• ข้าพเจ้ายังไม่อยากถูกปล้นเอาความเป็นมนุษย์ออกไปจากตัวเองมากไปกว่านี้ ต่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่คนเลวนัก คือพอมีความดีในตัวอยู่บ้างแม้นไม่มาก อย่างน้อยก็ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นพนันบอล ไม่ส่งชิงโชคทายผลกีฬาและล่ารางวัล ไม่เล่นไพ่ ไม่แทงม้า ไม่หวังลาภลอยจากการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพราะมีเงินเยอะแล้ว แต่เพราะรู้ว่าการพนันคือผีร้าย คือปีศาจ ถ้าลองยอมให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ซะแล้ว มันก็จะอาละวาดทำลายล้างให้เรา รวมถึงคนรอบข้างและสังคมกลายเป็นดินแดนแห่งอนารยะ ดังนั้นจึงไม่ยินดีอยากให้เมืองไทยต้องเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่

    เท่าที่ในปัจจุบันก็แย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยสื่อซาตานที่แทรกซึมทั่วทุกหัวระแหง เลื่อนดูอะไรในสมาร์ตโฟนจะต้องเห็นพวกสัญลักษณ์แอบแฝงของนายทุนและแก๊งโจรมิจฉาชีพเหล่านี้เกร่อเต็มไปหมด แล้วคนไทยนี้ใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนกันอย่างที่เรียกว่าอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศอื่นอีกหลายประเทศ แม้แต่เด็กเล็กที่ไม่ควรต้องใช้ก็ยังมีสมาร์ตโฟน ที่พ่อแม่ผู้รังแกลูกหยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้เยาวชนลูกหลานที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อความชั่วที่ซ่อนมาหลากหลายรูปแบบ จึงง่ายมากต่อการตกเป็นเหยื่อขบวนการเหล่านี้ ที่จ้องจะดึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่าน ให้หลงตกไปอยู่ในนรกของการพนัน

    บางทีมันหลอกล่อมาสารพัดในลักษณะของเกมออนไลน์ การแลกเงินจริงเป็นเงินในเกม การสะสมไอเทม การซื้อสารพัดที่เมื่อเด็กหลงเข้าไปเล่นเข้าสักครั้ง ความหวังที่จะหลุดออกมาได้นั้นยากเย็นกว่าเข็นครกขึ้นเขา ยิ่งติดยิ่งห้ามใจไม่ได้ อยากหาอยากมีไปแข่งไปอวดเพื่อน มันคือปากเหวแห่งหายนะโดยแท้ ที่แน่นอนคือหากยังปล่อยให้มีการเกิดขึ้นของบ่อนกาสิโนหลายแห่งทั้วประเทศ อนาคตที่ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดจะเกิดขึ้นและมาถึงในไม่ช้า

    เราอาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกปล้นฆ่าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ภายในบ้านหรือนอกบ้านจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะเมื่อใดที่คนไม่มีเงิน แล้วยังติดหนี้การพนัน มันผู้นั้นย่อมขายจิตวิญญาณให้แก่ปีศาจไปแล้ว และสามารถทำได้ทุกสิ่งที่คนปกติไม่กล้าทำ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้

    มีเมียมีลูกยังสามารถขายแลกเงินได้ พ่อแม่ญาติพี่น้องมีหรือจะสน แม้แต่ชีวิตตนก็ยังขายตัวเป็นทาสได้ มีที่ดินก็หมดที่ดิน มีทรัพย์สินใดก็หมด เมื่อสิ้นทุกอย่างทีนี้แหละ จะเริ่มปล้นชิงวิ่งราว ขโมยสารพัด คดีทำร้ายร่างกาย ปล้น ฆ่า จะเต็มบ้านเมืองมากกว่าเดิมอย่างทวีคูณ สุดท้ายคนเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของผีพนันก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ทับถมใจหนักหน่วงจะถ่วงความเจริญทางธรรมของคนให้ลดน้อยถอยลง แล้วสังคมโดยรวมก็จะมีแต่ความสาหัสของบาดแผลจากพิษภัยของการพนันจนยากกอบกู้ ให้ดูประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมรอบเราว่าเขามีสภาพอย่างไรเถิด อนาคตเราอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น

    ถ้ามีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเกิดนักพนันอายุน้อยขึ้นมาอีกมากมายอย่างน่ากลัว เมื่อเขาเหล่านั้นที่ยังไม่มีรายได้กลายเป็นทายาทผีพนัน ประเทศชาติก็มีแต่จะมุ่งหน้าเข้าหาความฉิบหายล่มจมในท้ายที่สุด

    ในฐานะที่ข้าพเจ้ายังเป็นพุทธมามกะที่ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่เคารพของตนไปจนตลอดชีวิต หากยังยินดีกับการเล่นพนันอยู่ อยากให้เกิดบ่อนกาสิโนขึ้นแบบถูกกฎหมายในประเทศ นั่นแสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนผู้ทุรยศต่อสถาบันศาสนาที่ตนเคารพนับถือ และต่อพระศาสดา เป็นคนอกตัญญู เป็นความละอายแก่ใจตนจนเกินกว่าจะกล้าเรียกตนเป็นพุทธศาสนิกชน สู้เป็นคนไม่นับถือศาสนาเสียเลยยังดีกว่า

    เพราะศาสนาพุทธ จะไม่มีทางยอมฮั้ว อี๋อ๋อ ซูฮก ซูเอี๋ย กะลิ้มกะเหลี่ย ปากมันเลียริมฝีปาก น้ำลายไหลยืดย้อย กับความกระสันอยากในเม็ดเงินที่มาจากการพนันทั้งหลายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะชาตินี้หรืออีกกี่ชาติ

    #คัดค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย
    #thaitimes
    #บทความ
    #ข้อคิด
    #ต้านบ่อนกาสิโน
    #สร้างป่าดีกว่าสร้างบ่อน
    ข้าพเจ้ายังไม่อยากถูกปล้นเอาความเป็นมนุษย์ออกไปจากตัวเองมากไปกว่านี้ ต่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่คนเลวนัก คือพอมีความดีในตัวอยู่บ้างแม้นไม่มาก อย่างน้อยก็ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นพนันบอล ไม่ส่งชิงโชคทายผลกีฬาและล่ารางวัล ไม่เล่นไพ่ ไม่แทงม้า ไม่หวังลาภลอยจากการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพราะมีเงินเยอะแล้ว แต่เพราะรู้ว่าการพนันคือผีร้าย คือปีศาจ ถ้าลองยอมให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ซะแล้ว มันก็จะอาละวาดทำลายล้างให้เรา รวมถึงคนรอบข้างและสังคมกลายเป็นดินแดนแห่งอนารยะ ดังนั้นจึงไม่ยินดีอยากให้เมืองไทยต้องเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เท่าที่ในปัจจุบันก็แย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยสื่อซาตานที่แทรกซึมทั่วทุกหัวระแหง เลื่อนดูอะไรในสมาร์ตโฟนจะต้องเห็นพวกสัญลักษณ์แอบแฝงของนายทุนและแก๊งโจรมิจฉาชีพเหล่านี้เกร่อเต็มไปหมด แล้วคนไทยนี้ใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนกันอย่างที่เรียกว่าอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศอื่นอีกหลายประเทศ แม้แต่เด็กเล็กที่ไม่ควรต้องใช้ก็ยังมีสมาร์ตโฟน ที่พ่อแม่ผู้รังแกลูกหยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้เยาวชนลูกหลานที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อความชั่วที่ซ่อนมาหลากหลายรูปแบบ จึงง่ายมากต่อการตกเป็นเหยื่อขบวนการเหล่านี้ ที่จ้องจะดึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่าน ให้หลงตกไปอยู่ในนรกของการพนัน บางทีมันหลอกล่อมาสารพัดในลักษณะของเกมออนไลน์ การแลกเงินจริงเป็นเงินในเกม การสะสมไอเทม การซื้อสารพัดที่เมื่อเด็กหลงเข้าไปเล่นเข้าสักครั้ง ความหวังที่จะหลุดออกมาได้นั้นยากเย็นกว่าเข็นครกขึ้นเขา ยิ่งติดยิ่งห้ามใจไม่ได้ อยากหาอยากมีไปแข่งไปอวดเพื่อน มันคือปากเหวแห่งหายนะโดยแท้ ที่แน่นอนคือหากยังปล่อยให้มีการเกิดขึ้นของบ่อนกาสิโนหลายแห่งทั้วประเทศ อนาคตที่ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดจะเกิดขึ้นและมาถึงในไม่ช้า เราอาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกปล้นฆ่าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ภายในบ้านหรือนอกบ้านจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะเมื่อใดที่คนไม่มีเงิน แล้วยังติดหนี้การพนัน มันผู้นั้นย่อมขายจิตวิญญาณให้แก่ปีศาจไปแล้ว และสามารถทำได้ทุกสิ่งที่คนปกติไม่กล้าทำ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้ มีเมียมีลูกยังสามารถขายแลกเงินได้ พ่อแม่ญาติพี่น้องมีหรือจะสน แม้แต่ชีวิตตนก็ยังขายตัวเป็นทาสได้ มีที่ดินก็หมดที่ดิน มีทรัพย์สินใดก็หมด เมื่อสิ้นทุกอย่างทีนี้แหละ จะเริ่มปล้นชิงวิ่งราว ขโมยสารพัด คดีทำร้ายร่างกาย ปล้น ฆ่า จะเต็มบ้านเมืองมากกว่าเดิมอย่างทวีคูณ สุดท้ายคนเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของผีพนันก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ทับถมใจหนักหน่วงจะถ่วงความเจริญทางธรรมของคนให้ลดน้อยถอยลง แล้วสังคมโดยรวมก็จะมีแต่ความสาหัสของบาดแผลจากพิษภัยของการพนันจนยากกอบกู้ ให้ดูประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมรอบเราว่าเขามีสภาพอย่างไรเถิด อนาคตเราอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น ถ้ามีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเกิดนักพนันอายุน้อยขึ้นมาอีกมากมายอย่างน่ากลัว เมื่อเขาเหล่านั้นที่ยังไม่มีรายได้กลายเป็นทายาทผีพนัน ประเทศชาติก็มีแต่จะมุ่งหน้าเข้าหาความฉิบหายล่มจมในท้ายที่สุด ในฐานะที่ข้าพเจ้ายังเป็นพุทธมามกะที่ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่เคารพของตนไปจนตลอดชีวิต หากยังยินดีกับการเล่นพนันอยู่ อยากให้เกิดบ่อนกาสิโนขึ้นแบบถูกกฎหมายในประเทศ นั่นแสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนผู้ทุรยศต่อสถาบันศาสนาที่ตนเคารพนับถือ และต่อพระศาสดา เป็นคนอกตัญญู เป็นความละอายแก่ใจตนจนเกินกว่าจะกล้าเรียกตนเป็นพุทธศาสนิกชน สู้เป็นคนไม่นับถือศาสนาเสียเลยยังดีกว่า เพราะศาสนาพุทธ จะไม่มีทางยอมฮั้ว อี๋อ๋อ ซูฮก ซูเอี๋ย กะลิ้มกะเหลี่ย ปากมันเลียริมฝีปาก น้ำลายไหลยืดย้อย กับความกระสันอยากในเม็ดเงินที่มาจากการพนันทั้งหลายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะชาตินี้หรืออีกกี่ชาติ #คัดค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย #thaitimes #บทความ #ข้อคิด #ต้านบ่อนกาสิโน #สร้างป่าดีกว่าสร้างบ่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน
    ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’
    .
    เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน
    .
    มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
    .
    หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง
    .
    คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า
    .
    ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
    .
    ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ
    .
    คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น
    .
    มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย
    .
    คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’ . เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน . มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ . หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง . คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า . ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว . ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน . เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ . คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น . มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย . คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19/1/68

    บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ

    ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร?

    การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง

    และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน

    เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม

    หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้

    จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์

    แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ...

    ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม"

    ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก

    รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ

    พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง

    แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ

    มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน

    ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน

    แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้

    ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์

    ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง

    ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม"

    เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย

    ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ
    .
    ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    19/1/68 บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร? การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้ จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์ แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ... ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม" ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้ ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์ ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม" เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ . ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ ร่างทรงนายกฯ ขายฝัน ปีแห่งโอกาสของคนไทย แต่แท้จริงจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนคดโกง ที่หวังผลักดันนโยบายขายชาติ ทั้ง MOU44 บ่อนกาสิโน ต่างชาติถือครองอสังหาฯ ต่างด้าวยึดครองบ้านเมือง เอาเงินภาษีทั้งประเทศมาแบกรับค่ารถไฟฟ้า 20 บาท เพื่อเอื้อกลุ่มทุนอสังหาฯ ขายคอนโดฯ ง่ายขึ้น และช่วยพวกพ้องครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย ทั้งเขากระโดง และที่ธรณีสงฆ์
    #7ดอกจิก
    ♣️ ร่างทรงนายกฯ ขายฝัน ปีแห่งโอกาสของคนไทย แต่แท้จริงจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนคดโกง ที่หวังผลักดันนโยบายขายชาติ ทั้ง MOU44 บ่อนกาสิโน ต่างชาติถือครองอสังหาฯ ต่างด้าวยึดครองบ้านเมือง เอาเงินภาษีทั้งประเทศมาแบกรับค่ารถไฟฟ้า 20 บาท เพื่อเอื้อกลุ่มทุนอสังหาฯ ขายคอนโดฯ ง่ายขึ้น และช่วยพวกพ้องครอบครองที่ดินผิดกฎหมาย ทั้งเขากระโดง และที่ธรณีสงฆ์ #7ดอกจิก
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • #บ่อนกาสิโน​ จีนลดใบอนุญาต​และจำนวนปี#อบายมุข​ ปัญหาสังคม

    https://www.thairath.co.th/news/foreign/2811595
    #บ่อนกาสิโน​ จีนลดใบอนุญาต​และจำนวนปี#อบายมุข​ ปัญหาสังคม https://www.thairath.co.th/news/foreign/2811595
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    มาเก๊าพลิกโฉมเมืองกาสิโน เป็นศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่
    นโยบายของรัฐบาลจีน ต้องการเปลี่ยน “มาเก๊า” จาก “ลาสเวกัสแห่งเอเชีย” ให้เป็น “ศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่” ของเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง GBA คู่กับฮ่องกง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว