• นักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ ดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังเครื่องบินขับไล่ล้ำสมัย F-35 เกิดขัดข้อง ก่อนร่วงกระแทกพื้น ระเบิดไฟลุกท่วม ระหว่างภารกิจฝึกฝน ณ ฐานทัพอากาศไอเอลสัน ในรัฐอะแลสกา เมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.)
    .
    นาวาอากาศเอกพอล ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุนักบินประสบปัญหาขัดข้องระหว่างทำการบิน แต่สามารถดีดตัวออกมาได้ทัน และเครื่องบินโหม่งโลกระหว่างขั้นตอนการลงจอด
    .
    "นักบินแจ้งเหตุฉุกเฉินระหว่างทำการบินก่อนประสบเหตุ และได้รับรายงานว่าเขาอยู่ในอาการทรงตัว หลังจากถูกพาตัวส่งสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง" นาวาอากาศเอกทาวน์เซนด์กล่ว "นักบินปลอดภัย และถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทหารบาสเซตต์ เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม ผมรับประกันกับคุณว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ จะทำการสืบนสวนอย่างละเอียด ในความหวังเพื่อลดโอกาส ไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก"
    .
    กองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ยืนยันในถ้อยแถลงว่า "อุบัติเหตุทางเครื่องบิน" เกิดขึ้นตอน 12.49 น.ตามเวลาท้องถิ่น "ผลก็คือก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เครื่องบิน" ทั้งนี้ฐานทัพอากาศไอเอลสัน อยู่ห่างจากเมืองแฟร์แบงค์ ไปทางใต้ราว 40 กิโลเมตร โดยเมืองแห่งนี้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการหนึ่งของเครื่องบิน F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีล่องหน ยุคที่ 5 จำนวน 50 ลำ
    .
    ในเหตุการณ์อันน่าตื่นตะลึงที่ถูกจับภาพเอาไว้ได้ และเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินกำลังลงจอด พบเห็นเครื่องบินล้ำสมัยที่ผลิตโดยล็อคฮีด มาร์ติน หมุนเกลียวในวงแคบๆ ในสภาพที่กางล้อออกมา ระหว่างที่ร่วงเกือบในแนวดิ่งมุ่งสู่พื้นโลก จนกระทั่งกระแทกพื้น โหมกระพือเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง พบเห็นร่มชูชีพกางออก เป็นสัญญาณว่านักบินดีดตัวออกมาได้ทัน
    .
    เครื่องบิน F-35 เป็นเสาหลักแห่งกองบินของกองทัพสหรัฐฯ มันถูกคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับศักยภาพล่องหนล้ำสมัยและการสู้รบของมัน และมีประจำการทั้งในกองทัพอากาศ กองทัพเรือและนาวิกโยธินอเมริกา อย่างไรก็ตาม มันถูกพินิจพิเคราะห์ตรวจสอบเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    .
    ในเดือนพฤษภาคม เครื่องบิน F-35 ลำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างเดินทางจากเทกซัสไปยังฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ ในแคลิฟอร์เนีย เกิดอุบัติเหตุโหม่งโลก ไม่นานหลังแวะเติมเชื้อเพลิงในนิวเม็กซิโก ตามรายงานของเอพี นักบินได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกลำเลียงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
    .
    อีกเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม การสืบสวนของนาวิกโยธินสหรัฐฯ สรุปว่านักบินรายหนึ่งถูกดีดออกจากเครื่องบิน F-35 ทั้งที่เขาไม่ได้ออกคำสั่งใดๆ ส่งผลให้เครื่องบินลำดังกล่าวบินเองโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 11 นาที ก่อนโหม่งโลก ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009489
    .........
    Sondhi X
    นักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ ดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังเครื่องบินขับไล่ล้ำสมัย F-35 เกิดขัดข้อง ก่อนร่วงกระแทกพื้น ระเบิดไฟลุกท่วม ระหว่างภารกิจฝึกฝน ณ ฐานทัพอากาศไอเอลสัน ในรัฐอะแลสกา เมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) . นาวาอากาศเอกพอล ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุนักบินประสบปัญหาขัดข้องระหว่างทำการบิน แต่สามารถดีดตัวออกมาได้ทัน และเครื่องบินโหม่งโลกระหว่างขั้นตอนการลงจอด . "นักบินแจ้งเหตุฉุกเฉินระหว่างทำการบินก่อนประสบเหตุ และได้รับรายงานว่าเขาอยู่ในอาการทรงตัว หลังจากถูกพาตัวส่งสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง" นาวาอากาศเอกทาวน์เซนด์กล่ว "นักบินปลอดภัย และถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทหารบาสเซตต์ เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม ผมรับประกันกับคุณว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ จะทำการสืบนสวนอย่างละเอียด ในความหวังเพื่อลดโอกาส ไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก" . กองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ยืนยันในถ้อยแถลงว่า "อุบัติเหตุทางเครื่องบิน" เกิดขึ้นตอน 12.49 น.ตามเวลาท้องถิ่น "ผลก็คือก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เครื่องบิน" ทั้งนี้ฐานทัพอากาศไอเอลสัน อยู่ห่างจากเมืองแฟร์แบงค์ ไปทางใต้ราว 40 กิโลเมตร โดยเมืองแห่งนี้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการหนึ่งของเครื่องบิน F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีล่องหน ยุคที่ 5 จำนวน 50 ลำ . ในเหตุการณ์อันน่าตื่นตะลึงที่ถูกจับภาพเอาไว้ได้ และเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินกำลังลงจอด พบเห็นเครื่องบินล้ำสมัยที่ผลิตโดยล็อคฮีด มาร์ติน หมุนเกลียวในวงแคบๆ ในสภาพที่กางล้อออกมา ระหว่างที่ร่วงเกือบในแนวดิ่งมุ่งสู่พื้นโลก จนกระทั่งกระแทกพื้น โหมกระพือเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง พบเห็นร่มชูชีพกางออก เป็นสัญญาณว่านักบินดีดตัวออกมาได้ทัน . เครื่องบิน F-35 เป็นเสาหลักแห่งกองบินของกองทัพสหรัฐฯ มันถูกคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับศักยภาพล่องหนล้ำสมัยและการสู้รบของมัน และมีประจำการทั้งในกองทัพอากาศ กองทัพเรือและนาวิกโยธินอเมริกา อย่างไรก็ตาม มันถูกพินิจพิเคราะห์ตรวจสอบเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา . ในเดือนพฤษภาคม เครื่องบิน F-35 ลำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างเดินทางจากเทกซัสไปยังฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ ในแคลิฟอร์เนีย เกิดอุบัติเหตุโหม่งโลก ไม่นานหลังแวะเติมเชื้อเพลิงในนิวเม็กซิโก ตามรายงานของเอพี นักบินได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกลำเลียงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง . อีกเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม การสืบสวนของนาวิกโยธินสหรัฐฯ สรุปว่านักบินรายหนึ่งถูกดีดออกจากเครื่องบิน F-35 ทั้งที่เขาไม่ได้ออกคำสั่งใดๆ ส่งผลให้เครื่องบินลำดังกล่าวบินเองโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 11 นาที ก่อนโหม่งโลก ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009489 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    Sad
    11
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 864 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทหารมีไว้ทำไม"
    กองทัพสหรัฐส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยดับไฟป่าในแอลเอ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่ยังเข้าช่วยเหลือในภารกิจเต็มรูปแบบในการช่วยชีวิตผู้คน ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเศษซาก

    นาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันกำลังปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน เคลียร์เส้นทาง จัดส่งเสบียง และนำการกู้ภัย

    นอกจากนี้ กองทัพเรือยังส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 10 ลำพร้อมถังน้ำเข้าไปช่วย
    "ทหารมีไว้ทำไม" กองทัพสหรัฐส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยดับไฟป่าในแอลเอ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่ยังเข้าช่วยเหลือในภารกิจเต็มรูปแบบในการช่วยชีวิตผู้คน ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเศษซาก นาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันกำลังปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน เคลียร์เส้นทาง จัดส่งเสบียง และนำการกู้ภัย นอกจากนี้ กองทัพเรือยังส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 10 ลำพร้อมถังน้ำเข้าไปช่วย
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 53 0 รีวิว
  • “เกาะกูด” CONSPIRACY MOU44 ชนวนสังหารโหด “ลิม กึมยา”!?
    .
    การสังหารโหด “ลิม กึมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาและนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ระหว่างเดินทางมาประเทศไทยกับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนไปทั้งโลก
    .
    เนื่องเพราะเป็น “คำสั่งฆ่า” และเปิด “ปฏิบัติการข้ามชาติ” อย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย
    .
    แน่นอน ในส่วนของ “มือปืน” ชัดเจนแล้วว่าเป็นอดีตนาวิกโยธิน ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอยสุขุมวิท 22 ที่ชื่อ “จ่าเอ็ม” หรือ “เอกลักษณ์ แพน้อย”
    .
    หลังปฏิบัติการเสร็จ “จ่าเอ็ม” มือปืนหลังสังหารโหดมีรถมารับหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะจับกุมตัวได้ที่จังหวัดพระตะบอง
    .
    ส่วน “คนชี้เป้า” จากหลักฐานกล้องวงจรปิด พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศคันเดียวกับ “ลิม กึมยา” จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญทันที
    .
    คนชี้เป้ารายนี้ ได้รับการเปิดเผยจากทางการไทยว่าคือ “นายคิมริน พิช”
    .
    ปฏิบัติการสังหารโหดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ “คนสั่งการ” ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมีเส้นสายติดต่อ “มือปืนระดับพระกาฬ” ในประเทศไทยให้เป็นผู้ลงมือได้
    .
    คำถามมีเพียงประการเดียวคือ ทำไม “ลิม กึมยา” ถึงต้องตาย?
    .
    ที่มา https://news1live.com/detail/9680000003016
    “เกาะกูด” CONSPIRACY MOU44 ชนวนสังหารโหด “ลิม กึมยา”!? . การสังหารโหด “ลิม กึมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาและนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ระหว่างเดินทางมาประเทศไทยกับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนไปทั้งโลก . เนื่องเพราะเป็น “คำสั่งฆ่า” และเปิด “ปฏิบัติการข้ามชาติ” อย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย . แน่นอน ในส่วนของ “มือปืน” ชัดเจนแล้วว่าเป็นอดีตนาวิกโยธิน ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอยสุขุมวิท 22 ที่ชื่อ “จ่าเอ็ม” หรือ “เอกลักษณ์ แพน้อย” . หลังปฏิบัติการเสร็จ “จ่าเอ็ม” มือปืนหลังสังหารโหดมีรถมารับหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะจับกุมตัวได้ที่จังหวัดพระตะบอง . ส่วน “คนชี้เป้า” จากหลักฐานกล้องวงจรปิด พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศคันเดียวกับ “ลิม กึมยา” จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญทันที . คนชี้เป้ารายนี้ ได้รับการเปิดเผยจากทางการไทยว่าคือ “นายคิมริน พิช” . ปฏิบัติการสังหารโหดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ “คนสั่งการ” ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมีเส้นสายติดต่อ “มือปืนระดับพระกาฬ” ในประเทศไทยให้เป็นผู้ลงมือได้ . คำถามมีเพียงประการเดียวคือ ทำไม “ลิม กึมยา” ถึงต้องตาย? . ที่มา https://news1live.com/detail/9680000003016
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร
    On 2025-01-10
    สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568

    ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568

    และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง

    ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว

    แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว

    ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี

    สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่

    1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ

    2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด

    แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน

    สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี

    ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก

    อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

    สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ

    ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย

    นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้

    สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา

    ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย

    อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

    (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้)

    ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร On 2025-01-10 สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568 และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ 1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ 2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้ สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้) ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเหตุการณ์ยิงกันเองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง

    เครื่องบิน F/A-18F Super Hornet ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจในทะเลแดงใกล้เยเมน

    “นักบินทั้งสองได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลูกเรือคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย”

    “เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการยิงของศัตรู และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ”

    เจ้าหน้าที่กองทัพเรือแจ้งต่อ USNI News ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ หรือประมาณ 19.00 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของวันเสาร์

    เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้รับมอบหมายให้เข้าสู่ทะเลแดงพร้อมกับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกองเรือและติดตามนาวิกโยธินสหรัฐ

    เรือลาดตระเวนมีแท่นยิงแนวตั้งมากกว่า 100 แท่นซึ่งสามารถยิงขีปนาวุธที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่างๆ ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลูกเรือของเรือลาดตระเวนใช้อาวุธชนิดใดในเหตุการณ์นี้
    มีรายงานเหตุการณ์ยิงกันเองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง เครื่องบิน F/A-18F Super Hornet ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจในทะเลแดงใกล้เยเมน “นักบินทั้งสองได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลูกเรือคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย” “เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการยิงของศัตรู และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ” เจ้าหน้าที่กองทัพเรือแจ้งต่อ USNI News ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ หรือประมาณ 19.00 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของวันเสาร์ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้รับมอบหมายให้เข้าสู่ทะเลแดงพร้อมกับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกองเรือและติดตามนาวิกโยธินสหรัฐ เรือลาดตระเวนมีแท่นยิงแนวตั้งมากกว่า 100 แท่นซึ่งสามารถยิงขีปนาวุธที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่างๆ ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลูกเรือของเรือลาดตระเวนใช้อาวุธชนิดใดในเหตุการณ์นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝึก #นาวิกโยธิน #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย #ประเทศไทย
    คลิปในเพจ #เสียงทหารเรือ
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1028909262613570&id=100064835162905
    ฝึก #นาวิกโยธิน #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย #ประเทศไทย คลิปในเพจ #เสียงทหารเรือ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1028909262613570&id=100064835162905
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง เสด็จฯไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารราชวัลลภฯ พระราชินี ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม”

    วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.20 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 “ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา72 พรรษามหามงคล” ณ พระลานพระราชวังดุสิต

    ในการนี้พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี ทรงนำการสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” พร้อมด้วยพลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ร่วมสวนสนาม ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์“

    ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเฝ้ารอเฝ้าฯรับเสด็จฯ ณ พลับพลาที่ประทับ

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ทางประตูภูธรลีลาศ ถึงยังพระลานพระราชวังดุสิต พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” ทรงสั่งกองผสมถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    จากนั้นองค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งจากแถวหน้า บก.กองผสม ไปยังจุดถวายความเคารพ องค์ผู้บังคับกองผสมถวายความเคารพ กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯทรงตรวจพลสวนสนาม
    เมื่อองค์ผู้บังคับกองผสม กราบบังคมทูลรายงานจบแล้ว เสด็จฯไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่งตรวจพล

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนามโดยรถยนต์พระที่นั่งจำนวน 4 กรม 10 กองพัน ซึ่งประกอบด้วย กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์, กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ, กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ , กองพันทหารอากาศโยธิน 3 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , กองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่21 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 และกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

    เมื่อทรงตรวจพลสวนสนามเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งชุมสาย

    พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งกลับมาประจำจุดยืนหน้าแถว บก.กองผสม และทรงสั่ง กองผสมเรียบ-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณเตรียมตัว 2 จบแล้ว องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสั่งกองผสมจัดแถวเตรียมสวนสนาม ทรงสั่งกองผสมแบก-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณหน้าเดิน 2 จบ ขณะนั้นวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชราชวัลลภ อันอันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 7 ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใน พ.ศ. 2491 ชื่อ "ราชวัลลภ" และพระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม แล้วองค์ผู้บังคับกองผสม และพลสวนสนามจึงเริ่มเดินพร้อมกัน

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากองค์ผู้บังคับกองผสม ธงชัยเฉลิมพล และกำลังพลสวนสนาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธีหน้าพระที่นั่งชุมสาย

    พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสวนสนามผ่านพลับพลาที่ประทับ เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ แล้วประทับยืน ณ หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากแถวทหาร กรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพัน ตามลำดับ

    พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์” ทรงม้า “Fürst Henry” (ฟรุ๊ต เฮนรี่) อายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพันเข้ามายังหน้าพลับพลาพิธี

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลโทรัฐพล ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เข้าเฝ้าฯทูเกล้าถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันโทหญิงวลัยลักษณ์ อาวรณ์ หัวหน้าปรับปรุงโครงการ สำนักงานปลัดบัญชีทหาร เข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี

    สําหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของทหารรักษาพระองค์นั้น เป็นพิธีที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อ ทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพ ที่จะเป็นโอกาสพิเศษใน การถวายความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพไทย โดยได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พุทธศักราช 2496 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปพระราชทานธงชัยเฉลิมพลแก่หน่วยทหาร ในโอกาสครบรอบ วันคล้ายวันสถาปนากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งพระองค์เสด็จพระราชดําเนินทรงตรวจ พลสวนสนาม ทรงตรวจพลสวนสนาม รับการถวายความเคารพจาก ขบวนทหารจํานวน 4 กองพัน โดยทรงพระดําเนินในฉลองพระองค์ เครื่องแบบเต็มยศของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ทหารรักษาพระองค์ ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีอย่างต่อเนื่องนับแต่ นั้นมา

    ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการจัดพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร-ตํารวจ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในปีพุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี นับเป็นครั้งแรกที่มีการสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนร่วมกัน ระหว่างกําลังพลของทหารและตํารวจ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

    เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครบ 6 รอบ จึงถือเป็นโอกาสอันสําคัญยิ่งของหน่วยทหารรักษาพระองค์ จากเหล่าทัพต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันกระทําพิธีสวนสนามและถวาย สัตย์ปฏิญาณตนเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชน ชาวไทยได้ประจักษ์ว่า ทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดํารงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุด แด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต

    #MGROnline #พิธีสวนสนาม #ถวายสัตย์ปฏิญาณ #ทหารราชวัลลภฯ
    ในหลวง เสด็จฯไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารราชวัลลภฯ พระราชินี ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” • วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.20 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 “ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา72 พรรษามหามงคล” ณ พระลานพระราชวังดุสิต • ในการนี้พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี ทรงนำการสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” พร้อมด้วยพลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ร่วมสวนสนาม ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์“ • ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเฝ้ารอเฝ้าฯรับเสด็จฯ ณ พลับพลาที่ประทับ • เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ทางประตูภูธรลีลาศ ถึงยังพระลานพระราชวังดุสิต พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” ทรงสั่งกองผสมถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว • จากนั้นองค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งจากแถวหน้า บก.กองผสม ไปยังจุดถวายความเคารพ องค์ผู้บังคับกองผสมถวายความเคารพ กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯทรงตรวจพลสวนสนาม เมื่อองค์ผู้บังคับกองผสม กราบบังคมทูลรายงานจบแล้ว เสด็จฯไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่งตรวจพล • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนามโดยรถยนต์พระที่นั่งจำนวน 4 กรม 10 กองพัน ซึ่งประกอบด้วย กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์, กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ, กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ , กองพันทหารอากาศโยธิน 3 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , กองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่21 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 และกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน • เมื่อทรงตรวจพลสวนสนามเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งชุมสาย • พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งกลับมาประจำจุดยืนหน้าแถว บก.กองผสม และทรงสั่ง กองผสมเรียบ-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณเตรียมตัว 2 จบแล้ว องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสั่งกองผสมจัดแถวเตรียมสวนสนาม ทรงสั่งกองผสมแบก-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณหน้าเดิน 2 จบ ขณะนั้นวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชราชวัลลภ อันอันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 7 ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใน พ.ศ. 2491 ชื่อ "ราชวัลลภ" และพระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม แล้วองค์ผู้บังคับกองผสม และพลสวนสนามจึงเริ่มเดินพร้อมกัน • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากองค์ผู้บังคับกองผสม ธงชัยเฉลิมพล และกำลังพลสวนสนาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธีหน้าพระที่นั่งชุมสาย • พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสวนสนามผ่านพลับพลาที่ประทับ เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ แล้วประทับยืน ณ หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากแถวทหาร กรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพัน ตามลำดับ • พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์” ทรงม้า “Fürst Henry” (ฟรุ๊ต เฮนรี่) อายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพันเข้ามายังหน้าพลับพลาพิธี • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลโทรัฐพล ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เข้าเฝ้าฯทูเกล้าถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันโทหญิงวลัยลักษณ์ อาวรณ์ หัวหน้าปรับปรุงโครงการ สำนักงานปลัดบัญชีทหาร เข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี • สําหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของทหารรักษาพระองค์นั้น เป็นพิธีที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อ ทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพ ที่จะเป็นโอกาสพิเศษใน การถวายความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพไทย โดยได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พุทธศักราช 2496 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปพระราชทานธงชัยเฉลิมพลแก่หน่วยทหาร ในโอกาสครบรอบ วันคล้ายวันสถาปนากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งพระองค์เสด็จพระราชดําเนินทรงตรวจ พลสวนสนาม ทรงตรวจพลสวนสนาม รับการถวายความเคารพจาก ขบวนทหารจํานวน 4 กองพัน โดยทรงพระดําเนินในฉลองพระองค์ เครื่องแบบเต็มยศของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ทหารรักษาพระองค์ ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีอย่างต่อเนื่องนับแต่ นั้นมา • ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการจัดพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร-ตํารวจ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในปีพุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี นับเป็นครั้งแรกที่มีการสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนร่วมกัน ระหว่างกําลังพลของทหารและตํารวจ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก • เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครบ 6 รอบ จึงถือเป็นโอกาสอันสําคัญยิ่งของหน่วยทหารรักษาพระองค์ จากเหล่าทัพต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันกระทําพิธีสวนสนามและถวาย สัตย์ปฏิญาณตนเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชน ชาวไทยได้ประจักษ์ว่า ทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดํารงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุด แด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต • #MGROnline #พิธีสวนสนาม #ถวายสัตย์ปฏิญาณ #ทหารราชวัลลภฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ติ่งอเมริกาภูมิใจสิ่งนี้"

    นี่คือการกระทำของประเทศที่เรียกตัวเองว่าอยู่ข้างความยุติธรรม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ
    - ในยุโรปใช้ยูเครนสร้างความขัดแย้งกับรัสเซีย
    - ในตะวันออกกลางใช้อิสราเอลสร้างความขัดแย้งกับอิหร่าน
    - ในเอเชียตะวันออกใช้ไต้หวันสร้างความขัดแย้งกับจีน

    สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในสหรัฐ และญี่ปุ่น ว่ากองทัพสหรัฐเตรียมส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซอิ(Nansei Islands) หรืออีกชื่อคือหมู่เกาะริวกิว (Ryukyu Islands) ซึ่งอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปินส์ เพื่อเตรียมรับมือเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจะเกิดขึ้นกับไต้หวันจากการกระทำของจีน

    แผนการของอเมริกาคือ ส่งหน่วยนาวิกโยธิน รวมถึงการติดตั้งระบบขีปนาวุธ HIMARS เข้าประจำการตามแนวเกาะที่ทอดยาวตั้งแต่จังหวัดคาโงชิมะ (Kagoshima) บนเกาะญี่ปุ่น ไปจนถึงเกาะโอกินาวา (Okinawa) ที่อยู่ใกล้กับไต้หวัน

    นอกจากนี้ กองกำลัง Multi-Domain Task Force (MDTF) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบอาวุธพิสัยไกล (long-range fire units) จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่าสหรัฐติดตั้งระบบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่สามารถยิงขีปนาวุธ SM-6 และ Tomahawk บนเกาะลูซอนเหนือ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

    แผนการทั้งหมดนี้จะมีญี่ปุ่นทำหน้าที่หลักในการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ให้กับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ รวมถึงการจัดหาเชื้อเพลิงและกระสุน

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. 2023 สหรัฐและฟิลิปปินส์ ทำข้อตกลงร่วมกันในการเพิ่มจำนวนฐานทัพของสหรัฐในฟิลิปปินส์จาก 5 แห่ง เป็น 9 แห่ง วึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวันในขณะนี้
    "ติ่งอเมริกาภูมิใจสิ่งนี้" นี่คือการกระทำของประเทศที่เรียกตัวเองว่าอยู่ข้างความยุติธรรม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ - ในยุโรปใช้ยูเครนสร้างความขัดแย้งกับรัสเซีย - ในตะวันออกกลางใช้อิสราเอลสร้างความขัดแย้งกับอิหร่าน - ในเอเชียตะวันออกใช้ไต้หวันสร้างความขัดแย้งกับจีน สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในสหรัฐ และญี่ปุ่น ว่ากองทัพสหรัฐเตรียมส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซอิ(Nansei Islands) หรืออีกชื่อคือหมู่เกาะริวกิว (Ryukyu Islands) ซึ่งอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปินส์ เพื่อเตรียมรับมือเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจะเกิดขึ้นกับไต้หวันจากการกระทำของจีน แผนการของอเมริกาคือ ส่งหน่วยนาวิกโยธิน รวมถึงการติดตั้งระบบขีปนาวุธ HIMARS เข้าประจำการตามแนวเกาะที่ทอดยาวตั้งแต่จังหวัดคาโงชิมะ (Kagoshima) บนเกาะญี่ปุ่น ไปจนถึงเกาะโอกินาวา (Okinawa) ที่อยู่ใกล้กับไต้หวัน นอกจากนี้ กองกำลัง Multi-Domain Task Force (MDTF) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบอาวุธพิสัยไกล (long-range fire units) จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่าสหรัฐติดตั้งระบบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่สามารถยิงขีปนาวุธ SM-6 และ Tomahawk บนเกาะลูซอนเหนือ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แผนการทั้งหมดนี้จะมีญี่ปุ่นทำหน้าที่หลักในการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ให้กับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ รวมถึงการจัดหาเชื้อเพลิงและกระสุน ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. 2023 สหรัฐและฟิลิปปินส์ ทำข้อตกลงร่วมกันในการเพิ่มจำนวนฐานทัพของสหรัฐในฟิลิปปินส์จาก 5 แห่ง เป็น 9 แห่ง วึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวันในขณะนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ กำลังใช้ไต้หวันยั่วยุวิกฤตร้ายแรงในเอเชีย จากความเห็นที่เผยแพร่ต่อสาธารณะของ อันเดร รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของมอสโก เกี่ยวกับการสนับสนุนท่าทีของจีนในประเด็นไต้หวัน
    .
    "เราเห็นว่า วอชิงตัน กำลังละเมิดหลักการจีนเดียวที่พวกเขารับรอง ด้วยการยกระดับการติดต่อทั้งทางทหารและการเมืองกับไทเป ภายใต้สโลแกนธำรงไว้ซึ่งสถานภาพปัจจุบัน และเพิ่มการจัดหาอาวุธ" รูเดนโก กล่าวกับสื่อมวลชนแห่งรัฐ "เป้าหมายในการเข้าแทรกแซงของสหรัฐฯ ในกิจการต่างๆ ของภูมิภาค คือยั่วยุจีน และก่อวิกฤตหนึ่งในเอเชีย เพื่อให้เข้ากับผลประโยชน์ของตนเอง"
    .
    รายงานข่าวไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับลักษณะติดต่อทั้งการทหารและการเมือง ตามที่ รูเดนโก กล่าวอ้าง
    .
    จีน มอง ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน คำกล่าวอ้างที่รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธ ในขณะที่สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนในระดับนานาชาติและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญที่สุดของไทเป แม้ไม่ได้ให้การรับรองทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ตาม
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ เนื่องจากสำนักข่าวรอยเตอร์ติดต่อสอบถามขอความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของ รูเดนโก นอกเวลาทำงาน
    .
    ในเดือนกันยายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวัน มูลค่า 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นให้ทาง รัสเซีย ออกมาตอบโต้ด้วยการบอกว่าพวกเขาจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างจีน ในประเด็นเอเชีย ในนั้นรวมถึงวิพากษ์วิจารณ์อเมริกากำลังขับเคลื่อนขยายอิทธิพลในภูมิภาคแห่งนี้ และจงใจพยายามโหมกระพือไฟแห่งความตึงเครียดแถวไต้หวัน
    .
    จีนและรัสเซีย ประกาศความเป็นหุ้นส่วน "ไร้ขีดจำกัด" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ครั้งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ไม่นานก่อนเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ก่อสงครามภาคพื้นครั้งนองเลือดที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ปูติน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเกี่ยวกับ "ยุคสมัยใหม่" แห่งความเป็นพันธมิตร ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่ปรับกับสหรัฐฯ
    .
    ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์( 24 พ.ย.) เช่นกัน สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่น ระบุว่าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เล็งเป้าหมายรวบรวมแผนการทางทหารร่วมกัน สำหรับรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการประจำการขีปนาวุธ
    .
    เกียวโดนิวส์รายงานว่า ภายใต้แผนที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า สหรัฐฯ จะส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคาโงชิมาและจังหวัดโอคินาวะของญี่ปุ่น และในฟิลิปปินส์ อ้างอิงแหล่งข่าวทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
    .
    สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ากองทหารชายฝั่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งมีระบบขีปนาวุธ HIMARS และอาวุธอื่นๆ จะถูกส่งเข้าประจำการบนเกาะนันเซ ขณะที่หน่วยทหารสหรัฐฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอวกาศ ไซเบอร์สเปซและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113054
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ กำลังใช้ไต้หวันยั่วยุวิกฤตร้ายแรงในเอเชีย จากความเห็นที่เผยแพร่ต่อสาธารณะของ อันเดร รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของมอสโก เกี่ยวกับการสนับสนุนท่าทีของจีนในประเด็นไต้หวัน . "เราเห็นว่า วอชิงตัน กำลังละเมิดหลักการจีนเดียวที่พวกเขารับรอง ด้วยการยกระดับการติดต่อทั้งทางทหารและการเมืองกับไทเป ภายใต้สโลแกนธำรงไว้ซึ่งสถานภาพปัจจุบัน และเพิ่มการจัดหาอาวุธ" รูเดนโก กล่าวกับสื่อมวลชนแห่งรัฐ "เป้าหมายในการเข้าแทรกแซงของสหรัฐฯ ในกิจการต่างๆ ของภูมิภาค คือยั่วยุจีน และก่อวิกฤตหนึ่งในเอเชีย เพื่อให้เข้ากับผลประโยชน์ของตนเอง" . รายงานข่าวไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับลักษณะติดต่อทั้งการทหารและการเมือง ตามที่ รูเดนโก กล่าวอ้าง . จีน มอง ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน คำกล่าวอ้างที่รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธ ในขณะที่สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนในระดับนานาชาติและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญที่สุดของไทเป แม้ไม่ได้ให้การรับรองทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ตาม . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ เนื่องจากสำนักข่าวรอยเตอร์ติดต่อสอบถามขอความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของ รูเดนโก นอกเวลาทำงาน . ในเดือนกันยายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวัน มูลค่า 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นให้ทาง รัสเซีย ออกมาตอบโต้ด้วยการบอกว่าพวกเขาจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างจีน ในประเด็นเอเชีย ในนั้นรวมถึงวิพากษ์วิจารณ์อเมริกากำลังขับเคลื่อนขยายอิทธิพลในภูมิภาคแห่งนี้ และจงใจพยายามโหมกระพือไฟแห่งความตึงเครียดแถวไต้หวัน . จีนและรัสเซีย ประกาศความเป็นหุ้นส่วน "ไร้ขีดจำกัด" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ครั้งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ไม่นานก่อนเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ก่อสงครามภาคพื้นครั้งนองเลือดที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 . ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ปูติน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเกี่ยวกับ "ยุคสมัยใหม่" แห่งความเป็นพันธมิตร ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่ปรับกับสหรัฐฯ . ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์( 24 พ.ย.) เช่นกัน สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่น ระบุว่าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เล็งเป้าหมายรวบรวมแผนการทางทหารร่วมกัน สำหรับรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการประจำการขีปนาวุธ . เกียวโดนิวส์รายงานว่า ภายใต้แผนที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า สหรัฐฯ จะส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคาโงชิมาและจังหวัดโอคินาวะของญี่ปุ่น และในฟิลิปปินส์ อ้างอิงแหล่งข่าวทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น . สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ากองทหารชายฝั่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งมีระบบขีปนาวุธ HIMARS และอาวุธอื่นๆ จะถูกส่งเข้าประจำการบนเกาะนันเซ ขณะที่หน่วยทหารสหรัฐฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอวกาศ ไซเบอร์สเปซและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113054 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1278 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐกำลังทำให้จีนมุ่งเป้ามาทางญี่ปุ่น เพื่อลดความสนใจต่อรัสเซียลง โดยการเตรียมส่งขีปนาวุธเพื่อตอบโต้จีนกรณีบุกไต้หวัน

    ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เตรียมจะสรุปแผนปฏิบัติการทางทหารร่วมกันในเดือนหน้า เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในวิกฤตไต้หวัน

    แผนดังกล่าวรวมถึงการส่งหน่วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ ไปยังหมู่เกาะนันเซอิของญี่ปุ่น (คาโกชิมะและโอกินาว่า) และฟิลิปปินส์ กองทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งติดตั้งระบบ HIMARS จะประจำการบนแผ่นดินญี่ปุ่น ในขณะที่หน่วยพิเศษที่รับผิดชอบด้าน "อวกาศ ไซเบอร์ และคลื่นแม่เหล็ก" จะปฏิบัติการจากฟิลิปปินส์

    ที่มา: Reuters
    สหรัฐกำลังทำให้จีนมุ่งเป้ามาทางญี่ปุ่น เพื่อลดความสนใจต่อรัสเซียลง โดยการเตรียมส่งขีปนาวุธเพื่อตอบโต้จีนกรณีบุกไต้หวัน ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เตรียมจะสรุปแผนปฏิบัติการทางทหารร่วมกันในเดือนหน้า เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในวิกฤตไต้หวัน แผนดังกล่าวรวมถึงการส่งหน่วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ ไปยังหมู่เกาะนันเซอิของญี่ปุ่น (คาโกชิมะและโอกินาว่า) และฟิลิปปินส์ กองทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งติดตั้งระบบ HIMARS จะประจำการบนแผ่นดินญี่ปุ่น ในขณะที่หน่วยพิเศษที่รับผิดชอบด้าน "อวกาศ ไซเบอร์ และคลื่นแม่เหล็ก" จะปฏิบัติการจากฟิลิปปินส์ ที่มา: Reuters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓✨เสด็จฯ ไปยังบ้านโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงของขวัญแก่นาวิกโยธินและตำรวจตระเวนชายแดน สิ่งของเครื่องอุปโภคแก่ราษฎร และเครื่องเรียนให้แก่นักเรียน แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท cr : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #21พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓✨เสด็จฯ ไปยังบ้านโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงของขวัญแก่นาวิกโยธินและตำรวจตระเวนชายแดน สิ่งของเครื่องอุปโภคแก่ราษฎร และเครื่องเรียนให้แก่นักเรียน แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท cr : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #21พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 616 มุมมอง 0 รีวิว

  • ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติและการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่

    ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติ 13 ครอบครัว มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เคยปกครองโลกผ่านการควบคุมระบบการเงินโลก โดยที่พวกเขาทำพิธีกรรมชั่วร้ายและบูชาซาตาน กลุ่มนี้ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่าดีพสเตต เป็นผู้บงการเครือข่ายการสังเวยเด็ก งานเลี้ยงสำส่อนทางเพศ และการทดลองควบคุมจิตใจกับเหยื่อที่ถูกจับตัวไปและผลิตขึ้นทั่วโลก

    ครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากคาอิน ได้แก่ โพเซอร์ เคนเนดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ โอนาสซิส คาร์เนจ บุช และรอธส์ไชลด์ ในปี 1832 พวกเขาได้ยึดครองธนาคารวาติกันและสร้างความโดดเด่นเหนือธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก เช่น เจพีมอร์แกน โกลด์แมนแซคส์ บาร์เคลย์ เอชเอสบีซี และเชส

    ในปี 1871 พวกเขาได้ตราพระราชบัญญัติที่ก่อตั้งองค์กรสหรัฐอเมริกาแห่งอเมริกา ซึ่งมีผลทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมถูกลบล้างไป ในปี 1914 พวกเขาได้ลงนามในสัญญาเช่าทองคำของผู้เฒ่าชาวจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยใช้ธนาคารกลาง กรมสรรพากร และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อฟอกเงินภาษีของประชาชนในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การดำเนินงานของพวกเขาขยายไปยังธนาคารวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านบทบาทในการค้าเด็ก ยาเสพติด และการค้าอาวุธ

    จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 1903 เมื่อ Nikola Tesla และ Van de Graaf เริ่มคลี่คลายความลับของ Deep State ในปี 1993 สัญญาเช่าทองคำของจีนของพวกเขาสิ้นสุดลง และในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 พันธมิตรได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มลับ พันธมิตรนี้ในปี 2020 ประกอบด้วยประธานาธิบดีทรัมป์ วลาดิมีร์ ปูติน สีจิ้นผิง มุสตาฟา อัล-กาดิมี นเรนทรา โมดี บุคคลทรงอิทธิพลของ Q, QAnon (นำโดย JFK Jr?) นายพลเพนตากอน เอ็นเอสเอ และอินเตอร์โพล

    ในปี 2008 การพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มคาบาลทำให้เกิดวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผลิตขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้มากขึ้น เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม BRICS Alliance ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบการเงินที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ/สินทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 สนธิสัญญาทองคำได้รับการลงนามโดย 209 ประเทศ

    ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตราพระราชบัญญัติ National Quantum Initiative ซึ่งก่อตั้งระบบการเงินควอนตัมใหม่และระบบการลงคะแนนเสียงที่โปร่งใส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 นาวิกโยธินและกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 2,100 คนจากใต้ฐานทัพเรือ China Lake ในแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดเผยเครือข่ายฐานทัพใต้ดินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มคาบาล

    เมื่อเดือนตุลาคม 2019 วาติกันถูกบุกเข้าค้น ซึ่งเผยให้เห็นปฏิบัติการฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ทองคำและเงินสดกว่า 650 ลำถูกยึดและส่งกลับไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ภายในเดือนมีนาคม 2020 พันธมิตรได้กำจัดหัวหน้าครอบครัว Illuminati จำนวน 13 ครอบครัวในเวนิส และเริ่มการจับกุมและการพิจารณาคดีทางทหารสำหรับชนชั้นนำทางการเมืองของสหรัฐฯ

    คาดว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายในปลายปี 2024 การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มที่เหลือของกลุ่ม Illuminati ถูกทำลายล้างและความยุติธรรมได้รับการเสิร์ฟ

    ทรัมป์เปิดเผยแผนทำลายล้างดีพสเตต
    https://www.zerohedge.com/political/trump-outlines-plan-decimate-deep-state

    ทรัมป์เผยแพร่แผนอันน่าตกตะลึงเพื่อกำหนดเป้าหมาย การทุจริตในวอชิงตัน ยุบ 'ดีพสเตต'
    https://www.wnd.com/2024/11/trump-releases-stunning-plan-to-target-washington-corruption-dismantle-deep-state/

    บูม!!! เมื่อสักครู่: ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนของเขาที่จะรื้อถอน DEEP STATE! [วิดีโอ] จุดจบของดีปสเตต: ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแผนบุกเบิกในการทำลายล้างดีปสเตต กำจัดการทุจริต และคืนอำนาจให้กับชาวอเมริกัน! ตั้งแต่การไล่ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่ดีออกไปจนถึงการบังคับใช้ข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง การต่อสู้ของทรัมป์กับกลุ่มคนชั้นสูงนั้นไม่ลดละ ไร้ความกลัว และเป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการอย่างแท้จริง ค้นพบว่าทรัมป์กำลังต่อสู้กับการทุจริตที่ฝังรากลึกในวอชิงตันด้วยความก้าวร้าวที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมาได้อย่างไร!
    https://amg-news.com/boom-just-now-president-trump-releases-his-plans-to-dismantle-the-deep-state-video/
    ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติและการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติ 13 ครอบครัว มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เคยปกครองโลกผ่านการควบคุมระบบการเงินโลก โดยที่พวกเขาทำพิธีกรรมชั่วร้ายและบูชาซาตาน กลุ่มนี้ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่าดีพสเตต เป็นผู้บงการเครือข่ายการสังเวยเด็ก งานเลี้ยงสำส่อนทางเพศ และการทดลองควบคุมจิตใจกับเหยื่อที่ถูกจับตัวไปและผลิตขึ้นทั่วโลก ครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากคาอิน ได้แก่ โพเซอร์ เคนเนดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ โอนาสซิส คาร์เนจ บุช และรอธส์ไชลด์ ในปี 1832 พวกเขาได้ยึดครองธนาคารวาติกันและสร้างความโดดเด่นเหนือธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก เช่น เจพีมอร์แกน โกลด์แมนแซคส์ บาร์เคลย์ เอชเอสบีซี และเชส ในปี 1871 พวกเขาได้ตราพระราชบัญญัติที่ก่อตั้งองค์กรสหรัฐอเมริกาแห่งอเมริกา ซึ่งมีผลทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมถูกลบล้างไป ในปี 1914 พวกเขาได้ลงนามในสัญญาเช่าทองคำของผู้เฒ่าชาวจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยใช้ธนาคารกลาง กรมสรรพากร และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อฟอกเงินภาษีของประชาชนในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การดำเนินงานของพวกเขาขยายไปยังธนาคารวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านบทบาทในการค้าเด็ก ยาเสพติด และการค้าอาวุธ จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 1903 เมื่อ Nikola Tesla และ Van de Graaf เริ่มคลี่คลายความลับของ Deep State ในปี 1993 สัญญาเช่าทองคำของจีนของพวกเขาสิ้นสุดลง และในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 พันธมิตรได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มลับ พันธมิตรนี้ในปี 2020 ประกอบด้วยประธานาธิบดีทรัมป์ วลาดิมีร์ ปูติน สีจิ้นผิง มุสตาฟา อัล-กาดิมี นเรนทรา โมดี บุคคลทรงอิทธิพลของ Q, QAnon (นำโดย JFK Jr?) นายพลเพนตากอน เอ็นเอสเอ และอินเตอร์โพล ในปี 2008 การพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มคาบาลทำให้เกิดวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผลิตขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้มากขึ้น เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม BRICS Alliance ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบการเงินที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ/สินทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 สนธิสัญญาทองคำได้รับการลงนามโดย 209 ประเทศ ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตราพระราชบัญญัติ National Quantum Initiative ซึ่งก่อตั้งระบบการเงินควอนตัมใหม่และระบบการลงคะแนนเสียงที่โปร่งใส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 นาวิกโยธินและกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 2,100 คนจากใต้ฐานทัพเรือ China Lake ในแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดเผยเครือข่ายฐานทัพใต้ดินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มคาบาล เมื่อเดือนตุลาคม 2019 วาติกันถูกบุกเข้าค้น ซึ่งเผยให้เห็นปฏิบัติการฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ทองคำและเงินสดกว่า 650 ลำถูกยึดและส่งกลับไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ภายในเดือนมีนาคม 2020 พันธมิตรได้กำจัดหัวหน้าครอบครัว Illuminati จำนวน 13 ครอบครัวในเวนิส และเริ่มการจับกุมและการพิจารณาคดีทางทหารสำหรับชนชั้นนำทางการเมืองของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายในปลายปี 2024 การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มที่เหลือของกลุ่ม Illuminati ถูกทำลายล้างและความยุติธรรมได้รับการเสิร์ฟ ทรัมป์เปิดเผยแผนทำลายล้างดีพสเตต https://www.zerohedge.com/political/trump-outlines-plan-decimate-deep-state ทรัมป์เผยแพร่แผนอันน่าตกตะลึงเพื่อกำหนดเป้าหมาย การทุจริตในวอชิงตัน ยุบ 'ดีพสเตต' https://www.wnd.com/2024/11/trump-releases-stunning-plan-to-target-washington-corruption-dismantle-deep-state/ บูม!!! เมื่อสักครู่: ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนของเขาที่จะรื้อถอน DEEP STATE! [วิดีโอ] จุดจบของดีปสเตต: ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแผนบุกเบิกในการทำลายล้างดีปสเตต กำจัดการทุจริต และคืนอำนาจให้กับชาวอเมริกัน! ตั้งแต่การไล่ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่ดีออกไปจนถึงการบังคับใช้ข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง การต่อสู้ของทรัมป์กับกลุ่มคนชั้นสูงนั้นไม่ลดละ ไร้ความกลัว และเป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการอย่างแท้จริง ค้นพบว่าทรัมป์กำลังต่อสู้กับการทุจริตที่ฝังรากลึกในวอชิงตันด้วยความก้าวร้าวที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมาได้อย่างไร! https://amg-news.com/boom-just-now-president-trump-releases-his-plans-to-dismantle-the-deep-state-video/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 937 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากแนวหน้ายูเครนในทิศทาง Pokrovsk ล่มสลาย หลายหมู่บ้านตกเป็นของรัสเซียอย่างรวดเร็ว และอีกไม่กี่กิโลเมตร กองทัพรัสเซียมีโอกาสเข้าสู่พื้นที่แคว้น Dnipropetrovsk

    ล่าสุดมีรายงานว่ายูเครนได้ส่งกองหนุนจากกองพลนาวิกโยธินที่ 38 จากทิศทางเคอร์ซอนไปยังเมืองโปครอฟสค์ เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของรัสเซียเพิ่มเติมแล้ว
    หลังจากแนวหน้ายูเครนในทิศทาง Pokrovsk ล่มสลาย หลายหมู่บ้านตกเป็นของรัสเซียอย่างรวดเร็ว และอีกไม่กี่กิโลเมตร กองทัพรัสเซียมีโอกาสเข้าสู่พื้นที่แคว้น Dnipropetrovsk ล่าสุดมีรายงานว่ายูเครนได้ส่งกองหนุนจากกองพลนาวิกโยธินที่ 38 จากทิศทางเคอร์ซอนไปยังเมืองโปครอฟสค์ เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของรัสเซียเพิ่มเติมแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทหารรัสเซียยังคงรุกต่อไปโดยพยายามขับไล่ศัตรูออกจากภูมิภาคเคิร์สต์
    ▪️การสู้รบอย่างดุเดือดในแนวรบเคิร์สต์ยังคงดำเนินต่อไป กองทหารรัสเซียกำลังโจมตีตำแหน่งของผู้รุกรานจากทั้งห้าด้าน
    ▪️การต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐาน ดาริโน, กรีน ชลายัค, เลโอนิโดโว, นิโคลาเอโว-ดาริโน และเพลโคโว
    ▪️นาวิกโยธิน กองกำลังยกพลขึ้นบก และพลปืนติดเครื่องยนต์ของเรายังคงทำการโจมตีต่อไป ทำให้กองทัพยูเครนล้มลงจากตำแหน่งสนับสนุนในการยกพลขึ้นบกและบุกโจมตีหมู่บ้านที่ถูกยึด
    ▪️เมื่อวานนี้ นาวิกโยธินของเราบุกทะลวงห้องใต้ดินเพื่อไปหา Novaya Sorochina
    ▪️คำสั่งของกองทัพยูเครนยังคงถ่ายโอนกำลังเสริมต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้เพิ่มจำนวนทีมโจมตี UAV และพยายามหยุดการรุกของเรา
    ▪️ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ศัตรูทำการตอบโต้ 7 ครั้งในทิศทางของการตั้งถิ่นฐาน Daryino, Green Way, Novaya Sorochina และ Nikolaevo-Daryino รายงานกระทรวงกลาโหม
    ▪️การสูญเสียของศัตรูต่อวัน - กลุ่มติดอาวุธมากกว่า 300 คน, ยานรบทหารราบ 2 คัน, รถหุ้มเกราะ 1 คัน, ครก 6 คัน, สถานีสงครามอิเล็กทรอนิกส์ 2 แห่ง และยานพาหนะ 4 คัน
    กองทหารรัสเซียยังคงรุกต่อไปโดยพยายามขับไล่ศัตรูออกจากภูมิภาคเคิร์สต์ ▪️การสู้รบอย่างดุเดือดในแนวรบเคิร์สต์ยังคงดำเนินต่อไป กองทหารรัสเซียกำลังโจมตีตำแหน่งของผู้รุกรานจากทั้งห้าด้าน ▪️การต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐาน ดาริโน, กรีน ชลายัค, เลโอนิโดโว, นิโคลาเอโว-ดาริโน และเพลโคโว ▪️นาวิกโยธิน กองกำลังยกพลขึ้นบก และพลปืนติดเครื่องยนต์ของเรายังคงทำการโจมตีต่อไป ทำให้กองทัพยูเครนล้มลงจากตำแหน่งสนับสนุนในการยกพลขึ้นบกและบุกโจมตีหมู่บ้านที่ถูกยึด ▪️เมื่อวานนี้ นาวิกโยธินของเราบุกทะลวงห้องใต้ดินเพื่อไปหา Novaya Sorochina ▪️คำสั่งของกองทัพยูเครนยังคงถ่ายโอนกำลังเสริมต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้เพิ่มจำนวนทีมโจมตี UAV และพยายามหยุดการรุกของเรา ▪️ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ศัตรูทำการตอบโต้ 7 ครั้งในทิศทางของการตั้งถิ่นฐาน Daryino, Green Way, Novaya Sorochina และ Nikolaevo-Daryino รายงานกระทรวงกลาโหม ▪️การสูญเสียของศัตรูต่อวัน - กลุ่มติดอาวุธมากกว่า 300 คน, ยานรบทหารราบ 2 คัน, รถหุ้มเกราะ 1 คัน, ครก 6 คัน, สถานีสงครามอิเล็กทรอนิกส์ 2 แห่ง และยานพาหนะ 4 คัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์ขณะหน่วยนาวิกโยธิน จากกองพลนาวิกโยธินที่ 36 ของยูเครน กำลังถูกโจมตีทำลายด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในพื้นที่ Ivolzhanske ภูมิภาค Sumy ของยูเครน

    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนมากถึง 80 นาย รถถัง 2 คัน รถรบหุ้มเกราะ 4 คัน และรถปิกอัพ 6 คันถูกทำลาย
    ภาพเหตุการณ์ขณะหน่วยนาวิกโยธิน จากกองพลนาวิกโยธินที่ 36 ของยูเครน กำลังถูกโจมตีทำลายด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในพื้นที่ Ivolzhanske ภูมิภาค Sumy ของยูเครน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนมากถึง 80 นาย รถถัง 2 คัน รถรบหุ้มเกราะ 4 คัน และรถปิกอัพ 6 คันถูกทำลาย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีกหนึ่งวิดีโอทหารรับจ้างอเมริกาที่ถูกทำลายในภูมิภาค Bryansk ซึ่งเป็นอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ!
    ทหารรับจ้างจาก "Foreign Legion" มีชื่อว่า Corey J. Nawrocki ตามที่ระบุไว้ในบัตรประจำตัวทหารยูเครนของเขาซึ่งออกในเดือนกันยายน 2024 รัสเซีย
    อีกหนึ่งวิดีโอทหารรับจ้างอเมริกาที่ถูกทำลายในภูมิภาค Bryansk ซึ่งเป็นอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ! ทหารรับจ้างจาก "Foreign Legion" มีชื่อว่า Corey J. Nawrocki ตามที่ระบุไว้ในบัตรประจำตัวทหารยูเครนของเขาซึ่งออกในเดือนกันยายน 2024 รัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอเรย์ นาวร็อคกี เป็นหนึ่งในทหารรับจ้างอเมริกาที่เสียชีวิตจากความพยายามแทรกซึมเข้าไปในภูมิภาค Bryansk ดินแดนรัสเซีย
    ภาพถ่ายของเขาขณะทำพิธีสาบานตนในกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐในปี 2012
    คอเรย์ นาวร็อคกี เป็นหนึ่งในทหารรับจ้างอเมริกาที่เสียชีวิตจากความพยายามแทรกซึมเข้าไปในภูมิภาค Bryansk ดินแดนรัสเซีย ภาพถ่ายของเขาขณะทำพิธีสาบานตนในกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐในปี 2012
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารรัสเซียบันทึกภาพโดรนกามิกาเซ่ ล่า Niva ของเราที่แนวหน้าในภูมิภาคเคิร์สต์

    ▪️นาวิกโยธินเฝ้าดูจากที่กำบังในขณะที่ Niva ถูกโจมตีโดย FPV ของยูเครนใน Glushkovo Garden Partnership ในเขตชายแดน Kursk
    ▪️พวกนั้นปลอดภัยดี โดรนพลาดเพราะสงครามอิเล็กทรอนิกส์หรือเพราะมือคดเคี้ยวของผู้ปฏิบัติงานชาวยูเครน
    ทหารรัสเซียบันทึกภาพโดรนกามิกาเซ่ ล่า Niva ของเราที่แนวหน้าในภูมิภาคเคิร์สต์ ▪️นาวิกโยธินเฝ้าดูจากที่กำบังในขณะที่ Niva ถูกโจมตีโดย FPV ของยูเครนใน Glushkovo Garden Partnership ในเขตชายแดน Kursk ▪️พวกนั้นปลอดภัยดี โดรนพลาดเพราะสงครามอิเล็กทรอนิกส์หรือเพราะมือคดเคี้ยวของผู้ปฏิบัติงานชาวยูเครน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002

    ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ

    เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน

    การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน

    ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ

    ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ

    เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว

    และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ

    เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร

    โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย”

    ผลที่ได้คือ…
    .
    .
    .
    เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก”

    ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้

    บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ

    เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน

    ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ

    เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่

    นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน

    ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ

    จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ

    คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้

    ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว
    .
    .
    .
    เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“

    แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย

    ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น

    เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน”

    ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ

    ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต
    .
    .
    .
    ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ

    อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง

    ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

    กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน

    แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์

    แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน

    ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ

    ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์

    เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ

    การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ…..


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002 ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย” ผลที่ได้คือ… . . . เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก” ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้ บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่ นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้ ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว . . . เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“ แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน” ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต . . . ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์ แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์ เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ….. นัทแนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวเยอรมันยังคงได้รับ Lyules อันสูงส่งจากกองพลที่ 155 นาวิกโยธินตัดการต่อสู้ระยะประชิดไปมาก ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาส ละมั่งฉีกศัตรูเหมือนสิงโต แม่นยำยิ่งขึ้นเหมือนเสืออามูร์ของหมูป่า😁

    วิดีโอนี้แสดงผลการโจมตีครั้งหนึ่งที่ตำแหน่งฟริตซ์ในภูมิภาคเคิร์สต์
    ชาวเยอรมันยังคงได้รับ Lyules อันสูงส่งจากกองพลที่ 155 นาวิกโยธินตัดการต่อสู้ระยะประชิดไปมาก ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาส ละมั่งฉีกศัตรูเหมือนสิงโต แม่นยำยิ่งขึ้นเหมือนเสืออามูร์ของหมูป่า😁 วิดีโอนี้แสดงผลการโจมตีครั้งหนึ่งที่ตำแหน่งฟริตซ์ในภูมิภาคเคิร์สต์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 123 0 รีวิว
  • รับมอบของที่ระลึกวันเกษียณอายุราชการที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
    รับมอบของที่ระลึกวันเกษียณอายุราชการที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇩🇪 "เสือดาว" ของเยอรมันกำลังลุกไหม้ใกล้เมืองเคิร์สต์
    ▪️ กองทัพรัสเซียเผายานเกราะของ NATO เพื่อขับไล่การโจมตีของผู้บุกรุก
    ▪️ตามที่เรารายงาน ศัตรูขว้างรถหุ้มเกราะของเยอรมันและสวีเดนเพื่อบุกทะลวง แต่พวกมันกลับพบกับไฟโดยกองกำลังลงจอด นาวิกโยธิน และกองกำลังพิเศษของเรา
    ▪️เสือดาว 2A6 ของเยอรมันอีกลำหนึ่งถูกไฟไหม้ในวิดีโอของรัสเซีย-1
    🇩🇪 "เสือดาว" ของเยอรมันกำลังลุกไหม้ใกล้เมืองเคิร์สต์ ▪️ กองทัพรัสเซียเผายานเกราะของ NATO เพื่อขับไล่การโจมตีของผู้บุกรุก ▪️ตามที่เรารายงาน ศัตรูขว้างรถหุ้มเกราะของเยอรมันและสวีเดนเพื่อบุกทะลวง แต่พวกมันกลับพบกับไฟโดยกองกำลังลงจอด นาวิกโยธิน และกองกำลังพิเศษของเรา ▪️เสือดาว 2A6 ของเยอรมันอีกลำหนึ่งถูกไฟไหม้ในวิดีโอของรัสเซีย-1
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 153 0 รีวิว
  • หลังจากมีข่าวว่ากองทัพเรือส่งยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV ของนาวิกโยธินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีหลายคนให้ความสนใจยานเกราะชนิดนี้ว่าปัจจุบันไทยเรามีใช้งานอยู่กี่คัน ควรจัดหาเพิ่มหรือไม่ ฯลฯ

    ปัจจุบันไทยเรามี AAV หรือที่สมัยก่อนเรียกว่า LVPT-7 ผลิตในสหรัฐฯ ประมาณ 30 คันเศษๆ ครับ ตัวเลขเป๊ะๆ ถ้าผมจำไม่ผิดคือ 36 คัน แต่ปัจจุบันจะอยู่ในสภาพพร้อมรบกี่คันอันนี้ไม่สามารถบอกได้

    สำหรับ AAV ภารกิจหลักของมันก็คือลำเลียงนาวิกโยธินขึ้นบกครับ ซึ่ง AAV ปัจจุบันถือว่ามีอายุพอสมควรแล้วครับ รุ่นแรกสุดเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงต้นยุค 70 ปลายๆ สงครามเวียดนามนู่นเลย ตอนนี้แม้นาวิกโยธินสหรัฐฯ จะยังมีประจำการอยู่ประมาณ 1,000 คันเศษๆ แต่ก็กำลังทยอยปลดประจำการแล้ว ที่น่าสนใจคือยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่ที่สหรัฐฯ จะจัดหามาทดแทน AAV กลับไม่ใช่รถสายพาน แต่เป็นรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ซึ่งปัจจุบันเข้าประจำการแล้วประมาณ 200 คัน (ความจริงสหรัฐฯ เคยพยายามพัฒนารถสายพาน EFV มาทดแทน AAV แต่โครงการล้มเหลว ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางแทน)

    เมื่อสหรัฐฯ กำลังทยอยปลดประจำการ AAV ทดแทนด้วยรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ถ้าไทยเราจะจัดหา AAV เพิ่ม สหรัฐฯ ก็น่าจะมีของมือสองพร้อมขายแหละครับ ปัญหาอยู่ที่ความคุ้มค่ามากกว่า ในเมื่อสหรัฐฯ เองก็จะเปลี่ยนหลักนิยมให้นาวิกโยธินหันไปใช้รถหุ้มเกราะล้อยางแทนอยู่แล้ว ผมคิดว่าเราก็ไม่ควรย่ำอยู่กับ AAV ครับ ยานเกราะใหม่สำหรับนาวิกโยธินก็เน้นจัดหาเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางไปเลยดีกว่า

    สวัสดี

    13.09.2024

    ภาพ AAV ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ระหว่างการฝึก Cobra Gold 2020 ที่ประเทศไทย (U.S. Marine Corps photo by Lance Cpl. Hannah Hall)


    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy
    หลังจากมีข่าวว่ากองทัพเรือส่งยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV ของนาวิกโยธินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีหลายคนให้ความสนใจยานเกราะชนิดนี้ว่าปัจจุบันไทยเรามีใช้งานอยู่กี่คัน ควรจัดหาเพิ่มหรือไม่ ฯลฯ ปัจจุบันไทยเรามี AAV หรือที่สมัยก่อนเรียกว่า LVPT-7 ผลิตในสหรัฐฯ ประมาณ 30 คันเศษๆ ครับ ตัวเลขเป๊ะๆ ถ้าผมจำไม่ผิดคือ 36 คัน แต่ปัจจุบันจะอยู่ในสภาพพร้อมรบกี่คันอันนี้ไม่สามารถบอกได้ สำหรับ AAV ภารกิจหลักของมันก็คือลำเลียงนาวิกโยธินขึ้นบกครับ ซึ่ง AAV ปัจจุบันถือว่ามีอายุพอสมควรแล้วครับ รุ่นแรกสุดเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงต้นยุค 70 ปลายๆ สงครามเวียดนามนู่นเลย ตอนนี้แม้นาวิกโยธินสหรัฐฯ จะยังมีประจำการอยู่ประมาณ 1,000 คันเศษๆ แต่ก็กำลังทยอยปลดประจำการแล้ว ที่น่าสนใจคือยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่ที่สหรัฐฯ จะจัดหามาทดแทน AAV กลับไม่ใช่รถสายพาน แต่เป็นรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ซึ่งปัจจุบันเข้าประจำการแล้วประมาณ 200 คัน (ความจริงสหรัฐฯ เคยพยายามพัฒนารถสายพาน EFV มาทดแทน AAV แต่โครงการล้มเหลว ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางแทน) เมื่อสหรัฐฯ กำลังทยอยปลดประจำการ AAV ทดแทนด้วยรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ถ้าไทยเราจะจัดหา AAV เพิ่ม สหรัฐฯ ก็น่าจะมีของมือสองพร้อมขายแหละครับ ปัญหาอยู่ที่ความคุ้มค่ามากกว่า ในเมื่อสหรัฐฯ เองก็จะเปลี่ยนหลักนิยมให้นาวิกโยธินหันไปใช้รถหุ้มเกราะล้อยางแทนอยู่แล้ว ผมคิดว่าเราก็ไม่ควรย่ำอยู่กับ AAV ครับ ยานเกราะใหม่สำหรับนาวิกโยธินก็เน้นจัดหาเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางไปเลยดีกว่า สวัสดี 13.09.2024 ภาพ AAV ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ระหว่างการฝึก Cobra Gold 2020 ที่ประเทศไทย (U.S. Marine Corps photo by Lance Cpl. Hannah Hall) การทูตและการทหาร Military and Diplomacy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔹💛💜วัน​จันทร์​ที่​ ๑๙ สิงหาคม​ ๒๕๖​๗​
    พระ​บาท​สมเด็จ​พระเจ้า​อยู่​หัว​ และ​สมเด็จ​พระนางเจ้า​ ฯ​ พระบรม​ราชินี​ ทรง​พระ​กรุณา​โปรดเกล้า​โปรด​กระหม่อม​ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปฏิบัติราชการ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ จังหวัดนราธิวาส ในการนี้ได้เดินทางไปยังกรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และได้รับฟังการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และเชิญ​สิ่งของพระราชทานให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๒๕๑ ชุด ให้แก่ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือที่ ๓๓, กองร้อยป้องกันชายแดนที่ ๓-๔, หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ๑๔ และ ๓๓ (ภูธร), ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ ๔๔๑๑ – ๔๔๑๔( ตชด.) และชุดคุ้มครองตำบล (๙ ชคต.) (อส.) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

    จากนั้นองคมนตรีได้เดินทางไปยังกองร้อยทหารพรานที่ ๔๘๑๓ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เชิญ​สิ่งของพระราชทานให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๒๖๐ ชุด ประกอบด้วย กองร้อยทหารพราน ๔๘๘๒, ๔๘๐๖ และ ๔๘๑๖, สภ.เจาะไอร้อง, และ อส.เจาะไอร้อง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

    จากนั้นองคมนตรี ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ได้มอบสิ่งของพระราชทานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ จำนวน ๕๐ ชุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่🔹
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินีสุทิดา
    Cr. FB : ลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว
    🔹💛💜วัน​จันทร์​ที่​ ๑๙ สิงหาคม​ ๒๕๖​๗​ พระ​บาท​สมเด็จ​พระเจ้า​อยู่​หัว​ และ​สมเด็จ​พระนางเจ้า​ ฯ​ พระบรม​ราชินี​ ทรง​พระ​กรุณา​โปรดเกล้า​โปรด​กระหม่อม​ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปฏิบัติราชการ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ จังหวัดนราธิวาส ในการนี้ได้เดินทางไปยังกรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และได้รับฟังการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และเชิญ​สิ่งของพระราชทานให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๒๕๑ ชุด ให้แก่ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือที่ ๓๓, กองร้อยป้องกันชายแดนที่ ๓-๔, หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ๑๔ และ ๓๓ (ภูธร), ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ ๔๔๑๑ – ๔๔๑๔( ตชด.) และชุดคุ้มครองตำบล (๙ ชคต.) (อส.) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นองคมนตรีได้เดินทางไปยังกองร้อยทหารพรานที่ ๔๘๑๓ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เชิญ​สิ่งของพระราชทานให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๒๖๐ ชุด ประกอบด้วย กองร้อยทหารพราน ๔๘๘๒, ๔๘๐๖ และ ๔๘๑๖, สภ.เจาะไอร้อง, และ อส.เจาะไอร้อง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นองคมนตรี ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ได้มอบสิ่งของพระราชทานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ จำนวน ๕๐ ชุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่🔹 #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินีสุทิดา Cr. FB : ลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 673 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐ-รัสเซียแลกตัวนักโทษครั้งใหญ่ .. อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่16รายกับรัสเซีย และรัสเซียได้คืน 8 ราย

    1 กรกฎาคม 2567 -รายงานข่าวจากสื่อBloomberg ระบุว่า อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าว( Evan Gershkovich)ของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน(Paul Whelan)อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนหนึ่งใน 16 รายที่คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งประวัติศาสตร์กับรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษนี้

    สื่อ RIA ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานด้วยว่าทนายความของ Alexander Vinnik ชาวรัสเซียที่ถูกจำคุกอยู่ในสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษในเร็วๆ นี้โดยปฏิเสธที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเขา

    RIA รายงานว่าข้อมูลของชาวรัสเซีย 4 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในสหรัฐฯ ได้แก่ วินนิก แม็กซิม มาร์เชนโก วาดิม โคโนชเชนโก และวลาดิสลาฟ คลูชิน ซึ่งรายชื่อทั้งสี่หายไปจากฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ของรัฐบาลกลาง

    ส่วนอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ พอล วีแลนถูกจับกุมในปี 2018 และต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเป็นสายลับ โดยเขา ครอบครัวของเขา และรัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี และรัฐบาลสหรัฐฯชี้ว่าเขา "ถูกคุมขังโดยมิชอบ" แต่ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้รับปล่อยตัวเขาได้ในการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งก่อนๆ ซึ่งได้แก่ เทรเวอร์ รีด ชาวอเมริกัน และบริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์ แห่ง WNBA ซึ่งทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวในการแลกเปลี่ยนนักโทษในปี 2022

    สำหรับ เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลถูกจับกุม ในเยคาเตรินเบิร์กเมื่อเดือนมีนาคม 2023 และถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับของสหรัฐหาข่าวเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย เขากลายเป็นนักข่าวชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกคุมขังในรัสเซียนับตั้งแต่สงครามและถูกตัดสินจำคุก 16 ปีในกรกฎาคม

    สื่อBloomberg เป็นคนแรกที่รายงานข่าวการแลกตัวนักโทษดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลของไบเดน กลุ่มเสรีภาพสื่อ และ นายจ้างของเกอร์ชโควิช ต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาและยกฟ้องโทษโดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา

    ก่อนหน้านี้ ไบเดนกล่าวว่าเขายินดีที่จะตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษเพื่อปล่อยตัวเกอร์ชโควิช ซึ่งเป็นวิธีที่เขาเคยใช้มาก่อน กรณีปล่อยตัว กรีนเนอร์เพื่อแลกกับวิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย ซึ่งได้รับฉายาว่า “พ่อค้าแห่งความตาย”

    ในบทสัมภาษณ์กับทักเกอร์ คาร์ลสัน อดีตพิธีกรรายการ Fox News เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูตินระบุว่าเขายินดีที่จะแลกเปลี่ยนนักโทษ และมีการคาดเดาว่ามอสโกว์ต้องการให้วาดิม คราซิคอฟ กลับประเทศ ซึ่งกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในเยอรมนีในข้อหาสังหารพลเมืองจอร์เจียที่ต่อสู้กับรัสเซียในเชชเนียเมื่อปี 2019

    นอกจากนี้ Bloomberg ยังรายงานด้วยว่าVladimir Kara-Murza ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เขาถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏหลังจากวิจารณ์การรุกรานยูเครนของประเทศรัสเซีย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนี้ด้วย

    การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งสุดท้ายระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเกิดขึ้นในปี 2022 เพื่อปล่อยตัว บริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์แห่ง WNBA

    สำหรับครั้งนี้ นักโทษทั้ง 24 คน ซึ่งบางคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง บางคนไม่ใช่ ประกอบไปด้วยนักข่าวและนักการเมืองผู้เห็นต่าง ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับ แฮกเกอร์คอมพิวเตอร์ และนักต้มตุ๋น รวมถึงชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม

    โดยรัสเซียปล่อยตัวนักโทษสหรัฐ 16 คน รวมถึงอีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินและผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยขององค์กรจากมิชิแกน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับโทษจำคุกเป็นเวลานานหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในระบบกฎหมายของรัสเซียที่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหนักในข้อหาจารกรรม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าไม่มีมูลความจริง นอกจากนี้ มอสโกยังได้ปล่อยตัวนักข่าวจาก Radio Free Europe/Radio Liberty อย่าง Alsu Kurmasheva ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ-รัสเซียที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งครอบครัวและนายจ้างของเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และ Vladimir Kara-Murza คอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์นักวิจารณ์เครมลินและนักเขียนที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ซึ่งต้องโทษจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏซึ่งหลายคนมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง

    ส่วนในบรรดานักโทษ 8 รายที่รัสเซียได้ตัวกลับคืนมานั้น วาดิม คราซิคอฟ เป็นคนฉาวโฉ่ที่สุด ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในเยอรมนีเมื่อปี 2021 ในข้อหาสังหารอดีตกบฏเชชเนียในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเบอร์ลินเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเห็นได้ชัดว่าเป็นคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของมอสโก นอกจากนี้ เขายังได้รับตัวเจ้าหน้าที่ "ที่แฝงตัว" 2 คนที่ถูกจำคุกในสโลวีเนีย ชาย 3 คนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในสหรัฐฯ และชาย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากนอร์เวย์และโปแลนด์

    https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-08-01/us-reporter-released-by-russia-in-multi-country-prisoner-swap

    #Thaitimes

    สหรัฐ-รัสเซียแลกตัวนักโทษครั้งใหญ่ .. อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่16รายกับรัสเซีย และรัสเซียได้คืน 8 ราย 1 กรกฎาคม 2567 -รายงานข่าวจากสื่อBloomberg ระบุว่า อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าว( Evan Gershkovich)ของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน(Paul Whelan)อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนหนึ่งใน 16 รายที่คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งประวัติศาสตร์กับรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษนี้ สื่อ RIA ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานด้วยว่าทนายความของ Alexander Vinnik ชาวรัสเซียที่ถูกจำคุกอยู่ในสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษในเร็วๆ นี้โดยปฏิเสธที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเขา RIA รายงานว่าข้อมูลของชาวรัสเซีย 4 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในสหรัฐฯ ได้แก่ วินนิก แม็กซิม มาร์เชนโก วาดิม โคโนชเชนโก และวลาดิสลาฟ คลูชิน ซึ่งรายชื่อทั้งสี่หายไปจากฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ของรัฐบาลกลาง ส่วนอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ พอล วีแลนถูกจับกุมในปี 2018 และต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเป็นสายลับ โดยเขา ครอบครัวของเขา และรัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี และรัฐบาลสหรัฐฯชี้ว่าเขา "ถูกคุมขังโดยมิชอบ" แต่ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้รับปล่อยตัวเขาได้ในการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งก่อนๆ ซึ่งได้แก่ เทรเวอร์ รีด ชาวอเมริกัน และบริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์ แห่ง WNBA ซึ่งทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวในการแลกเปลี่ยนนักโทษในปี 2022 สำหรับ เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลถูกจับกุม ในเยคาเตรินเบิร์กเมื่อเดือนมีนาคม 2023 และถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับของสหรัฐหาข่าวเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย เขากลายเป็นนักข่าวชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกคุมขังในรัสเซียนับตั้งแต่สงครามและถูกตัดสินจำคุก 16 ปีในกรกฎาคม สื่อBloomberg เป็นคนแรกที่รายงานข่าวการแลกตัวนักโทษดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลของไบเดน กลุ่มเสรีภาพสื่อ และ นายจ้างของเกอร์ชโควิช ต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาและยกฟ้องโทษโดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้ ไบเดนกล่าวว่าเขายินดีที่จะตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษเพื่อปล่อยตัวเกอร์ชโควิช ซึ่งเป็นวิธีที่เขาเคยใช้มาก่อน กรณีปล่อยตัว กรีนเนอร์เพื่อแลกกับวิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย ซึ่งได้รับฉายาว่า “พ่อค้าแห่งความตาย” ในบทสัมภาษณ์กับทักเกอร์ คาร์ลสัน อดีตพิธีกรรายการ Fox News เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูตินระบุว่าเขายินดีที่จะแลกเปลี่ยนนักโทษ และมีการคาดเดาว่ามอสโกว์ต้องการให้วาดิม คราซิคอฟ กลับประเทศ ซึ่งกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในเยอรมนีในข้อหาสังหารพลเมืองจอร์เจียที่ต่อสู้กับรัสเซียในเชชเนียเมื่อปี 2019 นอกจากนี้ Bloomberg ยังรายงานด้วยว่าVladimir Kara-Murza ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เขาถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏหลังจากวิจารณ์การรุกรานยูเครนของประเทศรัสเซีย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนี้ด้วย การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งสุดท้ายระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเกิดขึ้นในปี 2022 เพื่อปล่อยตัว บริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์แห่ง WNBA สำหรับครั้งนี้ นักโทษทั้ง 24 คน ซึ่งบางคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง บางคนไม่ใช่ ประกอบไปด้วยนักข่าวและนักการเมืองผู้เห็นต่าง ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับ แฮกเกอร์คอมพิวเตอร์ และนักต้มตุ๋น รวมถึงชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม โดยรัสเซียปล่อยตัวนักโทษสหรัฐ 16 คน รวมถึงอีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินและผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยขององค์กรจากมิชิแกน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับโทษจำคุกเป็นเวลานานหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในระบบกฎหมายของรัสเซียที่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหนักในข้อหาจารกรรม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าไม่มีมูลความจริง นอกจากนี้ มอสโกยังได้ปล่อยตัวนักข่าวจาก Radio Free Europe/Radio Liberty อย่าง Alsu Kurmasheva ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ-รัสเซียที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งครอบครัวและนายจ้างของเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และ Vladimir Kara-Murza คอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์นักวิจารณ์เครมลินและนักเขียนที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ซึ่งต้องโทษจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏซึ่งหลายคนมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนในบรรดานักโทษ 8 รายที่รัสเซียได้ตัวกลับคืนมานั้น วาดิม คราซิคอฟ เป็นคนฉาวโฉ่ที่สุด ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในเยอรมนีเมื่อปี 2021 ในข้อหาสังหารอดีตกบฏเชชเนียในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเบอร์ลินเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเห็นได้ชัดว่าเป็นคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของมอสโก นอกจากนี้ เขายังได้รับตัวเจ้าหน้าที่ "ที่แฝงตัว" 2 คนที่ถูกจำคุกในสโลวีเนีย ชาย 3 คนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในสหรัฐฯ และชาย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากนอร์เวย์และโปแลนด์ https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-08-01/us-reporter-released-by-russia-in-multi-country-prisoner-swap #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 842 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts