• บทความกฎหมาย EP.45

    ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม

    ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค

    โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    บทความกฎหมาย EP.45 ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักรบรับจ้าง คือสิ่งยืนยันถึงสันติภาพจอมปลอมของชาติหมาอำนาจและUN ร้องยุติสู้รบแต่ปล่อยนักรบรับจ้างรับงานทำลายไทย
    #7ดอกจิก
    นักรบรับจ้าง คือสิ่งยืนยันถึงสันติภาพจอมปลอมของชาติหมาอำนาจและUN ร้องยุติสู้รบแต่ปล่อยนักรบรับจ้างรับงานทำลายไทย #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญไอ้ทัศนัย เฒ่าสามกีบ ศิลปินกักขฬะศิลปะเลอะเลือน ไปบุกงัดประตูด่านชายแดนเรียกร้องสันติภาพหน่อย อย่าดีแต่ปากกับนิ้วกดโพส
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ขอเชิญไอ้ทัศนัย เฒ่าสามกีบ ศิลปินกักขฬะศิลปะเลอะเลือน ไปบุกงัดประตูด่านชายแดนเรียกร้องสันติภาพหน่อย อย่าดีแต่ปากกับนิ้วกดโพส #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 15-12-68
    .
    เช้าวันนี้วงประชุม และรับประทานอาหารเช้าของคุณสนธิ อ.ปานเทพ และทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่ มีการอัพเดตสถานการณ์ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ความคืบหน้าในการจัดหาโดรนและระบบแอนตี้โดรนให้กับกองทัพภาคที่ 2, กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงเหล่าทัพที่ต้องการ ที่สำคัญก็คือ คุณสนธิได้ฉายภาพให้เห็นว่า "ประเทศไทย" ควรจะวางตัว และทำอย่างไรดีท่ามกลางความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ สหรัฐอเมริกา และจีน กำลังแย่งชิงอำนาจในภูมิภาคนี้ ... แต่คนที่ตายจริง เจ็บจริง และสูญเสียจริงคือคนไทยและคนเขมร
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=_8VSxoSHwW0
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    สนธิเล่าเรื่อง 15-12-68 . เช้าวันนี้วงประชุม และรับประทานอาหารเช้าของคุณสนธิ อ.ปานเทพ และทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่ มีการอัพเดตสถานการณ์ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ความคืบหน้าในการจัดหาโดรนและระบบแอนตี้โดรนให้กับกองทัพภาคที่ 2, กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงเหล่าทัพที่ต้องการ ที่สำคัญก็คือ คุณสนธิได้ฉายภาพให้เห็นว่า "ประเทศไทย" ควรจะวางตัว และทำอย่างไรดีท่ามกลางความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ สหรัฐอเมริกา และจีน กำลังแย่งชิงอำนาจในภูมิภาคนี้ ... แต่คนที่ตายจริง เจ็บจริง และสูญเสียจริงคือคนไทยและคนเขมร . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=_8VSxoSHwW0 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีอาวุโสกัมพูชา ออกมาแสดงท่าทีพาดพิงการเมืองไทย ระบุว่าหากต้องการสันติภาพและยุติความขัดแย้งตามแนวชายแดน ไทยควรเลือกผู้นำที่ไม่กระหายสงคราม พร้อมกล่าวหาผู้นำไทยมีท่าทีแข็งกร้าวและทำให้สถานการณ์ตึงเครียด
    .
    ความเห็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อกัมพูชา ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายในการผลักดันให้เกิดการหยุดยิง ขณะที่รัฐบาลไทยยืนยันจุดยืนปกป้องอธิปไตย และปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกราน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120031
    .
    #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #การเมืองระหว่างประเทศ #สถานการณ์ชายแดน #อนุทิน #สันติภาพ
    รัฐมนตรีอาวุโสกัมพูชา ออกมาแสดงท่าทีพาดพิงการเมืองไทย ระบุว่าหากต้องการสันติภาพและยุติความขัดแย้งตามแนวชายแดน ไทยควรเลือกผู้นำที่ไม่กระหายสงคราม พร้อมกล่าวหาผู้นำไทยมีท่าทีแข็งกร้าวและทำให้สถานการณ์ตึงเครียด . ความเห็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อกัมพูชา ท่ามกลางความพยายามของหลายฝ่ายในการผลักดันให้เกิดการหยุดยิง ขณะที่รัฐบาลไทยยืนยันจุดยืนปกป้องอธิปไตย และปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกราน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120031 . #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #การเมืองระหว่างประเทศ #สถานการณ์ชายแดน #อนุทิน #สันติภาพ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกทำเนียบขาวระบุ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดหวังให้ไทยและกัมพูชายึดถือคำมั่นสัญญาที่เคยลงนามไว้ พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ จะลงโทษผู้ใดก็ตาม หากเห็นว่าจำเป็นต่อการยุติความรุนแรงและรับประกันสันติภาพที่ยั่งยืน
    .
    ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้นำไทยยืนยันเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป โดยชี้ว่ายังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงใด ๆ ขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯ และอาเซียนพยายามผลักดันกระบวนการยุติความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120032
    .
    #News1live #News1 #ทำเนียบขาว #ทรัมป์ #หยุดยิง #ไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #การทูตระหว่างประเทศ
    โฆษกทำเนียบขาวระบุ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดหวังให้ไทยและกัมพูชายึดถือคำมั่นสัญญาที่เคยลงนามไว้ พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ จะลงโทษผู้ใดก็ตาม หากเห็นว่าจำเป็นต่อการยุติความรุนแรงและรับประกันสันติภาพที่ยั่งยืน . ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้นำไทยยืนยันเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป โดยชี้ว่ายังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงใด ๆ ขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯ และอาเซียนพยายามผลักดันกระบวนการยุติความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120032 . #News1live #News1 #ทำเนียบขาว #ทรัมป์ #หยุดยิง #ไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #การทูตระหว่างประเทศ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกทำเนียบขาว ระบุประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ คาดหมายไทยและกัมพูชายึดถือคำมั่นสัญญาที่ลงนามในข้อตกลง และจะลงโทษใครก็ตาม ถ้ามันจำเป็นสำหรับหยุดการเข่นฆ่าและรับประกันสันติภาพที่ยั่งยืน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120041

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โฆษกทำเนียบขาว ระบุประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ คาดหมายไทยและกัมพูชายึดถือคำมั่นสัญญาที่ลงนามในข้อตกลง และจะลงโทษใครก็ตาม ถ้ามันจำเป็นสำหรับหยุดการเข่นฆ่าและรับประกันสันติภาพที่ยั่งยืน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120041 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีออกอาการเซ็งหนัก หลัง “ทรัมป์” เสนอแผนสันติภาพให้ยูเครนถอนทหารออกจากดอนบาส เพื่อจัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” โดยไร้หลักประกันว่ารัสเซียจะไม่รุกคืบ ย้ำแผนนี้ไม่เป็นธรรม หากไม่มีการรับรองชัดเจนจากมอสโก และชี้ว่าการยกดินแดนต้องผ่านประชามติของชาวยูเครนเท่านั้น
    .
    ขณะเดียวกัน “มาร์ค รึตเตอร์” เลขาธิการใหญ่นาโต เตือนแรง หากปล่อยให้รัสเซียเดินหน้าในยูเครน ชาติสมาชิกนาโตอาจตกเป็นเป้าหมายต่อไป พร้อมประเมินว่ารัสเซียอาจพร้อมรุกรานยุโรปภายใน 5 ปี เรียกร้องเร่งเพิ่มงบกลาโหมรับมือสงครามใหญ่
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119675
    .
    #News1Live #News1 #ยูเครน #รัสเซีย #ทรัมป์ #เซเลนสกี #นาโต #ดอนบาส #สงครามยุโรป #ภูมิรัฐศาสตร์
    เซเลนสกีออกอาการเซ็งหนัก หลัง “ทรัมป์” เสนอแผนสันติภาพให้ยูเครนถอนทหารออกจากดอนบาส เพื่อจัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” โดยไร้หลักประกันว่ารัสเซียจะไม่รุกคืบ ย้ำแผนนี้ไม่เป็นธรรม หากไม่มีการรับรองชัดเจนจากมอสโก และชี้ว่าการยกดินแดนต้องผ่านประชามติของชาวยูเครนเท่านั้น . ขณะเดียวกัน “มาร์ค รึตเตอร์” เลขาธิการใหญ่นาโต เตือนแรง หากปล่อยให้รัสเซียเดินหน้าในยูเครน ชาติสมาชิกนาโตอาจตกเป็นเป้าหมายต่อไป พร้อมประเมินว่ารัสเซียอาจพร้อมรุกรานยุโรปภายใน 5 ปี เรียกร้องเร่งเพิ่มงบกลาโหมรับมือสงครามใหญ่ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119675 . #News1Live #News1 #ยูเครน #รัสเซีย #ทรัมป์ #เซเลนสกี #นาโต #ดอนบาส #สงครามยุโรป #ภูมิรัฐศาสตร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวลา 21.20 น. คืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ลากยาวเข้าสู่วันที่ 5
    .
    รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีบทบาทเป็นคนกลางช่วยยุติการสู้รบในอดีต
    .
    ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงของสภาคองเกรสว่า เขามองตนเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเชื่อว่าการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำไทยและกัมพูชาอีกไม่กี่รอบ จะสามารถนำสถานการณ์กลับเข้าสู่เส้นทางหยุดยิงได้
    .
    รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปะทะกันตลอดแนวชายแดนกว่า 817 กิโลเมตรในรอบนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีการสู้รบ
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119408
    .
    #News1live #News1 #ทรัมป์ #อนุทิน #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #การทูต #ความมั่นคง #การเมืองระหว่างประเทศ
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวลา 21.20 น. คืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ลากยาวเข้าสู่วันที่ 5 . รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีบทบาทเป็นคนกลางช่วยยุติการสู้รบในอดีต . ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงของสภาคองเกรสว่า เขามองตนเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเชื่อว่าการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำไทยและกัมพูชาอีกไม่กี่รอบ จะสามารถนำสถานการณ์กลับเข้าสู่เส้นทางหยุดยิงได้ . รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปะทะกันตลอดแนวชายแดนกว่า 817 กิโลเมตรในรอบนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีการสู้รบ . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119408 . #News1live #News1 #ทรัมป์ #อนุทิน #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #การทูต #ความมั่นคง #การเมืองระหว่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.42

    กฎการปะทะ หรือ Rules of Engagement (ROE) ในปฏิบัติการทางทหารคือหัวใจสำคัญของการพิจารณาการใช้กำลังทางทหาร โดยเป็นชุดคำสั่งหรือแนวทางที่กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต สถานที่ และวิธีการที่ทหารจะสามารถใช้กำลังหรืออาวุธได้ กฎเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระเบียบปฏิบัติภายในหน่วยงาน แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่ผูกโยงการปฏิบัติการทางทหารเข้ากับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ (Law of Armed Conflict – LOAC) รวมถึงกฎหมายภายในของรัฐนั้นๆ ด้วย ROE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity) กับหลักการด้านมนุษยธรรมและสัดส่วน (Proportionality) ในการทำสงคราม การกำหนด ROE จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง รูปแบบของภัยคุกคาม และเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐ ซึ่งในทางกฎหมายแล้ว ROE มักแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักคือ กฎทั่วไป (General ROE) ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติหรือการฝึก และกฎเฉพาะกิจ (Specific ROE) ที่ถูกปรับให้เข้ากับภารกิจ สถานที่ หรือระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้องค์การสหประชาชาติจะมี ROE ที่เข้มงวดกว่าภารกิจในการทำสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งเน้นการจำกัดการใช้กำลังเพื่อการป้องกันตนเองและคุ้มครองพลเรือนเป็นหลัก และในบริบททางกฎหมาย กฎการปะทะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความรับผิดชอบทางอาญาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสั่งการและการปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารแต่ละนายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำของตนสอดคล้องกับ ROE และ IHL หรือไม่ การละเมิด ROE อาจนำไปสู่การถูกสอบสวนและดำเนินคดีทางวินัยหรือทางอาญาได้ ทั้งในระดับศาลทหารและศาลอาญาระหว่างประเทศหากการละเมิดนั้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ข้อความที่ว่า ROE อาจแตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรมที่ต่างกันในประวัติศาสตร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการตีความและการประยุกต์ใช้ IHL ซึ่งแม้จะมีหลักการที่เป็นสากล เช่น หลักการแบ่งแยกพลรบและพลเรือน หรือหลักการจำกัดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น แต่การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จริงในทางปฏิบัติย่อมขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมการเมือง ประเพณีทางการทหาร และมุมมองทางกฎหมายของแต่ละชาติ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตีความขอบเขตอำนาจในการป้องกันตนเอง (Self-Defence) และความหมายของคำว่า การโจมตีที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Target) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เช่น การรบในเขตเมืองที่มีพลเรือนปะปน หรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำสงคราม

    กล่าวโดยสรุป กฎการปะทะคือหลักประกันเชิงกฎหมายที่ควบคุมการตัดสินใจอันเป็นความตายและความอยู่รอดในสมรภูมิ กฎเหล่านี้คือการรวมกันของหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายภายใน และความจำเป็นทางยุทธวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างมีขอบเขต มีความรับผิดชอบ และมีสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักนิติธรรม กฎการปะทะไม่ใช่เพียงแค่คู่มือปฏิบัติ แต่เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดภาระหน้าที่และขีดจำกัดของกองทัพในการดำเนินงานของพวกเขา ซึ่งต้องมีการตีความและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของความขัดแย้งและหลักการทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการทางทหารจะไม่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์และหลักนิติธรรมในทุกสถานการณ์.

    ดังนั้น ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติทางกฎหมายของกฎการปะทะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางทหาร และบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะ ROE เป็นตัวกำหนดขีดเส้นแบ่งระหว่างการปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การเคารพและการปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัดจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวินัยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษย์และลดผลกระทบต่อพลเรือนในยามศึกสงครามอีกด้วย การตีความที่ยืดหยุ่นภายใต้กรอบของกฎหมายที่เข้มแข็งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด.
    บทความกฎหมาย EP.42 กฎการปะทะ หรือ Rules of Engagement (ROE) ในปฏิบัติการทางทหารคือหัวใจสำคัญของการพิจารณาการใช้กำลังทางทหาร โดยเป็นชุดคำสั่งหรือแนวทางที่กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต สถานที่ และวิธีการที่ทหารจะสามารถใช้กำลังหรืออาวุธได้ กฎเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระเบียบปฏิบัติภายในหน่วยงาน แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่ผูกโยงการปฏิบัติการทางทหารเข้ากับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ (Law of Armed Conflict – LOAC) รวมถึงกฎหมายภายในของรัฐนั้นๆ ด้วย ROE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity) กับหลักการด้านมนุษยธรรมและสัดส่วน (Proportionality) ในการทำสงคราม การกำหนด ROE จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง รูปแบบของภัยคุกคาม และเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐ ซึ่งในทางกฎหมายแล้ว ROE มักแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักคือ กฎทั่วไป (General ROE) ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติหรือการฝึก และกฎเฉพาะกิจ (Specific ROE) ที่ถูกปรับให้เข้ากับภารกิจ สถานที่ หรือระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้องค์การสหประชาชาติจะมี ROE ที่เข้มงวดกว่าภารกิจในการทำสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งเน้นการจำกัดการใช้กำลังเพื่อการป้องกันตนเองและคุ้มครองพลเรือนเป็นหลัก และในบริบททางกฎหมาย กฎการปะทะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความรับผิดชอบทางอาญาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสั่งการและการปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารแต่ละนายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำของตนสอดคล้องกับ ROE และ IHL หรือไม่ การละเมิด ROE อาจนำไปสู่การถูกสอบสวนและดำเนินคดีทางวินัยหรือทางอาญาได้ ทั้งในระดับศาลทหารและศาลอาญาระหว่างประเทศหากการละเมิดนั้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ข้อความที่ว่า ROE อาจแตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรมที่ต่างกันในประวัติศาสตร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการตีความและการประยุกต์ใช้ IHL ซึ่งแม้จะมีหลักการที่เป็นสากล เช่น หลักการแบ่งแยกพลรบและพลเรือน หรือหลักการจำกัดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น แต่การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จริงในทางปฏิบัติย่อมขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมการเมือง ประเพณีทางการทหาร และมุมมองทางกฎหมายของแต่ละชาติ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตีความขอบเขตอำนาจในการป้องกันตนเอง (Self-Defence) และความหมายของคำว่า การโจมตีที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Target) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เช่น การรบในเขตเมืองที่มีพลเรือนปะปน หรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำสงคราม กล่าวโดยสรุป กฎการปะทะคือหลักประกันเชิงกฎหมายที่ควบคุมการตัดสินใจอันเป็นความตายและความอยู่รอดในสมรภูมิ กฎเหล่านี้คือการรวมกันของหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายภายใน และความจำเป็นทางยุทธวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างมีขอบเขต มีความรับผิดชอบ และมีสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักนิติธรรม กฎการปะทะไม่ใช่เพียงแค่คู่มือปฏิบัติ แต่เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดภาระหน้าที่และขีดจำกัดของกองทัพในการดำเนินงานของพวกเขา ซึ่งต้องมีการตีความและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของความขัดแย้งและหลักการทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการทางทหารจะไม่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์และหลักนิติธรรมในทุกสถานการณ์. ดังนั้น ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติทางกฎหมายของกฎการปะทะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางทหาร และบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะ ROE เป็นตัวกำหนดขีดเส้นแบ่งระหว่างการปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การเคารพและการปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัดจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวินัยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษย์และลดผลกระทบต่อพลเรือนในยามศึกสงครามอีกด้วย การตีความที่ยืดหยุ่นภายใต้กรอบของกฎหมายที่เข้มแข็งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • หายสงสัยทำไมไอ้ว่าวเงียบไป ที่แท้ยังเพ้อเป็นคุณชายพระตะบอง เป็นห่วงบ้านที่ทั้งยายมัน แม่มัน และตัวมันไม่เคยไปอยู่อาศัย ป่านนี้คงไปนั่งเฝ้าหน้าบ้าน ชูป้ายร้องหาสันติภาพและการเจรจา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธา
    #พิธานายกว่าว
    หายสงสัยทำไมไอ้ว่าวเงียบไป ที่แท้ยังเพ้อเป็นคุณชายพระตะบอง เป็นห่วงบ้านที่ทั้งยายมัน แม่มัน และตัวมันไม่เคยไปอยู่อาศัย ป่านนี้คงไปนั่งเฝ้าหน้าบ้าน ชูป้ายร้องหาสันติภาพและการเจรจา #คิงส์โพธิ์แดง #พิธา #พิธานายกว่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศเปิดฉาก “การทูตที่แข็งกร้าวที่สุด” เท่าที่ไทยเคยทำ ยกหลักฐาน-ไทม์ไลน์กว่า 14 เหตุการณ์ ชี้ชัดกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน พร้อมย้ำไทยจำเป็นต้องใช้กำลังทหารภายใต้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎบัตร UN
    .
    ไทยชี้แจงต่อทูต 58 ประเทศ 73 องค์กร ฟาดครบประเด็น: กัมพูชาละเมิดหยุดยิง, วางทุ่นระเบิดใหม่, ใช้อาวุธหนักโจมตีพื้นที่พลเรือน และเผยข้อมูลบิดเบือนที่เขมรเผยแพร่เป็นระบบ
    .
    ไทยประกาศชัด - ปฏิบัติการตอบโต้จะเดินหน้าจนกัมพูชา “เลือกสันติภาพจริง ๆ”
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118253
    .
    #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #ปฏิบัติการการทูต #ชายแดนเดือด #ความมั่นคง #อธิปไตยไทย
    กระทรวงการต่างประเทศเปิดฉาก “การทูตที่แข็งกร้าวที่สุด” เท่าที่ไทยเคยทำ ยกหลักฐาน-ไทม์ไลน์กว่า 14 เหตุการณ์ ชี้ชัดกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน พร้อมย้ำไทยจำเป็นต้องใช้กำลังทหารภายใต้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎบัตร UN . ไทยชี้แจงต่อทูต 58 ประเทศ 73 องค์กร ฟาดครบประเด็น: กัมพูชาละเมิดหยุดยิง, วางทุ่นระเบิดใหม่, ใช้อาวุธหนักโจมตีพื้นที่พลเรือน และเผยข้อมูลบิดเบือนที่เขมรเผยแพร่เป็นระบบ . ไทยประกาศชัด - ปฏิบัติการตอบโต้จะเดินหน้าจนกัมพูชา “เลือกสันติภาพจริง ๆ” . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118253 . #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #ปฏิบัติการการทูต #ชายแดนเดือด #ความมั่นคง #อธิปไตยไทย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • แรงกดดันจากเวทีโลกเริ่มทวีขึ้น-เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณให้ไทย–กัมพูชายึดหยุดยิงตามข้อตกลง หลังสถานการณ์ชายแดนเดือดต่อเนื่อง และมีทหารไทยบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดที่ศรีสะเกษ
    .
    วอชิงตันโพสต์รายงานว่า “ข้อตกลงสันติภาพที่ทรัมป์ผลักดัน กำลังเผชิญจุดเปราะบาง” หลังไทยเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ขณะที่กัมพูชาเคลื่อนอาวุธหนักใกล้พื้นที่พิพาท การปะทะรอบล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย
    รวมถึงพลเรือน ทำให้สถานการณ์ถูกมองว่า รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่หยุดยิงเมื่อเดือนกรกฎาคม
    .
    ด้านบีบีซีชี้ ความวุ่นวายทำให้ชาวบ้านนับพันต้องอพยพ ฝั่งไทยประกาศปิดโรงเรียนกว่า 650 แห่งเพื่อความปลอดภัย
    .
    แม้นานาชาติเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง แต่ความไม่ไว้วางใจที่สะสมมานาน ยังทำให้การฟื้นเสถียรภาพชายแดนเป็นเรื่องยาก และทำให้ข้อเสนอสันติภาพที่ทรัมป์ผลักดัน ถูกตั้งคำถามมากขึ้น
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118195
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #ทรัมป์ #สันติภาพสั่นคลอน #ปะทะชายแดน #โรงเรียนปิด650แห่ง
    แรงกดดันจากเวทีโลกเริ่มทวีขึ้น-เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณให้ไทย–กัมพูชายึดหยุดยิงตามข้อตกลง หลังสถานการณ์ชายแดนเดือดต่อเนื่อง และมีทหารไทยบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดที่ศรีสะเกษ . วอชิงตันโพสต์รายงานว่า “ข้อตกลงสันติภาพที่ทรัมป์ผลักดัน กำลังเผชิญจุดเปราะบาง” หลังไทยเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ขณะที่กัมพูชาเคลื่อนอาวุธหนักใกล้พื้นที่พิพาท การปะทะรอบล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย รวมถึงพลเรือน ทำให้สถานการณ์ถูกมองว่า รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่หยุดยิงเมื่อเดือนกรกฎาคม . ด้านบีบีซีชี้ ความวุ่นวายทำให้ชาวบ้านนับพันต้องอพยพ ฝั่งไทยประกาศปิดโรงเรียนกว่า 650 แห่งเพื่อความปลอดภัย . แม้นานาชาติเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง แต่ความไม่ไว้วางใจที่สะสมมานาน ยังทำให้การฟื้นเสถียรภาพชายแดนเป็นเรื่องยาก และทำให้ข้อเสนอสันติภาพที่ทรัมป์ผลักดัน ถูกตั้งคำถามมากขึ้น . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118195 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #ทรัมป์ #สันติภาพสั่นคลอน #ปะทะชายแดน #โรงเรียนปิด650แห่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินบินกระชับสัมพันธ์โมดี้ หลังล้มโต๊ะเจรจาสันติภาพ : คนเคาะข่าว 04-12-68
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=rMpua63ploE
    ปูตินบินกระชับสัมพันธ์โมดี้ หลังล้มโต๊ะเจรจาสันติภาพ : คนเคาะข่าว 04-12-68 . https://www.youtube.com/watch?v=rMpua63ploE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ กองทัพภาค2 เผย กัมพูชาใช้อากาศยานไร้คนขับ ซึ่งมีกล้องวีดีโอถ่ายทอดสดไปยังผู้ควบคุม และมีอากาศยานติดอาวุธจรวด ค.82 มม. ตามมาถล่มทหารไทย นี่คือผลจากการพักรบช่วงข้อตกลงสันติภาพจอมปลอม ใครพบเห็นอากาศยานนี้ตกหล่น ห้ามเข้าใกล้ ห้ามเก็บกู้ มันอาจทำงานอัตโนมัติ
    #7ดอกจิก
    ♣ กองทัพภาค2 เผย กัมพูชาใช้อากาศยานไร้คนขับ ซึ่งมีกล้องวีดีโอถ่ายทอดสดไปยังผู้ควบคุม และมีอากาศยานติดอาวุธจรวด ค.82 มม. ตามมาถล่มทหารไทย นี่คือผลจากการพักรบช่วงข้อตกลงสันติภาพจอมปลอม ใครพบเห็นอากาศยานนี้ตกหล่น ห้ามเข้าใกล้ ห้ามเก็บกู้ มันอาจทำงานอัตโนมัติ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน , กองทัพภาคที่ 2 จำเป็นต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะ เพื่อยุติภัยคุกคาม และปกป้องชีวิต–ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

    รายงานโดยกองทัพภาคที่ 2

    #News1 #News1live #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #RTA #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรนารี #TruthFromThailand
    #เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
    กัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน , กองทัพภาคที่ 2 จำเป็นต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะ เพื่อยุติภัยคุกคาม และปกป้องชีวิต–ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน รายงานโดยกองทัพภาคที่ 2 #News1 #News1live #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #RTA #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรนารี #TruthFromThailand #เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 รายงานเมื่อเวลา 04.50 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2568 ว่า BM-21 จากฝั่งกัมพูชาถูกนำเข้าพื้นที่ตามคาด และเริ่มมีการปฏิบัติการทางทหารในหลายจุดยุทธศาสตร์ ได้แก่ ซำแต ภูผี ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาควาย

    #News1 #News1live #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #RTA #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรนารี #TruthFromThailand #เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
    กองทัพภาคที่ 2 รายงานเมื่อเวลา 04.50 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2568 ว่า BM-21 จากฝั่งกัมพูชาถูกนำเข้าพื้นที่ตามคาด และเริ่มมีการปฏิบัติการทางทหารในหลายจุดยุทธศาสตร์ ได้แก่ ซำแต ภูผี ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาควาย #News1 #News1live #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #RTA #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2 #กองกำลังสุรนารี #TruthFromThailand #เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปราสาทคนา” อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกทหารกัมพูชาทิ้งพื้นที่กะทันหัน หลังสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่อง
    ขณะนี้ฝ่ายไทยคุมพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว หน่วยความมั่นคงเร่งตรึงกำลังป้องกันการยั่วยุซ้ำ พร้อมประเมินท่าทีอีกด้านอย่างใกล้ชิด

    สถานการณ์ชายแดนยังไม่นิ่ง แต่ยืนยันความปลอดภัยฝั่งไทยอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่

    #News1 #News1live #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #กาบเชิง #สุรินทร์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทคนา
    “ปราสาทคนา” อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกทหารกัมพูชาทิ้งพื้นที่กะทันหัน หลังสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่อง ขณะนี้ฝ่ายไทยคุมพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว หน่วยความมั่นคงเร่งตรึงกำลังป้องกันการยั่วยุซ้ำ พร้อมประเมินท่าทีอีกด้านอย่างใกล้ชิด สถานการณ์ชายแดนยังไม่นิ่ง แต่ยืนยันความปลอดภัยฝั่งไทยอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ #News1 #News1live #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #กาบเชิง #สุรินทร์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทคนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • มุกเดิมฮุนเซน งัดคลิปแบล็คเมล์

    การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น

    นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง

    ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้"

    จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น

    #Newskit
    มุกเดิมฮุนเซน งัดคลิปแบล็คเมล์ การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้" จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุอีกครั้ง โดย “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้อดกลั้น หวั่นกระทบข้อตกลงหยุดยิงที่เขาเป็นผู้ประสาน ขณะที่รายงานระบุว่ามีการกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นผู้เริ่มโจมตี รวมถึงมีการเคลื่อนย้ายประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยหลายสำนักข่าวต่างชาติยังรายงานว่ามาตรการอพยพในฝั่งไทยมีผู้ได้รับผลกระทบหลายแสนคน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117629
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุอีกครั้ง โดย “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้อดกลั้น หวั่นกระทบข้อตกลงหยุดยิงที่เขาเป็นผู้ประสาน ขณะที่รายงานระบุว่ามีการกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นผู้เริ่มโจมตี รวมถึงมีการเคลื่อนย้ายประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยหลายสำนักข่าวต่างชาติยังรายงานว่ามาตรการอพยพในฝั่งไทยมีผู้ได้รับผลกระทบหลายแสนคน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117629 . #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุปะทะบริเวณช่องอานม้าแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ทำให้ฝ่ายไทยมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ขณะที่ “ฮุน มานี” รองนายกฯ กัมพูชา โพสต์ระบุว่าสันติภาพกัมพูชาถูกสั่นคลอน พร้อมอ้างว่าฝ่ายไทยโจมตีจนประชาชนต้องหนีตาย โดยย้ำว่ากัมพูชาต้องการแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีเท่านั้น แต่พร้อมป้องกันตนเองหากจำเป็น
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117693
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    เกิดเหตุปะทะบริเวณช่องอานม้าแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ทำให้ฝ่ายไทยมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ขณะที่ “ฮุน มานี” รองนายกฯ กัมพูชา โพสต์ระบุว่าสันติภาพกัมพูชาถูกสั่นคลอน พร้อมอ้างว่าฝ่ายไทยโจมตีจนประชาชนต้องหนีตาย โดยย้ำว่ากัมพูชาต้องการแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีเท่านั้น แต่พร้อมป้องกันตนเองหากจำเป็น . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117693 . #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีอนุทินมอบหมายรองนายกฯ เอกนิติเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ติดตามความก้าวหน้านโยบาย Quick Big Win ที่ช่วยให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้งระดับภูมิภาค ผู้บริโภค และ SMEs ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมรับทราบมาตรการส่งเสริมการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน ก่อนเสนอต่อ ครม. ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดสงขลาและลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟู รวมถึงสั่งปรับหลักเกณฑ์เงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมครอบคลุม 9 จังหวัดภาคใต้
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117667
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    นายกรัฐมนตรีอนุทินมอบหมายรองนายกฯ เอกนิติเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ติดตามความก้าวหน้านโยบาย Quick Big Win ที่ช่วยให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้งระดับภูมิภาค ผู้บริโภค และ SMEs ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมรับทราบมาตรการส่งเสริมการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน ก่อนเสนอต่อ ครม. ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดสงขลาและลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟู รวมถึงสั่งปรับหลักเกณฑ์เงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมครอบคลุม 9 จังหวัดภาคใต้ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117667 . #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายแดนสระแก้วตึงเครียดหนัก หน่วยงานความมั่นคงสั่งยกระดับเตือนภัยสาธารณะขั้นรุนแรง พร้อมอพยพประชาชน 4 อำเภอเข้าศูนย์พักพิงเร่งด่วน หลังมีเหตุปะทะบริเวณชายแดนจนมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย กองกำลังบูรพาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน 165 ตร.กม. ครอบคลุมอำเภอตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ และคลองหาด โดยเร่งเคลื่อนย้ายประชาชนเข้าสู่ศูนย์พักพิงทันที ขณะที่หลายหมู่บ้านใกล้แนวชายแดนเงียบราวเมืองร้าง เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยระดมกำลังอำนวยความสะดวกด้านจราจรและความปลอดภัยเต็มกำลัง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117655
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    ชายแดนสระแก้วตึงเครียดหนัก หน่วยงานความมั่นคงสั่งยกระดับเตือนภัยสาธารณะขั้นรุนแรง พร้อมอพยพประชาชน 4 อำเภอเข้าศูนย์พักพิงเร่งด่วน หลังมีเหตุปะทะบริเวณชายแดนจนมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย กองกำลังบูรพาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน 165 ตร.กม. ครอบคลุมอำเภอตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ และคลองหาด โดยเร่งเคลื่อนย้ายประชาชนเข้าสู่ศูนย์พักพิงทันที ขณะที่หลายหมู่บ้านใกล้แนวชายแดนเงียบราวเมืองร้าง เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยระดมกำลังอำนวยความสะดวกด้านจราจรและความปลอดภัยเต็มกำลัง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117655 . #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงทหารบาดเจ็บรักษาตัวที่ รพ.ค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี , วันนี้ เฮลิคอปเตอร์จาก มทบ.22 ได้ลำเลียงกำลังพล 3 นายที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณช่องบก อ.น้ำยืน มาถึงโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ ได้แก่ พลทหารยุทธภูมิ ปริปุรณะ, พลทหารพีรวัส ตะเพียนทอง และ จ.ส.อ.นภา เถื่อนไพร ทันทีที่ถึงพื้น เจ้าหน้าที่แพทย์–พยาบาลได้รับตัวขึ้นรถพยาบาลและเร่งดูแลต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117662
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงทหารบาดเจ็บรักษาตัวที่ รพ.ค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี , วันนี้ เฮลิคอปเตอร์จาก มทบ.22 ได้ลำเลียงกำลังพล 3 นายที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณช่องบก อ.น้ำยืน มาถึงโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ ได้แก่ พลทหารยุทธภูมิ ปริปุรณะ, พลทหารพีรวัส ตะเพียนทอง และ จ.ส.อ.นภา เถื่อนไพร ทันทีที่ถึงพื้น เจ้าหน้าที่แพทย์–พยาบาลได้รับตัวขึ้นรถพยาบาลและเร่งดูแลต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000117662 . #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกเปิดเผยรายชื่อกำลังพลไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 3 นาย จากเหตุปะทะชายแดนวันนี้ (8 ธ.ค.)
    ผู้เสียชีวิตคือ จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต สังกัด ร้อย.ม.(ลว.) 6 ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายตรงข้าม
    ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย
    - จ.ส.อ.นภา เถื่อนไพล รักษาตัวที่ รพ.เดชอุดม
    - พลทหารยุทธภูมิ ปริปุรณะ บาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่ รพ.น้ำยืน
    - พลทหารพีรวัส ตะเพียนทอง บาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่ รพ.น้ำยืน
    กองทัพบกย้ำให้การดูแลครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มกำลัง พร้อมเดินหน้าปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    กองทัพบกเปิดเผยรายชื่อกำลังพลไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 3 นาย จากเหตุปะทะชายแดนวันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้เสียชีวิตคือ จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต สังกัด ร้อย.ม.(ลว.) 6 ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย - จ.ส.อ.นภา เถื่อนไพล รักษาตัวที่ รพ.เดชอุดม - พลทหารยุทธภูมิ ปริปุรณะ บาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่ รพ.น้ำยืน - พลทหารพีรวัส ตะเพียนทอง บาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่ รพ.น้ำยืน กองทัพบกย้ำให้การดูแลครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มกำลัง พร้อมเดินหน้าปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ . #news1 #news1live #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts