• ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 11

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 11
    ในบันทึกความทรงจำของ ซุนยัดเซน เขาบอกว่า เมื่อเขาไปถึง ญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1895 นายอินนูไก ทาเคชิ Inukai Takashi หัวหน้าพรรคลิเบอรัลของญี่ปุ่น ได้ส่ง นาย มิยาซากิ ยะโซะ และ ฮิรามายะ ชิน มารับ ที่เมืองโยโกฮาม่า หลังจากนั้น ก็พาเขามาโตเกียว เพื่อมาพบกับหัวหน้าใหญ่ของพรรค ในตอนนั้น พรรคลิเบอรัลได้เป็นรัฐบาล และนายโอกูมะ ชิเกโนบุ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี อินนูไกเป็นผู้ช่วย หลังจากนั้น คนพวกนี้ ก็ได้แนะนำให้ ซุนยัดเซ็น รู้จักกับชาวญี่ปุ่นอีกหลายคน และคนพวกนี้ได้ช่วยเขาอย่างมาก ในการทำการปฏิวัติในปี ค.ศ.1911…
    ตัวซุนยัดเซ็นเอง เมื่อมาอยู่ญี่ปุ่น ก็ตัดหางเปียทิ้ง แถมเปลี่ยนมาใช้ชื่อญี่ปุ่น ว่า นาคามาย่า โชว Nakamaya Sho
    ส่วนนาย อินนูไก ทาเคชิ เอง ก็เขียนไว้ในบันทึกความทรงจำของตนว่า
    “… คงมีน้อยคน ที่จะเห็นใจชาวจีนที่รักชาติ และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้านี้ อย่างจริงใจ อย่างที่ผมมีให้กับพวกเขา เมื่อซุนยัดเซ็น และพวก ลี้ภัย มาอยู่กับพวกเรา ผมปกป้องเขา หลายครั้งที่เขามาอยู่ที่บ้านผม บ้านผมกลายเป็นที่ประชุมลับ หลายครั้งที่เขาใส่เสื้อผ้า และกินอาหาร จากรายได้อันน้อยนิดของผม เมื่อซุนยัดเซ็นอยู่กับผม ผมบอกกับเขาว่า ทางออกที่เหมาะสมของจีน มีอยู่ทางเดียว คือ ทำอย่างที่ญี่ปุ่นทำ..”
    ก็เป็นเรื่องที่เราคงต้องทำความเข้าแยะหน่อย
    นายอินนูไก ทาเคชิ นั้น เป็นนักเศรษฐศาสตร์ เขาแปลหนังสือเล่มหนึ่ง ในปี ค.ศ.1874 เป็นหนังสือที่เขียนโดย นาย Henry C Carey ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในสมัยนั้นนาย Carey เป็นผู้เสนอให้ใช้ ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์แบบ อเมริกัน และค้ดค้านการค้าเสรีแบบอังกฤษ ซึ่งนาย Carey บอกว่า มันก็คือการเอาการค้านำหน้า เพื่อจะยึดเอาประเทศคู่ค้าเป็นอาณานิคมนั่นแหละ
    เรื่องนายอินนูไก นี่ มันพอบอกอะไรเราได้ไหมครับ
    ซุนยัดเซ็น หลบอยู่ในญี่ปุ่นถึง 10 ปี (บางเอกสารว่า อยู่ 6 ปี) ระหว่างนั้น เขาตั้งสมาคมลับของเขา Hsing Chung Hui ขึ้นที่ เมือง นางาซากิ เมือง ชิโมโนเซกิ และโกเบ
    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 นักศึกษาชาวจีนเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น นักศีกษาพวกนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับแผนปฏิวัติของซุนยัดเซ็นเกือบทั้งสิ้น ในปี ค.ศ.1902 มีนักศึกษาจีนในญี่ปุ่น ประมาณ 500 คน แต่ในปี ค.ศ.1906 มีนักศึกษาชาวจีนถึง 13,000 คน และเมื่อราชวงศ์แมนจูห้ามชาวจีนเข้าศึกษาในโรงเรียนทหาร นักศึกษาจีนก็ข้ามมาเรียนที่โรงเรียนทหารที่ซุนยัดเซ็น สร้างขึ้น ที่ชานเมืองโตเกียว แถวตำบลอาโอยามา ในพวกนักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนที่ญี่ปุ่น มีหนุ่มแน่น วัย 18 ปี คนหนึ่ง เข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ของซุนยัดเซ็น เมื่อปี 1907 เขา ชื่อ เจียงไคเช็ค
    ในช่วงปี ค.ศ.1903 ถึง 1905 ซุนยัดเซ็น เดินสายระหว่าง ฮาวาย อเมริกา และยุโรป กับพรรคพวก และตั้งสมาคมใหม่ ชื่อ Tung Meng Hui หรือ Chinese Revolution Alliance และกลับมาตั้งสมาคมนี้ที่โตเกียวด้วย ในเดือนกรกฏาคม ค.ศ.1905 เขาจัดประชุมสมาคมที่บ้านของ นาย ยูชิดะ โรเฮอิ ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ในโตเกียว และเป็นหัวหน้าสมาคมลับ มังกรดำ ยากูซ่าในญี่ปุ่น ซึ่งให้การสนับสนันด้านการเงิน และอื่นๆ แก่ซุนยัดเซ็น แต่จริงๆแล้ว Tung Meng Hui โตเกียว ก่อตั้งขึ้นที่บ้านของ นาย ซากาโมโต้ คินยา สมาชิกรัฐสภาของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินในจีน
    ในปี ค.ศ.1907 ซุนยัดเซ็น เดินสายในญี่ปุ่น และเสนอนโยบาย 3 ประการ ของเขา พร้อมกับประกาศว่า จะยกทางเหนือของมณทลชางชุน ให้แก่ ญี่ปุ่น ถ้าช่วยเหลือเขาในการปฏิวัติจีน ปรากฏว่า คำประกาศของ ซุนยัดเซ็น คงล้ำเส้นไปหน่อย ไม่รู้ไปขัดแผนใคร รัฐบาลญี่ปุ่นจึงสั่งให้ซุนยัดเซ็นออกไปจากญี่ปุ่น แต่ทั้ง ยูชิดะ และฝ่ายการเมืองของญี่ปุ่นเห็นว่า ยังไงก็ควรรักษาไมตรีกับซุนยัดเซ็นไว้ก่อน ในที่สุด เป็นเจ้าพ่อมังกรดำเอง เป็นผู้แนะนำให้ ซุนยัดเซ็นออกไปจากญี่ปุ่นชั่วคราว พร้อมแถมเงินติดกระเป๋าให้ ซุนยัดเซ็น ไม่ให้เสียหน้า เสียไมตรีต่อกัน อืม…
    เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซุนยัดเซ็นเขียนไว้ ในบันทึกของเขาว่า
    “… สัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เป็นปัญหาร่วมกันของความอยู่รอด (ของประเทศ) และความสิ้นสุด (ของประเทศ) ถ้าไม่มีญี่ปุ่น ก็อาจจะไม่มีจีน และถ้าไม่มีจีน ก็อาจจะไม่มีญี่ปุ่น… ”
    ซุนยัดเซ็นเห็นว่า จีนกับญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ ในเอเซียต้องจับมือกัน Pan – Asianism
    ” ความปรารถนาของข้าพเจ้า คือ เห็นพวกเรา ชาวเอเซีย ควรร่วมกันขับไล่พวกชาติตะวันตกทั้งหลาย ให้หมดไปจากเอเซียของเราเสียที .. และหมดอย่างถาวร” และด้วยความคิดเยี่ยงนี้ ซุนยัดเซ็น ก็เข้าไปวุ่นวายกับการกบฏในฟิลิปปินส์ และเวียตนามด้วย
    ตลอดเวลา 16 ปี ของการพยายามปฏิวัติ ไล่ราชวง์ชิง และไล่ฝรั่งออกจากจีน ซุนยัดเซ็นเดินสายพูดไปทั่วทุกแห่ง เพื่อหาเงินมาทำปฏิวัติ เขาเริ่มตั้งแต่ การไปพูด และรับเงินบริจาค แต่เงินบริจาค มันก็พอแค่เลี้ยงตัวกับเป็นค่าเดินทางไปพูด ต่อมา ซุนเริ่มพัฒนาวิธีการหาเงิน เขาเริ่มออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับพวกที่ต้องการสนับสนุนเขา โดยสัญญาจะใช้เงินให้ เมื่อปฏิวัติสำเร็จพร้อมดอกเบี้ยสูง แต่ก็ยังไม่ได้เงินตามเป้าหมาย ซุน เปลี่ยนเป็นออกตั๋ว พร้อมคำสัญญาว่า จะใช้เงิน พร้อมให้สัมปทาน หรือให้ สิทธิพิเศษ หลังจากนั้น เขาโดนรัฐบาลแต่ละประเทศ ที่ยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ หมายหัว เขาจึงกลับมาตั้งหลัก และเปลี่ยนแผนการระดมทุนอีกรอบ
    คราวนี้ ซุน ทำการบ้าน หารายชื่อเศรษฐีจีน ที่อยู่แถบเอเซีย โดยเฉพาะแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร้อยกว่าคน เขาจึงเดินสายมามาทางนั้น เขาออกพันธบัตรสงคราม war bond ไม่ต่างกับที่พวกวอลสตรีท ทำให้กับอังกฤษ เมื่อตอนจะสร้างสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่สำหรับปฏิวัติจีน ซุน ยอมทำสัญญาแปะไว้กับพันธบัตรรายใหญ่ว่า พร้อมที่จะให้สัมปทานทำเหมือง ในจีนเป็นเวลา 10 ปี และในบางราย เขาสัญญาว่า จะให้คนจีนที่เป็นเจ้าของเหมืองดีบุก ทำสัญญาขายดีบุก ให้แก่ อเมริกา ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ของการส่งออกดีบุก ขนาดทำอย่างนี้แล้ว เขายังได้ทุนไม่พอไปทำการปฏิวัติ เขาจึงไปขอเงินกู้จากธนาคารฝรั่งเศสใน ฮ่องกง เป็นจำนวน 40 ล้านเหรียญ ฮ่องกง โดยวางโรงสีข้าว 3 โรง ในไทย ให้เป็นหลักประกัน กับ เหมืองแร่ อีก 3 รายในมลายู ให้เป็นหลักประกัน เช่นเดียวกัน แต่ที่สุด ก็ไม่ได้เงินกู้รายนี้
    ความคิดของซุน เกี่ยวกับเรื่องการออกตั๋ว พ่วงสัมปทาน ให้คนจีน ที่สนับสนุนเงินทุนมาทำปฏิวัติ นี่ น่าสนใจมาก มันโดนใจ หรือมันไปขัดข้องใจใครกันบ้างไหม
    ซุน เล่าว่า ในระหว่างการเดินสาย เขาได้พบคนหลากหลาย และหลายคน แม้จะไม่ใช่คนจีน ก็มีความเห็นใจจีน ซุนจึงได้เพื่อน 4 คน ที่มาช่วยเรื่องการจัดการหาเงินทุน
    Homer Lea เป็นชาวอเมริกันหลังค่อม ที่มีการศึกษา จบมหาวิทยาลัย และ ชอบการทหาร เขาเดินทางไปจีน ในช่วงกบฏนักมวย เข้าใจสภาพของจีนดี จึงเข้ามาช่วยคนจีนก่อนที่จะเจอซุน เสียด้วยซ้ำ เขาตั้งโรงเรียนฝึกการต่อสู้ และยุทธศาสตร์ เพื่อสอนให้พวกคนจีน ในลอสแองเจลีส ที่พร้อมจะไปร่วมทำการปฏิวัติกับ ซุน Lea ยังพา เพื่อนทหารประเภทกระดูกเหล็ก มาช่วยการให้การฝีก อีกหลายคน ต่อมา Lea เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของ ซุน
    Charles Boothe เป็นอดีตนายธนาคารแถวนิวยอร์ค ถูกให้เกษียณจากอาชีพ เพราะสุขภาพไม่ดี
    W W Allen นักการเงินมือดีมีอนาคต จากวอลสตรีท ซึ่งเป็นเพื่อนรักตั้งแต่เด็กของ Boothe
    Yung Wing ชาวจีนจบการศึกษา Yale เป็นนักเรียนหัวก้าวหน้าอยู่แถบคอนเนคติคัต ถิ่นคนรวยอยู่ไม่ว่าฝร้่ง หรือจีน
    ทั้ง 4 คน ตั้งกลุ่มอเมริกันเพื่อจีน ในปี ค.ศ.1910 และช่วยการวางแผนปฏิวัติไล่ราชวงศ์แมนจู โดยตั้งงบไว้ที่ 10 ล้านเหรียญ Lea เป็นคนวางแผนการทหาร Boothe เป็นผู้ประสานงานกับพวกต่างชาติ Allen เป็นตัวสำคัญ ในการประสานงานเรื่องการเงิน กับกลุ่มวอลสตรีท ส่วน Yung เป็นตัวกลางในการเชื่อมการทำงาน ระหว่างกลุ่มปฏิวัติในอเมริกา กับในเอเซีย
    คงเริ่มมองเห็นอะไรกันบ้าง แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุป

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    22 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 11 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 11 ในบันทึกความทรงจำของ ซุนยัดเซน เขาบอกว่า เมื่อเขาไปถึง ญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1895 นายอินนูไก ทาเคชิ Inukai Takashi หัวหน้าพรรคลิเบอรัลของญี่ปุ่น ได้ส่ง นาย มิยาซากิ ยะโซะ และ ฮิรามายะ ชิน มารับ ที่เมืองโยโกฮาม่า หลังจากนั้น ก็พาเขามาโตเกียว เพื่อมาพบกับหัวหน้าใหญ่ของพรรค ในตอนนั้น พรรคลิเบอรัลได้เป็นรัฐบาล และนายโอกูมะ ชิเกโนบุ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี อินนูไกเป็นผู้ช่วย หลังจากนั้น คนพวกนี้ ก็ได้แนะนำให้ ซุนยัดเซ็น รู้จักกับชาวญี่ปุ่นอีกหลายคน และคนพวกนี้ได้ช่วยเขาอย่างมาก ในการทำการปฏิวัติในปี ค.ศ.1911… ตัวซุนยัดเซ็นเอง เมื่อมาอยู่ญี่ปุ่น ก็ตัดหางเปียทิ้ง แถมเปลี่ยนมาใช้ชื่อญี่ปุ่น ว่า นาคามาย่า โชว Nakamaya Sho ส่วนนาย อินนูไก ทาเคชิ เอง ก็เขียนไว้ในบันทึกความทรงจำของตนว่า “… คงมีน้อยคน ที่จะเห็นใจชาวจีนที่รักชาติ และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้านี้ อย่างจริงใจ อย่างที่ผมมีให้กับพวกเขา เมื่อซุนยัดเซ็น และพวก ลี้ภัย มาอยู่กับพวกเรา ผมปกป้องเขา หลายครั้งที่เขามาอยู่ที่บ้านผม บ้านผมกลายเป็นที่ประชุมลับ หลายครั้งที่เขาใส่เสื้อผ้า และกินอาหาร จากรายได้อันน้อยนิดของผม เมื่อซุนยัดเซ็นอยู่กับผม ผมบอกกับเขาว่า ทางออกที่เหมาะสมของจีน มีอยู่ทางเดียว คือ ทำอย่างที่ญี่ปุ่นทำ..” ก็เป็นเรื่องที่เราคงต้องทำความเข้าแยะหน่อย นายอินนูไก ทาเคชิ นั้น เป็นนักเศรษฐศาสตร์ เขาแปลหนังสือเล่มหนึ่ง ในปี ค.ศ.1874 เป็นหนังสือที่เขียนโดย นาย Henry C Carey ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในสมัยนั้นนาย Carey เป็นผู้เสนอให้ใช้ ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์แบบ อเมริกัน และค้ดค้านการค้าเสรีแบบอังกฤษ ซึ่งนาย Carey บอกว่า มันก็คือการเอาการค้านำหน้า เพื่อจะยึดเอาประเทศคู่ค้าเป็นอาณานิคมนั่นแหละ เรื่องนายอินนูไก นี่ มันพอบอกอะไรเราได้ไหมครับ ซุนยัดเซ็น หลบอยู่ในญี่ปุ่นถึง 10 ปี (บางเอกสารว่า อยู่ 6 ปี) ระหว่างนั้น เขาตั้งสมาคมลับของเขา Hsing Chung Hui ขึ้นที่ เมือง นางาซากิ เมือง ชิโมโนเซกิ และโกเบ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 นักศึกษาชาวจีนเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น นักศีกษาพวกนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับแผนปฏิวัติของซุนยัดเซ็นเกือบทั้งสิ้น ในปี ค.ศ.1902 มีนักศึกษาจีนในญี่ปุ่น ประมาณ 500 คน แต่ในปี ค.ศ.1906 มีนักศึกษาชาวจีนถึง 13,000 คน และเมื่อราชวงศ์แมนจูห้ามชาวจีนเข้าศึกษาในโรงเรียนทหาร นักศึกษาจีนก็ข้ามมาเรียนที่โรงเรียนทหารที่ซุนยัดเซ็น สร้างขึ้น ที่ชานเมืองโตเกียว แถวตำบลอาโอยามา ในพวกนักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนที่ญี่ปุ่น มีหนุ่มแน่น วัย 18 ปี คนหนึ่ง เข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ของซุนยัดเซ็น เมื่อปี 1907 เขา ชื่อ เจียงไคเช็ค ในช่วงปี ค.ศ.1903 ถึง 1905 ซุนยัดเซ็น เดินสายระหว่าง ฮาวาย อเมริกา และยุโรป กับพรรคพวก และตั้งสมาคมใหม่ ชื่อ Tung Meng Hui หรือ Chinese Revolution Alliance และกลับมาตั้งสมาคมนี้ที่โตเกียวด้วย ในเดือนกรกฏาคม ค.ศ.1905 เขาจัดประชุมสมาคมที่บ้านของ นาย ยูชิดะ โรเฮอิ ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ในโตเกียว และเป็นหัวหน้าสมาคมลับ มังกรดำ ยากูซ่าในญี่ปุ่น ซึ่งให้การสนับสนันด้านการเงิน และอื่นๆ แก่ซุนยัดเซ็น แต่จริงๆแล้ว Tung Meng Hui โตเกียว ก่อตั้งขึ้นที่บ้านของ นาย ซากาโมโต้ คินยา สมาชิกรัฐสภาของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินในจีน ในปี ค.ศ.1907 ซุนยัดเซ็น เดินสายในญี่ปุ่น และเสนอนโยบาย 3 ประการ ของเขา พร้อมกับประกาศว่า จะยกทางเหนือของมณทลชางชุน ให้แก่ ญี่ปุ่น ถ้าช่วยเหลือเขาในการปฏิวัติจีน ปรากฏว่า คำประกาศของ ซุนยัดเซ็น คงล้ำเส้นไปหน่อย ไม่รู้ไปขัดแผนใคร รัฐบาลญี่ปุ่นจึงสั่งให้ซุนยัดเซ็นออกไปจากญี่ปุ่น แต่ทั้ง ยูชิดะ และฝ่ายการเมืองของญี่ปุ่นเห็นว่า ยังไงก็ควรรักษาไมตรีกับซุนยัดเซ็นไว้ก่อน ในที่สุด เป็นเจ้าพ่อมังกรดำเอง เป็นผู้แนะนำให้ ซุนยัดเซ็นออกไปจากญี่ปุ่นชั่วคราว พร้อมแถมเงินติดกระเป๋าให้ ซุนยัดเซ็น ไม่ให้เสียหน้า เสียไมตรีต่อกัน อืม… เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซุนยัดเซ็นเขียนไว้ ในบันทึกของเขาว่า “… สัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เป็นปัญหาร่วมกันของความอยู่รอด (ของประเทศ) และความสิ้นสุด (ของประเทศ) ถ้าไม่มีญี่ปุ่น ก็อาจจะไม่มีจีน และถ้าไม่มีจีน ก็อาจจะไม่มีญี่ปุ่น… ” ซุนยัดเซ็นเห็นว่า จีนกับญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ ในเอเซียต้องจับมือกัน Pan – Asianism ” ความปรารถนาของข้าพเจ้า คือ เห็นพวกเรา ชาวเอเซีย ควรร่วมกันขับไล่พวกชาติตะวันตกทั้งหลาย ให้หมดไปจากเอเซียของเราเสียที .. และหมดอย่างถาวร” และด้วยความคิดเยี่ยงนี้ ซุนยัดเซ็น ก็เข้าไปวุ่นวายกับการกบฏในฟิลิปปินส์ และเวียตนามด้วย ตลอดเวลา 16 ปี ของการพยายามปฏิวัติ ไล่ราชวง์ชิง และไล่ฝรั่งออกจากจีน ซุนยัดเซ็นเดินสายพูดไปทั่วทุกแห่ง เพื่อหาเงินมาทำปฏิวัติ เขาเริ่มตั้งแต่ การไปพูด และรับเงินบริจาค แต่เงินบริจาค มันก็พอแค่เลี้ยงตัวกับเป็นค่าเดินทางไปพูด ต่อมา ซุนเริ่มพัฒนาวิธีการหาเงิน เขาเริ่มออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับพวกที่ต้องการสนับสนุนเขา โดยสัญญาจะใช้เงินให้ เมื่อปฏิวัติสำเร็จพร้อมดอกเบี้ยสูง แต่ก็ยังไม่ได้เงินตามเป้าหมาย ซุน เปลี่ยนเป็นออกตั๋ว พร้อมคำสัญญาว่า จะใช้เงิน พร้อมให้สัมปทาน หรือให้ สิทธิพิเศษ หลังจากนั้น เขาโดนรัฐบาลแต่ละประเทศ ที่ยังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ หมายหัว เขาจึงกลับมาตั้งหลัก และเปลี่ยนแผนการระดมทุนอีกรอบ คราวนี้ ซุน ทำการบ้าน หารายชื่อเศรษฐีจีน ที่อยู่แถบเอเซีย โดยเฉพาะแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร้อยกว่าคน เขาจึงเดินสายมามาทางนั้น เขาออกพันธบัตรสงคราม war bond ไม่ต่างกับที่พวกวอลสตรีท ทำให้กับอังกฤษ เมื่อตอนจะสร้างสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่สำหรับปฏิวัติจีน ซุน ยอมทำสัญญาแปะไว้กับพันธบัตรรายใหญ่ว่า พร้อมที่จะให้สัมปทานทำเหมือง ในจีนเป็นเวลา 10 ปี และในบางราย เขาสัญญาว่า จะให้คนจีนที่เป็นเจ้าของเหมืองดีบุก ทำสัญญาขายดีบุก ให้แก่ อเมริกา ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ของการส่งออกดีบุก ขนาดทำอย่างนี้แล้ว เขายังได้ทุนไม่พอไปทำการปฏิวัติ เขาจึงไปขอเงินกู้จากธนาคารฝรั่งเศสใน ฮ่องกง เป็นจำนวน 40 ล้านเหรียญ ฮ่องกง โดยวางโรงสีข้าว 3 โรง ในไทย ให้เป็นหลักประกัน กับ เหมืองแร่ อีก 3 รายในมลายู ให้เป็นหลักประกัน เช่นเดียวกัน แต่ที่สุด ก็ไม่ได้เงินกู้รายนี้ ความคิดของซุน เกี่ยวกับเรื่องการออกตั๋ว พ่วงสัมปทาน ให้คนจีน ที่สนับสนุนเงินทุนมาทำปฏิวัติ นี่ น่าสนใจมาก มันโดนใจ หรือมันไปขัดข้องใจใครกันบ้างไหม ซุน เล่าว่า ในระหว่างการเดินสาย เขาได้พบคนหลากหลาย และหลายคน แม้จะไม่ใช่คนจีน ก็มีความเห็นใจจีน ซุนจึงได้เพื่อน 4 คน ที่มาช่วยเรื่องการจัดการหาเงินทุน Homer Lea เป็นชาวอเมริกันหลังค่อม ที่มีการศึกษา จบมหาวิทยาลัย และ ชอบการทหาร เขาเดินทางไปจีน ในช่วงกบฏนักมวย เข้าใจสภาพของจีนดี จึงเข้ามาช่วยคนจีนก่อนที่จะเจอซุน เสียด้วยซ้ำ เขาตั้งโรงเรียนฝึกการต่อสู้ และยุทธศาสตร์ เพื่อสอนให้พวกคนจีน ในลอสแองเจลีส ที่พร้อมจะไปร่วมทำการปฏิวัติกับ ซุน Lea ยังพา เพื่อนทหารประเภทกระดูกเหล็ก มาช่วยการให้การฝีก อีกหลายคน ต่อมา Lea เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของ ซุน Charles Boothe เป็นอดีตนายธนาคารแถวนิวยอร์ค ถูกให้เกษียณจากอาชีพ เพราะสุขภาพไม่ดี W W Allen นักการเงินมือดีมีอนาคต จากวอลสตรีท ซึ่งเป็นเพื่อนรักตั้งแต่เด็กของ Boothe Yung Wing ชาวจีนจบการศึกษา Yale เป็นนักเรียนหัวก้าวหน้าอยู่แถบคอนเนคติคัต ถิ่นคนรวยอยู่ไม่ว่าฝร้่ง หรือจีน ทั้ง 4 คน ตั้งกลุ่มอเมริกันเพื่อจีน ในปี ค.ศ.1910 และช่วยการวางแผนปฏิวัติไล่ราชวงศ์แมนจู โดยตั้งงบไว้ที่ 10 ล้านเหรียญ Lea เป็นคนวางแผนการทหาร Boothe เป็นผู้ประสานงานกับพวกต่างชาติ Allen เป็นตัวสำคัญ ในการประสานงานเรื่องการเงิน กับกลุ่มวอลสตรีท ส่วน Yung เป็นตัวกลางในการเชื่อมการทำงาน ระหว่างกลุ่มปฏิวัติในอเมริกา กับในเอเซีย คงเริ่มมองเห็นอะไรกันบ้าง แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุป สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 22 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 10

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 10
    ในปี ค.ศ.1904 ญี่ปุ่นมอบหมายให้ ทากาฮาชิ ซึ่งไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ไปทำหน้าที่หาเงินกู้ที่อังกฤษ เพื่อให้ญี่ปุ่นมีทุนไปรบรัสเซีย ปรากฏว่า มีผู้อุดหนุนให้ญี่ปุ่นรบรัสเซียล้นหลาม แสดงว่า รัสเซียคงไม่ค่อยมีเพื่อนในอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีผู้ลงทุนจากนิวยอร์ค ปารีส และฮัมเบอร์ก รายชื่อผู้ลงทุนให้ญี่ปุ่นรบรัสเซีย นอกจากมีสาระพัดบริษัทเงินทุนใหญ่คับโลกแล้ว ยังมีคนใหญ่ๆ คับโลก เช่น Lord Spencer เสนาบดีกระทรวงวังของอังกฤษ และมงกุฏราชกุมารของอังกฤษ ซึ่งต่อมาขึ้นครองราชย์ในชื่อของกษัตริย์ George ที่ 5 อีกด้วย
    จากการไปเดินสายหาเงินสนับสนุนการรบ ทากาฮาชิ ได้ข้อคิดกลับมาว่า ชัยชนะของญี่ปุ่น ไม่ได้ขึ้นกับความสามารถของญี่ปุ่นโดยลำพัง แต่จะต้องได้รับการสนับสนุน ด้านการเงินและอาวุธ จากอังกฤษและอเมริกา
    เขากลับมาบอกกับฝ่ายที่ต้องการสร้างกองทัพญี่ปุ่นเช่นนั้น และทำให้เขาเป็นที่เกลียดชังของฝ่ายกองทัพอย่างยิ่ง
    เมื่อปรากฏว่า กองทัพญี่ปุ่นรบชนะรัสเซียในปี ค.ศ.1905 ฝ่ายที่ต้องการสร้างกองทัพให้ยิ่งใหญ่ก็คิดว่า ตนเองใกล้จะเป็นมหาอำนาจแล้ว งบประมาณของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1905 ถึง ปี ค.ศ.1914 จึงเน้นไปในทางพัฒนากองทัพและอาวุธ และเมื่อถึง ปี ค.ศ.1915 ระหว่างที่พวกฝรั่งกำลังทำสงครามโลกรบกันเอง ญี่ปุ่นจึงลองเชิง ยื่นข้อเสนอ 21 ข้อ ให้จีน
    ทากาฮาชิไม่เห็นด้วย เขาบอกว่า ญี่ปุ่นกำลังหาเรื่องใส่ตัว การกระทำดังกล่าว จะสร้างแรงสะท้อนกลับ ทำให้อังกฤษและอเมริกาไม่พอใจญี่ปุ่น และจะทำให้จีนเอง ก็เพิ่มการต่อต้านญี่ปุ่นด้วย และเมื่อทากาฮาชิได้เป็นรัฐมนตรีคลัง ในปี ค.ศ.1920 เขาจึงเสนอให้มีการลดกำลังกองทัพบก และกองทัพเรือลง เพราะว่ากองทัพกำลังคุกคามความเป็นประชาธิปไตยของญี่ปุ่น ในการกำหนดนโยบายด้านต่างประเทศ
    ดูเหมือนคำเตือนของทากาฮาชิ และข้อเสนอของเขา จะยิ่งสร้างความแตกแยก เกี่ยวกับเรื่องกองทัพของญี่ปุ่นให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ถึงขนาดมีการลอบฆ่าผู้ที่ไม่เห็นด้วย แน่นอน ผู้ที่ถูกลอบฆ่ามักจะเป็นเป็นฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีกองทัพ
    เมื่อนายกรัฐมนตรี ฮารา เคอิ Hara Kei ถูกลอบฆ่าในปี ค.ศ.1921 ทากาฮาชิ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนและไปตกลงทำสัญญา Washington Treaty 1922 ที่มีผลให้กองทัพเรือญี่ปุ่นต้องจำกัดจำนวนเรือ เมื่อเทียบกับกับอเมริกา อังกฤษ แล้ว สัดส่วนจำนวนเรือรบของญี่ปุ่นจะเป็นเพียง 3 ใน 5 ส่วน ของอเมริกากับอังกฤษแต่ละประเทศ และญี่ปุ่น ต้องคืนเกาะชิงเตา ของจีน ที่ให้เยอรมันเช่าไป และญี่ปุ่นไปยึดมาในช่วงทำสงครามโลกครั้งที่ 1 นอกจากนี้ ข้อสัญญายังกำหนดให้ทุกฝ่ายเคารพอาณาเขตและอธิปไตยของจีน และหยุดการใช้กำลังทางทหารกับจีน
    สัญญานี้ ยิ่งสร้างความเดือดดาลให้แก่ฝ่ายกองทัพของญี่ปุ่น ซึ่งบอกว่า ทากาฮาชิกำลังพาญี่ปุ่นเข้าไปอยูใต้ตีนของอังกฤษและอเมริกา เรื่องจีน
    เหมือนใครกำลังเล่นอะไร ปกป้อง คุ้มครอง ทนุถนอมจีนเป็นพิเศษ ถ้านึกถึงเรื่องสงครามฝิ่นและกบฏนักมวย ก็คงเข้าใจได้ว่า มันไม่ใช่เพราะความเห็นใจจีน และคงพอเห็นรางๆว่า น่าจะเป็นรายการหวงชามข้าว หรือแย่งชามข้าวกันมากกว่า
    หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง อังกฤษยังไม่ได้ทุกอย่างตามที่ลงทุนวางแผน ขนาดบ้านเมืองฉิบหายกันไปทั่ว และผู้คนล้มตายเกลื่อน อังกฤษ ยังมีเรื่องค้างที่ต้องทำต่ออีกแยะ คือการแบ่งสมบัติของผู้แพ้สงคราม การแบ่งเค้กตะวันออกกลาง การจัดการเรื่อง อิตาลี เยอรมัน และรัสเซียให้จบแบบเบ็ดเสร็จ และไม่ใช่อังกฤษจะวุ่นเรื่องยุโรปเท่านั้น เรื่องในเอเซียก็ต้องจัดการด้วย สรุปคือ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย หลังจากสร้างสงครามโลกครั้งที่ 1 เสร็จ คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของโลกไปเรียบร้อยแล้ว จึงต้องการจัดการบ้านเมืองผู้อื่น รวมทั้งทรัพยากรของเขา ให้เป็นอย่างที่ตนเองต้องการ
    อ้าว แล้วอังกฤษ ลืมอเมริกา เจ้าหนี้รายใหญ่และผู้ร่วมปล้นตัวสำคัญไปแล้วหรือ คิดว่าอเมริกาจะอือออช่วยกันห่อแล้วหมกด้วยกันทุกเรื่องหรือไง
    ย้อนกลับมาที่จีน ในช่วง ปี ค.ศ.1900 หลังจากกบฏนักมวย จีนก็ยิ่งแตกเป็นก๊กมากขึ้น แต่ในที่สุด ในปี ค.ศ.1911 ซุนยัดเซ็น แห่งก๊กมินตั๋ง ก็ปฏิวัติยึดอำนาจในจีน โค่นราชวงศ์ชิงลงได้
    แต่อังกฤษไม่สบอารมณ์เกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติในจีนอย่างยิ่ง ถึงกับบอกว่า ซุนยัดเซ็นคือตัวปัญหาใหญ่ของอังกฤษ ในเอเซีย ซุนยัดเซ็นควรจะปฏิวัติให้สำเร็จ และรีบปราบก๊กต่างๆ ในจีนให้ราบคาบ แต่ซุนยัดเซ็นกลับเดินสายพูดว่า เราต้องล้างคราบอาณานิคมฝรั่ง โดยเฉพาะอังกฤษ ให้หมดไปจากจีน
    เอะ ไหนเขาว่า ซุนยัดเซ็นนี้เป็นเด็กสร้างของฝรั่งไง สงสัยต้องขุดเรื่องคุณหมอซุนกันหน่อย จะได้ตามทันว่า อังกฤษต่อมแตก เพราะอะไร
    ซุนยัดเซ็น เกิดเมื่อปี ค.ศ.1866 เป็นชาวเมืองเจียงชัน (Xiangshan) ครอบครัวแค่พอมีกินมีใช้ อายุเพียง 13 ก็ นั่งเรือไปฮาวาย ไปอยู่กับ ซุนไหม พี่ชาย ที่นั่น เพื่อเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนฝรั่ง เขาพูด เขียนภาษาอังกฤษได้คล่อง แถมได้รางวัลด้านไวยากรณ์อังกฤษอีกด้วย หลังจากนั้นก็ เข้ารีต ไปนับถือศาสนาคริสเตียน และได้รับการสนับสนุนจากพวกมิชันนารีในจีนและฮาวาย ให้ข้ามไปเรียนหมอที่ฮ่องกงจนจบ ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ของคุณหมอซุน ต่างก็ขึ้นเรือหนีชีวิตลำเค็ญในจีน ไปอยู่อเมริกาเป็นแถว พ่อเลยบอกว่า เขาก็ควรทำเช่นนั้น แต่คุณหมอซุนกลับนึกถึงประเทศจีน ที่ถูกฝรั่งกำลังลอกคราบ จึงไม่อยากไปทำงานในอเมริกา แต่คิดอยากทำปฏิวัติ ไล่ราชวงศ์จีน ไล่ฝรั่งออกไป แล้วสร้างจีนใหม่ เพื่อประชาชนจีนปกครองตัวเอง ขึ้นมาแทน
    ปี ค.ศ.1884 คุณหมอซุน ก็จัดประชุมที่ฮาวาย เพื่อจะตั้งสมาคมลับ ที่มีเป้าหมายจะโค่นล้มราชวงศ์แมนจู ต่อมาสมาคมลับนี้ ก็พัฒนาเป็นพวกก๊กมินตั๋ง
    คุณหมอซุน ได้เพื่อนที่ดูเหมือนจะเป็นคนมองเห็นการณ์ไกล คอยให้การสนับสนุน ชื่อ ชาลี ซ่ง ( Charlie Soong) เป็นชาวจีน ที่ไปสู้เอาข้างหน้าในอเมริกา แต่รวยแล้วกลับมาอยู่ในจีนแล้วก็ยิ่งรวยใหญ่ ชาลีชื่นชมความคิดของคุณหมอซุน ให้การสนับสนุนเต็มที่ แต่เขาว่า มาแตกคอกัน เมื่อคุณหมอซุน ทดลองซ้อมปฏิวัติครั้งแรก ในปี ค.ศ.1895 แล้วปรากฏว่าล่มไม่เป็นท่า คุณหมอกับพวก ก็เลยอพยพ หลบไปปักหลักอยูที่ญี่ปุ่นเสียนาน โดยลูกสาว ชาลี ซ่ง หนีตามไปอยู่ด้วย เลยไม่แน่ใจว่า ชาลี ซ่ง แตกคอกับซุนยัดเซ็น เพราะเสียดายลูกสาว หรือเสียดายว่า ซุนยัดเซ็นปฏิวัติไม่สำเร็จ
    เอะ ปี ค.ศ.1895 นี่มัน จีนกับญี่ปุ่นทะเลาะกันรบกัน ไม่ใช่หรือ ก็ที่ญี่ปุ่นรบกับจีนเรื่องเกาหลีนะ ก็น่าคิด เหมือนมีใครมากระซิบบอกคุณหมอว่า จีนต้องยกกองทัพไปเกาหลี ค่ายทหารว่างทางปลอด น่าจะเป็นเวลาเหมาะในการปฏิวัติจีน แต่คุณหมอดันทำปฏิวัติไม่สำเร็จ แถมเลือกหลบภัยไปอยู่บ้านศัตรู เรื่องนี้มันชวนให้งงจริงๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    21 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 10 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 10 ในปี ค.ศ.1904 ญี่ปุ่นมอบหมายให้ ทากาฮาชิ ซึ่งไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ไปทำหน้าที่หาเงินกู้ที่อังกฤษ เพื่อให้ญี่ปุ่นมีทุนไปรบรัสเซีย ปรากฏว่า มีผู้อุดหนุนให้ญี่ปุ่นรบรัสเซียล้นหลาม แสดงว่า รัสเซียคงไม่ค่อยมีเพื่อนในอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีผู้ลงทุนจากนิวยอร์ค ปารีส และฮัมเบอร์ก รายชื่อผู้ลงทุนให้ญี่ปุ่นรบรัสเซีย นอกจากมีสาระพัดบริษัทเงินทุนใหญ่คับโลกแล้ว ยังมีคนใหญ่ๆ คับโลก เช่น Lord Spencer เสนาบดีกระทรวงวังของอังกฤษ และมงกุฏราชกุมารของอังกฤษ ซึ่งต่อมาขึ้นครองราชย์ในชื่อของกษัตริย์ George ที่ 5 อีกด้วย จากการไปเดินสายหาเงินสนับสนุนการรบ ทากาฮาชิ ได้ข้อคิดกลับมาว่า ชัยชนะของญี่ปุ่น ไม่ได้ขึ้นกับความสามารถของญี่ปุ่นโดยลำพัง แต่จะต้องได้รับการสนับสนุน ด้านการเงินและอาวุธ จากอังกฤษและอเมริกา เขากลับมาบอกกับฝ่ายที่ต้องการสร้างกองทัพญี่ปุ่นเช่นนั้น และทำให้เขาเป็นที่เกลียดชังของฝ่ายกองทัพอย่างยิ่ง เมื่อปรากฏว่า กองทัพญี่ปุ่นรบชนะรัสเซียในปี ค.ศ.1905 ฝ่ายที่ต้องการสร้างกองทัพให้ยิ่งใหญ่ก็คิดว่า ตนเองใกล้จะเป็นมหาอำนาจแล้ว งบประมาณของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1905 ถึง ปี ค.ศ.1914 จึงเน้นไปในทางพัฒนากองทัพและอาวุธ และเมื่อถึง ปี ค.ศ.1915 ระหว่างที่พวกฝรั่งกำลังทำสงครามโลกรบกันเอง ญี่ปุ่นจึงลองเชิง ยื่นข้อเสนอ 21 ข้อ ให้จีน ทากาฮาชิไม่เห็นด้วย เขาบอกว่า ญี่ปุ่นกำลังหาเรื่องใส่ตัว การกระทำดังกล่าว จะสร้างแรงสะท้อนกลับ ทำให้อังกฤษและอเมริกาไม่พอใจญี่ปุ่น และจะทำให้จีนเอง ก็เพิ่มการต่อต้านญี่ปุ่นด้วย และเมื่อทากาฮาชิได้เป็นรัฐมนตรีคลัง ในปี ค.ศ.1920 เขาจึงเสนอให้มีการลดกำลังกองทัพบก และกองทัพเรือลง เพราะว่ากองทัพกำลังคุกคามความเป็นประชาธิปไตยของญี่ปุ่น ในการกำหนดนโยบายด้านต่างประเทศ ดูเหมือนคำเตือนของทากาฮาชิ และข้อเสนอของเขา จะยิ่งสร้างความแตกแยก เกี่ยวกับเรื่องกองทัพของญี่ปุ่นให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ถึงขนาดมีการลอบฆ่าผู้ที่ไม่เห็นด้วย แน่นอน ผู้ที่ถูกลอบฆ่ามักจะเป็นเป็นฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีกองทัพ เมื่อนายกรัฐมนตรี ฮารา เคอิ Hara Kei ถูกลอบฆ่าในปี ค.ศ.1921 ทากาฮาชิ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนและไปตกลงทำสัญญา Washington Treaty 1922 ที่มีผลให้กองทัพเรือญี่ปุ่นต้องจำกัดจำนวนเรือ เมื่อเทียบกับกับอเมริกา อังกฤษ แล้ว สัดส่วนจำนวนเรือรบของญี่ปุ่นจะเป็นเพียง 3 ใน 5 ส่วน ของอเมริกากับอังกฤษแต่ละประเทศ และญี่ปุ่น ต้องคืนเกาะชิงเตา ของจีน ที่ให้เยอรมันเช่าไป และญี่ปุ่นไปยึดมาในช่วงทำสงครามโลกครั้งที่ 1 นอกจากนี้ ข้อสัญญายังกำหนดให้ทุกฝ่ายเคารพอาณาเขตและอธิปไตยของจีน และหยุดการใช้กำลังทางทหารกับจีน สัญญานี้ ยิ่งสร้างความเดือดดาลให้แก่ฝ่ายกองทัพของญี่ปุ่น ซึ่งบอกว่า ทากาฮาชิกำลังพาญี่ปุ่นเข้าไปอยูใต้ตีนของอังกฤษและอเมริกา เรื่องจีน เหมือนใครกำลังเล่นอะไร ปกป้อง คุ้มครอง ทนุถนอมจีนเป็นพิเศษ ถ้านึกถึงเรื่องสงครามฝิ่นและกบฏนักมวย ก็คงเข้าใจได้ว่า มันไม่ใช่เพราะความเห็นใจจีน และคงพอเห็นรางๆว่า น่าจะเป็นรายการหวงชามข้าว หรือแย่งชามข้าวกันมากกว่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง อังกฤษยังไม่ได้ทุกอย่างตามที่ลงทุนวางแผน ขนาดบ้านเมืองฉิบหายกันไปทั่ว และผู้คนล้มตายเกลื่อน อังกฤษ ยังมีเรื่องค้างที่ต้องทำต่ออีกแยะ คือการแบ่งสมบัติของผู้แพ้สงคราม การแบ่งเค้กตะวันออกกลาง การจัดการเรื่อง อิตาลี เยอรมัน และรัสเซียให้จบแบบเบ็ดเสร็จ และไม่ใช่อังกฤษจะวุ่นเรื่องยุโรปเท่านั้น เรื่องในเอเซียก็ต้องจัดการด้วย สรุปคือ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย หลังจากสร้างสงครามโลกครั้งที่ 1 เสร็จ คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของโลกไปเรียบร้อยแล้ว จึงต้องการจัดการบ้านเมืองผู้อื่น รวมทั้งทรัพยากรของเขา ให้เป็นอย่างที่ตนเองต้องการ อ้าว แล้วอังกฤษ ลืมอเมริกา เจ้าหนี้รายใหญ่และผู้ร่วมปล้นตัวสำคัญไปแล้วหรือ คิดว่าอเมริกาจะอือออช่วยกันห่อแล้วหมกด้วยกันทุกเรื่องหรือไง ย้อนกลับมาที่จีน ในช่วง ปี ค.ศ.1900 หลังจากกบฏนักมวย จีนก็ยิ่งแตกเป็นก๊กมากขึ้น แต่ในที่สุด ในปี ค.ศ.1911 ซุนยัดเซ็น แห่งก๊กมินตั๋ง ก็ปฏิวัติยึดอำนาจในจีน โค่นราชวงศ์ชิงลงได้ แต่อังกฤษไม่สบอารมณ์เกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติในจีนอย่างยิ่ง ถึงกับบอกว่า ซุนยัดเซ็นคือตัวปัญหาใหญ่ของอังกฤษ ในเอเซีย ซุนยัดเซ็นควรจะปฏิวัติให้สำเร็จ และรีบปราบก๊กต่างๆ ในจีนให้ราบคาบ แต่ซุนยัดเซ็นกลับเดินสายพูดว่า เราต้องล้างคราบอาณานิคมฝรั่ง โดยเฉพาะอังกฤษ ให้หมดไปจากจีน เอะ ไหนเขาว่า ซุนยัดเซ็นนี้เป็นเด็กสร้างของฝรั่งไง สงสัยต้องขุดเรื่องคุณหมอซุนกันหน่อย จะได้ตามทันว่า อังกฤษต่อมแตก เพราะอะไร ซุนยัดเซ็น เกิดเมื่อปี ค.ศ.1866 เป็นชาวเมืองเจียงชัน (Xiangshan) ครอบครัวแค่พอมีกินมีใช้ อายุเพียง 13 ก็ นั่งเรือไปฮาวาย ไปอยู่กับ ซุนไหม พี่ชาย ที่นั่น เพื่อเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนฝรั่ง เขาพูด เขียนภาษาอังกฤษได้คล่อง แถมได้รางวัลด้านไวยากรณ์อังกฤษอีกด้วย หลังจากนั้นก็ เข้ารีต ไปนับถือศาสนาคริสเตียน และได้รับการสนับสนุนจากพวกมิชันนารีในจีนและฮาวาย ให้ข้ามไปเรียนหมอที่ฮ่องกงจนจบ ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ของคุณหมอซุน ต่างก็ขึ้นเรือหนีชีวิตลำเค็ญในจีน ไปอยู่อเมริกาเป็นแถว พ่อเลยบอกว่า เขาก็ควรทำเช่นนั้น แต่คุณหมอซุนกลับนึกถึงประเทศจีน ที่ถูกฝรั่งกำลังลอกคราบ จึงไม่อยากไปทำงานในอเมริกา แต่คิดอยากทำปฏิวัติ ไล่ราชวงศ์จีน ไล่ฝรั่งออกไป แล้วสร้างจีนใหม่ เพื่อประชาชนจีนปกครองตัวเอง ขึ้นมาแทน ปี ค.ศ.1884 คุณหมอซุน ก็จัดประชุมที่ฮาวาย เพื่อจะตั้งสมาคมลับ ที่มีเป้าหมายจะโค่นล้มราชวงศ์แมนจู ต่อมาสมาคมลับนี้ ก็พัฒนาเป็นพวกก๊กมินตั๋ง คุณหมอซุน ได้เพื่อนที่ดูเหมือนจะเป็นคนมองเห็นการณ์ไกล คอยให้การสนับสนุน ชื่อ ชาลี ซ่ง ( Charlie Soong) เป็นชาวจีน ที่ไปสู้เอาข้างหน้าในอเมริกา แต่รวยแล้วกลับมาอยู่ในจีนแล้วก็ยิ่งรวยใหญ่ ชาลีชื่นชมความคิดของคุณหมอซุน ให้การสนับสนุนเต็มที่ แต่เขาว่า มาแตกคอกัน เมื่อคุณหมอซุน ทดลองซ้อมปฏิวัติครั้งแรก ในปี ค.ศ.1895 แล้วปรากฏว่าล่มไม่เป็นท่า คุณหมอกับพวก ก็เลยอพยพ หลบไปปักหลักอยูที่ญี่ปุ่นเสียนาน โดยลูกสาว ชาลี ซ่ง หนีตามไปอยู่ด้วย เลยไม่แน่ใจว่า ชาลี ซ่ง แตกคอกับซุนยัดเซ็น เพราะเสียดายลูกสาว หรือเสียดายว่า ซุนยัดเซ็นปฏิวัติไม่สำเร็จ เอะ ปี ค.ศ.1895 นี่มัน จีนกับญี่ปุ่นทะเลาะกันรบกัน ไม่ใช่หรือ ก็ที่ญี่ปุ่นรบกับจีนเรื่องเกาหลีนะ ก็น่าคิด เหมือนมีใครมากระซิบบอกคุณหมอว่า จีนต้องยกกองทัพไปเกาหลี ค่ายทหารว่างทางปลอด น่าจะเป็นเวลาเหมาะในการปฏิวัติจีน แต่คุณหมอดันทำปฏิวัติไม่สำเร็จ แถมเลือกหลบภัยไปอยู่บ้านศัตรู เรื่องนี้มันชวนให้งงจริงๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 21 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 8

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 8
    ตั้งแต่ปี ค.ศ.1800 กว่าเป็นต้นมา อเมริกาเริ่มให้ความสนใจทะเลฝั่งแปซิฟิก ไม่ใช่มองเห็นแต่ฝั่งแอตแลนติกของลูกพี่ อังกฤษเท่านั้น แต่กว่าจะหันมาสนใจจริงจัง ก็ปาเข้า ปี ค.ศ.1853 ที่เอาเรือปืนไปเยี่ยมสวัสดีโชกุนนั่นแหละ ระหว่างเดินทางไปญี่ปุ่น โลกของอเมริกา ค่อยๆกว้างขึ้น อเมริกา คงเพิ่งเห็นจีนชัดขึ้น
    จีนเป็นตลาดที่กว้างใหญ่ พลเมืองประมาณ 450 ล้านคน ในตอนนั้น ในสายตาของนักธุรกิจอเมริกันบอก นั่นคือโอกาสขายสินค้า 450 ล้านชิ้น จะสร้างกำไรงามขนาดไหนให้แก่พวก เรา ส่วนพวกมิชชันนารีก็มอง 450 ล้านคนว่า เป็นโอกาสทองที่จะจับ 450 ล้านเข้ารีต ได้กี่ล้านคนนะ ตลาดใหญ่แบบนี้ ไม่เข้าไปบุกได้อย่างไร
    อเมริกา มัวแต่สร้างประเทศ และรบกันเอง กว่าจะมองเห็น (ราคาของ) จีน ก็ถูกฝรั่งชาติอื่นแซงหน้าไปแล้ว รัสเซีย อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรียและแม้แต่ญี่ปุ่น ต่างก็เล็งเป้า ตั้งเข็มทิศ มุ่งไปที่จีนกันหมดแล้ว และประมาณปี ค.ศ.1890 พวกฝรั่ง รวมทั้งญี่ปุ่น ต่างไปตั้งเขตปกครองของพวกตัวอยู่ไนจีน มีฐานทัพ ทำตัวตามสบาย เหมือนอยู่ในประเทศของตัวกันหมด อเมริกา ดูเหมือนจะตกรถไฟสาย (ไปยึด) จีน เที่ยวแรกไปเสียแล้ว
    อเมริกามีทางเลือกทางเดียว คือเข้าไปพ่วงกับอังกฤษ ที่ดูเหมือนจะพอพูดกันได้กว่านัก ล่ารายอื่น อังกฤษและอเมริกา ตกลงกันว่า จะใช้ญี่ปุ่นเป็นหัวรบ เจาะเข้าไปในจีน โดยทั้ง 2 ประเทศ ไม่ต้องเปิดตัว เปิดไต๋มากนัก แถมได้ไล่ตีทั้งรัสเซีย และเยอรมัน ที่อังกฤษไม่เคยรักด้วยเลย ให้กระเจิงไป อังกฤษตกลงบอก แกเอาละตินอเมรืกาไป ฉันไม่ยุ่ง แต่ที่ตะวันออกไกล โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น แกอย่าเสือกมาก เข้าใจไหม
    ปี ค.ศ.1895 การแข่งขันเรื่องสร้างทางรถไฟ ในจีน ชักเข้มข้น อเมริกา ตั้ง American China Development Company (ACDC) ขึ้นในจีน มีขาใหญ่จับมือร่วมกันหมด ทั้งค่าย Edward H Harriman เจ้าพ่อรถไฟต้วจริง ค่ายร้อกกี้เฟลเลอร์ ที่เอี่ยวกับ Kuhn& Loeb และค่าย Morgan เพื่อจะขอสร้างทางรถไฟสาย Peking – Hankow เส้นหนี่ง อีกเส้นข้ามแมนจูเรีย ปรากฏว่า อเมริกา ไม่ได้กินสักเส้นทาง ได้แต่กินแห้ว แต่รัสเซียได้เส้นทางแมนจูเรียไป ส่วนกลุ่มเบลเยี่ยมได้เส้นปักกิ่งไป
    อังกฤษ อเมริกา บอก แบบนี้ก็ถึงเวลาต้องเล่นลูกหนักแล้ว
    เมื่ออเมริกา ยึดฟิลิปปีนส์ได้ ในปี ค.ศ.1898 ฟิลิปปินส์ห่างจีนแค่ 400 ไมล์ อเมริกาคิดว่า ตนเองน่าจะได้เปรียบกว่าอีกหลายชาติ ที่ต้องล่องเรือมาไกล อเมริกาจึงพยายามโหนตัวแทรกเข้าไปใหม่ ในรถไฟสายไปยึดจีน ที่แน่นขนัด
    ในปี ค.ศ.1899 อเมริกา เริ่มเดินสาย บอกฝรั่งที่ปักหลักอยู่ในจีนแล้วว่า เราพวกต่างชาติกำลังเอาเปรียบจีนนะ เราควรตกลงกับเขาอย่างตรงไปตรงมาให้ยุติธรรม ว่าเราต้องการอะไร และเขาจะได้อะไร และพวกเราก็ควรมาตกลงกันเอง อย่างเท่าเทียมกัน ฟังดูดี มีความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย สันดานด้านได้ ส่อแววมาร้อยกว่าปีเลยนะไอ้ใบตองแห้ง แล้วอเมริกาก็เสนอนโยบายเช่นว่านี้ ที่เรียกกันว่า Open Door Policy นโยบายเปิดประตู (จีน) ให้ทุกฝ่ายพิจารณา มันน่าจะเรียกว่า อุบายเปิดประตูจีน มากกว่านะ
    แต่ดูเหมือนอุบายนี้ จะขายไม่ออก ฝ่ายจีนบอกว่า ถ้าเรายอมให้มีการตกลงกันใหม่อีก ไม่รู้จะยิ่งเสียอะไรมากขึ้นไปอีก ส่วนพวกฝรั่งที่ได้สิทธิไปแล้ว ต่างก็กอดชามข้าวของตัวเองแน่น เรื่องอะไร จะตกลงใหม่ เพื่อเปิดทางให้ไอ้เจ๋อหน้าใหม่ เข้ามาแย่งชามข้าว
    แล้วปี ค.ศ.1900 ก็เกิดกบฏนักมวย ไล่ตีฝรั่งที่อยู่ในจีนเสียกระเจิง เมื่อกองทัพนานาชาติมาช่วยพวกฝรั่ง ที่ถูกนักมวยล้อมกรอบ อยู่ที่บริเวณสถานทูตอังกฤษที่ปักกิ่ง ก็มีกองกำลังทหารเรือของอเมริกา ที่บังเอิญอยู่ในจีน เข้าไปร่วมยิงพวกนักมวยด้วย ชาติอื่นมีกองกำลังอยู่ในจีน ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะไปตั้งบ้านเรือน สถานทูต ฐานทัพกันเรียบร้อยแล้ว แต่อเมริกา เพิ่งแค่โหนขึ้นรถ ยังไม่ทันแม้แต่จะมีที่ให้หย่อนก้นลงนั่งเสียด้วยซ้ำ แต่มีกองทหารไปช่วยรบได้แล้ว แน่จริงๆครับไอ้เจ๋อ แต่ที่แน่กว่านั้น กองทัพรัสเซีย ถูกกองทหารต่างชาติด้วยกัน แต่ไม่รู้จากชาติไหน ตีแตกออกไปจากแมนจูเรีย
    แต่บางคนอาจสงสัย เอะ…. แล้วทำไมเป้าแรก หวยถึงไปออกที่เยอรมัน ฝรั่งมีตั้ง 5,6 ชาติ ก็ไม่น่าต้องสงสัย ผู้ต้องสงสัย ก็น่าจะเป็นอังกฤษ เพราะนั่นมันปี ค.ศ.1900 เป็นช่วงที่อังกฤษกำลังเขม่นเยอรมัน แสดงออกมาทั้งหน้าทั้งอาการ รู้กันไปทั้งโลกแล้ว จากเรื่องทางรถไฟเบอร์ลินแบกแดด นี่มันยังมาสร้างทางรถไฟในจีนอีก ไม่หมั่นไส้ทนไหวหรือ (อ่านรายละเอียดเพิ่มได้จากนิทานเรื่องลูกครึ่งหรือนกสองหัว และเรื่องต้มข้ามศตวรรษ นะครับ) ตกลงเรื่องทางรถไฟ นี่มันเรื่องใหญ่นะครับ ไม่ว่าสมัยไหน
    วิธีการเล่นกลแบบนี้ ทั้งอังกฤษ และอเมริกา เล่นเก่งทั้งคู่อยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้ว ใครจะกินใคร ต้องตามไปดู
    อเมริกาไม่ใช่เพิ่งเข้าไปในจีน ในปี ค.ศ.1900 นั่นหรอก ไอ้นั่นมันประวัติศาสตร์แบบ หลักสูตรสอนเด็กนักเรียน หรือศึกษาประวัติศาสตร์แบบคนซื่อ
    หวังว่าคงยังจำกันได้ พวกตระกูล Rockefeller เจ้าพ่อน้ำมันยี่ห้อ Standard oil ก่อนหน้าจะขายน้ำมันเหนียว เจ้าพ่อขายน้ำมันก๊าดเติมตะเกียงก่อน ตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1800 ต้นๆ ก็สมัยนั้น ไฟฟ้ามีที่ไหนล่ะ และจีนก็เป็นลูกค้าน้ำก๊าดของเจ้าพ่อร๊อกกี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1863 บอกแล้วว่าอเมริกา เพิ่งเห็นโลกกว้างตั้งแต่เอาเรือรบไปจ่อญี่ปุ่น
    บรรดาเจ้าพ่อทางธุรกิจของอเมริกา ที่มีอิทธิพล และบทบาทใหญ่ ทางด้านการเมือง และธุรกิจ ทั้งในอเมริกาเอง และในโลก ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1880 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 มาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คงไม่มีใครเกิน 2 ตระกูล ร้อกกี้เฟลเลอร์และมอร์แกน ทั้ง 2 ตระกูล เหมือนจะจับมือร่วมกัน แต่บางคราว ก็เหมือนจะหักกันเอง ไม่ต่างกับสัมพันธ์ของอังกฤษกับอเมริกา
    เรื่องของจีนกับญี่ปุ่นก็เช่นกัน ไม่ได้เป็นเรื่องระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องระหว่างอังกฤษกับอเมริกา และเป็นเรื่องระหว่าง ร้อกกี้เฟลเลอร์กับมอร์แกนอีกด้วย
    นี่มันไม่รู้กี่เส้า แล้วผมจะเขียนให้รู้เรื่องไหวไหมเนี่ย ชักสงสัยตัวเอง
    เมื่อปี ค.ศ.1904 ญี่ปุ่น เตรียมตัวไปรบรัสเซีย ตามที่อังกฤษ ทั้งวางแผน และจัดหาทุนให้ ถึงคนหาเงินจะเป็น Jacob Schiff ของ Kuhn Loeb แต่ Schiff ก็เป็นแนวร่วมกับ J P Morgan หลังจากญี่ปุ่นรบชนะรัสเซีย JP Morgan กับ Rockefeller ก็ร่วมมือกัน สร้างปฏิวัติบอลเชวิกให้รัสเซีย ระหว่างรัสเซียมีปฏิวัติ อังกฤษก็สร้างสงครามโลกคร้ังที่ 1 เพื่อถล่มเยอรมัน ระหว่างนั้น อเมริกา นั่งดูอังกฤษรบในยุโรปทางหนึ่ง อีกทางก็เข้ามาขุดสมบัติในรัสเซีย และเลยมาถึงจีน ที่อังกฤษให้ญี่ปุนตีตั๋วจอง และตีตั๋วรวน แทนมาตลอด เพราะอังกฤษอยากครองทั้งโลก แต่แบ่งภาคไปยึดเองไม่ได้ทั้งหมด และอังกฤษ กับอเมริกา ก็เลยทำท่าจะชนกันเอง ทั้งเรื่องของจีน และญี่ปุ่น มึนไหมครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 8 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 8 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1800 กว่าเป็นต้นมา อเมริกาเริ่มให้ความสนใจทะเลฝั่งแปซิฟิก ไม่ใช่มองเห็นแต่ฝั่งแอตแลนติกของลูกพี่ อังกฤษเท่านั้น แต่กว่าจะหันมาสนใจจริงจัง ก็ปาเข้า ปี ค.ศ.1853 ที่เอาเรือปืนไปเยี่ยมสวัสดีโชกุนนั่นแหละ ระหว่างเดินทางไปญี่ปุ่น โลกของอเมริกา ค่อยๆกว้างขึ้น อเมริกา คงเพิ่งเห็นจีนชัดขึ้น จีนเป็นตลาดที่กว้างใหญ่ พลเมืองประมาณ 450 ล้านคน ในตอนนั้น ในสายตาของนักธุรกิจอเมริกันบอก นั่นคือโอกาสขายสินค้า 450 ล้านชิ้น จะสร้างกำไรงามขนาดไหนให้แก่พวก เรา ส่วนพวกมิชชันนารีก็มอง 450 ล้านคนว่า เป็นโอกาสทองที่จะจับ 450 ล้านเข้ารีต ได้กี่ล้านคนนะ ตลาดใหญ่แบบนี้ ไม่เข้าไปบุกได้อย่างไร อเมริกา มัวแต่สร้างประเทศ และรบกันเอง กว่าจะมองเห็น (ราคาของ) จีน ก็ถูกฝรั่งชาติอื่นแซงหน้าไปแล้ว รัสเซีย อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรียและแม้แต่ญี่ปุ่น ต่างก็เล็งเป้า ตั้งเข็มทิศ มุ่งไปที่จีนกันหมดแล้ว และประมาณปี ค.ศ.1890 พวกฝรั่ง รวมทั้งญี่ปุ่น ต่างไปตั้งเขตปกครองของพวกตัวอยู่ไนจีน มีฐานทัพ ทำตัวตามสบาย เหมือนอยู่ในประเทศของตัวกันหมด อเมริกา ดูเหมือนจะตกรถไฟสาย (ไปยึด) จีน เที่ยวแรกไปเสียแล้ว อเมริกามีทางเลือกทางเดียว คือเข้าไปพ่วงกับอังกฤษ ที่ดูเหมือนจะพอพูดกันได้กว่านัก ล่ารายอื่น อังกฤษและอเมริกา ตกลงกันว่า จะใช้ญี่ปุ่นเป็นหัวรบ เจาะเข้าไปในจีน โดยทั้ง 2 ประเทศ ไม่ต้องเปิดตัว เปิดไต๋มากนัก แถมได้ไล่ตีทั้งรัสเซีย และเยอรมัน ที่อังกฤษไม่เคยรักด้วยเลย ให้กระเจิงไป อังกฤษตกลงบอก แกเอาละตินอเมรืกาไป ฉันไม่ยุ่ง แต่ที่ตะวันออกไกล โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น แกอย่าเสือกมาก เข้าใจไหม ปี ค.ศ.1895 การแข่งขันเรื่องสร้างทางรถไฟ ในจีน ชักเข้มข้น อเมริกา ตั้ง American China Development Company (ACDC) ขึ้นในจีน มีขาใหญ่จับมือร่วมกันหมด ทั้งค่าย Edward H Harriman เจ้าพ่อรถไฟต้วจริง ค่ายร้อกกี้เฟลเลอร์ ที่เอี่ยวกับ Kuhn& Loeb และค่าย Morgan เพื่อจะขอสร้างทางรถไฟสาย Peking – Hankow เส้นหนี่ง อีกเส้นข้ามแมนจูเรีย ปรากฏว่า อเมริกา ไม่ได้กินสักเส้นทาง ได้แต่กินแห้ว แต่รัสเซียได้เส้นทางแมนจูเรียไป ส่วนกลุ่มเบลเยี่ยมได้เส้นปักกิ่งไป อังกฤษ อเมริกา บอก แบบนี้ก็ถึงเวลาต้องเล่นลูกหนักแล้ว เมื่ออเมริกา ยึดฟิลิปปีนส์ได้ ในปี ค.ศ.1898 ฟิลิปปินส์ห่างจีนแค่ 400 ไมล์ อเมริกาคิดว่า ตนเองน่าจะได้เปรียบกว่าอีกหลายชาติ ที่ต้องล่องเรือมาไกล อเมริกาจึงพยายามโหนตัวแทรกเข้าไปใหม่ ในรถไฟสายไปยึดจีน ที่แน่นขนัด ในปี ค.ศ.1899 อเมริกา เริ่มเดินสาย บอกฝรั่งที่ปักหลักอยู่ในจีนแล้วว่า เราพวกต่างชาติกำลังเอาเปรียบจีนนะ เราควรตกลงกับเขาอย่างตรงไปตรงมาให้ยุติธรรม ว่าเราต้องการอะไร และเขาจะได้อะไร และพวกเราก็ควรมาตกลงกันเอง อย่างเท่าเทียมกัน ฟังดูดี มีความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย สันดานด้านได้ ส่อแววมาร้อยกว่าปีเลยนะไอ้ใบตองแห้ง แล้วอเมริกาก็เสนอนโยบายเช่นว่านี้ ที่เรียกกันว่า Open Door Policy นโยบายเปิดประตู (จีน) ให้ทุกฝ่ายพิจารณา มันน่าจะเรียกว่า อุบายเปิดประตูจีน มากกว่านะ แต่ดูเหมือนอุบายนี้ จะขายไม่ออก ฝ่ายจีนบอกว่า ถ้าเรายอมให้มีการตกลงกันใหม่อีก ไม่รู้จะยิ่งเสียอะไรมากขึ้นไปอีก ส่วนพวกฝรั่งที่ได้สิทธิไปแล้ว ต่างก็กอดชามข้าวของตัวเองแน่น เรื่องอะไร จะตกลงใหม่ เพื่อเปิดทางให้ไอ้เจ๋อหน้าใหม่ เข้ามาแย่งชามข้าว แล้วปี ค.ศ.1900 ก็เกิดกบฏนักมวย ไล่ตีฝรั่งที่อยู่ในจีนเสียกระเจิง เมื่อกองทัพนานาชาติมาช่วยพวกฝรั่ง ที่ถูกนักมวยล้อมกรอบ อยู่ที่บริเวณสถานทูตอังกฤษที่ปักกิ่ง ก็มีกองกำลังทหารเรือของอเมริกา ที่บังเอิญอยู่ในจีน เข้าไปร่วมยิงพวกนักมวยด้วย ชาติอื่นมีกองกำลังอยู่ในจีน ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะไปตั้งบ้านเรือน สถานทูต ฐานทัพกันเรียบร้อยแล้ว แต่อเมริกา เพิ่งแค่โหนขึ้นรถ ยังไม่ทันแม้แต่จะมีที่ให้หย่อนก้นลงนั่งเสียด้วยซ้ำ แต่มีกองทหารไปช่วยรบได้แล้ว แน่จริงๆครับไอ้เจ๋อ แต่ที่แน่กว่านั้น กองทัพรัสเซีย ถูกกองทหารต่างชาติด้วยกัน แต่ไม่รู้จากชาติไหน ตีแตกออกไปจากแมนจูเรีย แต่บางคนอาจสงสัย เอะ…. แล้วทำไมเป้าแรก หวยถึงไปออกที่เยอรมัน ฝรั่งมีตั้ง 5,6 ชาติ ก็ไม่น่าต้องสงสัย ผู้ต้องสงสัย ก็น่าจะเป็นอังกฤษ เพราะนั่นมันปี ค.ศ.1900 เป็นช่วงที่อังกฤษกำลังเขม่นเยอรมัน แสดงออกมาทั้งหน้าทั้งอาการ รู้กันไปทั้งโลกแล้ว จากเรื่องทางรถไฟเบอร์ลินแบกแดด นี่มันยังมาสร้างทางรถไฟในจีนอีก ไม่หมั่นไส้ทนไหวหรือ (อ่านรายละเอียดเพิ่มได้จากนิทานเรื่องลูกครึ่งหรือนกสองหัว และเรื่องต้มข้ามศตวรรษ นะครับ) ตกลงเรื่องทางรถไฟ นี่มันเรื่องใหญ่นะครับ ไม่ว่าสมัยไหน วิธีการเล่นกลแบบนี้ ทั้งอังกฤษ และอเมริกา เล่นเก่งทั้งคู่อยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้ว ใครจะกินใคร ต้องตามไปดู อเมริกาไม่ใช่เพิ่งเข้าไปในจีน ในปี ค.ศ.1900 นั่นหรอก ไอ้นั่นมันประวัติศาสตร์แบบ หลักสูตรสอนเด็กนักเรียน หรือศึกษาประวัติศาสตร์แบบคนซื่อ หวังว่าคงยังจำกันได้ พวกตระกูล Rockefeller เจ้าพ่อน้ำมันยี่ห้อ Standard oil ก่อนหน้าจะขายน้ำมันเหนียว เจ้าพ่อขายน้ำมันก๊าดเติมตะเกียงก่อน ตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1800 ต้นๆ ก็สมัยนั้น ไฟฟ้ามีที่ไหนล่ะ และจีนก็เป็นลูกค้าน้ำก๊าดของเจ้าพ่อร๊อกกี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1863 บอกแล้วว่าอเมริกา เพิ่งเห็นโลกกว้างตั้งแต่เอาเรือรบไปจ่อญี่ปุ่น บรรดาเจ้าพ่อทางธุรกิจของอเมริกา ที่มีอิทธิพล และบทบาทใหญ่ ทางด้านการเมือง และธุรกิจ ทั้งในอเมริกาเอง และในโลก ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1880 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 มาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คงไม่มีใครเกิน 2 ตระกูล ร้อกกี้เฟลเลอร์และมอร์แกน ทั้ง 2 ตระกูล เหมือนจะจับมือร่วมกัน แต่บางคราว ก็เหมือนจะหักกันเอง ไม่ต่างกับสัมพันธ์ของอังกฤษกับอเมริกา เรื่องของจีนกับญี่ปุ่นก็เช่นกัน ไม่ได้เป็นเรื่องระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องระหว่างอังกฤษกับอเมริกา และเป็นเรื่องระหว่าง ร้อกกี้เฟลเลอร์กับมอร์แกนอีกด้วย นี่มันไม่รู้กี่เส้า แล้วผมจะเขียนให้รู้เรื่องไหวไหมเนี่ย ชักสงสัยตัวเอง เมื่อปี ค.ศ.1904 ญี่ปุ่น เตรียมตัวไปรบรัสเซีย ตามที่อังกฤษ ทั้งวางแผน และจัดหาทุนให้ ถึงคนหาเงินจะเป็น Jacob Schiff ของ Kuhn Loeb แต่ Schiff ก็เป็นแนวร่วมกับ J P Morgan หลังจากญี่ปุ่นรบชนะรัสเซีย JP Morgan กับ Rockefeller ก็ร่วมมือกัน สร้างปฏิวัติบอลเชวิกให้รัสเซีย ระหว่างรัสเซียมีปฏิวัติ อังกฤษก็สร้างสงครามโลกคร้ังที่ 1 เพื่อถล่มเยอรมัน ระหว่างนั้น อเมริกา นั่งดูอังกฤษรบในยุโรปทางหนึ่ง อีกทางก็เข้ามาขุดสมบัติในรัสเซีย และเลยมาถึงจีน ที่อังกฤษให้ญี่ปุนตีตั๋วจอง และตีตั๋วรวน แทนมาตลอด เพราะอังกฤษอยากครองทั้งโลก แต่แบ่งภาคไปยึดเองไม่ได้ทั้งหมด และอังกฤษ กับอเมริกา ก็เลยทำท่าจะชนกันเอง ทั้งเรื่องของจีน และญี่ปุ่น มึนไหมครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline

    จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor

    Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming
    จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น
    https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses

    Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก
    https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature

      Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon
    หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ
    https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones

    ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M
    Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์
    https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention

    CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389)
    เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน
    ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน
    https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection

    CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด
    นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover

    ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files

    Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender
    กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก
    https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status

    โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm
    นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน
    https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft

    ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure
    มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
    https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors

    📌🔒🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔒📌 #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline 🐉 จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 🔗 https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor 📝 Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses 💻 Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature 📱  Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones ☁️ ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention 🛡️ CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 💻 ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389) เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📷 ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน 🔗 https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection 📡 CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover 📧 ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files 🖥️ Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status 💰 โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft 🎭 ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บริษัทประกันเริ่มจำกัดความรับผิดชอบต่อ AI หลังความเสี่ยงมหาศาลปรากฏ”

    บริษัทประกันรายใหญ่ เช่น AIG, WR Berkley และ Great American กำลังยื่นขออนุญาตเพิ่มข้อยกเว้นในกรมธรรม์ เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นแชตบอท, ระบบอัตโนมัติ หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เหตุผลคือความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้และอาจเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายบริษัท

    กรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น Google ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาดในฟีเจอร์ AI Overview, Air Canada ถูกบังคับให้ทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง, และบริษัทวิศวกรรมในอังกฤษสูญเงินกว่า 20 ล้านปอนด์จากการถูกหลอกด้วยวิดีโอ Deepfake ของผู้บริหาร เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้บริษัทประกันมองว่า AI ไม่ใช่ความเสี่ยงเฉพาะราย แต่เป็นความเสี่ยงระบบที่อาจสร้างความเสียหายพร้อมกันในหลายองค์กร

    บางบริษัท เช่น Mosaic Insurance ถึงขั้นปฏิเสธที่จะรับประกันความเสี่ยงจาก LLM โดยอธิบายว่า “เป็นกล่องดำที่ไม่สามารถคาดเดาได้” ขณะที่ Chubb และ QBE เลือกออกนโยบายเฉพาะ เช่น คุ้มครองค่าปรับตามกฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรป แต่จำกัดวงเงินไว้เพียงบางส่วน

    นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ความเสี่ยงจากการใช้ AI จะถูกผลักกลับไปที่บริษัทผู้ใช้งานเอง ซึ่งหมายความว่าธุรกิจที่นำ AI มาใช้ต้องแบกรับต้นทุนและความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดความผิดพลาดที่กระทบวงกว้าง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเคลื่อนไหวของบริษัทประกัน
    AIG, WR Berkley และ Great American ขอเพิ่มข้อยกเว้น AI ในกรมธรรม์
    มองว่า AI คือความเสี่ยงระบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้

    เหตุการณ์จริงที่สร้างความเสียหาย
    Google ถูกฟ้อง 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาด
    Air Canada ต้องทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง
    บริษัทอังกฤษสูญเงิน 20 ล้านปอนด์จาก Deepfake

    ท่าทีของบริษัทประกันรายอื่น
    Mosaic ปฏิเสธรับประกัน LLM โดยตรง
    QBE และ Chubb ออกนโยบายเฉพาะ แต่จำกัดวงเงินคุ้มครอง

    ข้อกังวลต่อธุรกิจผู้ใช้งาน AI
    ความเสี่ยงถูกผลักกลับมาที่บริษัทเอง
    หากเกิดความผิดพลาดวงกว้าง อาจสร้างผลกระทบมหาศาล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/insurers-move-to-limit-ai-liability-as-multi-billion-dollar-risks-emerge
    🛡️ “บริษัทประกันเริ่มจำกัดความรับผิดชอบต่อ AI หลังความเสี่ยงมหาศาลปรากฏ” บริษัทประกันรายใหญ่ เช่น AIG, WR Berkley และ Great American กำลังยื่นขออนุญาตเพิ่มข้อยกเว้นในกรมธรรม์ เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นแชตบอท, ระบบอัตโนมัติ หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เหตุผลคือความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้และอาจเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายบริษัท กรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น Google ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาดในฟีเจอร์ AI Overview, Air Canada ถูกบังคับให้ทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง, และบริษัทวิศวกรรมในอังกฤษสูญเงินกว่า 20 ล้านปอนด์จากการถูกหลอกด้วยวิดีโอ Deepfake ของผู้บริหาร เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้บริษัทประกันมองว่า AI ไม่ใช่ความเสี่ยงเฉพาะราย แต่เป็นความเสี่ยงระบบที่อาจสร้างความเสียหายพร้อมกันในหลายองค์กร บางบริษัท เช่น Mosaic Insurance ถึงขั้นปฏิเสธที่จะรับประกันความเสี่ยงจาก LLM โดยอธิบายว่า “เป็นกล่องดำที่ไม่สามารถคาดเดาได้” ขณะที่ Chubb และ QBE เลือกออกนโยบายเฉพาะ เช่น คุ้มครองค่าปรับตามกฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรป แต่จำกัดวงเงินไว้เพียงบางส่วน นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ความเสี่ยงจากการใช้ AI จะถูกผลักกลับไปที่บริษัทผู้ใช้งานเอง ซึ่งหมายความว่าธุรกิจที่นำ AI มาใช้ต้องแบกรับต้นทุนและความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดความผิดพลาดที่กระทบวงกว้าง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเคลื่อนไหวของบริษัทประกัน ➡️ AIG, WR Berkley และ Great American ขอเพิ่มข้อยกเว้น AI ในกรมธรรม์ ➡️ มองว่า AI คือความเสี่ยงระบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ✅ เหตุการณ์จริงที่สร้างความเสียหาย ➡️ Google ถูกฟ้อง 110 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลผิดพลาด ➡️ Air Canada ต้องทำตามส่วนลดที่แชตบอทคิดขึ้นเอง ➡️ บริษัทอังกฤษสูญเงิน 20 ล้านปอนด์จาก Deepfake ✅ ท่าทีของบริษัทประกันรายอื่น ➡️ Mosaic ปฏิเสธรับประกัน LLM โดยตรง ➡️ QBE และ Chubb ออกนโยบายเฉพาะ แต่จำกัดวงเงินคุ้มครอง ‼️ ข้อกังวลต่อธุรกิจผู้ใช้งาน AI ⛔ ความเสี่ยงถูกผลักกลับมาที่บริษัทเอง ⛔ หากเกิดความผิดพลาดวงกว้าง อาจสร้างผลกระทบมหาศาล https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/insurers-move-to-limit-ai-liability-as-multi-billion-dollar-risks-emerge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Trump เปิดตัว Genesis Mission: แพลตฟอร์ม AI แห่งชาติ ใช้ข้อมูลรัฐบาลเร่งนวัตกรรม”

    ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อเริ่มโครงการ Genesis Mission ซึ่งเป็นความพยายามระดับชาติในการสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถใช้ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (scientific foundation models) เป้าหมายคือเพื่อเร่งการค้นพบใหม่ ๆ และสร้าง AI ที่สามารถช่วยนักวิจัยทดสอบสมมติฐาน รวมถึงทำงานวิจัยเชิงซ้ำซ้อนโดยอัตโนมัติ

    โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นการยกระดับบทบาทของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อจีนและยุโรปต่างลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้วในหน่วยงานรัฐบาลถือเป็น “ทรัพยากรทองคำ” ที่สามารถสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ให้กับสหรัฐฯ

    Genesis Mission ยังตั้งเป้าที่จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่สามารถเชื่อมโยงนักวิจัย มหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการค้นพบที่รวดเร็วขึ้น เช่น การพัฒนายาใหม่ การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการออกแบบวัสดุขั้นสูง โดยมีการพูดถึงการสร้าง “AI agents” ที่สามารถทำงานวิจัยแทนนักวิทยาศาสตร์ในบางขั้นตอน

    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการรวมข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลเข้าสู่แพลตฟอร์ม AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีคำถามว่าการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลเช่นนี้จะโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายหรือไม่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัว Genesis Mission
    ลงนามคำสั่งบริหารโดย Donald Trump
    ใช้ฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดล AI

    เป้าหมายของโครงการ
    เร่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม
    สร้าง AI agents เพื่อช่วยงานวิจัยอัตโนมัติ

    บทบาทเชิงกลยุทธ์
    สหรัฐฯ ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน AI ระดับโลก
    ใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วเป็นทรัพยากรสำคัญ

    การเชื่อมโยงระบบนิเวศ AI
    รวมมหาวิทยาลัย นักวิจัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน
    สนับสนุนการค้นพบในด้านยา สิ่งแวดล้อม และวัสดุใหม่

    ข้อกังวลและความเสี่ยง
    ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลรัฐบาล
    ความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/trump-aims-to-boost-ai-innovation-build-platform-to-harness-government-data
    🤖 “Trump เปิดตัว Genesis Mission: แพลตฟอร์ม AI แห่งชาติ ใช้ข้อมูลรัฐบาลเร่งนวัตกรรม” ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อเริ่มโครงการ Genesis Mission ซึ่งเป็นความพยายามระดับชาติในการสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถใช้ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (scientific foundation models) เป้าหมายคือเพื่อเร่งการค้นพบใหม่ ๆ และสร้าง AI ที่สามารถช่วยนักวิจัยทดสอบสมมติฐาน รวมถึงทำงานวิจัยเชิงซ้ำซ้อนโดยอัตโนมัติ โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นการยกระดับบทบาทของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อจีนและยุโรปต่างลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้วในหน่วยงานรัฐบาลถือเป็น “ทรัพยากรทองคำ” ที่สามารถสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ให้กับสหรัฐฯ Genesis Mission ยังตั้งเป้าที่จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่สามารถเชื่อมโยงนักวิจัย มหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการค้นพบที่รวดเร็วขึ้น เช่น การพัฒนายาใหม่ การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการออกแบบวัสดุขั้นสูง โดยมีการพูดถึงการสร้าง “AI agents” ที่สามารถทำงานวิจัยแทนนักวิทยาศาสตร์ในบางขั้นตอน อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการรวมข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลเข้าสู่แพลตฟอร์ม AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีคำถามว่าการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลเช่นนี้จะโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายหรือไม่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัว Genesis Mission ➡️ ลงนามคำสั่งบริหารโดย Donald Trump ➡️ ใช้ฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดล AI ✅ เป้าหมายของโครงการ ➡️ เร่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ➡️ สร้าง AI agents เพื่อช่วยงานวิจัยอัตโนมัติ ✅ บทบาทเชิงกลยุทธ์ ➡️ สหรัฐฯ ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน AI ระดับโลก ➡️ ใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วเป็นทรัพยากรสำคัญ ✅ การเชื่อมโยงระบบนิเวศ AI ➡️ รวมมหาวิทยาลัย นักวิจัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน ➡️ สนับสนุนการค้นพบในด้านยา สิ่งแวดล้อม และวัสดุใหม่ ‼️ ข้อกังวลและความเสี่ยง ⛔ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลรัฐบาล ⛔ ความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/trump-aims-to-boost-ai-innovation-build-platform-to-harness-government-data
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump aims to boost AI innovation, build platform to harness government data
    (Reuters) -President Donald Trump on Monday signed an executive order to launch a government-wide effort to build an integrated artificial intelligence platform to harness federal scientific datasets to train next-generation technologies.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Starlink เปิดบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน: ก้าวใหม่ของการสื่อสารท่ามกลางสงคราม”

    บริการ Direct-to-Cell ของ Starlink เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปที่ยูเครน โดยร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดประสงค์คือเพื่อให้ประชาชนยังสามารถสื่อสารได้แม้เผชิญกับไฟฟ้าดับและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายจากสงคราม การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และมีแผนจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ตในปีถัดไป

    เทคโนโลยีนี้ใช้ดาวเทียมของ Starlink เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินมากนัก ถือเป็นการแก้ปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายถูกโจมตีหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่

    การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของ Elon Musk และบริษัท SpaceX ที่พยายามผลักดัน Starlink ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือความขัดแย้งทางการเมือง เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ความหวังใหม่” ของการสื่อสารในยุคที่ไม่แน่นอน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติในการสื่อสารระดับประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัวบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน
    ร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่
    เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ต

    เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม
    โทรศัพท์มือถือทั่วไปสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง
    ไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน

    บทบาทของ Starlink และ SpaceX
    ผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก
    เน้นช่วยเหลือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือสงคราม

    ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล
    การพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติอาจสร้างความเสี่ยง
    ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อาจถูกตั้งคำถาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/starlink039s-direct-to-cell-service-launches-in-ukraine-in-european-first
    🛰️ “Starlink เปิดบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน: ก้าวใหม่ของการสื่อสารท่ามกลางสงคราม” บริการ Direct-to-Cell ของ Starlink เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปที่ยูเครน โดยร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดประสงค์คือเพื่อให้ประชาชนยังสามารถสื่อสารได้แม้เผชิญกับไฟฟ้าดับและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายจากสงคราม การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และมีแผนจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ตในปีถัดไป เทคโนโลยีนี้ใช้ดาวเทียมของ Starlink เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินมากนัก ถือเป็นการแก้ปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายถูกโจมตีหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของ Elon Musk และบริษัท SpaceX ที่พยายามผลักดัน Starlink ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือความขัดแย้งทางการเมือง เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ความหวังใหม่” ของการสื่อสารในยุคที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติในการสื่อสารระดับประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัวบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน ➡️ ร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ ➡️ เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ต ✅ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ➡️ โทรศัพท์มือถือทั่วไปสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง ➡️ ไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน ✅ บทบาทของ Starlink และ SpaceX ➡️ ผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก ➡️ เน้นช่วยเหลือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือสงคราม ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล ⛔ การพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติอาจสร้างความเสี่ยง ⛔ ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อาจถูกตั้งคำถาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/starlink039s-direct-to-cell-service-launches-in-ukraine-in-european-first
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starlink's direct-to-cell service launches in Ukraine in European first
    KYIV (Reuters) -Ukraine's largest mobile operator Kyivstar has become the first in Europe to launch Starlink's direct-to-cell satellite technology in a bid to keep millions connected amid wartime blackouts and disrupted infrastructure, the company said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 MSC Meraviglia เตรียมกลับประจำการที่ยุโรปอีกครั้ง หลังจากประจำการที่นิวยอร์กมาตั้งแต่ช่วง เมษายน 2566
    เรือจะล่องออกจากนิวยอร์ก ตั้งแต่ 19 เมษายน 2026 ระยะเวลา 16 คืน มุ่งหน้าสู่แคนาดา โปรตุเกส สเปน ยิบรอลตาร์ และฝรั่งเศส นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาประจำการที่ยุโรป

    ดูเรือ MSC ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/9a3b40

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือMSC #msccruiseline #MSCMeraviglia #Mediterranean #canada #Portugal #Spain #Gibraltar #France #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ข่าวเรือสำราญ #updates #News #CruiseDomain
    🛳 MSC Meraviglia เตรียมกลับประจำการที่ยุโรปอีกครั้ง หลังจากประจำการที่นิวยอร์กมาตั้งแต่ช่วง เมษายน 2566 🗽 เรือจะล่องออกจากนิวยอร์ก ตั้งแต่ 19 เมษายน 2026 ระยะเวลา 16 คืน มุ่งหน้าสู่แคนาดา โปรตุเกส สเปน ยิบรอลตาร์ และฝรั่งเศส นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาประจำการที่ยุโรป 🗼🎀 ดูเรือ MSC ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/9a3b40 ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือMSC #msccruiseline #MSCMeraviglia #Mediterranean #canada #Portugal #Spain #Gibraltar #France #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #ข่าวเรือสำราญ #updates #News #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline

    PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น
    นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน
    url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption

    Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2
    นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้
    url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace

    ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ
    https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes

    Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
    https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman

    การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน
    https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected

    ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต
    https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor

    AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings

    การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก
    https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack

    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว
    https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan

    ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481

    ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว
    https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius



    📌🔒🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔒📌 #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline 🐍 PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน 🔗 url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption 💻 Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2 นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้ 🔗 url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace 🛡️ ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ 🔗 https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes 🍏 Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ 🔗 https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman ⚖️ การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน 🔗 https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected 📱💻 ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features 🕵️ มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต 🔗 https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor ⚙️ AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings 🐉 การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack 📲 มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan 📡 ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481 🏭 ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว 🔗 https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง
    ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top

    ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว
    ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed

    ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser
    บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news

    AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ
    การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage

    ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI
    บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure

    Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด
    มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years

    Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble"
    Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว
    https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know

    ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED
    เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย!
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs

    ChatGPT ฟรีสำหรับครู
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools

    แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa
    ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster

    DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา
    มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon

    Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น
    มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ ,
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone

    รัสเซียตั้งทีมชาติ AI
    รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce

    ศึก Router: TP-Link vs Netgear
    TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด
    https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk

    AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง
    บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top 💬 ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed 🔒 ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news 🧳 AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage 🌐 ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure 🧮 Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years 💻 Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble" Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know 🚗 ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย! 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs 🎓 ChatGPT ฟรีสำหรับครู OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools 🎁 แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster 🚁 DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon 📱 Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ , 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone 🤖 รัสเซียตั้งทีมชาติ AI รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce 📡 ศึก Router: TP-Link vs Netgear TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk 📊 AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASML เปิดศูนย์ฝึกอบรมในสหรัฐฯ

    ASML บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ ได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งแรกในสหรัฐฯ ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เพื่อฝึกวิศวกรกว่า 1,000 คนต่อปีบนเครื่องจักร DUV และ EUV ถือเป็นการเสริมกำลังบุคลากรให้กับอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    ASML เปิด Talent Academy ที่ฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้าน R&D ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทอย่าง TSMC และ Intel กำลังลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปในประเทศ การฝึกอบรมนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเครื่องจักรเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงโดยไม่ต้องเดินทางไปยุโรป

    รายละเอียดของศูนย์ฝึกอบรม
    ศูนย์ฝึกอบรมประกอบด้วย 14 ห้องเรียนและห้องคลีนรูม ที่ติดตั้งเครื่องจักร DUV และ EUV ของ ASML เพื่อให้วิศวกรได้เรียนรู้และทดลองใช้งานจริง โดยตั้งเป้าฝึกอบรมวิศวกรกว่า 1,000 คนต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ

    ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์
    Christophe Fouquet ซีอีโอของ ASML ระบุว่า การเปิดศูนย์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะอุตสาหกรรมชิปในสหรัฐฯ กำลังบูม โดยมีการลงทุนในรัฐแอริโซนา เท็กซัส และไอดาโฮ การมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเครื่องจักรจะช่วยให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาต่างประเทศและสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งขึ้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    แม้ศูนย์นี้จะไม่ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV ซึ่งยังคงจำกัดไว้ที่เนเธอร์แลนด์ แต่การขยายเข้าสู่สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการกระจายความรู้และการเสริมกำลังบุคลากรในระดับโลก ASML ยังคงเป็น “กระดูกสันหลัง” ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และการลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ มีความสามารถแข่งขันมากขึ้นในตลาดโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    ASML เปิด Talent Academy ที่ฟีนิกซ์
    ฝึกอบรมวิศวกรกว่า 1,000 คนต่อปี
    มี 14 ห้องเรียนและคลีนรูมพร้อมเครื่อง DUV/EUV

    ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์
    ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศด้านบุคลากร
    สนับสนุนการลงทุนของ Intel และ TSMC ในสหรัฐฯ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    เสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานชิป
    แม้ยังไม่ติดตั้ง High-NA EUV แต่เป็นก้าวสำคัญของ ASML

    https://wccftech.com/asml-opens-up-the-first-u-s-training-facility-in-arizona/
    🧑‍🏫 ASML เปิดศูนย์ฝึกอบรมในสหรัฐฯ ASML บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่จากเนเธอร์แลนด์ ได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งแรกในสหรัฐฯ ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เพื่อฝึกวิศวกรกว่า 1,000 คนต่อปีบนเครื่องจักร DUV และ EUV ถือเป็นการเสริมกำลังบุคลากรให้กับอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ASML เปิด Talent Academy ที่ฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้าน R&D ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทอย่าง TSMC และ Intel กำลังลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปในประเทศ การฝึกอบรมนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเครื่องจักรเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงโดยไม่ต้องเดินทางไปยุโรป 📚 รายละเอียดของศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์ฝึกอบรมประกอบด้วย 14 ห้องเรียนและห้องคลีนรูม ที่ติดตั้งเครื่องจักร DUV และ EUV ของ ASML เพื่อให้วิศวกรได้เรียนรู้และทดลองใช้งานจริง โดยตั้งเป้าฝึกอบรมวิศวกรกว่า 1,000 คนต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ ⚡ ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ Christophe Fouquet ซีอีโอของ ASML ระบุว่า การเปิดศูนย์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะอุตสาหกรรมชิปในสหรัฐฯ กำลังบูม โดยมีการลงทุนในรัฐแอริโซนา เท็กซัส และไอดาโฮ การมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเครื่องจักรจะช่วยให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาต่างประเทศและสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งขึ้น 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก แม้ศูนย์นี้จะไม่ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV ซึ่งยังคงจำกัดไว้ที่เนเธอร์แลนด์ แต่การขยายเข้าสู่สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการกระจายความรู้และการเสริมกำลังบุคลากรในระดับโลก ASML ยังคงเป็น “กระดูกสันหลัง” ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และการลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ มีความสามารถแข่งขันมากขึ้นในตลาดโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ASML เปิด Talent Academy ที่ฟีนิกซ์ ➡️ ฝึกอบรมวิศวกรกว่า 1,000 คนต่อปี ➡️ มี 14 ห้องเรียนและคลีนรูมพร้อมเครื่อง DUV/EUV ✅ ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศด้านบุคลากร ➡️ สนับสนุนการลงทุนของ Intel และ TSMC ในสหรัฐฯ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก ➡️ เสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานชิป ➡️ แม้ยังไม่ติดตั้ง High-NA EUV แต่เป็นก้าวสำคัญของ ASML https://wccftech.com/asml-opens-up-the-first-u-s-training-facility-in-arizona/
    WCCFTECH.COM
    ASML Opens Its First Training Facility in Arizona to Bolster America’s Push for a More Resilient Chip Supply Chain
    ASML has opened its first training facility in the US, located in Phoenix, Arizona, with the intention of meeting the growing talent demand.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 5
    ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ญี่ปุ่นไปยึดเกาหลี ได้ในปี ค.ศ.1895 และตีจีนกระเจิงกลับบ้านพวกไกยิ่น ฝรั่งชาติต่างๆ โดยเฉพาะอังกฤษ เริ่มหรี่ตามองญี่ปุ่น ไอ้หมอนี่ชักจะเรียนเร็วไปแล้ว แล้วอังกฤษ ก็หลอกญี่ปุ่นให้ทำสัญญามิตรภาพ เมื่อต้นปี ค.ศ.1902 เป็นสัญญาที่ดูเหมือนเอาไว้กันท่ากันชาวบ้าน และกันท่ากันเองด้วย ในสัญญาบอกว่า ญี่ปุ่นรับรู้ว่า อังกฤษมีผลประโยชน์ในจีน ส่วนอังกฤษก็รับรู้ว่า ญี่ปุ่นมีผลประโยชน์ในจีน และในเกาหลี และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องไปรบกับใคร อีกฝ่ายก็จะส่งกำลังไปช่วย
    เป็นสัญญาที่แสดงความเก๋าของอังกฤษอย่างยิ่ง อังกฤษตาไว มองไกล เห็นหน่วยก้านญี่ปุ่นแล้ว ปล่อยให้ไปอยู่ข้างอื่นไม่ได้ ต้องเอามาอยู่ใกล้ตัว อังกฤษ เตรียมพร้อมที่จะกันท่าญี่ปุ่นเรื่องจีน และพร้อมที่หลอกใช้ญี่ปุ่นด้วย
    สำหรับอังกฤษ การทำสัญญากับญี่ปุ่น มันเป็นเรื่องยุทธศาสตร์กันท่าอย่างเดียว แต่สำหรับญี่ปุ่น มันเป็นคนละเรื่องกัน ญี่ปุ่นปลาบปลื้มยิ่งนัก ญี่ปุ่นคิดว่า อังกฤษเป็นเพื่อนคนแรกของญี่ปุ่น ที่เห็นคุณค่า และความสามารถของญี่ปุ่น ที่สำคัญ เป็นเพื่อนผมทอง ตาน้ำข้าวที่ญี่ปุ่นปลื้มหนักหนา…
    ท่านที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษ คงจำกันได้ว่า ญี่ปุ่นลุกขึ้นไปรบรัสเซียในปี ค.ศ.1904 แต่ก่อนจะไปรบ ญี่ปุ่นไม่มีทุน คนที่ช่วยหาทุนให้ญี่ปุ่น คือ ชาวยิวชื่อ Jacob Schiff ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ Kuhn Loeb & Co บริษัทการเงินใหญ่ แห่งวอลสตรีท ที่เป็นร่างทรงของ Rothschild ผู้ปกครองของรัฐบาลอังกฤษ Rothschild มีแผนจะคิดบัญชีซาร์นิโคลัส กษัตริย์ที่ปกครองรัสเซีย และยึดน้ำมันรัสเซีย จึงต้องสร้างปฏิวัติให้รัสเซียน่วมก่อน แต่ก่อนจะสร้างปฏิวัติรัสเซีย อังกฤษก็ยุให้ญี่ปุ่น ที่กำลังอยากแสดงฝีมือ ให้ไปรบให้รัสเซียเซเสียก่อน และทุกอย่างก็เป็นไปแผน ญี่ปุ่นบ้ายุ ไปรบรัสเซีย จนรัสเซียแพ้ เซแซดจริงๆ
    พอจะเห็นรางๆแล้วนะครับว่า ตั้งแต่เปลี่ยนนิสัย ไม่รักสันโดษ ญี่ปุ่นดูเหมือนไม่อยู่แบบเดี่ยวๆ และทำท่าจะเกี่ยวโยงกันไปหมด
    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1914 อังกฤษ เปลี่ยนนโยบายกระทันหัน จากที่เคยคิดปิดล้อมรัสเซีย ก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะรัสเซียเซแซดใกล้ล้ม อังกฤษเลยเปลี่ยน จากล้อมรัสเซีย เป็นเข้าไปต้ม หรือปล้นให้รู้แล้วรู้รอด และไปล้อมเยอรมันแทน
    เมื่อไม่ต้องรบรัสเซีย อังกฤษคิดไม่ตก ในอังกฤษเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งบอก ญี่ปุ่นเป็นคู่แค้นรัสเซีย ไม่รบรัสเซีย ก็ไม่ต้องชวนญี่ปุ่นเข้าร่วมก๊วน เพราะไม่ไว้ใจว่า ถ้าบอกให้ญี่ปุ่นคอยกันกองทัพเรือเยอรมัน ในแถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นอาจจะฉวยโอกาสแย่งงับเกาะเล็ก เกาะน้อยของเยอรมันแถวแปซิฟิกไป โดยอังกฤษ หันมางับไม่ทันก็เป็นได้ เหมือนกรณีงาบเกาหลีไปจากจีน นับว่า ฝ่ายนี้มองญี่ปุ่นได้ลึกซึ้ง แต่อีกฝ่ายหนึ่งคือ หลอดวินสตัน เชอชิล บอกว่า เหลวไหล เราไม่ชวนญี่ปุ่น แปลว่า เรากลัวเขาจนตีนจิกละสิ แล้วอังกฤษก็เลยชวนญี่ปุ่นเล่นสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยกัน แปลว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ กลัวญี่ปุ่นจนตีนจิกจริงๆ ฮาจริง (โว้ย)
    หลังจากออกคำชวนไปไม่ถึงสัปดาห์ ญี่ปุ่นไม่ให้เสียเวลา ส่งหนังสือถึงเยอรมัน ให้เยอรมันถอยเรือออกไปจากแปซืฟิกให้หมด เยอรมันไม่ตอบ แต่สั่งให้กองกำลังของตนที่เกาะชิงเตา Tsingtao เตรียมพร้อม วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.1914 ญี่ปุ่นก็ประกาศสงครามกับเยอรมัน และเคลื่อนพลไปยึดบรรดาเกาะต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของเยอรมันเรียบหมด
    ญี่ปุ่นดูเหมือนจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่พักใหญ่ แต่หลังจากที่กวาดเอาเกาะของเยอรมันมาหมดแล้ว ญี่ปุ่นก็พักเหนื่อย เมื่ออังกฤษขอให้ญี่ปุ่นส่งเรือมาช่วยรบที่ทะเลเมดิเตอเรเนียนกับ ทะเลบอลติก ญี่ปุ่นก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ
    เมื่อถูกต่อว่า ญี่ปุ่นบอกมีปัญหาภายในกองทัพแก้ไม่ตก นายทหารเรือของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จบมาจากเยอรมันทั้งนั้น แถมเยอรมันยังมาช่าวทำการฝึก การรบ การใช้อาวุธให้อีก ใครจะอยากไปรบกับครู และในญี่ปุ่นเอง เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 มาแล้ว มีเสียงบ่นว่า เราน่าจะเลิกสัญญาบ้าบอที่ไปทำกับอังกฤษเสีย แล้วมาผูกสัมพันธ์กับเยอรมันดีกว่า
    เรื่องที่ญี่ปุ่นคิดเอาใจออกห่างไปอยู่กับเยอรมัน มีหรือจะไม่ไปถึงหูอังกฤษ อังกฤษยังแค่ลงบัญชีไว้ ยังไม่ถึงคิดบัญชี ญี่ปุ่นก็เลยแสดงความกร่างต่อ ด้วยการยื่นข้อเสนอ 21 ข้อต่อจีน ในปี ค.ศ.1915 ระหว่างที่อังกฤษกำลังวุ่นกับสงครามอยู่ในยุโรป เหมือนกับญี่ปุ่นฉวยโอกาสลองของ ก็รู้อยู่แล้วตามสัญญาที่ทำกับอังกฤษว่า อังกฤษก็เล็งจีนอยู่ แบบนี้อังกฤษจะรับไหวหรือ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่น ก็เริ่มหวานน้อยลง
    แต่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้สร้าง”รอย” ไว้แค่กับอังกฤษเท่านั้น
    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายผู้ชนะสงคราม ได้จัดประชุมขึ้นที่ปารีส เมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ.1919 เพื่อจัดการแบ่งสมบัติของฝ่ายผู้แพ้ ปรับค่าทำสงคราม จัดหาบ้านให้ยิว ฯลฯ และเรื่องจัดตั้ง League of Nations (LON) เพื่อจะให้เป็นหน่วยงานสากลระหว่างประเทศ (ต้นกำเนิดของสหประชาชาติ) ในการดูแลแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ ฯลฯ
    ในเรื่องการแบ่งสมบัติ ญี่ปุ่นคิดว่าตนเองควรจะได้บรรดาสมบัติของเยอรมันในแปซิฟิก ที่ตัวไปออกแรงยึดมา แต่กรรมการแบ่ง นำโดยอังกฤษ กลับจัดให้ครึ่งเดียว อีกครึ่งยกให้ออสเตรเลียที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้รางวัล เพราะเป็นเครือเดียวกับอังกฤษ ญี่ปุ่น เลือดขึ้นหน้า แต่น้ำตาตกใน เพิ่งสำนึกถึงสถานะจริงของตัว แหม หลงนึกว่า เขานับเราเป็นเพื่อนซี๊ แบบนี้ไม่ให้จี๋หลวมได้ยังไง
    นอกจากได้ สมบัติมาครึ่งเดียว ระหว่างที่ประชุมเรื่อง League of Nations ญี่ปุ่นเกิดข้องใจ ไปเจอข้อความในร่างข้อบังคับของ LON ที่เขียนเหมือนเป็นการหมิ่น หรือกีดกันเชื่อชาติ คิดว่าตนก็เพิ่งโดนมา จึงออกอาการ ทำการประท้วงยาวเหยียด แต่อเมริกาโดยประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในฐานะประธาน และประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่า บอกว่า แม้จะมีการออกเสียงโดยเสียงข้างมากเห็นชอบ ให้แก้ไขตามที่ญี่ปุ่นเสนอ แต่พณฯ จากประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่าญี่ปุ่น เห็นว่าการแก้ไขต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ประเด็นคะแนนเสียงเอกฉันท์นี้ เป็นความเห็นพ้อง หรือสำทับมาจากอังกฤษ อเมริกาเอง กำลังจะอ่อนให้ญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยต้องแข็งกลับ ญี่ปุ่น ก็เลยเก็บของกลับบ้าน รีบมาหาใบบัวบกกิน แก้ช้ำใจ
    นักประวัติศาสตร์บอกว่า เรื่องที่ประชุมที่ปารีสนี้ คาใจญี่ปุ่นยิ่งนัก และเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เชื้อความรุกรานของญี่ปุ่น รุนแรงขึ้นทุกวัน ในที่สุดก็พัฒนา มาเป็นการเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 5 ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ญี่ปุ่นไปยึดเกาหลี ได้ในปี ค.ศ.1895 และตีจีนกระเจิงกลับบ้านพวกไกยิ่น ฝรั่งชาติต่างๆ โดยเฉพาะอังกฤษ เริ่มหรี่ตามองญี่ปุ่น ไอ้หมอนี่ชักจะเรียนเร็วไปแล้ว แล้วอังกฤษ ก็หลอกญี่ปุ่นให้ทำสัญญามิตรภาพ เมื่อต้นปี ค.ศ.1902 เป็นสัญญาที่ดูเหมือนเอาไว้กันท่ากันชาวบ้าน และกันท่ากันเองด้วย ในสัญญาบอกว่า ญี่ปุ่นรับรู้ว่า อังกฤษมีผลประโยชน์ในจีน ส่วนอังกฤษก็รับรู้ว่า ญี่ปุ่นมีผลประโยชน์ในจีน และในเกาหลี และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องไปรบกับใคร อีกฝ่ายก็จะส่งกำลังไปช่วย เป็นสัญญาที่แสดงความเก๋าของอังกฤษอย่างยิ่ง อังกฤษตาไว มองไกล เห็นหน่วยก้านญี่ปุ่นแล้ว ปล่อยให้ไปอยู่ข้างอื่นไม่ได้ ต้องเอามาอยู่ใกล้ตัว อังกฤษ เตรียมพร้อมที่จะกันท่าญี่ปุ่นเรื่องจีน และพร้อมที่หลอกใช้ญี่ปุ่นด้วย สำหรับอังกฤษ การทำสัญญากับญี่ปุ่น มันเป็นเรื่องยุทธศาสตร์กันท่าอย่างเดียว แต่สำหรับญี่ปุ่น มันเป็นคนละเรื่องกัน ญี่ปุ่นปลาบปลื้มยิ่งนัก ญี่ปุ่นคิดว่า อังกฤษเป็นเพื่อนคนแรกของญี่ปุ่น ที่เห็นคุณค่า และความสามารถของญี่ปุ่น ที่สำคัญ เป็นเพื่อนผมทอง ตาน้ำข้าวที่ญี่ปุ่นปลื้มหนักหนา… ท่านที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษ คงจำกันได้ว่า ญี่ปุ่นลุกขึ้นไปรบรัสเซียในปี ค.ศ.1904 แต่ก่อนจะไปรบ ญี่ปุ่นไม่มีทุน คนที่ช่วยหาทุนให้ญี่ปุ่น คือ ชาวยิวชื่อ Jacob Schiff ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ Kuhn Loeb & Co บริษัทการเงินใหญ่ แห่งวอลสตรีท ที่เป็นร่างทรงของ Rothschild ผู้ปกครองของรัฐบาลอังกฤษ Rothschild มีแผนจะคิดบัญชีซาร์นิโคลัส กษัตริย์ที่ปกครองรัสเซีย และยึดน้ำมันรัสเซีย จึงต้องสร้างปฏิวัติให้รัสเซียน่วมก่อน แต่ก่อนจะสร้างปฏิวัติรัสเซีย อังกฤษก็ยุให้ญี่ปุ่น ที่กำลังอยากแสดงฝีมือ ให้ไปรบให้รัสเซียเซเสียก่อน และทุกอย่างก็เป็นไปแผน ญี่ปุ่นบ้ายุ ไปรบรัสเซีย จนรัสเซียแพ้ เซแซดจริงๆ พอจะเห็นรางๆแล้วนะครับว่า ตั้งแต่เปลี่ยนนิสัย ไม่รักสันโดษ ญี่ปุ่นดูเหมือนไม่อยู่แบบเดี่ยวๆ และทำท่าจะเกี่ยวโยงกันไปหมด เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1914 อังกฤษ เปลี่ยนนโยบายกระทันหัน จากที่เคยคิดปิดล้อมรัสเซีย ก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะรัสเซียเซแซดใกล้ล้ม อังกฤษเลยเปลี่ยน จากล้อมรัสเซีย เป็นเข้าไปต้ม หรือปล้นให้รู้แล้วรู้รอด และไปล้อมเยอรมันแทน เมื่อไม่ต้องรบรัสเซีย อังกฤษคิดไม่ตก ในอังกฤษเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งบอก ญี่ปุ่นเป็นคู่แค้นรัสเซีย ไม่รบรัสเซีย ก็ไม่ต้องชวนญี่ปุ่นเข้าร่วมก๊วน เพราะไม่ไว้ใจว่า ถ้าบอกให้ญี่ปุ่นคอยกันกองทัพเรือเยอรมัน ในแถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นอาจจะฉวยโอกาสแย่งงับเกาะเล็ก เกาะน้อยของเยอรมันแถวแปซิฟิกไป โดยอังกฤษ หันมางับไม่ทันก็เป็นได้ เหมือนกรณีงาบเกาหลีไปจากจีน นับว่า ฝ่ายนี้มองญี่ปุ่นได้ลึกซึ้ง แต่อีกฝ่ายหนึ่งคือ หลอดวินสตัน เชอชิล บอกว่า เหลวไหล เราไม่ชวนญี่ปุ่น แปลว่า เรากลัวเขาจนตีนจิกละสิ แล้วอังกฤษก็เลยชวนญี่ปุ่นเล่นสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยกัน แปลว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ กลัวญี่ปุ่นจนตีนจิกจริงๆ ฮาจริง (โว้ย) หลังจากออกคำชวนไปไม่ถึงสัปดาห์ ญี่ปุ่นไม่ให้เสียเวลา ส่งหนังสือถึงเยอรมัน ให้เยอรมันถอยเรือออกไปจากแปซืฟิกให้หมด เยอรมันไม่ตอบ แต่สั่งให้กองกำลังของตนที่เกาะชิงเตา Tsingtao เตรียมพร้อม วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.1914 ญี่ปุ่นก็ประกาศสงครามกับเยอรมัน และเคลื่อนพลไปยึดบรรดาเกาะต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของเยอรมันเรียบหมด ญี่ปุ่นดูเหมือนจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่พักใหญ่ แต่หลังจากที่กวาดเอาเกาะของเยอรมันมาหมดแล้ว ญี่ปุ่นก็พักเหนื่อย เมื่ออังกฤษขอให้ญี่ปุ่นส่งเรือมาช่วยรบที่ทะเลเมดิเตอเรเนียนกับ ทะเลบอลติก ญี่ปุ่นก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ เมื่อถูกต่อว่า ญี่ปุ่นบอกมีปัญหาภายในกองทัพแก้ไม่ตก นายทหารเรือของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จบมาจากเยอรมันทั้งนั้น แถมเยอรมันยังมาช่าวทำการฝึก การรบ การใช้อาวุธให้อีก ใครจะอยากไปรบกับครู และในญี่ปุ่นเอง เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 มาแล้ว มีเสียงบ่นว่า เราน่าจะเลิกสัญญาบ้าบอที่ไปทำกับอังกฤษเสีย แล้วมาผูกสัมพันธ์กับเยอรมันดีกว่า เรื่องที่ญี่ปุ่นคิดเอาใจออกห่างไปอยู่กับเยอรมัน มีหรือจะไม่ไปถึงหูอังกฤษ อังกฤษยังแค่ลงบัญชีไว้ ยังไม่ถึงคิดบัญชี ญี่ปุ่นก็เลยแสดงความกร่างต่อ ด้วยการยื่นข้อเสนอ 21 ข้อต่อจีน ในปี ค.ศ.1915 ระหว่างที่อังกฤษกำลังวุ่นกับสงครามอยู่ในยุโรป เหมือนกับญี่ปุ่นฉวยโอกาสลองของ ก็รู้อยู่แล้วตามสัญญาที่ทำกับอังกฤษว่า อังกฤษก็เล็งจีนอยู่ แบบนี้อังกฤษจะรับไหวหรือ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่น ก็เริ่มหวานน้อยลง แต่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้สร้าง”รอย” ไว้แค่กับอังกฤษเท่านั้น เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายผู้ชนะสงคราม ได้จัดประชุมขึ้นที่ปารีส เมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ.1919 เพื่อจัดการแบ่งสมบัติของฝ่ายผู้แพ้ ปรับค่าทำสงคราม จัดหาบ้านให้ยิว ฯลฯ และเรื่องจัดตั้ง League of Nations (LON) เพื่อจะให้เป็นหน่วยงานสากลระหว่างประเทศ (ต้นกำเนิดของสหประชาชาติ) ในการดูแลแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ ฯลฯ ในเรื่องการแบ่งสมบัติ ญี่ปุ่นคิดว่าตนเองควรจะได้บรรดาสมบัติของเยอรมันในแปซิฟิก ที่ตัวไปออกแรงยึดมา แต่กรรมการแบ่ง นำโดยอังกฤษ กลับจัดให้ครึ่งเดียว อีกครึ่งยกให้ออสเตรเลียที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้รางวัล เพราะเป็นเครือเดียวกับอังกฤษ ญี่ปุ่น เลือดขึ้นหน้า แต่น้ำตาตกใน เพิ่งสำนึกถึงสถานะจริงของตัว แหม หลงนึกว่า เขานับเราเป็นเพื่อนซี๊ แบบนี้ไม่ให้จี๋หลวมได้ยังไง นอกจากได้ สมบัติมาครึ่งเดียว ระหว่างที่ประชุมเรื่อง League of Nations ญี่ปุ่นเกิดข้องใจ ไปเจอข้อความในร่างข้อบังคับของ LON ที่เขียนเหมือนเป็นการหมิ่น หรือกีดกันเชื่อชาติ คิดว่าตนก็เพิ่งโดนมา จึงออกอาการ ทำการประท้วงยาวเหยียด แต่อเมริกาโดยประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในฐานะประธาน และประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่า บอกว่า แม้จะมีการออกเสียงโดยเสียงข้างมากเห็นชอบ ให้แก้ไขตามที่ญี่ปุ่นเสนอ แต่พณฯ จากประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่าญี่ปุ่น เห็นว่าการแก้ไขต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ประเด็นคะแนนเสียงเอกฉันท์นี้ เป็นความเห็นพ้อง หรือสำทับมาจากอังกฤษ อเมริกาเอง กำลังจะอ่อนให้ญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยต้องแข็งกลับ ญี่ปุ่น ก็เลยเก็บของกลับบ้าน รีบมาหาใบบัวบกกิน แก้ช้ำใจ นักประวัติศาสตร์บอกว่า เรื่องที่ประชุมที่ปารีสนี้ คาใจญี่ปุ่นยิ่งนัก และเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เชื้อความรุกรานของญี่ปุ่น รุนแรงขึ้นทุกวัน ในที่สุดก็พัฒนา มาเป็นการเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 3
    อ่านมาถึงตรงนี้ คงมีหลายคนท้วงว่า นี่มันก็เรื่องธรรมดาของการล่าอาณานิคม จะนักล่าหน้าเก่า หน้าใหม่ มันก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น จีนจะต้องขมอะไรนานนักหนากับญี่ปุ่น
    งั้นคงต้องเอาเหตุการณ์ที่สะพานมาร์โคโปโล หรือที่ชาวจีน เรียกว่า ฆ่าโหดที่นานกิง Masscre of Nanking มาเล่าสู่กันฟังหน่อย
    ปี ค.ศ.1936 ญี่ปุ่นยังตัดสินใจไม่ตกว่า ควรจะขึ้นเหนือ ไปบุกไซบีเรียของโซเวียต เพื่อไปล่าทรัพยากรมาเพิ่ม เพราะของตนเอง (ที่กว้านมาจากเกาหลี และ แมนจูเรีย) กำลังร่อยหรอลงทุกวันจากการใช้เลี้ยงอุตสาหกรรม เและการเลี้ยงท้องพลเมืองญี่ปุ่น ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าบุกไซบีเรีย พวกตะวันตกอาจจะชื่นชมเราก็ได้นะ ที่ซัดหน้าสตาลินได้ ความคิดของตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษ ครอบงำญี่ปุ่นมานานแล้ว
    ปี ค.ศ.1937 องค์ชาย และองค์หญิง ชิชิบุ Chichibu น้องชายและน้องสะใภ้ของ จักรพรรดิ ฮิโรฮิโต Hirohoto เดินทางไปอังกฤษ เพื่อร่วมพิธีขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์จอร์จที่ 6 เป็นช่วงที่สังคมชั้นสูงของอังกฤษ กำลังโต้เถียงกันว่า ระหว่างเยอรมันกับโซเวียต ใครจะเป็นตัวป่วนความศิวิไลซ์ ของโลกมากกว่ากัน แปลง่ายๆ ใครเลวกว่ากัน น่ะครับ ส่วนใหญ่เห็นว่า ฮิตเลอร์ น่าจะเลวน้อยกว่าสตาลิน พวกขุนนางอังกฤษ บอกว่า ยังไง เงินเก่า ขุนนางเก่า น่าจะดีกว่าพวกบอลเชวิก ที่เผลอๆ อาจจะจับเอาพวกเราไปยืนข้างกำแพง แล้วจัดการเรา เหมือนที่ราชวงศ์โรมานอฟ ของรัสเซียโดนก็ได้นะ
    ฝ่ายอเมริกา ที่นำโดยกลุ่มเศรษฐี เช่น Herbert Hoover และ Lindberg ซึ่งต่างก็เป็นตัวเก็งว่า น่าจะเข้าป้าย ได้เป็นประธานาธิบดีสักสมัย ก็มีแนวคัดค้านลัทธิคอม
    มิวนิสม์ อย่างรุนแรง จึงออกจะเอนไปทางเลือกคบเยอรมัน ส่วนพวกนักการเงินแถววอลสตรีท โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนของ นาย Thomas Lamont ยังไม่ลืมเรื่องบอลเชวิก ที่ยกหนี้ให้เยอรมัน( หลังสงครามโลกครั้งที่ 1) แถมไม่ยอมใช้หนี้ที่รัสเซียเป็นหนี้นักการเงินตะวันตก โดยอ้างว่า เป็นหนี้ที่ซาร์ก่อไว้ พวกปฏิวิติไม่รับรู้ เจ้าหนี้นักต้มจากตะวันตกบอก ประหารราชวงศ์ก็เรื่องนึง แต่เรื่องไม่ใช่หนี้ นี่เรื่องใหญ่ (กว่า) พวกนี้ จึงบอกว่าไม่เอาโซเวียตแล้ว
    ที่อังกฤษ ระหว่างการสนทนาของทูตญี่ปุ่นประจำ อังกฤษ นายโยชิดะ Yoshida กับบรรดาขุนนางอังกฤษ นายโยชิดะ บอกว่า น่าเป็นห่วงนะ เชื้อคอม นี่มันแพร่เร็วจริง ตอนนี้กระจายไปถึงแมนจูเรีย ที่กองทัพญี่ปุ่นไปตั้งอยู่แล้วนะ กองทัพญี่ปุ่นทำท่าจะติดเชื้อมาด้วย ทูตช่างเจรจาบอกว่า แต่พวกเราก็ไม่เอาสตาลินนะ และหวังจะเอาความเห็นของอังกฤษ ที่ไม่เอาสตาลิน มาอ้างกับฝ่ายบริหารที่โตเกียวด้วย
    ภาระกิจอย่างหนึ่งขององค์ชายชิชิบุ ในการไปอังกฤษ คือการไปสมานไมตรีระหว่างอังก ฤษกับญี่ปุ่น ที่เคยรักกันจี๊ แต่ตอนหลังๆจี๊หลวมไปหน่อย เลยต้องไปไขให้แน่นขึ้น นอกจากนี้ องค์ชาย ก็ต้องการยืมปากคำอังกฤษ มาใช้อ้างกับฝ่ายทหาร โดยเฉพาะกองทัพที่กวางตุ้ง ให้มุ่งหน้าไปพัฒนาแมนจูเรียกับเกาหลี แต่ถ้าคึกนักทนไม่ไหว ก็ให้เคลื่อนพลขึ้นเหนือไปโน่น ไปรบกับโซเวียตแทน ไม่ใช่ลงใต้มาเอเซีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    แต่ที่โตเกียว อำนาจที่มองไม่เห็น กำลังบีบฝ่ายบริหารของญี่ปุ่น ไม่ให้มุ่งไปเหนือไปรบโซเวียต แต่ให้มุ่งลงใต้แทน โดย ให้กองทัพบุกยึดจีน และอาเซียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ญี่ปุ่นได้ขยายตลาดการค้าที่มีอยู่ และขยายฐานการผลิตให้กว้างใหญ่ขึ้น และที่สำคัญ จะได้เข้าไป ยึดสมบัติของรัฐ และของชาวบ้าน รวมทั้งทรัพยากรมีค่าที่เปิดอ้ารออยู่แล้วในบรรดาประเทศอาณานิคมของพวกตะวันตก นี่มันเหมือนญี่ปุน แยกเป็น 2 ก๊ก ชัดเจนเชียวนะ
    ด้วยเป้าหมายแบบนี้ กองทัพญี่ปุ่นก็ไม่อยากจะปฏิเสธ เรื่องปล้นเอาสมบัติของพวกตะวันตก ที่อยู่ในเอเซีย มันน่าอร่อยจะตาย
    ในความเป็นจริง อำนาจแท้จริงที่แมนจูเรียอยู่ในกำมือของกองทัพญี่ปุ่นกวันตง หรือ คันโต (Kwangtung)ที่ประจำอยู่ที่แมนจูเรีย และกลุ่มพวกใต้ดิน ซึ่งดูแลโดยนายพลโตโจ Tojo Hideki เขาเป็นหัวหน้าหน่วยตำรวจลับ ที่มีแฟ้มประวัติของนายทหารทุก คน ที่ประจำอยู่ที่นั่น การใช้จ่ายของกองทัพคันโต ที่แมนจเรีย ดูแลจัดการโดยพวกนิสสัน Nissan zaibatzu ที่เพิ่งตั้งขึ้น กองทัพเจาะจงเลือกให้นิสสันมารับงาน เพราะกองทัพมีงานต้องทำมากมาย นาย คิชิ Kishi Nobusuke ผู้ชำนาญการ ถูกเลือกมาทำหน้าที่ดูแล รับผิดชอบ เจ้าของนิสสัน ไม่ใช่ใครอื่น เป็นลุงของ คิชิ นั่นเอง
    นิสสัน ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่แมนจูเรีย และร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล จากการทำให้กองทัพที่แมนจูเรีย ร่ำรวยอย่างมหาศาล เช่นเดียวกัน เมื่อรวยถึงขนาดนั้น กองทัพที่แมนจูเรียก็แทบจะเป็น เอกเทศ ไม่ต้องพึ่งงบหลวง ไม่มีสนใจเรื่องยศ เรื่องตำแหน่ง เพราะเลื่อนช้ันกันได้เอง และแม้แต่รัฐบาลญี่ปุ่น ก็ไม่กล้ามาออกเสียงดัง กับกองทัพที่แมนจูเรีย และนายพลโตโจ ก็กำลังเตรียมพร้อม ที่จะไปเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง
    ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่มาจากมาจากฝีมือของนาย คิชิ ผู้ซึ่งดูแลจัดการ ธุรกิจของกองทัพ ซึ่งมีตั้งแต่ การถลุงเหล็ก การทำเหมืองถ่านหิน การทำป่าไม้ การปลูกและผลิตฝิ่น ธุรกิจของ กองทัพคันโต มีมูลค่าขณะนั้น ประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ มีทหาร และพลเรือนในความดูแลที่แมนจูเรีย 7 แสนคน ขณะที่โตเกียวต้องรัดเข็มขัด มีการปันส่วน แต่ที่แมนจูเรียอยู่กันอย่างสุขสบาย ของกินของใช้เหลือเฟือ ความสำเร็จของกองทัพคันโตทำให้ญี่ปุ่น ยิ่งเกิดความกระหาย ที่จะยึดสมบัติคนอื่นมากขึ้น ในสายตาของญี่ปุ่น จีน จึงยิ่งน่ายึดกว่าไซบีเรียของโซเวียต
    #############
    ตอน 4

    วันที่ 7 กรกฏาคม ค.ศ.1937 ระหว่างที่ ครอบครัวชิชิบุ กำลังฉอเลาะกับอังกฤษ กองทัพคันโตก็พร้อมที่จะมอบของขวัญ ให้แก่ชาวจีน ที่สะพานมาร์โคโปโล นอกกรุงปักกิ่ง
    ญี่ปุ่นอ้างว่า มีเสียงปืนดังขึ้น ยิงมาใส่ทหารญี่ปุ่น โดยชายไม่ทราบว่าเป็นใคร (รายงานแบบสื่อหัวสีบ้านเราเลย ฮา) ทหารญี่ปุ่นจึงยิงสวนกลับไป ยิงโต้กันไปโต้กันมาอยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นก็บานปลาย ญี่ปุ่นบอก ต้องตามจับพวกคนจีนมาให้ได้ กองทัพญี่ปุ่น ประเมินว่าเรื่องนี้ น่าจะจบเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนก็คงเสร็จญี่ปุ่น เหมือนเมื่อตอนรบในปี ค.ศ.1931
    ทั้ง 2 ฝ่ายยิงสู้รบกันอย่างดุเดือนถึง 3 เดือนจริงๆ เมื่อกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งใช้ ยุทธศาสตร์ การรบ “เผาให้เรียบ ฆ่าให้หมด ขนให้เกลี้ยง” ไล่ล่าพวกจีนไปถึงแม่น้ำแยงซี ข้ามแม่น้ำไปล้อมเมืองนานกิง ก็ได้ข่าวว่า ฝ่ายการทูตของญี่ปุ่นเอง แอบไปเจรจาสงบศึกกับฝ่ายจีนเรียบร้อยแล้ว โดยติดสินบนจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ ให้แก่นายพลเจียงไคเช็คของจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้นำพรรคชาติชาตินิยม หรือที่เราคุ้นกันว่า พรรคจีนก๊กมินตั๋ง เจียง พร้อมจะรับเงินแล้วทิ้งนานกิงเลิกรบกัน ฝ่ายทหารญี่ปุ่นรู้เรื่องเข้า ก็ไฟธาตุแตก ใครไปตกลง(วะ) ฝ่ายการทูตกับฝ่ายการทหารของญี่ปุ่น พูดกันเองไม่รู้เรื่อง จักรพรรดิฮิโรฮิโต จึงส่ง องค์ชาย อาซากะ Prince Asaka มาบัญชาการแทน
    อาซากะ เป็นอาเขยของจักรพรรดิ ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ทั้งความประพฤติ และอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ในลู่ในทาง และองค์หญิงภรรยา ซึ่งเป็นอาแท้ๆของจักรพรรดิ เพิ่งตายจาก เนื่องจากใช้ชีวิตสังคมทั้งดื่มทั้งเต้นหนัก อาซากะ ก็เลยยิ่งกลับเข้าลู่ยากหน่อย ก็น่าแปลกใจที่จักรพรรดิ ส่งคนอย่างอาซากะไปบัญชาการรบ
    ผู้บัญชาการรบตัวจริง ประจำหน่วยรบที่แยงซี นายพล มัตซุย อิวาเน Matsui Iwane ป่วยเป็นวัณโรคนอนซม ก่อนที่อาซากะจะมาถึงแยงซี เขารู้กิตติศัพท์ของอาซากะดี จึงให้แนวทางการรบเอาไว้ โดยให้กองทัพญี่ปุ่น ยึดแนวอยู่รอบนอกเมืองนานกิง และให้เฉพาะกองพลปืนใหญ่ ที่ควบคุมได้ เข้าไปในเมืองเท่านั้น ห้ามหน่วยรบใด ที่ควบคุมไม่ได้ เข้าไปในเมืองเด็ดขาด และอย่าปฏิบัติการใดที่ผิดกฏหมาย
    ในเวลานั้น ที่เมืองนานกิง เจียงไคเช็ค จอมพลใหญ่ ถอนกองทัพของตัว หายหัวไปหมดแล้ว ชาวนานกิงถูกทิ้งให้ดูแลกันเอง เมื่ออาซากะมาถึง รู้ว่านานกิงถูกล้อม และพร้อมที่จะยอมแพ้ เพราะมีแต่ชาวบ้านเหลืออยู่ แต่อาซากะบอกว่า เราจะให้บทเรียนกับพี่น้องชาวจีน อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม.... We will teach our Chinese brothers a lesson they will never forget…. จีนไม่ลืมจริงๆ และด้วยตราประทับประจำตัว อาซากะ ก็สั่งฆ่าเชลยทั้งหมด … Kill all captives…
    แล้วการชำเรานานกิง หรือ The Rape of Nanking ประวัติศาสตร์ ของการทำร้ายชาวบ้านอย่างโหดเหี้ยมทารุณที่สุด ก็เกิดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937
    ในวันนั้น กองทัพของญี่ปุ่น ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในเมืองนานกิง ตามติดด้วยขบวนรถถัง ปืนใหญ่ และปืนกล ชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในเมืองบอกว่า การยิงใส่ทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้า ของกองทัพญี่ปุ่น ดำเนินติดต่อกันอย่างไม่หยุด ไม่น้อยกว่า 10 วัน มันเหมือนนรกแตก ตลอดเวลานั้น ที่ยิงก็ยิงไป อีกส่วนก็ลากเอาชาวบ้านออกมารวม กัน ผู้หญิงทุกคน ตั้งแต่แก่คราวย่ายาย ถึงเด็กเล็ก ถูกรุมโทรม ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อหน้าครอบครัว ที่ถูกบังคับให้ยืนดู และให้คนในครอบครัว ทำชำเราให้ดูด้วย ถูกชำเราเสร็จ ไม่ตายเอง ก็ถูกฆ่าทิ้ง คนท้องก็ถูกนำมาชำเราด้วย เมื่อชำเราเสร็จ ก็ผ่าท้องเอาทารก มาฆ่าต่อประมาณว่ามี ผู้หญิงและเด็ก กว่า 2 หมื่นคน บางข่าวว่า ถึง 8 หมื่นคน ถูกรุมโทรม และเสียชีวิต
    ส่วนพวกผู้ชาย ถูกนำมามัดไว้ด้วยกัน บ้างถูกโยนทิ้งน้ำทั้งที่ถูกมัด บ้างถูกไฟเผา และที่เหลือถูกปืนกลยิงกราดจนตาย ยังมีพวกผู้ชายบางส่วน อีกประมาณ 2 หมื่นคน ที่อายุรุ่นเกณท์ ถูกให้ฝึกเดินออกจากค่าย โดยทหารญี่ปุ่นใช้คนเหล่านั้น เป็นเป้าเคลื่อนที่ ทดสอบความแม่นยำ และหลายคนถูกใช้เป็นเป้า ทดสอบการตัดหัว
    เหตุการณ์เช่นนี้ ดำเนินอยู่ถึง 3 เดือน จนอากาศเริ่มร้อน และฝนเริ่มตก ชิ้นส่วนศพเป็นพันๆ ชิ้น ที่ถูกทิ้งไว้โผล่ขี้นเต็มเมือง แม่น้ำแยงซีกลายเป็นแม่น้ำเลือด
    สื่อตะวันตกรายงานเหตุการณ์ที่นานกิง อย่างละเอียด อาซากะ ไม่ใช่นายทหารสามัญ เขาเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ ที่จักรพรรดิส่งไปบัญชาการเอง อาซากะถูกเรียกให้กลับโตเกียว แต่อาซากะไม่กลับ
    ระหว่างที่เหตุการณ์โหดที่นานกิงดำเนินอยู่ องค์ชายชิชิบุ ยังอยู่ในยุโรป ข่าวของนานกิง ทำให้ชิชิบฉอเลาะต่อไม่ออก ขณะเดียวกัน ทางวอชิงตันประณามญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ส่วนนอร์เวย์และสวีเดน ยกเลิกหมายกำหนดการต้อนรับชิชิบุ มีแต่ราชินีวิลเฮลมมินา Willhelmina ของฮอลันดา ที่ยังต้อนรับชิชิบุ ตามหมายกำหนดการเดิม เพราะกองทัพเรือญี่ปุ่นใช้น้ำมันจากบริษัท Dutch East Indies
    จากฮอลันดา ชิชิบุ เดินทางไปนูเรมเบิร์ก เพื่อพบกับ อดอลฟ ฮิตเลอร์ ระหว่างทานอาหารกลางวัน ฮิตเลอร์ด่าสตาลินอย่างสาดเสี ยให้ชิชิบุฟัง แล้วชิชิบุก็เปลี่ยนแผน รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น ผ่านอเมริกาโดยไม่แวะ มาขึ้นเรือที่แวนคูเวอร์ ระหว่างทาง เขาได้ยินข่าวว่า ประธานาธิบดี Roosevelt ของอเมริกา ขู่จะคว่ำบาตรญี่ปุ่น ประชาชนอเมริกันสนับสนุนให้ทำ แต่มันยังเป็นแค่คำขู่ เพราะกลุ่มการเงิน Wall Street นำโดย JP Morgan ไม่เห็นด้วย เพราะได้ให้เงินกู้ และลงทุนไปแยะในญี่ปุ่น แมนจูเรีย เกาหลี และไต้หวัน เอะ เรื่องทำท่า จะมาอีหรอบเดิมหรือไง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 3 อ่านมาถึงตรงนี้ คงมีหลายคนท้วงว่า นี่มันก็เรื่องธรรมดาของการล่าอาณานิคม จะนักล่าหน้าเก่า หน้าใหม่ มันก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น จีนจะต้องขมอะไรนานนักหนากับญี่ปุ่น งั้นคงต้องเอาเหตุการณ์ที่สะพานมาร์โคโปโล หรือที่ชาวจีน เรียกว่า ฆ่าโหดที่นานกิง Masscre of Nanking มาเล่าสู่กันฟังหน่อย ปี ค.ศ.1936 ญี่ปุ่นยังตัดสินใจไม่ตกว่า ควรจะขึ้นเหนือ ไปบุกไซบีเรียของโซเวียต เพื่อไปล่าทรัพยากรมาเพิ่ม เพราะของตนเอง (ที่กว้านมาจากเกาหลี และ แมนจูเรีย) กำลังร่อยหรอลงทุกวันจากการใช้เลี้ยงอุตสาหกรรม เและการเลี้ยงท้องพลเมืองญี่ปุ่น ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าบุกไซบีเรีย พวกตะวันตกอาจจะชื่นชมเราก็ได้นะ ที่ซัดหน้าสตาลินได้ ความคิดของตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษ ครอบงำญี่ปุ่นมานานแล้ว ปี ค.ศ.1937 องค์ชาย และองค์หญิง ชิชิบุ Chichibu น้องชายและน้องสะใภ้ของ จักรพรรดิ ฮิโรฮิโต Hirohoto เดินทางไปอังกฤษ เพื่อร่วมพิธีขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์จอร์จที่ 6 เป็นช่วงที่สังคมชั้นสูงของอังกฤษ กำลังโต้เถียงกันว่า ระหว่างเยอรมันกับโซเวียต ใครจะเป็นตัวป่วนความศิวิไลซ์ ของโลกมากกว่ากัน แปลง่ายๆ ใครเลวกว่ากัน น่ะครับ ส่วนใหญ่เห็นว่า ฮิตเลอร์ น่าจะเลวน้อยกว่าสตาลิน พวกขุนนางอังกฤษ บอกว่า ยังไง เงินเก่า ขุนนางเก่า น่าจะดีกว่าพวกบอลเชวิก ที่เผลอๆ อาจจะจับเอาพวกเราไปยืนข้างกำแพง แล้วจัดการเรา เหมือนที่ราชวงศ์โรมานอฟ ของรัสเซียโดนก็ได้นะ ฝ่ายอเมริกา ที่นำโดยกลุ่มเศรษฐี เช่น Herbert Hoover และ Lindberg ซึ่งต่างก็เป็นตัวเก็งว่า น่าจะเข้าป้าย ได้เป็นประธานาธิบดีสักสมัย ก็มีแนวคัดค้านลัทธิคอม มิวนิสม์ อย่างรุนแรง จึงออกจะเอนไปทางเลือกคบเยอรมัน ส่วนพวกนักการเงินแถววอลสตรีท โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนของ นาย Thomas Lamont ยังไม่ลืมเรื่องบอลเชวิก ที่ยกหนี้ให้เยอรมัน( หลังสงครามโลกครั้งที่ 1) แถมไม่ยอมใช้หนี้ที่รัสเซียเป็นหนี้นักการเงินตะวันตก โดยอ้างว่า เป็นหนี้ที่ซาร์ก่อไว้ พวกปฏิวิติไม่รับรู้ เจ้าหนี้นักต้มจากตะวันตกบอก ประหารราชวงศ์ก็เรื่องนึง แต่เรื่องไม่ใช่หนี้ นี่เรื่องใหญ่ (กว่า) พวกนี้ จึงบอกว่าไม่เอาโซเวียตแล้ว ที่อังกฤษ ระหว่างการสนทนาของทูตญี่ปุ่นประจำ อังกฤษ นายโยชิดะ Yoshida กับบรรดาขุนนางอังกฤษ นายโยชิดะ บอกว่า น่าเป็นห่วงนะ เชื้อคอม นี่มันแพร่เร็วจริง ตอนนี้กระจายไปถึงแมนจูเรีย ที่กองทัพญี่ปุ่นไปตั้งอยู่แล้วนะ กองทัพญี่ปุ่นทำท่าจะติดเชื้อมาด้วย ทูตช่างเจรจาบอกว่า แต่พวกเราก็ไม่เอาสตาลินนะ และหวังจะเอาความเห็นของอังกฤษ ที่ไม่เอาสตาลิน มาอ้างกับฝ่ายบริหารที่โตเกียวด้วย ภาระกิจอย่างหนึ่งขององค์ชายชิชิบุ ในการไปอังกฤษ คือการไปสมานไมตรีระหว่างอังก ฤษกับญี่ปุ่น ที่เคยรักกันจี๊ แต่ตอนหลังๆจี๊หลวมไปหน่อย เลยต้องไปไขให้แน่นขึ้น นอกจากนี้ องค์ชาย ก็ต้องการยืมปากคำอังกฤษ มาใช้อ้างกับฝ่ายทหาร โดยเฉพาะกองทัพที่กวางตุ้ง ให้มุ่งหน้าไปพัฒนาแมนจูเรียกับเกาหลี แต่ถ้าคึกนักทนไม่ไหว ก็ให้เคลื่อนพลขึ้นเหนือไปโน่น ไปรบกับโซเวียตแทน ไม่ใช่ลงใต้มาเอเซีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ที่โตเกียว อำนาจที่มองไม่เห็น กำลังบีบฝ่ายบริหารของญี่ปุ่น ไม่ให้มุ่งไปเหนือไปรบโซเวียต แต่ให้มุ่งลงใต้แทน โดย ให้กองทัพบุกยึดจีน และอาเซียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ญี่ปุ่นได้ขยายตลาดการค้าที่มีอยู่ และขยายฐานการผลิตให้กว้างใหญ่ขึ้น และที่สำคัญ จะได้เข้าไป ยึดสมบัติของรัฐ และของชาวบ้าน รวมทั้งทรัพยากรมีค่าที่เปิดอ้ารออยู่แล้วในบรรดาประเทศอาณานิคมของพวกตะวันตก นี่มันเหมือนญี่ปุน แยกเป็น 2 ก๊ก ชัดเจนเชียวนะ ด้วยเป้าหมายแบบนี้ กองทัพญี่ปุ่นก็ไม่อยากจะปฏิเสธ เรื่องปล้นเอาสมบัติของพวกตะวันตก ที่อยู่ในเอเซีย มันน่าอร่อยจะตาย ในความเป็นจริง อำนาจแท้จริงที่แมนจูเรียอยู่ในกำมือของกองทัพญี่ปุ่นกวันตง หรือ คันโต (Kwangtung)ที่ประจำอยู่ที่แมนจูเรีย และกลุ่มพวกใต้ดิน ซึ่งดูแลโดยนายพลโตโจ Tojo Hideki เขาเป็นหัวหน้าหน่วยตำรวจลับ ที่มีแฟ้มประวัติของนายทหารทุก คน ที่ประจำอยู่ที่นั่น การใช้จ่ายของกองทัพคันโต ที่แมนจเรีย ดูแลจัดการโดยพวกนิสสัน Nissan zaibatzu ที่เพิ่งตั้งขึ้น กองทัพเจาะจงเลือกให้นิสสันมารับงาน เพราะกองทัพมีงานต้องทำมากมาย นาย คิชิ Kishi Nobusuke ผู้ชำนาญการ ถูกเลือกมาทำหน้าที่ดูแล รับผิดชอบ เจ้าของนิสสัน ไม่ใช่ใครอื่น เป็นลุงของ คิชิ นั่นเอง นิสสัน ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่แมนจูเรีย และร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล จากการทำให้กองทัพที่แมนจูเรีย ร่ำรวยอย่างมหาศาล เช่นเดียวกัน เมื่อรวยถึงขนาดนั้น กองทัพที่แมนจูเรียก็แทบจะเป็น เอกเทศ ไม่ต้องพึ่งงบหลวง ไม่มีสนใจเรื่องยศ เรื่องตำแหน่ง เพราะเลื่อนช้ันกันได้เอง และแม้แต่รัฐบาลญี่ปุ่น ก็ไม่กล้ามาออกเสียงดัง กับกองทัพที่แมนจูเรีย และนายพลโตโจ ก็กำลังเตรียมพร้อม ที่จะไปเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่มาจากมาจากฝีมือของนาย คิชิ ผู้ซึ่งดูแลจัดการ ธุรกิจของกองทัพ ซึ่งมีตั้งแต่ การถลุงเหล็ก การทำเหมืองถ่านหิน การทำป่าไม้ การปลูกและผลิตฝิ่น ธุรกิจของ กองทัพคันโต มีมูลค่าขณะนั้น ประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ มีทหาร และพลเรือนในความดูแลที่แมนจูเรีย 7 แสนคน ขณะที่โตเกียวต้องรัดเข็มขัด มีการปันส่วน แต่ที่แมนจูเรียอยู่กันอย่างสุขสบาย ของกินของใช้เหลือเฟือ ความสำเร็จของกองทัพคันโตทำให้ญี่ปุ่น ยิ่งเกิดความกระหาย ที่จะยึดสมบัติคนอื่นมากขึ้น ในสายตาของญี่ปุ่น จีน จึงยิ่งน่ายึดกว่าไซบีเรียของโซเวียต ############# ตอน 4 วันที่ 7 กรกฏาคม ค.ศ.1937 ระหว่างที่ ครอบครัวชิชิบุ กำลังฉอเลาะกับอังกฤษ กองทัพคันโตก็พร้อมที่จะมอบของขวัญ ให้แก่ชาวจีน ที่สะพานมาร์โคโปโล นอกกรุงปักกิ่ง ญี่ปุ่นอ้างว่า มีเสียงปืนดังขึ้น ยิงมาใส่ทหารญี่ปุ่น โดยชายไม่ทราบว่าเป็นใคร (รายงานแบบสื่อหัวสีบ้านเราเลย ฮา) ทหารญี่ปุ่นจึงยิงสวนกลับไป ยิงโต้กันไปโต้กันมาอยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นก็บานปลาย ญี่ปุ่นบอก ต้องตามจับพวกคนจีนมาให้ได้ กองทัพญี่ปุ่น ประเมินว่าเรื่องนี้ น่าจะจบเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนก็คงเสร็จญี่ปุ่น เหมือนเมื่อตอนรบในปี ค.ศ.1931 ทั้ง 2 ฝ่ายยิงสู้รบกันอย่างดุเดือนถึง 3 เดือนจริงๆ เมื่อกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งใช้ ยุทธศาสตร์ การรบ “เผาให้เรียบ ฆ่าให้หมด ขนให้เกลี้ยง” ไล่ล่าพวกจีนไปถึงแม่น้ำแยงซี ข้ามแม่น้ำไปล้อมเมืองนานกิง ก็ได้ข่าวว่า ฝ่ายการทูตของญี่ปุ่นเอง แอบไปเจรจาสงบศึกกับฝ่ายจีนเรียบร้อยแล้ว โดยติดสินบนจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ ให้แก่นายพลเจียงไคเช็คของจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้นำพรรคชาติชาตินิยม หรือที่เราคุ้นกันว่า พรรคจีนก๊กมินตั๋ง เจียง พร้อมจะรับเงินแล้วทิ้งนานกิงเลิกรบกัน ฝ่ายทหารญี่ปุ่นรู้เรื่องเข้า ก็ไฟธาตุแตก ใครไปตกลง(วะ) ฝ่ายการทูตกับฝ่ายการทหารของญี่ปุ่น พูดกันเองไม่รู้เรื่อง จักรพรรดิฮิโรฮิโต จึงส่ง องค์ชาย อาซากะ Prince Asaka มาบัญชาการแทน อาซากะ เป็นอาเขยของจักรพรรดิ ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ทั้งความประพฤติ และอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ในลู่ในทาง และองค์หญิงภรรยา ซึ่งเป็นอาแท้ๆของจักรพรรดิ เพิ่งตายจาก เนื่องจากใช้ชีวิตสังคมทั้งดื่มทั้งเต้นหนัก อาซากะ ก็เลยยิ่งกลับเข้าลู่ยากหน่อย ก็น่าแปลกใจที่จักรพรรดิ ส่งคนอย่างอาซากะไปบัญชาการรบ ผู้บัญชาการรบตัวจริง ประจำหน่วยรบที่แยงซี นายพล มัตซุย อิวาเน Matsui Iwane ป่วยเป็นวัณโรคนอนซม ก่อนที่อาซากะจะมาถึงแยงซี เขารู้กิตติศัพท์ของอาซากะดี จึงให้แนวทางการรบเอาไว้ โดยให้กองทัพญี่ปุ่น ยึดแนวอยู่รอบนอกเมืองนานกิง และให้เฉพาะกองพลปืนใหญ่ ที่ควบคุมได้ เข้าไปในเมืองเท่านั้น ห้ามหน่วยรบใด ที่ควบคุมไม่ได้ เข้าไปในเมืองเด็ดขาด และอย่าปฏิบัติการใดที่ผิดกฏหมาย ในเวลานั้น ที่เมืองนานกิง เจียงไคเช็ค จอมพลใหญ่ ถอนกองทัพของตัว หายหัวไปหมดแล้ว ชาวนานกิงถูกทิ้งให้ดูแลกันเอง เมื่ออาซากะมาถึง รู้ว่านานกิงถูกล้อม และพร้อมที่จะยอมแพ้ เพราะมีแต่ชาวบ้านเหลืออยู่ แต่อาซากะบอกว่า เราจะให้บทเรียนกับพี่น้องชาวจีน อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม.... We will teach our Chinese brothers a lesson they will never forget…. จีนไม่ลืมจริงๆ และด้วยตราประทับประจำตัว อาซากะ ก็สั่งฆ่าเชลยทั้งหมด … Kill all captives… แล้วการชำเรานานกิง หรือ The Rape of Nanking ประวัติศาสตร์ ของการทำร้ายชาวบ้านอย่างโหดเหี้ยมทารุณที่สุด ก็เกิดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937 ในวันนั้น กองทัพของญี่ปุ่น ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในเมืองนานกิง ตามติดด้วยขบวนรถถัง ปืนใหญ่ และปืนกล ชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในเมืองบอกว่า การยิงใส่ทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้า ของกองทัพญี่ปุ่น ดำเนินติดต่อกันอย่างไม่หยุด ไม่น้อยกว่า 10 วัน มันเหมือนนรกแตก ตลอดเวลานั้น ที่ยิงก็ยิงไป อีกส่วนก็ลากเอาชาวบ้านออกมารวม กัน ผู้หญิงทุกคน ตั้งแต่แก่คราวย่ายาย ถึงเด็กเล็ก ถูกรุมโทรม ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อหน้าครอบครัว ที่ถูกบังคับให้ยืนดู และให้คนในครอบครัว ทำชำเราให้ดูด้วย ถูกชำเราเสร็จ ไม่ตายเอง ก็ถูกฆ่าทิ้ง คนท้องก็ถูกนำมาชำเราด้วย เมื่อชำเราเสร็จ ก็ผ่าท้องเอาทารก มาฆ่าต่อประมาณว่ามี ผู้หญิงและเด็ก กว่า 2 หมื่นคน บางข่าวว่า ถึง 8 หมื่นคน ถูกรุมโทรม และเสียชีวิต ส่วนพวกผู้ชาย ถูกนำมามัดไว้ด้วยกัน บ้างถูกโยนทิ้งน้ำทั้งที่ถูกมัด บ้างถูกไฟเผา และที่เหลือถูกปืนกลยิงกราดจนตาย ยังมีพวกผู้ชายบางส่วน อีกประมาณ 2 หมื่นคน ที่อายุรุ่นเกณท์ ถูกให้ฝึกเดินออกจากค่าย โดยทหารญี่ปุ่นใช้คนเหล่านั้น เป็นเป้าเคลื่อนที่ ทดสอบความแม่นยำ และหลายคนถูกใช้เป็นเป้า ทดสอบการตัดหัว เหตุการณ์เช่นนี้ ดำเนินอยู่ถึง 3 เดือน จนอากาศเริ่มร้อน และฝนเริ่มตก ชิ้นส่วนศพเป็นพันๆ ชิ้น ที่ถูกทิ้งไว้โผล่ขี้นเต็มเมือง แม่น้ำแยงซีกลายเป็นแม่น้ำเลือด สื่อตะวันตกรายงานเหตุการณ์ที่นานกิง อย่างละเอียด อาซากะ ไม่ใช่นายทหารสามัญ เขาเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ ที่จักรพรรดิส่งไปบัญชาการเอง อาซากะถูกเรียกให้กลับโตเกียว แต่อาซากะไม่กลับ ระหว่างที่เหตุการณ์โหดที่นานกิงดำเนินอยู่ องค์ชายชิชิบุ ยังอยู่ในยุโรป ข่าวของนานกิง ทำให้ชิชิบฉอเลาะต่อไม่ออก ขณะเดียวกัน ทางวอชิงตันประณามญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ส่วนนอร์เวย์และสวีเดน ยกเลิกหมายกำหนดการต้อนรับชิชิบุ มีแต่ราชินีวิลเฮลมมินา Willhelmina ของฮอลันดา ที่ยังต้อนรับชิชิบุ ตามหมายกำหนดการเดิม เพราะกองทัพเรือญี่ปุ่นใช้น้ำมันจากบริษัท Dutch East Indies จากฮอลันดา ชิชิบุ เดินทางไปนูเรมเบิร์ก เพื่อพบกับ อดอลฟ ฮิตเลอร์ ระหว่างทานอาหารกลางวัน ฮิตเลอร์ด่าสตาลินอย่างสาดเสี ยให้ชิชิบุฟัง แล้วชิชิบุก็เปลี่ยนแผน รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น ผ่านอเมริกาโดยไม่แวะ มาขึ้นเรือที่แวนคูเวอร์ ระหว่างทาง เขาได้ยินข่าวว่า ประธานาธิบดี Roosevelt ของอเมริกา ขู่จะคว่ำบาตรญี่ปุ่น ประชาชนอเมริกันสนับสนุนให้ทำ แต่มันยังเป็นแค่คำขู่ เพราะกลุ่มการเงิน Wall Street นำโดย JP Morgan ไม่เห็นด้วย เพราะได้ให้เงินกู้ และลงทุนไปแยะในญี่ปุ่น แมนจูเรีย เกาหลี และไต้หวัน เอะ เรื่องทำท่า จะมาอีหรอบเดิมหรือไง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: "EU เตรียมปรับกฎหมายดิจิทัล ลดการเด้ง Cookie Banner"

    สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎหมายดิจิทัล โดยเฉพาะ General Data Protection Regulation (GDPR) ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อนเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นที่มาของ cookie banner ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคุ้นเคยและมักรู้สึกว่ารบกวนการใช้งาน.

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนและภาระทางกฎหมาย โดยจะทำให้ cookie banner ปรากฏน้อยลง และผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมได้จาก ศูนย์กลางในเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ แทนที่จะต้องกดยอมรับทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์ใหม่.

    นอกจาก GDPR แล้ว ยังมีการปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ เช่น EU Data Act ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT และ AI Act ที่กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI อย่าง ChatGPT และ Gemini โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้บางส่วนตั้งแต่สิงหาคมปีหน้า.

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิผู้บริโภค เช่น Amnesty International และสมาชิกสภายุโรปบางส่วน เตือนว่าการลดความเข้มงวดอาจเป็นการ “เปิดช่องให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ” และอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนใน EU อ่อนแอลง.

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลง GDPR
    ลดจำนวนครั้งที่ cookie banner ปรากฏ
    ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมผ่านเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ

    การปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ
    EU Data Act: เพิ่มสิทธิผู้ใช้ในการจัดการข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT
    AI Act: กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI เช่น ChatGPT และ Gemini

    เป้าหมายของ EU Commission
    ลดภาระทางกฎหมายและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล
    ปิดช่องว่างนวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพในยุโรป

    คำเตือนด้านสิทธิผู้บริโภค
    องค์กรสิทธิมนุษยชนเตือนว่าอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวอ่อนแอลง

    คำเตือนด้านการกำกับดูแล
    การลดความเข้มงวดอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการละเมิดข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/039accept-all-cookies039-update-to-eu-digital-law-could-change-browsing
    🌐 หัวข้อข่าว: "EU เตรียมปรับกฎหมายดิจิทัล ลดการเด้ง Cookie Banner" สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาปรับปรุงกฎหมายดิจิทัล โดยเฉพาะ General Data Protection Regulation (GDPR) ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อนเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นที่มาของ cookie banner ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคุ้นเคยและมักรู้สึกว่ารบกวนการใช้งาน. การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนและภาระทางกฎหมาย โดยจะทำให้ cookie banner ปรากฏน้อยลง และผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมได้จาก ศูนย์กลางในเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ แทนที่จะต้องกดยอมรับทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์ใหม่. นอกจาก GDPR แล้ว ยังมีการปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ เช่น EU Data Act ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT และ AI Act ที่กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI อย่าง ChatGPT และ Gemini โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้บางส่วนตั้งแต่สิงหาคมปีหน้า. อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิผู้บริโภค เช่น Amnesty International และสมาชิกสภายุโรปบางส่วน เตือนว่าการลดความเข้มงวดอาจเป็นการ “เปิดช่องให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ” และอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนใน EU อ่อนแอลง. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลง GDPR ➡️ ลดจำนวนครั้งที่ cookie banner ปรากฏ ➡️ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าความยินยอมผ่านเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการ ✅ การปรับปรุงกฎหมายอื่น ๆ ➡️ EU Data Act: เพิ่มสิทธิผู้ใช้ในการจัดการข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ➡️ AI Act: กำหนดข้อบังคับสำหรับระบบ AI เช่น ChatGPT และ Gemini ✅ เป้าหมายของ EU Commission ➡️ ลดภาระทางกฎหมายและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล ➡️ ปิดช่องว่างนวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพในยุโรป ‼️ คำเตือนด้านสิทธิผู้บริโภค ⛔ องค์กรสิทธิมนุษยชนเตือนว่าอาจทำให้สิทธิความเป็นส่วนตัวอ่อนแอลง ‼️ คำเตือนด้านการกำกับดูแล ⛔ การลดความเข้มงวดอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการละเมิดข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/039accept-all-cookies039-update-to-eu-digital-law-could-change-browsing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Accept all cookies?' Update to EU digital law could change browsing
    Now, in an attempt to cut red tape and simplify the experience of browsing the web, EU lawmakers want to significantly change the bloc's digital laws, considered among the world's strictest for data privacy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 2
    จะเท่าเทียมชาติตะวันตกในสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของยุโรป หมายความว่าญี่ปุ่นก็ต้องฝึกหัด เป็นนักล่ากับเขาด้วย จะนั่งตกปลา แต่งสวน มองก้อนหิน อย่างเดิมๆ มันจะไปล่าอะไรได้ แล้วจะไปเริ่มล่าใครดีล่ะ ก็ต้องเริ่มทดสอบกับพวกอยู่ใกล้ๆตัว แล้ว เกาหลี ที่อยู่คนละฟากฝั่งทะเล ก็เป็นเป้าหมายแรก สำหรับนักล่าหน้าใหม่ จากรักสันโดษ เปลี่ยนไปสร้างสันดานใหม่
    ปี ค.ศ.1876 เกาหลี ยังทำตัวตามสบาย ไม่คิดฝันว่าจะไปผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใคร จะคิดปฏิรูปประเทศตามก้นตะวันตกแบบญี่ปุ่น ยิ่งนึกไม่ออกใหญ่ และก็ (ยัง) ไม่เป็นเป้าหมายที่ตะวันตกสาระพัดชาติเล็งจนน้ำลายหก แบบที่ทำกับจีน แต่ที่สำคัญ เกาหลี อุดมไปด้วยเหล็ก และถ่านหิน ญี่ปุ่นคิดว่า ถ้าจะเปลี่ยนประเทศจากกสิกรรม เป็นอุตสาหกรรม มันก็ต้องหาทรัพยากรพวกนี้ไว้ เพราะญี่ปุ่นเอง มีแต่ปลากับสาหร่าย พวกแร่เหล็ก ถ่านหินหาไม่ค่อยเจอ คิดแล้ว เป้าซ้อมการล่า ชื่อเกาหลี นี่น่าจะเหมาะเจาะกว่าเพื่อน
    ปัญหาอยู่ที่ว่า เกาหลี เป็นเมืองที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการ หรือ ส่งส่วยให้กับจีนทุกปี กษัตริย์เกาหลี ต้องแต่งตัวเต็มยศ ไปโค้งคำนับคารวะฮ่องเต้จีน ญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็เดินหน้า ไม่ลองไม่รู้ ฉวยโอกาสตอนจีนกำลังมึน จากการถูกกลุ่มนักล่าตะวันตก รุมสกรัม นั่นแหละเหมาะที่สุด แล้วญี่ปุ่นก็ยกกองทัพไปบุกเกาหลี แล้วก็บังคับให้เกาหลีทำข้อตกลง ยกเลิกอำนาจจีน ที่มีเหนือเกาหลี เกาหลี ตกใจ เลย ตกลง นับว่า นักล่าหน้าใหม่สอบผ่าน เรียนได้เร็ว สงสัยมีครูดี
    ปี ค.ศ.1894 เกาหลีเกิดตะลุมบอนกันเอง จีนยังมองเกาหลี เป็นเด็กในปกครอง จึงส่งกองกำลังมาห้ามมวย ส่วนญี่ปุ่น นักล่าหน้าใหม่ เห็นเกาหลีเหยื่อหมาดๆ มีเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องโชว์มาดลูกพี่ ส่งกองกำลังไปเกาหลีด้วยเหมือนกัน เลยจ้ะเอ๋กับกองกำลังของจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องแสดงความเก่งกล้า ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวเกาหลี ก็เลยเป็นสาเหตุของสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1894-1895
    ผลการรบปรากฏว่า จีน แพ้ ญี่ปุ่น อย่างหมดรูป จีนถอยทัพหงอยๆ ออกไปจากเกาหลี แต่ญี่ปุ่นไม่ถอยกลับ ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิม ล่าครั้งแรกก็ได้ผลแล้ว แถม นายเก่าของเหยื่อ ยังมาแพ้ต่อหน้าลูกกระเป๋งแบบไม่ เหลือรัศมี ญี่ปุ่นเลยจับมือเกาหลี ทำสัญญาใหม่ คราวนี้เอาให้ชัดๆ เกาหลี เจ้าตกเป็นเมืองขึ้นของเรา ญี่ปุ่น แล้วนะ ส่วย บรรณาการอะไร ที่เคยส่งให้แก่จีน ก็จงเลิกส่งเสีย และส่งมาให้เราแทน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยัง ยึดหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นของจีน ติดไม้ติดมือไปด้วย เกาะสำคัญที่ติดมือมาก็คือ เกาะไต้หวัน นั่นแหละ
    แค่นั้น ยังไม่หน่ำใจ ญี่ปุ่นไปยึดเอาแหลมเลี่ยวตง Liaodong Penninsula ที่บรรดาชาติตะวันตก ต่างก็เล็งจะฮุบมาจากจีน แต่จีนดันเอาแหลมเลี่ยวตง ให้รัสเซียเช่าไปนานแล้ว คราวนี้ก็สนุกซิครับ ญี่ปุ่นยิ่งเบ่งพองขึ้นไปใหญ่ เกาหลีและจีน ได้เห็นอานุภาพกองทัพของญี่ปุ่นรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้ อิทธิพลของรัสเซียในเกาหลี และที่แมนจูเรีย กำลังจะถูกท้าทายเป็นลำดับต่อไป สันดานใหม่นี่มันโตไวจัง
    แล้วรัสเซียก็ถูกญี่ปุ่นท้าทายจริงๆ รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้อย่างหมดท่า อีกราย ในการรบกับญี่ปุ่น Russo-Japan War ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นชั้น เป็นชาติมหาอำนาจทันที ญี่ปุ่นยึดแหลมเลี่ยวตง หรือแคว้นกวางตุ้ง นั่นแหละ ที่รัสเซียเช่ามาจากจีน แถมยึดลามไปเอาสมบัตืของแมนจูเรีย คือทางรถไฟ สายแมนจูเรียอีกด้วย อืม..เรื่องทางรถไฟมาอีกแล้ว จำไว้นะครับ สมัยก่อน ทางรถไฟคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ
    ลำพังญี่ปุ่นเอง เป็นนักล่าหน้าใหม่ ไม่น่าจะขวัญกล้าสามารถ เดินหน้าไปท้ารบรัสเซีย ที่รุ่นใหญ่กว่าแยะนัก และรบชนะเสียด้วย ถ้ายังจำกันได้ (สำหรับท่าน ที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษมาแล้ว) ญี่ปุ่น มีคนชักใย และช่วยหาทุนก้อนมหึมาให้ไปรบรัสเซีย เรื่องนี้ ลืมไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจญี่ปุ่นไขว้เข้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นเอง อาจจะกำลังเขว้อยู่
    หลังสงครามญี่ปุ่นรัสเซียจบลง ญี่ปุ่น ประกาศผนวกเกาหลี เป็นของตัวในปี ค.ศ.1910 ญี่ปุ่นชักเชื่อว่า แนวทางปฏิรูปประเทศ ที่เอาอย่างตะวันตก ขยายกองทัพเพื่อไปล่าเหยื่อ นี่ มันถูกทาง และมันอร่อยถูกปากจริงๆ
    สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นไปเข้าร่วมสงครามกับเขาด้วย โดยอยู่ฝ่ายพวกอังกฤษ Allied Powers ไม่ได้ไปรบอะไรกับเขาในยุโรปหรอก แค่ เตรียมไล่ เก็บเล็กเก็บน้อย พวกอาณานิคมของเยอรมัน ที่อยู่แถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังเดินตามรอยตีนนักล่ารุ่นใหญ่ อย่างขมักเขม้น และดูเหมือนนักล่ารุ่นใหญ่ ก็ไม่ได้ขัดขวาง หรือขัดคอ เพราะกำลังไม่ว่างมือว่างปาก
    ญี่ปุ่นเลยกำแหงได้ใจ ส่งหนังสือเรียกร้อง 21 ข้อ ไปถึงจีน ที่เรียกว่า The Twenty-One Demands ในปี ค.ศ.1915 ข้อเรียกร้องที่เป็นที่ฮือฮา คือ ญี่ปุ่นต้องการให้จีนส่งมอบการครอบครอง ท่าเรือ ทางรถไฟ เหมืองแร่ ฯลฯ ที่เป็นของเยอรมัน หรือที่เยอรมันเช่าไปจากจีน ให้ญี่ปุ่น แต่ข้อเรียกร้องสุดท้ายของญี่ปุ น นี่สุดยอดที่สุด คือ ให้จีน แต่งตั้งญี่ปุ่นเป็น ที่ปรึกษา การบริหารบ้านเมือง ทั้งในด้านการทหาร การค้า การปกครอง และ ขอเป็นตำรวจร่วมด้วย สรุป แปลความหนังสือเรียกร้อง 21ข้อ สั้นๆของญี่ปุ่น ถึงจีน ว่า กูจะกินมึงแล้วนะ นั่นแหละ มีปัญหาไหม
    จีนเอง กำลังมีเรื่องวุ่นวาย หลังจาก ซุนยัดเซ็น ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิง เมื่อปี ค.ศ.1911 ปฏิวัติสำเร็จ แต่ปกครองไม่ได้ จีนแบ่งเป็นก๊กเป็นพวก แย่งชิงอำนาจ หักเหลี่ยม หักหลังกันเองอยู่หลายปี มันเป็นจังหวะเหมาะแก่การ ปีนบ้านเข้าไปตีหัวเขา ระหว่างที่เขากำลังชุลมุนกัน จีนหมดทางสู้ญี่ปุ่น ทำท่าจะยอม แต่จีนเป็นเหยื่อรายใหญ่ คิดว่า นักล่ารุ่นใหญ่ เขาจะปล่อยให้นักล่าหน้าใหม่ ฉวยโอกาสคาบเอาไปง่ายๆหรือ การแย่งชามข้าวกับแบบเอิกเกริก ก็สามารถทำใ้ห้ชามกลิ้งคว่ำข้าวหก พากันอดแดกกันหมดได้ ขบวนการขัดคอ ขวางทาง ญี่ปุ่น จึงมาจากทุกทิศ ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ แบบด้านๆ ของญี่ปุ่น
    ก็เลยฝ่อไปดื้อๆ
    แล้วบรรยากาศความเป็นมิตร ก็เรื่มเปลี่ยน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบไม่เหมือนแผนที่วางไว้ หลายประเทศในยุโรป จบแบบช้ำชอกฉิบหาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เช่น อังกฤษตัวตั้งตัวตี หรือฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ที่อ้างว่าเป็นกลาง แต่ญี่ปุ่น มาร่วมสงครามแบบเสมอนอก นอกจากไม่ช้ำ เพราะไม่ได้ไปร่วมรบกับเขา แต่ดันฉวยโอกาส ไปอมของคนอื่นเขามาเสียเต็มปาก แบบนี้ ลูกพี่นักล่ารุ่นใหญ่ก็คงไม่เอ็นดูน้องใหม่เท่าไหร่ แม้จะเคยบอกรับให้เป็นสมาชิกใหม่อนาคตรุ่ง แต่เรื่องตัดหน้าคาบเหยื่อไปนี่ มันยอมให้กันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเสียทั้งหน้า เสียทั้งเหยื่อ
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายนิยมการสร้างกองทัพ เป็นผู้มีอำนาจบริหารญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงยิ่งเหมือนว่าวติดลมบน หมายมั่นจะแผ่อำนาจของตน ไปครอบคลุมจีนให้ได้ เพราะช่วงระหว่างสงครามนั้น จีนกำลังอ่อนแอ เหมาะสำหรับที่จะงับทีละคำๆ แต่หลังจากสงครามโลกจบ จีนที่แตกเป็นหลายก๊ก กลับมีการเคลื่อนไหว โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง รวมตัวกันได้ และยึดส่วนใต้ของจีน เป็นเขตของตัว ตั้งรัฐบาลฝ่าย Nationalist government และตั้งเมืองนานกิง Nanking หรือบ้างก็เรียก นานจิง Nanjing เป็นเมืองหลวงของตัว ส่วนฝ่ายฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสม์ ขึ้นไปยึดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ระหว่างก๊ก จะยังมีสู้กันเองบ้าง แต่ก็เริ่มมีทั้งกวาดล้างและกวาดมารวมกัน ปี ค.ศ. 1928 จีนจึงเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น
    ญี่ปุ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เห็นจีนกำลังแก้แหที่ถูกโยนมาคลุมประเทศอย่างน่าสนใจ นี่ถ้าจีนฟื้น ทางรถไฟแมนจูเรีย และแคว้นกวางตุ้ง ที่เราไปจิกมาก็น่าจะไม่ปลอดภัย ญี่ปุ่นพยายามมาเกือบ 50 ปี ที่จะไม่ต้องมีชะตากรรมอย่างจีน มาบัดนี้ จีนดันจะฟื้น ญี่ปุ่นทนไม่ไหว รีบเปลี่ยนยุทธศาสตร์
    ปี ค.ศ.1931 ญี่ปุ่น ตัดสินใจบุกแมนจูเรีย เพื่อดูแลผลประโยชน์ (ที่ตัวเองไปยึดมา) ในแมนจูเรีย และกวางตุ้ง ญี่ปุ่นตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมา เหมือนเป็นรัฐเถื่อน เพราะไม่มีใครรับรอง ญี่ปุ่นไม่มีพวกสนับสนุนในเรื่องนี้ แถมทำให้จีนหันกลับมาสู้กับญี่ปุ่นต่อ การปะทะกัน เริ่มกลับมาใหม่
    ในที่สุด ญี่ปุ่นก็ยั่วยุสำเร็จ สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรอบ 2 ที่ สะพาน มาร์โคโปโลก็เกิดขึ้น ในปีค.ศ.1937 สงครามระหว่างจีน กับญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้จบเร็วอย่าง สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ครั้งนี้ พวกก๊กต่างๆ ของจีนสงบศึกกันเองชั่วคราว จับมือกันสู้ยิบตากับญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมสงบศึกกับญี่ปุ่น ที่เสนอเงื่อนไข หลอกให้จีนรับ เพื่อที่จะให้จีนอดตาย การรบยือเยื้อไปถึงปี ค.ศ.1941 และในที่สุด ก็เลิกรบกันไป เพราะญี่ปุ่น เปลี่ยนไปรบสนามใหญ่เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
    แต่การรบกับจีนครั้งนี้ แม้จะเหมือนชนะ แต่ญี่ปุ่นก็ยับเยิน มันเป็นการประเมินผิด ของญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
    การรบยืดเยื้อกับจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น และกองทัพระเนระนาด ยาง เหล็ก น้ำมัน ร่อยหรอ และญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเหลือเลยในภูมืภาค นอกจากนั้น ในสายตาของนักล่านานาชาติ ยังรุมกันประณามญี่ปุ่นอีกว่า เป็นนักรุกราน ไม่มีใครคิดยื่นมือมาช่วยญี่ปุ่นรบจีน ภาพพจน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นชาติโหดร้าย ชอบรุกราน และในที่สุดอเมริกาก็ประกาศคว่ำบาตรญี่ปุ่นด้านการค้า
    มาถึงตอนนี้ เหมือนญี่ปุ่นตัดสินใจผิดพลาด สู้อุตส่าห์ปฏิรูปประเทศ เดินตามหมากฝรั่งเพี้ยบเลย แต่ทำไม พอญี่ปุ่นทำเหมือนตะวันตก แต่ตะวันตกกลับไม่พอใจ เอะ จะเอายังไงกันแน่
    ญี่ปุ่นเดืนตามก้นตะวันตกมาถึงกลางทาง แต่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรเหลือแล้ว มีแต่จะต้องเดินหน้าไปเอาของคนอื่น ญี่ปุ่นมีของคนอื่นให้เลือก 2 แห่ง แห่งหนึ่ง คือ ขึ้นเหนือไปไซบีเรีย ไปเอาของรัสเซีย อีกแห่งคือ ลงใต้ มาเอาแถบแปซิฟิก แต่ แปซืฟิกใต้ ส่วนใหญ่ ก็เป็น อาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็เลือกลงใต้บุกแปซิฟิก !?!
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 2 จะเท่าเทียมชาติตะวันตกในสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของยุโรป หมายความว่าญี่ปุ่นก็ต้องฝึกหัด เป็นนักล่ากับเขาด้วย จะนั่งตกปลา แต่งสวน มองก้อนหิน อย่างเดิมๆ มันจะไปล่าอะไรได้ แล้วจะไปเริ่มล่าใครดีล่ะ ก็ต้องเริ่มทดสอบกับพวกอยู่ใกล้ๆตัว แล้ว เกาหลี ที่อยู่คนละฟากฝั่งทะเล ก็เป็นเป้าหมายแรก สำหรับนักล่าหน้าใหม่ จากรักสันโดษ เปลี่ยนไปสร้างสันดานใหม่ ปี ค.ศ.1876 เกาหลี ยังทำตัวตามสบาย ไม่คิดฝันว่าจะไปผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใคร จะคิดปฏิรูปประเทศตามก้นตะวันตกแบบญี่ปุ่น ยิ่งนึกไม่ออกใหญ่ และก็ (ยัง) ไม่เป็นเป้าหมายที่ตะวันตกสาระพัดชาติเล็งจนน้ำลายหก แบบที่ทำกับจีน แต่ที่สำคัญ เกาหลี อุดมไปด้วยเหล็ก และถ่านหิน ญี่ปุ่นคิดว่า ถ้าจะเปลี่ยนประเทศจากกสิกรรม เป็นอุตสาหกรรม มันก็ต้องหาทรัพยากรพวกนี้ไว้ เพราะญี่ปุ่นเอง มีแต่ปลากับสาหร่าย พวกแร่เหล็ก ถ่านหินหาไม่ค่อยเจอ คิดแล้ว เป้าซ้อมการล่า ชื่อเกาหลี นี่น่าจะเหมาะเจาะกว่าเพื่อน ปัญหาอยู่ที่ว่า เกาหลี เป็นเมืองที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการ หรือ ส่งส่วยให้กับจีนทุกปี กษัตริย์เกาหลี ต้องแต่งตัวเต็มยศ ไปโค้งคำนับคารวะฮ่องเต้จีน ญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็เดินหน้า ไม่ลองไม่รู้ ฉวยโอกาสตอนจีนกำลังมึน จากการถูกกลุ่มนักล่าตะวันตก รุมสกรัม นั่นแหละเหมาะที่สุด แล้วญี่ปุ่นก็ยกกองทัพไปบุกเกาหลี แล้วก็บังคับให้เกาหลีทำข้อตกลง ยกเลิกอำนาจจีน ที่มีเหนือเกาหลี เกาหลี ตกใจ เลย ตกลง นับว่า นักล่าหน้าใหม่สอบผ่าน เรียนได้เร็ว สงสัยมีครูดี ปี ค.ศ.1894 เกาหลีเกิดตะลุมบอนกันเอง จีนยังมองเกาหลี เป็นเด็กในปกครอง จึงส่งกองกำลังมาห้ามมวย ส่วนญี่ปุ่น นักล่าหน้าใหม่ เห็นเกาหลีเหยื่อหมาดๆ มีเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องโชว์มาดลูกพี่ ส่งกองกำลังไปเกาหลีด้วยเหมือนกัน เลยจ้ะเอ๋กับกองกำลังของจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องแสดงความเก่งกล้า ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวเกาหลี ก็เลยเป็นสาเหตุของสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1894-1895 ผลการรบปรากฏว่า จีน แพ้ ญี่ปุ่น อย่างหมดรูป จีนถอยทัพหงอยๆ ออกไปจากเกาหลี แต่ญี่ปุ่นไม่ถอยกลับ ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิม ล่าครั้งแรกก็ได้ผลแล้ว แถม นายเก่าของเหยื่อ ยังมาแพ้ต่อหน้าลูกกระเป๋งแบบไม่ เหลือรัศมี ญี่ปุ่นเลยจับมือเกาหลี ทำสัญญาใหม่ คราวนี้เอาให้ชัดๆ เกาหลี เจ้าตกเป็นเมืองขึ้นของเรา ญี่ปุ่น แล้วนะ ส่วย บรรณาการอะไร ที่เคยส่งให้แก่จีน ก็จงเลิกส่งเสีย และส่งมาให้เราแทน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยัง ยึดหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นของจีน ติดไม้ติดมือไปด้วย เกาะสำคัญที่ติดมือมาก็คือ เกาะไต้หวัน นั่นแหละ แค่นั้น ยังไม่หน่ำใจ ญี่ปุ่นไปยึดเอาแหลมเลี่ยวตง Liaodong Penninsula ที่บรรดาชาติตะวันตก ต่างก็เล็งจะฮุบมาจากจีน แต่จีนดันเอาแหลมเลี่ยวตง ให้รัสเซียเช่าไปนานแล้ว คราวนี้ก็สนุกซิครับ ญี่ปุ่นยิ่งเบ่งพองขึ้นไปใหญ่ เกาหลีและจีน ได้เห็นอานุภาพกองทัพของญี่ปุ่นรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้ อิทธิพลของรัสเซียในเกาหลี และที่แมนจูเรีย กำลังจะถูกท้าทายเป็นลำดับต่อไป สันดานใหม่นี่มันโตไวจัง แล้วรัสเซียก็ถูกญี่ปุ่นท้าทายจริงๆ รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้อย่างหมดท่า อีกราย ในการรบกับญี่ปุ่น Russo-Japan War ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นชั้น เป็นชาติมหาอำนาจทันที ญี่ปุ่นยึดแหลมเลี่ยวตง หรือแคว้นกวางตุ้ง นั่นแหละ ที่รัสเซียเช่ามาจากจีน แถมยึดลามไปเอาสมบัตืของแมนจูเรีย คือทางรถไฟ สายแมนจูเรียอีกด้วย อืม..เรื่องทางรถไฟมาอีกแล้ว จำไว้นะครับ สมัยก่อน ทางรถไฟคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ ลำพังญี่ปุ่นเอง เป็นนักล่าหน้าใหม่ ไม่น่าจะขวัญกล้าสามารถ เดินหน้าไปท้ารบรัสเซีย ที่รุ่นใหญ่กว่าแยะนัก และรบชนะเสียด้วย ถ้ายังจำกันได้ (สำหรับท่าน ที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษมาแล้ว) ญี่ปุ่น มีคนชักใย และช่วยหาทุนก้อนมหึมาให้ไปรบรัสเซีย เรื่องนี้ ลืมไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจญี่ปุ่นไขว้เข้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นเอง อาจจะกำลังเขว้อยู่ หลังสงครามญี่ปุ่นรัสเซียจบลง ญี่ปุ่น ประกาศผนวกเกาหลี เป็นของตัวในปี ค.ศ.1910 ญี่ปุ่นชักเชื่อว่า แนวทางปฏิรูปประเทศ ที่เอาอย่างตะวันตก ขยายกองทัพเพื่อไปล่าเหยื่อ นี่ มันถูกทาง และมันอร่อยถูกปากจริงๆ สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นไปเข้าร่วมสงครามกับเขาด้วย โดยอยู่ฝ่ายพวกอังกฤษ Allied Powers ไม่ได้ไปรบอะไรกับเขาในยุโรปหรอก แค่ เตรียมไล่ เก็บเล็กเก็บน้อย พวกอาณานิคมของเยอรมัน ที่อยู่แถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังเดินตามรอยตีนนักล่ารุ่นใหญ่ อย่างขมักเขม้น และดูเหมือนนักล่ารุ่นใหญ่ ก็ไม่ได้ขัดขวาง หรือขัดคอ เพราะกำลังไม่ว่างมือว่างปาก ญี่ปุ่นเลยกำแหงได้ใจ ส่งหนังสือเรียกร้อง 21 ข้อ ไปถึงจีน ที่เรียกว่า The Twenty-One Demands ในปี ค.ศ.1915 ข้อเรียกร้องที่เป็นที่ฮือฮา คือ ญี่ปุ่นต้องการให้จีนส่งมอบการครอบครอง ท่าเรือ ทางรถไฟ เหมืองแร่ ฯลฯ ที่เป็นของเยอรมัน หรือที่เยอรมันเช่าไปจากจีน ให้ญี่ปุ่น แต่ข้อเรียกร้องสุดท้ายของญี่ปุ น นี่สุดยอดที่สุด คือ ให้จีน แต่งตั้งญี่ปุ่นเป็น ที่ปรึกษา การบริหารบ้านเมือง ทั้งในด้านการทหาร การค้า การปกครอง และ ขอเป็นตำรวจร่วมด้วย สรุป แปลความหนังสือเรียกร้อง 21ข้อ สั้นๆของญี่ปุ่น ถึงจีน ว่า กูจะกินมึงแล้วนะ นั่นแหละ มีปัญหาไหม จีนเอง กำลังมีเรื่องวุ่นวาย หลังจาก ซุนยัดเซ็น ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิง เมื่อปี ค.ศ.1911 ปฏิวัติสำเร็จ แต่ปกครองไม่ได้ จีนแบ่งเป็นก๊กเป็นพวก แย่งชิงอำนาจ หักเหลี่ยม หักหลังกันเองอยู่หลายปี มันเป็นจังหวะเหมาะแก่การ ปีนบ้านเข้าไปตีหัวเขา ระหว่างที่เขากำลังชุลมุนกัน จีนหมดทางสู้ญี่ปุ่น ทำท่าจะยอม แต่จีนเป็นเหยื่อรายใหญ่ คิดว่า นักล่ารุ่นใหญ่ เขาจะปล่อยให้นักล่าหน้าใหม่ ฉวยโอกาสคาบเอาไปง่ายๆหรือ การแย่งชามข้าวกับแบบเอิกเกริก ก็สามารถทำใ้ห้ชามกลิ้งคว่ำข้าวหก พากันอดแดกกันหมดได้ ขบวนการขัดคอ ขวางทาง ญี่ปุ่น จึงมาจากทุกทิศ ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ แบบด้านๆ ของญี่ปุ่น ก็เลยฝ่อไปดื้อๆ แล้วบรรยากาศความเป็นมิตร ก็เรื่มเปลี่ยน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบไม่เหมือนแผนที่วางไว้ หลายประเทศในยุโรป จบแบบช้ำชอกฉิบหาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เช่น อังกฤษตัวตั้งตัวตี หรือฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ที่อ้างว่าเป็นกลาง แต่ญี่ปุ่น มาร่วมสงครามแบบเสมอนอก นอกจากไม่ช้ำ เพราะไม่ได้ไปร่วมรบกับเขา แต่ดันฉวยโอกาส ไปอมของคนอื่นเขามาเสียเต็มปาก แบบนี้ ลูกพี่นักล่ารุ่นใหญ่ก็คงไม่เอ็นดูน้องใหม่เท่าไหร่ แม้จะเคยบอกรับให้เป็นสมาชิกใหม่อนาคตรุ่ง แต่เรื่องตัดหน้าคาบเหยื่อไปนี่ มันยอมให้กันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเสียทั้งหน้า เสียทั้งเหยื่อ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายนิยมการสร้างกองทัพ เป็นผู้มีอำนาจบริหารญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงยิ่งเหมือนว่าวติดลมบน หมายมั่นจะแผ่อำนาจของตน ไปครอบคลุมจีนให้ได้ เพราะช่วงระหว่างสงครามนั้น จีนกำลังอ่อนแอ เหมาะสำหรับที่จะงับทีละคำๆ แต่หลังจากสงครามโลกจบ จีนที่แตกเป็นหลายก๊ก กลับมีการเคลื่อนไหว โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง รวมตัวกันได้ และยึดส่วนใต้ของจีน เป็นเขตของตัว ตั้งรัฐบาลฝ่าย Nationalist government และตั้งเมืองนานกิง Nanking หรือบ้างก็เรียก นานจิง Nanjing เป็นเมืองหลวงของตัว ส่วนฝ่ายฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสม์ ขึ้นไปยึดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ระหว่างก๊ก จะยังมีสู้กันเองบ้าง แต่ก็เริ่มมีทั้งกวาดล้างและกวาดมารวมกัน ปี ค.ศ. 1928 จีนจึงเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น ญี่ปุ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เห็นจีนกำลังแก้แหที่ถูกโยนมาคลุมประเทศอย่างน่าสนใจ นี่ถ้าจีนฟื้น ทางรถไฟแมนจูเรีย และแคว้นกวางตุ้ง ที่เราไปจิกมาก็น่าจะไม่ปลอดภัย ญี่ปุ่นพยายามมาเกือบ 50 ปี ที่จะไม่ต้องมีชะตากรรมอย่างจีน มาบัดนี้ จีนดันจะฟื้น ญี่ปุ่นทนไม่ไหว รีบเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ปี ค.ศ.1931 ญี่ปุ่น ตัดสินใจบุกแมนจูเรีย เพื่อดูแลผลประโยชน์ (ที่ตัวเองไปยึดมา) ในแมนจูเรีย และกวางตุ้ง ญี่ปุ่นตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมา เหมือนเป็นรัฐเถื่อน เพราะไม่มีใครรับรอง ญี่ปุ่นไม่มีพวกสนับสนุนในเรื่องนี้ แถมทำให้จีนหันกลับมาสู้กับญี่ปุ่นต่อ การปะทะกัน เริ่มกลับมาใหม่ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็ยั่วยุสำเร็จ สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรอบ 2 ที่ สะพาน มาร์โคโปโลก็เกิดขึ้น ในปีค.ศ.1937 สงครามระหว่างจีน กับญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้จบเร็วอย่าง สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ครั้งนี้ พวกก๊กต่างๆ ของจีนสงบศึกกันเองชั่วคราว จับมือกันสู้ยิบตากับญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมสงบศึกกับญี่ปุ่น ที่เสนอเงื่อนไข หลอกให้จีนรับ เพื่อที่จะให้จีนอดตาย การรบยือเยื้อไปถึงปี ค.ศ.1941 และในที่สุด ก็เลิกรบกันไป เพราะญี่ปุ่น เปลี่ยนไปรบสนามใหญ่เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่การรบกับจีนครั้งนี้ แม้จะเหมือนชนะ แต่ญี่ปุ่นก็ยับเยิน มันเป็นการประเมินผิด ของญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ การรบยืดเยื้อกับจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น และกองทัพระเนระนาด ยาง เหล็ก น้ำมัน ร่อยหรอ และญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเหลือเลยในภูมืภาค นอกจากนั้น ในสายตาของนักล่านานาชาติ ยังรุมกันประณามญี่ปุ่นอีกว่า เป็นนักรุกราน ไม่มีใครคิดยื่นมือมาช่วยญี่ปุ่นรบจีน ภาพพจน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นชาติโหดร้าย ชอบรุกราน และในที่สุดอเมริกาก็ประกาศคว่ำบาตรญี่ปุ่นด้านการค้า มาถึงตอนนี้ เหมือนญี่ปุ่นตัดสินใจผิดพลาด สู้อุตส่าห์ปฏิรูปประเทศ เดินตามหมากฝรั่งเพี้ยบเลย แต่ทำไม พอญี่ปุ่นทำเหมือนตะวันตก แต่ตะวันตกกลับไม่พอใจ เอะ จะเอายังไงกันแน่ ญี่ปุ่นเดืนตามก้นตะวันตกมาถึงกลางทาง แต่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรเหลือแล้ว มีแต่จะต้องเดินหน้าไปเอาของคนอื่น ญี่ปุ่นมีของคนอื่นให้เลือก 2 แห่ง แห่งหนึ่ง คือ ขึ้นเหนือไปไซบีเรีย ไปเอาของรัสเซีย อีกแห่งคือ ลงใต้ มาเอาแถบแปซิฟิก แต่ แปซืฟิกใต้ ส่วนใหญ่ ก็เป็น อาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็เลือกลงใต้บุกแปซิฟิก !?! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทกวีที่กลายเป็นช่องโหว่

    ทีมวิจัยจากยุโรปและอิตาลีพบว่า การเปลี่ยนข้อความโจมตีที่เป็น prose (ร้อยแก้ว) ให้เป็น บทกวี สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการโจมตี (Attack Success Rate – ASR) ได้สูงถึง 18 เท่า เมื่อเทียบกับข้อความเดิม ผลการทดลองครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว ทั้งแบบ proprietary และ open-weight โดยบางโมเดลมี ASR เกิน 90%

    วิธีการทดลองและผลลัพธ์
    นักวิจัยใช้ชุด prompt ที่เป็นอันตรายจาก MLCommons และ EU CoP risk taxonomies แล้วแปลงเป็นบทกวีด้วย meta-prompt ที่ออกแบบมาตรฐาน ผลลัพธ์ถูกประเมินโดย ensemble ของโมเดล open-weight และตรวจสอบซ้ำด้วยมนุษย์ในชุดข้อมูลย่อยที่มีการ double-annotation เพื่อวัดความสอดคล้อง พบว่า:
    บทกวีที่เขียนเอง (hand-crafted) มีค่า ASR เฉลี่ย 62%
    บทกวีที่สร้างจาก meta-prompt มีค่า ASR เฉลี่ย 43% ซึ่งทั้งสองแบบยังคงสูงกว่าข้อความร้อยแก้วทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ

    ความหมายต่อการพัฒนา AI
    ผลการวิจัยนี้ชี้ว่า เพียงการเปลี่ยนรูปแบบการเขียน ก็สามารถทำให้โมเดลหลุดจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัยได้ แสดงถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของวิธีการ alignment และการฝึกอบรมที่ใช้ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า การป้องกันเชิงเนื้อหาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องมีการออกแบบระบบตรวจจับที่เข้าใจ รูปแบบเชิงสไตล์ มากขึ้น

    ผลกระทบในวงกว้าง
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความเสี่ยงในเชิงวิชาการ แต่ยังมีผลต่อการใช้งานจริงในด้าน ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การจัดการข้อมูล และการควบคุมโมเดล หากไม่ถูกแก้ไข อาจถูกนำไปใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN (Chemical, Biological, Radiological, Nuclear), การบิดเบือนข้อมูล, หรือการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบในระดับสังคมและเศรษฐกิจ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เทคนิค Adversarial Poetry
    เปลี่ยนข้อความโจมตีเป็นบทกวี เพิ่มอัตราความสำเร็จสูงสุดถึง 18 เท่า

    ผลการทดลอง
    ครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว บางโมเดลมี ASR เกิน 90%

    การประเมินผล
    ใช้ทั้งโมเดล open-weight และการตรวจสอบโดยมนุษย์

    ความหมายต่อการพัฒนา AI
    แสดงข้อจำกัดของ alignment และความจำเป็นในการตรวจจับเชิงสไตล์

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    อาจถูกใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN หรือการโจมตีไซเบอร์

    ข้อจำกัดของระบบป้องกันปัจจุบัน
    การพึ่งพาการกรองเชิงเนื้อหาไม่เพียงพอ ต้องพัฒนาแนวทางใหม่

    https://arxiv.org/abs/2511.15304
    ✒️ บทกวีที่กลายเป็นช่องโหว่ ทีมวิจัยจากยุโรปและอิตาลีพบว่า การเปลี่ยนข้อความโจมตีที่เป็น prose (ร้อยแก้ว) ให้เป็น บทกวี สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการโจมตี (Attack Success Rate – ASR) ได้สูงถึง 18 เท่า เมื่อเทียบกับข้อความเดิม ผลการทดลองครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว ทั้งแบบ proprietary และ open-weight โดยบางโมเดลมี ASR เกิน 90% 🧩 วิธีการทดลองและผลลัพธ์ นักวิจัยใช้ชุด prompt ที่เป็นอันตรายจาก MLCommons และ EU CoP risk taxonomies แล้วแปลงเป็นบทกวีด้วย meta-prompt ที่ออกแบบมาตรฐาน ผลลัพธ์ถูกประเมินโดย ensemble ของโมเดล open-weight และตรวจสอบซ้ำด้วยมนุษย์ในชุดข้อมูลย่อยที่มีการ double-annotation เพื่อวัดความสอดคล้อง พบว่า: 💠 บทกวีที่เขียนเอง (hand-crafted) มีค่า ASR เฉลี่ย 62% 💠 บทกวีที่สร้างจาก meta-prompt มีค่า ASR เฉลี่ย 43% ซึ่งทั้งสองแบบยังคงสูงกว่าข้อความร้อยแก้วทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ 🔍 ความหมายต่อการพัฒนา AI ผลการวิจัยนี้ชี้ว่า เพียงการเปลี่ยนรูปแบบการเขียน ก็สามารถทำให้โมเดลหลุดจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัยได้ แสดงถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของวิธีการ alignment และการฝึกอบรมที่ใช้ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า การป้องกันเชิงเนื้อหาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องมีการออกแบบระบบตรวจจับที่เข้าใจ รูปแบบเชิงสไตล์ มากขึ้น 🌐 ผลกระทบในวงกว้าง การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความเสี่ยงในเชิงวิชาการ แต่ยังมีผลต่อการใช้งานจริงในด้าน ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การจัดการข้อมูล และการควบคุมโมเดล หากไม่ถูกแก้ไข อาจถูกนำไปใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN (Chemical, Biological, Radiological, Nuclear), การบิดเบือนข้อมูล, หรือการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบในระดับสังคมและเศรษฐกิจ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เทคนิค Adversarial Poetry ➡️ เปลี่ยนข้อความโจมตีเป็นบทกวี เพิ่มอัตราความสำเร็จสูงสุดถึง 18 เท่า ✅ ผลการทดลอง ➡️ ครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว บางโมเดลมี ASR เกิน 90% ✅ การประเมินผล ➡️ ใช้ทั้งโมเดล open-weight และการตรวจสอบโดยมนุษย์ ✅ ความหมายต่อการพัฒนา AI ➡️ แสดงข้อจำกัดของ alignment และความจำเป็นในการตรวจจับเชิงสไตล์ ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ อาจถูกใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN หรือการโจมตีไซเบอร์ ‼️ ข้อจำกัดของระบบป้องกันปัจจุบัน ⛔ การพึ่งพาการกรองเชิงเนื้อหาไม่เพียงพอ ต้องพัฒนาแนวทางใหม่ https://arxiv.org/abs/2511.15304
    ARXIV.ORG
    Adversarial Poetry as a Universal Single-Turn Jailbreak Mechanism in Large Language Models
    We present evidence that adversarial poetry functions as a universal single-turn jailbreak technique for Large Language Models (LLMs). Across 25 frontier proprietary and open-weight models, curated poetic prompts yielded high attack-success rates (ASR), with some providers exceeding 90%. Mapping prompts to MLCommons and EU CoP risk taxonomies shows that poetic attacks transfer across CBRN, manipulation, cyber-offence, and loss-of-control domains. Converting 1,200 MLCommons harmful prompts into verse via a standardized meta-prompt produced ASRs up to 18 times higher than their prose baselines. Outputs are evaluated using an ensemble of 3 open-weight LLM judges, whose binary safety assessments were validated on a stratified human-labeled subset. Poetic framing achieved an average jailbreak success rate of 62% for hand-crafted poems and approximately 43% for meta-prompt conversions (compared to non-poetic baselines), substantially outperforming non-poetic baselines and revealing a systematic vulnerability across model families and safety training approaches. These findings demonstrate that stylistic variation alone can circumvent contemporary safety mechanisms, suggesting fundamental limitations in current alignment methods and evaluation protocols.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้พิพากษาฝรั่งเศสถูกตัดขาดทางดิจิทัลโดยสหรัฐฯ

    กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้พิพากษาชาวฝรั่งเศสไม่สามารถเข้าถึงระบบดิจิทัลที่จำเป็นต่อการทำงานได้ เนื่องจากสหรัฐฯ ใช้อำนาจทางกฎหมายและเทคโนโลยีในการบล็อกการเข้าถึง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของประเทศที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจากต่างชาติ

    สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ปัญหาส่วนบุคคล แต่เป็นสัญญาณเตือนว่า การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศโดยไม่มีระบบสำรอง อาจทำให้หน่วยงานรัฐหรือองค์กรสำคัญถูกควบคุมได้จากภายนอก

    ประเด็นเรื่องอธิปไตยทางดิจิทัล
    เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการถกเถียงในยุโรปเกี่ยวกับ Digital Sovereignty ว่าประเทศควรมีสิทธิ์และความสามารถในการควบคุมระบบดิจิทัลของตนเองหรือไม่ หากโครงสร้างพื้นฐาน เช่น Cloud, Email, หรือระบบยืนยันตัวตน ถูกควบคุมโดยบริษัทสหรัฐฯ หรือประเทศอื่น ๆ ก็อาจถูกตัดขาดได้ทุกเมื่อ

    นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเตือนว่า การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติเท่ากับการยอมให้ประเทศอื่นมีอำนาจเหนือระบบยุติธรรมและการบริหารภายใน ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นอิสระของรัฐและประชาชน

    ผลกระทบและความเสี่ยงในอนาคต
    กรณีนี้ไม่ใช่เหตุการณ์โดดเดี่ยว แต่เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและเทคโนโลยีระดับโลก กำลังซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ หากประเทศต่าง ๆ ไม่สร้างระบบดิจิทัลที่เป็นอิสระ ก็เสี่ยงที่จะถูกบังคับหรือควบคุมจากภายนอก

    ในอนาคต หากไม่มีมาตรการป้องกัน อาจเกิดกรณีที่หน่วยงานรัฐ, ศาล, หรือแม้แต่ระบบการเงิน ถูกตัดขาดจากบริการสำคัญเพียงเพราะข้อพิพาททางการเมืองหรือกฎหมาย

    สรุปสาระสำคัญ
    กรณีผู้พิพากษาฝรั่งเศส
    ถูกตัดการเข้าถึงระบบดิจิทัลโดยสหรัฐฯ
    สะท้อนความเปราะบางของการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ

    ประเด็น Digital Sovereignty
    ประเทศควรมีสิทธิ์ควบคุมระบบดิจิทัลของตนเอง
    การพึ่งพา Cloud และบริการจากต่างชาติอาจเสี่ยงถูกตัดขาด

    ผลกระทบต่อยุโรปและโลก
    อาจกระทบต่อระบบยุติธรรมและการบริหารภายใน
    ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและเทคโนโลยีซับซ้อนขึ้น

    คำเตือน
    หากไม่สร้างระบบดิจิทัลที่เป็นอิสระ ประเทศเสี่ยงถูกควบคุมจากภายนอก
    หน่วยงานรัฐและศาลอาจถูกตัดขาดจากบริการสำคัญในอนาคต
    ความเป็นอิสระทางกฎหมายและการบริหารอาจถูกบั่นทอน

    https://www.heise.de/en/news/How-a-French-judge-was-digitally-cut-off-by-the-USA-11087561.html
    ⚖️ ผู้พิพากษาฝรั่งเศสถูกตัดขาดทางดิจิทัลโดยสหรัฐฯ กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้พิพากษาชาวฝรั่งเศสไม่สามารถเข้าถึงระบบดิจิทัลที่จำเป็นต่อการทำงานได้ เนื่องจากสหรัฐฯ ใช้อำนาจทางกฎหมายและเทคโนโลยีในการบล็อกการเข้าถึง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของประเทศที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจากต่างชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ปัญหาส่วนบุคคล แต่เป็นสัญญาณเตือนว่า การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศโดยไม่มีระบบสำรอง อาจทำให้หน่วยงานรัฐหรือองค์กรสำคัญถูกควบคุมได้จากภายนอก 🌍 ประเด็นเรื่องอธิปไตยทางดิจิทัล เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการถกเถียงในยุโรปเกี่ยวกับ Digital Sovereignty ว่าประเทศควรมีสิทธิ์และความสามารถในการควบคุมระบบดิจิทัลของตนเองหรือไม่ หากโครงสร้างพื้นฐาน เช่น Cloud, Email, หรือระบบยืนยันตัวตน ถูกควบคุมโดยบริษัทสหรัฐฯ หรือประเทศอื่น ๆ ก็อาจถูกตัดขาดได้ทุกเมื่อ นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเตือนว่า การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติเท่ากับการยอมให้ประเทศอื่นมีอำนาจเหนือระบบยุติธรรมและการบริหารภายใน ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นอิสระของรัฐและประชาชน 🔒 ผลกระทบและความเสี่ยงในอนาคต กรณีนี้ไม่ใช่เหตุการณ์โดดเดี่ยว แต่เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและเทคโนโลยีระดับโลก กำลังซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ หากประเทศต่าง ๆ ไม่สร้างระบบดิจิทัลที่เป็นอิสระ ก็เสี่ยงที่จะถูกบังคับหรือควบคุมจากภายนอก ในอนาคต หากไม่มีมาตรการป้องกัน อาจเกิดกรณีที่หน่วยงานรัฐ, ศาล, หรือแม้แต่ระบบการเงิน ถูกตัดขาดจากบริการสำคัญเพียงเพราะข้อพิพาททางการเมืองหรือกฎหมาย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ กรณีผู้พิพากษาฝรั่งเศส ➡️ ถูกตัดการเข้าถึงระบบดิจิทัลโดยสหรัฐฯ ➡️ สะท้อนความเปราะบางของการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ ✅ ประเด็น Digital Sovereignty ➡️ ประเทศควรมีสิทธิ์ควบคุมระบบดิจิทัลของตนเอง ➡️ การพึ่งพา Cloud และบริการจากต่างชาติอาจเสี่ยงถูกตัดขาด ✅ ผลกระทบต่อยุโรปและโลก ➡️ อาจกระทบต่อระบบยุติธรรมและการบริหารภายใน ➡️ ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและเทคโนโลยีซับซ้อนขึ้น ‼️ คำเตือน ⛔ หากไม่สร้างระบบดิจิทัลที่เป็นอิสระ ประเทศเสี่ยงถูกควบคุมจากภายนอก ⛔ หน่วยงานรัฐและศาลอาจถูกตัดขาดจากบริการสำคัญในอนาคต ⛔ ความเป็นอิสระทางกฎหมายและการบริหารอาจถูกบั่นทอน https://www.heise.de/en/news/How-a-French-judge-was-digitally-cut-off-by-the-USA-11087561.html
    WWW.HEISE.DE
    How a French judge was digitally cut off by the USA
    Nicolas Guillou has been sanctioned by the USA as a judge of the International Criminal Court. He notices the effects primarily in the digital realm.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251121 #securityonline

    Chrome ทดลองฟีเจอร์ "Vertical Tabs"
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Chrome Canary ที่ให้ผู้ใช้จัดเรียงแท็บในแนวตั้งทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เหมือนกับที่ Microsoft Edge และ Firefox เคยมีมาแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาแท็บ การจัดกลุ่ม และการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม คาดว่ากว่าจะถึงเวอร์ชันเสถียรอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
    https://securityonline.info/chrome-testing-vertical-tabs-new-ui-feature-spotted-in-canary-build

    OpenAI เปิดตัว Group Chat ใน ChatGPT ทั่วโลก
    OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT คือการสร้างห้องแชทกลุ่มที่เชิญเพื่อนได้สูงสุด 20 คน ใช้ได้ทั้งผู้ใช้ฟรีและเสียเงิน จุดเด่นคือสามารถใช้ ChatGPT ร่วมกันในกลุ่มเพื่อวางแผน ทำโปรเจกต์ หรือถกเถียงเรื่องต่าง ๆ โดยระบบถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทการสนทนาในกลุ่ม และยังสามารถใช้ @mention เพื่อเรียกให้ ChatGPT ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งาน AI มีความเป็นสังคมมากขึ้น
    https://securityonline.info/openai-rolls-out-group-chat-globally-collaborate-with-up-to-20-people-in-chatgpt

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro รุ่นใหม่
    Google เปิดตัวโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ทำงานบน Gemini 3 Pro จุดเด่นคือสามารถใส่ข้อความในภาพได้อย่างคมชัดและรองรับหลายภาษา รวมถึงมีเครื่องมือแก้ไขภาพ เช่น ปรับมุมกล้อง สี แสง และสามารถส่งออกภาพความละเอียดสูงถึง 4K อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบภาพที่สร้างด้วย AI โดยใส่วอเตอร์มาร์กเพื่อแยกจากภาพจริง
    https://securityonline.info/googles-nano-banana-pro-model-solves-ai-image-text-rendering-with-gemini-3-pro

    Salesforce รีบถอน Access Tokens หลังพบปัญหา Gainsight
    Salesforce ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังพบกิจกรรมผิดปกติในแอป Gainsight ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตน อาจทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทาง Salesforce จึงรีบเพิกถอน access tokens ทั้งหมดและถอดแอปออกจาก AppExchange ขณะนี้ Gainsight กำลังร่วมมือกับ Salesforce เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหา
    https://securityonline.info/salesforce-revokes-access-tokens-gainsight-app-breach-may-have-exposed-customer-data

    Trojan ใหม่ "Sturnus" โจมตี Android
    นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus ที่อันตรายมาก เพราะสามารถเข้าควบคุมเครื่อง Android ได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถดักข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง WhatsApp, Telegram และ Signal โดยใช้ Accessibility Service เพื่อดูข้อความหลังจากถูกถอดรหัสแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการโจมตีแบบ Overlay หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลธนาคาร และทำธุรกรรมลับ ๆ โดยปิดหน้าจอให้ผู้ใช้ไม่เห็น
    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices

    มัลแวร์ Sturnus Trojan โจมตี Android
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus Trojan ที่สามารถเจาะระบบ Android ได้อย่างรุนแรง โดยมันสามารถข้ามการเข้ารหัสของ WhatsApp และ Signal เพื่อดักจับข้อความ รวมถึงเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ จุดที่น่ากังวลคือมันใช้ Accessibility Service เพื่อหลอกผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสธนาคาร และยังสามารถทำธุรกรรมโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices

    ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกโจมตีจริง
    มีการรายงานว่า ช่องโหว่ WSUS RCE (CVE-2025-59287) ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการติดตั้ง ShadowPad Backdoor ลงในระบบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างลับ ๆ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ WSUS เป็นระบบที่ใช้กระจายอัปเดต Windows ในองค์กร หากถูกเจาะจะกระทบวงกว้าง
    https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor

    SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ร้ายแรง
    SonicWall ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ที่สามารถถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (Pre-Auth Buffer Overflow) ช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบ VPN ได้ทันที ทำให้ข้อมูลและการเชื่อมต่อขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะ
    https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601

    Grafana อุดช่องโหว่ SCIM ระดับวิกฤติ
    Grafana ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SCIM (CVE-2025-41115) ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และสวมรอยเป็นผู้ใช้คนอื่นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากสำหรับระบบที่ใช้ Grafana ในการจัดการข้อมูลและการแสดงผล
    https://securityonline.info/grafana-patches-critical-scim-flaw-cve-2025-41115-cvss-10-allowing-privilege-escalation-and-user-impersonation

    NVIDIA ทำลายความกังวล "AI Bubble" ด้วยรายได้สถิติ
    NVIDIA ประกาศผลประกอบการล่าสุด ทำรายได้สูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทำให้ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ลดลงทันที รายได้มหาศาลนี้สะท้อนถึงความต้องการชิป GPU ที่ยังคงพุ่งสูงจากการใช้งานด้าน AI และ Data Center
    https://securityonline.info/nvidia-crushes-ai-bubble-fears-with-record-57b-revenue

    OpenAI เปิดตัว ChatGPT ฟรีสำหรับครู K–12
    OpenAI ประกาศให้บริการ ChatGPT เวอร์ชันฟรีสำหรับครูระดับ K–12 โดยออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน ใช้ได้จนถึงปี 2027 จุดประสงค์คือช่วยครูในการเตรียมการสอน วางแผนบทเรียน และสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
    https://securityonline.info/openai-launches-free-ferpa-compliant-chatgpt-for-k-12-teachers-until-2027

    Google Accelerator รายงานผลกระทบระดับโลก
    Google Accelerator เผยรายงานล่าสุดว่ามีการระดมทุนได้มากถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั่วโลก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจที่เข้าร่วม โดยช่วยสร้างงานและขยายโอกาสในหลายประเทศ
    https://securityonline.info/31-2-billion-raised-google-accelerator-reveals-massive-global-impact-report

    Thunderbird 145 รองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ
    Thunderbird อัปเดตเวอร์ชันใหม่ Thunderbird 145 ที่เพิ่มการรองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายจาก Outlook มาใช้งาน Thunderbird ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการอีเมลและปฏิทินสะดวกขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการทางเลือกนอกเหนือจาก Outlook
    https://securityonline.info/thunderbird-145-native-microsoft-exchange-support-makes-outlook-migration-easy

    EU เปิดการสอบสวน DMA ต่อ AWS และ Azure
    สหภาพยุโรป (EU) เริ่มสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ว่า AWS และ Azure อาจเข้าข่ายเป็น “Gatekeeper” หรือไม่ หากพบว่ามีการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน อาจต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในยุโรปอย่างมาก
    https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud

    Google ขยายสิทธิ์ AI Pro ฟรีสำหรับนักเรียน
    Google ประกาศขยายสิทธิ์การใช้งาน AI Pro Subscription ฟรีสำหรับนักเรียน ไปจนถึงปี 2027 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง นักเรียนสามารถใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้านการศึกษาและเทคโนโลยี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #securityonline 🖥️ Chrome ทดลองฟีเจอร์ "Vertical Tabs" Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Chrome Canary ที่ให้ผู้ใช้จัดเรียงแท็บในแนวตั้งทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เหมือนกับที่ Microsoft Edge และ Firefox เคยมีมาแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาแท็บ การจัดกลุ่ม และการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม คาดว่ากว่าจะถึงเวอร์ชันเสถียรอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน 🔗 https://securityonline.info/chrome-testing-vertical-tabs-new-ui-feature-spotted-in-canary-build 👥 OpenAI เปิดตัว Group Chat ใน ChatGPT ทั่วโลก OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT คือการสร้างห้องแชทกลุ่มที่เชิญเพื่อนได้สูงสุด 20 คน ใช้ได้ทั้งผู้ใช้ฟรีและเสียเงิน จุดเด่นคือสามารถใช้ ChatGPT ร่วมกันในกลุ่มเพื่อวางแผน ทำโปรเจกต์ หรือถกเถียงเรื่องต่าง ๆ โดยระบบถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทการสนทนาในกลุ่ม และยังสามารถใช้ @mention เพื่อเรียกให้ ChatGPT ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งาน AI มีความเป็นสังคมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/openai-rolls-out-group-chat-globally-collaborate-with-up-to-20-people-in-chatgpt 🎨 Google เปิดตัว Nano Banana Pro รุ่นใหม่ Google เปิดตัวโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ทำงานบน Gemini 3 Pro จุดเด่นคือสามารถใส่ข้อความในภาพได้อย่างคมชัดและรองรับหลายภาษา รวมถึงมีเครื่องมือแก้ไขภาพ เช่น ปรับมุมกล้อง สี แสง และสามารถส่งออกภาพความละเอียดสูงถึง 4K อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบภาพที่สร้างด้วย AI โดยใส่วอเตอร์มาร์กเพื่อแยกจากภาพจริง 🔗 https://securityonline.info/googles-nano-banana-pro-model-solves-ai-image-text-rendering-with-gemini-3-pro 🔐 Salesforce รีบถอน Access Tokens หลังพบปัญหา Gainsight Salesforce ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังพบกิจกรรมผิดปกติในแอป Gainsight ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตน อาจทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทาง Salesforce จึงรีบเพิกถอน access tokens ทั้งหมดและถอดแอปออกจาก AppExchange ขณะนี้ Gainsight กำลังร่วมมือกับ Salesforce เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหา 🔗 https://securityonline.info/salesforce-revokes-access-tokens-gainsight-app-breach-may-have-exposed-customer-data 📱 Trojan ใหม่ "Sturnus" โจมตี Android นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus ที่อันตรายมาก เพราะสามารถเข้าควบคุมเครื่อง Android ได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถดักข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง WhatsApp, Telegram และ Signal โดยใช้ Accessibility Service เพื่อดูข้อความหลังจากถูกถอดรหัสแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการโจมตีแบบ Overlay หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลธนาคาร และทำธุรกรรมลับ ๆ โดยปิดหน้าจอให้ผู้ใช้ไม่เห็น 🔗 https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices ⚠️ มัลแวร์ Sturnus Trojan โจมตี Android นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus Trojan ที่สามารถเจาะระบบ Android ได้อย่างรุนแรง โดยมันสามารถข้ามการเข้ารหัสของ WhatsApp และ Signal เพื่อดักจับข้อความ รวมถึงเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ จุดที่น่ากังวลคือมันใช้ Accessibility Service เพื่อหลอกผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสธนาคาร และยังสามารถทำธุรกรรมโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว 🔗 https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices 🛡️ ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกโจมตีจริง มีการรายงานว่า ช่องโหว่ WSUS RCE (CVE-2025-59287) ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการติดตั้ง ShadowPad Backdoor ลงในระบบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างลับ ๆ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ WSUS เป็นระบบที่ใช้กระจายอัปเดต Windows ในองค์กร หากถูกเจาะจะกระทบวงกว้าง 🔗 https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ร้ายแรง SonicWall ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ที่สามารถถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (Pre-Auth Buffer Overflow) ช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบ VPN ได้ทันที ทำให้ข้อมูลและการเชื่อมต่อขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะ 🔗 https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601 📊 Grafana อุดช่องโหว่ SCIM ระดับวิกฤติ Grafana ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SCIM (CVE-2025-41115) ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และสวมรอยเป็นผู้ใช้คนอื่นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากสำหรับระบบที่ใช้ Grafana ในการจัดการข้อมูลและการแสดงผล 🔗 https://securityonline.info/grafana-patches-critical-scim-flaw-cve-2025-41115-cvss-10-allowing-privilege-escalation-and-user-impersonation 💰 NVIDIA ทำลายความกังวล "AI Bubble" ด้วยรายได้สถิติ NVIDIA ประกาศผลประกอบการล่าสุด ทำรายได้สูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทำให้ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ลดลงทันที รายได้มหาศาลนี้สะท้อนถึงความต้องการชิป GPU ที่ยังคงพุ่งสูงจากการใช้งานด้าน AI และ Data Center 🔗 https://securityonline.info/nvidia-crushes-ai-bubble-fears-with-record-57b-revenue 🎓 OpenAI เปิดตัว ChatGPT ฟรีสำหรับครู K–12 OpenAI ประกาศให้บริการ ChatGPT เวอร์ชันฟรีสำหรับครูระดับ K–12 โดยออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน ใช้ได้จนถึงปี 2027 จุดประสงค์คือช่วยครูในการเตรียมการสอน วางแผนบทเรียน และสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 🔗 https://securityonline.info/openai-launches-free-ferpa-compliant-chatgpt-for-k-12-teachers-until-2027 🌍 Google Accelerator รายงานผลกระทบระดับโลก Google Accelerator เผยรายงานล่าสุดว่ามีการระดมทุนได้มากถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั่วโลก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจที่เข้าร่วม โดยช่วยสร้างงานและขยายโอกาสในหลายประเทศ 🔗 https://securityonline.info/31-2-billion-raised-google-accelerator-reveals-massive-global-impact-report 📧 Thunderbird 145 รองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ Thunderbird อัปเดตเวอร์ชันใหม่ Thunderbird 145 ที่เพิ่มการรองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายจาก Outlook มาใช้งาน Thunderbird ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการอีเมลและปฏิทินสะดวกขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการทางเลือกนอกเหนือจาก Outlook 🔗 https://securityonline.info/thunderbird-145-native-microsoft-exchange-support-makes-outlook-migration-easy 🇪🇺 EU เปิดการสอบสวน DMA ต่อ AWS และ Azure สหภาพยุโรป (EU) เริ่มสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ว่า AWS และ Azure อาจเข้าข่ายเป็น “Gatekeeper” หรือไม่ หากพบว่ามีการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน อาจต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในยุโรปอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud 🎓 Google ขยายสิทธิ์ AI Pro ฟรีสำหรับนักเรียน Google ประกาศขยายสิทธิ์การใช้งาน AI Pro Subscription ฟรีสำหรับนักเรียน ไปจนถึงปี 2027 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง นักเรียนสามารถใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้านการศึกษาและเทคโนโลยี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar

    ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน
    มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก
    https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces

    เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear
    Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support

    ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก
    ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears

    SSD พกพาไร้สายจาก Kingston
    Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก
    https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket

    Android จับมือ AirDrop ของ Apple
    สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10

    ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity
    มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device

    Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ
    Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns

    บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI
    Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro

    ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่
    ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว
    Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา
    https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks

    ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย
    มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร
    https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made

    กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก
    กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks

    แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร
    รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry

    Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู
    Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more

    รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน

    Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ
    https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan

    ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11
    ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026
    มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when

    รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ
    ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws

    การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย
    มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback

    iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon
    Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl
    นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot
    Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11
    หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games

    Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia
    Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028
    https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment

    หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats
    Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them

    ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก
    ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use

    Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5
    Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how

    คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา
    รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar 🛡️ ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces 📶 เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support 🌊 ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears 💾 SSD พกพาไร้สายจาก Kingston Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket 🤝 Android จับมือ AirDrop ของ Apple สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10 ⚠️ ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device 🧑‍💻 Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns 🎰 บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know 🖼️ Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro 🔒 ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่ ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks 📱 ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made 🐉 กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks 🛍️ แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry 📷 Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more 📺 รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan 💻 ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11 ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 📱 หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026 มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when ⚖️ รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws 🌐 การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback 📱 iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🖥️ Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11 หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games 📡 Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028 🔗 https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment 🛵 หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them 🤖 ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use 🔒 Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5 Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how 🎨 คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการการค้าแห่งเกาหลี (KFTC) ได้บุกตรวจสอบสำนักงานของ Arm ในกรุงโซล

    รายงานจาก The Korea Times ระบุว่า KFTC ได้ดำเนินการตรวจสอบภายในสำนักงาน Arm ที่กรุงโซล โดยมีเป้าหมายเพื่อหาหลักฐานว่าบริษัทมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมชิป หลังจาก Qualcomm ยื่นเรื่องร้องเรียนในเดือนมีนาคมต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

    ข้อพิพาทระหว่าง Arm และ Qualcomm
    ข้อพิพาทเริ่มต้นเมื่อ Arm ยกเลิกสัญญา Architecture License Agreement (ALA) ของ Nuvia ซึ่ง Qualcomm ซื้อกิจการในปี 2021 Qualcomm ยืนยันว่าตนมีสิทธิ์ใช้เทคโนโลยี Nuvia ภายใต้สัญญา Arm เดิม แต่ Arm โต้แย้งว่าต้องทำสัญญาใหม่ ทำให้เกิดการฟ้องร้องยืดเยื้อมากว่า 3 ปี ล่าสุดศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Qualcomm ชนะคดี แต่ Arm ยังคงยื่นอุทธรณ์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การตรวจสอบครั้งนี้มีความสำคัญเพราะเกาหลีเป็นศูนย์กลางของผู้ผลิตชิป เช่น Samsung ที่เป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรของ Qualcomm หากพบว่า Arm มีการจำกัดสิทธิ์จริง อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ และกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    แนวโน้มในอนาคต
    แม้ Qualcomm จะชนะคดีในสหรัฐฯ แต่การร้องเรียนต่อหลายประเทศ รวมถึงการตรวจสอบของ KFTC แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ยังไม่จบง่าย ๆ หาก Arm ถูกตัดสินว่ามีการละเมิดกฎการค้า อาจต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและการออกใบอนุญาต ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ผลิตชิปทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    KFTC ตรวจสอบสำนักงาน Arm ในกรุงโซล
    สืบหาหลักฐานการจำกัดสิทธิ์การใช้งานสถาปัตยกรรมชิป

    ข้อพิพาท Arm–Qualcomm
    เกิดจากการยกเลิกสัญญา ALA ของ Nuvia
    Qualcomm ชนะคดีในสหรัฐฯ แต่ Arm ยื่นอุทธรณ์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Samsung และผู้ผลิตชิปในเกาหลีอาจได้รับผลกระทบ
    อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    หาก Arm ถูกตัดสินว่าละเมิด อาจต้องปรับโมเดลธุรกิจ
    ความไม่แน่นอนอาจกระทบต่อซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์โลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/koreas-fair-trade-commission-reportedly-raids-arms-seoul-office-amid-qualcomm-licensing-dispute-stems-from-allegations-of-unfair-market-practices
    ⚖️ คณะกรรมการการค้าแห่งเกาหลี (KFTC) ได้บุกตรวจสอบสำนักงานของ Arm ในกรุงโซล รายงานจาก The Korea Times ระบุว่า KFTC ได้ดำเนินการตรวจสอบภายในสำนักงาน Arm ที่กรุงโซล โดยมีเป้าหมายเพื่อหาหลักฐานว่าบริษัทมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมชิป หลังจาก Qualcomm ยื่นเรื่องร้องเรียนในเดือนมีนาคมต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป 🔍 ข้อพิพาทระหว่าง Arm และ Qualcomm ข้อพิพาทเริ่มต้นเมื่อ Arm ยกเลิกสัญญา Architecture License Agreement (ALA) ของ Nuvia ซึ่ง Qualcomm ซื้อกิจการในปี 2021 Qualcomm ยืนยันว่าตนมีสิทธิ์ใช้เทคโนโลยี Nuvia ภายใต้สัญญา Arm เดิม แต่ Arm โต้แย้งว่าต้องทำสัญญาใหม่ ทำให้เกิดการฟ้องร้องยืดเยื้อมากว่า 3 ปี ล่าสุดศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Qualcomm ชนะคดี แต่ Arm ยังคงยื่นอุทธรณ์ 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การตรวจสอบครั้งนี้มีความสำคัญเพราะเกาหลีเป็นศูนย์กลางของผู้ผลิตชิป เช่น Samsung ที่เป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรของ Qualcomm หากพบว่า Arm มีการจำกัดสิทธิ์จริง อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ และกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔮 แนวโน้มในอนาคต แม้ Qualcomm จะชนะคดีในสหรัฐฯ แต่การร้องเรียนต่อหลายประเทศ รวมถึงการตรวจสอบของ KFTC แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ยังไม่จบง่าย ๆ หาก Arm ถูกตัดสินว่ามีการละเมิดกฎการค้า อาจต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและการออกใบอนุญาต ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ผลิตชิปทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ KFTC ตรวจสอบสำนักงาน Arm ในกรุงโซล ➡️ สืบหาหลักฐานการจำกัดสิทธิ์การใช้งานสถาปัตยกรรมชิป ✅ ข้อพิพาท Arm–Qualcomm ➡️ เกิดจากการยกเลิกสัญญา ALA ของ Nuvia ➡️ Qualcomm ชนะคดีในสหรัฐฯ แต่ Arm ยื่นอุทธรณ์ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Samsung และผู้ผลิตชิปในเกาหลีอาจได้รับผลกระทบ ➡️ อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ หาก Arm ถูกตัดสินว่าละเมิด อาจต้องปรับโมเดลธุรกิจ ⛔ ความไม่แน่นอนอาจกระทบต่อซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์โลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/koreas-fair-trade-commission-reportedly-raids-arms-seoul-office-amid-qualcomm-licensing-dispute-stems-from-allegations-of-unfair-market-practices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนเธอร์แลนด์ระงับคำสั่งควบคุม Nexperia

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจ ระงับคำสั่งฉุกเฉินที่บังคับควบคุมการดำเนินงานของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่อยู่ภายใต้การถือครองของ Wingtech จากจีน หลังจากการเจรจาระหว่างหลายประเทศ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลระบุว่า Nexperia “ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของซัพพลายเชน” ในช่วงนี้

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก
    ก่อนหน้านี้ การบังคับควบคุมทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนจากโรงงาน Guangdong ซึ่งกระทบต่อการผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น Honda และ Volkswagen ต้องปรับการจัดหาชิ้นส่วนทันที การระงับคำสั่งครั้งนี้จึงช่วย ลดแรงกดดันต่อซัพพลายเชนโลก และเป็นสัญญาณว่าความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปอาจกลับมาดีขึ้น

    เงื่อนไขและข้อควรระวัง
    แม้คำสั่งจะถูกระงับ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างถาวร Nexperia ยังต้องรายงานต่อรัฐบาลหากมีการโอนสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนมองว่านี่เป็น “ก้าวที่ถูกต้อง” แต่ยังย้ำว่าต้นเหตุของความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไขทั้งหมด นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองและการค้า ยังคงอยู่

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะจับตามองชิปประสิทธิภาพสูง แต่ ชิปที่ใช้ในยานยนต์และระบบพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การผ่อนคลายข้อจำกัดครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การระงับคำสั่งควบคุม Nexperia
    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนสิทธิการดำเนินงานให้กับ Wingtech จากจีน

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชน
    จีนผ่อนคลายการส่งออกจาก Guangdong
    Honda และ Volkswagen ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้

    เงื่อนไขที่ยังคงอยู่
    Nexperia ต้องรายงานการโอนสินทรัพย์หรือ IP ต่อรัฐบาล
    จีนยังมองว่าต้นเหตุความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
    ชิปพื้นฐานมีผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    ความเสี่ยงทางการเมืองและการค้าอาจกลับมาอีก
    คำสั่งถูก “ระงับ” ไม่ใช่ “ยกเลิกถาวร”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/netherlands-suspends-nexperia-takeover-order-as-china-eases-export-curbs
    🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ระงับคำสั่งควบคุม Nexperia รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจ ระงับคำสั่งฉุกเฉินที่บังคับควบคุมการดำเนินงานของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่อยู่ภายใต้การถือครองของ Wingtech จากจีน หลังจากการเจรจาระหว่างหลายประเทศ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลระบุว่า Nexperia “ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของซัพพลายเชน” ในช่วงนี้ 🌏 ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก ก่อนหน้านี้ การบังคับควบคุมทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนจากโรงงาน Guangdong ซึ่งกระทบต่อการผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น Honda และ Volkswagen ต้องปรับการจัดหาชิ้นส่วนทันที การระงับคำสั่งครั้งนี้จึงช่วย ลดแรงกดดันต่อซัพพลายเชนโลก และเป็นสัญญาณว่าความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปอาจกลับมาดีขึ้น ⚖️ เงื่อนไขและข้อควรระวัง แม้คำสั่งจะถูกระงับ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างถาวร Nexperia ยังต้องรายงานต่อรัฐบาลหากมีการโอนสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนมองว่านี่เป็น “ก้าวที่ถูกต้อง” แต่ยังย้ำว่าต้นเหตุของความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไขทั้งหมด นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองและการค้า ยังคงอยู่ 🚗 ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะจับตามองชิปประสิทธิภาพสูง แต่ ชิปที่ใช้ในยานยนต์และระบบพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การผ่อนคลายข้อจำกัดครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การระงับคำสั่งควบคุม Nexperia ➡️ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนสิทธิการดำเนินงานให้กับ Wingtech จากจีน ✅ ผลกระทบต่อซัพพลายเชน ➡️ จีนผ่อนคลายการส่งออกจาก Guangdong ➡️ Honda และ Volkswagen ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ ✅ เงื่อนไขที่ยังคงอยู่ ➡️ Nexperia ต้องรายงานการโอนสินทรัพย์หรือ IP ต่อรัฐบาล ➡️ จีนยังมองว่าต้นเหตุความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ➡️ ชิปพื้นฐานมีผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ ความเสี่ยงทางการเมืองและการค้าอาจกลับมาอีก ⛔ คำสั่งถูก “ระงับ” ไม่ใช่ “ยกเลิกถาวร” https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/netherlands-suspends-nexperia-takeover-order-as-china-eases-export-curbs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Netherlands suspends Nexperia takeover order as China eases export curbs — de-escalation could be welcome break for automotive industry
    The Hague hands operational control back to Wingtech-owned chipmaker after talks with Beijing, but warns powers could return if supplies falter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sturnus Trojan มัลแวร์ที่ข้ามการเข้ารหัสและยึดครอง Android

    นักวิจัยจาก ThreatFabric รายงานการค้นพบมัลแวร์ Sturnus Trojan ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีผู้ใช้ Android โดยเฉพาะ จุดเด่นของมันคือการใช้ Android Accessibility Service เพื่อดักจับข้อมูลบนหน้าจอหลังจากที่แอปแชทเข้ารหัสได้ทำการถอดรหัสข้อความแล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถเห็นข้อความ, รายชื่อผู้ติดต่อ และเนื้อหาการสนทนาแบบเรียลไทม์

    นอกจากการดักจับข้อความแล้ว Sturnus ยังมีความสามารถในการทำ Overlay Attack โดยสร้างหน้าจอปลอมเลียนแบบแอปธนาคารเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังผู้โจมตีทันที นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Black Screen Overlay ที่สามารถปิดหน้าจอของเหยื่อไว้ชั่วคราวเพื่อซ่อนการทำธุรกรรมที่ผู้โจมตีกำลังดำเนินการอยู่เบื้องหลัง

    สิ่งที่ทำให้ Sturnus อันตรายยิ่งขึ้นคือมันสามารถทำ Device Takeover (DTO) ได้เต็มรูปแบบ ผู้โจมตีสามารถควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ทั้งการคลิก, พิมพ์ข้อความ, และสั่งงานต่าง ๆ โดยใช้การสตรีมหน้าจอแบบ Pixel-based และ UI-tree control ที่ใช้แบนด์วิดท์ต่ำและไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ

    แม้จะยังอยู่ในช่วง Pre-deployment แต่ Sturnus ถูกออกแบบมาอย่างสมบูรณ์และมีความซับซ้อนมากกว่ามัลแวร์ตระกูลเดิม ๆ โดยเป้าหมายหลักคือสถาบันการเงินในยุโรปตอนใต้และตอนกลาง ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการขยายการโจมตีในวงกว้างในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    ความสามารถหลักของ Sturnus Trojan
    ดักจับข้อความจาก WhatsApp, Telegram และ Signal หลังการถอดรหัส
    ทำ Overlay Attack หลอกขโมยข้อมูลธนาคาร
    ใช้ Black Screen Overlay เพื่อซ่อนธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย

    การควบคุมอุปกรณ์เต็มรูปแบบ
    ทำ Device Takeover (DTO) ได้ทั้งการคลิกและพิมพ์ข้อความ
    ใช้ Pixel-based streaming และ UI-tree control เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ Android
    ข้อมูลการสนทนาและธุรกรรมทางการเงินถูกเปิดเผยต่อผู้โจมตี
    การปิดกั้นการลบสิทธิ์ Device Administrator ทำให้กำจัดมัลแวร์ยากมาก

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง Accessibility Service ของแอปที่ติดตั้ง

    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices/
    📱 Sturnus Trojan มัลแวร์ที่ข้ามการเข้ารหัสและยึดครอง Android นักวิจัยจาก ThreatFabric รายงานการค้นพบมัลแวร์ Sturnus Trojan ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีผู้ใช้ Android โดยเฉพาะ จุดเด่นของมันคือการใช้ Android Accessibility Service เพื่อดักจับข้อมูลบนหน้าจอหลังจากที่แอปแชทเข้ารหัสได้ทำการถอดรหัสข้อความแล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถเห็นข้อความ, รายชื่อผู้ติดต่อ และเนื้อหาการสนทนาแบบเรียลไทม์ นอกจากการดักจับข้อความแล้ว Sturnus ยังมีความสามารถในการทำ Overlay Attack โดยสร้างหน้าจอปลอมเลียนแบบแอปธนาคารเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังผู้โจมตีทันที นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Black Screen Overlay ที่สามารถปิดหน้าจอของเหยื่อไว้ชั่วคราวเพื่อซ่อนการทำธุรกรรมที่ผู้โจมตีกำลังดำเนินการอยู่เบื้องหลัง สิ่งที่ทำให้ Sturnus อันตรายยิ่งขึ้นคือมันสามารถทำ Device Takeover (DTO) ได้เต็มรูปแบบ ผู้โจมตีสามารถควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ทั้งการคลิก, พิมพ์ข้อความ, และสั่งงานต่าง ๆ โดยใช้การสตรีมหน้าจอแบบ Pixel-based และ UI-tree control ที่ใช้แบนด์วิดท์ต่ำและไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ แม้จะยังอยู่ในช่วง Pre-deployment แต่ Sturnus ถูกออกแบบมาอย่างสมบูรณ์และมีความซับซ้อนมากกว่ามัลแวร์ตระกูลเดิม ๆ โดยเป้าหมายหลักคือสถาบันการเงินในยุโรปตอนใต้และตอนกลาง ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการขยายการโจมตีในวงกว้างในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความสามารถหลักของ Sturnus Trojan ➡️ ดักจับข้อความจาก WhatsApp, Telegram และ Signal หลังการถอดรหัส ➡️ ทำ Overlay Attack หลอกขโมยข้อมูลธนาคาร ➡️ ใช้ Black Screen Overlay เพื่อซ่อนธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย ✅ การควบคุมอุปกรณ์เต็มรูปแบบ ➡️ ทำ Device Takeover (DTO) ได้ทั้งการคลิกและพิมพ์ข้อความ ➡️ ใช้ Pixel-based streaming และ UI-tree control เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ Android ⛔ ข้อมูลการสนทนาและธุรกรรมทางการเงินถูกเปิดเผยต่อผู้โจมตี ⛔ การปิดกั้นการลบสิทธิ์ Device Administrator ทำให้กำจัดมัลแวร์ยากมาก ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง Accessibility Service ของแอปที่ติดตั้ง https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices/
    SECURITYONLINE.INFO
    Sturnus Trojan Bypasses WhatsApp/Signal Encryption & Takes Over Android Devices
    The new Sturnus Android banking trojan bypasses end-to-end encryption on WhatsApp & Signal and enables full device takeover for hidden financial fraud.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ และพันธมิตรนานาชาติร่วมกันจัดการ Bulletproof Hosting

    Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย

    คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

    สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense
    ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ
    เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH

    บทบาทของ ISP
    ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง
    ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า

    ความเสี่ยงจาก BPH
    สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์
    มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก

    ข้อควรระวังในการป้องกัน
    การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป
    ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง

    https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
    🛡️ สหรัฐฯ และพันธมิตรนานาชาติร่วมกันจัดการ Bulletproof Hosting Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense ➡️ ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ ➡️ เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH ✅ บทบาทของ ISP ➡️ ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง ➡️ ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า ‼️ ความเสี่ยงจาก BPH ⛔ สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์ ⛔ มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก ‼️ ข้อควรระวังในการป้องกัน ⛔ การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA/FBI/NSA Unite to Dismantle Bulletproof Hosting Ecosystem with New Global Defense Guide
    CISA, NSA, and FBI released a guide to dismantle Bulletproof Hosting (BPH) networks. It advises ISPs on precision filtering and stricter vetting to curb infrastructure used by ransomware and phishing campaigns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • EU เปิดการสอบสวน AWS และ Azure ภายใต้ DMA

    คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศเปิดการสอบสวน 3 กรณีเกี่ยวกับบริการคลาวด์ โดยหนึ่งในนั้นคือการตรวจสอบว่า Amazon AWS และ Microsoft Azure มีคุณสมบัติเป็น Gatekeeper ตามกฎหมาย DMA หรือไม่ แม้ปัจจุบันยังไม่เข้าเกณฑ์อย่างเป็นทางการ แต่ EU มองว่าทั้งสองแพลตฟอร์มมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวกลางระหว่างธุรกิจและผู้บริโภค ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อการแข่งขันในตลาด

    การสอบสวนนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า ผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรปยังตามหลังคู่แข่งจากสหรัฐฯ อย่างมาก หากไม่มีมาตรการควบคุม อาจกระทบต่อเป้าหมายด้าน Digital Sovereignty ของยุโรปที่ต้องการสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาบริษัทต่างชาติ

    นอกจากนี้ EU ยังตั้งคำถามว่า ข้อกำหนดใน DMA ที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ ในการจัดการกับพฤติกรรมที่อาจไม่เป็นธรรม เช่น การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าองค์กร การบังคับใช้เงื่อนไขสัญญาที่ไม่สมดุล หรือการผูกบริการคลาวด์หลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ขาดทางเลือกที่แท้จริง

    หากผลการสอบสวนชี้ว่า AWS และ Azure มีคุณสมบัติเป็น Gatekeeper จริง จะทำให้บริการคลาวด์ถูกเพิ่มเข้าไปในรายการแพลตฟอร์มที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเข้มงวดของ DMA เช่นเดียวกับบริการอื่น ๆ ที่ Amazon และ Microsoft ถูกจัดเป็น Gatekeeper อยู่แล้ว

    สรุปสาระสำคัญ
    การสอบสวนใหม่ของ EU
    ตรวจสอบ AWS และ Azure ว่ามีคุณสมบัติเป็น Gatekeeper หรือไม่
    ครอบคลุมประเด็นการแข่งขัน ความเป็นธรรม และการเข้าถึงข้อมูล

    ผลกระทบต่อยุโรป
    ผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรปยังตามหลังคู่แข่งสหรัฐฯ
    อาจกระทบต่อเป้าหมาย Digital Sovereignty ของยุโรป

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    การผูกบริการคลาวด์หลายรูปแบบเข้าด้วยกัน
    เงื่อนไขสัญญาที่ไม่สมดุลและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า

    ข้อควรระวังในอนาคต
    หากถูกจัดเป็น Gatekeeper จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ DMA ที่เข้มงวด
    อาจส่งผลต่อราคาบริการและทางเลือกของผู้ใช้ในยุโรป

    https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud/
    🌐 EU เปิดการสอบสวน AWS และ Azure ภายใต้ DMA คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศเปิดการสอบสวน 3 กรณีเกี่ยวกับบริการคลาวด์ โดยหนึ่งในนั้นคือการตรวจสอบว่า Amazon AWS และ Microsoft Azure มีคุณสมบัติเป็น Gatekeeper ตามกฎหมาย DMA หรือไม่ แม้ปัจจุบันยังไม่เข้าเกณฑ์อย่างเป็นทางการ แต่ EU มองว่าทั้งสองแพลตฟอร์มมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวกลางระหว่างธุรกิจและผู้บริโภค ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อการแข่งขันในตลาด การสอบสวนนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า ผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรปยังตามหลังคู่แข่งจากสหรัฐฯ อย่างมาก หากไม่มีมาตรการควบคุม อาจกระทบต่อเป้าหมายด้าน Digital Sovereignty ของยุโรปที่ต้องการสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาบริษัทต่างชาติ นอกจากนี้ EU ยังตั้งคำถามว่า ข้อกำหนดใน DMA ที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ ในการจัดการกับพฤติกรรมที่อาจไม่เป็นธรรม เช่น การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าองค์กร การบังคับใช้เงื่อนไขสัญญาที่ไม่สมดุล หรือการผูกบริการคลาวด์หลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ขาดทางเลือกที่แท้จริง หากผลการสอบสวนชี้ว่า AWS และ Azure มีคุณสมบัติเป็น Gatekeeper จริง จะทำให้บริการคลาวด์ถูกเพิ่มเข้าไปในรายการแพลตฟอร์มที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเข้มงวดของ DMA เช่นเดียวกับบริการอื่น ๆ ที่ Amazon และ Microsoft ถูกจัดเป็น Gatekeeper อยู่แล้ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การสอบสวนใหม่ของ EU ➡️ ตรวจสอบ AWS และ Azure ว่ามีคุณสมบัติเป็น Gatekeeper หรือไม่ ➡️ ครอบคลุมประเด็นการแข่งขัน ความเป็นธรรม และการเข้าถึงข้อมูล ✅ ผลกระทบต่อยุโรป ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรปยังตามหลังคู่แข่งสหรัฐฯ ➡️ อาจกระทบต่อเป้าหมาย Digital Sovereignty ของยุโรป ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ⛔ การผูกบริการคลาวด์หลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ⛔ เงื่อนไขสัญญาที่ไม่สมดุลและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ‼️ ข้อควรระวังในอนาคต ⛔ หากถูกจัดเป็น Gatekeeper จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ DMA ที่เข้มงวด ⛔ อาจส่งผลต่อราคาบริการและทางเลือกของผู้ใช้ในยุโรป https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud/
    SECURITYONLINE.INFO
    EU Launches DMA Probes: Is Gatekeeper Status Next for AWS & Azure Cloud?
    The EU is investigating if Amazon AWS and Microsoft Azure must be named DMA gatekeepers, facing strict new rules to ensure fair cloud competition in Europe.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • บีบหนัก! ยุโรป–ยูเครนร้อนรุ่ม หลังรายงานว่า “ทรัมป์” รับสัญญาณโอเคแผนสันติภาพ 28 ข้อ เสนอให้เคียฟต้องยอมสละดินแดนบางส่วนให้รัสเซีย ลดกำลังพลเหลือ 4 แสน และถอนอาวุธพิสัยไกล ด้านยุโรปค้านสุดตัว ชี้แผนยุติสงครามต้องมีทั้งยูเครน–ยุโรปมีส่วนร่วม ไม่ใช่ดีลลับสหรัฐ–รัสเซีย

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111192

    #Trump #UkraineWar #Russia #PeacePlan #Geopolitics #Europe #NATO #News1live #News1
    บีบหนัก! ยุโรป–ยูเครนร้อนรุ่ม หลังรายงานว่า “ทรัมป์” รับสัญญาณโอเคแผนสันติภาพ 28 ข้อ เสนอให้เคียฟต้องยอมสละดินแดนบางส่วนให้รัสเซีย ลดกำลังพลเหลือ 4 แสน และถอนอาวุธพิสัยไกล ด้านยุโรปค้านสุดตัว ชี้แผนยุติสงครามต้องมีทั้งยูเครน–ยุโรปมีส่วนร่วม ไม่ใช่ดีลลับสหรัฐ–รัสเซีย • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111192 • #Trump #UkraineWar #Russia #PeacePlan #Geopolitics #Europe #NATO #News1live #News1
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts