• คำมั่นสัญญาอันกล้าหาญของทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมคริปโต: แผนอันไม่เคยมีมาก่อนในการปรับเปลี่ยนอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลของอเมริกา!
    คำมั่นสัญญาอันกล้าหาญของทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมคริปโตก่อนการเลือกตั้งส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมถึงการยุติการขาย Bitcoin การไล่ Gary Gensler การส่งเสริมการขุดในสหรัฐฯ และอื่นๆ

    อ่านเพิ่มเติมที่นี่: https://worldreportstoday.com/trumps-bold-promise-to-the-crypto-industry-the-unprecedented-plan-to-reshape-americas-digital-asset-future/

    อนาคตอันสดใสของอเมริกา!

    #TrumpCryptoPolicy
    คำมั่นสัญญาอันกล้าหาญของทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมคริปโต: แผนอันไม่เคยมีมาก่อนในการปรับเปลี่ยนอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลของอเมริกา! คำมั่นสัญญาอันกล้าหาญของทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมคริปโตก่อนการเลือกตั้งส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมถึงการยุติการขาย Bitcoin การไล่ Gary Gensler การส่งเสริมการขุดในสหรัฐฯ และอื่นๆ อ่านเพิ่มเติมที่นี่: https://worldreportstoday.com/trumps-bold-promise-to-the-crypto-industry-the-unprecedented-plan-to-reshape-americas-digital-asset-future/ อนาคตอันสดใสของอเมริกา! #TrumpCryptoPolicy
    WORLDREPORTSTODAY.COM
    Trump’s Bold Promise to the Crypto Industry: The Unprecedented Plan to Reshape America’s Digital Asset Future! - World Reports Today
    Trump’s Bold Promise to the Crypto Industry: The Unprecedented Plan to Reshape America’s Digital Asset Future! Ready to uncover the truth? Sick of the lies? […]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • 05-11-67/01 : หมี CNN / เปิดเช้าด้วย "คุณค่าของความเป็นคน" ยุคทอง ความดีก่อเกิด ศรัทธาเปี่ยมล้น ชูคนดี เหยียดคนชั่ว กลียุค ชูเงินเป็นพระเจ้า รวยคือคำตัดสิน กรณี เจ้าของ LV เข้าตึกตัวเองไม่ได้ เพราะขับรถถูกจอดหน้าตึก จะเดินเข้าถูกรปภ.ไล่ ชี้ชัด คนยุคนี้ ตัดสินด้วยเปลือก! เพราะทุนนิยมเหี้ยสามานย์ ล้างสมองควายโลก ให้ดูฐานะมาก่อนสิ่งอื่นใด รวยต้องแต่งรวยเสมอไปเหรอ รวยต้องมีคฤหาสน์เหรอ? ใครตัดสิน? เงินกู จะอยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง หรือส่วนรวมได้ทั้งนั้น? ดูผิวเผิน อาจจะไม่สาระ แต่มรึงดูความจริง ข้อเท็จจริง ชีวิตประจำวันมรึง แม้แต่ไปสมัครงาน แต่งตัว เครื่องประดับ ทั้งหมดเพื่อการยอมรับ ใช่หรือไม่? ไม่มีใครสนใจว่ามรึงเป็นคนดี หรือเป็นคนเก่ง มีคุณภาพต่อสังคมดอก รู้แค่ว่า มรึงรวย กูจะได้ขอเศษเงินมรึงได้ ก็เท่านั้นเอง? เข้าประเด็น จุดนี้แหละ ที่ไอ้อีไฮโซ ดารา ทุนสีเทา มันใช้ล่อเหยื่อ เพราะคุณค่าที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน "เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง" ถามว่า หากมีคนใส่เสื้อผ้าขาด เก่าสกปรก จะเดินเข้าห้างหรู แม้แต่โชว์รูมรถหรู รปภ.มันถูกสั่งอยู่แล้ว ไม่ให้คนจนมาเสนอหน้า มันก็จนเหมือนเค้า แต่เป็นลูกจ้าง ปัญญาให้มาแค่นี้ มรึงจะไปโทษใครได้? แล้วทำไมคนรวยต้องแต่งจน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างเหรอ? คำตอบคือ "สะท้อนสังคม" เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือก่อน คือ ผู้มีอันจะกิน เพราะทุกคนคิดว่า อาจได้สินไหมทดแทนกลับบ้าง จริงเหรอ? ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนน้อยมากจริงๆ คนที่ดูคนที่คุณค่าของคน มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปปลูกฝัง ขนาดพ่อแม่มันเอง ยังเต้นเมื่อเห็นคนรวย เพราะกิเลส ครอบงำ เงินคือทุกอย่าง ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ก็มีมาให้เห็นแล้ว อะไรที่จะหยุดสิ่งนี้ได้ นั่นคือ "สติ" หากคนมีปัญญามากพอ โชว์รูมรถหรู เห็นยาจกเดินเข้ามา หากผู้จัดการฉลาดซักกะนิด คนจนที่ไหนจะกล้าเข้ามาซื้อรถ หากไม่ใช่ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" มีเรื่องเล่า ในสวีเดนให้ฟัง กลายเป็นตำนาน เรื่องเล่าขาน ไม่มีใครรู้จริงเท็จอย่างไร เศรษฐีใหญ่เดินเข้าห้างหรู ห้างดังในสต๊อกโฮล์ม ไปดู "แชนเดอเลียร์" โคมไฟสุดหรู ลุงถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายว่า ราคาเท่าไหร่จ๊ะ? คนขายบอก "มันแพงน่ะ" ลุงก็ถามกลับอีกครั้งว่า "ราคาเท่าไหร่จ๊ะ" คนขายตอบ "มันแพงมากน่ะลุง" คราวนี้ ลุงถึงกับใช้ไม้เท้า เหวี่ยงจีแชนเดอเลียร์แตกกระจุยกลางห้าง เสียงดังสนั่นชั้น คนแห่มาดู เกิดอะไรขึ้น? คนขาย "หน้าซีดทันที" ลุงถามว่า "คราวนี้ เธอบอกชั้น(ฉาน)ได้รึยัง ว่าราคาเท่าไหร่?" ไม่มีใครรู้ว่า อีตาลุงคนนี้ คือเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสวีเดน นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" แท้จริง! หากลุงไม่ตีแชนเดอเลียร์แตกยับ มรึงจะรู้มั้ยว่า "กูเป็นใคร?" คนรวยจริงไม่โอ้อวด ไม่คุยเยอะ ไอ้ที่ไม่รวย เพิ่งจะมี เพิ่งจะรวยต่างหาก ที่อยาก SHOW OFF มรึงโชว์ไปทำไม? สร้างบารมีเหรอ? งั้นกูให้อีกมุมมองนึงคิด เศรษฐีใหญ่เหมือนกัน เอาข้าว เอาน้ำ ไปแจก สร้างถนน สร้างรพ. สถานีอนามัย เพื่อชุมชนบ้านเกิด ใช้เงินตัวเอง ไม่ต้องเบียดเบียนภาษีรัฐ คนจะจดจำมรึงได้ดีกว่า เอาเงินไปแจก ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เงินมีเหมือนกัน แต่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์แตกต่างกัน นั่นคือ "คุณค่าในตัวมรึงไงล่ะ" วันนี้ นาทีนี้ มรึงกับกูอยู่ใน กลียุค ความดี เปรียบเหมือยแสงเทียน ที่แม้จะน้อยนิด แต่มันจะสว่างไสวในความมืดทมิฬ มันคือโอกาส และความหวัง ของการดำรงอยู่ หากโลกไม่มีธรรม ไม่มีเมตตา ไม่มีแบ่งปัน มันจะต่างอะไรกับขุมนรก ที่แย่งชิงกันทุกเรื่องเช้าเย็น ทุนนิยมคือดาบ 2 คม เอาเปรียบก็จบเร็ว แบ่งกันกิน ก็อยู่ยาว พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอบอกต่อเลยว่า "โลกยุคอนาคต" เงินไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป เมื่อจิตใจถูกชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจนหมดเกลี้ยง ฐานะ ความเหลื่อมล้ำ จะลดลง ไม่ต้องรวย แค่มีกิน ไม่มีหนี้ ทุกคนเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานได้หมด แล้วมรึงยังต้องการอะไรอีก? กิเลส ตัวเดียว ที่กลืนกินโลกทั้งใบได้ สติจะเรียกความเป็นคนในตัวมรึงกลับมา อะไรที่ปู่ย่าตายายสอนมา มันใช้ได้จริง ไม่มีอะไรจะอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาลได้ดอก ลูกหลานไทยจะเหี้ยกว่านี้มั้ย? สังคมไทยจะฉิบหายกว่านี้มั้ย? มรึงไม่ต้องคิดมาก และกังวลไป ทุกอย่างมีทางออกของมันเอง แค่รอ "ฟ้าเปลี่ยนสี" ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรอย่างที่มรึงไม่คาดคิด เพราะแสงทำงานได้ดีกว่าปาก!

    ปล.หลังข่าวมหาเศรษฐี กลุ่ม ELITE ทั้งหลาย เทหุ้น ถอนการลงทุน ตลาดหุ้นนิวยอร์คระส่ำทันที ดอลล่าร์กำลังจะเน่า ใครถือเยอะ ก็คือเศษกระดาษ แปรรูปสิจ๊ะ ไอ้พวกนกรู้ ELITE สายแดร๊ก ขนเงินหอบไปลงทุนเอเซียกันหมด ธนบัตร BRICS ยังไม่ทันจะออกเลย แม่งเตรียมจองไว้เพี๊ยบ คริปโต ถูกโอนถ่ายแทนเงินสด ไม่มีใครเชื่อมั่นในดอลล่าร์อีกแล้ว เพราะอีนกรู้ มันอ่านขาด มรึงจะเผาดอลล่าร์กันในไม่ช้า ใครที่ยังตามโลกตอแหลอยู่ บาทไทยอ่อน ข้าวไทยทรุด สั้นๆ น่ะ "อีตอแหล" ทองคำใครมี คือความมั่นคง ข้าวปลาใครเยอะ คือความมั่งคั่ง มีแต่เหี้ยนั่นแหละ ที่เอามุกนี้มาหลอกควายเช้าเย็น ใครกำหนดค่าเงินล่ะ? หากมรึงยังผูกดอลล่าร์ มันจะสะกดมรึงให้ 1USD=1000000THB ยังได้เลย มรึงยังจะโง่ต่อมุย? ควายยังอายแทน ใครที่ยังคิดว่าดอลล่าร์มีตัวตนอยู่? ทั้งหมดมันมีแค่ตัวเลข ของจริงไม่มีเหลือ ตัวเลขลอยกลางอากาศ แล้วไอ้โง่หน้าไหนไม่ยู้ ไปยอมรับตัวเลขควายเหล่านั้น จับต้องไม่ได้ ตลาดหุ้นคือตลาดหลอกควาย ปั่นกันไปมา สุดท้าย ก็แค่โยกย้ายกระเป๋าใส่พวก ELITE สติเท่านั้น ที่ทำให้มรึงตื่น และมองเห็นภาพความเป็นจริง ชาติที่ไม่มีวัตถุดิบ ไม่มีเหี้ยอะไรเลย สั่งเค้ามา แล้วขายต่อ มรึงเอาเหี้ยอะไรมากำหนดค่าเงินชาวบ้าน? แต่ก่อนเอาแสนยานุภาพข่มขู่ แต่วันนี้ แม้แต่หมา แมว ยังไม่กลัวมรึงเลย? รอทุกอย่างสะเด็ดน้ำก่อน ไอ้อีขี้ข้าหมารับใช้ยิวทั่วโลก จะกลายร่างเป็นปรสิต เกาะกินนายใหม่เพื่อเอาตัวรอดทั้งนั้น รัสเซีย จีน อ่านขาดหมดแล้ว ดูดเพื่อยุบขั้วเก่า แล้วค่อยเอามาบดทำน้ำยาล้างตรีนภายหลัง? ประเทศกูมี มันมีกรรม และได้ชดใช้กรรมจนเกือบหมดแล้ว จากนี้คือขาขึ้น มุ่งหน้าสู่โคชิเองชัวร์ พุ่งทะยานฟ้า เพราะขั้วใหม่เค้าใจดี วางมรึงเป็นฮับอาเซียน จะรวยกันแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ? แค่ทิ้งเหี้ยคือจบ แค่กำจัดขยะคือรอด เราเดินมาสู่โหมด "ชำระล้าง ฆ่าล้างโคตรเหี้ย กันแล้ว" จงดีใจ อย่ากังวลมากเกินไป ความมั่นคงชาติและแผ่นดิน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ตัวจริงหมดแล้ว เรารอดมาได้ไม่รู้กี่ครั้งเพราะพวกเค้า "ผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง" อย่ากลัว พ่อยังอยู่ จะไม่มีอะไรทำร้ายแผ่นดินทองนี้ได้อีก พอเหอะ เลิกพูดเรื่องอีขะแมร์ซะที คนมีสติปัญญา มองเห็นหมดว่า ใครเป็นใคร? กูเคยบอกแล้วชิมิว่า ทหารอีขะแมร์มีหน้าที่จุดไฟแช็ตในตชด.ไทย มรึงยังไม่เข้าใจความหมายอีกเหรอ? พูดให้ชัดคือ "อีขะแมร์เป็นเบ๊ไทย ตั้งแต่อดีตกาล ยันไปถึงโลกอนาคต และจะเป็นเบ๊ไปยันชั่วลูกชั่วหลานของมัน จนกว่าจะถึงการรวมแผ่นดิน" ไบ้เยอะไปแล้วน่ะ แค่เห็นทหารไทย แม่งก็เยี่ยวแตกแล้ว เรียกลวกเพ่ทุกคำ ยังต้องให้กูบอกอีกมั้ยว่า มันจะบุกมายึดเกาะหมา เกาะแมว เหี้ยอะไรนี่อีก ไอ้ที่มรึงเห็นตามโซเชี่ยล "PROPAGANDA ชั้นประถม ทั้งนั้น" ฝ่ายความมั่นคงขำกลิ้ง ถามกลับ ยังมีควายหลงเชื่ออยู่อีกเหรอ? จบน่ะ อีขะแมร์แค่เบ๊ อย่าไปให้ราคาอะไรมันมาก มรึงจะไปลดตัวทำไม พูดชัดพอรึยัง? สาแก่ใจพอรึยัง?

    หมี CNN(คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน รวยหรือจน อยู่ที่มรึงให้ราคา จะรวยไปเพื่อ จะจนอีกนานไปเพื่อ? รวยยิ่งต้องแบ่ง จนยิ่งต้องขยัน เรื่องไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เปลี่ยนความคิด เรียกสติ พลังงานบวกมาทันที ทำซะน่ะ)
    05 พฤศจิกายน 67
    10.10 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    05-11-67/01 : หมี CNN / เปิดเช้าด้วย "คุณค่าของความเป็นคน" ยุคทอง ความดีก่อเกิด ศรัทธาเปี่ยมล้น ชูคนดี เหยียดคนชั่ว กลียุค ชูเงินเป็นพระเจ้า รวยคือคำตัดสิน กรณี เจ้าของ LV เข้าตึกตัวเองไม่ได้ เพราะขับรถถูกจอดหน้าตึก จะเดินเข้าถูกรปภ.ไล่ ชี้ชัด คนยุคนี้ ตัดสินด้วยเปลือก! เพราะทุนนิยมเหี้ยสามานย์ ล้างสมองควายโลก ให้ดูฐานะมาก่อนสิ่งอื่นใด รวยต้องแต่งรวยเสมอไปเหรอ รวยต้องมีคฤหาสน์เหรอ? ใครตัดสิน? เงินกู จะอยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง หรือส่วนรวมได้ทั้งนั้น? ดูผิวเผิน อาจจะไม่สาระ แต่มรึงดูความจริง ข้อเท็จจริง ชีวิตประจำวันมรึง แม้แต่ไปสมัครงาน แต่งตัว เครื่องประดับ ทั้งหมดเพื่อการยอมรับ ใช่หรือไม่? ไม่มีใครสนใจว่ามรึงเป็นคนดี หรือเป็นคนเก่ง มีคุณภาพต่อสังคมดอก รู้แค่ว่า มรึงรวย กูจะได้ขอเศษเงินมรึงได้ ก็เท่านั้นเอง? เข้าประเด็น จุดนี้แหละ ที่ไอ้อีไฮโซ ดารา ทุนสีเทา มันใช้ล่อเหยื่อ เพราะคุณค่าที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน "เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง" ถามว่า หากมีคนใส่เสื้อผ้าขาด เก่าสกปรก จะเดินเข้าห้างหรู แม้แต่โชว์รูมรถหรู รปภ.มันถูกสั่งอยู่แล้ว ไม่ให้คนจนมาเสนอหน้า มันก็จนเหมือนเค้า แต่เป็นลูกจ้าง ปัญญาให้มาแค่นี้ มรึงจะไปโทษใครได้? แล้วทำไมคนรวยต้องแต่งจน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างเหรอ? คำตอบคือ "สะท้อนสังคม" เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือก่อน คือ ผู้มีอันจะกิน เพราะทุกคนคิดว่า อาจได้สินไหมทดแทนกลับบ้าง จริงเหรอ? ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนน้อยมากจริงๆ คนที่ดูคนที่คุณค่าของคน มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปปลูกฝัง ขนาดพ่อแม่มันเอง ยังเต้นเมื่อเห็นคนรวย เพราะกิเลส ครอบงำ เงินคือทุกอย่าง ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ก็มีมาให้เห็นแล้ว อะไรที่จะหยุดสิ่งนี้ได้ นั่นคือ "สติ" หากคนมีปัญญามากพอ โชว์รูมรถหรู เห็นยาจกเดินเข้ามา หากผู้จัดการฉลาดซักกะนิด คนจนที่ไหนจะกล้าเข้ามาซื้อรถ หากไม่ใช่ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" มีเรื่องเล่า ในสวีเดนให้ฟัง กลายเป็นตำนาน เรื่องเล่าขาน ไม่มีใครรู้จริงเท็จอย่างไร เศรษฐีใหญ่เดินเข้าห้างหรู ห้างดังในสต๊อกโฮล์ม ไปดู "แชนเดอเลียร์" โคมไฟสุดหรู ลุงถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายว่า ราคาเท่าไหร่จ๊ะ? คนขายบอก "มันแพงน่ะ" ลุงก็ถามกลับอีกครั้งว่า "ราคาเท่าไหร่จ๊ะ" คนขายตอบ "มันแพงมากน่ะลุง" คราวนี้ ลุงถึงกับใช้ไม้เท้า เหวี่ยงจีแชนเดอเลียร์แตกกระจุยกลางห้าง เสียงดังสนั่นชั้น คนแห่มาดู เกิดอะไรขึ้น? คนขาย "หน้าซีดทันที" ลุงถามว่า "คราวนี้ เธอบอกชั้น(ฉาน)ได้รึยัง ว่าราคาเท่าไหร่?" ไม่มีใครรู้ว่า อีตาลุงคนนี้ คือเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสวีเดน นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" แท้จริง! หากลุงไม่ตีแชนเดอเลียร์แตกยับ มรึงจะรู้มั้ยว่า "กูเป็นใคร?" คนรวยจริงไม่โอ้อวด ไม่คุยเยอะ ไอ้ที่ไม่รวย เพิ่งจะมี เพิ่งจะรวยต่างหาก ที่อยาก SHOW OFF มรึงโชว์ไปทำไม? สร้างบารมีเหรอ? งั้นกูให้อีกมุมมองนึงคิด เศรษฐีใหญ่เหมือนกัน เอาข้าว เอาน้ำ ไปแจก สร้างถนน สร้างรพ. สถานีอนามัย เพื่อชุมชนบ้านเกิด ใช้เงินตัวเอง ไม่ต้องเบียดเบียนภาษีรัฐ คนจะจดจำมรึงได้ดีกว่า เอาเงินไปแจก ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เงินมีเหมือนกัน แต่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์แตกต่างกัน นั่นคือ "คุณค่าในตัวมรึงไงล่ะ" วันนี้ นาทีนี้ มรึงกับกูอยู่ใน กลียุค ความดี เปรียบเหมือยแสงเทียน ที่แม้จะน้อยนิด แต่มันจะสว่างไสวในความมืดทมิฬ มันคือโอกาส และความหวัง ของการดำรงอยู่ หากโลกไม่มีธรรม ไม่มีเมตตา ไม่มีแบ่งปัน มันจะต่างอะไรกับขุมนรก ที่แย่งชิงกันทุกเรื่องเช้าเย็น ทุนนิยมคือดาบ 2 คม เอาเปรียบก็จบเร็ว แบ่งกันกิน ก็อยู่ยาว พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอบอกต่อเลยว่า "โลกยุคอนาคต" เงินไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป เมื่อจิตใจถูกชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจนหมดเกลี้ยง ฐานะ ความเหลื่อมล้ำ จะลดลง ไม่ต้องรวย แค่มีกิน ไม่มีหนี้ ทุกคนเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานได้หมด แล้วมรึงยังต้องการอะไรอีก? กิเลส ตัวเดียว ที่กลืนกินโลกทั้งใบได้ สติจะเรียกความเป็นคนในตัวมรึงกลับมา อะไรที่ปู่ย่าตายายสอนมา มันใช้ได้จริง ไม่มีอะไรจะอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาลได้ดอก ลูกหลานไทยจะเหี้ยกว่านี้มั้ย? สังคมไทยจะฉิบหายกว่านี้มั้ย? มรึงไม่ต้องคิดมาก และกังวลไป ทุกอย่างมีทางออกของมันเอง แค่รอ "ฟ้าเปลี่ยนสี" ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรอย่างที่มรึงไม่คาดคิด เพราะแสงทำงานได้ดีกว่าปาก! ปล.หลังข่าวมหาเศรษฐี กลุ่ม ELITE ทั้งหลาย เทหุ้น ถอนการลงทุน ตลาดหุ้นนิวยอร์คระส่ำทันที ดอลล่าร์กำลังจะเน่า ใครถือเยอะ ก็คือเศษกระดาษ แปรรูปสิจ๊ะ ไอ้พวกนกรู้ ELITE สายแดร๊ก ขนเงินหอบไปลงทุนเอเซียกันหมด ธนบัตร BRICS ยังไม่ทันจะออกเลย แม่งเตรียมจองไว้เพี๊ยบ คริปโต ถูกโอนถ่ายแทนเงินสด ไม่มีใครเชื่อมั่นในดอลล่าร์อีกแล้ว เพราะอีนกรู้ มันอ่านขาด มรึงจะเผาดอลล่าร์กันในไม่ช้า ใครที่ยังตามโลกตอแหลอยู่ บาทไทยอ่อน ข้าวไทยทรุด สั้นๆ น่ะ "อีตอแหล" ทองคำใครมี คือความมั่นคง ข้าวปลาใครเยอะ คือความมั่งคั่ง มีแต่เหี้ยนั่นแหละ ที่เอามุกนี้มาหลอกควายเช้าเย็น ใครกำหนดค่าเงินล่ะ? หากมรึงยังผูกดอลล่าร์ มันจะสะกดมรึงให้ 1USD=1000000THB ยังได้เลย มรึงยังจะโง่ต่อมุย? ควายยังอายแทน ใครที่ยังคิดว่าดอลล่าร์มีตัวตนอยู่? ทั้งหมดมันมีแค่ตัวเลข ของจริงไม่มีเหลือ ตัวเลขลอยกลางอากาศ แล้วไอ้โง่หน้าไหนไม่ยู้ ไปยอมรับตัวเลขควายเหล่านั้น จับต้องไม่ได้ ตลาดหุ้นคือตลาดหลอกควาย ปั่นกันไปมา สุดท้าย ก็แค่โยกย้ายกระเป๋าใส่พวก ELITE สติเท่านั้น ที่ทำให้มรึงตื่น และมองเห็นภาพความเป็นจริง ชาติที่ไม่มีวัตถุดิบ ไม่มีเหี้ยอะไรเลย สั่งเค้ามา แล้วขายต่อ มรึงเอาเหี้ยอะไรมากำหนดค่าเงินชาวบ้าน? แต่ก่อนเอาแสนยานุภาพข่มขู่ แต่วันนี้ แม้แต่หมา แมว ยังไม่กลัวมรึงเลย? รอทุกอย่างสะเด็ดน้ำก่อน ไอ้อีขี้ข้าหมารับใช้ยิวทั่วโลก จะกลายร่างเป็นปรสิต เกาะกินนายใหม่เพื่อเอาตัวรอดทั้งนั้น รัสเซีย จีน อ่านขาดหมดแล้ว ดูดเพื่อยุบขั้วเก่า แล้วค่อยเอามาบดทำน้ำยาล้างตรีนภายหลัง? ประเทศกูมี มันมีกรรม และได้ชดใช้กรรมจนเกือบหมดแล้ว จากนี้คือขาขึ้น มุ่งหน้าสู่โคชิเองชัวร์ พุ่งทะยานฟ้า เพราะขั้วใหม่เค้าใจดี วางมรึงเป็นฮับอาเซียน จะรวยกันแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ? แค่ทิ้งเหี้ยคือจบ แค่กำจัดขยะคือรอด เราเดินมาสู่โหมด "ชำระล้าง ฆ่าล้างโคตรเหี้ย กันแล้ว" จงดีใจ อย่ากังวลมากเกินไป ความมั่นคงชาติและแผ่นดิน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ตัวจริงหมดแล้ว เรารอดมาได้ไม่รู้กี่ครั้งเพราะพวกเค้า "ผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง" อย่ากลัว พ่อยังอยู่ จะไม่มีอะไรทำร้ายแผ่นดินทองนี้ได้อีก พอเหอะ เลิกพูดเรื่องอีขะแมร์ซะที คนมีสติปัญญา มองเห็นหมดว่า ใครเป็นใคร? กูเคยบอกแล้วชิมิว่า ทหารอีขะแมร์มีหน้าที่จุดไฟแช็ตในตชด.ไทย มรึงยังไม่เข้าใจความหมายอีกเหรอ? พูดให้ชัดคือ "อีขะแมร์เป็นเบ๊ไทย ตั้งแต่อดีตกาล ยันไปถึงโลกอนาคต และจะเป็นเบ๊ไปยันชั่วลูกชั่วหลานของมัน จนกว่าจะถึงการรวมแผ่นดิน" ไบ้เยอะไปแล้วน่ะ แค่เห็นทหารไทย แม่งก็เยี่ยวแตกแล้ว เรียกลวกเพ่ทุกคำ ยังต้องให้กูบอกอีกมั้ยว่า มันจะบุกมายึดเกาะหมา เกาะแมว เหี้ยอะไรนี่อีก ไอ้ที่มรึงเห็นตามโซเชี่ยล "PROPAGANDA ชั้นประถม ทั้งนั้น" ฝ่ายความมั่นคงขำกลิ้ง ถามกลับ ยังมีควายหลงเชื่ออยู่อีกเหรอ? จบน่ะ อีขะแมร์แค่เบ๊ อย่าไปให้ราคาอะไรมันมาก มรึงจะไปลดตัวทำไม พูดชัดพอรึยัง? สาแก่ใจพอรึยัง? หมี CNN(คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน รวยหรือจน อยู่ที่มรึงให้ราคา จะรวยไปเพื่อ จะจนอีกนานไปเพื่อ? รวยยิ่งต้องแบ่ง จนยิ่งต้องขยัน เรื่องไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เปลี่ยนความคิด เรียกสติ พลังงานบวกมาทันที ทำซะน่ะ) 05 พฤศจิกายน 67 10.10 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความร่ำรวยอย่างพรวดพราด ซึ่งน่าจะได้มาจากการฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านส่งผลให้ชาวเน็ตเปลี่ยนชื่อ จากทนายตั้มเป็นทนายต้มกันอย่างครื้นเครง ถือว่าคดีฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านเป็นการเปิดแผลแรกของทนายตั้ม ชนิดที่เจ้าตัวไม่เคยมีบาดแผลเหวอะหวะบาดเจ็บหนักเท่านี้มาก่อน
    ล่าสุดพี่อ้อยจตุพร อุบลเลิศ เข้าให้การกองปราบปรามยาวนานถึงสิบเอ็ดชั่วโมงพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตรวจสอบพฤติกรรมของทนายต้มแล้วพบว่า พี่อ้อยไม่ได้ถูกต้มแค่หลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้านคดีเดียว แต่ยังถูกต้มเรื่องเงินคริปโตของเพื่อนอีก 39 ล้าน เรื่องเงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน ค่าออกแบบบ้านของสามีพี่อ้อย3 ล้านและเงินซื้อรถเบนซ์ 13 ล้าน ซึ่งพี่อ้อยโดนฟันส่วนต่างราคาไปร่วม5 ล้าน การที่เหยื่อคนเดียวถูกฉ้อโกงซ้ําๆ แบบนี้ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา3 วงเล็บ 18 แห่ง พ รบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ ศ2542 เรียกว่าฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ คําว่าปกติธุระหมายความว่ากระทําการซ้ําซ้ํากันมากกว่าหนึ่งครั้งกระทําความผิดเป็นสันดาน มีลักษณะที่จะเป็นการกระทําเช่นนั้นต่อต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมของทนายต้ม หลอกเหยื่อคนเดิมหลายครั้งเข้าองค์ประกอบชัดเจนคดีที่พี่อ้อยแจ้งจากทนายตั้มจึงไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกง แต่จะกลายเป็นคดีฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทันทีไม่ต้องมีหมายเรียก
    ปฏิบัติการนี้จึงเป็นการถอนรากถอนโคนทนายแบรนด์เนมและองค์กรซ่อนเงื่อนของเขาแบบม้วนเดียวจบ จบตํานานทนายความที่ทําตัวเป็นภัยกับลูกความ เอาเข้าจริง ที่มาของความร่ํารวยของทนายต้มน่าจะไม่ใช่แค่การฉ้อโกง
    คนที่ปูดเรื่องนี้ออกมาคือจอมแฉผู้รู้ลึกรู้จริงในแวดวงคนสีเทานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ย้อนไปเมื่อวันที่สองเมษายน2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่าข่าวด่วนสัมภเวสีอาละวาดทนายคนดีชอบแถลงข่าวช่วยประชาชน รวยแค่ข้ามคืนจนคนสงสัยไปทั่ว ทําไมรวยเร็วจังที่แท้เบื้องหลังทําพนันออนไลน์หุ้นกับเจ้าหน้าที่ dsi ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปีชื่อเว็บเฮงเกมส์มีญาติชื่อแจ๊คดูแลเว็บให้ คนที่รู้ดีคือตํารวจใหญ่ฉายาเทพจอจาน ที่ต้องหลับตาลงข้างเดียวเพราะใช้งานกันอยู่ ก่อนทนายจะดังหากินกับการรับคดียาเพราะได้เงินมากง่ายและเร็วไม่รับทําคดีอื่นให้เสียเวลาอย่างคดีดาราสาวดังลูกครึ่งใช้เอกสารตํารวจปลอม บินปร๋อหนีไปต่างประเทศทันที
    สํานักงานทนายกําไรต่อปีเท่ารายได้มนุษย์เงินเดือนแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าบ้าแบรนด์เนม บ้านหลังละเกือบร้อยล้าน มีแผนส่งลูกเรียนเมืองนอกด้วย ทุกครั้งไปเที่ยวต่างประเทศต้องมีลูกน้องตํารวจใหญ่เทพจอจาน มารอรับถึงสนามบิน เข็นรถให้ช้อปปิ้งหลักล้านปรนเปอร์เมียภาษีไม่เคยจ่ายเพราะเงินที่ได้แบบเทาๆ เอาไปแอบซุกไว้ในบัญชีพี่เมีย วันใด ปปงเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม อาจเจาะไปถึงธุรกิจสีเทาที่มีข่าวทนายตั้มพัวพันตามที่ชูวิทย์แฉไว้เป็นปีแล้วแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความร่ำรวยอย่างพรวดพราด ซึ่งน่าจะได้มาจากการฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านส่งผลให้ชาวเน็ตเปลี่ยนชื่อ จากทนายตั้มเป็นทนายต้มกันอย่างครื้นเครง ถือว่าคดีฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านเป็นการเปิดแผลแรกของทนายตั้ม ชนิดที่เจ้าตัวไม่เคยมีบาดแผลเหวอะหวะบาดเจ็บหนักเท่านี้มาก่อน ล่าสุดพี่อ้อยจตุพร อุบลเลิศ เข้าให้การกองปราบปรามยาวนานถึงสิบเอ็ดชั่วโมงพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตรวจสอบพฤติกรรมของทนายต้มแล้วพบว่า พี่อ้อยไม่ได้ถูกต้มแค่หลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้านคดีเดียว แต่ยังถูกต้มเรื่องเงินคริปโตของเพื่อนอีก 39 ล้าน เรื่องเงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน ค่าออกแบบบ้านของสามีพี่อ้อย3 ล้านและเงินซื้อรถเบนซ์ 13 ล้าน ซึ่งพี่อ้อยโดนฟันส่วนต่างราคาไปร่วม5 ล้าน การที่เหยื่อคนเดียวถูกฉ้อโกงซ้ําๆ แบบนี้ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา3 วงเล็บ 18 แห่ง พ รบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ ศ2542 เรียกว่าฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ คําว่าปกติธุระหมายความว่ากระทําการซ้ําซ้ํากันมากกว่าหนึ่งครั้งกระทําความผิดเป็นสันดาน มีลักษณะที่จะเป็นการกระทําเช่นนั้นต่อต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมของทนายต้ม หลอกเหยื่อคนเดิมหลายครั้งเข้าองค์ประกอบชัดเจนคดีที่พี่อ้อยแจ้งจากทนายตั้มจึงไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกง แต่จะกลายเป็นคดีฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทันทีไม่ต้องมีหมายเรียก ปฏิบัติการนี้จึงเป็นการถอนรากถอนโคนทนายแบรนด์เนมและองค์กรซ่อนเงื่อนของเขาแบบม้วนเดียวจบ จบตํานานทนายความที่ทําตัวเป็นภัยกับลูกความ เอาเข้าจริง ที่มาของความร่ํารวยของทนายต้มน่าจะไม่ใช่แค่การฉ้อโกง คนที่ปูดเรื่องนี้ออกมาคือจอมแฉผู้รู้ลึกรู้จริงในแวดวงคนสีเทานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ย้อนไปเมื่อวันที่สองเมษายน2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่าข่าวด่วนสัมภเวสีอาละวาดทนายคนดีชอบแถลงข่าวช่วยประชาชน รวยแค่ข้ามคืนจนคนสงสัยไปทั่ว ทําไมรวยเร็วจังที่แท้เบื้องหลังทําพนันออนไลน์หุ้นกับเจ้าหน้าที่ dsi ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปีชื่อเว็บเฮงเกมส์มีญาติชื่อแจ๊คดูแลเว็บให้ คนที่รู้ดีคือตํารวจใหญ่ฉายาเทพจอจาน ที่ต้องหลับตาลงข้างเดียวเพราะใช้งานกันอยู่ ก่อนทนายจะดังหากินกับการรับคดียาเพราะได้เงินมากง่ายและเร็วไม่รับทําคดีอื่นให้เสียเวลาอย่างคดีดาราสาวดังลูกครึ่งใช้เอกสารตํารวจปลอม บินปร๋อหนีไปต่างประเทศทันที สํานักงานทนายกําไรต่อปีเท่ารายได้มนุษย์เงินเดือนแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าบ้าแบรนด์เนม บ้านหลังละเกือบร้อยล้าน มีแผนส่งลูกเรียนเมืองนอกด้วย ทุกครั้งไปเที่ยวต่างประเทศต้องมีลูกน้องตํารวจใหญ่เทพจอจาน มารอรับถึงสนามบิน เข็นรถให้ช้อปปิ้งหลักล้านปรนเปอร์เมียภาษีไม่เคยจ่ายเพราะเงินที่ได้แบบเทาๆ เอาไปแอบซุกไว้ในบัญชีพี่เมีย วันใด ปปงเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม อาจเจาะไปถึงธุรกิจสีเทาที่มีข่าวทนายตั้มพัวพันตามที่ชูวิทย์แฉไว้เป็นปีแล้วแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมดเวลาหาแสง สอบสวนกลางห้ามใช้แถลงข่าว

    กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกายระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวโดยเด็ดขาด

    สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะ มาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจสอบส่วนกลางจำนวนมาก หลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้กำลัง ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจึงต้องออกกฎระเบียบดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด 2. หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก

    3. ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และ 4. ห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี

    ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ในตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย นำพยานรายหนึ่ง อ้างว่า 1 ใน 18 บอสคดีดิไอคอน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ปรากฎว่าพยานสารภาพว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง คาดว่าอยากเรียกร้องความสนใจ

    “ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวาย สร้างความไขว้เขว อันนี้ต้องว่ากัน”

    สำหรับศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งอยู่ที่กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหน่วยงานในสังกัด 6 หน่วยงานมารวมกันที่นี่

    #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    หมดเวลาหาแสง สอบสวนกลางห้ามใช้แถลงข่าว กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกายระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวโดยเด็ดขาด สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะ มาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจสอบส่วนกลางจำนวนมาก หลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้กำลัง ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจึงต้องออกกฎระเบียบดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด 2. หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก 3. ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และ 4. ห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ในตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย นำพยานรายหนึ่ง อ้างว่า 1 ใน 18 บอสคดีดิไอคอน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ปรากฎว่าพยานสารภาพว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง คาดว่าอยากเรียกร้องความสนใจ “ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวาย สร้างความไขว้เขว อันนี้ต้องว่ากัน” สำหรับศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งอยู่ที่กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหน่วยงานในสังกัด 6 หน่วยงานมารวมกันที่นี่ #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โยกเงินคริปโต” คนพูดเท็จต้องรับผิดชอบ 22/10/67 #เงินคริปโต #CIB #ดิไอคอน #The Icon #บอสพอล
    “โยกเงินคริปโต” คนพูดเท็จต้องรับผิดชอบ 22/10/67 #เงินคริปโต #CIB #ดิไอคอน #The Icon #บอสพอล
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1196 มุมมอง 370 0 รีวิว
  • ## The icon ภาค 2 โดย อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ##
    ..
    ..
    วิเคราะห์เจาะลึก โดย อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ครั้งที่ 2 คดี The icon
    .
    อาจารย์ปานเทพ ละเอียดยิบเช่นเดิมครับ...
    .
    จากรายการ News Hour 18-10-67 : ย้อนเทียบ..คำพิพากษาคดีแชร์ลูกโซ่ดัง ใครรอด-ไม่รอด
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=hcsD9fW6VCA
    ...
    ...
    เสริมให้เล็กน้อยครับ...
    .
    ผมเห็นเพจพวกลงทุนใน คริปโตเคอร์เรนซี ออกมาแก้ตัวแทน คริปโตเคอร์เรนซี ในเคสนี้ ว่า...
    .
    รู้มั้ยพวก ธุรกิจมืด พวกที่ฟอกเงิน เขาไม่นิยมใช้ USDT เหตุเพราะ สามารถถูกอายัดบัญชีได้...
    .
    ถ้าพูดให้ครบถ้วนคือ โดยปกติ ทำไม่ได้นะครับ
    .
    แต่...
    .
    กรณีนั้น Exchange ถูกกดดันจากประเทศ อเมริกา ครับ...
    .
    คำถามครับ ตำรวจไทย มีอำนาจ อายัดบัญชีพวกนี้ด้วยหรือไม่...???
    .
    ตำรวจไทย มีอำนาจ กดดัน Exchange เช่น ประเทศ อเมริกา หรือ ไม่...???
    .
    หนึ่งในเหตุผลที่ ประเทศต่างๆ ไม่สนับสนุน คริปโคเคอร์เรนซี หรือ บิตคอยน์ สำหรับใช้แทนเงินกระดาษ ก็คือเรื่องนี้ครับ "การฟอกเงิน" รัฐตามรอยได้ยากมากครับ...
    .
    ดีไม่ดีไปคิดต่อกันเอาเองครับ...
    .
    😁😁😁😁
    ## The icon ภาค 2 โดย อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ## .. .. วิเคราะห์เจาะลึก โดย อาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ครั้งที่ 2 คดี The icon . อาจารย์ปานเทพ ละเอียดยิบเช่นเดิมครับ... . จากรายการ News Hour 18-10-67 : ย้อนเทียบ..คำพิพากษาคดีแชร์ลูกโซ่ดัง ใครรอด-ไม่รอด . https://www.youtube.com/watch?v=hcsD9fW6VCA ... ... เสริมให้เล็กน้อยครับ... . ผมเห็นเพจพวกลงทุนใน คริปโตเคอร์เรนซี ออกมาแก้ตัวแทน คริปโตเคอร์เรนซี ในเคสนี้ ว่า... . รู้มั้ยพวก ธุรกิจมืด พวกที่ฟอกเงิน เขาไม่นิยมใช้ USDT เหตุเพราะ สามารถถูกอายัดบัญชีได้... . ถ้าพูดให้ครบถ้วนคือ โดยปกติ ทำไม่ได้นะครับ . แต่... . กรณีนั้น Exchange ถูกกดดันจากประเทศ อเมริกา ครับ... . คำถามครับ ตำรวจไทย มีอำนาจ อายัดบัญชีพวกนี้ด้วยหรือไม่...??? . ตำรวจไทย มีอำนาจ กดดัน Exchange เช่น ประเทศ อเมริกา หรือ ไม่...??? . หนึ่งในเหตุผลที่ ประเทศต่างๆ ไม่สนับสนุน คริปโคเคอร์เรนซี หรือ บิตคอยน์ สำหรับใช้แทนเงินกระดาษ ก็คือเรื่องนี้ครับ "การฟอกเงิน" รัฐตามรอยได้ยากมากครับ... . ดีไม่ดีไปคิดต่อกันเอาเองครับ... . 😁😁😁😁
    Like
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 586 มุมมอง 3 รีวิว
  • สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง
    //////

    ข่าวล่าสุดวันนี้

    "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง"

    ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว)

    เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ...

    ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ

    ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน

    ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน

    ........

    จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่?

    ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ

    อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย

    ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี

    "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน

    วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก

    แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ...
    เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว

    ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด

    โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล
    เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด

    เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน

    เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ

    ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว

    บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น
    จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด

    ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง

    คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน

    "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น"

    การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้

    ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก

    จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว

    เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ

    เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น

    นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว

    โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ

    ~ สุวินัย ภรณวลัย
    Suvinai Pornavalai
    สุดท้ายแล้ว 'บอสพอล' คือผู้ชนะตัวจริง ////// ข่าวล่าสุดวันนี้ "พบเส้นทางเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ 'โค๊ชแล็ป่ ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง" ตอนนี้มันชัดแล้วว่า "เกมดูดทรัพย์" จากแชร์ลูกโซ่แสนล้าน The Icon เกมนี้ บอสพอลคือผู้ชนะตัวจริง แบบ Winner Takes All (ชนะแบบกินรวบคนเดียว) เงินเหรียญคริปโตมูลค่าแปดฟันกว่าล้านที่หายไปในความมืดนี้ คือเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งที่สุดว่า ... ● แชร์ลูกโซ่ The Icon วงนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น หนึ่งแสนล้านบาท มิใช่หมื่นล้านดังที่บอสพอลเจตนาปล่อยข้อมูลลวงผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Standard ก่อนถูกจับ ● ข้อมูล "จ่ายส่วยหมื่นล้าน" ที่บอสพอลให้คนออกมาปล่อยข้อมูลนี้แก่กลุ่มทนายจิตอาสา น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่นอน ● ที่ประเมินกันว่า เกมนี้บอสพอลน่าจะ "ดูดทรัพย์" ไปคนเดียวสองหมื่นล้าน จึงมีเค้าว่าน่าจะจริงเช่นกัน ........ จากข่าวนี้ยังงั้นก็แสดงว่าบริษัท The Icon นี้เปิดมาเพื่อฟอกเงิน และทำแชร์ลูกโซ่อีกส่วนหนึ่งด้วยใช่หรือไม่? ผมคิดว่าบอสพอลน่าจะทำแชร์ลูกโซ่แล้วฟอกเงินเพื่อส่งส่วย กับเตรียมเอาไปใช้เสพสุขหลังพ้นคดีแล้วมากกว่านะ อันที่จริงทั้งหมดอยู่ในแผนการใหญ่ของบอสพอลตั้งแต่แรกแล้วละ รวมทั้งการยอมถูกจับดำเนินคดีด้วย ตอนนี้บอสพอลจึง 'นิ่ง' มากกว่าใครในบรรดาบอส 18 คนทั้งหมดที่โดนดำเนินคดี "การยอมตกเป็นผู้ต้องหา" คือ ห่วงโซ่ข้อที่สำคัญที่สุดในแผนการใหญ่ของบอสพอลที่เขาวางไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนริเริ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ The Icon เมื่อหกปีก่อน วินาทีนี้ ตัวบอสพอลเองรู้แน่ชัดแล้วว่า ตัวเขาคือ 'ผู้ชนะตัวจริง' ของเกมนี้โดยที่ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้แต่แรก แผนก่อนหน้าของบอสพอลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ... เมื่อบอสพอลหันมาว่าจ้างพวก 'บอสดารา' อย่างทุ่มไม่อั้น เพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่อคนที่สมัครมาเป็นดีลเลอร์รายละ 250,000 อย่างก้าวกระโดด โดยที่บุคคลเหล่านั้นได้ถูกทำให้เป็น 'บัญชีม้า' ของบริษัทไปแบบไม่รู้ตัว ตอนนั้นพวก 'บอสดาราหน้าโง่' ที่ถูกบอสพอลหลอกใช้ ล้วนหลงดีใจกระดี๊กระด๊ามีความสุข เพราะเห็นตัวเลขยอดขายและลูกข่ายพุ่งขี้นตลอด โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ยิ้มกริ่มจริง ๆ ก็คือตัวบอสพอล เพราะการว่าจ้างพวกบอสดาราหน้าโง่ค่าตัวแพงเหล่านี้ มันสามารถช่วยอายุต่อเกมดูดทรัพย์-แชร์ลูกโซ่วงนี้ได้อีกสองปี แถมยังดูดทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านจนแชร์ลูกโซ่วงนี้ทะลุแสนล้านได้ในที่สุด เพราะพวกบอสดาราหน้าโง่พวกนี้แท้ ๆ จึงทำให้บอสพอลได้ รายชื่อ (เหยื่อ) มาฟรี ๆ อีกสามแสนกว่าคน ทั้งยังได้ฟอกเงินแปลงเป็นเหรียญคริปโตอีกสามหมื่นกว่าล้าน เรียกว่า winner takes all สุด ๆ ...คือทำให้บอสพอลกินรวบจนพุงกาง อิ่มสุด ๆ ถ้าผมเป็นบอสพอล กลยุทธ์ต่อจากนี้ของผมคือ กลยุทธ์ "เตมีย์ใบ้" ทำให้สังคมค่อย ๆ ลืมเลือนตัวตนและเรื่องราวของเขา จนหายไปจากความทรงจำของสังคมและผู้คน โดยปล่อยให้ 'บอสกันต์' รับบาปแทนไปเต็ม ๆ คนเดียว บอสพอลเล็งเป้าไปที่ 'บอสกันต์' ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่จะให้ "รับบาปแทนตัวเอง" เพราะบอสพอลศึกษาพฤติกรรมในอดีตจนเข้าใจตัวตนของบอสกันต์อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ชายคนนี้ทั้งกร่าง ทั้งละโมบ ทั้งหิวแสง และชอบอวดตัวตน บอสพอลจึงตั้งใจ "ปรนเปรอ" บอสกันต์อย่างไม่อั้น จน 'บอสกันต์' ติดกับดักของ 'บอสพอล' อย่างดิ้นไม่หลุด ตอนนี้บอสพอลน่าจะนั่งยิ้มเยาะ "พวกหน้าโง่ทั้งหลายในโซเชียล" ที่หันไปรุมถล่มสมน้ำหน้า "บอสกันต์" แถมด้วย "บอสวอ" ที่โดนลูกหลง คนพวกนี้ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า พวกตนถูกจมูงจมูกโดยพวกไอโอที่เป็นสมุนรับจ้างของบอสพอล ให้คอยยุแหย่ ปล่อยข่าวเบี่ยงเบนความสนใจของกระแสโซเชียลให้ฟุ่งเป้าความหมั่นไส้และใส่ใจทั้งปวงไปที่ "บอสกันต์" แทน "พวกหน้าโง่พวกนี้ มันไม่มีวันตามหมากของกูทันหรอก เพราะพวกมันมีสติปัญญาแค่เสพสารที่พวกกูคอยป้อนให้พวกมันอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น" การจ้างไอโอมืออาชีพเพื่อให้ทำหน้าที่เบี่ยงเบนกระแสโจมตีไปจากตัวเอง คือห่วงโซ่อีกข้อหนึ่งที่ 'บอสพอล' ยอมทุ่มเงินทอง โดยจ่ายเงินมัดจำก้อนโตไปแล้วก่อนหน้านี้ ผมจะไม่แปลกใจเลยหากตอนนี้ 'บอสพอล' กำลังยิ้มเยาะอย่างลำพองอยู่ในใจคนเดียวในห้องคุมขัง ... เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของแผน 'ปิดเกม' (end game) ของเขาตั้งแต่แรก จุดสำคัญคือ ปปง.จะอายัดทรัพย์สิน The Icon ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเงินอย่างน้อยเกือบสองหมื่นล้านน่าจะหายเข้ากลีบเมฆในรูปของเหรียญคริปโตไปแล้ว เงินชดเชยที่ผู้เสียหายจะได้รับคืน ถ้าได้ถึง 10% ก็บุญโขแล้วละ เนื่องจากเรื่องนี้มี "อำนาจมืด" ผู้รับส่วยจากบอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเชิงลึก สุดท้ายทางการคงปล่อยให้พวกบอสดารารับกรรมกันไป ส่วน 'บอสพอล' คงลอยนวลหลังจากติดคุกพอเป็นพิธีเท่านั้น นี่คือข้อตกลงลับที่ 'บอสพอล' น่าจะได้รับมาตั้งแต่สามสี่ปีที่แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนี้แหละ ~ สุวินัย ภรณวลัย Suvinai Pornavalai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความของบีบีซีไทยเรื่อง“เหตุใดคริปโตเคอเรนซีจึงถูกใช้ในกิจกรรมผิดกฏหมายมากขึ้น?“

    มีตอนหนึ่งของบทความนี้ที่กล่าวถึง การควบคุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในไทย
    รายงานศึกษาเรื่อง “มาตรการในการควบคุมการกระทำความผิดอาญาที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล” ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารศาสตร์สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ม.ราชภัฎมหาสารคาม เมื่อปี 2565 ระบุว่า ปัญหาของสถานะสกุลเงินดิจิทัลในไทยคือ เมื่อพิจารณาจากลักษณะทางกายภาพ นิยามทางกฎหมาย และลักษณะการกระทำความผิดที่ใกล้เคียงกัน ยังพบว่าไม่มีความชัดเจนในทางกฎหมายอาญาว่าสกุลเงินดิจิทัลมีสถานะเป็นอะไร จึงส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนว่าจะนำกฎหมายใดมาบังคับใช้

    ในขณะเดียวกัน ก็พบปัญหาว่ายังมีช่องว่างในการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลในลักษณะ การขโมยสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากกฎหมายอาญาของไทยกำหนดให้ความผิดในส่วนของวัตถุแห่งการกระทำนั้นจะต้องเป็น “ทรัพย์” ซึ่งมีรูปร่างจับต้องได้ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถจับต้องได้

    นอกจากนี้ การกระทำความผิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลนั้น มักกระทำผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถเชื่อมโยงผู้กระทำความผิดจากทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน ความเสียหายจึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะสกุลเงินดิจิทัลมีแพร่หลายทั่วโลกในลักษณะ global asset จึงทำให้อาชญากรรมที่เกิดขึ้นมีมิติข้ามชาติและเกี่ยวข้องกับเขตอำนาจทางกฎหมายมากกว่า 1 รัฐ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศในการปราบปรามหรือยับยั้งการกระทำความผิดดังกล่าว

    ที่มา https://www.bbc.com/thai/articles/cz9p85n709xo

    #Thaitimes
    บทความของบีบีซีไทยเรื่อง“เหตุใดคริปโตเคอเรนซีจึงถูกใช้ในกิจกรรมผิดกฏหมายมากขึ้น?“ มีตอนหนึ่งของบทความนี้ที่กล่าวถึง การควบคุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในไทย รายงานศึกษาเรื่อง “มาตรการในการควบคุมการกระทำความผิดอาญาที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล” ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารศาสตร์สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ม.ราชภัฎมหาสารคาม เมื่อปี 2565 ระบุว่า ปัญหาของสถานะสกุลเงินดิจิทัลในไทยคือ เมื่อพิจารณาจากลักษณะทางกายภาพ นิยามทางกฎหมาย และลักษณะการกระทำความผิดที่ใกล้เคียงกัน ยังพบว่าไม่มีความชัดเจนในทางกฎหมายอาญาว่าสกุลเงินดิจิทัลมีสถานะเป็นอะไร จึงส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนว่าจะนำกฎหมายใดมาบังคับใช้ ในขณะเดียวกัน ก็พบปัญหาว่ายังมีช่องว่างในการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลในลักษณะ การขโมยสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากกฎหมายอาญาของไทยกำหนดให้ความผิดในส่วนของวัตถุแห่งการกระทำนั้นจะต้องเป็น “ทรัพย์” ซึ่งมีรูปร่างจับต้องได้ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถจับต้องได้ นอกจากนี้ การกระทำความผิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลนั้น มักกระทำผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถเชื่อมโยงผู้กระทำความผิดจากทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน ความเสียหายจึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะสกุลเงินดิจิทัลมีแพร่หลายทั่วโลกในลักษณะ global asset จึงทำให้อาชญากรรมที่เกิดขึ้นมีมิติข้ามชาติและเกี่ยวข้องกับเขตอำนาจทางกฎหมายมากกว่า 1 รัฐ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศในการปราบปรามหรือยับยั้งการกระทำความผิดดังกล่าว ที่มา https://www.bbc.com/thai/articles/cz9p85n709xo #Thaitimes
    WWW.BBC.COM
    ดิไอคอนกรุ๊ป: เหตุใดคริปโตเคอเรนซีจึงถูกใช้ในกิจกรรมที่เสี่ยงผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น ? - BBC News ไทย
    สกุลเงินดิจิทัลคืออะไร และเหตุใดจึงถูกใช้ในอาชญากรรมต่าง ๆ มากขึ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥 ผงะ! พบเส้นทางการเงินผิดปกติ จากคริปโตเคอเรนซี
    จำนวน 248ล้าน USDT มูลค่ารวมกว่า 8,223 ล้านบาท
    ถูกโอนออกไปก่อนหน้า 1 ชั่วโมง ก่อนที่โค้ชแล็ป
    1 ใน 18 ผู้ที่ถูกออกหมายจับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป
    จะถูกจับกุม
    ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ดิไอคอนกรุ๊ป #thaitimes
    🔥🔥 ผงะ! พบเส้นทางการเงินผิดปกติ จากคริปโตเคอเรนซี จำนวน 248ล้าน USDT มูลค่ารวมกว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนหน้า 1 ชั่วโมง ก่อนที่โค้ชแล็ป 1 ใน 18 ผู้ที่ถูกออกหมายจับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จะถูกจับกุม ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ดิไอคอนกรุ๊ป #thaitimes
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ปราย พันแสง

    เมื่อคืนดูคลิปบอสเล่านิทานเรื่อง“มดไต่แก้ว”แล้วนอนไม่หลับเอาเลย ยอมรับว่าเล่าเก่งโคตร

    ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม
    จึงมีเหยื่อมากมายนัก
    ก็มันชวนเคลิ้มซะขนาดนี้

    🌻

    นานมาแล้ว สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเคยบอกว่า "The most powerful person in the world is the storyteller.“ คนที่ทรงพลังที่สุดในโลกคือนักเล่าเรื่อง จอบส์ฟันธงไว้อย่างนั้น

    เขาบอกว่า“นักเล่าเรื่อง” หรือคนที่เล่าเรื่องเป็น(storyteller) จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยม และระเบียบวาระต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้กับผู้คนทั้งเจเนอเรชั่น อาจจะกล่าวได้ว่า นักเล่าเรื่องเก่งๆ นั้นสามารถกำหนดเทรนด์หรือทิศทางของสังคมได้

    ส่วนที่จอบส์ไม่ได้บอกไว้ก็คือ นักเล่าเรื่องเก่งๆ หลายคน สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความฉิบหายระดับหมื่นล้านแสนล้านได้ด้วย

    สิ่งที่ปรากฏต่อสังคมไทยในวันนี้
    มันอาจเป็นประจักษ์พยานด้านมืด
    ของ storyteller อย่างชัดๆ

    🌻

    “มดไต่แก้ว” เป็นเรื่องเล่าง่ายๆ เกี่ยวกับมดที่พยายามป่ายปีนออกไปให้พ้นแก้ว มดบางตัวปีนไปจนอยู่ในจุดสูงที่สุดของปากแก้ว แต่แล้วก็ตกลงมา

    บอสบอกไว้คมเฉียบว่า ”การตกลงมาจากจุดสูงสุดอย่างนั้น มันทำให้เจ็บที่สุด ทำให้มีมดบางตัวยอมแพั แต่ก็ยังมีมดบางตัวสู้ต่อ จนได้รับอิสรภาพในที่สุด“

    เคลิ้มมั้ยล่ะ ^__^

    🌻

    เอาจริง จากอาชีพอ่านๆ เขียนๆ เรื่องเล่าประเภทนี้ไม่ได้กินเราหรอก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลี อีกทั้งยังต้องอยู่ในสถานะลูกข่ายที่ต้องไล่ล่าทำยอดขาย พลังของเรื่องเล่าแบบนี้มันพุ่งปรี๊ดทะลุปม กระแทกต่อมได้ตรงจุด จึงไม่น่าแปลกใจถ้ามันจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งตรึงใจ

    เราเองฟังเรื่องมดไต่แก้วนี้กลับไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้มีใครเคยฟังมั้ย เป็นนิทานเรื่องกบกระโดด เรื่องมีอยู่ว่า มีกบตัวหนึ่งพยายามปีนออกจากบ่อลึก ทุกครั้งที่มันพยายามกระโดด เพื่อนๆ กบจะพากันตะโกนห้ามว่า "เลิกเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!"

    ทว่ากบตัวนั้นไม่ยอมแพ้ สุดท้ายในการกระโดดครั้งที่ 99 มันก็กระโดดออกจากบ่อได้สำเร็จ แต่ความจริงของเรื่องนี้คือ กบตัวนี้หูหนวก มันเลยไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากเพื่อนๆ เลยสักนิดเดียว

    ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับผู้เสียหายมากมาย
    ที่ไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย
    เหมือนกบหูหนวก

    🌻

    คดีบอสๆ นี้ เราว่านิทานเรื่องมดไต่แก้วนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรารู้สึกเองว่ามันทรงพลังแห่ง storytelling จริงๆ น่าจะเป็นนิทานเรื่องจริงที่แชร์กันเยอะๆ วันนี้ ที่เป็นคลิปเล่าเรื่องบอสพอลพาผู้ชมกลับไปทัวร์สลัมคลองเตยบ้านเกิด พาไปชมแฟลตเก่าชั้นสองห้อง 16 ที่เคยเติบโตมา

    แคปชั่นตรึงใจ “ผมไม่เคยลืม...ว่าผมเติบโตมาจากที่ไหน ชุมชนแออัด หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "สลัม"ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยังเริ่มต้นสร้างชีวิต”

    “20 ปีที่แล้ว กับภาพในวันนี้ ทุกอย่างมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่ามันหยุดเวลาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง มันคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งคน ที่ชีวิตไม่พร้อม แต่มีความฝัน ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิตทุก ๆ ท่านครับ“

    คลิปถ่ายสวย ไม่เวอร์
    ภาพดี เสียงดี เล่าเรื่องดี
    นักแสดง(บอสพอล)แอ๊คติ้งเป็นธรรมชาติ
    ไม่มีตรงไหนชวนแหวะ
    หรือชวนเอ๊ะเลย

    ยิ่งตอนโทรคุยกับแม่หน้าแฟลตเก่า พูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอร่อยที่ยังขายอยู่นั่นก็ดูจะเป็นซีนที่น่าจดจำมากทีเดียว คือถ้าไม่ติดเรื่องข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเนี่ย อยากเชิญคนทำคลิปนี้ไปสร้างหนังไทยเลย อยากดู

    ในคลิปนี้ บอสยืนพูดหน้าแฟลตที่สกปรกรุงรังว่า ตอนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งนี้ ชีวิตวัยนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าอยากดูแลแม่ให้มีความสุขเท่านั้น ตรงนี้เชื่อว่าเอฟซีอาจน้ำตาร่วง

    อีกทั้งน้ำเสียงของแม่ปลายสาย ก็ร่าเริงมีความสุข กับการพูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่เคยกินสมัยอยู่สลัม สื่อให้เห็นว่าเมื่อก้าวพ้นความยากจนไปแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ในสลัมธรรมดาก็ยังงดงามขึ้นมาได้

    ทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนลื่นไหล เป็นคลิปฟิลลิ่ง Nostalgia การรำลึกความหลังยากแค้นของเศรษฐีหมื่นล้านที่สุดละเมียดจริงแท้

    ใครไม่เคลิ้มให้มันรูัไป

    ยอดขายระเบิดเถิดเทิงหมื่นล้านแสนล้าน ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุคๆ แน่นอน มันผ่านการเล่าเรื่องที่คัดเค้นมาแล้วอย่างประณีต เพื่อพิชิตใจมหาชนคนสามัญที่คุ้นเคยชมชอบกับเรื่องดรามาชนิดซึมเข้ากระดูกดำแบบไทยๆ เราอย่างเหมาะเหม็ง

    ดูคลิปนี้แล้วยิ่งไม่แปลกใจเลยสักนิด
    ว่าทำไมลูกข่ายหอบเงินมาประเคนให้
    เป็นหลักหมื่นแสนล้าน

    🌻

    เอาจริง เรื่องเล่าตรึงใจระคายต่อมพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก มันเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่มีใช้กันนานแล้วในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงหลอกลวงต้มตุ๋น ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลทำลายสถิติได้ทุกยุคสมัย

    เรื่องเล่ากระตุ้นต่อมที่ชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย ก็คงจะเป็นนิทานเรื่อง“ปลาทอง" ในคดีฉ้อฉลของเบอร์นี แมดอฟฟ์ในอเมริกา ที่น่าจะอื้อฉาวพอๆ กับคดีดิ ไอคอน ในเมืองไทยตอนนี้ก็ว่าได้

    สมัยนั้น เบอร์นี แมดอฟฟ์ ก็มักจะชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบการลงทุนกับการให้อาหารปลาทอง โดยบอกว่าต้องให้อาหารสม่ำเสมอ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง

    เขาใช้เรื่องนี้อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่ "สม่ำเสมอ" ของเขา ซึ่งในความเป็นจริงคือแผนการณ์หลอกลวงแบบพอนซี (Ponzi scheme- คล้ายแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่มีสินค้า ใช้วิธีเอาเงินคนใหม่ไปจ่ายให้คนเก่าวนไปเรื่อยๆ )

    พอนซีของแมดอล์ฟฟ์มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แมดอล์ฟฟ์ใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาทองเพื่อสื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขานั้น "สม่ำเสมอ" และ "ปลอดภัย" เขาอ้างว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่และน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีกลยุทธ์ที่มั่นคง

    ในความเป็นจริง แมดอล์ฟฟ์ไม่ได้นำเงินของลูกค้าไปลงทุนเลยสักนิด เขาใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของแผนพอนซี ผลตอบแทน "สม่ำเสมอ" ที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่เขาสร้างขึ้นมาเอง

    แผนฉ้อโกงนี้ดำเนินมานานหลายทศวรรษก่อนจะถูกเปิดโปงในปี 2008 มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงบุคคลทั่วไป องค์กรการกุศล และสถาบันการเงิน

    ปัจจุบันแมดอล์ฟฟ์ถูกจับกุม
    และถูกตัดสินจำคุก 150 ปี

    🌻

    นอกจากนิทานปลาทองของแมดอล์ฟฟ์ ยังมีนิทานอีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “ช้างล่ามโซ่” ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของบริษัท One Coin

    One Coin เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) แต่ในความเป็นจริงเป็นแผนหลอกลวงแบบพีระมิด (pyramid scheme) ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ต้มตุ๋น

    รูจา อิกนาโตวา (Ruja Ignatova) ผู้ก่อตั้ง One Coin
    เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองรูส ประเทศบัลแกเรีย ย้ายไปเยอรมนีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนซ์ ประเทศเยอรมนี เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในปี 2014 เธอก่อตั้งบริษัท One Coin ซึ่งอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่

    บริษัท One Coin เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2016 เริ่มมีการสงสัยและตรวจสอบ One Coin ว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่

    วันที่ 25 ตุลาคม 2017 รูจาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากบินจากโซเฟียไปยังเอเธนส์ ในปี 2019 เธอถูกฟ้องในสหรัฐอเมริกาในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน

    🌻

    ในการหลอกล่อเหยื่อมาลงทุน รูจา อิกนาโตวา มักใช้นิทานเรื่องช้างล่ามโซ่ในการปราศรัยบ่อยครั้ง

    เธอเปรียบเทียบว่าคนทั่วไปเหมือนช้างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ทางการเงิน ไม่กล้าที่จะหลุดพ้น เธอชี้ให้เห็นว่า One Coin คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ "ตัดโซ่" และเป็นอิสระทางการเงิน

    นิทานเรื่องนี้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าตนกำลัง "ติดกับดัก" ทางการเงิน สร้างความรู้สึกว่า One Coin เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางการเงิน สร้างแรงจูงใจให้คนกล้าที่จะ "ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ" และเข้าร่วมโครงการ

    ในความเป็นจริง One Coin ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลจริง ไม่มีบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง เป็นระบบพีระมิดที่สร้างรายได้จากการรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินหรือแลกเปลี่ยน One Coin เป็นเงินจริงได้

    One Coin มีผู้เสียหายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน ความเสียหายทางการเงินประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รูจา อิกนาโตวา ได้รับฉายาว่า “ราชินีคริปโต” หรือ Cryptoqueen เธอหายตัวไปในปี 2017 ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของ FBI

    ปัจจุบัน เธอกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย​​​​​​​​​​​​​​​​จนทุกวันนี้

    🌻

    จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่าอย่าง "ช้างล่ามโซ่" ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรระวังโครงการที่สัญญาว่าจะทำให้รวยอย่างรวดเร็วหรือหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินอย่างง่ายดาย

    คดีนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าที่สร้างแรงบันดาลใจสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนักเช่น cryptocurrency

    🌻

    ยังมีนิทานประเภทสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายหลายเรื่อง ที่มักนำมาใช้ในบริบทการฉ้อโกงลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิทานเรื่อง“มีดเหลาดินสอ”ที่หลายคนอาจจะคุ้น พวกคอร์สอบรมต่างๆ จะเอามาเล่าบ่อย

    เรื่องราวมีอยู่ว่า ดินสอบ่นว่าเจ็บเมื่อถูกเหลา แต่มีดเหลาบอกว่า "การเจ็บนี้จะทำให้เธอแหลมคมและเขียนได้ดีขึ้น“ นิทานเรื่องนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แง่คิดเรื่องความอดทนต่อความยากลำบากที่อาจทำให้เราได้เติบโตและพัฒนา

    🌻

    "นิทานเรื่องช้างและเชือกเส้นเล็ก"

    เรื่องมีอยู่ว่าในคณะละครสัตว์ มีช้างตัวใหญ่ถูกล่ามด้วยเชือกเส้นเล็กๆ เด็กน้อยสงสัยว่าทำไมช้างไม่ดึงเชือกให้ขาด คนเลี้ยงช้างอธิบายว่า ตั้งแต่ช้างยังเล็ก มันถูกล่ามด้วยโซ่ใหญ่ที่ไม่สามารถหลุดได้ ช้างจึงเชื่อว่าตัวเองไม่มีทางหลุดจากการล่าม แม้โตแล้วก็ยังคิดเช่นนั้น

    🌻

    "นิทานเรื่องหินสลักและค้อน"

    เรื่องราวของช่างแกะสลักกำลังทำงานบนหินก้อนใหญ่ เขาตีค้อนลงบนหินครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เห็นผล คนผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมแพ้ ในที่สุด หลังจากตีค้อนครั้งที่ 101 หินก็แตกออกตามที่เขาต้องการ ช่างแกะสลักอธิบายว่า "ไม่ใช่การตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้หินแตก แต่มันเป็นผลรวมของการตีทุกครั้งที่ผ่านมา"

    🌻

    นิทานเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อสื่อถึงความอดทน การไม่ยอมแพ้ และการเอาชนะข้อจำกัดทางความคิด

    นิทานไม่ได้มีพิษภัยในตัวมันเอง มันเป็นเรื่องเล่าแสนวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจได้จริง แต่เมื่อมีการนำมาใช้ในบริบทของการลงทุนหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การตีความและการนำไปใช้ กลับเป็นสิ่งที่ต้องระวัง

    บางครั้งนิทานเหล่านี้
    มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าเหตุผล
    อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์
    ในบริบทของธุรกิจที่น่าสงสัย
    อาจใช้เพื่อกดดัน
    ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ควร

    การยอมรับความจริง
    เลิกทนและถอยออกมา
    ก็อาจเป็นการตัดสินใจ
    ที่ชาญฉลาดได้เช่นกัน

    🌻

    “ในยุคข้อมูลข่าวสาร ความจริงกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องเล่าหรือเรื่องราวที่สร้างขึ้น (narratives)”

    ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ เขียนไว้ในหนังสือ"21 Lessons for the 21st Century"เมื่อหลายปีมาแล้ว (21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต, ดร. นำชัย ชีววิวรรธน์ , สำนักพิมพ์ยิปซี)

    ฮาราริอธิบายว่าผู้คนมักเชื่อในเรื่องราวที่สอดคล้องกับความเชื่อและอัตลักษณ์ของตน มากกว่าข้อเท็จจริงที่อาจขัดแย้งกับความเชื่อนั้น และชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่ให้ความหมายและอธิบายโลกรอบตัว เขาบอกว่า“เรื่องเล่าเหล่านี้มีพลังมากกว่าข้อเท็จจริงเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณของมนุษย์”

    ฮาราริเตือนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI และ Big Data สามารถใช้ในการสร้างและเผยแพร่เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างคลิปเรื่องเล่าสารพัดที่ผลิตออกมาชักจูงใจคน) เขาชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์มนุษย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

    การให้ความสำคัญกับ“อารมณ์”มากกว่า“ความจริง”อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการประชาธิปไตยและการตัดสินใจที่สำคัญ เขาเตือนว่าสังคมอาจถูกชี้นำด้วยการปลุกเร้าอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผลและข้อมูล

    ในอนาคต ทักษะทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์อาจมีความสำคัญมากกว่าความรู้ทางเทคนิค เขาแนะนำว่าระบบการศึกษาควรปรับตัวเพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับโลกที่อารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทสำคัญ

    ฮาราริเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักและเข้าใจตนเอง รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ได้อย่างถ่องแท้ เขาบอกว่า“การเข้าใจตนเองจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการกระตุ้นทางอารมณ์ได้ดีขึ้น”

    ผู้เขียน "21 Lessons for the 21st Century" ไม่ได้บอกว่า แนวโน้มนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่สำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การเมือง และการพัฒนาตนเอง

    เพื่อรักษาสมดุล
    ระหว่างอารมณ์และเหตุผล
    ในยุคสมัยปัจจุบัน
    ที่“อารมณ์”อาจมีอิทธิพล
    มากขึ้นเรื่อยๆ​​​​​​​​​​​​​​​​

    🌻

    จากข่าวสารประเด็นร้อนแรงในประเทศไทยวันนี้ เราก็ได้เห็นการใช้ Storytelling ในทางที่ผิดหลายเรื่อง

    เรื่องเล่าถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างภาพลวงตา มุ่งเน้นการกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการให้ข้อมูลที่เป็นจริง

    นิทานเหล่านี้สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จและความมั่งคั่ง ทำให้คนมองข้ามความเสี่ยงและความเป็นจริงของสถานการณ์

    เรื่องเล่าที่น่าประทับใจอาจทำให้ผู้ฟังลดการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ ผู้คนอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของ“อารมณ์” มากกว่า“ความจริง” อย่างที่ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ กล่าวไว้ไม่มีผิด

    Storytelling : นิทานหรือเรื่องเล่าที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว แม้กับคนแปลกหน้า ในกรณีของการหลอกลวง Storytelling ถูกใช้เพื่อลดความระแวดระวังของเหยื่อ เรื่องเล่าที่สวยงามอาจถูกใช้เพื่อปิดบังความจริงที่น่าเป็นห่วงหรือรายละเอียดที่สำคัญ

    ในกรณีของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM นิทาน เรื่องเล่า หรือ Storytelling ทั้งหลาย อาจถูกใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่กดดันให้สมาชิกไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญกับความล้มเหลว

    เรื่องเล่าเหล่านี้
    มักเล็งเป้าไปที่ความฝัน
    และความหวังของผู้คน
    ทำให้เหยื่ออ่อนไหวและเปราะบาง
    ทำให้ง่ายที่จะหลอกลวง

    🌻

    นิทาน เรื่องเล่า Storytelling ทั้งหลาย มันไม่ได้เลวร้ายในตัวมันเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้

    ในด้านบวก Storytelling สามารถใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สอน และสื่อสารความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สิ่งสำคัญที่คนเรายุคนี้ต้องรับมือ
    คือต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
    และการรู้เท่าทันสื่อของตัวเอง
    เพื่อแยกแยะให้ออก
    ระหว่างการใช้ Storytelling
    ในทางที่สร้างสรรค์
    หรือการใช้เพื่อหลอกลวง

    🌻

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/sg5pYj1hseTp1QGK/?mibextid=CTbP7

    #Thaitimes
    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ปราย พันแสง เมื่อคืนดูคลิปบอสเล่านิทานเรื่อง“มดไต่แก้ว”แล้วนอนไม่หลับเอาเลย ยอมรับว่าเล่าเก่งโคตร ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม จึงมีเหยื่อมากมายนัก ก็มันชวนเคลิ้มซะขนาดนี้ 🌻 นานมาแล้ว สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเคยบอกว่า "The most powerful person in the world is the storyteller.“ คนที่ทรงพลังที่สุดในโลกคือนักเล่าเรื่อง จอบส์ฟันธงไว้อย่างนั้น เขาบอกว่า“นักเล่าเรื่อง” หรือคนที่เล่าเรื่องเป็น(storyteller) จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยม และระเบียบวาระต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้กับผู้คนทั้งเจเนอเรชั่น อาจจะกล่าวได้ว่า นักเล่าเรื่องเก่งๆ นั้นสามารถกำหนดเทรนด์หรือทิศทางของสังคมได้ ส่วนที่จอบส์ไม่ได้บอกไว้ก็คือ นักเล่าเรื่องเก่งๆ หลายคน สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความฉิบหายระดับหมื่นล้านแสนล้านได้ด้วย สิ่งที่ปรากฏต่อสังคมไทยในวันนี้ มันอาจเป็นประจักษ์พยานด้านมืด ของ storyteller อย่างชัดๆ 🌻 “มดไต่แก้ว” เป็นเรื่องเล่าง่ายๆ เกี่ยวกับมดที่พยายามป่ายปีนออกไปให้พ้นแก้ว มดบางตัวปีนไปจนอยู่ในจุดสูงที่สุดของปากแก้ว แต่แล้วก็ตกลงมา บอสบอกไว้คมเฉียบว่า ”การตกลงมาจากจุดสูงสุดอย่างนั้น มันทำให้เจ็บที่สุด ทำให้มีมดบางตัวยอมแพั แต่ก็ยังมีมดบางตัวสู้ต่อ จนได้รับอิสรภาพในที่สุด“ เคลิ้มมั้ยล่ะ ^__^ 🌻 เอาจริง จากอาชีพอ่านๆ เขียนๆ เรื่องเล่าประเภทนี้ไม่ได้กินเราหรอก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลี อีกทั้งยังต้องอยู่ในสถานะลูกข่ายที่ต้องไล่ล่าทำยอดขาย พลังของเรื่องเล่าแบบนี้มันพุ่งปรี๊ดทะลุปม กระแทกต่อมได้ตรงจุด จึงไม่น่าแปลกใจถ้ามันจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งตรึงใจ เราเองฟังเรื่องมดไต่แก้วนี้กลับไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้มีใครเคยฟังมั้ย เป็นนิทานเรื่องกบกระโดด เรื่องมีอยู่ว่า มีกบตัวหนึ่งพยายามปีนออกจากบ่อลึก ทุกครั้งที่มันพยายามกระโดด เพื่อนๆ กบจะพากันตะโกนห้ามว่า "เลิกเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!" ทว่ากบตัวนั้นไม่ยอมแพ้ สุดท้ายในการกระโดดครั้งที่ 99 มันก็กระโดดออกจากบ่อได้สำเร็จ แต่ความจริงของเรื่องนี้คือ กบตัวนี้หูหนวก มันเลยไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากเพื่อนๆ เลยสักนิดเดียว ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับผู้เสียหายมากมาย ที่ไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย เหมือนกบหูหนวก 🌻 คดีบอสๆ นี้ เราว่านิทานเรื่องมดไต่แก้วนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรารู้สึกเองว่ามันทรงพลังแห่ง storytelling จริงๆ น่าจะเป็นนิทานเรื่องจริงที่แชร์กันเยอะๆ วันนี้ ที่เป็นคลิปเล่าเรื่องบอสพอลพาผู้ชมกลับไปทัวร์สลัมคลองเตยบ้านเกิด พาไปชมแฟลตเก่าชั้นสองห้อง 16 ที่เคยเติบโตมา แคปชั่นตรึงใจ “ผมไม่เคยลืม...ว่าผมเติบโตมาจากที่ไหน ชุมชนแออัด หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "สลัม"ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยังเริ่มต้นสร้างชีวิต” “20 ปีที่แล้ว กับภาพในวันนี้ ทุกอย่างมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่ามันหยุดเวลาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง มันคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งคน ที่ชีวิตไม่พร้อม แต่มีความฝัน ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิตทุก ๆ ท่านครับ“ คลิปถ่ายสวย ไม่เวอร์ ภาพดี เสียงดี เล่าเรื่องดี นักแสดง(บอสพอล)แอ๊คติ้งเป็นธรรมชาติ ไม่มีตรงไหนชวนแหวะ หรือชวนเอ๊ะเลย ยิ่งตอนโทรคุยกับแม่หน้าแฟลตเก่า พูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอร่อยที่ยังขายอยู่นั่นก็ดูจะเป็นซีนที่น่าจดจำมากทีเดียว คือถ้าไม่ติดเรื่องข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเนี่ย อยากเชิญคนทำคลิปนี้ไปสร้างหนังไทยเลย อยากดู ในคลิปนี้ บอสยืนพูดหน้าแฟลตที่สกปรกรุงรังว่า ตอนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งนี้ ชีวิตวัยนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าอยากดูแลแม่ให้มีความสุขเท่านั้น ตรงนี้เชื่อว่าเอฟซีอาจน้ำตาร่วง อีกทั้งน้ำเสียงของแม่ปลายสาย ก็ร่าเริงมีความสุข กับการพูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่เคยกินสมัยอยู่สลัม สื่อให้เห็นว่าเมื่อก้าวพ้นความยากจนไปแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ในสลัมธรรมดาก็ยังงดงามขึ้นมาได้ ทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนลื่นไหล เป็นคลิปฟิลลิ่ง Nostalgia การรำลึกความหลังยากแค้นของเศรษฐีหมื่นล้านที่สุดละเมียดจริงแท้ ใครไม่เคลิ้มให้มันรูัไป ยอดขายระเบิดเถิดเทิงหมื่นล้านแสนล้าน ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุคๆ แน่นอน มันผ่านการเล่าเรื่องที่คัดเค้นมาแล้วอย่างประณีต เพื่อพิชิตใจมหาชนคนสามัญที่คุ้นเคยชมชอบกับเรื่องดรามาชนิดซึมเข้ากระดูกดำแบบไทยๆ เราอย่างเหมาะเหม็ง ดูคลิปนี้แล้วยิ่งไม่แปลกใจเลยสักนิด ว่าทำไมลูกข่ายหอบเงินมาประเคนให้ เป็นหลักหมื่นแสนล้าน 🌻 เอาจริง เรื่องเล่าตรึงใจระคายต่อมพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก มันเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่มีใช้กันนานแล้วในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงหลอกลวงต้มตุ๋น ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลทำลายสถิติได้ทุกยุคสมัย เรื่องเล่ากระตุ้นต่อมที่ชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย ก็คงจะเป็นนิทานเรื่อง“ปลาทอง" ในคดีฉ้อฉลของเบอร์นี แมดอฟฟ์ในอเมริกา ที่น่าจะอื้อฉาวพอๆ กับคดีดิ ไอคอน ในเมืองไทยตอนนี้ก็ว่าได้ สมัยนั้น เบอร์นี แมดอฟฟ์ ก็มักจะชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบการลงทุนกับการให้อาหารปลาทอง โดยบอกว่าต้องให้อาหารสม่ำเสมอ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง เขาใช้เรื่องนี้อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่ "สม่ำเสมอ" ของเขา ซึ่งในความเป็นจริงคือแผนการณ์หลอกลวงแบบพอนซี (Ponzi scheme- คล้ายแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่มีสินค้า ใช้วิธีเอาเงินคนใหม่ไปจ่ายให้คนเก่าวนไปเรื่อยๆ ) พอนซีของแมดอล์ฟฟ์มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แมดอล์ฟฟ์ใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาทองเพื่อสื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขานั้น "สม่ำเสมอ" และ "ปลอดภัย" เขาอ้างว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่และน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีกลยุทธ์ที่มั่นคง ในความเป็นจริง แมดอล์ฟฟ์ไม่ได้นำเงินของลูกค้าไปลงทุนเลยสักนิด เขาใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของแผนพอนซี ผลตอบแทน "สม่ำเสมอ" ที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่เขาสร้างขึ้นมาเอง แผนฉ้อโกงนี้ดำเนินมานานหลายทศวรรษก่อนจะถูกเปิดโปงในปี 2008 มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงบุคคลทั่วไป องค์กรการกุศล และสถาบันการเงิน ปัจจุบันแมดอล์ฟฟ์ถูกจับกุม และถูกตัดสินจำคุก 150 ปี 🌻 นอกจากนิทานปลาทองของแมดอล์ฟฟ์ ยังมีนิทานอีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “ช้างล่ามโซ่” ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของบริษัท One Coin One Coin เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) แต่ในความเป็นจริงเป็นแผนหลอกลวงแบบพีระมิด (pyramid scheme) ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ต้มตุ๋น รูจา อิกนาโตวา (Ruja Ignatova) ผู้ก่อตั้ง One Coin เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองรูส ประเทศบัลแกเรีย ย้ายไปเยอรมนีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนซ์ ประเทศเยอรมนี เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในปี 2014 เธอก่อตั้งบริษัท One Coin ซึ่งอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่ บริษัท One Coin เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2016 เริ่มมีการสงสัยและตรวจสอบ One Coin ว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่ วันที่ 25 ตุลาคม 2017 รูจาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากบินจากโซเฟียไปยังเอเธนส์ ในปี 2019 เธอถูกฟ้องในสหรัฐอเมริกาในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน 🌻 ในการหลอกล่อเหยื่อมาลงทุน รูจา อิกนาโตวา มักใช้นิทานเรื่องช้างล่ามโซ่ในการปราศรัยบ่อยครั้ง เธอเปรียบเทียบว่าคนทั่วไปเหมือนช้างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ทางการเงิน ไม่กล้าที่จะหลุดพ้น เธอชี้ให้เห็นว่า One Coin คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ "ตัดโซ่" และเป็นอิสระทางการเงิน นิทานเรื่องนี้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าตนกำลัง "ติดกับดัก" ทางการเงิน สร้างความรู้สึกว่า One Coin เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางการเงิน สร้างแรงจูงใจให้คนกล้าที่จะ "ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ" และเข้าร่วมโครงการ ในความเป็นจริง One Coin ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลจริง ไม่มีบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง เป็นระบบพีระมิดที่สร้างรายได้จากการรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินหรือแลกเปลี่ยน One Coin เป็นเงินจริงได้ One Coin มีผู้เสียหายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน ความเสียหายทางการเงินประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รูจา อิกนาโตวา ได้รับฉายาว่า “ราชินีคริปโต” หรือ Cryptoqueen เธอหายตัวไปในปี 2017 ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของ FBI ปัจจุบัน เธอกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย​​​​​​​​​​​​​​​​จนทุกวันนี้ 🌻 จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่าอย่าง "ช้างล่ามโซ่" ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรระวังโครงการที่สัญญาว่าจะทำให้รวยอย่างรวดเร็วหรือหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินอย่างง่ายดาย คดีนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าที่สร้างแรงบันดาลใจสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนักเช่น cryptocurrency 🌻 ยังมีนิทานประเภทสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายหลายเรื่อง ที่มักนำมาใช้ในบริบทการฉ้อโกงลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิทานเรื่อง“มีดเหลาดินสอ”ที่หลายคนอาจจะคุ้น พวกคอร์สอบรมต่างๆ จะเอามาเล่าบ่อย เรื่องราวมีอยู่ว่า ดินสอบ่นว่าเจ็บเมื่อถูกเหลา แต่มีดเหลาบอกว่า "การเจ็บนี้จะทำให้เธอแหลมคมและเขียนได้ดีขึ้น“ นิทานเรื่องนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แง่คิดเรื่องความอดทนต่อความยากลำบากที่อาจทำให้เราได้เติบโตและพัฒนา 🌻 "นิทานเรื่องช้างและเชือกเส้นเล็ก" เรื่องมีอยู่ว่าในคณะละครสัตว์ มีช้างตัวใหญ่ถูกล่ามด้วยเชือกเส้นเล็กๆ เด็กน้อยสงสัยว่าทำไมช้างไม่ดึงเชือกให้ขาด คนเลี้ยงช้างอธิบายว่า ตั้งแต่ช้างยังเล็ก มันถูกล่ามด้วยโซ่ใหญ่ที่ไม่สามารถหลุดได้ ช้างจึงเชื่อว่าตัวเองไม่มีทางหลุดจากการล่าม แม้โตแล้วก็ยังคิดเช่นนั้น 🌻 "นิทานเรื่องหินสลักและค้อน" เรื่องราวของช่างแกะสลักกำลังทำงานบนหินก้อนใหญ่ เขาตีค้อนลงบนหินครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เห็นผล คนผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมแพ้ ในที่สุด หลังจากตีค้อนครั้งที่ 101 หินก็แตกออกตามที่เขาต้องการ ช่างแกะสลักอธิบายว่า "ไม่ใช่การตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้หินแตก แต่มันเป็นผลรวมของการตีทุกครั้งที่ผ่านมา" 🌻 นิทานเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อสื่อถึงความอดทน การไม่ยอมแพ้ และการเอาชนะข้อจำกัดทางความคิด นิทานไม่ได้มีพิษภัยในตัวมันเอง มันเป็นเรื่องเล่าแสนวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจได้จริง แต่เมื่อมีการนำมาใช้ในบริบทของการลงทุนหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การตีความและการนำไปใช้ กลับเป็นสิ่งที่ต้องระวัง บางครั้งนิทานเหล่านี้ มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าเหตุผล อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์ ในบริบทของธุรกิจที่น่าสงสัย อาจใช้เพื่อกดดัน ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ควร การยอมรับความจริง เลิกทนและถอยออกมา ก็อาจเป็นการตัดสินใจ ที่ชาญฉลาดได้เช่นกัน 🌻 “ในยุคข้อมูลข่าวสาร ความจริงกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องเล่าหรือเรื่องราวที่สร้างขึ้น (narratives)” ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ เขียนไว้ในหนังสือ"21 Lessons for the 21st Century"เมื่อหลายปีมาแล้ว (21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต, ดร. นำชัย ชีววิวรรธน์ , สำนักพิมพ์ยิปซี) ฮาราริอธิบายว่าผู้คนมักเชื่อในเรื่องราวที่สอดคล้องกับความเชื่อและอัตลักษณ์ของตน มากกว่าข้อเท็จจริงที่อาจขัดแย้งกับความเชื่อนั้น และชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่ให้ความหมายและอธิบายโลกรอบตัว เขาบอกว่า“เรื่องเล่าเหล่านี้มีพลังมากกว่าข้อเท็จจริงเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณของมนุษย์” ฮาราริเตือนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI และ Big Data สามารถใช้ในการสร้างและเผยแพร่เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างคลิปเรื่องเล่าสารพัดที่ผลิตออกมาชักจูงใจคน) เขาชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์มนุษย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การให้ความสำคัญกับ“อารมณ์”มากกว่า“ความจริง”อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการประชาธิปไตยและการตัดสินใจที่สำคัญ เขาเตือนว่าสังคมอาจถูกชี้นำด้วยการปลุกเร้าอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผลและข้อมูล ในอนาคต ทักษะทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์อาจมีความสำคัญมากกว่าความรู้ทางเทคนิค เขาแนะนำว่าระบบการศึกษาควรปรับตัวเพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับโลกที่อารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทสำคัญ ฮาราริเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักและเข้าใจตนเอง รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ได้อย่างถ่องแท้ เขาบอกว่า“การเข้าใจตนเองจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการกระตุ้นทางอารมณ์ได้ดีขึ้น” ผู้เขียน "21 Lessons for the 21st Century" ไม่ได้บอกว่า แนวโน้มนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่สำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การเมือง และการพัฒนาตนเอง เพื่อรักษาสมดุล ระหว่างอารมณ์และเหตุผล ในยุคสมัยปัจจุบัน ที่“อารมณ์”อาจมีอิทธิพล มากขึ้นเรื่อยๆ​​​​​​​​​​​​​​​​ 🌻 จากข่าวสารประเด็นร้อนแรงในประเทศไทยวันนี้ เราก็ได้เห็นการใช้ Storytelling ในทางที่ผิดหลายเรื่อง เรื่องเล่าถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างภาพลวงตา มุ่งเน้นการกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการให้ข้อมูลที่เป็นจริง นิทานเหล่านี้สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จและความมั่งคั่ง ทำให้คนมองข้ามความเสี่ยงและความเป็นจริงของสถานการณ์ เรื่องเล่าที่น่าประทับใจอาจทำให้ผู้ฟังลดการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ ผู้คนอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของ“อารมณ์” มากกว่า“ความจริง” อย่างที่ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ กล่าวไว้ไม่มีผิด Storytelling : นิทานหรือเรื่องเล่าที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว แม้กับคนแปลกหน้า ในกรณีของการหลอกลวง Storytelling ถูกใช้เพื่อลดความระแวดระวังของเหยื่อ เรื่องเล่าที่สวยงามอาจถูกใช้เพื่อปิดบังความจริงที่น่าเป็นห่วงหรือรายละเอียดที่สำคัญ ในกรณีของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM นิทาน เรื่องเล่า หรือ Storytelling ทั้งหลาย อาจถูกใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่กดดันให้สมาชิกไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญกับความล้มเหลว เรื่องเล่าเหล่านี้ มักเล็งเป้าไปที่ความฝัน และความหวังของผู้คน ทำให้เหยื่ออ่อนไหวและเปราะบาง ทำให้ง่ายที่จะหลอกลวง 🌻 นิทาน เรื่องเล่า Storytelling ทั้งหลาย มันไม่ได้เลวร้ายในตัวมันเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ในด้านบวก Storytelling สามารถใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สอน และสื่อสารความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่คนเรายุคนี้ต้องรับมือ คือต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันสื่อของตัวเอง เพื่อแยกแยะให้ออก ระหว่างการใช้ Storytelling ในทางที่สร้างสรรค์ หรือการใช้เพื่อหลอกลวง 🌻 ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/sg5pYj1hseTp1QGK/?mibextid=CTbP7 #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • DNW ep.4
    ตอน: HappyPay เหรียญต้มตุ๋นในตำนาน

    สาคร..เป็นคนชอบเสี่ยงดวง หวย ไพ่ ไฮโลเอาหมด และก็นำไปสู่การมาของเหรียญกาว (ศัพท์ในวงการเรียกว่าเหรียญมีม MEME ที่ fork บน Chain ของ BNB ของ Binance)

    เป็นเหรียญชื่อ HappyPay สาคร เริ่มนำเหรียญคริปโต HappyPay มานำเสนอให้กับสมาชิก อ้างว่าอนาคตจะนำมาใช้แทนเงินในองค์กร

    โดยให้คำมั่นว่าจะหาร้านค้ามาเข้าร่วมในการรับชำระด้วยเหรียญ HappyPay โดยให้นักเรียนทั้งหมดช่วยกันสร้างคอมมูนิตี้

    สาคร..ได้เหรียญ HappyPay มาราคา Floor คือต่ำสุดมูลค่าไม่กี่สตางค์ต่อเหรียญ แต่ต่อมามีการสันนิษฐานกันว่าได้มาฟรีเพราะไปฮั้วกับเจ้าของ

    จากนั้น แผนการปั่นมูลค่าเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองจึงเริ่มปรากฏรูป

    สาคร..มีการปั่น Event ใหญ่โตเชิญนักเรียนทุกคนเข้ามาฟังหลายรอบ เริ่มนำเสนอเหรียญให้กับสมาชิกในองค์กร

    มีการจัดให้ความรู้โดยอาศัยการเชิญบุคคลที่เป็นที่รู้จักในวงการคริปโตในช่วงนั้นมาบรรยายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

    สมาชิกหลายคนคล้อยตามเพราะความศรัทธาและติดกับดักกับคำว่า“เชื่ออาจารย์สิราคาเหรียญจะวิ่งไปถึง 120 บาท แน่นอนล้าน %

    ด้วยความเคารพและศรัทธาจึงมั่นใจว่า สาคร ไจะไม่หลอกกัน หลายคนใช้เงินเก็บ หลายคนเอาเงินรายได้จากการทำธุรกิจมาลงทุน หลักหลายแสนจนหลักหลายล้านบาท

    บางคนชวนเพื่อน บางคนชวนญาติพี่น้องคนนอกธุรกิจมาลงทุนด้วย เพราะเชื่อโดยสนิทใจว่ามันดีมันใช่

    สาคร..กับพวกปั่นราคาเหรียญหลอกสมาชิก จากมูลค่าหลักไม่กี่สตางค์ ก็วิ่งไปเกือบร้อยบาทต่อเหรียญ

    หลายคนจึงเชื่อหมดหัวใจเลยว่าอาจารย์สาคร เอาของดีมาบอก เอากำไรมาให้

    เป็นเรื่องธรรมดาที่รูปแบบของการซื้อขายเหรียญแบบนี้มันไม่ Win/Win มันมีแต่แค่ใครมาก่อนก็ซื้อถูกแล้วเอาไปขายแพง ใครฉุกใจคิดทันขายออกก็รอดตัว

    คนซื้อไปราคาตอนเหยียบ 100 ถ้าราคาไม่วิ่งต่อแน่นอนมันก็ดอย

    สาคร..เทเหรียญที่มีอยู่ในมือขายหมดเกลี้ยง เมื่อฟองสบู่ของราคาเหรียญ HappyPay แตกลงสมาชิกต่างก็เลิ่กลั่ก แล้วก็กูจะเอาเหรียญไปขายใคร.?

    สาคร..ก็บอกว่าให้เก็บไว้ก่อนเดี๋ยวราคามันก็ขึ้น นักเรียนก็ถามว่า กระดานซื้อขายก็ไม่มีแล้วเหรียญมันจะขึ้นได้ยังไง.?

    แล้วสาคร ก็แสดงท่าไม้ตายออกมาโดยพูดว่า "ทำไมพวกคุณไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน".? ผ่านไปสักระยะสาคร ก็ถอยเฟอร์รารี่คันใหม่ออกมาจอดโชว์นักเรียน🤣ไอ้เจ็ดโด้

    และได้นำเอาเฟอรารี่นั้นมาหลอกทำคลิปชวนนักเรียน โดยโปรโมทบ้านเมียน้อยว่าราคาร้อยล้าน เมียน้อยทำธุรกิจเก่งมากจนซื้อเฟอรารี่ได้

    เฟอรารี่..ที่ได้มาจากหยาดเหงื่อนักเรียน และความ ต า ย ของนักเรียน

    สาคร..นายจำป้ายาได้ไหม กระเป๋ารถเมล์ที่พลิกชีวิตจนมาขายออนไลน์แกถอนเงิน7 แสนมาลงกับคุณทั้งชีวิตจนตัวเองต้องอดและนอนต า ย ในอพาร์ทเมนท์ข้างๆบริษัทคุณ

    สาคร..นายจำไอ้เบนซ์ได้ไหม อดีตพระศึกมาลุยขายออนไลน์ขนาดเป็นศิษย์รักคุณเลยนะ ยังหลอกเขาโอนไปเป็นล้าน

    รู้ยัง..ตอนนี้เรามีผู้เสียหายหลัก 4-5 ล้าน 1-2 ล้าน รอไว้เพียบ เตรียมตัวเข้าคุกได้เลยนะครับนะ
    ---------

    บทสรุป DNW ของ สาคร

    DNW..คือปฐมบทของการสอนยิงแอดออนไลน์ที่เป็นผู้มาก่อน the icon

    DNW..ทั้งสร้างโรงงานทิพย์ สินค้าลวงโลกและเหรียญทิพย์

    บางคนไปกู้เงินเอามาลงทุนหวังว่าราคาเหรียญมันจะ Go to the moon เหมือนที่สาคร บอก สุดท้ายเจ๊ง เพราะเหรียญมันสร้างโปรแกรมมาหลอกโดยเฉพาะ

    ดังนั้นถ้าใครเคยโดน DNW หลอก ก็สามารถไปร้องเรียนที่ ปคบ.ได้เช่นกัน

    อายุความยังเหลือเฟือ รวบรวมพยานหลักฐานไว้ให้พร้อม แล้วรอให้จบเคส The Icon พวกคุณก็รวมตัวกันให้มากที่สุดแล้วไปร้องทุกข์กับตำรวจ ปคบ.

    สาคร..เคยต้มตุ๋นผู้คนฉิบหายมาเป็นหมื่นครอบครัวมูลค่าความเสียหายเป็นพันๆล้าน ความผิดชัดเจน

    ถ้าผู้เสียหายคนใหนอ่านแล้วเคยโดน DNW หลอกลวง ถ้าอยากได้เงินคืน รวมตัวเกาะกลุ่มกันไว้ให้ได้มากที่สุดแล้วรอบุกไป ปคบ..พร้อมๆกัน

    ปฐมบท DNW
    👉 https://www.facebook.com/share/p/ofBvDFkddebdrMj4/?mibextid=WC7FNe

    คลิปอวดความสำเร็จ
    👉 https://www.facebook.com/share/v/Pg9LbvR6sjPmN1Ti/?mibextid=WC7FNe

    โรงงานปัายแขวน
    👉 https://www.facebook.com/share/v/Pg9LbvR6sjPmN1Ti/?mibextid=WC7FNe

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    DNW ep.4 ตอน: HappyPay เหรียญต้มตุ๋นในตำนาน สาคร..เป็นคนชอบเสี่ยงดวง หวย ไพ่ ไฮโลเอาหมด และก็นำไปสู่การมาของเหรียญกาว (ศัพท์ในวงการเรียกว่าเหรียญมีม MEME ที่ fork บน Chain ของ BNB ของ Binance) เป็นเหรียญชื่อ HappyPay สาคร เริ่มนำเหรียญคริปโต HappyPay มานำเสนอให้กับสมาชิก อ้างว่าอนาคตจะนำมาใช้แทนเงินในองค์กร โดยให้คำมั่นว่าจะหาร้านค้ามาเข้าร่วมในการรับชำระด้วยเหรียญ HappyPay โดยให้นักเรียนทั้งหมดช่วยกันสร้างคอมมูนิตี้ สาคร..ได้เหรียญ HappyPay มาราคา Floor คือต่ำสุดมูลค่าไม่กี่สตางค์ต่อเหรียญ แต่ต่อมามีการสันนิษฐานกันว่าได้มาฟรีเพราะไปฮั้วกับเจ้าของ จากนั้น แผนการปั่นมูลค่าเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองจึงเริ่มปรากฏรูป สาคร..มีการปั่น Event ใหญ่โตเชิญนักเรียนทุกคนเข้ามาฟังหลายรอบ เริ่มนำเสนอเหรียญให้กับสมาชิกในองค์กร มีการจัดให้ความรู้โดยอาศัยการเชิญบุคคลที่เป็นที่รู้จักในวงการคริปโตในช่วงนั้นมาบรรยายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ สมาชิกหลายคนคล้อยตามเพราะความศรัทธาและติดกับดักกับคำว่า“เชื่ออาจารย์สิราคาเหรียญจะวิ่งไปถึง 120 บาท แน่นอนล้าน % ด้วยความเคารพและศรัทธาจึงมั่นใจว่า สาคร ไจะไม่หลอกกัน หลายคนใช้เงินเก็บ หลายคนเอาเงินรายได้จากการทำธุรกิจมาลงทุน หลักหลายแสนจนหลักหลายล้านบาท บางคนชวนเพื่อน บางคนชวนญาติพี่น้องคนนอกธุรกิจมาลงทุนด้วย เพราะเชื่อโดยสนิทใจว่ามันดีมันใช่ สาคร..กับพวกปั่นราคาเหรียญหลอกสมาชิก จากมูลค่าหลักไม่กี่สตางค์ ก็วิ่งไปเกือบร้อยบาทต่อเหรียญ หลายคนจึงเชื่อหมดหัวใจเลยว่าอาจารย์สาคร เอาของดีมาบอก เอากำไรมาให้ เป็นเรื่องธรรมดาที่รูปแบบของการซื้อขายเหรียญแบบนี้มันไม่ Win/Win มันมีแต่แค่ใครมาก่อนก็ซื้อถูกแล้วเอาไปขายแพง ใครฉุกใจคิดทันขายออกก็รอดตัว คนซื้อไปราคาตอนเหยียบ 100 ถ้าราคาไม่วิ่งต่อแน่นอนมันก็ดอย สาคร..เทเหรียญที่มีอยู่ในมือขายหมดเกลี้ยง เมื่อฟองสบู่ของราคาเหรียญ HappyPay แตกลงสมาชิกต่างก็เลิ่กลั่ก แล้วก็กูจะเอาเหรียญไปขายใคร.? สาคร..ก็บอกว่าให้เก็บไว้ก่อนเดี๋ยวราคามันก็ขึ้น นักเรียนก็ถามว่า กระดานซื้อขายก็ไม่มีแล้วเหรียญมันจะขึ้นได้ยังไง.? แล้วสาคร ก็แสดงท่าไม้ตายออกมาโดยพูดว่า "ทำไมพวกคุณไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน".? ผ่านไปสักระยะสาคร ก็ถอยเฟอร์รารี่คันใหม่ออกมาจอดโชว์นักเรียน🤣ไอ้เจ็ดโด้ และได้นำเอาเฟอรารี่นั้นมาหลอกทำคลิปชวนนักเรียน โดยโปรโมทบ้านเมียน้อยว่าราคาร้อยล้าน เมียน้อยทำธุรกิจเก่งมากจนซื้อเฟอรารี่ได้ เฟอรารี่..ที่ได้มาจากหยาดเหงื่อนักเรียน และความ ต า ย ของนักเรียน สาคร..นายจำป้ายาได้ไหม กระเป๋ารถเมล์ที่พลิกชีวิตจนมาขายออนไลน์แกถอนเงิน7 แสนมาลงกับคุณทั้งชีวิตจนตัวเองต้องอดและนอนต า ย ในอพาร์ทเมนท์ข้างๆบริษัทคุณ สาคร..นายจำไอ้เบนซ์ได้ไหม อดีตพระศึกมาลุยขายออนไลน์ขนาดเป็นศิษย์รักคุณเลยนะ ยังหลอกเขาโอนไปเป็นล้าน รู้ยัง..ตอนนี้เรามีผู้เสียหายหลัก 4-5 ล้าน 1-2 ล้าน รอไว้เพียบ เตรียมตัวเข้าคุกได้เลยนะครับนะ --------- บทสรุป DNW ของ สาคร DNW..คือปฐมบทของการสอนยิงแอดออนไลน์ที่เป็นผู้มาก่อน the icon DNW..ทั้งสร้างโรงงานทิพย์ สินค้าลวงโลกและเหรียญทิพย์ บางคนไปกู้เงินเอามาลงทุนหวังว่าราคาเหรียญมันจะ Go to the moon เหมือนที่สาคร บอก สุดท้ายเจ๊ง เพราะเหรียญมันสร้างโปรแกรมมาหลอกโดยเฉพาะ ดังนั้นถ้าใครเคยโดน DNW หลอก ก็สามารถไปร้องเรียนที่ ปคบ.ได้เช่นกัน อายุความยังเหลือเฟือ รวบรวมพยานหลักฐานไว้ให้พร้อม แล้วรอให้จบเคส The Icon พวกคุณก็รวมตัวกันให้มากที่สุดแล้วไปร้องทุกข์กับตำรวจ ปคบ. สาคร..เคยต้มตุ๋นผู้คนฉิบหายมาเป็นหมื่นครอบครัวมูลค่าความเสียหายเป็นพันๆล้าน ความผิดชัดเจน ถ้าผู้เสียหายคนใหนอ่านแล้วเคยโดน DNW หลอกลวง ถ้าอยากได้เงินคืน รวมตัวเกาะกลุ่มกันไว้ให้ได้มากที่สุดแล้วรอบุกไป ปคบ..พร้อมๆกัน ปฐมบท DNW 👉 https://www.facebook.com/share/p/ofBvDFkddebdrMj4/?mibextid=WC7FNe คลิปอวดความสำเร็จ 👉 https://www.facebook.com/share/v/Pg9LbvR6sjPmN1Ti/?mibextid=WC7FNe โรงงานปัายแขวน 👉 https://www.facebook.com/share/v/Pg9LbvR6sjPmN1Ti/?mibextid=WC7FNe สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก😡🤬😱

    "ไพ่ตาย" ของ 'บอสพอล' ที่ยังถืออยู่
    //////

    ผมอาจะจะคิดลึกไป แต่ถ้าดูจากแววตาของบอสพอลที่เพิ่งโดนตำรวจรวบตัวไปวันนี้ ... ผมไม่เห็นความหวั่นไหวในแววตาของบอสพอลนะ ...ซึ่งต่างจากแววตา "สวรรค์ล่ม" ของ 'บอสกันต์' เมื่อสองวันก่อนอย่างชัดเจน

    ผมคิดว่า การถูกตำรวจคุมตัว เป็นหนึ่งในแบบจำลองการรับมือกับวิกฤตที่ตัวบอสพอลเองได้เตรียมใจและเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว
    เหมือนอย่างการที่บอสพอลตีสองหน้า สองบุคคลิกตอนไปออกรายการโหนกระแส กับให้สัมภาษณ์ The Standard

    "ไพ่ตาย" ที่บอสพอลยังมีอยู่ คือการแปลงเงินหลายพันล้านที่เขา "ดูดทรัพย์" มาจากแชร์ลูกโซ่ The Icon ไปเป็นเหรียญคริปโต แล้วมอบให้ "ผู้ช่วยมือขวา" ที่เขาไว้ใจดูแลแทน รวมทั้งเผ่นหนีออกไปต่างประเทศอย่างลอยนวล ... ตราบใดที่ทางตำรวจยังยึด "ไพ่ตาย" ใบนี้ของบอสพอลไม่ได้ ตราบนั้นเกมนี้ผมยังไม่ถือว่าฝ่ายตำรวจชนะเบ็ดเสร็จนะ

    การที่ ปปง. อายัดเงินแค่ 125 ล้านของพวกบอสพอล ถือว่ายังห่างไกล ต่อให้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท The Icon ซึ่งมีอยู่สองพันล้านก็ยังไม่พอ ... การยึด "ไพ่ตาย" ของบอสพอลให้ตกเป็นของแผ่นดินต่างหากคือ ชัยชนะที่แท้จริงของคดีนี้

    เพราะ หัวใจของคดีนี้คือ ปปง. ต้องยึดทรัพย์ตัวการทั้งหมดให้เหี้ยน ถึงจะสาสม

    อย่างไรก็ตามขอชื่นชมการทำงานของทางการในคดีแชร์ลูกโซ่ The Icon ว่าทำได้ฉับไวมากและตระหนักถึงความร้ายแรงของคดีนี้ ... ขอปรบมือดัง ๆ ให้กำลังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านครับ

    Cr. ~ สุวินัย ภรณวลัย Suvinai Pornavalai
    ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก😡🤬😱 "ไพ่ตาย" ของ 'บอสพอล' ที่ยังถืออยู่ ////// ผมอาจะจะคิดลึกไป แต่ถ้าดูจากแววตาของบอสพอลที่เพิ่งโดนตำรวจรวบตัวไปวันนี้ ... ผมไม่เห็นความหวั่นไหวในแววตาของบอสพอลนะ ...ซึ่งต่างจากแววตา "สวรรค์ล่ม" ของ 'บอสกันต์' เมื่อสองวันก่อนอย่างชัดเจน ผมคิดว่า การถูกตำรวจคุมตัว เป็นหนึ่งในแบบจำลองการรับมือกับวิกฤตที่ตัวบอสพอลเองได้เตรียมใจและเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว เหมือนอย่างการที่บอสพอลตีสองหน้า สองบุคคลิกตอนไปออกรายการโหนกระแส กับให้สัมภาษณ์ The Standard "ไพ่ตาย" ที่บอสพอลยังมีอยู่ คือการแปลงเงินหลายพันล้านที่เขา "ดูดทรัพย์" มาจากแชร์ลูกโซ่ The Icon ไปเป็นเหรียญคริปโต แล้วมอบให้ "ผู้ช่วยมือขวา" ที่เขาไว้ใจดูแลแทน รวมทั้งเผ่นหนีออกไปต่างประเทศอย่างลอยนวล ... ตราบใดที่ทางตำรวจยังยึด "ไพ่ตาย" ใบนี้ของบอสพอลไม่ได้ ตราบนั้นเกมนี้ผมยังไม่ถือว่าฝ่ายตำรวจชนะเบ็ดเสร็จนะ การที่ ปปง. อายัดเงินแค่ 125 ล้านของพวกบอสพอล ถือว่ายังห่างไกล ต่อให้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท The Icon ซึ่งมีอยู่สองพันล้านก็ยังไม่พอ ... การยึด "ไพ่ตาย" ของบอสพอลให้ตกเป็นของแผ่นดินต่างหากคือ ชัยชนะที่แท้จริงของคดีนี้ เพราะ หัวใจของคดีนี้คือ ปปง. ต้องยึดทรัพย์ตัวการทั้งหมดให้เหี้ยน ถึงจะสาสม อย่างไรก็ตามขอชื่นชมการทำงานของทางการในคดีแชร์ลูกโซ่ The Icon ว่าทำได้ฉับไวมากและตระหนักถึงความร้ายแรงของคดีนี้ ... ขอปรบมือดัง ๆ ให้กำลังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านครับ Cr. ~ สุวินัย ภรณวลัย Suvinai Pornavalai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉ! บอสดิไอคอน ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล ใช้เงินคริปโตเซ่นไหว้ดั่งเทวดากว่าหมื่นล้าน เตือน "บอสพอล" ให้เร่งเปิดเผยข้อมูล ก่อนที่จะตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากเทวดาเริ่มไม่พอใจ!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099434

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แฉ! บอสดิไอคอน ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล ใช้เงินคริปโตเซ่นไหว้ดั่งเทวดากว่าหมื่นล้าน เตือน "บอสพอล" ให้เร่งเปิดเผยข้อมูล ก่อนที่จะตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากเทวดาเริ่มไม่พอใจ! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099434 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1540 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอลลาร์สหรัฐจะเสื่อมค่าลง ถึงแม้จะพยายามก่อสงครามและโรคระบาดก็ตาม / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    สถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อ ดอลลาร์สหรัฐ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิมพ์แบงค์ก่อหนี้ไม่หยุดและไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ 2. การยึดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังหาสินทรัพย์อย่างอื่น

    อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงได้ต่อไป ก็ยิ่งทำให้เงินทั่วโลกเทขายพันธบัตรและเงินดอลลาร์หันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย (ซึ่งแปลงเป็นเงินสกุลอื่น) คริปโตเคอเรนซี่ และทองคำ ประเทศใดไม่ทันระวังตัว หลงเพลินกับดัชนีราคาหุ้นที่สูงขึ้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเสื่อมค่าลงด้วยเพราะดอลลาร์ที่ท่วมในทุนสำรองระหว่างประเทศกำลังเสื่อมค่าลงเช่นกั

    ด้วยเหตุผลนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มจะซื้อทองคำมากขึ้น เพื่อรักษามูลค่าของทุนสำรองระหว่างประเทศให้มั่นคง กว่าการมีสินทรัพย์ที่มีเงินดอลลาร์มากเกินไป

    ด้วยเหตุผลนี้ทองคำมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

    ดังนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องสั่งซื้อวัคซีนและยารักษาโรคในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา และยุโรป

    การก่อหนี้สาธารณอันมหาศาลเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ในการหาซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่อก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น บางประเทศที่ขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้ว ก็ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มากขึ้น

    และการที่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหรือโรคระบาดที่ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ก็คือการรักษาความต้องการเงินดอลลาร์ให้ยังคงอยู่ต่อไป และต้องถูกแลกมาด้วยการสูบทรัพยากรจากประเทศลูกหนี้เหล่านั้นให้มาชดใช้หนี้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและยุโรป

    และนี่คือเหตุผลสำคัญที่กระทรวงกลาโหมต้องออกมาปล่อยข่าวปลอมในการใส่ร้ายและทำลายวัคซีนจากจีน เพื่อต้องการสูบความมั่งคั่งจากทั่วโลกให้มาเพิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไป

    อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะดำรงได้ต่อไป จึงถูกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจบีบคั้นให้ลดอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเดินหน้าต่อไป

    แต่การลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก็แลกกลับมาด้วยเงินทุนไหลออกจากดอลลาร์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยมากกว่าอย่างรวดเร็ว ทั้งทองคำ เงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี่ หุ้นในประเทศในเอเชีย

    ส่งผลทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ

    เมื่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาดอลลาร์อย่างสันติวิธีได้ ประชาคมโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นปรากฏการณ์เร่งทำสงครามให้บานปลายมากขึ้น หรืออาจมีความเสี่ยงการก่อโรคระบาดใหม่ได้มากขึ้น

    เพราะการก่อสงครามของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียในสมรภูมิสงครามโดยตรง ทำให้หลายประเทศต้องซื้ออาวุธสงครามด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น

    และการปฏิบัติการด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่อสู้กันนั้น ก็ย่อมทำให้ต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ย่อมทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์ทำกำไรมากขึ้น และรักษาเงินดอลลาร์ได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะทำให้สหรัฐอเมริการมีรายได้มาช่วยชำระหนี้มากขึ้น

    ยังไม่นับความเสี่ยงประเทศคู่กรณีกับสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะถูกประเทศสหรัฐอเมริกาชักดาบ ไม่ต้องชำระหนี้พันธบัตรสหรัฐ และยึดทุนสำรองระหว่างประเทศมาชดใช้หนี้ให้สหรัฐอเมริการหรือให้มาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ด้วย

    กรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าฝ่ายรักษาเงินดอลลาร์ที่ได้ทำลายการขนส่งก๊าซของรัสเซียในยุโรปก็ดี การมีเป้าหมายทำลายบ่อน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่านก็ดี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำลายปิโตรเลียมของชาติอื่นๆ ที่จะไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน(ปิโตรดอลลาร์) เพื่อหวังจะทำให้ปิโตรเลียมที่ค้าขายด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นที่จะครองสัดส่วนหลักของโลกได้ต่อไป ซึ่งเป็นวิธีดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความเสี่ยงสูง เป็นการเดิมพันเพื่อรักษาเงินดอลลาร์เอาไว้ให้ได้

    นั่นหมายความว่า “ราคาน้ำมัน” มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปด้วย

    ดังนั้นลักษณะสงครามโลก หรือหากจะมีสงครามโรคเพื่อรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ”ไม่ให้เป็นสงครามที่มีผลกระทบต่อแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา

    แต่ก็ใช่ว่าแนวทางรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่แนวทางสันติวิธีแบบนี้จะทำได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศคู่กรณีอย่างจีน รัสเซีย ที่มีสมาชิก BRICS เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐให้ลดน้อยลง

    จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ซึ่งกำลังทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่างมีอาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ที่ไม่เพียงจะไม่แพ้สหรัฐอเมริกาและยุโรปเท่านั้น แต่ยังอาจจะเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย

    ดังนั้นการทำสงครามแบบ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ” อาจถูกโต้กลับด้วยแสนยานุภาพทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้เช่นกัน

    ในขณะที่การทำสงครามโรคระบาดก็อาจจะไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะหลังจากการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เริ่มทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงความเสียหายรอบด้าน และมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น ทั้งยารักษาโรค การพึ่งพาตัวเองได้สมุนไพร การเร่งรัดงานวิจัย หรือแม้กระทั่งการผลิตวัคซีน

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้ถ่วงอำนาจทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ด้วยการปล่อยกู้และลงทุนอันมหาศาลให้กับหลายประเทศที่ติดหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังขยายบทบาทการพึ่งพาทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศทั่วโลกมากกว่าสหรัฐอเมริกา และทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาลดลงไปด้วย และยังลงทุนก่อสร้างไปในธุรกิจพลังงาน และเหมืองแร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นตัวเปลี่ยนเทคโนโลยีของจีน ที่เหนือกว่าการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ

    จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐจะไม่สามารถรักษามูลค่าต่อไปได้ ต่อให้ปั่นกระแสข่าวการทำสงคราม การขึ้นภาษีกีดกันทางการค้า ต่างก็มีข้อจำกัดด้วยแสนยานุภาพของประเทศมหาอำนาจคู่กรณี

    ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้

    1.ความมั่นคงในทุนสำรองระหว่างประเทศที่จะต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินทรัพย์ให้ทันพลวัตต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    2.ต้องมีการบริหารจัดการรักษา “เสถียรภาพ” ค่าเงินบาทไม่ให้เกิดการ “ผันผวน” ผิดปกติเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน ควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กับความสามารถในการแข่งขันในเวทีการส่งออกและการนำเข้าระหว่างประเทศ

    3.ต้องบริหารจัดการให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าทั่วไทยอย่างจริงจัง

    4.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้พึ่งพาตัวเองได้ ในภาวะสงครามทั่วโลก

    5.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางยาด้านสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก

    แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลได้ตระหนักหรือมีวิสัยทัศน์กับปัญหาเหล่านี้เลย

    คงเหลือแต่ประชาชนเท่านั้นที่ได้อ่านบทความนี้ต้องเริ่มแสวงหาแนวทางการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน อาหาร และสมุนไพร หรือปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    10 ตุลาคม 2567
    ดอลลาร์สหรัฐจะเสื่อมค่าลง ถึงแม้จะพยายามก่อสงครามและโรคระบาดก็ตาม / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อ ดอลลาร์สหรัฐ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิมพ์แบงค์ก่อหนี้ไม่หยุดและไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ 2. การยึดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังหาสินทรัพย์อย่างอื่น อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงได้ต่อไป ก็ยิ่งทำให้เงินทั่วโลกเทขายพันธบัตรและเงินดอลลาร์หันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย (ซึ่งแปลงเป็นเงินสกุลอื่น) คริปโตเคอเรนซี่ และทองคำ ประเทศใดไม่ทันระวังตัว หลงเพลินกับดัชนีราคาหุ้นที่สูงขึ้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเสื่อมค่าลงด้วยเพราะดอลลาร์ที่ท่วมในทุนสำรองระหว่างประเทศกำลังเสื่อมค่าลงเช่นกั ด้วยเหตุผลนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มจะซื้อทองคำมากขึ้น เพื่อรักษามูลค่าของทุนสำรองระหว่างประเทศให้มั่นคง กว่าการมีสินทรัพย์ที่มีเงินดอลลาร์มากเกินไป ด้วยเหตุผลนี้ทองคำมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ดังนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องสั่งซื้อวัคซีนและยารักษาโรคในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา และยุโรป การก่อหนี้สาธารณอันมหาศาลเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ในการหาซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่อก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น บางประเทศที่ขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้ว ก็ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มากขึ้น และการที่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหรือโรคระบาดที่ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ก็คือการรักษาความต้องการเงินดอลลาร์ให้ยังคงอยู่ต่อไป และต้องถูกแลกมาด้วยการสูบทรัพยากรจากประเทศลูกหนี้เหล่านั้นให้มาชดใช้หนี้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและยุโรป และนี่คือเหตุผลสำคัญที่กระทรวงกลาโหมต้องออกมาปล่อยข่าวปลอมในการใส่ร้ายและทำลายวัคซีนจากจีน เพื่อต้องการสูบความมั่งคั่งจากทั่วโลกให้มาเพิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะดำรงได้ต่อไป จึงถูกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจบีบคั้นให้ลดอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเดินหน้าต่อไป แต่การลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก็แลกกลับมาด้วยเงินทุนไหลออกจากดอลลาร์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยมากกว่าอย่างรวดเร็ว ทั้งทองคำ เงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี่ หุ้นในประเทศในเอเชีย ส่งผลทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ เมื่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาดอลลาร์อย่างสันติวิธีได้ ประชาคมโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นปรากฏการณ์เร่งทำสงครามให้บานปลายมากขึ้น หรืออาจมีความเสี่ยงการก่อโรคระบาดใหม่ได้มากขึ้น เพราะการก่อสงครามของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียในสมรภูมิสงครามโดยตรง ทำให้หลายประเทศต้องซื้ออาวุธสงครามด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น และการปฏิบัติการด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่อสู้กันนั้น ก็ย่อมทำให้ต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ย่อมทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์ทำกำไรมากขึ้น และรักษาเงินดอลลาร์ได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะทำให้สหรัฐอเมริการมีรายได้มาช่วยชำระหนี้มากขึ้น ยังไม่นับความเสี่ยงประเทศคู่กรณีกับสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะถูกประเทศสหรัฐอเมริกาชักดาบ ไม่ต้องชำระหนี้พันธบัตรสหรัฐ และยึดทุนสำรองระหว่างประเทศมาชดใช้หนี้ให้สหรัฐอเมริการหรือให้มาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ด้วย กรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าฝ่ายรักษาเงินดอลลาร์ที่ได้ทำลายการขนส่งก๊าซของรัสเซียในยุโรปก็ดี การมีเป้าหมายทำลายบ่อน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่านก็ดี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำลายปิโตรเลียมของชาติอื่นๆ ที่จะไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน(ปิโตรดอลลาร์) เพื่อหวังจะทำให้ปิโตรเลียมที่ค้าขายด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นที่จะครองสัดส่วนหลักของโลกได้ต่อไป ซึ่งเป็นวิธีดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความเสี่ยงสูง เป็นการเดิมพันเพื่อรักษาเงินดอลลาร์เอาไว้ให้ได้ นั่นหมายความว่า “ราคาน้ำมัน” มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปด้วย ดังนั้นลักษณะสงครามโลก หรือหากจะมีสงครามโรคเพื่อรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ”ไม่ให้เป็นสงครามที่มีผลกระทบต่อแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา แต่ก็ใช่ว่าแนวทางรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่แนวทางสันติวิธีแบบนี้จะทำได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศคู่กรณีอย่างจีน รัสเซีย ที่มีสมาชิก BRICS เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐให้ลดน้อยลง จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ซึ่งกำลังทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่างมีอาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ที่ไม่เพียงจะไม่แพ้สหรัฐอเมริกาและยุโรปเท่านั้น แต่ยังอาจจะเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย ดังนั้นการทำสงครามแบบ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ” อาจถูกโต้กลับด้วยแสนยานุภาพทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้เช่นกัน ในขณะที่การทำสงครามโรคระบาดก็อาจจะไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะหลังจากการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เริ่มทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงความเสียหายรอบด้าน และมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น ทั้งยารักษาโรค การพึ่งพาตัวเองได้สมุนไพร การเร่งรัดงานวิจัย หรือแม้กระทั่งการผลิตวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้ถ่วงอำนาจทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ด้วยการปล่อยกู้และลงทุนอันมหาศาลให้กับหลายประเทศที่ติดหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังขยายบทบาทการพึ่งพาทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศทั่วโลกมากกว่าสหรัฐอเมริกา และทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาลดลงไปด้วย และยังลงทุนก่อสร้างไปในธุรกิจพลังงาน และเหมืองแร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นตัวเปลี่ยนเทคโนโลยีของจีน ที่เหนือกว่าการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐจะไม่สามารถรักษามูลค่าต่อไปได้ ต่อให้ปั่นกระแสข่าวการทำสงคราม การขึ้นภาษีกีดกันทางการค้า ต่างก็มีข้อจำกัดด้วยแสนยานุภาพของประเทศมหาอำนาจคู่กรณี ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้ 1.ความมั่นคงในทุนสำรองระหว่างประเทศที่จะต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินทรัพย์ให้ทันพลวัตต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 2.ต้องมีการบริหารจัดการรักษา “เสถียรภาพ” ค่าเงินบาทไม่ให้เกิดการ “ผันผวน” ผิดปกติเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน ควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กับความสามารถในการแข่งขันในเวทีการส่งออกและการนำเข้าระหว่างประเทศ 3.ต้องบริหารจัดการให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าทั่วไทยอย่างจริงจัง 4.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้พึ่งพาตัวเองได้ ในภาวะสงครามทั่วโลก 5.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางยาด้านสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลได้ตระหนักหรือมีวิสัยทัศน์กับปัญหาเหล่านี้เลย คงเหลือแต่ประชาชนเท่านั้นที่ได้อ่านบทความนี้ต้องเริ่มแสวงหาแนวทางการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน อาหาร และสมุนไพร หรือปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 10 ตุลาคม 2567
    Like
    Love
    Yay
    95
    4 ความคิดเห็น 9 การแบ่งปัน 1391 มุมมอง 5 รีวิว
  • บางทีผมเจอคนมาชวนลงทุนคริปโตบ้าบอ บอกเลย ว่าผมเงินช็อตมาก และผู้ว่าจ้างผมไม่ค่อยจะจ่ายเงิน แถมโดนคนรอบข้างกดดันให้สอบบรรจุและต้องการให้ผมทำงานประจำในออฟฟิศที่โดนห้ามใส่หูฟัง ต้องทนฟังข่าวที่ไม่ต้องการฟัง ฟังแล้วรับ Toxic เข้าไปเต็มๆ
    เขาอยากให้ผมสอบบรรจุ แต่ผมอยากสอบ ก.พ. ให้ผ่านก็พอ ไม่ต้องการทำงานประจำ อยู่แล้วบางทีเวลางานแย่งเวลาหยุดยาวที่ต้องเสพอะไรให้มีความสุข แต่ต้องมาสูด Toxic จากเพื่อนร่วมงาน ไว้ใจไม่ได้จริงๆ
    บางทีเหมือนได้เจอกับคนที่พยายามจะไล่ให้ผมกลับไปอยู่ในนรกจริงๆ และเขาใช้คำเดิมๆว่า เล่นอย่างเดียว กินอย่างเดียว จนผมรู้สึกไม่อยากรับฟัง เพราะถ้ามัวแต่ซีเรียสกับคำพูดพวกนี้ มีแต่จะพาเราตกต่ำลงด้วยครับ
    บางทีผมเจอคนมาชวนลงทุนคริปโตบ้าบอ บอกเลย ว่าผมเงินช็อตมาก และผู้ว่าจ้างผมไม่ค่อยจะจ่ายเงิน แถมโดนคนรอบข้างกดดันให้สอบบรรจุและต้องการให้ผมทำงานประจำในออฟฟิศที่โดนห้ามใส่หูฟัง ต้องทนฟังข่าวที่ไม่ต้องการฟัง ฟังแล้วรับ Toxic เข้าไปเต็มๆ เขาอยากให้ผมสอบบรรจุ แต่ผมอยากสอบ ก.พ. ให้ผ่านก็พอ ไม่ต้องการทำงานประจำ อยู่แล้วบางทีเวลางานแย่งเวลาหยุดยาวที่ต้องเสพอะไรให้มีความสุข แต่ต้องมาสูด Toxic จากเพื่อนร่วมงาน ไว้ใจไม่ได้จริงๆ บางทีเหมือนได้เจอกับคนที่พยายามจะไล่ให้ผมกลับไปอยู่ในนรกจริงๆ และเขาใช้คำเดิมๆว่า เล่นอย่างเดียว กินอย่างเดียว จนผมรู้สึกไม่อยากรับฟัง เพราะถ้ามัวแต่ซีเรียสกับคำพูดพวกนี้ มีแต่จะพาเราตกต่ำลงด้วยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • CZ พ้นคุกแล้ว! Changpeng Zhao อดีตซีอีโอ Binanceวัย47ปีที่ทรงอิทธิพลในโลกคริปโตเคอเรนซี่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วจากเรือนจำในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ

    28 กันยายน 2567-จากรายงานของสำนักงานราชทัณฑ์สหรัฐ (BOP)ได้เปิดเผยว่า นาย Changpeng Zhao หรือเรียกย่อๆว่า CZ ผู้ก่อตั้ง และอดีตซีอีโอบริษัท Binance ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว หลังจากในเดือนเมษายน Zhao ถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร (BSA) มีความผิดทำให้เกิดข้อล้มเหลวในการตั้งค่าโปรแกรมรู้จักลูกค้า (KYC)ไม่เพียงพอ ทำให้ Binance ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิด ซึ่งซีอีโอ Zhaoรับสารภาพผิด และยังยอมจ่ายค่าปรับส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์และต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของBinance ขณะที่บริษัทBinance ที่ทำธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง

    แม้ว่าการถูกคุมขังเนื่องจากการละเมิดกฏหมาย BSA จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตซีอีโอของ BitMEX Arthur Hayes ซึ่งสารภาพผิดในข้อหาที่คล้ายกันในปี 2022 ศาลตัดสินให้รอลงอาญาเท่านั้น ขณะที่การถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนของ Zhao ถือว่าผ่อนปรนเมื่อเทียบกับสามปีที่อัยการของรัฐบาลกลางต้องการ เพราะผู้พิพากษา Richard Jones จากศาลแขวงสหรัฐฯ เขตตะวันตกของวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีของ Zhao ได้ไต่สวนและได้รับจดหมายสนับสนุน 161 ฉบับจากเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของเขายืนยันความเป็นคนดีของเขา

    การปล่อยตัว Zhao เกิดขึ้นก่อนกำหนดวันปล่อยตัวที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ 2 วัน BOP ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้ปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดหากวันปล่อยตัวของพวกเขาตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์

    ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ระบุว่า CZมีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 25,300 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ สำหรับหมายเลขนักโทษของZhao คือ 88087-510

    ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า นายฉางเผิง จ้าว Changpeng Zhao ( 赵长鹏; พินอิน : Zhào Chángpéng ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อCZเป็นนักธุรกิจชาวแคนาดาที่เกิดในจีน Zhao เป็นผู้ก่อตั้งร่วมและอดีต CEO ของBinanceซึ่งเป็นธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตาม ปริมาณการซื้อขายณ เดือนกรกฎาคม 2024 เขาลาออกจากตำแหน่ง CEO ในเดือนพฤศจิกายน 2023 หลังจากรับสารภาพผิดในข้อหาฟอกเงินในสหรัฐอเมริกาและถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในเดือนเมษายน 2024

    หลังจากZhao พ้นคุกเมื่อ27 กันยายน2567 นอกเหนือจากครอบครัวและงานการกุศลแล้ว เขาอาจหันความสนใจไปที่สิ่งที่สาม นั่นก็คืออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้เขาร่ำรวยมหาศาลและครอบงำมาเป็นเวลาเกือบทศวรรษ

    อย่างไรก็ตามภายใต้เงื่อนไขการยุติคดีอาญา เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Binance และต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรม "ประจำวัน" ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงยังเรียกร้องให้ บริษัท Binance ต้องยอมรับการตรวจสอบภายนอกสองชุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนด

    แม้จะมีข้อจำกัดที่ชัดเจนเหล่านี้ แต่ความจริงก็คือบริษัท Binance ไม่ได้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่เอเชียและตลาดต่างประเทศ และแม้ว่า Zhao จะไม่ได้เป็นซีอีโออีกต่อไปแล้ว เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งน่าจะทำให้เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางในอนาคตของบริษัท

    สำหรับเรื่องนี้ โฆษกของ Binance เขียนแถลงข้อความว่า: “เรารู้สึกยินดีที่ CZ จะได้อยู่กับครอบครัวที่บ้านของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้บริหารหรือดำเนินการ Binance แต่เราก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ตั้งแต่ปีที่แล้ว Binance ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของทีมปัจจุบันของเรา โดยมีผู้ใช้มากกว่า 229 ล้านคนทั่วโลก”

    ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย

    #Thaitimes
    CZ พ้นคุกแล้ว! Changpeng Zhao อดีตซีอีโอ Binanceวัย47ปีที่ทรงอิทธิพลในโลกคริปโตเคอเรนซี่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วจากเรือนจำในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ 28 กันยายน 2567-จากรายงานของสำนักงานราชทัณฑ์สหรัฐ (BOP)ได้เปิดเผยว่า นาย Changpeng Zhao หรือเรียกย่อๆว่า CZ ผู้ก่อตั้ง และอดีตซีอีโอบริษัท Binance ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว หลังจากในเดือนเมษายน Zhao ถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร (BSA) มีความผิดทำให้เกิดข้อล้มเหลวในการตั้งค่าโปรแกรมรู้จักลูกค้า (KYC)ไม่เพียงพอ ทำให้ Binance ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิด ซึ่งซีอีโอ Zhaoรับสารภาพผิด และยังยอมจ่ายค่าปรับส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์และต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของBinance ขณะที่บริษัทBinance ที่ทำธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าการถูกคุมขังเนื่องจากการละเมิดกฏหมาย BSA จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตซีอีโอของ BitMEX Arthur Hayes ซึ่งสารภาพผิดในข้อหาที่คล้ายกันในปี 2022 ศาลตัดสินให้รอลงอาญาเท่านั้น ขณะที่การถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนของ Zhao ถือว่าผ่อนปรนเมื่อเทียบกับสามปีที่อัยการของรัฐบาลกลางต้องการ เพราะผู้พิพากษา Richard Jones จากศาลแขวงสหรัฐฯ เขตตะวันตกของวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีของ Zhao ได้ไต่สวนและได้รับจดหมายสนับสนุน 161 ฉบับจากเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของเขายืนยันความเป็นคนดีของเขา การปล่อยตัว Zhao เกิดขึ้นก่อนกำหนดวันปล่อยตัวที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ 2 วัน BOP ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้ปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดหากวันปล่อยตัวของพวกเขาตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ระบุว่า CZมีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 25,300 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ สำหรับหมายเลขนักโทษของZhao คือ 88087-510 ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า นายฉางเผิง จ้าว Changpeng Zhao ( 赵长鹏; พินอิน : Zhào Chángpéng ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อCZเป็นนักธุรกิจชาวแคนาดาที่เกิดในจีน Zhao เป็นผู้ก่อตั้งร่วมและอดีต CEO ของBinanceซึ่งเป็นธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตาม ปริมาณการซื้อขายณ เดือนกรกฎาคม 2024 เขาลาออกจากตำแหน่ง CEO ในเดือนพฤศจิกายน 2023 หลังจากรับสารภาพผิดในข้อหาฟอกเงินในสหรัฐอเมริกาและถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในเดือนเมษายน 2024 หลังจากZhao พ้นคุกเมื่อ27 กันยายน2567 นอกเหนือจากครอบครัวและงานการกุศลแล้ว เขาอาจหันความสนใจไปที่สิ่งที่สาม นั่นก็คืออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้เขาร่ำรวยมหาศาลและครอบงำมาเป็นเวลาเกือบทศวรรษ อย่างไรก็ตามภายใต้เงื่อนไขการยุติคดีอาญา เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Binance และต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรม "ประจำวัน" ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงยังเรียกร้องให้ บริษัท Binance ต้องยอมรับการตรวจสอบภายนอกสองชุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนด แม้จะมีข้อจำกัดที่ชัดเจนเหล่านี้ แต่ความจริงก็คือบริษัท Binance ไม่ได้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่เอเชียและตลาดต่างประเทศ และแม้ว่า Zhao จะไม่ได้เป็นซีอีโออีกต่อไปแล้ว เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งน่าจะทำให้เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางในอนาคตของบริษัท สำหรับเรื่องนี้ โฆษกของ Binance เขียนแถลงข้อความว่า: “เรารู้สึกยินดีที่ CZ จะได้อยู่กับครอบครัวที่บ้านของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้บริหารหรือดำเนินการ Binance แต่เราก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ตั้งแต่ปีที่แล้ว Binance ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของทีมปัจจุบันของเรา โดยมีผู้ใช้มากกว่า 229 ล้านคนทั่วโลก” ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 973 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..แอปนี้กำลังถูกโจมตีจากเดอะแก๊งท่านลอร์ดมั้ยนะ รู้สึกมีปัญหาแล้ว
    ..จริงๆต้องให้เครดิตรัฐฐะชุดนี้นะ,ถ้าไม่ทำก็ไม่แจกหรอก พอดีคุยเป็นนโยบายแล้วเลยเสียไม่ได้,ดันต่อก็คุกทั้งครม.และคณะบริหารเพราะเรื่องที่แฉกันไว้มันตรึม,แบงค์ชาติยิ่งคัดค้านหัวชนฝา บาทคอยน์อินทนนท์มีทองคำค้ำประกันแต่เหรียญคริปโตฯโทเคนนี้ไร้ที่มา&ขาดทุนมาจากไหนมิรู้จะชุบให้มีราคาในไทยก็ว่า,ค่าคอมฯไป&กลับ6%โน้น,สาระพัดอื่นๆอีก,แอปก็ไม่ปลอดภัยแฮ๊กเกอร์ดักข้อมูลประชาชนสบายๆอีกดูดๆสบายๆก็ว่า,ท่านลอร์ดแม้มอบจะจัดการให้คนไทยรับรู้ความเป็นทาสให้รวดเร็วผ่านตังดิจิดัลนี้เพื่ออนาคตจะครองทาสทั้งโลกได้เบ็ดเสร็จผ่านการควบคุมจากตังดิจิดัลนี้ก็ว่า,เจตนาแรกอาจชั่วและเลว,ถูกบีบให้มาทำดีก็ดีต่อประชาชนล่ะ,เยียวยาตรงจุดเหมาะสม สมเหตุสมผลแล้ว แบงค์ชาติและคนอื่นๆก็เห็นด้วยและอนุมัตหากแจกเป็นเงินสด.
    ..อย่าไปห่วงเลยว่าหนี้สาธารณะหนี้ครัวเรือนหนี้สาระพัดใดๆจะมากมายขนาดไหน สุดท้ายใครปกครองมาบริหารต้องรับผิดชอบเต็มๆมีมั้ยโยนขี้ให้คนบริหารหรือรัฐบาลเก่าที่สร้างหนี้เอาไว้มึงต้องมารับผิดชอบด้วย เพราะห่านี้หนีเข้ากรอบเมฆเลย ลอยตัวด้วยที่สร้างความระยำไว้ต่อเนื่องสะสมมาถึงปัจจุบัน.
    ..โดยหน้าที่คือความรับผิดชอบต้องสร้างรายได้และปกป้องประเทศให้ปลอดภัยจากภัยศัตรูรอบด้านและต่างชาติชั่วเลวรอบโลกที่หมายยึดไทย ปล้นจี้ข่มขืนอิสระภาพเสรีแผ่นดินไทย กดขี่อธิปไตยคนไทย,แบบUNสั่งแผ่นดินไทยต้องรับคนพม่ามาเลี้ยงดูบนแผ่นดินไทยนะนี้คือคำสั่งมันว่า.
    ..คนไทยถ้าสร้างกลุ่มจัดตั้งกองทัพภาคประชาชนจริงจัง ยึดอำนาจแบบพันธมิตรเสื้อเหลืองทำไม่เสด็จน้ำ ไม่เด็ดขาดสิ้นซากในอดีตด้วยกำลังใจคนพร้อมสุดเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงได้อาจยึดคืนบ่อน้ำมันคืนมาทั้งประเทศด้วย ได้คืนทรัพยากรมีค่ามากมายกลับคืนทั้งหมดด้วย ไล่ต่างชาติเลวออกไปได้อย่างสบายอีก,แต่หน้าผิดหวังที่ไม่ทำ ต่อยอดจนสุเทพมาทำยึดอำนาจโดยลุงเสียและเสียของด้วย,ทิ้งท้ายไปอนุมัตสัมปทานอ่าวไทยสองแปลงให้ต่างชาติมาทำปิโตรเลียมอีกโน้น บ่อทองคำก็ให้ทำต่ออีก.,เสียของจริงๆไม่นับรวมผูกขาดเมล็ดพันธุ์ความมั่นคงทางอาหารให้แก่เอกชนนะ ประชาชนไม่ยอม พรบ.นั้นจึงตกไป ,พรบ.500กว่าฉบับยุคยึดอำนาจ ไม่รู้เลยว่าไส้ในมันดีจริงต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยมั้ย จนลุงได้รับเลือกตั้งอีกสมัย,จนเช่าที่ดิน เช่าคอนโด99ปีมันสำเร็จแก่ต่าวชาติโน้น.,
    ..แจกตังแค่นี้ถือว่าไม่มากอะไรเลย แสนกว่าล้าน เทียบกับอธิปไตยทางทรัพยากรมีค่าที่ถูกโกง&ปล้นไปโดยการสุมหัวกันทั้งนักการเมืองไทยทั้งข้าราชการไทยที่เลวๆชั่วๆสันดานปกติจริตนิสัยตามDNAโคตรวงศ์ตระกูลสืบสันดานกันมาปกติคงไม่แปลกใจนักว่าชาติไทยเราจะมั่นคงในการทำให้ยากจนมั่นคงดักดานยั่งยืนได้ขนาดนี้.
    ..คนไทยยึดคือบ่อน้ำมันบ่อทองคำได้แค่สองอย่างนี้ก่อน มีพลิกฟื้นฟูสู่ความร่ำรวยทุกๆคนอย่างแน่นอน,อเมริกาอนาคตอาจจ่ายUBIคนอเมริกากว่า100,000ถึง300,000$ต่อเดือนโน้น ถ้าตึกWTCตึกแฝดไม่ถล่มนะคนอเมริกาคุยว่าแบบนี้,ตีเป็นเงินไทยคือ40฿:1$เลยแบบอ่อนค่าไว้ก่อน,ก็4,000,000-12,000,000บาทต่อเดือนเลยนะ,ไทยเราขอแค่UBIที่25,000บาทต่อเดือนเองถือว่าน้อยมาก,อัดโครงการเศรษฐกิจสมถะพอเพียงอีก,พึ่งพาตนเองคู่ศีลธรรมทางจิตวิญญาณโคตรๆเลย,อย่างน้อยมีรายรับเข้าทุกๆเดือนอาวุธพร้อมกระสุนพร้อม ทั้งรุกทั้งรับ&ป้องกันได้สบาย ใครจะซื้อหาปลูก&เลี้ยงอะไรเพื่อปากท้องก่อนเหลือแบ่งปันจนขายสร้างตังเข้าตนเองได้หมด,แต่ปัจจุบันคนไทยไม่มีตังจะซื้ออะไรทำแบบที่ว่าได้ไง,ร้องขอผีบ้าจากรัฐบาลจากนักปกครองที่ขลาดโง่ให้เขามายึดครองแหล่งทำตังตนเองแบบบ่อน้ำมันเอบบ่อทองคำเอยได้อย่างง่ายดายถือว่ากาก&กระจอกมากจนถึงปัจจุบันทำให้โมฆะยังไม่ได้ที่ปล้นเราไปเสมือนได้ฟรีๆเลยก็ว่า,
    ..คนไทยจึงเสมือนว่าถูกทำให้ยากจนจึงไม่ผิดไปจากความจริง,รับเศษตังเศษเงินแบบนี้ ซึ่งทุกๆคนไทยเราสมควรร่ำรวยมั่งคั่งกันทุกๆคนนานแล้ว.
    ..แอปนี้กำลังถูกโจมตีจากเดอะแก๊งท่านลอร์ดมั้ยนะ รู้สึกมีปัญหาแล้ว ..จริงๆต้องให้เครดิตรัฐฐะชุดนี้นะ,ถ้าไม่ทำก็ไม่แจกหรอก พอดีคุยเป็นนโยบายแล้วเลยเสียไม่ได้,ดันต่อก็คุกทั้งครม.และคณะบริหารเพราะเรื่องที่แฉกันไว้มันตรึม,แบงค์ชาติยิ่งคัดค้านหัวชนฝา บาทคอยน์อินทนนท์มีทองคำค้ำประกันแต่เหรียญคริปโตฯโทเคนนี้ไร้ที่มา&ขาดทุนมาจากไหนมิรู้จะชุบให้มีราคาในไทยก็ว่า,ค่าคอมฯไป&กลับ6%โน้น,สาระพัดอื่นๆอีก,แอปก็ไม่ปลอดภัยแฮ๊กเกอร์ดักข้อมูลประชาชนสบายๆอีกดูดๆสบายๆก็ว่า,ท่านลอร์ดแม้มอบจะจัดการให้คนไทยรับรู้ความเป็นทาสให้รวดเร็วผ่านตังดิจิดัลนี้เพื่ออนาคตจะครองทาสทั้งโลกได้เบ็ดเสร็จผ่านการควบคุมจากตังดิจิดัลนี้ก็ว่า,เจตนาแรกอาจชั่วและเลว,ถูกบีบให้มาทำดีก็ดีต่อประชาชนล่ะ,เยียวยาตรงจุดเหมาะสม สมเหตุสมผลแล้ว แบงค์ชาติและคนอื่นๆก็เห็นด้วยและอนุมัตหากแจกเป็นเงินสด. ..อย่าไปห่วงเลยว่าหนี้สาธารณะหนี้ครัวเรือนหนี้สาระพัดใดๆจะมากมายขนาดไหน สุดท้ายใครปกครองมาบริหารต้องรับผิดชอบเต็มๆมีมั้ยโยนขี้ให้คนบริหารหรือรัฐบาลเก่าที่สร้างหนี้เอาไว้มึงต้องมารับผิดชอบด้วย เพราะห่านี้หนีเข้ากรอบเมฆเลย ลอยตัวด้วยที่สร้างความระยำไว้ต่อเนื่องสะสมมาถึงปัจจุบัน. ..โดยหน้าที่คือความรับผิดชอบต้องสร้างรายได้และปกป้องประเทศให้ปลอดภัยจากภัยศัตรูรอบด้านและต่างชาติชั่วเลวรอบโลกที่หมายยึดไทย ปล้นจี้ข่มขืนอิสระภาพเสรีแผ่นดินไทย กดขี่อธิปไตยคนไทย,แบบUNสั่งแผ่นดินไทยต้องรับคนพม่ามาเลี้ยงดูบนแผ่นดินไทยนะนี้คือคำสั่งมันว่า. ..คนไทยถ้าสร้างกลุ่มจัดตั้งกองทัพภาคประชาชนจริงจัง ยึดอำนาจแบบพันธมิตรเสื้อเหลืองทำไม่เสด็จน้ำ ไม่เด็ดขาดสิ้นซากในอดีตด้วยกำลังใจคนพร้อมสุดเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงได้อาจยึดคืนบ่อน้ำมันคืนมาทั้งประเทศด้วย ได้คืนทรัพยากรมีค่ามากมายกลับคืนทั้งหมดด้วย ไล่ต่างชาติเลวออกไปได้อย่างสบายอีก,แต่หน้าผิดหวังที่ไม่ทำ ต่อยอดจนสุเทพมาทำยึดอำนาจโดยลุงเสียและเสียของด้วย,ทิ้งท้ายไปอนุมัตสัมปทานอ่าวไทยสองแปลงให้ต่างชาติมาทำปิโตรเลียมอีกโน้น บ่อทองคำก็ให้ทำต่ออีก.,เสียของจริงๆไม่นับรวมผูกขาดเมล็ดพันธุ์ความมั่นคงทางอาหารให้แก่เอกชนนะ ประชาชนไม่ยอม พรบ.นั้นจึงตกไป ,พรบ.500กว่าฉบับยุคยึดอำนาจ ไม่รู้เลยว่าไส้ในมันดีจริงต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยมั้ย จนลุงได้รับเลือกตั้งอีกสมัย,จนเช่าที่ดิน เช่าคอนโด99ปีมันสำเร็จแก่ต่าวชาติโน้น., ..แจกตังแค่นี้ถือว่าไม่มากอะไรเลย แสนกว่าล้าน เทียบกับอธิปไตยทางทรัพยากรมีค่าที่ถูกโกง&ปล้นไปโดยการสุมหัวกันทั้งนักการเมืองไทยทั้งข้าราชการไทยที่เลวๆชั่วๆสันดานปกติจริตนิสัยตามDNAโคตรวงศ์ตระกูลสืบสันดานกันมาปกติคงไม่แปลกใจนักว่าชาติไทยเราจะมั่นคงในการทำให้ยากจนมั่นคงดักดานยั่งยืนได้ขนาดนี้. ..คนไทยยึดคือบ่อน้ำมันบ่อทองคำได้แค่สองอย่างนี้ก่อน มีพลิกฟื้นฟูสู่ความร่ำรวยทุกๆคนอย่างแน่นอน,อเมริกาอนาคตอาจจ่ายUBIคนอเมริกากว่า100,000ถึง300,000$ต่อเดือนโน้น ถ้าตึกWTCตึกแฝดไม่ถล่มนะคนอเมริกาคุยว่าแบบนี้,ตีเป็นเงินไทยคือ40฿:1$เลยแบบอ่อนค่าไว้ก่อน,ก็4,000,000-12,000,000บาทต่อเดือนเลยนะ,ไทยเราขอแค่UBIที่25,000บาทต่อเดือนเองถือว่าน้อยมาก,อัดโครงการเศรษฐกิจสมถะพอเพียงอีก,พึ่งพาตนเองคู่ศีลธรรมทางจิตวิญญาณโคตรๆเลย,อย่างน้อยมีรายรับเข้าทุกๆเดือนอาวุธพร้อมกระสุนพร้อม ทั้งรุกทั้งรับ&ป้องกันได้สบาย ใครจะซื้อหาปลูก&เลี้ยงอะไรเพื่อปากท้องก่อนเหลือแบ่งปันจนขายสร้างตังเข้าตนเองได้หมด,แต่ปัจจุบันคนไทยไม่มีตังจะซื้ออะไรทำแบบที่ว่าได้ไง,ร้องขอผีบ้าจากรัฐบาลจากนักปกครองที่ขลาดโง่ให้เขามายึดครองแหล่งทำตังตนเองแบบบ่อน้ำมันเอบบ่อทองคำเอยได้อย่างง่ายดายถือว่ากาก&กระจอกมากจนถึงปัจจุบันทำให้โมฆะยังไม่ได้ที่ปล้นเราไปเสมือนได้ฟรีๆเลยก็ว่า, ..คนไทยจึงเสมือนว่าถูกทำให้ยากจนจึงไม่ผิดไปจากความจริง,รับเศษตังเศษเงินแบบนี้ ซึ่งทุกๆคนไทยเราสมควรร่ำรวยมั่งคั่งกันทุกๆคนนานแล้ว.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 118 0 รีวิว
  • 🔥🔥แนวโน้ม และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ
    ได้กดดันให้ราคาบิทคอยน์ และคริปโตเคอเรนซี รวมทั้ง
    ราคาหุ้นตกต่ำในวันนี้

    🚩การที่ราคาลดลงในวันนี้ สะท้อนการลดลงในตลาดเสี่ยงทั่วโลก
    เนื่องมาจากความกลัวเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้ม
    ถดถอย

    🚩ณ วันที่ 4 กันยายน บิทคอยน์ ร่วงลง 3.30% เหลือประมาณ
    55,600 ดอลลาร์สหรัฐ/BTC ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน
    ในทำนองเดียวกัน สัญญาฟิวเจอร์ส S&P 500 ก็ร่วงลง 0.4%
    หลังจากทำผลงานได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่ตลาดตกต่ำ
    เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา

    🚩ผู้ค้าคริปโต กำลังเตรียมตัวรับมือกับความผันผวน
    ของตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากพวกเขารอข้อมูลเศรษฐกิจ
    ที่สำคัญเพื่อดูว่าสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ
    ถดถอยหรือไม่ และธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับ
    นโยบายอย่างไร

    🚩รายงานการจ้างงานในวันที่ 4 กันยายน น่าจะแสดงให้เห็นถึง
    การชะลอตัวของตลาดแรงงาน หลังจากข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่า
    กิจกรรมการผลิตลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยความกังวล
    เปลี่ยนจากภาวะเงินเฟ้อ เป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
    ข้อมูลมหภาคที่อ่อนแอนี้ กดดันหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง เช่น
    สกุลเงินดิจิทัล

    🚩ตัวอย่างเช่น การคาดการณ์ว่าตลาดงานจะเย็นลงนั้น
    เกิดขึ้นพร้อมกับกระแสเงินไหลออกจากกองทุนซื้อขาย
    แลกเปลี่ยน Bitcoin (ETF) มูลค่า 287.80 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
    หรือประมาณ 9,800 ล้านบาทต่อวัน
    ซึ่งถือเป็นกระแสเงินไหลออกที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่
    เดือนมิถุนายน
    ที่มา : cointelegraph
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #บิทคอยน์ #เศรษฐกิจสหรัฐ
    #thaitimes
    🔥🔥แนวโน้ม และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ ได้กดดันให้ราคาบิทคอยน์ และคริปโตเคอเรนซี รวมทั้ง ราคาหุ้นตกต่ำในวันนี้ 🚩การที่ราคาลดลงในวันนี้ สะท้อนการลดลงในตลาดเสี่ยงทั่วโลก เนื่องมาจากความกลัวเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้ม ถดถอย 🚩ณ วันที่ 4 กันยายน บิทคอยน์ ร่วงลง 3.30% เหลือประมาณ 55,600 ดอลลาร์สหรัฐ/BTC ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน ในทำนองเดียวกัน สัญญาฟิวเจอร์ส S&P 500 ก็ร่วงลง 0.4% หลังจากทำผลงานได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่ตลาดตกต่ำ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา 🚩ผู้ค้าคริปโต กำลังเตรียมตัวรับมือกับความผันผวน ของตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากพวกเขารอข้อมูลเศรษฐกิจ ที่สำคัญเพื่อดูว่าสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ ถดถอยหรือไม่ และธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับ นโยบายอย่างไร 🚩รายงานการจ้างงานในวันที่ 4 กันยายน น่าจะแสดงให้เห็นถึง การชะลอตัวของตลาดแรงงาน หลังจากข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่า กิจกรรมการผลิตลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยความกังวล เปลี่ยนจากภาวะเงินเฟ้อ เป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ข้อมูลมหภาคที่อ่อนแอนี้ กดดันหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง เช่น สกุลเงินดิจิทัล 🚩ตัวอย่างเช่น การคาดการณ์ว่าตลาดงานจะเย็นลงนั้น เกิดขึ้นพร้อมกับกระแสเงินไหลออกจากกองทุนซื้อขาย แลกเปลี่ยน Bitcoin (ETF) มูลค่า 287.80 ล้านดอลลาร์ต่อวัน หรือประมาณ 9,800 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งถือเป็นกระแสเงินไหลออกที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ที่มา : cointelegraph #หุ้นติดดอย #การลงทุน #บิทคอยน์ #เศรษฐกิจสหรัฐ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 906 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥 ข้อมูลน่ากังวลจาก Cointelegrap ระบุ
    ภายใน 8 เดือน ของปี 2567 นี้
    แฮกเกอร์ สามารถเจาะระบบ และขโมยเงินออกไปจาก
    กระเป๋าเงิน ในระบบของคริปโต คิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า
    1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 40,000 ล้านบาท
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #คริปโต #thaitimes
    🔥🔥 ข้อมูลน่ากังวลจาก Cointelegrap ระบุ ภายใน 8 เดือน ของปี 2567 นี้ แฮกเกอร์ สามารถเจาะระบบ และขโมยเงินออกไปจาก กระเป๋าเงิน ในระบบของคริปโต คิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 40,000 ล้านบาท #หุ้นติดดอย #การลงทุน #คริปโต #thaitimes
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์โลกที่ดู ฟัง อ่าน หลายๆที่มาสักระยะนึง สรุปในสิ่งที่จะเกิดในไม่กี่ปี ข้างหน้า
    > สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิด เพื่อรีเซ็ตระบบเก่าทั้งการเงิน และการปกครองให้เข้าไปสู่ New world order
    > ระบบการเงินกำลังจะรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง โดยตัวกระตุ้นหลักคือดอล์ล่าสหรัฐ
    > Smart city, one government และ Digital currency (ที่ไม่ใช่คริปโต) เป็นส่วนหนึ่งของ New world order.
    > ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ ผู้ชนะที่แท้จริงคือผู้ที่อยู่เบื้อง ทั้งวางทิศทางโลก และหนุนทั้งสองฝ่าย และควบคุมให้เป็นไปตามบทที่ต้องการ
    > เช่นกันที่คนกลุ่มนี้ก็จะทุบ และช้อนเอาสิ่งที่อยากได้ (ครอบครอง แต่ไม่ควบคุม)
    > ผู้คนจะยอมรับระบบใหม่ก็ต่อเมื่อระบบเก่าล่มสลาย

    ส่วนตัวคิดว่า...
    > ระบบการเงินใหม่น่าจะเริ่มต้นหลังสงครามจบ
    > เตรียมหาโอกาสหลังระบบโลกรีเซ็ตแล้ว
    > ที่ดิน และทอง ก็ยังเป็นอะไรที่ยั่งยืน ในการแปรเปลี่ยนเป็นอบ่างอื่นหลังโลกถูกรีเซ็จ
    > อย่าเล่นบอนระยะยาว และพันธบัตรของสหรัฐ เพราะธนาคารใหญ่ไม่น่าปล่อยกู้ให้แล้ว
    > ถ้าแยกออกว่าใครคือผู้ปกครอง และใครคือผู้ครอบครอง และควบคุมจะเข้าใจป่าทั้งป่า
    > ระวังเงินเฟ้อ
    > Smart city จะเกิดกับประเทศที่ประชาชนยอมให้รัฐควบคุมสิทธิเสรีภาพ หรือระบบต่างๆในระดับนึง เหมือนสิงคโปร์ หรือจีน (ไทยน่าจะเกิดยาก555)
    สถานการณ์โลกที่ดู ฟัง อ่าน หลายๆที่มาสักระยะนึง สรุปในสิ่งที่จะเกิดในไม่กี่ปี ข้างหน้า > สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิด เพื่อรีเซ็ตระบบเก่าทั้งการเงิน และการปกครองให้เข้าไปสู่ New world order > ระบบการเงินกำลังจะรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง โดยตัวกระตุ้นหลักคือดอล์ล่าสหรัฐ > Smart city, one government และ Digital currency (ที่ไม่ใช่คริปโต) เป็นส่วนหนึ่งของ New world order. > ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ ผู้ชนะที่แท้จริงคือผู้ที่อยู่เบื้อง ทั้งวางทิศทางโลก และหนุนทั้งสองฝ่าย และควบคุมให้เป็นไปตามบทที่ต้องการ > เช่นกันที่คนกลุ่มนี้ก็จะทุบ และช้อนเอาสิ่งที่อยากได้ (ครอบครอง แต่ไม่ควบคุม) > ผู้คนจะยอมรับระบบใหม่ก็ต่อเมื่อระบบเก่าล่มสลาย ส่วนตัวคิดว่า... > ระบบการเงินใหม่น่าจะเริ่มต้นหลังสงครามจบ > เตรียมหาโอกาสหลังระบบโลกรีเซ็ตแล้ว > ที่ดิน และทอง ก็ยังเป็นอะไรที่ยั่งยืน ในการแปรเปลี่ยนเป็นอบ่างอื่นหลังโลกถูกรีเซ็จ > อย่าเล่นบอนระยะยาว และพันธบัตรของสหรัฐ เพราะธนาคารใหญ่ไม่น่าปล่อยกู้ให้แล้ว > ถ้าแยกออกว่าใครคือผู้ปกครอง และใครคือผู้ครอบครอง และควบคุมจะเข้าใจป่าทั้งป่า > ระวังเงินเฟ้อ > Smart city จะเกิดกับประเทศที่ประชาชนยอมให้รัฐควบคุมสิทธิเสรีภาพ หรือระบบต่างๆในระดับนึง เหมือนสิงคโปร์ หรือจีน (ไทยน่าจะเกิดยาก555)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว