• Trump Media & Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดการเงินด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ รวมถึง กองทุน ETF และ คริปโตเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนแนวทาง America First และสร้างความหลากหลายในบริการของบริษัท

    ✅ Trump Media เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ในตลาดการเงิน
    - รวมถึงกองทุน ETF ที่สนับสนุนแนวทาง America First และผลิตภัณฑ์คริปโตเคอร์เรนซี
    - กองทุนเหล่านี้คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ โดยต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

    ✅ ความร่วมมือกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors
    - Trump Media ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors
    - Crypto.com ได้รับการยืนยันจาก SEC ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการสอบสวนในปี 2024

    ✅ Trump Media มีการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีหลายรูปแบบ
    - รวมถึง Trump NFTs, meme coin และการถือหุ้นในบริษัทผลิต Bitcoin ชื่อ American Bitcoin

    ✅ การจัดการทรัพย์สินของ Trump Media อยู่ในความดูแลของครอบครัว Trump
    - ทรัพย์สินและธุรกิจของ Trump Media มูลค่า $2.7 พันล้าน ถูกจัดการโดยลูกๆ ของ Trump

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/trump-media-pushes-forward-with-pivot-to-crypto-etf-plans
    Trump Media & Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดการเงินด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ รวมถึง กองทุน ETF และ คริปโตเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนแนวทาง America First และสร้างความหลากหลายในบริการของบริษัท ✅ Trump Media เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ในตลาดการเงิน - รวมถึงกองทุน ETF ที่สนับสนุนแนวทาง America First และผลิตภัณฑ์คริปโตเคอร์เรนซี - กองทุนเหล่านี้คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ โดยต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ✅ ความร่วมมือกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors - Trump Media ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors - Crypto.com ได้รับการยืนยันจาก SEC ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการสอบสวนในปี 2024 ✅ Trump Media มีการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีหลายรูปแบบ - รวมถึง Trump NFTs, meme coin และการถือหุ้นในบริษัทผลิต Bitcoin ชื่อ American Bitcoin ✅ การจัดการทรัพย์สินของ Trump Media อยู่ในความดูแลของครอบครัว Trump - ทรัพย์สินและธุรกิจของ Trump Media มูลค่า $2.7 พันล้าน ถูกจัดการโดยลูกๆ ของ Trump https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/trump-media-pushes-forward-with-pivot-to-crypto-etf-plans
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump Media pushes forward with pivot to crypto, ETF plans
    (Reuters) -U.S. President Donald Trump's social media firm, Trump Media & Technology Group, said on Tuesday it had reached a binding agreement to roll out an array of retail investment products, including crypto, in its latest bid to diversify into financial services.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cantor Fitzgerald กำลังร่วมมือกับ SoftBank, Tether และ Bitfinex เพื่อสร้าง Cantor Equity Partners ซึ่งเป็นโครงการลงทุนใน Bitcoin มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในวงการ เช่น Brandon Lutnick ซึ่งเป็นบุตรชายของ Howard Lutnick อดีตซีอีโอของ Cantor และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ

    ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank, Tether และ Bitfinex
    - Tether สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - SoftBank และ Bitfinex สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ และ 600 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

    ✅ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital
    - บริษัทนี้จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนใน Bitcoin และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

    ✅ Howard Lutnick สนับสนุนโครงการในฐานะรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ
    - เขาเชื่อว่า Crypto สามารถช่วยปรับปรุงระบบธนาคารและเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

    ✅ โครงการนี้อาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
    - อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ข้อตกลงอาจล้มเหลวหรือมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/cantor-nears-3-billion-crypto-venture-with-softbank-and-tether-ft-reports
    Cantor Fitzgerald กำลังร่วมมือกับ SoftBank, Tether และ Bitfinex เพื่อสร้าง Cantor Equity Partners ซึ่งเป็นโครงการลงทุนใน Bitcoin มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในวงการ เช่น Brandon Lutnick ซึ่งเป็นบุตรชายของ Howard Lutnick อดีตซีอีโอของ Cantor และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank, Tether และ Bitfinex - Tether สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - SoftBank และ Bitfinex สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ และ 600 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ✅ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital - บริษัทนี้จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนใน Bitcoin และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ✅ Howard Lutnick สนับสนุนโครงการในฐานะรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ - เขาเชื่อว่า Crypto สามารถช่วยปรับปรุงระบบธนาคารและเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ✅ โครงการนี้อาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า - อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ข้อตกลงอาจล้มเหลวหรือมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/cantor-nears-3-billion-crypto-venture-with-softbank-and-tether-ft-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cantor nears $3 billion crypto venture with SoftBank and Tether, FT reports
    (Reuters) -Brandon Lutnick, son of U.S. Commerce Secretary Howard Lutnick and chair of brokerage Cantor Fitzgerald, is partnering with SoftBank, Tether and Bitfinex to create a multibillion-dollar bitcoin acquisition vehicle, the Financial Times reported on Tuesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเหนือกว่าใครในระบบการเงินโลกใหม่?
    BEYOND DIGITAL : The new world financial system?
    เหลือเวลาเพียง 5 นาทีใน 24 ชม.ของระบบ ในระบบโลกการเงินแบบเก่าที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลักของโลกในวันนี้ กำลังๆๆๆ หมดคุณค่าที่เป็นเงินตราของโลกเข้ามาทุกที อะไรจะมาแทนระหว่าง Bitcoin กับ Digital Yuan?

    ถ้าโลกแบ่งออกเป็นสองขั้วทางการเงินใหญ่ ๆ คือ
    • ฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรเลือกใช้ Bitcoin
    • ฝ่ายจีนและกลุ่ม BRICS เลือกใช้ Digital หยวน (e-CNY)
    จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลกครั้งใหญ่มาก เราอาจจะได้เห็นระบบการเงินโลกใหม่ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป
    ลักษณะของระบบการเงินทั้งสอง
    1. ฝ่ายอเมริกา + พันธมิตร (Bitcoin)
    • ไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) ไม่มีรัฐบาลควบคุม
    • ใช้ระบบ Blockchain แบบเปิด โปร่งใสและตรวจสอบได้
    • มีจำนวนจำกัด (21 ล้าน BTC) ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยในระยะยาว
    • อิงหลักการ ตลาดเสรี และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน
    • ธนาคารกลางจะมีบทบาทลดลงมาก หรือถูกบีบให้ปรับตัว
    2. ฝ่ายจีน + BRICS (Digital Yuan/e-CNY)
    • มีศูนย์กลาง (Centralized) ควบคุมโดยรัฐและธนาคารกลางจีน
    • ใช้ Blockchain แบบปิด หรือเทคโนโลยี ledger เฉพาะภายใน
    • ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดนโยบายการเงินของรัฐได้อย่างแม่นยำ
    • ติดตามและควบคุมธุรกรรมของผู้ใช้งานได้
    • สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศใหม่ เช่น CIPS แทน SWIFT
    จุดร่วมของทั้งสองระบบ
    • เป็น เงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT
    • มีความเร็วในการโอนเงินข้ามประเทศสูงกว่าระบบธนาคารเดิม
    • ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม
    • เป็นการท้าทายระบบการเงินเดิมที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ
    จุดแตกต่างหลัก
    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    • ระบบการเงินโลกจะแตกออกเป็น 2 มาตรฐาน เหมือนสงครามเย็นทางเศรษฐกิจ
    • ประเทศต่าง ๆ อาจต้องเลือกข้าง หรือพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้รองรับทั้งสองระบบ
    • ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสียสถานะการเป็นเงินสำรองหลักของโลก หาก Bitcoin หรือ e-CNY ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
    • แรงกดดันต่อ IMF, World Bank และระบบ SWIFT ให้ปรับตัวหรือเสื่อมอิทธิพลลง
    • เกิดโอกาสใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะพึ่งพาระบบใหม่โดยไม่ผ่านระบบดั้งเดิมของตะวันตก
    นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วโมงต่อไปในวันใหม่ เราจะยื่นตรงไหนจะเลือกใช่ระบบการเงินใหม่ในโลกอนาคตกันอย่างไรตัวเราเล็กเกินที่จะกำหนดอะไรได้เองแต่เราเลือกที่จะเข้าใจและเลือกที่จะเดินไปพร้อมกับระบบใหม่นี้กันดีกว่า...

    TABU
    รัชชสิทธิ์ เปี่ยมโรจนภัทร
    ใครเหนือกว่าใครในระบบการเงินโลกใหม่? BEYOND DIGITAL : The new world financial system? เหลือเวลาเพียง 5 นาทีใน 24 ชม.ของระบบ ในระบบโลกการเงินแบบเก่าที่เงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลักของโลกในวันนี้ กำลังๆๆๆ หมดคุณค่าที่เป็นเงินตราของโลกเข้ามาทุกที อะไรจะมาแทนระหว่าง Bitcoin กับ Digital Yuan? ถ้าโลกแบ่งออกเป็นสองขั้วทางการเงินใหญ่ ๆ คือ • ฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรเลือกใช้ Bitcoin • ฝ่ายจีนและกลุ่ม BRICS เลือกใช้ Digital หยวน (e-CNY) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลกครั้งใหญ่มาก เราอาจจะได้เห็นระบบการเงินโลกใหม่ที่ไม่ได้มีศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป ลักษณะของระบบการเงินทั้งสอง 1. ฝ่ายอเมริกา + พันธมิตร (Bitcoin) • ไร้ศูนย์กลาง (Decentralized) ไม่มีรัฐบาลควบคุม • ใช้ระบบ Blockchain แบบเปิด โปร่งใสและตรวจสอบได้ • มีจำนวนจำกัด (21 ล้าน BTC) ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยในระยะยาว • อิงหลักการ ตลาดเสรี และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน • ธนาคารกลางจะมีบทบาทลดลงมาก หรือถูกบีบให้ปรับตัว 2. ฝ่ายจีน + BRICS (Digital Yuan/e-CNY) • มีศูนย์กลาง (Centralized) ควบคุมโดยรัฐและธนาคารกลางจีน • ใช้ Blockchain แบบปิด หรือเทคโนโลยี ledger เฉพาะภายใน • ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดนโยบายการเงินของรัฐได้อย่างแม่นยำ • ติดตามและควบคุมธุรกรรมของผู้ใช้งานได้ • สร้างระบบการโอนเงินระหว่างประเทศใหม่ เช่น CIPS แทน SWIFT จุดร่วมของทั้งสองระบบ • เป็น เงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT • มีความเร็วในการโอนเงินข้ามประเทศสูงกว่าระบบธนาคารเดิม • ลดต้นทุนในการทำธุรกรรม • เป็นการท้าทายระบบการเงินเดิมที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ จุดแตกต่างหลัก ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น • ระบบการเงินโลกจะแตกออกเป็น 2 มาตรฐาน เหมือนสงครามเย็นทางเศรษฐกิจ • ประเทศต่าง ๆ อาจต้องเลือกข้าง หรือพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้รองรับทั้งสองระบบ • ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสียสถานะการเป็นเงินสำรองหลักของโลก หาก Bitcoin หรือ e-CNY ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง • แรงกดดันต่อ IMF, World Bank และระบบ SWIFT ให้ปรับตัวหรือเสื่อมอิทธิพลลง • เกิดโอกาสใหม่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่จะพึ่งพาระบบใหม่โดยไม่ผ่านระบบดั้งเดิมของตะวันตก นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วโมงต่อไปในวันใหม่ เราจะยื่นตรงไหนจะเลือกใช่ระบบการเงินใหม่ในโลกอนาคตกันอย่างไรตัวเราเล็กเกินที่จะกำหนดอะไรได้เองแต่เราเลือกที่จะเข้าใจและเลือกที่จะเดินไปพร้อมกับระบบใหม่นี้กันดีกว่า... TABU รัชชสิทธิ์ เปี่ยมโรจนภัทร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพ็กเกจ Python บน PyPI (Python Package Index) ถูกพบว่ามีมัลแวร์แฝงอยู่ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ReversingLabs และ Socket เผยถึงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายหมื่นราย แพ็กเกจดังกล่าวถูกดาวน์โหลดรวมกว่า 40,000 ครั้ง ทำให้เกิดข้อกังวลในชุมชนโอเพนซอร์ส

    ✅ แพ็กเกจที่แฝงมัลแวร์:
    - bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev: ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกนักพัฒนาด้านคริปโต โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของโมดูล bitcoinlib ที่ถูกต้อง
    - disgrasya: มุ่งเป้าไปยังร้านค้า WooCommerce โดยทำหน้าที่เป็น carding script ที่เปิดเผยเจตนาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา

    ✅ กระบวนการโจมตี:
    - มัลแวร์ใน bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev ทำการเขียนคำสั่ง malicious ลงในระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ
    - ส่วน disgrasya ใช้เพื่อทดสอบข้อมูลบัตรเครดิต และอาจสร้างผลกำไรให้แก่ผู้โจมตีจากการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด

    ✅ ปัญหาของระบบโอเพนซอร์ส:
    - PyPI ซึ่งเป็นชุมชนโอเพนซอร์สยอดนิยม ถูกโจมตีโดยผู้ประสงค์ร้ายที่ฉวยโอกาสจากการเปิดกว้างของแพลตฟอร์ม

    ✅ การรับมือจากชุมชน:
    - แพ็กเกจเหล่านี้ถูกนำออกจาก PyPI หลังจากมีการรายงานอย่างรวดเร็ว

    ✅ ความท้าทายในการป้องกัน:
    - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานและนักพัฒนาควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจ และควรตรวจสอบผู้เผยแพร่แพ็กเกจอย่างละเอียด

    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-python-packages-are-stealing-vital-data-and-have-been-downloaded-thousands-of-times-already
    แพ็กเกจ Python บน PyPI (Python Package Index) ถูกพบว่ามีมัลแวร์แฝงอยู่ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ReversingLabs และ Socket เผยถึงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายหมื่นราย แพ็กเกจดังกล่าวถูกดาวน์โหลดรวมกว่า 40,000 ครั้ง ทำให้เกิดข้อกังวลในชุมชนโอเพนซอร์ส ✅ แพ็กเกจที่แฝงมัลแวร์: - bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev: ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกนักพัฒนาด้านคริปโต โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของโมดูล bitcoinlib ที่ถูกต้อง - disgrasya: มุ่งเป้าไปยังร้านค้า WooCommerce โดยทำหน้าที่เป็น carding script ที่เปิดเผยเจตนาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา ✅ กระบวนการโจมตี: - มัลแวร์ใน bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev ทำการเขียนคำสั่ง malicious ลงในระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ - ส่วน disgrasya ใช้เพื่อทดสอบข้อมูลบัตรเครดิต และอาจสร้างผลกำไรให้แก่ผู้โจมตีจากการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด ✅ ปัญหาของระบบโอเพนซอร์ส: - PyPI ซึ่งเป็นชุมชนโอเพนซอร์สยอดนิยม ถูกโจมตีโดยผู้ประสงค์ร้ายที่ฉวยโอกาสจากการเปิดกว้างของแพลตฟอร์ม ✅ การรับมือจากชุมชน: - แพ็กเกจเหล่านี้ถูกนำออกจาก PyPI หลังจากมีการรายงานอย่างรวดเร็ว ✅ ความท้าทายในการป้องกัน: - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานและนักพัฒนาควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจ และควรตรวจสอบผู้เผยแพร่แพ็กเกจอย่างละเอียด https://www.techradar.com/pro/security/malicious-python-packages-are-stealing-vital-data-and-have-been-downloaded-thousands-of-times-already
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • Luxor Technology เร่งส่งเครื่องขุด Bitcoin 5,600 เครื่องไปสหรัฐฯ ก่อนภาษี 10% มีผล ขณะเดียวกัน ไทยจะขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 36% ส่งผลให้บริษัทต้องมองหาทางลดต้นทุน เช่น ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ ผู้ผลิตอุปกรณ์ขุด Bitcoin เช่น Bitmain และ MicroBT เริ่มตั้งโรงงานในอเมริกาแล้ว แต่ภาษีใหม่ไม่ได้กระทบแค่ Bitcoin ยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และเคสพีซี ที่อาจต้องขึ้นราคา

    ✅ นอกจากภาษี 10% ของสหรัฐฯ ประเทศไทยจะขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 36% ในวันที่ 9 เมษายน
    - บริษัทที่ส่งออกอุปกรณ์ขุด Bitcoin จากไทยอาจต้องเผชิญกับภาระภาษีหนักขึ้น
    - ทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางลดต้นทุน เช่น ย้ายฐานผลิตไปยังประเทศอื่น

    ✅ นักขุด Bitcoin หลายรายเคยอยู่ในจีน แต่ย้ายไปไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
    - ตั้งแต่ปี 2018 สหรัฐฯ ได้ใช้ภาษีและมาตรการคว่ำบาตรต่อจีน ทำให้บริษัทต้องย้ายฐานผลิต
    - ขณะนี้นโยบายภาษีของทำเนียบขาวกำลังบังคับให้บริษัท ต้องตั้งโรงงานภายในสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาษี

    ✅ Bitmain และ MicroBT เริ่มตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐฯ
    - Bitmain Technologies Ltd. ผู้ผลิตอุปกรณ์ขุด Bitcoin รายใหญ่ ประกาศเปิดสายการผลิตในอเมริกา
    - MicroBT บรรลุข้อตกลงใช้โรงงานของ Riot Blockchain ในการประกอบเครื่องจักร

    ✅ ภาษีใหม่กระทบอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และเคสพีซี
    - ภาษีไม่ได้ใช้กับแค่เครื่องขุด Bitcoin แต่ยังรวมถึงวัตถุดิบเช่นอลูมิเนียม
    - ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และการ์ดจออาจต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/bitcoin-miners-front-running-tariffs-by-scrambling-to-ship-thousands-of-machines-before-penalties-hit
    Luxor Technology เร่งส่งเครื่องขุด Bitcoin 5,600 เครื่องไปสหรัฐฯ ก่อนภาษี 10% มีผล ขณะเดียวกัน ไทยจะขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 36% ส่งผลให้บริษัทต้องมองหาทางลดต้นทุน เช่น ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ ผู้ผลิตอุปกรณ์ขุด Bitcoin เช่น Bitmain และ MicroBT เริ่มตั้งโรงงานในอเมริกาแล้ว แต่ภาษีใหม่ไม่ได้กระทบแค่ Bitcoin ยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และเคสพีซี ที่อาจต้องขึ้นราคา ✅ นอกจากภาษี 10% ของสหรัฐฯ ประเทศไทยจะขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 36% ในวันที่ 9 เมษายน - บริษัทที่ส่งออกอุปกรณ์ขุด Bitcoin จากไทยอาจต้องเผชิญกับภาระภาษีหนักขึ้น - ทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางลดต้นทุน เช่น ย้ายฐานผลิตไปยังประเทศอื่น ✅ นักขุด Bitcoin หลายรายเคยอยู่ในจีน แต่ย้ายไปไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย - ตั้งแต่ปี 2018 สหรัฐฯ ได้ใช้ภาษีและมาตรการคว่ำบาตรต่อจีน ทำให้บริษัทต้องย้ายฐานผลิต - ขณะนี้นโยบายภาษีของทำเนียบขาวกำลังบังคับให้บริษัท ต้องตั้งโรงงานภายในสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาษี ✅ Bitmain และ MicroBT เริ่มตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐฯ - Bitmain Technologies Ltd. ผู้ผลิตอุปกรณ์ขุด Bitcoin รายใหญ่ ประกาศเปิดสายการผลิตในอเมริกา - MicroBT บรรลุข้อตกลงใช้โรงงานของ Riot Blockchain ในการประกอบเครื่องจักร ✅ ภาษีใหม่กระทบอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และเคสพีซี - ภาษีไม่ได้ใช้กับแค่เครื่องขุด Bitcoin แต่ยังรวมถึงวัตถุดิบเช่นอลูมิเนียม - ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และการ์ดจออาจต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/bitcoin-miners-front-running-tariffs-by-scrambling-to-ship-thousands-of-machines-before-penalties-hit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีแฮกเกอร์ที่ใช้ช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์ PostgreSQL ในการขุด Monero มากกว่า 1,500 เซิร์ฟเวอร์ พวกเขาใช้ XMRig-C3 ซึ่งเป็น Cryptominer ที่ยากต่อการตรวจสอบ ขณะที่ 90% ของระบบคลาวด์ใช้ PostgreSQL แบบ Self-hosted และหนึ่งในสามของเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงรหัสผ่านที่อ่อนแอเพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ XMRig-C3—Cryptominer ที่ขุด Monero และหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
    - Monero เป็นคริปโตที่ ยากต่อการติดตามมากกว่า Bitcoin ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มอาชญากรไซเบอร์
    - การใช้ XMRig-C3 ทำให้เซิร์ฟเวอร์ ทำงานหนักขึ้น และมีค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น

    ✅ กลุ่ม JINX-0126 พัฒนาเทคนิคใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - แฮกเกอร์ใช้ การติดตั้ง Cryptominer แบบไม่มีไฟล์ (Fileless Deployment) เพื่อให้การตรวจสอบหาซอฟต์แวร์แปลกปลอมทำได้ยากขึ้น
    - พวกเขายังตั้งค่าให้แต่ละเซิร์ฟเวอร์ มี Worker ID แยกต่างหาก เพื่อให้วิเคราะห์จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ติดมัลแวร์ได้ยากขึ้น

    ✅ เซิร์ฟเวอร์ PostgreSQL มีช่องโหว่มากกว่าที่คาด
    - Wiz พบว่า เกือบ 90% ของระบบคลาวด์มีการตั้งค่า PostgreSQL ในรูปแบบ Self-hosted
    - หนึ่งในสามของเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เปิดให้เข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ต

    ✅ สิ่งที่องค์กรควรทำเพื่อป้องกันการโจมตี
    - ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของ PostgreSQL และหลีกเลี่ยงการใช้ รหัสผ่านที่เดาง่าย
    - ใช้ Firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคาม เพื่อลดความเสี่ยง

    https://www.techradar.com/pro/security/thousands-of-postgresql-servers-are-being-hijacked-to-mine-crypto
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีแฮกเกอร์ที่ใช้ช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์ PostgreSQL ในการขุด Monero มากกว่า 1,500 เซิร์ฟเวอร์ พวกเขาใช้ XMRig-C3 ซึ่งเป็น Cryptominer ที่ยากต่อการตรวจสอบ ขณะที่ 90% ของระบบคลาวด์ใช้ PostgreSQL แบบ Self-hosted และหนึ่งในสามของเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงรหัสผ่านที่อ่อนแอเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ XMRig-C3—Cryptominer ที่ขุด Monero และหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ - Monero เป็นคริปโตที่ ยากต่อการติดตามมากกว่า Bitcoin ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ - การใช้ XMRig-C3 ทำให้เซิร์ฟเวอร์ ทำงานหนักขึ้น และมีค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น ✅ กลุ่ม JINX-0126 พัฒนาเทคนิคใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - แฮกเกอร์ใช้ การติดตั้ง Cryptominer แบบไม่มีไฟล์ (Fileless Deployment) เพื่อให้การตรวจสอบหาซอฟต์แวร์แปลกปลอมทำได้ยากขึ้น - พวกเขายังตั้งค่าให้แต่ละเซิร์ฟเวอร์ มี Worker ID แยกต่างหาก เพื่อให้วิเคราะห์จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ติดมัลแวร์ได้ยากขึ้น ✅ เซิร์ฟเวอร์ PostgreSQL มีช่องโหว่มากกว่าที่คาด - Wiz พบว่า เกือบ 90% ของระบบคลาวด์มีการตั้งค่า PostgreSQL ในรูปแบบ Self-hosted - หนึ่งในสามของเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เปิดให้เข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ต ✅ สิ่งที่องค์กรควรทำเพื่อป้องกันการโจมตี - ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของ PostgreSQL และหลีกเลี่ยงการใช้ รหัสผ่านที่เดาง่าย - ใช้ Firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคาม เพื่อลดความเสี่ยง https://www.techradar.com/pro/security/thousands-of-postgresql-servers-are-being-hijacked-to-mine-crypto
    WWW.TECHRADAR.COM
    Thousands of PostgreSQL servers are being hijacked to mine crypto
    Hackers are hunting for misconfigured servers, experts warn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังหารือกับ Tyler และ Cameron Winklevoss เพื่อหาทางยุติคดีเกี่ยวกับ Gemini Earn ซึ่งเป็นโครงการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ SEC อ้างว่า ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลสำหรับนักลงทุน

    SEC ฟ้อง Gemini Trust และ Genesis Global Capital ในเดือนมกราคม 2023 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทให้ลูกค้ากู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin เพื่อรับดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านการกำกับดูแลทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Winklevoss และ SEC ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อระงับการดำเนินคดีชั่วคราว 60 วัน เพื่อเจรจาหาข้อยุติ ซึ่งอาจเป็นการ ยอมความ, ถอนฟ้อง หรือทางออกอื่น

    Gemini Earn ทำงานอย่างไร?
    - ลูกค้าสามารถ ฝากเงินดิจิทัลและให้ Genesis กู้ยืม เพื่อสร้างรายได้จากดอกเบี้ย
    - Gemini จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงสุด 4.29% จากบริการนี้

    Genesis ล้มละลายหลัง FTX พังทลาย
    - Genesis หยุดถอนเงินในเดือนพฤศจิกายน 2022 ช่วงเดียวกับที่ FTX ล้มละลาย
    - มีสินทรัพย์มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ จากลูกค้าประมาณ 340,000 ราย ที่ถูกระงับ

    ผลกระทบต่อกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล
    - SEC ระบุว่า Gemini Earn ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่มีไว้เพื่อ ปกป้องนักลงทุน
    - Genesis ตกลงจ่ายค่าปรับ 21 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดี โดยไม่ยอมรับว่ากระทำผิด

    แนวโน้มการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงหลังทรัมป์เป็นประธานาธิบดี
    - SEC ลดระดับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในปี 2025
    - หน่วยงานนี้เพิ่งถอนฟ้องบริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น Coinbase และ Kraken
    - มีข้อตกลงยุติคดีกับ Ripple Labs ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายโทเคนโดยไม่ได้ลงทะเบียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/02/sec-billionaire-winklevoss-twins-may-resolve-lawsuit-over-gemini-earn
    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังหารือกับ Tyler และ Cameron Winklevoss เพื่อหาทางยุติคดีเกี่ยวกับ Gemini Earn ซึ่งเป็นโครงการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ SEC อ้างว่า ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลสำหรับนักลงทุน SEC ฟ้อง Gemini Trust และ Genesis Global Capital ในเดือนมกราคม 2023 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทให้ลูกค้ากู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin เพื่อรับดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านการกำกับดูแลทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Winklevoss และ SEC ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อระงับการดำเนินคดีชั่วคราว 60 วัน เพื่อเจรจาหาข้อยุติ ซึ่งอาจเป็นการ ยอมความ, ถอนฟ้อง หรือทางออกอื่น Gemini Earn ทำงานอย่างไร? - ลูกค้าสามารถ ฝากเงินดิจิทัลและให้ Genesis กู้ยืม เพื่อสร้างรายได้จากดอกเบี้ย - Gemini จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงสุด 4.29% จากบริการนี้ Genesis ล้มละลายหลัง FTX พังทลาย - Genesis หยุดถอนเงินในเดือนพฤศจิกายน 2022 ช่วงเดียวกับที่ FTX ล้มละลาย - มีสินทรัพย์มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ จากลูกค้าประมาณ 340,000 ราย ที่ถูกระงับ ผลกระทบต่อกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล - SEC ระบุว่า Gemini Earn ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่มีไว้เพื่อ ปกป้องนักลงทุน - Genesis ตกลงจ่ายค่าปรับ 21 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดี โดยไม่ยอมรับว่ากระทำผิด แนวโน้มการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงหลังทรัมป์เป็นประธานาธิบดี - SEC ลดระดับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในปี 2025 - หน่วยงานนี้เพิ่งถอนฟ้องบริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น Coinbase และ Kraken - มีข้อตกลงยุติคดีกับ Ripple Labs ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายโทเคนโดยไม่ได้ลงทะเบียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/02/sec-billionaire-winklevoss-twins-may-resolve-lawsuit-over-gemini-earn
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC, billionaire Winklevoss twins may resolve lawsuit over Gemini Earn
    NEW YORK (Reuters) - An exchange run by billionaire twins Tyler and Cameron Winklevoss may soon resolve a U.S. Securities and Exchange Commission lawsuit claiming they failed to register a cryptocurrency asset lending program before offering it to retail investors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • GameStop ได้นำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรองเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินและช่วยในการฟื้นตัวของธุรกิจ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตั้งคลังสำรอง Bitcoin อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์ในเชิงกลยุทธ์ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทและรัฐบาลเริ่มตระหนักถึงศักยภาพของคริปโตฯ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

    GameStop กับการฟื้นตัวธุรกิจ:
    - การเพิ่ม Bitcoin ในสินทรัพย์สำรองแสดงถึงการปรับตัวของ GameStop ต่อยุคดิจิทัลและสร้างความหลากหลายให้กับการบริหารการเงิน เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นธุรกิจที่ประสบปัญหา

    Bitcoin เชิงกลยุทธ์ของรัฐบาล:
    - การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการยอมรับคริปโตฯ ในฐานะทรัพย์สินที่มีค่าในระดับชาติ และอาจชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่รัฐบาลเริ่มมองเห็นประโยชน์จากการใช้ Bitcoin ในการวางแผนเชิงเศรษฐศาสตร์

    การเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตฯ:
    - บริษัท Strategy ซึ่งเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่อันดับต้น ได้แสดงความมุ่งมั่นในตลาดนี้ผ่านการรีแบรนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัทในโลกคริปโตฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/factbox-cryptocurrency-holdings-of-us-companies
    GameStop ได้นำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรองเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินและช่วยในการฟื้นตัวของธุรกิจ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตั้งคลังสำรอง Bitcoin อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์ในเชิงกลยุทธ์ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทและรัฐบาลเริ่มตระหนักถึงศักยภาพของคริปโตฯ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล GameStop กับการฟื้นตัวธุรกิจ: - การเพิ่ม Bitcoin ในสินทรัพย์สำรองแสดงถึงการปรับตัวของ GameStop ต่อยุคดิจิทัลและสร้างความหลากหลายให้กับการบริหารการเงิน เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นธุรกิจที่ประสบปัญหา Bitcoin เชิงกลยุทธ์ของรัฐบาล: - การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการยอมรับคริปโตฯ ในฐานะทรัพย์สินที่มีค่าในระดับชาติ และอาจชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่รัฐบาลเริ่มมองเห็นประโยชน์จากการใช้ Bitcoin ในการวางแผนเชิงเศรษฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตฯ: - บริษัท Strategy ซึ่งเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่อันดับต้น ได้แสดงความมุ่งมั่นในตลาดนี้ผ่านการรีแบรนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัทในโลกคริปโตฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/factbox-cryptocurrency-holdings-of-us-companies
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Factbox-Cryptocurrency holdings of US companies
    (Reuters) - U.S. videogame retailer GameStop said on Tuesday it would include bitcoin as a treasury reserve asset to diversify its corporate holdings, betting on the world's biggest cryptocurrency to help turnaround its struggling primary business.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ต้องการใช้คริปโตล้างหนี้สหรัฐ พร้อมปฏิวัติระบบการเงินโลก : คนเคาะข่าว 11-03-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #ทรัมป์ #คริปโต #ล้างหนี้สหรัฐ #ปฏิวัติการเงินโลก #Bitcoin #CBDC #ดอลลาร์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #คนเคาะข่าว #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ทนงขันทอง #คริปโตเคอเรนซี #Blockchain #การเงินโลก #ThaiTimes
    ทรัมป์ต้องการใช้คริปโตล้างหนี้สหรัฐ พร้อมปฏิวัติระบบการเงินโลก : คนเคาะข่าว 11-03-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #ทรัมป์ #คริปโต #ล้างหนี้สหรัฐ #ปฏิวัติการเงินโลก #Bitcoin #CBDC #ดอลลาร์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #คนเคาะข่าว #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ทนงขันทอง #คริปโตเคอเรนซี #Blockchain #การเงินโลก #ThaiTimes
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 898 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ทาง Singapore Exchange (SGX) กำลังวางแผนเปิดตัว Bitcoin Perpetual Futures ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สชนิดหนึ่งที่ไม่มีวันหมดอายุในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป้าหมายหลักคือกลุ่มลูกค้าสถาบันและนักลงทุนระดับมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดสกุลเงินดิจิทัลสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ฟิวเจอร์สดังกล่าวจะจำกัดการเข้าถึงสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อควบคุมความเสี่ยงและความผันผวนในตลาด

    การเปิดตัวฟิวเจอร์สตัวใหม่นี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนาของ SGX ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด

    Bitcoin Perpetual Futures คือเครื่องมือการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในกรณีที่ราคาของ Bitcoin ขึ้นหรือลง โดยไม่ต้องกังวลกับวันหมดอายุของสัญญา แต่ต้องอาศัยการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบเนื่องจากความผันผวนสูง หากประสบความสำเร็จ การเปิดตัวฟิวเจอร์สนี้อาจช่วยให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างฐานการเงินของ SGX ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    การจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันแสดงถึงความพยายามของ SGX ในการบริหารความเสี่ยงในตลาดที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เช่น ตลาดคริปโต ความเคลื่อนไหวนี้อาจจุดประกายให้ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเริ่มต้นพิจารณาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดโดยรวม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/10/singapore-exchange-to-roll-out-open-ended-bitcoin-futures-listing-bloomberg-reports
    ทาง Singapore Exchange (SGX) กำลังวางแผนเปิดตัว Bitcoin Perpetual Futures ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สชนิดหนึ่งที่ไม่มีวันหมดอายุในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป้าหมายหลักคือกลุ่มลูกค้าสถาบันและนักลงทุนระดับมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดสกุลเงินดิจิทัลสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ฟิวเจอร์สดังกล่าวจะจำกัดการเข้าถึงสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อควบคุมความเสี่ยงและความผันผวนในตลาด การเปิดตัวฟิวเจอร์สตัวใหม่นี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนาของ SGX ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด Bitcoin Perpetual Futures คือเครื่องมือการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในกรณีที่ราคาของ Bitcoin ขึ้นหรือลง โดยไม่ต้องกังวลกับวันหมดอายุของสัญญา แต่ต้องอาศัยการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบเนื่องจากความผันผวนสูง หากประสบความสำเร็จ การเปิดตัวฟิวเจอร์สนี้อาจช่วยให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างฐานการเงินของ SGX ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันแสดงถึงความพยายามของ SGX ในการบริหารความเสี่ยงในตลาดที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เช่น ตลาดคริปโต ความเคลื่อนไหวนี้อาจจุดประกายให้ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเริ่มต้นพิจารณาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดโดยรวม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/10/singapore-exchange-to-roll-out-open-ended-bitcoin-futures-listing-bloomberg-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore Exchange to roll out open-ended bitcoin futures listing, Bloomberg reports
    (Reuters) - The Singapore Exchange plans to list bitcoin perpetual futures in the second half of 2025, targeting institutional clients and professional investors, Bloomberg News reported on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ โดยระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในชื่อ Moonstone Sleet ได้เริ่มใช้ Qilin ransomware เพื่อโจมตีเป้าหมายในองค์กรต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงการขยายตัวของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจาก Qilin เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับการให้บริการแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถเช่าเครื่องมือโจมตีนี้ไปใช้งานได้

    == การเคลื่อนไหวของ Moonstone Sleet ==
    ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Moonstone Sleet ซึ่งเคยถูกเรียกว่า Storm-1789 มีพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออื่น ๆ แต่ได้พัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างการโจมตีของตัวเองในภายหลัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น:
    - การปล่อยซอฟต์แวร์ที่แฝงมัลแวร์ เช่น PuTTY และแพ็กเกจ npm ที่ถูกแอบแฝง
    - การสร้างบริษัทปลอม เช่น C.C. Waterfall และ StarGlow Ventures เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานใน LinkedIn หรือผ่านอีเมล

    == Qilin Ransomware และผลกระทบ ==
    Qilin ransomware เปิดตัวในชื่อ "Agenda" ตั้งแต่ปี 2022 และเริ่มมีบทบาทสำคัญในปลายปี 2023 กลุ่มนี้มุ่งเป้าหมายที่ระบบเสมือน VMware ESXi และเรียกค่าไถ่ที่อาจสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ เหยื่อที่สำคัญในอดีต ได้แก่:
    - angfeng, ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์
    - Lee Enterprises, บริษัทสื่อสหรัฐฯ
    - Synnovis, ซึ่งการโจมตีนี้ส่งผลให้โรงพยาบาลในลอนดอนต้องยกเลิกการผ่าตัดหลายร้อยครั้ง

    ในเดือนพฤษภาคม 2024 Moonstone Sleet ยังถูกจับโยงกับการโจมตีโดยใช้ FakePenny ransomware พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวน 6.6 ล้านดอลลาร์

    Moonstone Sleet ไม่ใช่กลุ่มแรกจากเกาหลีเหนือที่มีบทบาทในเหตุการณ์ ransomware ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Lazarus Group เคยสร้างความเสียหายทั่วโลกด้วย WannaCry ransomware ในปี 2017 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องของเกาหลีเหนือในการใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในยุทธศาสตร์ของรัฐ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/microsoft-north-korean-hackers-now-deploying-qilin-ransomware/
    Microsoft ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ โดยระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในชื่อ Moonstone Sleet ได้เริ่มใช้ Qilin ransomware เพื่อโจมตีเป้าหมายในองค์กรต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงการขยายตัวของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจาก Qilin เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับการให้บริการแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถเช่าเครื่องมือโจมตีนี้ไปใช้งานได้ == การเคลื่อนไหวของ Moonstone Sleet == ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Moonstone Sleet ซึ่งเคยถูกเรียกว่า Storm-1789 มีพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออื่น ๆ แต่ได้พัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างการโจมตีของตัวเองในภายหลัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น: - การปล่อยซอฟต์แวร์ที่แฝงมัลแวร์ เช่น PuTTY และแพ็กเกจ npm ที่ถูกแอบแฝง - การสร้างบริษัทปลอม เช่น C.C. Waterfall และ StarGlow Ventures เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานใน LinkedIn หรือผ่านอีเมล == Qilin Ransomware และผลกระทบ == Qilin ransomware เปิดตัวในชื่อ "Agenda" ตั้งแต่ปี 2022 และเริ่มมีบทบาทสำคัญในปลายปี 2023 กลุ่มนี้มุ่งเป้าหมายที่ระบบเสมือน VMware ESXi และเรียกค่าไถ่ที่อาจสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ เหยื่อที่สำคัญในอดีต ได้แก่: - angfeng, ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ - Lee Enterprises, บริษัทสื่อสหรัฐฯ - Synnovis, ซึ่งการโจมตีนี้ส่งผลให้โรงพยาบาลในลอนดอนต้องยกเลิกการผ่าตัดหลายร้อยครั้ง ในเดือนพฤษภาคม 2024 Moonstone Sleet ยังถูกจับโยงกับการโจมตีโดยใช้ FakePenny ransomware พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวน 6.6 ล้านดอลลาร์ Moonstone Sleet ไม่ใช่กลุ่มแรกจากเกาหลีเหนือที่มีบทบาทในเหตุการณ์ ransomware ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Lazarus Group เคยสร้างความเสียหายทั่วโลกด้วย WannaCry ransomware ในปี 2017 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องของเกาหลีเหนือในการใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในยุทธศาสตร์ของรัฐ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/microsoft-north-korean-hackers-now-deploying-qilin-ransomware/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Microsoft: North Korean hackers join Qilin ransomware gang
    Microsoft says a North Korean hacking group tracked as Moonstone Sleet has deployed Qilin ransomware payloads in a limited number of attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติม ทำให้ยอดรวมบิทคอยน์ในกองทุนสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 6,102 เหรียญ สำนักงานบิทคอยน์แห่งชาติได้โพสต์ข้อมูลนี้บนสื่อสังคมออนไลน์

    การประกาศซื้อบิทคอยน์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากคณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อนุมัติโครงการ 40 เดือนกับเอลซัลวาดอร์มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การยอมรับของสาธารณะเกี่ยวกับการใช้บิทคอยน์เป็นเงินตรายังคงเป็นเรื่องสมัครใจ และไม่สามารถใช้ชำระภาษีได้ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเมื่อบิทคอยน์ได้รับสถานะเป็นเงินตราที่ถูกต้องตามกฎหมายในปี 2021

    รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้รับรองกับ IMF ว่าการเพิ่มจำนวนบิทคอยน์ในกองทุนสำรองนั้นสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ และจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในระดับของภาครัฐอย่างเป็นทางการ ตามที่โฆษกของ IMF กล่าวไว้

    การประกาศซื้อบิทคอยน์ทำให้พันธบัตรดอลลาร์ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ลดลงในตลาดในวันพุธ โดยพันธบัตรที่ครบกำหนดในปี 2050 และ 2041 ลดลง 0.75 เซ็นต์ต่อดอลลาร์

    รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีก 12 เหรียญตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเมื่อ IMF อนุมัติข้อตกลงปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลถือบิทคอยน์มูลค่าประมาณ 550 ล้านดอลลาร์

    การซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติมนี้อาจเป็นการพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทุนสำรองของเอลซัลวาดอร์ แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบิทคอยน์ยังคงมีความผันผวนในตลาด การรับรองจาก IMF ว่ารัฐบาลจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในภาครัฐอาจเป็นการพยายามสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินในประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/06/el-salvador-announces-more-bitcoin-purchases-gives-imf-assurances
    รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติม ทำให้ยอดรวมบิทคอยน์ในกองทุนสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 6,102 เหรียญ สำนักงานบิทคอยน์แห่งชาติได้โพสต์ข้อมูลนี้บนสื่อสังคมออนไลน์ การประกาศซื้อบิทคอยน์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากคณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อนุมัติโครงการ 40 เดือนกับเอลซัลวาดอร์มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การยอมรับของสาธารณะเกี่ยวกับการใช้บิทคอยน์เป็นเงินตรายังคงเป็นเรื่องสมัครใจ และไม่สามารถใช้ชำระภาษีได้ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเมื่อบิทคอยน์ได้รับสถานะเป็นเงินตราที่ถูกต้องตามกฎหมายในปี 2021 รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้รับรองกับ IMF ว่าการเพิ่มจำนวนบิทคอยน์ในกองทุนสำรองนั้นสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ และจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในระดับของภาครัฐอย่างเป็นทางการ ตามที่โฆษกของ IMF กล่าวไว้ การประกาศซื้อบิทคอยน์ทำให้พันธบัตรดอลลาร์ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ลดลงในตลาดในวันพุธ โดยพันธบัตรที่ครบกำหนดในปี 2050 และ 2041 ลดลง 0.75 เซ็นต์ต่อดอลลาร์ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีก 12 เหรียญตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเมื่อ IMF อนุมัติข้อตกลงปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลถือบิทคอยน์มูลค่าประมาณ 550 ล้านดอลลาร์ การซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติมนี้อาจเป็นการพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทุนสำรองของเอลซัลวาดอร์ แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบิทคอยน์ยังคงมีความผันผวนในตลาด การรับรองจาก IMF ว่ารัฐบาลจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในภาครัฐอาจเป็นการพยายามสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินในประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/06/el-salvador-announces-more-bitcoin-purchases-gives-imf-assurances
    WWW.THESTAR.COM.MY
    El Salvador announces more bitcoin purchases, gives IMF assurances
    SAN SALVADOR (Reuters) - El Salvador announced on Wednesday the purchase of a bitcoin, which takes the total in the country's strategic reserve to above 6,102 coins, the National Bitcoin Office posted on social media.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • Donald Trump ได้ประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลขึ้นเป็นครั้งแรก โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการเลือกคือ Bitcoin, Ether, XRP, Solana และ Cardano การประกาศนี้ส่งผลให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

    Trump ได้โพสต์ใน Truth Social ว่าการสั่งการนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งบริหารในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมุ่งหมายจะสร้างคลังสำรองสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเทคโนโลยีในสหรัฐฯ

    Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด เพิ่มขึ้นกว่า 11% โดยมีมูลค่าถึง $94,164 Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเป็นอันดับสองเพิ่มขึ้นประมาณ 13% เป็น $2,516 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือมากกว่า $300 พันล้านในช่วงเวลาที่ Trump ประกาศเรื่องนี้

    การสร้างกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเริ่มมีบทบาทอย่างจริงจังในเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อการยอมรับของสถาบันและความชัดเจนในกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

    ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ Trump จะเป็นเจ้าภาพการประชุม Crypto Summit ที่ทำเนียบขาวครั้งแรก โดยมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในวงการสกุลเงินดิจิทัล

    นอกจากนี้ Trump ยังได้ยกเลิกการตรวจสอบและดำเนินคดีหลายอย่างที่เกี่ยวกับบริษัทสกุลเงินดิจิทัลที่เคยเกิดขึ้นในยุคของประธานาธิบดี Joe Biden การดำเนินการนี้ส่งผลให้การยอมรับและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/03/trump-names-cryptocurrencies-to-be-in-strategic-reserve-prices-spike
    Donald Trump ได้ประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลขึ้นเป็นครั้งแรก โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการเลือกคือ Bitcoin, Ether, XRP, Solana และ Cardano การประกาศนี้ส่งผลให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว Trump ได้โพสต์ใน Truth Social ว่าการสั่งการนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งบริหารในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมุ่งหมายจะสร้างคลังสำรองสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเทคโนโลยีในสหรัฐฯ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด เพิ่มขึ้นกว่า 11% โดยมีมูลค่าถึง $94,164 Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเป็นอันดับสองเพิ่มขึ้นประมาณ 13% เป็น $2,516 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือมากกว่า $300 พันล้านในช่วงเวลาที่ Trump ประกาศเรื่องนี้ การสร้างกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเริ่มมีบทบาทอย่างจริงจังในเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อการยอมรับของสถาบันและความชัดเจนในกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ Trump จะเป็นเจ้าภาพการประชุม Crypto Summit ที่ทำเนียบขาวครั้งแรก โดยมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในวงการสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ Trump ยังได้ยกเลิกการตรวจสอบและดำเนินคดีหลายอย่างที่เกี่ยวกับบริษัทสกุลเงินดิจิทัลที่เคยเกิดขึ้นในยุคของประธานาธิบดี Joe Biden การดำเนินการนี้ส่งผลให้การยอมรับและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/03/trump-names-cryptocurrencies-to-be-in-strategic-reserve-prices-spike
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump names cryptocurrencies in strategic reserve, sending prices up
    WEST PALM BEACH, Florida (Reuters) -U.S. President Donald Trump on social media announced the names of five digital assets he expects to include in a new U.S. strategic reserve of cryptocurrencies on Sunday, spiking the market value of each.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน

    ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ

    ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา

    แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว

    ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย

    #Newskit
    เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 716 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์

    ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น

    ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้

    ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้ ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    BlackRock prepares to launch bitcoin exchange-traded product in Europe, source says
    LONDON (Reuters) - BlackRock is gearing up to launch a bitcoin exchange-traded product in Europe within weeks, a source familiar with the matter told Reuters, amid growing demand for exposure to cryptocurrencies from both money managers and consumers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่อาจเป็นผลมาจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงเหลือประมาณ 93,000 ดอลลาร์
    นี่อาจเป็นผลมาจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงเหลือประมาณ 93,000 ดอลลาร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น

    Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้

    กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

    นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grayscale launches dogecoin-focused fund as altcoin adoption picks up pace
    (Reuters) - Grayscale Investments said on Friday it was launching an investment fund aimed at dogecoin, as the cryptocurrency asset manager looks to tap into the increasing momentum around alternatives to bitcoin.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Bitfarms ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์จากแคนาดา ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโรงงานให้เป็นศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI โดยบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาสองรายคือ Appleby Strategy Group และ World Wide Technology เพื่อวิเคราะห์สถานที่ในอเมริกาเหนือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณและ AI ของบริษัท

    การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากบริษัทขุดบิตคอยน์มักมีที่ดินขนาดใหญ่และทรัพยากรพลังงานที่สำคัญ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPC) และ AI อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI มีความซับซ้อนมากกว่า

    Bitfarms หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากลูกค้า HPC/AI ในขณะที่ยังคงดำเนินการขุดบิตคอยน์ต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/canadian-bitcoin-miner-bitfarms-mulls-pivot-to-ai-data-centers
    บริษัท Bitfarms ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์จากแคนาดา ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโรงงานให้เป็นศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI โดยบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาสองรายคือ Appleby Strategy Group และ World Wide Technology เพื่อวิเคราะห์สถานที่ในอเมริกาเหนือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณและ AI ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากบริษัทขุดบิตคอยน์มักมีที่ดินขนาดใหญ่และทรัพยากรพลังงานที่สำคัญ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPC) และ AI อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI มีความซับซ้อนมากกว่า Bitfarms หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากลูกค้า HPC/AI ในขณะที่ยังคงดำเนินการขุดบิตคอยน์ต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/canadian-bitcoin-miner-bitfarms-mulls-pivot-to-ai-data-centers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canadian bitcoin miner Bitfarms mulls pivot to AI data centers
    (Reuters) - Toronto-based bitcoin miner Bitfarms has enlisted two consultants to explore how it can transform some of its facilities to meet the growing demand for artificial intelligence data centers, it said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • Exit The Matrix อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม?

    https://youtu.be/_c8XPJ45EgQ?si=e-qorl27PtU_ixwe
    #BTC #Bitcoin #บิตคอนย์
    Exit The Matrix อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://youtu.be/_c8XPJ45EgQ?si=e-qorl27PtU_ixwe #BTC #Bitcoin #บิตคอนย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • Donald Trump กำลังเข้าสู่โลกของคริปโตเคอเรนซีอย่างจริงจัง! ล่าสุดเขาได้เริ่มทำการสเตค (Staking) Ethereum (ETH) ผ่านแพลตฟอร์ม DeFi ที่ชื่อว่า World Liberty Financial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการทางการเงินคริปโตแก่ผู้ใช้ทั่วไป

    ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา World Liberty Financial ได้ซื้อ Ethereum จำนวน 50,000 เหรียญ มูลค่าประมาณ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังซื้อ Bitcoin มูลค่า 4.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังพิจารณาการซื้อเหรียญ TRON (TRX) เพื่อเพิ่มในคลังของพวกเขา

    การสเตค Ethereum นี้หมายความว่า Trump จะได้รับประโยชน์จากการยืนยันธุรกรรมบนโปรโตคอล Ethereum โดยตรง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเป็นประวัติศาสตร์ในวงการคริปโตเคอเรนซี

    นอกจากนี้ เหรียญมีม $TRUMP ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ยังคงมีมูลค่าตลาดที่สูงถึง 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีการลดลงของมูลค่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

    https://wccftech.com/trump-is-now-staking-ethereum-eth/
    Donald Trump กำลังเข้าสู่โลกของคริปโตเคอเรนซีอย่างจริงจัง! ล่าสุดเขาได้เริ่มทำการสเตค (Staking) Ethereum (ETH) ผ่านแพลตฟอร์ม DeFi ที่ชื่อว่า World Liberty Financial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการทางการเงินคริปโตแก่ผู้ใช้ทั่วไป ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา World Liberty Financial ได้ซื้อ Ethereum จำนวน 50,000 เหรียญ มูลค่าประมาณ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังซื้อ Bitcoin มูลค่า 4.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังพิจารณาการซื้อเหรียญ TRON (TRX) เพื่อเพิ่มในคลังของพวกเขา การสเตค Ethereum นี้หมายความว่า Trump จะได้รับประโยชน์จากการยืนยันธุรกรรมบนโปรโตคอล Ethereum โดยตรง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเป็นประวัติศาสตร์ในวงการคริปโตเคอเรนซี นอกจากนี้ เหรียญมีม $TRUMP ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ยังคงมีมูลค่าตลาดที่สูงถึง 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีการลดลงของมูลค่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา https://wccftech.com/trump-is-now-staking-ethereum-eth/
    WCCFTECH.COM
    Trump Is Now Staking Ethereum (ETH)
    Trump will now benefit from the authentication of transactions on the Ethereum protocol as World Liberty Financial starts staking ETH coins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง

    การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple

    ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์

    การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้

    https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์ การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้ https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    WCCFTECH.COM
    Trump Immortalized Within Bitcoin Blockchain
    As a token of appreciation, a major Bitcoin miner has encoded Trump's portrait within the cryptocurrency's blockchain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 รัสเซียกล่าวว่า กำลังใช้ Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russia says it's using Bitcoin to evade sanctions.
    .
    12:28 AM · Dec 27, 2024 · 153.5K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1872333608503201918
    🇷🇺 รัสเซียกล่าวว่า กำลังใช้ Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร . JUST IN: 🇷🇺 Russia says it's using Bitcoin to evade sanctions. . 12:28 AM · Dec 27, 2024 · 153.5K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1872333608503201918
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 รัสเซียใช้ Bitcoin ในการค้าต่างประเทศ, รัฐมนตรีคลัง กล่าว
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russia uses Bitcoin in foreign trade, finance minister says.
    .
    7:12 PM · Dec 25, 2024 · 266.1K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1871891827982516490
    🇷🇺 รัสเซียใช้ Bitcoin ในการค้าต่างประเทศ, รัฐมนตรีคลัง กล่าว . JUST IN: 🇷🇺 Russia uses Bitcoin in foreign trade, finance minister says. . 7:12 PM · Dec 25, 2024 · 266.1K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1871891827982516490
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 แอนตัน ทคาเชฟ รองผู้แทนสภาดูมาแห่งรัฐรัสเซีย เสนอให้จัดตั้งกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ #Bitcoin ในรัสเซีย
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russian State Duma Deputy Anton Tkachev proposes the creation of a #Bitcoin strategic reserve in Russia.
    .
    6:48 AM · Dec 10, 2024 · 174.8K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1866268607312716046
    🇷🇺 แอนตัน ทคาเชฟ รองผู้แทนสภาดูมาแห่งรัฐรัสเซีย เสนอให้จัดตั้งกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ #Bitcoin ในรัสเซีย . JUST IN: 🇷🇺 Russian State Duma Deputy Anton Tkachev proposes the creation of a #Bitcoin strategic reserve in Russia. . 6:48 AM · Dec 10, 2024 · 174.8K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1866268607312716046
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต Glassnode ได้ออกคำเตือนว่า Bitcoin (BTC) อาจกำลังเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่หลังจากที่ราคาทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก

    Jan Happel และ Yann Allemann ซึ่งใช้ชื่อในโซเชียลมีเดียว่า Negentropic ได้แจ้งเตือนผู้ติดตามกว่า 63,200 คนของเขาบนแพลตฟอร์ม X ว่าดัชนีพื้นฐานของ Bitcoin (BFI) กำลังส่งสัญญาณเตือนตลาดที่อ่อนแอลง

    ดัชนี BFI ประเมินหลายแง่มุมของตลาดบิทคอยน์ รวมถึงกิจกรรมของกระเป๋าเงินและปริมาณการทำธุรกรรมเมื่อดัชนีนี้ลดลงความเสี่ยงของการปรับฐานตลาดจะเพิ่มขึ้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000117492

    #MGROnline #คริปโต #Glassnode #Bitcoin
    ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต Glassnode ได้ออกคำเตือนว่า Bitcoin (BTC) อาจกำลังเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่หลังจากที่ราคาทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก • Jan Happel และ Yann Allemann ซึ่งใช้ชื่อในโซเชียลมีเดียว่า Negentropic ได้แจ้งเตือนผู้ติดตามกว่า 63,200 คนของเขาบนแพลตฟอร์ม X ว่าดัชนีพื้นฐานของ Bitcoin (BFI) กำลังส่งสัญญาณเตือนตลาดที่อ่อนแอลง • ดัชนี BFI ประเมินหลายแง่มุมของตลาดบิทคอยน์ รวมถึงกิจกรรมของกระเป๋าเงินและปริมาณการทำธุรกรรมเมื่อดัชนีนี้ลดลงความเสี่ยงของการปรับฐานตลาดจะเพิ่มขึ้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000117492 • #MGROnline #คริปโต #Glassnode #Bitcoin
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts