• จุดจบ “ทนายตั้ม” ฉ้อโกง โยงแก๊งฟอกเงิน : Sondhitalk EP 267 - 081167 (Full)

    - “สนธิ - ชูวิทย์” กอดเคลียร์ใจ
    - จุดจบ “ทนายตั้ม”
    - เปิดหน้า “พี่เมีย ป.ปลา”โยงฟอกเงิน
    - กระชากหน้ากาก “ทนายนกรู้”
    - อะไรจะเกิดขึ้นหลัง”ทรัมป์”ชนะ
    - “ปูติน” ล่อตะวันตกติดกับ

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #ทนายตั้ม #จุดจบทนายตั้ม #เงินเสน่หา #ชุวิทย์ #ทนายเดชา #จุ๊กกรู๊ #เกาหลีเหนือ #รัสเซีย #ทรัมป์
    จุดจบ “ทนายตั้ม” ฉ้อโกง โยงแก๊งฟอกเงิน : Sondhitalk EP 267 - 081167 (Full) - “สนธิ - ชูวิทย์” กอดเคลียร์ใจ - จุดจบ “ทนายตั้ม” - เปิดหน้า “พี่เมีย ป.ปลา”โยงฟอกเงิน - กระชากหน้ากาก “ทนายนกรู้” - อะไรจะเกิดขึ้นหลัง”ทรัมป์”ชนะ - “ปูติน” ล่อตะวันตกติดกับ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #ทนายตั้ม #จุดจบทนายตั้ม #เงินเสน่หา #ชุวิทย์ #ทนายเดชา #จุ๊กกรู๊ #เกาหลีเหนือ #รัสเซีย #ทรัมป์
    Like
    Love
    14
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 842 2 รีวิว
  • ค่อนข้างชัดเจนว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

    จีน - อาจจะต้องวิตกกังวลเพิ่มขึ้น
    ไต้หวัน - จะกร่างน้อยลง
    ยูเครน - มันจบไปตั้งนานแล้ว
    อิหร่าน - ความวิตกกังวลจะมีมากกว่าจีนหลายเท่า
    อิสราเอล - จะแสดงบทบาทของสหรัฐในตะวันออกกลางอย่างชัดเจน
    รัสเซีย - เริ่มภารกิจใหม่กับอิหร่านในตะวันออกกลาง
    เกาหลีเหนือ - จะยิงจรวดของเล่นของเขาน้อยลง
    ค่อนข้างชัดเจนว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ จีน - อาจจะต้องวิตกกังวลเพิ่มขึ้น ไต้หวัน - จะกร่างน้อยลง ยูเครน - มันจบไปตั้งนานแล้ว อิหร่าน - ความวิตกกังวลจะมีมากกว่าจีนหลายเท่า อิสราเอล - จะแสดงบทบาทของสหรัฐในตะวันออกกลางอย่างชัดเจน รัสเซีย - เริ่มภารกิจใหม่กับอิหร่านในตะวันออกกลาง เกาหลีเหนือ - จะยิงจรวดของเล่นของเขาน้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกียืนยัน มีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในแนวหน้าภูมิภาคเคิร์สแล้ว 11,000 นาย

    ด้านหน่วยข่าวกรองของยูเครนเผยตรงกันว่า ทหารโสมแดงประมาณ 12,000 นายกำลังเข้ารับการฝึกที่ฐานทัพ 5 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นทหารสัญญาบัตร 500 นาย และทหารระดับนายพลอีก 3 นาย
    เซเลนสกียืนยัน มีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในแนวหน้าภูมิภาคเคิร์สแล้ว 11,000 นาย ด้านหน่วยข่าวกรองของยูเครนเผยตรงกันว่า ทหารโสมแดงประมาณ 12,000 นายกำลังเข้ารับการฝึกที่ฐานทัพ 5 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นทหารสัญญาบัตร 500 นาย และทหารระดับนายพลอีก 3 นาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ทำการซ้อมรบร่วมทางอากาศ เกี่ยวข้องกับเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักลำหนึ่ง จากการเปิดเผยของกองทัพโซล ความเคลื่อนไหวตอบโต้เกาหลีเหนือ ที่เพิ่งทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลหนล่าสุดไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    การซ้อมรบมีขึ้น 3 วันหลังจากเปียงยาง ทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เชื้อเพลิงแข็งล้ำสมัย หนึ่งในขีปนาวุธที่ทรงแสนยานุภาพที่สุดของพวกเขา ที่พวกผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจสามารถพุ่งไปถึงเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ในผืนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เลยทีเดียว
    .
    กองทัพโซลเปิดเผยว่า การซ้อมรบครั้งนี้เป็นการระดมพลเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ของสหรัฐฯ ฝูงบิน F-15K และ KF-16 ของเกาหลีใต้ รวมไปถึงฝูงบิน F-2 ของญี่ปุ่น
    .
    ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ผยแพร่โดยเสนาธิการทหารร่วมแห่งกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า "การซ้อมรบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพันธสัญญาแห่งความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในการบูรณาการการป้องปรามอย่างครอบคลุม ตอบโต้ภัยคุกคามทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากเกาหลีเหนือ"
    .
    ระหว่างการซ้อมรบทางอากาศ ฝูงบินของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้เข้าอารักขาเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ไปยังจุดแห่งหนึ่งที่กำหนดไว้บริเวณทางใต้คาบสมุทรเกาหลี "เพื่อแสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพอย่างท่วมท้นในการโจมตีเป้าหมายจำลองอย่างรวดเร็วและแม่นยำ" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    B-1B แลนเซอร์ เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักซูเปอร์โซนิก ที่รู้จักกันดีในด้านมีสมรรถนะความเร็วสูงและสามารถบรรทุกกระสุนหนักถึง 34,000 กิโลกรัม ในนั้นรวมถึงอาวุธทั่วไปและอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง
    .
    มันเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ถูกส่งเข้าไปประจำการในคาบสมุทรเกาหลี จากการเปิดผยของกองทัพเกาหลีใต้ แต่เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการซ้อมรบทางอากาศร่วมไตรภาคี ตอบโต้ภัยคุกคามทางทหารจากเปียงยาง
    .
    ว่ากันว่าการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปหนล่าสุดของเกาหลีเหนือ พุ่งสูงกว่าเดิมและพุ่งไปไกลกว่าขีปนาวุธลูกก่อนๆ จากคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับกองทัพเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งติดตามการยิงทดสอบแบบเรียลไทม์
    .
    สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ สื่อแห่งรัฐเกาหลีเหนือ ยกย่องขีปนาวุธนี้ว่าเป็นขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และ คิม จองอีน ผู้นำเกาหลีเหนือ แสดงความพึงพอใจเป็นอย่างมากต่อความสำเร็จในการยิงทดสอบดังกล่าว "เกาหลีเหนือจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเส้นทางการยกระดับขุมกำลังทางนิวเคลียร์ของตนเอง" สื่อมวลชนแห่งนี้ระบุ
    .
    ปฏิบัติการทดสอบดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นานาชาติกำลังจับตาอย่างเข้มข้น ต่อคำกล่าวหาที่ว่าเปียงยางส่งทหารหลายพันนายเข้าประจำการในรัสเซีย เพื่อสนับสนุนมอสโกในการทำสงครามในยูเครน โหมกระพือความกังวลว่าทหารเกาหลีเหนือในชุดเครื่องแบบรัสเซียอาจเข้าร่วมในการสู้รบในเร็ววัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000105982
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ทำการซ้อมรบร่วมทางอากาศ เกี่ยวข้องกับเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักลำหนึ่ง จากการเปิดเผยของกองทัพโซล ความเคลื่อนไหวตอบโต้เกาหลีเหนือ ที่เพิ่งทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลหนล่าสุดไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . การซ้อมรบมีขึ้น 3 วันหลังจากเปียงยาง ทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เชื้อเพลิงแข็งล้ำสมัย หนึ่งในขีปนาวุธที่ทรงแสนยานุภาพที่สุดของพวกเขา ที่พวกผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจสามารถพุ่งไปถึงเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ในผืนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เลยทีเดียว . กองทัพโซลเปิดเผยว่า การซ้อมรบครั้งนี้เป็นการระดมพลเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ของสหรัฐฯ ฝูงบิน F-15K และ KF-16 ของเกาหลีใต้ รวมไปถึงฝูงบิน F-2 ของญี่ปุ่น . ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ผยแพร่โดยเสนาธิการทหารร่วมแห่งกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า "การซ้อมรบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพันธสัญญาแห่งความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในการบูรณาการการป้องปรามอย่างครอบคลุม ตอบโต้ภัยคุกคามทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากเกาหลีเหนือ" . ระหว่างการซ้อมรบทางอากาศ ฝูงบินของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้เข้าอารักขาเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ไปยังจุดแห่งหนึ่งที่กำหนดไว้บริเวณทางใต้คาบสมุทรเกาหลี "เพื่อแสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพอย่างท่วมท้นในการโจมตีเป้าหมายจำลองอย่างรวดเร็วและแม่นยำ" ถ้อยแถลงระบุ . B-1B แลนเซอร์ เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักซูเปอร์โซนิก ที่รู้จักกันดีในด้านมีสมรรถนะความเร็วสูงและสามารถบรรทุกกระสุนหนักถึง 34,000 กิโลกรัม ในนั้นรวมถึงอาวุธทั่วไปและอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง . มันเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ถูกส่งเข้าไปประจำการในคาบสมุทรเกาหลี จากการเปิดผยของกองทัพเกาหลีใต้ แต่เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการซ้อมรบทางอากาศร่วมไตรภาคี ตอบโต้ภัยคุกคามทางทหารจากเปียงยาง . ว่ากันว่าการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปหนล่าสุดของเกาหลีเหนือ พุ่งสูงกว่าเดิมและพุ่งไปไกลกว่าขีปนาวุธลูกก่อนๆ จากคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับกองทัพเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งติดตามการยิงทดสอบแบบเรียลไทม์ . สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ สื่อแห่งรัฐเกาหลีเหนือ ยกย่องขีปนาวุธนี้ว่าเป็นขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และ คิม จองอีน ผู้นำเกาหลีเหนือ แสดงความพึงพอใจเป็นอย่างมากต่อความสำเร็จในการยิงทดสอบดังกล่าว "เกาหลีเหนือจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเส้นทางการยกระดับขุมกำลังทางนิวเคลียร์ของตนเอง" สื่อมวลชนแห่งนี้ระบุ . ปฏิบัติการทดสอบดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นานาชาติกำลังจับตาอย่างเข้มข้น ต่อคำกล่าวหาที่ว่าเปียงยางส่งทหารหลายพันนายเข้าประจำการในรัสเซีย เพื่อสนับสนุนมอสโกในการทำสงครามในยูเครน โหมกระพือความกังวลว่าทหารเกาหลีเหนือในชุดเครื่องแบบรัสเซียอาจเข้าร่วมในการสู้รบในเร็ววัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000105982 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 805 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนพยายามแต่งรูปเพื่อสร้างโฆษณาชวนเชื่อว่า พวกเขาสามารถจับกถมทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าได้

    แต่ความจริง มันคือรูปตัดต่อ พวกเขาเพียงแค่หาบุคคลที่มีลักษณะเหมือนชาวเกาหลีเหนือมาแค่นั้น
    ยูเครนพยายามแต่งรูปเพื่อสร้างโฆษณาชวนเชื่อว่า พวกเขาสามารถจับกถมทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าได้ แต่ความจริง มันคือรูปตัดต่อ พวกเขาเพียงแค่หาบุคคลที่มีลักษณะเหมือนชาวเกาหลีเหนือมาแค่นั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2 พฤศจิกายน 2567-รายงานข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียจากปี 2008 ถึง 2012 เตือนสหรัฐฯให้จริงจังกับคำเตือนนิวเคลียร์ของรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่ 3

    เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติอันทรงอิทธิพลของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ ว่าพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ไม่ต้องการสงครามโลกครั้งที่ 3 และในเหตุผลบางอย่าง พวกเขาเชื่อว่า "รัสเซียจะไม่มีวันข้ามเส้นตายนั้น"

    อย่างไรก็ตาม "พวกเขาคิดผิด" เมดเวเดฟกล่าวกับอาร์ทีนิวส์ พร้อมระบุมอสโกเชื่อว่าสถาบันการเมืองทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปในปัจจุบัน ขาดวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและความคิดที่ละเอียดละอ่อน ต่างจากนายเฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ล่วงลับ

    ทั้งนี้ คิสซิงเจอร์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เป็นคนดำเนินการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียตในทศวรรษปี 1970 ซึ่งนำไปสู่สนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งสำคัญครั้งแรกระหว่างสองมหาอำนาจในช่วงสงครามเย็น

    "ถ้าเราพูดถึงการอยู่รอดของประเทศของเรา ก็ตามที่ประธานาธิบดีของเรากล่าวซ้ำๆ เราคงไม่มีทางเลือกอื่น" เมดเวเดฟระบุ

    สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมานาน 2 ปีครึ่ง กำลังเข้าสู่สิ่งที่พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเรียกว่าขั้นอันตรายที่สุด ในขณะที่กองกำลังมอสโกกำลังรุกคืบทางภาคตะวันออกของยูเครน และตะวันตกกำลังขบคิดว่าจะค้ำยันประคับประคองเคียฟอย่างไร

    รัสเซียส่งสัญญาณไปยังตะวันตกมานานหลายสัปดาห์แล้วว่า มอสโกจะตอบโต้หากว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรไฟเขียวให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลของตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ทางนาโตก็กล่าวหาว่าเกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปยังทางตะวันตกของรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือกองกำลังมอสโกสู้รบกับยูเครน

    พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวหาว่าบรรดาผู้นำตะวันตกเพิกเฉยต่อสัญญาณต่างๆ ของมอสโกที่ส่งไปถึง เกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงของยุโรปและสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในยูเครน

    บรรดานักการทูตสหรัฐฯ บอกว่าแม้ความสัมพันธ์กับรัสเซียจะดำดิ่งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น แต่วอชิงตันไม่ได้หาทางขยายสงครามในยูเครนให้ลุกลาม

    (ที่มา : รอยเตอร์)

    #Thaitimes
    2 พฤศจิกายน 2567-รายงานข่าวรอยเตอร์ระบุว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียจากปี 2008 ถึง 2012 เตือนสหรัฐฯให้จริงจังกับคำเตือนนิวเคลียร์ของรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่ 3 เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติอันทรงอิทธิพลของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ ว่าพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ไม่ต้องการสงครามโลกครั้งที่ 3 และในเหตุผลบางอย่าง พวกเขาเชื่อว่า "รัสเซียจะไม่มีวันข้ามเส้นตายนั้น" อย่างไรก็ตาม "พวกเขาคิดผิด" เมดเวเดฟกล่าวกับอาร์ทีนิวส์ พร้อมระบุมอสโกเชื่อว่าสถาบันการเมืองทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปในปัจจุบัน ขาดวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและความคิดที่ละเอียดละอ่อน ต่างจากนายเฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ล่วงลับ ทั้งนี้ คิสซิงเจอร์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เป็นคนดำเนินการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียตในทศวรรษปี 1970 ซึ่งนำไปสู่สนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งสำคัญครั้งแรกระหว่างสองมหาอำนาจในช่วงสงครามเย็น "ถ้าเราพูดถึงการอยู่รอดของประเทศของเรา ก็ตามที่ประธานาธิบดีของเรากล่าวซ้ำๆ เราคงไม่มีทางเลือกอื่น" เมดเวเดฟระบุ สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมานาน 2 ปีครึ่ง กำลังเข้าสู่สิ่งที่พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเรียกว่าขั้นอันตรายที่สุด ในขณะที่กองกำลังมอสโกกำลังรุกคืบทางภาคตะวันออกของยูเครน และตะวันตกกำลังขบคิดว่าจะค้ำยันประคับประคองเคียฟอย่างไร รัสเซียส่งสัญญาณไปยังตะวันตกมานานหลายสัปดาห์แล้วว่า มอสโกจะตอบโต้หากว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรไฟเขียวให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลของตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ทางนาโตก็กล่าวหาว่าเกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปยังทางตะวันตกของรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือกองกำลังมอสโกสู้รบกับยูเครน พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวหาว่าบรรดาผู้นำตะวันตกเพิกเฉยต่อสัญญาณต่างๆ ของมอสโกที่ส่งไปถึง เกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงของยุโรปและสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในยูเครน บรรดานักการทูตสหรัฐฯ บอกว่าแม้ความสัมพันธ์กับรัสเซียจะดำดิ่งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น แต่วอชิงตันไม่ได้หาทางขยายสงครามในยูเครนให้ลุกลาม (ที่มา : รอยเตอร์) #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน

    นายซิง ไห่หมิง เอกอัครราชทูตจีนคนก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2563 และพ้นวาระเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีนายฟัง คุน อุปทูตรักษาการไปพลางๆ ก่อน

    อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งล่าช้ามิใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับกรณีเกาหลีใต้เท่านั้น

    จีนส่งนายเซี่ย เฟิง อดีต รมช.ต่างประเทศไปเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากตำแหน่งว่างมานานเกือบ 5 เดือน นานที่สุดนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2522

    นายไฉ รุ่น อดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากตำแหน่งร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม

    นักสังเกตการณ์มองว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น นายชุง แจฮุง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านจีนแห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็กลับมาเป็นศัตรูกันอีก จีนจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบกว่าแต่ก่อน

    นายสือ อิ้นหง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งชี้ว่า หากไม่นับความขัดแย้งอย่างหนักกรณีเกาหลีใต้จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ (THAAD) มาติดตั้งในประเทศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจีนเมื่อปี 2559 แล้ว ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ขณะนี้ถือว่าตกต่ำสุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 2535 จากสาเหตุสำคัญคือเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ส่วนจีนก็ผ่อนปรนอย่างชัดเจนเรื่องที่เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์

    ในความเห็นของนายจื่อฉวิน จู อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยบักเนลล์ (Bucknell University) ในสหรัฐฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องตีความเรื่องตำแหน่งเอกอัครราชทูตว่างให้มากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเกาหลีใต้และคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ปักกิ่งน่าจะแต่งตั้งนักการทูตรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากโซลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เขายังเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า เช่น ปักกิ่งมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าในกรณีสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้

    นายจู เฟิง คณบดีบริหารของโรงเรียนการศึกษานานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยหนันจิงระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว การที่เอกอัครราชทูตว่างชั่วคราวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะอุปทูตปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวได้

    ตำแหน่งอาจว่างไปอีก 2-3 เดือน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายชุง แจฮุง แห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลคาดคะเน

    ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์

    https://mgronline.com/china/detail/9670000104850

    #Thaitimes
    ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน นายซิง ไห่หมิง เอกอัครราชทูตจีนคนก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2563 และพ้นวาระเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีนายฟัง คุน อุปทูตรักษาการไปพลางๆ ก่อน อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งล่าช้ามิใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับกรณีเกาหลีใต้เท่านั้น จีนส่งนายเซี่ย เฟิง อดีต รมช.ต่างประเทศไปเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากตำแหน่งว่างมานานเกือบ 5 เดือน นานที่สุดนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2522 นายไฉ รุ่น อดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากตำแหน่งร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม นักสังเกตการณ์มองว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น นายชุง แจฮุง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านจีนแห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็กลับมาเป็นศัตรูกันอีก จีนจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบกว่าแต่ก่อน นายสือ อิ้นหง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งชี้ว่า หากไม่นับความขัดแย้งอย่างหนักกรณีเกาหลีใต้จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ (THAAD) มาติดตั้งในประเทศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจีนเมื่อปี 2559 แล้ว ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ขณะนี้ถือว่าตกต่ำสุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 2535 จากสาเหตุสำคัญคือเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ส่วนจีนก็ผ่อนปรนอย่างชัดเจนเรื่องที่เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ ในความเห็นของนายจื่อฉวิน จู อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยบักเนลล์ (Bucknell University) ในสหรัฐฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องตีความเรื่องตำแหน่งเอกอัครราชทูตว่างให้มากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเกาหลีใต้และคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ปักกิ่งน่าจะแต่งตั้งนักการทูตรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากโซลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เขายังเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า เช่น ปักกิ่งมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าในกรณีสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ นายจู เฟิง คณบดีบริหารของโรงเรียนการศึกษานานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยหนันจิงระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว การที่เอกอัครราชทูตว่างชั่วคราวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะอุปทูตปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวได้ ตำแหน่งอาจว่างไปอีก 2-3 เดือน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายชุง แจฮุง แห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลคาดคะเน ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ https://mgronline.com/china/detail/9670000104850 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ทำไมจีนยังไม่ส่งทูตคนใหม่มาประจำที่เกาหลีใต้?
    ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโออีกหนึ่งมุมมองของขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile - ICBM) ฮวาซอง-19 (Hwasong-19) ของเกาหลีเหนือ ที่เพิ่งทดสอบการยิงไปเมื่อวันก่อน

    เกาหลีเหนืออ้างว่านี่เป็นขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ “ทรงอานุภาพที่สุด” ที่สุดในโลก
    ภาพวิดีโออีกหนึ่งมุมมองของขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile - ICBM) ฮวาซอง-19 (Hwasong-19) ของเกาหลีเหนือ ที่เพิ่งทดสอบการยิงไปเมื่อวันก่อน เกาหลีเหนืออ้างว่านี่เป็นขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ “ทรงอานุภาพที่สุด” ที่สุดในโลก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 61 0 รีวิว
  • สหรัฐฯประกาศ! พร้อมสนับสนุนเกาหลีใต้ ด้วยแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์และแสนยานุภาพทางทหารที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ที่มีอยู่ทั้งหมด

    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา ประกาศเมื่อวันพุธ 1 วัน ก่อนหน้าเปียงยางจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป "ฮวาซอง-19" รอบใหม่ ซึ่งเกาหลีเหนือยืนยันประกาศว่าจะเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปใหม่ที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี
    สหรัฐฯประกาศ! พร้อมสนับสนุนเกาหลีใต้ ด้วยแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์และแสนยานุภาพทางทหารที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ที่มีอยู่ทั้งหมด ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา ประกาศเมื่อวันพุธ 1 วัน ก่อนหน้าเปียงยางจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป "ฮวาซอง-19" รอบใหม่ ซึ่งเกาหลีเหนือยืนยันประกาศว่าจะเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปใหม่ที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จ ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile - ICBM) ฮวาซอง-19 (Hwasong-19) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่อ้างว่าเป็นขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ “ทรงอานุภาพที่สุด” ที่สุดในโลก

    Hwasong-19 ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเชื้อเพลิงแข็ง ซึ่งยิงง่ายกว่าเครื่องยนต์หลายแบบ แต่ตรวจจับและทำลายได้ยากกว่า

    ข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเพิ่มเติมว่า เกาหลีเหนือทดสอบปล่อยขีปนาวุธ ICBM ลูกนี้ในลักษณะวิถีโค้ง นั่นคือขึ้นไปได้สูง 7,000 กิโลเมตร และบินได้ไกลราว 1,000 กิโลเมตร จากฐานยิงในกรุงเปียงยางและตกลงในทะเลตะวันออกหรือทะเลญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาอยู่ในอากาศนานประมาณ 86 นาที

    อย่างไรก็ตาม หากยิงในมุมปกติ ขีปนาวุธลูกดังกล่าวสามารถเดินทางได้ไกลถึงแผ่นดินของสหรัฐ ซึ่งนับเป็นขีปนาวุธที่มีระดับการบินสูงสุดและอยู่ในอากาศนานกว่าขีปนาวุธชนิดอื่นๆ ที่เกาหลีเหนือเคยทดสอบก่อนหน้านี้ ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปติดอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสามารถโจมตีได้ถึงแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา
    เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จ ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile - ICBM) ฮวาซอง-19 (Hwasong-19) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่อ้างว่าเป็นขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ “ทรงอานุภาพที่สุด” ที่สุดในโลก Hwasong-19 ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเชื้อเพลิงแข็ง ซึ่งยิงง่ายกว่าเครื่องยนต์หลายแบบ แต่ตรวจจับและทำลายได้ยากกว่า ข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเพิ่มเติมว่า เกาหลีเหนือทดสอบปล่อยขีปนาวุธ ICBM ลูกนี้ในลักษณะวิถีโค้ง นั่นคือขึ้นไปได้สูง 7,000 กิโลเมตร และบินได้ไกลราว 1,000 กิโลเมตร จากฐานยิงในกรุงเปียงยางและตกลงในทะเลตะวันออกหรือทะเลญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาอยู่ในอากาศนานประมาณ 86 นาที อย่างไรก็ตาม หากยิงในมุมปกติ ขีปนาวุธลูกดังกล่าวสามารถเดินทางได้ไกลถึงแผ่นดินของสหรัฐ ซึ่งนับเป็นขีปนาวุธที่มีระดับการบินสูงสุดและอยู่ในอากาศนานกว่าขีปนาวุธชนิดอื่นๆ ที่เกาหลีเหนือเคยทดสอบก่อนหน้านี้ ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปติดอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสามารถโจมตีได้ถึงแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียประกาศทำข้อตกลงด้านความมั่นคงกับอิหร่าน แบบเดียวที่ทำกับเกาหลีเหนือ และจะมีการลงนามในไม่ช้านี้

    เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงความคืบหน้าในระหว่างการประชุมใหญ่ของการประชุมนานาชาติครั้งที่ 2 เรื่องความมั่นคงยูเรเซียที่มินสค์ ประเทศเบลารุส

    “ข้อตกลงในสนธิสัญญานี้ ระบุถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศ สันติภาพ และความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก”

    “ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการลงนามในเร็วๆนี้” ลาฟรอฟ กล่าว

    นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ประกาศระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะสรุปได้ในเร็วๆ นี้
    รัสเซียประกาศทำข้อตกลงด้านความมั่นคงกับอิหร่าน แบบเดียวที่ทำกับเกาหลีเหนือ และจะมีการลงนามในไม่ช้านี้ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงความคืบหน้าในระหว่างการประชุมใหญ่ของการประชุมนานาชาติครั้งที่ 2 เรื่องความมั่นคงยูเรเซียที่มินสค์ ประเทศเบลารุส “ข้อตกลงในสนธิสัญญานี้ ระบุถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศ สันติภาพ และความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก” “ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการลงนามในเร็วๆนี้” ลาฟรอฟ กล่าว นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ประกาศระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะสรุปได้ในเร็วๆ นี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇰🇵 เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่คาดว่าเป็น ICBM เข้าใส่ญี่ปุ่น

    รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นเผย, ขีปนาวุธดังกล่าว, ซึ่งมีพิสัยการยิง ๑,๐๐๐ กม., พุ่งขึ้นไปสูงถึง ๗,๐๐๐ กม. และบินเป็นเวลา ๘๖ นาที, ถือเป็นขีปนาวุธลูกใหญ่ที่สุดที่เกาหลีเหนือเคยยิงมา
    .
    ❗️ BREAKING

    🇰🇵 NORTH KOREA LAUNCHED AN ALLEGED ICBM TOWARDS JAPAN

    According to Japan's defense minister, the missile, with a range of 1,000 km, soared to an altitude of 7,000 km, and flew for 86 minutes, marking it as the largest ever launched by the DPRK.
    .
    8:42 AM · Oct 31, 2024 · 5,484 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1851801782726377522
    🇰🇵 เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่คาดว่าเป็น ICBM เข้าใส่ญี่ปุ่น รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นเผย, ขีปนาวุธดังกล่าว, ซึ่งมีพิสัยการยิง ๑,๐๐๐ กม., พุ่งขึ้นไปสูงถึง ๗,๐๐๐ กม. และบินเป็นเวลา ๘๖ นาที, ถือเป็นขีปนาวุธลูกใหญ่ที่สุดที่เกาหลีเหนือเคยยิงมา . ❗️ BREAKING 🇰🇵 NORTH KOREA LAUNCHED AN ALLEGED ICBM TOWARDS JAPAN According to Japan's defense minister, the missile, with a range of 1,000 km, soared to an altitude of 7,000 km, and flew for 86 minutes, marking it as the largest ever launched by the DPRK. . 8:42 AM · Oct 31, 2024 · 5,484 Views https://x.com/SputnikInt/status/1851801782726377522
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังเคียฟควรโจมตีทหารเกาหลีเหนือ หากว่ากำลังพลเหล่านั้นข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน จากคำแนะนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกาและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้เปียงยางถอนทหารออกไปจากรัสเซีย
    .
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) อ้างในสัปดาห์นี้ ว่าทหารจากเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย เดินทางถึงรัสเซียแล้ว ว่ากันว่าบางส่วนได้ถูกลำเลียงสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการเพื่อจัดการกับกองกำลังยูเครนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ดินแดนที่ทหารเคียฟบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ หลังจากรุกรานเข้ามายังแคว้นแห่งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม
    .
    เมื่อสื่อมวลชนสอบถามในวันอังคาร(29ต.ค.) ว่า เคียฟ ควร "โจมตีตอบโต้กลับ" ทหารเกาหลีเหนือหรือไม่ ไบเดน ตอบว่า "ใช่ ถ้าพวกเขาข้ามเข้าสู่ยูเครน" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับจุดยืนของวอชิงตัน ในกรณีที่ทหารเกาหลีเหนือยังคงอยู่ภายในเขตแดนรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ
    .
    อย่างไรก็ตาม วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือประจำการในแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยเรียกรายงานข่าวนี้ว่า "โกหกหน้าด้านๆ"
    .
    "ถ้อยแถลงที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าของเรา เป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะพวกเขาโกหกหน้าด้านๆมาตลอด" เนเบนเซีย กล่าว พร้อมกล่าวหาวอชิงตันและลอนดอนบิดเบือนข้อมูล
    .
    มอสโกและเปียงยาง ได้ลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับความช่วยเหลือทางทหารร่วมกัน ในกรณีที่ถูกโจมตีจากฝ่ายที่ 3 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพียงแต่บอกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จำเป็นต้องทำตามพันธสัญญาต่างๆที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ระหว่างพวกเขา
    .
    ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกรอบในวันพุธ(30ต.ค.) ให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซีย หลังวอชิงตันเชื่อว่า มีกำลังพลเปียงยางราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะใช้จัดการกับกองกำลังยูเครน
    .
    "ผมเรียกร้องพวกเขาให้ถอนทหารออกจากรัสเซีย" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวที่เพนตากอน ระหว่างแถลงข่าวเคียงข้าง คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องเกาหลีเหนือถอนกำลังออกไปในทันที
    .
    ออสติน ระบุว่าสหรัฐฯ "จะเดินหน้าทำงานร่วมกับบรรดาพันธมิตรและคู่หู ในการขัดขวางรัสเซียจากการใช้งานทหารเหล่านี้ในการสู้รบ" แต่เตือนว่าดูเหมือนมอสโกจะทำเช่นนั้น
    .
    ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวผ่านล่าม เชื่อว่าการประจำการทหารของเกาหลีเหนืออาจทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงลุกลามบานปลายจนเป็นภัยคุกคุกคามต่อคาบสมุทรเกาหลี
    .
    "นั่นเพราะว่า มีโอกาสสูงที่เปียงยางจะร้องขอการถ่ายโอนทางเทคโนโลยีจากรัสเซีย สำหรับช่วยเหลือโครงการอาวุธของพวกเขา ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ขีปนาวุธข้ามทวีปและดาวเทียมสอดแนม แลกกับการประจำการของกองกำลังของพวกเขา" รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ระบุ
    .
    อย่างรไก็ตาม คิม ยอง-ฮยุน ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อนโยบายหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานของโซล ที่ห้ามขายอาวุธไปยังเขตพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้ง ในนั้นรวมถึงยูเครน จุดยืนที่พวกเขายังคงยึดมั่นแม้มีเสียงเรียกร้องจากวอชิงตันและเคียฟให้ทบทวนพิจารณาอีกรอบ
    .
    รัสเซียและเกาหลีเหนือ ยกระดับความเป็นพันมิตรทางการเมืองและการทหาร ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ ต่างถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยเปียงยางโดนลงโทษเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนมอสโก สำหรับการทำสงครามกับยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104815
    ..............
    Sondhi X
    กองกำลังเคียฟควรโจมตีทหารเกาหลีเหนือ หากว่ากำลังพลเหล่านั้นข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน จากคำแนะนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกาและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้เปียงยางถอนทหารออกไปจากรัสเซีย . กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) อ้างในสัปดาห์นี้ ว่าทหารจากเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย เดินทางถึงรัสเซียแล้ว ว่ากันว่าบางส่วนได้ถูกลำเลียงสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการเพื่อจัดการกับกองกำลังยูเครนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ดินแดนที่ทหารเคียฟบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ หลังจากรุกรานเข้ามายังแคว้นแห่งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม . เมื่อสื่อมวลชนสอบถามในวันอังคาร(29ต.ค.) ว่า เคียฟ ควร "โจมตีตอบโต้กลับ" ทหารเกาหลีเหนือหรือไม่ ไบเดน ตอบว่า "ใช่ ถ้าพวกเขาข้ามเข้าสู่ยูเครน" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับจุดยืนของวอชิงตัน ในกรณีที่ทหารเกาหลีเหนือยังคงอยู่ภายในเขตแดนรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ . อย่างไรก็ตาม วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือประจำการในแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยเรียกรายงานข่าวนี้ว่า "โกหกหน้าด้านๆ" . "ถ้อยแถลงที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าของเรา เป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะพวกเขาโกหกหน้าด้านๆมาตลอด" เนเบนเซีย กล่าว พร้อมกล่าวหาวอชิงตันและลอนดอนบิดเบือนข้อมูล . มอสโกและเปียงยาง ได้ลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับความช่วยเหลือทางทหารร่วมกัน ในกรณีที่ถูกโจมตีจากฝ่ายที่ 3 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพียงแต่บอกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จำเป็นต้องทำตามพันธสัญญาต่างๆที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ระหว่างพวกเขา . ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกรอบในวันพุธ(30ต.ค.) ให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซีย หลังวอชิงตันเชื่อว่า มีกำลังพลเปียงยางราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะใช้จัดการกับกองกำลังยูเครน . "ผมเรียกร้องพวกเขาให้ถอนทหารออกจากรัสเซีย" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวที่เพนตากอน ระหว่างแถลงข่าวเคียงข้าง คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องเกาหลีเหนือถอนกำลังออกไปในทันที . ออสติน ระบุว่าสหรัฐฯ "จะเดินหน้าทำงานร่วมกับบรรดาพันธมิตรและคู่หู ในการขัดขวางรัสเซียจากการใช้งานทหารเหล่านี้ในการสู้รบ" แต่เตือนว่าดูเหมือนมอสโกจะทำเช่นนั้น . ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวผ่านล่าม เชื่อว่าการประจำการทหารของเกาหลีเหนืออาจทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงลุกลามบานปลายจนเป็นภัยคุกคุกคามต่อคาบสมุทรเกาหลี . "นั่นเพราะว่า มีโอกาสสูงที่เปียงยางจะร้องขอการถ่ายโอนทางเทคโนโลยีจากรัสเซีย สำหรับช่วยเหลือโครงการอาวุธของพวกเขา ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ขีปนาวุธข้ามทวีปและดาวเทียมสอดแนม แลกกับการประจำการของกองกำลังของพวกเขา" รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ระบุ . อย่างรไก็ตาม คิม ยอง-ฮยุน ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อนโยบายหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานของโซล ที่ห้ามขายอาวุธไปยังเขตพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้ง ในนั้นรวมถึงยูเครน จุดยืนที่พวกเขายังคงยึดมั่นแม้มีเสียงเรียกร้องจากวอชิงตันและเคียฟให้ทบทวนพิจารณาอีกรอบ . รัสเซียและเกาหลีเหนือ ยกระดับความเป็นพันมิตรทางการเมืองและการทหาร ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ ต่างถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยเปียงยางโดนลงโทษเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนมอสโก สำหรับการทำสงครามกับยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104815 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1529 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนกดดันเกาหลีเหนือให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกจากแนวหน้าของยูเครน ก่อนที่สถานการณ์ความขัดแย้งจะขยายออกไปจนไม่สามารถควบคุมได้
    สหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนกดดันเกาหลีเหนือให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกจากแนวหน้าของยูเครน ก่อนที่สถานการณ์ความขัดแย้งจะขยายออกไปจนไม่สามารถควบคุมได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธอเมริกาในการสังหารทหารเกาหลีเหนือทั้งในภูมิภาคเคิร์สก์ หรือแม้แต่ในยูเครน
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธอเมริกาในการสังหารทหารเกาหลีเหนือทั้งในภูมิภาคเคิร์สก์ หรือแม้แต่ในยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคียฟประกาศระดมกำลังทหารอีก 160,000 นายเข้ากองทัพ

    การประกาศดังกล่าว มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยูเครนอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับการที่ทหารเกาหลีเหนือถูกส่งเข้ามาประจำการในภูมิภาคเคิร์สของรัสเซีย

    แต่ต้องการหยุดยั้งการรุกคืบอย่างมีประสิทธิภาพของกองทัพรัสเซียในทิศทางโดเน็ตสก์ โดยล่าสุดรัสเซียเพิ่งประกาศยึดเมืองหลักที่สำคัญอีกแห่งคือ Selidovo (หรือ Selydove ของยูเครน) ซึ่งกองกำลังรัสเซียได้รุกคืบอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
    เคียฟประกาศระดมกำลังทหารอีก 160,000 นายเข้ากองทัพ การประกาศดังกล่าว มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ยูเครนอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับการที่ทหารเกาหลีเหนือถูกส่งเข้ามาประจำการในภูมิภาคเคิร์สของรัสเซีย แต่ต้องการหยุดยั้งการรุกคืบอย่างมีประสิทธิภาพของกองทัพรัสเซียในทิศทางโดเน็ตสก์ โดยล่าสุดรัสเซียเพิ่งประกาศยึดเมืองหลักที่สำคัญอีกแห่งคือ Selidovo (หรือ Selydove ของยูเครน) ซึ่งกองกำลังรัสเซียได้รุกคืบอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีเหนือส่งรัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปรัสเซีย หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ออกมาระบุ โสมแดงส่งทหาร 10,000 นาย ไปฝึกในแดนหมีขาวและอาจส่งไปร่วมรบในยูเครนในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า พร้อมประกาศหากเป็นเช่นนั้นจริงจะเลิกตั้งข้อจำกัดเคียฟในการใช้อาวุธโจมตีเข้าไปในรัสเซีย ขณะที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้คาดทหารโสมแดงอาจถูกส่งลงสมรภูมิยูเครนเร็วกว่าคาด
    .
    สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานเมื่อวันอังคาร (29) ว่า โช ซอนฮุย รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ เดินทางถึงเมืองวลาดิวอสต็อก เมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และมีกำหนดจะเดินทางต่อไปยังกรุงมอสโกในวันพุธ (30) เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร
    .
    รายงานนี้ออกมาหลังจากเมื่อวันจันทร์ (28) ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) แถลงว่า เกาหลีเหนือจัดส่งทหารราว 10,000 นายไปฝึกในรัสเซีย ซึ่งมากกว่าที่เคยประเมินก่อนหน้านี้ถึง 7,000 นาย และทหารเหล่านั้นอาจถูกส่งไปสู้รบในยูเครนในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า
    .
    ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า สถานการณ์นี้ “อันตรายมาก”
    .
    เพนตากอนยังประกาศว่า หากทหารเกาหลีเหนือเข้าสู่สงครามยูเครน ก็จะไม่ตั้งข้อจำกัดห้ามเคียฟใช้อาวุธของอเมริกา หลังจากก่อนหน้านี้สหรัฐฯ แสดงท่าทียังไม่พร้อมที่จะทำตามคำรบเร้าของเคียฟ ที่ต้องการให้สหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกจัดส่งพวกอาวุธพิสัยทำการไกลๆ ให้แก่ยูเครน รวมทั้งอนุญาตให้ยูเครนนำอาวุธที่ได้รับจากตะวันตกซึ่งมีสมรรถนะเช่นนี้อยู่แล้ว ไปใช้ในการโจมตีลึกเข้าไปแดนหมีขาว
    .
    ขณะที่ แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้แจ้งกับจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการดำเนินการของทั้งสองประเทศที่ถือเป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพ
    .
    ด้านมาร์ค รึตเตอ เลขาธิการขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการขยายสงครามที่อันตรายของรัสเซีย อีกทั้งเป็นสัญญาณว่า ปูตินสิ้นหวังมากขึ้น
    .
    รึตเตออ้างตัวเลขของฝ่ายตะวันตกที่ระบุว่า ทหารรัสเซียกว่า 600,000 นายเสียชีวิตหรือบาดเจ็บระหว่างสงครามในยูเครนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และเวลานี้เครมลินไม่สามารถบุกต่อโดยไม่มีการสนับสนุนจากต่างชาติ
    .
    เลขาธิการนาโตแถลงเช่นนี้ในบรัสเซลส์ หลังจากได้ฟังสรุปสถานการณ์จากทางเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเกาหลีใต้ว่า ขณะนี้สามารถยืนยันได้ว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกส่งไปประจำการภาคสนามในแคว้นคูร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยูเครนได้ส่งกำลังบุกเข้าไปในคูร์สก์ และยึดพื้นที่ได้จำนวนหนึ่ง ถึงแม้ทางรัสเซียแถลงในระยะหลังๆ ว่า ได้ยันการบุกของฝ่ายเคียฟเอาไว้ได้แล้ว และกำลังค่อยๆ ช่วงชิงพื้นที่ซึ่งถูกยึดไปกลับคืนมา
    .
    ทางด้านประธานาธิบดียุน ซอกยอน ของเกาหลีใต้ ระบุเมื่อวันอังคาร (29 ต.ค.) ว่า การขยายความร่วมมือทางทหารอย่างผิดกฎหมายระหว่างมอสโกกับเปียงยางเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงด้านความมั่นคงสำหรับนานาชาติ และเตือนว่า โซลกำลังพิจารณามาตรการตอบโต้
    .
    ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ เผยว่า กำลังทบทวนการพิจารณาส่งอาวุธให้ยูเครนโดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่พันธมิตรตะวันตกเรียกร้องมานาน แต่โซลยังคัดค้านเนื่องจากขัดกับนโยบายดั้งเดิมภายในประเทศ
    .
    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังกล่าวกับ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป หรือก็คือองค์กรบริหารของอียู ระหว่างหารือทางโทรศัพท์ว่า ทหารเกาหลีเหนืออาจถูกส่งไปยังแนวรบในยูเครนเร็วกว่าที่คาด
    .
    นอกจากนั้น หน่วยงานข่าวกรองของโซลแถลงต่อสมาชิกรัฐสภาว่า แม้แต่นายพลระดับสูงของเกาหลีเหนือยังถูกส่งไปยังแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตอกย้ำการกระชับความร่วมมือทางทหารของสองประเทศนี้
    .
    ลี ซองควน สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวเช่นนี้หลังได้รับการบรรยายสรุปจากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็นไอเอส) ว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมปล่อยดาวเทียมสอดแนมอีกครั้งโดยใช้ส่วนประกอบขั้นสูงและความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจากรัสเซีย หลังจากความพยายามในเดือนพฤษภาคมล้มเหลว
    .
    พวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เพื่อแลกเปลี่ยนกับการส่งทหารไปช่วยรัสเซีย เกาหลีเหนือมีแนวโน้มต้องการเทคโนโลยีการทหารตั้งแต่ดาวเทียมจนถึงเรือดำน้ำสอดแนม และอาจรวมถึงการรับประกันด้านความมั่นคงจากมอสโก
    .
    ลีเสริมว่า เกาหลีเหนือพยายามปิดข่าวการส่งทหารไปประจำการในรัสเซีย โดยแจ้งกับครอบครัวทหารเหล่านั้นว่า ถูกส่งไปฝึก
    .
    สำหรับท่าทีของ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน นั้น ในช่วงหลังๆ นี้ไม่ได้ปฏิเสธข่าวนี้ โดยบอกว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ ขณะที่เปียงยางตอนแรกยืนกรานว่า ไม่ได้ส่งทหารไปรัสเซีย กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศจึงแถลงแก้เกี้ยวว่า ถ้าหากจะมีการส่งทหารไปจริงก็จะเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวสำทับว่า “เร็วๆ นี้” อาจมีทหารเกาหลีเหนือในรัสเซียถึง 12,000 นาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104387
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีเหนือส่งรัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปรัสเซีย หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ออกมาระบุ โสมแดงส่งทหาร 10,000 นาย ไปฝึกในแดนหมีขาวและอาจส่งไปร่วมรบในยูเครนในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า พร้อมประกาศหากเป็นเช่นนั้นจริงจะเลิกตั้งข้อจำกัดเคียฟในการใช้อาวุธโจมตีเข้าไปในรัสเซีย ขณะที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้คาดทหารโสมแดงอาจถูกส่งลงสมรภูมิยูเครนเร็วกว่าคาด . สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานเมื่อวันอังคาร (29) ว่า โช ซอนฮุย รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ เดินทางถึงเมืองวลาดิวอสต็อก เมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และมีกำหนดจะเดินทางต่อไปยังกรุงมอสโกในวันพุธ (30) เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร . รายงานนี้ออกมาหลังจากเมื่อวันจันทร์ (28) ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกของกระทรวงกลาโหมอเมริกา (เพนตากอน) แถลงว่า เกาหลีเหนือจัดส่งทหารราว 10,000 นายไปฝึกในรัสเซีย ซึ่งมากกว่าที่เคยประเมินก่อนหน้านี้ถึง 7,000 นาย และทหารเหล่านั้นอาจถูกส่งไปสู้รบในยูเครนในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า . ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า สถานการณ์นี้ “อันตรายมาก” . เพนตากอนยังประกาศว่า หากทหารเกาหลีเหนือเข้าสู่สงครามยูเครน ก็จะไม่ตั้งข้อจำกัดห้ามเคียฟใช้อาวุธของอเมริกา หลังจากก่อนหน้านี้สหรัฐฯ แสดงท่าทียังไม่พร้อมที่จะทำตามคำรบเร้าของเคียฟ ที่ต้องการให้สหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกจัดส่งพวกอาวุธพิสัยทำการไกลๆ ให้แก่ยูเครน รวมทั้งอนุญาตให้ยูเครนนำอาวุธที่ได้รับจากตะวันตกซึ่งมีสมรรถนะเช่นนี้อยู่แล้ว ไปใช้ในการโจมตีลึกเข้าไปแดนหมีขาว . ขณะที่ แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้แจ้งกับจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการดำเนินการของทั้งสองประเทศที่ถือเป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพ . ด้านมาร์ค รึตเตอ เลขาธิการขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการขยายสงครามที่อันตรายของรัสเซีย อีกทั้งเป็นสัญญาณว่า ปูตินสิ้นหวังมากขึ้น . รึตเตออ้างตัวเลขของฝ่ายตะวันตกที่ระบุว่า ทหารรัสเซียกว่า 600,000 นายเสียชีวิตหรือบาดเจ็บระหว่างสงครามในยูเครนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และเวลานี้เครมลินไม่สามารถบุกต่อโดยไม่มีการสนับสนุนจากต่างชาติ . เลขาธิการนาโตแถลงเช่นนี้ในบรัสเซลส์ หลังจากได้ฟังสรุปสถานการณ์จากทางเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเกาหลีใต้ว่า ขณะนี้สามารถยืนยันได้ว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกส่งไปประจำการภาคสนามในแคว้นคูร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยูเครนได้ส่งกำลังบุกเข้าไปในคูร์สก์ และยึดพื้นที่ได้จำนวนหนึ่ง ถึงแม้ทางรัสเซียแถลงในระยะหลังๆ ว่า ได้ยันการบุกของฝ่ายเคียฟเอาไว้ได้แล้ว และกำลังค่อยๆ ช่วงชิงพื้นที่ซึ่งถูกยึดไปกลับคืนมา . ทางด้านประธานาธิบดียุน ซอกยอน ของเกาหลีใต้ ระบุเมื่อวันอังคาร (29 ต.ค.) ว่า การขยายความร่วมมือทางทหารอย่างผิดกฎหมายระหว่างมอสโกกับเปียงยางเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงด้านความมั่นคงสำหรับนานาชาติ และเตือนว่า โซลกำลังพิจารณามาตรการตอบโต้ . ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ เผยว่า กำลังทบทวนการพิจารณาส่งอาวุธให้ยูเครนโดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่พันธมิตรตะวันตกเรียกร้องมานาน แต่โซลยังคัดค้านเนื่องจากขัดกับนโยบายดั้งเดิมภายในประเทศ . ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังกล่าวกับ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป หรือก็คือองค์กรบริหารของอียู ระหว่างหารือทางโทรศัพท์ว่า ทหารเกาหลีเหนืออาจถูกส่งไปยังแนวรบในยูเครนเร็วกว่าที่คาด . นอกจากนั้น หน่วยงานข่าวกรองของโซลแถลงต่อสมาชิกรัฐสภาว่า แม้แต่นายพลระดับสูงของเกาหลีเหนือยังถูกส่งไปยังแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตอกย้ำการกระชับความร่วมมือทางทหารของสองประเทศนี้ . ลี ซองควน สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวเช่นนี้หลังได้รับการบรรยายสรุปจากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็นไอเอส) ว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมปล่อยดาวเทียมสอดแนมอีกครั้งโดยใช้ส่วนประกอบขั้นสูงและความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจากรัสเซีย หลังจากความพยายามในเดือนพฤษภาคมล้มเหลว . พวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เพื่อแลกเปลี่ยนกับการส่งทหารไปช่วยรัสเซีย เกาหลีเหนือมีแนวโน้มต้องการเทคโนโลยีการทหารตั้งแต่ดาวเทียมจนถึงเรือดำน้ำสอดแนม และอาจรวมถึงการรับประกันด้านความมั่นคงจากมอสโก . ลีเสริมว่า เกาหลีเหนือพยายามปิดข่าวการส่งทหารไปประจำการในรัสเซีย โดยแจ้งกับครอบครัวทหารเหล่านั้นว่า ถูกส่งไปฝึก . สำหรับท่าทีของ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน นั้น ในช่วงหลังๆ นี้ไม่ได้ปฏิเสธข่าวนี้ โดยบอกว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ ขณะที่เปียงยางตอนแรกยืนกรานว่า ไม่ได้ส่งทหารไปรัสเซีย กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศจึงแถลงแก้เกี้ยวว่า ถ้าหากจะมีการส่งทหารไปจริงก็จะเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ . ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวสำทับว่า “เร็วๆ นี้” อาจมีทหารเกาหลีเหนือในรัสเซียถึง 12,000 นาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104387 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1372 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวว่า "🤣นาโต้กำลังพยายามทำให้การมีอยู่ของบุคลากรนาโตในยูเครนมีความชอบธรรมย้อนหลัง🤣 โดยอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบเพื่อรัสเซีย"
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russian Foreign Minister Sergey Lavrov says "NATO is trying to retroactively legitimize the presence of its personnel in Ukraine by claiming that North Korean soldiers are fighting for Russia."
    .
    6:38 AM · Oct 29, 2024 · 69.5K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1851045803978072139
    🇷🇺 รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวว่า "🤣นาโต้กำลังพยายามทำให้การมีอยู่ของบุคลากรนาโตในยูเครนมีความชอบธรรมย้อนหลัง🤣 โดยอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบเพื่อรัสเซีย" . JUST IN: 🇷🇺 Russian Foreign Minister Sergey Lavrov says "NATO is trying to retroactively legitimize the presence of its personnel in Ukraine by claiming that North Korean soldiers are fighting for Russia." . 6:38 AM · Oct 29, 2024 · 69.5K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1851045803978072139
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพนตากอนส่งเสียงเตือนรัสเซีย "จะไม่กำหนดข้อจำกัดในการใช้อาวุธของอเมริกาอีกต่อไป" หากเกาหลีเหนือเริ่มเข้าสู่ปฏิบัติการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ

    หลังจากนาโตออกมายืนยันอย่างเป็นทางการเพิ่มเติมต่อจากสหรัฐ ว่าหน่วยทหารของเปียงยางเข้าประจำการในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    เพนตากอนส่งเสียงเตือนรัสเซีย "จะไม่กำหนดข้อจำกัดในการใช้อาวุธของอเมริกาอีกต่อไป" หากเกาหลีเหนือเริ่มเข้าสู่ปฏิบัติการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ หลังจากนาโตออกมายืนยันอย่างเป็นทางการเพิ่มเติมต่อจากสหรัฐ ว่าหน่วยทหารของเปียงยางเข้าประจำการในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇰🇵🇷🇺 เกาหลีเหนือส่งทหาร ๑๐,๐๐๐ นาย ร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครน, เพนตะกอนยืนยัน
    .
    JUST IN: 🇰🇵🇷🇺 North Korea deploys 10,000 soldiers to fight alongside Russia in its war with Ukraine, Pentagon confirms.
    .
    11:22 PM · Oct 28, 2024 · 188.3K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1850936308409229729
    🇰🇵🇷🇺 เกาหลีเหนือส่งทหาร ๑๐,๐๐๐ นาย ร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครน, เพนตะกอนยืนยัน . JUST IN: 🇰🇵🇷🇺 North Korea deploys 10,000 soldiers to fight alongside Russia in its war with Ukraine, Pentagon confirms. . 11:22 PM · Oct 28, 2024 · 188.3K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1850936308409229729
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇰🇵🇷🇺 เกาหลีเหนือส่งทหารอย่างเป็นทางการเพื่อร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครน, นาโต้ยืนยัน
    .
    JUST IN: 🇰🇵🇷🇺 North Korea officially deploys troops to fight alongside Russia in its war against Ukraine, NATO confirms.
    .
    9:22 PM · Oct 28, 2024 · 374.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1850905971763089709
    🇰🇵🇷🇺 เกาหลีเหนือส่งทหารอย่างเป็นทางการเพื่อร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครน, นาโต้ยืนยัน . JUST IN: 🇰🇵🇷🇺 North Korea officially deploys troops to fight alongside Russia in its war against Ukraine, NATO confirms. . 9:22 PM · Oct 28, 2024 · 374.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1850905971763089709
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • สหรัฐฯจะไม่กำหนดข้อจำกัดกับเคียฟ ในการใช้อาวุธของอเมริกา หากว่าเกาหลีเหนือเข้าสู่ศึกสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จากคำเตือนของเพนตากอน หลังจากนาโตออกมาเผยว่าหน่วยทหารของเปียงยางเข้าประจำการในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    การประจำการทหารของเกาหลีเหนือโหมกระพือความกังวลแก่ตะวันตก ว่าความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปีครึ่งในยูเครน อาจลุกลามบานปลาย แม้ขณะเดียวกันเป้าความสนใจได้เบี่ยงไปยังตะวันออกกลาง
    .
    มันอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า รัสเซียกำลังหวังชดเชยความสูญเสียที่มากขึ้นเรื่อยๆในสนามรบ และเดินหน้ารุกคืบในภาคตะวันออกของยูเครน อย่างช้าๆแต่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
    .
    "ความร่วมมือทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของทั้งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และอียู-แอตแลนติก" มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากพูดคุยกับคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการประจำการทหารของเกาหลีเหนือ
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าสถานการณ์นี้เป็นอันตรายอย่างมาก หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) ประเมินว่าตอนนี้มีทหารเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการในภาคตะวันออกของรัสเซีย สำหรับการฝึกฝน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดหมายเมื่อวันพุธที่แล้ว(23ต.ค.) ว่ามีอยู่ประมาณ 3,000 นาย
    .
    "ส่วนหนึ่งของทหารเหล่านี้ได้เคลื่อนเข้าไปประชิดยูเครนแล้ว และเรามีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่ารัสเซียมีความตั้งใจใช้ทหารเหล่านี้ในการสู้รบหรือสนับสนุนปฏิบัติการสู้รบกับกองกำลังยูเครน ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนติดกับยูเครน" ซาบรินา ซิงห์ โฆษกเพนตากอนกล่าว
    .
    หน่วยข่าวกรองของกองทัพยูเครน กล่าวอ้างเมื่อวันพฤหัสบดี(24ต.ค.) ว่าพบเห็นหน่วยทหารเกาหลีเหนือชุดแรกอยู่ในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน บริเวณที่ทหารของยูเครนกำลังปฏิบัติการ นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานเข้าสู่ดินแดนของรัสเซียแห่งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม
    .
    อย่างไรก็ตามเพนตากอนไม่ได้ยืนยันว่ากองกำลังเกาหลีเหนือยู่ในแคว้นคูร์สก์แล้วหรือไม่ "มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่มุ่งหน้าสู่คูร์สก์ แต่ฉันยังไม่มีรายละเอียดมากกว่านี้" ซิงห์กล่าว
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นการโหมกระพือสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายโดยรัสเซีย ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน เผยว่าเคียฟได้เตือนเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือมานานหลายสัปดาห์แล้ว พร้อมกล่าวหาพันธมิตรล้มเหลวในการตอบโต้หนักหน่วง
    .
    "ขีดเส้นใต้เอาไว้ กรุณาฟังยูเครน ทางออกคือ ยกเลิกข้อจำกัดเราเดี๋ยวนี้เลย เกี่ยวกับการใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย" อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศยูคเรนเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    เบื้องต้น วังเครมลินปฏิเสธรายงานข่าวเกี่ยวกับการประจำการของทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" แต่ ปูติน ในวันพฤหัสบดี(24ต.ค.) ไม่ปฏิเสธมีทหารเปียงยางอยู่ในรัสเซีย และบอกว่ามันเป็นเรื่องของมอสโก ในแนวทางการใช้ประโยชน์จากสนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนกับเปียงยาง
    .
    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ไม่ยืนยันรายงานข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประจำการทหารในรัสเซีย แต่บอกว่าถ้าเปียงยางดำเนินการดังกล่าว เขาเชื่อว่ามันจะเป็นไปตามกรอบบรรทัดฐานในระดับสากล
    .
    นับตั้งแต่ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ พบกันที่ภูมิภาคตคะวันออกไกลของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือและรัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร พวกเขาพบปะกันอีกครั้งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลงนามในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ในนั้นรวมถึงความตกลงกลาโหมร่วม
    .
    เลขาธิการนาโตบอกว่า การประจำการทหารเกาหลีเหนือ เป็นสัญญาณว่า ในส่วนของปูตินนั้น กำลังเผชิญกับความสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ "มีทหารรัสเซียกว่า 600,000 นายที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามของปูติน และเขาไม่สามารถเดินหน้าการจู่โจมของเขาเล่นงานยูเครน โดยปราศจากแรงสนับสนุนจากต่างชาติ"
    .
    อันเดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครน เรียกร้องว่ามาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงอย่างเดียว คงไม่เพียงพอในมาตรการตอบโต้การเข้ามาพัวพันของเกาหลีเหนือ เขาบอกว่าเคียฟต้องการอาวุธและแผนที่ชัดเจนในการสกัดการยกระดับการเข้ามามีส่วนร่วมของเปียงยาง
    .
    "ศัตรูมีจุดแข็งที่ทราบกันดี และพันธมิตรของเราก็มีจุดแข็งนี้เช่นกัน" เยอร์มัคกล่าว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103973
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯจะไม่กำหนดข้อจำกัดกับเคียฟ ในการใช้อาวุธของอเมริกา หากว่าเกาหลีเหนือเข้าสู่ศึกสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จากคำเตือนของเพนตากอน หลังจากนาโตออกมาเผยว่าหน่วยทหารของเปียงยางเข้าประจำการในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . การประจำการทหารของเกาหลีเหนือโหมกระพือความกังวลแก่ตะวันตก ว่าความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปีครึ่งในยูเครน อาจลุกลามบานปลาย แม้ขณะเดียวกันเป้าความสนใจได้เบี่ยงไปยังตะวันออกกลาง . มันอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า รัสเซียกำลังหวังชดเชยความสูญเสียที่มากขึ้นเรื่อยๆในสนามรบ และเดินหน้ารุกคืบในภาคตะวันออกของยูเครน อย่างช้าๆแต่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง . "ความร่วมมือทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของทั้งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และอียู-แอตแลนติก" มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากพูดคุยกับคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการประจำการทหารของเกาหลีเหนือ . ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าสถานการณ์นี้เป็นอันตรายอย่างมาก หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) ประเมินว่าตอนนี้มีทหารเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการในภาคตะวันออกของรัสเซีย สำหรับการฝึกฝน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดหมายเมื่อวันพุธที่แล้ว(23ต.ค.) ว่ามีอยู่ประมาณ 3,000 นาย . "ส่วนหนึ่งของทหารเหล่านี้ได้เคลื่อนเข้าไปประชิดยูเครนแล้ว และเรามีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่ารัสเซียมีความตั้งใจใช้ทหารเหล่านี้ในการสู้รบหรือสนับสนุนปฏิบัติการสู้รบกับกองกำลังยูเครน ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนติดกับยูเครน" ซาบรินา ซิงห์ โฆษกเพนตากอนกล่าว . หน่วยข่าวกรองของกองทัพยูเครน กล่าวอ้างเมื่อวันพฤหัสบดี(24ต.ค.) ว่าพบเห็นหน่วยทหารเกาหลีเหนือชุดแรกอยู่ในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน บริเวณที่ทหารของยูเครนกำลังปฏิบัติการ นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานเข้าสู่ดินแดนของรัสเซียแห่งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม . อย่างไรก็ตามเพนตากอนไม่ได้ยืนยันว่ากองกำลังเกาหลีเหนือยู่ในแคว้นคูร์สก์แล้วหรือไม่ "มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่มุ่งหน้าสู่คูร์สก์ แต่ฉันยังไม่มีรายละเอียดมากกว่านี้" ซิงห์กล่าว . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นการโหมกระพือสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายโดยรัสเซีย ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน เผยว่าเคียฟได้เตือนเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือมานานหลายสัปดาห์แล้ว พร้อมกล่าวหาพันธมิตรล้มเหลวในการตอบโต้หนักหน่วง . "ขีดเส้นใต้เอาไว้ กรุณาฟังยูเครน ทางออกคือ ยกเลิกข้อจำกัดเราเดี๋ยวนี้เลย เกี่ยวกับการใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย" อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศยูคเรนเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . เบื้องต้น วังเครมลินปฏิเสธรายงานข่าวเกี่ยวกับการประจำการของทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" แต่ ปูติน ในวันพฤหัสบดี(24ต.ค.) ไม่ปฏิเสธมีทหารเปียงยางอยู่ในรัสเซีย และบอกว่ามันเป็นเรื่องของมอสโก ในแนวทางการใช้ประโยชน์จากสนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนกับเปียงยาง . เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ไม่ยืนยันรายงานข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประจำการทหารในรัสเซีย แต่บอกว่าถ้าเปียงยางดำเนินการดังกล่าว เขาเชื่อว่ามันจะเป็นไปตามกรอบบรรทัดฐานในระดับสากล . นับตั้งแต่ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ พบกันที่ภูมิภาคตคะวันออกไกลของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือและรัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร พวกเขาพบปะกันอีกครั้งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลงนามในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ในนั้นรวมถึงความตกลงกลาโหมร่วม . เลขาธิการนาโตบอกว่า การประจำการทหารเกาหลีเหนือ เป็นสัญญาณว่า ในส่วนของปูตินนั้น กำลังเผชิญกับความสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ "มีทหารรัสเซียกว่า 600,000 นายที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามของปูติน และเขาไม่สามารถเดินหน้าการจู่โจมของเขาเล่นงานยูเครน โดยปราศจากแรงสนับสนุนจากต่างชาติ" . อันเดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครน เรียกร้องว่ามาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงอย่างเดียว คงไม่เพียงพอในมาตรการตอบโต้การเข้ามาพัวพันของเกาหลีเหนือ เขาบอกว่าเคียฟต้องการอาวุธและแผนที่ชัดเจนในการสกัดการยกระดับการเข้ามามีส่วนร่วมของเปียงยาง . "ศัตรูมีจุดแข็งที่ทราบกันดี และพันธมิตรของเราก็มีจุดแข็งนี้เช่นกัน" เยอร์มัคกล่าว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103973 .............. Sondhi X
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารรัสเซียในภูมิภาคเคิร์ส ดินแดนรัสเซีย กำลังเริ่มเรียนภาษาเกาหลีเหนือ
    ทหารรัสเซียในภูมิภาคเคิร์ส ดินแดนรัสเซีย กำลังเริ่มเรียนภาษาเกาหลีเหนือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • นาโต้ยืนยัน "เกาหลีเหนือส่งทหารอย่างเป็นทางการเพื่อร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครน"
    นาโต้ยืนยัน "เกาหลีเหนือส่งทหารอย่างเป็นทางการเพื่อร่วมรบกับรัสเซียในสงครามกับยูเครน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • แผนปูตินย้อนศร NATO เกาหลีเหนือช่วยรบ
    .
    ครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่เกาหลีเหนือ-จีน จับมือกับรัสเซีย ฟัดยูเครน โดยมีข้อกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบกับยูเครนจำนวนหนึ่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วนัยของมันจะหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า
    .
    ถ้าเราย้อนหลังไป 4 เดือนที่แล้ว มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาประธานาธิบดีปูติน เพิ่งเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ ได้พบกับนายคิม จอง-อึน และทั้งคู่ได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมทุกอย่าง
    .
    สนธิสัญญานี้มีข้อความระบุ จะให้การช่วยเหลือด้านการป้องกันซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี ซึ่งเป็นแบบเดียวกับมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต นั่นเอง ซึ่งจะพูดได้ว่าปูตินย้อนศรนาโต ก็ได้
    .
    ทีนี้ เรามาดูเหตุผลว่าทำไมเกาหลีเหนือช่วยรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีใต้ ระบุว่า สงครามในยูเครนเปิดโอกาสให้กองทัพเกาหลีเหนือได้ทดสอบความพร้อมรบ รวมทั้งได้ประสบการณ์ในการใช้อาวุธแบบใหม่ และสงครามแบบใหม่ เช่น การใช้โดรน และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากมีสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี ขีปนาวุธฮวาซอง 11GA จะเป็นหนึ่งในอาวุธหลักที่ใช้มากที่สุด เกาหลีเหนือจึงใช้สนามรบที่ยูเครน เพื่อรวบรวมข้อมูลสำปรับปรุงประสิทธิภาพขีปนาวุธ และช้อมูลนี้เขาสามารถใช้ ขาย ขีปนาวุธ รุ่นนี้ออกไปในต่างประเทศด้วย
    .
    ความเคลื่อนไหวของจีน รัสเซีย และชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม QUAD หรือ G7 ได้แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกขั้ว/ข้างอย่างชัดเจน เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มอักษะ
    .
    สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นเพียงแค่แนวรบหนึ่งที่เพิ่มความซับซ้อนหลังจากเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมด้วย แต่มันยังมีสงครามตะวันออกกลางที่ขยายตัวจากสงครามตัวแทนของอิสราเอลกับฮามาส เป็นสงครามตัวจริงแล้ว ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มพันธมิตรแห่งการต่อต้านที่มีอิหร่านเป็นแกนนำ นี่เรายังไม่รวมความขัดแย้งเรื่องเกาะไต้หวัน ทะเลจีนใต้ ในพื้นที่อื่นๆ อีกหลายจุดทั่วโลก
    .
    ผมอยากจะบอกให้ท่านผู้ชมได้รับทราบว่า ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสงครามครั้งใหญ่ได้แล้ว เพราะผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นได้อย่างมากที่สุด แต่ก็อาจจะยังไม่เกิดตามที่ผมคาดคิด เพราะว่าจากการวิเคราะห์ส่วนตัวของผมแล้ว ยุโรปไม่พร้อมจะเข้าร่วมสงคราม
    .
    จึงเป็นไปได้ว่าการที่เกาหลีเหนือเข้ามาช่วยรัสเซียครั้งนี้ น่าจะเป็นแผนของประธานาธิบดีปูติน ที่จะโยนหินถามทาง แล้วดูปฏิกิริยาของยุโรป ยุโรปก็น่าจะรู้ว่าเป็นการโยนหินถามทาง แต่ถ้ายุโรปไม่ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะส่งทหารเข้ามาหรือไม่ แล้วก็ถอยในที่สุดนั้น นั่นคือการถือไพ่ที่รัสเซียถือเหนือกว่าทางยุโรปมากมายมหาศาลครับ
    แผนปูตินย้อนศร NATO เกาหลีเหนือช่วยรบ . ครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่เกาหลีเหนือ-จีน จับมือกับรัสเซีย ฟัดยูเครน โดยมีข้อกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบกับยูเครนจำนวนหนึ่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วนัยของมันจะหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า . ถ้าเราย้อนหลังไป 4 เดือนที่แล้ว มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาประธานาธิบดีปูติน เพิ่งเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ ได้พบกับนายคิม จอง-อึน และทั้งคู่ได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมทุกอย่าง . สนธิสัญญานี้มีข้อความระบุ จะให้การช่วยเหลือด้านการป้องกันซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี ซึ่งเป็นแบบเดียวกับมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต นั่นเอง ซึ่งจะพูดได้ว่าปูตินย้อนศรนาโต ก็ได้ . ทีนี้ เรามาดูเหตุผลว่าทำไมเกาหลีเหนือช่วยรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีใต้ ระบุว่า สงครามในยูเครนเปิดโอกาสให้กองทัพเกาหลีเหนือได้ทดสอบความพร้อมรบ รวมทั้งได้ประสบการณ์ในการใช้อาวุธแบบใหม่ และสงครามแบบใหม่ เช่น การใช้โดรน และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากมีสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี ขีปนาวุธฮวาซอง 11GA จะเป็นหนึ่งในอาวุธหลักที่ใช้มากที่สุด เกาหลีเหนือจึงใช้สนามรบที่ยูเครน เพื่อรวบรวมข้อมูลสำปรับปรุงประสิทธิภาพขีปนาวุธ และช้อมูลนี้เขาสามารถใช้ ขาย ขีปนาวุธ รุ่นนี้ออกไปในต่างประเทศด้วย . ความเคลื่อนไหวของจีน รัสเซีย และชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม QUAD หรือ G7 ได้แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกขั้ว/ข้างอย่างชัดเจน เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มอักษะ . สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นเพียงแค่แนวรบหนึ่งที่เพิ่มความซับซ้อนหลังจากเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมด้วย แต่มันยังมีสงครามตะวันออกกลางที่ขยายตัวจากสงครามตัวแทนของอิสราเอลกับฮามาส เป็นสงครามตัวจริงแล้ว ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มพันธมิตรแห่งการต่อต้านที่มีอิหร่านเป็นแกนนำ นี่เรายังไม่รวมความขัดแย้งเรื่องเกาะไต้หวัน ทะเลจีนใต้ ในพื้นที่อื่นๆ อีกหลายจุดทั่วโลก . ผมอยากจะบอกให้ท่านผู้ชมได้รับทราบว่า ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสงครามครั้งใหญ่ได้แล้ว เพราะผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นได้อย่างมากที่สุด แต่ก็อาจจะยังไม่เกิดตามที่ผมคาดคิด เพราะว่าจากการวิเคราะห์ส่วนตัวของผมแล้ว ยุโรปไม่พร้อมจะเข้าร่วมสงคราม . จึงเป็นไปได้ว่าการที่เกาหลีเหนือเข้ามาช่วยรัสเซียครั้งนี้ น่าจะเป็นแผนของประธานาธิบดีปูติน ที่จะโยนหินถามทาง แล้วดูปฏิกิริยาของยุโรป ยุโรปก็น่าจะรู้ว่าเป็นการโยนหินถามทาง แต่ถ้ายุโรปไม่ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะส่งทหารเข้ามาหรือไม่ แล้วก็ถอยในที่สุดนั้น นั่นคือการถือไพ่ที่รัสเซียถือเหนือกว่าทางยุโรปมากมายมหาศาลครับ
    Like
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 842 มุมมอง 1 รีวิว
  • หน่วยรบพิเศษของเกาหลีเหนือราว 5,000 นาย รวมตัวกันอยู่ที่แนวรบภูมิภาคเคิร์ส คาดว่าพร้อมเปิดฉากวันจันทร์นี้ เพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจาก ดินแดนรัสเซีย

    ก่อนหน้านี้ยูเครนออกมาระบุว่า มีทหารเหาหลีเหนือมากถึง 12,000 นาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ยืนยันว่ากองกำลังเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่งเดินทางมาทางเรือไปยังวลาดิวอสต็อก เมืองใหญ่ของรัสเซียริมมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่านี่จะเป็นสถานการณ์ที่ "รุนแรงมาก" สำหรับยูเครน

    รายงานล่าสุด กองกำลังทหารเกาหลีเหนือชุดแรกได้เดินทางข้ามมายังภูมิภาคเคิร์ส ทางด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนกล่าวว่า คาดว่าจะมีทหารเกาหลีเหนือมากถึง 5,000 นาย ที่พร้อมจะเข้าร่วมรบได้ภายในวันจันทร์นี้เลย
    หน่วยรบพิเศษของเกาหลีเหนือราว 5,000 นาย รวมตัวกันอยู่ที่แนวรบภูมิภาคเคิร์ส คาดว่าพร้อมเปิดฉากวันจันทร์นี้ เพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจาก ดินแดนรัสเซีย ก่อนหน้านี้ยูเครนออกมาระบุว่า มีทหารเหาหลีเหนือมากถึง 12,000 นาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ยืนยันว่ากองกำลังเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่งเดินทางมาทางเรือไปยังวลาดิวอสต็อก เมืองใหญ่ของรัสเซียริมมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่านี่จะเป็นสถานการณ์ที่ "รุนแรงมาก" สำหรับยูเครน รายงานล่าสุด กองกำลังทหารเกาหลีเหนือชุดแรกได้เดินทางข้ามมายังภูมิภาคเคิร์ส ทางด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนกล่าวว่า คาดว่าจะมีทหารเกาหลีเหนือมากถึง 5,000 นาย ที่พร้อมจะเข้าร่วมรบได้ภายในวันจันทร์นี้เลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.92 : เบื้องหลัง “เกาหลีเหนือ” ร่วมสมรภูมิยูเครน ชนวน WWIII ?
    .
    สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนรบกันมานานเกือบจะ 3 ปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติลง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ คือ ฝ่ายยูเครนได้เผยแพร่คลิปวีดิโอที่แสดงให้เห็น ทหารเกาหลีเหนืออยู่ในศูนย์ฝึกอบรมแห่งหนึ่งในรัสเซีย ทหารเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนเครื่องแบบ และเข้าแถวเพื่อรับเสบียงและสิ่งของอื่น ๆ โดยพูดคุยกันเป็นภาษาเกาหลี
    .
    หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่า ขณะนี้มีทหารเกาหลีเหนือราว 11,000 นายกำลังเดินทางมายังรัสเซีย และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการต่อสู้กับยูเครน ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=EHMUg6bVO9U
    บูรพาไม่แพ้ Ep.92 : เบื้องหลัง “เกาหลีเหนือ” ร่วมสมรภูมิยูเครน ชนวน WWIII ? . สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนรบกันมานานเกือบจะ 3 ปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติลง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ คือ ฝ่ายยูเครนได้เผยแพร่คลิปวีดิโอที่แสดงให้เห็น ทหารเกาหลีเหนืออยู่ในศูนย์ฝึกอบรมแห่งหนึ่งในรัสเซีย ทหารเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนเครื่องแบบ และเข้าแถวเพื่อรับเสบียงและสิ่งของอื่น ๆ โดยพูดคุยกันเป็นภาษาเกาหลี . หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่า ขณะนี้มีทหารเกาหลีเหนือราว 11,000 นายกำลังเดินทางมายังรัสเซีย และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการต่อสู้กับยูเครน ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=EHMUg6bVO9U
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sondhitalk EP 265 : “พ่อพระ” หรือ “นักต้มตุ๋น” (Full)

    - ทนาย “พ่อพระ” หรือ “นักต้มตุ๋น”?
    - ศาลรับไต่สวน ป.ป.ช.ซุกสำนวน “คดีนาฬิกาเพื่อน”
    - “เกาหลีเหนือ จับมือ รัสเซีย” ฟัด “ยูเครน”
    - สหรัฐฯสมองไหล หัวกะทิหนีไปอยู่จีน

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #ทนายตั้ม #ทนายษิทรา #เงินเสน่หา #ปปช #นาฬิกาเพื่อน #สงครามโลก #เกาหลีเหนือ #รัสเซีย #สมองไหล
    Sondhitalk EP 265 : “พ่อพระ” หรือ “นักต้มตุ๋น” (Full) - ทนาย “พ่อพระ” หรือ “นักต้มตุ๋น”? - ศาลรับไต่สวน ป.ป.ช.ซุกสำนวน “คดีนาฬิกาเพื่อน” - “เกาหลีเหนือ จับมือ รัสเซีย” ฟัด “ยูเครน” - สหรัฐฯสมองไหล หัวกะทิหนีไปอยู่จีน #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #ทนายตั้ม #ทนายษิทรา #เงินเสน่หา #ปปช #นาฬิกาเพื่อน #สงครามโลก #เกาหลีเหนือ #รัสเซีย #สมองไหล
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    95
    6 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 5244 มุมมอง 3634 5 รีวิว
  • สหรัฐฯ เปิดเผยเป็นครั้งแรก พวกเขาพบเห็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเกาหลีเหนือส่งทหาร 3,000 นายไปยังรัสเซีย สำหรับความเป็นไปได้เข้าประจำการในยูเครน ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้สงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟลุกลามบานปลายครั้งใหญ่
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในกรุงโรม ว่า "มันจะเป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ ถ้าเกาหลีเหนือเตรียมการสู้รบเคียงข้างรัสเซียในยูเครน ตามที่เคียฟกล่าวหา" อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ายังคงต้องดูว่าทหารเหล่นั้นเข้าไปทำอะไรในรัสเซีย "มีหลักฐานว่าทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว
    .
    จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบข่าวให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาในวันพุธ (23 ต.ค.) ระบุสหรัฐฯ เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 3,000 นายกำลังฝึกฝนที่ฐานทัพ 3 แห่ง ทางตะวันออกของรัสเซีย
    .
    เคอร์บี ระบุต่อว่าสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกลำเลียงทางเรือจากภูมิภาคว็อนซันของเกาหลีเหนือ ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนจนถึงกลางเดือนตุลาคม ก่อนเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์ฝึกทหาร 3 แห่งทางตะวันออกของยูเครน
    .
    ในกรุงโซล บรรดาสมาชิกรัฐสภาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังได้รับรายงานสรุปจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่าเบื้องต้นเปียงยางส่งทหารเข้าไปยังรัสเซียแล้ว 3,000 นาย และคาดหมายว่ารวมแล้วจะมีกำลังพลเกาหลีเหนือทั้งสิ้นราว 10,000 นาย เมื่อการประจำการเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม
    .
    ความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นมา หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และนับตั้งแต่นั้นมันได้พัฒนาการเข้าสงครามหนึ่งที่การสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในแนวหน้าทางตะวันออกของยูเครน และทั้งสองฝ่ายสูญเสียกำลังพลไปอย่างมหาศาล
    .
    สหรัฐฯ บอกว่าการประจำการของทหารเกาหลีเหนือ อาจเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่ากองทัพรัสเซียกำลังมีปัญหาด้านกำลังพล หลังจากก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาเคยกล่าวอ้างว่ามีทหารของมอสโกเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามยูเครนไปแล้วมากกว่า 600,000 นาย
    .
    วังเครมลินปฏิเสธคำกล่าวหาโซลเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" และตัวแทนรายหนึ่งของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ เรียกมันว่าเป็นข่าวลือที่ไร้หลักฐาน
    .
    ที่ผ่านมา ทั้งมอสโกและเปียงยางปฏิเสธเช่นกันเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธ แต่พวกเขาประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร และลงนามในสนธิสัญญากลาโหมร่วม ณ ที่ประชุมซัมมิต เมื่อเดือนมิถุนายน
    .
    คำกล่าวอ้างล่าสุดเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือในรัสเซีย มีขึ้นหลังจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของโซล ระบุเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ว่าเกาหลีเหนือได้ขนส่งทางเรือ พาบุคลากรกองกำลังพิเศษราว 1,500 นายไปยังรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังพลเหล่านี้จะถูกส่งเข้าประจำการเพื่อสู้รบในสงครามในยุเครน หลังผ่านการฝึกฝนและมีความเคยชินกับสภาพอากาศแล้ว
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาเช่นกันว่า เปียงยางกำลังส่งทหาร 10,000 นาย ไปยังรัสเซีย และในวันอังคาร (22 ต.ค.) เขาเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรตอบสนองต่อหลักฐานที่ว่า เกาหลีเหนือเข้ามาพัวพันในสงครามของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    ในเรื่องนี้ โฆษกของนาโตบอกว่าเหล่าพันธมิตรนาโตกำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกรณีเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าประจำการในรัสเซีย
    .
    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่ามอสโกอาจส่งทหารเกาหลีเหนือไปยังภาคตะวันออกของยูเครน หรือในแคว้นคูร์สก์ของตนเอง ดินแดนที่ทหารรัสเซียกำลังสู้รบขับไล่กองกำลังยูเครนที่ยึดครองพื้นที่หนึ่งๆ ที่พวกเขายึดมาได้ในปฏิบัติการรุกรานตอบโต้ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
    .
    ไมค์ เทอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไฟเขียวเคียฟตอบโต้ด้วยอาวุธที่จัดหาให้โดยอเมริกา หากว่าทหารเกาหลีเหนือโจมตียูเครนมาจากดินแดนของรัสเซีย
    .
    "ถ้าทหารเกาหลีเหนือรุกรานเข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของยูเครน สหรัฐฯ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างจริงจังในการใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงกับกองกำลังเกาหลีเหนือ" เทอร์เนอร์กล่าว
    .
    เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซียในทันที พร้อมเตือนว่าพวกเขาอาจพิจารณาป้อนอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครนเช่นกัน หากว่าความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง 2 ชาตินั้นเลยเถิดเกินไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102308
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ เปิดเผยเป็นครั้งแรก พวกเขาพบเห็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเกาหลีเหนือส่งทหาร 3,000 นายไปยังรัสเซีย สำหรับความเป็นไปได้เข้าประจำการในยูเครน ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้สงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟลุกลามบานปลายครั้งใหญ่ . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในกรุงโรม ว่า "มันจะเป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ ถ้าเกาหลีเหนือเตรียมการสู้รบเคียงข้างรัสเซียในยูเครน ตามที่เคียฟกล่าวหา" อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ายังคงต้องดูว่าทหารเหล่นั้นเข้าไปทำอะไรในรัสเซีย "มีหลักฐานว่าทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว . จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบข่าวให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาในวันพุธ (23 ต.ค.) ระบุสหรัฐฯ เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 3,000 นายกำลังฝึกฝนที่ฐานทัพ 3 แห่ง ทางตะวันออกของรัสเซีย . เคอร์บี ระบุต่อว่าสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกลำเลียงทางเรือจากภูมิภาคว็อนซันของเกาหลีเหนือ ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนจนถึงกลางเดือนตุลาคม ก่อนเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์ฝึกทหาร 3 แห่งทางตะวันออกของยูเครน . ในกรุงโซล บรรดาสมาชิกรัฐสภาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังได้รับรายงานสรุปจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่าเบื้องต้นเปียงยางส่งทหารเข้าไปยังรัสเซียแล้ว 3,000 นาย และคาดหมายว่ารวมแล้วจะมีกำลังพลเกาหลีเหนือทั้งสิ้นราว 10,000 นาย เมื่อการประจำการเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม . ความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นมา หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และนับตั้งแต่นั้นมันได้พัฒนาการเข้าสงครามหนึ่งที่การสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในแนวหน้าทางตะวันออกของยูเครน และทั้งสองฝ่ายสูญเสียกำลังพลไปอย่างมหาศาล . สหรัฐฯ บอกว่าการประจำการของทหารเกาหลีเหนือ อาจเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่ากองทัพรัสเซียกำลังมีปัญหาด้านกำลังพล หลังจากก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาเคยกล่าวอ้างว่ามีทหารของมอสโกเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามยูเครนไปแล้วมากกว่า 600,000 นาย . วังเครมลินปฏิเสธคำกล่าวหาโซลเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" และตัวแทนรายหนึ่งของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ เรียกมันว่าเป็นข่าวลือที่ไร้หลักฐาน . ที่ผ่านมา ทั้งมอสโกและเปียงยางปฏิเสธเช่นกันเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธ แต่พวกเขาประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร และลงนามในสนธิสัญญากลาโหมร่วม ณ ที่ประชุมซัมมิต เมื่อเดือนมิถุนายน . คำกล่าวอ้างล่าสุดเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือในรัสเซีย มีขึ้นหลังจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของโซล ระบุเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ว่าเกาหลีเหนือได้ขนส่งทางเรือ พาบุคลากรกองกำลังพิเศษราว 1,500 นายไปยังรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังพลเหล่านี้จะถูกส่งเข้าประจำการเพื่อสู้รบในสงครามในยุเครน หลังผ่านการฝึกฝนและมีความเคยชินกับสภาพอากาศแล้ว . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาเช่นกันว่า เปียงยางกำลังส่งทหาร 10,000 นาย ไปยังรัสเซีย และในวันอังคาร (22 ต.ค.) เขาเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรตอบสนองต่อหลักฐานที่ว่า เกาหลีเหนือเข้ามาพัวพันในสงครามของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ในเรื่องนี้ โฆษกของนาโตบอกว่าเหล่าพันธมิตรนาโตกำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกรณีเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าประจำการในรัสเซีย . เจ้าหน้าที่รายหนึ่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่ามอสโกอาจส่งทหารเกาหลีเหนือไปยังภาคตะวันออกของยูเครน หรือในแคว้นคูร์สก์ของตนเอง ดินแดนที่ทหารรัสเซียกำลังสู้รบขับไล่กองกำลังยูเครนที่ยึดครองพื้นที่หนึ่งๆ ที่พวกเขายึดมาได้ในปฏิบัติการรุกรานตอบโต้ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา . ไมค์ เทอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไฟเขียวเคียฟตอบโต้ด้วยอาวุธที่จัดหาให้โดยอเมริกา หากว่าทหารเกาหลีเหนือโจมตียูเครนมาจากดินแดนของรัสเซีย . "ถ้าทหารเกาหลีเหนือรุกรานเข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของยูเครน สหรัฐฯ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างจริงจังในการใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงกับกองกำลังเกาหลีเหนือ" เทอร์เนอร์กล่าว . เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซียในทันที พร้อมเตือนว่าพวกเขาอาจพิจารณาป้อนอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครนเช่นกัน หากว่าความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง 2 ชาตินั้นเลยเถิดเกินไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102308 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1831 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ NIS เปิดเผย เปียงยางส่งกำลังรบไปรัสเซีย 3,000 นาย ท่ามกลางรายงานโซลกำลังพิจารณาส่งทหารเกาหลีใต้เข้ายูเครนเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวทหารเกาหลีเหนือ
    .
    สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานวันพุธ (23 ต.ค.) ว่า สำนักข่าวกรองเกาหลีใต้ NIS รายงานต่อรัฐสภาแดนโสมวันพุธ (23) เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนือถูกส่งเข้ารัสเซียร่วม 3,000 นาย และภายในธันวาคมนี้คาดจะมี 10,000 นายส่งเข้าไปเพิ่ม
    .
    เป็นการรายงานแบบประชุมลับต่อหน้าคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำรัฐสภาเกาหลีใต้ อ้างอิงจากแหล่งข่าว
    .
    โดยรอบแรกเปียงยางส่งไปจำนวน 1,500 นายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    ยอนฮับรายงานว่าแหล่งข่าวรัฐบาลประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้เปิดเผยวันอังคาร (22) ว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจในการส่งทหารเกาหลีใต้เข้าสู่ดินแดนยูเครนเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวทหารเกาหลีเหนือ
    .
    “มีความเป็นไปได้ที่ทหารเกาหลีใต้จะถูกส่งไปยังยูเครนเพื่อจับตายุทธวิธีและความสามารถทางการรบของหน่วยรบพิเศษเกาหลีเหนือที่ส่งออกไปเพื่อช่วยรัสเซีย” แหล่งข่าววงในกล่าว
    .
    และเสริมต่อว่า หากว่ามีการส่งไปจริง ทีมที่จะส่งไปน่าจะประกอบไปด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองลับกองทัพที่สามารถวิเคราะห์ยุทธวิธีการรบของเกาหลีเหนือ หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนเชลยศึกเกาหลีเหนือ
    .
    ยอนฮับกล่าวว่า โซลยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการเปลี่ยนนโยบายในการส่งยุทโธปกรณ์อาวุธให้ยูเครนที่อาจหันไปมอบอาวุธทำลายล้างแทน
    .
    “ในขณะที่มองเห็นสัญญาณในความร่วมมือทางการทหารระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย มาตรการตอบโต้จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นขั้นตอน” แหล่งข่าวรัฐบาลโซลกล่าว
    .
    ทั้งนี้ เกาหลีใต้มียุทโธปกรณ์ทางการป้องกันมากมาย รวมระบบต่อต้านอากาศยานพิสัยกลางแบบภาคพื้นสู่อากาศ Cheongung-II
    .
    ขณะเดียวกัน ในงานแถลงข่าวโฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ประเมินว่า รัสเซียไม่น่าจะส่งกำลังพลมาที่กรุงเปียงยางในการตอบแทนสำหรับการส่งกำลังทหารแดนโสมเข้าไปรบในยูเครน แต่มอสโกน่าจะช่วยเหลือทางด้านการเงินและมอบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการทหารแทน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102303
    ..............
    Sondhi X
    สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ NIS เปิดเผย เปียงยางส่งกำลังรบไปรัสเซีย 3,000 นาย ท่ามกลางรายงานโซลกำลังพิจารณาส่งทหารเกาหลีใต้เข้ายูเครนเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวทหารเกาหลีเหนือ . สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานวันพุธ (23 ต.ค.) ว่า สำนักข่าวกรองเกาหลีใต้ NIS รายงานต่อรัฐสภาแดนโสมวันพุธ (23) เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนือถูกส่งเข้ารัสเซียร่วม 3,000 นาย และภายในธันวาคมนี้คาดจะมี 10,000 นายส่งเข้าไปเพิ่ม . เป็นการรายงานแบบประชุมลับต่อหน้าคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำรัฐสภาเกาหลีใต้ อ้างอิงจากแหล่งข่าว . โดยรอบแรกเปียงยางส่งไปจำนวน 1,500 นายในสัปดาห์ที่ผ่านมา . ยอนฮับรายงานว่าแหล่งข่าวรัฐบาลประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้เปิดเผยวันอังคาร (22) ว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจในการส่งทหารเกาหลีใต้เข้าสู่ดินแดนยูเครนเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวทหารเกาหลีเหนือ . “มีความเป็นไปได้ที่ทหารเกาหลีใต้จะถูกส่งไปยังยูเครนเพื่อจับตายุทธวิธีและความสามารถทางการรบของหน่วยรบพิเศษเกาหลีเหนือที่ส่งออกไปเพื่อช่วยรัสเซีย” แหล่งข่าววงในกล่าว . และเสริมต่อว่า หากว่ามีการส่งไปจริง ทีมที่จะส่งไปน่าจะประกอบไปด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองลับกองทัพที่สามารถวิเคราะห์ยุทธวิธีการรบของเกาหลีเหนือ หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนเชลยศึกเกาหลีเหนือ . ยอนฮับกล่าวว่า โซลยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการเปลี่ยนนโยบายในการส่งยุทโธปกรณ์อาวุธให้ยูเครนที่อาจหันไปมอบอาวุธทำลายล้างแทน . “ในขณะที่มองเห็นสัญญาณในความร่วมมือทางการทหารระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย มาตรการตอบโต้จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นขั้นตอน” แหล่งข่าวรัฐบาลโซลกล่าว . ทั้งนี้ เกาหลีใต้มียุทโธปกรณ์ทางการป้องกันมากมาย รวมระบบต่อต้านอากาศยานพิสัยกลางแบบภาคพื้นสู่อากาศ Cheongung-II . ขณะเดียวกัน ในงานแถลงข่าวโฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ประเมินว่า รัสเซียไม่น่าจะส่งกำลังพลมาที่กรุงเปียงยางในการตอบแทนสำหรับการส่งกำลังทหารแดนโสมเข้าไปรบในยูเครน แต่มอสโกน่าจะช่วยเหลือทางด้านการเงินและมอบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการทหารแทน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102303 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1683 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (22 ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้างมอสโกในยูเครน
    .
    หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เกาหลีเหนือส่งบุคลากรกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อฝึกฝนและทำความเคยชินกับสภาพอากาศ ณ ฐานทัพท้องถิ่นหลายแห่ง ในความเป็นไปได้ที่จะร่วมสู้รบในสงครามในยูเครน
    .
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งประจำทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมการมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทหาร ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ในความร่วมมือด้านการทหารระหว่างเปียงยางและมอสโก ในนั้นรวมถึงการจัดหาอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน หากสถานการณ์เลวร้ายลง
    .
    "เราจะพิจารณาจัดหาอาวุธสำหรับวัตถุประสงค์ป้องกันตนเอง แล้วแต่สถานการณ์ และถ้ามันดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระทำการเลยเถิดจนเกินไป เราอาจพิจารณาป้อนอาวุธสำหรับการจู่โจมเช่นกัน" เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว
    .
    โซล ซึ่งผงาดขึ้นมาในฐานะผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ ถูกกดดันมานานจากประเทศตะวันตกบางชาติและเคียฟ ให้มอบอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน แต่ที่ผ่านมา พวกเขามุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือที่ไม่เข่นฆ่าชีวิต ในนั้นรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับปลดชนวนกับระเบิด
    .
    ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เคยบอกว่า พวกเขาจะพิจารณาทบทวนใหม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมอบอาวุธแก่ยูเครน หลังจากเกาหลีเหนือและรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโซลเริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะป้อนอาวุธแก่ยูเครน
    .
    ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีขึ้นหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    เอ็นเอสซีระบุว่าเปียงยางทำตัวเหมือน "องค์กรอาชญากรรม" ด้วยการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปร่วมสู้รบ ในฐานะทหารรับจ้างของรัสเซีย เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิมนุษยชนของประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอน
    .
    "รัฐบาลของเราเรียกร้องให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกมาในทันที และถ้าการสมคบคิดทางทหารในปัจจุบันระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และเราจะตอบโต้อย่างจริงจังร่วมกับประชาคมนานาชาติ" เกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง
    .
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้บอกว่าคณะทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกลาโหม จะเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของนาโต ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียุน เมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) ร้องขอให้ส่งผู้แทนทูตไปยังสำนักงานใหญ่นาโต เพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูล
    .
    ทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาเกี่ยวกับการป้อนอาวุธ แต่ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร
    .
    https://sondhitalk.com/detail/9670000102037

    #Thaitimes
    เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (22 ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้างมอสโกในยูเครน . หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เกาหลีเหนือส่งบุคลากรกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อฝึกฝนและทำความเคยชินกับสภาพอากาศ ณ ฐานทัพท้องถิ่นหลายแห่ง ในความเป็นไปได้ที่จะร่วมสู้รบในสงครามในยูเครน . เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งประจำทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมการมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทหาร ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ในความร่วมมือด้านการทหารระหว่างเปียงยางและมอสโก ในนั้นรวมถึงการจัดหาอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน หากสถานการณ์เลวร้ายลง . "เราจะพิจารณาจัดหาอาวุธสำหรับวัตถุประสงค์ป้องกันตนเอง แล้วแต่สถานการณ์ และถ้ามันดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระทำการเลยเถิดจนเกินไป เราอาจพิจารณาป้อนอาวุธสำหรับการจู่โจมเช่นกัน" เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว . โซล ซึ่งผงาดขึ้นมาในฐานะผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ ถูกกดดันมานานจากประเทศตะวันตกบางชาติและเคียฟ ให้มอบอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน แต่ที่ผ่านมา พวกเขามุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือที่ไม่เข่นฆ่าชีวิต ในนั้นรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับปลดชนวนกับระเบิด . ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เคยบอกว่า พวกเขาจะพิจารณาทบทวนใหม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมอบอาวุธแก่ยูเครน หลังจากเกาหลีเหนือและรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโซลเริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะป้อนอาวุธแก่ยูเครน . ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีขึ้นหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . เอ็นเอสซีระบุว่าเปียงยางทำตัวเหมือน "องค์กรอาชญากรรม" ด้วยการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปร่วมสู้รบ ในฐานะทหารรับจ้างของรัสเซีย เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิมนุษยชนของประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอน . "รัฐบาลของเราเรียกร้องให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกมาในทันที และถ้าการสมคบคิดทางทหารในปัจจุบันระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และเราจะตอบโต้อย่างจริงจังร่วมกับประชาคมนานาชาติ" เกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง . เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้บอกว่าคณะทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกลาโหม จะเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของนาโต ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียุน เมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) ร้องขอให้ส่งผู้แทนทูตไปยังสำนักงานใหญ่นาโต เพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูล . ทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาเกี่ยวกับการป้อนอาวุธ แต่ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร . https://sondhitalk.com/detail/9670000102037 #Thaitimes
    SONDHITALK.COM
    ส่อลุกลาม! เกาหลีใต้ขู่จัดอาวุธร้ายแรงให้ยูเครนตรงๆ เอาคืนเกาหลีเหนือส่งทหารช่วยรัสเซีย
    เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร(22ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (22 ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้างมอสโกในยูเครน
    .
    หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เกาหลีเหนือส่งบุคลากรกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อฝึกฝนและทำความเคยชินกับสภาพอากาศ ณ ฐานทัพท้องถิ่นหลายแห่ง ในความเป็นไปได้ที่จะร่วมสู้รบในสงครามในยูเครน
    .
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งประจำทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมการมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทหาร ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ในความร่วมมือด้านการทหารระหว่างเปียงยางและมอสโก ในนั้นรวมถึงการจัดหาอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน หากสถานการณ์เลวร้ายลง
    .
    "เราจะพิจารณาจัดหาอาวุธสำหรับวัตถุประสงค์ป้องกันตนเอง แล้วแต่สถานการณ์ และถ้ามันดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระทำการเลยเถิดจนเกินไป เราอาจพิจารณาป้อนอาวุธสำหรับการจู่โจมเช่นกัน" เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว
    .
    โซล ซึ่งผงาดขึ้นมาในฐานะผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ ถูกกดดันมานานจากประเทศตะวันตกบางชาติและเคียฟ ให้มอบอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน แต่ที่ผ่านมา พวกเขามุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือที่ไม่เข่นฆ่าชีวิต ในนั้นรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับปลดชนวนกับระเบิด
    .
    ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เคยบอกว่า พวกเขาจะพิจารณาทบทวนใหม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมอบอาวุธแก่ยูเครน หลังจากเกาหลีเหนือและรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโซลเริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะป้อนอาวุธแก่ยูเครน
    .
    ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีขึ้นหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    เอ็นเอสซีระบุว่าเปียงยางทำตัวเหมือน "องค์กรอาชญากรรม" ด้วยการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปร่วมสู้รบ ในฐานะทหารรับจ้างของรัสเซีย เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิมนุษยชนของประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอน
    .
    "รัฐบาลของเราเรียกร้องให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกมาในทันที และถ้าการสมคบคิดทางทหารในปัจจุบันระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และเราจะตอบโต้อย่างจริงจังร่วมกับประชาคมนานาชาติ" เกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง
    .
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้บอกว่าคณะทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกลาโหม จะเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของนาโต ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียุน เมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) ร้องขอให้ส่งผู้แทนทูตไปยังสำนักงานใหญ่นาโต เพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูล
    .
    ทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาเกี่ยวกับการป้อนอาวุธ แต่ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102037
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีใต้อาจพิจารณาป้อนอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (22 ต.ค.) หลังกล่าวหาเปียงยางส่งทหารร่วมสู้รบเคียงข้างมอสโกในยูเครน . หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เกาหลีเหนือส่งบุคลากรกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย เข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อฝึกฝนและทำความเคยชินกับสภาพอากาศ ณ ฐานทัพท้องถิ่นหลายแห่ง ในความเป็นไปได้ที่จะร่วมสู้รบในสงครามในยูเครน . เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งประจำทำเนียบประธานาธิบดียุน ซอกยอล ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมการมาตรการทางการทูต เศรษฐกิจและทหาร ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ในความร่วมมือด้านการทหารระหว่างเปียงยางและมอสโก ในนั้นรวมถึงการจัดหาอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน หากสถานการณ์เลวร้ายลง . "เราจะพิจารณาจัดหาอาวุธสำหรับวัตถุประสงค์ป้องกันตนเอง แล้วแต่สถานการณ์ และถ้ามันดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระทำการเลยเถิดจนเกินไป เราอาจพิจารณาป้อนอาวุธสำหรับการจู่โจมเช่นกัน" เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว . โซล ซึ่งผงาดขึ้นมาในฐานะผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ ถูกกดดันมานานจากประเทศตะวันตกบางชาติและเคียฟ ให้มอบอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครน แต่ที่ผ่านมา พวกเขามุ่งเน้นไปที่การมอบความช่วยเหลือที่ไม่เข่นฆ่าชีวิต ในนั้นรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับปลดชนวนกับระเบิด . ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เคยบอกว่า พวกเขาจะพิจารณาทบทวนใหม่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมอบอาวุธแก่ยูเครน หลังจากเกาหลีเหนือและรัสเซีย ลงนามในข้อตกลงกลาโหมร่วมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าโซลเริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะป้อนอาวุธแก่ยูเครน . ความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีขึ้นหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นเอสซี) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตอบโต้ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . เอ็นเอสซีระบุว่าเปียงยางทำตัวเหมือน "องค์กรอาชญากรรม" ด้วยการส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปร่วมสู้รบ ในฐานะทหารรับจ้างของรัสเซีย เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่และสิทธิมนุษยชนของประชาชนในบ้านเกิดเมืองนอน . "รัฐบาลของเราเรียกร้องให้ถอนทหารเกาหลีเหนือออกมาในทันที และถ้าการสมคบคิดทางทหารในปัจจุบันระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป เราจะไม่นั่งดูเฉยๆ และเราจะตอบโต้อย่างจริงจังร่วมกับประชาคมนานาชาติ" เกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลง . เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้บอกว่าคณะทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกลาโหม จะเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของนาโต ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และมาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต กล่าวระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียุน เมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) ร้องขอให้ส่งผู้แทนทูตไปยังสำนักงานใหญ่นาโต เพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูล . ทั้งรัสเซีย และเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาเกี่ยวกับการป้อนอาวุธ แต่ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102037 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้แทนเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาแถลง โต้ข่าวซึ่งเผยแพร่อยู่ในโลกตะวันตก ที่กล่าวหาโสมแดงส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน ชี้เป็นข่าวลือไม่มีมูล หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ด้วยการประณามโสมเหนืออย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับทันที รวมทั้งประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป โซลจะดำเนินมาตรการตอบโต้ นอกจากนั้นผู้นำเกาหลีใต้ยังเล็งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต
    .
    สืบเนื่องจากที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (18) ว่า เปียงยางได้จัดส่งทหารจำนวนมากไปช่วยรัสเซีย โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังสู้รบพิเศษราว 1,500 นายของเกาหลีเหนือ ถูกส่งไปฝึกอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และพร้อมไปร่วมรบในสงครามยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (21) ผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงในการประชุมคณะกรรมาธิการของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า การกล่าวอ้างของโซลมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรอันชอบธรรมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    เปียงยางและมอสโกเป็นพันธมิตรกันนับจากการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นภายหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 ขณะที่เกาหลีใต้และอเมริกาซึ่งก็สนิทสนมกันมากตั้งแต่หลังสงคราม กล่าวหามานานแล้วว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง ส่งอาวุธให้รัสเซียใช้ในยูเครน
    .
    เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับคิมยังลงนามข้อตกลงความมั่นคงที่กำหนดว่า สองประเทศจะช่วยเหลือกันหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกศัตรูรุกราน
    .
    ทางด้านจอร์จี ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโซล ที่ถูกเกาหลีใต้เรียกเข้าพบในวันจันทร์ (21) เพื่อร้องเรียน ไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ แต่ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและไม่กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด
    .
    นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือไม่ได้พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และไม่มีใครต้องกังวล
    .
    ในส่วนอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้ไม่ได้ออกมายืนยันข้อกล่าวอ้างของโซล แต่โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า หากข้อกล่าวหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นจริง จะถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายและน่ากังวลมาก อีกทั้งสะท้อนความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    ส่วน มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การที่เปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม
    .
    ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับรึตเตอ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้นาโตสำรวจมาตรการตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม และสำทับว่า จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต
    .
    ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามบีบีซีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการร่วมมือระหว่างเปียงยาง-มอสโกว่า จีนหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และหาทางแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการเมือง
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (22 ต.ค.) สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ออกคำแถลงประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า การส่งทหารไปร่วมสงครามรุกรานที่ผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงอย่างมากไม่เฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่รวมถึงนานาชาติ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับประเทศทันที และประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้
    .
    วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งว่า โซลกำลังพิจารณาส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยูเครนเพื่อติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซีย
    .
    จากข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมที่จะส่งไปมีแนวโน้มประกอบด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ในสนามรบของเกาหลีเหนือ และร่วมสอบปากคำเชลยสงครามที่ยูเครนควบคุมตัวอยู่
    .
    ยอนฮัปยังรายงานว่า บัญชีเทเลแกรมที่สนับสนุนรัสเซียโพสต์ภาพธงรัสเซียและเกาหลีเหนือเคียงข้างกันอยู่ในสนามรบในยูเครน
    .
    สื่อบางสำนักของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนืออาจส่งทหารถึง 12,000 นายไปช่วยรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102030
    ..............
    Sondhi X
    ผู้แทนเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาแถลง โต้ข่าวซึ่งเผยแพร่อยู่ในโลกตะวันตก ที่กล่าวหาโสมแดงส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน ชี้เป็นข่าวลือไม่มีมูล หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ด้วยการประณามโสมเหนืออย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับทันที รวมทั้งประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป โซลจะดำเนินมาตรการตอบโต้ นอกจากนั้นผู้นำเกาหลีใต้ยังเล็งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต . สืบเนื่องจากที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (18) ว่า เปียงยางได้จัดส่งทหารจำนวนมากไปช่วยรัสเซีย โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังสู้รบพิเศษราว 1,500 นายของเกาหลีเหนือ ถูกส่งไปฝึกอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และพร้อมไปร่วมรบในสงครามยูเครนเร็วๆ นี้ . อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (21) ผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงในการประชุมคณะกรรมาธิการของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า การกล่าวอ้างของโซลมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรอันชอบธรรมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . เปียงยางและมอสโกเป็นพันธมิตรกันนับจากการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นภายหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 ขณะที่เกาหลีใต้และอเมริกาซึ่งก็สนิทสนมกันมากตั้งแต่หลังสงคราม กล่าวหามานานแล้วว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง ส่งอาวุธให้รัสเซียใช้ในยูเครน . เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับคิมยังลงนามข้อตกลงความมั่นคงที่กำหนดว่า สองประเทศจะช่วยเหลือกันหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกศัตรูรุกราน . ทางด้านจอร์จี ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโซล ที่ถูกเกาหลีใต้เรียกเข้าพบในวันจันทร์ (21) เพื่อร้องเรียน ไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ แต่ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและไม่กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด . นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือไม่ได้พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และไม่มีใครต้องกังวล . ในส่วนอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้ไม่ได้ออกมายืนยันข้อกล่าวอ้างของโซล แต่โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า หากข้อกล่าวหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นจริง จะถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายและน่ากังวลมาก อีกทั้งสะท้อนความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . ส่วน มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การที่เปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม . ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับรึตเตอ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้นาโตสำรวจมาตรการตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม และสำทับว่า จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต . ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามบีบีซีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการร่วมมือระหว่างเปียงยาง-มอสโกว่า จีนหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และหาทางแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการเมือง . ต่อมาในวันอังคาร (22 ต.ค.) สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ออกคำแถลงประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า การส่งทหารไปร่วมสงครามรุกรานที่ผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงอย่างมากไม่เฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่รวมถึงนานาชาติ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับประเทศทันที และประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้ . วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งว่า โซลกำลังพิจารณาส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยูเครนเพื่อติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซีย . จากข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมที่จะส่งไปมีแนวโน้มประกอบด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ในสนามรบของเกาหลีเหนือ และร่วมสอบปากคำเชลยสงครามที่ยูเครนควบคุมตัวอยู่ . ยอนฮัปยังรายงานว่า บัญชีเทเลแกรมที่สนับสนุนรัสเซียโพสต์ภาพธงรัสเซียและเกาหลีเหนือเคียงข้างกันอยู่ในสนามรบในยูเครน . สื่อบางสำนักของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนืออาจส่งทหารถึง 12,000 นายไปช่วยรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102030 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตุลาเดือด?
    เพนตากอน บอกว่าเป็นข่าวที่ตั้งใจปกปิดแต่ (ตั้งใจให้ ) รั่ว จนรู้ไปทั้งโลกว่า “ สหรัฐหนุนอิสราเอลใช้นิวเคลียร์จัดการกับอิหร่าน”
    ในคำให้สัมภาษณ์ของโฆษกรัฐบาล ตามคลิปนี้ (ในcomment) ยืนยันว่า แท้จริงสนับสนุนให้จัดการ

    ทีนี้อะไรจะเกิดขึ้น หรือที่ทำเป็นข่าวรั่วออกไปเพื่อจะเป็นการข่มขู่ให้ไม่ทำสงครามต่อ (คิดในแง่ดี)
    หรือ เป็นการแสดงความแข็งแกร่งมีอิทธิพลเต็มที่ว่าเอาแน่
    แต่ขณะนี้ BRICS เริ่มมีการประชุมและที่สำคัญเป็นการ dethrone dollar ถอดดอลล่าร์ออกจากสกุลสำคัญของโลก ในขณะเดียวกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์และความมั่นคงไม่ใช่แต่เศรษฐกิจแต่เป็นเรื่องทางการทหารและการปกป้องพันธมิตรในเครือ
    และจีนขณะนี้ประกาศให้เตรียมตัวภาวะสงครามเต็มที่ ไม่นับไต้หวันซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ไม่น่าจะลุยกัน มั้ย?
    เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ประกาศว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง และ ทำลายพื้นที่บัฟเฟอร์ระหว่างประเทศไปแล้ว

    ยูเครนกับรัสเซีย คล้ายกับฝ่ายแรกขาดทุนต่อเนื่อง และขอปัจจัยจากตะวันตกอีกมหาศาลนัยว่า เป็นกำแพงยอมตาย เพื่อปกป้องยุโรปและสหรัฐ (จริงหรือ?)

    และตามที่ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ให้ความเห็นต่อเนื่องว่าเหมือนกับอิสราเอลสามารถชักนำสหรัฐได้ตลอดทุกรัฐบาลและเพื่อให้คงอำนาจไว้ทั้งสองฝ่าย และอิสราเอลจะได้บรรลุจุดประสงค์ของ greater Israel ตามแผนที่ที่ได้แสดงว่าจะรวบ ตะวันออกกลางให้หมด และสหรัฐยังคงเป็น นัมเบอร์วัน
    จึงดูไม่น่าแปลกใจที่ อิสราเอล ทำการลดประชากรอย่างต่อเนื่องในกาซาร์ และพยายามในเลบานอน และประเทศอื่นๆ จะให้สูญพันธุ์เลยหรือ?
    คำถามคือใครจะยอมและศักยภาพทาง
    ขีปนาวุธและนิวเคลียร์ ของภาคีต้านอิสราเอลมีมหาศาลเช่นกันรวมทั้งมีจีน เกาหลีเหนือ รัสเซียอยู่ด้วย
    Deep state New World order
    คิดคำนึงยืดยาว คงเป็นเพราะ
    • ประเทศไทยใกล้จะกลายเป็นมหาอำนาจของโลกแล้ว เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เพราะที่อื่นรบกันไม่เหลือ
    • ข้อสำคัญประเทศไทยต้องรีบกำจัดการคอรัปชั่น การโกงหั่นแหลก ความโลภบ้าคลั่ง สถาบันองค์กรฉิบหาย จากผู้บริหาร
    และไทยจะได้เป็นแผ่นดินทองจริง
    • แต่ต้องเอาผีโกงเหล่านี้ไป ถ่วงน้ำโสโครกให้หมดชั่วกัปชั่วกัลป์
    ตุลาเดือด? เพนตากอน บอกว่าเป็นข่าวที่ตั้งใจปกปิดแต่ (ตั้งใจให้ ) รั่ว จนรู้ไปทั้งโลกว่า “ สหรัฐหนุนอิสราเอลใช้นิวเคลียร์จัดการกับอิหร่าน” ในคำให้สัมภาษณ์ของโฆษกรัฐบาล ตามคลิปนี้ (ในcomment) ยืนยันว่า แท้จริงสนับสนุนให้จัดการ ทีนี้อะไรจะเกิดขึ้น หรือที่ทำเป็นข่าวรั่วออกไปเพื่อจะเป็นการข่มขู่ให้ไม่ทำสงครามต่อ (คิดในแง่ดี) หรือ เป็นการแสดงความแข็งแกร่งมีอิทธิพลเต็มที่ว่าเอาแน่ แต่ขณะนี้ BRICS เริ่มมีการประชุมและที่สำคัญเป็นการ dethrone dollar ถอดดอลล่าร์ออกจากสกุลสำคัญของโลก ในขณะเดียวกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์และความมั่นคงไม่ใช่แต่เศรษฐกิจแต่เป็นเรื่องทางการทหารและการปกป้องพันธมิตรในเครือ และจีนขณะนี้ประกาศให้เตรียมตัวภาวะสงครามเต็มที่ ไม่นับไต้หวันซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ไม่น่าจะลุยกัน มั้ย? เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ประกาศว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง และ ทำลายพื้นที่บัฟเฟอร์ระหว่างประเทศไปแล้ว ยูเครนกับรัสเซีย คล้ายกับฝ่ายแรกขาดทุนต่อเนื่อง และขอปัจจัยจากตะวันตกอีกมหาศาลนัยว่า เป็นกำแพงยอมตาย เพื่อปกป้องยุโรปและสหรัฐ (จริงหรือ?) และตามที่ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ให้ความเห็นต่อเนื่องว่าเหมือนกับอิสราเอลสามารถชักนำสหรัฐได้ตลอดทุกรัฐบาลและเพื่อให้คงอำนาจไว้ทั้งสองฝ่าย และอิสราเอลจะได้บรรลุจุดประสงค์ของ greater Israel ตามแผนที่ที่ได้แสดงว่าจะรวบ ตะวันออกกลางให้หมด และสหรัฐยังคงเป็น นัมเบอร์วัน จึงดูไม่น่าแปลกใจที่ อิสราเอล ทำการลดประชากรอย่างต่อเนื่องในกาซาร์ และพยายามในเลบานอน และประเทศอื่นๆ จะให้สูญพันธุ์เลยหรือ? คำถามคือใครจะยอมและศักยภาพทาง ขีปนาวุธและนิวเคลียร์ ของภาคีต้านอิสราเอลมีมหาศาลเช่นกันรวมทั้งมีจีน เกาหลีเหนือ รัสเซียอยู่ด้วย Deep state New World order คิดคำนึงยืดยาว คงเป็นเพราะ • ประเทศไทยใกล้จะกลายเป็นมหาอำนาจของโลกแล้ว เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เพราะที่อื่นรบกันไม่เหลือ • ข้อสำคัญประเทศไทยต้องรีบกำจัดการคอรัปชั่น การโกงหั่นแหลก ความโลภบ้าคลั่ง สถาบันองค์กรฉิบหาย จากผู้บริหาร และไทยจะได้เป็นแผ่นดินทองจริง • แต่ต้องเอาผีโกงเหล่านี้ไป ถ่วงน้ำโสโครกให้หมดชั่วกัปชั่วกัลป์
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ระบุจะเป็นพัฒนาการที่อันตรายอย่างมาก จากกรณีที่มีข่าวว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน ตามคำกล่าวอ้างของเกาหลีใต้ พร้อมเผยกำลังปรึกษาหารือกับบรรดาพันธมิตรในเรื่องความเคลื่อนไหวดังกล่าว
    .
    "เราได้เห็นข่าวเกาหลีเหนือส่งกองกำลังและกำลังเตรียมการส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพิ่มเติม เพื่อสู้รบเคียงข้างรัสเซีย" โรเบิร์ต วู้ด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ บอกกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    "ถ้ามันเป็นจริง มันจะเป็นพัฒนาการที่อันตรายและน่ากังวลอย่างยิ่ง และแน่นอนว่ามันคือการกระชับความสัมพันธ์ทางทหารแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย" วู้ดกล่าว "เรากำลังปรึกษาหารือกับบรรดาพันธมิตรกับคู่หูของเรา เกี่ยวกับนัยสำคัญของความเคลื่อนไหวดังกล่าว"
    .
    หน่วยงานข่าวกรองของโซลกล่าวอ้างเมื่อวันศุกร์(18ต.ค.) ว่าเกาหลีเหนือ ตัดสินใจส่งกำลังพล "ขนาดใหญ่" เข้าประจำการเพื่อสนับสนุนมอสโกในการทำสงครามในยูเครน ขณะเดียวกันก็มีกองกำลังพิเศษอีก 1,500 นาย อยู่ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการฝึกฝน
    .
    ทั้งนี้หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า โดยรวมเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยเหลือรัสเซีย ราวๆ 12,000 นาย
    .
    เกาหลีใต้ เรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโซลเข้าพบในวันจันทร์(21ต.ค.) เพื่อประท้วงและวิจารณ์การตัดสินใจของเปียงยาง ที่ส่งทหารหลายพันนายไปสนับสนุนยูเครน สำหรับทำสงครามในยูเครน จากการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ถอนกำลังพลดังกล่าวออกมาในทันที
    .
    เวแดนท์ ปาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันเดียวกันว่า กระทรวงการต่างประเทศอเมริกา "ยังไม่อยู่ในจุดที่เราสามารถยืนยันรายงานข่าวนี้ ว่ามันเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่"
    .
    นิโคลาส์ เดอ ริเวียร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าการการประจำการทหารเกาหลีเหนือ จะเข้าข่ายของการโหมกระพือให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย พร้อมระบุ "ความเคลื่อนไหวของเปียงยาง ในการยกระดับระดับสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซีย เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก"
    .
    ที่ผ่านมา สหรัฐฯและบรรดาพันธมิตร ส่งเสียงความกังวลอยู่ก่อนแล้ว ต่อกรณีที่เกาหลีเหนือมอบอาวุธแก่รัสเซีย ที่เปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101622
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ ระบุจะเป็นพัฒนาการที่อันตรายอย่างมาก จากกรณีที่มีข่าวว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน ตามคำกล่าวอ้างของเกาหลีใต้ พร้อมเผยกำลังปรึกษาหารือกับบรรดาพันธมิตรในเรื่องความเคลื่อนไหวดังกล่าว . "เราได้เห็นข่าวเกาหลีเหนือส่งกองกำลังและกำลังเตรียมการส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพิ่มเติม เพื่อสู้รบเคียงข้างรัสเซีย" โรเบิร์ต วู้ด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ บอกกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ . "ถ้ามันเป็นจริง มันจะเป็นพัฒนาการที่อันตรายและน่ากังวลอย่างยิ่ง และแน่นอนว่ามันคือการกระชับความสัมพันธ์ทางทหารแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย" วู้ดกล่าว "เรากำลังปรึกษาหารือกับบรรดาพันธมิตรกับคู่หูของเรา เกี่ยวกับนัยสำคัญของความเคลื่อนไหวดังกล่าว" . หน่วยงานข่าวกรองของโซลกล่าวอ้างเมื่อวันศุกร์(18ต.ค.) ว่าเกาหลีเหนือ ตัดสินใจส่งกำลังพล "ขนาดใหญ่" เข้าประจำการเพื่อสนับสนุนมอสโกในการทำสงครามในยูเครน ขณะเดียวกันก็มีกองกำลังพิเศษอีก 1,500 นาย อยู่ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการฝึกฝน . ทั้งนี้หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า โดยรวมเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยเหลือรัสเซีย ราวๆ 12,000 นาย . เกาหลีใต้ เรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโซลเข้าพบในวันจันทร์(21ต.ค.) เพื่อประท้วงและวิจารณ์การตัดสินใจของเปียงยาง ที่ส่งทหารหลายพันนายไปสนับสนุนยูเครน สำหรับทำสงครามในยูเครน จากการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ถอนกำลังพลดังกล่าวออกมาในทันที . เวแดนท์ ปาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันเดียวกันว่า กระทรวงการต่างประเทศอเมริกา "ยังไม่อยู่ในจุดที่เราสามารถยืนยันรายงานข่าวนี้ ว่ามันเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่" . นิโคลาส์ เดอ ริเวียร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าการการประจำการทหารเกาหลีเหนือ จะเข้าข่ายของการโหมกระพือให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย พร้อมระบุ "ความเคลื่อนไหวของเปียงยาง ในการยกระดับระดับสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซีย เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก" . ที่ผ่านมา สหรัฐฯและบรรดาพันธมิตร ส่งเสียงความกังวลอยู่ก่อนแล้ว ต่อกรณีที่เกาหลีเหนือมอบอาวุธแก่รัสเซีย ที่เปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101622 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 824 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เผยว่าตนเองกำลังเสาะหาปฏิกิริยาตอบสนองหนักหน่วงจากประเทศต่างๆ ที่ได้ทราบแล้วว่า เกาหลีเหนือกำลังเข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ กับสงครามของรัสเซียในยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีครึ่ง
    .
    ระหว่างการปราศรัยช่วงค่ำ เซเลนสกีบอกว่ามีหลักฐานทางดาวเทียมและวิดีโออย่างท่วมท้น ว่าเกาหลีเหนือไม่ใช่แค่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่รสเซียเท่านั้น แต่กำลังพลของพวกเขายังเตรียมพร้อมสำหรับประจำการอีกด้วย
    .
    "ผมขอบคุณพวกผู้นำและตัวแทนของประเทศต่างๆ ที่ไม่เลือกปิดตาตัวเอง และพูดตรงๆ เกี่ยวกับความร่วมมือนี้ เพื่อประโยชน์ของสงครามในวงกว้าง" เขากล่าว "เราคาดหมายปฏิกิริยาตอบสนองปกติ จริงใจและหนักหน่วง จากพันธมิตรทั้งหลายของเราในเรื่องนี้"
    .
    เซเลนสกีระบุว่า การเข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ ของเกาหลีเหนือ รังแต่จะเป็นอันตรายแก่ทุกฝ่าย "เคราะห์ร้าย ภาวะไร้เสถียรภาพและภัยคุกคามอาจเพิ่มขึ้นทวีคูณ หลังจากเกาหลีเหนือเริ่มฝีกฝนสำหรับทำการศึกสงครามสมัยใหม่" เขากล่าว
    .
    "ถ้าตอนนี้โลกยังคงนิ่งเงียบ และเราจำเป็นต้องสู้รบกับกำลังพลจากเกาหลีเหนือในแนวหน้า ในแบบเดียวกับที่เราจำเป็นต้องปกป้องตนเองจากโดรนซาเฮด (อิหร่าน) แน่นอนว่ามันจะไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยบนโลกใบนี้ และรังแต่จะทำให้สงครามยืดเยื้อ"
    .
    เขากล่าวต่อว่า การกระทำของเกาหลีเหนือ หมายความว่า "โดยเนื้อแท้แล้วกำลังมีประเทศอื่นกำลังเข้าสู่การทำสงครามกับยูเครน"
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกี กล่าวหา เกาหลีเหนือประจำการพวกเจ้าหน้าที่เคียงข้างรัสเซีย และกำลังเตรียมการส่งทหารหลายหมื่นนายเข้าช่วยมอสโกทำสงคราม ในขณะที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีเหนือระบุในวันศุกร์ (18 ต.ค.) เกาหลีเหนือส่งกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย ไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อทำการฝึกฝน
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ไม่สามารถยืนยันข่าวที่ว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปยังรัสเซีย ก่อนหน้าความเป็นไปได้เกี่ยวกับการประจำการ อย่างไรก็ตาม หากความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นจริง มันจะเป็นสิ่งที่น่ากังวล ขณะที่ มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ระบุในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) ยอมรับว่าในนั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการปรากฏตัวของกำลังพลเกาหลีเหนือ
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสและยูเครน ระบุในถ้อยแถลงร่วมในกรุงเคียฟเมื่อวันเสาร์ (19 ต.ค.) ว่าการเข้ามาเกี่ยวข้องของกองกำลังประจำการเกาหลีเหนือ สำหรับให้การสนับสนุนการรุกรานยูเครนของรนัสเซีย จะทำให้สงครามลุกลามบานปลายอย่างร้ายแรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101219
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เผยว่าตนเองกำลังเสาะหาปฏิกิริยาตอบสนองหนักหน่วงจากประเทศต่างๆ ที่ได้ทราบแล้วว่า เกาหลีเหนือกำลังเข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ กับสงครามของรัสเซียในยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีครึ่ง . ระหว่างการปราศรัยช่วงค่ำ เซเลนสกีบอกว่ามีหลักฐานทางดาวเทียมและวิดีโออย่างท่วมท้น ว่าเกาหลีเหนือไม่ใช่แค่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่รสเซียเท่านั้น แต่กำลังพลของพวกเขายังเตรียมพร้อมสำหรับประจำการอีกด้วย . "ผมขอบคุณพวกผู้นำและตัวแทนของประเทศต่างๆ ที่ไม่เลือกปิดตาตัวเอง และพูดตรงๆ เกี่ยวกับความร่วมมือนี้ เพื่อประโยชน์ของสงครามในวงกว้าง" เขากล่าว "เราคาดหมายปฏิกิริยาตอบสนองปกติ จริงใจและหนักหน่วง จากพันธมิตรทั้งหลายของเราในเรื่องนี้" . เซเลนสกีระบุว่า การเข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ ของเกาหลีเหนือ รังแต่จะเป็นอันตรายแก่ทุกฝ่าย "เคราะห์ร้าย ภาวะไร้เสถียรภาพและภัยคุกคามอาจเพิ่มขึ้นทวีคูณ หลังจากเกาหลีเหนือเริ่มฝีกฝนสำหรับทำการศึกสงครามสมัยใหม่" เขากล่าว . "ถ้าตอนนี้โลกยังคงนิ่งเงียบ และเราจำเป็นต้องสู้รบกับกำลังพลจากเกาหลีเหนือในแนวหน้า ในแบบเดียวกับที่เราจำเป็นต้องปกป้องตนเองจากโดรนซาเฮด (อิหร่าน) แน่นอนว่ามันจะไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยบนโลกใบนี้ และรังแต่จะทำให้สงครามยืดเยื้อ" . เขากล่าวต่อว่า การกระทำของเกาหลีเหนือ หมายความว่า "โดยเนื้อแท้แล้วกำลังมีประเทศอื่นกำลังเข้าสู่การทำสงครามกับยูเครน" . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกี กล่าวหา เกาหลีเหนือประจำการพวกเจ้าหน้าที่เคียงข้างรัสเซีย และกำลังเตรียมการส่งทหารหลายหมื่นนายเข้าช่วยมอสโกทำสงคราม ในขณะที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีเหนือระบุในวันศุกร์ (18 ต.ค.) เกาหลีเหนือส่งกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย ไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อทำการฝึกฝน . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ไม่สามารถยืนยันข่าวที่ว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปยังรัสเซีย ก่อนหน้าความเป็นไปได้เกี่ยวกับการประจำการ อย่างไรก็ตาม หากความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นจริง มันจะเป็นสิ่งที่น่ากังวล ขณะที่ มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ระบุในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) ยอมรับว่าในนั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการปรากฏตัวของกำลังพลเกาหลีเหนือ . รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสและยูเครน ระบุในถ้อยแถลงร่วมในกรุงเคียฟเมื่อวันเสาร์ (19 ต.ค.) ว่าการเข้ามาเกี่ยวข้องของกองกำลังประจำการเกาหลีเหนือ สำหรับให้การสนับสนุนการรุกรานยูเครนของรนัสเซีย จะทำให้สงครามลุกลามบานปลายอย่างร้ายแรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101219 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 792 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇰🇵 เกาหลีเหนือเป็นประเทศชั้นนำเมื่อพูดถึงกลยุทธ์การต่อต้าน, และกองกำลังต่อต้านทุกหน่วยควรเรียนรู้จากตัวอย่างของพวกเขา

    พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร

    - เมื่ออเมริกาบอกพวกเขาว่าพวกเขาไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้, พวกเขาก็มีมันอยู่ดี🖕

    - เมื่ออเมริกาแยกพวกเขาออกจากตลาดโลกทั้งใบ, พวกเขาก็เริ่มพึ่งพาตนเองได้ 🖕

    - แม้จะไม่ถูกยั่วยุ, พวกเขาก็ยังทดสอบและยิงขีปนาวุธอยู่เป็นประจำ, โดยโจมตีตลอดเวลา, ทำให้ภาคใต้และอเมริกาต้องตื่นตัวตลอดเวลา 🖕

    - พวกเขาไม่สนใจว่าจะต้องมีคนตายกี่คนในสงครามป้องกันตนเอง ไม่มีภาพลวงตาของมนุษยธรรมเสรีนิยม 🖕

    - พวกเขาไม่มีปัญหาในการทำลายเมืองทั้งเมืองหากจำเป็น, ไม่มีศีลธรรม, ไม่มีกฎหมายสงครามที่จำกัดให้ปฏิบัติตาม 🖕

    เป็นเรื่องน่าเคารพที่กองกำลังต่อต้านอิสลามพยายามอย่างหนักเพื่อลดจำนวนพลเรือนเสียชีวิต แต่จำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม

    เกาหลีเหนือไม่สนใจเรื่องนั้น พวกเขาไม่สนใจว่าต้องเสียชีวิตกี่คนเพื่อป้องกันตัวเอง

    อเมริการู้ โลกรู้

    นั่นคือเหตุผลที่ไม่มีใครยุ่งกับพวกเขา

    มีบทเรียนที่ต้องเรียนรู้
    .
    🇰🇵 NORTH KOREA is ELITE when it comes to resistance strategy, and ALL forces of resistance should learn from their example.

    They don't give a f*ck about what anyone thinks.

    - When America told them they can't have nukes, they got them anyway🖕

    - When America isolated them from the entire world market, they become self reliant 🖕

    - Even when unprovoked, they REGULARLY test and fire missiles, always on the offensive, keeping the South and America on their toes 24/7 🖕

    - They DO NOT care how many people have to die in a war of self-defense. Zero liberal humanitarian illusions 🖕

    - They HAVE NO PROBLEM annihilating entire cities if they need to, no moralism, no restrictive laws of war to follow 🖕

    It is respectable that the forces of Islamic resistance go to such painstaking lengths to minimize civilian casualties. But such casualties are part of war.

    North Korea simply does not care about that. They do not care how many people have to die in order to defend themselves.

    America knows it. The world knows it.

    That's why no one f*cks with them.

    There's a lesson to be learned there.
    .
    10:49 PM · Oct 19, 2024 · 342.9K Views
    https://x.com/InfraHaz/status/1847666506802614310
    🇰🇵 เกาหลีเหนือเป็นประเทศชั้นนำเมื่อพูดถึงกลยุทธ์การต่อต้าน, และกองกำลังต่อต้านทุกหน่วยควรเรียนรู้จากตัวอย่างของพวกเขา พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร - เมื่ออเมริกาบอกพวกเขาว่าพวกเขาไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้, พวกเขาก็มีมันอยู่ดี🖕 - เมื่ออเมริกาแยกพวกเขาออกจากตลาดโลกทั้งใบ, พวกเขาก็เริ่มพึ่งพาตนเองได้ 🖕 - แม้จะไม่ถูกยั่วยุ, พวกเขาก็ยังทดสอบและยิงขีปนาวุธอยู่เป็นประจำ, โดยโจมตีตลอดเวลา, ทำให้ภาคใต้และอเมริกาต้องตื่นตัวตลอดเวลา 🖕 - พวกเขาไม่สนใจว่าจะต้องมีคนตายกี่คนในสงครามป้องกันตนเอง ไม่มีภาพลวงตาของมนุษยธรรมเสรีนิยม 🖕 - พวกเขาไม่มีปัญหาในการทำลายเมืองทั้งเมืองหากจำเป็น, ไม่มีศีลธรรม, ไม่มีกฎหมายสงครามที่จำกัดให้ปฏิบัติตาม 🖕 เป็นเรื่องน่าเคารพที่กองกำลังต่อต้านอิสลามพยายามอย่างหนักเพื่อลดจำนวนพลเรือนเสียชีวิต แต่จำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม เกาหลีเหนือไม่สนใจเรื่องนั้น พวกเขาไม่สนใจว่าต้องเสียชีวิตกี่คนเพื่อป้องกันตัวเอง อเมริการู้ โลกรู้ นั่นคือเหตุผลที่ไม่มีใครยุ่งกับพวกเขา มีบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ . 🇰🇵 NORTH KOREA is ELITE when it comes to resistance strategy, and ALL forces of resistance should learn from their example. They don't give a f*ck about what anyone thinks. - When America told them they can't have nukes, they got them anyway🖕 - When America isolated them from the entire world market, they become self reliant 🖕 - Even when unprovoked, they REGULARLY test and fire missiles, always on the offensive, keeping the South and America on their toes 24/7 🖕 - They DO NOT care how many people have to die in a war of self-defense. Zero liberal humanitarian illusions 🖕 - They HAVE NO PROBLEM annihilating entire cities if they need to, no moralism, no restrictive laws of war to follow 🖕 It is respectable that the forces of Islamic resistance go to such painstaking lengths to minimize civilian casualties. But such casualties are part of war. North Korea simply does not care about that. They do not care how many people have to die in order to defend themselves. America knows it. The world knows it. That's why no one f*cks with them. There's a lesson to be learned there. . 10:49 PM · Oct 19, 2024 · 342.9K Views https://x.com/InfraHaz/status/1847666506802614310
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียและอิหร่านจะลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมหลังการประชุมสุดยอด BRICS ที่มอสโก - เอกอัครราชทูตอิหร่าน

    หากข้อตกลงนี้คล้ายคลึงกับข้อตกลงที่มอสโกลงนามกับเกาหลีเหนือ, รัสเซียจะให้การสนับสนุนทางการทหารแก่อิหร่านในกรณีที่เกิดสงครามในภูมิภาค
    .
    ⚡️BREAKING

    Russia and Iran will sign their comprehensive strategic partnership agreement after the BRICS summit in Moscow - Iranian ambassador

    If this agreement is similar to the one Moscow signed with North Korea, the Russians will provide military support to Iran in the event of a regional war
    .
    10:09 PM · Oct 18, 2024 · 317.8K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1847293891310915719
    รัสเซียและอิหร่านจะลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมหลังการประชุมสุดยอด BRICS ที่มอสโก - เอกอัครราชทูตอิหร่าน หากข้อตกลงนี้คล้ายคลึงกับข้อตกลงที่มอสโกลงนามกับเกาหลีเหนือ, รัสเซียจะให้การสนับสนุนทางการทหารแก่อิหร่านในกรณีที่เกิดสงครามในภูมิภาค . ⚡️BREAKING Russia and Iran will sign their comprehensive strategic partnership agreement after the BRICS summit in Moscow - Iranian ambassador If this agreement is similar to the one Moscow signed with North Korea, the Russians will provide military support to Iran in the event of a regional war . 10:09 PM · Oct 18, 2024 · 317.8K Views https://x.com/IranObserver0/status/1847293891310915719
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..แปลกนะ,ถ้ากรณีซื้อกินซื้อใช้เบื้องต้นแบบนี้,เครือข่ายขายตรงมีมากมายเลยล่ะ,คนไปสมัครสมาชิกเสียตังหลักร้อยหลักพันหลักหมื่นหรือหลักแสนหลักล้านเนียนๆเลยล่ะ,อาทิขายตรงที่เห็นชัดจากฝรั่งตะวันตกโซนท่านลอร์ดเหมือนกันก็แอมเวย์นี้ล่ะตรึม,นักศึกษา&ชาวบ้านเสียตังเสียเงินเสียทองเสียเวลากันมากมาย,สิ้นอายุสมาชิกก็ตัดออกจากระบบแล้ว,หัวได้เต็มๆแน่ๆไม่ได้ต่างจากพวกนี้หรอก,mlmควรไม่มีในประเทศไทยจริงๆ ขายฝันบวกรักษายอดในตัวแบบสไตล์ทาสกิจการพื้นๆอยู่แล้ว ไม่ทำงาน หยุดก็หลุดออกจากระบบ,คนมาก่อนได้เต็มยึดทั้งทางตรงทางอ้อม ติดสายบ้าง ต่อตรงระดับบนบ้าง พวกเหี้ยนี้ออกแบบระบบโง่ๆที่ไหน เนียนๆแบบอ้างกฎหมายว่าถูกกฎหมายโน้น,ถ้ายึดอำนาจแล้วเขียนกฎหมายใหม่ว่า ขายตรงยกเลิกในประเทศไทยทุกๆกิจการเครือข่ายจะเป็นแบบไหนนะ,ท่านลอร์ดคงไม่ปลื้มด้วยแน่ๆ,ในไทยมีกิจการขายตรงเยอะจริงๆ.ไม่รวมสไตล์เงินบุญด้วยนะ.,ขัดแข้งขัดขาธุรกิจท่านลอร์ดก็สามารถไปวัดได้เหมือนกันนะ.ร่ำรวยมืด ร่ำรวยใต้ดินไม่เป็นข่าว ร่ำรวยแปลก หลอกสายตรงหน้าบ้านก็กิจการเครือข่ายขายตรงนี้ล่ะ,มีทั้งอ้างตนว่าจดทะเบียนถูกกฎหมายก็เพราะไปเปิดช่องให้มันนั้นล่ะ,ส่วนไม่ถูกกฎหมายยิ่งอนาถก็ยังสามารถหลอกลวงได้เสรีปกติ,ตังแบงค์ชาติสามารถเห็นกระแสการเคลื่อนไหวผิดปกติเข้าบัญชีใครถึงคนไหนบ้าง ดูได้หมดล่ะ,ประเทศไทยเราส่วนมากจะเขียนกฎหมายให้โจรมาปล้นอย่างสนุกสนานแบบชอบธรรม&ถูกกฎหมายได้ด้วยโน้น บทพิสูจน์ว่ามีจริงชัดเจนคือกฎหมายพรบ.ปิโตรเลียมบ่อน้ำมันไทยเรานี้ล่ะ,เขียนโคตรชั่วและสุดยอดของความสาระเลวในบรรดานักกฎหมายที่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลที่เลวทรยศแผ่นดินไทยช่วงสมัยเขียนกฎหมายปิโตรเลียนปฐมบทนั้น,ยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยตนแท้ๆให้ต่างชาติทำแดกเต็มที่โดยเฉพาะฝรั่งตะวันตกชัดเจนและของจริง ย่อชัดๆคือยิวอเมริกาท่านลอร์ดมัน,ยึดบ่อน้ำมันไทยไปหมดสิ้น คนไทยใช้น้ำมันราคาโคตรแพงไง ส่งผลกระทบค่าครองชีพเสาหลักทั้งแผ่นดินหรือแพงทัังประเทศนั้นเอง,อิหร่านขายลิตรละ1-2บาทแบบเพียวๆไม่เติมเอทานอลอะไร,จะดีเชลหรือจะเบนชินลิตรละ1-2บาทแค่นั้นในปัจจุบัน ไทย4ลิตร100 ยุคเหี้ยๆ2ลิตร100กันเลยแถวบ้านนอก,ราคาอ้างอิงสิงคโปร์โคตรพ่อมัน,ขี้ข้าสิงคโปร์ตามท่านลอร์ดสั่งอีก,ภาคใต้คงเร็วๆนี้จะยึดเอาละมั้ง พม่า&โรฮิงญาตรึม แขกมุสลิมcia&unจัดตั้งอีกเพรียบจะยึดภาคใต้เราก็ว่าทั้งทองคำทั้งบ่อน้ำมันทัังแลนด์บริดจ์ท่านลอร์ดจะยึดครองเองเบ็ดเสร็จจริงจังในยุคสมัยนี้พะนะ,unรับรองเองอนุมัติให้ประเทศไทยต้องเลี้ยงดูคนพม่าโน้น,แทรกแซงคดียุบพรรคก้าวไกลแบบออกหน้าออกตาอีก,สมควรที่จีนบวกรัสเชียบวกอาหรับบวกเกาหลีเหนือถล่มฝรั่งตะวันตกจริงๆโลกไม่มียักษ์ฝรั่งเหล่านี้ก็อยู่กันได้สบาย,ไปแทรกแซงปั่นป่วนทุกๆชาติ&แย่งชิงทรัพยากรชาติคนอื่นไปทั่ว,สันดานและนิสัยเลวลงถึงdnaจริง,การกำจัดสายพันธุ์หนักโลกนี้ผสมแรปทีเลี่ยนไฮบริดจ์อีกอนาถจริงๆฝรั่งพวกสาระเลวนี้.
    ..สรุปเครือข่ายขายตรงทั้งหมดที่มีบนแผ่นดินไทยสมควรยุบพรบ.ขายตรงเสีย,ให้พวกมันขายคืนทรัพย์สินแล้วจ่ายชดเชยสมาชิกมันในคนไทยทั้งหมดไปแล้วถีบออกจากแผ่นดินไทยเสีย,เราอยู่แบบพอเพียงตามพ่อร.9ได้สบาย,ถ้าเกิดสงครามโลกที่3จริงเร็วๆนี้ยอดขายจะทำไม่ได้ต่อเดือนหรือต่อปี ความซวยที่ไร้ยอดขายคือดาวน์ไลน์ตัวเล็กที่สมัครเข้าไปฝหม่เหยื่อตัวใหม่ช่วงทดลองงานมันหรือคนไทยเก่าๆก็เถอะไร้ยอดขายช่วงสงครามจบแน่ หลุดจากเป็นคนเครือข่ายมัน ตังเงินพวกมันก็ยึดครองเข้าระบบมันอีกเพราะดาวน์ไลน์พวกนี้ทำได้ไม่ตามเงื่อนไข อ้างข้อกฎหมายและกฎกติกาในกิจการมันเขียนเองนั้นล่ะ,สินค้าซื้อมาตุนหรือรอขาย ขายไม่ออกเพราะทุกๆคนเก็บตังไว้ใช้ในความจำเป็นช่วงภัยพิบัติโลก,หัวสายขายโปร แม่สายพ่อสายมันหอบตังหอบเงินร่ำรวยไปอย่างสบายล่ะ,เนียนๆไม่เถื่อนๆแบบพวกนี้หรอก,มีกฎหมายรองรับโว้ย,ดังนั้นยุบ&ฉีกพรบ.ขายตรง แล้วให้ทุกๆกิจการขายตรงในไทยคืนตังแก่สมาชิกมันไปทั้งหมด,กอบโกยกำไรร่ำรวยมหาศาลหลายสิบปีแล้วในไทยเรานี้,ฉีกรัฐธรรมนูญยังฉีกยังกับเศษกระดาษ ปี57ล่าสุดฉีกให้เห็นชัดเจนแล้ว,ไม่ฉีกพรบ.ปิโตรเลียมกฎหมายลูกด้วยเลยตัวทาสชัดๆ,ฉีกตอนนั้นแผ่นดินไทยจะสุดยอดแห่งความเป็นไทและได้อิสระภาพอธิปไตยด้านความมั่นคงทางพลังงานกลับมาด้วยโน้น,ยึดอำนาจเสียของมากๆ.
    ..แปลกนะ,ถ้ากรณีซื้อกินซื้อใช้เบื้องต้นแบบนี้,เครือข่ายขายตรงมีมากมายเลยล่ะ,คนไปสมัครสมาชิกเสียตังหลักร้อยหลักพันหลักหมื่นหรือหลักแสนหลักล้านเนียนๆเลยล่ะ,อาทิขายตรงที่เห็นชัดจากฝรั่งตะวันตกโซนท่านลอร์ดเหมือนกันก็แอมเวย์นี้ล่ะตรึม,นักศึกษา&ชาวบ้านเสียตังเสียเงินเสียทองเสียเวลากันมากมาย,สิ้นอายุสมาชิกก็ตัดออกจากระบบแล้ว,หัวได้เต็มๆแน่ๆไม่ได้ต่างจากพวกนี้หรอก,mlmควรไม่มีในประเทศไทยจริงๆ ขายฝันบวกรักษายอดในตัวแบบสไตล์ทาสกิจการพื้นๆอยู่แล้ว ไม่ทำงาน หยุดก็หลุดออกจากระบบ,คนมาก่อนได้เต็มยึดทั้งทางตรงทางอ้อม ติดสายบ้าง ต่อตรงระดับบนบ้าง พวกเหี้ยนี้ออกแบบระบบโง่ๆที่ไหน เนียนๆแบบอ้างกฎหมายว่าถูกกฎหมายโน้น,ถ้ายึดอำนาจแล้วเขียนกฎหมายใหม่ว่า ขายตรงยกเลิกในประเทศไทยทุกๆกิจการเครือข่ายจะเป็นแบบไหนนะ,ท่านลอร์ดคงไม่ปลื้มด้วยแน่ๆ,ในไทยมีกิจการขายตรงเยอะจริงๆ.ไม่รวมสไตล์เงินบุญด้วยนะ.,ขัดแข้งขัดขาธุรกิจท่านลอร์ดก็สามารถไปวัดได้เหมือนกันนะ.ร่ำรวยมืด ร่ำรวยใต้ดินไม่เป็นข่าว ร่ำรวยแปลก หลอกสายตรงหน้าบ้านก็กิจการเครือข่ายขายตรงนี้ล่ะ,มีทั้งอ้างตนว่าจดทะเบียนถูกกฎหมายก็เพราะไปเปิดช่องให้มันนั้นล่ะ,ส่วนไม่ถูกกฎหมายยิ่งอนาถก็ยังสามารถหลอกลวงได้เสรีปกติ,ตังแบงค์ชาติสามารถเห็นกระแสการเคลื่อนไหวผิดปกติเข้าบัญชีใครถึงคนไหนบ้าง ดูได้หมดล่ะ,ประเทศไทยเราส่วนมากจะเขียนกฎหมายให้โจรมาปล้นอย่างสนุกสนานแบบชอบธรรม&ถูกกฎหมายได้ด้วยโน้น บทพิสูจน์ว่ามีจริงชัดเจนคือกฎหมายพรบ.ปิโตรเลียมบ่อน้ำมันไทยเรานี้ล่ะ,เขียนโคตรชั่วและสุดยอดของความสาระเลวในบรรดานักกฎหมายที่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลที่เลวทรยศแผ่นดินไทยช่วงสมัยเขียนกฎหมายปิโตรเลียนปฐมบทนั้น,ยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยตนแท้ๆให้ต่างชาติทำแดกเต็มที่โดยเฉพาะฝรั่งตะวันตกชัดเจนและของจริง ย่อชัดๆคือยิวอเมริกาท่านลอร์ดมัน,ยึดบ่อน้ำมันไทยไปหมดสิ้น คนไทยใช้น้ำมันราคาโคตรแพงไง ส่งผลกระทบค่าครองชีพเสาหลักทั้งแผ่นดินหรือแพงทัังประเทศนั้นเอง,อิหร่านขายลิตรละ1-2บาทแบบเพียวๆไม่เติมเอทานอลอะไร,จะดีเชลหรือจะเบนชินลิตรละ1-2บาทแค่นั้นในปัจจุบัน ไทย4ลิตร100 ยุคเหี้ยๆ2ลิตร100กันเลยแถวบ้านนอก,ราคาอ้างอิงสิงคโปร์โคตรพ่อมัน,ขี้ข้าสิงคโปร์ตามท่านลอร์ดสั่งอีก,ภาคใต้คงเร็วๆนี้จะยึดเอาละมั้ง พม่า&โรฮิงญาตรึม แขกมุสลิมcia&unจัดตั้งอีกเพรียบจะยึดภาคใต้เราก็ว่าทั้งทองคำทั้งบ่อน้ำมันทัังแลนด์บริดจ์ท่านลอร์ดจะยึดครองเองเบ็ดเสร็จจริงจังในยุคสมัยนี้พะนะ,unรับรองเองอนุมัติให้ประเทศไทยต้องเลี้ยงดูคนพม่าโน้น,แทรกแซงคดียุบพรรคก้าวไกลแบบออกหน้าออกตาอีก,สมควรที่จีนบวกรัสเชียบวกอาหรับบวกเกาหลีเหนือถล่มฝรั่งตะวันตกจริงๆโลกไม่มียักษ์ฝรั่งเหล่านี้ก็อยู่กันได้สบาย,ไปแทรกแซงปั่นป่วนทุกๆชาติ&แย่งชิงทรัพยากรชาติคนอื่นไปทั่ว,สันดานและนิสัยเลวลงถึงdnaจริง,การกำจัดสายพันธุ์หนักโลกนี้ผสมแรปทีเลี่ยนไฮบริดจ์อีกอนาถจริงๆฝรั่งพวกสาระเลวนี้. ..สรุปเครือข่ายขายตรงทั้งหมดที่มีบนแผ่นดินไทยสมควรยุบพรบ.ขายตรงเสีย,ให้พวกมันขายคืนทรัพย์สินแล้วจ่ายชดเชยสมาชิกมันในคนไทยทั้งหมดไปแล้วถีบออกจากแผ่นดินไทยเสีย,เราอยู่แบบพอเพียงตามพ่อร.9ได้สบาย,ถ้าเกิดสงครามโลกที่3จริงเร็วๆนี้ยอดขายจะทำไม่ได้ต่อเดือนหรือต่อปี ความซวยที่ไร้ยอดขายคือดาวน์ไลน์ตัวเล็กที่สมัครเข้าไปฝหม่เหยื่อตัวใหม่ช่วงทดลองงานมันหรือคนไทยเก่าๆก็เถอะไร้ยอดขายช่วงสงครามจบแน่ หลุดจากเป็นคนเครือข่ายมัน ตังเงินพวกมันก็ยึดครองเข้าระบบมันอีกเพราะดาวน์ไลน์พวกนี้ทำได้ไม่ตามเงื่อนไข อ้างข้อกฎหมายและกฎกติกาในกิจการมันเขียนเองนั้นล่ะ,สินค้าซื้อมาตุนหรือรอขาย ขายไม่ออกเพราะทุกๆคนเก็บตังไว้ใช้ในความจำเป็นช่วงภัยพิบัติโลก,หัวสายขายโปร แม่สายพ่อสายมันหอบตังหอบเงินร่ำรวยไปอย่างสบายล่ะ,เนียนๆไม่เถื่อนๆแบบพวกนี้หรอก,มีกฎหมายรองรับโว้ย,ดังนั้นยุบ&ฉีกพรบ.ขายตรง แล้วให้ทุกๆกิจการขายตรงในไทยคืนตังแก่สมาชิกมันไปทั้งหมด,กอบโกยกำไรร่ำรวยมหาศาลหลายสิบปีแล้วในไทยเรานี้,ฉีกรัฐธรรมนูญยังฉีกยังกับเศษกระดาษ ปี57ล่าสุดฉีกให้เห็นชัดเจนแล้ว,ไม่ฉีกพรบ.ปิโตรเลียมกฎหมายลูกด้วยเลยตัวทาสชัดๆ,ฉีกตอนนั้นแผ่นดินไทยจะสุดยอดแห่งความเป็นไทและได้อิสระภาพอธิปไตยด้านความมั่นคงทางพลังงานกลับมาด้วยโน้น,ยึดอำนาจเสียของมากๆ.
    อวสานดิไอคอนกรุ๊ป

    การจับกุมผู้ต้องหา 18 ราย ที่มีส่วนพัวพันกับ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นำโดย นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล รวมทั้งดารานักแสดงอย่าง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมิน และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกัน ตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ แม้จะยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ปี 2527 แต่เมื่อมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ตำรวจจึงเตรียมคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล

    ก่อนหน้านี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประกาศอายัดทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล นายณิชพน ทองมี น.ส.ฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย และนายกันต์ กันตถาวร ได้แก่ เงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ (พอร์ตหุ้น) บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์ และบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัล 11 รายการ รวม 125.54 ล้านบาท ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าอายัดที่ดิน 63 ไร่ ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์กาญจนาภิเษก ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่จะก่อสร้างดิไอคอนซิตี้ หอประชุม บ้านของผู้บริหาร และอาคารศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์

    การจับกุมผู้บริหาร รวมทั้งการอายัดทรัพย์สินเบื้องต้นเหล่านี้ แม้กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา และตามหลักกฎหมายทุกคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา จะต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง แต่ชื่อเสียงของดิไอคอนกรุ๊ป ล่มสลายมาตั้งแต่วันที่สื่อมวลชนอย่างนายกรรชัย กำเนิดพลอย เปิดประเด็น ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้นจริง เพราะหลงเชื่อวิธีการของแม่ทีมที่ใช้การสอนการตลาดออนไลน์บังหน้า แต่เบื้องหลังชักชวนให้เปิดบิล ตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้านบาท ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว บางคนต้องจบชีวิตตัวเองไปเลยก็มี

    ในวันนี้บิลบอร์ดดิไอคอนกรุ๊ปที่ทุ่มซื้อโฆษณากว่า 500 ล้านบาท ทั้งอาคารสูง ป้ายโฆษณาทั่วประเทศ และโฆษณาบนรถเมล์กรุงเทพฯ ถูกถอดออกหมดแล้ว เหลือแม่ข่ายและลูกข่ายรวมแล้วกว่า 368,257 คน ตั้งแต่ระดับดิสทริบิวเตอร์ 285,833 คน ซึ่งเน้นซื้อกินซื้อใช้ ซูเปอร์ไวเซอร์ 43,976 คน มินิดีลเลอร์ 6,476 คน ที่เปิดบิลประมาณ 50,000 บาท และดีลเลอร์ที่เปิดบิล 250,000 บาท จำนวน 31,972 คน เหลือไว้เพียงแค่สินค้าที่ยังเหลืออยู่ และอนาคตบรรดาแม่ข่ายที่อาจต้องแยกย้ายกันไป ปิดตำนานความยิ่งใหญ่ที่ขายฝันคนไทยมานานถึง 7 ปี

    #Newskit #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheIconGroup
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯมีความกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบเคียงข้างรัสเซียในยูเครน จากความเห็นของโฆษกทำเนียบขาวรายหนึ่งในวันอังคาร(15ต.ค.) ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแห่งรัฐของเปียงยาง คุยโวว่ามีคนหนุ่มสาวมากกว่า 1.4 ล้านคนที่เข้าร่วมหรือกลับสู่กองทัพในสัปดาห์นี้ พร้อมความมุ่งมั่นทำลายอริศัตรู

    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในสัปดาห์นี้ กล่าวหาเกาหลีเหนือ โอนถ่ายบุคลากรไปยังกองทัพรัสเซีย อ้างบรรดาหน่วยข่าวกรองบรรยายสรุปกับเขา เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องที่แท้จริงของเกาหลีเหนือในสงครามในยูเครน

    เครมลิน ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็น "ข่าวปลอม"

    ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า ความเกี่ยวข้องของทหารเกาหลีเหนือในยูเครน ถ้าเป็นจริง มันจะบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือและรัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางกลาโหมขึ้นอย่างมาก"

    "และความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะบ่งชี้เช่นกันถึงระดับความสิ้นหวังครั้งใหม่ของรัสเซีย ในขณะที่พวกเขาเผชิญกับความสูญเสียอย่างมากอย่างต่อเนื่อง ในสมรภูมิรบในสงครามป่าเถื่อนของพวกเขากับยูเครน" โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ

    วอชิงตันเคยกล่าวอ้างว่าเกาหลีเหนือจัดหาขีปนาวุธและกระสุนแก่รัสเซีย กระตุ้นให้ทางมอสโกและเปียงยางออกมาปฏิเสธ แต่ทั้ง 2 ชาติประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดการซ้อมรบร่วม

    ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐของเกาหลีเหนือรายงานในวันพุธ(16ต.ค.) ว่ามีคนหนุ่มสาวมากกว่า 1.4 ล้านคน ในนั้นรวมถึงพวกนักศึกษาและเจ้าหน้าที่จากองค์กรเยาวชน ที่เข้าร่วมหรือกลับสู่กองทัพในสัปดาห์นี้

    เคซีเอ็นเอรายงานว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้มีความมุ่งมั่นในการ "ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ ทำลายล้างศัตรูด้วยอาวุธแห่งการปฏิวัติ"

    รอยเตอร์ระบุว่า เกาหลีเหนือมักกล่าวอ้างมีคนหนุ่มสาวมากกว่า 1 ล้านคน เข้าร่วมในกองทัพสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ราวๆ 1 หรือ 2 วัน ในแทบทุกๆครั้งที่ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีพุ่งสูง

    เมื่อปีที่แล้ว สื่อมวลชนเกาหลีเหนือรายงานคำกล่าวอ้างแบบเดียวกัน ว่ามีพลเมืองเข้าร่วมกองทัพ เพื่อสู้รบกับสหรัฐฯ

    เกาหลีเหนือได้ระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อสองเกาหลีในฝั่งของตนเอง ตามแนวชายแดนที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่นระหว่าง 2 ชาติเกาหลีในวันอังคาร(15ต.ค.) กระตุ้นให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องทำการยิงเตือน

    กองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามาตรการนี้จะช่วยแยกดินแดนเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง

    ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากความเดือดดาล โดยเกาหลีเหนือกล่าวหาเกาหลีใต้ ส่งโดรนบินเข้าไปมายังกรุงเปียงบาง ขณะที่ 2 ชาติเกาหลี มีปัญหากระทบกระทั่งกันเกี่ยวกับการปล่อยบอลลูนขยะของเกาหลีเหนือมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เปียงยางบอกว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตอบโต้บอลลูนแพร่กระจายใบปลิวต่อต้านระบอบคิม จองอึน ที่ปล่อยออกมาโดยเกาหลีใต้

    "ถ้าสงครามปะทุขึ้น เกาหลีใต้จะถูกกำจัดออกจากแผนที่ ถ้าพวกเขาต้องการสงคราม เราจะทำให้ความมีอยู่ของพวกเขาถึงจุดจบ" เคซีเอ็นเอรายงาน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099601
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯมีความกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบเคียงข้างรัสเซียในยูเครน จากความเห็นของโฆษกทำเนียบขาวรายหนึ่งในวันอังคาร(15ต.ค.) ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแห่งรัฐของเปียงยาง คุยโวว่ามีคนหนุ่มสาวมากกว่า 1.4 ล้านคนที่เข้าร่วมหรือกลับสู่กองทัพในสัปดาห์นี้ พร้อมความมุ่งมั่นทำลายอริศัตรู ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในสัปดาห์นี้ กล่าวหาเกาหลีเหนือ โอนถ่ายบุคลากรไปยังกองทัพรัสเซีย อ้างบรรดาหน่วยข่าวกรองบรรยายสรุปกับเขา เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องที่แท้จริงของเกาหลีเหนือในสงครามในยูเครน เครมลิน ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็น "ข่าวปลอม" ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า ความเกี่ยวข้องของทหารเกาหลีเหนือในยูเครน ถ้าเป็นจริง มันจะบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือและรัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางกลาโหมขึ้นอย่างมาก" "และความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะบ่งชี้เช่นกันถึงระดับความสิ้นหวังครั้งใหม่ของรัสเซีย ในขณะที่พวกเขาเผชิญกับความสูญเสียอย่างมากอย่างต่อเนื่อง ในสมรภูมิรบในสงครามป่าเถื่อนของพวกเขากับยูเครน" โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ วอชิงตันเคยกล่าวอ้างว่าเกาหลีเหนือจัดหาขีปนาวุธและกระสุนแก่รัสเซีย กระตุ้นให้ทางมอสโกและเปียงยางออกมาปฏิเสธ แต่ทั้ง 2 ชาติประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดการซ้อมรบร่วม ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐของเกาหลีเหนือรายงานในวันพุธ(16ต.ค.) ว่ามีคนหนุ่มสาวมากกว่า 1.4 ล้านคน ในนั้นรวมถึงพวกนักศึกษาและเจ้าหน้าที่จากองค์กรเยาวชน ที่เข้าร่วมหรือกลับสู่กองทัพในสัปดาห์นี้ เคซีเอ็นเอรายงานว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้มีความมุ่งมั่นในการ "ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ ทำลายล้างศัตรูด้วยอาวุธแห่งการปฏิวัติ" รอยเตอร์ระบุว่า เกาหลีเหนือมักกล่าวอ้างมีคนหนุ่มสาวมากกว่า 1 ล้านคน เข้าร่วมในกองทัพสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ราวๆ 1 หรือ 2 วัน ในแทบทุกๆครั้งที่ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีพุ่งสูง เมื่อปีที่แล้ว สื่อมวลชนเกาหลีเหนือรายงานคำกล่าวอ้างแบบเดียวกัน ว่ามีพลเมืองเข้าร่วมกองทัพ เพื่อสู้รบกับสหรัฐฯ เกาหลีเหนือได้ระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อสองเกาหลีในฝั่งของตนเอง ตามแนวชายแดนที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่นระหว่าง 2 ชาติเกาหลีในวันอังคาร(15ต.ค.) กระตุ้นให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องทำการยิงเตือน กองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามาตรการนี้จะช่วยแยกดินแดนเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากความเดือดดาล โดยเกาหลีเหนือกล่าวหาเกาหลีใต้ ส่งโดรนบินเข้าไปมายังกรุงเปียงบาง ขณะที่ 2 ชาติเกาหลี มีปัญหากระทบกระทั่งกันเกี่ยวกับการปล่อยบอลลูนขยะของเกาหลีเหนือมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เปียงยางบอกว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตอบโต้บอลลูนแพร่กระจายใบปลิวต่อต้านระบอบคิม จองอึน ที่ปล่อยออกมาโดยเกาหลีใต้ "ถ้าสงครามปะทุขึ้น เกาหลีใต้จะถูกกำจัดออกจากแผนที่ ถ้าพวกเขาต้องการสงคราม เราจะทำให้ความมีอยู่ของพวกเขาถึงจุดจบ" เคซีเอ็นเอรายงาน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099601 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1017 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปียงยางระเบิดถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อสองเกาหลีในฝั่งของตน ขณะที่คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยันมีหลักฐานชัดเจนว่า กองทัพเกาหลีใต้อยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเมืองหลวงเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมประกาศว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก ด้านจีนเรียกร้องทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม
    .
    คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (เจซีเอส) แถลงในวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า เกาหลีเหนือระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟบางส่วนที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้เมื่อราวเที่ยงวันเดียวกัน และกองทัพเกาหลีใต้ได้ยิงเตือนจากบริเวณเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารในฝั่งของตนเพื่อเป็นการตอบโต้ แม้การระเบิดดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายในฝั่งโสมขาวก็ตาม
    .
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางประกาศจะตัดขาดถนนและทางรถไฟทุกสายที่เชื่อมต่อระหว่างสองเกาหลี และสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดน จากนั้นเกาหลีใต้เตือนเมื่อวันจันทร์ (14) ว่า เกาหลีเหนือพร้อมระเบิดถนนและทางรถไฟแล้ว
    .
    เจซีเอสเสริมว่า เกาหลีเหนือยังฝังทุ่นระเบิดและสร้างแนวเครื่องกีดขวางรถถังตลอดชายแดน และจากการสังเกตการณ์เมื่อวันจันทร์พบว่า เปียงยางติดตั้งอุปกรณ์หนักเพิ่มเติมที่แนวป้องกันดังกล่าว ขณะที่เกาหลีใต้ก็ได้ยกระดับการเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเปียงยางแล้ว
    .
    เวลาเดียวกัน กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ได้แถลงประณามการกระทำล่าสุดของเปียงยางว่า เป็นการยั่วยุที่ผิดปกติมาก และสำทับว่า เกาหลีใต้หมดเงินหลายล้านดอลลาร์กับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ และทางเกาหลีเหนือยังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ในส่วนของพวกเขาเอง
    .
    ปัจจุบันทั้งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ในทางเทคนิคแล้วยังคงถือว่าอยู่ในภาวะทำสงครามกัน เนื่องจากสงครามเกาหลีในช่วงระหว่างปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการทำข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางกล่าวหาโซลส่งโดรนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านตนถึงในกรุงเปียงยางมาแล้วหลายครั้ง และผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงเพื่อบัญชาการแผนการทางทหารเพื่อตอบโต้
    .
    ทางด้านกองทัพเกาหลีใต้นั้นแรกเริ่มได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ต่อมาก็งดแสดงความคิดเห็น แม้กระทั่งเมื่อเปียงยางเตือนสำทับว่า หากยังพบโดรนรุกล้ำเข้าไปอีก จะถือเป็นการประกาศสงคราม
    .
    ในวันอังคาร (15) คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยังได้ออกคำแถลงระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนว่ากองทัพเกาหลีใต้คืออยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเปียงยาง พร้อมกับบอกว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก
    .
    ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้มักส่งบอลลูนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลีเข้าไปในแดนโสมแดง อย่างไรก็ดี เป็นที่รับรู้ว่า มีนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงบางคนเคยส่งโดรนขนาดเล็กที่ทำจากเอ็กซ์แพนด์โพลีโพรพีลีน ซึ่งทำให้ตรวจจับได้ยาก เข้าไปในเกาหลีเหนือเช่นกัน
    .
    สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานว่า ในการประชุมฝ่ายความมั่นคงเมื่อวันจันทร์ มีการรายงานเกี่ยวกับการยั่วยุอันตรายของศัตรู และผู้นำคิมแสดงจุดยืนทางการเมืองและการทหารอย่างแข็งกร้าว
    .
    เกาหลีเหนือยังระบุว่า อเมริกาที่เป็นพันธมิตรทางการทหารกับเกาหลีใต้ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
    .
    เปียงยางเองเคยส่งโดรน 5 ลำเข้าไปในเกาหลีใต้ในปี 2022 ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ยิงเตือนและส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปสกัด แต่ไม่สามารถยิงโดรนเหล่านั้นได้
    .
    กระทั่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โซลประกาศว่า ภายในปีนี้จะใช้ระบบเลเซอร์ทำลายโดรน ซึ่งมีชื่อว่า “โครงการสตาร์วอร์” ยิงลำแสงที่มองไม่เห็นและไม่มีเสียง โจมตีโดรนให้ระเบิด โดยใช้ต้นทุนต่ำมากเพียง 1.45 ดอลลาร์ต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง และสำทับว่า ด้วยระบบเช่นนี้ ศักยภาพของโซลในการตอบโต้การยั่วยุจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
    .
    ทางด้าน ชอง ซองชาง จากสถาบันเซจอง ในเกาหลีใต้ ชี้ว่า ภายหลังการประชุมของผู้นำคิม ความสนใจได้โฟกัสไปยังเรื่องที่ว่า เกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยการส่งโดรนเข้าไปในเกาหลีใต้ หรือใช้มาตรการแข็งกร้าวหากโดรนจากเกาหลีใต้ยังรุกล้ำเข้าไปอีก
    .
    ส่วนที่ปักกิ่ง เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวันตามปกติในวันอังคารว่า ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีไม่ได้เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด สิ่งสำคัญที่สุดคือหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม และย้ำว่า จุดยืนของจีนคือการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคดังกล่าว รวมทั้งส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการเมือง และหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้เช่นเดียวกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099598
    ..............
    Sondhi X
    เปียงยางระเบิดถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อสองเกาหลีในฝั่งของตน ขณะที่คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยันมีหลักฐานชัดเจนว่า กองทัพเกาหลีใต้อยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเมืองหลวงเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมประกาศว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก ด้านจีนเรียกร้องทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม . คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (เจซีเอส) แถลงในวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า เกาหลีเหนือระเบิดทำลายถนนและทางรถไฟบางส่วนที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้เมื่อราวเที่ยงวันเดียวกัน และกองทัพเกาหลีใต้ได้ยิงเตือนจากบริเวณเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารในฝั่งของตนเพื่อเป็นการตอบโต้ แม้การระเบิดดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายในฝั่งโสมขาวก็ตาม . เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางประกาศจะตัดขาดถนนและทางรถไฟทุกสายที่เชื่อมต่อระหว่างสองเกาหลี และสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดน จากนั้นเกาหลีใต้เตือนเมื่อวันจันทร์ (14) ว่า เกาหลีเหนือพร้อมระเบิดถนนและทางรถไฟแล้ว . เจซีเอสเสริมว่า เกาหลีเหนือยังฝังทุ่นระเบิดและสร้างแนวเครื่องกีดขวางรถถังตลอดชายแดน และจากการสังเกตการณ์เมื่อวันจันทร์พบว่า เปียงยางติดตั้งอุปกรณ์หนักเพิ่มเติมที่แนวป้องกันดังกล่าว ขณะที่เกาหลีใต้ก็ได้ยกระดับการเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเปียงยางแล้ว . เวลาเดียวกัน กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ได้แถลงประณามการกระทำล่าสุดของเปียงยางว่า เป็นการยั่วยุที่ผิดปกติมาก และสำทับว่า เกาหลีใต้หมดเงินหลายล้านดอลลาร์กับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ และทางเกาหลีเหนือยังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ในส่วนของพวกเขาเอง . ปัจจุบันทั้งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ในทางเทคนิคแล้วยังคงถือว่าอยู่ในภาวะทำสงครามกัน เนื่องจากสงครามเกาหลีในช่วงระหว่างปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการทำข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปียงยางกล่าวหาโซลส่งโดรนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านตนถึงในกรุงเปียงยางมาแล้วหลายครั้ง และผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงเพื่อบัญชาการแผนการทางทหารเพื่อตอบโต้ . ทางด้านกองทัพเกาหลีใต้นั้นแรกเริ่มได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ต่อมาก็งดแสดงความคิดเห็น แม้กระทั่งเมื่อเปียงยางเตือนสำทับว่า หากยังพบโดรนรุกล้ำเข้าไปอีก จะถือเป็นการประกาศสงคราม . ในวันอังคาร (15) คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำคิม ยังได้ออกคำแถลงระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนว่ากองทัพเกาหลีใต้คืออยู่เบื้องหลังการส่งโดรนรุกล้ำไปถึงเปียงยาง พร้อมกับบอกว่าผู้ยั่วยุจะต้องจ่ายราคาแพงมาก . ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้มักส่งบอลลูนไปปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลีเข้าไปในแดนโสมแดง อย่างไรก็ดี เป็นที่รับรู้ว่า มีนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงบางคนเคยส่งโดรนขนาดเล็กที่ทำจากเอ็กซ์แพนด์โพลีโพรพีลีน ซึ่งทำให้ตรวจจับได้ยาก เข้าไปในเกาหลีเหนือเช่นกัน . สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานว่า ในการประชุมฝ่ายความมั่นคงเมื่อวันจันทร์ มีการรายงานเกี่ยวกับการยั่วยุอันตรายของศัตรู และผู้นำคิมแสดงจุดยืนทางการเมืองและการทหารอย่างแข็งกร้าว . เกาหลีเหนือยังระบุว่า อเมริกาที่เป็นพันธมิตรทางการทหารกับเกาหลีใต้ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย . เปียงยางเองเคยส่งโดรน 5 ลำเข้าไปในเกาหลีใต้ในปี 2022 ทำให้กองทัพเกาหลีใต้ยิงเตือนและส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปสกัด แต่ไม่สามารถยิงโดรนเหล่านั้นได้ . กระทั่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โซลประกาศว่า ภายในปีนี้จะใช้ระบบเลเซอร์ทำลายโดรน ซึ่งมีชื่อว่า “โครงการสตาร์วอร์” ยิงลำแสงที่มองไม่เห็นและไม่มีเสียง โจมตีโดรนให้ระเบิด โดยใช้ต้นทุนต่ำมากเพียง 1.45 ดอลลาร์ต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง และสำทับว่า ด้วยระบบเช่นนี้ ศักยภาพของโซลในการตอบโต้การยั่วยุจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน . ทางด้าน ชอง ซองชาง จากสถาบันเซจอง ในเกาหลีใต้ ชี้ว่า ภายหลังการประชุมของผู้นำคิม ความสนใจได้โฟกัสไปยังเรื่องที่ว่า เกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยการส่งโดรนเข้าไปในเกาหลีใต้ หรือใช้มาตรการแข็งกร้าวหากโดรนจากเกาหลีใต้ยังรุกล้ำเข้าไปอีก . ส่วนที่ปักกิ่ง เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวันตามปกติในวันอังคารว่า ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีไม่ได้เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด สิ่งสำคัญที่สุดคือหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งลุกลาม และย้ำว่า จุดยืนของจีนคือการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคดังกล่าว รวมทั้งส่งเสริมการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการเมือง และหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้เช่นเดียวกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099598 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1064 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยพวกเขาพร้อมเต็มพิกัดสำหรับการตอบโต้ หลังเกาหลีเหนือสั่งการทหารตามแนวชายแดนให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับเปิดฉากยิง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุขึ้นอย่างฉับพลันในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโซลส่งโดรนบินไปถึงกรุงเปียงยางเมื่อเร็วๆนี้
    .
    เกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ กล่าวหาโซลส่งโดรนบินเหนือเมืองหลวงของพวกเขา เพื่อปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่เต็มไปด้วยข่าวลือที่อันเป็นเท็จและไร้สาระ พร้อมเตือนในวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าพวกเขาจะพิจารณาว่ามันเท่ากับเป็นการประกาศสงคราม หากว่ามีการตรวจพบโดรนอีกรอบ
    .
    กองทัพเกาหลีใต้ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังโดรนเหล่านั้น ในขณะที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ ดำเนินการมาช้านานในการส่งโฆษณาชวนเชื่อต่างๆนานา ส่วนใหญ่ผ่านการปล่อยลูกโป่ง มุ่งหน้าขึ้นสู่ทางเหนือ
    .
    แม้พวกเจ้าหน้าที่มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่บรรดานักเคลื่อนไหวเกาเหลีใต้มักปล่อยลูกโป่งที่ลอยไปได้ไกล บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ ในนั้นรวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลี ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ในกลยุทธ์ที่ทางเกาหลีเหนือประท้วงด้วยความเดือดดาลมาตลอด
    .
    อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือยืนยันว่าโซลต้องเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ และแถลงในช่วงเย็นวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าได้สั่งการให้กองพันทหารปืนใหญ่ 8 กองพัน ที่เตรียมตัวสำหรับทำสงครามอยู่ก่อนแล้ว "ให้พร้อมอย่างเต็มพิกัดในการเปิดฉากยิง" และเสริมกำลังตามป้อมสังเกตการณ์ทางอากาศในกรุงเปียงยาง
    .
    "กองทัพของเรากำลังจับตาสถานการณ์และพร้อมอย่างเต็มกำลัง" โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้กล่าวระหว่างแถลงข่าว
    .
    ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือ รายงานว่าท่านผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันจันทร์(14ต.ค.) พร้อมสั่งการให้วางแผนหนึ่งๆ สำหรับปฏิบติการทางทหารในทันที ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้น
    .
    การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในกรุงเปียงยาง และมีบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของประเทศเข้าร่วม ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการกองทัพและเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐและกระทรวงกลาโหม
    .
    เปียงยางอ้างว่าโดรนโฆษณาชวนเชื่อแทรกซึมเข้ามาในน่านฟ้าเมืองหลวงของพวกเขาถึง 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่ คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ คิม จองอึน ขุ่เกาหลีใต้ว่าจะต้องเจอกับหายนะอันน่าสยดสยองหากไม่ยอมหยุดการกระทำดังกล่าว
    .
    เสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ในวันจันทร์(14ต.ค.) ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่ากองทัพโซลอยู่เบื้องหลังการส่งโดรนข้ามชายแดน แต่เรียกคำกล่าวหาของเกาหลีเหนือว่า "น่าละอาย"
    .
    "เกาหลีเหนือไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของโดรนลำหนึ่งเหนือน่านฟ้าเปียงยางได้ด้วยซ้ำ แต่กลับมากล่าวโทษเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันพวกเขาปิดปากเงียบ กรณีที่วางโดรนมุ่งหน้ามาทางทิศใต้มาแล้วกว่า 10 รอบ" โฆษกเสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ระบุ
    .
    ในวันจันทร์(14ต.ค.) กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยด้วยว่าดูเหมือนเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการระเบิดถนนสายต่างๆที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้ ไม่กี่วันหลังจากเปียงยางบอกว่าพวกเขาจะปิดผนึกชายแดน
    .
    กองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามาตรการนี้จะช่วยแยกดินแดนเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง ขณะที่โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ สันนิษฐานว่าการระเบิดถนนน่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์(14ต.ค.)
    .
    กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับโดรน อาจเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือในการยกระดับความเป็นหนึ่งเดียวกันภายชาติ ขณะเดียวกันเกาหลีเหนืออาจกำลังมองหาข้ออ้างสำหรับ "ก่อการยั่วยุ สร้างความหวาดวิตกและความสับสนในสังคมของเรา"
    .
    อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งมองว่าผู้อยู่เบื้องหลังโดรนดังกล่าวน่าจะเป็นพวกนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ มากว่าที่จะเป็นการจัดฉากของเกาหลีเหนือ เพราะว่าในถ้อยแถลงของเปียงยาง อีกด้านหนึ่งก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่ามาตรการคุ้มกันทางอากาศของพวกเขานั้นมีช่องโหว่
    .
    "แม้กระทั่งหากมันเป็นความพยายามจัดฉากของพวกเขา มันเท่ากับเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงความอ่อนแออย่างมากในน่านฟ้าต่างๆของตนเอง" ยาง อุค นักวิจัยจากสถาบันเอเชียเพื่อการศึกษานโยบายกล่าว
    .
    ตระกูลคิม พึ่งพิงการควบคุมข้อมูลข่าวสารโดยสิ้นเชิงเพื่อรักษาอำนาจไว้ โดยที่ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือและข้อมูลข่าวสารจากภายนอก "หากการส่งข้อมูลผ่านโดรนกลายเป็นกิจกรรมที่เป็นปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มันจะเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเกาหลีเหนือ" ยาง กล่าว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099223
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยพวกเขาพร้อมเต็มพิกัดสำหรับการตอบโต้ หลังเกาหลีเหนือสั่งการทหารตามแนวชายแดนให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสำหรับเปิดฉากยิง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุขึ้นอย่างฉับพลันในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโซลส่งโดรนบินไปถึงกรุงเปียงยางเมื่อเร็วๆนี้ . เกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ กล่าวหาโซลส่งโดรนบินเหนือเมืองหลวงของพวกเขา เพื่อปล่อยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่เต็มไปด้วยข่าวลือที่อันเป็นเท็จและไร้สาระ พร้อมเตือนในวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าพวกเขาจะพิจารณาว่ามันเท่ากับเป็นการประกาศสงคราม หากว่ามีการตรวจพบโดรนอีกรอบ . กองทัพเกาหลีใต้ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังโดรนเหล่านั้น ในขณะที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ ดำเนินการมาช้านานในการส่งโฆษณาชวนเชื่อต่างๆนานา ส่วนใหญ่ผ่านการปล่อยลูกโป่ง มุ่งหน้าขึ้นสู่ทางเหนือ . แม้พวกเจ้าหน้าที่มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่บรรดานักเคลื่อนไหวเกาเหลีใต้มักปล่อยลูกโป่งที่ลอยไปได้ไกล บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ ในนั้นรวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลี ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ในกลยุทธ์ที่ทางเกาหลีเหนือประท้วงด้วยความเดือดดาลมาตลอด . อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือยืนยันว่าโซลต้องเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ และแถลงในช่วงเย็นวันอาทิตย์(13ต.ค.) ว่าได้สั่งการให้กองพันทหารปืนใหญ่ 8 กองพัน ที่เตรียมตัวสำหรับทำสงครามอยู่ก่อนแล้ว "ให้พร้อมอย่างเต็มพิกัดในการเปิดฉากยิง" และเสริมกำลังตามป้อมสังเกตการณ์ทางอากาศในกรุงเปียงยาง . "กองทัพของเรากำลังจับตาสถานการณ์และพร้อมอย่างเต็มกำลัง" โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้กล่าวระหว่างแถลงข่าว . ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือ รายงานว่าท่านผู้นำคิม จองอึน เรียกประชุมด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันจันทร์(14ต.ค.) พร้อมสั่งการให้วางแผนหนึ่งๆ สำหรับปฏิบติการทางทหารในทันที ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้น . การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในกรุงเปียงยาง และมีบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของประเทศเข้าร่วม ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการกองทัพและเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐและกระทรวงกลาโหม . เปียงยางอ้างว่าโดรนโฆษณาชวนเชื่อแทรกซึมเข้ามาในน่านฟ้าเมืองหลวงของพวกเขาถึง 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่ คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ คิม จองอึน ขุ่เกาหลีใต้ว่าจะต้องเจอกับหายนะอันน่าสยดสยองหากไม่ยอมหยุดการกระทำดังกล่าว . เสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ในวันจันทร์(14ต.ค.) ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่ากองทัพโซลอยู่เบื้องหลังการส่งโดรนข้ามชายแดน แต่เรียกคำกล่าวหาของเกาหลีเหนือว่า "น่าละอาย" . "เกาหลีเหนือไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของโดรนลำหนึ่งเหนือน่านฟ้าเปียงยางได้ด้วยซ้ำ แต่กลับมากล่าวโทษเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันพวกเขาปิดปากเงียบ กรณีที่วางโดรนมุ่งหน้ามาทางทิศใต้มาแล้วกว่า 10 รอบ" โฆษกเสขาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ระบุ . ในวันจันทร์(14ต.ค.) กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยด้วยว่าดูเหมือนเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการระเบิดถนนสายต่างๆที่เชื่อมต่อกับเกาหลีใต้ ไม่กี่วันหลังจากเปียงยางบอกว่าพวกเขาจะปิดผนึกชายแดน . กองทัพประชาชนเกาหลีเหนือแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามาตรการนี้จะช่วยแยกดินแดนเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง ขณะที่โฆษกของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ สันนิษฐานว่าการระเบิดถนนน่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์(14ต.ค.) . กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับโดรน อาจเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือในการยกระดับความเป็นหนึ่งเดียวกันภายชาติ ขณะเดียวกันเกาหลีเหนืออาจกำลังมองหาข้ออ้างสำหรับ "ก่อการยั่วยุ สร้างความหวาดวิตกและความสับสนในสังคมของเรา" . อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งมองว่าผู้อยู่เบื้องหลังโดรนดังกล่าวน่าจะเป็นพวกนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ มากว่าที่จะเป็นการจัดฉากของเกาหลีเหนือ เพราะว่าในถ้อยแถลงของเปียงยาง อีกด้านหนึ่งก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่ามาตรการคุ้มกันทางอากาศของพวกเขานั้นมีช่องโหว่ . "แม้กระทั่งหากมันเป็นความพยายามจัดฉากของพวกเขา มันเท่ากับเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงความอ่อนแออย่างมากในน่านฟ้าต่างๆของตนเอง" ยาง อุค นักวิจัยจากสถาบันเอเชียเพื่อการศึกษานโยบายกล่าว . ตระกูลคิม พึ่งพิงการควบคุมข้อมูลข่าวสารโดยสิ้นเชิงเพื่อรักษาอำนาจไว้ โดยที่ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือและข้อมูลข่าวสารจากภายนอก "หากการส่งข้อมูลผ่านโดรนกลายเป็นกิจกรรมที่เป็นปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มันจะเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเกาหลีเหนือ" ยาง กล่าว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099223 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนกล่าวว่า ทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบเคียงข้างรัสเซียในสงคราม
    .
    Ukrainian President Zelensky says North Korean soldiers are fighting alongside Russia in the war.
    .
    7:40 AM · Oct 14, 2024 · 55K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1845625774155481120
    ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนกล่าวว่า ทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบเคียงข้างรัสเซียในสงคราม . Ukrainian President Zelensky says North Korean soldiers are fighting alongside Russia in the war. . 7:40 AM · Oct 14, 2024 · 55K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1845625774155481120
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่วหาเกาหลีเหนือ ว่ากำลังส่งทหารเข้าช่วยกองทัพรัสเซีย และเป็นอีกครั้งที่ร้องขอแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากบรรดาพันธมิตร เพื่อป้องกัน "สงครามที่ใหญ่โตกว่านี้"
    .
    ความเห็นของเซเลนสกี มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากเขาเดินทางเยือนเมืองหลวงในยุโรปหลายแห่ง เพื่อกดดันขอความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินเพิ่มเติม ในการทำสงครามกับกองกำลังรัสเซีย
    .
    "เราเห็นความเป็นพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างรัสเซียกับรัฐบาลต่างๆ อย่างเช่นเกาหลีเหนือ" เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงเย็น "มันไม่ใช่แค่การส่งมอบอาวุธแล้ว จริงแล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบกำลังคนจากเกาหลีเหนือไปยังกองทัพของผู้รุกราน"
    .
    "แน่นอนว่า ในกรณีแวดล้อมเช่นนี้เราจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับบรรดาพันธมิตร แนวหน้าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม" เขากล่าว
    .
    "เมื่อเราพูดถึงศักยภาพพิสัยไกลสำหรับยูเครน และการจัดหาเสบียงที่แน่วแน่กว่าเดิมแก่กองกำลังของเรา มันไม่ใช่แค่รายการยุทโธปกรณ์ทางทหารเหล่านั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มแรงกดดันใส่ผู้รุกราน ซึ่งจำเป็นต้องหนักหน่วงเกินกว่าที่รัสเซียจะสามารถยืนหยัดอดทนได้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการป้องกันสงครามที่ใหญ่กว่านี้" เซเลนสกีระบุ
    .
    เซเลนสกี สิ้นสุดการเดินทางเยือนเมืองหลวงต่างๆ ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในนั้นรวมถึงเบอร์ลิน ลอนดอน ปารีส และโรม ระหว่างนั้นเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือทางทหารอย่างยั่งยืน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียกำลังขยับเข้าใกล้วาระครบรอบ 3 ปี
    .
    ทริปนี้ถูกจัดขึ้นในนาทีสุดท้าย ตามหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เลื่อนโปรแกรมเยือนเยอรมนี ที่เดิมทีกำหนดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหันไปกำกับดูแลเตรียมพร้อมรับมือกับเฮอร์ริเคนมิลตัน ที่ตอนนั้นกำลังมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา
    .
    โปรแกรมเดินทางเยือนเยือนเยอรมนีของไบเดนนั้น ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ในนั้นรวมถึงเข้าร่วมในที่ประชุมบรรดาพันธมิตรยูเครนมากกว่า 50 ชาติ หารือเกี่ยวกับแรงสนับสนุนที่จะมอบให้แก่เคียฟเพิ่มเติม ที่ทาง เซเลนสกี คาดหวังไว้อย่างสูง
    .
    แหล่งข่าวรัฐบาลเยอรมนีรายหนึ่ง เปิดเผยในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่าเวลานี้ ไบเดน ปรับโปรแกรม เตรียมเดินทางมาเยือนในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (18 ต.ค.) เป็นเวลา 1 วัน ท่ามกลางความคาดหมายว่ายูเครนและตะวันออกกลาง จะเป็นประเด็นหลักของวาระการหารือ
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) รัสเซียยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เมืองสำคัญอย่างโพครอฟส์กไปทุกขณะ หลังจากกองกำลังของมอสโกสามารถรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์
    .
    ทหารรัสเซียรุกคืบในทิศตะวันตกของแคว้นโดเนตสก์เป็นเวลาหลายเดือน โดยทางเคียฟยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขากำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000098405
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่วหาเกาหลีเหนือ ว่ากำลังส่งทหารเข้าช่วยกองทัพรัสเซีย และเป็นอีกครั้งที่ร้องขอแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากบรรดาพันธมิตร เพื่อป้องกัน "สงครามที่ใหญ่โตกว่านี้" . ความเห็นของเซเลนสกี มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากเขาเดินทางเยือนเมืองหลวงในยุโรปหลายแห่ง เพื่อกดดันขอความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินเพิ่มเติม ในการทำสงครามกับกองกำลังรัสเซีย . "เราเห็นความเป็นพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างรัสเซียกับรัฐบาลต่างๆ อย่างเช่นเกาหลีเหนือ" เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงเย็น "มันไม่ใช่แค่การส่งมอบอาวุธแล้ว จริงแล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบกำลังคนจากเกาหลีเหนือไปยังกองทัพของผู้รุกราน" . "แน่นอนว่า ในกรณีแวดล้อมเช่นนี้เราจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับบรรดาพันธมิตร แนวหน้าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม" เขากล่าว . "เมื่อเราพูดถึงศักยภาพพิสัยไกลสำหรับยูเครน และการจัดหาเสบียงที่แน่วแน่กว่าเดิมแก่กองกำลังของเรา มันไม่ใช่แค่รายการยุทโธปกรณ์ทางทหารเหล่านั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มแรงกดดันใส่ผู้รุกราน ซึ่งจำเป็นต้องหนักหน่วงเกินกว่าที่รัสเซียจะสามารถยืนหยัดอดทนได้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการป้องกันสงครามที่ใหญ่กว่านี้" เซเลนสกีระบุ . เซเลนสกี สิ้นสุดการเดินทางเยือนเมืองหลวงต่างๆ ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในนั้นรวมถึงเบอร์ลิน ลอนดอน ปารีส และโรม ระหว่างนั้นเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือทางทหารอย่างยั่งยืน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียกำลังขยับเข้าใกล้วาระครบรอบ 3 ปี . ทริปนี้ถูกจัดขึ้นในนาทีสุดท้าย ตามหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เลื่อนโปรแกรมเยือนเยอรมนี ที่เดิมทีกำหนดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหันไปกำกับดูแลเตรียมพร้อมรับมือกับเฮอร์ริเคนมิลตัน ที่ตอนนั้นกำลังมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา . โปรแกรมเดินทางเยือนเยือนเยอรมนีของไบเดนนั้น ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ในนั้นรวมถึงเข้าร่วมในที่ประชุมบรรดาพันธมิตรยูเครนมากกว่า 50 ชาติ หารือเกี่ยวกับแรงสนับสนุนที่จะมอบให้แก่เคียฟเพิ่มเติม ที่ทาง เซเลนสกี คาดหวังไว้อย่างสูง . แหล่งข่าวรัฐบาลเยอรมนีรายหนึ่ง เปิดเผยในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่าเวลานี้ ไบเดน ปรับโปรแกรม เตรียมเดินทางมาเยือนในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (18 ต.ค.) เป็นเวลา 1 วัน ท่ามกลางความคาดหมายว่ายูเครนและตะวันออกกลาง จะเป็นประเด็นหลักของวาระการหารือ . ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) รัสเซียยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เมืองสำคัญอย่างโพครอฟส์กไปทุกขณะ หลังจากกองกำลังของมอสโกสามารถรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ . ทหารรัสเซียรุกคืบในทิศตะวันตกของแคว้นโดเนตสก์เป็นเวลาหลายเดือน โดยทางเคียฟยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขากำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000098405 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 904 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIA หลังชนฝา กระหายข้อมูลลับ เล่นทุกทางหวังเอาชนะสงครามข่าวกรอง เปิดรับสมัครสายลับGenZในจีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนือ แบบโจ่งแจ้งทางออนไลน์ หวังดึงเอาคนชังชาติที่ไม่พอใจการปกครองของประเทศตัวเองมาเป็นสายลับ เพื่อฟาดจีนและรัสเซีย อิหร่าน โดยไม่สนใจว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ต้องระวังดาบสองคม เพราะสายลับเหล่านั้นอาจล้วงความลับอเมริกาส่งกลับประเทศตัวเอง

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000098355

    #thaitimes
    CIA หลังชนฝา กระหายข้อมูลลับ เล่นทุกทางหวังเอาชนะสงครามข่าวกรอง เปิดรับสมัครสายลับGenZในจีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนือ แบบโจ่งแจ้งทางออนไลน์ หวังดึงเอาคนชังชาติที่ไม่พอใจการปกครองของประเทศตัวเองมาเป็นสายลับ เพื่อฟาดจีนและรัสเซีย อิหร่าน โดยไม่สนใจว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ต้องระวังดาบสองคม เพราะสายลับเหล่านั้นอาจล้วงความลับอเมริกาส่งกลับประเทศตัวเอง https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000098355 #thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อย่างนี้ก็ได้? CIA ประกาศรับสมัคร "คนชังชาติ" เป็นสายลับล้วงข้อมูลประเทศตัวเองป้อนอเมริกา
    CIA เลือดเข้าตา เล่นทุกทางหวังเอาชนะสงครามข่าวกรอง เปิดรับสมัครสายลับในจีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนือ แบบโจ่งแจ้งทางออนไลน์ หวังดึงเอาคนที่ไม่พอใจการปกครองของประเทศตัวเองมาเป็นพวกป้อนข้อมูลความลับให้ ไม่สนใจว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างป
    Like
    Angry
    Haha
    Sad
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เตือนเกาหลีใต้จะต้องเจอกับ "หายนะอันน่าสยดสยอง" หากว่าอากาศยานไร้คนขับบินมาถึงกรุงเปียงยางอีกรอบ หนึ่งวันหลังจากกล่าวหาโซลส่งอากาศยานดังกล่าวฝ่ามาถึงเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ
    .
    เกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) กล่าวหาเกาหลีใต้ส่งโดรนหลายลำบรรทุกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อเข้าสู่น่านฟ้าของกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม และอีกครั้งในวันพุธ (9 ต.ค.) และวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) ที่ผ่านมา
    .
    เบื้องต้น คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว แต่ต่อมาเสนาธิการทหารร่วมปรับเปลี่ยนจุดยืน ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขา "ไม่อาจยืนยันได้ว่าคำกล่าวหาของเกาลีเหนือเป็นจริงหรือไม่"
    .
    คิม โยจอง น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าท่าทีของโซลที่ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวหา หมายความว่าโดรนเหล่านั้นถูกส่งมาโดย "กองทัพอันธพาล" เธอกล่าวอ้างถึงกองทัพเกาหลีใต้
    .
    "ทันทีโดรนลำหนึ่งลำใดของเกาหลีใต้ถูกพบเหนือน่านฟ้าเมืองหลวงของเราอีกรอบ แน่นอนว่ามันจะนำไปซึ่งหายนะอันน่าขนลุกขนพอง" เธอระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงเย็นวันเสาร์ (12 ต.ค.)
    .
    ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงานในวันศุกร์ (11 ต.ค.) ว่าโดรนของเกาหลีใต้หย่อนโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล และใบปลิวที่เต็มไปด้วยข่าวลืออันเป็นเท็จและขยะ" พร้อมให้คำจำกัดความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ละเมิดอย่างป่าเถื่อนต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการโจมตีทางทหารอย่างเลวร้าย"
    .
    แม้พวกเจ้าหน้าที่มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่บรรดานักเคลื่อนไหวเกาเหลีใต้มักปล่อยลูกโป่งที่ลอยไปได้ไกล บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ ในนั้นรวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลี ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ในกลยุทธ์ที่ทางเกาหลีเหนือประท้วงด้วยความเดือดดาลมาตลอด
    .
    ในการตอบโต้ เกาหลีเหนือที่รัฐบาลมีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อการที่ประชาชนกำลังเข้าถึงสินค้าวัฒนธรรมเค-ป็อปของเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อยๆ ได้ปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะมากกว่า 6,000 ลูก มุ่งหน้าสู่ทางใต้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลีดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี หลังจากข้อตกลงทางทหารหนึ่ง ซึ่งมีเจตนาลดความตึงเครียด ได้ถูกระงับอย่างสมบูรณ์ ตามหลังเหตุการณ์ปล่อยบอลลูนเมื่อเดือนมิถุนายน
    .
    คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวเตือนหลายรอบ ว่าประเทศของเขาจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยปราศจากความลังเลใดๆ หากถูกเกาหลีใต้โจมตี
    .
    ในปี 2022 โดรนของเกาหลีเหนือ 5 ลำ ล่วงล้ำเข้าสู่เกาหลีใต้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว กระตุ้นให้กองทัพเกาหลีใต้ยิงเตือนและส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม เครื่องบินรบเหล่านั้นไม่สามารถสอยร่วงโดรนใดๆ ของเกาหลีเหนือ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000097937
    ..............
    Sondhi X
    น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เตือนเกาหลีใต้จะต้องเจอกับ "หายนะอันน่าสยดสยอง" หากว่าอากาศยานไร้คนขับบินมาถึงกรุงเปียงยางอีกรอบ หนึ่งวันหลังจากกล่าวหาโซลส่งอากาศยานดังกล่าวฝ่ามาถึงเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ . เกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) กล่าวหาเกาหลีใต้ส่งโดรนหลายลำบรรทุกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อเข้าสู่น่านฟ้าของกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม และอีกครั้งในวันพุธ (9 ต.ค.) และวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) ที่ผ่านมา . เบื้องต้น คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว แต่ต่อมาเสนาธิการทหารร่วมปรับเปลี่ยนจุดยืน ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขา "ไม่อาจยืนยันได้ว่าคำกล่าวหาของเกาลีเหนือเป็นจริงหรือไม่" . คิม โยจอง น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าท่าทีของโซลที่ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวหา หมายความว่าโดรนเหล่านั้นถูกส่งมาโดย "กองทัพอันธพาล" เธอกล่าวอ้างถึงกองทัพเกาหลีใต้ . "ทันทีโดรนลำหนึ่งลำใดของเกาหลีใต้ถูกพบเหนือน่านฟ้าเมืองหลวงของเราอีกรอบ แน่นอนว่ามันจะนำไปซึ่งหายนะอันน่าขนลุกขนพอง" เธอระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงเย็นวันเสาร์ (12 ต.ค.) . ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงานในวันศุกร์ (11 ต.ค.) ว่าโดรนของเกาหลีใต้หย่อนโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล และใบปลิวที่เต็มไปด้วยข่าวลืออันเป็นเท็จและขยะ" พร้อมให้คำจำกัดความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ละเมิดอย่างป่าเถื่อนต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการโจมตีทางทหารอย่างเลวร้าย" . แม้พวกเจ้าหน้าที่มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่บรรดานักเคลื่อนไหวเกาเหลีใต้มักปล่อยลูกโป่งที่ลอยไปได้ไกล บรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านผู้นำเกาหลีเหนือและเนื้อหาอื่นๆ ในนั้นรวมถึงอุปกรณ์ยูเอสบีที่บรรจุเพลงเค-ป็อป และซีรีส์เกาหลี ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ในกลยุทธ์ที่ทางเกาหลีเหนือประท้วงด้วยความเดือดดาลมาตลอด . ในการตอบโต้ เกาหลีเหนือที่รัฐบาลมีความอ่อนไหวอย่างยิ่งต่อการที่ประชาชนกำลังเข้าถึงสินค้าวัฒนธรรมเค-ป็อปของเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อยๆ ได้ปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะมากกว่า 6,000 ลูก มุ่งหน้าสู่ทางใต้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม . ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลีดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี หลังจากข้อตกลงทางทหารหนึ่ง ซึ่งมีเจตนาลดความตึงเครียด ได้ถูกระงับอย่างสมบูรณ์ ตามหลังเหตุการณ์ปล่อยบอลลูนเมื่อเดือนมิถุนายน . คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวเตือนหลายรอบ ว่าประเทศของเขาจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยปราศจากความลังเลใดๆ หากถูกเกาหลีใต้โจมตี . ในปี 2022 โดรนของเกาหลีเหนือ 5 ลำ ล่วงล้ำเข้าสู่เกาหลีใต้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว กระตุ้นให้กองทัพเกาหลีใต้ยิงเตือนและส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นสู่ท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม เครื่องบินรบเหล่านั้นไม่สามารถสอยร่วงโดรนใดๆ ของเกาหลีเหนือ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000097937 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1014 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาติไหนที่สร้างกลุ่มก่อการร้ายป่วนอินเดียและบังกลาเทศ:

    ตอนนี้ รัฐบาลอินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกตัวยงแห่งยุคสร้างกลุ่มก่อการร้ายชื่อ Hizb-ut-Tahrir เพื่อป่วนอินเดียและบังกลาเทศ สร้างเสร็จแล้ว ก็ส่งสมาชิกที่พวกตนฝึกให้เข้าไปเป็นนักศึกษา จัดตั้งเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศที่เป็นเป้าหมายเพื่อสร้างและปลุกระดมมวลชน ให้นักศึกษาเหล่านีจัดกิจกรรมป่วนรัฐบาลเพื่อหาทางแบ่งแยกดินแดน

    ขณะนี้ ประเทศนักล่าอาณานิคมตัวยงกำลังอยากตั้งฐานทัพที่บังกลาเทศเพื่อปิดล้อมจีนฝั่งมหาสมุทรอินเดีย

    เมืองไทยก็เช่นกันครับ ผมสันนิษฐานมานานว่ากลุ่มก่อการร้าย BRN ก็น่าจะถูกชาตินักล่าอาณานิคมนี่แหละจัดตั้ง ภายใต้การบงการของกลุ่มยิวไซออนิสต์ ไม่ใช่มุสลิมแท้ เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่สายลับชาตินักล่าอาณานิคมจัดตั้งขึ้นมา มุสลิมที่ปักหลักอยู่ในประเทศไทยมานาน กับกลุ่มมุสลิมที่อพยพเข้ามาใหม่สาย BRN จึงมีนิสัยแตกต่างกันมาก และพวกนี้ก็มี NGOs สายตะวันตกคอยช่วยเหลือด้วย

    โดยปรกติ รัฐบาลรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่านและจีนไม่ค่อยนิยมเจรจากับกลุ่มก่อการร้าย มีแต่กวาดล้างอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเพราะพวกตนเป็นคนสร้างกลุ่มก่อการร้ายขึ้นมาเอง จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลไหนๆ ปราบอย่างเด็ดขาด จึงต้องเขียนตำราให้ใช้วิธีเจรจาแทน เพื่อมิให้กลุ่มก่อการร้ายถูกกวาดล้างโดยง่าย เห็นได้จากกลุ่มก่อการร้ายในประเทศอาฟริกาซึ่งปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที รัฐบาลอาฟริกาหลายประเทศต้องให้รัสเซียส่งกลุ่มวากเนอร์มาช่วยปราบจึงหมดลงได้
    ประเทศไทยในขณะนี้ ผมสงสัยว่าสถานการณ์กำลังอยู่ในลักษณะว่า

    ๑. มีกลุ่มก่อการร้ายซึ่งผมสันนิษฐานว่าชาตินักล่าอาณานิคมตัวยงสร้างขึ้น ต่อหน้าสาธารณชนเป็นกลุ่มมุสลิมเทียมแต่เบื้องหลังคือกลุ่มก่อการร้าย

    ๒.มีนักวิชาการที่ปรึกษาความมั่นคงที่จบจากตะวันตกคอยให้คำแนะนำรัฐบาล เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายแทนการปราบปราม

    ๓.มีรัฐบาลและทหารที่โปรตะวันตกใช้ตำราปราบกลุ่มก่อการร้ายแบบตะวันตกมาแก้ปัญหา กลุ่มก่อการร้ายในภาคใต้ก็เลยไม่หมดสักที

    หรือปล่าว? ผมแค่สันนิษฐานเอาจากแง่มุมหนึ่งนะครับ


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

    อินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาติไหนที่สร้างกลุ่มก่อการร้ายป่วนอินเดียและบังกลาเทศ: ตอนนี้ รัฐบาลอินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกตัวยงแห่งยุคสร้างกลุ่มก่อการร้ายชื่อ Hizb-ut-Tahrir เพื่อป่วนอินเดียและบังกลาเทศ สร้างเสร็จแล้ว ก็ส่งสมาชิกที่พวกตนฝึกให้เข้าไปเป็นนักศึกษา จัดตั้งเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศที่เป็นเป้าหมายเพื่อสร้างและปลุกระดมมวลชน ให้นักศึกษาเหล่านีจัดกิจกรรมป่วนรัฐบาลเพื่อหาทางแบ่งแยกดินแดน ขณะนี้ ประเทศนักล่าอาณานิคมตัวยงกำลังอยากตั้งฐานทัพที่บังกลาเทศเพื่อปิดล้อมจีนฝั่งมหาสมุทรอินเดีย เมืองไทยก็เช่นกันครับ ผมสันนิษฐานมานานว่ากลุ่มก่อการร้าย BRN ก็น่าจะถูกชาตินักล่าอาณานิคมนี่แหละจัดตั้ง ภายใต้การบงการของกลุ่มยิวไซออนิสต์ ไม่ใช่มุสลิมแท้ เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่สายลับชาตินักล่าอาณานิคมจัดตั้งขึ้นมา มุสลิมที่ปักหลักอยู่ในประเทศไทยมานาน กับกลุ่มมุสลิมที่อพยพเข้ามาใหม่สาย BRN จึงมีนิสัยแตกต่างกันมาก และพวกนี้ก็มี NGOs สายตะวันตกคอยช่วยเหลือด้วย โดยปรกติ รัฐบาลรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่านและจีนไม่ค่อยนิยมเจรจากับกลุ่มก่อการร้าย มีแต่กวาดล้างอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเพราะพวกตนเป็นคนสร้างกลุ่มก่อการร้ายขึ้นมาเอง จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลไหนๆ ปราบอย่างเด็ดขาด จึงต้องเขียนตำราให้ใช้วิธีเจรจาแทน เพื่อมิให้กลุ่มก่อการร้ายถูกกวาดล้างโดยง่าย เห็นได้จากกลุ่มก่อการร้ายในประเทศอาฟริกาซึ่งปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที รัฐบาลอาฟริกาหลายประเทศต้องให้รัสเซียส่งกลุ่มวากเนอร์มาช่วยปราบจึงหมดลงได้ ประเทศไทยในขณะนี้ ผมสงสัยว่าสถานการณ์กำลังอยู่ในลักษณะว่า ๑. มีกลุ่มก่อการร้ายซึ่งผมสันนิษฐานว่าชาตินักล่าอาณานิคมตัวยงสร้างขึ้น ต่อหน้าสาธารณชนเป็นกลุ่มมุสลิมเทียมแต่เบื้องหลังคือกลุ่มก่อการร้าย ๒.มีนักวิชาการที่ปรึกษาความมั่นคงที่จบจากตะวันตกคอยให้คำแนะนำรัฐบาล เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายแทนการปราบปราม ๓.มีรัฐบาลและทหารที่โปรตะวันตกใช้ตำราปราบกลุ่มก่อการร้ายแบบตะวันตกมาแก้ปัญหา กลุ่มก่อการร้ายในภาคใต้ก็เลยไม่หมดสักที หรือปล่าว? ผมแค่สันนิษฐานเอาจากแง่มุมหนึ่งนะครับ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอลลาร์สหรัฐจะเสื่อมค่าลง ถึงแม้จะพยายามก่อสงครามและโรคระบาดก็ตาม / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    สถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อ ดอลลาร์สหรัฐ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิมพ์แบงค์ก่อหนี้ไม่หยุดและไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ 2. การยึดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังหาสินทรัพย์อย่างอื่น

    อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงได้ต่อไป ก็ยิ่งทำให้เงินทั่วโลกเทขายพันธบัตรและเงินดอลลาร์หันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย (ซึ่งแปลงเป็นเงินสกุลอื่น) คริปโตเคอเรนซี่ และทองคำ ประเทศใดไม่ทันระวังตัว หลงเพลินกับดัชนีราคาหุ้นที่สูงขึ้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเสื่อมค่าลงด้วยเพราะดอลลาร์ที่ท่วมในทุนสำรองระหว่างประเทศกำลังเสื่อมค่าลงเช่นกั

    ด้วยเหตุผลนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มจะซื้อทองคำมากขึ้น เพื่อรักษามูลค่าของทุนสำรองระหว่างประเทศให้มั่นคง กว่าการมีสินทรัพย์ที่มีเงินดอลลาร์มากเกินไป

    ด้วยเหตุผลนี้ทองคำมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

    ดังนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องสั่งซื้อวัคซีนและยารักษาโรคในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา และยุโรป

    การก่อหนี้สาธารณอันมหาศาลเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ในการหาซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่อก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น บางประเทศที่ขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้ว ก็ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มากขึ้น

    และการที่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหรือโรคระบาดที่ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ก็คือการรักษาความต้องการเงินดอลลาร์ให้ยังคงอยู่ต่อไป และต้องถูกแลกมาด้วยการสูบทรัพยากรจากประเทศลูกหนี้เหล่านั้นให้มาชดใช้หนี้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและยุโรป

    และนี่คือเหตุผลสำคัญที่กระทรวงกลาโหมต้องออกมาปล่อยข่าวปลอมในการใส่ร้ายและทำลายวัคซีนจากจีน เพื่อต้องการสูบความมั่งคั่งจากทั่วโลกให้มาเพิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไป

    อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะดำรงได้ต่อไป จึงถูกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจบีบคั้นให้ลดอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเดินหน้าต่อไป

    แต่การลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก็แลกกลับมาด้วยเงินทุนไหลออกจากดอลลาร์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยมากกว่าอย่างรวดเร็ว ทั้งทองคำ เงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี่ หุ้นในประเทศในเอเชีย

    ส่งผลทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ

    เมื่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาดอลลาร์อย่างสันติวิธีได้ ประชาคมโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นปรากฏการณ์เร่งทำสงครามให้บานปลายมากขึ้น หรืออาจมีความเสี่ยงการก่อโรคระบาดใหม่ได้มากขึ้น

    เพราะการก่อสงครามของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียในสมรภูมิสงครามโดยตรง ทำให้หลายประเทศต้องซื้ออาวุธสงครามด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น

    และการปฏิบัติการด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่อสู้กันนั้น ก็ย่อมทำให้ต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ย่อมทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์ทำกำไรมากขึ้น และรักษาเงินดอลลาร์ได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะทำให้สหรัฐอเมริการมีรายได้มาช่วยชำระหนี้มากขึ้น

    ยังไม่นับความเสี่ยงประเทศคู่กรณีกับสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะถูกประเทศสหรัฐอเมริกาชักดาบ ไม่ต้องชำระหนี้พันธบัตรสหรัฐ และยึดทุนสำรองระหว่างประเทศมาชดใช้หนี้ให้สหรัฐอเมริการหรือให้มาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ด้วย

    กรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าฝ่ายรักษาเงินดอลลาร์ที่ได้ทำลายการขนส่งก๊าซของรัสเซียในยุโรปก็ดี การมีเป้าหมายทำลายบ่อน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่านก็ดี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำลายปิโตรเลียมของชาติอื่นๆ ที่จะไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน(ปิโตรดอลลาร์) เพื่อหวังจะทำให้ปิโตรเลียมที่ค้าขายด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นที่จะครองสัดส่วนหลักของโลกได้ต่อไป ซึ่งเป็นวิธีดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความเสี่ยงสูง เป็นการเดิมพันเพื่อรักษาเงินดอลลาร์เอาไว้ให้ได้

    นั่นหมายความว่า “ราคาน้ำมัน” มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปด้วย

    ดังนั้นลักษณะสงครามโลก หรือหากจะมีสงครามโรคเพื่อรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ”ไม่ให้เป็นสงครามที่มีผลกระทบต่อแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา

    แต่ก็ใช่ว่าแนวทางรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่แนวทางสันติวิธีแบบนี้จะทำได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศคู่กรณีอย่างจีน รัสเซีย ที่มีสมาชิก BRICS เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐให้ลดน้อยลง

    จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ซึ่งกำลังทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่างมีอาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ที่ไม่เพียงจะไม่แพ้สหรัฐอเมริกาและยุโรปเท่านั้น แต่ยังอาจจะเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย

    ดังนั้นการทำสงครามแบบ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ” อาจถูกโต้กลับด้วยแสนยานุภาพทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้เช่นกัน

    ในขณะที่การทำสงครามโรคระบาดก็อาจจะไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะหลังจากการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เริ่มทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงความเสียหายรอบด้าน และมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น ทั้งยารักษาโรค การพึ่งพาตัวเองได้สมุนไพร การเร่งรัดงานวิจัย หรือแม้กระทั่งการผลิตวัคซีน

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้ถ่วงอำนาจทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ด้วยการปล่อยกู้และลงทุนอันมหาศาลให้กับหลายประเทศที่ติดหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังขยายบทบาทการพึ่งพาทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศทั่วโลกมากกว่าสหรัฐอเมริกา และทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาลดลงไปด้วย และยังลงทุนก่อสร้างไปในธุรกิจพลังงาน และเหมืองแร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นตัวเปลี่ยนเทคโนโลยีของจีน ที่เหนือกว่าการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ

    จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐจะไม่สามารถรักษามูลค่าต่อไปได้ ต่อให้ปั่นกระแสข่าวการทำสงคราม การขึ้นภาษีกีดกันทางการค้า ต่างก็มีข้อจำกัดด้วยแสนยานุภาพของประเทศมหาอำนาจคู่กรณี

    ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้

    1.ความมั่นคงในทุนสำรองระหว่างประเทศที่จะต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินทรัพย์ให้ทันพลวัตต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    2.ต้องมีการบริหารจัดการรักษา “เสถียรภาพ” ค่าเงินบาทไม่ให้เกิดการ “ผันผวน” ผิดปกติเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน ควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กับความสามารถในการแข่งขันในเวทีการส่งออกและการนำเข้าระหว่างประเทศ

    3.ต้องบริหารจัดการให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าทั่วไทยอย่างจริงจัง

    4.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้พึ่งพาตัวเองได้ ในภาวะสงครามทั่วโลก

    5.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางยาด้านสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก

    แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลได้ตระหนักหรือมีวิสัยทัศน์กับปัญหาเหล่านี้เลย

    คงเหลือแต่ประชาชนเท่านั้นที่ได้อ่านบทความนี้ต้องเริ่มแสวงหาแนวทางการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน อาหาร และสมุนไพร หรือปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    10 ตุลาคม 2567
    ดอลลาร์สหรัฐจะเสื่อมค่าลง ถึงแม้จะพยายามก่อสงครามและโรคระบาดก็ตาม / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อ ดอลลาร์สหรัฐ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิมพ์แบงค์ก่อหนี้ไม่หยุดและไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ 2. การยึดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังหาสินทรัพย์อย่างอื่น อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงได้ต่อไป ก็ยิ่งทำให้เงินทั่วโลกเทขายพันธบัตรและเงินดอลลาร์หันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย (ซึ่งแปลงเป็นเงินสกุลอื่น) คริปโตเคอเรนซี่ และทองคำ ประเทศใดไม่ทันระวังตัว หลงเพลินกับดัชนีราคาหุ้นที่สูงขึ้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเสื่อมค่าลงด้วยเพราะดอลลาร์ที่ท่วมในทุนสำรองระหว่างประเทศกำลังเสื่อมค่าลงเช่นกั ด้วยเหตุผลนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มจะซื้อทองคำมากขึ้น เพื่อรักษามูลค่าของทุนสำรองระหว่างประเทศให้มั่นคง กว่าการมีสินทรัพย์ที่มีเงินดอลลาร์มากเกินไป ด้วยเหตุผลนี้ทองคำมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ดังนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องสั่งซื้อวัคซีนและยารักษาโรคในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา และยุโรป การก่อหนี้สาธารณอันมหาศาลเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ในการหาซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่อก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น บางประเทศที่ขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้ว ก็ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มากขึ้น และการที่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหรือโรคระบาดที่ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ก็คือการรักษาความต้องการเงินดอลลาร์ให้ยังคงอยู่ต่อไป และต้องถูกแลกมาด้วยการสูบทรัพยากรจากประเทศลูกหนี้เหล่านั้นให้มาชดใช้หนี้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและยุโรป และนี่คือเหตุผลสำคัญที่กระทรวงกลาโหมต้องออกมาปล่อยข่าวปลอมในการใส่ร้ายและทำลายวัคซีนจากจีน เพื่อต้องการสูบความมั่งคั่งจากทั่วโลกให้มาเพิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะดำรงได้ต่อไป จึงถูกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจบีบคั้นให้ลดอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเดินหน้าต่อไป แต่การลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก็แลกกลับมาด้วยเงินทุนไหลออกจากดอลลาร์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยมากกว่าอย่างรวดเร็ว ทั้งทองคำ เงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี่ หุ้นในประเทศในเอเชีย ส่งผลทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ เมื่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาดอลลาร์อย่างสันติวิธีได้ ประชาคมโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นปรากฏการณ์เร่งทำสงครามให้บานปลายมากขึ้น หรืออาจมีความเสี่ยงการก่อโรคระบาดใหม่ได้มากขึ้น เพราะการก่อสงครามของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียในสมรภูมิสงครามโดยตรง ทำให้หลายประเทศต้องซื้ออาวุธสงครามด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น และการปฏิบัติการด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่อสู้กันนั้น ก็ย่อมทำให้ต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ย่อมทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์ทำกำไรมากขึ้น และรักษาเงินดอลลาร์ได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะทำให้สหรัฐอเมริการมีรายได้มาช่วยชำระหนี้มากขึ้น ยังไม่นับความเสี่ยงประเทศคู่กรณีกับสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะถูกประเทศสหรัฐอเมริกาชักดาบ ไม่ต้องชำระหนี้พันธบัตรสหรัฐ และยึดทุนสำรองระหว่างประเทศมาชดใช้หนี้ให้สหรัฐอเมริการหรือให้มาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ด้วย กรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าฝ่ายรักษาเงินดอลลาร์ที่ได้ทำลายการขนส่งก๊าซของรัสเซียในยุโรปก็ดี การมีเป้าหมายทำลายบ่อน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่านก็ดี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำลายปิโตรเลียมของชาติอื่นๆ ที่จะไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน(ปิโตรดอลลาร์) เพื่อหวังจะทำให้ปิโตรเลียมที่ค้าขายด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นที่จะครองสัดส่วนหลักของโลกได้ต่อไป ซึ่งเป็นวิธีดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความเสี่ยงสูง เป็นการเดิมพันเพื่อรักษาเงินดอลลาร์เอาไว้ให้ได้ นั่นหมายความว่า “ราคาน้ำมัน” มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปด้วย ดังนั้นลักษณะสงครามโลก หรือหากจะมีสงครามโรคเพื่อรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ”ไม่ให้เป็นสงครามที่มีผลกระทบต่อแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา แต่ก็ใช่ว่าแนวทางรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่แนวทางสันติวิธีแบบนี้จะทำได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศคู่กรณีอย่างจีน รัสเซีย ที่มีสมาชิก BRICS เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐให้ลดน้อยลง จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ซึ่งกำลังทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่างมีอาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ที่ไม่เพียงจะไม่แพ้สหรัฐอเมริกาและยุโรปเท่านั้น แต่ยังอาจจะเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย ดังนั้นการทำสงครามแบบ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ” อาจถูกโต้กลับด้วยแสนยานุภาพทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้เช่นกัน ในขณะที่การทำสงครามโรคระบาดก็อาจจะไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะหลังจากการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เริ่มทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงความเสียหายรอบด้าน และมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น ทั้งยารักษาโรค การพึ่งพาตัวเองได้สมุนไพร การเร่งรัดงานวิจัย หรือแม้กระทั่งการผลิตวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้ถ่วงอำนาจทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ด้วยการปล่อยกู้และลงทุนอันมหาศาลให้กับหลายประเทศที่ติดหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังขยายบทบาทการพึ่งพาทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศทั่วโลกมากกว่าสหรัฐอเมริกา และทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาลดลงไปด้วย และยังลงทุนก่อสร้างไปในธุรกิจพลังงาน และเหมืองแร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นตัวเปลี่ยนเทคโนโลยีของจีน ที่เหนือกว่าการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐจะไม่สามารถรักษามูลค่าต่อไปได้ ต่อให้ปั่นกระแสข่าวการทำสงคราม การขึ้นภาษีกีดกันทางการค้า ต่างก็มีข้อจำกัดด้วยแสนยานุภาพของประเทศมหาอำนาจคู่กรณี ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้ 1.ความมั่นคงในทุนสำรองระหว่างประเทศที่จะต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินทรัพย์ให้ทันพลวัตต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 2.ต้องมีการบริหารจัดการรักษา “เสถียรภาพ” ค่าเงินบาทไม่ให้เกิดการ “ผันผวน” ผิดปกติเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน ควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กับความสามารถในการแข่งขันในเวทีการส่งออกและการนำเข้าระหว่างประเทศ 3.ต้องบริหารจัดการให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าทั่วไทยอย่างจริงจัง 4.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้พึ่งพาตัวเองได้ ในภาวะสงครามทั่วโลก 5.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางยาด้านสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลได้ตระหนักหรือมีวิสัยทัศน์กับปัญหาเหล่านี้เลย คงเหลือแต่ประชาชนเท่านั้นที่ได้อ่านบทความนี้ต้องเริ่มแสวงหาแนวทางการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน อาหาร และสมุนไพร หรือปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 10 ตุลาคม 2567
    Like
    Love
    Yay
    94
    4 ความคิดเห็น 9 การแบ่งปัน 1370 มุมมอง 5 รีวิว
  • 🇰🇵🇷🇺 เกาหลีเหนือกำลังเตรียมส่งกองกำลังติดอาวุธไปยังยูเครนเพื่อสนับสนุนรัสเซีย, รมว.กลาโหมเกาหลีใต้กล่าว
    .
    JUST IN: 🇰🇵🇷🇺 North Korea is preparing to deploy armed forces to Ukraine in support of Russia, South Korea's defense chief says.
    .
    8:53 AM · Oct 9, 2024 · 7,814 Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1843832160257761770
    🇰🇵🇷🇺 เกาหลีเหนือกำลังเตรียมส่งกองกำลังติดอาวุธไปยังยูเครนเพื่อสนับสนุนรัสเซีย, รมว.กลาโหมเกาหลีใต้กล่าว . JUST IN: 🇰🇵🇷🇺 North Korea is preparing to deploy armed forces to Ukraine in support of Russia, South Korea's defense chief says. . 8:53 AM · Oct 9, 2024 · 7,814 Views https://x.com/BRICSinfo/status/1843832160257761770
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.89 : นายกฯ ญี่ปุ่นคนใหม่ กำลังจะสร้าง “NATO เอเชีย” ?
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งมีการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่นะครับ คือ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า นายอิชิบะ ชิเงรุ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง รวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งก็เทียบเท่ากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศอื่น ๆ นั่นเอง
    .
    ประเด็นนึงที่นายอิชิบะ ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็คือ เขาเป็นผู้เสนอให้จัดตั้ง "นาโต้แห่งเอเชีย" เพื่อต่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากจีน รัสเซีย และก็เกาหลีเหนือ ข้อเสนอเช่นนี้เอง ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะเพิ่มมากขึ้น พอดแคส บูรพาไม่แพ้ วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น นายอิชิบะ ชิเงรุ รวมถึงนโยบายในด้านต่าง ๆ ของเขาว่าจะส่งผลต่อประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทยของเราอย่างไรบ้าง ?
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=wI-TgaqBSjY
    บูรพาไม่แพ้ Ep.89 : นายกฯ ญี่ปุ่นคนใหม่ กำลังจะสร้าง “NATO เอเชีย” ? . เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งมีการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่นะครับ คือ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า นายอิชิบะ ชิเงรุ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง รวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งก็เทียบเท่ากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศอื่น ๆ นั่นเอง . ประเด็นนึงที่นายอิชิบะ ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็คือ เขาเป็นผู้เสนอให้จัดตั้ง "นาโต้แห่งเอเชีย" เพื่อต่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากจีน รัสเซีย และก็เกาหลีเหนือ ข้อเสนอเช่นนี้เอง ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะเพิ่มมากขึ้น พอดแคส บูรพาไม่แพ้ วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น นายอิชิบะ ชิเงรุ รวมถึงนโยบายในด้านต่าง ๆ ของเขาว่าจะส่งผลต่อประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทยของเราอย่างไรบ้าง ? . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=wI-TgaqBSjY
    Like
    Angry
    Love
    Sad
    20
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts