• #ทำพริกแกง #เนื้อมันสวย #แบบโบราณ ต้องนี่เลยเจ้าค่ะ! (ฉบับผู้หญิงพูด)
    คุณพ่อคุณแม่ คุณป้าคุณอา ท่านใดที่ทำพริกแกงขาย หรือทำกินเองในบ้าน แล้วอยากได้ เนื้อพริกแกงที่มันหยาบ ๆ สากลิ้น เครื่องเทศไม่เละเป็นน้ำ เหมือนสมัยก่อน... เครื่องสับผสมตัวนี้ช่วยท่านได้ดีเลยค่ะ!

    เครื่องนี้ทำไมถึงสับหยาบได้สวยถูกใจ?
    เครื่องสับผสมของเราไม่ได้แค่ "ปั่น" ให้เหลวอย่างเดียว แต่ใช้ "ใบมีดสแตนเลส 4 ใบ" ที่แข็งแรงมาก...

    คุณลูกค้าสามารถควบคุมได้เลยค่ะ ว่าอยากให้พริกแกงหยาบมากน้อยแค่ไหน...
    ถ้าอยากได้หยาบ: เพียงแค่กดปุ่มเป็นจังหวะสั้น ๆ (ย้ำเป็นจังหวะ)
    ถ้าอยากได้เนียน: ก็เดินเครื่องยาวหน่อย เครื่องจะทำการนวดและสับจนเนื้อละเอียดเลยค่ะ

    ความพิเศษอยู่ที่: เครื่องนี้มีกำลังมอเตอร์สูง (มีให้เลือก 1.5 แรงม้า และ 3 แรงม้า) ทำให้สับวัตถุดิบที่แข็ง ๆ อย่างตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด ได้แตกตัวอย่างดี... กลิ่นหอมเครื่องเทศก็จะออกมาเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อนจนทำให้กลิ่นเพี้ยนไปนะคะ!

    เครื่องทำจากสแตนเลส (SUS) ทั้งหมด! ทนทาน ใช้งานง่าย
    ไม่ต้องกลัวเรื่องความสะอาดเลยนะคะ ตัวเครื่องและถังที่ใช้สับเป็น "สแตนเลสเนื้อดี" ล้างน้ำได้ง่าย ไม่ติดกลิ่น และไม่เป็นสนิม... ใช้ทนใช้นาน ลืมคำว่าเปลี่ยนเครื่องไปได้เลยค่ะ!

    มีให้เลือก 2 ขนาดนะคะ:

    รุ่นเล็ก (5 ลิตร): สับวัตถุดิบได้ 1 ถึง 3 กิโลกรัมต่อครั้ง
    รุ่นใหญ่ (13 ลิตร): สับวัตถุดิบได้ 4 ถึง 6 กิโลกรัมต่อครั้ง

    อยากดูเครื่องจริง? มาที่ร้าน "ย่งฮะเฮง" เลยค่ะ
    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY

    เรารอต้อนรับทุกท่านที่ร้านนะคะ... มาดู มาจับ มาลองเครื่องจริงได้เลยค่ะ!

    ย่งฮะเฮง (เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน)

    สนใจสอบถาม หรือสั่งซื้อ:
    แชทเลย (Facebook Inbox): m.me/yonghahheng 👈🏻
    LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือกดที่นี่เลย https://lin.ee/HV4lSKp
    โทรมาคุยกันได้ค่ะ: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    ดูสินค้าอื่น ๆ ได้ที่: www.yoryonghahheng.com
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com
    เวลาเปิดทำการร้าน:
    จันทร์-ศุกร์: เวลา 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
    วันเสาร์: เวลา 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น
    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7


    #เครื่องสับผสม #ปั่นพริกแกง #เครื่องบดพริก #พริกแกงโบราณ #เครื่องครัวเพื่อการค้า #เครื่องทำน้ำพริก #ร้านอาหารไทย #SME #เครื่องจักรอาหาร #ย่งฮะเฮง #ครัวไทย #ทำอาหารขาย #เนื้อสับหยาบ #เครื่องเทศ #สมุนไพร #สแตนเลส #เครื่องทนทาน #ของดีบอกต่อ #เครื่องจักรคุณภาพ #ประหยัดเวลา #อาชีพเสริม #แม่บ้าน #พ่อครัว #เครื่องบด #เครื่องสับ #ทำกินเอง #สินค้าดี #YongHahHeng #BONNY #เครื่องครัว
    🌶️ #ทำพริกแกง #เนื้อมันสวย #แบบโบราณ ต้องนี่เลยเจ้าค่ะ! ✨ (ฉบับผู้หญิงพูด) คุณพ่อคุณแม่ คุณป้าคุณอา ท่านใดที่ทำพริกแกงขาย หรือทำกินเองในบ้าน แล้วอยากได้ เนื้อพริกแกงที่มันหยาบ ๆ สากลิ้น เครื่องเทศไม่เละเป็นน้ำ เหมือนสมัยก่อน... เครื่องสับผสมตัวนี้ช่วยท่านได้ดีเลยค่ะ! 👵👴 เครื่องนี้ทำไมถึงสับหยาบได้สวยถูกใจ? เครื่องสับผสมของเราไม่ได้แค่ "ปั่น" ให้เหลวอย่างเดียว แต่ใช้ "ใบมีดสแตนเลส 4 ใบ" ที่แข็งแรงมาก... 🔪🔪🔪🔪 คุณลูกค้าสามารถควบคุมได้เลยค่ะ ว่าอยากให้พริกแกงหยาบมากน้อยแค่ไหน... ✅ ถ้าอยากได้หยาบ: เพียงแค่กดปุ่มเป็นจังหวะสั้น ๆ (ย้ำเป็นจังหวะ) ✅ ถ้าอยากได้เนียน: ก็เดินเครื่องยาวหน่อย เครื่องจะทำการนวดและสับจนเนื้อละเอียดเลยค่ะ ความพิเศษอยู่ที่: เครื่องนี้มีกำลังมอเตอร์สูง (มีให้เลือก 1.5 แรงม้า และ 3 แรงม้า) ทำให้สับวัตถุดิบที่แข็ง ๆ อย่างตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด ได้แตกตัวอย่างดี... กลิ่นหอมเครื่องเทศก็จะออกมาเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อนจนทำให้กลิ่นเพี้ยนไปนะคะ! 💎 เครื่องทำจากสแตนเลส (SUS) ทั้งหมด! ทนทาน ใช้งานง่าย ไม่ต้องกลัวเรื่องความสะอาดเลยนะคะ ตัวเครื่องและถังที่ใช้สับเป็น "สแตนเลสเนื้อดี" ล้างน้ำได้ง่าย ไม่ติดกลิ่น และไม่เป็นสนิม... ใช้ทนใช้นาน ลืมคำว่าเปลี่ยนเครื่องไปได้เลยค่ะ! มีให้เลือก 2 ขนาดนะคะ: ✅ รุ่นเล็ก (5 ลิตร): สับวัตถุดิบได้ 1 ถึง 3 กิโลกรัมต่อครั้ง ✅ รุ่นใหญ่ (13 ลิตร): สับวัตถุดิบได้ 4 ถึง 6 กิโลกรัมต่อครั้ง 📍 อยากดูเครื่องจริง? มาที่ร้าน "ย่งฮะเฮง" เลยค่ะ #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼️‼️ เรารอต้อนรับทุกท่านที่ร้านนะคะ... มาดู มาจับ มาลองเครื่องจริงได้เลยค่ะ! ย่งฮะเฮง (เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน) สนใจสอบถาม หรือสั่งซื้อ: 💬 แชทเลย (Facebook Inbox): m.me/yonghahheng 👈🏻 📱 LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือกดที่นี่เลย 👉 https://lin.ee/HV4lSKp 📞 โทรมาคุยกันได้ค่ะ: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 🌐 ดูสินค้าอื่น ๆ ได้ที่: www.yoryonghahheng.com 📧 E-mail: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com ⏰ เวลาเปิดทำการร้าน: จันทร์-ศุกร์: เวลา 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น วันเสาร์: เวลา 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น 🗺️ แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เครื่องสับผสม #ปั่นพริกแกง #เครื่องบดพริก #พริกแกงโบราณ #เครื่องครัวเพื่อการค้า #เครื่องทำน้ำพริก #ร้านอาหารไทย #SME #เครื่องจักรอาหาร #ย่งฮะเฮง #ครัวไทย #ทำอาหารขาย #เนื้อสับหยาบ #เครื่องเทศ #สมุนไพร #สแตนเลส #เครื่องทนทาน #ของดีบอกต่อ #เครื่องจักรคุณภาพ #ประหยัดเวลา #อาชีพเสริม #แม่บ้าน #พ่อครัว #เครื่องบด #เครื่องสับ #ทำกินเอง #สินค้าดี #YongHahHeng #BONNY #เครื่องครัว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
    พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม เนื้อผงพุทธคุณ ( พบเห็นน้อยมาก) วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี // พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามาก “หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ” ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ** พุทธคุณเมตตา มหาลาภ โชคลาภ เงินทองคล่องมือ และ แคล้วคลาด ป้องกันภยันตรายช่วยให้การเงินคล่องมือ ซื้อง่ายขายคล่อง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัยจากภยันตรายทั้งปวง >>

    ** พระปิดตาเนื้อผง หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ หรือ “หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว พระเกจิชื่อดังแห่งจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ทรงคุณวิเศษและมีวิทยาคมแก่กล้าต้นตำรับตะกรุดโลกธาตุอันลือเลื่อง และผู้สร้างพระปิดตา ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย ว่ากันว่า มีดหมอประจำพระองค์กรมหลวงชุมพรฯ ก็เป็นของท่านด้วย พระปิดตาหลวงปู่ยิ้มนั้นท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านทำเอง โดยใช้เวลารวบรวมมวลสารถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2439-2441 ส่วนผสมต้องตรงตามสูตร การสร้างพระปิดตาแบบโบราณอย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ได้จากธรรมชาติ ได้แก่ ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห ว่าน 108 ดอกไม้บูชาพระ ไคลโบสถ์ ขี้ผึ้งจากรังผึ้ง ฯลฯ จากนั้นปลุกเสกจนถึงปี พ.ศ.2445 จึงนำออกมาแจกจ่าย มีทั้ง เนื้อเหลือง เนื้อขาว เนื้อผงเทา >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม เนื้อผงพุทธคุณ ( พบเห็นน้อยมาก) วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี // พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามาก “หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ” ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ** พุทธคุณเมตตา มหาลาภ โชคลาภ เงินทองคล่องมือ และ แคล้วคลาด ป้องกันภยันตรายช่วยให้การเงินคล่องมือ ซื้อง่ายขายคล่อง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัยจากภยันตรายทั้งปวง >> ** พระปิดตาเนื้อผง หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ หรือ “หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว พระเกจิชื่อดังแห่งจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ทรงคุณวิเศษและมีวิทยาคมแก่กล้าต้นตำรับตะกรุดโลกธาตุอันลือเลื่อง และผู้สร้างพระปิดตา ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย ว่ากันว่า มีดหมอประจำพระองค์กรมหลวงชุมพรฯ ก็เป็นของท่านด้วย พระปิดตาหลวงปู่ยิ้มนั้นท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านทำเอง โดยใช้เวลารวบรวมมวลสารถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2439-2441 ส่วนผสมต้องตรงตามสูตร การสร้างพระปิดตาแบบโบราณอย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ได้จากธรรมชาติ ได้แก่ ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห ว่าน 108 ดอกไม้บูชาพระ ไคลโบสถ์ ขี้ผึ้งจากรังผึ้ง ฯลฯ จากนั้นปลุกเสกจนถึงปี พ.ศ.2445 จึงนำออกมาแจกจ่าย มีทั้ง เนื้อเหลือง เนื้อขาว เนื้อผงเทา >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะจอดเรือที่ Cannes แล้วต้องไปที่ไหน? รวม 4 จุดไฮไลต์หรูหราและมีเสน่ห์ของเมืองคานส์
    จากถนนคนดังระดับโลก สู่งานเทศกาลหนังระดับนานาชาติ เดินเล่นย่านเมืองเก่า ช้อปของสดท้องถิ่น — ครบทุกไฮไลท์ในวันเดียว!

    La Croisette - ถนนลา ครัวแซตต์
    ถนนเลียบชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคานส์ สองฝั่งถนนเรียงรายไปด้วยโรงแรมหรูระดับโลก เช่น Hôtel Martinez และ InterContinental Carlton

    Palais des Festivals et des Congrès - ศูนย์จัดเทศกาลและการประชุมเมืองคานส์
    อาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ งานพรมแดงที่ดาราฮอลลีวูดและนักสร้างภาพยนตร์ทั่วโลก

    Le Suquet - ย่านเมืองเก่าเลอ ซูเคต์
    ย่านเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งมีเสน่ห์แบบโบราณ เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินและบ้านเรือนเก่าแก่ในสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม

    Marché Forville - ตลาดฟอร์วิลล์
    ตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยอาหารสด เช่น ผลไม้ ผัก อาหารทะเล ชีส และขนมปัง สถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและรสชาติของคานส์

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #CannesCruisePort #France #LaCroisette #PalaisdesFestivalsetdesCongrès #LeSuquet #MarchéForville #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    แวะจอดเรือที่ Cannes แล้วต้องไปที่ไหน? รวม 4 จุดไฮไลต์หรูหราและมีเสน่ห์ของเมืองคานส์ 🌴✨ จากถนนคนดังระดับโลก สู่งานเทศกาลหนังระดับนานาชาติ เดินเล่นย่านเมืองเก่า ช้อปของสดท้องถิ่น — ครบทุกไฮไลท์ในวันเดียว! ☑️ La Croisette - ถนนลา ครัวแซตต์ ถนนเลียบชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคานส์ สองฝั่งถนนเรียงรายไปด้วยโรงแรมหรูระดับโลก เช่น Hôtel Martinez และ InterContinental Carlton ☑️ Palais des Festivals et des Congrès - ศูนย์จัดเทศกาลและการประชุมเมืองคานส์ อาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ งานพรมแดงที่ดาราฮอลลีวูดและนักสร้างภาพยนตร์ทั่วโลก ☑️ Le Suquet - ย่านเมืองเก่าเลอ ซูเคต์ ย่านเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งมีเสน่ห์แบบโบราณ เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินและบ้านเรือนเก่าแก่ในสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม ☑️ Marché Forville - ตลาดฟอร์วิลล์ ตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยอาหารสด เช่น ผลไม้ ผัก อาหารทะเล ชีส และขนมปัง สถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและรสชาติของคานส์ 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #CannesCruisePort #France #LaCroisette #PalaisdesFestivalsetdesCongrès #LeSuquet #MarchéForville #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..ถึงเวลานี้หมดเวลาแล้วครับ,พ้นเส้นขีดคำว่าอภัยโทษแล้ว,ยุคกากยุคข่าวสารแบบโบราณอะไร,จนรอข่าวสารก่อนค่อยตัดสินใจให้รอบคอบ,พ้นคลิปมาต้องตัดสินใจทันทีแบบพรรคภูมิใจไทยโน้น,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนมิใช่ผีบ้าห่วงเก้าอี้ตำแหน่งตนเอง,แค่ภาวะผู้นำด้านการตัดสินเรื่องอธิปไตยไทยตนเองขั้นพื้นฐานก็ไม่มี,ไม่สมควรเป็นว่าที่นายกฯอะไรในอนาคตแบบข่าวปล่อยลือออกมาได่หรอกในตอนนี้และยุคนี้ ปิดฝาโลงไปเลย,และนักการเมืองทั้งหมดด้วย จริงๆสมควรลาออกจากสถานะ สส.สว.ไปเลยทั้งสภา,เหี้ยขนาดนี้แล้ว สภาจะมีค่าอะไรอีก,เหมือนสมัยการศึกสงคราม ญี่ปุ่นยึดไทยขึ้นบกได้แล้ว หรือกำลังถล่มไทยเสือกประชุมสภาห่วงหวงตำแหน่งอำนาจสส.สว.อีกเหรอ,555เหี้ยหมด,เป็นผมลาออกจากสส.สว.ทันทีแล้ว อับอายเกียรติตนเองที่จะมาค้านเป็นฝ่ายค้านกับคนที่เนรคุณอธิปไตยชาติไทยตนเอง,เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสส.ร่วมรัฐบาลละอายใจต่อบรรพบุรุษตนเองที่มาร่วมคนเนรคุณคนทรยศในอธิปไตยชาติไทยตน,ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใครหรอกสามัญสำนึกดีขั้นพื้นฐานเลย สำเนียกในใจขั้นต้นก็ว่า ทั้งสภาไม่มีสส.สว.ใครเลยจะกระทำแบบนี้,ยิ่งกฎหมายเขียนแบบในอดีต นายกฯสิ้นสถานะนายกฯต้องเลือกตั้งใหม่,ผมลาออกทันทีล้าน%,ด้วย,สส.สว.เรากากใจกระจอก ร่วมกันรักษาอะไร สภาเหรอ,นี้อธิปไตยไทยนะ ไม่มีชาติจะมีสภาผีบ้าอะไร,นัยยะขั้นพื้นฐาน สำนึกรักชาติขั้นพื้นฐานสส.สว.ยังไม่มีเลย.สส.สว.ลาออกทั้งสภาจะฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเหลือแค่พรรคเพื่อไทยจะบริหารแบบไหน.,นี้คือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของสถาบันการเมืองด้านนักการเมืองเลยคือจริยธรรมพื้นฐาน,ไม่จำเป็นต้องเขียนตีตราเป็นกฎหมายพิเศษใดๆก็ได้,สามัญสำนึกในสมองพื้นๆก็ว่า.,ทั้งมันคือตำนานอีก ชนะใจเกินร้อยแก่ประชาชนโน้น เสียดายโอกาสการเป็นคนในตำนานจริงๆ555,จังหวะมาก็ไม่ถือโอกาสดีขนาดนี้ไว้ ฉลาดล้ำอัจฉริยะด้วย สมัยหน้าได้รับเลือกตั้งอีกโน้น,นั่งในสภาครั้งใหม่อย่างองอาจอีกว่าข้าคือตำนานโน้น,ลาออกล่าสุดก็สามารถกลับมาได้ใหม่555
    ..และส่วนตัวคนเช่นนี้พื้นฐานมีจิตสำนึกดีงามเพื่อชาติ ชาติไทยต้องมาก่อน แม้การเมืองจะเหี้ยภายในขนาดไหนก็ว่า.

    https://youtu.be/GFmW2tJ8MRc?si=iJ53XapolZtcXCHW
    ..ถึงเวลานี้หมดเวลาแล้วครับ,พ้นเส้นขีดคำว่าอภัยโทษแล้ว,ยุคกากยุคข่าวสารแบบโบราณอะไร,จนรอข่าวสารก่อนค่อยตัดสินใจให้รอบคอบ,พ้นคลิปมาต้องตัดสินใจทันทีแบบพรรคภูมิใจไทยโน้น,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนมิใช่ผีบ้าห่วงเก้าอี้ตำแหน่งตนเอง,แค่ภาวะผู้นำด้านการตัดสินเรื่องอธิปไตยไทยตนเองขั้นพื้นฐานก็ไม่มี,ไม่สมควรเป็นว่าที่นายกฯอะไรในอนาคตแบบข่าวปล่อยลือออกมาได่หรอกในตอนนี้และยุคนี้ ปิดฝาโลงไปเลย,และนักการเมืองทั้งหมดด้วย จริงๆสมควรลาออกจากสถานะ สส.สว.ไปเลยทั้งสภา,เหี้ยขนาดนี้แล้ว สภาจะมีค่าอะไรอีก,เหมือนสมัยการศึกสงคราม ญี่ปุ่นยึดไทยขึ้นบกได้แล้ว หรือกำลังถล่มไทยเสือกประชุมสภาห่วงหวงตำแหน่งอำนาจสส.สว.อีกเหรอ,555เหี้ยหมด,เป็นผมลาออกจากสส.สว.ทันทีแล้ว อับอายเกียรติตนเองที่จะมาค้านเป็นฝ่ายค้านกับคนที่เนรคุณอธิปไตยชาติไทยตนเอง,เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสส.ร่วมรัฐบาลละอายใจต่อบรรพบุรุษตนเองที่มาร่วมคนเนรคุณคนทรยศในอธิปไตยชาติไทยตน,ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใครหรอกสามัญสำนึกดีขั้นพื้นฐานเลย สำเนียกในใจขั้นต้นก็ว่า ทั้งสภาไม่มีสส.สว.ใครเลยจะกระทำแบบนี้,ยิ่งกฎหมายเขียนแบบในอดีต นายกฯสิ้นสถานะนายกฯต้องเลือกตั้งใหม่,ผมลาออกทันทีล้าน%,ด้วย,สส.สว.เรากากใจกระจอก ร่วมกันรักษาอะไร สภาเหรอ,นี้อธิปไตยไทยนะ ไม่มีชาติจะมีสภาผีบ้าอะไร,นัยยะขั้นพื้นฐาน สำนึกรักชาติขั้นพื้นฐานสส.สว.ยังไม่มีเลย.สส.สว.ลาออกทั้งสภาจะฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเหลือแค่พรรคเพื่อไทยจะบริหารแบบไหน.,นี้คือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของสถาบันการเมืองด้านนักการเมืองเลยคือจริยธรรมพื้นฐาน,ไม่จำเป็นต้องเขียนตีตราเป็นกฎหมายพิเศษใดๆก็ได้,สามัญสำนึกในสมองพื้นๆก็ว่า.,ทั้งมันคือตำนานอีก ชนะใจเกินร้อยแก่ประชาชนโน้น เสียดายโอกาสการเป็นคนในตำนานจริงๆ555,จังหวะมาก็ไม่ถือโอกาสดีขนาดนี้ไว้ ฉลาดล้ำอัจฉริยะด้วย สมัยหน้าได้รับเลือกตั้งอีกโน้น,นั่งในสภาครั้งใหม่อย่างองอาจอีกว่าข้าคือตำนานโน้น,ลาออกล่าสุดก็สามารถกลับมาได้ใหม่555 ..และส่วนตัวคนเช่นนี้พื้นฐานมีจิตสำนึกดีงามเพื่อชาติ ชาติไทยต้องมาก่อน แม้การเมืองจะเหี้ยภายในขนาดไหนก็ว่า. https://youtu.be/GFmW2tJ8MRc?si=iJ53XapolZtcXCHW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549
    หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ เนื้อว่านผสมมวลสารวิเศษ ฝังข้าวสารหิน วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 // พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป พิมพ์คมชัดเนื้อว่านมวลสารจัดจ้าน //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ เมตตาค้าขาย ป้องกันภัยทุกชนิด การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >>

    ** พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไฟพระฤกษ์ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2549 มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป เป็นประวัติศาสตร์ของวงการพระเครื่องเมืองไทย ** พระดี พิธีใหญ่ วิธีการทำแบบโบราณกาล พิธีกรรมครบถ้วน กดมือทุกองค์ มวลสารที่นำมาจัดสร้างว่าน 108 ผงเกสร ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงมหานิยม ผงนะหน้าทอง ผงอิติปิโส 108 ผงคัมภีร์กาฝากจากต้นไม้มงคล ผงสุวรรณมงคล ผงพลายตานี แร่มหามงคลอานุภาพคล้ายเหล็กไหลนำมาผสมเป็นพระเครื่อง พระรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยพุทธคุณ มีไว้ครอบครองย่อมเกิดผลแน่นอนที่สำคัญพิธีพุทธาภิเษก มีพระสงฆ์ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป มากเป็นประวัติศาสตร์การสร้างพระเครื่องของเมืองไทย >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ เนื้อว่านผสมมวลสารวิเศษ ฝังข้าวสารหิน วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 // พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป พิมพ์คมชัดเนื้อว่านมวลสารจัดจ้าน //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ เมตตาค้าขาย ป้องกันภัยทุกชนิด การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >> ** พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไฟพระฤกษ์ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2549 มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป เป็นประวัติศาสตร์ของวงการพระเครื่องเมืองไทย ** พระดี พิธีใหญ่ วิธีการทำแบบโบราณกาล พิธีกรรมครบถ้วน กดมือทุกองค์ มวลสารที่นำมาจัดสร้างว่าน 108 ผงเกสร ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงมหานิยม ผงนะหน้าทอง ผงอิติปิโส 108 ผงคัมภีร์กาฝากจากต้นไม้มงคล ผงสุวรรณมงคล ผงพลายตานี แร่มหามงคลอานุภาพคล้ายเหล็กไหลนำมาผสมเป็นพระเครื่อง พระรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยพุทธคุณ มีไว้ครอบครองย่อมเกิดผลแน่นอนที่สำคัญพิธีพุทธาภิเษก มีพระสงฆ์ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป มากเป็นประวัติศาสตร์การสร้างพระเครื่องของเมืองไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ปี2538
    เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ ( ตอกโค๊ต "ช" ) วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ปี2538 // รุ่นนี้มีประสบการณ์สูง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ @"

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่คำพันธ์ บรรพชา เป็นสามเณร วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ ปี) บวชเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ.หนองหอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม แบบโบราณ และฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐาน อาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน หลวงปู่ได้มีโอกาสฟังธรรมการปฏิบัติ จาก พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ปี2538 เหรียญแซยิด หลวงปู่คำพันธ์ ( ตอกโค๊ต "ช" ) วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ปี2538 // รุ่นนี้มีประสบการณ์สูง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ @" ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่คำพันธ์ บรรพชา เป็นสามเณร วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ ปี) บวชเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ.หนองหอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม แบบโบราณ และฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐาน อาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน หลวงปู่ได้มีโอกาสฟังธรรมการปฏิบัติ จาก พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พระสมเด็จ” ห้อยคอ ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ คุ้มภัย
    คลาดแคล้ว เมตตามหานิยม. โชคลาภ พลิกชีวิต ให้รุ่งโรจน์
    สมปรารถนาดังใจหวัง
    //////////////////////

    ธรรมชาติ “มนุษย์” ย่อมมีความกลัวติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทั้งกลัวภัยธรรมชาติ ภัยจากสิ่งอื่น...สัตว์ร้าย โรคร้าย ภูตผีปีศาจ ฯลฯ จึงได้มีการสร้างเครื่องยึดเหนี่ยวขึ้นมาเพื่อเป็นที่พึ่ง ปกป้องภัยอันตรายต่างๆ เป็นที่มาของการเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้าต่างๆ
    พระสมเด็จวัดระฆัง. นับเป็นเพชรน้ำเอก. 1 ใน 5. คลองพระเบญจภาคี. อันได้แก่. พระสมเด็จวัดระฆัง. พระรอด. พระนางพญา. พระผงสุพรรณ. และพระซุ้มกอ. ซึ่งนับ ว่าเป็นพระเครื่องเก่าแก่. และเชื่อกันว่ามีพุทธคุณสูง กลับปกป้องคุ้มภัยแก่ผู้ครอบครอง. ให้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งหลาย. รวมไปถึง ด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย
    สมเด็จฯ วัดระฆังโฆษิตาราม
    พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี เป็นพระเครื่องที่มีผู้นิยมสูงสุดในประเทศไทย และนักนิยมสะสมพระเครื่องทั่วประเทศต่างยกย่องให้เป็นจักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง จึงทำให้นักนิยมพระเครื่องทั้งเก่าและใหม่ต่างอยากได้ พระสมเด็จวัดระฆังฯ มาไว้ครอบครองบูชากันทุกท่าน
    มวลสารของพระสมเด็จฯ ส่วนใหญ่เป็นปูนขาว ผสมผงพระพุทธคุณ คือ ผงมหาราช อิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห ฯลฯ โดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้ทำผงกรรมวิธีแบบโบราณ คือ เขียนบนกระดานชนวน เขียนแล้วลบ รวบรวมผงนำมาสร้างพระ นอกจากนี้ยังมีอิทธิวัตถุอื่น เช่น ใบลานเผา ว่าน อิฐหัก ดอกไม้บูชาพระ ฯลฯ ทั้งหมดนำมาโขลกผสมประสานด้วยน้ำมันตังอิ้ว ทำให้เนื้อพระไม่เปราะหรือแตกหักง่าย
    ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ เรื่องหนึ่ง.
    อีกเรื่องหนึ่งหนึ่งว่าพระสมเด็จงูไม่ข้าม
    คราวหนึ่งมีงูเลื้อย พระสมเด็จ พระลำพูน พระกำแพง พระพิจิตรหลังผ้า ฯลฯ มาวางเรียงไว้ แล้วต้อนงูให้เลื้อยเข้ามาในเขตบริเวณพระเครื่องเหล่านั้นทำดังนี้หลายครั้งปรากฏว่างูมิได้เลื้อยข้ามพระสมเด็จ แม้แต่เลื้อยเข้ามาใกล้ก็ไม่มี ส่วนพระเครื่องชนิดอื่น ๆ งูได้เลื้อยข้ามบ้าง เลื้อยเฉียดไปบ้าง
    ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ได้พระสมเด็จ วัดระฆัง ได้มาในวันที่ 11 มิถุนายน 2538 เป็นเวลา 30 ปีที่อยู่ในคอผมมาตลอด
    ตัวผมเอง ได้เคยฝ่าอันตรายมาหลายครั้ง แต่ปลอดภัยทุกคราวและว่าน่าประหลาดอย่างหนึ่งที่คนกำลัง ผมไปกลับญาติพี่น้อง เกิดประสบอุบัติเหตุตัวผมและญาติพี่น้องรอดจากปาฏิหาริย์
    และประสบการณ์ความเมตตาก็มีนะครับ ผมห้อยออกไปทำงานได้งานกลับมาทุกที. แรงอธิษฐานของผมกับพระสมเด็จวัดระฆัง. ขออะไรได้สมปรารถนาทุกประการ. ของานได้งานขอเงินได้เงิน. ขอโชคลาภ ก็ได้โชคลาภอย่างดังใจหวังใครผู้ใดครอบครองผู้นั้นมีบุญบารมีอันสูงส่ง. ผมนันท์นภัส
    วงศ์ใหญ่.
    ได้มีประสบการณ์กับพระสมเด็จมาหลายครั้งหลายหน. เลยมาถ่ายทอดประสบการณ์ เล่าสู่กันฟัง
    “พระสมเด็จ” ห้อยคอ ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ คุ้มภัย คลาดแคล้ว เมตตามหานิยม. โชคลาภ พลิกชีวิต ให้รุ่งโรจน์ สมปรารถนาดังใจหวัง ////////////////////// ธรรมชาติ “มนุษย์” ย่อมมีความกลัวติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทั้งกลัวภัยธรรมชาติ ภัยจากสิ่งอื่น...สัตว์ร้าย โรคร้าย ภูตผีปีศาจ ฯลฯ จึงได้มีการสร้างเครื่องยึดเหนี่ยวขึ้นมาเพื่อเป็นที่พึ่ง ปกป้องภัยอันตรายต่างๆ เป็นที่มาของการเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้าต่างๆ พระสมเด็จวัดระฆัง. นับเป็นเพชรน้ำเอก. 1 ใน 5. คลองพระเบญจภาคี. อันได้แก่. พระสมเด็จวัดระฆัง. พระรอด. พระนางพญา. พระผงสุพรรณ. และพระซุ้มกอ. ซึ่งนับ ว่าเป็นพระเครื่องเก่าแก่. และเชื่อกันว่ามีพุทธคุณสูง กลับปกป้องคุ้มภัยแก่ผู้ครอบครอง. ให้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งหลาย. รวมไปถึง ด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย สมเด็จฯ วัดระฆังโฆษิตาราม พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี เป็นพระเครื่องที่มีผู้นิยมสูงสุดในประเทศไทย และนักนิยมสะสมพระเครื่องทั่วประเทศต่างยกย่องให้เป็นจักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง จึงทำให้นักนิยมพระเครื่องทั้งเก่าและใหม่ต่างอยากได้ พระสมเด็จวัดระฆังฯ มาไว้ครอบครองบูชากันทุกท่าน มวลสารของพระสมเด็จฯ ส่วนใหญ่เป็นปูนขาว ผสมผงพระพุทธคุณ คือ ผงมหาราช อิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห ฯลฯ โดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้ทำผงกรรมวิธีแบบโบราณ คือ เขียนบนกระดานชนวน เขียนแล้วลบ รวบรวมผงนำมาสร้างพระ นอกจากนี้ยังมีอิทธิวัตถุอื่น เช่น ใบลานเผา ว่าน อิฐหัก ดอกไม้บูชาพระ ฯลฯ ทั้งหมดนำมาโขลกผสมประสานด้วยน้ำมันตังอิ้ว ทำให้เนื้อพระไม่เปราะหรือแตกหักง่าย ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ เรื่องหนึ่ง. อีกเรื่องหนึ่งหนึ่งว่าพระสมเด็จงูไม่ข้าม คราวหนึ่งมีงูเลื้อย พระสมเด็จ พระลำพูน พระกำแพง พระพิจิตรหลังผ้า ฯลฯ มาวางเรียงไว้ แล้วต้อนงูให้เลื้อยเข้ามาในเขตบริเวณพระเครื่องเหล่านั้นทำดังนี้หลายครั้งปรากฏว่างูมิได้เลื้อยข้ามพระสมเด็จ แม้แต่เลื้อยเข้ามาใกล้ก็ไม่มี ส่วนพระเครื่องชนิดอื่น ๆ งูได้เลื้อยข้ามบ้าง เลื้อยเฉียดไปบ้าง ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ได้พระสมเด็จ วัดระฆัง ได้มาในวันที่ 11 มิถุนายน 2538 เป็นเวลา 30 ปีที่อยู่ในคอผมมาตลอด ตัวผมเอง ได้เคยฝ่าอันตรายมาหลายครั้ง แต่ปลอดภัยทุกคราวและว่าน่าประหลาดอย่างหนึ่งที่คนกำลัง ผมไปกลับญาติพี่น้อง เกิดประสบอุบัติเหตุตัวผมและญาติพี่น้องรอดจากปาฏิหาริย์ และประสบการณ์ความเมตตาก็มีนะครับ ผมห้อยออกไปทำงานได้งานกลับมาทุกที. แรงอธิษฐานของผมกับพระสมเด็จวัดระฆัง. ขออะไรได้สมปรารถนาทุกประการ. ของานได้งานขอเงินได้เงิน. ขอโชคลาภ ก็ได้โชคลาภอย่างดังใจหวังใครผู้ใดครอบครองผู้นั้นมีบุญบารมีอันสูงส่ง. ผมนันท์นภัส วงศ์ใหญ่. ได้มีประสบการณ์กับพระสมเด็จมาหลายครั้งหลายหน. เลยมาถ่ายทอดประสบการณ์ เล่าสู่กันฟัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 760 มุมมอง 0 รีวิว
  • 111 ปี สิ้น “เจ้าน้อยศุขเกษม” ปิดตำนานรักสาวชาวพม่า “มะเมียะ” เรื่องจริง หรือแค่…อิงนิยาย?

    ตำนานรักข้ามชาติ ที่คนรุ่นหลังยังคงกล่าวขาน

    111 ปีที่ผ่านไป…เรื่องราวความรักระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" แห่งนครเชียงใหม่ และ "มะเมียะ" สาวงามจากเมืองมะละแหม่ง ยังคงเป็นเรื่องเล่าที่อบอวล ด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก และโศกเศร้า แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ... เรื่องนี้มีมูลความจริงแค่ไหน? หรือเป็นเพียงตำนาน ที่แต่งเติมเสริมสีสันให้ดูหวานซึ้งเท่านั้น?

    ย้อนรอยตำนานรักข้ามพรมแดน พร้อมเปิดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อค้นหาคำตอบ ว่าความจริงในตำนานรักอมตะนี้ เป็นเรื่องจริง...หรือเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นมา ให้คนล้านนาหลงใหล

    "เจ้าน้อยศุขเกษม" หรือในบรรดาศักดิ์ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าอุตรการโกศล" เป็นโอรสองค์โตของ เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่คนสุดท้าย กับเจ้าจามรีวงศ์ เป็นผู้มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์ทิพย์จักรแห่งล้านนา

    เจ้าน้อยเกิดปี พ.ศ. 2423 ต่อมาในปี พ.ศ. 2441 ถูกส่งไปศึกษา ที่เมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า ซึ่งได้พบ "มะเมียะ" หญิงสาวแม่ค้าชาวพม่า ผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตเจ้าน้อยศุขเกษม ไปตลอดกาล

    ได้รับแต่งตั้งเป็น "เจ้าอุตรการโกศล" ถือศักดินา 1,600 แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหลวง เนื่องจากอุปนิสัยรักสนุก ไม่เอาการเอางาน กระทั่งถึงแก่กรรม ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2457 สิริอายุ 32 ปี (หากนับแบบโบราณ ตรงกับ พ.ศ. 2456 อายุ 33 ปี)

    ตำนานรักที่กล่าวขาน “มะเมียะ” หญิงงามจากแดนพม่า ถูกขนานนามว่า เป็นแม่ค้าสาวงามชาวพม่าจากเมืองมะละแหม่ง ทั้งสองพบรักกันขณะเจ้าน้อยไปศึกษายังโรงเรียนเซนต์แพทริค โดยคำบอกเล่าต่างๆ ระบุว่า

    เจ้าน้อยศุขเกษมใช้ชีวิตร่วมกับมะเมียะฉันสามีภรรยา ด้วยการสนับสนุนจากทางบ้านของฝ่ายหญิง
    ต่อมาเมื่อข่าวแพร่ถึงเชียงใหม่ เจ้าน้อยถูกเรียกกลับคุ้ม พร้อมคำสั่งให้เลิกคบหากับมะเมียะ อย่างเด็ดขาด
    มะเมียะจำต้องปลอมตัวเป็นชาย เพื่อตามขบวนเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกพ้นคำสั่ง ของผู้มีอำนาจในคุ้มเชียงใหม่ได้
    เรื่องราวจบลงด้วยการที่มะเมียะ ถูกบีบให้เดินทางกลับบ้านเกิด น้ำตารินไหลพรากจากชายคนรักตลอดกาล…

    ข้อเท็จจริงในหน้าประวัติศาสตร์ จากเอกสาร และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พบว่า

    ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่า "เจ้าน้อยศุขเกษม" มีความสัมพันธ์กับ "มะเมียะ" จริงในประวัติศาสตร์
    เรื่องราวที่ "ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง" นำไปเผยแพร่ในหนังสือ "เพ็ชร์ลานนา" และ ชีวิตรักเจ้าเชียงใหม่ อาจมีโครงเรื่องบางส่วน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ของ "เจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่" ผู้เป็นน้องชายต่างพระมารดาของเจ้าน้อย
    หลักฐานต่างๆ ชี้ชัดว่า เจ้าน้อยศุขเกษมไม่ได้มีบทบาทสำคัญ ในการสืบราชสันตติวงศ์ของเชียงใหม่ และมีนิสัยไม่รับผิดชอบ จึงได้รับแต่งตั้งเพียงตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล"
    เจ้าศุขเกษมสิ้นชีพ ด้วยโรคเส้นประสาทพิการเรื้อรัง ไม่ใช่เพราะตรอมใจ จากการพลัดพรากกับคนรัก

    ตำนานที่สร้างจากเรื่องจริง…หรือเพียงจินตนาการ? การบอกเล่าต่อๆ กันในหมู่เจ้านายฝ่ายเหนือและประชาชนล้านนาในยุคหลัง ได้ขยายความ และเติมแต่งจนเรื่องราวความรักนี้ กลายเป็นนิยายโศกนาฏกรรม ที่ชวนให้คนฟังหลงใหล

    "จรัล มโนเพ็ชร" นำเรื่องนี้ไปประพันธ์เป็นบทเพลง "มะเมี้ยะ" และขับร้องด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ทำให้ตำนานนี้ กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
    เมื่อเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านเพลง และสื่อหนังสือพิมพ์มากขึ้น ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า นี่คือเรื่องจริงของ "เจ้าน้อยศุขเกษม"
    แท้จริงแล้ว ตำนานดังกล่าว น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของ "เจ้าวงษ์ตวัน" ซึ่งเคยมีปัญหาเรื่องพาผู้หญิงหลบหนี และถูกส่งตัวกลับเชียงใหม่ ตามจดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6

    หลักฐานสนับสนุนจากประวัติศาสตร์ล้านนา
    จดหมายเหตุรายวัน ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
    รายงานการศึกษาของเจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่ ที่เล่าเรียนในโรงเรียนราชวิทยาลัย
    บันทึกการแต่งตั้งตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล" ของเจ้าน้อยศุขเกษม
    บทสัมภาษณ์เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ผู้ร่วมสมัยที่กล่าวถึงเหตุการณ์ เรียกตัวเจ้าน้อยศุขเกษมกลับเชียงใหม่

    วิเคราะห์และตีความใหม่ เรื่องราวความรักที่เล่าขานระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ"
    มีเค้าโครงจากเรื่องจริงบางส่วน ในราชสำนักเชียงใหม่
    ถูกเติมแต่งให้มีความโรแมนติกและดราม่า เพื่อให้ชาวบ้านและคนรุ่นหลังเข้าถึง และจดจำได้ง่าย
    สะท้อนภาพชีวิตในยุคล้านนา ที่ยังคงเคร่งครัดในระบบชนชั้น และการสมรสตามขนบธรรมเนียม
    ใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรักต้องห้าม และการต่อสู้กับกรอบประเพณีเก่าก่อน

    "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ" ตำนานที่ยังคงมีชีวิต แม้จะไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ความรักครั้งนี้เป็นจริง แต่เรื่องราว "เจ้าน้อยศุขเกษม" และ "มะเมียะ" ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ "รักแท้ที่ไม่มีวันสมหวัง"

    ถูกถ่ายทอดเป็นนิยาย เพลง บทละคร และศิลปวัฒนธรรมในล้านนา
    กลายเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงข้อจำกัดทางชนชั้น และการเมืองในอดีต
    ยังเป็นตำนานที่คนรุ่นใหม่ศึกษา ซาบซึ้งในแง่มุมของความรัก และความเสียสละ

    สรุปข้อเท็จจริง
    ตำนานรัก "เจ้าน้อยศุขเกษม กับ มะเมียะ" คือ นิยายประวัติศาสตร์ ที่แต่งเติมจากเรื่องจริงบางส่วน
    ข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์ยืนยันว่า "เจ้าวงษ์ตวัน" มีชีวิตที่คล้ายกับตำนานดังกล่าวมากกว่า
    การเล่าขานที่ต่อเติมจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ความจริงและเรื่องแต่ง ผสมปนเปกันอย่างลงตัว
    ตำนานนี้ยังคงมีเสน่ห์และคุณค่า ในฐานะเรื่องเล่าแห่งความรักของชาวล้านนา

    ความรักอาจไม่มีพรมแดน... แต่ขนบธรรมเนียมและประเพณีในอดีตต่างหาก ที่เป็นกำแพงยากจะข้ามได้

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200807 มี.ค. 2568

    #ตำนานรักมะเมียะ #เจ้าน้อยศุขเกษม #ล้านนาประวัติศาสตร์ #เชียงใหม่ในอดีต #เพลงมะเมี้ยะ #เรื่องจริงหรือนิยาย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #เชียงใหม่เมืองโบราณ #ตำนานล้านนา #รักข้ามพรมแดน
    111 ปี สิ้น “เจ้าน้อยศุขเกษม” ปิดตำนานรักสาวชาวพม่า “มะเมียะ” เรื่องจริง หรือแค่…อิงนิยาย? 🕰️ ตำนานรักข้ามชาติ ที่คนรุ่นหลังยังคงกล่าวขาน 🕰️ 📝 111 ปีที่ผ่านไป…เรื่องราวความรักระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" แห่งนครเชียงใหม่ และ "มะเมียะ" สาวงามจากเมืองมะละแหม่ง ยังคงเป็นเรื่องเล่าที่อบอวล ด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก และโศกเศร้า แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ... เรื่องนี้มีมูลความจริงแค่ไหน? หรือเป็นเพียงตำนาน ที่แต่งเติมเสริมสีสันให้ดูหวานซึ้งเท่านั้น? ย้อนรอยตำนานรักข้ามพรมแดน พร้อมเปิดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อค้นหาคำตอบ ว่าความจริงในตำนานรักอมตะนี้ เป็นเรื่องจริง...หรือเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นมา ให้คนล้านนาหลงใหล 💔✨ 💡 "เจ้าน้อยศุขเกษม" หรือในบรรดาศักดิ์ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าอุตรการโกศล" เป็นโอรสองค์โตของ เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่คนสุดท้าย กับเจ้าจามรีวงศ์ เป็นผู้มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์ทิพย์จักรแห่งล้านนา เจ้าน้อยเกิดปี พ.ศ. 2423 ต่อมาในปี พ.ศ. 2441 ถูกส่งไปศึกษา ที่เมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า ซึ่งได้พบ "มะเมียะ" หญิงสาวแม่ค้าชาวพม่า ผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตเจ้าน้อยศุขเกษม ไปตลอดกาล ได้รับแต่งตั้งเป็น "เจ้าอุตรการโกศล" ถือศักดินา 1,600 แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหลวง เนื่องจากอุปนิสัยรักสนุก ไม่เอาการเอางาน กระทั่งถึงแก่กรรม ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2457 สิริอายุ 32 ปี (หากนับแบบโบราณ ตรงกับ พ.ศ. 2456 อายุ 33 ปี) 🌸 ตำนานรักที่กล่าวขาน “มะเมียะ” หญิงงามจากแดนพม่า ถูกขนานนามว่า เป็นแม่ค้าสาวงามชาวพม่าจากเมืองมะละแหม่ง ทั้งสองพบรักกันขณะเจ้าน้อยไปศึกษายังโรงเรียนเซนต์แพทริค โดยคำบอกเล่าต่างๆ ระบุว่า ❤️ เจ้าน้อยศุขเกษมใช้ชีวิตร่วมกับมะเมียะฉันสามีภรรยา ด้วยการสนับสนุนจากทางบ้านของฝ่ายหญิง ❤️ ต่อมาเมื่อข่าวแพร่ถึงเชียงใหม่ เจ้าน้อยถูกเรียกกลับคุ้ม พร้อมคำสั่งให้เลิกคบหากับมะเมียะ อย่างเด็ดขาด ❤️ มะเมียะจำต้องปลอมตัวเป็นชาย เพื่อตามขบวนเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกพ้นคำสั่ง ของผู้มีอำนาจในคุ้มเชียงใหม่ได้ ❤️ เรื่องราวจบลงด้วยการที่มะเมียะ ถูกบีบให้เดินทางกลับบ้านเกิด น้ำตารินไหลพรากจากชายคนรักตลอดกาล…😢 📚 ข้อเท็จจริงในหน้าประวัติศาสตร์ จากเอกสาร และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พบว่า 📌 ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่า "เจ้าน้อยศุขเกษม" มีความสัมพันธ์กับ "มะเมียะ" จริงในประวัติศาสตร์ 📌 เรื่องราวที่ "ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง" นำไปเผยแพร่ในหนังสือ "เพ็ชร์ลานนา" และ ชีวิตรักเจ้าเชียงใหม่ อาจมีโครงเรื่องบางส่วน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ของ "เจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่" ผู้เป็นน้องชายต่างพระมารดาของเจ้าน้อย 📌 หลักฐานต่างๆ ชี้ชัดว่า เจ้าน้อยศุขเกษมไม่ได้มีบทบาทสำคัญ ในการสืบราชสันตติวงศ์ของเชียงใหม่ และมีนิสัยไม่รับผิดชอบ จึงได้รับแต่งตั้งเพียงตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล" 📌 เจ้าศุขเกษมสิ้นชีพ ด้วยโรคเส้นประสาทพิการเรื้อรัง ไม่ใช่เพราะตรอมใจ จากการพลัดพรากกับคนรัก 🧐 ตำนานที่สร้างจากเรื่องจริง…หรือเพียงจินตนาการ? การบอกเล่าต่อๆ กันในหมู่เจ้านายฝ่ายเหนือและประชาชนล้านนาในยุคหลัง ได้ขยายความ และเติมแต่งจนเรื่องราวความรักนี้ กลายเป็นนิยายโศกนาฏกรรม ที่ชวนให้คนฟังหลงใหล 🌿 "จรัล มโนเพ็ชร" นำเรื่องนี้ไปประพันธ์เป็นบทเพลง "มะเมี้ยะ" และขับร้องด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ทำให้ตำนานนี้ กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย 🌿 เมื่อเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านเพลง และสื่อหนังสือพิมพ์มากขึ้น ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า นี่คือเรื่องจริงของ "เจ้าน้อยศุขเกษม" 🌿 แท้จริงแล้ว ตำนานดังกล่าว น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของ "เจ้าวงษ์ตวัน" ซึ่งเคยมีปัญหาเรื่องพาผู้หญิงหลบหนี และถูกส่งตัวกลับเชียงใหม่ ตามจดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 📖 หลักฐานสนับสนุนจากประวัติศาสตร์ล้านนา 📜 จดหมายเหตุรายวัน ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 📜 รายงานการศึกษาของเจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่ ที่เล่าเรียนในโรงเรียนราชวิทยาลัย 📜 บันทึกการแต่งตั้งตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล" ของเจ้าน้อยศุขเกษม 📜 บทสัมภาษณ์เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ผู้ร่วมสมัยที่กล่าวถึงเหตุการณ์ เรียกตัวเจ้าน้อยศุขเกษมกลับเชียงใหม่ 🔍 วิเคราะห์และตีความใหม่ เรื่องราวความรักที่เล่าขานระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ" ✅ มีเค้าโครงจากเรื่องจริงบางส่วน ในราชสำนักเชียงใหม่ ✅ ถูกเติมแต่งให้มีความโรแมนติกและดราม่า เพื่อให้ชาวบ้านและคนรุ่นหลังเข้าถึง และจดจำได้ง่าย ✅ สะท้อนภาพชีวิตในยุคล้านนา ที่ยังคงเคร่งครัดในระบบชนชั้น และการสมรสตามขนบธรรมเนียม ✅ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรักต้องห้าม และการต่อสู้กับกรอบประเพณีเก่าก่อน ❤️ "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ" ตำนานที่ยังคงมีชีวิต แม้จะไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ความรักครั้งนี้เป็นจริง แต่เรื่องราว "เจ้าน้อยศุขเกษม" และ "มะเมียะ" ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ "รักแท้ที่ไม่มีวันสมหวัง" 🌸 ถูกถ่ายทอดเป็นนิยาย เพลง บทละคร และศิลปวัฒนธรรมในล้านนา 🌸 กลายเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงข้อจำกัดทางชนชั้น และการเมืองในอดีต 🌸 ยังเป็นตำนานที่คนรุ่นใหม่ศึกษา ซาบซึ้งในแง่มุมของความรัก และความเสียสละ 📌 สรุปข้อเท็จจริง 📝 ตำนานรัก "เจ้าน้อยศุขเกษม กับ มะเมียะ" คือ นิยายประวัติศาสตร์ ที่แต่งเติมจากเรื่องจริงบางส่วน 📝 ข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์ยืนยันว่า "เจ้าวงษ์ตวัน" มีชีวิตที่คล้ายกับตำนานดังกล่าวมากกว่า 📝 การเล่าขานที่ต่อเติมจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ความจริงและเรื่องแต่ง ผสมปนเปกันอย่างลงตัว 📝 ตำนานนี้ยังคงมีเสน่ห์และคุณค่า ในฐานะเรื่องเล่าแห่งความรักของชาวล้านนา 🌟 ความรักอาจไม่มีพรมแดน... แต่ขนบธรรมเนียมและประเพณีในอดีตต่างหาก ที่เป็นกำแพงยากจะข้ามได้ 🌟 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200807 มี.ค. 2568 📚 🏷️ #ตำนานรักมะเมียะ #เจ้าน้อยศุขเกษม #ล้านนาประวัติศาสตร์ #เชียงใหม่ในอดีต #เพลงมะเมี้ยะ #เรื่องจริงหรือนิยาย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #เชียงใหม่เมืองโบราณ #ตำนานล้านนา #รักข้ามพรมแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1339 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ พิมพ์เล็ก"
    หลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ เนื้อว่านรุ่นแรก ปี๒๕๐๖ จัดสร้างด้วยพิธียิ่งใหญ่ ครบตามแบบโบราณ นับเป็นพระเครื่องหลวงปู่ทวดอีกสำนักหนึ่งที่น่าใช้บูชามาก เพราะครบถ้วนในพิธีกรรมดีเยี่ยมมากมายด้วยประสบการณ์ ที่สำคัญคือเคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงปู่ทวดในสมัยที่ท่านยังดำรงชีพอยู่ และเป็นที่เก็บรักษาดวงแก้วของหลวงปู่ทวดด้วยครับ การจัดสร้างมีพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก พิมพ์กรรมการ พระเครื่องที่ลงไว้ตามรูปคือ พิมพ์เล็ก เป็นพระขนาดกะทัดรัด น่าใช้บูชาติดตัว เป็นอย่างมาก สนนราคาไม่แพงเลย หลักพันบาทปลายๆสวยๆว่ากันเป็นหมื่นๆบาท
    พระทั้งสององค์ที่ลงไว้จัดเป็นพระสวยมากๆๆและมีสเน่ห์เนื้อหาจัดจ้าน องค์หนึ่งเนื้อสีดำ อีกองค์หนึ่งเนื้อสีขาว หายากมากๆๆครับพระสวยๆแบบนี้และราคาจะสูงกว่าปกติ
    แบบพิมพ์ พระจะมี 4 พิมพ์หลัก คือ
    1. พิมพ์ใหญ่……………
    2. พิมพ์เล็ก……………
    3. พิมพ์กรรมการใหญ่…
    4. พิมพ์กรรมการเล็ก….
    พิมพ์กรรมการเล็ก จะหายากและแพงที่สุด
    รองลงมาที่นิยมจะเป็น พิมพ์กรรมการใหญ่ และพิมพ์เล็ก

    พิธีกรรม
    พิธีการสร้างนั้น เคร่งครัดกันตามตำรับการปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด
    ครบถ้วนทั้งเนื้อหาและพิธี โดยพระรุ่นนี้มีการประกอบพิธีทั้งทางพุทธและทางพราหมณ์ ดังนี้
    1.) พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ มาปลุกเสก อัญเชิญดวงทิพย์วิณญาณ หลวงพ่อทวด ปลุกเสกให้ด้วย
    รวมทั้งท่านพระอาจารย์ทิมได้ช่วยกำกับสูตรมวลสารของพระรุ่นนี้
    2.) มีการประกอบพิธีกรรมโดยท่าน พลตำรวจตรี ขุนพันธ์รักษราชเดช เป็นเจ้าพิธี

    อายุการสร้างถือว่าเก่า เป็นพระที่มีอายุไล่เลี่ยในยุคแรกเริ่มของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ในการเริ่มสร้างพระเตารีดรุ่นแรก ปี2505 เลยทีเดียว
    "หลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ พิมพ์เล็ก" หลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ เนื้อว่านรุ่นแรก ปี๒๕๐๖ จัดสร้างด้วยพิธียิ่งใหญ่ ครบตามแบบโบราณ นับเป็นพระเครื่องหลวงปู่ทวดอีกสำนักหนึ่งที่น่าใช้บูชามาก เพราะครบถ้วนในพิธีกรรมดีเยี่ยมมากมายด้วยประสบการณ์ ที่สำคัญคือเคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงปู่ทวดในสมัยที่ท่านยังดำรงชีพอยู่ และเป็นที่เก็บรักษาดวงแก้วของหลวงปู่ทวดด้วยครับ การจัดสร้างมีพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก พิมพ์กรรมการ พระเครื่องที่ลงไว้ตามรูปคือ พิมพ์เล็ก เป็นพระขนาดกะทัดรัด น่าใช้บูชาติดตัว เป็นอย่างมาก สนนราคาไม่แพงเลย หลักพันบาทปลายๆสวยๆว่ากันเป็นหมื่นๆบาท พระทั้งสององค์ที่ลงไว้จัดเป็นพระสวยมากๆๆและมีสเน่ห์เนื้อหาจัดจ้าน องค์หนึ่งเนื้อสีดำ อีกองค์หนึ่งเนื้อสีขาว หายากมากๆๆครับพระสวยๆแบบนี้และราคาจะสูงกว่าปกติ แบบพิมพ์ พระจะมี 4 พิมพ์หลัก คือ 1. พิมพ์ใหญ่…………… 2. พิมพ์เล็ก…………… 3. พิมพ์กรรมการใหญ่… 4. พิมพ์กรรมการเล็ก…. พิมพ์กรรมการเล็ก จะหายากและแพงที่สุด รองลงมาที่นิยมจะเป็น พิมพ์กรรมการใหญ่ และพิมพ์เล็ก พิธีกรรม พิธีการสร้างนั้น เคร่งครัดกันตามตำรับการปลุกเสก พระหลวงพ่อทวด ครบถ้วนทั้งเนื้อหาและพิธี โดยพระรุ่นนี้มีการประกอบพิธีทั้งทางพุทธและทางพราหมณ์ ดังนี้ 1.) พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ มาปลุกเสก อัญเชิญดวงทิพย์วิณญาณ หลวงพ่อทวด ปลุกเสกให้ด้วย รวมทั้งท่านพระอาจารย์ทิมได้ช่วยกำกับสูตรมวลสารของพระรุ่นนี้ 2.) มีการประกอบพิธีกรรมโดยท่าน พลตำรวจตรี ขุนพันธ์รักษราชเดช เป็นเจ้าพิธี อายุการสร้างถือว่าเก่า เป็นพระที่มีอายุไล่เลี่ยในยุคแรกเริ่มของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ในการเริ่มสร้างพระเตารีดรุ่นแรก ปี2505 เลยทีเดียว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 818 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยัคชาล (Yakhchal) ตู้เย็นแบบโบราณแห่งเปอร์เซีย
    ยัคชาล คือหนึ่งในนวัตกรรมอันน่าทึ่งของอารยธรรมเปอร์เซียโบราณที่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งของผู้คนในสมัยนั้น ยัคชาลเปรียบเสมือนตู้เย็นธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ แต่กลับมีความซับซ้อนและประณีตในการออกแบบ มีลักษณะคล้ายโดมขนาดใหญ่ สร้างจากดินผสมปูนขาวและวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บความเย็นได้ดี ภายในยัคชาลจะมีห้องใต้ดินที่ถูกขุดลึกลงไปในดิน เพื่อให้ได้รับอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด อากาศเย็นจากใต้ดินจะไหลเข้ามาในห้องใต้ดิน ทำให้อุณหภูมิภายในเย็นสบายและสามารถเก็บรักษาอาหารได้เป็นเวลานาน ชาวเปอร์เซียจะนำน้ำมาบรรจุในภาชนะแล้วนำไปวางไว้ในห้องใต้ดินของยัคชาล เมื่ออุณหภูมิลดลง น้ำก็จะค่อยๆ แข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น นำไปผสมกับเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น หรือใช้ในการรักษาอาหารให้คงความสดใหม่
    ยัคชาล (Yakhchal) ตู้เย็นแบบโบราณแห่งเปอร์เซีย ยัคชาล คือหนึ่งในนวัตกรรมอันน่าทึ่งของอารยธรรมเปอร์เซียโบราณที่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งของผู้คนในสมัยนั้น ยัคชาลเปรียบเสมือนตู้เย็นธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ แต่กลับมีความซับซ้อนและประณีตในการออกแบบ มีลักษณะคล้ายโดมขนาดใหญ่ สร้างจากดินผสมปูนขาวและวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บความเย็นได้ดี ภายในยัคชาลจะมีห้องใต้ดินที่ถูกขุดลึกลงไปในดิน เพื่อให้ได้รับอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด อากาศเย็นจากใต้ดินจะไหลเข้ามาในห้องใต้ดิน ทำให้อุณหภูมิภายในเย็นสบายและสามารถเก็บรักษาอาหารได้เป็นเวลานาน ชาวเปอร์เซียจะนำน้ำมาบรรจุในภาชนะแล้วนำไปวางไว้ในห้องใต้ดินของยัคชาล เมื่ออุณหภูมิลดลง น้ำก็จะค่อยๆ แข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น นำไปผสมกับเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น หรือใช้ในการรักษาอาหารให้คงความสดใหม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระดาษไป๋ลู่

    สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องกระดาษโบราณ

    ในเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> มีตอนหนึ่งที่กล่าวถึงการสืบคดีในวังเพื่อหาคนที่เขียนข้อความที่มีความเกี่ยวพันกับก๊วนกบฏ และหนึ่งในหลักฐานที่ใช้คือกระดาษไป๋ลู่ (白鹿纸 ใช่ค่ะ... ไป๋ลู่อักษรเดียวกับชื่อนักแสดงหญิงที่หลายคนคุ้นเคย แปลว่ากวางขาว) มีการอธิบายไว้ในซีรีส์ว่า กระดาษไป๋ลู่มีใช้เพียงในวัง มีการบันทึกไว้ชัดเจนว่าแจกจ่ายไปให้ใครเมื่อไหร่เป็นจำนวนเท่าใด

    ข้อมูลเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่มีไม่มาก ส่วนใหญ่ระบุแต่เพียงว่ามันเป็นกระดาษที่ใช้ในวัง เป็นกระดาษที่ผลิตยากมาก เนื้อดีเหมาะกับการเขียนหรือวาดรูป เป็นกระดาษเซวียนจื่อชนิดหนึ่ง มีขนาดมาตรฐานคือยาวหนึ่งจ้างสองฉื่อ (คือยาวประมาณ 3.7 เมตร) จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษ ‘จ้างเอ้อร์เซวียน’ (丈二宣) ขนาดมาตรฐานปัจจุบันคือ 1.5 x 3.7 เมตร

    แล้วกระดาษเซวียนจื่อ (宣纸) คืออะไร?

    กระดาษเซวียนจื่อจัดอยู่ในกลุ่มกระดาษที่ทำจากเยื่อเปลือกไม้ ซึ่งกระดาษจีนโบราณจะจัดแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต คือ 1. กระดาษใยปอ/ใยป่าน (麻 纸 / หมาจื่อ) ทำจากเส้นใยปอและใยป่าน 2. กระดาษเยื่อเปลือกไม้ (皮纸 / ผีจื่อ) คือทำจากเยื่อเปลือกไม้ชนิดต่างๆ 3. กระดาษเยื่อไผ่ (竹 纸 / จู๋จื่อ) และ 4. กระดาษใยฝ้าย (棉 纸 / เหมียนจื่อ)

    กระดาษเยื่อเปลือกไม้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในสมัยถัง มีการพัฒนาขึ้นหลายชนิด เป็นกลุ่มกระดาษที่มีความหลากหลายมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะเนื้อกระดาษแตกต่างกันไปตามชนิดของเปลือกไม้ที่ใช้และน้ำที่ใช้ รวมถึงอาจใช้เส้นใยปอหรือใยฝ้ายมาผสมให้หลากหลายยิ่งขึ้น และเป็นที่มาว่าทำไมในซีรีส์/นิยายจีนโบราณจึงมีการดูจากเนื้อกระดาษแล้วสามารถบอกได้ว่ามาจากพื้นที่ใดเพราะต้นไม้บางชนิดจะพบได้ในบางพื้นที่เท่านั้น กระดาษเยื่อเปลือกไม้มีทั้งเนื้อหยาบที่สามารถทำเป็นเสื้อผ้าสวมใส่ และเนื้อละเอียดที่ใช้ในงานเขียนหรืองานวาดที่ต้องใช้ความละเอียดมาก ว่ากันว่านักเขียนและนักวาดบางคนคิดค้นกระดาษเนื้อพิเศษของตนเองขึ้นเพื่อใช้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย

    กรรมวิธีการผลิตกระดาษเยื่อเปลือกไม้ก็คล้ายกับการทำกระดาษสาบ้านเรา คือเอาไม้ไปแช่ในน้ำแล้วทุบแตกจนเปื่อย คัดเอาเยื่อออกมาต้ม อาจใส่ส่วนผสมอื่นเช่นเกลือหรือน้ำหัวไชเท้าเพื่อเสริมความเนียนและความคงทนของกระดาษ เคี่ยวและบดแล้วนำมากรอง จากนั้นเอามาปูบางๆ บนพิมพ์แล้วตากแห้ง แห้งแล้วก็นำมาเรียงและตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการ แน่นอนว่านี่เป็นการเล่าโดยคร่าว ไม่สามารถสะท้อนถึงความพิถีพิถันของแต่ละขั้นตอนและอุปกรณ์ที่ใช้ได้ ซึ่งความพิถีพิถันดังกล่าวเป็นหัวใจของการผลิตกระดาษที่มีคุณภาพแตกต่างกัน

    กระดาษเซวียนจื่อเกิดขึ้นในสมัยถัง มีที่มาจากพื้นที่เซวียนโจว (แถบหวงซาน เขตพื้นที่มณฑลอันฮุยปัจจุบัน) เป็นกระดาษที่ทำจากเยื่อไม้สองชนิดคือ 1) เปลือกของไม้ชิงถาน (青檀 / Blue Sandalwood) อยู่ในกลุ่มไม้จันทร์ เป็นสายพันธุ์ที่มีเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ขึ้นตามธรรมชาติ และเปลือกไม้จันทร์ชนิดอื่นไม่สามารถนำมาใช้ทดแทนในการผลิตกระดาษเซวียนจื่อนี้ได้ มันเป็นส่วนผสมหลักที่ทำให้กระดาษมีความเหนียว คงสภาพได้ดีไม่ยับง่าย ไม่ถูกแมลงกัดกิน ทำให้กระดาษมีความคงทน และ 2) ต้นข้าวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ซาเถียนเต้า’ (沙田稻) โดยเป็นส่วนผสมที่ให้ความนุ่มต่อกระดาษด้วยเส้นใยที่สั้นกว่าไม้ชิงถาน ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครเพาะปลูกต้นข้าวชนิดนี้แล้ว ดังนั้นกระดาษเซวียนจื่อที่มีขายปัจจุบันจะมีเนื้อกระดาษที่ไม่เหมือนของโบราณและกรรมวิธีการผลิตแบบโบราณได้สาบสูญไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง

    กรรมวิธีการเตรียมเยื่อไม้ทั้งสองชนิดแตกต่างกันเล็กน้อย แยกกันทำแล้วค่อยนำมาเคี่ยวผสมกัน และส่วนผสมของเยื่อไม้ทั้งสองและกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างจะทำให้ได้เนื้อกระดาษเซวียนจื่อที่หลากหลายมาก มีความละเอียดและเนียนหยาบแตกต่างกัน มีความสามารถดูดซึมน้ำหมึกได้ต่างกัน (แน่นอนว่าผงหมึกก็มีความแตกต่าง แบ่งแยกเป็นของแพงและของถูก ฯลฯ) มีสีขาวเหลืองอ่อนแก่แตกต่างกัน เป็นต้น โดยภาพรวมแล้ว กระดาษเซวียนจื่อเป็นกระดาษที่เหมาะสำหรับงานเขียนและงานวาดเพราะดูดซึมหมึกได้ดีและผิวเนียนเรียบกว่ากระดาษจากใยปอ/ใยป่านหรือกระดาษจากเปลือกไม้ชนิดอื่น และมีความคงทนกว่า จึงถูกยกย่องเป็น ‘กระดาษพันปี’

    กระดาษเซวียนจื่อแบ่งได้เป็นสามเกรดหลักตามสัดส่วนของเยื่อเปลือกไม้ชิงถาน และกระดาษไป๋ลู่คือกระดาษเซวียนจื่อเกรดดีที่สุด คือมีส่วนผสมของเปลือกไม้ชิงถานไม่ต่ำกว่า 80% มีกรรมวิธีการผลิตที่ประณีต เป็นกระดาษที่ดูดซับน้ำหมึกได้ดี ทำให้ลายเส้นอักษรคมชัดแต่ไม่กระด้าง แสดงความพลิ้วไหวของลายเส้นได้ดี มีการบรรยายว่าเนื้อกระดาษเนียนนุ่มดุจไหม สีขาวนวลดุจหยก

    ว่ากันว่า กระดาษไป๋ลู่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวนโดยนักพรตคนหนึ่งสำหรับไว้ใช้เอง ต่อมาถูกนำมาใช้ในวังเรียกว่ากระดาษไป๋ลู่หรือกวางขาวเพราะมีเส้นลายที่ดูเป็นลายหนังกวางซึ่งถูกมองว่าเป็นลายมงคล ต่อมามีคนที่ผลิตได้ไม่กี่ตระกูล จึงเป็นกระดาษที่มีปริมาณการผลิตที่จำกัดและหายากมาก

    กระดาษมีหน่วยนับเป็น ‘เตา’ (刀 แปลว่ามีด) ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่แน่ใจว่าในละครแปลไว้อย่างไร แต่หนึ่งเตาสมัยโบราณคือกระดาษจำนวน 25 แผ่น มีที่มาของการเรียกอย่างนี้ก็คือ หนึ่งมีดสามารถตัดกระดาษโดยไม่เบี้ยวที่ 25 แผ่นนั่นเอง (หมายเหตุ ด้วยวิวัฒนาการผลิต ปัจจุบันหนึ่งเตาคือหนึ่งรีมหรือ 100 แผ่น)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://new.qq.com/rain/a/20231130A00YSS00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1263914
    http://www.chinapaper.net/jjnews/show-353.html
    http://www.chinapaper.net/jjnews/show-222.html
    https://baike.baidu.com/item/檀皮宣纸/1802446
    https://baike.baidu.com/item/宣纸/329910
    https://www.sohu.com/a/362150345_616747

    #เล่ห์รักวังคุนหนิง #ไป๋ลู่จื่อ #กระดาษไป๋ลู่ #กระดาษจีน #เซวียนจื่อ #การผลิตกระดาษจีน #กระดาษเยื่อเปลือกไม้
    กระดาษไป๋ลู่ สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องกระดาษโบราณ ในเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> มีตอนหนึ่งที่กล่าวถึงการสืบคดีในวังเพื่อหาคนที่เขียนข้อความที่มีความเกี่ยวพันกับก๊วนกบฏ และหนึ่งในหลักฐานที่ใช้คือกระดาษไป๋ลู่ (白鹿纸 ใช่ค่ะ... ไป๋ลู่อักษรเดียวกับชื่อนักแสดงหญิงที่หลายคนคุ้นเคย แปลว่ากวางขาว) มีการอธิบายไว้ในซีรีส์ว่า กระดาษไป๋ลู่มีใช้เพียงในวัง มีการบันทึกไว้ชัดเจนว่าแจกจ่ายไปให้ใครเมื่อไหร่เป็นจำนวนเท่าใด ข้อมูลเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่มีไม่มาก ส่วนใหญ่ระบุแต่เพียงว่ามันเป็นกระดาษที่ใช้ในวัง เป็นกระดาษที่ผลิตยากมาก เนื้อดีเหมาะกับการเขียนหรือวาดรูป เป็นกระดาษเซวียนจื่อชนิดหนึ่ง มีขนาดมาตรฐานคือยาวหนึ่งจ้างสองฉื่อ (คือยาวประมาณ 3.7 เมตร) จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษ ‘จ้างเอ้อร์เซวียน’ (丈二宣) ขนาดมาตรฐานปัจจุบันคือ 1.5 x 3.7 เมตร แล้วกระดาษเซวียนจื่อ (宣纸) คืออะไร? กระดาษเซวียนจื่อจัดอยู่ในกลุ่มกระดาษที่ทำจากเยื่อเปลือกไม้ ซึ่งกระดาษจีนโบราณจะจัดแบ่งเป็นกลุ่มหลักๆ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต คือ 1. กระดาษใยปอ/ใยป่าน (麻 纸 / หมาจื่อ) ทำจากเส้นใยปอและใยป่าน 2. กระดาษเยื่อเปลือกไม้ (皮纸 / ผีจื่อ) คือทำจากเยื่อเปลือกไม้ชนิดต่างๆ 3. กระดาษเยื่อไผ่ (竹 纸 / จู๋จื่อ) และ 4. กระดาษใยฝ้าย (棉 纸 / เหมียนจื่อ) กระดาษเยื่อเปลือกไม้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในสมัยถัง มีการพัฒนาขึ้นหลายชนิด เป็นกลุ่มกระดาษที่มีความหลากหลายมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะเนื้อกระดาษแตกต่างกันไปตามชนิดของเปลือกไม้ที่ใช้และน้ำที่ใช้ รวมถึงอาจใช้เส้นใยปอหรือใยฝ้ายมาผสมให้หลากหลายยิ่งขึ้น และเป็นที่มาว่าทำไมในซีรีส์/นิยายจีนโบราณจึงมีการดูจากเนื้อกระดาษแล้วสามารถบอกได้ว่ามาจากพื้นที่ใดเพราะต้นไม้บางชนิดจะพบได้ในบางพื้นที่เท่านั้น กระดาษเยื่อเปลือกไม้มีทั้งเนื้อหยาบที่สามารถทำเป็นเสื้อผ้าสวมใส่ และเนื้อละเอียดที่ใช้ในงานเขียนหรืองานวาดที่ต้องใช้ความละเอียดมาก ว่ากันว่านักเขียนและนักวาดบางคนคิดค้นกระดาษเนื้อพิเศษของตนเองขึ้นเพื่อใช้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย กรรมวิธีการผลิตกระดาษเยื่อเปลือกไม้ก็คล้ายกับการทำกระดาษสาบ้านเรา คือเอาไม้ไปแช่ในน้ำแล้วทุบแตกจนเปื่อย คัดเอาเยื่อออกมาต้ม อาจใส่ส่วนผสมอื่นเช่นเกลือหรือน้ำหัวไชเท้าเพื่อเสริมความเนียนและความคงทนของกระดาษ เคี่ยวและบดแล้วนำมากรอง จากนั้นเอามาปูบางๆ บนพิมพ์แล้วตากแห้ง แห้งแล้วก็นำมาเรียงและตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการ แน่นอนว่านี่เป็นการเล่าโดยคร่าว ไม่สามารถสะท้อนถึงความพิถีพิถันของแต่ละขั้นตอนและอุปกรณ์ที่ใช้ได้ ซึ่งความพิถีพิถันดังกล่าวเป็นหัวใจของการผลิตกระดาษที่มีคุณภาพแตกต่างกัน กระดาษเซวียนจื่อเกิดขึ้นในสมัยถัง มีที่มาจากพื้นที่เซวียนโจว (แถบหวงซาน เขตพื้นที่มณฑลอันฮุยปัจจุบัน) เป็นกระดาษที่ทำจากเยื่อไม้สองชนิดคือ 1) เปลือกของไม้ชิงถาน (青檀 / Blue Sandalwood) อยู่ในกลุ่มไม้จันทร์ เป็นสายพันธุ์ที่มีเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ขึ้นตามธรรมชาติ และเปลือกไม้จันทร์ชนิดอื่นไม่สามารถนำมาใช้ทดแทนในการผลิตกระดาษเซวียนจื่อนี้ได้ มันเป็นส่วนผสมหลักที่ทำให้กระดาษมีความเหนียว คงสภาพได้ดีไม่ยับง่าย ไม่ถูกแมลงกัดกิน ทำให้กระดาษมีความคงทน และ 2) ต้นข้าวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ซาเถียนเต้า’ (沙田稻) โดยเป็นส่วนผสมที่ให้ความนุ่มต่อกระดาษด้วยเส้นใยที่สั้นกว่าไม้ชิงถาน ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครเพาะปลูกต้นข้าวชนิดนี้แล้ว ดังนั้นกระดาษเซวียนจื่อที่มีขายปัจจุบันจะมีเนื้อกระดาษที่ไม่เหมือนของโบราณและกรรมวิธีการผลิตแบบโบราณได้สาบสูญไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง กรรมวิธีการเตรียมเยื่อไม้ทั้งสองชนิดแตกต่างกันเล็กน้อย แยกกันทำแล้วค่อยนำมาเคี่ยวผสมกัน และส่วนผสมของเยื่อไม้ทั้งสองและกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างจะทำให้ได้เนื้อกระดาษเซวียนจื่อที่หลากหลายมาก มีความละเอียดและเนียนหยาบแตกต่างกัน มีความสามารถดูดซึมน้ำหมึกได้ต่างกัน (แน่นอนว่าผงหมึกก็มีความแตกต่าง แบ่งแยกเป็นของแพงและของถูก ฯลฯ) มีสีขาวเหลืองอ่อนแก่แตกต่างกัน เป็นต้น โดยภาพรวมแล้ว กระดาษเซวียนจื่อเป็นกระดาษที่เหมาะสำหรับงานเขียนและงานวาดเพราะดูดซึมหมึกได้ดีและผิวเนียนเรียบกว่ากระดาษจากใยปอ/ใยป่านหรือกระดาษจากเปลือกไม้ชนิดอื่น และมีความคงทนกว่า จึงถูกยกย่องเป็น ‘กระดาษพันปี’ กระดาษเซวียนจื่อแบ่งได้เป็นสามเกรดหลักตามสัดส่วนของเยื่อเปลือกไม้ชิงถาน และกระดาษไป๋ลู่คือกระดาษเซวียนจื่อเกรดดีที่สุด คือมีส่วนผสมของเปลือกไม้ชิงถานไม่ต่ำกว่า 80% มีกรรมวิธีการผลิตที่ประณีต เป็นกระดาษที่ดูดซับน้ำหมึกได้ดี ทำให้ลายเส้นอักษรคมชัดแต่ไม่กระด้าง แสดงความพลิ้วไหวของลายเส้นได้ดี มีการบรรยายว่าเนื้อกระดาษเนียนนุ่มดุจไหม สีขาวนวลดุจหยก ว่ากันว่า กระดาษไป๋ลู่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวนโดยนักพรตคนหนึ่งสำหรับไว้ใช้เอง ต่อมาถูกนำมาใช้ในวังเรียกว่ากระดาษไป๋ลู่หรือกวางขาวเพราะมีเส้นลายที่ดูเป็นลายหนังกวางซึ่งถูกมองว่าเป็นลายมงคล ต่อมามีคนที่ผลิตได้ไม่กี่ตระกูล จึงเป็นกระดาษที่มีปริมาณการผลิตที่จำกัดและหายากมาก กระดาษมีหน่วยนับเป็น ‘เตา’ (刀 แปลว่ามีด) ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่แน่ใจว่าในละครแปลไว้อย่างไร แต่หนึ่งเตาสมัยโบราณคือกระดาษจำนวน 25 แผ่น มีที่มาของการเรียกอย่างนี้ก็คือ หนึ่งมีดสามารถตัดกระดาษโดยไม่เบี้ยวที่ 25 แผ่นนั่นเอง (หมายเหตุ ด้วยวิวัฒนาการผลิต ปัจจุบันหนึ่งเตาคือหนึ่งรีมหรือ 100 แผ่น) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://new.qq.com/rain/a/20231130A00YSS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1263914 http://www.chinapaper.net/jjnews/show-353.html http://www.chinapaper.net/jjnews/show-222.html https://baike.baidu.com/item/檀皮宣纸/1802446 https://baike.baidu.com/item/宣纸/329910 https://www.sohu.com/a/362150345_616747 #เล่ห์รักวังคุนหนิง #ไป๋ลู่จื่อ #กระดาษไป๋ลู่ #กระดาษจีน #เซวียนจื่อ #การผลิตกระดาษจีน #กระดาษเยื่อเปลือกไม้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้หญิงรายหนึ่งในจีน ถูกพบเห็นในสภาพที่ถูกห่อไว้ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ระหว่างออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านหลังจากคลอดลูก ภาพเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เรียกความสนใจได้อย่างกว้างขวางจากผู้คนสื่อสังคมออนไลน์แผ่นดินใหญ่

    เรื่องราวนี้ก่อประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพแบบโบราณ สำหรับผู้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตร

    เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้สัญจรผ่านไปมาพบเห็นและถ่ายภาพผู้หญิงรายหนึ่ง สวมเสื้อกันหนาวหนาและกางเกงขายาวมิดชิดอยู่ก่อนแล้ว ถูกห่อด้วยถุงพลาสติดขนาดใหญ่คลุมทั้งตัว ตั้งแต่หัวจดเท้า กำลังเดินอยู่ด้านนอก ในจุดมุ่งหมายปกป้องตัวเธอเองจากกระแสลม ตามรายงานของ Tide News.

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองต้าเหลียง มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ต้องเผชิญกับสภาพอากาศต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส

    "ฉันเพิ่งคลอดลูก และฉันอ่อนแอมาก ฉันไม่ต้องการถูกลมพัด" ผู้หญิงรายนี้เล่า "แม่ของฉันเชื่อว่ามันเป็นความคิดที่ดี ถ้าใช้ถุงพลาสติกกันลม ดังนั้นมันจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะว่ามันราคาถูกและมันสามารถป้องกันลมอย่างได้ผล"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/around/detail/9670000125264

    #MGROnline
    ผู้หญิงรายหนึ่งในจีน ถูกพบเห็นในสภาพที่ถูกห่อไว้ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ระหว่างออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านหลังจากคลอดลูก ภาพเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เรียกความสนใจได้อย่างกว้างขวางจากผู้คนสื่อสังคมออนไลน์แผ่นดินใหญ่ • เรื่องราวนี้ก่อประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพแบบโบราณ สำหรับผู้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตร • เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้สัญจรผ่านไปมาพบเห็นและถ่ายภาพผู้หญิงรายหนึ่ง สวมเสื้อกันหนาวหนาและกางเกงขายาวมิดชิดอยู่ก่อนแล้ว ถูกห่อด้วยถุงพลาสติดขนาดใหญ่คลุมทั้งตัว ตั้งแต่หัวจดเท้า กำลังเดินอยู่ด้านนอก ในจุดมุ่งหมายปกป้องตัวเธอเองจากกระแสลม ตามรายงานของ Tide News. • เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองต้าเหลียง มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ต้องเผชิญกับสภาพอากาศต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส • "ฉันเพิ่งคลอดลูก และฉันอ่อนแอมาก ฉันไม่ต้องการถูกลมพัด" ผู้หญิงรายนี้เล่า "แม่ของฉันเชื่อว่ามันเป็นความคิดที่ดี ถ้าใช้ถุงพลาสติกกันลม ดังนั้นมันจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะว่ามันราคาถูกและมันสามารถป้องกันลมอย่างได้ผล" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9670000125264 • #MGROnline
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • การจูน(เพิ่ม)รีโมทประตูรั้ว 4 วิธี
    BSM บอร์ด T-329

    1. แบบโบราณ ต้องถอดฝาหลังรีโมท(ตัวเดิม)
    - ต้องดูเบอร์ Chipset เช่น SMC 5326
    - ดูที่ คริสตัล ความถี่ MHz=? เช่น 330
    - สั่งซื้อรีโมทมาแล้ว Set DIP Switch 1-8 เสร็จใช้ได้เลย

    อ้างอิง :
    https://www.youtube.com/watch?v=I7O7f73SRTc

    2. แบบใหม่ Copy ได้
    - ล้างรหัส กด พร้อมกัน ไฟกระพริบถี่ๆ OK
    การCOPY ทั้ง 4 ปุ่ม
    - กด(ตัวเก่า)และ กด(ตัวใหม่)พร้อมกัน
    -กด(ตัวเก่า)และ กด(ตัวใหม่)พร้อมกัน
    - กดA(ตัวเก่า)และ กดA(ตัวใหม่)พร้อมกัน
    - กดB(ตัวเก่า)และ กดB(ตัวใหม่)พร้อมกัน
    อ้างอิง :
    https://www.youtube.com/watch?v=k6inQSE8nIg

    3. แบบใหม่ มีรหัสมาด้วย ให้บอร์ด Learning โดย
    - กดปุ่ม STUDY 1 ครั้ง แล้วปล่อย
    (ถ้ากดนาน ๘ วินาที จะ CLEAR ทำให้รีโมท-ทุกตัวใช้ไม่ได้)
    - กดปุ่ม "ลูกศร ชี้ขึ้น" หรือ "ลูกศร ชี้ลง" 3 วินาที ปล่อย

    - มีเสียงปิ๊บ ใช้งานได้ ทันที
    อ้างอิง :
    https://www.youtube.com/watch?v=dHx3znuYO28

    4. แบบ 433COPY ใหม่ล่าสุด(ตัวเล็ก)
    ***ล้างข้อมูล***
    -กด 2ปุ่มA+B(บน)พร้อมกันค้างใว้
    -ไฟกระพริบ แล้วปล่อยปุ่มB(ขวา)
    -กดปุ่มB(ขวา)3ครั้ง ไฟจะกระพริบ ปล่อยมือออก
    -ข้อมูลจะถูกล้างออกหมด ตรวจเช็คโดยกดทุกปุ่มไฟไม่ติด
    ***COPYรหัสจากรีโมท(เดิม)***
    -วางคู่กัน ก๊อปทีละปุ่ม
    กด A คู่ A ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง
    กด B คู่ B ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง
    กด C คู่ C ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง
    กด D คู่ D ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง

    รีโมทประตู ราคา 29 บาท สั่งได้ที่

    https://shopee.co.th/Yosunbin-1-PC-4-%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1-433MHZ-Rolling-Code-Gate-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9-Cloning-%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-i.1266819468.29005516345?xptdk=5326a5e5-96aa-4489-9ea9-ab8344f14c6a
    การจูน(เพิ่ม)รีโมทประตูรั้ว 4 วิธี BSM บอร์ด T-329 1. แบบโบราณ ต้องถอดฝาหลังรีโมท(ตัวเดิม) - ต้องดูเบอร์ Chipset เช่น SMC 5326 - ดูที่ คริสตัล ความถี่ MHz=? เช่น 330 - สั่งซื้อรีโมทมาแล้ว Set DIP Switch 1-8 เสร็จใช้ได้เลย อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=I7O7f73SRTc 2. แบบใหม่ Copy ได้ - ล้างรหัส กด ⬆️⬇️พร้อมกัน ไฟกระพริบถี่ๆ OK การCOPY ทั้ง 4 ปุ่ม - กด⬆️(ตัวเก่า)และ กด⬆️(ตัวใหม่)พร้อมกัน -กด⬇️(ตัวเก่า)และ กด⬇️(ตัวใหม่)พร้อมกัน - กดA(ตัวเก่า)และ กดA(ตัวใหม่)พร้อมกัน - กดB(ตัวเก่า)และ กดB(ตัวใหม่)พร้อมกัน อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=k6inQSE8nIg 3. แบบใหม่ มีรหัสมาด้วย ให้บอร์ด Learning โดย - กดปุ่ม STUDY 1 ครั้ง แล้วปล่อย (ถ้ากดนาน ๘ วินาที จะ CLEAR ทำให้รีโมท-ทุกตัวใช้ไม่ได้) - กดปุ่ม "ลูกศร ชี้ขึ้น" หรือ "ลูกศร ชี้ลง" 3 วินาที ปล่อย - มีเสียงปิ๊บ ใช้งานได้ ทันที อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=dHx3znuYO28 4. แบบ 433COPY ใหม่ล่าสุด(ตัวเล็ก) ***ล้างข้อมูล*** -กด 2ปุ่มA+B(บน)พร้อมกันค้างใว้ -ไฟกระพริบ แล้วปล่อยปุ่มB(ขวา) -กดปุ่มB(ขวา)3ครั้ง ไฟจะกระพริบ ปล่อยมือออก -ข้อมูลจะถูกล้างออกหมด ตรวจเช็คโดยกดทุกปุ่มไฟไม่ติด ***COPYรหัสจากรีโมท(เดิม)*** -วางคู่กัน ก๊อปทีละปุ่ม กด A คู่ A ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง กด B คู่ B ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง กด C คู่ C ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง กด D คู่ D ไฟกระพริบ เร็ว-ช้า-ติดค้าง รีโมทประตู ราคา 29 บาท สั่งได้ที่ https://shopee.co.th/Yosunbin-1-PC-4-%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1-433MHZ-Rolling-Code-Gate-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9-Cloning-%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-i.1266819468.29005516345?xptdk=5326a5e5-96aa-4489-9ea9-ab8344f14c6a
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ่าโต้ว สบู่จีนโบราณ

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจะฟินจิกหมอนไม่น้อยกับฉากอาบน้ำของพระเอกนางเอก ในซีรีส์ไม่ได้พูดถึง แต่ในนิยายตอนที่องค์หญิงหลี่หรงสั่งให้สาวใช้เตรียมของใช้สำหรับอาบน้ำจังหวะนี้ นอกจากกลีบดอกไม้แล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เจ่าโต้ว’ (澡豆) แปลตรงตัวว่าถั่วอาบน้ำ ซึ่งก็คือสบู่โบราณนั่นเอง วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้

    แต่ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงวัฒนธรรมการอาบน้ำ ปัจจุบันการอาบน้ำทั่วไปเรียกว่า ‘สีเจ่า’ (洗澡) แต่ถ้าอาบแบบแช่น้ำในอ่างทั้งตัวเรียกเป็น ‘มู่อวี้’ (沐浴) ซึ่งคำว่า ‘มู่อวี้’ นี้เป็นศัพท์ที่มีมาแต่โบราณและคำว่าห้องอาบน้ำ (浴室/อวี้ซึ) ปรากฏเป็นอักขระบนกระดูกโบราณมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง ดังนั้น วัฒนธรรมการอาบน้ำมีมาอย่างน้อยสามพันกว่าปีในประเทศจีน

    ในเอกสารสมัยราชวงศ์ฮั่นระบุจำแนกไว้ว่า ‘มู่’ คือการสระผม ‘อวี้’ คือการอาบชำระร่างกาย ‘สี่’ คือการล้างเท้า และ ‘เจ่า’ คือการล้างมือ ต่อมาคำว่า ‘เจ่า’ จึงค่อยๆ ถูกใช้สำหรับการชำระล้างส่วนอื่นๆ ด้วย

    การอาบน้ำแบบโบราณหรือมู่อวี้ โดยทั่วไปคือการอาบน้ำอุ่นในถังอาบน้ำ อาจแช่ทั้งตัวหรือนั่งราดอาบก็ได้ ดังที่เราเห็นในซีรีส์จีนว่าต้องมีการต้มน้ำไปใส่อ่าง หรืออย่างในวังจะมีสระน้ำร้อนให้ใช้ และชาวจีนโบราณก็ไม่ได้อาบน้ำทุกวัน (จะว่าไปแล้ว ชาติอื่นก็เหมือนกัน) โดยหลักปฏิบัติคือสามวันให้สระผมหนึ่งครั้ง ห้าวันอาบน้ำหนึ่งครั้ง ในสมัยฮั่นถึงกับกำหนดเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติของข้าราชการโดยจะหยุดพักงานทุกห้าวัน เป็นนัยว่าหยุดเพื่อให้อยู่บ้านอาบน้ำ และวันหยุดนี้เรียกว่า ‘ซิวมู่’ (休沐 แปลตรงตัวว่าพักอาบน้ำ)

    นอกจากนี้ ก่อนเข้าร่วมพิธีสำคัญก็ต้องอาบน้ำโดยเฉพาะพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากกาย โดยในเอกสารโบราณมีระบุรายละเอียดเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการอาบน้ำ เป็นต้นว่า การอาบน้ำนั้น ท่อนบนของร่างกายใช้ผ้าใยเนื้อละเอียดเช็ดถู ท่อนล่างใช้ผ้าใยเนื้อหยาบ สุดท้ายคือยืนล้าง (ขัด) เท้าบนเสื่อหญ้าหยาบ เมื่อเช็ดแห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้ดื่มชาหรือน้ำเพื่อปรับอุณภูมิในร่างกายและชดเชยการเสียเหงื่อด้วย

    ในช่วงสมัยราชวงศ์เหนือใต้ ปรากฏว่าตามวัดพุทธมีการขุดบ่อเป็นสระอาบน้ำรวมให้พระภิกษุใช้อาบทุกวันก่อนไหว้พระ และเนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านนิยมเที่ยววัด จึงค่อยๆ กลายเป็นว่าชาวบ้านหรือข้าราชการก็ไปใช้บริการอาบน้ำที่วัด เสร็จแล้วก็นั่งดื่มชาสนทนากัน ต่อมาวัฒนธรรมการอาบน้ำรวมนี้เป็นที่นิยมมาก ในสมัยซ่งมีสระอาบน้ำสาธารณะในเมืองที่ชาวบ้านสามารถมาจ่ายเงินใช้บริการได้โดยแบ่งเป็นสระน้ำอุ่นและสระน้ำเย็นให้เลือกใช้ได้ตามใจชอบ และในสมัยหมิงถึงกับมีคนรับจ้างช่วยถูหลังสระผมตัดเล็บเลยทีเดียว

    ว่ากันว่า แรกเริ่มเลยในสมัยซางและฮั่น คนโบราณใช้น้ำซาวข้าวอาบน้ำสระผม ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการพัฒนาใช้เครื่องหอมต่างๆ จึงสันนิษฐานว่าสบู่โบราณเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นในสมัยนั้นเช่นกัน แต่ว่าแรกเริ่มมันเป็นของหรูที่มีใช้ในวังเท่านั้นและใช้สำหรับล้างมือ ต่อมาจึงแพร่สู่ชาวบ้านธรรมดา ใช้ได้ทั้งอาบน้ำสระผมล้างหน้าล้างมือล้างเท้า และใช้ซักเสื้อผ้าอีกด้วย

    สบู่เจ่าโต้วนี้ถูกเรียกว่า ‘ถั่วอาบน้ำ’ เพราะว่าส่วนผสมหลักของมันก็คือถั่วหรือธัญพืชบดละเอียด ผสมด้วย เครื่องหอม เครื่องเทศและยาสมุนไพรหลากหลาย และสูตรโบราณนี้นอกจากจะเป็นสครับขัดผิวให้ขาวเนียนและบำรุงผิวพรรณได้ดีแล้ว ยังล้างคราบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคราบดินโคลน คราบมัน คราบเลือด และคราบเครื่องสำอาง ต่อมาภายหลังจึงใช้หันไปใช้ขี้เถ้าไม้และไขมันสัตว์เป็นส่วนผสมหลักเรียกว่า ‘อี๋จื่อ’ (胰子) ซึ่งเป็นพัฒนากลายมาเป็นสบู่ปัจจุบัน

    สูตรการทำเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นอย่างหลากหลาย แต่สามารถสรุปรวมได้ดังนี้ คือ (1) ธัญพืชและถั่วสารพัดชนิด บ้างต้มสุกบ้างใช้ถั่วดิบ บดละเอียด (2) สมุนไพรหรือเครื่องเทศบดละเอียด เช่น กานพลู การบูร อบเชย (3) เครื่องหอมที่ต้องการ เช่นไม้หอมอบแห้ง กลีบดอกไม้แห้ง บดละเอียดหรือหากเป็นดอกไม้อาจบดหยาบ (4) น้ำหรือน้ำแร่ ต้มเคี่ยวกับน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง (5) เอาส่วนผสมทั้งหมดผสมแล้วคลุกให้สม่ำเสมอ ปั้นเป็นลูกกลอนแล้วเอาไปตากแห้งหลายๆ วัน เป็นอันจบขั้นตอน เวลาจะใช้ก็ชุบน้ำให้เปียกแล้วบี้แตกถูตามร่างกาย

    Storyฯ ผ่านตาคลิปของพ่อหนุ่มที่ทำสบู่โบราณนี้ เป็นคนเดียวกับที่เคยทำกระบอกจุดไฟและกระโปรงหม่าเมี่ยนที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (ค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญ) เข้าไปดูได้ตามลิ้งค์ข้างล่างค่ะ

    จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วเจ่าโต้วทำไม่ยาก แต่สาเหตุที่เดิมเป็นของฟุ่มเฟือยเพราะส่วนผสมหลายอย่างมีราคาสูงเกินกว่าที่ชาวบ้านธรรมดาจะนำมาใช้ในกิจวัตรประจำวัน สู้ใช้พวกดินโคลนหินทรายจะง่ายกว่าและประหยัดทรัพย์ โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ คิดว่าส่วนผสมของเจ่าโต้วนี้ดูน่าใช้กว่าสบู่รุ่นหลังที่ทำจากไขมันสัตว์และขี้เถ้าไม้เสียอีก แต่ยังไม่ได้ทดลองทำดูนะ ใครลองทำแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ หรือถ้าใครรู้ว่าภูมิปัญญาไทยโบราณใช้อะไรทำสบู่ แตกต่างมากน้อยอย่างไรกับเจ่าโต้วนี้ ก็มาเล่าให้ฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    คลิปสาธิตการทำเจ่าโต้ว: https://www.youtube.com/watch?v=kuCYk0hoAdY
    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://k.sina.cn/article_2277596227_87c15c4304001633w.html
    https://kknews.cc/zh-my/history/p6b6orj.html
    https://baike.sogou.com/v8330278.htm
    https://zabar.pixnet.net/blog/post/64707721
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_23937607
    https://baike.baidu.com/item/澡豆/687918
    https://kknews.cc/zh-cn/history/qxyaj9b.html
    https://k.sina.cn/article_6395568294_17d34a0a600100cs21.html
    https://baike.baidu.com/item/胰子/5249378

    #องค์หญิงใหญ่ #เจ่าโต้ว #สบู่จีนโบราณ #อาบน้ำจีนโบราณ #สาระจีน

    เจ่าโต้ว สบู่จีนโบราณ สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจะฟินจิกหมอนไม่น้อยกับฉากอาบน้ำของพระเอกนางเอก ในซีรีส์ไม่ได้พูดถึง แต่ในนิยายตอนที่องค์หญิงหลี่หรงสั่งให้สาวใช้เตรียมของใช้สำหรับอาบน้ำจังหวะนี้ นอกจากกลีบดอกไม้แล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เจ่าโต้ว’ (澡豆) แปลตรงตัวว่าถั่วอาบน้ำ ซึ่งก็คือสบู่โบราณนั่นเอง วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้ แต่ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงวัฒนธรรมการอาบน้ำ ปัจจุบันการอาบน้ำทั่วไปเรียกว่า ‘สีเจ่า’ (洗澡) แต่ถ้าอาบแบบแช่น้ำในอ่างทั้งตัวเรียกเป็น ‘มู่อวี้’ (沐浴) ซึ่งคำว่า ‘มู่อวี้’ นี้เป็นศัพท์ที่มีมาแต่โบราณและคำว่าห้องอาบน้ำ (浴室/อวี้ซึ) ปรากฏเป็นอักขระบนกระดูกโบราณมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง ดังนั้น วัฒนธรรมการอาบน้ำมีมาอย่างน้อยสามพันกว่าปีในประเทศจีน ในเอกสารสมัยราชวงศ์ฮั่นระบุจำแนกไว้ว่า ‘มู่’ คือการสระผม ‘อวี้’ คือการอาบชำระร่างกาย ‘สี่’ คือการล้างเท้า และ ‘เจ่า’ คือการล้างมือ ต่อมาคำว่า ‘เจ่า’ จึงค่อยๆ ถูกใช้สำหรับการชำระล้างส่วนอื่นๆ ด้วย การอาบน้ำแบบโบราณหรือมู่อวี้ โดยทั่วไปคือการอาบน้ำอุ่นในถังอาบน้ำ อาจแช่ทั้งตัวหรือนั่งราดอาบก็ได้ ดังที่เราเห็นในซีรีส์จีนว่าต้องมีการต้มน้ำไปใส่อ่าง หรืออย่างในวังจะมีสระน้ำร้อนให้ใช้ และชาวจีนโบราณก็ไม่ได้อาบน้ำทุกวัน (จะว่าไปแล้ว ชาติอื่นก็เหมือนกัน) โดยหลักปฏิบัติคือสามวันให้สระผมหนึ่งครั้ง ห้าวันอาบน้ำหนึ่งครั้ง ในสมัยฮั่นถึงกับกำหนดเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติของข้าราชการโดยจะหยุดพักงานทุกห้าวัน เป็นนัยว่าหยุดเพื่อให้อยู่บ้านอาบน้ำ และวันหยุดนี้เรียกว่า ‘ซิวมู่’ (休沐 แปลตรงตัวว่าพักอาบน้ำ) นอกจากนี้ ก่อนเข้าร่วมพิธีสำคัญก็ต้องอาบน้ำโดยเฉพาะพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากกาย โดยในเอกสารโบราณมีระบุรายละเอียดเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการอาบน้ำ เป็นต้นว่า การอาบน้ำนั้น ท่อนบนของร่างกายใช้ผ้าใยเนื้อละเอียดเช็ดถู ท่อนล่างใช้ผ้าใยเนื้อหยาบ สุดท้ายคือยืนล้าง (ขัด) เท้าบนเสื่อหญ้าหยาบ เมื่อเช็ดแห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วให้ดื่มชาหรือน้ำเพื่อปรับอุณภูมิในร่างกายและชดเชยการเสียเหงื่อด้วย ในช่วงสมัยราชวงศ์เหนือใต้ ปรากฏว่าตามวัดพุทธมีการขุดบ่อเป็นสระอาบน้ำรวมให้พระภิกษุใช้อาบทุกวันก่อนไหว้พระ และเนื่องจากในสมัยโบราณชาวบ้านนิยมเที่ยววัด จึงค่อยๆ กลายเป็นว่าชาวบ้านหรือข้าราชการก็ไปใช้บริการอาบน้ำที่วัด เสร็จแล้วก็นั่งดื่มชาสนทนากัน ต่อมาวัฒนธรรมการอาบน้ำรวมนี้เป็นที่นิยมมาก ในสมัยซ่งมีสระอาบน้ำสาธารณะในเมืองที่ชาวบ้านสามารถมาจ่ายเงินใช้บริการได้โดยแบ่งเป็นสระน้ำอุ่นและสระน้ำเย็นให้เลือกใช้ได้ตามใจชอบ และในสมัยหมิงถึงกับมีคนรับจ้างช่วยถูหลังสระผมตัดเล็บเลยทีเดียว ว่ากันว่า แรกเริ่มเลยในสมัยซางและฮั่น คนโบราณใช้น้ำซาวข้าวอาบน้ำสระผม ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหนือใต้มีการพัฒนาใช้เครื่องหอมต่างๆ จึงสันนิษฐานว่าสบู่โบราณเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นในสมัยนั้นเช่นกัน แต่ว่าแรกเริ่มมันเป็นของหรูที่มีใช้ในวังเท่านั้นและใช้สำหรับล้างมือ ต่อมาจึงแพร่สู่ชาวบ้านธรรมดา ใช้ได้ทั้งอาบน้ำสระผมล้างหน้าล้างมือล้างเท้า และใช้ซักเสื้อผ้าอีกด้วย สบู่เจ่าโต้วนี้ถูกเรียกว่า ‘ถั่วอาบน้ำ’ เพราะว่าส่วนผสมหลักของมันก็คือถั่วหรือธัญพืชบดละเอียด ผสมด้วย เครื่องหอม เครื่องเทศและยาสมุนไพรหลากหลาย และสูตรโบราณนี้นอกจากจะเป็นสครับขัดผิวให้ขาวเนียนและบำรุงผิวพรรณได้ดีแล้ว ยังล้างคราบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคราบดินโคลน คราบมัน คราบเลือด และคราบเครื่องสำอาง ต่อมาภายหลังจึงใช้หันไปใช้ขี้เถ้าไม้และไขมันสัตว์เป็นส่วนผสมหลักเรียกว่า ‘อี๋จื่อ’ (胰子) ซึ่งเป็นพัฒนากลายมาเป็นสบู่ปัจจุบัน สูตรการทำเจ่าโต้วถูกพัฒนาขึ้นอย่างหลากหลาย แต่สามารถสรุปรวมได้ดังนี้ คือ (1) ธัญพืชและถั่วสารพัดชนิด บ้างต้มสุกบ้างใช้ถั่วดิบ บดละเอียด (2) สมุนไพรหรือเครื่องเทศบดละเอียด เช่น กานพลู การบูร อบเชย (3) เครื่องหอมที่ต้องการ เช่นไม้หอมอบแห้ง กลีบดอกไม้แห้ง บดละเอียดหรือหากเป็นดอกไม้อาจบดหยาบ (4) น้ำหรือน้ำแร่ ต้มเคี่ยวกับน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง (5) เอาส่วนผสมทั้งหมดผสมแล้วคลุกให้สม่ำเสมอ ปั้นเป็นลูกกลอนแล้วเอาไปตากแห้งหลายๆ วัน เป็นอันจบขั้นตอน เวลาจะใช้ก็ชุบน้ำให้เปียกแล้วบี้แตกถูตามร่างกาย Storyฯ ผ่านตาคลิปของพ่อหนุ่มที่ทำสบู่โบราณนี้ เป็นคนเดียวกับที่เคยทำกระบอกจุดไฟและกระโปรงหม่าเมี่ยนที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (ค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญ) เข้าไปดูได้ตามลิ้งค์ข้างล่างค่ะ จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วเจ่าโต้วทำไม่ยาก แต่สาเหตุที่เดิมเป็นของฟุ่มเฟือยเพราะส่วนผสมหลายอย่างมีราคาสูงเกินกว่าที่ชาวบ้านธรรมดาจะนำมาใช้ในกิจวัตรประจำวัน สู้ใช้พวกดินโคลนหินทรายจะง่ายกว่าและประหยัดทรัพย์ โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ คิดว่าส่วนผสมของเจ่าโต้วนี้ดูน่าใช้กว่าสบู่รุ่นหลังที่ทำจากไขมันสัตว์และขี้เถ้าไม้เสียอีก แต่ยังไม่ได้ทดลองทำดูนะ ใครลองทำแล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ หรือถ้าใครรู้ว่าภูมิปัญญาไทยโบราณใช้อะไรทำสบู่ แตกต่างมากน้อยอย่างไรกับเจ่าโต้วนี้ ก็มาเล่าให้ฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) คลิปสาธิตการทำเจ่าโต้ว: https://www.youtube.com/watch?v=kuCYk0hoAdY Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://k.sina.cn/article_2277596227_87c15c4304001633w.html https://kknews.cc/zh-my/history/p6b6orj.html https://baike.sogou.com/v8330278.htm https://zabar.pixnet.net/blog/post/64707721 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_23937607 https://baike.baidu.com/item/澡豆/687918 https://kknews.cc/zh-cn/history/qxyaj9b.html https://k.sina.cn/article_6395568294_17d34a0a600100cs21.html https://baike.baidu.com/item/胰子/5249378 #องค์หญิงใหญ่ #เจ่าโต้ว #สบู่จีนโบราณ #อาบน้ำจีนโบราณ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1901 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ร้านดังมื้อเช้า ย่านเสาชิงช้า
    1. โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ Kope Hya Tai Kee since 1952
    ร้านกาแฟที่เปิดบริการย่านเสาชิงช้ามากว่า 70 ปี บรรยากาศสไตล์สภากาแฟของแท้ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เมนูอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูอาหารเช้าสไตล์จีน ไข่ลวก+กาแฟโบราณ หรือชุดเบรกฟาสต์แบบฝรั่ง กับกาแฟสูตรเฉพาะสไตล์ฟิวชั่น

    2. ร้านอาหารมิตรโกหย่วน
    ร้านอาหารสไตล์ไทยจีนไหหลำ ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นับว่าเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกๆ ในประเทศไทยที่ทำเมนูสไตล์ฟิวชั่นรวมกับอาหารฝรั่ง ซึ่งเป็นสูตรที่เจ้าของร้านได้มาจากอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ในช่วงที่กลับมาจากฝรั่งเศสใหม่ๆ เพราะผู้ก่อตั้งร้านเป็นเพื่อนบ้านของอาจารย์ปรีดีตั้งแต่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    3. ข้าวหมูแดงนายชุน
    ข้าวหมูแดงที่ผ่านกรรมวิธีย่างด้วยเตาถ่านแบบโบราณ และน้ำราดที่เคี่ยวด้วยกลิ่นสมุนไพรจีน คาดเป็นร้านข้าวหมูแดงเจ้าแรกๆ ในเขตพระนคร และยังครองใจขายมาจนถึงทุกวันนี้ ใครที่อยากลิ้มรสข้าวหมูแดงแบบออริจินัลห้ามพลาด

    4. ข้าวหน้าไก่ร้านแซ่พุ้น Poon Cuisine
    ต้นตำรับข้าวหน้าไก่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 รวมเป็นเวลากว่า 90 ปี มีเมนูบะหมี่หน้าไก่ เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ และซี่โครงหมูตุ๋น ที่ผ่านกรรมวิธีตุ๋นมาจนเปื่อย พร้อมเสิร์ฟกับน้ำสมุนไพรจีน อิ่มอร่อยจบมื้อในราคาเบาๆ

    #ร้านอาหารดัง #เสาชิงช้า #อาหารเช้า #Thaitimes


    4 ร้านดังมื้อเช้า ย่านเสาชิงช้า 1. โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ Kope Hya Tai Kee since 1952 ร้านกาแฟที่เปิดบริการย่านเสาชิงช้ามากว่า 70 ปี บรรยากาศสไตล์สภากาแฟของแท้ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เมนูอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูอาหารเช้าสไตล์จีน ไข่ลวก+กาแฟโบราณ หรือชุดเบรกฟาสต์แบบฝรั่ง กับกาแฟสูตรเฉพาะสไตล์ฟิวชั่น 2. ร้านอาหารมิตรโกหย่วน ร้านอาหารสไตล์ไทยจีนไหหลำ ที่เปิดมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นับว่าเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกๆ ในประเทศไทยที่ทำเมนูสไตล์ฟิวชั่นรวมกับอาหารฝรั่ง ซึ่งเป็นสูตรที่เจ้าของร้านได้มาจากอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ในช่วงที่กลับมาจากฝรั่งเศสใหม่ๆ เพราะผู้ก่อตั้งร้านเป็นเพื่อนบ้านของอาจารย์ปรีดีตั้งแต่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3. ข้าวหมูแดงนายชุน ข้าวหมูแดงที่ผ่านกรรมวิธีย่างด้วยเตาถ่านแบบโบราณ และน้ำราดที่เคี่ยวด้วยกลิ่นสมุนไพรจีน คาดเป็นร้านข้าวหมูแดงเจ้าแรกๆ ในเขตพระนคร และยังครองใจขายมาจนถึงทุกวันนี้ ใครที่อยากลิ้มรสข้าวหมูแดงแบบออริจินัลห้ามพลาด 4. ข้าวหน้าไก่ร้านแซ่พุ้น Poon Cuisine ต้นตำรับข้าวหน้าไก่เปิดร้านมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 รวมเป็นเวลากว่า 90 ปี มีเมนูบะหมี่หน้าไก่ เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆ และซี่โครงหมูตุ๋น ที่ผ่านกรรมวิธีตุ๋นมาจนเปื่อย พร้อมเสิร์ฟกับน้ำสมุนไพรจีน อิ่มอร่อยจบมื้อในราคาเบาๆ #ร้านอาหารดัง #เสาชิงช้า #อาหารเช้า #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”ก๋วยเตี๋ยวแคระตู้ไม้ป้าจีน“วัดอนงคาราม
    ขายมา 70 ปี เริ่มขายมาตั้งแต่ชามละ บาทเดียว เอาวัตถุดิบต่างๆ ใส่ตู้ไม้ ขายมาตั้งแต่โบราณ รสชาติแบบดั้งเดิม ที่เห็นให้เครื่องมาแน่นชาม แอดกินชามเดียวอิ่ม ราคาแค่ 40-50 บาท ที่ขายราคานี้ได้ เพราะป้าแก ไม่ได้รับลูกชิ้นหรือรับของจากไหนมาขาย ทำเองทั้งหมดตั้งแต่ ตี 5 หมูแดงย่างเอง ลูกชิ้นทอด และนึ่งเอง เรียกได้ว่าทำเองทุกอย่างแม้แต่ถั่วยังคั่วเอง
    ที่เห็นซอสเย็นตาโฟสีชมพูอ่อนนั้น ก็ทำเอง แบบโบราณจริงๆ รสชาติออกเค็ม ไม่หวานไม่เปรี้ยว แปลกดี
    ใครอยากกินก๋วยเตี๋ยวแคระแบบดั้งเดิม มีเสน่ห์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้ ต้องมาลองครับ แนะนำ อิ่มอร่อยไม่แพงให้เยอะมากเกินราคา จอดรถที่วัดอนงคาราม ได้เลยที่ 39 ถ. สมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600

    ข้อดี
    * เส้นบะหมี่ทำเอง: เหนียวนุ่ม มีเอกลักษณ์
    * หมูแดง หมูกรอบ หมูย่าง: เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ
    * น้ำซุป: รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ
    ข้อควรพิจารณา
    * ที่นั่ง: ร้านอาจมีที่นั่งจำกัด

    พิกัดร้าน : https://g.co/kgs/YxjwXQN

    #ก๋วยเตี๋ยวแคระ #ก๋วยเตี๋ยวตู้ไม้ #ของกิน #Thaitimes
    ”ก๋วยเตี๋ยวแคระตู้ไม้ป้าจีน“วัดอนงคาราม ขายมา 70 ปี เริ่มขายมาตั้งแต่ชามละ บาทเดียว เอาวัตถุดิบต่างๆ ใส่ตู้ไม้ ขายมาตั้งแต่โบราณ รสชาติแบบดั้งเดิม ที่เห็นให้เครื่องมาแน่นชาม แอดกินชามเดียวอิ่ม ราคาแค่ 40-50 บาท ที่ขายราคานี้ได้ เพราะป้าแก ไม่ได้รับลูกชิ้นหรือรับของจากไหนมาขาย ทำเองทั้งหมดตั้งแต่ ตี 5 หมูแดงย่างเอง ลูกชิ้นทอด และนึ่งเอง เรียกได้ว่าทำเองทุกอย่างแม้แต่ถั่วยังคั่วเอง ที่เห็นซอสเย็นตาโฟสีชมพูอ่อนนั้น ก็ทำเอง แบบโบราณจริงๆ รสชาติออกเค็ม ไม่หวานไม่เปรี้ยว แปลกดี ใครอยากกินก๋วยเตี๋ยวแคระแบบดั้งเดิม มีเสน่ห์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้ ต้องมาลองครับ แนะนำ อิ่มอร่อยไม่แพงให้เยอะมากเกินราคา จอดรถที่วัดอนงคาราม ได้เลยที่ 39 ถ. สมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600 ข้อดี * เส้นบะหมี่ทำเอง: เหนียวนุ่ม มีเอกลักษณ์ * หมูแดง หมูกรอบ หมูย่าง: เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ * น้ำซุป: รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ ข้อควรพิจารณา * ที่นั่ง: ร้านอาจมีที่นั่งจำกัด พิกัดร้าน : https://g.co/kgs/YxjwXQN #ก๋วยเตี๋ยวแคระ #ก๋วยเตี๋ยวตู้ไม้ #ของกิน #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1382 มุมมอง 0 รีวิว