• KLM ยกเลิกเที่ยวบินไกลหลายเส้นทาง หลังพบปัญหาการบำรุงรักษา Boeing 787.KLM Royal Dutch Airlinesประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศถึง 5 เที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2025 หลังพบว่ามีการดำเนินการบำรุงรักษาเครื่องบิน Boeing 787 จำนวน 7 ลำ “อย่างไม่ถูกต้องตามขั้นตอน” ส่งผลให้ต้องหยุดให้บริการเครื่องบินเหล่านี้เป็นการชั่วคราวเริ่มต้นวันที่ 3 พฤษภาคม 2025 KLM ประกาศยกเลิก 3 เที่ยวบินระยะไกล ได้แก่ อัมสเตอร์ดัม – เม็กซิโกซิตี้ อัมสเตอร์ดัม – ชิคาโก โอแฮร์ และ อัมสเตอร์ดัม – พอร์ตแลนด์เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารกว่า 650 คนติดค้างอยู่ที่สนามบินอัมสเตอร์ดัม สคิปโฮล (AMS) โดยผู้โดยสารที่เดินทางไปยังสหรัฐฯ ได้ออกเดินทางภายในวันเดียวกัน แม้จะล่าช้าไป 3–5 ชั่วโมง ขณะที่เที่ยวบินไปเม็กซิโกต้องดีเลย์นานถึง “1 วันเต็ม” โดยมีผู้โดยสารราว 250 คนได้รับผลกระทบต่อเนื่องในวันที่ 4 พฤษภาคมKLM ยังต้องยกเลิกเที่ยวบินอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ อัมสเตอร์ดัม – เซี่ยงไฮ้  อัมสเตอร์ดัม – ลอสแอนเจลิสมีผู้โดยสารประมาณ 200 คนในแต่ละเที่ยวบินที่ได้รับการจัดการเปลี่ยนเที่ยวบินใหม่.จากรายงานของสำนักข่าว ANP ของเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า การยกเลิกเที่ยวบินมีสาเหตุมาจากการค้นพบว่าเครื่องบิน Boeing 787 ทั้ง 7 ลำ มีการซ่อมบำรุงบางส่วนที่ “ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด” แม้จะไม่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในขณะนี้ แต่ KLM ได้ตัดสินใจนำเครื่องบินทั้งหมดเข้ารับการบำรุงรักษาแบบเร่งด่วน และจะไม่ใช้งานเครื่องบินเหล่านี้จนกว่าการบำรุงรักษาจะแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์โฆษกของ KLM ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น “Hart van Nederland” ว่า “ถึงแม้จะไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่เราจะดำเนินการบำรุงรักษาตามแนวทางที่ถูกต้องให้เร็วที่สุด และในระหว่างนี้เครื่องบินทั้ง 7 ลำจะยังคงถูกพักการใช้งานไว้ก่อน”
    KLM ยกเลิกเที่ยวบินไกลหลายเส้นทาง หลังพบปัญหาการบำรุงรักษา Boeing 787.KLM Royal Dutch Airlinesประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศถึง 5 เที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2025 หลังพบว่ามีการดำเนินการบำรุงรักษาเครื่องบิน Boeing 787 จำนวน 7 ลำ “อย่างไม่ถูกต้องตามขั้นตอน” ส่งผลให้ต้องหยุดให้บริการเครื่องบินเหล่านี้เป็นการชั่วคราวเริ่มต้นวันที่ 3 พฤษภาคม 2025 KLM ประกาศยกเลิก 3 เที่ยวบินระยะไกล ได้แก่ อัมสเตอร์ดัม – เม็กซิโกซิตี้ อัมสเตอร์ดัม – ชิคาโก โอแฮร์ และ อัมสเตอร์ดัม – พอร์ตแลนด์เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารกว่า 650 คนติดค้างอยู่ที่สนามบินอัมสเตอร์ดัม สคิปโฮล (AMS) โดยผู้โดยสารที่เดินทางไปยังสหรัฐฯ ได้ออกเดินทางภายในวันเดียวกัน แม้จะล่าช้าไป 3–5 ชั่วโมง ขณะที่เที่ยวบินไปเม็กซิโกต้องดีเลย์นานถึง “1 วันเต็ม” โดยมีผู้โดยสารราว 250 คนได้รับผลกระทบต่อเนื่องในวันที่ 4 พฤษภาคมKLM ยังต้องยกเลิกเที่ยวบินอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ อัมสเตอร์ดัม – เซี่ยงไฮ้  อัมสเตอร์ดัม – ลอสแอนเจลิสมีผู้โดยสารประมาณ 200 คนในแต่ละเที่ยวบินที่ได้รับการจัดการเปลี่ยนเที่ยวบินใหม่.จากรายงานของสำนักข่าว ANP ของเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า การยกเลิกเที่ยวบินมีสาเหตุมาจากการค้นพบว่าเครื่องบิน Boeing 787 ทั้ง 7 ลำ มีการซ่อมบำรุงบางส่วนที่ “ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด” แม้จะไม่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในขณะนี้ แต่ KLM ได้ตัดสินใจนำเครื่องบินทั้งหมดเข้ารับการบำรุงรักษาแบบเร่งด่วน และจะไม่ใช้งานเครื่องบินเหล่านี้จนกว่าการบำรุงรักษาจะแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์โฆษกของ KLM ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น “Hart van Nederland” ว่า “ถึงแม้จะไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่เราจะดำเนินการบำรุงรักษาตามแนวทางที่ถูกต้องให้เร็วที่สุด และในระหว่างนี้เครื่องบินทั้ง 7 ลำจะยังคงถูกพักการใช้งานไว้ก่อน”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านเปิดตัวขีปนาวุธ Qassem Basir ที่มีความแม่นยำ และ ‘หลบเลี่ยงสงครามอิเล็กทรอนิกส์’ ได้อย่างดีเยี่ยม

    การเปิดตัวขีปนาวุธใหม่ของอิหร่านเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐประกาศว่า อิหร่านต้องยุติโครงการขีปนาวุธพิสัยใกล้

    คุณสมบัติบางอย่างที่มีการกล่าวถึงของขีปนาวุธใหม่:

    👉 ขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกัน THAAD ของสหรัฐ รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธอื่นๆด้วย

    👉 มีพิสัยการบิน 1,300 กม. ซึ่งครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของอิสราเอล

    👉 ใช้เทคโนโลยีล่องหนขั้นสูง: ตัวขีปนาวุธทำจากวัสดุคอมโพสิตคาร์บอน สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ได้อย่างดี ซึ่งเบากว่า เร็วกว่า และดูดซับเรดาร์ได้

    👉 ไม่ใช้ระบบ GPS ทำให้ล้มเหลวในการสกัดกั้นด้วยดาวเทียม แม้แต่ระบบป้องกันบนอวกาศก็ไม่สามารถติดตามหัวรบได้

    👉ขีปนาวุธนี้โจมตีเป้าหมายโดยเบี่ยงเบนศูนย์ (ไม่ถึงหนึ่งเมตร) โดยไม่ต้องพึ่งระบบนำทาง GPS
    อิหร่านเปิดตัวขีปนาวุธ Qassem Basir ที่มีความแม่นยำ และ ‘หลบเลี่ยงสงครามอิเล็กทรอนิกส์’ ได้อย่างดีเยี่ยม การเปิดตัวขีปนาวุธใหม่ของอิหร่านเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐประกาศว่า อิหร่านต้องยุติโครงการขีปนาวุธพิสัยใกล้ คุณสมบัติบางอย่างที่มีการกล่าวถึงของขีปนาวุธใหม่: 👉 ขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกัน THAAD ของสหรัฐ รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธอื่นๆด้วย 👉 มีพิสัยการบิน 1,300 กม. ซึ่งครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของอิสราเอล 👉 ใช้เทคโนโลยีล่องหนขั้นสูง: ตัวขีปนาวุธทำจากวัสดุคอมโพสิตคาร์บอน สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ได้อย่างดี ซึ่งเบากว่า เร็วกว่า และดูดซับเรดาร์ได้ 👉 ไม่ใช้ระบบ GPS ทำให้ล้มเหลวในการสกัดกั้นด้วยดาวเทียม แม้แต่ระบบป้องกันบนอวกาศก็ไม่สามารถติดตามหัวรบได้ 👉ขีปนาวุธนี้โจมตีเป้าหมายโดยเบี่ยงเบนศูนย์ (ไม่ถึงหนึ่งเมตร) โดยไม่ต้องพึ่งระบบนำทาง GPS
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา

    “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา”
    .

    เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ"

    เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

    ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน

    เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก

    ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz)

    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o

    ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา” . เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ" เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz) รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิสไซล์วิถีโค้งของกบฎฮูตีสามารถทะลุทะลวงปราการป้องกันโล่ขีปนาวุธทั้งระบบแอร์โรว์ของกองทัพอิสราเอลและระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯได้อย่างไม่คาดฝันในเช้าวันอาทิตย์(4 พ.ค)ส่งผลทำให้มิสไซล์ผ่านทะลุเข้าไปถึงพื้นที่สนามบินนานาชาติเบนกูเรียนได้สำเร็จ มีผู้บาดเจ็บไป 6 คน ส่งผลทำให้ทั้งสายการบินชื่อดังของเยอรมัน ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินสวิส รวมสายการบินยุโรปอื่นๆประกาศยกเลิกเที่ยวบินตลอดทั้งวันนี้ ด้านกบฎฮูตีประกาศความรับผิดชอบการโจมตีพร้อมข่มขู่เตือนสายการบินดังทั้งหลายให้หยุดบินเข้าอิสราเอล ไม่รับรองความปลอดภัยทางอากาศทั้งนั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041815

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มิสไซล์วิถีโค้งของกบฎฮูตีสามารถทะลุทะลวงปราการป้องกันโล่ขีปนาวุธทั้งระบบแอร์โรว์ของกองทัพอิสราเอลและระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯได้อย่างไม่คาดฝันในเช้าวันอาทิตย์(4 พ.ค)ส่งผลทำให้มิสไซล์ผ่านทะลุเข้าไปถึงพื้นที่สนามบินนานาชาติเบนกูเรียนได้สำเร็จ มีผู้บาดเจ็บไป 6 คน ส่งผลทำให้ทั้งสายการบินชื่อดังของเยอรมัน ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินสวิส รวมสายการบินยุโรปอื่นๆประกาศยกเลิกเที่ยวบินตลอดทั้งวันนี้ ด้านกบฎฮูตีประกาศความรับผิดชอบการโจมตีพร้อมข่มขู่เตือนสายการบินดังทั้งหลายให้หยุดบินเข้าอิสราเอล ไม่รับรองความปลอดภัยทางอากาศทั้งนั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041815 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แพทองธาร” ขอเวลาแก้ปัญหากำแพงภาษีสหรัฐฯ ยันไม่หลุดกรอบ เผย มีดีลลับ ยังเปิดเผยไม่ได้ แจงปมมูดีส์จัดอันดับไม่ได้หมายความว่าเครดิตของประเทศไทยลดลง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041677

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “แพทองธาร” ขอเวลาแก้ปัญหากำแพงภาษีสหรัฐฯ ยันไม่หลุดกรอบ เผย มีดีลลับ ยังเปิดเผยไม่ได้ แจงปมมูดีส์จัดอันดับไม่ได้หมายความว่าเครดิตของประเทศไทยลดลง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041677 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามเย็น ยุคดิจิทัล : Sondhitalk EP291 VDO
    โลกกำลังเปลี่ยนจาก “ทุนอุตสาหกรรม” ไปสู่ “จักรวรรดิทุนคลาวด์” ประชาชนอย่างเราเป็นได้แค่ ไพร่ดิจิทัล
    #สงครามเย็นยุคดิจิทัล #สหรัฐจีน #จักรวรรดิทุนคลาวด์ #ไพร่ดิจิทัล #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    สงครามเย็น ยุคดิจิทัล : Sondhitalk EP291 VDO โลกกำลังเปลี่ยนจาก “ทุนอุตสาหกรรม” ไปสู่ “จักรวรรดิทุนคลาวด์” ประชาชนอย่างเราเป็นได้แค่ ไพร่ดิจิทัล #สงครามเย็นยุคดิจิทัล #สหรัฐจีน #จักรวรรดิทุนคลาวด์ #ไพร่ดิจิทัล #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • หยวนดิจิทัล ฝันร้ายของอเมริกา : Sondhitalk EP291 VDO
    เปิดลับ! สาเหตุ “สหรัฐฯ” เปิดศึกสกัด “จีน”
    ต้นตอคือ ศึกชิงระบบชำระเงิน-ดิจิทัลหยวน
    #หยวนดิจิทัล #สหรัฐจีน #ศึกชิงระบบชำระเงิน #ดิจิทัลหยวน #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    หยวนดิจิทัล ฝันร้ายของอเมริกา : Sondhitalk EP291 VDO เปิดลับ! สาเหตุ “สหรัฐฯ” เปิดศึกสกัด “จีน” ต้นตอคือ ศึกชิงระบบชำระเงิน-ดิจิทัลหยวน #หยวนดิจิทัล #สหรัฐจีน #ศึกชิงระบบชำระเงิน #ดิจิทัลหยวน #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Like
    Love
    Wow
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 783 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ กำลังใช้ AI และเทคนิคปลอมตัวขั้นสูง เพื่อสมัครงานระยะไกลในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อ ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและรับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตก

    ที่งาน RSA Conference ในซานฟรานซิสโก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเปิดเผยว่า แฮกเกอร์เหล่านี้ใช้ AI สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ และใช้ ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ deepfake และฟาร์มแล็ปท็อป เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้งและตัวตนของผู้สมัคร

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ AI และ deepfake เพื่อสมัครงานระยะไกล
    - สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ
    - ใช้ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์

    ✅ เทคนิคการปลอมตัวที่ซับซ้อน
    - ใช้ ฟาร์มแล็ปท็อป ในสหรัฐฯ เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้ง
    - ใช้ deepfake เพื่อหลอกทีมสรรหาบุคลากร

    ✅ เป้าหมายของแฮกเกอร์
    - ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาโดยค่อย ๆ ส่งข้อมูลออกไปทีละน้อย
    - รับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตกเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำ
    - ใช้ คำถามนอกบท เช่น "คิมจองอึน อ้วนแค่ไหน?" เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของผู้สมัคร
    - จัดสัมภาษณ์งาน ภายในองค์กร เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ

    https://www.techradar.com/pro/security/asking-remote-job-candidates-this-shocking-question-could-save-your-company-big-bucks-security-expert-says
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ กำลังใช้ AI และเทคนิคปลอมตัวขั้นสูง เพื่อสมัครงานระยะไกลในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อ ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและรับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตก ที่งาน RSA Conference ในซานฟรานซิสโก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเปิดเผยว่า แฮกเกอร์เหล่านี้ใช้ AI สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ และใช้ ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ deepfake และฟาร์มแล็ปท็อป เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้งและตัวตนของผู้สมัคร ✅ แฮกเกอร์ใช้ AI และ deepfake เพื่อสมัครงานระยะไกล - สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ - ใช้ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์ ✅ เทคนิคการปลอมตัวที่ซับซ้อน - ใช้ ฟาร์มแล็ปท็อป ในสหรัฐฯ เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้ง - ใช้ deepfake เพื่อหลอกทีมสรรหาบุคลากร ✅ เป้าหมายของแฮกเกอร์ - ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาโดยค่อย ๆ ส่งข้อมูลออกไปทีละน้อย - รับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตกเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเกาหลีเหนือ ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำ - ใช้ คำถามนอกบท เช่น "คิมจองอึน อ้วนแค่ไหน?" เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของผู้สมัคร - จัดสัมภาษณ์งาน ภายในองค์กร เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ https://www.techradar.com/pro/security/asking-remote-job-candidates-this-shocking-question-could-save-your-company-big-bucks-security-expert-says
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยืนยันว่าต้องการ แยกธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อลดการผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล โดยศาลได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้

    DOJ กำลังผลักดันให้ Google ขายธุรกิจโฆษณาบางส่วน เช่น Ad Exchange และ Publisher Ad Server เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตลาดโฆษณาออนไลน์ หลังจากที่ศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด

    Google คัดค้านแผนการแยกธุรกิจ โดยระบุว่าการบังคับขายธุรกิจโฆษณา อาจเป็นไปไม่ได้และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ Google ยังเสนอทางเลือกอื่น เช่น การแบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ และ การยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม

    ✅ DOJ ต้องการแยกธุรกิจโฆษณาของ Google
    - ศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายน
    - DOJ ต้องการให้ Google ขายธุรกิจ Ad Exchange และ Publisher Ad Server

    ✅ เหตุผลในการดำเนินคดี
    - ศาลพบว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด
    - การผูกขาดของ Google ส่งผลกระทบต่อผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้บริโภค

    ✅ ข้อเสนอของ Google เพื่อลดผลกระทบ
    - Google เสนอให้ แบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์
    - ยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม เช่น Unified Pricing

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล
    - หาก DOJ ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ ตลาดโฆษณามีการแข่งขันมากขึ้น
    - Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

    https://www.techspot.com/news/107784-doj-confirms-wants-break-up-google-advertising-tech.html
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยืนยันว่าต้องการ แยกธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อลดการผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล โดยศาลได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้ DOJ กำลังผลักดันให้ Google ขายธุรกิจโฆษณาบางส่วน เช่น Ad Exchange และ Publisher Ad Server เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตลาดโฆษณาออนไลน์ หลังจากที่ศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด Google คัดค้านแผนการแยกธุรกิจ โดยระบุว่าการบังคับขายธุรกิจโฆษณา อาจเป็นไปไม่ได้และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ Google ยังเสนอทางเลือกอื่น เช่น การแบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ และ การยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม ✅ DOJ ต้องการแยกธุรกิจโฆษณาของ Google - ศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายน - DOJ ต้องการให้ Google ขายธุรกิจ Ad Exchange และ Publisher Ad Server ✅ เหตุผลในการดำเนินคดี - ศาลพบว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด - การผูกขาดของ Google ส่งผลกระทบต่อผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้บริโภค ✅ ข้อเสนอของ Google เพื่อลดผลกระทบ - Google เสนอให้ แบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ - ยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม เช่น Unified Pricing ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล - หาก DOJ ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ ตลาดโฆษณามีการแข่งขันมากขึ้น - Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด https://www.techspot.com/news/107784-doj-confirms-wants-break-up-google-advertising-tech.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DOJ confirms it wants to break up Google's advertising tech monopoly
    The US Department of Justice has confirmed its intention to pursue a breakup of Google's advertising technology business, escalating the stakes in a high-profile antitrust battle. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi และกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนกำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการทางเลือกที่ไม่มีบริการของ Google โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดการพึ่งพา Android และ Google Play Services ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน

    Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus ได้หารือเกี่ยวกับการ สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก HyperOS 3 ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจีน ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google

    แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก กรณีของ Huawei ที่ถูกแบนจาก Google ในปี 2019 และต้องพัฒนา HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน และมีแอปมากกว่า 20,000 แอป

    ✅ Xiaomi และพันธมิตรพัฒนา OS ที่ไม่มีบริการของ Google
    - Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus กำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตัวเอง
    - HyperOS 3 อาจเป็น ก้าวแรกของยุคใหม่ที่ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google

    ✅ แรงจูงใจในการพัฒนา OS ใหม่
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน
    - Huawei ถูกแบนจาก Google และต้องพัฒนา HarmonyOS

    ✅ ความสำเร็จของ HarmonyOS
    - มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน
    - มีแอปมากกว่า 20,000 แอป

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
    - หาก Xiaomi และพันธมิตรเลิกใช้ Android อาจส่งผลต่อ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
    - อาจเกิดการแข่งขันระหว่าง Android และระบบปฏิบัติการใหม่จากจีน

    https://www.neowin.net/news/chinese-smartphone-makers-reportedly-want-a-google-free-android-alternative/
    Xiaomi และกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนกำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการทางเลือกที่ไม่มีบริการของ Google โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดการพึ่งพา Android และ Google Play Services ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus ได้หารือเกี่ยวกับการ สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก HyperOS 3 ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจีน ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก กรณีของ Huawei ที่ถูกแบนจาก Google ในปี 2019 และต้องพัฒนา HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน และมีแอปมากกว่า 20,000 แอป ✅ Xiaomi และพันธมิตรพัฒนา OS ที่ไม่มีบริการของ Google - Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus กำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตัวเอง - HyperOS 3 อาจเป็น ก้าวแรกของยุคใหม่ที่ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google ✅ แรงจูงใจในการพัฒนา OS ใหม่ - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน - Huawei ถูกแบนจาก Google และต้องพัฒนา HarmonyOS ✅ ความสำเร็จของ HarmonyOS - มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน - มีแอปมากกว่า 20,000 แอป ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน - หาก Xiaomi และพันธมิตรเลิกใช้ Android อาจส่งผลต่อ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก - อาจเกิดการแข่งขันระหว่าง Android และระบบปฏิบัติการใหม่จากจีน https://www.neowin.net/news/chinese-smartphone-makers-reportedly-want-a-google-free-android-alternative/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chinese smartphone makers reportedly want a Google-free Android alternative
    A coalition of Chinese smartphone makers have ventilated the idea of ditching Google-owned Android from their devices due to fear of threats from the US government.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ช่วงแลกโปรโมตจนชวนนึกว่าสินค้าราคาถูกจริง,เอาเข้าจริงๆ แพงกว่าแอปอื่นๆอีก,หลอกลวงแจกนั้นนี้ตรึมผ่านมุกของขวัญต่างๆ สุดท้ายโคตรตระหนี่ขี้เหนียวกว่าแอปใดๆอีก,สไตล์ฝรั่งขี้เหยียวเอาแต่ได้ไม่ยอมเสียเปรียบลูกค้าเลย,ใครยังใช้บริการอยู่ไม่ควายก็วัวหรือแกะแพะตัวโคตรสะพานควายเลย,ขนาดสไตล์จะแจกฟรีของขวัญยังไม่ยอมให้ฟรีง่ายๆ มันบอกนัยยะของแอปพื้นฐานเลยว่าลูกค้าไม่สำคัญอะไรต่อแอปมัน,ยิ่งเทียบราคาแอปเดิมที่มาก่อนในไทยยังราคาถูกกว่าอีก คุณภาพสินค้าดีไม่ต่างกัน เผลอๆสินค้าตัวเดียวกันอีก รูปภาพโชว์ก็เกือบอันเดียวกัน,รายละเอียดต่างๆแง่มุมบ่งบอกลักษณะสรรพคุณสินค้าก็ไม่บอกรายละเอียดอะไร,มีกั๊ก ไม่เปิดเผยในการแสดงออกถึงความจริงจังบอกค่าจริงในตัวสินค้าเลย,บอกลวกๆพอไม่ทีนั้นล่ะ,หรือแทบไม่กล้าตัดสินใจด้วย,กึ่งๆลวงๆอีก สามารถกดพลาดเป้าได้ง่ายๆแบบแปลกๆก็ว่า,คือไม่ชัดเจนในการนำเสนอด้วย,ถ้าแบบแขกเสนอขายของก็บอกสไตล์ๆพร้อมให้เหยื่อรีบซื้อรีบหนีออกจากบ้านคนซื้อนั้นล่ะ คนซื้อพร้อมเจอความซวยก็ว่า เอาตังเข้ากระเป๋าก่อนประมาณนั้น,หลักๆคือราคาสินค้าไม่ได้ถูกจริงนั้นล่ะ,ต่างจากช่วงมาโปรตอนแรกๆ,ถ้าใครไปทดลองเล่นเกมส์มันโยนหินถามจริตนิสัยสันดานคนผลิตแอปดูก่อนจะซึ้งเลย,555ทดลองไปเล่นดูแล้ว ตอนแรกก็ไม่เชื่อที่เขาบอก หากอยากรู้สันดานพื้นฐานคนทำแอป ก่อนไปเสียตังใช้บริการแอปมัน ลองไปเล่นๆดู มันสุดยอดแห่งความเหี้ยเลยล่ะ สไตล์สันดานฝรั่งเลย หรือคนจีนบางคนที่ขี้เหนียวสุดๆ,ยิ่งใกล้สำเร็จ มันก็ไม่ยอมให้ได้สินค้ามันง่ายๆแบบฟรีๆนะ อาทิจาก100ลดเป็น50แต้ม,จาก1แต้มพร้อมจบ มันลดเป็น0.1แต้ม จาก0.10แต้ม มันลดเป็น0.01แต้มกันเลย,จนถึงกว่าจะได้จบเกมส์คือ0.00ล่ะจึงจะชนะมัน ไม่ต้องการของฟรีหรอก แต่ต้องการดูว่าแอปที่ไม่สุจริตจริงใจจริงต่อลูกค้ามันมีมุกสไตล์ปรากฎจริตสันดานเชิญชวนล่อลวงคนไปใช้แอปมันบ้าง.
    ..สรุป ส่วนตัวนะ ถือว่าไม่ผ่านตกประเมิน ไม่ซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าแม้สไตล์แจกของขวัญยังไร้ความซื่อสัตย์ ไม่ซื่อตามเกมส์ที่มันสร้างออกมาเชิญชวนคนไปเล่น,ต่างจากแอปปี้ๆด้าๆในไทยเดิมๆ ยังถือว่าจริงใจต่อลูกค้ากว่า แจกก็แจกจริง ลดก็ลดจริงสำหรับคนใช้ที่เข้าไปใหม่หรือคนเก่าๆ,ไม่เล่นจิตวิทยาเกินงามหรือระยำล่อลวงผู้คนแบบนั้น.,ป๊อบอัพกะขายสินค้าก็เหลือเกินกวน&รำคาญสุดๆ,สินค้าก็ไม่ถูกจริงอย่างที่โฆษณาเปิดตัวคุยโม้แบบก่อนนั้นจริงด้วย,ไม่รักษามาตราฐานเดิม ไม่น่าเชื่อถือไปถึงตัวสินค้าที่เสนอการขายด้วย,แถมเบื้องลึกคนทำก็มาจากคนdeep stateด้วย,แค่แตกมุกอ้างคนละงานสร้างเท่านั้น เผลอเดอะแก๊งเดียวกันนั้นล่ะ.

    .. Temu หยุดส่งสินค้าจากจีนไปสหรัฐฯ อ้างภาษีศุลกากรสูง

    ..ช่วงแลกโปรโมตจนชวนนึกว่าสินค้าราคาถูกจริง,เอาเข้าจริงๆ แพงกว่าแอปอื่นๆอีก,หลอกลวงแจกนั้นนี้ตรึมผ่านมุกของขวัญต่างๆ สุดท้ายโคตรตระหนี่ขี้เหนียวกว่าแอปใดๆอีก,สไตล์ฝรั่งขี้เหยียวเอาแต่ได้ไม่ยอมเสียเปรียบลูกค้าเลย,ใครยังใช้บริการอยู่ไม่ควายก็วัวหรือแกะแพะตัวโคตรสะพานควายเลย,ขนาดสไตล์จะแจกฟรีของขวัญยังไม่ยอมให้ฟรีง่ายๆ มันบอกนัยยะของแอปพื้นฐานเลยว่าลูกค้าไม่สำคัญอะไรต่อแอปมัน,ยิ่งเทียบราคาแอปเดิมที่มาก่อนในไทยยังราคาถูกกว่าอีก คุณภาพสินค้าดีไม่ต่างกัน เผลอๆสินค้าตัวเดียวกันอีก รูปภาพโชว์ก็เกือบอันเดียวกัน,รายละเอียดต่างๆแง่มุมบ่งบอกลักษณะสรรพคุณสินค้าก็ไม่บอกรายละเอียดอะไร,มีกั๊ก ไม่เปิดเผยในการแสดงออกถึงความจริงจังบอกค่าจริงในตัวสินค้าเลย,บอกลวกๆพอไม่ทีนั้นล่ะ,หรือแทบไม่กล้าตัดสินใจด้วย,กึ่งๆลวงๆอีก สามารถกดพลาดเป้าได้ง่ายๆแบบแปลกๆก็ว่า,คือไม่ชัดเจนในการนำเสนอด้วย,ถ้าแบบแขกเสนอขายของก็บอกสไตล์ๆพร้อมให้เหยื่อรีบซื้อรีบหนีออกจากบ้านคนซื้อนั้นล่ะ คนซื้อพร้อมเจอความซวยก็ว่า เอาตังเข้ากระเป๋าก่อนประมาณนั้น,หลักๆคือราคาสินค้าไม่ได้ถูกจริงนั้นล่ะ,ต่างจากช่วงมาโปรตอนแรกๆ,ถ้าใครไปทดลองเล่นเกมส์มันโยนหินถามจริตนิสัยสันดานคนผลิตแอปดูก่อนจะซึ้งเลย,555ทดลองไปเล่นดูแล้ว ตอนแรกก็ไม่เชื่อที่เขาบอก หากอยากรู้สันดานพื้นฐานคนทำแอป ก่อนไปเสียตังใช้บริการแอปมัน ลองไปเล่นๆดู มันสุดยอดแห่งความเหี้ยเลยล่ะ สไตล์สันดานฝรั่งเลย หรือคนจีนบางคนที่ขี้เหนียวสุดๆ,ยิ่งใกล้สำเร็จ มันก็ไม่ยอมให้ได้สินค้ามันง่ายๆแบบฟรีๆนะ อาทิจาก100ลดเป็น50แต้ม,จาก1แต้มพร้อมจบ มันลดเป็น0.1แต้ม จาก0.10แต้ม มันลดเป็น0.01แต้มกันเลย,จนถึงกว่าจะได้จบเกมส์คือ0.00ล่ะจึงจะชนะมัน ไม่ต้องการของฟรีหรอก แต่ต้องการดูว่าแอปที่ไม่สุจริตจริงใจจริงต่อลูกค้ามันมีมุกสไตล์ปรากฎจริตสันดานเชิญชวนล่อลวงคนไปใช้แอปมันบ้าง. ..สรุป ส่วนตัวนะ ถือว่าไม่ผ่านตกประเมิน ไม่ซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าแม้สไตล์แจกของขวัญยังไร้ความซื่อสัตย์ ไม่ซื่อตามเกมส์ที่มันสร้างออกมาเชิญชวนคนไปเล่น,ต่างจากแอปปี้ๆด้าๆในไทยเดิมๆ ยังถือว่าจริงใจต่อลูกค้ากว่า แจกก็แจกจริง ลดก็ลดจริงสำหรับคนใช้ที่เข้าไปใหม่หรือคนเก่าๆ,ไม่เล่นจิตวิทยาเกินงามหรือระยำล่อลวงผู้คนแบบนั้น.,ป๊อบอัพกะขายสินค้าก็เหลือเกินกวน&รำคาญสุดๆ,สินค้าก็ไม่ถูกจริงอย่างที่โฆษณาเปิดตัวคุยโม้แบบก่อนนั้นจริงด้วย,ไม่รักษามาตราฐานเดิม ไม่น่าเชื่อถือไปถึงตัวสินค้าที่เสนอการขายด้วย,แถมเบื้องลึกคนทำก็มาจากคนdeep stateด้วย,แค่แตกมุกอ้างคนละงานสร้างเท่านั้น เผลอเดอะแก๊งเดียวกันนั้นล่ะ. .. Temu หยุดส่งสินค้าจากจีนไปสหรัฐฯ อ้างภาษีศุลกากรสูง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด!

    รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก

    แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด

    นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย
    ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด! รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะทำงานให้อิสราเอลมากเกินไป และยังพยายามผลักดันให้สหรัฐฯ ทำสงครามกับอิหร่าน
    - The Washington Post รายงาน

    เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะเขามีการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอและเปิดเผยบ่อยเกินไปกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารต่ออิหร่าน

    เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าเขากำลังพยายาม "เปลี่ยนกระแสให้สนับสนุนการดำเนินการทางทหาร" และกำลังให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอิสราเอล ในขณะที่ทรัมป์ต้องการแนวทางการเจรจาทาวการทูตมากกว่า
    ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะทำงานให้อิสราเอลมากเกินไป และยังพยายามผลักดันให้สหรัฐฯ ทำสงครามกับอิหร่าน - The Washington Post รายงาน เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ไมค์ วอลท์ซ ถูกไล่ออกเพราะเขามีการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอและเปิดเผยบ่อยเกินไปกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารต่ออิหร่าน เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าเขากำลังพยายาม "เปลี่ยนกระแสให้สนับสนุนการดำเนินการทางทหาร" และกำลังให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอิสราเอล ในขณะที่ทรัมป์ต้องการแนวทางการเจรจาทาวการทูตมากกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi กำลังพัฒนา HyperOS 3 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่มีบริการและแอปของ Google โดยได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OPPO, Vivo และ OnePlus

    การพัฒนานี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้ Huawei ถูกคว่ำบาตร และ Xiaomi อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกันในอนาคต

    แม้ว่า Xiaomi ยังมีใบอนุญาตให้ใช้ Android และ Google Play Services แต่บริษัทอาจกำลังเตรียม HyperOS 3 เป็นทางเลือกสำรอง หากถูกแบนจากสหรัฐฯ

    ✅ Xiaomi พัฒนา HyperOS 3 โดยไม่มีบริการของ Google
    - ได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group
    - คล้ายกับ HarmonyOS ของ Huawei

    ✅ เหตุผลในการพัฒนา HyperOS 3
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน
    - Xiaomi อาจถูกแบนจาก Google Play Services ในอนาคต

    ✅ ความท้าทายของ HyperOS 3
    - ต้องสร้าง App Store ที่มีแอปสำคัญครบถ้วน
    - อาจได้รับความนิยมเฉพาะใน ตลาดจีน

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หาก Xiaomi ถูกแบน HyperOS 3 อาจกลายเป็น ระบบหลักของบริษัท
    - อาจมีการขยายไปยัง ตลาดอื่น ๆ นอกจีน

    https://wccftech.com/xiaomi-rumored-to-be-making-google-free-hyperos-with-help-from-huawei/
    Xiaomi กำลังพัฒนา HyperOS 3 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่มีบริการและแอปของ Google โดยได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OPPO, Vivo และ OnePlus การพัฒนานี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้ Huawei ถูกคว่ำบาตร และ Xiaomi อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกันในอนาคต แม้ว่า Xiaomi ยังมีใบอนุญาตให้ใช้ Android และ Google Play Services แต่บริษัทอาจกำลังเตรียม HyperOS 3 เป็นทางเลือกสำรอง หากถูกแบนจากสหรัฐฯ ✅ Xiaomi พัฒนา HyperOS 3 โดยไม่มีบริการของ Google - ได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group - คล้ายกับ HarmonyOS ของ Huawei ✅ เหตุผลในการพัฒนา HyperOS 3 - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน - Xiaomi อาจถูกแบนจาก Google Play Services ในอนาคต ✅ ความท้าทายของ HyperOS 3 - ต้องสร้าง App Store ที่มีแอปสำคัญครบถ้วน - อาจได้รับความนิยมเฉพาะใน ตลาดจีน ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หาก Xiaomi ถูกแบน HyperOS 3 อาจกลายเป็น ระบบหลักของบริษัท - อาจมีการขยายไปยัง ตลาดอื่น ๆ นอกจีน https://wccftech.com/xiaomi-rumored-to-be-making-google-free-hyperos-with-help-from-huawei/
    WCCFTECH.COM
    Xiaomi Rumored To Be Collaborating With Huawei And The BBK Group to Develop Its HyperOS 3 As A Google-Free Alternative Without The Company’s Pre-Loaded Services Or Apps
    Huawei and the BBK Group could be aiding Xiaomi to develop a HyperOS platform without the addition of Google’s services or apps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางการคูเวตได้ดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโต ในเมือง Al-Wafrah ซึ่งส่งผลให้ การใช้พลังงานลดลงถึง 55% ภายในสัปดาห์เดียว โดยรัฐบาลระบุว่าการขุดคริปโต เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ

    แม้ว่าการซื้อขายคริปโตจะ ผิดกฎหมายในคูเวต แต่การขุดคริปโตยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้บุกตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลัง ที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต โดยบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า

    ✅ การใช้พลังงานลดลง 55% หลังจากปราบปรามการขุดคริปโต
    - เมือง Al-Wafrah พบว่าการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมากหลังจากรัฐบาลดำเนินการ

    ✅ รัฐบาลคูเวตระบุว่าการขุดคริปโตเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย
    - อาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ
    - ส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของประชาชน

    ✅ การตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลังที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต
    - บางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า
    - การขุด Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่า 1,047 kWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้านในสหรัฐฯ หนึ่งเดือน

    ✅ เหตุผลที่คูเวตเป็นพื้นที่น่าสนใจสำหรับนักขุดคริปโต
    - คูเวตเป็นประเทศที่ มีราคาพลังงานต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
    - นักขุดคริปโตเลือกคูเวตเพราะ ต้นทุนไฟฟ้าถูกกว่าประเทศอื่น ๆ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/energy-use-in-a-kuwaiti-city-fell-by-over-50-percent-after-authorities-cracked-down-on-crypto-mining
    ทางการคูเวตได้ดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโต ในเมือง Al-Wafrah ซึ่งส่งผลให้ การใช้พลังงานลดลงถึง 55% ภายในสัปดาห์เดียว โดยรัฐบาลระบุว่าการขุดคริปโต เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ แม้ว่าการซื้อขายคริปโตจะ ผิดกฎหมายในคูเวต แต่การขุดคริปโตยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้บุกตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลัง ที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต โดยบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า ✅ การใช้พลังงานลดลง 55% หลังจากปราบปรามการขุดคริปโต - เมือง Al-Wafrah พบว่าการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมากหลังจากรัฐบาลดำเนินการ ✅ รัฐบาลคูเวตระบุว่าการขุดคริปโตเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย - อาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ - ส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของประชาชน ✅ การตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลังที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต - บางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า - การขุด Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่า 1,047 kWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้านในสหรัฐฯ หนึ่งเดือน ✅ เหตุผลที่คูเวตเป็นพื้นที่น่าสนใจสำหรับนักขุดคริปโต - คูเวตเป็นประเทศที่ มีราคาพลังงานต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน - นักขุดคริปโตเลือกคูเวตเพราะ ต้นทุนไฟฟ้าถูกกว่าประเทศอื่น ๆ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/energy-use-in-a-kuwaiti-city-fell-by-over-50-percent-after-authorities-cracked-down-on-crypto-mining
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีนอย่างหนัก แม้ว่าจะมีความพยายามในการกระจายฐานการผลิตไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย แต่กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน

    ก่อนที่ Donald Trump จะเข้าสู่การเมือง Apple และพันธมิตรได้สร้างโรงงานขนาดใหญ่ทั่วจีนเพื่อประกอบ iPhones ซึ่ง Trump เคยหาเสียงโดยสัญญาว่าจะบังคับให้ Apple ย้ายการผลิตกลับไปยังสหรัฐฯ แต่จนถึงปัจจุบัน Apple ยังคงพึ่งพาจีนเป็นหลัก

    แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนของการผลิตไปยัง อินเดียและเวียดนาม แต่ Apple ยังคงต้องพึ่งพา ซัพพลายเชนของจีน ซึ่งมีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง

    ✅ Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีน
    - กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน
    - แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย

    ✅ ความพยายามในการกระจายฐานการผลิต
    - Apple ได้เริ่มผลิต iPhones ใน อินเดีย มากขึ้น
    - มีการลงทุนใน โรงงานผลิตชิ้นส่วนในเวียดนามและไทย

    ✅ บทบาทของจีนในซัพพลายเชนของ Apple
    - จีนมี เครือข่ายซัพพลายเออร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    - Apple ยังคงต้องพึ่งพา แรงงานและเทคโนโลยีของจีน

    ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    - การพึ่งพาจีนอาจส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - หาก Apple ลดการผลิตในจีน อาจส่งผลต่อ เศรษฐกิจจีนและตลาดแรงงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/could-apple-exist-without-its-ties-to-china-probably-not
    Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีนอย่างหนัก แม้ว่าจะมีความพยายามในการกระจายฐานการผลิตไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย แต่กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน ก่อนที่ Donald Trump จะเข้าสู่การเมือง Apple และพันธมิตรได้สร้างโรงงานขนาดใหญ่ทั่วจีนเพื่อประกอบ iPhones ซึ่ง Trump เคยหาเสียงโดยสัญญาว่าจะบังคับให้ Apple ย้ายการผลิตกลับไปยังสหรัฐฯ แต่จนถึงปัจจุบัน Apple ยังคงพึ่งพาจีนเป็นหลัก แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนของการผลิตไปยัง อินเดียและเวียดนาม แต่ Apple ยังคงต้องพึ่งพา ซัพพลายเชนของจีน ซึ่งมีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง ✅ Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีน - กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน - แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย ✅ ความพยายามในการกระจายฐานการผลิต - Apple ได้เริ่มผลิต iPhones ใน อินเดีย มากขึ้น - มีการลงทุนใน โรงงานผลิตชิ้นส่วนในเวียดนามและไทย ✅ บทบาทของจีนในซัพพลายเชนของ Apple - จีนมี เครือข่ายซัพพลายเออร์ที่มีประสิทธิภาพสูง - Apple ยังคงต้องพึ่งพา แรงงานและเทคโนโลยีของจีน ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก - การพึ่งพาจีนอาจส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน - หาก Apple ลดการผลิตในจีน อาจส่งผลต่อ เศรษฐกิจจีนและตลาดแรงงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/could-apple-exist-without-its-ties-to-china-probably-not
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดช่องโหว่! สวมสิทธิ ‘ไทย’ ส่งของไปขาย ‘สหรัฐ’ : [Biz Talk]

    สกัด ‘สินค้าสวมสิทธิ’ หนึ่งในแผนเจรจาไทย-สหรัฐ เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดเกินดุลการค้าของไทยกับสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มาจากการส่งออกสินค้า ที่สวมสิทธิใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O:Certificate of Origin ) จากไทย ส่งไปขายสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าจีน /รัฐบาล หวังพลิกวิกฤติเป็นโอกาส แก้สวมสิทธิสินค้าไทย+นอมินี
    ปิดช่องโหว่! สวมสิทธิ ‘ไทย’ ส่งของไปขาย ‘สหรัฐ’ : [Biz Talk] สกัด ‘สินค้าสวมสิทธิ’ หนึ่งในแผนเจรจาไทย-สหรัฐ เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดเกินดุลการค้าของไทยกับสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มาจากการส่งออกสินค้า ที่สวมสิทธิใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O:Certificate of Origin ) จากไทย ส่งไปขายสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าจีน /รัฐบาล หวังพลิกวิกฤติเป็นโอกาส แก้สวมสิทธิสินค้าไทย+นอมินี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • Apple วางแผนที่จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัว จากโรงงานในสหรัฐฯ ในปี 2025 โดย TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple แม้ว่าชิประดับสูงสุดของ Apple จะยังคงผลิตในไต้หวัน

    Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยว่า Apple มีซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ และกำลังลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้าเพื่อขยายการดำเนินงานในหลายรัฐ รวมถึง มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา

    แม้ว่าโรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในแอริโซนา จะผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุด แต่ Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้

    ✅ Apple จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัวจากโรงงานในสหรัฐฯ
    - รวมถึง หลายสิบล้านตัวจาก TSMC ในแอริโซนา
    - Apple มี ซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ

    ✅ การลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple
    - ขยายการดำเนินงานใน มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา
    - ตั้งโรงงานใหม่ใน เท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI

    ✅ บทบาทของ TSMC ในแอริโซนา
    - โรงงาน Fab 21 ผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes
    - Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้

    ✅ การผลิตชิประดับสูงสุดของ Apple
    - ชิปหลัก เช่น SoC, หน่วยความจำ และเซ็นเซอร์กล้อง ยังคงผลิตใน ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-expects-to-source-over-19-billion-chips-from-u-s-factories-this-year
    Apple วางแผนที่จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัว จากโรงงานในสหรัฐฯ ในปี 2025 โดย TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple แม้ว่าชิประดับสูงสุดของ Apple จะยังคงผลิตในไต้หวัน Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยว่า Apple มีซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ และกำลังลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้าเพื่อขยายการดำเนินงานในหลายรัฐ รวมถึง มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา แม้ว่าโรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในแอริโซนา จะผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุด แต่ Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้ ✅ Apple จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัวจากโรงงานในสหรัฐฯ - รวมถึง หลายสิบล้านตัวจาก TSMC ในแอริโซนา - Apple มี ซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ ✅ การลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple - ขยายการดำเนินงานใน มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา - ตั้งโรงงานใหม่ใน เท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ✅ บทบาทของ TSMC ในแอริโซนา - โรงงาน Fab 21 ผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes - Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้ ✅ การผลิตชิประดับสูงสุดของ Apple - ชิปหลัก เช่น SoC, หน่วยความจำ และเซ็นเซอร์กล้อง ยังคงผลิตใน ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-expects-to-source-over-19-billion-chips-from-u-s-factories-this-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้ปรับนโยบาย App Store ใหม่ หลังจากแพ้คดีในศาล โดยอนุญาตให้ นักพัฒนาแอปสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้โดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชันให้ Apple ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่มีผลเฉพาะใน App Store ของสหรัฐฯ

    ก่อนหน้านี้ Apple เคยพยายามหลีกเลี่ยงคำสั่งศาลโดย เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 27% จากแอปที่ใช้ระบบชำระเงินภายนอก แต่คำตัดสินล่าสุดของ ศาลแขวงแคลิฟอร์เนีย ได้บังคับให้ Apple ต้อง ยกเลิกค่าธรรมเนียมดังกล่าว

    Spotify เป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่ใช้ประโยชน์จากนโยบายใหม่นี้ โดยออกอัปเดตแอปที่ ให้ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกผ่านระบบชำระเงินภายนอกได้ ซึ่ง Spotify เรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า "ชัยชนะของผู้บริโภค ศิลปิน และนักสร้างสรรค์"

    ✅ Apple อนุญาตให้ใช้ระบบชำระเงินภายนอก
    - นักพัฒนาแอปสามารถใช้ ปุ่ม, ลิงก์ภายนอก และช่องทางชำระเงินอื่น ๆ
    - ไม่มีค่าคอมมิชชัน "Apple Tax" สำหรับการชำระเงินภายนอก

    ✅ ผลกระทบต่อแอปในสหรัฐฯ
    - นโยบายนี้มีผลเฉพาะใน App Store ของสหรัฐฯ
    - ตลาดอื่น ๆ ยังคงอยู่ภายใต้ข้อกำหนดเดิม

    ✅ Spotify ใช้ประโยชน์จากนโยบายใหม่
    - ออกอัปเดตแอปที่ให้ผู้ใช้ สมัครสมาชิกผ่านระบบชำระเงินภายนอก
    - เรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า "ชัยชนะของผู้บริโภค ศิลปิน และนักสร้างสรรค์"

    ✅ คำตัดสินของศาลแขวงแคลิฟอร์เนีย
    - Apple ถูกบังคับให้ ยกเลิกค่าธรรมเนียม 27% สำหรับระบบชำระเงินภายนอก
    - ศาลตำหนิ Apple ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก่อนหน้านี้

    https://www.techspot.com/news/107775-apple-revises-app-store-policy-allows-third-party.html
    Apple ได้ปรับนโยบาย App Store ใหม่ หลังจากแพ้คดีในศาล โดยอนุญาตให้ นักพัฒนาแอปสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้โดยไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชันให้ Apple ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่มีผลเฉพาะใน App Store ของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ Apple เคยพยายามหลีกเลี่ยงคำสั่งศาลโดย เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 27% จากแอปที่ใช้ระบบชำระเงินภายนอก แต่คำตัดสินล่าสุดของ ศาลแขวงแคลิฟอร์เนีย ได้บังคับให้ Apple ต้อง ยกเลิกค่าธรรมเนียมดังกล่าว Spotify เป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่ใช้ประโยชน์จากนโยบายใหม่นี้ โดยออกอัปเดตแอปที่ ให้ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกผ่านระบบชำระเงินภายนอกได้ ซึ่ง Spotify เรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า "ชัยชนะของผู้บริโภค ศิลปิน และนักสร้างสรรค์" ✅ Apple อนุญาตให้ใช้ระบบชำระเงินภายนอก - นักพัฒนาแอปสามารถใช้ ปุ่ม, ลิงก์ภายนอก และช่องทางชำระเงินอื่น ๆ - ไม่มีค่าคอมมิชชัน "Apple Tax" สำหรับการชำระเงินภายนอก ✅ ผลกระทบต่อแอปในสหรัฐฯ - นโยบายนี้มีผลเฉพาะใน App Store ของสหรัฐฯ - ตลาดอื่น ๆ ยังคงอยู่ภายใต้ข้อกำหนดเดิม ✅ Spotify ใช้ประโยชน์จากนโยบายใหม่ - ออกอัปเดตแอปที่ให้ผู้ใช้ สมัครสมาชิกผ่านระบบชำระเงินภายนอก - เรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า "ชัยชนะของผู้บริโภค ศิลปิน และนักสร้างสรรค์" ✅ คำตัดสินของศาลแขวงแคลิฟอร์เนีย - Apple ถูกบังคับให้ ยกเลิกค่าธรรมเนียม 27% สำหรับระบบชำระเงินภายนอก - ศาลตำหนิ Apple ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก่อนหน้านี้ https://www.techspot.com/news/107775-apple-revises-app-store-policy-allows-third-party.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Apple revises App Store policy, allows third-party payments 'without tax' after losing in court
    According to Apple's revised guidelines, apps listed on the iOS and macOS App Stores will no longer be prohibited from including "buttons, external links, or other calls...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta, Spotify, Garmin, Match Group และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience เพื่อท้าทาย การผูกขาดของ Apple และ Google ในตลาดแอปมือถือ

    กลุ่มพันธมิตรนี้มีเป้าหมายหลักในการ ผลักดันให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์มีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเริ่มจากการเรียกร้องให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้แทนที่จะผลักภาระให้กับนักพัฒนาแอป ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐยูทาห์เคยออกกฎหมายบังคับใช้แล้ว

    นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรยังสนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ต่อ Apple และ Google และเรียกร้องให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์ หยุดการเลือกปฏิบัติต่อแอปของคู่แข่ง และเปิดทางให้ผู้พัฒนาแอปสามารถใช้ระบบชำระเงินทางเลือกได้

    ✅ การจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience
    - นำโดย Meta, Spotify, Garmin และ Match Group
    - มีเป้าหมายเพื่อ ท้าทายการผูกขาดของ Apple และ Google

    ✅ ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มพันธมิตร
    - ผลักดันให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้
    - สนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
    - เรียกร้องให้ แพลตฟอร์มแอปสโตร์เปิดทางให้ผู้พัฒนาใช้ระบบชำระเงินทางเลือก

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอปมือถือ
    - หากข้อเรียกร้องได้รับการตอบรับ อาจทำให้ นักพัฒนาแอปมีอิสระมากขึ้น
    - อาจส่งผลให้ ค่าธรรมเนียมแอปสโตร์ลดลง

    ✅ การสนับสนุนจากภาครัฐและศาล
    - ศาลสหรัฐฯ เพิ่งตัดสินให้ Apple ต้องเปิดทางให้แอปสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้
    - กลุ่มพันธมิตรหวังว่า แรงกดดันจากหลายฝ่ายจะช่วยเปลี่ยนแปลงตลาดแอปมือถือ

    https://www.techspot.com/news/107765-meta-spotify-others-form-coalition-challenge-applegoogle-duopoly.html
    Meta, Spotify, Garmin, Match Group และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience เพื่อท้าทาย การผูกขาดของ Apple และ Google ในตลาดแอปมือถือ กลุ่มพันธมิตรนี้มีเป้าหมายหลักในการ ผลักดันให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์มีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเริ่มจากการเรียกร้องให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้แทนที่จะผลักภาระให้กับนักพัฒนาแอป ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐยูทาห์เคยออกกฎหมายบังคับใช้แล้ว นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรยังสนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ต่อ Apple และ Google และเรียกร้องให้แพลตฟอร์มแอปสโตร์ หยุดการเลือกปฏิบัติต่อแอปของคู่แข่ง และเปิดทางให้ผู้พัฒนาแอปสามารถใช้ระบบชำระเงินทางเลือกได้ ✅ การจัดตั้ง Coalition for a Competitive Mobile Experience - นำโดย Meta, Spotify, Garmin และ Match Group - มีเป้าหมายเพื่อ ท้าทายการผูกขาดของ Apple และ Google ✅ ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มพันธมิตร - ผลักดันให้ Apple และ Google รับผิดชอบการตรวจสอบอายุของผู้ใช้ - สนับสนุน คดีต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ - เรียกร้องให้ แพลตฟอร์มแอปสโตร์เปิดทางให้ผู้พัฒนาใช้ระบบชำระเงินทางเลือก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอปมือถือ - หากข้อเรียกร้องได้รับการตอบรับ อาจทำให้ นักพัฒนาแอปมีอิสระมากขึ้น - อาจส่งผลให้ ค่าธรรมเนียมแอปสโตร์ลดลง ✅ การสนับสนุนจากภาครัฐและศาล - ศาลสหรัฐฯ เพิ่งตัดสินให้ Apple ต้องเปิดทางให้แอปสามารถใช้ระบบชำระเงินภายนอกได้ - กลุ่มพันธมิตรหวังว่า แรงกดดันจากหลายฝ่ายจะช่วยเปลี่ยนแปลงตลาดแอปมือถือ https://www.techspot.com/news/107765-meta-spotify-others-form-coalition-challenge-applegoogle-duopoly.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta, Spotify, and others unite to challenge the Apple-Google app store duopoly
    Meta, Spotify, Garmin, Match Group, and others have joined forces to form a lobbying partnership targeting the control Apple and Google exert over their mobile app ecosystems....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) กำลังพิจารณา ห้ามไม่ให้ห้องปฏิบัติการในจีนทำการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ

    ปัจจุบัน 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก Apple, Samsung, Sony และ LG อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่า บางห้องปฏิบัติการอาจมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกแบน เช่น Huawei และ ZTE

    FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 หากข้อเสนอผ่านการอนุมัติ ห้องปฏิบัติการที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์จากกระบวนการรับรองอุปกรณ์

    ✅ การห้ามห้องปฏิบัติการจีนจากการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    - FCC ต้องการ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ
    - ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ Huawei และ ZTE จะถูกตัดสิทธิ์

    ✅ สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอุปกรณ์
    - 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในจีน
    - มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 168 แห่งในจีน, 111 แห่งในสหรัฐฯ และ 114 แห่งในไต้หวัน

    ✅ กระบวนการลงมติและผลกระทบ
    - FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025
    - หากข้อเสนอผ่าน ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์

    ✅ การขยายข้อเสนอไปยังห้องปฏิบัติการอื่น
    - FCC กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดไปยัง ห้องปฏิบัติการทั้งหมดในจีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ

    https://www.techspot.com/news/107755-fcc-moves-ban-chinese-labs-testing-electronics-sold.html
    คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) กำลังพิจารณา ห้ามไม่ให้ห้องปฏิบัติการในจีนทำการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ ปัจจุบัน 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก Apple, Samsung, Sony และ LG อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่า บางห้องปฏิบัติการอาจมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกแบน เช่น Huawei และ ZTE FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 หากข้อเสนอผ่านการอนุมัติ ห้องปฏิบัติการที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์จากกระบวนการรับรองอุปกรณ์ ✅ การห้ามห้องปฏิบัติการจีนจากการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - FCC ต้องการ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ - ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ Huawei และ ZTE จะถูกตัดสิทธิ์ ✅ สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอุปกรณ์ - 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในจีน - มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 168 แห่งในจีน, 111 แห่งในสหรัฐฯ และ 114 แห่งในไต้หวัน ✅ กระบวนการลงมติและผลกระทบ - FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 - หากข้อเสนอผ่าน ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์ ✅ การขยายข้อเสนอไปยังห้องปฏิบัติการอื่น - FCC กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดไปยัง ห้องปฏิบัติการทั้งหมดในจีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ https://www.techspot.com/news/107755-fcc-moves-ban-chinese-labs-testing-electronics-sold.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FCC moves to ban Chinese labs from testing electronics sold in the US
    FCC chairman Brendan Carr writes that before any electronic devices, such as smartphones or computers, can be imported or sold in the US, they must be tested...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple เผชิญกับผลกระทบจาก Trump tariffs ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025 แม้ว่าผลประกอบการของ Apple จะยังคงแข็งแกร่ง แต่ CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง

    Apple ได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากภาษี เช่น การขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล และ การนำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีที่สูงถึง 145% สำหรับสินค้าจากจีน และ 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย อาจส่งผลต่อแผนการผลิตของ Apple ในอนาคต

    ✅ ผลกระทบต่อ Apple
    - อาจต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025
    - CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง

    ✅ มาตรการลดผลกระทบของ Apple
    - ขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล
    - นำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้

    ✅ อัตราภาษีที่ส่งผลต่อ Apple
    - 145% สำหรับสินค้าจากจีน
    - 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย

    ✅ แนวโน้มของตลาดและการผลิต
    - Apple อาจต้องปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดผลกระทบจากภาษี
    - อาจมีการเพิ่มการผลิตในประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า

    https://www.neowin.net/news/tim-cook-says-tariffs-had-limited-impact-on-apple-but-it-may-still-lose-close-to-a-billion/
    Apple เผชิญกับผลกระทบจาก Trump tariffs ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025 แม้ว่าผลประกอบการของ Apple จะยังคงแข็งแกร่ง แต่ CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง Apple ได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากภาษี เช่น การขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล และ การนำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีที่สูงถึง 145% สำหรับสินค้าจากจีน และ 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย อาจส่งผลต่อแผนการผลิตของ Apple ในอนาคต ✅ ผลกระทบต่อ Apple - อาจต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025 - CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง ✅ มาตรการลดผลกระทบของ Apple - ขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล - นำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ ✅ อัตราภาษีที่ส่งผลต่อ Apple - 145% สำหรับสินค้าจากจีน - 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย ✅ แนวโน้มของตลาดและการผลิต - Apple อาจต้องปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดผลกระทบจากภาษี - อาจมีการเพิ่มการผลิตในประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า https://www.neowin.net/news/tim-cook-says-tariffs-had-limited-impact-on-apple-but-it-may-still-lose-close-to-a-billion/
    WWW.NEOWIN.NET
    Tim Cook says tariffs had "limited" impact on Apple but it may still lose close to a billion
    Apple CEO says the company could manage tariffs impact on its business, but it is difficult to predict beyond June.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเรียกทูตฟิลิปปินส์ประท้วง📌หลังแม่ทัพเรือฟิลิปปิสน์เผยแผนลาดตระเวนร่วมไต้หวัน "ผู้เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" พร้อมแนวโน้มตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดเดินทางไปไต้หวัน 38 ปี-ปรับนโยบายเข้าใกล้สหรัฐ การเผชิญหน้าทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรง กองทัพจีนส่งเรือรบสกัดกั้นฝ่ายฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ👉กระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์เข้าพบเมื่อวันอังคาร ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการหลังพลเรือเอกทรินิแดดแห่งกองทัพเรือฟิลิปปินส์เปิดเผยการหารือความร่วมมือกับไต้หวัน โดยระบุว่ากำลังพิจารณาการลาดตระเวนร่วมในช่องแคบลูซอน และอาจมีกิจกรรมทางทหารร่วมกันในอนาคต นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพฟิลิปปินส์ยอมรับความร่วมมือทางทหารที่อาจเกิดขึ้น แม้ภายหลังทรินิแดดจะชี้แจงว่าหมายถึงความร่วมมือระหว่างประเทศโดยทั่วไป ไม่เฉพาะฟิลิปปินส์-ไต้หวัน สถานทูตจีนในมะนิลาเตือนฟิลิปปินส์ให้ยึดมั่นในหลักการจีนเดียว หยุดการติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และระบุว่า "ผู้ที่เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" นักวิเคราะห์จีนระบุว่าการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการใดๆ กับไต้หวันจะถูกตีความว่าสนับสนุนเอกราชไต้หวัน ฟิลิปปินส์กำลังก้าวในเส้นทางอันตราย อาจนำไปสู่การตอบโต้อย่างรุนแรงรวมถึงทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อประธานาธิบดีมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางที่มีมา 38 ปี ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนใหญ่สามารถเยือนไต้หวันเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนได้ ความสัมพันธ์จีน-ฟิลิปปินส์เสื่อมถอยลงตั้งแต่มาร์กอสปรับนโยบายให้สอดคล้องกับสหรัฐฯ มีการเผชิญหน้าที่รุนแรงขึ้นในทะเลจีนใต้ ล่าสุดหน่วยยามชายฝั่งจีนเพิ่มการลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะสการ์โบโรห์ และกองทัพจีนส่งเรือรบตอบโต้การลาดตระเวนร่วมระหว่างฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ความตึงเครียดเคยเกิดขึ้นเมื่อมาร์กอสแสดงความยินดีกับผู้นำไต้หวันที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว #imctnews รายงาน
    จีนเรียกทูตฟิลิปปินส์ประท้วง📌หลังแม่ทัพเรือฟิลิปปิสน์เผยแผนลาดตระเวนร่วมไต้หวัน "ผู้เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" พร้อมแนวโน้มตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดเดินทางไปไต้หวัน 38 ปี-ปรับนโยบายเข้าใกล้สหรัฐ การเผชิญหน้าทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรง กองทัพจีนส่งเรือรบสกัดกั้นฝ่ายฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ👉กระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์เข้าพบเมื่อวันอังคาร ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการหลังพลเรือเอกทรินิแดดแห่งกองทัพเรือฟิลิปปินส์เปิดเผยการหารือความร่วมมือกับไต้หวัน โดยระบุว่ากำลังพิจารณาการลาดตระเวนร่วมในช่องแคบลูซอน และอาจมีกิจกรรมทางทหารร่วมกันในอนาคต นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพฟิลิปปินส์ยอมรับความร่วมมือทางทหารที่อาจเกิดขึ้น แม้ภายหลังทรินิแดดจะชี้แจงว่าหมายถึงความร่วมมือระหว่างประเทศโดยทั่วไป ไม่เฉพาะฟิลิปปินส์-ไต้หวัน สถานทูตจีนในมะนิลาเตือนฟิลิปปินส์ให้ยึดมั่นในหลักการจีนเดียว หยุดการติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และระบุว่า "ผู้ที่เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" นักวิเคราะห์จีนระบุว่าการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการใดๆ กับไต้หวันจะถูกตีความว่าสนับสนุนเอกราชไต้หวัน ฟิลิปปินส์กำลังก้าวในเส้นทางอันตราย อาจนำไปสู่การตอบโต้อย่างรุนแรงรวมถึงทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อประธานาธิบดีมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางที่มีมา 38 ปี ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนใหญ่สามารถเยือนไต้หวันเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนได้ ความสัมพันธ์จีน-ฟิลิปปินส์เสื่อมถอยลงตั้งแต่มาร์กอสปรับนโยบายให้สอดคล้องกับสหรัฐฯ มีการเผชิญหน้าที่รุนแรงขึ้นในทะเลจีนใต้ ล่าสุดหน่วยยามชายฝั่งจีนเพิ่มการลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะสการ์โบโรห์ และกองทัพจีนส่งเรือรบตอบโต้การลาดตระเวนร่วมระหว่างฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ความตึงเครียดเคยเกิดขึ้นเมื่อมาร์กอสแสดงความยินดีกับผู้นำไต้หวันที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว #imctnews รายงาน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาหวานเจี๊ยบ!!! เซเลนสกียืนยัน ข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ 'เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง'
    https://www.thai-tai.tv/news/18488/
    อเมริกาหวานเจี๊ยบ!!! เซเลนสกียืนยัน ข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ 'เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง' https://www.thai-tai.tv/news/18488/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts