• 🚀 ยกระดับการผลิตของคุณด้วยเครื่องบดแห้ง PULVERIZER 30B! 🚀
    คุณกำลังมองหาโซลูชันเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ และขยายไลน์การผลิตใช่ไหม?
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการ บดน้ำตาลทรายขาว ให้เป็นน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลผงละเอียด!

    เครื่องบดแห้ง Pulverizer 30B ของเราสามารถปรับใช้เพื่อบด น้ำตาลทรายขาว ให้ได้ขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลไอซิ่งสำหรับเบเกอรี่ หรือน้ำตาลผงสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ
    ฟันตี 3 แบบ เลือกได้ตามใจ: สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาว เราสามารถแนะนำฟันตีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
    Pin Mill: เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นผงละเอียดมาก หรือน้ำตาลไอซิ่ง เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการบดที่ให้ความละเอียดสูง
    Hammer Mill: อาจใช้สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้มีความละเอียดปานกลาง หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกในการลดขนาดก่อนจะบดละเอียดด้วย Pin Mill

    ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ: สามารถปรับเปลี่ยนตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของน้ำตาลผงที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของคุณ

    มาตรฐานระดับโลก: มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ยุโรป CE และรองรับระบบ GMP, HACCP ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

    ทดลองบดก่อนตัดสินใจ: ไม่ต้องเสี่ยง! นำวัตถุดิบของคุณ (น้ำตาลทรายขาว) มาทดลองบดกับเครื่องจริงได้เลย (กรุณาแจ้งล่วงหน้า) เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์

    เปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวให้เป็นน้ำตาลผงคุณภาพสูง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด!

    📞 สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดทดลองบดน้ำตาลทรายขาว?
    ติดต่อเราได้เลย!

    โทร: 081-318-9098, 02-2153515-9
    อีเมล: yonghahheng@gmail.com, sales@yoryonghahheng.com
    แวะมาเยี่ยมชม: สำนักงานของเราตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาซอย 34 ถนนบรรทัดทอง (พระราม 6) ใกล้หัวลำโพง
    เลือกคุณภาพ เลือก BONNY – เครื่องจักรที่ตอบโจทย์ทุกความสำเร็จของคุณ!


    #เครื่องบด #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #บดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #น้ำตาลผง #อุตสาหกรรมเบเกอรี่ #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #โรงงานผลิต #SMEไทย #เพิ่มมูลค่า #GMP #HACCP #มาตรฐานCE #BONNY #ยย่งฮะเฮง #บดผง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เทคโนโลยีการผลิต #เครื่องจักรคุณภาพ #การลงทุน #ธุรกิจอาหาร #นวัตกรรม #เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร #FoodProcessing #SugarGrinding
    🚀 ยกระดับการผลิตของคุณด้วยเครื่องบดแห้ง PULVERIZER 30B! 🚀 คุณกำลังมองหาโซลูชันเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ และขยายไลน์การผลิตใช่ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการ บดน้ำตาลทรายขาว ให้เป็นน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลผงละเอียด! เครื่องบดแห้ง Pulverizer 30B ของเราสามารถปรับใช้เพื่อบด น้ำตาลทรายขาว ให้ได้ขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลไอซิ่งสำหรับเบเกอรี่ หรือน้ำตาลผงสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ฟันตี 3 แบบ เลือกได้ตามใจ: สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาว เราสามารถแนะนำฟันตีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: Pin Mill: เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นผงละเอียดมาก หรือน้ำตาลไอซิ่ง เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการบดที่ให้ความละเอียดสูง Hammer Mill: อาจใช้สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้มีความละเอียดปานกลาง หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกในการลดขนาดก่อนจะบดละเอียดด้วย Pin Mill ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ: สามารถปรับเปลี่ยนตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของน้ำตาลผงที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของคุณ มาตรฐานระดับโลก: มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ยุโรป CE และรองรับระบบ GMP, HACCP ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ทดลองบดก่อนตัดสินใจ: ไม่ต้องเสี่ยง! นำวัตถุดิบของคุณ (น้ำตาลทรายขาว) มาทดลองบดกับเครื่องจริงได้เลย (กรุณาแจ้งล่วงหน้า) เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์ เปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวให้เป็นน้ำตาลผงคุณภาพสูง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด! 📞 สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดทดลองบดน้ำตาลทรายขาว? ติดต่อเราได้เลย! โทร: 081-318-9098, 02-2153515-9 อีเมล: yonghahheng@gmail.com, sales@yoryonghahheng.com แวะมาเยี่ยมชม: สำนักงานของเราตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาซอย 34 ถนนบรรทัดทอง (พระราม 6) ใกล้หัวลำโพง เลือกคุณภาพ เลือก BONNY – เครื่องจักรที่ตอบโจทย์ทุกความสำเร็จของคุณ! #เครื่องบด #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #บดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #น้ำตาลผง #อุตสาหกรรมเบเกอรี่ #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #โรงงานผลิต #SMEไทย #เพิ่มมูลค่า #GMP #HACCP #มาตรฐานCE #BONNY #ยย่งฮะเฮง #บดผง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เทคโนโลยีการผลิต #เครื่องจักรคุณภาพ #การลงทุน #ธุรกิจอาหาร #นวัตกรรม #เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร #FoodProcessing #SugarGrinding
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจตกต่ำ SME จะเอาตัวรอดอย่างไร ?
    เศรษฐกิจตกต่ำ SME จะเอาตัวรอดอย่างไร ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • SME D Bank จัด “Focus Group ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน (นวัตวิถี)” หนุนเอสเอ็มอีรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุนปลุกพลังสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น
    https://www.thai-tai.tv/news/18975/
    SME D Bank จัด “Focus Group ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน (นวัตวิถี)” หนุนเอสเอ็มอีรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุนปลุกพลังสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น https://www.thai-tai.tv/news/18975/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank จัด “Focus Group ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน (นวัตวิถี)” หนุนเอสเอ็มอีรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุนปลุกพลังสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น
    https://www.thai-tai.tv/news/18946/
    SME D Bank จัด “Focus Group ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน (นวัตวิถี)” หนุนเอสเอ็มอีรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุนปลุกพลังสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น https://www.thai-tai.tv/news/18946/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank อัดสินเชื่อ 3 หมื่นล้าน ร่วม “พาแบงก์รัฐมาช่วยราษฎร์” หนุนเอสเอ็มอีไทยเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี
    https://www.thai-tai.tv/news/18912/
    SME D Bank อัดสินเชื่อ 3 หมื่นล้าน ร่วม “พาแบงก์รัฐมาช่วยราษฎร์” หนุนเอสเอ็มอีไทยเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี https://www.thai-tai.tv/news/18912/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASMedia เปิดตัวโซลูชัน PCIe และ USB4 ใหม่ที่งาน COMPUTEX 2025

    ASMedia ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม PCIe และ USB4 ที่งาน COMPUTEX 2025 โดยเน้น การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ AI และ Edge Computing

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ ASMedia
    ✅ เปิดตัว PCIe Packet Switch รุ่น ASM58048 รองรับสูงสุด 80 ช่องสัญญาณ
    - คาดว่า จะเริ่มทดสอบตัวอย่างในไตรมาสที่ 3 ปี 2025

    ✅ PCIe Gen 5 รุ่น ASM68080 กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา
    - มีการออกแบบ PHY ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

    ✅ ASMedia กำลังพัฒนา PCIe Gen 6 สำหรับอนาคต
    - มีแผน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่รองรับ 24 ถึง 80 ช่องสัญญาณ

    ✅ USB4 ASM4242 ถูกนำไปใช้ในเมนบอร์ดและแล็ปท็อประดับสูง
    - รองรับ Thunderbolt 4 และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก

    ✅ USB4 ASM2464PDX ออกแบบมาสำหรับ Edge AI Computing
    - สามารถ เชื่อมต่อ GPU ภายนอกผ่าน USB4 ได้โดยตรง

    https://www.techpowerup.com/337032/asmedia-showcases-pcie-and-usb4-solutions-at-computex-2025
    ASMedia เปิดตัวโซลูชัน PCIe และ USB4 ใหม่ที่งาน COMPUTEX 2025 ASMedia ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม PCIe และ USB4 ที่งาน COMPUTEX 2025 โดยเน้น การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ AI และ Edge Computing 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ ASMedia ✅ เปิดตัว PCIe Packet Switch รุ่น ASM58048 รองรับสูงสุด 80 ช่องสัญญาณ - คาดว่า จะเริ่มทดสอบตัวอย่างในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ✅ PCIe Gen 5 รุ่น ASM68080 กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา - มีการออกแบบ PHY ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ✅ ASMedia กำลังพัฒนา PCIe Gen 6 สำหรับอนาคต - มีแผน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่รองรับ 24 ถึง 80 ช่องสัญญาณ ✅ USB4 ASM4242 ถูกนำไปใช้ในเมนบอร์ดและแล็ปท็อประดับสูง - รองรับ Thunderbolt 4 และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก ✅ USB4 ASM2464PDX ออกแบบมาสำหรับ Edge AI Computing - สามารถ เชื่อมต่อ GPU ภายนอกผ่าน USB4 ได้โดยตรง https://www.techpowerup.com/337032/asmedia-showcases-pcie-and-usb4-solutions-at-computex-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    ASMedia Showcases PCIe and USB4 Solutions at COMPUTEX 2025
    ASMedia Technology is getting ready to unveil its latest PCIe Packet Switch solution (ASM58048) at Computex 2025, with sampling expected in Q3 2025. ASMedia product lineup covers PCIe generations 2 through 6, offering channel configurations that range from 3 to 80 channels. The upcoming PCIe Gen 5 p...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank ลงพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.น่าน เยี่ยมชื่นชมกิจการลูกค้า บทพิสูจน์ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย คอยเคียงข้างช่วยเหลือตลอดเส้นทางธุรกิจ
    https://www.thai-tai.tv/news/18779/
    SME D Bank ลงพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.น่าน เยี่ยมชื่นชมกิจการลูกค้า บทพิสูจน์ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย คอยเคียงข้างช่วยเหลือตลอดเส้นทางธุรกิจ https://www.thai-tai.tv/news/18779/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Learnt” vs. “Learned”: Learn The Difference

    We use past tense verb forms like burnt and slept all the time. But what about learnt? Is it a word? Does it mean the same thing as learned? And why do some verbs form their past tense by adding a -t at the end?

    In this article, you’ll get the answers to these questions and learn all you need to know about learnt and learned.

    Quick summary

    Both learned and learnt are correct forms of the past tense and past participle of the verb learn. Of the two, learned is far more commonly used in American English. Learnt is used in British English and some other varieties.

    Is it learned or learnt?

    Both learned and learnt can be used as the past tense and past participle forms of the verb learn. In both cases, they can be used interchangeably (though frequency of use varies widely depending on the variety of English).

    Here’s an example of learned and learnt being used in the past tense: I learned/learnt how to ride a bike when I was seven years old.

    A past participle form of a verb can be used to form the present perfect verb tense (have learned/learnt) or the past perfect verb tense (had learned/learnt) or, sometimes, as an adjective.

    Here’s an example of learned and learnt being used in present perfect form: I have learned/learnt many things from you.

    And here’s an example in past participle form: I knew which berries were toxic because I had learned/learnt to identify them at camp.

    learned and learnt as adjectives

    When the past participle form learned is used as an adjective, it can be pronounced [ lur-nid ], as in a learned scholar, or [ lurnd ], as in learned behavior. It’s much less common for learnt to be used as an adjective, but when it is, it’s typically used in the same way as the second example above (in phrases like learnt behavior, for example).

    Is learnt regular or irregular?

    The past tense and past participle of most verbs are formed by adding -ed or -d to the end of the root form of the verb—as is done when forming learned from learn. Verbs whose past and past participles follow this general rule are called regular verbs, whereas verbs that don’t act this way are called irregular verbs.

    Though some consider learnt to be an irregular form, adding -t to form the past tense or past participle follows the same pattern as adding -ed—without the more drastic spelling changes seen in irregular verbs, such as when catch changes to caught.

    But learnt isn’t the only verb that ends this way.

    Examples of -t in past tense and past participle forms

    The use of -t when forming past tense or past participle is thought to be influenced in part by speech patterns (meaning that, in some cases, the dominant form likely emerges simply because it’s easier to say).

    Some verbs that add a -t instead of -ed or -d add it directly to the end of the word without any other spelling change.

    Examples: dream becomes dreamt; burn becomes burnt.

    Sometimes, though, the spelling and vowel sound in the middle of the word can change along with the ending.

    Examples: feel becomes felt; sleep becomes slept

    Some verbs only use the -t form in their past and past participle forms.

    Examples: creep becomes crept; sleep becomes slept; weep becomes wept; keep becomes kept

    Note that some -ed forms, such as sleeped and keeped, are never used and are considered incorrect.

    In other cases, both the -ed and -t forms of a verb are used.

    Examples: learned and learnt; dreamed and dreamt; burned and burnt; kneeled and knelt; smelled and smelt

    Sometimes, both forms are used with relatively similar frequency, as in the case of burned and burnt. In other cases, one of the two forms may be much less commonly used than the other. For example, kneeled is much less commonly used than knelt, and learnt is much less commonly used than learned (particularly in American English).

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Learnt” vs. “Learned”: Learn The Difference We use past tense verb forms like burnt and slept all the time. But what about learnt? Is it a word? Does it mean the same thing as learned? And why do some verbs form their past tense by adding a -t at the end? In this article, you’ll get the answers to these questions and learn all you need to know about learnt and learned. Quick summary Both learned and learnt are correct forms of the past tense and past participle of the verb learn. Of the two, learned is far more commonly used in American English. Learnt is used in British English and some other varieties. Is it learned or learnt? Both learned and learnt can be used as the past tense and past participle forms of the verb learn. In both cases, they can be used interchangeably (though frequency of use varies widely depending on the variety of English). Here’s an example of learned and learnt being used in the past tense: I learned/learnt how to ride a bike when I was seven years old. A past participle form of a verb can be used to form the present perfect verb tense (have learned/learnt) or the past perfect verb tense (had learned/learnt) or, sometimes, as an adjective. Here’s an example of learned and learnt being used in present perfect form: I have learned/learnt many things from you. And here’s an example in past participle form: I knew which berries were toxic because I had learned/learnt to identify them at camp. learned and learnt as adjectives When the past participle form learned is used as an adjective, it can be pronounced [ lur-nid ], as in a learned scholar, or [ lurnd ], as in learned behavior. It’s much less common for learnt to be used as an adjective, but when it is, it’s typically used in the same way as the second example above (in phrases like learnt behavior, for example). Is learnt regular or irregular? The past tense and past participle of most verbs are formed by adding -ed or -d to the end of the root form of the verb—as is done when forming learned from learn. Verbs whose past and past participles follow this general rule are called regular verbs, whereas verbs that don’t act this way are called irregular verbs. Though some consider learnt to be an irregular form, adding -t to form the past tense or past participle follows the same pattern as adding -ed—without the more drastic spelling changes seen in irregular verbs, such as when catch changes to caught. But learnt isn’t the only verb that ends this way. Examples of -t in past tense and past participle forms The use of -t when forming past tense or past participle is thought to be influenced in part by speech patterns (meaning that, in some cases, the dominant form likely emerges simply because it’s easier to say). Some verbs that add a -t instead of -ed or -d add it directly to the end of the word without any other spelling change. Examples: dream becomes dreamt; burn becomes burnt. Sometimes, though, the spelling and vowel sound in the middle of the word can change along with the ending. Examples: feel becomes felt; sleep becomes slept Some verbs only use the -t form in their past and past participle forms. Examples: creep becomes crept; sleep becomes slept; weep becomes wept; keep becomes kept Note that some -ed forms, such as sleeped and keeped, are never used and are considered incorrect. In other cases, both the -ed and -t forms of a verb are used. Examples: learned and learnt; dreamed and dreamt; burned and burnt; kneeled and knelt; smelled and smelt Sometimes, both forms are used with relatively similar frequency, as in the case of burned and burnt. In other cases, one of the two forms may be much less commonly used than the other. For example, kneeled is much less commonly used than knelt, and learnt is much less commonly used than learned (particularly in American English). © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “TPQI Award” องค์กรโดดเด่นด้านพัฒนายกระดับผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ
    https://www.thai-tai.tv/news/18716/
    SME D Bank รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “TPQI Award” องค์กรโดดเด่นด้านพัฒนายกระดับผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ https://www.thai-tai.tv/news/18716/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank เปิดกระหึ่มในงาน ‘MONEY EXPO 2025’ ยกทัพสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอีไทย ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี
    https://www.thai-tai.tv/news/18691/
    SME D Bank เปิดกระหึ่มในงาน ‘MONEY EXPO 2025’ ยกทัพสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอีไทย ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี https://www.thai-tai.tv/news/18691/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เตรียมยุติการใช้งาน SharePoint Alerts และแนะนำทางเลือกใหม่

    Microsoft ได้ประกาศว่า ฟีเจอร์ SharePoint Alerts กำลังจะถูกยกเลิก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ การแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่านอีเมลหรือ SMS เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใน SharePoint sites, libraries หรือ lists โดยบริษัทแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Power Automate หรือ SharePoint Rules แทน

    ✅ Microsoft จะยุติการสร้าง SharePoint Alerts ใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป
    - ตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 จะเริ่มปิดการสร้าง Alerts สำหรับ tenant ใหม่
    - ตั้งแต่ กันยายน 2025 จะปิดการสร้าง Alerts สำหรับ ทุก tenant

    ✅ ฟีเจอร์ SharePoint Alert expiration จะเริ่มใช้งานในเดือนตุลาคม 2025
    - Alerts จะมีอายุ 30 วัน หลังจากเริ่มทำงาน
    - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งานใหม่และขยายเวลาได้อีก 30 วัน ผ่านเมนู Manage my alerts

    ✅ Microsoft จะยุติการใช้งาน SharePoint Alerts อย่างสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคม 2026
    - Alerts ที่มีอยู่จะไม่สามารถขยายเวลาได้อีกต่อไป

    ✅ Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Power Automate หรือ SharePoint Rules
    - Power Automate สามารถสร้าง การแจ้งเตือนที่ปรับแต่งได้มากขึ้น
    - SharePoint Rules ใช้สำหรับ การดำเนินการอัตโนมัติใน lists

    ✅ Microsoft 365 Assessment Tool สามารถช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบการใช้งาน SharePoint Alerts ในองค์กร
    - ช่วยให้สามารถ วางแผนการเปลี่ยนไปใช้ Power Automate ได้ง่ายขึ้น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-sharepoint-alerts/
    Microsoft เตรียมยุติการใช้งาน SharePoint Alerts และแนะนำทางเลือกใหม่ Microsoft ได้ประกาศว่า ฟีเจอร์ SharePoint Alerts กำลังจะถูกยกเลิก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ การแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่านอีเมลหรือ SMS เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใน SharePoint sites, libraries หรือ lists โดยบริษัทแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Power Automate หรือ SharePoint Rules แทน ✅ Microsoft จะยุติการสร้าง SharePoint Alerts ใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป - ตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 จะเริ่มปิดการสร้าง Alerts สำหรับ tenant ใหม่ - ตั้งแต่ กันยายน 2025 จะปิดการสร้าง Alerts สำหรับ ทุก tenant ✅ ฟีเจอร์ SharePoint Alert expiration จะเริ่มใช้งานในเดือนตุลาคม 2025 - Alerts จะมีอายุ 30 วัน หลังจากเริ่มทำงาน - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งานใหม่และขยายเวลาได้อีก 30 วัน ผ่านเมนู Manage my alerts ✅ Microsoft จะยุติการใช้งาน SharePoint Alerts อย่างสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคม 2026 - Alerts ที่มีอยู่จะไม่สามารถขยายเวลาได้อีกต่อไป ✅ Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Power Automate หรือ SharePoint Rules - Power Automate สามารถสร้าง การแจ้งเตือนที่ปรับแต่งได้มากขึ้น - SharePoint Rules ใช้สำหรับ การดำเนินการอัตโนมัติใน lists ✅ Microsoft 365 Assessment Tool สามารถช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบการใช้งาน SharePoint Alerts ในองค์กร - ช่วยให้สามารถ วางแผนการเปลี่ยนไปใช้ Power Automate ได้ง่ายขึ้น https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-sharepoint-alerts/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is killing SharePoint alerts
    Microsoft is retiring the alerts feature in SharePoint. The company has shared a full phase-out timeline along with recommended alternatives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15%ต่อปี มีผล 14 พ.ค. 2568 คู่เติมทุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ ช่วยเอสเอ็มอีลดภาระธุรกิจ
    https://www.thai-tai.tv/news/18610/
    SME D Bank ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15%ต่อปี มีผล 14 พ.ค. 2568 คู่เติมทุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ ช่วยเอสเอ็มอีลดภาระธุรกิจ https://www.thai-tai.tv/news/18610/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank เดินหน้าอุ้มเอสเอ็มอีรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุน จัดกิจกรรมเสิร์ฟสินเชื่อถึงถิ่น ชูดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
    https://www.thai-tai.tv/news/18571/
    SME D Bank เดินหน้าอุ้มเอสเอ็มอีรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุน จัดกิจกรรมเสิร์ฟสินเชื่อถึงถิ่น ชูดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน https://www.thai-tai.tv/news/18571/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • A mesmerizing scrapbooking trip to Venice, Italy.
    A mesmerizing scrapbooking trip to Venice, Italy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank ประสานพลังหนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนคู่การพัฒนา จัดประชุมมอบนโยบายการทำงานให้แก่ผู้บริหารสาขาพื้นที่ภาคกลาง
    https://www.thai-tai.tv/news/18542/
    SME D Bank ประสานพลังหนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนคู่การพัฒนา จัดประชุมมอบนโยบายการทำงานให้แก่ผู้บริหารสาขาพื้นที่ภาคกลาง https://www.thai-tai.tv/news/18542/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank จัดใหญ่มหกรรม “SME BEYOND เติมทุนปลุกพลังเติบโตยั่งยืน” 30 พ.ค. นี้ เสิร์ฟสินเชื่อพิเศษหนุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ มางานเดียวครบทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/18540/
    SME D Bank จัดใหญ่มหกรรม “SME BEYOND เติมทุนปลุกพลังเติบโตยั่งยืน” 30 พ.ค. นี้ เสิร์ฟสินเชื่อพิเศษหนุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ มางานเดียวครบทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย https://www.thai-tai.tv/news/18540/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 923 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
    - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    ✅ Chargeback Fraud คืออะไร?
    - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร
    - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์
    - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
    - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ
    - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย
    - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้

    https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 ✅ Chargeback Fraud คืออะไร? - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้ https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • A mesmerizing scrapbooking trip to Vianden, Luxembourg.
    A mesmerizing scrapbooking trip to Vianden, Luxembourg.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm บริษัทออกแบบชิปที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฉลองครบรอบ 40 ปีของการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก โดยเริ่มต้นจากชิป ARM1 ที่มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัว ในปี 1985 และปัจจุบันชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่อง ทั่วโลก รวมถึง 99% ของสมาร์ทโฟน และยังมีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI

    ชิป ARM1 ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sophie Wilson และ Steve Furber ที่ Acorn Computers ในเมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ โดยเน้นการออกแบบที่ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (Reduced Instruction Set Computing หรือ RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผล ชิปนี้ถูกใช้ในคอมพิวเตอร์ BBC Micro และต่อมา ARM2 ถูกนำไปใช้ใน Acorn Archimedes ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ RISC รุ่นแรก

    ในปี 1990 Arm Ltd. ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Acorn, Apple และ VLSI โดยชิป ARM7TDMI ได้รับความนิยมในโทรศัพท์มือถือ เช่น Nokia 6110 และในปี 2021 Armv9 ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI เช่น Scalable Vector Extension 2 (SVE2) และ Scalable Matrix Extension (SME)

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีชิป
    - ชิป ARM1 มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัวในปี 1985
    - Armv9 เปิดตัวในปี 2021 พร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI

    ✅ การใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ
    - ชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่องทั่วโลก
    - 99% ของสมาร์ทโฟนใช้ชิป Arm

    ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพ
    - ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ
    - ฟีเจอร์ใหม่ เช่น SVE2 และ SME ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผล AI

    ✅ การเติบโตในตลาดใหม่
    - Arm มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI workloads

    https://www.techradar.com/pro/300-billion-and-counting-most-popular-chip-designer-in-the-world-turns-40-and-it-all-started-in-a-wooden-barn
    Arm บริษัทออกแบบชิปที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฉลองครบรอบ 40 ปีของการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก โดยเริ่มต้นจากชิป ARM1 ที่มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัว ในปี 1985 และปัจจุบันชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่อง ทั่วโลก รวมถึง 99% ของสมาร์ทโฟน และยังมีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI ชิป ARM1 ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sophie Wilson และ Steve Furber ที่ Acorn Computers ในเมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ โดยเน้นการออกแบบที่ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (Reduced Instruction Set Computing หรือ RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผล ชิปนี้ถูกใช้ในคอมพิวเตอร์ BBC Micro และต่อมา ARM2 ถูกนำไปใช้ใน Acorn Archimedes ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ RISC รุ่นแรก ในปี 1990 Arm Ltd. ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Acorn, Apple และ VLSI โดยชิป ARM7TDMI ได้รับความนิยมในโทรศัพท์มือถือ เช่น Nokia 6110 และในปี 2021 Armv9 ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI เช่น Scalable Vector Extension 2 (SVE2) และ Scalable Matrix Extension (SME) ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีชิป - ชิป ARM1 มีทรานซิสเตอร์เพียง 25,000 ตัวในปี 1985 - Armv9 เปิดตัวในปี 2021 พร้อมฟีเจอร์ที่เน้นการประมวลผล AI ✅ การใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ - ชิป Arm ถูกใช้งานในอุปกรณ์กว่า 300 พันล้านเครื่องทั่วโลก - 99% ของสมาร์ทโฟนใช้ชิป Arm ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพ - ใช้ชุดคำสั่งที่ลดลง (RISC) เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ - ฟีเจอร์ใหม่ เช่น SVE2 และ SME ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผล AI ✅ การเติบโตในตลาดใหม่ - Arm มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นใน IoT, คลาวด์ และ AI workloads https://www.techradar.com/pro/300-billion-and-counting-most-popular-chip-designer-in-the-world-turns-40-and-it-all-started-in-a-wooden-barn
    WWW.TECHRADAR.COM
    It started in a wooden shed, now 40 years on Arm powers your entire digital life
    Arm’s minimalist chip design became the blueprint for modern computing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งราคาถูกจนเจ๊ง! หรือขายสมราคาแล้วรอด กลยุทธ์ตั้งราคาร้านอาหาร ให้มีกำไรและอยู่รอดในระยะยาว อย่าหลงทางด้วยราคาถูก! ตั้งราคาที่สมคุณค่า เพื่อร้านอาหารอยู่รอด ลูกค้าไม่หาย กำไรยังงาม


    เรียนรู้วิธีตั้งราคาร้านอาหารให้คุ้มค่า มีกำไร และอยู่รอดในระยะยาว ลูกค้าเข้าใจ ไม่หาย พร้อมเทคนิคเพิ่มราคาอย่างชาญฉลาด ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องตั้งราคาอย่างมีกลยุทธ์ จะพาเข้าใจว่าการขายถูก อาจทำให้เจ๊งได้อย่างไร และจะแก้เกมยังไง ให้ลูกค้าไม่หาย กำไรยังคงอยู่

    📌 ขายดีแต่เจ๊ง? ปัญหาที่เจ้าของร้านอาหารไม่เคยอยากเจอ “ขายดีไม่ได้แปลว่ามีกำไร” หลายร้านขายดี จนลูกค้าแน่นทุกวัน แต่เมื่อดูบัญชีปลายเดือน กลับพบว่ากำไรแทบไม่มี หรือแม้แต่ขาดทุน! ทำไมจึงเกิดปัญหานี้?

    เพราะหลายร้าน “ตั้งราคาผิด” ด้วยความเข้าใจผิดว่า ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = รายได้เยอะ = ธุรกิจดี
    แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป...

    จะพาสำรวจความจริง ของการตั้งราคาในร้านอาหาร พร้อมเผยกลยุทธ์การตั้งราคาที่ “ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด” แต่ “คุ้มค่าที่สุด” จนลูกค้าพร้อมจ่าย และร้านของคุณก็อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน

    ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องกล้าราคา ขายแพงขึ้นยังไงไม่ให้ลูกค้าหาย? ความกลัวที่เจ้าของร้านอาหารทุกคนเคยมี...
    😨 “กลัวลูกค้าจะหาย ถ้าขึ้นราคา”
    😓 “กลัวโดนบ่นในโซเชียล”
    😔 “กลัวเสียลูกค้าประจำ”

    แต่...คุณลองถามตัวเองดูไหมว่า ทุกวันนี้คุณขายอาหารที่ “สมราคา” แล้วหรือยัง? หากคุณตั้งราคาถูกจนไม่มีกำไร แปลว่า “คุณกำลังทำธุรกิจโดยไม่มีอนาคต” และกำลังสร้างร้านที่ไม่มีพลังจะเติบโต

    ทำไมขายดีแต่ร้านยังเจ๊ง? จุดบอดที่หลายคนมองไม่เห็น มีหลายร้านที่ขายได้เยอะ คนต่อคิวยาว แต่สุดท้ายก็ปิดตัวในเวลาไม่นาน ทำไม?

    📉 เพราะราคาที่ตั้ง “ไม่ครอบคลุมต้นทุน” หรือ “กำไรต่อจานน้อยเกินไป”

    ต้นทุนที่คุณอาจลืมคำนวณ
    วัตถุดิบที่ราคาขึ้นทุกเดือน 🥬🍗
    ค่าเช่า ค่าไฟ ค่าน้ำ 💡
    ค่าจ้างพนักงาน 👨‍🍳👩‍🍳
    ค่าการตลาด โปรโมชัน 📱
    ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ต่างๆ

    เมื่อลบทุกอย่างแล้ว บางครั้งเหลือ “กำไรหลักสิบต่อวัน” หรือ “ติดลบ” ด้วยซ้ำ!

    ความเข้าใจผิดของเจ้าของร้าน:ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = ดี? แนวคิดนี้อาจถูกบางส่วน แต่ใช้ไม่ได้กับระยะยาว ลูกค้าเยอะไม่ใช่คำตอบ ถ้ากำไรหาย ขายวันละ 200 จาน กำไรจานละ 5 บาท = กำไรวันละ 1,000 บาท

    แต่ถ้าใช้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยไม่ปรับราคา = กำไรหาย

    🎯 สิ่งที่คุณควรตั้งเป้าคือ “ขายได้น้อยลง แต่กำไรมากขึ้น และยังรักษาฐานลูกค้าไว้ได้” “คุณค่า” มาก่อน “ราคา”: ลูกค้าซื้อเพราะอะไร? ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดขึ้น การขายถูกอย่างเดียวไม่พอ

    ลูกค้าเลือกจ่ายให้ร้านที่มี คุณค่า เช่น... รสชาติอร่อยคงที่ การบริการดี ความสะอาด บรรยากาศดี ใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย มีเรื่องราว หรือ Storytelling 🧑‍🍳

    🔍 ตัวอย่าง “เราใช้เนื้อวัวจากฟาร์มออร์แกนิค ในเชียงใหม่” หรือ “สูตรน้ำซุปจากรุ่นยาย อายุกว่า 40 ปี” = เพิ่มคุณค่าโดยไม่ต้องลดราคา

    กลยุทธ์ตั้งราคาที่สมคุณค่า ขายแพงขึ้นยังไง ให้ลูกค้าเข้าใจ เพิ่มคุณค่าก่อนเพิ่มราคา อัปเดตเมนูใหม่ให้ดูดี ปรับปรุงร้าน เพิ่มแสงไฟ เพลง บรรยากาศ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แล้วแจ้งให้ลูกค้ารู้ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ใช้ป้ายในร้าน หรือโพสต์ในเพจ

    “เพื่อรักษาคุณภาพ เราจึงจำเป็นต้องปรับราคาบางเมนู” ขึ้นราคาอย่างมีชั้นเชิง ค่อยๆ เพิ่ม เช่น เมนูละ 5 บาท ทุก 6 เดือน ตัดเมนูที่ไม่ทำกำไรออก แล้วเสริมเมนูที่มีกำไรสูงแทน ใช้โปรโมชันแบบไม่ลดราคา แจกของแถมเล็กๆ น้อยๆ 🎁 จัดเซ็ตเมนูที่ดูคุ้มค่า ใช้โปรโมชั่นเฉพาะเวลา เช่น Happy Hour

    อันตรายของการติดกับดักราคาถูก ไม่มีเงินพัฒนา จ้างพนักงานที่มีศักยภาพไม่ได้ ลดคุณภาพวัตถุดิบ ไม่มีแรงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ขึ้นราคาทีหลัง ลูกค้าบ่นเพราะไม่เคยชิน

    เรื่องเล่าจากร้านก๋วยเตี๋ยว กล้าขึ้นราคา แล้วเกิดอะไรขึ้น? ร้านหนึ่งขายก๋วยเตี๋ยว 35 บาทมา 5 ปี ไม่กล้าขึ้นราคา
    จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจขึ้นเป็น 40 บาท ลูกค้าบ่นนิดหน่อย แต่เขาพูดว่า 🗣️ “ผมทำอาหารด้วยใจ แต่ถ้าไม่มีทุน ผมก็อยู่ต่อไม่ได้”

    ผลคือ ลูกค้าที่เข้าใจยังอยู่ ลูกค้าที่ไม่เห็นคุณค่าก็จากไป แต่ที่สำคัญคือ “ร้านยังอยู่ และมีกำไร”

    ร้านที่อยู่รอด คือร้านที่รู้จักคุณค่าของตัวเอง 🎯 ตั้งราคาไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่คือ “จุดยืนของธุรกิจ” ถ้าคุณกลัวจะขึ้นราคา แล้วไม่มีคนมา อย่าลืมว่า “ฝีมือของคุณมีค่า” อย่ายอมขายของถูกๆ เพียงเพราะกลัวเปลี่ยนแปลง

    คุณไม่จำเป็นต้องขายถูกที่สุด แต่คุณต้อง “ให้มากกว่าที่ลูกค้าคาด” ลูกค้าที่ดีจะเข้าใจ และพร้อมจ่ายในราคาที่เหมาะสม

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 232230 เม.ย. 2568

    📲 #ตั้งราคาร้านอาหาร #กลยุทธ์ธุรกิจ #เคล็ดลับร้านอาหาร #ราคาสมเหตุสมผล #SMEไทย #ขายดีแต่ไม่เจ๊ง #ธุรกิจอาหาร #กำไรยั่งยืน #ร้านอาหารอยู่รอด #เพิ่มราคายังไงไม่ให้ลูกค้าหาย
    ตั้งราคาถูกจนเจ๊ง! หรือขายสมราคาแล้วรอด กลยุทธ์ตั้งราคาร้านอาหาร ให้มีกำไรและอยู่รอดในระยะยาว อย่าหลงทางด้วยราคาถูก! ตั้งราคาที่สมคุณค่า เพื่อร้านอาหารอยู่รอด ลูกค้าไม่หาย กำไรยังงาม เรียนรู้วิธีตั้งราคาร้านอาหารให้คุ้มค่า มีกำไร และอยู่รอดในระยะยาว ลูกค้าเข้าใจ ไม่หาย พร้อมเทคนิคเพิ่มราคาอย่างชาญฉลาด ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องตั้งราคาอย่างมีกลยุทธ์ จะพาเข้าใจว่าการขายถูก อาจทำให้เจ๊งได้อย่างไร และจะแก้เกมยังไง ให้ลูกค้าไม่หาย กำไรยังคงอยู่ 📌 ขายดีแต่เจ๊ง? ปัญหาที่เจ้าของร้านอาหารไม่เคยอยากเจอ “ขายดีไม่ได้แปลว่ามีกำไร” หลายร้านขายดี จนลูกค้าแน่นทุกวัน แต่เมื่อดูบัญชีปลายเดือน กลับพบว่ากำไรแทบไม่มี หรือแม้แต่ขาดทุน! ทำไมจึงเกิดปัญหานี้? เพราะหลายร้าน “ตั้งราคาผิด” ด้วยความเข้าใจผิดว่า ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = รายได้เยอะ = ธุรกิจดี แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป... จะพาสำรวจความจริง ของการตั้งราคาในร้านอาหาร พร้อมเผยกลยุทธ์การตั้งราคาที่ “ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด” แต่ “คุ้มค่าที่สุด” จนลูกค้าพร้อมจ่าย และร้านของคุณก็อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องกล้าราคา ขายแพงขึ้นยังไงไม่ให้ลูกค้าหาย? ความกลัวที่เจ้าของร้านอาหารทุกคนเคยมี... 😨 “กลัวลูกค้าจะหาย ถ้าขึ้นราคา” 😓 “กลัวโดนบ่นในโซเชียล” 😔 “กลัวเสียลูกค้าประจำ” แต่...คุณลองถามตัวเองดูไหมว่า ทุกวันนี้คุณขายอาหารที่ “สมราคา” แล้วหรือยัง? หากคุณตั้งราคาถูกจนไม่มีกำไร แปลว่า “คุณกำลังทำธุรกิจโดยไม่มีอนาคต” และกำลังสร้างร้านที่ไม่มีพลังจะเติบโต ทำไมขายดีแต่ร้านยังเจ๊ง? จุดบอดที่หลายคนมองไม่เห็น มีหลายร้านที่ขายได้เยอะ คนต่อคิวยาว แต่สุดท้ายก็ปิดตัวในเวลาไม่นาน ทำไม? 📉 เพราะราคาที่ตั้ง “ไม่ครอบคลุมต้นทุน” หรือ “กำไรต่อจานน้อยเกินไป” ต้นทุนที่คุณอาจลืมคำนวณ วัตถุดิบที่ราคาขึ้นทุกเดือน 🥬🍗 ค่าเช่า ค่าไฟ ค่าน้ำ 💡 ค่าจ้างพนักงาน 👨‍🍳👩‍🍳 ค่าการตลาด โปรโมชัน 📱 ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ต่างๆ เมื่อลบทุกอย่างแล้ว บางครั้งเหลือ “กำไรหลักสิบต่อวัน” หรือ “ติดลบ” ด้วยซ้ำ! ความเข้าใจผิดของเจ้าของร้าน:ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = ดี? แนวคิดนี้อาจถูกบางส่วน แต่ใช้ไม่ได้กับระยะยาว ลูกค้าเยอะไม่ใช่คำตอบ ถ้ากำไรหาย ขายวันละ 200 จาน กำไรจานละ 5 บาท = กำไรวันละ 1,000 บาท แต่ถ้าใช้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยไม่ปรับราคา = กำไรหาย 🎯 สิ่งที่คุณควรตั้งเป้าคือ “ขายได้น้อยลง แต่กำไรมากขึ้น และยังรักษาฐานลูกค้าไว้ได้” “คุณค่า” มาก่อน “ราคา”: ลูกค้าซื้อเพราะอะไร? ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดขึ้น การขายถูกอย่างเดียวไม่พอ ลูกค้าเลือกจ่ายให้ร้านที่มี คุณค่า เช่น... รสชาติอร่อยคงที่ การบริการดี ความสะอาด บรรยากาศดี ใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย มีเรื่องราว หรือ Storytelling 🧑‍🍳 🔍 ตัวอย่าง “เราใช้เนื้อวัวจากฟาร์มออร์แกนิค ในเชียงใหม่” หรือ “สูตรน้ำซุปจากรุ่นยาย อายุกว่า 40 ปี” = เพิ่มคุณค่าโดยไม่ต้องลดราคา กลยุทธ์ตั้งราคาที่สมคุณค่า ขายแพงขึ้นยังไง ให้ลูกค้าเข้าใจ เพิ่มคุณค่าก่อนเพิ่มราคา อัปเดตเมนูใหม่ให้ดูดี ปรับปรุงร้าน เพิ่มแสงไฟ เพลง บรรยากาศ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แล้วแจ้งให้ลูกค้ารู้ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ใช้ป้ายในร้าน หรือโพสต์ในเพจ “เพื่อรักษาคุณภาพ เราจึงจำเป็นต้องปรับราคาบางเมนู” ขึ้นราคาอย่างมีชั้นเชิง ค่อยๆ เพิ่ม เช่น เมนูละ 5 บาท ทุก 6 เดือน ตัดเมนูที่ไม่ทำกำไรออก แล้วเสริมเมนูที่มีกำไรสูงแทน ใช้โปรโมชันแบบไม่ลดราคา แจกของแถมเล็กๆ น้อยๆ 🎁 จัดเซ็ตเมนูที่ดูคุ้มค่า ใช้โปรโมชั่นเฉพาะเวลา เช่น Happy Hour อันตรายของการติดกับดักราคาถูก ไม่มีเงินพัฒนา จ้างพนักงานที่มีศักยภาพไม่ได้ ลดคุณภาพวัตถุดิบ ไม่มีแรงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ขึ้นราคาทีหลัง ลูกค้าบ่นเพราะไม่เคยชิน เรื่องเล่าจากร้านก๋วยเตี๋ยว กล้าขึ้นราคา แล้วเกิดอะไรขึ้น? ร้านหนึ่งขายก๋วยเตี๋ยว 35 บาทมา 5 ปี ไม่กล้าขึ้นราคา จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจขึ้นเป็น 40 บาท ลูกค้าบ่นนิดหน่อย แต่เขาพูดว่า 🗣️ “ผมทำอาหารด้วยใจ แต่ถ้าไม่มีทุน ผมก็อยู่ต่อไม่ได้” ผลคือ ลูกค้าที่เข้าใจยังอยู่ ลูกค้าที่ไม่เห็นคุณค่าก็จากไป แต่ที่สำคัญคือ “ร้านยังอยู่ และมีกำไร” ร้านที่อยู่รอด คือร้านที่รู้จักคุณค่าของตัวเอง 🎯 ตั้งราคาไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่คือ “จุดยืนของธุรกิจ” ถ้าคุณกลัวจะขึ้นราคา แล้วไม่มีคนมา อย่าลืมว่า “ฝีมือของคุณมีค่า” อย่ายอมขายของถูกๆ เพียงเพราะกลัวเปลี่ยนแปลง คุณไม่จำเป็นต้องขายถูกที่สุด แต่คุณต้อง “ให้มากกว่าที่ลูกค้าคาด” ลูกค้าที่ดีจะเข้าใจ และพร้อมจ่ายในราคาที่เหมาะสม ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 232230 เม.ย. 2568 📲 #ตั้งราคาร้านอาหาร #กลยุทธ์ธุรกิจ #เคล็ดลับร้านอาหาร #ราคาสมเหตุสมผล #SMEไทย #ขายดีแต่ไม่เจ๊ง #ธุรกิจอาหาร #กำไรยั่งยืน #ร้านอาหารอยู่รอด #เพิ่มราคายังไงไม่ให้ลูกค้าหาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 529 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 13 ความสำคัญของการมีเงินออม
    .
    การเปลี่ยนการออมเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดและได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจจนอาจเรียกได้ว่า “เงินทำงานรับใช้” นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดังพูด มีหลายประเด็นดังต่อไปนี้ที่ควรใคร่ครวญ
    .
    บ่อยครั้งที่เงินออมของเรามีไม่เพียงพอ จึงต้องกู้ยืมเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าดอกเบี้ยเงินกู้ บางครั้งการกู้ยืมและผ่อนชำระก็ถือได้ว่าเป็นเงินออมอย่างหนึ่งดังกรณีของบ้านและรถยนต์ บ้านเป็นสิ่งที่ให้คุณค่าในการอยู่อาศัย การผ่อนชำระหนี้บ้านทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และเกิดความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย มีความรู้สึกว่าเป็นอิสระเพราะไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่น ส่วนรถยนต์เป็นสิ่งสร้างความสะดวกสะบายที่ช่วยลดโสหุ้ยในเรื่องเวลาและการเดินทาง
    .
    อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงอยุ่ไม่น้อยในการกู้และผ่อนชำระจนครบ หรือพูดอีกอย่างนึงว่า กว่าจะออมจนประสบผลสำเร็จสามารถมีบ้านเป็นของตนเอง ข้อเท็จจริงหนึ่งที่สำคัญเมื่อกู้ยืมและผ่อนชำระบ้านหรือรถยนต์หรือโรงงานก็คือ แท้จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ยังไม่ใช่ของผู้กู้ตามกฏหมาย เนื่องจากโฉนดและเอกสารแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของยังมิได้ระบุตนเองเป็นเจ้าของ ซึ่งความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ผ่อนชำระครบแล้วเท่านั้น ข้อเท็จจริงนี้ผู้กู้จะต้องตระหนักอยู่เสมอ จะได้มีพฤติกรรมอันเหมาะสมในการใช้จ่ายเงินในระหว่างที่เป็นหนี้
    .
    ความไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างแท้จริงดังกล่าว เป็นความเสี่ยงที่ผู้กู้ควรตระหนัก เพราะ “อุบัติเหตุ” หลายประการดังต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้ตลอดช่วงเวลาของการกู้ยืม โดยเฉพาะการกู้ยืมที่มีระยะเวลายาวนาน นั่นก็คือ (1) รายจ่ายของครอบครัวอาจสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดอ้นเนื่องมาจากความเจ็บป่วยของสมาชิกในครอบครัว หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หรือมีภาระผูกพันทางการเงินเพิ่มขึ้นอีก (2) รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นดังที่หวังไว้ แต่อาจลดลงเพราะตกงานหรือเปลี่ยนงาน หรือสภาวะเศรษฐกิจผันผวนจนทำให้ธุรกิจที่เคยรุ่งโรจน์ซบเซา หรือธุรกิจต้องการเงินลงทุนเพิ่มขึ้น (3) อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้นในช่วงเวลาต่อมาจนต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้น
    .
    อุทาหรณ์ในเรื่องนี้ก็คือ ก่อนการกู้ยืมควรใคร่ครวญให้รอบคอบและเลือกผ่อนซื้อสิ่งที่มีมูลค่าสอดคล้องกับฐานะของตนเองอย่างแท้จริงเท่านั้น มีข้อแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัยจาก “อุบัติเหตุ” ดังกล่าว จึงไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงเกินกว่าหนึ่งเท่าของรายได้ครัวเรือนในหนึ่งปี
    .
    เมื่อมีเงินออมและจะนำไปลงทุน มีข้อเท็จจริงหลายประการที่ควรทราบ ดังนี้
    (1) การลงทุนบางอย่างไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระหว่างที่ถือครองอยู่ แต่อาจมีมูลค่าสูงเมื่อเลิกการถือครองแล้วก็เป็นได้เช่น ทองคำ ที่ดิน เพชรนิลจินดา ของเก่ามีค่า เป็นต้น สิ่งที่ต้องยอมสละไประหว่างการถือครองก็คือดอกเบี้ย เงินปันผล หรือผลตอบแทนรูปอื่นที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือการลงทุนอย่างอื่น นอกจากนี้เจ้าของเองอาจไม่มีโอกาสได้เก็บเกี่ยวดอกผลจากมูลค่าที่สูงขึ้นเพราะเสียชีวิตไปก่อนก็เป็นได้
    (2) การลงทุนบางอย่างได้รับผลตอบแทนระหว่างที่ครอง แต่อาจมีมูลค่าไม่สูงดังคาดหวังเมื่อจบสิ้นช่วงเวลาหนึ่งก็เป็นได้ เช่น หุ้น บ้านหรืออพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมให้เช่า อย่างไรก็ดีแม้ผลตอบแทนจากการถือครองอาจไม่สูงนัก แต่ก็สามารถนำไปลงทุนต่อเพื่อให้เกิดเงิน “ชั้นลูกชั้นหลาน” ขึ้นมาได้
    (3) ความเสี่ยงในการลงทุนไม่เท่ากันระหว่างประเภทของการลงทุน เช่น หุ้นกับพันธบัตร หรือที่ดินกับกองทุนรวม ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากธรรมชาติของการเกิดผลตอบแทนนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้ความเสี่ยงจากการลงทุนในประเภทเดียวกันของการลงทุนแต่ละอย่างก็แตกต่างกันอีกด้วย เช่น การลงทุนซื้อหุ้นธนาคาร ก. อาจมีความเสี่ยงมากกว่าธนาคาร ข. อาจเนื่องมาจากธนาคาร ข. มีระบบการบริการงานที่มีประสิทธิภาพกว่า และมีธรรมาภิบาลสูงกว่าก็เป็นได้
    (4) ในการตัดสินใจว่าร่วมลงทุนในกิจการใด ไม่ว่าในรูปของการลงทุนร่วมประกอบการ SME’s หรือซื้อหุ้นโดยตรง พึงพิจารณาคุณภาพของการบริหารกิจการนั้นเป็นสำคัญระวังการหลงติดกับภาพลักษณ์และการโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การบริหารที่มีคุณภาพสูงประกอบด้วยผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ มีประวัติดี มีคุณธรรม มีประวัติของความสำเร็จ มีทีมงานที่แข็งขันสนับสนุนกิจการ มีนโยบายและการปฏิบัติอย่างจริงจังในเรื่องธรรมาภิบาลอย่างเป็นที่ประจักษ์
    (5) คำพูดที่ว่า “เสี่ยงสูง – ผลตอบแทนสูง” นั้นหมายถึงว่า เมื่อผู้ลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่สูง ก็จำเป็นต้องลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูงเป็นธรรมดา มิได้หมายความว่าถ้ากิจการมีความเสี่ยงสูงแล้วจะได้รับผลตอบแทนสูงเสมอไป
    .
    เมื่อข้อเท็จจริงในเรื่องการลงทุนเป็นเช่นนี้ จึงสมควรใช้เงินออมไปลงทุนในหลากหลายประเภทและหลากหลายหน่วยธุรกิจ เพราะความผันผวนในทางลบจากการลงทุนหนึ่งอาจถูกคานไว้ด้วยความผันผวนในด้านบวกจากอีกการลงทุนหนึ่ง
    .
    การลงทุนขึ้นอยู่กับโชค แต่ภายในขอบเขตหนึ่ง หากเลือกลงทุนอย่างมีเหตุมีผลแล้ว ตัวแปรสร้างความผันผวนที่ชื่อว่า “โชค” อาจลดอิทธิฤทธิ์ลงไปได้มากทีเดียว
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 13 ความสำคัญของการมีเงินออม . การเปลี่ยนการออมเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดและได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจจนอาจเรียกได้ว่า “เงินทำงานรับใช้” นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดังพูด มีหลายประเด็นดังต่อไปนี้ที่ควรใคร่ครวญ . บ่อยครั้งที่เงินออมของเรามีไม่เพียงพอ จึงต้องกู้ยืมเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าดอกเบี้ยเงินกู้ บางครั้งการกู้ยืมและผ่อนชำระก็ถือได้ว่าเป็นเงินออมอย่างหนึ่งดังกรณีของบ้านและรถยนต์ บ้านเป็นสิ่งที่ให้คุณค่าในการอยู่อาศัย การผ่อนชำระหนี้บ้านทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และเกิดความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย มีความรู้สึกว่าเป็นอิสระเพราะไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่น ส่วนรถยนต์เป็นสิ่งสร้างความสะดวกสะบายที่ช่วยลดโสหุ้ยในเรื่องเวลาและการเดินทาง . อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงอยุ่ไม่น้อยในการกู้และผ่อนชำระจนครบ หรือพูดอีกอย่างนึงว่า กว่าจะออมจนประสบผลสำเร็จสามารถมีบ้านเป็นของตนเอง ข้อเท็จจริงหนึ่งที่สำคัญเมื่อกู้ยืมและผ่อนชำระบ้านหรือรถยนต์หรือโรงงานก็คือ แท้จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ยังไม่ใช่ของผู้กู้ตามกฏหมาย เนื่องจากโฉนดและเอกสารแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของยังมิได้ระบุตนเองเป็นเจ้าของ ซึ่งความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ผ่อนชำระครบแล้วเท่านั้น ข้อเท็จจริงนี้ผู้กู้จะต้องตระหนักอยู่เสมอ จะได้มีพฤติกรรมอันเหมาะสมในการใช้จ่ายเงินในระหว่างที่เป็นหนี้ . ความไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างแท้จริงดังกล่าว เป็นความเสี่ยงที่ผู้กู้ควรตระหนัก เพราะ “อุบัติเหตุ” หลายประการดังต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้ตลอดช่วงเวลาของการกู้ยืม โดยเฉพาะการกู้ยืมที่มีระยะเวลายาวนาน นั่นก็คือ (1) รายจ่ายของครอบครัวอาจสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดอ้นเนื่องมาจากความเจ็บป่วยของสมาชิกในครอบครัว หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หรือมีภาระผูกพันทางการเงินเพิ่มขึ้นอีก (2) รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นดังที่หวังไว้ แต่อาจลดลงเพราะตกงานหรือเปลี่ยนงาน หรือสภาวะเศรษฐกิจผันผวนจนทำให้ธุรกิจที่เคยรุ่งโรจน์ซบเซา หรือธุรกิจต้องการเงินลงทุนเพิ่มขึ้น (3) อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้นในช่วงเวลาต่อมาจนต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้น . อุทาหรณ์ในเรื่องนี้ก็คือ ก่อนการกู้ยืมควรใคร่ครวญให้รอบคอบและเลือกผ่อนซื้อสิ่งที่มีมูลค่าสอดคล้องกับฐานะของตนเองอย่างแท้จริงเท่านั้น มีข้อแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัยจาก “อุบัติเหตุ” ดังกล่าว จึงไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงเกินกว่าหนึ่งเท่าของรายได้ครัวเรือนในหนึ่งปี . เมื่อมีเงินออมและจะนำไปลงทุน มีข้อเท็จจริงหลายประการที่ควรทราบ ดังนี้ (1) การลงทุนบางอย่างไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระหว่างที่ถือครองอยู่ แต่อาจมีมูลค่าสูงเมื่อเลิกการถือครองแล้วก็เป็นได้เช่น ทองคำ ที่ดิน เพชรนิลจินดา ของเก่ามีค่า เป็นต้น สิ่งที่ต้องยอมสละไประหว่างการถือครองก็คือดอกเบี้ย เงินปันผล หรือผลตอบแทนรูปอื่นที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือการลงทุนอย่างอื่น นอกจากนี้เจ้าของเองอาจไม่มีโอกาสได้เก็บเกี่ยวดอกผลจากมูลค่าที่สูงขึ้นเพราะเสียชีวิตไปก่อนก็เป็นได้ (2) การลงทุนบางอย่างได้รับผลตอบแทนระหว่างที่ครอง แต่อาจมีมูลค่าไม่สูงดังคาดหวังเมื่อจบสิ้นช่วงเวลาหนึ่งก็เป็นได้ เช่น หุ้น บ้านหรืออพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมให้เช่า อย่างไรก็ดีแม้ผลตอบแทนจากการถือครองอาจไม่สูงนัก แต่ก็สามารถนำไปลงทุนต่อเพื่อให้เกิดเงิน “ชั้นลูกชั้นหลาน” ขึ้นมาได้ (3) ความเสี่ยงในการลงทุนไม่เท่ากันระหว่างประเภทของการลงทุน เช่น หุ้นกับพันธบัตร หรือที่ดินกับกองทุนรวม ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากธรรมชาติของการเกิดผลตอบแทนนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้ความเสี่ยงจากการลงทุนในประเภทเดียวกันของการลงทุนแต่ละอย่างก็แตกต่างกันอีกด้วย เช่น การลงทุนซื้อหุ้นธนาคาร ก. อาจมีความเสี่ยงมากกว่าธนาคาร ข. อาจเนื่องมาจากธนาคาร ข. มีระบบการบริการงานที่มีประสิทธิภาพกว่า และมีธรรมาภิบาลสูงกว่าก็เป็นได้ (4) ในการตัดสินใจว่าร่วมลงทุนในกิจการใด ไม่ว่าในรูปของการลงทุนร่วมประกอบการ SME’s หรือซื้อหุ้นโดยตรง พึงพิจารณาคุณภาพของการบริหารกิจการนั้นเป็นสำคัญระวังการหลงติดกับภาพลักษณ์และการโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การบริหารที่มีคุณภาพสูงประกอบด้วยผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ มีประวัติดี มีคุณธรรม มีประวัติของความสำเร็จ มีทีมงานที่แข็งขันสนับสนุนกิจการ มีนโยบายและการปฏิบัติอย่างจริงจังในเรื่องธรรมาภิบาลอย่างเป็นที่ประจักษ์ (5) คำพูดที่ว่า “เสี่ยงสูง – ผลตอบแทนสูง” นั้นหมายถึงว่า เมื่อผู้ลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่สูง ก็จำเป็นต้องลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูงเป็นธรรมดา มิได้หมายความว่าถ้ากิจการมีความเสี่ยงสูงแล้วจะได้รับผลตอบแทนสูงเสมอไป . เมื่อข้อเท็จจริงในเรื่องการลงทุนเป็นเช่นนี้ จึงสมควรใช้เงินออมไปลงทุนในหลากหลายประเภทและหลากหลายหน่วยธุรกิจ เพราะความผันผวนในทางลบจากการลงทุนหนึ่งอาจถูกคานไว้ด้วยความผันผวนในด้านบวกจากอีกการลงทุนหนึ่ง . การลงทุนขึ้นอยู่กับโชค แต่ภายในขอบเขตหนึ่ง หากเลือกลงทุนอย่างมีเหตุมีผลแล้ว ตัวแปรสร้างความผันผวนที่ชื่อว่า “โชค” อาจลดอิทธิฤทธิ์ลงไปได้มากทีเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดชีพจร SME ผ่านภารกิจ บสย.ช่วยแก้หนี้ : คนเคาะข่าว 21-04-68
    : สิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว #SMEไทย #บสย #แก้หนี้SME #เศรษฐกิจฐานราก #ธุรกิจขนาดย่อม #สินเชื่อธุรกิจ #สิทธิกรดิเรกสุนทร #นงวดีถนิมมาลย์ #ข่าวเศรษฐกิจ #thaitimes #ฟื้นฟูธุรกิจ #การเงินเพื่อSME #มาตรการช่วยเหลือ #วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย
    วัดชีพจร SME ผ่านภารกิจ บสย.ช่วยแก้หนี้ : คนเคาะข่าว 21-04-68 : สิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #SMEไทย #บสย #แก้หนี้SME #เศรษฐกิจฐานราก #ธุรกิจขนาดย่อม #สินเชื่อธุรกิจ #สิทธิกรดิเรกสุนทร #นงวดีถนิมมาลย์ #ข่าวเศรษฐกิจ #thaitimes #ฟื้นฟูธุรกิจ #การเงินเพื่อSME #มาตรการช่วยเหลือ #วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • บทความนี้รายงานเกี่ยวกับคดีการล่วงละเมิดทางอีเมลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ โดยผู้กระทำผิดชื่อ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน หลังจากที่เขาได้ส่งอีเมลล่วงละเมิดผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้หญิง และการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางจิตใจและความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย

    ✅ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน
    - ผู้กระทำผิดถูกตัดสินจำคุกหลังจากล่วงละเมิดผู้หญิงผ่านอีเมลเป็นเวลานานกว่า 3 ปี
    - การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้เสียหาย

    ✅ การล่วงละเมิดเริ่มต้นในปี 2018 และสิ้นสุดในปี 2021
    - Merkle ใช้อีเมลที่ไม่ระบุตัวตนในการติดต่อผู้เสียหายและโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์

    ✅ ผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง
    - เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยและมีความสงสัยในทุกคนรอบตัว

    ✅ Merkle ถูกจับกุมในปี 2023
    - FBI ได้จับกุมเขาและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/19/email-stalkers-039monstrous039-harassment-of-woman-in-the-us-leads-judge-to-nearly-double-sentence
    บทความนี้รายงานเกี่ยวกับคดีการล่วงละเมิดทางอีเมลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ โดยผู้กระทำผิดชื่อ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน หลังจากที่เขาได้ส่งอีเมลล่วงละเมิดผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้หญิง และการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางจิตใจและความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย ✅ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน - ผู้กระทำผิดถูกตัดสินจำคุกหลังจากล่วงละเมิดผู้หญิงผ่านอีเมลเป็นเวลานานกว่า 3 ปี - การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้เสียหาย ✅ การล่วงละเมิดเริ่มต้นในปี 2018 และสิ้นสุดในปี 2021 - Merkle ใช้อีเมลที่ไม่ระบุตัวตนในการติดต่อผู้เสียหายและโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์ ✅ ผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง - เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยและมีความสงสัยในทุกคนรอบตัว ✅ Merkle ถูกจับกุมในปี 2023 - FBI ได้จับกุมเขาและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/19/email-stalkers-039monstrous039-harassment-of-woman-in-the-us-leads-judge-to-nearly-double-sentence
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Email stalker’s 'monstrous' harassment of woman in the US leads judge to nearly double sentence
    The victim was worried that the stalker would disrupt her marriage, her education, her job and friendships.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts