• AMD ได้เปิดตัว EPYC 'Venice' ซึ่งเป็น ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC โดยใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 นอกจากนี้ AMD ยังประกาศว่าชิป EPYC รุ่นปัจจุบันบางส่วนจะถูกผลิตในสหรัฐฯ ที่โรงงาน TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา

    ✅ EPYC 'Venice': ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC
    - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026
    - เป็นชิป HPC ตัวแรกที่ใช้ TSMC N2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต 2nm-class
    - ผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว และสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ

    ✅ เทคโนโลยี TSMC N2 และข้อดีของกระบวนการผลิต
    - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 24-35% หรือเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 15%
    - มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น 1.15 เท่า เมื่อเทียบกับ N3 (3nm-class)

    ✅ การผลิตชิป EPYC ในสหรัฐฯ
    - AMD ประกาศว่าชิป EPYC รุ่นที่ 5 จะถูกผลิตที่ TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา
    - เป็นการกระจายการผลิตเพื่อเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด HPC
    - Intel กำลังพัฒนา Xeon 'Clearwater Forest' บนกระบวนการ Intel 18A ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EPYC 'Venice'
    - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด HPC ได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายของกระบวนการผลิต 2nm
    - แม้ TSMC N2 จะมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ แต่การผลิตชิปที่ขนาดเล็กลงอาจมีความท้าทายด้าน yield และต้นทุน
    - ต้องจับตาว่า AMD จะสามารถผลิตชิปในปริมาณมากได้ตามแผนหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ TSMC อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หากสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-first-2nm-chip-is-out-of-the-fab-epyc-venice-fabbed-on-tsmc-n2-node
    AMD ได้เปิดตัว EPYC 'Venice' ซึ่งเป็น ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC โดยใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 นอกจากนี้ AMD ยังประกาศว่าชิป EPYC รุ่นปัจจุบันบางส่วนจะถูกผลิตในสหรัฐฯ ที่โรงงาน TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา ✅ EPYC 'Venice': ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 - เป็นชิป HPC ตัวแรกที่ใช้ TSMC N2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต 2nm-class - ผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว และสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ ✅ เทคโนโลยี TSMC N2 และข้อดีของกระบวนการผลิต - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 24-35% หรือเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 15% - มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น 1.15 เท่า เมื่อเทียบกับ N3 (3nm-class) ✅ การผลิตชิป EPYC ในสหรัฐฯ - AMD ประกาศว่าชิป EPYC รุ่นที่ 5 จะถูกผลิตที่ TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา - เป็นการกระจายการผลิตเพื่อเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด HPC - Intel กำลังพัฒนา Xeon 'Clearwater Forest' บนกระบวนการ Intel 18A ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EPYC 'Venice' - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด HPC ได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายของกระบวนการผลิต 2nm - แม้ TSMC N2 จะมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ แต่การผลิตชิปที่ขนาดเล็กลงอาจมีความท้าทายด้าน yield และต้นทุน - ต้องจับตาว่า AMD จะสามารถผลิตชิปในปริมาณมากได้ตามแผนหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ TSMC อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หากสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-first-2nm-chip-is-out-of-the-fab-epyc-venice-fabbed-on-tsmc-n2-node
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายที่ Google กำลังเผชิญในการจัดการความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับชิป AI โดยบริษัทกำลังพิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI

    Google CFO Anat Ashkenazi เปิดเผยว่า Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการนี้ในปี 2025 นอกจากนี้ Google ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นกับ CoreWeave เพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลของ CoreWeave สำหรับชิป TPU ที่ Google พัฒนาขึ้นเอง

    ในขณะเดียวกัน CoreWeave ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25% ในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง เนื่องจากผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด

    ✅ ความต้องการชิป AI ของ Google
    - Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    - กำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการในปี 2025

    ✅ การเจรจากับ CoreWeave
    - Google พิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave
    - อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นเพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลสำหรับชิป TPU

    ✅ สถานการณ์ของ CoreWeave
    - CoreWeave เผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25%
    - ผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อการพึ่งพา CoreWeave
    - การพึ่งพา CoreWeave อาจเพิ่มความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทเผชิญปัญหาทางการเงิน
    - ความไม่แน่นอนในตลาดอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐาน

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - ความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตชิป
    - การแข่งขันในตลาด AI อาจเข้มข้นขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่

    https://www.techradar.com/pro/google-rumored-to-be-looking-to-rent-latest-nvidia-ai-gpu-from-coreweave-because-it-doesnt-have-enough-of-them
    ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายที่ Google กำลังเผชิญในการจัดการความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับชิป AI โดยบริษัทกำลังพิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI Google CFO Anat Ashkenazi เปิดเผยว่า Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการนี้ในปี 2025 นอกจากนี้ Google ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นกับ CoreWeave เพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลของ CoreWeave สำหรับชิป TPU ที่ Google พัฒนาขึ้นเอง ในขณะเดียวกัน CoreWeave ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25% ในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง เนื่องจากผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด ✅ ความต้องการชิป AI ของ Google - Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน - กำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการในปี 2025 ✅ การเจรจากับ CoreWeave - Google พิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave - อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นเพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลสำหรับชิป TPU ✅ สถานการณ์ของ CoreWeave - CoreWeave เผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25% - ผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด ℹ️ ความเสี่ยงต่อการพึ่งพา CoreWeave - การพึ่งพา CoreWeave อาจเพิ่มความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทเผชิญปัญหาทางการเงิน - ความไม่แน่นอนในตลาดอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐาน ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - ความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตชิป - การแข่งขันในตลาด AI อาจเข้มข้นขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ https://www.techradar.com/pro/google-rumored-to-be-looking-to-rent-latest-nvidia-ai-gpu-from-coreweave-because-it-doesnt-have-enough-of-them
    WWW.TECHRADAR.COM
    Google rumored to be looking to rent latest Nvidia AI GPU from CoreWeave because it doesn't have enough of them
    However Google is still expected to spend significantly less than Microsoft and OpenAI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เปิดเผยว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนมีนาคม 2025 มีการดาวน์โหลดแอป ChatGPT มากถึง 46 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเดือนนั้น (ไม่รวมเกม) การอัปเดตฟีเจอร์การสร้างภาพในเดือนมีนาคมช่วยเพิ่มความนิยม โดยเฉพาะภาพในสไตล์ Studio Ghibli ที่สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียจนทำให้ระบบของ OpenAI ต้องเผชิญกับความต้องการที่สูงมาก

    อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ ChatGPT ยังนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในที่ทำงาน เนื่องจากมีบริษัทหลายแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานบางส่วนถูกแทนที่ด้วย AI Altman ให้ความเห็นว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน และแม้จะมีความคาดหวังที่สูงขึ้นในงาน แต่ AI จะช่วยให้ผู้คนสามารถปรับตัวและทำงานได้ดีขึ้น

    ✅ ความสำเร็จของ ChatGPT
    - มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์ใกล้ถึงหนึ่งพันล้านคน
    - การดาวน์โหลดแอป ChatGPT สูงสุดในเดือนมีนาคม 2025

    ✅ ฟีเจอร์การสร้างภาพที่ได้รับความนิยม
    - การสร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli ได้รับความนิยมอย่างมาก
    - ฟีเจอร์การสร้างภาพช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน

    ✅ ผลกระทบต่อการทำงาน
    - บริษัทบางแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานถูกแทนที่ด้วย AI
    - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานและปรับตัวในงานที่มีความคาดหวังสูง

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการใช้ AI ในที่ทำงาน
    - การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพ
    - การใช้ AI อาจเพิ่มความกดดันในงานที่ต้องการความสามารถสูง

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับตัว
    - ผู้คนควรเรียนรู้และปรับตัวกับการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
    - องค์กรควรสนับสนุนการฝึกอบรมและการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ

    https://www.techspot.com/news/107528-chatgpt-user-base-nears-one-billion-after-image.html
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เปิดเผยว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนมีนาคม 2025 มีการดาวน์โหลดแอป ChatGPT มากถึง 46 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเดือนนั้น (ไม่รวมเกม) การอัปเดตฟีเจอร์การสร้างภาพในเดือนมีนาคมช่วยเพิ่มความนิยม โดยเฉพาะภาพในสไตล์ Studio Ghibli ที่สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียจนทำให้ระบบของ OpenAI ต้องเผชิญกับความต้องการที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ ChatGPT ยังนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในที่ทำงาน เนื่องจากมีบริษัทหลายแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานบางส่วนถูกแทนที่ด้วย AI Altman ให้ความเห็นว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน และแม้จะมีความคาดหวังที่สูงขึ้นในงาน แต่ AI จะช่วยให้ผู้คนสามารถปรับตัวและทำงานได้ดีขึ้น ✅ ความสำเร็จของ ChatGPT - มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์ใกล้ถึงหนึ่งพันล้านคน - การดาวน์โหลดแอป ChatGPT สูงสุดในเดือนมีนาคม 2025 ✅ ฟีเจอร์การสร้างภาพที่ได้รับความนิยม - การสร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli ได้รับความนิยมอย่างมาก - ฟีเจอร์การสร้างภาพช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน ✅ ผลกระทบต่อการทำงาน - บริษัทบางแห่งลดจำนวนพนักงานเนื่องจากงานถูกแทนที่ด้วย AI - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานและปรับตัวในงานที่มีความคาดหวังสูง ℹ️ ความเสี่ยงจากการใช้ AI ในที่ทำงาน - การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพ - การใช้ AI อาจเพิ่มความกดดันในงานที่ต้องการความสามารถสูง ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับตัว - ผู้คนควรเรียนรู้และปรับตัวกับการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน - องค์กรควรสนับสนุนการฝึกอบรมและการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ https://www.techspot.com/news/107528-chatgpt-user-base-nears-one-billion-after-image.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    ChatGPT nears one billion users as Ghibli-style AI images double weekly actives
    Speaking onstage at TED on Friday, curator Chris Anderson asked Altman how many users ChatGPT had. "I think the last time we said was 500 million weekly...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานกับบริษัทที่ปรึกษาและบริการที่ไม่จำเป็น เช่น Accenture, Booz Allen Hamilton และ Deloitte โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น อาวุธไฮเปอร์โซนิกและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Pete Hegseth ได้ประกาศลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าสัญญาบางส่วน เช่น การให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT ซ้ำซ้อนและสามารถดำเนินการโดยบุคลากรภายในได้ การตัดงบประมาณนี้ยังรวมถึงการลดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    งบประมาณที่ประหยัดได้จากการลดสัญญาจ้างงานจะถูกนำไปใช้ในโครงการที่สำคัญ เช่น การพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ อาวุธไฮเปอร์โซนิก และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงแห่งชาติ

    ✅ การลดงบประมาณสัญญาจ้างงาน
    - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์
    - สัญญาที่ถูกลดรวมถึงการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT

    ✅ เป้าหมายของการลดงบประมาณ
    - เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรโดยใช้บุคลากรภายใน
    - มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ เช่น AI และอาวุธไฮเปอร์โซนิก

    ✅ การจัดสรรงบประมาณใหม่
    - งบประมาณที่ประหยัดได้จะถูกนำไปใช้ในโครงการด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    - รวมถึงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธและโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคง

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการลดสัญญาจ้างงาน
    - การลดสัญญาอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พึ่งพาสัญญาจากรัฐบาล
    - การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดความล่าช้าในบางโครงการ

    ℹ️ ผลกระทบต่อบุคลากรภายใน
    - บุคลากรภายในอาจต้องรับภาระงานเพิ่มขึ้น
    - การปรับตัวของบุคลากรอาจต้องใช้เวลาและการฝึกอบรมเพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/news/107521-pentagon-slashes-51-billion-contracts-accenture-booz-allen.html
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานกับบริษัทที่ปรึกษาและบริการที่ไม่จำเป็น เช่น Accenture, Booz Allen Hamilton และ Deloitte โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น อาวุธไฮเปอร์โซนิกและปัญญาประดิษฐ์ (AI) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Pete Hegseth ได้ประกาศลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าสัญญาบางส่วน เช่น การให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT ซ้ำซ้อนและสามารถดำเนินการโดยบุคลากรภายในได้ การตัดงบประมาณนี้ยังรวมถึงการลดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ งบประมาณที่ประหยัดได้จากการลดสัญญาจ้างงานจะถูกนำไปใช้ในโครงการที่สำคัญ เช่น การพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ อาวุธไฮเปอร์โซนิก และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงแห่งชาติ ✅ การลดงบประมาณสัญญาจ้างงาน - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ - สัญญาที่ถูกลดรวมถึงการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT ✅ เป้าหมายของการลดงบประมาณ - เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรโดยใช้บุคลากรภายใน - มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ เช่น AI และอาวุธไฮเปอร์โซนิก ✅ การจัดสรรงบประมาณใหม่ - งบประมาณที่ประหยัดได้จะถูกนำไปใช้ในโครงการด้านความมั่นคงแห่งชาติ - รวมถึงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธและโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคง ℹ️ ความเสี่ยงจากการลดสัญญาจ้างงาน - การลดสัญญาอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พึ่งพาสัญญาจากรัฐบาล - การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดความล่าช้าในบางโครงการ ℹ️ ผลกระทบต่อบุคลากรภายใน - บุคลากรภายในอาจต้องรับภาระงานเพิ่มขึ้น - การปรับตัวของบุคลากรอาจต้องใช้เวลาและการฝึกอบรมเพิ่มเติม https://www.techspot.com/news/107521-pentagon-slashes-51-billion-contracts-accenture-booz-allen.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pentagon slashes $5.1 billion in contracts with Accenture, Booz Allen, and Deloitte
    United States Defense Secretary Pete Hegseth has cut $5.1 billion in defense contracts for consulting and nonessential services. The move targets redundant agreements, with plans to shift...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta Platforms ได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่สองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหาร ได้แก่ Dina Powell McCormick และ Patrick Collison โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างและการขยายมุมมองของบริษัทในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ

    ✅ การเพิ่มสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการ:
    - Dina Powell McCormick เคยดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของ Donald Trump และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้นำที่ Goldman Sachs
    - Patrick Collison เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีชื่อเสียง และเคยเป็นสมาชิกของ Meta Advisory Group

    ✅ การขยายคณะกรรมการ:
    - Meta ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะกรรมการเป็น 15 คน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานโยบายใหม่ ๆ

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Meta:
    - ก่อนหน้านี้ Meta ได้ยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐฯ และยุติโครงการด้านความหลากหลาย

    ✅ ความคิดเห็นจาก Mark Zuckerberg:
    - Zuckerberg กล่าวถึงสมาชิกใหม่ว่า Dina มีประสบการณ์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ ส่วน Patrick มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/meta-to-add-dina-powell-mccormick-patrick-collison-to-board
    Meta Platforms ได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่สองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหาร ได้แก่ Dina Powell McCormick และ Patrick Collison โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างและการขยายมุมมองของบริษัทในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ✅ การเพิ่มสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการ: - Dina Powell McCormick เคยดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของ Donald Trump และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้นำที่ Goldman Sachs - Patrick Collison เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีชื่อเสียง และเคยเป็นสมาชิกของ Meta Advisory Group ✅ การขยายคณะกรรมการ: - Meta ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะกรรมการเป็น 15 คน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานโยบายใหม่ ๆ ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Meta: - ก่อนหน้านี้ Meta ได้ยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐฯ และยุติโครงการด้านความหลากหลาย ✅ ความคิดเห็นจาก Mark Zuckerberg: - Zuckerberg กล่าวถึงสมาชิกใหม่ว่า Dina มีประสบการณ์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ ส่วน Patrick มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/meta-to-add-dina-powell-mccormick-patrick-collison-to-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to add Dina Powell McCormick, Patrick Collison to board
    (Reuters) - Meta Platforms will add former Republican official Dina Powell McCormick and fintech firm Stripe's CEO Patrick Collison to its board, effective April 15, the social media company said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว

    ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ:
    - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024
    - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์

    ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:
    - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ"

    ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ:
    - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ
    - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล

    https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ: - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024 - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ" ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ: - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    OpenAI slammed for putting speed over safety
    Testers allege newer models are being pushed for launch with much-reduced testing time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน

    ✅ การลงทุนในบริษัทจีน:
    - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited
    - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics

    ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan

    ✅ การตอบสนองของ Intel:
    - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน

    ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์:
    - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน

    ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส:
    - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

    ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน ✅ การลงทุนในบริษัทจีน: - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan ✅ การตอบสนองของ Intel: - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์: - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส: - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel CEO Lip-Bu Tan has invested in 600 Chinese firms, some linked to the Chinese military
    Some believe it makes Lip-Bu Tan an experienced investor, others think it is unacceptable for an Intel CEO.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮกเกอร์ Shuckworm ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย (FSB) ได้กลับมาโจมตีอีกครั้ง โดยใช้มัลแวร์ GammaSteel เวอร์ชันใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือภารกิจทางทหารของประเทศตะวันตกในยูเครน

    ✅ ลักษณะการโจมตี:
    - การโจมตีเริ่มต้นด้วยไฟล์ลิงก์ (.lnk) ที่ถูกเปิดจากอุปกรณ์ภายนอก
    - ไฟล์ดังกล่าวเรียกใช้สคริปต์ที่ซับซ้อนและมัลแวร์ GammaSteel ผ่าน PowerShell

    ✅ ความสามารถของมัลแวร์ GammaSteel:
    - มัลแวร์สามารถขโมยไฟล์ที่มีนามสกุลเฉพาะ เช่น .doc, .xls, .pdf จากโฟลเดอร์ Desktop, Download และ Documents
    - ใช้ PowerShell web requests และ fallback ผ่าน Tor proxy เพื่อส่งข้อมูลออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

    ✅ การปรับปรุงมัลแวร์:
    - GammaSteel เวอร์ชันใหม่มีการเพิ่มการเข้ารหัสและการใช้บริการเว็บที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกตรวจจับ

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี:
    - เป้าหมายรวมถึงการขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น แผนการปฏิบัติการทางทหารและรายงานการบาดเจ็บ

    ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - นักวิจัยจาก Symantec พบว่าการโจมตีครั้งนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ Shuckworm จะมีทักษะที่ด้อยกว่ากลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียอื่น ๆ

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอก:
    - องค์กรควรเพิ่มมาตรการป้องกันการโจมตีผ่านอุปกรณ์ภายนอก เช่น USB

    ⚠️ การป้องกันมัลแวร์:
    - การใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมมัลแวร์และการตรวจสอบเครือข่ายสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

    ⚠️ การฝึกอบรมพนักงาน:
    - พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการระบุไฟล์ที่น่าสงสัยและการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/3959665/russian-shuckworm-apt-is-back-with-updated-gammasteel-malware.html
    กลุ่มแฮกเกอร์ Shuckworm ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย (FSB) ได้กลับมาโจมตีอีกครั้ง โดยใช้มัลแวร์ GammaSteel เวอร์ชันใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือภารกิจทางทหารของประเทศตะวันตกในยูเครน ✅ ลักษณะการโจมตี: - การโจมตีเริ่มต้นด้วยไฟล์ลิงก์ (.lnk) ที่ถูกเปิดจากอุปกรณ์ภายนอก - ไฟล์ดังกล่าวเรียกใช้สคริปต์ที่ซับซ้อนและมัลแวร์ GammaSteel ผ่าน PowerShell ✅ ความสามารถของมัลแวร์ GammaSteel: - มัลแวร์สามารถขโมยไฟล์ที่มีนามสกุลเฉพาะ เช่น .doc, .xls, .pdf จากโฟลเดอร์ Desktop, Download และ Documents - ใช้ PowerShell web requests และ fallback ผ่าน Tor proxy เพื่อส่งข้อมูลออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ✅ การปรับปรุงมัลแวร์: - GammaSteel เวอร์ชันใหม่มีการเพิ่มการเข้ารหัสและการใช้บริการเว็บที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกตรวจจับ ✅ เป้าหมายของการโจมตี: - เป้าหมายรวมถึงการขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น แผนการปฏิบัติการทางทหารและรายงานการบาดเจ็บ ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ: - นักวิจัยจาก Symantec พบว่าการโจมตีครั้งนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ Shuckworm จะมีทักษะที่ด้อยกว่ากลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียอื่น ๆ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอก: - องค์กรควรเพิ่มมาตรการป้องกันการโจมตีผ่านอุปกรณ์ภายนอก เช่น USB ⚠️ การป้องกันมัลแวร์: - การใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมมัลแวร์และการตรวจสอบเครือข่ายสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ ⚠️ การฝึกอบรมพนักงาน: - พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการระบุไฟล์ที่น่าสงสัยและการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/3959665/russian-shuckworm-apt-is-back-with-updated-gammasteel-malware.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russian Shuckworm APT is back with updated GammaSteel malware
    The attack targeted the military mission of a Western country in Ukraine, with the goal of deploying a PowerShell-based version of the GammaSteel infostealer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งพิเศษเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับของ Chris Krebs อดีตผู้อำนวยการ CISA และบริษัท SentinelOne ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความกังวลในวงการความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับ:
    - คำสั่งพิเศษนี้เพิกถอนสิทธิ์ของ Chris Krebs และพนักงาน SentinelOne ที่เกี่ยวข้องกับเขา
    - การเพิกถอนสิทธิ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์โดยตรง

    ✅ ผลกระทบต่อ SentinelOne:
    - SentinelOne อาจเผชิญกับความท้าทายในการให้บริการแก่รัฐบาล เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิ์อาจทำให้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับเป็นโมฆะ
    - บริษัทระบุว่ามีพนักงานน้อยกว่า 10 คนที่ได้รับผลกระทบ และไม่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจโดยรวม

    ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงวิจารณ์ว่าการเพิกถอนสิทธิ์โดยคำสั่งพิเศษนี้ขัดต่อกระบวนการที่ควรมี เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยและการให้เหตุผล

    ✅ ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต:
    - Chris Krebs ถูกไล่ออกจากตำแหน่งในปี 2020 หลังจากยืนยันว่าการเลือกตั้งในปีนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล:
    - การใช้คำสั่งพิเศษในลักษณะนี้อาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม

    ⚠️ ผลกระทบต่อวงการความปลอดภัยไซเบอร์:
    - การเพิกถอนสิทธิ์ของ SentinelOne อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่มั่นคงในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล

    https://www.csoonline.com/article/3958808/trump-revokes-security-clearances-for-chris-krebs-sentinelone-in-problematic-precedent-for-security-vendors.html
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งพิเศษเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับของ Chris Krebs อดีตผู้อำนวยการ CISA และบริษัท SentinelOne ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความกังวลในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับ: - คำสั่งพิเศษนี้เพิกถอนสิทธิ์ของ Chris Krebs และพนักงาน SentinelOne ที่เกี่ยวข้องกับเขา - การเพิกถอนสิทธิ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์โดยตรง ✅ ผลกระทบต่อ SentinelOne: - SentinelOne อาจเผชิญกับความท้าทายในการให้บริการแก่รัฐบาล เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิ์อาจทำให้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับเป็นโมฆะ - บริษัทระบุว่ามีพนักงานน้อยกว่า 10 คนที่ได้รับผลกระทบ และไม่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจโดยรวม ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงวิจารณ์ว่าการเพิกถอนสิทธิ์โดยคำสั่งพิเศษนี้ขัดต่อกระบวนการที่ควรมี เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยและการให้เหตุผล ✅ ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต: - Chris Krebs ถูกไล่ออกจากตำแหน่งในปี 2020 หลังจากยืนยันว่าการเลือกตั้งในปีนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล: - การใช้คำสั่งพิเศษในลักษณะนี้อาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม ⚠️ ผลกระทบต่อวงการความปลอดภัยไซเบอร์: - การเพิกถอนสิทธิ์ของ SentinelOne อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่มั่นคงในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล https://www.csoonline.com/article/3958808/trump-revokes-security-clearances-for-chris-krebs-sentinelone-in-problematic-precedent-for-security-vendors.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Trump revokes security clearances for Chris Krebs, SentinelOne in problematic precedent for security vendors
    US President Donald Trump issued an executive order revoking the security clearance of Krebs and cybersecurity giant SentinelOne as retribution for the former CISA director’s defense of the 2020 election. The move holds significant implications for SentinelOne going forward.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกียังคงวนเวียนหลงทางอยู่กับความพยายามกล่าวหาจีนว่ามีส่วนร่วมในการส่งทหารเข้าร่วมรบกับรัสเซีย ซึ่งเขาไม่เชื่อว่าเชลยชาวจีนที่เขากล่าวอ้างนั้นเป็นเพียงทหารรับจ้างเท่านั้น

    เซเลนสกีสั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของบุคคลอื่นๆ ในปฏิบัติการของรัสเซียต่อยูเครน
    เซเลนสกียังคงวนเวียนหลงทางอยู่กับความพยายามกล่าวหาจีนว่ามีส่วนร่วมในการส่งทหารเข้าร่วมรบกับรัสเซีย ซึ่งเขาไม่เชื่อว่าเชลยชาวจีนที่เขากล่าวอ้างนั้นเป็นเพียงทหารรับจ้างเท่านั้น เซเลนสกีสั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของบุคคลอื่นๆ ในปฏิบัติการของรัสเซียต่อยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 5 วิธีการทำให้เงินออมงอกเงย
    .
    เมื่อได้เงินออมมาด้วยความยากเย็นแล้ว ถ้าต้องการให้เงินออมงอกเงยเพื่อประโยชน์ของผู้ออม ก็สามารถดำเนินการได้หลายลักษณะดังต่อไปนี้
    - ฝากเงินกับธนาคารในลักษณะบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งให้ความคล่องตัวในการถอนและฝาก แต่ได้ดอกเบี้ยต่ำ ถ้าฝากบัญชีเงินฝากประจำ จะมีเวลาให้เลือกได้แก่ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งให้ผลตอบแทนแตกต่างกัน แต่ก็ยังสูงกว่าการฝากในรูปบัญชีออมทรัพย์ (ยิ่งระยะยาวนานดอกเบี้ยยิ่งสูง)
    - ซื้อกองทุนรวม หมายถึงบริษัทจัดการกองทุนรวมจะนำเงินออมที่ถูกนำมาซื้อหน่วยลงทุนไปลงทุนซื้อหุ้นตราสารหนี้ (ภาครัฐและบริษัทเอกชนกู้ยืมเงินเพื่อเอาไปลงทุน) เพื่อให้ได้รับผลตอบแทน การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นการมอบหมายให้ผู้มีความรู้ในเรื่องการเงินเป็นผู้ตัดสินใจลงทุนแทน
    .
    กองทุนรวมในปัจจุบันมีหลายลักษณะ เช่น กองทุนรวมเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมเพื่อลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนหุ้นระยะยาว เป็นต้น
    - ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ให้เช่า เช่น อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม และบ้าน การใช้เงินออมร่วมกับค่าเช่าที่ได้รับจากอสังหาริมทรัพย์นั้น มาผ่อนชำระเพื่อจะได้เป็นเจ้าของในระยะยาว และหลังจากนั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวค่าเช่าได้เต็มที่ และอาจได้รับส่วนเพิ่มของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย อย่างไรก็ดี ถ้ามีเงินออมเป็นก้อนใหญ่จนสามารถใช้เป็นเงินดาวน์ และสามารถใช้ค่าเช่าเป็นเงินผ่อนชำระได้ทั้งหมดแล้ว ก็จะเป็นกรณีที่เงินออมงอกเงยขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
    - ซื้อหุ้นด้วยเงินออม การลงทุนซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีโอกาสสูงที่ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตโดยหวังผลในระยะยาว เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
    - ซื้อตราสารหนี้ ซึ่งอาจเป็นพันธบัตรรัฐบาล (รัฐบาลกู้ยืมโดยออกเอกสารรับรอง) หรือตราสารหนี้ที่ออกโดยธุรกิจเอกชน ผลตอบแทนจากการประกอบการที่มีความไม่แน่นอนสูงกว่า
    - ลงทุนประกอบธุรกิจเอง หรือเข้าหุ้นประกอบธุรกิจกับผู้อื่น การลงทุนลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากผลกำไร ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ประกอบการ
    .
    ยังมีวิธีการอื่นๆที่ทำให้เงินออมงอกเงย แต่ก็ไม่ใช่หนทางหลัก สิ่งที่ควรตระหนักเสมอในการลงทุนมีอยู่อย่างน้อย 2 ประการ คือ 1. จะมีเงินออมเพื่อนำไปลงทุนได้มากก็ต้องเริ่มจากการมีรายได้มากเป็นเบื้องแรก และสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ดีจนทำให้สามารถออมได้ 2. การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ไม่มีการลงทุนใดที่ปราศจากความเสี่ยง ประเด็นอยู่ที่ว่า เมื่อเปรียบเทียบแล้วการลงทุนใดมีความเสี่ยงมากกว่ากัน
    .
    การมีเงินออมอย่างสม่ำเสมอและอย่างมีจุดหมายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางการเงินตลอดชีวิต การทำงานอันเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน จะก่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิตได้ก็ต่อเมื่อมีรายได้อย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพ และเหลือเงินออมเพื่อนำไปลงทุนจนก่อให้เกิดทรัพย์สินและรายได้เพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง นอกจากรายได้จากการทำงานที่ต้องออกแรง รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเหล่านี้จะเป็นฐานสำคัญของการดำรงชีพหลังวัยทำงาน
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 5 วิธีการทำให้เงินออมงอกเงย . เมื่อได้เงินออมมาด้วยความยากเย็นแล้ว ถ้าต้องการให้เงินออมงอกเงยเพื่อประโยชน์ของผู้ออม ก็สามารถดำเนินการได้หลายลักษณะดังต่อไปนี้ - ฝากเงินกับธนาคารในลักษณะบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งให้ความคล่องตัวในการถอนและฝาก แต่ได้ดอกเบี้ยต่ำ ถ้าฝากบัญชีเงินฝากประจำ จะมีเวลาให้เลือกได้แก่ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งให้ผลตอบแทนแตกต่างกัน แต่ก็ยังสูงกว่าการฝากในรูปบัญชีออมทรัพย์ (ยิ่งระยะยาวนานดอกเบี้ยยิ่งสูง) - ซื้อกองทุนรวม หมายถึงบริษัทจัดการกองทุนรวมจะนำเงินออมที่ถูกนำมาซื้อหน่วยลงทุนไปลงทุนซื้อหุ้นตราสารหนี้ (ภาครัฐและบริษัทเอกชนกู้ยืมเงินเพื่อเอาไปลงทุน) เพื่อให้ได้รับผลตอบแทน การลงทุนผ่านกองทุนรวม เป็นการมอบหมายให้ผู้มีความรู้ในเรื่องการเงินเป็นผู้ตัดสินใจลงทุนแทน . กองทุนรวมในปัจจุบันมีหลายลักษณะ เช่น กองทุนรวมเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมเพื่อลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนหุ้นระยะยาว เป็นต้น - ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ให้เช่า เช่น อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม และบ้าน การใช้เงินออมร่วมกับค่าเช่าที่ได้รับจากอสังหาริมทรัพย์นั้น มาผ่อนชำระเพื่อจะได้เป็นเจ้าของในระยะยาว และหลังจากนั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวค่าเช่าได้เต็มที่ และอาจได้รับส่วนเพิ่มของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย อย่างไรก็ดี ถ้ามีเงินออมเป็นก้อนใหญ่จนสามารถใช้เป็นเงินดาวน์ และสามารถใช้ค่าเช่าเป็นเงินผ่อนชำระได้ทั้งหมดแล้ว ก็จะเป็นกรณีที่เงินออมงอกเงยขึ้นได้อย่างรวดเร็ว - ซื้อหุ้นด้วยเงินออม การลงทุนซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีโอกาสสูงที่ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตโดยหวังผลในระยะยาว เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ - ซื้อตราสารหนี้ ซึ่งอาจเป็นพันธบัตรรัฐบาล (รัฐบาลกู้ยืมโดยออกเอกสารรับรอง) หรือตราสารหนี้ที่ออกโดยธุรกิจเอกชน ผลตอบแทนจากการประกอบการที่มีความไม่แน่นอนสูงกว่า - ลงทุนประกอบธุรกิจเอง หรือเข้าหุ้นประกอบธุรกิจกับผู้อื่น การลงทุนลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากผลกำไร ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ประกอบการ . ยังมีวิธีการอื่นๆที่ทำให้เงินออมงอกเงย แต่ก็ไม่ใช่หนทางหลัก สิ่งที่ควรตระหนักเสมอในการลงทุนมีอยู่อย่างน้อย 2 ประการ คือ 1. จะมีเงินออมเพื่อนำไปลงทุนได้มากก็ต้องเริ่มจากการมีรายได้มากเป็นเบื้องแรก และสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ดีจนทำให้สามารถออมได้ 2. การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ไม่มีการลงทุนใดที่ปราศจากความเสี่ยง ประเด็นอยู่ที่ว่า เมื่อเปรียบเทียบแล้วการลงทุนใดมีความเสี่ยงมากกว่ากัน . การมีเงินออมอย่างสม่ำเสมอและอย่างมีจุดหมายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางการเงินตลอดชีวิต การทำงานอันเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน จะก่อให้เกิดความมั่นคงในชีวิตได้ก็ต่อเมื่อมีรายได้อย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพ และเหลือเงินออมเพื่อนำไปลงทุนจนก่อให้เกิดทรัพย์สินและรายได้เพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง นอกจากรายได้จากการทำงานที่ต้องออกแรง รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเหล่านี้จะเป็นฐานสำคัญของการดำรงชีพหลังวัยทำงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตร.ไซเบอร์ - ฝ่ายความมั่นคง - ศปปส.ต้องเข้าแล้ว ลากตัวมันมาให้ได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ตร.ไซเบอร์ - ฝ่ายความมั่นคง - ศปปส.ต้องเข้าแล้ว ลากตัวมันมาให้ได้ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงพลังงานจ่อออกกฎหมาย 2 ฉบับ ควบคุมราคาน้ำมัน พร้อมแนวคิดเก็บสำรองน้ำมันแทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯ

    ก.พลังงาน เร่งออกกฎหมาย 2 ฉบับ หวังควบคุมการปรับราคาน้ำมันอิสระ และกำหนดให้ผู้ประกอบการแจ้งต้นทุนที่แท้จริง พร้อมวางแผนสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ ด้วยการยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ แต่ให้ผู้ประกอบการส่งน้ำมันมาเก็บสำรองเป็นของรัฐแทน
    ชี้ปัญหาราคาพลังงานแพง เกิดจากแนวคิดที่ไม่ถูกต้องที่มุ้งเน้นไปยังผลกำไรของธุรกิจเอกชน มากกว่าความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ พร้อมยืนยันจะแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน

    https://www.energynewscenter.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2-2-%E0%B8%89%E0%B8%9A/?fbclid=IwY2xjawJjakNleHRuA2FlbQIxMAABHrUo9jQhSUVuRnte9W_UzgfyJuyahS9STJNoTzKW3EVdXSPNhH6nmW7WuHcY_aem_2ZqAG3o20pBBF4cVRJkK8w
    กระทรวงพลังงานจ่อออกกฎหมาย 2 ฉบับ ควบคุมราคาน้ำมัน พร้อมแนวคิดเก็บสำรองน้ำมันแทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯ ก.พลังงาน เร่งออกกฎหมาย 2 ฉบับ หวังควบคุมการปรับราคาน้ำมันอิสระ และกำหนดให้ผู้ประกอบการแจ้งต้นทุนที่แท้จริง พร้อมวางแผนสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ ด้วยการยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ แต่ให้ผู้ประกอบการส่งน้ำมันมาเก็บสำรองเป็นของรัฐแทน ชี้ปัญหาราคาพลังงานแพง เกิดจากแนวคิดที่ไม่ถูกต้องที่มุ้งเน้นไปยังผลกำไรของธุรกิจเอกชน มากกว่าความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ พร้อมยืนยันจะแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน https://www.energynewscenter.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2-2-%E0%B8%89%E0%B8%9A/?fbclid=IwY2xjawJjakNleHRuA2FlbQIxMAABHrUo9jQhSUVuRnte9W_UzgfyJuyahS9STJNoTzKW3EVdXSPNhH6nmW7WuHcY_aem_2ZqAG3o20pBBF4cVRJkK8w
    WWW.ENERGYNEWSCENTER.COM
    พลังงานจ่อออกกฎหมาย 2 ฉบับ ควบคุมราคาน้ำมัน พร้อมแนวคิดเก็บสำรองน้ำมันแทนการส่งเงินเข้ากองทุนฯ
    พลังงาน เร่งออกกฎหมาย 2 ฉบับ หวังควบคุมการปรับราคาน้ำมันอิสระ และกำหนดให้ผู้ประกอบการแจ้งต้นทุนที่แท้จริง พร้อมวางแผนสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ออกอัปเดต Windows 11 KB5055523 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดสำคัญในระบบ Kerberos Authentication ที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ โดยข้อผิดพลาดนี้ทำให้เครื่องมือสำคัญในองค์กร เช่น Credential Guard เกิดการขัดข้อง

    == สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการแก้ไข ==
    ✅ ปัญหาที่พบ:
    - อุปกรณ์ที่ใช้ Identity Update Manager และ Public Key Cryptography for Initial Authentication (PKINIT) พบว่ารหัสผ่านไม่ได้ถูกเปลี่ยนตามรอบเวลา 30 วัน ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น
    - ส่งผลให้ระบบมองว่ารหัสผ่านใน Machine Accounts เป็น “รหัสผ่านที่ล้าสมัย” และนำไปสู่การยกเลิกการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน

    ✅ ความเชื่อมโยงกับ Credential Guard:
    - ฟีเจอร์ Credential Guard ซึ่งย้ายข้อมูลรับรองจาก registry ไปยังพื้นที่ปลอดภัย มีการปิดใช้งานชั่วคราวเนื่องจาก Kerberos Authentication ที่มีข้อผิดพลาด

    == การแก้ปัญหาในอัปเดตใหม่ ==
    ✅ ฟื้นฟูความมั่นคงของระบบ:
    - Microsoft ได้แก้ไขข้อผิดพลาดใน KB5055523 ซึ่งช่วยให้ระบบ Kerberos สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ตามรอบเวลา ทำให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Credential Guard กลับมาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

    ✅ ลดผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วไป:
    - ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในองค์กรที่ใช้ระบบ Enterprise Environment โดยผู้ใช้ Windows Home Edition แทบไม่ได้รับผลกระทบ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-windows-11-kb5055523-fixes-kerberos-bug-that-wont-let-passwords-change/
    Microsoft ได้ออกอัปเดต Windows 11 KB5055523 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดสำคัญในระบบ Kerberos Authentication ที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนรหัสผ่านอัตโนมัติ โดยข้อผิดพลาดนี้ทำให้เครื่องมือสำคัญในองค์กร เช่น Credential Guard เกิดการขัดข้อง == สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการแก้ไข == ✅ ปัญหาที่พบ: - อุปกรณ์ที่ใช้ Identity Update Manager และ Public Key Cryptography for Initial Authentication (PKINIT) พบว่ารหัสผ่านไม่ได้ถูกเปลี่ยนตามรอบเวลา 30 วัน ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น - ส่งผลให้ระบบมองว่ารหัสผ่านใน Machine Accounts เป็น “รหัสผ่านที่ล้าสมัย” และนำไปสู่การยกเลิกการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ✅ ความเชื่อมโยงกับ Credential Guard: - ฟีเจอร์ Credential Guard ซึ่งย้ายข้อมูลรับรองจาก registry ไปยังพื้นที่ปลอดภัย มีการปิดใช้งานชั่วคราวเนื่องจาก Kerberos Authentication ที่มีข้อผิดพลาด == การแก้ปัญหาในอัปเดตใหม่ == ✅ ฟื้นฟูความมั่นคงของระบบ: - Microsoft ได้แก้ไขข้อผิดพลาดใน KB5055523 ซึ่งช่วยให้ระบบ Kerberos สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ตามรอบเวลา ทำให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Credential Guard กลับมาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ✅ ลดผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วไป: - ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในองค์กรที่ใช้ระบบ Enterprise Environment โดยผู้ใช้ Windows Home Edition แทบไม่ได้รับผลกระทบ https://www.neowin.net/news/microsoft-windows-11-kb5055523-fixes-kerberos-bug-that-wont-let-passwords-change/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft: Windows 11 KB5055523 fixes Kerberos bug that won't let passwords change
    Microsoft has fixed a Windows 11 24H2 and Server 2025 bug where passwords were failing to change, leading to authentication failures.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลตุรกีกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงาน Information and Communication Technologies Authority (BTK) ในการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ”

    ✅ สิทธิใหม่ของหน่วยงาน BTK:
    - BTK จะได้รับอำนาจในการบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความได้โดยตรง หากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงสาธารณะ สุขภาพ หรือผลประโยชน์ของรัฐ
    - สามารถลดแบนด์วิดท์ได้ถึง 90% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เว็บไซต์และแอปเป้าหมายแทบไม่สามารถใช้งานได้เลย

    ✅ ข้อกำหนดสำหรับบริษัท:
    - แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 1 ล้านคน ในตุรกี เช่น Instagram, YouTube, WhatsApp ต้องตั้งบริษัทในประเทศและปฏิบัติตามข้อบังคับที่เข้มงวด

    ✅ การควบคุม VPN:
    - ตุรกียังเพิ่มการบีบคั้นบริการ VPN ซึ่งผู้ใช้นิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

    ✅ ผลกระทบและความกังวล:
    - การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้อาจเพิ่มความเข้มงวดในระดับเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบจากการปิดกั้นโซเชียลมีเดียในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงทางการเมืองและเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวปี 2023
    - ผู้สื่อข่าวและกลุ่มสิทธิดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่าอำนาจที่เพิ่มขึ้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดปากการรายงานข่าวอิสระ และลดทอนเสรีภาพในการแสดงออกในโลกออนไลน์

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/turkey-wants-to-make-it-easier-for-authorities-to-block-social-media-and-messaging-apps
    รัฐบาลตุรกีกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงาน Information and Communication Technologies Authority (BTK) ในการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ” ✅ สิทธิใหม่ของหน่วยงาน BTK: - BTK จะได้รับอำนาจในการบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความได้โดยตรง หากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงสาธารณะ สุขภาพ หรือผลประโยชน์ของรัฐ - สามารถลดแบนด์วิดท์ได้ถึง 90% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เว็บไซต์และแอปเป้าหมายแทบไม่สามารถใช้งานได้เลย ✅ ข้อกำหนดสำหรับบริษัท: - แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 1 ล้านคน ในตุรกี เช่น Instagram, YouTube, WhatsApp ต้องตั้งบริษัทในประเทศและปฏิบัติตามข้อบังคับที่เข้มงวด ✅ การควบคุม VPN: - ตุรกียังเพิ่มการบีบคั้นบริการ VPN ซึ่งผู้ใช้นิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ✅ ผลกระทบและความกังวล: - การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้อาจเพิ่มความเข้มงวดในระดับเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบจากการปิดกั้นโซเชียลมีเดียในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงทางการเมืองและเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวปี 2023 - ผู้สื่อข่าวและกลุ่มสิทธิดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่าอำนาจที่เพิ่มขึ้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดปากการรายงานข่าวอิสระ และลดทอนเสรีภาพในการแสดงออกในโลกออนไลน์ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/turkey-wants-to-make-it-easier-for-authorities-to-block-social-media-and-messaging-apps
    WWW.TECHRADAR.COM
    Turkey wants to make it easier for authorities to block social media and messaging apps
    The draft amendment would also require establishing a company in the country
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 คนบริสุทธิ์ด้วยการงาน
    .
    งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ
    .
    ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม
    .
    การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน
    .
    เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
    .
    เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้
    .
    พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้”
    .
    สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้
    .
    ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ
    ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น
    .
    ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 คนบริสุทธิ์ด้วยการงาน . งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ . ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม . การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน . เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น . เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้ . พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้” . สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้ . ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น . ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มฮูตียืนยันการเสียชีวิตของพันเอกอับดุลนาเซอร์ อัล-คามาลี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยข่าวกรองและความมั่นคง หลังการโจมตีของสหรัฐเมื่อไม่นานนี้

    👉นอกจากนี้ เกี่ยวกับภาพวิดีโอที่ทรัมป์โพสต์เมื่อวันก่อน ถึงความสำเร็จจากการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มคนในเยเมน ซึ่งมีแนวโน้มว่าทั้งหมดนั่นคือ "พลเรือน" ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆจากเรื่องนี้
    กลุ่มฮูตียืนยันการเสียชีวิตของพันเอกอับดุลนาเซอร์ อัล-คามาลี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยข่าวกรองและความมั่นคง หลังการโจมตีของสหรัฐเมื่อไม่นานนี้ 👉นอกจากนี้ เกี่ยวกับภาพวิดีโอที่ทรัมป์โพสต์เมื่อวันก่อน ถึงความสำเร็จจากการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มคนในเยเมน ซึ่งมีแนวโน้มว่าทั้งหมดนั่นคือ "พลเรือน" ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆจากเรื่องนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • 08-04-68/03 : หมี CNN / ตอแหลไม่เลิกน่ะมรึง? อ้างไม่ส่งอาวุธปืนให้อียิว เพราะกลัวหากอียิวหัวรุนแรงจะนำเอาไปใช้ก่อเหตุ จุดไฟสงครามไม่เลิก อ๋อ..เหรอ? ดูดี มีสถุนน่ะมรึงเนี่ย? ทุกวันนี้ในอิสราเอล เหลือทหารยิวแท้ๆ กี่ตัวกันจ๊ะ? ส่วนใหญ่ ตุยกันไปเยอะ ล่อกันเป็นกองพัน ไอ้ที่มรึงเห็นวันนี้ ทหารรับจ้างทั้งนั้น พวกรับจ็อบมาตายห่าฟรี 6 เดือนแรก แห่กันมาขนดอลล่าร์ พอผ่านไปแค่ 2 เดือน ห่อถุงดำกลับบ้านเพี๊ยบ เงินไม่ได้แตะซะงั้น เพราะ 3 ฮอ ล่อลูกยาวทั้งวัน ทั้งคืน ไหนจะซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ดาหน้าถล่มขีปนาวุธร่อน โดรนพิฆาต เข้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทหารสำคัญหมดเกลี้ยง แม้แต่ที่ราบสูงโกลานก็ไม่รอดสายตา อยู่สูงกว่านิดหน่อย คิดว่าระเบิดไปไม่ถึงเหรอจ๊ะ? อย่าเพิ่งอ๊วก หากมรึงได้อ่านบทความข่าวแปลนี้ แล้วสะอิดสะเอียน พูดเอาดีเข้าตัว เอาเหี้ยใส่คนอื่น ถามจริง? ไอ้ที่ทหารมะกันไปตายโหง ตายห่าในตะวันออกกลางเนี่ย มรึงคิดว่าชาวโลกเค้าสงสารมรึงรึไง? ภาพปล้นทองคำในอิรัก ยึดทรัพย์สินซัดดัม นี่ไง เป้าหมายแท้จริงที่เข้ามาขุดทองในโลกอาหรับ แหล่งบ่อน้ำมันทั่วอิรัก อาวุธอะไรก็ตามที่ส่งเข้ามาช่วยอียิว มันไร้ประโยชน์ เพราะกว่า3 ฮอ และพันธมิตรจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้นั้น แปลว่าพวกมรึงได้ตายห่ากันไปหมดแล้วนั่นเอง ลูกยาว โดรน ทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศมรึงยับเยิน ล่าสุด อียิว กำลังถูกล้อมหน้า ล้อมหลัง หลังเปิดพื้นที่ฉนวนกาซ่า ให้การช่วยเหลือเข้าถึง หลังเปิดโต๊ะเจรจาหยุดยิง แลกตัวประกัน ยังไม่ถึงสัปดาห์ แม่งล่อกันเละเทะต่อ ภาพส่วนใหญ่ในสื่อหลักเหี้ยโลก จะไม่พูดถึงความเสียหายหนักของอิสราเอล แต่มรึงจะเห็นแต่ภาพชาวปาเลสไตน์ถูกยิวไล่ฆ่า เพราะนั่นคือศิลปะของการโฆษณาชวนเชื่อ บริษัทค้าอาวุธยิวจะขายออกเหรอ หากโลกรู้ความจริงว่า แพ้เค้ายับ แค่กองโจรกระจอกที่พวกมรึงเคยเรียก แต่มรึงตายห่าเรียบวุธน่ะจ๊ะ อียิวอาวุธเกลี้ยงแล้ว เพราะถูกโจมตีหนัก ทำลายคลังแสง สนามบิน กองบัญชาการ กองหนุน และฝ่ายซ่อมบำรุง ล้วนถูกไฮเปอร์โซนิคอิหร่าน แจกจ่ายไปทั่ว ยิงไม่ต้องเยอะ เน้นๆ เนื้อๆ เข้าเป้าหมายทุกดอก แม่นยำสุดขีด ที่มาว่ายอดขายอาวุธอิหร่าน รัสเซีย จีน โสมแดง พุ่งทะลุมิติไปแล้ว ขณะนี้ ยานยนต์ บินรบ รถถัง โดรน ราคาแพงและโคตรห่วยของฝั่งตะวันตก ขายไม่ออก เพราะทั้งเงื่อนไขเยอะเกิน ราคาแพงเกินจริงไปเยอะ แถมประสิทธิภาพโคตรกระจอก ถูกนำอาวุธที่ถูกนักรบค่ายอาหรับถล่มมาหมาดๆ ออกมาประจานออกเต็มโซเชี่ยลโลก จากประเทศผลิตอาวุธสงครามส่งออก กลายมาเป็นรับบริจาคซะงั้น? คำตอบว่า ใครกันแน่ ที่ชนะสงครามครูเสดครั้งสุดท้ายตัวจริง แค่อาวุธไม่สามารถชนะศึกได้ กึ๋นของผู้วางแผน การเตรียมพร้อม และความตั้งใจจริง มันต่างกันเยอะ ผู้รุกรานเค้า กับผู้ปกป้องแผ่นดินเกิด ใจมันผิดกันเยอะ ชัยชนะของโลกอาหรับมีชัวร์ แต่จะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่ ว่ายังจะเดินเกมส์ต่อแค่ไหน ทั้งเส้นทางท่อแก็ส โลจิสติค สินค้าผ่านมืออาหรับเข้าสู่แอฟริกา ลาติน จุดเปลี่ยนโมเมตั่มโลกคือตรงนี้ ดังนั้น สัญญานจากอีฟาโรห์ อีจอร์แดน มันคือการย้ายขั้วใหม่ที่เตรียมการรอไว้นานแล้ว แทงหลังอียิว มันไม่ปล่อยมรึงไว้แน่ เพราะอียิวมันคือสัดเดรัจฉานผู้เครียดแค้นไม่เลิก เหมือนที่ครั้งนึง ลุงหนวดจิ๋มเคยไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวมาก่อน มันถึงรอวันเอาคืน หลังอีป้าแมร์เคิลหมดวาระไป อีโอลาฟโง่ก็เข้ามาตามใบสั่ง แล้วมรึงก็ได้รู้เช่นเห็นชาติทันที 10 ปี อีป้าสร้าง แค่ปีเดียว อีโง่ทำลายเกลี้ยง ที่สำคัญ เสือกจะไปท้ารบรัสเซีย นั่นคือถึงขั้นสิ้นชาติน่ะจ๊ะ?

    U.S. sending Israel more than 20,000 assault rifles that Biden had delayed แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน

    รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนการขายปืนยาว 20,000 กระบอกให้อิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้วตามเอกสารจากสำนักข่าวรอยเตอร์สและแหล่งข่าวเรื่องอาวุธซึ่งระบุว่า การขายอาวุธที่อดีตรัฐบาลนายไบเดนชะลอการขายจากความกังวลว่า กลุ่มหัวรุนแรงอิสราเอลอาจนำไปใช้

    กระทรวงต่างประเทศส่งคำเตือนให้สภาคองเกรส เมื่อวันที่ 6 มีนาคมเรื่องการขายอาวุธปืนยาว Colt Carbine ขนาด 5.56 มม. เป็นเงิน 24 ล้านดอลลาร์ซึ่งผู้ที่ใช้อาจเป็นตำรวจอิสราเอล

    การขายอาวุธดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินจำนวนน้อยหลังการผลิตอาวุธหลายพันล้านของสหรัฐให้อิสราเอล

    ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนายไบเดนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทที่อ้างว่าปฏิบัติการอย่างรุนแรงในเขตเวสต์แบ๊งค์ซึ่งทำให้เกิดการโจมตีเพิ่มขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์

    คำเตือนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมระบุว่า รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญต่อ “การเมือง กองทัพ เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และการควบคุมอาวุธ”

    กระทรวงต่างประเทศไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับที่รัฐบาลต้องการความมั่นใจจากอิสราเอลในเรื่องการใช้อาวุธ

    ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนาย เนทันยาฮูและนายทรัมป์

    ตั้งแต่สงครามระหว่างอาหรับและอิสราเอลในปี 1967 อิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบ๊งค์และสร้างชุมชนที่หลายประเทศมองว่าผิดกฎหมาย อิสราเอลโต้แย้งซึ่งอ้างถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และคัมภีร์ไบเบิลต่อบริเวณดังกล่าว

    ความรุนแรงจากผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นก่อนที่สงครามกาซ่าจะเกิดขึ้นและแย่ลงตั้งแต่ที่สงครามเริ่มขึ้นในปีที่แล้ว

    นายทรัมป์พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูซึ่งให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซ่า รัฐบาลขายอาวุธให้อิสราเอลแม้จะมีคำร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรค เดโมแครตทว่า ให้หยุดการขายจนกว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาสูงสหรัฐปฏิเสธการประมูลเพื่อขัดขวางการขายอาวุธ 8.8 พันล้านดอลลาร์ให้อิสราเอลจากความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีการลงคะแนนเสียง 82 ต่อ 15 และ 83-15 ที่ไม่ยอมรับ 2 มติเรื่องการไม่อนุมัติการขายระเบิดขนาดใหญ่แลถเครื่องมือป้องกันภัยทางทหาร

    มีการชะลอการขายปืนยาวหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคเดโมแครตคัดค้านและพบข้อมูลแผนการใช้อาวุธของอิสราเอล คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสตัดสินใจขายอาวุธแต่รัฐบาลนายไบเดนไม่อนุมัติ

    Itamar Ben-Gvir รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอลดูแลกองทัพของตำรวจอิสราเอล หนังสือพิมพ์ The Times of Israel รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งอิสราเอล “ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการติดอาวุธให้กองกำลังความมั่นคงของประชาชน” จากควันหลงของการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

    https://www.cbc.ca/news/world/trump-administration-assault-rifles-sale-israel-1.7501926

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    08-04-68/03 : หมี CNN / ตอแหลไม่เลิกน่ะมรึง? อ้างไม่ส่งอาวุธปืนให้อียิว เพราะกลัวหากอียิวหัวรุนแรงจะนำเอาไปใช้ก่อเหตุ จุดไฟสงครามไม่เลิก อ๋อ..เหรอ? ดูดี มีสถุนน่ะมรึงเนี่ย? ทุกวันนี้ในอิสราเอล เหลือทหารยิวแท้ๆ กี่ตัวกันจ๊ะ? ส่วนใหญ่ ตุยกันไปเยอะ ล่อกันเป็นกองพัน ไอ้ที่มรึงเห็นวันนี้ ทหารรับจ้างทั้งนั้น พวกรับจ็อบมาตายห่าฟรี 6 เดือนแรก แห่กันมาขนดอลล่าร์ พอผ่านไปแค่ 2 เดือน ห่อถุงดำกลับบ้านเพี๊ยบ เงินไม่ได้แตะซะงั้น เพราะ 3 ฮอ ล่อลูกยาวทั้งวัน ทั้งคืน ไหนจะซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ดาหน้าถล่มขีปนาวุธร่อน โดรนพิฆาต เข้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทหารสำคัญหมดเกลี้ยง แม้แต่ที่ราบสูงโกลานก็ไม่รอดสายตา อยู่สูงกว่านิดหน่อย คิดว่าระเบิดไปไม่ถึงเหรอจ๊ะ? อย่าเพิ่งอ๊วก หากมรึงได้อ่านบทความข่าวแปลนี้ แล้วสะอิดสะเอียน พูดเอาดีเข้าตัว เอาเหี้ยใส่คนอื่น ถามจริง? ไอ้ที่ทหารมะกันไปตายโหง ตายห่าในตะวันออกกลางเนี่ย มรึงคิดว่าชาวโลกเค้าสงสารมรึงรึไง? ภาพปล้นทองคำในอิรัก ยึดทรัพย์สินซัดดัม นี่ไง เป้าหมายแท้จริงที่เข้ามาขุดทองในโลกอาหรับ แหล่งบ่อน้ำมันทั่วอิรัก อาวุธอะไรก็ตามที่ส่งเข้ามาช่วยอียิว มันไร้ประโยชน์ เพราะกว่า3 ฮอ และพันธมิตรจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้นั้น แปลว่าพวกมรึงได้ตายห่ากันไปหมดแล้วนั่นเอง ลูกยาว โดรน ทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศมรึงยับเยิน ล่าสุด อียิว กำลังถูกล้อมหน้า ล้อมหลัง หลังเปิดพื้นที่ฉนวนกาซ่า ให้การช่วยเหลือเข้าถึง หลังเปิดโต๊ะเจรจาหยุดยิง แลกตัวประกัน ยังไม่ถึงสัปดาห์ แม่งล่อกันเละเทะต่อ ภาพส่วนใหญ่ในสื่อหลักเหี้ยโลก จะไม่พูดถึงความเสียหายหนักของอิสราเอล แต่มรึงจะเห็นแต่ภาพชาวปาเลสไตน์ถูกยิวไล่ฆ่า เพราะนั่นคือศิลปะของการโฆษณาชวนเชื่อ บริษัทค้าอาวุธยิวจะขายออกเหรอ หากโลกรู้ความจริงว่า แพ้เค้ายับ แค่กองโจรกระจอกที่พวกมรึงเคยเรียก แต่มรึงตายห่าเรียบวุธน่ะจ๊ะ อียิวอาวุธเกลี้ยงแล้ว เพราะถูกโจมตีหนัก ทำลายคลังแสง สนามบิน กองบัญชาการ กองหนุน และฝ่ายซ่อมบำรุง ล้วนถูกไฮเปอร์โซนิคอิหร่าน แจกจ่ายไปทั่ว ยิงไม่ต้องเยอะ เน้นๆ เนื้อๆ เข้าเป้าหมายทุกดอก แม่นยำสุดขีด ที่มาว่ายอดขายอาวุธอิหร่าน รัสเซีย จีน โสมแดง พุ่งทะลุมิติไปแล้ว ขณะนี้ ยานยนต์ บินรบ รถถัง โดรน ราคาแพงและโคตรห่วยของฝั่งตะวันตก ขายไม่ออก เพราะทั้งเงื่อนไขเยอะเกิน ราคาแพงเกินจริงไปเยอะ แถมประสิทธิภาพโคตรกระจอก ถูกนำอาวุธที่ถูกนักรบค่ายอาหรับถล่มมาหมาดๆ ออกมาประจานออกเต็มโซเชี่ยลโลก จากประเทศผลิตอาวุธสงครามส่งออก กลายมาเป็นรับบริจาคซะงั้น? คำตอบว่า ใครกันแน่ ที่ชนะสงครามครูเสดครั้งสุดท้ายตัวจริง แค่อาวุธไม่สามารถชนะศึกได้ กึ๋นของผู้วางแผน การเตรียมพร้อม และความตั้งใจจริง มันต่างกันเยอะ ผู้รุกรานเค้า กับผู้ปกป้องแผ่นดินเกิด ใจมันผิดกันเยอะ ชัยชนะของโลกอาหรับมีชัวร์ แต่จะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่ ว่ายังจะเดินเกมส์ต่อแค่ไหน ทั้งเส้นทางท่อแก็ส โลจิสติค สินค้าผ่านมืออาหรับเข้าสู่แอฟริกา ลาติน จุดเปลี่ยนโมเมตั่มโลกคือตรงนี้ ดังนั้น สัญญานจากอีฟาโรห์ อีจอร์แดน มันคือการย้ายขั้วใหม่ที่เตรียมการรอไว้นานแล้ว แทงหลังอียิว มันไม่ปล่อยมรึงไว้แน่ เพราะอียิวมันคือสัดเดรัจฉานผู้เครียดแค้นไม่เลิก เหมือนที่ครั้งนึง ลุงหนวดจิ๋มเคยไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวมาก่อน มันถึงรอวันเอาคืน หลังอีป้าแมร์เคิลหมดวาระไป อีโอลาฟโง่ก็เข้ามาตามใบสั่ง แล้วมรึงก็ได้รู้เช่นเห็นชาติทันที 10 ปี อีป้าสร้าง แค่ปีเดียว อีโง่ทำลายเกลี้ยง ที่สำคัญ เสือกจะไปท้ารบรัสเซีย นั่นคือถึงขั้นสิ้นชาติน่ะจ๊ะ? U.S. sending Israel more than 20,000 assault rifles that Biden had delayed แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนการขายปืนยาว 20,000 กระบอกให้อิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้วตามเอกสารจากสำนักข่าวรอยเตอร์สและแหล่งข่าวเรื่องอาวุธซึ่งระบุว่า การขายอาวุธที่อดีตรัฐบาลนายไบเดนชะลอการขายจากความกังวลว่า กลุ่มหัวรุนแรงอิสราเอลอาจนำไปใช้ กระทรวงต่างประเทศส่งคำเตือนให้สภาคองเกรส เมื่อวันที่ 6 มีนาคมเรื่องการขายอาวุธปืนยาว Colt Carbine ขนาด 5.56 มม. เป็นเงิน 24 ล้านดอลลาร์ซึ่งผู้ที่ใช้อาจเป็นตำรวจอิสราเอล การขายอาวุธดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินจำนวนน้อยหลังการผลิตอาวุธหลายพันล้านของสหรัฐให้อิสราเอล ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนายไบเดนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทที่อ้างว่าปฏิบัติการอย่างรุนแรงในเขตเวสต์แบ๊งค์ซึ่งทำให้เกิดการโจมตีเพิ่มขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์ คำเตือนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมระบุว่า รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญต่อ “การเมือง กองทัพ เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และการควบคุมอาวุธ” กระทรวงต่างประเทศไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับที่รัฐบาลต้องการความมั่นใจจากอิสราเอลในเรื่องการใช้อาวุธ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนาย เนทันยาฮูและนายทรัมป์ ตั้งแต่สงครามระหว่างอาหรับและอิสราเอลในปี 1967 อิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบ๊งค์และสร้างชุมชนที่หลายประเทศมองว่าผิดกฎหมาย อิสราเอลโต้แย้งซึ่งอ้างถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และคัมภีร์ไบเบิลต่อบริเวณดังกล่าว ความรุนแรงจากผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นก่อนที่สงครามกาซ่าจะเกิดขึ้นและแย่ลงตั้งแต่ที่สงครามเริ่มขึ้นในปีที่แล้ว นายทรัมป์พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูซึ่งให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซ่า รัฐบาลขายอาวุธให้อิสราเอลแม้จะมีคำร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรค เดโมแครตทว่า ให้หยุดการขายจนกว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาสูงสหรัฐปฏิเสธการประมูลเพื่อขัดขวางการขายอาวุธ 8.8 พันล้านดอลลาร์ให้อิสราเอลจากความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีการลงคะแนนเสียง 82 ต่อ 15 และ 83-15 ที่ไม่ยอมรับ 2 มติเรื่องการไม่อนุมัติการขายระเบิดขนาดใหญ่แลถเครื่องมือป้องกันภัยทางทหาร มีการชะลอการขายปืนยาวหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคเดโมแครตคัดค้านและพบข้อมูลแผนการใช้อาวุธของอิสราเอล คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสตัดสินใจขายอาวุธแต่รัฐบาลนายไบเดนไม่อนุมัติ Itamar Ben-Gvir รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอลดูแลกองทัพของตำรวจอิสราเอล หนังสือพิมพ์ The Times of Israel รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งอิสราเอล “ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการติดอาวุธให้กองกำลังความมั่นคงของประชาชน” จากควันหลงของการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม https://www.cbc.ca/news/world/trump-administration-assault-rifles-sale-israel-1.7501926 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.CBC.CA
    U.S. sending Israel more than 20,000 assault rifles that Biden had delayed: sources | CBC News
    The Trump administration moved ahead with the sale of more than 20,000 U.S.-made assault rifles to Israel last month — a sale the administration of former president Joe Biden had delayed over concerns they could be used by extremist Israeli settlers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แบนแบนแบนคาสิโน👎

    #แบนคาสิโนและกฎหมายคาสิโน
    #หายนะแห่งแผ่นดินคือฮับพนันครบวงจร

    ..ข้าราชการไทยทุกๆคนถึงเวลาแสดงความรักชาติไทยรักลูกหลานคนไทยตนที่มาเป็นราชการแผ่นดินไทยได้แล้ว,ทั้งพวกอบต.อบจ.ด้วย.สำนึกแต่ตั้งมาเพื่อค้านกระจายอำนาจจากส่วนกลางเพื่ออะไร หากทั้งหมดเพื่อประชาชนคนไทยตน นี้เกี่ยวข้องระยะยาวนะ เสือกนิ่งทำเฉยอยู่,คนไทยมั้ย.ข้าราชการไทยทั้งด้วยพวกส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มโนสิ้นคิดดูง่ายๆไม่ออกอีกเหรอว่า,ฉิบหายมาเยือนทั้งแผ่นดินไทยแน่นอน,ควรร่วมกันตัดตอนปัญหาเยาวชนและประชาชนคนไทยทันทีร่วมกัน.
    ..ไม่มีในนโยบายหลักของพรรค ไม่ซื่อสัตย์ในการปกครอง สามารถยุบทุกๆพรรคร่วมรัฐบาลได้มััยนะ,มันคือภัยร้ายความมั่นคงของชาติไทยชัดเจน,จริงๆเราควรแสดงออกด้วยว่า "จะแบนสินค้าบริการทั้งหมดที่ประเทศนั้นๆมีบ่อนคาสิโนไปด้วยเลย,แม้อเมริกาหรือใกล้ๆเราคือสิงคโปร์น่าจะแบนการค้าขายธุรกรรมทางธุรกิจด้วยทั้งหมด,นำพาอวดอ้างทางไม่ดีต่อชาวโลก สร้างตัวอย่างไม่ดี ขับออกจากอาเชียนก็ด้วย."

    ..https://m.youtube.com/watch?v=3nlo8iWu0Hk
    #แบนแบนแบนคาสิโน👎 #แบนคาสิโนและกฎหมายคาสิโน #หายนะแห่งแผ่นดินคือฮับพนันครบวงจร ..ข้าราชการไทยทุกๆคนถึงเวลาแสดงความรักชาติไทยรักลูกหลานคนไทยตนที่มาเป็นราชการแผ่นดินไทยได้แล้ว,ทั้งพวกอบต.อบจ.ด้วย.สำนึกแต่ตั้งมาเพื่อค้านกระจายอำนาจจากส่วนกลางเพื่ออะไร หากทั้งหมดเพื่อประชาชนคนไทยตน นี้เกี่ยวข้องระยะยาวนะ เสือกนิ่งทำเฉยอยู่,คนไทยมั้ย.ข้าราชการไทยทั้งด้วยพวกส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มโนสิ้นคิดดูง่ายๆไม่ออกอีกเหรอว่า,ฉิบหายมาเยือนทั้งแผ่นดินไทยแน่นอน,ควรร่วมกันตัดตอนปัญหาเยาวชนและประชาชนคนไทยทันทีร่วมกัน. ..ไม่มีในนโยบายหลักของพรรค ไม่ซื่อสัตย์ในการปกครอง สามารถยุบทุกๆพรรคร่วมรัฐบาลได้มััยนะ,มันคือภัยร้ายความมั่นคงของชาติไทยชัดเจน,จริงๆเราควรแสดงออกด้วยว่า "จะแบนสินค้าบริการทั้งหมดที่ประเทศนั้นๆมีบ่อนคาสิโนไปด้วยเลย,แม้อเมริกาหรือใกล้ๆเราคือสิงคโปร์น่าจะแบนการค้าขายธุรกรรมทางธุรกิจด้วยทั้งหมด,นำพาอวดอ้างทางไม่ดีต่อชาวโลก สร้างตัวอย่างไม่ดี ขับออกจากอาเชียนก็ด้วย." ..https://m.youtube.com/watch?v=3nlo8iWu0Hk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบโลกใหม่หลังสงครามโลกครั้งต่อไปจะถูกกำหนดโดยผลลัพธ์ของสงคราม ความเสียหายที่เกิดขึ้น และการจัดระเบียบอำนาจใหม่โดยผู้ชนะ หากเกิดขึ้นจริง สงครามโลกครั้งต่อไปอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายด้าน ดังนี้:

    ### 1. **การเมืองระหว่างประเทศ**
    - **การล่มสลายของระเบียบโลกเดิม**: สหภาพยุโรป (EU), NATO, หรือสหประชาชาติ (UN) อาจถูกปรับโครงสร้างหรือแทนที่ด้วยองค์กรระหว่างประเทศใหม่ที่ควบคุมโดยมหาอำนาจผู้ชนะ
    - **การขึ้นมาของขั้วอำนาจใหม่**: หากสงครามเป็นแบบ "หลายฝ่าย" (เช่น สหรัฐฯ vs จีน vs รัสเซีย) อาจเกิดระบบหลายขั้วอำนาจ หรือหากมีผู้ชนะเดี่ยว อาจเกิดระบบจักรวรรดิใหม่
    - **รัฐบาลโลก (Global Government)**: ความเสียหายรุนแรงอาจผลักดันให้เกิดการรวมอำนาจภายใต้หน่วยงานกลางเพื่อป้องกันสงครามครั้งใหม่

    ### 2. **เศรษฐกิจโลก**
    - **ระบบการเงินใหม่**: สกุลเงินหลัก (ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร) อาจถูกแทนที่ด้วยสกุลดิจิทัลหรือระบบที่ควบคุมโดยมหาอำนาจ
    - **การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงคราม**: แผน Marshall Plan ฉบับใหม่อาจถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประเทศที่เสียหาย
    - **การควบคุมทรัพยากร**: พลังงาน อาหาร และเทคโนโลยีอาจถูกกระจายใหม่ตามผลประโยชน์ของผู้ชนะ

    ### 3. **เทคโนโลยีและความมั่นคง**
    - **การควบคุมเทคโนโลยีทำลายล้างสูง**: AI, อาวุธชีวภาพ หรือนิวเคลียร์อาจถูกควบคุมโดยกฎหมายระหว่างประเทศที่เข้มงวดขึ้น
    - **การเฝ้าระวังระดับโลก**: รัฐบาลอาจใช้ระบบตรวจสอบประชากรแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันความไม่สงบ

    ### 4. **สังคมและวัฒนธรรม**
    - **การรวมหรือแบ่งแยกวัฒนธรรม**: วัฒนธรรมของผู้ชนะอาจถูกส่งเสริม ในขณะที่วัฒนธรรมของ "ฝ่ายแพ้" อาจถูกกดทับ
    - **การย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่**: จากการทำลายล้างของสงคราม ผู้คนอาจอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยมากขึ้น

    ### 5. **สิ่งแวดล้อม**
    - **ความพยายามฟื้นฟูโลก**: หากสงครามก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม (เช่น สงครามนิวเคลียร์) อาจมีโครงการฟื้นฟูขนาดใหญ่
    - **พลังงานสะอาด**: การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจลดลง หากโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายและต้องสร้างใหม่ทั้งหมด

    ### 6. **เสถียรภาพในระยะยาว**
    - **ความขัดแย้งแฝง**: แม้สงครามจะจบ แต่ความไม่พอใจของฝ่ายแพ้อาจนำไปสู่การก่อการร้ายหรือสงครามตัวแทน
    - **ระบบป้องกันสงครามใหม่**: อาจมีการสร้างกลไกป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 4 เช่น ข้อตกลงควบคุมอาวุธที่เข้มงวดขึ้น

    ### สถานการณ์สมมติ (ตัวอย่าง)
    - **หากสงครามเป็นสงครามเย็น 2.0**: โลกอาจแบ่งเป็น 2 ขั้วอำนาจ (สหรัฐฯ-ยุโรป vs จีน-รัสเซีย) โดยมีการแข่งขันทางเทคโนโลยีแทนการทำสงครามโดยตรง
    - **หากเป็นสงครามนิวเคลียร์จำกัด**: มหาอำนาจอาจสูญเสียอำนาจ เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง และประเทศเล็กๆ อาจขึ้นมามีบทามมากขึ้น
    - **หากเป็นสงครามโลกแบบดั้งเดิม**: อาจเกิดการล่มสลายของรัฐชาติ และแทนที่ด้วยเขตปกครองแบบภูมิภาคที่ควบคุมโดยกองทัพ

    ### บทสรุป
    ระบบโลกใหม่จะขึ้นอยู่กับว่า **"ใครชนะ และแพ้อย่างไร"** แต่สิ่งที่แน่นอนคือ สงครามโลกครั้งต่อไปจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจากเทคโนโลยีและความเชื่อมโยงของโลกที่เปลี่ยนไป อาจไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง แต่เป็นโลกที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันฟื้นฟูจากความเสียหายอันมหาศาล
    ระบบโลกใหม่หลังสงครามโลกครั้งต่อไปจะถูกกำหนดโดยผลลัพธ์ของสงคราม ความเสียหายที่เกิดขึ้น และการจัดระเบียบอำนาจใหม่โดยผู้ชนะ หากเกิดขึ้นจริง สงครามโลกครั้งต่อไปอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายด้าน ดังนี้: ### 1. **การเมืองระหว่างประเทศ** - **การล่มสลายของระเบียบโลกเดิม**: สหภาพยุโรป (EU), NATO, หรือสหประชาชาติ (UN) อาจถูกปรับโครงสร้างหรือแทนที่ด้วยองค์กรระหว่างประเทศใหม่ที่ควบคุมโดยมหาอำนาจผู้ชนะ - **การขึ้นมาของขั้วอำนาจใหม่**: หากสงครามเป็นแบบ "หลายฝ่าย" (เช่น สหรัฐฯ vs จีน vs รัสเซีย) อาจเกิดระบบหลายขั้วอำนาจ หรือหากมีผู้ชนะเดี่ยว อาจเกิดระบบจักรวรรดิใหม่ - **รัฐบาลโลก (Global Government)**: ความเสียหายรุนแรงอาจผลักดันให้เกิดการรวมอำนาจภายใต้หน่วยงานกลางเพื่อป้องกันสงครามครั้งใหม่ ### 2. **เศรษฐกิจโลก** - **ระบบการเงินใหม่**: สกุลเงินหลัก (ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร) อาจถูกแทนที่ด้วยสกุลดิจิทัลหรือระบบที่ควบคุมโดยมหาอำนาจ - **การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงคราม**: แผน Marshall Plan ฉบับใหม่อาจถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประเทศที่เสียหาย - **การควบคุมทรัพยากร**: พลังงาน อาหาร และเทคโนโลยีอาจถูกกระจายใหม่ตามผลประโยชน์ของผู้ชนะ ### 3. **เทคโนโลยีและความมั่นคง** - **การควบคุมเทคโนโลยีทำลายล้างสูง**: AI, อาวุธชีวภาพ หรือนิวเคลียร์อาจถูกควบคุมโดยกฎหมายระหว่างประเทศที่เข้มงวดขึ้น - **การเฝ้าระวังระดับโลก**: รัฐบาลอาจใช้ระบบตรวจสอบประชากรแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันความไม่สงบ ### 4. **สังคมและวัฒนธรรม** - **การรวมหรือแบ่งแยกวัฒนธรรม**: วัฒนธรรมของผู้ชนะอาจถูกส่งเสริม ในขณะที่วัฒนธรรมของ "ฝ่ายแพ้" อาจถูกกดทับ - **การย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่**: จากการทำลายล้างของสงคราม ผู้คนอาจอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยมากขึ้น ### 5. **สิ่งแวดล้อม** - **ความพยายามฟื้นฟูโลก**: หากสงครามก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม (เช่น สงครามนิวเคลียร์) อาจมีโครงการฟื้นฟูขนาดใหญ่ - **พลังงานสะอาด**: การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจลดลง หากโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายและต้องสร้างใหม่ทั้งหมด ### 6. **เสถียรภาพในระยะยาว** - **ความขัดแย้งแฝง**: แม้สงครามจะจบ แต่ความไม่พอใจของฝ่ายแพ้อาจนำไปสู่การก่อการร้ายหรือสงครามตัวแทน - **ระบบป้องกันสงครามใหม่**: อาจมีการสร้างกลไกป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 4 เช่น ข้อตกลงควบคุมอาวุธที่เข้มงวดขึ้น ### สถานการณ์สมมติ (ตัวอย่าง) - **หากสงครามเป็นสงครามเย็น 2.0**: โลกอาจแบ่งเป็น 2 ขั้วอำนาจ (สหรัฐฯ-ยุโรป vs จีน-รัสเซีย) โดยมีการแข่งขันทางเทคโนโลยีแทนการทำสงครามโดยตรง - **หากเป็นสงครามนิวเคลียร์จำกัด**: มหาอำนาจอาจสูญเสียอำนาจ เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง และประเทศเล็กๆ อาจขึ้นมามีบทามมากขึ้น - **หากเป็นสงครามโลกแบบดั้งเดิม**: อาจเกิดการล่มสลายของรัฐชาติ และแทนที่ด้วยเขตปกครองแบบภูมิภาคที่ควบคุมโดยกองทัพ ### บทสรุป ระบบโลกใหม่จะขึ้นอยู่กับว่า **"ใครชนะ และแพ้อย่างไร"** แต่สิ่งที่แน่นอนคือ สงครามโลกครั้งต่อไปจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจากเทคโนโลยีและความเชื่อมโยงของโลกที่เปลี่ยนไป อาจไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง แต่เป็นโลกที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันฟื้นฟูจากความเสียหายอันมหาศาล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังเผชิญกับข้อพิพาททางกฎหมายในอังกฤษ หลังจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรออกคำสั่งให้บริษัทสร้าง "Back Door" สำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเข้ารหัสบน iCloud เพื่อให้หน่วยงานรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ Apple ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งนี้โดยอ้างถึงความปลอดภัยและสิทธิของผู้ใช้งาน

    ✅ Advanced Data Protection—ระบบที่เป็นหัวใจของข้อพิพาท
    - Apple Advanced Data Protection เป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลใน iCloud แบบเต็มรูปแบบ ทำให้แม้แต่ Apple เองก็ไม่สามารถปลดล็อกข้อมูลได้ ฟีเจอร์นี้กลายเป็นประเด็นหลังจากรัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้มีการเข้าถึงข้อมูลภายใต้กฎหมายการสืบสวน

    ✅ ข้อกล่าวหาว่ากระทบต่อความปลอดภัยของประเทศ:
    - กระทรวงมหาดไทยอังกฤษยืนยันว่าคำสั่งนี้มีไว้เพื่อช่วยป้องกัน อาชญากรรมร้ายแรง และการสืบสวนคดี โดยอ้างว่ากฎหมายของอังกฤษมี มาตรการควบคุมและการตรวจสอบที่เข้มงวด

    ✅ การโต้แย้งจาก Apple:
    - Apple ย้ำชัดเจนว่าบริษัทไม่มีวันสร้างระบบที่เปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้โดยไม่มีการยินยอม เพราะอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล และเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ คำพิพากษาเกี่ยวกับความโปร่งใส:
    - ศาลในอังกฤษยืนยันว่าจะไม่เก็บข้อมูลคดีนี้เป็นความลับ เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่เพียงพอด้านความมั่นคง

    ✅ ผลกระทบที่ตามมาสำหรับวงการเทคโนโลยี:
    - คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของข้อพิพาทระหว่างความปลอดภัยของประเทศและสิทธิส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล หาก Apple แพ้คดี อาจเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญในนโยบายการเข้ารหัสข้อมูล ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/apple-appealing-against-uk-government039s-039back-door039-order-tribunal-confirms
    Apple กำลังเผชิญกับข้อพิพาททางกฎหมายในอังกฤษ หลังจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรออกคำสั่งให้บริษัทสร้าง "Back Door" สำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเข้ารหัสบน iCloud เพื่อให้หน่วยงานรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ Apple ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งนี้โดยอ้างถึงความปลอดภัยและสิทธิของผู้ใช้งาน ✅ Advanced Data Protection—ระบบที่เป็นหัวใจของข้อพิพาท - Apple Advanced Data Protection เป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลใน iCloud แบบเต็มรูปแบบ ทำให้แม้แต่ Apple เองก็ไม่สามารถปลดล็อกข้อมูลได้ ฟีเจอร์นี้กลายเป็นประเด็นหลังจากรัฐบาลอังกฤษเรียกร้องให้มีการเข้าถึงข้อมูลภายใต้กฎหมายการสืบสวน ✅ ข้อกล่าวหาว่ากระทบต่อความปลอดภัยของประเทศ: - กระทรวงมหาดไทยอังกฤษยืนยันว่าคำสั่งนี้มีไว้เพื่อช่วยป้องกัน อาชญากรรมร้ายแรง และการสืบสวนคดี โดยอ้างว่ากฎหมายของอังกฤษมี มาตรการควบคุมและการตรวจสอบที่เข้มงวด ✅ การโต้แย้งจาก Apple: - Apple ย้ำชัดเจนว่าบริษัทไม่มีวันสร้างระบบที่เปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้โดยไม่มีการยินยอม เพราะอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล และเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ คำพิพากษาเกี่ยวกับความโปร่งใส: - ศาลในอังกฤษยืนยันว่าจะไม่เก็บข้อมูลคดีนี้เป็นความลับ เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่เพียงพอด้านความมั่นคง ✅ ผลกระทบที่ตามมาสำหรับวงการเทคโนโลยี: - คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของข้อพิพาทระหว่างความปลอดภัยของประเทศและสิทธิส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล หาก Apple แพ้คดี อาจเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญในนโยบายการเข้ารหัสข้อมูล ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/apple-appealing-against-uk-government039s-039back-door039-order-tribunal-confirms
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple appealing against UK 'back door' order, tribunal confirms
    LONDON (Reuters) -Apple is appealing against a British government order to create a "back door" to its encrypted cloud storage systems, the Investigatory Powers Tribunal (IPT) confirmed on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดรหัส "ทรัมป์เหลือไพ่ไม่กี่ใบในมือ" 📌กำแพงภาษีคือแผนสุดท้ายรักษาอำนาจสหรัฐฯ รมว.คลังยอมรับ "ระบบเก่าไม่ทำงานแล้ว" เศรษฐกิจติดหล่มหนี้มหาศาล-ขาดดุลการค้า $1 ล้านล้าน ขณะที่กลุ่ม BRICS ผงาดท้าทาย พร้อมสร้างระบบการเงินโลกใหม่ ไทยและ 50 ชาติรีบเจรจา แต่ทรัมป์มีเป้าหมายลึกกว่าที่คิด!
    👉กำแพงภาษีของทรัมป์คือการล้มโต๊ะโลกาภิวัฒน์และระบบการค้าเสรี เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังใกล้เข้ามา

    สก็อตต์ เบสเซนท์ รมว.คลังสหรัฐฯ ยอมรับแล้วว่า "ระบบเก่าไม่ทำงานแล้ว" เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถรักษามาตรฐานการครองชีพผ่านการใช้จ่ายเงินล่วงหน้าหรือระบบหนี้ได้อีกต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกประเมินว่าติดลบ 2.50% ในไตรมาสแรก และหลายฝ่ายยอมรับว่ากำลังถลำเข้าสู่ภาวะถดถอย ปีที่แล้วสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าเกือบแตะระดับ $1 ล้านล้าน

    ขณะที่กลุ่ม BRICS ที่ไทยเพิ่งเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ กำลังสร้างระบบการเงินโลกใหม่ที่ออกจากระบบดอลลาร์และระบบชำระเงิน SWIFT โดยมีขนาดเศรษฐกิจและประชากรใหญ่กว่ากลุ่ม G7 แล้ว ทรัมป์รู้ดีว่าประเทศคู่ค้าเริ่มไม่ต้องการขายสินค้าเพื่อแลกกับหนี้ของสหรัฐฯ อีกต่อไป จึงตั้งกำแพงภาษีสูงเพื่อทำให้โลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำพร้อมกับสหรัฐฯ หวังให้ทุกประเทศอยู่ในฐานะเสียหายเท่าเทียมกัน เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในการกำหนดระเบียบการเงินและเศรษฐกิจโลกใหม่

    การที่ไทยและกว่า 50 ประเทศรีบติดต่อทำเนียบขาวเพื่อเจรจา อาจเป็นเพียงการซื้อเวลา แต่ท้ายที่สุดอาจเสียหายมากกว่าเดิมเมื่อทรัมป์รีเซ็ตระบบดอลลาร์ เบี้ยวหนี้ หรือบีบให้คู่ค้าเปลี่ยนการถือบอนด์อายุสั้นเป็นบอนด์อายุยาว และการเจรจาทวิภาคีกับประเทศในเอเชียอาจมีประเด็นความมั่นคง การซื้ออาวุธ และความร่วมมือทางทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
    #imctnews รายงาน
    ถอดรหัส "ทรัมป์เหลือไพ่ไม่กี่ใบในมือ" 📌กำแพงภาษีคือแผนสุดท้ายรักษาอำนาจสหรัฐฯ รมว.คลังยอมรับ "ระบบเก่าไม่ทำงานแล้ว" เศรษฐกิจติดหล่มหนี้มหาศาล-ขาดดุลการค้า $1 ล้านล้าน ขณะที่กลุ่ม BRICS ผงาดท้าทาย พร้อมสร้างระบบการเงินโลกใหม่ ไทยและ 50 ชาติรีบเจรจา แต่ทรัมป์มีเป้าหมายลึกกว่าที่คิด! 👉กำแพงภาษีของทรัมป์คือการล้มโต๊ะโลกาภิวัฒน์และระบบการค้าเสรี เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังใกล้เข้ามา สก็อตต์ เบสเซนท์ รมว.คลังสหรัฐฯ ยอมรับแล้วว่า "ระบบเก่าไม่ทำงานแล้ว" เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถรักษามาตรฐานการครองชีพผ่านการใช้จ่ายเงินล่วงหน้าหรือระบบหนี้ได้อีกต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกประเมินว่าติดลบ 2.50% ในไตรมาสแรก และหลายฝ่ายยอมรับว่ากำลังถลำเข้าสู่ภาวะถดถอย ปีที่แล้วสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าเกือบแตะระดับ $1 ล้านล้าน ขณะที่กลุ่ม BRICS ที่ไทยเพิ่งเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ กำลังสร้างระบบการเงินโลกใหม่ที่ออกจากระบบดอลลาร์และระบบชำระเงิน SWIFT โดยมีขนาดเศรษฐกิจและประชากรใหญ่กว่ากลุ่ม G7 แล้ว ทรัมป์รู้ดีว่าประเทศคู่ค้าเริ่มไม่ต้องการขายสินค้าเพื่อแลกกับหนี้ของสหรัฐฯ อีกต่อไป จึงตั้งกำแพงภาษีสูงเพื่อทำให้โลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำพร้อมกับสหรัฐฯ หวังให้ทุกประเทศอยู่ในฐานะเสียหายเท่าเทียมกัน เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในการกำหนดระเบียบการเงินและเศรษฐกิจโลกใหม่ การที่ไทยและกว่า 50 ประเทศรีบติดต่อทำเนียบขาวเพื่อเจรจา อาจเป็นเพียงการซื้อเวลา แต่ท้ายที่สุดอาจเสียหายมากกว่าเดิมเมื่อทรัมป์รีเซ็ตระบบดอลลาร์ เบี้ยวหนี้ หรือบีบให้คู่ค้าเปลี่ยนการถือบอนด์อายุสั้นเป็นบอนด์อายุยาว และการเจรจาทวิภาคีกับประเทศในเอเชียอาจมีประเด็นความมั่นคง การซื้ออาวุธ และความร่วมมือทางทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #imctnews รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศนโยบายภาษีใหม่ของประธานาธิบดี Donald Trump ส่งผลกระทบต่อวงการ Cybersecurity ของสหรัฐฯ อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและงบประมาณการดำเนินงานของบริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์ ความท้าทายนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเสียหาย รวมถึงการลดงบประมาณและการพัฒนาเทคโนโลยีที่อาจหยุดชะงัก

    == ประเด็นสำคัญจากผลกระทบของนโยบายภาษีใหม่ ==
    ✅ ตลาดหุ้นด้านความมั่นคงไซเบอร์ดิ่งลงอย่างรุนแรง
    - นโยบายภาษีใหม่ที่เพิ่มต้นทุนสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ สูงถึง 67% ทำให้บริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์สูญเสียมูลค่าทางตลาดไปหลายพันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 วัน
    - นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโอกาสที่อาจเกิดภาวะถดถอยและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    ✅ ลูกค้าต้องลดงบประมาณด้านความมั่นคงไซเบอร์
    - หลายบริษัทที่ใช้งานบริการหรือซอฟต์แวร์ไซเบอร์ต้องลดงบประมาณเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษี การตัดงบนี้ส่งผลให้บริษัทไซเบอร์ขาดทุนและอาจต้องปลดพนักงาน

    ✅ ความเสี่ยงต่อการพึ่งพาเทคโนโลยีภูมิภาคเดียว
    - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้หลายประเทศพึ่งพาเทคโนโลยีในภูมิภาคของตนมากขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิด "monoculture" หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เพียงตัวเดียว ซึ่งมีข้อเสียในด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย

    ✅ ความท้าทายในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT
    - อุตสาหกรรม IT ต้องปรับตัวเพราะอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์และฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานในระบบไซเบอร์กำลังเผชิญราคาที่พุ่งสูงขึ้น

    ✅ การปรับตัวของบริษัทในวงการ
    - บริษัทอย่าง Palo Alto Networks เน้นสร้างความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า แม้ว่าจะมีอุปสรรคในการบริหารซัพพลายเชนและต้นทุนอุปกรณ์

    https://www.csoonline.com/article/3955013/how-trumps-tariffs-are-shaking-up-the-cybersecurity-sector.html
    ประกาศนโยบายภาษีใหม่ของประธานาธิบดี Donald Trump ส่งผลกระทบต่อวงการ Cybersecurity ของสหรัฐฯ อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและงบประมาณการดำเนินงานของบริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์ ความท้าทายนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเสียหาย รวมถึงการลดงบประมาณและการพัฒนาเทคโนโลยีที่อาจหยุดชะงัก == ประเด็นสำคัญจากผลกระทบของนโยบายภาษีใหม่ == ✅ ตลาดหุ้นด้านความมั่นคงไซเบอร์ดิ่งลงอย่างรุนแรง - นโยบายภาษีใหม่ที่เพิ่มต้นทุนสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ สูงถึง 67% ทำให้บริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์สูญเสียมูลค่าทางตลาดไปหลายพันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 วัน - นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโอกาสที่อาจเกิดภาวะถดถอยและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ✅ ลูกค้าต้องลดงบประมาณด้านความมั่นคงไซเบอร์ - หลายบริษัทที่ใช้งานบริการหรือซอฟต์แวร์ไซเบอร์ต้องลดงบประมาณเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษี การตัดงบนี้ส่งผลให้บริษัทไซเบอร์ขาดทุนและอาจต้องปลดพนักงาน ✅ ความเสี่ยงต่อการพึ่งพาเทคโนโลยีภูมิภาคเดียว - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้หลายประเทศพึ่งพาเทคโนโลยีในภูมิภาคของตนมากขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิด "monoculture" หรือการใช้ผลิตภัณฑ์เพียงตัวเดียว ซึ่งมีข้อเสียในด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย ✅ ความท้าทายในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT - อุตสาหกรรม IT ต้องปรับตัวเพราะอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์และฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานในระบบไซเบอร์กำลังเผชิญราคาที่พุ่งสูงขึ้น ✅ การปรับตัวของบริษัทในวงการ - บริษัทอย่าง Palo Alto Networks เน้นสร้างความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า แม้ว่าจะมีอุปสรรคในการบริหารซัพพลายเชนและต้นทุนอุปกรณ์ https://www.csoonline.com/article/3955013/how-trumps-tariffs-are-shaking-up-the-cybersecurity-sector.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How Trump’s tariffs are shaking up the cybersecurity sector
    President Trump’s tariffs announcement sent US cybersecurity stocks into a precipitous spiral, fostering fears of cyber spending cuts and the possible rise of cyber ‘monocultures.’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีมีคำสั่งให้เปิดการสอบสวนถึงสาเหตุรายละเอียดของข้อตกลงแร่หายากระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนที่รั่วไปถึงมือสื่อ

    หลายฝ่ายเชื่อว่า เซเลนสกีกำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่ตัวเขาและทีมงานที่เป็นฝ่ายปล่อยข้อมูล แต่เป็นจากฝ่ายสหรัฐที่เผยข้อมูลให้สื่อรู้เอง


    หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนทำการทดสอบเจ้าหน้าที่รัฐบาลเซเลนสกีด้วยเครื่องจับเท็จ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เซเลนสกีมักใช้อ้างอิงในการพิสูจน์ความจริง

    เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นักการเมืองฝ่ายค้าน "ยาโรสลาฟ เซเลซเนียก" ได้เผยแพร่รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุ

    ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคมสำนักข่าว FT ได้เผยแพร่ร่างข้อตกลงฉบับเต็ม


    เซเลนสกี ไม่พอใจและตกใจมากเกี่ยวกับการรั่วไหลของรายละเอียดครั้งนี้และพยายามตามหาว่าใครอยู่เบื้องหลัง


    ในความเป็นจริง ข้อเสนอใหม่ของสหรัฐไม่ได้มีอะไรใหม่จนสร้างความฮือฮาได้มากนัก ส่วนใหญ่สับสนกับท่าทีของเซเลนสกี ว่าตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาเพื่ออะไร


    แต่มีบางความคิดเห็นคาดเดาว่า การที่เซเลนสกีตั้งทีมงานเพื่อมาสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการซื้อเวลาการหยุดยิงจากรัสเซีย

    เนื่องจากที่ผ่านมา เซเลนสกีไม่เคยแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเพื่อยอมรับข้อตกลง แม้จะมีท่าทียอมรับในช่วงแรกของการเจรจาแต่ละครั้ง แต่สุดท้ายก็จะหาข้ออ้างบิดพริ้วตลอดเวลา


    ส่วนหนึ่งของร่างข้อตกลงล่าสุด ที่หลุดออกมาคือ สหรัฐยังคงไม่ให้การรับประกันความปลอดภัยต่อเคียฟ ซึ่งเซเลนสกีถือว่าเป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญ

    ทางด้าน Scott Bessent รัฐมนตรีคลังของสหรัฐกล่าวว่า การเข้าไปลงทุนของสหรัฐเพียงพอแล้วที่จะยับยั้งการโจมตีจากรัสเซียได้ เนื่องจากถ้ารัสเซียโจมตี นั่นเท่ากับพวกเขาโจมตีสหรัฐด้วย

    แต่เซเลนสกียืนกรานไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้
    เซเลนสกีมีคำสั่งให้เปิดการสอบสวนถึงสาเหตุรายละเอียดของข้อตกลงแร่หายากระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนที่รั่วไปถึงมือสื่อ หลายฝ่ายเชื่อว่า เซเลนสกีกำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่ตัวเขาและทีมงานที่เป็นฝ่ายปล่อยข้อมูล แต่เป็นจากฝ่ายสหรัฐที่เผยข้อมูลให้สื่อรู้เอง หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนทำการทดสอบเจ้าหน้าที่รัฐบาลเซเลนสกีด้วยเครื่องจับเท็จ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เซเลนสกีมักใช้อ้างอิงในการพิสูจน์ความจริง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นักการเมืองฝ่ายค้าน "ยาโรสลาฟ เซเลซเนียก" ได้เผยแพร่รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคมสำนักข่าว FT ได้เผยแพร่ร่างข้อตกลงฉบับเต็ม เซเลนสกี ไม่พอใจและตกใจมากเกี่ยวกับการรั่วไหลของรายละเอียดครั้งนี้และพยายามตามหาว่าใครอยู่เบื้องหลัง ในความเป็นจริง ข้อเสนอใหม่ของสหรัฐไม่ได้มีอะไรใหม่จนสร้างความฮือฮาได้มากนัก ส่วนใหญ่สับสนกับท่าทีของเซเลนสกี ว่าตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาเพื่ออะไร แต่มีบางความคิดเห็นคาดเดาว่า การที่เซเลนสกีตั้งทีมงานเพื่อมาสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการซื้อเวลาการหยุดยิงจากรัสเซีย เนื่องจากที่ผ่านมา เซเลนสกีไม่เคยแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเพื่อยอมรับข้อตกลง แม้จะมีท่าทียอมรับในช่วงแรกของการเจรจาแต่ละครั้ง แต่สุดท้ายก็จะหาข้ออ้างบิดพริ้วตลอดเวลา ส่วนหนึ่งของร่างข้อตกลงล่าสุด ที่หลุดออกมาคือ สหรัฐยังคงไม่ให้การรับประกันความปลอดภัยต่อเคียฟ ซึ่งเซเลนสกีถือว่าเป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญ ทางด้าน Scott Bessent รัฐมนตรีคลังของสหรัฐกล่าวว่า การเข้าไปลงทุนของสหรัฐเพียงพอแล้วที่จะยับยั้งการโจมตีจากรัสเซียได้ เนื่องจากถ้ารัสเซียโจมตี นั่นเท่ากับพวกเขาโจมตีสหรัฐด้วย แต่เซเลนสกียืนกรานไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts