• เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน

    ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ

    ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา

    แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว

    ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย

    #Newskit
    เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล $LIBRA ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ามันได้หายไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งใน “Rug pull” ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    จากการรายงานของสื่อ ระบุว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Javier Milei โพสต์ข้อความสนับสนุนเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า *Viva la Libertad Project – LIBRA* โดยพยายามเชิญชวนว่ามันเป็นโปรเจคส่วนตัวที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ผ่านการให้ทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในประเทศ ทำให้มูลค่าได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที แต่กลับทรุดตัวแรงถึง 89% หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงที่มีการเทขายเหรียญออกมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามตลาดเพียง $167 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดที่พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์

    ต่อมา Milei ลบโพสต์เดิมบนแพลตฟอร์ม X ที่โปรโมตเหรียญ meme นี้ โดย Milei ยืนยันว่าเขาได้โพสต์การเปิดตัวครั้งนี้จริงๆ แต่ย้ำว่าไม่ใช่เหรียญ meme ส่วนตัวของเขา และเขาได้แจ้งในโพสต์ใหม่ว่า "ผมไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อนโพสต์" และเขาไม่ต้องการสนับสนุนโปรเจกต์ดังกล่าวอีก

    แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น ตอนนี้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้

    นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า Milei กำลังฉวยโอกาสจากกระแสความนิยมของเหรียญ meme ของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง
    ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล $LIBRA ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ามันได้หายไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งใน “Rug pull” ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการรายงานของสื่อ ระบุว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Javier Milei โพสต์ข้อความสนับสนุนเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า *Viva la Libertad Project – LIBRA* โดยพยายามเชิญชวนว่ามันเป็นโปรเจคส่วนตัวที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ผ่านการให้ทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในประเทศ ทำให้มูลค่าได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที แต่กลับทรุดตัวแรงถึง 89% หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงที่มีการเทขายเหรียญออกมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามตลาดเพียง $167 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดที่พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์ ต่อมา Milei ลบโพสต์เดิมบนแพลตฟอร์ม X ที่โปรโมตเหรียญ meme นี้ โดย Milei ยืนยันว่าเขาได้โพสต์การเปิดตัวครั้งนี้จริงๆ แต่ย้ำว่าไม่ใช่เหรียญ meme ส่วนตัวของเขา และเขาได้แจ้งในโพสต์ใหม่ว่า "ผมไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อนโพสต์" และเขาไม่ต้องการสนับสนุนโปรเจกต์ดังกล่าวอีก แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น ตอนนี้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า Milei กำลังฉวยโอกาสจากกระแสความนิยมของเหรียญ meme ของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่เรียกว่า "Triplestrength" ซึ่งมีการใช้กลยุทธ์การโจมตีแบบ "สามภัยคุกคาม" โดยกลุ่มนี้มีการโจมตีด้วยการใช้แรนซัมแวร์ (Ransomware) การเข้าควบคุมบัญชีคลาวด์ (Cloud Compromise) และการขุดเหมืองคริปโต (Cryptomining) เพื่อสร้างรายได้จากการขู่เรียกค่าไถ่และการใช้ทรัพยากรคลาวด์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

    กลุ่ม Triplestrength เริ่มใช้แรนซัมแวร์มาตั้งแต่ปี 2020 และได้เริ่มใช้การขุดเหมืองคริปโตในปีต่อมา โดยเน้นการเจาะเข้าระบบคลาวด์ของ Google Cloud, AWS, Microsoft Azure และอื่น ๆ การเข้าถึงเริ่มต้นทำได้โดยใช้การโจมตีแบบ brute force หรือการใช้ข้อมูลที่ถูกขโมยมา เมื่อระบบถูกเจาะแล้ว กลุ่มนี้จะติดตั้งมัลแวร์ เช่น Phobos, LokiLocker, RCRU64 หรือ Raccoon infostealer และสำหรับการขุดเหมืองคริปโต กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรม unMiner

    จากการวิจัยของ Google พบว่ามีกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม Triplestrength มีความสามารถในการเจาะเข้าระบบคลาวด์ได้มากมาย

    https://www.techradar.com/pro/security/cybercrime-gang-targets-victims-with-triple-threat-attacks
    ข่าวนี้เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่เรียกว่า "Triplestrength" ซึ่งมีการใช้กลยุทธ์การโจมตีแบบ "สามภัยคุกคาม" โดยกลุ่มนี้มีการโจมตีด้วยการใช้แรนซัมแวร์ (Ransomware) การเข้าควบคุมบัญชีคลาวด์ (Cloud Compromise) และการขุดเหมืองคริปโต (Cryptomining) เพื่อสร้างรายได้จากการขู่เรียกค่าไถ่และการใช้ทรัพยากรคลาวด์ที่ไม่ได้รับอนุญาต กลุ่ม Triplestrength เริ่มใช้แรนซัมแวร์มาตั้งแต่ปี 2020 และได้เริ่มใช้การขุดเหมืองคริปโตในปีต่อมา โดยเน้นการเจาะเข้าระบบคลาวด์ของ Google Cloud, AWS, Microsoft Azure และอื่น ๆ การเข้าถึงเริ่มต้นทำได้โดยใช้การโจมตีแบบ brute force หรือการใช้ข้อมูลที่ถูกขโมยมา เมื่อระบบถูกเจาะแล้ว กลุ่มนี้จะติดตั้งมัลแวร์ เช่น Phobos, LokiLocker, RCRU64 หรือ Raccoon infostealer และสำหรับการขุดเหมืองคริปโต กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรม unMiner จากการวิจัยของ Google พบว่ามีกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม Triplestrength มีความสามารถในการเจาะเข้าระบบคลาวด์ได้มากมาย https://www.techradar.com/pro/security/cybercrime-gang-targets-victims-with-triple-threat-attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก:

    ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต**
    - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง
    - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก

    ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง**
    - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก
    - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 3. **ตลาดการเงิน**
    - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน
    - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง
    - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ**
    - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์**
    - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน
    - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน

    ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม**
    - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก
    - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน**
    - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก
    - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### สรุป
    การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก: ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต** - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง** - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน ### 3. **ตลาดการเงิน** - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ** - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์** - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม** - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน** - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### สรุป การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย

    Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร

    ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก

    สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ

    ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี

    การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น

    การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้

    ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้

    โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้ ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้ โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Sky ECC encrypted service distributors arrested in Spain, Netherlands
    Four distributors of the encrypted communications service Sky ECC, used extensively by criminals, were arrested in Spain and the Netherlands.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" เผยคุย "อันวาร์" 3 เรื่อง จ่อถกผู้นำในอาเซียน แก้ปัญหาความขัดแย้งเมียนมา เดินหน้าคริปโตเคอร์เรนซี นำร่อง 3 ประเทศ สอดคล้องทิศทางสหรัฐฯ เผยรู้ว่าเจ้าของตึก 25 ชั้น ที่ปอยเปต เป็นของใคร มีสัญชาติไทยด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012600

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทักษิณ" เผยคุย "อันวาร์" 3 เรื่อง จ่อถกผู้นำในอาเซียน แก้ปัญหาความขัดแย้งเมียนมา เดินหน้าคริปโตเคอร์เรนซี นำร่อง 3 ประเทศ สอดคล้องทิศทางสหรัฐฯ เผยรู้ว่าเจ้าของตึก 25 ชั้น ที่ปอยเปต เป็นของใคร มีสัญชาติไทยด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012600 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 921 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีมัลแวร์ประเภทใหม่ที่ชื่อว่า ‘SparkCat’ ที่ถูกค้นพบในร้านค้าแอปพลิเคชันของ iOS และ Android โดยมัลแวร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของผู้ใช้งาน รายงานจาก Kaspersky ระบุว่ามัลแวร์นี้มีการฝังอยู่ในแอปพลิเคชันหลายตัวที่มีการดาวน์โหลดหลายพันครั้ง เช่น แอปส่งอาหารจากประเทศจีนชื่อว่า ComeCome ที่มีการดาวน์โหลดกว่า 10,000 ครั้ง

    SparkCat มีความสามารถในการสแกนรูปภาพในแกลเลอรี่ของผู้ใช้งานเพื่อค้นหาคำสำคัญ หากพบรูปภาพที่เกี่ยวข้อง มันจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุม (C2 server) นอกจากนี้ มัลแวร์นี้ยังมีความยืดหยุ่นพอที่จะขโมยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จากแกลเลอรี่ของเหยื่อได้ด้วย

    สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมัลแวร์ประเภทนี้ในร้านค้าแอปของ Apple ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชันของ Apple อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถึงแม้ Apple จะตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้

    สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชันที่ติดมัลแวร์นี้ Kaspersky แนะนำให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทันทีและหลีกเลี่ยงการใช้งานจนกว่าจะมีการแก้ไข นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญ

    https://www.techradar.com/pro/security/screen-reading-malware-found-in-ios-app-stores-for-first-time-and-it-might-steal-your-cryptocurrency
    มีมัลแวร์ประเภทใหม่ที่ชื่อว่า ‘SparkCat’ ที่ถูกค้นพบในร้านค้าแอปพลิเคชันของ iOS และ Android โดยมัลแวร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของผู้ใช้งาน รายงานจาก Kaspersky ระบุว่ามัลแวร์นี้มีการฝังอยู่ในแอปพลิเคชันหลายตัวที่มีการดาวน์โหลดหลายพันครั้ง เช่น แอปส่งอาหารจากประเทศจีนชื่อว่า ComeCome ที่มีการดาวน์โหลดกว่า 10,000 ครั้ง SparkCat มีความสามารถในการสแกนรูปภาพในแกลเลอรี่ของผู้ใช้งานเพื่อค้นหาคำสำคัญ หากพบรูปภาพที่เกี่ยวข้อง มันจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุม (C2 server) นอกจากนี้ มัลแวร์นี้ยังมีความยืดหยุ่นพอที่จะขโมยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จากแกลเลอรี่ของเหยื่อได้ด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมัลแวร์ประเภทนี้ในร้านค้าแอปของ Apple ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชันของ Apple อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถึงแม้ Apple จะตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้ สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชันที่ติดมัลแวร์นี้ Kaspersky แนะนำให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทันทีและหลีกเลี่ยงการใช้งานจนกว่าจะมีการแก้ไข นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญ https://www.techradar.com/pro/security/screen-reading-malware-found-in-ios-app-stores-for-first-time-and-it-might-steal-your-cryptocurrency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณ Gabriel Galipolo ซึ่งเป็นหัวหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางบราซิล ได้รายงานว่า การใช้งานคริปโตในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 90% ของการใช้งานคริปโตนี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoins ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ

    นาย Galipolo กล่าวในงานประชุมของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศที่เม็กซิโก ซิตี้ ว่า การใช้คริปโตเป็นหลักในการชำระเงินกลายเป็นความท้าทายในการควบคุมและการกำกับดูแล เขายังเน้นว่าการใช้งานเหล่านี้มักจะมีปัญหาด้านการเสียภาษีหรือการฟอกเงินด้วย

    สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ Drex ที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงเครดิตด้วยสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน Drex ใช้เทคโนโลยีการบันทึกบัญชีแบบกระจายศูนย์เพื่อการชำระเงินระหว่างธนาคารในระดับสถาบัน ขณะที่การเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของการฝากเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น

    นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชำระเงินทันทีระหว่างประเทศ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/brazil039s-galipolo-sees-surge-in-crypto-use-says-90-of-flow-tied-to-stablecoins
    คุณ Gabriel Galipolo ซึ่งเป็นหัวหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางบราซิล ได้รายงานว่า การใช้งานคริปโตในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 90% ของการใช้งานคริปโตนี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoins ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ นาย Galipolo กล่าวในงานประชุมของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศที่เม็กซิโก ซิตี้ ว่า การใช้คริปโตเป็นหลักในการชำระเงินกลายเป็นความท้าทายในการควบคุมและการกำกับดูแล เขายังเน้นว่าการใช้งานเหล่านี้มักจะมีปัญหาด้านการเสียภาษีหรือการฟอกเงินด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ Drex ที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงเครดิตด้วยสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน Drex ใช้เทคโนโลยีการบันทึกบัญชีแบบกระจายศูนย์เพื่อการชำระเงินระหว่างธนาคารในระดับสถาบัน ขณะที่การเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของการฝากเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชำระเงินทันทีระหว่างประเทศ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/brazil039s-galipolo-sees-surge-in-crypto-use-says-90-of-flow-tied-to-stablecoins
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Galipolo sees surge in crypto use, says 90% of flow tied to stablecoins
    (Reuters) - Brazil's central bank chief Gabriel Galipolo said on Thursday that crypto asset usage in the country has surged over the past two to three years, with around 90% of the flow linked to stablecoins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์

    ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น

    ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้

    ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้ ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    BlackRock prepares to launch bitcoin exchange-traded product in Europe, source says
    LONDON (Reuters) - BlackRock is gearing up to launch a bitcoin exchange-traded product in Europe within weeks, a source familiar with the matter told Reuters, amid growing demand for exposure to cryptocurrencies from both money managers and consumers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก:

    ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต**
    - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง
    - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก

    ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง**
    - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก
    - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 3. **ตลาดการเงิน**
    - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน
    - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง
    - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ**
    - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์**
    - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน
    - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน

    ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม**
    - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก
    - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน**
    - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก
    - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### สรุป
    การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก: ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต** - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง** - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน ### 3. **ตลาดการเงิน** - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ** - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์** - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม** - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน** - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### สรุป การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3090 ที่ถูกส่งไปซ่อมที่ NorthridgeFix โดยการ์ดจอนี้มีปัญหาไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเชื่อมต่อกับระบบพีซี เจ้าของการ์ดจอได้แนบโน้ตมาด้วยว่า การ์ดจอนี้ไม่ได้ใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี และถูกเก็บไว้ในที่เก็บเป็นเวลาหลายปี

    อย่างไรก็ตาม เมื่อ Alex จาก NorthridgeFix ตรวจสอบการ์ดจอ พบว่าการ์ดจอนี้มีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ โดย GPU และชิปหน่วยความจำทั้งหมดหายไป และมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกกระแทกออกไป ทำให้การ์ดจอนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้

    Alex คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อการ์ดจอนี้จากผู้ขายที่หลอกลวง โดยผู้ขายอ้างว่าการ์ดจอนี้ถูกใช้ในพีซีสำหรับเล่นเกมและไม่เคยใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอนี้มากกว่าที่การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซีจะทำได้

    บทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้ซื้อควรระมัดระวังในการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ใช้แล้ว โดยควรเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีนโยบายการคืนสินค้าที่ดี หากเป็นไปได้ ควรซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพดี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-3090-sent-in-to-repairer-was-missing-the-gpu-and-all-its-memory-chips
    บทความนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3090 ที่ถูกส่งไปซ่อมที่ NorthridgeFix โดยการ์ดจอนี้มีปัญหาไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเชื่อมต่อกับระบบพีซี เจ้าของการ์ดจอได้แนบโน้ตมาด้วยว่า การ์ดจอนี้ไม่ได้ใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี และถูกเก็บไว้ในที่เก็บเป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม เมื่อ Alex จาก NorthridgeFix ตรวจสอบการ์ดจอ พบว่าการ์ดจอนี้มีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ โดย GPU และชิปหน่วยความจำทั้งหมดหายไป และมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกกระแทกออกไป ทำให้การ์ดจอนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ Alex คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อการ์ดจอนี้จากผู้ขายที่หลอกลวง โดยผู้ขายอ้างว่าการ์ดจอนี้ถูกใช้ในพีซีสำหรับเล่นเกมและไม่เคยใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอนี้มากกว่าที่การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซีจะทำได้ บทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้ซื้อควรระมัดระวังในการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ใช้แล้ว โดยควรเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีนโยบายการคืนสินค้าที่ดี หากเป็นไปได้ ควรซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพดี https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-3090-sent-in-to-repairer-was-missing-the-gpu-and-all-its-memory-chips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น

    Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้

    กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

    นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grayscale launches dogecoin-focused fund as altcoin adoption picks up pace
    (Reuters) - Grayscale Investments said on Friday it was launching an investment fund aimed at dogecoin, as the cryptocurrency asset manager looks to tap into the increasing momentum around alternatives to bitcoin.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังตรวจสอบว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างผิดกฎหมายเพื่อฝึกโมเดล AI ของตนหรือไม่ มีรายงานว่า Microsoft และ OpenAI ได้เริ่มการสอบสวนร่วมกันหลังจากที่นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft พบว่ากลุ่มที่เชื่อมโยงกับ DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลจำนวนมากผ่าน API ของ OpenAI

    แม้ว่าผู้พัฒนาสามารถจ่ายเงินเพื่อใช้ข้อมูลนี้ในแอปพลิเคชันของตนได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ Microsoft สงสัยว่าการกระทำของ DeepSeek อาจละเมิดข้อกำหนดการให้บริการของ OpenAI การสอบสวนนี้เริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังถูกพิจารณาว่าเป็นการละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น

    โฆษกของ OpenAI ปฏิเสธที่จะยืนยันการขโมยข้อมูล แต่กล่าวว่าบริษัทใช้มาตรการป้องกันที่ทันสมัยเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของตน นอกจากนี้ OpenAI ยังทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้โมเดล AI ของตนตกไปอยู่ในมือของศัตรูและคู่แข่งจากต่างประเทศ

    David Sacks, ผู้ดูแลด้าน AI และคริปโตของทำเนียบขาว, กล่าวว่ามี "หลักฐานที่ชัดเจน" ว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างไม่ถูกต้องและอาจผิดกฎหมาย Microsoft ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่ DeepSeek ไม่สามารถติดต่อได้เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อขัดแย้งนี้

    https://www.techspot.com/news/106551-microsoft-investigating-if-deepseek-illegally-accessed-openai-data.html
    Microsoft กำลังตรวจสอบว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างผิดกฎหมายเพื่อฝึกโมเดล AI ของตนหรือไม่ มีรายงานว่า Microsoft และ OpenAI ได้เริ่มการสอบสวนร่วมกันหลังจากที่นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft พบว่ากลุ่มที่เชื่อมโยงกับ DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลจำนวนมากผ่าน API ของ OpenAI แม้ว่าผู้พัฒนาสามารถจ่ายเงินเพื่อใช้ข้อมูลนี้ในแอปพลิเคชันของตนได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ Microsoft สงสัยว่าการกระทำของ DeepSeek อาจละเมิดข้อกำหนดการให้บริการของ OpenAI การสอบสวนนี้เริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังถูกพิจารณาว่าเป็นการละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น โฆษกของ OpenAI ปฏิเสธที่จะยืนยันการขโมยข้อมูล แต่กล่าวว่าบริษัทใช้มาตรการป้องกันที่ทันสมัยเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของตน นอกจากนี้ OpenAI ยังทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้โมเดล AI ของตนตกไปอยู่ในมือของศัตรูและคู่แข่งจากต่างประเทศ David Sacks, ผู้ดูแลด้าน AI และคริปโตของทำเนียบขาว, กล่าวว่ามี "หลักฐานที่ชัดเจน" ว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างไม่ถูกต้องและอาจผิดกฎหมาย Microsoft ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่ DeepSeek ไม่สามารถติดต่อได้เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อขัดแย้งนี้ https://www.techspot.com/news/106551-microsoft-investigating-if-deepseek-illegally-accessed-openai-data.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is investigating if DeepSeek illegally accessed OpenAI data to train its AI model
    According to unnamed sources cited by Bloomberg, the probe started last fall after Microsoft's security researchers discovered that a group linked to DeepSeek had accessed a large...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี" เข้าตรวจค้น 5 จุดในจังหวัดชลบุรี พบกลุ่มชาวจีนเทาใช้คริปโตเคอร์เรนซีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนนิติบุคคลกว่า 40 แห่ง เพื่อดำเนินธุรกิจปล่อยเช่า รับชำระค่าบริการผ่าน USDT และสกุลเงินต่างประเทศ ตำรวจยึดหลักฐานสำคัญ พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008991

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี" เข้าตรวจค้น 5 จุดในจังหวัดชลบุรี พบกลุ่มชาวจีนเทาใช้คริปโตเคอร์เรนซีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนนิติบุคคลกว่า 40 แห่ง เพื่อดำเนินธุรกิจปล่อยเช่า รับชำระค่าบริการผ่าน USDT และสกุลเงินต่างประเทศ ตำรวจยึดหลักฐานสำคัญ พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008991 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1046 มุมมอง 0 รีวิว
  • Humanity Protocol บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชน โดยใช้การสแกนฝ่ามือเพื่อยืนยันว่าบัญชีออนไลน์นั้นเป็นของบุคคลจริง เพิ่งได้รับการประเมินมูลค่าเต็มที่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย Pantera Capital และ Jump Crypto

    Humanity Protocol มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนในวงกว้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับบอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์

    การยืนยันตัวตนดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ deepfakes และการฉ้อโกงทางไซเบอร์ บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนกำลังหันมาใช้ไบโอเมตริกส์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้

    นอกจากนี้ Humanity Protocol ยังเตรียมเปิดตัวโทเค็นคริปโตของตนเอง โดยกำลังทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อให้การเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น การสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและการลงทุนมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/humanity-protocol-valued-at-11-billion-after-latest-fundraise
    Humanity Protocol บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชน โดยใช้การสแกนฝ่ามือเพื่อยืนยันว่าบัญชีออนไลน์นั้นเป็นของบุคคลจริง เพิ่งได้รับการประเมินมูลค่าเต็มที่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย Pantera Capital และ Jump Crypto Humanity Protocol มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนในวงกว้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับบอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์ การยืนยันตัวตนดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ deepfakes และการฉ้อโกงทางไซเบอร์ บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนกำลังหันมาใช้ไบโอเมตริกส์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ นอกจากนี้ Humanity Protocol ยังเตรียมเปิดตัวโทเค็นคริปโตของตนเอง โดยกำลังทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อให้การเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น การสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและการลงทุนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/humanity-protocol-valued-at-11-billion-after-latest-fundraise
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Humanity Protocol valued at $1.1 billion after latest fundraise
    (Reuters) - Humanity Protocol has secured a fully diluted valuation of $1.1 billion after raising $20 million in a funding round co-led by Pantera Capital and Jump Crypto, the identity verification blockchain firm said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอุทธรณ์สหรัฐยกเลิกคำสั่งสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ถอนการคว่ำบาตร Tornado Cash ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตมิกเซอร์ โดยคำตัดสินใหม่ระบุว่า “ศาลมีคำสั่งให้คำตัดสินเดิมถูกยกเลิก และส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติม”

    ทั้งนี้ OFAC ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าต่อเขตอำนาจศาลและระบอบการปกครองต่างประเทศที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่กระทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ผู้ก่อการร้าย ผู้ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ผู้แพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง

    สาเหตุคว่ำบาตร Tornado Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 Office of Foreign Assets Control (OFAC) ได้กำหนดให้ Tornado Cash เป็นหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้โดยเกาหลีเหนือในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การฟอกเงินจากคริปโตที่ถูกขโมย นอกจากนี้ Alexey Pertsev นักพัฒนาของ Tornado Cash ยังถูกตัดสินจำคุกกว่า 5 ปีในข้อหาฟอกเงิน

    หลังจากการคว่ำบาตร Tornado Cash ผู้ใช้งานชื่อ Joseph Van Loon และผู้ร่วมฟ้องร้องอีก 5 คนได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ใน International Emergency Economic Powers Act (IEEPA)

    โดยข้อถกเถียงหลักอยู่ที่คำจำกัดความของคำว่า “ทรัพย์สิน” ซึ่งในกรณีของ Tornado Cash ศาลอุทธรณ์เห็นว่า smart contracts ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) ไม่ถือเป็นทรัพย์สินตามคำจำกัดความ

    ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง

    คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล”

    ที่มา: TheBlock ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง

    คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล”

    ที่มา:
    https://storage.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.txwd.1211705/gov.uscourts.txwd.1211705.99.0.pdf
    ศาลอุทธรณ์สหรัฐยกเลิกคำสั่งสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ถอนการคว่ำบาตร Tornado Cash ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตมิกเซอร์ โดยคำตัดสินใหม่ระบุว่า “ศาลมีคำสั่งให้คำตัดสินเดิมถูกยกเลิก และส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อดำเนินการพิจารณาเพิ่มเติม” ทั้งนี้ OFAC ทำหน้าที่บริหารและบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าต่อเขตอำนาจศาลและระบอบการปกครองต่างประเทศที่เป็นเป้าหมาย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่กระทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ผู้ก่อการร้าย ผู้ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ผู้แพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง สาเหตุคว่ำบาตร Tornado Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 Office of Foreign Assets Control (OFAC) ได้กำหนดให้ Tornado Cash เป็นหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตร โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้โดยเกาหลีเหนือในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การฟอกเงินจากคริปโตที่ถูกขโมย นอกจากนี้ Alexey Pertsev นักพัฒนาของ Tornado Cash ยังถูกตัดสินจำคุกกว่า 5 ปีในข้อหาฟอกเงิน หลังจากการคว่ำบาตร Tornado Cash ผู้ใช้งานชื่อ Joseph Van Loon และผู้ร่วมฟ้องร้องอีก 5 คนได้ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ใน International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) โดยข้อถกเถียงหลักอยู่ที่คำจำกัดความของคำว่า “ทรัพย์สิน” ซึ่งในกรณีของ Tornado Cash ศาลอุทธรณ์เห็นว่า smart contracts ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (immutable) ไม่ถือเป็นทรัพย์สินตามคำจำกัดความ ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล” ที่มา: TheBlock ในขณะที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า แม้ OFAC จะอ้างว่าการคว่ำบาตรสามารถขยายไปถึง “สัญญา” แต่ immutable smart contracts ไม่ใช่สัญญาที่ต้องมีการตกลงกันระหว่างสองฝ่าย อีกทั้ง Tornado Cash ซึ่งดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ ก็ไม่เข้าข่ายการเป็น “บริการ” ตามที่กระทรวงการคลังได้โต้แย้ง คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของ IEEPA ในการกำหนดอำนาจของประธานาธิบดีในการควบคุมธุรกรรมทางเศรษฐกิจ ศาลย้ำว่า “การแก้ไขช่องโหว่หรือปรับปรุงผลกระทบของกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ของศาล” ที่มา: https://storage.courtlistener.com/recap/gov.uscourts.txwd.1211705/gov.uscourts.txwd.1211705.99.0.pdf
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • Donald Trump กำลังเข้าสู่โลกของคริปโตเคอเรนซีอย่างจริงจัง! ล่าสุดเขาได้เริ่มทำการสเตค (Staking) Ethereum (ETH) ผ่านแพลตฟอร์ม DeFi ที่ชื่อว่า World Liberty Financial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการทางการเงินคริปโตแก่ผู้ใช้ทั่วไป

    ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา World Liberty Financial ได้ซื้อ Ethereum จำนวน 50,000 เหรียญ มูลค่าประมาณ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังซื้อ Bitcoin มูลค่า 4.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังพิจารณาการซื้อเหรียญ TRON (TRX) เพื่อเพิ่มในคลังของพวกเขา

    การสเตค Ethereum นี้หมายความว่า Trump จะได้รับประโยชน์จากการยืนยันธุรกรรมบนโปรโตคอล Ethereum โดยตรง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเป็นประวัติศาสตร์ในวงการคริปโตเคอเรนซี

    นอกจากนี้ เหรียญมีม $TRUMP ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ยังคงมีมูลค่าตลาดที่สูงถึง 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีการลดลงของมูลค่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

    https://wccftech.com/trump-is-now-staking-ethereum-eth/
    Donald Trump กำลังเข้าสู่โลกของคริปโตเคอเรนซีอย่างจริงจัง! ล่าสุดเขาได้เริ่มทำการสเตค (Staking) Ethereum (ETH) ผ่านแพลตฟอร์ม DeFi ที่ชื่อว่า World Liberty Financial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการทางการเงินคริปโตแก่ผู้ใช้ทั่วไป ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา World Liberty Financial ได้ซื้อ Ethereum จำนวน 50,000 เหรียญ มูลค่าประมาณ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังซื้อ Bitcoin มูลค่า 4.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังพิจารณาการซื้อเหรียญ TRON (TRX) เพื่อเพิ่มในคลังของพวกเขา การสเตค Ethereum นี้หมายความว่า Trump จะได้รับประโยชน์จากการยืนยันธุรกรรมบนโปรโตคอล Ethereum โดยตรง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเป็นประวัติศาสตร์ในวงการคริปโตเคอเรนซี นอกจากนี้ เหรียญมีม $TRUMP ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ยังคงมีมูลค่าตลาดที่สูงถึง 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีการลดลงของมูลค่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา https://wccftech.com/trump-is-now-staking-ethereum-eth/
    WCCFTECH.COM
    Trump Is Now Staking Ethereum (ETH)
    Trump will now benefit from the authentication of transactions on the Ethereum protocol as World Liberty Financial starts staking ETH coins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจลงทุน ครับ !!!!

    เหรียญมีม $TRUMP กำลังเป็นที่ฮือฮาในวงการคริปโต หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน เหรียญนี้ก็ทำลายสถิติการเปิดตัวเกือบทุกอย่าง และตอนนี้มีมูลค่าตลาดที่สูงถึง $70 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าเหรียญนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มันจะเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 190 ของโลกเลยทีเดียว

    นอกจากนี้ เหรียญ $TRUMP ยังสามารถใช้เป็นหลักประกันในการซื้อขายฟิวเจอร์สได้แล้วบนแพลตฟอร์ม BingX นี่เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ค้าใช้เหรียญนี้ในการซื้อขายฟิวเจอร์สได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น

    เหรียญ $TRUMP ไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากการสร้างชุมชนของผู้ค้าและนักลงทุนที่มีความชื่นชอบในตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง ปัจจุบันมีเหรียญ $TRUMP จำนวน 200 ล้านเหรียญที่สามารถซื้อขายได้ และในอีกสามปีข้างหน้า จำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านเหรียญ

    https://wccftech.com/after-breaking-almost-every-coin-launch-record-the-trump-meme-coin-can-now-be-used-as-margin-for-futures-trading/
    ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจลงทุน ครับ !!!! เหรียญมีม $TRUMP กำลังเป็นที่ฮือฮาในวงการคริปโต หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน เหรียญนี้ก็ทำลายสถิติการเปิดตัวเกือบทุกอย่าง และตอนนี้มีมูลค่าตลาดที่สูงถึง $70 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าเหรียญนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มันจะเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 190 ของโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้ เหรียญ $TRUMP ยังสามารถใช้เป็นหลักประกันในการซื้อขายฟิวเจอร์สได้แล้วบนแพลตฟอร์ม BingX นี่เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ค้าใช้เหรียญนี้ในการซื้อขายฟิวเจอร์สได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น เหรียญ $TRUMP ไม่มีประโยชน์อื่นใดนอกจากการสร้างชุมชนของผู้ค้าและนักลงทุนที่มีความชื่นชอบในตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง ปัจจุบันมีเหรียญ $TRUMP จำนวน 200 ล้านเหรียญที่สามารถซื้อขายได้ และในอีกสามปีข้างหน้า จำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านเหรียญ https://wccftech.com/after-breaking-almost-every-coin-launch-record-the-trump-meme-coin-can-now-be-used-as-margin-for-futures-trading/
    WCCFTECH.COM
    After Breaking Almost Every Coin Launch Record, The $TRUMP Meme Coin Can Now Be Used As Margin For Futures Trading
    To say that the $TRUMP meme coin launch constituted one of the most influential financial events so far this year would be an understatement.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง

    การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple

    ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์

    การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้

    https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์ การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้ https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    WCCFTECH.COM
    Trump Immortalized Within Bitcoin Blockchain
    As a token of appreciation, a major Bitcoin miner has encoded Trump's portrait within the cryptocurrency's blockchain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RTX 5090D ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยมีการจำกัดการใช้งานด้าน AI และการขุดคริปโต การ์ดจอรุ่นนี้จะล็อกตัวเองหลังจากใช้งานไปเพียง 3 วินาที เพื่อป้องกันการใช้งานในงานเฉพาะทาง เช่น การขุดคริปโตและการประมวลผล AI

    RTX 5090D เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก RTX 4090D ซึ่งเป็นการ์ดจอที่มีการลดสเปคเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา โดย RTX 5090D ยังคงมีสเปคเต็มของ RTX 5090 แต่มีการลดประสิทธิภาพด้าน AI ลงถึง 29% โดยไม่ทราบวิธีการที่แน่ชัด

    การ์ดจอรุ่นนี้ยังมีข้อจำกัดในการปรับแต่งพลังงานและการใช้งานร่วมกับการ์ดจออื่น ๆ โดยไม่สามารถโอเวอร์คล็อกหรือใช้งานในระบบหลายการ์ดจอได้ ข้อจำกัดเหล่านี้ถูกล็อกไว้ในระดับล่างของระบบปฏิบัติการ Linux

    การเปิดตัว RTX 5090D เป็นการตอบสนองต่อกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำกัดการส่งออกการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังจีน การ์ดจอรุ่นนี้จะช่วยให้ Nvidia สามารถทำตลาดในจีนได้ต่อไป แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/china-tailored-rtx-5090d-has-ai-and-cryptomining-limiters-multi-gpu-config-is-also-locked
    Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RTX 5090D ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยมีการจำกัดการใช้งานด้าน AI และการขุดคริปโต การ์ดจอรุ่นนี้จะล็อกตัวเองหลังจากใช้งานไปเพียง 3 วินาที เพื่อป้องกันการใช้งานในงานเฉพาะทาง เช่น การขุดคริปโตและการประมวลผล AI RTX 5090D เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก RTX 4090D ซึ่งเป็นการ์ดจอที่มีการลดสเปคเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา โดย RTX 5090D ยังคงมีสเปคเต็มของ RTX 5090 แต่มีการลดประสิทธิภาพด้าน AI ลงถึง 29% โดยไม่ทราบวิธีการที่แน่ชัด การ์ดจอรุ่นนี้ยังมีข้อจำกัดในการปรับแต่งพลังงานและการใช้งานร่วมกับการ์ดจออื่น ๆ โดยไม่สามารถโอเวอร์คล็อกหรือใช้งานในระบบหลายการ์ดจอได้ ข้อจำกัดเหล่านี้ถูกล็อกไว้ในระดับล่างของระบบปฏิบัติการ Linux การเปิดตัว RTX 5090D เป็นการตอบสนองต่อกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำกัดการส่งออกการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังจีน การ์ดจอรุ่นนี้จะช่วยให้ Nvidia สามารถทำตลาดในจีนได้ต่อไป แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/china-tailored-rtx-5090d-has-ai-and-cryptomining-limiters-multi-gpu-config-is-also-locked
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • Scott Bessent มานั่งแทน เจเน็ต เยเลน , treasury secretary, นวค.มอง สิ่งที่เบสเซนจะเดินหน้า
    1. ขยายเวลามาตราการลดภาษีให้กับบริษัทสหรัฐ

    2. การคว่ำบาตรอุตฯน้ำมัน (อันนี้อาจจะขัดกับมุมมองที่เราเห็นความสัมพันธ์ของทรัมป์กับปูตินว่าไม่ได้เป็นเชิงตึง ต้องการจัดหนัก) แต่การดำเนินการใด ๆ ที่มีผลกับราคาน้ำมันรัสเซีย จะวนมาเป็นประโยชน์กับการส่งออกน้ำมันของสหรัฐ (ช่วยสถานะการคลังสหรัฐในที่สุด) ตอนนี้สหรัฐเป็นผู้ส่งน้ำมันรายใหญ่ของโลก ในขณะที่จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 1 ของโลก การดันราคาน้ำมันทำให้สหรัฐมีรายได้เพิ่ม จีนมีภาระค่าใช้จ่ายราคาน้ำมันสูงขึ้น บั่นทอนสถานะการคลังจีน (แม้ส่วนหนึ่งจีนจะเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียมากลั่นและส่งออกขายอีกทอดก็ตาม)

    3. รักษาสถานะ ดอลลาร์สหรัฐ ให้เป็นทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกต่อไปอย่างแข็งแกร่ง (ช่วงที่ผานมา ค่อนข้างจะถดถอย สังเกตุได้จากธนาคารกลางชาติต่าง ๆ เข้าถือทองคำกันมากขึ้น)

    4. ประเด็นคาร์บอน เครดิต จะถูกดันขึ้นมา
    * เบสเซน เป็นคนที่ชาวคริปโตฯ ชื่นชม มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกกับราคาคริปโต โดยเฉพาะ BTC นอกจากนี้ยังคาดว่า ทรัมป์จะดัน คริปโตฯ เป็นวาระแห่งชาติ << ในพอร์ต bessent มี BTC ETF มูลค่า ~5 แสนเหรียญสหรัฐ
    ** เบสเซน เป็นอดีตมือขวา จอร์จ โซรอส มีประสบการณ์ร่วมช่วงโซรอสเข้าทำกำไรค่าเงินปอนด์ ฯลฯ
    #เศรษฐกิจ
    Scott Bessent มานั่งแทน เจเน็ต เยเลน , treasury secretary, นวค.มอง สิ่งที่เบสเซนจะเดินหน้า 1. ขยายเวลามาตราการลดภาษีให้กับบริษัทสหรัฐ 2. การคว่ำบาตรอุตฯน้ำมัน (อันนี้อาจจะขัดกับมุมมองที่เราเห็นความสัมพันธ์ของทรัมป์กับปูตินว่าไม่ได้เป็นเชิงตึง ต้องการจัดหนัก) แต่การดำเนินการใด ๆ ที่มีผลกับราคาน้ำมันรัสเซีย จะวนมาเป็นประโยชน์กับการส่งออกน้ำมันของสหรัฐ (ช่วยสถานะการคลังสหรัฐในที่สุด) ตอนนี้สหรัฐเป็นผู้ส่งน้ำมันรายใหญ่ของโลก ในขณะที่จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 1 ของโลก การดันราคาน้ำมันทำให้สหรัฐมีรายได้เพิ่ม จีนมีภาระค่าใช้จ่ายราคาน้ำมันสูงขึ้น บั่นทอนสถานะการคลังจีน (แม้ส่วนหนึ่งจีนจะเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียมากลั่นและส่งออกขายอีกทอดก็ตาม) 3. รักษาสถานะ ดอลลาร์สหรัฐ ให้เป็นทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกต่อไปอย่างแข็งแกร่ง (ช่วงที่ผานมา ค่อนข้างจะถดถอย สังเกตุได้จากธนาคารกลางชาติต่าง ๆ เข้าถือทองคำกันมากขึ้น) 4. ประเด็นคาร์บอน เครดิต จะถูกดันขึ้นมา * เบสเซน เป็นคนที่ชาวคริปโตฯ ชื่นชม มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกกับราคาคริปโต โดยเฉพาะ BTC นอกจากนี้ยังคาดว่า ทรัมป์จะดัน คริปโตฯ เป็นวาระแห่งชาติ << ในพอร์ต bessent มี BTC ETF มูลค่า ~5 แสนเหรียญสหรัฐ ** เบสเซน เป็นอดีตมือขวา จอร์จ โซรอส มีประสบการณ์ร่วมช่วงโซรอสเข้าทำกำไรค่าเงินปอนด์ ฯลฯ #เศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครมองหางานใหม่ให้ระวังครับ

    เว็บไซต์ BleepingComputer รายงานว่า มีการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่แอบอ้างเป็นบริษัท CrowdStrike เพื่อหลอกลวงผู้สมัครงานให้ติดตั้งโปรแกรมขุดคริปโตเคอเรนซี Monero (XMRig) การโจมตีนี้เริ่มต้นด้วยอีเมลฟิชชิ่งที่ส่งไปยังผู้หางาน โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนการจ้างงานของ CrowdStrike และขอบคุณที่สมัครงานในตำแหน่งนักพัฒนา

    อีเมลดังกล่าวจะนำผู้รับไปยังเว็บไซต์ที่ดูเหมือนเป็นพอร์ทัลของ CrowdStrike เพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน CRM สำหรับพนักงาน. เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันนี้ โปรแกรมจะทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการวิเคราะห์จากระบบรักษาความปลอดภัย หากผ่านการตรวจสอบ โปรแกรมจะดาวน์โหลดไฟล์การตั้งค่าที่จำเป็นสำหรับการรัน XMRig และเริ่มขุดคริปโตเคอเรนซีในพื้นหลังโดยใช้พลังงานประมวลผลเพียงเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแบบนี้ ผู้หางานควรตรวจสอบว่าอีเมลที่ได้รับมาจากโดเมนของบริษัทจริง และติดต่อกับบุคคลนั้นผ่านทางเว็บไซต์ทางการของบริษัท นอกจากนี้ ควรระวังคำขอที่เร่งด่วนหรือไม่ปกติ ข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง หรือการเชิญชวนให้ดาวน์โหลดไฟล์ที่สามารถรันได้บนคอมพิวเตอร์ครับ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/fake-crowdstrike-job-offer-emails-target-devs-with-crypto-miners/
    ใครมองหางานใหม่ให้ระวังครับ เว็บไซต์ BleepingComputer รายงานว่า มีการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่แอบอ้างเป็นบริษัท CrowdStrike เพื่อหลอกลวงผู้สมัครงานให้ติดตั้งโปรแกรมขุดคริปโตเคอเรนซี Monero (XMRig) การโจมตีนี้เริ่มต้นด้วยอีเมลฟิชชิ่งที่ส่งไปยังผู้หางาน โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนการจ้างงานของ CrowdStrike และขอบคุณที่สมัครงานในตำแหน่งนักพัฒนา อีเมลดังกล่าวจะนำผู้รับไปยังเว็บไซต์ที่ดูเหมือนเป็นพอร์ทัลของ CrowdStrike เพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน CRM สำหรับพนักงาน. เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันนี้ โปรแกรมจะทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการวิเคราะห์จากระบบรักษาความปลอดภัย หากผ่านการตรวจสอบ โปรแกรมจะดาวน์โหลดไฟล์การตั้งค่าที่จำเป็นสำหรับการรัน XMRig และเริ่มขุดคริปโตเคอเรนซีในพื้นหลังโดยใช้พลังงานประมวลผลเพียงเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแบบนี้ ผู้หางานควรตรวจสอบว่าอีเมลที่ได้รับมาจากโดเมนของบริษัทจริง และติดต่อกับบุคคลนั้นผ่านทางเว็บไซต์ทางการของบริษัท นอกจากนี้ ควรระวังคำขอที่เร่งด่วนหรือไม่ปกติ ข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง หรือการเชิญชวนให้ดาวน์โหลดไฟล์ที่สามารถรันได้บนคอมพิวเตอร์ครับ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/fake-crowdstrike-job-offer-emails-target-devs-with-crypto-miners/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Fake CrowdStrike job offer emails target devs with crypto miners
    CrowdStrike is warning that a phishing campaign is impersonating the cybersecurity company in fake job offer emails to trick targets into infecting themselves with a Monero cryptocurrency miner (XMRig).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวเลขที่น่าทึ่งมาก—ผู้คนทั่วโลกกว่า 420 ล้านคนเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล และแนวโน้มนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! ต่อไปนี้คือข้อมูลเชิงลึกที่น่าประหลาดใจจากสถิติการเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลล่าสุด:1️⃣ อินเดียเป็นผู้นำด้วยจำนวนเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 103 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเงินดิจิทัลกำลังปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่อย่างไร 2️⃣ ประเทศไทย (9.32%)ของจำนวนเจ้าของคริปโต 6.7ล้านคน และบราซิลกับปากีสถาน (6.40%) ตามมาใกล้ชิด ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น 3️⃣ ไนจีเรียได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดิจิทัลของแอฟริกาอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้ 12.8 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังปฏิวัติการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่แค่สินทรัพย์เท่านั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อเงิน อำนาจ และความเป็นเจ้าของ ตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงการโอนเงิน กรณีการใช้งานนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ทำไมการนำคริปโตมาใช้จึงเพิ่มขึ้น• การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ผู้คนในเศรษฐกิจเกิดใหม่มองหาทางเลือกอื่นแทนสกุลเงินเฟียตที่ผันผวน• การทำธุรกรรมไร้พรมแดน: ไม่มีตัวกลาง เพียงแค่มีโซลูชันที่เร็วกว่าและถูกกว่า!• นวัตกรรมฟินเทคที่กำลังเติบโต: แพลตฟอร์มทำให้คริปโตเข้าถึงได้แม้กระทั่งบุคคลที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นที่สังเกตว่าการใช้งานคริปโตเป็นโอกาสของนักลงทุนโลกสีเทาที่มั่งคั่งร่ำรวยจากการฟอกเงินที่ได้จากคอรัปชั่นหรือมาจากขบวนการแก๊ง call center จากบ่อนการพนัน หรือการเรียกค่าไถ่ มัลแวร์ และมาจากการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินไม่ได้
    ตัวเลขที่น่าทึ่งมาก—ผู้คนทั่วโลกกว่า 420 ล้านคนเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล และแนวโน้มนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! ต่อไปนี้คือข้อมูลเชิงลึกที่น่าประหลาดใจจากสถิติการเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลล่าสุด:1️⃣ อินเดียเป็นผู้นำด้วยจำนวนเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 103 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเงินดิจิทัลกำลังปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่อย่างไร 2️⃣ ประเทศไทย (9.32%)ของจำนวนเจ้าของคริปโต 6.7ล้านคน และบราซิลกับปากีสถาน (6.40%) ตามมาใกล้ชิด ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้น 3️⃣ ไนจีเรียได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดิจิทัลของแอฟริกาอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้ 12.8 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังปฏิวัติการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างไร สกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่แค่สินทรัพย์เท่านั้น เป็นการเคลื่อนไหวที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อเงิน อำนาจ และความเป็นเจ้าของ ตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงการโอนเงิน กรณีการใช้งานนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ทำไมการนำคริปโตมาใช้จึงเพิ่มขึ้น• การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ผู้คนในเศรษฐกิจเกิดใหม่มองหาทางเลือกอื่นแทนสกุลเงินเฟียตที่ผันผวน• การทำธุรกรรมไร้พรมแดน: ไม่มีตัวกลาง เพียงแค่มีโซลูชันที่เร็วกว่าและถูกกว่า!• นวัตกรรมฟินเทคที่กำลังเติบโต: แพลตฟอร์มทำให้คริปโตเข้าถึงได้แม้กระทั่งบุคคลที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นที่สังเกตว่าการใช้งานคริปโตเป็นโอกาสของนักลงทุนโลกสีเทาที่มั่งคั่งร่ำรวยจากการฟอกเงินที่ได้จากคอรัปชั่นหรือมาจากขบวนการแก๊ง call center จากบ่อนการพนัน หรือการเรียกค่าไถ่ มัลแวร์ และมาจากการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินไม่ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครไม่รู้จักเขา ค้นหาคำว่า "แอ็คมี่ วรวัฒน์ pantip"

    นายวรวัฒน์ นาคแนวดี หรือที่รู้จักในชื่อ "แอ็คมี่" ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการคริปโตเคอร์เรนซีของไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงการนำบิทคอยน์มาใช้เป็นกองทุนสำรองของประเทศ พร้อมเปิดเผยแนวคิดสนับสนุนรัฐบาลผ่านการปล่อยกู้บิทคอยน์โดยไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อตอบรับกระแสเศรษฐกิจดิจิทัลและเสริมความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศ

    ขณะเดียวกันทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ราคาบิทคอยน์ อาจพุ่งถึง 850,000 ดอลลาร์ พร้อมตั้งภูเก็ตเป็น Sandbox ทดลองนำบิทคอยน์มาใช้ชำระเงิน เชื่อนโยบายคริปโตใหม่ของสหรัฐจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก

    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000120388
    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000120326
    ใครไม่รู้จักเขา ค้นหาคำว่า "แอ็คมี่ วรวัฒน์ pantip" นายวรวัฒน์ นาคแนวดี หรือที่รู้จักในชื่อ "แอ็คมี่" ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการคริปโตเคอร์เรนซีของไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงการนำบิทคอยน์มาใช้เป็นกองทุนสำรองของประเทศ พร้อมเปิดเผยแนวคิดสนับสนุนรัฐบาลผ่านการปล่อยกู้บิทคอยน์โดยไม่คิดดอกเบี้ย เพื่อตอบรับกระแสเศรษฐกิจดิจิทัลและเสริมความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศ ขณะเดียวกันทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ราคาบิทคอยน์ อาจพุ่งถึง 850,000 ดอลลาร์ พร้อมตั้งภูเก็ตเป็น Sandbox ทดลองนำบิทคอยน์มาใช้ชำระเงิน เชื่อนโยบายคริปโตใหม่ของสหรัฐจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000120388 https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000120326
    MGRONLINE.COM
    กระแสมาต้องรีบโหน "แอ็คมี่ วรวัฒน์" ซบอกทักษิณ ยื่นเสนอ ครม.ชงกู้บิทคอยน์ เป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์เทียบสหรัฐ
    นายวรวัฒน์ นาคแนวดี หรือที่รู้จักในชื่อ แอ็คมี่ ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการคริปโตเคอร์เรนซีของไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงการนำบิทคอยน์มาใช้เป็นกองทุนสำรองของประเทศ พร้อมเปิดเผยแนวคิดสนับสนุนรัฐบาลผ่านการปล่อยกู้บิทคอยน์โดยไม่คิดดอกเบี
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต Glassnode ได้ออกคำเตือนว่า Bitcoin (BTC) อาจกำลังเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่หลังจากที่ราคาทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก

    Jan Happel และ Yann Allemann ซึ่งใช้ชื่อในโซเชียลมีเดียว่า Negentropic ได้แจ้งเตือนผู้ติดตามกว่า 63,200 คนของเขาบนแพลตฟอร์ม X ว่าดัชนีพื้นฐานของ Bitcoin (BFI) กำลังส่งสัญญาณเตือนตลาดที่อ่อนแอลง

    ดัชนี BFI ประเมินหลายแง่มุมของตลาดบิทคอยน์ รวมถึงกิจกรรมของกระเป๋าเงินและปริมาณการทำธุรกรรมเมื่อดัชนีนี้ลดลงความเสี่ยงของการปรับฐานตลาดจะเพิ่มขึ้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000117492

    #MGROnline #คริปโต #Glassnode #Bitcoin
    ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต Glassnode ได้ออกคำเตือนว่า Bitcoin (BTC) อาจกำลังเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่หลังจากที่ราคาทะลุ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก • Jan Happel และ Yann Allemann ซึ่งใช้ชื่อในโซเชียลมีเดียว่า Negentropic ได้แจ้งเตือนผู้ติดตามกว่า 63,200 คนของเขาบนแพลตฟอร์ม X ว่าดัชนีพื้นฐานของ Bitcoin (BFI) กำลังส่งสัญญาณเตือนตลาดที่อ่อนแอลง • ดัชนี BFI ประเมินหลายแง่มุมของตลาดบิทคอยน์ รวมถึงกิจกรรมของกระเป๋าเงินและปริมาณการทำธุรกรรมเมื่อดัชนีนี้ลดลงความเสี่ยงของการปรับฐานตลาดจะเพิ่มขึ้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000117492 • #MGROnline #คริปโต #Glassnode #Bitcoin
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts