• “ฝ่ายค้าน” แถลงเดือด! ซัดรัฐบาลขวางการพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทำลายความหวังประชาชน
    https://www.thai-tai.tv/news/21065/
    .
    #ฝ่ายค้าน #สภาผู้แทนราษฎร #ญัตติMOU #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ไทยไทด้วย

    “ฝ่ายค้าน” แถลงเดือด! ซัดรัฐบาลขวางการพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทำลายความหวังประชาชน https://www.thai-tai.tv/news/21065/ . #ฝ่ายค้าน #สภาผู้แทนราษฎร #ญัตติMOU #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ไทยไทด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์อาหารใหม่รัฐสภา ราคาสูงเกิน-ผู้ค้าเดิมโวย

    เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เป็นวันแรกที่ศูนย์อาหาร KINNIE Foodcourt เปิดให้บริการที่ชั้น B2 อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนสามเสน เฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.00-16.00 น. เปิดโอกาสให้ข้าราชการในวงงานรัฐสภา ผู้มาติดต่อ ผู้ช่วยหรือผู้ติดตามสมาชิกรัฐสภา ตลอดจนสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการ ทดแทนร้านค้าร้านอาหารเดิมที่ชั้น 1 ซึ่งได้ยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. และให้ย้ายออกจากพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพื่อใช้เป็นห้องรับรอง สส. และผู้มาเข้าพบ

    ปรากฎว่าผ่านไป 2-3 วัน มีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการและแม่บ้าน รวมทั้งสื่อมวลชนว่าราคาอาหารสูงเกินไป ไม่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต้องเดินไปซื้อที่ฝั่งวุฒิสภาเพราะราคาถูกกว่า โดยราคาอาหารเริ่มต้นสูงถึง 40-50 บาท ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่าบริษัทใดเข้ามาประมูล สภาฯ เรียกเก็บค่าเช่าสูงไปหรือไม่ หากเอาเปรียบผู้บริโภค ประธานสภาฯ ต้องจัดการ เพราะไม่ควรหากำไรเกินควร

    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. มีการประชุมฝ่ายบริหารและผู้ขายได้ปรับราคาลงแล้ว เช่น ข้าวแกง 1 อย่าง 35 บาท, 2 อย่าง 45 บาท และ 3 อย่าง 55-60 บาท พร้อมย้ำว่าจะตรวจสอบให้เข้มงวด และหากยังมีปัญหาก็พร้อมให้ปรับลดเพิ่มอีก ขณะที่นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้บริหารเข้าหารือเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

    สำหรับบริษัท กินนี่ ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ต จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 ทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท มีนายธเชษฐ์ เตียสกุล และนายภกร จิตรธนบรรจง เป็นกรรมการบริษัท ประกอบธุรกิจบริหารศูนย์อาหารตามอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ อาทิ อาคารจามจุรีสแควร์ ออลซีซั่นเพลส เดอะไนน์ทาวเวอร์ กรมสรรพากร กรุงเทพประกันภัย เดอะสตรีทรัชดา เสริมมิตรทาวเวอร์ ฯลฯ ปัจจุบันมีประมาณ 10 แห่ง

    อีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าสวัสดิการชั้น 1 เดิม นำโดย นายศุภโชค เวชราภรณ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกให้ออกจากพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่นโยบายของผู้บริหารรุ่นเก่าสนับสนุนให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยและญาติพี่น้องมีอาชีพเสริม แต่คณะกรรมการสวัสดิการสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันกลับบ่ายเบี่ยง ก่อนมีหนังสือขับไล่ออกจากพื้นที่ พร้อมขอให้ช่วยแบ่งพื้นที่เพื่อให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยมีทางเลือกซื้ออาหารในราคาย่อมเยา

    #Newskit
    ศูนย์อาหารใหม่รัฐสภา ราคาสูงเกิน-ผู้ค้าเดิมโวย เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เป็นวันแรกที่ศูนย์อาหาร KINNIE Foodcourt เปิดให้บริการที่ชั้น B2 อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนสามเสน เฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.00-16.00 น. เปิดโอกาสให้ข้าราชการในวงงานรัฐสภา ผู้มาติดต่อ ผู้ช่วยหรือผู้ติดตามสมาชิกรัฐสภา ตลอดจนสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการ ทดแทนร้านค้าร้านอาหารเดิมที่ชั้น 1 ซึ่งได้ยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. และให้ย้ายออกจากพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพื่อใช้เป็นห้องรับรอง สส. และผู้มาเข้าพบ ปรากฎว่าผ่านไป 2-3 วัน มีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการและแม่บ้าน รวมทั้งสื่อมวลชนว่าราคาอาหารสูงเกินไป ไม่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต้องเดินไปซื้อที่ฝั่งวุฒิสภาเพราะราคาถูกกว่า โดยราคาอาหารเริ่มต้นสูงถึง 40-50 บาท ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่าบริษัทใดเข้ามาประมูล สภาฯ เรียกเก็บค่าเช่าสูงไปหรือไม่ หากเอาเปรียบผู้บริโภค ประธานสภาฯ ต้องจัดการ เพราะไม่ควรหากำไรเกินควร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. มีการประชุมฝ่ายบริหารและผู้ขายได้ปรับราคาลงแล้ว เช่น ข้าวแกง 1 อย่าง 35 บาท, 2 อย่าง 45 บาท และ 3 อย่าง 55-60 บาท พร้อมย้ำว่าจะตรวจสอบให้เข้มงวด และหากยังมีปัญหาก็พร้อมให้ปรับลดเพิ่มอีก ขณะที่นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้บริหารเข้าหารือเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย สำหรับบริษัท กินนี่ ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ต จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 ทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท มีนายธเชษฐ์ เตียสกุล และนายภกร จิตรธนบรรจง เป็นกรรมการบริษัท ประกอบธุรกิจบริหารศูนย์อาหารตามอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ อาทิ อาคารจามจุรีสแควร์ ออลซีซั่นเพลส เดอะไนน์ทาวเวอร์ กรมสรรพากร กรุงเทพประกันภัย เดอะสตรีทรัชดา เสริมมิตรทาวเวอร์ ฯลฯ ปัจจุบันมีประมาณ 10 แห่ง อีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าสวัสดิการชั้น 1 เดิม นำโดย นายศุภโชค เวชราภรณ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกให้ออกจากพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่นโยบายของผู้บริหารรุ่นเก่าสนับสนุนให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยและญาติพี่น้องมีอาชีพเสริม แต่คณะกรรมการสวัสดิการสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันกลับบ่ายเบี่ยง ก่อนมีหนังสือขับไล่ออกจากพื้นที่ พร้อมขอให้ช่วยแบ่งพื้นที่เพื่อให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยมีทางเลือกซื้ออาหารในราคาย่อมเยา #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน

    แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค

    เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น

    โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571

    #Newskit
    รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่านฉลุย! สภาฯ เห็นชอบ พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน...มติ 257ต่อ 230
    https://www.thai-tai.tv/news/20959/
    .
    #งบประมาณ69 #พรกงบประมาณ #สภาผู้แทนราษฎร #พิชัยชุณหวชิร #รัฐบาล #ไทยไท
    ผ่านฉลุย! สภาฯ เห็นชอบ พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน...มติ 257ต่อ 230 https://www.thai-tai.tv/news/20959/ . #งบประมาณ69 #พรกงบประมาณ #สภาผู้แทนราษฎร #พิชัยชุณหวชิร #รัฐบาล #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 สิงหาคม 2568
    สำนักข่าว #TheCambodiaDaily – ឌឹ ខេមបូឌា ដេលី ของกัมพูชารายงานว่า ร่างกฎหมาย "การเพิกถอนสัญชาติกัมพูชา" ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการสามัญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 หลังจากผ่านการเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม และ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ตามลำดับ

    ร่างกฎหมายนี้ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายสัญชาติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 33 ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของสมเด็จฮุน เซน ว่าชาวเขมรที่กำลังสมรู้ร่วมคิดกับประเทศไทยเพื่อรวมกำลังเพื่อโจมตีกัมพูชา จะถือเป็นการก่อกบฏ และจะถูกเพิกถอนสัญชาติตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ฉบับนี้อีกด้วย
    14 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว #TheCambodiaDaily – ឌឹ ខេមបូឌា ដេលី ของกัมพูชารายงานว่า ร่างกฎหมาย "การเพิกถอนสัญชาติกัมพูชา" ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการสามัญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 หลังจากผ่านการเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม และ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ตามลำดับ ร่างกฎหมายนี้ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายสัญชาติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 33 ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของสมเด็จฮุน เซน ว่าชาวเขมรที่กำลังสมรู้ร่วมคิดกับประเทศไทยเพื่อรวมกำลังเพื่อโจมตีกัมพูชา จะถือเป็นการก่อกบฏ และจะถูกเพิกถอนสัญชาติตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ฉบับนี้อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาเลย์ฯ 64% จากโฮโม-ไบเซ็กชวล

    อีกหนึ่งความท้าทายด้านสาธารณสุขของประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายดซุลเกฟลี อาหมัด รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ตอบคำถามสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กรณีที่นายตัน ก๊ก ไว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมืองเชรัส รัฐสลังงอร์ ถามถึงสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ในปี 2567 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 96% เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ โดยเกิดขึ้นจากพฤติกรรมรักร่วมเพศแบบไบเซ็กชวล (ชายก็ได้ หญิงก็ได้) 64% และแบบโฮโมเซ็กชวล (ชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง) 32%

    โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่รวม 3,185 ราย คิดเป็น 9.4 ราย ต่อประชากร 100,000 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเพศชาย คิดเป็น 90% ส่วนอีก 10% อยู่ในกลุ่มเพศหญิง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากทศวรรษ 1990 ซึ่งผู้ติดเชื้อเพศหญิงคิดเป็นเพียง 1% ของผู้ป่วย และเพศชายคิดเป็น 99% เกี่ยวข้องกับช่วงอายุระหว่าง 20 ถึง 39 ปี การติดเชื้อรายใหม่ในมาเลเซียโดยทั่วไปลดลง 50% ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2552 กระทั่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปัจจุบัน ลดลงเพียง 27% เท่านั้น

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. นายดซุลเกฟลี กล่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 60% เมื่อปีที่แล้วติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันและไบเซ็กชวล ปัจจัยสำคัญคือการไม่ใช้ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง อีกทั้งความท้าทายของผู้ติดเชื้อรายใหม่ซับซ้อนมากขึ้น จากการใช้ยาเสพติดและสารผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น นำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

    ดร.โมฮัมหมัด มูจาฮีด ฮัสซัน อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์และการพัฒนา คณะนิเวศวิทยามนุษย์ มหาวิทยาลัยปุตรา มาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเบอร์นามาเมื่อเดือน ก.ค.ว่า ปัจจัยสำคัญมาจากวิถีชีวิตที่เสรี แรงกดดันทางสังคม การมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานกลายเป็นเรื่องปกติ การมีเซ็กซ์กับเพศเดียวกันโดยไม่ป้องกัน อีกทั้งเกิดจากความอยากรู้และขาดการศึกษาสุขภาพทางเพศ บางคนยังใช้แอปพลิเคชันหาคู่ นำไปสู่การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด โดยไม่ได้ป้องกันอย่างเหมาะสม และยังได้รับสื่อลามกและเนื้อหาทางเพศที่ไม่ผ่านการกรองมากขึ้น โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย

    ส่วนการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเอชไอวียังคงใช้วิธีการแบบเดิมๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงรู้สึกแปลกแยก กังวลว่าจะถูกตัดสินหรือยอมรับจากเพื่อนหรืออาจารย์ จึงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น เป็นมิตรกับเยาวชน ปราศจากการตีตรา โดยให้การศึกษาเรื่องเพศศึกษาแบบครอบคลุมและไม่ตัดสิน การเข้าถึงถุงยางอนามัย การให้คำปรึกษา และการตรวจหาเชื้อเอชไอวีแบบสมัครใจและเป็นความลับ

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    ยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาเลย์ฯ 64% จากโฮโม-ไบเซ็กชวล อีกหนึ่งความท้าทายด้านสาธารณสุขของประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายดซุลเกฟลี อาหมัด รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ตอบคำถามสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กรณีที่นายตัน ก๊ก ไว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมืองเชรัส รัฐสลังงอร์ ถามถึงสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ในปี 2567 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 96% เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ โดยเกิดขึ้นจากพฤติกรรมรักร่วมเพศแบบไบเซ็กชวล (ชายก็ได้ หญิงก็ได้) 64% และแบบโฮโมเซ็กชวล (ชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง) 32% โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่รวม 3,185 ราย คิดเป็น 9.4 ราย ต่อประชากร 100,000 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเพศชาย คิดเป็น 90% ส่วนอีก 10% อยู่ในกลุ่มเพศหญิง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากทศวรรษ 1990 ซึ่งผู้ติดเชื้อเพศหญิงคิดเป็นเพียง 1% ของผู้ป่วย และเพศชายคิดเป็น 99% เกี่ยวข้องกับช่วงอายุระหว่าง 20 ถึง 39 ปี การติดเชื้อรายใหม่ในมาเลเซียโดยทั่วไปลดลง 50% ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2552 กระทั่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปัจจุบัน ลดลงเพียง 27% เท่านั้น ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. นายดซุลเกฟลี กล่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 60% เมื่อปีที่แล้วติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันและไบเซ็กชวล ปัจจัยสำคัญคือการไม่ใช้ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง อีกทั้งความท้าทายของผู้ติดเชื้อรายใหม่ซับซ้อนมากขึ้น จากการใช้ยาเสพติดและสารผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น นำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดร.โมฮัมหมัด มูจาฮีด ฮัสซัน อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์และการพัฒนา คณะนิเวศวิทยามนุษย์ มหาวิทยาลัยปุตรา มาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเบอร์นามาเมื่อเดือน ก.ค.ว่า ปัจจัยสำคัญมาจากวิถีชีวิตที่เสรี แรงกดดันทางสังคม การมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานกลายเป็นเรื่องปกติ การมีเซ็กซ์กับเพศเดียวกันโดยไม่ป้องกัน อีกทั้งเกิดจากความอยากรู้และขาดการศึกษาสุขภาพทางเพศ บางคนยังใช้แอปพลิเคชันหาคู่ นำไปสู่การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด โดยไม่ได้ป้องกันอย่างเหมาะสม และยังได้รับสื่อลามกและเนื้อหาทางเพศที่ไม่ผ่านการกรองมากขึ้น โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย ส่วนการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเอชไอวียังคงใช้วิธีการแบบเดิมๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงรู้สึกแปลกแยก กังวลว่าจะถูกตัดสินหรือยอมรับจากเพื่อนหรืออาจารย์ จึงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น เป็นมิตรกับเยาวชน ปราศจากการตีตรา โดยให้การศึกษาเรื่องเพศศึกษาแบบครอบคลุมและไม่ตัดสิน การเข้าถึงถุงยางอนามัย การให้คำปรึกษา และการตรวจหาเชื้อเอชไอวีแบบสมัครใจและเป็นความลับ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาล่ม! องค์ประชุมไม่ครบ "พ.ร.บ.ขนส่งทางราง" แท้งกลางคัน...หลัง ส.ส. หายตัวช่วงเย็น
    https://www.thai-tai.tv/news/20796/
    .
    #องค์ประชุมล่ม #สภาผู้แทนราษฎร #พรบการขนส่งทางราง #การเมือง #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #ไทยไท
    สภาล่ม! องค์ประชุมไม่ครบ "พ.ร.บ.ขนส่งทางราง" แท้งกลางคัน...หลัง ส.ส. หายตัวช่วงเย็น https://www.thai-tai.tv/news/20796/ . #องค์ประชุมล่ม #สภาผู้แทนราษฎร #พรบการขนส่งทางราง #การเมือง #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน

    อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์"

    อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ

    แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell)

    ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส

    ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย

    #Newskit
    กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์" อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell) ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย #Newskit
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด ยันรัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ปัญหา จ่อชะลอเซ็นสัญญา-ลดราคา
    https://www.thai-tai.tv/news/20677/
    .
    #ไทยไทด้วย #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #กระทรวงพลังงาน #ค่าไฟ #พลังงานสะอาด #โรงไฟฟ้าชุมชน #PDP #สภาผู้แทนราษฎร #แก้ปัญหาประชาชน #ตรวจสอบ
    “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด ยันรัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ปัญหา จ่อชะลอเซ็นสัญญา-ลดราคา https://www.thai-tai.tv/news/20677/ . #ไทยไทด้วย #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #กระทรวงพลังงาน #ค่าไฟ #พลังงานสะอาด #โรงไฟฟ้าชุมชน #PDP #สภาผู้แทนราษฎร #แก้ปัญหาประชาชน #ตรวจสอบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พิชัย” แจงสภาฯ ดีลภาษีสหรัฐฯ ยันได้ตัวเลขใกล้เคียงอาเซียน ชี้วิน-วินโซลูชั่น ชดเชยด้วยพลังงาน-สินค้าเกษตร
    https://www.thai-tai.tv/news/20673/
    .
    #ไทยไทด้วย #ภาษีสหรัฐ #พิชัยชุณหวชิร #กระทรวงการคลัง #การค้าระหว่างประเทศ #สภาผู้แทนราษฎร #เศรษฐกิจไทย #ข้าวโพด #พลังงาน #วินวินโซลูชั่น
    “พิชัย” แจงสภาฯ ดีลภาษีสหรัฐฯ ยันได้ตัวเลขใกล้เคียงอาเซียน ชี้วิน-วินโซลูชั่น ชดเชยด้วยพลังงาน-สินค้าเกษตร https://www.thai-tai.tv/news/20673/ . #ไทยไทด้วย #ภาษีสหรัฐ #พิชัยชุณหวชิร #กระทรวงการคลัง #การค้าระหว่างประเทศ #สภาผู้แทนราษฎร #เศรษฐกิจไทย #ข้าวโพด #พลังงาน #วินวินโซลูชั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวดี⭐️⭐️
    HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ

    วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568—
    วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO-
    “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว

    “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป”
    รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“
    คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว

    “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก
    เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)”
    วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว

    “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว

    “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว

    “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว

    การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ

    HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations

    WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable.
    https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html
    July 18, 2025
    ☘️🌿 ข่าวดี⭐️⭐️ HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568— วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO- “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป” รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“ คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)” วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable. https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html July 18, 2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง! 'พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน' ถูกสอบปมงบประมาณปี 69 สั่งแจงภายใน 5 วัน ไม่อนุญาตขยายเวลา
    https://www.thai-tai.tv/news/20363/
    .
    #ศาลรัฐธรรมนูญ #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน #งบประมาณ2569 #สภาผู้แทนราษฎร #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #รัฐธรรมนูญมาตรา144
    ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง! 'พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน' ถูกสอบปมงบประมาณปี 69 สั่งแจงภายใน 5 วัน ไม่อนุญาตขยายเวลา https://www.thai-tai.tv/news/20363/ . #ศาลรัฐธรรมนูญ #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน #งบประมาณ2569 #สภาผู้แทนราษฎร #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #รัฐธรรมนูญมาตรา144
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทพไท เตือน! นิรโทษกรรมต้องตอบโจทย์ปรองดอง ไม่เช่นนั้น 'อย่าออกเลยดีกว่า'
    https://www.thai-tai.tv/news/20341/
    .
    #นิรโทษกรรม #การเมืองไทย #ปรองดอง #เทพไท #สภาผู้แทนราษฎร #มาตรา112 #กฎหมายนิรโทษกรรม
    เทพไท เตือน! นิรโทษกรรมต้องตอบโจทย์ปรองดอง ไม่เช่นนั้น 'อย่าออกเลยดีกว่า' https://www.thai-tai.tv/news/20341/ . #นิรโทษกรรม #การเมืองไทย #ปรองดอง #เทพไท #สภาผู้แทนราษฎร #มาตรา112 #กฎหมายนิรโทษกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาฯ รับหลักการ 3 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ “รทสช.-คพช.-ภท.” ปัดตกฉบับ “ปชน.-ภาค ปชช.”
    https://www.thai-tai.tv/news/20311/
    .
    #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #สภาผู้แทนราษฎร #กฎหมายนิรโทษกรรม #การเมืองไทย #พรรคร่วมรัฐบาล #พรรคฝ่ายค้าน #สันติสุข
    สภาฯ รับหลักการ 3 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ “รทสช.-คพช.-ภท.” ปัดตกฉบับ “ปชน.-ภาค ปชช.” https://www.thai-tai.tv/news/20311/ . #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #สภาผู้แทนราษฎร #กฎหมายนิรโทษกรรม #การเมืองไทย #พรรคร่วมรัฐบาล #พรรคฝ่ายค้าน #สันติสุข
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิยบุตร ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด ไม่กล้านิรโทษกรรม ม.112 ไร้ "ใบอนุญาต" เหน็บ ส.ส. เป็น "ผู้แทนของใคร" กันแน่!
    https://www.thai-tai.tv/news/20225/
    .
    #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #ปิยบุตรแสงกนกกุล #คณะก้าวหน้า #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #กฎหมายไทย #เสรีภาพการแสดงออก #นักการเมือง #ประชาธิปไตย
    ปิยบุตร ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด ไม่กล้านิรโทษกรรม ม.112 ไร้ "ใบอนุญาต" เหน็บ ส.ส. เป็น "ผู้แทนของใคร" กันแน่! https://www.thai-tai.tv/news/20225/ . #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #ปิยบุตรแสงกนกกุล #คณะก้าวหน้า #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #กฎหมายไทย #เสรีภาพการแสดงออก #นักการเมือง #ประชาธิปไตย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิสุทธิ์" ยอมรับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจริง ชี้ทุกคนต้องช่วยกัน มั่นใจ "ชัยเกษม" พร้อมรับไม้ต่อหาก "แพทองธาร" ไม่รอด
    https://www.thai-tai.tv/news/20201/
    .
    #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #วิปรัฐบาล #รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ #พรรคเพื่อไทย #ชัยเกษมนิติสิริ #แพทองธารชินวัตร #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #นายกรัฐมนตรี #สถานบันเทิงครบวงจร
    "วิสุทธิ์" ยอมรับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจริง ชี้ทุกคนต้องช่วยกัน มั่นใจ "ชัยเกษม" พร้อมรับไม้ต่อหาก "แพทองธาร" ไม่รอด https://www.thai-tai.tv/news/20201/ . #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #วิปรัฐบาล #รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ #พรรคเพื่อไทย #ชัยเกษมนิติสิริ #แพทองธารชินวัตร #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #นายกรัฐมนตรี #สถานบันเทิงครบวงจร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.พรรคประชาชน ขึ้นให้กำลังใจผู้ชี้แจง "ปูน ธนพัฒน์-เบญจา" ในฐานะผู้ต้องคดี ม.112 บอกประชาธิปไตยไทยจะไม่เบ่งบาน ถ้ายังดำเนินคดีคนเห็นต่าง
    https://www.thai-tai.tv/news/20157/
    .
    #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #ร่างพรบนิรโทษกรรม #ภาคประชาชน #ผู้เห็นต่าง #ความยุติธรรม #ประชาธิปไตย #การเมืองไทย #สันติสุข #สภาผู้แทนราษฎร #เยาวชน #เบนจาอะปัญ #ธนพัฒน์กาเพ็ง
    สส.พรรคประชาชน ขึ้นให้กำลังใจผู้ชี้แจง "ปูน ธนพัฒน์-เบญจา" ในฐานะผู้ต้องคดี ม.112 บอกประชาธิปไตยไทยจะไม่เบ่งบาน ถ้ายังดำเนินคดีคนเห็นต่าง https://www.thai-tai.tv/news/20157/ . #นิรโทษกรรม #มาตรา112 #ร่างพรบนิรโทษกรรม #ภาคประชาชน #ผู้เห็นต่าง #ความยุติธรรม #ประชาธิปไตย #การเมืองไทย #สันติสุข #สภาผู้แทนราษฎร #เยาวชน #เบนจาอะปัญ #ธนพัฒน์กาเพ็ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จุลพันธ์” แจงถอนร่างกาสิโนด้วยความจริงใจ เชื่อลดความขัดแย้งในสังคม สมัยประชุมนี้เสนออีกไม่ได้ แต่สมัยประชุมหน้ายังเสนอใหม่ได้ สุดท้ายสภามีมติถอนร่างฯ ด้วยเสียง 253 ต่อ 67

    เวลา 12.47 น. วันที่ 9 ก.ค.ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาญัตติถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....ออกจากวาระการประชุม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การอภิปรายที่ผ่านมาเป็นความคิดเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่โดยข้อเท็จจริงญัตติที่คุยอยู่คือการจะถอนร่างกฎหมายหรือไม่ แต่การอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนมากลงไปเนื้อหาของร่างกฎหมายเป็นหลักว่ายังไม่มีความพร้อม และยังมีความบกพร่อง ซึ่งเป็นเรื่องของการพิจารณาวาระแรก ฉะนั้น อำนาจของสภาเป็นอำนาจของพวกเราที่อยู่ตรงนี้ที่มีกระบวนการแก้ไขต่างๆได้

    ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไป เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในสังคม และให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ได้พิจารณาอีกครั้ง จะช่วยให้ประเทศเดินหน้าได้ง่ายขึ้นด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลของฝ่ายค้านเราก็รับฟังได้ที่แต่ละท่านจะมีเหตุผลของท่าน

    “ต่อให้ร่างกฎหมายนี้ลงมติถอนแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างนี้จะออกจากสารบบ เพียงแต่ห้ามยื่นกลับมาในสมัยประชุมเดียวกัน ซึ่งสมัยประชุมหน้าสมาชิกสามารถยื่นสู่สภาได้เช่นเดิม ผมมาด้วยความจริงใจว่าการถอนร่างจะเป็นประโยชน์กับประเทศ และสัมคมมากกว่า ส่วนที่ท่านถามเป็นสิ่งที่ผมตอบไมได้ว่าจะเอากลับมาอีกหรือไม่ เพราะผมไม่มีอำนาจยืนยัน แต่ได้รับมอบมาเรื่องการถอนร่างเท่านั้น วันนี้ก็จะใช้เสียงสภาตัดสินให้ถอนกลับ ครม. แต่ถ้าสภาจะให้เดินหน้าก็ว่ากันในวาระ 1 ต่อไป ผมเชื่อว่า สส.ฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อมทุกกรณี” รมช.คลัง กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000064667

    #Thaitimes #MGROnline #ถอนร่างกาสิโน
    “จุลพันธ์” แจงถอนร่างกาสิโนด้วยความจริงใจ เชื่อลดความขัดแย้งในสังคม สมัยประชุมนี้เสนออีกไม่ได้ แต่สมัยประชุมหน้ายังเสนอใหม่ได้ สุดท้ายสภามีมติถอนร่างฯ ด้วยเสียง 253 ต่อ 67 • เวลา 12.47 น. วันที่ 9 ก.ค.ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาญัตติถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....ออกจากวาระการประชุม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การอภิปรายที่ผ่านมาเป็นความคิดเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่โดยข้อเท็จจริงญัตติที่คุยอยู่คือการจะถอนร่างกฎหมายหรือไม่ แต่การอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนมากลงไปเนื้อหาของร่างกฎหมายเป็นหลักว่ายังไม่มีความพร้อม และยังมีความบกพร่อง ซึ่งเป็นเรื่องของการพิจารณาวาระแรก ฉะนั้น อำนาจของสภาเป็นอำนาจของพวกเราที่อยู่ตรงนี้ที่มีกระบวนการแก้ไขต่างๆได้ • ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไป เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในสังคม และให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ได้พิจารณาอีกครั้ง จะช่วยให้ประเทศเดินหน้าได้ง่ายขึ้นด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลของฝ่ายค้านเราก็รับฟังได้ที่แต่ละท่านจะมีเหตุผลของท่าน • “ต่อให้ร่างกฎหมายนี้ลงมติถอนแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างนี้จะออกจากสารบบ เพียงแต่ห้ามยื่นกลับมาในสมัยประชุมเดียวกัน ซึ่งสมัยประชุมหน้าสมาชิกสามารถยื่นสู่สภาได้เช่นเดิม ผมมาด้วยความจริงใจว่าการถอนร่างจะเป็นประโยชน์กับประเทศ และสัมคมมากกว่า ส่วนที่ท่านถามเป็นสิ่งที่ผมตอบไมได้ว่าจะเอากลับมาอีกหรือไม่ เพราะผมไม่มีอำนาจยืนยัน แต่ได้รับมอบมาเรื่องการถอนร่างเท่านั้น วันนี้ก็จะใช้เสียงสภาตัดสินให้ถอนกลับ ครม. แต่ถ้าสภาจะให้เดินหน้าก็ว่ากันในวาระ 1 ต่อไป ผมเชื่อว่า สส.ฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อมทุกกรณี” รมช.คลัง กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000064667 • #Thaitimes #MGROnline #ถอนร่างกาสิโน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ประชุมสภาฯลงมติถอน "ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ" ออกจากวาระ 253 เสียงต่อ 67
    https://www.thai-tai.tv/news/20146/
    .
    #สภาผู้แทนราษฎร #เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #ถอนร่างกฎหมาย #พรรคเพื่อไทย #พรรคภูมิใจไทย #การเมืองไทย #ปิดอภิปราย #มติสภา
    ที่ประชุมสภาฯลงมติถอน "ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ" ออกจากวาระ 253 เสียงต่อ 67 https://www.thai-tai.tv/news/20146/ . #สภาผู้แทนราษฎร #เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #ถอนร่างกฎหมาย #พรรคเพื่อไทย #พรรคภูมิใจไทย #การเมืองไทย #ปิดอภิปราย #มติสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'นิพนธ์' ผิดหวังปชป. ทำผิดซ้ำซ้อน ให้สัตยาบันย้อนหลัง เสี่ยงผิดกม.สถาบัน 79 ปี หมดสิ้นแล้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/20134/
    .
    #ภูมิใจไทย #อนุทินชาญวีรกูล #กาสิโน #กฎหมายกาสิโน #สถานบันเทิงครบวงจร #การพนัน #เพื่อไทย #รัฐบาลไทย #เศรษฐกิจไทย #ท่องเที่ยวไทย #นักท่องเที่ยวจีน #ความสัมพันธ์ไทยจีน #แพทองธารชินวัตร #สีจิ้นผิง #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #ประชามติ #บ่อนกาสิโน #ประชาธิปัตย์ #ปชป #นิพนธ์บุญญามณี #พรรคการเมือง #ธรรมาภิบาล #กฎหมาย
    'นิพนธ์' ผิดหวังปชป. ทำผิดซ้ำซ้อน ให้สัตยาบันย้อนหลัง เสี่ยงผิดกม.สถาบัน 79 ปี หมดสิ้นแล้ว https://www.thai-tai.tv/news/20134/ . #ภูมิใจไทย #อนุทินชาญวีรกูล #กาสิโน #กฎหมายกาสิโน #สถานบันเทิงครบวงจร #การพนัน #เพื่อไทย #รัฐบาลไทย #เศรษฐกิจไทย #ท่องเที่ยวไทย #นักท่องเที่ยวจีน #ความสัมพันธ์ไทยจีน #แพทองธารชินวัตร #สีจิ้นผิง #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #ประชามติ #บ่อนกาสิโน #ประชาธิปัตย์ #ปชป #นิพนธ์บุญญามณี #พรรคการเมือง #ธรรมาภิบาล #กฎหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เทพไท' ท้าเพื่อไทยแน่จริงชู 'กาสิโน' หาเสียงเลือกตั้งไปเลย
    https://www.thai-tai.tv/news/20133/
    .
    #ภูมิใจไทย #อนุทินชาญวีรกูล #เทพไทเสนพงศ์ #กาสิโน #กฎหมายกาสิโน #สถานบันเทิงครบวงจร #การพนัน #เพื่อไทย #รัฐบาลไทย #เศรษฐกิจไทย #ท่องเที่ยวไทย #นักท่องเที่ยวจีน #ความสัมพันธ์ไทยจีน #แพทองธารชินวัตร #สีจิ้นผิง #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #ประชามติ #บ่อนกาสิโน
    'เทพไท' ท้าเพื่อไทยแน่จริงชู 'กาสิโน' หาเสียงเลือกตั้งไปเลย https://www.thai-tai.tv/news/20133/ . #ภูมิใจไทย #อนุทินชาญวีรกูล #เทพไทเสนพงศ์ #กาสิโน #กฎหมายกาสิโน #สถานบันเทิงครบวงจร #การพนัน #เพื่อไทย #รัฐบาลไทย #เศรษฐกิจไทย #ท่องเที่ยวไทย #นักท่องเที่ยวจีน #ความสัมพันธ์ไทยจีน #แพทองธารชินวัตร #สีจิ้นผิง #การเมืองไทย #สภาผู้แทนราษฎร #ประชามติ #บ่อนกาสิโน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นไปตามคาดตามที่ประกาศเอาไว้ ภายหลังรัฐบาลเตรียมถอนร่างกฎหมายสถานบันทิงครบวงจร ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ แต่จะเตรียมเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแทน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000064182

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เป็นไปตามคาดตามที่ประกาศเอาไว้ ภายหลังรัฐบาลเตรียมถอนร่างกฎหมายสถานบันทิงครบวงจร ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ แต่จะเตรียมเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแทน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000064182 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1233 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าดี๊ด๊านายกสำรอง เพื่อไทยมีบัญชีในมือ : [THE MESSAGE]

    นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ดักทางนายกรัฐมนตรีชั่วคราว อย่ากระดี๊กระด๊าใจร้อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในตำแหน่ง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จะชูบัญชีนายกของพรรคเพื่อไทย ยังไม่โหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รอ ครม.ลงตัว พร้อมเจรจาพรรคร่วมรัฐบาลแบ่งปัน หากต้องการเก้าอี้นี้ ชี้ คุณสมบัติต้องเป็นกลาง แม่นยำข้อบังคับการประชุม เบรก สส.หน้าใหม่ นั่งรองประธานสภาฯ ยืนยันรัฐบาลถอนร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แน่ แนะจับตาพรรคขวางจะกลับคำพูดไม่ยอมให้ถอนร่างหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาการเมืองด้วยวาทะกรรมไม่ได้ จี้รัฐมนตรีที่เป็น สส. ต้องเข้าประชุมสภาฯ หากไม่พร้อมทำหน้าที่ในสภาให้ลาออก ขยับปาร์ตี้ลิตส์ลำดับถัดไปแทน หากสภาล่มเตรียมแฉรายชื่อใครบ้างไม่เข้าประชุม
    อย่าดี๊ด๊านายกสำรอง เพื่อไทยมีบัญชีในมือ : [THE MESSAGE] นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ดักทางนายกรัฐมนตรีชั่วคราว อย่ากระดี๊กระด๊าใจร้อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในตำแหน่ง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จะชูบัญชีนายกของพรรคเพื่อไทย ยังไม่โหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รอ ครม.ลงตัว พร้อมเจรจาพรรคร่วมรัฐบาลแบ่งปัน หากต้องการเก้าอี้นี้ ชี้ คุณสมบัติต้องเป็นกลาง แม่นยำข้อบังคับการประชุม เบรก สส.หน้าใหม่ นั่งรองประธานสภาฯ ยืนยันรัฐบาลถอนร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แน่ แนะจับตาพรรคขวางจะกลับคำพูดไม่ยอมให้ถอนร่างหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาการเมืองด้วยวาทะกรรมไม่ได้ จี้รัฐมนตรีที่เป็น สส. ต้องเข้าประชุมสภาฯ หากไม่พร้อมทำหน้าที่ในสภาให้ลาออก ขยับปาร์ตี้ลิตส์ลำดับถัดไปแทน หากสภาล่มเตรียมแฉรายชื่อใครบ้างไม่เข้าประชุม
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 0 0 รีวิว