ค้นหา
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- ช่วงนี้รู้สึกว่าได้เลิกตามอินฟลูสายเกมส์บางคน พอทำคลิปเสวนากับนักวิชาการโปรตะวันตก พอลองเข้าไปดูตัวอย่างคลิปผมรู้เลยว่า นักวิชาการคนนั้นเกลียดชังจีน มองจีนเป็นมะเร็ง ผมเลยถอนซับไม่ติดตามมันต่อแล้ว บางทีคนรอบข้างชอบเสพในสิ่งที่ผมไม่อยากเสพมัน ผมคิดว่ามัน Toxic มากที่ต้องทนฟังที่เขาเปิด และเขาก็เข้มงวดกับผมมากเกินไปจนผมคิดมาก แต่เจนเขากับเจนเราต่างกันเยอะมาก เจนเราทางเลือกหาเงินมันเยอะและเจนเขาทางเลือกมีไม่กี่อย่าง เจนเขาไม่ควรเป็นสิ่งที่ต้องเอามาชี้นำเจนเราจนรู้สึกว่าเดินไปก็มีแต่เหว อย่าว่าแต่ข้ามเขาหลายลี้เลย แต่คงต้องเจอกับดักของงานประจำอีกเยอะ บางทีสิ่งที่คนรอบข้างเสพก็ล้วนอมขี้ฟันตะวันตกมาพ่นๆๆให้ผู้บริโภคสื่อฟังจนโงหัวไม่ขึ้นทั้งนั้นทั้งสิ้นช่วงนี้รู้สึกว่าได้เลิกตามอินฟลูสายเกมส์บางคน พอทำคลิปเสวนากับนักวิชาการโปรตะวันตก พอลองเข้าไปดูตัวอย่างคลิปผมรู้เลยว่า นักวิชาการคนนั้นเกลียดชังจีน มองจีนเป็นมะเร็ง ผมเลยถอนซับไม่ติดตามมันต่อแล้ว บางทีคนรอบข้างชอบเสพในสิ่งที่ผมไม่อยากเสพมัน ผมคิดว่ามัน Toxic มากที่ต้องทนฟังที่เขาเปิด และเขาก็เข้มงวดกับผมมากเกินไปจนผมคิดมาก แต่เจนเขากับเจนเราต่างกันเยอะมาก เจนเราทางเลือกหาเงินมันเยอะและเจนเขาทางเลือกมีไม่กี่อย่าง เจนเขาไม่ควรเป็นสิ่งที่ต้องเอามาชี้นำเจนเราจนรู้สึกว่าเดินไปก็มีแต่เหว อย่าว่าแต่ข้ามเขาหลายลี้เลย แต่คงต้องเจอกับดักของงานประจำอีกเยอะ บางทีสิ่งที่คนรอบข้างเสพก็ล้วนอมขี้ฟันตะวันตกมาพ่นๆๆให้ผู้บริโภคสื่อฟังจนโงหัวไม่ขึ้นทั้งนั้นทั้งสิ้น0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิวกรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- จีน“พร้อมรบ” ทุกสมรภูมิ : Sondhitalk EP285 VDO
จีนยุคใหม่ ใครก็กดไม่ลง!
#สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น
จีน“พร้อมรบ” ทุกสมรภูมิ : Sondhitalk EP285 VDO จีนยุคใหม่ ใครก็กดไม่ลง! #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น - ดูดวง 12 นักษัตร ในเดือนเมษายน 2568
------------------------------
คำทำนายของพื้นดวงชะตา ในเดือนเมษายน 2568 ของคนที่เกิดในแต่ละปีทั้ง 12 นักษัตร ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบอย่างไร เรื่องใดโดดเด่นและเรื่องใดต้องระมัดระวังแก้ไข
ในเดือน เมษายนเป็นเดือน แก ซิ้งนักษัตร มะโรง พลังดิน ธาตุโลหะ ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังของปีและพลังธาตุของเดือนส่งเสริมเป็นโชคลาภแก่กัน
ส่งผลให้ในเดือนนี้มีพลังแห่งการแข่งขัน พัฒนาผลงาน การโฆษณา โปรโมท ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ร้านอาหาร โฮมสเตย์ รีสอร์ต สถานบันเทิง การท่องเที่ยว สิ่งประดิษฐ์ และสินค้าการเกษตร
ในเดือนนี้ คนที่เกิดในนักษัตรที่มีพลังธาตุสอดคล้องกับเดือนมะโรงจะได้รับผลดีและหากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ เช่นกัน
@CailaiTV
https://youtu.be/Ot48DOO4WKg
ดูดวง 12 นักษัตร เดือน เมษายน 2568
00:00 บทนำ
01:21 ดวง ปีชวด (หนู)
03:07 ดวง ปีฉลู (วัว)
04:52 ดวง ปีขาล (เสือ)
06:38 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย)
08:26 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่)
10:22 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก)
12:09 ดวง ปีมะเมีย (ม้า)
13:46 ดวง ปีมะแม (แพะ)
15:28 ดวง ปีวอก (ลิง)
17:39 ดวง ปีระกา (ไก่)
19:26 ดวง ปีจอ (หมา)
21:27 ดวง ปีกุน (หมู)
คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 4 เมษายน ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2568ดูดวง 12 นักษัตร ในเดือนเมษายน 2568 ------------------------------ คำทำนายของพื้นดวงชะตา ในเดือนเมษายน 2568 ของคนที่เกิดในแต่ละปีทั้ง 12 นักษัตร ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบอย่างไร เรื่องใดโดดเด่นและเรื่องใดต้องระมัดระวังแก้ไข ในเดือน เมษายนเป็นเดือน แก ซิ้งนักษัตร มะโรง พลังดิน ธาตุโลหะ ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังของปีและพลังธาตุของเดือนส่งเสริมเป็นโชคลาภแก่กัน ส่งผลให้ในเดือนนี้มีพลังแห่งการแข่งขัน พัฒนาผลงาน การโฆษณา โปรโมท ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ร้านอาหาร โฮมสเตย์ รีสอร์ต สถานบันเทิง การท่องเที่ยว สิ่งประดิษฐ์ และสินค้าการเกษตร ในเดือนนี้ คนที่เกิดในนักษัตรที่มีพลังธาตุสอดคล้องกับเดือนมะโรงจะได้รับผลดีและหากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ เช่นกัน @CailaiTV https://youtu.be/Ot48DOO4WKg ดูดวง 12 นักษัตร เดือน เมษายน 2568 00:00 บทนำ 01:21 ดวง ปีชวด (หนู) 03:07 ดวง ปีฉลู (วัว) 04:52 ดวง ปีขาล (เสือ) 06:38 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย) 08:26 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่) 10:22 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก) 12:09 ดวง ปีมะเมีย (ม้า) 13:46 ดวง ปีมะแม (แพะ) 15:28 ดวง ปีวอก (ลิง) 17:39 ดวง ปีระกา (ไก่) 19:26 ดวง ปีจอ (หมา) 21:27 ดวง ปีกุน (หมู) คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 4 เมษายน ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 25680 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว - ศึกชิงคลองปานามา โลจิสติกส์โลกเดือด : Sondhitalk EP285 VDO
เบื้องลึก โดนัลด์ ทรัมป์ สั่ง ยึดคลองปานามา คือ แผนสกัดโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน
#สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามาศึกชิงคลองปานามา โลจิสติกส์โลกเดือด : Sondhitalk EP285 VDO เบื้องลึก โดนัลด์ ทรัมป์ สั่ง ยึดคลองปานามา คือ แผนสกัดโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา - วันนี้มาคุยกันเรื่องดอกเหมย (ดอกบ๊วย) ที่เพื่อนเพจเห็นบ่อยในวัฒนธรรมจีน เคยมีคนเขียนถึงความหมายของดอกเหมยไปไม่น้อย แต่ Storyฯ หวังว่าบทความนี้จะให้อีกมุมมองที่แตกต่าง
ดอกเหมยจีนมีทั้งหมดกว่า 30 สายพันธุ์หลัก (แบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยได้อีกรวมกว่า 300 ชนิด) ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดบุปผาของจีนโดยเป็นตัวแทนแห่งฤดูหนาว และเป็นดอกไม้ประจำชาติของไต้หวัน ความหมายที่มักถูกเอ่ยถึงคือความอดทนและความเพียรเพราะเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูหนาว บานทนได้ถึง 2-3 เดือน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและเป็นที่นิยมในช่วงตรุษจีนเพราะมันเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว
ในซีรีย์หรือนิยายจีนเรามักจะเห็นดอกเหมยถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนแห่งความรักที่มั่นคง ดังเช่นในเรื่อง <ฝ่ามิติพิชิตบัลลังก์> (ปู้ปู้จิงซิน) ที่เหมยแดงเบ่งบานกลางหิมะ เปรียบเสมือนความรักที่มั่นคงแม้อีกฝ่ายจะไม่เหลียวแล จนStoryฯ อดรู้สึกไม่ได้ว่า หลายท่านอาจไม่ทราบว่าการใช้ดอกเหมยมาเปรียบเปรยถึงความอดทนนั้น สามารถใช้ได้ในหลายบริบท
จริงแล้วดอกเหมยใช้ในบริบทอื่นใดได้อีก?
บทกวีโบราณหลายยุคหลายสมัยใช้ดอกเหมยเปรียบเปรยถึงการยึดมั่นในอุดมการณ์ ยกตัวอย่างมาจากบทกวีที่ชื่อว่า “เหมยฮวา” (ดอกเหมย) ผลงานของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ เขาผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะนักปฏิรูปและนักเศรษฐกิจชื่อดัง ดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ซ่งเสินจง (ฮ่องเต้องค์ที่หกแห่งราชวงศ์ซ่ง) แต่ภายหลังนโยบายใหม่ๆ ของเขาถูกต่อต้านอย่างแรงจากขุนนางอื่น จนสุดท้ายเขาต้องลาออกจากราชการกลับบ้านเกิดไป บทกวีนี้ถูกแต่งขึ้นในภายหลัง Storyฯ แปลและเรียบเรียงได้ดังนี้ (ขออภัยหากไม่สละสลวยนัก)
“เหมยแตกกิ่งอยู่มุมรั้ว ผลิบานเดียวดายรับความหนาว
แลเห็นมิใช่หิมะขาว ด้วยกรุ่นกลิ่นจางมิคลาย”
ความนัยหมายถึงว่า อันอุดมการณ์สูงส่งนั้น ดำรงไว้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอับจนเพียงใด (เช่นซอกมุมรั้วมุมกำแพง) และแม้ดูแต่ไกลขาวกลมกลืนไปกับหิมะ แต่กลิ่นหอมโชยบ่งบอกถึงตัวตน ดังนั้น ดอกเหมยในบริบทนี้หมายถึงผู้ที่ยึดมั่นในอุดมคติ ชวนให้ชื่นชมจากเนื้อแท้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ถ้านึกแบบง่ายๆ Storyฯ คงนึกถึงสำนวน “เพชรในตม”
และมีอีกบริบทหนึ่งของดอกเหมยที่คนไม่ค่อยกล่าวถึง นั่นคือความแร้นแค้นเดียวดาย Storyฯ ยกมาเป็นตัวอย่างอีกบทกวีหนึ่งคือ “อี้เหมย” (รำลึกเหมย) ของหลี่ซันอิ่งในสมัยถัง
“จองจำอยู่ปลายฟ้า ถวิลหาความงามแห่งวสันต์
เหมันต์เหมยชวนชิงชัง เป็นบุปผาแห่งปีกลาย”
- คำแปลจาก <หรูซือ... กุ้ยฮวาผลิบานในใจข้า> โดยหวินไฉ่เฟยหยาง
โดยสองวรรคแรกบรรยายถึงคนที่จำเป็นต้องจากบ้านไปไกล ได้แต่รอคอยสิ่งดีๆ และสองวรรคสุดท้ายกล่าวถึงดอกเหมยที่ชูช่อให้ชมในความกันดารแห่งเหมันต์ แต่แล้วเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยกลับถูกรังเกียจว่าเป็นดอกไม้ที่บานตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เป็นความเก่าไร้ความสดชื่น ผู้คนหันไปตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้อื่นที่เริ่มผลิบานแทน เป็นบทกวีที่บ่งบอกถึงความขมขื่นของคนที่ถูกลืมหรือถูกมองว่าหมดประโยชน์แล้ว
ดังนั้น Storyฯ ขอสวมวิญญาณนักประพันธ์มาสรุปให้ดังนี้:
หากเปรียบรัก ดอกเหมยคือรักที่คงทนฟันฝ่าอุปสรรค
หากเปรียบคน ดอกเหมยคือคนที่ยึดมั่นในคุณค่าของตนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
และธรรมชาติของดอกเหมยนั้น ดูงดงามทั้งในห้วงเวลาแห่งความสุขและในยามทุกข์
เมื่อสุข ดอกเหมยคือความหวังและความแน่วแน่ที่จะผ่านความลำบากไปได้
เมื่อทุกข์ ดอกเหมยคือความเดียวดายและความขมขื่นของคนที่ถูกลืม
เพื่อนเพจดูซีรีย์และอ่านนิยายแล้ว ‘อิน’ กับดอกเหมยอย่างไรบ้างไหม? มาเล่าสู่กันฟังนะคะ
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพจาก:
http://ent.sina.com.cn/v/m/2011-03-31/14353269488.shtml
http://5sing.kugou.com/fc/13497084.html
http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html
https://www.sgss8.net/tpdq/2670634/
Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
https://www.cmeii.com/xinwenzhongxin/2190.html
http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html
https://so.gushiwen.cn/mingju/juv_aed4fe678529.aspx
https://www.sohu.com/a/239647354_661147
#ดอกบ๊วย #ดอกเหมย #เหมยฮวา #อี้เหมย #รำลึกเหมย #บุปผาปีกลายวันนี้มาคุยกันเรื่องดอกเหมย (ดอกบ๊วย) ที่เพื่อนเพจเห็นบ่อยในวัฒนธรรมจีน เคยมีคนเขียนถึงความหมายของดอกเหมยไปไม่น้อย แต่ Storyฯ หวังว่าบทความนี้จะให้อีกมุมมองที่แตกต่าง ดอกเหมยจีนมีทั้งหมดกว่า 30 สายพันธุ์หลัก (แบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยได้อีกรวมกว่า 300 ชนิด) ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดบุปผาของจีนโดยเป็นตัวแทนแห่งฤดูหนาว และเป็นดอกไม้ประจำชาติของไต้หวัน ความหมายที่มักถูกเอ่ยถึงคือความอดทนและความเพียรเพราะเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูหนาว บานทนได้ถึง 2-3 เดือน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและเป็นที่นิยมในช่วงตรุษจีนเพราะมันเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ในซีรีย์หรือนิยายจีนเรามักจะเห็นดอกเหมยถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนแห่งความรักที่มั่นคง ดังเช่นในเรื่อง <ฝ่ามิติพิชิตบัลลังก์> (ปู้ปู้จิงซิน) ที่เหมยแดงเบ่งบานกลางหิมะ เปรียบเสมือนความรักที่มั่นคงแม้อีกฝ่ายจะไม่เหลียวแล จนStoryฯ อดรู้สึกไม่ได้ว่า หลายท่านอาจไม่ทราบว่าการใช้ดอกเหมยมาเปรียบเปรยถึงความอดทนนั้น สามารถใช้ได้ในหลายบริบท จริงแล้วดอกเหมยใช้ในบริบทอื่นใดได้อีก? บทกวีโบราณหลายยุคหลายสมัยใช้ดอกเหมยเปรียบเปรยถึงการยึดมั่นในอุดมการณ์ ยกตัวอย่างมาจากบทกวีที่ชื่อว่า “เหมยฮวา” (ดอกเหมย) ผลงานของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ เขาผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะนักปฏิรูปและนักเศรษฐกิจชื่อดัง ดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ซ่งเสินจง (ฮ่องเต้องค์ที่หกแห่งราชวงศ์ซ่ง) แต่ภายหลังนโยบายใหม่ๆ ของเขาถูกต่อต้านอย่างแรงจากขุนนางอื่น จนสุดท้ายเขาต้องลาออกจากราชการกลับบ้านเกิดไป บทกวีนี้ถูกแต่งขึ้นในภายหลัง Storyฯ แปลและเรียบเรียงได้ดังนี้ (ขออภัยหากไม่สละสลวยนัก) “เหมยแตกกิ่งอยู่มุมรั้ว ผลิบานเดียวดายรับความหนาว แลเห็นมิใช่หิมะขาว ด้วยกรุ่นกลิ่นจางมิคลาย” ความนัยหมายถึงว่า อันอุดมการณ์สูงส่งนั้น ดำรงไว้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอับจนเพียงใด (เช่นซอกมุมรั้วมุมกำแพง) และแม้ดูแต่ไกลขาวกลมกลืนไปกับหิมะ แต่กลิ่นหอมโชยบ่งบอกถึงตัวตน ดังนั้น ดอกเหมยในบริบทนี้หมายถึงผู้ที่ยึดมั่นในอุดมคติ ชวนให้ชื่นชมจากเนื้อแท้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ถ้านึกแบบง่ายๆ Storyฯ คงนึกถึงสำนวน “เพชรในตม” และมีอีกบริบทหนึ่งของดอกเหมยที่คนไม่ค่อยกล่าวถึง นั่นคือความแร้นแค้นเดียวดาย Storyฯ ยกมาเป็นตัวอย่างอีกบทกวีหนึ่งคือ “อี้เหมย” (รำลึกเหมย) ของหลี่ซันอิ่งในสมัยถัง “จองจำอยู่ปลายฟ้า ถวิลหาความงามแห่งวสันต์ เหมันต์เหมยชวนชิงชัง เป็นบุปผาแห่งปีกลาย” - คำแปลจาก <หรูซือ... กุ้ยฮวาผลิบานในใจข้า> โดยหวินไฉ่เฟยหยาง โดยสองวรรคแรกบรรยายถึงคนที่จำเป็นต้องจากบ้านไปไกล ได้แต่รอคอยสิ่งดีๆ และสองวรรคสุดท้ายกล่าวถึงดอกเหมยที่ชูช่อให้ชมในความกันดารแห่งเหมันต์ แต่แล้วเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยกลับถูกรังเกียจว่าเป็นดอกไม้ที่บานตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เป็นความเก่าไร้ความสดชื่น ผู้คนหันไปตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้อื่นที่เริ่มผลิบานแทน เป็นบทกวีที่บ่งบอกถึงความขมขื่นของคนที่ถูกลืมหรือถูกมองว่าหมดประโยชน์แล้ว ดังนั้น Storyฯ ขอสวมวิญญาณนักประพันธ์มาสรุปให้ดังนี้: หากเปรียบรัก ดอกเหมยคือรักที่คงทนฟันฝ่าอุปสรรค หากเปรียบคน ดอกเหมยคือคนที่ยึดมั่นในคุณค่าของตนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย และธรรมชาติของดอกเหมยนั้น ดูงดงามทั้งในห้วงเวลาแห่งความสุขและในยามทุกข์ เมื่อสุข ดอกเหมยคือความหวังและความแน่วแน่ที่จะผ่านความลำบากไปได้ เมื่อทุกข์ ดอกเหมยคือความเดียวดายและความขมขื่นของคนที่ถูกลืม เพื่อนเพจดูซีรีย์และอ่านนิยายแล้ว ‘อิน’ กับดอกเหมยอย่างไรบ้างไหม? มาเล่าสู่กันฟังนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://ent.sina.com.cn/v/m/2011-03-31/14353269488.shtml http://5sing.kugou.com/fc/13497084.html http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html https://www.sgss8.net/tpdq/2670634/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.cmeii.com/xinwenzhongxin/2190.html http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html https://so.gushiwen.cn/mingju/juv_aed4fe678529.aspx https://www.sohu.com/a/239647354_661147 #ดอกบ๊วย #ดอกเหมย #เหมยฮวา #อี้เหมย #รำลึกเหมย #บุปผาปีกลาย?????????ġ?ɱ?? ????¡??ʫʫ??????ӵ?????_Ӱ?????_?????????????ġ?ɱ?? ????¡??ʫʫ??????ӵ?????1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว - 7 วันที่แล้ว สหรัฐคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ไทย จากกรณีส่งตัว "ผู้หลบหนีเข้าเมือง" ชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน
.
7 วันต่อมา สหรัฐ "เพิกถอนสถานะผู้อพยพที่เข้าสหรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย" กว่าครึ่งล้านคน!! ทำให้ทั้งหมดต้องเดินทางออกจากสหรัฐทันที ก่อนที่การคุ้มครองทางกฎหมายจะถูกยกเลิกในเดือนเมษายนนี้7 วันที่แล้ว สหรัฐคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ไทย จากกรณีส่งตัว "ผู้หลบหนีเข้าเมือง" ชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน . 7 วันต่อมา สหรัฐ "เพิกถอนสถานะผู้อพยพที่เข้าสหรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย" กว่าครึ่งล้านคน!! ทำให้ทั้งหมดต้องเดินทางออกจากสหรัฐทันที ก่อนที่การคุ้มครองทางกฎหมายจะถูกยกเลิกในเดือนเมษายนนี้ - จีน“พร้อมรบ” ทุกสมรภูมิ : Sondhitalk EP285 VDO
จีนลั่น “พร้อมรบ” สหรัฐฯ ทุกรูปแบบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน!
#สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็นจีน“พร้อมรบ” ทุกสมรภูมิ : Sondhitalk EP285 VDO จีนลั่น “พร้อมรบ” สหรัฐฯ ทุกรูปแบบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน! #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น - **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม**
สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ
ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2)
นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น!
ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู
เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร
แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพจาก:
https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html
https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424
https://j.021east.com/p/1652758642049238
https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯
https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725
https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990
https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00
Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s
https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
#ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน**ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2) นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น! ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424 https://j.021east.com/p/1652758642049238 https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯 https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725 https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990 https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว - Sondhitalk EP 285 :โซเซียลติดหรู ชีวิตจริงติดหนี้ (Full)
- “ดิว อริสรา” สังคมอวดร่ำอวดรวย
- “พระราม 2” ถนนมรณะ
- ไฟไหม้รถของกลาง แม่สอด
- จีน “พร้อมรบ” สหรัฐฯ
- แผนทรัมป์ ยึดคลองปานามา
#สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitimes #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ดิวอริสรา #อวดร่ำอวดรวย #ถนนพระราม2 #ถนนมรณะ #กรมศุลกากร #แม่สอด #สงครามการค้า #ทรัมป์ #คลองปานามา #เส้นทางสายไหม #สงครามโลจิสติกSondhitalk EP 285 :โซเซียลติดหรู ชีวิตจริงติดหนี้ (Full) - “ดิว อริสรา” สังคมอวดร่ำอวดรวย - “พระราม 2” ถนนมรณะ - ไฟไหม้รถของกลาง แม่สอด - จีน “พร้อมรบ” สหรัฐฯ - แผนทรัมป์ ยึดคลองปานามา #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitimes #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ดิวอริสรา #อวดร่ำอวดรวย #ถนนพระราม2 #ถนนมรณะ #กรมศุลกากร #แม่สอด #สงครามการค้า #ทรัมป์ #คลองปานามา #เส้นทางสายไหม #สงครามโลจิสติก - สัปดาห์นี้มาโพสต์เร็วกว่าปกติเพราะ Storyฯ จะไปเที่ยววีคเอนด์นี้ เลยรีบมาคุยให้ฟังเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ จากละครจีนโบราณเรื่อง <ดุจฝันบันดาลใจ> ซึ่งมีเรื่องราวให้พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมไม่น้อย มีตอนหนึ่งที่หนึ่งในตัวละครสมทบคือซูวุ่ยถูกกักบริเวณโดยแม่ของนาง และจะสามารถก้าวเท้าออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อนางเรียนงานปัก ‘เปี้ยนซิ่ว’ ได้สำเร็จ สร้างความหนักใจให้แก่นางนัก เป็นการบอกเล่าให้พวกเราทราบได้ว่า งานปักชนิดนี้ยากนักหนา
‘เปี้ยนซิ่ว’ (汴绣)คืออะไร? มันคือสไตล์การปักที่มีมาแต่สมัยซ่งเหนือ มีชื่อมาจากเมืองหลวงเปี้ยนจิง (หรือที่เราคุ้นหูว่าตงจิง) บ้างเรียกว่า ‘ซ่งซิ่ว’ (宋绣) บ้างจำแนกละเอียดกว่านั้นว่า เปี้ยนซิ่วเป็นงานชาววังในขณะที่ซ่งซิ่วเป็นงานของชาวบ้านทั่วไป
Storyฯ ลองไปหาข้อมูลดูเลยพบเจอคลิปวีดีโอนี้ https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองดูกัน อาจจะยาวสักนิด แต่จะเห็นภาพได้ดีถึงขั้นตอนการทำต่างๆ ตั้งแต่เลือกผ้าจนปลดออกจากสะดึง และที่สำคัญมีการซูมให้ดูถึงรายละเอียดของงานปักที่ทำเอา Storyฯ รู้สึกทึ่งไม่น้อย
งานปักจีนโบราณพัฒนาขึ้นมากในสมัยถังแต่ในสมัยนั้นยังมีเทคนิคการปักไม่กี่แบบ และเมื่อมาถึงสมัยซ่งก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกเป็นกว่ายี่สิบเทคนิค จากบันทึกโบราณพบว่างานปักเปี้ยนซิ่วโดยหลักเกิดขึ้นจากในวัง เรียกได้ว่าเป็นงานปักชาววัง รับผิดชอบงานฉลองพระองค์และของใช้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวัง ความนิยมและเทคนิคการปักได้รับความสำคัญจนถึงกับมีการก่อตั้งวิทยาลัยเฉพาะทาง (เหวินซิ่วย่วน / 文绣院) ขึ้นเมื่อปี 1005 มีช่างปักกว่าสามร้อยคน
เปี้ยนซิ่วถูกหลงลืมไปตามกาลเวลาจนแทบจะสูญหาย มีไม่กี่คนที่ยังสืบทอดมาภายหลังจากสิ้นราชวงศ์ งานเปี้ยนซิ่วรับการฟื้นฟูเมื่อมีผู้ที่สืบทอดเอาผลงานเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบสิบปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีค.ศ. 1959 โดยผลงานที่สร้างชื่อเสียงชิ้นนี้ก็คืองานปัก <ชิงหมิงซ่างเหอถู> เป็นผลงานที่ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากประธานเหมา และปัจจุบันถูกจัดเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม (ดูได้จากรูป 1 และรูป 2 บน และจากคลิปวีดีโอที่เป็นการสาธิตการปัก) ต่อมาเปี้ยนซิ่วถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าของสไตล์การปักที่โด่งดังที่สุดของจีน จัดเป็นศิลปะแห่งชาติแขนงหนึ่ง มีการสืบทอดอย่างเป็นทางการ
เอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วคืออะไร?
เปี้ยนซิ่วขึ้นชื่อว่าเป็นงานละเอียด ใช้เส้นด้ายเพียงหนึ่งหรือสองเส้นเท่านั้น (หมายเหตุ หากสังเกตดีๆ ไหมปักที่เราใช้ทั่วไปปัจจุบันนี้เป็นเกลียวที่ประกอบขึ้นจากด้ายปักหลายเส้น) นำมาปักจนทึบโดยไม่เห็นรอยช่องไฟใดๆ ริมขอบลายปักเลย และอาศัยเทคนิคการปักต่างๆ ไม่ว่าจะความหนานูน ทิศทางของฝีเข็มที่แตกต่าง หรือการคัดสีไหม เพื่อสร้างมิติให้แก่ภาพปัก เพราะเอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วนี้คือการนำงานศิลปะภาพวาดพู่กันจีนมาถ่ายทอดลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นลายภูผาวารี นก ดอกไม้ คนและสัตว์ รวมถึงบทกวีโคลงกลอนด้วย (ดูตัวอย่างได้ในรูป 2) เรียกได้ว่า งานปักสมัยซ่งนี้ ไม่เพียงปักสิ่งของใช้สอย แต่เป็นงานศิลปะที่มีไว้ชมอีกด้วย (เช่นภาพติดผนัง ภาพติดฉากกั้น ฯลฯ) นอกจากนี้ ยังมีการปักแบบสองด้าน ไม่แพ้งานปักสไตล์ชื่อดังอื่นๆ ของจีนที่เราอาจเคยผ่านตากันมา
Storyฯ รู้สึกว่า เขียนอย่างไรก็บรรยายความงามของเปี้ยนซิ่วออกมาไม่ได้เพียงพอ ยังอยากให้เพื่อนเพจเข้าไปดูคลิปวีดิโอตามคลิปข้างบน ชอบไม่ชอบอะไรมาเม้นท์ให้ฟังกันบ้างนะคะ
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพจาก:
https://baike.baidu.com/item/雁归西窗月
https://www.tvzn.com/15774/role/226234.html
https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk
http://m.news.xixik.com/content/55c6bf156997ce9f/
http://5b0988e595225.cdn.sohucs.com/images/20190514/7e22d3dd9d0244ddada007df51228ee0.jpeg
Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
http://www.yxhenan.com/info/kf/scyjl_13025_1289.html
https://kknews.cc/collect/4xyn5m2.html
https://baike.baidu.com/item/汴绣/1124193
#ดุจฝันบันดาลใจ #เปี้ยนซิ่ว #ซ่งซิ่ว #งานปักจีนโบราณ #ชิงหมิงซ่างเหอถูสัปดาห์นี้มาโพสต์เร็วกว่าปกติเพราะ Storyฯ จะไปเที่ยววีคเอนด์นี้ เลยรีบมาคุยให้ฟังเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ จากละครจีนโบราณเรื่อง <ดุจฝันบันดาลใจ> ซึ่งมีเรื่องราวให้พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมไม่น้อย มีตอนหนึ่งที่หนึ่งในตัวละครสมทบคือซูวุ่ยถูกกักบริเวณโดยแม่ของนาง และจะสามารถก้าวเท้าออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อนางเรียนงานปัก ‘เปี้ยนซิ่ว’ ได้สำเร็จ สร้างความหนักใจให้แก่นางนัก เป็นการบอกเล่าให้พวกเราทราบได้ว่า งานปักชนิดนี้ยากนักหนา ‘เปี้ยนซิ่ว’ (汴绣)คืออะไร? มันคือสไตล์การปักที่มีมาแต่สมัยซ่งเหนือ มีชื่อมาจากเมืองหลวงเปี้ยนจิง (หรือที่เราคุ้นหูว่าตงจิง) บ้างเรียกว่า ‘ซ่งซิ่ว’ (宋绣) บ้างจำแนกละเอียดกว่านั้นว่า เปี้ยนซิ่วเป็นงานชาววังในขณะที่ซ่งซิ่วเป็นงานของชาวบ้านทั่วไป Storyฯ ลองไปหาข้อมูลดูเลยพบเจอคลิปวีดีโอนี้ https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองดูกัน อาจจะยาวสักนิด แต่จะเห็นภาพได้ดีถึงขั้นตอนการทำต่างๆ ตั้งแต่เลือกผ้าจนปลดออกจากสะดึง และที่สำคัญมีการซูมให้ดูถึงรายละเอียดของงานปักที่ทำเอา Storyฯ รู้สึกทึ่งไม่น้อย งานปักจีนโบราณพัฒนาขึ้นมากในสมัยถังแต่ในสมัยนั้นยังมีเทคนิคการปักไม่กี่แบบ และเมื่อมาถึงสมัยซ่งก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกเป็นกว่ายี่สิบเทคนิค จากบันทึกโบราณพบว่างานปักเปี้ยนซิ่วโดยหลักเกิดขึ้นจากในวัง เรียกได้ว่าเป็นงานปักชาววัง รับผิดชอบงานฉลองพระองค์และของใช้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวัง ความนิยมและเทคนิคการปักได้รับความสำคัญจนถึงกับมีการก่อตั้งวิทยาลัยเฉพาะทาง (เหวินซิ่วย่วน / 文绣院) ขึ้นเมื่อปี 1005 มีช่างปักกว่าสามร้อยคน เปี้ยนซิ่วถูกหลงลืมไปตามกาลเวลาจนแทบจะสูญหาย มีไม่กี่คนที่ยังสืบทอดมาภายหลังจากสิ้นราชวงศ์ งานเปี้ยนซิ่วรับการฟื้นฟูเมื่อมีผู้ที่สืบทอดเอาผลงานเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบสิบปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีค.ศ. 1959 โดยผลงานที่สร้างชื่อเสียงชิ้นนี้ก็คืองานปัก <ชิงหมิงซ่างเหอถู> เป็นผลงานที่ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากประธานเหมา และปัจจุบันถูกจัดเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม (ดูได้จากรูป 1 และรูป 2 บน และจากคลิปวีดีโอที่เป็นการสาธิตการปัก) ต่อมาเปี้ยนซิ่วถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าของสไตล์การปักที่โด่งดังที่สุดของจีน จัดเป็นศิลปะแห่งชาติแขนงหนึ่ง มีการสืบทอดอย่างเป็นทางการ เอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วคืออะไร? เปี้ยนซิ่วขึ้นชื่อว่าเป็นงานละเอียด ใช้เส้นด้ายเพียงหนึ่งหรือสองเส้นเท่านั้น (หมายเหตุ หากสังเกตดีๆ ไหมปักที่เราใช้ทั่วไปปัจจุบันนี้เป็นเกลียวที่ประกอบขึ้นจากด้ายปักหลายเส้น) นำมาปักจนทึบโดยไม่เห็นรอยช่องไฟใดๆ ริมขอบลายปักเลย และอาศัยเทคนิคการปักต่างๆ ไม่ว่าจะความหนานูน ทิศทางของฝีเข็มที่แตกต่าง หรือการคัดสีไหม เพื่อสร้างมิติให้แก่ภาพปัก เพราะเอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วนี้คือการนำงานศิลปะภาพวาดพู่กันจีนมาถ่ายทอดลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นลายภูผาวารี นก ดอกไม้ คนและสัตว์ รวมถึงบทกวีโคลงกลอนด้วย (ดูตัวอย่างได้ในรูป 2) เรียกได้ว่า งานปักสมัยซ่งนี้ ไม่เพียงปักสิ่งของใช้สอย แต่เป็นงานศิลปะที่มีไว้ชมอีกด้วย (เช่นภาพติดผนัง ภาพติดฉากกั้น ฯลฯ) นอกจากนี้ ยังมีการปักแบบสองด้าน ไม่แพ้งานปักสไตล์ชื่อดังอื่นๆ ของจีนที่เราอาจเคยผ่านตากันมา Storyฯ รู้สึกว่า เขียนอย่างไรก็บรรยายความงามของเปี้ยนซิ่วออกมาไม่ได้เพียงพอ ยังอยากให้เพื่อนเพจเข้าไปดูคลิปวีดิโอตามคลิปข้างบน ชอบไม่ชอบอะไรมาเม้นท์ให้ฟังกันบ้างนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://baike.baidu.com/item/雁归西窗月 https://www.tvzn.com/15774/role/226234.html https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk http://m.news.xixik.com/content/55c6bf156997ce9f/ http://5b0988e595225.cdn.sohucs.com/images/20190514/7e22d3dd9d0244ddada007df51228ee0.jpeg Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.yxhenan.com/info/kf/scyjl_13025_1289.html https://kknews.cc/collect/4xyn5m2.html https://baike.baidu.com/item/汴绣/1124193 #ดุจฝันบันดาลใจ #เปี้ยนซิ่ว #ซ่งซิ่ว #งานปักจีนโบราณ #ชิงหมิงซ่างเหอถู0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว - ถนนพระราม 2 เสร็จนานละ แต่ยังมีการต่อเติมถึง 7 ชั่วโคตร แต่อย่าโทษรัฐประหาร โทษกลุ่มนายทหารใหญ่ๆสายสามปอ เลย มันไม่ใช่ คิดถึงถาวร เสนเนียมกับพี่เนศ กสด. อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม คนนี้น่าจะเข้าในปัญหาถนนพระรามสองอย่างลึกซึ้งที่สุด แรงงานต่างด้าวที่มาทำถนนพระรามสอง บอกตรงๆเลยว่า แม่งโคตรห่วยแตกเลยว่ะ วิศวฯคงจะชิวๆต่อไปไม่ได้นะ แต่ก็ต้องเน้นความคงทนและประสิทธิภาพในการใช้งานเป็นหลักนั่นแหละ ถนนพระราม 2 เสาทางด่วนแม่งบอบบางพอๆกับแฟลตพม่าเถื่อน ตึกโคตรบาง ตึกจีนยังแข็งกว่าตึกแฟลตพม่าเถื่อนเยอะเลย พม่าเถื่อนทำงานไม่ได้เรื่องไม่พอแย่งอาชีพคนไทยอีกถนนพระราม 2 เสร็จนานละ แต่ยังมีการต่อเติมถึง 7 ชั่วโคตร แต่อย่าโทษรัฐประหาร โทษกลุ่มนายทหารใหญ่ๆสายสามปอ เลย มันไม่ใช่ คิดถึงถาวร เสนเนียมกับพี่เนศ กสด. อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม คนนี้น่าจะเข้าในปัญหาถนนพระรามสองอย่างลึกซึ้งที่สุด แรงงานต่างด้าวที่มาทำถนนพระรามสอง บอกตรงๆเลยว่า แม่งโคตรห่วยแตกเลยว่ะ วิศวฯคงจะชิวๆต่อไปไม่ได้นะ แต่ก็ต้องเน้นความคงทนและประสิทธิภาพในการใช้งานเป็นหลักนั่นแหละ ถนนพระราม 2 เสาทางด่วนแม่งบอบบางพอๆกับแฟลตพม่าเถื่อน ตึกโคตรบาง ตึกจีนยังแข็งกว่าตึกแฟลตพม่าเถื่อนเยอะเลย พม่าเถื่อนทำงานไม่ได้เรื่องไม่พอแย่งอาชีพคนไทยอีกความล่าช้าของโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 สร้างไม่เสร็จซักที จนถูกเรียกเป็น ‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ กับอุบัติเหตุความสูญเสียที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แต่กระทรวงคมนาคม ยังมั่นใจจะปิดตำนาน‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ภายในปี68 !! รวมทั้งดรามา สะพานลอยคนเดินข้าม หน้าตลาดทะเลไทย บริเวณการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ M82 จะใช้ทางเดินเบี่ยงถึง 15 ต.ค.68 ติดตั้งสะพานลอยใหม่แล้วเสร็จ 1 พ.ย.68
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 56 0 รีวิว - ก็เอาเลย อานนท์ และ สหภาพยุโรป ยูเอ็น เอาเลย แบนคนที่ไม่ให้ยกเลิก 112 เข้าประเทศได้เลย อังกฤษด้วย เดโมแครตโว้คแลนด์ด้วย กูไม่เข้าประเทศของมึง จบมั้ย แต่กูเข้ารัสเซีย จีน ไปไหนก็ได้ โตแล้วก็เอาเลย อานนท์ และ สหภาพยุโรป ยูเอ็น เอาเลย แบนคนที่ไม่ให้ยกเลิก 112 เข้าประเทศได้เลย อังกฤษด้วย เดโมแครตโว้คแลนด์ด้วย กูไม่เข้าประเทศของมึง จบมั้ย แต่กูเข้ารัสเซีย จีน ไปไหนก็ได้ โตแล้วทนายอานนท์ หมดหนทางพ้นผิด ฟ้องยุโรปให้แบนคนไทยที่ปกป้อง 112
#คิงส์โพธิ์แดง
#คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
#อานนท์0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 20 0 รีวิว - เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่าที่สิ้นหวัง ได้รับความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายจากโครงการอาหารโลกเมื่อวันพุธ (19) เนื่องจากหน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนนับล้านในประเทศแห่งนี้เพราะขาดแคลนเงินทุน
•
การตัดงบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้โครงการอาหารโลกขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในพม่า ที่อยู่ในสถานการณ์สงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 4 ปี
•
“ฉันภาวนาทุกคืนขอให้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง” บยาร์ มี ที่ได้รับความช่วยเหลือรายเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเธอใช้เลี้ยงดูครอบครัว 5 คน กล่าว
•
“ฉันภาวนาต่อพระเจ้าให้ผู้บริจาคได้รับพรและให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้อีกครั้ง ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา สงสารเราด้วย” บยาร์ มี กล่าวกับเอเอฟพี จากค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองมิตจีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
•
นับตั้งแต่กองทัพพม่าเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 ประเทศเผชิญกับความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น และทำให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น 50%
•
เนื่องจากการตัดความช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือได้เพียง 35,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอาหารในแต่ละวันของตนเองได้
•
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000026719
•
#MGROnline #ผู้ลี้ภัย #ค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่า #โครงการอาหารโลก #สหประชาชาติเอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่าที่สิ้นหวัง ได้รับความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายจากโครงการอาหารโลกเมื่อวันพุธ (19) เนื่องจากหน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนนับล้านในประเทศแห่งนี้เพราะขาดแคลนเงินทุน • การตัดงบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้โครงการอาหารโลกขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในพม่า ที่อยู่ในสถานการณ์สงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 4 ปี • “ฉันภาวนาทุกคืนขอให้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง” บยาร์ มี ที่ได้รับความช่วยเหลือรายเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเธอใช้เลี้ยงดูครอบครัว 5 คน กล่าว • “ฉันภาวนาต่อพระเจ้าให้ผู้บริจาคได้รับพรและให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้อีกครั้ง ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา สงสารเราด้วย” บยาร์ มี กล่าวกับเอเอฟพี จากค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองมิตจีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ • นับตั้งแต่กองทัพพม่าเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 ประเทศเผชิญกับความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น และทำให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น 50% • เนื่องจากการตัดความช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือได้เพียง 35,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอาหารในแต่ละวันของตนเองได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000026719 • #MGROnline #ผู้ลี้ภัย #ค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่า #โครงการอาหารโลก #สหประชาชาติ0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว - ไฟไหม้โรงแรมตึกสูงในชเวโก๊กโก อาคารสูงเกือบ 10 ชั้น
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ กะเหรี่ยงบีจีเอฟ. ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเพลิงไหม้โรงแรมของกลุ่มหย่าไถ้ ในเมืองชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศสหภาพเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงรุดไปตรวจสอบพบอาคารสูงเกือบ 10 ชั้น มีไฟลุกไหม้ชั้นบน และทำท่าจะบานปลาย เจ้าหน้าที่บีจีเอฟ. และผู้ประกอบการได้ช่วยกันขนทรัพย์สินที่มีค่าออกจากตัวอาคาร และใช้ระบบดับเพลิงที่มีอยู่ในตัวอาคารฉีดน้ำ โดยพยายามที่จะควบคุมเพลิงให้ได้ ขณะที่ไฟกำลังลุไหม้ที่จะลามออกไป
เจ้าหน้าที่ไทยแจ้งว่าอาคารดังกล่าวเป็นของกลุ่มหย่าไถ้ นักธุรกิจจีนกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด และเคยถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาก่อน แต่หลังสุดได้ยุติกิจการเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ไปแล้ว
ล่าสุด มีรายงานว่า สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ซึ่งอาคารดังกล่าวสามารถมองจากฝั่งไทยที่บ้านวังแก้วอย่างเห็นได้ชัดไฟไหม้โรงแรมตึกสูงในชเวโก๊กโก อาคารสูงเกือบ 10 ชั้น เมื่อวันที่ 20 มีนาคม เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ กะเหรี่ยงบีจีเอฟ. ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเพลิงไหม้โรงแรมของกลุ่มหย่าไถ้ ในเมืองชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศสหภาพเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงรุดไปตรวจสอบพบอาคารสูงเกือบ 10 ชั้น มีไฟลุกไหม้ชั้นบน และทำท่าจะบานปลาย เจ้าหน้าที่บีจีเอฟ. และผู้ประกอบการได้ช่วยกันขนทรัพย์สินที่มีค่าออกจากตัวอาคาร และใช้ระบบดับเพลิงที่มีอยู่ในตัวอาคารฉีดน้ำ โดยพยายามที่จะควบคุมเพลิงให้ได้ ขณะที่ไฟกำลังลุไหม้ที่จะลามออกไป เจ้าหน้าที่ไทยแจ้งว่าอาคารดังกล่าวเป็นของกลุ่มหย่าไถ้ นักธุรกิจจีนกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด และเคยถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาก่อน แต่หลังสุดได้ยุติกิจการเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ไปแล้ว ล่าสุด มีรายงานว่า สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ซึ่งอาคารดังกล่าวสามารถมองจากฝั่งไทยที่บ้านวังแก้วอย่างเห็นได้ชัด0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว - เมียวดี – เกิดเหตุไฟไหม้อาคารโรงแรมหย่าไถ้อินเตอร์เนชั่นแนล ของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จีนในเมืองชเวโก๊กโก่ เมียวดี ที่ได้ชื่อเป็นเมืองศูนย์กลางแก๊งคอลฯ หวิดวอด
•
วันนี้(20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.15 น.เศษที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารโรงแรมขนาดใหญ่ของบริษัทหย่าไถ้อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นอาคารสูงไม่ต่ำกว่า 10 ชั้น เปิดบริการมาได้ร่วมปีในเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ ตรงข้ามบ้านวังผา หมู่ 4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก โดยไม่ทราบสาเหตุ
•
ซึ่งเหตุดังกล่าวก่อให้เกิดกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นจากชั้นสูงสุดของอาคาร มองจากฝั่งไทยเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมเพลิงได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ยังไม่มีรายงานถึงสาเหตุและความเสียหายอย่างชุดเจน
•
ทั้งนี้เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ เป็นพื้นที่เขตอิทธิพลของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force หรือ BGF) ประจำ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา กระทั่งปี 2560 ได้มีการให้สัมปทานแก่กลุ่มทุนหย่าไถ้ บนเนื้อที่ประมาณ 6,324 ไร่
•
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000026636
•
#MGROnline #ชเวโก๊กโก่ #โรงแรมหย่าไถ้อินเตอร์เนชั่นแนลเมียวดี – เกิดเหตุไฟไหม้อาคารโรงแรมหย่าไถ้อินเตอร์เนชั่นแนล ของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จีนในเมืองชเวโก๊กโก่ เมียวดี ที่ได้ชื่อเป็นเมืองศูนย์กลางแก๊งคอลฯ หวิดวอด • วันนี้(20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.15 น.เศษที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารโรงแรมขนาดใหญ่ของบริษัทหย่าไถ้อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นอาคารสูงไม่ต่ำกว่า 10 ชั้น เปิดบริการมาได้ร่วมปีในเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ ตรงข้ามบ้านวังผา หมู่ 4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก โดยไม่ทราบสาเหตุ • ซึ่งเหตุดังกล่าวก่อให้เกิดกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นจากชั้นสูงสุดของอาคาร มองจากฝั่งไทยเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมเพลิงได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ยังไม่มีรายงานถึงสาเหตุและความเสียหายอย่างชุดเจน • ทั้งนี้เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ เป็นพื้นที่เขตอิทธิพลของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force หรือ BGF) ประจำ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา กระทั่งปี 2560 ได้มีการให้สัมปทานแก่กลุ่มทุนหย่าไถ้ บนเนื้อที่ประมาณ 6,324 ไร่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000026636 • #MGROnline #ชเวโก๊กโก่ #โรงแรมหย่าไถ้อินเตอร์เนชั่นแนล0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว - BYD เปิดตัวเครื่องชาร์จรถ EV แรงทะลุโลก
ชาร์จ 5 นาทีวิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตร !
.
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่เมืองเซินเจิ้น BYD บริษัทรถไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของจีน ได้เปิดตัว Super e-Platform ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ในหลาย ๆ ด้าน โดยที่สร้างความฮือฮาให้ผู้คนทั่วโลก ก็คือ ระบบชาร์จพลังสูงสุด 1000kW ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วเท่า ๆ กับการเติมน้ำมันนะครับ
.
โดยสถานีชาร์จไฟฟ้าความเร็วสูงขนาด 1 เมกะวัตต์ ในประเทศจีน นั้นจะทำให้ BYD สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบแรงดันไฟฟ้าสูง 1000 โวลต์ ให้สามารถวิ่งได้ระยะทาง 400 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 5 นาที หรือคิดเป็นอัตราการชาร์จที่รวดเร็วเพียงแค่วินาทีเดียวก็ทำให้รถสามารถวิ่งได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร เลยนะครับ
.
เทคโนโลยีการชาร์จแบบใหม่นี้ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ BYD ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่เคยเป็นจุดอ่อนของรถอีวีให้สามารถเติมเชื้อเพลิงขับเคลื่อน ได้รวดเร็วเท่าๆ กับรถน้ำมัน ทั้งยังเป็นการแซงหน้าผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าอย่าง Tesla ไปอย่างน้อยหนึ่งช่วงตัวอีกด้วย
.
คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZSMKVc2dt/
.
#บูรพาไม่แพ้ #BYD #SuperePlatform #บีวายดีBYD เปิดตัวเครื่องชาร์จรถ EV แรงทะลุโลก ชาร์จ 5 นาทีวิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตร ! . เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่เมืองเซินเจิ้น BYD บริษัทรถไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของจีน ได้เปิดตัว Super e-Platform ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ในหลาย ๆ ด้าน โดยที่สร้างความฮือฮาให้ผู้คนทั่วโลก ก็คือ ระบบชาร์จพลังสูงสุด 1000kW ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วเท่า ๆ กับการเติมน้ำมันนะครับ . โดยสถานีชาร์จไฟฟ้าความเร็วสูงขนาด 1 เมกะวัตต์ ในประเทศจีน นั้นจะทำให้ BYD สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบแรงดันไฟฟ้าสูง 1000 โวลต์ ให้สามารถวิ่งได้ระยะทาง 400 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 5 นาที หรือคิดเป็นอัตราการชาร์จที่รวดเร็วเพียงแค่วินาทีเดียวก็ทำให้รถสามารถวิ่งได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร เลยนะครับ . เทคโนโลยีการชาร์จแบบใหม่นี้ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ BYD ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่เคยเป็นจุดอ่อนของรถอีวีให้สามารถเติมเชื้อเพลิงขับเคลื่อน ได้รวดเร็วเท่าๆ กับรถน้ำมัน ทั้งยังเป็นการแซงหน้าผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าอย่าง Tesla ไปอย่างน้อยหนึ่งช่วงตัวอีกด้วย . คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZSMKVc2dt/ . #บูรพาไม่แพ้ #BYD #SuperePlatform #บีวายดี@thedongfangbubai BYD เปิดตัวเครื่องชาร์จรถ EV แรงทะลุโลก ชาร์จ 5 นาทีวิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตร ! . เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่เมืองเซินเจิ้น BYD บริษัทรถไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของจีน ได้เปิดตัว Super e-Platform ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ในหลาย ๆ ด้าน โดยที่สร้างความฮือฮาให้ผู้คนทั่วโลก ก็คือ ระบบชาร์จพลังสูงสุด 1000kW ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วเท่า ๆ กับการเติมน้ำมันนะครับ . โดยสถานีชาร์จไฟฟ้าความเร็วสูงขนาด 1 เมกะวัตต์ ในประเทศจีน นั้นจะทำให้ BYD สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบแรงดันไฟฟ้าสูง 1000 โวลต์ ให้สามารถวิ่งได้ระยะทาง 400 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 5 นาที หรือคิดเป็นอัตราการชาร์จที่รวดเร็วเพียงแค่วินาทีเดียวก็ทำให้รถสามารถวิ่งได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร เลยนะครับ . เทคโนโลยีการชาร์จแบบใหม่นี้ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ BYD ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่เคยเป็นจุดอ่อนของรถอีวีให้สามารถเติมเชื้อเพลิงขับเคลื่อน ได้รวดเร็วเท่าๆ กับรถน้ำมัน ทั้งยังเป็นการแซงหน้าผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าอย่าง Tesla ไปอย่างน้อยหนึ่งช่วงตัวอีกด้วย . บูรพาไม่แพ้ BYD SuperePlatform บีวายดี
♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว - ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 20 มี.ค. 68 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ดำเนินรายการได้เผยว่ามีคนส่งคำฟ้องหมายศาล ที่เนื้อหาระบุว่า โจทก์คือคนจีนรายหนึ่ง มอบหมายให้ชายคนไทยคนหนึ่งเป็นโจทก์ในการฟ้อง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงชื่อดัง ที่ตอนนี้กำลังมีประเด็นร้อน ถูก “เมย์ วาสนา อินทะแสง” นักธุรกิจชื่อดังฟ้อง หลังยืมทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านไปแก้ไขปัญหาชีวิต แต่ไม่ส่งคืนตามดีล ไม่ยอมบอกว่าตอนนี้ทรัพย์สินไปตกอยู่ที่ใด
•
โดยคนจีนฟ้องดิวฐานผิดสัญญา ละเมิดขับไล่ ไม่จ่ายค่าเช่ากรรมสิทธิ์ห้องชุด เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห้องมีเนื้อที่ 832.82 ตารางเมตร โดยดิวได้เช่าเดือนละ 1.5 ล้านบาท และต้องชำระเงินในวันที่ 1 ไม่เกินวันที่ 5 ของทุกๆ เดือน ที่ผ่านมาดิวมีการค้างชำระ และถูกคนจีนฟ้องร้องตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ซึ่งจำนวนเงินที่ดิวค้างจ่ายคือ 9,860,471.23 บาท
•
#MGROnline #ดิวอริสรา #โหนกระแสในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 20 มี.ค. 68 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ดำเนินรายการได้เผยว่ามีคนส่งคำฟ้องหมายศาล ที่เนื้อหาระบุว่า โจทก์คือคนจีนรายหนึ่ง มอบหมายให้ชายคนไทยคนหนึ่งเป็นโจทก์ในการฟ้อง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงชื่อดัง ที่ตอนนี้กำลังมีประเด็นร้อน ถูก “เมย์ วาสนา อินทะแสง” นักธุรกิจชื่อดังฟ้อง หลังยืมทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านไปแก้ไขปัญหาชีวิต แต่ไม่ส่งคืนตามดีล ไม่ยอมบอกว่าตอนนี้ทรัพย์สินไปตกอยู่ที่ใด • โดยคนจีนฟ้องดิวฐานผิดสัญญา ละเมิดขับไล่ ไม่จ่ายค่าเช่ากรรมสิทธิ์ห้องชุด เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห้องมีเนื้อที่ 832.82 ตารางเมตร โดยดิวได้เช่าเดือนละ 1.5 ล้านบาท และต้องชำระเงินในวันที่ 1 ไม่เกินวันที่ 5 ของทุกๆ เดือน ที่ผ่านมาดิวมีการค้างชำระ และถูกคนจีนฟ้องร้องตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ซึ่งจำนวนเงินที่ดิวค้างจ่ายคือ 9,860,471.23 บาท • #MGROnline #ดิวอริสรา #โหนกระแส0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว - เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อสหรัฐฯ หลายแห่งได้กล่าวถึง J-35A เครื่องบินขับไล่ลำใหม่ของจีน โดยบางรายงานถึงกับเปรียบเทียบว่ามีศักยภาพเทียบเท่ากับ F-35 ของสหรัฐฯ และในหมู่ชาวเน็ตจีนเองก็มีบางคนเชื่อว่า J-35A อาจเหนือกว่า J-20 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนหลักของกองทัพอากาศจีน
•
เพื่อไขข้อสงสัยนี้ พันเอกอาวุโส เสิน จิ้นเคอ อดีตโฆษกกองทัพอากาศจีน ได้ให้คำตอบระหว่างการบรรยายด้านการศึกษาด้านกลาโหม ณ เขตพัฒนาอากาศยานนครเจิ้งโจว เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
•
เมื่อถูกถามว่า J-35A เหนือกว่า J-20 หรือไม่ พันเอกเสินตอบว่า คำถามนี้ไม่ควรมองว่าเป็นการเปรียบเทียบเพื่อหาผู้ชนะ แต่ควรมองว่า J-20 และ J-35A เป็น "คู่หูที่สมบูรณ์แบบ"
•
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/china/detail/9680000025835
•
#MGROnline #เครื่องบินขับไล่ #จีนเมื่อเร็วๆ นี้ สื่อสหรัฐฯ หลายแห่งได้กล่าวถึง J-35A เครื่องบินขับไล่ลำใหม่ของจีน โดยบางรายงานถึงกับเปรียบเทียบว่ามีศักยภาพเทียบเท่ากับ F-35 ของสหรัฐฯ และในหมู่ชาวเน็ตจีนเองก็มีบางคนเชื่อว่า J-35A อาจเหนือกว่า J-20 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนหลักของกองทัพอากาศจีน • เพื่อไขข้อสงสัยนี้ พันเอกอาวุโส เสิน จิ้นเคอ อดีตโฆษกกองทัพอากาศจีน ได้ให้คำตอบระหว่างการบรรยายด้านการศึกษาด้านกลาโหม ณ เขตพัฒนาอากาศยานนครเจิ้งโจว เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา • เมื่อถูกถามว่า J-35A เหนือกว่า J-20 หรือไม่ พันเอกเสินตอบว่า คำถามนี้ไม่ควรมองว่าเป็นการเปรียบเทียบเพื่อหาผู้ชนะ แต่ควรมองว่า J-20 และ J-35A เป็น "คู่หูที่สมบูรณ์แบบ" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/china/detail/9680000025835 • #MGROnline #เครื่องบินขับไล่ #จีน0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว - หมากรุกท่าเรือ🛶 รูป 1 บริษัทฮัทชินสัน ซึ่งนายลีกาชิง ฮ่องกง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้สัมปทานบริหาร 2 ท่าเรือ ที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลองปานามา สองฝั่งมหาสมุทรเป็นเหตุให้ทรัมป์ขู่ จะยึดคืนคลองปานามา คลองนี้ก่อสร้างโดยสหรัฐ ต่อมาในปี 1999 สหรัฐยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของปานามา⛵️ รูป 2 บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาทำสัญญาบริหารท่าเรือ กระจายมากถึง 24 ประเทศ จำนวน 53 ท่าเรือ อยู่นอกจีน/ฮ่องกง 23 ประเทศ จำนวน 43 ท่าเรือ โดยบริษัทฮัทชินสันถือหุ้นในการบริหาร 80%ที่น่าสนใจคือ ท่าเรือแหลมฉบัง ในเมียนมา และในเวียดนาม ก็รวมอยู่ใน 43 ท่าเรือนี้ด้วยรูป 3 เพื่อหลบการเผชิญหน้ากับทรัมป์ บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาขายหุ้น 80% ดังกล่าว ครอบคลุม 43 ท่าเรือ ใน 23 ประเทศ ให้แก่ Blackrock Blackrock เป็นผู้บริหารกองทุนใหญ่สุดของโลก ตั้งอยู่ในสหรัฐ ตกลงราคาแค่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์🚤 รูป 4 นี่เอง จีนถึงเสียอารมณ์ ที่บริษัทฮัทชินสันไปตกลงขายสิทธิการบริหารท่าเรือเหล่านี้ ให้แก่คนอเมริกันสถานะเดิม เอื้อให้จีน สามารถเชื่อมโยงการเดินเรือไปทั่วโลก อย่างสะดวก บัดนี้สะดุดนอกจากนี้ ธุรกิจต่อเรือในจีน ยังเป็นเป้าที่ถูกสหรัฐเล็งทางปืนไว้ด้วยอุตสาหกรรมต่อเรือโลก เริ่มต้นที่ยุโรป ต่อมาย้ายไปญี่ปุ่น ต่อมาเกาหลีใต้ บัดนี้ ทุกประเทศแพ้จีนหมดแล้ว🛥️ รูป 5-6 แสดงจีนครองตลาดต่อเรือใหญ่เกินครึ่งของโลก เทียบกับสหรัฐต่อเรือ 1 ลำ จีนต่อเรือมากถึง 359 ลำประเด็นที่สหรัฐกังวลที่สุด คือจีนสามารถต่อเรือรบ ได้จำนวนมากกว่าสหรัฐ แบบสู้กันไม่ทันรูป 7-8 ด้วยเหตุนี้ จึงมีพวกล้อบบี้ เสนอให้รัฐบาลสหรัฐ กำหนดค่าธรรมเนียมเทียบเรือที่ต่อในจีน 1.5 ล้านดอลลาร์/ครั้งและจะให้ลามไปถึงบริษัทเดินเรือ ที่มีกองเรือต่อในจีนเกินกว่า 50% ด้วยซึ่งจะกระทบ แผนการสั่งต่อเรือในอนาคต ของหลายบริษัทเดินเรือใหญ่ของโลก🛳️ รูป 9 นักวิเคราะห์พยากรณ์ได้ว่า ดีล ปานามา ที่จะลามไปทั่วโลก อาจจะเป็นหมากรุกฆาต ต่อการค้าของจีนจึงต้องติดตามว่า จีนจะบีบบริษัทฮัทชินสันได้แค่ไหน เพราะคงไม่ง่าย นายลีกาชิง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใกล้ชิดกับชนชั้นสูงในอังกฤษแต่สำหรับรัฐบาลไทย ต้องถามว่า ได้เข้าไปดูสัญญากับบริษัทฮัทชินสันหรือยังมีเงื่อนไขใส่ไว้หรือไม่ ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ประเทศอื่น เข้ามาเป็นผู้บริหารท่าเรือในไทย ... และถ้าเกิดน่ากลัวว่า จะเป็นชนวนเกิดความขัดแย้ง ในกระดานหมากรุกโลก เกิดขึ้นในอ่าวไทย ... รัฐบาลไทยมีสิทธิยกเลิกสัญญาได้หรือไม่?วันที่ 20 มีนาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐหมากรุกท่าเรือ🛶 รูป 1 บริษัทฮัทชินสัน ซึ่งนายลีกาชิง ฮ่องกง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้สัมปทานบริหาร 2 ท่าเรือ ที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลองปานามา สองฝั่งมหาสมุทรเป็นเหตุให้ทรัมป์ขู่ จะยึดคืนคลองปานามา คลองนี้ก่อสร้างโดยสหรัฐ ต่อมาในปี 1999 สหรัฐยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของปานามา⛵️ รูป 2 บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาทำสัญญาบริหารท่าเรือ กระจายมากถึง 24 ประเทศ จำนวน 53 ท่าเรือ อยู่นอกจีน/ฮ่องกง 23 ประเทศ จำนวน 43 ท่าเรือ โดยบริษัทฮัทชินสันถือหุ้นในการบริหาร 80%ที่น่าสนใจคือ ท่าเรือแหลมฉบัง ในเมียนมา และในเวียดนาม ก็รวมอยู่ใน 43 ท่าเรือนี้ด้วยรูป 3 เพื่อหลบการเผชิญหน้ากับทรัมป์ บริษัทฮัทชินสันได้เจรจาขายหุ้น 80% ดังกล่าว ครอบคลุม 43 ท่าเรือ ใน 23 ประเทศ ให้แก่ Blackrock Blackrock เป็นผู้บริหารกองทุนใหญ่สุดของโลก ตั้งอยู่ในสหรัฐ ตกลงราคาแค่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์🚤 รูป 4 นี่เอง จีนถึงเสียอารมณ์ ที่บริษัทฮัทชินสันไปตกลงขายสิทธิการบริหารท่าเรือเหล่านี้ ให้แก่คนอเมริกันสถานะเดิม เอื้อให้จีน สามารถเชื่อมโยงการเดินเรือไปทั่วโลก อย่างสะดวก บัดนี้สะดุดนอกจากนี้ ธุรกิจต่อเรือในจีน ยังเป็นเป้าที่ถูกสหรัฐเล็งทางปืนไว้ด้วยอุตสาหกรรมต่อเรือโลก เริ่มต้นที่ยุโรป ต่อมาย้ายไปญี่ปุ่น ต่อมาเกาหลีใต้ บัดนี้ ทุกประเทศแพ้จีนหมดแล้ว🛥️ รูป 5-6 แสดงจีนครองตลาดต่อเรือใหญ่เกินครึ่งของโลก เทียบกับสหรัฐต่อเรือ 1 ลำ จีนต่อเรือมากถึง 359 ลำประเด็นที่สหรัฐกังวลที่สุด คือจีนสามารถต่อเรือรบ ได้จำนวนมากกว่าสหรัฐ แบบสู้กันไม่ทันรูป 7-8 ด้วยเหตุนี้ จึงมีพวกล้อบบี้ เสนอให้รัฐบาลสหรัฐ กำหนดค่าธรรมเนียมเทียบเรือที่ต่อในจีน 1.5 ล้านดอลลาร์/ครั้งและจะให้ลามไปถึงบริษัทเดินเรือ ที่มีกองเรือต่อในจีนเกินกว่า 50% ด้วยซึ่งจะกระทบ แผนการสั่งต่อเรือในอนาคต ของหลายบริษัทเดินเรือใหญ่ของโลก🛳️ รูป 9 นักวิเคราะห์พยากรณ์ได้ว่า ดีล ปานามา ที่จะลามไปทั่วโลก อาจจะเป็นหมากรุกฆาต ต่อการค้าของจีนจึงต้องติดตามว่า จีนจะบีบบริษัทฮัทชินสันได้แค่ไหน เพราะคงไม่ง่าย นายลีกาชิง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใกล้ชิดกับชนชั้นสูงในอังกฤษแต่สำหรับรัฐบาลไทย ต้องถามว่า ได้เข้าไปดูสัญญากับบริษัทฮัทชินสันหรือยังมีเงื่อนไขใส่ไว้หรือไม่ ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ประเทศอื่น เข้ามาเป็นผู้บริหารท่าเรือในไทย ... และถ้าเกิดน่ากลัวว่า จะเป็นชนวนเกิดความขัดแย้ง ในกระดานหมากรุกโลก เกิดขึ้นในอ่าวไทย ... รัฐบาลไทยมีสิทธิยกเลิกสัญญาได้หรือไม่?วันที่ 20 มีนาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
- สวัสดีค่ะ Storyฯ หายไปตามรอยซากุระมา จำได้ว่าตอนที่เคยเล่าถึงความหมายของดอกเหมยในวัฒนธรรมจีน มีเพื่อนเพจถามถึงดอกซากุระด้วย วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ
เพื่อนเพจคงทราบดีว่าดอกซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีคนกล่าวถึงความหมายของมันต่อคนญี่ปุ่นว่าจริงแล้วคือ Rebirth หรือการเกิดใหม่ กล่าวคือการยอมรับความไม่จีรังในชีวิตแต่ยังเปี่ยมด้วยความหวังว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นใหม่ เฉกเช่นดอกซากุระที่บานให้ชื่นชมเพียงไม่นานก็ร่วงโรยแต่แล้วก็จะผลิใหม่และเบ่งบานให้ชมอีกเรื่อยไป นอกจากนี้ยังมีอีกหลายความหมาย เช่น ความสำเร็จ หัวใจที่เข้มแข็ง ความรัก ความบริสุทธิ์ และความอ่อนโยน ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ล้วนให้อารมณ์แห่งความหวังและความสุข
แล้วที่จีนล่ะ?
ดอกซากุระมีชื่อจีนว่า ‘อิงฮวา’ (樱花) หรือโบราณเคยเรียกว่า ‘อิงเถา’ แต่มีการระบุชัดว่าไม่ใช่ดอกท้อ (เถาฮวา) เฉพาะในประเทศจีนมีกว่าสี่สิบสายพันธุ์ เชื่อว่ามีการเริ่มปลูกต้นอิงฮวาในเขตพระราชฐานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น แต่แพร่สู่บ้านเรือนสามัญชนและพบเห็นได้ทั่วไปในสมัยราชวงศ์ถัง (บ้างก็ว่าในช่วงสมัยถังนี่เองที่ อิงฮวาหรือซากุระถูกเผยแพร่ในญี่ปุ่น) ต่อมาในสมัยซ่งเหนือคนหันมานิยมดอกเหมยมากกว่า ทำให้ดอกอิงฮวาถูกกล่าวขานถึงน้อยลง
ผลงานทางศิลปะเกี่ยวกับอิงฮวามีน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นบทกวีหรือภาพวาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกบ๊วยหรือดอกท้อที่ดูจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานมากกว่า แรกเริ่มเลยในงานประพันธ์ต่างๆ จะเรียกมันว่า ‘ซันอิง’ หมายถึงต้นอิงฮวาที่โตตามป่าเขา โดยบทกวีที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับอิงฮวาคือในสมัยราชวงศ์ใต้ ประพันธ์โดยเสิ่นเยวี้ย (ค.ศ. 441-513) เป็นการบรรยายถึงดอกซันอิงบานรับฤดูใบไม้ผลิ คงจะกล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ดอกอิงฮวาถูกโยงเข้ากับการมาเยือนของวสันตฤดู
ในสมัยถังมีบทกวีเกี่ยวกับดอกอิงฮวามากกว่ายุคสมัยอื่น บ่งบอกถึงความนิยมในสมัยนั้น โดยนักการเมืองไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) ได้สร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกอิงฮวาไว้หลายบท แต่ผลงานของเขามักบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งความเสียดายยามบุปผาโรยรา ทว่าแฝงไว้ซึ่งความหวังเพราะซันอิงยังจะคงอยู่และผลิบานใหม่ท่ามกลางป่าเขา โดยผลงานเหล่านี้สะท้อนถึงชีวิตทางการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของเขา
อิงฮวากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบได้ แต่ในช่วงยุคสมัยถังเช่นเดียวกัน มีการกล่าวถึงธรรมเนียมการหักกิ่งอิงฮวามอบให้กันยามคู่รักต้องจากลา โดยใช้อิงฮวาเป็นตัวแทนแห่งความคนึงหา และในหลายบทกวีในยุคนั้น ใช้อิงฮวาเปรียบเปรยถึงความคิดถึงและความอ้างว้าง ดุจฉากดอกอิงฮวาร่วงโรยโปรยพลิ้วในสายลม Storyฯ ขอยกตัวอย่างจากบทกวี <หักกิ่งบุปผามอบอำลา> ของหยวนเจิ่นในสมัยถัง (ขออภัยหากแปลไม่สละสลวย) ที่กล่าวถึงความอาลัยอาวรณ์ของสตรียามต้องส่งชายคนรักจากไป:
“ส่งท่านใต้ร่มเงาอิงเถา ใจวสันต์ฝากไว้ในกิ่ง
ที่ใดชวนให้คำนึงถึงที่สุด นั่นคือป่าอิงเถาอันดารดาษ”
ต่อมาอิงฮวากลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสตรีเพศที่อ่อนหวานและอ่อนโยน ไม่ปรากฏชัดเจนว่ามุมมองในลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่ในบทกวี <ซันอิง> ของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ (คนเดียวกับที่ฝากผลงานอันโดดเด่น <เหมยฮวา> ที่ Storyฯ เคยเขียนไปแล้ว) มีการบรรยายเปรียบเปรยอิงฮวาดุจสตรีที่เอียงอายหลบอยู่ใต้เงาไม้และเบ่งบานหลังดอกไม้อื่น แต่เมื่อลมวสันต์โชยก็พัดพากลิ่นหอมขจรขจายให้ความงามเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คน
จะเห็นได้ว่า ในวัฒนธรรมจีนนั้น ความหมายของดอกอิงฮวาคล้ายคลึงกับซากุระในวัฒนธรรมญี่ปุ่น คือเป็นตัวแทนแห่งความไม่จีรัง ความบริสุทธิ์ และความอ่อนหวาน
แต่ในความคล้ายคลึงก็มีความแตกต่าง เพราะซากุระในญี่ปุ่นแฝงไว้ด้วยความหวังท่ามกลางความไม่จีรังในชีวิต แต่โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ รู้สึกว่าบทกวีเกี่ยวกับอิงฮวาของจีนมักแฝงไว้ด้วยความเศร้า หากจะกล่าวว่าดอกบ๊วยเป็นตัวแทนแห่งความงามที่คงทน ดอกอิงฮวาก็คงเป็นตัวแทนแห่งความงามที่เปราะบาง
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
รูปภาพจาก: พี่ชายของ Storyฯ เอง
Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
https://news.bjd.com.cn/2022/04/08/10066983.shtml
https://www.baike.com/wikiid/4777101092071907963?from=wiki_content&prd=innerlink&view_id=32kicegvg8m000
https://www.163.com/dy/article/HV0LDNRE05418YI9.html
#อิงฮวา #ซากุระจีนสวัสดีค่ะ Storyฯ หายไปตามรอยซากุระมา จำได้ว่าตอนที่เคยเล่าถึงความหมายของดอกเหมยในวัฒนธรรมจีน มีเพื่อนเพจถามถึงดอกซากุระด้วย วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เพื่อนเพจคงทราบดีว่าดอกซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีคนกล่าวถึงความหมายของมันต่อคนญี่ปุ่นว่าจริงแล้วคือ Rebirth หรือการเกิดใหม่ กล่าวคือการยอมรับความไม่จีรังในชีวิตแต่ยังเปี่ยมด้วยความหวังว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นใหม่ เฉกเช่นดอกซากุระที่บานให้ชื่นชมเพียงไม่นานก็ร่วงโรยแต่แล้วก็จะผลิใหม่และเบ่งบานให้ชมอีกเรื่อยไป นอกจากนี้ยังมีอีกหลายความหมาย เช่น ความสำเร็จ หัวใจที่เข้มแข็ง ความรัก ความบริสุทธิ์ และความอ่อนโยน ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ล้วนให้อารมณ์แห่งความหวังและความสุข แล้วที่จีนล่ะ? ดอกซากุระมีชื่อจีนว่า ‘อิงฮวา’ (樱花) หรือโบราณเคยเรียกว่า ‘อิงเถา’ แต่มีการระบุชัดว่าไม่ใช่ดอกท้อ (เถาฮวา) เฉพาะในประเทศจีนมีกว่าสี่สิบสายพันธุ์ เชื่อว่ามีการเริ่มปลูกต้นอิงฮวาในเขตพระราชฐานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น แต่แพร่สู่บ้านเรือนสามัญชนและพบเห็นได้ทั่วไปในสมัยราชวงศ์ถัง (บ้างก็ว่าในช่วงสมัยถังนี่เองที่ อิงฮวาหรือซากุระถูกเผยแพร่ในญี่ปุ่น) ต่อมาในสมัยซ่งเหนือคนหันมานิยมดอกเหมยมากกว่า ทำให้ดอกอิงฮวาถูกกล่าวขานถึงน้อยลง ผลงานทางศิลปะเกี่ยวกับอิงฮวามีน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นบทกวีหรือภาพวาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกบ๊วยหรือดอกท้อที่ดูจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานมากกว่า แรกเริ่มเลยในงานประพันธ์ต่างๆ จะเรียกมันว่า ‘ซันอิง’ หมายถึงต้นอิงฮวาที่โตตามป่าเขา โดยบทกวีที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับอิงฮวาคือในสมัยราชวงศ์ใต้ ประพันธ์โดยเสิ่นเยวี้ย (ค.ศ. 441-513) เป็นการบรรยายถึงดอกซันอิงบานรับฤดูใบไม้ผลิ คงจะกล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ดอกอิงฮวาถูกโยงเข้ากับการมาเยือนของวสันตฤดู ในสมัยถังมีบทกวีเกี่ยวกับดอกอิงฮวามากกว่ายุคสมัยอื่น บ่งบอกถึงความนิยมในสมัยนั้น โดยนักการเมืองไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) ได้สร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกอิงฮวาไว้หลายบท แต่ผลงานของเขามักบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งความเสียดายยามบุปผาโรยรา ทว่าแฝงไว้ซึ่งความหวังเพราะซันอิงยังจะคงอยู่และผลิบานใหม่ท่ามกลางป่าเขา โดยผลงานเหล่านี้สะท้อนถึงชีวิตทางการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของเขา อิงฮวากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบได้ แต่ในช่วงยุคสมัยถังเช่นเดียวกัน มีการกล่าวถึงธรรมเนียมการหักกิ่งอิงฮวามอบให้กันยามคู่รักต้องจากลา โดยใช้อิงฮวาเป็นตัวแทนแห่งความคนึงหา และในหลายบทกวีในยุคนั้น ใช้อิงฮวาเปรียบเปรยถึงความคิดถึงและความอ้างว้าง ดุจฉากดอกอิงฮวาร่วงโรยโปรยพลิ้วในสายลม Storyฯ ขอยกตัวอย่างจากบทกวี <หักกิ่งบุปผามอบอำลา> ของหยวนเจิ่นในสมัยถัง (ขออภัยหากแปลไม่สละสลวย) ที่กล่าวถึงความอาลัยอาวรณ์ของสตรียามต้องส่งชายคนรักจากไป: “ส่งท่านใต้ร่มเงาอิงเถา ใจวสันต์ฝากไว้ในกิ่ง ที่ใดชวนให้คำนึงถึงที่สุด นั่นคือป่าอิงเถาอันดารดาษ” ต่อมาอิงฮวากลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสตรีเพศที่อ่อนหวานและอ่อนโยน ไม่ปรากฏชัดเจนว่ามุมมองในลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่ในบทกวี <ซันอิง> ของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ (คนเดียวกับที่ฝากผลงานอันโดดเด่น <เหมยฮวา> ที่ Storyฯ เคยเขียนไปแล้ว) มีการบรรยายเปรียบเปรยอิงฮวาดุจสตรีที่เอียงอายหลบอยู่ใต้เงาไม้และเบ่งบานหลังดอกไม้อื่น แต่เมื่อลมวสันต์โชยก็พัดพากลิ่นหอมขจรขจายให้ความงามเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คน จะเห็นได้ว่า ในวัฒนธรรมจีนนั้น ความหมายของดอกอิงฮวาคล้ายคลึงกับซากุระในวัฒนธรรมญี่ปุ่น คือเป็นตัวแทนแห่งความไม่จีรัง ความบริสุทธิ์ และความอ่อนหวาน แต่ในความคล้ายคลึงก็มีความแตกต่าง เพราะซากุระในญี่ปุ่นแฝงไว้ด้วยความหวังท่ามกลางความไม่จีรังในชีวิต แต่โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ รู้สึกว่าบทกวีเกี่ยวกับอิงฮวาของจีนมักแฝงไว้ด้วยความเศร้า หากจะกล่าวว่าดอกบ๊วยเป็นตัวแทนแห่งความงามที่คงทน ดอกอิงฮวาก็คงเป็นตัวแทนแห่งความงามที่เปราะบาง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) รูปภาพจาก: พี่ชายของ Storyฯ เอง Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://news.bjd.com.cn/2022/04/08/10066983.shtml https://www.baike.com/wikiid/4777101092071907963?from=wiki_content&prd=innerlink&view_id=32kicegvg8m000 https://www.163.com/dy/article/HV0LDNRE05418YI9.html #อิงฮวา #ซากุระจีน樱花 花开花谢皆诗意的早春花木_北京日报网我国野生樱花品种最多 樱属植物广泛分布于北半球的温带与亚热带地区。亚洲、欧洲、北美洲均有分布,但主要集中在东亚地区。中国的西南、华南、长江流域、华北、东北地区,俄罗斯、日本、朝鲜一线,以及缅甸、不丹...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว - จีนไม่ยอมเสียท่าเรือคลองปานามา 📌สั่งตรวจสอบดีลขาย CK Hutchison มูลค่า $22.8 พันล้าน ให้ BlackRock ดึงประเด็นความมั่นคง-กฎหมายต่อต้านการผูกขาด 📌หลังสหรัฐฯ แสดงความยินดี ฮ่องกง-ปักกิ่งประณามเป็น "การกลั่นแกล้ง" ทางเศรษฐกิจ ด้าน CK Hutchison ยืนยันเป็นธุรกรรมเชิงพาณิชย์👉รัฐบาลจีนกำลังตรวจสอบข้อตกลงการขายท่าเรือบริเวณคลองปานามาของบริษัท CK Hutchison จากฮ่องกงให้กับกลุ่มนักลงทุนที่นำโดยบริษัท BlackRock ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดีลมูลค่า 22.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปักกิ่งได้สั่งการให้หน่วยงานหลายแห่งดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งเป็นคำสั่งจากผู้นำระดับสูงของจีน ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้แสดงความยินดีกับข้อตกลงนี้ก่อนหน้านี้ ทั้งที่ในอดีตเคยกล่าวหาว่าจีนพยายามควบคุมเส้นทางน้ำสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ และเรียกร้องให้ "ถอดคลองปานามาออกจากการควบคุมของจีน" อย่างไรก็ตาม หนึ่งสัปดาห์หลังการประกาศข้อตกลง สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนได้เผยแพร่บทวิจารณ์ที่เรียกการขายครั้งนี้ว่าเป็น "การทรยศต่อจีน" และละเลยผลประโยชน์ของชาติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวว่า "จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการละเมิดหรือบ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วยการบังคับขู่เข็ญทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้ง" ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของจอห์น ลี ผู้นำฮ่องกง ที่เรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมสำหรับองค์กรธุรกิจ ด้านบริษัท CK Hutchison ยืนยันว่าข้อตกลงนี้ "มีลักษณะเชิงพาณิชย์ล้วนๆ และไม่เกี่ยวข้องกับรายงานข่าวการเมืองล่าสุดเกี่ยวกับท่าเรือปานามา" และระบุว่าได้ตกลงเจรจากับกลุ่ม BlackRock แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 145 วัน แม้ข้อตกลงยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจีนจะสามารถใช้กลไกใดในการยับยั้งการขายนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากธุรกิจที่ Hutchison กำลังขายมีฐานอยู่นอกประเทศจีนและฮ่องกง อีกทั้งบริษัทเองก็จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน #imctnews รายงานจีนไม่ยอมเสียท่าเรือคลองปานามา 📌สั่งตรวจสอบดีลขาย CK Hutchison มูลค่า $22.8 พันล้าน ให้ BlackRock ดึงประเด็นความมั่นคง-กฎหมายต่อต้านการผูกขาด 📌หลังสหรัฐฯ แสดงความยินดี ฮ่องกง-ปักกิ่งประณามเป็น "การกลั่นแกล้ง" ทางเศรษฐกิจ ด้าน CK Hutchison ยืนยันเป็นธุรกรรมเชิงพาณิชย์👉รัฐบาลจีนกำลังตรวจสอบข้อตกลงการขายท่าเรือบริเวณคลองปานามาของบริษัท CK Hutchison จากฮ่องกงให้กับกลุ่มนักลงทุนที่นำโดยบริษัท BlackRock ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นดีลมูลค่า 22.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปักกิ่งได้สั่งการให้หน่วยงานหลายแห่งดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงและการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งเป็นคำสั่งจากผู้นำระดับสูงของจีน ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้แสดงความยินดีกับข้อตกลงนี้ก่อนหน้านี้ ทั้งที่ในอดีตเคยกล่าวหาว่าจีนพยายามควบคุมเส้นทางน้ำสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ และเรียกร้องให้ "ถอดคลองปานามาออกจากการควบคุมของจีน" อย่างไรก็ตาม หนึ่งสัปดาห์หลังการประกาศข้อตกลง สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนได้เผยแพร่บทวิจารณ์ที่เรียกการขายครั้งนี้ว่าเป็น "การทรยศต่อจีน" และละเลยผลประโยชน์ของชาติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวว่า "จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการละเมิดหรือบ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วยการบังคับขู่เข็ญทางเศรษฐกิจและการกลั่นแกล้ง" ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของจอห์น ลี ผู้นำฮ่องกง ที่เรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมสำหรับองค์กรธุรกิจ ด้านบริษัท CK Hutchison ยืนยันว่าข้อตกลงนี้ "มีลักษณะเชิงพาณิชย์ล้วนๆ และไม่เกี่ยวข้องกับรายงานข่าวการเมืองล่าสุดเกี่ยวกับท่าเรือปานามา" และระบุว่าได้ตกลงเจรจากับกลุ่ม BlackRock แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 145 วัน แม้ข้อตกลงยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจีนจะสามารถใช้กลไกใดในการยับยั้งการขายนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากธุรกิจที่ Hutchison กำลังขายมีฐานอยู่นอกประเทศจีนและฮ่องกง อีกทั้งบริษัทเองก็จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน #imctnews รายงาน
- จีนได้เข้าสู่ยุคของโรงงานมืดที่เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องมีคนงานและไม่มีไฟฟ้า
ภาคการผลิตกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และการวิเคราะห์ข้อมูล
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการเกิดขึ้นของ "โรงงานมืด" ที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งอนาคตที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และผลผลิตให้สูงสุด
ทำความเข้าใจแนวคิดของโรงงานมืด
โรงงานมืดเป็นโรงงานผลิตขั้นสูงที่พึ่งพาระบบอัตโนมัติทั้งหมด ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคนงานในสถานที่
โรงงานเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบ IoT ที่เชื่อมต่อกัน และโปรโตคอลอัตโนมัติที่ซับซ้อนเพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น
โรงงานมืดทำงานได้โดยไม่ต้องมีแสงสว่าง โดยไม่ต้องมีมนุษย์อยู่ด้วย ทำให้ลดการใช้พลังงานและต้นทุนการดำเนินงานลง พร้อมทั้งรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ
คุณสมบัติหลักของโรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
1. *ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร*: โรงงานอัตโนมัติผสานรวมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อจัดการทุกด้านของการผลิต ตั้งแต่การจัดการวัสดุและการประกอบไปจนถึงการบรรจุหีบห่อและการรับรองคุณภาพ
2. *เครือข่ายเครื่องจักรอัจฉริยะ*: ด้วยการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์และ IoT เครื่องจักรภายในโรงงานอัตโนมัติจะสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำการปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติและคาดการณ์ความต้องการในการบำรุงรักษา
3. *การควบคุมคุณภาพที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์*: อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาความไม่สม่ำเสมอและข้อบกพร่อง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานที่เหนือกว่า
4. *สภาพแวดล้อมการผลิตที่สะอาดเป็นพิเศษ*: โรงงานอัตโนมัติใช้ระบบฟอกอากาศและกำจัดฝุ่นอัตโนมัติเพื่อรักษาสภาพปลอดเชื้อ ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยา
5. *การผลิตความเร็วสูงและปรับขนาดได้*: ระบบอัตโนมัติช่วยให้การผลิตมีความเร็วและปรับขนาดได้อย่างไม่มีใครเทียบ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพ
6. *การดำเนินงานที่ประหยัดพลังงานและยั่งยืน*: โรงงานอุตสาหกรรมปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุด ส่งเสริมแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การเพิ่มขึ้นของการลงทุนด้านการผลิตอัจฉริยะ
การลงทุนจำนวนมากในด้านระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นแรงผลักดันให้โรงงานอุตสาหกรรมขยายตัว
บริษัทต่างๆ ทั่วโลกลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรุ่นต่อไปเหล่านี้ โดยตระหนักถึงศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพที่เหนือกว่า
อนาคตของการผลิต
การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะมีผลที่ตามมาในวงกว้าง เช่น:
- เพิ่มผลผลิตผ่านการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่หยุดชะงัก
- รับรองคุณภาพที่ดีขึ้นผ่านการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์
- แนวทางการผลิตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการพลังงานอัตโนมัติ
- ความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่ของการผลิต
โรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์ที่ห่างไกลอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตอย่างแข็งขัน
การใช้ประโยชน์จาก AI, IoT และระบบอัตโนมัติช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และความยั่งยืนที่ไม่เคยมีมาก่อนได้
ในขณะที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไป โรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ปฏิวัติการผลิตทั่วโลก และปูทางสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ
จีนได้เข้าสู่ยุคของโรงงานมืดที่เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องมีคนงานและไม่มีไฟฟ้า ภาคการผลิตกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และการวิเคราะห์ข้อมูล สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการเกิดขึ้นของ "โรงงานมืด" ที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งอนาคตที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และผลผลิตให้สูงสุด ทำความเข้าใจแนวคิดของโรงงานมืด โรงงานมืดเป็นโรงงานผลิตขั้นสูงที่พึ่งพาระบบอัตโนมัติทั้งหมด ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคนงานในสถานที่ โรงงานเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบ IoT ที่เชื่อมต่อกัน และโปรโตคอลอัตโนมัติที่ซับซ้อนเพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น โรงงานมืดทำงานได้โดยไม่ต้องมีแสงสว่าง โดยไม่ต้องมีมนุษย์อยู่ด้วย ทำให้ลดการใช้พลังงานและต้นทุนการดำเนินงานลง พร้อมทั้งรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ คุณสมบัติหลักของโรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 1. *ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร*: โรงงานอัตโนมัติผสานรวมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อจัดการทุกด้านของการผลิต ตั้งแต่การจัดการวัสดุและการประกอบไปจนถึงการบรรจุหีบห่อและการรับรองคุณภาพ 2. *เครือข่ายเครื่องจักรอัจฉริยะ*: ด้วยการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์และ IoT เครื่องจักรภายในโรงงานอัตโนมัติจะสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำการปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติและคาดการณ์ความต้องการในการบำรุงรักษา 3. *การควบคุมคุณภาพที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์*: อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาความไม่สม่ำเสมอและข้อบกพร่อง เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานที่เหนือกว่า 4. *สภาพแวดล้อมการผลิตที่สะอาดเป็นพิเศษ*: โรงงานอัตโนมัติใช้ระบบฟอกอากาศและกำจัดฝุ่นอัตโนมัติเพื่อรักษาสภาพปลอดเชื้อ ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยา 5. *การผลิตความเร็วสูงและปรับขนาดได้*: ระบบอัตโนมัติช่วยให้การผลิตมีความเร็วและปรับขนาดได้อย่างไม่มีใครเทียบ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพ 6. *การดำเนินงานที่ประหยัดพลังงานและยั่งยืน*: โรงงานอุตสาหกรรมปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุด ส่งเสริมแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มขึ้นของการลงทุนด้านการผลิตอัจฉริยะ การลงทุนจำนวนมากในด้านระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นแรงผลักดันให้โรงงานอุตสาหกรรมขยายตัว บริษัทต่างๆ ทั่วโลกลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรุ่นต่อไปเหล่านี้ โดยตระหนักถึงศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพที่เหนือกว่า อนาคตของการผลิต การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะมีผลที่ตามมาในวงกว้าง เช่น: - เพิ่มผลผลิตผ่านการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่หยุดชะงัก - รับรองคุณภาพที่ดีขึ้นผ่านการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ - แนวทางการผลิตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการพลังงานอัตโนมัติ - ความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่ของการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์ที่ห่างไกลอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตอย่างแข็งขัน การใช้ประโยชน์จาก AI, IoT และระบบอัตโนมัติช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาด และความยั่งยืนที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ ในขณะที่เทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไป โรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ปฏิวัติการผลิตทั่วโลก และปูทางสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ - "จีน" พร้อมจับมือ "ไทย" ต่อสู้ข้อกล่าวหา "สหรัฐฯ-อียู" ยันทำทุกอย่างถูกต้อง โต้ข่าวเข่นฆ่า "อุยกูร์" ไม่เป็นความจริง
https://www.thai-tai.tv/news/17733/"จีน" พร้อมจับมือ "ไทย" ต่อสู้ข้อกล่าวหา "สหรัฐฯ-อียู" ยันทำทุกอย่างถูกต้อง โต้ข่าวเข่นฆ่า "อุยกูร์" ไม่เป็นความจริง https://www.thai-tai.tv/news/17733/0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว - จีนพร้อมจับมือไทย ต่อสู้ข้อกล่าวหาจากประเทศที่ 3 ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยืนยันทำทุกอย่างถูกต้อง ย้ำข่าวเข่นฆ่า "อุยกูร์" ไม่เป็นความจริง
อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000026425จีนพร้อมจับมือไทย ต่อสู้ข้อกล่าวหาจากประเทศที่ 3 ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยืนยันทำทุกอย่างถูกต้อง ย้ำข่าวเข่นฆ่า "อุยกูร์" ไม่เป็นความจริง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000026425 - น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปจีนเพื่อติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับ เพื่อให้ประชาชนสบายใจ มั่นใจอธิบายให้ประเทศอื่นที่เห็นต่างให้เข้าใจได้ ไม่สนใจดราม่าการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่กลับพาลูกๆ มาเดินเล่น ที่หน้าสนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า อย่างอารมณ์ดี ต้องเข้าใจชีวิตมนุษย์ที่ทำงาน การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ทุกมนุษย์สามารถมีครอบครัว มีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง ส่วนรู้สึกอย่างไรกับกระแสดรามาดังกล่าว ถ้าไม่มีก็อาจคิดถึง ต้องขอบคุณมาก
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปจีนเพื่อติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับ เพื่อให้ประชาชนสบายใจ มั่นใจอธิบายให้ประเทศอื่นที่เห็นต่างให้เข้าใจได้ ไม่สนใจดราม่าการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่กลับพาลูกๆ มาเดินเล่น ที่หน้าสนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า อย่างอารมณ์ดี ต้องเข้าใจชีวิตมนุษย์ที่ทำงาน การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ทุกมนุษย์สามารถมีครอบครัว มีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง ส่วนรู้สึกอย่างไรกับกระแสดรามาดังกล่าว ถ้าไม่มีก็อาจคิดถึง ต้องขอบคุณมาก