• เหลี่ยมทุกดอก สว.สีน้ำเงิน กอดอำนาจผ่านเกมแก้รัฐธรรมนูญ, สัปดาห์แตกหักแก้รธน. สว.สีน้ำเงินเดินเกมหนัก ขอคงอำนาจสภาสูง–องค์กรอิสระครบวาระ ก่อนถึงวันโหวตวาระสามที่เดิมพันทั้งฉบับ
    .
    อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000117481
    .
    #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #การเมืองไทย #รัฐธรรมนูญ #สว #สภาสูง #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    เหลี่ยมทุกดอก สว.สีน้ำเงิน กอดอำนาจผ่านเกมแก้รัฐธรรมนูญ, สัปดาห์แตกหักแก้รธน. สว.สีน้ำเงินเดินเกมหนัก ขอคงอำนาจสภาสูง–องค์กรอิสระครบวาระ ก่อนถึงวันโหวตวาระสามที่เดิมพันทั้งฉบับ . อ่านต่อ…..https://news1live.com/detail/9680000117481 . #News1live #News1 #ปมร้อนข่าวลึก #truthfromthailand #newsupdate #การเมืองไทย #รัฐธรรมนูญ #สว #สภาสูง #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 8-12-68
    .
    ช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชากำลังเดือดสุด ๆ หลังจากที่มีการปะทะกันตั้งแต่เช้าตรู่ ตี 5 วงประชุมของคุณสนธิ อ.ปานเทพ และทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิเช้านี้หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวผัดกระเพราคลุกไก่หุบบอน จึงอัพเดตสถานการณ์ พูดคุยถึงเรื่องนี้กันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ... จะพูดคุยเรื่องอะไรบ้าง และคุณสนธิมีทัศนะต่อสถานการณ์เรื่องนี้ว่าอย่างไร ต้องไปติดตาม
    .
    คลิกชม >>https://www.youtube.com/watch?v=6rE2gNjsqsc
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    สนธิเล่าเรื่อง 8-12-68 . ช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชากำลังเดือดสุด ๆ หลังจากที่มีการปะทะกันตั้งแต่เช้าตรู่ ตี 5 วงประชุมของคุณสนธิ อ.ปานเทพ และทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิเช้านี้หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวผัดกระเพราคลุกไก่หุบบอน จึงอัพเดตสถานการณ์ พูดคุยถึงเรื่องนี้กันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ... จะพูดคุยเรื่องอะไรบ้าง และคุณสนธิมีทัศนะต่อสถานการณ์เรื่องนี้ว่าอย่างไร ต้องไปติดตาม . คลิกชม >>https://www.youtube.com/watch?v=6rE2gNjsqsc . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วนที่สุด! ชายแดนเดือดระลอกใหม่ นายกฯ สั่งปรับแผนลงพื้นที่ทันที!
    .
    สถานการณ์เช้านี้ตึงเครียดอย่างยิ่งบริเวณชายแดน หลังมีรายงาน การเผชิญหน้าและเสียงปะทะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
    .
    ทำให้ นายกฯ อนุทิน และ รมว.กลาโหม บิ๊กเล็ก ต้องยกเลิกภารกิจบินตรวจพื้นที่กะทันหัน
    .
    • เปิดไฟเขียวกองทัพไทย ดำเนินมาตรการเข้มเพื่อควบคุมสถานการณ์
    • เรียกประชุมความมั่นคงด่วน ประเมินข้อมูลจากพื้นที่แบบเรียลไทม์
    • ทุกหน่วยพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติ งดเผยแพร่ภาพเชิงปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล
    .
    สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ขอให้ทุกคนติดตามข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และร่วมส่งแรงใจให้เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าในเวลานี้ครับ
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #scambodia #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    ด่วนที่สุด! ชายแดนเดือดระลอกใหม่ นายกฯ สั่งปรับแผนลงพื้นที่ทันที! 🇹🇭 . สถานการณ์เช้านี้ตึงเครียดอย่างยิ่งบริเวณชายแดน หลังมีรายงาน การเผชิญหน้าและเสียงปะทะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง . ทำให้ นายกฯ อนุทิน และ รมว.กลาโหม บิ๊กเล็ก ต้องยกเลิกภารกิจบินตรวจพื้นที่กะทันหัน . • เปิดไฟเขียวกองทัพไทย ดำเนินมาตรการเข้มเพื่อควบคุมสถานการณ์ • เรียกประชุมความมั่นคงด่วน ประเมินข้อมูลจากพื้นที่แบบเรียลไทม์ • ทุกหน่วยพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติ งดเผยแพร่ภาพเชิงปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล . สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ขอให้ทุกคนติดตามข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และร่วมส่งแรงใจให้เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าในเวลานี้ครับ . #news1 #news1live #TruthFromThailand #scambodia #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุป โทษใครไม่ได้เลยหรือปล่าว
    พม่า ก็ลูกหลง!!!
    เขมร ก็กลัวบานปลาย
    ใต้ ดีหน่อย ผู้ก่อความไม่สงบ ก็โดนน้องน้ำกวาดไปด้วย
    แต่อาจทำให้เกิดสงครามข่าวลวง ปลุก ความรู้สึกไม่เท่าเทียบ มาหาแนวร่วมได้อีก
    สรุป โทษใครไม่ได้เลยหรือปล่าว พม่า ก็ลูกหลง!!! เขมร ก็กลัวบานปลาย ใต้ ดีหน่อย ผู้ก่อความไม่สงบ ก็โดนน้องน้ำกวาดไปด้วย แต่อาจทำให้เกิดสงครามข่าวลวง ปลุก ความรู้สึกไม่เท่าเทียบ มาหาแนวร่วมได้อีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 10

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 10
    ระหว่างที่อเมริกา ใช้ AFRICOM ค่อยๆ สร้างกับดัก และบ่วงรัดคอ อยู่แถวอาฟริกา ไล่มาถึงตะวันออกกลาง ตามยุทธศาสตร์ คุมแหล่งน้ำมัน รวมทั้งเส้นทางเดินของน้ำมัน ไม่ไห้หลุดไปถึงจีนนั้น หน่วยงานอื่นของอเมริกา ก็ทำงานอื่น อยู่ในแถบอื่น แต่เกี่ยวพันกันอย่างนึกไม่ถึง ควบคู่ไปด้วย
    ช่วงปี ค.ศ.2002 ถึง 2008 อเมริกาแจกโปรแกรม ปฏิวัติหลากสี Color Revolutions ไปทั่ว เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ปกครอง ประเทศ ที่ปกครองในบางประเทศมานาน แต่ถึงเวลาแล้ว ที่อเมริกาต้องการเปลี่ยน เอาคน หรือกลุ่มที่อเมริกาเลือก มาปกครองประเทศเหล่านั้น เพื่ออเมริกาจะได้เข้าไปครอบครองทรัพยากร และการปกครองประเทศเหล่านั้น
    ไหนว่าต้องการให้ ประเทศทั้งหลายในโลก ปกครองตัวเอง ด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทนของตนมาปกครอง ไงครับ
    ….อ้อ เราเข้าใจผิดหรือครับ …. ต้องใช้ว่า …. ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทน “ตามที่อเมริกาต้องการ” มาปกครอง …. ครับ ครับ เข้าใจแล้วครับ ท่านผู้อ่านโปรดเข้าใจ ระบอบประชาธิปไตย ตามความหมายของอเมริกา เสียใหม่นะครับ
    ในช่วงนั้น องค์กรที่เรียกว่า เอ็นจีโอ non government organization ถูกอเมริกาจัดตั้ง โผล่ขึ้นมาเต็ม เหมือนเห็ดหน้าฝน ภายใต้สาระพัดชื่อ โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นองค์กรของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่รัฐบาลอเมริกัน ให้หน่วยงานอื่นสนับสนุนเงินทุนแก่เอ็นจีโอเหล่านี้ และให้อยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคง เพนตากอน และหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกา ซีไอเอ อีกด้วย ถุด…
    เอ็นจีโอเหล่านี้ น่าจะถูกฝึก และถูกเลี้ยงเหมือนนกแก้ว เพราะร้องเป็นอยู่ ไม่กี่ประโยค…… ละเมิดสิทธิมนุษยชน…. ไม่เอาเผด็จการ …. เป็นประชาธิปไตย… นกแก้วมีหลายพันธ์ุ เช่น พันธ์ุยุโรปตะวันออก พันธ์ุอาหรับ และพันธ์ุเอเซีย นกแก้วเอเซีย กำลังถูกลำเลียง ไปปล่อยแถว พม่า ธิเบต และตรงเขตแดนสำคัญของจีน คือ ซินเกียง
    นกแก้วฝูงแรก ถูกเอาไปปล่อยที่พม่า หรือเมียนมาร์ แต่อังกฤษ เจ้านายเก่า รวมทั้งอเมริกา (ที่กำลังเบียดเข้ามาเพื่อหวังจะเป็น) เจ้านายใหม่ ยังเรียก พม่า ตามความคุ้นปากเหมือนเดิม รวมทั้งผม ก็ขอเรียก พม่า เพราะพิมพ์ง่ายกว่า
    ปี ค.ศ.2007 เกิดการปฏิวัติหลากสี ขึ้นที่พม่า อเมริกาเรียกปฏิวัตินี้ว่า ปฏิวัติสีผ้าเหลือง Saffron Revolution ซึ่งเป็นโรคติดต่อมาจาก ปฏิวัติสีกุหลาบ Rose Revolution ในจอร์เจีย ปี 2003 และ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution ในยูเครน ปี 2004-2005 ที่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก บริเวณที่ติดกับรัสเซีย มันเป็นการปฏิวัติ ที่อเมริกาเป็นผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท คัดเลือกตัวผู้เข้าฉาก และกำกับการแสดงทั้งหมด และก็คงเห็นกันแล้วว่า ความฉิบหายวุ่นวาย ทั้งในจอร์เจีย และยูเครน ยังมีอยู่จนทุกวันนี้ และมีที่ท่าว่าจะแย่ลงเรื่อยๆ
    สำหรับปฏิวัติสีผ้าเหลืองในพม่านั้น มีสื่อฝรั่ง บอกว่า คนตั้งชื่อ ตั้งใจเรียกตาม สีจีวรพระพม่า เพราะตามแผนที่อเมริกาวางไว้ พระพม่าจะเป็นพระเอก เดินนำการประท้วงรัฐบาลพม่า เป็นแผนที่เด็ดขาดมากใช้พระนำขบวน ไม่บอกก่อนจะได้ส่งพวกจานบินไป ร่วม และก็เป็นเรื่องตลกมากด้วย เพราะจีวรพระพม่า สีน้ำตาลแดง ไม่ใช่สีเหลืองอมส้ม เขาว่า กลุ่มคนคิดแผน นั่งสุมหัวกันอยู่ที่สถานกงสุลอเมริกันที่เชียงใหม่ ผมชักเชื่อ แสดงว่าไอ้คนทำแผน เห็นพระไทยในเชียงใหม่ห่มจีวรสีเหลืองอมส้ม ก็สีจีวรพระบ้านเรานั่นแหละ เลยใช้เป็นชื่อปฏิวัติเสียเลย มันมั่วซั่วสิ้นดี ปฏิวัติสีผ้าเหลือง ฮาจริง
    สาเหตุการประท้วง (ไม่ใช่ปฏิวัติ) ที่อ้าง หรือสร้าง บอกว่า มาจากการที่รัฐบาลทหารของพม่า ยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมัน ทำให้ราคาขายน้ำมันในพม่าพุ่งสูงขึ้นไปประมาณ เกือบเท่าตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน กลุ่มที่ออกมาประท้วงตามข่าว มีตั้งแต่ นักเรียน แม่บ้าน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และพระพม่าจำนวนมาก
    แต่เป้าหมายจริงๆ ก็คือสร้างความปั่นป่วนในพม่า เพื่อจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทหาร ที่ปกครองพม่ามานาน และเอาคุณนายซู เมียฝรั่งที่ฝ่ายตะวันตกสนับสนุนมาเป็นผู้นำ คุณนายเป็นเองไม่ได้ ก็เอาคนที่คุณนายสั่งได้มาเป็น เพื่อเปิดประตูให้ตะวันตกเข้ามาในพม่า เรื่องคุณนายซู นี่ นายเก่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใหญ่ และเดินสายทั้งในและนอกพม่า
    ผู้นำการปฏิวัติ ใช้ตัวเชิดเป็นฝ่ายนักเคลื่อนไหว ที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่หัวหน้าตัวจริง มีหลายคน ตั้งแต่คุณนายซู เมียฝรั่ง นักเคลื่อนไหวของพม่า พระพม่า และนักหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น แปลกใจไหมครับ ก็ไปนำขบวนด้วยประท้วงแล้วก็ถูกยิงตาย กลายเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลทหารของพม่า กับรัฐบาลญี่ปุ่น และส่วนพระพม่าก็เป็นพวกที่มายืนชุมนุมอยู่หน้าบ้านคุณนาย ก่อนเคลื่อนย้ายไปตามถนนในเมืองย่างกุ้ง
    ก่อนการประท้วงเกิดขึ้น อเมริกามอบหมายให้นาย จีน ชาร์พ Gene Sharp ผู้ก่อตั้งองค์กรชื่อ สถาบันอัลเบิร์ต ไอนสไตน์ Albert Einstein ในอเมริกา ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายสถาบันในสังกัดซีไอเอ ให้เป็นผู้รับผิดชอบ ฝึกอบรมและกำกับวิธีการประท้วง (อย่างเนียน)
    นายจีน ชาร์พ นี่ เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ดังมาก ชื่อ How to Start a Revolution พร้อมทำเป็นวีดีโอ มีทั้งภาษายูเครน ภาษาอาหรับ ไม่รู้มี ป็นภาษาพม่า ภาษาไทย ด้วยหรือเปล่า เขาเรียก ทฤษฏีฝูงผึ้ง สร้างคนน ที่จะเป็นผู้นำกลุ่มก่อน ต่อมาก็สร้างขบวนการเคลื่อนไหว และจัดหาคนตาม ที่อาจจะไม่ต้องมาก ตามทฤษฏีของจีน ชาร์พ เขาอ้างว่า การ “เคลื่อนไหว” จะทำให้คนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ยืนอยู่กับที่ ยกมือตะโกนซ้ำซาก แบบนั้น คนไม่เพิ่ม แล้วอาจเดินหนี เพราะมันหมดสมัยไปแล้ว
    จริงๆ องค์กรของชาร์พ ถูกส่งเข้าไปสร้างเครือข่ายในพม่าตั้งแต่ ค.ศ.1989 โดยพันเอก Robert Helvey หัวหน้าปฏิบัติการ ซีไอเอ และอดีตทูตทหารอเมริกันในย่างกุ้ง เป็นคนนำนายชาร์พเข้าไป นายชาร์พขึ้นล่อง อยู่ระหว่างพม่ากับจีน ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมินของจีน และก็เป็นผู้กำกับ Arab Spring หลายรายการ
    สถาบันใหญ่ในสังกัดซีไอเอ ที่สนับสนุนการประท้วงใหญ่สีจีวรพระที่พม่า คือ National Endowment for Democracy (NED) ที่แสนจะโด่งดัง เจ้า NED นี่ ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของอเมริกา เขาว่า NED ทำหน้าที่เหมือนกับที่พวกซีไอเอ ทำในช่วงสงครามเย็นเพี้ยบเลย ผู้ที่สนับสนุนเงินทุนให้แก่ NED อีกต่อคือ Open Society ของไอ้หนังเหนียวตัวแสบ จอร์จ โซรอส ก็เล่นซ้ำกันอยู่อย่างนี้ เหมือนดูหนังในเคเบิลทีวีของเครือซี้ผีของบ้านเราเลย
    กระทรวงต่างประเทศอเมริกา ได้คัดเลือกตัวหัวหน้าที่จะไปเป็นผู้นำการทาขมิ้น จากหลายองค์กรในพม่า ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร โดยเจ้า NED ส่งเงินประมาณปีละ 2.5 ล้านเหรียญ หรือ ปีละ 75 ล้านบาท ให้กับพวกสีจีวรพระ ไปสร้างขบวนการประท้วง ศูนย์บัญชาการใหญ่ เขาว่า อยู่ที่สถานกงสุลอเมริกัน ที่เชียงใหม่ของเรานั่นแหละ ส่วนพวกสีจีวร ก็ฝึกอบรมกันอยู่แถวชายแดนบ้านเรา บางครั้ง พวกตัวสำคัญก็ถูกส่งไปอบรมที่อเมริกา แล้วก็กลับมาจัดองค์กรในพม่าต่อ น่าสนุกดีนะครับ เล่นกันอยู่แถวนี้เอง จะแสดงรายการที่พม่าก็มาซ้อมที่ไทย จะแสดงรายการที่ไทย ก็ไปซ้อมกันในเขมร เออ มันแน่จริงๆ นอกจากจะสร้างความปั่นป่วนในบ้านคนอื่นได้แล้ว ยังเสือกมีของแถม ทำให้เพื่อนบ้านมองหน้ากันไม่สนิทอีกด้วย
    นอกจาก NED จะอุดหนุนพวกสีจีวรแล้ว NED ยังจ่ายเงินให้กับสื่อ ชื่อ New Era Journal , Democratic Voice of Burma และ Irrawaddy ที่เขาว่า เป็นของคุณนายซู เมียฝรั่ง ซึ่งผมเข้าไปอ่านบ่อยเหมือนกัน เพราะบางข่าวเร็วมาก ยังกะส่งตรงจากสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ออกใบสั่งเลย
    แต่วัตถุประสงค์ของการจัดรายการประท้วงนี้ ที่ซ่อนไว้อีกชั้น น่าจะมี 2 เรื่อง พม่าก็น่าจะมีชะตาใกล้เคียงกับเยเมน เพราะพม่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งของเส้นทางเดินน้ำมัน จากอ่าวเปอร์เซียไปสู่ทะเลจีน เส้นทางเดินเรือเลียบฝั่งพม่า เป็นเส้นทางเดินเรือที่แน่นขนัด เพื่อผ่านเข้าไปสู่ช่องแคบมะละกา จุดรัดคอ choke point อีกจุดหนึ่ง ที่แคบกว่าของเยเมน และมีความสำคัญในระดับที่ ไม่ต่างกับเยเมน ด้วย
    ช่องแคบมะละกาเชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด สำหรับส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไปจีน ช่องแคบมะละกาจึงเป็นจุดรัดคอ choke point ที่สำคัญยิ่งของเอเซีย ประมาณ 80% ของน้ำมันที่จีนนำเข้า ต้องขนส่งทางเรือผ่านจุดนี้ ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบมะละกาคือ ช่องแคบ Phillips Channel อยู่ในส่วนของสิงคโปร์ มีความกว้างเพียง 1.5 ไมล์
    ทุกวันจะมีเรือบรรทุกน้ำมันผ่านช่องแคบนี้ ประมาณวันละ 12 ล้านแท้งค์ใหญ่ และส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังจีน หรือญี่ปุ่น…
    ถ้าช่องแคบมะละกาถูกปิด… ประมาณเกือบครึ่งของเรือขนส่งน้ำมันในโลก จะต้องเพิ่มเส้นทางเดินเรือยาวขึ้น หมายถึงการเพิ่มค่าขนส่งที่จะกระทบไปทั่วโลก มีเรือกว่า 5 หมื่นลำต่อปี แล่นผ่านช่องแคบมะละกา บริเว แนวเส้นทางเดินเรือ ตั้งแต่พม่าไปจนถึงบันดาร์อาเจ๊ะ จึงเป็นแนวรัดคอที่สำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ใครควบคุมเส้นทางนี้ได้ ก็หมายความว่า ได้ควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันทางน้ำของจีน และน่าจะของญี่ปุ่นด้วย
    อเมริกาพยายามที่จะนำกองกำลังของตัว เข้าไปในบริเวณนั้น ตั้งแต่ ปี ค.ศ.2001 โดยใช้ข้ออ้างว่า เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้าย ไม่รู้ผู้ก่อการร้ายพันธุ์อะไร จากไหน อ้างมั่วๆ จึงไม่มีใครยอม ในที่สุด ได้ข่าวว่า อเมริกาเจรจากับอินโดนีเซีย จนได้ตั้งฐานทัพอากาศ ที่บันดาร์ อาเจ๊ะ Banda Aceh ซึ่งอยู่ไปทางเหนือสุดของเกาะสุมาตรา
    คงทำให้เราพอเห็นภาพ ความวุ่นวายในพม่า ภาคใต้ของไทย รวมทั้งเรื่องราวในมาเลเซียว่า ทำไมจึงต้องเกิดขึ้นอย่างไม่จบสิ้น และทำไมการขุดคอขอดกระ ของเราจึงเป็นเรื่องยาก
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 10 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 10 ระหว่างที่อเมริกา ใช้ AFRICOM ค่อยๆ สร้างกับดัก และบ่วงรัดคอ อยู่แถวอาฟริกา ไล่มาถึงตะวันออกกลาง ตามยุทธศาสตร์ คุมแหล่งน้ำมัน รวมทั้งเส้นทางเดินของน้ำมัน ไม่ไห้หลุดไปถึงจีนนั้น หน่วยงานอื่นของอเมริกา ก็ทำงานอื่น อยู่ในแถบอื่น แต่เกี่ยวพันกันอย่างนึกไม่ถึง ควบคู่ไปด้วย ช่วงปี ค.ศ.2002 ถึง 2008 อเมริกาแจกโปรแกรม ปฏิวัติหลากสี Color Revolutions ไปทั่ว เพื่อให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ปกครอง ประเทศ ที่ปกครองในบางประเทศมานาน แต่ถึงเวลาแล้ว ที่อเมริกาต้องการเปลี่ยน เอาคน หรือกลุ่มที่อเมริกาเลือก มาปกครองประเทศเหล่านั้น เพื่ออเมริกาจะได้เข้าไปครอบครองทรัพยากร และการปกครองประเทศเหล่านั้น ไหนว่าต้องการให้ ประเทศทั้งหลายในโลก ปกครองตัวเอง ด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทนของตนมาปกครอง ไงครับ ….อ้อ เราเข้าใจผิดหรือครับ …. ต้องใช้ว่า …. ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้แทน “ตามที่อเมริกาต้องการ” มาปกครอง …. ครับ ครับ เข้าใจแล้วครับ ท่านผู้อ่านโปรดเข้าใจ ระบอบประชาธิปไตย ตามความหมายของอเมริกา เสียใหม่นะครับ ในช่วงนั้น องค์กรที่เรียกว่า เอ็นจีโอ non government organization ถูกอเมริกาจัดตั้ง โผล่ขึ้นมาเต็ม เหมือนเห็ดหน้าฝน ภายใต้สาระพัดชื่อ โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นองค์กรของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่รัฐบาลอเมริกัน ให้หน่วยงานอื่นสนับสนุนเงินทุนแก่เอ็นจีโอเหล่านี้ และให้อยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคง เพนตากอน และหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกา ซีไอเอ อีกด้วย ถุด… เอ็นจีโอเหล่านี้ น่าจะถูกฝึก และถูกเลี้ยงเหมือนนกแก้ว เพราะร้องเป็นอยู่ ไม่กี่ประโยค…… ละเมิดสิทธิมนุษยชน…. ไม่เอาเผด็จการ …. เป็นประชาธิปไตย… นกแก้วมีหลายพันธ์ุ เช่น พันธ์ุยุโรปตะวันออก พันธ์ุอาหรับ และพันธ์ุเอเซีย นกแก้วเอเซีย กำลังถูกลำเลียง ไปปล่อยแถว พม่า ธิเบต และตรงเขตแดนสำคัญของจีน คือ ซินเกียง นกแก้วฝูงแรก ถูกเอาไปปล่อยที่พม่า หรือเมียนมาร์ แต่อังกฤษ เจ้านายเก่า รวมทั้งอเมริกา (ที่กำลังเบียดเข้ามาเพื่อหวังจะเป็น) เจ้านายใหม่ ยังเรียก พม่า ตามความคุ้นปากเหมือนเดิม รวมทั้งผม ก็ขอเรียก พม่า เพราะพิมพ์ง่ายกว่า ปี ค.ศ.2007 เกิดการปฏิวัติหลากสี ขึ้นที่พม่า อเมริกาเรียกปฏิวัตินี้ว่า ปฏิวัติสีผ้าเหลือง Saffron Revolution ซึ่งเป็นโรคติดต่อมาจาก ปฏิวัติสีกุหลาบ Rose Revolution ในจอร์เจีย ปี 2003 และ ปฏิวัติสีส้ม Orange Revolution ในยูเครน ปี 2004-2005 ที่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก บริเวณที่ติดกับรัสเซีย มันเป็นการปฏิวัติ ที่อเมริกาเป็นผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท คัดเลือกตัวผู้เข้าฉาก และกำกับการแสดงทั้งหมด และก็คงเห็นกันแล้วว่า ความฉิบหายวุ่นวาย ทั้งในจอร์เจีย และยูเครน ยังมีอยู่จนทุกวันนี้ และมีที่ท่าว่าจะแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับปฏิวัติสีผ้าเหลืองในพม่านั้น มีสื่อฝรั่ง บอกว่า คนตั้งชื่อ ตั้งใจเรียกตาม สีจีวรพระพม่า เพราะตามแผนที่อเมริกาวางไว้ พระพม่าจะเป็นพระเอก เดินนำการประท้วงรัฐบาลพม่า เป็นแผนที่เด็ดขาดมากใช้พระนำขบวน ไม่บอกก่อนจะได้ส่งพวกจานบินไป ร่วม และก็เป็นเรื่องตลกมากด้วย เพราะจีวรพระพม่า สีน้ำตาลแดง ไม่ใช่สีเหลืองอมส้ม เขาว่า กลุ่มคนคิดแผน นั่งสุมหัวกันอยู่ที่สถานกงสุลอเมริกันที่เชียงใหม่ ผมชักเชื่อ แสดงว่าไอ้คนทำแผน เห็นพระไทยในเชียงใหม่ห่มจีวรสีเหลืองอมส้ม ก็สีจีวรพระบ้านเรานั่นแหละ เลยใช้เป็นชื่อปฏิวัติเสียเลย มันมั่วซั่วสิ้นดี ปฏิวัติสีผ้าเหลือง ฮาจริง สาเหตุการประท้วง (ไม่ใช่ปฏิวัติ) ที่อ้าง หรือสร้าง บอกว่า มาจากการที่รัฐบาลทหารของพม่า ยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมัน ทำให้ราคาขายน้ำมันในพม่าพุ่งสูงขึ้นไปประมาณ เกือบเท่าตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน กลุ่มที่ออกมาประท้วงตามข่าว มีตั้งแต่ นักเรียน แม่บ้าน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และพระพม่าจำนวนมาก แต่เป้าหมายจริงๆ ก็คือสร้างความปั่นป่วนในพม่า เพื่อจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทหาร ที่ปกครองพม่ามานาน และเอาคุณนายซู เมียฝรั่งที่ฝ่ายตะวันตกสนับสนุนมาเป็นผู้นำ คุณนายเป็นเองไม่ได้ ก็เอาคนที่คุณนายสั่งได้มาเป็น เพื่อเปิดประตูให้ตะวันตกเข้ามาในพม่า เรื่องคุณนายซู นี่ นายเก่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใหญ่ และเดินสายทั้งในและนอกพม่า ผู้นำการปฏิวัติ ใช้ตัวเชิดเป็นฝ่ายนักเคลื่อนไหว ที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่หัวหน้าตัวจริง มีหลายคน ตั้งแต่คุณนายซู เมียฝรั่ง นักเคลื่อนไหวของพม่า พระพม่า และนักหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น แปลกใจไหมครับ ก็ไปนำขบวนด้วยประท้วงแล้วก็ถูกยิงตาย กลายเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลทหารของพม่า กับรัฐบาลญี่ปุ่น และส่วนพระพม่าก็เป็นพวกที่มายืนชุมนุมอยู่หน้าบ้านคุณนาย ก่อนเคลื่อนย้ายไปตามถนนในเมืองย่างกุ้ง ก่อนการประท้วงเกิดขึ้น อเมริกามอบหมายให้นาย จีน ชาร์พ Gene Sharp ผู้ก่อตั้งองค์กรชื่อ สถาบันอัลเบิร์ต ไอนสไตน์ Albert Einstein ในอเมริกา ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายสถาบันในสังกัดซีไอเอ ให้เป็นผู้รับผิดชอบ ฝึกอบรมและกำกับวิธีการประท้วง (อย่างเนียน) นายจีน ชาร์พ นี่ เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ดังมาก ชื่อ How to Start a Revolution พร้อมทำเป็นวีดีโอ มีทั้งภาษายูเครน ภาษาอาหรับ ไม่รู้มี ป็นภาษาพม่า ภาษาไทย ด้วยหรือเปล่า เขาเรียก ทฤษฏีฝูงผึ้ง สร้างคนน ที่จะเป็นผู้นำกลุ่มก่อน ต่อมาก็สร้างขบวนการเคลื่อนไหว และจัดหาคนตาม ที่อาจจะไม่ต้องมาก ตามทฤษฏีของจีน ชาร์พ เขาอ้างว่า การ “เคลื่อนไหว” จะทำให้คนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ยืนอยู่กับที่ ยกมือตะโกนซ้ำซาก แบบนั้น คนไม่เพิ่ม แล้วอาจเดินหนี เพราะมันหมดสมัยไปแล้ว จริงๆ องค์กรของชาร์พ ถูกส่งเข้าไปสร้างเครือข่ายในพม่าตั้งแต่ ค.ศ.1989 โดยพันเอก Robert Helvey หัวหน้าปฏิบัติการ ซีไอเอ และอดีตทูตทหารอเมริกันในย่างกุ้ง เป็นคนนำนายชาร์พเข้าไป นายชาร์พขึ้นล่อง อยู่ระหว่างพม่ากับจีน ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมินของจีน และก็เป็นผู้กำกับ Arab Spring หลายรายการ สถาบันใหญ่ในสังกัดซีไอเอ ที่สนับสนุนการประท้วงใหญ่สีจีวรพระที่พม่า คือ National Endowment for Democracy (NED) ที่แสนจะโด่งดัง เจ้า NED นี่ ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของอเมริกา เขาว่า NED ทำหน้าที่เหมือนกับที่พวกซีไอเอ ทำในช่วงสงครามเย็นเพี้ยบเลย ผู้ที่สนับสนุนเงินทุนให้แก่ NED อีกต่อคือ Open Society ของไอ้หนังเหนียวตัวแสบ จอร์จ โซรอส ก็เล่นซ้ำกันอยู่อย่างนี้ เหมือนดูหนังในเคเบิลทีวีของเครือซี้ผีของบ้านเราเลย กระทรวงต่างประเทศอเมริกา ได้คัดเลือกตัวหัวหน้าที่จะไปเป็นผู้นำการทาขมิ้น จากหลายองค์กรในพม่า ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร โดยเจ้า NED ส่งเงินประมาณปีละ 2.5 ล้านเหรียญ หรือ ปีละ 75 ล้านบาท ให้กับพวกสีจีวรพระ ไปสร้างขบวนการประท้วง ศูนย์บัญชาการใหญ่ เขาว่า อยู่ที่สถานกงสุลอเมริกัน ที่เชียงใหม่ของเรานั่นแหละ ส่วนพวกสีจีวร ก็ฝึกอบรมกันอยู่แถวชายแดนบ้านเรา บางครั้ง พวกตัวสำคัญก็ถูกส่งไปอบรมที่อเมริกา แล้วก็กลับมาจัดองค์กรในพม่าต่อ น่าสนุกดีนะครับ เล่นกันอยู่แถวนี้เอง จะแสดงรายการที่พม่าก็มาซ้อมที่ไทย จะแสดงรายการที่ไทย ก็ไปซ้อมกันในเขมร เออ มันแน่จริงๆ นอกจากจะสร้างความปั่นป่วนในบ้านคนอื่นได้แล้ว ยังเสือกมีของแถม ทำให้เพื่อนบ้านมองหน้ากันไม่สนิทอีกด้วย นอกจาก NED จะอุดหนุนพวกสีจีวรแล้ว NED ยังจ่ายเงินให้กับสื่อ ชื่อ New Era Journal , Democratic Voice of Burma และ Irrawaddy ที่เขาว่า เป็นของคุณนายซู เมียฝรั่ง ซึ่งผมเข้าไปอ่านบ่อยเหมือนกัน เพราะบางข่าวเร็วมาก ยังกะส่งตรงจากสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ออกใบสั่งเลย แต่วัตถุประสงค์ของการจัดรายการประท้วงนี้ ที่ซ่อนไว้อีกชั้น น่าจะมี 2 เรื่อง พม่าก็น่าจะมีชะตาใกล้เคียงกับเยเมน เพราะพม่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งของเส้นทางเดินน้ำมัน จากอ่าวเปอร์เซียไปสู่ทะเลจีน เส้นทางเดินเรือเลียบฝั่งพม่า เป็นเส้นทางเดินเรือที่แน่นขนัด เพื่อผ่านเข้าไปสู่ช่องแคบมะละกา จุดรัดคอ choke point อีกจุดหนึ่ง ที่แคบกว่าของเยเมน และมีความสำคัญในระดับที่ ไม่ต่างกับเยเมน ด้วย ช่องแคบมะละกาเชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด สำหรับส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไปจีน ช่องแคบมะละกาจึงเป็นจุดรัดคอ choke point ที่สำคัญยิ่งของเอเซีย ประมาณ 80% ของน้ำมันที่จีนนำเข้า ต้องขนส่งทางเรือผ่านจุดนี้ ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบมะละกาคือ ช่องแคบ Phillips Channel อยู่ในส่วนของสิงคโปร์ มีความกว้างเพียง 1.5 ไมล์ ทุกวันจะมีเรือบรรทุกน้ำมันผ่านช่องแคบนี้ ประมาณวันละ 12 ล้านแท้งค์ใหญ่ และส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังจีน หรือญี่ปุ่น… ถ้าช่องแคบมะละกาถูกปิด… ประมาณเกือบครึ่งของเรือขนส่งน้ำมันในโลก จะต้องเพิ่มเส้นทางเดินเรือยาวขึ้น หมายถึงการเพิ่มค่าขนส่งที่จะกระทบไปทั่วโลก มีเรือกว่า 5 หมื่นลำต่อปี แล่นผ่านช่องแคบมะละกา บริเว แนวเส้นทางเดินเรือ ตั้งแต่พม่าไปจนถึงบันดาร์อาเจ๊ะ จึงเป็นแนวรัดคอที่สำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ใครควบคุมเส้นทางนี้ได้ ก็หมายความว่า ได้ควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันทางน้ำของจีน และน่าจะของญี่ปุ่นด้วย อเมริกาพยายามที่จะนำกองกำลังของตัว เข้าไปในบริเวณนั้น ตั้งแต่ ปี ค.ศ.2001 โดยใช้ข้ออ้างว่า เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้าย ไม่รู้ผู้ก่อการร้ายพันธุ์อะไร จากไหน อ้างมั่วๆ จึงไม่มีใครยอม ในที่สุด ได้ข่าวว่า อเมริกาเจรจากับอินโดนีเซีย จนได้ตั้งฐานทัพอากาศ ที่บันดาร์ อาเจ๊ะ Banda Aceh ซึ่งอยู่ไปทางเหนือสุดของเกาะสุมาตรา คงทำให้เราพอเห็นภาพ ความวุ่นวายในพม่า ภาคใต้ของไทย รวมทั้งเรื่องราวในมาเลเซียว่า ทำไมจึงต้องเกิดขึ้นอย่างไม่จบสิ้น และทำไมการขุดคอขอดกระ ของเราจึงเป็นเรื่องยาก สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 9

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 9
    รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่
    เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ
    เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์
    ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย
    เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง
    หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า
    …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)…
    วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา
    การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว
    หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ
    อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ
    กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ
    วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย
    ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว
    รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ
    คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง
    น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ!
    สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ
    นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ)
    สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50%
    อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม
    และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ...
    เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม
    เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
    และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    22 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 9 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 9 รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่ เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์ ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)… วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ! สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ) สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50% อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ... เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 22 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar

    US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน
    Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million

    ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI)
    หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI
    การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament

    Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น
    รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark

    ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ
    ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน
    https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets

    Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง
    หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี
    https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated

    หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้
    แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า
    https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt

    Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ
    Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่
    https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone

    โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง
    TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป
    https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you

    ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า
    Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง
    ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง
    https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track

    รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K
    จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review

    แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้
    นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles

    ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600
    มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged

    รีวิว TerraMaster F2-425 NAS
    อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review

    ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB

    นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่
    https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd

    Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว
    ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon

    Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6
    การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you

    ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life

      ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม
    การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar 📱🔒 US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 👵👩‍💻 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️📲 EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️💻 ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰🕵️ Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million 📱📡 ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI) หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🎲🤖 OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament ⚠️📂 Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark 🖥️ ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets 🎵 Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated 🪟 หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้ แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt 📱 Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone 🎮 โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you ⚙️ ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 🪟 Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🚀 5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track 🖥️ รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review 🎶 แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้ นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles 📱 ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600 มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged 💾 รีวิว TerraMaster F2-425 NAS อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review 💽 ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd 📱📖 Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon 🔊 Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6 การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you 🔋 ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life 🎬  ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading
    ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย
    รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์
    Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง
    OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ
    Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2
    บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing

    จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ
    กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ
    https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005)
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้
    https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates

    การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall
    มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    📌🔐🔴 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔴🔐📌 #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing 🕵️ จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ 🔗 https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage 🔒 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005) มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ 🔗 https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates 🌍 การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    SECURITYONLINE.INFO
    The PDF Trap: Critical Vulnerability (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) Hits Apache Tika Core
    Apache patched a Catastrophic XXE flaw (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) in Tika Core. The bug is exploitable via malicious XFA data inside a PDF, risking server-side data disclosure and RCE. Update immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุดผลทดสอบ และรายละเอียด Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3”

    ข่าวนี้เผยผลทดสอบหลุดของซีพียู Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” หลายรุ่น เช่น Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365 และ Ultra 5 332 โดยมีทั้งสเปกและคะแนนเบื้องต้นจาก PassMark และ Geekbench ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ อันประกอบไปด้วย:
    Core Ultra 7 366H: 16 คอร์, L3 cache 18MB, L2 cache 12MB, ความเร็วบูสต์ ~5.0 GHz
    Core Ultra X7 358H: 16 คอร์, ความเร็วบูสต์ 4.8 GHz, มาพร้อม iGPU Xe3 เต็ม 12 คอร์
    Core Ultra 7 365: 8 คอร์, L3 12MB, L2 12MB
    Core Ultra 5 332: 6 คอร์, L3 12MB, L2 6MB

    ผลทดสอบประสิทธิภาพ
    Core Ultra 7 366H ทำคะแนนใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 285H แม้ความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อย
    Core Ultra X7 358H เร็วกว่ารุ่น Ultra 7 255H แม้มีคอร์น้อยกว่า
    Core Ultra 7 365 เร็วกว่าทั้ง Ryzen AI Z2 Extreme และ Ultra 5 226V
    Core Ultra 5 332 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ช้ากว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

    การทดสอบบนเครื่องเล่นพกพา
    มีการพบ OneXPlayer X1 i ที่ใช้ Core Ultra 5 338H (12 คอร์, 4.6 GHz) โดยผล Geekbench แสดงว่า Single-Core ต่ำกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Multi-Core สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า Panther Lake อาจมีศักยภาพในงานที่ใช้หลายคอร์พร้อมกัน

    ความคาดหวังใน CES 2026
    Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra Series 3 “Panther Lake” อย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเครื่องเล่นพกพาที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel Panther Lake หลายรุ่นถูกทดสอบบน PassMark และ Geekbench
    Core Ultra 7 366H, X7 358H, 7 365, 5 332

    ผลทดสอบชี้ว่ารุ่นกลางและสูงแข่งกับ Ryzen AI ได้สูสี
    Ultra 7 365 เร็วกว่ารุ่น Ryzen AI Z2 Extreme

    OneXPlayer X1 i ใช้ Core Ultra 5 338H
    Multi-Core ดีกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Single-Core ต่ำกว่า

    คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026
    เป็นการกลับมาของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและ handheld

    ผลทดสอบยังเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้น
    อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวจริงและมีการปรับแต่งเฟิร์มแวร์

    รุ่นเริ่มต้น Ultra 5 332 ยังช้ากว่าคู่แข่ง
    อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    https://wccftech.com/intel-panther-lake-cpu-benchmarks-leak-core-ultra-7-366h-x7-358h-7-365-5-332-handheld/
    ⚡ หลุดผลทดสอบ และรายละเอียด Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” ข่าวนี้เผยผลทดสอบหลุดของซีพียู Intel Panther Lake “Core Ultra Series 3” หลายรุ่น เช่น Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365 และ Ultra 5 332 โดยมีทั้งสเปกและคะแนนเบื้องต้นจาก PassMark และ Geekbench ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ อันประกอบไปด้วย: 💠 Core Ultra 7 366H: 16 คอร์, L3 cache 18MB, L2 cache 12MB, ความเร็วบูสต์ ~5.0 GHz 💠 Core Ultra X7 358H: 16 คอร์, ความเร็วบูสต์ 4.8 GHz, มาพร้อม iGPU Xe3 เต็ม 12 คอร์ 💠 Core Ultra 7 365: 8 คอร์, L3 12MB, L2 12MB 💠 Core Ultra 5 332: 6 คอร์, L3 12MB, L2 6MB 📊 ผลทดสอบประสิทธิภาพ 🎗️ Core Ultra 7 366H ทำคะแนนใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 285H แม้ความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อย 🎗️ Core Ultra X7 358H เร็วกว่ารุ่น Ultra 7 255H แม้มีคอร์น้อยกว่า 🎗️ Core Ultra 7 365 เร็วกว่าทั้ง Ryzen AI Z2 Extreme และ Ultra 5 226V 🎗️ Core Ultra 5 332 ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ช้ากว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด 🎮 การทดสอบบนเครื่องเล่นพกพา มีการพบ OneXPlayer X1 i ที่ใช้ Core Ultra 5 338H (12 คอร์, 4.6 GHz) โดยผล Geekbench แสดงว่า Single-Core ต่ำกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Multi-Core สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า Panther Lake อาจมีศักยภาพในงานที่ใช้หลายคอร์พร้อมกัน 🌍 ความคาดหวังใน CES 2026 Intel เตรียมเปิดตัว Core Ultra Series 3 “Panther Lake” อย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ AMD Ryzen AI รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเครื่องเล่นพกพาที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel Panther Lake หลายรุ่นถูกทดสอบบน PassMark และ Geekbench ➡️ Core Ultra 7 366H, X7 358H, 7 365, 5 332 ✅ ผลทดสอบชี้ว่ารุ่นกลางและสูงแข่งกับ Ryzen AI ได้สูสี ➡️ Ultra 7 365 เร็วกว่ารุ่น Ryzen AI Z2 Extreme ✅ OneXPlayer X1 i ใช้ Core Ultra 5 338H ➡️ Multi-Core ดีกว่า Ryzen AI 9 HX 370 แต่ Single-Core ต่ำกว่า ✅ คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026 ➡️ เป็นการกลับมาของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและ handheld ‼️ ผลทดสอบยังเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้น ⛔ อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดตัวจริงและมีการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ‼️ รุ่นเริ่มต้น Ultra 5 332 ยังช้ากว่าคู่แข่ง ⛔ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง https://wccftech.com/intel-panther-lake-cpu-benchmarks-leak-core-ultra-7-366h-x7-358h-7-365-5-332-handheld/
    WCCFTECH.COM
    Several Intel Panther Lake CPU Benchmarks Leak: Core Ultra 7 366H, Ultra X7 358H, Ultra 7 365, & Ultra 5 332, First Panther Lake Handheld Spotted
    Several Intel Panther Lake "Core Ultra Series 3" CPUs & a handheld have been leaked and benchmarked within the PassMark Software suite.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความทนทานของ MacBook Pro M5

    ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน

    ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้

    โครงสร้าง Unibody Aluminum
    Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด

    มุมมองจากฟิสิกส์
    ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย

    ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์
    เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้
    มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย

    โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple
    แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่

    แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่
    ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง

    ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน
    มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน

    เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน
    ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ

    ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี
    อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง

    https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    💻 ความทนทานของ MacBook Pro M5 ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้ 🛡️ โครงสร้าง Unibody Aluminum Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด 🔬 มุมมองจากฟิสิกส์ ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย 🌍 ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์ เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้ ➡️ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย ✅ โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple ➡️ แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่ ✅ แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่ ➡️ ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง ✅ ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน ➡️ มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน ‼️ เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี ⛔ อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    WCCFTECH.COM
    M5 MacBook Pro’s Superior Build Quality Demonstrated In An Extreme Scenario When Its Owner Accidentally Ran Over It And It Only Sustained ‘Minor Scratches’
    An M5 MacBook Pro owner was thoroughly surprised at how durable his machine is because it only obtained minor scratches after being run over by a car
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เพิ่มการรองรับ Big Battlemage

    ข่าวนี้กล่าวถึงการที่ Intel เพิ่มการรองรับ Arc Battlemage BMG-G31 GPU ในซอฟต์แวร์ VTune Profiler ล่าสุด ซึ่งเป็นสัญญาณว่า “Big Battlemage” กำลังเข้าใกล้การเปิดตัวจริง อาจเกิดขึ้นในงาน CES 2026 ควบคู่กับซีพียู Panther Lake

    Intel ได้อัปเดต VTune Profiler (เวอร์ชัน 2025.7) โดยเพิ่มการรองรับ GPU รุ่น Arc Battlemage BMG-G31 และซีพียู Core Ultra 3 Panther Lake การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณชัดเจนว่า Big Battlemage กำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่มีข่าวลือมานานกว่าหนึ่งปี

    สเปกที่คาดการณ์
    Arc BMG-G31 คาดว่าจะมีสูงสุด 32 Xe2 Cores, หน่วยความจำ 16GB GDDR6, และบัส 256-bit ที่ให้แบนด์วิดท์ถึง 608 GB/s หากตั้งราคาในช่วง 300–400 ดอลลาร์สหรัฐ จะสามารถแข่งขันกับ NVIDIA RTX 5060 และ AMD RX 9060 ได้อย่างสูสี

    ความคืบหน้าและความล่าช้า
    เดิมที Intel มีแผนเปิดตัวรุ่น Arc B770 เร็วกว่านี้ แต่ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง จนถึงปลายปี 2025 จึงยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ การเพิ่มการรองรับใน VTune จึงถูกตีความว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวในงาน CES 2026

    ผลกระทบต่อการแข่งขันตลาด GPU
    หาก Big Battlemage เปิดตัวจริงในช่วงต้นปีหน้า จะเป็นการกลับมาท้าทาย NVIDIA และ AMD อีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางที่มีการแข่งขันสูง และอาจช่วยให้ Intel ขยายส่วนแบ่งตลาด GPU ได้มากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel เพิ่มการรองรับ Arc BMG-G31 ใน VTune Profiler
    สัญญาณว่า Big Battlemage ใกล้เปิดตัว

    สเปกที่คาดการณ์ของ BMG-G31
    32 Xe2 Cores, 16GB GDDR6, 256-bit bus, 608 GB/s

    ราคาที่คาดว่าจะอยู่ราว 300–400 ดอลลาร์
    แข่งขันกับ RTX 5060 และ RX 9060

    คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026
    พร้อมกับซีพียู Panther Lake

    การเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งในปี 2025
    ทำให้ตลาดยังไม่มั่นใจในแผน GPU ของ Intel

    การแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ยังเข้มข้น
    Intel ต้องพิสูจน์ความเสถียรและประสิทธิภาพจริง

    https://wccftech.com/intel-arc-battlemage-bmg-g31-gpu-brand-new-support-big-battlemage-finally-ready/
    🖥️ Intel เพิ่มการรองรับ Big Battlemage ข่าวนี้กล่าวถึงการที่ Intel เพิ่มการรองรับ Arc Battlemage BMG-G31 GPU ในซอฟต์แวร์ VTune Profiler ล่าสุด ซึ่งเป็นสัญญาณว่า “Big Battlemage” กำลังเข้าใกล้การเปิดตัวจริง อาจเกิดขึ้นในงาน CES 2026 ควบคู่กับซีพียู Panther Lake Intel ได้อัปเดต VTune Profiler (เวอร์ชัน 2025.7) โดยเพิ่มการรองรับ GPU รุ่น Arc Battlemage BMG-G31 และซีพียู Core Ultra 3 Panther Lake การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณชัดเจนว่า Big Battlemage กำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่มีข่าวลือมานานกว่าหนึ่งปี ⚡ สเปกที่คาดการณ์ Arc BMG-G31 คาดว่าจะมีสูงสุด 32 Xe2 Cores, หน่วยความจำ 16GB GDDR6, และบัส 256-bit ที่ให้แบนด์วิดท์ถึง 608 GB/s หากตั้งราคาในช่วง 300–400 ดอลลาร์สหรัฐ จะสามารถแข่งขันกับ NVIDIA RTX 5060 และ AMD RX 9060 ได้อย่างสูสี 🔍 ความคืบหน้าและความล่าช้า เดิมที Intel มีแผนเปิดตัวรุ่น Arc B770 เร็วกว่านี้ แต่ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง จนถึงปลายปี 2025 จึงยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ การเพิ่มการรองรับใน VTune จึงถูกตีความว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวในงาน CES 2026 🌍 ผลกระทบต่อการแข่งขันตลาด GPU หาก Big Battlemage เปิดตัวจริงในช่วงต้นปีหน้า จะเป็นการกลับมาท้าทาย NVIDIA และ AMD อีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางที่มีการแข่งขันสูง และอาจช่วยให้ Intel ขยายส่วนแบ่งตลาด GPU ได้มากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel เพิ่มการรองรับ Arc BMG-G31 ใน VTune Profiler ➡️ สัญญาณว่า Big Battlemage ใกล้เปิดตัว ✅ สเปกที่คาดการณ์ของ BMG-G31 ➡️ 32 Xe2 Cores, 16GB GDDR6, 256-bit bus, 608 GB/s ✅ ราคาที่คาดว่าจะอยู่ราว 300–400 ดอลลาร์ ➡️ แข่งขันกับ RTX 5060 และ RX 9060 ✅ คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026 ➡️ พร้อมกับซีพียู Panther Lake ‼️ การเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งในปี 2025 ⛔ ทำให้ตลาดยังไม่มั่นใจในแผน GPU ของ Intel ‼️ การแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ยังเข้มข้น ⛔ Intel ต้องพิสูจน์ความเสถียรและประสิทธิภาพจริง https://wccftech.com/intel-arc-battlemage-bmg-g31-gpu-brand-new-support-big-battlemage-finally-ready/
    WCCFTECH.COM
    Intel Arc Battlemage "BMG-G31" GPU Receives Brand New Support By The Chipmaker Itself, Is Big Battlemage Finally Ready For Launch?
    Intel has just added the latest support for its Arc Battlemage "BMG-G31" GPU, hinting that the launch should be closer than we think.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลเทส Ryzen 7 9850X3D โผล่บน Geekbench

    ข่าวนี้เล่าถึงการปรากฏตัวของ AMD Ryzen 7 9850X3D บน Geekbench โดยมีความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6 GHz แต่ผลทดสอบกลับออกมา “แรงกว่าเล็กน้อยใน Single-Core” และ “ช้ากว่าเล็กน้อยใน Multi-Core” เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ Ryzen 7 9800X3D

    ชิปใหม่จาก AMD ถูกพบในฐานข้อมูล Geekbench โดยติดตั้งบนเมนบอร์ด Colorful CVN B850M Gaming Frozen V14A พร้อม RAM DDR5-4800 ขนาด 32GB ผลทดสอบแสดงให้เห็นว่า Ryzen 7 9850X3D ทำคะแนน 3,439 (Single-Core) และ 17,530 (Multi-Core) ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่น 9800X3D แต่ไม่ได้ทิ้งห่างมากนัก

    เปรียบเทียบกับ Ryzen 7 9800X3D
    แม้ความเร็วบูสต์เพิ่มขึ้นจาก 5.2 GHz → 5.6 GHz (ประมาณ 8%) แต่ผลลัพธ์จริงกลับเร็วขึ้นเพียง 3% ใน Single-Core และช้ากว่าใน Multi-Core เล็กน้อย สาเหตุคาดว่าเกิดจาก RAM ที่ช้าและเฟิร์มแวร์ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพจริงเมื่อวางขายสูงกว่าที่เห็นในตอนนี้

    จุดเด่นและข้อสังเกต
    Ryzen 7 9850X3D ยังคงใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และมี 8 คอร์เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่การเพิ่มความเร็วบูสต์ทำให้เหมาะกับงานที่เน้น Single-Core เช่น เกมบางประเภท อย่างไรก็ตาม หากต้องการประสิทธิภาพ Multi-Core ที่สูงกว่า ผู้ใช้บางส่วนอาจยังเลือก 9800X3D หรือรอรุ่นใหญ่กว่าเช่น Ryzen 9 9950X3D

    ความคาดหวังในตลาด
    การเปิดตัว Ryzen 9000X3D series คาดว่าจะเกิดขึ้นในงาน CES 2026 โดย AMD หวังจะรักษาความได้เปรียบในตลาดเกมมิ่งและงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ผลทดสอบเบื้องต้นนี้ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า “การอัปเกรดจาก 9800X3D คุ้มค่าหรือไม่”

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Ryzen 7 9850X3D โผล่บน Geekbench
    ทำคะแนน 3,439 (Single-Core) และ 17,530 (Multi-Core)

    บูสต์สูงสุด 5.6 GHz
    เพิ่มขึ้น 8% จากรุ่น 9800X3D

    ผลลัพธ์ Single-Core ดีขึ้น 3%
    แต่ Multi-Core กลับช้ากว่าเล็กน้อย

    คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026
    เป็นส่วนหนึ่งของ Ryzen 9000X3D series

    ผลทดสอบอาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง
    RAM ที่ช้าและเฟิร์มแวร์ยังไม่สมบูรณ์อาจทำให้คะแนนต่ำกว่าศักยภาพจริง

    การอัปเกรดอาจไม่คุ้มสำหรับผู้ใช้ 9800X3D
    หากเน้น Multi-Core อาจไม่เห็นความแตกต่างมากนัก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-imminent-ryzen-7-9850x3d-chip-shows-up-on-geekbench-with-5-6-ghz-boost-clocks-scores-slightly-lower-than-9800x3d-in-multi-core-tests-higher-in-single-core
    ⚡ ผลเทส Ryzen 7 9850X3D โผล่บน Geekbench ข่าวนี้เล่าถึงการปรากฏตัวของ AMD Ryzen 7 9850X3D บน Geekbench โดยมีความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6 GHz แต่ผลทดสอบกลับออกมา “แรงกว่าเล็กน้อยใน Single-Core” และ “ช้ากว่าเล็กน้อยใน Multi-Core” เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ Ryzen 7 9800X3D ชิปใหม่จาก AMD ถูกพบในฐานข้อมูล Geekbench โดยติดตั้งบนเมนบอร์ด Colorful CVN B850M Gaming Frozen V14A พร้อม RAM DDR5-4800 ขนาด 32GB ผลทดสอบแสดงให้เห็นว่า Ryzen 7 9850X3D ทำคะแนน 3,439 (Single-Core) และ 17,530 (Multi-Core) ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่น 9800X3D แต่ไม่ได้ทิ้งห่างมากนัก 📊 เปรียบเทียบกับ Ryzen 7 9800X3D แม้ความเร็วบูสต์เพิ่มขึ้นจาก 5.2 GHz → 5.6 GHz (ประมาณ 8%) แต่ผลลัพธ์จริงกลับเร็วขึ้นเพียง 3% ใน Single-Core และช้ากว่าใน Multi-Core เล็กน้อย สาเหตุคาดว่าเกิดจาก RAM ที่ช้าและเฟิร์มแวร์ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพจริงเมื่อวางขายสูงกว่าที่เห็นในตอนนี้ 🔥 จุดเด่นและข้อสังเกต Ryzen 7 9850X3D ยังคงใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และมี 8 คอร์เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่การเพิ่มความเร็วบูสต์ทำให้เหมาะกับงานที่เน้น Single-Core เช่น เกมบางประเภท อย่างไรก็ตาม หากต้องการประสิทธิภาพ Multi-Core ที่สูงกว่า ผู้ใช้บางส่วนอาจยังเลือก 9800X3D หรือรอรุ่นใหญ่กว่าเช่น Ryzen 9 9950X3D 🌍 ความคาดหวังในตลาด การเปิดตัว Ryzen 9000X3D series คาดว่าจะเกิดขึ้นในงาน CES 2026 โดย AMD หวังจะรักษาความได้เปรียบในตลาดเกมมิ่งและงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ผลทดสอบเบื้องต้นนี้ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า “การอัปเกรดจาก 9800X3D คุ้มค่าหรือไม่” 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Ryzen 7 9850X3D โผล่บน Geekbench ➡️ ทำคะแนน 3,439 (Single-Core) และ 17,530 (Multi-Core) ✅ บูสต์สูงสุด 5.6 GHz ➡️ เพิ่มขึ้น 8% จากรุ่น 9800X3D ✅ ผลลัพธ์ Single-Core ดีขึ้น 3% ➡️ แต่ Multi-Core กลับช้ากว่าเล็กน้อย ✅ คาดว่าจะเปิดตัว CES 2026 ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของ Ryzen 9000X3D series ‼️ ผลทดสอบอาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง ⛔ RAM ที่ช้าและเฟิร์มแวร์ยังไม่สมบูรณ์อาจทำให้คะแนนต่ำกว่าศักยภาพจริง ‼️ การอัปเกรดอาจไม่คุ้มสำหรับผู้ใช้ 9800X3D ⛔ หากเน้น Multi-Core อาจไม่เห็นความแตกต่างมากนัก https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-imminent-ryzen-7-9850x3d-chip-shows-up-on-geekbench-with-5-6-ghz-boost-clocks-scores-slightly-lower-than-9800x3d-in-multi-core-tests-higher-in-single-core
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่าแต่มีน้ำใจ

    ข่าวนี้เล่าถึงผู้ใช้ Facebook ที่ตัดสินใจแลก DDR5 RAM ขนาด 192GB มูลค่ากว่า 2,200 ดอลลาร์ กับการ์ดจอ RTX 5070 Ti เพียงตัวเดียว แม้จะขาดทุนมหาศาล แต่เจ้าของยืนยันว่า “ไม่อยากขายในราคาที่สูงเกินไปเพราะรู้สึกไม่ถูกต้อง”

    ผู้ใช้ชื่อ Abdul Kareem As ในกลุ่ม Facebook “PC, Gaming, Setups, and Building Advice” ได้แลกชุด Corsair Vengeance DDR5-5200 C38 192GB (4x48GB) กับการ์ดจอ PNY RTX 5070 Ti แม้ค่า RAM จะมีมูลค่ามากกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า แต่เขายืนยันว่าไม่ต้องการ “กอบโกยกำไร” จากวิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูง

    วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งทะยาน
    ราคาของ DDR5 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยชุด 192GB ที่เคยขายราว 650 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 2,201 ดอลลาร์ ทำให้หลายคนมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้เป็นการเสียเปรียบอย่างมาก แต่ Abdul บอกว่าเขาซื้อ RAM มาด้วยราคาเพียง 375 ดอลลาร์ และไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง

    ตัวเลือกที่พลาดไป
    นอกจากการ์ดจอ RTX 5070 Ti Abdul ยังมีทางเลือกที่จะแลกกับจอ Asus QD-OLED 240Hz ที่มีมูลค่าราว 699–949 ดอลลาร์ ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่า แต่เขาตัดสินใจเลือกการ์ดจอแทน โดยมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้คือการ “ทำให้ใครบางคนมีความสุข” มากกว่าการหากำไร

    มุมมองต่อชุมชนและจริยธรรม
    กรณีนี้สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่าง “ตลาดมืดที่เน้นกำไรสูงสุด” กับ “การแบ่งปันในชุมชน” Abdul เลือกที่จะรักษาจริยธรรมและความเป็นมิตร แม้จะขาดทุนไปกว่า 600–700 ดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในวงการไอทีว่าเป็น “Christmas story ของเหล่าเกมเมอร์”

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การแลก DDR5 192GB กับ RTX 5070 Ti
    มูลค่า RAM สูงกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า

    ราคาของ DDR5 พุ่งสูงกว่า 2,200 ดอลลาร์
    จากเดิมเพียง 650 ดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา

    เจ้าของ RAM ซื้อมาเพียง 375 ดอลลาร์
    ไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง

    มีทางเลือกแลกกับจอ Asus QD-OLED
    แต่เลือกการ์ดจอแทนเพื่อความสุขของอีกฝ่าย

    ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบ
    ขาดทุนกว่า 600–700 ดอลลาร์จากมูลค่าตลาดจริง

    วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูงผิดปกติ
    ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ยากและเกิดการกักตุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/benevolent-facebook-trader-exchanges-192gb-of-ddr5-worth-usd1-400-for-one-rtx-5070-ti-says-selling-at-such-a-high-price-would-have-been-unethical-despite-huge-loss
    💾 การแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่าแต่มีน้ำใจ ข่าวนี้เล่าถึงผู้ใช้ Facebook ที่ตัดสินใจแลก DDR5 RAM ขนาด 192GB มูลค่ากว่า 2,200 ดอลลาร์ กับการ์ดจอ RTX 5070 Ti เพียงตัวเดียว แม้จะขาดทุนมหาศาล แต่เจ้าของยืนยันว่า “ไม่อยากขายในราคาที่สูงเกินไปเพราะรู้สึกไม่ถูกต้อง” ผู้ใช้ชื่อ Abdul Kareem As ในกลุ่ม Facebook “PC, Gaming, Setups, and Building Advice” ได้แลกชุด Corsair Vengeance DDR5-5200 C38 192GB (4x48GB) กับการ์ดจอ PNY RTX 5070 Ti แม้ค่า RAM จะมีมูลค่ามากกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า แต่เขายืนยันว่าไม่ต้องการ “กอบโกยกำไร” จากวิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูง 📈 วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งทะยาน ราคาของ DDR5 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยชุด 192GB ที่เคยขายราว 650 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 2,201 ดอลลาร์ ทำให้หลายคนมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้เป็นการเสียเปรียบอย่างมาก แต่ Abdul บอกว่าเขาซื้อ RAM มาด้วยราคาเพียง 375 ดอลลาร์ และไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง 🎮 ตัวเลือกที่พลาดไป นอกจากการ์ดจอ RTX 5070 Ti Abdul ยังมีทางเลือกที่จะแลกกับจอ Asus QD-OLED 240Hz ที่มีมูลค่าราว 699–949 ดอลลาร์ ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่า แต่เขาตัดสินใจเลือกการ์ดจอแทน โดยมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้คือการ “ทำให้ใครบางคนมีความสุข” มากกว่าการหากำไร 🌍 มุมมองต่อชุมชนและจริยธรรม กรณีนี้สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่าง “ตลาดมืดที่เน้นกำไรสูงสุด” กับ “การแบ่งปันในชุมชน” Abdul เลือกที่จะรักษาจริยธรรมและความเป็นมิตร แม้จะขาดทุนไปกว่า 600–700 ดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในวงการไอทีว่าเป็น “Christmas story ของเหล่าเกมเมอร์” 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การแลก DDR5 192GB กับ RTX 5070 Ti ➡️ มูลค่า RAM สูงกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า ✅ ราคาของ DDR5 พุ่งสูงกว่า 2,200 ดอลลาร์ ➡️ จากเดิมเพียง 650 ดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ✅ เจ้าของ RAM ซื้อมาเพียง 375 ดอลลาร์ ➡️ ไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง ✅ มีทางเลือกแลกกับจอ Asus QD-OLED ➡️ แต่เลือกการ์ดจอแทนเพื่อความสุขของอีกฝ่าย ‼️ ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบ ⛔ ขาดทุนกว่า 600–700 ดอลลาร์จากมูลค่าตลาดจริง ‼️ วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูงผิดปกติ ⛔ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ยากและเกิดการกักตุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/benevolent-facebook-trader-exchanges-192gb-of-ddr5-worth-usd1-400-for-one-rtx-5070-ti-says-selling-at-such-a-high-price-would-have-been-unethical-despite-huge-loss
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580

    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล

    ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง

    ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ
    AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง

    Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI
    Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง

    ผลกระทบต่อโลก AI
    หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI
    เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012

    AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70%
    กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision

    Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่
    พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS

    GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI
    แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning

    หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI
    โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    🖥️ จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580 ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง 📊 ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง 🚀 Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง 🌍 ผลกระทบต่อโลก AI หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI ➡️ เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012 ✅ AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70% ➡️ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision ✅ Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่ ➡️ พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS ✅ GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI ➡️ แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning ‼️ หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI ⛔ โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคสเคลม RTX 5090 ที่กลายเป็นดราม่า

    ข่าวนี้เล่าถึงกรณีผู้ใช้ RTX 5090 ที่ส่งเคลมไปยัง Asus แต่ถูกปฏิเสธการรับประกัน เนื่องจากพบรอยแตกเล็ก ๆ ที่ตรวจพบได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ Asus จึงเสนอค่าซ่อมสูงถึง 3,350 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแพงกว่าราคาการ์ดใหม่ ก่อนจะลดให้ 50% หลังจากเจรจายาวนานหลายเดือน

    ผู้ใช้รายหนึ่งส่งการ์ดจอ ROG Astral GeForce RTX 5090 ไปเคลม หลังพบปัญหาจอดับและรีบูตเครื่องบ่อยครั้ง แต่ Asus ปฏิเสธการรับประกัน โดยอ้างว่ามี “surface irregularity” หรือรอยแตกเล็ก ๆ บริเวณขอบ PCB ซึ่งตรวจพบได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น

    ค่าซ่อมแพงกว่าการ์ดใหม่
    Asus แจ้งค่าซ่อมถึง 3,350 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 116,000 บาท) ซึ่งแพงกว่าราคาการ์ดใหม่ที่ขายอยู่ราว 3,299 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจอย่างมาก และมองว่าเป็นการจัดการที่ไม่เป็นธรรม

    ปัญหาน้ำหนักและดีไซน์
    RTX 5090 มีขนาดใหญ่และหนักถึง 3 กิโลกรัม ทำให้ PCB และขั้วต่อ PCIe ต้องรับแรงกดสูงตลอดเวลา ผู้ใช้รายนี้ยืนยันว่าได้ติดตั้งอย่างระมัดระวังและใช้ขาตั้งเสริม แต่ก็ยังเกิดรอยแตกเล็ก ๆ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาด้านการออกแบบที่อาจเกิดขึ้นกับการ์ดรุ่นใหญ่

    ข้อเสนอส่วนลดหลังการเจรจา
    หลังจากเจรจานานหลายเดือน Asus เสนอส่วนลด 50% ให้ผู้ใช้ แต่กรณีนี้ก็ยังสร้างเสียงวิจารณ์ในชุมชนออนไลน์ ว่าผู้ผลิตควรหาทางแก้ไขปัญหาดีไซน์และการรับประกันที่ชัดเจนมากกว่านี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Asus ปฏิเสธการรับประกัน RTX 5090
    อ้างพบรอยแตกเล็ก ๆ ที่ตรวจได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์

    ค่าซ่อมสูงถึง 3,350 ดอลลาร์สหรัฐ
    แพงกว่าราคาการ์ดใหม่ที่ขายในตลาด

    น้ำหนักการ์ดสูงถึง 3 กิโลกรัม
    PCB และขั้วต่อ PCIe เสี่ยงต่อแรงกดและรอยแตก

    Asus เสนอส่วนลด 50% หลังการเจรจา
    แต่ยังถูกวิจารณ์เรื่องความยุติธรรมในการรับประกัน

    ความเสี่ยงจากดีไซน์การ์ดที่ใหญ่และหนักเกินไป
    อาจทำให้ PCB แตกแม้ติดตั้งอย่างระมัดระวัง

    นโยบายการรับประกันที่เข้มงวดเกินไป
    ผู้ใช้เสี่ยงเสียค่าใช้จ่ายสูงแม้ไม่ใช่ความผิดพลาดของตน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-quotes-customer-usd3-350-repair-bill-for-rtx-5090-with-microscopic-surface-irregularity-more-than-the-entire-cards-value-offers-50-percent-discount-after-months-of-haggling
    💻 เคสเคลม RTX 5090 ที่กลายเป็นดราม่า ข่าวนี้เล่าถึงกรณีผู้ใช้ RTX 5090 ที่ส่งเคลมไปยัง Asus แต่ถูกปฏิเสธการรับประกัน เนื่องจากพบรอยแตกเล็ก ๆ ที่ตรวจพบได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ Asus จึงเสนอค่าซ่อมสูงถึง 3,350 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแพงกว่าราคาการ์ดใหม่ ก่อนจะลดให้ 50% หลังจากเจรจายาวนานหลายเดือน ผู้ใช้รายหนึ่งส่งการ์ดจอ ROG Astral GeForce RTX 5090 ไปเคลม หลังพบปัญหาจอดับและรีบูตเครื่องบ่อยครั้ง แต่ Asus ปฏิเสธการรับประกัน โดยอ้างว่ามี “surface irregularity” หรือรอยแตกเล็ก ๆ บริเวณขอบ PCB ซึ่งตรวจพบได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น 💰 ค่าซ่อมแพงกว่าการ์ดใหม่ Asus แจ้งค่าซ่อมถึง 3,350 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 116,000 บาท) ซึ่งแพงกว่าราคาการ์ดใหม่ที่ขายอยู่ราว 3,299 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจอย่างมาก และมองว่าเป็นการจัดการที่ไม่เป็นธรรม 🏋️‍♂️ ปัญหาน้ำหนักและดีไซน์ RTX 5090 มีขนาดใหญ่และหนักถึง 3 กิโลกรัม ทำให้ PCB และขั้วต่อ PCIe ต้องรับแรงกดสูงตลอดเวลา ผู้ใช้รายนี้ยืนยันว่าได้ติดตั้งอย่างระมัดระวังและใช้ขาตั้งเสริม แต่ก็ยังเกิดรอยแตกเล็ก ๆ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาด้านการออกแบบที่อาจเกิดขึ้นกับการ์ดรุ่นใหญ่ 🤝 ข้อเสนอส่วนลดหลังการเจรจา หลังจากเจรจานานหลายเดือน Asus เสนอส่วนลด 50% ให้ผู้ใช้ แต่กรณีนี้ก็ยังสร้างเสียงวิจารณ์ในชุมชนออนไลน์ ว่าผู้ผลิตควรหาทางแก้ไขปัญหาดีไซน์และการรับประกันที่ชัดเจนมากกว่านี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Asus ปฏิเสธการรับประกัน RTX 5090 ➡️ อ้างพบรอยแตกเล็ก ๆ ที่ตรวจได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ ✅ ค่าซ่อมสูงถึง 3,350 ดอลลาร์สหรัฐ ➡️ แพงกว่าราคาการ์ดใหม่ที่ขายในตลาด ✅ น้ำหนักการ์ดสูงถึง 3 กิโลกรัม ➡️ PCB และขั้วต่อ PCIe เสี่ยงต่อแรงกดและรอยแตก ✅ Asus เสนอส่วนลด 50% หลังการเจรจา ➡️ แต่ยังถูกวิจารณ์เรื่องความยุติธรรมในการรับประกัน ‼️ ความเสี่ยงจากดีไซน์การ์ดที่ใหญ่และหนักเกินไป ⛔ อาจทำให้ PCB แตกแม้ติดตั้งอย่างระมัดระวัง ‼️ นโยบายการรับประกันที่เข้มงวดเกินไป ⛔ ผู้ใช้เสี่ยงเสียค่าใช้จ่ายสูงแม้ไม่ใช่ความผิดพลาดของตน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-quotes-customer-usd3-350-repair-bill-for-rtx-5090-with-microscopic-surface-irregularity-more-than-the-entire-cards-value-offers-50-percent-discount-after-months-of-haggling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 8

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 8
    แผนการขั้นต่อไปของอเมริกา คือ ใช้กำลังทหารคุมบริเวณเส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมัน จากอาฟริกาไปถึงจีน โดยเฉพาะช่วงที่เป็นช่องแคบ ที่สามารถจะบีบให้ช่องทางนั้นตันได้ เขาเรียกกันว่า “choke points” จุดรัดคอ
    จุดรัดคอที่สำคัญจุดหนึ่งอยู่ที่เยเมน Republic of Yemen ประเทศเล็กๆ ที่ไม่ร่ำรวยเหมือนเพื่อนบ้านที่ อยู่ติดกันคือ ซาอุดิ อารเบีย ที่อยู่ทางเหนือของเยเมน มีทะเลแดงอยู่ทางตะวันตก และอ่าวเอเดน Gulf of Aden อยู่ทางใต้ เป็นปากทางออกไปสู่ทะเลอารเบียน Arabian Sea มองจากเยเมนข้ามไปอีกฝั่งทางอาฟริกา จะเห็นแผ่นดินที่ดูรกร้าง แต่ระยะหลังนี้ กลับโด่งดัง มีชื่อพาดหัวข่าวบ่อยคือ โซมาเลีย Somalia
    วันนี้ใครไม่รู้จัก เยเมนและโซมาเลีย ออกจะเชยนะครับ
    อเมริกาและเพนตากอน เริ่มจัดกองกำลังไปอยู่ที่ Bab el-Mandab ที่อยู่ตรงส่วนแคบที่สุด ของอ่าวเอเดน ด้วยการโหมข่าวเรื่องสลัดโซมาเลีย และเรื่อง อัลไคด้า หรืออัลกออิดะ Al Qaeda ที่คืนชีพ และ “บังเอิญ” เลือกที่ตั้งฐานใหม่อยู่ที่เยเมน ในช่วงปี ค.ศ.2009
    มันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกา ที่ต้องการเป็นผู้ควบคุม (และปิดกั้น เมื่อต้องการ) การใช้เส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมัน ที่แน่นขนัด เส้นสำคัญของในโลก
    นอกจากนี้ มีข่าวว่า ยังมีแหล่งน้ำมันที่ยังไม่ได้พัฒนา หลบซ่อนอยู่ในบริเวณระหว่างเยเมนกับซาอุดิอารเบีย ที่อาจมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกแหล่งหนึ่ง เหลืออยู่ เยเมน จึงกลายเป็นเป้าสำคัญอย่างน่าสงสาร
    การเขย่าเยเมนยกแรก เริ่มจากการเป็นข่าวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.2009 เกี่ยวกับการจับกุม นาย Abdullah ชาวไนจีเรีย ที่เป็นพนักงานทำงานในหน่วยงานของรัฐบาลอเมริกาว่า เขาลอบนำวัตถุระเบิดซ่อนไว้ในกางเกงใน (ช่างเลือกที่ซ่อนจริงวุ้ย) แล้วขึ้นเครื่องบินของสายการบิน Northwest Airlines ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม เนเธอรฺ์แลนด์ เพื่อบินไปยังเมืองดีทรอยท์ในอเมริกา เขาถูกจับได้และถูกนำตัวมาดำเนินคดีฐานพยายามนำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องบิน และพยายามระเบิดเครื่องบิน
    หลังจากนั้นกระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ก็ทำหน้าที่โหมข่าวว่า นาย Abdullah นี้ ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ที่ได้รับการฝึกอบรมมาจากเยเมน เพื่อมาปฏิบัติภาระกิจนี้ เขาได้รับการฝึกจากองค์กรที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่คือ Al Qaeda in the Arabian Peninsula (AQAP) ที่มีฐานอยู่ที่เยเมน ซึ่งน่าจะเป็นศูนย์กลางใหม่ของพวกอัลไคด้า หรืออัลกออิดะ
    คนดูข่าวโลกกว้าง ทำหน้างงเป็นไก่ถูกตีหัว อะไรนะ เยเมน อยู่ตรงไหนนะ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน เรียนภูมิศาสตร์ในโรงเรียนบ้านเรา โลกแคบนิดเดียว ไม่เห็นมีชื่อประเทศนี้เลย และด้วยข่าวชิ้นนี้ เยเมน ประเทศเล็กๆ ก็ได้ขึ้นชั้น เป็นเป้าใหม่เอี่ยมอยู่ในกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่สำคัญของอเมริกา สำคัญพอที่อเมริกา จะยกกองกำลังไปปักหลักเฝ้าอยู่ที่เยเมนเลยทีเดียว
    จริงๆ มันมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเยเมน ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ.2009 แล้ว อยู่ดีๆ นาย Tariq al-Fadhli อดีตหัวหน้ากลุ่มระเบิดพลีชีพ jihadist ที่มาจากเยเมนใต้ ที่เคยเป็นคอหอยลูกกระเดือก สนับสนุน Ali Abdullah Saleh ประธานาธิบดีของเยเมน ก็ดันประกาศตัดสัมพันธ์ 15 ปี กับประธานาธิบดี Saleh อย่างไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย บอกว่าจะไปละนะ ไปรวมตัวกับพวกเคลื่อนไหวทางเยเมนใต้ Southern Movement (SM) ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เอะ จะไปทำอะไรที่เยเมนใต้
    Al-Fadhli นี่ไม่ธรรมดา นับว่าเขาเป็นศิษย์เก่าสถาบันซี ไอเอของอเมริกาทีเดียว เพราะเขาเคยเป็นสมาชิก ของพวกมูจาฮิดีน Mujahideen ในอาฟกานิสถานอยู่หลายปี ในช่วงตั้งแต่ ค.ศ.1980 พวกมูจาฮิดีนนี้ มีซีไอเอ เป็นผู้ฝึกให้ เพื่อเอาไว้ให้ รบกับสหภาพโซเวียต al- Fadhli ได้รับการฝึกจากซีไอเอ รุ่นเดียวกับเพื่อนอีกคน ที่เป็นลูกเศรษฐีชาวซาอุ เชื้อสายเยเมน ชื่อ โอซามา บิน ลาเดน Osama bin Laden คนนั้นแหล่ะ สำนักงานใหญ่ของ อัลไคดาของจริง เขาก็ว่าอยู่ที่แลงลี่ Langley Virginia ในอเมริกา ก็สำนักงานใหญ่ของซีไอเอนั่นเอง มันเป็นรายการต้มตุ๋นทั้งโลกจริงๆ
    เรื่องของเยเมน นี่ มีหลายมิติ เยเมนนั้นมารวมตัวเป็นรัฐเดียวกัน ในปี ค.ศ.1990 หลังจากสหภาพโซเวียตแตกสลาย เดิมเยเมนใต้ หรือชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐประชาชนประชาธิปไตยเยเมน Peoples’s Democratic Republic of Yemen (PDRY) เคยเป็นรัฐที่มีความผูกพันกับสหภาพ โซเวียต เมื่อสหภาพโซเวียตแตก เยเมนใต้ก็ขาดลอย ขาดลูกพี่ จึงมารวมตัวกับเยเมนเหนือ Yemen Arab Republic คงมองเห็นภาพอะไรรางๆนะครับ
    แต่ก็ดูเหมือนจะรวมกันอยู่อย่าง ไม่ค่อยราบรื่น ตั้งแต่รวมกัน ก็มีเรื่องขบกันมาตลอด จนปี ค.ศ.1994 เกิดสงครามกลางเมือง เยเมนใต้ทนเห็นความขี้โกง ของรัฐบาล ที่นำโดยประธานาธิบดี Saleh ของเยเมนเหนือไม่ไหว เลยลุกขึ้นมาไล่ Saleh ซึ่งปกครองเยเมนเหนือมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 พอมีการรวมเยเมนเหนือใต้เข้าด้วยกัน ก็เลยเป็นประธานาธิบดีของเยเมนที่รวมตัวกันต่อไปด้วย แต่เยเมนใต้รบไม่ชนะในสงครามกลางเมืองครั้งนั้น ทั้ง 2 เยเมน ก็เลยยังต้องผูกติดกันอยู่ต่อไป และรักกันน้อยลงไปอีก
    ก่อนปี ค.ศ.1990 อเมริกาและซาอุดิอารเบีย ให้การสนับสนุน Saleh และนโยบายรัฐอิสลามของ Saleh อย่างเต็มที่ เพื่อกันไม่ให้เยเมนใต้ ซึ่งมีเชื้อคอมมิวนิสต์สายโซเวียต มาร่วมด้วย Saleh จึงปกครองโดยมีกลุ่ม นักรบพลีชีพ ซาลาฟิส Salafist-jihadi ซึ่งใครไม่รู้ส่งมาสนับสนุน เมื่อ al-Fadhli ซึ่งเป็นจีฮาด อยู่ดีๆ ก็ประกาศแยกตัวจาก Saleh กลับไปปักหลักที่เยเมนใต้ Saleh ก็น่าจะเหนื่อย
    หลังจาก al-Fadhli มารวมกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางเยเมนใต้ ในเดือนเมษายน ค.ศ.2009 การประท้วงรัฐบาลในเมืองต่างๆ ทางเยเมนใต้ ก็ลามเพิ่มขี้นไปตามเมืองต่างๆ และเงื่อนไขข้อเรียกร้องก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
    แค่เรื่องเยเมนใต้ Saleh ก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว ทางเหนือก็เกิดมีการลุกฮือขึ้นโดยพวก ฮูตติ ชิอะห์ Shi’ite al Houthi Zaydi ซึ่ง Saleh บอกว่า พวกฮูตติ นี่ มีทั้งอิรัคและอิหร่านสนับสนุน เจ้าหน้าที่เยเมนยีดอาวุธที่ทำในอิหร่าน ได้จากพวกฮูตติ ส่วนฮูตติ ก็อ้างว่าอาวุธที่พวกเขายึดได้จากพวกเยเมนเหนือ เป็นอาวุธที่มีเครื่องหมายของซาอุดิอารเบียทั้งนั้น เมืองซานะ (เมืองหลวงของเยเมน) น่ะ กลายเป็น ขี้ข้าของซาอุดิอารเบีย แล้วซินะ
    เรื่องในเยเมน ชักยุ่งรุงรังไปหมด ลากมาเกี่ยวมันทุกเรื่อง กลัวคนไม่รู้ว่าใครวางแผน และไม่รู้ว่าจะมีแผนซ้อนอีกต่อหรือเปล่า….
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    21 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 8 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 8 แผนการขั้นต่อไปของอเมริกา คือ ใช้กำลังทหารคุมบริเวณเส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมัน จากอาฟริกาไปถึงจีน โดยเฉพาะช่วงที่เป็นช่องแคบ ที่สามารถจะบีบให้ช่องทางนั้นตันได้ เขาเรียกกันว่า “choke points” จุดรัดคอ จุดรัดคอที่สำคัญจุดหนึ่งอยู่ที่เยเมน Republic of Yemen ประเทศเล็กๆ ที่ไม่ร่ำรวยเหมือนเพื่อนบ้านที่ อยู่ติดกันคือ ซาอุดิ อารเบีย ที่อยู่ทางเหนือของเยเมน มีทะเลแดงอยู่ทางตะวันตก และอ่าวเอเดน Gulf of Aden อยู่ทางใต้ เป็นปากทางออกไปสู่ทะเลอารเบียน Arabian Sea มองจากเยเมนข้ามไปอีกฝั่งทางอาฟริกา จะเห็นแผ่นดินที่ดูรกร้าง แต่ระยะหลังนี้ กลับโด่งดัง มีชื่อพาดหัวข่าวบ่อยคือ โซมาเลีย Somalia วันนี้ใครไม่รู้จัก เยเมนและโซมาเลีย ออกจะเชยนะครับ อเมริกาและเพนตากอน เริ่มจัดกองกำลังไปอยู่ที่ Bab el-Mandab ที่อยู่ตรงส่วนแคบที่สุด ของอ่าวเอเดน ด้วยการโหมข่าวเรื่องสลัดโซมาเลีย และเรื่อง อัลไคด้า หรืออัลกออิดะ Al Qaeda ที่คืนชีพ และ “บังเอิญ” เลือกที่ตั้งฐานใหม่อยู่ที่เยเมน ในช่วงปี ค.ศ.2009 มันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกา ที่ต้องการเป็นผู้ควบคุม (และปิดกั้น เมื่อต้องการ) การใช้เส้นทางเดินเรือขนส่งน้ำมัน ที่แน่นขนัด เส้นสำคัญของในโลก นอกจากนี้ มีข่าวว่า ยังมีแหล่งน้ำมันที่ยังไม่ได้พัฒนา หลบซ่อนอยู่ในบริเวณระหว่างเยเมนกับซาอุดิอารเบีย ที่อาจมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกแหล่งหนึ่ง เหลืออยู่ เยเมน จึงกลายเป็นเป้าสำคัญอย่างน่าสงสาร การเขย่าเยเมนยกแรก เริ่มจากการเป็นข่าวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.2009 เกี่ยวกับการจับกุม นาย Abdullah ชาวไนจีเรีย ที่เป็นพนักงานทำงานในหน่วยงานของรัฐบาลอเมริกาว่า เขาลอบนำวัตถุระเบิดซ่อนไว้ในกางเกงใน (ช่างเลือกที่ซ่อนจริงวุ้ย) แล้วขึ้นเครื่องบินของสายการบิน Northwest Airlines ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม เนเธอรฺ์แลนด์ เพื่อบินไปยังเมืองดีทรอยท์ในอเมริกา เขาถูกจับได้และถูกนำตัวมาดำเนินคดีฐานพยายามนำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องบิน และพยายามระเบิดเครื่องบิน หลังจากนั้นกระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ก็ทำหน้าที่โหมข่าวว่า นาย Abdullah นี้ ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ที่ได้รับการฝึกอบรมมาจากเยเมน เพื่อมาปฏิบัติภาระกิจนี้ เขาได้รับการฝึกจากองค์กรที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่คือ Al Qaeda in the Arabian Peninsula (AQAP) ที่มีฐานอยู่ที่เยเมน ซึ่งน่าจะเป็นศูนย์กลางใหม่ของพวกอัลไคด้า หรืออัลกออิดะ คนดูข่าวโลกกว้าง ทำหน้างงเป็นไก่ถูกตีหัว อะไรนะ เยเมน อยู่ตรงไหนนะ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน เรียนภูมิศาสตร์ในโรงเรียนบ้านเรา โลกแคบนิดเดียว ไม่เห็นมีชื่อประเทศนี้เลย และด้วยข่าวชิ้นนี้ เยเมน ประเทศเล็กๆ ก็ได้ขึ้นชั้น เป็นเป้าใหม่เอี่ยมอยู่ในกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่สำคัญของอเมริกา สำคัญพอที่อเมริกา จะยกกองกำลังไปปักหลักเฝ้าอยู่ที่เยเมนเลยทีเดียว จริงๆ มันมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเยเมน ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ.2009 แล้ว อยู่ดีๆ นาย Tariq al-Fadhli อดีตหัวหน้ากลุ่มระเบิดพลีชีพ jihadist ที่มาจากเยเมนใต้ ที่เคยเป็นคอหอยลูกกระเดือก สนับสนุน Ali Abdullah Saleh ประธานาธิบดีของเยเมน ก็ดันประกาศตัดสัมพันธ์ 15 ปี กับประธานาธิบดี Saleh อย่างไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย บอกว่าจะไปละนะ ไปรวมตัวกับพวกเคลื่อนไหวทางเยเมนใต้ Southern Movement (SM) ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เอะ จะไปทำอะไรที่เยเมนใต้ Al-Fadhli นี่ไม่ธรรมดา นับว่าเขาเป็นศิษย์เก่าสถาบันซี ไอเอของอเมริกาทีเดียว เพราะเขาเคยเป็นสมาชิก ของพวกมูจาฮิดีน Mujahideen ในอาฟกานิสถานอยู่หลายปี ในช่วงตั้งแต่ ค.ศ.1980 พวกมูจาฮิดีนนี้ มีซีไอเอ เป็นผู้ฝึกให้ เพื่อเอาไว้ให้ รบกับสหภาพโซเวียต al- Fadhli ได้รับการฝึกจากซีไอเอ รุ่นเดียวกับเพื่อนอีกคน ที่เป็นลูกเศรษฐีชาวซาอุ เชื้อสายเยเมน ชื่อ โอซามา บิน ลาเดน Osama bin Laden คนนั้นแหล่ะ สำนักงานใหญ่ของ อัลไคดาของจริง เขาก็ว่าอยู่ที่แลงลี่ Langley Virginia ในอเมริกา ก็สำนักงานใหญ่ของซีไอเอนั่นเอง มันเป็นรายการต้มตุ๋นทั้งโลกจริงๆ เรื่องของเยเมน นี่ มีหลายมิติ เยเมนนั้นมารวมตัวเป็นรัฐเดียวกัน ในปี ค.ศ.1990 หลังจากสหภาพโซเวียตแตกสลาย เดิมเยเมนใต้ หรือชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐประชาชนประชาธิปไตยเยเมน Peoples’s Democratic Republic of Yemen (PDRY) เคยเป็นรัฐที่มีความผูกพันกับสหภาพ โซเวียต เมื่อสหภาพโซเวียตแตก เยเมนใต้ก็ขาดลอย ขาดลูกพี่ จึงมารวมตัวกับเยเมนเหนือ Yemen Arab Republic คงมองเห็นภาพอะไรรางๆนะครับ แต่ก็ดูเหมือนจะรวมกันอยู่อย่าง ไม่ค่อยราบรื่น ตั้งแต่รวมกัน ก็มีเรื่องขบกันมาตลอด จนปี ค.ศ.1994 เกิดสงครามกลางเมือง เยเมนใต้ทนเห็นความขี้โกง ของรัฐบาล ที่นำโดยประธานาธิบดี Saleh ของเยเมนเหนือไม่ไหว เลยลุกขึ้นมาไล่ Saleh ซึ่งปกครองเยเมนเหนือมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 พอมีการรวมเยเมนเหนือใต้เข้าด้วยกัน ก็เลยเป็นประธานาธิบดีของเยเมนที่รวมตัวกันต่อไปด้วย แต่เยเมนใต้รบไม่ชนะในสงครามกลางเมืองครั้งนั้น ทั้ง 2 เยเมน ก็เลยยังต้องผูกติดกันอยู่ต่อไป และรักกันน้อยลงไปอีก ก่อนปี ค.ศ.1990 อเมริกาและซาอุดิอารเบีย ให้การสนับสนุน Saleh และนโยบายรัฐอิสลามของ Saleh อย่างเต็มที่ เพื่อกันไม่ให้เยเมนใต้ ซึ่งมีเชื้อคอมมิวนิสต์สายโซเวียต มาร่วมด้วย Saleh จึงปกครองโดยมีกลุ่ม นักรบพลีชีพ ซาลาฟิส Salafist-jihadi ซึ่งใครไม่รู้ส่งมาสนับสนุน เมื่อ al-Fadhli ซึ่งเป็นจีฮาด อยู่ดีๆ ก็ประกาศแยกตัวจาก Saleh กลับไปปักหลักที่เยเมนใต้ Saleh ก็น่าจะเหนื่อย หลังจาก al-Fadhli มารวมกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางเยเมนใต้ ในเดือนเมษายน ค.ศ.2009 การประท้วงรัฐบาลในเมืองต่างๆ ทางเยเมนใต้ ก็ลามเพิ่มขี้นไปตามเมืองต่างๆ และเงื่อนไขข้อเรียกร้องก็เพิ่มขึ้นไปด้วย แค่เรื่องเยเมนใต้ Saleh ก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว ทางเหนือก็เกิดมีการลุกฮือขึ้นโดยพวก ฮูตติ ชิอะห์ Shi’ite al Houthi Zaydi ซึ่ง Saleh บอกว่า พวกฮูตติ นี่ มีทั้งอิรัคและอิหร่านสนับสนุน เจ้าหน้าที่เยเมนยีดอาวุธที่ทำในอิหร่าน ได้จากพวกฮูตติ ส่วนฮูตติ ก็อ้างว่าอาวุธที่พวกเขายึดได้จากพวกเยเมนเหนือ เป็นอาวุธที่มีเครื่องหมายของซาอุดิอารเบียทั้งนั้น เมืองซานะ (เมืองหลวงของเยเมน) น่ะ กลายเป็น ขี้ข้าของซาอุดิอารเบีย แล้วซินะ เรื่องในเยเมน ชักยุ่งรุงรังไปหมด ลากมาเกี่ยวมันทุกเรื่อง กลัวคนไม่รู้ว่าใครวางแผน และไม่รู้ว่าจะมีแผนซ้อนอีกต่อหรือเปล่า…. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 21 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 7

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 7
    มันเป็นเรื่องน่าสมเพชมาก หลังจากกัดดาฟีเสียชีวิต อเมริกากับฝรั่งเศส ต่างออกมาอ้างว่าเป็นผลงานของตน อเมริกาบอก เครื่องโดรนของกู ยิงมันตายคาที่ ฝรั่งเศสบอกไม่ใช่ เครื่องบินของกู ทิ้งระเบิดทะลายมันก่อนต่างหาก
    แต่อังกฤษไม่เถียงกับใคร ยึดเงืนในบัญชีของกัดดาฟีที่ฝากไว้ที่ธนาคารในอังกฤษเรียบ ตัวเลขเท่าไหร่ อังกฤษเม้มปากแน่น เปิดปากเมื่อไหร่ ตัวหารมันจะแยะ ก็ดันขนกันไปกี่ชาติล่ะ เหมือนแร้งลง
    อเมริกาและนาโต้ ไปเอาข่าวมาจากไหนไม่รู้ว่า ไอ้ที่ตายเป็นตัวปลอม เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2012 เลยพากันกลับไปทิ้งระเบิดที่บริเวณบ้านใหญ่ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีอีกรอบใหญ่ แต่ก็ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย
    อเมริกายังไม่พอใจ ข่าวยังลือจัง งั้นถล่มมันไปเรื่อยๆ แล้วกัน อเมริกาส่งโดรนไปสำรวจทุกเมืองในลิเบีย สงสัยที่ไหนก็ทิ้งบอมบ์ที่นั่น ตามมาด้วย “คณะผู้รับเหมา” ทหารรับจ้าง บุกเข้าไปเก็บกวาดผู้ต้องสงสัย
    ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศส กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง รับหน้าที่เป็นหน่วยข่าวกรองเคลื่อนที่ ตามสืบความเคลื่อนไหว
    เอะ ไหนลงข่าวว่าตายแน่ ถึงกับลากศพมีรูถูกยิงที่หัวมาถ่ายรูปเอาไว้ ตอนนี้กลับลำ บอกไม่เชื่อว่าตายจริง เที่ยวตามรื้อ ตามค้น หากัดดาฟีคนไหนไม่รู้ต่อ
    เดี๋ยวก็คงมีข่าวออกมา เหมือนกับเรื่องบินลาเดนหลอกว่ายังไม่ตาย แถมอยู่เกาะสวรรค์ที่ไหนสักแห่ง คนอะไร รูปถ่ายตอนตายที่ “เขา” ส่งมาให้สื่อลง ยังยิ้มอยู่ แถมยิ้มพิมพ์เดียวกับตอนยังไม่ตายเป๊ะ เพียงแต่หน้าเปื้อนเลือดไปหน่อยเท่านั้น ฮาจริง ไปกดดูได้ในกูเกิลนะครับ ผมไม่ได้เขียนตลก ผมเขียนจากภาพที่เขาเอามาลง
    เขาว่า หลังจากการค้นหา ทำลายไปทำลายมา คลังอาวุธใหญ่ของกัดดาฟี ที่ว่ามีสะสมเป็นโกดังใหญ่ๆ อยู่ในหลายเมือง หายเกลี้ยง ไปโผล่อีกที อยู่ที่ซีเรีย ที่พวกกบฏซีเรียใช้กันมา 3 ปียังไม่หมดน่ะ คนรู้ดีเรื่องอาวุธของกัดดาฟี ถูกขนมาให้กบฏซีเรียใช้ นอกจากซีไอเอและคนที่สั่ง ซีไอเอ ได้แล้ว ยังมีทูตอเมริกันประจำลิเบีย ที่ถูกฆ่าโหดอยู่ในสถานทูตตัวเอง อเมริกาแถลงว่า ถูกพวกกบฏลิเบียแตกคอกฆ่า ไหนว่าพวกกันไง แต่มีวุฒิสมาชิกอเมริกาเอง สงสัยว่าเป็นรายการเก็บกันเอง ของอเมริกา
    คนที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอีกคนคือ คุณนายหน้าโหด นางสิงห์สั่งฆ่า เขาว่าตอนถูกกรรมาธิการเรียกไปสอบสวน คุณนายถึงกับเป็นลม หงายหลัง หัวฟาดพื้น แต่ดวงแข็งจัง ไม่ยักตาย (อ่านรายละเอียดเรื่อง ไอ้กันเก็บกันเองที่ลิเบีย ได้ในนิทานเรื่อง Chateau Christoff นะครับ เขียนไว้นานแล้ว)
    ส่วนลิเบียเอง หลังจากขาดหัวที่ชื่อ กัดดาฟี ลิเบียก็เหมือนปลาไหลถูกต้มอยู่ในหม้อ ทั้งตัวเป็นๆ ดิ้นกระแด็กๆ ไปวันๆ รอเวลาเขาเอามากิน ประเทศแตกไม่รู้กี่เสี่ยง ผ่านมาจะ 4 ปี ยังตั้งหลักไม่ได้ มีรัฐบาล 2 คณะพร้อมกัน แต่ละคณะ มีนายกรัฐมนตรีของตัวเอง มีสภา และกองกำลังของตนเอง
    ทางตะวันตกของประเทศ ควบคุมโดยกองกำลังอิสลาม ที่ยึดเอาทริโปลีเป็นเมืองหลวง และไล่รัฐบาลที่เพิ่งตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนเมษา กระเด็นไป
    ทางตะวันออกของประเทศที่มีรัฐบาล ที่มาจากนักการเมืองฝ่ายที่ไม่เอาอิสลาม แต่ปัจจุบันก็รับศึกไม่ไหว ตอนนี้ลี้ภัยไปอยู่เมือง Tobruk ซึ่งอยู่ห่างไปอีก 1,200 กิโล ตอนนี้ ทางตะวันออกนี่ก็เลยไม่ขึ้นกับใคร
    ทางใต้ของประเทศ เป็นแหล่งชุมนุมดาราผู้ก่อการร้าย
    ส่วนทางเหนือ ที่อยู่ติดชายฝั่ง กลายเป็นเส้นทางผ่านของพวกอพยพลี้ภัย ก็น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ รวมดารานักหลอกต้ม ทั้งนั้น
    หลังจากเป็นปลาไหลอยู่ในหม้อ บรรดาสถานทูตพวกฝรั่งตะวันตก หัวหด หูตกปิดประตูกลับบ้านไปหมด อิยิปต์ อัลจีเรีย และตูนีเซีย ปิดเขตแดนที่ติดต่อกับลิเบีย การข่มขืน ปล้นฆ่า จับมาทรมาน เกิดขึ้นรายวัน ลิเบียกลายเป็นรัฐที่ล้มและเหลว ไปถึงข้างในของกระดูก failed state อย่างแท้จริง
    ไอ้ตัวระยำ ที่เป็นผู้วางแผนสร้างเรื่องก็ทิ้งลิเบีย เหมือนอย่างที่ทำกับอิรัค อียิปต์ และเมืองต่างๆ ในอาฟริกา และที่อื่นๆ สาธยายด่ากันไม่หวาดไม่ไหว
    อเมริกา “ทำเหมือน” หมดปัญญาแก้ไขการมี 2 รัฐบาลในประเทศเดียวกัน และไม่สามารถบริหารประเทศได้สักรัฐบาลเดียว แต่ ล่าสุด อเมริกา กำลังสร้างรัฐบาลที่ 3 ในลิเบีย! มันยิ่งกว่า หนังตลก!
    นายพล Khalifa Hifter หรือ Haftar ซี้ย่ำปึกของซีไอเอ กำลังถูกปั้นขึ้นมาเก็บสมบัติลิเบียที่ยังเหลืออยู่อีกแยะ
    Hifter เคยเป็นลูกน้องเก่าของกัดดาฟี สมัยที่โค่นกษัตริย์ Idris al-Sanusi มาด้วยกัน กัดดาฟี เคยเรียก Hifter เป็นลูกรัก ระหว่างสงครามอาหรับ อิสราเอล ในปี ค.ศ.973 Hifter เป็นผู้นำกองทัพลิเบีย ช่วง ค.ศ.1980-1987 ทำสงครามกับชาด เขาเป็นคนสั่งใช้ระเบิดแก๊สพิษ ลิเบียแพ้ชาด ในการรบครั้งนั้น และทหารลิเบียถูกชาดจับเป็นเชลย รวมทั้ง Hifter ด้วย
    ระหว่างที่ติดอยู่ที่ชาด Hifter ไม่รู้คิดอะไร ชวนพรรคพวกที่เป็นเชลยด้วยกัน ให้ปฏิวัติกัดดาฟี แต่ยังไม่ทันเดินหน้า เขาก็เปลี่ยนแผน เพราะซีไอเอจัดการให้เขาหลุดจากคุมตัวของชาด และข้ามมาคองโก ก่อนบินไปอยู่ที่เวอร์จิเนียของอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 300 คน
    ในฐานะเป็นคนสัญชาติอเมริกัน ที่ซีไอเอจัดการให้ เขาอยู่ในอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1990 ถึง ปี ค.ศ.2011 ทำงานหลายจ๊อบให้ซีไอเอ และเมื่อ อเมริกาพยายามขยี้ กัดดาฟี ในปี ค.ศ.1996 Hifter และพวกอีก 600 คนก็เป็นคนจัดการ แต่ไม่สำเร็จ น่าจะทำให้ราคาเขาตกลงพอสมควร แต่ตอนนี้อเมริกาคงไม่มีตัวเลือกเหลือมากนักสำหรับรายการ เก็บกวาดลิเบีย รอบสุดท้าย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    20 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 7 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 7 มันเป็นเรื่องน่าสมเพชมาก หลังจากกัดดาฟีเสียชีวิต อเมริกากับฝรั่งเศส ต่างออกมาอ้างว่าเป็นผลงานของตน อเมริกาบอก เครื่องโดรนของกู ยิงมันตายคาที่ ฝรั่งเศสบอกไม่ใช่ เครื่องบินของกู ทิ้งระเบิดทะลายมันก่อนต่างหาก แต่อังกฤษไม่เถียงกับใคร ยึดเงืนในบัญชีของกัดดาฟีที่ฝากไว้ที่ธนาคารในอังกฤษเรียบ ตัวเลขเท่าไหร่ อังกฤษเม้มปากแน่น เปิดปากเมื่อไหร่ ตัวหารมันจะแยะ ก็ดันขนกันไปกี่ชาติล่ะ เหมือนแร้งลง อเมริกาและนาโต้ ไปเอาข่าวมาจากไหนไม่รู้ว่า ไอ้ที่ตายเป็นตัวปลอม เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2012 เลยพากันกลับไปทิ้งระเบิดที่บริเวณบ้านใหญ่ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีอีกรอบใหญ่ แต่ก็ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย อเมริกายังไม่พอใจ ข่าวยังลือจัง งั้นถล่มมันไปเรื่อยๆ แล้วกัน อเมริกาส่งโดรนไปสำรวจทุกเมืองในลิเบีย สงสัยที่ไหนก็ทิ้งบอมบ์ที่นั่น ตามมาด้วย “คณะผู้รับเหมา” ทหารรับจ้าง บุกเข้าไปเก็บกวาดผู้ต้องสงสัย ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศส กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง รับหน้าที่เป็นหน่วยข่าวกรองเคลื่อนที่ ตามสืบความเคลื่อนไหว เอะ ไหนลงข่าวว่าตายแน่ ถึงกับลากศพมีรูถูกยิงที่หัวมาถ่ายรูปเอาไว้ ตอนนี้กลับลำ บอกไม่เชื่อว่าตายจริง เที่ยวตามรื้อ ตามค้น หากัดดาฟีคนไหนไม่รู้ต่อ เดี๋ยวก็คงมีข่าวออกมา เหมือนกับเรื่องบินลาเดนหลอกว่ายังไม่ตาย แถมอยู่เกาะสวรรค์ที่ไหนสักแห่ง คนอะไร รูปถ่ายตอนตายที่ “เขา” ส่งมาให้สื่อลง ยังยิ้มอยู่ แถมยิ้มพิมพ์เดียวกับตอนยังไม่ตายเป๊ะ เพียงแต่หน้าเปื้อนเลือดไปหน่อยเท่านั้น ฮาจริง ไปกดดูได้ในกูเกิลนะครับ ผมไม่ได้เขียนตลก ผมเขียนจากภาพที่เขาเอามาลง เขาว่า หลังจากการค้นหา ทำลายไปทำลายมา คลังอาวุธใหญ่ของกัดดาฟี ที่ว่ามีสะสมเป็นโกดังใหญ่ๆ อยู่ในหลายเมือง หายเกลี้ยง ไปโผล่อีกที อยู่ที่ซีเรีย ที่พวกกบฏซีเรียใช้กันมา 3 ปียังไม่หมดน่ะ คนรู้ดีเรื่องอาวุธของกัดดาฟี ถูกขนมาให้กบฏซีเรียใช้ นอกจากซีไอเอและคนที่สั่ง ซีไอเอ ได้แล้ว ยังมีทูตอเมริกันประจำลิเบีย ที่ถูกฆ่าโหดอยู่ในสถานทูตตัวเอง อเมริกาแถลงว่า ถูกพวกกบฏลิเบียแตกคอกฆ่า ไหนว่าพวกกันไง แต่มีวุฒิสมาชิกอเมริกาเอง สงสัยว่าเป็นรายการเก็บกันเอง ของอเมริกา คนที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอีกคนคือ คุณนายหน้าโหด นางสิงห์สั่งฆ่า เขาว่าตอนถูกกรรมาธิการเรียกไปสอบสวน คุณนายถึงกับเป็นลม หงายหลัง หัวฟาดพื้น แต่ดวงแข็งจัง ไม่ยักตาย (อ่านรายละเอียดเรื่อง ไอ้กันเก็บกันเองที่ลิเบีย ได้ในนิทานเรื่อง Chateau Christoff นะครับ เขียนไว้นานแล้ว) ส่วนลิเบียเอง หลังจากขาดหัวที่ชื่อ กัดดาฟี ลิเบียก็เหมือนปลาไหลถูกต้มอยู่ในหม้อ ทั้งตัวเป็นๆ ดิ้นกระแด็กๆ ไปวันๆ รอเวลาเขาเอามากิน ประเทศแตกไม่รู้กี่เสี่ยง ผ่านมาจะ 4 ปี ยังตั้งหลักไม่ได้ มีรัฐบาล 2 คณะพร้อมกัน แต่ละคณะ มีนายกรัฐมนตรีของตัวเอง มีสภา และกองกำลังของตนเอง ทางตะวันตกของประเทศ ควบคุมโดยกองกำลังอิสลาม ที่ยึดเอาทริโปลีเป็นเมืองหลวง และไล่รัฐบาลที่เพิ่งตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนเมษา กระเด็นไป ทางตะวันออกของประเทศที่มีรัฐบาล ที่มาจากนักการเมืองฝ่ายที่ไม่เอาอิสลาม แต่ปัจจุบันก็รับศึกไม่ไหว ตอนนี้ลี้ภัยไปอยู่เมือง Tobruk ซึ่งอยู่ห่างไปอีก 1,200 กิโล ตอนนี้ ทางตะวันออกนี่ก็เลยไม่ขึ้นกับใคร ทางใต้ของประเทศ เป็นแหล่งชุมนุมดาราผู้ก่อการร้าย ส่วนทางเหนือ ที่อยู่ติดชายฝั่ง กลายเป็นเส้นทางผ่านของพวกอพยพลี้ภัย ก็น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ รวมดารานักหลอกต้ม ทั้งนั้น หลังจากเป็นปลาไหลอยู่ในหม้อ บรรดาสถานทูตพวกฝรั่งตะวันตก หัวหด หูตกปิดประตูกลับบ้านไปหมด อิยิปต์ อัลจีเรีย และตูนีเซีย ปิดเขตแดนที่ติดต่อกับลิเบีย การข่มขืน ปล้นฆ่า จับมาทรมาน เกิดขึ้นรายวัน ลิเบียกลายเป็นรัฐที่ล้มและเหลว ไปถึงข้างในของกระดูก failed state อย่างแท้จริง ไอ้ตัวระยำ ที่เป็นผู้วางแผนสร้างเรื่องก็ทิ้งลิเบีย เหมือนอย่างที่ทำกับอิรัค อียิปต์ และเมืองต่างๆ ในอาฟริกา และที่อื่นๆ สาธยายด่ากันไม่หวาดไม่ไหว อเมริกา “ทำเหมือน” หมดปัญญาแก้ไขการมี 2 รัฐบาลในประเทศเดียวกัน และไม่สามารถบริหารประเทศได้สักรัฐบาลเดียว แต่ ล่าสุด อเมริกา กำลังสร้างรัฐบาลที่ 3 ในลิเบีย! มันยิ่งกว่า หนังตลก! นายพล Khalifa Hifter หรือ Haftar ซี้ย่ำปึกของซีไอเอ กำลังถูกปั้นขึ้นมาเก็บสมบัติลิเบียที่ยังเหลืออยู่อีกแยะ Hifter เคยเป็นลูกน้องเก่าของกัดดาฟี สมัยที่โค่นกษัตริย์ Idris al-Sanusi มาด้วยกัน กัดดาฟี เคยเรียก Hifter เป็นลูกรัก ระหว่างสงครามอาหรับ อิสราเอล ในปี ค.ศ.973 Hifter เป็นผู้นำกองทัพลิเบีย ช่วง ค.ศ.1980-1987 ทำสงครามกับชาด เขาเป็นคนสั่งใช้ระเบิดแก๊สพิษ ลิเบียแพ้ชาด ในการรบครั้งนั้น และทหารลิเบียถูกชาดจับเป็นเชลย รวมทั้ง Hifter ด้วย ระหว่างที่ติดอยู่ที่ชาด Hifter ไม่รู้คิดอะไร ชวนพรรคพวกที่เป็นเชลยด้วยกัน ให้ปฏิวัติกัดดาฟี แต่ยังไม่ทันเดินหน้า เขาก็เปลี่ยนแผน เพราะซีไอเอจัดการให้เขาหลุดจากคุมตัวของชาด และข้ามมาคองโก ก่อนบินไปอยู่ที่เวอร์จิเนียของอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 300 คน ในฐานะเป็นคนสัญชาติอเมริกัน ที่ซีไอเอจัดการให้ เขาอยู่ในอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1990 ถึง ปี ค.ศ.2011 ทำงานหลายจ๊อบให้ซีไอเอ และเมื่อ อเมริกาพยายามขยี้ กัดดาฟี ในปี ค.ศ.1996 Hifter และพวกอีก 600 คนก็เป็นคนจัดการ แต่ไม่สำเร็จ น่าจะทำให้ราคาเขาตกลงพอสมควร แต่ตอนนี้อเมริกาคงไม่มีตัวเลือกเหลือมากนักสำหรับรายการ เก็บกวาดลิเบีย รอบสุดท้าย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 20 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคอาเจียนจากกัญชา: ปรากฏการณ์ใหม่ในสหรัฐฯ

    ข่าวนี้เล่าถึง Cannabinoid Hyperemesis Syndrome (CHS) หรืออาการอาเจียนรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการใช้กัญชาเรื้อรัง ซึ่งกำลังพบมากขึ้นในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2020

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Illinois Chicago พบว่า จำนวนผู้ป่วย CHS ที่เข้าห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ระหว่างปี 2016–2022 จาก 4 รายต่อประชากร 100,000 คน เป็น 22 รายต่อประชากร 100,000 คน แม้ยังถือว่าเป็นโรคหายาก แต่การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงความสำคัญที่สังคมและวงการแพทย์ต้องจับตามอง

    ลักษณะและอาการของ CHS
    CHS มักเกิดในผู้ใช้กัญชาเป็นเวลาหลายปี โดยเริ่มจากอาการคลื่นไส้หรือปวดท้องในตอนเช้า ก่อนจะพัฒนาเป็น อาการอาเจียนรุนแรงและต่อเนื่อง หลังใช้กัญชา อาการอาจคงอยู่หลายวันและทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาซ้ำ ๆ ที่น่าสนใจคือ การอาบน้ำร้อนหรืออาบน้ำอุ่นสามารถบรรเทาอาการได้ชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง

    ปัจจัยที่ทำให้เพิ่มขึ้น
    ช่วงการระบาด COVID-19 (2020–2021) ถูกมองว่าเป็นตัวเร่งให้ CHS เพิ่มขึ้น เนื่องจากความเครียด การแยกตัว และการใช้กัญชามากขึ้น นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่า การรับรู้และการวินิจฉัยที่ดีขึ้น ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงการใช้กัญชาที่มากขึ้นเท่านั้น

    ความท้าทายในการวินิจฉัย
    CHS มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome (CVS) ซึ่งมีวิธีรักษาต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง บางรายถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า “แกล้งทำ” อาการ ทั้งที่จริงแล้วเป็นโรคที่มีอยู่จริงและกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นในวงการแพทย์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย CHS ในสหรัฐฯ
    จาก 4 รายต่อ 100,000 คน (2016) เป็น 22 รายต่อ 100,000 คน (2022)
    พบมากในภูมิภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือ

    ลักษณะอาการของ CHS
    คลื่นไส้ ปวดท้อง และอาเจียนรุนแรง
    อาบน้ำร้อนช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีรักษา

    ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
    การใช้กัญชาเรื้อรัง โดยเฉพาะในคนอายุน้อย
    ความเครียดและการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นช่วง COVID-19

    ความท้าทายในการวินิจฉัย
    มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome
    ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

    https://www.sciencealert.com/vomiting-syndrome-linked-to-cannabis-is-on-the-rise-in-the-us
    🚨 โรคอาเจียนจากกัญชา: ปรากฏการณ์ใหม่ในสหรัฐฯ ข่าวนี้เล่าถึง Cannabinoid Hyperemesis Syndrome (CHS) หรืออาการอาเจียนรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการใช้กัญชาเรื้อรัง ซึ่งกำลังพบมากขึ้นในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2020 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Illinois Chicago พบว่า จำนวนผู้ป่วย CHS ที่เข้าห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ระหว่างปี 2016–2022 จาก 4 รายต่อประชากร 100,000 คน เป็น 22 รายต่อประชากร 100,000 คน แม้ยังถือว่าเป็นโรคหายาก แต่การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงความสำคัญที่สังคมและวงการแพทย์ต้องจับตามอง 🧑‍⚕️ ลักษณะและอาการของ CHS CHS มักเกิดในผู้ใช้กัญชาเป็นเวลาหลายปี โดยเริ่มจากอาการคลื่นไส้หรือปวดท้องในตอนเช้า ก่อนจะพัฒนาเป็น อาการอาเจียนรุนแรงและต่อเนื่อง หลังใช้กัญชา อาการอาจคงอยู่หลายวันและทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาซ้ำ ๆ ที่น่าสนใจคือ การอาบน้ำร้อนหรืออาบน้ำอุ่นสามารถบรรเทาอาการได้ชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง 📈 ปัจจัยที่ทำให้เพิ่มขึ้น ช่วงการระบาด COVID-19 (2020–2021) ถูกมองว่าเป็นตัวเร่งให้ CHS เพิ่มขึ้น เนื่องจากความเครียด การแยกตัว และการใช้กัญชามากขึ้น นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่า การรับรู้และการวินิจฉัยที่ดีขึ้น ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงการใช้กัญชาที่มากขึ้นเท่านั้น ⚠️ ความท้าทายในการวินิจฉัย CHS มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome (CVS) ซึ่งมีวิธีรักษาต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง บางรายถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า “แกล้งทำ” อาการ ทั้งที่จริงแล้วเป็นโรคที่มีอยู่จริงและกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นในวงการแพทย์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย CHS ในสหรัฐฯ ➡️ จาก 4 รายต่อ 100,000 คน (2016) เป็น 22 รายต่อ 100,000 คน (2022) ➡️ พบมากในภูมิภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ ลักษณะอาการของ CHS ➡️ คลื่นไส้ ปวดท้อง และอาเจียนรุนแรง ➡️ อาบน้ำร้อนช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีรักษา ✅ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ➡️ การใช้กัญชาเรื้อรัง โดยเฉพาะในคนอายุน้อย ➡️ ความเครียดและการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นช่วง COVID-19 ‼️ ความท้าทายในการวินิจฉัย ⛔ มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome ⛔ ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง https://www.sciencealert.com/vomiting-syndrome-linked-to-cannabis-is-on-the-rise-in-the-us
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Vomiting Syndrome Linked to Cannabis Is on The Rise in The US
    A rare vomiting condition associated with chronic cannabis use is becoming more common at emergency departments in the US.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure

    ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika
    อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB
    มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส
    รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android
    มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering)
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด
    OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs
    Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง
    บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🛡️ React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure 📄 ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering) 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: SAFE Chips Act จำกัดการส่งออกชิป AI ไปจีน

    ร่างกฎหมาย SAFE Chips Act (Secure and Feasible Exports of Chips Act of 2025) ถูกเสนอโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต มีเป้าหมายเพื่อ ล็อกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI และ HPC ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยออกไว้แล้วให้กลายเป็นกฎหมายถาวร หากผ่าน จะทำให้บริษัทอย่าง Nvidia และ AMD ไม่สามารถขายชิปสถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Blackwell หรือ MI355X ให้กับจีนได้ในช่วง 30 เดือนข้างหน้า

    รายละเอียดทางเทคนิคของข้อจำกัด
    ชิปที่ถูกจัดว่าเป็น “ขั้นสูง” จะถูกควบคุมตามเกณฑ์ ECCN 3A090/4A090
    เกณฑ์ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ เช่น TPP ≥ 4,800, แบนด์วิดท์ DRAM ≥ 4,100 GB/s, และแบนด์วิดท์รวม DRAM+Interconnect ≥ 5,000 GB/s
    Nvidia และ AMD จึงสามารถขายได้เพียง H20 และ MI308 ที่ถูกออกแบบให้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    แม้ Nvidia และ AMD จะยังสามารถขายรุ่นลดสเปกให้จีน แต่คู่แข่งในประเทศ เช่น Huawei Ascend 910C และ Ascend 950 กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้จีนอาจลดการพึ่งพาชิปจากสหรัฐฯ และเร่งสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ขณะที่ Nvidia เตือนว่าการห้ามขายชิปขั้นสูงอาจทำให้บริษัทสูญเสียตลาดและเปิดโอกาสให้จีนครองความเป็นผู้นำในอนาคต

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    ร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส แต่หากบังคับใช้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทสหรัฐฯ และการลงทุนด้าน R&D ขณะเดียวกันก็อาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SAFE Chips Act เสนอจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงไปจีน
    อนุญาตให้ขายเฉพาะ Nvidia H20 และ AMD MI308 จนถึงปี 2028

    ข้อจำกัดทางเทคนิคตาม ECCN 3A090/4A090
    ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ TPP, DRAM และ Interconnect bandwidth

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    จีนเร่งพัฒนา Huawei Ascend ที่แรงกว่า H20 และ MI308

    คำเตือนและข้อกังวล
    Nvidia อาจสูญเสียตลาดและรายได้มหาศาล
    การห้ามขายอาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีเร็วขึ้นและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/senators-lobby-for-safe-chips-act-which-would-curb-leading-edge-ai-chip-exports-to-china-proposed-bill-would-restrict-amd-and-nvidia-to-h20-mi308-class-accelerator-sales-until-2028
    🏛️ ข่าวใหญ่: SAFE Chips Act จำกัดการส่งออกชิป AI ไปจีน ร่างกฎหมาย SAFE Chips Act (Secure and Feasible Exports of Chips Act of 2025) ถูกเสนอโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต มีเป้าหมายเพื่อ ล็อกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI และ HPC ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยออกไว้แล้วให้กลายเป็นกฎหมายถาวร หากผ่าน จะทำให้บริษัทอย่าง Nvidia และ AMD ไม่สามารถขายชิปสถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Blackwell หรือ MI355X ให้กับจีนได้ในช่วง 30 เดือนข้างหน้า 🔧 รายละเอียดทางเทคนิคของข้อจำกัด 💠 ชิปที่ถูกจัดว่าเป็น “ขั้นสูง” จะถูกควบคุมตามเกณฑ์ ECCN 3A090/4A090 💠 เกณฑ์ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ เช่น TPP ≥ 4,800, แบนด์วิดท์ DRAM ≥ 4,100 GB/s, และแบนด์วิดท์รวม DRAM+Interconnect ≥ 5,000 GB/s 💠 Nvidia และ AMD จึงสามารถขายได้เพียง H20 และ MI308 ที่ถูกออกแบบให้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว 🌍 ผลกระทบต่อการแข่งขัน แม้ Nvidia และ AMD จะยังสามารถขายรุ่นลดสเปกให้จีน แต่คู่แข่งในประเทศ เช่น Huawei Ascend 910C และ Ascend 950 กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้จีนอาจลดการพึ่งพาชิปจากสหรัฐฯ และเร่งสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ขณะที่ Nvidia เตือนว่าการห้ามขายชิปขั้นสูงอาจทำให้บริษัทสูญเสียตลาดและเปิดโอกาสให้จีนครองความเป็นผู้นำในอนาคต ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล ร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส แต่หากบังคับใช้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทสหรัฐฯ และการลงทุนด้าน R&D ขณะเดียวกันก็อาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SAFE Chips Act เสนอจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงไปจีน ➡️ อนุญาตให้ขายเฉพาะ Nvidia H20 และ AMD MI308 จนถึงปี 2028 ✅ ข้อจำกัดทางเทคนิคตาม ECCN 3A090/4A090 ➡️ ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ TPP, DRAM และ Interconnect bandwidth ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน ➡️ จีนเร่งพัฒนา Huawei Ascend ที่แรงกว่า H20 และ MI308 ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ Nvidia อาจสูญเสียตลาดและรายได้มหาศาล ⛔ การห้ามขายอาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีเร็วขึ้นและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/senators-lobby-for-safe-chips-act-which-would-curb-leading-edge-ai-chip-exports-to-china-proposed-bill-would-restrict-amd-and-nvidia-to-h20-mi308-class-accelerator-sales-until-2028
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents

    Microsoft เคยประกาศว่า “ยุคของ AI Agents” ได้เริ่มต้นแล้ว โดยนำเสนอเครื่องมือที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนอัตโนมัติ เช่น สร้างรายงานลูกค้า หรือจัดทำแดชบอร์ดจากข้อมูลการขาย แต่รายงานล่าสุดเผยว่า ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า หลายหน่วยงาน Azure ในสหรัฐฯ ไม่สามารถทำยอดเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งไว้ ส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตลงจากเดิม 50% เหลือเพียง 25%

    ปัญหาที่ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจ
    แม้ Microsoft จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Word, Excel และ PowerPoint รวมถึงเครื่องมือสร้าง Agent ผ่าน Azure AI Foundry และ Copilot Studio แต่ลูกค้าองค์กรจำนวนมากยังไม่พร้อมจ่ายในราคาสูงเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ ปัญหาหลักคือ ความไม่เสถียรและความผิดพลาดของ AI Agents ที่ยังมีแนวโน้มสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) และอาจนำไปสู่ความเสียหายทางธุรกิจ

    การแข่งขันและความท้าทาย
    Microsoft ยังเผชิญกับความท้าทายด้านแบรนด์ เนื่องจากหลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT ของ OpenAI แทน Copilot โดยมองว่าใช้งานง่ายและเป็นที่นิยมมากกว่า ตัวอย่างเช่น บริษัท Amgen ที่ซื้อ Copilot ให้พนักงานกว่า 20,000 คน แต่พนักงานกลับเลือกใช้ ChatGPT ในงานส่วนใหญ่ ทำให้ Copilot ถูกใช้เพียงในงานที่ผูกกับระบบ Microsoft เช่น Outlook และ Teams

    ความเสี่ยงและอนาคตของ AI Agents
    แม้แนวคิด Agentic AI จะถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญสู่ Artificial General Intelligence (AGI) แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดด้านความ “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา AI Agents อาจตีความผิดและสร้างความเสียหายได้ Microsoft ยังคงลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI แต่รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากบริษัท AI อื่น ๆ ที่เช่า Cloud มากกว่าลูกค้าองค์กรที่นำไปใช้จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents ลงครึ่งหนึ่ง
    จาก 50% เหลือ 25% หลังยอดขายไม่ถึงเป้า

    ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจในความเสถียรของ AI Agents
    ปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) ทำให้เสี่ยงต่อธุรกิจ

    การแข่งขันกับ ChatGPT ของ OpenAI
    หลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT มากกว่า Copilot

    คำเตือนต่อการใช้งาน AI Agents
    ระบบยัง “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา
    อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงหากนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

    https://arstechnica.com/ai/2025/12/microsoft-slashes-ai-sales-growth-targets-as-customers-resist-unproven-agents/
    💼 ข่าวใหญ่: Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents Microsoft เคยประกาศว่า “ยุคของ AI Agents” ได้เริ่มต้นแล้ว โดยนำเสนอเครื่องมือที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนอัตโนมัติ เช่น สร้างรายงานลูกค้า หรือจัดทำแดชบอร์ดจากข้อมูลการขาย แต่รายงานล่าสุดเผยว่า ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า หลายหน่วยงาน Azure ในสหรัฐฯ ไม่สามารถทำยอดเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งไว้ ส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตลงจากเดิม 50% เหลือเพียง 25% 📊 ปัญหาที่ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจ แม้ Microsoft จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Word, Excel และ PowerPoint รวมถึงเครื่องมือสร้าง Agent ผ่าน Azure AI Foundry และ Copilot Studio แต่ลูกค้าองค์กรจำนวนมากยังไม่พร้อมจ่ายในราคาสูงเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ ปัญหาหลักคือ ความไม่เสถียรและความผิดพลาดของ AI Agents ที่ยังมีแนวโน้มสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) และอาจนำไปสู่ความเสียหายทางธุรกิจ 🌐 การแข่งขันและความท้าทาย Microsoft ยังเผชิญกับความท้าทายด้านแบรนด์ เนื่องจากหลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT ของ OpenAI แทน Copilot โดยมองว่าใช้งานง่ายและเป็นที่นิยมมากกว่า ตัวอย่างเช่น บริษัท Amgen ที่ซื้อ Copilot ให้พนักงานกว่า 20,000 คน แต่พนักงานกลับเลือกใช้ ChatGPT ในงานส่วนใหญ่ ทำให้ Copilot ถูกใช้เพียงในงานที่ผูกกับระบบ Microsoft เช่น Outlook และ Teams ⚠️ ความเสี่ยงและอนาคตของ AI Agents แม้แนวคิด Agentic AI จะถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญสู่ Artificial General Intelligence (AGI) แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดด้านความ “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา AI Agents อาจตีความผิดและสร้างความเสียหายได้ Microsoft ยังคงลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI แต่รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากบริษัท AI อื่น ๆ ที่เช่า Cloud มากกว่าลูกค้าองค์กรที่นำไปใช้จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents ลงครึ่งหนึ่ง ➡️ จาก 50% เหลือ 25% หลังยอดขายไม่ถึงเป้า ✅ ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจในความเสถียรของ AI Agents ➡️ ปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) ทำให้เสี่ยงต่อธุรกิจ ✅ การแข่งขันกับ ChatGPT ของ OpenAI ➡️ หลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT มากกว่า Copilot ‼️ คำเตือนต่อการใช้งาน AI Agents ⛔ ระบบยัง “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา ⛔ อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงหากนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง https://arstechnica.com/ai/2025/12/microsoft-slashes-ai-sales-growth-targets-as-customers-resist-unproven-agents/
    ARSTECHNICA.COM
    Microsoft drops AI sales targets in half after salespeople miss their quotas
    Report: Microsoft declared “the era of AI agents” in May, but enterprise customers aren’t buying.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: BMW PHEV ซ่อมยากหลังอุบัติเหตุ

    บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก

    BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่

    ความซับซ้อนของการซ่อม
    แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล

    ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
    บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
    นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้
    ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร

    ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย
    ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้
    การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง

    คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม
    หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร
    BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง

    https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
    🚗 ข่าวใหญ่: BMW PHEV ซ่อมยากหลังอุบัติเหตุ บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่ 🔧 ความซับซ้อนของการซ่อม แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล 🌍 ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ ⚠️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้ ➡️ ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร ✅ ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย ➡️ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้ ➡️ การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง ‼️ คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม ⛔ หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร ⛔ BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
    EVCLINIC.EU
    2021 > PHEV BMW iBMUCP 21F37E Post-Crash Recovery — When EU engineering becomes a synonym for “unrepairable” + “generating waste”.
    2021 > PHEV BMW iBMUCP PHEV Post-Crash Recovery — When EU engineering becomes a synonym for “unrepairable” + "generating waste". If you own a BMW PHEV — or if you’re an insurance company — every pothole, every curb impact, small or large incideng and even any rabbit jumping out of a bush repre
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ

    นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect

    ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง

    วิธีการแพร่กระจาย
    มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี

    วิธีป้องกัน
    ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat
    บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password
    ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม

    วิธีแพร่กระจาย
    ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น
    ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน
    พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat

    วิธีป้องกัน
    ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น
    ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง
    แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล

    https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    📰 ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง 🎭 วิธีการแพร่กระจาย มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ 🏢 ความเสี่ยงต่อธุรกิจ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี 🔒 วิธีป้องกัน ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat ➡️ บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password ➡️ ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม ✅ วิธีแพร่กระจาย ➡️ ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น ➡️ ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง ✅ ความเสี่ยงต่อธุรกิจ ➡️ เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน ➡️ พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ✅ วิธีป้องกัน ➡️ ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น ➡️ ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง ⛔ แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    HACKREAD.COM
    New Variant of ClayRat Android Spyware Seize Full Device Control
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าเดือด! เจนสุดา ปานโต หนึ่งในเหยื่อที่ถูก “นานา ไรบีนา” โกงกว่า 40 ล้าน ออกมาฟาดตรงๆ หลังนานาโพสต์ภาพกอดลูกเหมือนเรียกคะแนนสงสาร บอกชัดเหยื่อรายอื่นก็มีลูก-ครอบครัวที่เจ็บปวด แต่ไม่เคยเอาเด็กมาเป็นคอนเทนต์ ข้าวโพด–เจนี่ รีโพสต์หนุนแรง!
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000116844
    .
    #News1live #News1 #นานาไรบีนา #เจนสุดา #โกงเงิน #ดราม่าคนดัง
    ดราม่าเดือด! เจนสุดา ปานโต หนึ่งในเหยื่อที่ถูก “นานา ไรบีนา” โกงกว่า 40 ล้าน ออกมาฟาดตรงๆ หลังนานาโพสต์ภาพกอดลูกเหมือนเรียกคะแนนสงสาร บอกชัดเหยื่อรายอื่นก็มีลูก-ครอบครัวที่เจ็บปวด แต่ไม่เคยเอาเด็กมาเป็นคอนเทนต์ ข้าวโพด–เจนี่ รีโพสต์หนุนแรง! . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000116844 . #News1live #News1 #นานาไรบีนา #เจนสุดา #โกงเงิน #ดราม่าคนดัง
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts