• รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล เบซาเลล สโมทริช กล่าวใน "วันเยรูซาเล็ม" ซึ่งอิสราเอลถือเป็นวันสำคัญของชาวยิว ที่สามารถยึดครองดินแดนเยรูซาเล็มไว้สำเร็จในปี 1967:

    “เราไม่กลัวที่จะเอ่ยคำว่าเรากำลัง "ยึดครอง"
    และตอนนี้เรากำลังปลดปล่อยกาซา เพื่อเข้าไปตั้งถิ่นที่อยู่ของเรา”

    “เราอยู่ในจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี ในสถานที่ภูเขาแห่งนี้ เราทุกคนขอบคุณพระเจ้า”

    “เราทุกคนขอส่งกำลังใจให้พระเจ้า ส่งกำลังใจให้ทหารกล้าของเราหลายหมื่นนายที่กำลังต่อสู้ในกาซาเพื่อนำพาความยั่งยืนมาให้พวกเรา เพื่อให้เราได้ภาคภูมิใจ แม้จะมีใครบางคนที่ไม่ชอบใจกับชัยชนะครั้งนี้ แต่นั่นไม่ใช่พวกเรา เรามาส่งกำลังใจให้ทหารของเรากันเถอะ! เรากลัวชัยชนะหรือไม่ เรากลัวคำว่ายึดครองหรือไม่ เราคือชาวอิสราเอลผู้ดำรงอยู่ เราคือผู้ปลดปล่อยกาซา เราจะตั้งรกรากในกาซา เราจะชนะศัตรู!!”
    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล เบซาเลล สโมทริช กล่าวใน "วันเยรูซาเล็ม" ซึ่งอิสราเอลถือเป็นวันสำคัญของชาวยิว ที่สามารถยึดครองดินแดนเยรูซาเล็มไว้สำเร็จในปี 1967: “เราไม่กลัวที่จะเอ่ยคำว่าเรากำลัง "ยึดครอง" และตอนนี้เรากำลังปลดปล่อยกาซา เพื่อเข้าไปตั้งถิ่นที่อยู่ของเรา” “เราอยู่ในจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี ในสถานที่ภูเขาแห่งนี้ เราทุกคนขอบคุณพระเจ้า” “เราทุกคนขอส่งกำลังใจให้พระเจ้า ส่งกำลังใจให้ทหารกล้าของเราหลายหมื่นนายที่กำลังต่อสู้ในกาซาเพื่อนำพาความยั่งยืนมาให้พวกเรา เพื่อให้เราได้ภาคภูมิใจ แม้จะมีใครบางคนที่ไม่ชอบใจกับชัยชนะครั้งนี้ แต่นั่นไม่ใช่พวกเรา เรามาส่งกำลังใจให้ทหารของเรากันเถอะ! เรากลัวชัยชนะหรือไม่ เรากลัวคำว่ายึดครองหรือไม่ เราคือชาวอิสราเอลผู้ดำรงอยู่ เราคือผู้ปลดปล่อยกาซา เราจะตั้งรกรากในกาซา เราจะชนะศัตรู!!”
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" ชี้ช่อง "ยิ่งลักษณ์" สู้คดีจำนำข้าว อาจไม่ต้องจ่ายถึงหมื่นล้าน เพราะกระทรวงคลังได้รับชดเชยมาจากส่วนอื่นแล้ว ต้องไปคำนวณใหม่ อาจโดนปรับไม่ถึงหมื่นล้าน ซึ่งขอใช้สิทธิตั้งคดีใหม่ได้ภายใน 90 วันตามกระบวนการ ยอมรับคุยกันบ้าง ส่วนจะกลับบ้านเมื่อไหร่รอพายุสงบก่อนเพราะมีคนปั่นเยอะ ส่วนลุงป้อมล้ม ”น่าสงสาร“

    วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าศาลปกครองสูงสุดอธิบายชัดเจนว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงการคลังว่าออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ถูกต้อง ที่ต้องให้ชดใช้เงินค่าเสียหายถึง 35,000 ล้านบาท โดยเห็นควรให้ชดใช้เฉพาะบางส่วน เป็นเงินเพียง10,028 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ยังสามารถใช้สิทธิ์ในการเสนอขอตั้งคดีใหม่ภายใน 90 วันได้ และต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการและช่องทางของกฎหมาย

    "ศาลได้อธิบายอีกครั้งหนึ่ง ว่าเรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์เป็นโจทย์ เค้าไม่ได้เป็นจําเลย เพราะฉะนั้นเนี่ย คุณยิ่งลักษณ์ฟ้อง ว่ากระทรวงการคลังทําไม่ถูก ใช้งานออกสาร ออกมติทางปกครองเนี่ยไม่ถูก แล้วจะปรับตั้ง 35,000 ศาลก็เลยบอกว่าเท่าที่ตรวจดูแล้วเนี่ยบางบางอันก็ถูก บางอันก็ไม่ถูก แต่สรุปแล้วว่าปรับได้ไม่เกิน 10,028 ล้านเนี่ย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049628

    #MGROnline #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #คดีจำนำข้าว
    "ทักษิณ" ชี้ช่อง "ยิ่งลักษณ์" สู้คดีจำนำข้าว อาจไม่ต้องจ่ายถึงหมื่นล้าน เพราะกระทรวงคลังได้รับชดเชยมาจากส่วนอื่นแล้ว ต้องไปคำนวณใหม่ อาจโดนปรับไม่ถึงหมื่นล้าน ซึ่งขอใช้สิทธิตั้งคดีใหม่ได้ภายใน 90 วันตามกระบวนการ ยอมรับคุยกันบ้าง ส่วนจะกลับบ้านเมื่อไหร่รอพายุสงบก่อนเพราะมีคนปั่นเยอะ ส่วนลุงป้อมล้ม ”น่าสงสาร“ • วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าศาลปกครองสูงสุดอธิบายชัดเจนว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงการคลังว่าออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ถูกต้อง ที่ต้องให้ชดใช้เงินค่าเสียหายถึง 35,000 ล้านบาท โดยเห็นควรให้ชดใช้เฉพาะบางส่วน เป็นเงินเพียง10,028 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ยังสามารถใช้สิทธิ์ในการเสนอขอตั้งคดีใหม่ภายใน 90 วันได้ และต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการและช่องทางของกฎหมาย • "ศาลได้อธิบายอีกครั้งหนึ่ง ว่าเรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์เป็นโจทย์ เค้าไม่ได้เป็นจําเลย เพราะฉะนั้นเนี่ย คุณยิ่งลักษณ์ฟ้อง ว่ากระทรวงการคลังทําไม่ถูก ใช้งานออกสาร ออกมติทางปกครองเนี่ยไม่ถูก แล้วจะปรับตั้ง 35,000 ศาลก็เลยบอกว่าเท่าที่ตรวจดูแล้วเนี่ยบางบางอันก็ถูก บางอันก็ไม่ถูก แต่สรุปแล้วว่าปรับได้ไม่เกิน 10,028 ล้านเนี่ย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049628 • #MGROnline #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #คดีจำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาล ปค.แจงเป็นหน้าที่นายกฯ-รมว.คลัง-กรมบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งใหม่บังคับให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้จำนำข้าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา หน้าที่ศาลปกครองยุติแล้ว

    วันที่ 26 พ.ค.น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในฐานะกรรมการประชาพันธ์ ศาลปกครอง เปิดเผยว่าการออกมานี้ชี้แจงนี้ เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นพิจารณาเฉพาะประเด็นคำสั่งที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 9 เท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน10,028,861,880.83 บาท แล้ว บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว การดำเนินการใดใดจากนี้ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร ต้องไปดำเนินการออกคำสั่งใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา

    น.ส.สายทิพย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดใดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่าคำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า โคงการจำนำข้าวนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน จึงวินิจฉัยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย ดังนั้น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049199

    #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #จ่ายชดใช้จำนำข้าว #จำนำข้าว
    ศาล ปค.แจงเป็นหน้าที่นายกฯ-รมว.คลัง-กรมบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งใหม่บังคับให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้จำนำข้าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา หน้าที่ศาลปกครองยุติแล้ว • วันที่ 26 พ.ค.น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในฐานะกรรมการประชาพันธ์ ศาลปกครอง เปิดเผยว่าการออกมานี้ชี้แจงนี้ เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นพิจารณาเฉพาะประเด็นคำสั่งที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 9 เท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน10,028,861,880.83 บาท แล้ว บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว การดำเนินการใดใดจากนี้ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร ต้องไปดำเนินการออกคำสั่งใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา น.ส.สายทิพย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดใดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่าคำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า โคงการจำนำข้าวนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน จึงวินิจฉัยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย ดังนั้น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049199 • #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #จ่ายชดใช้จำนำข้าว #จำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ไม่ใช่การสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้ความเสียหาย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผยพิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย.2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้ว

    วันนี้ ( 26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1.คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000049119

    #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #กระทรวงการคลัง #ชดใช้ค่าสินไหม #โครงการจำนำข้าว
    ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ไม่ใช่การสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้ความเสียหาย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผยพิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย.2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้ว • วันนี้ ( 26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1.คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000049119 • #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #กระทรวงการคลัง #ชดใช้ค่าสินไหม #โครงการจำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสั่ง"ยิ่งลักษณ์" จ่ายหมื่นล้านปล่อยคนโกง : [NEWS UPDATE]
    ผู้สื่อข่าวรายการว่า คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่ากระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยล่าสุดคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้กรณีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ฐานเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว


    อย่าใจร้อนดีเอสไอมีเดิมพัน

    ดักทางรัฐประหาร

    ฟ้อง 5 ผู้ต้องหาคดีนอมินี

    ประเมินไฟใต้รุนแรงขึ้น
    ศาลสั่ง"ยิ่งลักษณ์" จ่ายหมื่นล้านปล่อยคนโกง : [NEWS UPDATE] ผู้สื่อข่าวรายการว่า คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่ากระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยล่าสุดคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้กรณีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ฐานเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว อย่าใจร้อนดีเอสไอมีเดิมพัน ดักทางรัฐประหาร ฟ้อง 5 ผู้ต้องหาคดีนอมินี ประเมินไฟใต้รุนแรงขึ้น
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 687 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้ ให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท เฉพาะส่วนที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการระบายข้าวจีทูจี ชี้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

    วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา 13.30 น.ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

    คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้องมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังดังกล่าว เท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว เนื่องจากกระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่านางสาวยิ่งลักษณ์เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมให้เพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000047914

    #MGROnline #ศาลปกครองสูงสุด #ยิ่งลักษณ์
    ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้ ให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท เฉพาะส่วนที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการระบายข้าวจีทูจี ชี้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง • วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา 13.30 น.ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย • คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้องมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังดังกล่าว เท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว เนื่องจากกระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่านางสาวยิ่งลักษณ์เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมให้เพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000047914 • #MGROnline #ศาลปกครองสูงสุด #ยิ่งลักษณ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินหมื่นสุดทางแล้ว เฟส 3 ไปไม่รอด หวังประชาชนจะเข้าใจ
    .
    แม้เรื่องการชะลอโครงการแจกเงินหมื่น จะเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ แต่ปรากฎนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงแทน จึงไม่แปลกที่เวลานี้คำถามเกี่ยวภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯครอบครัวชินวัตรคนที่ 3 นี้ ดังกระหึ่มอีกครั้ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046937

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เงินหมื่นสุดทางแล้ว เฟส 3 ไปไม่รอด หวังประชาชนจะเข้าใจ . แม้เรื่องการชะลอโครงการแจกเงินหมื่น จะเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ แต่ปรากฎนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงแทน จึงไม่แปลกที่เวลานี้คำถามเกี่ยวภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯครอบครัวชินวัตรคนที่ 3 นี้ ดังกระหึ่มอีกครั้ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046937 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1370 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐคือพายุที่หนักกว่าภาษีทรัมป์ : คนเคาะข่าว 19-05-68
    : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว #มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐ #วิกฤตการเงินสหรัฐ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจโลก #เครดิตเรทติ้ง #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #thaitimes #การคลัง #สหรัฐอเมริกา #วิกฤตหนี้ #ความเสี่ยงการลงทุน
    มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐคือพายุที่หนักกว่าภาษีทรัมป์ : คนเคาะข่าว 19-05-68 : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐ #วิกฤตการเงินสหรัฐ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจโลก #เครดิตเรทติ้ง #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #thaitimes #การคลัง #สหรัฐอเมริกา #วิกฤตหนี้ #ความเสี่ยงการลงทุน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 19-5-68
    .
    เช้าวันจันทร์วันฝนพรำ วันนี้คุณสนธิจะมาจัดหนัก จัดเต็ม ให้กับปลัดกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่จับมือกับ ผู้จัดการ กยศ. ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันศูกร์ที่ผ่านมา แก้ตัวต่าง ๆ นา ๆ กรณีปัญหาความเดือดร้อนของลูกหนี้ กยศ. ที่ถูกไล่หักหนี้อย่างไม่เป็นธรรม เหมือนกับพยายามบีบบังคับให้รีบเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้ ทั้ง ๆ ที่การดำเนินการดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้องตามกฎหมาย ... เรื่องราวจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=8URjK2feSt0
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #กยศ
    สนธิเล่าเรื่อง 19-5-68 . เช้าวันจันทร์วันฝนพรำ วันนี้คุณสนธิจะมาจัดหนัก จัดเต็ม ให้กับปลัดกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่จับมือกับ ผู้จัดการ กยศ. ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันศูกร์ที่ผ่านมา แก้ตัวต่าง ๆ นา ๆ กรณีปัญหาความเดือดร้อนของลูกหนี้ กยศ. ที่ถูกไล่หักหนี้อย่างไม่เป็นธรรม เหมือนกับพยายามบีบบังคับให้รีบเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้ ทั้ง ๆ ที่การดำเนินการดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้องตามกฎหมาย ... เรื่องราวจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=8URjK2feSt0 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #กยศ
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการคลัง  สั่งแบงก์รัฐ ลดเป้าหมายกำไร นำเงินมาทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยธุรกิจไทย จากผลกระทบภาษีสหรัฐ /ด้านออมสิน ออกสินเชื่อ Soft Loan โครงการเดิม แสนล้าน+ Soft Loan ใหม่ ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ปล่อยกู้ให้แบงก์อื่น นำไปเติมสภาพคล่องให้ Supply Chain ธุรกิจไทย ที่ส่งออกไปสหรัฐ รับมือวิกฤติกำแพงภาษี
    กระทรวงการคลัง  สั่งแบงก์รัฐ ลดเป้าหมายกำไร นำเงินมาทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยธุรกิจไทย จากผลกระทบภาษีสหรัฐ /ด้านออมสิน ออกสินเชื่อ Soft Loan โครงการเดิม แสนล้าน+ Soft Loan ใหม่ ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ปล่อยกู้ให้แบงก์อื่น นำไปเติมสภาพคล่องให้ Supply Chain ธุรกิจไทย ที่ส่งออกไปสหรัฐ รับมือวิกฤติกำแพงภาษี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 529 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • อ่านดีๆ ดูดีๆ

    ทำความรู้จัก G-Token เครื่องมือกู้เงินใหม่ของรัฐบาลไทย คล้าย ‘พันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคน’ หวังเข้าถึง ‘คนรุ่นใหม่’ เพิ่มการออมของประชาชน และเพิ่มการเข้าถึงการเงินให้ทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) มากขึ้น โดยเล็งออก G-Token ในราคาเริ่มต้น หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น ยืนยันผลตอบแทนดี สามารถซื้อได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เร็วสุดในกรกฎาคมปีนี้



    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. …. นับเป็นการเปิดทางให้ กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (Government Token: G-Token) เป็นประเทศแรกของโลก



    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่ามีขึ้นหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอแนวคิดการออกสเตเบิลคอยน์ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนการ Bond Tokenization หรือการออกโทเคนโดยมีพันธบัตรรัฐบาลหนุน (Backed)



    ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (G-Token) คืออะไร?


    ไม่ใช่เงินตรา เนื่องจาก ไม่สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือชำระเงินได้
    ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี
    เป็น ‘เครื่องมือการระดมทุน’ โดยเทียบเคียงได้กับ ‘พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง’
    เป็นการกู้เงินโดยตรงจากประชาชนของรัฐบาล


    G-Token ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต


    พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อธิบายเพิ่มเติมว่า การออก G-Token นี้เป็นการระดมทุนรูปแบบใหม่ คล้ายคลึงกับการออกพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนตามปกติของ สบน.



    โดยการออก G-Token รอบแรก คาดว่า จะออกในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงิน ภายใต้กรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568 ตามปกติ และเป็นไปตามกรอบวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ สบน. วางแผนไว้ว่าในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท



    ดังนั้นการออก G-Token ในรอบแรกนี้จึงจะไม่เพิ่ม หรือไม่กระทบต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ และไม่ใช่การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด



    ยืนยันการออกเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ


    พชรยังยืนยันว่า การออก G-Token นี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 ของ ก.ล.ต.



    “มติ ครม. วันนี้ เป็นการเปิดทางให้กระทรวงการคลัง ออก G-Token ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 10 ที่ระบุว่า การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ” พชร กล่าว



    นอกจากนี้พชรยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นี้
    อ่านดีๆ ดูดีๆ ทำความรู้จัก G-Token เครื่องมือกู้เงินใหม่ของรัฐบาลไทย คล้าย ‘พันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคน’ หวังเข้าถึง ‘คนรุ่นใหม่’ เพิ่มการออมของประชาชน และเพิ่มการเข้าถึงการเงินให้ทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) มากขึ้น โดยเล็งออก G-Token ในราคาเริ่มต้น หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น ยืนยันผลตอบแทนดี สามารถซื้อได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เร็วสุดในกรกฎาคมปีนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. …. นับเป็นการเปิดทางให้ กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (Government Token: G-Token) เป็นประเทศแรกของโลก ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่ามีขึ้นหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอแนวคิดการออกสเตเบิลคอยน์ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนการ Bond Tokenization หรือการออกโทเคนโดยมีพันธบัตรรัฐบาลหนุน (Backed) ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (G-Token) คืออะไร? ไม่ใช่เงินตรา เนื่องจาก ไม่สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือชำระเงินได้ ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี เป็น ‘เครื่องมือการระดมทุน’ โดยเทียบเคียงได้กับ ‘พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง’ เป็นการกู้เงินโดยตรงจากประชาชนของรัฐบาล G-Token ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อธิบายเพิ่มเติมว่า การออก G-Token นี้เป็นการระดมทุนรูปแบบใหม่ คล้ายคลึงกับการออกพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนตามปกติของ สบน. โดยการออก G-Token รอบแรก คาดว่า จะออกในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงิน ภายใต้กรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568 ตามปกติ และเป็นไปตามกรอบวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ สบน. วางแผนไว้ว่าในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ดังนั้นการออก G-Token ในรอบแรกนี้จึงจะไม่เพิ่ม หรือไม่กระทบต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ และไม่ใช่การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด ยืนยันการออกเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ พชรยังยืนยันว่า การออก G-Token นี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 ของ ก.ล.ต. “มติ ครม. วันนี้ เป็นการเปิดทางให้กระทรวงการคลัง ออก G-Token ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 10 ที่ระบุว่า การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ” พชร กล่าว นอกจากนี้พชรยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวเมื่อ2021นะ
    ..ผลงานอาจเริ่มจริงๆช่วงนี้,ดูดีๆนะ ว่ากันจริง พวกdeep stateโลกและสมุนขี้ข้าเครือข่ายมันล่ะ ดิ้นรนตายโดยมาก ซวยๆคือประชาชนธรรมดาแบบเราๆที่เป็นทาสในระบบทาสตังทาสแรงงานในกิจการบริษัทมันเสียนานจนพึ่งพาตนเองไม่ได้เพราะมันล่อลวงเราไปเป็นทาสในกิจการโรงงานต่างๆบริษัททั้งแม่มั้งในเครือข่ายลูกมันสาขามันสารพัดตรึม,กิจการเครือข่ายมันล้ม ปิดโลกงาน ถูกทุบ เป็นธรรมดาคนต้องตกงานออกจากกิจการเครือข่ายของพวกบริษัทซาตานมัน รวมถึงที่ไทยเรา
    ..ถ้าเดอะทีมทรัมป์คือฝ่ายแสงจริง มุกกวาดล้างฝ่ายมืดจริง ละครฉากใหญ่(ถ้าจริง) ก็ถือว่าคนทั้งโลกกำลังจะเป็นอิสระภาพ,โดยมีผู้เสียสละรับบทเจ็บจริงตายจริงปรากฎเช่นกัน,ละครระหว่างพระเจ้าฝ่ายแสงกับฝ่ายมืด มันเกินสถานะเราจะควบคุมก็ว่า,ใครติดตามพวกนี้มานานอาจรู้แล้ว เราๆตามมาทีหลัง งูปูๆตาๆก็ว่า มโนสารพัดทางนั้นล่ะ จริงเท็จไม่รู้กับเขาหรอก ชั่วชนะโลกก็ชั่วปกติ ดีชนะก็พลิกดีทั้งโลกจากเคยถูกชั่วปกครองมานานก็ต้องลุยกัน ว่าจะจริงดีจริงหรือชั่วหมด.
    ..
    ..ดูตามคลิปเก่าๆนี้ พวกเขาจับมือกันเพื่อทำลายความชั่วเลวที่ครองโลกก็ได้อีก ธรรมดาคนพวกนี้ไม่แสดงความเป็นมิตรลงตัวเนียนแบบนี้ได้ ดูคิมกับทรัมป์สิ หรือทรัมป์กับสี ทรัมป์กับปูติน พวกนี้เขาสนิทกันแน่นอน,และที่เราเห็นปัจจุบันคือละครแน่นอน ซวยๆจริงๆคือพวกdeep stateและขี้ข้าสมุนรับใช้&เครือข่ายทั่วโลกล่ะ รวมสมุนในไทยด้วย,ในไทยหากใครไม่กลับใจ ตายสถานเดียวแน่นอน.
    ..
    ..ทวนแนวทางความเชื่อเห็นของเก่าในอดีต คนหลับก็ตาย ซวยแบบโดยฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฝ่ายมืดมันแจ้งเตือนบอกขออนุญาตเอาชีวิตคนล่วงหน้าแล้วก็ว่า เพราะเวลาพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามที่เล่นหมากกันถามมัน มันจะได้ไม่น่าเกียจตอบหรือโดนพระเจ้าฝ่ายดีทุบหัวเอาข้อหาไม่บอกแจ้งนัยๆนัยยะอะไรว่าจะจัดการมนุษย์บนโลกก็ว่า ไม่ขออนุญาตพระเจ้าบอกผ่านสายมนุษย์ขอเขาอนุญาตเขามนุษย์ในการเอาชีวิตคนบนโลกก็ว่า,
    ..ยุคสมัยหน้าจะเปลี่ยนไปทางดีหรือเลวชั่วแบบใด ต้องรอดชีวิตก่อนนะในบทพิสูจน์บททดสอบการรอดชีวิตในหัวข้อนี้เพื่อเลื่อนชั้นเรียนก็ได้ หรือสู่ยุคสัมมาชีวิตอีกยุคสมัยต่อไป,ไม่มีใครบังเอิญเช่นกัน ที่ได้มาอ่าน เดินมาผ่านในข้อความนี้.

    ..💥BQQQQQQQM💥ข่าวกรองใหม่ - FOXWOLF17

    จะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ตามพระคัมภีร์เกิดขึ้น โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเปิดใช้งานกองทหาร จากนั้นก็ทิ้งระเบิดสถานที่สำคัญของกลุ่มลูเซอริเฟเรียนที่เป็นซาตานทั้งหมด ออกเงินกองทุน GESARA และพวกเราประชาชนก็สร้างขึ้นใหม่
    เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์
    สถานที่สำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติที่เป็นซาตานที่ใหญ่โตมโหฬารในโลกมีที่ไหนบ้าง? คำถามคือ วาติกัน พระราชวังบักกิงฮัน ทำเนียบขาว 2 แห่ง (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี) 3GD ในจีน อาจมีกลุ่มเซิร์นที่ชายแดนสวิส/ฝรั่งเศสก็ได้

    บริษัทยาขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น = อิสราเอล
    อิสราเอล/คาซาเรียนควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน
    สื่อ ฯลฯ
    อาคารและเขื่อนของซาตาน 34 แห่งจะพังทลาย Rods of God/DEW
    ทั่วโลก

    เครื่องบินและรถไฟลงดิน
    ไฟ/ไฟฟ้าถูกปิด
    เปลี่ยนเป็นพลังงานฟรีของ Tesla
    เซิร์ฟเวอร์/ศูนย์ข้อมูล Bitcoin ถูกโจมตีและถูกปิดไปตลอดกาล
    99.5% ของ Crypto หายไปจากเหรียญจีน เข้าสู่เหรียญ ISO20022 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลหะมีค่า
    เหตุการณ์สะเทือนขวัญสงครามโลกครั้งที่ 3 ไซเรนนิวเคลียร์
    เหตุการณ์น้ำ
    ตลาดหุ้นตกต่ำ
    กฎอัยการศึกโลก
    CASTLE ROCK - สถานการณ์จูเลียน แอสซานจ์
    ระบบควอนตัม เปิดใช้งานโปรเจกต์โอดิน
    Nesara/Gesara/RV
    การพลิกผลการเลือกตั้งผ่านศาลทหาร - FISA
    ศาลทหาร/คำสารภาพ/ภาพยนตร์ 10 วัน - เซสชั่น 3 × 8 ชั่วโมง
    10 ประเทศจะใช้ EBS เพื่อครอบคลุมทั่วโลก
    เปิดเผย
    พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    MOSSAD ของอิสราเอลควบคุมสื่อของโลกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา แนบ Q1871 ที่สรุปเรื่องนี้
    Project Odin ตามที่ Ron CodeMonkeyz กล่าวไว้เป็นเครื่องมือต่อต้านการล้มแพลตฟอร์มอันทรงพลัง
    Project Odin เป็นส่วนหนึ่งของ Quantum Starlink ระบบควอนตัมใหม่ของเราจะได้รับการคุ้มครองโดยโปรแกรมอวกาศลับนอกเหนือขอบเขตของกลุ่มลับ
    Q2337 บอกคุณว่าทรัพยากรสื่อของ Mossad จะถูกลบออก ลองนึกถึงคนอย่าง Alex Jones, Anderson Cooper เป็นต้น รวมถึงดาวเทียมของ Mossad
    หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล - ถอนตัว
    [TERM_3720x380-293476669283001]
    ทรัพยากรสื่อจะถูกลบออก
    ส่วนนี้ของ 2527 บอกคุณว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะล้มดาวเทียมสื่อของ Mossad สิ่งนี้จะทำให้สื่อทั่วโลกไม่สามารถรับชมได้ โปรดเปลี่ยนเราเป็นระบบควอนตัม นี่คือโครงการ ODIN ทั้งหมดนี้ให้เหตุผลในการเปิดใช้งานระบบ EBS ของกองทัพ หากคุณลองค้นหาจรวด TURKSAT ที่ปล่อยจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม คุณจะเห็นว่าจรวดนี้ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารทางทหารโดยเฉพาะกับโทรทัศน์และวิทยุในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียกลาง

    งานนี้ยังมีอีกหลายแง่มุม
    การดับทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน TESLA ทำลายดาวเทียมสื่อ QFS แท่งพระเจ้าบนเขื่อนและอาคาร 34 หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย
    อาคาร 34 หลังจะอยู่ในงานนี้
    อาคารเหล่านี้มีความสำคัญมาก
    เช่น ทำเนียบขาว ปราสาทหลวง พระราชวังบักกิงแฮม วาติกัน พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ คฤหาสน์เพลย์บอย และอื่นๆ
    เหตุการณ์นี้จะทำให้ตลาดหุ้นพังทลายอย่างแน่นอน รวมถึง Precision Cyber ​​ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งผู้บริหาร 13818 และ 13848 ทั้งหมดนี้เป็นการแสดง การเปลี่ยนจากธนบัตรธนาคารกลางของ Rothschild เป็นธนบัตรกระทรวงการคลังสายรุ้งซึ่งปัจจุบันได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า (ไม่ใช่น้ำมัน/สงคราม)
    เรายังคงสบายใจอยู่หรือไม่?
    หรือเราหวาดกลัว?
    การมีทั้งสองอย่างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ
    ทรัมป์รักษาสัญญาของเขา
    จงศรัทธาในพระเจ้าของเรา
    พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านพายุ

    ใครเห็นในเดือนมกราคม ประเทศต่างๆ มากถึง 10 ประเทศถูกตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมกันโดยกองกำลังอวกาศ?
    ก่อนหน้านั้น อิสราเอลก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน
    หากพวกเขาสามารถปิดเครื่อง 10 ประเทศพร้อมกันได้ พวกเขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด ยินดีต้อนรับสู่ Tesla
    จำเป็นต้องปิดเครื่อง
    ลองดู "การฝึกซ้อม" ทางทหารทั่วโลกที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้
    ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าคุณ
    เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
    การเปลี่ยนผ่านสู่ Gesara/ความยิ่งใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องเล่นบทสงครามโลกครั้งที่ 3 ปลอมๆ เพื่อส่งเสียงไซเรนในศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติทุกแห่ง
    นี่เป็นการพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถูกต้องแล้ว ความจริงที่ว่ากฎหมายทหาร Gesara มีผลบังคับใช้แล้ว ศาลทหารลับ คำสารภาพ ฯลฯ การประหารชีวิตทั้งหมด และเช่นเดียวกับกองทัพอื่นๆ พวกเขาจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา พระเจ้าชนะผู้รักชาติ ยึดแนวไว้ รัดเข็มขัดนิรภัย และเชื่อใจในแผน! ขอให้พระเจ้าอวยพร FOXWOLF17

    ที่มา
    @QNewsOfficialTV
    สนับสนุนโดย
    @DUMBSandUNDERGROUND
    @SpaceForceGalacticFederation
    ..ข่าวเมื่อ2021นะ ..ผลงานอาจเริ่มจริงๆช่วงนี้,ดูดีๆนะ ว่ากันจริง พวกdeep stateโลกและสมุนขี้ข้าเครือข่ายมันล่ะ ดิ้นรนตายโดยมาก ซวยๆคือประชาชนธรรมดาแบบเราๆที่เป็นทาสในระบบทาสตังทาสแรงงานในกิจการบริษัทมันเสียนานจนพึ่งพาตนเองไม่ได้เพราะมันล่อลวงเราไปเป็นทาสในกิจการโรงงานต่างๆบริษัททั้งแม่มั้งในเครือข่ายลูกมันสาขามันสารพัดตรึม,กิจการเครือข่ายมันล้ม ปิดโลกงาน ถูกทุบ เป็นธรรมดาคนต้องตกงานออกจากกิจการเครือข่ายของพวกบริษัทซาตานมัน รวมถึงที่ไทยเรา ..ถ้าเดอะทีมทรัมป์คือฝ่ายแสงจริง มุกกวาดล้างฝ่ายมืดจริง ละครฉากใหญ่(ถ้าจริง) ก็ถือว่าคนทั้งโลกกำลังจะเป็นอิสระภาพ,โดยมีผู้เสียสละรับบทเจ็บจริงตายจริงปรากฎเช่นกัน,ละครระหว่างพระเจ้าฝ่ายแสงกับฝ่ายมืด มันเกินสถานะเราจะควบคุมก็ว่า,ใครติดตามพวกนี้มานานอาจรู้แล้ว เราๆตามมาทีหลัง งูปูๆตาๆก็ว่า มโนสารพัดทางนั้นล่ะ จริงเท็จไม่รู้กับเขาหรอก ชั่วชนะโลกก็ชั่วปกติ ดีชนะก็พลิกดีทั้งโลกจากเคยถูกชั่วปกครองมานานก็ต้องลุยกัน ว่าจะจริงดีจริงหรือชั่วหมด. .. ..ดูตามคลิปเก่าๆนี้ พวกเขาจับมือกันเพื่อทำลายความชั่วเลวที่ครองโลกก็ได้อีก ธรรมดาคนพวกนี้ไม่แสดงความเป็นมิตรลงตัวเนียนแบบนี้ได้ ดูคิมกับทรัมป์สิ หรือทรัมป์กับสี ทรัมป์กับปูติน พวกนี้เขาสนิทกันแน่นอน,และที่เราเห็นปัจจุบันคือละครแน่นอน ซวยๆจริงๆคือพวกdeep stateและขี้ข้าสมุนรับใช้&เครือข่ายทั่วโลกล่ะ รวมสมุนในไทยด้วย,ในไทยหากใครไม่กลับใจ ตายสถานเดียวแน่นอน. .. ..ทวนแนวทางความเชื่อเห็นของเก่าในอดีต คนหลับก็ตาย ซวยแบบโดยฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฝ่ายมืดมันแจ้งเตือนบอกขออนุญาตเอาชีวิตคนล่วงหน้าแล้วก็ว่า เพราะเวลาพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามที่เล่นหมากกันถามมัน มันจะได้ไม่น่าเกียจตอบหรือโดนพระเจ้าฝ่ายดีทุบหัวเอาข้อหาไม่บอกแจ้งนัยๆนัยยะอะไรว่าจะจัดการมนุษย์บนโลกก็ว่า ไม่ขออนุญาตพระเจ้าบอกผ่านสายมนุษย์ขอเขาอนุญาตเขามนุษย์ในการเอาชีวิตคนบนโลกก็ว่า, ..ยุคสมัยหน้าจะเปลี่ยนไปทางดีหรือเลวชั่วแบบใด ต้องรอดชีวิตก่อนนะในบทพิสูจน์บททดสอบการรอดชีวิตในหัวข้อนี้เพื่อเลื่อนชั้นเรียนก็ได้ หรือสู่ยุคสัมมาชีวิตอีกยุคสมัยต่อไป,ไม่มีใครบังเอิญเช่นกัน ที่ได้มาอ่าน เดินมาผ่านในข้อความนี้. ..💥BQQQQQQQM💥ข่าวกรองใหม่ - FOXWOLF17 จะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ตามพระคัมภีร์เกิดขึ้น โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเปิดใช้งานกองทหาร จากนั้นก็ทิ้งระเบิดสถานที่สำคัญของกลุ่มลูเซอริเฟเรียนที่เป็นซาตานทั้งหมด ออกเงินกองทุน GESARA และพวกเราประชาชนก็สร้างขึ้นใหม่ เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์ สถานที่สำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติที่เป็นซาตานที่ใหญ่โตมโหฬารในโลกมีที่ไหนบ้าง? คำถามคือ วาติกัน พระราชวังบักกิงฮัน ทำเนียบขาว 2 แห่ง (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี) 3GD ในจีน อาจมีกลุ่มเซิร์นที่ชายแดนสวิส/ฝรั่งเศสก็ได้ บริษัทยาขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น = อิสราเอล อิสราเอล/คาซาเรียนควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน สื่อ ฯลฯ อาคารและเขื่อนของซาตาน 34 แห่งจะพังทลาย Rods of God/DEW ทั่วโลก เครื่องบินและรถไฟลงดิน ไฟ/ไฟฟ้าถูกปิด เปลี่ยนเป็นพลังงานฟรีของ Tesla เซิร์ฟเวอร์/ศูนย์ข้อมูล Bitcoin ถูกโจมตีและถูกปิดไปตลอดกาล 99.5% ของ Crypto หายไปจากเหรียญจีน เข้าสู่เหรียญ ISO20022 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลหะมีค่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญสงครามโลกครั้งที่ 3 ไซเรนนิวเคลียร์ เหตุการณ์น้ำ ตลาดหุ้นตกต่ำ กฎอัยการศึกโลก CASTLE ROCK - สถานการณ์จูเลียน แอสซานจ์ ระบบควอนตัม เปิดใช้งานโปรเจกต์โอดิน Nesara/Gesara/RV การพลิกผลการเลือกตั้งผ่านศาลทหาร - FISA ศาลทหาร/คำสารภาพ/ภาพยนตร์ 10 วัน - เซสชั่น 3 × 8 ชั่วโมง 10 ประเทศจะใช้ EBS เพื่อครอบคลุมทั่วโลก เปิดเผย พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง MOSSAD ของอิสราเอลควบคุมสื่อของโลกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา แนบ Q1871 ที่สรุปเรื่องนี้ Project Odin ตามที่ Ron CodeMonkeyz กล่าวไว้เป็นเครื่องมือต่อต้านการล้มแพลตฟอร์มอันทรงพลัง Project Odin เป็นส่วนหนึ่งของ Quantum Starlink ระบบควอนตัมใหม่ของเราจะได้รับการคุ้มครองโดยโปรแกรมอวกาศลับนอกเหนือขอบเขตของกลุ่มลับ Q2337 บอกคุณว่าทรัพยากรสื่อของ Mossad จะถูกลบออก ลองนึกถึงคนอย่าง Alex Jones, Anderson Cooper เป็นต้น รวมถึงดาวเทียมของ Mossad หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล - ถอนตัว [TERM_3720x380-293476669283001] ทรัพยากรสื่อจะถูกลบออก ส่วนนี้ของ 2527 บอกคุณว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะล้มดาวเทียมสื่อของ Mossad สิ่งนี้จะทำให้สื่อทั่วโลกไม่สามารถรับชมได้ โปรดเปลี่ยนเราเป็นระบบควอนตัม นี่คือโครงการ ODIN ทั้งหมดนี้ให้เหตุผลในการเปิดใช้งานระบบ EBS ของกองทัพ หากคุณลองค้นหาจรวด TURKSAT ที่ปล่อยจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม คุณจะเห็นว่าจรวดนี้ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารทางทหารโดยเฉพาะกับโทรทัศน์และวิทยุในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียกลาง งานนี้ยังมีอีกหลายแง่มุม การดับทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน TESLA ทำลายดาวเทียมสื่อ QFS แท่งพระเจ้าบนเขื่อนและอาคาร 34 หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย อาคาร 34 หลังจะอยู่ในงานนี้ อาคารเหล่านี้มีความสำคัญมาก เช่น ทำเนียบขาว ปราสาทหลวง พระราชวังบักกิงแฮม วาติกัน พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ คฤหาสน์เพลย์บอย และอื่นๆ เหตุการณ์นี้จะทำให้ตลาดหุ้นพังทลายอย่างแน่นอน รวมถึง Precision Cyber ​​ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งผู้บริหาร 13818 และ 13848 ทั้งหมดนี้เป็นการแสดง การเปลี่ยนจากธนบัตรธนาคารกลางของ Rothschild เป็นธนบัตรกระทรวงการคลังสายรุ้งซึ่งปัจจุบันได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า (ไม่ใช่น้ำมัน/สงคราม) เรายังคงสบายใจอยู่หรือไม่? หรือเราหวาดกลัว? การมีทั้งสองอย่างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ ทรัมป์รักษาสัญญาของเขา จงศรัทธาในพระเจ้าของเรา พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านพายุ ใครเห็นในเดือนมกราคม ประเทศต่างๆ มากถึง 10 ประเทศถูกตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมกันโดยกองกำลังอวกาศ? ก่อนหน้านั้น อิสราเอลก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน หากพวกเขาสามารถปิดเครื่อง 10 ประเทศพร้อมกันได้ พวกเขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด ยินดีต้อนรับสู่ Tesla จำเป็นต้องปิดเครื่อง ลองดู "การฝึกซ้อม" ทางทหารทั่วโลกที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าคุณ เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก การเปลี่ยนผ่านสู่ Gesara/ความยิ่งใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องเล่นบทสงครามโลกครั้งที่ 3 ปลอมๆ เพื่อส่งเสียงไซเรนในศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติทุกแห่ง นี่เป็นการพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถูกต้องแล้ว ความจริงที่ว่ากฎหมายทหาร Gesara มีผลบังคับใช้แล้ว ศาลทหารลับ คำสารภาพ ฯลฯ การประหารชีวิตทั้งหมด และเช่นเดียวกับกองทัพอื่นๆ พวกเขาจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา พระเจ้าชนะผู้รักชาติ ยึดแนวไว้ รัดเข็มขัดนิรภัย และเชื่อใจในแผน! ขอให้พระเจ้าอวยพร FOXWOLF17 ที่มา @QNewsOfficialTV สนับสนุนโดย @DUMBSandUNDERGROUND @SpaceForceGalacticFederation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • IRS เตรียมใช้ AI แทนพนักงาน หลังเลิกจ้างจำนวนมาก กรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) กำลังวางแผนใช้ AI เพื่อเสริมกำลังแรงงาน หลังจากมีการ ปลดพนักงานถึง 25% โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Scott Bessent ระบุว่า AI จะช่วยให้การจัดเก็บภาษียังคงมีประสิทธิภาพ แม้จะมีการลดจำนวนพนักงาน

    ตั้งแต่ต้นสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่สอง IRS สูญเสียผู้ตรวจสอบภาษีไปเกือบหนึ่งในสาม โดย กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่นำโดย Elon Musk ได้ดำเนินการลดจำนวนพนักงานผ่านการเลิกจ้างและการลาออกแบบเลื่อนกำหนด

    ✅ IRS วางแผนใช้ AI เพื่อเสริมกำลังแรงงานหลังปลดพนักงาน 25%
    - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Scott Bessent ยืนยันว่า AI จะช่วยให้การจัดเก็บภาษียังคงมีประสิทธิภาพ

    ✅ ตั้งแต่ต้นสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่สอง IRS สูญเสียผู้ตรวจสอบภาษีไปเกือบหนึ่งในสาม
    - โดย กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่นำโดย Elon Musk ดำเนินการลดจำนวนพนักงาน

    ✅ AI อาจช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - Bessent ระบุว่า การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะจะช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้น

    ✅ การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการคืนภาษี
    - แต่ IRS เชื่อว่า AI จะช่วยลดผลกระทบนี้

    ✅ DOGE ได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น IBM, Deloitte และ Gartner
    - เพื่อ ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

    https://www.techradar.com/pro/irs-could-use-ai-to-replace-workers-after-mass-layoffs
    IRS เตรียมใช้ AI แทนพนักงาน หลังเลิกจ้างจำนวนมาก กรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) กำลังวางแผนใช้ AI เพื่อเสริมกำลังแรงงาน หลังจากมีการ ปลดพนักงานถึง 25% โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Scott Bessent ระบุว่า AI จะช่วยให้การจัดเก็บภาษียังคงมีประสิทธิภาพ แม้จะมีการลดจำนวนพนักงาน ตั้งแต่ต้นสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่สอง IRS สูญเสียผู้ตรวจสอบภาษีไปเกือบหนึ่งในสาม โดย กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่นำโดย Elon Musk ได้ดำเนินการลดจำนวนพนักงานผ่านการเลิกจ้างและการลาออกแบบเลื่อนกำหนด ✅ IRS วางแผนใช้ AI เพื่อเสริมกำลังแรงงานหลังปลดพนักงาน 25% - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Scott Bessent ยืนยันว่า AI จะช่วยให้การจัดเก็บภาษียังคงมีประสิทธิภาพ ✅ ตั้งแต่ต้นสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่สอง IRS สูญเสียผู้ตรวจสอบภาษีไปเกือบหนึ่งในสาม - โดย กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ที่นำโดย Elon Musk ดำเนินการลดจำนวนพนักงาน ✅ AI อาจช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น - Bessent ระบุว่า การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะจะช่วยให้การจัดเก็บภาษีมีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้น ✅ การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการคืนภาษี - แต่ IRS เชื่อว่า AI จะช่วยลดผลกระทบนี้ ✅ DOGE ได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น IBM, Deloitte และ Gartner - เพื่อ ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล https://www.techradar.com/pro/irs-could-use-ai-to-replace-workers-after-mass-layoffs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลล็อกอินของพนักงาน DOGE ถูกขโมยและเผยแพร่บนออนไลน์ มีรายงานว่า ข้อมูลล็อกอินของ Kyle Schutt ซึ่งเป็น วิศวกรซอฟต์แวร์ที่ทำงานให้กับทั้ง CISA และ DOGE ถูกพบใน ฐานข้อมูลที่รวบรวมโดยมัลแวร์ขโมยข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของระบบรัฐบาลสหรัฐฯ

    DOGE หรือ Department of Government Efficiency เป็นหน่วยงานใหม่ที่ มี Elon Musk เป็นหนึ่งในผู้นำ และได้รับสิทธิ์เข้าถึง ระบบการเงินของรัฐบาลกลาง เช่น ระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลด้าน ความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลประชาชน

    ✅ ข้อมูลล็อกอินของ Kyle Schutt ถูกพบในฐานข้อมูลที่รวบรวมโดยมัลแวร์ขโมยข้อมูล
    - อาจทำให้ ระบบของ CISA และ DOGE เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ

    ✅ DOGE มีสิทธิ์เข้าถึงระบบการเงินของรัฐบาลกลาง
    - รวมถึง ระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    ✅ Schutt เคยเข้าถึงระบบการเงินหลักของ FEMA ในเดือนกุมภาพันธ์
    - อาจทำให้ ข้อมูลสำคัญของรัฐบาลตกอยู่ในความเสี่ยง

    ✅ มัลแวร์ขโมยข้อมูลสามารถจับข้อมูลล็อกอินจากอุปกรณ์ที่ติดเชื้อ
    - ทำให้ ข้อมูลที่พนักงานใช้ในการทำงานอาจถูกนำไปใช้โดยผู้ไม่หวังดี

    ✅ Elon Musk ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับบทบาทของเขาในรัฐบาลและธุรกิจส่วนตัว
    - มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่าง Tesla และ DOGE

    https://www.neowin.net/news/stolen-credentials-linked-to-compromised-doge-employee-found-circulating-online/
    ข้อมูลล็อกอินของพนักงาน DOGE ถูกขโมยและเผยแพร่บนออนไลน์ มีรายงานว่า ข้อมูลล็อกอินของ Kyle Schutt ซึ่งเป็น วิศวกรซอฟต์แวร์ที่ทำงานให้กับทั้ง CISA และ DOGE ถูกพบใน ฐานข้อมูลที่รวบรวมโดยมัลแวร์ขโมยข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของระบบรัฐบาลสหรัฐฯ DOGE หรือ Department of Government Efficiency เป็นหน่วยงานใหม่ที่ มี Elon Musk เป็นหนึ่งในผู้นำ และได้รับสิทธิ์เข้าถึง ระบบการเงินของรัฐบาลกลาง เช่น ระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลด้าน ความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลประชาชน ✅ ข้อมูลล็อกอินของ Kyle Schutt ถูกพบในฐานข้อมูลที่รวบรวมโดยมัลแวร์ขโมยข้อมูล - อาจทำให้ ระบบของ CISA และ DOGE เสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ ✅ DOGE มีสิทธิ์เข้าถึงระบบการเงินของรัฐบาลกลาง - รวมถึง ระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ✅ Schutt เคยเข้าถึงระบบการเงินหลักของ FEMA ในเดือนกุมภาพันธ์ - อาจทำให้ ข้อมูลสำคัญของรัฐบาลตกอยู่ในความเสี่ยง ✅ มัลแวร์ขโมยข้อมูลสามารถจับข้อมูลล็อกอินจากอุปกรณ์ที่ติดเชื้อ - ทำให้ ข้อมูลที่พนักงานใช้ในการทำงานอาจถูกนำไปใช้โดยผู้ไม่หวังดี ✅ Elon Musk ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับบทบาทของเขาในรัฐบาลและธุรกิจส่วนตัว - มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่าง Tesla และ DOGE https://www.neowin.net/news/stolen-credentials-linked-to-compromised-doge-employee-found-circulating-online/
    WWW.NEOWIN.NET
    Stolen credentials linked to compromised DOGE employee found circulating online
    A new report has surfaced that the credentials of a DOGE software engineer were present in multiple public dumps from info-stealer malware infections.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ จะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้เงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง รวมถึง "โครงการดิจิทัลวอลเล็ต" ด้วย โดยการทบทวนในครั้งนี้ มาจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดเจรจาได้ข้อสรุปชัดเจน ส่งผลให้การค้าโลกหยุดชะงัก

    รวมถึงกรณีที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ "มูดี้ส์" ออกมาเตือนเรื่องฐานะการคลังของไทย ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลัง โดยอยากเห็นการปรับแผนการใช้เงินงบประมาณ มุ่งเน้นไปที่การลงทุนมากขึ้น เพื่อรองรับการส่งออกที่อาจมีปัญหาในอนาคต

    "ผมได้ออกหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อแจ้งให้รับรู้ว่า จะมีการปรับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และให้แต่ละหน่วยงานทำการบ้านมา ว่าจะต้องทบทวน ปรับแผน และปรับการใช้เงินอย่างไร โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเอาอย่างไร จะปรับอย่างไร กรรมการทุกคนรับรู้ว่าจะมีการปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งต่างคนก็ต่างไปทำการบ้านกันมา" นายพิชัย กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000043376

    #MGROnline #โครงการดิจิทัลวอลเล็ต
    #นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ จะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้เงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง รวมถึง "โครงการดิจิทัลวอลเล็ต" ด้วย โดยการทบทวนในครั้งนี้ มาจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดเจรจาได้ข้อสรุปชัดเจน ส่งผลให้การค้าโลกหยุดชะงัก • รวมถึงกรณีที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ "มูดี้ส์" ออกมาเตือนเรื่องฐานะการคลังของไทย ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการคลัง โดยอยากเห็นการปรับแผนการใช้เงินงบประมาณ มุ่งเน้นไปที่การลงทุนมากขึ้น เพื่อรองรับการส่งออกที่อาจมีปัญหาในอนาคต • "ผมได้ออกหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อแจ้งให้รับรู้ว่า จะมีการปรับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และให้แต่ละหน่วยงานทำการบ้านมา ว่าจะต้องทบทวน ปรับแผน และปรับการใช้เงินอย่างไร โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเอาอย่างไร จะปรับอย่างไร กรรมการทุกคนรับรู้ว่าจะมีการปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งต่างคนก็ต่างไปทำการบ้านกันมา" นายพิชัย กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000043376 • #MGROnline #โครงการดิจิทัลวอลเล็ต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด!

    รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก

    แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด

    นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย
    ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด! รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก

    กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่

    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม

    ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต
    - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค
    - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024

    ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต
    - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต
    - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต
    - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
    - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์

    ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins
    - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Britain to bar consumers from borrowing to buy crypto under new regime
    LONDON (Reuters) -Britain is to restrict consumers' use of credit cards to buy crypto and their access to crypto lending products, the regulator said on Friday, a move aimed at improving protection as cryptoassets are regulated for the first time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 604 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขยับกำแพงภาษีจีน-สหรัฐน่าวิเคราะห์ว่า จะมีการขยับกำแพงภาษีจีน-สหรัฐกันอย่างไรด้านจีน ฝ่ายผู้บริโภค สินค้าจำเป็นบางอย่างจำเป็นต้องซื้อจากสหรัฐ เช่น ก๊าซอีเทน รัฐบาลใช้วิธียกเว้นแบบเงียบๆฝ่ายผู้ผลิต โรงงานอุตสาหกรรมเบาหลายแห่งต้องปิด คนงานกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด แต่การเมืองยังไม่เดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเลือกตั้งด้านสหรัฐ รูป 1 ฝ่ายผู้บริโภค รัฐบาลใช้วิธียกเว้นสินค้าจำเป็นบางอย่างไปแล้ว 22% ของยอดนำเข้าจากจีนรูป 2 แต่เนื่องจาก 37% ของสินค้าจีน เป็นชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบ ดังนั้น ขบวนการอุตสาหกรรมทั่วไปในสหรัฐ กำลังจะสะดุดนี่ยังไม่คำนึงถึงอุตสาหกรรมไฮเทคและยุทโธปกรณ์ ที่จีนแบนแร่หายากสัปดาห์ก่อน บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ได้ขอพบกับทรัมป์ แจ้งว่า สงครามภาษี จะทำให้ของเริ่มขาดตลาด ภายในไม่กี่สัปดาห์รูป 3 แสดงน่านน้ำจีน ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ S ท่าเรือนิงเบา N จำนวนเรือรอเข้า/ออก ยังมีมากรูป 4 แสดงน่านน้ำสหรัฐ ลอสแอนเจลีส L ซานฟรานซิสโก S จำนวนเรือเหลือน้อยมากSupply Chain Disruption กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐ ทั้งสินค้าคอนซูเมอร์ และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรูป 5 จะเห็นได้ว่า สินค้าจีนไปสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นของโฮเทค (สีชมพูคือเครื่องจักร เทเลคอม และรถยนต์) ซึ่งกว่าจะหาแหล่งทดแทนได้ จะใช้เวลานานสินค้าสหรัฐไปจีน เป็นของพื้นๆ ที่ทดแทนได้ง่าย (สีฟ้าคือน้ำมันและก๊าซ)รูป 6 แสดงสัดส่วนแต่ละสินค้า ที่สหรัฐซื้อจากจีน ไฟ LED และเตาไมโครเวฟ เกิน 90%สมาร์ทโฟน วีดีโอเกม และพัดลม เกิน 80% ของเล่น สินค้าพลาสติก และจอคอมพิวเตอร์ เกิน 70%แลปท้อป และแบตเตอรี่ลิเทียม เกิน 60%ด้วยเหตุนี้ ทรัมป์จะเผชิญปัญหาการเมืองภายในประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. จึงคาดกันว่า ทรัมป์จะเป็นฝ่ายที่คลายปม ก่อนสีจิ้นผิงทางเลือกที่หนึ่ง เลื่อนการใช้กำแพง 145% ออกไปชั่วคราว เหมือน 184 ประเทศที่เหลือจะแก้ปัญหาฝ่ายผู้นำเข้า ฝ่ายผู้บริโภค และผู้ผลิตอุตสาหกรรมซัพพลายเชน แต่ถ้าจีนไม่เลื่อนเวลาบังคับใช้ 125% ออกไปเช่นกัน การส่งออกสินค้าเกษตร ก็ไม่ฟื้น และไม่รู้ว่า ทรัมป์จะเดินหมาก ให้ไม่ดูเป็นการเสียหน้าได้อย่างไรรวมทั้ง การเลื่อนจะทำให้ปัญหา ค้างคาอยู่ กดดันการวางแผนธุรกิจทางเลือกที่สอง ประกาศยกเว้นสินค้าเพิ่มขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันที่ยกเว้น 22% ที่นำเข้าจากจีนขึ้นไปเป็น 30-40-50% แต่ก็จะดูเหมือนเป็นการยอมแพ้อีกเช่นกันและไม่แก้ปัญหา ด้านสหรัฐส่งออกทางเลือกที่สาม ประกาศลดจาก 145% ลงเหลือ 54% ตามตารางที่ทรัมป์ยกชูขึ้น ในการแถลงข่าวเป็นไปได้ ที่จีนจะยอมลดลงมา ล้อเลียนกัน เช่น อาจจะลดจาก 125% เหลือ 25-30%แต่ต้องยอมรับว่า อัตรา 54% ก็ยังจะทำให้คนอเมริกัน เลือดซิบ ในการควักกระเป๋าข้อบปิ้งอยู่เช่นเดิมอัตรานี้ สหรัฐจะไปไม่ได้ในระยะยาว ทางเลือกที่สี่ ประกาศแก้ไขจาก 145% กลับไปเป็น 20% ก่อนวันปลดปล่อยอิสรภาพปัญหาสงครามภาษีจะคลี่คลายทันที แต่คงต้องยกเลิกการเจรจากับ 184 ประเทศที่เหลือโฟกัสปัญหา จะเปลี่ยนไปอยู่ที่ การเมืองภายในพรรครีปับบิลกันทันทีวันที่ 29 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังhttps://www.facebook.com/share/p/1E1Z4MinwB/?mibextid=wwXIfr
    ขยับกำแพงภาษีจีน-สหรัฐน่าวิเคราะห์ว่า จะมีการขยับกำแพงภาษีจีน-สหรัฐกันอย่างไรด้านจีน ฝ่ายผู้บริโภค สินค้าจำเป็นบางอย่างจำเป็นต้องซื้อจากสหรัฐ เช่น ก๊าซอีเทน รัฐบาลใช้วิธียกเว้นแบบเงียบๆฝ่ายผู้ผลิต โรงงานอุตสาหกรรมเบาหลายแห่งต้องปิด คนงานกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด แต่การเมืองยังไม่เดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเลือกตั้งด้านสหรัฐ รูป 1 ฝ่ายผู้บริโภค รัฐบาลใช้วิธียกเว้นสินค้าจำเป็นบางอย่างไปแล้ว 22% ของยอดนำเข้าจากจีนรูป 2 แต่เนื่องจาก 37% ของสินค้าจีน เป็นชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบ ดังนั้น ขบวนการอุตสาหกรรมทั่วไปในสหรัฐ กำลังจะสะดุดนี่ยังไม่คำนึงถึงอุตสาหกรรมไฮเทคและยุทโธปกรณ์ ที่จีนแบนแร่หายากสัปดาห์ก่อน บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ได้ขอพบกับทรัมป์ แจ้งว่า สงครามภาษี จะทำให้ของเริ่มขาดตลาด ภายในไม่กี่สัปดาห์รูป 3 แสดงน่านน้ำจีน ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ S ท่าเรือนิงเบา N จำนวนเรือรอเข้า/ออก ยังมีมากรูป 4 แสดงน่านน้ำสหรัฐ ลอสแอนเจลีส L ซานฟรานซิสโก S จำนวนเรือเหลือน้อยมากSupply Chain Disruption กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐ ทั้งสินค้าคอนซูเมอร์ และชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรูป 5 จะเห็นได้ว่า สินค้าจีนไปสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นของโฮเทค (สีชมพูคือเครื่องจักร เทเลคอม และรถยนต์) ซึ่งกว่าจะหาแหล่งทดแทนได้ จะใช้เวลานานสินค้าสหรัฐไปจีน เป็นของพื้นๆ ที่ทดแทนได้ง่าย (สีฟ้าคือน้ำมันและก๊าซ)รูป 6 แสดงสัดส่วนแต่ละสินค้า ที่สหรัฐซื้อจากจีน ไฟ LED และเตาไมโครเวฟ เกิน 90%สมาร์ทโฟน วีดีโอเกม และพัดลม เกิน 80% ของเล่น สินค้าพลาสติก และจอคอมพิวเตอร์ เกิน 70%แลปท้อป และแบตเตอรี่ลิเทียม เกิน 60%ด้วยเหตุนี้ ทรัมป์จะเผชิญปัญหาการเมืองภายในประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. จึงคาดกันว่า ทรัมป์จะเป็นฝ่ายที่คลายปม ก่อนสีจิ้นผิงทางเลือกที่หนึ่ง เลื่อนการใช้กำแพง 145% ออกไปชั่วคราว เหมือน 184 ประเทศที่เหลือจะแก้ปัญหาฝ่ายผู้นำเข้า ฝ่ายผู้บริโภค และผู้ผลิตอุตสาหกรรมซัพพลายเชน แต่ถ้าจีนไม่เลื่อนเวลาบังคับใช้ 125% ออกไปเช่นกัน การส่งออกสินค้าเกษตร ก็ไม่ฟื้น และไม่รู้ว่า ทรัมป์จะเดินหมาก ให้ไม่ดูเป็นการเสียหน้าได้อย่างไรรวมทั้ง การเลื่อนจะทำให้ปัญหา ค้างคาอยู่ กดดันการวางแผนธุรกิจทางเลือกที่สอง ประกาศยกเว้นสินค้าเพิ่มขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันที่ยกเว้น 22% ที่นำเข้าจากจีนขึ้นไปเป็น 30-40-50% แต่ก็จะดูเหมือนเป็นการยอมแพ้อีกเช่นกันและไม่แก้ปัญหา ด้านสหรัฐส่งออกทางเลือกที่สาม ประกาศลดจาก 145% ลงเหลือ 54% ตามตารางที่ทรัมป์ยกชูขึ้น ในการแถลงข่าวเป็นไปได้ ที่จีนจะยอมลดลงมา ล้อเลียนกัน เช่น อาจจะลดจาก 125% เหลือ 25-30%แต่ต้องยอมรับว่า อัตรา 54% ก็ยังจะทำให้คนอเมริกัน เลือดซิบ ในการควักกระเป๋าข้อบปิ้งอยู่เช่นเดิมอัตรานี้ สหรัฐจะไปไม่ได้ในระยะยาว ทางเลือกที่สี่ ประกาศแก้ไขจาก 145% กลับไปเป็น 20% ก่อนวันปลดปล่อยอิสรภาพปัญหาสงครามภาษีจะคลี่คลายทันที แต่คงต้องยกเลิกการเจรจากับ 184 ประเทศที่เหลือโฟกัสปัญหา จะเปลี่ยนไปอยู่ที่ การเมืองภายในพรรครีปับบิลกันทันทีวันที่ 29 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังhttps://www.facebook.com/share/p/1E1Z4MinwB/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนวิกฤตภาษีทรัมป์เป็นโอกาสกู้ 5 แสนล้าน ดันมรดกหนี้ทะลุ 70% : คนเคาะข่าว 28-04-68
    : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #วิกฤตภาษีทรัมป์ #หนี้สาธารณะ #กู้เงิน5แสนล้าน #เศรษฐกิจไทย #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #นโยบายการเงิน #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย #หนี้เกินตัว #การเงินการคลัง #thaitimes #นโยบายเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
    เปลี่ยนวิกฤตภาษีทรัมป์เป็นโอกาสกู้ 5 แสนล้าน ดันมรดกหนี้ทะลุ 70% : คนเคาะข่าว 28-04-68 : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #วิกฤตภาษีทรัมป์ #หนี้สาธารณะ #กู้เงิน5แสนล้าน #เศรษฐกิจไทย #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #นโยบายการเงิน #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย #หนี้เกินตัว #การเงินการคลัง #thaitimes #นโยบายเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • สตง.แถลงการณ์ยืนยันทำตามขั้นตอน !?! “สตง. ชี้แจงการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ ทำตามขั้นตอนกม.และระเบียบราชการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกเอกสารชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารสัญญา (กรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) บางจุด และการแก้ไขสัญญา) หลังมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของอาคารและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 สตง. ชี้แจงว่า ในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ สตง. ได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับจ้างออกแบบ คือ กิจการร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) มีผู้รับจ้างควบคุมงาน คือ กิจการร่วมค้า PKW บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด ซึ่งกรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์บางจุดเกิดขึ้นในช่วงการบริหารสัญญาระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน กล่าวคือ ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สตง. จึงทำตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ดังนี้ 1.ผู้รับจ้างก่อสร้างมีหน้าที่โดยตรงตามสัญญาที่ต้องดำเนินการก่อสร้างให้ถูกต้องตามข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญารวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา (แบบรูปและรายการละเอียด ฯลฯ) โดยผู้รับจ้างก่อสร้างรับรองว่า ได้ตรวจสอบและทำความเข้าใจแบบรูปและรายการละเอียด ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับงานสถาปัตยกรรมภายใน จึงได้สอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างควบคุมงาน 2.ผู้รับจ้างควบคุมงานในฐานะตัวแทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือ (Request For Information: RFI) เพื่อสอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างออกแบบ ซึ่งทั้งผู้รับจ้างออกแบบและผู้รับจ้าง ควบคุมงานเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตามสัญญาจ้าง 3.ผู้รับจ้างออกแบบให้ความเห็นตามหนังสือ (RFI) โดยกำหนดรายละเอียดการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ จากความหนา 0.30 เมตร เป็น 0.25 เมตร บริเวณด้านทางเดินและเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักการทางวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณและลงนามรับรอง เพื่อให้ความกว้างช่องทางเดินถูกต้องตามกฎหมายกำหนด (กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522) และสอดคล้องกับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน แล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน 4.ผู้รับจ้างควบคุมงานแจ้งรายละเอียดการปรับแก้ของผู้รับจ้างออกแบบเพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างดำเนินการจัดทำแบบขยายสำหรับการก่อสร้างตามความเห็นของผู้รับจ้างออกแบบ โดยผู้รับจ้างควบคุมงานได้ตรวจสอบความถูกต้องและส่งให้ผู้รับจ้างออกแบบพิจารณาและรับรองความถูกต้องของแบบที่จัดทำแล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน ทั้งนี้ ผู้รับจ้างควบคุมงานโดยวุฒิวิศวกรได้ตรวจสอบและลงนามรับรองอีกครั้ง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 วรรคสอง ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างได้เสนอราคารายการงานที่เปลี่ยนแปลงโดยมีราคาลดลงเป็นจำนวนเงิน 515,195.36 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และเสนอขอแก้ไขวงเงินในสัญญาจ้างตามจำนวนเงินดังกล่าว โดยผู้รับจ้างควบคุมงานตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ผู้รับจ้างก่อสร้างเสนอ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 5.ผู้รับจ้างควบคุมงานรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดข้างต้นเสนอมายังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเพื่อพิจารณาให้ความเห็น 6.คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเสนอความเห็นต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะผู้ว่าจ้างเพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขสัญญา ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 97 และมาตรา 100 ประกอบระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 7.ผู้ว่า สตง. เสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ตามระเบียบ สตง. ว่าด้วยการงบประมาณ พ.ศ. 2564 ข้อ 20 (1) 8.คู่สัญญาลงนามการแก้ไขสัญญาจ้างก่อสร้าง โดยนำแบบรูปและรายการละเอียดที่แก้ไขเพื่อเป็นเอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
    สตง.แถลงการณ์ยืนยันทำตามขั้นตอน !?! “สตง. ชี้แจงการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ ทำตามขั้นตอนกม.และระเบียบราชการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกเอกสารชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารสัญญา (กรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) บางจุด และการแก้ไขสัญญา) หลังมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของอาคารและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 สตง. ชี้แจงว่า ในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ สตง. ได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับจ้างออกแบบ คือ กิจการร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) มีผู้รับจ้างควบคุมงาน คือ กิจการร่วมค้า PKW บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด ซึ่งกรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์บางจุดเกิดขึ้นในช่วงการบริหารสัญญาระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน กล่าวคือ ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สตง. จึงทำตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ดังนี้ 1.ผู้รับจ้างก่อสร้างมีหน้าที่โดยตรงตามสัญญาที่ต้องดำเนินการก่อสร้างให้ถูกต้องตามข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญารวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา (แบบรูปและรายการละเอียด ฯลฯ) โดยผู้รับจ้างก่อสร้างรับรองว่า ได้ตรวจสอบและทำความเข้าใจแบบรูปและรายการละเอียด ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับงานสถาปัตยกรรมภายใน จึงได้สอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างควบคุมงาน 2.ผู้รับจ้างควบคุมงานในฐานะตัวแทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือ (Request For Information: RFI) เพื่อสอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างออกแบบ ซึ่งทั้งผู้รับจ้างออกแบบและผู้รับจ้าง ควบคุมงานเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตามสัญญาจ้าง 3.ผู้รับจ้างออกแบบให้ความเห็นตามหนังสือ (RFI) โดยกำหนดรายละเอียดการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ จากความหนา 0.30 เมตร เป็น 0.25 เมตร บริเวณด้านทางเดินและเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักการทางวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณและลงนามรับรอง เพื่อให้ความกว้างช่องทางเดินถูกต้องตามกฎหมายกำหนด (กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522) และสอดคล้องกับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน แล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน 4.ผู้รับจ้างควบคุมงานแจ้งรายละเอียดการปรับแก้ของผู้รับจ้างออกแบบเพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างดำเนินการจัดทำแบบขยายสำหรับการก่อสร้างตามความเห็นของผู้รับจ้างออกแบบ โดยผู้รับจ้างควบคุมงานได้ตรวจสอบความถูกต้องและส่งให้ผู้รับจ้างออกแบบพิจารณาและรับรองความถูกต้องของแบบที่จัดทำแล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน ทั้งนี้ ผู้รับจ้างควบคุมงานโดยวุฒิวิศวกรได้ตรวจสอบและลงนามรับรองอีกครั้ง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 วรรคสอง ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างได้เสนอราคารายการงานที่เปลี่ยนแปลงโดยมีราคาลดลงเป็นจำนวนเงิน 515,195.36 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และเสนอขอแก้ไขวงเงินในสัญญาจ้างตามจำนวนเงินดังกล่าว โดยผู้รับจ้างควบคุมงานตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ผู้รับจ้างก่อสร้างเสนอ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 5.ผู้รับจ้างควบคุมงานรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดข้างต้นเสนอมายังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเพื่อพิจารณาให้ความเห็น 6.คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเสนอความเห็นต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะผู้ว่าจ้างเพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขสัญญา ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 97 และมาตรา 100 ประกอบระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 7.ผู้ว่า สตง. เสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ตามระเบียบ สตง. ว่าด้วยการงบประมาณ พ.ศ. 2564 ข้อ 20 (1) 8.คู่สัญญาลงนามการแก้ไขสัญญาจ้างก่อสร้าง โดยนำแบบรูปและรายการละเอียดที่แก้ไขเพื่อเป็นเอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี”

    📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน

    แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา

    🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭

    👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥)

    👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์

    แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น

    🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด
    ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
    🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์

    จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪

    🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️

    🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰

    บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น

    👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

    แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน

    💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก

    ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️

    ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦

    อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢

    ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗

    แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์

    🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า

    “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง”

    🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง

    สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที

    📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ

    “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้

    “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ

    นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้

    📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉

    จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์

    จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568

    🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี” 📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา 🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭 👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥) 👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น 🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์ จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪 🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️ 🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰 บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น 👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน 💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦 อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢 ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗 แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ 🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง” 🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที 📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้ “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้ 📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉 จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์ จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568 🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 839 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหนี้รายใหญ่มารายงานตัวแล้วววว!!.10 อันดับประเทศเจ้าหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ(จากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ).1 ญี่ปุ่น – 1,125.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ2 จีน– 784.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ3 สหราชอาณาจักร – 750.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ4 หมู่เกาะเคย์แมน – 417.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ5 ลักเซมเบิร์ก – 412.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.6 แคนาดา – 406.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ7 ไอร์แลนด์ – 394.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ8 เบลเยียม – 354.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ9 สวิตเซอร์แลนด์ – 339.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ10 ไต้หวัน – 294.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ .ข้อมูลนี้อ้างอิงจากรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ในเดือนเดียวกันนั้น การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยต่างประเทศเพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนก่อนหน้า รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8.817 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ.#10ประเทศเจ้าหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ #พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ #เศรษฐกิจโลก #กระทรวงการคลังสหรัฐฯ #ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มา : ผู้จัดการสุดสัปดาห์
    เจ้าหนี้รายใหญ่มารายงานตัวแล้วววว!!.10 อันดับประเทศเจ้าหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ(จากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ).1 ญี่ปุ่น – 1,125.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ2 จีน– 784.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ3 สหราชอาณาจักร – 750.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ4 หมู่เกาะเคย์แมน – 417.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ5 ลักเซมเบิร์ก – 412.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.6 แคนาดา – 406.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ7 ไอร์แลนด์ – 394.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ8 เบลเยียม – 354.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ9 สวิตเซอร์แลนด์ – 339.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ10 ไต้หวัน – 294.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ .ข้อมูลนี้อ้างอิงจากรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ในเดือนเดียวกันนั้น การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยต่างประเทศเพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนก่อนหน้า รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8.817 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ.#10ประเทศเจ้าหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ #พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ #เศรษฐกิจโลก #กระทรวงการคลังสหรัฐฯ #ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มา : ผู้จัดการสุดสัปดาห์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายสโมทริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล ซึ่งเป็นนักการเมืองขวาจัดและหัวรุนแรง กล่าวถึงแถลงการณ์ของเนทันยาฮูเมื่อวันก่อน ถึงการทำสงครามกับฮามาสต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม โดยที่สโมทรัชแสดงความเห็นว่า บางที “ตัวประกันชาวอิสราเอลอาจะต้องถูกสังเวยไปด้วย” เพื่อให้สงครามได้ดำเนินต่อไปในการกำจัดฮามาสให้สิ้นซาก
    นายสโมทริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล ซึ่งเป็นนักการเมืองขวาจัดและหัวรุนแรง กล่าวถึงแถลงการณ์ของเนทันยาฮูเมื่อวันก่อน ถึงการทำสงครามกับฮามาสต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม โดยที่สโมทรัชแสดงความเห็นว่า บางที “ตัวประกันชาวอิสราเอลอาจะต้องถูกสังเวยไปด้วย” เพื่อให้สงครามได้ดำเนินต่อไปในการกำจัดฮามาสให้สิ้นซาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts