• จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน

    วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว

    ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ

    ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป

    #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน • วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว • ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ • ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป • #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจสืบนครบาลขยายผลจับกุม “ชาคิต” คนขับกระบะมารับ “จ่าเอ็ม” มือยิงอดีต สส.กัมพูชา พาหลบหนีไปส่งยังจุดข้ามแดน

    วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ร่วมกันจับกุมตัว นายชาคิต หรือชำนาญ อายุ 47 ปี ภูมิลำเนา ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหากระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

    โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ผบช.น.สั่งขยายผลเพิ่มผู้สนับสนุนนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม มือปืนรับจ้างวานฆ่าอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธีรเดช พบพยานหลักฐานถึงผู้สนับสนุนดังกล่าวรายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.45 น. ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004046

    #MGROnline #ชาคิต #คนขับกระบะมา #จ่าเอ็ม
    ตำรวจสืบนครบาลขยายผลจับกุม “ชาคิต” คนขับกระบะมารับ “จ่าเอ็ม” มือยิงอดีต สส.กัมพูชา พาหลบหนีไปส่งยังจุดข้ามแดน • วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ร่วมกันจับกุมตัว นายชาคิต หรือชำนาญ อายุ 47 ปี ภูมิลำเนา ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหากระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี • โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ผบช.น.สั่งขยายผลเพิ่มผู้สนับสนุนนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม มือปืนรับจ้างวานฆ่าอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธีรเดช พบพยานหลักฐานถึงผู้สนับสนุนดังกล่าวรายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.45 น. ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004046 • #MGROnline #ชาคิต #คนขับกระบะมา #จ่าเอ็ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • จเรตำรวจแห่งชาติ เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ หลังสื่อจีนตีข่าว "หยาง เจ๋อฉี" นายแบบชาวจีนหายตัวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พฤติการณ์คล้ายกับกรณี "ซิงซิง"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002608

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ หลังสื่อจีนตีข่าว "หยาง เจ๋อฉี" นายแบบชาวจีนหายตัวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พฤติการณ์คล้ายกับกรณี "ซิงซิง" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002608 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1487 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002467

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ "ซิงซิง" นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002467 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาก - จนท.ไทย รับตัว “ซิงซิง หรือหวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนา ข้ามแดนจากฝั่งเมียวดี เข้าสอบถามเครียภายใน สนง.ตม.ตาก แล้ว

    ความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิง สูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ

    ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.วันนี้(7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทย ได้รับตัวนายซิงซิง เดินทางกลับจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา เข้าสอบถามที่ ตม.ตาก แล้ว

    #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    ตาก - จนท.ไทย รับตัว “ซิงซิง หรือหวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนา ข้ามแดนจากฝั่งเมียวดี เข้าสอบถามเครียภายใน สนง.ตม.ตาก แล้ว ความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิง สูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.วันนี้(7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทย ได้รับตัวนายซิงซิง เดินทางกลับจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา เข้าสอบถามที่ ตม.ตาก แล้ว • #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน หายตัวปริศนาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา
    ล่าสุดส่งตัวกลับไทยแล้ว
    “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน หายตัวปริศนาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ล่าสุดส่งตัวกลับไทยแล้ว
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1367 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • ตาก - เผยสภาพล่าสุด “หวังซิง-ดาราหนุ่มจีน” หลังหายตัวปริศนาผ่านชายแดนแม่สอด ก่อนถูก BGF ค้นหาจนเจอและเข้าควบคุมตัว เจรจาส่งตัวให้ทางการไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1

    เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก

    เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิงสูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ

    ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001792

    #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    ตาก - เผยสภาพล่าสุด “หวังซิง-ดาราหนุ่มจีน” หลังหายตัวปริศนาผ่านชายแดนแม่สอด ก่อนถูก BGF ค้นหาจนเจอและเข้าควบคุมตัว เจรจาส่งตัวให้ทางการไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 • เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก • เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิงสูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ • ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001792 • #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวของ “ซิงซิง” นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-พม่า ซึ่งมีพฤติการณ์คล้ายกับขบวนการค้ามนุษย์ ก็มีนักแสดงหลายคนออกมาเปิดเผยว่าตนเองก็ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน!

    โดยนักแสดงที่ชื่อ "เติ้งโหย่ว" ได้โพสต์ว่า เขาก็ถูกชักชวนจากบุคคลที่ใช้ชื่อวีแชตว่า "GMMGrammy~十六" ติดต่อให้มาทำงานที่ไทยเช่นเดียวกันกับซิงซิง แต่เขารู้สึกแปลกๆ และได้เตือนนักแสดงคนอื่นๆ ให้ระวังคนคนนี้เอาไว้ด้วย

    ด้านนักแสดงที่ชื่อ "ฟ่านหู่" ก็ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนแก๊งหลอกลวงระดับมืออาชีพ หลอกมาไทยพร้อมกับนักแสดงอีกหลายคน ทว่าโชคดีที่เขาพบพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ และทำการส่งข้อความไปหาผู้กำกับชาวไทยที่ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง ก่อนที่จะได้รู้ความจริงว่าตนเองกำลังโดนหลอก และวางแผนหลบหนีมาได้สำเร็จ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001763

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวของ “ซิงซิง” นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-พม่า ซึ่งมีพฤติการณ์คล้ายกับขบวนการค้ามนุษย์ ก็มีนักแสดงหลายคนออกมาเปิดเผยว่าตนเองก็ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน! • โดยนักแสดงที่ชื่อ "เติ้งโหย่ว" ได้โพสต์ว่า เขาก็ถูกชักชวนจากบุคคลที่ใช้ชื่อวีแชตว่า "GMMGrammy~十六" ติดต่อให้มาทำงานที่ไทยเช่นเดียวกันกับซิงซิง แต่เขารู้สึกแปลกๆ และได้เตือนนักแสดงคนอื่นๆ ให้ระวังคนคนนี้เอาไว้ด้วย • ด้านนักแสดงที่ชื่อ "ฟ่านหู่" ก็ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนแก๊งหลอกลวงระดับมืออาชีพ หลอกมาไทยพร้อมกับนักแสดงอีกหลายคน ทว่าโชคดีที่เขาพบพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ และทำการส่งข้อความไปหาผู้กำกับชาวไทยที่ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง ก่อนที่จะได้รู้ความจริงว่าตนเองกำลังโดนหลอก และวางแผนหลบหนีมาได้สำเร็จ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001763 • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 "เจียเจีย" แฟนสาวของนักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเล่าว่า หวังซิงได้เดินทางไปชายแดนไทย-พม่าเพื่อเข้าร่วมกองถ่ายละคร และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกในโลกออนไลน์ และได้รับความสนใจอย่างมากในจีน

    ล่าสุด “ฟ่านหู่” นักแสดงชาวจีนอีกรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนเหยื่อขบวนการหลอกลวงที่แอบอ้างเป็นทีมงานกองถ่ายละครในประเทศไทย โดยเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 เขาได้รับคำเชิญจากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทีมงานกองถ่ายละครไทย เสนอให้เขารับบทนำ หรือบทสำคัญในละครเรื่องหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะได้บทนี้แทนนักแสดงคนอื่นที่อาจถอนตัว

    เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แก๊งหลอกลวงได้นำเสนอข้อมูลที่จัดทำอย่างมืออาชีพ รวมถึงเอกสาร “โครงการถ่ายทำละคร” ที่มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อเรื่อง เรื่องย่อ รายละเอียดตัวละครสำคัญ ชื่อผู้กำกับซึ่งแอบอ้างว่ารับหน้าที่โดย “แชมป์” วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดัง ทีมโปรดิวเซอร์ วันถ่ายทำ และสถานที่ถ่ายทำ

    ฟ่านหู่ กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้ดูสมจริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แม้แต่นักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการยังอาจหลงเชื่อ ติดกับดักแก๊งหลอกลวงสายอาชีพ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001640

    #MGROnline #ฟ่านหู่ #นักแสดงชาวจีน #ขบวนการ #หลอกลวง #แอบอ้าง #ทีมงาน #กองถ่ายละคร #ประเทศไทย
    สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 "เจียเจีย" แฟนสาวของนักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเล่าว่า หวังซิงได้เดินทางไปชายแดนไทย-พม่าเพื่อเข้าร่วมกองถ่ายละคร และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกในโลกออนไลน์ และได้รับความสนใจอย่างมากในจีน • ล่าสุด “ฟ่านหู่” นักแสดงชาวจีนอีกรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนเหยื่อขบวนการหลอกลวงที่แอบอ้างเป็นทีมงานกองถ่ายละครในประเทศไทย โดยเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 เขาได้รับคำเชิญจากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทีมงานกองถ่ายละครไทย เสนอให้เขารับบทนำ หรือบทสำคัญในละครเรื่องหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะได้บทนี้แทนนักแสดงคนอื่นที่อาจถอนตัว • เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แก๊งหลอกลวงได้นำเสนอข้อมูลที่จัดทำอย่างมืออาชีพ รวมถึงเอกสาร “โครงการถ่ายทำละคร” ที่มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อเรื่อง เรื่องย่อ รายละเอียดตัวละครสำคัญ ชื่อผู้กำกับซึ่งแอบอ้างว่ารับหน้าที่โดย “แชมป์” วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดัง ทีมโปรดิวเซอร์ วันถ่ายทำ และสถานที่ถ่ายทำ • ฟ่านหู่ กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้ดูสมจริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แม้แต่นักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการยังอาจหลงเชื่อ ติดกับดักแก๊งหลอกลวงสายอาชีพ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001640 • #MGROnline #ฟ่านหู่ #นักแสดงชาวจีน #ขบวนการ #หลอกลวง #แอบอ้าง #ทีมงาน #กองถ่ายละคร #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาก - กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา (BGF) จ่อส่งตัว “หวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนาชายแดนแม่สอด โผล่รัฐกะเหรียง ข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพฯแม่สอด-เมียวดี แห่งที่ 1

    ความคืบหน้า กรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีนชื่อ "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ขาดการติดต่อและหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และล่าสุดพบว่าไปอยู่ในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันแล้วนั้น

    ล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยด้านจังหวัดตาก ยืนยันว่า ทาง BGF ยืนยันพบตัวหวังซิงแล้ว และจะนำมาส่งข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1 ต่อไป

    สอดคล้องกับรายงานข่าวจากตำรวจสืบสวนจังหวัดตากรับเเจ้งจาก พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการ บีจีเอฟ BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แจ้งทางโทรศัพท์มาล่ามภาษาพม่าของ พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ว่าขณะที่พบตัวนายซิงซิง ดาราจีนที่ถูกนำตัวมายังชายแดนในฝั่งเมียนมาแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้ในฝังไทยช่วงหลังเวลา 12.00 น. ขณะนี้ทางกองกำลังนำตัวมาสอบสวนการเข้าไปในฝั่งเมียนมาอยู่ และการส่งมอบให้ฝังไทยนั้นจะทำการนัดอีกครั้งว่าจะส่งมอบที่ใด

    ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอกกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตากประชุมกับชุดสืบ สภ.แม่สอด ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า พบเบาะแสดาราจีนแล้วข้ามไปยังฝั่งเมียนมาที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน โดยมีพยานซึ่งเป็นคนขับรถชื่อ นายวิชัย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนจีนที่ อ.แม่สอด และมีชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมาเอารถยนต์มารับตัวไปจากแม่สอด จุดนัดที่ห้างแมคโคร และเท่าที่ทราบดาราจีนสมัครใจไปเอง ไม่มีการถูกลักพาตัว และข่มขู่บังคับแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงต้องรอสอบสวนอีกครั้ง

    อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดชิงชิงจึงไปโผล่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาและขาดการติดต่อจนแฟนสาวต้องประกาศตามหาตัว

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    ตาก - กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา (BGF) จ่อส่งตัว “หวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนาชายแดนแม่สอด โผล่รัฐกะเหรียง ข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพฯแม่สอด-เมียวดี แห่งที่ 1 • ความคืบหน้า กรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีนชื่อ "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ขาดการติดต่อและหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และล่าสุดพบว่าไปอยู่ในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันแล้วนั้น • ล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยด้านจังหวัดตาก ยืนยันว่า ทาง BGF ยืนยันพบตัวหวังซิงแล้ว และจะนำมาส่งข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1 ต่อไป • สอดคล้องกับรายงานข่าวจากตำรวจสืบสวนจังหวัดตากรับเเจ้งจาก พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการ บีจีเอฟ BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แจ้งทางโทรศัพท์มาล่ามภาษาพม่าของ พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ว่าขณะที่พบตัวนายซิงซิง ดาราจีนที่ถูกนำตัวมายังชายแดนในฝั่งเมียนมาแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้ในฝังไทยช่วงหลังเวลา 12.00 น. ขณะนี้ทางกองกำลังนำตัวมาสอบสวนการเข้าไปในฝั่งเมียนมาอยู่ และการส่งมอบให้ฝังไทยนั้นจะทำการนัดอีกครั้งว่าจะส่งมอบที่ใด • ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอกกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตากประชุมกับชุดสืบ สภ.แม่สอด ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า พบเบาะแสดาราจีนแล้วข้ามไปยังฝั่งเมียนมาที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน โดยมีพยานซึ่งเป็นคนขับรถชื่อ นายวิชัย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนจีนที่ อ.แม่สอด และมีชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมาเอารถยนต์มารับตัวไปจากแม่สอด จุดนัดที่ห้างแมคโคร และเท่าที่ทราบดาราจีนสมัครใจไปเอง ไม่มีการถูกลักพาตัว และข่มขู่บังคับแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงต้องรอสอบสวนอีกครั้ง • อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดชิงชิงจึงไปโผล่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาและขาดการติดต่อจนแฟนสาวต้องประกาศตามหาตัว • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขึ้นเทรนด์เวยปั๋วเมื่อเช้านี้ (6 ม.ค.) หลังมีรายงานว่า นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ซึ่งมีผลงานการแสดง เช่น สื่อรักปีศาจจิ้งจอก ภาคจันทราสีชาด กุหลาบร้อยรัก คู่มือนักล่า 2 ได้ขาดการติดต่อและหายตัวไปกว่า 72 ชม. หลังเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย

    โดย "เจียเจีย" แฟนสาวของเขาได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผ่านทางเวยปั๋วเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ซิงซิงได้รับข้อความในกลุ่มแคสติ้งนักแสดงจากบุคคลที่ใช้ชื่อว่า "GMMGrammy~十六" ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. และเมื่อแคสผ่าน ก็มีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง มายังประเทศไทยในวันที่ 3 ม.ค.

    พอมาถึงก็ขึ้นรถที่ทีมงานจัดไว้ให้ ระหว่างทางซิงซิงได้แชร์โลเกชันกับเธอ ก่อนที่จะขาดการติดต่อไปในช่วงเที่ยงวัน ตามเวลาปักกิ่ง โดยพิกัดสุดท้ายจะระบุว่าอยู่แถวชายแดนไทย-พม่า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001419

    #MGROnline #นักแสดงหนุ่ม #ชาวจีน #ซิงซิง #หวังซิง
    ขึ้นเทรนด์เวยปั๋วเมื่อเช้านี้ (6 ม.ค.) หลังมีรายงานว่า นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ซึ่งมีผลงานการแสดง เช่น สื่อรักปีศาจจิ้งจอก ภาคจันทราสีชาด กุหลาบร้อยรัก คู่มือนักล่า 2 ได้ขาดการติดต่อและหายตัวไปกว่า 72 ชม. หลังเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย • โดย "เจียเจีย" แฟนสาวของเขาได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผ่านทางเวยปั๋วเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ซิงซิงได้รับข้อความในกลุ่มแคสติ้งนักแสดงจากบุคคลที่ใช้ชื่อว่า "GMMGrammy~十六" ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. และเมื่อแคสผ่าน ก็มีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง มายังประเทศไทยในวันที่ 3 ม.ค. • พอมาถึงก็ขึ้นรถที่ทีมงานจัดไว้ให้ ระหว่างทางซิงซิงได้แชร์โลเกชันกับเธอ ก่อนที่จะขาดการติดต่อไปในช่วงเที่ยงวัน ตามเวลาปักกิ่ง โดยพิกัดสุดท้ายจะระบุว่าอยู่แถวชายแดนไทย-พม่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001419 • #MGROnline #นักแสดงหนุ่ม #ชาวจีน #ซิงซิง #หวังซิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศโชว์ความพร้อม ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบินทันที มุ่งหน้าไปพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้น หลังเรดาร์ตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่ายบินเหนือน่านฟ้า บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122313

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองทัพอากาศโชว์ความพร้อม ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบินทันที มุ่งหน้าไปพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้น หลังเรดาร์ตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่ายบินเหนือน่านฟ้า บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122313 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    Wow
    19
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 994 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องนี้คนสามจังหวัดส่วนใหญ่ไม่โอเคมากๆ
    มีโอกาสเกิดปัญหาเรื่องการค้าชายแดนไทยมาเล
    น่าเป็นห่วง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เรื่องนี้คนสามจังหวัดส่วนใหญ่ไม่โอเคมากๆ มีโอกาสเกิดปัญหาเรื่องการค้าชายแดนไทยมาเล น่าเป็นห่วง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • 16-12-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.14 ตอน "NO ONE CAN GET AWAY FROM KARMA" อั๊ยยะ! เปิดเช้ามา เจอแต่ข่าววิญญานอีโมเต็มโซเชี่ยล อ.ปานเทพ ไม่น่าเลย? เหี้ยดิ้นพล่านทั้งแผ่นดิน ไอ้อีที่ฆาตกรรม ไอ้อีที่รับงาน ไอ้อีที่จัดฉาก ไอ้อีที่สนองตัณหานาย ทั้งอีเสี่ย อีชายสูงวัย อีกากี DSI ขบวนการต้นน้ำทั้งหลาย หนาวจัด! ยื่นศาลแน่ หลักฐานใหม่ หวังพลิกคดี หนำซ้ำ ชาวโลกแห่กันกระทืบซ้ำอีกากีไทย รวยคือรอด จนคือตาย เงินฟาดหัวข้าราชการไทยได้สบายตรีน อายหมามั้ย? โลกความเป็นจริง หากตำรวจรักษากฎหมายไม่ได้ แล้วมรึงจะมีไปทำไม? เอาชาวบ้านมาปกป้องตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ? เมื่ออีตำหนวดไม่ทำงาน ชาวบ้านหยิบปืนขึ้นสู้เอง ป้องกันตัวเอง ไม่ต้องจ่ายภาษีเอาไปให้กรมเหี้ยหากินบนซากศพชาวบ้านอีกต่อไป งานนี้ กูบอกตรง สัมผัสได้ "วิญญานอีโมขึ้นสู่จุดสูงสุด พลังไซย่ามาเต็ม" ใครว่าอีเสี่ย อีชายสูงวัย สั่งหมอขะแมร์สะกดวิญญานอีโม กูบอกเลย "10 หมอ ก็เอาไม่อยู่" มันแค้นจัดสุดขีด ใครเป็นชาวพุทธ ช่วยกันสวดมนต์ส่งพลังให้อีโมด้วย เอาแรงอธิษฐานไปสู้อีหมอขะแมร์ จัดการแม่งก่อนใครเพื่อน? งานนี้ มรึงได้เจอ "ผีแม่นาค ภาค 2" แน่มรึง? เมื่อมรึงเอากฎหมายเล่นแร่แปรวิญญาน ธรรมชาติจะลงโทษมรึงเอง อีโมใช้พลังเหนือธรรมชาติ หลอกหลอนมรึงไม่ต้องหลับต้องนอนกันอีก ต้องขอบคุณคุณหมอ ที่เอาหลักฐานใหม่ชัด มาเปิดเผย มอบให้อ.ปานเทพ เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ทวงความยุติธรรมคืนให้อีโม เพื่อดวงวิญญานจะได้ไปสู่สุขคติ อีโมตายยังไม่เจ็บ เท่าบุพการีหักหลัง ไหนจะเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ชาติก่อนมรึงไปทำอะไรเอาไว้อีโม ชาตินี้ มรึงถึงได้ถูกจัดหนักซ้ำซาก เลือดเป็นพิษ?

    ฤทธิ์จิ๋นซี! ไอ้สัส! ใครสั่งให้มรึงยั่วยุไทย แดร๊ก 2 ต่อเหรอ? หลังจีนตบอีขะแมร์หน้าหงาย ใคร? เคยตกลงกับมรึง? ใครคุย? เครมมั่วตลอด อ้างจีนหนุนขุดคลองฟูนันเตโช หลังอีเหลี่ยมชาติหมา คุยอีฮุนเซน เดินแผนอย่างหมา MOU44 ไทยไม่เล่นตามเกมส์มรึง เรือรบออก บินรบออก สั่งสอน แค่ขี้ตรีน อย่าริหวังฮุบแผ่นดินทอง มรึงมันแค่ "เศษสวะ" ขี้ตรีนทหารไทย จีนตบสั่งสอน ทำเอาโครงการเมกะโปรเจคอีขะแมร์ ที่หวังคิดเทียบชั้นท่าเรือฮับอาเซียน ไบ้แดร๊ก ไปไม่เป็น เจ๊งสิจ๊ะ คลองฟูนันเตโชขุดไปแล้ว ใครจ่ายกันล่ะ? ช่วงหลังจีนออกตัวมากขึ้น ว่าอุ้มไทยจ๋า ใครแตะต้อง มรึงโดน! ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ระดับราชวงศ์ทั้งสอง แต่มันเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ เค้าวางให้ไทยเป็นฮับอาเซียน แล้วมรึงเสือกสะเออะเสนอหน้าทำไม ดูปัญญา ดูศักยภาพมรึงด้วย เป็นแค่หมาล่าเนื้อ อย่าริหวังขึ้นเป็นพญาอินทรีย์ ทั้งอีเหลี่ยม อีฮุน สันดานเดียวกัน เป็นแค่สัญชาติโจร หวังขึ้นเป็นราชา บังลังก์ก็ไปปล้นเค้ามา เวรกรรมมีจริง กรรมตามทันเสมอ มรึงรอดูชะตากรรมอีขะแมร์ได้เลย ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็แค่สมบัติผลัดกันชม รอดูวันที่อีขะแมร์ไม่มีอีฮุนเซน ต้องลี้ภัยไปต่างแดน แล้วลูกหลานพญาละแวก กลับมาตายคาตรีน สวามิภักดิ์อโยธยาอีกครั้ง งวดนี้ จะล่อไม่ให้มีแผ่นดินเหลืออยู่ ผนวกแม่งให้หมด กลืนแม่งทั้งแผ่นดินไปเลย เพราะอดีต มันคือของอโยธยาทั้งสิ้น อะไรน่ะ แล้วคนเหรอ? เอามาเป็นแรงงานชั้น 3 ประชาชนชั้น 10 ก็เพียงพอแล้ว โหดไปป่ะ?

    โป๊ะแตก! ลับ ลวง พลาง! ว้าแดง โตขึ้นมาได้เพราะจีนหนุน ช่วงแรกใช้กวาดล้างบางขุนส่า ราชายาเสพติดยุคนั้น ทำไมจีนต้องหนุนกองกำลังในพม่าบางส่วน มีไว้เพื่อต่อต้าน กดดัน กองกำลังพม่าในฝ่ายเหี้ย C ไงล่ะ ดังนั้น ไม่แปลก ตามชายแดนไทยถึงมีกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายจีนหนุน กับฝ่ายเหี้ยมะกันหนุน เพื่อประจัญหน้ากัน ยามเดินหมาก ช่วงนี้ ทำไมว้าแดง ถึงได้เริ่มก่อกวนไทย ต้องถามว่า ใครไปทำอะไรเบื้องหลังจีนก่อนล่ะ ใครเป็นรัฐบาล ใครแอบจ้องหักหลังจีนก่อน ที่จะบอกคือ เรื่องว้าแดง และเรื่องคลองฟูนันเตโชของอีขะแมร์ คือเรื่องเดียวกัน สัญญานจากปักกิ่งจ๊ะ มองให้ลึกจะเห็นคนเดินเกมส์นี้ จีนไม่ได้กดดันไทย แต่สั่งสอนรัฐบาลขี้ข้าเหี้ยมะกันที่แอบคุยอีขะแมร์หักหลังจีน มรึงจะรู้มั้ยว่า หลังฉาก ราชวงศ์ไทยกับจีน คุยอะไรกันบ้าง? เรื่องความมั่นคง หากจีนไม่ดูแลเรา ยามที่ไทยต้องเสียรางวัดเพราะอีนักการเมืองขายชาติทั้งหลาย จีนจะเสียหายมากกว่านี้เยอะ ที่นี้ รู้ยังว่าทำไม จีนจึงต้องเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มกองกำลังในพม่าตามพรมแดนพม่า เพื่อสกัดอิทธิพลตะวันตก และช่วยเหลือชาติพันธมิตร มองให้ขาด 3 ชั้นสิจ๊ะ ที่มาว่าทำไม อีตระกูลขายชาติหน้าเหลี่ยม ทำเหี้ยอะไรก็ถูกเตะตัดขาไปหมด เบื้องหลังคือจีนเนี่ยแหละ หมีเคยบอกแล้วว่า ทหารไทย และทหารอาเซียน เค้าคุยกันหมด มรึงอย่าคิดว่าทหารขะแมร์ ซื่อสัตย์ต่อฮุนเซนน่ะ ไอ้พวกที่จ้องจะล้มฮุนเซนก็มีมิใช่น้อย เพราะเคยเป็นผู้รับใช้ราชวงศ์เก่าก่อนก็มีเยอะ รออีกไม่นาน แสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ อีขะแมร์แตกแน่!

    ปล.ล่าสุด สมรภูมิซีเรียใหม่เป็นยังไง? ทำไม ข่าวถึงเงียบ ไม่ค่อยแห่กันมาโผล่ช่วงแรก คำตอบคือ "จุกปาก จุกอก" อยู่จ๊ะ อะไรที่สื่อเหี้ยเงียบ แปลว่านายใหญ่ถูกถล่มขี้แตกอยู่ไงจ๊ะ? ใครตามสื่อเหี้ยมานานนับสิบปี จะรู้ทรง รู้แนวทางกันดี แค่ฆ่ากองกำลังเล็กๆ ได้ แม่งจะป่าวประกาศยิ่งใหญ่ นึกว่าตีอโยธยาแตกซะงั้น ไกง่วงกำลังคึกคัก นอกจากทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดของอีเหี้ยไอซิส และอีเคิร์ดกบฎได้แล้ว ยังดาหน้าปูพรม ขยายแนวรบ สิ่งที่อยากทำมานานนั่นคือ คาบสมุทรไซนาย ดาหน้าไล่เก็บกองกำลังเหี้ยนั่นเอง อ้าว..แล้วข่าวที่บอก อียิวไล่ยึดเมืองซีเรียไปทั่ว ไฉนไม่เจอกองทัพอีไก่งวงเลยล่ะ แหม..จัดฉากหลอกควาย ทำไมต้องไปเจอของจริงด้วยล่ะ ยึดเมืองที่อีเคิร์ดอยู่ก่อนแล้ว อย่าเรียกว่ายึดเลย เจ้าของที่เค้าถอนกำลังออก เหลือแต่เมืองร้าง มรึงก็แค่ย้ายกองพลเข้าไปเสียบแทน ตามแผนล่อเหี้ย รบตรงไหนฟ่ะ? ควายชื่นชม อียิวเก่ง อียิวห้าวหาญ เอาใจควายหน่อย ช่วงโปรเค้า อะไรน่ะ กองทัพไก่งวง เข้าพื้นที่เร็วมาก โดยเฉพาะบริเวณบ่อน้ำมัน เป้าหมายชัดซะยิ่งกว่าชัด อีแอร์โดกัน ต้องการมีส่วนร่วม มีหุ้นส่วนแหล่งพลังงานในซีเรีย โดยมีรัสเซีย อิหร่านเป็นเจ้าภาพ ถึงได้ยอมเสี่ยง เอากองกำลังเข้าแลก เพื่อยึดคืนพื้นที่บ่อน้ำมันทั้ง 3 จุดใหญ่ ผลประโยชน์ซะขนาดนี้ อีไก่งวงสู้ถวายหัว รัสเซียไม่เหนื่อย อิหร่านไม่เสี่ยง ซีเรียลอยตัว รอเหี้ยตายคือจบ ค่อยโยกย้ายกลับมา ก็แค่สมบัติผลัดกันชม เข้าใจสถานการณ์ จะใจเบาขึ้นเยอะ

    หมี CNN(มองเกมส์ให้เป็น ดูหมากให้แตก พม่า ขะแมร์ จะไม่รบกับไทย ตราบใดที่จีนยังดูแลอยู่ นั่นแค่ละครปาหี่ อย่าลืมว่า รัฐบาลไทยวันนี้ เป็นขี้ข้าเหี้ยวอชิงตัน มีเหรอ จีนจะไม่ตบสั่งสอน เพราะรู้ว่ามรึงกำลังจะทำอะไร ทหารไทยถึงได้นิ่ง มีอะไรซ้อมรบขู่กลับไว้ก่อน เค้าคุยกันหมดแล้ว อะไรน่ะ กองทัพไม่คุยกับรัฐบาล มรึงไปอยู่ไหนมา กันยายนปีกลาย ใครโยกย้ายกำลังพลทั้งหมดล่ะ ตบหน้าอีรัฐบาลใหม่ กองทัพเป็นของวังจ๊ะ อย่าเสือก)
    16 ธันวาคม 67
    10.40 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    16-12-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.14 ตอน "NO ONE CAN GET AWAY FROM KARMA" อั๊ยยะ! เปิดเช้ามา เจอแต่ข่าววิญญานอีโมเต็มโซเชี่ยล อ.ปานเทพ ไม่น่าเลย? เหี้ยดิ้นพล่านทั้งแผ่นดิน ไอ้อีที่ฆาตกรรม ไอ้อีที่รับงาน ไอ้อีที่จัดฉาก ไอ้อีที่สนองตัณหานาย ทั้งอีเสี่ย อีชายสูงวัย อีกากี DSI ขบวนการต้นน้ำทั้งหลาย หนาวจัด! ยื่นศาลแน่ หลักฐานใหม่ หวังพลิกคดี หนำซ้ำ ชาวโลกแห่กันกระทืบซ้ำอีกากีไทย รวยคือรอด จนคือตาย เงินฟาดหัวข้าราชการไทยได้สบายตรีน อายหมามั้ย? โลกความเป็นจริง หากตำรวจรักษากฎหมายไม่ได้ แล้วมรึงจะมีไปทำไม? เอาชาวบ้านมาปกป้องตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ? เมื่ออีตำหนวดไม่ทำงาน ชาวบ้านหยิบปืนขึ้นสู้เอง ป้องกันตัวเอง ไม่ต้องจ่ายภาษีเอาไปให้กรมเหี้ยหากินบนซากศพชาวบ้านอีกต่อไป งานนี้ กูบอกตรง สัมผัสได้ "วิญญานอีโมขึ้นสู่จุดสูงสุด พลังไซย่ามาเต็ม" ใครว่าอีเสี่ย อีชายสูงวัย สั่งหมอขะแมร์สะกดวิญญานอีโม กูบอกเลย "10 หมอ ก็เอาไม่อยู่" มันแค้นจัดสุดขีด ใครเป็นชาวพุทธ ช่วยกันสวดมนต์ส่งพลังให้อีโมด้วย เอาแรงอธิษฐานไปสู้อีหมอขะแมร์ จัดการแม่งก่อนใครเพื่อน? งานนี้ มรึงได้เจอ "ผีแม่นาค ภาค 2" แน่มรึง? เมื่อมรึงเอากฎหมายเล่นแร่แปรวิญญาน ธรรมชาติจะลงโทษมรึงเอง อีโมใช้พลังเหนือธรรมชาติ หลอกหลอนมรึงไม่ต้องหลับต้องนอนกันอีก ต้องขอบคุณคุณหมอ ที่เอาหลักฐานใหม่ชัด มาเปิดเผย มอบให้อ.ปานเทพ เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ทวงความยุติธรรมคืนให้อีโม เพื่อดวงวิญญานจะได้ไปสู่สุขคติ อีโมตายยังไม่เจ็บ เท่าบุพการีหักหลัง ไหนจะเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ชาติก่อนมรึงไปทำอะไรเอาไว้อีโม ชาตินี้ มรึงถึงได้ถูกจัดหนักซ้ำซาก เลือดเป็นพิษ? ฤทธิ์จิ๋นซี! ไอ้สัส! ใครสั่งให้มรึงยั่วยุไทย แดร๊ก 2 ต่อเหรอ? หลังจีนตบอีขะแมร์หน้าหงาย ใคร? เคยตกลงกับมรึง? ใครคุย? เครมมั่วตลอด อ้างจีนหนุนขุดคลองฟูนันเตโช หลังอีเหลี่ยมชาติหมา คุยอีฮุนเซน เดินแผนอย่างหมา MOU44 ไทยไม่เล่นตามเกมส์มรึง เรือรบออก บินรบออก สั่งสอน แค่ขี้ตรีน อย่าริหวังฮุบแผ่นดินทอง มรึงมันแค่ "เศษสวะ" ขี้ตรีนทหารไทย จีนตบสั่งสอน ทำเอาโครงการเมกะโปรเจคอีขะแมร์ ที่หวังคิดเทียบชั้นท่าเรือฮับอาเซียน ไบ้แดร๊ก ไปไม่เป็น เจ๊งสิจ๊ะ คลองฟูนันเตโชขุดไปแล้ว ใครจ่ายกันล่ะ? ช่วงหลังจีนออกตัวมากขึ้น ว่าอุ้มไทยจ๋า ใครแตะต้อง มรึงโดน! ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ระดับราชวงศ์ทั้งสอง แต่มันเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ เค้าวางให้ไทยเป็นฮับอาเซียน แล้วมรึงเสือกสะเออะเสนอหน้าทำไม ดูปัญญา ดูศักยภาพมรึงด้วย เป็นแค่หมาล่าเนื้อ อย่าริหวังขึ้นเป็นพญาอินทรีย์ ทั้งอีเหลี่ยม อีฮุน สันดานเดียวกัน เป็นแค่สัญชาติโจร หวังขึ้นเป็นราชา บังลังก์ก็ไปปล้นเค้ามา เวรกรรมมีจริง กรรมตามทันเสมอ มรึงรอดูชะตากรรมอีขะแมร์ได้เลย ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็แค่สมบัติผลัดกันชม รอดูวันที่อีขะแมร์ไม่มีอีฮุนเซน ต้องลี้ภัยไปต่างแดน แล้วลูกหลานพญาละแวก กลับมาตายคาตรีน สวามิภักดิ์อโยธยาอีกครั้ง งวดนี้ จะล่อไม่ให้มีแผ่นดินเหลืออยู่ ผนวกแม่งให้หมด กลืนแม่งทั้งแผ่นดินไปเลย เพราะอดีต มันคือของอโยธยาทั้งสิ้น อะไรน่ะ แล้วคนเหรอ? เอามาเป็นแรงงานชั้น 3 ประชาชนชั้น 10 ก็เพียงพอแล้ว โหดไปป่ะ? โป๊ะแตก! ลับ ลวง พลาง! ว้าแดง โตขึ้นมาได้เพราะจีนหนุน ช่วงแรกใช้กวาดล้างบางขุนส่า ราชายาเสพติดยุคนั้น ทำไมจีนต้องหนุนกองกำลังในพม่าบางส่วน มีไว้เพื่อต่อต้าน กดดัน กองกำลังพม่าในฝ่ายเหี้ย C ไงล่ะ ดังนั้น ไม่แปลก ตามชายแดนไทยถึงมีกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายจีนหนุน กับฝ่ายเหี้ยมะกันหนุน เพื่อประจัญหน้ากัน ยามเดินหมาก ช่วงนี้ ทำไมว้าแดง ถึงได้เริ่มก่อกวนไทย ต้องถามว่า ใครไปทำอะไรเบื้องหลังจีนก่อนล่ะ ใครเป็นรัฐบาล ใครแอบจ้องหักหลังจีนก่อน ที่จะบอกคือ เรื่องว้าแดง และเรื่องคลองฟูนันเตโชของอีขะแมร์ คือเรื่องเดียวกัน สัญญานจากปักกิ่งจ๊ะ มองให้ลึกจะเห็นคนเดินเกมส์นี้ จีนไม่ได้กดดันไทย แต่สั่งสอนรัฐบาลขี้ข้าเหี้ยมะกันที่แอบคุยอีขะแมร์หักหลังจีน มรึงจะรู้มั้ยว่า หลังฉาก ราชวงศ์ไทยกับจีน คุยอะไรกันบ้าง? เรื่องความมั่นคง หากจีนไม่ดูแลเรา ยามที่ไทยต้องเสียรางวัดเพราะอีนักการเมืองขายชาติทั้งหลาย จีนจะเสียหายมากกว่านี้เยอะ ที่นี้ รู้ยังว่าทำไม จีนจึงต้องเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มกองกำลังในพม่าตามพรมแดนพม่า เพื่อสกัดอิทธิพลตะวันตก และช่วยเหลือชาติพันธมิตร มองให้ขาด 3 ชั้นสิจ๊ะ ที่มาว่าทำไม อีตระกูลขายชาติหน้าเหลี่ยม ทำเหี้ยอะไรก็ถูกเตะตัดขาไปหมด เบื้องหลังคือจีนเนี่ยแหละ หมีเคยบอกแล้วว่า ทหารไทย และทหารอาเซียน เค้าคุยกันหมด มรึงอย่าคิดว่าทหารขะแมร์ ซื่อสัตย์ต่อฮุนเซนน่ะ ไอ้พวกที่จ้องจะล้มฮุนเซนก็มีมิใช่น้อย เพราะเคยเป็นผู้รับใช้ราชวงศ์เก่าก่อนก็มีเยอะ รออีกไม่นาน แสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ อีขะแมร์แตกแน่! ปล.ล่าสุด สมรภูมิซีเรียใหม่เป็นยังไง? ทำไม ข่าวถึงเงียบ ไม่ค่อยแห่กันมาโผล่ช่วงแรก คำตอบคือ "จุกปาก จุกอก" อยู่จ๊ะ อะไรที่สื่อเหี้ยเงียบ แปลว่านายใหญ่ถูกถล่มขี้แตกอยู่ไงจ๊ะ? ใครตามสื่อเหี้ยมานานนับสิบปี จะรู้ทรง รู้แนวทางกันดี แค่ฆ่ากองกำลังเล็กๆ ได้ แม่งจะป่าวประกาศยิ่งใหญ่ นึกว่าตีอโยธยาแตกซะงั้น ไกง่วงกำลังคึกคัก นอกจากทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดของอีเหี้ยไอซิส และอีเคิร์ดกบฎได้แล้ว ยังดาหน้าปูพรม ขยายแนวรบ สิ่งที่อยากทำมานานนั่นคือ คาบสมุทรไซนาย ดาหน้าไล่เก็บกองกำลังเหี้ยนั่นเอง อ้าว..แล้วข่าวที่บอก อียิวไล่ยึดเมืองซีเรียไปทั่ว ไฉนไม่เจอกองทัพอีไก่งวงเลยล่ะ แหม..จัดฉากหลอกควาย ทำไมต้องไปเจอของจริงด้วยล่ะ ยึดเมืองที่อีเคิร์ดอยู่ก่อนแล้ว อย่าเรียกว่ายึดเลย เจ้าของที่เค้าถอนกำลังออก เหลือแต่เมืองร้าง มรึงก็แค่ย้ายกองพลเข้าไปเสียบแทน ตามแผนล่อเหี้ย รบตรงไหนฟ่ะ? ควายชื่นชม อียิวเก่ง อียิวห้าวหาญ เอาใจควายหน่อย ช่วงโปรเค้า อะไรน่ะ กองทัพไก่งวง เข้าพื้นที่เร็วมาก โดยเฉพาะบริเวณบ่อน้ำมัน เป้าหมายชัดซะยิ่งกว่าชัด อีแอร์โดกัน ต้องการมีส่วนร่วม มีหุ้นส่วนแหล่งพลังงานในซีเรีย โดยมีรัสเซีย อิหร่านเป็นเจ้าภาพ ถึงได้ยอมเสี่ยง เอากองกำลังเข้าแลก เพื่อยึดคืนพื้นที่บ่อน้ำมันทั้ง 3 จุดใหญ่ ผลประโยชน์ซะขนาดนี้ อีไก่งวงสู้ถวายหัว รัสเซียไม่เหนื่อย อิหร่านไม่เสี่ยง ซีเรียลอยตัว รอเหี้ยตายคือจบ ค่อยโยกย้ายกลับมา ก็แค่สมบัติผลัดกันชม เข้าใจสถานการณ์ จะใจเบาขึ้นเยอะ หมี CNN(มองเกมส์ให้เป็น ดูหมากให้แตก พม่า ขะแมร์ จะไม่รบกับไทย ตราบใดที่จีนยังดูแลอยู่ นั่นแค่ละครปาหี่ อย่าลืมว่า รัฐบาลไทยวันนี้ เป็นขี้ข้าเหี้ยวอชิงตัน มีเหรอ จีนจะไม่ตบสั่งสอน เพราะรู้ว่ามรึงกำลังจะทำอะไร ทหารไทยถึงได้นิ่ง มีอะไรซ้อมรบขู่กลับไว้ก่อน เค้าคุยกันหมดแล้ว อะไรน่ะ กองทัพไม่คุยกับรัฐบาล มรึงไปอยู่ไหนมา กันยายนปีกลาย ใครโยกย้ายกำลังพลทั้งหมดล่ะ ตบหน้าอีรัฐบาลใหม่ กองทัพเป็นของวังจ๊ะ อย่าเสือก) 16 ธันวาคม 67 10.40 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวเขมรนั้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมเสมอมาโดยเฉพาะในเรื่อง “ความกตัญญูกตเวทีอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษยชาติ” (แต่จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง บุพกษัตริย์และวีรชนของชาติซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกว่ามากมายนัก)ไม่ต้องพูดถึงอดีตกาลโบราณ เอาแค่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝรั่งเศสให้เอกราชกัมพูชา ซึ่งมีไทยส่งเสริมสนับสนุนและเป็นชาติแรกๆ ที่รับรองกัมพูชาเป็นสมาชิก UNช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ๒๕๑๕ เป็นต้นไป “รัฐบาลไทยสนับสนุนรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุซึ่งวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในยุคสงครามเย็น”แต่ CIA เห็นว่าเจ้าสีหนุที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและไว้ใจไม่ได้ จึงสนับสนุนนายพลลอนนนอลรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาฝ่ายพรรคคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเห็นความอ่อนแอของรัฐ จึงยึดประเทศเกิดสงครามกลางเมือง (นี่ คือจุดอ่อนของระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาจึงง่ายกับการถูกรัฐประหารและล้มล้างระบอบการปกครอง)สงครามกลางเมืองขยายขอบเขตสร้างความเดือนร้อนต่อประชาชนอย่างมหาศาลและกลายเป็นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนนับหมิ่นๆ คนตลอดแนวชายแดนไทย/กัมพูชาโดยเฉพาะที่บริเวณเขาอีด่าง จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน (ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ เสด็จไปเยี่ยมผู้อพยพเขมรจนพระองค์ติดเชื้อโรคร้ายเกือบสิ้นพระชนม์ชีพในช่วงนั้นเลย) จิตอาสาแพทย์ไทยหลายสิบๆ คนเสียสละไปช่วยรักษาโรคให้ผู้อพยพเขมรจำนวนมากกองทัพไทยส่งหน่วยทหารไปวางแผนช่วยรัฐบาลนายพลลอนนอลรบกับคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปโจมตีที่ตั้งเขมรแดงในเขตยึดครองเขมรแดงสนับสนุนนายพลลอนนอล (มีตำนานเล่าขานว่า มีนักบิน T-28 ทอ.ไทยถูกยิงตกที่บริเวณทะเลสาปเขมรแต่ก่อนตายถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมากๆ) ขณะเดียวกันรัฐบาลลอนนอลฉวยโอกาสประกาศอ้างสิทธิ์เขตไหล่ทวีปทับทะเลอาณาเขตของไทย (ที่เป็นช่องทางให้สมเด็จฮุนเซนและลูกใช้อ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อนและหวังนำสู่ศาลโลกเพื่อพลิกผันให้มีการตกลงแบ่งกันคนละครึ่งโดยมีคนไทยในระบอบทักษิณสมรู้ร่วมคิดนายพลลอนนอลคงไม่รู้คำว่า “กตัญญูกตเวทิตา” เป็นแน่แท้ (นายพลลอนนอลหนีไปสหรัฐฯ และเป็นโรคร้ายตายในสหรัฐฯ ไปแล้วและเรื่องที่ต้องเล่าแม้เป็นตำนานแต่ก็เป็นที่รู้กัน คือ เรื่องนี้เพราะ รร.นายร้อย West Piont นั้นไม่ใช่จะสมัครสอบเข้าเรียนได้เหมือนอย่างแหล่งอุดมศึกษาอื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่มีเงื่อนไขทางกฎหมายสหรัฐฯ กำกับไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์อย่างชัดเจนคือ นายพล ฮุน มาเน็ต ที่เรียนจบจาก รร.นายร้อย West Point นั้นได้เข้าเรียนเพราะกองทัพบกไทย (โดยนายพลท่านหนึ่งสั่งการและอนุมัติให้กองทับบกดำเนินการเอาโคว้ต้าของนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สามารถเข้าเรียนได้ตามสิทธิ์ในข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ไปให้ ฮุน มาเน็ต บุตรชายสมเด็จฮุนเซนได้เข้าเรียนที่ West Point เป็นกรณีพิเศษเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายพลท่านผู้นั้น)ผมไม่ได้ตำหนิ “นายพลคนใดคนหนึ่งในกองทัพบก” เพราะท่านก็ทำเพื่อสัมพันธไมตรีอันดีเพื่อชาติ (สัมพันธไมตรีนั้นเป็น “นามธรรม” มูลค่าวัดไม่ได้) แต่เรื่องที่ผมอยากพูด คือ คนเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคนไทยทั้งชาติ สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ไม่รู้บุญคุณนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สละสิทธิ์ให้เขาไปเรียน :Vachara Riddhagni
    เรื่องราวเขมรนั้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมเสมอมาโดยเฉพาะในเรื่อง “ความกตัญญูกตเวทีอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษยชาติ” (แต่จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง บุพกษัตริย์และวีรชนของชาติซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกว่ามากมายนัก)ไม่ต้องพูดถึงอดีตกาลโบราณ เอาแค่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝรั่งเศสให้เอกราชกัมพูชา ซึ่งมีไทยส่งเสริมสนับสนุนและเป็นชาติแรกๆ ที่รับรองกัมพูชาเป็นสมาชิก UNช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ๒๕๑๕ เป็นต้นไป “รัฐบาลไทยสนับสนุนรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุซึ่งวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในยุคสงครามเย็น”แต่ CIA เห็นว่าเจ้าสีหนุที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและไว้ใจไม่ได้ จึงสนับสนุนนายพลลอนนนอลรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาฝ่ายพรรคคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเห็นความอ่อนแอของรัฐ จึงยึดประเทศเกิดสงครามกลางเมือง (นี่ คือจุดอ่อนของระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาจึงง่ายกับการถูกรัฐประหารและล้มล้างระบอบการปกครอง)สงครามกลางเมืองขยายขอบเขตสร้างความเดือนร้อนต่อประชาชนอย่างมหาศาลและกลายเป็นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนนับหมิ่นๆ คนตลอดแนวชายแดนไทย/กัมพูชาโดยเฉพาะที่บริเวณเขาอีด่าง จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน (ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ เสด็จไปเยี่ยมผู้อพยพเขมรจนพระองค์ติดเชื้อโรคร้ายเกือบสิ้นพระชนม์ชีพในช่วงนั้นเลย) จิตอาสาแพทย์ไทยหลายสิบๆ คนเสียสละไปช่วยรักษาโรคให้ผู้อพยพเขมรจำนวนมากกองทัพไทยส่งหน่วยทหารไปวางแผนช่วยรัฐบาลนายพลลอนนอลรบกับคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปโจมตีที่ตั้งเขมรแดงในเขตยึดครองเขมรแดงสนับสนุนนายพลลอนนอล (มีตำนานเล่าขานว่า มีนักบิน T-28 ทอ.ไทยถูกยิงตกที่บริเวณทะเลสาปเขมรแต่ก่อนตายถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมากๆ) ขณะเดียวกันรัฐบาลลอนนอลฉวยโอกาสประกาศอ้างสิทธิ์เขตไหล่ทวีปทับทะเลอาณาเขตของไทย (ที่เป็นช่องทางให้สมเด็จฮุนเซนและลูกใช้อ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อนและหวังนำสู่ศาลโลกเพื่อพลิกผันให้มีการตกลงแบ่งกันคนละครึ่งโดยมีคนไทยในระบอบทักษิณสมรู้ร่วมคิดนายพลลอนนอลคงไม่รู้คำว่า “กตัญญูกตเวทิตา” เป็นแน่แท้ (นายพลลอนนอลหนีไปสหรัฐฯ และเป็นโรคร้ายตายในสหรัฐฯ ไปแล้วและเรื่องที่ต้องเล่าแม้เป็นตำนานแต่ก็เป็นที่รู้กัน คือ เรื่องนี้เพราะ รร.นายร้อย West Piont นั้นไม่ใช่จะสมัครสอบเข้าเรียนได้เหมือนอย่างแหล่งอุดมศึกษาอื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่มีเงื่อนไขทางกฎหมายสหรัฐฯ กำกับไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์อย่างชัดเจนคือ นายพล ฮุน มาเน็ต ที่เรียนจบจาก รร.นายร้อย West Point นั้นได้เข้าเรียนเพราะกองทัพบกไทย (โดยนายพลท่านหนึ่งสั่งการและอนุมัติให้กองทับบกดำเนินการเอาโคว้ต้าของนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สามารถเข้าเรียนได้ตามสิทธิ์ในข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ไปให้ ฮุน มาเน็ต บุตรชายสมเด็จฮุนเซนได้เข้าเรียนที่ West Point เป็นกรณีพิเศษเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายพลท่านผู้นั้น)ผมไม่ได้ตำหนิ “นายพลคนใดคนหนึ่งในกองทัพบก” เพราะท่านก็ทำเพื่อสัมพันธไมตรีอันดีเพื่อชาติ (สัมพันธไมตรีนั้นเป็น “นามธรรม” มูลค่าวัดไม่ได้) แต่เรื่องที่ผมอยากพูด คือ คนเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคนไทยทั้งชาติ สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ไม่รู้บุญคุณนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สละสิทธิ์ให้เขาไปเรียน :Vachara Riddhagni
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • 30/11/67

    สงคราม 16 วัน จีนบุกโจมตีเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.2521
    ความจริง ที่ต้องบอกต่อ...ให้ลูกหลาน ทั้งประเทศ ได้รับรู้ไว้
    หลังจากที่สหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ อันทันสมัยไว้มากมาย ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธประจำกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกในขณะนั้น
    ทำให้กองทัพเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก
    ทหารเวียดนาม จึงมีความกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่ง ประกาศยึดลาว กัมพูชา และ ไทยต่อทันที ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งลาวและกัมพูชา ก็ตกเป็นของเวียดนาม
    นายพลโว เหงียนเกี๊ยบ ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเจ็บแค้นมาก ที่ไทยยอมให้สหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานทัพ และใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินใน จ.อุบลราชธานี ขนระเบิดไปถล่มเวียดนามนับหมื่นเที่ยวบิน
    กองทัพเวียดนามขนอาวุธทุกชนิดที่มี รถถังจำนวนมาก มาประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาวหลายร้อยกิโลเมตร นายพลเวียดนามประกาศว่า จะนำทหารเข้าไปกินข้าวที่กรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 3 วัน
    นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น คือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกประชุมด่วน และขอให้ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า เรากำลังจะถูกเวียดนามบุก
    สหรัฐอเมริกา ตอบกลับมาว่า ขอให้เราช่วยตัวเอง เพราะสหรัฐเพิ่งถอนทัพจากเวียดนาม ไม่อาจช่วยอะไรได้อีกต่อไป รัฐบาลไทย จึงได้ขอใช้อาวุธ ที่ยังตกค้างอยู่ที่ไทย สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ไทยใช้อาวุธของอเมริกัน ที่ตกค้างจากสงครามและฝากเก็บไว้ในดินแดนไทย
    หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพทันที และถามในที่ประชุมว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะสู้เวียดนามได้กี่วัน .... ผู้บัญชาการทหารของกองทัพไทยตอบว่าประมาณ 4 วัน (มากกว่าที่นายพลเวียดนามบอกไว้ 1 วัน)
    หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ หันไปบอกกับพลเอกชาติชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า.....เราต้องรีบไปจีนด่วนที่สุด....
    หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำไทยก็ได้เข้าพบ “โจวเอินไหล” นายกรัฐมนตรีของจีน ประโยคแรก ที่โจวเอินไหล ทักทายพลเอกชาติชายคือ “เป็นไงบ้างหลานรัก” (พ่อของพลเอกชาติชาย คือ พลเอกผิน เป็นเพื่อนร่วมรบกับโจวเอินไหลในครั้งสงครามเชียงตุง)
    การเชื่อมความสัมพันธ์เป็นไปอย่างชี่นมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไปให้ความสำคัญกับไต้หวันมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ รับรองไต้หวันเป็นประเทศ แต่โจว เอิน ไหลไม่คิดมาก และ ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับ “เหมาเจ๋อตุง” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำจีนรุ่นต่อไป
    เวียดนามวุ่นวายกับลาวและกัมพูชาอยู่ 2 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2521 เวียดนามยกกำลังพล 400,000 นาย พร้อมอาวุธทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เตรียมบุกไทย
    ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปจีน เพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ มรว.คึกฤทธิ์ได้กรุยทางไว้
    เสนาธิการทหารของจีนประชุมกันและแนะนำว่า ควรปล่อยให้เวียดนามบุกเข้ายึดกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยส่งกองทัพจีนตามไปปลดแอกให้ แต่
    เติ้งเสี่ยวผิง ลุกขึ้นตบโต๊ะในที่ประชุม แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยเหลือมิตร ต้องช่วยให้ทันการณ์"
    เดือนพฤศจิกายน 2521 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางมาดูสถานการณ์ที่ประเทศไทย และรีบกลับไปทันที หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนมกราคม 2522 กองทัพจีนพร้อมกำลังพล 500,000 นาย รถถัง 5,000 คัน เครื่องบิน 1,200 ลำ ได้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม
    กองทัพจีน เข้าตีทางภาคเหนือของเวียดนามอย่างรุนแรง เวียดนามรีบถอนทัพที่ประชิดชายแดนไทย กลับไปรับศึกจีน จีนรุกไปถึงฮานอย จนทหารเวียดนามเสียชีวิตประมาณ 50,000 นาย แต่ทหารจีนก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่ากัน
    เวียตนามเสียหายหนัก
    ทัพเวียตนามต้องถอยร่นถึงชานเมืองฮานอยโดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 16 วัน จีนจึงหยุดตีเวีนตนาม และถอนทัพกลับ

    ย้อนไปนานกว่านั้น เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาอยุธยาแตกเสียกรุงให้พม่า
    ราชสำนักชิง รีบส่งข้าหลวง ลงเรือสำเภามาดูสถานการณ์ในไทย และ ให้รายงานต่อราชสำนักทางปักกิ่ง อยู่ตลอดเวลา ในบันทึกภาษาจีนเขียนไว้ว่า จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงประสงค์จะรู้ข่าวคราว ของสยามถึงขนาดกระวนกระวาย เรียกประชุมกลางดึกหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า จักรพรรดิจีนทรงให้ความสำคัญกับสยามเพียงใด
    ในจดหมายเหตุของราชวงศ์ชิงได้บันทึกถึง ครั้งที่จีนยกทัพตีภาคเหนือของพม่าไว้ว่า ขณะที่กองทัพจีนบุกพม่า จักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงติดต่อกับ “เจิ้งเจา” (สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ) หลายครั้ง ดังนั้น
    ข้อสงสัยที่ว่า จีนยกทัพตีพม่า ก็เพื่อดึงทัพของเนเมียวสีหบดีกลับไป ย่อมจะเป็นจริงเพราะถ้าทัพใหญ่ของพม่า ยังคงอยู่ที่อยุธยา กองทัพพระเจ้าตากฯ ซึ่งมีทหารเพียงหลักพันนายเท่านั้น ย่อมไม่มีทางจะเอาชนะทหารพม่าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนได้เลย และ ชาติไทยก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบันก็ได้
    ........ ตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับไทยมากๆ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความผูกพันอย่างแนบแน่น
    (ประเทศไทยมีคนจีนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยมากที่สุดในโลก)
    นี่คือคุณูปการที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อความอยู่รอดของเมืองไทย ที่คนรุ่นหลังไม่สนใจที่จะเรียนรู้
    ไม่ต้องรบ สยบด้วยการฑูตประเสริฐที่สุด

    ประเทศจีนช่วยเหลือประเทศไทย
    ด้วยความจริงใจ ไม่เคยคาดหวังค่าตอบแทนจากไทย ยกเว้นมิตรภาพ
    ประเทศไทยมีชาวจีนอพยพ
    มาอาศัยมากทีีสุดในโลก
    มากกว่า มาเลเซีย
    มากกว่า สิงคโปร์
    มากกว่า อินโดนีเซีย
    ดังนั้น ไทยจึงเปรียบเสมือนน้องของจีน

    ขอขอบพระคุณ
    ทันตแพทย์ สม สุจีรา ครับ
    ที่ท่านนำสาระดีๆมาให้อ่าน

    ถ่ายทอดโดย
    นายบัวสอน ประชามอญ

    โปรดแชร์ต่อถ้าเห็นว่ามีสาระดี
    30/11/67 สงคราม 16 วัน จีนบุกโจมตีเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.2521 ความจริง ที่ต้องบอกต่อ...ให้ลูกหลาน ทั้งประเทศ ได้รับรู้ไว้ หลังจากที่สหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ อันทันสมัยไว้มากมาย ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธประจำกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกในขณะนั้น ทำให้กองทัพเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก ทหารเวียดนาม จึงมีความกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่ง ประกาศยึดลาว กัมพูชา และ ไทยต่อทันที ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งลาวและกัมพูชา ก็ตกเป็นของเวียดนาม นายพลโว เหงียนเกี๊ยบ ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเจ็บแค้นมาก ที่ไทยยอมให้สหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานทัพ และใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินใน จ.อุบลราชธานี ขนระเบิดไปถล่มเวียดนามนับหมื่นเที่ยวบิน กองทัพเวียดนามขนอาวุธทุกชนิดที่มี รถถังจำนวนมาก มาประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาวหลายร้อยกิโลเมตร นายพลเวียดนามประกาศว่า จะนำทหารเข้าไปกินข้าวที่กรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 3 วัน นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น คือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกประชุมด่วน และขอให้ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า เรากำลังจะถูกเวียดนามบุก สหรัฐอเมริกา ตอบกลับมาว่า ขอให้เราช่วยตัวเอง เพราะสหรัฐเพิ่งถอนทัพจากเวียดนาม ไม่อาจช่วยอะไรได้อีกต่อไป รัฐบาลไทย จึงได้ขอใช้อาวุธ ที่ยังตกค้างอยู่ที่ไทย สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ไทยใช้อาวุธของอเมริกัน ที่ตกค้างจากสงครามและฝากเก็บไว้ในดินแดนไทย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพทันที และถามในที่ประชุมว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะสู้เวียดนามได้กี่วัน .... ผู้บัญชาการทหารของกองทัพไทยตอบว่าประมาณ 4 วัน (มากกว่าที่นายพลเวียดนามบอกไว้ 1 วัน) หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ หันไปบอกกับพลเอกชาติชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า.....เราต้องรีบไปจีนด่วนที่สุด.... หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำไทยก็ได้เข้าพบ “โจวเอินไหล” นายกรัฐมนตรีของจีน ประโยคแรก ที่โจวเอินไหล ทักทายพลเอกชาติชายคือ “เป็นไงบ้างหลานรัก” (พ่อของพลเอกชาติชาย คือ พลเอกผิน เป็นเพื่อนร่วมรบกับโจวเอินไหลในครั้งสงครามเชียงตุง) การเชื่อมความสัมพันธ์เป็นไปอย่างชี่นมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไปให้ความสำคัญกับไต้หวันมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ รับรองไต้หวันเป็นประเทศ แต่โจว เอิน ไหลไม่คิดมาก และ ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับ “เหมาเจ๋อตุง” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำจีนรุ่นต่อไป เวียดนามวุ่นวายกับลาวและกัมพูชาอยู่ 2 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2521 เวียดนามยกกำลังพล 400,000 นาย พร้อมอาวุธทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เตรียมบุกไทย ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปจีน เพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ มรว.คึกฤทธิ์ได้กรุยทางไว้ เสนาธิการทหารของจีนประชุมกันและแนะนำว่า ควรปล่อยให้เวียดนามบุกเข้ายึดกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยส่งกองทัพจีนตามไปปลดแอกให้ แต่ เติ้งเสี่ยวผิง ลุกขึ้นตบโต๊ะในที่ประชุม แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยเหลือมิตร ต้องช่วยให้ทันการณ์" เดือนพฤศจิกายน 2521 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางมาดูสถานการณ์ที่ประเทศไทย และรีบกลับไปทันที หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนมกราคม 2522 กองทัพจีนพร้อมกำลังพล 500,000 นาย รถถัง 5,000 คัน เครื่องบิน 1,200 ลำ ได้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม กองทัพจีน เข้าตีทางภาคเหนือของเวียดนามอย่างรุนแรง เวียดนามรีบถอนทัพที่ประชิดชายแดนไทย กลับไปรับศึกจีน จีนรุกไปถึงฮานอย จนทหารเวียดนามเสียชีวิตประมาณ 50,000 นาย แต่ทหารจีนก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่ากัน เวียตนามเสียหายหนัก ทัพเวียตนามต้องถอยร่นถึงชานเมืองฮานอยโดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 16 วัน จีนจึงหยุดตีเวีนตนาม และถอนทัพกลับ ย้อนไปนานกว่านั้น เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาอยุธยาแตกเสียกรุงให้พม่า ราชสำนักชิง รีบส่งข้าหลวง ลงเรือสำเภามาดูสถานการณ์ในไทย และ ให้รายงานต่อราชสำนักทางปักกิ่ง อยู่ตลอดเวลา ในบันทึกภาษาจีนเขียนไว้ว่า จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงประสงค์จะรู้ข่าวคราว ของสยามถึงขนาดกระวนกระวาย เรียกประชุมกลางดึกหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า จักรพรรดิจีนทรงให้ความสำคัญกับสยามเพียงใด ในจดหมายเหตุของราชวงศ์ชิงได้บันทึกถึง ครั้งที่จีนยกทัพตีภาคเหนือของพม่าไว้ว่า ขณะที่กองทัพจีนบุกพม่า จักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงติดต่อกับ “เจิ้งเจา” (สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ) หลายครั้ง ดังนั้น ข้อสงสัยที่ว่า จีนยกทัพตีพม่า ก็เพื่อดึงทัพของเนเมียวสีหบดีกลับไป ย่อมจะเป็นจริงเพราะถ้าทัพใหญ่ของพม่า ยังคงอยู่ที่อยุธยา กองทัพพระเจ้าตากฯ ซึ่งมีทหารเพียงหลักพันนายเท่านั้น ย่อมไม่มีทางจะเอาชนะทหารพม่าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนได้เลย และ ชาติไทยก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบันก็ได้ ........ ตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับไทยมากๆ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความผูกพันอย่างแนบแน่น (ประเทศไทยมีคนจีนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยมากที่สุดในโลก) นี่คือคุณูปการที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อความอยู่รอดของเมืองไทย ที่คนรุ่นหลังไม่สนใจที่จะเรียนรู้ ไม่ต้องรบ สยบด้วยการฑูตประเสริฐที่สุด ประเทศจีนช่วยเหลือประเทศไทย ด้วยความจริงใจ ไม่เคยคาดหวังค่าตอบแทนจากไทย ยกเว้นมิตรภาพ ประเทศไทยมีชาวจีนอพยพ มาอาศัยมากทีีสุดในโลก มากกว่า มาเลเซีย มากกว่า สิงคโปร์ มากกว่า อินโดนีเซีย ดังนั้น ไทยจึงเปรียบเสมือนน้องของจีน ขอขอบพระคุณ ทันตแพทย์ สม สุจีรา ครับ ที่ท่านนำสาระดีๆมาให้อ่าน ถ่ายทอดโดย นายบัวสอน ประชามอญ โปรดแชร์ต่อถ้าเห็นว่ามีสาระดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุไหงโก-ลกวุ่น มาเลย์เข้มข้ามแดน

    ปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่าง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ที่พบปัญหาชาวไทยและมาเลเซียใช้ช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกผ่านแม่น้ำโกลก โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปถึงการจับกุมยาเสพติด อาวุธปืน สินค้าผิดกฎหมาย ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป ทางการมาเลเซียประกาศให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องเข้า-ออกพรมแดนผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น

    กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย ติดป้ายเตือนริมแม่น้ำโกลกที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำผิดกฎหมายหลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยระบุว่า "บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและประเทศไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ"

    นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ยืนยันว่ามีทางเข้า-ออกรัฐกลันตันและไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ศูนย์ ICQS รันเตาปันจัง (ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ด่านบูกิตบุหงา (ตรงข้ามด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง) และด่านเป็งกาลันกูโบ (ตรงข้ามด่านตากใบ อ.ตากใบ) นอกนั้นเป็นช่องทางผิดกฎหมาย

    ขณะที่ดาโต๊ะ โมฮ้มหมัด ซูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน ระบุว่า ได้กำชับตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกนาย จับกุมชาวมาเลเซียที่มาจากไทยโดยใช้ช่องทางผิดกฎหมาย พร้อมเตือนทุกคนที่ต้องการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายว่าจะจับกุมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมเช่นกัน

    ที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังลักลอบขนยาเสพติด อาวุธปืนพก และสินค้าหนีภาษีอย่างเสรี ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้าประเทศผ่านศูนย์ ICQS เพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบยานพาหนะและควบคุมการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีได้ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยตามแนวชายแดนจะมีความเข้มงวดมากขึ้น

    อีกด้านหนึ่ง มาตรการเข้มงวดในการข้ามแดนของทางการมาเลเซีย ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมพบว่าผู้เข้าพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลดลงจากเดิม 100-200 ห้องเหลือ 15-20 ห้องต่อคืน ขณะที่มาตรการของทางการมาเลเซีย ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศวิตกกังวล ไม่กล้าเข้า-ออกประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว งานบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

    #Newskit
    สุไหงโก-ลกวุ่น มาเลย์เข้มข้ามแดน ปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่าง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ที่พบปัญหาชาวไทยและมาเลเซียใช้ช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกผ่านแม่น้ำโกลก โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปถึงการจับกุมยาเสพติด อาวุธปืน สินค้าผิดกฎหมาย ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป ทางการมาเลเซียประกาศให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องเข้า-ออกพรมแดนผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย ติดป้ายเตือนริมแม่น้ำโกลกที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำผิดกฎหมายหลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยระบุว่า "บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและประเทศไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ยืนยันว่ามีทางเข้า-ออกรัฐกลันตันและไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ศูนย์ ICQS รันเตาปันจัง (ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ด่านบูกิตบุหงา (ตรงข้ามด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง) และด่านเป็งกาลันกูโบ (ตรงข้ามด่านตากใบ อ.ตากใบ) นอกนั้นเป็นช่องทางผิดกฎหมาย ขณะที่ดาโต๊ะ โมฮ้มหมัด ซูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน ระบุว่า ได้กำชับตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกนาย จับกุมชาวมาเลเซียที่มาจากไทยโดยใช้ช่องทางผิดกฎหมาย พร้อมเตือนทุกคนที่ต้องการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายว่าจะจับกุมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมเช่นกัน ที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังลักลอบขนยาเสพติด อาวุธปืนพก และสินค้าหนีภาษีอย่างเสรี ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้าประเทศผ่านศูนย์ ICQS เพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบยานพาหนะและควบคุมการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีได้ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยตามแนวชายแดนจะมีความเข้มงวดมากขึ้น อีกด้านหนึ่ง มาตรการเข้มงวดในการข้ามแดนของทางการมาเลเซีย ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมพบว่าผู้เข้าพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลดลงจากเดิม 100-200 ห้องเหลือ 15-20 ห้องต่อคืน ขณะที่มาตรการของทางการมาเลเซีย ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศวิตกกังวล ไม่กล้าเข้า-ออกประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว งานบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก #Newskit
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 782 มุมมอง 0 รีวิว
  • สกัดกั้นอาชญากรรม สองสัญชาติไทย-มาเลย์ฯ

    การก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งทางการไทยจับกุม 6 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียพร้อมยาบ้า 6,000 เม็ด หรือทางการมาเลเซียจับกุมและสกัดกั้นน้ำตาลทราย 13,000 กิโลกรัม น้ำมันพืช 300 กล่อง ลักลอบขนไปยังประเทศไทย ทำให้ทางการไทยและมาเลเซียต่างหาทางป้องกันอาชญากรรมเหล่านี้

    เริ่มจากปัญหาการลักลอบข้ามแดนไทย-มาเลเซีย ผ่านแม่น้ำโกลก รัฐบาลท้องถิ่นรัฐกลันตันประกาศว่า จะเสนอรัฐบาลกลางมาเลเซีย ก่อสร้างกำแพงยาวประมาณ 100 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีและปัญหาน้ำท่วม

    นายโมฮัมเหม็ด ฟาดซิล ฮัสซัน รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน กล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะให้ความร่วมมือรัฐบาลกลางหารือเรื่องนี้ เพราะพรมแดนระหว่างรัฐกลันตันกับไทยเป็นพรมแดนของประเทศ เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลกลาง การสร้างกำแพงนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาเมืองชายแดน เช่น รันเตาปันจัง และเปงกาลันกุบอร์ด้วย

    ด้าน ตันศรี ราซารุดดิน บิน ฮุสเซน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เรียกร้องให้ชาวมาเลเซียที่วางแผนเดินทางไปยังสุไหงโก-ลก ประเทศไทย ให้ใช้จุดเข้า-ออกที่ถูกกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น แม้การที่ชาวมาเลเซียใช้เส้นทางที่ผิดกฎหมายเป็นเรื่องปกติ แต่เป็นการเปิดช่องให้เกิดการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีและการก่ออาชญากรรมข้ามแดน

    นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ผู้ก่อเหตุอาชญากรรมข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซียอาจมีบัตรประจำตัวประชาชน 2 ใบ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนไทย กับบัตร MyKad ของมาเลเซีย หรือแม้กระทั่งการถือสองสัญชาติ เมื่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไล่ล่า ผู้ต้องสงสัยมักจะหลบหนีไปยังมาเลเซียหรือไทย

    ทำให้นายไซฟุดดิน นาซูเตียน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย กล่าวว่า ได้ขอรายชื่อจากทางการไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบกับฐานข้อมูลกรมทะเบียนราษฎร์ (NRD) หลังจากตำรวจไทยระบุว่าอาชญากรข้ามแดนอาจมีบัตรประจำตัวประชาชนหรือการถือสองสัญชาติ ยืนยันว่ามาเลเซียไม่รับรองบุคคลที่มีสองสัญชาติ

    ที่ผ่านมามีคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-มาเลเซีย แลกเปลี่ยนข้อมูลบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุอาชญากรรม อำนวยความสะดวกแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ต้องสงสัยทั้งสองประเทศ และยังคงเปิดกว้างรับข้อมูล หากทางการไทยส่งรายชื่อมา จะตรวจสอบกับฐานข้อมูล NRD เพื่อยืนยันสถานะบุคคล

    นอกจากนี้ ในประเทศไทยได้แสดงใบหน้าบุคคลที่ต้องการตัวเพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแสจับกุม ดังนั้นตำรวจมาเลเซียและไทยจึงให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจัดการผู้ต้องสงสัยเป็นที่ต้องการตัวของทั้งสองประเทศ

    #Newskit
    สกัดกั้นอาชญากรรม สองสัญชาติไทย-มาเลย์ฯ การก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งทางการไทยจับกุม 6 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียพร้อมยาบ้า 6,000 เม็ด หรือทางการมาเลเซียจับกุมและสกัดกั้นน้ำตาลทราย 13,000 กิโลกรัม น้ำมันพืช 300 กล่อง ลักลอบขนไปยังประเทศไทย ทำให้ทางการไทยและมาเลเซียต่างหาทางป้องกันอาชญากรรมเหล่านี้ เริ่มจากปัญหาการลักลอบข้ามแดนไทย-มาเลเซีย ผ่านแม่น้ำโกลก รัฐบาลท้องถิ่นรัฐกลันตันประกาศว่า จะเสนอรัฐบาลกลางมาเลเซีย ก่อสร้างกำแพงยาวประมาณ 100 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีและปัญหาน้ำท่วม นายโมฮัมเหม็ด ฟาดซิล ฮัสซัน รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน กล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะให้ความร่วมมือรัฐบาลกลางหารือเรื่องนี้ เพราะพรมแดนระหว่างรัฐกลันตันกับไทยเป็นพรมแดนของประเทศ เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลกลาง การสร้างกำแพงนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาเมืองชายแดน เช่น รันเตาปันจัง และเปงกาลันกุบอร์ด้วย ด้าน ตันศรี ราซารุดดิน บิน ฮุสเซน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เรียกร้องให้ชาวมาเลเซียที่วางแผนเดินทางไปยังสุไหงโก-ลก ประเทศไทย ให้ใช้จุดเข้า-ออกที่ถูกกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น แม้การที่ชาวมาเลเซียใช้เส้นทางที่ผิดกฎหมายเป็นเรื่องปกติ แต่เป็นการเปิดช่องให้เกิดการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีและการก่ออาชญากรรมข้ามแดน นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ผู้ก่อเหตุอาชญากรรมข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซียอาจมีบัตรประจำตัวประชาชน 2 ใบ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนไทย กับบัตร MyKad ของมาเลเซีย หรือแม้กระทั่งการถือสองสัญชาติ เมื่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไล่ล่า ผู้ต้องสงสัยมักจะหลบหนีไปยังมาเลเซียหรือไทย ทำให้นายไซฟุดดิน นาซูเตียน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย กล่าวว่า ได้ขอรายชื่อจากทางการไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบกับฐานข้อมูลกรมทะเบียนราษฎร์ (NRD) หลังจากตำรวจไทยระบุว่าอาชญากรข้ามแดนอาจมีบัตรประจำตัวประชาชนหรือการถือสองสัญชาติ ยืนยันว่ามาเลเซียไม่รับรองบุคคลที่มีสองสัญชาติ ที่ผ่านมามีคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-มาเลเซีย แลกเปลี่ยนข้อมูลบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุอาชญากรรม อำนวยความสะดวกแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ต้องสงสัยทั้งสองประเทศ และยังคงเปิดกว้างรับข้อมูล หากทางการไทยส่งรายชื่อมา จะตรวจสอบกับฐานข้อมูล NRD เพื่อยืนยันสถานะบุคคล นอกจากนี้ ในประเทศไทยได้แสดงใบหน้าบุคคลที่ต้องการตัวเพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแสจับกุม ดังนั้นตำรวจมาเลเซียและไทยจึงให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจัดการผู้ต้องสงสัยเป็นที่ต้องการตัวของทั้งสองประเทศ #Newskit
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กมธ.มั่นคง' กุมขมับ หน่วยงานรัฐตีกรรเชียง ไม่ให้ข้อมูลกรณีชั้น 14
    .
    การสืบสาวราวของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักพิงแทนเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯ ใกล้เคียงกับคำว่าคว้าน้ำเหลวเข้าไปทุกที
    .
    ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล หรือแม้แต่บุคคลสำคัญอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. รวมไปถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯคาดว่าจะมาให้ข้อมูล สุดท้ายคดีพลิก เนื่องจากไม่ได้มาร่วมประชุมแต่อย่างใด
    .
    นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ตลอดการทำหน้าที่ของประธาน กมธ. 53 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการน้อยที่สุด และหน่วยงานราชการไม่อยากจะตอบอะไร ทำให้ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงจะต้องมีอยู่ต่อไป
    .
    "ความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ตนเชื่อว่า ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายรังสิมันต์ ระบุ
    .
    ขณะที่ การประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงการมาให้ข้อมูลของอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจอย่าง พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากอดีตนายตำรวจรายนี้ แจ้งเพียงว่า ช่วงที่ทำหน้าที่เป็นรองนายแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบข้อมูลผู้ป่วย เพราะกำลังทำเรื่องเออรี่รีไทร์ และพักร้อนในช่วงนั้น เมื่อมีหนังสือส่งตัวมาให้รักษา เราก็รักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ที่ดูแลด้วย โดยส่วนตัวเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดนายทักษิณ ส่วนนายทักษิณจะผ่าตัดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะตอนนั้นลาพักร้อน 3 สัปดาห์ ส่วนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับภาวะของโรค ส่วนตัวไม่เคยไปรักษาชั้น 14 ไม่สามารถตอบได้ ขณะที่เรื่องการบันทึกภาพระหว่างรักษาตัว ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่เคยรักษาผู้ต้องขังนั้น ไม่เคยเห็นต้องบันทึกภาพ
    ..............
    Sondhi X
    'กมธ.มั่นคง' กุมขมับ หน่วยงานรัฐตีกรรเชียง ไม่ให้ข้อมูลกรณีชั้น 14 . การสืบสาวราวของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักพิงแทนเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯ ใกล้เคียงกับคำว่าคว้าน้ำเหลวเข้าไปทุกที . ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล หรือแม้แต่บุคคลสำคัญอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. รวมไปถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯคาดว่าจะมาให้ข้อมูล สุดท้ายคดีพลิก เนื่องจากไม่ได้มาร่วมประชุมแต่อย่างใด . นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ตลอดการทำหน้าที่ของประธาน กมธ. 53 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการน้อยที่สุด และหน่วยงานราชการไม่อยากจะตอบอะไร ทำให้ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงจะต้องมีอยู่ต่อไป . "ความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ตนเชื่อว่า ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายรังสิมันต์ ระบุ . ขณะที่ การประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงการมาให้ข้อมูลของอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจอย่าง พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากอดีตนายตำรวจรายนี้ แจ้งเพียงว่า ช่วงที่ทำหน้าที่เป็นรองนายแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบข้อมูลผู้ป่วย เพราะกำลังทำเรื่องเออรี่รีไทร์ และพักร้อนในช่วงนั้น เมื่อมีหนังสือส่งตัวมาให้รักษา เราก็รักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ที่ดูแลด้วย โดยส่วนตัวเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดนายทักษิณ ส่วนนายทักษิณจะผ่าตัดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะตอนนั้นลาพักร้อน 3 สัปดาห์ ส่วนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับภาวะของโรค ส่วนตัวไม่เคยไปรักษาชั้น 14 ไม่สามารถตอบได้ ขณะที่เรื่องการบันทึกภาพระหว่างรักษาตัว ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่เคยรักษาผู้ต้องขังนั้น ไม่เคยเห็นต้องบันทึกภาพ .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 989 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุไหงโก-ลกเละเทะ มาเลย์ฯ ลอบเข้าไทย

    การจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 6 คน หนึ่งในนั้นคือ น.ส.วัน โนรชาฮีดา อัซลิน บินตี วัน อิสมาอีล นักร้องเพลงลิเกบารัตวัย 28 ปี ที่มีผลงานเพลง Cinta Setandan Pisang เพลงฮิตที่มีผู้ฟังในยูทูบมากถึง 23 ล้านวิว พร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด ภายในห้องพักโรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของชาวมาเลเซีย เพื่อไปหาความสำราญในประเทศไทย เพราะมีผู้ต้องหา 2 คน ถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังไม่พบตราประทับบนหนังสือเดินทาง

    ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งรัฐกลันตัน ยอมรับว่าคนในพื้นที่จำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาความบันเทิงที่ไนต์คลับ แม้ตำรวจรัฐกลันตันจะระงับยับยั้งเรื่องนี้ แต่โดยหน้าที่จำกัดแค่การจับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเท่านั้น วัยรุ่นเหล่านี้เดินทางมายังประเทศไทยช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) แล้วกลับรัฐกลันตันในวันเสาร์ (2 พ.ย.) โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันจัง ข้ามแม่น้ำโกลกเพื่อเข้าประเทศไทย แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันจัง

    ด้านนายโมฮัมเหม็ด ฟาดซิล ฮัสซัน รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน จะเสนอรัฐบาลกลางมาเลเซียก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ความยาวเกือบ 100 กิโลเมตร เพื่อปราบปรามการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากการใช้กองกำลังความมั่นคงป้องกันชายแดนทั้งหมดทำได้ยาก แม้ทางการจะควบคุมอย่างเข้มงวดที่ชายแดน แต่ช่องทางผิดกฎหมายมีหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้การเฝ้าระวังเป็นไปได้ยาก ซึ่งการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมายจะใช้เส้นทางที่ไม่ได้รับการควบคุม หรือควบคุมได้ยาก ทำให้เจ้าหน้าที่ยากลำบากในการปราบปราม

    ส่วนนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการควบคุมดูแล และป้องกันยาเสพติดในฝั่งประเทศไทย ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิง ทั้งดิสโก้เทค ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยากต่อการควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝั่งมาเลเซีย และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ดูแลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะตลอดระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงสุไหงโก-ลก กว่า 1,200 กิโลเมตร ไม่มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดและจริงจัง ทำให้มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่สุไหงโก-ลกได้

    #Newskit #สุไหงโกลก #Kelantan
    สุไหงโก-ลกเละเทะ มาเลย์ฯ ลอบเข้าไทย การจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 6 คน หนึ่งในนั้นคือ น.ส.วัน โนรชาฮีดา อัซลิน บินตี วัน อิสมาอีล นักร้องเพลงลิเกบารัตวัย 28 ปี ที่มีผลงานเพลง Cinta Setandan Pisang เพลงฮิตที่มีผู้ฟังในยูทูบมากถึง 23 ล้านวิว พร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด ภายในห้องพักโรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของชาวมาเลเซีย เพื่อไปหาความสำราญในประเทศไทย เพราะมีผู้ต้องหา 2 คน ถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังไม่พบตราประทับบนหนังสือเดินทาง ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งรัฐกลันตัน ยอมรับว่าคนในพื้นที่จำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาความบันเทิงที่ไนต์คลับ แม้ตำรวจรัฐกลันตันจะระงับยับยั้งเรื่องนี้ แต่โดยหน้าที่จำกัดแค่การจับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเท่านั้น วัยรุ่นเหล่านี้เดินทางมายังประเทศไทยช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) แล้วกลับรัฐกลันตันในวันเสาร์ (2 พ.ย.) โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันจัง ข้ามแม่น้ำโกลกเพื่อเข้าประเทศไทย แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันจัง ด้านนายโมฮัมเหม็ด ฟาดซิล ฮัสซัน รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน จะเสนอรัฐบาลกลางมาเลเซียก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ความยาวเกือบ 100 กิโลเมตร เพื่อปราบปรามการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากการใช้กองกำลังความมั่นคงป้องกันชายแดนทั้งหมดทำได้ยาก แม้ทางการจะควบคุมอย่างเข้มงวดที่ชายแดน แต่ช่องทางผิดกฎหมายมีหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้การเฝ้าระวังเป็นไปได้ยาก ซึ่งการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมายจะใช้เส้นทางที่ไม่ได้รับการควบคุม หรือควบคุมได้ยาก ทำให้เจ้าหน้าที่ยากลำบากในการปราบปราม ส่วนนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการควบคุมดูแล และป้องกันยาเสพติดในฝั่งประเทศไทย ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิง ทั้งดิสโก้เทค ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยากต่อการควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝั่งมาเลเซีย และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ดูแลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะตลอดระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงสุไหงโก-ลก กว่า 1,200 กิโลเมตร ไม่มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดและจริงจัง ทำให้มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่สุไหงโก-ลกได้ #Newskit #สุไหงโกลก #Kelantan
    Like
    Love
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 762 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทย-มาเลย์เจาะกลุ่ม Self Drive Tourism

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 23 ต.ค. 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนกว่า 4 ล้านคน โดยพบว่า 49% เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา ทำให้รัฐบาลไทยขยายเวลายกเว้นแบบฟอร์ม ตม.6 ผ่าน 4 ด่านชายแดนทางบกระหว่างไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2567 ถึง 30 เม.ย. 2568 แต่สำหรับคนไทยมาเยือนประเทศมาเลเซีย ข้อมูลจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย เดือน ส.ค. 2567 อยู่ที่ 1.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวมาเลเซีย ร่วมกันจัดโครงการ Malaysia & Thailand Self Drive Tourism เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบขับรถข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเปิดตัวคู่มือแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว Self-Drive เชื่อมโยงชายแดนไทยและมาเลเซีย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเส้นทาง

    ททท. คาดว่าในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเยือนไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ส่วนคนไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน ส่วนการท่องเที่ยวมาเลเซีย ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากไทยไม่น้อยกว่า 2.3 ล้านคนในปี 2568 และกำลังจะมีแคมเปญ Visit Malaysia 2026 ในปี 2569 โดยมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 35.6 ล้านคน

    สำหรับคู่มือ Malaysia & Thailand Self-Drive ของการท่องเที่ยวมาเลเซีย นำเสนอแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวใน 4 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเปอร์ลิส (Perlis) รัฐเคดะห์ (Kedah) รัฐปีนัง (Penang) และรัฐเปรัก (Perak) ทั้งหมด 28 แห่ง พร้อมกับคิวอาร์โค้ดเพื่อค้นหาโรงแรมที่พักจาก The Malaysia Budget & Business Hotel Association (MyBHA) ข้อมูลจุดพักรถ R&R (Rest & Relaxation) ปั๊มน้ำมันและสถานที่ชาร์จรถยนต์ EV บนทางพิเศษเหนือ-ใต้หมายเลข 1 (E1) และข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ

    นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://www.malaysia.travel/explore/malaysia-thailand-self-drive

    อนึ่ง สำหรับรถยนต์จากไทยไปมาเลเซีย ผู้ใช้รถจะต้องเป็นเจ้าของรถโดยตรง หากเป็นรถติดไฟแนนซ์ส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาต โดยความเข้มของฟิล์มกรองแสงต้องไม่เกิน 40% ที่หน้าด่านสะเดาจะมีเอเจนซี่ ให้บริการรับทำเอกสารและประกันรถยนต์ ซึ่งจะได้แผ่นป้ายวงกลม (ICP) หรือสำเนาใบอนุญาตนำเข้ายานพาหนะของมาเลเซีย ประกันภัยรถยนต์มาเลเซีย และสติกเกอร์ทะเบียนรถยนต์ภาษาอังกฤษ ส่วนใบขับขี่ใช้ของประเทศไทยได้ ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

    #Newskit #SelfDriveTourism #ThaiMalaysia
    ไทย-มาเลย์เจาะกลุ่ม Self Drive Tourism นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 23 ต.ค. 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนกว่า 4 ล้านคน โดยพบว่า 49% เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา ทำให้รัฐบาลไทยขยายเวลายกเว้นแบบฟอร์ม ตม.6 ผ่าน 4 ด่านชายแดนทางบกระหว่างไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2567 ถึง 30 เม.ย. 2568 แต่สำหรับคนไทยมาเยือนประเทศมาเลเซีย ข้อมูลจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย เดือน ส.ค. 2567 อยู่ที่ 1.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวมาเลเซีย ร่วมกันจัดโครงการ Malaysia & Thailand Self Drive Tourism เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบขับรถข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเปิดตัวคู่มือแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว Self-Drive เชื่อมโยงชายแดนไทยและมาเลเซีย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเส้นทาง ททท. คาดว่าในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเยือนไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ส่วนคนไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน ส่วนการท่องเที่ยวมาเลเซีย ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากไทยไม่น้อยกว่า 2.3 ล้านคนในปี 2568 และกำลังจะมีแคมเปญ Visit Malaysia 2026 ในปี 2569 โดยมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 35.6 ล้านคน สำหรับคู่มือ Malaysia & Thailand Self-Drive ของการท่องเที่ยวมาเลเซีย นำเสนอแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวใน 4 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเปอร์ลิส (Perlis) รัฐเคดะห์ (Kedah) รัฐปีนัง (Penang) และรัฐเปรัก (Perak) ทั้งหมด 28 แห่ง พร้อมกับคิวอาร์โค้ดเพื่อค้นหาโรงแรมที่พักจาก The Malaysia Budget & Business Hotel Association (MyBHA) ข้อมูลจุดพักรถ R&R (Rest & Relaxation) ปั๊มน้ำมันและสถานที่ชาร์จรถยนต์ EV บนทางพิเศษเหนือ-ใต้หมายเลข 1 (E1) และข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://www.malaysia.travel/explore/malaysia-thailand-self-drive อนึ่ง สำหรับรถยนต์จากไทยไปมาเลเซีย ผู้ใช้รถจะต้องเป็นเจ้าของรถโดยตรง หากเป็นรถติดไฟแนนซ์ส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาต โดยความเข้มของฟิล์มกรองแสงต้องไม่เกิน 40% ที่หน้าด่านสะเดาจะมีเอเจนซี่ ให้บริการรับทำเอกสารและประกันรถยนต์ ซึ่งจะได้แผ่นป้ายวงกลม (ICP) หรือสำเนาใบอนุญาตนำเข้ายานพาหนะของมาเลเซีย ประกันภัยรถยนต์มาเลเซีย และสติกเกอร์ทะเบียนรถยนต์ภาษาอังกฤษ ส่วนใบขับขี่ใช้ของประเทศไทยได้ ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล #Newskit #SelfDriveTourism #ThaiMalaysia
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 748 มุมมอง 0 รีวิว
  • โกตาบารูอัปเกรดสนามบิน-ระบบราง

    โกตาบารู (Kota Bharu) เมืองหลวงของรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทางรถยนต์ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และเรือข้ามฟากที่ด่านตากใบ (ท่าเรือ) จ.นราธิวาส แม้จะเป็นรัฐอนุรักษ์นิยมที่เคร่งครัดในเรื่องศาสนามากที่สุด และจัดอยู่ในกลุ่มรัฐที่ยากจนที่สุด แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลางของมาเลเซียได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง กระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว

    ท่าอากาศยานสุลต่านอิสมาอิล เปตรา โกตาบารู (KBR) ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 ได้เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ระยะที่ 1 รองรับผู้โดยสารได้ 1.5 ล้านคนต่อปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 440 ล้านริงกิต ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยตอบรับที่จะขยายทางวิ่ง (Runway) เพิ่มอีก 400 เมตร จากเดิม 2,400 เมตร เป็น 2,800 เมตร ตามที่มุขมนตรีรัฐกลันตันร้องขอ เพื่อรองรับการเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ นำผู้แสวงบุญไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย

    ปัจจุบันสนามบินโกตาบารู มีเที่ยวบินไปยังสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) มี 3 สายการบิน ได้แก่ แอร์เอเชีย มาเลเซียแอร์ไลน์ส และบาติกแอร์ สนามบินซูบัง (SZB) กับสนามบินปีนัง (PEN) มีบินทุกวันโดยไฟร์ฟลาย สนามบินโคตาคินาบาลู (BKI) กับสนามบินยะโฮร์บาห์รู (JHB) 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินกูชิ่ง (KCH) 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ที่ผ่านมามีชาวไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาขึ้นเครื่องไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพราะค่าโดยสารถูก ไม่ถึง 1,000 บาทต่อเที่ยว

    ส่วนโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย หรือ ECRL (East Coast Rail Link) ระยะทาง 665 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 50,270 ล้านริงกิต ต้นทางจากสถานีโกตาบารู ผ่านรัฐกลันตัน รัฐตรังกานู รัฐปะหัง และรัฐสลังงอร์ ปลายทางสถานีจาลัน คาสตัม (Jalan Castam) ย่านพอร์ตแคลง (Port Klang) โดยใช้รถไฟโดยสารความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดเวลาเดินทางไปยังสถานีกอมบัค (Gombak) เหลือประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถต่อรถไฟฟ้า LRT ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้

    นายนิค โซห์ ยาคูบ (Nik Soh Yaacoub) ผู้อำนวยการฝ่ายโยธาธิการของรัฐกลันตัน เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างทางรถไฟช่วงที่ผ่านรัฐกลันตัน ระยะทาง 48.86 กิโลเมตร คืบหน้า 83.27% ส่วนการก่อสร้างสถานีโกตาบารู คืบหน้า 45.48% เร็วกว่าแผนเล็กน้อย ส่วนสถานีปาซีร์ปูเตะห์ (Pasir Puteh) สำหรับการโดยสารและขนส่งสินค้า ล่าช้าเล็กน้อยเพราะปัจจัยแวดล้อมหลายประการ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 2568 และเปิดให้บริการในปี 2570

    #Newskit #KotaBharu #ECRL
    โกตาบารูอัปเกรดสนามบิน-ระบบราง โกตาบารู (Kota Bharu) เมืองหลวงของรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทางรถยนต์ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และเรือข้ามฟากที่ด่านตากใบ (ท่าเรือ) จ.นราธิวาส แม้จะเป็นรัฐอนุรักษ์นิยมที่เคร่งครัดในเรื่องศาสนามากที่สุด และจัดอยู่ในกลุ่มรัฐที่ยากจนที่สุด แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลางของมาเลเซียได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง กระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุลต่านอิสมาอิล เปตรา โกตาบารู (KBR) ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 ได้เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ระยะที่ 1 รองรับผู้โดยสารได้ 1.5 ล้านคนต่อปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 440 ล้านริงกิต ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยตอบรับที่จะขยายทางวิ่ง (Runway) เพิ่มอีก 400 เมตร จากเดิม 2,400 เมตร เป็น 2,800 เมตร ตามที่มุขมนตรีรัฐกลันตันร้องขอ เพื่อรองรับการเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ นำผู้แสวงบุญไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย ปัจจุบันสนามบินโกตาบารู มีเที่ยวบินไปยังสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) มี 3 สายการบิน ได้แก่ แอร์เอเชีย มาเลเซียแอร์ไลน์ส และบาติกแอร์ สนามบินซูบัง (SZB) กับสนามบินปีนัง (PEN) มีบินทุกวันโดยไฟร์ฟลาย สนามบินโคตาคินาบาลู (BKI) กับสนามบินยะโฮร์บาห์รู (JHB) 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินกูชิ่ง (KCH) 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ที่ผ่านมามีชาวไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาขึ้นเครื่องไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพราะค่าโดยสารถูก ไม่ถึง 1,000 บาทต่อเที่ยว ส่วนโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย หรือ ECRL (East Coast Rail Link) ระยะทาง 665 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 50,270 ล้านริงกิต ต้นทางจากสถานีโกตาบารู ผ่านรัฐกลันตัน รัฐตรังกานู รัฐปะหัง และรัฐสลังงอร์ ปลายทางสถานีจาลัน คาสตัม (Jalan Castam) ย่านพอร์ตแคลง (Port Klang) โดยใช้รถไฟโดยสารความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดเวลาเดินทางไปยังสถานีกอมบัค (Gombak) เหลือประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถต่อรถไฟฟ้า LRT ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้ นายนิค โซห์ ยาคูบ (Nik Soh Yaacoub) ผู้อำนวยการฝ่ายโยธาธิการของรัฐกลันตัน เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างทางรถไฟช่วงที่ผ่านรัฐกลันตัน ระยะทาง 48.86 กิโลเมตร คืบหน้า 83.27% ส่วนการก่อสร้างสถานีโกตาบารู คืบหน้า 45.48% เร็วกว่าแผนเล็กน้อย ส่วนสถานีปาซีร์ปูเตะห์ (Pasir Puteh) สำหรับการโดยสารและขนส่งสินค้า ล่าช้าเล็กน้อยเพราะปัจจัยแวดล้อมหลายประการ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 2568 และเปิดให้บริการในปี 2570 #Newskit #KotaBharu #ECRL
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฮาลา – บาลา

    พื้นที่อนุรักษ์แห่งใหม่ของประเทศไทย ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย มีพื้นที่ 270,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติจะเป็นพื้นที่ป่าบาลาที่ครอบคลุม อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น ต้นยวน ต้นยูคาลิบตัส ต้นสยา เป็นไม้เด่นของป่าฮาลา-บาลา เพราะเป็นแหล่งทำรังที่สำคัญของนกเงือก ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น ชะนีดำใหญ่ หรือ เซียมัง นอกจากนั้นยังมีกบทูด ซึ่งเป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

    ผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ตู้ ปณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หรือฝ่ายกิจการเขตรักษาพันธุ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร 0-2561-0777 ต่อ 1615 ในวันเวลาราชการ หรือเข้าชมเว็บไซต์ที่ www.dnp.go.th

    การเดินทาง สามารถขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปอำเภอแว้ง จนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่ไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
    เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฮาลา – บาลา พื้นที่อนุรักษ์แห่งใหม่ของประเทศไทย ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย มีพื้นที่ 270,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติจะเป็นพื้นที่ป่าบาลาที่ครอบคลุม อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น ต้นยวน ต้นยูคาลิบตัส ต้นสยา เป็นไม้เด่นของป่าฮาลา-บาลา เพราะเป็นแหล่งทำรังที่สำคัญของนกเงือก ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น ชะนีดำใหญ่ หรือ เซียมัง นอกจากนั้นยังมีกบทูด ซึ่งเป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ตู้ ปณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หรือฝ่ายกิจการเขตรักษาพันธุ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร 0-2561-0777 ต่อ 1615 ในวันเวลาราชการ หรือเข้าชมเว็บไซต์ที่ www.dnp.go.th การเดินทาง สามารถขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปอำเภอแว้ง จนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่ไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับมือแม่สายระดับน้ำสูง อพยพชาวบ้านสายลมจอย การไฟฟ้าฯ ดับไฟฉุกเฉิน
    .
    วันนี้ (3 ต.ค.) สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำสาย บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสาย บริเวณด่านพรมแดนแม่สาย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และร้านค้าบริเวณตลาดสายลมจอย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์แล้ว
    .
    ล่าสุด เมื่อเวลา 11.50 น. อำเภอแม่สาย สั่งอพยพชาวบ้านบริเวณซอยสายลมจอย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว อยู่ที่วัดดอยเวา วัดถ้ำผาจม ส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ ที่เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดระลอกแรก หยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำสูง ปฏิบัติงานไม่ได้
    .
    ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย ประกาศว่า เวลา 11.10 น. จะมีการดับกระแสไฟฟ้าฉุกเฉินบริเวณสายลมจอย ถึงเกาะทราย เนื่องจากระดับน้ำท่วมขึ้นสูงบริเวณถนนสายลมจอย โดยจะมีผู้ได้รับผลกระทบ บริเวณบ้านถ้ำผาจม ถึงสายลมจอย หมู่บ้านไม้ลุงขน หมู่บ้านเกาะทราย ผามควาย
    .
    ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดเชียงราย พบว่าฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค. ทำให้ช่วงเช้าวันนี้หลายพื่นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายมีน้ำท่วมขัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำลดผลกระทบให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วนแล้ว
    .
    ขณะทีีสถานีอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศวันนี้ ว่ายังคงมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้มีการประกาศ เฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังแม่น้ำกก ช่วงวันที่ 2-9 ต.ค. 2567 เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้ฝนตกหนักมากในพื้นที่ต้นน้ำในเขต อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำกก บริเวณ อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง แม่จัน ดอยหลวง และเชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 0.5 - 1.0 เมตร
    .
    ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งเตือนทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย (ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย) หมายเลขโทรศัพท์ 09 3131 1784 สายด่วน 1567
    ..............
    Sondhi X
    รับมือแม่สายระดับน้ำสูง อพยพชาวบ้านสายลมจอย การไฟฟ้าฯ ดับไฟฉุกเฉิน . วันนี้ (3 ต.ค.) สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำสาย บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสาย บริเวณด่านพรมแดนแม่สาย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และร้านค้าบริเวณตลาดสายลมจอย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์แล้ว . ล่าสุด เมื่อเวลา 11.50 น. อำเภอแม่สาย สั่งอพยพชาวบ้านบริเวณซอยสายลมจอย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว อยู่ที่วัดดอยเวา วัดถ้ำผาจม ส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ ที่เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดระลอกแรก หยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำสูง ปฏิบัติงานไม่ได้ . ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาแม่สาย ประกาศว่า เวลา 11.10 น. จะมีการดับกระแสไฟฟ้าฉุกเฉินบริเวณสายลมจอย ถึงเกาะทราย เนื่องจากระดับน้ำท่วมขึ้นสูงบริเวณถนนสายลมจอย โดยจะมีผู้ได้รับผลกระทบ บริเวณบ้านถ้ำผาจม ถึงสายลมจอย หมู่บ้านไม้ลุงขน หมู่บ้านเกาะทราย ผามควาย . ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดเชียงราย พบว่าฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค. ทำให้ช่วงเช้าวันนี้หลายพื่นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายมีน้ำท่วมขัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายน้ำลดผลกระทบให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วนแล้ว . ขณะทีีสถานีอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศวันนี้ ว่ายังคงมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้มีการประกาศ เฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังแม่น้ำกก ช่วงวันที่ 2-9 ต.ค. 2567 เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ทำให้ฝนตกหนักมากในพื้นที่ต้นน้ำในเขต อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำกก บริเวณ อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง แม่จัน ดอยหลวง และเชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 0.5 - 1.0 เมตร . ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งเตือนทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย (ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย) หมายเลขโทรศัพท์ 09 3131 1784 สายด่วน 1567 .............. Sondhi X
    Sad
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1380 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง

    อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

    ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร

    ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร

    (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org)

    #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org) #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    Like
    Sad
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1256 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts