ภูมิใจไทยกระตุ้นแรงเพื่อไทย หวังจบเรื่องเขากระโดง
เพื่อไทยกับภูมิใจไทย สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล ยังเล่นเกม ชิงไหวชิงพริบกันเป็นระยะๆ อย่างล่าสุด ถึงขั้นทำให้ หนูอิ๊งค์ แพทองธาร ฉาวในเรื่องที่ดินอัลไพน์
เคยสังเกตหรือไม่ เพราะอะไรทั้งที่เงียบไปแล้ว นั่นก็ต้องมองกลับไปที่ต้นตอของข่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่อยู่ดีๆ มีแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เซ็นก่อนจะหลุดเก้าอี้ รมช.มหาดไทยไม่กี่วัน ให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล
อุ๊งอิ๊ง เคยถือหุ้นอัลไพน์ที่เพิ่งจะโอนไปก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งหากมีการเพิกถอนจริง ย่อมมีผลกระทบเหมือนกัน การที่มีข่าวเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ออกมามันก็อนุมานได้เหมือนกันว่า จงใจสะกิดอีกฝั่งให้รู้ว่า …ลูกสาวก็อยู่ในกำมือ สามารถให้คุณให้โทษได้ จะบีบก็ตายจะคายก็รอด…?
เรื่องที่ดินอัลไพน์ อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย โดยมี เสี่ยหนู เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เมื่อเป็นเช่นนี้หลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าเป็นเกมเขย่าจากค่ายสีน้ำเงิน และนั่นเมื่อนำไปโยงกับคำพูด “สังเกตไหมล่ะ” ของ หนูอิ๊งค์ มันก็ชวนให้วิเคราะห์ ต่อยอด แตกแขนงได้เหมือนกันว่า เจ้าตัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร!
เรื่องที่ดินอัลไพน์ก็มีผลในทางการเมืองกับตัวนายกฯ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เมื่อเป็นเรื่องนี้ก็เหมือนเปิดให้ต้องมาคุยกันในเรื่องที่ค้างคา ไม่จบ ดีลไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาสิโน หรือแม้แต่เรื่องที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
หลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ในลักษณะว่า ถ้า รฟท.เลิกรากันไปในเรื่องเขากระโดง ทางฝั่งค่ายสีน้ำเงินก็จะไม่เล่นเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้น มันจึงถูกมองว่าค่ายสีน้ำเงินกำลังใช้เรื่องที่หนักหน่วงที่สุดของหนูอิ๊งค์ ขึ้นมาต่อรองกับผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง
เพราะถ้าค่ายสีน้ำเงินหวังน็อกเลยโดยไม่ต่อรอง คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ป่านนี้คงเซ็นเพิกถอนไปแล้ว
ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
#คิงส์โพธิ์ดำ ภูมิใจไทยกระตุ้นแรงเพื่อไทย หวังจบเรื่องเขากระโดง
เพื่อไทยกับภูมิใจไทย สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล ยังเล่นเกม ชิงไหวชิงพริบกันเป็นระยะๆ อย่างล่าสุด ถึงขั้นทำให้ หนูอิ๊งค์ แพทองธาร ฉาวในเรื่องที่ดินอัลไพน์
เคยสังเกตหรือไม่ เพราะอะไรทั้งที่เงียบไปแล้ว นั่นก็ต้องมองกลับไปที่ต้นตอของข่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่อยู่ดีๆ มีแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เซ็นก่อนจะหลุดเก้าอี้ รมช.มหาดไทยไม่กี่วัน ให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล
อุ๊งอิ๊ง เคยถือหุ้นอัลไพน์ที่เพิ่งจะโอนไปก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งหากมีการเพิกถอนจริง ย่อมมีผลกระทบเหมือนกัน การที่มีข่าวเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ออกมามันก็อนุมานได้เหมือนกันว่า จงใจสะกิดอีกฝั่งให้รู้ว่า …ลูกสาวก็อยู่ในกำมือ สามารถให้คุณให้โทษได้ จะบีบก็ตายจะคายก็รอด…?
เรื่องที่ดินอัลไพน์ อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย โดยมี เสี่ยหนู เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เมื่อเป็นเช่นนี้หลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าเป็นเกมเขย่าจากค่ายสีน้ำเงิน และนั่นเมื่อนำไปโยงกับคำพูด “สังเกตไหมล่ะ” ของ หนูอิ๊งค์ มันก็ชวนให้วิเคราะห์ ต่อยอด แตกแขนงได้เหมือนกันว่า เจ้าตัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร!
เรื่องที่ดินอัลไพน์ก็มีผลในทางการเมืองกับตัวนายกฯ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เมื่อเป็นเรื่องนี้ก็เหมือนเปิดให้ต้องมาคุยกันในเรื่องที่ค้างคา ไม่จบ ดีลไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาสิโน หรือแม้แต่เรื่องที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
หลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ในลักษณะว่า ถ้า รฟท.เลิกรากันไปในเรื่องเขากระโดง ทางฝั่งค่ายสีน้ำเงินก็จะไม่เล่นเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้น มันจึงถูกมองว่าค่ายสีน้ำเงินกำลังใช้เรื่องที่หนักหน่วงที่สุดของหนูอิ๊งค์ ขึ้นมาต่อรองกับผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง
เพราะถ้าค่ายสีน้ำเงินหวังน็อกเลยโดยไม่ต่อรอง คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ป่านนี้คงเซ็นเพิกถอนไปแล้ว
ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ