• แรงงานเขมรลักลอบเข้าไทย เจอจับอ้างถูกรัฐบาลหลอกให้กลับบ้าน
    https://www.thai-tai.tv/news/20215/
    .
    #แรงงานต่างด้าว #ลักลอบเข้าเมือง #ชายแดนไทยกัมพูชา #สระแก้ว #ปอยเปต #ปัญหาเศรษฐกิจ #รัฐบาลกัมพูชา #ค้ามนุษย์ #เว็บพนัน #เตือนภัยออนไลน์
    แรงงานเขมรลักลอบเข้าไทย เจอจับอ้างถูกรัฐบาลหลอกให้กลับบ้าน https://www.thai-tai.tv/news/20215/ . #แรงงานต่างด้าว #ลักลอบเข้าเมือง #ชายแดนไทยกัมพูชา #สระแก้ว #ปอยเปต #ปัญหาเศรษฐกิจ #รัฐบาลกัมพูชา #ค้ามนุษย์ #เว็บพนัน #เตือนภัยออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ชาวเขมร' อดอยาก! จับได้ทุกวัน คนกัมพูชาลักลอบข้ามแดน สวนทางคำโกหก 'ฮุนเซน'
    https://www.thai-tai.tv/news/20182/
    .
    #แรงงานต่างด้าว #ลักลอบเข้าเมือง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตลาดโรงเกลือ #ปัญหาแรงงาน #กองทัพบก #ความยากจน #สระแก้ว #อรัญประเทศ #คลองลึก #คลองน้ำใส #ข่าวสังคม #ประเทศไทย
    'ชาวเขมร' อดอยาก! จับได้ทุกวัน คนกัมพูชาลักลอบข้ามแดน สวนทางคำโกหก 'ฮุนเซน' https://www.thai-tai.tv/news/20182/ . #แรงงานต่างด้าว #ลักลอบเข้าเมือง #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตลาดโรงเกลือ #ปัญหาแรงงาน #กองทัพบก #ความยากจน #สระแก้ว #อรัญประเทศ #คลองลึก #คลองน้ำใส #ข่าวสังคม #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • กมธ.ทหาร สว. เตรียมเชิญ 'นายกฯ' แจงปัญหาชายแดนและประเด็นความมั่นคง หลังมาตรการปิดด่าน พบปัญหา ‘สินค้าหนีภาษี-ลักลอบเข้าเมือง’
    https://www.thai-tai.tv/news/20086/
    .
    #กมธทหารสว #ไชยยงค์มณีรุ่งสกุล #แพทองธารชินวัตร #นายกฯ #รักษาการนายกฯ #ชายแดนไทยกัมพูชา #จังหวัดชายแดนภาคใต้ #ความมั่นคง #อธิปไตย #บูรณภาพแห่งดินแดน #MOU43 #MOU44 #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม #ความปลอดภัยไซเบอร์ #ฟอกเงิน #สินค้าหนีภาษี #ลักลอบเข้าเมือง #รัฐสภา #การเมืองไทย
    กมธ.ทหาร สว. เตรียมเชิญ 'นายกฯ' แจงปัญหาชายแดนและประเด็นความมั่นคง หลังมาตรการปิดด่าน พบปัญหา ‘สินค้าหนีภาษี-ลักลอบเข้าเมือง’ https://www.thai-tai.tv/news/20086/ . #กมธทหารสว #ไชยยงค์มณีรุ่งสกุล #แพทองธารชินวัตร #นายกฯ #รักษาการนายกฯ #ชายแดนไทยกัมพูชา #จังหวัดชายแดนภาคใต้ #ความมั่นคง #อธิปไตย #บูรณภาพแห่งดินแดน #MOU43 #MOU44 #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม #ความปลอดภัยไซเบอร์ #ฟอกเงิน #สินค้าหนีภาษี #ลักลอบเข้าเมือง #รัฐสภา #การเมืองไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ป้าวัน” เขมรแสบ-ขอทานแขนด้วน เปิดใจหลังถูกสอบนานเกือบ 4 ชั่วโมง ยันไม่เคยพาใครลักลอบข้ามแดน – ขอโทษเจ้าหน้าที่และสื่อฯเหตุก่อความวุ่นวายหน้าด่านชายแดนสระแก้ว ก่อนจะผลักออกนอกไทยในวันนี้

    จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาลุกฮือประท้วงที่บริเวณหน้าด่านชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ​ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่สามารถข้ามแดนกลับประเทศได้เพราะด่านเขมรไม่เปิดให้เข้า โดยมีหญิงกัมพูชาพิการแขนด้วนเป็นแนวหน้าตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ไทย เพื่อกดดันให้เปิดด่าน

    จนถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่จะผลักดันกลับประเทศกัมพูชาในวันที่ 27 มิ.ย.2568 นี้

    ขณะที่ชาวเน็ตได้พากันขุดภาพหญิงกัมพูชาแขนด้วนคนดังกล่าว ที่เคยมาเป็นขอทานในไทย ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นภาพของตนเอง แต่เป็นภาพเก่าเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งขณะนั้นขอทานอยู่ที่ย่านเพลินจิต กทม. แต่ปัจจุบัน​เลิกแล้วและได้ทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้านอยู่ที่ย่านบางกะปินั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000060441

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา #ประท้วง #ด่านชายแดนบ้านคลองลึก #อรัญประเทศ
    “ป้าวัน” เขมรแสบ-ขอทานแขนด้วน เปิดใจหลังถูกสอบนานเกือบ 4 ชั่วโมง ยันไม่เคยพาใครลักลอบข้ามแดน – ขอโทษเจ้าหน้าที่และสื่อฯเหตุก่อความวุ่นวายหน้าด่านชายแดนสระแก้ว ก่อนจะผลักออกนอกไทยในวันนี้ • จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาลุกฮือประท้วงที่บริเวณหน้าด่านชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ​ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่สามารถข้ามแดนกลับประเทศได้เพราะด่านเขมรไม่เปิดให้เข้า โดยมีหญิงกัมพูชาพิการแขนด้วนเป็นแนวหน้าตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ไทย เพื่อกดดันให้เปิดด่าน • จนถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่จะผลักดันกลับประเทศกัมพูชาในวันที่ 27 มิ.ย.2568 นี้ • ขณะที่ชาวเน็ตได้พากันขุดภาพหญิงกัมพูชาแขนด้วนคนดังกล่าว ที่เคยมาเป็นขอทานในไทย ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นภาพของตนเอง แต่เป็นภาพเก่าเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งขณะนั้นขอทานอยู่ที่ย่านเพลินจิต กทม. แต่ปัจจุบัน​เลิกแล้วและได้ทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้านอยู่ที่ย่านบางกะปินั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000060441 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา #ประท้วง #ด่านชายแดนบ้านคลองลึก #อรัญประเทศ​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ส่งนาวิกโยธิน 700 นาย และสมาชิกกองกำลังป้องกันชาติอีก 2,000 นายไปแอลเอ ลั่นผู้ประท้วงต่อต้านการจับกุมคนลักลอบเข้าเมืองจะถูก “ลงโทษหนักอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” พร้อมขู่จับกุมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียโทษฐานขัดขวางมาตรการของรัฐบาลกลาง ขณะที่ตำรวจแอลเอยันรับมือไหว ชี้การนำทหารเข้ามาโดยไม่มีการประสานงานเสี่ยงทำให้เกิดความสับสนระหว่างเกิดเหตุการณ์ตึงเครียด ด้านอัยการสูงสุดแคลิฟอร์เนียยื่นฟ้องศาลระงับคำสั่งทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000054579

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ทรัมป์ส่งนาวิกโยธิน 700 นาย และสมาชิกกองกำลังป้องกันชาติอีก 2,000 นายไปแอลเอ ลั่นผู้ประท้วงต่อต้านการจับกุมคนลักลอบเข้าเมืองจะถูก “ลงโทษหนักอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” พร้อมขู่จับกุมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียโทษฐานขัดขวางมาตรการของรัฐบาลกลาง ขณะที่ตำรวจแอลเอยันรับมือไหว ชี้การนำทหารเข้ามาโดยไม่มีการประสานงานเสี่ยงทำให้เกิดความสับสนระหว่างเกิดเหตุการณ์ตึงเครียด ด้านอัยการสูงสุดแคลิฟอร์เนียยื่นฟ้องศาลระงับคำสั่งทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000054579 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1007 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางการปักกิ่งออกมาปกป้องไทย กรณีสหรัฐฯ จำกัดวีซ่าและกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ เล่นงานพวกเจ้าหน้าที่ไทย ต่อกรณีเนรเทศชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน ยืนยันความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างปักกิ่งกับกรุงเทพฯ ในการปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองและความเคลื่อนไหวข้ามชายแดนอื่นๆ ที่ผิดกฎหมาย ที่อเมริกาไม่มีสิทธิแทรกแซงใดๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025699
    ทางการปักกิ่งออกมาปกป้องไทย กรณีสหรัฐฯ จำกัดวีซ่าและกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ เล่นงานพวกเจ้าหน้าที่ไทย ต่อกรณีเนรเทศชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน ยืนยันความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างปักกิ่งกับกรุงเทพฯ ในการปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองและความเคลื่อนไหวข้ามชายแดนอื่นๆ ที่ผิดกฎหมาย ที่อเมริกาไม่มีสิทธิแทรกแซงใดๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025699
    Like
    Love
    18
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1996 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด
    .
    หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง
    .
    ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย
    .
    แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง
    .
    มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น
    .
    ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย
    .
    ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด
    .
    อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้
    .
    เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป
    .
    การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น
    .
    นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา
    .
    มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ
    .
    ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232
    ..............
    Sondhi X
    สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด . หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ . ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง . ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย . แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ . ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง . มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น . ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย . ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด . อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้ . เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป . การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น . นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา . มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ . ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2743 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตจีนโต้ข้อกล่าวหาไทยส่งกลับชาวอุยกูร์สัญชาติจีนจำนวน 40 คนกลับประเทศเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชี้ทั้งหมดไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อัดกลับบางประเทศใหญ่ปี 67 ส่งกลับผู้อพยพกว่า 270,000 คนไม่เห็นโวยวาย ยืนยันผู้ถูกส่งกลับจะได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างดีที่สุด

    วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่บทถาม-ตอบจำนวน 4 ข้อเกี่ยวกับจากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการส่งกลับชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ไปยังต้นทางคือจีน ท่ามกลางแม้มีเสียงโวยวายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าคนเหล่านี้อาจได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ หลายประเทศตะวันตกยังส่งเสียงประณามประเทศไทยด้วย เช่น สหประชาชาติ สหรัฐฯ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020273

    #MGROnline #จีน #ชาวอุยกูร์ #สัญชาติจีน #กลุ่มสิทธิมนุษยชน
    สถานทูตจีนโต้ข้อกล่าวหาไทยส่งกลับชาวอุยกูร์สัญชาติจีนจำนวน 40 คนกลับประเทศเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชี้ทั้งหมดไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อัดกลับบางประเทศใหญ่ปี 67 ส่งกลับผู้อพยพกว่า 270,000 คนไม่เห็นโวยวาย ยืนยันผู้ถูกส่งกลับจะได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างดีที่สุด • วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่บทถาม-ตอบจำนวน 4 ข้อเกี่ยวกับจากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการส่งกลับชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ไปยังต้นทางคือจีน ท่ามกลางแม้มีเสียงโวยวายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าคนเหล่านี้อาจได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ หลายประเทศตะวันตกยังส่งเสียงประณามประเทศไทยด้วย เช่น สหประชาชาติ สหรัฐฯ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020273 • #MGROnline #จีน #ชาวอุยกูร์ #สัญชาติจีน #กลุ่มสิทธิมนุษยชน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28 กุมภาพันธ์ 2568- รายงานข่าวจากเพจสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 รายที่ถูกส่งตัวกลับถึงบ้านแล้วในวันถัดมา

    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 ราย ได้ถูกส่งตัวกลับจากประเทศไทย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้กลับถึงบ้านและพบกับครอบครัวอีกครั้งหลังจากผ่านไปมากกว่า 10 ปี

    ทั้งรัฐบาลจีนและไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและการปกป้องสิทธิมนุษยชน จีนได้ชี้แจงให้ฝ่ายไทยทราบแล้วว่า การกระทำผิดของชาวจีนที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิดร้ายแรงอื่นใด ชาวจีนเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวและส่งตัวกลับบ้านหลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ถือเป็นการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลเหล่านี้อย่างดีที่สุด จีนยังจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้คนเหล่านี้สามารถกลับสู่สังคมและดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

    รัฐบาลไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ ในอนาคตจีนจะยังคงยินดีต้อนรับรัฐบาลไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเหล่านี้ในภายหลัง สำหรับชาวไทยที่ใส่ใจและติดตามสถานการณ์ในซินเจียงของจีน เรายินดีต้อนรับท่านเหล่านี้ให้เดินทางไปเยี่ยมชมซินเจียงเพื่อสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในซินเจียงและชีวิตที่มีความสุขของประชาชนด้วยตนเอง

    ภาพที่ 1-5: ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศอยู่กับครอบครัวที่บ้าน

    ภาพที่ 6-7 : บ้านพักของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/19u8bWoBnr/?mibextid=wwXIfr
    28 กุมภาพันธ์ 2568- รายงานข่าวจากเพจสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 รายที่ถูกส่งตัวกลับถึงบ้านแล้วในวันถัดมา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 40 ราย ได้ถูกส่งตัวกลับจากประเทศไทย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้กลับถึงบ้านและพบกับครอบครัวอีกครั้งหลังจากผ่านไปมากกว่า 10 ปี ทั้งรัฐบาลจีนและไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและการปกป้องสิทธิมนุษยชน จีนได้ชี้แจงให้ฝ่ายไทยทราบแล้วว่า การกระทำผิดของชาวจีนที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิดร้ายแรงอื่นใด ชาวจีนเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวและส่งตัวกลับบ้านหลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ถือเป็นการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลเหล่านี้อย่างดีที่สุด จีนยังจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้คนเหล่านี้สามารถกลับสู่สังคมและดำเนินชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง รัฐบาลไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ ในอนาคตจีนจะยังคงยินดีต้อนรับรัฐบาลไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเหล่านี้ในภายหลัง สำหรับชาวไทยที่ใส่ใจและติดตามสถานการณ์ในซินเจียงของจีน เรายินดีต้อนรับท่านเหล่านี้ให้เดินทางไปเยี่ยมชมซินเจียงเพื่อสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในซินเจียงและชีวิตที่มีความสุขของประชาชนด้วยตนเอง ภาพที่ 1-5: ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศอยู่กับครอบครัวที่บ้าน ภาพที่ 6-7 : บ้านพักของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/19u8bWoBnr/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : เด้งขาใหญ่ กากีแม่สอด คาดมีเอี่ยวลักลอบเข้าเมือง เหตุจากร่ำรวยผิดปกติ
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    Newsstory : เด้งขาใหญ่ กากีแม่สอด คาดมีเอี่ยวลักลอบเข้าเมือง เหตุจากร่ำรวยผิดปกติ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 679 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • ตาก – ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดน ติดตามแผน “แม่สอดโมเดล” ลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ตามส่อง “ชเวโก๊กโก่-เมืองใหม่จีนเทาเมียวดี” พบผู้คนยังใช้ชีวิตปกติ-เดินหน้าก่อสร้างกันครึกโครม หลังไทยระงับจ่ายไฟ-งดส่งออกน้ำมันข้ามแดน

    วันนี้ (10 ก.พ. 68) พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อติดตามการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ตามมาตรการ “แม่สอดโมเดล” โดยมี พล.ต.ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 3 นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ

    ทั้งนี้ ผบ.บท.พร้อมคณะ ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จากกองกำลังนเรศวร และตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการแนวชายแดน รวมถึงจุดตรวจสำคัญ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ท่าข้าม 34 (ท่าศาลเจ้า) และจุดตรวจการณ์ต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมือง และขนส่งยาเสพติด

    แต่ที่น่าสนใจคือ คณะ ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปดูชายแดนที่บ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด ที่บริเวณตรงข้ามฝั่งไทยคือ ชเวโก๊กโก่ เมืองใหม่ของกลุ่มทุนจีน ที่มองจากฝั่งไทยแล้วเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งพบว่าบรรยากาศในฝั่งเมียนมามีการใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่สนใจคณะของฝ่ายไทย นอกจากนี้ยังมีการเดินหน้าก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000013433

    #MGROnline #ตาก #แม่สอดโมเดล #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ
    ตาก – ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดน ติดตามแผน “แม่สอดโมเดล” ลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ตามส่อง “ชเวโก๊กโก่-เมืองใหม่จีนเทาเมียวดี” พบผู้คนยังใช้ชีวิตปกติ-เดินหน้าก่อสร้างกันครึกโครม หลังไทยระงับจ่ายไฟ-งดส่งออกน้ำมันข้ามแดน • วันนี้ (10 ก.พ. 68) พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อติดตามการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ตามมาตรการ “แม่สอดโมเดล” โดยมี พล.ต.ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 3 นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ • ทั้งนี้ ผบ.บท.พร้อมคณะ ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จากกองกำลังนเรศวร และตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการแนวชายแดน รวมถึงจุดตรวจสำคัญ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ท่าข้าม 34 (ท่าศาลเจ้า) และจุดตรวจการณ์ต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมือง และขนส่งยาเสพติด • แต่ที่น่าสนใจคือ คณะ ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปดูชายแดนที่บ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด ที่บริเวณตรงข้ามฝั่งไทยคือ ชเวโก๊กโก่ เมืองใหม่ของกลุ่มทุนจีน ที่มองจากฝั่งไทยแล้วเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งพบว่าบรรยากาศในฝั่งเมียนมามีการใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่สนใจคณะของฝ่ายไทย นอกจากนี้ยังมีการเดินหน้าก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000013433 • #MGROnline #ตาก #แม่สอดโมเดล #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 958 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำข้อเสนอของเขาที่เรียกร้องให้แคนาดา เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา รับปากว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำมาซึ่ง "การไม่รีดภาษี" และ ชาวแคนาดา ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลงอย่างมาก แม้แคนาดาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแนวคิดดังกล่าว เน้นย้ำถึงภาระหน้าที่ของประเทศที่มีต่ออำนาจอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    ในข้อความที่โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) "เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา แล้วทำไม ถึงจะไม่มีเหตุผล" ทรัมป์ระบุ
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ บอกต่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯแล้ว เพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักในการอยู่รอด และหยิบยกข้อเสนอความเป็นรัฐเป็นทางออก โดยสัญญาว่า "ภาษีจะลดลงอย่างมาก และชาวแคนาดาจะได้รับการปกป้องทางทหารที่ดีกว่าเดิมมาก และไม่มีการรีดภาษี"
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นตามหลังเขาตัดสินใจกำหนดเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อ้างถึงการลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมายและลักลอบขนยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับว่าประชาชนชาวอเมริกาอาจต้องประสบ "ความเจ็บปวดบ้าง" จากมาตรการเหล่านี้ แต่เน้นย้ำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติของสหรัฐฯ แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้เช่นกัน โดย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เตือนว่า "มันจะส่งผลสนองกลับอย่างแท้จริงสำหรับคุณ ประชาชนชาวอเมริกา" บ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของการตอบโต้ทางภาษี ก็คือราคาของชำและสินค้าอื่นๆพุ่งสูงขึ้น
    .
    ทรูโด เน้นย้ำคำปฏิเสธข้อเสนอให้แคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น
    .
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ หยิบยกเกี่ยวกับการขยายเขตแดนของสหรัฐฯขึ้นมา โดยหลังจากกลับสู่ทำเนียบขาว เขายังได้รื้อฟื้นความพยายามซื้อเกาะกรีนแลนด์และเข้าควบคุมคลองปานามา อ้างถึงความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้ก็เจอกับเสียงปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน จากรัฐบาลปานามาและเดนมาร์ก
    .
    ข้อเสนอที่เรียกร้องให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาในทั่วทุกขอบเขตทางการเมือง โดย ปิแอร์ พอยลิเยฟร์ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เน้นว่า "แคนาดาจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51 เราเป็นประเทศเอกราชที่ยิ่งใหญ่" ส่วน แจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคนิวเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอว่าไร้สาระ และบอกว่าไม่มีชาวแคนาดาคนไหนที่ปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นในแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่าชาวแคนาดาคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดเข้าร่วมกับสหรัฐฯ โดยพบว่ามีชาวแคนาดาแค่ 13% ที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว และมีถึง 82% ที่คัดค้าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010782
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำข้อเสนอของเขาที่เรียกร้องให้แคนาดา เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา รับปากว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำมาซึ่ง "การไม่รีดภาษี" และ ชาวแคนาดา ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลงอย่างมาก แม้แคนาดาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแนวคิดดังกล่าว เน้นย้ำถึงภาระหน้าที่ของประเทศที่มีต่ออำนาจอธิปไตยแห่งชาติ . ในข้อความที่โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) "เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา แล้วทำไม ถึงจะไม่มีเหตุผล" ทรัมป์ระบุ . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ บอกต่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯแล้ว เพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักในการอยู่รอด และหยิบยกข้อเสนอความเป็นรัฐเป็นทางออก โดยสัญญาว่า "ภาษีจะลดลงอย่างมาก และชาวแคนาดาจะได้รับการปกป้องทางทหารที่ดีกว่าเดิมมาก และไม่มีการรีดภาษี" . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นตามหลังเขาตัดสินใจกำหนดเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อ้างถึงการลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมายและลักลอบขนยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับว่าประชาชนชาวอเมริกาอาจต้องประสบ "ความเจ็บปวดบ้าง" จากมาตรการเหล่านี้ แต่เน้นย้ำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว . ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติของสหรัฐฯ แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้เช่นกัน โดย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เตือนว่า "มันจะส่งผลสนองกลับอย่างแท้จริงสำหรับคุณ ประชาชนชาวอเมริกา" บ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของการตอบโต้ทางภาษี ก็คือราคาของชำและสินค้าอื่นๆพุ่งสูงขึ้น . ทรูโด เน้นย้ำคำปฏิเสธข้อเสนอให้แคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น . ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ หยิบยกเกี่ยวกับการขยายเขตแดนของสหรัฐฯขึ้นมา โดยหลังจากกลับสู่ทำเนียบขาว เขายังได้รื้อฟื้นความพยายามซื้อเกาะกรีนแลนด์และเข้าควบคุมคลองปานามา อ้างถึงความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้ก็เจอกับเสียงปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน จากรัฐบาลปานามาและเดนมาร์ก . ข้อเสนอที่เรียกร้องให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาในทั่วทุกขอบเขตทางการเมือง โดย ปิแอร์ พอยลิเยฟร์ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เน้นว่า "แคนาดาจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51 เราเป็นประเทศเอกราชที่ยิ่งใหญ่" ส่วน แจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคนิวเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอว่าไร้สาระ และบอกว่าไม่มีชาวแคนาดาคนไหนที่ปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ . ผลสำรวจความคิดเห็นในแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่าชาวแคนาดาคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดเข้าร่วมกับสหรัฐฯ โดยพบว่ามีชาวแคนาดาแค่ 13% ที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว และมีถึง 82% ที่คัดค้าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010782 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1521 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศบราซิลเตรียมร้องขอคำอธิบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติที่ "ลดคุณค่าความเป็นมนุษย์" (degrading treatment) ของผู้อพยพบราซิล ซึ่งถูกขนขึ้นเที่ยวบินเนรเทศออกจากสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    ก่อนหน้านั้นมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่บราซิลได้ขอให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ถอดกุญแจมือผู้อพยพที่ถูกเนรเทศกลับมายังบราซิลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24) ขณะที่รัฐมนตรีอาวุโสคนหนึ่งในรัฐบาลประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ก็ประณามการกระทำของฝ่ายอเมริกันว่าเป็นการ "ดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างรุนแรง" ต่อสิทธิเพื่อนร่วมชาติของตน
    .
    เที่ยวบินดังกล่าวซึ่งมีผู้โดยสารชาวบราซิล 88 คน เจ้าหน้าความมั่งคงสหรัฐฯ 16 นาย และลูกเรืออีก 8 คน เดิมมีกำหนดลงจอดที่เมืองเบลูโอรีชองซีในรัฐมีนัสเชไรส์ทางตอนใต้ของบราซิล ทว่าต้องแวะจอดฉุกเฉินที่เมืองมาเนาช์ (Manaus) เนื่องจากเกิดปัญหาด้านเทคนิค ตามข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมบราซิล
    .
    ณ สถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่บราซิลได้สั่งให้มีการถอดกุญแจมือผู้อพยพทั้งหมด และประธานาธิบดี ลูลา ได้สั่งการให้กองทัพอากาศบราซิลส่งเครื่องบินไปรับช่วงพาพลเมืองเหล่านั้นมาส่งยังที่หมาย "อย่างมีเกียรติและปลอดภัย"
    .
    เที่ยวบินดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ที่สหรัฐฯ มีการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายกลับมายังบราซิล และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมและตำรวจบราซิล
    .
    รัฐบาล ทรัมป์ ได้นำมาตรการปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายมาใช้อย่างครอบคลุม โดย ทรัมป์ ประกาศชัดเจนว่าจะใช้วิธี "เนรเทศหมู่" เพื่อนำคนลักลอบเข้าเมืองเหล่านี้ออกไปจากแผ่นดินอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม การใส่กุญแจมือหรือผูกมัดด้วยวิธีอื่นๆ ต่อผู้อพยพที่โดนเนรเทศขึ้นเครื่องบินมาจากสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ทางการบราซิลไม่พอใจมานานแล้ว และแม้แต่อดีตประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรทรัมป์ ก็ยังเคยขอให้สหรัฐฯ เลิกการกระทำเช่นนี้เสีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008328
    ..............
    Sondhi X
    กระทรวงการต่างประเทศบราซิลเตรียมร้องขอคำอธิบายจากรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติที่ "ลดคุณค่าความเป็นมนุษย์" (degrading treatment) ของผู้อพยพบราซิล ซึ่งถูกขนขึ้นเที่ยวบินเนรเทศออกจากสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . ก่อนหน้านั้นมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่บราซิลได้ขอให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ถอดกุญแจมือผู้อพยพที่ถูกเนรเทศกลับมายังบราซิลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24) ขณะที่รัฐมนตรีอาวุโสคนหนึ่งในรัฐบาลประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ก็ประณามการกระทำของฝ่ายอเมริกันว่าเป็นการ "ดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างรุนแรง" ต่อสิทธิเพื่อนร่วมชาติของตน . เที่ยวบินดังกล่าวซึ่งมีผู้โดยสารชาวบราซิล 88 คน เจ้าหน้าความมั่งคงสหรัฐฯ 16 นาย และลูกเรืออีก 8 คน เดิมมีกำหนดลงจอดที่เมืองเบลูโอรีชองซีในรัฐมีนัสเชไรส์ทางตอนใต้ของบราซิล ทว่าต้องแวะจอดฉุกเฉินที่เมืองมาเนาช์ (Manaus) เนื่องจากเกิดปัญหาด้านเทคนิค ตามข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมบราซิล . ณ สถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่บราซิลได้สั่งให้มีการถอดกุญแจมือผู้อพยพทั้งหมด และประธานาธิบดี ลูลา ได้สั่งการให้กองทัพอากาศบราซิลส่งเครื่องบินไปรับช่วงพาพลเมืองเหล่านั้นมาส่งยังที่หมาย "อย่างมีเกียรติและปลอดภัย" . เที่ยวบินดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ที่สหรัฐฯ มีการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายกลับมายังบราซิล และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมและตำรวจบราซิล . รัฐบาล ทรัมป์ ได้นำมาตรการปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายมาใช้อย่างครอบคลุม โดย ทรัมป์ ประกาศชัดเจนว่าจะใช้วิธี "เนรเทศหมู่" เพื่อนำคนลักลอบเข้าเมืองเหล่านี้ออกไปจากแผ่นดินอเมริกา . อย่างไรก็ตาม การใส่กุญแจมือหรือผูกมัดด้วยวิธีอื่นๆ ต่อผู้อพยพที่โดนเนรเทศขึ้นเครื่องบินมาจากสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ทางการบราซิลไม่พอใจมานานแล้ว และแม้แต่อดีตประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรทรัมป์ ก็ยังเคยขอให้สหรัฐฯ เลิกการกระทำเช่นนี้เสีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008328 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    15
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1570 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง
    .
    จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา
    .
    ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ
    .
    ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
    .
    ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา
    .
    ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก . ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง . จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา . ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ . ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต . ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า . นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว . ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา . ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2070 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ให้สัญญาปิดฉากความตกต่ำนาน 4 ปีและนำอเมริกาสู่ยุคทอง ลั่นพร้อมเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งรวมถึงการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองนับล้าน และการปรับบทบาทใหม่ของอเมริกาในเวทีโลก
    .
    การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการกลับมาอย่างผู้ชนะเต็มตัวของ “ดิสรัปเตอร์ทางการเมือง” ที่รอดจากการถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึงสองครั้ง รวมถึงการถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังเผชิญความพยายามในการลอบสังหารสองครั้ง และการถูกฟ้องร้องจากความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
    .
    ทรัมป์ วัย 78 ปี สร้างประวัติศาสตร์ใหม่แทนที่ โจ ไบเดน ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอายุมากที่สุดขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกัน ถัดจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (ปี 1885-1889 และปี1893-1897) ที่ดำรงตำแหน่งสองวาระแบบไม่ต่อเนื่อง
    .
    พิธีสาบานตนกำหนดเริ่มต้นขึ้นเวลา 12.00 น. วันจันทร์ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน (ตรงกับเวลา เที่ยงคืน คืนวันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) ภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มีการจัดพิธีภายในอาคาร ทั้งนี้ เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่าสภาพอากาศจะหนาวเย็นจัด
    .
    ก่อนหน้าที่พิธีจะเริ่มต้นหนึ่งวัน ทรัมป์ได้ไปกล่าวปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนที่อัดแน่นในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน โดยให้สัญญาว่า จะปิดฉากความตกต่ำที่ดำเนินมานาน 4 ปี ซึ่งก็คือหมายถึงสมัยการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน และเริ่มต้นอเมริกายุคใหม่ที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง รวมทั้งเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ใช้เวลาจำนวนมากในการปราศรัยนานหนึ่งชั่วโมงคราวนี้โฟกัสที่ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของอเมริกาผู้นี้ ประกาศว่า จะหยุดยั้งการบุกรุกข้ามแดนและจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองทันที
    .
    ทรัมป์สัญญาว่า จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโก ยกเลิกนโยบาย “การตื่นรู้” ที่รวมถึง “ความบ้าคลั่งของการยอมรับคนข้ามเพศ” ในโรงเรียน ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เขาจะเซ็นประกาศใช้อำนาจฝ่ายบริหารถึงราว 200 ฉบับ
    .
    เขายังย้ำคำสัญญาในการเผยแพร่ไฟล์ข้อมูลการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และน้องชาย บ็อบบี้ เคนเนดี้ รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวสิทธิพลเมือง
    .
    ทรัมป์สำทับว่า จะอภัยโทษผู้ต้องหาจำนวนมาก จากกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    สำหรับทางด้านไบเดนเดินทางไปรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา และกล่าวเรียกร้องให้คนอเมริกันเชื่อมั่นว่า วันที่ดีกว่านี้กำลังจะมาถึง พร้อมให้สัญญา “จะไม่ไปไหน” โดยไบเดนมีกำหนดกลับไปกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งให้ทรัมป์ที่เขาเคยตราหน้าว่า เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย อีกทั้งยังถือเป็นการ “ตบหน้า” ทรัมป์กลายๆ เนื่องจาก ทรัมป์นั้นไม่ยอมรับเลยว่าพ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 และไม่ยอมร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนในเดือนมกราคม 2021
    .
    ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก ทรัมป์ก็แสดงบทบาทเข้าสู่กรณีระดับโลก หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ยกความดีความชอบว่า “ความชัดเจน” ของทรัมป์ทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการอีกครั้งในอเมริกา หลังขึ้นจอดำนานหลายชั่วโมง
    .
    วันเดียวกันนั้น ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอล 3 คนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่ทีมงานของทรัมป์มีส่วนร่วมผลักดันโดยทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างมองการกลับมาของทรัมป์ ว่าจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้แล้วว่าเตรียมเขย่าระเบียบโลกอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการให้สัญญาเก็บภาษีศุลกากรแบบเหวี่ยงแหจากทั้งประเทศอริอย่างเช่นจีน และประเทศที่เป็นมิตรอย่างแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนั้นเขายังข่มขู่เข้ายึดคลองปานานา กดดันให้แคนาดายอมถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา และบีบคั้นให้เดนมาร์กยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่สหรัฐฯ ตลอดจนตั้งข้อสงสัยในการให้ความช่วยเหลือยูเครนของอเมริกา โดยที่มีแผนจะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างรวดเร็ว และบีบให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006227
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์เตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ให้สัญญาปิดฉากความตกต่ำนาน 4 ปีและนำอเมริกาสู่ยุคทอง ลั่นพร้อมเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งรวมถึงการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองนับล้าน และการปรับบทบาทใหม่ของอเมริกาในเวทีโลก . การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการกลับมาอย่างผู้ชนะเต็มตัวของ “ดิสรัปเตอร์ทางการเมือง” ที่รอดจากการถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึงสองครั้ง รวมถึงการถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังเผชิญความพยายามในการลอบสังหารสองครั้ง และการถูกฟ้องร้องจากความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ . ทรัมป์ วัย 78 ปี สร้างประวัติศาสตร์ใหม่แทนที่ โจ ไบเดน ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอายุมากที่สุดขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกัน ถัดจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (ปี 1885-1889 และปี1893-1897) ที่ดำรงตำแหน่งสองวาระแบบไม่ต่อเนื่อง . พิธีสาบานตนกำหนดเริ่มต้นขึ้นเวลา 12.00 น. วันจันทร์ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน (ตรงกับเวลา เที่ยงคืน คืนวันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) ภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มีการจัดพิธีภายในอาคาร ทั้งนี้ เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่าสภาพอากาศจะหนาวเย็นจัด . ก่อนหน้าที่พิธีจะเริ่มต้นหนึ่งวัน ทรัมป์ได้ไปกล่าวปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนที่อัดแน่นในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน โดยให้สัญญาว่า จะปิดฉากความตกต่ำที่ดำเนินมานาน 4 ปี ซึ่งก็คือหมายถึงสมัยการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน และเริ่มต้นอเมริกายุคใหม่ที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง รวมทั้งเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ใช้เวลาจำนวนมากในการปราศรัยนานหนึ่งชั่วโมงคราวนี้โฟกัสที่ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของอเมริกาผู้นี้ ประกาศว่า จะหยุดยั้งการบุกรุกข้ามแดนและจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองทันที . ทรัมป์สัญญาว่า จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโก ยกเลิกนโยบาย “การตื่นรู้” ที่รวมถึง “ความบ้าคลั่งของการยอมรับคนข้ามเพศ” ในโรงเรียน ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เขาจะเซ็นประกาศใช้อำนาจฝ่ายบริหารถึงราว 200 ฉบับ . เขายังย้ำคำสัญญาในการเผยแพร่ไฟล์ข้อมูลการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และน้องชาย บ็อบบี้ เคนเนดี้ รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวสิทธิพลเมือง . ทรัมป์สำทับว่า จะอภัยโทษผู้ต้องหาจำนวนมาก จากกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . สำหรับทางด้านไบเดนเดินทางไปรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา และกล่าวเรียกร้องให้คนอเมริกันเชื่อมั่นว่า วันที่ดีกว่านี้กำลังจะมาถึง พร้อมให้สัญญา “จะไม่ไปไหน” โดยไบเดนมีกำหนดกลับไปกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งให้ทรัมป์ที่เขาเคยตราหน้าว่า เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย อีกทั้งยังถือเป็นการ “ตบหน้า” ทรัมป์กลายๆ เนื่องจาก ทรัมป์นั้นไม่ยอมรับเลยว่าพ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 และไม่ยอมร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนในเดือนมกราคม 2021 . ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก ทรัมป์ก็แสดงบทบาทเข้าสู่กรณีระดับโลก หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ยกความดีความชอบว่า “ความชัดเจน” ของทรัมป์ทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการอีกครั้งในอเมริกา หลังขึ้นจอดำนานหลายชั่วโมง . วันเดียวกันนั้น ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอล 3 คนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่ทีมงานของทรัมป์มีส่วนร่วมผลักดันโดยทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างมองการกลับมาของทรัมป์ ว่าจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้แล้วว่าเตรียมเขย่าระเบียบโลกอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการให้สัญญาเก็บภาษีศุลกากรแบบเหวี่ยงแหจากทั้งประเทศอริอย่างเช่นจีน และประเทศที่เป็นมิตรอย่างแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนั้นเขายังข่มขู่เข้ายึดคลองปานานา กดดันให้แคนาดายอมถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา และบีบคั้นให้เดนมาร์กยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่สหรัฐฯ ตลอดจนตั้งข้อสงสัยในการให้ความช่วยเหลือยูเครนของอเมริกา โดยที่มีแผนจะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างรวดเร็ว และบีบให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006227 .............. Sondhi X
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1667 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาราและนายแบบจีนขอบคุณตำรวจไทยช่วยเหลือกลับประเทศโดยปลอดภัย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับสื่อนำเสนอ Fake News การทำงานของตำรวจ

    วันนี้ (19 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการกับทุกภาคส่วนวางแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ การสกัดกั้นคนต่างชาติลักลอบเข้าเมือง และการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานยังประเทศที่สามโดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่าน พร้อมบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือในระดับสากล

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000005750

    #MGROnline #ซิงซิง #หยางเจ๋อฉี
    ดาราและนายแบบจีนขอบคุณตำรวจไทยช่วยเหลือกลับประเทศโดยปลอดภัย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับสื่อนำเสนอ Fake News การทำงานของตำรวจ • วันนี้ (19 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการกับทุกภาคส่วนวางแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ การสกัดกั้นคนต่างชาติลักลอบเข้าเมือง และการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานยังประเทศที่สามโดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่าน พร้อมบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือในระดับสากล • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000005750 • #MGROnline #ซิงซิง #หยางเจ๋อฉี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 763 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร
    On 2025-01-10
    สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568

    ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568

    และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง

    ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว

    แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว

    ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี

    สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่

    1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ

    2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด

    แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน

    สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี

    ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก

    อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

    สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ

    ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย

    นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้

    สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา

    ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย

    อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

    (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้)

    ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร On 2025-01-10 สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568 และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ 1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ 2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้ สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้) ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1252 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สกัดจับหนุ่มจีน วัย 25ปีลักลอบเข้าเมืองข้ามแม่น้ำโขงเข้าหนองคายปลายทางเชียงใหม่ พร้อมจับผู้นำพาเข้าประเทศ หนุ่มจีนอ้างมีคนติดต่อมาทำงานที่เชียงใหม่ มีรายได้ดีถึง 2 ล้านบาทภายใน 7 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000691

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สกัดจับหนุ่มจีน วัย 25ปีลักลอบเข้าเมืองข้ามแม่น้ำโขงเข้าหนองคายปลายทางเชียงใหม่ พร้อมจับผู้นำพาเข้าประเทศ หนุ่มจีนอ้างมีคนติดต่อมาทำงานที่เชียงใหม่ มีรายได้ดีถึง 2 ล้านบาทภายใน 7 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000691 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1775 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลย์ฯ เชือดจริง ข้ามแดนผิดกฎหมาย

    ศาลอำเภอปาเซมัส รัฐกลันตัน พิพากษาปรับชาวมาเลเซีย 3 คน ได้แก่คนขับเรือวัย 33 ปี และผู้โดยสาร 2 คน อายุ 21 และ 26 ปี ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย คนละ 2,500 ริงกิต หรือประมาณ 19,200 บาท เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. หลังทั้งสามรับสารภาพว่าเข้าประเทศผิดกฎหมายโดยใช้เรือข้ามแม่น้ำโกลกไปยังเมืองรันเตาปันยัง ก่อนถูกจับกุมเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. เป็นหนึ่งในตัวอย่างผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและศาลตัดสิน หลังทางการมาเลเซียออกมาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2567 เป็นต้นมา

    แต่เดิมชาวมาเลเซียในพื้นที่รัฐกลันตันจำนวนมาก ข้ามแดนเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันยัง นั่งเรือข้ามแม่น้ำโกลก แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันยัง เพื่อไปมาหาสู่กันและแสวงหาความบันเทิง ที่ผ่านมาตำรวจรัฐกลันตันทำได้แค่ระงับยับยั้งแต่ดำเนินคดีไม่ได้ เพราะโดยหน้าที่จำกัดแค่จับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จับกุม 6 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียพร้อมยาบ้า 6,000 เม็ด เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทางการมาเลเซียต้องใช้มาตรการดังกล่าว

    ทั้งนี้ บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ

    ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เตือนคนไทยที่จะเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและมาเลเซีย ให้ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนอย่างถูกต้องกฎหมาย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียจับกุม โดยได้รับรายงานการจับกุมแล้วจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับนายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ขอความร่วมมือเดินทางผ่านด่านพรมแดนหลักทั้ง 3 แห่งของนราธิวาส ได้แก่ ด่านสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง ด่านตากใบ-กาลังกูโบร์ และด่านบูเก๊ะตา-บูเก๊ะบูงอ

    มาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจังของมาเลเซีย ส่งผลทำให้ท่าเรือข้ามฟากของชาวบ้านตลอดสองฝั่งแม่น้ำโกลกเงียบเหงา ส่วนวินจักรยานยนต์รับจ้างแทบไม่มีผู้มาใช้บริการ มีเพียงเฉพาะคนในชุมชน รายได้ลดลงจากเดิมวันละ 1,000 บาท เหลือน้อยมาก ส่วนข่าวลือที่ว่าทางการมาเลเซียจะเลื่อนบังคับใช้กฎหมายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย เจ้าหน้าที่กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย เข้ามาปฏิบัติงานตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกตามปกติ

    #Newskit
    มาเลย์ฯ เชือดจริง ข้ามแดนผิดกฎหมาย ศาลอำเภอปาเซมัส รัฐกลันตัน พิพากษาปรับชาวมาเลเซีย 3 คน ได้แก่คนขับเรือวัย 33 ปี และผู้โดยสาร 2 คน อายุ 21 และ 26 ปี ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย คนละ 2,500 ริงกิต หรือประมาณ 19,200 บาท เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. หลังทั้งสามรับสารภาพว่าเข้าประเทศผิดกฎหมายโดยใช้เรือข้ามแม่น้ำโกลกไปยังเมืองรันเตาปันยัง ก่อนถูกจับกุมเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. เป็นหนึ่งในตัวอย่างผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและศาลตัดสิน หลังทางการมาเลเซียออกมาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2567 เป็นต้นมา แต่เดิมชาวมาเลเซียในพื้นที่รัฐกลันตันจำนวนมาก ข้ามแดนเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันยัง นั่งเรือข้ามแม่น้ำโกลก แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันยัง เพื่อไปมาหาสู่กันและแสวงหาความบันเทิง ที่ผ่านมาตำรวจรัฐกลันตันทำได้แค่ระงับยับยั้งแต่ดำเนินคดีไม่ได้ เพราะโดยหน้าที่จำกัดแค่จับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จับกุม 6 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียพร้อมยาบ้า 6,000 เม็ด เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทางการมาเลเซียต้องใช้มาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เตือนคนไทยที่จะเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและมาเลเซีย ให้ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนอย่างถูกต้องกฎหมาย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียจับกุม โดยได้รับรายงานการจับกุมแล้วจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับนายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ขอความร่วมมือเดินทางผ่านด่านพรมแดนหลักทั้ง 3 แห่งของนราธิวาส ได้แก่ ด่านสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง ด่านตากใบ-กาลังกูโบร์ และด่านบูเก๊ะตา-บูเก๊ะบูงอ มาตรการจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจังของมาเลเซีย ส่งผลทำให้ท่าเรือข้ามฟากของชาวบ้านตลอดสองฝั่งแม่น้ำโกลกเงียบเหงา ส่วนวินจักรยานยนต์รับจ้างแทบไม่มีผู้มาใช้บริการ มีเพียงเฉพาะคนในชุมชน รายได้ลดลงจากเดิมวันละ 1,000 บาท เหลือน้อยมาก ส่วนข่าวลือที่ว่าทางการมาเลเซียจะเลื่อนบังคับใช้กฎหมายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย เจ้าหน้าที่กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย เข้ามาปฏิบัติงานตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกตามปกติ #Newskit
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทรัมป์” ย้ำเดินหน้าแผนรีดภาษีศุลกากร เนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ ส่งสัญญาณอาจใช้ตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ของตัวเอง ล้างแค้นศัตรูทางการเมือง นอกจากนั้น ยังขู่ถอนตัวจากนาโต และเตือนยูเครนเตรียมพร้อมถูก “ตัด” ความช่วยเหลือสำหรับการทำศึกกับรัสเซีย
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “มีต เดอะ เพรสส์ วิธ คริสเตน เวลเกอร์” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีที่บันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และออกอากาศในวันอาทิตย์ (8 ) โดยถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางทีวีครั้งแรกนับจากการเลือกตั้งนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า ย้ำคำขู่นำอเมริกาถอนตัวจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ถ้าชาติสมาชิกไม่รับผิดชอบต้นทุนการปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม
    .
    ทรัมป์เสริมว่า ยูเครนควรเตรียมตัวที่จะได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียลดน้อยลง รวมทั้งยังเรียกร้องการหยุดยิงทันที
    .
    เกี่ยวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินนั้น แรกทีเดียวทรัมป์บอกว่า ไม่ได้คุยกับผู้นำรัสเซียตั้งแต่วันเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนเปลี่ยนมาใช้คำว่า ช่วงหลังมานี้ไม่ได้คุยกับปูตินเลย และเมื่อถูกจี้ถามหนักเข้า เขาก็บอกเพียงว่า ไม่ต้องการทำอะไรที่อาจเป็นการขัดขวางการเจรจา
    .
    เขายังย้ำคำสัญญาระหว่างหาเสียงเรื่องการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้า ซึ่งรวมถึงสินค้าของพวกคู่ค้าสำคัญอย่างแคนาดา เม็กซิโก และจีน และสำทับว่า การใช้มาตรการภาษีศุลกากรอย่างเหมาะสมจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง และเขาจะใช้เครื่องมือนี้นอกเหนือจากความุ่งหมายในทางเศรษฐกิจด้วย
    .
    สำหรับข้อสงสัยว่า ภาษีดังกล่าวจะทำให้คนอเมริกันต้องจ่ายแพงขึ้นหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ไม่สามารถรับประกันอะไรได้ ทั้งที่ตอนหาเสียงเคยโฆษณาว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งก็คือปัญหาข้าวของแพง
    .
    เนรเทศครั้งใหญ่
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังบอกว่า จะเดินหน้าสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เป็นการเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในอเมริกา รวมทั้งอาจใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อยุติการได้เป็นพลเมืองอเมริกัน โดยอาศัย “สิทธิโดยกำเนิด” ถึงแม้เขายอมรับว่า เรื่องนี้อาจหมายถึงต้องหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรับรองสิทธินี้สำหรับทุกคนที่เกิดในอเมริกา
    .
    ทรัมป์บอกว่า จะทำงานร่วมกับเดโมแครตเกี่ยวกับพวก “ดรีมเมอร์” หรือคนที่เติบโตในอเมริกาหลังจากเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายขณะเป็นเด็ก และช่วงหลายปีมานี้ได้รับการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศ กระนั้น เขาชี้ว่า แม้แต่ “พลเมืองอเมริกัน” ก็อาจถูกเนรเทศได้ถ้ามีสมาชิกครอบครัวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะทางเดียวที่จะไม่ทำให้ครอบครัวแตกแยกคือ การเนรเทศออกจากอเมริกาทั้งครอบครัว
    .
    ชำระแค้นศัตรูทางการเมือง
    .
    ทรัมป์ที่ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึง 2 ครั้ง และถูกตั้งข้อหาคดีอาญาจากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 รวมถึงขู่ว่า สมาชิกรัฐสภาที่สอบสวนตนเรื่องม็อบบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 ต่างหากที่ควรเข้าคุก ส่วนพวกผู้สนับสนุนตนที่ถูกจับจากคดีดังกล่าวจะได้รับการอภัยโทษ “อย่างรวดเร็วมาก”
    .
    เมื่อถูกถามว่า แคช พาเทล ที่ได้รับเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สหรัฐฯ จะสนองตอบคำขู่ตามล่าศัตรูทางการเมืองของเขาหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า เขาคิดว่า พาเทลมีหน้าที่ในการจัดการนักการเมืองที่ทุจริตคดโกง
    .
    ทรัมป์ยังบอกว่า ตนมีอำนาจสูงสุดในฐานะ “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ในการดำเนินคดีกับศัตรูในประเทศ แต่ “ไม่สนใจ” จะใช้อำนาจนั้น และจะมุ่งทำงานเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและหยุดยั้งการลักลอบเข้าเมืองมากกว่า
    .
    อย่างไรก็ตาม สมาชิกชั้นนำของพรรคเดโมแครตต่างกังวลกับคำขู่ดังกล่าว กระทั่งมีรายงานว่า โจ ไบเดน ที่กำลังจะอำลาตำแหน่งประธานาธิบดี กำลังพิจารณาประกาศอภัยโทษล่วงหน้าเพื่อปกป้องสมาชิกสำคัญในคณะบริหารของตน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118427
    ..............
    Sondhi X
    “ทรัมป์” ย้ำเดินหน้าแผนรีดภาษีศุลกากร เนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ ส่งสัญญาณอาจใช้ตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ของตัวเอง ล้างแค้นศัตรูทางการเมือง นอกจากนั้น ยังขู่ถอนตัวจากนาโต และเตือนยูเครนเตรียมพร้อมถูก “ตัด” ความช่วยเหลือสำหรับการทำศึกกับรัสเซีย . ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “มีต เดอะ เพรสส์ วิธ คริสเตน เวลเกอร์” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีที่บันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และออกอากาศในวันอาทิตย์ (8 ) โดยถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางทีวีครั้งแรกนับจากการเลือกตั้งนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า ย้ำคำขู่นำอเมริกาถอนตัวจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ถ้าชาติสมาชิกไม่รับผิดชอบต้นทุนการปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม . ทรัมป์เสริมว่า ยูเครนควรเตรียมตัวที่จะได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียลดน้อยลง รวมทั้งยังเรียกร้องการหยุดยิงทันที . เกี่ยวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินนั้น แรกทีเดียวทรัมป์บอกว่า ไม่ได้คุยกับผู้นำรัสเซียตั้งแต่วันเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนเปลี่ยนมาใช้คำว่า ช่วงหลังมานี้ไม่ได้คุยกับปูตินเลย และเมื่อถูกจี้ถามหนักเข้า เขาก็บอกเพียงว่า ไม่ต้องการทำอะไรที่อาจเป็นการขัดขวางการเจรจา . เขายังย้ำคำสัญญาระหว่างหาเสียงเรื่องการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้า ซึ่งรวมถึงสินค้าของพวกคู่ค้าสำคัญอย่างแคนาดา เม็กซิโก และจีน และสำทับว่า การใช้มาตรการภาษีศุลกากรอย่างเหมาะสมจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง และเขาจะใช้เครื่องมือนี้นอกเหนือจากความุ่งหมายในทางเศรษฐกิจด้วย . สำหรับข้อสงสัยว่า ภาษีดังกล่าวจะทำให้คนอเมริกันต้องจ่ายแพงขึ้นหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ไม่สามารถรับประกันอะไรได้ ทั้งที่ตอนหาเสียงเคยโฆษณาว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งก็คือปัญหาข้าวของแพง . เนรเทศครั้งใหญ่ . ว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังบอกว่า จะเดินหน้าสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เป็นการเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในอเมริกา รวมทั้งอาจใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อยุติการได้เป็นพลเมืองอเมริกัน โดยอาศัย “สิทธิโดยกำเนิด” ถึงแม้เขายอมรับว่า เรื่องนี้อาจหมายถึงต้องหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรับรองสิทธินี้สำหรับทุกคนที่เกิดในอเมริกา . ทรัมป์บอกว่า จะทำงานร่วมกับเดโมแครตเกี่ยวกับพวก “ดรีมเมอร์” หรือคนที่เติบโตในอเมริกาหลังจากเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายขณะเป็นเด็ก และช่วงหลายปีมานี้ได้รับการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศ กระนั้น เขาชี้ว่า แม้แต่ “พลเมืองอเมริกัน” ก็อาจถูกเนรเทศได้ถ้ามีสมาชิกครอบครัวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะทางเดียวที่จะไม่ทำให้ครอบครัวแตกแยกคือ การเนรเทศออกจากอเมริกาทั้งครอบครัว . ชำระแค้นศัตรูทางการเมือง . ทรัมป์ที่ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึง 2 ครั้ง และถูกตั้งข้อหาคดีอาญาจากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 รวมถึงขู่ว่า สมาชิกรัฐสภาที่สอบสวนตนเรื่องม็อบบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 ต่างหากที่ควรเข้าคุก ส่วนพวกผู้สนับสนุนตนที่ถูกจับจากคดีดังกล่าวจะได้รับการอภัยโทษ “อย่างรวดเร็วมาก” . เมื่อถูกถามว่า แคช พาเทล ที่ได้รับเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สหรัฐฯ จะสนองตอบคำขู่ตามล่าศัตรูทางการเมืองของเขาหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า เขาคิดว่า พาเทลมีหน้าที่ในการจัดการนักการเมืองที่ทุจริตคดโกง . ทรัมป์ยังบอกว่า ตนมีอำนาจสูงสุดในฐานะ “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ในการดำเนินคดีกับศัตรูในประเทศ แต่ “ไม่สนใจ” จะใช้อำนาจนั้น และจะมุ่งทำงานเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและหยุดยั้งการลักลอบเข้าเมืองมากกว่า . อย่างไรก็ตาม สมาชิกชั้นนำของพรรคเดโมแครตต่างกังวลกับคำขู่ดังกล่าว กระทั่งมีรายงานว่า โจ ไบเดน ที่กำลังจะอำลาตำแหน่งประธานาธิบดี กำลังพิจารณาประกาศอภัยโทษล่วงหน้าเพื่อปกป้องสมาชิกสำคัญในคณะบริหารของตน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118427 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1251 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุไหงโก-ลกวุ่น มาเลย์เข้มข้ามแดน

    ปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่าง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ที่พบปัญหาชาวไทยและมาเลเซียใช้ช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกผ่านแม่น้ำโกลก โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปถึงการจับกุมยาเสพติด อาวุธปืน สินค้าผิดกฎหมาย ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป ทางการมาเลเซียประกาศให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องเข้า-ออกพรมแดนผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น

    กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย ติดป้ายเตือนริมแม่น้ำโกลกที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำผิดกฎหมายหลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยระบุว่า "บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและประเทศไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ"

    นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ยืนยันว่ามีทางเข้า-ออกรัฐกลันตันและไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ศูนย์ ICQS รันเตาปันจัง (ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ด่านบูกิตบุหงา (ตรงข้ามด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง) และด่านเป็งกาลันกูโบ (ตรงข้ามด่านตากใบ อ.ตากใบ) นอกนั้นเป็นช่องทางผิดกฎหมาย

    ขณะที่ดาโต๊ะ โมฮ้มหมัด ซูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน ระบุว่า ได้กำชับตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกนาย จับกุมชาวมาเลเซียที่มาจากไทยโดยใช้ช่องทางผิดกฎหมาย พร้อมเตือนทุกคนที่ต้องการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายว่าจะจับกุมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมเช่นกัน

    ที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังลักลอบขนยาเสพติด อาวุธปืนพก และสินค้าหนีภาษีอย่างเสรี ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้าประเทศผ่านศูนย์ ICQS เพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบยานพาหนะและควบคุมการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีได้ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยตามแนวชายแดนจะมีความเข้มงวดมากขึ้น

    อีกด้านหนึ่ง มาตรการเข้มงวดในการข้ามแดนของทางการมาเลเซีย ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมพบว่าผู้เข้าพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลดลงจากเดิม 100-200 ห้องเหลือ 15-20 ห้องต่อคืน ขณะที่มาตรการของทางการมาเลเซีย ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศวิตกกังวล ไม่กล้าเข้า-ออกประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว งานบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

    #Newskit
    สุไหงโก-ลกวุ่น มาเลย์เข้มข้ามแดน ปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่าง จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตัน ที่พบปัญหาชาวไทยและมาเลเซียใช้ช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกผ่านแม่น้ำโกลก โดยไม่ใช้หนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปถึงการจับกุมยาเสพติด อาวุธปืน สินค้าผิดกฎหมาย ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป ทางการมาเลเซียประกาศให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องเข้า-ออกพรมแดนผ่านทางช่องทางที่ถูกต้องเท่านั้น กองกำลังปฏิบัติการทั่วไป (GOF) หรือ ตชด.มาเลเซีย ติดป้ายเตือนริมแม่น้ำโกลกที่ท่าเรือข้ามแม่น้ำผิดกฎหมายหลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยระบุว่า "บุคคลใดก็ตามที่เข้าออกจากชายแดนมาเลเซียและประเทศไทยผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาเลเซีย 1959/1963 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 ริงกิต หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายไซฟุดดิน นาซูติออน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ยืนยันว่ามีทางเข้า-ออกรัฐกลันตันและไทยอย่างเป็นทางการเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ ศูนย์ ICQS รันเตาปันจัง (ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส) ด่านบูกิตบุหงา (ตรงข้ามด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง) และด่านเป็งกาลันกูโบ (ตรงข้ามด่านตากใบ อ.ตากใบ) นอกนั้นเป็นช่องทางผิดกฎหมาย ขณะที่ดาโต๊ะ โมฮ้มหมัด ซูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน ระบุว่า ได้กำชับตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกนาย จับกุมชาวมาเลเซียที่มาจากไทยโดยใช้ช่องทางผิดกฎหมาย พร้อมเตือนทุกคนที่ต้องการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายว่าจะจับกุมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคนไทยที่เข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายก็จะถูกจับกุมเช่นกัน ที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าการเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังลักลอบขนยาเสพติด อาวุธปืนพก และสินค้าหนีภาษีอย่างเสรี ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้าประเทศผ่านศูนย์ ICQS เพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบยานพาหนะและควบคุมการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีได้ ส่วนการควบคุมความปลอดภัยตามแนวชายแดนจะมีความเข้มงวดมากขึ้น อีกด้านหนึ่ง มาตรการเข้มงวดในการข้ามแดนของทางการมาเลเซีย ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมพบว่าผู้เข้าพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ลดลงจากเดิม 100-200 ห้องเหลือ 15-20 ห้องต่อคืน ขณะที่มาตรการของทางการมาเลเซีย ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศวิตกกังวล ไม่กล้าเข้า-ออกประเทศ อาจทำให้เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว งานบริการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก #Newskit
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1166 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุไหงโก-ลกเละเทะ มาเลย์ฯ ลอบเข้าไทย

    การจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 6 คน หนึ่งในนั้นคือ น.ส.วัน โนรชาฮีดา อัซลิน บินตี วัน อิสมาอีล นักร้องเพลงลิเกบารัตวัย 28 ปี ที่มีผลงานเพลง Cinta Setandan Pisang เพลงฮิตที่มีผู้ฟังในยูทูบมากถึง 23 ล้านวิว พร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด ภายในห้องพักโรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของชาวมาเลเซีย เพื่อไปหาความสำราญในประเทศไทย เพราะมีผู้ต้องหา 2 คน ถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังไม่พบตราประทับบนหนังสือเดินทาง

    ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งรัฐกลันตัน ยอมรับว่าคนในพื้นที่จำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาความบันเทิงที่ไนต์คลับ แม้ตำรวจรัฐกลันตันจะระงับยับยั้งเรื่องนี้ แต่โดยหน้าที่จำกัดแค่การจับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเท่านั้น วัยรุ่นเหล่านี้เดินทางมายังประเทศไทยช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) แล้วกลับรัฐกลันตันในวันเสาร์ (2 พ.ย.) โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันจัง ข้ามแม่น้ำโกลกเพื่อเข้าประเทศไทย แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันจัง

    ด้านนายโมฮัมเหม็ด ฟาดซิล ฮัสซัน รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน จะเสนอรัฐบาลกลางมาเลเซียก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ความยาวเกือบ 100 กิโลเมตร เพื่อปราบปรามการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากการใช้กองกำลังความมั่นคงป้องกันชายแดนทั้งหมดทำได้ยาก แม้ทางการจะควบคุมอย่างเข้มงวดที่ชายแดน แต่ช่องทางผิดกฎหมายมีหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้การเฝ้าระวังเป็นไปได้ยาก ซึ่งการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมายจะใช้เส้นทางที่ไม่ได้รับการควบคุม หรือควบคุมได้ยาก ทำให้เจ้าหน้าที่ยากลำบากในการปราบปราม

    ส่วนนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการควบคุมดูแล และป้องกันยาเสพติดในฝั่งประเทศไทย ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิง ทั้งดิสโก้เทค ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยากต่อการควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝั่งมาเลเซีย และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ดูแลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะตลอดระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงสุไหงโก-ลก กว่า 1,200 กิโลเมตร ไม่มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดและจริงจัง ทำให้มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่สุไหงโก-ลกได้

    #Newskit #สุไหงโกลก #Kelantan
    สุไหงโก-ลกเละเทะ มาเลย์ฯ ลอบเข้าไทย การจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 6 คน หนึ่งในนั้นคือ น.ส.วัน โนรชาฮีดา อัซลิน บินตี วัน อิสมาอีล นักร้องเพลงลิเกบารัตวัย 28 ปี ที่มีผลงานเพลง Cinta Setandan Pisang เพลงฮิตที่มีผู้ฟังในยูทูบมากถึง 23 ล้านวิว พร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด ภายในห้องพักโรงแรมเก็นติ้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของชาวมาเลเซีย เพื่อไปหาความสำราญในประเทศไทย เพราะมีผู้ต้องหา 2 คน ถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังไม่พบตราประทับบนหนังสือเดินทาง ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งรัฐกลันตัน ยอมรับว่าคนในพื้นที่จำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาความบันเทิงที่ไนต์คลับ แม้ตำรวจรัฐกลันตันจะระงับยับยั้งเรื่องนี้ แต่โดยหน้าที่จำกัดแค่การจับกุมชาวต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเท่านั้น วัยรุ่นเหล่านี้เดินทางมายังประเทศไทยช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) แล้วกลับรัฐกลันตันในวันเสาร์ (2 พ.ย.) โดยจอดรถที่ด่านรันเตาปันจัง ข้ามแม่น้ำโกลกเพื่อเข้าประเทศไทย แทนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ICQS) รันเตาปันจัง ด้านนายโมฮัมเหม็ด ฟาดซิล ฮัสซัน รองมุขมนตรีรัฐกลันตัน จะเสนอรัฐบาลกลางมาเลเซียก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ความยาวเกือบ 100 กิโลเมตร เพื่อปราบปรามการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากการใช้กองกำลังความมั่นคงป้องกันชายแดนทั้งหมดทำได้ยาก แม้ทางการจะควบคุมอย่างเข้มงวดที่ชายแดน แต่ช่องทางผิดกฎหมายมีหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้การเฝ้าระวังเป็นไปได้ยาก ซึ่งการลักลอบเข้า-ออกโดยผิดกฎหมายจะใช้เส้นทางที่ไม่ได้รับการควบคุม หรือควบคุมได้ยาก ทำให้เจ้าหน้าที่ยากลำบากในการปราบปราม ส่วนนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการควบคุมดูแล และป้องกันยาเสพติดในฝั่งประเทศไทย ที่ปล่อยปะละเลยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิง ทั้งดิสโก้เทค ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยากต่อการควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝั่งมาเลเซีย และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ดูแลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะตลอดระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงสุไหงโก-ลก กว่า 1,200 กิโลเมตร ไม่มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดและจริงจัง ทำให้มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่สุไหงโก-ลกได้ #Newskit #สุไหงโกลก #Kelantan
    Like
    Love
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1346 มุมมอง 0 รีวิว