Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์
ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock
รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ
Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน
เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด
สรุปประเด็นสำคัญ
Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต
กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า
ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์
เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock
เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง
การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ
Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง
เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare
ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี
การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ
แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน
ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง
หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง
สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้
https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock
รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ
Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน
เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด
สรุปประเด็นสำคัญ
Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต
กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า
ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์
เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock
เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง
การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ
Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง
เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare
ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี
การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ
แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน
ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง
หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง
สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้
https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
🛡️ Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์
ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock
รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ
Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน
เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต
➡️ กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า
➡️ ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์
✅ เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock
➡️ เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง
➡️ การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ
✅ Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
➡️ คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง
➡️ เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare
‼️ ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี
⛔ การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ
⛔ แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน
‼️ ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง
⛔ หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง
⛔ สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้
https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
0 Comments
0 Shares
24 Views
0 Reviews