• ตะกรุดหนังเสือ วัดกม.26ใน จ.ยะลา
    ตะกรุดหนังเสือ (ขนาด 2 นิ้ว) วัดกม.26ใน (วัดพระโพธิสัตวธรรม) อ.บันนังสตา จ.ยะลา // ( จัดสร้างจำนวนจำกัด ) พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกโดยเกจิสายเขาอ้อและเกจิสายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ น่าใช้มากครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ"

    ** พุทธคุณโดดเด่นไปในทางมหาอำนาจ แคล้วคลาด คงกระพัน เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ผู้ที่ต้องทำงานเสี่ยงอันตราย หรือแวดล้อมด้วยศัตรู คนที่คิดไม่ดี หรือต้องการบูชาเพื่อเสริมอำนาจวาสนาบารมี มีเสน่ห์ในด้านเมตตามหานิยม ดูน่าเกรงขาม ได้อีกด้วย >>

    ** เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน >>

    ** รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรกพุทธาภิเษก
    1. พระครูไพบูลย์สิกขการ (พ่อท่านหวาน อภโย) วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อายุ96ปี(จุดเทียนชัยและนั่งปรกบริกรรม)
    2. พระครูพิสิฐธรรมคุณ(พ่อท่านเอียด ครุธัมโม) วัดโคกแย้ม อ.เมือง จ.พัทลุง(นั่งปรกและดับเทียนชัย)
    3. พระครูศิริวรรณคณารักษ์ (หลวงพ่อพัฒน์) วัดป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จ.พัทลุง
    4. พระครูอาทรศุภการ (พ่อท่านพล อาสโภ) วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีผู้สืบทอด พุทธาคม ในสายหลวงพ่อทวดตัวจริงจากอาจารย์นองวัดทรายขาว..โดยเฉพาะ ตำราการปลุกพระเครื่องหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งแม้ที่อื่นจะทำได้ ก็ไม่เหมือน สายตรง จากวัดช้างให้
    5. พระครูวรปัญญาประยุต วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
    6. พระครูสถิตธีรธรรม (พ่อท่านถวิล ถิรธมโม) วัดยะหาประชาราม อ.ยะหา จ.ยะลา ศิษย์สายหลวงพ่อเซี่ยง วัดยะหา
    7. พ่อท่านห้อง ธัมมวโร วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง…เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ พัทลุง ผู้สืบวิชาสำนักตักศิลาชื่อดังแห่งเมืองใต้
    8. พ่อท่านตุด จันทวังโส ที่พักสงฆ์หารคอกช้าง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เป็นศิษย์ หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท วัดห้วยลาด
    9. พระครูปุญญาพิศาล (พระอาจารย์ชัย กตปุญโญ) วัดพะโค๊ะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา
    10. พระครูอนันตพุทธคุณ (พ่อท่านเผ่า ปิยจาโร) วัดพระพุทธ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
    11. พระอาจารย์มงคล วัดสวนใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ศิษย์หลวงปู่สุระ ภูริปัญโญ
    12. พระครูรังสีธรรมโสภิต(พระอาจารย์พนธ์ ) วัดลอน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
    13. พระปลัดจิรเดช นาถกโร (พระอาจารย์ต้อม) วัดกม.26ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา พิธีนี้ไม่ธรรมดา!!!

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ตะกรุดหนังเสือ วัดกม.26ใน จ.ยะลา ตะกรุดหนังเสือ (ขนาด 2 นิ้ว) วัดกม.26ใน (วัดพระโพธิสัตวธรรม) อ.บันนังสตา จ.ยะลา // ( จัดสร้างจำนวนจำกัด ) พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกโดยเกจิสายเขาอ้อและเกจิสายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ น่าใช้มากครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ" ** พุทธคุณโดดเด่นไปในทางมหาอำนาจ แคล้วคลาด คงกระพัน เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ผู้ที่ต้องทำงานเสี่ยงอันตราย หรือแวดล้อมด้วยศัตรู คนที่คิดไม่ดี หรือต้องการบูชาเพื่อเสริมอำนาจวาสนาบารมี มีเสน่ห์ในด้านเมตตามหานิยม ดูน่าเกรงขาม ได้อีกด้วย >> ** เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน >> ** รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรกพุทธาภิเษก 1. พระครูไพบูลย์สิกขการ (พ่อท่านหวาน อภโย) วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อายุ96ปี(จุดเทียนชัยและนั่งปรกบริกรรม) 2. พระครูพิสิฐธรรมคุณ(พ่อท่านเอียด ครุธัมโม) วัดโคกแย้ม อ.เมือง จ.พัทลุง(นั่งปรกและดับเทียนชัย) 3. พระครูศิริวรรณคณารักษ์ (หลวงพ่อพัฒน์) วัดป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จ.พัทลุง 4. พระครูอาทรศุภการ (พ่อท่านพล อาสโภ) วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีผู้สืบทอด พุทธาคม ในสายหลวงพ่อทวดตัวจริงจากอาจารย์นองวัดทรายขาว..โดยเฉพาะ ตำราการปลุกพระเครื่องหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งแม้ที่อื่นจะทำได้ ก็ไม่เหมือน สายตรง จากวัดช้างให้ 5. พระครูวรปัญญาประยุต วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 6. พระครูสถิตธีรธรรม (พ่อท่านถวิล ถิรธมโม) วัดยะหาประชาราม อ.ยะหา จ.ยะลา ศิษย์สายหลวงพ่อเซี่ยง วัดยะหา 7. พ่อท่านห้อง ธัมมวโร วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง…เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ พัทลุง ผู้สืบวิชาสำนักตักศิลาชื่อดังแห่งเมืองใต้ 8. พ่อท่านตุด จันทวังโส ที่พักสงฆ์หารคอกช้าง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เป็นศิษย์ หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท วัดห้วยลาด 9. พระครูปุญญาพิศาล (พระอาจารย์ชัย กตปุญโญ) วัดพะโค๊ะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา 10. พระครูอนันตพุทธคุณ (พ่อท่านเผ่า ปิยจาโร) วัดพระพุทธ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 11. พระอาจารย์มงคล วัดสวนใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ศิษย์หลวงปู่สุระ ภูริปัญโญ 12. พระครูรังสีธรรมโสภิต(พระอาจารย์พนธ์ ) วัดลอน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง 13. พระปลัดจิรเดช นาถกโร (พระอาจารย์ต้อม) วัดกม.26ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา พิธีนี้ไม่ธรรมดา!!! ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ..น่าเป็นห่วงลูกหลานเราคนไทยมาก,ถูกล้างสมอง ถูกนำพา ชี้ไปในทางที่ผิดเสียมากจากการป้อนโปรแกรมค่าเท็จสาระพัดใส่สมองและปกปิดซ่อนอำพรางการรอหักหลังและทรยศไว้.
    ..ถ้าระบบนักการเมืองที่ไม่รักประชาชนรักชาติยังมีเต็มระบบและไม่ทำลายทิ้ง มันคือภัยอันตรายชัดเจนมาก
    ..พรรคร่วมทั้งหมดคือภัยของชาติเช่นกัน ไม่สำนึกชั่วดีอะไร ไม่แสดงออกถึงความซื่อสัตย์จริงใจจริงต่อประชาชนและการบริหารบ้านเมืองในทางที่ชอบธรรม เป็นไปเพื่ออธรรมอย่างไม่น่าให้อภัย,ถ้าจริงใจต้องร่วมใจกันลาออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาล ลาออกไปทุกๆพรรคร่วม ถ้าพรรคไหนยังอยู่ เมื่อถึงเวลานั้น,เป้าชัดเจนของคนทรยศประชาชนเยาวชนไทยลูกหลานอนาคตไทยจะแสดงฝ่ายชัดเจนแบบคณะกบฎ2475ที่ร่วมกับฝรั่งสูบเลือดความมั่งคั่งร่ำรวยของคนไทยเราไปทุกๆคนนั้นล่ะแบบสัมปทานบ่อน้ำมันบ่อทองคำแค่2อย่างนี้มีชัดเจนมาก.คนเหล่านี้คือคนทรยศรุ่นปัจจุบันทำร้ายทำลายชุมชนสังคมไทยที่ร่วมกันสร้างและรักษาสิ่งดีงามต่างๆนั้นให้พังพินาศลง,คนเหล่านีัต้องเด็ดขาดอย่างให้มีชีวิตมาสร้างกระแสชั่วเลวทวนกระแสดีปั่นป่วนสร้างความโกลาหลมากมายหลากหลายแนวศึกรบกับข้าศึกศัตรูแผ่นดินไทยมากมายขนาดนี้.โตครเหง้าตระกูลชั่วเลวนี้มีไว้เพื่อหนักแผ่นดินไทยทำไม อยู่ไปแม้ลูกหลานมันเองยังสั่งสอนให้เป็นคนดีงามไม่ได้,เดือนร้อนคนไทยทุกๆคนไปด้วยทั้งทางค่าใช้จ่ายแบบราคาน้ำมันแพงทั้งแผ่นดินไทยจากการใช้อำนาจตนกระทำตกลงในทางที่ชั่วเลว,มิติอื่นๆอีกมากมายเป็นต้น,เมื่อคือตัวแทนคนอำนาจทั้งชาติคือพรรคการเมืองทั้งหมดที่เข้าร่วมบริหารแผ่นดินไทย ผลกระทบนี้ส่งผลร้ายแรงในเวลาข้างหน้า แบบบ่อน้ำมัน บ่อทองคำซึ่งขุดทำเองเอาทองคำเข้าทุนสำรองประเทศฝ่ายเดียวตลอดการขุดเจาะพบเจอได้หมด ชาติมันย่อมแข็งแกร่งแน่นอน นี้อะไรเขาจะปล้นจะชิงจะยึดเอาก็ใจหมายกให้เขาไปขี้ขลาดสิ้นดี,แม้เสียอธิปไตยไปอย่างชัดเจนใครคือศัตรูของเรา ฮ่องกงของจีน จีนรู้ว่าฝรั่งคือศัตรูที่เลวของเขา,สุดท้ายเอกราชอิสระใดๆก็ต้องกอบกู้คืนได้เช่นพระเจ้าตากสินกระทำ,การปกครองเราล้มเหลวจริงๆ ธรรมดาประชาชนมิควรมาออกชุมนุนประท้วงขับไล่คนเลวชั่วต่อชาติแบบนี้,พึงสำนึกผิดว่าบริหารผิดพลาดไม่ซื่อสัตย์ก็มีจริตสำนึกสันดานดีลาออกไปให้คนดีคนเก่งมาบริหารต่อไปแทนตน,เสือกนั่งขวางคลองถ่วงความเจริญดีงามของคนทั้งชาติ,ชาติมิใช่ร้านแผงขายผักขายปลาขายขนมที่สร้างผลกระทบมากมายมหาศาลทั้งแผ่นดินไทยได้ แค่ลงนามคำสั่งที่ผิดพลาดอันเดียว มันสิ้นชาติได้เลยนะ,เสือกไม่สำนึกแห่งวิถีผู้นำ ภาวะผู้นำผู้ปกครองห่าอะไร,ชาติไทยจึงสมควรล้างแผ่นดินไทยนี้ใหม่ทั้งระบบ ,สิ่งต้องจัดการก่อนคือพวกพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหมดในสภาฯต้องพักงานชั่วคราวสัก10-20ปีทันที.และสแกนค้นหาค่าจริงดีงาม ใครคือคนทรยศไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนต่อแผ่นดินไทยสมควรกำจัดออกไป.,เช่นนั้นคนพวกนี้จะก่อความพังพินาศด้วยความอวิชาไม่หยุดสิ้นตัดตอนมิให้มีชีวิตอาจสร้างสังคมชุมชนคนไทยสงบตลอดกาล ลดประชากรคนพวกนี้จะไม่มีใครมาอยู่กล้าขาสั่นสร้างชั่วเลวในปัจจุบันได้.
    ..ต้องจบในรุ่นนี้จริงๆ มันมากเกินพอแล้ว จบที่ตัวต้นเหตุทัังหมดด้วยคือพวกต่างชาติที่แทรกแซงหมายปล้นชิงยึดครองประเทศไทยเราทรัพยากรชาติไทยเราเป็นของมันล่อเลี้ยงคนต่างชาติของเผ่ามันที่มิใช่ใช้ล่อเลี้ยงพัฒนาชาติไทยบนต้นทุนชีวิตที่ไม่ลำบาก ง่ายสะดวกสบายราคาถูกไม่แพง เห็นอกเห็นใจในคนไทยตน .,มันกลับปล้นชิงไปหมด เช่นไทยนี้ชัดเจนเรื่องบ่อน้ำมันนี้ล่ะ ไม่เช่นนั้นเราสามารถขายลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านสบายๆ ซึ่งเรามีบ่อน้ำมันมากกว่าเขา คุณภาพดีกว่าเขา ซาอุฯเองคงไม่ผีบ้าอยากสร้างคลังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยหรอก,โรงกลั่นก็มากกว่าอิหร่าน,ยิ่งไทยกับพม่าจับมือเป็นระบบปกครองธรรมาธิปไตยได้นะ คนพม่ากลับชาติเขาทั้งหมดพัฒนาชาติใครมันสงบสันติสุขร่วมกัน ฝรั่งที่หมายปองบ่อน้ำมันพม่าไม่ได้กินแน่นอน,รวมทั้งไทยที่มีน้ำมันชาติกว่าพันปีก็ไม่หมดด้วย.,เรามีคนทรยศที่ไม่เคยกำจัดสิ้นซากจริงสักที,เก็บไว้สร้างโกลาหลในไทยให้มั่นคงยั่งยืนจริงๆ,ฝ่ายมืดนี้ถ้าคนไทยจะกำจัดจริงๆสิ้นชากแน่นอนบนแผ่นดินไทยรวมถึงสมุนรับใช้ระดมทุน เอาทุนเลวๆชั่วมายึดครองไทยด้วย.

    https://m.youtube.com/watch?v=MOy1QziNlt0
    ..น่าเป็นห่วงลูกหลานเราคนไทยมาก,ถูกล้างสมอง ถูกนำพา ชี้ไปในทางที่ผิดเสียมากจากการป้อนโปรแกรมค่าเท็จสาระพัดใส่สมองและปกปิดซ่อนอำพรางการรอหักหลังและทรยศไว้. ..ถ้าระบบนักการเมืองที่ไม่รักประชาชนรักชาติยังมีเต็มระบบและไม่ทำลายทิ้ง มันคือภัยอันตรายชัดเจนมาก ..พรรคร่วมทั้งหมดคือภัยของชาติเช่นกัน ไม่สำนึกชั่วดีอะไร ไม่แสดงออกถึงความซื่อสัตย์จริงใจจริงต่อประชาชนและการบริหารบ้านเมืองในทางที่ชอบธรรม เป็นไปเพื่ออธรรมอย่างไม่น่าให้อภัย,ถ้าจริงใจต้องร่วมใจกันลาออกไปจากพรรคร่วมรัฐบาล ลาออกไปทุกๆพรรคร่วม ถ้าพรรคไหนยังอยู่ เมื่อถึงเวลานั้น,เป้าชัดเจนของคนทรยศประชาชนเยาวชนไทยลูกหลานอนาคตไทยจะแสดงฝ่ายชัดเจนแบบคณะกบฎ2475ที่ร่วมกับฝรั่งสูบเลือดความมั่งคั่งร่ำรวยของคนไทยเราไปทุกๆคนนั้นล่ะแบบสัมปทานบ่อน้ำมันบ่อทองคำแค่2อย่างนี้มีชัดเจนมาก.คนเหล่านี้คือคนทรยศรุ่นปัจจุบันทำร้ายทำลายชุมชนสังคมไทยที่ร่วมกันสร้างและรักษาสิ่งดีงามต่างๆนั้นให้พังพินาศลง,คนเหล่านีัต้องเด็ดขาดอย่างให้มีชีวิตมาสร้างกระแสชั่วเลวทวนกระแสดีปั่นป่วนสร้างความโกลาหลมากมายหลากหลายแนวศึกรบกับข้าศึกศัตรูแผ่นดินไทยมากมายขนาดนี้.โตครเหง้าตระกูลชั่วเลวนี้มีไว้เพื่อหนักแผ่นดินไทยทำไม อยู่ไปแม้ลูกหลานมันเองยังสั่งสอนให้เป็นคนดีงามไม่ได้,เดือนร้อนคนไทยทุกๆคนไปด้วยทั้งทางค่าใช้จ่ายแบบราคาน้ำมันแพงทั้งแผ่นดินไทยจากการใช้อำนาจตนกระทำตกลงในทางที่ชั่วเลว,มิติอื่นๆอีกมากมายเป็นต้น,เมื่อคือตัวแทนคนอำนาจทั้งชาติคือพรรคการเมืองทั้งหมดที่เข้าร่วมบริหารแผ่นดินไทย ผลกระทบนี้ส่งผลร้ายแรงในเวลาข้างหน้า แบบบ่อน้ำมัน บ่อทองคำซึ่งขุดทำเองเอาทองคำเข้าทุนสำรองประเทศฝ่ายเดียวตลอดการขุดเจาะพบเจอได้หมด ชาติมันย่อมแข็งแกร่งแน่นอน นี้อะไรเขาจะปล้นจะชิงจะยึดเอาก็ใจหมายกให้เขาไปขี้ขลาดสิ้นดี,แม้เสียอธิปไตยไปอย่างชัดเจนใครคือศัตรูของเรา ฮ่องกงของจีน จีนรู้ว่าฝรั่งคือศัตรูที่เลวของเขา,สุดท้ายเอกราชอิสระใดๆก็ต้องกอบกู้คืนได้เช่นพระเจ้าตากสินกระทำ,การปกครองเราล้มเหลวจริงๆ ธรรมดาประชาชนมิควรมาออกชุมนุนประท้วงขับไล่คนเลวชั่วต่อชาติแบบนี้,พึงสำนึกผิดว่าบริหารผิดพลาดไม่ซื่อสัตย์ก็มีจริตสำนึกสันดานดีลาออกไปให้คนดีคนเก่งมาบริหารต่อไปแทนตน,เสือกนั่งขวางคลองถ่วงความเจริญดีงามของคนทั้งชาติ,ชาติมิใช่ร้านแผงขายผักขายปลาขายขนมที่สร้างผลกระทบมากมายมหาศาลทั้งแผ่นดินไทยได้ แค่ลงนามคำสั่งที่ผิดพลาดอันเดียว มันสิ้นชาติได้เลยนะ,เสือกไม่สำนึกแห่งวิถีผู้นำ ภาวะผู้นำผู้ปกครองห่าอะไร,ชาติไทยจึงสมควรล้างแผ่นดินไทยนี้ใหม่ทั้งระบบ ,สิ่งต้องจัดการก่อนคือพวกพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหมดในสภาฯต้องพักงานชั่วคราวสัก10-20ปีทันที.และสแกนค้นหาค่าจริงดีงาม ใครคือคนทรยศไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนต่อแผ่นดินไทยสมควรกำจัดออกไป.,เช่นนั้นคนพวกนี้จะก่อความพังพินาศด้วยความอวิชาไม่หยุดสิ้นตัดตอนมิให้มีชีวิตอาจสร้างสังคมชุมชนคนไทยสงบตลอดกาล ลดประชากรคนพวกนี้จะไม่มีใครมาอยู่กล้าขาสั่นสร้างชั่วเลวในปัจจุบันได้. ..ต้องจบในรุ่นนี้จริงๆ มันมากเกินพอแล้ว จบที่ตัวต้นเหตุทัังหมดด้วยคือพวกต่างชาติที่แทรกแซงหมายปล้นชิงยึดครองประเทศไทยเราทรัพยากรชาติไทยเราเป็นของมันล่อเลี้ยงคนต่างชาติของเผ่ามันที่มิใช่ใช้ล่อเลี้ยงพัฒนาชาติไทยบนต้นทุนชีวิตที่ไม่ลำบาก ง่ายสะดวกสบายราคาถูกไม่แพง เห็นอกเห็นใจในคนไทยตน .,มันกลับปล้นชิงไปหมด เช่นไทยนี้ชัดเจนเรื่องบ่อน้ำมันนี้ล่ะ ไม่เช่นนั้นเราสามารถขายลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านสบายๆ ซึ่งเรามีบ่อน้ำมันมากกว่าเขา คุณภาพดีกว่าเขา ซาอุฯเองคงไม่ผีบ้าอยากสร้างคลังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยหรอก,โรงกลั่นก็มากกว่าอิหร่าน,ยิ่งไทยกับพม่าจับมือเป็นระบบปกครองธรรมาธิปไตยได้นะ คนพม่ากลับชาติเขาทั้งหมดพัฒนาชาติใครมันสงบสันติสุขร่วมกัน ฝรั่งที่หมายปองบ่อน้ำมันพม่าไม่ได้กินแน่นอน,รวมทั้งไทยที่มีน้ำมันชาติกว่าพันปีก็ไม่หมดด้วย.,เรามีคนทรยศที่ไม่เคยกำจัดสิ้นซากจริงสักที,เก็บไว้สร้างโกลาหลในไทยให้มั่นคงยั่งยืนจริงๆ,ฝ่ายมืดนี้ถ้าคนไทยจะกำจัดจริงๆสิ้นชากแน่นอนบนแผ่นดินไทยรวมถึงสมุนรับใช้ระดมทุน เอาทุนเลวๆชั่วมายึดครองไทยด้วย. https://m.youtube.com/watch?v=MOy1QziNlt0
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • หน้าจอมือถือของข้าพเจ้าสว่างวาบกลางดึก ข่าวใหญ่จาก CNN กระแทกตาเหมือนไฟฉายส่องกลางป่ามืด – “American academic faces years in jail after being charged with insulting Thai monarchy.” ชื่อ Paul Chambers กระโดดขึ้นมาเป็นตัวหนา — นักวิชาการอเมริกัน ผู้เคยวิพากษ์กองทัพไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ถูกจับกุมข้อหา 112เพราะหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์สังเกตดูดีๆนะครับเขาใช้คำว่า insuiting ที่แปลว่าการลบหลู่ดูหมิ่น ไม่ใช่คำว่าวิพากษ์วิจารณ์นะครับพาดหัวแค่บรรทัดเดียวก็เชื่อว่าทำให้หลายๆคนรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย แต่สำหรับข้าพเจ้า กลิ่นบางอย่างลอยมาตามลม — กลิ่นเงินทุนที่คุ้นจมูกข้าพเจ้าเลื่อนนิ้วลงไปจนเจอชื่อผู้เขียน Helen Regan นักข่าวประจำฮ่องกงของ CNN ชื่อนี้ไม่แปลกใหม่ แต่ประวัติที่เคยผ่านตากลับทำให้หัวคิ้วขยับ เธอเคยเป็นวิดีโอโปรดิวเซอร์ให้ TIME ก็จริง ทว่าอีกบรรทัดหนึ่งต่างหากที่น่าสนใจ — อดีตโปรดิวเซอร์ของ Democratic Voice of Burma (DVB) สื่อฐานเชียงใหม่ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวเมียนมาร์อย่างถึงพริกถึงขิงเธออาจไม่ทันได้นึกว่าใครจะย้อนรอยข้อมูลรอยเท้าทางอินเตอร์เน็ต แต่โลกออนไลน์ไม่เคยลบอดีต ข้าพเจ้าจึงตามรอยงบการเงินของ DVB แล้วชื่อเดิมก็โผล่ขึ้นมาจากเงามืดเหมือนเดิม: The National Endowment for Democracy – NEDนั่นเองเธอลองจินตนาการดู — เมื่อคนที่เติบโตในสื่อซึ่งขับเคลื่อนด้วยเงินทุน NED มานั่งเขียนข่าวให้ CNN เกี่ยวกับ “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ในไทย เรื่องราวจะถูกเล่าในโทนไหน?ข่าวชิ้นนั้นดึงเอาโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มาพูดด้วยถ้อยคำ “กังวลอย่างยิ่ง” ประหนึ่งเสียงระฆังเตือนภัยทั่วโลก ยิ่งตอกย้ำว่าคดีนี้คือบทพิสูจน์สิทธิมนุษยชน ไม่ใช่กฎหมายภายในของรัฐอธิปไตยอย่างไทย — สูตรสำเร็จเดิมที่ใช้กดดันประเทศเป้าหมายให้ลดเพดานกฎหมายของตนเองแล้ว NED ล่ะ? มันซ่อนตัวอยู่ตรงไหนของฉากนี้ — ตรงปลายปากกาของนักข่าวหญิงผู้เคยรับค่าแรงจากสื่อที่กินงบ NED นั่นแหละ เงียบ เนียน แต่ทรงพลัง เพราะเสียงจาก CNN จะสะท้อนกลับไปทั่วโลกได้ดังยิ่งกว่าลำโพงม็อบหน้ากระทรวงข้าพเจ้าไม่ได้มาบอก เธอ ว่าใครดีใครเลว — เพียงชวนเปิดไฟฉายในมือเราเอง แล้วส่องดูเส้นด้ายที่ผูกโยงระหว่าง พาดหัวแรง – โปรไฟล์ผู้เขียน – สายเงินทุนเรื่องเล่าครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ “นักวิชาการเสี่ยงคุก” แต่คือบทล่าสุดของสงครามข่าวสาร ที่ทุนเก่าเจ้าเดิมกำลังตีบทใหม่ให้คนอ่านเชื่อว่ากฎหมายไทยคือปัญหาใหญ่ของโลกเสรีหาก เธอ ยังตั้งคำถามต่อไป — หาก เธอ ไม่หยุดที่พาดหัว แต่ไล่กลิ่นเงินให้สุดปลายทาง เธอจะเห็นว่า NED ไม่เคยหายไปไหน มันแค่สวมหน้ากากใหม่ทุกครั้งที่ออกโรงคืนนี้ข้าพเจ้าปิดหน้าจอ ปล่อยให้ความมืดคืนสู่ห้อง แต่เรื่องราวยังคงเดินต่อในเงา สงครามข่าวไม่หลับใหล และทุนที่ชื่อ NED ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์สามสี
    หน้าจอมือถือของข้าพเจ้าสว่างวาบกลางดึก ข่าวใหญ่จาก CNN กระแทกตาเหมือนไฟฉายส่องกลางป่ามืด – “American academic faces years in jail after being charged with insulting Thai monarchy.” ชื่อ Paul Chambers กระโดดขึ้นมาเป็นตัวหนา — นักวิชาการอเมริกัน ผู้เคยวิพากษ์กองทัพไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ถูกจับกุมข้อหา 112เพราะหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์สังเกตดูดีๆนะครับเขาใช้คำว่า insuiting ที่แปลว่าการลบหลู่ดูหมิ่น ไม่ใช่คำว่าวิพากษ์วิจารณ์นะครับพาดหัวแค่บรรทัดเดียวก็เชื่อว่าทำให้หลายๆคนรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย แต่สำหรับข้าพเจ้า กลิ่นบางอย่างลอยมาตามลม — กลิ่นเงินทุนที่คุ้นจมูกข้าพเจ้าเลื่อนนิ้วลงไปจนเจอชื่อผู้เขียน Helen Regan นักข่าวประจำฮ่องกงของ CNN ชื่อนี้ไม่แปลกใหม่ แต่ประวัติที่เคยผ่านตากลับทำให้หัวคิ้วขยับ เธอเคยเป็นวิดีโอโปรดิวเซอร์ให้ TIME ก็จริง ทว่าอีกบรรทัดหนึ่งต่างหากที่น่าสนใจ — อดีตโปรดิวเซอร์ของ Democratic Voice of Burma (DVB) สื่อฐานเชียงใหม่ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวเมียนมาร์อย่างถึงพริกถึงขิงเธออาจไม่ทันได้นึกว่าใครจะย้อนรอยข้อมูลรอยเท้าทางอินเตอร์เน็ต แต่โลกออนไลน์ไม่เคยลบอดีต ข้าพเจ้าจึงตามรอยงบการเงินของ DVB แล้วชื่อเดิมก็โผล่ขึ้นมาจากเงามืดเหมือนเดิม: The National Endowment for Democracy – NEDนั่นเองเธอลองจินตนาการดู — เมื่อคนที่เติบโตในสื่อซึ่งขับเคลื่อนด้วยเงินทุน NED มานั่งเขียนข่าวให้ CNN เกี่ยวกับ “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ในไทย เรื่องราวจะถูกเล่าในโทนไหน?ข่าวชิ้นนั้นดึงเอาโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มาพูดด้วยถ้อยคำ “กังวลอย่างยิ่ง” ประหนึ่งเสียงระฆังเตือนภัยทั่วโลก ยิ่งตอกย้ำว่าคดีนี้คือบทพิสูจน์สิทธิมนุษยชน ไม่ใช่กฎหมายภายในของรัฐอธิปไตยอย่างไทย — สูตรสำเร็จเดิมที่ใช้กดดันประเทศเป้าหมายให้ลดเพดานกฎหมายของตนเองแล้ว NED ล่ะ? มันซ่อนตัวอยู่ตรงไหนของฉากนี้ — ตรงปลายปากกาของนักข่าวหญิงผู้เคยรับค่าแรงจากสื่อที่กินงบ NED นั่นแหละ เงียบ เนียน แต่ทรงพลัง เพราะเสียงจาก CNN จะสะท้อนกลับไปทั่วโลกได้ดังยิ่งกว่าลำโพงม็อบหน้ากระทรวงข้าพเจ้าไม่ได้มาบอก เธอ ว่าใครดีใครเลว — เพียงชวนเปิดไฟฉายในมือเราเอง แล้วส่องดูเส้นด้ายที่ผูกโยงระหว่าง พาดหัวแรง – โปรไฟล์ผู้เขียน – สายเงินทุนเรื่องเล่าครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ “นักวิชาการเสี่ยงคุก” แต่คือบทล่าสุดของสงครามข่าวสาร ที่ทุนเก่าเจ้าเดิมกำลังตีบทใหม่ให้คนอ่านเชื่อว่ากฎหมายไทยคือปัญหาใหญ่ของโลกเสรีหาก เธอ ยังตั้งคำถามต่อไป — หาก เธอ ไม่หยุดที่พาดหัว แต่ไล่กลิ่นเงินให้สุดปลายทาง เธอจะเห็นว่า NED ไม่เคยหายไปไหน มันแค่สวมหน้ากากใหม่ทุกครั้งที่ออกโรงคืนนี้ข้าพเจ้าปิดหน้าจอ ปล่อยให้ความมืดคืนสู่ห้อง แต่เรื่องราวยังคงเดินต่อในเงา สงครามข่าวไม่หลับใหล และทุนที่ชื่อ NED ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์สามสี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • Tue. Apr. 8, 2025
    (วันนี้เขียนยาวเฟี้ยว ใครอ่านจบ...ให้ ⭐ 3 ดวง)

    เมื่อค่ำวันที่ 6 พ.ย. 2022 หนึ่งวันก่อนบินออกจาก New York ระหว่างจัดกระเป๋า เราก็โทรสั่งผัดซีอิ๊วหมูกับเมี่ยงคะน้า ร้านวันดี เจ้าประจำมากิน พอบอกน้องๆว่าพรุ่งนี้กลับละนะ ก็เลยได้หนมจีบลูกยักษ์ เมนูโปรดเราแถมมา 4 ลูกฟรี ด้วยความสิเหน่หา 😁

    เมื่ออาหารมาส่งโดยหนุ่มแม็กซิกันส่งของเพื่อนซี้ของเรา เม้ากันว่าไอจะกลับแล้ว เราก็เลยให้ทิปแกไป $40 แถมด้วยขอกอด 1 กอด พอเขากลับไป ก็ได้เวลาหม่ำๆ

    เราเก็บหนมจีบฟรีไว้ wave กินก่อนไป JFK ตอนเช้า ตอนกำลังกินทั้งสองเมนูอย่างเอร็ดอร่อย ตาก็เหลือบไปเห็นบิล โอ้โห...เกือบ $34 และนี่คือราคาอาหาร to go จากร้านใน Manhattan เมื่อ 2 ปีก่อนนะคะ...$34 x ฿35 = ฿1190/สองจาน...นี่ขนาดได้หนมจีบฟรีมาด้วยความสิเหน่หาแล้วหนา ($7 ตอนนู้น)

    เวลาผ่านไป 2 ปีนิดๆ ทุกวันนี้ร้านในตัวเมือง Manhattan ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยใน NYC ได้ข่าวว่ามีสนนราคาเริ่มอยู่ระหว่าง $18-$25 แล้วแต่ร้าน choice of ไก่ & ผักก็ถูกสุด ถ้าหัวสูงหน่อย อยากกินเนื้อแดง หรือกุ้ง (size 16-20) 3-4 ตัว ก็บวกไปอีก $4-$7 นี่คือ 1 จานนะคะ

    ถ้าทานที่ร้าน พอเรียกเก็บเงิน...มันจะมาพร้อมภาษี + tax 8.875% และ tips ที่มีให้เลือก 20% หรือ 25% หรือ 30% (หรือ 15-20% delivery tips)
    ...เริ่มคำนวณไม่ถูกละ เจ็บหัว 😅

    อ้ะๆๆ ยกตัวอย่าง ในกรณีไปกินที่ร้านนะคะ
    ผัดไทยราคาต้น $20
    แต่อยากกินกุ้งอ้ะ + $5
    อ้ะ เก็บตังจ้ะ $25 + tax 8.875% $2.22
    ค่า tips ด้วยค่ะ...อ้ะ...เลือกให้ขั้นต่ำสุด (20%) $5.44
    Total สิริรวม $32.66
    คิดเป็นเงินไทย $1 = ฿30 ก็เท่ากับ ฿979.80
    นี่คือผัดไทยกุ้งล้วนๆ แกล้มกับน้ำก๊อกกันฝืดคอนะ

    ยังไม่ทันจะดึงขึ้นจาก covid ดี...นี่หลังจาก April 5th ภาษีนำเข้า US ทุกประเทศ (193 ประเทศ) โดนไปแล้ว 10% และหลัง April 9 เป็นต้นไป ไทยก็จะโดน Trump's Tariff ทับถมไปอีก 36%

    เอาจริงๆ ไทยก็ไม่ได้ซวยเต็มๆนะคะ เพราะส่วนใหญ่คือบริษัทของประเทศเขาเอง ที่หนีค่าแรงแพงๆที่ US มาผลิตอยู่บ้านเรา แต่ในฐานะคนเคยทำร้านอาหารมา grocery ไทยที่ส่งออกไปให้ร้านอาหารไทย 5400 กว่าร้านทั่ว US วัตถุดิบพุ่งแน่ๆ แต่ตอนนี้ทุกชาติโดนหมด เพราะฉะนั้น เรานึกไม่ออกเลยว่า ถ้ากลับไปอีกที อาหาร (ทุกชาติ) จานนึงหรือมื้อนึง จะแพงขึ้นขนาดไหน เพราะราคาอาหารจะต้องคิดรวมค่าวัตถุดิบ ค่าเช่าร้าน ค่าแรงพนักงาน ค่าน้ำ ค่า gas ค่าไฟ ค่าinternet (รับ order online) ค่าเก็บขยะ ค่ากำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ และอย่าลืมว่า ถ้าใช้พวกบริการของพวก Seamless หรือ Grubhub (เสมือน Food Panda หรือ Grab นี่แหละ) มาช่วยให้บริการบนหลังควายอีก ก็เผื่อไว้จ่ายเขาอีก 37% นะคะ (ไม่รู้ว่าขึ้นค่าสูบเลือดรึยัง) ไหนยังจะมีค่าโฆษณา และค่าโน่นนี่นั่นให้ความดันขึ้นเล่นๆอีกมากมายค่ะ

    หวังว่าร้านอาหารทั่วโลก จะเตรียมแผนรับมือให้ดีๆนะคะ ตั้งสติดีๆ ส่วนพนักงานไทยหาเช้ากินค่ำ จงทำงานให้เต็มที่ เข้างานให้ตรงเวลา (โว๊ย) เลิกเสพเหล้า เลิกดูดยา เลิกการพนัน เลิกซื้อของ brand name เอาไว้แค่มาใช้อวดคนที่เมืองไทยค่ะ เริ่มฝึก skill อื่นๆไว้ ฝึกพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ หรือ Spanish ไว้ให้ดี เผื่อทางเลือกอื่นไว้ให้ตัวเองเยอะๆ และสุดท้าย...ผู้บริโภค...เริ่มหัดทำ IF ค่ะ...คือหัดแดร๊กข้าววันละมื้อ หรือสองสามวันมื้อก็จะดีมากค่ะ...สู้ๆเน้อ

    https://youtu.be/UxJpYTEhPOE?si=Jmh30OEQwLC125bn
    Tue. Apr. 8, 2025 (วันนี้เขียนยาวเฟี้ยว ใครอ่านจบ...ให้ ⭐ 3 ดวง) เมื่อค่ำวันที่ 6 พ.ย. 2022 หนึ่งวันก่อนบินออกจาก New York ระหว่างจัดกระเป๋า เราก็โทรสั่งผัดซีอิ๊วหมูกับเมี่ยงคะน้า ร้านวันดี เจ้าประจำมากิน พอบอกน้องๆว่าพรุ่งนี้กลับละนะ ก็เลยได้หนมจีบลูกยักษ์ เมนูโปรดเราแถมมา 4 ลูกฟรี ด้วยความสิเหน่หา 😁 เมื่ออาหารมาส่งโดยหนุ่มแม็กซิกันส่งของเพื่อนซี้ของเรา เม้ากันว่าไอจะกลับแล้ว เราก็เลยให้ทิปแกไป $40 แถมด้วยขอกอด 1 กอด พอเขากลับไป ก็ได้เวลาหม่ำๆ เราเก็บหนมจีบฟรีไว้ wave กินก่อนไป JFK ตอนเช้า ตอนกำลังกินทั้งสองเมนูอย่างเอร็ดอร่อย ตาก็เหลือบไปเห็นบิล โอ้โห...เกือบ $34 และนี่คือราคาอาหาร to go จากร้านใน Manhattan เมื่อ 2 ปีก่อนนะคะ...$34 x ฿35 = ฿1190/สองจาน...นี่ขนาดได้หนมจีบฟรีมาด้วยความสิเหน่หาแล้วหนา ($7 ตอนนู้น) เวลาผ่านไป 2 ปีนิดๆ ทุกวันนี้ร้านในตัวเมือง Manhattan ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยใน NYC ได้ข่าวว่ามีสนนราคาเริ่มอยู่ระหว่าง $18-$25 แล้วแต่ร้าน choice of ไก่ & ผักก็ถูกสุด ถ้าหัวสูงหน่อย อยากกินเนื้อแดง หรือกุ้ง (size 16-20) 3-4 ตัว ก็บวกไปอีก $4-$7 นี่คือ 1 จานนะคะ ถ้าทานที่ร้าน พอเรียกเก็บเงิน...มันจะมาพร้อมภาษี + tax 8.875% และ tips ที่มีให้เลือก 20% หรือ 25% หรือ 30% (หรือ 15-20% delivery tips) ...เริ่มคำนวณไม่ถูกละ เจ็บหัว 😅 อ้ะๆๆ ยกตัวอย่าง ในกรณีไปกินที่ร้านนะคะ ผัดไทยราคาต้น $20 แต่อยากกินกุ้งอ้ะ + $5 อ้ะ เก็บตังจ้ะ $25 + tax 8.875% $2.22 ค่า tips ด้วยค่ะ...อ้ะ...เลือกให้ขั้นต่ำสุด (20%) $5.44 Total สิริรวม $32.66 คิดเป็นเงินไทย $1 = ฿30 ก็เท่ากับ ฿979.80 นี่คือผัดไทยกุ้งล้วนๆ แกล้มกับน้ำก๊อกกันฝืดคอนะ ยังไม่ทันจะดึงขึ้นจาก covid ดี...นี่หลังจาก April 5th ภาษีนำเข้า US ทุกประเทศ (193 ประเทศ) โดนไปแล้ว 10% และหลัง April 9 เป็นต้นไป ไทยก็จะโดน Trump's Tariff ทับถมไปอีก 36% เอาจริงๆ ไทยก็ไม่ได้ซวยเต็มๆนะคะ เพราะส่วนใหญ่คือบริษัทของประเทศเขาเอง ที่หนีค่าแรงแพงๆที่ US มาผลิตอยู่บ้านเรา แต่ในฐานะคนเคยทำร้านอาหารมา grocery ไทยที่ส่งออกไปให้ร้านอาหารไทย 5400 กว่าร้านทั่ว US วัตถุดิบพุ่งแน่ๆ แต่ตอนนี้ทุกชาติโดนหมด เพราะฉะนั้น เรานึกไม่ออกเลยว่า ถ้ากลับไปอีกที อาหาร (ทุกชาติ) จานนึงหรือมื้อนึง จะแพงขึ้นขนาดไหน เพราะราคาอาหารจะต้องคิดรวมค่าวัตถุดิบ ค่าเช่าร้าน ค่าแรงพนักงาน ค่าน้ำ ค่า gas ค่าไฟ ค่าinternet (รับ order online) ค่าเก็บขยะ ค่ากำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ และอย่าลืมว่า ถ้าใช้พวกบริการของพวก Seamless หรือ Grubhub (เสมือน Food Panda หรือ Grab นี่แหละ) มาช่วยให้บริการบนหลังควายอีก ก็เผื่อไว้จ่ายเขาอีก 37% นะคะ (ไม่รู้ว่าขึ้นค่าสูบเลือดรึยัง) ไหนยังจะมีค่าโฆษณา และค่าโน่นนี่นั่นให้ความดันขึ้นเล่นๆอีกมากมายค่ะ หวังว่าร้านอาหารทั่วโลก จะเตรียมแผนรับมือให้ดีๆนะคะ ตั้งสติดีๆ ส่วนพนักงานไทยหาเช้ากินค่ำ จงทำงานให้เต็มที่ เข้างานให้ตรงเวลา (โว๊ย) เลิกเสพเหล้า เลิกดูดยา เลิกการพนัน เลิกซื้อของ brand name เอาไว้แค่มาใช้อวดคนที่เมืองไทยค่ะ เริ่มฝึก skill อื่นๆไว้ ฝึกพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ หรือ Spanish ไว้ให้ดี เผื่อทางเลือกอื่นไว้ให้ตัวเองเยอะๆ และสุดท้าย...ผู้บริโภค...เริ่มหัดทำ IF ค่ะ...คือหัดแดร๊กข้าววันละมื้อ หรือสองสามวันมื้อก็จะดีมากค่ะ...สู้ๆเน้อ https://youtu.be/UxJpYTEhPOE?si=Jmh30OEQwLC125bn
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • มีเกร็ดเล็กๆ น้อยที่เคยได้ยินท่านหลวงตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องโชคเรื่องลาภ จึงขอนำมาเล่าให้ฟังกันครับ

    หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่า เวลาถูกหวยหรือล็อตเตอรรี่ ให้แบ่ง 1ใน 3 ของส่วนที่ได้ไปทำบุญ แล้วครั้งต่อไปจะถูกอีก! เป็นบุญต่อบุญไง

    และอีกครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกได้ใจความว่า...บางทีเวลาเราไปขอหวยหรือขอเรื่องทรัพย์กับเทวดาเนี่ย เขาก็อยากให้เราเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นะ แต่คนบางคนเนี่ย มันไม่เคยให้ทานมาก่อนเลย เทวดาเขาก็มองไม่เห็นบุญ เลยไม่รู้จะให้ยังไง ดังนั้นเวลาไปขอเรื่องทรัพย์หรือเรื่องหวยกับเทวดาเนี่ย ก่อนจะขอนั้น ให้เรานึกถึง บุญที่เราเคยทำทานมาก่อน เอาทานที่มันใหญ่ๆที่เราเคยทำมา นั่นแหละ เทวดาเขาจะมองเห็นบุญเรา แล้วเขาจะให้ได้

    จากที่หลวงตาม้าท่านกล่าวนั้น ที่ท่านบอกว่า ให้นึกถึงทานที่มันใหญ่ๆ ที่เราเคยทำมา บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าอย่างไหนที่เรียกว่าทานอย่างใหญ่

    ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เช่น ร่วมสร้างวิหาร ร่วมสร้างวัด ร่วมสร้างพระแล้วแจกฟรี หรือให้ธรรมะเป็นทาน อย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น ที่เป็นบุญใหญ่เพราะ อย่างการสร้างวัดนี้ ใครก็ตามที่เข้าไปทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนี้ เราก็มีส่วนได้บุญด้วยทั้งหมด เพราะเราเป็นเหตุให้เขาได้บุญ เอาแค่ว่ามีคนไปกวาดลานวัด เราก็ได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หรือการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เช่น ถ้าเราไปสอนใครสวดมนต์ แล้วเขาคนนั้นนำไปสวด ทุกครั้งที่เขาสวด เราก็มีส่วนได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หลวงตาม้าท่านเคยบอกว่า..... หลวงปู่(ดู่) ท่านสอนว่า... เวลาจะทำอะไรให้เลือกทำที่มันยาวๆ จะดีกว่า อย่างการสร้างพระพุทธรูปเนี่ย
    พระพุทธรูปบางองค์อยู่ได้เป็นหลายร้อยปีเลยนะ ภายในระยะเวลาหลายร้อยปีนั้น ผู้ใดก็ตามที่มากราบพระพุทธรูปองค์นี้หรือมาทำบุญกับพระพุทธรูปองค์นี้ คนที่สร้างจะมีส่วนได้บุญทั้งหมด เพราะเป็นเหตุให้เขาได้กราบหรือได้ทำบุญ

    อย่างครูบา(ศรีวิชัย) เนี่ย ท่านไปสร้างวัดใช่ไหม ใครก็ตามที่ทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนั้น
    ท่านครูบาได้ด้วยหมดเลย(หัวเราะ)

    หรืออย่างหลวงตาสร้างพระเนี่ย ใครก็ตามที่เอาพระของหลวงตาไปกำทำสมาธิ หลวงตาก็ได้บุญด้วยหมดเลยนะ ตอนนี้หลวงตาใจสบายตลอดเวลาเลยเนี่ย เพราะมีคนสวดให้ตลอดเวลา(หัวเราะ)

    เมื่อหลวงตาท่านพูดอย่างนี้ ผมจึงได้เข้าใจ การทำบุญใดๆ ที่ทำแล้วส่งผลเป็นระยะยาว อานิสงส์ย่อมได้มากกว่าบุญที่ทำแล้วจบลงตรงนั้นเลย

    ขอบคุณและ เครดิตที่มา

    น้อมกราบ 
    #หลวงตาม้า
    #หลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ
    #พระวรงคตวิริยธโร
    #วัดถ้ำเมืองนะ
    #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ
    #พระพรหมปัญโญ
    #สวดคาถามหาจักรพรรดิ
    #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ
    #คาถามหาจักรพรรดิ108
    #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง
    #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ

    ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ
    @แฟนตัวยง
    มีเกร็ดเล็กๆ น้อยที่เคยได้ยินท่านหลวงตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องโชคเรื่องลาภ จึงขอนำมาเล่าให้ฟังกันครับ หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่า เวลาถูกหวยหรือล็อตเตอรรี่ ให้แบ่ง 1ใน 3 ของส่วนที่ได้ไปทำบุญ แล้วครั้งต่อไปจะถูกอีก! เป็นบุญต่อบุญไง และอีกครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกได้ใจความว่า...บางทีเวลาเราไปขอหวยหรือขอเรื่องทรัพย์กับเทวดาเนี่ย เขาก็อยากให้เราเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นะ แต่คนบางคนเนี่ย มันไม่เคยให้ทานมาก่อนเลย เทวดาเขาก็มองไม่เห็นบุญ เลยไม่รู้จะให้ยังไง ดังนั้นเวลาไปขอเรื่องทรัพย์หรือเรื่องหวยกับเทวดาเนี่ย ก่อนจะขอนั้น ให้เรานึกถึง บุญที่เราเคยทำทานมาก่อน เอาทานที่มันใหญ่ๆที่เราเคยทำมา นั่นแหละ เทวดาเขาจะมองเห็นบุญเรา แล้วเขาจะให้ได้ จากที่หลวงตาม้าท่านกล่าวนั้น ที่ท่านบอกว่า ให้นึกถึงทานที่มันใหญ่ๆ ที่เราเคยทำมา บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าอย่างไหนที่เรียกว่าทานอย่างใหญ่ ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เช่น ร่วมสร้างวิหาร ร่วมสร้างวัด ร่วมสร้างพระแล้วแจกฟรี หรือให้ธรรมะเป็นทาน อย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น ที่เป็นบุญใหญ่เพราะ อย่างการสร้างวัดนี้ ใครก็ตามที่เข้าไปทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนี้ เราก็มีส่วนได้บุญด้วยทั้งหมด เพราะเราเป็นเหตุให้เขาได้บุญ เอาแค่ว่ามีคนไปกวาดลานวัด เราก็ได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หรือการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เช่น ถ้าเราไปสอนใครสวดมนต์ แล้วเขาคนนั้นนำไปสวด ทุกครั้งที่เขาสวด เราก็มีส่วนได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หลวงตาม้าท่านเคยบอกว่า..... หลวงปู่(ดู่) ท่านสอนว่า... เวลาจะทำอะไรให้เลือกทำที่มันยาวๆ จะดีกว่า อย่างการสร้างพระพุทธรูปเนี่ย พระพุทธรูปบางองค์อยู่ได้เป็นหลายร้อยปีเลยนะ ภายในระยะเวลาหลายร้อยปีนั้น ผู้ใดก็ตามที่มากราบพระพุทธรูปองค์นี้หรือมาทำบุญกับพระพุทธรูปองค์นี้ คนที่สร้างจะมีส่วนได้บุญทั้งหมด เพราะเป็นเหตุให้เขาได้กราบหรือได้ทำบุญ อย่างครูบา(ศรีวิชัย) เนี่ย ท่านไปสร้างวัดใช่ไหม ใครก็ตามที่ทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนั้น ท่านครูบาได้ด้วยหมดเลย(หัวเราะ) หรืออย่างหลวงตาสร้างพระเนี่ย ใครก็ตามที่เอาพระของหลวงตาไปกำทำสมาธิ หลวงตาก็ได้บุญด้วยหมดเลยนะ ตอนนี้หลวงตาใจสบายตลอดเวลาเลยเนี่ย เพราะมีคนสวดให้ตลอดเวลา(หัวเราะ) เมื่อหลวงตาท่านพูดอย่างนี้ ผมจึงได้เข้าใจ การทำบุญใดๆ ที่ทำแล้วส่งผลเป็นระยะยาว อานิสงส์ย่อมได้มากกว่าบุญที่ทำแล้วจบลงตรงนั้นเลย ขอบคุณและ เครดิตที่มา น้อมกราบ  #หลวงตาม้า #หลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ #พระวรงคตวิริยธโร #วัดถ้ำเมืองนะ #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ #พระพรหมปัญโญ #สวดคาถามหาจักรพรรดิ #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ #คาถามหาจักรพรรดิ108 #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ @แฟนตัวยง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่า ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    สัทธรรมลำดับที่ : 583
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583
    ชื่อบทธรรม :- ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    --ภิกษุ ท. !
    รูป ที่เห็น ด้วยตาก็ดี,
    เสียง ที่ฟัง ด้วยหูก็ดี,
    กลิ่น ที่ดม ด้วยจมูกก็ดี,
    รส ที่ลิ้ม ด้วยลิ้นก็ดี,
    โผฏฐัพพะ ที่สัมผัส ด้วยกายก็ดี, และ
    ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้ง ด้วยใจก็ดี,
    อัน
    เป็นสิ่งที่ น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ
    เป็นที่ ยวนตายวนใจให้รัก
    เป็นที่ เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และ
    เป็นที่ ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่.
    ถ้าภิกษุใด
    ๑.ไม่เพลิดเพลิน ๒.ไม่พร่ำเพ้อถึง ๓.ไม่เมาหมกติดอกติดใจอยู่
    ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้นไซร้ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=อภินนฺทติ+รูป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุอย่างนี้ เราเรียกว่า
    #เป็นผู้ไม่กลืนเบ็ดของมารได้ทำลายเบ็ดหักเบ็ด แหลกละเอียดแล้ว
    ไม่ถึงความวิบัติ ไม่ถึงความพินาศฉิบหาย ไม่เป็นผู้ที่มารใจบาป
    จะทำอะไรให้ได้ตามใจเลย ;
    ดังนี้แล.

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/180/290.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/180/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๙๘/๒๙๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39&id=583
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39
    ลำดับสาธยายธรรม : 39 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_39.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่า ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร สัทธรรมลำดับที่ : 583 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583 ชื่อบทธรรม :- ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร เนื้อความทั้งหมด :- --ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร --ภิกษุ ท. ! รูป ที่เห็น ด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟัง ด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดม ด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้ม ด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัส ด้วยกายก็ดี, และ ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้ง ด้วยใจก็ดี, อัน เป็นสิ่งที่ น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่ เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และ เป็นที่ ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่. ถ้าภิกษุใด ๑.ไม่เพลิดเพลิน ๒.ไม่พร่ำเพ้อถึง ๓.ไม่เมาหมกติดอกติดใจอยู่ ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้นไซร้ ; http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=อภินนฺทติ+รูป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุอย่างนี้ เราเรียกว่า #เป็นผู้ไม่กลืนเบ็ดของมารได้ทำลายเบ็ดหักเบ็ด แหลกละเอียดแล้ว ไม่ถึงความวิบัติ ไม่ถึงความพินาศฉิบหาย ไม่เป็นผู้ที่มารใจบาป จะทำอะไรให้ได้ตามใจเลย ; ดังนี้แล. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/180/290. http://etipitaka.com/read/thai/18/180/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๙๘/๒๙๐. http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39&id=583 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39 ลำดับสาธยายธรรม : 39 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_39.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    -ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร ภิกษุ ท. ! รูป ที่เห็น ด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี, และธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่. ถ้าภิกษุใดไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำเพ้อถึง ไม่เมาหมกติดอกติดใจอยู่ ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้นไซร้ ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุอย่างนี้ เราเรียกว่า เป็นผู้ไม่กลืนเบ็ดของมารได้ทำลายเบ็ดหักเบ็ดแหลกละเอียดแล้ว ไม่ถึงความวิบัติ ไม่ถึงความพินาศฉิบหาย ไม่เป็นผู้ที่มารใจบาป จะทำอะไรให้ได้ตามใจเลย ; ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน

    ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ"
    🃏The Sun + 🃏The World

    ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก

    หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล

    คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ)

    เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ

    นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน

    ----------

    "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข"
    🃏The Star + 🃏Ten of Cups

    The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น

    คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่

    น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่)

    และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา

    ----------

    "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว"
    🃏Wheel of Fortune

    ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน

    ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด

    เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ

    ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้

    ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ

    ----------

    Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม?

    🃏🃏🃏🃏🃏
    แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025)
    • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023)
    • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ
    • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา
    • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์)
    ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ" 🃏The Sun + 🃏The World ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ) เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ---------- "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข" 🃏The Star + 🃏Ten of Cups The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่) และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา ---------- "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว" 🃏Wheel of Fortune ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้ ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ ---------- Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม? 🃏🃏🃏🃏🃏 แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025) • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023) • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์) ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • สำหรับผม ญี่ปุ่นและไทยคล้ายคลึงกันมากในปริมณฑลเรื่องเหนือธรรมชาติ ไทยเรามีภูตผีหลากหลายดีไซน์มากพอ ๆ กับโยไคของญี่ปุ่น ต่างกันแค่ผีญี่ปุ่นยังมีการรวมตัวเดินขบวนพาเหรดเป็น "ขบวนแห่ร้อยอสูร" (百鬼夜行 - เฮียกกิยาเกียว) จนเมื่อได้อ่านนิยายเล่มนี้เองที่ได้เจอเรื่องราวของขบวนแห่แบบที่ว่าในรูปผสมผสานสองเชื้อชาติ

    'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' โดย กันตชาต ชวนะวิรัช เป็นนวนิยายที่ได้รับคัดเลือกจาก บ.อมรินทร์ให้ตีพิมพ์ในโปรเจกต์ "ไทยเล่าไทยหลอน" เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในที่ที่เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีตำนานท้องถิ่นกล่าวถึงขบวนแห่ร้อยผีที่มีผู้ร่วมขบวนทั้งผีไทยและผีญี่ปุ่น มีผู้นำขบวนคือ เทพอาคันตุกะ หรือนูราริเฮียง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งโยไคของญี่ปุ่น เล่ากันว่าหากคนทั่วไปที่ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษมองเห็นขบวนแห่ร้อยผีเข้า ก็จะโดนทั้งขบวนตามล่าเพื่อนำวิญญาณไปร่วมขบวนด้วย ในเนื้อเรื่อง อัญรินทร์เห็นขบวนแห่นี้และโดนหมายหัว อัคร น้องชายวัย ม.ปลาย ซึ่งมองเห็นวิญญาณได้ จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพาพี่สาวหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผี แม้กระทั่งต้องเข้าไปซ่อนในบ้านเด็กกำพร้าผีสิงก็ตาม

    ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องผี มีคำว่า "ผี" อยู่ในชื่อเรื่อง แต่โทนเรื่องโดยรวมไม่ได้เน้นความน่ากลัวสยองขวัญเท่าไร (สำหรับผมอะนะ) ออกจะเป็นแฟนตาซีที่แฝงกลิ่นอายลึกลับแบบ Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิมากกว่า คงเพราะมีผีญี่ปุ่นอยู่ในเรื่องด้วย (แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่เอาจริง ๆ ถ้าเทียบแอร์ไทม์แล้ว ผีในขบวนแห่ร้อยผีกลับมีบทบาทน้อยกว่าผีที่ไม่ได้อยู่ในขบวนแห่เสียอีก) ทั้งนี้ ตอนจบทั้งสวยงามและปวดตับอย่างยิ่ง ต่อให้คุณพอจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ผมเชื่อว่าบทสุดท้ายก็น่าจะกระชากอารมณ์คุณไม่มากก็น้อย ยกเว้นก็แต่คุณจะอารมณ์ตายด้านไปแล้วหรือไม่ก็เป็นไซโคพาธ อี๋ย์ ไปให้พ้น ชิ่ว ๆ

    อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่พื้นที่ที่ผมจะรีวิวหนังสือ แต่ผมจะให้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์ในคลังของผมกำหนดประเด็นที่จะรีวิว วิจารณ์ หรือหยิบยกมาพูด แล้วผมจะนำมาแปลและถ่ายทอดต่ออีกที โดยสุ่มจับไพ่ 4 ใบ และใช้ไพ่ใต้กองอีก 1 ใบ

    สำหรับนิยายเล่มนี้ ซึ่งมีภูตผีญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง ผมก็คิดว่าน่าจะเหมาะสมถ้าใช้ไพ่ที่มีธีมเป็นผีญี่ปุ่นมาทำการ "เผาเรื่อง" นั่นคือไพ่ชุด 'Yokai Tarot' โดย สนพ.Lo Scarabeo จากอิตาลี

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' ด้วย 'Yokai Tarot' ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "หลอกลวงคนอ่านอย่าง(เกือบ)แนบเนียน"
    🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance

    ไพ่ Magician ของ Yokai Tarot เลือกหน้าไพ่เป็นปีศาจทานุกิ ซึ่งเป็นโยไคที่ขึ้นชื่อเรื่องการแปลงร่างไปหลอกลวงหรือแกล้งมนุษย์ ตรงกับความหมายในแง่ "การหลอกลวง" ของไพ่นักมายากล ส่วนไพ่ Temperance มีหน้าไพ่เป็น "นิงเกียว" หรือก็คือนางเงือกแบบญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเนื้อของเงือกญี่ปุ่นจะทำให้อายุยืนยาวหรือถึงขั้นเป็นอมตะ แต่เฉพาะในบริบทของไพ่แห่งความพอดี เงือกคือตัวตนที่แสดงถึงความสอดประสานกันอย่างลงตัว กลมเกลียว และ "แนบเนียน" ระหว่างสิ่งตรงข้าม ไม่ว่าจะคนและปลา หรือบกและน้ำ

    'เฮียกกิยาเกียว' เป็นนิยายที่ไม่ได้ใส่ผีมาหลอกตัวละครในเรื่องอย่างเดียว แต่ตัวมันยังพยายามหลอกคนอ่านอย่างเราให้เข้าใจผิดเกือบตลอดเวลา ซึ่งก็มาพร้อมกับ Plot twists หรือการหักมุมหลายตลบ แต่ก็ไม่ได้เป็นการหักแบบคอพับ 180 องศาชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ระหว่างทาง เนื้อเรื่องจะแอบหยอดรายละเอียดที่ค่อย ๆ นำไปสู่การเฉลยปมหักมุมแต่ละเรื่อง ดังนั้นสำหรับผู้อ่านที่ช่างสังเกตและช่างคิด รวมถึงมีชั่วโมงบินเยอะ ก็อาจคาดเดาจุดหักมุมแต่ละจุดได้ไม่ยาก รวมถึง Plot twist ใหญ่ในหน้า 226

    นอกจากนี้ ผมชอบเป็นพิเศษที่ไพ่ Temperance ขึ้นมาในหัวข้อนี้พอดี ความหมายหลักอย่างหนึ่งของไพ่ใบนี้คือ "ความกลมเกลียว" และ "การสอดประสานกันอย่างลงตัว" ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายได้ดีอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ระหว่างสังคมมนุษย์กับสังคมผีในนิยายเรื่องนี้ เนื้อเรื่องบรรยายว่าชุมชนในเรื่องเป็นที่ที่ผีและคนอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด จนบางครั้งพรมแดนระหว่าง 2 ภพก็พร่าเลือนโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรืออาจจะทั้ง 2 ฝ่ายไม่รู้ตัว ซึ่งนี่ก็เป็นกลวิธีอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนใช้หลอกลวงคนอ่านด้วย (แน่นอนว่าตรงนี้ไม่ได้สปอยล์สาระสำคัญของเรื่องแต่อย่างใด ;) )

    ----------

    "บูรณาการตำนาน(ผี)จากสองชาติ"
    🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles)

    โยไคบนหน้าไพ่ราชินีเหรียญของชุด Yokai Tarot คือ "ยามะฮิเมะ" (เจ้าหญิงแห่งขุนเขา) ซึ่งมีบทบาทคล้าย ๆ วิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขาในไทยเรา เป็นผู้ปกปักรักษาสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่ภูเขาของตน ทั้งป่าดงพงไพร พืช สัตว์ รวมถึงมนุษย์ที่อาศัยในบริเวณนั้นและเคารพบูชานาง บทบาทตามตำนานความเชื่อของโยไคตนนี้ตรงกับความหมายของไพ่ราชินีเหรียญในแง่การเป็นผูปกปักรักษา บำรุงเลี้ยงดู ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับความหมายด้านธรรมชาติของไพ่ใบนี้ด้วย ส่วนในบริบทของนิยายเรื่องนี้ ผมตีความว่าไพ่ใบนี้สื่อถึงสิ่งที่เป็นเสมือนธรรมชาติเก่าแก่ในชุมชนท้องที่ต่าง ๆ ซึ่งก็คือวัฒนธรรม ตำนาน คติชน และเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่มีมาแต่โบราณในท้องที่นั้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในท้องถิ่นหวนแหนและดูแลสืบต่อไปยังชนรุ่นหลัง

    ส่วนไพ่ 3 เหรียญเป็นภาพของ "อิปปงดาตาระ" โยไคตาเดียวขาเดียวที่ว่ากันว่าเคยเป็นช่างฝีมือมาก่อน แต่แกทุ่มเทให้กับงานที่ทำมากเกินไปจนสูญเสียดวงตากับขาไปอย่างละข้าง ไพ่ชุดนี้นำโยไคตนนี้มาเชื่อมโยงกับไพ่ 3 เหรียญในแง่ที่ตัวมันเป็นภูตที่มีที่มาจากช่างฝีมือ ซึ่งเป็นความหมายหนึ่งของไพ่ใบนี้ ส่วนอีกความหมายที่รู้จักกันมากกว่าคือ "การร่วมมือ" (รวมถึงงานประเภทคอลแลบฯ ระหว่างศิลปิน) และ "การบูรณาการ"

    ไพ่สองใบนี้รวมกัน จึงสื่อถึง การบูรณาการของตำนานความเชื่อเก่าแก่ ซึ่งในบริบทของ 'เฮียกกิยาเกียว' มันก็คือการบูรณาการความเชื่อเกี่ยวกับภูตผีของไทยและญี่ปุ่น จนกลายมาเป็นขบวนแห่ร้อยผีประจำนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรื่องที่ต้องชื่นชมความช่างคิดของผู้เขียนจริง ๆ

    ในขบวนแห่ร้อยผี นอกจากจะมีโยไคญี่ปุ่นอย่างนูราริเฮียงแล้ว ยังมีผีไทยที่คนภาคกลางอาจไม่คุ้นเคยเท่าไร เช่น ผีม้าบ้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งม้าคล้ายเซนทอร์ของกรีก (ในนิยายเล่มนี้เรียกผีม้าบ้องว่า "เซนทอร์แห่งล้านนา" ด้วยซ้ำ) หรือแมวจะกละ แมวดำที่ทำให้มนุษย์ที่ได้สัมผัสร่างต้องพบความตายอย่างน่าสยดสยอง นอกจากนั้นยังมีผีบางตนที่มีอยู่ในทั้งเรื่องผีของไทยและญี่ปุ่นอย่างผีกระสือ ซึ่งเวอร์ชันของญี่ปุ่นเรียกว่า "นูเกะคูบิ"

    นอกจากนั้น นิยายเรื่องนี้ยังบูรณาการเรื่องจริงที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องด้วย โดยเชื่อมโยงกับชีวิตของยามาดะ นางามาสะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข (ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมค่อนข้างเชื่อว่า ฉากท้องเรื่องของเรื่องนี้อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช)

    ----------

    "บางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น"
    ใต้กอง: 🃏Judgement

    ไพ่ใต้กองของการเปิดไพ่ "เผาเรื่อง" ครั้งนี้คือไพ่ Judgement ซึ่งเป็นภาพของโยไคชื่อ "คิโยะฮิเมะ" นางเป็นปีศาจงูที่ไปตกหลุมรักพระรูปหนึ่งอย่างจัง แต่พระหนุ่มไม่เล่นด้วย ทิ้งนางอย่างไม่ไยดี นางจึงตามล่าพระหนุ่มไปทั่วญี่ปุ่น จนในที่สุด พระหนุ่มไปหลบซ่อนในระฆังวัด แต่นางก็หาเจอ และคลายขนดหางออกมารัดระฆัง ก่อนจะพ่นไฟออกมาย่างสดพระหนุ่ม โหดฉิบ แต่ใด ๆ คือ ไพ่ชุดนี้เลือกวีรกรรมการตามล่าเหยื่ออย่างไม่ลดไม่ละของนางมาเชื่อมโยงกับความหมายของไพ่ Judgement ในด้านการมาถึงของบางสิ่งที่เราไม่อาจหนีพ้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม อาจเป็นความจริงหรือสัจธรรมของจักรวาล

    การถูกตามล่าโดยบางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น คือแก่นเรื่องของ 'เฮียกกิยาเกียว' ใครก็ตามที่มองเห็นขบวนแห่ร้อยผี (ยกเว้นผู้มีตาทิพย์หรือสัมผัสพิเศษ) จะต้องถูกตามล่าไปตลอดกาล จนกว่าภูตผีในขบวนจะจับตัวและพาไปร่วมขบวนได้ อาจมีบางช่วงเวลาหรือเงื่อนไขที่ช่วยให้ยืดเวลาหรือหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผีได้ แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราว

    เมื่ออ่านนิยายเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ คนอ่านจะพบว่า ไม่ได้มีแค่อัครและอัญรินทร์ สองตัวละครเอกที่พยายามหนีจากขบวนแห่ร้อยผี มีคนอื่นที่เคยพบเจอและพยายามหนีจากพวกมันด้วย รวมทั้งมีตัวละครอื่นที่พยายามหลบหนีจากอะไรอย่างอื่น แต่ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางหลบหนีพ้น ดังนั้นจึงมีทางเลือกแค่หาทางหนีประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ หรือยอมจำนน

    ----------

    Final Verdict: 🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance + 🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles) + 🃏Judgement (ใต้กอง)

    'เฮียกกิยาเกียว' เป็นเรื่องที่นำตำนานความเชื่อและเรื่องเหล่าอันแตกต่างหลากหลายมาผสมผสานและบูรณาการเข้าด้วยกันอย่าชาญฉลาดและลงตัว พร้อมกับทำให้ปิดเล่มไปด้วยความจรรโลงใจและการตระหนักซึ่งในสัจธรรมบางประการ

    🃏🃏🃏🃏🃏
    เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง (2025)
    • ผู้เขียน: กันตชาต ชวนะวิรัช
    • สำนักพิมพ์: Prism (ในเครืออมรินทร์)
    ไพ่ที่ใช้: Yokai Tarot (2024) ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Lo Scarabeo Tarot
    สำหรับผม ญี่ปุ่นและไทยคล้ายคลึงกันมากในปริมณฑลเรื่องเหนือธรรมชาติ ไทยเรามีภูตผีหลากหลายดีไซน์มากพอ ๆ กับโยไคของญี่ปุ่น ต่างกันแค่ผีญี่ปุ่นยังมีการรวมตัวเดินขบวนพาเหรดเป็น "ขบวนแห่ร้อยอสูร" (百鬼夜行 - เฮียกกิยาเกียว) จนเมื่อได้อ่านนิยายเล่มนี้เองที่ได้เจอเรื่องราวของขบวนแห่แบบที่ว่าในรูปผสมผสานสองเชื้อชาติ 'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' โดย กันตชาต ชวนะวิรัช เป็นนวนิยายที่ได้รับคัดเลือกจาก บ.อมรินทร์ให้ตีพิมพ์ในโปรเจกต์ "ไทยเล่าไทยหลอน" เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในที่ที่เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีตำนานท้องถิ่นกล่าวถึงขบวนแห่ร้อยผีที่มีผู้ร่วมขบวนทั้งผีไทยและผีญี่ปุ่น มีผู้นำขบวนคือ เทพอาคันตุกะ หรือนูราริเฮียง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งโยไคของญี่ปุ่น เล่ากันว่าหากคนทั่วไปที่ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษมองเห็นขบวนแห่ร้อยผีเข้า ก็จะโดนทั้งขบวนตามล่าเพื่อนำวิญญาณไปร่วมขบวนด้วย ในเนื้อเรื่อง อัญรินทร์เห็นขบวนแห่นี้และโดนหมายหัว อัคร น้องชายวัย ม.ปลาย ซึ่งมองเห็นวิญญาณได้ จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพาพี่สาวหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผี แม้กระทั่งต้องเข้าไปซ่อนในบ้านเด็กกำพร้าผีสิงก็ตาม ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องผี มีคำว่า "ผี" อยู่ในชื่อเรื่อง แต่โทนเรื่องโดยรวมไม่ได้เน้นความน่ากลัวสยองขวัญเท่าไร (สำหรับผมอะนะ) ออกจะเป็นแฟนตาซีที่แฝงกลิ่นอายลึกลับแบบ Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิมากกว่า คงเพราะมีผีญี่ปุ่นอยู่ในเรื่องด้วย (แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่เอาจริง ๆ ถ้าเทียบแอร์ไทม์แล้ว ผีในขบวนแห่ร้อยผีกลับมีบทบาทน้อยกว่าผีที่ไม่ได้อยู่ในขบวนแห่เสียอีก) ทั้งนี้ ตอนจบทั้งสวยงามและปวดตับอย่างยิ่ง ต่อให้คุณพอจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ผมเชื่อว่าบทสุดท้ายก็น่าจะกระชากอารมณ์คุณไม่มากก็น้อย ยกเว้นก็แต่คุณจะอารมณ์ตายด้านไปแล้วหรือไม่ก็เป็นไซโคพาธ อี๋ย์ ไปให้พ้น ชิ่ว ๆ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่พื้นที่ที่ผมจะรีวิวหนังสือ แต่ผมจะให้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์ในคลังของผมกำหนดประเด็นที่จะรีวิว วิจารณ์ หรือหยิบยกมาพูด แล้วผมจะนำมาแปลและถ่ายทอดต่ออีกที โดยสุ่มจับไพ่ 4 ใบ และใช้ไพ่ใต้กองอีก 1 ใบ สำหรับนิยายเล่มนี้ ซึ่งมีภูตผีญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง ผมก็คิดว่าน่าจะเหมาะสมถ้าใช้ไพ่ที่มีธีมเป็นผีญี่ปุ่นมาทำการ "เผาเรื่อง" นั่นคือไพ่ชุด 'Yokai Tarot' โดย สนพ.Lo Scarabeo จากอิตาลี ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' ด้วย 'Yokai Tarot' ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "หลอกลวงคนอ่านอย่าง(เกือบ)แนบเนียน" 🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance ไพ่ Magician ของ Yokai Tarot เลือกหน้าไพ่เป็นปีศาจทานุกิ ซึ่งเป็นโยไคที่ขึ้นชื่อเรื่องการแปลงร่างไปหลอกลวงหรือแกล้งมนุษย์ ตรงกับความหมายในแง่ "การหลอกลวง" ของไพ่นักมายากล ส่วนไพ่ Temperance มีหน้าไพ่เป็น "นิงเกียว" หรือก็คือนางเงือกแบบญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเนื้อของเงือกญี่ปุ่นจะทำให้อายุยืนยาวหรือถึงขั้นเป็นอมตะ แต่เฉพาะในบริบทของไพ่แห่งความพอดี เงือกคือตัวตนที่แสดงถึงความสอดประสานกันอย่างลงตัว กลมเกลียว และ "แนบเนียน" ระหว่างสิ่งตรงข้าม ไม่ว่าจะคนและปลา หรือบกและน้ำ 'เฮียกกิยาเกียว' เป็นนิยายที่ไม่ได้ใส่ผีมาหลอกตัวละครในเรื่องอย่างเดียว แต่ตัวมันยังพยายามหลอกคนอ่านอย่างเราให้เข้าใจผิดเกือบตลอดเวลา ซึ่งก็มาพร้อมกับ Plot twists หรือการหักมุมหลายตลบ แต่ก็ไม่ได้เป็นการหักแบบคอพับ 180 องศาชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ระหว่างทาง เนื้อเรื่องจะแอบหยอดรายละเอียดที่ค่อย ๆ นำไปสู่การเฉลยปมหักมุมแต่ละเรื่อง ดังนั้นสำหรับผู้อ่านที่ช่างสังเกตและช่างคิด รวมถึงมีชั่วโมงบินเยอะ ก็อาจคาดเดาจุดหักมุมแต่ละจุดได้ไม่ยาก รวมถึง Plot twist ใหญ่ในหน้า 226 นอกจากนี้ ผมชอบเป็นพิเศษที่ไพ่ Temperance ขึ้นมาในหัวข้อนี้พอดี ความหมายหลักอย่างหนึ่งของไพ่ใบนี้คือ "ความกลมเกลียว" และ "การสอดประสานกันอย่างลงตัว" ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายได้ดีอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ระหว่างสังคมมนุษย์กับสังคมผีในนิยายเรื่องนี้ เนื้อเรื่องบรรยายว่าชุมชนในเรื่องเป็นที่ที่ผีและคนอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด จนบางครั้งพรมแดนระหว่าง 2 ภพก็พร่าเลือนโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรืออาจจะทั้ง 2 ฝ่ายไม่รู้ตัว ซึ่งนี่ก็เป็นกลวิธีอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนใช้หลอกลวงคนอ่านด้วย (แน่นอนว่าตรงนี้ไม่ได้สปอยล์สาระสำคัญของเรื่องแต่อย่างใด ;) ) ---------- "บูรณาการตำนาน(ผี)จากสองชาติ" 🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles) โยไคบนหน้าไพ่ราชินีเหรียญของชุด Yokai Tarot คือ "ยามะฮิเมะ" (เจ้าหญิงแห่งขุนเขา) ซึ่งมีบทบาทคล้าย ๆ วิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขาในไทยเรา เป็นผู้ปกปักรักษาสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่ภูเขาของตน ทั้งป่าดงพงไพร พืช สัตว์ รวมถึงมนุษย์ที่อาศัยในบริเวณนั้นและเคารพบูชานาง บทบาทตามตำนานความเชื่อของโยไคตนนี้ตรงกับความหมายของไพ่ราชินีเหรียญในแง่การเป็นผูปกปักรักษา บำรุงเลี้ยงดู ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับความหมายด้านธรรมชาติของไพ่ใบนี้ด้วย ส่วนในบริบทของนิยายเรื่องนี้ ผมตีความว่าไพ่ใบนี้สื่อถึงสิ่งที่เป็นเสมือนธรรมชาติเก่าแก่ในชุมชนท้องที่ต่าง ๆ ซึ่งก็คือวัฒนธรรม ตำนาน คติชน และเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่มีมาแต่โบราณในท้องที่นั้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในท้องถิ่นหวนแหนและดูแลสืบต่อไปยังชนรุ่นหลัง ส่วนไพ่ 3 เหรียญเป็นภาพของ "อิปปงดาตาระ" โยไคตาเดียวขาเดียวที่ว่ากันว่าเคยเป็นช่างฝีมือมาก่อน แต่แกทุ่มเทให้กับงานที่ทำมากเกินไปจนสูญเสียดวงตากับขาไปอย่างละข้าง ไพ่ชุดนี้นำโยไคตนนี้มาเชื่อมโยงกับไพ่ 3 เหรียญในแง่ที่ตัวมันเป็นภูตที่มีที่มาจากช่างฝีมือ ซึ่งเป็นความหมายหนึ่งของไพ่ใบนี้ ส่วนอีกความหมายที่รู้จักกันมากกว่าคือ "การร่วมมือ" (รวมถึงงานประเภทคอลแลบฯ ระหว่างศิลปิน) และ "การบูรณาการ" ไพ่สองใบนี้รวมกัน จึงสื่อถึง การบูรณาการของตำนานความเชื่อเก่าแก่ ซึ่งในบริบทของ 'เฮียกกิยาเกียว' มันก็คือการบูรณาการความเชื่อเกี่ยวกับภูตผีของไทยและญี่ปุ่น จนกลายมาเป็นขบวนแห่ร้อยผีประจำนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรื่องที่ต้องชื่นชมความช่างคิดของผู้เขียนจริง ๆ ในขบวนแห่ร้อยผี นอกจากจะมีโยไคญี่ปุ่นอย่างนูราริเฮียงแล้ว ยังมีผีไทยที่คนภาคกลางอาจไม่คุ้นเคยเท่าไร เช่น ผีม้าบ้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งม้าคล้ายเซนทอร์ของกรีก (ในนิยายเล่มนี้เรียกผีม้าบ้องว่า "เซนทอร์แห่งล้านนา" ด้วยซ้ำ) หรือแมวจะกละ แมวดำที่ทำให้มนุษย์ที่ได้สัมผัสร่างต้องพบความตายอย่างน่าสยดสยอง นอกจากนั้นยังมีผีบางตนที่มีอยู่ในทั้งเรื่องผีของไทยและญี่ปุ่นอย่างผีกระสือ ซึ่งเวอร์ชันของญี่ปุ่นเรียกว่า "นูเกะคูบิ" นอกจากนั้น นิยายเรื่องนี้ยังบูรณาการเรื่องจริงที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องด้วย โดยเชื่อมโยงกับชีวิตของยามาดะ นางามาสะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข (ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมค่อนข้างเชื่อว่า ฉากท้องเรื่องของเรื่องนี้อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช) ---------- "บางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น" ใต้กอง: 🃏Judgement ไพ่ใต้กองของการเปิดไพ่ "เผาเรื่อง" ครั้งนี้คือไพ่ Judgement ซึ่งเป็นภาพของโยไคชื่อ "คิโยะฮิเมะ" นางเป็นปีศาจงูที่ไปตกหลุมรักพระรูปหนึ่งอย่างจัง แต่พระหนุ่มไม่เล่นด้วย ทิ้งนางอย่างไม่ไยดี นางจึงตามล่าพระหนุ่มไปทั่วญี่ปุ่น จนในที่สุด พระหนุ่มไปหลบซ่อนในระฆังวัด แต่นางก็หาเจอ และคลายขนดหางออกมารัดระฆัง ก่อนจะพ่นไฟออกมาย่างสดพระหนุ่ม โหดฉิบ แต่ใด ๆ คือ ไพ่ชุดนี้เลือกวีรกรรมการตามล่าเหยื่ออย่างไม่ลดไม่ละของนางมาเชื่อมโยงกับความหมายของไพ่ Judgement ในด้านการมาถึงของบางสิ่งที่เราไม่อาจหนีพ้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม อาจเป็นความจริงหรือสัจธรรมของจักรวาล การถูกตามล่าโดยบางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น คือแก่นเรื่องของ 'เฮียกกิยาเกียว' ใครก็ตามที่มองเห็นขบวนแห่ร้อยผี (ยกเว้นผู้มีตาทิพย์หรือสัมผัสพิเศษ) จะต้องถูกตามล่าไปตลอดกาล จนกว่าภูตผีในขบวนจะจับตัวและพาไปร่วมขบวนได้ อาจมีบางช่วงเวลาหรือเงื่อนไขที่ช่วยให้ยืดเวลาหรือหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผีได้ แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราว เมื่ออ่านนิยายเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ คนอ่านจะพบว่า ไม่ได้มีแค่อัครและอัญรินทร์ สองตัวละครเอกที่พยายามหนีจากขบวนแห่ร้อยผี มีคนอื่นที่เคยพบเจอและพยายามหนีจากพวกมันด้วย รวมทั้งมีตัวละครอื่นที่พยายามหลบหนีจากอะไรอย่างอื่น แต่ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางหลบหนีพ้น ดังนั้นจึงมีทางเลือกแค่หาทางหนีประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ หรือยอมจำนน ---------- Final Verdict: 🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance + 🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles) + 🃏Judgement (ใต้กอง) 'เฮียกกิยาเกียว' เป็นเรื่องที่นำตำนานความเชื่อและเรื่องเหล่าอันแตกต่างหลากหลายมาผสมผสานและบูรณาการเข้าด้วยกันอย่าชาญฉลาดและลงตัว พร้อมกับทำให้ปิดเล่มไปด้วยความจรรโลงใจและการตระหนักซึ่งในสัจธรรมบางประการ 🃏🃏🃏🃏🃏 เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง (2025) • ผู้เขียน: กันตชาต ชวนะวิรัช • สำนักพิมพ์: Prism (ในเครืออมรินทร์) ไพ่ที่ใช้: Yokai Tarot (2024) ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Lo Scarabeo Tarot
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • มาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศ เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ไทยและอาเซียนกำลังเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต่อจากมิติการค้าการลงทุนซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน (แต่ผู้นำไทยก็ยังล่าช้า ไม่เท่าทัน) ในระยะกลาง มิติความมั่นคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และไทยต้องชิงเล่นบทบาทนำ เพื่อชดเชยกับความล่าช้าล้าหลังที่เราเสียตำแหน่งผู้นำอาเซียนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
    .
    ASEAN ZOPFAN และ Bangkok Treaty of 1995 ที่ประกาศให้อาเซียนเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ต้องได้รับการ upgrade
    .
    “ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์ ‘กฎแห่งป่า’ (Law of the Jungle) อำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา (Might is Right) รัฐที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าสามารถเข้ายึดครอง ครอบครอง และกำหนดชะตากรรมของรัฐที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อยกว่า และเมื่อกลไกสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ประชาคมอาเซียนที่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากฎกติกาแบบเสรีนิยม”
    .
    ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค
    .
    อ่านได้ที่: https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-3/
    .
    “แน่นอนว่า เมื่อกฎแห่งป่าและพลังอำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา ฉากทัศน์ที่น่าห่วงกังวลมากที่สุดคือ แต่ละประเทศมุ่งหน้าพัฒนา ผลิต และสะสมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพทางการทหาร เพราะนี่คือแนวทางที่พิสูจน์มาแล้วในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจในการต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อรองกับมหาอำนาจ”
    .
    “อาเซียนเองมีการลงนามและบังคับใช้ปฏิญญาว่าด้วยเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Declaration on the Zone of Peace, Freedom, and Neutrality: ZOPFAN) มาตั้งแต่ปี 1971 เมื่อไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ (สมาชิกอาเซียน ณ ขณะนั้น) เห็นการแทรกแซงกิจการภายในของ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลายประเทศในยุโรป จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามที่ล้างผลาญชีวิตคนจำนวนมาก และเมื่อการสะสมอาวุธนิวเคลียร์กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นำความสุ่มเสี่ยงไปทั่วโลก อาเซียนโดยการผลักดันของประเทศไทยก็สามารถลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้สำเร็จในปี 1995”
    .
    “ข้อตกลงที่เอ่ยถึงนี้ถือเป็นความสำเร็จในอดีตที่อาเซียนต้องทบทวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เมียนมาและเวียดนามกำลังเดินหน้าเพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งแรกในภูมิภาค แน่นอนว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย”
    .
    “แน่นอนว่าเมื่อพิจารณามิติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับการสร้างและใช้งานโครงข่ายพลังงานอาเซียน (ASEAN Power Grid) อาเซียนจะมีความมั่นคงทางพลังงานสูงขึ้น แต่การมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์ และการเสริมสร้างสารตั้งต้นของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ล้วนแล้วแต่ทำให้ศักย์สงคราม (War Capability) ของประเทศนั้นๆ สูงขึ้น”
    .
    “ลองนึกถึงข้อจำกัดทางทรัพยากรมนุษย์ที่อาจต้องทำให้โรงงานเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรและทีมเทคนิคต่างชาติ ลงทุนโดยต่างชาติ และควบคุมตรวจสอบโดยต่างชาติ ร่วมกับเงินทุนที่มีจำกัด เช่น อาจสร้างเตาปฏิกรณ์ในประเทศ และระบบกำจัดกากของเสียจากเตาปฏิกรณ์ต้องส่งออกไปทำลายในต่างประเทศ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ว่า ประเทศอาเซียนจะกลายเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการประกอบอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่”
    .
    “ในวันที่ระเบียบโลกกำลังมีความซัดส่ายอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วและต้องเร่งผลักดัน คือการคำนึงถึงว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ให้ประเทศคู่เจรจาที่ต้องการเป็นมิตรและแสวงหาประโยชร์ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับอาเซียนต้องยอมรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของอาเซียนด้วย”
    .
    ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    มาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศ เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ไทยและอาเซียนกำลังเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต่อจากมิติการค้าการลงทุนซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน (แต่ผู้นำไทยก็ยังล่าช้า ไม่เท่าทัน) ในระยะกลาง มิติความมั่นคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และไทยต้องชิงเล่นบทบาทนำ เพื่อชดเชยกับความล่าช้าล้าหลังที่เราเสียตำแหน่งผู้นำอาเซียนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา . ASEAN ZOPFAN และ Bangkok Treaty of 1995 ที่ประกาศให้อาเซียนเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ต้องได้รับการ upgrade . “ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์ ‘กฎแห่งป่า’ (Law of the Jungle) อำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา (Might is Right) รัฐที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าสามารถเข้ายึดครอง ครอบครอง และกำหนดชะตากรรมของรัฐที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อยกว่า และเมื่อกลไกสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ประชาคมอาเซียนที่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากฎกติกาแบบเสรีนิยม” . ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค . อ่านได้ที่: https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-3/ . “แน่นอนว่า เมื่อกฎแห่งป่าและพลังอำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา ฉากทัศน์ที่น่าห่วงกังวลมากที่สุดคือ แต่ละประเทศมุ่งหน้าพัฒนา ผลิต และสะสมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพทางการทหาร เพราะนี่คือแนวทางที่พิสูจน์มาแล้วในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจในการต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อรองกับมหาอำนาจ” . “อาเซียนเองมีการลงนามและบังคับใช้ปฏิญญาว่าด้วยเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Declaration on the Zone of Peace, Freedom, and Neutrality: ZOPFAN) มาตั้งแต่ปี 1971 เมื่อไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ (สมาชิกอาเซียน ณ ขณะนั้น) เห็นการแทรกแซงกิจการภายในของ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลายประเทศในยุโรป จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามที่ล้างผลาญชีวิตคนจำนวนมาก และเมื่อการสะสมอาวุธนิวเคลียร์กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นำความสุ่มเสี่ยงไปทั่วโลก อาเซียนโดยการผลักดันของประเทศไทยก็สามารถลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้สำเร็จในปี 1995” . “ข้อตกลงที่เอ่ยถึงนี้ถือเป็นความสำเร็จในอดีตที่อาเซียนต้องทบทวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เมียนมาและเวียดนามกำลังเดินหน้าเพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งแรกในภูมิภาค แน่นอนว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย” . “แน่นอนว่าเมื่อพิจารณามิติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับการสร้างและใช้งานโครงข่ายพลังงานอาเซียน (ASEAN Power Grid) อาเซียนจะมีความมั่นคงทางพลังงานสูงขึ้น แต่การมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์ และการเสริมสร้างสารตั้งต้นของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ล้วนแล้วแต่ทำให้ศักย์สงคราม (War Capability) ของประเทศนั้นๆ สูงขึ้น” . “ลองนึกถึงข้อจำกัดทางทรัพยากรมนุษย์ที่อาจต้องทำให้โรงงานเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรและทีมเทคนิคต่างชาติ ลงทุนโดยต่างชาติ และควบคุมตรวจสอบโดยต่างชาติ ร่วมกับเงินทุนที่มีจำกัด เช่น อาจสร้างเตาปฏิกรณ์ในประเทศ และระบบกำจัดกากของเสียจากเตาปฏิกรณ์ต้องส่งออกไปทำลายในต่างประเทศ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ว่า ประเทศอาเซียนจะกลายเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการประกอบอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่” . “ในวันที่ระเบียบโลกกำลังมีความซัดส่ายอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วและต้องเร่งผลักดัน คือการคำนึงถึงว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ให้ประเทศคู่เจรจาที่ต้องการเป็นมิตรและแสวงหาประโยชร์ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับอาเซียนต้องยอมรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของอาเซียนด้วย” . ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    WWW.THE101.WORLD
    Amidst the Two Oceans ตอนที่ 3: ประชาคมอาเซียนในระเบียบโลกใหม่
    ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews

  • ..ตรงๆยุคนี้สมควรยึดคืนบ่อน้ำมันทั้งหมดได้แล้ว,ปล้นชิงประเทศไทยจากเราเสียนานผ่านสัญญาไม่สุจริตแอบแฝงแย่งชิงปล้นชิงเนียนๆและเปิดเผย,จะคุยอะไรตกลงอะไรลับๆกับมหาอำนาจเชิงไหนก็ตาม,สมควรยุติสิ่งชั่วเลวก่อทุกข์ซ้ำซากยากจนต้นทุนแพงค่าแรงถูกตกงานตรึม&ต่างด้าวยึดครองแย่งชิงงานไทยสมคบคิดกับนายทุนกิจการต่างๆนำเข้าต่างชาติต่างด้าวแรงงานชาติอื่นมาทำลายแรงงานตนเองภายใน คนไทยตนขาดรายได้ ความเข้มแข็งจะตกอ่อนแอหมด,ไร้ค่าใช้จ่ายในตนเองและครอบครัวลูกหลานพ่อแม่ปู่ย่าตายายคนชราเด็กเล็กค่าเลี้ยงดู&ตังค่าใช้จ่ายการศึกษา สังคมค่าครองชีพแพงอีกเงินฝืดวิกฤติพิษตังล่มทั่วโลกอีก,คนไทยดับอนาถคือตอนท้ายล่ะ มาเจอแผ่นดินไหวอีกบวกภัยธรรมชาติในอนาคตที่คาดไม่ถึง,ภายในชาติตนจะพึ่งพาตนเองไม่ได้จะซวยเอา,ตัดตอนปัญหาคือถีบคนที่ไม่ใช่คนไทยออกจากประเทศไทยทั้งหมดชั่วคราวก่อนดีที่สุด กำลังภายในตนฟื้นคืนชีพดีแล้วค่อยเมตตากรุณาคนนอกเถอะ,
    ..
    ..ผู้ถืออำนาจจึงต้องเด็ดขาดยึดอำนาจกอบกู้ชาติไทยเราจริงๆเสียที.ยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมาย อาทิบ่อน้ำมันกลับมา ชาติเราจะมีความมั่นคงทางกายภาพจริงด้านพลังงานไม่แพงใช้สนับสนุนต้นทุนถูกรอบด้านแก่สัมมาชีวิตคนไทยได้สบาย.
    ..ดูดีๆ ปัญหาทั้งหมดแม้แต่เกาะกูดกับเขมรก็เรื่องน้ำมันและของมีค่าบนแผ่นดินไทยนี้ล่ะ.
    ..พม่าวุ่นวายก็สมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายเต็มพม่านี้ล่ะ ต่างชาติจึงอยากยึดพม่าหรือครองทุกๆรูปแบบแม้สร้างนอมินีมุกชนกลุ่มน้อยก็ตาม,ยิ่งสาระพัดก่อกิจกรรมเถื่อนๆเทาๆทดแทนตนที่ออกหน้าฉากไม่ได้เพราะแสดงตนว่าสวยหรูดูดีคนทั่วโลกเห็นภาพกูดีงามใจบุญคนมีบุญมากบารมีอยู่.

    https://m.youtube.com/watch?v=eJCn2zX3vW4
    ..ตรงๆยุคนี้สมควรยึดคืนบ่อน้ำมันทั้งหมดได้แล้ว,ปล้นชิงประเทศไทยจากเราเสียนานผ่านสัญญาไม่สุจริตแอบแฝงแย่งชิงปล้นชิงเนียนๆและเปิดเผย,จะคุยอะไรตกลงอะไรลับๆกับมหาอำนาจเชิงไหนก็ตาม,สมควรยุติสิ่งชั่วเลวก่อทุกข์ซ้ำซากยากจนต้นทุนแพงค่าแรงถูกตกงานตรึม&ต่างด้าวยึดครองแย่งชิงงานไทยสมคบคิดกับนายทุนกิจการต่างๆนำเข้าต่างชาติต่างด้าวแรงงานชาติอื่นมาทำลายแรงงานตนเองภายใน คนไทยตนขาดรายได้ ความเข้มแข็งจะตกอ่อนแอหมด,ไร้ค่าใช้จ่ายในตนเองและครอบครัวลูกหลานพ่อแม่ปู่ย่าตายายคนชราเด็กเล็กค่าเลี้ยงดู&ตังค่าใช้จ่ายการศึกษา สังคมค่าครองชีพแพงอีกเงินฝืดวิกฤติพิษตังล่มทั่วโลกอีก,คนไทยดับอนาถคือตอนท้ายล่ะ มาเจอแผ่นดินไหวอีกบวกภัยธรรมชาติในอนาคตที่คาดไม่ถึง,ภายในชาติตนจะพึ่งพาตนเองไม่ได้จะซวยเอา,ตัดตอนปัญหาคือถีบคนที่ไม่ใช่คนไทยออกจากประเทศไทยทั้งหมดชั่วคราวก่อนดีที่สุด กำลังภายในตนฟื้นคืนชีพดีแล้วค่อยเมตตากรุณาคนนอกเถอะ, .. ..ผู้ถืออำนาจจึงต้องเด็ดขาดยึดอำนาจกอบกู้ชาติไทยเราจริงๆเสียที.ยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมาย อาทิบ่อน้ำมันกลับมา ชาติเราจะมีความมั่นคงทางกายภาพจริงด้านพลังงานไม่แพงใช้สนับสนุนต้นทุนถูกรอบด้านแก่สัมมาชีวิตคนไทยได้สบาย. ..ดูดีๆ ปัญหาทั้งหมดแม้แต่เกาะกูดกับเขมรก็เรื่องน้ำมันและของมีค่าบนแผ่นดินไทยนี้ล่ะ. ..พม่าวุ่นวายก็สมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายเต็มพม่านี้ล่ะ ต่างชาติจึงอยากยึดพม่าหรือครองทุกๆรูปแบบแม้สร้างนอมินีมุกชนกลุ่มน้อยก็ตาม,ยิ่งสาระพัดก่อกิจกรรมเถื่อนๆเทาๆทดแทนตนที่ออกหน้าฉากไม่ได้เพราะแสดงตนว่าสวยหรูดูดีคนทั่วโลกเห็นภาพกูดีงามใจบุญคนมีบุญมากบารมีอยู่. https://m.youtube.com/watch?v=eJCn2zX3vW4
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • หมึกกะตอยยยย … ของดี ขายดีมากค่ะ.. รับรองความอร่อยจากคอมเมนท์ลูกค้า !!! สั่งเกือบ 20 รอบ !!!!! กราบลูกค้าค่าาา เราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะเราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … น้ำหนักตัวเบาๆ ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ🐠🐟🤭😍♨️🌶️⭕️✅น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะอ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ✅ โปร 1 แถม 1 ชุดน้องเล็ก ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 1 ถุง✅ โปร 1 แถม 2 ชุดลองชิม ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 2 ถุง✅ โปรปังๆ ชุดกลางครึ่งโล ได้น้องหมึก 500 กรัม 1 ถุง✅ โปรสุดปัง ชุดใหญ่ 1 โล ได้น้องหมึก 1 กิโล คือได้ 500 กรัม 2 ถุงนะคะทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นานหยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/o2Uw2jXหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/pckadhHหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/2Xf6uxx❤️ ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    หมึกกะตอยยยย … ของดี ขายดีมากค่ะ.. รับรองความอร่อยจากคอมเมนท์ลูกค้า !!! สั่งเกือบ 20 รอบ !!!!! กราบลูกค้าค่าาา เราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะเราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … น้ำหนักตัวเบาๆ ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ🐠🐟🤭😍♨️🌶️⭕️✅น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะอ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ✅ โปร 1 แถม 1 ชุดน้องเล็ก ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 1 ถุง✅ โปร 1 แถม 2 ชุดลองชิม ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 2 ถุง✅ โปรปังๆ ชุดกลางครึ่งโล ได้น้องหมึก 500 กรัม 1 ถุง✅ โปรสุดปัง ชุดใหญ่ 1 โล ได้น้องหมึก 1 กิโล คือได้ 500 กรัม 2 ถุงนะคะทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นานหยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/o2Uw2jXหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/pckadhHหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/2Xf6uxx❤️ ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 0 Reviews
  • ใครจะกะพริบตาก่อนกัน🧲 หมากเจรจาของทรัมป์ คือ ตัังกำแพงภาษีสูงไว้ก่อน ต้อนให้คู่ค้าเข้ามาเจรจาถ้าคู่ค้าหมอบ ตกลงกันได้ ลดภาษีทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ทรัมป์คงประเมินแล้วว่า ในจำนวนกว่า 180 ประเทศ จะสามารถเคลียร์แบบนี้ ได้เกือบหมด ถึงแม้บางประเทศแสดงท่าที พร้อมจะตอบโต้ เช่น บราซิลลงมติ ให้อำนาจผู้นำสู้กับทรัมป์แต่ก็เลี่ยง ไม่ได้ตั้งกำแพงโต้กลับทันที พร้อมจะทำการเจรจาเสียก่อน🪤 ทรัมป์ไม่ได้บีบแคนาดาหรือเม็กซิโกเพิ่ม สองประเทศนี้จึงนิ่ง มีอยู่เพียงจีน ที่ตั้งกำแพงโต้กลับ 34% ทันที ส่วนยุโรปบอกว่าจะทำเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้จะประกาศเมื่อใดคาดว่ายุโรปจะเดินอย่างระมัดระวัง เพราะขายสินค้าให้สหรัฐ ปีละ 5.3 แสนล้านยูโร เกือบ 1/5 ของส่งออกยุโรปนอกจากรถยนต์ ที่เหลือคือเวชภัณฑ์ 1.1 แสน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 0.9 แสน 🔫 สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง ยุโรปคงไม่เสี่ยงตัดสะพานทิ้งส่วนสหรัฐขายสินค้าให้ยุโรป 3.7 แสนล้านดอลลาร์ เกือบ 1/5 ของส่งออกสหรัฐเช่นกันถึงแม้ถ้าโดนโต้กลับรุนแรง ก็จะแย่พอกันแต่เป็นเวชภัณฑ์ 0.6 แสน เรือบิน 0.3 แสน พลังงาน 0.3 แสน ซึ่งยุโรปจำเป้นต้องใช้อยู่ตลอด ดังนั้น ละครฉากยุโรป ที่ทรัมป์เป็นพระเอก ก็คงจบลงได้ไม่ยาก 💣 ปัญหาใหญ่สุดของทรัมป์ จึงอยู่ที่สีจิ้นผิง ในฐานะผู้นำของ Global South สีจะยอมทรัมป์ไม่ได้ทรัมป์น่าจะผิดหวังพอควร เพราะรีบอ้างว่า การที่จีนโต้กลับ ส่อเป็นการหวาดผวา และเดินหมากผิดพลาด*** น่าสงสัยว่า ทรัมป์หรือสี ใครจะกะพริบตาก่อนกันข้อความที่ทรัมป์เผยแพร่ บ่งชี้ว่า เดิมคงหวังให้สีเข้ามาเจรจา เพื่อจะได้ลดกำแพงกันไปทั้งสองฝ่าย วิน วินแต่เมื่อไม่เป็นตามแผน ก็รีบปลอบใจคนอเมริกัน (ดูรูป 1) ว่า💊 [กำแพงภาษีสองฝั่งนั้น กระทบจีนมากกว่าสหรัฐ แบบเทียบกันไม่ได้เลย มาตรการนี้ ทำให้มีคนจะลงทุนในสหรัฐ กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ถึงแม้ศึกนี้ยาก แต่เราชนะแน่จึงขอให้คนอเมริกันอดทนอีกหน่อย]จีนนำเข้าจากสหรัฐ ปีละ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (6% ของนำเข้าจีน)เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2.4 หมื่นล้าน น้ำมันและก๊าซ 2 หมื่น เวชภัณฑ์ 2 หมื่น อาหาร 1.6 หมื่น 🩸 ส่วนใหญ่ จีนน่าจะสามารถผลิตได้เอง หรือหาแหล่งซื้ออื่นแทนได้ ผลกระทบจึงน่าจะไม่มากนักแต่ผลกระทบต่อเกษตรกรสหรัฐ จะมีมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญ ทรัมป์ก็รู้ดีสหรัฐนำเข้าจากจีน ปีละ 5 แสนล้านดอลลาร์ (15% ของส่งออกจีน) เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2 แสน ของเด็กเล่น 3 หมื่น เฟอร์นิเจอร์ 2 หมื่น สินค้าพลาสติก 2 หมื่น🧬 เนื่องจากไม่มีประเทศอื่นใด ที่ต้นทุนสินค้า consumer แข่งกับจีนได้ ดังนั้น คนอเมริกันก็ยังต้องใช้ของจีนต่อไปถามว่า ผู้ผลิตจีน หรือผู้บริโภคสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ควักกระเป๋า เพื่อข้ามกำแพงภาษี 54%การผลิตสินค้าพื้นๆ เหล่านี้ กำไรผู้ผลิตในจีน ขณะนี้เหลือบางมาก หลายโรงงานปิดตัวไปแล้วจึงเป็นไปไม่ไดั ที่จีนจะควักกระเป๋ามาจ่ายถ้าภาษียังค้างเช่นนี้ ภายใน 2-3 เดือน ราคาที่คนอเมริกันต้องจ่าย จะขยับสูงขึ้น อย่างหายห่วง 🧹 ถึงแม้ยอดส่งออกจีนไปสหรัฐ จะลดลง แต่จะไม่มีอุตสาหกรรมเบา ที่จะย้ายจากจีน ไปผลิตที่สหรัฐ ทรัมป์ก็รู้ดีอเมริกันชน ชั้นล่างและชั้นกลาง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าจีน จึงจะหันกลับไปมองทรัมป์ ด้วยสายตาเคืองรูป 2 แสดงการที่จีนได้กระจายแหล่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เปลี่ยนไปจากสหรัฐรูป 3 นอกจากนี้ จีนยังบีบสหรัฐเพิ่ม โดย (1) คุมการส่งออกแร่หายากอีก 7 ตัว และ (2) เพิ่มจำนวนบริษัทสหรัฐที่คุมการส่งออกรูป 4-5 แร่หายาก 7 ตัวนี้ มีชื่อแปลกๆ แต่ต้องใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานหมุนเวียน และดาวเทียม🧻 เป็นอันว่า หมากของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไฮเทคในสหรัฐ แบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะต่อชาวบ้านก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่า ถ้าประเทศใดโต้กลับ เขาจะยกระดับกำแพงให้สูงขึ้นอีกบัดนี้ คำขู่นี้ เจอกับหมากรุกกลับของสีจิ้นผิงแล้ว🧐 ต้องไม่ลืมว่า ชนชาวจีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว จากฟองสบู่อสังหาแตก และส่งออกลดลง บัณฑิตตกงานความอึดอัดในจีน เดิมมีสีเป็นเป้า บัดนี้ ทรัมป์ได้ยื่นตัวเข้ามา บังเป็นเป้าแทนแล้วสีอาจจะชอบใจละครฉากนี้ แต่การเดินเนื้อเรื่อง น่าจะไม่เป็นไปตามบทของทรัมป์วันที่ 6 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    ใครจะกะพริบตาก่อนกัน🧲 หมากเจรจาของทรัมป์ คือ ตัังกำแพงภาษีสูงไว้ก่อน ต้อนให้คู่ค้าเข้ามาเจรจาถ้าคู่ค้าหมอบ ตกลงกันได้ ลดภาษีทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ทรัมป์คงประเมินแล้วว่า ในจำนวนกว่า 180 ประเทศ จะสามารถเคลียร์แบบนี้ ได้เกือบหมด ถึงแม้บางประเทศแสดงท่าที พร้อมจะตอบโต้ เช่น บราซิลลงมติ ให้อำนาจผู้นำสู้กับทรัมป์แต่ก็เลี่ยง ไม่ได้ตั้งกำแพงโต้กลับทันที พร้อมจะทำการเจรจาเสียก่อน🪤 ทรัมป์ไม่ได้บีบแคนาดาหรือเม็กซิโกเพิ่ม สองประเทศนี้จึงนิ่ง มีอยู่เพียงจีน ที่ตั้งกำแพงโต้กลับ 34% ทันที ส่วนยุโรปบอกว่าจะทำเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้จะประกาศเมื่อใดคาดว่ายุโรปจะเดินอย่างระมัดระวัง เพราะขายสินค้าให้สหรัฐ ปีละ 5.3 แสนล้านยูโร เกือบ 1/5 ของส่งออกยุโรปนอกจากรถยนต์ ที่เหลือคือเวชภัณฑ์ 1.1 แสน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 0.9 แสน 🔫 สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง ยุโรปคงไม่เสี่ยงตัดสะพานทิ้งส่วนสหรัฐขายสินค้าให้ยุโรป 3.7 แสนล้านดอลลาร์ เกือบ 1/5 ของส่งออกสหรัฐเช่นกันถึงแม้ถ้าโดนโต้กลับรุนแรง ก็จะแย่พอกันแต่เป็นเวชภัณฑ์ 0.6 แสน เรือบิน 0.3 แสน พลังงาน 0.3 แสน ซึ่งยุโรปจำเป้นต้องใช้อยู่ตลอด ดังนั้น ละครฉากยุโรป ที่ทรัมป์เป็นพระเอก ก็คงจบลงได้ไม่ยาก 💣 ปัญหาใหญ่สุดของทรัมป์ จึงอยู่ที่สีจิ้นผิง ในฐานะผู้นำของ Global South สีจะยอมทรัมป์ไม่ได้ทรัมป์น่าจะผิดหวังพอควร เพราะรีบอ้างว่า การที่จีนโต้กลับ ส่อเป็นการหวาดผวา และเดินหมากผิดพลาด*** น่าสงสัยว่า ทรัมป์หรือสี ใครจะกะพริบตาก่อนกันข้อความที่ทรัมป์เผยแพร่ บ่งชี้ว่า เดิมคงหวังให้สีเข้ามาเจรจา เพื่อจะได้ลดกำแพงกันไปทั้งสองฝ่าย วิน วินแต่เมื่อไม่เป็นตามแผน ก็รีบปลอบใจคนอเมริกัน (ดูรูป 1) ว่า💊 [กำแพงภาษีสองฝั่งนั้น กระทบจีนมากกว่าสหรัฐ แบบเทียบกันไม่ได้เลย มาตรการนี้ ทำให้มีคนจะลงทุนในสหรัฐ กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ถึงแม้ศึกนี้ยาก แต่เราชนะแน่จึงขอให้คนอเมริกันอดทนอีกหน่อย]จีนนำเข้าจากสหรัฐ ปีละ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (6% ของนำเข้าจีน)เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2.4 หมื่นล้าน น้ำมันและก๊าซ 2 หมื่น เวชภัณฑ์ 2 หมื่น อาหาร 1.6 หมื่น 🩸 ส่วนใหญ่ จีนน่าจะสามารถผลิตได้เอง หรือหาแหล่งซื้ออื่นแทนได้ ผลกระทบจึงน่าจะไม่มากนักแต่ผลกระทบต่อเกษตรกรสหรัฐ จะมีมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญ ทรัมป์ก็รู้ดีสหรัฐนำเข้าจากจีน ปีละ 5 แสนล้านดอลลาร์ (15% ของส่งออกจีน) เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2 แสน ของเด็กเล่น 3 หมื่น เฟอร์นิเจอร์ 2 หมื่น สินค้าพลาสติก 2 หมื่น🧬 เนื่องจากไม่มีประเทศอื่นใด ที่ต้นทุนสินค้า consumer แข่งกับจีนได้ ดังนั้น คนอเมริกันก็ยังต้องใช้ของจีนต่อไปถามว่า ผู้ผลิตจีน หรือผู้บริโภคสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ควักกระเป๋า เพื่อข้ามกำแพงภาษี 54%การผลิตสินค้าพื้นๆ เหล่านี้ กำไรผู้ผลิตในจีน ขณะนี้เหลือบางมาก หลายโรงงานปิดตัวไปแล้วจึงเป็นไปไม่ไดั ที่จีนจะควักกระเป๋ามาจ่ายถ้าภาษียังค้างเช่นนี้ ภายใน 2-3 เดือน ราคาที่คนอเมริกันต้องจ่าย จะขยับสูงขึ้น อย่างหายห่วง 🧹 ถึงแม้ยอดส่งออกจีนไปสหรัฐ จะลดลง แต่จะไม่มีอุตสาหกรรมเบา ที่จะย้ายจากจีน ไปผลิตที่สหรัฐ ทรัมป์ก็รู้ดีอเมริกันชน ชั้นล่างและชั้นกลาง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าจีน จึงจะหันกลับไปมองทรัมป์ ด้วยสายตาเคืองรูป 2 แสดงการที่จีนได้กระจายแหล่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เปลี่ยนไปจากสหรัฐรูป 3 นอกจากนี้ จีนยังบีบสหรัฐเพิ่ม โดย (1) คุมการส่งออกแร่หายากอีก 7 ตัว และ (2) เพิ่มจำนวนบริษัทสหรัฐที่คุมการส่งออกรูป 4-5 แร่หายาก 7 ตัวนี้ มีชื่อแปลกๆ แต่ต้องใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานหมุนเวียน และดาวเทียม🧻 เป็นอันว่า หมากของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไฮเทคในสหรัฐ แบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะต่อชาวบ้านก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่า ถ้าประเทศใดโต้กลับ เขาจะยกระดับกำแพงให้สูงขึ้นอีกบัดนี้ คำขู่นี้ เจอกับหมากรุกกลับของสีจิ้นผิงแล้ว🧐 ต้องไม่ลืมว่า ชนชาวจีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว จากฟองสบู่อสังหาแตก และส่งออกลดลง บัณฑิตตกงานความอึดอัดในจีน เดิมมีสีเป็นเป้า บัดนี้ ทรัมป์ได้ยื่นตัวเข้ามา บังเป็นเป้าแทนแล้วสีอาจจะชอบใจละครฉากนี้ แต่การเดินเนื้อเรื่อง น่าจะไม่เป็นไปตามบทของทรัมป์วันที่ 6 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • สำหรับแพทย์ที่ยังมีคุณธรรมหลงเหลืออยู่ในจิตใจและคนทั่วไปที่เข้าใจภาษาอังกฤษ ท่านต้องดูสารคดีนี้ครับ

    https://youtu.be/icwzIfbNTS4
    หมอยง หมอโอภาส ปลัดสธ หมออุดม ตลอดจน อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช จุฬา รามา ที่เคยออกมาเชียร์ "วัคซีน" โควิด ยิ่งต้องดู แล้วกรุณาออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สี่ห้าปีก่อน ท่านเหล่านี้ ออกมาให้ข่าว แทบจะทุกวัน ปัจจุบันคงไม่ยากที่ท่านจะให้ข่าว ท่านจะปฏิเสธ ว่า เรื่องในสารคดี "ไม่จริง" เป็น misinformation ก็ได้แต่กรุณาพูดดังๆ ให้สังคมได้ยินด้วย
    หรือ ท่านจะ "รับฟัง" ข้อมูล แล้วทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นบทเรียน ก็จะดีมาก
    สุดท้ายจะดีต่อตัวท่าน ถ้าออกมาขอโทษ สังคมในความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากความ "ไม่รู้" ของท่าน คนไทยพร้อมให้อภัยและเข้าใจถึงเจตนาดีที่ท่าน ควรจะ มี

    แต่ถ้าท่านจะใช้วิธีเดียวกันกับนาย "Fauci เฝ้าขรี้" ขอให้ดูว่า นายคนนี้จะมีชะตากรรมอย่างไร? ท่านอาจจะได้รับเกียรติให้เป็น "ผู้สมรู้ร่วมคิด" กับนายคนนี้ด้วย

    ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการการทำของ ท่านเองครับ

    อ้อ นักข่าวทั้งหลายที่มี จรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี รออะไรอยู่ครับ ทำข่าวสิครับ เอาไมค์ไปถามท่านเหล่านั้นเหมือนที่ทำกัน สี่ห้าปีก่อนไง
    https://www.facebook.com/share/p/1AZPwnJZjw/
    https://www.facebook.com/share/v/1BMRSfwFyq/
    https://www.facebook.com/share/p/1Han95od31/
    https://www.facebook.com/share/p/12HgRFXKWva/
    https://www.facebook.com/share/r/1544bdCj3t/
    สำหรับแพทย์ที่ยังมีคุณธรรมหลงเหลืออยู่ในจิตใจและคนทั่วไปที่เข้าใจภาษาอังกฤษ ท่านต้องดูสารคดีนี้ครับ https://youtu.be/icwzIfbNTS4 หมอยง หมอโอภาส ปลัดสธ หมออุดม ตลอดจน อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช จุฬา รามา ที่เคยออกมาเชียร์ "วัคซีน" โควิด ยิ่งต้องดู แล้วกรุณาออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สี่ห้าปีก่อน ท่านเหล่านี้ ออกมาให้ข่าว แทบจะทุกวัน ปัจจุบันคงไม่ยากที่ท่านจะให้ข่าว ท่านจะปฏิเสธ ว่า เรื่องในสารคดี "ไม่จริง" เป็น misinformation ก็ได้แต่กรุณาพูดดังๆ ให้สังคมได้ยินด้วย หรือ ท่านจะ "รับฟัง" ข้อมูล แล้วทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นบทเรียน ก็จะดีมาก สุดท้ายจะดีต่อตัวท่าน ถ้าออกมาขอโทษ สังคมในความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากความ "ไม่รู้" ของท่าน คนไทยพร้อมให้อภัยและเข้าใจถึงเจตนาดีที่ท่าน ควรจะ มี แต่ถ้าท่านจะใช้วิธีเดียวกันกับนาย "Fauci เฝ้าขรี้" ขอให้ดูว่า นายคนนี้จะมีชะตากรรมอย่างไร? ท่านอาจจะได้รับเกียรติให้เป็น "ผู้สมรู้ร่วมคิด" กับนายคนนี้ด้วย ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการการทำของ ท่านเองครับ อ้อ นักข่าวทั้งหลายที่มี จรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี รออะไรอยู่ครับ ทำข่าวสิครับ เอาไมค์ไปถามท่านเหล่านั้นเหมือนที่ทำกัน สี่ห้าปีก่อนไง https://www.facebook.com/share/p/1AZPwnJZjw/ https://www.facebook.com/share/v/1BMRSfwFyq/ https://www.facebook.com/share/p/1Han95od31/ https://www.facebook.com/share/p/12HgRFXKWva/ https://www.facebook.com/share/r/1544bdCj3t/
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • 243 ปี สำเร็จโทษ “พระเจ้าตาก” กษัตริย์ผู้กอบกู้ นักรบผู้เดียวดาย สู่ตำนานมหาราช เบื้องหลังความจริงของวันประหาร ที่ยังเป็นปริศนา

    📌 เรื่องราวสุดลึกซึ้งของ "พระเจ้าตากสินมหาราช" วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช สู่ฉากอวสานที่ยังคลุมเครือ หลังผ่านมา 243 ปี ความจริงของวันสำเร็จโทษ ยังรอการค้นหา ข้อเท็จจริงและปริศนา ที่ยังรอการคลี่คลาย ✨

    🔥 "พระเจ้าตาก" ตำนานนักรบผู้เดียวดาย ที่ยังไม่ถูกลืม วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 วันนั้นไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นราชวงศ์จักรีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” เสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการ... หรืออาจจะไม่?

    243 ปี ผ่านไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่ถกเถียง 😢 ทั้งในแวดวงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และสังคมไทยโดยรวม เพราะแม้จะได้รับการยกย่อง ให้เป็นวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ แต่จุดจบของพระองค์ กลับเต็มไปด้วยข้อสงสัย ความคลุมเครือ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างแท้จริง

    ย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวของ "พระเจ้าตากสิน" ตั้งแต่วีรกรรมกู้ชาติ ไปจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เพื่อค้นหาความจริง และความหมายที่ซ่อนอยู่ในตำนานของพระองค์

    👑 "พระเจ้าตากสิน" กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี

    🌊 จากนายทหาร สู่กษัตริย์ผู้กอบกู้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า "สิน" เป็นบุตรของชาวจีนแต้จิ๋ว โดยทรงเข้ารับราชการในสมัย "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" รัชกาลสุดท้ายแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง

    เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 พระยาตากคือผู้นำที่ยืนหยัด และฝ่าทัพพม่าออกไปตั้งหลักที่จันทบุรี 🐎 พร้อมกับรวบรวมผู้คนและกำลังพล จนสามารถกลับมากู้ชาติ และยึดกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน ✨

    หลังจากนั้น ทรงย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี พร้อมปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนา “อาณาจักรธนบุรี” 🏰

    🌟 พระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ "พระเจ้าตากสิน" มิได้เป็นเพียงนักรบ แต่ทรงเป็นนักปกครอง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พระองค์ทรงฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรม 🎨📚

    🔸 ส่งเสริมการค้ากับจีนและต่างประเทศ

    🔸 ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยให้มีการอุปสมบทพระสงฆ์ใหม่จำนวนมาก

    🔸 ส่งเสริมวรรณกรรม และการศึกษา

    🔸 รวบรวมดินแดนที่แตกแยก กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    พระองค์ยังได้รับ การถวายพระราชสมัญญานามว่า “มหาราช” โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 💖

    ⚔️ จุดจบที่เป็นปริศนา วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสิน แม้พระองค์จะทรงกู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมือง แต่พระเจ้าตากก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายใน และการทรยศจากผู้ใกล้ชิด

    ในปี พ.ศ. 2325 พระยาสรรค์กับพวกได้ก่อการกบฏ อ้างว่าพระเจ้าตากสินมีพระสติวิปลาส ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ยกทัพกลับจากเขมรเข้ากรุงธนบุรี และสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตากสินโดยการ “ตัดศีรษะ” ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 👑

    🕯️ พระชนมพรรษา 48 ปี ครองราชย์รวม 15 ปี

    แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? หลักฐานและคำบอกเล่าต่างๆ กลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน...

    📚 พงศาวดาร หลากหลายข้อสันนิษฐาน

    1️⃣ ฉบับพระราชหัตถเลขา ประหารโดยตัดศีรษะ เล่าว่า... พระเจ้าตากถูกตัดศีรษะโดยเพชฌฆาต ไม่มีการใช้คำว่า “สวรรคต” แต่ใช้คำว่า “ถึงแก่พิราลัย” แสดงว่าอาจถูกริดรอนพระยศ ก่อนที่สำเร็จโทษ

    2️⃣ ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ม็อบพาไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง ระบุว่า... “ทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้น นำเอาพระเจ้าแผ่นดินไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง” โดยไม่ระบุวิธี

    3️⃣ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ชนหมู่มากฆ่าพระองค์ กล่าวว่า... “ชนทั้งหลายมีความโกรธ ชวนกันกำจัดเสียจากราชสมบัติ แล้วพิฆาฎฆ่าเสีย”

    4️⃣ พระยาทัศดาจัตุรงค์ หัวใจวายเฉียบพลัน เขียนว่า... “เกิดวิกลดลจิตประจุบัน ท้าวดับชีวัน” ซึ่งแปลว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจวาย

    🕵️‍♂️ เรื่องเล่าหลัง 2475 สร้างตำนานใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เรื่องราวของพระเจ้าตาก ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบใหม่ โดยเน้นไปที่... การเป็นวีรกษัตริย์ของประชาชน อาทิ วรรณกรรมเรื่อง “ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” ของภิกษุณีโพธิสัตว์ "วรมัย กบิลสิงห์" ซึ่งอ้างว่า “พระองค์ไม่ถูกประหาร แต่สับเปลี่ยนตัวกับนายมั่น”

    🔍 จุดมุ่งหมายคือ การสร้างความรู้สึกร่วมของคนไทย สร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเน้นความสามัคคีแห่งชาติ 🇹🇭

    🧠 ข้อวิเคราะห์ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

    ❓ พระเจ้าตากเสียสติจริงหรือ? เอกสารหลายฉบับระบุว่า พระองค์มีพระสติวิปลาส แต่บทสนทนาก่อนประหารที่ว่า “ขอเข้าเฝ้าสนทนาอีกสักสองสามคำ” นั้นชัดเจน และเต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ 🤔

    ❓ มีการสับเปลี่ยนตัวจริงหรือ? ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนใด ๆ รองรับ แต่แนวคิดนี้ ปรากฏอย่างแพร่หลายในวรรณกรรม และความเชื่อของประชาชน

    📜 วันที่พระองค์ถูกลืม? วันที่ 6 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็น "วันจักรี" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาราชวงศ์จักรี โดยไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าตากเลย ทั้งที่วันเดียวกันนั้น คือวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เช่นกัน

    ทำให้เกิดคำถามในใจใครหลายคนว่า พระเจ้าตากถูก “กลบ” จากประวัติศาสตร์หรือไม่? 😢

    🛕 พระเจ้าตากในความทรงจำของประชาชน แม้ประวัติศาสตร์ทางการจะบอกว่า พระองค์ถูกประหารชีวิต แต่ในความเชื่อของประชาชนทั่วไป พระเจ้าตากยังคงเป็น “วีรกษัตริย์ผู้ไม่เคยพ่าย” 🙏

    มีการสักการะพระบรมรูปที่วงเวียนใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนเรียกพระองค์ว่า “แต่อ่วงกง” มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์

    🧾 จากความจริง...สู่ตำนาน 243 ปีผ่านไป...วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราช ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม ปริศนา และความรู้สึกค้างคาใจ ของคนไทยจำนวนมาก

    แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ... พระเจ้าตากมิใช่เพียงนักรบผู้เดียวดาย แต่คือบุคคลผู้เปลี่ยนชะตากรรมของแผ่นดินนี้ ไว้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 060744 เม.ย. 2568

    📱 #พระเจ้าตาก #สมเด็จพระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ไทย #243ปีพระเจ้าตาก #ตำนานพระเจ้าตาก #วันประหารพระเจ้าตาก #วันจักรี #ราชวงศ์ธนบุรี #วีรกษัตริย์ไทย #กษัตริย์ผู้กอบกู้
    243 ปี สำเร็จโทษ “พระเจ้าตาก” กษัตริย์ผู้กอบกู้ นักรบผู้เดียวดาย สู่ตำนานมหาราช เบื้องหลังความจริงของวันประหาร ที่ยังเป็นปริศนา 📌 เรื่องราวสุดลึกซึ้งของ "พระเจ้าตากสินมหาราช" วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช สู่ฉากอวสานที่ยังคลุมเครือ หลังผ่านมา 243 ปี ความจริงของวันสำเร็จโทษ ยังรอการค้นหา ข้อเท็จจริงและปริศนา ที่ยังรอการคลี่คลาย ✨ 🔥 "พระเจ้าตาก" ตำนานนักรบผู้เดียวดาย ที่ยังไม่ถูกลืม วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 วันนั้นไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นราชวงศ์จักรีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” เสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการ... หรืออาจจะไม่? 243 ปี ผ่านไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่ถกเถียง 😢 ทั้งในแวดวงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และสังคมไทยโดยรวม เพราะแม้จะได้รับการยกย่อง ให้เป็นวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ แต่จุดจบของพระองค์ กลับเต็มไปด้วยข้อสงสัย ความคลุมเครือ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างแท้จริง ย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวของ "พระเจ้าตากสิน" ตั้งแต่วีรกรรมกู้ชาติ ไปจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เพื่อค้นหาความจริง และความหมายที่ซ่อนอยู่ในตำนานของพระองค์ 👑 "พระเจ้าตากสิน" กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี 🌊 จากนายทหาร สู่กษัตริย์ผู้กอบกู้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า "สิน" เป็นบุตรของชาวจีนแต้จิ๋ว โดยทรงเข้ารับราชการในสมัย "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" รัชกาลสุดท้ายแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 พระยาตากคือผู้นำที่ยืนหยัด และฝ่าทัพพม่าออกไปตั้งหลักที่จันทบุรี 🐎 พร้อมกับรวบรวมผู้คนและกำลังพล จนสามารถกลับมากู้ชาติ และยึดกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน ✨ หลังจากนั้น ทรงย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี พร้อมปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนา “อาณาจักรธนบุรี” 🏰 🌟 พระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ "พระเจ้าตากสิน" มิได้เป็นเพียงนักรบ แต่ทรงเป็นนักปกครอง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พระองค์ทรงฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรม 🎨📚 🔸 ส่งเสริมการค้ากับจีนและต่างประเทศ 🔸 ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยให้มีการอุปสมบทพระสงฆ์ใหม่จำนวนมาก 🔸 ส่งเสริมวรรณกรรม และการศึกษา 🔸 รวบรวมดินแดนที่แตกแยก กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระองค์ยังได้รับ การถวายพระราชสมัญญานามว่า “มหาราช” โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 💖 ⚔️ จุดจบที่เป็นปริศนา วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสิน แม้พระองค์จะทรงกู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมือง แต่พระเจ้าตากก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายใน และการทรยศจากผู้ใกล้ชิด ในปี พ.ศ. 2325 พระยาสรรค์กับพวกได้ก่อการกบฏ อ้างว่าพระเจ้าตากสินมีพระสติวิปลาส ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ยกทัพกลับจากเขมรเข้ากรุงธนบุรี และสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตากสินโดยการ “ตัดศีรษะ” ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 👑 🕯️ พระชนมพรรษา 48 ปี ครองราชย์รวม 15 ปี แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? หลักฐานและคำบอกเล่าต่างๆ กลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน... 📚 พงศาวดาร หลากหลายข้อสันนิษฐาน 1️⃣ ฉบับพระราชหัตถเลขา ประหารโดยตัดศีรษะ เล่าว่า... พระเจ้าตากถูกตัดศีรษะโดยเพชฌฆาต ไม่มีการใช้คำว่า “สวรรคต” แต่ใช้คำว่า “ถึงแก่พิราลัย” แสดงว่าอาจถูกริดรอนพระยศ ก่อนที่สำเร็จโทษ 2️⃣ ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ม็อบพาไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง ระบุว่า... “ทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้น นำเอาพระเจ้าแผ่นดินไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง” โดยไม่ระบุวิธี 3️⃣ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ชนหมู่มากฆ่าพระองค์ กล่าวว่า... “ชนทั้งหลายมีความโกรธ ชวนกันกำจัดเสียจากราชสมบัติ แล้วพิฆาฎฆ่าเสีย” 4️⃣ พระยาทัศดาจัตุรงค์ หัวใจวายเฉียบพลัน เขียนว่า... “เกิดวิกลดลจิตประจุบัน ท้าวดับชีวัน” ซึ่งแปลว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจวาย 🕵️‍♂️ เรื่องเล่าหลัง 2475 สร้างตำนานใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เรื่องราวของพระเจ้าตาก ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบใหม่ โดยเน้นไปที่... การเป็นวีรกษัตริย์ของประชาชน อาทิ วรรณกรรมเรื่อง “ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” ของภิกษุณีโพธิสัตว์ "วรมัย กบิลสิงห์" ซึ่งอ้างว่า “พระองค์ไม่ถูกประหาร แต่สับเปลี่ยนตัวกับนายมั่น” 🔍 จุดมุ่งหมายคือ การสร้างความรู้สึกร่วมของคนไทย สร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเน้นความสามัคคีแห่งชาติ 🇹🇭 🧠 ข้อวิเคราะห์ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ พระเจ้าตากเสียสติจริงหรือ? เอกสารหลายฉบับระบุว่า พระองค์มีพระสติวิปลาส แต่บทสนทนาก่อนประหารที่ว่า “ขอเข้าเฝ้าสนทนาอีกสักสองสามคำ” นั้นชัดเจน และเต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ 🤔 ❓ มีการสับเปลี่ยนตัวจริงหรือ? ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนใด ๆ รองรับ แต่แนวคิดนี้ ปรากฏอย่างแพร่หลายในวรรณกรรม และความเชื่อของประชาชน 📜 วันที่พระองค์ถูกลืม? วันที่ 6 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็น "วันจักรี" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาราชวงศ์จักรี โดยไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าตากเลย ทั้งที่วันเดียวกันนั้น คือวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เช่นกัน ทำให้เกิดคำถามในใจใครหลายคนว่า พระเจ้าตากถูก “กลบ” จากประวัติศาสตร์หรือไม่? 😢 🛕 พระเจ้าตากในความทรงจำของประชาชน แม้ประวัติศาสตร์ทางการจะบอกว่า พระองค์ถูกประหารชีวิต แต่ในความเชื่อของประชาชนทั่วไป พระเจ้าตากยังคงเป็น “วีรกษัตริย์ผู้ไม่เคยพ่าย” 🙏 มีการสักการะพระบรมรูปที่วงเวียนใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนเรียกพระองค์ว่า “แต่อ่วงกง” มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์ 🧾 จากความจริง...สู่ตำนาน 243 ปีผ่านไป...วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราช ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม ปริศนา และความรู้สึกค้างคาใจ ของคนไทยจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ... พระเจ้าตากมิใช่เพียงนักรบผู้เดียวดาย แต่คือบุคคลผู้เปลี่ยนชะตากรรมของแผ่นดินนี้ ไว้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 060744 เม.ย. 2568 📱 #พระเจ้าตาก #สมเด็จพระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ไทย #243ปีพระเจ้าตาก #ตำนานพระเจ้าตาก #วันประหารพระเจ้าตาก #วันจักรี #ราชวงศ์ธนบุรี #วีรกษัตริย์ไทย #กษัตริย์ผู้กอบกู้
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัยนอน เนื่องอยู่ในสันดาน
    สัทธรรมลำดับที่ : 145
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=145
    ชื่อบทธรรม : -เวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัย
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัย
    --ภิกษุ ท. ! อาศัยตากับรูป เกิด จักขุวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางตา) ขึ้น,
    อาศัยหูกับเสียง เกิด โสตวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางหู) ขึ้น,
    อาศัยจมูกกับกลิ่น เกิด ฆานวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางจมูก) ขึ้น,
    อาศัยลิ้นกับรส เกิด ชิวหาวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางลิ้น) ขึ้น,
    อาศัยกายกับโผฏฐัพพะ เกิด กายวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางกาย) ขึ้น,
    และอาศัยใจกับธรรมารมณ์ เกิด มโนวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางใจ) ขึ้น ;
    +-ความประจวบกันแห่งสิ่งทั้งสาม (เช่น ตา รูป จักขุวิญญาณ เป็นต้น แต่ละหมวด)
    นั้น ชื่อว่า ผัสสะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/516/?keywords=ผสฺส

    +-เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา อันเป็นสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง.
    บุคคลนั้น
    +-เมื่อ สุขเวทนา ถูกต้องแล้ว ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่, อนุสัยคือราคะ ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น.
    +-เมื่อ ทุกขเวทนา ถูกต้องแล้ว ย่อมเศร้าโศก ย่อมระทมใจคร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความหลงใหลอยู่, อนุสัยคือปฏิฆะ ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น.
    +-เมื่อ เวทนาอันไม่ทุกข์ไม่สุข ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่รู้ตามเป็นจริง
    ซึ่งเหตุให้เกิดเวทนานั้นด้วย
    ซึ่งความดับแห่งเวทนานั้นด้วยซึ่งอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนานั้นด้วย
    ซึ่งอาทีนพ (โทษ) ของเวทนานั้นด้วย
    ซึ่งนิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้น) ของเวทนานั้นด้วย,
    อนุสัยคืออวิชชา ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/517/?keywords=อวิชฺชานุสยํ

    --ภิกษุ ท. ! บุคคลนั้นหนอ
    +-ยังละ อนุสัยคือราคะ ในเพราะสุขเวทนาไม่ได้,
    +-ยังบรรเทา อนุสัยคือปฏิฆะ ในเพราะทุกขเวทนาไม่ได้,
    +-ยังถอน อนุสัยคืออวิชชา ในเพราะอทุกขมสุขเวทนาไม่ได้,
    +-ยังละอวิชชาไม่ได้และยังทำวิชชาให้เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
    จักทำที่สุดแห่งทุกข์ ในทิฏฐธรรม (ปัจจุบัน) นี้ ดังนี้
    : ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้เลย.-

    #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/391/822.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/391/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๑๖/๘๒๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/516/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=145
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=11&id=145
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=11
    ลำดับสาธยายธรรม : 11 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_11.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัยนอน เนื่องอยู่ในสันดาน สัทธรรมลำดับที่ : 145 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=145 ชื่อบทธรรม : -เวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัย เนื้อความทั้งหมด :- --เวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัย --ภิกษุ ท. ! อาศัยตากับรูป เกิด จักขุวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางตา) ขึ้น, อาศัยหูกับเสียง เกิด โสตวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางหู) ขึ้น, อาศัยจมูกกับกลิ่น เกิด ฆานวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางจมูก) ขึ้น, อาศัยลิ้นกับรส เกิด ชิวหาวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางลิ้น) ขึ้น, อาศัยกายกับโผฏฐัพพะ เกิด กายวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางกาย) ขึ้น, และอาศัยใจกับธรรมารมณ์ เกิด มโนวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางใจ) ขึ้น ; +-ความประจวบกันแห่งสิ่งทั้งสาม (เช่น ตา รูป จักขุวิญญาณ เป็นต้น แต่ละหมวด) นั้น ชื่อว่า ผัสสะ. http://etipitaka.com/read/pali/14/516/?keywords=ผสฺส +-เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา อันเป็นสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง. บุคคลนั้น +-เมื่อ สุขเวทนา ถูกต้องแล้ว ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่, อนุสัยคือราคะ ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น. +-เมื่อ ทุกขเวทนา ถูกต้องแล้ว ย่อมเศร้าโศก ย่อมระทมใจคร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความหลงใหลอยู่, อนุสัยคือปฏิฆะ ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น. +-เมื่อ เวทนาอันไม่ทุกข์ไม่สุข ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่รู้ตามเป็นจริง ซึ่งเหตุให้เกิดเวทนานั้นด้วย ซึ่งความดับแห่งเวทนานั้นด้วยซึ่งอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนานั้นด้วย ซึ่งอาทีนพ (โทษ) ของเวทนานั้นด้วย ซึ่งนิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้น) ของเวทนานั้นด้วย, อนุสัยคืออวิชชา ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น. http://etipitaka.com/read/pali/14/517/?keywords=อวิชฺชานุสยํ --ภิกษุ ท. ! บุคคลนั้นหนอ +-ยังละ อนุสัยคือราคะ ในเพราะสุขเวทนาไม่ได้, +-ยังบรรเทา อนุสัยคือปฏิฆะ ในเพราะทุกขเวทนาไม่ได้, +-ยังถอน อนุสัยคืออวิชชา ในเพราะอทุกขมสุขเวทนาไม่ได้, +-ยังละอวิชชาไม่ได้และยังทำวิชชาให้เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว จักทำที่สุดแห่งทุกข์ ในทิฏฐธรรม (ปัจจุบัน) นี้ ดังนี้ : ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้เลย.- #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/391/822. http://etipitaka.com/read/thai/14/391/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๑๖/๘๒๒. http://etipitaka.com/read/pali/14/516/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=145 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=11&id=145 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=11 ลำดับสาธยายธรรม : 11 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_11.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัย
    -เวทนาเป็นทางมาแห่งอนุสัย ภิกษุ ท. ! อาศัยตากับรูป เกิด จักขุวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางตา) ขึ้น, อาศัยหูกับเสียง เกิด โสตวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางหู) ขึ้น, อาศัยจมูกกับกลิ่น เกิด ฆานวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางจมูก) ขึ้น, อาศัยลิ้นกับรส เกิด ชิวหาวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางลิ้น) ขึ้น, อาศัยกายกับโผฏฐัพพะ เกิด กายวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางกาย) ขึ้น, และอาศัยใจกับธรรมารมณ์ เกิด มโนวิญญาณ (ความรู้แจ้งทางใจ) ขึ้น ; ความประจวบกันแห่งสิ่งทั้งสาม (เช่น ตา รูป จักขุวิญญาณ เป็นต้น แต่ละหมวด) นั้น ชื่อว่า ผัสสะ. เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา อันเป็นสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง. บุคคลนั้น เมื่อ สุขเวทนา ถูกต้องแล้ว ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่, อนุสัยคือราคะ ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น. เมื่อ ทุกขเวทนา ถูกต้องแล้ว ย่อมเศร้าโศก ย่อมระทมใจคร่ำครวญ ตีอกร่ำไห้ ถึงความหลงใหลอยู่, อนุสัยคือปฏิฆะ ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น. เมื่อ เวทนาอันไม่ทุกข์ไม่สุข ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่รู้ตามเป็นจริง ซึ่งเหตุให้เกิดเวทนานั้นด้วย ซึ่งความดับแห่งเวทนานั้นด้วยซึ่งอัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนานั้นด้วย ซึ่งอาทีนพ (โทษ) ของเวทนานั้นด้วยซึ่งนิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้น) ของเวทนานั้นด้วย, อนุสัยคืออวิชชา ย่อมนอนเนื่องอยู่ในสันดานของบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! บุคคลนั้นหนอ ยังละอนุสัยคือราคะในเพราะสุขเวทนาไม่ได้, ยังบรรเทาอนุสัยคือปฏิฆะในเพราะทุกขเวทนาไม่ได้, ยังถอนอนุสัยคืออวิชชาในเพราะอทุกขมสุขเวทนาไม่ได้, ยังละอวิชชาไม่ได้ และยังทำวิชชาให้เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว จักทำที่สุดแห่งทุกข์ ในทิฏฐธรรม (ปัจจุบัน) นี้ ดังนี้ : ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้เลย.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องเคยเห็นอุปกรณ์จุดไฟชนิดหนึ่งในละครจีนหลายเรื่อง หน้าตาเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ เปิดฝามาใช้มือโบกพัดหรือปากเป่าไม่กี่ทีก็มีไฟติด ใช้แทนเทียนได้ ซึ่ง Storyฯ คิดว่ามันน่าทึ่งมากเพราะไม่ต้องใช้หินเหล็กตีให้เกิดประกายไฟและไม่ต้องมีการชักสูบเหมือนตะบันไฟ Storyฯ ขอเรียกมันว่า ‘กระบอกจุดไฟ’ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘หั่วเจ๋อจื่อ’ (火折子)

    จากบันทึกโบราณ เทคโนโลยีนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณช่วงปีค.ศ. 577) เป็นวิธีการเก็บไฟไว้ใช้ของนางกำนัลในวังโดยใช้กระดาษเนื้อหยาบมาม้วนอัดลงไปในถังไม้แล้วจุดไฟ จากนั้นก็ดับไฟลงจนไม่เหลือเปลวไฟแต่ยังมีสะเก็ดไฟคุกรุ่นไว้แล้วก็ปิดฝาไว้ พอจะใช้ก็เปิดฝาออกมาเป่าจนไฟติด ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พกพาได้ แต่แรกเริ่มนั้น จุดติดได้เพียงครั้งเดียว

    กระบอกจุดไฟแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกต่อการพกพา และเมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้นกรรมวิธีการทำก็ซับซ้อนขึ้น วิธีทำกระบอกไฟที่ดีคือใช้วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้ (เช่น กระดาษเนื้อหยาบ หญ้าบางชนิด มูลสัตว์ หรืออย่างดีคือเถามันเทศและปุยนุ่น) มาหมักน้ำแล้วบีบทุบและเค้นจนเป็นใย ทำอย่างนี้หลายครั้งก่อนจะนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับขี้ไต้ (ส่วนผสมเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มี ดีเกลือ ผงกำมะถัน ยางสน และการบูร) แล้วอัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ก่อนใช้ต้องจุดไฟจนติดแรง แล้วค่อยดับไฟลงจนเหลือเพียงสะเก็ดไฟคุกรุ่นอยู่ข้างในแต่ไม่เหลือเปลวไฟ แล้วจึงปิดกระบอกด้วยฝาที่มีรูเล็ก พอจะใช้ก็เปิดออกแล้วเป่าจนไฟติด สามารถใช้ได้หลายครั้งจนเชื้อเพลิงหมดกระบอก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายวัน

    ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความยากของมันอยู่ที่ความพอดีของวัสดุเชื้อเพลิงและขี้ไต้ และความหนาแน่นที่พอดีในกระบอกที่ใส่ แน่นอนว่ากระบอกจุดไฟหั่วเจ๋อจื่อมีหลายเกรดแตกต่างกัน ในกลุ่มผู้มีอันจะกินจะใช้เชื้อเพลิงจากใยมันเทศและนุ่นผสมขี้ไต้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งกรรมวิธีทำจะซับซ้อน แต่จุดง่ายกว่า เพียงใช้มือโบกพัดไม่กี่ทีก็จุดติด

    ส่วนชาวบ้านธรรมดานิยมใช้เยื่อกระดาษหยาบ จะติดไฟยากกว่า เวลาเป่าให้ไฟติดจึงต้องมีเทคนิคมากหน่อย เพราะต้องเป็นลมที่เกิดอย่างกะทันหัน สั้นและแรง จึงจะก่อให้เกิดแรงกระตุ้นที่ดี เพราะฉะนั้นอย่างที่เราเห็นในละคร... ถ้าเราเป็นจอมยุทธ์ก็เพียงสะบัดมือวืดเดียวค่ะ แต่ถ้าไร้วรยุทธ์ก็ต้องใช้ปากเป่าค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากละคร <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> และจาก:
    https://k.sina.cn/article_5100008885_12ffbf5b500100ysyy.html?from=ent&subch=film
    https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html
    https://kknews.cc/history/x4q6ojr.html
    http://m.qulishi.com/article/202009/438462.html

    #ปริศนาลับราชวงศ์ถัง #กระบอกไฟ #แท่งไฟโบราณ #แท่งจุดไฟ #หั่วเจ๋อจื่อ #กระบอกจุดไฟโบราณ
    เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องเคยเห็นอุปกรณ์จุดไฟชนิดหนึ่งในละครจีนหลายเรื่อง หน้าตาเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ เปิดฝามาใช้มือโบกพัดหรือปากเป่าไม่กี่ทีก็มีไฟติด ใช้แทนเทียนได้ ซึ่ง Storyฯ คิดว่ามันน่าทึ่งมากเพราะไม่ต้องใช้หินเหล็กตีให้เกิดประกายไฟและไม่ต้องมีการชักสูบเหมือนตะบันไฟ Storyฯ ขอเรียกมันว่า ‘กระบอกจุดไฟ’ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘หั่วเจ๋อจื่อ’ (火折子) จากบันทึกโบราณ เทคโนโลยีนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณช่วงปีค.ศ. 577) เป็นวิธีการเก็บไฟไว้ใช้ของนางกำนัลในวังโดยใช้กระดาษเนื้อหยาบมาม้วนอัดลงไปในถังไม้แล้วจุดไฟ จากนั้นก็ดับไฟลงจนไม่เหลือเปลวไฟแต่ยังมีสะเก็ดไฟคุกรุ่นไว้แล้วก็ปิดฝาไว้ พอจะใช้ก็เปิดฝาออกมาเป่าจนไฟติด ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พกพาได้ แต่แรกเริ่มนั้น จุดติดได้เพียงครั้งเดียว กระบอกจุดไฟแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกต่อการพกพา และเมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้นกรรมวิธีการทำก็ซับซ้อนขึ้น วิธีทำกระบอกไฟที่ดีคือใช้วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้ (เช่น กระดาษเนื้อหยาบ หญ้าบางชนิด มูลสัตว์ หรืออย่างดีคือเถามันเทศและปุยนุ่น) มาหมักน้ำแล้วบีบทุบและเค้นจนเป็นใย ทำอย่างนี้หลายครั้งก่อนจะนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับขี้ไต้ (ส่วนผสมเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มี ดีเกลือ ผงกำมะถัน ยางสน และการบูร) แล้วอัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ก่อนใช้ต้องจุดไฟจนติดแรง แล้วค่อยดับไฟลงจนเหลือเพียงสะเก็ดไฟคุกรุ่นอยู่ข้างในแต่ไม่เหลือเปลวไฟ แล้วจึงปิดกระบอกด้วยฝาที่มีรูเล็ก พอจะใช้ก็เปิดออกแล้วเป่าจนไฟติด สามารถใช้ได้หลายครั้งจนเชื้อเพลิงหมดกระบอก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายวัน ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความยากของมันอยู่ที่ความพอดีของวัสดุเชื้อเพลิงและขี้ไต้ และความหนาแน่นที่พอดีในกระบอกที่ใส่ แน่นอนว่ากระบอกจุดไฟหั่วเจ๋อจื่อมีหลายเกรดแตกต่างกัน ในกลุ่มผู้มีอันจะกินจะใช้เชื้อเพลิงจากใยมันเทศและนุ่นผสมขี้ไต้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งกรรมวิธีทำจะซับซ้อน แต่จุดง่ายกว่า เพียงใช้มือโบกพัดไม่กี่ทีก็จุดติด ส่วนชาวบ้านธรรมดานิยมใช้เยื่อกระดาษหยาบ จะติดไฟยากกว่า เวลาเป่าให้ไฟติดจึงต้องมีเทคนิคมากหน่อย เพราะต้องเป็นลมที่เกิดอย่างกะทันหัน สั้นและแรง จึงจะก่อให้เกิดแรงกระตุ้นที่ดี เพราะฉะนั้นอย่างที่เราเห็นในละคร... ถ้าเราเป็นจอมยุทธ์ก็เพียงสะบัดมือวืดเดียวค่ะ แต่ถ้าไร้วรยุทธ์ก็ต้องใช้ปากเป่าค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากละคร <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> และจาก: https://k.sina.cn/article_5100008885_12ffbf5b500100ysyy.html?from=ent&subch=film https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html https://kknews.cc/history/x4q6ojr.html http://m.qulishi.com/article/202009/438462.html #ปริศนาลับราชวงศ์ถัง #กระบอกไฟ #แท่งไฟโบราณ #แท่งจุดไฟ #หั่วเจ๋อจื่อ #กระบอกจุดไฟโบราณ
    该文章已不存在_手机新浪网
    手机新浪网是新浪网的手机门户网站,为亿万用户打造一个手机联通世界的超级平台,提供24小时全面及时的中文资讯,内容覆盖国内外突发新闻事件、体坛赛事、娱乐时尚、产业资讯、实用信息等。手机新浪网触屏版 - sina.cn
    1 Comments 0 Shares 271 Views 0 Reviews
  • "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP4 (ซัดเลย..เสียเวลา)

    แผนสันติภาพอีทรัมปป์พังยับ! ปูตินรู้ล่วงหน้า มาฟอร์มนี้ กูเลยช่วยปิดเกมส์ยูเครนให้จบไวขึ้น ถามสั้นๆ กูไล่ฆ่าพวกมรึงมาเกือบ 3 ปี ยึดพื้นที่ จุดยุทธศาสตร์สำคัญไว้หมด แล้วเรื่องอะไรจะมาหยิบชิ้นปลามันไปง่ายๆ ยูเรเนียมเหรอ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เหรอ? อยากได้ เข้ามาเอาเองสิ? กูจะยึดทั้งแผ่นดินก็ได้ สบายตรีน แต่จะเอาไปทำไมทั้งหมด มันคือรายจ่าย เพราะยูเครนต้องฟื้นฟูเยอะ ทั้งโลก มีแค่จีน รัสเซีย เท่านั้น ที่สามารถให้เงินกู้ ฟื้นฟูประเทศได้ เพราะไอ้ที่เหลือมันเจ๊งกันหมดทั้งโลกแล้ว ทำไมปูตินจะไม่รู้? อะไรน่ะ ไทยโมเดล 9/11 ตึกสตง. ก็อปปี้มาเด๊ะ อำมะหิตมาก ที่นี่เมืองไทยน่ะมรึง ไม่ใช่นิวยอร์ค ยิวฆ่าเหี้ยมะกันขี้ข้า เป็นเรื่องปกติ เพราะแค่เศษเดน ผงธุลีดินในสายตามัน แต่แผ่นดินนี้ของพ่อกู ไอ้อีหน้าไหนร่วมมือกันมาจัดฉากฆ่าคนไทยด้วยกัน มรึงต้องตายโหง! โลกคือละคร เหี้ยจะรู้ล่วงหน้าเสมอ ว่าจะเกิดเหี้ยอะไรก่อน เพราะมันเป็นคนวางแผนไงล่ะ? ชี้ชัดทุกหน่วยงานองคาพยพไทย มีเหลือบจัญไรแผ่นดินแฝงอยู่เต็มไปหมด แดร๊กหมดหากสดชื่น! นี่ขนาดเป็นตึกของสตง. น่ะมรึง? อายหมามั้ยล่ะ? ศึกทะเลแดงยกที่ 99 เหี้ยแพ้ยับตามเคย เหตุผลง่ายๆ คือ เทคโนโลยีเป็นรอง แผนการห่วยขั้นเทพ บุกเข้ามาแบบดื้อๆ คิดว่าอาวุธตัวเองเจ๋ง แล้วเป็นไง ไอ้เครื่องบินชี้เป้าโดนล่อก่อนเพื่อน ใครจะไปคิดว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน พอไร้บินชี้เป้า ไปต่อไม่เป็น เมื่อเยเมนบล็อคสัญญานสั่งการเบ็ดเสร็จ ก็เหลือแค่ล่อเป้าใหญ่กลางมหาสมุทรที่หนีไปไหนไม่รอด ส่งมา 3 ลำใหญ่ กลับไปซ่อมแล้ว 2 นี่เพิ่งจะเริ่มเองน่ะมรึง? โคตรกระจอก ไม่ปรึกษาใคร เมื่อไหร่ มรึงจะรู้ตัวว่า มันคนละชั้น อยู่กันคนละโลกกับความเป็นจริงไปนานแล้ว ไทยไม่รอด โดนกำแพงภาษีเหี้ย 36% แล้วยังไง? มีข้าวกินมั้ย? หลับสบายมั้ย? ส่งออกทั่วโลกได้มั้ย? สินค้าไทย ใครก็ต้องการ เช่นกัน เราก็ขึ้นภาษีย้อนกลับไป เท่าที่มรึงให้มา แล้วมาดูว่า ของใครจะขายได้ ดีออก? 93 ปี ที่มรึงเอาไข่เสนียดมาทิ้งไว้ในบ้านกู จนออกดอก ออกผล อี 3 นิ้วครึ่ง อีทะลุเหี้ยบ้าง พรรคจัญไร นักการเมืองชาติหมา ปชต.ตอแหลหาแดร๊ก อีกไม่นาน อโยธยาจะกลับคืนสู่การปกครองดั่งเดิมผสมยุคใหม่ อัพเกรด 5.1 โปร่งใส รวดเร็ว แค่เปลี่ยนหัว ทุกอย่างเปลี่ยนตาม คืนพระราชอำนาจ ประเทศรอดทันที !! ไม่มีธรรมชาติใดดอกน่ะ ที่เลือกลงโทษได้ โดยเฉพาะผู้ขัดผลประโยชน์ ยิวเหี้ยไซออนนิสต์ จับตาดูให้ดีดี อีทรัมปป์จะเป็น Q หรือไม่ ไม่ต้องไปดูอย่างอื่น หากมันไม่บ่อนทำลาย DEEP STATE ดั่งปากจริง คือ "ปลอม" การกระทำดีกว่าคำพูด อาเซียนถูกล่อด้วยสะกายโมเดล ที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว แม่แต่ตึกสตง.ถล่ม ยังมีกล้องจับภาพได้ทุกทิศ ทุกโมเมนตั่ม นี่มัน 9/11 โมเดลเดียวกันเป๊ะ แค่บอกให้รู้ ว่าสงครามมาเยือนไทย และอาเซียนเรียบร้อยนานแล้ว ไม่ใช่แค่ตอนนี้ มันมาตั้งแต่อีเหลี่ยมชาติหมาได้ขึ้นบังลังก์นั่นแหละ และวันนี้ เพ่น้องคปท.เดินหน้าสั่งลุยแล้ว ตรงไปอาคารรัฐสภา "ระงับแผนกาสิโอ๊ะ" หมายังรู้ นั่นแค่เปลือกนอก เป้าจริงคือล่ออีรัฐบาลหุ่นเชิดวอชิงตันต่างหากล่ะ ภาคประชาชนไทยเค้าตื่นรู้ตลอด ทุกการเคลื่อนไหวคือดักคอ ชี้เป้า ให้ควายไทยตื่น ว่ากำลังจะมีการรวบแดร๊กประเทศครั้งใหญ่ คนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ปลายกลียุค มีแค่ทางออกเดียวคือ "กองทัพต้องออก" การปฎิวัติครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะมา มาเพื่อชำระล้างให้หมดจรด ตามใบสั่งสรวงสวรรค์ ส่วนตัวละครใหม่จะเป็นใคร ไม่ต้องสนใจ? เพราะเค้าเน้นผลลัพธ์ ไม่ได้เน้นหน้าตา เตรียมตัว เตรียมใจ รับการเปลี่ยนแปลงแบบหักมุมได้เลย เอาชาติเป็นใหญ่ หมากที่วางไว้ เริ่มเห็นผลแล้ว ใครเบื่อที่จะรอ ไม่ต้องรอนาน "BLOOD APRIL" มาแล้วจ๊ะ หนียังไงก็หนีไม่พ้น เมื่อรู้ว่าต้องเผชิญหน้า ก็ใส่ให้ยับ ไปให้สุดซอย รอระฆังใหญ่จากบ้านพระอาทิตย์ก็พอ รูปแบบจะไม่เหมือนเดิม ไม่ต้องเปลืองแรง ไม่ต้องลำบาก แค่เล่นให้ตรงจุด ล่อตรงเป้าหมาย ถึงเวลา "ทหารออกเอง" เหนือฟ้ายังมีฟ้า ใครที่คิดว่าต้องไปนอนตบยุงกลางถนนเหมือนเมื่อ 17 ปีก่อน คิดใหม่ซะน่ะ นี่มันยุคดิจิตอลแล้วจ๊ะ มีอีกหลากหลายวิธีที่จะเล่น แล้วได้ผลทันตา ยังไม่บอก เดี๋ยวเหี้ยมันรู้?

    หมี CNN(จีนส่งกองเรือไปล้อมไต้หวันอีกล่ะ อยู่ดีดี ใครจะทำ? เพราะเค้ารู้ว่ามรึงกำลังจะส่งเหี้ยอะไรเข้ามาเพิ่ม จีนรู้หมด หน่วยข่าวกรองจีน เก่ง ฉลาด และแม่นยำกว่าอีมอดสาด และเหี้ย C รู้ดีว่ามรึงกำลังจะเอาเหี้ยอะไรไปติดตั้ง แค่ออกมายืดเส้นยืดสาย ให้มรึงรู้ชะตากรรม ว่ากูพร้อมจมทั้งเกาะ หากเสี้ยนกันนัก หากกูไม่ได้คืน ก็จงอย่ามีใครได้ไป เพื่อเป็นภัยพิภัยในอนาคตของแผ่นดินจีน สีจิ้นผิง คำนวณไว้หมดแล้ว ยังไงถึงกินรวบ ยังไงถึงไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ หมากล้อมจีน คือบีบให้มรึงตายไปเองไงล่ะ เวลาไม่ห่วง จีนไม่รีบ ไม่ร้อน แค่มรึงดิ้นพล่านไปวันวัน กูก็ชนะใสใส)
    03 เมษายน 68
    "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP4 (ซัดเลย..เสียเวลา) แผนสันติภาพอีทรัมปป์พังยับ! ปูตินรู้ล่วงหน้า มาฟอร์มนี้ กูเลยช่วยปิดเกมส์ยูเครนให้จบไวขึ้น ถามสั้นๆ กูไล่ฆ่าพวกมรึงมาเกือบ 3 ปี ยึดพื้นที่ จุดยุทธศาสตร์สำคัญไว้หมด แล้วเรื่องอะไรจะมาหยิบชิ้นปลามันไปง่ายๆ ยูเรเนียมเหรอ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เหรอ? อยากได้ เข้ามาเอาเองสิ? กูจะยึดทั้งแผ่นดินก็ได้ สบายตรีน แต่จะเอาไปทำไมทั้งหมด มันคือรายจ่าย เพราะยูเครนต้องฟื้นฟูเยอะ ทั้งโลก มีแค่จีน รัสเซีย เท่านั้น ที่สามารถให้เงินกู้ ฟื้นฟูประเทศได้ เพราะไอ้ที่เหลือมันเจ๊งกันหมดทั้งโลกแล้ว ทำไมปูตินจะไม่รู้? อะไรน่ะ ไทยโมเดล 9/11 ตึกสตง. ก็อปปี้มาเด๊ะ อำมะหิตมาก ที่นี่เมืองไทยน่ะมรึง ไม่ใช่นิวยอร์ค ยิวฆ่าเหี้ยมะกันขี้ข้า เป็นเรื่องปกติ เพราะแค่เศษเดน ผงธุลีดินในสายตามัน แต่แผ่นดินนี้ของพ่อกู ไอ้อีหน้าไหนร่วมมือกันมาจัดฉากฆ่าคนไทยด้วยกัน มรึงต้องตายโหง! โลกคือละคร เหี้ยจะรู้ล่วงหน้าเสมอ ว่าจะเกิดเหี้ยอะไรก่อน เพราะมันเป็นคนวางแผนไงล่ะ? ชี้ชัดทุกหน่วยงานองคาพยพไทย มีเหลือบจัญไรแผ่นดินแฝงอยู่เต็มไปหมด แดร๊กหมดหากสดชื่น! นี่ขนาดเป็นตึกของสตง. น่ะมรึง? อายหมามั้ยล่ะ? ศึกทะเลแดงยกที่ 99 เหี้ยแพ้ยับตามเคย เหตุผลง่ายๆ คือ เทคโนโลยีเป็นรอง แผนการห่วยขั้นเทพ บุกเข้ามาแบบดื้อๆ คิดว่าอาวุธตัวเองเจ๋ง แล้วเป็นไง ไอ้เครื่องบินชี้เป้าโดนล่อก่อนเพื่อน ใครจะไปคิดว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน พอไร้บินชี้เป้า ไปต่อไม่เป็น เมื่อเยเมนบล็อคสัญญานสั่งการเบ็ดเสร็จ ก็เหลือแค่ล่อเป้าใหญ่กลางมหาสมุทรที่หนีไปไหนไม่รอด ส่งมา 3 ลำใหญ่ กลับไปซ่อมแล้ว 2 นี่เพิ่งจะเริ่มเองน่ะมรึง? โคตรกระจอก ไม่ปรึกษาใคร เมื่อไหร่ มรึงจะรู้ตัวว่า มันคนละชั้น อยู่กันคนละโลกกับความเป็นจริงไปนานแล้ว ไทยไม่รอด โดนกำแพงภาษีเหี้ย 36% แล้วยังไง? มีข้าวกินมั้ย? หลับสบายมั้ย? ส่งออกทั่วโลกได้มั้ย? สินค้าไทย ใครก็ต้องการ เช่นกัน เราก็ขึ้นภาษีย้อนกลับไป เท่าที่มรึงให้มา แล้วมาดูว่า ของใครจะขายได้ ดีออก? 93 ปี ที่มรึงเอาไข่เสนียดมาทิ้งไว้ในบ้านกู จนออกดอก ออกผล อี 3 นิ้วครึ่ง อีทะลุเหี้ยบ้าง พรรคจัญไร นักการเมืองชาติหมา ปชต.ตอแหลหาแดร๊ก อีกไม่นาน อโยธยาจะกลับคืนสู่การปกครองดั่งเดิมผสมยุคใหม่ อัพเกรด 5.1 โปร่งใส รวดเร็ว แค่เปลี่ยนหัว ทุกอย่างเปลี่ยนตาม คืนพระราชอำนาจ ประเทศรอดทันที !! ไม่มีธรรมชาติใดดอกน่ะ ที่เลือกลงโทษได้ โดยเฉพาะผู้ขัดผลประโยชน์ ยิวเหี้ยไซออนนิสต์ จับตาดูให้ดีดี อีทรัมปป์จะเป็น Q หรือไม่ ไม่ต้องไปดูอย่างอื่น หากมันไม่บ่อนทำลาย DEEP STATE ดั่งปากจริง คือ "ปลอม" การกระทำดีกว่าคำพูด อาเซียนถูกล่อด้วยสะกายโมเดล ที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว แม่แต่ตึกสตง.ถล่ม ยังมีกล้องจับภาพได้ทุกทิศ ทุกโมเมนตั่ม นี่มัน 9/11 โมเดลเดียวกันเป๊ะ แค่บอกให้รู้ ว่าสงครามมาเยือนไทย และอาเซียนเรียบร้อยนานแล้ว ไม่ใช่แค่ตอนนี้ มันมาตั้งแต่อีเหลี่ยมชาติหมาได้ขึ้นบังลังก์นั่นแหละ และวันนี้ เพ่น้องคปท.เดินหน้าสั่งลุยแล้ว ตรงไปอาคารรัฐสภา "ระงับแผนกาสิโอ๊ะ" หมายังรู้ นั่นแค่เปลือกนอก เป้าจริงคือล่ออีรัฐบาลหุ่นเชิดวอชิงตันต่างหากล่ะ ภาคประชาชนไทยเค้าตื่นรู้ตลอด ทุกการเคลื่อนไหวคือดักคอ ชี้เป้า ให้ควายไทยตื่น ว่ากำลังจะมีการรวบแดร๊กประเทศครั้งใหญ่ คนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ปลายกลียุค มีแค่ทางออกเดียวคือ "กองทัพต้องออก" การปฎิวัติครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะมา มาเพื่อชำระล้างให้หมดจรด ตามใบสั่งสรวงสวรรค์ ส่วนตัวละครใหม่จะเป็นใคร ไม่ต้องสนใจ? เพราะเค้าเน้นผลลัพธ์ ไม่ได้เน้นหน้าตา เตรียมตัว เตรียมใจ รับการเปลี่ยนแปลงแบบหักมุมได้เลย เอาชาติเป็นใหญ่ หมากที่วางไว้ เริ่มเห็นผลแล้ว ใครเบื่อที่จะรอ ไม่ต้องรอนาน "BLOOD APRIL" มาแล้วจ๊ะ หนียังไงก็หนีไม่พ้น เมื่อรู้ว่าต้องเผชิญหน้า ก็ใส่ให้ยับ ไปให้สุดซอย รอระฆังใหญ่จากบ้านพระอาทิตย์ก็พอ รูปแบบจะไม่เหมือนเดิม ไม่ต้องเปลืองแรง ไม่ต้องลำบาก แค่เล่นให้ตรงจุด ล่อตรงเป้าหมาย ถึงเวลา "ทหารออกเอง" เหนือฟ้ายังมีฟ้า ใครที่คิดว่าต้องไปนอนตบยุงกลางถนนเหมือนเมื่อ 17 ปีก่อน คิดใหม่ซะน่ะ นี่มันยุคดิจิตอลแล้วจ๊ะ มีอีกหลากหลายวิธีที่จะเล่น แล้วได้ผลทันตา ยังไม่บอก เดี๋ยวเหี้ยมันรู้? หมี CNN(จีนส่งกองเรือไปล้อมไต้หวันอีกล่ะ อยู่ดีดี ใครจะทำ? เพราะเค้ารู้ว่ามรึงกำลังจะส่งเหี้ยอะไรเข้ามาเพิ่ม จีนรู้หมด หน่วยข่าวกรองจีน เก่ง ฉลาด และแม่นยำกว่าอีมอดสาด และเหี้ย C รู้ดีว่ามรึงกำลังจะเอาเหี้ยอะไรไปติดตั้ง แค่ออกมายืดเส้นยืดสาย ให้มรึงรู้ชะตากรรม ว่ากูพร้อมจมทั้งเกาะ หากเสี้ยนกันนัก หากกูไม่ได้คืน ก็จงอย่ามีใครได้ไป เพื่อเป็นภัยพิภัยในอนาคตของแผ่นดินจีน สีจิ้นผิง คำนวณไว้หมดแล้ว ยังไงถึงกินรวบ ยังไงถึงไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ หมากล้อมจีน คือบีบให้มรึงตายไปเองไงล่ะ เวลาไม่ห่วง จีนไม่รีบ ไม่ร้อน แค่มรึงดิ้นพล่านไปวันวัน กูก็ชนะใสใส) 03 เมษายน 68
    0 Comments 0 Shares 396 Views 0 Reviews
  • 02-04-68/01 : หมี CNN / BREAKING NEWS "หมีม้าด่วน ม้าเร็ว ม้าหน้ามืด" EP.9

    2 เมษายน "ม่วงทั้งแผ่นดิน" ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน รักสุดจิต สุดใจ เห็นพระเทพแล้ว ยังคงนึกถึงพ่อบนสรวงสวรรค์ จนป่านนี้ ท่านยังปฎิบัติภารกิจไม่เลิก พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ราชวงศ์จักรี ยั่งยืนยง ชาวอโยธยาพร้อมถวายทุกสิ่ง เพื่อให้ทุกพระองค์ท่าน สุขเกษมสำราญ รักพระเทพ แสงสีม่วงจากนภากาศ แจ่มจรัสเหลือเกิน แสงสีทองส่องตามมา พระเทพผอมลง เพราะทรงงานหนักทุกวัน แต่สุขภาพยังแข็งแรง ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน 10000 ปี 10000 ปี ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ..

    มรึงคิดว่าจะเงียบเหรอ ดีออก? อ.ปานเทพซัดกลับอีร่านตุ๊ด วางเงินล้าน มีเท่าไหร่ พอจ่ายมั้ย ไอ้สัส! ตัดต่อเหี้ยๆ หมายังเอือมระอา แถจนควายลาตาย! ยิ่งดิ้น ยิ่งน่าสมเพช เค้ารู้กันหมดทั้งขบวนการแล้ว..ดีออก! พยานปากสำคัญแฉหมดเปลือกทุกขั้นตอน พยานมี หลักฐานมัดเพี๊ยบ กล้องมา คลิปโผล่ เทคนิควิทยาศาสตร์มาเต็ม ควายบอกเลิกเหอะมรึง? ยิ่งแถ ยิ่งอายหมา? สปอตไลท์หายไปไม่กี่วัน วันนี้กลับมาซัดต่อ เพราะเหี้ยปากมันดี จากโดนแค่ไม่กี่กระทง ระวัง มรึงจะโดนเป็นสิบ? เสี้ยนอยากหาผัวในคุกจนตัวสั่น! มรึงจะดิ้นยังไง? เค้ารู้หมดแล้ว ทุกเรื่องราว ผีอีโมหายตัวไปไหน ยังไง เมื่อไหร่ ทิ้งศพลงแม่น้ำกี่โมง รู้หมด ยังจะมาฉี่ท้ายเรือ โดนใบพัดเลยต่ออีก เชิญส่งมรึงไปหาศรีธัญญาน่าจะเหมาะ หรือมรึงวางตัวไว้เพื่อการณ์นี้ จบที่เป็นบ้า ไร้สติ เอาที่มรึงสบายใจ เป็นตุ๊ดน่ะมันไม่ผิดดอก ใครก็เป็นได้ แต่เป็น "ตุ๊ดหนักแผ่นดินเนี่ยสิ" ตุ๊ดดีดี ตุ๊ดสร้างสรรค์ เสียหายเพราะมรึง ทำลายสถาบันตุ๊ดที่มีมาอย่างยาวนาน ภาพขามรึงชัดๆ ยังจะแถไม่เลิก เค้าเรียก "ไปให้สุด แล้วจบที่ขุมนรก" ใครก็ตาม ไอ้อีหน้าไหนก็ตาม หากกล้ามาหาญท้าชะตาฟ้า ดวลกับอ.ปานเทพ กูเห็นมาเยอะแล้ว ศพไม่สวยซักราย อย่างมรึงเนี่ย "ตายคาจอ โง่คาที่ ปากดี ตายเร็วเสมอ"

    อีทรัมปป์ออกอาการ ฮูตีจัดหนัก เละเทะทั้งขบวนกองเรือ เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน ที่เก่าและล้าหลัง ยังกล้าเอาเข้ามาโชว์ หมาไม่เลิก ไปไม่เป็น สภาพยับเยิน สั่งสื่อห้ามลงภาพ แพ้แบบเสียหมา โถ..ขนาดอีเอ๋อ มันสั่ง มันส่ง ไปกี่ร้อยรอบ ผลลัพธ์ไม่แตกต่าง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปวัดกับไฮเปอร์โซนิคของจริง ที่แม้แต่ของมรึงเองยังไม่ผ่าน QC เลย ดีออก? อีทรัมปป์ทำไมจะไม่รู้ แต่ช้าก่อน หากมรึงคิดจะเอาเยเมน เพื่อเป้าหมายจริงคืออิหร่าน กูจะบอกให้เอาบุญว่า อย่าคิดน่ะว่า เค้าจะไม่สวนตูดมรึงกลับบ้าง มัวแต่ส่งเหี้ยมาเที่ยวละลานชาวโลก ระวังหลังบ้านตัวเองให้ดีดี บอกแล้วน่ะ รอบบ้านมรึง ไฮเปอร์โซนิคประจำการนานแล้ว บุกเค้าเพลิน ระวังจะเสียหมาครั้งใหญ่ ทำเนียบขาวถูกยึด สิ่งที่น่ากลัวกว่าไม่ใช่อิหร่าน แต่เป็นคนในแผ่นดินต้องคำสาปมรึงต่างหาก ทั้งอีลา อี DEEP STATE มันจ้องมรึงตาไม่วาง เผลอเป็นเสียบ เงียบเป็นทุบ หยุดเป็นศอก จนตรอกเป็นหมา ยิ่งตอนนี้ มรึงคลั่งหนัก ยุบ ยุบ ยุบ แม่งทุกอย่าง ต่อไป อีตาเพน มันหันปากกระบอกปืนมาล่อมรึงซะเอง ระวังจะหนีไม่ทันน่ะจ๊ะ ที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์กำลังจะวางแผนเข้าไปควบคุมอีตาเพน ตัดงบ โยกย้าย ทั้งหมดเพื่อต่อรอง จะอยู่กับกู หรือจะอยู่เหี้ยอีกฝั่ง มรึงเลือกมา?

    อีเหงียนไม่รอด โดนเหมือนกัน มันถี่ไปมุย? กลัวควายโลกไม่รู้เหรอว่า "ใครทำ?" ความจำสั้นกันจังน่ะมรึง? หลังมรึงล่อจีน ตุรกี พร้อมกัน สมัยอีเอ๋อ หลังจากนั้นไม่นาน พายุก็มา สึนามิก็โผล่ ไฟป่ามาตามนัด โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหายยับ บังเอิญจังน่ะเนี่ย? HAARP ใช้ถี่ไป ระวังมันจะสะท้อนเข้าตัวมรึงเองน่ะ อาเซียนรู้ตัวแล้วว่า นาทีนี้แล้ว หากไม่จับมือกันไล่กระตืบเหี้ย ความมั่นคง ปลอดภัยของอาเซียน ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง หากเหี้ยยังอยู่ ที่ผ่านมา มรึงก่อสงครามไกลตัว แต่งวดนี้ สงครามจะมาหามรึงถึงบ้าน อย่าลืมว่า JOHN KIM เคยพูดอะไรเอาไว้ เรือดำน้ำนิวเคลียร์โผล่ที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนียนับครั้งไม่ถ้วน ตบหน้าเหี้ยถึงถิ่น สัญญานจับ เรดาร์มรึง โคตรห่วย โผล่คราวนี้ จะเอาของขวัญไปฝาก แค่เม็ดเดียว อิ่มทั้งวอชิงตัน อยากลองชิมมั้ยล่ะ? ถามว่าอาเซียนสะเทือนมั้ย? ตอบเลยว่าไม่ เพราะพื้นฐานวางมาดี พึ่งพาตัวเองได้ อาหารมี ยามี พลังงานมี แต่มรึงต่างหากที่ไม่มี ถึงต้องเหี้ยใส่ เพื่อต่อรอง จากนี้ อีเหงียนคงได้จับมือไทย อิเหนา ซ้อมรบกับจีนถี่ยิบ เพราะอ่านเกมส์ว่า เหี้ยมันบุกแปซิฟิคแน่ และกลับกัน เตหะราน และโสมแดง อาจจะบุกหลังบ้านเหี้ยทันที เอาให้ดึงกองกำลังกลับบ้านไม่ทันเลยมรึง ตอนนี้ อีทรัมปป์เตรียมดึงกองกำลังออกจากตะวันออกกลาง เพื่อไปตั้งหลักรับมือ หากจะเปิดแปซิฟิค ขณะที่แนวร่วมเทมรึงซะขนาดนี้ โอกาสตายห่าสูงมาก ไม่ว่าจะทางไหน มรึงก็ดิ้นไม่หลุด หนีไม่พ้น

    พบแล้วจ๊ะ! ทหารมะกัน ที่หายตัวไป เจอตัวเป็นๆ แล้วจ๊ะ กลายเป็นศพคาดินโคลน ใกล้พรมแดนลิทัวเนีย 3 ศพนัวเนีย ไม่ต้องบอกว่าฝีมือใคร? ใครอยู่แถวนั้นล่ะ? ของฝากจากเบลารุสเค้าล่ะ? ซ้อมรบเหรอ มาสิจ๊ะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เข้ามาโซนสีแดงปุ๊บ เงียบหาย ไร้ร่องรอย? ช่วงนี้ ลูคาเชนโก ของขึ้น! หลังได้ของเล่นใหม่ดาหน้าเทกระจาดแบบไม่มีอั้น? อีโปลรู้ชะตากรรม สั่งลุยเมื่อไหร่ จบเร็วแน่ เพราะภูมิประเทศล้อมด้าน ง่ายต่อการโจมตีจากทุกทิศทาง เบลารุส คาลินินกราด เค้าจองกฐินนานแล้ว ยุโรปจะทำอะไรคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่จะไปบุกเค้า แล้วโดนเค้าสวนกลับ ด้วยการยึดแผ่นดิน จะเสียหมาไปจนวันตาย หากจะเทหมดหน้าตัก เพื่อเดินเกมส์สงครามที่ไม่มีวันชนะ ถามคำเดียว "ใครได้ประโยชน์?" แต่ชาวบ้านจะแห่ลงถนนลากหัวไอ้นักการเมืองขายชาติมาตัดหัวแน่ นี่ไง ปชต.ตอแหล มันเคยให้มรึงกินอิ่ม หลับสบายมั้ยล่ะ? NATO เอือมระอา กับอีทรัมปป์ จะลุยก็เสียค่าโง่ ใครจะจ่าย ตุรกีไม่เอาแน่ ตราบใดที่อีแอร์โดกันยังอยู่ คลังแสงหมดไปเยอะ ใครมันจะเติมเพื่อช่วยเศษขยะยูเครนที่กำลังจะตาย ยังไงก็เสร็จรัสเซียไปนานแล้วกันล่ะ?

    ถามจริงดิ? อีทรัมปป์มันเก่งงานอีเว้นต์ "สงครามนุ๊กจะมา" โอม..เพี้ยง ยิงซะทีเหอะ จะได้จบๆ ขั้วใหม่ เค้าไม่กลัว เพราะยิงกันจริง กูถึงมรึงก่อน แล้วของจริง ใครจะปล่อยให้ GPS มรึงทำงานปกติกันล่ะ? ดาวเทียมคือสิ่งแรกที่ขั้วใหม่จะทำลาย ไม่ต้องให้บอก ว่าเค้าเตรียมไว้นานแล้ว อะไรที่อยู่ในอวกาศ มันคือเครื่องจักรสังหารดาวเทียม บอกไบ้ให้ ดาวเทียมจิ๋วอิหร่านเนี่ยแหละ ไอ้ตัวแสบ! มันจะทำหน้าที่ระบุ ชี้เป้า แม้แต่ทำลายตัวเองยังได้ แถมมันยังสามารถปล่อยคลื่นความถี่รบกวนดาวเทียมตัวใหญ่ได้หมด และตอนนี้ มันอยู่บนหัวเหี้ยมะกันตรงนั้นนานแล้ว ไม่ต้องบอกว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง? ฟันธง อีทรัมปป์ไม่กล้า แค่ปั่นตลาดหุ้น เหมือนที่มันทำอยู่ทุกวันนี้ วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ พูดอย่าง เปลี่ยนใจทุก 5 นาที เหตุผลคือ ทับหุ้นลง ช้อนซื้อ แล้วปล่อยข่าวใหม่ ปั่นให้ขึ้นแล้วปล่อยขาย หากแดร๊กง่ายดีมั้ยล่ะ? เพราะควายมันเยอะไง? อิหร่านเหรอ บอกเลย "ให้ไว" กูรอมรึงมาเป็นชาติแล้ว ปากดี เผ่นหางจุกตูด โลกคือละคร สิ่งที่อีทรัมปป์ทำอยู่ตอนนี้คือ ตัดท่อน้ำเลี้ยง DEEP STATE แล้วปั่นหุ้นหาแดร๊ก ไอ้กำแพงภาษีที่ทำโลกป่วนตอนนี้ แค่เคาะกะลาเรียกเรตติ้ง ดูไม่ยากดอก อีทรัมปป์หากรู้ว่ามันจะจบที่ไหน ที่เหลือเดาได้สบาย ทองคำกำเอาไว้ อย่าปล่อย โซเชี่ยลหลอกควายรายวัน ทั่วโลกแห่ช้อนซื้อทองคำ รอคิวยาวเหยียด มรึงจะปล่อยให้โง่? ตราบใดที่ยังไม่มีแร่ใดในโลก ที่จะขึ้นมาเทียบทองคำได้ อย่าปล่อย หากไม่ร้อนเงินจริง? 45000 ก็ทะลุมาแล้ว รอด่านต่อไป 65000 หากยังทะลุต่อ มรึงปล่อยทันที หากร้อนเงิน หากไม่ร้อน เก็บไว้ให้ลูกหลาน ตื่นมาอีกที บาทละ 100000 ไอ้สัส แต่ยังน้อยน่ะ 1 ออนซ์ทองคำ แลกรถยนต์ป้ายแดงอเมริกันได้ 1 คัน มรึงดูค่าเงินแท้จริงมันสิ? แล้วยังจะมีควายไปอุ้มดอลล่าร์ต่ออีกน่ะ?

    ปล.ทฤษฎีสมคบคิดมาเต็ม อะไรน่ะ! ตึกสตง.เลียนแบบ 9/11 ระเบิดรากฐานตึกก่อน ใครเข้าไปตรวจสอบพื้นที่กันล่ะ? หากเป็นอีตำหนวด บอกเลย จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง พร้อมบริการทำลายหลักฐานให้เบ็ดเสร็จ จับพิรุจ ตึกอื่นไม่ถล่ม ทั้งๆ อยู่ติดกัน ห่างกันไม่เยอะ ถล่มตึกเดียว น่าคิดมั้ย? วิถีการลงเป็นแนวดิ่งร่วงทันที เหมือน 9/11 มั้ยล่ะ? ทั้งเรื่องทุนจีนสีเทา ทั้งเรื่องการเมือง ต้องเป็นสตง. ทั้งเรื่องคอรัปชั่น อะไรที่ผุดออกมา ทำให้มรึงได้คิดเสียทีว่า "ความมั่นคง ปลอดภัย จะมาจากไหน" หากเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีหน้าที่บังคับกฎหมายกลายร่างเป็นเหี้ยเสียเอง มรึงจะทำยังไง? สาวไส้ไปมา ก็เรื่องแดร๊ก เหล็กเส้น ออกแบบ เร่งรีบก่อสร้าง เพื่อเบิกงบงวดต่อไป ใครเซ็นต์ ใครรับรองแบบ หนีไม่พ้นคุกจ๊ะ ล่าสุดมีการค้นพบว่า อีก 300 ชีวิตอยู่ใต้ซาก ยังไม่ต้องรีบเชื่อ ปากคนน่ากลัวกว่าปากกา ใครจะเผ่นหนีความผิดก็รีบซะ เพราะอีกไม่นาน การกวาดล้างครั้งใหญ่จะมา เรื่องราวทั้งหมด ที่มันเละเทะ โสมม ต้องโดนล้างด้วยไฮเตอร์ขยี้เหี้ย ใครล่ะ จะทำ? งานนี้สายตรงวังเท่านั้น รับคำสั่งเบื้องบนให้ทำความสะอาดทั้งระบบ ผ่านองคมนตรี แต่ตอนนี้ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยก่อนน่ะ หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยเต็มที่ แต่มีแขกที่ไม่ได้เชิญ เสือกเข้ามาด้วย อีเหี้ยมะกัน กับอียิวเสนียดโลก มันไม่ได้มาช่วยดอก แค่ตามมาดูผลงาน ว่าเรียบร้อยดีมั้ย? เจอหน้าเมื่อไหร่ ฝากบอก ฮูตีคิดมรึงมากน่ะ? จะเอาของขวัญไปฝากถึงบ้านมรึง รอรับให้ดี! จับตา ชักจะมีอะไรน่าสนใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ ทรัมปป์ขู่ขึ้นกำแพงภาษีทั่วโลก ทองคำอาจพุ่งทะลุ $4500 ใครได้ประโยชน์เต็มตรีนกันล่ะ ทรัมปป์แลนด์ รัสเซีย จีน อาจเล่นละครตบตาโลก เพื่อเขย่า DEEP STATE ฝากไว้ให้คิด ใครที่ว่าทรัมปป์เป็น Q จริงหรือไม่ ชัวร์หรือไม่ชัวร์ ให้ดูตอนจบ ว่าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ตายจริงหรือไม่? นั่นคือหลักฐานพิสูจน์คำตอบแท้จริง ใครสายดาร์ก ชอบเรื่องลึกลับ ซับซ้อน งานนี้อาจมีเฮ เพราะบอกเลยว่า อีฟรีเมสัน มันอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว อีร็อดไชน์ อีร็อคกี้ เริ่มเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ หลังเจ้าพ่อตลาดหุ้นอย่างอีบุฟเฟ่ต์ ชิ่งอุ้มเงินสดถอดออกจากตลาดก่อน เพราะรู้ว่า "มันอันตรายถึงขีดสุดแล้ว พร้อมดิ่งนรกทุกเมื่อ" ใครมีหุ้นในมือตอนนี้ หากขาดทุนไม่เยอะ ถอนออกมาอุ้มเงินสดไว้ในมือ อย่าเสียดาย อย่าโลภ เพราะมรึงกำลังจะได้ของถูกแบบช็อคโลกเร็วๆ นี้ เงินสดอุ่นใจ ไม่ต้องฝากความหวังใคร แต่หากขาดทุนเยอะ ก็เก็บเอาไว้ก่อน บอกตรง ชั่วโมงนี้ เหวี่ยงสุดขีด กระโดดสุดตัว เดาไม่ง่าย อยู่ที่มันจะปั่นกันตอนไหน? ตลาดแบบนี้ โอกาสตายสูง หากไม่รวยเละ ก็เจ๊งยับ เพราะขึ้นสุด ลงสุดเช่นกัน เงินสดติดตัวคืออำนาจในมือ ออกจากตัว คืออำนาจคนอื่น

    หมี CNN(ไอ้สัส! อเมริกันอ่วม ซื้อรถแพงขึ้น $12000 แห่หันไปซื้อ EV แม้แพงขึ้นแต่ยังถูกกว่า ยิ่งไปเพิ่มตลาดให้จีน แต่เขี่ยตลาดรถยนต์ตัวเอง ภาคการผลิตอ่วม ทุกอย่างขึ้นหมด เพราะกำแพงภาษีอีทรัมปป์ ดึงโลกมาเล่นเกมส์ปาหี่กันหมด แต่เอเซียสบายตัว ไม่มีมรึง กูก็ยังอยู่ได้สบายดี แต่ยุโรปขี้แตกน่ะสิ ถึงเวลาพึ่งพาตัวเองเสียที แต่คำถามคือ เงินเฟ้อ แรงงานตก ไร้บ้านเพิ่ม สวัสดิการหดหาย เลือกตั้งแล้วได้อะไรดี เลือกตั้งแก้ปากท้องมรึงไม่ได้ แล้วจะเลือกทำพ่อง? สรุปคือแผ่นดินมีแค่กลุ่มคนชั้นสูงปกครอง อย่าถามหาเสรีภาพ สิทธิเหี้ยอะไรทั้งนั้น เป็นได้แค่ขี้ข้าไปจนวันตาย ใครจะรักมรึงจริงกันล่ะ หากไม่ใช่พ่อมรึงเอง?)
    02 เมษายน 68
    11.11 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    02-04-68/01 : หมี CNN / BREAKING NEWS "หมีม้าด่วน ม้าเร็ว ม้าหน้ามืด" EP.9 2 เมษายน "ม่วงทั้งแผ่นดิน" ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน รักสุดจิต สุดใจ เห็นพระเทพแล้ว ยังคงนึกถึงพ่อบนสรวงสวรรค์ จนป่านนี้ ท่านยังปฎิบัติภารกิจไม่เลิก พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ราชวงศ์จักรี ยั่งยืนยง ชาวอโยธยาพร้อมถวายทุกสิ่ง เพื่อให้ทุกพระองค์ท่าน สุขเกษมสำราญ รักพระเทพ แสงสีม่วงจากนภากาศ แจ่มจรัสเหลือเกิน แสงสีทองส่องตามมา พระเทพผอมลง เพราะทรงงานหนักทุกวัน แต่สุขภาพยังแข็งแรง ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน 10000 ปี 10000 ปี ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ.. มรึงคิดว่าจะเงียบเหรอ ดีออก? อ.ปานเทพซัดกลับอีร่านตุ๊ด วางเงินล้าน มีเท่าไหร่ พอจ่ายมั้ย ไอ้สัส! ตัดต่อเหี้ยๆ หมายังเอือมระอา แถจนควายลาตาย! ยิ่งดิ้น ยิ่งน่าสมเพช เค้ารู้กันหมดทั้งขบวนการแล้ว..ดีออก! พยานปากสำคัญแฉหมดเปลือกทุกขั้นตอน พยานมี หลักฐานมัดเพี๊ยบ กล้องมา คลิปโผล่ เทคนิควิทยาศาสตร์มาเต็ม ควายบอกเลิกเหอะมรึง? ยิ่งแถ ยิ่งอายหมา? สปอตไลท์หายไปไม่กี่วัน วันนี้กลับมาซัดต่อ เพราะเหี้ยปากมันดี จากโดนแค่ไม่กี่กระทง ระวัง มรึงจะโดนเป็นสิบ? เสี้ยนอยากหาผัวในคุกจนตัวสั่น! มรึงจะดิ้นยังไง? เค้ารู้หมดแล้ว ทุกเรื่องราว ผีอีโมหายตัวไปไหน ยังไง เมื่อไหร่ ทิ้งศพลงแม่น้ำกี่โมง รู้หมด ยังจะมาฉี่ท้ายเรือ โดนใบพัดเลยต่ออีก เชิญส่งมรึงไปหาศรีธัญญาน่าจะเหมาะ หรือมรึงวางตัวไว้เพื่อการณ์นี้ จบที่เป็นบ้า ไร้สติ เอาที่มรึงสบายใจ เป็นตุ๊ดน่ะมันไม่ผิดดอก ใครก็เป็นได้ แต่เป็น "ตุ๊ดหนักแผ่นดินเนี่ยสิ" ตุ๊ดดีดี ตุ๊ดสร้างสรรค์ เสียหายเพราะมรึง ทำลายสถาบันตุ๊ดที่มีมาอย่างยาวนาน ภาพขามรึงชัดๆ ยังจะแถไม่เลิก เค้าเรียก "ไปให้สุด แล้วจบที่ขุมนรก" ใครก็ตาม ไอ้อีหน้าไหนก็ตาม หากกล้ามาหาญท้าชะตาฟ้า ดวลกับอ.ปานเทพ กูเห็นมาเยอะแล้ว ศพไม่สวยซักราย อย่างมรึงเนี่ย "ตายคาจอ โง่คาที่ ปากดี ตายเร็วเสมอ" อีทรัมปป์ออกอาการ ฮูตีจัดหนัก เละเทะทั้งขบวนกองเรือ เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน ที่เก่าและล้าหลัง ยังกล้าเอาเข้ามาโชว์ หมาไม่เลิก ไปไม่เป็น สภาพยับเยิน สั่งสื่อห้ามลงภาพ แพ้แบบเสียหมา โถ..ขนาดอีเอ๋อ มันสั่ง มันส่ง ไปกี่ร้อยรอบ ผลลัพธ์ไม่แตกต่าง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปวัดกับไฮเปอร์โซนิคของจริง ที่แม้แต่ของมรึงเองยังไม่ผ่าน QC เลย ดีออก? อีทรัมปป์ทำไมจะไม่รู้ แต่ช้าก่อน หากมรึงคิดจะเอาเยเมน เพื่อเป้าหมายจริงคืออิหร่าน กูจะบอกให้เอาบุญว่า อย่าคิดน่ะว่า เค้าจะไม่สวนตูดมรึงกลับบ้าง มัวแต่ส่งเหี้ยมาเที่ยวละลานชาวโลก ระวังหลังบ้านตัวเองให้ดีดี บอกแล้วน่ะ รอบบ้านมรึง ไฮเปอร์โซนิคประจำการนานแล้ว บุกเค้าเพลิน ระวังจะเสียหมาครั้งใหญ่ ทำเนียบขาวถูกยึด สิ่งที่น่ากลัวกว่าไม่ใช่อิหร่าน แต่เป็นคนในแผ่นดินต้องคำสาปมรึงต่างหาก ทั้งอีลา อี DEEP STATE มันจ้องมรึงตาไม่วาง เผลอเป็นเสียบ เงียบเป็นทุบ หยุดเป็นศอก จนตรอกเป็นหมา ยิ่งตอนนี้ มรึงคลั่งหนัก ยุบ ยุบ ยุบ แม่งทุกอย่าง ต่อไป อีตาเพน มันหันปากกระบอกปืนมาล่อมรึงซะเอง ระวังจะหนีไม่ทันน่ะจ๊ะ ที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์กำลังจะวางแผนเข้าไปควบคุมอีตาเพน ตัดงบ โยกย้าย ทั้งหมดเพื่อต่อรอง จะอยู่กับกู หรือจะอยู่เหี้ยอีกฝั่ง มรึงเลือกมา? อีเหงียนไม่รอด โดนเหมือนกัน มันถี่ไปมุย? กลัวควายโลกไม่รู้เหรอว่า "ใครทำ?" ความจำสั้นกันจังน่ะมรึง? หลังมรึงล่อจีน ตุรกี พร้อมกัน สมัยอีเอ๋อ หลังจากนั้นไม่นาน พายุก็มา สึนามิก็โผล่ ไฟป่ามาตามนัด โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหายยับ บังเอิญจังน่ะเนี่ย? HAARP ใช้ถี่ไป ระวังมันจะสะท้อนเข้าตัวมรึงเองน่ะ อาเซียนรู้ตัวแล้วว่า นาทีนี้แล้ว หากไม่จับมือกันไล่กระตืบเหี้ย ความมั่นคง ปลอดภัยของอาเซียน ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง หากเหี้ยยังอยู่ ที่ผ่านมา มรึงก่อสงครามไกลตัว แต่งวดนี้ สงครามจะมาหามรึงถึงบ้าน อย่าลืมว่า JOHN KIM เคยพูดอะไรเอาไว้ เรือดำน้ำนิวเคลียร์โผล่ที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนียนับครั้งไม่ถ้วน ตบหน้าเหี้ยถึงถิ่น สัญญานจับ เรดาร์มรึง โคตรห่วย โผล่คราวนี้ จะเอาของขวัญไปฝาก แค่เม็ดเดียว อิ่มทั้งวอชิงตัน อยากลองชิมมั้ยล่ะ? ถามว่าอาเซียนสะเทือนมั้ย? ตอบเลยว่าไม่ เพราะพื้นฐานวางมาดี พึ่งพาตัวเองได้ อาหารมี ยามี พลังงานมี แต่มรึงต่างหากที่ไม่มี ถึงต้องเหี้ยใส่ เพื่อต่อรอง จากนี้ อีเหงียนคงได้จับมือไทย อิเหนา ซ้อมรบกับจีนถี่ยิบ เพราะอ่านเกมส์ว่า เหี้ยมันบุกแปซิฟิคแน่ และกลับกัน เตหะราน และโสมแดง อาจจะบุกหลังบ้านเหี้ยทันที เอาให้ดึงกองกำลังกลับบ้านไม่ทันเลยมรึง ตอนนี้ อีทรัมปป์เตรียมดึงกองกำลังออกจากตะวันออกกลาง เพื่อไปตั้งหลักรับมือ หากจะเปิดแปซิฟิค ขณะที่แนวร่วมเทมรึงซะขนาดนี้ โอกาสตายห่าสูงมาก ไม่ว่าจะทางไหน มรึงก็ดิ้นไม่หลุด หนีไม่พ้น พบแล้วจ๊ะ! ทหารมะกัน ที่หายตัวไป เจอตัวเป็นๆ แล้วจ๊ะ กลายเป็นศพคาดินโคลน ใกล้พรมแดนลิทัวเนีย 3 ศพนัวเนีย ไม่ต้องบอกว่าฝีมือใคร? ใครอยู่แถวนั้นล่ะ? ของฝากจากเบลารุสเค้าล่ะ? ซ้อมรบเหรอ มาสิจ๊ะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เข้ามาโซนสีแดงปุ๊บ เงียบหาย ไร้ร่องรอย? ช่วงนี้ ลูคาเชนโก ของขึ้น! หลังได้ของเล่นใหม่ดาหน้าเทกระจาดแบบไม่มีอั้น? อีโปลรู้ชะตากรรม สั่งลุยเมื่อไหร่ จบเร็วแน่ เพราะภูมิประเทศล้อมด้าน ง่ายต่อการโจมตีจากทุกทิศทาง เบลารุส คาลินินกราด เค้าจองกฐินนานแล้ว ยุโรปจะทำอะไรคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่จะไปบุกเค้า แล้วโดนเค้าสวนกลับ ด้วยการยึดแผ่นดิน จะเสียหมาไปจนวันตาย หากจะเทหมดหน้าตัก เพื่อเดินเกมส์สงครามที่ไม่มีวันชนะ ถามคำเดียว "ใครได้ประโยชน์?" แต่ชาวบ้านจะแห่ลงถนนลากหัวไอ้นักการเมืองขายชาติมาตัดหัวแน่ นี่ไง ปชต.ตอแหล มันเคยให้มรึงกินอิ่ม หลับสบายมั้ยล่ะ? NATO เอือมระอา กับอีทรัมปป์ จะลุยก็เสียค่าโง่ ใครจะจ่าย ตุรกีไม่เอาแน่ ตราบใดที่อีแอร์โดกันยังอยู่ คลังแสงหมดไปเยอะ ใครมันจะเติมเพื่อช่วยเศษขยะยูเครนที่กำลังจะตาย ยังไงก็เสร็จรัสเซียไปนานแล้วกันล่ะ? ถามจริงดิ? อีทรัมปป์มันเก่งงานอีเว้นต์ "สงครามนุ๊กจะมา" โอม..เพี้ยง ยิงซะทีเหอะ จะได้จบๆ ขั้วใหม่ เค้าไม่กลัว เพราะยิงกันจริง กูถึงมรึงก่อน แล้วของจริง ใครจะปล่อยให้ GPS มรึงทำงานปกติกันล่ะ? ดาวเทียมคือสิ่งแรกที่ขั้วใหม่จะทำลาย ไม่ต้องให้บอก ว่าเค้าเตรียมไว้นานแล้ว อะไรที่อยู่ในอวกาศ มันคือเครื่องจักรสังหารดาวเทียม บอกไบ้ให้ ดาวเทียมจิ๋วอิหร่านเนี่ยแหละ ไอ้ตัวแสบ! มันจะทำหน้าที่ระบุ ชี้เป้า แม้แต่ทำลายตัวเองยังได้ แถมมันยังสามารถปล่อยคลื่นความถี่รบกวนดาวเทียมตัวใหญ่ได้หมด และตอนนี้ มันอยู่บนหัวเหี้ยมะกันตรงนั้นนานแล้ว ไม่ต้องบอกว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง? ฟันธง อีทรัมปป์ไม่กล้า แค่ปั่นตลาดหุ้น เหมือนที่มันทำอยู่ทุกวันนี้ วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ พูดอย่าง เปลี่ยนใจทุก 5 นาที เหตุผลคือ ทับหุ้นลง ช้อนซื้อ แล้วปล่อยข่าวใหม่ ปั่นให้ขึ้นแล้วปล่อยขาย หากแดร๊กง่ายดีมั้ยล่ะ? เพราะควายมันเยอะไง? อิหร่านเหรอ บอกเลย "ให้ไว" กูรอมรึงมาเป็นชาติแล้ว ปากดี เผ่นหางจุกตูด โลกคือละคร สิ่งที่อีทรัมปป์ทำอยู่ตอนนี้คือ ตัดท่อน้ำเลี้ยง DEEP STATE แล้วปั่นหุ้นหาแดร๊ก ไอ้กำแพงภาษีที่ทำโลกป่วนตอนนี้ แค่เคาะกะลาเรียกเรตติ้ง ดูไม่ยากดอก อีทรัมปป์หากรู้ว่ามันจะจบที่ไหน ที่เหลือเดาได้สบาย ทองคำกำเอาไว้ อย่าปล่อย โซเชี่ยลหลอกควายรายวัน ทั่วโลกแห่ช้อนซื้อทองคำ รอคิวยาวเหยียด มรึงจะปล่อยให้โง่? ตราบใดที่ยังไม่มีแร่ใดในโลก ที่จะขึ้นมาเทียบทองคำได้ อย่าปล่อย หากไม่ร้อนเงินจริง? 45000 ก็ทะลุมาแล้ว รอด่านต่อไป 65000 หากยังทะลุต่อ มรึงปล่อยทันที หากร้อนเงิน หากไม่ร้อน เก็บไว้ให้ลูกหลาน ตื่นมาอีกที บาทละ 100000 ไอ้สัส แต่ยังน้อยน่ะ 1 ออนซ์ทองคำ แลกรถยนต์ป้ายแดงอเมริกันได้ 1 คัน มรึงดูค่าเงินแท้จริงมันสิ? แล้วยังจะมีควายไปอุ้มดอลล่าร์ต่ออีกน่ะ? ปล.ทฤษฎีสมคบคิดมาเต็ม อะไรน่ะ! ตึกสตง.เลียนแบบ 9/11 ระเบิดรากฐานตึกก่อน ใครเข้าไปตรวจสอบพื้นที่กันล่ะ? หากเป็นอีตำหนวด บอกเลย จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง พร้อมบริการทำลายหลักฐานให้เบ็ดเสร็จ จับพิรุจ ตึกอื่นไม่ถล่ม ทั้งๆ อยู่ติดกัน ห่างกันไม่เยอะ ถล่มตึกเดียว น่าคิดมั้ย? วิถีการลงเป็นแนวดิ่งร่วงทันที เหมือน 9/11 มั้ยล่ะ? ทั้งเรื่องทุนจีนสีเทา ทั้งเรื่องการเมือง ต้องเป็นสตง. ทั้งเรื่องคอรัปชั่น อะไรที่ผุดออกมา ทำให้มรึงได้คิดเสียทีว่า "ความมั่นคง ปลอดภัย จะมาจากไหน" หากเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีหน้าที่บังคับกฎหมายกลายร่างเป็นเหี้ยเสียเอง มรึงจะทำยังไง? สาวไส้ไปมา ก็เรื่องแดร๊ก เหล็กเส้น ออกแบบ เร่งรีบก่อสร้าง เพื่อเบิกงบงวดต่อไป ใครเซ็นต์ ใครรับรองแบบ หนีไม่พ้นคุกจ๊ะ ล่าสุดมีการค้นพบว่า อีก 300 ชีวิตอยู่ใต้ซาก ยังไม่ต้องรีบเชื่อ ปากคนน่ากลัวกว่าปากกา ใครจะเผ่นหนีความผิดก็รีบซะ เพราะอีกไม่นาน การกวาดล้างครั้งใหญ่จะมา เรื่องราวทั้งหมด ที่มันเละเทะ โสมม ต้องโดนล้างด้วยไฮเตอร์ขยี้เหี้ย ใครล่ะ จะทำ? งานนี้สายตรงวังเท่านั้น รับคำสั่งเบื้องบนให้ทำความสะอาดทั้งระบบ ผ่านองคมนตรี แต่ตอนนี้ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยก่อนน่ะ หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยเต็มที่ แต่มีแขกที่ไม่ได้เชิญ เสือกเข้ามาด้วย อีเหี้ยมะกัน กับอียิวเสนียดโลก มันไม่ได้มาช่วยดอก แค่ตามมาดูผลงาน ว่าเรียบร้อยดีมั้ย? เจอหน้าเมื่อไหร่ ฝากบอก ฮูตีคิดมรึงมากน่ะ? จะเอาของขวัญไปฝากถึงบ้านมรึง รอรับให้ดี! จับตา ชักจะมีอะไรน่าสนใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ ทรัมปป์ขู่ขึ้นกำแพงภาษีทั่วโลก ทองคำอาจพุ่งทะลุ $4500 ใครได้ประโยชน์เต็มตรีนกันล่ะ ทรัมปป์แลนด์ รัสเซีย จีน อาจเล่นละครตบตาโลก เพื่อเขย่า DEEP STATE ฝากไว้ให้คิด ใครที่ว่าทรัมปป์เป็น Q จริงหรือไม่ ชัวร์หรือไม่ชัวร์ ให้ดูตอนจบ ว่าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ตายจริงหรือไม่? นั่นคือหลักฐานพิสูจน์คำตอบแท้จริง ใครสายดาร์ก ชอบเรื่องลึกลับ ซับซ้อน งานนี้อาจมีเฮ เพราะบอกเลยว่า อีฟรีเมสัน มันอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว อีร็อดไชน์ อีร็อคกี้ เริ่มเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ หลังเจ้าพ่อตลาดหุ้นอย่างอีบุฟเฟ่ต์ ชิ่งอุ้มเงินสดถอดออกจากตลาดก่อน เพราะรู้ว่า "มันอันตรายถึงขีดสุดแล้ว พร้อมดิ่งนรกทุกเมื่อ" ใครมีหุ้นในมือตอนนี้ หากขาดทุนไม่เยอะ ถอนออกมาอุ้มเงินสดไว้ในมือ อย่าเสียดาย อย่าโลภ เพราะมรึงกำลังจะได้ของถูกแบบช็อคโลกเร็วๆ นี้ เงินสดอุ่นใจ ไม่ต้องฝากความหวังใคร แต่หากขาดทุนเยอะ ก็เก็บเอาไว้ก่อน บอกตรง ชั่วโมงนี้ เหวี่ยงสุดขีด กระโดดสุดตัว เดาไม่ง่าย อยู่ที่มันจะปั่นกันตอนไหน? ตลาดแบบนี้ โอกาสตายสูง หากไม่รวยเละ ก็เจ๊งยับ เพราะขึ้นสุด ลงสุดเช่นกัน เงินสดติดตัวคืออำนาจในมือ ออกจากตัว คืออำนาจคนอื่น หมี CNN(ไอ้สัส! อเมริกันอ่วม ซื้อรถแพงขึ้น $12000 แห่หันไปซื้อ EV แม้แพงขึ้นแต่ยังถูกกว่า ยิ่งไปเพิ่มตลาดให้จีน แต่เขี่ยตลาดรถยนต์ตัวเอง ภาคการผลิตอ่วม ทุกอย่างขึ้นหมด เพราะกำแพงภาษีอีทรัมปป์ ดึงโลกมาเล่นเกมส์ปาหี่กันหมด แต่เอเซียสบายตัว ไม่มีมรึง กูก็ยังอยู่ได้สบายดี แต่ยุโรปขี้แตกน่ะสิ ถึงเวลาพึ่งพาตัวเองเสียที แต่คำถามคือ เงินเฟ้อ แรงงานตก ไร้บ้านเพิ่ม สวัสดิการหดหาย เลือกตั้งแล้วได้อะไรดี เลือกตั้งแก้ปากท้องมรึงไม่ได้ แล้วจะเลือกทำพ่อง? สรุปคือแผ่นดินมีแค่กลุ่มคนชั้นสูงปกครอง อย่าถามหาเสรีภาพ สิทธิเหี้ยอะไรทั้งนั้น เป็นได้แค่ขี้ข้าไปจนวันตาย ใครจะรักมรึงจริงกันล่ะ หากไม่ใช่พ่อมรึงเอง?) 02 เมษายน 68 11.11 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 696 Views 0 Reviews
  • พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เสริมความเข้มแข็งแก่แสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาในตะวันออกกลาง ด้วยการส่งฝูงบินรบเข้าไปประจำการเพิ่มเติม จากการเปิดเผยของเพนตากอนในวันอังคาร(1เม.ย.) ท่ามกลางยุทธการณ์โจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในเยเมน ที่ลากยาวมานานกว่า 2 สัปดาห์ และคำขู่ทิ้งบอมบ์ใส่อิหร่านของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000031234
    พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เสริมความเข้มแข็งแก่แสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาในตะวันออกกลาง ด้วยการส่งฝูงบินรบเข้าไปประจำการเพิ่มเติม จากการเปิดเผยของเพนตากอนในวันอังคาร(1เม.ย.) ท่ามกลางยุทธการณ์โจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในเยเมน ที่ลากยาวมานานกว่า 2 สัปดาห์ และคำขู่ทิ้งบอมบ์ใส่อิหร่านของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000031234
    Like
    Love
    Angry
    6
    0 Comments 0 Shares 1480 Views 0 Reviews
  • (สัดส่วน) ตุ๊กตากายกรรม...ทำเอง ทำเล่นเอง..เพลิดเพลิน บันเทิงใจ...
    -ลำตัว Stud M14 ยาว 55mm. และ NUT ขนาด 21mm. เพื่อปรับศูนย์ถ่วงได้
    -แขน เหล็กเส้น 4 mm. ยาวข้างละ 4 ซม. ห่างกัน 5 ซม.
    -ขา เหล็กเส้น 4 mm. ยาวข้างละ 7 ซม. แบ่งครึ่ง+ดัดฉาก
    -บาร์โค้งครึ่งวงกลม เหล็กเส้น 4 mm. ยาว 45 ซม.
    -ตุ้ม ทำจากแฟร์นัทแอร์รถยนต์เบอร์ 24 หยอดถ่วงด้วยตะกั่ว(หลอมเหลว)จากแบตเตอรี่เก่า
    (สัดส่วน) ตุ๊กตากายกรรม...ทำเอง ทำเล่นเอง..เพลิดเพลิน บันเทิงใจ... -ลำตัว Stud M14 ยาว 55mm. และ NUT ขนาด 21mm. เพื่อปรับศูนย์ถ่วงได้ -แขน เหล็กเส้น 4 mm. ยาวข้างละ 4 ซม. ห่างกัน 5 ซม. -ขา เหล็กเส้น 4 mm. ยาวข้างละ 7 ซม. แบ่งครึ่ง+ดัดฉาก -บาร์โค้งครึ่งวงกลม เหล็กเส้น 4 mm. ยาว 45 ซม. -ตุ้ม ทำจากแฟร์นัทแอร์รถยนต์เบอร์ 24 หยอดถ่วงด้วยตะกั่ว(หลอมเหลว)จากแบตเตอรี่เก่า
    1 Comments 0 Shares 96 Views 32 0 Reviews
  • วันนี้มาคุยกันสั้นๆ กับสิ่งที่สะดุดตา Storyฯ จากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีฉากงานเลี้ยงและรับประทานอาหารบ่อยมาก ไม่ทราบว่ามีใครสะดุดตากับวิธีการจัดวางอาหารบนโต๊ะหรือไม่ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้ เพราะในละครนี้มีการจัดวางอาหารไว้คล้ายคลึงกับที่ปรากฏไว้ในบันทึกพิธีการราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’

    ในบันทึกโจวหลี่มีหลักการการจัดโต๊ะไว้ให้สะดวกต่อการรับประทาน (ดูได้ในรูปประกอบขวาล่าง) โดยกำหนดว่า 1. เนื้อที่ติดกระดูกและปลาอยู่ด้านซ้ายของผู้นั่ง ถ้ามีทั้งสองอย่าง เนื้อติดกระดูกอยู่บน ปลาอยู่ล่างและหางปลาต้องหันเข้าหาตัวผู้นั่งเพื่อสะดวกต่อการตักเนื้อปลา 2. ส่วนด้านขวานั้นเป็นเนื้อที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว 3. ด้านขวานอกสุดเป็นตำแหน่งของเนื้อย่าง 4. เครื่องขบเคี้ยวหรือแกล้มวางถัดมาด้านในของเนื้อย่าง (ที่นิยมคือต้นหอมนึ่งสุก) 5. เครื่องดื่ม(เช่น น้ำแกง) ไว้ด้านขวาของคนนั่ง สุราก็เช่นกัน 6. น้ำจิ้มต่างๆ อยู่ด้านหน้า 7. ด้านบนเยื้องขวาเป็นเนื้อตากแห้ง/เนื้อหมัก โดยเนื้อตากแห้ง/หมักนี้หากเป็นแบบเส้นตรงไว้ขวา หากแบบไม่ตรงให้ไว้ซ้าย

    จากรูปประกอบล่างขวาจะเห็นว่า พื้นที่ด้านบนตรงกลางและเยื้องไปทางซ้ายของโต๊ะมักจะมีที่ว่าง ตรงนี้ไม่มีกำหนดไว้ว่าต้องวางอะไร จึงถูกใช้เป็นที่วางพวกผลไม้และผักอื่นๆ โดยวางเรียงจากขวามา อย่างเช่นภาพโต๊ะอาหารท่านย่าเฉิงที่ยกมาจากในละครเป็นต้น (รูปประกอบซ้ายล่าง) และแน่นอนว่าพวกเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ มีราคาแพงจึงไม่ใช่ทุกมื้อที่ ‘จัดเต็ม’ อย่างที่กล่าวถึงในบันทึกพิธีการโจวหลี่ ดังนั้น อาหารชนิดใดที่ตรงตามระบุไว้ ให้วางตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ที่ไม่ใช่ค่อยวางตรงพื้นที่เหลือด้านบน

    ภาพจากละครเอามาลงให้ไม่หมดจริงๆ ใครกำลังดูอยู่หรือกลับไปดูซ้ำ ลองสังเกตดูนะคะว่าเขาจัดวางโต๊ะตามที่กล่าวมาข้างต้นอย่างไร เพราะละครเรื่องนี้ว่าตามยุคสมัยฮั่น ซึ่งหลายๆ อย่างยังยึดธรรมเนียมและพิธีการตามโจวหลี่อยู่

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/355808498_528910
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/汉朝饮食/7192206
    https://www.sohu.com/a/580224319_121147311
    https://www.sohu.com/a/355808498_528910
    http://www.ruiwen.com/liyichangshi/2381391.html

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #โจวหลี่ #จัดวางอาหารจีนโบราณ
    วันนี้มาคุยกันสั้นๆ กับสิ่งที่สะดุดตา Storyฯ จากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีฉากงานเลี้ยงและรับประทานอาหารบ่อยมาก ไม่ทราบว่ามีใครสะดุดตากับวิธีการจัดวางอาหารบนโต๊ะหรือไม่ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้ เพราะในละครนี้มีการจัดวางอาหารไว้คล้ายคลึงกับที่ปรากฏไว้ในบันทึกพิธีการราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’ ในบันทึกโจวหลี่มีหลักการการจัดโต๊ะไว้ให้สะดวกต่อการรับประทาน (ดูได้ในรูปประกอบขวาล่าง) โดยกำหนดว่า 1. เนื้อที่ติดกระดูกและปลาอยู่ด้านซ้ายของผู้นั่ง ถ้ามีทั้งสองอย่าง เนื้อติดกระดูกอยู่บน ปลาอยู่ล่างและหางปลาต้องหันเข้าหาตัวผู้นั่งเพื่อสะดวกต่อการตักเนื้อปลา 2. ส่วนด้านขวานั้นเป็นเนื้อที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว 3. ด้านขวานอกสุดเป็นตำแหน่งของเนื้อย่าง 4. เครื่องขบเคี้ยวหรือแกล้มวางถัดมาด้านในของเนื้อย่าง (ที่นิยมคือต้นหอมนึ่งสุก) 5. เครื่องดื่ม(เช่น น้ำแกง) ไว้ด้านขวาของคนนั่ง สุราก็เช่นกัน 6. น้ำจิ้มต่างๆ อยู่ด้านหน้า 7. ด้านบนเยื้องขวาเป็นเนื้อตากแห้ง/เนื้อหมัก โดยเนื้อตากแห้ง/หมักนี้หากเป็นแบบเส้นตรงไว้ขวา หากแบบไม่ตรงให้ไว้ซ้าย จากรูปประกอบล่างขวาจะเห็นว่า พื้นที่ด้านบนตรงกลางและเยื้องไปทางซ้ายของโต๊ะมักจะมีที่ว่าง ตรงนี้ไม่มีกำหนดไว้ว่าต้องวางอะไร จึงถูกใช้เป็นที่วางพวกผลไม้และผักอื่นๆ โดยวางเรียงจากขวามา อย่างเช่นภาพโต๊ะอาหารท่านย่าเฉิงที่ยกมาจากในละครเป็นต้น (รูปประกอบซ้ายล่าง) และแน่นอนว่าพวกเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ มีราคาแพงจึงไม่ใช่ทุกมื้อที่ ‘จัดเต็ม’ อย่างที่กล่าวถึงในบันทึกพิธีการโจวหลี่ ดังนั้น อาหารชนิดใดที่ตรงตามระบุไว้ ให้วางตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ที่ไม่ใช่ค่อยวางตรงพื้นที่เหลือด้านบน ภาพจากละครเอามาลงให้ไม่หมดจริงๆ ใครกำลังดูอยู่หรือกลับไปดูซ้ำ ลองสังเกตดูนะคะว่าเขาจัดวางโต๊ะตามที่กล่าวมาข้างต้นอย่างไร เพราะละครเรื่องนี้ว่าตามยุคสมัยฮั่น ซึ่งหลายๆ อย่างยังยึดธรรมเนียมและพิธีการตามโจวหลี่อยู่ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/355808498_528910 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/汉朝饮食/7192206 https://www.sohu.com/a/580224319_121147311 https://www.sohu.com/a/355808498_528910 http://www.ruiwen.com/liyichangshi/2381391.html #ดาราจักรรักลำนำใจ #โจวหลี่ #จัดวางอาหารจีนโบราณ
    WWW.SOHU.COM
    古人的请客之道,处处有讲究_客人
    除了上菜时需要注意的礼节,菜肴摆放的位置也在《礼记·曲礼》中做了严格的规定:客人面前的桌子上,左边依次为带骨的熟肉、主食(饭),右边依次是大块的熟肉、酒和饮料;在最里边放酱酪调料,外边放烤肉,右边放着蒸…
    1 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • ร้านเรามีหมึกกะตอยตากแห้ง รสชาติดีๆ อร้อย อร่อยย ด้วยนะ…รู้ยัง !!!หมึกกะตอยแห้งเราทำเองนะคะ…รับรองความสะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย…การันตีความอร่อยจากลูกค้าเราค่าาาเราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะเราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … น้ำหนักตัวเบาๆ ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ🐠🐟🤭😍♨️🌶️⭕️✅🐠🐟🫶🏻💋🩷น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะอ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ✅ โปร 1 แถม 1 ชุดน้องเล็ก ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 1 ถุง✅ โปร 1 แถม 2 ชุดลองชิม ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 2 ถุง✅ โปรปังๆ ชุดกลางครึ่งโล ได้น้องหมึก 500 กรัม 1 ถุง✅ โปรสุดปัง ชุดใหญ่ 1 โล ได้น้องหมึก 1 กิโล คือได้ 500 กรัม 2 ถุงนะคะทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นานหยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/o2Uw2jXหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/pckadhHหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/2Xf6uxx❤️ ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    ร้านเรามีหมึกกะตอยตากแห้ง รสชาติดีๆ อร้อย อร่อยย ด้วยนะ…รู้ยัง !!!หมึกกะตอยแห้งเราทำเองนะคะ…รับรองความสะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย…การันตีความอร่อยจากลูกค้าเราค่าาาเราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะเราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … น้ำหนักตัวเบาๆ ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ🐠🐟🤭😍♨️🌶️⭕️✅🐠🐟🫶🏻💋🩷น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะอ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ✅ โปร 1 แถม 1 ชุดน้องเล็ก ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 1 ถุง✅ โปร 1 แถม 2 ชุดลองชิม ได้น้องหมึก 100 กรัม 1 ถุง แถม 100 กรัม 2 ถุง✅ โปรปังๆ ชุดกลางครึ่งโล ได้น้องหมึก 500 กรัม 1 ถุง✅ โปรสุดปัง ชุดใหญ่ 1 โล ได้น้องหมึก 1 กิโล คือได้ 500 กรัม 2 ถุงนะคะทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นานหยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/o2Uw2jXหมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/pckadhHหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/2Xf6uxx❤️ ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 352 Views 0 0 Reviews
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องคุ้นหูคุ้นตากับ ‘คทาหรูอี้’ (หรูอี้/如意 แปลตรงตัวได้ว่า สมดังปรารถนา) บริบทที่เรามักเห็นในนิยาย/ละครจีนบ่อยๆ คือ ฮ่องเต้พระราชทานคทาหรูอี้หยกให้เป็นรางวัลต่อขุนนาง หรือบุรุษสูงศักดิ์มอบคทาหรูอี้ให้สตรีที่ถูกเลือกเป็นภรรยา อย่างเช่นตัวอย่างภาพประกอบยกมาจากละคร <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ตอนที่องค์ชายหงอี้ทรงเลือกชิงอิงเป็นพระชายา (รูปประกอบ1 ซ้าย) หรือเป็นวัตถุมงคลเหมาะกับการมอบให้เป็นของขวัญ

    เคยมีคนเขียนถึงคทาหรูอี้มาแล้วบ้าง ด้วยความหมายที่กล่าวถึงข้างต้น และเพื่อนเพจอาจเคยคุ้นกับการที่มีคทาหรูอี้ปรากฏในรูปภาพและรูปปั้นเทพเจ้าจีน และนักบวชนิยมถือคทาหรูอี้ยามสวดมนต์ ว่ากันว่าการใช้คทาหรูอี้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนานั้นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ

    แต่วันนี้ Storyฯ มาคุยเกี่ยวกับคทาหรูอี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง... เพื่อนเพจเคยสงสัยเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า เข้าใจล่ะว่าชื่อเป็นมงคล แต่คทาหรูอี้ออกจะเทอะทะ... มันไม่มีประโยชน์อื่นนอกจากตั้งโชว์หรือถือไว้เท่ๆ เลยหรือ?

    จากภาพวาดโบราณ (รูปประกอบ 1 ขวา) จะเห็นว่าคทาหรูอี้เป็นของใช้ติดมือของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้แก่ผู้เฒ่า... แสดงว่ามันต้องมีประโยชน์สิน่ะ เพื่อนเพจพอจะเดากันออกหรือไม่?

    จากข้อมูลที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามรวบรวมได้ คทาหรูอี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 206 ก่อนคริสตศักราช - ปีค.ศ. 220) เดิมถูกใช้เป็นไม้เกาหลัง เรียกว่า ‘หรูอี้’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘ไม่ง้อใคร’ (不求人/ปู้ฉิวเหริน) แรกเริ่มมีรูปทรงคล้ายมือ โดยในบันทึกสมัยราชวงศ์ชิง (事物异名录/ซื่ออู้อี้หมิงลู่) ได้เขียนไว้ว่า “หรูอี้นั้นไซร้ เป็นไม้กรงเล็บ”

    นอกจากนี้ ยังมีบทความสมัยราชวงศ์เหนือใต้ว่ามีการใช้คทาหรูอี้เป็นไม้ส่งสัญญาณเคลื่อนทัพในยามศึก นัยว่าเพื่อให้ชนะศึกได้ดังใจหมาย

    คทาหรูอี้กลายเป็นวัตถุประจำตัวที่คนนิยมพกพาเพราะชื่อเป็นมงคลและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก็ได้ จึงพัฒนารูปแบบให้สวยงามมากขึ้น ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นใช้กันแพร่หลายในหลายแคว้นทั้งในวังและนอกวัง โดยสมัยนั้นนิยมให้ด้ามจับโค้งเป็นทรงกลุ่มดาวจระเข้ ตัวด้ามกลมมนเพื่อให้จับถนัดมือ ทำจากไม้ ไม้ไผ่หรือโลหะ มีใช้กันตั้งแต่ในวังยันชาวบ้านธรรมดานอกวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังจึงทำด้ามจับให้แบนลงและเป็นเส้นตรง โค้งที่ปลายหัว

    นานวันเข้า เมื่อถึงสมัยหมิงและชิง คทาหรูอี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะวัตถุมงคลที่ใช้ประดับบ้านเรือนหรือของขวัญ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีในสินสอดของหมั้นของแต่งงาน จึงมีรูปแบบที่วิจิตรขึ้น รูปทรงที่เราคุ้นตาคือหัวเป็นทรงเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในยุคสมัยชิงนั้น คทาหรูอี้เป็นที่นิยมมากในวัง ไม่ว่าจะในงานราชประเพณี การแต่งตั้งขุนนาง การรับทูตจากต่างแดน ฯลฯ ล้วนต้องมีการถือคทาหรูอี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์มงคล

    ปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามมีการเก็บรักษาคทาหรูอี้โบราณไว้กว่าสองพันชิ้นโดยส่วนใหญ่เป็นของสมัยชิง วัสดุที่ใช้ทำคทาหรูอี้นั้นหลากหลาย มีทั้งหยกชนิดต่างๆ ปะการัง ทองคำ เงิน ทองเหลือง งาช้าง ไม้ไผ่และไม้ชนิดต่างๆ และมีการแกะสลักลวดลายมากมายลงบนคทา

    Storyฯ เคยไปเที่ยวเมื่อนานมากแล้ว จำไม่ได้เลยว่าได้เคยเห็นอะไรในพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง เพื่อนเพจท่านใดเคยผ่านตาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.jianshu.com/p/faa99f5d9868
    https://new.qq.com/rain/a/20211210A027EU00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.mct.gov.cn/whzx/zsdw/ggbwy/202102/t20210210_921534.htm
    https://www.sohu.com/a/508658629_322551
    https://baike.baidu.com/item/如意/254746
    https://new.qq.com/rain/a/20220728A054CG00

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #คทาหรูอี้ #วัตถุมงคลจีน #ไม้เกาหลัง
    เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องคุ้นหูคุ้นตากับ ‘คทาหรูอี้’ (หรูอี้/如意 แปลตรงตัวได้ว่า สมดังปรารถนา) บริบทที่เรามักเห็นในนิยาย/ละครจีนบ่อยๆ คือ ฮ่องเต้พระราชทานคทาหรูอี้หยกให้เป็นรางวัลต่อขุนนาง หรือบุรุษสูงศักดิ์มอบคทาหรูอี้ให้สตรีที่ถูกเลือกเป็นภรรยา อย่างเช่นตัวอย่างภาพประกอบยกมาจากละคร <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ตอนที่องค์ชายหงอี้ทรงเลือกชิงอิงเป็นพระชายา (รูปประกอบ1 ซ้าย) หรือเป็นวัตถุมงคลเหมาะกับการมอบให้เป็นของขวัญ เคยมีคนเขียนถึงคทาหรูอี้มาแล้วบ้าง ด้วยความหมายที่กล่าวถึงข้างต้น และเพื่อนเพจอาจเคยคุ้นกับการที่มีคทาหรูอี้ปรากฏในรูปภาพและรูปปั้นเทพเจ้าจีน และนักบวชนิยมถือคทาหรูอี้ยามสวดมนต์ ว่ากันว่าการใช้คทาหรูอี้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนานั้นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ แต่วันนี้ Storyฯ มาคุยเกี่ยวกับคทาหรูอี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง... เพื่อนเพจเคยสงสัยเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า เข้าใจล่ะว่าชื่อเป็นมงคล แต่คทาหรูอี้ออกจะเทอะทะ... มันไม่มีประโยชน์อื่นนอกจากตั้งโชว์หรือถือไว้เท่ๆ เลยหรือ? จากภาพวาดโบราณ (รูปประกอบ 1 ขวา) จะเห็นว่าคทาหรูอี้เป็นของใช้ติดมือของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้แก่ผู้เฒ่า... แสดงว่ามันต้องมีประโยชน์สิน่ะ เพื่อนเพจพอจะเดากันออกหรือไม่? จากข้อมูลที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามรวบรวมได้ คทาหรูอี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 206 ก่อนคริสตศักราช - ปีค.ศ. 220) เดิมถูกใช้เป็นไม้เกาหลัง เรียกว่า ‘หรูอี้’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘ไม่ง้อใคร’ (不求人/ปู้ฉิวเหริน) แรกเริ่มมีรูปทรงคล้ายมือ โดยในบันทึกสมัยราชวงศ์ชิง (事物异名录/ซื่ออู้อี้หมิงลู่) ได้เขียนไว้ว่า “หรูอี้นั้นไซร้ เป็นไม้กรงเล็บ” นอกจากนี้ ยังมีบทความสมัยราชวงศ์เหนือใต้ว่ามีการใช้คทาหรูอี้เป็นไม้ส่งสัญญาณเคลื่อนทัพในยามศึก นัยว่าเพื่อให้ชนะศึกได้ดังใจหมาย คทาหรูอี้กลายเป็นวัตถุประจำตัวที่คนนิยมพกพาเพราะชื่อเป็นมงคลและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก็ได้ จึงพัฒนารูปแบบให้สวยงามมากขึ้น ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นใช้กันแพร่หลายในหลายแคว้นทั้งในวังและนอกวัง โดยสมัยนั้นนิยมให้ด้ามจับโค้งเป็นทรงกลุ่มดาวจระเข้ ตัวด้ามกลมมนเพื่อให้จับถนัดมือ ทำจากไม้ ไม้ไผ่หรือโลหะ มีใช้กันตั้งแต่ในวังยันชาวบ้านธรรมดานอกวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังจึงทำด้ามจับให้แบนลงและเป็นเส้นตรง โค้งที่ปลายหัว นานวันเข้า เมื่อถึงสมัยหมิงและชิง คทาหรูอี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะวัตถุมงคลที่ใช้ประดับบ้านเรือนหรือของขวัญ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีในสินสอดของหมั้นของแต่งงาน จึงมีรูปแบบที่วิจิตรขึ้น รูปทรงที่เราคุ้นตาคือหัวเป็นทรงเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในยุคสมัยชิงนั้น คทาหรูอี้เป็นที่นิยมมากในวัง ไม่ว่าจะในงานราชประเพณี การแต่งตั้งขุนนาง การรับทูตจากต่างแดน ฯลฯ ล้วนต้องมีการถือคทาหรูอี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์มงคล ปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามมีการเก็บรักษาคทาหรูอี้โบราณไว้กว่าสองพันชิ้นโดยส่วนใหญ่เป็นของสมัยชิง วัสดุที่ใช้ทำคทาหรูอี้นั้นหลากหลาย มีทั้งหยกชนิดต่างๆ ปะการัง ทองคำ เงิน ทองเหลือง งาช้าง ไม้ไผ่และไม้ชนิดต่างๆ และมีการแกะสลักลวดลายมากมายลงบนคทา Storyฯ เคยไปเที่ยวเมื่อนานมากแล้ว จำไม่ได้เลยว่าได้เคยเห็นอะไรในพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง เพื่อนเพจท่านใดเคยผ่านตาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.jianshu.com/p/faa99f5d9868 https://new.qq.com/rain/a/20211210A027EU00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.mct.gov.cn/whzx/zsdw/ggbwy/202102/t20210210_921534.htm https://www.sohu.com/a/508658629_322551 https://baike.baidu.com/item/如意/254746 https://new.qq.com/rain/a/20220728A054CG00 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #คทาหรูอี้ #วัตถุมงคลจีน #ไม้เกาหลัง
    WWW.JIANSHU.COM
    【如懿传|如懿】年少情深,也可以走到相看两厌
    一出墙头马上,两心相许。山河依旧,唯人兰因絮果。 如懿的一生都把真心付给了自己的少年郎,年少时的扶持,无人之巅的陪伴,病榻前的守护,相比于甄嬛,她更加令人心疼。 执着勇敢是她...
    Like
    1
    2 Comments 0 Shares 502 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อดี วัดสังฆสิทธาราม จ.นราธิวาส
    เหรียญหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ วัดสังฆสิทธาราม ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2518 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง ศิษย์สายหลวงพ่อครน สุดยอดประสบการณ์ หายาก จัดสร้าง ประมาณ 5000 เหรียญ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** เหรียญมหาอุตย์ ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก อยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม ป้องกันภูตผีปีศาจและโรคภัยไข้เจ็บ แคล้วคลาดอันตราย ความศักดิ์สิทธิ์ทางทางป้องกันอาวุธและทางเมตตามหานิยม >>

    ** หลวงพ่อดีท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อครน***วัดสังฆสิทธาราม ได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2481 เดิมมีนามว่า “ วัดตันหยงมัส ” ได้เปลี่ยนนามวัดเมื่อ พ.ศ. 2482 เป็นวัดสังฆสิทธาราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2492 หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับฉายาว่า พระครูการุญญโสภณ เป็นเจ้าอาวาส องค์แรก ได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ณ วัดพระพุทธ ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก่อนที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์จะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้ย้ายไปอยู่วัดต่าง ๆ ดังนี้ 1.มิถุนายน พ.ศ. 2477 ย้ายไปอยู่ที่วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ 2.สิงหาคม พ.ศ. 2479 ย้ายไปอยู่ที่วัดปริมังคลาวาส อ.สุไหงปาดี 3.กรกฎาคม พ.ศ.2480 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดลอยประดิษฐ์ อ.สุไหงปาดี 4.สิงหาคม พ.ศ. 2483 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม อ.ระแงะ หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูการุญญโสภณ ( ไม่ปรากกฏหลักฐานเมื่อไร ) พร้อมทั้งได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอระแงะ จนกระทั่งได้ถึงแก่มรณภาพ อาพาธด้วยโรคชรา เมื่อ พ.ศ. 2518 รวมศิริอายุได้ 82 ปี 60 พรรษา เหตุผลที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ เป็นที่กล่าวขานและนับถือของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปว่า หลวงพ่อดีมีวาจาสิทธิ์ เพราะลิ้นของหลวงพ่อดีมีปานดำในอุ้งปากมาแต่กำเนิด ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าผู้ที่มีลิ้นดำเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะเป็นดังคำที่พูด เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้าน >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อดี วัดสังฆสิทธาราม จ.นราธิวาส เหรียญหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ วัดสังฆสิทธาราม ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2518 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง ศิษย์สายหลวงพ่อครน สุดยอดประสบการณ์ หายาก จัดสร้าง ประมาณ 5000 เหรียญ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** เหรียญมหาอุตย์ ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก อยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม ป้องกันภูตผีปีศาจและโรคภัยไข้เจ็บ แคล้วคลาดอันตราย ความศักดิ์สิทธิ์ทางทางป้องกันอาวุธและทางเมตตามหานิยม >> ** หลวงพ่อดีท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อครน***วัดสังฆสิทธาราม ได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2481 เดิมมีนามว่า “ วัดตันหยงมัส ” ได้เปลี่ยนนามวัดเมื่อ พ.ศ. 2482 เป็นวัดสังฆสิทธาราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2492 หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับฉายาว่า พระครูการุญญโสภณ เป็นเจ้าอาวาส องค์แรก ได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ณ วัดพระพุทธ ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก่อนที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์จะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้ย้ายไปอยู่วัดต่าง ๆ ดังนี้ 1.มิถุนายน พ.ศ. 2477 ย้ายไปอยู่ที่วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ 2.สิงหาคม พ.ศ. 2479 ย้ายไปอยู่ที่วัดปริมังคลาวาส อ.สุไหงปาดี 3.กรกฎาคม พ.ศ.2480 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดลอยประดิษฐ์ อ.สุไหงปาดี 4.สิงหาคม พ.ศ. 2483 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม อ.ระแงะ หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูการุญญโสภณ ( ไม่ปรากกฏหลักฐานเมื่อไร ) พร้อมทั้งได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอระแงะ จนกระทั่งได้ถึงแก่มรณภาพ อาพาธด้วยโรคชรา เมื่อ พ.ศ. 2518 รวมศิริอายุได้ 82 ปี 60 พรรษา เหตุผลที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ เป็นที่กล่าวขานและนับถือของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปว่า หลวงพ่อดีมีวาจาสิทธิ์ เพราะลิ้นของหลวงพ่อดีมีปานดำในอุ้งปากมาแต่กำเนิด ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าผู้ที่มีลิ้นดำเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะเป็นดังคำที่พูด เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้าน >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • 10 ปี โศกนาฏกรรม Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 เครื่องบินตกที่เทือกเขาแอลป์ จากเหตุ “นักบินผู้ช่วยป่วยจิต” เจตนาฆ่ายกลำ 150 ศพ!

    ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของเยอรมนี และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 10 ปีแล้ว 🚨

    เพราะสิ่งที่ยิ่งกว่าความสูญเสียคือ “ข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยอง” ว่าผู้ช่วยนักบิน ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 150 คนบนเครื่อง ✈️

    ✈️ โศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:41 น. สายการบิน Germanwings เที่ยวบินที่ 4U9525 ได้บินจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ด้วยเครื่องบิน Airbus A320-200 ที่มีอายุการใช้งาน 24 ปี ผู้โดยสารบนเครื่องมีทั้งหมด 144 คน และลูกเรือ 6 คน รวมถึงกัปตัน " แพทริก ซอน เดนไฮเมอร์" (Patrick Son Denheimer) และผู้ช่วยนักบิน "อันเดรียส ลูบริซ" (Andreas Lubitz) 👨‍✈️

    การเดินทางที่ควรจะ "ปกติ" เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปที่ 38,000 ฟุต ⛰️ แต่เพียงไม่นาน... เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงอย่างผิดปกติ โดยไม่มีการติดต่อกลับจากนักบินผู้ช่วย ⚠️

    🚨 สิบนาทีสุดท้าย ก่อนพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเวลาสิบกว่านาทีสุดท้ายของเที่ยวบิน ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วย ได้ใช้โอกาสที่กัปตันเดนไฮเมอร์ ออกไปจากห้องนักบิน กดล็อกประตูไม่ให้กัปตันกลับเข้าไป และตั้งค่าระบบนำร่องอัตโนมัติ ให้เครื่องบินพุ่งต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งชนภูเขาในเขต Massif des Trois-Évêchés ของเทือกเขาแอลป์ 🏔️

    เสียงในห้องนักบินที่บันทึกโดยกล่องดำ (CVR) เผยให้เห็นว่าลูบิตซ์เงียบตลอดเวลาดำเนินการ และไม่ตอบสนองต่อการติดต่อใดๆ แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของกัปตันเดนไฮเมอร์ และเสียงกรีดร้องของผู้โดยสาร ที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตนเอง 😢

    ⚠️ นักบินผู้ช่วยที่ป่วยจิต… และระบบที่พังทลาย ลูบิตซ์มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตเวชที่ซับซ้อนมาก่อน เคยหยุดการฝึกบินกลางคันในปี 2552 ด้วยปัญหาทางจิตใจ แต่ได้รับใบรับรองแพทย์คืนหลังจากผ่านการรักษา ✅

    แม้จะหายป่วยในช่วงหนึ่ง แต่ภายหลังอาการกลับมาอีกครั้งในปี 2557-2558 โดยไม่มีใครในสายการบินรับรู้ เพราะลูบิตซ์เลือก "ปกปิด" ไม่แจ้งข้อมูลนี้กับบริษัท และเพื่อนร่วมงาน เพราะกลัวสูญเสียอาชีพการบิน ที่หลงใหลมาตลอดชีวิต 🛩️

    👉 ปัญหานี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ในระบบตรวจสอบสุขภาพจิตของนักบิน ที่เน้นแต่การคัดกรองและป้องกัน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุน และการฟื้นฟูผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างแท้จริง

    🔍 เบื้องหลังอาชญากรรม "อันเดรียส ลูบิตซ์" เป็นชายหนุ่มชาวเยอรมัน ที่เติบโตในเมือง Montabaur รักการบินมาตั้งแต่เด็ก เริ่มฝึกบินเครื่องร่อนตั้งแต่อายุ 14 ปี มีเส้นทางที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ในอาชีพนักบิน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทำให้กลายเป็นฆาตกรในคราบนักบิน ✈️

    ลูบิตซ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เคยมีความคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และสุดท้าย ก็เลือกจบชีวิตตัวเองบนเครื่องบิน พร้อมกับพรากชีวิตคนอีก 149 คนไปพร้อมกัน ⚰️

    📜 มาตรการความปลอดภัย ที่เปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    มาตรการเร่งด่วนที่ถูกนำมาใช้ทันที
    - ต้องมีนักบินสองคนในห้องนักบินตลอดเวลา (Two-Person Cockpit Rule)
    - เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพจิตของนักบินมากขึ้น 📝
    - ให้สิทธิ์แพทย์ ในการแจ้งข้อมูลสุขภาพจิตของนักบิน ในกรณีเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⚖️

    แต่ปัจจุบัน หลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้ อาจไม่ได้ป้องกันปัญหาที่แท้จริง เพราะระบบยังคงขาดความยืดหยุ่น ในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของนักบิน 😔

    💡 บทเรียนที่ยังคงถูกถกเถียงในวงการการบิน
    - นักบินหลายคนเลือก "โกหก" เพื่อไม่ให้ประวัติสุขภาพจิต มาทำลายอาชีพการบินของตนเอง
    - ความเข้มงวดเกินไปในระบบใบรับรองแพทย์ อาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ มากกว่าการเปิดเผยความจริง
    - จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและสนับสนุน ไม่ใช่การลงโทษคนที่ขอความช่วยเหลือ

    🎯 คำถามคือ เราจะป้องกันไม่ให้เกิด "Andreas Lubitz คนต่อไป" ได้อย่างไร?

    ✨ เหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน 4U9525 เป็นตัวอย่างสะท้อนความสำคัญ ของการตรวจสอบสุขภาพจิตนักบิน อย่างเป็นระบบและมีมนุษยธรรม หากไม่มีการปรับปรุง ระบบเดิมจะยังคงสร้างช่องว่าง ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้อีกครั้ง 💔

    10 ปีผ่านไป... แต่รอยแผลจากวันนั้นยังคงอยู่ และคำถามที่ไร้คำตอบก็คือ "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งนี้จะป้องกันได้ไหม?" ⏳

    ✈️ ความเชื่อใจในนักบินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ "ระบบ" ที่สนับสนุนความปลอดภัยนั้น สำคัญยิ่งกว่า!

    10 ปีแห่งบทเรียนที่ไม่มีวันลืม...

    🕊️ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องฟ้า 🌤️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241018 มี.ค. 2568

    📌 #เที่ยวบิน9525 #Germanwings #โศกนาฏกรรมการบิน #AndreasLubitz #สุขภาพจิตนักบิน #โศกนาฏกรรมเยอรมันวิงส์ #ความปลอดภัยทางการบิน #ห้องนักบิน #อุบัติเหตุการบิน #บินปลอดภัย
    10 ปี โศกนาฏกรรม Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 เครื่องบินตกที่เทือกเขาแอลป์ จากเหตุ “นักบินผู้ช่วยป่วยจิต” เจตนาฆ่ายกลำ 150 ศพ! ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของเยอรมนี และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 10 ปีแล้ว 🚨 เพราะสิ่งที่ยิ่งกว่าความสูญเสียคือ “ข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยอง” ว่าผู้ช่วยนักบิน ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 150 คนบนเครื่อง ✈️ ✈️ โศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:41 น. สายการบิน Germanwings เที่ยวบินที่ 4U9525 ได้บินจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ด้วยเครื่องบิน Airbus A320-200 ที่มีอายุการใช้งาน 24 ปี ผู้โดยสารบนเครื่องมีทั้งหมด 144 คน และลูกเรือ 6 คน รวมถึงกัปตัน " แพทริก ซอน เดนไฮเมอร์" (Patrick Son Denheimer) และผู้ช่วยนักบิน "อันเดรียส ลูบริซ" (Andreas Lubitz) 👨‍✈️ การเดินทางที่ควรจะ "ปกติ" เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปที่ 38,000 ฟุต ⛰️ แต่เพียงไม่นาน... เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงอย่างผิดปกติ โดยไม่มีการติดต่อกลับจากนักบินผู้ช่วย ⚠️ 🚨 สิบนาทีสุดท้าย ก่อนพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเวลาสิบกว่านาทีสุดท้ายของเที่ยวบิน ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วย ได้ใช้โอกาสที่กัปตันเดนไฮเมอร์ ออกไปจากห้องนักบิน กดล็อกประตูไม่ให้กัปตันกลับเข้าไป และตั้งค่าระบบนำร่องอัตโนมัติ ให้เครื่องบินพุ่งต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งชนภูเขาในเขต Massif des Trois-Évêchés ของเทือกเขาแอลป์ 🏔️ เสียงในห้องนักบินที่บันทึกโดยกล่องดำ (CVR) เผยให้เห็นว่าลูบิตซ์เงียบตลอดเวลาดำเนินการ และไม่ตอบสนองต่อการติดต่อใดๆ แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของกัปตันเดนไฮเมอร์ และเสียงกรีดร้องของผู้โดยสาร ที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตนเอง 😢 ⚠️ นักบินผู้ช่วยที่ป่วยจิต… และระบบที่พังทลาย ลูบิตซ์มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตเวชที่ซับซ้อนมาก่อน เคยหยุดการฝึกบินกลางคันในปี 2552 ด้วยปัญหาทางจิตใจ แต่ได้รับใบรับรองแพทย์คืนหลังจากผ่านการรักษา ✅ แม้จะหายป่วยในช่วงหนึ่ง แต่ภายหลังอาการกลับมาอีกครั้งในปี 2557-2558 โดยไม่มีใครในสายการบินรับรู้ เพราะลูบิตซ์เลือก "ปกปิด" ไม่แจ้งข้อมูลนี้กับบริษัท และเพื่อนร่วมงาน เพราะกลัวสูญเสียอาชีพการบิน ที่หลงใหลมาตลอดชีวิต 🛩️ 👉 ปัญหานี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ในระบบตรวจสอบสุขภาพจิตของนักบิน ที่เน้นแต่การคัดกรองและป้องกัน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุน และการฟื้นฟูผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างแท้จริง 🔍 เบื้องหลังอาชญากรรม "อันเดรียส ลูบิตซ์" เป็นชายหนุ่มชาวเยอรมัน ที่เติบโตในเมือง Montabaur รักการบินมาตั้งแต่เด็ก เริ่มฝึกบินเครื่องร่อนตั้งแต่อายุ 14 ปี มีเส้นทางที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ในอาชีพนักบิน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทำให้กลายเป็นฆาตกรในคราบนักบิน ✈️ ลูบิตซ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เคยมีความคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และสุดท้าย ก็เลือกจบชีวิตตัวเองบนเครื่องบิน พร้อมกับพรากชีวิตคนอีก 149 คนไปพร้อมกัน ⚰️ 📜 มาตรการความปลอดภัย ที่เปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ มาตรการเร่งด่วนที่ถูกนำมาใช้ทันที - ต้องมีนักบินสองคนในห้องนักบินตลอดเวลา (Two-Person Cockpit Rule) - เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพจิตของนักบินมากขึ้น 📝 - ให้สิทธิ์แพทย์ ในการแจ้งข้อมูลสุขภาพจิตของนักบิน ในกรณีเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⚖️ แต่ปัจจุบัน หลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้ อาจไม่ได้ป้องกันปัญหาที่แท้จริง เพราะระบบยังคงขาดความยืดหยุ่น ในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของนักบิน 😔 💡 บทเรียนที่ยังคงถูกถกเถียงในวงการการบิน - นักบินหลายคนเลือก "โกหก" เพื่อไม่ให้ประวัติสุขภาพจิต มาทำลายอาชีพการบินของตนเอง - ความเข้มงวดเกินไปในระบบใบรับรองแพทย์ อาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ มากกว่าการเปิดเผยความจริง - จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและสนับสนุน ไม่ใช่การลงโทษคนที่ขอความช่วยเหลือ 🎯 คำถามคือ เราจะป้องกันไม่ให้เกิด "Andreas Lubitz คนต่อไป" ได้อย่างไร? ✨ เหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน 4U9525 เป็นตัวอย่างสะท้อนความสำคัญ ของการตรวจสอบสุขภาพจิตนักบิน อย่างเป็นระบบและมีมนุษยธรรม หากไม่มีการปรับปรุง ระบบเดิมจะยังคงสร้างช่องว่าง ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้อีกครั้ง 💔 10 ปีผ่านไป... แต่รอยแผลจากวันนั้นยังคงอยู่ และคำถามที่ไร้คำตอบก็คือ "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งนี้จะป้องกันได้ไหม?" ⏳ ✈️ ความเชื่อใจในนักบินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ "ระบบ" ที่สนับสนุนความปลอดภัยนั้น สำคัญยิ่งกว่า! 10 ปีแห่งบทเรียนที่ไม่มีวันลืม... 🕊️ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องฟ้า 🌤️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241018 มี.ค. 2568 📌 #เที่ยวบิน9525 #Germanwings #โศกนาฏกรรมการบิน #AndreasLubitz #สุขภาพจิตนักบิน #โศกนาฏกรรมเยอรมันวิงส์ #ความปลอดภัยทางการบิน #ห้องนักบิน #อุบัติเหตุการบิน #บินปลอดภัย
    0 Comments 0 Shares 770 Views 0 Reviews
More Results