• 🔥 12/06/68 : ค่าเงินบาทเช้านี้ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง
    โดยค่าเงินบาทไทย เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
    จะอยู่ที่ 32.486 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (-0.40%)
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Invesment #ค่าเงินบาท
    #thaitimes
    🔥 12/06/68 : ค่าเงินบาทเช้านี้ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง โดยค่าเงินบาทไทย เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จะอยู่ที่ 32.486 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (-0.40%) #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Invesment #ค่าเงินบาท #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥 ราคาทองคำ (Gold) หรือ สัญญาซื้อขายทองคำในตลาดโลก
    วันที่ 11/06/2568 แม้จะย่อตัวลงมา แต่ภาพรวมทางเทคนิคัล
    (Timeframe Day) ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น (สำคัญ)
    แสดงว่ายังมีโอกาส และแนวโน้ม ที่ราคาจะสามารถ
    ปรับตัวสูงขึ้นอีกได้

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Invesment #ทองคำ #Gold
    #thaitimes
    🔥 ราคาทองคำ (Gold) หรือ สัญญาซื้อขายทองคำในตลาดโลก วันที่ 11/06/2568 แม้จะย่อตัวลงมา แต่ภาพรวมทางเทคนิคัล (Timeframe Day) ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น (สำคัญ) แสดงว่ายังมีโอกาส และแนวโน้ม ที่ราคาจะสามารถ ปรับตัวสูงขึ้นอีกได้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Invesment #ทองคำ #Gold #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥มุมมอง SET หรือ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ทางเทคนิคัล
    ถ้าพิจารณาจากเทรนด์ (Trend) หรือ แนวโน้ม
    ใน Timeframe Day ยังมีแนวโน้มเป็น "ขาลง" (สำคัญ)
    โดยมีช่วงในการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1125-1225 จุด
    มากสุดอยู่ที่ 1092-1257 จุด
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    🔥มุมมอง SET หรือ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ทางเทคนิคัล ถ้าพิจารณาจากเทรนด์ (Trend) หรือ แนวโน้ม ใน Timeframe Day ยังมีแนวโน้มเป็น "ขาลง" (สำคัญ) โดยมีช่วงในการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1125-1225 จุด มากสุดอยู่ที่ 1092-1257 จุด #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥SCB EIC ศูนย์วิจัยไทยพาณิชณ์ ได้คาดการณ์
    ภาวะเศรษฐกิจไทย ในปีหน้า 2568 ดังนี้

    1.1 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทย (GDP ประเทศไทย)

    SCB EIC ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 เหลือ 2.4%
    จากเดิมที่คาดไว้ 2.6% เนื่องจากผลกระทบของนโยบาย
    "Trump 2.0" ที่อาจเพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
    และการกีดกันทางการค้าอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย
    ผ่านช่องทางการค้า การผลิต และการลงทุนเป็นหลัก

    สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2567 SCB EIC ปรับเพิ่มคาดการณ์
    การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็น 2.7% จากเดิม 2.5%
    โดยเหตุผลหลักมาจากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท
    เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่เริ่มตั้งแต่ปลายไตรมาส 3
    การใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งเบิกงบประมาณ
    รวมถึงการส่งออกสินค้าที่กลับมาฟื้นตัว

    นอกจากนี้ ยังมีการเร่งตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
    ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

    1.2 อัตราเงินเฟ้อของไทย
    SCB EIC ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปี 2567
    จะอยู่ที่ 0.5% สำหรับปีหน้า (2568) จะอยู่ที่ 1%
    (ประเมิน ณ เดือน พ.ย. 2567)

    1.3 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย
    SCB EIC คาดการณ์ว่า ในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ กนง.
    จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เช่นเดิม ตามแนวทางที่ กนง.
    สื่อสารไว้เกี่ยวกับการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงิน
    (Policy space) เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิ
    จและการเงินของไทยในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม SCB EIC มองว่า กนง. อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ย
    นโยบายลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. 2568
    เพื่อช่วยผ่อนคลายสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มเติม
    และเศรษฐกิจไทยจะมีความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้นจากนโยบาย
    Trump 2.0

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ภาวะเศรษฐกิจไทย2568
    #SCBEIC #thaitimes
    💥💥SCB EIC ศูนย์วิจัยไทยพาณิชณ์ ได้คาดการณ์ ภาวะเศรษฐกิจไทย ในปีหน้า 2568 ดังนี้ 1.1 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทย (GDP ประเทศไทย) SCB EIC ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 เหลือ 2.4% จากเดิมที่คาดไว้ 2.6% เนื่องจากผลกระทบของนโยบาย "Trump 2.0" ที่อาจเพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการกีดกันทางการค้าอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย ผ่านช่องทางการค้า การผลิต และการลงทุนเป็นหลัก สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2567 SCB EIC ปรับเพิ่มคาดการณ์ การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็น 2.7% จากเดิม 2.5% โดยเหตุผลหลักมาจากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่เริ่มตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 การใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งเบิกงบประมาณ รวมถึงการส่งออกสินค้าที่กลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ ยังมีการเร่งตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 1.2 อัตราเงินเฟ้อของไทย SCB EIC ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ 0.5% สำหรับปีหน้า (2568) จะอยู่ที่ 1% (ประเมิน ณ เดือน พ.ย. 2567) 1.3 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย SCB EIC คาดการณ์ว่า ในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เช่นเดิม ตามแนวทางที่ กนง. สื่อสารไว้เกี่ยวกับการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (Policy space) เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิ จและการเงินของไทยในอนาคต อย่างไรก็ตาม SCB EIC มองว่า กนง. อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ย นโยบายลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. 2568 เพื่อช่วยผ่อนคลายสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มเติม และเศรษฐกิจไทยจะมีความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้นจากนโยบาย Trump 2.0 ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ภาวะเศรษฐกิจไทย2568 #SCBEIC #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1245 มุมมอง 0 รีวิว
  • 01/12/67 แอดมิน นั่งทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่มีราคาเหมาะสม และจังหวะในการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    01/12/67 แอดมิน นั่งทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่มีราคาเหมาะสม และจังหวะในการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 873 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29/11/2567 สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบัน หรือ กองทุน และโบรก คือ คนซื้อหลักของวันนี้ ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ และ นักลงทุนในประเทศ คือ คนขายหลักในวันนี้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #Thaitimes
    29/11/2567 สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบัน หรือ กองทุน และโบรก คือ คนซื้อหลักของวันนี้ ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ และ นักลงทุนในประเทศ คือ คนขายหลักในวันนี้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 842 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥แอดมิน นั่งทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    💥แอดมิน นั่งทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1026 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21/11/2567 ตลาดหุ้นไทยวันนี้
    สิ่งที่น่่าสนใจคือ สถาบัน หรือ กองทุน
    และ นักลงทุนในประเทศ คือ คนซื้อหุ้นไทย
    หลักๆ ในวันนี้

    ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ และ โบรก
    คือ คนขายหุ้นไทยในวันนี้

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    21/11/2567 ตลาดหุ้นไทยวันนี้ สิ่งที่น่่าสนใจคือ สถาบัน หรือ กองทุน และ นักลงทุนในประเทศ คือ คนซื้อหุ้นไทย หลักๆ ในวันนี้ ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ และ โบรก คือ คนขายหุ้นไทยในวันนี้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 959 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20/11/2567 วันนี้ตลาดหุ้นไทย
    สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนต่างประเทศ,
    กองทุน หรือ สถาบัน และ โบรก
    คือ ผู้ขายหลักในวันนี้

    ส่วนนักลงทุนในประเทศ คือ ผู้ซื้อหลัก

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    20/11/2567 วันนี้ตลาดหุ้นไทย สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนต่างประเทศ, กองทุน หรือ สถาบัน และ โบรก คือ ผู้ขายหลักในวันนี้ ส่วนนักลงทุนในประเทศ คือ ผู้ซื้อหลัก #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    สัปดาห์นี้พบหุ้น ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะ
    การซื้อที่ดีจำนวน ศูนย์ ตัว 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitime
    แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 สัปดาห์นี้พบหุ้น ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะ การซื้อที่ดีจำนวน ศูนย์ ตัว 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitime
    Wow
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 908 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥11/11/2567 ตลาดหุ้นไทย
    สิ่งที่น่าสนใจวันนี้คือ นักลงทุนต่างประเทศ, โบรก
    และ สถาบัน หรือ กองทุน คือ คนขายหุ้นไทยหลัก

    ส่วนผู้ซื้อหุ้นไทยในวันนี้คือ นักลงทุนในประเทศ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    💥11/11/2567 ตลาดหุ้นไทย สิ่งที่น่าสนใจวันนี้คือ นักลงทุนต่างประเทศ, โบรก และ สถาบัน หรือ กองทุน คือ คนขายหุ้นไทยหลัก ส่วนผู้ซื้อหุ้นไทยในวันนี้คือ นักลงทุนในประเทศ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 947 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1060 มุมมอง 0 รีวิว
  • 06/11/2567 ตลาดหุ้นไทยวันนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ
    นักลงทุนในประเทศ และสถาบันหรือกองทุน
    คือผู้ซื้อหุ้นไทยในวันนี้ ส่วนคนขายหุ้นไทยหลักๆ
    คือ นักลงทุนต่างประเทศ และ โบรก
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    06/11/2567 ตลาดหุ้นไทยวันนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนในประเทศ และสถาบันหรือกองทุน คือผู้ซื้อหุ้นไทยในวันนี้ ส่วนคนขายหุ้นไทยหลักๆ คือ นักลงทุนต่างประเทศ และ โบรก #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 838 มุมมอง 0 รีวิว
  • 05/11/2567 วันนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ
    สถาบัน หรือ กองทุน และ นักลงทุนต่างประเทศ
    คือ คนซื้อหุ้นไทยหลักๆ

    ส่วนนักลงทุนในประเทศ และ โบรก คือ คนขายหุ้นไทยในวันนี้
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    05/11/2567 วันนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบัน หรือ กองทุน และ นักลงทุนต่างประเทศ คือ คนซื้อหุ้นไทยหลักๆ ส่วนนักลงทุนในประเทศ และ โบรก คือ คนขายหุ้นไทยในวันนี้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 900 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอดมิน ทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    แอดมิน ทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1057 มุมมอง 0 รีวิว
  • 01/11/2567 ตลาดหุ้นไทยวันนี้
    สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนต่างประเทศ คือ
    ผู้ขายหุ้นไทย หลักๆ ในวันนี้

    ส่วนผู้ที่ซื้อหลักในวันนี้ คือ นักลงทุนสถาบัน
    หรือ กองทุน สมทบด้วย โบรก และ นักลงทุนในประเทศ
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    01/11/2567 ตลาดหุ้นไทยวันนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ นักลงทุนต่างประเทศ คือ ผู้ขายหุ้นไทย หลักๆ ในวันนี้ ส่วนผู้ที่ซื้อหลักในวันนี้ คือ นักลงทุนสถาบัน หรือ กองทุน สมทบด้วย โบรก และ นักลงทุนในประเทศ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1073 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥30/10/2567 ตลาดหุ้นไทย
    สิ่งที่น่าสนใจวันนี้คือ นักลงทุนต่างประเทศ
    คือ ผู้ขายหุ้นไทยหลักๆในวันนี้

    ส่วนผู้ซื้อหุ้นไทยหลักๆในวันนี้ คือ นักลงทุนในประเทศ
    สมทบการซื้อด้วย นักลงทุนสถาบัน หรือ กองทุน
    และ โบรกเกอร์

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    💥💥30/10/2567 ตลาดหุ้นไทย สิ่งที่น่าสนใจวันนี้คือ นักลงทุนต่างประเทศ คือ ผู้ขายหุ้นไทยหลักๆในวันนี้ ส่วนผู้ซื้อหุ้นไทยหลักๆในวันนี้ คือ นักลงทุนในประเทศ สมทบการซื้อด้วย นักลงทุนสถาบัน หรือ กองทุน และ โบรกเกอร์ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 972 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥หนังสือพิมพ์ U.S.News จัดสหรัฐอเมริกา
    ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับ
    ประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก
    ประจำปี 2567 พบว่า ประเทศไทย อยู่อันดับที่ 8 ของโลก
    จากจำนวน 89 ประเทศทั่วโลก
    ส่วอันดับ 1 คือ กรีซ ,อันดับ 2 คือ อิตาลี, อันดับ 3 คือ สเปน

    ที่มา : U.S.News

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥หนังสือพิมพ์ U.S.News จัดสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับ ประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก ประจำปี 2567 พบว่า ประเทศไทย อยู่อันดับที่ 8 ของโลก จากจำนวน 89 ประเทศทั่วโลก ส่วอันดับ 1 คือ กรีซ ,อันดับ 2 คือ อิตาลี, อันดับ 3 คือ สเปน ที่มา : U.S.News #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 882 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥สุดยอด ปรบมือ!! ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
    ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแล
    ตลาดทุนร่วมกัน ให้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มากยิ่งขึ้น

    บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงกรอบการ
    ทำงานร่วมกันของทั้ง 2 องค์กรในงานด้านกำกับดูแล
    ให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน รวมถึงสอดรับกับระบบนิเวศ
    และการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนในปัจจุบัน
    ตลอดจนสามารถรองรับกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    ได้แก่

    (1) การกำกับดูแลบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน
    และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน

    (2) การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิก
    ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

    (3) การติดตามดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน
    และการบังคับใช้กฎหมาย และ

    (4) การออกระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
    อีกทั้งจะเพิ่มการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลการกำกับดูแล
    ระหว่างกัน เพื่อให้การทำหน้าที่ของแต่ละองค์กรมีประสิทธิภาพ
    มากยิ่งขึ้น เช่น การร่วมกันพิจารณาคำขอกรณีการจดทะเบียนโดยอ้อม
    (Backdoor Listing) การขอย้ายกลับมาซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน
    หลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) เพื่อให้กระบวนการ
    พิจารณา มีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่
    และยังจะมีการร่วมกันกำหนดหรือปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
    หากเห็นว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุน ป้องปราม
    หรือยับยั้งพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม
    ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น

    อีกทั้งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงแนวทางการทำงาน
    และการประสานงานร่วมกัน ทั้งในระดับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ
    ของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้การขับเคลื่อนทิศทางนโยบายการพัฒนา
    ตลาดทุน การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันกับตลาดทุนอื่น
    และการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
    มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรยังมีการหารือในประเด็นที่จะขับเคลื่อน
    ร่วมกันที่สำคัญ ดังนี้

    (1) การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์
    เพื่อรองรับการพัฒนาการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุง
    พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

    (2) การสนับสนุนการเพิ่มมูลค่า (value up) ของบริษัทจดทะเบียน
    เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมุ่งมั่น
    ที่จะเสริมศักยภาพและมูลค่าของตัวเอง สื่อสารกับนักลงทุน
    อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้สนับสนุน
    การขยายรายชื่อหลักทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนได้

    (3) การส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามมาตรฐาน
    International Sustainability Standards Board (ISSB)
    ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือ
    จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินการ
    และการทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน

    (4) การส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีความรู้ (investor empowerment)
    ผ่าน Open Data ของภาคตลาดทุนและภาคการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุน
    สามารถใช้ข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมี
    ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    ที่มา ก.ล.ต.
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥สุดยอด ปรบมือ!! ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแล ตลาดทุนร่วมกัน ให้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มากยิ่งขึ้น บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงกรอบการ ทำงานร่วมกันของทั้ง 2 องค์กรในงานด้านกำกับดูแล ให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน รวมถึงสอดรับกับระบบนิเวศ และการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนในปัจจุบัน ตลอดจนสามารถรองรับกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ (1) การกำกับดูแลบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน (2) การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิก ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (3) การติดตามดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน และการบังคับใช้กฎหมาย และ (4) การออกระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้งจะเพิ่มการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลการกำกับดูแล ระหว่างกัน เพื่อให้การทำหน้าที่ของแต่ละองค์กรมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น เช่น การร่วมกันพิจารณาคำขอกรณีการจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) การขอย้ายกลับมาซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน หลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) เพื่อให้กระบวนการ พิจารณา มีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ และยังจะมีการร่วมกันกำหนดหรือปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หากเห็นว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุน ป้องปราม หรือยับยั้งพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น อีกทั้งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงแนวทางการทำงาน และการประสานงานร่วมกัน ทั้งในระดับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ ของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้การขับเคลื่อนทิศทางนโยบายการพัฒนา ตลาดทุน การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันกับตลาดทุนอื่น และการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรยังมีการหารือในประเด็นที่จะขับเคลื่อน ร่วมกันที่สำคัญ ดังนี้ (1) การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับการพัฒนาการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุง พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (2) การสนับสนุนการเพิ่มมูลค่า (value up) ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมุ่งมั่น ที่จะเสริมศักยภาพและมูลค่าของตัวเอง สื่อสารกับนักลงทุน อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้สนับสนุน การขยายรายชื่อหลักทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนได้ (3) การส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามมาตรฐาน International Sustainability Standards Board (ISSB) ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือ จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินการ และการทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน (4) การส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีความรู้ (investor empowerment) ผ่าน Open Data ของภาคตลาดทุนและภาคการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุน สามารถใช้ข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ที่มา ก.ล.ต. #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1114 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26/10/2567
    แอดมินทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    26/10/2567 แอดมินทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1156 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยแพร่ข้อมูล
    แนวโน้มธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง
    ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 มีแนวโน้มหดตัว
    จากปัจจัยกดดันด้านการฟื้นตัวของกำลังซื้อ
    และในปี 2568 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง
    แต่ในอัตราที่ลดลง

    🚩ตลาดที่อยู่อาศัยยังต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง
    โดยเฉพาะจากการฟื้นตัวช้าของกำลังซื้อ ซึ่งกดดันให้
    ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567-2568 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง

    🚩ปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจทั้งค่าครองชีพ ค่าใช้จ่าย
    และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ย
    และความเข้มงวดในการให้สินเชื่อ ยังคงกดดันการฟื้นตัว
    ของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง-ล่าง
    ที่ส่วนใหญ่ตัดสินใจยังไม่ซื้อที่อยู่อาศัย หรือชะลอการซื้อออกไป

    🚩โดยคาดว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
    ในปี 2567 จะหดตัวราว -10% (เทียบปีต่อปี) และหดตัวต่อเนื่องราว
    -1% ถึง -3% (เทียบปีต่อปี) ในปี 2568

    🚩ส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2567
    มีแนวโน้มหดตัวราว -9% (เทียบปีต่อปี) แต่อาจเริ่มทรงตัวได้
    หรือหดตัวเล็กน้อยราว +0% ถึง -2% (ปีต่อปี) ในปี 2568

    🚩ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ในต่างจังหวัด มีแนวโน้มหดตัว
    ในอัตราที่สูงกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑลเล็กน้อย
    เนื่องจากมีสัดส่วนกำลังซื้อกลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่างที่สูงกว่า


    🚩การเปิดโครงการใหม่ในปี 2567-2568 ยังมีแนวโน้มหดตัว
    ต่อเนื่อง จากการที่ผู้ประกอบการระมัดระวังในการเปิดโครงการ
    จากหน่วยเหลือขายสะสมที่เพิ่มขึ้น

    🚩อีกทั้ง ต้นทุนก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูง จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัย
    เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคาดว่าจะหดตัวราว
    -28% (เทียบปีต่อปี) ในปี 2567 และหดตัวต่อเนื่องอีกราว
    -2% ถึง -4% (เทียบปีต่อปี) ในปี 2568
    โดยเป็นการเปิดโครงการระดับราคาปานกลาง-บนเป็นหลัก
    เพื่อเน้นเจาะกลุ่มกำลังซื้อที่มีศักยภาพ

    🚩นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรักษาอัตรา
    กำไรได้ ท่ามกลางภาวะต้นทุนการก่อสร้างที่ยังอยู่ในระดับสูง
    ทั้งวัสดุก่อสร้าง แรงงาน และราคาที่ดิน

    🚩ส่วนการเปิดโครงการระดับราคาปานกลาง-ล่าง ยังเป็นไป
    อย่างระมัดระวัง เน้นเฉพาะทำเลที่มีศักยภาพ และระบาย
    สินค้าคงเหลือ มากขึ้นแทน


    🚩ภาวะตลาดที่ซบเซาและการแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัย
    ที่ยังมีแนวโน้มเป็นไปอย่างเข้มข้น ผู้ประกอบการจึงต้อง
    ปรับกลยุทธ์ในหลายด้าน โดยกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการ
    ควรให้ความสำคัญ ได้แก่

    🚩1) พัฒนาโครงการใหม่อย่างระมัดระวัง
    🚩2) ตอบโจทย์ความต้องการผู้ซื้อแต่ละกลุ่มอย่างตรงจุด
    🚩3) ขยายตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติ
    🚩4) บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษา
    อัตรากำไร นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ
    กับการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG มากขึ้น
    โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ที่มา : scbeic
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อสังหาริมทรัพย์ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยแพร่ข้อมูล แนวโน้มธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 มีแนวโน้มหดตัว จากปัจจัยกดดันด้านการฟื้นตัวของกำลังซื้อ และในปี 2568 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ลดลง 🚩ตลาดที่อยู่อาศัยยังต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการฟื้นตัวช้าของกำลังซื้อ ซึ่งกดดันให้ ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567-2568 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง 🚩ปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจทั้งค่าครองชีพ ค่าใช้จ่าย และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ย และความเข้มงวดในการให้สินเชื่อ ยังคงกดดันการฟื้นตัว ของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง-ล่าง ที่ส่วนใหญ่ตัดสินใจยังไม่ซื้อที่อยู่อาศัย หรือชะลอการซื้อออกไป 🚩โดยคาดว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปี 2567 จะหดตัวราว -10% (เทียบปีต่อปี) และหดตัวต่อเนื่องราว -1% ถึง -3% (เทียบปีต่อปี) ในปี 2568 🚩ส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2567 มีแนวโน้มหดตัวราว -9% (เทียบปีต่อปี) แต่อาจเริ่มทรงตัวได้ หรือหดตัวเล็กน้อยราว +0% ถึง -2% (ปีต่อปี) ในปี 2568 🚩ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ในต่างจังหวัด มีแนวโน้มหดตัว ในอัตราที่สูงกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑลเล็กน้อย เนื่องจากมีสัดส่วนกำลังซื้อกลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่างที่สูงกว่า 🚩การเปิดโครงการใหม่ในปี 2567-2568 ยังมีแนวโน้มหดตัว ต่อเนื่อง จากการที่ผู้ประกอบการระมัดระวังในการเปิดโครงการ จากหน่วยเหลือขายสะสมที่เพิ่มขึ้น 🚩อีกทั้ง ต้นทุนก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูง จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัย เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคาดว่าจะหดตัวราว -28% (เทียบปีต่อปี) ในปี 2567 และหดตัวต่อเนื่องอีกราว -2% ถึง -4% (เทียบปีต่อปี) ในปี 2568 โดยเป็นการเปิดโครงการระดับราคาปานกลาง-บนเป็นหลัก เพื่อเน้นเจาะกลุ่มกำลังซื้อที่มีศักยภาพ 🚩นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรักษาอัตรา กำไรได้ ท่ามกลางภาวะต้นทุนการก่อสร้างที่ยังอยู่ในระดับสูง ทั้งวัสดุก่อสร้าง แรงงาน และราคาที่ดิน 🚩ส่วนการเปิดโครงการระดับราคาปานกลาง-ล่าง ยังเป็นไป อย่างระมัดระวัง เน้นเฉพาะทำเลที่มีศักยภาพ และระบาย สินค้าคงเหลือ มากขึ้นแทน 🚩ภาวะตลาดที่ซบเซาและการแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัย ที่ยังมีแนวโน้มเป็นไปอย่างเข้มข้น ผู้ประกอบการจึงต้อง ปรับกลยุทธ์ในหลายด้าน โดยกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการ ควรให้ความสำคัญ ได้แก่ 🚩1) พัฒนาโครงการใหม่อย่างระมัดระวัง 🚩2) ตอบโจทย์ความต้องการผู้ซื้อแต่ละกลุ่มอย่างตรงจุด 🚩3) ขยายตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติ 🚩4) บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษา อัตรากำไร นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ กับการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มา : scbeic #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อสังหาริมทรัพย์ #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1411 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥สตาร์บัค ร้านกาแฟเชนระดับโลก ยังไม่พ้นขีดอันตราย
    เมื่อกลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 ไม่สามารถดันยอดขายขึ้นมาได้

    ซึ่งคาดการณ์ยอดขายกาแฟ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
    (ไตรมาส 4/2567)
    ยอดขายกาแฟสตาร์บัค มีแนวโน้มออกมาน่าผิดหวัง
    โดยยอดขายในสหรัฐ -6% และในจีนดิ่งเหวถึง -14%

    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #สตาร์บัค #thaitimes
    🔥🔥สตาร์บัค ร้านกาแฟเชนระดับโลก ยังไม่พ้นขีดอันตราย เมื่อกลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 ไม่สามารถดันยอดขายขึ้นมาได้ ซึ่งคาดการณ์ยอดขายกาแฟ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (ไตรมาส 4/2567) ยอดขายกาแฟสตาร์บัค มีแนวโน้มออกมาน่าผิดหวัง โดยยอดขายในสหรัฐ -6% และในจีนดิ่งเหวถึง -14% ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #สตาร์บัค #thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1350 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ IMF
    คาดหนี้สาธารณะโลกจะพุ่งแตะ 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
    หรือ ประมาณ 3,400 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้

    🚩กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกคำเตือน
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สถานการณ์หนี้สาธารณะทั่วโลก
    อาจเลวร้ายกว่าที่หลายคนคิด โดยเน้นย้ำถึงการขาดดุล
    การคลัง ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐและจีน

    🚩หน่วยงานดังกล่าวคาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะทั่วโลก
    จะพุ่งสูงเกิน 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ
    ประมาณ 3,400 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นปี 2567
    โดยคาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะทั่วโลกจะพุ่งสูงถึง 100%
    ของ GDP ของโลกภายในสิ้นทศวรรษนี้

    🚩สหรัฐฯ และจีนมีสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
    หากไม่รวมทั้งสองประเทศนี้ในการคำนวณ อัตราส่วน
    หนี้สาธารณะต่อ GDP ทั่วโลกจะลดลงประมาณ 20%

    ที่มา : cnbc

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #IMF #thaitimes
    🔥🔥กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ IMF คาดหนี้สาธารณะโลกจะพุ่งแตะ 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 3,400 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ 🚩กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกคำเตือน เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สถานการณ์หนี้สาธารณะทั่วโลก อาจเลวร้ายกว่าที่หลายคนคิด โดยเน้นย้ำถึงการขาดดุล การคลัง ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐและจีน 🚩หน่วยงานดังกล่าวคาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะทั่วโลก จะพุ่งสูงเกิน 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 3,400 ล้านล้านบาท ภายในสิ้นปี 2567 โดยคาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะทั่วโลกจะพุ่งสูงถึง 100% ของ GDP ของโลกภายในสิ้นทศวรรษนี้ 🚩สหรัฐฯ และจีนมีสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก หากไม่รวมทั้งสองประเทศนี้ในการคำนวณ อัตราส่วน หนี้สาธารณะต่อ GDP ทั่วโลกจะลดลงประมาณ 20% ที่มา : cnbc #หุ้นติดดอย #การลงทุน #IMF #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1334 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥25/10/2567 ตลาดหุ้นไทย
    วันนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ 3 รุม 1

    โดยนักลงทุนที่ขายหลักๆวันนี้ มี 3 กลุ่ม ได้แก่
    นักลงทุนสถาบัน หรือ กองทุน, โบรก และ
    นักลงทุนต่างประเทศ

    ส่วนนักลงทุนที่รับซื้อหุ้นไว้วันนี้คือ
    นักลงทุนในประเทศ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    💥💥25/10/2567 ตลาดหุ้นไทย วันนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ 3 รุม 1 โดยนักลงทุนที่ขายหลักๆวันนี้ มี 3 กลุ่ม ได้แก่ นักลงทุนสถาบัน หรือ กองทุน, โบรก และ นักลงทุนต่างประเทศ ส่วนนักลงทุนที่รับซื้อหุ้นไว้วันนี้คือ นักลงทุนในประเทศ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1313 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24/10/2567 ตลาดหุ้นไทย วันนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ
    สถาบัน หรือ กองทุน รวมทั้ง นักลงทุนต่างประเทศ
    คือ ผู้ขายหลักในวันนี้

    ส่วนผู้เข้าซื้อหลักๆ ในวันนี้ คือ นักลงทุนในประเทศ
    และ มีโบรกบางส่วน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    24/10/2567 ตลาดหุ้นไทย วันนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบัน หรือ กองทุน รวมทั้ง นักลงทุนต่างประเทศ คือ ผู้ขายหลักในวันนี้ ส่วนผู้เข้าซื้อหลักๆ ในวันนี้ คือ นักลงทุนในประเทศ และ มีโบรกบางส่วน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 804 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts