• บุกรวบตัวกลางโรงพยาบาลเท็กซัส อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ‘นพรัตน’ คดีทุจริตเงินทอนวัด เร่งขอตัวส่งกลับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยระหว่างหลบหนี 8 ปี อยู่อย่างสุขสบายกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่ำรวยผิดปกติกว่า 500 ล้านบาท จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีทุจริตโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัด (คดีเงินทอนวัด)นอกจากนี้คณะกรรมการ ปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายนพรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ กับพวก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 94.2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายนพรัตน์หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ก่อนปี 2560 จนถึงปัจจุบัน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5138225#m9fdgqh9rgvhmu5ljbo
    บุกรวบตัวกลางโรงพยาบาลเท็กซัส อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ‘นพรัตน’ คดีทุจริตเงินทอนวัด เร่งขอตัวส่งกลับเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยระหว่างหลบหนี 8 ปี อยู่อย่างสุขสบายกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่ำรวยผิดปกติกว่า 500 ล้านบาท จากการเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีทุจริตโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และการพัฒนาวัด (คดีเงินทอนวัด)นอกจากนี้คณะกรรมการ ปปง.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายนพรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายพนม ศรศิลป์ กับพวก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง รวมมูลค่าประมาณ 94.2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่า นายนพรัตน์หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ก่อนปี 2560 จนถึงปัจจุบัน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5138225#m9fdgqh9rgvhmu5ljbo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวจากเพจแบไต๋ระบุว่ารัฐบาลจีนออกมาเผยว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับ TikTok จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของจีน เป็นการตอบกลับกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายกำหนดเวลาที่ ByteDance จะต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ไป 75 วันสำหรับกรณีการขาย TikTok นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทำการขยายกำหนดเวลาที่ TikTok จะต้องขายกิจการให้บริษัทที่ไม่ได้มาจากจีน ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกแบนห้ามใช้ในประเทศอย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะสำเร็จก็ยากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่อนุมัติการเข้าซื้อ TikTok หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ตอนนี้สูงถึง 104% แล้วเมื่อถูกถามถึงการขยายเวลาซื้อ TikTok โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่า จีนต่อต้านการดำเนินการที่ไม่สนใจกฎหมายของเศรษฐกิจในตลาด การเข้าปล้นด้วยกำลัง และการสร้างความเสียหายให้กับสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงยังชี้ด้วยว่าการดำเนินการในกรณีของ TikTok ซึ่งรวมถึงการส่งออกเทคโนโลยี (ในที่นี้หมายถึงอัลกอริทึม) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายจีน
    รายงานข่าวจากเพจแบไต๋ระบุว่ารัฐบาลจีนออกมาเผยว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับ TikTok จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของจีน เป็นการตอบกลับกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายกำหนดเวลาที่ ByteDance จะต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ไป 75 วันสำหรับกรณีการขาย TikTok นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทำการขยายกำหนดเวลาที่ TikTok จะต้องขายกิจการให้บริษัทที่ไม่ได้มาจากจีน ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกแบนห้ามใช้ในประเทศอย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะสำเร็จก็ยากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่อนุมัติการเข้าซื้อ TikTok หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ตอนนี้สูงถึง 104% แล้วเมื่อถูกถามถึงการขยายเวลาซื้อ TikTok โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่า จีนต่อต้านการดำเนินการที่ไม่สนใจกฎหมายของเศรษฐกิจในตลาด การเข้าปล้นด้วยกำลัง และการสร้างความเสียหายให้กับสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงยังชี้ด้วยว่าการดำเนินการในกรณีของ TikTok ซึ่งรวมถึงการส่งออกเทคโนโลยี (ในที่นี้หมายถึงอัลกอริทึม) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ศศิกานต์' ถาม 'พีระพันธุ์' พูดตรงไหนหนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซัดนักข่าวเอาคำถามตัวเองมาเขียน แล้วบอกว่าท่านพูด กันแน่?
    https://www.thai-tai.tv/news/18150/
    'ศศิกานต์' ถาม 'พีระพันธุ์' พูดตรงไหนหนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซัดนักข่าวเอาคำถามตัวเองมาเขียน แล้วบอกว่าท่านพูด กันแน่? https://www.thai-tai.tv/news/18150/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 ทีมตกชั้นพรีเมียร์ลีกค่อนข้างแน่นอน (13/04/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #พรีเมียร์ลีก #ฟุตบอลอังกฤษ
    3 ทีมตกชั้นพรีเมียร์ลีกค่อนข้างแน่นอน (13/04/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #พรีเมียร์ลีก #ฟุตบอลอังกฤษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ข่าวดีสุดๆสำหรับแฟนลิเวอร์พูล (13/04/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ลิเวอร์พูล
    #ฟุตบอลอังกฤษ
    ข่าวดีสุดๆสำหรับแฟนลิเวอร์พูล (13/04/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ลิเวอร์พูล #ฟุตบอลอังกฤษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • เทสลา หยุดรับคำสั่งซื้อใหม่สำหรับรถไฟฟ้าโมเดล S และโมเดล X บนเว็บไซต์ของบริษัทในจีน จากการตรวจสอบของรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์(11เม.ย.) ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นท่ามการสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน 2 เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก

    รถยนต์ทั้ง 2 โมเดล ผลิตในสหรัฐฯและนำเข้าจีน อย่างไรก็ตามรอยเตอร์รายงานว่าคำสั่งซื้อใหม่สำหรับรถยนต์ทั้ง 2 โมเดล ไม่ปรากฏอยู่บนบัญชี WeChat ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แห่งนี้ในจีนแล้ว

    เบื้องต้นเทสลายังไม่ออกมาแสดงต่อรายงานข่าวของรอยเตอร์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035162

    #MGROnline #เทสลา
    เทสลา หยุดรับคำสั่งซื้อใหม่สำหรับรถไฟฟ้าโมเดล S และโมเดล X บนเว็บไซต์ของบริษัทในจีน จากการตรวจสอบของรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์(11เม.ย.) ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นท่ามการสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน 2 เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก • รถยนต์ทั้ง 2 โมเดล ผลิตในสหรัฐฯและนำเข้าจีน อย่างไรก็ตามรอยเตอร์รายงานว่าคำสั่งซื้อใหม่สำหรับรถยนต์ทั้ง 2 โมเดล ไม่ปรากฏอยู่บนบัญชี WeChat ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แห่งนี้ในจีนแล้ว • เบื้องต้นเทสลายังไม่ออกมาแสดงต่อรายงานข่าวของรอยเตอร์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035162 • #MGROnline #เทสลา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุริยะ’หวั่นภาระค่าดอกเบี้ย สั่งเร่งหารือรายละเอียดและขั้นตอนกฎหมายปมค่างานเพิ่มเติม รถไฟสายสีแดงหลังศาลปค.กลาง สั่ง รฟท.จ่ายเงิน 4,204 ล้านบาทให้เอกชนภายใน 60 วัน ตามคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เผยสายสีแดงเปิดใช้แล้วแต่ค่าก่อสร้างบานไม่หยุดต่อทะลุแสนล้าน

    รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เมื่อ วันที่ 12 เม.ย. 2568 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการตามข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 79/2564 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 79/2565 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 โดยให้ รฟท.ชำระเงินให้ กิจการร่วมค้า เอส ยู ที่มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญา โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน สัญญา 1 งานโยธาสำหรับสถานีรถไฟบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งรฟท. ลงนามสัญญา กิจการร่วมค้า เอส ยู เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 ในวงเงินสัญญา 29,826,973,512 บาท ตามคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน เพิ่มเติม (Variation order - VO) จำนวน 4,204,286,694.83 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 27,654,882.90 บาท โดยให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035222

    #MGROnline #โครงการระบบรถไฟชานเมือง #สายสีแดง
    “สุริยะ’หวั่นภาระค่าดอกเบี้ย สั่งเร่งหารือรายละเอียดและขั้นตอนกฎหมายปมค่างานเพิ่มเติม รถไฟสายสีแดงหลังศาลปค.กลาง สั่ง รฟท.จ่ายเงิน 4,204 ล้านบาทให้เอกชนภายใน 60 วัน ตามคำชี้ขาดอนุญาโตฯ เผยสายสีแดงเปิดใช้แล้วแต่ค่าก่อสร้างบานไม่หยุดต่อทะลุแสนล้าน • รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เมื่อ วันที่ 12 เม.ย. 2568 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการตามข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 79/2564 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 79/2565 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 โดยให้ รฟท.ชำระเงินให้ กิจการร่วมค้า เอส ยู ที่มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญา โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน สัญญา 1 งานโยธาสำหรับสถานีรถไฟบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งรฟท. ลงนามสัญญา กิจการร่วมค้า เอส ยู เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 ในวงเงินสัญญา 29,826,973,512 บาท ตามคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน เพิ่มเติม (Variation order - VO) จำนวน 4,204,286,694.83 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 27,654,882.90 บาท โดยให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000035222 • #MGROnline #โครงการระบบรถไฟชานเมือง #สายสีแดง
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จิลล์ จักรพงศ์” เตือนคนแช่ว่าน ข้อห้ามเยอะ ต้องรักษาศีลห้ามผิดลูกผิดเมีย ห้ามหญิงค่อม ห้ามเลียX ห้ามกินของดิบ จะนอนยังมีข้อห้าม ถ้าผิดครูจะเน่าใน วิชานี้สำหรับอาชีพที่ต้องการความหนังเหนียว เช่น ทหาร ตำรวจ ไม่ใช่ด้านเสน่ห์เมตตา หากผิดครูแล้วต้องล้างอาคม

    กำลังเป็นข่าวฮือฮากับเรื่องราวของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เจอแฉแอบนอกใจแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่มีข่าวกับโตโน่จับได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งยังมีคลิปเสียงในรถถูกปล่อยออกมา ซึ่งก็เริ่มมีการทยอยแฉถ้อยคำในคลิป อาทิ , ตอนนี้พี่กลายเป็นชู้รึเปล่า , ระหว่างพากันหนีออกจากคอนโด เรียกกัน ที่รัก….นี่มันขับตามมามั้ย“

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035190

    #MGROnline #จิลล์จักรพงศ์ #โตโน่ภาคิน
    “จิลล์ จักรพงศ์” เตือนคนแช่ว่าน ข้อห้ามเยอะ ต้องรักษาศีลห้ามผิดลูกผิดเมีย ห้ามหญิงค่อม ห้ามเลียX ห้ามกินของดิบ จะนอนยังมีข้อห้าม ถ้าผิดครูจะเน่าใน วิชานี้สำหรับอาชีพที่ต้องการความหนังเหนียว เช่น ทหาร ตำรวจ ไม่ใช่ด้านเสน่ห์เมตตา หากผิดครูแล้วต้องล้างอาคม • กำลังเป็นข่าวฮือฮากับเรื่องราวของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เจอแฉแอบนอกใจแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่มีข่าวกับโตโน่จับได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งยังมีคลิปเสียงในรถถูกปล่อยออกมา ซึ่งก็เริ่มมีการทยอยแฉถ้อยคำในคลิป อาทิ , ตอนนี้พี่กลายเป็นชู้รึเปล่า , ระหว่างพากันหนีออกจากคอนโด เรียกกัน ที่รัก….นี่มันขับตามมามั้ย“ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035190 • #MGROnline #จิลล์จักรพงศ์ #โตโน่ภาคิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวบีบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางทหารในยูเครนว่า เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ที่ตกนั้นถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย

    แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าวว่า “รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่เครื่องบินทั้งหมด 3 ลูก โดยเป็นขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานนำวิถีจากระบบ S-400 ที่ติดตั้งภาคพื้นดิน หรือขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ R-37”

    นอกจากนี้ แหล่งข่าวรายเดิมยังปฏิเสธแนวคิดเรื่อง "การยิงพวกเดียวกัน" อย่างเด็ดขาด โดยอ้างว่าไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนในพื้นที่ดังกล่าว


    หลังเหตุการณ์นี้ นักวิเคราะห์ต่างพากันยกย่องระบบ S-400 แม้แต่สื่อตะวันตกยังต้องยอมรับถึงประสิทธิภาพของระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย
    สำนักข่าวบีบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางทหารในยูเครนว่า เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ที่ตกนั้นถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าวว่า “รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่เครื่องบินทั้งหมด 3 ลูก โดยเป็นขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานนำวิถีจากระบบ S-400 ที่ติดตั้งภาคพื้นดิน หรือขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ R-37” นอกจากนี้ แหล่งข่าวรายเดิมยังปฏิเสธแนวคิดเรื่อง "การยิงพวกเดียวกัน" อย่างเด็ดขาด โดยอ้างว่าไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนในพื้นที่ดังกล่าว หลังเหตุการณ์นี้ นักวิเคราะห์ต่างพากันยกย่องระบบ S-400 แม้แต่สื่อตะวันตกยังต้องยอมรับถึงประสิทธิภาพของระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในประเทศจีนโดยบริษัท Gigabyte ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางการค้า

    Gigabyte ได้ประกาศปรับขึ้นราคาการ์ดจอหลายรุ่น เช่น NVIDIA GeForce RTX 5090D, RTX 4060 Ti และ AMD Radeon RX 9070 XT โดยการปรับขึ้นราคานี้มีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาก่อนหน้า การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษีใหม่ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับผู้บริโภคในอุตสาหกรรมไอที เนื่องจากภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ได้ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ทำให้อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น

    ✅ การปรับขึ้นราคาการ์ดจอในจีน
    - Gigabyte ปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในจีน
    - การปรับขึ้นราคามีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4%

    ✅ ผลกระทบจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน
    - ความตึงเครียดทางการค้าอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับขึ้นราคา
    - การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษี

    ✅ ข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมไอที
    - ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน
    - อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    - การปรับขึ้นราคาอาจเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภคในจีน
    - ความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานอาจส่งผลต่อราคาสินค้าในอนาคต

    ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า
    - ความตึงเครียดทางการค้าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ
    - การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรม

    https://wccftech.com/gigabyte-has-raised-prices-of-several-nvidia-amd-gpus-in-china/
    ข่าวนี้เล่าถึงการปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในประเทศจีนโดยบริษัท Gigabyte ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางการค้า Gigabyte ได้ประกาศปรับขึ้นราคาการ์ดจอหลายรุ่น เช่น NVIDIA GeForce RTX 5090D, RTX 4060 Ti และ AMD Radeon RX 9070 XT โดยการปรับขึ้นราคานี้มีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาก่อนหน้า การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษีใหม่ที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับผู้บริโภคในอุตสาหกรรมไอที เนื่องจากภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ได้ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ทำให้อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น ✅ การปรับขึ้นราคาการ์ดจอในจีน - Gigabyte ปรับขึ้นราคาการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ในจีน - การปรับขึ้นราคามีค่าเฉลี่ยประมาณ 3%-4% ✅ ผลกระทบจากความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน - ความตึงเครียดทางการค้าอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับขึ้นราคา - การปรับขึ้นราคานี้อาจเกิดจากปัจจัยทางตลาดมากกว่าผลกระทบจากภาษี ✅ ข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมไอที - ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ยกเว้นสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน - อุตสาหกรรมไอทีปลอดภัยจากผลกระทบในระยะสั้น ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค - การปรับขึ้นราคาอาจเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภคในจีน - ความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทานอาจส่งผลต่อราคาสินค้าในอนาคต ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า - ความตึงเครียดทางการค้าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ - การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรม https://wccftech.com/gigabyte-has-raised-prices-of-several-nvidia-amd-gpus-in-china/
    WCCFTECH.COM
    Gigabyte Has Reportedly Raised Prices of Several NVIDIA & AMD GPUs in China, But The Increases Are Relatively Small
    Gigabyte has raised the prices of its NVIDIA/AMD GPUs in China, signaling that the supply chain is starting to feel the trade uncertainty.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD
    - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera
    - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
    - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40%

    ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว
    - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development
    - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO

    ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี
    - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ
    - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Broadcast Positioning System (BPS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS เพื่อเป็นระบบสำรองในกรณีที่ GPS ถูกโจมตีหรือขัดข้อง

    Broadcast Positioning System (BPS) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลในการให้ข้อมูลตำแหน่งและเวลา โดยมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ซึ่งแม้จะน้อยกว่า GPS ที่มีความแม่นยำ 10 นาโนวินาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน BPS ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง และมีความแม่นยำในรัศมีประมาณ 100 เมตร

    เทคโนโลยีนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในปี 2029 นอกจากนี้ BPS ยังสามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี

    ✅ การพัฒนา Broadcast Positioning System (BPS)
    - ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS
    - มีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที

    ✅ การใช้งานและความพร้อม
    - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง
    - คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และเพิ่มฟีเจอร์ในปี 2029

    ✅ การยืนยันข้อมูล GPS
    - BPS สามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS
    - ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี

    ℹ️ ข้อจำกัดของ BPS
    - ความแม่นยำต่ำกว่า GPS และต้องการสถานีส่งสัญญาณหลายแห่ง
    - การใช้งานอาจจำกัดในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ATSC 3.0

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - หากระบบ BPS ถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่พึ่งพาเทคโนโลยีนี้
    - การพัฒนาระบบสำรองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/service-providers/tv-signal-based-bps-tested-as-fallback-for-gps-digital-tv-infrastructure-could-come-to-the-rescue-if-satellites-are-compromised
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Broadcast Positioning System (BPS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS เพื่อเป็นระบบสำรองในกรณีที่ GPS ถูกโจมตีหรือขัดข้อง Broadcast Positioning System (BPS) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลในการให้ข้อมูลตำแหน่งและเวลา โดยมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ซึ่งแม้จะน้อยกว่า GPS ที่มีความแม่นยำ 10 นาโนวินาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน BPS ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง และมีความแม่นยำในรัศมีประมาณ 100 เมตร เทคโนโลยีนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในปี 2029 นอกจากนี้ BPS ยังสามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี ✅ การพัฒนา Broadcast Positioning System (BPS) - ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS - มีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ✅ การใช้งานและความพร้อม - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง - คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และเพิ่มฟีเจอร์ในปี 2029 ✅ การยืนยันข้อมูล GPS - BPS สามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS - ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี ℹ️ ข้อจำกัดของ BPS - ความแม่นยำต่ำกว่า GPS และต้องการสถานีส่งสัญญาณหลายแห่ง - การใช้งานอาจจำกัดในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ATSC 3.0 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - หากระบบ BPS ถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่พึ่งพาเทคโนโลยีนี้ - การพัฒนาระบบสำรองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งสำคัญ https://www.tomshardware.com/service-providers/tv-signal-based-bps-tested-as-fallback-for-gps-digital-tv-infrastructure-could-come-to-the-rescue-if-satellites-are-compromised
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงกรานต์ "ถนนข้าวสาร" เริ่มแล้ว : [News story]

    เปิดไฮไลต์สงกรานต์ข้าวสาร 2568 อีกหนึ่งสถานที่เล่นน้ำสงกรานต์ยอดนิยมที่หนึ่งในกรุงเทพ พร้อมกฎข้อบังคับให้นักท่องเที่ยวได้เตรียมตัว และเล่นน้ำอย่างปลอดภัยในปีนี้
    สงกรานต์ "ถนนข้าวสาร" เริ่มแล้ว : [News story] เปิดไฮไลต์สงกรานต์ข้าวสาร 2568 อีกหนึ่งสถานที่เล่นน้ำสงกรานต์ยอดนิยมที่หนึ่งในกรุงเทพ พร้อมกฎข้อบังคับให้นักท่องเที่ยวได้เตรียมตัว และเล่นน้ำอย่างปลอดภัยในปีนี้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • เมื่อเวลา 0.42 น. ของวันที่ 12 เมษายน ทางกลุ่มบริษัทบางจากได้มีการส่ง SMS แจ้งเตือนสมาชิกซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ เกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ดังรายละเอียดใน SMS ดังนี้"บริษัทขอแจ้งว่าได้ตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกละเมิด จากเหตุดังกล่าวบริษัทได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้โปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ส่ง OTP ให้บุคคลอื่นและระวังการแอบอ้างบริษัทในการทำธุรกรรมต่างๆ หากมีข้อสอบถามโปรดติดต่อ 1651 กด4(08.00-21.00น.) บริษัทขออภัยอย่างสูงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด"โดยทีมงานได้ติดต่อแหล่งข่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ถึงสาเหตุการรั่วไหลครั้งนี้ โดยได้รับการชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลรั่วไหลตั้งเมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ทางทีมงาน IT จำเป็นต้องส่ง SMS ให้แก่ลูกค้าสมาชิกต่างๆ พร้อมกับอาจจะต้องทำรายงานเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทรวงดีอีต่อไป
    เมื่อเวลา 0.42 น. ของวันที่ 12 เมษายน ทางกลุ่มบริษัทบางจากได้มีการส่ง SMS แจ้งเตือนสมาชิกซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ เกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ดังรายละเอียดใน SMS ดังนี้"บริษัทขอแจ้งว่าได้ตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกละเมิด จากเหตุดังกล่าวบริษัทได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้โปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ส่ง OTP ให้บุคคลอื่นและระวังการแอบอ้างบริษัทในการทำธุรกรรมต่างๆ หากมีข้อสอบถามโปรดติดต่อ 1651 กด4(08.00-21.00น.) บริษัทขออภัยอย่างสูงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด"โดยทีมงานได้ติดต่อแหล่งข่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ถึงสาเหตุการรั่วไหลครั้งนี้ โดยได้รับการชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลรั่วไหลตั้งเมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ทางทีมงาน IT จำเป็นต้องส่ง SMS ให้แก่ลูกค้าสมาชิกต่างๆ พร้อมกับอาจจะต้องทำรายงานเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทรวงดีอีต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เตือน หลังโซเชียลฯ แชร์คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ พร้อมวอนประชาชนหยุดการกระทำดังกล่าว และเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    วันนี้ (12 เม.ย.) เพจ “ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย“ ได้โพสต์ข้อความเตือนระบุว่า “การรถไฟฯ เตือน หยุดพฤติกรรมอันตราย หลังพบโซเชียลฯ แพร่คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ วอนประชาชนเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ภายหลังพบคลิปถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการนำดินมาถมระหว่างรางรถไฟเพื่อจะขับรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ ซึ่งนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อรางรถไฟ และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารที่อยู่ภายในขบวนรถอีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035060

    #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์เตือน หลังโซเชียลฯ แชร์คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ พร้อมวอนประชาชนหยุดการกระทำดังกล่าว และเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน • วันนี้ (12 เม.ย.) เพจ “ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย“ ได้โพสต์ข้อความเตือนระบุว่า “การรถไฟฯ เตือน หยุดพฤติกรรมอันตราย หลังพบโซเชียลฯ แพร่คลิปถมดินระหว่างราง เพื่อนำรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ วอนประชาชนเคารพกฎระเบียบ ร่วมกันสร้างวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน • การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ภายหลังพบคลิปถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการนำดินมาถมระหว่างรางรถไฟเพื่อจะขับรถเกี่ยวข้าวข้ามทางรถไฟ ซึ่งนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อรางรถไฟ และยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารที่อยู่ภายในขบวนรถอีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035060 • #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังทำแฟนๆ พากันช็อกรับสงกรานต์ เหตุพระเอกมาดดี “โตโน่ ภาคิน คำวิสัยศักดิ์” เจอแฉแอบนอกใจแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่มีข่าวกับโตโน่จับได้คาหนังคาเขาคาคอนโด มีคลิปเสียงในรถเป็นการยืนยัน ด้านโตโน่ประกาศจะไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้

    ล่าสุดโลกออนไลน์ได้ขุดคลิปคำพูดเก่าๆ ครั้งที่โตโน่เผยถึงเรื่องแต่งงานและมีลูกกับณิชา เผยว่าไม่คิดแต่งงานมีลูกกับหวานใจ ถ้าประเทศไทยยังมีฝุ่น PM 2.5 และติด Top 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก

    “ก็บอกกับณิชาครับ เคยพูดกันเล่นๆ ว่าถ้าเกิดเรายังมี PM2.5 อยู่ และถ้าประเทศของเรายังติด 1 ใน 10 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลกอยู่ เราอย่าเพิ่งมีครอบครัว อย่าเพิ่งมีลูกเลยเพราะเราไม่อยากให้ลูกต้องสูดอากาศนั้นเข้าไป ก็อยากให้ทุกคนสนใจสิ่งแวดล้อมครับ เพื่อที่เราจะได้วางแผนครอบครัวในรูปแบบใหม่ ซึ่งณิชาก็เห็นด้วยนะ เขาบอกว่าก็จริงนะ และจริงๆ แล้วผมว่าน้องกำลังมีไฟในการทำงาน ตัวเราเองก็กำลังมีพลังมากๆ เลย ถ้าเกิดว่ามันมีเรื่องอยากให้โฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ยังไม่อยากให้มาคิดถึงเรื่องของเรามากนักครับ

    จริงๆ แล้วเรื่องแต่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะตอนไหน ทุกวันนี้ก็มีความสุขในทุกวันอยู่แล้ว ผมก็โชคดีมากๆ อยู่แล้วที่มีณิชาในชีวิตครับ แต่แผนการแต่งงานยังไม่ได้คุยกันเลยครับ แต่เรื่องลูกคุยกันจริงๆ ว่าถ้าเกิดแต่งงานแล้วมีลูก ถ้าเกิดว่าอากาศมลภาวะมันยังเป็นแบบนี้ ก็ยังไม่อยากมี เราอยากทำให้เต็มที่ก่อนแต่ถ้าเกิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว เราแก้ไม่ได้ เราสู้ไม่ไหว ค่อยมาตัดสินใจตอนนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรครับ เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องเล็ก จะแต่งตอนไหน พวกเราจะได้มาร่วมงานแต่งไหม ผมว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องที่สำคัญคือการที่เราจะทำยังไงให้กรุงเทพฯ ไม่ติด 1 ใน 10 ของ PM2.50 เชียงใหม่ไม่ติด ทะเลบ้านเราสะอาด ไม่ฟอกขาว ผมว่าอันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ส่วนเรื่องแต่งงานค่อยว่ากัน”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035049

    #MGROnline #โตโน่ภาคิน #ณิชา
    หลังทำแฟนๆ พากันช็อกรับสงกรานต์ เหตุพระเอกมาดดี “โตโน่ ภาคิน คำวิสัยศักดิ์” เจอแฉแอบนอกใจแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่มีข่าวกับโตโน่จับได้คาหนังคาเขาคาคอนโด มีคลิปเสียงในรถเป็นการยืนยัน ด้านโตโน่ประกาศจะไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้ • ล่าสุดโลกออนไลน์ได้ขุดคลิปคำพูดเก่าๆ ครั้งที่โตโน่เผยถึงเรื่องแต่งงานและมีลูกกับณิชา เผยว่าไม่คิดแต่งงานมีลูกกับหวานใจ ถ้าประเทศไทยยังมีฝุ่น PM 2.5 และติด Top 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก • “ก็บอกกับณิชาครับ เคยพูดกันเล่นๆ ว่าถ้าเกิดเรายังมี PM2.5 อยู่ และถ้าประเทศของเรายังติด 1 ใน 10 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลกอยู่ เราอย่าเพิ่งมีครอบครัว อย่าเพิ่งมีลูกเลยเพราะเราไม่อยากให้ลูกต้องสูดอากาศนั้นเข้าไป ก็อยากให้ทุกคนสนใจสิ่งแวดล้อมครับ เพื่อที่เราจะได้วางแผนครอบครัวในรูปแบบใหม่ ซึ่งณิชาก็เห็นด้วยนะ เขาบอกว่าก็จริงนะ และจริงๆ แล้วผมว่าน้องกำลังมีไฟในการทำงาน ตัวเราเองก็กำลังมีพลังมากๆ เลย ถ้าเกิดว่ามันมีเรื่องอยากให้โฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ยังไม่อยากให้มาคิดถึงเรื่องของเรามากนักครับ • จริงๆ แล้วเรื่องแต่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะตอนไหน ทุกวันนี้ก็มีความสุขในทุกวันอยู่แล้ว ผมก็โชคดีมากๆ อยู่แล้วที่มีณิชาในชีวิตครับ แต่แผนการแต่งงานยังไม่ได้คุยกันเลยครับ แต่เรื่องลูกคุยกันจริงๆ ว่าถ้าเกิดแต่งงานแล้วมีลูก ถ้าเกิดว่าอากาศมลภาวะมันยังเป็นแบบนี้ ก็ยังไม่อยากมี เราอยากทำให้เต็มที่ก่อนแต่ถ้าเกิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว เราแก้ไม่ได้ เราสู้ไม่ไหว ค่อยมาตัดสินใจตอนนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรครับ เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องเล็ก จะแต่งตอนไหน พวกเราจะได้มาร่วมงานแต่งไหม ผมว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องที่สำคัญคือการที่เราจะทำยังไงให้กรุงเทพฯ ไม่ติด 1 ใน 10 ของ PM2.50 เชียงใหม่ไม่ติด ทะเลบ้านเราสะอาด ไม่ฟอกขาว ผมว่าอันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ส่วนเรื่องแต่งงานค่อยว่ากัน” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035049 • #MGROnline #โตโน่ภาคิน #ณิชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สันธนะ” โต้ข่าวถูกยิงด้วยหนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่โพสต์กันสนุกๆ ในโลกโซเชียลฯ แต่ยอมรับเมื่อคืนไปที่รัชดาซอย 7 จริง ให้เจ้าของกิจการรดน้ำดำหัว แนะคนที่จะทำร้าย ใช้อาวุธปืนเลยดีกว่า แต่ต้องจำทะเบียนรถของตน 7 คันให้ได้ด้วย คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน

    วันนี้(12 เม.ย.) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เปิดเผยกรณีมีข่าวว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นยิงด้วยหนังสติ๊กบริเวณซอย 7 ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเมื่อคืนได้ไปสถานที่บริเวณดังกล่าว เพราะผู้ประกอบการเคารพนับถือตนอยู่ จึงได้เชิญไปเพื่อรดน้ำดำหัว และให้พรเกี่ยวกับธุรกิจของเขา โดยได้ไปช่วงเย็นและอยู่จนค่ำ กลับประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งสอดคล้องกับที่มีการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่าถูกหนังสติ๊กยิง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035044

    #MGROnline #สันธนะ
    “สันธนะ” โต้ข่าวถูกยิงด้วยหนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่โพสต์กันสนุกๆ ในโลกโซเชียลฯ แต่ยอมรับเมื่อคืนไปที่รัชดาซอย 7 จริง ให้เจ้าของกิจการรดน้ำดำหัว แนะคนที่จะทำร้าย ใช้อาวุธปืนเลยดีกว่า แต่ต้องจำทะเบียนรถของตน 7 คันให้ได้ด้วย คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน • วันนี้(12 เม.ย.) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เปิดเผยกรณีมีข่าวว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นยิงด้วยหนังสติ๊กบริเวณซอย 7 ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเมื่อคืนได้ไปสถานที่บริเวณดังกล่าว เพราะผู้ประกอบการเคารพนับถือตนอยู่ จึงได้เชิญไปเพื่อรดน้ำดำหัว และให้พรเกี่ยวกับธุรกิจของเขา โดยได้ไปช่วงเย็นและอยู่จนค่ำ กลับประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งสอดคล้องกับที่มีการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่าถูกหนังสติ๊กยิง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035044 • #MGROnline #สันธนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สันธนะ” โต้ข่าวถูกยิงด้วยหนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่โพสต์กันสนุกๆ ในโลกโซเชียลฯ แต่ยอมรับเมื่อคืนไปที่รัชดาซอย 7 จริง ให้เจ้าของกิจการรดน้ำดำหัว แนะคนที่จะทำร้าย ใช้อาวุธปืนเลยดีกว่า แต่ต้องจำทะเบียนรถของตน 7 คันให้ได้ด้วย คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035044

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “สันธนะ” โต้ข่าวถูกยิงด้วยหนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่โพสต์กันสนุกๆ ในโลกโซเชียลฯ แต่ยอมรับเมื่อคืนไปที่รัชดาซอย 7 จริง ให้เจ้าของกิจการรดน้ำดำหัว แนะคนที่จะทำร้าย ใช้อาวุธปืนเลยดีกว่า แต่ต้องจำทะเบียนรถของตน 7 คันให้ได้ด้วย คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035044 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”ก.อุตสาหกรรม-สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ“ เข้าค้น "ซิน เคอ หยวน" เก็บหลักฐานการนำเข้า-ส่งออก ครอบครอง "เหล็ก-ฝุ่นแดง" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ

    วันนี้ (12 เม.ย.) แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพนำตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อเก็บพยานเอกสารเป็นหลัก เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง จะดูย้อนหลังตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กได้เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568

    แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วน กรมสรรพากร ภาค 3 ร้องทุกข์ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558 - มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยกสำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034997

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง. #ซินเคอหยวน
    ”ก.อุตสาหกรรม-สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ“ เข้าค้น "ซิน เคอ หยวน" เก็บหลักฐานการนำเข้า-ส่งออก ครอบครอง "เหล็ก-ฝุ่นแดง" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ • วันนี้ (12 เม.ย.) แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพนำตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อเก็บพยานเอกสารเป็นหลัก เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง จะดูย้อนหลังตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กได้เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568 • แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วน กรมสรรพากร ภาค 3 ร้องทุกข์ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558 - มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยกสำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034997 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง. #ซินเคอหยวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียพร้อมที่ส่งน้ำมันให้จีนมากเท่าที่จีนต้องการ เพื่อแสดงถึงมิตรภาพที่ยั่งยืน

    — รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวกับสำนักข่าว TASS
    รัสเซียพร้อมที่ส่งน้ำมันให้จีนมากเท่าที่จีนต้องการ เพื่อแสดงถึงมิตรภาพที่ยั่งยืน — รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวกับสำนักข่าว TASS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • ครอบครัวผมถวายข้าวสารหอมมะลิ30กก.น้ำดื่ม30แพค น้อมถวายหลสงปู่ชัยยะ พระแม่ ณ.สถานปฏิบัติธรรมเต็มสิบ เพชรบูรณ์ ประจำเดือนเมษายน2568 สาธุ
    ครอบครัวผมถวายข้าวสารหอมมะลิ30กก.น้ำดื่ม30แพค น้อมถวายหลสงปู่ชัยยะ พระแม่ ณ.สถานปฏิบัติธรรมเต็มสิบ เพชรบูรณ์ ประจำเดือนเมษายน2568 สาธุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

    Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้

    ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง

    ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel

    ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล

    ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก

    https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้ ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Windows Recall is finally nearing launch, Microsoft suggests
    Microsoft wrote in a post yesterday that a preview version of Recall is being rolled out to Insiders in the Release Preview Channel on Windows 11, version...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัท Safe Superintelligence (SSI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI โดยมีบริษัทใหญ่เช่น Alphabet และ Nvidia เข้าร่วมลงทุน มาฟังกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง:

    SSI ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet และ Nvidia ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI ขั้นสูงที่ต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล Alphabet ยังได้ทำข้อตกลงผ่านแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของตนเพื่อขายชิปประมวลผล AI (TPUs) ให้กับ SSI ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ

    SSI ถูกประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ AI เนื่องจากความสำเร็จของ Sutskever ในการพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย

    ✅ การลงทุนใน SSI Alphabet และ Nvidia ร่วมลงทุนใน SSI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever

    ✅ ข้อตกลงด้านชิปประมวลผล AI Alphabet ขายชิป TPUs ให้กับ SSI เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา AI

    ✅ มูลค่าของ SSI SSI ถูกประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพ AI ที่มีชื่อเสียง

    ℹ️ ความต้องการพลังการประมวลผล การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสตาร์ทอัพที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ

    ℹ️ การแข่งขันในตลาดชิป AI ตลาดชิป AI มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Nvidia, Alphabet และ Amazon ที่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/exclusive-alphabet-nvidia-invest-in-openai-co-founder-sutskever039s-ssi-source-says
    ข่าวนี้เล่าถึงการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัท Safe Superintelligence (SSI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI โดยมีบริษัทใหญ่เช่น Alphabet และ Nvidia เข้าร่วมลงทุน มาฟังกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง: SSI ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet และ Nvidia ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI ขั้นสูงที่ต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล Alphabet ยังได้ทำข้อตกลงผ่านแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของตนเพื่อขายชิปประมวลผล AI (TPUs) ให้กับ SSI ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ SSI ถูกประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ AI เนื่องจากความสำเร็จของ Sutskever ในการพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย ✅ การลงทุนใน SSI Alphabet และ Nvidia ร่วมลงทุนใน SSI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever ✅ ข้อตกลงด้านชิปประมวลผล AI Alphabet ขายชิป TPUs ให้กับ SSI เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา AI ✅ มูลค่าของ SSI SSI ถูกประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพ AI ที่มีชื่อเสียง ℹ️ ความต้องการพลังการประมวลผล การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสตาร์ทอัพที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ℹ️ การแข่งขันในตลาดชิป AI ตลาดชิป AI มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Nvidia, Alphabet และ Amazon ที่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/exclusive-alphabet-nvidia-invest-in-openai-co-founder-sutskever039s-ssi-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-Alphabet, Nvidia invest in OpenAI co-founder Sutskever's SSI, source says
    SAN FRANCISCO (Reuters) - Alphabet and Nvidia have joined prominent venture capital investors to back Safe Superintelligence (SSI), a startup co-founded by OpenAI's former chief scientist Ilya Sutskever that has quickly risen to become one of the most valuable artificial intelligence startups months after its launch, a source familiar with the matter said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts