว่า “การตัดสินใจ..ในการปิดสำนักงาน(ฮามาส)อย่างถาวรจะเป็นสิ่งที่พวกคุณจะได้ยินโดยตรงจากพวกเรา” . อย่างไรก็ตาม แกนนำระดับสูงของฮามาสได้ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีวันจันทร์(18)ว่า “ไม่มีใครขอให้พวกเราเดินทางออกไป” . พร้อมกันนั้นยังได้โต้รายงานที่อ้างว่าบรรดาสมาชิกได้โยกย้ายไปอยู่ในตุรกีแทน โดยกล่าวว่า “บรรดาผู้นำจากระดับที่แตกต่างในหน่วยการเมืองของฮามาสต่างเดินทางเข้าตุรกีเป็นระยะๆ” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111413 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ข่าวช่องวัน” ออกแถลงการณ์ขออภัย “สนธิ” เสนอข่าวตามคำสัมภาษณ์-ข้อความจากทนายเดชา พาดพิงโกงธนาคารคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
    .
    วันนี้ (19พ.ย.) ฝ่ายข่าวช่องวัน ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า
    .
    “ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
    .
    ทีมข่าวได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่
    .
    นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังยินดีบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อสาธารณกุศล จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วย
    .
    จากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต”
    ..............
    Sondhi X
    “ข่าวช่องวัน” ออกแถลงการณ์ขออภัย “สนธิ” เสนอข่าวตามคำสัมภาษณ์-ข้อความจากทนายเดชา พาดพิงโกงธนาคารคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง . วันนี้ (19พ.ย.) ฝ่ายข่าวช่องวัน ได้ออกแถลงการณ์ ขออภัยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ความว่า . “ต่อความคลาดเคลื่อนในการนําเสนอข่าว อันเกิดจากความเข้าใจผิดและเสียใจกับการกระทําของทีมข่าว กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์-ข้อความจาก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทีมีการพาดพิงคุณสนธิเกี่ยวกับการฉ้อโกงธนาคาร และกรณีอื่นๆ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 . ทีมข่าวได้ดําเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยคุณสนธิอยู่ระหว่างการดําเนินคดีหมิ่นประมาท กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อยู่ . นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังยินดีบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อสาธารณกุศล จํานวน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของคุณสนธิด้วย . จากนี้ไปทีมข่าวจะกําชับทีมงาน พร้อมระมัดระวัง ในการนําเสนอเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นอีกในอนาคต” .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงขันจุ๊กกรูชักเหี่ยวลงทุกวัน ล่าสุดก็แพ้คดีทนายนิด้า คนที่ตัวเองเคยไปเหยียดหยามไว้ สูตรสำเร็จเดิมๆ ของจุ๊กกรู ที่เน้นแซะคนแบบไม่ออกชื่อ ตอนนี้กลายหอกทิ่มแทงตัวเอง สร้างความรังเกียจในหมู่ผู้ฟัง

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายเดชา #ทนายนิด้า
    เสียงขันจุ๊กกรูชักเหี่ยวลงทุกวัน ล่าสุดก็แพ้คดีทนายนิด้า คนที่ตัวเองเคยไปเหยียดหยามไว้ สูตรสำเร็จเดิมๆ ของจุ๊กกรู ที่เน้นแซะคนแบบไม่ออกชื่อ ตอนนี้กลายหอกทิ่มแทงตัวเอง สร้างความรังเกียจในหมู่ผู้ฟัง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายเดชา #ทนายนิด้า
    Like
    Haha
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 606 มุมมอง 126 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์
    .
    "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!"
    .
    ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    .
    รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน
    .
    มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์ . "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!" . ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ . รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน . มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลบานอนและฮิซบอลเลาะห์ เห็นพ้องต่อข้อเสนอหนึ่งของสหรัฐฯ สำหรับหยุดยิงกับอิสราเอล และได้แสดงความคิดเห็นบางอย่างเกี่ยวกับเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเลบานอนเปิดเผยกับรอยเตอร์ พร้อมให้คำนิยามความพยายามนี้ ว่าจริงจังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในการหยุดการสู้รบ
    .
    อาลี ฮัสซัน คาลิล ผู้ช่วยรายหนึ่งของ นาบีห์ เบอร์รี ประธานสภาผู้แทนราษฏร ระบุว่าเลบานอนได้เขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรตอบกลับไปยังสถานทูตสหรัฐฯประจำเลบานอนในวันจันทร์(18พ.ย.) และ อามอส ฮอชสไตน์ ผู้แทนด้านการทูตของทำเนียบขาว กำลังเดินทางมายังกรุงเบรุต เพื่อเดินหน้าการพูดคุยเจรจา
    .
    อย่างไรก็ตามยังไม่มีความคิดเห็นมาจากฝั่งของอิสราเอล
    .
    ฮิซบอลเลาะห์ ขบวนการเคลื่อนไหวติดอาวุธหนักที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ให้การรับรอง เบอร์รี มาช้านาน ในการเจรจาหยุดยิง
    .
    "เลบานอนเสนอความคิดเห็นต่างๆในหนังสือดังกล่าว ในบรรยากาศที่เป็นบวก" คาลิลกล่าว แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม "ทุกความเห็นที่เรานำเสนอได้เน้นย้ำถึงการยึดถืออย่างเที่ยงตรงต่อมติ 1701 ของสหประชาชาติ ในทุกมาตรา" เขากล่าว
    .
    คาลิล อ้างถึงมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ยุติสงครามครั้งก่อนหน้านี้ระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลในปี 2006
    .
    เงื่อนไขของมติดังกล่าว บังคับให้ฮิซบอลเลาะห์ต้องไม่ประจำการอาวุธในพื้นที่ระหว่างชายแดนเลบานอน-อิสราเอล รวมถึงแม่น้ำลิตานี ซึ่งทอดยาวห่างจากทางเหนือของชายแดนราว 30 กิโลเมตร
    .
    คาลิล ระบุว่าความคิดริเริ่มนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เวลานี้ขึ้นอยู่กับอิสราเอลแล้ว และบอกว่าถ้าอิสราเอลไม่ต้องการทางออกหนึ่งๆ "มันก็อาจจะก่อปัญหาอีกนับร้อยตามมา"
    .
    อิสราเอล กล่าวอ้างมาช้านานว่ามติ 1701 ไม่เคยถูกบังคับใช้อย่างเหมาะสม โดยชี้ถึงการปรากฏตัวของพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์และอาวุธตามแนวชายแดน ขณะที่เลบานอนกล่าวหาอิสราเอลละเมิดมติดังกล่าวเช่นกัน ในนั้นรวมถึงกรณีที่ส่งเครื่องบินล้ำเข้ามาในน่านฟ้า
    .
    คาลิล บอกว่าอิสราเอลพยายามเจรจา "ใต้เปลวเพลิง" อ้างถึงการยกระดับทิ้งบอมบ์ถล่มกรุงเบรุต และย่านต่างๆทางใต้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮิซบอลเลาะห์ "แต่มันไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของเรา" เขากล่าว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111068
    ..............
    Sondhi X
    เลบานอนและฮิซบอลเลาะห์ เห็นพ้องต่อข้อเสนอหนึ่งของสหรัฐฯ สำหรับหยุดยิงกับอิสราเอล และได้แสดงความคิดเห็นบางอย่างเกี่ยวกับเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเลบานอนเปิดเผยกับรอยเตอร์ พร้อมให้คำนิยามความพยายามนี้ ว่าจริงจังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในการหยุดการสู้รบ . อาลี ฮัสซัน คาลิล ผู้ช่วยรายหนึ่งของ นาบีห์ เบอร์รี ประธานสภาผู้แทนราษฏร ระบุว่าเลบานอนได้เขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรตอบกลับไปยังสถานทูตสหรัฐฯประจำเลบานอนในวันจันทร์(18พ.ย.) และ อามอส ฮอชสไตน์ ผู้แทนด้านการทูตของทำเนียบขาว กำลังเดินทางมายังกรุงเบรุต เพื่อเดินหน้าการพูดคุยเจรจา . อย่างไรก็ตามยังไม่มีความคิดเห็นมาจากฝั่งของอิสราเอล . ฮิซบอลเลาะห์ ขบวนการเคลื่อนไหวติดอาวุธหนักที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ให้การรับรอง เบอร์รี มาช้านาน ในการเจรจาหยุดยิง . "เลบานอนเสนอความคิดเห็นต่างๆในหนังสือดังกล่าว ในบรรยากาศที่เป็นบวก" คาลิลกล่าว แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม "ทุกความเห็นที่เรานำเสนอได้เน้นย้ำถึงการยึดถืออย่างเที่ยงตรงต่อมติ 1701 ของสหประชาชาติ ในทุกมาตรา" เขากล่าว . คาลิล อ้างถึงมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ยุติสงครามครั้งก่อนหน้านี้ระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลในปี 2006 . เงื่อนไขของมติดังกล่าว บังคับให้ฮิซบอลเลาะห์ต้องไม่ประจำการอาวุธในพื้นที่ระหว่างชายแดนเลบานอน-อิสราเอล รวมถึงแม่น้ำลิตานี ซึ่งทอดยาวห่างจากทางเหนือของชายแดนราว 30 กิโลเมตร . คาลิล ระบุว่าความคิดริเริ่มนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เวลานี้ขึ้นอยู่กับอิสราเอลแล้ว และบอกว่าถ้าอิสราเอลไม่ต้องการทางออกหนึ่งๆ "มันก็อาจจะก่อปัญหาอีกนับร้อยตามมา" . อิสราเอล กล่าวอ้างมาช้านานว่ามติ 1701 ไม่เคยถูกบังคับใช้อย่างเหมาะสม โดยชี้ถึงการปรากฏตัวของพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์และอาวุธตามแนวชายแดน ขณะที่เลบานอนกล่าวหาอิสราเอลละเมิดมติดังกล่าวเช่นกัน ในนั้นรวมถึงกรณีที่ส่งเครื่องบินล้ำเข้ามาในน่านฟ้า . คาลิล บอกว่าอิสราเอลพยายามเจรจา "ใต้เปลวเพลิง" อ้างถึงการยกระดับทิ้งบอมบ์ถล่มกรุงเบรุต และย่านต่างๆทางใต้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮิซบอลเลาะห์ "แต่มันไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะของเรา" เขากล่าว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111068 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย จะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" สำหรับเคียฟ จากความเห็นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของ อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน
    .
    "มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ยูเครนสามารถโจมตีได้ไกลขึ้น สงครามจะสั้นลง" ซีบีฮา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวาระครบรอบ 1,000 วัน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน
    .
    เขาอ้างว่า เคียฟมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเต็มขั้น ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของรัสเซีย "มันอาจก่อผลกระทบในทางบวกมากๆต่อสถานการณ์ในสมรภูมิรบ" ซีบีฮากล่าว
    .
    ความเคลื่อนไหวที่ทำตามคำร้องขอของยูเครนมาช้านาน ในการอนุมัติให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มีขึ้น 2 เดือน ก่อน ไบเดน พ้นจากตำแหน่ง และเขาจะถูกแทนที่โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดความช่วยเหลือที่มอบให้แก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน โหมกระพือความตึงเครียด ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว
    .
    โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ด้านกิจการการเมือง อ้างถึงการไฟเขียวของสหรัฐฯ ระบุว่า "ทุกฝ่ายต้องรับประกันความปลอดภัยและปกป้องพลเรือน โดยไม่สนใจว่าพลเรือนเหล่านั้นจะอยู่ในจุดไหน"
    .
    ดิคาร์โล ซึ่งกล่าวในนาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อว่า นี่คือวาระครบรอบ 1,000 วัน แห่งการเสียชีวิตในวงกว้าง การทำลายล้างและความสิ้นหวังที่ยังคงเกาะกุมประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคน
    .
    เธอประณามกรณีที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยกระดับการโจมตีเล่นงานยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ 120 ลูกและโดรน 90 ลำ ที่ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่เครือข่ายพลังงานของยูเครน
    .
    "การเล็งเป้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครน อาจทำให้ฤดูหนาวที่กำลังมาถึง กลายเป็นฤดูหนาวที่หนักหนาสาหัสที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น" เธอกล่าวเตือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111067
    ..............
    Sondhi X
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย จะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" สำหรับเคียฟ จากความเห็นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของ อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน . "มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ยูเครนสามารถโจมตีได้ไกลขึ้น สงครามจะสั้นลง" ซีบีฮา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวาระครบรอบ 1,000 วัน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน . เขาอ้างว่า เคียฟมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเต็มขั้น ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของรัสเซีย "มันอาจก่อผลกระทบในทางบวกมากๆต่อสถานการณ์ในสมรภูมิรบ" ซีบีฮากล่าว . ความเคลื่อนไหวที่ทำตามคำร้องขอของยูเครนมาช้านาน ในการอนุมัติให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มีขึ้น 2 เดือน ก่อน ไบเดน พ้นจากตำแหน่ง และเขาจะถูกแทนที่โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดความช่วยเหลือที่มอบให้แก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน โหมกระพือความตึงเครียด ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว . โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ด้านกิจการการเมือง อ้างถึงการไฟเขียวของสหรัฐฯ ระบุว่า "ทุกฝ่ายต้องรับประกันความปลอดภัยและปกป้องพลเรือน โดยไม่สนใจว่าพลเรือนเหล่านั้นจะอยู่ในจุดไหน" . ดิคาร์โล ซึ่งกล่าวในนาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อว่า นี่คือวาระครบรอบ 1,000 วัน แห่งการเสียชีวิตในวงกว้าง การทำลายล้างและความสิ้นหวังที่ยังคงเกาะกุมประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคน . เธอประณามกรณีที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยกระดับการโจมตีเล่นงานยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ 120 ลูกและโดรน 90 ลำ ที่ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่เครือข่ายพลังงานของยูเครน . "การเล็งเป้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครน อาจทำให้ฤดูหนาวที่กำลังมาถึง กลายเป็นฤดูหนาวที่หนักหนาสาหัสที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น" เธอกล่าวเตือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111067 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน
    .
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
    .
    นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน
    .
    ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง
    .
    ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
    .
    สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง
    .
    ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร
    .
    ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้
    .
    แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน
    .
    อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป
    .
    อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล
    .
    ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS
    .
    ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน . การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า . นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน . ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง . ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ . สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง . ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด . ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร . ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้ . แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง . นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน . โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน . อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป . อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล . ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS . ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแต่งตั้งนายพลตำรวจปีนี้ กำลังเป็นที่สนใจอย่างที่สุดในแวดวงสีกากี เพราะเป็นครั้งแรก ที่ใช้เกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ คัดเลือกด้วยระบบอาวุโส 100%

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ตำรวจ #โผนายพลตำรวจ #แต่งตั้งนายพลตำรวจ
    การแต่งตั้งนายพลตำรวจปีนี้ กำลังเป็นที่สนใจอย่างที่สุดในแวดวงสีกากี เพราะเป็นครั้งแรก ที่ใช้เกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ คัดเลือกด้วยระบบอาวุโส 100% #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ตำรวจ #โผนายพลตำรวจ #แต่งตั้งนายพลตำรวจ
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 638 มุมมอง 104 1 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีนและประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ของเปรู ได้ร่วมพิธีเปิดท่าเรือขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่นครชานไค (Chancay) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลิมา ประเทศเปรู ท่าเรือนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน โดยมีการลงนามข้อตกลงการค้าในพิธีเปิดผ่านการเชื่อมโยงวิดีโอจากทำเนียบรัฐบาลเปรู
    .
    ประธานาธิบดีสี กล่าวในพิธีเปิดว่า "เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนา ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ระหว่างเอเชียและลาตินอเมริกา โดยผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญในระยะยาว"
    .
    โครงการท่าเรือชานไคซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท COSCO ของจีนและบริษัท Volcan ของเปรู โดย COSCO ถือหุ้นในบริษัทที่บริหารท่าเรือประมาณ 60% การสร้างท่าเรือนี้จะช่วยเสริมความสามารถในการขนส่งสินค้าของเปรู โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น อะโวคาโดและบลูเบอร์รี ไปยังจีน ซึ่งการขนส่งจะใช้เวลาน้อยลงจากเดิม 35 วัน เหลือเพียง 23 วัน และคาดว่าจะสร้างรายได้ประจำปีถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    นอกจากนี้ ท่าเรือนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำหรับประเทศในลาตินอเมริกา เช่น ชิลี เอกวาดอร์ โคลอมเบีย บราซิล และปารากวัย โดยคาดว่าจะมีการขนส่งสินค้าอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง กาแฟ และแร่เหล็ก ซึ่งจะทำให้ท่าเรือชานไคกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาค
    .
    การเปิดท่าเรือชานไคได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศในลาตินอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เปรูกลายเป็น "คลังสินค้าของโลก" ตามที่ประธานาธิบดีโบลูอาร์เตกล่าว
    .
    แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากจีนและเปรู แต่ทางการสหรัฐฯ ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงการ โดยมีการเตือนว่าท่าเรือนี้อาจกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จีนสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บข้อมูลหรือการเฝ้าระวัง เนื่องจากท่าเรือชานไคตั้งอยู่ในภูมิภาคที่สำคัญและใกล้กับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
    .
    อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคกล่าวว่า "ท่าเรือนี้จะทำให้จีนสามารถเข้าถึงทรัพยากรในภูมิภาคได้ง่ายขึ้น" ขณะที่บางฝ่ายมีความกังวลว่าอาจมีการใช้งานท่าเรือเพื่อการสอดแนมหรือการรักษาความปลอดภัยในอนาคต
    .
    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ความกังวลเกี่ยวกับท่าเรือที่สร้างโดยจีนในประเทศต่างๆ เช่น ศรีลังกาและกรีซ ไม่ได้กลายเป็นปัญหาจริงจัง และชี้ให้เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ของสหรัฐฯ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการกับความกังวลเหล่านี้
    .
    ทางการเปรูได้ปฏิเสธข้อกังวลจากสหรัฐฯ โดยระบุว่า หากสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของจีนในประเทศเปรู ควรเพิ่มการลงทุนในประเทศนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110712
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีนและประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ของเปรู ได้ร่วมพิธีเปิดท่าเรือขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่นครชานไค (Chancay) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลิมา ประเทศเปรู ท่าเรือนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน โดยมีการลงนามข้อตกลงการค้าในพิธีเปิดผ่านการเชื่อมโยงวิดีโอจากทำเนียบรัฐบาลเปรู . ประธานาธิบดีสี กล่าวในพิธีเปิดว่า "เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนา ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ระหว่างเอเชียและลาตินอเมริกา โดยผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญในระยะยาว" . โครงการท่าเรือชานไคซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท COSCO ของจีนและบริษัท Volcan ของเปรู โดย COSCO ถือหุ้นในบริษัทที่บริหารท่าเรือประมาณ 60% การสร้างท่าเรือนี้จะช่วยเสริมความสามารถในการขนส่งสินค้าของเปรู โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น อะโวคาโดและบลูเบอร์รี ไปยังจีน ซึ่งการขนส่งจะใช้เวลาน้อยลงจากเดิม 35 วัน เหลือเพียง 23 วัน และคาดว่าจะสร้างรายได้ประจำปีถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ . นอกจากนี้ ท่าเรือนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำหรับประเทศในลาตินอเมริกา เช่น ชิลี เอกวาดอร์ โคลอมเบีย บราซิล และปารากวัย โดยคาดว่าจะมีการขนส่งสินค้าอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง กาแฟ และแร่เหล็ก ซึ่งจะทำให้ท่าเรือชานไคกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาค . การเปิดท่าเรือชานไคได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศในลาตินอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เปรูกลายเป็น "คลังสินค้าของโลก" ตามที่ประธานาธิบดีโบลูอาร์เตกล่าว . แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากจีนและเปรู แต่ทางการสหรัฐฯ ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงการ โดยมีการเตือนว่าท่าเรือนี้อาจกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จีนสามารถใช้ประโยชน์ในการเก็บข้อมูลหรือการเฝ้าระวัง เนื่องจากท่าเรือชานไคตั้งอยู่ในภูมิภาคที่สำคัญและใกล้กับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ . อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคกล่าวว่า "ท่าเรือนี้จะทำให้จีนสามารถเข้าถึงทรัพยากรในภูมิภาคได้ง่ายขึ้น" ขณะที่บางฝ่ายมีความกังวลว่าอาจมีการใช้งานท่าเรือเพื่อการสอดแนมหรือการรักษาความปลอดภัยในอนาคต . อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ความกังวลเกี่ยวกับท่าเรือที่สร้างโดยจีนในประเทศต่างๆ เช่น ศรีลังกาและกรีซ ไม่ได้กลายเป็นปัญหาจริงจัง และชี้ให้เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ของสหรัฐฯ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการกับความกังวลเหล่านี้ . ทางการเปรูได้ปฏิเสธข้อกังวลจากสหรัฐฯ โดยระบุว่า หากสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของจีนในประเทศเปรู ควรเพิ่มการลงทุนในประเทศนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110712 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 525 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินเดียประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยไกลที่พัฒนาขึ้นเอง จากคำกล่าวอ้าง นับเป็นหลักชัยสำคัญในพัฒนาการด้านการทหารของประเทศแห่งนี้ ที่ทำให้อินเดียกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าวในครอบครอง
    .
    โลกกำลังมุ่งหน้าสู่อาวุธไฮเปอร์โซนิก ในขณะที่ประเทศต่างๆ บางชาติอย่างเช่นกันอินเดีย กำลังมุ่งมั่นพยายามพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลล้ำสมัยนี้ เพื่อก้าวขึ้นไปเคียงบ่าเคียงไหล่กับจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ
    .
    ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกของอินเดีย ซึ่งพัฒนาโดยองค์การวิจัยและพัฒนากลาโหม ที่บริหารงานโดยภาครัฐ และพันธมิตรทั้งหลายในอุตสาหกรรมกลาโหม ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรทุกอาวุธที่มีพิสัยทำการเกินกว่า 1,500 กิโลเมตร อ้างอิงถ้อยแถลงของทางการ
    .
    "จากข้อมูลการบิน ยืนยันความสำเร็จในการบินหลบหลีกระยะสุดท้าย และพุ่งกระทบเป้าหมายด้วยความแม่นยำระดับสูง" ถ้อยแถลงระบุ พร้อมเผยว่าการยิงทดสอบครั้งนี้ เป็นการยิงขึ้นจากเกาะ ดร.อับดุล คาลัม นอกชายฝั่งทางตะวันออกของรัฐโอริสสา เมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.)
    .
    รัชนาถ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมของอินเดีย เรียกการทดสอบครั้งนี้ว่าเป็น "ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์" ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมระบุว่ามันทำให้อินเดียกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ครอบครองเทคโนโลยีล้ำสมัยและสำคัญเช่นนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110698
    ..............
    Sondhi X
    อินเดียประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยไกลที่พัฒนาขึ้นเอง จากคำกล่าวอ้าง นับเป็นหลักชัยสำคัญในพัฒนาการด้านการทหารของประเทศแห่งนี้ ที่ทำให้อินเดียกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าวในครอบครอง . โลกกำลังมุ่งหน้าสู่อาวุธไฮเปอร์โซนิก ในขณะที่ประเทศต่างๆ บางชาติอย่างเช่นกันอินเดีย กำลังมุ่งมั่นพยายามพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลล้ำสมัยนี้ เพื่อก้าวขึ้นไปเคียงบ่าเคียงไหล่กับจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ . ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกของอินเดีย ซึ่งพัฒนาโดยองค์การวิจัยและพัฒนากลาโหม ที่บริหารงานโดยภาครัฐ และพันธมิตรทั้งหลายในอุตสาหกรรมกลาโหม ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรทุกอาวุธที่มีพิสัยทำการเกินกว่า 1,500 กิโลเมตร อ้างอิงถ้อยแถลงของทางการ . "จากข้อมูลการบิน ยืนยันความสำเร็จในการบินหลบหลีกระยะสุดท้าย และพุ่งกระทบเป้าหมายด้วยความแม่นยำระดับสูง" ถ้อยแถลงระบุ พร้อมเผยว่าการยิงทดสอบครั้งนี้ เป็นการยิงขึ้นจากเกาะ ดร.อับดุล คาลัม นอกชายฝั่งทางตะวันออกของรัฐโอริสสา เมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.) . รัชนาถ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมของอินเดีย เรียกการทดสอบครั้งนี้ว่าเป็น "ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์" ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมระบุว่ามันทำให้อินเดียกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ครอบครองเทคโนโลยีล้ำสมัยและสำคัญเช่นนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110698 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินใจของวอชิงตันที่ไฟเขียวให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย คือการทำให้ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามและอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 จากคำเตือนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของมอสโก
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ เปิดเผยก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) ว่าวอชิงตันได้กลับลำนโยบายครั้งสำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ด้วยการ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    "การตัดสินใจของตะวันตก เกี่ยวกับระดับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายดังกล่าว อาจจบลงด้วยการที่ความเป็นรัฐของยูเครนกลายสภาพเป็นเศษซากหักพังโดยสิ้นเชิงในยามเช้า" อันเดร คลิสชาส สมาชิกอาวุโสของสภาสหพันธรัฐหรือสภาบนของรัสเซีย ระบุผ่านเทเลแกรม
    .
    ส่วน วลาดิมีร์ ซาบารอฟ รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาบนรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะตอบโต้ในทันที "มันเป็นก้าวย่างที่ใหญ่มากๆในการมุ่งหน้าสู่การเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3" ซาบารอฟ ให้สัมภาษณ์กับทาสส์นิวส์
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในเดือนกันยายน ว่าตะวันตกจะเท่ากับสู้รบกับรัสเซียโดยตรง หากว่าอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่เขาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะและขอบเขตความขัดแย้ง
    .
    รัสเซียจะถูกบีบให้ดำเนินการในสิ่งที่ปูตินเรียกว่า "การตัดสินใจต่างๆอย่างเหมาะสม" บนพื้นฐานของภัยคุกคามใหม่นี้
    .
    ลีโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาดูมา สภาล่างของรัสเซีย กล่าวว่าการที่สหรัฐฯอนุญาตให้ยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS ของอมเริกา จะนำมาซึ่งการตอบโต้อย่างหนักหน่วงที่สุด จากการเปิดเผยของสื่อมวลชนรัสเซียหลายสำนัก
    .
    "การโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯลึกเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆของรัสเซีย จะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเสี่ยงนำมาซึ่งผลสนองที่รุนแรงหนักหน่วงกว่าหลายเท่า" สลัตสกีกล่าวกับทาสส์นิวส์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110699
    ..............
    Sondhi X
    การตัดสินใจของวอชิงตันที่ไฟเขียวให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย คือการทำให้ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามและอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 จากคำเตือนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของมอสโก . เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ เปิดเผยก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) ว่าวอชิงตันได้กลับลำนโยบายครั้งสำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ด้วยการ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . "การตัดสินใจของตะวันตก เกี่ยวกับระดับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายดังกล่าว อาจจบลงด้วยการที่ความเป็นรัฐของยูเครนกลายสภาพเป็นเศษซากหักพังโดยสิ้นเชิงในยามเช้า" อันเดร คลิสชาส สมาชิกอาวุโสของสภาสหพันธรัฐหรือสภาบนของรัสเซีย ระบุผ่านเทเลแกรม . ส่วน วลาดิมีร์ ซาบารอฟ รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาบนรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะตอบโต้ในทันที "มันเป็นก้าวย่างที่ใหญ่มากๆในการมุ่งหน้าสู่การเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3" ซาบารอฟ ให้สัมภาษณ์กับทาสส์นิวส์ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในเดือนกันยายน ว่าตะวันตกจะเท่ากับสู้รบกับรัสเซียโดยตรง หากว่าอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่เขาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะและขอบเขตความขัดแย้ง . รัสเซียจะถูกบีบให้ดำเนินการในสิ่งที่ปูตินเรียกว่า "การตัดสินใจต่างๆอย่างเหมาะสม" บนพื้นฐานของภัยคุกคามใหม่นี้ . ลีโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาดูมา สภาล่างของรัสเซีย กล่าวว่าการที่สหรัฐฯอนุญาตให้ยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS ของอมเริกา จะนำมาซึ่งการตอบโต้อย่างหนักหน่วงที่สุด จากการเปิดเผยของสื่อมวลชนรัสเซียหลายสำนัก . "การโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯลึกเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆของรัสเซีย จะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเสี่ยงนำมาซึ่งผลสนองที่รุนแรงหนักหน่วงกว่าหลายเท่า" สลัตสกีกล่าวกับทาสส์นิวส์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110699 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คน และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน เกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยูเครนมีแผนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลลงมือโจมตีเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่เผยแพร่รายละเอียดใดๆ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของปฏิบัติการ
    .
    ความเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 เดือน ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งเสียงเรียกร้องมานานหลายเดือน ให้อนุญาตกองทัพเคียฟใช้อาวุธสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ห่างไกลจากชายแดน
    .
    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตอบโต้กรณีที่รัสเซียประจำการทหารเกาหลีเหนือในภาคพื้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังของตนเอง การประจำการที่ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและเคียฟ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าขีปนาวุธจะ "พูดแทนตัวมันเอง" หลังมีรายงานข่าวว่าวอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีดินแดนลึกของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ "วันนี้ สื่อมวลชนมากมายระบุว่าเราได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม แต่การโจมตีไม่ใช่คำพูด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องแถลง ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวมันเอง"
    .
    รัสเซียเคยเตือนว่าพวกเขาจะมองการผ่อนปรนข้อจำกัดยูเครนในการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ เป็นการขยายวงสงครามครั้งใหญ่
    .
    แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีดินแดนลึกครั้งแรกของยูเครน จะดำเนินการด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด 306 กิโลเมตร
    .
    ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่าการอนุญาตให้โจมตีพิสัยไกลจะเปลี่ยนแปลงวิถีสงครามในภาพรวมหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้อาจช่วยให้ยูเครนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ เคียฟ อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเจรจา หากว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียเกิดขึ้นจริง
    .
    อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ จะกลับลำการตัดสินใจของไบเดนหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานต่อขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน และประกาศจบสงครามอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากคำอธิบายใดๆ
    .
    โฆษกของทรัมป์ ยังไม่ตอบคำถามหลังสื่อมวลชนติดต่อสอบถามความคิดเห็น แต่ ริชาร์ด เกรเนลล์ หนึ่งในที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าว โดยบอกว่า "มันเป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่ง"
    .
    นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในวันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของไบเดน พูดซ้ำๆ ว่าพวกเขาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ในการรับประกันว่ายูเครนสามารถสู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย จากสถานะที่เข้มแข็ง
    .
    สหรัฐฯ เชื่อว่าทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 นาย ถูกส่งเข้าไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย และส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายไปยังแคว้นคูร์กส์ และเริ่มต้นเข้าพัวพันในปฏิบัติการสู้รบแล้ว
    .
    รัสเซีย กำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้มีความสูญเสียอย่างหนัก และยูเครนเผยว่าพวกเขาได้ปะทะกับทหารเกาหลีเหนือบางส่วนที่ประจำการในแคว้นคูร์สก์
    .
    ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพล กองกำลังยูเครนสูญเสียดินแดนบางส่วนที่พวกเขายึดครองได้ในเดือนสิงหาคม ในปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์ ที่เซเลนสกี เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหมากเบี้ยในการต่อรอง
    .
    "การปลดข้อจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจง จะเปิดทางให้ยูเครนหยุดสู้รบ ในสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย เหลือถูกมัดมือไพล่หลังเพียงหนึ่งข้าง" อเล็ก พลิตาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์กรวิจัย "สภาแอตแลนติก" กล่าว "อย่างไรด็ตามมันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะชี้ว่าการตัดสินใจนี้มาช้าเกินไป เพียงแค่ ATACMS, HIMARS, ยานรบหุ้มเกราะแบรดลีย์, รถถังเอบรามส์ และเครื่องบินเอฟ-19 พวกเขาต้องการมันเร็วกว่านี้มาก"
    .
    แม้มีเสียงเรียกร้องของเซเลนสกี แต่ที่ผ่านมาทำเนียบขาวลังเลที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ลุกลามบานปลาย
    .
    พันธมิตรอื่นๆ ของเคียฟ ได้ป้อนอาวุธให้เช่นกัน แต่ก็จำกัดวิธีการและกรอบเวลาในการใช้โจมตีภายในรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลว่าการโจมตีลักษณะดังกล่าวอาจกระตุ้นการแก้แค้นของมอสโก ที่ลากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ก็โหมกระพือความขัดแย้งนิวเคลียร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110696
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คน และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน เกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย . แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยูเครนมีแผนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลลงมือโจมตีเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่เผยแพร่รายละเอียดใดๆ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของปฏิบัติการ . ความเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 เดือน ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งเสียงเรียกร้องมานานหลายเดือน ให้อนุญาตกองทัพเคียฟใช้อาวุธสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ห่างไกลจากชายแดน . การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตอบโต้กรณีที่รัสเซียประจำการทหารเกาหลีเหนือในภาคพื้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังของตนเอง การประจำการที่ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและเคียฟ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าขีปนาวุธจะ "พูดแทนตัวมันเอง" หลังมีรายงานข่าวว่าวอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีดินแดนลึกของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ "วันนี้ สื่อมวลชนมากมายระบุว่าเราได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม แต่การโจมตีไม่ใช่คำพูด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องแถลง ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวมันเอง" . รัสเซียเคยเตือนว่าพวกเขาจะมองการผ่อนปรนข้อจำกัดยูเครนในการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ เป็นการขยายวงสงครามครั้งใหญ่ . แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีดินแดนลึกครั้งแรกของยูเครน จะดำเนินการด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด 306 กิโลเมตร . ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่าการอนุญาตให้โจมตีพิสัยไกลจะเปลี่ยนแปลงวิถีสงครามในภาพรวมหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้อาจช่วยให้ยูเครนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ เคียฟ อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเจรจา หากว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียเกิดขึ้นจริง . อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ จะกลับลำการตัดสินใจของไบเดนหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานต่อขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน และประกาศจบสงครามอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากคำอธิบายใดๆ . โฆษกของทรัมป์ ยังไม่ตอบคำถามหลังสื่อมวลชนติดต่อสอบถามความคิดเห็น แต่ ริชาร์ด เกรเนลล์ หนึ่งในที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าว โดยบอกว่า "มันเป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่ง" . นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในวันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของไบเดน พูดซ้ำๆ ว่าพวกเขาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ในการรับประกันว่ายูเครนสามารถสู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย จากสถานะที่เข้มแข็ง . สหรัฐฯ เชื่อว่าทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 นาย ถูกส่งเข้าไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย และส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายไปยังแคว้นคูร์กส์ และเริ่มต้นเข้าพัวพันในปฏิบัติการสู้รบแล้ว . รัสเซีย กำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้มีความสูญเสียอย่างหนัก และยูเครนเผยว่าพวกเขาได้ปะทะกับทหารเกาหลีเหนือบางส่วนที่ประจำการในแคว้นคูร์สก์ . ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพล กองกำลังยูเครนสูญเสียดินแดนบางส่วนที่พวกเขายึดครองได้ในเดือนสิงหาคม ในปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์ ที่เซเลนสกี เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหมากเบี้ยในการต่อรอง . "การปลดข้อจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจง จะเปิดทางให้ยูเครนหยุดสู้รบ ในสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย เหลือถูกมัดมือไพล่หลังเพียงหนึ่งข้าง" อเล็ก พลิตาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์กรวิจัย "สภาแอตแลนติก" กล่าว "อย่างไรด็ตามมันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะชี้ว่าการตัดสินใจนี้มาช้าเกินไป เพียงแค่ ATACMS, HIMARS, ยานรบหุ้มเกราะแบรดลีย์, รถถังเอบรามส์ และเครื่องบินเอฟ-19 พวกเขาต้องการมันเร็วกว่านี้มาก" . แม้มีเสียงเรียกร้องของเซเลนสกี แต่ที่ผ่านมาทำเนียบขาวลังเลที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ลุกลามบานปลาย . พันธมิตรอื่นๆ ของเคียฟ ได้ป้อนอาวุธให้เช่นกัน แต่ก็จำกัดวิธีการและกรอบเวลาในการใช้โจมตีภายในรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลว่าการโจมตีลักษณะดังกล่าวอาจกระตุ้นการแก้แค้นของมอสโก ที่ลากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ก็โหมกระพือความขัดแย้งนิวเคลียร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110696 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
เรื่องราวเพิ่มเติม