• Crypto Dealer โอกาสทางธุรกิจ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย, ตลาดคริปโทฯ นอกระบบโตแรง เงินหมุนหมื่นล้านไร้กำกับ ชงออกใบอนุญาต Crypto Dealer ดึงธุรกรรมเข้าสู่ระบบ ลดฟอกเงิน–เพิ่มรายได้รัฐ

    อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000110021

    #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #คริปโท #เศรษฐกิจดิจิทัล #กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
    Crypto Dealer โอกาสทางธุรกิจ เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย, ตลาดคริปโทฯ นอกระบบโตแรง เงินหมุนหมื่นล้านไร้กำกับ ชงออกใบอนุญาต Crypto Dealer ดึงธุรกรรมเข้าสู่ระบบ ลดฟอกเงิน–เพิ่มรายได้รัฐ • อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000110021 • #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #คริปโท #เศรษฐกิจดิจิทัล #กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขึ้นอยู่ ขึ้นต่อ ‘บิตคอยน์’ 22/05/68 #กะเทาะหุ้น #บิตคอยน์ #ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี #ตลาดหุ้น #เศรษฐกิจ
    ขึ้นอยู่ ขึ้นต่อ ‘บิตคอยน์’ 22/05/68 #กะเทาะหุ้น #บิตคอยน์ #ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี #ตลาดหุ้น #เศรษฐกิจ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 526 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้นำเสนอเกี่ยวกับการเจาะระบบความปลอดภัยของ LastPass ผู้ให้บริการจัดการรหัสผ่านชื่อดัง ที่เชื่อมโยงกับการโจรกรรมคริปโทเคอร์เรนซีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายไปที่ Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple และบุคคลอื่น ๆ อีกมากมายในวงการคริปโท

    เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการที่ข้อมูลสำคัญถูกขโมยจาก LastPass ในปี 2022 ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในส่วน "Secure Notes" ซึ่งรวมถึง seed phrases ที่ใช้ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโท โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแจ้งเตือนที่ชัดเจนจาก LastPass เกี่ยวกับความเสี่ยงนี้ ทำให้การขโมยเงินคริปโทเกิดขึ้นซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง

    จุดที่น่าสนใจคือ แฮกเกอร์ไม่ได้ใช้วิธีการโจมตีที่เราคุ้นเคย เช่น การโจมตีอีเมล หรือการปลอมแปลงเบอร์โทรศัพท์ แต่พวกเขาอาศัยข้อมูลที่ได้จาก LastPass โดยตรงเพื่อเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนย้ายเงินคริปโทไปยังกระเป๋าเงินหลายแห่งเพื่อปกปิดเส้นทางเงิน

    บทเรียนจากเหตุการณ์นี้คือ การใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและการจัดเก็บ seed phrases ในที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเก็บข้อมูลสำคัญเหล่านี้ในอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ออฟไลน์) เช่น ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต

    https://www.techspot.com/news/107092-federal-agents-confirm-lastpass-hack-connection-high-profile.html
    ข่าวนี้นำเสนอเกี่ยวกับการเจาะระบบความปลอดภัยของ LastPass ผู้ให้บริการจัดการรหัสผ่านชื่อดัง ที่เชื่อมโยงกับการโจรกรรมคริปโทเคอร์เรนซีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายไปที่ Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple และบุคคลอื่น ๆ อีกมากมายในวงการคริปโท เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการที่ข้อมูลสำคัญถูกขโมยจาก LastPass ในปี 2022 ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในส่วน "Secure Notes" ซึ่งรวมถึง seed phrases ที่ใช้ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโท โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแจ้งเตือนที่ชัดเจนจาก LastPass เกี่ยวกับความเสี่ยงนี้ ทำให้การขโมยเงินคริปโทเกิดขึ้นซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง จุดที่น่าสนใจคือ แฮกเกอร์ไม่ได้ใช้วิธีการโจมตีที่เราคุ้นเคย เช่น การโจมตีอีเมล หรือการปลอมแปลงเบอร์โทรศัพท์ แต่พวกเขาอาศัยข้อมูลที่ได้จาก LastPass โดยตรงเพื่อเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนย้ายเงินคริปโทไปยังกระเป๋าเงินหลายแห่งเพื่อปกปิดเส้นทางเงิน บทเรียนจากเหตุการณ์นี้คือ การใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและการจัดเก็บ seed phrases ในที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเก็บข้อมูลสำคัญเหล่านี้ในอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ออฟไลน์) เช่น ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต https://www.techspot.com/news/107092-federal-agents-confirm-lastpass-hack-connection-high-profile.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Federal agents confirm LastPass breach linked to massive cryptocurrency heists
    The $150 million heist, which occurred on January 30, 2024, is believed to have targeted Chris Larsen, co-founder of the cryptocurrency platform Ripple, according to blockchain security...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • Coinbase บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่จากสหรัฐฯ ที่เพิ่งได้จดทะเบียนกับหน่วยงานข่าวกรองทางการเงินของอินเดีย (FIU) ทำให้สามารถให้บริการซื้อขายคริปโทในประเทศอินเดียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

    Coinbase วางแผนที่จะเริ่มต้นให้บริการกลุ่มลูกค้ารายย่อยในปีนี้ และยังมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งการเข้าสู่ตลาดอินเดียของบริษัทนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติม

    ที่สำคัญคือ อินเดียยังคงเรียกเก็บภาษีจากกำไรของการซื้อขายคริปโทสูงถึง 30% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในโลก แม้ว่ายังไม่มีข้อบังคับที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ประเภทนี้ก็ตาม แต่รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาทบทวนท่าทีเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี ด้วยอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายในระดับสากล รวมถึงในสหรัฐฯ

    สิ่งที่ทำให้อินเดียเป็นตลาดที่น่าสนใจก็คือจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีมาก และความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้คริปโทกลายเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ฟังดูแล้วไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการเงินของคนในยุคนี้ด้วย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/11/coinbase-registers-with-indian-financial-watchdog-to-offer-crypto-trading-services
    Coinbase บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่จากสหรัฐฯ ที่เพิ่งได้จดทะเบียนกับหน่วยงานข่าวกรองทางการเงินของอินเดีย (FIU) ทำให้สามารถให้บริการซื้อขายคริปโทในประเทศอินเดียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย Coinbase วางแผนที่จะเริ่มต้นให้บริการกลุ่มลูกค้ารายย่อยในปีนี้ และยังมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งการเข้าสู่ตลาดอินเดียของบริษัทนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ที่สำคัญคือ อินเดียยังคงเรียกเก็บภาษีจากกำไรของการซื้อขายคริปโทสูงถึง 30% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในโลก แม้ว่ายังไม่มีข้อบังคับที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ประเภทนี้ก็ตาม แต่รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาทบทวนท่าทีเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี ด้วยอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายในระดับสากล รวมถึงในสหรัฐฯ สิ่งที่ทำให้อินเดียเป็นตลาดที่น่าสนใจก็คือจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีมาก และความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้คริปโทกลายเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ฟังดูแล้วไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการเงินของคนในยุคนี้ด้วย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/11/coinbase-registers-with-indian-financial-watchdog-to-offer-crypto-trading-services
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Coinbase registers with Indian financial watchdog to offer crypto trading services
    MUMBAI (Reuters) - U.S.-headquartered cryptocurrency exchange Coinbase Global has registered with India's Financial Intelligence Unit (FIU), allowing it to offer crypto trading services in the country, the company said on Tuesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีความกังวลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโซนยูโรเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีการสนับสนุนการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเข้มข้น การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการออกคำสั่งบริหารเพื่อสร้างเงินสำรองคริปโทโดยใช้โทเค็นที่รัฐบาลเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นท่าทีใหม่ที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า

    ความกังวลหลักของโซนยูโรคือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่ออธิปไตยทางการเงินและความมั่นคงของยูโร เพราะหากคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ stablecoin ที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์ประสบความสำเร็จ อาจกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาพัฒนาระบบชำระเงินผ่าน stablecoin อีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างความท้าทายต่อระบบการเงินของยุโรป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/11/eu-worries-us-embrace-of-crypto-assets-could-impact-europe-financial-stability
    มีความกังวลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโซนยูโรเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีการสนับสนุนการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเข้มข้น การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการออกคำสั่งบริหารเพื่อสร้างเงินสำรองคริปโทโดยใช้โทเค็นที่รัฐบาลเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นท่าทีใหม่ที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า ความกังวลหลักของโซนยูโรคือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่ออธิปไตยทางการเงินและความมั่นคงของยูโร เพราะหากคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ stablecoin ที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์ประสบความสำเร็จ อาจกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาพัฒนาระบบชำระเงินผ่าน stablecoin อีกครั้ง ซึ่งอาจสร้างความท้าทายต่อระบบการเงินของยุโรป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/11/eu-worries-us-embrace-of-crypto-assets-could-impact-europe-financial-stability
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU worries US embrace of crypto assets could impact Europe financial stability
    BRUSSELS (Reuters) - Euro zone finance ministers are worried that the change of policy under the new U.S. administration to embrace cryptocurrencies could affect euro zone monetary sovereignty and financial stability, top officials said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทรัมป์" ประกาศตั้งกองทุนสำรองคริปโทเคอร์เรนซี หนุนราคาบิตคอยน์พุ่ง 10%
    https://www.thai-tai.tv/news/17455/
    "ทรัมป์" ประกาศตั้งกองทุนสำรองคริปโทเคอร์เรนซี หนุนราคาบิตคอยน์พุ่ง 10% https://www.thai-tai.tv/news/17455/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • BINANCE TH by Gulf BINANCE ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาและเติมทักษะให้กับบุคลากรรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมต่าง ๆ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

    ข้อมูลจาก ก.ล.ต. เผยมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ณ เดือน มกราคม 2568 มีมูลค่ากว่า 9.95 หมื่นล้านบาท โดยมีบัญชีนักลงทุนมากกว่า 2.45 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังอยู่ในวงจำกัด สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ที่ระบุว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องการกําลังแรงงานด้านดิจิทัลมากกว่า 140,000 คน อาทิ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักพัฒนาเอไอ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้พัฒนาโปรแกรมเซมิคอนดัคเตอร์ ไมโครชิป ออโตเมชั่น และนักการตลาดดิจิทัล

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000018253

    #MGROnline #Binance #BinanceTH #GULF #มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ #บุคลากรสินทรัพย์ดิจิทัล
    BINANCE TH by Gulf BINANCE ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาและเติมทักษะให้กับบุคลากรรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมต่าง ๆ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย • ข้อมูลจาก ก.ล.ต. เผยมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ณ เดือน มกราคม 2568 มีมูลค่ากว่า 9.95 หมื่นล้านบาท โดยมีบัญชีนักลงทุนมากกว่า 2.45 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังอยู่ในวงจำกัด สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ที่ระบุว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องการกําลังแรงงานด้านดิจิทัลมากกว่า 140,000 คน อาทิ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักพัฒนาเอไอ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้พัฒนาโปรแกรมเซมิคอนดัคเตอร์ ไมโครชิป ออโตเมชั่น และนักการตลาดดิจิทัล • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000018253 • #MGROnline #Binance #BinanceTH #GULF #มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ #บุคลากรสินทรัพย์ดิจิทัล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ก่อตั้ง Zipmex ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมปรับบริษัทฯ 1 แสนบาท หลังผู้เสียหายรายหนึ่งฟ้องคดีอาญา ยังมีคดีกลุ่มผู้เสียหายยื่นฟ้องแบบกลุ่ม เรียกค่าเสียหายกว่า 5 พันล้าน กำลังไต่สวนคดี
    .
    วันนี้ (17 ก.พ.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีที่มีผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล จำเลยที่ 1 และนายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ จำเลยที่ 2 ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานและพิพากษาให้จำเลยทั้งสองมีความผิด พิพากษาลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท และลงโทษจำคุกนายเอกลาภ ยิ้มวิไล เวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
    .
    คดีนี้สืบเนื่องจาก Zipmex ซึ่งเคยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลตามพระราชกำหนด การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ได้ก่อความเสียหายต่อประชาชนผู้ลงทุน ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พบการกระทำความผิดกฎหมายหลายกรณีและได้กล่าวโทษจำเลยไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอาญา อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของ Zipmex ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2567
    .
    คดีดังกล่าวผู้เสียหายรายหนึ่งได้ฟ้องดำเนินคดีอาญา และมีคำพิพากษาในวันนี้ แต่ยังมีกลุ่มผู้เสียหายที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มร่วมสู้ Zipmex ร่วมมือกันยื่นฟ้องคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม (Consumer Class Action) ซึ่งมีผู้เสียหายรวมตัวกัน 741 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,667.29 ล้านบาท โดยฟ้องจำเลย 23 ราย ทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อเรียกค่าเสียหายเพื่อการลงโทษรวมไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งได้มอบหมายให้นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย VLA รับมอบอำนาจยื่นฟ้องคดีแพ่งแบบกลุ่ม ปัจจุบันศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดไต่สวคดีเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9680000015807
    ......
    Sondhi X
    ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ก่อตั้ง Zipmex ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมปรับบริษัทฯ 1 แสนบาท หลังผู้เสียหายรายหนึ่งฟ้องคดีอาญา ยังมีคดีกลุ่มผู้เสียหายยื่นฟ้องแบบกลุ่ม เรียกค่าเสียหายกว่า 5 พันล้าน กำลังไต่สวนคดี . วันนี้ (17 ก.พ.) ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีที่มีผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล จำเลยที่ 1 และนายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ จำเลยที่ 2 ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานและพิพากษาให้จำเลยทั้งสองมีความผิด พิพากษาลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท และลงโทษจำคุกนายเอกลาภ ยิ้มวิไล เวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง . คดีนี้สืบเนื่องจาก Zipmex ซึ่งเคยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลตามพระราชกำหนด การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ได้ก่อความเสียหายต่อประชาชนผู้ลงทุน ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พบการกระทำความผิดกฎหมายหลายกรณีและได้กล่าวโทษจำเลยไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอาญา อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของ Zipmex ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2567 . คดีดังกล่าวผู้เสียหายรายหนึ่งได้ฟ้องดำเนินคดีอาญา และมีคำพิพากษาในวันนี้ แต่ยังมีกลุ่มผู้เสียหายที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มร่วมสู้ Zipmex ร่วมมือกันยื่นฟ้องคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม (Consumer Class Action) ซึ่งมีผู้เสียหายรวมตัวกัน 741 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,667.29 ล้านบาท โดยฟ้องจำเลย 23 ราย ทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อเรียกค่าเสียหายเพื่อการลงโทษรวมไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งได้มอบหมายให้นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย VLA รับมอบอำนาจยื่นฟ้องคดีแพ่งแบบกลุ่ม ปัจจุบันศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดไต่สวคดีเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา . คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9680000015807 ...... Sondhi X
    SONDHITALK.COM
    คุก 5 ปี เอกลาภ ยิ้มวิไล อดีตผู้บริหาร Zipmex ฐานฉ้อโกงประชาชน
    ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ก่อตั้ง Zipmex ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ฐานฉ้อโกงประชาชน พร้อมปรับบริษัทฯ 1 แสนบาท หลังผู้เสียหายรายหนึ่งฟ้องคดีอาญา ยังมีคดีกลุ่มผู้เสียหายยื่นฟ้องแบบกลุ่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 978 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้ง เดวิด แซคส์(David Sacks) เป็นหัวหน้าฝ่าย “ปัญญาประดิษฐ์และสกุลเงินดิจิทัลของทำเนียบขาว” (White House A.I. & Crypto Czar)

    แซคส์เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่าสองทศวรรษในซิลิคอนแวลลีย์ และยังเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ COO ของ PayPal

    ตำแหน่งของแซคส์เป็นตำแหน่งที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในทำเนียบขาวที่รับผิดชอบด้านคริปโทเคอร์เรนซี่โดยเฉพาะ

    ก่อนหน้านี้ทรัมป์เพิ่งตัดสินใจเลือก พอล แอตกินส์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. (SEC) คนใหม่ ซึ่งจะเข้าเริ่มงานเดือนมกราคมนี้ พอลมีแนวคิดสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี่มาโดยตลอด หลังการประกาศของทรัมป์ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ

    - ขณะเดียวกันทางฝั่งรัสเซีย ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เพิ่งออกมากล่าวต่อสาธารณชนเมื่อวันพุธว่า Bitcoin ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ซึ่งเป็นการยอมรับที่ชัดเจนที่สุดของเขาถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลในขณะที่รัสเซียเผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง

    - ในการพูดที่ฟอรั่มในมอสโก ปูตินได้กล่าวถึงการครอบงำของสกุลเงินดั้งเดิมเช่น USD ในขณะที่สังเกตเห็นการเกิดขึ้นของระบบการชำระเงินรุ่นใหม่ เขาอ้างถึง Bitcoin เป็นตัวอย่างสำคัญของสกุลเงินที่กระจายอำนาจซึ่งไม่สามารถถูกกดดันจากภายนอกได้

    โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้ง เดวิด แซคส์(David Sacks) เป็นหัวหน้าฝ่าย “ปัญญาประดิษฐ์และสกุลเงินดิจิทัลของทำเนียบขาว” (White House A.I. & Crypto Czar) แซคส์เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่าสองทศวรรษในซิลิคอนแวลลีย์ และยังเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ COO ของ PayPal ตำแหน่งของแซคส์เป็นตำแหน่งที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในทำเนียบขาวที่รับผิดชอบด้านคริปโทเคอร์เรนซี่โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ทรัมป์เพิ่งตัดสินใจเลือก พอล แอตกินส์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. (SEC) คนใหม่ ซึ่งจะเข้าเริ่มงานเดือนมกราคมนี้ พอลมีแนวคิดสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี่มาโดยตลอด หลังการประกาศของทรัมป์ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ - ขณะเดียวกันทางฝั่งรัสเซีย ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เพิ่งออกมากล่าวต่อสาธารณชนเมื่อวันพุธว่า Bitcoin ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ซึ่งเป็นการยอมรับที่ชัดเจนที่สุดของเขาถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลในขณะที่รัสเซียเผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง - ในการพูดที่ฟอรั่มในมอสโก ปูตินได้กล่าวถึงการครอบงำของสกุลเงินดั้งเดิมเช่น USD ในขณะที่สังเกตเห็นการเกิดขึ้นของระบบการชำระเงินรุ่นใหม่ เขาอ้างถึง Bitcoin เป็นตัวอย่างสำคัญของสกุลเงินที่กระจายอำนาจซึ่งไม่สามารถถูกกดดันจากภายนอกได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 664 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ทรัมป์' บุกโลก'คริปโต' ตั้งบริษัท 'TruthFi' 23 พฤศจิกายน 2567 ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมตะลุย #Cryptocurrency ล่าสุด บริษัท Trump Media & Technology Group ของ #ทรัมป์ ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ #TruthFi บริการชำระเงิน #คริปโต ที่ครอบคลุมการดูแลทรัพย์สินและการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล .โดย 'TruthFi' จะเป็นแพลตฟอร์มชำระเงินคริปโต ขยายสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ดำเนินการโดยบุตรชายของทรัมป์ มีแผนเจรจาซื้อกิจการแพลตฟอร์มคริปโตอย่าง Bakkt เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด ช่วงเริ่มต้น ทั้.ทั้งนี้ ทรัมป์เปลี่ยนมุมมองจากเคย "ต่อต้านคริปโตเคอร์เรนซี " มาเป็นสนับสนุนในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้​.แนวคิดของโดนัลด์ ทรัมป์ต่อคริปโตเคอร์เรนซีมีพัฒนาการอย่างน่าสนใจ จากการวิพากษ์วิจารณ์ในอดีตว่า #Bitcoin เป็น "การหลอกลวง" และมีแนวโน้มสร้างปัญหาให้กับระบบการเงินสหรัฐฯ สู่การสนับสนุนการใช้งานคริปโตในปัจจุบัน โดยเขาเสนอให้สหรัฐฯ ถือ Bitcoin เป็น #ทุนสำรอง และมองว่าเทคโนโลยี #บล็อกเชน อาจช่วยสร้างโอกาสใหม่ใน #เศรษฐกิจดิจิทัล .คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ประเภทหนึ่งที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) เพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้ #Thaitimes
    'ทรัมป์' บุกโลก'คริปโต' ตั้งบริษัท 'TruthFi' 23 พฤศจิกายน 2567 ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมตะลุย #Cryptocurrency ล่าสุด บริษัท Trump Media & Technology Group ของ #ทรัมป์ ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ #TruthFi บริการชำระเงิน #คริปโต ที่ครอบคลุมการดูแลทรัพย์สินและการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล .โดย 'TruthFi' จะเป็นแพลตฟอร์มชำระเงินคริปโต ขยายสู่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ดำเนินการโดยบุตรชายของทรัมป์ มีแผนเจรจาซื้อกิจการแพลตฟอร์มคริปโตอย่าง Bakkt เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด ช่วงเริ่มต้น ทั้.ทั้งนี้ ทรัมป์เปลี่ยนมุมมองจากเคย "ต่อต้านคริปโตเคอร์เรนซี " มาเป็นสนับสนุนในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้​.แนวคิดของโดนัลด์ ทรัมป์ต่อคริปโตเคอร์เรนซีมีพัฒนาการอย่างน่าสนใจ จากการวิพากษ์วิจารณ์ในอดีตว่า #Bitcoin เป็น "การหลอกลวง" และมีแนวโน้มสร้างปัญหาให้กับระบบการเงินสหรัฐฯ สู่การสนับสนุนการใช้งานคริปโตในปัจจุบัน โดยเขาเสนอให้สหรัฐฯ ถือ Bitcoin เป็น #ทุนสำรอง และมองว่าเทคโนโลยี #บล็อกเชน อาจช่วยสร้างโอกาสใหม่ใน #เศรษฐกิจดิจิทัล .คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ประเภทหนึ่งที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) เพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้ #Thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1201 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับข่าวเตือนภัยวันนี้ นายTexhTips ก็มีเรื่องราวที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงมาเตือนอีกเเล้วครับ

    มิจฉาชีพดันโฆษณาเว็บแฝงมัลแวร์ไว้บนสุดของผลการค้นหาใน Google
    เว็บไซต์ BleepingComputer พบว่าแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่แฝงมัลแวร์เอาไว้ขึ้นมา และจ่ายเงินโฆษณาผ่าน Google Ads ให้เว็บไซต์เหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในผลการค้นหาแรก ๆ บนเสิร์ชเอนจินของ Google

    เว็บไซต์เหล่านี้มักเอาการแจกซอฟต์แวร์ฟรีมาล่อลวงให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดมัลแวร์เข้าไปยังอุปกรณ์ของตัวเอง

    หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือเว็บไซต์ปลอมที่อ้างว่าแจก Rufus เครื่องมือสร้างแฟลชไดรฟ์ฟรี โดยพบว่าแฮกเกอร์ได้จดทะเบียนโดเมนที่มีชื่อ URL คล้ายกับเว็บไซต์ของจริงมาก หน้าตาก็แทบจะถอดกันมาแบบเป๊ะ ๆ แต่มีการเพิ่มความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดว่าเป็นตัวระดับสูงที่ใช้งานได้มากกว่าแบบปกติ แม้ว่าความจริงแล้ว Rufus จะมีไม่มีเวอร์ชันระดับสูงก็ตามที

    หลังจากที่ผู้ใช้งานลองกดดาวน์โหลด Rufus แล้ว เว็บไซต์ปลอมจะพาไปยังบริการส่งไฟล์ ซึ่งเป็นวิธีที่จะเล็ดลอดการตรวจจับของเครื่องมือต้านไวรัส

    อีกตัวอย่างของซอฟต์แวร์ที่แฮกเกอร์นำมาใช้หลอกคือ Noteppad++ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันคือสร้างโดเมนที่มีชื่อคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า Typosquatting

    วิลล์ ดอร์แมนน์ (Will Dormann) นักวิจัยด้านไซเบอร์พบว่าตัว Notepad++ ปลอมเดียวกันนี้ถูกพบในหลาย URL ซึ่งทุกไฟล์ถูก Virus Total ตรวจพบว่าอันตรายทั้งสิ้น

    จนถึงตอนนี้ ซอฟต์แวร์ปลอมที่ Bleeping Computer และเหล่าผู้เชี่ยวชาญพบบนเว็บไซต์ปลอมที่ดันผ่าน Google Ads ได้แก่ 7-Zip, Blender 3D, Capcut, CCleaner, Notepad++, OBS, Rufus, VirtualBox, VLC Media Player, WinRAR และ Putty
    นี่อาจแสดงว่าเหล่าแฮกเกอร์เงินหนาพอที่จะชนะการประมูลพื้นที่โฆษณาเหนือนักพัฒนาตัวจริงจนทำให้โฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้แซงขึ้นไปอยู่สูงสุด ตัวอย่างเช่นกรณีของเว็บไซต์ CCleaner ของจริงที่โดนเว็บปลอมที่แฝงมัลแวร์เบียดขึ้นไปอยู่ที่ 1 ของ Google Ads

    เจอมัน เฟอร์นันเดซ (Germán Fernández) จากบริษัท CronUP เผยว่ามีโดเมนอย่างน้อย 70 โดเมนที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ผ่านการโปรโมตบน Google Ads

    นอกจากนี้ ดอร์แมนน์ยังพบว่าซอฟต์แวร์ปลอมเหล่านี้ยังมีการใส่ลายเซ็นด้านความมั่นคงปลอดภัยปลอมจากบริษัทด้านไซเบอร์ชื่อดังอย่าง Bitdefender ด้วย

    BleepingComputer พบว่าซอฟต์แวร์ปลอมจากเว็บไซต์เลียนแบบเป็นอันตรายมาก หลายตัวแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลอย่าง RedLine และ Vidar เอาไว้ บางตัวก็แฝงไว้ด้วยโทรจัน SectoRAT ที่เข้าควบคุมอุปกรณ์เหยื่อจากระยะไกล

    สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่ามีโฆษณาที่ปรากฎในด้านบนสุดของผลการค้นหาบน Google ที่พยายามปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่มีอยู่จริง

    หนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเว็บไซต์ปลอมคือ Alex อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังที่เผลอไปดาวน์โหลดไฟล์ Open Broadcaster Software (OBS) มาจากเว็บไซต์ปลอมที่ขึ้นอยู่ในรูปแบบโฆษณาของผลการค้นหาบน Google

    แม้ว่าตอนแรกที่เปิดใช้งานไฟล์ EXE ที่ดาวน์โหลดมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน บัญชี Twitter, Gmail, Substack และ Discord ก็ถูกแฮก รวมถึงเงินคริปโทฯ ที่อยู่ในครอบครองก็ถูกขโมยไปด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลเอาไว้

    ทั้งนี้ BleepingComputer ได้ส่งผลการค้นพบบางส่วนให้ Google ซึ่งได้รับคำตอบว่าบริษัทมีนโยบายป้องกันการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ปกติยังได้มีการพิจารณาความถูกต้องของโฆษณาอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย

    แต่ทางบริษัทก็จะไปตรวจสอบโฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ได้ลบโฆษณาปลอมที่ BleepingComputer รายงานเข้าไปเรียบร้อยแล้ว

    สุดท้ายนี้ นายTechTips ก็อยากจะขอเตือนให้ทุกท่านยังคงต้องตรวจสองลิ้งต์ทุกลิ้งค์
    ที่จะทำการเข้าชมให้ดี ด้วยความระมัดระวังอย่างมากเลยนะครับ
    เพราะว่าทุกวันนี้วงการพี่มิจก็เตอิบโตมากขึ้นและสรรหาวิธีใหม่ๆมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าเราออกไปอยู่ตลอดเวลาครับ

    วติคือเครื่องป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ครับผม
    วันนี้นายTechTips ลาไปก่อนครับ ขอให้ทุกท่านปลดภัยไม่โดนหลอกครับ
    สวัสดีครับ #TechTips
    สำหรับข่าวเตือนภัยวันนี้ นายTexhTips ก็มีเรื่องราวที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงมาเตือนอีกเเล้วครับ มิจฉาชีพดันโฆษณาเว็บแฝงมัลแวร์ไว้บนสุดของผลการค้นหาใน Google เว็บไซต์ BleepingComputer พบว่าแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่แฝงมัลแวร์เอาไว้ขึ้นมา และจ่ายเงินโฆษณาผ่าน Google Ads ให้เว็บไซต์เหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในผลการค้นหาแรก ๆ บนเสิร์ชเอนจินของ Google เว็บไซต์เหล่านี้มักเอาการแจกซอฟต์แวร์ฟรีมาล่อลวงให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดมัลแวร์เข้าไปยังอุปกรณ์ของตัวเอง หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือเว็บไซต์ปลอมที่อ้างว่าแจก Rufus เครื่องมือสร้างแฟลชไดรฟ์ฟรี โดยพบว่าแฮกเกอร์ได้จดทะเบียนโดเมนที่มีชื่อ URL คล้ายกับเว็บไซต์ของจริงมาก หน้าตาก็แทบจะถอดกันมาแบบเป๊ะ ๆ แต่มีการเพิ่มความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดว่าเป็นตัวระดับสูงที่ใช้งานได้มากกว่าแบบปกติ แม้ว่าความจริงแล้ว Rufus จะมีไม่มีเวอร์ชันระดับสูงก็ตามที หลังจากที่ผู้ใช้งานลองกดดาวน์โหลด Rufus แล้ว เว็บไซต์ปลอมจะพาไปยังบริการส่งไฟล์ ซึ่งเป็นวิธีที่จะเล็ดลอดการตรวจจับของเครื่องมือต้านไวรัส อีกตัวอย่างของซอฟต์แวร์ที่แฮกเกอร์นำมาใช้หลอกคือ Noteppad++ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันคือสร้างโดเมนที่มีชื่อคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า Typosquatting วิลล์ ดอร์แมนน์ (Will Dormann) นักวิจัยด้านไซเบอร์พบว่าตัว Notepad++ ปลอมเดียวกันนี้ถูกพบในหลาย URL ซึ่งทุกไฟล์ถูก Virus Total ตรวจพบว่าอันตรายทั้งสิ้น จนถึงตอนนี้ ซอฟต์แวร์ปลอมที่ Bleeping Computer และเหล่าผู้เชี่ยวชาญพบบนเว็บไซต์ปลอมที่ดันผ่าน Google Ads ได้แก่ 7-Zip, Blender 3D, Capcut, CCleaner, Notepad++, OBS, Rufus, VirtualBox, VLC Media Player, WinRAR และ Putty นี่อาจแสดงว่าเหล่าแฮกเกอร์เงินหนาพอที่จะชนะการประมูลพื้นที่โฆษณาเหนือนักพัฒนาตัวจริงจนทำให้โฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้แซงขึ้นไปอยู่สูงสุด ตัวอย่างเช่นกรณีของเว็บไซต์ CCleaner ของจริงที่โดนเว็บปลอมที่แฝงมัลแวร์เบียดขึ้นไปอยู่ที่ 1 ของ Google Ads เจอมัน เฟอร์นันเดซ (Germán Fernández) จากบริษัท CronUP เผยว่ามีโดเมนอย่างน้อย 70 โดเมนที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ผ่านการโปรโมตบน Google Ads นอกจากนี้ ดอร์แมนน์ยังพบว่าซอฟต์แวร์ปลอมเหล่านี้ยังมีการใส่ลายเซ็นด้านความมั่นคงปลอดภัยปลอมจากบริษัทด้านไซเบอร์ชื่อดังอย่าง Bitdefender ด้วย BleepingComputer พบว่าซอฟต์แวร์ปลอมจากเว็บไซต์เลียนแบบเป็นอันตรายมาก หลายตัวแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลอย่าง RedLine และ Vidar เอาไว้ บางตัวก็แฝงไว้ด้วยโทรจัน SectoRAT ที่เข้าควบคุมอุปกรณ์เหยื่อจากระยะไกล สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่ามีโฆษณาที่ปรากฎในด้านบนสุดของผลการค้นหาบน Google ที่พยายามปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่มีอยู่จริง หนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเว็บไซต์ปลอมคือ Alex อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังที่เผลอไปดาวน์โหลดไฟล์ Open Broadcaster Software (OBS) มาจากเว็บไซต์ปลอมที่ขึ้นอยู่ในรูปแบบโฆษณาของผลการค้นหาบน Google แม้ว่าตอนแรกที่เปิดใช้งานไฟล์ EXE ที่ดาวน์โหลดมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน บัญชี Twitter, Gmail, Substack และ Discord ก็ถูกแฮก รวมถึงเงินคริปโทฯ ที่อยู่ในครอบครองก็ถูกขโมยไปด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลเอาไว้ ทั้งนี้ BleepingComputer ได้ส่งผลการค้นพบบางส่วนให้ Google ซึ่งได้รับคำตอบว่าบริษัทมีนโยบายป้องกันการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ปกติยังได้มีการพิจารณาความถูกต้องของโฆษณาอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย แต่ทางบริษัทก็จะไปตรวจสอบโฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ได้ลบโฆษณาปลอมที่ BleepingComputer รายงานเข้าไปเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายนี้ นายTechTips ก็อยากจะขอเตือนให้ทุกท่านยังคงต้องตรวจสองลิ้งต์ทุกลิ้งค์ ที่จะทำการเข้าชมให้ดี ด้วยความระมัดระวังอย่างมากเลยนะครับ เพราะว่าทุกวันนี้วงการพี่มิจก็เตอิบโตมากขึ้นและสรรหาวิธีใหม่ๆมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าเราออกไปอยู่ตลอดเวลาครับ วติคือเครื่องป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ครับผม วันนี้นายTechTips ลาไปก่อนครับ ขอให้ทุกท่านปลดภัยไม่โดนหลอกครับ สวัสดีครับ #TechTips
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1094 มุมมอง 0 รีวิว