• อิสราเอลเป็นชาติที่สองต่อจากสหรัฐที่รีบแสดงความยินดีกับโจเซฟ อูน ประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างอูนกับสหรัฐและอิสราเอลที่มีมาก่อนเข้ารับตำแหน่ง

    นอกจากนี้ "กิเดียน ซาอาร์" รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ยังกล่าวสนับสนุนเลบานอนในการร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยในภูมิภาค และยกระดับเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในอนาคต

    มีรายงานล่าสุดว่าซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ยินดีต่อโจเซฟ อูน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเลบานอนด้วยเช่นกัน นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงอิหร่านว่า อิทธิพลของพวกเขาหมดไปจากภูมิภาคนี้แล้ว
    อิสราเอลเป็นชาติที่สองต่อจากสหรัฐที่รีบแสดงความยินดีกับโจเซฟ อูน ประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างอูนกับสหรัฐและอิสราเอลที่มีมาก่อนเข้ารับตำแหน่ง นอกจากนี้ "กิเดียน ซาอาร์" รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ยังกล่าวสนับสนุนเลบานอนในการร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยในภูมิภาค และยกระดับเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในอนาคต มีรายงานล่าสุดว่าซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ยินดีต่อโจเซฟ อูน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเลบานอนด้วยเช่นกัน นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงอิหร่านว่า อิทธิพลของพวกเขาหมดไปจากภูมิภาคนี้แล้ว
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 661 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเชื่อว่าบรรดาชาติสมาชิกกลุ่ม BRICS จะมีผลผลิตทางเศรษฐกิจในสัดส่วนเกินครึ่งของเศรษฐกิจโลก ในอีก 10-15 ปีข้างหน้า ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจที่อาจท้าทายความเป็นเจ้าโลกของตะวันตก
    .
    BRICS กำลังโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เล่นสำคัญในเศรษฐกิจโลก ด้วยจีดีพีรวมกันของทางกลุ่มคาดหมายว่าจะมีสัดส่วนเกินครึ่งของผลผลิตทางเศรษฐกิจของโลก ภายใน 10 ถึง 15 ปีข้างหน้า จากการคาดการณ์ของอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์แล้ว พร้อมเน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เติบโตขึ้นเรื่อยของ BRICS

    โนวัค กล่าวว่า "BRICS มีศักยภาพในระดับสูงในจีพีดีโลก คิดเป็นสัดส่วนราว 35% และกำลังเติบโตขึ้นทุกๆ ปี องค์กรแห่งนี้รวมไปถึงบรรดาประเทศขนาดใหญ่ อย่างบราซิลและจีน เราคาดหมายว่าในปี 10-15 ปีข้างหน้า จีดีพีรวมกันของ BRICS จะมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด"
    .
    มุมมองในแง่บวกดังกล่าวสะท้อนถึงน้ำหนักทางเศรษฐกิจที่เพิ่มข้นเรื่อยๆ ของบรรดาสมาชิกกลุ่ม BRICS ซึ่งปัจจุบันมีผลผลิตทางเศรษฐกิจรวมกันแซงหน้ากลุ่ม G7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    เบื้องต้น BRICS ประกอบไปด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ก่อนขยายขอบเขตสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2024 อ้าแขนต้อนรับอียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเตส์ การขยายตัวดังกล่าวสะท้อนอิทธิพลที่เติบโตขึ้นของ BRICS ในฐานะตัวถ่วงดุลสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การครอบงำของตะวันตก
    .
    การขยายวงกลุ่มยังช่วยเสริมอิทธิพลด้านพลังงานโลกของ BRICS เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอาจรวมถึงซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ และช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมในด้านภูมิรัฐศาสตร์ของทางกลุ่ม ในนั้นรวมถึงประเทศต่างๆ จากตะวันออกกลางและแอฟริกา
    .
    ทั้งนี้ เหล่าสมาชิกใหม่จะนำมาซึ่งความหลากหลายและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดย อิหร่าน ช่วยเสริมยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงทางการค้าและทางพลังงาน ส่วนอียิปต์และเอธิโอเปีย ช่วยสนับสนุนการเป็นตัวแทนของแอฟริกา การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งสัญญาณว่า BRICS มีเจตนาปรับโฉมธรรมาภิบาลโลก ด้วยการขยายสุ้มเสียงจากซีกโลกใต้ให้ดังยิ่งขึ้น
    .
    ณ เวทีประชุมบิสซิเนส ฟอรัม BRICS เมื่อเดือนธันวาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อ้างว่า BRICS มีสัดส่วนเศรษฐกิจในจีดีพีโลก แซงหน้าจี 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เขาเน้นย้ำว่าบทบาทสำคัญของ BRICS คือปรับโฉมเศรษฐกิจโลก ให้จำกัดความเหล่าสมาชิกว่าเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตและพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
    .
    จากข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะในปี 2024 เศรษฐกิจของ BRICS คิดเป็นสัดส่วนราว 37.3% ของจีพีดีโลก บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (PPP) แซงหน้าจี7 ที่อยู่ที่ 30% สะท้อนถึงผลผลิตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ
    .
    อ้างอิงข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จีน เพียงชาติเดียวมีผลผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วน 19.05% ของจีดีพีโลก ส่วน อินเดีย มีสัดส่วนคิดเป็น 8.23% ขณะที่อีกฟากหนึ่ง สหรัฐฯ มีผลผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วน 14.5% ของเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม จี7 ยังคงนำหน้าในด้านจีพีดีปกติ โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 44% ด้าน BRICS มีสัดส่วนเศรษฐกิจคิดเป็น 28% ตามข้อมูลของไอเอ็มเอฟ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000047
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียเชื่อว่าบรรดาชาติสมาชิกกลุ่ม BRICS จะมีผลผลิตทางเศรษฐกิจในสัดส่วนเกินครึ่งของเศรษฐกิจโลก ในอีก 10-15 ปีข้างหน้า ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจที่อาจท้าทายความเป็นเจ้าโลกของตะวันตก . BRICS กำลังโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เล่นสำคัญในเศรษฐกิจโลก ด้วยจีดีพีรวมกันของทางกลุ่มคาดหมายว่าจะมีสัดส่วนเกินครึ่งของผลผลิตทางเศรษฐกิจของโลก ภายใน 10 ถึง 15 ปีข้างหน้า จากการคาดการณ์ของอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์แล้ว พร้อมเน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เติบโตขึ้นเรื่อยของ BRICS โนวัค กล่าวว่า "BRICS มีศักยภาพในระดับสูงในจีพีดีโลก คิดเป็นสัดส่วนราว 35% และกำลังเติบโตขึ้นทุกๆ ปี องค์กรแห่งนี้รวมไปถึงบรรดาประเทศขนาดใหญ่ อย่างบราซิลและจีน เราคาดหมายว่าในปี 10-15 ปีข้างหน้า จีดีพีรวมกันของ BRICS จะมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด" . มุมมองในแง่บวกดังกล่าวสะท้อนถึงน้ำหนักทางเศรษฐกิจที่เพิ่มข้นเรื่อยๆ ของบรรดาสมาชิกกลุ่ม BRICS ซึ่งปัจจุบันมีผลผลิตทางเศรษฐกิจรวมกันแซงหน้ากลุ่ม G7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . เบื้องต้น BRICS ประกอบไปด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ก่อนขยายขอบเขตสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2024 อ้าแขนต้อนรับอียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเตส์ การขยายตัวดังกล่าวสะท้อนอิทธิพลที่เติบโตขึ้นของ BRICS ในฐานะตัวถ่วงดุลสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การครอบงำของตะวันตก . การขยายวงกลุ่มยังช่วยเสริมอิทธิพลด้านพลังงานโลกของ BRICS เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอาจรวมถึงซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ และช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมในด้านภูมิรัฐศาสตร์ของทางกลุ่ม ในนั้นรวมถึงประเทศต่างๆ จากตะวันออกกลางและแอฟริกา . ทั้งนี้ เหล่าสมาชิกใหม่จะนำมาซึ่งความหลากหลายและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดย อิหร่าน ช่วยเสริมยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงทางการค้าและทางพลังงาน ส่วนอียิปต์และเอธิโอเปีย ช่วยสนับสนุนการเป็นตัวแทนของแอฟริกา การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งสัญญาณว่า BRICS มีเจตนาปรับโฉมธรรมาภิบาลโลก ด้วยการขยายสุ้มเสียงจากซีกโลกใต้ให้ดังยิ่งขึ้น . ณ เวทีประชุมบิสซิเนส ฟอรัม BRICS เมื่อเดือนธันวาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อ้างว่า BRICS มีสัดส่วนเศรษฐกิจในจีดีพีโลก แซงหน้าจี 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เขาเน้นย้ำว่าบทบาทสำคัญของ BRICS คือปรับโฉมเศรษฐกิจโลก ให้จำกัดความเหล่าสมาชิกว่าเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเติบโตและพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ . จากข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะในปี 2024 เศรษฐกิจของ BRICS คิดเป็นสัดส่วนราว 37.3% ของจีพีดีโลก บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (PPP) แซงหน้าจี7 ที่อยู่ที่ 30% สะท้อนถึงผลผลิตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ . อ้างอิงข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จีน เพียงชาติเดียวมีผลผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วน 19.05% ของจีดีพีโลก ส่วน อินเดีย มีสัดส่วนคิดเป็น 8.23% ขณะที่อีกฟากหนึ่ง สหรัฐฯ มีผลผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วน 14.5% ของเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม จี7 ยังคงนำหน้าในด้านจีพีดีปกติ โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 44% ด้าน BRICS มีสัดส่วนเศรษฐกิจคิดเป็น 28% ตามข้อมูลของไอเอ็มเอฟ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000047 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1213 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาห์เมด อัล-ชารา ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย แย้มอาจใช้เวลาสูงสุด 4 ปึ แล้วถึงจัดการเลือกตั้ง จากความเห็นที่เผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกรอบเวลาในการเลือกตั้ง นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจไปในช่วงต้นเดือน
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา สื่อมวลชนแห่งรัฐของซาอุดีอาระเบีย ทาง ชารา บอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 3 ปี นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ชาวซีเรียถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างสุดขั้ว
    .
    ความเห็นจากชารา ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่โค่นล้มอัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ในดามัสกัส กำลังหาทางรับประกันกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านว่า พวกเขากำลังถอยห่างจากรากเหง้าหัวรุนแรงอิสลามิสต์
    .
    ยุทธการจู่โจมสายฟ้าแลบของทางกลุ่ม นำมาซึ่งจุดจบสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ซึ่งคำถามต่างๆ มากมายเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลายชาติพันธุ์แห่งนี้ ดินแดนที่ต่างชาติ ในนั้นรวมถึงตุรกีและรัสเซียแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่
    .
    ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกแสดงความยินดีเป็นส่วนใหญ่ต่อการสิ้นสุดระบอบการปกครองของตระกูลอัสซาดในซีเรีย แต่มันยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มจะกำหนดกฎหมายอิสลามิกอันเข้มงวดหรือไม่ หรือแสดงความยืดหยุ่น พร้อมกับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย
    .
    ชารา กล่าวว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่มีชื่อเดิมว่า นุสรา ฟอนต์ จะถุกยุบ ณ ที่ประชุมระดับชาติแห่งหนึ่ง และพอถูกถามเกี่ยวกับการยุบกลุ่ม ชารา ระบุว่า "แน่นอน ประเทศแห่งนี้ไม่อาจบริหารโดยความคิดของกลุ่มและพวกติดอาวุธ"
    .
    ทางกลุ่มครั้งหนึ่งเคยมีความใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-กออิดะห์ ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ประกาศละทิ้งทั้ง 2 กลุ่ม และหาทางวางสถานะใหม่ของตนเอง ในฐานะขุมกำลังสายกลาง
    .
    พวกเขาประกาศซ้ำๆ ว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ซึ่งหวั่นเกรงว่าพวกผู้ปกครองใหม่อาจหาทางจัดตั้งรัฐบาลอิสลามิสต์ และเตือนถึงความพยายามปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างนิกาย
    .
    ชารา บอกว่าที่ประชุมระดับชาติ จะมีผู้เข้าร่วมอย่างกว้างวางในสังคมซีเรีย โดยที่จะมีการลงมติในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นยุบสภาและฉีกรัฐธรรมนูญ
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทาง ชารา ยืนยันด้วยว่า ซีเรียมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของอัสซาดระหว่างสงครามกลางเมือง และมีฐานทัพทหารในประเทศแห่งนี้ เน้นย้ำจุดยืนจะผูกไมตรีกับมอสโก แบบเดียวกับที่รัฐบาลของเขาเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้
    .
    เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ชารา ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับรัสเซีย ควรรับใช้ผลประโยชน์ร่วม ในขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าสถานะของฐานทัพรัสเซียจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับผู้นำคนใหม่ในดามัสกัส
    .
    "คำถามไม่ใช่แค่ว่าจะคงไว้ซึ่งฐานทัพหรือป้อมปราการของเราหรือไม่ แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมด้านปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและข้อกำหนดของฐานทัพหรือป้อมปราการเหล่านั้น เช่นเดียวกับการสื่อสารกับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น" ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ
    .
    แม้ส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ทาง ชารา ยังแสดงความหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานซีเรีย หลังจากพวกนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เผยว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกเงินค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้สำหรับผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม รายนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124985
    ..................
    Sondhi X
    อาห์เมด อัล-ชารา ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย แย้มอาจใช้เวลาสูงสุด 4 ปึ แล้วถึงจัดการเลือกตั้ง จากความเห็นที่เผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกรอบเวลาในการเลือกตั้ง นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจไปในช่วงต้นเดือน . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา สื่อมวลชนแห่งรัฐของซาอุดีอาระเบีย ทาง ชารา บอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 3 ปี นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ชาวซีเรียถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างสุดขั้ว . ความเห็นจากชารา ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่โค่นล้มอัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ในดามัสกัส กำลังหาทางรับประกันกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านว่า พวกเขากำลังถอยห่างจากรากเหง้าหัวรุนแรงอิสลามิสต์ . ยุทธการจู่โจมสายฟ้าแลบของทางกลุ่ม นำมาซึ่งจุดจบสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ซึ่งคำถามต่างๆ มากมายเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลายชาติพันธุ์แห่งนี้ ดินแดนที่ต่างชาติ ในนั้นรวมถึงตุรกีและรัสเซียแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่ . ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกแสดงความยินดีเป็นส่วนใหญ่ต่อการสิ้นสุดระบอบการปกครองของตระกูลอัสซาดในซีเรีย แต่มันยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มจะกำหนดกฎหมายอิสลามิกอันเข้มงวดหรือไม่ หรือแสดงความยืดหยุ่น พร้อมกับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย . ชารา กล่าวว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่มีชื่อเดิมว่า นุสรา ฟอนต์ จะถุกยุบ ณ ที่ประชุมระดับชาติแห่งหนึ่ง และพอถูกถามเกี่ยวกับการยุบกลุ่ม ชารา ระบุว่า "แน่นอน ประเทศแห่งนี้ไม่อาจบริหารโดยความคิดของกลุ่มและพวกติดอาวุธ" . ทางกลุ่มครั้งหนึ่งเคยมีความใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-กออิดะห์ ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ประกาศละทิ้งทั้ง 2 กลุ่ม และหาทางวางสถานะใหม่ของตนเอง ในฐานะขุมกำลังสายกลาง . พวกเขาประกาศซ้ำๆ ว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ซึ่งหวั่นเกรงว่าพวกผู้ปกครองใหม่อาจหาทางจัดตั้งรัฐบาลอิสลามิสต์ และเตือนถึงความพยายามปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างนิกาย . ชารา บอกว่าที่ประชุมระดับชาติ จะมีผู้เข้าร่วมอย่างกว้างวางในสังคมซีเรีย โดยที่จะมีการลงมติในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นยุบสภาและฉีกรัฐธรรมนูญ . ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทาง ชารา ยืนยันด้วยว่า ซีเรียมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของอัสซาดระหว่างสงครามกลางเมือง และมีฐานทัพทหารในประเทศแห่งนี้ เน้นย้ำจุดยืนจะผูกไมตรีกับมอสโก แบบเดียวกับที่รัฐบาลของเขาเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ . เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ชารา ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับรัสเซีย ควรรับใช้ผลประโยชน์ร่วม ในขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าสถานะของฐานทัพรัสเซียจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับผู้นำคนใหม่ในดามัสกัส . "คำถามไม่ใช่แค่ว่าจะคงไว้ซึ่งฐานทัพหรือป้อมปราการของเราหรือไม่ แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมด้านปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและข้อกำหนดของฐานทัพหรือป้อมปราการเหล่านั้น เช่นเดียวกับการสื่อสารกับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น" ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ . แม้ส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ทาง ชารา ยังแสดงความหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานซีเรีย หลังจากพวกนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เผยว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกเงินค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้สำหรับผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม รายนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124985 .................. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1197 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇸🇦 ซาอุดีอาระเบียค้นพบแหล่งสำรองลิเธียมขนาดใหญ่ (ทองคำขาว) ในแหล่งน้ำมันใกล้ทะเล
    .
    🇸🇦 Saudi Arabia discovers major lithium reserves (white gold) within its oil fields near the sea.
    .
    8:59 AM · Dec 25, 2024 · 935.3K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1871737624685334736
    🇸🇦 ซาอุดีอาระเบียค้นพบแหล่งสำรองลิเธียมขนาดใหญ่ (ทองคำขาว) ในแหล่งน้ำมันใกล้ทะเล . 🇸🇦 Saudi Arabia discovers major lithium reserves (white gold) within its oil fields near the sea. . 8:59 AM · Dec 25, 2024 · 935.3K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1871737624685334736
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 ประเทศจะเข้าร่วมกับ BRICS อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ในฐานะรัฐพันธมิตร จากการเปิดเผยของ ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย พร้อมระบุกลุ่มเศรษฐกิจแห่งนี้เปิดกว้างสำหรับเหล่าคู่หูที่มีความคิดแบบเดียวกัน
    .
    สถานะใหม่ "ประเทศพันธมิตร" ได้รับความเห็นชอบ ณ ที่ประชุมซัมมิต BRICS ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย โดยมันมีเจตนาเพื่อเป็นทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากการเป็นสมาชิก หลังจากมีมากกว่า 30 ประเทศ ที่สมัครเข้าร่วมองค์กรแก่งนี้
    .
    ทั้งนี้ สถานะดังกล่าวเปิดทางสำหรับการเข้าร่วมอย่างถาวรในประชุมวาระพิเศษต่างๆ ของที่ประชุมซัมมิตกลุ่ม BRICS และที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม เช่นเดียวกับกิจกรรมระดับสูงอื่นๆ นอกจากนี้ เหล่าพันธมิตรยังสามารถมีส่วนช่วยสนับสนุนเอกสารต่างๆ ที่คลอดออกมาจากทางกลุ่มอีกด้วย
    .
    ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) อูชาคอฟ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเห็นชอบ "สถานะรัฐพันธมิตร" โดยบอกว่าเบลารุส โบลิเวีย อินโดนีเซีย คาซัคสถาน ไทย คิวบา ยูกันดา มาเลเซีย และอุซเบกิสถาน จะก้าวมาเป็นพันธมิตรของ BRICS อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป และคาดหมายว่าจะมีการยืนยันประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมอีก 4 ชาติ ที่ได้รับเชิญให้เข้ามาเป็นรัฐพันธมิตรเช่นกันในอนาคตอันใกล้นี้
    .
    แรกเริ่ม BRICS ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ แต่ทางกลุ่มได้ขยายขอบเขตอ้าแขนรับอียิปต์ อิหร่าน เอธิโอเปีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปีนี้
    .
    อูชาคอฟ อ้างอิงคำบอกกล่าวของเหล่าตัวแทนจากริยาด ว่าซาอุดีอาระเบียพักกระบวนการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS เนื่องจากขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นภายในประเทศ สำหรับการก้าวมาเป็นสมาชิกเต็มขั้นนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์
    .
    ผู้ช่วยวังเครมลินรายนี้เผยด้วยว่าได้รับใบสมัครจาก 35 ชาติ สำหรับขอเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ไม่ว่าสถานะใดสถานะหนึ่ง ก่อนหน้าการประชุมซัมมิตในคาซาน "บางประเทศต้องการได้รับการเข้าร่วมอย่างเต็มขั้นในทันที ส่วนประเทศอื่่นๆ ต้องการเข้าร่วมเป็นรายกิจกรรมในฐานะผู้สังเกตการณ์" เขาอธิบาย
    .
    ณ เวลานี้ มีประเทศต่างๆ มากกว่า 20 ชาติ ที่แสดงความสนใจร่วมมือกับ BRICS อ้างอิงข้อมูลจากอูชาคอฟ ในนั้นได้แก่ อาเซอร์ไบจาน บังกลาเทศ บาห์เรน, บูร์กินาฟาโซ เวเนซุเอลา ฮอนดูรัส ซิมบับเว กัมพูชา โคลอมเบีย สาธารณรัฐคองโก ลาว คูเวต โมร็อกโก พม่า นิการากัว ปากีสถาน ปาเลสไตน์ เซเนกัล ซีเรีย ชาด ศรีลังกา อิเควทอเรียลกินี และซูดานใต้
    .
    อูชาคอฟ ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของ BRICS ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังยกระดับอิทธิพลของพวกเขาในขอบเขตทางเศรษฐกิจและการเงิน เช่นเดียวกับในการตอบสนองต่อความท้าทายทางสภาพภูมิอากาศ (โลกร้อน)" และเสริมความเข้มแข็งแก่ความมั่นคงทางอาหารและพลังงานโลก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123563
    ..............
    Sondhi X
    9 ประเทศจะเข้าร่วมกับ BRICS อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ในฐานะรัฐพันธมิตร จากการเปิดเผยของ ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย พร้อมระบุกลุ่มเศรษฐกิจแห่งนี้เปิดกว้างสำหรับเหล่าคู่หูที่มีความคิดแบบเดียวกัน . สถานะใหม่ "ประเทศพันธมิตร" ได้รับความเห็นชอบ ณ ที่ประชุมซัมมิต BRICS ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย โดยมันมีเจตนาเพื่อเป็นทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากการเป็นสมาชิก หลังจากมีมากกว่า 30 ประเทศ ที่สมัครเข้าร่วมองค์กรแก่งนี้ . ทั้งนี้ สถานะดังกล่าวเปิดทางสำหรับการเข้าร่วมอย่างถาวรในประชุมวาระพิเศษต่างๆ ของที่ประชุมซัมมิตกลุ่ม BRICS และที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม เช่นเดียวกับกิจกรรมระดับสูงอื่นๆ นอกจากนี้ เหล่าพันธมิตรยังสามารถมีส่วนช่วยสนับสนุนเอกสารต่างๆ ที่คลอดออกมาจากทางกลุ่มอีกด้วย . ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) อูชาคอฟ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเห็นชอบ "สถานะรัฐพันธมิตร" โดยบอกว่าเบลารุส โบลิเวีย อินโดนีเซีย คาซัคสถาน ไทย คิวบา ยูกันดา มาเลเซีย และอุซเบกิสถาน จะก้าวมาเป็นพันธมิตรของ BRICS อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป และคาดหมายว่าจะมีการยืนยันประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมอีก 4 ชาติ ที่ได้รับเชิญให้เข้ามาเป็นรัฐพันธมิตรเช่นกันในอนาคตอันใกล้นี้ . แรกเริ่ม BRICS ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ แต่ทางกลุ่มได้ขยายขอบเขตอ้าแขนรับอียิปต์ อิหร่าน เอธิโอเปีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปีนี้ . อูชาคอฟ อ้างอิงคำบอกกล่าวของเหล่าตัวแทนจากริยาด ว่าซาอุดีอาระเบียพักกระบวนการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS เนื่องจากขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นภายในประเทศ สำหรับการก้าวมาเป็นสมาชิกเต็มขั้นนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ . ผู้ช่วยวังเครมลินรายนี้เผยด้วยว่าได้รับใบสมัครจาก 35 ชาติ สำหรับขอเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ไม่ว่าสถานะใดสถานะหนึ่ง ก่อนหน้าการประชุมซัมมิตในคาซาน "บางประเทศต้องการได้รับการเข้าร่วมอย่างเต็มขั้นในทันที ส่วนประเทศอื่่นๆ ต้องการเข้าร่วมเป็นรายกิจกรรมในฐานะผู้สังเกตการณ์" เขาอธิบาย . ณ เวลานี้ มีประเทศต่างๆ มากกว่า 20 ชาติ ที่แสดงความสนใจร่วมมือกับ BRICS อ้างอิงข้อมูลจากอูชาคอฟ ในนั้นได้แก่ อาเซอร์ไบจาน บังกลาเทศ บาห์เรน, บูร์กินาฟาโซ เวเนซุเอลา ฮอนดูรัส ซิมบับเว กัมพูชา โคลอมเบีย สาธารณรัฐคองโก ลาว คูเวต โมร็อกโก พม่า นิการากัว ปากีสถาน ปาเลสไตน์ เซเนกัล ซีเรีย ชาด ศรีลังกา อิเควทอเรียลกินี และซูดานใต้ . อูชาคอฟ ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของ BRICS ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังยกระดับอิทธิพลของพวกเขาในขอบเขตทางเศรษฐกิจและการเงิน เช่นเดียวกับในการตอบสนองต่อความท้าทายทางสภาพภูมิอากาศ (โลกร้อน)" และเสริมความเข้มแข็งแก่ความมั่นคงทางอาหารและพลังงานโลก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123563 .............. Sondhi X
    Like
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 794 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇸🇦🇦🇫 ซาอุดีอาระเบียเปิดสถานทูตในอัฟกานิสถานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
    .
    JUST IN: 🇸🇦🇦🇫 Saudi Arabia officially reopens its embassy in Afghanistan.
    .
    12:57 PM · Dec 24, 2024 · 197.8K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1871434950479953998
    🇸🇦🇦🇫 ซาอุดีอาระเบียเปิดสถานทูตในอัฟกานิสถานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง . JUST IN: 🇸🇦🇦🇫 Saudi Arabia officially reopens its embassy in Afghanistan. . 12:57 PM · Dec 24, 2024 · 197.8K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1871434950479953998
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจเปิดสถานทูตในอัฟกานิสถานอีกครั้งอย่างเป็นทางการ
    ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจเปิดสถานทูตในอัฟกานิสถานอีกครั้งอย่างเป็นทางการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน: รายงานข่าวซาอุดีอาระเบียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองซาดา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน

    - รายงานเบื้องต้นระบุว่าซาอุดีอาระเบียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองซาดาอย่างหนัก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มอันซาร์ อัลลาห์ควบคุมอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน

    - ในเวลาเดียวกัน รายงานยังระบุว่า Southern Transitional Council (STC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เปิดฉากโจมตีอย่างกะทันหันในภูมิภาคไทซ์ทางตอนใต้ มีรายงานการปะทะกันอย่างหนักในเมืองอัลจานาด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยเมน ทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วในประเทศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

    - เหตุการณ์ต่อมา มีรายงาน เครื่องบินเจ็ตของอังกฤษ 2 ลำ และเครื่องบินเติมน้ำมันของอังกฤษ 1 ลำ บินเหนือเมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
    ด่วน: รายงานข่าวซาอุดีอาระเบียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองซาดา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน - รายงานเบื้องต้นระบุว่าซาอุดีอาระเบียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองซาดาอย่างหนัก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มอันซาร์ อัลลาห์ควบคุมอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน - ในเวลาเดียวกัน รายงานยังระบุว่า Southern Transitional Council (STC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เปิดฉากโจมตีอย่างกะทันหันในภูมิภาคไทซ์ทางตอนใต้ มีรายงานการปะทะกันอย่างหนักในเมืองอัลจานาด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยเมน ทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วในประเทศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น - เหตุการณ์ต่อมา มีรายงาน เครื่องบินเจ็ตของอังกฤษ 2 ลำ และเครื่องบินเติมน้ำมันของอังกฤษ 1 ลำ บินเหนือเมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇸🇦🇩🇪 ซาอุดีอาระเบียออกคำเตือน ๓ ฉบับ ถึงรัฐบาลเยอรมนี เกี่ยวกับผู้ก่อเหตุโจมตีคริสต์มาสที่เมืองแม็กเดบูร์ก

    เยอรมนีเพิกเฉยต่อคำเตือนดังกล่าว
    .
    JUST IN: 🇸🇦🇩🇪 Saudi Arabia issued three warnings to the German government about the perpetrator of the Magdeburg Christmas attack.

    Germany ignored them.
    .
    11:39 PM · Dec 21, 2024 · 7.4M Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1870509452694265862
    🇸🇦🇩🇪 ซาอุดีอาระเบียออกคำเตือน ๓ ฉบับ ถึงรัฐบาลเยอรมนี เกี่ยวกับผู้ก่อเหตุโจมตีคริสต์มาสที่เมืองแม็กเดบูร์ก เยอรมนีเพิกเฉยต่อคำเตือนดังกล่าว . JUST IN: 🇸🇦🇩🇪 Saudi Arabia issued three warnings to the German government about the perpetrator of the Magdeburg Christmas attack. Germany ignored them. . 11:39 PM · Dec 21, 2024 · 7.4M Views https://x.com/BRICSinfo/status/1870509452694265862
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇸🇦🇮🇱 พบว่าผู้ก่อเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสของเยอรมนีเป็นชาวซาอุดีอาระเบียที่หลบหนีและเกลียดชังศาสนาอิสลาม และต้องการให้อิสราเอลเข้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย
    .
    JUST IN: 🇸🇦🇮🇱 German Christmas Market attacker found to be Saudi fugitive who hated Islam and wanted Israel to take over a large part of Saudi Arabia.
    .
    7:24 PM · Dec 21, 2024 · 643.7K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1870445274432209162
    🇸🇦🇮🇱 พบว่าผู้ก่อเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสของเยอรมนีเป็นชาวซาอุดีอาระเบียที่หลบหนีและเกลียดชังศาสนาอิสลาม และต้องการให้อิสราเอลเข้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย . JUST IN: 🇸🇦🇮🇱 German Christmas Market attacker found to be Saudi fugitive who hated Islam and wanted Israel to take over a large part of Saudi Arabia. . 7:24 PM · Dec 21, 2024 · 643.7K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1870445274432209162
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    เมื่อปี 2023 ชาวซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งพยายามแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ พฤติกรรมของ Abdulmohsen ต่อตำรวจเบอร์ลินผ่านทางอีเมลและกล่องข้อความบนเว็บไซต์ นอกจากนี้นี้ยังพยายามส่งข้อความไปหา BAMF (Federal Office for Migration and Refugees) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการขอสถานะผู้ลี้ภัยและผู้อพยพของรัฐบาลเยอรมนี โดยเตือนว่า Taleb Abdulmohsen ซึ่งเป็นไซออนิสต์ที่ต่อต้านอิสลาม ข่มขู่จะสังหารชาวเยอรมัน 20 คนโดยไม่เลือกหน้า! แต่เจ้าหน้าที่เยอรมันกลับเพิกเฉย และมองว่า Abdulmohsen เป็นเพียง "นักเคลื่อนไหวทางการเมือง" เท่านั้น เหตุการณ์นี้จะป้องกันได้ หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด

    วิดีโอ1- แสดงให้เห็นผู้ก่อเหตุขณะถูกจับกุม

    จากการที่ผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว
    มีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2023 ชาวซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งพยายามแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ พฤติกรรมของ Abdulmohsen ต่อตำรวจเบอร์ลินผ่านทางอีเมลและกล่องข้อความบนเว็บไซต์ นอกจากนี้นี้ยังพยายามส่งข้อความไปหา BAMF (Federal Office for Migration and Refugees) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการขอสถานะผู้ลี้ภัยและผู้อพยพของรัฐบาลเยอรมนี โดยเตือนว่า Taleb Abdulmohsen ซึ่งเป็นไซออนิสต์ที่ต่อต้านอิสลาม ข่มขู่จะสังหารชาวเยอรมัน 20 คนโดยไม่เลือกหน้า! แต่เจ้าหน้าที่เยอรมันกลับเพิกเฉย และมองว่า Abdulmohsen เป็นเพียง "นักเคลื่อนไหวทางการเมือง" เท่านั้น เหตุการณ์นี้จะป้องกันได้ หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด วิดีโอ1- แสดงให้เห็นผู้ก่อเหตุขณะถูกจับกุม จากการที่ผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ

    จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์

    ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006)

    Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    3/ เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์ ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006) Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • 2/
    เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ

    จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์

    ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006)

    Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    2/ เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์ ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006) Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 1/
    เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ

    จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์

    ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006)

    Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    1/ เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์ ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006) Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามการคาดการณ์ของหลายฝ่าย เชื่อว่าดินแดนซีเรียจะถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนตามอิทธิพลของแต่ละประเทศ:


    ⏺ รัฐอลาวีในทาร์ทัสและลัตเกีย (ภายใต้การคุ้มครองของรัสเซีย)
    ⏺ รัฐดรูซในภาคใต้ (ภายใต้การคุ้มครองของอิสราเอล)
    ⏺ รัฐเคิร์ด (ในรักกา มานบิจ และภูมิภาคยูเฟรตีส์) ภายใต้การคุ้มครองของสหรัฐอเมริกา
    ⏺ รัฐเติร์กและอาหรับซุนนีแห่งอาเลปโปภายใต้การคุ้มครองของตุรกี
    ⏺ รัฐอาหรับซุนนีในดามัสกัสภายใต้การคุ้มครองของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
    ตามการคาดการณ์ของหลายฝ่าย เชื่อว่าดินแดนซีเรียจะถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนตามอิทธิพลของแต่ละประเทศ: ⏺ รัฐอลาวีในทาร์ทัสและลัตเกีย (ภายใต้การคุ้มครองของรัสเซีย) ⏺ รัฐดรูซในภาคใต้ (ภายใต้การคุ้มครองของอิสราเอล) ⏺ รัฐเคิร์ด (ในรักกา มานบิจ และภูมิภาคยูเฟรตีส์) ภายใต้การคุ้มครองของสหรัฐอเมริกา ⏺ รัฐเติร์กและอาหรับซุนนีแห่งอาเลปโปภายใต้การคุ้มครองของตุรกี ⏺ รัฐอาหรับซุนนีในดามัสกัสภายใต้การคุ้มครองของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไม่สามัคคี ไม่คิดช่วยเหลือประเทศใกล้เคียงอย่างจริงใจและจริงจัง ก็ต้องได้รับผลนั้นไป"

    อียิปต์ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความกังวลเพิ่มขึ้น เกี่ยวกับความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในซีเรีย เนื่องจากการโค่นล้มประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัลอัสซาด ซึ่งเป็นการปกครองของอำนาจเก่า และประเทศเหล่านั้นก็จัดอยู่ในการปกครองที่มีมาแต่ดั้งเดิมเช่นกัน

    วอชิงตันโพสต์ รายงาน
    "ไม่สามัคคี ไม่คิดช่วยเหลือประเทศใกล้เคียงอย่างจริงใจและจริงจัง ก็ต้องได้รับผลนั้นไป" อียิปต์ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความกังวลเพิ่มขึ้น เกี่ยวกับความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในซีเรีย เนื่องจากการโค่นล้มประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัลอัสซาด ซึ่งเป็นการปกครองของอำนาจเก่า และประเทศเหล่านั้นก็จัดอยู่ในการปกครองที่มีมาแต่ดั้งเดิมเช่นกัน วอชิงตันโพสต์ รายงาน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇸🇦⚽️ ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ๒๐๓๔
    .
    UST IN: 🇸🇦⚽️ Saudi Arabia to host 2034 FIFA World Cup.
    .
    12:39 AM · Dec 12, 2024 · 112.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1866900739827659169
    🇸🇦⚽️ ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ๒๐๓๔ . UST IN: 🇸🇦⚽️ Saudi Arabia to host 2034 FIFA World Cup. . 12:39 AM · Dec 12, 2024 · 112.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1866900739827659169
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลบอกไม่ได้ฉวยโอกาสตะลุยเข้าสู่ดินแดนซีเรียนอกเหนือจากเขตกันชนกับที่ราบสูงโกลัน อย่างที่มีสื่อบางสำนักรายงานว่ากองทัพยิวเข้าประชิดกรุงดามัสกัสแล้ว ขณะที่ทางด้านกลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์การสู้รบในซีเรียระบุว่า รัฐยิวปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียแล้วถึงกว่า 300 ระลอก นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเขตกันชนระหว่างที่ราบสูงโกลัน กับอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาด 400 ตารางกิโลเมตรภายในซีเรีย ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามตะวันออกกลางปี 1973 เอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นล้มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยฝีมือกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่บุกสายฟ้าแลบจากด้านเหนือของซีเรียเข้าสู่กรุงดามัสกัสในเวลาเพียง 12 วัน
    .
    กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า การเข้ายึดเขตกันชนเป็นมาตรการชั่วคราวและเพียงจำกัด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง
    .
    ทว่า ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศว่า ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปตลอดกาล
    .
    พวกชาติอาหรับทั้งอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย พากันประณามว่านี่เป็นการรุกรานของอิสราเอล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าอิสราเอลฉวยโอกาสที่ซีเรียกำลังปั่นป่วน
    .
    ด้านอเมริกาแถลงเช่นเดียวกันว่า การรุกรานของอิสราเอลต้องเป็นปฏิบัติการชั่วคราว หลังจากสหประชาชาติประกาศว่า อิสราเอลกำลังละเมิดข้อตกลงปี 1974
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนหนึ่งของซีเรียระบุว่า กองทหารอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าถึงเมืองกาตานา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 25 กิโลเมตร และอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปลอดทหารระหว่างซีเรียกับอิสราเอล
    .
    กระนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า รายงานที่กล่าวหาว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมุ่งหน้าสู่ดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง แต่กองทัพรัฐยิวยังคงประจำอยู่ในเขตกันชน และยืนยันจุดยืนเดิมว่า อิสราเอลไม่ต้องการขัดแย้งกับผู้ปกครองใหม่ของดามัสกัส
    .
    อิสราเอลนั้นมีประวัติยาวนานในการยึดดินแดนระหว่างทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและครอบครองไม่มีกำหนดโดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคง ตัวอย่างเช่น การเข้ายึดที่ราบสูงโกลันจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 1967 จากนั้นก็ประกาศเข้าผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นอเมริกา ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ
    .
    ด้านกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามกลางเมืองในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน รายงานว่า นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียกว่า 300 ระลอกแล้ว ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอลเองบอกว่า ได้โจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นคลังอาวุธเคมีและอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ทั่วซีเรีย ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกถึงมือกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และสำทับว่า จะโจมตีทางอากาศในซีเรียต่อไปอีกหลายวัน
    .
    สำหรับสถานการณ์ภายในซีเรียนั้น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองการปลดแอกจากระบอบอัสซาดที่ดำเนินมาถึงกว่า 50 ปีในดามัสกัส โมฮัมเหม็ด จาลาลี นายกรัฐมนตรีซีเรียที่ยังอยู่ในกรุงดามัสกัสไม่ได้หนีไปไหน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกู้ชาติที่นำโดยกลุ่มกบฏและมีฐานอยู่ในดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
    .
    แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำเอชทีเอสที่นานาชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้พบกับจาลาลีและรองประธานาธิบดีไฟซาล เมคแดด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว และสถานีอัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยงานถ่ายโอนอำนาจจะนำโดยโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลกู้ชาติ
    .
    นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร อัล-กอลานียังออกคำแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของระบอบอัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานชาวซีเรีย ซึ่งจะถูกนำตัวมาลงโทษ รวมทั้งจะเสนอรางวัลให้ผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกองทัพอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม รวมทั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่จะหาทางนำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งหนีไปต่างประเทศกลับมารับโทษอีกด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118732
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลบอกไม่ได้ฉวยโอกาสตะลุยเข้าสู่ดินแดนซีเรียนอกเหนือจากเขตกันชนกับที่ราบสูงโกลัน อย่างที่มีสื่อบางสำนักรายงานว่ากองทัพยิวเข้าประชิดกรุงดามัสกัสแล้ว ขณะที่ทางด้านกลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์การสู้รบในซีเรียระบุว่า รัฐยิวปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียแล้วถึงกว่า 300 ระลอก นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา . กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเขตกันชนระหว่างที่ราบสูงโกลัน กับอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาด 400 ตารางกิโลเมตรภายในซีเรีย ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามตะวันออกกลางปี 1973 เอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นล้มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยฝีมือกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่บุกสายฟ้าแลบจากด้านเหนือของซีเรียเข้าสู่กรุงดามัสกัสในเวลาเพียง 12 วัน . กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า การเข้ายึดเขตกันชนเป็นมาตรการชั่วคราวและเพียงจำกัด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง . ทว่า ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศว่า ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปตลอดกาล . พวกชาติอาหรับทั้งอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย พากันประณามว่านี่เป็นการรุกรานของอิสราเอล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าอิสราเอลฉวยโอกาสที่ซีเรียกำลังปั่นป่วน . ด้านอเมริกาแถลงเช่นเดียวกันว่า การรุกรานของอิสราเอลต้องเป็นปฏิบัติการชั่วคราว หลังจากสหประชาชาติประกาศว่า อิสราเอลกำลังละเมิดข้อตกลงปี 1974 . ต่อมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนหนึ่งของซีเรียระบุว่า กองทหารอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าถึงเมืองกาตานา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 25 กิโลเมตร และอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปลอดทหารระหว่างซีเรียกับอิสราเอล . กระนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า รายงานที่กล่าวหาว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมุ่งหน้าสู่ดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง แต่กองทัพรัฐยิวยังคงประจำอยู่ในเขตกันชน และยืนยันจุดยืนเดิมว่า อิสราเอลไม่ต้องการขัดแย้งกับผู้ปกครองใหม่ของดามัสกัส . อิสราเอลนั้นมีประวัติยาวนานในการยึดดินแดนระหว่างทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและครอบครองไม่มีกำหนดโดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคง ตัวอย่างเช่น การเข้ายึดที่ราบสูงโกลันจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 1967 จากนั้นก็ประกาศเข้าผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นอเมริกา ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ . ด้านกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามกลางเมืองในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน รายงานว่า นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียกว่า 300 ระลอกแล้ว ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอลเองบอกว่า ได้โจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นคลังอาวุธเคมีและอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ทั่วซีเรีย ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกถึงมือกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และสำทับว่า จะโจมตีทางอากาศในซีเรียต่อไปอีกหลายวัน . สำหรับสถานการณ์ภายในซีเรียนั้น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองการปลดแอกจากระบอบอัสซาดที่ดำเนินมาถึงกว่า 50 ปีในดามัสกัส โมฮัมเหม็ด จาลาลี นายกรัฐมนตรีซีเรียที่ยังอยู่ในกรุงดามัสกัสไม่ได้หนีไปไหน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกู้ชาติที่นำโดยกลุ่มกบฏและมีฐานอยู่ในดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ . แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำเอชทีเอสที่นานาชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้พบกับจาลาลีและรองประธานาธิบดีไฟซาล เมคแดด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว และสถานีอัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยงานถ่ายโอนอำนาจจะนำโดยโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลกู้ชาติ . นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร อัล-กอลานียังออกคำแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของระบอบอัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานชาวซีเรีย ซึ่งจะถูกนำตัวมาลงโทษ รวมทั้งจะเสนอรางวัลให้ผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกองทัพอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม รวมทั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่จะหาทางนำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งหนีไปต่างประเทศกลับมารับโทษอีกด้วย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118732 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศดีๆเค้าไม่ทำกัน!
    ซาอุดีอาระเบีย "แถลงการณ์ประณาม" อิสราเอลประเทศประชาธิปไตยที่มีศิลธรรมหนึ่งเดียวในตะวันออกกลาง จากการรุกรานซีเรีย

    “การโจมตีที่กระทำโดยรัฐบาลยึดครองของอิสราเอล ซึ่งรวมทั้งการยึดพื้นที่กันชนในบริเวณที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) และการโจมตีดินแดนซีเรียเพื่อยึดมาเป็นของตนเอง เป็นการยืนยันว่าอิสราเอลยังคงละเมิดหลักการกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะทำลายโอกาสของซีเรียในการฟื้นฟูความมั่นคง เสถียรภาพ และบูรณภาพแห่งดินแดน”
    ประเทศดีๆเค้าไม่ทำกัน! ซาอุดีอาระเบีย "แถลงการณ์ประณาม" อิสราเอลประเทศประชาธิปไตยที่มีศิลธรรมหนึ่งเดียวในตะวันออกกลาง จากการรุกรานซีเรีย “การโจมตีที่กระทำโดยรัฐบาลยึดครองของอิสราเอล ซึ่งรวมทั้งการยึดพื้นที่กันชนในบริเวณที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) และการโจมตีดินแดนซีเรียเพื่อยึดมาเป็นของตนเอง เป็นการยืนยันว่าอิสราเอลยังคงละเมิดหลักการกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะทำลายโอกาสของซีเรียในการฟื้นฟูความมั่นคง เสถียรภาพ และบูรณภาพแห่งดินแดน”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## กลุ่มกบฏ ซีเรีย โค่นล้ม รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด สำเร็จ...!!! ##
    ..
    ..
    ผลในวันนี้ย่อมเกิดจากเหตุเมื่อครั้งอดีต...
    .
    สงครามกลางเมือง ในซีเรีย เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 13 ปี ที่แล้ว (2011)...
    .
    ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring...
    .
    ซึ่ง CIA และ องค์กรอื่น ๆ ของ อเมริกา ให้การสนับสนุน การเคลื่อนไหว ในหลายประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น...
    .
    การให้การอบรมด้านสื่อดิจิทัล และ การจัดตั้งเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้กลุ่มเคลื่อนไหวในช่วงนั้นมีความสามารถในการจัดการประท้วงมากขึ้น...
    .
    เมื่อ อเมริกา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ของ ประเทศซีเรีย เพียงเพราะ...
    .
    ผู้นำ ซีเรีย บาชา อัล อัสซาด ไม่ยอม ศิโรราบ ต่อ อเมริกา แต่ดันหันไปมี สัมพันธ์ ฉันมิตร กับ รัสเซีย การแทรกแซงด้วย ศาสตร์มืดจึงเริ่มต้นขึ้น...
    .
    ด้วยข้อหา เผด็จการ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย...
    .
    คำสั่งลับถูกเซ็นโดย ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ช่วยเหลือ กลุ่มกบฏในซีเรีย เช่น กลุ่ม FSA
    .
    อีกทั้ง CIA ยังคงเป็นคนติดต่อประสานงานกับ ซาอุดีอาระเบีย และ กาตาร์ ให้ช่วยสนับสนุน กลุ่มกบฏในซีเรีย
    .
    เกิดการปลุกปั่นประชาชนภายในประเทศจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่ CIA
    .
    ผ่านสงครามกลางเมืองมา 10 ปี
    .
    ISIS รุกเข้าไปยึดพื้นที่ ยึดบ่อน้ำมันของ รัฐบาลซีเรีย
    .
    จากนั้น อเมริกา ก็รุกเข้าไปในแผ่นดินที่ของ ซีเรียบ้าง อ้างว่า จะเข้าไปปราบ กลุ่ม ISIS
    .
    รัซบาลซีเรีย บอกว่า ฉันไม่ได้ร้องขอ ออกไปจากประเทศฉันเดี๋ยวนี้...!!!
    .
    อเมริกา บอก ไม่ออกโว่ย...!!!
    .
    อเมริกา ว่า บาชา อัล อัสซาด เอ็งมันเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย (ทั้งๆที่เขาชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงของประชาชนชาว ซีเรีย ในปี 2000 อ่ะนะ) ข้าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเอ็ง
    .
    หลังจากนั้น...
    .
    รัสเซีย เข้ามาช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS
    .
    อเมริกา จะออกมาโวยวายเสียงดังทุกครั้งที่ รัสเซีย ถล่มกลุ่ม ISIS จนเฮี่ยน ว่า...
    .
    รัสเซีย ยิงถล่มประชาชนผู้บริสุทธิ์...
    .
    อเมริกา ขัดแข้งขัดขา รัสเซีย ตลอดเวลา
    .
    ทั้งๆที่ อเมริกาก เข้ามาก่อน รัสเซีย เป็นปีๆ แต่ กลุ่ม ISIS ไม่ได้ถูกกวาดล้างเลย แถมยังเข้มแข็งมากขึ้นด้วย
    .
    ผิดกับช่วงที่ รัสเซีย เข้ามา ไม่นาน กลุ่ม ISIS ก็ถูกรัสเซีย ถล่มเฮี่ยนจนล่มสลายไป...
    .
    ท้ายที่สุด ข้อมูลก็เปิดเผยสู่สาธารณะชนว่า ผู้ที่ ก่อตั้ง ก่อกำเนิด ให้ทุนสนับสนุน ทำให้ ISIS แข็งแรง ก็คือ อเมริกา นั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคนยอมรับเองกับปาก...
    .
    วีรกรรม คร่าวๆของ อเมริกา เมื่อเข้าไปใน แผ่นดินซีเรีย...
    .
    1.อเมริกา และ กองกำลัง SDF ที่อเมริกาสนับสนุน เข้าไป ยึดแหล่งน้ำมันของในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Hasakah และ Deir Ezzor
    .
    มีรายงานว่า น้ำมันประมาณ 80% ของที่ผลิตใน ซีเรีย ถูกขโมย และ ส่งออกไปขายยัง อิรัก ผ่านเส้นทางลักลอบ
    .
    การกระทำนี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจซีเรีย โดยกระทรวงน้ำมันซีเรียรายงานว่าความเสียหายรวมตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2022 มีมูลค่ากว่า 107.1 พันล้านดอลลาร์
    .
    2.อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้าธัญพืช ของ ซีเรีย ไปดื้อๆ
    .
    3.อเมริกา ยังขโมยธัญพืชจำนวนมากจากพื้นที่เกษตรในซีเรีย โดยใช้รถบรรทุกขนส่งไปยัง อิรัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ซีเรียเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
    .
    4.อเมริกา และ พันธมิตรในพื้นที่ ตั้งโรงกลั่นน้ำมันเพื่อแปรรูปน้ำมันที่ขโมยมาในพื้นที่ Rmelan ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำมันของซีเรีย
    .
    เป็นต้น...
    .
    ทุกวันนี้ สรุปได้แน่ชัดและเห็นหน้าเห็นตากันหมดแล้วว่า...
    .
    - ตุรกี อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และ HTS ในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย
    .
    โดย HTS มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในอดีต และ เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่...
    .
    ตุรกี ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึกทหาร และ การสนับสนุนทางการเงิน
    .
    - อิสราเอล อยู่เบื้องหลัง กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย แถมยังเปิดหน้า ใช้ขีปนาวุธ โจมตีพื้นที่ทางการทหารของ ฝั่งรัฐบาลซีเรีย อย่างต่อเนื่อง
    .
    - อเมริกา อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA ชาวเคิร์ดในซีเรีย และ กลุ่ม ISIS
    .
    อเมริกา ให้การสนับสนุน ทั้งทาง อาวุธ การฝึกทหาร และ ความช่วยเหลือทางการเงิน นอกจากนี้ยังส่งกองกำลังพิเศษเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บางส่วนของซีเรียเพื่อช่วยกลุ่มพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย
    ...
    ...
    วันนี้ขัดเจนแล้ว ว่า กรุงดามัสกัส ถูกกลุ่มกบฏ ยึดไว้ได้ เท่ากับว่า รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด ถูกโค่นล้มลงแล้ว...
    .
    ต่อไปก็จะถึงขั้น การแบ่งเค้กกัน ระหว่าง กลุ่มกบฏต่างๆ และ ประเทศเบื้องหลัง อย่าง ตุรกี อเมริกา และ อิสราเอล...
    ...
    ...
    ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศคือ...???
    .
    1. อิสราเอล จะได้พื้นที่ดินแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของ รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ มาโดยตลอด (ซึ่งก็คือแผน The Greater Israel นั่นเอง)
    .
    2. ตุรกี จะได้ดินแดนที่พวกเขากล่าวมาตลอดว่า ทางประวัติศาสต์ มันคือส่วนหนึ่งของ ตุรกี นั่นคือ อาเลปโป แต่ครั้งนี้อาจจะได้กำไรเพิ่มมากกว่านั้น
    .
    3. อเมริกา จะได้ครอบครอง ทรัพยากรน้ำมัน ของ ซีเรีย อย่างถูกกฏหมาย และ แผน The Greater Israel จะได้เป็นจริงไปอีก Step หนึ่ง...
    ...
    การล้มรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อิหร่าน และ รัสเซีย จะช่วยลดอิทธิพลของทั้ง 2 ประเทศในภูมิภาค และช่วยเสริมความมั่นคงของพันธมิตร อเมริกา เช่น ตุรกี และ อิสราเอล ในตะวันออกกลาง...
    .
    https://www.thairath.co.th/news/foreign/2829854
    ## กลุ่มกบฏ ซีเรีย โค่นล้ม รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด สำเร็จ...!!! ## .. .. ผลในวันนี้ย่อมเกิดจากเหตุเมื่อครั้งอดีต... . สงครามกลางเมือง ในซีเรีย เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 13 ปี ที่แล้ว (2011)... . ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring... . ซึ่ง CIA และ องค์กรอื่น ๆ ของ อเมริกา ให้การสนับสนุน การเคลื่อนไหว ในหลายประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น... . การให้การอบรมด้านสื่อดิจิทัล และ การจัดตั้งเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้กลุ่มเคลื่อนไหวในช่วงนั้นมีความสามารถในการจัดการประท้วงมากขึ้น... . เมื่อ อเมริกา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ของ ประเทศซีเรีย เพียงเพราะ... . ผู้นำ ซีเรีย บาชา อัล อัสซาด ไม่ยอม ศิโรราบ ต่อ อเมริกา แต่ดันหันไปมี สัมพันธ์ ฉันมิตร กับ รัสเซีย การแทรกแซงด้วย ศาสตร์มืดจึงเริ่มต้นขึ้น... . ด้วยข้อหา เผด็จการ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย... . คำสั่งลับถูกเซ็นโดย ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ช่วยเหลือ กลุ่มกบฏในซีเรีย เช่น กลุ่ม FSA . อีกทั้ง CIA ยังคงเป็นคนติดต่อประสานงานกับ ซาอุดีอาระเบีย และ กาตาร์ ให้ช่วยสนับสนุน กลุ่มกบฏในซีเรีย . เกิดการปลุกปั่นประชาชนภายในประเทศจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่ CIA . ผ่านสงครามกลางเมืองมา 10 ปี . ISIS รุกเข้าไปยึดพื้นที่ ยึดบ่อน้ำมันของ รัฐบาลซีเรีย . จากนั้น อเมริกา ก็รุกเข้าไปในแผ่นดินที่ของ ซีเรียบ้าง อ้างว่า จะเข้าไปปราบ กลุ่ม ISIS . รัซบาลซีเรีย บอกว่า ฉันไม่ได้ร้องขอ ออกไปจากประเทศฉันเดี๋ยวนี้...!!! . อเมริกา บอก ไม่ออกโว่ย...!!! . อเมริกา ว่า บาชา อัล อัสซาด เอ็งมันเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย (ทั้งๆที่เขาชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงของประชาชนชาว ซีเรีย ในปี 2000 อ่ะนะ) ข้าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเอ็ง . หลังจากนั้น... . รัสเซีย เข้ามาช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS . อเมริกา จะออกมาโวยวายเสียงดังทุกครั้งที่ รัสเซีย ถล่มกลุ่ม ISIS จนเฮี่ยน ว่า... . รัสเซีย ยิงถล่มประชาชนผู้บริสุทธิ์... . อเมริกา ขัดแข้งขัดขา รัสเซีย ตลอดเวลา . ทั้งๆที่ อเมริกาก เข้ามาก่อน รัสเซีย เป็นปีๆ แต่ กลุ่ม ISIS ไม่ได้ถูกกวาดล้างเลย แถมยังเข้มแข็งมากขึ้นด้วย . ผิดกับช่วงที่ รัสเซีย เข้ามา ไม่นาน กลุ่ม ISIS ก็ถูกรัสเซีย ถล่มเฮี่ยนจนล่มสลายไป... . ท้ายที่สุด ข้อมูลก็เปิดเผยสู่สาธารณะชนว่า ผู้ที่ ก่อตั้ง ก่อกำเนิด ให้ทุนสนับสนุน ทำให้ ISIS แข็งแรง ก็คือ อเมริกา นั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคนยอมรับเองกับปาก... . วีรกรรม คร่าวๆของ อเมริกา เมื่อเข้าไปใน แผ่นดินซีเรีย... . 1.อเมริกา และ กองกำลัง SDF ที่อเมริกาสนับสนุน เข้าไป ยึดแหล่งน้ำมันของในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Hasakah และ Deir Ezzor . มีรายงานว่า น้ำมันประมาณ 80% ของที่ผลิตใน ซีเรีย ถูกขโมย และ ส่งออกไปขายยัง อิรัก ผ่านเส้นทางลักลอบ . การกระทำนี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจซีเรีย โดยกระทรวงน้ำมันซีเรียรายงานว่าความเสียหายรวมตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2022 มีมูลค่ากว่า 107.1 พันล้านดอลลาร์ . 2.อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้าธัญพืช ของ ซีเรีย ไปดื้อๆ . 3.อเมริกา ยังขโมยธัญพืชจำนวนมากจากพื้นที่เกษตรในซีเรีย โดยใช้รถบรรทุกขนส่งไปยัง อิรัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ซีเรียเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก . 4.อเมริกา และ พันธมิตรในพื้นที่ ตั้งโรงกลั่นน้ำมันเพื่อแปรรูปน้ำมันที่ขโมยมาในพื้นที่ Rmelan ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำมันของซีเรีย . เป็นต้น... . ทุกวันนี้ สรุปได้แน่ชัดและเห็นหน้าเห็นตากันหมดแล้วว่า... . - ตุรกี อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และ HTS ในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย . โดย HTS มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในอดีต และ เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่... . ตุรกี ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึกทหาร และ การสนับสนุนทางการเงิน . - อิสราเอล อยู่เบื้องหลัง กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย แถมยังเปิดหน้า ใช้ขีปนาวุธ โจมตีพื้นที่ทางการทหารของ ฝั่งรัฐบาลซีเรีย อย่างต่อเนื่อง . - อเมริกา อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA ชาวเคิร์ดในซีเรีย และ กลุ่ม ISIS . อเมริกา ให้การสนับสนุน ทั้งทาง อาวุธ การฝึกทหาร และ ความช่วยเหลือทางการเงิน นอกจากนี้ยังส่งกองกำลังพิเศษเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บางส่วนของซีเรียเพื่อช่วยกลุ่มพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย ... ... วันนี้ขัดเจนแล้ว ว่า กรุงดามัสกัส ถูกกลุ่มกบฏ ยึดไว้ได้ เท่ากับว่า รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด ถูกโค่นล้มลงแล้ว... . ต่อไปก็จะถึงขั้น การแบ่งเค้กกัน ระหว่าง กลุ่มกบฏต่างๆ และ ประเทศเบื้องหลัง อย่าง ตุรกี อเมริกา และ อิสราเอล... ... ... ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศคือ...??? . 1. อิสราเอล จะได้พื้นที่ดินแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของ รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ มาโดยตลอด (ซึ่งก็คือแผน The Greater Israel นั่นเอง) . 2. ตุรกี จะได้ดินแดนที่พวกเขากล่าวมาตลอดว่า ทางประวัติศาสต์ มันคือส่วนหนึ่งของ ตุรกี นั่นคือ อาเลปโป แต่ครั้งนี้อาจจะได้กำไรเพิ่มมากกว่านั้น . 3. อเมริกา จะได้ครอบครอง ทรัพยากรน้ำมัน ของ ซีเรีย อย่างถูกกฏหมาย และ แผน The Greater Israel จะได้เป็นจริงไปอีก Step หนึ่ง... ... การล้มรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อิหร่าน และ รัสเซีย จะช่วยลดอิทธิพลของทั้ง 2 ประเทศในภูมิภาค และช่วยเสริมความมั่นคงของพันธมิตร อเมริกา เช่น ตุรกี และ อิสราเอล ในตะวันออกกลาง... . https://www.thairath.co.th/news/foreign/2829854
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    กบฏซีเรีย ยึดกรุงดามัสกัสสำเร็จ ปธน.อัสซาดเผ่นหนีออกนอกประเทศ
    กองบัญชาการกองทัพซีเรียแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า การปกครองของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากกลุ่มกบฏโจมตีแบบสายฟ้าแลบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังรัฐบาลซีเรียล่าถอยจากฮอมส์ เมืองสำคัญ ไม่ถึงวันของการสู้รบ ที่ทำให้ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่อยู่ในอำนาจมานานกว่า 24 ปี แขวนอยู่บนเส้นด้าย ในขณะที่พวกกบฏกำลังรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ในนั้นรวมถึงการเดินหน้าเข้าหากรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศ
    .
    นับตั้งแต่พวกกบฏบุกจู่โจมสายฟ้าแลบเข้าสู่เมืองอเลปโปเมื่อสัปดาห์ก่อน กองกำลังป้องกันตนเองต้องดิ้นรนรับมือกับความรวดเร็วของฝ่ายกบฏที่จู่โจมยึดเมืองหลักๆและจุดประกายการก่อขบถตามพื้นที่ต่างๆในดูเหมือนจะมอดไหม้มาช้านานแล้ว
    .
    การล่มสลายของเมืองฮอมส์และภัยคุกคามที่มีต่อเมืองหลวง เวลานี้เสี่ยงก่ออันตรายต่อความอยู่รอดของอำนาจการปกครองซีเรียของอัสซาด ที่เขาครอบครองมานานกว่า 5 ทศวรรษ เช่นเดียวกับความอยู่รอดของอิทธิพลของอิหร่าน ผู้สนับสนุนหลักในภูมิภาคแห่งนี้ของซีเรีย
    .
    อาบู โมฮัมเมด อัล-โกลานี หัวหน้ากลุ่มกบฏที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกกบฏกำลังอยู่บนจุดสูงสุดของการยึดครองทั่วประเทศ และ "จุดจบของระบอบการปกครองอาชญากรใกล้มาถึงแล้ว"
    .
    รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของพวกเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุรัฐบาลของอัสซาด อาจกำลังอยู่บนขอบเหวแห่งการล่มสลาย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งถึงขั้นคาดการณ์กรอบเวลาราวๆ 5 ถึง 10 วัน ส่วนอีกคนบอกว่า อัสซาด อาจถูกโค่นอำนาจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งก็เห็นด้วยกับคำประเมินดังกล่าว
    .
    การยึดเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นเส้นทางจุดตัดสำคัญระหว่างเมืองหลวงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เท่ากับเป็นการตัดขาดกรุงดามัสกัสออกจากชายฝั่งทะเล อันเป็นป้อมปราการของชนกลุ่มนิกายชีอะห์อะลาไวต์ ที่สนับสนุนอัสซาด และจากฐานทัพและฐานทัพเรือของรัสเซีย
    .
    บรรดาผู้บัญชาการกองทัพซีเรียและผู้บัญชาการด้านความมั่นคง ออกจากเมืองฮอมส์ด้วยเฮลิคอปเตอร์ในวันเสาร์(7ธ.ค.) ส่วนขบวนทหารขนาดใหญ่ล่าถอยด้วยการเดินเท้า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ในขณะที่ฝ่ายกบฏบอกว่าพวกเขากำลังรุกเข้าไปยังย่านใจกลางเมือง
    .
    พวกกบฏอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ได้เกือบทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง และพวกเขารุกคืบเข้าไปอยู่ในรัศมีห่างจากกรุงดามัสกัส ไม่ถึง 30 กิโลเมตร หลังจากกองกำลังรัฐบาลล่าถอยไป
    .
    ในสถานการณ์ที่ตอกย้ำความเป็นไปได้ของการเกิดการลุกฮือในเมืองหลวง พวกผู้ประท้วงลงสู่ท้องถนสายต่างๆในแถบชานเมืองหลายแห่งของกรุงดามัสกัส ฉีกโปสเตอร์ภาพของอัสซาดและช่วยกันโค่นรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของเขา โดยไม่มีทหารหรือตำรวจเข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านหลายคนบอกว่าทหารบางส่วนถึงขั้นเปลี่ยนชุดเป็นชุดพลเรือนเข้าร่วมด้วย
    .
    อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวแห่งรัฐรายงานว่า อัสซาด ยังคงอยู่ในกรุงดามัสกัส และกองทัพเผยว่าพวกเขากำลังเสริมกำลังรอบเมืองหลวงและทางใต้
    .
    ความคืบหน้าของสถานการณ์ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตกตะลึงแก่เหล่าประเทศอาหรับ และโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพระลอกใหม่ในภูมิภาค
    .
    กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, อียิปต์, อิรัก, อิหร่าน, ตุรกีและรัสเซีย ออกถ้อยแถลงร่วม บอกว่าวิกฤตนี้กำลังมีวิวัฒนาการที่อันตราย และเรียกร้องให้หาทางออกทางการเมือง อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาเห็นพ้องในก้าวย่างที่เป็นรูปธรรมใดๆ ในฐานะสถานการณ์ภายในซีเรีย เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเป็นรายชั่วโมง
    .
    สงครามกลางเมืองของซีเรีย ซึ่งปะทุขึ้นในปี 2011 เป็นการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอัสซาด ก่อนที่ต่อมามันจะลากบรรดามหาอำนาจจากสงนอกเข้าร่วมวงด้วย ก่อพื้นที่ให้พวกนักรบญิฮาดวางแผนโจมตีทั่วโลแและก่อคลื่นผู้ลี้ภัยหลายล้านคนไหลบ่าเข้าสู่บรรดาประเทศเพื่อนบ้าน
    .
    อัสซาด พึ่งพิงเหล่าพันธมิตรมาช้านานในการกำราบฝ่ายกบฏ โดยมีฝูงบินรบรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ส่วนอิหร่านส่งกองกำลังพันธมิตร ในนั้นรวมถึงฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนและกลุ่มติดอาวุธในอิรัก เข้าเสริมกำลังแก่กองทัพซีเรียและบุกจู่โจมป้อมปราการของกบฏ
    .
    อย่างไรก็ตามด้วยที่รัสเซียต้องหันไปโฟกัสกับสงครามยูเครนมาตั้งแต่ปี 2022 และฮิซบอลเลาะห์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการทำสงครามกองโจรกับอิสราเอล มันจึงจำกัดศักยภาพของพวกเขาหรือของอิหร่าน ในการสนับสนุนอัสซาด
    .
    ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกาจะไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และควรปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปด้วยตัวมันเอง
    .
    รัสเซีย มีฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศในซีเรีย ซึ่งไม่ได้มีความสำคัญแก่สนับสนุนอัสซาดเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการสำแดงอิทธิพลของพวกเขาในเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกา
    .
    ที่ผ่านมา มอสโกให้การสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลซีเรียด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง แต่สำหรับหนนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะยกระดับยุทธการได้อย่างง่ายๆหรือไม่ ส่วนอิหร่านบอกว่าพวกเขาจะพิจารณาส่งกองกำลังไปยังซีเรีย แต่ความช่วยเหลือพิเศษในช่วงเร็วๆนี้ ดูเหมือนจะต้องพึ่งพวกฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธในอิรักไปก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117846
    ..................
    Sondhi X
    กองกำลังรัฐบาลซีเรียล่าถอยจากฮอมส์ เมืองสำคัญ ไม่ถึงวันของการสู้รบ ที่ทำให้ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่อยู่ในอำนาจมานานกว่า 24 ปี แขวนอยู่บนเส้นด้าย ในขณะที่พวกกบฏกำลังรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ในนั้นรวมถึงการเดินหน้าเข้าหากรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศ . นับตั้งแต่พวกกบฏบุกจู่โจมสายฟ้าแลบเข้าสู่เมืองอเลปโปเมื่อสัปดาห์ก่อน กองกำลังป้องกันตนเองต้องดิ้นรนรับมือกับความรวดเร็วของฝ่ายกบฏที่จู่โจมยึดเมืองหลักๆและจุดประกายการก่อขบถตามพื้นที่ต่างๆในดูเหมือนจะมอดไหม้มาช้านานแล้ว . การล่มสลายของเมืองฮอมส์และภัยคุกคามที่มีต่อเมืองหลวง เวลานี้เสี่ยงก่ออันตรายต่อความอยู่รอดของอำนาจการปกครองซีเรียของอัสซาด ที่เขาครอบครองมานานกว่า 5 ทศวรรษ เช่นเดียวกับความอยู่รอดของอิทธิพลของอิหร่าน ผู้สนับสนุนหลักในภูมิภาคแห่งนี้ของซีเรีย . อาบู โมฮัมเมด อัล-โกลานี หัวหน้ากลุ่มกบฏที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกกบฏกำลังอยู่บนจุดสูงสุดของการยึดครองทั่วประเทศ และ "จุดจบของระบอบการปกครองอาชญากรใกล้มาถึงแล้ว" . รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของพวกเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุรัฐบาลของอัสซาด อาจกำลังอยู่บนขอบเหวแห่งการล่มสลาย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งถึงขั้นคาดการณ์กรอบเวลาราวๆ 5 ถึง 10 วัน ส่วนอีกคนบอกว่า อัสซาด อาจถูกโค่นอำนาจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งก็เห็นด้วยกับคำประเมินดังกล่าว . การยึดเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นเส้นทางจุดตัดสำคัญระหว่างเมืองหลวงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เท่ากับเป็นการตัดขาดกรุงดามัสกัสออกจากชายฝั่งทะเล อันเป็นป้อมปราการของชนกลุ่มนิกายชีอะห์อะลาไวต์ ที่สนับสนุนอัสซาด และจากฐานทัพและฐานทัพเรือของรัสเซีย . บรรดาผู้บัญชาการกองทัพซีเรียและผู้บัญชาการด้านความมั่นคง ออกจากเมืองฮอมส์ด้วยเฮลิคอปเตอร์ในวันเสาร์(7ธ.ค.) ส่วนขบวนทหารขนาดใหญ่ล่าถอยด้วยการเดินเท้า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ในขณะที่ฝ่ายกบฏบอกว่าพวกเขากำลังรุกเข้าไปยังย่านใจกลางเมือง . พวกกบฏอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ได้เกือบทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง และพวกเขารุกคืบเข้าไปอยู่ในรัศมีห่างจากกรุงดามัสกัส ไม่ถึง 30 กิโลเมตร หลังจากกองกำลังรัฐบาลล่าถอยไป . ในสถานการณ์ที่ตอกย้ำความเป็นไปได้ของการเกิดการลุกฮือในเมืองหลวง พวกผู้ประท้วงลงสู่ท้องถนสายต่างๆในแถบชานเมืองหลายแห่งของกรุงดามัสกัส ฉีกโปสเตอร์ภาพของอัสซาดและช่วยกันโค่นรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของเขา โดยไม่มีทหารหรือตำรวจเข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านหลายคนบอกว่าทหารบางส่วนถึงขั้นเปลี่ยนชุดเป็นชุดพลเรือนเข้าร่วมด้วย . อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวแห่งรัฐรายงานว่า อัสซาด ยังคงอยู่ในกรุงดามัสกัส และกองทัพเผยว่าพวกเขากำลังเสริมกำลังรอบเมืองหลวงและทางใต้ . ความคืบหน้าของสถานการณ์ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตกตะลึงแก่เหล่าประเทศอาหรับ และโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพระลอกใหม่ในภูมิภาค . กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, อียิปต์, อิรัก, อิหร่าน, ตุรกีและรัสเซีย ออกถ้อยแถลงร่วม บอกว่าวิกฤตนี้กำลังมีวิวัฒนาการที่อันตราย และเรียกร้องให้หาทางออกทางการเมือง อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาเห็นพ้องในก้าวย่างที่เป็นรูปธรรมใดๆ ในฐานะสถานการณ์ภายในซีเรีย เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเป็นรายชั่วโมง . สงครามกลางเมืองของซีเรีย ซึ่งปะทุขึ้นในปี 2011 เป็นการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอัสซาด ก่อนที่ต่อมามันจะลากบรรดามหาอำนาจจากสงนอกเข้าร่วมวงด้วย ก่อพื้นที่ให้พวกนักรบญิฮาดวางแผนโจมตีทั่วโลแและก่อคลื่นผู้ลี้ภัยหลายล้านคนไหลบ่าเข้าสู่บรรดาประเทศเพื่อนบ้าน . อัสซาด พึ่งพิงเหล่าพันธมิตรมาช้านานในการกำราบฝ่ายกบฏ โดยมีฝูงบินรบรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ส่วนอิหร่านส่งกองกำลังพันธมิตร ในนั้นรวมถึงฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนและกลุ่มติดอาวุธในอิรัก เข้าเสริมกำลังแก่กองทัพซีเรียและบุกจู่โจมป้อมปราการของกบฏ . อย่างไรก็ตามด้วยที่รัสเซียต้องหันไปโฟกัสกับสงครามยูเครนมาตั้งแต่ปี 2022 และฮิซบอลเลาะห์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการทำสงครามกองโจรกับอิสราเอล มันจึงจำกัดศักยภาพของพวกเขาหรือของอิหร่าน ในการสนับสนุนอัสซาด . ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกาจะไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และควรปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปด้วยตัวมันเอง . รัสเซีย มีฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศในซีเรีย ซึ่งไม่ได้มีความสำคัญแก่สนับสนุนอัสซาดเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการสำแดงอิทธิพลของพวกเขาในเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกา . ที่ผ่านมา มอสโกให้การสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลซีเรียด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง แต่สำหรับหนนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะยกระดับยุทธการได้อย่างง่ายๆหรือไม่ ส่วนอิหร่านบอกว่าพวกเขาจะพิจารณาส่งกองกำลังไปยังซีเรีย แต่ความช่วยเหลือพิเศษในช่วงเร็วๆนี้ ดูเหมือนจะต้องพึ่งพวกฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธในอิรักไปก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117846 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 708 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇸🇦 ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบียยอดเยี่ยม – เมดเวเดฟ

    ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบียยอดเยี่ยมและเป็นมิตร, และทั้งสองประเทศกำลังทำงานร่วมกันเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดพลังงาน, รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ เน้นย้ำ

    💬"สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกวและริยาดนั้น, ดีและเป็นมิตรมาก รัสเซียให้ความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียในด้านพลังงานเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด," เมดเวเดฟบอกกับผู้ประกาศข่าว อัล อาราบียา
    .
    🇷🇺🇸🇦 RELATIONS BETWEEN RUSSIA AND SAUDI ARABIA ARE EXCELLENT – MEDVEDEV

    Relations between Russia and Saudi Arabia are excellent and friendly, and the countries are working together to stabilize energy markets, Russian Security Council Deputy Chairman Dmitry Medvedev highlighted.

    💬"As for relations between Moscow and Riyadh, they are very good and friendly. Russia cooperates with Saudi Arabia in the energy sphere to maintain market stability," Medvedev told the Al Arabiya broadcaster.
    .
    3:18 AM · Nov 23, 2024 · 3,651 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860055285873713493
    🇷🇺🇸🇦 ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบียยอดเยี่ยม – เมดเวเดฟ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบียยอดเยี่ยมและเป็นมิตร, และทั้งสองประเทศกำลังทำงานร่วมกันเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดพลังงาน, รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ เน้นย้ำ 💬"สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกวและริยาดนั้น, ดีและเป็นมิตรมาก รัสเซียให้ความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียในด้านพลังงานเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด," เมดเวเดฟบอกกับผู้ประกาศข่าว อัล อาราบียา . 🇷🇺🇸🇦 RELATIONS BETWEEN RUSSIA AND SAUDI ARABIA ARE EXCELLENT – MEDVEDEV Relations between Russia and Saudi Arabia are excellent and friendly, and the countries are working together to stabilize energy markets, Russian Security Council Deputy Chairman Dmitry Medvedev highlighted. 💬"As for relations between Moscow and Riyadh, they are very good and friendly. Russia cooperates with Saudi Arabia in the energy sphere to maintain market stability," Medvedev told the Al Arabiya broadcaster. . 3:18 AM · Nov 23, 2024 · 3,651 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860055285873713493
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ซาอุดีอาระเบีย และ #อิหร่าน ย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อเงื่อนไขทั้งหมดของข้อตกลงปักกิ่ง และจะยังคงเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อไปโดยยึดมั่นตามกฎบัตรสหประชาชาติ, กฎบัตรขององค์การความร่วมมืออิสลาม, และกฎหมายระหว่างประเทศ, รวมถึงการเคารพอำนาจอธิปไตย, เอกราช, และความมั่นคงของชาติ, ในการประชุมไตรภาคีที่จัดขึ้นในกรุงริยาดเมื่อวันอังคาร ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านยินดีกับบทบาทเชิงบวกอย่างต่อเนื่องของจีน และเชื่อว่าการสนับสนุนและการติดตามของจีนในการปฏิบัติตามข้อตกลงปักกิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง
    .
    #Saudi Arabia and #Iran reiterated their commitment to all the terms of the Beijing agreement and will continue to strengthen the friendly relations between the two sides by adhering to the United Nations Charter, the Charter of the Organization of Islamic Cooperation, and international law, including respect for national sovereignty, independence, and security, in a trilateral meeting held in Riyadh on Tuesday. Saudi Arabia and Iran welcome China's continued positive role and believes that China's support and follow-up in implementing the Beijing agreement are crucial.
    .
    7:47 AM · Nov 20, 2024 · 647 Views
    https://x.com/globaltimesnews/status/1859035800794792192
    #ซาอุดีอาระเบีย และ #อิหร่าน ย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อเงื่อนไขทั้งหมดของข้อตกลงปักกิ่ง และจะยังคงเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อไปโดยยึดมั่นตามกฎบัตรสหประชาชาติ, กฎบัตรขององค์การความร่วมมืออิสลาม, และกฎหมายระหว่างประเทศ, รวมถึงการเคารพอำนาจอธิปไตย, เอกราช, และความมั่นคงของชาติ, ในการประชุมไตรภาคีที่จัดขึ้นในกรุงริยาดเมื่อวันอังคาร ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านยินดีกับบทบาทเชิงบวกอย่างต่อเนื่องของจีน และเชื่อว่าการสนับสนุนและการติดตามของจีนในการปฏิบัติตามข้อตกลงปักกิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง . #Saudi Arabia and #Iran reiterated their commitment to all the terms of the Beijing agreement and will continue to strengthen the friendly relations between the two sides by adhering to the United Nations Charter, the Charter of the Organization of Islamic Cooperation, and international law, including respect for national sovereignty, independence, and security, in a trilateral meeting held in Riyadh on Tuesday. Saudi Arabia and Iran welcome China's continued positive role and believes that China's support and follow-up in implementing the Beijing agreement are crucial. . 7:47 AM · Nov 20, 2024 · 647 Views https://x.com/globaltimesnews/status/1859035800794792192
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำชาติอาหรับและมุสลิมประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในกาซา พร้อมเรียกร้องยิวถอนออกจากดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมดและสถาปนารัฐปาเลสไตน์ ทว่า รัฐมนตรีอิสราเอลดาหน้าคัดค้าน ถึงขั้นประกาศว่า จะดำเนินการเพื่อเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ปีหน้า
    .
    ในการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) บรรดาผู้นำของกลุ่มสันนิบาตอาหรับซึ่งมีสมาชิก 22 ชาติ และขององค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่มีสมาชิก 57 ชาติ ได้แสดงจุดยืนที่เป็นหนึ่งเดียวกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลและฮามาสทำสงครามในกาซามากว่าหนึ่งปี รวมทั้งลุกลามออกไปยังเลบานอน ตลอดจนอีกหลายชาติในภูมิภาค
    .
    ซัมมิตนี้ยังจัดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นผู้สนับสนุนหลักทางทหารของอิสราเอล
    .
    แถลงการณ์ปิดประชุมที่ออกมาในวันจันทร์ (11) ระบุว่า สันติภาพที่เป็นธรรมและครอบคลุมในตะวันออกกลางเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากอิสราเอลไม่ยุติการยึดครองดินแดนทั้งหมดที่เป็นของปาเลสไตน์ตามเขตแดน ณ วันที่ 4 มิ.ย.1967 ทั้งนี้ ดินแดนดังกล่าวหมายถึงเขตเวสต์แบงก์ เยรูซาเลมตะวันออก ฉนวนกาซา และที่ราบสูงโกลัน
    .
    ในแถลงการณ์ยังอ้างอิงมติของสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้อิสราเอลถอนออกจากดินแดนเหล่านั้น ตลอดจนแผนริเริ่มสันติภาพอาหรับปี 2002 ที่ประเทศอาหรับเสนอสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอล แลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลทำข้อตกลงสองรัฐ ซึ่งก็คือการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ขึ้นมาตามเขตแดนในปี 1967
    .
    นอกจากนั้น แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้นานาชาติประกาศแผนการพร้อมขั้นตอนและกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการสนับสนุนให้รัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้นจริง
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางด้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว คัดค้านการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ โดยกิเดียน ซาร์ ผู้เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐยิวคนใหม่ วิจารณ์ว่า แนวทางดังกล่าวไม่สามารถทำได้จริง
    .
    เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล ซึ่งสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ถึงขั้นประกาศว่า จะผลักดันให้อิสราเอลเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ในปีหน้า
    .
    สำหรับซัมมิตในริยาดคราวนี้ ยังได้แถลงประณามอาชญากรรมน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงของกองทัพอิสราเอลซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    .
    ขณะที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดี เรียกร้องให้โลกหยุดการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์และเลบานอน พร้อมประณามปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซาเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” รวมทั้งยังเรียกร้องให้อิสราเอลยับยั้งการโจมตีอิหร่าน ท่าทีเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างริยาดกับเตหะรานซึ่งมีการปรับปรุงกระเตื้องขึ้นมาก
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิคาติ ของเลบานอน เตือนว่า เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤตความอยู่รอด และโจมตีประเทศที่แทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน ซึ่งมีนัยหมายถึงอิหร่าน
    .
    ขณะที่รองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา อาเรฟของอิหร่าน กล่าวว่า โลกกำลังรอให้ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ยุติการประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนทันที
    .
    นอกจากนั้น แถลงการณ์ของที่ประชุมในริยาดยังเรียกร้องให้แบนการส่งออกและการจัดส่งอาวุธให้อิสราเอล
    .
    อย่างไรก็ดี มีรายงานจากเว็บไซต์ข่าวแอกซิออสของอเมริกาว่า รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ได้เดินทางไปพบทรัมป์ที่รีสอร์ตในฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ ก่อนที่เดอร์เมอร์จะไปพบแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันเดียวกัน
    .
    แอกซิออสรายงานเพิ่มเติมว่า เดอร์เมอร์นำข้อความจากเนทันยาฮูไปถ่ายทอดให้ทรัมป์ฟัง รวมทั้งสรุปแผนการสำหรับกาซา เลบานอน และอิหร่านในช่วง 2 เดือนข้างหน้าก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง
    .
    อนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ทรัมป์เปิดเผยกับนิวยอร์กโพสต์ว่า จะเสนอชื่อ ส.ส.เอลิส สเตฟานิก ประธานของที่ประชุมพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้มีจุดยืนปกป้องอิสราเอลและต่อต้านอิหร่านอย่างแข็งขัน เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นคนใหม่ของเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109074
    ..............
    Sondhi X
    ผู้นำชาติอาหรับและมุสลิมประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในกาซา พร้อมเรียกร้องยิวถอนออกจากดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมดและสถาปนารัฐปาเลสไตน์ ทว่า รัฐมนตรีอิสราเอลดาหน้าคัดค้าน ถึงขั้นประกาศว่า จะดำเนินการเพื่อเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ปีหน้า . ในการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) บรรดาผู้นำของกลุ่มสันนิบาตอาหรับซึ่งมีสมาชิก 22 ชาติ และขององค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่มีสมาชิก 57 ชาติ ได้แสดงจุดยืนที่เป็นหนึ่งเดียวกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลและฮามาสทำสงครามในกาซามากว่าหนึ่งปี รวมทั้งลุกลามออกไปยังเลบานอน ตลอดจนอีกหลายชาติในภูมิภาค . ซัมมิตนี้ยังจัดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นผู้สนับสนุนหลักทางทหารของอิสราเอล . แถลงการณ์ปิดประชุมที่ออกมาในวันจันทร์ (11) ระบุว่า สันติภาพที่เป็นธรรมและครอบคลุมในตะวันออกกลางเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ หากอิสราเอลไม่ยุติการยึดครองดินแดนทั้งหมดที่เป็นของปาเลสไตน์ตามเขตแดน ณ วันที่ 4 มิ.ย.1967 ทั้งนี้ ดินแดนดังกล่าวหมายถึงเขตเวสต์แบงก์ เยรูซาเลมตะวันออก ฉนวนกาซา และที่ราบสูงโกลัน . ในแถลงการณ์ยังอ้างอิงมติของสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้อิสราเอลถอนออกจากดินแดนเหล่านั้น ตลอดจนแผนริเริ่มสันติภาพอาหรับปี 2002 ที่ประเทศอาหรับเสนอสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอล แลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลทำข้อตกลงสองรัฐ ซึ่งก็คือการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ขึ้นมาตามเขตแดนในปี 1967 . นอกจากนั้น แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้นานาชาติประกาศแผนการพร้อมขั้นตอนและกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการสนับสนุนให้รัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้นจริง . อย่างไรก็ตาม ทางด้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว คัดค้านการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ โดยกิเดียน ซาร์ ผู้เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐยิวคนใหม่ วิจารณ์ว่า แนวทางดังกล่าวไม่สามารถทำได้จริง . เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล ซึ่งสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ถึงขั้นประกาศว่า จะผลักดันให้อิสราเอลเข้าผนวกดินแดนบางส่วนในเวสต์แบงก์ในปีหน้า . สำหรับซัมมิตในริยาดคราวนี้ ยังได้แถลงประณามอาชญากรรมน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงของกองทัพอิสราเอลซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ . ขณะที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดี เรียกร้องให้โลกหยุดการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์และเลบานอน พร้อมประณามปฏิบัติการของอิสราเอลในกาซาเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” รวมทั้งยังเรียกร้องให้อิสราเอลยับยั้งการโจมตีอิหร่าน ท่าทีเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างริยาดกับเตหะรานซึ่งมีการปรับปรุงกระเตื้องขึ้นมาก . ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิคาติ ของเลบานอน เตือนว่า เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤตความอยู่รอด และโจมตีประเทศที่แทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน ซึ่งมีนัยหมายถึงอิหร่าน . ขณะที่รองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา อาเรฟของอิหร่าน กล่าวว่า โลกกำลังรอให้ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ยุติการประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนทันที . นอกจากนั้น แถลงการณ์ของที่ประชุมในริยาดยังเรียกร้องให้แบนการส่งออกและการจัดส่งอาวุธให้อิสราเอล . อย่างไรก็ดี มีรายงานจากเว็บไซต์ข่าวแอกซิออสของอเมริกาว่า รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ได้เดินทางไปพบทรัมป์ที่รีสอร์ตในฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ ก่อนที่เดอร์เมอร์จะไปพบแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันเดียวกัน . แอกซิออสรายงานเพิ่มเติมว่า เดอร์เมอร์นำข้อความจากเนทันยาฮูไปถ่ายทอดให้ทรัมป์ฟัง รวมทั้งสรุปแผนการสำหรับกาซา เลบานอน และอิหร่านในช่วง 2 เดือนข้างหน้าก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง . อนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ทรัมป์เปิดเผยกับนิวยอร์กโพสต์ว่า จะเสนอชื่อ ส.ส.เอลิส สเตฟานิก ประธานของที่ประชุมพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้มีจุดยืนปกป้องอิสราเอลและต่อต้านอิหร่านอย่างแข็งขัน เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นคนใหม่ของเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109074 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1272 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านระบุว่า "โลกกำลังเฝ้ารอ" รัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเข้ารับตำแหน่ง เข้ามาหยุดสงครามของอิสราเอลกับพวกนักรบฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ตามที่เคยลั่นวาจาไว้ พร้อมกับประณามปฏิบัติการลอบสังหารต่างๆ โดยฝีมือของรัฐยิว ว่าเป็น "การก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ"
    .
    "รัฐบาลอเมริกาคือผู้สนับสนุนหลักของการกระทำต่างๆ ของรัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล)" โมฮัมหมัด เรซา อาเรฟ รองประธานาธิบดีคนที่ 1 บอกกับที่ประชุมซัมมิตร่วมระหว่างสันนิบาตอาหรับกับองค์การความร่วมมืออิสลาม ในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
    .
    "โลกกำลังเฝ้ารอคำสัญญาของรัฐบาลใหม่ของประเทศแห่งนี้ สำหรับหยุดการทำสงครามกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนในทันที" รองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของอิหร่านกล่าว
    .
    นับตั้งแต่พวกฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งโหมกระพือสงครามทั้งในกาซาและเลบานอน อิสราเอลได้สังหารสมาชิกระดับสูงของฝ่ายต่อต้านไปหลายคน ในนั้นรวมถึง ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส และฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์
    .
    นอกจากนี้ ยังเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสคนก่อนหน้า ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน
    .
    "ปฏิบัติการสังหารเป้าหมายไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการไม่เคารพกฎหมายและเป็นการก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ เปลี่ยนองค์กรด้านความมั่นคง เป็นเครื่องมือในการส่งหารผู้นำและพลเมืองของประเทศต่างๆ" อาเรฟกล่าว
    .
    ในขณะที่ ทรัมป์ เคยให้สัญญาเกี่ยวกับสันติภาพในตะวันออกกลาง ในระหว่างหาเสียงนั้น เขายังเคยพูดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่งควรกดดันให้ อิสราเอลปิดฉากในการทำสงครามกับฮามาสในกาซา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108688
    ..............
    Sondhi X
    อิหร่านระบุว่า "โลกกำลังเฝ้ารอ" รัฐบาลใหม่สหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเข้ารับตำแหน่ง เข้ามาหยุดสงครามของอิสราเอลกับพวกนักรบฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ตามที่เคยลั่นวาจาไว้ พร้อมกับประณามปฏิบัติการลอบสังหารต่างๆ โดยฝีมือของรัฐยิว ว่าเป็น "การก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ" . "รัฐบาลอเมริกาคือผู้สนับสนุนหลักของการกระทำต่างๆ ของรัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล)" โมฮัมหมัด เรซา อาเรฟ รองประธานาธิบดีคนที่ 1 บอกกับที่ประชุมซัมมิตร่วมระหว่างสันนิบาตอาหรับกับองค์การความร่วมมืออิสลาม ในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย . "โลกกำลังเฝ้ารอคำสัญญาของรัฐบาลใหม่ของประเทศแห่งนี้ สำหรับหยุดการทำสงครามกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในกาซาและเลบานอนในทันที" รองประธานาธิบดีคนที่ 1 ของอิหร่านกล่าว . นับตั้งแต่พวกฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งโหมกระพือสงครามทั้งในกาซาและเลบานอน อิสราเอลได้สังหารสมาชิกระดับสูงของฝ่ายต่อต้านไปหลายคน ในนั้นรวมถึง ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส และฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ . นอกจากนี้ ยังเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสคนก่อนหน้า ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน . "ปฏิบัติการสังหารเป้าหมายไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการไม่เคารพกฎหมายและเป็นการก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ เปลี่ยนองค์กรด้านความมั่นคง เป็นเครื่องมือในการส่งหารผู้นำและพลเมืองของประเทศต่างๆ" อาเรฟกล่าว . ในขณะที่ ทรัมป์ เคยให้สัญญาเกี่ยวกับสันติภาพในตะวันออกกลาง ในระหว่างหาเสียงนั้น เขายังเคยพูดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่งควรกดดันให้ อิสราเอลปิดฉากในการทำสงครามกับฮามาสในกาซา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108688 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 922 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts