• อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของวิดีโอที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาเตือนเนทันยาฮูว่าอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา

    สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของวิดีโอที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาเตือนเนทันยาฮูว่าอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • 2/ (วิดีโอแบบสั้น)

    วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา

    สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    2/ (วิดีโอแบบสั้น) วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • 1/ (วิดีโอแบบยาว)

    วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา

    สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    1/ (วิดีโอแบบยาว) วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา สิ่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความท้าทายที่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เผชิญในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากฎหมายของไต้หวันจะอนุญาตให้ TSMC ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ แต่การดำเนินการนี้ยังคงมีความซับซ้อนเนื่องจากระยะทางและระบบราชการในสหรัฐอเมริกา

    C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC อธิบายว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกานั้นซับซ้อน เนื่องจากโรงงานในรัฐแอริโซนาอยู่ห่างไกลจากทีมวิจัยและพัฒนาในไต้หวัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบราชการในสหรัฐอเมริกายังทำให้การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับไต้หวัน และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนี้ การขาดแคลนซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นในสหรัฐอเมริกายังทำให้ TSMC ต้องขนส่งสารเคมีจากไต้หวันไปยังลอสแอนเจลิสและจากนั้นไปยังแอริโซนา ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการผลิต

    การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น การออกแบบโรงงานใหม่เพื่อรองรับเครื่องมือ EUV ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและการใช้สารเคมีใหม่ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการผลิตใหม่

    การขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นความท้าทายที่ TSMC ต้องเผชิญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและระบบราชการที่เข้มงวดในสหรัฐอเมริกา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/bureaucracy-and-distance-mean-tsmcs-u-s-fabs-may-always-be-behind-taiwan
    บทความนี้กล่าวถึงความท้าทายที่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เผชิญในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แม้ว่ากฎหมายของไต้หวันจะอนุญาตให้ TSMC ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ แต่การดำเนินการนี้ยังคงมีความซับซ้อนเนื่องจากระยะทางและระบบราชการในสหรัฐอเมริกา C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC อธิบายว่า การเพิ่มกำลังการผลิตเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกานั้นซับซ้อน เนื่องจากโรงงานในรัฐแอริโซนาอยู่ห่างไกลจากทีมวิจัยและพัฒนาในไต้หวัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ระบบราชการในสหรัฐอเมริกายังทำให้การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับไต้หวัน และมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎระเบียบสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ การขาดแคลนซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นในสหรัฐอเมริกายังทำให้ TSMC ต้องขนส่งสารเคมีจากไต้หวันไปยังลอสแอนเจลิสและจากนั้นไปยังแอริโซนา ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น การออกแบบโรงงานใหม่เพื่อรองรับเครื่องมือ EUV ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและการใช้สารเคมีใหม่ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีการผลิตใหม่ การขยายการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นความท้าทายที่ TSMC ต้องเผชิญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและระบบราชการที่เข้มงวดในสหรัฐอเมริกา https://www.tomshardware.com/tech-industry/bureaucracy-and-distance-mean-tsmcs-u-s-fabs-may-always-be-behind-taiwan
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Bureaucracy and distance mean TSMC's U.S. fabs may always be behind Taiwan
    TSMC says it is close to impossible to ramp up a leading-edge node in the U.S.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่นอะไรกัน!?!
    ไบเดนออกกฎหมายแบน TikTok หากไม่ขายให้ชาวอเมริกัน ศาลฎีกาเห็นด้วยตามกฎหมายของไบเดน ล่าสุดไบเดนออกแถลงการณ์ต้องการให้ TikTok ยังคงมีอยู่ต่อไปในอเมริกา แต่ให้รัฐบาลถัดไปซึ่งก็คือทรัมป์ เป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังมีคำตัดสินของศาล

    หลังจากศาลฎีกามีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ให้ยืนยันกฎหมายอนุญาตให้กฎหมายแบน Tiktok มีผลบังคับใช้ ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนลงนามในกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายน หลังจากผ่านการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันในรัฐสภา

    กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ TikTok ต้องขายให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกันภายในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 นี้ มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐอเมริกาทันที

    ทางด้านฝ่ายบริหาร TikTok ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า คำตัดสินของศาลฎีกาจะส่งผลให้ต้องปิดการเข้าถึงแอป TikTok ที่ให้บริการชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคนในวันอาทิตย์นี้ เว้นแต่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้บริษัทมั่นใจว่าจะไม่ถูกแบนตามที่กฎหมายระบุไว้


    และนี่เป็นที่มาของแถลงการณ์จากทำเนียบขาวเกี่ยวกับการตัดสินใจของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำตัดสินเห็นด้วยในการแบน TikTok ซึ่งเป็นกฎหมายของไบเดนเอง:

    “TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกัน”

    "ฝ่ายบริหาร เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ กำลังรอการตัดสินใจของศาลฎีกาสหรัฐเกี่ยวกับกรณี TikTok ที่เพิ่งมีขึ้น

    จุดยืนของประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับ TikTok นั้นชัดเจนมาหลายเดือนแล้ว รวมถึงตั้งแต่ที่รัฐสภาส่งร่างกฎหมายไปยังโต๊ะของประธานาธิบดีด้วยวิธีการแบบสองพรรคการเมืองอย่างท่วมท้น:

    TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกันได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การเป็นเจ้าของของชาวอเมริกันหรือเจ้าของรายอื่นที่แก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติที่รัฐสภาระบุไว้ในการพัฒนากฎหมายนี้

    เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาอันสั้น ฝ่ายบริหารนี้จึงยอมรับว่าการดำเนินการเพื่อนำกฎหมายนี้ไปปฏิบัติจะต้องตกเป็นของฝ่ายบริหารชุดต่อไปซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์นี้"
    เล่นอะไรกัน!?! ไบเดนออกกฎหมายแบน TikTok หากไม่ขายให้ชาวอเมริกัน ศาลฎีกาเห็นด้วยตามกฎหมายของไบเดน ล่าสุดไบเดนออกแถลงการณ์ต้องการให้ TikTok ยังคงมีอยู่ต่อไปในอเมริกา แต่ให้รัฐบาลถัดไปซึ่งก็คือทรัมป์ เป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังมีคำตัดสินของศาล หลังจากศาลฎีกามีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ให้ยืนยันกฎหมายอนุญาตให้กฎหมายแบน Tiktok มีผลบังคับใช้ ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนลงนามในกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายน หลังจากผ่านการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันในรัฐสภา กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ TikTok ต้องขายให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกันภายในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 นี้ มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐอเมริกาทันที ทางด้านฝ่ายบริหาร TikTok ออกมากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า คำตัดสินของศาลฎีกาจะส่งผลให้ต้องปิดการเข้าถึงแอป TikTok ที่ให้บริการชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคนในวันอาทิตย์นี้ เว้นแต่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้บริษัทมั่นใจว่าจะไม่ถูกแบนตามที่กฎหมายระบุไว้ และนี่เป็นที่มาของแถลงการณ์จากทำเนียบขาวเกี่ยวกับการตัดสินใจของศาลฎีกาเกี่ยวกับคำตัดสินเห็นด้วยในการแบน TikTok ซึ่งเป็นกฎหมายของไบเดนเอง: “TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกัน” "ฝ่ายบริหาร เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ กำลังรอการตัดสินใจของศาลฎีกาสหรัฐเกี่ยวกับกรณี TikTok ที่เพิ่งมีขึ้น จุดยืนของประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับ TikTok นั้นชัดเจนมาหลายเดือนแล้ว รวมถึงตั้งแต่ที่รัฐสภาส่งร่างกฎหมายไปยังโต๊ะของประธานาธิบดีด้วยวิธีการแบบสองพรรคการเมืองอย่างท่วมท้น: TikTok ควรยังคงให้บริการแก่ชาวอเมริกันได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การเป็นเจ้าของของชาวอเมริกันหรือเจ้าของรายอื่นที่แก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติที่รัฐสภาระบุไว้ในการพัฒนากฎหมายนี้ เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาอันสั้น ฝ่ายบริหารนี้จึงยอมรับว่าการดำเนินการเพื่อนำกฎหมายนี้ไปปฏิบัติจะต้องตกเป็นของฝ่ายบริหารชุดต่อไปซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์นี้"
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่โรงไฟฟ้า Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    "เพลิงลุกไหม้ในส่วนที่เป็นสถานที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก"

    มีคำสั่งให้ประชาชรอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เนื่องจากสารพิษอันตรายถูกปล่อยสู่บรรยากาศ

    นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 1 บางส่วนยังถูกปิดอีกด้วย
    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่โรงไฟฟ้า Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา "เพลิงลุกไหม้ในส่วนที่เป็นสถานที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก" มีคำสั่งให้ประชาชรอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เนื่องจากสารพิษอันตรายถูกปล่อยสู่บรรยากาศ นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 1 บางส่วนยังถูกปิดอีกด้วย
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน!
    เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ Moss Landing Power Plant ที่ตั้งอยู่ในเมือง Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    สำนักงานนายอำเภอ Monterey County ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ Moss Landing ทางใต้ของ Elkhorn Slough ทางเหนือของ Molera Road และ Monterey Dunes Way ทางตะวันตกของ Castroville Boulevard และ Elkhorn Road

    นอกจากนี้ยังประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน โดยขอให้ประชาชนในเขต MRY-B047 และ MRY-B053 ปิดหน้าต่างและประตู และปิดระบบระบายอากาศเพื่อความปลอดภัย

    มีรายงานว่ากรมดับเพลิง North County กำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้า
    2/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ Moss Landing Power Plant ที่ตั้งอยู่ในเมือง Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สำนักงานนายอำเภอ Monterey County ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ Moss Landing ทางใต้ของ Elkhorn Slough ทางเหนือของ Molera Road และ Monterey Dunes Way ทางตะวันตกของ Castroville Boulevard และ Elkhorn Road นอกจากนี้ยังประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน โดยขอให้ประชาชนในเขต MRY-B047 และ MRY-B053 ปิดหน้าต่างและประตู และปิดระบบระบายอากาศเพื่อความปลอดภัย มีรายงานว่ากรมดับเพลิง North County กำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้า
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 44 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน!
    เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ Moss Landing Power Plant ที่ตั้งอยู่ในเมือง Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    สำนักงานนายอำเภอ Monterey County ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ Moss Landing ทางใต้ของ Elkhorn Slough ทางเหนือของ Molera Road และ Monterey Dunes Way ทางตะวันตกของ Castroville Boulevard และ Elkhorn Road

    นอกจากนี้ยังประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน โดยขอให้ประชาชนในเขต MRY-B047 และ MRY-B053 ปิดหน้าต่างและประตู และปิดระบบระบายอากาศเพื่อความปลอดภัย

    มีรายงานว่ากรมดับเพลิง North County กำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้า
    1/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ Moss Landing Power Plant ที่ตั้งอยู่ในเมือง Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สำนักงานนายอำเภอ Monterey County ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ Moss Landing ทางใต้ของ Elkhorn Slough ทางเหนือของ Molera Road และ Monterey Dunes Way ทางตะวันตกของ Castroville Boulevard และ Elkhorn Road นอกจากนี้ยังประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน โดยขอให้ประชาชนในเขต MRY-B047 และ MRY-B053 ปิดหน้าต่างและประตู และปิดระบบระบายอากาศเพื่อความปลอดภัย มีรายงานว่ากรมดับเพลิง North County กำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ที่โรงไฟฟ้า
    Like
    Love
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RTX 5090D ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยมีการจำกัดการใช้งานด้าน AI และการขุดคริปโต การ์ดจอรุ่นนี้จะล็อกตัวเองหลังจากใช้งานไปเพียง 3 วินาที เพื่อป้องกันการใช้งานในงานเฉพาะทาง เช่น การขุดคริปโตและการประมวลผล AI

    RTX 5090D เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก RTX 4090D ซึ่งเป็นการ์ดจอที่มีการลดสเปคเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา โดย RTX 5090D ยังคงมีสเปคเต็มของ RTX 5090 แต่มีการลดประสิทธิภาพด้าน AI ลงถึง 29% โดยไม่ทราบวิธีการที่แน่ชัด

    การ์ดจอรุ่นนี้ยังมีข้อจำกัดในการปรับแต่งพลังงานและการใช้งานร่วมกับการ์ดจออื่น ๆ โดยไม่สามารถโอเวอร์คล็อกหรือใช้งานในระบบหลายการ์ดจอได้ ข้อจำกัดเหล่านี้ถูกล็อกไว้ในระดับล่างของระบบปฏิบัติการ Linux

    การเปิดตัว RTX 5090D เป็นการตอบสนองต่อกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำกัดการส่งออกการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังจีน การ์ดจอรุ่นนี้จะช่วยให้ Nvidia สามารถทำตลาดในจีนได้ต่อไป แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/china-tailored-rtx-5090d-has-ai-and-cryptomining-limiters-multi-gpu-config-is-also-locked
    Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RTX 5090D ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยมีการจำกัดการใช้งานด้าน AI และการขุดคริปโต การ์ดจอรุ่นนี้จะล็อกตัวเองหลังจากใช้งานไปเพียง 3 วินาที เพื่อป้องกันการใช้งานในงานเฉพาะทาง เช่น การขุดคริปโตและการประมวลผล AI RTX 5090D เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก RTX 4090D ซึ่งเป็นการ์ดจอที่มีการลดสเปคเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา โดย RTX 5090D ยังคงมีสเปคเต็มของ RTX 5090 แต่มีการลดประสิทธิภาพด้าน AI ลงถึง 29% โดยไม่ทราบวิธีการที่แน่ชัด การ์ดจอรุ่นนี้ยังมีข้อจำกัดในการปรับแต่งพลังงานและการใช้งานร่วมกับการ์ดจออื่น ๆ โดยไม่สามารถโอเวอร์คล็อกหรือใช้งานในระบบหลายการ์ดจอได้ ข้อจำกัดเหล่านี้ถูกล็อกไว้ในระดับล่างของระบบปฏิบัติการ Linux การเปิดตัว RTX 5090D เป็นการตอบสนองต่อกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำกัดการส่งออกการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังจีน การ์ดจอรุ่นนี้จะช่วยให้ Nvidia สามารถทำตลาดในจีนได้ต่อไป แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/china-tailored-rtx-5090d-has-ai-and-cryptomining-limiters-multi-gpu-config-is-also-locked
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังพัฒนาโครงการสถานีพลังงานใหม่ที่สามารถเก็บและแปลงพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศโดยตรง โดยสถานีนี้จะมีขนาดกว้าง 1 กิโลเมตร และสามารถส่งพลังงานแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในรูปแบบของรังสีไมโครเวฟ พลังงานที่เก็บได้ในหนึ่งปีจะเทียบเท่ากับปริมาณน้ำมันทั้งหมดที่ยังสามารถสกัดได้จากโลก

    หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่อยู่เบื้องหลังแผนพลังงานใหม่นี้คือ Long Lehao ผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดและสมาชิกของ Chinese Academy of Engineering Lehao กำลังทำงานกับ Long March 9 (CZ-9) จรวดขนส่งหนักพิเศษของจีนที่เพิ่งได้รับการอัปเดตให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และสามารถยกน้ำหนักได้อย่างน้อย 136 เมตริกตันจากพื้นผิวโลก

    พลังงานที่เก็บได้ในอวกาศจะมีความหนาแน่นมากกว่าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มาถึงพื้นผิวโลกถึง 10 เท่า เนื่องจากเมฆและบรรยากาศสามารถส่งผลกระทบต่อกระบวนการเก็บพลังงานได้อย่างมาก

    จีนไม่ใช่ประเทศเดียวที่สนใจในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ (SBSP) บริษัทในสหรัฐอเมริกา เช่น Lockheed Martin และ Northrop Grumman องค์การอวกาศยุโรป และองค์การอวกาศญี่ปุ่น กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์แนวคิด

    ทีมของ Lehao หวังที่จะแก้ไขปัญหาบางประการที่เกี่ยวข้องกับ SBSP โดยใช้เทคโนโลยีจรวดนำกลับมาใช้ใหม่ของตนเองกับโครงการ CZ-9 จีนมีความทะเยอทะยานอย่างมากสำหรับโครงการสำรวจอวกาศของตน โดยมีแผนที่จะใช้จรวด Long March เพื่อสร้างสถานีวิจัยนานาชาติบนพื้นผิวดวงจันทร์ภายในปี 2035

    https://www.techspot.com/news/106382-china-plans-build-massive-space-based-solar-power.html
    จีนกำลังพัฒนาโครงการสถานีพลังงานใหม่ที่สามารถเก็บและแปลงพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศโดยตรง โดยสถานีนี้จะมีขนาดกว้าง 1 กิโลเมตร และสามารถส่งพลังงานแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในรูปแบบของรังสีไมโครเวฟ พลังงานที่เก็บได้ในหนึ่งปีจะเทียบเท่ากับปริมาณน้ำมันทั้งหมดที่ยังสามารถสกัดได้จากโลก หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่อยู่เบื้องหลังแผนพลังงานใหม่นี้คือ Long Lehao ผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดและสมาชิกของ Chinese Academy of Engineering Lehao กำลังทำงานกับ Long March 9 (CZ-9) จรวดขนส่งหนักพิเศษของจีนที่เพิ่งได้รับการอัปเดตให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และสามารถยกน้ำหนักได้อย่างน้อย 136 เมตริกตันจากพื้นผิวโลก พลังงานที่เก็บได้ในอวกาศจะมีความหนาแน่นมากกว่าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มาถึงพื้นผิวโลกถึง 10 เท่า เนื่องจากเมฆและบรรยากาศสามารถส่งผลกระทบต่อกระบวนการเก็บพลังงานได้อย่างมาก จีนไม่ใช่ประเทศเดียวที่สนใจในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ (SBSP) บริษัทในสหรัฐอเมริกา เช่น Lockheed Martin และ Northrop Grumman องค์การอวกาศยุโรป และองค์การอวกาศญี่ปุ่น กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์แนวคิด ทีมของ Lehao หวังที่จะแก้ไขปัญหาบางประการที่เกี่ยวข้องกับ SBSP โดยใช้เทคโนโลยีจรวดนำกลับมาใช้ใหม่ของตนเองกับโครงการ CZ-9 จีนมีความทะเยอทะยานอย่างมากสำหรับโครงการสำรวจอวกาศของตน โดยมีแผนที่จะใช้จรวด Long March เพื่อสร้างสถานีวิจัยนานาชาติบนพื้นผิวดวงจันทร์ภายในปี 2035 https://www.techspot.com/news/106382-china-plans-build-massive-space-based-solar-power.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China's reusable rockets pave the way for space-based solar power
    Chinese researchers are working on a new power station project that could gather and convert solar energy directly from space. The station would be 1 kilometer wide...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/1/68

    https://thaipublica.org
    Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons
    กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา

    จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล

    มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค

    3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร

    และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488
    ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา

    ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า
    อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส

    10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง

    การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา
    จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น"
    โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ

    ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู"

    วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา

    เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน
    ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้"

    ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน"

    สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์
    เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน

    ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ

    * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

    * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน

    * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง

    * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย

    * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country"

    จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน
    แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย

    สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย

    ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน
    ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ

    ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง
    ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี

    ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว

    เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น
    นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา

    กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    17/1/68 https://thaipublica.org Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค 3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488 ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส 10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น" โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู" วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้" ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน" สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์ เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country" จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพอย่างเป็นทางการของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา
    ภาพอย่างเป็นทางการของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • 33 ปี สิ้น “หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง” พระเถราจารย์แห่งอุบลราชธานี ผู้สร้างวัดสาขาต่างประเทศมากมาย

    ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และทั่วโลกต้องเศร้าโศก เมื่อหลวงปู่ชา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพรัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ละสังขารอย่างสงบ หลังจากอาพาธ มายาวนาน

    หลวงปู่ชาไม่เพียงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปสู่ชาวต่างชาติ ผ่านการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัดสาขามากมาย ทั้งในและนอกประเทศไทย แม้ว่าท่านจะพูดได้เพียงภาษาไทย แต่ด้วยคำสอน และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย กลับสร้างแรงศรัทธา ให้แก่คนทั่วโลก

    วัยเยาว์หลวงปู่
    หลวงปู่ชา สุภัทโท เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตามปฏิทินจันทรคติ ที่บ้านก่อ (เดิมชื่อบ้านก้นถ้วย) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดามารดาของท่านคือนายมา และนางพิมพ์ ช่วงโชติ หลวงปู่ชาเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน

    เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์
    เมื่อหลวงปู่ชามีอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาที่วัดบ้านก่อนอก ร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน แต่ไม่นานท่านก็ลาสิกขาออกมา เพื่อช่วยครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ได้ผลักดันให้ท่าน หันกลับมาสู่เส้นทางธรรมอีกครั้ง

    เมื่ออายุครบ 21 ปี หลังทราบว่า ไม่ติดทหารเกณฑ์ หลวงปู่ชาจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ โดยมี พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "สุภัทโท" ซึ่งแปลว่า "ผู้เจริญด้วยดี"

    ธุดงค์พบทางธรรม
    หลวงปู่ชาได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ โดยเดินทางไกล ผ่านหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการไปศึกษาธรรมกับ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น

    หลวงปู่ชาเล่าถึงความประทับใจ เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นว่า การได้ฟังธรรมะจากท่าน ทำให้จิตใจของหลวงปู่ชา สงบลึกในทันที และทำให้เกิดความมั่นใจ ในแนวทางการปฏิบัติธรรม

    ตั้งวัดหนองป่าพง
    หลังจากธุดงค์ ยาวนานกว่า 8 ปี ในที่สุดหลวงปู่ชา ได้กลับมาที่บ้านเกิด และก่อตั้งวัดหนองป่าพง ขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยพื้นที่ดั้งเดิมของวัด เป็นป่าอันเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ชาใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย และเน้นการปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบอย่างให้ศิษย์เห็น

    วัดหนองป่าพง เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาศึกษาธรรม กับหลวงปู่ชา

    เผยแผ่พุทธศาสนาไปต่างประเทศ
    หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับหลวงปู่ชา คือความสามารถ ในการถ่ายทอดธรรมะ ให้แก่ชาวต่างชาติ แม้ว่าท่าน จะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ตาม ท่านสอนด้วยการกระทำเป็นหลัก โดยมักกล่าวว่า

    “น้ำร้อนก็มี น้ำฮ้อนก็มี ฮอตวอเตอร์ก็มี มันเป็นแต่ชื่อหรอก ถ้าเอามือจุ่มลงไป ก็ไม่ต้องใช้ภาษาหรอก คนชาติไหนก็รู้ได้เอง”

    วัดหนองป่าพง และวัดสาขาของหลวงปู่ชา กลายเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติ ที่สนใจปฏิบัติธรรม ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีวัดสาขาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศรวมกว่า 141 แห่ง โดยแบ่งเป็น 133 สาขา ในประเทศไทย และ 8 สาขา ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์

    คำสอนเรียบง่ายลึกซึ้ง
    คำสอนของหลวงปู่ชา เน้นไปที่การปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวัน ท่านสอนให้ศิษย์รักษาศีล เจริญสมาธิ และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาในชีวิต โดยหลวงปู่ชาเคยกล่าวไว้ว่า

    “พึงทำตน ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม อันสมควรเสียก่อน จึงค่อยสอนผู้อื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตทราม”

    ท่านยังเน้นย้ำว่า การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการรักษาศีล เพราะศีลจะนำไปสู่สมาธิ และสมาธิจะนำไปสู่ปัญญา ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ ต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

    บั้นปลายชีวิต
    ในปี พ.ศ. 2520 หลวงปู่ชาเริ่มอาพาธ และแม้ว่าท่าน จะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และเผยแผ่ธรรมะจนถึงที่สุด

    หลวงปู่ชาได้ละสังขารเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ณ วัดหนองป่าพง โดยทิ้งมรดกทางธรรม และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วโลก

    33 ปี หลังการละสังขารของหลวงปู่ชา คำสอนและวัตรปฏิบัติของท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจ ของศิษยานุศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก วัดหนองป่าพง ยังคงเป็นศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนา และแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ที่ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ขยายไปสู่ชาวต่างชาติ

    หลวงปู่ชาเป็นตัวอย่าง ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธเจ้า อย่างแท้จริง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161017 ม.ค. 2568

    #หลวงปู่ชา #วัดหนองป่าพง #ธรรมะ #พระป่ากรรมฐาน #ปฏิบัติธรรม #ศาสนาพุทธ #คำสอนหลวงปู่ชา #พระพุทธศาสนา #ธรรมะอินเตอร์ #วัดสาขาต่างประเทศ
    33 ปี สิ้น “หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง” พระเถราจารย์แห่งอุบลราชธานี ผู้สร้างวัดสาขาต่างประเทศมากมาย ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และทั่วโลกต้องเศร้าโศก เมื่อหลวงปู่ชา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพรัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ละสังขารอย่างสงบ หลังจากอาพาธ มายาวนาน หลวงปู่ชาไม่เพียงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปสู่ชาวต่างชาติ ผ่านการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัดสาขามากมาย ทั้งในและนอกประเทศไทย แม้ว่าท่านจะพูดได้เพียงภาษาไทย แต่ด้วยคำสอน และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย กลับสร้างแรงศรัทธา ให้แก่คนทั่วโลก วัยเยาว์หลวงปู่ หลวงปู่ชา สุภัทโท เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตามปฏิทินจันทรคติ ที่บ้านก่อ (เดิมชื่อบ้านก้นถ้วย) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดามารดาของท่านคือนายมา และนางพิมพ์ ช่วงโชติ หลวงปู่ชาเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อหลวงปู่ชามีอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาที่วัดบ้านก่อนอก ร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน แต่ไม่นานท่านก็ลาสิกขาออกมา เพื่อช่วยครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ได้ผลักดันให้ท่าน หันกลับมาสู่เส้นทางธรรมอีกครั้ง เมื่ออายุครบ 21 ปี หลังทราบว่า ไม่ติดทหารเกณฑ์ หลวงปู่ชาจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ โดยมี พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "สุภัทโท" ซึ่งแปลว่า "ผู้เจริญด้วยดี" ธุดงค์พบทางธรรม หลวงปู่ชาได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ โดยเดินทางไกล ผ่านหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการไปศึกษาธรรมกับ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น หลวงปู่ชาเล่าถึงความประทับใจ เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นว่า การได้ฟังธรรมะจากท่าน ทำให้จิตใจของหลวงปู่ชา สงบลึกในทันที และทำให้เกิดความมั่นใจ ในแนวทางการปฏิบัติธรรม ตั้งวัดหนองป่าพง หลังจากธุดงค์ ยาวนานกว่า 8 ปี ในที่สุดหลวงปู่ชา ได้กลับมาที่บ้านเกิด และก่อตั้งวัดหนองป่าพง ขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยพื้นที่ดั้งเดิมของวัด เป็นป่าอันเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ชาใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย และเน้นการปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบอย่างให้ศิษย์เห็น วัดหนองป่าพง เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาศึกษาธรรม กับหลวงปู่ชา เผยแผ่พุทธศาสนาไปต่างประเทศ หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับหลวงปู่ชา คือความสามารถ ในการถ่ายทอดธรรมะ ให้แก่ชาวต่างชาติ แม้ว่าท่าน จะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ตาม ท่านสอนด้วยการกระทำเป็นหลัก โดยมักกล่าวว่า “น้ำร้อนก็มี น้ำฮ้อนก็มี ฮอตวอเตอร์ก็มี มันเป็นแต่ชื่อหรอก ถ้าเอามือจุ่มลงไป ก็ไม่ต้องใช้ภาษาหรอก คนชาติไหนก็รู้ได้เอง” วัดหนองป่าพง และวัดสาขาของหลวงปู่ชา กลายเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติ ที่สนใจปฏิบัติธรรม ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีวัดสาขาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศรวมกว่า 141 แห่ง โดยแบ่งเป็น 133 สาขา ในประเทศไทย และ 8 สาขา ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์ คำสอนเรียบง่ายลึกซึ้ง คำสอนของหลวงปู่ชา เน้นไปที่การปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวัน ท่านสอนให้ศิษย์รักษาศีล เจริญสมาธิ และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาในชีวิต โดยหลวงปู่ชาเคยกล่าวไว้ว่า “พึงทำตน ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม อันสมควรเสียก่อน จึงค่อยสอนผู้อื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตทราม” ท่านยังเน้นย้ำว่า การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการรักษาศีล เพราะศีลจะนำไปสู่สมาธิ และสมาธิจะนำไปสู่ปัญญา ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ ต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน บั้นปลายชีวิต ในปี พ.ศ. 2520 หลวงปู่ชาเริ่มอาพาธ และแม้ว่าท่าน จะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และเผยแผ่ธรรมะจนถึงที่สุด หลวงปู่ชาได้ละสังขารเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ณ วัดหนองป่าพง โดยทิ้งมรดกทางธรรม และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วโลก 33 ปี หลังการละสังขารของหลวงปู่ชา คำสอนและวัตรปฏิบัติของท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจ ของศิษยานุศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก วัดหนองป่าพง ยังคงเป็นศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนา และแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ที่ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ขยายไปสู่ชาวต่างชาติ หลวงปู่ชาเป็นตัวอย่าง ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธเจ้า อย่างแท้จริง ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161017 ม.ค. 2568 #หลวงปู่ชา #วัดหนองป่าพง #ธรรมะ #พระป่ากรรมฐาน #ปฏิบัติธรรม #ศาสนาพุทธ #คำสอนหลวงปู่ชา #พระพุทธศาสนา #ธรรมะอินเตอร์ #วัดสาขาต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลต.สหรัฐฟ้องอีลอน มัสก์ ข้อหาไม่ยื่นรายงานการทะยอยซื้อหุ้น Twitter เมื่อปี2022

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา

    หมายเลขการฟ้องร้อง 26219 / 14 มกราคม 2025

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กับ อีลอน มัสก์ หมายเลข 1:25-cv-00105 (D.D.C. ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2025)

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กล่าวหาว่า อีลอน มัสก์ ละเมิดข้อกำหนดการรายงานการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศในวันนี้ว่าได้ยื่นฟ้องอีลอน มัสก์ โดยกล่าวหาว่าเขาไม่ยื่นรายงานการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในเวลาที่เหมาะสม หลังจากซื้อหุ้นสามัญของ Twitter, Inc. ที่ยังไม่ได้จำหน่ายมากกว่า 5% ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดการรายงานการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ภายใต้พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 (“พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์”) ตามคำร้องเรียนของ SEC มัสก์ประหยัดเงินได้อย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายของผู้ถือหุ้น Twitter โดยไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์ภายในเวลาที่กำหนด

    รัฐสภาได้ตราข้อกำหนดการยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์เพื่อช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูลโดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสะสมของหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ โดยบุคคลที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงหรือมีอิทธิพลต่อการควบคุมบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์

    ตามคำร้องเรียนของ SEC หลังจากที่มัสก์ไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์ภายในเวลาที่กำหนดภายในวันที่ 24 มีนาคม 2022 เขาก็ซื้อหุ้นสามัญของ Twitter มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2022 ถึง 1 เมษายน 2022 ตามที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากมัสก์ไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์กับ SEC ภายในเวลาที่กำหนด เขาจึงสามารถซื้อหุ้นสามัญของ Twitter ในราคาที่ต่ำอย่างเทียมจากสาธารณชนผู้ไม่สงสัย ซึ่งยังไม่ได้กำหนดราคาในข้อมูลสำคัญที่ไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการถือครองผลประโยชน์ของมัสก์ในหุ้นสามัญของ Twitter มากกว่า 5% และวัตถุประสงค์ในการลงทุน ตามคำร้องเรียนของ SEC มัสก์จ่ายเงินต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์สำหรับการซื้อหุ้นสามัญของ Twitter ในช่วงเวลาดังกล่าว คำร้องเรียนยังกล่าวหาอีกว่า เนื่องจากมัสก์ไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์ต่อ SEC ทันเวลา นักลงทุนที่ขายหุ้นสามัญของ Twitter ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2022 ถึง 1 เมษายน 2022 จึงขายในราคาที่ต่ำเกินจริง ซึ่งส่งผลให้ได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก

    คำร้องเรียนของ SEC ที่ยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐฯ สำหรับเขตโคลัมเบีย กล่าวหาว่ามัสก์ละเมิดมาตรา 13(d) ของพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนและกฎ 13d-1 ภายใต้กฎหมายดังกล่าว มาตรา 13(d) กำหนดมาตรฐานความรับผิดที่เข้มงวด คำร้องเรียนเรียกร้องให้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวอย่างถาวร คืนเงินกำไรที่ได้มาโดยมิชอบพร้อมดอกเบี้ยก่อนคำพิพากษา และค่าปรับทางแพ่ง

    ที่มา  https://www.sec.gov/enforcement-litigation/litigation-releases/lr-26219?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0BdHY3fUuwuxWy4wDeTVveg43XWI9NAWyl9neHlk8GRn8mZMyb4K7yjiQ_aem_lxVkpiutF39vGWNceIE41A
    กลต.สหรัฐฟ้องอีลอน มัสก์ ข้อหาไม่ยื่นรายงานการทะยอยซื้อหุ้น Twitter เมื่อปี2022 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หมายเลขการฟ้องร้อง 26219 / 14 มกราคม 2025 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กับ อีลอน มัสก์ หมายเลข 1:25-cv-00105 (D.D.C. ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2025) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กล่าวหาว่า อีลอน มัสก์ ละเมิดข้อกำหนดการรายงานการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศในวันนี้ว่าได้ยื่นฟ้องอีลอน มัสก์ โดยกล่าวหาว่าเขาไม่ยื่นรายงานการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในเวลาที่เหมาะสม หลังจากซื้อหุ้นสามัญของ Twitter, Inc. ที่ยังไม่ได้จำหน่ายมากกว่า 5% ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดการรายงานการเป็นเจ้าของผลประโยชน์ภายใต้พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 (“พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์”) ตามคำร้องเรียนของ SEC มัสก์ประหยัดเงินได้อย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายของผู้ถือหุ้น Twitter โดยไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์ภายในเวลาที่กำหนด รัฐสภาได้ตราข้อกำหนดการยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์เพื่อช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนอย่างมีข้อมูลโดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสะสมของหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ โดยบุคคลที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงหรือมีอิทธิพลต่อการควบคุมบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ตามคำร้องเรียนของ SEC หลังจากที่มัสก์ไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์ภายในเวลาที่กำหนดภายในวันที่ 24 มีนาคม 2022 เขาก็ซื้อหุ้นสามัญของ Twitter มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2022 ถึง 1 เมษายน 2022 ตามที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากมัสก์ไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์กับ SEC ภายในเวลาที่กำหนด เขาจึงสามารถซื้อหุ้นสามัญของ Twitter ในราคาที่ต่ำอย่างเทียมจากสาธารณชนผู้ไม่สงสัย ซึ่งยังไม่ได้กำหนดราคาในข้อมูลสำคัญที่ไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการถือครองผลประโยชน์ของมัสก์ในหุ้นสามัญของ Twitter มากกว่า 5% และวัตถุประสงค์ในการลงทุน ตามคำร้องเรียนของ SEC มัสก์จ่ายเงินต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์สำหรับการซื้อหุ้นสามัญของ Twitter ในช่วงเวลาดังกล่าว คำร้องเรียนยังกล่าวหาอีกว่า เนื่องจากมัสก์ไม่ยื่นรายงานการถือครองผลประโยชน์ต่อ SEC ทันเวลา นักลงทุนที่ขายหุ้นสามัญของ Twitter ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2022 ถึง 1 เมษายน 2022 จึงขายในราคาที่ต่ำเกินจริง ซึ่งส่งผลให้ได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก คำร้องเรียนของ SEC ที่ยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐฯ สำหรับเขตโคลัมเบีย กล่าวหาว่ามัสก์ละเมิดมาตรา 13(d) ของพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนและกฎ 13d-1 ภายใต้กฎหมายดังกล่าว มาตรา 13(d) กำหนดมาตรฐานความรับผิดที่เข้มงวด คำร้องเรียนเรียกร้องให้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวอย่างถาวร คืนเงินกำไรที่ได้มาโดยมิชอบพร้อมดอกเบี้ยก่อนคำพิพากษา และค่าปรับทางแพ่ง ที่มา  https://www.sec.gov/enforcement-litigation/litigation-releases/lr-26219?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0BdHY3fUuwuxWy4wDeTVveg43XWI9NAWyl9neHlk8GRn8mZMyb4K7yjiQ_aem_lxVkpiutF39vGWNceIE41A
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    2/ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • 1/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    1/ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • รัฐบาลไต้หวันได้อนุมัติให้บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญจากเดิมที่ห้ามการผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน เพื่อรักษา "เกราะซิลิคอน" ของประเทศ

    ก่อนหน้านี้ TSMC ถูกจำกัดไม่ให้ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนอกไต้หวัน เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ แต่ในปัจจุบันรัฐบาลไต้หวันได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้บริษัทสามารถตัดสินใจตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและโอกาสทางการตลาด

    การอนุมัติครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยการควบคุมการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI ที่สำคัญและเสริมสร้างความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และพันธมิตรในระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwanese-govt-clears-tsmc-to-make-2nm-chips-abroad-country-lowers-its-silicon-shield
    รัฐบาลไต้หวันได้อนุมัติให้บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญจากเดิมที่ห้ามการผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน เพื่อรักษา "เกราะซิลิคอน" ของประเทศ ก่อนหน้านี้ TSMC ถูกจำกัดไม่ให้ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนอกไต้หวัน เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ แต่ในปัจจุบันรัฐบาลไต้หวันได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้บริษัทสามารถตัดสินใจตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและโอกาสทางการตลาด การอนุมัติครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยการควบคุมการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI ที่สำคัญและเสริมสร้างความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และพันธมิตรในระดับโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwanese-govt-clears-tsmc-to-make-2nm-chips-abroad-country-lowers-its-silicon-shield
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง
    .
    หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021
    .
    “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ
    .
    ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?”
    .
    และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก
    .
    อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้
    .
    ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย”
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา”
    .
    ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง
    .
    ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก
    .
    ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้
    .
    มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
    .
    ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด
    .
    รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง
    .
    แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง
    .
    เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง
    .
    และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้
    .
    ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน
    .
    ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni)
    .
    ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
    .
    เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน”
    .
    เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.
    .
    สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน
    .
    เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์
    สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916
    ..............
    Sondhi X
    เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง . หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021 . “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ . ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?” . และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก . อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้ . ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย” . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา” . ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง . ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก . ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้ . มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ . ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด . รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง . แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง . เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง . และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ . ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน . ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) . ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ . เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน” . เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. . สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน . เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่น 6 : โชเฮ โอทานิ (Shohei Ohtani)

    วันนี้วันดีปีใหม่ ผมอยากเล่าถึง “โชเฮ โอทานิ” นักเบสบอลมหัศจรรย์ของชาวญี่ปุ่น เอาไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จครับ

    โชเฮ โอทานิ หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า “โชไทม์ (Sho-time)” นี้เป็นเด็กหนุ่มอายุ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักเบสบอลอาชีพ ที่ตอนนี้ไปเล่นให้กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ในสหรัฐฯและพาทีมคว้าแชมป์ 2024 ไปเรียบร้อย

    ความมหัศจรรย์ของโอทานิก็คือ เขาเป็นนักเบสบอลที่เล่นเป็นมือขว้าง (พิทเชอร์) หรือมือตี (พัทเตอร์) ก็ได้ เรียกว่าเป็น Two-way player

    โอทานินั้นไม่ใช่แค่ว่า ”ขว้างลูกได้“ ครับแต่เป็นพิทเชอร์ที่ขว้างลูกได้ดีเลิศ คือ ขว้างได้สปีดถึง 160 กม./ชม. ลูกโค้งซ้าย-ขวา-บน-ล่าง นั้นทำได้หมด

    และในฐานะพัทเตอร์นั้น เขาตีลูกได้แรงและแม่นยำ ตีโฮมรันเป็นว่าเล่น พละกำลังมหาศาลด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ถึง 195 ซม.

    โอทานินั้นถนัดทั้งมือซ้ายและขวา กล่าวคือ ขว้างด้วยมือขวา ตีด้วยมือซ้าย

    เมื่อเขามาเล่นเบสบอลในเมเจอร์ลีกที่อเมริกา ในปี 2021 เขาได้รับรางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าสูงสุด (MVP) 2 รางวัล คือ ตำแหน่งพิทเชอร์กับตำแหน่งพัทเตอร์ในซีซั่นเดียว

    นักเบสบอลแบบนี้ 100 ปีจะมีสักหนึ่งคน

    สื่ออเมริกันถึงกับบอกว่า โอทานินั้นเหนือกว่าเบ๊บ รูท (Babe Ruth) นักเบสบอลอเมริกันในตำนานที่เป็น Two-way player เช่นกันเสียอีก

    นอกจากความเป็นยอดนักกีฬาแล้วคุณสมบัติที่ทำให้โอทานิโด่งดังในวงการนั้นมี 3 ประการครับ คือ

    หนึ่ง…..ความถ่อมตน (Humility)
    สอง…..ความขยันหมั่นเพียร
    สาม…..ความมุ่งมั่น
    .
    .
    .
    โอทานินั้นเป็นเด็กหนุ่มที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”ยาคิว โชเนน - yakyu shonen“ แปลว่า ”เด็กที่หายใจเข้าออกเป็นเบสบอลทุกวินาที“ ครับ

    ความลุ่มหลงในเบสบอลของโอทานินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเปี๊ยกเดียวครับ เพราะพ่อของโอทานิเป็นนักเบสบอลกึ่งอาชีพ ส่วนแม่นั้นเป็นนักแบดมินตันระดับมัธยม

    พ่อของโอทานินั้นสอนเทคนิคการขว้างลูกโดยใช้แรงจากสะโพกและการบิดตัว ทำให้โอทานิน้อยวัย 10 ขวบสามารถขว้างลูกได้เร็วเป็น 100 กม./ชม.เลยเชียว

    เมื่อโอทานิโตขึ้นมาถึงระดับมัธยม เขาก็เข้าไปเล่นเบสบอลในทีมโรงเรียนซึ่งมีโค้ชชื่อ “ซาซากิ”

    โค้ชซาซากินี้เองที่เป็นผู้บ่มเพาะนิสัยความถ่อมตนให้กับโอทานิ

    เมื่อโค้ชซาซากิเห็นฝีมือของโอทานิปร๊าดเดียว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือดาวรุ่งคนใหม่ของวงการ

    ดังนั้นหน้าที่ที่โค้ชซาซากิมอบหมายให้เด็กใหม่ที่ชื่อโอทานิทำก็คือ “ล้างห้องน้ำ” ครับ

    เหตุผลของโค้ชก็คือ “ตำแหน่งยืนของ
    พิทเชอร์คือจุดที่สูงสุดในสนามเบสบอล เปรียบได้กับเวที เมื่อคุณไปยืนอยู่บนเวที คุณจะได้รับความสนใจ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมากที่สุด“

    “The mound is the most elevated place on the field, It’s a stage. If you’re on that stage, you receive the most attention. You get interviewed and written about the most.”

    นี่คือวิธีการสอนความถ่อมตนในสไตล์ของโค้ชซาซากิครับ

    โค้ชยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า

    ”ความสะอาดของห้องน้ำนั้นบอกอะไรเราได้เยอะนะคุณ เวลาคุณไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปสถานที่ต่างๆแล้วคุณไปเจอห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมน่ะ มันบอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหมว่า คนที่ทำงานที่นี่น่ะเป็นคนอย่างไร เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพียงใด“
    .
    .
    .
    การฝึกซ้อมของทีมเบสบอลโรงเรียนนี้หนักหนาสาหัสมาก นักเบสบอลวัยรุ่นเหล่านี้จะต้องกินนอนอยู่กับทีมตลอดปี ได้กลับบ้านแค่ปีละ 6 วันเท่านั้น

    ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะถูกจริตของโอทานิซึ่งมีความสุขกับการซ้อม การแข่ง การล้างห้องน้ำและ ”การกิน“

    โค้ชซาซากิเล่าว่าโอทานิในเวลานั้นตัวเล็กมาก โค้ชจึงให้โอทานิกินอาหารให้เยอะที่สุด เพื่อนร่วมทีมคนไหนกินอาหารเหลือก็ส่งมาให้โอทานิกินต่อ

    กินจนกินไม่ไหวถึงจะเลิกกิน

    กินเสร็จก็ไปออกกำลังกาย ยกเวท จนโอทานิสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น ร่างกายสมบูรณ์เป็นนักกีฬาระดับโลก
    .
    .
    .
    จนเมื่อโอทานิแข่งเบสบอลในระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ หรือ “โคชิเอ็น”

    โอทานิก็มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากจะเล่นเบสบอลอาชีพซี่งเขาก็เริ่มจากลีกญี่ปุ่น จนไปสู่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา

    กวาดรางวัลและทำลายสถิติมาทุกแห่ง

    แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในตัวโอทานิเลยก็คือ ความสงบเสงี่ยม พูดน้อยและถ่อมตน

    ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็พูดนิดเดียว บางทีเมื่อไม่มีอะไรจะพูด โอทานิก็พูดสั้นๆเบาๆแค่ว่า ”ขอโทษนะครับ“

    ตอนที่โอทานิเริ่มได้เงินเดือนจากการแข่งอาชีพจากทีมไฟท์เตอร์ในลีกญี่ปุ่น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น โอทานิให้แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด

    และบอกแม่ว่าให้โอนเงินใส่บัญชีให้เขาใช้เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือ 34,000 บาทก็พอ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยจะได้แตะเงินเท่าไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่กับการซ้อม การแข่งเบสบอล

    สื่อมวลชนกีฬาของญี่ปุ่นซึ่งชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักกีฬามาแฉนั้น ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับโอทานิ เพราะไม่มีอะไรจะให้แฉเลยสักนิด

    เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว โอทานิไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใคร

    วันๆเอาแต่ออกกำลังกายกับเล่นเบสบอล
    .
    .
    .
    ล่าสุดโอทานิก็สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อเซ็นสัญญา 10 ปีด้วยค่าตัว 700 ล้านดอลล่าร์กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์

    เป็นสัญญาที่แพงที่สุดประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก

    ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโอทานิถึงได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น

    ….พูดน้อย ถ่อมตน ซ้อมหนัก ผลงานเป็นเลิศ….

    คุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่พูดเยอะแต่ไร้ผลงาน


    นัทแนะ
    ญี่ปุ่น 6 : โชเฮ โอทานิ (Shohei Ohtani) วันนี้วันดีปีใหม่ ผมอยากเล่าถึง “โชเฮ โอทานิ” นักเบสบอลมหัศจรรย์ของชาวญี่ปุ่น เอาไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จครับ โชเฮ โอทานิ หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า “โชไทม์ (Sho-time)” นี้เป็นเด็กหนุ่มอายุ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักเบสบอลอาชีพ ที่ตอนนี้ไปเล่นให้กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ในสหรัฐฯและพาทีมคว้าแชมป์ 2024 ไปเรียบร้อย ความมหัศจรรย์ของโอทานิก็คือ เขาเป็นนักเบสบอลที่เล่นเป็นมือขว้าง (พิทเชอร์) หรือมือตี (พัทเตอร์) ก็ได้ เรียกว่าเป็น Two-way player โอทานินั้นไม่ใช่แค่ว่า ”ขว้างลูกได้“ ครับแต่เป็นพิทเชอร์ที่ขว้างลูกได้ดีเลิศ คือ ขว้างได้สปีดถึง 160 กม./ชม. ลูกโค้งซ้าย-ขวา-บน-ล่าง นั้นทำได้หมด และในฐานะพัทเตอร์นั้น เขาตีลูกได้แรงและแม่นยำ ตีโฮมรันเป็นว่าเล่น พละกำลังมหาศาลด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ถึง 195 ซม. โอทานินั้นถนัดทั้งมือซ้ายและขวา กล่าวคือ ขว้างด้วยมือขวา ตีด้วยมือซ้าย เมื่อเขามาเล่นเบสบอลในเมเจอร์ลีกที่อเมริกา ในปี 2021 เขาได้รับรางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าสูงสุด (MVP) 2 รางวัล คือ ตำแหน่งพิทเชอร์กับตำแหน่งพัทเตอร์ในซีซั่นเดียว นักเบสบอลแบบนี้ 100 ปีจะมีสักหนึ่งคน สื่ออเมริกันถึงกับบอกว่า โอทานินั้นเหนือกว่าเบ๊บ รูท (Babe Ruth) นักเบสบอลอเมริกันในตำนานที่เป็น Two-way player เช่นกันเสียอีก นอกจากความเป็นยอดนักกีฬาแล้วคุณสมบัติที่ทำให้โอทานิโด่งดังในวงการนั้นมี 3 ประการครับ คือ หนึ่ง…..ความถ่อมตน (Humility) สอง…..ความขยันหมั่นเพียร สาม…..ความมุ่งมั่น . . . โอทานินั้นเป็นเด็กหนุ่มที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”ยาคิว โชเนน - yakyu shonen“ แปลว่า ”เด็กที่หายใจเข้าออกเป็นเบสบอลทุกวินาที“ ครับ ความลุ่มหลงในเบสบอลของโอทานินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเปี๊ยกเดียวครับ เพราะพ่อของโอทานิเป็นนักเบสบอลกึ่งอาชีพ ส่วนแม่นั้นเป็นนักแบดมินตันระดับมัธยม พ่อของโอทานินั้นสอนเทคนิคการขว้างลูกโดยใช้แรงจากสะโพกและการบิดตัว ทำให้โอทานิน้อยวัย 10 ขวบสามารถขว้างลูกได้เร็วเป็น 100 กม./ชม.เลยเชียว เมื่อโอทานิโตขึ้นมาถึงระดับมัธยม เขาก็เข้าไปเล่นเบสบอลในทีมโรงเรียนซึ่งมีโค้ชชื่อ “ซาซากิ” โค้ชซาซากินี้เองที่เป็นผู้บ่มเพาะนิสัยความถ่อมตนให้กับโอทานิ เมื่อโค้ชซาซากิเห็นฝีมือของโอทานิปร๊าดเดียว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือดาวรุ่งคนใหม่ของวงการ ดังนั้นหน้าที่ที่โค้ชซาซากิมอบหมายให้เด็กใหม่ที่ชื่อโอทานิทำก็คือ “ล้างห้องน้ำ” ครับ เหตุผลของโค้ชก็คือ “ตำแหน่งยืนของ พิทเชอร์คือจุดที่สูงสุดในสนามเบสบอล เปรียบได้กับเวที เมื่อคุณไปยืนอยู่บนเวที คุณจะได้รับความสนใจ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมากที่สุด“ “The mound is the most elevated place on the field, It’s a stage. If you’re on that stage, you receive the most attention. You get interviewed and written about the most.” นี่คือวิธีการสอนความถ่อมตนในสไตล์ของโค้ชซาซากิครับ โค้ชยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ”ความสะอาดของห้องน้ำนั้นบอกอะไรเราได้เยอะนะคุณ เวลาคุณไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปสถานที่ต่างๆแล้วคุณไปเจอห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมน่ะ มันบอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหมว่า คนที่ทำงานที่นี่น่ะเป็นคนอย่างไร เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพียงใด“ . . . การฝึกซ้อมของทีมเบสบอลโรงเรียนนี้หนักหนาสาหัสมาก นักเบสบอลวัยรุ่นเหล่านี้จะต้องกินนอนอยู่กับทีมตลอดปี ได้กลับบ้านแค่ปีละ 6 วันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะถูกจริตของโอทานิซึ่งมีความสุขกับการซ้อม การแข่ง การล้างห้องน้ำและ ”การกิน“ โค้ชซาซากิเล่าว่าโอทานิในเวลานั้นตัวเล็กมาก โค้ชจึงให้โอทานิกินอาหารให้เยอะที่สุด เพื่อนร่วมทีมคนไหนกินอาหารเหลือก็ส่งมาให้โอทานิกินต่อ กินจนกินไม่ไหวถึงจะเลิกกิน กินเสร็จก็ไปออกกำลังกาย ยกเวท จนโอทานิสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น ร่างกายสมบูรณ์เป็นนักกีฬาระดับโลก . . . จนเมื่อโอทานิแข่งเบสบอลในระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ หรือ “โคชิเอ็น” โอทานิก็มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากจะเล่นเบสบอลอาชีพซี่งเขาก็เริ่มจากลีกญี่ปุ่น จนไปสู่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา กวาดรางวัลและทำลายสถิติมาทุกแห่ง แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในตัวโอทานิเลยก็คือ ความสงบเสงี่ยม พูดน้อยและถ่อมตน ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็พูดนิดเดียว บางทีเมื่อไม่มีอะไรจะพูด โอทานิก็พูดสั้นๆเบาๆแค่ว่า ”ขอโทษนะครับ“ ตอนที่โอทานิเริ่มได้เงินเดือนจากการแข่งอาชีพจากทีมไฟท์เตอร์ในลีกญี่ปุ่น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น โอทานิให้แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด และบอกแม่ว่าให้โอนเงินใส่บัญชีให้เขาใช้เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือ 34,000 บาทก็พอ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยจะได้แตะเงินเท่าไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่กับการซ้อม การแข่งเบสบอล สื่อมวลชนกีฬาของญี่ปุ่นซึ่งชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักกีฬามาแฉนั้น ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับโอทานิ เพราะไม่มีอะไรจะให้แฉเลยสักนิด เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว โอทานิไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใคร วันๆเอาแต่ออกกำลังกายกับเล่นเบสบอล . . . ล่าสุดโอทานิก็สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อเซ็นสัญญา 10 ปีด้วยค่าตัว 700 ล้านดอลล่าร์กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ เป็นสัญญาที่แพงที่สุดประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโอทานิถึงได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น ….พูดน้อย ถ่อมตน ซ้อมหนัก ผลงานเป็นเลิศ…. คุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่พูดเยอะแต่ไร้ผลงาน นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลการสำรวจจาก Patriot Polling ล่าสุด ประชาชนชาวกรีนแลนด์สนับสนุนการเข้าร่วมสหรัฐอเมริกามากถึง 57.3% ไม่เห็นด้วยเพียง 37.4%

    แนวคิดที่กรีนแลนด์จะถูกผนวกดินแดนเข้ารวมกับสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอีกครั้งในการอภิปรายทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยมีการถกเถียงกันถึงประโยชน์ด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น

    ผลการสำรวจบ่งชี้ว่ามีการสนับสนุนมากขึ้น
    ผลการสำรวจจาก Patriot Polling ล่าสุด ประชาชนชาวกรีนแลนด์สนับสนุนการเข้าร่วมสหรัฐอเมริกามากถึง 57.3% ไม่เห็นด้วยเพียง 37.4% แนวคิดที่กรีนแลนด์จะถูกผนวกดินแดนเข้ารวมกับสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอีกครั้งในการอภิปรายทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยมีการถกเถียงกันถึงประโยชน์ด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ผลการสำรวจบ่งชี้ว่ามีการสนับสนุนมากขึ้น
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grzegorz Braun นักการเมืองฝ่ายค้านของโปแลนด์ และเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรปประกาศชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ในปี 2025

    Braun เป็นนักการเมืองขวาจัด ที่ต่อต้านยิวและอเมริกาสุดขั้ว เขาเคยประกาศว่าชาวยิวในอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา พวกเขาจะไม่ได้ควบคุมโลกใบนี้รวมทั้งรัฐบาลในยุโรปอีกต่อไป

    หากเขาได้รับเลือกตั้งจริงๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยกระแสอนุรักษ์นิยมที่กำลังแพร่หลายไปทั่วยุโรปในขณะนี้ จะทำให้สถานการณ์ของนาโต้เปลี่ยนไปทันที เนื่องจากโปแลนด์คือตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่นาโต้ใช้เป็นฐานที่มั่นในการโจมตีรัสเซียอีกแห่งหนึ่งรองจากโรมาเนีย

    นักการเมืองฝ่ายขวา หรือสายอนุรักษ์นิยมมีบทบาทและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในยุโรป บางคนสมหวังได้เป็นผู้นำประเทศ บางคนพลาดท่าไปอย่างน่ากังขา และสำหรับคนที่ได้เป็นผู้นำ แน่นอนว่าจะถูกต่อต้านและโดดเดี่ยวจากยุโรปและอเมริกาอย่างเลี่ยงไม่ได้:

    - (ฝรั่งเศส) นางมารีน เลอ แปง จากพรรค NR (National Rally) ของฝรั่งเศส
    (เยอรมนี) อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีและหัวหน้าพรรค AfD (Alternative for Germany)

    - (โรมาเนีย) คอลิน จอร์เจสคู (Călin Georgescu) ผู้สมัครอิสระที่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโรมาเนีย ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น แต่ถูกศาลตัดสินให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และกำลังมีความพยายามจากรัฐบาลรักษาการตั้งข้อกล่าวหาต่างๆ ขณะที่กำลังมีการประท้วงผลการตัดสินของศาลจากประชาชนอยู่ในขณะนี้

    - (จอร์เจีย) นายกรัฐมนตรี Kobakhidze จากพรรค Georgian Dream ซึ่งรวมถึง มิคาอิล คาเวลาชวิลี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีด้วย

    - (สโลวาเกีย) โรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย

    - (ฮังการี) วิคเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี

    - (มอลโดวา) สตออิอาโนกลู ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน การเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มต้นการนับคะแนนจนถึง 80% "สตออิอาโนกลู" มีคะแนนนำมาตลอด แต่หลังจากนับคะแนนจากการลงคะแนนผ่านระบบไปรษณีย์ ไมอา ซานดู ซึ่งเป็นผู้ที่ยุโรปสนับสนุนกลับเป็นฝายขึ้นนำและเอาชนะไปได้อย่างน่ากังขา จนเกิดเสียงวิจารณ์ไปทั่ว แต่ยุโรปรีบออกมาแสดงความยินดีต่อผลการเลือกตั้งทันที
    Grzegorz Braun นักการเมืองฝ่ายค้านของโปแลนด์ และเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรปประกาศชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ในปี 2025 Braun เป็นนักการเมืองขวาจัด ที่ต่อต้านยิวและอเมริกาสุดขั้ว เขาเคยประกาศว่าชาวยิวในอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา พวกเขาจะไม่ได้ควบคุมโลกใบนี้รวมทั้งรัฐบาลในยุโรปอีกต่อไป หากเขาได้รับเลือกตั้งจริงๆ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยกระแสอนุรักษ์นิยมที่กำลังแพร่หลายไปทั่วยุโรปในขณะนี้ จะทำให้สถานการณ์ของนาโต้เปลี่ยนไปทันที เนื่องจากโปแลนด์คือตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่นาโต้ใช้เป็นฐานที่มั่นในการโจมตีรัสเซียอีกแห่งหนึ่งรองจากโรมาเนีย นักการเมืองฝ่ายขวา หรือสายอนุรักษ์นิยมมีบทบาทและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในยุโรป บางคนสมหวังได้เป็นผู้นำประเทศ บางคนพลาดท่าไปอย่างน่ากังขา และสำหรับคนที่ได้เป็นผู้นำ แน่นอนว่าจะถูกต่อต้านและโดดเดี่ยวจากยุโรปและอเมริกาอย่างเลี่ยงไม่ได้: - (ฝรั่งเศส) นางมารีน เลอ แปง จากพรรค NR (National Rally) ของฝรั่งเศส (เยอรมนี) อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีและหัวหน้าพรรค AfD (Alternative for Germany) - (โรมาเนีย) คอลิน จอร์เจสคู (Călin Georgescu) ผู้สมัครอิสระที่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโรมาเนีย ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น แต่ถูกศาลตัดสินให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และกำลังมีความพยายามจากรัฐบาลรักษาการตั้งข้อกล่าวหาต่างๆ ขณะที่กำลังมีการประท้วงผลการตัดสินของศาลจากประชาชนอยู่ในขณะนี้ - (จอร์เจีย) นายกรัฐมนตรี Kobakhidze จากพรรค Georgian Dream ซึ่งรวมถึง มิคาอิล คาเวลาชวิลี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีด้วย - (สโลวาเกีย) โรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย - (ฮังการี) วิคเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี - (มอลโดวา) สตออิอาโนกลู ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน การเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มต้นการนับคะแนนจนถึง 80% "สตออิอาโนกลู" มีคะแนนนำมาตลอด แต่หลังจากนับคะแนนจากการลงคะแนนผ่านระบบไปรษณีย์ ไมอา ซานดู ซึ่งเป็นผู้ที่ยุโรปสนับสนุนกลับเป็นฝายขึ้นนำและเอาชนะไปได้อย่างน่ากังขา จนเกิดเสียงวิจารณ์ไปทั่ว แต่ยุโรปรีบออกมาแสดงความยินดีต่อผลการเลือกตั้งทันที
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Los Angeles 2025"

    นี่ไม่ใช่ฉากในการถ่ายทำภาพยนต์ แต่เป็นเหตุการณ์จริงในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่แอลเอยืนยันล่าสุดผู้มีเสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย โดย 16 รายจากไฟป่าอีตันและ 8 รายจากไฟป่าพาดิเซดส์ และยังไม่สามารถสรุปยอดรวมที่แท้จริงได้ในขณะนี้
    "Los Angeles 2025" นี่ไม่ใช่ฉากในการถ่ายทำภาพยนต์ แต่เป็นเหตุการณ์จริงในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่แอลเอยืนยันล่าสุดผู้มีเสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย โดย 16 รายจากไฟป่าอีตันและ 8 รายจากไฟป่าพาดิเซดส์ และยังไม่สามารถสรุปยอดรวมที่แท้จริงได้ในขณะนี้
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 69 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่น 5 : ชินกันเซ็น

    วันก่อนผมมีโอกาสได้นั่งรถไฟชินกันเซ็นครับ

    ด้วยความที่ว่าห้องโดยสารของชินกันเซ็นนั้นสวยงาม สบาย และเงียบกริบราวกับว่าไม่ได้วิ่งอยู่ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม.

    ผมนั่งหลับตาไปก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า “วิศวกรญี่ปุ่นมีความสามารถสร้างรถไฟได้ดีเลิศขนาดนี้ ถ้าได้สร้างเครื่องบินโดยสารขึ้นมา ก็จะต้องดีกว่าพวกโบอิ้งหรือแอร์บัสแน่นอน แล้วทำไมญี่ปุ่นถึงไม่สร้างล่ะ?“

    ว่าแล้วผมก็ไปหาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ
    .
    .
    .
    หลังจากญี่ปุ่นตกอยู่ในสภาพผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีค.ศ.1945นั้น ฝ่ายผู้ชนะที่นำโดยอเมริกานั้นได้บังคับให้ฝ่ายญี่ปุ่นลงชื่อในเอกสารยอมจำนน

    ซึ่งในเอกสารฉบับนี้มีรายละเอียดมากมาย และประเด็นที่สำคัญคือมาตรา 9 ที่ระบุว่า ญี่ปุ่นไม่สามารถมีกองทัพได้อีกต่อไป รวมถึงให้ยุติการสร้างยานพาหนะที่เกี่ยวกับการสงคราม เช่น เรือ เครื่องบิน รถรบทุกชนิด

    โรงงานสร้างเครื่องบินรบทั้งหลาย เช่น มิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรี้, นากาชิมาแอร์คราฟท์ และคาวาซากิแอร์คราฟท์ ต้องเลิกกิจการ

    ทั้งโรงงานและวิศวกรต้องเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์แทน

    กิจการเกี่ยวกับเทคโนโลยีอากาศยานของญี่ปุ่นถูกแช่แข็งอยู่ราว 7 ปึ คือ 1945-1952 เพื่อกำราบไม่ให้จักรวรรดิญี่ปุ่นฟื้นขึ้นมาแผลงฤทธิ์ได้อีก

    อันนี้ก็ต้องบอกว่าเยอรมันก็โดนแบบเดียวกันกับญี่ปุ่นนี่ละครับ และเยอรมันนี่หนักกว่าด้วยซ้ำคือ ถูกแบ่งประเทศเป็นฝั่งตะวันตกกับตะวันออก

    ทีนี้ในปี 1952 ก็ได้เกิดสงครามเกาหลีขึ้น ฝ่ายอเมริกาและสหประชาชาติต้องการใช้ญี่ปุ่นเป็นฐานสำหรับส่งทหารไปรบเพื่อช่วยเกาหลีใต้

    เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปแบบนี้ ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นพันธมิตรกับอเมริกา อเมริกาจึงไม่สามารถปล่อยให้ญี่ปุ่นอยู่ในสภาพ “ผู้ถูกปกครอง” อันจะเป็นภาระแก่ตัวอเมริกาเองด้วยซ้ำ

    อเมริกาจึงได้ปลดล็อคข้อห้ามทั้งหลาย ทำให้ญี่ปุ่นสามารถมีกำลังตำรวจ มีกองกำลังป้องกันตนเองได้ สามารถสร้างเรือ เครื่องบินได้

    แต่ก็ยังไม่สามารถสะสมอาวุธหรือมีกองทัพแบบฟูลออปชั่นได้

    อุตสาหกรรมสร้างอากาศยานจึงเริ่มฟื้นกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ถือว่าเริ่มช้าแล้วเพราะโบอิ้งเขาพัฒนาไปไกลแล้ว
    .
    .
    .
    ในเวลานั้นญี่ปุ่นเลือกเส้นทางที่จะเอาดีทางสร้างรถยนต์และรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า

    ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องบินนั้น ถึงแม้ญี่ปุ่นจะมีความสามารถที่จะทำได้ดี แต่ญี่ปุ่นเลือกที่จะเล่นบทฝ่ายสนับสนุนอเมริกา

    คือ มิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรี้ กลายมาเป็นผู้ผลิตอะไหล่และปีกเครื่องบินให้โบอิ้งมาตลอด

    และอเมริกายังเคยออกไลเซนส์ให้ญี่ปุ่นสร้างเครื่องบินบางรุ่นให้ด้วย เช่น F-86

    สำหรับเครื่องบินรบไฮเทค อย่าง 6th generation นั้น ปัจจุบันมิตซูบิชิก็ไปจับมือกับอังกฤษและชาติยุโรปช่วยกันพัฒนาอยู่
    .
    .
    .
    ทีนี้บางคนคงเคยได้ยินเครื่องบิน “ฮอนด้าเจ็ท” ใช่ไหมครับ

    ฮอนด้าเจ็ทนั้นเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก แม้จะแบรนด์ฮอนด้าแต่ก็ไม่ได้สร้างขึ้นบนแผ่นดินญี่ปุ่น

    เพราะฮอนด้าเลือกจะไปสร้างโรงงานอยู่ที่รัฐนอร์ธแคโรไลน่า สหรัฐอเมริกาโน่น

    เรื่องฮอนด้าเจ็ทนี้ก็เป็นประเด็นที่คนคลางแคลงใจว่า ผู้บริหารฮอนด้ากลัวอเมริกาจะจับตามองว่าเริ่มสร้างอากาศยานได้เองหรือเปล่า ก็จึงไปเปิดโรงงานที่อเมริกากันเสียเลย
    .
    .
    .
    ญี่ปุ่นมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งมันสมอง ความรู้ ความมุ่งมั่นและระบบซัพพลายเชนที่จะสร้างได้ทั้งเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินรบครับ

    แต่ญี่ปุ่นเขาเลือกเส้นทางที่จะเป็นเด็กดีเป็นผู้ช่วยมือรองให้อเมริกา

    จะด้วยความกลัวระเบิดนิวเคลียร์ที่ฝังลึกในใจหรือเปล่าก็ไม่รู้

    แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล


    นัทแนะ
    ญี่ปุ่น 5 : ชินกันเซ็น วันก่อนผมมีโอกาสได้นั่งรถไฟชินกันเซ็นครับ ด้วยความที่ว่าห้องโดยสารของชินกันเซ็นนั้นสวยงาม สบาย และเงียบกริบราวกับว่าไม่ได้วิ่งอยู่ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. ผมนั่งหลับตาไปก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่า “วิศวกรญี่ปุ่นมีความสามารถสร้างรถไฟได้ดีเลิศขนาดนี้ ถ้าได้สร้างเครื่องบินโดยสารขึ้นมา ก็จะต้องดีกว่าพวกโบอิ้งหรือแอร์บัสแน่นอน แล้วทำไมญี่ปุ่นถึงไม่สร้างล่ะ?“ ว่าแล้วผมก็ไปหาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ . . . หลังจากญี่ปุ่นตกอยู่ในสภาพผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีค.ศ.1945นั้น ฝ่ายผู้ชนะที่นำโดยอเมริกานั้นได้บังคับให้ฝ่ายญี่ปุ่นลงชื่อในเอกสารยอมจำนน ซึ่งในเอกสารฉบับนี้มีรายละเอียดมากมาย และประเด็นที่สำคัญคือมาตรา 9 ที่ระบุว่า ญี่ปุ่นไม่สามารถมีกองทัพได้อีกต่อไป รวมถึงให้ยุติการสร้างยานพาหนะที่เกี่ยวกับการสงคราม เช่น เรือ เครื่องบิน รถรบทุกชนิด โรงงานสร้างเครื่องบินรบทั้งหลาย เช่น มิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรี้, นากาชิมาแอร์คราฟท์ และคาวาซากิแอร์คราฟท์ ต้องเลิกกิจการ ทั้งโรงงานและวิศวกรต้องเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์แทน กิจการเกี่ยวกับเทคโนโลยีอากาศยานของญี่ปุ่นถูกแช่แข็งอยู่ราว 7 ปึ คือ 1945-1952 เพื่อกำราบไม่ให้จักรวรรดิญี่ปุ่นฟื้นขึ้นมาแผลงฤทธิ์ได้อีก อันนี้ก็ต้องบอกว่าเยอรมันก็โดนแบบเดียวกันกับญี่ปุ่นนี่ละครับ และเยอรมันนี่หนักกว่าด้วยซ้ำคือ ถูกแบ่งประเทศเป็นฝั่งตะวันตกกับตะวันออก ทีนี้ในปี 1952 ก็ได้เกิดสงครามเกาหลีขึ้น ฝ่ายอเมริกาและสหประชาชาติต้องการใช้ญี่ปุ่นเป็นฐานสำหรับส่งทหารไปรบเพื่อช่วยเกาหลีใต้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปแบบนี้ ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นพันธมิตรกับอเมริกา อเมริกาจึงไม่สามารถปล่อยให้ญี่ปุ่นอยู่ในสภาพ “ผู้ถูกปกครอง” อันจะเป็นภาระแก่ตัวอเมริกาเองด้วยซ้ำ อเมริกาจึงได้ปลดล็อคข้อห้ามทั้งหลาย ทำให้ญี่ปุ่นสามารถมีกำลังตำรวจ มีกองกำลังป้องกันตนเองได้ สามารถสร้างเรือ เครื่องบินได้ แต่ก็ยังไม่สามารถสะสมอาวุธหรือมีกองทัพแบบฟูลออปชั่นได้ อุตสาหกรรมสร้างอากาศยานจึงเริ่มฟื้นกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ถือว่าเริ่มช้าแล้วเพราะโบอิ้งเขาพัฒนาไปไกลแล้ว . . . ในเวลานั้นญี่ปุ่นเลือกเส้นทางที่จะเอาดีทางสร้างรถยนต์และรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องบินนั้น ถึงแม้ญี่ปุ่นจะมีความสามารถที่จะทำได้ดี แต่ญี่ปุ่นเลือกที่จะเล่นบทฝ่ายสนับสนุนอเมริกา คือ มิตซูบิชิเฮฟวี่อินดัสตรี้ กลายมาเป็นผู้ผลิตอะไหล่และปีกเครื่องบินให้โบอิ้งมาตลอด และอเมริกายังเคยออกไลเซนส์ให้ญี่ปุ่นสร้างเครื่องบินบางรุ่นให้ด้วย เช่น F-86 สำหรับเครื่องบินรบไฮเทค อย่าง 6th generation นั้น ปัจจุบันมิตซูบิชิก็ไปจับมือกับอังกฤษและชาติยุโรปช่วยกันพัฒนาอยู่ . . . ทีนี้บางคนคงเคยได้ยินเครื่องบิน “ฮอนด้าเจ็ท” ใช่ไหมครับ ฮอนด้าเจ็ทนั้นเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก แม้จะแบรนด์ฮอนด้าแต่ก็ไม่ได้สร้างขึ้นบนแผ่นดินญี่ปุ่น เพราะฮอนด้าเลือกจะไปสร้างโรงงานอยู่ที่รัฐนอร์ธแคโรไลน่า สหรัฐอเมริกาโน่น เรื่องฮอนด้าเจ็ทนี้ก็เป็นประเด็นที่คนคลางแคลงใจว่า ผู้บริหารฮอนด้ากลัวอเมริกาจะจับตามองว่าเริ่มสร้างอากาศยานได้เองหรือเปล่า ก็จึงไปเปิดโรงงานที่อเมริกากันเสียเลย . . . ญี่ปุ่นมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งมันสมอง ความรู้ ความมุ่งมั่นและระบบซัพพลายเชนที่จะสร้างได้ทั้งเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินรบครับ แต่ญี่ปุ่นเขาเลือกเส้นทางที่จะเป็นเด็กดีเป็นผู้ช่วยมือรองให้อเมริกา จะด้วยความกลัวระเบิดนิวเคลียร์ที่ฝังลึกในใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครน 2.0
    ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโจ ไบเดน เขาอนุมัติอาวุธมากมายให้กับไต้หวัน เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับยูเครน ซึ่งบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐออกมายอมรับเองว่า มีการส่งเสริมด้านอาวุธให้กับยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมต่อต้านรัสเซีย และนั่นทำให้หลายฝ่ายคลายข้อสงสัยในตัวเซเลนสกีว่าเขาคิดอะไรถึงกล้าต่อกรกับรัสเซีย มหาอำนาจทางสงครามมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

    ล่าสุดไต้หวันเพิ่งได้รับรถถัง Abrams จากสหรัฐอเมริกา ล็อตแรก 38 คัน สำหรับรถหุ้มเกราะอีกจำนวน 70 คัน กำลังจะส่งมอบให้ไต้หวันก่อนสิ้นปี 2026

    มาดูกันว่าอุปกรณ์ทางทหารอื่นๆ ที่วอชิงตันขายให้ไทเปในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2021 ถึง 2024 มีอะไรบ้าง และอาวุธของสหรัฐฯ อะไรที่ไต้หวันวางแผนจะซื้อ ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลสาธารณะและรายงานของสื่อ

    ที่ซื้อแล้ว (ข้อตกลงที่ได้รับการอนุมัติมีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์):
    ระบบขีปนาวุธ
    🔸ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS จำนวน 3 ระบบ
    🔸ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง HIMARS M142 จำนวน 29 ระบบ
    🔸ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS MGM-140 ไม่เปิดเผยจำนวน

    ขีปนาวุธ:
    🔺ขีปนาวุธ AGM-88B HARM 100 ลูก และขีปนาวุธฝึกซ้อม HARM จำนวน 23 ลูก
    🔺ขีปนาวุธต่อต้านเรือ AGM-84L-1 Harpoon Block II
    🔺ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II Sidewinder
    🔺ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์

    ระบบสื่อสาร:
    ⚪️ ระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78

    อาวุธอื่นๆเพิ่มเติม:
    🔹อาวุธโจมตี(โดรน) Switchblade 720 ลำ
    🔹ระบบทุ่นระเบิดแบบกระจายที่ยิงจากรถ M136
    🔹ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์

    ที่กำลังเตรียมซื้อ (แพ็กเกจมีมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์):
    ▪️เครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นที่ 5 จำนวน 60 ลำ
    ▪️เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศเชิงยุทธวิธี E-2D Hawkeye จำนวน 4 ลำ
    ▪️เรือรบที่ไม่ได้ระบุจำนวน 10 ลำ
    ▪️ขีปนาวุธสกัดกั้น 400 ลูก สำหรับระบบขีปนาวุธ Patriot
    ▪️เรือพิฆาต Aegis

    ปักกิ่ง กล่าวหาสหรัฐมาตลอด ว่ากำลังทำการยั่วยุโดยการขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งระบุว่าจะทำเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
    ยูเครน 2.0 ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโจ ไบเดน เขาอนุมัติอาวุธมากมายให้กับไต้หวัน เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับยูเครน ซึ่งบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐออกมายอมรับเองว่า มีการส่งเสริมด้านอาวุธให้กับยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมต่อต้านรัสเซีย และนั่นทำให้หลายฝ่ายคลายข้อสงสัยในตัวเซเลนสกีว่าเขาคิดอะไรถึงกล้าต่อกรกับรัสเซีย มหาอำนาจทางสงครามมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดไต้หวันเพิ่งได้รับรถถัง Abrams จากสหรัฐอเมริกา ล็อตแรก 38 คัน สำหรับรถหุ้มเกราะอีกจำนวน 70 คัน กำลังจะส่งมอบให้ไต้หวันก่อนสิ้นปี 2026 มาดูกันว่าอุปกรณ์ทางทหารอื่นๆ ที่วอชิงตันขายให้ไทเปในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2021 ถึง 2024 มีอะไรบ้าง และอาวุธของสหรัฐฯ อะไรที่ไต้หวันวางแผนจะซื้อ ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลสาธารณะและรายงานของสื่อ ที่ซื้อแล้ว (ข้อตกลงที่ได้รับการอนุมัติมีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์): ระบบขีปนาวุธ 🔸ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS จำนวน 3 ระบบ 🔸ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง HIMARS M142 จำนวน 29 ระบบ 🔸ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ATACMS MGM-140 ไม่เปิดเผยจำนวน ขีปนาวุธ: 🔺ขีปนาวุธ AGM-88B HARM 100 ลูก และขีปนาวุธฝึกซ้อม HARM จำนวน 23 ลูก 🔺ขีปนาวุธต่อต้านเรือ AGM-84L-1 Harpoon Block II 🔺ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9X Block II Sidewinder 🔺ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์ ระบบสื่อสาร: ⚪️ ระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78 อาวุธอื่นๆเพิ่มเติม: 🔹อาวุธโจมตี(โดรน) Switchblade 720 ลำ 🔹ระบบทุ่นระเบิดแบบกระจายที่ยิงจากรถ M136 🔹ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 และเรดาร์ ที่กำลังเตรียมซื้อ (แพ็กเกจมีมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์): ▪️เครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นที่ 5 จำนวน 60 ลำ ▪️เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศเชิงยุทธวิธี E-2D Hawkeye จำนวน 4 ลำ ▪️เรือรบที่ไม่ได้ระบุจำนวน 10 ลำ ▪️ขีปนาวุธสกัดกั้น 400 ลูก สำหรับระบบขีปนาวุธ Patriot ▪️เรือพิฆาต Aegis ปักกิ่ง กล่าวหาสหรัฐมาตลอด ว่ากำลังทำการยั่วยุโดยการขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งระบุว่าจะทำเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thermaltake ได้เปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายรุ่นใหม่ "Toughpower D2000" ที่มีพลังงานสูงถึง 2000W ในงาน CES 2025 โดยพาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้มีพลังงานเพียงพอที่จะใช้งานกับเครื่องปรับอากาศได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้จะไม่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการใช้พลังงานที่สูงเกินไปสำหรับปลั๊กไฟบ้านมาตรฐานในสหรัฐ (อ้าวววว...!!)

    แต่ Thermaltake จะมีรุ่น Toughpower RGB Plus Titanium และ Toughpower TF3 Titanium ที่มีพลังงาน 1650W และ 1600W ตามลำดับ สำหรับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาแทน ซึ่งยังคงมีพลังงานสูงมากสำหรับการใช้งานในคอมพิวเตอร์ทั่วไป

    พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นใหม่เหล่านี้มีการออกแบบที่โมดูลาร์เต็มรูปแบบ และมีการรองรับการเชื่อมต่อ PCIe 5.1 พร้อมพอร์ตพลังงาน GPU 16-pin และการรองรับมาตรฐาน ATX 3.1 นอกจากนี้ยังมีการรับรอง 80 PLUS Titanium ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถสลับระหว่างการกำหนดค่าพลังงานแบบ single-rail และ multi-rail ได้

    สำหรับระบบขนาดเล็ก Thermaltake ยังมีรุ่น Toughpower SFX Titanium 1200W ที่มีขนาดกะทัดรัดและรองรับ PCIe Gen 5.1 ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในระบบขนาดเล็ก

    https://www.techspot.com/news/106305-thermaltake-unveils-massive-2000w-psu-but-powerful-us.html
    Thermaltake ได้เปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายรุ่นใหม่ "Toughpower D2000" ที่มีพลังงานสูงถึง 2000W ในงาน CES 2025 โดยพาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้มีพลังงานเพียงพอที่จะใช้งานกับเครื่องปรับอากาศได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้จะไม่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการใช้พลังงานที่สูงเกินไปสำหรับปลั๊กไฟบ้านมาตรฐานในสหรัฐ (อ้าวววว...!!) แต่ Thermaltake จะมีรุ่น Toughpower RGB Plus Titanium และ Toughpower TF3 Titanium ที่มีพลังงาน 1650W และ 1600W ตามลำดับ สำหรับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาแทน ซึ่งยังคงมีพลังงานสูงมากสำหรับการใช้งานในคอมพิวเตอร์ทั่วไป พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นใหม่เหล่านี้มีการออกแบบที่โมดูลาร์เต็มรูปแบบ และมีการรองรับการเชื่อมต่อ PCIe 5.1 พร้อมพอร์ตพลังงาน GPU 16-pin และการรองรับมาตรฐาน ATX 3.1 นอกจากนี้ยังมีการรับรอง 80 PLUS Titanium ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถสลับระหว่างการกำหนดค่าพลังงานแบบ single-rail และ multi-rail ได้ สำหรับระบบขนาดเล็ก Thermaltake ยังมีรุ่น Toughpower SFX Titanium 1200W ที่มีขนาดกะทัดรัดและรองรับ PCIe Gen 5.1 ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในระบบขนาดเล็ก https://www.techspot.com/news/106305-thermaltake-unveils-massive-2000w-psu-but-powerful-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Thermaltake unveils massive 2000W PSU, but it's too powerful for U.S. outlets
    Thermaltake is leading the charge with some incredibly powerful units in terms of wattage. Among their latest offerings is the Toughpower D2000, a monstrous 2000W power supply....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts