• แน่นอน! นี่คือข้อดีและข้อเสียของคาสิโน

    ข้อดีของคาสิโน

    1. สร้างรายได้และเศรษฐกิจ – คาสิโนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยการสร้างงานและดึงดูดนักท่องเที่ยว


    2. แหล่งบันเทิงและสันทนาการ – เป็นสถานที่ที่ให้ความสนุกสนานและความตื่นเต้นแก่ผู้เล่น


    3. สร้างรายได้จากภาษี – คาสิโนสามารถเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของรัฐผ่านภาษีการพนัน


    4. โอกาสชนะเงินรางวัลใหญ่ – ผู้เล่นมีโอกาสได้รับเงินจำนวนมากจากเกมบางประเภท เช่น สล็อต หรือโป๊กเกอร์


    5. ดึงดูดนักท่องเที่ยว – คาสิโนสามารถเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ส่งเสริมธุรกิจอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้า



    ข้อเสียของคาสิโน

    1. ปัญหาการติดการพนัน – การเล่นคาสิโนอาจทำให้บางคนติดการพนันจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน


    2. ความเสี่ยงทางการเงิน – คาสิโนออกแบบมาให้บ้าน (คาสิโน) มีความได้เปรียบในระยะยาว ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่เสียเงิน


    3. อาชญากรรมและการฟอกเงิน – คาสิโนอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ฟอกเงินหรือทำธุรกรรมผิดกฎหมาย


    4. ผลกระทบต่อครอบครัวและสังคม – การเล่นพนันมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาครอบครัว หนี้สิน หรือปัญหาสังคมอื่นๆ


    5. อาจกระทบธุรกิจในท้องถิ่น – ในบางกรณี คาสิโนอาจทำให้ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบ เนื่องจากเงินหมุนเวียนไปที่คาสิโนแทน



    คาสิโนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับมุมมองและการบริหารจัดการของแต่ละประเทศหรือนโยบายของรัฐในเรื่องการพนัน

    แน่นอน! นี่คือข้อดีและข้อเสียของคาสิโน ข้อดีของคาสิโน 1. สร้างรายได้และเศรษฐกิจ – คาสิโนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยการสร้างงานและดึงดูดนักท่องเที่ยว 2. แหล่งบันเทิงและสันทนาการ – เป็นสถานที่ที่ให้ความสนุกสนานและความตื่นเต้นแก่ผู้เล่น 3. สร้างรายได้จากภาษี – คาสิโนสามารถเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของรัฐผ่านภาษีการพนัน 4. โอกาสชนะเงินรางวัลใหญ่ – ผู้เล่นมีโอกาสได้รับเงินจำนวนมากจากเกมบางประเภท เช่น สล็อต หรือโป๊กเกอร์ 5. ดึงดูดนักท่องเที่ยว – คาสิโนสามารถเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ส่งเสริมธุรกิจอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้า ข้อเสียของคาสิโน 1. ปัญหาการติดการพนัน – การเล่นคาสิโนอาจทำให้บางคนติดการพนันจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน 2. ความเสี่ยงทางการเงิน – คาสิโนออกแบบมาให้บ้าน (คาสิโน) มีความได้เปรียบในระยะยาว ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่เสียเงิน 3. อาชญากรรมและการฟอกเงิน – คาสิโนอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ฟอกเงินหรือทำธุรกรรมผิดกฎหมาย 4. ผลกระทบต่อครอบครัวและสังคม – การเล่นพนันมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาครอบครัว หนี้สิน หรือปัญหาสังคมอื่นๆ 5. อาจกระทบธุรกิจในท้องถิ่น – ในบางกรณี คาสิโนอาจทำให้ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบ เนื่องจากเงินหมุนเวียนไปที่คาสิโนแทน คาสิโนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับมุมมองและการบริหารจัดการของแต่ละประเทศหรือนโยบายของรัฐในเรื่องการพนัน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • มท.4 เปิดงาน “OTOP ภูมิภาค 2568” จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการ OTOP ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1268845324713329
    มท.4 เปิดงาน “OTOP ภูมิภาค 2568” จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการ OTOP ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1268845324713329
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุริยะ สั่งเร่งเบิกจ่ายงบปี 68 พร้อมเดินหน้าโปรเจกต์สำคัญ เผย ”นายกฯ” สั่งเร่งลงทุนเต็มที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดคมนาคมเบิกจ่ายงบไปแล้ว กว่า 3.9 หมื่นล้านบาท ส่วนงบลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามแผน ตั้งคำของบปี 69 กว่า 4.85 แสนล้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000014594

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "สุริยะ สั่งเร่งเบิกจ่ายงบปี 68 พร้อมเดินหน้าโปรเจกต์สำคัญ เผย ”นายกฯ” สั่งเร่งลงทุนเต็มที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดคมนาคมเบิกจ่ายงบไปแล้ว กว่า 3.9 หมื่นล้านบาท ส่วนงบลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามแผน ตั้งคำของบปี 69 กว่า 4.85 แสนล้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000014594 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Like
    Sad
    7
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1234 มุมมอง 0 รีวิว
  • โยนหินถามทาง ยกเลิกจำกัดขายเหล้า

    ในประเทศไทยจำกัดการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. ให้จำหน่ายได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. 2. งดจำหน่ายในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ก่อนที่จะแก้ไขโดยเพิ่มวันออกพรรษา ยกเว้นดิวตี้ฟรีในสนามบิน 3. ห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน ถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง

    แต่ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจหลายกลุ่มว่าเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงสั่งการให้ศึกษาเพิ่มเติม ทั้งการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือกรณีติดขัดข้อจำกัดด้านการควบคุมพื้นที่โซนนิ่ง และกฎบางประการออกมาตั้งแต่ช่วงโควิดหรือตั้งแต่ปี 2515

    "อย่างวันพระใหญ่ หรือวันอะไรที่เราเป็นข้อห้ามอยู่ ชาวต่างชาติที่มาเขาไม่ได้ทราบวันเหล่านี้ก่อน และจะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เรามองว่าในธีมปีนี้เป็นปีของการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง" น.ส.แพทองธาร ระบุ

    สอดรับกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่า นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาศึกษาในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ มท. คือกรมการปกครอง ต้องไปดูภาพรวม โดยเฉพาะการจัดโซนนิ่ง เพราะครั้งนี้เกี่ยวกับการแก้ พ.ร.บ.ด้วย อีกทั้งต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และดื่มไม่ขับ ถ้าจะปรับการแก้ไขกฎหมายต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง เช่น หากกลางวันตรวจพบต้องมีบทลงโทษรุนแรงมากขึ้น

    กระแสการแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว เป็นที่จับตามองจากเครือข่ายงดเหล้า ตั้งคำถามว่าที่นักท่องเที่ยวคิดว่าการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วงวันพระใหญ่หรือช่วงบ่าย 2 จึงตัดสินใจไม่มาไทยคงไม่ใช่ เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวยังเข้ามาและมากขึ้นเกือบจะเท่าก่อนโควิด แต่มาตรการยังเหมือนเดิม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจต้องการทำให้การขายการดื่มสะดวกมากขึ้น ท้ายสุดคือการเพิ่มจำนวนการดื่มและนักดื่มมากขึ้น เอื้อให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ เพราะอันตรายที่แฝงมารัฐบาลก่อนจึงต้องจำกัดหรือควบคุม การที่นายกฯ ให้ไปศึกษานับว่ายังให้เวลาชั่งน้ำหนักผลดีผลเสีย เชื่อว่าหากศึกษาอย่างรอบด้านรัฐบาลควรตัดสินใจอย่างเที่ยงตรงตามหลักวิชาการอย่างแท้จริง

    #Newskit
    โยนหินถามทาง ยกเลิกจำกัดขายเหล้า ในประเทศไทยจำกัดการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. ให้จำหน่ายได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. 2. งดจำหน่ายในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ก่อนที่จะแก้ไขโดยเพิ่มวันออกพรรษา ยกเว้นดิวตี้ฟรีในสนามบิน 3. ห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน ถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง แต่ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจหลายกลุ่มว่าเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงสั่งการให้ศึกษาเพิ่มเติม ทั้งการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือกรณีติดขัดข้อจำกัดด้านการควบคุมพื้นที่โซนนิ่ง และกฎบางประการออกมาตั้งแต่ช่วงโควิดหรือตั้งแต่ปี 2515 "อย่างวันพระใหญ่ หรือวันอะไรที่เราเป็นข้อห้ามอยู่ ชาวต่างชาติที่มาเขาไม่ได้ทราบวันเหล่านี้ก่อน และจะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เรามองว่าในธีมปีนี้เป็นปีของการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง" น.ส.แพทองธาร ระบุ สอดรับกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่า นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาศึกษาในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ มท. คือกรมการปกครอง ต้องไปดูภาพรวม โดยเฉพาะการจัดโซนนิ่ง เพราะครั้งนี้เกี่ยวกับการแก้ พ.ร.บ.ด้วย อีกทั้งต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และดื่มไม่ขับ ถ้าจะปรับการแก้ไขกฎหมายต้องมีบทลงโทษที่รุนแรง เช่น หากกลางวันตรวจพบต้องมีบทลงโทษรุนแรงมากขึ้น กระแสการแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว เป็นที่จับตามองจากเครือข่ายงดเหล้า ตั้งคำถามว่าที่นักท่องเที่ยวคิดว่าการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วงวันพระใหญ่หรือช่วงบ่าย 2 จึงตัดสินใจไม่มาไทยคงไม่ใช่ เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวยังเข้ามาและมากขึ้นเกือบจะเท่าก่อนโควิด แต่มาตรการยังเหมือนเดิม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจต้องการทำให้การขายการดื่มสะดวกมากขึ้น ท้ายสุดคือการเพิ่มจำนวนการดื่มและนักดื่มมากขึ้น เอื้อให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ เพราะอันตรายที่แฝงมารัฐบาลก่อนจึงต้องจำกัดหรือควบคุม การที่นายกฯ ให้ไปศึกษานับว่ายังให้เวลาชั่งน้ำหนักผลดีผลเสีย เชื่อว่าหากศึกษาอย่างรอบด้านรัฐบาลควรตัดสินใจอย่างเที่ยงตรงตามหลักวิชาการอย่างแท้จริง #Newskit
    Angry
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 ปี สิ้น “แม่ทัพหาญ” พลเอกหาญ ลีนานนท์ ผู้บุกเบิกนโยบายใต้ร่มเย็น ค้านเรือเหาะ เลิกปราบปราม สร้างความเข้าใจ ใช้สันติวิธี

    “ดับไฟใต้ด้วยสันติวิธี” คือแนวทางที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เลือกใช้ตลอดชีวิตการรับราชการ และการเมือง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผล ในการสร้างความสงบ ให้กับภาคใต้ของไทย

    📌 7 ปี แล้วที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ หรือ "แม่ทัพหาญ" จากไป ทิ้งไว้เพียงตำนานของแม่ทัพ ผู้เปลี่ยนนโยบายความมั่นคงของไทย จากการใช้กำลัง สู่สันติวิธี 🌿

    แม้จะจากโลกนี้ไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่ชื่อของแม่ทัพหาญ ยังคงถูกกล่าวถึงในแวดวงการเมือง และกองทัพ โดยเฉพาะเรื่อง "นโยบายใต้ร่มเย็น" ที่กลายเป็นแนวทางสำคัญ ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ 🕊️

    👤 🎖️ เส้นทางสู่กองทัพ
    พลเอกหาญ ลีนานนท์ เกิดเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2467 ที่อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นบุตรของขุนด่านลีนานนท์ และนางนิตย์ ลีนานนท์

    การศึกษาของแม่ทัพหาญเริ่มจาก
    - โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย
    - โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
    - โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร
    - โรงเรียนนายร้อยทหารบก ร่วมรุ่นกับ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก และพลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์

    หลังจบการศึกษา แม่ทัพหาญไต่เต้าขึ้นสู่ ตำแหน่งสำคัญในกองทัพ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่สร้างคุณูปการ มากที่สุดในชีวิต

    🏅 🔥 ปัญหาภาคใต้ก่อนยุคแม่ทัพหาญ
    ก่อนที่แม่ทัพหาญจะเข้ารับตำแหน่ง ภาคใต้เผชิญปัญหาความรุนแรงจากหลายกลุ่ม ได้แก่
    ✅ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (พคท.)
    ✅ ขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน (ขจก.)
    ✅ โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา
    ✅ อิทธิพลท้องถิ่นและกลุ่มผู้มีอำนาจมืด

    รัฐใช้มาตรการปราบปรามอย่างหนัก แต่ไม่ได้ผล จนกระทั่งแม่ทัพหาญ เข้ามาเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหา

    ☂️ นโยบายใต้ร่มเย็น จากสงครามสู่สันติภาพ
    "ใต้ร่มเย็น" เป็นนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการเมือง มากกว่าการทหาร โดยมีหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่

    1️⃣ ปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทั้งไทยพุทธและมุสลิม
    2️⃣ ทำให้พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียปลอดภัย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
    3️⃣ กำจัดอำนาจเผด็จการ และอิทธิพลมืดด้วยสันติวิธี
    4️⃣ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน

    แม่ทัพหาญยึดหลักว่า "ต้องชนะใจประชาชน" ไม่ใช่แค่เอาชนะศัตรู ซึ่งเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ "นโยบาย 66/23" ที่ใช้ปราบคอมมิวนิสต์สำเร็จมาแล้ว

    📝 ผลลัพธ์ของนโยบายใต้ร่มเย็น
    ✅ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มอบตัวจำนวนมาก
    ✅ ปัญหาความรุนแรง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
    ✅ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ และประชาชนดีขึ้น

    🚢 ค้านเรือเหาะ ไม่เห็นด้วยกับการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้ประสิทธิภาพ ⚠️
    ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กองทัพบกได้ จัดซื้อเรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท เพื่อใช้เฝ้าระวังในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่กลับกลายเป็น ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

    แม่ทัพหาญ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ ที่ออกมาคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า
    ❌ ภูมิประเทศภาคใต้ เต็มไปด้วยป่าดงดิบ เรือเหาะจะจับภาพได้ยาก
    ❌ ขบวนการก่อความไม่สงบ อยู่ปะปนกับชาวบ้าน ไม่ใช่ในป่าเขา
    ❌ อาวุธเทคโนโลยีแพง ไม่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความเข้าใจประชาชน
    ❌ เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า ขณะที่เงินเหล่านี้ สามารถนำไปพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้

    🔴 บทความ "บทเรียนจากการรบ" ของแม่ทัพหาญ ระบุว่า
    "การซื้อเรือเหาะปราบโจรนี้ แสดงว่าทั้งผู้บังคับบัญชา ไม่มีความคิดที่จะแก้ปัญหาทางยุทธศาสตร์ โจรไม่ได้อยู่ในป่า แต่เขาอยู่ในบ้าน ในหมู่บ้าน ถ้าเรือเหาะถ่ายภาพมาได้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าใครเป็นโจร หรือเป็นชาวบ้าน?"

    ท้ายที่สุด เรือเหาะถูกปลดระวาง โดยไม่เคยใช้งานเต็มศักยภาพ ซึ่งพิสูจน์ว่า แม่ทัพหาญคิดถูก 🛑

    🌟 แม่ทัพหาญ ตำนานที่ยังมีชีวิต
    แม้ว่า พลเอกหาญ ลีนานนท์ จะจากไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่แนวคิดและอุดมการณ์ ยังคงส่งอิทธิพล ต่อการแก้ปัญหาภาคใต้ จนถึงปัจจุบัน

    ✅ พิสูจน์ว่าสันติวิธีดีกว่าการใช้กำลัง
    ✅ เปลี่ยนแนวคิด "สงคราม" เป็น "การเมืองนำการทหาร"
    ✅ ต่อต้านการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้เหตุผล
    ✅ เป็นต้นแบบของผู้นำ ที่ประชาชนไว้วางใจ

    🕊️ "แม่ทัพหาญ" อาจจากไป แต่แนวคิดยังคงอยู่ตลอดกาล🔥
    ✅ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ริเริ่ม "นโยบายใต้ร่มเย็น"
    ✅ เปลี่ยนจาก "การปราบปราม" เป็น "การสร้างความเข้าใจ"
    ✅ คัดค้านเรือเหาะ 350 ล้าน เพราะมองว่าสิ้นเปลือง และไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง
    ✅ สร้างแนวทางสันติวิธี ที่กลายเป็นต้นแบบ การแก้ปัญหาภาคใต้

    🌿 "ดับไฟใต้ไม่ต้องใช้ปืน แต่ต้องใช้ใจ" พลเอกหาญ ลีนานนท์

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 111039 ก.พ. 2568

    📢 #แม่ทัพหาญ #ใต้ร่มเย็น #สันติวิธี #ดับไฟใต้ #การเมืองนำการทหาร #ค้านเรือเหาะ #ภาคใต้ #กองทัพไทย #7ปีสิ้นแม่ทัพหาญ
    7 ปี สิ้น “แม่ทัพหาญ” พลเอกหาญ ลีนานนท์ ผู้บุกเบิกนโยบายใต้ร่มเย็น ค้านเรือเหาะ เลิกปราบปราม สร้างความเข้าใจ ใช้สันติวิธี “ดับไฟใต้ด้วยสันติวิธี” คือแนวทางที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เลือกใช้ตลอดชีวิตการรับราชการ และการเมือง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผล ในการสร้างความสงบ ให้กับภาคใต้ของไทย 📌 7 ปี แล้วที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ หรือ "แม่ทัพหาญ" จากไป ทิ้งไว้เพียงตำนานของแม่ทัพ ผู้เปลี่ยนนโยบายความมั่นคงของไทย จากการใช้กำลัง สู่สันติวิธี 🌿 แม้จะจากโลกนี้ไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่ชื่อของแม่ทัพหาญ ยังคงถูกกล่าวถึงในแวดวงการเมือง และกองทัพ โดยเฉพาะเรื่อง "นโยบายใต้ร่มเย็น" ที่กลายเป็นแนวทางสำคัญ ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ 🕊️ 👤 🎖️ เส้นทางสู่กองทัพ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เกิดเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2467 ที่อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นบุตรของขุนด่านลีนานนท์ และนางนิตย์ ลีนานนท์ การศึกษาของแม่ทัพหาญเริ่มจาก - โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย - โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย - โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร - โรงเรียนนายร้อยทหารบก ร่วมรุ่นกับ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก และพลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์ หลังจบการศึกษา แม่ทัพหาญไต่เต้าขึ้นสู่ ตำแหน่งสำคัญในกองทัพ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่สร้างคุณูปการ มากที่สุดในชีวิต 🏅 🔥 ปัญหาภาคใต้ก่อนยุคแม่ทัพหาญ ก่อนที่แม่ทัพหาญจะเข้ารับตำแหน่ง ภาคใต้เผชิญปัญหาความรุนแรงจากหลายกลุ่ม ได้แก่ ✅ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (พคท.) ✅ ขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน (ขจก.) ✅ โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ✅ อิทธิพลท้องถิ่นและกลุ่มผู้มีอำนาจมืด รัฐใช้มาตรการปราบปรามอย่างหนัก แต่ไม่ได้ผล จนกระทั่งแม่ทัพหาญ เข้ามาเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหา ☂️ นโยบายใต้ร่มเย็น จากสงครามสู่สันติภาพ "ใต้ร่มเย็น" เป็นนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการเมือง มากกว่าการทหาร โดยมีหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ 1️⃣ ปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทั้งไทยพุทธและมุสลิม 2️⃣ ทำให้พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียปลอดภัย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 3️⃣ กำจัดอำนาจเผด็จการ และอิทธิพลมืดด้วยสันติวิธี 4️⃣ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน แม่ทัพหาญยึดหลักว่า "ต้องชนะใจประชาชน" ไม่ใช่แค่เอาชนะศัตรู ซึ่งเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ "นโยบาย 66/23" ที่ใช้ปราบคอมมิวนิสต์สำเร็จมาแล้ว 📝 ผลลัพธ์ของนโยบายใต้ร่มเย็น ✅ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มอบตัวจำนวนมาก ✅ ปัญหาความรุนแรง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ✅ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ และประชาชนดีขึ้น 🚢 ค้านเรือเหาะ ไม่เห็นด้วยกับการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้ประสิทธิภาพ ⚠️ ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กองทัพบกได้ จัดซื้อเรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท เพื่อใช้เฝ้าระวังในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่กลับกลายเป็น ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม่ทัพหาญ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ ที่ออกมาคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า ❌ ภูมิประเทศภาคใต้ เต็มไปด้วยป่าดงดิบ เรือเหาะจะจับภาพได้ยาก ❌ ขบวนการก่อความไม่สงบ อยู่ปะปนกับชาวบ้าน ไม่ใช่ในป่าเขา ❌ อาวุธเทคโนโลยีแพง ไม่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความเข้าใจประชาชน ❌ เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า ขณะที่เงินเหล่านี้ สามารถนำไปพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ 🔴 บทความ "บทเรียนจากการรบ" ของแม่ทัพหาญ ระบุว่า "การซื้อเรือเหาะปราบโจรนี้ แสดงว่าทั้งผู้บังคับบัญชา ไม่มีความคิดที่จะแก้ปัญหาทางยุทธศาสตร์ โจรไม่ได้อยู่ในป่า แต่เขาอยู่ในบ้าน ในหมู่บ้าน ถ้าเรือเหาะถ่ายภาพมาได้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าใครเป็นโจร หรือเป็นชาวบ้าน?" ท้ายที่สุด เรือเหาะถูกปลดระวาง โดยไม่เคยใช้งานเต็มศักยภาพ ซึ่งพิสูจน์ว่า แม่ทัพหาญคิดถูก 🛑 🌟 แม่ทัพหาญ ตำนานที่ยังมีชีวิต แม้ว่า พลเอกหาญ ลีนานนท์ จะจากไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่แนวคิดและอุดมการณ์ ยังคงส่งอิทธิพล ต่อการแก้ปัญหาภาคใต้ จนถึงปัจจุบัน ✅ พิสูจน์ว่าสันติวิธีดีกว่าการใช้กำลัง ✅ เปลี่ยนแนวคิด "สงคราม" เป็น "การเมืองนำการทหาร" ✅ ต่อต้านการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้เหตุผล ✅ เป็นต้นแบบของผู้นำ ที่ประชาชนไว้วางใจ 🕊️ "แม่ทัพหาญ" อาจจากไป แต่แนวคิดยังคงอยู่ตลอดกาล🔥 ✅ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ริเริ่ม "นโยบายใต้ร่มเย็น" ✅ เปลี่ยนจาก "การปราบปราม" เป็น "การสร้างความเข้าใจ" ✅ คัดค้านเรือเหาะ 350 ล้าน เพราะมองว่าสิ้นเปลือง และไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง ✅ สร้างแนวทางสันติวิธี ที่กลายเป็นต้นแบบ การแก้ปัญหาภาคใต้ 🌿 "ดับไฟใต้ไม่ต้องใช้ปืน แต่ต้องใช้ใจ" พลเอกหาญ ลีนานนท์ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 111039 ก.พ. 2568 📢 #แม่ทัพหาญ #ใต้ร่มเย็น #สันติวิธี #ดับไฟใต้ #การเมืองนำการทหาร #ค้านเรือเหาะ #ภาคใต้ #กองทัพไทย #7ปีสิ้นแม่ทัพหาญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดมอเตอร์เวย์ M6 เพิ่มเติม ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง หลังสุริยะสั่งเร่งรัดงานก่อสร้าง ให้เปิดทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ

    เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้มีการติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

    ทั้งนี้ มอเตอร์เวย์ช่วงดังกล่าว จะเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยแบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญเพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000012988

    #MGROnline #กรมทางหลวง #มอเตอร์เวย์ #M6 #มอเตอร์เวย์โคราช
    วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง ประชุมเตรียมความพร้อมเปิดมอเตอร์เวย์ M6 เพิ่มเติม ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง หลังสุริยะสั่งเร่งรัดงานก่อสร้าง ให้เปิดทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ • เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง กรมทางหลวง เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้งานเพิ่มเติม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงหินกอง-สระบุรี-มวกเหล็ก-ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้มีการติดตามความคืบหน้างานโยธาและเร่งรัดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งรัดงานก่อสร้าง เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 • ทั้งนี้ มอเตอร์เวย์ช่วงดังกล่าว จะเป็นทางเลือกการเดินทางที่ช่วยแบ่งเบาการจราจรหนาแน่นบนถนนมิตรภาพ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานโยธา โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญเพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000012988 • #MGROnline #กรมทางหลวง #มอเตอร์เวย์ #M6 #มอเตอร์เวย์โคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เชื่อว่าคำพูดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 "เป็นของจริง" และมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ ตามรายงานของสื่อมวลชนอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทรูโด แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างการประชุมลับกับพวกผู้นำภาคธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ ส่งเสียงแนะนำซ้ำๆว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากประเทศแห่งนี้ยอมกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
    .
    หนังสือพิมพ์โทรอนโตสตาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของทรูโดระบุว่า "พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับทรัพยากรของเรา สิ่งที่เรามีและพวกเขาต้องการมากๆอยากได้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้" นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวกับที่ประชุมลับ "แต่ในความคิดของทรัมป์ หนึ่งในหนทางที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้น ก็คือดูดกลืนประเทศของเรา และความคิดนี้เป็นของจริง"
    .
    แหล่งข่าวในรัฐบาล ยืนยันว่ารายงานข่าวของโทรอนโตสาตาร์ที่อ้างคำพูดดังกล่าวนั้น "ถูกต้อง"
    .
    แคนาดา ที่กำลังหาทางปัดป้องมาตรการต่างๆนานาของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้จัดหารายใหญ่ด้านน้ำมัน แร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ
    .
    ในความเห็นกับพวกผู้สื่อข่าว ทรูโดบอกก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาอาจต้องเจอกับความท้าทายทางการเมืองในระยะยาวกับสหรัฐฯ แม้นว่าหากสามารถจัดการหลีกเลี่ยงคำขู่รีดภาษีของทรัมป์ได้ก็ตาม
    .
    ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) เผยว่าเขาจะเลื่อนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาออกไป 30 วัน และกับการยอมอ่อนข้อในด้านชายแดนและการจัดการดับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล
    .
    ทรูโด บอกว่าความท้าทายในปัจจุบันทันด่วนของออตตาวา ก็คือการโน้มน้าวให้วอชิงตัน เชื่อว่าแคนาดาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ในการต่อสู้กับกระแสไหลบ่าของยาเฟนทานิล จากข้อมูลพบว่าในบรรดายาเฟนทานิลที่ถูกยึดในสหรัฐฯนั้น มีเพียงแค่ 0.2% ที่ข้ามไปจากชายแดนแคนาดา
    .
    ทั้งนี้ ทรูโด บอกกับพวกนักธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน ในช่วงต้นของการประชุมเกี่ยวกับแนวทางสร้างความหลากหลายทางการค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าถ้าสหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษี ทางแคนาดาก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน แต่เป้าหมายของแคนาดาคือจะหาทางปลดมาตรการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กล่าวหาแคนาดา กลายมาเป็นแหล่งต้นทางหลักของการลักลอบขนยาปลอดภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งประเด็นปัญหาใหญ่ด้านวีซ่าและปล่อยให้คนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    ในการส่งออกภาคบริการและสินค้าทั้งหมดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้พวกเขามีความอ่อนแออย่างมากต่อการคว่ำบาตรใดๆของอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012939
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เชื่อว่าคำพูดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 "เป็นของจริง" และมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ ตามรายงานของสื่อมวลชนอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล . แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทรูโด แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างการประชุมลับกับพวกผู้นำภาคธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา . ที่ผ่านมา ทรัมป์ ส่งเสียงแนะนำซ้ำๆว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากประเทศแห่งนี้ยอมกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา . หนังสือพิมพ์โทรอนโตสตาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของทรูโดระบุว่า "พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับทรัพยากรของเรา สิ่งที่เรามีและพวกเขาต้องการมากๆอยากได้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้" นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวกับที่ประชุมลับ "แต่ในความคิดของทรัมป์ หนึ่งในหนทางที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้น ก็คือดูดกลืนประเทศของเรา และความคิดนี้เป็นของจริง" . แหล่งข่าวในรัฐบาล ยืนยันว่ารายงานข่าวของโทรอนโตสาตาร์ที่อ้างคำพูดดังกล่าวนั้น "ถูกต้อง" . แคนาดา ที่กำลังหาทางปัดป้องมาตรการต่างๆนานาของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้จัดหารายใหญ่ด้านน้ำมัน แร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ . ในความเห็นกับพวกผู้สื่อข่าว ทรูโดบอกก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาอาจต้องเจอกับความท้าทายทางการเมืองในระยะยาวกับสหรัฐฯ แม้นว่าหากสามารถจัดการหลีกเลี่ยงคำขู่รีดภาษีของทรัมป์ได้ก็ตาม . ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) เผยว่าเขาจะเลื่อนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาออกไป 30 วัน และกับการยอมอ่อนข้อในด้านชายแดนและการจัดการดับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล . ทรูโด บอกว่าความท้าทายในปัจจุบันทันด่วนของออตตาวา ก็คือการโน้มน้าวให้วอชิงตัน เชื่อว่าแคนาดาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ในการต่อสู้กับกระแสไหลบ่าของยาเฟนทานิล จากข้อมูลพบว่าในบรรดายาเฟนทานิลที่ถูกยึดในสหรัฐฯนั้น มีเพียงแค่ 0.2% ที่ข้ามไปจากชายแดนแคนาดา . ทั้งนี้ ทรูโด บอกกับพวกนักธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน ในช่วงต้นของการประชุมเกี่ยวกับแนวทางสร้างความหลากหลายทางการค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าถ้าสหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษี ทางแคนาดาก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน แต่เป้าหมายของแคนาดาคือจะหาทางปลดมาตรการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กล่าวหาแคนาดา กลายมาเป็นแหล่งต้นทางหลักของการลักลอบขนยาปลอดภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งประเด็นปัญหาใหญ่ด้านวีซ่าและปล่อยให้คนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ . ในการส่งออกภาคบริการและสินค้าทั้งหมดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้พวกเขามีความอ่อนแออย่างมากต่อการคว่ำบาตรใดๆของอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012939 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1441 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 ปี คนไทยรายแรกติดเชื้อโควิด-19 จุดเริ่มต้นโครงการ “คนละครึ่ง-เราไม่ทิ้งกัน”

    ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563 ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนไทยรายแรก เป็นชายวัย 50 ปี อาชีพขับแท็กซี่ ซึ่งติดเชื้อมาจากผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรับมือ กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลายเป็น วิกฤตการณ์ระดับโลก

    จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับ ความท้าทายด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม โควิด-19 ทำให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ การปิดประเทศ และวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ "คนละครึ่ง" และ "เราไม่ทิ้งกัน" ที่มีบทบาทสำคัญ ในการพยุงเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน

    จากอู่ฮั่นสู่การระบาดทั่วโลก
    "โควิด-19" เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเกิดจาก ไวรัส SARS-CoV-2 เริ่มต้นระบาดในนครอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ก่อนแพร่กระจายไปทั่วโลก

    การประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO)
    30 มกราคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉิน ทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ
    11 มีนาคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก (Pandemic)

    ลักษณะการแพร่เชื้อ
    โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอย จากการไอหรือจาม โดยมีระยะฟักตัว 2-14 วัน อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
    ✅ มีไข้
    ✅ ไอแห้ง
    ✅ หายใจลำบาก

    มาตรการป้องกันเบื้องต้น
    ✅ ล้างมือบ่อยๆ
    ✅ สวมหน้ากากอนามัย
    ✅ เว้นระยะห่างทางสังคม
    ✅ กักตัวเมื่อสงสัยว่าติดเชื้อ

    จากผู้ติดเชื้อรายแรก สู่การล็อกดาวน์
    ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากจีน โดยในช่วงต้นของการระบาด รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการที่เข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์

    มาตรการสำคัญที่ไทยใช้รับมือกับโควิด-19
    🔹 ปิดประเทศและล็อกดาวน์ ควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ
    🔹 มาตรการ Work From Home ให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ทำงานที่บ้าน
    🔹 Social Distancing จำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะ
    🔹 การเร่งตรวจหาเชื้อและกักตัว สร้างศูนย์ตรวจโควิด-19 และสถานกักตัว

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    📉 ธุรกิจปิดตัวจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว
    📉 อัตราการว่างงานสูงขึ้น
    📉 ประชาชนมีรายได้ลดลง และเกิดปัญหาความยากจน

    โครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" และ "คนละครึ่ง" ตัวช่วยสำคัญของประชาชน
    เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชน รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือที่สำคัญ ได้แก่

    💰 โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” 💰
    📍 เริ่มต้นในปี 2563
    📍 แจกเงินเยียวยา 5,000 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน
    📍 ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ

    🛍 โครงการ “คนละครึ่ง” 🛍
    📍 เริ่มต้นในปี 2563
    📍 รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่าย 50% (สูงสุด 150 บาท/วัน)
    📍 ใช้ได้กับร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ
    📍 กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอด

    ผลกระทบทางสังคมและการศึกษา
    📉 รายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน
    💸 ประชาชนกว่า 70% รายได้ลดลง
    💸 50% ของแรงงาน ได้รับผลกระทบโดยตรง
    💸 ครัวเรือนในชนบท ได้รับผลกระทบหนัก รายได้ลดลงมากกว่า 80%

    📚 ผลกระทบต่อการศึกษา
    🏫 โรงเรียนปิด และปรับเปลี่ยนเป็น การเรียนออนไลน์
    📶 เด็กที่ยากจน ขาดอุปกรณ์การเรียน และอินเทอร์เน็ต
    📉 คุณภาพการศึกษาลดลง ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษา ในอนาคต

    วัคซีนโควิด-19 จุดเปลี่ยนของการระบาด
    ในช่วงแรกของการระบาด ประเทศไทยประสบปัญหา การจัดหาวัคซีนล่าช้า อย่างไรก็ตาม ในปี 2564-2565 รัฐบาลได้เร่งนำเข้าวัคซีน และกระจายวัคซีนให้ประชาชน

    แผนการฉีดวัคซีนในไทย
    ✅ Sinovac & AstraZeneca เป็นวัคซีนชุดแรกที่ใช้ในไทย
    ✅ Pfizer & Moderna เพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน
    ✅ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

    ผลของการฉีดวัคซีน
    📉 อัตราการเสียชีวิตลดลง
    📉 ระบบสาธารณสุขรับมือได้ดีขึ้น
    📉 เปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ

    บทเรียนจากโควิด-19 อนาคตประเทศไทย
    ตลอด 5 ปีของโควิด-19 ประเทศไทยได้เผชิญกับความท้าทาย ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและประชาชนร่วมมือกัน รับมือกับสถานการณ์นี้อย่างเต็มที่

    📌 บทเรียนสำคัญจากโควิด-19
    🔹 ต้องมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง เพื่อรับมือโรคระบาดในอนาคต
    🔹 การช่วยเหลือประชาชน ต้องรวดเร็วและทั่วถึง
    🔹 การพึ่งพาเทคโนโลยี และการทำงานออนไลน์ เป็นเรื่องสำคัญ
    🔹 ต้องมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว

    ประเทศไทยหลังโควิด-19
    ✅ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
    ✅ การท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง
    ✅ การแพทย์และระบบสาธารณสุข พัฒนาไปอีกขั้น

    นี่คือภาพรวม 5 ปี ของโควิด-19 ในประเทศไทย จากวันแรกที่พบผู้ติดเชื้อรายแรก สู่ มาตรการช่วยเหลือประชาชน และ การฟื้นตัวของประเทศ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญในการรับมือกับวิกฤต ในอนาคต 🚀💙

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311121 ม.ค. 2568

    🔖 #โควิด19 #คนละครึ่ง #เราไม่ทิ้งกัน #ไทยหลังโควิด #ฟื้นฟูเศรษฐกิจ #วัคซีนโควิด #NewNormal #ล็อกดาวน์ #ช่วยเหลือประชาชน #ชีวิตหลังโควิด
    5 ปี คนไทยรายแรกติดเชื้อโควิด-19 จุดเริ่มต้นโครงการ “คนละครึ่ง-เราไม่ทิ้งกัน” ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563 ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนไทยรายแรก เป็นชายวัย 50 ปี อาชีพขับแท็กซี่ ซึ่งติดเชื้อมาจากผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรับมือ กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลายเป็น วิกฤตการณ์ระดับโลก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับ ความท้าทายด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม โควิด-19 ทำให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ การปิดประเทศ และวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ "คนละครึ่ง" และ "เราไม่ทิ้งกัน" ที่มีบทบาทสำคัญ ในการพยุงเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน จากอู่ฮั่นสู่การระบาดทั่วโลก "โควิด-19" เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเกิดจาก ไวรัส SARS-CoV-2 เริ่มต้นระบาดในนครอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ก่อนแพร่กระจายไปทั่วโลก การประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) 30 มกราคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉิน ทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ 11 มีนาคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก (Pandemic) ลักษณะการแพร่เชื้อ โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอย จากการไอหรือจาม โดยมีระยะฟักตัว 2-14 วัน อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ✅ มีไข้ ✅ ไอแห้ง ✅ หายใจลำบาก มาตรการป้องกันเบื้องต้น ✅ ล้างมือบ่อยๆ ✅ สวมหน้ากากอนามัย ✅ เว้นระยะห่างทางสังคม ✅ กักตัวเมื่อสงสัยว่าติดเชื้อ จากผู้ติดเชื้อรายแรก สู่การล็อกดาวน์ ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากจีน โดยในช่วงต้นของการระบาด รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการที่เข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์ มาตรการสำคัญที่ไทยใช้รับมือกับโควิด-19 🔹 ปิดประเทศและล็อกดาวน์ ควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ 🔹 มาตรการ Work From Home ให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ทำงานที่บ้าน 🔹 Social Distancing จำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะ 🔹 การเร่งตรวจหาเชื้อและกักตัว สร้างศูนย์ตรวจโควิด-19 และสถานกักตัว ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 📉 ธุรกิจปิดตัวจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว 📉 อัตราการว่างงานสูงขึ้น 📉 ประชาชนมีรายได้ลดลง และเกิดปัญหาความยากจน โครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" และ "คนละครึ่ง" ตัวช่วยสำคัญของประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชน รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือที่สำคัญ ได้แก่ 💰 โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” 💰 📍 เริ่มต้นในปี 2563 📍 แจกเงินเยียวยา 5,000 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน 📍 ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ 🛍 โครงการ “คนละครึ่ง” 🛍 📍 เริ่มต้นในปี 2563 📍 รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่าย 50% (สูงสุด 150 บาท/วัน) 📍 ใช้ได้กับร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ 📍 กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอด ผลกระทบทางสังคมและการศึกษา 📉 รายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน 💸 ประชาชนกว่า 70% รายได้ลดลง 💸 50% ของแรงงาน ได้รับผลกระทบโดยตรง 💸 ครัวเรือนในชนบท ได้รับผลกระทบหนัก รายได้ลดลงมากกว่า 80% 📚 ผลกระทบต่อการศึกษา 🏫 โรงเรียนปิด และปรับเปลี่ยนเป็น การเรียนออนไลน์ 📶 เด็กที่ยากจน ขาดอุปกรณ์การเรียน และอินเทอร์เน็ต 📉 คุณภาพการศึกษาลดลง ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษา ในอนาคต วัคซีนโควิด-19 จุดเปลี่ยนของการระบาด ในช่วงแรกของการระบาด ประเทศไทยประสบปัญหา การจัดหาวัคซีนล่าช้า อย่างไรก็ตาม ในปี 2564-2565 รัฐบาลได้เร่งนำเข้าวัคซีน และกระจายวัคซีนให้ประชาชน แผนการฉีดวัคซีนในไทย ✅ Sinovac & AstraZeneca เป็นวัคซีนชุดแรกที่ใช้ในไทย ✅ Pfizer & Moderna เพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน ✅ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ผลของการฉีดวัคซีน 📉 อัตราการเสียชีวิตลดลง 📉 ระบบสาธารณสุขรับมือได้ดีขึ้น 📉 เปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ บทเรียนจากโควิด-19 อนาคตประเทศไทย ตลอด 5 ปีของโควิด-19 ประเทศไทยได้เผชิญกับความท้าทาย ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและประชาชนร่วมมือกัน รับมือกับสถานการณ์นี้อย่างเต็มที่ 📌 บทเรียนสำคัญจากโควิด-19 🔹 ต้องมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง เพื่อรับมือโรคระบาดในอนาคต 🔹 การช่วยเหลือประชาชน ต้องรวดเร็วและทั่วถึง 🔹 การพึ่งพาเทคโนโลยี และการทำงานออนไลน์ เป็นเรื่องสำคัญ 🔹 ต้องมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว ประเทศไทยหลังโควิด-19 ✅ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ✅ การท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง ✅ การแพทย์และระบบสาธารณสุข พัฒนาไปอีกขั้น นี่คือภาพรวม 5 ปี ของโควิด-19 ในประเทศไทย จากวันแรกที่พบผู้ติดเชื้อรายแรก สู่ มาตรการช่วยเหลือประชาชน และ การฟื้นตัวของประเทศ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญในการรับมือกับวิกฤต ในอนาคต 🚀💙 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311121 ม.ค. 2568 🔖 #โควิด19 #คนละครึ่ง #เราไม่ทิ้งกัน #ไทยหลังโควิด #ฟื้นฟูเศรษฐกิจ #วัคซีนโควิด #NewNormal #ล็อกดาวน์ #ช่วยเหลือประชาชน #ชีวิตหลังโควิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 738 มุมมอง 0 รีวิว
  • "โปรดระวังเรื่องโดนยึดทรัพย์สินในวันข้างหน้า หากอเมริกาไม่พอใจอะไรขึ้นมา!"

    ทรัมป์แนะธุรกิจทั้งหลาย หากไม่อยากเสียภาษีให้มาตั้งโรงงานผลิตบนแผ่นดินอเมริกา

    ที่การประชุม World Economic Forum ทรัมป์ยังได้ส่งสารไปยังนักธุรกิจและบริษัทชั้นนำทั่วโลก ว่าถ้าอยากจะส่งของมาขายในสหรัฐฯ ก็ให้มาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ เพราะถ้าไปตั้งโรงงานที่ประเทศอื่น ผลิตของในประเทศอื่น แล้วส่งมาขายในสหรัฐฯ ก็จะต้องเจอกับกำแพงภาษที่สูงขึ้น

    ทรัมป์ยังได้เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในสหรัฐฯ และในต่างประเทศ ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น และทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่ม

    อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราดอกเบี้ยนั้น ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ทำงานอย่างอิสระ โดยไม่ขึ้นกับประธานาธิบดี
    "โปรดระวังเรื่องโดนยึดทรัพย์สินในวันข้างหน้า หากอเมริกาไม่พอใจอะไรขึ้นมา!" ทรัมป์แนะธุรกิจทั้งหลาย หากไม่อยากเสียภาษีให้มาตั้งโรงงานผลิตบนแผ่นดินอเมริกา ที่การประชุม World Economic Forum ทรัมป์ยังได้ส่งสารไปยังนักธุรกิจและบริษัทชั้นนำทั่วโลก ว่าถ้าอยากจะส่งของมาขายในสหรัฐฯ ก็ให้มาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ เพราะถ้าไปตั้งโรงงานที่ประเทศอื่น ผลิตของในประเทศอื่น แล้วส่งมาขายในสหรัฐฯ ก็จะต้องเจอกับกำแพงภาษที่สูงขึ้น ทรัมป์ยังได้เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในสหรัฐฯ และในต่างประเทศ ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น และทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่ม อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราดอกเบี้ยนั้น ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ทำงานอย่างอิสระ โดยไม่ขึ้นกับประธานาธิบดี
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 1 รีวิว
  • ## เบื้องหลังมายากลระดับตำนาน ทักษิณ ผู้ปลดหนี้ IMF ด้วยเงิน 5 แสนล้าน ที่ตนเองไม่ได้หา ##
    ..
    ..
    วิกฤตต้มยำกุ้ง เกิดขึ้นในสมัยพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงปีพศ. 2540 มีการโจมตีค่าเงินบาทจากต่างชาติ
    .
    ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในเวลานั้นตัดสินใจใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศสู้การโจมตี ในการพยุงค่าเงินบาท ที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้คงที่ ที่ 27 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
    .
    จนในที่สุด ทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่จำนวนมาก ก็แทบจะไม่เหลือ เมื่อพลเอกชวลิตทราบเรื่อง จึงตัดสินใจลอยตัวค่าเงินบาท คือไม่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 27 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่ให้ขึ้นลง ตามมูลค่าจริง ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540
    .
    ค่าเงินบาทต่อ 1 ดอลล่าห์สหรัฐเคยขึ้นไปสูงถึง 50-56 บาท
    .
    คนที่เคยเป็นหนี้เงินกู้ต่างประเทศ 1000 ดอลล่าร์ เทียบเป็นเงินไทย 27000 บาท กลายเป็น 50000 – 56000 บาท
    .
    ทุกอย่างพังพินาศในชั่วคืน
    .
    หลังเกิดวิกฤต รัฐบาล ขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF
    และทาง IMF ก็ออกมาตรการที่เข้มงวดต่อระบบการเงินการคลังให้ไทยตัดรายจ่ายงบประมาณแผ่นดินและเพิ่มภาษีมูลค่าเป็นร้อยละ 10 ทั้ง ๆ ที่วิกฤตนี้เป็นวิกฤตภาคการเงิน ไม่ได้มาจากการใช้จ่ายเกินตัวของภาครัฐ และไทยเองก็มีการเกินดุลการคลังมาตลอดก่อนหน้า 10 ปี ทำให้มีเงินสะสมในคลังจำนวนมาก แต่ก็อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ในขณะนั้นที่ไทยมีการเติบโตที่ติดลบไปแล้วจึงต้องยอมปฏิบัติตาม
    .
    ผลจากวิกฤตนี้ ทำให้นายกชวลิต ลาออก ได้นายกคนใหม่ชื่อ ชวน หลีกภัย
    .
    รัฐบาลชวน หลีกภัย ในสมัยที่เข้ามารับช่วงต่อปี 2540 ได้เจรจาให้ IMF ยอมลดเงื่อนไขโดยให้ภาษีมูลค่าเพิ่มไปอยู่ที่ร้อยละ 7 และยอมให้มีการขยายรายจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินกู้จากญี่ปุ่นหลังจากที่เหล่าธนาคารไม่ยอมปล่อยกู้จนทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถเดินได้
    นอกจากนี้การกอบกู้ไทยจาก IMF โดยมีญี่ปุ่นเป็นหัวหอกและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนร่วมใจกัน ซึ่งสามารถระดมเงินมาได้ 17.2 พันล้านเหรียญฯ
    รัฐบาลชวน ได้เข้ามาควบคุม บริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชนให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยการจัดตั้ง องค์การเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) เพื่อจัดการควบรวมกิจการ ประกาศขายกิจการที่มีปัญหาเรื่องสินทรัพย์และหนี้สิน ท่ามกลางข้อครหาว่า เอากิจการที่มีมูลค่าสูงมาขายเลหลังในราคาถูก จนเรียกกันแบบล้อเลียนว่า ออกกฎหมายขายชาติ และมีแปรรูปหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ จนกระทั่งสถานการณ์ทางการเงินการคลังค่อยๆ ดีขึ้น
    .
    รัฐบาลไทยเบิกเงินจาก IMF จริงเพียงแค่ 14 พันล้านเหรียญ และทิ้งเงินส่วนที่เหลือ ราว 3 พันล้านเหรียญ และไม่เบิกจาก IMF ต่อในเดือนกันยายน 2542 ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ต้องกู้เพิ่มเพราะการกู้มักจะยืดเยื้อไม่จบสิ้น
    เท่ากับว่า รัฐบาลชวนฯ สามารถกอบกู้ปัญหาดุลการชำระเงินให้เข้าสู่สภาวะปกติและมีเงินสำรองระหว่างประเทศกลับคืนมาอย่างรวดเร็วกว่าที่ IMF คาดไว้
    .
    ดังนั้นกระทรวงการคลังของไทยจึงได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยคืนหนี้ IMF ก่อนกำหนด เพราะเงินสำรองที่ถูกใช้เกือบหมดนั้น ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อยากให้เก็บเงินสำรองไว้ก่อน จนรัฐบาลชวนหมดวาระในปี 2543
    .
    ประเทศไทยได้นายกคนใหม่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ในปีพ.ศ. 2544
    .
    นายกทักษิณ ชินวัตรได้เข้ามาบริหารประเทศ เห็นว่ารัฐบาลที่แล้ว เพิ่งใช้หนี้ IMF ไปแค่ส่วนหนึ่ง และเห็นว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลที่แล้วสะสมเอาไว้มีมากพอที่จะใช้หนี้ เพื่อดึงเงินทุนสำรองนี้มาใช้ นายกทักษิณจึงปลดผู้ว่าของธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นออก แล้วนำเงินจากกองทุนเงินสำรองที่ได้สะสมเอาไว้จากการบริหารงานของรัฐบาลก่อนหน้าบวกกับเงินกู้จาก ADB อีกส่วนหนึ่ง คืนเจ้าหนี้ IMF ก่อนกำหนด
    .
    ข้อดีคือ ความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยของนักลงทุนดีขึ้น สถานการณ์ของประเทศดีขึ้น
    และใช่ ทักษิณเป็นคนปลดหนี้จาก IMF
    .
    แต่เราจะพูดถึงแต่คนที่เอาเงินจากกระเป๋าที่มีเงินอยู่แล้ว ไปปลดหนี้
    โดยที่ไม่พูดถึงหรือไม่ให้เครดิตคนที่หาเงิน และบริหารเงินจนมีเงินในกระเป๋ามากพอที่จะใช้หนี้เลย คงจะไม่เป็นการยุติธรรมต่อกลุ่มคนเหล่านั้น มิใช่หรือ
    ....
    ....
    โดย เพจ ฤๅ - Lue History
    .
    https://www.facebook.com/share/p/1EqubFQLrq/
    ## เบื้องหลังมายากลระดับตำนาน ทักษิณ ผู้ปลดหนี้ IMF ด้วยเงิน 5 แสนล้าน ที่ตนเองไม่ได้หา ## .. .. วิกฤตต้มยำกุ้ง เกิดขึ้นในสมัยพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงปีพศ. 2540 มีการโจมตีค่าเงินบาทจากต่างชาติ . ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในเวลานั้นตัดสินใจใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศสู้การโจมตี ในการพยุงค่าเงินบาท ที่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้คงที่ ที่ 27 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด . จนในที่สุด ทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่จำนวนมาก ก็แทบจะไม่เหลือ เมื่อพลเอกชวลิตทราบเรื่อง จึงตัดสินใจลอยตัวค่าเงินบาท คือไม่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 27 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่ให้ขึ้นลง ตามมูลค่าจริง ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 . ค่าเงินบาทต่อ 1 ดอลล่าห์สหรัฐเคยขึ้นไปสูงถึง 50-56 บาท . คนที่เคยเป็นหนี้เงินกู้ต่างประเทศ 1000 ดอลล่าร์ เทียบเป็นเงินไทย 27000 บาท กลายเป็น 50000 – 56000 บาท . ทุกอย่างพังพินาศในชั่วคืน . หลังเกิดวิกฤต รัฐบาล ขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF และทาง IMF ก็ออกมาตรการที่เข้มงวดต่อระบบการเงินการคลังให้ไทยตัดรายจ่ายงบประมาณแผ่นดินและเพิ่มภาษีมูลค่าเป็นร้อยละ 10 ทั้ง ๆ ที่วิกฤตนี้เป็นวิกฤตภาคการเงิน ไม่ได้มาจากการใช้จ่ายเกินตัวของภาครัฐ และไทยเองก็มีการเกินดุลการคลังมาตลอดก่อนหน้า 10 ปี ทำให้มีเงินสะสมในคลังจำนวนมาก แต่ก็อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ในขณะนั้นที่ไทยมีการเติบโตที่ติดลบไปแล้วจึงต้องยอมปฏิบัติตาม . ผลจากวิกฤตนี้ ทำให้นายกชวลิต ลาออก ได้นายกคนใหม่ชื่อ ชวน หลีกภัย . รัฐบาลชวน หลีกภัย ในสมัยที่เข้ามารับช่วงต่อปี 2540 ได้เจรจาให้ IMF ยอมลดเงื่อนไขโดยให้ภาษีมูลค่าเพิ่มไปอยู่ที่ร้อยละ 7 และยอมให้มีการขยายรายจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินกู้จากญี่ปุ่นหลังจากที่เหล่าธนาคารไม่ยอมปล่อยกู้จนทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถเดินได้ นอกจากนี้การกอบกู้ไทยจาก IMF โดยมีญี่ปุ่นเป็นหัวหอกและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนร่วมใจกัน ซึ่งสามารถระดมเงินมาได้ 17.2 พันล้านเหรียญฯ รัฐบาลชวน ได้เข้ามาควบคุม บริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชนให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยการจัดตั้ง องค์การเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) เพื่อจัดการควบรวมกิจการ ประกาศขายกิจการที่มีปัญหาเรื่องสินทรัพย์และหนี้สิน ท่ามกลางข้อครหาว่า เอากิจการที่มีมูลค่าสูงมาขายเลหลังในราคาถูก จนเรียกกันแบบล้อเลียนว่า ออกกฎหมายขายชาติ และมีแปรรูปหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ จนกระทั่งสถานการณ์ทางการเงินการคลังค่อยๆ ดีขึ้น . รัฐบาลไทยเบิกเงินจาก IMF จริงเพียงแค่ 14 พันล้านเหรียญ และทิ้งเงินส่วนที่เหลือ ราว 3 พันล้านเหรียญ และไม่เบิกจาก IMF ต่อในเดือนกันยายน 2542 ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ต้องกู้เพิ่มเพราะการกู้มักจะยืดเยื้อไม่จบสิ้น เท่ากับว่า รัฐบาลชวนฯ สามารถกอบกู้ปัญหาดุลการชำระเงินให้เข้าสู่สภาวะปกติและมีเงินสำรองระหว่างประเทศกลับคืนมาอย่างรวดเร็วกว่าที่ IMF คาดไว้ . ดังนั้นกระทรวงการคลังของไทยจึงได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยคืนหนี้ IMF ก่อนกำหนด เพราะเงินสำรองที่ถูกใช้เกือบหมดนั้น ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อยากให้เก็บเงินสำรองไว้ก่อน จนรัฐบาลชวนหมดวาระในปี 2543 . ประเทศไทยได้นายกคนใหม่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ในปีพ.ศ. 2544 . นายกทักษิณ ชินวัตรได้เข้ามาบริหารประเทศ เห็นว่ารัฐบาลที่แล้ว เพิ่งใช้หนี้ IMF ไปแค่ส่วนหนึ่ง และเห็นว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลที่แล้วสะสมเอาไว้มีมากพอที่จะใช้หนี้ เพื่อดึงเงินทุนสำรองนี้มาใช้ นายกทักษิณจึงปลดผู้ว่าของธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นออก แล้วนำเงินจากกองทุนเงินสำรองที่ได้สะสมเอาไว้จากการบริหารงานของรัฐบาลก่อนหน้าบวกกับเงินกู้จาก ADB อีกส่วนหนึ่ง คืนเจ้าหนี้ IMF ก่อนกำหนด . ข้อดีคือ ความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยของนักลงทุนดีขึ้น สถานการณ์ของประเทศดีขึ้น และใช่ ทักษิณเป็นคนปลดหนี้จาก IMF . แต่เราจะพูดถึงแต่คนที่เอาเงินจากกระเป๋าที่มีเงินอยู่แล้ว ไปปลดหนี้ โดยที่ไม่พูดถึงหรือไม่ให้เครดิตคนที่หาเงิน และบริหารเงินจนมีเงินในกระเป๋ามากพอที่จะใช้หนี้เลย คงจะไม่เป็นการยุติธรรมต่อกลุ่มคนเหล่านั้น มิใช่หรือ .... .... โดย เพจ ฤๅ - Lue History . https://www.facebook.com/share/p/1EqubFQLrq/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กาสิโน' ถูกกฎหมาย ครม.อนุมัติหลักการ 'กฤษฎีกา' ไม่ค้านแต่ต้องให้ชัด
    .
    ในที่สุดโครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ตามขั้นตอนได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
    .
    นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าหากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ
    .
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย
    .
    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างมั่นใจว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย
    .
    สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี และได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท
    .
    ขณะที่ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า กฤษฎีกาไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น ๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ซึ่งแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ
    .
    นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ถ้าจะเป็น​ Man​-Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ​ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน
    .
    "ถ้าเป็นเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้ จะย้ายผมหรือครับ" เลขาฯกฤษฎีกา ระบุ
    ..............
    Sondhi X
    'กาสิโน' ถูกกฎหมาย ครม.อนุมัติหลักการ 'กฤษฎีกา' ไม่ค้านแต่ต้องให้ชัด . ในที่สุดโครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ตามขั้นตอนได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป . นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าหากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ . นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย . นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างมั่นใจว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย . สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี และได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท . ขณะที่ นายปกรณ์​ นิลประพันธ์​ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า กฤษฎีกาไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล จะต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man​-​Made​ Destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น ๆ และเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้นใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องของเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ และการแก้ไขปัญหาการพนัน ซึ่งแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ . นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ถ้าจะเป็น​ Man​-Made​ Destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ​ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ไม่ได้แก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ไขปัญหาการพนันโดยตรง ต้องไปแก้ไขที่อื่น เช่น นิสัยของคน พฤติกรรมของคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ว่าจะเน้น Man​-​Made​ Destination หรือจะเน้นเอ็นเตอร์เทน​เมนต์​คอมเพล็กซ์​ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน . "ถ้าเป็นเน้น Man​-​Made​ Destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริง ๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีขอให้เอาให้ชัดก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวางเหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้ จะย้ายผมหรือครับ" เลขาฯกฤษฎีกา ระบุ .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1784 มุมมอง 1 รีวิว
  • นายกฯ เผย ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยันกฤษฎีกาไม่ขวาง แต่ต้องปรับคำให้เข้ากับนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ชี้ยิ่งทำเร็วยิ่งดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดึงนักท่องเที่ยว งัดธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมาย

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000003642

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกฯ เผย ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยันกฤษฎีกาไม่ขวาง แต่ต้องปรับคำให้เข้ากับนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ชี้ยิ่งทำเร็วยิ่งดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดึงนักท่องเที่ยว งัดธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมาย อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000003642 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Like
    Sad
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1029 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินดิจิทัล Wallet รอบแรก หมดไปแล้ว 1 แสน 4 หมื่นล้านบาท...
    .
    พายุหมุน กระตุ้นเศรษฐกิจ...???
    .
    เอาดีๆ พายุหมุน หรือ ลมตด...!!!
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    เงินดิจิทัล Wallet รอบแรก หมดไปแล้ว 1 แสน 4 หมื่นล้านบาท... . พายุหมุน กระตุ้นเศรษฐกิจ...??? . เอาดีๆ พายุหมุน หรือ ลมตด...!!! . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 มกราคม 2568 -รายงานข่าวไฟแนนซ์เชียลไทม์ระบุว่า
    นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ประกาศลาออกหลังจากดำรงตำแหน่งมาเกือบ 10 ปี หลังจากมีการคาดเดาอนาคตทางการเมืองของเขามาหลายสัปดาห์

    เขาเสริมว่า เขาจะระงับการทำงานของรัฐสภาจนถึงวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้พรรคเสรีนิยมของเขามีเวลาในการเลือกผู้นำคนใหม่

    ทรูโดกล่าวว่า “ผมตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี หลังจากที่พรรคได้เลือกผู้นำคนใหม่แล้ว”

    ทรูโดกล่าวที่เมืองออตตาวาเมื่อวันจันทร์ว่า “รัฐสภาหยุดชะงักมาหลายเดือนแล้ว ประเทศนี้สมควรได้รับตัวเลือกที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งหน้า และสำหรับผมแล้ว ชัดเจนแล้วว่า หากผมต้องต่อสู้ภายใน ผมจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนั้น”

    ความนิยมของนายทรูโด วัย 53 ปี ตกต่ำลงเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งและสมาชิกพรรคของเขาหันหลังให้กับเขา หลังจากที่มีการคาดเดากันอย่างวุ่นวายเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารประเทศในกลุ่ม G7

    พรรคประชาธิปไตยใหม่ (NDP) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญในรัฐสภา ประกาศก่อนคริสต์มาสว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของพรรคเสรีนิยมอีกต่อไป

    พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรค NDP ยังกล่าวอีกว่าพวกเขาพร้อมที่จะผ่านญัตติไม่ไว้วางใจในสภาสามัญ ซึ่งอาจกระตุ้นให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด

    นายปิแอร์ ปัวลิเวียร์ ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของเขามีคะแนนนำพรรคเสรีนิยม 25 คะแนนในผลสำรวจ ได้เรียกร้องให้นายทรูโดลาออกหรือจัดการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง โดยอ้างถึงความท้าทายที่ใกล้จะเกิดขึ้นในแคนาดากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่

    ทรัมป์ได้ล้อเลียนนายทรูโดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเรียกเขาว่าผู้ว่าการรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้นายกรัฐมนตรีลาออก

    ทรูโดเกิดที่เมืองออตตาวา เป็นบุตรชายของปิแอร์ ทรูโด ผู้นำพรรคเสรีนิยมผู้มีเสน่ห์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1968 ถึง 1979 และตั้งแต่ปี 1980 ถึง 1984 เคยทำงานเป็นครูสอนละครในโรงเรียนที่เมืองแวนคูเวอร์ ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในเดือนเมษายน 2013

    เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 เมื่อผู้มาใหม่หน้าใหม่พาพรรคเสรีนิยมของเขาไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคอนุรักษ์นิยมและสตีเฟน ฮาร์เปอร์ ผู้นำที่ไม่เป็นที่นิยมของพวกเขา

    ในช่วงดำรงตำแหน่ง ทรูโดได้ผ่านกฎหมายเพื่อยกเลิกกฎหมายยาเสพติด ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมการปรองดองกับชนพื้นเมือง ตลอดจนความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 25,000 คนที่หลบหนีสงครามในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับระดับผู้อพยพ

    แต่ความนิยมในตัวทรูโดก็ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงและวิกฤตการณ์ด้านที่อยู่อาศัย ความพยายามของเขาในการกระตุ้นเศรษฐกิจของแคนาดาหลังการระบาดใหญ่ผ่านการย้ายถิ่นฐานในระดับสูงสุดยังเผชิญกับการต่อต้านอย่างกว้างขวาง

    การสำรวจความคิดเห็นของแองกัส รีดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมแสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตั้งใจจะลงคะแนนให้พรรคเสรีนิยมลดลงเหลือ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ทรูโดขึ้นสู่อำนาจ ในขณะที่คะแนนความไม่เห็นด้วยของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผ่าน "Trudeau Tracker" ของผู้ให้บริการสำรวจความคิดเห็น อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74 เปอร์เซ็นต์

    การลาออกอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมของคริสเทีย ฟรีแลนด์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่เคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี หลังจากเกิดข้อพิพาทกับทรูโดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้เกิดการเรียกร้องให้เขาลาออกจากทั้งฝ่ายค้านและพรรคของตัวเองอีกครั้ง

    หลังจากการเคลื่อนไหวของฟรีแลนด์ จัคมีท ซิงห์ หัวหน้าพรรค NDP กล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมว่าพรรคของเขามีความคิดที่จะถอนการสนับสนุนจากทรูโดหรือพรรคเสรีนิยม ซิงห์ให้คำมั่นว่ากลุ่มผู้ลงคะแนนของพรรคของเขาจะพิจารณาโค่นล้มรัฐบาลเมื่อรัฐสภาเปิดประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด https://www.ft.com/content/dd453658-4d2c-487d-87f1-24b0129d8d52
    6 มกราคม 2568 -รายงานข่าวไฟแนนซ์เชียลไทม์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ประกาศลาออกหลังจากดำรงตำแหน่งมาเกือบ 10 ปี หลังจากมีการคาดเดาอนาคตทางการเมืองของเขามาหลายสัปดาห์ เขาเสริมว่า เขาจะระงับการทำงานของรัฐสภาจนถึงวันที่ 24 มีนาคม เพื่อให้พรรคเสรีนิยมของเขามีเวลาในการเลือกผู้นำคนใหม่ ทรูโดกล่าวว่า “ผมตั้งใจจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี หลังจากที่พรรคได้เลือกผู้นำคนใหม่แล้ว” ทรูโดกล่าวที่เมืองออตตาวาเมื่อวันจันทร์ว่า “รัฐสภาหยุดชะงักมาหลายเดือนแล้ว ประเทศนี้สมควรได้รับตัวเลือกที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งหน้า และสำหรับผมแล้ว ชัดเจนแล้วว่า หากผมต้องต่อสู้ภายใน ผมจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนั้น” ความนิยมของนายทรูโด วัย 53 ปี ตกต่ำลงเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งและสมาชิกพรรคของเขาหันหลังให้กับเขา หลังจากที่มีการคาดเดากันอย่างวุ่นวายเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารประเทศในกลุ่ม G7 พรรคประชาธิปไตยใหม่ (NDP) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญในรัฐสภา ประกาศก่อนคริสต์มาสว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของพรรคเสรีนิยมอีกต่อไป พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรค NDP ยังกล่าวอีกว่าพวกเขาพร้อมที่จะผ่านญัตติไม่ไว้วางใจในสภาสามัญ ซึ่งอาจกระตุ้นให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด นายปิแอร์ ปัวลิเวียร์ ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของเขามีคะแนนนำพรรคเสรีนิยม 25 คะแนนในผลสำรวจ ได้เรียกร้องให้นายทรูโดลาออกหรือจัดการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง โดยอ้างถึงความท้าทายที่ใกล้จะเกิดขึ้นในแคนาดากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ทรัมป์ได้ล้อเลียนนายทรูโดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเรียกเขาว่าผู้ว่าการรัฐที่ 51 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทรูโดเกิดที่เมืองออตตาวา เป็นบุตรชายของปิแอร์ ทรูโด ผู้นำพรรคเสรีนิยมผู้มีเสน่ห์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1968 ถึง 1979 และตั้งแต่ปี 1980 ถึง 1984 เคยทำงานเป็นครูสอนละครในโรงเรียนที่เมืองแวนคูเวอร์ ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในเดือนเมษายน 2013 เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 เมื่อผู้มาใหม่หน้าใหม่พาพรรคเสรีนิยมของเขาไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคอนุรักษ์นิยมและสตีเฟน ฮาร์เปอร์ ผู้นำที่ไม่เป็นที่นิยมของพวกเขา ในช่วงดำรงตำแหน่ง ทรูโดได้ผ่านกฎหมายเพื่อยกเลิกกฎหมายยาเสพติด ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมการปรองดองกับชนพื้นเมือง ตลอดจนความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 25,000 คนที่หลบหนีสงครามในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับระดับผู้อพยพ แต่ความนิยมในตัวทรูโดก็ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงและวิกฤตการณ์ด้านที่อยู่อาศัย ความพยายามของเขาในการกระตุ้นเศรษฐกิจของแคนาดาหลังการระบาดใหญ่ผ่านการย้ายถิ่นฐานในระดับสูงสุดยังเผชิญกับการต่อต้านอย่างกว้างขวาง การสำรวจความคิดเห็นของแองกัส รีดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมแสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตั้งใจจะลงคะแนนให้พรรคเสรีนิยมลดลงเหลือ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ทรูโดขึ้นสู่อำนาจ ในขณะที่คะแนนความไม่เห็นด้วยของนายกรัฐมนตรี ซึ่งผ่าน "Trudeau Tracker" ของผู้ให้บริการสำรวจความคิดเห็น อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74 เปอร์เซ็นต์ การลาออกอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมของคริสเทีย ฟรีแลนด์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังที่เคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี หลังจากเกิดข้อพิพาทกับทรูโดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้เกิดการเรียกร้องให้เขาลาออกจากทั้งฝ่ายค้านและพรรคของตัวเองอีกครั้ง หลังจากการเคลื่อนไหวของฟรีแลนด์ จัคมีท ซิงห์ หัวหน้าพรรค NDP กล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมว่าพรรคของเขามีความคิดที่จะถอนการสนับสนุนจากทรูโดหรือพรรคเสรีนิยม ซิงห์ให้คำมั่นว่ากลุ่มผู้ลงคะแนนของพรรคของเขาจะพิจารณาโค่นล้มรัฐบาลเมื่อรัฐสภาเปิดประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด https://www.ft.com/content/dd453658-4d2c-487d-87f1-24b0129d8d52
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินดอลลาร์ - ทองคำ อาจต้องรอดูตั้งแต่ 2 เดือนแรก ถึงหลัง 6 เดือน นับจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง (20/01/2568)
    .
    เงินหยวนจีน มีโอกาสอ่อนค่าลง จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ...
    .
    ส่วน ประเทศไทย รอดูหลังเดือน 4 ไปแล้ว ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรรึเปล่า...???
    .
    ส่วนใครจะ หาพ่อหาแม่ ไอ้ควาย หรือ หาไอ้ควาย...!!!
    .
    ก็เอาที่สะดวกครับ...
    .
    ใครที่เล่นหุ้น อ่านกราฟ เรียน Technical มาบ้าง อาจจะคุ้นๆกับคำนี้ครับ...
    .
    "History Repeats Itself"
    .
    เรามักจะคาดเดาไปต่างๆนาๆว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
    .
    ถ้าเราลองย้อนกลับไปพินิจพิเคราะห์กราฟย้อนหลัง เรามักจะเจอ กราฟ ที่หน้าตารูปร่างมันซ้ำเดิมอยู่เนืองๆ เพราะว่า...
    .
    พฤติกรรม ของมนุษย์ มันไม่เคยเปลี่ยน...!!!
    .
    มนุษย์ ส่วนใหญ่พอสมควร ไม่เคยเรียนรู้ที่จะควบคุม "ความโลภ-ความกลัว" ที่อยู่ในใจของตัวเองได้เลย...
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    เงินดอลลาร์ - ทองคำ อาจต้องรอดูตั้งแต่ 2 เดือนแรก ถึงหลัง 6 เดือน นับจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง (20/01/2568) . เงินหยวนจีน มีโอกาสอ่อนค่าลง จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ... . ส่วน ประเทศไทย รอดูหลังเดือน 4 ไปแล้ว ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรรึเปล่า...??? . ส่วนใครจะ หาพ่อหาแม่ ไอ้ควาย หรือ หาไอ้ควาย...!!! . ก็เอาที่สะดวกครับ... . ใครที่เล่นหุ้น อ่านกราฟ เรียน Technical มาบ้าง อาจจะคุ้นๆกับคำนี้ครับ... . "History Repeats Itself" . เรามักจะคาดเดาไปต่างๆนาๆว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร . ถ้าเราลองย้อนกลับไปพินิจพิเคราะห์กราฟย้อนหลัง เรามักจะเจอ กราฟ ที่หน้าตารูปร่างมันซ้ำเดิมอยู่เนืองๆ เพราะว่า... . พฤติกรรม ของมนุษย์ มันไม่เคยเปลี่ยน...!!! . มนุษย์ ส่วนใหญ่พอสมควร ไม่เคยเรียนรู้ที่จะควบคุม "ความโลภ-ความกลัว" ที่อยู่ในใจของตัวเองได้เลย... . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินดอลลาร์ - ทองคำ อาจต้องรอดูตั้งแต่ 2 เดือนแรก ถึงหลัง 6 เดือน นับจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง (20/01/2568)
    .
    เงินหยวนจีน มีโอกาสอ่อนค่าลง จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ...
    .
    ส่วน ประเทศไทย รอดูหลังเดือน 4 ไปแล้ว ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรรึเปล่า...???
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    เงินดอลลาร์ - ทองคำ อาจต้องรอดูตั้งแต่ 2 เดือนแรก ถึงหลัง 6 เดือน นับจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง (20/01/2568) . เงินหยวนจีน มีโอกาสอ่อนค่าลง จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ... . ส่วน ประเทศไทย รอดูหลังเดือน 4 ไปแล้ว ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรรึเปล่า...??? . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่มา : เว็บไซต์ isaninsight.kku.ac.th
    มาสคอตประจำจังหวัด 6 จังหวัด ในอีสาน
    .
    กาฬสินธุ์ แพรงามและภูพาน ได้รับแรงบันดาลใจจากไดโนเสาร์สายพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ สีของลำตัวสีเหลืงจากสีของหนอนไหม/รังไหม , มีเครื่องแต่งกายจากชาวภูไท ข้างเอวมีกระติบข้าวเหนียวและถือพิณภูพานอีกด้วย
    .
    ขอนแก่น น้องไดโน่ DINO ไดโนเสาร์ใจดี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนวาระจังหวัด ตามแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมกันขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ในระดับฐานราก ไปจนถึงธุรกิจระหว่างประเทศ
    .
    มุกดาหาร " LEOPARD CAT’S IDENTITY OF MUKDAHAN " แมวดาวอัตลักษณ์แห่งมุกดาหาร เป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำจังหวัดมุกดาหาร
    .
    ร้อยเอ็ด “GOMU (โกมุ)” ซึ่งเป็นการเล่นคำกับคำว่า “Gold” (โกลด์) หรือทองคำ สามารถสร้างจุดขายให้ร้านได้ แถมยังมีความหมายเป็นมงคล เพราะทองคำเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ร่ำรวย
    .
    หนองบัวลำภู น้องลุ่มภู ปลาฉลามน้ำจืดสีชมพู ตามซากฟอสซิลที่พบ ถือดาบผูกผ้าคาดเอวและมีดอกบัว ดอกไม้ประจำจังหวัดอีกด้วย
    .
    อุดรธานี นำฟอสซิล “คุณทองโบราณ” มาแปลงเป็นมาสคอต ประจำจังหวัด เพื่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของจังหวัด กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้หมุนเวียน
    .
    อ้างอิงจาก:
    กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
    ที่มา : เว็บไซต์ isaninsight.kku.ac.th มาสคอตประจำจังหวัด 6 จังหวัด ในอีสาน . กาฬสินธุ์ แพรงามและภูพาน ได้รับแรงบันดาลใจจากไดโนเสาร์สายพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ สีของลำตัวสีเหลืงจากสีของหนอนไหม/รังไหม , มีเครื่องแต่งกายจากชาวภูไท ข้างเอวมีกระติบข้าวเหนียวและถือพิณภูพานอีกด้วย . ขอนแก่น น้องไดโน่ DINO ไดโนเสาร์ใจดี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการขับเคลื่อนวาระจังหวัด ตามแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมกันขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ในระดับฐานราก ไปจนถึงธุรกิจระหว่างประเทศ . มุกดาหาร " LEOPARD CAT’S IDENTITY OF MUKDAHAN " แมวดาวอัตลักษณ์แห่งมุกดาหาร เป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำจังหวัดมุกดาหาร . ร้อยเอ็ด “GOMU (โกมุ)” ซึ่งเป็นการเล่นคำกับคำว่า “Gold” (โกลด์) หรือทองคำ สามารถสร้างจุดขายให้ร้านได้ แถมยังมีความหมายเป็นมงคล เพราะทองคำเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ร่ำรวย . หนองบัวลำภู น้องลุ่มภู ปลาฉลามน้ำจืดสีชมพู ตามซากฟอสซิลที่พบ ถือดาบผูกผ้าคาดเอวและมีดอกบัว ดอกไม้ประจำจังหวัดอีกด้วย . อุดรธานี นำฟอสซิล “คุณทองโบราณ” มาแปลงเป็นมาสคอต ประจำจังหวัด เพื่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของจังหวัด กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้หมุนเวียน . อ้างอิงจาก: กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง กว่า 32 กม. เชื่อม จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ เสร็จแล้ว ยกระดับมาตรฐานทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสะดวกในทุกฤดู ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระยะทางรวม 32.457 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร ไป - กลับ ผิวจราจรกว้าง 5 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 126.100 ล้านบาท

    เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน เนื่องจากถนนเดิมได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝน ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทาง ส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์อุทยานเดินทางด้วยความยากลำบาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000354

    #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท
    กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง กว่า 32 กม. เชื่อม จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ เสร็จแล้ว ยกระดับมาตรฐานทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสะดวกในทุกฤดู ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระยะทางรวม 32.457 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร ไป - กลับ ผิวจราจรกว้าง 5 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 126.100 ล้านบาท • เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน เนื่องจากถนนเดิมได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝน ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทาง ส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์อุทยานเดินทางด้วยความยากลำบาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000354 • #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19-12-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.15 ตอน "HIGH EDUCATION IT'S NOT MEAN A GOOD GUY" อั๊ยยะ! เริ่มเรื่องเบาๆ ก่อน อีมนุษย์ป้าอดีตแอร์โฮส-สะ-เต็ด ผีบ้าเข้า เอือมทั้งหมู่บ้าน ละลานไปทั่ว ชาวบ้านถาม ทั้งหมู่บ้านลงขัน กระทืบอีป้าตาย มรึงจะว่ายังไง? เช้าจรดเย็น วุ่นวายกับอีมนุษย์ป้ามหาภัย หาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว ผัวไม่มี ผัวไม่เอา แจ้งความเป็น 100 ตำหนวดยังมึน ไร้ปัญญา งานนี้ ต้องใช้ศาลบังคับ ไม่ทำ ไปนอนคุกซะน่ะ ดีออก? ทำไม เรื่องไม่ดี เรื่องเหี้ยๆ เรื่องอัปรีย์จัญไร ปาหี่ เรื่องขี้หมา ล้วนมาจาก "มนุษย์ป้า" ใครกำหนดฟ่ะ? "โรคปราสาทแดร๊ก" ไม่มีใครว่า หากไม่ทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เรียกร้องความสนใจเหรอจ๊ะ? เดี๋ยวมรึงก็โดนเอาเหล้ายัดใส่ปาก ตามไปหาอีแบงค์ แมนยูแม่งซะเลย? กฎหมายไม่ครอบคุม "คนบร๊าจ๊ะ" แบบนี้ บร๊ามา บร๊ากลับ ไม่มีโกง สรุปยังไงก็บร๊า?

    มรึงจะรายงานทำไม? รัสเซียรุกคืบยึดดินแดนเพิ่ม มันแปลกตรงไหน ยูเครนมันตกเป็นของรัสเซียไปนานแล้ว ตั้งแต่ระเบิดลูกแรกลง? เค้าแค่เล่นเกมส์ปาหี่กันอยู่ ลากขี้ข้าเหี้ยเข้ามาตายห่าหมู่ "กับดักทั้งนั้น" ขนาดอีเสี้ยนยายังหมดปัญญาแล้ว NATO ถอยกันหมด ไม่ให้เข้า แถมยังไม่ช่วยเหลืออีก เพราะ "หมดตูดกันหมด" ใครจะช่วย เพราะตอนนี้ อี NATO กำลังจะถูกล่อซะเอง อีไก่งวงไล่ตีเหี้ยแถวซีเรีย อี NATO ยังม่กล้าเสือกเลย เพราะอีแอร์โดกันมันคลั่ง จะแก้แค้น ไม่ให้กูเข้า EU ชิมิ เดี๋ยวกูยึดซีเรียเสร็จ ลาออก NATO เข้า BRICS เต็มตัว ตากูเอาคืนบ้างล่ะ? ประเด็นคือ "โอเรชนิค" ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค พลิกเกมส์ ไม่ใช่แค่มาใช้ในยูเครน แต่มันเตรียมมาใช้กับทั้งทวีปยุโรป ต่างหากล่ะ "อีโปลตอแหล" ถึงได้เข้าหาจีน ตีเนียนขอเป็นพวก ทิ้งอียิวทันที อ้าว..ไหงเป็นงั้น อีโปลก็คือชุมชนยิวใหญ่มิใช่เหรอ มรึงไม่สู้เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์ล่ะ คำตอบคือ ยิวมีหลากหลายกลุ่ม และกลุ่มที่กลัวตายมากที่สุดคือ "พลเมืองยิวในอีโปลนั่นแหละ" เพราะภาพมันติดตา เคยถูกเกณฑ์ไปเผาทิ้งทั้งเป็นในสมัย WWII ยังขยาดอยู่ทุกวันนี้

    กูว่าแล้ว วิญญาน "ผีอีโม" มีจริง และแรงอาฆาต สุดจัดปลัดบอก ทะลุนรกกันไปเลย โจทย์ใหม่ GPS ที่อ.ปานเทพเอามาแฉยับ แถไม่ออก พิกัดเวลาตรงเป๊ะ กับภาพในมือถือโม ชี้ชัด แก้ไขเวลา และลบภาพ ข้อมูลทิ้ง หลังเวลาไหน? เหี้ยจัญไร ฆาตกร ไอ้อีสมรู้ร่วมคิด นั่งไม่ติด ติดกันหย่าย ยิ่งดิ้น แผลยิ่งเปิด ช่องโหว่มาเพี๊ยบ แม้แต่อีอัยกวยสูงไม่สุด ยังหยุดกระแส "เลิกตอแหลได้มั้ย ข้าราชการไตย" ใครอุ้มมีแหก ใครจ่าย มีแฉ? มันส์ละมรึง! สื่อกำลังจะเจ๊ง เพราะทำเหี้ยมานาน ตอแหล บิดเบือน ช่วยเหี้ยมาเยอะ แต่ตอนนี้ ต่างต้องเอาตัวรอดก่อน โทษน่ะนาย ไล่งับข่าว "ผีอีโม" ทั่วราชอาณาจักร เพื่อเพิ่มเรตติ้ง เรียกสปอนเซอร์เข้า สัจจะ ไม่มีในหมู่โจร เมื่อคดี "ผีอีโม" กลับมาเกิดใหม่ เร็ว แรง ทะลุนรก ชั้น 14 ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน สว.ชงเรื่อง ฆ่าหมดทั้งกระดานเหี้ยที่อุ้ม ชั้นในชงทูลเท็จ ถอนพระราชทานอภัยลดโทษ ผลคือ ทุกอย่างต้องกลับมาเริ่มต้นเป็น 0 ติดคุกตามจริง ไม่นับรพ. และไม่มีลดหย่อนโทษ บีบให้มรึงเผ่นออกไปซะ หรือไม่ ก็เก็บแม่งในคุกซะเลย? ตัวละครใหม่กำลังจะโผล่ พยานชั้น 14 เสรีการละคร เล่นแร่ แปรวิญญาน เอาจนเหี้ยอีเหลี่ยมชาติหมาหัวหมุนติ้ว! เรื่อง MOU44 นั่นคือหน้าฉาก หลังฉากคือ "แผนผนวกเขมรเบื้องหน้า" อ้าง..ไหง หนังคนละม้วน ตอนแรก มันจะเข้ามายึดแผ่นดินไทย มาตอนนี้ กลับจะกลายถึงไทยกลืนแทนซะงั้น? แปลว่าอะไร? โปรดดู ยุคเหี้ยครองโลก ไทยเสียเขาพระวิหาร เพราะอีเศษฝรั่ง อีเหี้ยมะกัน สั่งอีขะแมร์เข้ามาเสี้ยมอาเซียน แต่หลังจากนี้ ขั้วใหม่ครองโลก อะไรที่เสียไป หรือถูกเอาเปรียบ จะถุกรื้อคืนหมด เพราะไม่มีเหี้ยไอ้อีหน้าไหนมาแบ็คอัพอีขะแมร์อีกแล้ว แม้แต่จีน ยังเทไอ้พญาละแวก สันดานหมา กลิ้งกลอกไม่เลิก ทหารเค้าถึงได้นิ่ง รออีวอชิงตันตายคาตรีนรัสเซีย จีน ก่อน ไม่ต้องรีบ ยังไงก็ได้คืน กองทัพไทยใหญ่กว่าอีขะแมร์เยอะ แถวบ้านเรียก "ขี้ตรีน" เป็นเบ๊ทหารไทยมากว่าศตวรรษ คุณค่าที่คู่ควร

    อีนพดวย ซวยแล้วมรึง? ใครเป็นรมต.บัวแก้วเซ็นต์อนุมัติ สัญญาขายชาติ? ใครคือเด็กที่กินเงินหลวงไปเรียนต่อต่างประเทศ ใช้ทุนหลวงเพื่อมาเนรคุณพ่อท่าน ไอ้อีสัดเดรัจฉานชิงหมามาเกิด มรึงโดนแน่! MOU44 จะลากไอ้อีทุกตัวที่มีส่วนวางแผนขายแผ่นดินแดร๊กกับอีขะแมร์ งานนี้ไม่ได้ตายเดี่ยวนะจ๊ะ แต่ตายห่ายกครัวเรือน ย้อนเกล็ด ใครเปิดช่องให้อีพญาละแวกเข้าตีอโยธยาในเวทีโลก? "หนักแผ่นดิน" โทษรุนแรงมากน่ะ งานนี้ ถึงมือกองทัพแน่ เหี้ยอีวอชิงตันโลภ สั่งขี้ข้าหางแถวเหี้ยส่องหล้า จะเอาทั้งคลัง จะเอาทั้งแผ่นดิน สุดท้าย "แห้วแดร๊ก" ได้แต่ "ประชาตรีน" เค้าล็อคตัวพวกมรึงไว้หมดแล้ว เฉกเช่น อีตุ๊ดปากกว้าง ต้องกลับมาเตรียมรับกรรมต่อไป ไม่รู้ตัวว่า ถูกหลอกกลับมา เพราะอยู่ต่างแดน ไม่มีที่ไป เค้าเทมันหมดแล้ว ทุกการกระทำ ทุกเวรกรรมที่ก่อ ไม่มีหายไปไหน ย่อมต้องชดใช้ทุกดอก การันตี ไม่ช้าดอกน่ะ โดนกันหมดถ้วนหน้า เพราะวังสั่งตรง กวาดขยะให้สิ้นแผ่นดินไทย

    ปล.ความจริง มันย้อนแย้งกับสื่อเหี้ยเสมอ มรึงสังเกตุมุยว่า? ขั้วใหม่ ทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ดาหน้าส่งอาวุธใหม่มาอวดโฉมไม่เว้นวัน แล้วเหี้ยล่ะ? เงียบกริบ ยังใช้ F-22/F-35 มาขู่อยู่นั้น ในเชิงการศึก มันคือ "หมดแล้ว" ขี้ข้าก็รู้ โลกยังรู้ แต่ควายแกล้งไม่รู้ อีทรัมปป์มาก็ไม่กล้าเปิดกับจีน รัสเซีย โดยตรงดอก ด้วยกมลสันดานอีทรัมปป์แล้ว ถนัดส่งขี้ข้าไปตายห่ามากกว่า แต่เบื้องหลังคุยเครมลินสายไหม้ กูถอย แต่มรึงต้องเก็บกวาด DEEP STATE ให้กูด้วย เมื่ออำนาจยิวหมดไป อเมริกาสั่งถอนกำลังทั่วโลกกลับ ไม่ใช่เพราะอะไรดอกน่ะ "ไม่มีเงินจ่าย" รู้มั้ยว่า มันกำลังจะ SHUT DOWN อีกรอบแล้ว นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐ ยังไม่ได้เงินเดือนค้างจ่าย ตกเบิกเป็นปี มันถึงต้องปิดประเทศ แก้เศรษฐกิจภายในก่อนไงล่ะ? สีจิ้นผิงรู้ ถึงได้เร่งปิดจ็อบไต้หวัน ถึงได้ขยายพื้นที่ทะเลจีนใต้ ขยายแนวรบทั่วแปซิฟิค เพราะเหี้ยมันไม่มีปัญญาสู้จีนได้แล้ว หมายังรู้ แต่ดร.ยังโง่กว่าควายแถวบ้านกูอีก การเงินโลกชะงักหลังปีใหม่แน่ เพราะ BRICS เดินเครื่องเต็มกำลัง สมาชิกใหม่ แห่ถอน SWIFT ใช้หยวน ใช้รูเบิล ใช้เงินสกุลท้องถิ่นแทน ทวิภาคีระบาดไปทั่วโลกแล้ว แม้แต่อโยธยา ที่เล่นแร่แปรวิญญานมานาน ยังต้องเลือกข้าง อาเซียนยิ่งชัด ของใคร? ขนาดอีแขกภาระตะ ยังต้องหมอบ ก่อนหน้ากร่างสุดฤทธิ์ เจอจีนตบหน้าคว่ำ เจอรัสเซียตอกหน้าหงาย จะเล่นปาหี่ก็เล่นไป แต่อย่าแตะ สกุลเงิน BRICS เตือนแล้วไม่ฟัง หมาไปเลยมรึง?

    ปล.2 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาได้ยังไง? คำตอบคือ "ยุบสภา" รอรัฐบาลขี้ข้ายิวเหี้ยมันถูกเช็คบิลก่อน เงิน 10000 ดิจิตอล รอบ 3 คือ "ปิดฝาโลง" คลังไม่ปล่อย รอเชือด แค่มรึงเดินหน้าให้สุดซอย ทุกอย่างจะเป็นไปตามกรรมทันที กระตุ้นเศรษฐกิจจริงคือ ไม่ใช้ให้เงินเปล่า มรึงต้องสร้างงาน สร้างคน สร้างการใช้จ่าย คนไม่กล้าใช้ เพราะไม่มั่นใจ กระตุ้นที่ดี คือใช้ปัญญา ต่อยอด ให้เครื่องมือหากิน ไม่ใช้ใช้เงินไปตำน้ำพริก หมายังรู้ แต่ที่มันต้องทำ เพราะต้องการบั่นทอนเศรษฐกิจไทย ควายดีใจได้ตังค์ แต่หารู้ไม่ มันจ้องทุบคลังให้แตก แยกแผ่นดินให้ได้ ศาลไคฟงเค้ารู้หมด มรึงจะมาไม้ไหน? ที่ศาลรธน.ยังไม่ลงดาบ เพราะมีคดีที่ใหญ่กว่า เอาถึงลากโคตรท่อน้ำเลี้ยงอีเหลี่ยม และเหี้ย C ได้หมดจรด ฆ่าเหี้ยไม่ยาก แต่จะฆ่ายังไง ไม่ให้มันเป็น HERO ในสายตาควายไทยบัดซบ นี่คือ "คีย์" ต้องพ่วงตราบาป "หนักแผ่นดิน" ให้ควายตื่น เกมส์เค้ามี หมากเค้าเดิน ไม่ซี้ซั้ว กลศึกใช้เวลา ไม่มีใครทิ้งไพ่ตายตอนได้เปรียบดอกน่ะ ไม่มีใครทำอะไรอีเหลี่ยมได้? จริงเหรอ? มรึงดูดีแล้วรึ? มรึงเห็นแค่นี้เองเหรอ? หากดูเป็น คนใกล้ตัวมันไปหมดแล้ว หักหลัง ขายนาย แฉแหลก นี่คือสัญญาน "งูอสรพิษ" ทั้งฝ่ายการเมือง และฝ่ายนอกสภา เกมส์ลงถนนมีแน่ จะมาตอน "ได้รับชัยชนะแล้ว" เค้าไม่ให้ชาวอโยธยาไปเสี่ยงดอก หากไม่ชนะ ที่ผ่านมา แก้ไม่เสร็จ ไปไม่สุด เพราะยังต้องเลี้ยงเชื้อเอาไว้ ตราบใดเบื้องหลังเหี้ยจัวจริงยังไม่ทุ่มสุดตัว วังก็ไม่ต้องเสี่ยง ลุยสุดแรงเกิดเช่นกัน เค้าจ้องตากันอยู่ มรึงเขยิบ กูขยับ สุดท้ายจบที่ "ฉีกรัฐธรรมนูญ" ไม่ฉีก สร้างกฎเหล็กใหม่ไม่ได้ พ่อปกครองลูกมาไม่ได้

    หมี CNN(พรุ่งนี้แล้วสิน่ะ วันสิ้นปี เตรียมรอดู บทสรุปมหากาพย์สุดยอด ปี 67 กูจะสรุปภาพรวมทั้งปีให้มรึงเห็น TIME LINE ชัดเจน ว่าเรามาไกลถึงขนาดไหนแล้ว ทั้งฝ่ายขั้วโลกใหม่ และอโยธยาศรีรามเทพนคร 2025 เหี้ยแพ้ยับยังไง เหี้ยเสียอะไรไปเยอะมาก แสงทำงานเร็วทะลุนรก ขี้ข้าหนีตาย นายใหญ่หาบันไดลง ชื่อตอน "บทสรุปมหากาพย์สุดยอด ปี 2567" รีบอ่านซะ มันลบกูแน่ เดี๋ยวนี้ เหี้ยดิ้นพล่าน ทั้งอี FB อี LINE@ ไล่ลบวันต่อวัน กูบอกแล้วชิมิ หากฉลาด ไปตามอ่านใน VK และ MIND เหี้ยมันเข้าไม่ได้)
    30 ธันวาคม 67(ก่อนวันสิ้นปี หงส์ยังคงหนาวเหน็บไปจนจบฤดูกาล)
    10.45 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    19-12-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.15 ตอน "HIGH EDUCATION IT'S NOT MEAN A GOOD GUY" อั๊ยยะ! เริ่มเรื่องเบาๆ ก่อน อีมนุษย์ป้าอดีตแอร์โฮส-สะ-เต็ด ผีบ้าเข้า เอือมทั้งหมู่บ้าน ละลานไปทั่ว ชาวบ้านถาม ทั้งหมู่บ้านลงขัน กระทืบอีป้าตาย มรึงจะว่ายังไง? เช้าจรดเย็น วุ่นวายกับอีมนุษย์ป้ามหาภัย หาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว ผัวไม่มี ผัวไม่เอา แจ้งความเป็น 100 ตำหนวดยังมึน ไร้ปัญญา งานนี้ ต้องใช้ศาลบังคับ ไม่ทำ ไปนอนคุกซะน่ะ ดีออก? ทำไม เรื่องไม่ดี เรื่องเหี้ยๆ เรื่องอัปรีย์จัญไร ปาหี่ เรื่องขี้หมา ล้วนมาจาก "มนุษย์ป้า" ใครกำหนดฟ่ะ? "โรคปราสาทแดร๊ก" ไม่มีใครว่า หากไม่ทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เรียกร้องความสนใจเหรอจ๊ะ? เดี๋ยวมรึงก็โดนเอาเหล้ายัดใส่ปาก ตามไปหาอีแบงค์ แมนยูแม่งซะเลย? กฎหมายไม่ครอบคุม "คนบร๊าจ๊ะ" แบบนี้ บร๊ามา บร๊ากลับ ไม่มีโกง สรุปยังไงก็บร๊า? มรึงจะรายงานทำไม? รัสเซียรุกคืบยึดดินแดนเพิ่ม มันแปลกตรงไหน ยูเครนมันตกเป็นของรัสเซียไปนานแล้ว ตั้งแต่ระเบิดลูกแรกลง? เค้าแค่เล่นเกมส์ปาหี่กันอยู่ ลากขี้ข้าเหี้ยเข้ามาตายห่าหมู่ "กับดักทั้งนั้น" ขนาดอีเสี้ยนยายังหมดปัญญาแล้ว NATO ถอยกันหมด ไม่ให้เข้า แถมยังไม่ช่วยเหลืออีก เพราะ "หมดตูดกันหมด" ใครจะช่วย เพราะตอนนี้ อี NATO กำลังจะถูกล่อซะเอง อีไก่งวงไล่ตีเหี้ยแถวซีเรีย อี NATO ยังม่กล้าเสือกเลย เพราะอีแอร์โดกันมันคลั่ง จะแก้แค้น ไม่ให้กูเข้า EU ชิมิ เดี๋ยวกูยึดซีเรียเสร็จ ลาออก NATO เข้า BRICS เต็มตัว ตากูเอาคืนบ้างล่ะ? ประเด็นคือ "โอเรชนิค" ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค พลิกเกมส์ ไม่ใช่แค่มาใช้ในยูเครน แต่มันเตรียมมาใช้กับทั้งทวีปยุโรป ต่างหากล่ะ "อีโปลตอแหล" ถึงได้เข้าหาจีน ตีเนียนขอเป็นพวก ทิ้งอียิวทันที อ้าว..ไหงเป็นงั้น อีโปลก็คือชุมชนยิวใหญ่มิใช่เหรอ มรึงไม่สู้เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์ล่ะ คำตอบคือ ยิวมีหลากหลายกลุ่ม และกลุ่มที่กลัวตายมากที่สุดคือ "พลเมืองยิวในอีโปลนั่นแหละ" เพราะภาพมันติดตา เคยถูกเกณฑ์ไปเผาทิ้งทั้งเป็นในสมัย WWII ยังขยาดอยู่ทุกวันนี้ กูว่าแล้ว วิญญาน "ผีอีโม" มีจริง และแรงอาฆาต สุดจัดปลัดบอก ทะลุนรกกันไปเลย โจทย์ใหม่ GPS ที่อ.ปานเทพเอามาแฉยับ แถไม่ออก พิกัดเวลาตรงเป๊ะ กับภาพในมือถือโม ชี้ชัด แก้ไขเวลา และลบภาพ ข้อมูลทิ้ง หลังเวลาไหน? เหี้ยจัญไร ฆาตกร ไอ้อีสมรู้ร่วมคิด นั่งไม่ติด ติดกันหย่าย ยิ่งดิ้น แผลยิ่งเปิด ช่องโหว่มาเพี๊ยบ แม้แต่อีอัยกวยสูงไม่สุด ยังหยุดกระแส "เลิกตอแหลได้มั้ย ข้าราชการไตย" ใครอุ้มมีแหก ใครจ่าย มีแฉ? มันส์ละมรึง! สื่อกำลังจะเจ๊ง เพราะทำเหี้ยมานาน ตอแหล บิดเบือน ช่วยเหี้ยมาเยอะ แต่ตอนนี้ ต่างต้องเอาตัวรอดก่อน โทษน่ะนาย ไล่งับข่าว "ผีอีโม" ทั่วราชอาณาจักร เพื่อเพิ่มเรตติ้ง เรียกสปอนเซอร์เข้า สัจจะ ไม่มีในหมู่โจร เมื่อคดี "ผีอีโม" กลับมาเกิดใหม่ เร็ว แรง ทะลุนรก ชั้น 14 ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน สว.ชงเรื่อง ฆ่าหมดทั้งกระดานเหี้ยที่อุ้ม ชั้นในชงทูลเท็จ ถอนพระราชทานอภัยลดโทษ ผลคือ ทุกอย่างต้องกลับมาเริ่มต้นเป็น 0 ติดคุกตามจริง ไม่นับรพ. และไม่มีลดหย่อนโทษ บีบให้มรึงเผ่นออกไปซะ หรือไม่ ก็เก็บแม่งในคุกซะเลย? ตัวละครใหม่กำลังจะโผล่ พยานชั้น 14 เสรีการละคร เล่นแร่ แปรวิญญาน เอาจนเหี้ยอีเหลี่ยมชาติหมาหัวหมุนติ้ว! เรื่อง MOU44 นั่นคือหน้าฉาก หลังฉากคือ "แผนผนวกเขมรเบื้องหน้า" อ้าง..ไหง หนังคนละม้วน ตอนแรก มันจะเข้ามายึดแผ่นดินไทย มาตอนนี้ กลับจะกลายถึงไทยกลืนแทนซะงั้น? แปลว่าอะไร? โปรดดู ยุคเหี้ยครองโลก ไทยเสียเขาพระวิหาร เพราะอีเศษฝรั่ง อีเหี้ยมะกัน สั่งอีขะแมร์เข้ามาเสี้ยมอาเซียน แต่หลังจากนี้ ขั้วใหม่ครองโลก อะไรที่เสียไป หรือถูกเอาเปรียบ จะถุกรื้อคืนหมด เพราะไม่มีเหี้ยไอ้อีหน้าไหนมาแบ็คอัพอีขะแมร์อีกแล้ว แม้แต่จีน ยังเทไอ้พญาละแวก สันดานหมา กลิ้งกลอกไม่เลิก ทหารเค้าถึงได้นิ่ง รออีวอชิงตันตายคาตรีนรัสเซีย จีน ก่อน ไม่ต้องรีบ ยังไงก็ได้คืน กองทัพไทยใหญ่กว่าอีขะแมร์เยอะ แถวบ้านเรียก "ขี้ตรีน" เป็นเบ๊ทหารไทยมากว่าศตวรรษ คุณค่าที่คู่ควร อีนพดวย ซวยแล้วมรึง? ใครเป็นรมต.บัวแก้วเซ็นต์อนุมัติ สัญญาขายชาติ? ใครคือเด็กที่กินเงินหลวงไปเรียนต่อต่างประเทศ ใช้ทุนหลวงเพื่อมาเนรคุณพ่อท่าน ไอ้อีสัดเดรัจฉานชิงหมามาเกิด มรึงโดนแน่! MOU44 จะลากไอ้อีทุกตัวที่มีส่วนวางแผนขายแผ่นดินแดร๊กกับอีขะแมร์ งานนี้ไม่ได้ตายเดี่ยวนะจ๊ะ แต่ตายห่ายกครัวเรือน ย้อนเกล็ด ใครเปิดช่องให้อีพญาละแวกเข้าตีอโยธยาในเวทีโลก? "หนักแผ่นดิน" โทษรุนแรงมากน่ะ งานนี้ ถึงมือกองทัพแน่ เหี้ยอีวอชิงตันโลภ สั่งขี้ข้าหางแถวเหี้ยส่องหล้า จะเอาทั้งคลัง จะเอาทั้งแผ่นดิน สุดท้าย "แห้วแดร๊ก" ได้แต่ "ประชาตรีน" เค้าล็อคตัวพวกมรึงไว้หมดแล้ว เฉกเช่น อีตุ๊ดปากกว้าง ต้องกลับมาเตรียมรับกรรมต่อไป ไม่รู้ตัวว่า ถูกหลอกกลับมา เพราะอยู่ต่างแดน ไม่มีที่ไป เค้าเทมันหมดแล้ว ทุกการกระทำ ทุกเวรกรรมที่ก่อ ไม่มีหายไปไหน ย่อมต้องชดใช้ทุกดอก การันตี ไม่ช้าดอกน่ะ โดนกันหมดถ้วนหน้า เพราะวังสั่งตรง กวาดขยะให้สิ้นแผ่นดินไทย ปล.ความจริง มันย้อนแย้งกับสื่อเหี้ยเสมอ มรึงสังเกตุมุยว่า? ขั้วใหม่ ทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ดาหน้าส่งอาวุธใหม่มาอวดโฉมไม่เว้นวัน แล้วเหี้ยล่ะ? เงียบกริบ ยังใช้ F-22/F-35 มาขู่อยู่นั้น ในเชิงการศึก มันคือ "หมดแล้ว" ขี้ข้าก็รู้ โลกยังรู้ แต่ควายแกล้งไม่รู้ อีทรัมปป์มาก็ไม่กล้าเปิดกับจีน รัสเซีย โดยตรงดอก ด้วยกมลสันดานอีทรัมปป์แล้ว ถนัดส่งขี้ข้าไปตายห่ามากกว่า แต่เบื้องหลังคุยเครมลินสายไหม้ กูถอย แต่มรึงต้องเก็บกวาด DEEP STATE ให้กูด้วย เมื่ออำนาจยิวหมดไป อเมริกาสั่งถอนกำลังทั่วโลกกลับ ไม่ใช่เพราะอะไรดอกน่ะ "ไม่มีเงินจ่าย" รู้มั้ยว่า มันกำลังจะ SHUT DOWN อีกรอบแล้ว นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐ ยังไม่ได้เงินเดือนค้างจ่าย ตกเบิกเป็นปี มันถึงต้องปิดประเทศ แก้เศรษฐกิจภายในก่อนไงล่ะ? สีจิ้นผิงรู้ ถึงได้เร่งปิดจ็อบไต้หวัน ถึงได้ขยายพื้นที่ทะเลจีนใต้ ขยายแนวรบทั่วแปซิฟิค เพราะเหี้ยมันไม่มีปัญญาสู้จีนได้แล้ว หมายังรู้ แต่ดร.ยังโง่กว่าควายแถวบ้านกูอีก การเงินโลกชะงักหลังปีใหม่แน่ เพราะ BRICS เดินเครื่องเต็มกำลัง สมาชิกใหม่ แห่ถอน SWIFT ใช้หยวน ใช้รูเบิล ใช้เงินสกุลท้องถิ่นแทน ทวิภาคีระบาดไปทั่วโลกแล้ว แม้แต่อโยธยา ที่เล่นแร่แปรวิญญานมานาน ยังต้องเลือกข้าง อาเซียนยิ่งชัด ของใคร? ขนาดอีแขกภาระตะ ยังต้องหมอบ ก่อนหน้ากร่างสุดฤทธิ์ เจอจีนตบหน้าคว่ำ เจอรัสเซียตอกหน้าหงาย จะเล่นปาหี่ก็เล่นไป แต่อย่าแตะ สกุลเงิน BRICS เตือนแล้วไม่ฟัง หมาไปเลยมรึง? ปล.2 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาได้ยังไง? คำตอบคือ "ยุบสภา" รอรัฐบาลขี้ข้ายิวเหี้ยมันถูกเช็คบิลก่อน เงิน 10000 ดิจิตอล รอบ 3 คือ "ปิดฝาโลง" คลังไม่ปล่อย รอเชือด แค่มรึงเดินหน้าให้สุดซอย ทุกอย่างจะเป็นไปตามกรรมทันที กระตุ้นเศรษฐกิจจริงคือ ไม่ใช้ให้เงินเปล่า มรึงต้องสร้างงาน สร้างคน สร้างการใช้จ่าย คนไม่กล้าใช้ เพราะไม่มั่นใจ กระตุ้นที่ดี คือใช้ปัญญา ต่อยอด ให้เครื่องมือหากิน ไม่ใช้ใช้เงินไปตำน้ำพริก หมายังรู้ แต่ที่มันต้องทำ เพราะต้องการบั่นทอนเศรษฐกิจไทย ควายดีใจได้ตังค์ แต่หารู้ไม่ มันจ้องทุบคลังให้แตก แยกแผ่นดินให้ได้ ศาลไคฟงเค้ารู้หมด มรึงจะมาไม้ไหน? ที่ศาลรธน.ยังไม่ลงดาบ เพราะมีคดีที่ใหญ่กว่า เอาถึงลากโคตรท่อน้ำเลี้ยงอีเหลี่ยม และเหี้ย C ได้หมดจรด ฆ่าเหี้ยไม่ยาก แต่จะฆ่ายังไง ไม่ให้มันเป็น HERO ในสายตาควายไทยบัดซบ นี่คือ "คีย์" ต้องพ่วงตราบาป "หนักแผ่นดิน" ให้ควายตื่น เกมส์เค้ามี หมากเค้าเดิน ไม่ซี้ซั้ว กลศึกใช้เวลา ไม่มีใครทิ้งไพ่ตายตอนได้เปรียบดอกน่ะ ไม่มีใครทำอะไรอีเหลี่ยมได้? จริงเหรอ? มรึงดูดีแล้วรึ? มรึงเห็นแค่นี้เองเหรอ? หากดูเป็น คนใกล้ตัวมันไปหมดแล้ว หักหลัง ขายนาย แฉแหลก นี่คือสัญญาน "งูอสรพิษ" ทั้งฝ่ายการเมือง และฝ่ายนอกสภา เกมส์ลงถนนมีแน่ จะมาตอน "ได้รับชัยชนะแล้ว" เค้าไม่ให้ชาวอโยธยาไปเสี่ยงดอก หากไม่ชนะ ที่ผ่านมา แก้ไม่เสร็จ ไปไม่สุด เพราะยังต้องเลี้ยงเชื้อเอาไว้ ตราบใดเบื้องหลังเหี้ยจัวจริงยังไม่ทุ่มสุดตัว วังก็ไม่ต้องเสี่ยง ลุยสุดแรงเกิดเช่นกัน เค้าจ้องตากันอยู่ มรึงเขยิบ กูขยับ สุดท้ายจบที่ "ฉีกรัฐธรรมนูญ" ไม่ฉีก สร้างกฎเหล็กใหม่ไม่ได้ พ่อปกครองลูกมาไม่ได้ หมี CNN(พรุ่งนี้แล้วสิน่ะ วันสิ้นปี เตรียมรอดู บทสรุปมหากาพย์สุดยอด ปี 67 กูจะสรุปภาพรวมทั้งปีให้มรึงเห็น TIME LINE ชัดเจน ว่าเรามาไกลถึงขนาดไหนแล้ว ทั้งฝ่ายขั้วโลกใหม่ และอโยธยาศรีรามเทพนคร 2025 เหี้ยแพ้ยับยังไง เหี้ยเสียอะไรไปเยอะมาก แสงทำงานเร็วทะลุนรก ขี้ข้าหนีตาย นายใหญ่หาบันไดลง ชื่อตอน "บทสรุปมหากาพย์สุดยอด ปี 2567" รีบอ่านซะ มันลบกูแน่ เดี๋ยวนี้ เหี้ยดิ้นพล่าน ทั้งอี FB อี LINE@ ไล่ลบวันต่อวัน กูบอกแล้วชิมิ หากฉลาด ไปตามอ่านใน VK และ MIND เหี้ยมันเข้าไม่ได้) 30 ธันวาคม 67(ก่อนวันสิ้นปี หงส์ยังคงหนาวเหน็บไปจนจบฤดูกาล) 10.45 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1148 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทางหลวงชนบท ชวนนักท่องเที่ยวเยือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แวะกางเต็นท์รับลมชมดาว ริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนสาย นม.3052 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว สังกัดแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอีสาน สัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมจัดบริการพื้นที่กางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3052 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

    อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นดั่งสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงหรืออ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ที่ใสสะอาดสะท้อนกับฉากหลังสีเขียวจากหุบเขาน้อยใหญ่สลับกับพื้นที่ลาดชันที่รายล้อมโดยรอบ จึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเหมาะแก่การแวะพักเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว จึงได้จัดเตรียมพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000124209

    #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท #อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง
    กรมทางหลวงชนบท ชวนนักท่องเที่ยวเยือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แวะกางเต็นท์รับลมชมดาว ริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนสาย นม.3052 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว สังกัดแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอีสาน สัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมจัดบริการพื้นที่กางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3052 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา • อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นดั่งสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงหรืออ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ที่ใสสะอาดสะท้อนกับฉากหลังสีเขียวจากหุบเขาน้อยใหญ่สลับกับพื้นที่ลาดชันที่รายล้อมโดยรอบ จึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเหมาะแก่การแวะพักเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว จึงได้จัดเตรียมพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000124209 • #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท #อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิชัยลั่นไม่มีรัฐประหาร เร่งการค้าต่างประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย
    .
    เมื่อเร็วๆนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศวิสัยทัศน์ที่ว่าด้วยการออก “stable coin” หรือจะเรียกว่า พันธบัตรดิจิทัล เพื่อเพิ่มปริมาณเงินให้เพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายคนออกมาสนับสนุนแนวความคิดนี้ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
    .
    โดยนอกเหนือไปจากเรื่องการปั้นสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาแล้ว ภาคการค้าและการส่งออกก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของรัฐบาลที่จะใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเช่นกัน โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความคิดเห็นระหว่างเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การเมืองและเศรษฐกิจไทยในศตวรรษที่ 21 และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว (Komaba Research Campus) ประเทศญี่ปุ่นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยโตแค่ 1.9% ซึ่งต่ำมาก ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนจากต่างประเทศที่หายไป
    .
    นายพิชัย กล่าวอีกว่า ปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไตรมาสที่แล้วจีดีพีขยายตัว 3% และไตรมาสนี้น่าจะขยายตัวได้ 4% แต่จีดีพีไทยต้องโตอย่างน้อย 5% ขึ้นไป ต่อเนื่องไปอีก 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง และการส่งออกไทยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บวกถึง 14.6% คาดว่าการส่งออกทั้งปีของปีนี้จะเติบโตได้ถึง 5% และการลงทุนในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สิ้นปีนี้น่าจะแตะ 1 ล้านล้านบาท เพราะรัฐบาลไทย มีนโยบายส่งเสริมในอุตสาหกรรมไฮเทค ที่ไทยได้รับความสนใจมากอย่าง PCB Data Center และ AI ซึ่งทางญี่ปุ่นกำลังจะมีการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) และทางไทยหวังว่าจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่นด้วย
    .
    “ส่วนเรื่องการเมืองของไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมา เรามีปัญหามาโดยตลอดตั้งแต่การรัฐประหาร รัฐบาลของนายกฯทักษิณ ก่อนหน้าการรัฐประหาร เศรษฐกิจไทยโต 5-8% หลังรัฐประหารขยายตัวเพียง 3% และตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9% เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เมื่อการเมืองกลับมามั่นคง เสถียรภาพรัฐบาลก็มั่นคง เศรษฐกิจไทยก็กลับมามั่นคง คนไทยรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เห็นภาพนี้ชัดเจนเชื่อว่าจะเรียนรู้และไม่ยอมให้มีการรัฐประหารอีก แนวทางการบริหารงานและการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น ตอนนี้มีเพียงการแก้ปัญหาเรื่องหนี้ภาคครัวเรือน ถ้าแก้ได้เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นได้รวดเร็ว” นายพิชัย กล่าว
    ..............
    Sondhi X
    พิชัยลั่นไม่มีรัฐประหาร เร่งการค้าต่างประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย . เมื่อเร็วๆนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศวิสัยทัศน์ที่ว่าด้วยการออก “stable coin” หรือจะเรียกว่า พันธบัตรดิจิทัล เพื่อเพิ่มปริมาณเงินให้เพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายคนออกมาสนับสนุนแนวความคิดนี้ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ . โดยนอกเหนือไปจากเรื่องการปั้นสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาแล้ว ภาคการค้าและการส่งออกก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของรัฐบาลที่จะใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเช่นกัน โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความคิดเห็นระหว่างเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การเมืองและเศรษฐกิจไทยในศตวรรษที่ 21 และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว (Komaba Research Campus) ประเทศญี่ปุ่นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยโตแค่ 1.9% ซึ่งต่ำมาก ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนจากต่างประเทศที่หายไป . นายพิชัย กล่าวอีกว่า ปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไตรมาสที่แล้วจีดีพีขยายตัว 3% และไตรมาสนี้น่าจะขยายตัวได้ 4% แต่จีดีพีไทยต้องโตอย่างน้อย 5% ขึ้นไป ต่อเนื่องไปอีก 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง และการส่งออกไทยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บวกถึง 14.6% คาดว่าการส่งออกทั้งปีของปีนี้จะเติบโตได้ถึง 5% และการลงทุนในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สิ้นปีนี้น่าจะแตะ 1 ล้านล้านบาท เพราะรัฐบาลไทย มีนโยบายส่งเสริมในอุตสาหกรรมไฮเทค ที่ไทยได้รับความสนใจมากอย่าง PCB Data Center และ AI ซึ่งทางญี่ปุ่นกำลังจะมีการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) และทางไทยหวังว่าจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่นด้วย . “ส่วนเรื่องการเมืองของไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมา เรามีปัญหามาโดยตลอดตั้งแต่การรัฐประหาร รัฐบาลของนายกฯทักษิณ ก่อนหน้าการรัฐประหาร เศรษฐกิจไทยโต 5-8% หลังรัฐประหารขยายตัวเพียง 3% และตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9% เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เมื่อการเมืองกลับมามั่นคง เสถียรภาพรัฐบาลก็มั่นคง เศรษฐกิจไทยก็กลับมามั่นคง คนไทยรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เห็นภาพนี้ชัดเจนเชื่อว่าจะเรียนรู้และไม่ยอมให้มีการรัฐประหารอีก แนวทางการบริหารงานและการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น ตอนนี้มีเพียงการแก้ปัญหาเรื่องหนี้ภาคครัวเรือน ถ้าแก้ได้เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นได้รวดเร็ว” นายพิชัย กล่าว .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    7
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลเลือกตั้งนายก และ สท.เทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ “อนุชิต เหลืองชัยศรี” เด็กบ้านใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” คว้านายก ทน.บุรีรัมย์ คนแรก ชนะท่วมท้นทิ้งห่างอันดับสอง 16,412 คะแนน ส่วน สท.“กลุ่มคนบุรีรัมย์” ได้ยกทีม 24 คน ใน 4 เขต ด้าน ปชช.คาดหวังยกระดับคุณภาพชีวิต กระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาตลาดให้ดีขึ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120516

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผลเลือกตั้งนายก และ สท.เทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ “อนุชิต เหลืองชัยศรี” เด็กบ้านใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” คว้านายก ทน.บุรีรัมย์ คนแรก ชนะท่วมท้นทิ้งห่างอันดับสอง 16,412 คะแนน ส่วน สท.“กลุ่มคนบุรีรัมย์” ได้ยกทีม 24 คน ใน 4 เขต ด้าน ปชช.คาดหวังยกระดับคุณภาพชีวิต กระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาตลาดให้ดีขึ้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120516 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 780 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุดรธานี-สสจ.อุดรฯเผยยังไม่มีการสั่งปิดร้านนวดร้านที่ “น้องผิง”นักร้องสาวรถแห่เข้านวดบิดคอจนนำไปสู่การเสีย ส่วนหมอนวดทั้ง7คน ผ่านการอบรมตามหลักสูตรและได้ใบรับรองทั้งหมด ย้ำการนวดบิดคอดัดกระดูกต้องเป็นหมอกระดูกทำได้เท่านั้นและญาติต้องเซ็นอนุญาตก่อนด้วย ส่วนร้านนวดจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตหรือไม่อย่างไรขึ้นอยู่กับการตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการ ญาติน้องได้แจ้งความแล้ว

    จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญ “น้องผิง” ชญาดา พร้าวหอม อายุ 20 ปี นักร้องสาวรถแห่ ชาวบ้านแดง ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากการไปนวดคลายเส้นกับหมอนวดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดร คาดว่าจะถูกหมอนวดผิดในท่าบิดคอ จนทำให้กระดูกคอเคลื่อนไปทับเส้นประสาท สุดท้ายเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 2 เดือน และเป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อน้องผิงเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 8 ธ.ค.67 โดยญาติๆ ได้นำร่างของน้องผิงกลับไปยังบ้านเลขที่ 201 หมู่ 1 บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี

    ล่าสุดสายวันนี้(9ธ.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงเพิ่มเติมต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าเรื่องของการรักษาหรือสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นรอให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม กรณีการนวดไทย ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีการควบคุมโดยหน่วยงานภาครัฐ แต่ก็มีร้านนวดหรือคนนวดบางส่วนที่ไม่อยู่ในการควบคุม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000118228

    #MGROnline #อุดรธานี #ร้านนวด #น้องผิง
    อุดรธานี-สสจ.อุดรฯเผยยังไม่มีการสั่งปิดร้านนวดร้านที่ “น้องผิง”นักร้องสาวรถแห่เข้านวดบิดคอจนนำไปสู่การเสีย ส่วนหมอนวดทั้ง7คน ผ่านการอบรมตามหลักสูตรและได้ใบรับรองทั้งหมด ย้ำการนวดบิดคอดัดกระดูกต้องเป็นหมอกระดูกทำได้เท่านั้นและญาติต้องเซ็นอนุญาตก่อนด้วย ส่วนร้านนวดจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตหรือไม่อย่างไรขึ้นอยู่กับการตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการ ญาติน้องได้แจ้งความแล้ว • จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญ “น้องผิง” ชญาดา พร้าวหอม อายุ 20 ปี นักร้องสาวรถแห่ ชาวบ้านแดง ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากการไปนวดคลายเส้นกับหมอนวดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดร คาดว่าจะถูกหมอนวดผิดในท่าบิดคอ จนทำให้กระดูกคอเคลื่อนไปทับเส้นประสาท สุดท้ายเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 2 เดือน และเป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อน้องผิงเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 8 ธ.ค.67 โดยญาติๆ ได้นำร่างของน้องผิงกลับไปยังบ้านเลขที่ 201 หมู่ 1 บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี • ล่าสุดสายวันนี้(9ธ.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงเพิ่มเติมต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าเรื่องของการรักษาหรือสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นรอให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม กรณีการนวดไทย ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีการควบคุมโดยหน่วยงานภาครัฐ แต่ก็มีร้านนวดหรือคนนวดบางส่วนที่ไม่อยู่ในการควบคุม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000118228 • #MGROnline #อุดรธานี #ร้านนวด #น้องผิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันปีใหม่สะท้อนบทบาทต่อสังคมไทยได้อย่างไรวันปีใหม่ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ยังแสดงถึงบทบาทที่ลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย วันปีใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายและกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนในสังคมไทยอย่างหลากหลายแง่มุม1. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนวันปีใหม่เป็นโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความอบอุ่นร่วมกัน กิจกรรมเช่นการไหว้ผู้ใหญ่ การรับพร หรือการเลี้ยงฉลองในครอบครัวสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยในระดับชุมชน การจัดงานเฉลิมฉลอง เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดงานวัด หรืองานปีใหม่ของหมู่บ้าน ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้าน เสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม2. การส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทยแม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า หรือการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความศรัทธาในพุทธศาสนา3. การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงสุดแห่งปี ทั้งการซื้อของขวัญ การตกแต่งบ้าน หรือการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด สินค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว4. การส่งเสริมความหวังและแรงบันดาลใจวันปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ หลายคนตั้งเป้าหมายหรือปณิธานในชีวิต เช่น การทำงานให้ดีขึ้น การดูแลสุขภาพ หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมโดยรวม5. การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เราเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งแบบไทย (สงกรานต์) และปีใหม่สากล (1 มกราคม) สิ่งนี้สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปิดกว้างในวัฒนธรรมไทยที่พร้อมยอมรับและเคารพความแตกต่างบทสรุปวันปีใหม่ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเทศกาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญู ความสามัคคี และความหวัง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ
    วันปีใหม่สะท้อนบทบาทต่อสังคมไทยได้อย่างไรวันปีใหม่ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ยังแสดงถึงบทบาทที่ลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย วันปีใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายและกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนในสังคมไทยอย่างหลากหลายแง่มุม1. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนวันปีใหม่เป็นโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความอบอุ่นร่วมกัน กิจกรรมเช่นการไหว้ผู้ใหญ่ การรับพร หรือการเลี้ยงฉลองในครอบครัวสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยในระดับชุมชน การจัดงานเฉลิมฉลอง เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดงานวัด หรืองานปีใหม่ของหมู่บ้าน ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้าน เสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม2. การส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทยแม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า หรือการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความศรัทธาในพุทธศาสนา3. การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงสุดแห่งปี ทั้งการซื้อของขวัญ การตกแต่งบ้าน หรือการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด สินค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว4. การส่งเสริมความหวังและแรงบันดาลใจวันปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ หลายคนตั้งเป้าหมายหรือปณิธานในชีวิต เช่น การทำงานให้ดีขึ้น การดูแลสุขภาพ หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมโดยรวม5. การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เราเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งแบบไทย (สงกรานต์) และปีใหม่สากล (1 มกราคม) สิ่งนี้สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปิดกว้างในวัฒนธรรมไทยที่พร้อมยอมรับและเคารพความแตกต่างบทสรุปวันปีใหม่ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเทศกาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญู ความสามัคคี และความหวัง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 719 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอเก้อ 'เงินหมื่นเฟส2' ครม.คลอดไม่ออก นายกฯขอเคลียร์ข้อกฎหมาย
    .
    จากที่หลายคนเตรียมรับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุของรัฐบาล หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า เงินหมื่นเฟส 2 ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าเหล่าลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย ต้องรอกันไป เนื่องจากคณะรัฐมนตรีสั่งการให้ตรวจสอบข้อกฎหมายให้เกิดความรอบคอบอีกครั้ง
    .
    นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการนี้ยังไม่เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม โดยขอพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อนจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
    .
    นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อธิบายว่า สำหรับเงื่อนไขที่ติดอยู่ไม่ได้ติดขัดเรื่องของข้อกฎหมายแต่เป็นรายละเอียดเรื่องของความครบถ้วน ที่ต้องดูเอกสารให้ครบถ้วน และคาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งยืนยันว่าจะแจกได้ทัน 29 มกราคม 2568 แน่นอน
    .
    สำหรับ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และลงทะเบียนผ่านช่องทางรัฐ และได้รับการยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC เรียบร้อยแล้ว และไม่เป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทในรอบก่อนไปแล้ว โดยกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 3-4 ล้านคน โดยจะใช้วงเงินไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท
    .
    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุมีการบรรจุอยู่ในวาระเพื่อพิจารณา แต่นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตการณ์ในข้อกฎหมายบางประการ และเงื่อนไขในการดำเนินการเฟสแรกมีข้อติดขัดใดบ้าง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกลับไปทำมาให้ละเอียดกว่านี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการนี้จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า
    .............
    Sondhi X
    รอเก้อ 'เงินหมื่นเฟส2' ครม.คลอดไม่ออก นายกฯขอเคลียร์ข้อกฎหมาย . จากที่หลายคนเตรียมรับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุของรัฐบาล หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า เงินหมื่นเฟส 2 ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าเหล่าลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย ต้องรอกันไป เนื่องจากคณะรัฐมนตรีสั่งการให้ตรวจสอบข้อกฎหมายให้เกิดความรอบคอบอีกครั้ง . นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการนี้ยังไม่เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม โดยขอพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อนจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง . นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อธิบายว่า สำหรับเงื่อนไขที่ติดอยู่ไม่ได้ติดขัดเรื่องของข้อกฎหมายแต่เป็นรายละเอียดเรื่องของความครบถ้วน ที่ต้องดูเอกสารให้ครบถ้วน และคาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งยืนยันว่าจะแจกได้ทัน 29 มกราคม 2568 แน่นอน . สำหรับ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และลงทะเบียนผ่านช่องทางรัฐ และได้รับการยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC เรียบร้อยแล้ว และไม่เป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทในรอบก่อนไปแล้ว โดยกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 3-4 ล้านคน โดยจะใช้วงเงินไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท . นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุมีการบรรจุอยู่ในวาระเพื่อพิจารณา แต่นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตการณ์ในข้อกฎหมายบางประการ และเงื่อนไขในการดำเนินการเฟสแรกมีข้อติดขัดใดบ้าง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกลับไปทำมาให้ละเอียดกว่านี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการนี้จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า ............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Wow
    Sad
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts