• มุกตบ คนชั้นกลาง (อาชีพค้าขายมาอีกแล้ว)
    บอกว่าแอป ใคร น่าไม่ช่วยต่อ สรรพากร

    แต่คุณบอกเจตนาว่าออกโครงการนี้เพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ
    (กระตุ้น มันหมายถึงร้านค้าจะได้เพิ่มรายได้ใช่ไหม)

    มันก็มีรายได้เพิ่ม มันก็ต้องไปเสียภาษีซิ
    แล้วบอกไม่เกี่ยวภาษี
    ถ้าได้จริง ก็ต้องบอกว่า สรรพกร งดภาษีประเมินตลอดช่วงโครงการซิ "มันถึงจะถูก"

    เพราะคุณ มีแรงกระทำ แต่คุณหวัง แรงตีกลับมาเป็นรายได้ให้คุณด้วย (ภาษี) เพราะคุณรู้ว่ายอดขายต้องเพิ่มขึ้นจริงไหม

    แล้วมาบอกไม่เกี่ยวสรรพากร "มุกหลอกเด็กปล่าว"

    ตบควายอีกแล้วตู ชนชั้นกลางกลาง
    มุกตบ คนชั้นกลาง (อาชีพค้าขายมาอีกแล้ว) บอกว่าแอป ใคร น่าไม่ช่วยต่อ สรรพากร แต่คุณบอกเจตนาว่าออกโครงการนี้เพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ (กระตุ้น มันหมายถึงร้านค้าจะได้เพิ่มรายได้ใช่ไหม) มันก็มีรายได้เพิ่ม มันก็ต้องไปเสียภาษีซิ แล้วบอกไม่เกี่ยวภาษี ถ้าได้จริง ก็ต้องบอกว่า สรรพกร งดภาษีประเมินตลอดช่วงโครงการซิ "มันถึงจะถูก" เพราะคุณ มีแรงกระทำ แต่คุณหวัง แรงตีกลับมาเป็นรายได้ให้คุณด้วย (ภาษี) เพราะคุณรู้ว่ายอดขายต้องเพิ่มขึ้นจริงไหม แล้วมาบอกไม่เกี่ยวสรรพากร "มุกหลอกเด็กปล่าว" ตบควายอีกแล้วตู ชนชั้นกลางกลาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนละครึ่งพลัสยุคอนุทิน หวังเศรษฐกิจไทยไม่ติดหล่ม

    หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการคนละครึ่งพลัส ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงข่าวเปิดตัวโครงการทันที แม้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะประกาศให้เป็นนโยบายเรือธงเพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจ แต่นายเอกนิติยอมรับว่า วัตถุประสงค์หลักเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยติดหล่ม เพราะทิศทางมีแนวโน้มติดลบ ขยายตัวชะลอลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.3-0.4% ของจีดีพี

    โครงการนี้ใช้งบประมาณ 44,000 ล้านบาท โดยใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท กับงบฉุกเฉิน 19,000 ล้านบาท ให้ประชาชนสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 20 ล้านสิทธิ สแกนจ่ายผ่าน G Wallet บนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" กับร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ โดยรัฐบาลสนับสนุน 50% สูงสุดไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยผู้ที่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะได้รับสิทธิสนับสนุน 2,400 บาท ส่วนผู้ที่ไม่ได้ยื่นแบบภาษีจะได้รับสิทธิสนับสนุน 2,000 บาท

    ประชาชนสามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 20-26 ต.ค. หรือจนกว่าจะครบ 20 ล้านสิทธิ จากนั้นเติมเงินเข้า G Wallet และใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. ถึง 31 ธ.ค. เวลา 06.00-23.00 น. ส่วนร้านค้าฟู้ดเดลิเวอรี ใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. โดยต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. ก่อนเวลา 23.00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ​

    สำหรับร้านค้าถุงเงินที่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ร้านค้าธงฟ้าฯ ของบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสหกรณ์ รวมทั้งร้านค้าโครงการกรุงเทพแผงลอย ที่ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สามารถกดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขได้ที่เมนู "คนละครึ่งพลัส" บนแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ส่วนร้านค้าใหม่ รวมทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยอดขายน้อยกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยสมัครร้านค้าถุงเงินของธนาคารกรุงไทย และสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส

    อนึ่ง โครงการคนละครึ่งเฟส 5 เมื่อปี 2565 มีผู้ใช้สิทธิ 24.02 ล้านคน ยอดใช้จ่ายรวม 36,704.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 18,696.10 ล้านบาท เงินที่รัฐร่วมจ่าย 18,008.70 ล้านบาท โดยพบว่าใช้จ่ายร้านอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด 41.72% รองลงมาคือร้านค้าทั่วไป 31.51% ร้านธงฟ้าฯ 20.21% ร้านโอทอป 4.82% ร้านบริการ 1.62% และกิจการขนส่งสาธารณะ 0.13%

    #Newskit
    คนละครึ่งพลัสยุคอนุทิน หวังเศรษฐกิจไทยไม่ติดหล่ม หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการคนละครึ่งพลัส ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงข่าวเปิดตัวโครงการทันที แม้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะประกาศให้เป็นนโยบายเรือธงเพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจ แต่นายเอกนิติยอมรับว่า วัตถุประสงค์หลักเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยติดหล่ม เพราะทิศทางมีแนวโน้มติดลบ ขยายตัวชะลอลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.3-0.4% ของจีดีพี โครงการนี้ใช้งบประมาณ 44,000 ล้านบาท โดยใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท กับงบฉุกเฉิน 19,000 ล้านบาท ให้ประชาชนสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 20 ล้านสิทธิ สแกนจ่ายผ่าน G Wallet บนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" กับร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ โดยรัฐบาลสนับสนุน 50% สูงสุดไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยผู้ที่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะได้รับสิทธิสนับสนุน 2,400 บาท ส่วนผู้ที่ไม่ได้ยื่นแบบภาษีจะได้รับสิทธิสนับสนุน 2,000 บาท ประชาชนสามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 20-26 ต.ค. หรือจนกว่าจะครบ 20 ล้านสิทธิ จากนั้นเติมเงินเข้า G Wallet และใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. ถึง 31 ธ.ค. เวลา 06.00-23.00 น. ส่วนร้านค้าฟู้ดเดลิเวอรี ใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. โดยต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. ก่อนเวลา 23.00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ​ สำหรับร้านค้าถุงเงินที่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ร้านค้าธงฟ้าฯ ของบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสหกรณ์ รวมทั้งร้านค้าโครงการกรุงเทพแผงลอย ที่ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สามารถกดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขได้ที่เมนู "คนละครึ่งพลัส" บนแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ส่วนร้านค้าใหม่ รวมทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยอดขายน้อยกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยสมัครร้านค้าถุงเงินของธนาคารกรุงไทย และสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส อนึ่ง โครงการคนละครึ่งเฟส 5 เมื่อปี 2565 มีผู้ใช้สิทธิ 24.02 ล้านคน ยอดใช้จ่ายรวม 36,704.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 18,696.10 ล้านบาท เงินที่รัฐร่วมจ่าย 18,008.70 ล้านบาท โดยพบว่าใช้จ่ายร้านอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด 41.72% รองลงมาคือร้านค้าทั่วไป 31.51% ร้านธงฟ้าฯ 20.21% ร้านโอทอป 4.82% ร้านบริการ 1.62% และกิจการขนส่งสาธารณะ 0.13% #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Jensen Huang ชี้ช่างไฟและช่างประปาจะเป็นฮีโร่แห่งยุค AI — เมื่อการสร้างศูนย์ข้อมูลกลายเป็นภารกิจระดับชาติ”

    ในขณะที่หลายคนกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานมนุษย์ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia กลับมองต่างออกไป เขาเชื่อว่า “งานช่างฝีมือ” อย่างช่างไฟฟ้าและช่างประปาจะกลายเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความต้องการสูงที่สุดในยุค AI โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาเพื่อรองรับการประมวลผลของโมเดลอัจฉริยะ

    Huang กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ Channel 4 News ว่า “เราจะต้องการช่างไฟฟ้า ช่างประปา และช่างไม้เป็นจำนวนหลายแสนคน เพื่อสร้างโรงงานและศูนย์ข้อมูลเหล่านี้” พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจทุกประเทศจะเห็นการเติบโตของภาคแรงงานฝีมืออย่างชัดเจน

    การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ไม่ใช่เรื่องเล็ก — Huang ระบุว่าการลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี และจะดำเนินต่อเนื่องไปอีกเป็นทศวรรษ โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่เขาเชื่อว่าจะกลายเป็นศูนย์กลางของการขยายโครงสร้าง AI

    ไม่ใช่แค่ Huang ที่มองเห็นปัญหานี้ Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock ก็เคยเตือนว่า “เรากำลังจะขาดช่างไฟฟ้าอย่างรุนแรง” และ Brad Smith จาก Microsoft ก็ชี้ว่าการขยายศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับวิกฤตแรงงานฝีมืออย่างหนัก

    เพื่อแก้ปัญหา Google ได้ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการฝึกอบรมช่างไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายผลิตแรงงานใหม่กว่า 130,000 คนภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่การวิเคราะห์จาก CSIS ระบุว่า สหรัฐฯ ต้องการแรงงานฝีมือเพิ่มอีกกว่า 140,000 คนภายในปี 2030 ซึ่งไม่สามารถบรรลุได้หากไม่ปรับปรุงระบบการฝึกอบรมและการออกใบอนุญาต

    แม้จะมีคำเตือนจากหลายฝ่ายว่า AI จะทำให้พนักงานออฟฟิศจำนวนมากตกงาน แต่ Huang กลับมองว่า “คนจะไม่ถูกแทนที่ด้วย AI แต่จะถูกแทนที่ด้วยคนที่ใช้ AI ได้” และหากเขาอายุ 20 ปีอีกครั้ง เขาจะเลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์กายภาพมากกว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Jensen Huang เชื่อว่าช่างไฟฟ้าและช่างประปาจะเป็นอาชีพที่เติบโตมากที่สุดในยุค AI
    การสร้างศูนย์ข้อมูลต้องใช้แรงงานฝีมือหลายแสนคนทั่วโลก
    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี
    สหราชอาณาจักรจะเป็นศูนย์กลางการขยายโครงสร้าง AI ในทศวรรษหน้า
    Larry Fink และ Brad Smith เตือนถึงวิกฤตแรงงานฝีมือในสหรัฐฯ
    Google ลงทุนฝึกอบรมช่างไฟฟ้า 130,000 คนเพื่อรองรับความต้องการ
    CSIS ระบุว่าต้องเพิ่มแรงงานฝีมืออีก 140,000 คนภายในปี 2030
    Huang มองว่า AI จะเปลี่ยนทุกงาน แต่คนที่ใช้ AI ได้จะเป็นผู้ได้เปรียบ
    เขาแนะนำให้คนรุ่นใหม่หันไปเรียนสายวิทยาศาสตร์กายภาพ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 250,000 ตารางฟุตต้องใช้แรงงานก่อสร้างถึง 1,500 คน
    งานช่างฝีมือในศูนย์ข้อมูลมีรายได้เฉลี่ยมากกว่า $100,000 ต่อปี
    การขาดแรงงานฝีมือเกิดจากการลดการฝึกอบรมและนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด
    การขยายศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจใช้เงินลงทุนรวมกว่า $7 ล้านล้านภายในปี 2030
    การสร้างงานในศูนย์ข้อมูลหนึ่งแห่งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรอบได้ถึง 3.5 เท่า

    https://www.slashgear.com/1987555/nvidia-ceo-ai-trade-jobs-electrians-plumbers/
    🔧 “Jensen Huang ชี้ช่างไฟและช่างประปาจะเป็นฮีโร่แห่งยุค AI — เมื่อการสร้างศูนย์ข้อมูลกลายเป็นภารกิจระดับชาติ” ในขณะที่หลายคนกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานมนุษย์ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia กลับมองต่างออกไป เขาเชื่อว่า “งานช่างฝีมือ” อย่างช่างไฟฟ้าและช่างประปาจะกลายเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความต้องการสูงที่สุดในยุค AI โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาเพื่อรองรับการประมวลผลของโมเดลอัจฉริยะ Huang กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ Channel 4 News ว่า “เราจะต้องการช่างไฟฟ้า ช่างประปา และช่างไม้เป็นจำนวนหลายแสนคน เพื่อสร้างโรงงานและศูนย์ข้อมูลเหล่านี้” พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจทุกประเทศจะเห็นการเติบโตของภาคแรงงานฝีมืออย่างชัดเจน การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ไม่ใช่เรื่องเล็ก — Huang ระบุว่าการลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี และจะดำเนินต่อเนื่องไปอีกเป็นทศวรรษ โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่เขาเชื่อว่าจะกลายเป็นศูนย์กลางของการขยายโครงสร้าง AI ไม่ใช่แค่ Huang ที่มองเห็นปัญหานี้ Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock ก็เคยเตือนว่า “เรากำลังจะขาดช่างไฟฟ้าอย่างรุนแรง” และ Brad Smith จาก Microsoft ก็ชี้ว่าการขยายศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับวิกฤตแรงงานฝีมืออย่างหนัก เพื่อแก้ปัญหา Google ได้ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการฝึกอบรมช่างไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายผลิตแรงงานใหม่กว่า 130,000 คนภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่การวิเคราะห์จาก CSIS ระบุว่า สหรัฐฯ ต้องการแรงงานฝีมือเพิ่มอีกกว่า 140,000 คนภายในปี 2030 ซึ่งไม่สามารถบรรลุได้หากไม่ปรับปรุงระบบการฝึกอบรมและการออกใบอนุญาต แม้จะมีคำเตือนจากหลายฝ่ายว่า AI จะทำให้พนักงานออฟฟิศจำนวนมากตกงาน แต่ Huang กลับมองว่า “คนจะไม่ถูกแทนที่ด้วย AI แต่จะถูกแทนที่ด้วยคนที่ใช้ AI ได้” และหากเขาอายุ 20 ปีอีกครั้ง เขาจะเลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์กายภาพมากกว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Jensen Huang เชื่อว่าช่างไฟฟ้าและช่างประปาจะเป็นอาชีพที่เติบโตมากที่สุดในยุค AI ➡️ การสร้างศูนย์ข้อมูลต้องใช้แรงงานฝีมือหลายแสนคนทั่วโลก ➡️ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี ➡️ สหราชอาณาจักรจะเป็นศูนย์กลางการขยายโครงสร้าง AI ในทศวรรษหน้า ➡️ Larry Fink และ Brad Smith เตือนถึงวิกฤตแรงงานฝีมือในสหรัฐฯ ➡️ Google ลงทุนฝึกอบรมช่างไฟฟ้า 130,000 คนเพื่อรองรับความต้องการ ➡️ CSIS ระบุว่าต้องเพิ่มแรงงานฝีมืออีก 140,000 คนภายในปี 2030 ➡️ Huang มองว่า AI จะเปลี่ยนทุกงาน แต่คนที่ใช้ AI ได้จะเป็นผู้ได้เปรียบ ➡️ เขาแนะนำให้คนรุ่นใหม่หันไปเรียนสายวิทยาศาสตร์กายภาพ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 250,000 ตารางฟุตต้องใช้แรงงานก่อสร้างถึง 1,500 คน ➡️ งานช่างฝีมือในศูนย์ข้อมูลมีรายได้เฉลี่ยมากกว่า $100,000 ต่อปี ➡️ การขาดแรงงานฝีมือเกิดจากการลดการฝึกอบรมและนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด ➡️ การขยายศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจใช้เงินลงทุนรวมกว่า $7 ล้านล้านภายในปี 2030 ➡️ การสร้างงานในศูนย์ข้อมูลหนึ่งแห่งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรอบได้ถึง 3.5 เท่า https://www.slashgear.com/1987555/nvidia-ceo-ai-trade-jobs-electrians-plumbers/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Nvidia CEO Says These Two Trade Jobs Will Be Crucial To The AI Boom - SlashGear
    Nvidia CEO Jensen Huang says trades like electricians and plumbers will be crucial in building the data center infrastructure behind the AI boom.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รองนายกฯ สุชาติ” เปิดประเพณีวิ่งควาย ชลบุรี ครั้งที่ 154 “หนึ่งเดียวในไทย หนึ่งเดียวในโลก”
    https://www.thai-tai.tv/news/21784/
    .
    #ประเพณีวิ่งควาย #สุชาติชมกลิ่น #ชลบุรี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม #วิ่งควายชลบุรี #ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม #วิถีชีวิตชาวนา #กระตุ้นเศรษฐกิจ
    “รองนายกฯ สุชาติ” เปิดประเพณีวิ่งควาย ชลบุรี ครั้งที่ 154 “หนึ่งเดียวในไทย หนึ่งเดียวในโลก” https://www.thai-tai.tv/news/21784/ . #ประเพณีวิ่งควาย #สุชาติชมกลิ่น #ชลบุรี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม #วิ่งควายชลบุรี #ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม #วิถีชีวิตชาวนา #กระตุ้นเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบงค์ชาติมีทั้งจังหวะฝ่ายดีบริหารจัดการ,มีทั้งฝ่ายไม่ดีอำนวยประโยชน์ให้แบงค์เอกชน,แต่สุดท้ายเอาเข้าจริงๆแบงค์ชาติคือจุดเปลี่ยนทั้งหมดของเศรษฐกิจไทย ,จุดเปลี่ยนทั้งหมดที่จะทำให้คนไทยร่ำรวยหรือยากจนเพราะดูแลเรื่องเงินเรื่องตังของจริง,ธุรกรรมชั่วเลวใดที่เข้าไทย จะออกจากไทย แบงค์ชาติสั่งอายัดและตรวจสอบก่อนได้ทั้งหมด ยกเว้นกรณีพวกมาเหนือกฎหมาย ใช้อำนาจเหนือกฎหมายกระทำการผ่านช่องทางออกอื่นๆ เช่นหลบหนีการตรวจสอบจากตม.ไทยได้ ขนเงินขนทองคำออกนอกประเทศผ่านเครื่องบิน บินไปฝากไปฟอกตังที่สิงคโปร์เป็นต้น หรือทั่วประเทศ โดยอาศัยชนชั้นศักดินาอำมาตย์พิเศษตน เจ้าสัวพิเศษตน ผู้ดีเก่าตน เจ้าขุนมูลนายเก่าตน มันผ่านระบบตรวจสอบได้แน่นอนจากแบงค์ชาติ แม้แต่เกาะฟอกเงินต่างประเทศแบงค์ชาติไม่รู้ไม่เชื่อมโยงระบบก็อาจเป็นไปไม่ได้,เกาะฟอกเงินอาจโอนเข้าไทยผ่านแบงค์ชาตินี้ล่ะ,เอกชนไทยและเอกชนแบงค์ต่างประเทศใดรับโอนมาแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สั่งยึดอายัดได้หมด,แต่ความจริงเนื้องานไส้ในเราก็ไม่รู้ได้นั้นเอง.
    ..เงินทุนมากมายมาโจมตีไทย เข้าไทย ออกจากไทย ดูดจากไทย แบงค์ชาติรู้ภาพรวมยอดรวมต้นทางปลายทางหมดล่ะ,อำนาจทางการเงินของแบงค์ชาตินั้นเด็ดขาดได้,แต่จะเด็ดขาดกับอีลิทdeep stateนายตนเองคงยาก.
    ..แบงค์ชาติสามารถช่วยประชาชนคนไทยอยู่ดีมีสุขทางการเงินที่ใช้เงินจับจ่ายใช้สอยจริงได้ สามารถสร้างกลไกกองทุนหมู่บ้านที่มีประสิทธิภาพเสมือนสถาบันการเงินประจำหมู่บ้านนั้นๆได้ ตังจะหมุนเวียนในชุมชนแบงค์ชาติก็กำหนดเงื่อนไขกติกาได้,เชื่อมโยงระบบการตลาดกับแหล่งตลาดชุมชนแบบกองทุนร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านได้,ประสานรัฐบาลได้ มิให้แบงค์เอกชนมายุ่งเกี่ยวเป็นอิสระได้,สังกัดทางตรงกับแบงค์ชาติได้,ฟรีดอกเบี้ยแก่ประชาชนในหมู่บ้านก็ได้อีก สร้างกฎกติกาเงื่อนไขพิเศษช่วยชุมชนได้ หรือง่ายๆ เอากำไรที่ได้จากทองคำ มาแบ่งช่วยหมู่บ้านชุมชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบพิเศษฟรีดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สามารถใช้จ่ายผ่านกองทุนร้านค้าหมู่บ้านตนเท่านั้นหากมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเกิดขึ้น เช่นคนละครึ่งแบบนี้ ใช้จ่ายได้แค่ในตลาดชุมชน ในร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่ลงทะเบียนกับทางรัฐบาล ตังจะหมุนเวียนในประเทศในชุมชนทันที,ไม่มีตลาดกองทุนชุมชนก็ก่อตั้งขึ้นโดยผู้นำหมู่บ้านตำบลอำ้ภอจังหวัดสิ,ใช้เป็นตลาดกระจายสินค้าก็ได้ ตลาดแบบตลาดเทศบาลนั้นล่ะแต่ปลอดภาษี,ประชาชนสามารถเอาสินค้าตนเองทางการเกษตรมาขายอิสระเสรีได้ มีแหล่งตลาดเป็นของตนเองจริง ตลาดระดับชุมชนขนาดอำเภอ จังหวัดก็ว่าไป สร้างระบบบริการจัดการแบบตลาดเทศบาลอำเภอเมืองไป,เกษตรมีแบงค์ชาติปล่อยเงินกู้หมู่บ้านละ1ล้านบาทก่อนเพื่อเป็นปฐมชัยมี80,000หมู่บ้านชุมชนก็80,000ล้านบาท ประชาชนมากู้คนละ10,000บาทแค่นั้นก่อน,ปลูกผักสวนครัวได้,ฟรีดอกเบี้ย ชำระเงินต้นในสองปีข้างหน้า,ก็ช่วยชาวบ้านได้100คนเลยนะไม่น้อยเลย,คืนแค่เงินต้น,บางคนทำขนมเอาไปขายในตลาดชุมชนตน ปลูกพืชผักสวนครัว สัมมาอาชีพสาระพัด มาแลกเปลี่ยนค้าขายในตลาดชุมชนตน,รวมกลุ่มส่งออกได้อีก,เช่นคนละ10,000รวมกลุ่มใหญ่ ปลูกนั้นนี้ ส่งออกได้กำไรมาอาจเกินล้านบาท,เช่นกัญชาเสรี,อาจไม่ต่ำกว่า10ล้านบาทต่อรอบการผลิตแบบไทบ้าน,ฝิ่นเสรีขายให้โรงพยาบาลสกัดยาแก้ปวดเองเป็นต้น555,คือมีสาระพัดวิธีทำให้ประชาชนยืนด้วยขาตนเองได้ไม่เอาเปรียบสถานะชิงฐานะร่ำรวยของประชาชนไปแบบยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งบนบกและในทะเลสองฝั่งให้ต่างชาติ,เราทำเอง ขายน้ำมันราคาลิตร1-2บาทแบบอิหร่านนะ,วิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เรากำลังเจออยู่จะเป็นเรื่องขี้หมาทันที,ปากก็บอกชาติบ้านเมืองพบเจอวิกฤติเศรษฐกิจนะ วิกฤตินี้อันตรายมากพะนะ กระทบไทยแล้วมันมาจากยุโรปทางการเงินที่ล้มสลาย มุกจะก่อสงครามตัวแทนสู่สงครามโลกอีก.
    ..รัฐบาลชุดปัจจุบันสั่งกิจการในไทยทั้งหมดลดราคาน้ำมันลงเหลือลิตรละ10บาททุกๆชนิดดูสิ มีผลในพรุ่งนี้,เพราะต้นทุนผลิตจริงๆไม่กี่บาท,เช่นนั้นจะยกเลิกสัมปทานทั้งหมดจะเอกชนไทยหรือต่างประเทศเพราะไม่เคยนำเข้าสภาสส.สว.ไทยแม้แต่เคสสัมปทานเดียวและมันคือความมั่นคงทางอธิปไตยไทยด้านพลังงานชัดเจนด้วยที่ปล้นประเทศไทย,ยึดครองประเทศไทยผ่านmouสัญญาสัมปทานนี้นานกว่าเขมรยึด11จุดอีสานใต้อีก,ตั้งแต่ปี2522-23ไทยสมควรร่ำรวยนานแล้วโดยสามารถกระจายความร่ำรวยนี้แก่ภาคประชาชนคนไทยเราทุกๆคนไทยจนถึงปัจจุบัน,มันสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวได้ทันทีเป็นเรื่องภายในอธิปไตยความมั่นคงภายในเราชัดเจนด้วย.,mouสัมปทานบ่อน้ำมัน นานกฯอนุทินยกเลิกทั้งหมดได้เพราะไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเรา,สส.สว.เราเลย,เป็นmouสัญญาที่ทุจริตปล้นประเทศไทยด้านทรัพยากรชาติไทยผ่านกระบวนกฎหมายไทยที่ทุจริตไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประเทศตนเองโดยราชการไทยที่ไม่ซื่อสัตย์ดำเนินการเองให้เกิดขึ้น จะด้วยคณะครม.ชุดอดีตที่ผ่านมาก็ตามในรัฐบาลในอดีตรวมอธิบดีพลังงานต้นเรื่องด้วยที่ไม่เสนอเรื่องใหญ่โตระดับชาติภัยความมั่นคงทางด้านพลังงานที่เป็นกลไกที่แท้จริงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบและกระทบทุกๆมิติด้วย แต่ข้าราชการเลวชั่วไม่สุจริตจึงก่อการวางแผนสร้างเงื่อนไขสัญญาเลวชั่วนี้ขึ้นให้เป็นภัยต่อแผ่นดินไทยตนจนถูกครอบงำผูกขาดการตลาดน้ำมันสิ้น,จึงต้องโมฆะทั้งหมดทันทีที่ชอบธรรม,นายกฯอนุทินเซ็นต์อนุมัติสั่งการผ่านคณะครม.ได้ทันที,มีผลอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนตุลา.68นี้ก็ได้ให้อีกฝ่ายเก็บของออกจากประเทศไทยไป,อย่าหยาบจึงใช้กำลังผลักดันขับไล่ออกนอกประเทศไทยไป,นี้คือแผ่นดินไทย คืออธิปไตยไทย ต่างชาติจะมาปล้นทรัพยากรไทยไม่ใช่ทำง่ายๆแบบอดีตอีกแล้ว มันคือการปลดแอกปลดปล่อยและกอบกู้ประเทศไทยที่แท้จริง,เรื่องเขมรฮุนเซนเป็นเรื่องขี้หมาปลีกย่อย เพราะไอ้สารเลวห่านี้ก็อยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเราอันเดียวกัน บ่อทองคำด้วย,จึงตีมูลค่ากว่า20ล้านล้านบาทได้สบายมิใช่10ล้านล้านหรอก เผลอๆ100ล้านล้านบาทเลยเพราะคือส่วนหัวบ่อใหญ่เลย.

    https://youtube.com/shorts/MPch22srWUg?si=Z3hLWLwQ9iyzg1c3
    แบงค์ชาติมีทั้งจังหวะฝ่ายดีบริหารจัดการ,มีทั้งฝ่ายไม่ดีอำนวยประโยชน์ให้แบงค์เอกชน,แต่สุดท้ายเอาเข้าจริงๆแบงค์ชาติคือจุดเปลี่ยนทั้งหมดของเศรษฐกิจไทย ,จุดเปลี่ยนทั้งหมดที่จะทำให้คนไทยร่ำรวยหรือยากจนเพราะดูแลเรื่องเงินเรื่องตังของจริง,ธุรกรรมชั่วเลวใดที่เข้าไทย จะออกจากไทย แบงค์ชาติสั่งอายัดและตรวจสอบก่อนได้ทั้งหมด ยกเว้นกรณีพวกมาเหนือกฎหมาย ใช้อำนาจเหนือกฎหมายกระทำการผ่านช่องทางออกอื่นๆ เช่นหลบหนีการตรวจสอบจากตม.ไทยได้ ขนเงินขนทองคำออกนอกประเทศผ่านเครื่องบิน บินไปฝากไปฟอกตังที่สิงคโปร์เป็นต้น หรือทั่วประเทศ โดยอาศัยชนชั้นศักดินาอำมาตย์พิเศษตน เจ้าสัวพิเศษตน ผู้ดีเก่าตน เจ้าขุนมูลนายเก่าตน มันผ่านระบบตรวจสอบได้แน่นอนจากแบงค์ชาติ แม้แต่เกาะฟอกเงินต่างประเทศแบงค์ชาติไม่รู้ไม่เชื่อมโยงระบบก็อาจเป็นไปไม่ได้,เกาะฟอกเงินอาจโอนเข้าไทยผ่านแบงค์ชาตินี้ล่ะ,เอกชนไทยและเอกชนแบงค์ต่างประเทศใดรับโอนมาแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สั่งยึดอายัดได้หมด,แต่ความจริงเนื้องานไส้ในเราก็ไม่รู้ได้นั้นเอง. ..เงินทุนมากมายมาโจมตีไทย เข้าไทย ออกจากไทย ดูดจากไทย แบงค์ชาติรู้ภาพรวมยอดรวมต้นทางปลายทางหมดล่ะ,อำนาจทางการเงินของแบงค์ชาตินั้นเด็ดขาดได้,แต่จะเด็ดขาดกับอีลิทdeep stateนายตนเองคงยาก. ..แบงค์ชาติสามารถช่วยประชาชนคนไทยอยู่ดีมีสุขทางการเงินที่ใช้เงินจับจ่ายใช้สอยจริงได้ สามารถสร้างกลไกกองทุนหมู่บ้านที่มีประสิทธิภาพเสมือนสถาบันการเงินประจำหมู่บ้านนั้นๆได้ ตังจะหมุนเวียนในชุมชนแบงค์ชาติก็กำหนดเงื่อนไขกติกาได้,เชื่อมโยงระบบการตลาดกับแหล่งตลาดชุมชนแบบกองทุนร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านได้,ประสานรัฐบาลได้ มิให้แบงค์เอกชนมายุ่งเกี่ยวเป็นอิสระได้,สังกัดทางตรงกับแบงค์ชาติได้,ฟรีดอกเบี้ยแก่ประชาชนในหมู่บ้านก็ได้อีก สร้างกฎกติกาเงื่อนไขพิเศษช่วยชุมชนได้ หรือง่ายๆ เอากำไรที่ได้จากทองคำ มาแบ่งช่วยหมู่บ้านชุมชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบพิเศษฟรีดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สามารถใช้จ่ายผ่านกองทุนร้านค้าหมู่บ้านตนเท่านั้นหากมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเกิดขึ้น เช่นคนละครึ่งแบบนี้ ใช้จ่ายได้แค่ในตลาดชุมชน ในร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่ลงทะเบียนกับทางรัฐบาล ตังจะหมุนเวียนในประเทศในชุมชนทันที,ไม่มีตลาดกองทุนชุมชนก็ก่อตั้งขึ้นโดยผู้นำหมู่บ้านตำบลอำ้ภอจังหวัดสิ,ใช้เป็นตลาดกระจายสินค้าก็ได้ ตลาดแบบตลาดเทศบาลนั้นล่ะแต่ปลอดภาษี,ประชาชนสามารถเอาสินค้าตนเองทางการเกษตรมาขายอิสระเสรีได้ มีแหล่งตลาดเป็นของตนเองจริง ตลาดระดับชุมชนขนาดอำเภอ จังหวัดก็ว่าไป สร้างระบบบริการจัดการแบบตลาดเทศบาลอำเภอเมืองไป,เกษตรมีแบงค์ชาติปล่อยเงินกู้หมู่บ้านละ1ล้านบาทก่อนเพื่อเป็นปฐมชัยมี80,000หมู่บ้านชุมชนก็80,000ล้านบาท ประชาชนมากู้คนละ10,000บาทแค่นั้นก่อน,ปลูกผักสวนครัวได้,ฟรีดอกเบี้ย ชำระเงินต้นในสองปีข้างหน้า,ก็ช่วยชาวบ้านได้100คนเลยนะไม่น้อยเลย,คืนแค่เงินต้น,บางคนทำขนมเอาไปขายในตลาดชุมชนตน ปลูกพืชผักสวนครัว สัมมาอาชีพสาระพัด มาแลกเปลี่ยนค้าขายในตลาดชุมชนตน,รวมกลุ่มส่งออกได้อีก,เช่นคนละ10,000รวมกลุ่มใหญ่ ปลูกนั้นนี้ ส่งออกได้กำไรมาอาจเกินล้านบาท,เช่นกัญชาเสรี,อาจไม่ต่ำกว่า10ล้านบาทต่อรอบการผลิตแบบไทบ้าน,ฝิ่นเสรีขายให้โรงพยาบาลสกัดยาแก้ปวดเองเป็นต้น555,คือมีสาระพัดวิธีทำให้ประชาชนยืนด้วยขาตนเองได้ไม่เอาเปรียบสถานะชิงฐานะร่ำรวยของประชาชนไปแบบยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งบนบกและในทะเลสองฝั่งให้ต่างชาติ,เราทำเอง ขายน้ำมันราคาลิตร1-2บาทแบบอิหร่านนะ,วิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เรากำลังเจออยู่จะเป็นเรื่องขี้หมาทันที,ปากก็บอกชาติบ้านเมืองพบเจอวิกฤติเศรษฐกิจนะ วิกฤตินี้อันตรายมากพะนะ กระทบไทยแล้วมันมาจากยุโรปทางการเงินที่ล้มสลาย มุกจะก่อสงครามตัวแทนสู่สงครามโลกอีก. ..รัฐบาลชุดปัจจุบันสั่งกิจการในไทยทั้งหมดลดราคาน้ำมันลงเหลือลิตรละ10บาททุกๆชนิดดูสิ มีผลในพรุ่งนี้,เพราะต้นทุนผลิตจริงๆไม่กี่บาท,เช่นนั้นจะยกเลิกสัมปทานทั้งหมดจะเอกชนไทยหรือต่างประเทศเพราะไม่เคยนำเข้าสภาสส.สว.ไทยแม้แต่เคสสัมปทานเดียวและมันคือความมั่นคงทางอธิปไตยไทยด้านพลังงานชัดเจนด้วยที่ปล้นประเทศไทย,ยึดครองประเทศไทยผ่านmouสัญญาสัมปทานนี้นานกว่าเขมรยึด11จุดอีสานใต้อีก,ตั้งแต่ปี2522-23ไทยสมควรร่ำรวยนานแล้วโดยสามารถกระจายความร่ำรวยนี้แก่ภาคประชาชนคนไทยเราทุกๆคนไทยจนถึงปัจจุบัน,มันสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวได้ทันทีเป็นเรื่องภายในอธิปไตยความมั่นคงภายในเราชัดเจนด้วย.,mouสัมปทานบ่อน้ำมัน นานกฯอนุทินยกเลิกทั้งหมดได้เพราะไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเรา,สส.สว.เราเลย,เป็นmouสัญญาที่ทุจริตปล้นประเทศไทยด้านทรัพยากรชาติไทยผ่านกระบวนกฎหมายไทยที่ทุจริตไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประเทศตนเองโดยราชการไทยที่ไม่ซื่อสัตย์ดำเนินการเองให้เกิดขึ้น จะด้วยคณะครม.ชุดอดีตที่ผ่านมาก็ตามในรัฐบาลในอดีตรวมอธิบดีพลังงานต้นเรื่องด้วยที่ไม่เสนอเรื่องใหญ่โตระดับชาติภัยความมั่นคงทางด้านพลังงานที่เป็นกลไกที่แท้จริงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบและกระทบทุกๆมิติด้วย แต่ข้าราชการเลวชั่วไม่สุจริตจึงก่อการวางแผนสร้างเงื่อนไขสัญญาเลวชั่วนี้ขึ้นให้เป็นภัยต่อแผ่นดินไทยตนจนถูกครอบงำผูกขาดการตลาดน้ำมันสิ้น,จึงต้องโมฆะทั้งหมดทันทีที่ชอบธรรม,นายกฯอนุทินเซ็นต์อนุมัติสั่งการผ่านคณะครม.ได้ทันที,มีผลอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนตุลา.68นี้ก็ได้ให้อีกฝ่ายเก็บของออกจากประเทศไทยไป,อย่าหยาบจึงใช้กำลังผลักดันขับไล่ออกนอกประเทศไทยไป,นี้คือแผ่นดินไทย คืออธิปไตยไทย ต่างชาติจะมาปล้นทรัพยากรไทยไม่ใช่ทำง่ายๆแบบอดีตอีกแล้ว มันคือการปลดแอกปลดปล่อยและกอบกู้ประเทศไทยที่แท้จริง,เรื่องเขมรฮุนเซนเป็นเรื่องขี้หมาปลีกย่อย เพราะไอ้สารเลวห่านี้ก็อยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเราอันเดียวกัน บ่อทองคำด้วย,จึงตีมูลค่ากว่า20ล้านล้านบาทได้สบายมิใช่10ล้านล้านหรอก เผลอๆ100ล้านล้านบาทเลยเพราะคือส่วนหัวบ่อใหญ่เลย. https://youtube.com/shorts/MPch22srWUg?si=Z3hLWLwQ9iyzg1c3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อพิพาท 2 ปราสาท ไทยยึดประโยชน์ชาติ : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีที่กัมพูชายื่นศาลโลกให้พิจารณาปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม พื้นที่ข้อพิพาท เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วนโครงการคนละครึ่ง พลัส จะเริ่มภายในเดือน ตุลาคม นี้ โดยกันงบประมาณปี 2569 ไว้ใช้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมฟื้นการประชุม ครม. เศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เพื่อพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนกรณีวุฒิสภาสหรัฐฯ คว่ำร่างงบประมาณ ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าสู่การชัตดาวน์ในรอบ 7 ปี เป็นมาตรการของสหรัฐฯ แต่ในส่วนของไทยได้เจรจาเรื่องภาษีลงตัวแล้ว มองเศรษฐกิจผันผวนมาตลอด ต้องหาตลาดใหม่ไม่พึ่งพาแหล่งเดียว
    ข้อพิพาท 2 ปราสาท ไทยยึดประโยชน์ชาติ : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีที่กัมพูชายื่นศาลโลกให้พิจารณาปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม พื้นที่ข้อพิพาท เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วนโครงการคนละครึ่ง พลัส จะเริ่มภายในเดือน ตุลาคม นี้ โดยกันงบประมาณปี 2569 ไว้ใช้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมฟื้นการประชุม ครม. เศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เพื่อพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนกรณีวุฒิสภาสหรัฐฯ คว่ำร่างงบประมาณ ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าสู่การชัตดาวน์ในรอบ 7 ปี เป็นมาตรการของสหรัฐฯ แต่ในส่วนของไทยได้เจรจาเรื่องภาษีลงตัวแล้ว มองเศรษฐกิจผันผวนมาตลอด ต้องหาตลาดใหม่ไม่พึ่งพาแหล่งเดียว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มีข้อเสนอให้รัฐบาลใหม่ หากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ‘เร็ว & แรง’ ให้ทำโครงการ ‘คนละครึ่ง’ต่อเนื่อง 2 เฟส ใช้งบฯรวม 5 หมื่นล้านบาท ดันเงินหมุนเวียนในระบบเกินแสนล้านบาท หนุนจีดีพีไตรมาส 4/68โตเกินเป้า สร้างผลงานเด่นก่อนยุบสภา!
    มีข้อเสนอให้รัฐบาลใหม่ หากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ‘เร็ว & แรง’ ให้ทำโครงการ ‘คนละครึ่ง’ต่อเนื่อง 2 เฟส ใช้งบฯรวม 5 หมื่นล้านบาท ดันเงินหมุนเวียนในระบบเกินแสนล้านบาท หนุนจีดีพีไตรมาส 4/68โตเกินเป้า สร้างผลงานเด่นก่อนยุบสภา!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มาเลย์ฯ เมินลังกาวี แห่เที่ยวไทยคึกคัก

    ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรวมชาติมาเลเซีย และช่วงปิดภาคเรียน ระหว่างวันที่ 13-16 ก.ย.ที่ผ่านมา ภาคใต้ของไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียประมาณ 200,000 ราย จุดหมายปลายทางยอดนิยมมีทั้งอำเภอหาดใหญ่ และหาดสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา รวมทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยเฉพาะอำเภอเบตง ซึ่งภาคใต้ของไทยมีชื่อเสียงเรื่องความคุ้มค่า โดยเฉพาะค่าครองชีพที่ไม่สูง สแกน QR Code จ่ายเงินข้ามแดนได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย อาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ มีนักช้อปสนใจจับจ่ายห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีสินค้า อาหารพร้อมทาน และเครื่องดื่มที่ไม่มีขายในมาเลเซีย หรือสินค้าที่ราคาถูกกว่ามาเลเซีย รวมทั้งยังมีวัฒนธรรมที่งดงาม ความเป็นมิตรและอัธยาศัยดีของคนไทย

    ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.ถึง 14 ก.ย.2568 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนประเทศไทยสะสมรวม 3,278,963 คน เป็นอันดับหนึ่งแซงหน้านักท่องเที่ยวจีน

    ในทางกลับกัน นายไซนูดิน คาเดียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมการท่องเที่ยวลังกาวี (LTA) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Harian Metro สื่อมาเลเซียว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะลังกาวี รัฐเคดะห์ ในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรวมชาติมาเลเซีย ลดลง 30-39% เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน นักท่องเที่ยวภายในประเทศมาเลเซียจำนวนมาก เลือกเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ของไทย หลายคนเลือกจุดหมายปลายทางไปหาดใหญ่ เพราะข้อเสนอน่าสนใจกว่า และค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ปัญหาที่้เกิดขึ้นคือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ย่ำแย่ ทั้งเรือข้ามฟากที่ใช้เวลารอคิวยาวนาน หรือตั๋วเครื่องบินราคาสูงกว่า 1,000 ริงกิต (มากกว่า 7,500 บาท) แม้ว่าเกาะลังกาวียังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาให้ทันสมัยได้

    ด้านนายบาร์โจยา บาร์ได นักวิเคราะห์เศรษฐกิจในมาเลเซียกล่าวว่า มีชาวมาเลเซียราว 100,000 คนมุ่งหน้าไปยังประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาว มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 600 ริงกิตต่อคน (ประมาณ 4,500 บาท) คาดว่าเม็ดเงินจะไหลออกนอกประเทศมากกว่า 130 ล้านริงกิต (ประมาณ 982 ล้านบาท) ทั้งที่เงินจำนวนนี้ควรที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศมาเลเซีย แต่กลับสร้างรายได้มหาศาลแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจในประเทศพลาดโอกาสสร้างรายได้จากวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อปรับปรุงต้นทุนและประสบการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ กระแสนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ไหลออกนอกประเทศในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์จะยังคงมีอยู่ต่อไป

    #Newskit
    มาเลย์ฯ เมินลังกาวี แห่เที่ยวไทยคึกคัก ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรวมชาติมาเลเซีย และช่วงปิดภาคเรียน ระหว่างวันที่ 13-16 ก.ย.ที่ผ่านมา ภาคใต้ของไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียประมาณ 200,000 ราย จุดหมายปลายทางยอดนิยมมีทั้งอำเภอหาดใหญ่ และหาดสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา รวมทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยเฉพาะอำเภอเบตง ซึ่งภาคใต้ของไทยมีชื่อเสียงเรื่องความคุ้มค่า โดยเฉพาะค่าครองชีพที่ไม่สูง สแกน QR Code จ่ายเงินข้ามแดนได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย อาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ มีนักช้อปสนใจจับจ่ายห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีสินค้า อาหารพร้อมทาน และเครื่องดื่มที่ไม่มีขายในมาเลเซีย หรือสินค้าที่ราคาถูกกว่ามาเลเซีย รวมทั้งยังมีวัฒนธรรมที่งดงาม ความเป็นมิตรและอัธยาศัยดีของคนไทย ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.ถึง 14 ก.ย.2568 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนประเทศไทยสะสมรวม 3,278,963 คน เป็นอันดับหนึ่งแซงหน้านักท่องเที่ยวจีน ในทางกลับกัน นายไซนูดิน คาเดียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมการท่องเที่ยวลังกาวี (LTA) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Harian Metro สื่อมาเลเซียว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะลังกาวี รัฐเคดะห์ ในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันรวมชาติมาเลเซีย ลดลง 30-39% เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน นักท่องเที่ยวภายในประเทศมาเลเซียจำนวนมาก เลือกเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ของไทย หลายคนเลือกจุดหมายปลายทางไปหาดใหญ่ เพราะข้อเสนอน่าสนใจกว่า และค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ปัญหาที่้เกิดขึ้นคือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ย่ำแย่ ทั้งเรือข้ามฟากที่ใช้เวลารอคิวยาวนาน หรือตั๋วเครื่องบินราคาสูงกว่า 1,000 ริงกิต (มากกว่า 7,500 บาท) แม้ว่าเกาะลังกาวียังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาให้ทันสมัยได้ ด้านนายบาร์โจยา บาร์ได นักวิเคราะห์เศรษฐกิจในมาเลเซียกล่าวว่า มีชาวมาเลเซียราว 100,000 คนมุ่งหน้าไปยังประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาว มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 600 ริงกิตต่อคน (ประมาณ 4,500 บาท) คาดว่าเม็ดเงินจะไหลออกนอกประเทศมากกว่า 130 ล้านริงกิต (ประมาณ 982 ล้านบาท) ทั้งที่เงินจำนวนนี้ควรที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศมาเลเซีย แต่กลับสร้างรายได้มหาศาลแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจในประเทศพลาดโอกาสสร้างรายได้จากวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อปรับปรุงต้นทุนและประสบการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ กระแสนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ไหลออกนอกประเทศในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์จะยังคงมีอยู่ต่อไป #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซูเปอร์โพลสำรวจข้อดี-ข้อเสีย การเปิดหรือปิดด่านไทย-กัมพูชา พบ 38.9% กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน แต่ 60.7% ทำร้ายจิตใจคนไทย ทำลายศักดิ์ศรีคนไทย ยังไม่พร้อมคืนดี ให้อภัย

    อ่านต่อ...https://news1live.com/detail/9680000088021

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ซูเปอร์โพลสำรวจข้อดี-ข้อเสีย การเปิดหรือปิดด่านไทย-กัมพูชา พบ 38.9% กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน แต่ 60.7% ทำร้ายจิตใจคนไทย ทำลายศักดิ์ศรีคนไทย ยังไม่พร้อมคืนดี ให้อภัย อ่านต่อ...https://news1live.com/detail/9680000088021 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • Quick Win ‘คนละครึ่ง’ : [Biz Talk]

    เสียงสนับสนุนล้นหลาม กับการกลับมาของโครงการ ‘คนละครึ่ง’ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้เป็น Quick Win ให้รัฐบาลใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจได้ในเวลาอันสั้น ดันเงินหมุนในระบบ 1 รอบ แนะเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ เพิ่มมาตรการอื่นควบคู่กัน ประเมินจีดีพีปี 68 โต 1.8% ท่ามกลางปัจจัยท้าทายรอบด้าน!?
    Quick Win ‘คนละครึ่ง’ : [Biz Talk] เสียงสนับสนุนล้นหลาม กับการกลับมาของโครงการ ‘คนละครึ่ง’ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้เป็น Quick Win ให้รัฐบาลใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจได้ในเวลาอันสั้น ดันเงินหมุนในระบบ 1 รอบ แนะเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ เพิ่มมาตรการอื่นควบคู่กัน ประเมินจีดีพีปี 68 โต 1.8% ท่ามกลางปัจจัยท้าทายรอบด้าน!?
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สะพัดญี่ปุ่นกดดันไทย เปิดด่านให้เขมร

    การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือจีบีซี (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ซึ่งมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม เป็นผู้แทนฝ่ายไทย หนึ่งในข้อตกลงที่คนไทยทั้งประเทศไม่พอใจ คือ หารือการผ่อนปรนผ่านแดนบางประเภท บางจุด ระหว่างที่สถานการณ์ยังไม่เป็นปกติ เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และการขนส่งข้ามแดน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ไปหารือความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้ขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนบางจุดที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง โดยอาจเริ่มดำเนินการที่จุดผ่านแดนตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด

    พล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า เป็นเพียงการผ่อนปรนด้าน การขนส่งสินค้า ไม่ใช่การผ่อนปรนบุคคล โดยรถขนส่งไม่ได้เปิดเสรี แต่มีการจำกัดจำนวนเที่ยว เช่นเดียวกับที่ผ่านมา หากสังคมยังไม่ยอมรับ อาจพิจารณาผ่อนปรนเป็นรายกรณี เช่น 2–3 เที่ยวต่อวัน แต่หากมีเสียงสนับสนุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจขยายเป็น 20–30 เที่ยวต่อวัน ต้นเหตุของการเปิดด่านเกิดจากประเทศที่สาม ไม่ได้เกิดจากประเทศไทยและกัมพูชา เนื่องจากประเทศที่สาม แจ้งมาว่าไทย-กัมพูชา มีความขัดแย้งกัน เขาเกี่ยวอะไรด้วย ทำให้เขาเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุผลที่เรารับฟัง จึงเป็นที่มาของการหาทางออก ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เห็นด้วย

    แม้ พล.อ.ณัฐพล จะไม่ระบุว่าประเทศที่สามคือประเทศอะไร แต่สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชา ระบุแล้วว่าเป็นประเทศญี่ปุ่น สอดคล้องกับ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ระบุว่า ข่าวว่าประเทศที่ 3 เช่น ญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบเพราะส่งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เข้ากัมพูชาไม่ได้ และมีบางประเทศที่ส่งออกอุปกรณ์สื่อสารไปยังกัมพูชา

    ขณะที่สังคมไทยรับไม่ได้กับมาตรการที่เกิดขึ้น หากญี่ปุ่นต้องการส่งสินค้าไปยังกัมพูชาจริง ยังสามารถขนส่งทางเรือได้ เพราะกัมพูชามีท่าเรือน้ำลึก โดยมองว่าการตัดสินใจเปิดด่าน ทั้งที่ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่สงบเรียบร้อย เป็นการทำร้ายจิตใจคนไทย ที่ต้องสูญเสียทหารและพลเรือนนับสิบราย จากภาพจำเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์รวมทั้งเด็กต้องเสียชีวิต เพราะความขัดแย้งระหว่างตระกูลชินวัตร และตระกูลฮุน เซน ของกัมพูชา

    #Newskit
    สะพัดญี่ปุ่นกดดันไทย เปิดด่านให้เขมร การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือจีบีซี (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ซึ่งมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม เป็นผู้แทนฝ่ายไทย หนึ่งในข้อตกลงที่คนไทยทั้งประเทศไม่พอใจ คือ หารือการผ่อนปรนผ่านแดนบางประเภท บางจุด ระหว่างที่สถานการณ์ยังไม่เป็นปกติ เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และการขนส่งข้ามแดน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ไปหารือความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้ขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนบางจุดที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง โดยอาจเริ่มดำเนินการที่จุดผ่านแดนตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด พล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า เป็นเพียงการผ่อนปรนด้าน การขนส่งสินค้า ไม่ใช่การผ่อนปรนบุคคล โดยรถขนส่งไม่ได้เปิดเสรี แต่มีการจำกัดจำนวนเที่ยว เช่นเดียวกับที่ผ่านมา หากสังคมยังไม่ยอมรับ อาจพิจารณาผ่อนปรนเป็นรายกรณี เช่น 2–3 เที่ยวต่อวัน แต่หากมีเสียงสนับสนุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจขยายเป็น 20–30 เที่ยวต่อวัน ต้นเหตุของการเปิดด่านเกิดจากประเทศที่สาม ไม่ได้เกิดจากประเทศไทยและกัมพูชา เนื่องจากประเทศที่สาม แจ้งมาว่าไทย-กัมพูชา มีความขัดแย้งกัน เขาเกี่ยวอะไรด้วย ทำให้เขาเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุผลที่เรารับฟัง จึงเป็นที่มาของการหาทางออก ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เห็นด้วย แม้ พล.อ.ณัฐพล จะไม่ระบุว่าประเทศที่สามคือประเทศอะไร แต่สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชา ระบุแล้วว่าเป็นประเทศญี่ปุ่น สอดคล้องกับ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ระบุว่า ข่าวว่าประเทศที่ 3 เช่น ญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบเพราะส่งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เข้ากัมพูชาไม่ได้ และมีบางประเทศที่ส่งออกอุปกรณ์สื่อสารไปยังกัมพูชา ขณะที่สังคมไทยรับไม่ได้กับมาตรการที่เกิดขึ้น หากญี่ปุ่นต้องการส่งสินค้าไปยังกัมพูชาจริง ยังสามารถขนส่งทางเรือได้ เพราะกัมพูชามีท่าเรือน้ำลึก โดยมองว่าการตัดสินใจเปิดด่าน ทั้งที่ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่สงบเรียบร้อย เป็นการทำร้ายจิตใจคนไทย ที่ต้องสูญเสียทหารและพลเรือนนับสิบราย จากภาพจำเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์รวมทั้งเด็กต้องเสียชีวิต เพราะความขัดแย้งระหว่างตระกูลชินวัตร และตระกูลฮุน เซน ของกัมพูชา #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป๋าตังพร้อม!คนละครึ่ง : [NEWS UPDATE]
    นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เผยกรณีรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดนำโครงการคนละครึ่งมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ยืนยันในระบบพร้อมดำเนินการคือแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งดำเนินการได้เร็วที่สุด
    หากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนลงมาก็เดินหน้าได้ทันที ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2568 ส่วนเรื่องงบประมาณไม่มีปัญหา หากเริ่มโครงการวันที่ 1 ต.ค. 2568 สามารถใช้งบประมาณปี 2569 ขณะเดียวกัน ยังมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ประมาณ 25,000 ล้านบาท ที่โยกไปไว้ในงบกลางก็สามารถนำมาปรับรายการใช้ได้ ซึ่งถือว่าตรงตามวัตถุประสงค์


    ตรวจสอบหรือล้างแค้น

    ยอมรับเพื่อไทยตกต่ำ

    ไม่ย้ายขั้ว ไม่หักหลัง

    หวังคลังช่วยดันเศรษฐกิจ
    เป๋าตังพร้อม!คนละครึ่ง : [NEWS UPDATE] นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เผยกรณีรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดนำโครงการคนละครึ่งมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ยืนยันในระบบพร้อมดำเนินการคือแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งดำเนินการได้เร็วที่สุด หากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนลงมาก็เดินหน้าได้ทันที ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2568 ส่วนเรื่องงบประมาณไม่มีปัญหา หากเริ่มโครงการวันที่ 1 ต.ค. 2568 สามารถใช้งบประมาณปี 2569 ขณะเดียวกัน ยังมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ประมาณ 25,000 ล้านบาท ที่โยกไปไว้ในงบกลางก็สามารถนำมาปรับรายการใช้ได้ ซึ่งถือว่าตรงตามวัตถุประสงค์ ตรวจสอบหรือล้างแค้น ยอมรับเพื่อไทยตกต่ำ ไม่ย้ายขั้ว ไม่หักหลัง หวังคลังช่วยดันเศรษฐกิจ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ‘อนุทิน’ เผยแนวคิดปรับสัดส่วน ‘คนละครึ่ง’ ใหม่ เป็น 60:40 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ! ยันพร้อมสานต่อนโยบายดี ๆ
    https://www.thai-tai.tv/news/21393/
    .
    #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #คนละครึ่ง #นโยบายรัฐบาล #ข่าวการเมือง #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าววันนี้
    ‘อนุทิน’ เผยแนวคิดปรับสัดส่วน ‘คนละครึ่ง’ ใหม่ เป็น 60:40 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ! ยันพร้อมสานต่อนโยบายดี ๆ https://www.thai-tai.tv/news/21393/ . #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #คนละครึ่ง #นโยบายรัฐบาล #ข่าวการเมือง #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เราไม่สนใจว่ารัฐบาลเก่าจะไปหรือรัฐบาลใหม่จะมา,สำคัญคือตอนนีั ภาระกิจเร่งด่วนที่ต้องทำคือ 1.ยกเลิกmou43และ44 ทันที ประกาศกำหนดอัตรา1:50,000อย่างเป็นทางการผ่านรัฐบาลปัจจุบัน
    2.โอนตังเต็มจำนวนทันทีเพื่อสร้างกำแพงรั้วลวดหนามกั้นเขมรตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมร,ตามเสาเขตแดน1:1ที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า73-74เสาเขตแดนตามข้อตกลงสันปันน้ำกับฝรั่งเศสทีีได้พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณไปก่อนหน้านั้นแล้ว,ซึ่งตกลงกันชัดเจนจบแล้ว,เกิดก่อนmou43,44นี้อีก,เพราะหากอ้างสิทธิทวงคืนจริงๆเรายึดหมดทั้งเขมรได้เลย.
    ..รัฐบาลไทยอย่าปาหี่ เล่นละครลิงใดๆอีก,เรา..ประชาชนกำลังจับตามองรัฐบาลอยู่ ทหารไทยและประชาชนที่เสียชีวิตในครัังนี้จะไม่สูญเปล่า,หากมีการยึดอำนาจเกิดขึ้นจริงและยึดทรัพย์นักการเมืองทั้งหมดตลอดเครือญาติที่ร่วมมีส่วนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เรา..ประชาชนจะยืนเคียงข้างทหารทันที,หมดเวลาแก้ตัวใดๆหรือโอกาสอ้างทำเพื่อชาติบ้านเมืองได้แล้ว,กับเพียงแค่เศษเงินที่แจกจ่ายประชาชนหรืออ้างคำสวยหรูกระตุ้นเศรษฐกิจจับจ่าย สุดท้ายคือเข้าประเป๋านายทุนเจ้าสัวและคนต่างชาติที่อยู่ในไทยทำกิจการในไทย.,แต่เม็ดเงินมหาศาลที่แท้จริงกลับไปไม่ถึงประชาชน ช่วยเหลือประชาชนจริง,ทหารไทยเราคงสิ้นความอดทนเช่นเดียวกับประชาชนเช่นกันแน่นอน.,และอาจเลวร้ายกว่าอินโดฯกว่าพฤษภามทิฬอีกหรือกว่าเสื้อแดงสั่งเผาศาลากลางอีก เผาเลย เผาเลยแบบนั้น.
    ..ประชาชนผู้บริสุทธิ์และทหารหาญเราต้องเสียสละตนไม่สูญเปล่า.,ตลอดรวมทั้งที่บาดเจ็บและพิการไม่น้อย.

    #นี้คือแผ่นดินไทย



    https://youtube.com/shorts/6cwuSmKFvvo?si=gedlAD5QeCvNIgDy
    ..เราไม่สนใจว่ารัฐบาลเก่าจะไปหรือรัฐบาลใหม่จะมา,สำคัญคือตอนนีั ภาระกิจเร่งด่วนที่ต้องทำคือ 1.ยกเลิกmou43และ44 ทันที ประกาศกำหนดอัตรา1:50,000อย่างเป็นทางการผ่านรัฐบาลปัจจุบัน 2.โอนตังเต็มจำนวนทันทีเพื่อสร้างกำแพงรั้วลวดหนามกั้นเขมรตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมร,ตามเสาเขตแดน1:1ที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า73-74เสาเขตแดนตามข้อตกลงสันปันน้ำกับฝรั่งเศสทีีได้พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณไปก่อนหน้านั้นแล้ว,ซึ่งตกลงกันชัดเจนจบแล้ว,เกิดก่อนmou43,44นี้อีก,เพราะหากอ้างสิทธิทวงคืนจริงๆเรายึดหมดทั้งเขมรได้เลย. ..รัฐบาลไทยอย่าปาหี่ เล่นละครลิงใดๆอีก,เรา..ประชาชนกำลังจับตามองรัฐบาลอยู่ ทหารไทยและประชาชนที่เสียชีวิตในครัังนี้จะไม่สูญเปล่า,หากมีการยึดอำนาจเกิดขึ้นจริงและยึดทรัพย์นักการเมืองทั้งหมดตลอดเครือญาติที่ร่วมมีส่วนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เรา..ประชาชนจะยืนเคียงข้างทหารทันที,หมดเวลาแก้ตัวใดๆหรือโอกาสอ้างทำเพื่อชาติบ้านเมืองได้แล้ว,กับเพียงแค่เศษเงินที่แจกจ่ายประชาชนหรืออ้างคำสวยหรูกระตุ้นเศรษฐกิจจับจ่าย สุดท้ายคือเข้าประเป๋านายทุนเจ้าสัวและคนต่างชาติที่อยู่ในไทยทำกิจการในไทย.,แต่เม็ดเงินมหาศาลที่แท้จริงกลับไปไม่ถึงประชาชน ช่วยเหลือประชาชนจริง,ทหารไทยเราคงสิ้นความอดทนเช่นเดียวกับประชาชนเช่นกันแน่นอน.,และอาจเลวร้ายกว่าอินโดฯกว่าพฤษภามทิฬอีกหรือกว่าเสื้อแดงสั่งเผาศาลากลางอีก เผาเลย เผาเลยแบบนั้น. ..ประชาชนผู้บริสุทธิ์และทหารหาญเราต้องเสียสละตนไม่สูญเปล่า.,ตลอดรวมทั้งที่บาดเจ็บและพิการไม่น้อย. #นี้คือแผ่นดินไทย https://youtube.com/shorts/6cwuSmKFvvo?si=gedlAD5QeCvNIgDy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคภูมิใจไทยพร้อมเดินหน้า โครงการคนละครึ่ง ประเดิมใช้งบกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจทันที ขณะที่ นโยบายตั๋วรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน กำลังจับตาว่าจะได้ลงมือปฏิบัติจริงหรือไม่ หลังมีนายอนุทิน นั่งนายกรัฐมนตรี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000086145

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    พรรคภูมิใจไทยพร้อมเดินหน้า โครงการคนละครึ่ง ประเดิมใช้งบกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจทันที ขณะที่ นโยบายตั๋วรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน กำลังจับตาว่าจะได้ลงมือปฏิบัติจริงหรือไม่ หลังมีนายอนุทิน นั่งนายกรัฐมนตรี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000086145 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคภูมิใจไทยพร้อมเดินหน้า โครงการคนละครึ่ง ประเดิมใช้งบกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจทันที ขณะที่ นโยบายตั๋วรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน กำลังจับตาว่าจะได้ลงมือปฏิบัติจริงหรือไม่ หลังพรรคขึ้นเป็นแกนนำรัฐบาลและมีนายอนุทิน นั่งนายกรัฐมนตรี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086139

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พรรคภูมิใจไทยพร้อมเดินหน้า โครงการคนละครึ่ง ประเดิมใช้งบกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจทันที ขณะที่ นโยบายตั๋วรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน กำลังจับตาว่าจะได้ลงมือปฏิบัติจริงหรือไม่ หลังพรรคขึ้นเป็นแกนนำรัฐบาลและมีนายอนุทิน นั่งนายกรัฐมนตรี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086139 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อนุทิน" โชว์ตัว 3 ว่าที่ รมต.เศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม "เอกนิติ" นั่งขุนคลังเตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ "สีหศักดิ์" เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย -กัมพูชา ขณะ "อรรถพล" อดีต CEO ปตท.นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย รับเก้าอี้กลาโหมต้องมีความรู้ในวิชาชีพ บัตรตอบ "บิ๊กป้อม - ธรรมนัส" ชิงดำ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085387

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "อนุทิน" โชว์ตัว 3 ว่าที่ รมต.เศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม "เอกนิติ" นั่งขุนคลังเตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ "สีหศักดิ์" เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย -กัมพูชา ขณะ "อรรถพล" อดีต CEO ปตท.นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย รับเก้าอี้กลาโหมต้องมีความรู้ในวิชาชีพ บัตรตอบ "บิ๊กป้อม - ธรรมนัส" ชิงดำ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085387 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    บทสรุป
    อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร
    กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ
    เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ
    นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ?
    – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย
    – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration)
    – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu
    การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน
    ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี!
    ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ
    ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa
    ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย)
    ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ?
    นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้
    เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” บทสรุป อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ? – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration) – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี! ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย) ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ? นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้ เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายคุณหลอกดาวซ้ำสอง

    ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ จากคดีคลิปเสียงอังเคิลในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค.นี้ แม้รัฐบาลถูลู่ถูกังเปิดให้ลงทะเบียนผูกบัตร EMV (บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด) และบัตรแรบบิท (Rabbit) เพื่อรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคนในระยะเวลา 2 วัน แต่แล้วคนกรุงฯ ต้องฝันสลาย เมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยอมรับแล้วว่าดำเนินโครงการไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องจ่ายราคาเดิมไปก่อน

    สาเหตุหลักมาจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดึงเงินสะสมและรายได้ชดเชย มาใช้กับโครงการนี้ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่แก้ไขโดยเปิดช่องให้กู้เงินจากกระทรวงการคลังได้ เพราะรายได้จาก รฟม. ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง จะเปลี่ยนไปเข้ากองทุนตั๋วร่วมฯ ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจ ปรากฎว่าสภาผู้แทนราษฎร เจอปัญหาองค์ประชุมเพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำบ่อยครั้ง แถมเมื่อรัฐบาลสอบถามกฤษฎีกาว่าจะเอางบกลางมาใช้หรือไม่ กฤษฎีกาก็ตอบว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน

    สิ่งเดียวที่ทำได้ของรัฐบาล คือถูฝ่ามือรอให้กฎหมายทั้งสองฉบับผ่านที่ประชุมสภาฯ ก่อน โดยใช้โฆษกพรรค สมาชิกพรรค และสื่อบางส่วนคอยตะล่อม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน หากผ่านด่านแรกไปได้ ส่งต่อด่านสองให้วุฒิสภา ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามพรรคเพื่อไทยคุมเสียงในสภาสูง แม้จะผ่านกฎหมายแล้ว ยังต้องออกกฎหมายลูกที่ต้องรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน นายสุริยะจะเสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เร็วขึ้น อ้างว่านโยบายเป็นบวกกับประชาชน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2568 ถึงกระนั้น จากคดีคลิปเสียงก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยังอยู่หรือไม่

    หากรัฐบาลแพทองธารต้องยุติลงและเปลี่ยนขั้วอำนาจรัฐบาล นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคลมว่าเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย สังคมจะเกิดความรู้สึกรอเก้อเหมือนถูกหลอก ไม่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐมากถึง 36 ล้านคน แต่สุดท้ายได้แต่โอนเงินพร้อมเพย์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบาง ก่อนพับโครงการ โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือมาตรการภาษีขาเข้า (Tariff) จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา

    #Newskit
    รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายคุณหลอกดาวซ้ำสอง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ จากคดีคลิปเสียงอังเคิลในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค.นี้ แม้รัฐบาลถูลู่ถูกังเปิดให้ลงทะเบียนผูกบัตร EMV (บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด) และบัตรแรบบิท (Rabbit) เพื่อรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคนในระยะเวลา 2 วัน แต่แล้วคนกรุงฯ ต้องฝันสลาย เมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยอมรับแล้วว่าดำเนินโครงการไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องจ่ายราคาเดิมไปก่อน สาเหตุหลักมาจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดึงเงินสะสมและรายได้ชดเชย มาใช้กับโครงการนี้ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่แก้ไขโดยเปิดช่องให้กู้เงินจากกระทรวงการคลังได้ เพราะรายได้จาก รฟม. ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง จะเปลี่ยนไปเข้ากองทุนตั๋วร่วมฯ ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจ ปรากฎว่าสภาผู้แทนราษฎร เจอปัญหาองค์ประชุมเพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำบ่อยครั้ง แถมเมื่อรัฐบาลสอบถามกฤษฎีกาว่าจะเอางบกลางมาใช้หรือไม่ กฤษฎีกาก็ตอบว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน สิ่งเดียวที่ทำได้ของรัฐบาล คือถูฝ่ามือรอให้กฎหมายทั้งสองฉบับผ่านที่ประชุมสภาฯ ก่อน โดยใช้โฆษกพรรค สมาชิกพรรค และสื่อบางส่วนคอยตะล่อม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน หากผ่านด่านแรกไปได้ ส่งต่อด่านสองให้วุฒิสภา ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามพรรคเพื่อไทยคุมเสียงในสภาสูง แม้จะผ่านกฎหมายแล้ว ยังต้องออกกฎหมายลูกที่ต้องรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน นายสุริยะจะเสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เร็วขึ้น อ้างว่านโยบายเป็นบวกกับประชาชน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2568 ถึงกระนั้น จากคดีคลิปเสียงก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยังอยู่หรือไม่ หากรัฐบาลแพทองธารต้องยุติลงและเปลี่ยนขั้วอำนาจรัฐบาล นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคลมว่าเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย สังคมจะเกิดความรู้สึกรอเก้อเหมือนถูกหลอก ไม่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐมากถึง 36 ล้านคน แต่สุดท้ายได้แต่โอนเงินพร้อมเพย์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบาง ก่อนพับโครงการ โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือมาตรการภาษีขาเข้า (Tariff) จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุชาติ" ยกทัพสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจำหน่ายให้พี่น้องชาวฉะเชิงเทรา ในงาน "ธงฟ้ากระตุ้นเศรษฐกิจ จังหวัดฉะเชิงเทรา"
    https://www.thai-tai.tv/news/21132/
    .
    #กระทรวงพาณิชย์ #ธงฟ้า #ลดค่าครองชีพ #ข่าวเศรษฐกิจ #ฉะเชิงเทรา #ไทยไท
    "สุชาติ" ยกทัพสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจำหน่ายให้พี่น้องชาวฉะเชิงเทรา ในงาน "ธงฟ้ากระตุ้นเศรษฐกิจ จังหวัดฉะเชิงเทรา" https://www.thai-tai.tv/news/21132/ . #กระทรวงพาณิชย์ #ธงฟ้า #ลดค่าครองชีพ #ข่าวเศรษฐกิจ #ฉะเชิงเทรา #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่พร้อมเพย์ ใช้เลขผีผูกบัญชีกองทุน

    เรื่องอื้อฉาวของพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ยังคงถูกสังคมตั้งคำถามหลายประเด็น ทั้งความไม่โปร่งใสของเงินบริจาค การโอนทรัพย์สินให้คนใกล้ชิด วุฒิการศึกษาที่คลาดเคลื่อน การพบศพมากกว่า 20 ศพภายในวัด กรณีล่าสุดคือการนำชื่อ "อลงกต พลมุข" และเลขประจำตัวประชาชน ของบุคคลอื่นที่เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2566 มาแอบอ้างในใบสุทธิ แม้กรมการปกครองจะชี้แจงว่าทั้งหลวงพ่ออลงกต และผู้เสียชีวิตไม่ใช่บุคคลเดียวกัน แต่เมื่อมีชาวเน็ตนำเลขประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิตไปโอนเงินพร้อมเพย์ พบว่าขึ้นบัญชีปลายทาง "กองทุนอาทรประชานาถ"

    Newskit ทำการทดลองโอนเงินจำนวน 0.10 บาท เมื่อเวลา 23.07 น. วันที่ 23 ส.ค. เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นการโอนเงินพร้อมเพย์ เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่ xxx-x-xx697-1 ชื่อบัญชี กองทุนอาทรประชานาถ ตรงกับบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 289-0-84697-1 ซึ่งเป็นบัญชีที่ใช้ประชาสัมพันธ์ร่วมบุญกับวัดพระบาทน้ำพุ จึงเกิดคำถามว่า โดยปกติการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ ชื่อบัญชีปลายทาง จะต้องเป็นชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชี ทำไมธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี ถึงสามารถผูกบัญชี กับชื่อบัญชีที่ไม่ใช่ชื่อและนามสกุลได้

    ทั้งนี้ หลักการลงทะเบียนพร้อมเพย์ นอกจากจะให้ประชาชนสามารถโอนเงินให้กันได้ โดยไม่ต้องจำเลขบัญชีธนาคารแล้ว สำหรับพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ โอนเงินผ่านเลขประจำตัวประชาชนได้โดยตรง เช่น การจ่ายเงินสวัสดิการต่างๆ การคืนเงินภาษี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น แจกเงิน 10,000 บาท โดยหลักการชื่อบัญชีจะต้องตรงกับบุคคลตามเลขประจำตัวประชาชน

    ถ้าหากเป็นการโอนเงินให้วัด จะต้องทำผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ซึ่งวัดพระบาทน้ำพุ มีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค 0994002092188 โดยวัดพระบาทน้ำพุ ได้ทำระบบ e-Donation ไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ โดยได้ออก QR Code เลขที่ Biller ID : 099400209218893

    ไม่นับรวมการผูกพร้อมเพย์ด้วยเบอร์มือถือกับบัญชีธนาคาร ยังมีช่องโหว่ตรงที่หากชื่อผู้จดทะเบียนหรือลงทะเบียนเบอร์มือถือที่ให้ไว้กับสำนักงาน กสทช. กับชื่อบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะมีมาตรการเข้มงวด จะมีมาตรการแก้ไขปัญหาและตรวจสอบย้อนหลังอย่างไร เพื่อไม่ให้กลายเป็นช่องทางในการทุจริตหรือนำไปใช้เพื่อหลอกลวงผู้อื่น ถือเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่สมาคมธนาคารไทยต้องชี้แจง

    #Newskit
    ช่องโหว่พร้อมเพย์ ใช้เลขผีผูกบัญชีกองทุน เรื่องอื้อฉาวของพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ยังคงถูกสังคมตั้งคำถามหลายประเด็น ทั้งความไม่โปร่งใสของเงินบริจาค การโอนทรัพย์สินให้คนใกล้ชิด วุฒิการศึกษาที่คลาดเคลื่อน การพบศพมากกว่า 20 ศพภายในวัด กรณีล่าสุดคือการนำชื่อ "อลงกต พลมุข" และเลขประจำตัวประชาชน ของบุคคลอื่นที่เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2566 มาแอบอ้างในใบสุทธิ แม้กรมการปกครองจะชี้แจงว่าทั้งหลวงพ่ออลงกต และผู้เสียชีวิตไม่ใช่บุคคลเดียวกัน แต่เมื่อมีชาวเน็ตนำเลขประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิตไปโอนเงินพร้อมเพย์ พบว่าขึ้นบัญชีปลายทาง "กองทุนอาทรประชานาถ" Newskit ทำการทดลองโอนเงินจำนวน 0.10 บาท เมื่อเวลา 23.07 น. วันที่ 23 ส.ค. เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นการโอนเงินพร้อมเพย์ เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่ xxx-x-xx697-1 ชื่อบัญชี กองทุนอาทรประชานาถ ตรงกับบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี เลขที่บัญชี 289-0-84697-1 ซึ่งเป็นบัญชีที่ใช้ประชาสัมพันธ์ร่วมบุญกับวัดพระบาทน้ำพุ จึงเกิดคำถามว่า โดยปกติการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ ชื่อบัญชีปลายทาง จะต้องเป็นชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชี ทำไมธนาคารกรุงเทพ สาขาลพบุรี ถึงสามารถผูกบัญชี กับชื่อบัญชีที่ไม่ใช่ชื่อและนามสกุลได้ ทั้งนี้ หลักการลงทะเบียนพร้อมเพย์ นอกจากจะให้ประชาชนสามารถโอนเงินให้กันได้ โดยไม่ต้องจำเลขบัญชีธนาคารแล้ว สำหรับพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ โอนเงินผ่านเลขประจำตัวประชาชนได้โดยตรง เช่น การจ่ายเงินสวัสดิการต่างๆ การคืนเงินภาษี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น แจกเงิน 10,000 บาท โดยหลักการชื่อบัญชีจะต้องตรงกับบุคคลตามเลขประจำตัวประชาชน ถ้าหากเป็นการโอนเงินให้วัด จะต้องทำผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ซึ่งวัดพระบาทน้ำพุ มีเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค 0994002092188 โดยวัดพระบาทน้ำพุ ได้ทำระบบ e-Donation ไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ โดยได้ออก QR Code เลขที่ Biller ID : 099400209218893 ไม่นับรวมการผูกพร้อมเพย์ด้วยเบอร์มือถือกับบัญชีธนาคาร ยังมีช่องโหว่ตรงที่หากชื่อผู้จดทะเบียนหรือลงทะเบียนเบอร์มือถือที่ให้ไว้กับสำนักงาน กสทช. กับชื่อบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะมีมาตรการเข้มงวด จะมีมาตรการแก้ไขปัญหาและตรวจสอบย้อนหลังอย่างไร เพื่อไม่ให้กลายเป็นช่องทางในการทุจริตหรือนำไปใช้เพื่อหลอกลวงผู้อื่น ถือเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่สมาคมธนาคารไทยต้องชี้แจง #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • TouristDigiPay – เมื่อคริปโตกลายเป็นกุญแจฟื้นการท่องเที่ยวไทย

    ประเทศไทยกำลังเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ซบเซา ด้วยโครงการ “TouristDigiPay” มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแปลงคริปโตเป็นเงินบาทผ่าน e-wallet เพื่อใช้จ่ายในประเทศ โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิต

    โครงการนี้จะเริ่มในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 และดำเนินการเป็นเวลา 18 เดือนในรูปแบบ “regulatory sandbox” ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงาน ปปง., ก.ล.ต. และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

    นักท่องเที่ยวจะไม่จ่ายเงินด้วยคริปโตโดยตรง แต่จะต้องแปลงผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตเข้าสู่ e-wallet ที่ใช้จ่ายเป็นเงินบาทเท่านั้น โดยจำกัดการใช้จ่ายรายเดือนสูงสุด 500,000 บาท และร้านค้าขนาดเล็กจะถูกจำกัดไว้ที่ 50,000 บาท ส่วนธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกตัดออกจากโครงการ

    เหตุผลหลักคือการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ หลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง โดยเฉพาะจากจีนที่ลดลงถึง 34% ในครึ่งปีแรกของ 2025

    นอกจากนี้ ประเทศอื่นก็เริ่มใช้คริปโตในภาคการท่องเที่ยวเช่นกัน เช่น ภูฏานที่ร่วมมือกับ Binance Pay, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ให้จ่ายค่าโดยสารสายการบินด้วยคริปโต และแม้แต่ Blue Origin ของ Jeff Bezos ก็รับ Bitcoin กับ Ether สำหรับการท่องเที่ยวอวกาศ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    โครงการ TouristDigiPay เปิดให้นักท่องเที่ยวแปลงคริปโตเป็นเงินบาทผ่าน e-wallet
    ดำเนินการเป็นเวลา 18 เดือนในรูปแบบ regulatory sandbox
    หน่วยงานกำกับดูแลประกอบด้วยกระทรวงการคลัง, ธปท., ปปง., ก.ล.ต. และกระทรวงการท่องเที่ยว
    นักท่องเที่ยวไม่จ่ายคริปโตโดยตรง แต่ใช้เงินบาทผ่านระบบหลังบ้าน
    จำกัดการใช้จ่ายรายเดือนที่ 500,000 บาท และร้านค้าขนาดเล็กที่ 50,000 บาท
    ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกตัดออกจากโครงการ
    เป้าหมายคือกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ซบเซา โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน
    ตัวเลขนักท่องเที่ยวครึ่งปีแรก 2025 อยู่ที่ 16.8 ล้านคน ลดลงจาก 17.7 ล้านคนในปีที่แล้ว
    รัฐบาลลดเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 2025 จาก 37 ล้านคน เหลือ 33 ล้านคน
    รองนายกฯ และ รมว.คลังระบุว่าโครงการนี้ช่วยลดการพึ่งพาเงินสดและบัตรเครดิต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ภูฏานร่วมมือกับ Binance Pay เพื่อเปิดรับคริปโตในภาคการท่องเที่ยว
    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้จ่ายค่าโดยสารสายการบินด้วยคริปโตผ่าน Crypto.com
    Blue Origin รับ Bitcoin และ Ether สำหรับการท่องเที่ยวอวกาศ
    ประเทศไทยกำลังพิจารณาให้คริปโตเชื่อมกับบัตรเครดิตเพื่อใช้จ่ายในประเทศ
    มีแผนรวมตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กฎหมายเดียวเพื่อความคล่องตัวของนักลงทุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/thailands-usd15b-touristdigipay-scheme-will-let-visitors-convert-crypto-to-baht-18-month-pilot-program-is-engineered-to-revive-slumping-tourism-in-the-region
    🎙️ TouristDigiPay – เมื่อคริปโตกลายเป็นกุญแจฟื้นการท่องเที่ยวไทย ประเทศไทยกำลังเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ซบเซา ด้วยโครงการ “TouristDigiPay” มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแปลงคริปโตเป็นเงินบาทผ่าน e-wallet เพื่อใช้จ่ายในประเทศ โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิต โครงการนี้จะเริ่มในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 และดำเนินการเป็นเวลา 18 เดือนในรูปแบบ “regulatory sandbox” ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงาน ปปง., ก.ล.ต. และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ นักท่องเที่ยวจะไม่จ่ายเงินด้วยคริปโตโดยตรง แต่จะต้องแปลงผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตเข้าสู่ e-wallet ที่ใช้จ่ายเป็นเงินบาทเท่านั้น โดยจำกัดการใช้จ่ายรายเดือนสูงสุด 500,000 บาท และร้านค้าขนาดเล็กจะถูกจำกัดไว้ที่ 50,000 บาท ส่วนธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกตัดออกจากโครงการ เหตุผลหลักคือการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ หลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง โดยเฉพาะจากจีนที่ลดลงถึง 34% ในครึ่งปีแรกของ 2025 นอกจากนี้ ประเทศอื่นก็เริ่มใช้คริปโตในภาคการท่องเที่ยวเช่นกัน เช่น ภูฏานที่ร่วมมือกับ Binance Pay, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ให้จ่ายค่าโดยสารสายการบินด้วยคริปโต และแม้แต่ Blue Origin ของ Jeff Bezos ก็รับ Bitcoin กับ Ether สำหรับการท่องเที่ยวอวกาศ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ โครงการ TouristDigiPay เปิดให้นักท่องเที่ยวแปลงคริปโตเป็นเงินบาทผ่าน e-wallet ➡️ ดำเนินการเป็นเวลา 18 เดือนในรูปแบบ regulatory sandbox ➡️ หน่วยงานกำกับดูแลประกอบด้วยกระทรวงการคลัง, ธปท., ปปง., ก.ล.ต. และกระทรวงการท่องเที่ยว ➡️ นักท่องเที่ยวไม่จ่ายคริปโตโดยตรง แต่ใช้เงินบาทผ่านระบบหลังบ้าน ➡️ จำกัดการใช้จ่ายรายเดือนที่ 500,000 บาท และร้านค้าขนาดเล็กที่ 50,000 บาท ➡️ ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกตัดออกจากโครงการ ➡️ เป้าหมายคือกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ซบเซา โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน ➡️ ตัวเลขนักท่องเที่ยวครึ่งปีแรก 2025 อยู่ที่ 16.8 ล้านคน ลดลงจาก 17.7 ล้านคนในปีที่แล้ว ➡️ รัฐบาลลดเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 2025 จาก 37 ล้านคน เหลือ 33 ล้านคน ➡️ รองนายกฯ และ รมว.คลังระบุว่าโครงการนี้ช่วยลดการพึ่งพาเงินสดและบัตรเครดิต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ภูฏานร่วมมือกับ Binance Pay เพื่อเปิดรับคริปโตในภาคการท่องเที่ยว ➡️ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้จ่ายค่าโดยสารสายการบินด้วยคริปโตผ่าน Crypto.com ➡️ Blue Origin รับ Bitcoin และ Ether สำหรับการท่องเที่ยวอวกาศ ➡️ ประเทศไทยกำลังพิจารณาให้คริปโตเชื่อมกับบัตรเครดิตเพื่อใช้จ่ายในประเทศ ➡️ มีแผนรวมตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กฎหมายเดียวเพื่อความคล่องตัวของนักลงทุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/thailands-usd15b-touristdigipay-scheme-will-let-visitors-convert-crypto-to-baht-18-month-pilot-program-is-engineered-to-revive-slumping-tourism-in-the-region
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
  • เข็นงบ’69 ผ่านด่านวุฒิสภา : [Biz Talk]
    ด่านต่อไป วุฒิสภา 25-26 ส.ค.68 / คลัง มั่นใจ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท จะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแน่ ไม่หวั่น เกมการเมืองป่วน! หวังงบ69 ที่จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.68 และการปลดล็อคปมกดดัน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งปี68 โตเกิน2%
    เข็นงบ’69 ผ่านด่านวุฒิสภา : [Biz Talk] ด่านต่อไป วุฒิสภา 25-26 ส.ค.68 / คลัง มั่นใจ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท จะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแน่ ไม่หวั่น เกมการเมืองป่วน! หวังงบ69 ที่จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.68 และการปลดล็อคปมกดดัน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งปี68 โตเกิน2%
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • จริงๆนำโดยไทยซึ่งเป็นคู่กรณีแล้วตัวจริงและปรากฎชัดเจนร่วมกับจีน ยื่นฟ้องอาชญากรและอาชญากรรมเขมรต่อฑูตประจำประเทศไทยทั้งประสานฑูตจีนร่วมไล่ล่ายื่นฟ้องตรวจสอบสถานะการมีอยู่ของแหล่งเงินทุนเขมรที่กระจายฟอกเงินอยู่ในทุกๆประเทศทั่วโลกเพื่อตรวจสอบร่วมกันได้ ทั้งธนาคารสิงคโปร์ เกาะเคแมน เกาะฟอกเงินต่างๆด้วย ประเทศใดร่วมปกปิดปิดบังสถานะการเงินของเขมรที่เข้าไปมีธุรกรรมใดๆผิดปกติเป็นอันมากทัังที่คนในประเทศยากจนทุกข์ยากแสนสาหัส มันสวนกระแสที่ต้องนำเงินนี้ไปกระตุ้นเศรษฐกิจปากท้องประเทศตนให้ดีขึ้นมีตังมากขึ้นแต่สวนทาง กลับตังไหลออกจากประเทศมากมายผิดปกติ นั้นคือกระบวนการอาชญากรรมนี้ฟอกเงินผ่านการลงทุนผ่านการถือครองทรัพย์สินในประเทศนั้นชัดเจน เสมือนประเทศนัันหรือออสเตรเลียสมรู้ร่วมคิดกับโจร รับฝากของฝากตังฝากอาวุธของๆโจรนั้นเอง ออสเตรเลียจึงมีสถานะร่วมเป็นประเทศอาชญากรรมไปด้วย ถ้าอาจแหล่งขนย้ายค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์ค้ายาเสพติดผ่านสถานะการเข้าถือครองทรัพย์สินสิทธิของประเทศออสเตรเลียอย่างถูกกฎหมายด้วย, จีนและไทยและชาติอื่นๆทั่วโลกสามารถตั้งข้อหาประเทศลักษณะออสเตรเลียเป็นประเทศผู้ร่วมมีส่วนก่ออาชญากรและอาชญากรรมระดับโลกได้ด้วย.

    https://youtube.com/shorts/pBzkmL1fsAg?si=xQMxsT3pKdHQiNRf
    จริงๆนำโดยไทยซึ่งเป็นคู่กรณีแล้วตัวจริงและปรากฎชัดเจนร่วมกับจีน ยื่นฟ้องอาชญากรและอาชญากรรมเขมรต่อฑูตประจำประเทศไทยทั้งประสานฑูตจีนร่วมไล่ล่ายื่นฟ้องตรวจสอบสถานะการมีอยู่ของแหล่งเงินทุนเขมรที่กระจายฟอกเงินอยู่ในทุกๆประเทศทั่วโลกเพื่อตรวจสอบร่วมกันได้ ทั้งธนาคารสิงคโปร์ เกาะเคแมน เกาะฟอกเงินต่างๆด้วย ประเทศใดร่วมปกปิดปิดบังสถานะการเงินของเขมรที่เข้าไปมีธุรกรรมใดๆผิดปกติเป็นอันมากทัังที่คนในประเทศยากจนทุกข์ยากแสนสาหัส มันสวนกระแสที่ต้องนำเงินนี้ไปกระตุ้นเศรษฐกิจปากท้องประเทศตนให้ดีขึ้นมีตังมากขึ้นแต่สวนทาง กลับตังไหลออกจากประเทศมากมายผิดปกติ นั้นคือกระบวนการอาชญากรรมนี้ฟอกเงินผ่านการลงทุนผ่านการถือครองทรัพย์สินในประเทศนั้นชัดเจน เสมือนประเทศนัันหรือออสเตรเลียสมรู้ร่วมคิดกับโจร รับฝากของฝากตังฝากอาวุธของๆโจรนั้นเอง ออสเตรเลียจึงมีสถานะร่วมเป็นประเทศอาชญากรรมไปด้วย ถ้าอาจแหล่งขนย้ายค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์ค้ายาเสพติดผ่านสถานะการเข้าถือครองทรัพย์สินสิทธิของประเทศออสเตรเลียอย่างถูกกฎหมายด้วย, จีนและไทยและชาติอื่นๆทั่วโลกสามารถตั้งข้อหาประเทศลักษณะออสเตรเลียเป็นประเทศผู้ร่วมมีส่วนก่ออาชญากรและอาชญากรรมระดับโลกได้ด้วย. https://youtube.com/shorts/pBzkmL1fsAg?si=xQMxsT3pKdHQiNRf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน

    แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค

    เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น

    โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571

    #Newskit
    รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts