• หม่อมโจ้
    สิ่งที่ควรรู้เรื่องอิสราเอลหม่อมโจ้ โต้ทูตอิสราเอล ยันต้องเปิดความจริง ช่วยคนไทยพ้นภาวะทาส
    เพื่อนๆคงจะรู้จัก คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาลชาวไทยคนแรก ที่เรียกว่ามิสยูนิเวอร์ส คุณอาภัสราจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) ปี 2506 จาก ร.ร.ศึกษาวิทยา ถนนสีลม แล้วไปเรียนอาชีวศึกษาที่ ร.ร.เลขานุการที่นครรัฐปีนัง ในมาเลเซีย จบชั้นปีที่ 2 เธอมาประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งปี 2507 จากนั้นไปเรียนต่อแล้วกลับมาปี 2508 เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวอร์สที่นครไมอามี่ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ตำแหน่งขณะมีอายุ18ปี คุณปุ๊กเกิดวันที่16 มกราคม 2490 ปีกุนปีเดียวกับผม ปี 2510 ขณะมีอายุ 20ปีได้สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีบุตรชายคนแรกคือหม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร
    ปัจจุบัน หม่อมโจ้ บุตรชายคนแรกของคุณปุ๊ก อายุได้ 53 ปีแล้ว หม่อมโจ้เรียนจบจากต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเคยทำงานบริษัทต่างประเทศจนได้ลาออกไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายวัดป่าอยู่หลายปีได้มาซื้อที่ดินที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 45 ไร่ ปลูกพืชและผลไม้สายพันธุ์ของต่างประเทศที่ไม่มีใครทำมาก่อนจนผลไม้ขายได้ในราคาสูง หม่อมหลวงรุ่งคุณได้ศึกษาและวิเคราะห์เขียนหนังสือหลายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอล ไว้มากจนเป็นข่าวตอบโต้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยดังนี้
    เรียน ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายไซม่อน โรดเด็ด
    ข้าพเจ้ารับทราบถึงความไม่พอใจของท่านกับบทความของข้าพเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ อันเป็นสิทธิที่ข้าพเจ้าจะแสดงได้ โดยความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นไปตามข้อมูลหลักฐานอันมีจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีความพยายามในการกลบและบิดเบือน
    แม้กระนั้น ท่านอาจแปลกใจคิดว่า แล้วไฉนทั้งที่ข้าพเจ้าและประเทศไทยที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ข้าพเจ้าจึงต้องไปเขียนในเรื่องราวสร้างความบาดหมางให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าจึงใคร่ที่จะชี้แจงตรงนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนเพื่อที่จะก่อความบาดหมางให้แก่ท่านหรือแก่ผู้ใด และ เรื่องราวที่ข้าพเจ้าเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง
    อย่างแรก 'กลุ่มทุนธนาคารยิว Zionist' ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงนั้น ข้าพเจ้ากล่าวถึงคนเพียงกลุ่มหนึ่ง มิใช่ชาวยิวทั้งหมด โดยคำว่า 'Zionist' แม้แต่ชาวยิวแท้ Orthodox Jews ที่ยึดมั่นใน Torah จำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย ดังที่พวกเขาได้ออกมาประท้วง ประกาศว่า 'Zionism' ไม่ใช่ 'Judaism' เอง ท่านทูตน่าจะพอทราบอยู่ เพราะใน Israel ก็มีการจับชาวยิวแท้ ที่มีอัธยาศัยดีเหล่านี้ ไปจำคุกอยู่จำนวนหนึ่ง
    'ทุนธนาคาร Zionist' ที่ข้าพเจ้าพูดถึง หมายถึงกลุ่มทุนธนาคารที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในโลก มีอำนาจเหนือรัฐหลายรัฐ รวมถึงมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เขาคุมการเงินโดยกลุ่มของเขาเอง เป็นเจ้าของ Federal Reserve Bank ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พิมพ์เงินให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องกู้ มิใช่ของประชาชนชาวอเมริกันตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด กลุ่มทุนธนาคารของเขาเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แทบทั้งสิ้นทั่วโลก รวมถึง 6 บริษัทที่คุม 90% ของสื่อในสหรัฐอเมริกา เขาคุมแหล่งนํ้ามันและก๊าซหลัก ๆ ทั่วโลก และกำลังรุกเพื่อควบคุมผูกขาดอาหารของโลกโดยการผลิต GMO แม้แต่องค์กรโลก เช่น UN ที่ให้กำเนิด World Bank และ IMF ล้วนเป็นองค์กรที่พวกเขาจัดตั้งขึ้น และควบคุมทั้งสิ้น
    ชื่อตระกูลที่โดดเด่นมีอิทธิพลสูงสุดใน 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ ได้แก่ 'Rothschild' และ 'Rockefeller' ชื่อ 'Rothschild' ท่านทูตย่อมรู้จักเป็นอย่างดี โดยใน 'Independence Hall' ที่ Tel Aviv เมืองหลวงของท่านเอง ก็มีนิทรรศการเอกสารชิ้นสำคัญมากชิ้นหนึ่งเรียกว่า 'The Balfour Declaration' เป็นจดหมายจากรัฐบาลอังกฤษ จ่าหัวถึง 'Lord Rothschild' ใน 1917 แสดงถึงการที่รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนให้เกิด บ้านอยู่ (national home) ของชาวยิว ที่ Palestine แก่ 'Lord Rothschild' Baron Edmond (Abraham Benjamin) Rothschild จึงมีสถานะเป็น "the Father of the Settlements" (Avi ha-Yishuv) หรือบิดาแห่งอิสราเอล
    ใน4บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ 'The Four Horsemen of Oil' ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายการครอบครองน้ำมันของสหรัฐฯ 2 บริษัท คือ BP Amoco และ Royal Dutch/Shell อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Rothschild ที่ถือหุ้นใหญ่ ส่วน อีกสอง Exxon Mobil และ Chevron คือ บริษัทที่มาจาก Standard Oil ของ John D. Rockefeller โดยกรรมการของบริษัทน้ำมันเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ไขว้กันเองเป็นใย และไขว้เป็นกรรมการของธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JP Morgan Chase ของ Rockefeller และ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, N. M. Rothschild & Sons โดยตระกูล Rothschild ควบคุม และมีการเชื่อมโยงถือหุ้นไขว้กันกับกลุ่มทุนนอมินียักษ์ เช่น BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ที่ถือหุ้นใหญ่บริษัทยักษ์ใหญ่ แทบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
    ในการสร้างอำนาจเหนือรัฐต่าง ๆ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้จัดตั้งองค์กร Front ของเขา เช่น The Bilderberg Group, Council on Foreign Relations (CFR) และ The Trilateral Commission (TC) โดยองค์กรเหล่านี้จะรวมกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และบรรดาผู้มีอิทธิผล เช่น อดีตประธานาธิบดี บริวารมือขวาของเขา Henry Kissinger นักการเมืองทุกขั้ว ทหาร หัวหน้าหน่วยงานลับ ของประเทศสำคัญในยุโรป และสหรัฐฯ โดยใน Trilateral Commission จะมีสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในทวีปเอเชียต่าง ๆ ที่รับใช้พวกเขา 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐ เช่นมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา
    ด้วยความละโมบของพวกเขา ในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยกำลังก็ดี โดยวิธีแห่งการให้สินบนแก่ผู้ขายชาติตนเองก็ดี โดยการบีบบังคับด้วยหนี้สินก็ดี โดยการแทรกแซงการเมืองภายในก็ดี 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้เข้ายึดครองทรัพยากร พลังงาน เศรษฐกิจ และการเงิน ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประชาชนของประเทศนั้น ๆ ตกเป็นทาสของพวกเขา โดยในประเทศไทยเอง ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำ ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' พร้อมการร่วมมือของ 'คนไทย' ที่ได้ขายตัวขายจิตวิญญาณให้พวกเขา ได้ร่วมกระทำ ดังต่อไปนี้ (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงิน (3) การชักใยอยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' เพื่อการยึดครองประเทศเป็นเมืองขึ้นยิ่งขึ้นไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ :
    (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย โดย 'ทุนธนาคาร Zionist'
    ทั้งที่ประเทศไทย มีอธิปไตยของตนเอง โดยอธิปไตย นั้นเป็นของปวงชนชาวไทย อันหมายความว่าทรัพยากรของชาตินั้นเป็นของประชาชนคนไทย แต่ปรากฏว่า กฎหมายว่าด้วยน้ำมันและก๊าซ (พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514) มิได้มีการเขียนขึ้นไม่ว่าจะ 'โดย' ประชาชน หรือ 'เพื่อ' ประชาชน แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเขียนขึ้นโดย Walter James Levi สมาชิกทั้ง CFR และ The Trilateral Commission ผู้ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขั้นขึ้นชื่อว่าเป็น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของสหรัฐอเมริกา (the dean of United States oil economists) และ ได้เป็นผู้บริหารบริษัทของตระกูล Rockefeller เองคือ Standard Oil Company of New York หรือ Socony (ปัจจุบันคือ Exxon) คนที่เขียนกฎหมายนี้ของประเทศไทย ไม่ใช่คนไทย แต่คือคนของ 'ทุนธนาคาร Zionist'
    เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเอง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยมีลักษณะของกฎหมายสำหรับเมืองขึ้นอันไม่เป็นธรรม คือ น้ำมันและก๊าซทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับสัมปทาน การได้สัมปทานเป็นไปโดยไม่มีการประมูลอย่างโปร่งใส ค่าตอบแทนเป็นไปอย่างต่ำ และ ประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของโดยแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบรับทราบความจริงได้เลย โดยวิธีที่สามารถจะเรียกว่าโปร่งใสได้ ว่าปริมาณทรัพยากรที่มีการขุดไปนั้นมีปริมาณที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด ประเทศไทยมีพลังงานมากน้อยแค่ไหนโดยต้องยอมรับตามตัวเลข ที่บริษัทพลังงานต่าง ๆ แจ้งเท่านั้น
    การปล้นอธิปไตยโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นไปได้ด้วยการข่มขู่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมการให้สินบนแก่ 'คนไทยที่ขายชาติตัวเอง' ซึ่งจากนั้นมา การรุกครอบครองน้ำมันและก๊าซของประชาชนคนไทย โดยวิธีการดังกล่าวได้ขยายไปเรื่อย ๆ มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ให้เอื้ออำนวยแก่ผู้รับสัมปทานอย่างล้นพ้นโดยภายหลังจะเห็นได้ชัดเจนถึงผู้เข้ามามีอำนาจในไทย ไม่ว่าขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ได้สานต่อไปในทาง 'ขายชาติตัวเอง' ให้แก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้เพื่อค่าคอมมิสชั่น ถึงขั้นร่วมกันชง ส่งลูกกันข้ามรัฐบาล ยกดินแดนไทยให้กัมพูชา อันส่งผลให้พื้นที่ไทยในทะเลอ่าวไทย 27,000 ตารางกิโลเมตรอันอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซที่สุดแห่งหนึ่ง ต้องตกกลายเป็นพื้นที่พิพาท ระหว่างไทยกับกัมพูชา
    ซึ่งในพื้นที่นี้ บริษัท Chevron คือบริษัทที่จ่อล็อกจะถือสัมปทานจากทั้ง 2 ประเทศ ในกรณีนี้ที่มีการพิพาทเรื่องพื้นที่ในอ่าวไทย หากไทยและกัมพูชา ให้สัมปทานในพื้นที่นี้ ผู้ที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในการครอบครอง ย่อมมิใช่ไทยหรือกัมพูชาอีกทั้งนั้น แต่จะเป็นสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เพราะสัมปทานจะเป็นของ Chevron โดยเอกฉันท์ ฝ่ายใดที่ให้ประโยชน์แก่สหรัฐฯ สูงสุด สหรัฐฯ ย่อมสนับสนุนฝ่ายนั้น
    ในปัจจุบัน การถูกปล้นอธิปไตย การตกเป็นอาณานิคมของ 'ทุนธนาคาร Zionist' อย่างเต็มรูปแบบในเรื่องพลังงาน ก็ประจักษ์ชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในปัจจุบัน นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ได้เป็นสมาชิก The Trilateral Commission (TC) องค์กรของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ยาวนานถึง 30 ปี โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่รีรอที่จะประกาศผลักดันเปิดสัมปทานในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจ และไม่มีการชี้แจงอันใดเกี่ยวกับการเสียดินแดนของประเทศไทย ทั้งที่มีการคัดค้าน
    ด้วยประการฉะนี้ การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมิได้ครอบคลุมเพียงแค่น้ำมันและก๊าซอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปเป็นการปล้นดินแดนไทย จากประชาชนคนไทย ไปโดยเรียบร้อย
    (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงินของประเทศ
    การที่เถ้าแก่สามานย์รายใดจะต้องการยึดที่ดินสวย ๆ ของชาวนา วิธีที่เขาจะกระทำคือ ให้ชาวนากู้เงิน ทำให้จ่ายหนี้ไม่ได้ เมื่อจ่ายช้าก็อายัดที่ดินนั้น บังคับขายในราคาต่ำกว่าจริงสิบเท่า แล้วเข้าซื้อเอง
    วิธีการของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ก็เป็นเช่นนั้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้ หลังการปล่อยกู้เงินให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากให้คน น้อยกว่า 1% อย่างฟุ่มเฟือย George Soros สมาชิกอาวุโส CFR ได้นำกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' มาโจมตีค่าเงินบาท จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เพราะกู้เงินจากต่างชาติมามาก เศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่วิกฤต มีการล่มสลายของธุรกิจจำนวนมาก(ในปี 2540 – 2542)
    ต่อมาก็เป็นไปตามแบบแผนวิธีการของ IMF และ World Bank ที่ 51% เป็นของ US Treasury ควบคุมโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ของ Rothschild ตามขั้นตอนที่ Joseph Stiglitz ผู้เป็นอดีตประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ President Bill Clinton อดีตรองประธาน และ Chief Economist ของ World Bank ได้เปิดโปงให้แก่หนังสือ The Observer และ Newsweek หลังมีเอกสารลับหลุดออกมาจาก World Bank คือในการขอความช่วยเหลือทางการเงิน จำต้องเซ็นสัญญา โดยในสัญญาจะตกลงใน (a) Privatization การแปรรูป โดยรัฐจะต้องยินยอมขายสมบัติของชาติเกี่ยวเนื่องกับสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ (b) Capital Market Liberalization การเปิดให้ทุนไหลเข้าออก โดยส่วนใหญ่มักจะไหลออก (c) Market-based pricing การขึ้นราคา อาหาร ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ โดยอ้างว่าเป็นราคาตลาดโลก (d) Free Trade การค้าเสรี ตามกฎของ WTO และ World Bank
    Stiglitz ได้ระบุในการสัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า การยินยอมในการตกลงนั้นเกิดขึ้นไม่ยากโดย (ก) World Bank IMF สามารถสั่ง Financial Blockage การกีดกันทางการเงินหากไม่ร่วมมือ และ (ข) นักการเมืองในประเทศนั้น ๆ ยินดีที่จะยกบริษัท น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ ให้โดย 'เขาจะตาโตกันเลย เมือเขานึกถึงค่าคอมมิสชั่นที่เขาจะได้กัน จากการลดราคาเป็นพัน ๆ ล้านในการแปรรูป' โดยเขาจะสามารถใช้ข้ออ้างว่า ถูก World Bank IMF บังคับ
    แล้วการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ก็ได้ตามมา พร้อมการขายสมบัติชาติแบบล็อกสเปคในราคาที่ต่ำกว่าทุนถึง 5 เท่า ตามด้วยการแปรรูปบริษัทน้ำมัน-ก๊าซของชาติ โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะในกรณี การยกดินแดนให้ต่างชาติ หรือ การแปรรูป จะเกิดขึ้นโดยการร่วมมือของมากกว่าหนึ่งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชง อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นไปเพื่อการสามารถโยนความผิดกันไปมาได้ โดยไม่มีใครผิดเต็ม ๆ โดยในกรณีนี้ แม้ขั้วนักการเมืองกลุ่มที่รับข้อตกลงรับรายละเอียดในการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับจาก 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้พยายามจะโยนความผิดให้ผู้ริเริ่มการตกลง แต่ก็ปรากฏให้เห็นได้ถึงการตอบแทน เมื่อคนของเขาได้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO
    โดยการโจมตีค่าเงิน การบีบข่มขู่ การให้สินบนแก่ผู้เข้ามามีอำนาจทุกขั้ว ที่ร่วมกันขายชาติตนเอง 'ทุนธนาคาร Zionist' เช่น JP Morgan Chase, BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ได้เข้ามายึดครองควบคุม บริษัทน้ำมันก๊าซ ธนาคาร และ เศรษฐกิจการเงินของประเทศไทย ไปจากคนไทย และยังรุกคืบยิ่ง ณ ปัจจุบัน ตามข่าวการแปรรูปที่ปรากฏอยู่
    (3) การชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' (Divide and Conquer) เพื่อการยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ
    เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ที่เข้ามามีอำนาจ ล้วนให้ความร่วมมือกับ 'ทุนธนาคาร Zionist' ในการขายทำลายชาติ โดยมีค่าคอมมิสชั่น ทั้งในทรัพยากรและในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม สามารถควบคุม ชักใยได้ทุกฝ่าย ยุทธศาสตร์ แบ่งแยกแล้วปกครอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มีตัวอย่างเห็นได้ในโลกปัจจุบันมากมายในการเข้ายึดครองประเทศต่าง ๆ ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยการยุยงให้เหยื่อตีกันเอง บางกรณีให้อาวุธทั้ง 2 ฝ่าย ทำลายภูมิคุ้มกันความสามัคคีของชนชาตินั้น ๆ สร้างความแตกแยก โดยเมื่อมีรอยแตก ก็สามารถจะแทรกเข้าไป ยึดครองประเทศนั้น ๆ
    ความแตกแยก ปัญหาความขัดแย้งเสื้อสี ที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ล้วนมีการชักใย มีการสนับสนุน ทั้ง 2 ฝ่ายการเมือง โดยมีกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองทั้ง 2 ขั้ว โดยทั้ง 2 ขั้ว นั้นล้วนมีผลประโยชน์ในเรื่องคอมมิสชั่น จากกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และถูกชักใยให้ปลุกปั่นประชาชน ให้มาตีกันเองโดยการรู้ไม่เท่าทันของประชาชน ว่าโดยแท้จริงแล้ว นักการเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ล้วนให้ความร่วมมือ ขายชาติตนเองแก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งสิ้น
    หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสมาชิก CFR ของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' อาทิ (a) Robert Blackville สมาชิก CFR มือขวาการต่างประเทศของ Henry Kissinger จาก Barbour Griffif & Rogers (CFR) (b) Keneth Adelman สมาชิก CFR อดีตทูต UN ของสหรัฐ จาก Baker & Botts Robert (CFR) (c) Robert Amsterdam จาก Amsterdam & Peroff (Chatham House) ได้ทำหน้าที่เป็น lobbyist ให้อดีตนักการเมืองที่หลบอยู่ที่ Dubai และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดง และองค์กร NED ได้ให้เงินสนับสนุน Website ของเสื้อแดงจำนวนมาก โดยต้องเป็นที่กล่าวว่า นักการเมืองไทยที่หลบหนีอยู่ที่ Dubai นั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโดยลำพังเขาไม่สามารถที่จะทำเองได้เลย (นั่นคือทักษิณ ชินวัตร)
    ส่วนนักการเมืองผู้เข้ามามีอำนาจ ฝ่ายอื่น ๆ ที่โหน อ้าง ปกป้อง สถาบันสำคัญ ๆ ฝ่ายนี้ โดยการขายตัวขายชาติ การปรารถนาได้ค่าคอมมิสชั่น ทั้งในน้ำมันก๊าซ และในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม ก็ไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจการชักใยของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ที่เป็นผู้กำกับการแสดง จูงทั้งสองสามฝ่าย ให้ชงและส่งลูกให้กัน เสี้ยมให้ชาติ ล่มสลาย เพื่อการปล้นยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในระหว่างที่สหรัฐ แขนขวาของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' สนับสนุนฝ่ายหนึ่ง แขนซ้าย ก็ทำตัวเข้าสนับสนุนอีกฝ่าย
    ข้าพเจ้าจึงจะประกาศ ณ ที่นี้ว่าข้าพเจ้ามิได้รังเกียจประชาชนของชนชาติใด จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยิวหรือชาติใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจ คือพฤติกรรม เอาเปรียบ เบียดเบียน แทรกแซง ปล้นทั้งทรัพยากรและดินแดน ทำลายชาติอื่น ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ได้กระทำทั่วโลก
    ดังนั้น กับคำกล่าวของท่านว่าข้าพเจ้าเหยียดชนชาติ เมื่อความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เดือดร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีค่ายนักโทษอันใดที่กระทำความทารุณโหดร้ายเท่ากับที่สถานที่ชื่อ Gaza และในเมื่อประเทศของท่านเองยังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Palestine อย่างที่กระทำอยู่ ท่านยังจะกล้าบังอาจเรียกผู้ใดว่าเหยียดชนชาติได้เสียอย่างไร
    จะเรียกใครว่าอย่างไรท่านจงมองตัวเองบ้างเสียเถิด ท่านจงสำเหนียกเสียบ้างเถิดว่า พฤติกรรมร้องทำจะเป็นจะตายว่าพวกตนถูกทำร้าย ทั้งที่พวกตนนั่นแหละคือผู้ที่กระทำชำเราเขาไปทั่ว ท่านคิดว่าอย่างไร พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชหรือไม่
    ไม่ว่าจะประชาชนชนชาติใด เขาก็ย่อมปรารถนาความสงบสุข เขาย่อมปรารถนาอธิปไตยในชาติของเขาเอง เขาย่อมปรารถนาที่จะตัดสินอนาคตเขาเอง เขาย่อมปรารถนาว่าทรัพยากรของเขาจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาด้วยความเป็นธรรม เขาย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเอาดินแดนของเขาไป แต่ในประเทศไทย ด้วยการชักใย การซื้อคนไทยที่ขายชาติตนเองทุกขั้ว การซื้อสื่อ การปลุกปั้นโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
    ผลคือ คนไทย แทนที่จะรักใครสามัคคีกัน แทนที่จะได้รับผลประโยชน์จากสมบัติอันมีค่าของเขา แทนที่จะมีรัฐสวัสดิการ การรักษาพยาบาล การศึกษา ที่มีคุณภาพ แทนที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพความสุขที่พวกเขาควรได้รับ เขากลับต้องมาเกลียดชังกันเอง ทะเลาะสู้กันเอง เขากลับต้องมาเป็นทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ต้องมาเป็นทาสที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายสู้กันเอง แทนที่จะสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยพวกตนจากความเป็นทาส เพราะความไม่รู้เท่าทัน เพราะการหลอกลวงโดยนักการเมือง ผู้เข้ามามีอำนาจที่หิวโหย ที่ล้วนทำเพื่อตนเอง โดยรับใช้ ถูกชักใยจากนายคนเดียวกันคือ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งนั้น
    ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริง ความจริงโดยรอบด้าน และความจริงที่จริงที่สุด โดย เมื่อประชาชนชาวไทยตื่นรู้กับความจริง การเป็นทาสที่ถูกหลอกให้สู้กันเองย่อมหมดไป ความสามัคคีย่อมกลับมา โดยสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ การตื่นรู้เท่านั้น ที่จะทำให้ชนชาติไทยรอดพ้นภัยไปได้
    ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าประชาชนชาวไทยจะต้องไปเป็นศัตรูกับใคร การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด และ เมื่อคนไทยตื่นรู้เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมกันปราบปรามเหล่าคนไทยที่ขายชาติตนเองทั้งหลายแล้ว ประเทศและประชาชนชาวไทยย่อมพ้นจากการเป็นอาณานิคม พ้นจากการเป็นเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็น ทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' หรือ กลุ่มทุนอื่นใด
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    หม่อมโจ้ สิ่งที่ควรรู้เรื่องอิสราเอลหม่อมโจ้ โต้ทูตอิสราเอล ยันต้องเปิดความจริง ช่วยคนไทยพ้นภาวะทาส เพื่อนๆคงจะรู้จัก คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาลชาวไทยคนแรก ที่เรียกว่ามิสยูนิเวอร์ส คุณอาภัสราจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) ปี 2506 จาก ร.ร.ศึกษาวิทยา ถนนสีลม แล้วไปเรียนอาชีวศึกษาที่ ร.ร.เลขานุการที่นครรัฐปีนัง ในมาเลเซีย จบชั้นปีที่ 2 เธอมาประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งปี 2507 จากนั้นไปเรียนต่อแล้วกลับมาปี 2508 เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวอร์สที่นครไมอามี่ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ตำแหน่งขณะมีอายุ18ปี คุณปุ๊กเกิดวันที่16 มกราคม 2490 ปีกุนปีเดียวกับผม ปี 2510 ขณะมีอายุ 20ปีได้สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีบุตรชายคนแรกคือหม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร ปัจจุบัน หม่อมโจ้ บุตรชายคนแรกของคุณปุ๊ก อายุได้ 53 ปีแล้ว หม่อมโจ้เรียนจบจากต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเคยทำงานบริษัทต่างประเทศจนได้ลาออกไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายวัดป่าอยู่หลายปีได้มาซื้อที่ดินที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 45 ไร่ ปลูกพืชและผลไม้สายพันธุ์ของต่างประเทศที่ไม่มีใครทำมาก่อนจนผลไม้ขายได้ในราคาสูง หม่อมหลวงรุ่งคุณได้ศึกษาและวิเคราะห์เขียนหนังสือหลายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอล ไว้มากจนเป็นข่าวตอบโต้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยดังนี้ เรียน ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายไซม่อน โรดเด็ด ข้าพเจ้ารับทราบถึงความไม่พอใจของท่านกับบทความของข้าพเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ อันเป็นสิทธิที่ข้าพเจ้าจะแสดงได้ โดยความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นไปตามข้อมูลหลักฐานอันมีจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีความพยายามในการกลบและบิดเบือน แม้กระนั้น ท่านอาจแปลกใจคิดว่า แล้วไฉนทั้งที่ข้าพเจ้าและประเทศไทยที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ข้าพเจ้าจึงต้องไปเขียนในเรื่องราวสร้างความบาดหมางให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าจึงใคร่ที่จะชี้แจงตรงนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนเพื่อที่จะก่อความบาดหมางให้แก่ท่านหรือแก่ผู้ใด และ เรื่องราวที่ข้าพเจ้าเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง อย่างแรก 'กลุ่มทุนธนาคารยิว Zionist' ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงนั้น ข้าพเจ้ากล่าวถึงคนเพียงกลุ่มหนึ่ง มิใช่ชาวยิวทั้งหมด โดยคำว่า 'Zionist' แม้แต่ชาวยิวแท้ Orthodox Jews ที่ยึดมั่นใน Torah จำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย ดังที่พวกเขาได้ออกมาประท้วง ประกาศว่า 'Zionism' ไม่ใช่ 'Judaism' เอง ท่านทูตน่าจะพอทราบอยู่ เพราะใน Israel ก็มีการจับชาวยิวแท้ ที่มีอัธยาศัยดีเหล่านี้ ไปจำคุกอยู่จำนวนหนึ่ง 'ทุนธนาคาร Zionist' ที่ข้าพเจ้าพูดถึง หมายถึงกลุ่มทุนธนาคารที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในโลก มีอำนาจเหนือรัฐหลายรัฐ รวมถึงมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เขาคุมการเงินโดยกลุ่มของเขาเอง เป็นเจ้าของ Federal Reserve Bank ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พิมพ์เงินให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องกู้ มิใช่ของประชาชนชาวอเมริกันตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด กลุ่มทุนธนาคารของเขาเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แทบทั้งสิ้นทั่วโลก รวมถึง 6 บริษัทที่คุม 90% ของสื่อในสหรัฐอเมริกา เขาคุมแหล่งนํ้ามันและก๊าซหลัก ๆ ทั่วโลก และกำลังรุกเพื่อควบคุมผูกขาดอาหารของโลกโดยการผลิต GMO แม้แต่องค์กรโลก เช่น UN ที่ให้กำเนิด World Bank และ IMF ล้วนเป็นองค์กรที่พวกเขาจัดตั้งขึ้น และควบคุมทั้งสิ้น ชื่อตระกูลที่โดดเด่นมีอิทธิพลสูงสุดใน 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ ได้แก่ 'Rothschild' และ 'Rockefeller' ชื่อ 'Rothschild' ท่านทูตย่อมรู้จักเป็นอย่างดี โดยใน 'Independence Hall' ที่ Tel Aviv เมืองหลวงของท่านเอง ก็มีนิทรรศการเอกสารชิ้นสำคัญมากชิ้นหนึ่งเรียกว่า 'The Balfour Declaration' เป็นจดหมายจากรัฐบาลอังกฤษ จ่าหัวถึง 'Lord Rothschild' ใน 1917 แสดงถึงการที่รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนให้เกิด บ้านอยู่ (national home) ของชาวยิว ที่ Palestine แก่ 'Lord Rothschild' Baron Edmond (Abraham Benjamin) Rothschild จึงมีสถานะเป็น "the Father of the Settlements" (Avi ha-Yishuv) หรือบิดาแห่งอิสราเอล ใน4บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ 'The Four Horsemen of Oil' ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายการครอบครองน้ำมันของสหรัฐฯ 2 บริษัท คือ BP Amoco และ Royal Dutch/Shell อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Rothschild ที่ถือหุ้นใหญ่ ส่วน อีกสอง Exxon Mobil และ Chevron คือ บริษัทที่มาจาก Standard Oil ของ John D. Rockefeller โดยกรรมการของบริษัทน้ำมันเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ไขว้กันเองเป็นใย และไขว้เป็นกรรมการของธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JP Morgan Chase ของ Rockefeller และ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, N. M. Rothschild & Sons โดยตระกูล Rothschild ควบคุม และมีการเชื่อมโยงถือหุ้นไขว้กันกับกลุ่มทุนนอมินียักษ์ เช่น BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ที่ถือหุ้นใหญ่บริษัทยักษ์ใหญ่ แทบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ในการสร้างอำนาจเหนือรัฐต่าง ๆ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้จัดตั้งองค์กร Front ของเขา เช่น The Bilderberg Group, Council on Foreign Relations (CFR) และ The Trilateral Commission (TC) โดยองค์กรเหล่านี้จะรวมกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และบรรดาผู้มีอิทธิผล เช่น อดีตประธานาธิบดี บริวารมือขวาของเขา Henry Kissinger นักการเมืองทุกขั้ว ทหาร หัวหน้าหน่วยงานลับ ของประเทศสำคัญในยุโรป และสหรัฐฯ โดยใน Trilateral Commission จะมีสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในทวีปเอเชียต่าง ๆ ที่รับใช้พวกเขา 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐ เช่นมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา ด้วยความละโมบของพวกเขา ในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยกำลังก็ดี โดยวิธีแห่งการให้สินบนแก่ผู้ขายชาติตนเองก็ดี โดยการบีบบังคับด้วยหนี้สินก็ดี โดยการแทรกแซงการเมืองภายในก็ดี 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้เข้ายึดครองทรัพยากร พลังงาน เศรษฐกิจ และการเงิน ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประชาชนของประเทศนั้น ๆ ตกเป็นทาสของพวกเขา โดยในประเทศไทยเอง ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำ ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' พร้อมการร่วมมือของ 'คนไทย' ที่ได้ขายตัวขายจิตวิญญาณให้พวกเขา ได้ร่วมกระทำ ดังต่อไปนี้ (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงิน (3) การชักใยอยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' เพื่อการยึดครองประเทศเป็นเมืองขึ้นยิ่งขึ้นไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ : (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งที่ประเทศไทย มีอธิปไตยของตนเอง โดยอธิปไตย นั้นเป็นของปวงชนชาวไทย อันหมายความว่าทรัพยากรของชาตินั้นเป็นของประชาชนคนไทย แต่ปรากฏว่า กฎหมายว่าด้วยน้ำมันและก๊าซ (พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514) มิได้มีการเขียนขึ้นไม่ว่าจะ 'โดย' ประชาชน หรือ 'เพื่อ' ประชาชน แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเขียนขึ้นโดย Walter James Levi สมาชิกทั้ง CFR และ The Trilateral Commission ผู้ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขั้นขึ้นชื่อว่าเป็น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของสหรัฐอเมริกา (the dean of United States oil economists) และ ได้เป็นผู้บริหารบริษัทของตระกูล Rockefeller เองคือ Standard Oil Company of New York หรือ Socony (ปัจจุบันคือ Exxon) คนที่เขียนกฎหมายนี้ของประเทศไทย ไม่ใช่คนไทย แต่คือคนของ 'ทุนธนาคาร Zionist' เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเอง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยมีลักษณะของกฎหมายสำหรับเมืองขึ้นอันไม่เป็นธรรม คือ น้ำมันและก๊าซทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับสัมปทาน การได้สัมปทานเป็นไปโดยไม่มีการประมูลอย่างโปร่งใส ค่าตอบแทนเป็นไปอย่างต่ำ และ ประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของโดยแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบรับทราบความจริงได้เลย โดยวิธีที่สามารถจะเรียกว่าโปร่งใสได้ ว่าปริมาณทรัพยากรที่มีการขุดไปนั้นมีปริมาณที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด ประเทศไทยมีพลังงานมากน้อยแค่ไหนโดยต้องยอมรับตามตัวเลข ที่บริษัทพลังงานต่าง ๆ แจ้งเท่านั้น การปล้นอธิปไตยโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นไปได้ด้วยการข่มขู่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมการให้สินบนแก่ 'คนไทยที่ขายชาติตัวเอง' ซึ่งจากนั้นมา การรุกครอบครองน้ำมันและก๊าซของประชาชนคนไทย โดยวิธีการดังกล่าวได้ขยายไปเรื่อย ๆ มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ให้เอื้ออำนวยแก่ผู้รับสัมปทานอย่างล้นพ้นโดยภายหลังจะเห็นได้ชัดเจนถึงผู้เข้ามามีอำนาจในไทย ไม่ว่าขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ได้สานต่อไปในทาง 'ขายชาติตัวเอง' ให้แก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้เพื่อค่าคอมมิสชั่น ถึงขั้นร่วมกันชง ส่งลูกกันข้ามรัฐบาล ยกดินแดนไทยให้กัมพูชา อันส่งผลให้พื้นที่ไทยในทะเลอ่าวไทย 27,000 ตารางกิโลเมตรอันอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซที่สุดแห่งหนึ่ง ต้องตกกลายเป็นพื้นที่พิพาท ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งในพื้นที่นี้ บริษัท Chevron คือบริษัทที่จ่อล็อกจะถือสัมปทานจากทั้ง 2 ประเทศ ในกรณีนี้ที่มีการพิพาทเรื่องพื้นที่ในอ่าวไทย หากไทยและกัมพูชา ให้สัมปทานในพื้นที่นี้ ผู้ที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในการครอบครอง ย่อมมิใช่ไทยหรือกัมพูชาอีกทั้งนั้น แต่จะเป็นสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เพราะสัมปทานจะเป็นของ Chevron โดยเอกฉันท์ ฝ่ายใดที่ให้ประโยชน์แก่สหรัฐฯ สูงสุด สหรัฐฯ ย่อมสนับสนุนฝ่ายนั้น ในปัจจุบัน การถูกปล้นอธิปไตย การตกเป็นอาณานิคมของ 'ทุนธนาคาร Zionist' อย่างเต็มรูปแบบในเรื่องพลังงาน ก็ประจักษ์ชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในปัจจุบัน นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ได้เป็นสมาชิก The Trilateral Commission (TC) องค์กรของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ยาวนานถึง 30 ปี โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่รีรอที่จะประกาศผลักดันเปิดสัมปทานในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจ และไม่มีการชี้แจงอันใดเกี่ยวกับการเสียดินแดนของประเทศไทย ทั้งที่มีการคัดค้าน ด้วยประการฉะนี้ การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมิได้ครอบคลุมเพียงแค่น้ำมันและก๊าซอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปเป็นการปล้นดินแดนไทย จากประชาชนคนไทย ไปโดยเรียบร้อย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงินของประเทศ การที่เถ้าแก่สามานย์รายใดจะต้องการยึดที่ดินสวย ๆ ของชาวนา วิธีที่เขาจะกระทำคือ ให้ชาวนากู้เงิน ทำให้จ่ายหนี้ไม่ได้ เมื่อจ่ายช้าก็อายัดที่ดินนั้น บังคับขายในราคาต่ำกว่าจริงสิบเท่า แล้วเข้าซื้อเอง วิธีการของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ก็เป็นเช่นนั้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้ หลังการปล่อยกู้เงินให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากให้คน น้อยกว่า 1% อย่างฟุ่มเฟือย George Soros สมาชิกอาวุโส CFR ได้นำกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' มาโจมตีค่าเงินบาท จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เพราะกู้เงินจากต่างชาติมามาก เศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่วิกฤต มีการล่มสลายของธุรกิจจำนวนมาก(ในปี 2540 – 2542) ต่อมาก็เป็นไปตามแบบแผนวิธีการของ IMF และ World Bank ที่ 51% เป็นของ US Treasury ควบคุมโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ของ Rothschild ตามขั้นตอนที่ Joseph Stiglitz ผู้เป็นอดีตประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ President Bill Clinton อดีตรองประธาน และ Chief Economist ของ World Bank ได้เปิดโปงให้แก่หนังสือ The Observer และ Newsweek หลังมีเอกสารลับหลุดออกมาจาก World Bank คือในการขอความช่วยเหลือทางการเงิน จำต้องเซ็นสัญญา โดยในสัญญาจะตกลงใน (a) Privatization การแปรรูป โดยรัฐจะต้องยินยอมขายสมบัติของชาติเกี่ยวเนื่องกับสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ (b) Capital Market Liberalization การเปิดให้ทุนไหลเข้าออก โดยส่วนใหญ่มักจะไหลออก (c) Market-based pricing การขึ้นราคา อาหาร ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ โดยอ้างว่าเป็นราคาตลาดโลก (d) Free Trade การค้าเสรี ตามกฎของ WTO และ World Bank Stiglitz ได้ระบุในการสัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า การยินยอมในการตกลงนั้นเกิดขึ้นไม่ยากโดย (ก) World Bank IMF สามารถสั่ง Financial Blockage การกีดกันทางการเงินหากไม่ร่วมมือ และ (ข) นักการเมืองในประเทศนั้น ๆ ยินดีที่จะยกบริษัท น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ ให้โดย 'เขาจะตาโตกันเลย เมือเขานึกถึงค่าคอมมิสชั่นที่เขาจะได้กัน จากการลดราคาเป็นพัน ๆ ล้านในการแปรรูป' โดยเขาจะสามารถใช้ข้ออ้างว่า ถูก World Bank IMF บังคับ แล้วการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ก็ได้ตามมา พร้อมการขายสมบัติชาติแบบล็อกสเปคในราคาที่ต่ำกว่าทุนถึง 5 เท่า ตามด้วยการแปรรูปบริษัทน้ำมัน-ก๊าซของชาติ โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะในกรณี การยกดินแดนให้ต่างชาติ หรือ การแปรรูป จะเกิดขึ้นโดยการร่วมมือของมากกว่าหนึ่งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชง อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นไปเพื่อการสามารถโยนความผิดกันไปมาได้ โดยไม่มีใครผิดเต็ม ๆ โดยในกรณีนี้ แม้ขั้วนักการเมืองกลุ่มที่รับข้อตกลงรับรายละเอียดในการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับจาก 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้พยายามจะโยนความผิดให้ผู้ริเริ่มการตกลง แต่ก็ปรากฏให้เห็นได้ถึงการตอบแทน เมื่อคนของเขาได้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO โดยการโจมตีค่าเงิน การบีบข่มขู่ การให้สินบนแก่ผู้เข้ามามีอำนาจทุกขั้ว ที่ร่วมกันขายชาติตนเอง 'ทุนธนาคาร Zionist' เช่น JP Morgan Chase, BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ได้เข้ามายึดครองควบคุม บริษัทน้ำมันก๊าซ ธนาคาร และ เศรษฐกิจการเงินของประเทศไทย ไปจากคนไทย และยังรุกคืบยิ่ง ณ ปัจจุบัน ตามข่าวการแปรรูปที่ปรากฏอยู่ (3) การชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' (Divide and Conquer) เพื่อการยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ที่เข้ามามีอำนาจ ล้วนให้ความร่วมมือกับ 'ทุนธนาคาร Zionist' ในการขายทำลายชาติ โดยมีค่าคอมมิสชั่น ทั้งในทรัพยากรและในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม สามารถควบคุม ชักใยได้ทุกฝ่าย ยุทธศาสตร์ แบ่งแยกแล้วปกครอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มีตัวอย่างเห็นได้ในโลกปัจจุบันมากมายในการเข้ายึดครองประเทศต่าง ๆ ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยการยุยงให้เหยื่อตีกันเอง บางกรณีให้อาวุธทั้ง 2 ฝ่าย ทำลายภูมิคุ้มกันความสามัคคีของชนชาตินั้น ๆ สร้างความแตกแยก โดยเมื่อมีรอยแตก ก็สามารถจะแทรกเข้าไป ยึดครองประเทศนั้น ๆ ความแตกแยก ปัญหาความขัดแย้งเสื้อสี ที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ล้วนมีการชักใย มีการสนับสนุน ทั้ง 2 ฝ่ายการเมือง โดยมีกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองทั้ง 2 ขั้ว โดยทั้ง 2 ขั้ว นั้นล้วนมีผลประโยชน์ในเรื่องคอมมิสชั่น จากกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และถูกชักใยให้ปลุกปั่นประชาชน ให้มาตีกันเองโดยการรู้ไม่เท่าทันของประชาชน ว่าโดยแท้จริงแล้ว นักการเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ล้วนให้ความร่วมมือ ขายชาติตนเองแก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งสิ้น หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสมาชิก CFR ของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' อาทิ (a) Robert Blackville สมาชิก CFR มือขวาการต่างประเทศของ Henry Kissinger จาก Barbour Griffif & Rogers (CFR) (b) Keneth Adelman สมาชิก CFR อดีตทูต UN ของสหรัฐ จาก Baker & Botts Robert (CFR) (c) Robert Amsterdam จาก Amsterdam & Peroff (Chatham House) ได้ทำหน้าที่เป็น lobbyist ให้อดีตนักการเมืองที่หลบอยู่ที่ Dubai และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดง และองค์กร NED ได้ให้เงินสนับสนุน Website ของเสื้อแดงจำนวนมาก โดยต้องเป็นที่กล่าวว่า นักการเมืองไทยที่หลบหนีอยู่ที่ Dubai นั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโดยลำพังเขาไม่สามารถที่จะทำเองได้เลย (นั่นคือทักษิณ ชินวัตร) ส่วนนักการเมืองผู้เข้ามามีอำนาจ ฝ่ายอื่น ๆ ที่โหน อ้าง ปกป้อง สถาบันสำคัญ ๆ ฝ่ายนี้ โดยการขายตัวขายชาติ การปรารถนาได้ค่าคอมมิสชั่น ทั้งในน้ำมันก๊าซ และในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม ก็ไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจการชักใยของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ที่เป็นผู้กำกับการแสดง จูงทั้งสองสามฝ่าย ให้ชงและส่งลูกให้กัน เสี้ยมให้ชาติ ล่มสลาย เพื่อการปล้นยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในระหว่างที่สหรัฐ แขนขวาของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' สนับสนุนฝ่ายหนึ่ง แขนซ้าย ก็ทำตัวเข้าสนับสนุนอีกฝ่าย ข้าพเจ้าจึงจะประกาศ ณ ที่นี้ว่าข้าพเจ้ามิได้รังเกียจประชาชนของชนชาติใด จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยิวหรือชาติใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจ คือพฤติกรรม เอาเปรียบ เบียดเบียน แทรกแซง ปล้นทั้งทรัพยากรและดินแดน ทำลายชาติอื่น ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ได้กระทำทั่วโลก ดังนั้น กับคำกล่าวของท่านว่าข้าพเจ้าเหยียดชนชาติ เมื่อความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เดือดร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีค่ายนักโทษอันใดที่กระทำความทารุณโหดร้ายเท่ากับที่สถานที่ชื่อ Gaza และในเมื่อประเทศของท่านเองยังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Palestine อย่างที่กระทำอยู่ ท่านยังจะกล้าบังอาจเรียกผู้ใดว่าเหยียดชนชาติได้เสียอย่างไร จะเรียกใครว่าอย่างไรท่านจงมองตัวเองบ้างเสียเถิด ท่านจงสำเหนียกเสียบ้างเถิดว่า พฤติกรรมร้องทำจะเป็นจะตายว่าพวกตนถูกทำร้าย ทั้งที่พวกตนนั่นแหละคือผู้ที่กระทำชำเราเขาไปทั่ว ท่านคิดว่าอย่างไร พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชหรือไม่ ไม่ว่าจะประชาชนชนชาติใด เขาก็ย่อมปรารถนาความสงบสุข เขาย่อมปรารถนาอธิปไตยในชาติของเขาเอง เขาย่อมปรารถนาที่จะตัดสินอนาคตเขาเอง เขาย่อมปรารถนาว่าทรัพยากรของเขาจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาด้วยความเป็นธรรม เขาย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเอาดินแดนของเขาไป แต่ในประเทศไทย ด้วยการชักใย การซื้อคนไทยที่ขายชาติตนเองทุกขั้ว การซื้อสื่อ การปลุกปั้นโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ผลคือ คนไทย แทนที่จะรักใครสามัคคีกัน แทนที่จะได้รับผลประโยชน์จากสมบัติอันมีค่าของเขา แทนที่จะมีรัฐสวัสดิการ การรักษาพยาบาล การศึกษา ที่มีคุณภาพ แทนที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพความสุขที่พวกเขาควรได้รับ เขากลับต้องมาเกลียดชังกันเอง ทะเลาะสู้กันเอง เขากลับต้องมาเป็นทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ต้องมาเป็นทาสที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายสู้กันเอง แทนที่จะสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยพวกตนจากความเป็นทาส เพราะความไม่รู้เท่าทัน เพราะการหลอกลวงโดยนักการเมือง ผู้เข้ามามีอำนาจที่หิวโหย ที่ล้วนทำเพื่อตนเอง โดยรับใช้ ถูกชักใยจากนายคนเดียวกันคือ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริง ความจริงโดยรอบด้าน และความจริงที่จริงที่สุด โดย เมื่อประชาชนชาวไทยตื่นรู้กับความจริง การเป็นทาสที่ถูกหลอกให้สู้กันเองย่อมหมดไป ความสามัคคีย่อมกลับมา โดยสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ การตื่นรู้เท่านั้น ที่จะทำให้ชนชาติไทยรอดพ้นภัยไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าประชาชนชาวไทยจะต้องไปเป็นศัตรูกับใคร การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด และ เมื่อคนไทยตื่นรู้เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมกันปราบปรามเหล่าคนไทยที่ขายชาติตนเองทั้งหลายแล้ว ประเทศและประชาชนชาวไทยย่อมพ้นจากการเป็นอาณานิคม พ้นจากการเป็นเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็น ทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' หรือ กลุ่มทุนอื่นใด จึงเรียนมาเพื่อทราบ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘บลิงเคน’ ถามหาเหตุผล ทำไมไทยเข้าร่วม BRICS

    นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนของนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนเมืองคาซาน ของรัสเซีย ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มบริกส์กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา (BRICS Plus Summit) ครั้งที่ 4 วันที่ 24 ต.ค.2567 ในหัวข้อ “BRICS and the Global South: Building a Better World Together”

    สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาความท้าทายในระดับภูมิภาค และระดับโลก รวมถึงหารือการส่งเสริมระบบพหุภาคีเพื่อการสร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น โดยการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประชุมผู้นำบริกส์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2567

    ทางด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 9 - 11 ต.ค.2567 ที่ประเทศลาว ได้มีการหารือทวิภาคีระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับนายแอนโทนี เจ.บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ โดยสหรัฐได้สอบถามการสมัครเข้ากระบวนการเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ของไทย

    ทั้งนี้ ไทยได้ชี้แจงสหรัฐถึงเหตุผลที่ต้องการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ได้มีเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์แต่เป็นเหตุผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่หลายประเทศที่มีประชากรมาก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยไม่ถึง 2% แต่การขยายตลาดจะสนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวได้ และสหรัฐได้รับฟัง และเข้าใจเหตุผลดังกล่าว
    .
    https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1150596
    ‘บลิงเคน’ ถามหาเหตุผล ทำไมไทยเข้าร่วม BRICS นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนของนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนเมืองคาซาน ของรัสเซีย ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกลุ่มบริกส์กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา (BRICS Plus Summit) ครั้งที่ 4 วันที่ 24 ต.ค.2567 ในหัวข้อ “BRICS and the Global South: Building a Better World Together” สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาความท้าทายในระดับภูมิภาค และระดับโลก รวมถึงหารือการส่งเสริมระบบพหุภาคีเพื่อการสร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น โดยการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประชุมผู้นำบริกส์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2567 ทางด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน ระหว่างวันที่ 9 - 11 ต.ค.2567 ที่ประเทศลาว ได้มีการหารือทวิภาคีระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับนายแอนโทนี เจ.บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ โดยสหรัฐได้สอบถามการสมัครเข้ากระบวนการเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ของไทย ทั้งนี้ ไทยได้ชี้แจงสหรัฐถึงเหตุผลที่ต้องการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ได้มีเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์แต่เป็นเหตุผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่หลายประเทศที่มีประชากรมาก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยไม่ถึง 2% แต่การขยายตลาดจะสนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวได้ และสหรัฐได้รับฟัง และเข้าใจเหตุผลดังกล่าว . https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1150596
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยแพร่ข้อมูล
    ภาพรวมการส่งออกของไทยในปัจจุบัน อยู่ในสภาวะ
    อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ หากไม่ทำอะไรเลย

    นับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 การส่งออก
    เป็นเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมายาวนาน
    คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60-65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม
    ภายในประเทศ (จีดีพี) การส่งออกมีบทบาทสำคัญ
    ในการสร้างรายได้จากต่างประเทศ การจ้างงาน และเพิ่ม
    ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

    อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยได้สูญเสียบทบาท
    และความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นที่เคยเป็นมา

    SCB EIC มองว่า เครื่องยนต์ส่งออกของไทยกำลังอ่อนแรงลงมาก
    จากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งมีส่วนทำให้การส่งออกไทย
    ไม่สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
    ได้เหมือนในอดีต และไม่สามารถปรับตัวตามกระแสโลก
    ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทัน

    ปัจจัยภายในประเทศ :

    1) สินค้าส่งออกไทยไม่ค่อยสอดคล้องกับความต้องการของโลก :
    ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ
    ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนไป
    เช่น สมาร์ตโฟน แผงวงจรไฟฟ้า หรือสินค้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาด
    ขณะที่สินค้าหมวดเครื่องจักรและเครื่องใช้เครื่องกลที่ไทยผลิต
    กลับเป็นสินค้าที่โลกต้องการซื้อน้อยลงเช่น Hard Disk Drives (HDD)
    ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย แต่เมื่อเทคโนโลยี
    เปลี่ยนไปสู่ Solid State Drives (SSD) ความต้องการ HDD
    ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับสินค้าหมวดยานพาหนะ ส่วนประกอบ
    และอุปกรณ์เสริม ที่ไทยเคยส่งออกดีมาก จากการส่งออกยานยนต์
    และเครื่องยนต์สันดาป แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทาย
    จากการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของผู้ซื้อ ซึ่งรวมมูลค่า
    การส่งออก 2 หมวดใหญ่นี้คิดเป็น 27% ของมูลค่าการส่งออก
    ไทยทั้งหมดในปี 2566

    2) โครงสร้างการผลิตเพื่อส่งออกไทยเปลี่ยนแปลงช้า :
    ภาคการผลิตของไทยยังผูกโยงกับห่วงโซ่อุปทานเก่าอยู่มาก
    ส่งผลให้โครงสร้างการส่งออกเปลี่ยนแปลงค่อนข้างช้า
    ขณะที่โครงสร้างการผลิตของประเทศคู่แข่งหลายราย
    ที่เคยผลิตสินค้าล้าสมัยกว่าไทยในอดีต กลับสามารถ
    ปรับตามกระแสความต้องการในตลาดโลกที่เปลี่ยนไปได้
    อย่างรวดเร็วจากการหาห่วงโซ่อุปทานใหม่ สะท้อนจาก
    ส่วนแบ่งยอดขายสินค้าไทยในตลาดโลก ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง
    จาก 10 ปีก่อนมากนัก เช่น รถยนต์ EV แผงวงจรไฟฟ้า/เซมิคอนดักเตอร์
    สมาร์ตโฟน แผงโซลาร์เซลล์ (เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนสูงขึ้นในตลาดโลก)

    ทั้งนี้ถึงแม้การส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยจะมีสัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออก
    ทั้งหมดสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 17% ในปี 2556-2560 เป็น 23%
    ในปี 2561-2565 ซึ่งแตกต่างจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
    ที่มีสัดส่วนการส่งออกกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมาก จาก 16% เป็น 32%, 38%
    เป็น 44% และ 40% เป็น 48% ตามลำดับ โดยสาเหตุเป็นเพราะว่า
    ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ผลิตสินค้ากลุ่มนี้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
    มีขั้นตอนการผลิตซับซ้อนกว่า และสร้างมูลค่าเพิ่มสูงกว่าได้
    ในขณะที่ไทยส่วนใหญ่แล้วยังคงผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับกลาง
    และมีความซับซ้อนน้อยกว่า สะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันที่ต่ำกว่า
    แสดงให้เห็นว่าไทยอาจไม่ได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น
    ในปัจจุบันได้มากเท่าประเทศเพื่อนบ้าน

    3) ความสามารถในการกระจายตลาดใหม่ไม่ค่อยสูง :
    การส่งออกของไทยกว่า 75% ยังคงกระจุกตัวในบางตลาดหลัก เช่น จีน สหรัฐฯ
    ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน เช่นในอดีต ซึ่งหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้น
    ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ก็อาจสร้างความเสี่ยงสูงต่อไทยตามมา เช่น เศรษฐกิจจีน
    ชะลอตัว ในช่วงที่ผ่านมา จะกระทบการส่งออกไทยไปตลาดจีนตามไปด้วย
    สะท้อนความจำเป็นในการขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง
    และเพิ่มยอดส่งออกของไทยได้

    จากการวิเคราะห์ข้างต้น จะเห็นได้ว่าปัญหาหลักของการส่งออกไทยมาจาก
    ปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคการผลิตในประเทศที่ไม่ค่อยตอบโจทย์
    สินค้าใหม่ ๆ คำถามสำคัญคือ อะไรเป็นสาเหตุทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
    ภาคการผลิตของไทยมาถึงจุดนี้?

    SCB EIC มองว่าสาเหตุหลักมาจากทักษะแรงงานไทยและการลงทุน
    จากต่างชาติที่ลดลง :

    1) แรงงานสูงวัยและทักษะต่ำ : ประเทศไทยกำลังเผชิญสังคมผู้สูงอายุ
    22.7% จากประชากรทั้งหมดในปี 2566 (อายุ 60 ปีขึ้นไป) และมีแนวโน้ม
    เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน รวมถึงปัญหาแรงงานขาดทักษะ
    ที่จำเป็น โดยเฉพาะทักษะเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตสินค้า
    และการแข่งขันในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ปัญหานี้ทำให้การผลิตสินค้าเทคโนโลยีของไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ
    เทคโนโลยีขั้นกลาง และการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงจึงเกิดขึ้นค่อนข้างช้า
    เนื่องจากเพิ่มศักยภาพแรงงานไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

    2) สัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลง :
    FDI เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยได้รับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และทันสมัย
    เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและการส่งออก
    รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
    การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทยลดลงมาก จากที่เคยเป็นหนึ่ง
    ในจุดหมายปลายทางหลักในอาเซียน ไทยกลับตกอันดับมาเรื่อย ๆ
    อยู่อันดับ 7 ในปี 2566 แย่กว่าในปี 2543 2553 และ 2562 ที่อันดับ 3, 3,
    และ 6 ตามลำดับ เสียอีก (ข้อมูลจาก World Bank)

    สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก

    (1) ทักษะแรงงานไทยไม่สูงและสัดส่วนแรงงานสูงวัย
    ยังมีมากที่สุดในอาเซียน

    (2) ไทยขาดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)
    กับประเทศสำคัญ ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศคู่แข่ง
    เช่น เวียดนาม ได้เปรียบจากการมีข้อตกลง FTA กับสหภาพยุโรป
    และการเข้าร่วม CPTPP ทำให้เข้าถึงตลาดสำคัญในโลกได้ง่ายขึ้น

    (3) การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูง

    (4) นโยบายเศรษฐกิจระยะยาวขาดความชัดเจนและความต่อเนื่อง
    นักลงทุนไทยและต่างประเทศขาดความมั่นใจที่จะลงทุน
    วิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เนื่องจากเป็นการลงทุนสูง
    และใช้เวลากว่าจะเห็นผล และ

    (5) กฎระเบียบภาครัฐซับซ้อน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้นักลงทุน
    ต่างชาติเลือกลงทุนในประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมือง
    และนโยบายและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการลงทุนดีกว่า

    ปัจจัยภายนอก :

    การส่งออกของไทยยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลายประการ

    ได้แก่ 1) China over-capacity ที่อาจซ้ำเติมปัญหาความสามารถ
    ในการแข่งขันของไทย โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
    กับสินค้าจีน

    2) ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจสร้างความไม่แน่นอนของนโยบายภาษี
    สินค้านำเข้าทุกประเภทจากทุกประเทศเพิ่มเติม

    3) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามยืดเยื้อ การแบ่งขั้ว
    ทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น หรือมาตรการกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบ
    ต่อการค้าโลก

    4) การผันผวนของค่าเงินบาท จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง
    สำคัญทั่วโลก

    (5) ค่าระวางเรือและค่าขนส่งที่อาจจะกลับมาสูงขึ้น จากสงครามที่เกิดขึ้นบ่อย
    และรุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งและตู้คอนเทนเนอร์


    ปัจจัยภายในและนอกประเทศเหล่านี้กดดันให้เครื่องยนต์ส่งออกของไทย
    อ่อนแอลง และเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เนื่องจากการบริโภคและการลงทุน
    ในประเทศก็กำลังอ่อนแรงเช่นกัน โดยการบริโภคถูกจำกัดจากภาระหนี้
    ครัวเรือนสูง และการลงทุนได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในประเทศ
    ที่เปราะบาง

    อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังไม่ไร้ความหวังเสียทีเดียว
    หากรัฐบาลสามารถจัดการ 3 ปัจจัยหลักได้ ได้แก่ แรงงาน การลงทุน
    โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยุทธศาสตร์นโยบายอุปทานที่ชัดเจน
    ประเทศไทยจะสามารถปรับโครงสร้างการผลิตให้แข็งแกร่งขึ้น
    และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้บนข้อได้เปรียบที่ไทยมีอยู่แล้ว
    เช่น โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทังนี้ปัจจัยกดดันจากภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ
    ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม SCB EIC มองว่าหากโครงสร้างการผลิตของไทย
    แข็งแกร่ง จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ได้ และอาจทำให้ไทย
    ได้รับประโยชน์จากบางปัจจัย เช่น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจนำมาซึ่ง
    การย้ายฐานการผลิตและการลงทุนใหม่ ๆ

    การส่งออกไทยในปัจจุบันเปรียบเหมือนรถที่กำลังวิ่งอย่างเชื่องช้า
    ที่ต้องเลือกว่าจะเริ่มซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างเครื่องยนต์
    ให้ทันสมัยจุดไหนบ้าง เพื่อให้รถคันนี้กลับมาวิ่งเร็วได้อีกครั้ง
    แต่หากไม่เริ่มทำอะไรวันนี้ เครื่องยนต์เก่านี้อาจพังในไม่ช้า
    ทำให้รถเราค่อยๆ หยุดวิ่ง และปล่อยให้รถคันอื่นแซงหน้า
    ไปคันแล้วคันเล่า

    ที่มา : SCB EIC ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกไทย #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยแพร่ข้อมูล ภาพรวมการส่งออกของไทยในปัจจุบัน อยู่ในสภาวะ อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ หากไม่ทำอะไรเลย นับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 การส่งออก เป็นเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมายาวนาน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60-65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) การส่งออกมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างรายได้จากต่างประเทศ การจ้างงาน และเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยได้สูญเสียบทบาท และความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นที่เคยเป็นมา SCB EIC มองว่า เครื่องยนต์ส่งออกของไทยกำลังอ่อนแรงลงมาก จากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งมีส่วนทำให้การส่งออกไทย ไม่สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก ได้เหมือนในอดีต และไม่สามารถปรับตัวตามกระแสโลก ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทัน ปัจจัยภายในประเทศ : 1) สินค้าส่งออกไทยไม่ค่อยสอดคล้องกับความต้องการของโลก : ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนไป เช่น สมาร์ตโฟน แผงวงจรไฟฟ้า หรือสินค้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาด ขณะที่สินค้าหมวดเครื่องจักรและเครื่องใช้เครื่องกลที่ไทยผลิต กลับเป็นสินค้าที่โลกต้องการซื้อน้อยลงเช่น Hard Disk Drives (HDD) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย แต่เมื่อเทคโนโลยี เปลี่ยนไปสู่ Solid State Drives (SSD) ความต้องการ HDD ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับสินค้าหมวดยานพาหนะ ส่วนประกอบ และอุปกรณ์เสริม ที่ไทยเคยส่งออกดีมาก จากการส่งออกยานยนต์ และเครื่องยนต์สันดาป แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทาย จากการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของผู้ซื้อ ซึ่งรวมมูลค่า การส่งออก 2 หมวดใหญ่นี้คิดเป็น 27% ของมูลค่าการส่งออก ไทยทั้งหมดในปี 2566 2) โครงสร้างการผลิตเพื่อส่งออกไทยเปลี่ยนแปลงช้า : ภาคการผลิตของไทยยังผูกโยงกับห่วงโซ่อุปทานเก่าอยู่มาก ส่งผลให้โครงสร้างการส่งออกเปลี่ยนแปลงค่อนข้างช้า ขณะที่โครงสร้างการผลิตของประเทศคู่แข่งหลายราย ที่เคยผลิตสินค้าล้าสมัยกว่าไทยในอดีต กลับสามารถ ปรับตามกระแสความต้องการในตลาดโลกที่เปลี่ยนไปได้ อย่างรวดเร็วจากการหาห่วงโซ่อุปทานใหม่ สะท้อนจาก ส่วนแบ่งยอดขายสินค้าไทยในตลาดโลก ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง จาก 10 ปีก่อนมากนัก เช่น รถยนต์ EV แผงวงจรไฟฟ้า/เซมิคอนดักเตอร์ สมาร์ตโฟน แผงโซลาร์เซลล์ (เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนสูงขึ้นในตลาดโลก) ทั้งนี้ถึงแม้การส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยจะมีสัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออก ทั้งหมดสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 17% ในปี 2556-2560 เป็น 23% ในปี 2561-2565 ซึ่งแตกต่างจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีสัดส่วนการส่งออกกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมาก จาก 16% เป็น 32%, 38% เป็น 44% และ 40% เป็น 48% ตามลำดับ โดยสาเหตุเป็นเพราะว่า ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ผลิตสินค้ากลุ่มนี้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง มีขั้นตอนการผลิตซับซ้อนกว่า และสร้างมูลค่าเพิ่มสูงกว่าได้ ในขณะที่ไทยส่วนใหญ่แล้วยังคงผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับกลาง และมีความซับซ้อนน้อยกว่า สะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันที่ต่ำกว่า แสดงให้เห็นว่าไทยอาจไม่ได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น ในปัจจุบันได้มากเท่าประเทศเพื่อนบ้าน 3) ความสามารถในการกระจายตลาดใหม่ไม่ค่อยสูง : การส่งออกของไทยกว่า 75% ยังคงกระจุกตัวในบางตลาดหลัก เช่น จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน เช่นในอดีต ซึ่งหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้น ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ก็อาจสร้างความเสี่ยงสูงต่อไทยตามมา เช่น เศรษฐกิจจีน ชะลอตัว ในช่วงที่ผ่านมา จะกระทบการส่งออกไทยไปตลาดจีนตามไปด้วย สะท้อนความจำเป็นในการขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มยอดส่งออกของไทยได้ จากการวิเคราะห์ข้างต้น จะเห็นได้ว่าปัญหาหลักของการส่งออกไทยมาจาก ปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคการผลิตในประเทศที่ไม่ค่อยตอบโจทย์ สินค้าใหม่ ๆ คำถามสำคัญคือ อะไรเป็นสาเหตุทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ภาคการผลิตของไทยมาถึงจุดนี้? SCB EIC มองว่าสาเหตุหลักมาจากทักษะแรงงานไทยและการลงทุน จากต่างชาติที่ลดลง : 1) แรงงานสูงวัยและทักษะต่ำ : ประเทศไทยกำลังเผชิญสังคมผู้สูงอายุ 22.7% จากประชากรทั้งหมดในปี 2566 (อายุ 60 ปีขึ้นไป) และมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน รวมถึงปัญหาแรงงานขาดทักษะ ที่จำเป็น โดยเฉพาะทักษะเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตสินค้า และการแข่งขันในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหานี้ทำให้การผลิตสินค้าเทคโนโลยีของไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ เทคโนโลยีขั้นกลาง และการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงจึงเกิดขึ้นค่อนข้างช้า เนื่องจากเพิ่มศักยภาพแรงงานไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง 2) สัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลง : FDI เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยได้รับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และทันสมัย เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและการส่งออก รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทยลดลงมาก จากที่เคยเป็นหนึ่ง ในจุดหมายปลายทางหลักในอาเซียน ไทยกลับตกอันดับมาเรื่อย ๆ อยู่อันดับ 7 ในปี 2566 แย่กว่าในปี 2543 2553 และ 2562 ที่อันดับ 3, 3, และ 6 ตามลำดับ เสียอีก (ข้อมูลจาก World Bank) สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก (1) ทักษะแรงงานไทยไม่สูงและสัดส่วนแรงงานสูงวัย ยังมีมากที่สุดในอาเซียน (2) ไทยขาดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศสำคัญ ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ได้เปรียบจากการมีข้อตกลง FTA กับสหภาพยุโรป และการเข้าร่วม CPTPP ทำให้เข้าถึงตลาดสำคัญในโลกได้ง่ายขึ้น (3) การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูง (4) นโยบายเศรษฐกิจระยะยาวขาดความชัดเจนและความต่อเนื่อง นักลงทุนไทยและต่างประเทศขาดความมั่นใจที่จะลงทุน วิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เนื่องจากเป็นการลงทุนสูง และใช้เวลากว่าจะเห็นผล และ (5) กฎระเบียบภาครัฐซับซ้อน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้นักลงทุน ต่างชาติเลือกลงทุนในประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการลงทุนดีกว่า ปัจจัยภายนอก : การส่งออกของไทยยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลายประการ ได้แก่ 1) China over-capacity ที่อาจซ้ำเติมปัญหาความสามารถ ในการแข่งขันของไทย โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขันด้านราคา กับสินค้าจีน 2) ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจสร้างความไม่แน่นอนของนโยบายภาษี สินค้านำเข้าทุกประเภทจากทุกประเทศเพิ่มเติม 3) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามยืดเยื้อ การแบ่งขั้ว ทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น หรือมาตรการกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบ ต่อการค้าโลก 4) การผันผวนของค่าเงินบาท จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง สำคัญทั่วโลก (5) ค่าระวางเรือและค่าขนส่งที่อาจจะกลับมาสูงขึ้น จากสงครามที่เกิดขึ้นบ่อย และรุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งและตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจัยภายในและนอกประเทศเหล่านี้กดดันให้เครื่องยนต์ส่งออกของไทย อ่อนแอลง และเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เนื่องจากการบริโภคและการลงทุน ในประเทศก็กำลังอ่อนแรงเช่นกัน โดยการบริโภคถูกจำกัดจากภาระหนี้ ครัวเรือนสูง และการลงทุนได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในประเทศ ที่เปราะบาง อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังไม่ไร้ความหวังเสียทีเดียว หากรัฐบาลสามารถจัดการ 3 ปัจจัยหลักได้ ได้แก่ แรงงาน การลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยุทธศาสตร์นโยบายอุปทานที่ชัดเจน ประเทศไทยจะสามารถปรับโครงสร้างการผลิตให้แข็งแกร่งขึ้น และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้บนข้อได้เปรียบที่ไทยมีอยู่แล้ว เช่น โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทังนี้ปัจจัยกดดันจากภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม SCB EIC มองว่าหากโครงสร้างการผลิตของไทย แข็งแกร่ง จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ได้ และอาจทำให้ไทย ได้รับประโยชน์จากบางปัจจัย เช่น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจนำมาซึ่ง การย้ายฐานการผลิตและการลงทุนใหม่ ๆ การส่งออกไทยในปัจจุบันเปรียบเหมือนรถที่กำลังวิ่งอย่างเชื่องช้า ที่ต้องเลือกว่าจะเริ่มซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างเครื่องยนต์ ให้ทันสมัยจุดไหนบ้าง เพื่อให้รถคันนี้กลับมาวิ่งเร็วได้อีกครั้ง แต่หากไม่เริ่มทำอะไรวันนี้ เครื่องยนต์เก่านี้อาจพังในไม่ช้า ทำให้รถเราค่อยๆ หยุดวิ่ง และปล่อยให้รถคันอื่นแซงหน้า ไปคันแล้วคันเล่า ที่มา : SCB EIC ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยข้อมูล
    เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
    จะได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวและส่งออก

    🚩โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    ในไตรมาส 4 จากกลุ่มตลาดประเทศระยะไกล
    รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศจะได้ปัจจัยบวก
    จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ
    ที่จะออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ
    และเมืองน่าเที่ยว

    🚩การส่งออกไทยจะขยายตัวดีขึ้น โดยมีแรงหนุนสำคัญ
    จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น อย่างไรก็ดี
    ภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทยยังฟื้นตัวได้ช้า
    และมีสัญญาณการฟื้นตัวไม่ชัดเจน
    ขณะที่สินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง
    ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง
    จากสถานการณ์น้ำท่วมและค่าเงินบาทแข็ง

    🚩สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เกษตรเริ่มคลี่คลายลงบ้าง
    โดยพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบยังไม่สูงมากหากเทียบกับ
    ภัยน้ำท่วมในอดีต SCB EIC ประเมินว่า มูลค่าความเสียหาย
    ในภาคเกษตรอยู่ที่ราว 4,700 ล้านบาท (0.03% ของจีดีพี)
    โดยคาดว่าพื้นที่ปลูกข้าวจะเสียหาย 0.83 ล้านไร่

    🚩สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท
    จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมในปีนี้ SCB EIC ประเมินโครงการนี้
    มีผลบวกต่อเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเม็ดเงินทั้งหมด
    อาจไม่ได้ใช้จ่ายลงเศรษฐกิจ สะท้อนจากผลสำรวจ
    SCB EIC consumer survey ที่พบว่า ผู้ได้รับสิทธิบางส่วน
    จะนำเงินไปออมหรือชำระหนี้ รวมถึงใช้จ่ายเงินนี้
    แทนรายจ่ายปกติที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว สำหรับการบริโภค
    ภาคเอกชนคาดว่าจะแผ่วลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับ
    ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง 7 เดือนติดต่อกัน
    และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #เศรษฐกิจไทย #จีดีพี
    #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยข้อมูล เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จะได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวและส่งออก 🚩โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในไตรมาส 4 จากกลุ่มตลาดประเทศระยะไกล รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศจะได้ปัจจัยบวก จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ที่จะออกมาเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ และเมืองน่าเที่ยว 🚩การส่งออกไทยจะขยายตัวดีขึ้น โดยมีแรงหนุนสำคัญ จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น อย่างไรก็ดี ภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทยยังฟื้นตัวได้ช้า และมีสัญญาณการฟื้นตัวไม่ชัดเจน ขณะที่สินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง จากสถานการณ์น้ำท่วมและค่าเงินบาทแข็ง 🚩สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เกษตรเริ่มคลี่คลายลงบ้าง โดยพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบยังไม่สูงมากหากเทียบกับ ภัยน้ำท่วมในอดีต SCB EIC ประเมินว่า มูลค่าความเสียหาย ในภาคเกษตรอยู่ที่ราว 4,700 ล้านบาท (0.03% ของจีดีพี) โดยคาดว่าพื้นที่ปลูกข้าวจะเสียหาย 0.83 ล้านไร่ 🚩สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมในปีนี้ SCB EIC ประเมินโครงการนี้ มีผลบวกต่อเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเม็ดเงินทั้งหมด อาจไม่ได้ใช้จ่ายลงเศรษฐกิจ สะท้อนจากผลสำรวจ SCB EIC consumer survey ที่พบว่า ผู้ได้รับสิทธิบางส่วน จะนำเงินไปออมหรือชำระหนี้ รวมถึงใช้จ่ายเงินนี้ แทนรายจ่ายปกติที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว สำหรับการบริโภค ภาคเอกชนคาดว่าจะแผ่วลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลง 7 เดือนติดต่อกัน และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #เศรษฐกิจไทย #จีดีพี #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.5

    บัดซบ! แผนเจรจามาเต็ม! อียิวขี้แตก ยูเครนสิ้นชาติ ปากขอคุย แต่เตรียมนุ๊กยิงใส่ รัสเซีย จีน รู้ทัน ไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง กูชิงยิงก่อน ถึงก่อน ชัวร์ มาดิ ไอ้สัส! สมองเทียบไม่ได้ คนละชั้น กึ๋นการรบ เทียบไม่ได้ จบที่อาวุธไฮเทค อิหร่านเริ่มเปิด จีนเริ่มโชว์ รัสเซียเริ่มโหด แม้แต่ JOHN WICK ได้ไฟเขียวเขมือบรวมชาติแล้ว เป็นไปตามคิว เพราะจีนก็จะเขมือบไต้หวันไปพร้อมกัน ในเมื่อมรึงคิดจะเปิดศึกแปซิฟิค ก็ขนมาให้หมดรัง สุสานเหี้ยรอเปิด! แสงโลกสาดส่อง แสงไทยสาดซัด ล่อเหี้ยหัวหมุน ไปไม่เป็น? เหี้ยรู้ชัด! ไม่ว่ามรึงจะเปิดกับใครก่อน? ขั้วใหม่จะส่ง 4 กุมารเข้าประกวดทุกเวที ไม่มียกเว้น มากันเป็นแพ็คคู่ แทคทีม ไหวป่ะ? เงียบกริบไปป่ะ? ทั้งอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อียุ่นปี่ เพราะรู้ชะตากรรมแล้วว่า หากยังอยู่ในเกมส์กระดานนี้ กูถูกบูชายันต์แน่ แผนลอบกัด หักหลังตามมาทันที อียิวหากมรึงใหญ่จริง ต้องเอาขี้ข้าอยู่ แต่กลายเป็นว่า ขี้ข้าเผ่นหางจุกตูดกันหมด เหตุผลคือ "ขั้วใหม่" แอบตีท้ายครัว คุยหลังไมค์ชาติขี้ข้ายิวหมดเกลี้ยง "อยากตาย หรืออยากรวย อยากรอด" มรึงเลือกเอา? ใครทิ้งอียิว? กูจะพิจารณาหนทางรอดให้! ปูติน สีจิ้นผิง ฉลาดกว่านั้นเยอะ รู้ดี กำจัดอียิวเหี้ยให้สิ้นซาก ต้องถอนรากถอนโคนขี้ข้ามันก่อน ย้ายขั้วคือจบ ย้ายข้างคือชนะใส! โลกรวมตัว ต่อกันติดแล้ว มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินทันที ไหวตัวทัน ก็รอด? จอร์แดนสุดทน! รัฐฝ่ายการเมืองออกตัวขี้ข้ายิว แต่ปชช.จอร์แดนจิตวิญญานปาเลสไตน์ จับอาวุธไล่กราดยิงทหารยิวตายห่าคาพรมแดน เปิดศึกภาคประชาชน รัฐไม่สู้ รัฐไม่ช่วย ชาวบ้านสั่งลุยกันเอง งานเข้าแล้วมรึงเอ๋ย? นี่คือปมที่จะบีบให้รัฐบาลขี้ข้ายิวประกาศสงครามกับยิวไงล่ะ เมื่อมรึงอยากจะสิ้นชาติ แต่ปชช.จอร์แดนหัวใจปาเลสไตน์ไม่ยอม รอดู รัฐบาลไปก่อน หรือแผ่นดินจะไปก่อน เพราะอิหรา่นส่งสัญญานแล้วว่า ใครให้อียิวบินผ่าน ใช้ฐานทัพปฎิบัติการโจมตีอิหร่าน มรึงโดนกูล่อทันทีแน่? เฮซบอเลาะห์หยามอียิว ส่งโดรนพิฆาตบินข้ามหัวหย่อนระเบิดลงกลางบัานอีเนรคุณทันยา รู้ว่ามรึงไม่อยู่บ้านดอก แค่ส่งสัญญาน "กูล่าหัวมรึงอยู่" ทำให้อีเนรคุณทันยาต้องย้ายบ้านไปอยู่ใต้ดิน มุดลงรูแทน ชีวิตดี๊ดี ไอ้สัส! ผวาทั้งแผ่นดิน ขนาดตัวผู้นำเหี้ยยังถูกล่อเป้า ชาวบ้านจะเหลือเหรอ? ข้ามวิกแป๊บ : 10000 เฟสแรก แห้วแดร๊ก หายวับ ไร้เงากระตุ้นเศรษฐกิจ ยังเสี้ยนต่อ ส่ง 10000 เฟส 2 ต่อเนื่อง เอาให้สุด ต้องเชียร์ เหี้ยมันทำได้แค่นี้แหละ? ตอนเช็คบิล หายหมดทั้งแผ่นดินแน่ ช่วงโปรไฟไหม้ วังสมนาคุณให้ชาวบ้านควายกระโหลกหนา ล่อไอ้อีคนเซ็นต์ คนวางแผน ผู้สมรู้ร่วมคิด พรรค และหน่วยงานที่แจ้งแท็จ ศาลจ้องไว้นานแล้ว รอแค่คนชง คนตบ จบที่คุกตามสูตร! ดิ ไอ(คอน)สัส มหากาพย์เชือดเหี้ยตัวพ่อ หน้าฉากแค่ดารา หลังฉากเหี้ย C ทั้งนั้น จะบั่นทอนเศรษฐกิจชาติ งานนี้คลัง วัง กองทัพ ประสานมือแน่น เชือดเหี้ยในไทย ให้เหี้ยในวอชิงตันดูคาจอ! กูเคยบอกแล้วน่ะ พ่อร.10 คือยุคพระเดช ไม่พูดเยอะ เชือดอย่างเดียว! กฎทหารมีแค่ ยอม หรือตาย เท่านั้น? งานนี้คือ ไล่ฆ่าเหี้ย ถีบเหี้ยให้เผ่นออกนอกให้หมด นี่คือหมากที่วังวางไว้มานานแล้ว โดยใช้คดีเป็นเงาตามตัว ตัดเส้นทางท่อน้ำเลี้ยง ตัดอำนาจ วาสนา มรึงก็คือหมาตัวนึง หมดประโยชน์ นายใหญ่ที่วอชิงตันก็เขี่ยทิ้ง จะเก็บเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะปล่อยให้ไปตายคาตรีนแทน เพราะไอ้คนจ่อฆ่ามันมีเพี๊ยบ? กลับมาสู่โลกอันโสมม : กูบอกแล้วชิมิ หัวหน้าตัวจริงคือใคร? มรึงจะรู้มุย? ฮามาสได้ผู้นำคนใหม่ทันที ตายจริง ตายปลอม ใครสนกันล่ะ? ตราบใด หัวสมองหลักยังอยู่ครบถ้วน จะเลือกใครมาเป็นหัวผู้นำก็ได้ทั้งนั้น เพราะมีแค่เป้าหมายเดียว คือภารกิจสำเร็จ จัดการศัตรูให้สิ้นซาก ไม่สนวิธีการ? มีแค่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั่นคือ KING อย่าง คาเมเนอี คือผู้นำสูงสุดแห่งศรัทธา ผู้นำเปลี่ยนหน้าได้หมด แต่ผู้นำจิตวิญญานมีเพียงหนึ่งเดียว นอกจากหมดวาระหรือเสียชีวิตเท่านั้น หากอียิวมันแน่จริง มันเก่งจริงตามสื่อเล่า มรึงจะรบแพ้ยับ จนผู้นำต้องไปมุดลงใต้ดินแบบวันนี้เหรอ? คิดสิจ๊ะ? ตอแหล ปั่น หลอกควายทั้งนั้น ดูของจริง ข้อเท็จจริง จะได้ไม่หลงทาง? อาเซียนเตรียมแผนรับมือสงครามใหญ่พร้อม หลังร่วมฝึกซ้อมกับรัสเซีย จีน ต่อเนื่อง นัยยะคือ "ถิ่นกู" คนนอกอย่าเสือก? ไทย ลาว อินโด ขะแมร์ เวียดนาม มาเลย์ พม่า บรูไนถือหางขั้วใหม่ คงไม่ต้องถามต่อ หากเหี้ยมันยังจะใช้อีปินส์จุดไฟ เพราะมันจะไม่ได้ผล แต่ผลลัพธ์จะตีกลับไปหาตัวมันเอง เพราะอาเซียนจุดแข็งคือ "ข้าวปลาอาหาร" และแหล่งทรัพยากรโลก มีใครยังไม่รู้? แหล่งพลังงานอยู่ที่นี่มหาศาล น้องๆ อาร์คติค หากอยู่ในมือรัสเซีย จีน จะทำประโยชน์ให้โลกมากมาย เพราะไร้กีดกัน เหี้ยถึงฝันสลาย รอเขมือบไทยมาเกือบ 100 ปี แต่แห้วแดร๊ก เพราะเรามี "กษัตริย์" ไม่งั้น ถูกปชต.ตอแหลรวบแดร๊กไปนานแล้ว! เรื่องไม่เล็ก ราคาเนยพุ่ง 83% ทั่วยุโรป สะเทือนเทศกาลคริสต์มาส เอเซียอุดมสมบูรณ์ ไร้ปัญหาปากท้อง มีเหลือกินเหลือใช้ แต่อีโง่ยุโรปทั้งแผ่นดินกำลังจะอดตาย ตกงาน กิจการล้ม อุตสาหกรรมดับ คนไร้บ้านเกลื่อน ยาทะลัก อีกไม่นาน มุสลิมจะครองทั้งยุโรป ใครล่ะมีเงินพอจะซื้อธุรกิจเน่า และขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่วยุโรป ชาวยุโรปจะย้ายถิ่นฐาน ยุโรปจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาติเล็กจะหันไปพึ่งพาขั้วใหม่ แกนนำยุโรปจะเปลี่ยนมือ หนี้บานตะไท ปัญหารุมเร้า สุดท้ายหมดราคา ภาพประวัติศาสตร์ที่เคยมี เคยเห็น จะไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล โลกไปโฟกัสที่เอเซียหมดสิ้น นวตกรรมใหม่จะก่อเกิดจากที่นี่เป็นหลัก ลดบทบาท ยุโรป อเมริกา ชาติตะวันตก ให้กลายเป็นผู้ตามในไม่ช้า เพราะ EGO ตัวเดียว! บทเรียนไม่เคยจำ ก็เป็นได้แค่ "ส่วนเกินโลก"

    ปล.พระมหาชนกคือตัวอย่างแห่งความเพียรพยายาม พ่อร.9 ได้บอกอะไรให้เราฟัง? ท่านรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ พระราชินี(พระพันปีหลวง)พูดเรื่อง "กลียุค" ก่อนใคร? ทั้งหมดคือสิ่งที่พ่อ แม่ เตือนเรามาโดยตลอด ใช้ชีวิตไม่ประมาท ดิ ไอ(คอน)สัส นั่นแค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีธุรกิจแอบแฝงอีกเยอะ ที่มาจากต้นขั้วเดียวกัน นั่นคือ CIA ทุนมาจากไหน แผนมาจากใคร รวบเอาเงินชาวบ้านตาดำดำมาหาแดร๊ก มรึงคิดว่า แค่ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่กี่ตัว จะมีปัญญาทำใหญ่สะเทือนแผ่นดินแบบนี้ได้เหรอ หากไม่มีแบ็คอัพ? นี่คือที่มา ที่วังสั่งตรงสายด่วน เร่งจัดการ อย่าให้ลามไปจนทำลายเศรษฐกิจหมดไปทั้งแผ่นดิน มันคือการเชือดให้ดูเป็นตัวอย่าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สิ่งที่เหี้ย C ถนัดและทำบ่อยที่สุด คือปั่นหุ้น ทำลายฐานเศรษฐกิจไทยทางอ้อม เกมส์มันไม่ได้อยู่แค่ว่าเป็นของใคร? แต่มันอยู่ที่เป้าหมายที่แท้จริงทำลายสิ่งใด ต่างหาก? รวยนักชิมิ? มันจ้องไล่ทุบคลังไทยมาช้านานแล้ว ไม่แปลก ที่หลวงตา "มหาบัว" ริเริ่มสั่งตุนทองคำแห่ส่งเข้าคลังหลวง เพราะมองเห็นการณ์ไกล และรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วง WWIII เข้าใจยัง? ไทยเราจัดการปัญหาล่วงหน้าได้เสมอ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา ฟ้าดิน คุ้มครองภัยเสมอมา ขนาดบ้านเมืองเรายังมีดวงตาทิพย์ แล้วรัสเซีย จีน จะไม่มีเหรอ? ศาสตร์จีนโบราณนับ 5000 ปี มีตำราพิชัยสงคราม ตำราดวงดาว ทั้งหมด มันใช้พยากรณ์คำนวณชะตาชีวิตโลกได้ ไม่แปลกที่จีนรู้ทันแผนเหี้ย ไม่ตกใจที่รัสเซียเดินนำหน้า 2 ก้าวเสมอ เหี้ยถึงได้ไปไม่เป็น ศาสตร์ลี้ลับ ศาสตร์ดวงตาสวรรค์ ใครบอกว่าไม่มีอยู่จริง? ทั้งหมดมันคือ "สถิติ+คณิตศาสตร์" ดวงบ้านเมือง ย่อมมีเกจิ กุนซือ คำนวณไว้ล่วงหน้าแล้ว ชดใช้กรรมเก่าหมด ก็เตรียมขึ้นทะยานสู่ฟากฟ้าได้เลย ไทยเราคือขาขึ้น แบบยาวไป ขั้วใหม่ก็เช่นกัน! ถึงได้บอกไงล่ะว่า เกมส์โลก เกมส์ไทย คือเรื่องเดียวกัน มันจะเดินไปพร้อมกันเสมอ ไทยรอด คืออาเซียนรอด ไม่ได้ยกตนข่มท่าน แต่ไทยสำคัญที่สุดในยุทธศาสตร์อาเซียนสำหรับขั้วใหม่ ทำไมไทยถึงผูกใจกับรัสเซีย จีน มานมนาน เพราะมันมีชะตาเกี่ยวพันกัน ค้ำกันอยู่ไงล่ะ? เกมส์สงครามแค่เปลือกนอก เกมส์จริงให้ดูที่ฐานเศรษฐกิจโลกอยู่ในมือใคร? พลังงาน อาหาร เทคโนโลยี อาวุธ สื่อสาร โลจิสติค คือปัจจัยหลักของผู้นำโลกทุกยุค ทุกสมัย? เม้าท์ก่อนจบ : อีไอโฟนหมดมุก ขุดของเก่ามาขาย คนเอือม อยู่กับที่ หลอกควายไปวันวัน จ่ายแพงเพื่อ? หัวเว่ย แจ่มแจ๋ว นวตกรรม 6G ทะลุดวงดาว ไปจนกู่ไม่กลับ แซงอีไอโฟน ถีบจนไปอยู่หางแถว อีซัมซัม ก็กำลังจะร่วง แบรนด์จีน เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่ปรึกษาใคร? ยุคที่ค่าโง่แพงกว่า จ่ายเท่าไหร่ ก็ไม่แพงเท่าถูกหลอก? จีนดาหน้าปูพรมขยี้เศรษฐกิจยุโรป อเมริกา ไม่ไว้หน้า? ห่วยกว่าก็ถอยไป ตะวันออกกลางเงินเยอะ และถอนการลงทุนในอเมริกา ยุโรป หันเข้าหาเอเซียเต็มตรีน เม็ดเงินสะพัดอยู่ในเอเซีย แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เงินไหลออกน้อยกว่าเดิม แต่เงินไหลเข้ามหาศาล จนดอลล่าร์ตายคาตรีน!

    หมี CNN(พ่อพูด พ่อเตือน พ่อสอน หากรู้จักคิด มรึงจะไม่พบกับความล้มเหลว คำพูดสวรรค์ มักจะมีคนฟังน้อย เพราะมันเบา แต่คำพูดของนรก เสียงมันจะดังก้องหู เพราะกิเลส ครอบงำ ตั้งสติ คือมีสติ มีสติ คือไตร่ตรอง และจะไม่ประมาท คนโง่ คนฉลาด ต่างกันตรงนี้ เสพอะไรก็ได้อย่างงั้น นี่คือ FACT เสพสิ่งดี สิ่งดีก็เข้าตัว เสพอาจม สิ่งโสมมก็เปรอะเปื้อน เท่านั้นเอง)
    20 ตุลาคม 67
    00.01 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    20-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.5 บัดซบ! แผนเจรจามาเต็ม! อียิวขี้แตก ยูเครนสิ้นชาติ ปากขอคุย แต่เตรียมนุ๊กยิงใส่ รัสเซีย จีน รู้ทัน ไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง กูชิงยิงก่อน ถึงก่อน ชัวร์ มาดิ ไอ้สัส! สมองเทียบไม่ได้ คนละชั้น กึ๋นการรบ เทียบไม่ได้ จบที่อาวุธไฮเทค อิหร่านเริ่มเปิด จีนเริ่มโชว์ รัสเซียเริ่มโหด แม้แต่ JOHN WICK ได้ไฟเขียวเขมือบรวมชาติแล้ว เป็นไปตามคิว เพราะจีนก็จะเขมือบไต้หวันไปพร้อมกัน ในเมื่อมรึงคิดจะเปิดศึกแปซิฟิค ก็ขนมาให้หมดรัง สุสานเหี้ยรอเปิด! แสงโลกสาดส่อง แสงไทยสาดซัด ล่อเหี้ยหัวหมุน ไปไม่เป็น? เหี้ยรู้ชัด! ไม่ว่ามรึงจะเปิดกับใครก่อน? ขั้วใหม่จะส่ง 4 กุมารเข้าประกวดทุกเวที ไม่มียกเว้น มากันเป็นแพ็คคู่ แทคทีม ไหวป่ะ? เงียบกริบไปป่ะ? ทั้งอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อียุ่นปี่ เพราะรู้ชะตากรรมแล้วว่า หากยังอยู่ในเกมส์กระดานนี้ กูถูกบูชายันต์แน่ แผนลอบกัด หักหลังตามมาทันที อียิวหากมรึงใหญ่จริง ต้องเอาขี้ข้าอยู่ แต่กลายเป็นว่า ขี้ข้าเผ่นหางจุกตูดกันหมด เหตุผลคือ "ขั้วใหม่" แอบตีท้ายครัว คุยหลังไมค์ชาติขี้ข้ายิวหมดเกลี้ยง "อยากตาย หรืออยากรวย อยากรอด" มรึงเลือกเอา? ใครทิ้งอียิว? กูจะพิจารณาหนทางรอดให้! ปูติน สีจิ้นผิง ฉลาดกว่านั้นเยอะ รู้ดี กำจัดอียิวเหี้ยให้สิ้นซาก ต้องถอนรากถอนโคนขี้ข้ามันก่อน ย้ายขั้วคือจบ ย้ายข้างคือชนะใส! โลกรวมตัว ต่อกันติดแล้ว มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินทันที ไหวตัวทัน ก็รอด? จอร์แดนสุดทน! รัฐฝ่ายการเมืองออกตัวขี้ข้ายิว แต่ปชช.จอร์แดนจิตวิญญานปาเลสไตน์ จับอาวุธไล่กราดยิงทหารยิวตายห่าคาพรมแดน เปิดศึกภาคประชาชน รัฐไม่สู้ รัฐไม่ช่วย ชาวบ้านสั่งลุยกันเอง งานเข้าแล้วมรึงเอ๋ย? นี่คือปมที่จะบีบให้รัฐบาลขี้ข้ายิวประกาศสงครามกับยิวไงล่ะ เมื่อมรึงอยากจะสิ้นชาติ แต่ปชช.จอร์แดนหัวใจปาเลสไตน์ไม่ยอม รอดู รัฐบาลไปก่อน หรือแผ่นดินจะไปก่อน เพราะอิหรา่นส่งสัญญานแล้วว่า ใครให้อียิวบินผ่าน ใช้ฐานทัพปฎิบัติการโจมตีอิหร่าน มรึงโดนกูล่อทันทีแน่? เฮซบอเลาะห์หยามอียิว ส่งโดรนพิฆาตบินข้ามหัวหย่อนระเบิดลงกลางบัานอีเนรคุณทันยา รู้ว่ามรึงไม่อยู่บ้านดอก แค่ส่งสัญญาน "กูล่าหัวมรึงอยู่" ทำให้อีเนรคุณทันยาต้องย้ายบ้านไปอยู่ใต้ดิน มุดลงรูแทน ชีวิตดี๊ดี ไอ้สัส! ผวาทั้งแผ่นดิน ขนาดตัวผู้นำเหี้ยยังถูกล่อเป้า ชาวบ้านจะเหลือเหรอ? ข้ามวิกแป๊บ : 10000 เฟสแรก แห้วแดร๊ก หายวับ ไร้เงากระตุ้นเศรษฐกิจ ยังเสี้ยนต่อ ส่ง 10000 เฟส 2 ต่อเนื่อง เอาให้สุด ต้องเชียร์ เหี้ยมันทำได้แค่นี้แหละ? ตอนเช็คบิล หายหมดทั้งแผ่นดินแน่ ช่วงโปรไฟไหม้ วังสมนาคุณให้ชาวบ้านควายกระโหลกหนา ล่อไอ้อีคนเซ็นต์ คนวางแผน ผู้สมรู้ร่วมคิด พรรค และหน่วยงานที่แจ้งแท็จ ศาลจ้องไว้นานแล้ว รอแค่คนชง คนตบ จบที่คุกตามสูตร! ดิ ไอ(คอน)สัส มหากาพย์เชือดเหี้ยตัวพ่อ หน้าฉากแค่ดารา หลังฉากเหี้ย C ทั้งนั้น จะบั่นทอนเศรษฐกิจชาติ งานนี้คลัง วัง กองทัพ ประสานมือแน่น เชือดเหี้ยในไทย ให้เหี้ยในวอชิงตันดูคาจอ! กูเคยบอกแล้วน่ะ พ่อร.10 คือยุคพระเดช ไม่พูดเยอะ เชือดอย่างเดียว! กฎทหารมีแค่ ยอม หรือตาย เท่านั้น? งานนี้คือ ไล่ฆ่าเหี้ย ถีบเหี้ยให้เผ่นออกนอกให้หมด นี่คือหมากที่วังวางไว้มานานแล้ว โดยใช้คดีเป็นเงาตามตัว ตัดเส้นทางท่อน้ำเลี้ยง ตัดอำนาจ วาสนา มรึงก็คือหมาตัวนึง หมดประโยชน์ นายใหญ่ที่วอชิงตันก็เขี่ยทิ้ง จะเก็บเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะปล่อยให้ไปตายคาตรีนแทน เพราะไอ้คนจ่อฆ่ามันมีเพี๊ยบ? กลับมาสู่โลกอันโสมม : กูบอกแล้วชิมิ หัวหน้าตัวจริงคือใคร? มรึงจะรู้มุย? ฮามาสได้ผู้นำคนใหม่ทันที ตายจริง ตายปลอม ใครสนกันล่ะ? ตราบใด หัวสมองหลักยังอยู่ครบถ้วน จะเลือกใครมาเป็นหัวผู้นำก็ได้ทั้งนั้น เพราะมีแค่เป้าหมายเดียว คือภารกิจสำเร็จ จัดการศัตรูให้สิ้นซาก ไม่สนวิธีการ? มีแค่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั่นคือ KING อย่าง คาเมเนอี คือผู้นำสูงสุดแห่งศรัทธา ผู้นำเปลี่ยนหน้าได้หมด แต่ผู้นำจิตวิญญานมีเพียงหนึ่งเดียว นอกจากหมดวาระหรือเสียชีวิตเท่านั้น หากอียิวมันแน่จริง มันเก่งจริงตามสื่อเล่า มรึงจะรบแพ้ยับ จนผู้นำต้องไปมุดลงใต้ดินแบบวันนี้เหรอ? คิดสิจ๊ะ? ตอแหล ปั่น หลอกควายทั้งนั้น ดูของจริง ข้อเท็จจริง จะได้ไม่หลงทาง? อาเซียนเตรียมแผนรับมือสงครามใหญ่พร้อม หลังร่วมฝึกซ้อมกับรัสเซีย จีน ต่อเนื่อง นัยยะคือ "ถิ่นกู" คนนอกอย่าเสือก? ไทย ลาว อินโด ขะแมร์ เวียดนาม มาเลย์ พม่า บรูไนถือหางขั้วใหม่ คงไม่ต้องถามต่อ หากเหี้ยมันยังจะใช้อีปินส์จุดไฟ เพราะมันจะไม่ได้ผล แต่ผลลัพธ์จะตีกลับไปหาตัวมันเอง เพราะอาเซียนจุดแข็งคือ "ข้าวปลาอาหาร" และแหล่งทรัพยากรโลก มีใครยังไม่รู้? แหล่งพลังงานอยู่ที่นี่มหาศาล น้องๆ อาร์คติค หากอยู่ในมือรัสเซีย จีน จะทำประโยชน์ให้โลกมากมาย เพราะไร้กีดกัน เหี้ยถึงฝันสลาย รอเขมือบไทยมาเกือบ 100 ปี แต่แห้วแดร๊ก เพราะเรามี "กษัตริย์" ไม่งั้น ถูกปชต.ตอแหลรวบแดร๊กไปนานแล้ว! เรื่องไม่เล็ก ราคาเนยพุ่ง 83% ทั่วยุโรป สะเทือนเทศกาลคริสต์มาส เอเซียอุดมสมบูรณ์ ไร้ปัญหาปากท้อง มีเหลือกินเหลือใช้ แต่อีโง่ยุโรปทั้งแผ่นดินกำลังจะอดตาย ตกงาน กิจการล้ม อุตสาหกรรมดับ คนไร้บ้านเกลื่อน ยาทะลัก อีกไม่นาน มุสลิมจะครองทั้งยุโรป ใครล่ะมีเงินพอจะซื้อธุรกิจเน่า และขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่วยุโรป ชาวยุโรปจะย้ายถิ่นฐาน ยุโรปจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาติเล็กจะหันไปพึ่งพาขั้วใหม่ แกนนำยุโรปจะเปลี่ยนมือ หนี้บานตะไท ปัญหารุมเร้า สุดท้ายหมดราคา ภาพประวัติศาสตร์ที่เคยมี เคยเห็น จะไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล โลกไปโฟกัสที่เอเซียหมดสิ้น นวตกรรมใหม่จะก่อเกิดจากที่นี่เป็นหลัก ลดบทบาท ยุโรป อเมริกา ชาติตะวันตก ให้กลายเป็นผู้ตามในไม่ช้า เพราะ EGO ตัวเดียว! บทเรียนไม่เคยจำ ก็เป็นได้แค่ "ส่วนเกินโลก" ปล.พระมหาชนกคือตัวอย่างแห่งความเพียรพยายาม พ่อร.9 ได้บอกอะไรให้เราฟัง? ท่านรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ พระราชินี(พระพันปีหลวง)พูดเรื่อง "กลียุค" ก่อนใคร? ทั้งหมดคือสิ่งที่พ่อ แม่ เตือนเรามาโดยตลอด ใช้ชีวิตไม่ประมาท ดิ ไอ(คอน)สัส นั่นแค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีธุรกิจแอบแฝงอีกเยอะ ที่มาจากต้นขั้วเดียวกัน นั่นคือ CIA ทุนมาจากไหน แผนมาจากใคร รวบเอาเงินชาวบ้านตาดำดำมาหาแดร๊ก มรึงคิดว่า แค่ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่กี่ตัว จะมีปัญญาทำใหญ่สะเทือนแผ่นดินแบบนี้ได้เหรอ หากไม่มีแบ็คอัพ? นี่คือที่มา ที่วังสั่งตรงสายด่วน เร่งจัดการ อย่าให้ลามไปจนทำลายเศรษฐกิจหมดไปทั้งแผ่นดิน มันคือการเชือดให้ดูเป็นตัวอย่าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สิ่งที่เหี้ย C ถนัดและทำบ่อยที่สุด คือปั่นหุ้น ทำลายฐานเศรษฐกิจไทยทางอ้อม เกมส์มันไม่ได้อยู่แค่ว่าเป็นของใคร? แต่มันอยู่ที่เป้าหมายที่แท้จริงทำลายสิ่งใด ต่างหาก? รวยนักชิมิ? มันจ้องไล่ทุบคลังไทยมาช้านานแล้ว ไม่แปลก ที่หลวงตา "มหาบัว" ริเริ่มสั่งตุนทองคำแห่ส่งเข้าคลังหลวง เพราะมองเห็นการณ์ไกล และรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วง WWIII เข้าใจยัง? ไทยเราจัดการปัญหาล่วงหน้าได้เสมอ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา ฟ้าดิน คุ้มครองภัยเสมอมา ขนาดบ้านเมืองเรายังมีดวงตาทิพย์ แล้วรัสเซีย จีน จะไม่มีเหรอ? ศาสตร์จีนโบราณนับ 5000 ปี มีตำราพิชัยสงคราม ตำราดวงดาว ทั้งหมด มันใช้พยากรณ์คำนวณชะตาชีวิตโลกได้ ไม่แปลกที่จีนรู้ทันแผนเหี้ย ไม่ตกใจที่รัสเซียเดินนำหน้า 2 ก้าวเสมอ เหี้ยถึงได้ไปไม่เป็น ศาสตร์ลี้ลับ ศาสตร์ดวงตาสวรรค์ ใครบอกว่าไม่มีอยู่จริง? ทั้งหมดมันคือ "สถิติ+คณิตศาสตร์" ดวงบ้านเมือง ย่อมมีเกจิ กุนซือ คำนวณไว้ล่วงหน้าแล้ว ชดใช้กรรมเก่าหมด ก็เตรียมขึ้นทะยานสู่ฟากฟ้าได้เลย ไทยเราคือขาขึ้น แบบยาวไป ขั้วใหม่ก็เช่นกัน! ถึงได้บอกไงล่ะว่า เกมส์โลก เกมส์ไทย คือเรื่องเดียวกัน มันจะเดินไปพร้อมกันเสมอ ไทยรอด คืออาเซียนรอด ไม่ได้ยกตนข่มท่าน แต่ไทยสำคัญที่สุดในยุทธศาสตร์อาเซียนสำหรับขั้วใหม่ ทำไมไทยถึงผูกใจกับรัสเซีย จีน มานมนาน เพราะมันมีชะตาเกี่ยวพันกัน ค้ำกันอยู่ไงล่ะ? เกมส์สงครามแค่เปลือกนอก เกมส์จริงให้ดูที่ฐานเศรษฐกิจโลกอยู่ในมือใคร? พลังงาน อาหาร เทคโนโลยี อาวุธ สื่อสาร โลจิสติค คือปัจจัยหลักของผู้นำโลกทุกยุค ทุกสมัย? เม้าท์ก่อนจบ : อีไอโฟนหมดมุก ขุดของเก่ามาขาย คนเอือม อยู่กับที่ หลอกควายไปวันวัน จ่ายแพงเพื่อ? หัวเว่ย แจ่มแจ๋ว นวตกรรม 6G ทะลุดวงดาว ไปจนกู่ไม่กลับ แซงอีไอโฟน ถีบจนไปอยู่หางแถว อีซัมซัม ก็กำลังจะร่วง แบรนด์จีน เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่ปรึกษาใคร? ยุคที่ค่าโง่แพงกว่า จ่ายเท่าไหร่ ก็ไม่แพงเท่าถูกหลอก? จีนดาหน้าปูพรมขยี้เศรษฐกิจยุโรป อเมริกา ไม่ไว้หน้า? ห่วยกว่าก็ถอยไป ตะวันออกกลางเงินเยอะ และถอนการลงทุนในอเมริกา ยุโรป หันเข้าหาเอเซียเต็มตรีน เม็ดเงินสะพัดอยู่ในเอเซีย แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เงินไหลออกน้อยกว่าเดิม แต่เงินไหลเข้ามหาศาล จนดอลล่าร์ตายคาตรีน! หมี CNN(พ่อพูด พ่อเตือน พ่อสอน หากรู้จักคิด มรึงจะไม่พบกับความล้มเหลว คำพูดสวรรค์ มักจะมีคนฟังน้อย เพราะมันเบา แต่คำพูดของนรก เสียงมันจะดังก้องหู เพราะกิเลส ครอบงำ ตั้งสติ คือมีสติ มีสติ คือไตร่ตรอง และจะไม่ประมาท คนโง่ คนฉลาด ต่างกันตรงนี้ เสพอะไรก็ได้อย่างงั้น นี่คือ FACT เสพสิ่งดี สิ่งดีก็เข้าตัว เสพอาจม สิ่งโสมมก็เปรอะเปื้อน เท่านั้นเอง) 20 ตุลาคม 67 00.01 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-10-67/01 : หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.12

    01. เบื้องบนสั่งตรง ตบเท้าเชือด อีกากีดิ้นไม่หลุด เขียวบิ๊กบู๊ทสั่งขยี้ ดูดคืนแผ่นดินให้เกลี้ยง ทรงมาเต็ม เอาไปเท่าไหร่คืนให้หมด ทั้งนักการเมือง นักต้มตุ๋น ขบวนการบั่นทอนเศรษฐกิจไทย รวบหัวรวบหาง แสงแรงจัดช่วงนี้

    02. BRICS SUMMIT 2024 คือฉากฝังดอลล่าร์ตายทั้งเป็น มันคือการรวมตัวของว่าที่สมาชิกใหม่ในอนาคต ที่จะแห่กันเข้ามา มากกว่า 30 ชาติ เหตุผลสั้นๆ ไม่มีใครอยากใช้ดอลล่าร์อีกต่อไป เพราะถูกกดขี่ เอาเปรียบ มาถูกทาง

    03. ความแตกต่าง เฮซบอเลาะห์ดาหน้าถล่มฐานทัพ ฐานที่ตั้ง จุดสำคัญ คลังแสง ดาวเทียม กองกำลังสำรอง สนามบิน ท่าเรือ ขณะที่อียิวมัวแต่ถล่มบ้านเรือน เพราะเข้าไม่ถึงจุดยุทธศาสตร์หลัก เนื่องจากมีระบบป้องกันภัยทางอากาศชั้นยอดรอล่ออยู่ บินเข้าไม่ถึง ผลลัพธ์จึงแตกต่าง ยิวได้ข่าว แต่เฮซบอเลาะห์ได้ชัย

    04. ขำไม่ออก! 3 วันคลั่ง ถล่มติดต่อ เทลอาวีฟ ศูนย์กลางเศรษฐกิจพังยับ ไม่ต้องค้าขายเหี้ยอะไรอีกแล้ว แดร๊กแต่โดรน กับขีปนาวุธรายชั่วโมง โครงสร้างหลักไปหมด จะอยู่กันอย่างไร? ใต้ดินตลอดชีวิตเหรอ?

    05. ยักษ์ใหญ่ Volkswagen เจ๊ง ปิดโรงงานเยอรมนี สมใจนึกอีโง่โอลาฟ และเผ่าพันธุ์บาวาเรียน EGO แรงชิมิ? แดร๊กกรวด แดร๊กหินไปแทนน่ะ

    06. งูพิษเริ่มออกลาย อีพรรคแดง เสียงแตกยับ ถูกอุ้ม ถูกซื้อตัว ชิ่งหนีก่อนแพแตก นโยบายใบสั่งจากวอชิงตันแห้วแดร๊ก นิรโทษคือเรื่องตอแหล ทำไม่ได้จริง มีแต่ถูกเช็คบิล ศาลได้ใบเสร็จครบนานแล้ว อยู่ที่เวลาเชือด!

    07. เขาเขียวแจ้งเกิด "หมูเด้ง" สร้างงาน สร้างเงิน สร้างคน อีเว้นต์ยาวทั้งปี

    08. ดังแค่ไหน รวยแค่ไหน ฟ้าก็เอาคืนได้หมด ความชอบธรรมไม่มี โกงเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ยามตกต่ำ หมาไม่แล เคยอวยหายหัวหมดเกลี้ยง สัจธรรมชีวิต ไม่ยึดติด ก็ไม่โศกเศร้า มีมา ก็มีไป มรึงมาแต่ตัว ก็ไปแต่ตัว!

    09. ไม่ได้ซ้อมกันเล่นน่ะเฟ้ย? รัสเซียทดสอบนิวเคลียร์ จีนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป ผลลัพธ์ดีเกินคาด ล็อคเป้าหมายจริง วอชิงตัน ลอนดอน ไม่รอด เกมส์ใหญ่กูจัดเต็ม เกมส์เล็ก ปล่อยอาหรับขยี้อียิวให้หายอยาก?

    10. เงียบ แต่แดร๊กเรียบวุธน่ะจ๊ะ รัสเซียเดินหน้าปูพรมเขมือบแผ่นดินอียูเครนอย่างเอร็ดอร่อย กลับบ้านเหอะลูก! จะเอาเหี้ยอะไรไปต้าน หมดคลังแสง หมดอารมณ์ ตายห่าเกลื่อน นีโอนาซีตายยับ เผ่นหางจุกตูดเพี๊ยบ!

    หมายเหตุ : แค่ 10 ข้อพอ เป็นออเดิร์ฟ ตั้งใจจะสื่อว่า "แสงทำงานไวเสมอ" เมื่อแสงเข้า ความจริงจะปรากฎ ความยุติธรรมจะก่อเกิด ไม่ว่าไอ้อีหน้าไหน จะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ใหญ่คับฟ้า โคตรพ่อง โคตรแม่งใหญ่ แค่ไหน ก็แค่ใต้ตรีนวัง วังทำเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน ใครทำร้ายลูกกู กูไม่ปล่อย งานนี้ทหารคุมเอง อีกากีเยี่ยวแตก แม้แต่ DSI ยังต้องลงแรงจัดหนัก เบื้องบนสั่งตรง เอาให้ชัดเจน เป็นที่ประจักษ์ ไม่เหลือข้อสงสัย? ดอกนี้ มันจะขยายผลไปถึงไอ้อีตัวเบื้องหลังทั้งหมด เปิดโพยดู ไอ้สัส! นักการเมืองเหี้ยทั้งนั้น นายทุนเหี้ยสามานย์ เหี้ย C แม้แต่ทหารแตงโม รวมถึงข้าราชบริพารชั่ว ที่แอบแฝงเป็นเหลือบในวัง อ้างคนสนิท ถูกเปิดหน้าหมดเกลี้ยง โดนหมดไม่มีเหลือ? ดิ ไอ(คอน)สัส แค่โหมโรง ของจริงจะมีตามมาอีกเยอะ ตั้งแต่ชั้น 14 แยกดินแดน ตากใบ ศาลไคฟงขยันจัดช่วงนี้ งานเดินหน้าเร็วฟ้าผ่า เปรี้ยงทีเดียว ล้มทั้งกระดานเหี้ย เหี้ย C ดิ้นพล่าน อีเหลี่ยมหนีตาย มันส์พะยะค่ะ อยากดูเหี้ยตายคาตรีน ต้องได้ดู ยังไม่ข้ามปี มรึงจะรีบชิงกันไปตายห่ากันแล้วเหรอ? ควายไทยบัดซบหายโง่ จงโง่ต่อไป เพราะบุญมรึงมีแค่นี้ เกิดมาเสียชาติเกิด ไปเกิดเป็นหมาน่ะจ๊ะ อย่าเกิดเป็นคนอีกเลย เสียหมา?

    หมี CNN(เกมส์โลกใกล้ปิดเกมส์ เกมส์ไทยใกล้ล้างบางเหี้ย ทั้งหมดมันคือเรื่องเดียวกัน เหี้ยยึดอาเซียนไม่ได้ ก็แพ้ขั้วใหม่ชัวร์ เพราะตอนนี้จีน รัสเซีย บุกไปถึงหน้าบ้านเหี้ยแล้ว หลังบ้านก็พรุนเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม มรึงไม่รอด รอแค่แสงจัดการความมืดจบ ทุกอย่างจะกลับคืนสู่โลกปกติอีกครั้ง ส่วนไอ้อีหน้าไหนที่หากินบนความลำบากของคน ต้องชดใช้หมด 2 ปีรวยเร็ว 20 ปีในคุก ยังต้องถามอีกมั้ยว่า ขยัน 10 ปี แบบโง่ๆ ไม่มีวันรวย งั้นปู่ย่าตายายมรึงคงไม่มีเหี้ยอะไรจะแดร๊กวันนี้แล้ว ไอ้ควาย! ขยันไม่มีโง่หรือฉลาด มีแค่ความเพียร มรึงต่างหากที่หาวิธีลัด คือโกง คือขโมยเค้ามา เรียกว่าฉลาดเหรอ ดีออก? ดวงตาเห็นธรรม จะไม่ตกเป็นเหยื่อ หยุด ลด ละ เลิก สุขมาทันที)
    17 ตุลาคม 67
    11.27 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172914162760282346
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    17-10-67/01 : หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.12 01. เบื้องบนสั่งตรง ตบเท้าเชือด อีกากีดิ้นไม่หลุด เขียวบิ๊กบู๊ทสั่งขยี้ ดูดคืนแผ่นดินให้เกลี้ยง ทรงมาเต็ม เอาไปเท่าไหร่คืนให้หมด ทั้งนักการเมือง นักต้มตุ๋น ขบวนการบั่นทอนเศรษฐกิจไทย รวบหัวรวบหาง แสงแรงจัดช่วงนี้ 02. BRICS SUMMIT 2024 คือฉากฝังดอลล่าร์ตายทั้งเป็น มันคือการรวมตัวของว่าที่สมาชิกใหม่ในอนาคต ที่จะแห่กันเข้ามา มากกว่า 30 ชาติ เหตุผลสั้นๆ ไม่มีใครอยากใช้ดอลล่าร์อีกต่อไป เพราะถูกกดขี่ เอาเปรียบ มาถูกทาง 03. ความแตกต่าง เฮซบอเลาะห์ดาหน้าถล่มฐานทัพ ฐานที่ตั้ง จุดสำคัญ คลังแสง ดาวเทียม กองกำลังสำรอง สนามบิน ท่าเรือ ขณะที่อียิวมัวแต่ถล่มบ้านเรือน เพราะเข้าไม่ถึงจุดยุทธศาสตร์หลัก เนื่องจากมีระบบป้องกันภัยทางอากาศชั้นยอดรอล่ออยู่ บินเข้าไม่ถึง ผลลัพธ์จึงแตกต่าง ยิวได้ข่าว แต่เฮซบอเลาะห์ได้ชัย 04. ขำไม่ออก! 3 วันคลั่ง ถล่มติดต่อ เทลอาวีฟ ศูนย์กลางเศรษฐกิจพังยับ ไม่ต้องค้าขายเหี้ยอะไรอีกแล้ว แดร๊กแต่โดรน กับขีปนาวุธรายชั่วโมง โครงสร้างหลักไปหมด จะอยู่กันอย่างไร? ใต้ดินตลอดชีวิตเหรอ? 05. ยักษ์ใหญ่ Volkswagen เจ๊ง ปิดโรงงานเยอรมนี สมใจนึกอีโง่โอลาฟ และเผ่าพันธุ์บาวาเรียน EGO แรงชิมิ? แดร๊กกรวด แดร๊กหินไปแทนน่ะ 06. งูพิษเริ่มออกลาย อีพรรคแดง เสียงแตกยับ ถูกอุ้ม ถูกซื้อตัว ชิ่งหนีก่อนแพแตก นโยบายใบสั่งจากวอชิงตันแห้วแดร๊ก นิรโทษคือเรื่องตอแหล ทำไม่ได้จริง มีแต่ถูกเช็คบิล ศาลได้ใบเสร็จครบนานแล้ว อยู่ที่เวลาเชือด! 07. เขาเขียวแจ้งเกิด "หมูเด้ง" สร้างงาน สร้างเงิน สร้างคน อีเว้นต์ยาวทั้งปี 08. ดังแค่ไหน รวยแค่ไหน ฟ้าก็เอาคืนได้หมด ความชอบธรรมไม่มี โกงเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ยามตกต่ำ หมาไม่แล เคยอวยหายหัวหมดเกลี้ยง สัจธรรมชีวิต ไม่ยึดติด ก็ไม่โศกเศร้า มีมา ก็มีไป มรึงมาแต่ตัว ก็ไปแต่ตัว! 09. ไม่ได้ซ้อมกันเล่นน่ะเฟ้ย? รัสเซียทดสอบนิวเคลียร์ จีนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป ผลลัพธ์ดีเกินคาด ล็อคเป้าหมายจริง วอชิงตัน ลอนดอน ไม่รอด เกมส์ใหญ่กูจัดเต็ม เกมส์เล็ก ปล่อยอาหรับขยี้อียิวให้หายอยาก? 10. เงียบ แต่แดร๊กเรียบวุธน่ะจ๊ะ รัสเซียเดินหน้าปูพรมเขมือบแผ่นดินอียูเครนอย่างเอร็ดอร่อย กลับบ้านเหอะลูก! จะเอาเหี้ยอะไรไปต้าน หมดคลังแสง หมดอารมณ์ ตายห่าเกลื่อน นีโอนาซีตายยับ เผ่นหางจุกตูดเพี๊ยบ! หมายเหตุ : แค่ 10 ข้อพอ เป็นออเดิร์ฟ ตั้งใจจะสื่อว่า "แสงทำงานไวเสมอ" เมื่อแสงเข้า ความจริงจะปรากฎ ความยุติธรรมจะก่อเกิด ไม่ว่าไอ้อีหน้าไหน จะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ใหญ่คับฟ้า โคตรพ่อง โคตรแม่งใหญ่ แค่ไหน ก็แค่ใต้ตรีนวัง วังทำเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน ใครทำร้ายลูกกู กูไม่ปล่อย งานนี้ทหารคุมเอง อีกากีเยี่ยวแตก แม้แต่ DSI ยังต้องลงแรงจัดหนัก เบื้องบนสั่งตรง เอาให้ชัดเจน เป็นที่ประจักษ์ ไม่เหลือข้อสงสัย? ดอกนี้ มันจะขยายผลไปถึงไอ้อีตัวเบื้องหลังทั้งหมด เปิดโพยดู ไอ้สัส! นักการเมืองเหี้ยทั้งนั้น นายทุนเหี้ยสามานย์ เหี้ย C แม้แต่ทหารแตงโม รวมถึงข้าราชบริพารชั่ว ที่แอบแฝงเป็นเหลือบในวัง อ้างคนสนิท ถูกเปิดหน้าหมดเกลี้ยง โดนหมดไม่มีเหลือ? ดิ ไอ(คอน)สัส แค่โหมโรง ของจริงจะมีตามมาอีกเยอะ ตั้งแต่ชั้น 14 แยกดินแดน ตากใบ ศาลไคฟงขยันจัดช่วงนี้ งานเดินหน้าเร็วฟ้าผ่า เปรี้ยงทีเดียว ล้มทั้งกระดานเหี้ย เหี้ย C ดิ้นพล่าน อีเหลี่ยมหนีตาย มันส์พะยะค่ะ อยากดูเหี้ยตายคาตรีน ต้องได้ดู ยังไม่ข้ามปี มรึงจะรีบชิงกันไปตายห่ากันแล้วเหรอ? ควายไทยบัดซบหายโง่ จงโง่ต่อไป เพราะบุญมรึงมีแค่นี้ เกิดมาเสียชาติเกิด ไปเกิดเป็นหมาน่ะจ๊ะ อย่าเกิดเป็นคนอีกเลย เสียหมา? หมี CNN(เกมส์โลกใกล้ปิดเกมส์ เกมส์ไทยใกล้ล้างบางเหี้ย ทั้งหมดมันคือเรื่องเดียวกัน เหี้ยยึดอาเซียนไม่ได้ ก็แพ้ขั้วใหม่ชัวร์ เพราะตอนนี้จีน รัสเซีย บุกไปถึงหน้าบ้านเหี้ยแล้ว หลังบ้านก็พรุนเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม มรึงไม่รอด รอแค่แสงจัดการความมืดจบ ทุกอย่างจะกลับคืนสู่โลกปกติอีกครั้ง ส่วนไอ้อีหน้าไหนที่หากินบนความลำบากของคน ต้องชดใช้หมด 2 ปีรวยเร็ว 20 ปีในคุก ยังต้องถามอีกมั้ยว่า ขยัน 10 ปี แบบโง่ๆ ไม่มีวันรวย งั้นปู่ย่าตายายมรึงคงไม่มีเหี้ยอะไรจะแดร๊กวันนี้แล้ว ไอ้ควาย! ขยันไม่มีโง่หรือฉลาด มีแค่ความเพียร มรึงต่างหากที่หาวิธีลัด คือโกง คือขโมยเค้ามา เรียกว่าฉลาดเหรอ ดีออก? ดวงตาเห็นธรรม จะไม่ตกเป็นเหยื่อ หยุด ลด ละ เลิก สุขมาทันที) 17 ตุลาคม 67 11.27 น. https://linevoom.line.me/post/1172914162760282346 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที

    16 ตุลาคม 2567-รายงานผลการประชุม กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า

    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง

    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านำเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567

    ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุดและมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

    ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนำไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว

    ธนาคารแห่งประเทศไทย
    16 ตุลาคม 2567

    #Thaitimes
    คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที 16 ตุลาคม 2567-รายงานผลการประชุม กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านำเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุดและมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนำไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว ธนาคารแห่งประเทศไทย 16 ตุลาคม 2567 #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี มีผลทันที
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที
    .
    โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่า จุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า
    .
    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสําคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง
    .
    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อ หมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านําเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567
    .
    ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุน นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุด และมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
    .
    ภายใต้กรอบการดําเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนําไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว
    .............
    Sondhi X
    มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี มีผลทันที . วันนี้ (16 ต.ค.) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที . โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่า จุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า . เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสําคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง . อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อ หมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านําเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 . ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุน นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุด และมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ . ภายใต้กรอบการดําเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนําไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว ............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15-10-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.87 ชื่อตอน "WE WILL ROCK U(FCUK JEWS BASTARD)" กลัวตาย แต่ไม่อยากเสียอำนาจ ทำไงดีล่ะ? ไปตายห่าเถิด เค้ารอขยี้มรึงอยู่ ดีออก? JOHN KIM ลั่น งวดนี้เอาจริง สั่งบรรจุกระสุนปืนใหญ่ไม่อั้น เตรียมถล่มโซล กูยิ่งคันไม้ คันมืออยู่ จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตัวเอง หรือจะร่วมกับกูไปฆ่าไอ้อีเหี้ยที่ทำแผ่นดินมรึงแตกดีล่ะ? อีโสมขาวหน้าโง่ เสพอารยธรรมตะวันตก ถูกล้างสมองซะคิดว่า มันยกมรึงเป็นชนชั้นเดียวกับเหี้ยมัน หัวดำในสายตาเหี้ยเป็นแค่ "ทาส" และขั้วใหม่จะขยี้ไอ้หัวทองทั้งหลายที่หลงตัวเอง เป็นแค่ขี้ข้าซาตาน อย่าริยกตัวเป็นเทพ เดี๋ยวมรึงโดนกูแน่! แยกสเปซี่โลกกันไปเลย หลงตัวเองไปอยู่กับเหี้ย อยู่ร่วมกันได้ไปอยู่กับขั้วใหม่ คนกับสัดเดรัจฉาน ไม่ปะปนกัน สัจธรรม! จีน รัสเซีย ซ้อมรบ ล้อมไต้หวัน ส่งสัญญาน เตรียมเคลียร์ใจแปซิฟิค ใครเสี้ยน ใครห้าวเป้ง ผลลัพธ์คือ? มันคือการเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู! ก๊กมินตั๋งรู้ดีว่าจะเจออะไร? แค่อี ไล่ชิงเต๋อ ปากหมา ละครปาหี่ เคาะกะลาขอเงิน ขออาวุธ มันไม่ได้ช่วยอะไรมากดอก? จีน รัสเซีย ยิ่งสบโอกาส อยากเปิดโชว์รูมให้ไต้หวันดู ว่าของจริง มันคนละเรื่องกับที่เหี้ยใช้ กระจอกเทียบไม่ติด! สรุปคือซ้อมรบแค่หน้าฉาก เพราะจะเก็บไต้หวัน 24 ชม.ก็จบแล้ว เอามันมาโปรโมตสินค้าใหม่ ล็อตใหม่ดีกว่ามุย? SHOW ROOM LIVE 2024 ตลาดอาวุธโลกแห่ชมคับคั่ง โดยเฉพาะเหี้ยตะวันตก มรึงมีเหี้ยอะไรซ่อนอยู่ โชว์ออกมา! ล่าสุด ข่าวไม่ตีให้มรึงเห็นดอก รัสเซียไล่ยึดพื้นที่ กินเมืองไปเรื่อย พลร่มดาหน้าลงพื้นบุกเก็บกวาด เก็บงาน สบายตรีน ทหาร NATO ในเครื่องแบบยูเครน เผ่นหางจุกตูดตามเคย "พ่องมา" อียูเครนมันสิ้นสภาพแล้ว ไม่มีอำนาจต่อรองอะไร แค่รอโดนเค้าเขมือบทั้งแผ่นดินเท่านั้นเอง อีสื่อหลอกควายก็ปั่นหาแดร๊กเช้าเย็น NATO เสียกำลังพลไปมากกว่า 30% กับยูเครนที่เดียว หมามุย? จีนแซงหน้าองค์การนาซ่าไม่เห็นฝุ่น หลายคนไม่รู้ NASA ไม่มีความสามารถพอในทุกเรื่องราวโครงการอวกาศอีกต่อไป แม้แต่บริษัทเอกชนยังแซงหน้า ต้องยืมมือคนอื่นหายใจที่แล้วมา ไม่ต้องถามถึงโครงการอวกาศจีน ที่สร้างสถานีอวกาศเอง ขนาดใหญ่สะใจโก๋ จน NASA ต้องมาขอร่วมใช้บริการ จีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ไปไกลกว่าที่หลายคนคิด NASA กลายเป็นองค์กรตกต่ำ ไร้น้ำยา ขาดนวตกรรมใหม่เพิ่ม เพราะไม่มีงบ เพราะไม่มีผลงาน แค่ส่งกระสวยอวกาศออกไปนอกโลกยังไม่มีปัญญา ไอ้ที่มรึงเห็นน่ะ มันเก่งแต่จัดฉากเหยียบดวงจันทร์หลอกควายเท่านั้นเอง นี่แหละ ผลงานมาสเตอร์พีซ! ข้ามมาวิกบางกอกหรรษา : มีคนชง ศาลรับฟ้อง มีมูล ยื่นต่อ กกต.ยุบพรรค มาตามสเตป ที่มาอีเหลี่ยมเรียกอีเนวินคุยลับ หวังเปิดทางรอด ยืมมือภูมิใจโว๊ยอุ้มกูที จ้องรวมร่าง งานนี้ กูบอกเลย "หักหลังมาแน่" บู๊ทเขียวตรีนโตเค้าสั่งมา จะไปกันหมด หรือ จะเลือกทางที่สะดวกกว่า แค่จ่ายคือจบ แค่เผ่นคือรอด เดี๋ยวเปิดช่องประตูหมาลอดให้ ยังคิดจะสู้ จะตายห่ายกโคตร สั่งสอน ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ โคตรตระกูลเหี้ยแค่ใต้ตรีนวัง อย่าริสะเออะเทียบ? ด้านอีส้มเน่าแตกเละเทะ ขับไล่อีพ่อฟ้า ยุบแล้ว ยุบอีก จะอยู่ให้หนักแผ่นดินต่อไปทำไม ไปตายห่าซะน่ะ? เพราะยังไง มรึงก็จบได้แค่นี้ ทั้งอีแดง อีส้ม ไปหมดทั้งกะปิ ใครอยากซวยก็ลองมาอุ้มมันดูสิ เค้าเชือดไม่เลี้ยง อีเนวินรู้งาน อ่านขาด "มันจบแล้วครับนาย" สั่งอีเพ่นู๋ ถอย อย่าถลำลึก หมดวาสนา หมายังไม่แล นี่คือ FACT เอาล่ะ กูจะชี้ให้มรึงเห็น ยามเมื่อแสงทำงาน ไอ้อีหน้าไหนก็หยุดไม่อยู่ ล่าสุด อีสถิตย์ ปธ.สรรหาปธ.บอดร์ดธปท. โดนศาลสั่งร่วมชดใช้ 6.6 หมื่นล้าน หลังแก้สัญญาสัมปทานเอื้อ AIS ปี 44 โดนกันหมด อย่าคิดว่าจะรอด! ทุกการกระทำย่อมมีใบเสร็จเสมอ ทุกคดีความ ทุกความอยุติธรรม ย้อนหลังเช็คบิลได้หมด หากสดชื่น? ใครที่คิดว่าทำเหี้ยแล้ว 10-20 ปีผ่านไปรอด มรึงคิดผิด? เพราะทุกชีวิตบนโลก ไม่พ้นบ่วงแห่งกรรมทั้งสิ้น! กลับมาเกมส์กลกามการเมืองโลกกันต่อ : ล่าสุด เฮซบอเลาะห์โหดสลัด ส่งโดรนพลีชีพมาเป็นฝูงบึ้มค่ายฝึกทหารอียิวซะเละเทะ ตายโหงตายห่าคาโรงอาหาร ตายเพี๊ยบ หลัก 10 อีกสิมรึง? หากสื่อตอแหลมันบอก 10 คือ 100 บอก 100 คือ 1000 บอก 1000 คือ 10000 มันเอา 10 หารตลอด มรึงเข้าใจยัง? EU แตกกระจาย ช็อค! เซอร์เบียขอเข้า BRICS ทิ้ง EU หน้าตาเฉย เสียหมาทั้ง EU เพราะนัยยะคือ เมื่อเซอร์เบียไปได้ ใครจะตามมาล่ะ? ทั้งฝั่งยุโรปตะวันออกไง? ก็เพราะเค้าวางแผนกันไว้นานแล้ว กลับบ้านดีที่สุด อยู่อย่างสุขกายสบายใจ ไม่ต้องเป็นขี้ข้าใคร มาหมดฝั่งตะวันออกแน่ เพราะมีกิน มีใช้ ไม่รู้จบ? สงครามใครพามากันล่ะ? 7 ชาติรอจ่อหักหลัง EU งานนี้ เละเป็นโจ๊ก ยูโรดิ่งเหวตามฟอร์ม เดินตามดอลล่าร์ตายเป็นแถว?

    ปล.มรึงรู้มั้ยว่า กว่า 3 ปีแล้ว ที่กองทัพหม่อง ได้ไล่ฆ่าขี้ข้าเหี้ย C และกองกำลังแบ่งแยกดินแดนตายห่าไปไม่รู้กี่แสนแล้ว ชนกลุ่มน้อยที่ถูกหลอกใช้ กลับลำกันหมด หลังจีนเข้ามาชี้ทางสว่างให้ อยู่ร่วมกันได้ หากมรึงไม่ชักศึกเข้าบ้าน จีนมา งานมี โลจิสติคเข้า เหี้ยมา สงครามมี ตายห่าสถานเดียว หลังจีนได้สั่งสอนอีมิน อ๋อง ลาย ไปเมื่อปลายปีก่อน ช่วงนี้ สงบเสงี่ยมเจียมตัวดีแล อยู่ดีดี ก็แกว่งเท้าหาส้นตรีน ทุนจีนสีเทา แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ มันล้ำเส้นมากเกินไป ทหารหม่องตบเท้า ตามลูกเพ่ใหญ่ ไม่กล้าหืออีกต่อไป ทำให้สถานการณ์พรมแดนพม่า เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไทยอุ่นใจ เพราะพม่าเอาอยู่ ไอ้ข่าวที่ออกเนี่ย ปั่นทั้งนั้น หลอกควายคลั่งปชต.ไงล่ะ? ทหารไทย ทหารหม่อง ยังแดร๊กเหล้าขาว ยาดอง กันอยู่เลย กูไปรบกันตอนไหนฟ่ะ? คำถามโลกแตก? ทำไมเครื่องบินบินผ่านขั้วโลกเหนือได้ แต่ไม่สามารถบินผ่านขั้วโลกใต้ได้ เหตุผลมีเป็น 100 แต่ข้อเท็จจริง มีเพียง 1 เดียว "เค้าไม่อนุญาตให้เครื่องบินมนุษยชาติบินผ่านเด็ดขาด" เพราะเค้ารู้จักเราดีกว่าเรารู้จักตัวเองซะอีก? มนุษย์เป็นภัยต่อทุกสรรพสิ่งโลก เพราะความกลัว มนุษย์ทำได้ทุกอย่าง? ดังนั้น มรึงอยู่ห่างๆ กูไว้น่ะดีแล้ว กูมาแค่ศึกษาพวกมรึง ตบให้อยู่ในกรอบระเบียบจักรวาลเท่านั้นพอ สงครามนุ๊ก ไม่อนุญาตให้ใช้จริง ทุกอย่างแค่จัดฉากสร้างกระแส ผู้นำโลกต่างรู้ดีว่า โลกนี้ ใครปกครองที่แท้จริง? ความลับไม่มีในโลก แต่บางเรื่อง มรึงไม่รู้จะดีกว่า? เพราะรู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้ จักรวาล THE METRIX มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เอาเป็นว่า มรึงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวดอกน่ะ? แผนสั่งตรงวอชิงตัน สั่งให้อีเหลี่ยมเหี้ยและพรรคชาติชั่ว แทรกแซงแบงค์ชาติ เพื่อบ่อนทำลายเศรษฐกิจไทย ทหารรู้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ส่งตัวชง ส่งให้ศาลไคฟงตบ สั่งยุบพรรค และถอนสิทธิ์ทุกไอ้อี เอาให้หมดหน้าตัก เกมส์มันเดินมาสุดทางแล้ว อีเหลี่ยมชาติชั่วไม่ทำ มันก็จะถูกเก็บ ใครจะไปรู้ เห็นสำราญบานตะไท ยิ้มแย้มแจ่มใส ข้างใน น้ำตาตกใน ร่วงเช้าเย็น ช้ำใจ เจ็บใจสุดติ่ง เอาอีลูกสาวร่านบูชายันต์ยังไม่พอ ผลงานไม่มี เหี้ยก็จ้องฆ่า ทหารก็จ้องซ้ำ ไม่ว่าเลือกทางไหน "นรกล้วนๆ" ตากใบตามหลอกหลอน ชั้น 14 ตามลากเข้าคุก ศาลตามเก็บงาน สื่อไม่ตี แต่ความจริงเป็นประจักษ์ ศาลไล่เช็คบิลทุกคดีความที่เอื้อให้เหี้ยเหลี่ยม โดนหมดทุกองคาพยพ ไม่มียกเว้น ไม่มีปราณี! ใครที่ไม่รู้ ก็รู้ไว้ซะ อย่าดูถูกเวลาแสงทำงาน ยังมีอะไรให้มรึงดีใจจนเก็บทรงไม่อยู่อีกเยอะ เหี้ยดิ้นพล่านกันหมดแล้ว เหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกเต็มตรีน! ล่าสุด อีแขกภาระตะ เพิ่งจะนึกได้ อะไรขี้ อะไรทองคำจริง ไม่สนคว่ำบาตรเหี้ย ส่งสินค้าต้องห้ามให้รัสเซีย ตบหน้าเหี้ยอย่างจัง? ไม่ว่าจะเป็นแผงไมโครชิป อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี ดอกนี้ อีแขกส่งสัญญาน กูไม่ออกจาก BRICS ชัวร์? ออกให้โง่เหรอ? พลังงานรัสเซีย ทำให้อีแขกรวยเละ ขายส่งให้ไอ้หน้าโง่ยุโรปไงล่ะ?

    หมี CNN(ยิ่งสู้ ยิ่งแพ้ หันหลังกลับก็ไม่ได้ ใครโง่ ยุโรปโง่ที่สุด อียิวหมดหนทางสู้ เหี้ยมะกันจนตรอก สภาพสิ้นแผ่นดินมาเต็ม รัสเซีย จีน เดินหน้าไม่หยุด ทั้งโลจิสติค และแผ่นดินใหม่ ขยายท่อส่งน้ำมัน แก็ส ไปทั่วโลก หลังจัดการเหี้ยจนอยู่หมัด EU เงียบกริบ NATO ขี้แตก อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง หายจ้อยไปเลย หลบทำไม ปากดีก็ดีให้สุดสิจ๊ะ? ตะวันออกกลางคึกสุด เมามันส์ไล่กระทืบอียิวคาตรีน อีแคน อีจิงโจ้ ลังเล กูคือเหยื่อรายต่อไป ชิมิ? แปซิฟิคแค่ละครปั่น ของจริงอยู่ที่ตะวันออกกลาง เมื่อเบ็ดเสร็จ ปูตินถึงจะขยายต่อไปหาอีโปลเศษสวะ เพราะถึงเวลานั้น ก็ไม่เหลือใครจะมาช่วยมรึงได้อีกแล้ว เพราะเจ๊งกันหมด หมดตูด ถังแตก กันทั้งทวีป)
    15 ตุลาคม 67
    11.11 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172901260255901566
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    15-10-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.87 ชื่อตอน "WE WILL ROCK U(FCUK JEWS BASTARD)" กลัวตาย แต่ไม่อยากเสียอำนาจ ทำไงดีล่ะ? ไปตายห่าเถิด เค้ารอขยี้มรึงอยู่ ดีออก? JOHN KIM ลั่น งวดนี้เอาจริง สั่งบรรจุกระสุนปืนใหญ่ไม่อั้น เตรียมถล่มโซล กูยิ่งคันไม้ คันมืออยู่ จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตัวเอง หรือจะร่วมกับกูไปฆ่าไอ้อีเหี้ยที่ทำแผ่นดินมรึงแตกดีล่ะ? อีโสมขาวหน้าโง่ เสพอารยธรรมตะวันตก ถูกล้างสมองซะคิดว่า มันยกมรึงเป็นชนชั้นเดียวกับเหี้ยมัน หัวดำในสายตาเหี้ยเป็นแค่ "ทาส" และขั้วใหม่จะขยี้ไอ้หัวทองทั้งหลายที่หลงตัวเอง เป็นแค่ขี้ข้าซาตาน อย่าริยกตัวเป็นเทพ เดี๋ยวมรึงโดนกูแน่! แยกสเปซี่โลกกันไปเลย หลงตัวเองไปอยู่กับเหี้ย อยู่ร่วมกันได้ไปอยู่กับขั้วใหม่ คนกับสัดเดรัจฉาน ไม่ปะปนกัน สัจธรรม! จีน รัสเซีย ซ้อมรบ ล้อมไต้หวัน ส่งสัญญาน เตรียมเคลียร์ใจแปซิฟิค ใครเสี้ยน ใครห้าวเป้ง ผลลัพธ์คือ? มันคือการเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู! ก๊กมินตั๋งรู้ดีว่าจะเจออะไร? แค่อี ไล่ชิงเต๋อ ปากหมา ละครปาหี่ เคาะกะลาขอเงิน ขออาวุธ มันไม่ได้ช่วยอะไรมากดอก? จีน รัสเซีย ยิ่งสบโอกาส อยากเปิดโชว์รูมให้ไต้หวันดู ว่าของจริง มันคนละเรื่องกับที่เหี้ยใช้ กระจอกเทียบไม่ติด! สรุปคือซ้อมรบแค่หน้าฉาก เพราะจะเก็บไต้หวัน 24 ชม.ก็จบแล้ว เอามันมาโปรโมตสินค้าใหม่ ล็อตใหม่ดีกว่ามุย? SHOW ROOM LIVE 2024 ตลาดอาวุธโลกแห่ชมคับคั่ง โดยเฉพาะเหี้ยตะวันตก มรึงมีเหี้ยอะไรซ่อนอยู่ โชว์ออกมา! ล่าสุด ข่าวไม่ตีให้มรึงเห็นดอก รัสเซียไล่ยึดพื้นที่ กินเมืองไปเรื่อย พลร่มดาหน้าลงพื้นบุกเก็บกวาด เก็บงาน สบายตรีน ทหาร NATO ในเครื่องแบบยูเครน เผ่นหางจุกตูดตามเคย "พ่องมา" อียูเครนมันสิ้นสภาพแล้ว ไม่มีอำนาจต่อรองอะไร แค่รอโดนเค้าเขมือบทั้งแผ่นดินเท่านั้นเอง อีสื่อหลอกควายก็ปั่นหาแดร๊กเช้าเย็น NATO เสียกำลังพลไปมากกว่า 30% กับยูเครนที่เดียว หมามุย? จีนแซงหน้าองค์การนาซ่าไม่เห็นฝุ่น หลายคนไม่รู้ NASA ไม่มีความสามารถพอในทุกเรื่องราวโครงการอวกาศอีกต่อไป แม้แต่บริษัทเอกชนยังแซงหน้า ต้องยืมมือคนอื่นหายใจที่แล้วมา ไม่ต้องถามถึงโครงการอวกาศจีน ที่สร้างสถานีอวกาศเอง ขนาดใหญ่สะใจโก๋ จน NASA ต้องมาขอร่วมใช้บริการ จีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ไปไกลกว่าที่หลายคนคิด NASA กลายเป็นองค์กรตกต่ำ ไร้น้ำยา ขาดนวตกรรมใหม่เพิ่ม เพราะไม่มีงบ เพราะไม่มีผลงาน แค่ส่งกระสวยอวกาศออกไปนอกโลกยังไม่มีปัญญา ไอ้ที่มรึงเห็นน่ะ มันเก่งแต่จัดฉากเหยียบดวงจันทร์หลอกควายเท่านั้นเอง นี่แหละ ผลงานมาสเตอร์พีซ! ข้ามมาวิกบางกอกหรรษา : มีคนชง ศาลรับฟ้อง มีมูล ยื่นต่อ กกต.ยุบพรรค มาตามสเตป ที่มาอีเหลี่ยมเรียกอีเนวินคุยลับ หวังเปิดทางรอด ยืมมือภูมิใจโว๊ยอุ้มกูที จ้องรวมร่าง งานนี้ กูบอกเลย "หักหลังมาแน่" บู๊ทเขียวตรีนโตเค้าสั่งมา จะไปกันหมด หรือ จะเลือกทางที่สะดวกกว่า แค่จ่ายคือจบ แค่เผ่นคือรอด เดี๋ยวเปิดช่องประตูหมาลอดให้ ยังคิดจะสู้ จะตายห่ายกโคตร สั่งสอน ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ โคตรตระกูลเหี้ยแค่ใต้ตรีนวัง อย่าริสะเออะเทียบ? ด้านอีส้มเน่าแตกเละเทะ ขับไล่อีพ่อฟ้า ยุบแล้ว ยุบอีก จะอยู่ให้หนักแผ่นดินต่อไปทำไม ไปตายห่าซะน่ะ? เพราะยังไง มรึงก็จบได้แค่นี้ ทั้งอีแดง อีส้ม ไปหมดทั้งกะปิ ใครอยากซวยก็ลองมาอุ้มมันดูสิ เค้าเชือดไม่เลี้ยง อีเนวินรู้งาน อ่านขาด "มันจบแล้วครับนาย" สั่งอีเพ่นู๋ ถอย อย่าถลำลึก หมดวาสนา หมายังไม่แล นี่คือ FACT เอาล่ะ กูจะชี้ให้มรึงเห็น ยามเมื่อแสงทำงาน ไอ้อีหน้าไหนก็หยุดไม่อยู่ ล่าสุด อีสถิตย์ ปธ.สรรหาปธ.บอดร์ดธปท. โดนศาลสั่งร่วมชดใช้ 6.6 หมื่นล้าน หลังแก้สัญญาสัมปทานเอื้อ AIS ปี 44 โดนกันหมด อย่าคิดว่าจะรอด! ทุกการกระทำย่อมมีใบเสร็จเสมอ ทุกคดีความ ทุกความอยุติธรรม ย้อนหลังเช็คบิลได้หมด หากสดชื่น? ใครที่คิดว่าทำเหี้ยแล้ว 10-20 ปีผ่านไปรอด มรึงคิดผิด? เพราะทุกชีวิตบนโลก ไม่พ้นบ่วงแห่งกรรมทั้งสิ้น! กลับมาเกมส์กลกามการเมืองโลกกันต่อ : ล่าสุด เฮซบอเลาะห์โหดสลัด ส่งโดรนพลีชีพมาเป็นฝูงบึ้มค่ายฝึกทหารอียิวซะเละเทะ ตายโหงตายห่าคาโรงอาหาร ตายเพี๊ยบ หลัก 10 อีกสิมรึง? หากสื่อตอแหลมันบอก 10 คือ 100 บอก 100 คือ 1000 บอก 1000 คือ 10000 มันเอา 10 หารตลอด มรึงเข้าใจยัง? EU แตกกระจาย ช็อค! เซอร์เบียขอเข้า BRICS ทิ้ง EU หน้าตาเฉย เสียหมาทั้ง EU เพราะนัยยะคือ เมื่อเซอร์เบียไปได้ ใครจะตามมาล่ะ? ทั้งฝั่งยุโรปตะวันออกไง? ก็เพราะเค้าวางแผนกันไว้นานแล้ว กลับบ้านดีที่สุด อยู่อย่างสุขกายสบายใจ ไม่ต้องเป็นขี้ข้าใคร มาหมดฝั่งตะวันออกแน่ เพราะมีกิน มีใช้ ไม่รู้จบ? สงครามใครพามากันล่ะ? 7 ชาติรอจ่อหักหลัง EU งานนี้ เละเป็นโจ๊ก ยูโรดิ่งเหวตามฟอร์ม เดินตามดอลล่าร์ตายเป็นแถว? ปล.มรึงรู้มั้ยว่า กว่า 3 ปีแล้ว ที่กองทัพหม่อง ได้ไล่ฆ่าขี้ข้าเหี้ย C และกองกำลังแบ่งแยกดินแดนตายห่าไปไม่รู้กี่แสนแล้ว ชนกลุ่มน้อยที่ถูกหลอกใช้ กลับลำกันหมด หลังจีนเข้ามาชี้ทางสว่างให้ อยู่ร่วมกันได้ หากมรึงไม่ชักศึกเข้าบ้าน จีนมา งานมี โลจิสติคเข้า เหี้ยมา สงครามมี ตายห่าสถานเดียว หลังจีนได้สั่งสอนอีมิน อ๋อง ลาย ไปเมื่อปลายปีก่อน ช่วงนี้ สงบเสงี่ยมเจียมตัวดีแล อยู่ดีดี ก็แกว่งเท้าหาส้นตรีน ทุนจีนสีเทา แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ มันล้ำเส้นมากเกินไป ทหารหม่องตบเท้า ตามลูกเพ่ใหญ่ ไม่กล้าหืออีกต่อไป ทำให้สถานการณ์พรมแดนพม่า เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไทยอุ่นใจ เพราะพม่าเอาอยู่ ไอ้ข่าวที่ออกเนี่ย ปั่นทั้งนั้น หลอกควายคลั่งปชต.ไงล่ะ? ทหารไทย ทหารหม่อง ยังแดร๊กเหล้าขาว ยาดอง กันอยู่เลย กูไปรบกันตอนไหนฟ่ะ? คำถามโลกแตก? ทำไมเครื่องบินบินผ่านขั้วโลกเหนือได้ แต่ไม่สามารถบินผ่านขั้วโลกใต้ได้ เหตุผลมีเป็น 100 แต่ข้อเท็จจริง มีเพียง 1 เดียว "เค้าไม่อนุญาตให้เครื่องบินมนุษยชาติบินผ่านเด็ดขาด" เพราะเค้ารู้จักเราดีกว่าเรารู้จักตัวเองซะอีก? มนุษย์เป็นภัยต่อทุกสรรพสิ่งโลก เพราะความกลัว มนุษย์ทำได้ทุกอย่าง? ดังนั้น มรึงอยู่ห่างๆ กูไว้น่ะดีแล้ว กูมาแค่ศึกษาพวกมรึง ตบให้อยู่ในกรอบระเบียบจักรวาลเท่านั้นพอ สงครามนุ๊ก ไม่อนุญาตให้ใช้จริง ทุกอย่างแค่จัดฉากสร้างกระแส ผู้นำโลกต่างรู้ดีว่า โลกนี้ ใครปกครองที่แท้จริง? ความลับไม่มีในโลก แต่บางเรื่อง มรึงไม่รู้จะดีกว่า? เพราะรู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้ จักรวาล THE METRIX มันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เอาเป็นว่า มรึงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวดอกน่ะ? แผนสั่งตรงวอชิงตัน สั่งให้อีเหลี่ยมเหี้ยและพรรคชาติชั่ว แทรกแซงแบงค์ชาติ เพื่อบ่อนทำลายเศรษฐกิจไทย ทหารรู้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ส่งตัวชง ส่งให้ศาลไคฟงตบ สั่งยุบพรรค และถอนสิทธิ์ทุกไอ้อี เอาให้หมดหน้าตัก เกมส์มันเดินมาสุดทางแล้ว อีเหลี่ยมชาติชั่วไม่ทำ มันก็จะถูกเก็บ ใครจะไปรู้ เห็นสำราญบานตะไท ยิ้มแย้มแจ่มใส ข้างใน น้ำตาตกใน ร่วงเช้าเย็น ช้ำใจ เจ็บใจสุดติ่ง เอาอีลูกสาวร่านบูชายันต์ยังไม่พอ ผลงานไม่มี เหี้ยก็จ้องฆ่า ทหารก็จ้องซ้ำ ไม่ว่าเลือกทางไหน "นรกล้วนๆ" ตากใบตามหลอกหลอน ชั้น 14 ตามลากเข้าคุก ศาลตามเก็บงาน สื่อไม่ตี แต่ความจริงเป็นประจักษ์ ศาลไล่เช็คบิลทุกคดีความที่เอื้อให้เหี้ยเหลี่ยม โดนหมดทุกองคาพยพ ไม่มียกเว้น ไม่มีปราณี! ใครที่ไม่รู้ ก็รู้ไว้ซะ อย่าดูถูกเวลาแสงทำงาน ยังมีอะไรให้มรึงดีใจจนเก็บทรงไม่อยู่อีกเยอะ เหี้ยดิ้นพล่านกันหมดแล้ว เหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกเต็มตรีน! ล่าสุด อีแขกภาระตะ เพิ่งจะนึกได้ อะไรขี้ อะไรทองคำจริง ไม่สนคว่ำบาตรเหี้ย ส่งสินค้าต้องห้ามให้รัสเซีย ตบหน้าเหี้ยอย่างจัง? ไม่ว่าจะเป็นแผงไมโครชิป อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี ดอกนี้ อีแขกส่งสัญญาน กูไม่ออกจาก BRICS ชัวร์? ออกให้โง่เหรอ? พลังงานรัสเซีย ทำให้อีแขกรวยเละ ขายส่งให้ไอ้หน้าโง่ยุโรปไงล่ะ? หมี CNN(ยิ่งสู้ ยิ่งแพ้ หันหลังกลับก็ไม่ได้ ใครโง่ ยุโรปโง่ที่สุด อียิวหมดหนทางสู้ เหี้ยมะกันจนตรอก สภาพสิ้นแผ่นดินมาเต็ม รัสเซีย จีน เดินหน้าไม่หยุด ทั้งโลจิสติค และแผ่นดินใหม่ ขยายท่อส่งน้ำมัน แก็ส ไปทั่วโลก หลังจัดการเหี้ยจนอยู่หมัด EU เงียบกริบ NATO ขี้แตก อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง หายจ้อยไปเลย หลบทำไม ปากดีก็ดีให้สุดสิจ๊ะ? ตะวันออกกลางคึกสุด เมามันส์ไล่กระทืบอียิวคาตรีน อีแคน อีจิงโจ้ ลังเล กูคือเหยื่อรายต่อไป ชิมิ? แปซิฟิคแค่ละครปั่น ของจริงอยู่ที่ตะวันออกกลาง เมื่อเบ็ดเสร็จ ปูตินถึงจะขยายต่อไปหาอีโปลเศษสวะ เพราะถึงเวลานั้น ก็ไม่เหลือใครจะมาช่วยมรึงได้อีกแล้ว เพราะเจ๊งกันหมด หมดตูด ถังแตก กันทั้งทวีป) 15 ตุลาคม 67 11.11 น. https://linevoom.line.me/post/1172901260255901566 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.4

    หมดเวลาคุย "ฆ่าล้างโคตรยิวระยำสัดกะหมา" เฮซบอเลาะห์และพวกพ้องยังดาหน้าไล่ถล่มขีปนาวุธเละเทะ ร่างกระจุย สมใจนึกวังบูรพายิ่งนัก! เมื่ออียิวเสี้ยนอยากตายโหง 3 ฮอ ไม่รีรอ ส่งไปหายมบาลรายวัน วันละ 1000 ตัว ทุกทิศทั่วประเทศ จนกว่ามันจะหน้ามืดงัดนุ๊กกระจ๊อกออกมาใช้ นั่นคือ "ปิดเกมส์ทันที" รู้เค้ารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 101 ครั้ง แผนอิหร่านคือบีบให้อียิวเผยธาตุแท้จนหมดเปลือก เลบานอนกลายเป็นแหล่งรวบรวมยอดมนุษย์ไปแล้ว มากันหมดโลกอาหรับ แม้แต่อีไก่งวงส่งเรือรบมาทั้งฝูง อ้างมาหิ้วชาวตุรกีกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เนียนจุงเบยน่ะ คนมารับเยอะกว่าคนจะไป ไอ้สัส! ชัดเจน บีบอีฟาโรห์ อย่าเล่น 2 หน้า จำใจส่งอีแอบเข้าร่วมกระทืบยิวเบื้องหลัง หาไม่แล้ว พื้นที่กันชนอาจถูกอียิวเขมือบแน่ ความเป็นจริงคือ อียิวมันหมดประโยชน์ต่างหากล่ะ พวกมรึงถึงได้เทกันกระหน่ำเยี่ยงนี้ แม้แต่ UN ก็ช่วยมรึงไม่ได้ เพราะเสือกไปถล่มค่ายทหาร UN โชว์กร่างจนโลกเอือมระอา ทำไมอียิวถึงต้องจัดใหญ่ เล่นแรง กลายร่างเป็นอันธพาลเต็มตัว เหตุผลคือ 1.ย้ายแผ่นดินหาบ้านใหม่ 2.ชักดาบหนี้ที่ไม่มีวันจะจ่ายได้จริง 3.ทำลายเยรูซาเล็มให้สิ้นซาก กูไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ คุ้นมั้ย..คำนี้? ด้านเหี้ย C ในไทย ผลงานต่ำตมสุดขีด ประกาศรับสมัครหน่วยข่าวกรองขายชาติ ใครอยากจะล้มวัง ทำลายแผ่นดินทองคำ เชิญมาสมัครได้ กูมีผลตอบแทนเป็นเศากระดาษเปล่าที่ขายใครไม่ได้ เพราะกูพิมพ์แจกไม่อั้น ควายไทยบัดซบ ควายไทขายชาติ แห่กันเข้าสมัคร กองทัพรู้เช่นเห็นชาติ มีรอชื่อรอดักไว้หมดแล้ว งานนี้ถูกชำระล้างครั้งใหญ่แน่ เพราะมรึงเปิดไพ่เสี่ยง ความมั่นคงชาติ ไม่ปล่อยให้ใครมากำแหงในแผ่นดินพ่อ ทุกคดีที่เอี่ยวล้มวัง แยกดินแดน ก่อการร้า มาจากเหี้ย C ทั้งหมด วังรู้ กองทัพรู้ จีน รัสเซีย ก็รู้ เค้าถึงได้วางหมากกับดักรอล่อมรึงอยู่เนี่ยไงล่ะ? เปิดหน้ากันหมดแล้ว เหี้ยขาลง รึจะสู้ขั้วใหม่ไฉไลโลก ไทยเราเดินแผน "กฎหมายสักดิ์สิทธิ์" ล่อทุกองคาพยพ ทั้งหน่วยงานราชการขี้ข้าเหี้ย ทุนนิยมเหี้ยสามานย์ พรรคการเมือง แหล่งฟอกเงินสีเทา ที่เอามาทำลายล้างแผ่นดินพ่อกู เบื้องบนรู้ทุกอย่าง และเตรียมต้อนรับอย่างสาสม เชื่อกูดิ มันส์พะยะค่ะ? ไอ้อีขายชาติ ชังชาติ ตอนนี้ ทะยอยหนีออกนอกกันหมดแล้ว ถึงต้องรับเหี้ยชุดใหม่ แล้วทหารก็ไม่รอช้า ส่งสายลับเข้าไปสมัครกับเค้าด้วยสิ? แฉหมดเปลือก หลักฐานมี พยานมี ภัยความมั่นคง ดอกนี้ระดับชาติ จะไร้หลักฐานมัดแน่นไม่ได้ แต่เมื่อแสงทำงานแล้ว ไม่ว่าอะไร ก็หยุดความจริงไม่ได้เช่นกัน ศาลใหญ่ จะดาหน้ากันลงดาบพายุหมุนกันไปเลยทีเดียว ช้าแต่ชัวร์ ช้าแต่มั่นคง ช้าแต่มีคำตอบให้โลกประจักษ์ได้ว่า การมีอยู่ของอเมริกาทั่วโลก นั่นคือก่อการร้ายที่บั่นทอนความมั่นคงนานาชาติที่ผ่านมา เมื่อจีน รัสเซีย อุ้มไทย ถึงเวลาต้องเปิดหน้าชน ก็จะชนแบบมีสติ ใช้ปัญญา และกฎหมาย ความจริงและความถูกต้อง คือพลังแห่งแสง ที่เอาชนะทุกความอัปรีย์จัญไรได้หมด ไม่นานเกินรอ เพราะมันสุกงอมหมดแล้ว ทั้งเรื่องเกมส์โลก และเกมส์ไทย! ด้าน ดิ ไอคอน ตอนเปิดตัวอลังการ แผน 18 มงกุฎ เข้าข่ายทำลายเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความมั่นคง ปากท้องชาวบ้านเสียหายหนัก เพราะโลภ เพราะอยากมี อยากได้ เพราะคิดว่าหาเงินง่าย ก็เป็นเหยื่อไปสิ? งานนี้ เบื้องบนสั่งฟันไม่ไว้หน้าไอ้อีใครทั้งนั้น มันแค่เครื่องมือที่ทหารใช้จัดการทุนมืด ทุนสีเทา แหล่งฟอกเงิน แหล่งรายได้ ที่เอามาทำลายประเทศต่อเนื่องนั่นเอง ทุกโซเชี่ยลที่กูเคยบอก ไอ้ที่อวดรวย โชว์กร่าง นั่นคือขบวนการฟอกเงินทั้งนั้น "หมายังรู้" หน่วยข่าวกรองทำไมจะไม่รู้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 ขอให้มรึงจำจงดี "ความดีที่พ่อทำมาตลอดชีวิต มันคือเกราะคุ้มครองภัย ให้สยามประเทศยั่งยืนยง" เพราะพอเพียง เพราะลด ละ เลิก คือทางรอดเดียวของไทยที่ผ่านมา พ่อเล็งเห็นแล้วว่า จุดจบของทุนนิยมเหี้ยสามานย์จะลากผู้บริสุทธิ์ไปตายห่าเท่าไหร่? ถึงได้เตือนสติเรามาโดยตลอด พอคือสุข ไม่อยากคือหมดทุกข์ พอเพียงคือพอใจ สุขเท่าที่มี กินเท่าที่ใช้ สัจธรรมทั้งนั้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็ไร้กังวล พึ่งพาตนเอง อย่าแบมือขอใคร ชัดเจนว่า แม้พ่อท่านจะอยู่บนสรวลสวรรค์แล้ว แต่คำพูดของพ่อยังอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดินเสมอมา "คนดีศรีอโยธยามีมากกว่าคนชั่ว" ไม่งั้น แผ่นดินคงจะสิ้นไปนานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีธรรม มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขอพ่อท่านอย่าได้กังวล เพราะพ่อหลวงองค์ใหม่ ไม่ธรรมดา พระบารมีสูงส่ง ไม่พูดแต่ทำ ไม่ต้องขอ ช่วยทันทีเสมอมา ท่านเดินตามรอยพ่อเป๊ะเด๊ะ แสงจะเปร่งประกายได้เต็มที่ ยามที่คนดีดี ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจให้พ่อหลวงทุกพระองค์ที่สร้างแผ่นดินทองคำนี้ขึ้นมา บุญคุณแผ่นดินไม่มีลืมเลือน! กลับมาสู่โลกโหดร้ายกันต่อ : โลกขานรับ ไล่กระทืบมะเร็งร้ายอียิวสลัดหมา พ่วงอีขี้ข้าเหี้ยมะกัน ตายห่ายกโคตร ยืมมือขั้วใหม่เก็บเหี้ยมะกัน ยุโรป เพื่อบ้านใหม่มรึง ขณะที่ขั้วใหม่ ก็ได้กำจัดขี้ข้ามรึงสิ้นซาก แล้วคืนบ้านเก่าให้ปาเลสไตน์เต็มพื้นที่ แต่มรึงรู้มั้ยว่า แขนขามรึงขาดไปแล้ว ยังจะเหลือใครช่วยมรึงได้อีก? โลกอาหรับจึงลงแขกมรึงอย่างสาหัส เป็นไปตามแผนการรบสงครามครูเสดยุคใหม่ไงล่ะ? รัสเซีย จีน จึงไม่ต้องเหนื่อย แค่ส่งอาวุธเติมให้ไม่อั้นก็พอ แล้วรอดูอียิวเหี้ยขี้แตกรายวัน! อิหร่านได้เตรียมปิดเกมส์นี้ไว้นานแล้ว "ไฮเปอร์โซนิค 15 มัค พ่วงหัวรบนิวเคลียร์ 100 ลูก" จบทันที ไม่มีภาคต่อ? อียิวมันก็นกรู้ ถามว่ามันจะยอมตายจริงมั้ย? เกมส์เดินไปตามสเตปของมัน อียิวยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะ CIVIL WAR ยังไม่มา? เหี้ยมะกันมันจ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว สภาพวันนี้ TRUMP LAND vs NEW ZIONIST LAND จะเละเทะทั้งคู่ แผนแตกอเมริกาเกิดจากภายในทั้งสิ้น? การลอบฆ่าจะก่อเกิด ชงสถานการณ์ให้ไปสู่ภาวะฉุกเฉิน แผนอีตาเพนเค้า ล่อคนลงถนน เอาปืนมาไล่ยิงกัน แบบในหนังคาวบอยที่มรึงถนัด! ยุโรปจะถูกมุสลิมกลืนไปอย่างช้าๆ ไอ้อีผิวขาวจะย้ายรกรากมาเอเซียกันเพี๊ยบ ประเทศมหาอำนาจเก่าจะกลายร่างเป็นชาติยากจนซะงั้น เพราะหมดตูดจากสงคราม กว่าจะฟื้นต้องปูอีก 50 ปี เพราะเอเซียแซงหน้าไปไกลแล้ว ต่อไปอียุโรปจะเข้าอาเซียน ต้องถูกคัดกรอง VISA มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด แบบที่มรึงไม่เคยคิดมาก่อน?

    ปล.เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศอิหร่าน และตุรกี ร่วมประสานมือกัน โลกอาหรับได้อานิสงค์ ที่มาว่าทำไม อาหรับใหม่ ไม่กลัวอาวุธเหี้ย NATO อีกต่อไป หลังเฮซบอเลาะห์ ฮูตี ฮามาส ซีเรียบ อิรัก เยเมน โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ ขีปนาวุธเจ๋งกว่าไอ้อีตะวันตก ระบบป้องกันภัยหลายชั้น หลากหลายมากกว่า ยิ่งได้ AI จีน ยิ่งฉลาดล้ำกว่าเก่า เมื่ออียิวนายใหญ่เหี้ยสากลโลก ตายคาตรีนขั้วใหม่ การปลดแอกทั่วโลกจึงจะตามมา และทุกชาติจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด เหมือนที่ BRICS นำโลกอยู่ตอนนี้ อะไรน่ะ? ครม.อียิวชะลอการเอาคืนอิหร่าน จริงดิ? ไอ้ที่มรึงโดนอยู่ทุกนาทีตอนนี้ ยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ? ยังจะมีปัญญาเอาคืนอีกเหรอ? จะเห่าแหกตาดูความจริงหน่อย? มรึงถูกไล่ฆ่า ถูกลงแขก จะเหลือเหี้ยอะไรไปสวนเค้า เค้าบีบให้มรึงใช้นุ๊กไงล่ะ? ใช้สิ จะได้จบเร็วจริง ไม่ต้องรอวันตายนานเกิน? NATO แตกแล้วในเชิงพฤตินัย EU แตกแล้ว ในเชิงความร่วมมือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เดินกันคนละทิศ คนละทาง เพราะไม่มีใครเอาใครอยู่ได้อีกแล้ว? โครแอตออกตัว ออสเตรียออกลาย เชกออกพริ้ว ฮังการี เบลารุส เซอร์เบียนำ ตามกันหมดแล้ว พลังงานยั่งยืนรออยู่ การค้า โลจิสติค ตามมา ใครจะเอา EU ที่ไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก มีแต่จ่าย มีแต่สงคราม ควายยังคิดได้? อิหร่านพร้อม MIG-29 ทั้งฝูง รอต้อนรับบินรบเหี้ยยิวอย่างใจจดใจจ่อ โดนแน่ หากเข้าน่านฟ้าเตหะราน เก็บ SU-35 อัพเกรดเฉพาะกิจ เป็นอาวุธลับ ไม่บอก รัสเซียเติมอะไรเพิ่มให้ คนขับไปฝึกที่มอสโคว์มา 2 ปีเต็ม ครูฝึกรัสเซียตัวพ่อมาเอง ควบคุม กำกับเอง มาดิ ไอ้สัส! F-35 กระจอกงอกง่อย ส่งมาเลย กูกำลังอยากจะหาเป้าซ้อมมือเล่น? อาวุธอิหร่านมีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอาหรับ แม้แต่กองทัพใหญ่อย่างอีไก่งวง ยังต้องขอดูผลงานอิหร่าน มันแจ่มถึงใจจุงเบย อีแอร์โดกัน ถูกเหี้ยยิวปั่นภายใน ถึงเวลาต้องออกตัวแรง ซัดกลับอียิว ผ่านเลบานอน ไงล่ะ? เอาคืนทบต้น ทบดอก ให้เกลี้ยง! ข้ามวิกแป๊บ : เป็นไปตามคาด กูรู เตือนแล้ว หลังแจก 10000 ให้ควาย เศรษฐกิจเงียบกริบ คนยากไม่ใช้เงิน เก็บ จ่ายหนี้ จ่ายดอก เงินหายไปไหนกันหมด ไปอยู่กับเจ้าหนี้เงินกู้ไงล่ะ? ควายยังรู้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ! แจกหมดแล้ว ยังไงต่อ? กระตุ้นเหี้ยอะไรได้อีก? กฎหมายตามมาเช็คบิล เตรียมรอคุกได้เลย แสนล้าน ไม่ใช่เงินมรึง แต่ทรัพย์สินพวกมรึงจะถูกเรียกคืนชัวร์! จ่ายต่ออีกน่ะ หากใจไม่ด้านพอ มรึงตั้งใจอย่างเดียว แค่บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ บ่อนทำลายวัง เพื่อให้ไทยอ่อนแอ ตามใบสั่ง CIA ทหารเค้ารู้หมดเกลี้ยง ถึงได้ปล่อยให้มรึงเล่นไงล่ะ เพราะผลลัพธ์มันรออยู่ปลายทางแล้ว! จบที่ศาลหมดทุกไอ้อี? อีพ่อเหลี่ยมมรึงสติแตกแล้ว หลังถูกหักหลังรายวัน อะไรที่กร่างไว้ อะไรที่มั่น ตอนนี้ มันพลิกตลบหลัง โดนไล่เช็คบิลทุกดอก พรรคก็ไม่รอด อีลูกสาวร่านก็ไม่เหลือ เข้าตัวทุกดอก โดนทุกเม็ด ได้แต่ยื้อ ทหารไม่รอนาน ส่งศาลฟันลงดาบคือจบทันที! นักการเมืองเหี้ยจะหอบทรัพย์สินหนีตายกันจ้าละหวั่น สภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไฮโซรวยฟอกเงิน ดารารวยเงินสีเทา ทุนมืด ไปหมด ใครมีศีลจะรอด? ใครโลภจะคุก? ศรีธนญชัยเดินเกมส์รัดกุม ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอกตัวเยอะ เดี๋ยวเหี้ยมันดิ้นเอง แฉเอง หลักฐานมาเอง เพราะเหี้ยมันย่อมเอาตัวมันรอดก่อนใคร? ไม่มีมิตรแท้ อีเรืองไกร HOT ยื่นฟ้อง 20 คดี โดนแค่ 1 ก็คุกยาวแล้ว กะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอ? แผนบีบเหี้ยเผ่นออกนอกมาเต็ม ไปกันให้หมดน่ะจ๊ะ เข้าใจเกมส์ยัง? มีคนชง ศาลตบ ทหารคุมพื้นที่ แสงทำงานเร็วเสมอ? อีอุ้งอุ้ง ไม่รอด ล่อเด้ง ไม่รอนาน? มาตามสูตร รู้ล่วงหน้าแล้ว แค่ขอเข้า HALL OF FLAME แต่มันไม่จบน่ะสิ เพราะพรรคไปด้วยทั้งกะปิ จะเหลือใครจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเนี่ย? เข้าสูตรยังล่ะ? ทหารกระดิกตรีนรอ เวลาพวกมรึงใกล้จะหมดแล้ว? เหี้ยให้สุด ระยำให้เต็มที่ได้เลย เวลาโดนมันจะได้ไม่คาใจ? เพราะงานนี้ทหารไม่มียั้งมือ กระทืบซ้ำ เผาส่งขึ้นเมรุทันที!

    หมี CNN(ทำดี คนจำ ทำเหี้ย คนแค้น ทำนิ่ง คนด่า ไม่ทำห่าอะไรเลย คนแช่ง สรุปคือ ผลของการกระทำคือตัววัดชะตากรรมมรึงเอง เกมส์โลกต้องจบ เกมส์ไทยต้องโหด ไม่ใช่เวลาโลกสวย แรงเท่าที่จำเป็น อ่อนเท่าที่จะทำได้ อเมริกาใกล้จุดจบ เลือกตั้งคือ D-DAY เผาอเมริกานั่นเอง รอดูความวินาศฉิบหาย CIVIL WAR มาเต็ม เสี้ยนจะฆ่ากันเต็มเหนี่ยว เอาให้เต็มที่ อียิวเชียร์ใจขาดดิ้น เหยื่อคือควายโง่ดักดาน สู้ให้ตาย มรึงก็ไม่ได้อะไรเลย แค่ขี้ข้า)
    13 ตุลาคม 67
    11.28 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172879387847403322
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    13-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.4 หมดเวลาคุย "ฆ่าล้างโคตรยิวระยำสัดกะหมา" เฮซบอเลาะห์และพวกพ้องยังดาหน้าไล่ถล่มขีปนาวุธเละเทะ ร่างกระจุย สมใจนึกวังบูรพายิ่งนัก! เมื่ออียิวเสี้ยนอยากตายโหง 3 ฮอ ไม่รีรอ ส่งไปหายมบาลรายวัน วันละ 1000 ตัว ทุกทิศทั่วประเทศ จนกว่ามันจะหน้ามืดงัดนุ๊กกระจ๊อกออกมาใช้ นั่นคือ "ปิดเกมส์ทันที" รู้เค้ารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 101 ครั้ง แผนอิหร่านคือบีบให้อียิวเผยธาตุแท้จนหมดเปลือก เลบานอนกลายเป็นแหล่งรวบรวมยอดมนุษย์ไปแล้ว มากันหมดโลกอาหรับ แม้แต่อีไก่งวงส่งเรือรบมาทั้งฝูง อ้างมาหิ้วชาวตุรกีกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เนียนจุงเบยน่ะ คนมารับเยอะกว่าคนจะไป ไอ้สัส! ชัดเจน บีบอีฟาโรห์ อย่าเล่น 2 หน้า จำใจส่งอีแอบเข้าร่วมกระทืบยิวเบื้องหลัง หาไม่แล้ว พื้นที่กันชนอาจถูกอียิวเขมือบแน่ ความเป็นจริงคือ อียิวมันหมดประโยชน์ต่างหากล่ะ พวกมรึงถึงได้เทกันกระหน่ำเยี่ยงนี้ แม้แต่ UN ก็ช่วยมรึงไม่ได้ เพราะเสือกไปถล่มค่ายทหาร UN โชว์กร่างจนโลกเอือมระอา ทำไมอียิวถึงต้องจัดใหญ่ เล่นแรง กลายร่างเป็นอันธพาลเต็มตัว เหตุผลคือ 1.ย้ายแผ่นดินหาบ้านใหม่ 2.ชักดาบหนี้ที่ไม่มีวันจะจ่ายได้จริง 3.ทำลายเยรูซาเล็มให้สิ้นซาก กูไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ คุ้นมั้ย..คำนี้? ด้านเหี้ย C ในไทย ผลงานต่ำตมสุดขีด ประกาศรับสมัครหน่วยข่าวกรองขายชาติ ใครอยากจะล้มวัง ทำลายแผ่นดินทองคำ เชิญมาสมัครได้ กูมีผลตอบแทนเป็นเศากระดาษเปล่าที่ขายใครไม่ได้ เพราะกูพิมพ์แจกไม่อั้น ควายไทยบัดซบ ควายไทขายชาติ แห่กันเข้าสมัคร กองทัพรู้เช่นเห็นชาติ มีรอชื่อรอดักไว้หมดแล้ว งานนี้ถูกชำระล้างครั้งใหญ่แน่ เพราะมรึงเปิดไพ่เสี่ยง ความมั่นคงชาติ ไม่ปล่อยให้ใครมากำแหงในแผ่นดินพ่อ ทุกคดีที่เอี่ยวล้มวัง แยกดินแดน ก่อการร้า มาจากเหี้ย C ทั้งหมด วังรู้ กองทัพรู้ จีน รัสเซีย ก็รู้ เค้าถึงได้วางหมากกับดักรอล่อมรึงอยู่เนี่ยไงล่ะ? เปิดหน้ากันหมดแล้ว เหี้ยขาลง รึจะสู้ขั้วใหม่ไฉไลโลก ไทยเราเดินแผน "กฎหมายสักดิ์สิทธิ์" ล่อทุกองคาพยพ ทั้งหน่วยงานราชการขี้ข้าเหี้ย ทุนนิยมเหี้ยสามานย์ พรรคการเมือง แหล่งฟอกเงินสีเทา ที่เอามาทำลายล้างแผ่นดินพ่อกู เบื้องบนรู้ทุกอย่าง และเตรียมต้อนรับอย่างสาสม เชื่อกูดิ มันส์พะยะค่ะ? ไอ้อีขายชาติ ชังชาติ ตอนนี้ ทะยอยหนีออกนอกกันหมดแล้ว ถึงต้องรับเหี้ยชุดใหม่ แล้วทหารก็ไม่รอช้า ส่งสายลับเข้าไปสมัครกับเค้าด้วยสิ? แฉหมดเปลือก หลักฐานมี พยานมี ภัยความมั่นคง ดอกนี้ระดับชาติ จะไร้หลักฐานมัดแน่นไม่ได้ แต่เมื่อแสงทำงานแล้ว ไม่ว่าอะไร ก็หยุดความจริงไม่ได้เช่นกัน ศาลใหญ่ จะดาหน้ากันลงดาบพายุหมุนกันไปเลยทีเดียว ช้าแต่ชัวร์ ช้าแต่มั่นคง ช้าแต่มีคำตอบให้โลกประจักษ์ได้ว่า การมีอยู่ของอเมริกาทั่วโลก นั่นคือก่อการร้ายที่บั่นทอนความมั่นคงนานาชาติที่ผ่านมา เมื่อจีน รัสเซีย อุ้มไทย ถึงเวลาต้องเปิดหน้าชน ก็จะชนแบบมีสติ ใช้ปัญญา และกฎหมาย ความจริงและความถูกต้อง คือพลังแห่งแสง ที่เอาชนะทุกความอัปรีย์จัญไรได้หมด ไม่นานเกินรอ เพราะมันสุกงอมหมดแล้ว ทั้งเรื่องเกมส์โลก และเกมส์ไทย! ด้าน ดิ ไอคอน ตอนเปิดตัวอลังการ แผน 18 มงกุฎ เข้าข่ายทำลายเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความมั่นคง ปากท้องชาวบ้านเสียหายหนัก เพราะโลภ เพราะอยากมี อยากได้ เพราะคิดว่าหาเงินง่าย ก็เป็นเหยื่อไปสิ? งานนี้ เบื้องบนสั่งฟันไม่ไว้หน้าไอ้อีใครทั้งนั้น มันแค่เครื่องมือที่ทหารใช้จัดการทุนมืด ทุนสีเทา แหล่งฟอกเงิน แหล่งรายได้ ที่เอามาทำลายประเทศต่อเนื่องนั่นเอง ทุกโซเชี่ยลที่กูเคยบอก ไอ้ที่อวดรวย โชว์กร่าง นั่นคือขบวนการฟอกเงินทั้งนั้น "หมายังรู้" หน่วยข่าวกรองทำไมจะไม่รู้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 ขอให้มรึงจำจงดี "ความดีที่พ่อทำมาตลอดชีวิต มันคือเกราะคุ้มครองภัย ให้สยามประเทศยั่งยืนยง" เพราะพอเพียง เพราะลด ละ เลิก คือทางรอดเดียวของไทยที่ผ่านมา พ่อเล็งเห็นแล้วว่า จุดจบของทุนนิยมเหี้ยสามานย์จะลากผู้บริสุทธิ์ไปตายห่าเท่าไหร่? ถึงได้เตือนสติเรามาโดยตลอด พอคือสุข ไม่อยากคือหมดทุกข์ พอเพียงคือพอใจ สุขเท่าที่มี กินเท่าที่ใช้ สัจธรรมทั้งนั้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็ไร้กังวล พึ่งพาตนเอง อย่าแบมือขอใคร ชัดเจนว่า แม้พ่อท่านจะอยู่บนสรวลสวรรค์แล้ว แต่คำพูดของพ่อยังอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดินเสมอมา "คนดีศรีอโยธยามีมากกว่าคนชั่ว" ไม่งั้น แผ่นดินคงจะสิ้นไปนานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีธรรม มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขอพ่อท่านอย่าได้กังวล เพราะพ่อหลวงองค์ใหม่ ไม่ธรรมดา พระบารมีสูงส่ง ไม่พูดแต่ทำ ไม่ต้องขอ ช่วยทันทีเสมอมา ท่านเดินตามรอยพ่อเป๊ะเด๊ะ แสงจะเปร่งประกายได้เต็มที่ ยามที่คนดีดี ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจให้พ่อหลวงทุกพระองค์ที่สร้างแผ่นดินทองคำนี้ขึ้นมา บุญคุณแผ่นดินไม่มีลืมเลือน! กลับมาสู่โลกโหดร้ายกันต่อ : โลกขานรับ ไล่กระทืบมะเร็งร้ายอียิวสลัดหมา พ่วงอีขี้ข้าเหี้ยมะกัน ตายห่ายกโคตร ยืมมือขั้วใหม่เก็บเหี้ยมะกัน ยุโรป เพื่อบ้านใหม่มรึง ขณะที่ขั้วใหม่ ก็ได้กำจัดขี้ข้ามรึงสิ้นซาก แล้วคืนบ้านเก่าให้ปาเลสไตน์เต็มพื้นที่ แต่มรึงรู้มั้ยว่า แขนขามรึงขาดไปแล้ว ยังจะเหลือใครช่วยมรึงได้อีก? โลกอาหรับจึงลงแขกมรึงอย่างสาหัส เป็นไปตามแผนการรบสงครามครูเสดยุคใหม่ไงล่ะ? รัสเซีย จีน จึงไม่ต้องเหนื่อย แค่ส่งอาวุธเติมให้ไม่อั้นก็พอ แล้วรอดูอียิวเหี้ยขี้แตกรายวัน! อิหร่านได้เตรียมปิดเกมส์นี้ไว้นานแล้ว "ไฮเปอร์โซนิค 15 มัค พ่วงหัวรบนิวเคลียร์ 100 ลูก" จบทันที ไม่มีภาคต่อ? อียิวมันก็นกรู้ ถามว่ามันจะยอมตายจริงมั้ย? เกมส์เดินไปตามสเตปของมัน อียิวยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะ CIVIL WAR ยังไม่มา? เหี้ยมะกันมันจ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว สภาพวันนี้ TRUMP LAND vs NEW ZIONIST LAND จะเละเทะทั้งคู่ แผนแตกอเมริกาเกิดจากภายในทั้งสิ้น? การลอบฆ่าจะก่อเกิด ชงสถานการณ์ให้ไปสู่ภาวะฉุกเฉิน แผนอีตาเพนเค้า ล่อคนลงถนน เอาปืนมาไล่ยิงกัน แบบในหนังคาวบอยที่มรึงถนัด! ยุโรปจะถูกมุสลิมกลืนไปอย่างช้าๆ ไอ้อีผิวขาวจะย้ายรกรากมาเอเซียกันเพี๊ยบ ประเทศมหาอำนาจเก่าจะกลายร่างเป็นชาติยากจนซะงั้น เพราะหมดตูดจากสงคราม กว่าจะฟื้นต้องปูอีก 50 ปี เพราะเอเซียแซงหน้าไปไกลแล้ว ต่อไปอียุโรปจะเข้าอาเซียน ต้องถูกคัดกรอง VISA มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด แบบที่มรึงไม่เคยคิดมาก่อน? ปล.เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศอิหร่าน และตุรกี ร่วมประสานมือกัน โลกอาหรับได้อานิสงค์ ที่มาว่าทำไม อาหรับใหม่ ไม่กลัวอาวุธเหี้ย NATO อีกต่อไป หลังเฮซบอเลาะห์ ฮูตี ฮามาส ซีเรียบ อิรัก เยเมน โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ ขีปนาวุธเจ๋งกว่าไอ้อีตะวันตก ระบบป้องกันภัยหลายชั้น หลากหลายมากกว่า ยิ่งได้ AI จีน ยิ่งฉลาดล้ำกว่าเก่า เมื่ออียิวนายใหญ่เหี้ยสากลโลก ตายคาตรีนขั้วใหม่ การปลดแอกทั่วโลกจึงจะตามมา และทุกชาติจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด เหมือนที่ BRICS นำโลกอยู่ตอนนี้ อะไรน่ะ? ครม.อียิวชะลอการเอาคืนอิหร่าน จริงดิ? ไอ้ที่มรึงโดนอยู่ทุกนาทีตอนนี้ ยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ? ยังจะมีปัญญาเอาคืนอีกเหรอ? จะเห่าแหกตาดูความจริงหน่อย? มรึงถูกไล่ฆ่า ถูกลงแขก จะเหลือเหี้ยอะไรไปสวนเค้า เค้าบีบให้มรึงใช้นุ๊กไงล่ะ? ใช้สิ จะได้จบเร็วจริง ไม่ต้องรอวันตายนานเกิน? NATO แตกแล้วในเชิงพฤตินัย EU แตกแล้ว ในเชิงความร่วมมือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เดินกันคนละทิศ คนละทาง เพราะไม่มีใครเอาใครอยู่ได้อีกแล้ว? โครแอตออกตัว ออสเตรียออกลาย เชกออกพริ้ว ฮังการี เบลารุส เซอร์เบียนำ ตามกันหมดแล้ว พลังงานยั่งยืนรออยู่ การค้า โลจิสติค ตามมา ใครจะเอา EU ที่ไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก มีแต่จ่าย มีแต่สงคราม ควายยังคิดได้? อิหร่านพร้อม MIG-29 ทั้งฝูง รอต้อนรับบินรบเหี้ยยิวอย่างใจจดใจจ่อ โดนแน่ หากเข้าน่านฟ้าเตหะราน เก็บ SU-35 อัพเกรดเฉพาะกิจ เป็นอาวุธลับ ไม่บอก รัสเซียเติมอะไรเพิ่มให้ คนขับไปฝึกที่มอสโคว์มา 2 ปีเต็ม ครูฝึกรัสเซียตัวพ่อมาเอง ควบคุม กำกับเอง มาดิ ไอ้สัส! F-35 กระจอกงอกง่อย ส่งมาเลย กูกำลังอยากจะหาเป้าซ้อมมือเล่น? อาวุธอิหร่านมีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอาหรับ แม้แต่กองทัพใหญ่อย่างอีไก่งวง ยังต้องขอดูผลงานอิหร่าน มันแจ่มถึงใจจุงเบย อีแอร์โดกัน ถูกเหี้ยยิวปั่นภายใน ถึงเวลาต้องออกตัวแรง ซัดกลับอียิว ผ่านเลบานอน ไงล่ะ? เอาคืนทบต้น ทบดอก ให้เกลี้ยง! ข้ามวิกแป๊บ : เป็นไปตามคาด กูรู เตือนแล้ว หลังแจก 10000 ให้ควาย เศรษฐกิจเงียบกริบ คนยากไม่ใช้เงิน เก็บ จ่ายหนี้ จ่ายดอก เงินหายไปไหนกันหมด ไปอยู่กับเจ้าหนี้เงินกู้ไงล่ะ? ควายยังรู้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ! แจกหมดแล้ว ยังไงต่อ? กระตุ้นเหี้ยอะไรได้อีก? กฎหมายตามมาเช็คบิล เตรียมรอคุกได้เลย แสนล้าน ไม่ใช่เงินมรึง แต่ทรัพย์สินพวกมรึงจะถูกเรียกคืนชัวร์! จ่ายต่ออีกน่ะ หากใจไม่ด้านพอ มรึงตั้งใจอย่างเดียว แค่บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ บ่อนทำลายวัง เพื่อให้ไทยอ่อนแอ ตามใบสั่ง CIA ทหารเค้ารู้หมดเกลี้ยง ถึงได้ปล่อยให้มรึงเล่นไงล่ะ เพราะผลลัพธ์มันรออยู่ปลายทางแล้ว! จบที่ศาลหมดทุกไอ้อี? อีพ่อเหลี่ยมมรึงสติแตกแล้ว หลังถูกหักหลังรายวัน อะไรที่กร่างไว้ อะไรที่มั่น ตอนนี้ มันพลิกตลบหลัง โดนไล่เช็คบิลทุกดอก พรรคก็ไม่รอด อีลูกสาวร่านก็ไม่เหลือ เข้าตัวทุกดอก โดนทุกเม็ด ได้แต่ยื้อ ทหารไม่รอนาน ส่งศาลฟันลงดาบคือจบทันที! นักการเมืองเหี้ยจะหอบทรัพย์สินหนีตายกันจ้าละหวั่น สภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไฮโซรวยฟอกเงิน ดารารวยเงินสีเทา ทุนมืด ไปหมด ใครมีศีลจะรอด? ใครโลภจะคุก? ศรีธนญชัยเดินเกมส์รัดกุม ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอกตัวเยอะ เดี๋ยวเหี้ยมันดิ้นเอง แฉเอง หลักฐานมาเอง เพราะเหี้ยมันย่อมเอาตัวมันรอดก่อนใคร? ไม่มีมิตรแท้ อีเรืองไกร HOT ยื่นฟ้อง 20 คดี โดนแค่ 1 ก็คุกยาวแล้ว กะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอ? แผนบีบเหี้ยเผ่นออกนอกมาเต็ม ไปกันให้หมดน่ะจ๊ะ เข้าใจเกมส์ยัง? มีคนชง ศาลตบ ทหารคุมพื้นที่ แสงทำงานเร็วเสมอ? อีอุ้งอุ้ง ไม่รอด ล่อเด้ง ไม่รอนาน? มาตามสูตร รู้ล่วงหน้าแล้ว แค่ขอเข้า HALL OF FLAME แต่มันไม่จบน่ะสิ เพราะพรรคไปด้วยทั้งกะปิ จะเหลือใครจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเนี่ย? เข้าสูตรยังล่ะ? ทหารกระดิกตรีนรอ เวลาพวกมรึงใกล้จะหมดแล้ว? เหี้ยให้สุด ระยำให้เต็มที่ได้เลย เวลาโดนมันจะได้ไม่คาใจ? เพราะงานนี้ทหารไม่มียั้งมือ กระทืบซ้ำ เผาส่งขึ้นเมรุทันที! หมี CNN(ทำดี คนจำ ทำเหี้ย คนแค้น ทำนิ่ง คนด่า ไม่ทำห่าอะไรเลย คนแช่ง สรุปคือ ผลของการกระทำคือตัววัดชะตากรรมมรึงเอง เกมส์โลกต้องจบ เกมส์ไทยต้องโหด ไม่ใช่เวลาโลกสวย แรงเท่าที่จำเป็น อ่อนเท่าที่จะทำได้ อเมริกาใกล้จุดจบ เลือกตั้งคือ D-DAY เผาอเมริกานั่นเอง รอดูความวินาศฉิบหาย CIVIL WAR มาเต็ม เสี้ยนจะฆ่ากันเต็มเหนี่ยว เอาให้เต็มที่ อียิวเชียร์ใจขาดดิ้น เหยื่อคือควายโง่ดักดาน สู้ให้ตาย มรึงก็ไม่ได้อะไรเลย แค่ขี้ข้า) 13 ตุลาคม 67 11.28 น. https://linevoom.line.me/post/1172879387847403322 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไดอารี่ "วันนวมินทรฯ"

    ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 มีพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับ "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517

    แต่ปรากฏว่า จะด้วยเหตุอะไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยจากปีนั้นมา แทบไม่ได้พัฒนาไปตามแนวทางนี้เลย

    จนเกิด "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2540 นี่แหละ

    คนไทยจำนวนไม่น้อยถึง "คิดได้" ขึ้นมา

    หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจพอเพียง ก็คือ "การจัดการความเสี่ยง"

    ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า "การกระจายความเสี่ยง" (หรือนัยหนึ่งคือ "จัดพอร์ต") นี่แหละ ช่วยให้ผม "ไม่เจ็บตัว" จนเกินไป จากการขาดทุนเมื่อตอนเริ่มซื้อกองทุนรวมครั้งแรก

    ถ้าเทียบ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ซึ่งเป็น subset ของเศรษฐกิจพอเพียง ที่แบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินในสัดส่วน 3:3:3:1 กับการ "จัดพอร์ต" กองทุนรวม...

    ...จะว่าไปแล้ว แก่นแท้ของสองอย่างนี้ก็คือ Risk Management/Diversification นั่นเอง

    ในโอกาสของการรำลึกถึงล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการนำ "คำสอน" ของพระองค์ไปสู่การปฏิบัติ

    "ประสบการณ์ตรง" ของผมบอกไว้อย่างนั้น!

    ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

    วีรภัทร ตั๊งวิบูลย์ชัย
    13 ตุลาคม 2567

    ภาพ: พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ โดยคุณ "วินทร์ เลียววาริณ" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556
    ไดอารี่ "วันนวมินทรฯ" ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 มีพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับ "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 แต่ปรากฏว่า จะด้วยเหตุอะไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยจากปีนั้นมา แทบไม่ได้พัฒนาไปตามแนวทางนี้เลย จนเกิด "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2540 นี่แหละ คนไทยจำนวนไม่น้อยถึง "คิดได้" ขึ้นมา หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจพอเพียง ก็คือ "การจัดการความเสี่ยง" ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า "การกระจายความเสี่ยง" (หรือนัยหนึ่งคือ "จัดพอร์ต") นี่แหละ ช่วยให้ผม "ไม่เจ็บตัว" จนเกินไป จากการขาดทุนเมื่อตอนเริ่มซื้อกองทุนรวมครั้งแรก ถ้าเทียบ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ซึ่งเป็น subset ของเศรษฐกิจพอเพียง ที่แบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินในสัดส่วน 3:3:3:1 กับการ "จัดพอร์ต" กองทุนรวม... ...จะว่าไปแล้ว แก่นแท้ของสองอย่างนี้ก็คือ Risk Management/Diversification นั่นเอง ในโอกาสของการรำลึกถึงล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการนำ "คำสอน" ของพระองค์ไปสู่การปฏิบัติ "ประสบการณ์ตรง" ของผมบอกไว้อย่างนั้น! ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น วีรภัทร ตั๊งวิบูลย์ชัย 13 ตุลาคม 2567 ภาพ: พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ โดยคุณ "วินทร์ เลียววาริณ" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออนุญาต​ส่งมาในที่นี้ เนื่องจากถูก FB block ไม่ให้ส่งต่อๆข้อความ​ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง (หากเห็นด้วย ช่วยกระจาย)​
    ________

    ในขณะนี้มีแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการคัดเลือก​ประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้นที่จะยับยั้งหายนะทางเศรษฐกิจได้

    ที่ผ่านมารัฐบาลได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งในเรื่องไม่ลดดอกเบี้ย และการคัดค้านนโยบายการแจกเงินหนึ่งหมื่นบาท เป็นต้น ล่าสุดก็มีการคาดหมายว่ารัฐบาลจะส่งคนของตนเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งวัตถุประสงค์ก็เพื่อจะได้สามารถใช้ ธปท. เป็นเครื่องมือในการสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากภาพนี้เกิดขึ้น หายนะของเศรษฐกิจไทยก็จะตามมาอย่างแน่นอน เหมือนที่เราเห็นในต่างประเทศที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงในธนาคารกลาง การกระทำดังกล่าวทำให้ความเชื่อมั่นของต่างประเทศต่อระบบเศรษฐกิจสั่นคลอน เพราะธนาคารกลางที่ถูกแทรกแซงจะไม่สามารถมีบทบาทในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว เศรษฐกิจจึงเสี่ยงที่จะเสียหายจากนโยบายที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว

    ในกรณีของประเทศไทยนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทซึ่งจะเป็นภาระทางการคลังอย่างมหาศาล ก็ได้สร้างความเสี่ยงที่ประเทศจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว หากธนาคารแห่งประเทศไทยถูกแทรกแซงจนขาดความเป็นอิสระ ความเสี่ยงของการถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก ผลเสียต่อธุรกิจและเศรษฐกิจย่อมตามมาอย่างแน่นอน

    วงการเศรษฐกิจของไทยได้ชี้ให้เห็นถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงของการแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องการรับฟังคำเตือนเหล่านี้ ในขณะนี้ จึงมีเพียงแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการคัดเลือกประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการยับยั้งไม่ให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจนี้ อันที่จริง กฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้คำนึงถึงความเสี่ยงของการที่กรรมการสรรหาจะถูกแทรกแซงจากทางการเมืองหากกรรมการยังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ กฎหมายจึงได้กำหนดให้กรรมการสรรหาเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานสำคัญทางเศรษฐกิจที่เกษียณอายุแล้วทั้งสิ้น เพื่อจะได้ปลอดภัยจากการถูกแทรกแซง ที่ผ่านมาคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งสำคัญๆของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นอิสระไม่ยอมรับการแทรกแซง ผู้ที่ได้รับการสรรหาจึงเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่เข้าใจบทบาทของธนาคารกลาง และสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม ดิฉันจึงได้แต่คาดหวังว่าคณะกรรมการคัดเลือกในครั้งนี้จะสามารถทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ด้วยหลักการเดียวกัน คงไม่มีท่านใดอยากจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในการทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกผันไปสู่ก้าวแรกของความหายนะ

    ธาริษา วัฒนเกส
    อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
    ขออนุญาต​ส่งมาในที่นี้ เนื่องจากถูก FB block ไม่ให้ส่งต่อๆข้อความ​ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง (หากเห็นด้วย ช่วยกระจาย)​ ________ ในขณะนี้มีแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการคัดเลือก​ประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้นที่จะยับยั้งหายนะทางเศรษฐกิจได้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งในเรื่องไม่ลดดอกเบี้ย และการคัดค้านนโยบายการแจกเงินหนึ่งหมื่นบาท เป็นต้น ล่าสุดก็มีการคาดหมายว่ารัฐบาลจะส่งคนของตนเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งวัตถุประสงค์ก็เพื่อจะได้สามารถใช้ ธปท. เป็นเครื่องมือในการสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากภาพนี้เกิดขึ้น หายนะของเศรษฐกิจไทยก็จะตามมาอย่างแน่นอน เหมือนที่เราเห็นในต่างประเทศที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงในธนาคารกลาง การกระทำดังกล่าวทำให้ความเชื่อมั่นของต่างประเทศต่อระบบเศรษฐกิจสั่นคลอน เพราะธนาคารกลางที่ถูกแทรกแซงจะไม่สามารถมีบทบาทในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว เศรษฐกิจจึงเสี่ยงที่จะเสียหายจากนโยบายที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว ในกรณีของประเทศไทยนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทซึ่งจะเป็นภาระทางการคลังอย่างมหาศาล ก็ได้สร้างความเสี่ยงที่ประเทศจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว หากธนาคารแห่งประเทศไทยถูกแทรกแซงจนขาดความเป็นอิสระ ความเสี่ยงของการถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก ผลเสียต่อธุรกิจและเศรษฐกิจย่อมตามมาอย่างแน่นอน วงการเศรษฐกิจของไทยได้ชี้ให้เห็นถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงของการแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องการรับฟังคำเตือนเหล่านี้ ในขณะนี้ จึงมีเพียงแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการคัดเลือกประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการยับยั้งไม่ให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจนี้ อันที่จริง กฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้คำนึงถึงความเสี่ยงของการที่กรรมการสรรหาจะถูกแทรกแซงจากทางการเมืองหากกรรมการยังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ กฎหมายจึงได้กำหนดให้กรรมการสรรหาเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานสำคัญทางเศรษฐกิจที่เกษียณอายุแล้วทั้งสิ้น เพื่อจะได้ปลอดภัยจากการถูกแทรกแซง ที่ผ่านมาคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งสำคัญๆของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นอิสระไม่ยอมรับการแทรกแซง ผู้ที่ได้รับการสรรหาจึงเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่เข้าใจบทบาทของธนาคารกลาง และสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม ดิฉันจึงได้แต่คาดหวังว่าคณะกรรมการคัดเลือกในครั้งนี้จะสามารถทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ด้วยหลักการเดียวกัน คงไม่มีท่านใดอยากจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในการทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกผันไปสู่ก้าวแรกของความหายนะ ธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌳ราคายางพารากลางเปิดตลาด🌳
    ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2567
    น้ำยางสด ปรับลง 1.00 บาท👎
    ยางก้อนถ้วย(DRC 100) คงตัว✊
    ยางก้อนถ้วย(DRC 50 คงตัว✊
    ยางแผ่นดิบ ปรับลง 1.25 บาท👎
    ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับลง 1.00 บาท👎
    #ราคายาง #เปิดตลาดกลาง #กยท

    ข้อมูล : @พืชเศรษฐกิจไทย
    🌳ราคายางพารากลางเปิดตลาด🌳 ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2567 น้ำยางสด ปรับลง 1.00 บาท👎 ยางก้อนถ้วย(DRC 100) คงตัว✊ ยางก้อนถ้วย(DRC 50 คงตัว✊ ยางแผ่นดิบ ปรับลง 1.25 บาท👎 ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับลง 1.00 บาท👎 #ราคายาง #เปิดตลาดกลาง #กยท ข้อมูล : @พืชเศรษฐกิจไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงาน
    ภาวะเศรษฐกิจโลก และ เศรษฐกิจไทย
    ประจำเดือน กันยายน 2567 พบว่า

    🚩เศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น
    โดยเฉพาะจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
    และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

    🚩ส่วนเศรษฐกิจไทย ยังคงคาดการณ์การเติบโต
    ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2567 ไว้ที่ 2.6%
    โดยคาดการณ์ว่า ครึ่งหลังของปี 2567
    เศรษฐกิจไทย จะเติบโตได้ดีขึ้นจากการส่งออก
    การลงทุน การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐ

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงาน ภาวะเศรษฐกิจโลก และ เศรษฐกิจไทย ประจำเดือน กันยายน 2567 พบว่า 🚩เศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน 🚩ส่วนเศรษฐกิจไทย ยังคงคาดการณ์การเติบโต ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2567 ไว้ที่ 2.6% โดยคาดการณ์ว่า ครึ่งหลังของปี 2567 เศรษฐกิจไทย จะเติบโตได้ดีขึ้นจากการส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภาครัฐ ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 580 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌳ราคายางพารากลางเปิดตลาด🌳
    ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2567
    น้ำยางสด ปรับขึ้น 1.00 บาท👍
    ยางก้อนถ้วย(DRC 100) คงตัว✊
    ยางก้อนถ้วย(DRC 50 คงตัว✊
    ยางแผ่นดิบ ปรับขึ้น 1.58 บาท👍
    ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับขึ้น 0.93 บาท👍
    #ราคายาง #เปิดตลาดกลาง #กยท

    @พืชเศรษฐกิจไทย
    https://www.facebook.com/share/iNWVw8oMiY2UbrNk/?mibextid=oFDknk
    🌳ราคายางพารากลางเปิดตลาด🌳 ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2567 น้ำยางสด ปรับขึ้น 1.00 บาท👍 ยางก้อนถ้วย(DRC 100) คงตัว✊ ยางก้อนถ้วย(DRC 50 คงตัว✊ ยางแผ่นดิบ ปรับขึ้น 1.58 บาท👍 ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับขึ้น 0.93 บาท👍 #ราคายาง #เปิดตลาดกลาง #กยท @พืชเศรษฐกิจไทย https://www.facebook.com/share/iNWVw8oMiY2UbrNk/?mibextid=oFDknk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌳ราคายางพารากลางเปิดตลาด🌳
    ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2567
    น้ำยางสด ปรับขึ้น 1.00 บาท👍
    ยางก้อนถ้วย(DRC 100) ปรับขึ้น 0.20 บาท👍
    ยางก้อนถ้วย(DRC 50 ปรับขึ้น 0.10 บาท👍
    ยางแผ่นดิบ ปรับขึ้น 1.77 บาท👍
    ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับขึ้น 1.07 บาท👍
    #ราคายาง #เปิดตลาดกลาง #กยท #พืชเศรษฐกิจไทย

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/kHTvQVKVR5zZesFi/?mibextid=oFDknk
    🌳ราคายางพารากลางเปิดตลาด🌳 ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2567 น้ำยางสด ปรับขึ้น 1.00 บาท👍 ยางก้อนถ้วย(DRC 100) ปรับขึ้น 0.20 บาท👍 ยางก้อนถ้วย(DRC 50 ปรับขึ้น 0.10 บาท👍 ยางแผ่นดิบ ปรับขึ้น 1.77 บาท👍 ยางแผ่นรมควัน 3 ชั้น ปรับขึ้น 1.07 บาท👍 #ราคายาง #เปิดตลาดกลาง #กยท #พืชเศรษฐกิจไทย ที่มา : https://www.facebook.com/share/kHTvQVKVR5zZesFi/?mibextid=oFDknk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ความท้าทายของประเทศไทย
    ในภาวะที่เงินบาทแข็งค่าติดอันดับต้นๆของภูมิภาค
    และของโลก ในขณะนี้
    รัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีแนวทางอย่างไร
    เพื่อดำเนินการต่อไป ให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามากเกินไป
    จนกระทบกับฟันเฟืองที่เป็นวงล้อสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย
    นั่นคือ การส่งออก และ การท่องเที่ยว
    ล่าสุด 26/09/2567 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    🔥🔥ความท้าทายของประเทศไทย ในภาวะที่เงินบาทแข็งค่าติดอันดับต้นๆของภูมิภาค และของโลก ในขณะนี้ รัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีแนวทางอย่างไร เพื่อดำเนินการต่อไป ให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามากเกินไป จนกระทบกับฟันเฟืองที่เป็นวงล้อสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย นั่นคือ การส่งออก และ การท่องเที่ยว ล่าสุด 26/09/2567 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 969 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การขยายตัว
    ทางเศรษฐกิจไทย ปี 2567 อยู่ที่ 2.6%
    จากแรงหนุนการฟื้นตัวภาคการส่งออก
    การท่องเที่ยวช่วงไฮต์ซีซั่น และมาตรการ
    การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจากภาครัฐ

    🚩อย่างไรก็ตามผลกระทบจากน้ำท่วม
    แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
    รวมถึงอุปสงค์ หรือ กำลังซื้อในประเทศ
    ที่อ่อนแอลง ยังคงเป็นความเสี่ยง
    ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

    🚩ประเด็นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ สร้างทั้งโอกาส
    และความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจไทย
    โอกาสคือ ไทยในฐานะประเทศศูนย์กลาง
    อาเซียน และวางตัวเป็นกลาง ทางภูมิรัฐศาสตร์โลก
    ทำให้สามารถทำการค้าขายได้กับทุกฝ่าย
    แต่ความเสี่ยงคือ ผลกระทบจากมาตรการ
    การกีดกันทางการค้าโลก

    🚩แรงกดดันต่ออุตสาหกรรมไทย จะเพิ่มขึ้น
    ในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะการผลิต
    เช่น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเผชิญสถานการณ์
    การผลิตที่มีแนวโน้มที่จะผลิตออกมาล้นตลาด
    และยากที่จะส่งออกให้ได้ตามเป้า จากมาตรการ
    กีดกันการค้า

    🚩ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลก ความไม่สงบทางการเมือง
    ระหว่างประเทศ และทิศทางดอกเบี้ยขาลง
    ทำให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุน
    ในการเข้าซื้อจากนักลงทุน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
    #จีดีพี #thaitimes

    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การขยายตัว ทางเศรษฐกิจไทย ปี 2567 อยู่ที่ 2.6% จากแรงหนุนการฟื้นตัวภาคการส่งออก การท่องเที่ยวช่วงไฮต์ซีซั่น และมาตรการ การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจากภาครัฐ 🚩อย่างไรก็ตามผลกระทบจากน้ำท่วม แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงอุปสงค์ หรือ กำลังซื้อในประเทศ ที่อ่อนแอลง ยังคงเป็นความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า 🚩ประเด็นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ สร้างทั้งโอกาส และความเสี่ยง ต่อเศรษฐกิจไทย โอกาสคือ ไทยในฐานะประเทศศูนย์กลาง อาเซียน และวางตัวเป็นกลาง ทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ทำให้สามารถทำการค้าขายได้กับทุกฝ่าย แต่ความเสี่ยงคือ ผลกระทบจากมาตรการ การกีดกันทางการค้าโลก 🚩แรงกดดันต่ออุตสาหกรรมไทย จะเพิ่มขึ้น ในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะการผลิต เช่น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะเผชิญสถานการณ์ การผลิตที่มีแนวโน้มที่จะผลิตออกมาล้นตลาด และยากที่จะส่งออกให้ได้ตามเป้า จากมาตรการ กีดกันการค้า 🚩ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลก ความไม่สงบทางการเมือง ระหว่างประเทศ และทิศทางดอกเบี้ยขาลง ทำให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุน ในการเข้าซื้อจากนักลงทุน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การขยายตัวทางเศรษฐกิจ #จีดีพี #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1038 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 กันยายน 2567 -Highlight จากงาน BOT Symposium 2024 | หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow

    ช่วงหนึ่ง ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกว่า ธปท.ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม Fed โดยย้ำว่า นโยบายการเงินในประเทศ ยังอิงอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก

    รายงานจากเพจ Today Biznews เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตอบกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ว่า Fed ลดดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 เบสิสพอยท์ (bps) สำหรับ Fed ถือว่าไม่น้อย

    แต่ในแง่ผลกระทบ มองว่า ตลาดรับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนไปแล้วระดับหนึ่ง

    ส่วนช่องทางที่กระทบเศรษฐกิจไทย หลักๆ คือ กระทบตลาดเงินและค่าเงิน ในแง่ผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็มีบ้าง

    แต่โดยรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้มากมายขนาดนั้น เพราะเราเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งระบบแบงก์เป็นส่วนใหญ่ ช่องที่เห็นที่กระทบเยอะคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

    อีกอย่างที่ซ้ำเติมคือราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ส่วนหนึ่งก็มาจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งค่าเงินไทยมีความสัมพันธ์ (Correlation) กับทองค่อนข้างสูง สูงกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค

    ส่วนผลในแง่เศรษฐกิจหลัง Fed ลดดอกเบี้ย สะท้อนว่า Fed ให้ความสำคัญกับ Soft Landing หรือให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เทียบกับความเป็นห่วงในด้านเงินเฟ้อ

    ซึ่งในแง่เศรษฐกิจ อาจจะทำให้ไทยสบายใจขึ้นได้หน่อยว่า โอกาส Soft Landing ในสหรัฐจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

    ‘นี่ (การลดดอกเบี้ยของ Fed) ก็เหมือนการซื้อประกัน Make Sure ว่าโอกาสเกิด Hard Landing ให้มันน้อยๆ’

    [ นโยบายอิงกับปัจจัยในประเทศ ]

    ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเรา ผู้ว่าฯ บอกว่า นโยบายการเงินของไทย เน้นเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก (ที่แบงก์ชาติบอกอยู่เสมอ) คือ

    1. เศรษฐกิจ: การเติบโตว่าจะเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่
    2. เงินเฟ้อ: เงินเฟ้อของเราจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อหรือไม่
    3. เสถียรภาพทางด้านการเงิน: ซึ่งช่วงหลังให้ความสำคัญ

    ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้ภาพการประเมินแตกต่างจากที่มองเอาไว้ ทั้งเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มีแต่เสถียรภาพทางด้านการเงิน เริ่มเห็นความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) เพิ่มสูงขึ้นเยอะ

    แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตอนที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งจะกระทบภาพรวม และมีนัยต่อประเด็นข้างต้น ทำให้ต้องคำนึงถึง

    ‘การที่เราย้ำว่า เรา Outlook Dependent เป็นการตัดสินใจ หรือกรอบความคิดที่เหมาะสมแล้ว และถูกต้อง เพราะเราเห็นแล้วว่าที่อื่นที่เน้น Data Dependent มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ’

    ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ตอนนี้ยังประชุมตามเดิม (รอบหน้า 16 ต.ค. 2567) ถ้าต้องมีการประชุมเพิ่มเติมพิเศษก็มีได้

    [ ดอกเบี้ยลด หนี้ไม่ลด ]

    เมื่อถามถึงความคาดหวังให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อลดหนี้ครัวเรือน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อธิบายว่า สำหรับตัวบน (หนี้) มี 2 ส่วน คือ ผลต่อหนี้เก่า ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ย จะทำให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายบนหนี้เก่าลดลง ส่วนหนี้ใหม่ คำถามคือ ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วทำให้สินเชื่อโตเร็วขึ้น ตัวหนี้โดยรวมมันก็จะเพิ่มขึ้น

    ซึ่งการดูตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ส่วน แต่ยังไงแบงก์ชาติก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีโตพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะในแง่ของเสถียรภาพมันคงไม่เหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะให้มันลงเร็ว ลงแรง จนเกินไป เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจ

    ต้องบอกว่า ภาระหนี้เป็นอะไรที่แบงก์ชาติเป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาหนี้ แต่อยากฝากไว้ว่า การลดดอกเบี้ย ผลที่ส่งต่อภาระหนี้มันก็ไม่ได้เต็มที่

    หนี้ของเราสัดส่วนไม่น้อยไม่ได้เป็นหนี้ Floating แต่เป็น Fixed Rate และ Fixed Installment พวกนี้ภาระหนี้ไม่ได้ลด ในแง่ที่ต้องจ่ายรายเดือน เพราะฉะนั้น จะไปคาดหวังให้ดอกเบี้ยลงปุ๊ปและภาระหนี้ทุกคนลด ก็ไม่ใช่

    ‘เรื่องของ Fed มันไม่ใช่ว่า Fed ลดแล้วเราต้องลด แต่การที่ Fed ลด อย่างที่บอก มันก็กระทบปัจจัยหลายอย่าง กระทบเรื่องของภาพรวมอะไรต่างๆ กระทบตัวแปรต่างๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย’

    ผู้ว่าฯ อธิบายอีกว่า เราไม่เหมือนประเทศที่ fix ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง ที่ fix ค่าเงินกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เขาก็ต้องลดดอกเบี้ยไปโดยปริยาย แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น

    [ เงินไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ]

    ส่วนผลกระทบต่อค่าเงินบาท แน่นอนว่าแบงก์ชาติไม่ได้อยากเห็นค่าเงินที่ผันผวนขนาดนี้ และค่าความผันผวน (Volatility) ของเราก็สูง และการแข็งค่า โดยเฉพาะช่วงหลัง ก็เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว

    ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) บาทแข็งค่าไป 2.4% แต่ก็ยังมีประเทศที่แข็งค่ามากกว่าเรา เช่น มาเลเซีย ที่ช่วงหลังแข็งค่าค่อนข้างเยอะ

    สำหรับการประเมิน แบงก์ชาติจะดูว่าที่มาของการแข็งค่าคืออะไร 1. ถ้ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหรือเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเคสนี้มาจากเรื่องดอลลาร์อ่อนค่าและ Fed ลดดอกเบี้ย ก็เป็นการปรับตามกลไกตลาด

    แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ 2. การเคลื่อนไหวที่เร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยเชิงพื้นฐาน เช่น กระแสเงินที่มาจากการเก็งกำไร (Speculated Flow) หรือเงินร้อน (Hot Money) ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรและทำให้ความผันผวนเกิดขึ้น โดยที่ไม่สะท้อนเรื่องของพื้นฐาน อันนี้แบงก์ชาติจะ sensitive กว่า

    ซึ่งภาพรวมของเงินทุนในช่วงหลัง การไหลออกน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ (ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น) โดยปีก่อน (2566) เงินทุนไหลออก 9,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 แสนล้านบาท)

    ส่วนปีนี้ (2567) YTD อยู่ที่ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ช่วงหลังเห็นการไหลเข้าค่อนข้างเยอะ จากปัจจัยของโลกและปัจจัยแวดล้อมของเรา เช่น ความชัดเจนด้านการเมือง

    ที่มา https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/news-and-media/speeches/speechgov_20sep2024.pdf
    ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/_z66w8oG260?si=v16T3b9bMjKajLvF

    #Thaitimes
    20 กันยายน 2567 -Highlight จากงาน BOT Symposium 2024 | หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow ช่วงหนึ่ง ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกว่า ธปท.ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม Fed โดยย้ำว่า นโยบายการเงินในประเทศ ยังอิงอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก รายงานจากเพจ Today Biznews เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตอบกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ว่า Fed ลดดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 เบสิสพอยท์ (bps) สำหรับ Fed ถือว่าไม่น้อย แต่ในแง่ผลกระทบ มองว่า ตลาดรับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนไปแล้วระดับหนึ่ง ส่วนช่องทางที่กระทบเศรษฐกิจไทย หลักๆ คือ กระทบตลาดเงินและค่าเงิน ในแง่ผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็มีบ้าง แต่โดยรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้มากมายขนาดนั้น เพราะเราเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งระบบแบงก์เป็นส่วนใหญ่ ช่องที่เห็นที่กระทบเยอะคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ อีกอย่างที่ซ้ำเติมคือราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ส่วนหนึ่งก็มาจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งค่าเงินไทยมีความสัมพันธ์ (Correlation) กับทองค่อนข้างสูง สูงกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ส่วนผลในแง่เศรษฐกิจหลัง Fed ลดดอกเบี้ย สะท้อนว่า Fed ให้ความสำคัญกับ Soft Landing หรือให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เทียบกับความเป็นห่วงในด้านเงินเฟ้อ ซึ่งในแง่เศรษฐกิจ อาจจะทำให้ไทยสบายใจขึ้นได้หน่อยว่า โอกาส Soft Landing ในสหรัฐจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ‘นี่ (การลดดอกเบี้ยของ Fed) ก็เหมือนการซื้อประกัน Make Sure ว่าโอกาสเกิด Hard Landing ให้มันน้อยๆ’ [ นโยบายอิงกับปัจจัยในประเทศ ] ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเรา ผู้ว่าฯ บอกว่า นโยบายการเงินของไทย เน้นเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก (ที่แบงก์ชาติบอกอยู่เสมอ) คือ 1. เศรษฐกิจ: การเติบโตว่าจะเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่ 2. เงินเฟ้อ: เงินเฟ้อของเราจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อหรือไม่ 3. เสถียรภาพทางด้านการเงิน: ซึ่งช่วงหลังให้ความสำคัญ ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้ภาพการประเมินแตกต่างจากที่มองเอาไว้ ทั้งเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มีแต่เสถียรภาพทางด้านการเงิน เริ่มเห็นความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) เพิ่มสูงขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตอนที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งจะกระทบภาพรวม และมีนัยต่อประเด็นข้างต้น ทำให้ต้องคำนึงถึง ‘การที่เราย้ำว่า เรา Outlook Dependent เป็นการตัดสินใจ หรือกรอบความคิดที่เหมาะสมแล้ว และถูกต้อง เพราะเราเห็นแล้วว่าที่อื่นที่เน้น Data Dependent มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ’ ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ตอนนี้ยังประชุมตามเดิม (รอบหน้า 16 ต.ค. 2567) ถ้าต้องมีการประชุมเพิ่มเติมพิเศษก็มีได้ [ ดอกเบี้ยลด หนี้ไม่ลด ] เมื่อถามถึงความคาดหวังให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อลดหนี้ครัวเรือน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อธิบายว่า สำหรับตัวบน (หนี้) มี 2 ส่วน คือ ผลต่อหนี้เก่า ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ย จะทำให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายบนหนี้เก่าลดลง ส่วนหนี้ใหม่ คำถามคือ ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วทำให้สินเชื่อโตเร็วขึ้น ตัวหนี้โดยรวมมันก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งการดูตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ส่วน แต่ยังไงแบงก์ชาติก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีโตพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะในแง่ของเสถียรภาพมันคงไม่เหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะให้มันลงเร็ว ลงแรง จนเกินไป เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจ ต้องบอกว่า ภาระหนี้เป็นอะไรที่แบงก์ชาติเป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาหนี้ แต่อยากฝากไว้ว่า การลดดอกเบี้ย ผลที่ส่งต่อภาระหนี้มันก็ไม่ได้เต็มที่ หนี้ของเราสัดส่วนไม่น้อยไม่ได้เป็นหนี้ Floating แต่เป็น Fixed Rate และ Fixed Installment พวกนี้ภาระหนี้ไม่ได้ลด ในแง่ที่ต้องจ่ายรายเดือน เพราะฉะนั้น จะไปคาดหวังให้ดอกเบี้ยลงปุ๊ปและภาระหนี้ทุกคนลด ก็ไม่ใช่ ‘เรื่องของ Fed มันไม่ใช่ว่า Fed ลดแล้วเราต้องลด แต่การที่ Fed ลด อย่างที่บอก มันก็กระทบปัจจัยหลายอย่าง กระทบเรื่องของภาพรวมอะไรต่างๆ กระทบตัวแปรต่างๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย’ ผู้ว่าฯ อธิบายอีกว่า เราไม่เหมือนประเทศที่ fix ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง ที่ fix ค่าเงินกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เขาก็ต้องลดดอกเบี้ยไปโดยปริยาย แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น [ เงินไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ] ส่วนผลกระทบต่อค่าเงินบาท แน่นอนว่าแบงก์ชาติไม่ได้อยากเห็นค่าเงินที่ผันผวนขนาดนี้ และค่าความผันผวน (Volatility) ของเราก็สูง และการแข็งค่า โดยเฉพาะช่วงหลัง ก็เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) บาทแข็งค่าไป 2.4% แต่ก็ยังมีประเทศที่แข็งค่ามากกว่าเรา เช่น มาเลเซีย ที่ช่วงหลังแข็งค่าค่อนข้างเยอะ สำหรับการประเมิน แบงก์ชาติจะดูว่าที่มาของการแข็งค่าคืออะไร 1. ถ้ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหรือเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเคสนี้มาจากเรื่องดอลลาร์อ่อนค่าและ Fed ลดดอกเบี้ย ก็เป็นการปรับตามกลไกตลาด แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ 2. การเคลื่อนไหวที่เร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยเชิงพื้นฐาน เช่น กระแสเงินที่มาจากการเก็งกำไร (Speculated Flow) หรือเงินร้อน (Hot Money) ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรและทำให้ความผันผวนเกิดขึ้น โดยที่ไม่สะท้อนเรื่องของพื้นฐาน อันนี้แบงก์ชาติจะ sensitive กว่า ซึ่งภาพรวมของเงินทุนในช่วงหลัง การไหลออกน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ (ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น) โดยปีก่อน (2566) เงินทุนไหลออก 9,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 แสนล้านบาท) ส่วนปีนี้ (2567) YTD อยู่ที่ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ช่วงหลังเห็นการไหลเข้าค่อนข้างเยอะ จากปัจจัยของโลกและปัจจัยแวดล้อมของเรา เช่น ความชัดเจนด้านการเมือง ที่มา https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/news-and-media/speeches/speechgov_20sep2024.pdf ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/_z66w8oG260?si=v16T3b9bMjKajLvF #Thaitimes
    Like
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1888 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥 ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCBEIC
    ได้วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจไทย
    ใน 3 มิติ ดังนี้

    🚩1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทย (จีดีพี ประเทศไทย)

    SCB EIC ประเมินว่าจีดีพี ไทยจะขยายตัวต่ำอยู่ที่ 2.5% ในปี 2567
    เช่นเดียวกับปี 2568 ที่จะขยายตัวอยู่ที่ 2.6%
    ซึ่งยังต่ำกว่าศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
    โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
    ในช่วงข้างหน้า ยังคงมาจากภาคการท่องเที่ยว

    สำหรับปีหน้า 2568 SCB EIC มองว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
    จะปรับลดลงเล็กน้อย จากมุมมองเดิมมาอยู่ที่ 39.4 ล้านคน
    บนความท้าทายของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน แบบกรุ๊ปทัวร์
    ที่ยังไม่กลับมาได้เต็มที่

    🚩2. อัตราเงินเฟ้อของไทย

    SCB EIC ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปี 2567
    จะต่ำลงมาอยู่ที่ 0.6% (จากเดิม 0.8%) และจะกลับเข้าสู่ขอบล่าง
    ของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้
    และต่อเนื่องไปในปีหน้า

    🚩3. อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย

    SCB EIC ประเมินว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    ในเดือน ธันวาคม 2567 นี้ เหลือ 2.25% จากเดิม 2.50%
    และปรับลดอีกครั้งเหลือ 2.00 % ในช่วงต้นปี 2268
    จากสัญญาณอุปสงค์ในประเทศ ชะลอตัวชัดเจนขึ้น
    ส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะการเงินตึงตัวนาน

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #สภาวะเศรษฐกิจไทย
    #thaitimes
    💥💥 ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCBEIC ได้วิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจไทย ใน 3 มิติ ดังนี้ 🚩1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทย (จีดีพี ประเทศไทย) SCB EIC ประเมินว่าจีดีพี ไทยจะขยายตัวต่ำอยู่ที่ 2.5% ในปี 2567 เช่นเดียวกับปี 2568 ที่จะขยายตัวอยู่ที่ 2.6% ซึ่งยังต่ำกว่าศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ในช่วงข้างหน้า ยังคงมาจากภาคการท่องเที่ยว สำหรับปีหน้า 2568 SCB EIC มองว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะปรับลดลงเล็กน้อย จากมุมมองเดิมมาอยู่ที่ 39.4 ล้านคน บนความท้าทายของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน แบบกรุ๊ปทัวร์ ที่ยังไม่กลับมาได้เต็มที่ 🚩2. อัตราเงินเฟ้อของไทย SCB EIC ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปี 2567 จะต่ำลงมาอยู่ที่ 0.6% (จากเดิม 0.8%) และจะกลับเข้าสู่ขอบล่าง ของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ และต่อเนื่องไปในปีหน้า 🚩3. อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย SCB EIC ประเมินว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ในเดือน ธันวาคม 2567 นี้ เหลือ 2.25% จากเดิม 2.50% และปรับลดอีกครั้งเหลือ 2.00 % ในช่วงต้นปี 2268 จากสัญญาณอุปสงค์ในประเทศ ชะลอตัวชัดเจนขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะการเงินตึงตัวนาน ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #สภาวะเศรษฐกิจไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1069 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥3 แสนล้านบาท/ปี
    คือตัวเลขเม็ดเงิน นอกจีดีพี หรือนอกเศรษฐกิจไทย
    ที่ประชาชน ชาวบ้าน ห้างร้าน ธุรกิจ การค้า บริษัทต่างๆ
    ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ติดสินบน เดินเรื่องเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ
    วิ่งเต้นตำแหน่ง ให้กับข้าราชการประจำ

    🔥คำถามคือ แล้วข้าราชการการเมือง ตัวเลขเม็ดเงินนอกจีดีพี
    จะขนาดไหน?
    ที่มา : องค์การต่อต้านคอรัปชั่น(แห่งประเทศไทย)

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #คอร์รัปชัน #thaitimes
    🔥🔥3 แสนล้านบาท/ปี คือตัวเลขเม็ดเงิน นอกจีดีพี หรือนอกเศรษฐกิจไทย ที่ประชาชน ชาวบ้าน ห้างร้าน ธุรกิจ การค้า บริษัทต่างๆ ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ติดสินบน เดินเรื่องเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ วิ่งเต้นตำแหน่ง ให้กับข้าราชการประจำ 🔥คำถามคือ แล้วข้าราชการการเมือง ตัวเลขเม็ดเงินนอกจีดีพี จะขนาดไหน? ที่มา : องค์การต่อต้านคอรัปชั่น(แห่งประเทศไทย) #หุ้นติดดอย #การลงทุน #คอร์รัปชัน #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 594 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics
    ได้เผยแพร่ข้อมูล อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย
    กำลังเข้าสู่โหมดขาลงในอัตราเร่ง

    🚩โดยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย
    กำลังถูกท้าทายด้วยต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
    กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองตลาด
    ในปัจจุบันได้เร็วกว่า และมีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ต่ำกว่า

    🚩หากไทยไม่เร่งพัฒนาศักยภาพการผลิตจากแบบดั้งเดิม
    (Traditional) ที่เป็นอยู่ พร้อมกับวางกลยุทธ์ทางการตลาด
    ให้เหมาะสมเพื่อกีดกันการแข่งขันด้านราคาจากผู้ประกอบการ
    ต่างชาติ และยังขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ
    บทบาทของสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต่อเศรษฐกิจไทยคง
    จะลดลงอย่างต่อเนื่อง

    แนะ 3 ทางรอด ได้แก่
    🚩1. กำหนดกลุ่มลูกค้าให้มีความชัดเจน
    🚩2. พัฒนาศักยภาพการผลิต
    🚩3. ขับเอกลักษณ์ประจำชาติ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี
    #อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย #thaitimes
    🔥🔥ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ได้เผยแพร่ข้อมูล อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย กำลังเข้าสู่โหมดขาลงในอัตราเร่ง 🚩โดยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย กำลังถูกท้าทายด้วยต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองตลาด ในปัจจุบันได้เร็วกว่า และมีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ต่ำกว่า 🚩หากไทยไม่เร่งพัฒนาศักยภาพการผลิตจากแบบดั้งเดิม (Traditional) ที่เป็นอยู่ พร้อมกับวางกลยุทธ์ทางการตลาด ให้เหมาะสมเพื่อกีดกันการแข่งขันด้านราคาจากผู้ประกอบการ ต่างชาติ และยังขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ บทบาทของสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต่อเศรษฐกิจไทยคง จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แนะ 3 ทางรอด ได้แก่ 🚩1. กำหนดกลุ่มลูกค้าให้มีความชัดเจน 🚩2. พัฒนาศักยภาพการผลิต 🚩3. ขับเอกลักษณ์ประจำชาติ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี #อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่อนปรนจ่ายขั้นต่ำ 8% ลูกหนี้ "ดีที่ไม่ตาย"

    การตัดสินใจผ่อนปรนอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต (Minimum Pay) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ยังคงที่ 8% ออกไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 จากเดิมวันที่ 1 มกราคม 2568 ต้องเข้าสู่เกณฑ์ปกติ 10% ในมุมมองลูกหนี้ถือว่า "ดีที่ไม่ตาย" หลังสถาบันการเงินปรับอัตราจากเดิม 5% ขึ้นเป็น 8% เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ทำเอาลูกหนี้แทบปรับตัวไม่ทัน

    ยกตัวอย่างแบบกลมๆ วงเงินบัตรเครดิต 100,000 บาท ใช้เต็มวงเงิน ช่วงโควิด-19 จ่ายขั้นต่ำลดลงมาเหลือประมาณ 5,000 บาท ก่อนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8,000 บาทในปัจจุบัน หากยังคงมาตรการเดิมต่อไป ต้องจ่ายขั้นต่ำสูงถึงประมาณ 10,000 บาท ในขณะที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น ค่าครองชีพสูงขึ้น รายได้ไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อลดลง ส่งผลกระทบทำให้ชำระหนี้ได้ลำบากขึ้น

    ย้อนกลับไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แบงก์ชาติขอความร่วมมือสถาบันการเงินต่างๆ พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือปรับลดอัตราผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 10% เหลือ 5% ตั้งแต่ปี 2563 ถึงสิ้นปี 2566 ก่อนขยับมาเป็น 8% ในปีนี้ และมีแผนกลับสู่เกณฑ์ปกติในปีหน้า

    แม้กระทรวงสาธารณสุขประกาศยกเลิกโควิด-19 เป็นโรคอันตรายตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2565 เป็นต้นมา ประชาชนทั้งประเทศได้รับวัคซีนมากกว่า 70% แต่เศรษฐกิจไทยยังคงซบเซาแม้จะเปลี่ยนรัฐบาล ค่าครองชีพสูงขึ้น ซ้ำด้วยปัญหาหนี้ครัวเรือนเรื้อรัง สินเชื่อบางประเภทที่หยุดเฉพาะเงินต้น แต่ไม่หยุดดอกเบี้ย คนที่เคยเจ็บตัวจากโควิด-19 แทบไม่ฟื้นเป็นปกติ

    เมื่อสถาบันการเงินเลิกใจดีกับผู้ถือบัตรเครดิต ที่มีมากถึง 26 ล้านใบ ปรับอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 5% เป็น 8% ในขณะที่ประชาชนซึ่งบาดเจ็บทางการเงินจากโควิด-19 ยังไม่หายดี หนำซ้ำแบงก์ชาติยังมองโลกสวย คิดว่าส่งผลดีต่อลูกหนี้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ผลก็คือผู้ที่เคยจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ที่ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน จ่ายกันกระอักเลือด

    สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ถึงกับบอกว่า แค่ไตรมาสแรกของปี 2567 หนี้เสียเพิ่มขึ้นถึง 14.6% เป็น 6.4 หมื่นล้านบาท แถมหนี้ที่ต้องจับตาส่อจะเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีก 32.4% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อส่องที่มาพบว่ามีแต่คนเจนวาย (เกิดปี 2524-2539) แบกหนี้กันหลังแอ่น

    ขณะที่แบงก์ชาติกลับออกแคมเปญโลกสวยอย่าง "มาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง" ให้สถาบันการเงินเสนอทางเลือกปิดจบหนี้เรื้อรังให้แก่กลุ่มเปราะบางที่มีการจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าชำระเงินต้นแล้วเป็นเวลานานกว่า 5 ปี โดยต้องแลกกับการต้องปิดวงเงินของสินเชื่อที่เข้าร่วม เหลือเพียงแค่วงเงินเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ทั้งที่ประชาชนยังเจ็บตัวไม่หาย และเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว

    ที่ผ่านมามีความพยายามจากรัฐบาล เฉกเช่นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน มีข้อห่วงใยขอให้แบงก์ชาติพิจารณาปรับลดอัตราการชำระคืนขั้นต่ำบัตรเครดิตกลับมาที่ 5% เนื่องจากขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชนกำลังยากลำบาก เรื่องวินัยทางการเงินค่อยกลับมาแก้ไขอีกครั้ง นำไปสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน

    แต่สุดท้ายแบงก์ชาติเลือกที่จะใช้มาตรการผ่อนปรน 8% ยาวไปถึงปีหน้า ไม่ได้ปรับลดเหลือ 5% ตามที่นายกรัฐมนตรีร้องขอ

    เป็นอีกหนึ่งความเห็นต่างและรอยร้าว ระหว่างแบงก์ชาติกับรัฐบาลเศรษฐา ไม่ต่างจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่แบงก์ชาติคัดค้านตั้งแต่ต้น และยังนับเป็นก้าวที่พลาดของแบงก์ชาติ ที่ดำเนินมาตรการโลกสวย แต่ไม่ดูความเป็นจริงว่า ประชาชนกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ ท่ามกลางธนาคารพาณิชย์ชั้นนำโชว์ผลประกอบการ ด้วยกำไรหลักหมื่นล้านบาท

    #Newskit #หนี้บัตรเครดิต #ธนาคารแห่งประเทศไทย
    ผ่อนปรนจ่ายขั้นต่ำ 8% ลูกหนี้ "ดีที่ไม่ตาย" การตัดสินใจผ่อนปรนอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต (Minimum Pay) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ยังคงที่ 8% ออกไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 จากเดิมวันที่ 1 มกราคม 2568 ต้องเข้าสู่เกณฑ์ปกติ 10% ในมุมมองลูกหนี้ถือว่า "ดีที่ไม่ตาย" หลังสถาบันการเงินปรับอัตราจากเดิม 5% ขึ้นเป็น 8% เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ทำเอาลูกหนี้แทบปรับตัวไม่ทัน ยกตัวอย่างแบบกลมๆ วงเงินบัตรเครดิต 100,000 บาท ใช้เต็มวงเงิน ช่วงโควิด-19 จ่ายขั้นต่ำลดลงมาเหลือประมาณ 5,000 บาท ก่อนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8,000 บาทในปัจจุบัน หากยังคงมาตรการเดิมต่อไป ต้องจ่ายขั้นต่ำสูงถึงประมาณ 10,000 บาท ในขณะที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น ค่าครองชีพสูงขึ้น รายได้ไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อลดลง ส่งผลกระทบทำให้ชำระหนี้ได้ลำบากขึ้น ย้อนกลับไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แบงก์ชาติขอความร่วมมือสถาบันการเงินต่างๆ พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือปรับลดอัตราผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 10% เหลือ 5% ตั้งแต่ปี 2563 ถึงสิ้นปี 2566 ก่อนขยับมาเป็น 8% ในปีนี้ และมีแผนกลับสู่เกณฑ์ปกติในปีหน้า แม้กระทรวงสาธารณสุขประกาศยกเลิกโควิด-19 เป็นโรคอันตรายตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2565 เป็นต้นมา ประชาชนทั้งประเทศได้รับวัคซีนมากกว่า 70% แต่เศรษฐกิจไทยยังคงซบเซาแม้จะเปลี่ยนรัฐบาล ค่าครองชีพสูงขึ้น ซ้ำด้วยปัญหาหนี้ครัวเรือนเรื้อรัง สินเชื่อบางประเภทที่หยุดเฉพาะเงินต้น แต่ไม่หยุดดอกเบี้ย คนที่เคยเจ็บตัวจากโควิด-19 แทบไม่ฟื้นเป็นปกติ เมื่อสถาบันการเงินเลิกใจดีกับผู้ถือบัตรเครดิต ที่มีมากถึง 26 ล้านใบ ปรับอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 5% เป็น 8% ในขณะที่ประชาชนซึ่งบาดเจ็บทางการเงินจากโควิด-19 ยังไม่หายดี หนำซ้ำแบงก์ชาติยังมองโลกสวย คิดว่าส่งผลดีต่อลูกหนี้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ผลก็คือผู้ที่เคยจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ที่ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน จ่ายกันกระอักเลือด สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ถึงกับบอกว่า แค่ไตรมาสแรกของปี 2567 หนี้เสียเพิ่มขึ้นถึง 14.6% เป็น 6.4 หมื่นล้านบาท แถมหนี้ที่ต้องจับตาส่อจะเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีก 32.4% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อส่องที่มาพบว่ามีแต่คนเจนวาย (เกิดปี 2524-2539) แบกหนี้กันหลังแอ่น ขณะที่แบงก์ชาติกลับออกแคมเปญโลกสวยอย่าง "มาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง" ให้สถาบันการเงินเสนอทางเลือกปิดจบหนี้เรื้อรังให้แก่กลุ่มเปราะบางที่มีการจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าชำระเงินต้นแล้วเป็นเวลานานกว่า 5 ปี โดยต้องแลกกับการต้องปิดวงเงินของสินเชื่อที่เข้าร่วม เหลือเพียงแค่วงเงินเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ทั้งที่ประชาชนยังเจ็บตัวไม่หาย และเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว ที่ผ่านมามีความพยายามจากรัฐบาล เฉกเช่นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน มีข้อห่วงใยขอให้แบงก์ชาติพิจารณาปรับลดอัตราการชำระคืนขั้นต่ำบัตรเครดิตกลับมาที่ 5% เนื่องจากขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชนกำลังยากลำบาก เรื่องวินัยทางการเงินค่อยกลับมาแก้ไขอีกครั้ง นำไปสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน แต่สุดท้ายแบงก์ชาติเลือกที่จะใช้มาตรการผ่อนปรน 8% ยาวไปถึงปีหน้า ไม่ได้ปรับลดเหลือ 5% ตามที่นายกรัฐมนตรีร้องขอ เป็นอีกหนึ่งความเห็นต่างและรอยร้าว ระหว่างแบงก์ชาติกับรัฐบาลเศรษฐา ไม่ต่างจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่แบงก์ชาติคัดค้านตั้งแต่ต้น และยังนับเป็นก้าวที่พลาดของแบงก์ชาติ ที่ดำเนินมาตรการโลกสวย แต่ไม่ดูความเป็นจริงว่า ประชาชนกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ ท่ามกลางธนาคารพาณิชย์ชั้นนำโชว์ผลประกอบการ ด้วยกำไรหลักหมื่นล้านบาท #Newskit #หนี้บัตรเครดิต #ธนาคารแห่งประเทศไทย
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 776 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าการเมืองดีเศรษฐกิจจะไม่แย่ขนาดนี้

    เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งอีกนานกว่าจะฟื้นตัว 
    ถ้าการเมืองดีเศรษฐกิจจะไม่แย่ขนาดนี้ เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งอีกนานกว่าจะฟื้นตัว 
    Like
    Love
    Sad
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียสำหรับปี 2567 เป็น 4.5% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อ 6 เดือนก่อน แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเหลือ 2.7% ลดลง 0.5 % จากที่เคยคาดการณ์
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000037399
    กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียสำหรับปี 2567 เป็น 4.5% ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อ 6 เดือนก่อน แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเหลือ 2.7% ลดลง 0.5 % จากที่เคยคาดการณ์ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000037399
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปลายปีแจก 1 หมื่น เปิดที่มาเงินดิจิทัล จาก 3 แหล่ง ไม่กู้เงิน

    ในที่สุดมีความชัดเจนเสียที ภายหลังต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาหลายครั้งสำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอย่างเป็นทางการ

    นายเศรษฐา ระบุว่า นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล นโยบายยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และประชาชน ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุดฝ่าฟันข้อจำกัด รัฐบาลได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ส่งมอบนโยบายพลิกชีวิตประชาชนได้ และที่สำคัญเป็นไปตามตัวบทกฎหมายทุกประการ อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนร้านค้าจะได้ลงทะเบียนได้ในไตรมาส 3/2567 และเงินส่งตรงถึงประชาชนในไตรมาส 4/2567

    นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ ลดภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเกษตรกร เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ พึ่งพาตนเองได้ สร้างโอกาสประกอบอาชีพของประชาชน ก่อให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อันเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งนี้ความคุ้มค่าจะให้สิทธิแก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคนผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 5 แสนล้านบาท กำหนดใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนด เป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย 1.2-1.6%
    ปลายปีแจก 1 หมื่น เปิดที่มาเงินดิจิทัล จาก 3 แหล่ง ไม่กู้เงิน ในที่สุดมีความชัดเจนเสียที ภายหลังต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาหลายครั้งสำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอย่างเป็นทางการ นายเศรษฐา ระบุว่า นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล นโยบายยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และประชาชน ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐบาลได้ใช้ความพยายามสูงสุดฝ่าฟันข้อจำกัด รัฐบาลได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ส่งมอบนโยบายพลิกชีวิตประชาชนได้ และที่สำคัญเป็นไปตามตัวบทกฎหมายทุกประการ อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนร้านค้าจะได้ลงทะเบียนได้ในไตรมาส 3/2567 และเงินส่งตรงถึงประชาชนในไตรมาส 4/2567 นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ ลดภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเกษตรกร เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ พึ่งพาตนเองได้ สร้างโอกาสประกอบอาชีพของประชาชน ก่อให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อันเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งนี้ความคุ้มค่าจะให้สิทธิแก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคนผ่านดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 5 แสนล้านบาท กำหนดใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนด เป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย 1.2-1.6%
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1270 มุมมอง 0 รีวิว