12 ปีแห่ง “HODL” — จากโพสต์เมาๆ สู่กลยุทธ์ลงทุนที่ทำกำไร 16,666%
ย้อนกลับไปวันที่ 18 ธันวาคม 2013 ผู้ใช้ชื่อ GameKyuubi บนฟอรั่ม Bitcointalk ได้โพสต์ข้อความที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเมา พร้อมพิมพ์ผิดคำว่า “HOLD” กลายเป็น “HODL” โดยบอกว่าตัวเองเป็น “นักเทรดที่ห่วย” และจะไม่ขายแม้ราคา Bitcoin จะร่วงหนัก ข้อความนั้นกลายเป็นมีมระดับตำนาน และเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม “ถือยาวไม่ขาย” ที่ครองใจนักลงทุนคริปโตทั่วโลก.
ในเวลานั้น Bitcoin มีราคาเพียง $523 ต่อ 1 BTC ซึ่งถือว่าตกลงมามากจากจุดสูงสุด $1,132 ในเดือนก่อนหน้า แต่ถ้าใคร “HODL” จริงตามโพสต์นั้นและถือยาวมาถึงวันนี้ มูลค่าจะพุ่งขึ้นเป็นกว่า $87,623 ต่อ BTC หรือคิดเป็นกำไร 16,666% ตามข้อมูลในข่าว นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพลังการถือยาวในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง Bitcoin.
แม้คำว่า HODL จะเกิดจากความเมา แต่วงการคริปโตได้ตีความใหม่ให้เป็น “Hold On for Dear Life” หรือ “จับไว้ให้แน่น” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดสั้นๆ ที่ต้องใช้ทักษะสูงและเสี่ยงต่อการขาดทุน การถือยาวจึงกลายเป็นทั้งวัฒนธรรมและกลยุทธ์ที่นักลงทุนจำนวนมากยึดถือ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนหนัก.
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวอย่างนี้จะดูสวยงาม แต่นักลงทุนแบบดั้งเดิมเตือนว่ากลยุทธ์ HODL อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะการไม่ตัดขาดทุนเลยอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การจัดการความเสี่ยงและการวางแผนจึงยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะอยู่ในโลกคริปโตที่เต็มไปด้วยความเชื่อและวัฒนธรรมเฉพาะตัวก็ตาม.
สรุปประเด็นสำคัญ
ต้นกำเนิด HODL มาจากโพสต์เมาๆ ของ GameKyuubi ปี 2013
พิมพ์ผิดจาก “HOLD” เป็น “HODL” แต่กลายเป็นมีมระดับโลก
เกิดขึ้นช่วงราคา BTC ร่วงหนักจนชุมชนตื่นตระหนก
การถือ 1 BTC จากปี 2013 ถึงวันนี้ให้ผลตอบแทน 16,666%
จาก $523 → มากกว่า $87,000
เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการถือยาวในสินทรัพย์ผันผวน
HODL ถูกตีความใหม่เป็น “Hold On for Dear Life”
กลายเป็นวัฒนธรรมหลักของนักลงทุนคริปโต
เน้นความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดรายวัน
ข่าวชี้ว่ากลยุทธ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในวงการคริปโต
แม้จะเริ่มจากความเมา แต่กลายเป็นหลักคิดที่ทรงพลัง
ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
กลยุทธ์ HODL ไม่เหมาะกับทุกคน
การไม่ตัดขาดทุนอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในตลาดผันผวน
การตีความ “ถือยาว” อาจทำให้มองข้ามความเสี่ยงจริง
นักลงทุนบางรายอาจเข้าใจผิดว่า HODL คือวิธีที่ปลอดภัยเสมอ
ข้อมูลในข่าวชี้ว่าควรระวังการมองอดีตเป็นตัวชี้อนาคต
ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลลัพธ์ในอนาคต
https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/hodlers-began-hodling-bitcoin-12-years-ago-iconic-whisky-fuelled-investment-strategy-would-have-turned-usd523-into-over-usd87-000-a-16-666-percent-gain
ย้อนกลับไปวันที่ 18 ธันวาคม 2013 ผู้ใช้ชื่อ GameKyuubi บนฟอรั่ม Bitcointalk ได้โพสต์ข้อความที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเมา พร้อมพิมพ์ผิดคำว่า “HOLD” กลายเป็น “HODL” โดยบอกว่าตัวเองเป็น “นักเทรดที่ห่วย” และจะไม่ขายแม้ราคา Bitcoin จะร่วงหนัก ข้อความนั้นกลายเป็นมีมระดับตำนาน และเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม “ถือยาวไม่ขาย” ที่ครองใจนักลงทุนคริปโตทั่วโลก.
ในเวลานั้น Bitcoin มีราคาเพียง $523 ต่อ 1 BTC ซึ่งถือว่าตกลงมามากจากจุดสูงสุด $1,132 ในเดือนก่อนหน้า แต่ถ้าใคร “HODL” จริงตามโพสต์นั้นและถือยาวมาถึงวันนี้ มูลค่าจะพุ่งขึ้นเป็นกว่า $87,623 ต่อ BTC หรือคิดเป็นกำไร 16,666% ตามข้อมูลในข่าว นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพลังการถือยาวในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง Bitcoin.
แม้คำว่า HODL จะเกิดจากความเมา แต่วงการคริปโตได้ตีความใหม่ให้เป็น “Hold On for Dear Life” หรือ “จับไว้ให้แน่น” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดสั้นๆ ที่ต้องใช้ทักษะสูงและเสี่ยงต่อการขาดทุน การถือยาวจึงกลายเป็นทั้งวัฒนธรรมและกลยุทธ์ที่นักลงทุนจำนวนมากยึดถือ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนหนัก.
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวอย่างนี้จะดูสวยงาม แต่นักลงทุนแบบดั้งเดิมเตือนว่ากลยุทธ์ HODL อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะการไม่ตัดขาดทุนเลยอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การจัดการความเสี่ยงและการวางแผนจึงยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะอยู่ในโลกคริปโตที่เต็มไปด้วยความเชื่อและวัฒนธรรมเฉพาะตัวก็ตาม.
สรุปประเด็นสำคัญ
ต้นกำเนิด HODL มาจากโพสต์เมาๆ ของ GameKyuubi ปี 2013
พิมพ์ผิดจาก “HOLD” เป็น “HODL” แต่กลายเป็นมีมระดับโลก
เกิดขึ้นช่วงราคา BTC ร่วงหนักจนชุมชนตื่นตระหนก
การถือ 1 BTC จากปี 2013 ถึงวันนี้ให้ผลตอบแทน 16,666%
จาก $523 → มากกว่า $87,000
เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการถือยาวในสินทรัพย์ผันผวน
HODL ถูกตีความใหม่เป็น “Hold On for Dear Life”
กลายเป็นวัฒนธรรมหลักของนักลงทุนคริปโต
เน้นความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดรายวัน
ข่าวชี้ว่ากลยุทธ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในวงการคริปโต
แม้จะเริ่มจากความเมา แต่กลายเป็นหลักคิดที่ทรงพลัง
ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
กลยุทธ์ HODL ไม่เหมาะกับทุกคน
การไม่ตัดขาดทุนอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในตลาดผันผวน
การตีความ “ถือยาว” อาจทำให้มองข้ามความเสี่ยงจริง
นักลงทุนบางรายอาจเข้าใจผิดว่า HODL คือวิธีที่ปลอดภัยเสมอ
ข้อมูลในข่าวชี้ว่าควรระวังการมองอดีตเป็นตัวชี้อนาคต
ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลลัพธ์ในอนาคต
https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/hodlers-began-hodling-bitcoin-12-years-ago-iconic-whisky-fuelled-investment-strategy-would-have-turned-usd523-into-over-usd87-000-a-16-666-percent-gain
🥃🚀 12 ปีแห่ง “HODL” — จากโพสต์เมาๆ สู่กลยุทธ์ลงทุนที่ทำกำไร 16,666%
ย้อนกลับไปวันที่ 18 ธันวาคม 2013 ผู้ใช้ชื่อ GameKyuubi บนฟอรั่ม Bitcointalk ได้โพสต์ข้อความที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเมา พร้อมพิมพ์ผิดคำว่า “HOLD” กลายเป็น “HODL” โดยบอกว่าตัวเองเป็น “นักเทรดที่ห่วย” และจะไม่ขายแม้ราคา Bitcoin จะร่วงหนัก ข้อความนั้นกลายเป็นมีมระดับตำนาน และเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม “ถือยาวไม่ขาย” ที่ครองใจนักลงทุนคริปโตทั่วโลก.
ในเวลานั้น Bitcoin มีราคาเพียง $523 ต่อ 1 BTC ซึ่งถือว่าตกลงมามากจากจุดสูงสุด $1,132 ในเดือนก่อนหน้า แต่ถ้าใคร “HODL” จริงตามโพสต์นั้นและถือยาวมาถึงวันนี้ มูลค่าจะพุ่งขึ้นเป็นกว่า $87,623 ต่อ BTC หรือคิดเป็นกำไร 16,666% ตามข้อมูลในข่าว นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพลังการถือยาวในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง Bitcoin.
แม้คำว่า HODL จะเกิดจากความเมา แต่วงการคริปโตได้ตีความใหม่ให้เป็น “Hold On for Dear Life” หรือ “จับไว้ให้แน่น” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดสั้นๆ ที่ต้องใช้ทักษะสูงและเสี่ยงต่อการขาดทุน การถือยาวจึงกลายเป็นทั้งวัฒนธรรมและกลยุทธ์ที่นักลงทุนจำนวนมากยึดถือ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนหนัก.
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวอย่างนี้จะดูสวยงาม แต่นักลงทุนแบบดั้งเดิมเตือนว่ากลยุทธ์ HODL อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะการไม่ตัดขาดทุนเลยอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การจัดการความเสี่ยงและการวางแผนจึงยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะอยู่ในโลกคริปโตที่เต็มไปด้วยความเชื่อและวัฒนธรรมเฉพาะตัวก็ตาม.
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ต้นกำเนิด HODL มาจากโพสต์เมาๆ ของ GameKyuubi ปี 2013
➡️ พิมพ์ผิดจาก “HOLD” เป็น “HODL” แต่กลายเป็นมีมระดับโลก
➡️ เกิดขึ้นช่วงราคา BTC ร่วงหนักจนชุมชนตื่นตระหนก
✅ การถือ 1 BTC จากปี 2013 ถึงวันนี้ให้ผลตอบแทน 16,666%
➡️ จาก $523 → มากกว่า $87,000
➡️ เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการถือยาวในสินทรัพย์ผันผวน
✅ HODL ถูกตีความใหม่เป็น “Hold On for Dear Life”
➡️ กลายเป็นวัฒนธรรมหลักของนักลงทุนคริปโต
➡️ เน้นความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดรายวัน
✅ ข่าวชี้ว่ากลยุทธ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในวงการคริปโต
➡️ แม้จะเริ่มจากความเมา แต่กลายเป็นหลักคิดที่ทรงพลัง
⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
‼️ กลยุทธ์ HODL ไม่เหมาะกับทุกคน
⛔ การไม่ตัดขาดทุนอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในตลาดผันผวน
‼️ การตีความ “ถือยาว” อาจทำให้มองข้ามความเสี่ยงจริง
⛔ นักลงทุนบางรายอาจเข้าใจผิดว่า HODL คือวิธีที่ปลอดภัยเสมอ
‼️ ข้อมูลในข่าวชี้ว่าควรระวังการมองอดีตเป็นตัวชี้อนาคต
⛔ ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลลัพธ์ในอนาคต
https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/hodlers-began-hodling-bitcoin-12-years-ago-iconic-whisky-fuelled-investment-strategy-would-have-turned-usd523-into-over-usd87-000-a-16-666-percent-gain
0 Comments
0 Shares
17 Views
0 Reviews