• อันตติ ฮัคกาเนน (Antti Häkkänen) รัฐมนตรีกลาโหมฟินแลนด์ กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียส่งเรือรบของกองทัพเรือรัสเซียเข้าคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันที่เรียกว่า “กองเรือเงา” เป็นครั้งแรกในทะเลบอลติก!

    ฮัคกาเนน ยังกล่าวอีกว่า การมีอยู่ของทหารรัสเซียในภูมิภาคแถบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งใหม่ในสถานการณ์ปัจจุบันคือ "รัสเซียกำลังคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันเชิงพาณิชย์ซึ่งเป็นกองเรือเงา ในทิศทางช่องแคบของอ่าวฟินแลนด์ด้วยเรือรบจากกองทัพเรือ ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง”

    👉 แต่สิ่งที่รัฐมนตรีกลาโหมฟินแลนด์ไม่ยอมเอ่ยถึงคือ "เอสโตเนียและฟินแลนด์มีการยั่วยุด้วยการพยายามโจมตีเรือของรัสเซียตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา!!"
    อันตติ ฮัคกาเนน (Antti Häkkänen) รัฐมนตรีกลาโหมฟินแลนด์ กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียส่งเรือรบของกองทัพเรือรัสเซียเข้าคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันที่เรียกว่า “กองเรือเงา” เป็นครั้งแรกในทะเลบอลติก! ฮัคกาเนน ยังกล่าวอีกว่า การมีอยู่ของทหารรัสเซียในภูมิภาคแถบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งใหม่ในสถานการณ์ปัจจุบันคือ "รัสเซียกำลังคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันเชิงพาณิชย์ซึ่งเป็นกองเรือเงา ในทิศทางช่องแคบของอ่าวฟินแลนด์ด้วยเรือรบจากกองทัพเรือ ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง” 👉 แต่สิ่งที่รัฐมนตรีกลาโหมฟินแลนด์ไม่ยอมเอ่ยถึงคือ "เอสโตเนียและฟินแลนด์มีการยั่วยุด้วยการพยายามโจมตีเรือของรัสเซียตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา!!"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองเรือทางเหนือ (The Northern Fleet) ของกองทัพเรือรัสเซีย ฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธร่อน Kalibr โจมตีเป้าหมายหลอกที่ชายฝั่ง จากเรือดำน้ำ Arkhangelsk (อาร์ฮันเกลสก์) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุด

    การฝึกซ้อมดังกล่าว เกิดขึ้นที่น่านน้ำของทะเลแบเรนตส์ (Barents Sea) ที่สนามฝึก Chizh ในภูมิภาค Arkhangelsk โดยมีพิสัยการยิงเกิน 600 กม.
    กองเรือทางเหนือ (The Northern Fleet) ของกองทัพเรือรัสเซีย ฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธร่อน Kalibr โจมตีเป้าหมายหลอกที่ชายฝั่ง จากเรือดำน้ำ Arkhangelsk (อาร์ฮันเกลสก์) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุด การฝึกซ้อมดังกล่าว เกิดขึ้นที่น่านน้ำของทะเลแบเรนตส์ (Barents Sea) ที่สนามฝึก Chizh ในภูมิภาค Arkhangelsk โดยมีพิสัยการยิงเกิน 600 กม.
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • มาเรีย อีเกิล (Maria Eagle) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้านการจัดซื้อจัดจ้างและอุตสาหกรรมแห่งสหราชอาณาจักร (Minister for Defence Procurement and Industry of United Kingdom) ได้แจ้งต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ขีปนาวุธ SPEAR 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตั้งใน F-35B เกิดความล่าช้า ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงต้นปี 2030


    หากไม่มี SPEAR 3 ซึ่งออกแบบให้สามารถโจมตีเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ในระยะ 100 กิโลเมตร ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนอย่างแม่นยำ เครื่องบิน F-35B ถูกส่งเข้าประจำการทั้งในกองทัพเรือและกองทัพอากาศ จะต้องพึ่งระเบิดนำวิถีความแม่นยำสูง Paveway IV ต่อไป ซึ่งการใช้งานจะต้องบินเข้าสู่พื้นที่น่านฟ้าของฝ่ายตรงข้ามเพื่อกำหนดเป้าหมาย นั่นจะทำให้เครื่องบินต้องตกอยู่ในอันตรายจากการถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศเล่นงาน

    ซึ่งหากเปรียบเทียบกับขีปนาวุธ Spear 3 ที่ผลิตโดยผู้สร้างขีปนาวุธ Storm Shadow จะทำให้นักบินสามารถโจมตีจากอากาศใส่เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 60 ไมล์(ราว 96 กิโลเมตร)





    มาเรีย อีเกิล (Maria Eagle) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้านการจัดซื้อจัดจ้างและอุตสาหกรรมแห่งสหราชอาณาจักร (Minister for Defence Procurement and Industry of United Kingdom) ได้แจ้งต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ขีปนาวุธ SPEAR 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตั้งใน F-35B เกิดความล่าช้า ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงต้นปี 2030 หากไม่มี SPEAR 3 ซึ่งออกแบบให้สามารถโจมตีเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ในระยะ 100 กิโลเมตร ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนอย่างแม่นยำ เครื่องบิน F-35B ถูกส่งเข้าประจำการทั้งในกองทัพเรือและกองทัพอากาศ จะต้องพึ่งระเบิดนำวิถีความแม่นยำสูง Paveway IV ต่อไป ซึ่งการใช้งานจะต้องบินเข้าสู่พื้นที่น่านฟ้าของฝ่ายตรงข้ามเพื่อกำหนดเป้าหมาย นั่นจะทำให้เครื่องบินต้องตกอยู่ในอันตรายจากการถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศเล่นงาน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับขีปนาวุธ Spear 3 ที่ผลิตโดยผู้สร้างขีปนาวุธ Storm Shadow จะทำให้นักบินสามารถโจมตีจากอากาศใส่เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 60 ไมล์(ราว 96 กิโลเมตร)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเรือใบของกองทัพเรือเม็กซิโกพุ่งชนสะพานบรูกลิน ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันเสร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 19 ราย เสากระโดงเรือ 3 ต้นหักและพังบางส่วนหลังจากพุ่งชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046401

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เกิดเหตุเรือใบของกองทัพเรือเม็กซิโกพุ่งชนสะพานบรูกลิน ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันเสร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 19 ราย เสากระโดงเรือ 3 ต้นหักและพังบางส่วนหลังจากพุ่งชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046401 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพช่วงเวลาที่กองทัพเรือเอสโตเนียพยายามยึดเรือบรรทุกน้ำมันดิบของกองเรือเงาของรัสเซียในทะเลบอลติก

    ขณะที่เรือ JAGUAR ภายใต้ธงกาบอง กำลังแล่นผ่านน่านน้ำสากลในอ่าวฟินแลนด์เพื่อมุ่งหน้าไปยังท่าเรือพรีมอร์สค์ของรัสเซีย (Russian port of Primorsk) กองทัพเอสโตเนียพยายามบังคับให้เรือตามเข้าไปในน่านน้ำอาณาเขตของเอสโตเนีย เพื่อพวกเขาจะได้มีสิทธิ์กักเรือไว้เรือ

    ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นกองกำลังเอสโตเนียออกคำสั่งให้เรือเปลี่ยนเส้นทาง โดยมีเฮลิคอปเตอร์ AgustaWestland AW139 เครื่องบิน M28 Skytruck และเรือตรวจการณ์ EML Raju (P6732) ของกองทัพเรือเอสโตเนียเข้าใกล้เรือเพื่อบังคับกดดัน

    มีรายงานเพิ่มเติมว่ากองกำลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเอสโตเนียประกอบด้วย:
    🔻เรือลาดตระเวน "Rayu";
    🔻เรือลาดตระเวน "Kurvits";
    🔻เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบก;
    🔻เครื่องบิน PZL M28;
    🔻และสิ่งที่คาดไม่ถึงคือ เครื่องบิน MiG-29 ของกองทัพอากาศโปแลนด์ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ด้วย!

    ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศรัสเซียได้ส่งเครื่องบิน SU-35S เข้ามาเพื่อสนับสนุนเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนีย แต่ก็ส่งผลให้ความพยายามสกัดกั้นเรือล้มเหลวไปในที่สุด
    ภาพช่วงเวลาที่กองทัพเรือเอสโตเนียพยายามยึดเรือบรรทุกน้ำมันดิบของกองเรือเงาของรัสเซียในทะเลบอลติก ขณะที่เรือ JAGUAR ภายใต้ธงกาบอง กำลังแล่นผ่านน่านน้ำสากลในอ่าวฟินแลนด์เพื่อมุ่งหน้าไปยังท่าเรือพรีมอร์สค์ของรัสเซีย (Russian port of Primorsk) กองทัพเอสโตเนียพยายามบังคับให้เรือตามเข้าไปในน่านน้ำอาณาเขตของเอสโตเนีย เพื่อพวกเขาจะได้มีสิทธิ์กักเรือไว้เรือ ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นกองกำลังเอสโตเนียออกคำสั่งให้เรือเปลี่ยนเส้นทาง โดยมีเฮลิคอปเตอร์ AgustaWestland AW139 เครื่องบิน M28 Skytruck และเรือตรวจการณ์ EML Raju (P6732) ของกองทัพเรือเอสโตเนียเข้าใกล้เรือเพื่อบังคับกดดัน มีรายงานเพิ่มเติมว่ากองกำลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเอสโตเนียประกอบด้วย: 🔻เรือลาดตระเวน "Rayu"; 🔻เรือลาดตระเวน "Kurvits"; 🔻เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบก; 🔻เครื่องบิน PZL M28; 🔻และสิ่งที่คาดไม่ถึงคือ เครื่องบิน MiG-29 ของกองทัพอากาศโปแลนด์ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ด้วย! ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศรัสเซียได้ส่งเครื่องบิน SU-35S เข้ามาเพื่อสนับสนุนเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนีย แต่ก็ส่งผลให้ความพยายามสกัดกั้นเรือล้มเหลวไปในที่สุด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายระหว่างประเทศในการขนส่งน้ำมันดิบจากอิหร่านมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังจีน ในนามของเสนาธิการทหารของอิหร่านและบริษัทบังหน้า Sepehr Energy

    โดยที่รายได้จากน้ำมันจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลและยานบินไร้คนขับ การแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นตัวแทนของอิหร่าน รวมถึงการโจมตีของกลุ่มฮูตีต่อการขนส่งทางทะเลแดง กองทัพเรือสหรัฐฯ และอิสราเอล

    กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายระหว่างประเทศในการขนส่งน้ำมันดิบจากอิหร่านมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังจีน ในนามของเสนาธิการทหารของอิหร่านและบริษัทบังหน้า Sepehr Energy โดยที่รายได้จากน้ำมันจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลและยานบินไร้คนขับ การแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นตัวแทนของอิหร่าน รวมถึงการโจมตีของกลุ่มฮูตีต่อการขนส่งทางทะเลแดง กองทัพเรือสหรัฐฯ และอิสราเอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเพิ่มเติม การทดสอบยิงจริงของระบบจรวด M142 HIMARS ที่ซื้อจากสหรัฐเป็นครั้งแรกของไต้หวันระหว่างการฝึกซ้อม Thunder ที่ฐานทัพทหาร Jiupeng

    การฝึกซ้อมนี้เป็นการจำลองการโจมตีต่อกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพเรือจีน
    ระบบ HIMARS ยิงขีปนาวุธ M30/M31 จำนวน 33 ลูก โดยมีพิสัยการยิง 70-94 กม.
    ภาพเพิ่มเติม การทดสอบยิงจริงของระบบจรวด M142 HIMARS ที่ซื้อจากสหรัฐเป็นครั้งแรกของไต้หวันระหว่างการฝึกซ้อม Thunder ที่ฐานทัพทหาร Jiupeng การฝึกซ้อมนี้เป็นการจำลองการโจมตีต่อกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพเรือจีน ระบบ HIMARS ยิงขีปนาวุธ M30/M31 จำนวน 33 ลูก โดยมีพิสัยการยิง 70-94 กม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • สาเหตุที่กองทัพเรืออินเดียเงียบหายไปจากการต่อสู้ครั้งนี้ มีรายงานว่า ลูกเรือทั้งหมด "เมาเรือ" เพราะเรือของอินเดีย โดยเฉพาะเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ มักจะโคลงเคลงแม้ว่าเป็นช่วงที่ทะเลสงบ

    นี่ไม่ใช่มุขตลก เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ของกองทัพเรืออินเดียประสบปัญหาเรื่องการทรงตัว โดยเฉพาะในสภาพทะเลที่สงบ ส่งผลให้ลูกเรือเกิดอาการเมาเรือ

    วิดีโอจากช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของ Modi

    .
    เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ซึ่งเข้าประจำการในปี 2022 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่อินเดียสร้างเองภายในประเทศ แต่การออกแบบและการก่อสร้างของเรือลำนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีปัญหาด้านการทรงตัว

    ปัญหาด้านการทรงตัวมีความสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติการของเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของลูกเรือในการปฏิบัติภารกิจและขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจโดยรวมของเรือบรรทุกเครื่องบิน
    สาเหตุที่กองทัพเรืออินเดียเงียบหายไปจากการต่อสู้ครั้งนี้ มีรายงานว่า ลูกเรือทั้งหมด "เมาเรือ" เพราะเรือของอินเดีย โดยเฉพาะเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ มักจะโคลงเคลงแม้ว่าเป็นช่วงที่ทะเลสงบ นี่ไม่ใช่มุขตลก เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ของกองทัพเรืออินเดียประสบปัญหาเรื่องการทรงตัว โดยเฉพาะในสภาพทะเลที่สงบ ส่งผลให้ลูกเรือเกิดอาการเมาเรือ วิดีโอจากช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของ Modi . เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ซึ่งเข้าประจำการในปี 2022 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่อินเดียสร้างเองภายในประเทศ แต่การออกแบบและการก่อสร้างของเรือลำนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีปัญหาด้านการทรงตัว ปัญหาด้านการทรงตัวมีความสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติการของเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของลูกเรือในการปฏิบัติภารกิจและขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจโดยรวมของเรือบรรทุกเครื่องบิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ Brad Smith รองประธานและรองประธานกรรมการของ Microsoft เปิดเผยว่า พนักงานของบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้แอป DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI จากจีน โดยให้เหตุผลว่า มีความเสี่ยงที่ข้อมูลผู้ใช้จะถูกจัดเก็บในจีน และคำตอบของ AI อาจได้รับอิทธิพลจากโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจีน

    นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งของสหรัฐฯ เช่น กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ ก็ได้แบน DeepSeek เช่นกัน และอาจมีการขยายข้อห้ามเพิ่มเติมผ่าน กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act"

    ✅ Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน
    - เนื่องจาก ความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ

    ✅ DeepSeek ถูกแบนจากหลายหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ
    - รวมถึง กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ

    ✅ กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act" อาจขยายข้อห้ามเพิ่มเติม
    - เพื่อ ป้องกันการใช้ AI ที่อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    ✅ DeepSeek มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ระบุว่าข้อมูลผู้ใช้ถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน
    - และ อยู่ภายใต้กฎหมายจีนที่กำหนดให้ต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล

    ✅ DeepSeek เคยเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ ซึ่งเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายการ
    - ทำให้ เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและความปลอดภัยของผู้ใช้

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-employees-join-the-list-of-those-banned-from-using-deepseek
    Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ Brad Smith รองประธานและรองประธานกรรมการของ Microsoft เปิดเผยว่า พนักงานของบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้แอป DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI จากจีน โดยให้เหตุผลว่า มีความเสี่ยงที่ข้อมูลผู้ใช้จะถูกจัดเก็บในจีน และคำตอบของ AI อาจได้รับอิทธิพลจากโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งของสหรัฐฯ เช่น กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ ก็ได้แบน DeepSeek เช่นกัน และอาจมีการขยายข้อห้ามเพิ่มเติมผ่าน กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act" ✅ Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน - เนื่องจาก ความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ ✅ DeepSeek ถูกแบนจากหลายหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ - รวมถึง กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ ✅ กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act" อาจขยายข้อห้ามเพิ่มเติม - เพื่อ ป้องกันการใช้ AI ที่อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ✅ DeepSeek มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ระบุว่าข้อมูลผู้ใช้ถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน - และ อยู่ภายใต้กฎหมายจีนที่กำหนดให้ต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล ✅ DeepSeek เคยเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ ซึ่งเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายการ - ทำให้ เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและความปลอดภัยของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-employees-join-the-list-of-those-banned-from-using-deepseek
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft employees join the list of those banned from using DeepSeek
    Data security and propaganda concerns cause Microsoft to restrict access
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป "อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนี" โพสต์ข้อความเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะของพันธมิตรยุโรป

    เมื่อแปดสิบปีที่แล้ว "ศัตรูได้วางอาวุธลง"

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเราชาวยุโรปได้สร้างสิ่งที่พิเศษขึ้น นั่นคือ สหภาพแห่งสันติภาพ ประชาธิปไตย และความสามัคคี ซึ่งเป็นเสาหลักแห่งความมั่นคง

    สหภาพของเราถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงการสันติภาพ และยังคงเป็นเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้

    .
    รูป-2
    จอมพล Wilhelm Keitel ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือเยอรมัน ขณะลงนามในตราสารการยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีอย่างไม่มีเงื่อนไข
    อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป "อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนี" โพสต์ข้อความเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะของพันธมิตรยุโรป เมื่อแปดสิบปีที่แล้ว "ศัตรูได้วางอาวุธลง" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเราชาวยุโรปได้สร้างสิ่งที่พิเศษขึ้น นั่นคือ สหภาพแห่งสันติภาพ ประชาธิปไตย และความสามัคคี ซึ่งเป็นเสาหลักแห่งความมั่นคง สหภาพของเราถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงการสันติภาพ และยังคงเป็นเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ . รูป-2 จอมพล Wilhelm Keitel ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือเยอรมัน ขณะลงนามในตราสารการยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีอย่างไม่มีเงื่อนไข
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว เมื่อเวลา 02:10 น. ตามเวลากรุงมอสโกว์ ยูริ เลวิตันได้แจ้งให้ประชาชนโซเวียตทราบถึงการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขของกองทหารเยอรมัน และชัยชนะของมหาสงครามแห่งความรักชาติ

    คำสั่งของจอมพลสูงสุดแห่งสหภาพโซเวียต "สตาลิน" ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 1945 ฉบับที่ 369:

    "เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ณ กรุงเบอร์ลิน ตัวแทนจากกองบัญชาการทหารสูงสุดของเยอรมนีได้ลงนามในหนังสือยินยอมยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขของกองกำลังติดอาวุธของเยอรมนี

    มหาสงครามแห่งความรักชาติที่ประชาชนโซเวียตต่อสู้กับผู้รุกรานนาซี สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะ เยอรมนีพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง...

    เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะโดยสมบูรณ์เหนือเยอรมนี วันนี้ 9 พ.ค. วันแห่งชัยชนะ เวลา 22.00 น. กรุงมอสโก เมืองหลวงของมาตุภูมิของเรา ในนามของมาตุภูมิ ขอสดุดีกองทหารกล้าของกองทัพแดง เรือรบ และหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้รับชัยชนะอันยอดเยี่ยมนี้ด้วยการยิงปืนใหญ่ถึง 30 นัดจากปืนใหญ่กว่า 1,000 กระบอก

    เกียรติยศชั่วนิรันดร์แด่เหล่าวีรบุรุษที่เสียชีวิตในสงครามเพื่ออิสรภาพและเอกราชของมาตุภูมิของเรา!

    กองทัพแดงและกองทัพเรือผู้ได้รับชัยชนะจงเจริญ!”

    👉รูปประกอบ - 🎖️ ข้อความประกาศการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขและคำสั่งประกาศให้วันที่ 9 พฤษภาคมเป็นวันแห่งชัยชนะ
    ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว เมื่อเวลา 02:10 น. ตามเวลากรุงมอสโกว์ ยูริ เลวิตันได้แจ้งให้ประชาชนโซเวียตทราบถึงการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขของกองทหารเยอรมัน และชัยชนะของมหาสงครามแห่งความรักชาติ คำสั่งของจอมพลสูงสุดแห่งสหภาพโซเวียต "สตาลิน" ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 1945 ฉบับที่ 369: "เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ณ กรุงเบอร์ลิน ตัวแทนจากกองบัญชาการทหารสูงสุดของเยอรมนีได้ลงนามในหนังสือยินยอมยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขของกองกำลังติดอาวุธของเยอรมนี มหาสงครามแห่งความรักชาติที่ประชาชนโซเวียตต่อสู้กับผู้รุกรานนาซี สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะ เยอรมนีพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง... เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะโดยสมบูรณ์เหนือเยอรมนี วันนี้ 9 พ.ค. วันแห่งชัยชนะ เวลา 22.00 น. กรุงมอสโก เมืองหลวงของมาตุภูมิของเรา ในนามของมาตุภูมิ ขอสดุดีกองทหารกล้าของกองทัพแดง เรือรบ และหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้รับชัยชนะอันยอดเยี่ยมนี้ด้วยการยิงปืนใหญ่ถึง 30 นัดจากปืนใหญ่กว่า 1,000 กระบอก เกียรติยศชั่วนิรันดร์แด่เหล่าวีรบุรุษที่เสียชีวิตในสงครามเพื่ออิสรภาพและเอกราชของมาตุภูมิของเรา! กองทัพแดงและกองทัพเรือผู้ได้รับชัยชนะจงเจริญ!” 👉รูปประกอบ - 🎖️ ข้อความประกาศการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขและคำสั่งประกาศให้วันที่ 9 พฤษภาคมเป็นวันแห่งชัยชนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 мая - 9 May - 9 พฤษภาคม
    วันแห่งชัยชนะของประชาชนโซเวียตในมหาสงครามแห่งความรักชาติ

    วันที่ 9 พฤษภาคม เป็นวันแห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 (ค.ศ.1941) ถึง พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมระยะเวลา 1,418 วัน

    👉พิธีการยอมจำนนในเบอร์ลิน:
    วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ในเขตชานเมืองของกรุงเบอร์ลิน เวลา 22:43 น. ตามเวลายุโรปกลาง (เนื่องจากเป็นเวลา 00:43 น. ตามเวลามอสโก จึงทำให้เป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ) มีการลงนามในตราสารการยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งถือเป็นการยุติมหาสงครามแห่งความรักชาติ และ สงครามโลกครั้งที่ 2

    ฝ่ายเยอรมัน เอกสารลงนามโดย: จอมพล Wilhelm Keitel ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือเยอรมัน, พันเอก Hans Stumpf ผู้แทนของ Luftwaffe (กองทัพอากาศ), และ พลเรือเอก Hans von Friedeburg ตัวแทนของ Kriegsmarine (กองทัพเรือ)
    ในส่วนของพันธมิตรนั้น จอมพล Georgy Zhukov (จากโซเวียต) และ จอมพล Arthur Tedder (จากสหราชอาณาจักร) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองกำลังพันธมิตร
    ส่วน นายพล Carl Spaats (สหรัฐอเมริกา) และนายพล Jean de Latre de Tassigny (ฝรั่งเศส) ลงนามในฐานะพยาน

    ก่อนหน้าที่จะมีการลงนามใน "พิธีการยอมจำนน" ที่กรุงเบอร์ลิน มีการลงนามกันในแรมส์ ประเทศฝรั่งเศส ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเวลา 2.41 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 สถานที่ในการลงนามเป็นกองบัญชาการกำลังรบนอกประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรสูงสุด (SHAEF) และจะมีผลเมื่อเวลา 23.01 น. ตามเวลายุโรปกลาง ของวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945

    แต่ทางโซเวียตไม่เห็นด้วย เนื่องจากพิธีการลงนามในแรมส์ถูกจัดขึ้นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก โดยไม่ได้ตกลงกับทางกองบัญชาการหลักของโซเวียต ไม่นานหลังจากมีการลงนามยอมจำนนแล้ว ฝ่ายโซเวียตได้ประกาศว่าผู้แทนโซเวียตในแรมส์ พลเอกซูสโลปารอฟ ไม่มีอำนาจที่จะลงนามในตราสารนี้

    ยิ่งไปกว่านี้ บางส่วนของกองทัพเยอรมันปฏิเสธที่จะยอมวางอาวุธและยังคงทำการสู้รบต่อไปในเชโกสโลวาเกีย โดยได้มีการประกาศในสถานีวิทยุเยอรมันว่าเยอรมนีตกลงสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก มิใช่กับฝ่ายโซเวียต

    โซเวียตยืนกรานว่าการลงนามยอมจำนนในแรมส์ ควรเรียกว่าเป็น "พิธีสารชั้นต้นของการยอมจำนน" ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตกลงให้มีพิธีการยอมจำนนอีกครั้งหนึ่งในเบอร์ลิน

    9 мая - 9 May - 9 พฤษภาคม วันแห่งชัยชนะของประชาชนโซเวียตในมหาสงครามแห่งความรักชาติ วันที่ 9 พฤษภาคม เป็นวันแห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 (ค.ศ.1941) ถึง พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมระยะเวลา 1,418 วัน 👉พิธีการยอมจำนนในเบอร์ลิน: วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ในเขตชานเมืองของกรุงเบอร์ลิน เวลา 22:43 น. ตามเวลายุโรปกลาง (เนื่องจากเป็นเวลา 00:43 น. ตามเวลามอสโก จึงทำให้เป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ) มีการลงนามในตราสารการยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งถือเป็นการยุติมหาสงครามแห่งความรักชาติ และ สงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายเยอรมัน เอกสารลงนามโดย: จอมพล Wilhelm Keitel ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือเยอรมัน, พันเอก Hans Stumpf ผู้แทนของ Luftwaffe (กองทัพอากาศ), และ พลเรือเอก Hans von Friedeburg ตัวแทนของ Kriegsmarine (กองทัพเรือ) ในส่วนของพันธมิตรนั้น จอมพล Georgy Zhukov (จากโซเวียต) และ จอมพล Arthur Tedder (จากสหราชอาณาจักร) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองกำลังพันธมิตร ส่วน นายพล Carl Spaats (สหรัฐอเมริกา) และนายพล Jean de Latre de Tassigny (ฝรั่งเศส) ลงนามในฐานะพยาน ก่อนหน้าที่จะมีการลงนามใน "พิธีการยอมจำนน" ที่กรุงเบอร์ลิน มีการลงนามกันในแรมส์ ประเทศฝรั่งเศส ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเวลา 2.41 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 สถานที่ในการลงนามเป็นกองบัญชาการกำลังรบนอกประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรสูงสุด (SHAEF) และจะมีผลเมื่อเวลา 23.01 น. ตามเวลายุโรปกลาง ของวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 แต่ทางโซเวียตไม่เห็นด้วย เนื่องจากพิธีการลงนามในแรมส์ถูกจัดขึ้นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก โดยไม่ได้ตกลงกับทางกองบัญชาการหลักของโซเวียต ไม่นานหลังจากมีการลงนามยอมจำนนแล้ว ฝ่ายโซเวียตได้ประกาศว่าผู้แทนโซเวียตในแรมส์ พลเอกซูสโลปารอฟ ไม่มีอำนาจที่จะลงนามในตราสารนี้ ยิ่งไปกว่านี้ บางส่วนของกองทัพเยอรมันปฏิเสธที่จะยอมวางอาวุธและยังคงทำการสู้รบต่อไปในเชโกสโลวาเกีย โดยได้มีการประกาศในสถานีวิทยุเยอรมันว่าเยอรมนีตกลงสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก มิใช่กับฝ่ายโซเวียต โซเวียตยืนกรานว่าการลงนามยอมจำนนในแรมส์ ควรเรียกว่าเป็น "พิธีสารชั้นต้นของการยอมจำนน" ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตกลงให้มีพิธีการยอมจำนนอีกครั้งหนึ่งในเบอร์ลิน
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา

    “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา”
    .

    เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ"

    เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

    ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน

    เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก

    ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz)

    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o

    ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา” . เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ" เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz) รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเรียกทูตฟิลิปปินส์ประท้วง📌หลังแม่ทัพเรือฟิลิปปิสน์เผยแผนลาดตระเวนร่วมไต้หวัน "ผู้เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" พร้อมแนวโน้มตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดเดินทางไปไต้หวัน 38 ปี-ปรับนโยบายเข้าใกล้สหรัฐ การเผชิญหน้าทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรง กองทัพจีนส่งเรือรบสกัดกั้นฝ่ายฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ👉กระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์เข้าพบเมื่อวันอังคาร ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการหลังพลเรือเอกทรินิแดดแห่งกองทัพเรือฟิลิปปินส์เปิดเผยการหารือความร่วมมือกับไต้หวัน โดยระบุว่ากำลังพิจารณาการลาดตระเวนร่วมในช่องแคบลูซอน และอาจมีกิจกรรมทางทหารร่วมกันในอนาคต นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพฟิลิปปินส์ยอมรับความร่วมมือทางทหารที่อาจเกิดขึ้น แม้ภายหลังทรินิแดดจะชี้แจงว่าหมายถึงความร่วมมือระหว่างประเทศโดยทั่วไป ไม่เฉพาะฟิลิปปินส์-ไต้หวัน สถานทูตจีนในมะนิลาเตือนฟิลิปปินส์ให้ยึดมั่นในหลักการจีนเดียว หยุดการติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และระบุว่า "ผู้ที่เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" นักวิเคราะห์จีนระบุว่าการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการใดๆ กับไต้หวันจะถูกตีความว่าสนับสนุนเอกราชไต้หวัน ฟิลิปปินส์กำลังก้าวในเส้นทางอันตราย อาจนำไปสู่การตอบโต้อย่างรุนแรงรวมถึงทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อประธานาธิบดีมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางที่มีมา 38 ปี ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนใหญ่สามารถเยือนไต้หวันเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนได้ ความสัมพันธ์จีน-ฟิลิปปินส์เสื่อมถอยลงตั้งแต่มาร์กอสปรับนโยบายให้สอดคล้องกับสหรัฐฯ มีการเผชิญหน้าที่รุนแรงขึ้นในทะเลจีนใต้ ล่าสุดหน่วยยามชายฝั่งจีนเพิ่มการลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะสการ์โบโรห์ และกองทัพจีนส่งเรือรบตอบโต้การลาดตระเวนร่วมระหว่างฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ความตึงเครียดเคยเกิดขึ้นเมื่อมาร์กอสแสดงความยินดีกับผู้นำไต้หวันที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว #imctnews รายงาน
    จีนเรียกทูตฟิลิปปินส์ประท้วง📌หลังแม่ทัพเรือฟิลิปปิสน์เผยแผนลาดตระเวนร่วมไต้หวัน "ผู้เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" พร้อมแนวโน้มตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดเดินทางไปไต้หวัน 38 ปี-ปรับนโยบายเข้าใกล้สหรัฐ การเผชิญหน้าทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรง กองทัพจีนส่งเรือรบสกัดกั้นฝ่ายฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ👉กระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์เข้าพบเมื่อวันอังคาร ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการหลังพลเรือเอกทรินิแดดแห่งกองทัพเรือฟิลิปปินส์เปิดเผยการหารือความร่วมมือกับไต้หวัน โดยระบุว่ากำลังพิจารณาการลาดตระเวนร่วมในช่องแคบลูซอน และอาจมีกิจกรรมทางทหารร่วมกันในอนาคต นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพฟิลิปปินส์ยอมรับความร่วมมือทางทหารที่อาจเกิดขึ้น แม้ภายหลังทรินิแดดจะชี้แจงว่าหมายถึงความร่วมมือระหว่างประเทศโดยทั่วไป ไม่เฉพาะฟิลิปปินส์-ไต้หวัน สถานทูตจีนในมะนิลาเตือนฟิลิปปินส์ให้ยึดมั่นในหลักการจีนเดียว หยุดการติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวัน และระบุว่า "ผู้ที่เล่นกับไฟจะพินาศเพราะไฟ" นักวิเคราะห์จีนระบุว่าการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการใดๆ กับไต้หวันจะถูกตีความว่าสนับสนุนเอกราชไต้หวัน ฟิลิปปินส์กำลังก้าวในเส้นทางอันตราย อาจนำไปสู่การตอบโต้อย่างรุนแรงรวมถึงทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อประธานาธิบดีมาร์กอสผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางที่มีมา 38 ปี ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วนใหญ่สามารถเยือนไต้หวันเพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนได้ ความสัมพันธ์จีน-ฟิลิปปินส์เสื่อมถอยลงตั้งแต่มาร์กอสปรับนโยบายให้สอดคล้องกับสหรัฐฯ มีการเผชิญหน้าที่รุนแรงขึ้นในทะเลจีนใต้ ล่าสุดหน่วยยามชายฝั่งจีนเพิ่มการลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะสการ์โบโรห์ และกองทัพจีนส่งเรือรบตอบโต้การลาดตระเวนร่วมระหว่างฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ความตึงเครียดเคยเกิดขึ้นเมื่อมาร์กอสแสดงความยินดีกับผู้นำไต้หวันที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว #imctnews รายงาน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกคำสั่งให้ใช้มาตรการต่างๆเร่งรัดการติดอาวุธนิวเคลียร์แก่กองเรือของกองทัพเรือ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐในวันพุธ(30เม.ย.) ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจากเปียงยางทำการยิงทดสอบระบบอาวุธของเรือรบใหม่เป็นครั้งแรก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000040312

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกคำสั่งให้ใช้มาตรการต่างๆเร่งรัดการติดอาวุธนิวเคลียร์แก่กองเรือของกองทัพเรือ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐในวันพุธ(30เม.ย.) ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจากเปียงยางทำการยิงทดสอบระบบอาวุธของเรือรบใหม่เป็นครั้งแรก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000040312 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1328 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอห์น ฮีลีย์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ยืนยันการส่งกองกำลังไปยูเครนเป็นข้อตกลงที่ทำสำเร็จแล้ว

    โดยที่กองกำลังของอังกฤษจะถูกส่งไปประจำการทางตะวันตกของประเทศ และจะมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูความสามารถในการสู้รบ...

    ตามรายงานของสื่อในอังกฤษ กองกำลังอังกฤษจะถูกส่งไปประจำการในยูเครนตะวันตก ห่างจากแนวหน้า เป้าหมายของอังกฤษ "จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างกองกำลังติดอาวุธที่ทันสมัยและมีศักยภาพของยูเครนขึ้นมาใหม่"

    นอกจากนี้ อังกฤษยังวางแผนเร่งเสริมความสามารถในการป้องกันน่านฟ้าและน่านน้ำที่เป็นอาณาเขตของยูเครนโดยกองทัพอากาศและกองทัพเรือของอังกฤษ

    ด้านเซอร์เกย์ ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เตือนว่าการที่กองกำลังตะวันตกประจำการในยูเครนอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างสองฝ่าย ซึ่งอาจขยายไปถึงนาโต้ทั้งหมด และลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 และยังเน้นย้ำว่าอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียพร้อมใช้งานเสมอ ในกรณีที่ประเทศถูกรุกรานอย่างรุนแรง
    จอห์น ฮีลีย์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ยืนยันการส่งกองกำลังไปยูเครนเป็นข้อตกลงที่ทำสำเร็จแล้ว โดยที่กองกำลังของอังกฤษจะถูกส่งไปประจำการทางตะวันตกของประเทศ และจะมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูความสามารถในการสู้รบ... ตามรายงานของสื่อในอังกฤษ กองกำลังอังกฤษจะถูกส่งไปประจำการในยูเครนตะวันตก ห่างจากแนวหน้า เป้าหมายของอังกฤษ "จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างกองกำลังติดอาวุธที่ทันสมัยและมีศักยภาพของยูเครนขึ้นมาใหม่" นอกจากนี้ อังกฤษยังวางแผนเร่งเสริมความสามารถในการป้องกันน่านฟ้าและน่านน้ำที่เป็นอาณาเขตของยูเครนโดยกองทัพอากาศและกองทัพเรือของอังกฤษ ด้านเซอร์เกย์ ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เตือนว่าการที่กองกำลังตะวันตกประจำการในยูเครนอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างสองฝ่าย ซึ่งอาจขยายไปถึงนาโต้ทั้งหมด และลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 และยังเน้นย้ำว่าอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียพร้อมใช้งานเสมอ ในกรณีที่ประเทศถูกรุกรานอย่างรุนแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!!
    สหรัฐสูญเสียเครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet มูลค่า 72 ล้านดอลลาร์ (ประมาณสองพันสามร้อยล้านบาท) ขณะปฏิบัติภารกิจในทะเลแดงไปอีกหนึ่งลำ

    กองทัพเรือสหรัฐรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน เรือ USS Harry S. Truman (#CVN75) ซึ่งปฏิบัติการในทะเลแดง สูญเสียเครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet ที่ได้รับมอบหมายให้ประจำการในฝูงบินรบโจมตีที่ 136 (VFA-136) รวมทั้งรถลากจูงอีก 1 คัน

    "F/A-18E กำลังถูกลากจูงเข้าไปในช่องเก็บเครื่องบิน แต่ขณะนั้นลูกเรือไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้" กองทัพเรือสหรัฐรายงาน

    นอกจากนี้ กองทัพเรือยังรายงานด้วยว่ามีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 1 นายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    กองทัพสหรัฐฯ กำลังวางแผนเร่งกู้ซากเครื่องบินดังกล่าว

    ทางด้านสื่อของสหรัฐรายงานว่า สาเหตุที่แท้จริงของเครื่องบิน F/A-18E ที่ตกจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เกิดจากเรือบรรทุกเครื่องบินจำเป็นต้องเลี้ยวโค้งอย่างแรงเพื่อหลีกเลี่ยงขีปนาวุธของกลุ่มฮูตีขณะกำลังเข้าโจมตี

    หากสื่อรายงานเป็นเรื่องจริงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบหลายชั้นที่มีความสมบูรณ์ระดับโลกของเรือบรรทุกเครื่องบินเหล่านี้ ว่าเหตุใดจึงต้องหลบเลี่ยงขีปนาวุธขนาดนั้น

    ภาพวิดีโอเครื่องบินขับไล่ F/A-18 ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 16 เมษายน โดยกัปตันคริสโตเฟอร์ “โชวดาห์” ฮิลล์ ( Capt. Christopher “Chowdah” Hill) กับตันเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman
    ด่วน!! สหรัฐสูญเสียเครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet มูลค่า 72 ล้านดอลลาร์ (ประมาณสองพันสามร้อยล้านบาท) ขณะปฏิบัติภารกิจในทะเลแดงไปอีกหนึ่งลำ กองทัพเรือสหรัฐรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน เรือ USS Harry S. Truman (#CVN75) ซึ่งปฏิบัติการในทะเลแดง สูญเสียเครื่องบินรบ F/A-18E Super Hornet ที่ได้รับมอบหมายให้ประจำการในฝูงบินรบโจมตีที่ 136 (VFA-136) รวมทั้งรถลากจูงอีก 1 คัน "F/A-18E กำลังถูกลากจูงเข้าไปในช่องเก็บเครื่องบิน แต่ขณะนั้นลูกเรือไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้" กองทัพเรือสหรัฐรายงาน นอกจากนี้ กองทัพเรือยังรายงานด้วยว่ามีลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 1 นายจากเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพสหรัฐฯ กำลังวางแผนเร่งกู้ซากเครื่องบินดังกล่าว ทางด้านสื่อของสหรัฐรายงานว่า สาเหตุที่แท้จริงของเครื่องบิน F/A-18E ที่ตกจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เกิดจากเรือบรรทุกเครื่องบินจำเป็นต้องเลี้ยวโค้งอย่างแรงเพื่อหลีกเลี่ยงขีปนาวุธของกลุ่มฮูตีขณะกำลังเข้าโจมตี หากสื่อรายงานเป็นเรื่องจริงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบหลายชั้นที่มีความสมบูรณ์ระดับโลกของเรือบรรทุกเครื่องบินเหล่านี้ ว่าเหตุใดจึงต้องหลบเลี่ยงขีปนาวุธขนาดนั้น ภาพวิดีโอเครื่องบินขับไล่ F/A-18 ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 16 เมษายน โดยกัปตันคริสโตเฟอร์ “โชวดาห์” ฮิลล์ ( Capt. Christopher “Chowdah” Hill) กับตันเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน

    RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน

    การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง

    ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่
    - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว
    - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน

    ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ
    - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50%
    - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
    - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

    ✅ การนำเสนอผลงาน
    - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation

    https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่ - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50% - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ✅ การนำเสนอผลงาน - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots use Cornell's RHyME AI to learn new skills by watching just one video
    Researchers at Cornell University are now charting a new course with RHyME, an artificial intelligence framework that dramatically streamlines robot learning. An acronym for Retrieval for Hybrid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ควงบุตรสาวสุดที่รัก "คิม จูแอ" ร่วมพิธีเปิดตัวเรือพิฆาตอเนกประสงค์ลำใหม่ของกองทัพโสมแดงซึ่งมีขนาด 5,000 ตัน และติดตั้ง “ระบบอาวุธอันทรงพลังที่สุด” ตามรายงานของสื่อวันนี้ (26 เม.ย.)

    โจ ชุน-รยอง เลขาธิการคนหนึ่งของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ระบุว่า เรือรบลำนี้ “สร้างเสร็จภายในเวลาแค่ 400 วันด้วยพลังและเทคโนโลยีของเราเอง”

    ด้านผู้นำ คิม ระบุในสุนทรพจน์ระหว่างพิธีเปิดตัวเรือว่า เรือพิฆาตลำนี้จะถูกส่งมอบให้กับกองทัพเรือเกาหลีเหนือ และเริ่มประจำการภายในต้นปีหน้า

    พิธีเปิดตัวเรือเกิดขึ้นวานนี้ (25) ที่อู่ต่อเรือนัมโป และถือเป็นสัญลักษณ์ของ “ยุคสมัยแห่งการสร้างกองเรือรบที่ยิ่งใหญ่ในสไตล์ คิม จองอึน” ตามรายงานของ KCNA ซึ่งอ้างคำพูดของ พล.ร.ท. พัค กวางซอป

    เรือลำนี้ถูกจัดให้เป็นเรือพิฆาตชั้น ‘โชฮยอน’ (Choe Hyon-class) ซึ่งเป็นการขนานนามตามชื่อของอดีตนักรบและนักปฏิวัติต่อต้านญี่ปุ่น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/around/detail/9680000039110

    #MGROnline #คิมจองอึน #ผู้นำเกาหลีเหนือ
    คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ควงบุตรสาวสุดที่รัก "คิม จูแอ" ร่วมพิธีเปิดตัวเรือพิฆาตอเนกประสงค์ลำใหม่ของกองทัพโสมแดงซึ่งมีขนาด 5,000 ตัน และติดตั้ง “ระบบอาวุธอันทรงพลังที่สุด” ตามรายงานของสื่อวันนี้ (26 เม.ย.) • โจ ชุน-รยอง เลขาธิการคนหนึ่งของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ระบุว่า เรือรบลำนี้ “สร้างเสร็จภายในเวลาแค่ 400 วันด้วยพลังและเทคโนโลยีของเราเอง” • ด้านผู้นำ คิม ระบุในสุนทรพจน์ระหว่างพิธีเปิดตัวเรือว่า เรือพิฆาตลำนี้จะถูกส่งมอบให้กับกองทัพเรือเกาหลีเหนือ และเริ่มประจำการภายในต้นปีหน้า • พิธีเปิดตัวเรือเกิดขึ้นวานนี้ (25) ที่อู่ต่อเรือนัมโป และถือเป็นสัญลักษณ์ของ “ยุคสมัยแห่งการสร้างกองเรือรบที่ยิ่งใหญ่ในสไตล์ คิม จองอึน” ตามรายงานของ KCNA ซึ่งอ้างคำพูดของ พล.ร.ท. พัค กวางซอป • เรือลำนี้ถูกจัดให้เป็นเรือพิฆาตชั้น ‘โชฮยอน’ (Choe Hyon-class) ซึ่งเป็นการขนานนามตามชื่อของอดีตนักรบและนักปฏิวัติต่อต้านญี่ปุ่น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/around/detail/9680000039110 • #MGROnline #คิมจองอึน #ผู้นำเกาหลีเหนือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย


    👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

    ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้:
    👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง
    👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ
    👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน
    👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)
    👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด

    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย 👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้: 👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง 👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ 👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน 👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) 👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1126 มุมมอง 0 รีวิว
  • จนถึงขณะนี้ รัฐบาลเอสโตเนียยังไม่ได้ทำอะไรกับเรือบรรทุกน้ำมัน Kiwala นอกจากแค่กักตัวไว้เท่านั้น แต่ยังไม้ได้ประกาศยึดเรือ

    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คาดว่าเอสโตเนียกำลังชั่งใจว่า การยึดเรือจะนำไปสู่การตอบโต้จากรัสเซียอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ขณะนี้เรือ Kiwala ถูกกักไว้ใกล้เกาะเอญญาในอ่าวมูกา กองทัพเรือของประเทศเอสโตเนียระบุว่าจุดประสงค์ในการกักตัวเพื่อตรวจสอบเอกสารและสถานะทางกฎหมายของเรือบรรทุกน้ำมันที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันดิบเท่านั้น ยังไม่มีแผนดำเนินการอะไรไปมากกว่านี้

    "สรุปว่าพวกเขาอยากยึดเรือ เพื่อเอาใจยุโรป แต่พวกเขายังไม่รู้จริงๆว่าจะทำอย่างไรหากรัสเซียตอบโต้ เพราะพวกเขาไม่เคยทำสงครามจริงจังมาก่อน"
    จนถึงขณะนี้ รัฐบาลเอสโตเนียยังไม่ได้ทำอะไรกับเรือบรรทุกน้ำมัน Kiwala นอกจากแค่กักตัวไว้เท่านั้น แต่ยังไม้ได้ประกาศยึดเรือ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คาดว่าเอสโตเนียกำลังชั่งใจว่า การยึดเรือจะนำไปสู่การตอบโต้จากรัสเซียอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะนี้เรือ Kiwala ถูกกักไว้ใกล้เกาะเอญญาในอ่าวมูกา กองทัพเรือของประเทศเอสโตเนียระบุว่าจุดประสงค์ในการกักตัวเพื่อตรวจสอบเอกสารและสถานะทางกฎหมายของเรือบรรทุกน้ำมันที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันดิบเท่านั้น ยังไม่มีแผนดำเนินการอะไรไปมากกว่านี้ "สรุปว่าพวกเขาอยากยึดเรือ เพื่อเอาใจยุโรป แต่พวกเขายังไม่รู้จริงๆว่าจะทำอย่างไรหากรัสเซียตอบโต้ เพราะพวกเขาไม่เคยทำสงครามจริงจังมาก่อน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • มีรายงานที่น่าสนใจ:

    มีการตรวจพบการเคลื่อนไหวของเครื่องบินตรวจการณ์ E-2D Hawkeye ของกองทัพเรือสหรัฐฯ (ทะเบียน 169077) บินมาจากนอร์ฟอล์กเมื่อวันที่ 1 เมษายน เข้ามาในภูมิภาคตะวันออกกลาง

    ในทิศทางนี้ มีเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Truman ของกองทัพเรือสหรัฐที่ประจำการในทะเลแดง ซึ่งมีเครื่องบินประเภทนี้ประจำการอยู่ 2 ลำ


    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่งมีรายงานว่ากลุ่มฮูตีในเยเมนทำการยิงเครื่องบินตรวจการณ์ E-2D Hawkeye แต่ข่าวการโจมตีในวันนั้น ไม่ได้รับการยืนยันจากสหรัฐแต่อย่างใด



    น่าสนใจที่เครื่องบินตรวจการณ์ลำนี้ เพิ่งบินออกจากนอร์ฟอล์กในวันที่ 1 เมษายน (48 ชั่วโมงต่อมา)
    มีรายงานที่น่าสนใจ: มีการตรวจพบการเคลื่อนไหวของเครื่องบินตรวจการณ์ E-2D Hawkeye ของกองทัพเรือสหรัฐฯ (ทะเบียน 169077) บินมาจากนอร์ฟอล์กเมื่อวันที่ 1 เมษายน เข้ามาในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในทิศทางนี้ มีเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Truman ของกองทัพเรือสหรัฐที่ประจำการในทะเลแดง ซึ่งมีเครื่องบินประเภทนี้ประจำการอยู่ 2 ลำ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่งมีรายงานว่ากลุ่มฮูตีในเยเมนทำการยิงเครื่องบินตรวจการณ์ E-2D Hawkeye แต่ข่าวการโจมตีในวันนั้น ไม่ได้รับการยืนยันจากสหรัฐแต่อย่างใด น่าสนใจที่เครื่องบินตรวจการณ์ลำนี้ เพิ่งบินออกจากนอร์ฟอล์กในวันที่ 1 เมษายน (48 ชั่วโมงต่อมา)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนจัดซ้อมรบด้วยกระสุนจริงชุดใหญ่รอบเกาะไต้หวัน ด้วยการส่งทั้งกองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และขีปนาวุธเข้าโอบล้อม ในยุทธวิธีปิดกั้นเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ในพื้นที่ห่างจากทางใต้ของเกาะไปประมาณ 40 ไมล์ทะเล (74 กิโลเมตร)

    จีนกล่าวว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งคำเตือนที่เด็ดขาดและแข็งกร้าวต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน

    การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ กล่าวว่าสถานการณ์กับจีนทีเพียงอย่างเดียวนั่นคือการทำสงคราม และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และยังกล่าวอีกว่า สหรัฐพร้อมสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ โดยจะลดการสนับสนุนในภูมิภาคอื่น เพื่อมุ่งเป้ามาที่จีนแห่งเดียว

    การซ้อมรบในสัปดาห์นี้เป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

    จีนจัดซ้อมรบด้วยกระสุนจริงชุดใหญ่รอบเกาะไต้หวัน ด้วยการส่งทั้งกองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และขีปนาวุธเข้าโอบล้อม ในยุทธวิธีปิดกั้นเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ในพื้นที่ห่างจากทางใต้ของเกาะไปประมาณ 40 ไมล์ทะเล (74 กิโลเมตร) จีนกล่าวว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งคำเตือนที่เด็ดขาดและแข็งกร้าวต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ กล่าวว่าสถานการณ์กับจีนทีเพียงอย่างเดียวนั่นคือการทำสงคราม และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และยังกล่าวอีกว่า สหรัฐพร้อมสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ โดยจะลดการสนับสนุนในภูมิภาคอื่น เพื่อมุ่งเป้ามาที่จีนแห่งเดียว การซ้อมรบในสัปดาห์นี้เป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts