• หยุดสารตั้งต้นให้เขมรลากเส้นตามใจชอบ อ้างเจรจาเรื่องเกาะกูด.ผมจะพูดกรณีที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เมินเปิดเวทีสาธารณะ เรื่อง MOU 44 แล้วที่สำคัญคือ ที่อ้างกันนักกันหนา ไม่ว่าจะจากคุณภูมิธรรม เวชยชัย และนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ว่า เกาะกูดยังเป็นของไทยจริงหรือเปล่า เพราะเท่าที่ทราบนั้น ฮุน มาแณต พูดออกมาแล้วว่าเกาะกูดเป็นของเขมร เหตุผลที่อ้างว่าเกาะกูดเป็นของเขมรได้ ก็เพราะว่า MOU 2544 นั่นเอง.ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณภูมิธรรมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า การที่ผมเสนอให้เปิดเวทีสาธารณะนั้น ไม่ได้เปิดเพื่อผม เปิดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบความจริง เพราะพวกคุณหมกเม็ดไว้หลายเรื่อง จนวันนี้คุณภูมิธรรม แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศ ท่านอธิบดีกรมสนธิสัญญา ก็ยังไม่ยอมพูดถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 ไม่เคยพูดถึงเลย หรือ ไม่กล้าพูด.ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ถ้าคุณยังรักษา MOU 2544 โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการ 2516 ประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนให้กับเขมร ถ้าเรื่องนี้ขึ้นไปสู่ศาลโลกแล้ว ไทยจะแพ้อย่างแน่นอน เหมือนกับคุณนพดล ปัทมะ เคยพูดเรื่องเขาพระวิหาร แล้วเราก็แพ้คดีที่ศาลโลก เราเสียพื้นที่เขาพระวิหารไปเรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะเสียพื้นที่ทางทะเล.คุณลืมไปแล้วหรือว่า ความจริงนั้นมีหนึ่งเดียว นี่คือธรรมขั้นสูงของพระพุทธเจ้า คุณหลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งประเทศไทยต้องเสียดินแดน นอกจากผมจะลงถนนไปประท้วงคุณแล้ว พวกคุณจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะเป็นอุ๊งอิ๊งค์ ไม่ว่าจะเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ คุณต้องรับผิดชอบ และผมจะตามล้างตามเช็ดคุณ ให้คุณรับผิดชอบ เพราะ MOU 2544 นั้นคือสารตั้งต้นของการที่ทำให้เขมรนั้นลากเส้นตามใจชอบได้.ส่วนทักษิณ ชินวัตร ก็บอกว่า ชี้แจงได้ เดี๋ยวจะพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ถ้าคุณจะพูดทั้งที คุณอธิบายเรื่องพระบรมราชโองการ 2516 หน่อยได้ไหม คุณไม่ควรจะละเลยพระบรมราชโองการ 2516 เพราะว่า 2566 คุณก็ยอมรับพระบรมราชโองการในการลดโทษให้คุณไม่ใช่หรือ ถ้าคุณยอมรับพระบรมราชโองการอันนี้ แล้วทำไม 2516 คุณถึงไม่ยอมรับ.รัฐบาลชุดนี้โกหกพกลมไปวันๆ ภูมิธรรมบอกเกาะกูดเป็นของไทย เขมรก็ยอมรับ อุ๊งอิ๊งค์ก็บอกว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่วันนี้ฮุน มาแฌต บอกว่าไม่ใช่ เป็นของมัน ส่วนนายฮุน เซน ทะลึ่ง พูดบอกว่ารัฐบาลสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แสดงว่าเขมรไม่ยอมใช่ไหม.มีใครเชื่อถือคุณได้บ้างเนี่ย คุณสะกดคำว่า รักชาติ รักแผ่นดิน ไม่เป็นเลยใช่ไหม คุณนึกว่าสนุกเหรอที่ผมจะต้องลงถนนในที่สุด แต่ผมยอมไม่ได้ ไม่ได้คลั่งชาติ ก็ในเมื่อมันเป็นของคนไทย พื้นที่อาณาเขตทะเลไทยรอบเกาะกูดก็เป็นของคนไทย แล้วจะมายกให้เขมรได้อย่างไร
    หยุดสารตั้งต้นให้เขมรลากเส้นตามใจชอบ อ้างเจรจาเรื่องเกาะกูด.ผมจะพูดกรณีที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เมินเปิดเวทีสาธารณะ เรื่อง MOU 44 แล้วที่สำคัญคือ ที่อ้างกันนักกันหนา ไม่ว่าจะจากคุณภูมิธรรม เวชยชัย และนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ว่า เกาะกูดยังเป็นของไทยจริงหรือเปล่า เพราะเท่าที่ทราบนั้น ฮุน มาแณต พูดออกมาแล้วว่าเกาะกูดเป็นของเขมร เหตุผลที่อ้างว่าเกาะกูดเป็นของเขมรได้ ก็เพราะว่า MOU 2544 นั่นเอง.ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณภูมิธรรมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า การที่ผมเสนอให้เปิดเวทีสาธารณะนั้น ไม่ได้เปิดเพื่อผม เปิดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบความจริง เพราะพวกคุณหมกเม็ดไว้หลายเรื่อง จนวันนี้คุณภูมิธรรม แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศ ท่านอธิบดีกรมสนธิสัญญา ก็ยังไม่ยอมพูดถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 ไม่เคยพูดถึงเลย หรือ ไม่กล้าพูด.ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ถ้าคุณยังรักษา MOU 2544 โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการ 2516 ประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนให้กับเขมร ถ้าเรื่องนี้ขึ้นไปสู่ศาลโลกแล้ว ไทยจะแพ้อย่างแน่นอน เหมือนกับคุณนพดล ปัทมะ เคยพูดเรื่องเขาพระวิหาร แล้วเราก็แพ้คดีที่ศาลโลก เราเสียพื้นที่เขาพระวิหารไปเรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะเสียพื้นที่ทางทะเล.คุณลืมไปแล้วหรือว่า ความจริงนั้นมีหนึ่งเดียว นี่คือธรรมขั้นสูงของพระพุทธเจ้า คุณหลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งประเทศไทยต้องเสียดินแดน นอกจากผมจะลงถนนไปประท้วงคุณแล้ว พวกคุณจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะเป็นอุ๊งอิ๊งค์ ไม่ว่าจะเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ คุณต้องรับผิดชอบ และผมจะตามล้างตามเช็ดคุณ ให้คุณรับผิดชอบ เพราะ MOU 2544 นั้นคือสารตั้งต้นของการที่ทำให้เขมรนั้นลากเส้นตามใจชอบได้.ส่วนทักษิณ ชินวัตร ก็บอกว่า ชี้แจงได้ เดี๋ยวจะพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ถ้าคุณจะพูดทั้งที คุณอธิบายเรื่องพระบรมราชโองการ 2516 หน่อยได้ไหม คุณไม่ควรจะละเลยพระบรมราชโองการ 2516 เพราะว่า 2566 คุณก็ยอมรับพระบรมราชโองการในการลดโทษให้คุณไม่ใช่หรือ ถ้าคุณยอมรับพระบรมราชโองการอันนี้ แล้วทำไม 2516 คุณถึงไม่ยอมรับ.รัฐบาลชุดนี้โกหกพกลมไปวันๆ ภูมิธรรมบอกเกาะกูดเป็นของไทย เขมรก็ยอมรับ อุ๊งอิ๊งค์ก็บอกว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่วันนี้ฮุน มาแฌต บอกว่าไม่ใช่ เป็นของมัน ส่วนนายฮุน เซน ทะลึ่ง พูดบอกว่ารัฐบาลสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แสดงว่าเขมรไม่ยอมใช่ไหม.มีใครเชื่อถือคุณได้บ้างเนี่ย คุณสะกดคำว่า รักชาติ รักแผ่นดิน ไม่เป็นเลยใช่ไหม คุณนึกว่าสนุกเหรอที่ผมจะต้องลงถนนในที่สุด แต่ผมยอมไม่ได้ ไม่ได้คลั่งชาติ ก็ในเมื่อมันเป็นของคนไทย พื้นที่อาณาเขตทะเลไทยรอบเกาะกูดก็เป็นของคนไทย แล้วจะมายกให้เขมรได้อย่างไร
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • หยุดสารตั้งต้นให้เขมรลากเส้นตามใจชอบ อ้างเจรจาเรื่องเกาะกูด
    .
    ผมจะพูดกรณีที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เมินเปิดเวทีสาธารณะ เรื่อง MOU 44 แล้วที่สำคัญคือ ที่อ้างกันนักกันหนา ไม่ว่าจะจากคุณภูมิธรรม เวชยชัย และนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ว่า เกาะกูดยังเป็นของไทยจริงหรือเปล่า เพราะเท่าที่ทราบนั้น ฮุน มาแณต พูดออกมาแล้วว่าเกาะกูดเป็นของเขมร เหตุผลที่อ้างว่าเกาะกูดเป็นของเขมรได้ ก็เพราะว่า MOU 2544 นั่นเอง
    .
    ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณภูมิธรรมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า การที่ผมเสนอให้เปิดเวทีสาธารณะนั้น ไม่ได้เปิดเพื่อผม เปิดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบความจริง เพราะพวกคุณหมกเม็ดไว้หลายเรื่อง จนวันนี้คุณภูมิธรรม แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศ ท่านอธิบดีกรมสนธิสัญญา ก็ยังไม่ยอมพูดถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 ไม่เคยพูดถึงเลย หรือ ไม่กล้าพูด
    .
    ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ถ้าคุณยังรักษา MOU 2544 โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการ 2516 ประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนให้กับเขมร ถ้าเรื่องนี้ขึ้นไปสู่ศาลโลกแล้ว ไทยจะแพ้อย่างแน่นอน เหมือนกับคุณนพดล ปัทมะ เคยพูดเรื่องเขาพระวิหาร แล้วเราก็แพ้คดีที่ศาลโลก เราเสียพื้นที่เขาพระวิหารไปเรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะเสียพื้นที่ทางทะเล
    .
    คุณลืมไปแล้วหรือว่า ความจริงนั้นมีหนึ่งเดียว นี่คือธรรมขั้นสูงของพระพุทธเจ้า คุณหลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งประเทศไทยต้องเสียดินแดน นอกจากผมจะลงถนนไปประท้วงคุณแล้ว พวกคุณจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะเป็นอุ๊งอิ๊งค์ ไม่ว่าจะเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ คุณต้องรับผิดชอบ และผมจะตามล้างตามเช็ดคุณ ให้คุณรับผิดชอบ เพราะ MOU 2544 นั้นคือสารตั้งต้นของการที่ทำให้เขมรนั้นลากเส้นตามใจชอบได้
    .
    ส่วนทักษิณ ชินวัตร ก็บอกว่า ชี้แจงได้ เดี๋ยวจะพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ถ้าคุณจะพูดทั้งที คุณอธิบายเรื่องพระบรมราชโองการ 2516 หน่อยได้ไหม คุณไม่ควรจะละเลยพระบรมราชโองการ 2516 เพราะว่า 2566 คุณก็ยอมรับพระบรมราชโองการในการลดโทษให้คุณไม่ใช่หรือ ถ้าคุณยอมรับพระบรมราชโองการอันนี้ แล้วทำไม 2516 คุณถึงไม่ยอมรับ
    .
    รัฐบาลชุดนี้โกหกพกลมไปวันๆ ภูมิธรรมบอกเกาะกูดเป็นของไทย เขมรก็ยอมรับ อุ๊งอิ๊งค์ก็บอกว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่วันนี้ฮุน มาแฌต บอกว่าไม่ใช่ เป็นของมัน ส่วนนายฮุน เซน ทะลึ่ง พูดบอกว่ารัฐบาลสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แสดงว่าเขมรไม่ยอมใช่ไหม
    .
    มีใครเชื่อถือคุณได้บ้างเนี่ย คุณสะกดคำว่า รักชาติ รักแผ่นดิน ไม่เป็นเลยใช่ไหม คุณนึกว่าสนุกเหรอที่ผมจะต้องลงถนนในที่สุด แต่ผมยอมไม่ได้ ไม่ได้คลั่งชาติ ก็ในเมื่อมันเป็นของคนไทย พื้นที่อาณาเขตทะเลไทยรอบเกาะกูดก็เป็นของคนไทย แล้วจะมายกให้เขมรได้อย่างไร
    หยุดสารตั้งต้นให้เขมรลากเส้นตามใจชอบ อ้างเจรจาเรื่องเกาะกูด . ผมจะพูดกรณีที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์เมินเปิดเวทีสาธารณะ เรื่อง MOU 44 แล้วที่สำคัญคือ ที่อ้างกันนักกันหนา ไม่ว่าจะจากคุณภูมิธรรม เวชยชัย และนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ว่า เกาะกูดยังเป็นของไทยจริงหรือเปล่า เพราะเท่าที่ทราบนั้น ฮุน มาแณต พูดออกมาแล้วว่าเกาะกูดเป็นของเขมร เหตุผลที่อ้างว่าเกาะกูดเป็นของเขมรได้ ก็เพราะว่า MOU 2544 นั่นเอง . ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณภูมิธรรมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า การที่ผมเสนอให้เปิดเวทีสาธารณะนั้น ไม่ได้เปิดเพื่อผม เปิดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบความจริง เพราะพวกคุณหมกเม็ดไว้หลายเรื่อง จนวันนี้คุณภูมิธรรม แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศ ท่านอธิบดีกรมสนธิสัญญา ก็ยังไม่ยอมพูดถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 ไม่เคยพูดถึงเลย หรือ ไม่กล้าพูด . ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ถ้าคุณยังรักษา MOU 2544 โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการ 2516 ประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนให้กับเขมร ถ้าเรื่องนี้ขึ้นไปสู่ศาลโลกแล้ว ไทยจะแพ้อย่างแน่นอน เหมือนกับคุณนพดล ปัทมะ เคยพูดเรื่องเขาพระวิหาร แล้วเราก็แพ้คดีที่ศาลโลก เราเสียพื้นที่เขาพระวิหารไปเรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะเสียพื้นที่ทางทะเล . คุณลืมไปแล้วหรือว่า ความจริงนั้นมีหนึ่งเดียว นี่คือธรรมขั้นสูงของพระพุทธเจ้า คุณหลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งประเทศไทยต้องเสียดินแดน นอกจากผมจะลงถนนไปประท้วงคุณแล้ว พวกคุณจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะเป็นอุ๊งอิ๊งค์ ไม่ว่าจะเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ คุณต้องรับผิดชอบ และผมจะตามล้างตามเช็ดคุณ ให้คุณรับผิดชอบ เพราะ MOU 2544 นั้นคือสารตั้งต้นของการที่ทำให้เขมรนั้นลากเส้นตามใจชอบได้ . ส่วนทักษิณ ชินวัตร ก็บอกว่า ชี้แจงได้ เดี๋ยวจะพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ถ้าคุณจะพูดทั้งที คุณอธิบายเรื่องพระบรมราชโองการ 2516 หน่อยได้ไหม คุณไม่ควรจะละเลยพระบรมราชโองการ 2516 เพราะว่า 2566 คุณก็ยอมรับพระบรมราชโองการในการลดโทษให้คุณไม่ใช่หรือ ถ้าคุณยอมรับพระบรมราชโองการอันนี้ แล้วทำไม 2516 คุณถึงไม่ยอมรับ . รัฐบาลชุดนี้โกหกพกลมไปวันๆ ภูมิธรรมบอกเกาะกูดเป็นของไทย เขมรก็ยอมรับ อุ๊งอิ๊งค์ก็บอกว่าเกาะกูดเป็นของไทย แต่วันนี้ฮุน มาแฌต บอกว่าไม่ใช่ เป็นของมัน ส่วนนายฮุน เซน ทะลึ่ง พูดบอกว่ารัฐบาลสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แสดงว่าเขมรไม่ยอมใช่ไหม . มีใครเชื่อถือคุณได้บ้างเนี่ย คุณสะกดคำว่า รักชาติ รักแผ่นดิน ไม่เป็นเลยใช่ไหม คุณนึกว่าสนุกเหรอที่ผมจะต้องลงถนนในที่สุด แต่ผมยอมไม่ได้ ไม่ได้คลั่งชาติ ก็ในเมื่อมันเป็นของคนไทย พื้นที่อาณาเขตทะเลไทยรอบเกาะกูดก็เป็นของคนไทย แล้วจะมายกให้เขมรได้อย่างไร
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดช่องยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลฉีก MOU2544 ก่อนตัดสินใจลงถนน
    .
    ปมประเด็นปัญหาในเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาผ่านกรณีMOU 2544 นั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ และมีนักวิชาการ รวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิออกมาให้ความเห็นเป็นอย่างมาก โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "MOU 2544 มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่? กรณีที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุลและคณะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2567 ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU 2544 และ JC 2544 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตยและบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องและเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยนั้น ผมเห็นด้วยกับเหตุผลตามหนังสือดังกล่าวทุกประการ เพราะหากรัฐบาลยังดำเนินการใดๆต่อไปตาม MOU 2544 เท่ากับเป็นการเปลี่ยนสถานภาพในหลักการสำคัญ จากการ “ปฏิเสธ”เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย กลายเป็น “การรับรู้” พื้นที่อ้างสิทธิเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ขีดเส้นตามอำเภอใจและไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลโดยปริยาย"
    .
    "ดังนั้นการที่รัฐบาลไทย “รับรู้” การลากเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากล แม้ว่ารัฐบาลไทยจะอ้างว่ายังคงปฏิเสธการลากเส้นของกัมพูชาดังกล่าว ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตีความได้ว่าราชอาณาจักรไทยได้ “สละสิทธิ” จุดแข็งที่สุดของเราคือการลากเส้นไหล่ทวีปตามกฎหมายสากลเพียงอย่างเดียว และกลายเป็นการยอมรับความไม่ชัดเจนของพื้นที่อาณาเขตทางทะเลว่ามีความเหลื่อมซ้อนกันอยู่ระหว่างสองประเทศ ตลอดทั้งการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทยในทำนองว่าหากตกลงกันไม่ได้ ก็แบ่งครึ่งกัน จึงอาจเข้าทำนองรอยเดิมกรณีปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายไทยต้องพ่ายแพ้ด้วยเหตุผลของ “กฎหมายปิดปาก” นั่นเอง"
    .
    นายธีรภัทร์ ให้ความเห็นอีกว่า ข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะให้นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติให้ส่ง MOU 2544และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อสงสัยนี้เสียก่อนนั้น จึงเป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุมีผลที่รัฐบาลควรสนองตอบ และเป็นทางออกที่เป็นไปตามกติกาของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่สนองตอบข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะ ผมก็ขอเสนอต่อไปว่าคุณสนธิและคณะควรจะเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินตามมาตรา 231 ของรัฐธรรมนูญฯเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองแล้วแต่กรณีเพื่อพิจารณาให้ได้ข้อยุติต่อไปได้ หากกระบวนการโดยสันติตามรัฐธรรมนูญฯไม่บังเกิดผลแล้ว จึงค่อยใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯกันต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    เปิดช่องยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลฉีก MOU2544 ก่อนตัดสินใจลงถนน . ปมประเด็นปัญหาในเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาผ่านกรณีMOU 2544 นั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ และมีนักวิชาการ รวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิออกมาให้ความเห็นเป็นอย่างมาก โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "MOU 2544 มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่? กรณีที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุลและคณะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2567 ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU 2544 และ JC 2544 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตยและบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องและเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยนั้น ผมเห็นด้วยกับเหตุผลตามหนังสือดังกล่าวทุกประการ เพราะหากรัฐบาลยังดำเนินการใดๆต่อไปตาม MOU 2544 เท่ากับเป็นการเปลี่ยนสถานภาพในหลักการสำคัญ จากการ “ปฏิเสธ”เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย กลายเป็น “การรับรู้” พื้นที่อ้างสิทธิเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ขีดเส้นตามอำเภอใจและไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลโดยปริยาย" . "ดังนั้นการที่รัฐบาลไทย “รับรู้” การลากเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากล แม้ว่ารัฐบาลไทยจะอ้างว่ายังคงปฏิเสธการลากเส้นของกัมพูชาดังกล่าว ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตีความได้ว่าราชอาณาจักรไทยได้ “สละสิทธิ” จุดแข็งที่สุดของเราคือการลากเส้นไหล่ทวีปตามกฎหมายสากลเพียงอย่างเดียว และกลายเป็นการยอมรับความไม่ชัดเจนของพื้นที่อาณาเขตทางทะเลว่ามีความเหลื่อมซ้อนกันอยู่ระหว่างสองประเทศ ตลอดทั้งการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทยในทำนองว่าหากตกลงกันไม่ได้ ก็แบ่งครึ่งกัน จึงอาจเข้าทำนองรอยเดิมกรณีปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายไทยต้องพ่ายแพ้ด้วยเหตุผลของ “กฎหมายปิดปาก” นั่นเอง" . นายธีรภัทร์ ให้ความเห็นอีกว่า ข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะให้นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติให้ส่ง MOU 2544และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อสงสัยนี้เสียก่อนนั้น จึงเป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุมีผลที่รัฐบาลควรสนองตอบ และเป็นทางออกที่เป็นไปตามกติกาของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่สนองตอบข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะ ผมก็ขอเสนอต่อไปว่าคุณสนธิและคณะควรจะเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินตามมาตรา 231 ของรัฐธรรมนูญฯเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองแล้วแต่กรณีเพื่อพิจารณาให้ได้ข้อยุติต่อไปได้ หากกระบวนการโดยสันติตามรัฐธรรมนูญฯไม่บังเกิดผลแล้ว จึงค่อยใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯกันต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 525 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย ออกฝึกทาง #ทะเล พื้นที่ #อ่าวไทย เพื่อเสริมความ #ชำนาญ #แข็งแกร่ง พร้อมดูแล #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย ของ #ประเทศไทย ตามแผนที่ใน #พระบรมราชโองการ และ #สคส #พระราชทาน ปี 2547
    #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย ออกฝึกทาง #ทะเล พื้นที่ #อ่าวไทย เพื่อเสริมความ #ชำนาญ #แข็งแกร่ง พร้อมดูแล #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย ของ #ประเทศไทย ตามแผนที่ใน #พระบรมราชโองการ และ #สคส #พระราชทาน ปี 2547
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12-12-67/01 : หมี CNN / แผนซ้อน 3 ชั้นครึ่ง บวกเกลียวอีกครึ่งรอบ ไอ้สัส! จะเยอะไปไหน? นี่กะ ให้อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ สิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยชิมิ? จากมหาอำนาจกลายร่างเป็นขอทาน ในช่วงไม่กี่ปี? โหดสลัดรัสเซียของจริง!"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 1 ไม่ได้แค่ล่อให้เข้ามาติดกับดักตายอย่างเดียว"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 2 ดูดเงิน ทรัพยากรเหี้ย กำลังพล มากกว่าเก่าเยอะ"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 3 ปลดแอกตะวันออกกลาง ยุโรป แปซิฟิค ทีเดียวหากเริ่มดูตั้งแต่แรก ที่ปูตินยกพลบุกยูเครน เพื่อทำลายแนวกันชนเก่า ขยายพื้นที่ กินทรัพยากรสำคัญทั้งหมดที่ยูเครนมี แล้วขยายต่อไปยังใจกลางยุโรป ทั้งหมดคือแผนเดินสู่ท่อแก็สอาร์คติค จากนั้น ขยายแนวรบ หันมาขยี้อียิว นายใหญ่เหี้ยไอ้อีตะวันตก เพราะรู้ดีว่า ขี้ข้าต้องแห่กันมาช่วยอุ้ม แล้วเป็นยังไง หมดตูดตามกัน หลัง 2.5 ปี แห่งศึกยูเครน EU NATO ถังแตก หมดตูด เศรษฐกิจพังยับ เพราะไม่มีพลังงานรัสเซียราคาถูกมาใช้ เกือบ 3 ปี ที่ต้องจ่ายแพง เจ๊งสิจ๊ะ อุตสาหกรรมหลัก อุตสาหกรรมใหญ่ ปิดกิจการเพราะแบกต้นทุนไม่ไหว เกณฑ์ทหารเพิ่มเป็นรอบที่ 10 กลับมาเป็นถุงดำเพี๊ยบ หมดทั้งเงิน อำนาจ กำลังพล ทำให้ต้องถอย ตีตัวห่างจากอียิว ดาบหนักสุดคือ "ดอกนี้" ล่ออียิวให้เข้ามาซีเรีย มันต้องใช้กำลังพลมากเท่าไหร่ มันต้องใช้อาวุธอีกเท่าไหร่ มันต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ แล้วจะไปเอามาจากไหน หากไม่ใช่ขี้ข้าไงล่ะ? ที่มาว่าทำไม หุ่นเชิดผู้นำทั่วยุโรป ถูกเช็คบิล เก้าอี้ร่วงกันหมด เพราะประจักษ์ชัดแล้วว่า มรึงไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อยิว อ๋อ..ควายเพิ่งจะตื่น เป็นไง ประชาธิปไตยแดร๊กได้มั้ยล่ะ? การที่ปูตินเดินแผน ย้ายอัสซาดออกไป ใช้หุ่นเชิดแทน เอาอีไก่งวงที่เสี้ยนอยากจะฆ่าล้างโคตรอีเคิร์กกบฎ เอามาเสียบ ดอกนี้ ยิงปืนนัดเดียว เหี้ยตายทั้งฝูง เพราะอีไก่งวงมันเป็นชาติสมาชิกนาโต้ นาโต้มีกฎจะไม่รบกันเอง นี่คือเงื่อนไข ช่องโหว่ ให้ไอ้อีขี้ข้ายิวที่เตรียมย้ายขั้ว ใช้เป็นข้ออ้างไม่เดินหน้าต่อ ไม่ช่วยอียิวไงล่ะ และเป็นเหตุให้อีไก่งวงประกาศถอนตัวออกจาก NATO แล้วจะมีตามมาอีกเพี๊ยบ แค่รอมรึงเปิดฟลอร์เท่านั้นเอง แตกทั้ง NATO แตกทั้ง EU ไม่งั้น อีลูคาเชนโก คงไม่ยิ้มแก้มหุบดอก ว่าของดี ของหนัก อยู่ในมือกู WAGNER อยู่เป็นกองทัพ กูจะไล่ฆ่าใครก็ได้ เสร็จกูล่ะ? ลูคาเชนโกซี้ปูติน ย่อมรู้ดีว่า เพื่อนรักต้องการอะไร เดี๋ยวเปิดพรมแดงปูทางสู่ลอนดอนให้จ๊ะ ไล่กวาดทั้งอีโปล อี 3 เสือก อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ให้ฟรีฟรี ไม่คิดตังค์ แค่เติมของดี ของหนักให้ก็พอแล้ว? อาร์คติคมาชัวร์ ใครก็หยุดไม่ได้! เมื่อตะวันออกกลางแพ้ยับ เมื่อยุโรปเละเทะ เหี้ยยิวจะหนีไปไหนได้อีก นอกจากโดนตรีนผู้นำโลกคนใหม่จากจีน ตบหัวคว่ำคะมำ แค่อีปินส์ แค่อีไต้หวัน แค่ที่รองตรีนจีนเท่านั้น อยากหยุดกูมรึงต้องมาเอง มาตายห่าที่นี่ นั่นแหละแผนกู เมื่อสงครามเดินหน้าไป แต่อีกฝ่ายขั้วใหม่ การค้ารุ่งเรือง ต่อยอดโลกเชื่อมหากันสำเร็จ จะกลายเป็นว่า มรึงรบไป ผลาญคลังจนถังแตก แต่ขั้วใหม่ เงินเติมทุกวันไม่มีหมด เหตุเพราะ BRICS แลกเปลี่ยน ซื้อขาย กันในกลุ่ม ไม่ต้องอาศัยอัตราแลกเปลี่ยนเหี้ย ที่กดควายโลกมาโดยตลอด ดังนั้น ทรัพยากรขั้วใหม่ จึงไม่มีหมด มีเติมทุกวัน แต่เหี้ยใช้ออกทุกวัน นี่คือความแตกต่างของผู้ชนะ กับผู้แพ้ราบคาบ มีที่ไหน รัสเซียทำสงครามยูเครนเกือบ 3 ปี แต่เงินยังอยู่ครบ แถมมีเพิ่มขึ้น ขายน้ำมันน้อยกว่าเดิม แต่กำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า ไม่อัจฉริยะ ทำไม่ได้ดอก ที่มาว่าทำไมเปลี่ยนขุนคลัง มาเป็นแม่ทัพซะงั้น เพราะทุกการรบ มีรายจ่ายที่ต้องจ่าย อ่านขาด ปล่อยให้คลังเหี้ยเจ๊งตามกันไป เพราะควบคุมการเงินไม่ได้ เมื่อคลังแตก แผ่นดินก็ล่มสลาย ฆ่าที่ปากท้องมรึง น่ากลัวกว่าตายในสมรภูมิซะอีก เพราะมันฆ่าถึงคนข้างหลัง ครอบครัวลูกหลานมรึงทั้งหมดด้วย จะไม่มีแดร๊กอีกนานสิ่งที่ปูตินทำอยู่ตอนนี้ แค่เอาตัวปัญหาที่เหี้ยอ้างมาโดยตลอดออกไป(อัสซาด) ยามเมื่อเคลียร์เหี้ยตายห่าเกลื่อนแผ่นดินสำเร็จ อัสซาดจะกลับมาอย่างวีรบุรุษก็ได้ หรืออยู่ยาวที่มอสโคว์ก็ได้ ใช้หุ่นเชิดต่อไป แผนนี้ เรียกใช้บริการอีไก่งวง เพราะจัดการปัญหาคาบสมุทรไซนาย ที่คาราคาซังมาช้านาน เอาให้จบเสียที เพื่อเดินหน้าสิ่งใหม่กว่า ดีกว่า และแบ่งปันเท่าเทียม เหมาะแล้วที่ใช้อีเติร์กมหาภัย เพราะมันเสี้ยนจัดปลัดบอก แค่ได้ยินชื่อเคิร์ด ฆ่าให้ฟรี ไม่มีชาร์ต แล้วอียิวมันส่งกองทัพแห่เข้ามาซีเรีย อ้างยึดที่ราบสูงโกลาน ถามคำเดียว มรึงเข้ามาแล้วยังไงต่อ จะอยู่ต่อยังไง ต้องใช้อะไรเพิ่ม ต้องจ่ายอะไรบ้าง ต้องสร้างอะไรเพิ่มอีก อ้าว..แล้วหลังบ้านมรึง ที่ถูกถล่มยับทุกวันเนี่ย ใครจะดูแล มันคือแผนบีบขยายกองกำลังอียิว สหรัฐ NATO ให้แตก LINE ไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้อ่อนแอ เพราะกำลังพลไม่พอ เทียบโลกอาหรับไม่ได้ แถมยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นไม่สังเกตุเหรอ? ทำไม ปูตินต้องใช้แผนนี้ ในฤดูหนาว คิดสิจ๊ะ? หนาวมาอะไรแพง? หนาวมาอะไรขาด? หนาวมาอะไรสำคัญที่สุด ทั้งอาวุธ เงิน อาหาร พลังงาน กำลังพล จะถูกใช้มากที่สุดก็หนาวนี้แหละ เอาอียิวมาติดหล่มสงครามต่อในตะวันออกกลาง ด้านยุโรปยิ่งฉลุย เพราะจะไม่มีใครมาช่วยอีเสี้ยนยาต่อ แปลว่ารัสเซียไม่เหนื่อย ยึดยูเครนเบ็ดเสร็จ ตบอีโปล ล่ออีฟินน์ ขยี้อีสวิงกิ้ง และตบท้ายด้วยเขมือบอีลอนดอน แค่นี้ ท่อแก็สอาร์คติค ก็ผ่านฉลุย สวยเก๋ ยิ่งกว่าออด๊าส! คำถามที่ทุกคนรอดคอย? ปล่อยอียิวยึดซีเรียแล้วจะยึดคืนยังไง? ระดับปูติน ไม่มั่นใจ 1000% ไม่เดินแผนนี้ ก็โง่! เพราะอ่านขาด ทุกอย่างเป็นต่อ และได้เปรียบอย่างมหาศาล ไม่ใช้แผนนี้ มันจะไม่จบน่ะสิ นี่คือ "ปิดเกมส์" ไบ้ให้ ต่อให้มรึงยึดซีเรียไป แต่เยรูซาเล็มแตก แล้วมรึงอยู่วงล้อมชาติอริทั่วตะวันออกกลาง จะไปรอดมั้ย? 3 ฮอ ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ยึดแผ่นดินคานาอันได้ชัวร์ เค้าถึงปล่อยให้มรึงย้ายฐานมาซีเรีย เพราะยิ่งปิดง่ายขึ้น เมื่อบ้านไม่มีอยู่ ไอ้ที่มรึงยึดได้คือเมืองร้าง มีประโยชน์อะไร? แถมอีไก่งวงอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด ใครจะแพ้กันล่ะ? สรุปคือ "แผนเมืองร้าง" คือยาเร่งผลลัพธ์แพ้ชนะทันควันปล.ปูตินไม่ได้คุยแค่กับโลกอาหรับ แต่คุยกับอีทรัมปป์ด้วย หากเป็นไปตามที่หมีคิด เดี๋ยวมรึงดู ศึกในอเมริกาให้ดีดี อีทรัมปป์จะทำอะไรช็อคโลกให้มรึงได้เห็นแน่ เพราะเป้าหมายเดียวกัน คือ "กำจัด DEEP STATE" งานนี้ หากไม่มีขั้วใหม่ช่วย อีทรัมปป์ทำคนเดียวไม่ได้ดอก เพราะอีลา ยังคงเป็นขวากหนาม ดูทรงให้ดี ที่ผ่านมา ขั้วใหม่ ตัดแหล่งรายได้เหี้ยยิว ตัดแหล่งเงินฟอก ตัดโลจิสติคขนส่ง ตัดอิทธิพลเหี้ยในทุกภูมิภาคโลก ทั้งหมดเพื่ออะไร? ย่อส่วนอเมริกาให้เล็กลง เป็นไปตามแผนที่อีทรัมปป์ต้องการ แตกอเมริกา อียิวได้บ้าน อีทรัมปป์ได้แผ่นดินตัวเอง ปาเลสไตน์ได้แผ่นดินคืน ตะวันออกกลางรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ยุโรปหมดสภาพ นี่คือภาพรวมที่มรึงจะได้เห็นอีกไม่ช้า บอกเลยว่า..ทุกอย่างถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาคิด? การล่อให้ศัตรูเข้ามาในแผ่นดินที่มรึงคุ้นเคย กับดักวางไว้เพี๊ยบ กองทัพไก่งวง ได้ถ่ายเทอาวุธ โยกย้าย ของหนักเข้ามาเติม มรึงคิดว่าซีเรียจะไม่ปึ๊กได้อย่างไร เพราะทุกอย่างอยู่ครบ แค่เปลี่ยนหัว เปลี่ยนมือที่มองไม่เห็น เข้ามาจัดการแทนข้ามวิกแป๊บ มีคนถาม กองเรือรัสเซียที่อยู่อ่าวไทย เรือสหรัฐอยู่ใต้ แปลว่าอะไร? แปลว่า "มรึงเขยิบ กูขยับ" รัสเซียไม่จำเป็นต้องรีบแสดงความเป็นเจ้าของภูมิภาค แค่สะกดให้มรึงนิ่งก็ชนะแล้ว กองเรือจีนยิ่งใหญ่มหาศาล แค่แห่ส่งมาเติม มรึงคิดว่าเหี้ยมันจะอยู่ต่อมุย? เกาะแสปรดลี่ย์ ทุกวันนี้คือ ฐานทัพจีนที่ทรงพลังมากที่สุดแห่งนึง เค้าดักทางรอเหี้ยโผล่นานแล้ว อาเซียนจับมือกันมั่น อีปินส์ยังไงก็แหกมติอาเซียนไม่ได้ ถูกถีบทันที อยากออกก็เชิญ มรึงจะหมาหัวเน่าทันที ทำไม อเมริกาไม่กล้าเปิดหน้ากับจีน เพราะศักยภาพเป็นรอง หมายังรู้ แต่ควายไม่รู้ ถึงได้แต่เปิดสงครามการค้าแก้เกี้ยว มรึงคิดว่าอีทรัมปป์มันสนเหรอ? มันแค่ต้องการเป็น KING มีแผ่นดินของตัวเอง แผ่นดินอื่นจะต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงตายเพื่อไอ้อีที่จ้องจะฆ่ากูไปทำไมกันล่ะ? ใช่ อีทรัมปป์มันทิ้งอียิวเหี้ยไซออนนิสต์นานแล้ว ถึงได้โดนไป 200 กว่าคดีไงล่ะ โคตรพ่อง โคตรแม่ ทำอย่างกะขายถั่วต้ม ฟ้องแหลก ขนาดแอบตดยังโดน! แล้วทำไม อีทรัมปป์ ถึงไม่อยากจะเอาคืนบ้างล่ะ? เรื่องบ้านเรา ปล่อยศรีธนญชัย เค้าเล่นแร่แปรวิญญานไป สนุกเค้าล่ะ แค่เหลืองสยองออกมาลงชื่อ สื่อยังตีอย่างกะล้มรัฐบาล กลัวขี้หดตดหายกันใหญ่ ยามใหญ่บอก ยังไม่ต้องรีบกลัว เพราะมรึงยังต้องมีอะไรให้กลัวอีกเยอะ เหี้ัยแบบนี้ กูชอบ! อ่านเกมส์ให้ขาด ทำไม ยามใหญ่ถึงดึงประเด็น "พระบรมราชโองการ" ออกมา ชูแผนที่สคส.ในหลวงร.9 มันชัดซะยิ่งกว่าชัด พ่อยืนยันขอบเขตพื้นที่ด้วยตัวเอง ใครหน้าไหน กล้าขัดราชโองการ โทษ "ประหารชีวิต" มรึงกล้ามั้ยล่ะ? ศาลรอ ปล.2 พระราชโองการ อยู่เหนือกว่ากฎหมาย ซะอีก โปรดเกล้าต้องมีตราตั้ง มรึงไม่ต้องแปล จะแถยังไงดูรากเหง้ามรึงด้วย ใครคือ พระเจ้าแผ่นดิน ชื่อก็บอก ว่าทุกอย่างในแผ่นดินนี้ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว แม้แต่ชีวิตมรึง! เชิญเอาประชาธิปไตยไปแดร๊กแถวอเมริกา ยุโรป ที่กำลังจะบ้าคลั่งไล่ฆ่า แย่งกันแดร๊กอยู่ตอนนี้เหอะ ยังไง กูเอาหัวเป็นประกันได้เลย ในรัชสมัยตั้งแต่พ่อร.10 ขึ้นไป จะมีแต่จะเพิ่มพูลแผ่นดินขยายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีลด ไม่มีเสียดินแดน มีแต่เพิ่ม เพิ่ม และเพิ่ม รวมทั้งประชากรโลก ที่จะขอเข้ามาอาศัยใต้ร่มไพธิ์พ่อท่าน แค่ตอนนี้ ชาวโลกแห่กันเข้ามาขออยู่อาศัยแล้วเท่าไหร่รู้มั้ย? ไม่มีที่ไหน อุ่นใจ สบายใจ เท่าเมืองไทย เราถึงได้เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ไงล่ะ "หยวนๆ อะไรก็ได้ รักสงบ ยิ้มสิจ๊ะ อยากได้อะไรมีหมด แสง สี เสียง แหล่งโลกีย์ ไม่ต้องไปหาที่ไหน ที่นี่คือจบ"ปล.3 ช่วงนี้ จะยังไม่โพสอี FCUK BOOK เพราะมันเพิ่งจะล็อคบัญชีหมี "สัประยุทธ ทะลุฟ้า" ไปหมาดๆ ใครมี FB เอาโพสหมีไปโพสแทนได้เลย นั่นทำให้คนที่ติดตามแต่ใน FB ยังจะพอเห็นหมี CNN ยังอยู่ เห็นใจสว. แต่หากเข้า LINE ได้ เล่น LINE เป็น ก็ไม่จำเป็นต้องมี FB อีกต่อไป กูต่อยอดไปนานแล้ว คนตามหมีใน FB ก็ติดตามนานแล้ว ทำไม เค้าจะไม่รู้ว่ามีช่องทางอื่นให้เลือก หมีจะไม่ลบเพจ มหากาพย์สุดยอด เพราะมันแจ้งมาว่า รออีก 175 วัน ถึงจะกลับมาใช้ใหม่ได้ แปลว่า อีก 6 เดือน ค่อยเจอหมีใหม่ใน FB แต่ตอนนี้ ตามที่อื่นแทนไปก่อนน่ะจ๊ะหมี CNN(มันยากที่จะอธิบายหมากบนกระดานให้ผู้ที่ไม่เข้าใจฟัง เพราะตาดู หูฟัง แต่ละวัน เสพแต่สิ่งที่เหี้ยให้มา ปัญญาจะเกิดได้ ต้องหลุดพ้นจากบ่วงกรรมเหี้ยก่อน การมาเสพเพจหมี ก็เป็น 1 ในเครื่องมือเตือนสติของแสง เพราะกูเน้นปัญญา เอามันส์ เอาฮา และแฝงคติธรรมเสมอ ไม่ได้หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ แค่ 1 คนที่ GET หมดที่กูพูด คือกูได้สร้างหมี CNN ตัวที่ 2 ขึ้นมาสำเร็จแล้ว เพราะกูจะเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย วันที่กูไม่อยู่ จะมีหมี CNN เกลื่อนสยามประเทศ เหมือนที่พ่อครูสอนให้มา กูรับมาแล้วต่อยอด ส่งต่อให้ผู้มีปัญญา แต่ละคน ต่างมีของของตัวเอง ใช้แนวที่ถนัด ต่อยอดปัญญาให้ลูกหลาน แล้วอีก 100 ปี ค่อยเจอกันใหม่)12 ธันวาคม 6711.20 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    12-12-67/01 : หมี CNN / แผนซ้อน 3 ชั้นครึ่ง บวกเกลียวอีกครึ่งรอบ ไอ้สัส! จะเยอะไปไหน? นี่กะ ให้อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ สิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยชิมิ? จากมหาอำนาจกลายร่างเป็นขอทาน ในช่วงไม่กี่ปี? โหดสลัดรัสเซียของจริง!"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 1 ไม่ได้แค่ล่อให้เข้ามาติดกับดักตายอย่างเดียว"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 2 ดูดเงิน ทรัพยากรเหี้ย กำลังพล มากกว่าเก่าเยอะ"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 3 ปลดแอกตะวันออกกลาง ยุโรป แปซิฟิค ทีเดียวหากเริ่มดูตั้งแต่แรก ที่ปูตินยกพลบุกยูเครน เพื่อทำลายแนวกันชนเก่า ขยายพื้นที่ กินทรัพยากรสำคัญทั้งหมดที่ยูเครนมี แล้วขยายต่อไปยังใจกลางยุโรป ทั้งหมดคือแผนเดินสู่ท่อแก็สอาร์คติค จากนั้น ขยายแนวรบ หันมาขยี้อียิว นายใหญ่เหี้ยไอ้อีตะวันตก เพราะรู้ดีว่า ขี้ข้าต้องแห่กันมาช่วยอุ้ม แล้วเป็นยังไง หมดตูดตามกัน หลัง 2.5 ปี แห่งศึกยูเครน EU NATO ถังแตก หมดตูด เศรษฐกิจพังยับ เพราะไม่มีพลังงานรัสเซียราคาถูกมาใช้ เกือบ 3 ปี ที่ต้องจ่ายแพง เจ๊งสิจ๊ะ อุตสาหกรรมหลัก อุตสาหกรรมใหญ่ ปิดกิจการเพราะแบกต้นทุนไม่ไหว เกณฑ์ทหารเพิ่มเป็นรอบที่ 10 กลับมาเป็นถุงดำเพี๊ยบ หมดทั้งเงิน อำนาจ กำลังพล ทำให้ต้องถอย ตีตัวห่างจากอียิว ดาบหนักสุดคือ "ดอกนี้" ล่ออียิวให้เข้ามาซีเรีย มันต้องใช้กำลังพลมากเท่าไหร่ มันต้องใช้อาวุธอีกเท่าไหร่ มันต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ แล้วจะไปเอามาจากไหน หากไม่ใช่ขี้ข้าไงล่ะ? ที่มาว่าทำไม หุ่นเชิดผู้นำทั่วยุโรป ถูกเช็คบิล เก้าอี้ร่วงกันหมด เพราะประจักษ์ชัดแล้วว่า มรึงไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อยิว อ๋อ..ควายเพิ่งจะตื่น เป็นไง ประชาธิปไตยแดร๊กได้มั้ยล่ะ? การที่ปูตินเดินแผน ย้ายอัสซาดออกไป ใช้หุ่นเชิดแทน เอาอีไก่งวงที่เสี้ยนอยากจะฆ่าล้างโคตรอีเคิร์กกบฎ เอามาเสียบ ดอกนี้ ยิงปืนนัดเดียว เหี้ยตายทั้งฝูง เพราะอีไก่งวงมันเป็นชาติสมาชิกนาโต้ นาโต้มีกฎจะไม่รบกันเอง นี่คือเงื่อนไข ช่องโหว่ ให้ไอ้อีขี้ข้ายิวที่เตรียมย้ายขั้ว ใช้เป็นข้ออ้างไม่เดินหน้าต่อ ไม่ช่วยอียิวไงล่ะ และเป็นเหตุให้อีไก่งวงประกาศถอนตัวออกจาก NATO แล้วจะมีตามมาอีกเพี๊ยบ แค่รอมรึงเปิดฟลอร์เท่านั้นเอง แตกทั้ง NATO แตกทั้ง EU ไม่งั้น อีลูคาเชนโก คงไม่ยิ้มแก้มหุบดอก ว่าของดี ของหนัก อยู่ในมือกู WAGNER อยู่เป็นกองทัพ กูจะไล่ฆ่าใครก็ได้ เสร็จกูล่ะ? ลูคาเชนโกซี้ปูติน ย่อมรู้ดีว่า เพื่อนรักต้องการอะไร เดี๋ยวเปิดพรมแดงปูทางสู่ลอนดอนให้จ๊ะ ไล่กวาดทั้งอีโปล อี 3 เสือก อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ให้ฟรีฟรี ไม่คิดตังค์ แค่เติมของดี ของหนักให้ก็พอแล้ว? อาร์คติคมาชัวร์ ใครก็หยุดไม่ได้! เมื่อตะวันออกกลางแพ้ยับ เมื่อยุโรปเละเทะ เหี้ยยิวจะหนีไปไหนได้อีก นอกจากโดนตรีนผู้นำโลกคนใหม่จากจีน ตบหัวคว่ำคะมำ แค่อีปินส์ แค่อีไต้หวัน แค่ที่รองตรีนจีนเท่านั้น อยากหยุดกูมรึงต้องมาเอง มาตายห่าที่นี่ นั่นแหละแผนกู เมื่อสงครามเดินหน้าไป แต่อีกฝ่ายขั้วใหม่ การค้ารุ่งเรือง ต่อยอดโลกเชื่อมหากันสำเร็จ จะกลายเป็นว่า มรึงรบไป ผลาญคลังจนถังแตก แต่ขั้วใหม่ เงินเติมทุกวันไม่มีหมด เหตุเพราะ BRICS แลกเปลี่ยน ซื้อขาย กันในกลุ่ม ไม่ต้องอาศัยอัตราแลกเปลี่ยนเหี้ย ที่กดควายโลกมาโดยตลอด ดังนั้น ทรัพยากรขั้วใหม่ จึงไม่มีหมด มีเติมทุกวัน แต่เหี้ยใช้ออกทุกวัน นี่คือความแตกต่างของผู้ชนะ กับผู้แพ้ราบคาบ มีที่ไหน รัสเซียทำสงครามยูเครนเกือบ 3 ปี แต่เงินยังอยู่ครบ แถมมีเพิ่มขึ้น ขายน้ำมันน้อยกว่าเดิม แต่กำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า ไม่อัจฉริยะ ทำไม่ได้ดอก ที่มาว่าทำไมเปลี่ยนขุนคลัง มาเป็นแม่ทัพซะงั้น เพราะทุกการรบ มีรายจ่ายที่ต้องจ่าย อ่านขาด ปล่อยให้คลังเหี้ยเจ๊งตามกันไป เพราะควบคุมการเงินไม่ได้ เมื่อคลังแตก แผ่นดินก็ล่มสลาย ฆ่าที่ปากท้องมรึง น่ากลัวกว่าตายในสมรภูมิซะอีก เพราะมันฆ่าถึงคนข้างหลัง ครอบครัวลูกหลานมรึงทั้งหมดด้วย จะไม่มีแดร๊กอีกนานสิ่งที่ปูตินทำอยู่ตอนนี้ แค่เอาตัวปัญหาที่เหี้ยอ้างมาโดยตลอดออกไป(อัสซาด) ยามเมื่อเคลียร์เหี้ยตายห่าเกลื่อนแผ่นดินสำเร็จ อัสซาดจะกลับมาอย่างวีรบุรุษก็ได้ หรืออยู่ยาวที่มอสโคว์ก็ได้ ใช้หุ่นเชิดต่อไป แผนนี้ เรียกใช้บริการอีไก่งวง เพราะจัดการปัญหาคาบสมุทรไซนาย ที่คาราคาซังมาช้านาน เอาให้จบเสียที เพื่อเดินหน้าสิ่งใหม่กว่า ดีกว่า และแบ่งปันเท่าเทียม เหมาะแล้วที่ใช้อีเติร์กมหาภัย เพราะมันเสี้ยนจัดปลัดบอก แค่ได้ยินชื่อเคิร์ด ฆ่าให้ฟรี ไม่มีชาร์ต แล้วอียิวมันส่งกองทัพแห่เข้ามาซีเรีย อ้างยึดที่ราบสูงโกลาน ถามคำเดียว มรึงเข้ามาแล้วยังไงต่อ จะอยู่ต่อยังไง ต้องใช้อะไรเพิ่ม ต้องจ่ายอะไรบ้าง ต้องสร้างอะไรเพิ่มอีก อ้าว..แล้วหลังบ้านมรึง ที่ถูกถล่มยับทุกวันเนี่ย ใครจะดูแล มันคือแผนบีบขยายกองกำลังอียิว สหรัฐ NATO ให้แตก LINE ไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้อ่อนแอ เพราะกำลังพลไม่พอ เทียบโลกอาหรับไม่ได้ แถมยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นไม่สังเกตุเหรอ? ทำไม ปูตินต้องใช้แผนนี้ ในฤดูหนาว คิดสิจ๊ะ? หนาวมาอะไรแพง? หนาวมาอะไรขาด? หนาวมาอะไรสำคัญที่สุด ทั้งอาวุธ เงิน อาหาร พลังงาน กำลังพล จะถูกใช้มากที่สุดก็หนาวนี้แหละ เอาอียิวมาติดหล่มสงครามต่อในตะวันออกกลาง ด้านยุโรปยิ่งฉลุย เพราะจะไม่มีใครมาช่วยอีเสี้ยนยาต่อ แปลว่ารัสเซียไม่เหนื่อย ยึดยูเครนเบ็ดเสร็จ ตบอีโปล ล่ออีฟินน์ ขยี้อีสวิงกิ้ง และตบท้ายด้วยเขมือบอีลอนดอน แค่นี้ ท่อแก็สอาร์คติค ก็ผ่านฉลุย สวยเก๋ ยิ่งกว่าออด๊าส! คำถามที่ทุกคนรอดคอย? ปล่อยอียิวยึดซีเรียแล้วจะยึดคืนยังไง? ระดับปูติน ไม่มั่นใจ 1000% ไม่เดินแผนนี้ ก็โง่! เพราะอ่านขาด ทุกอย่างเป็นต่อ และได้เปรียบอย่างมหาศาล ไม่ใช้แผนนี้ มันจะไม่จบน่ะสิ นี่คือ "ปิดเกมส์" ไบ้ให้ ต่อให้มรึงยึดซีเรียไป แต่เยรูซาเล็มแตก แล้วมรึงอยู่วงล้อมชาติอริทั่วตะวันออกกลาง จะไปรอดมั้ย? 3 ฮอ ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ยึดแผ่นดินคานาอันได้ชัวร์ เค้าถึงปล่อยให้มรึงย้ายฐานมาซีเรีย เพราะยิ่งปิดง่ายขึ้น เมื่อบ้านไม่มีอยู่ ไอ้ที่มรึงยึดได้คือเมืองร้าง มีประโยชน์อะไร? แถมอีไก่งวงอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด ใครจะแพ้กันล่ะ? สรุปคือ "แผนเมืองร้าง" คือยาเร่งผลลัพธ์แพ้ชนะทันควันปล.ปูตินไม่ได้คุยแค่กับโลกอาหรับ แต่คุยกับอีทรัมปป์ด้วย หากเป็นไปตามที่หมีคิด เดี๋ยวมรึงดู ศึกในอเมริกาให้ดีดี อีทรัมปป์จะทำอะไรช็อคโลกให้มรึงได้เห็นแน่ เพราะเป้าหมายเดียวกัน คือ "กำจัด DEEP STATE" งานนี้ หากไม่มีขั้วใหม่ช่วย อีทรัมปป์ทำคนเดียวไม่ได้ดอก เพราะอีลา ยังคงเป็นขวากหนาม ดูทรงให้ดี ที่ผ่านมา ขั้วใหม่ ตัดแหล่งรายได้เหี้ยยิว ตัดแหล่งเงินฟอก ตัดโลจิสติคขนส่ง ตัดอิทธิพลเหี้ยในทุกภูมิภาคโลก ทั้งหมดเพื่ออะไร? ย่อส่วนอเมริกาให้เล็กลง เป็นไปตามแผนที่อีทรัมปป์ต้องการ แตกอเมริกา อียิวได้บ้าน อีทรัมปป์ได้แผ่นดินตัวเอง ปาเลสไตน์ได้แผ่นดินคืน ตะวันออกกลางรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ยุโรปหมดสภาพ นี่คือภาพรวมที่มรึงจะได้เห็นอีกไม่ช้า บอกเลยว่า..ทุกอย่างถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาคิด? การล่อให้ศัตรูเข้ามาในแผ่นดินที่มรึงคุ้นเคย กับดักวางไว้เพี๊ยบ กองทัพไก่งวง ได้ถ่ายเทอาวุธ โยกย้าย ของหนักเข้ามาเติม มรึงคิดว่าซีเรียจะไม่ปึ๊กได้อย่างไร เพราะทุกอย่างอยู่ครบ แค่เปลี่ยนหัว เปลี่ยนมือที่มองไม่เห็น เข้ามาจัดการแทนข้ามวิกแป๊บ มีคนถาม กองเรือรัสเซียที่อยู่อ่าวไทย เรือสหรัฐอยู่ใต้ แปลว่าอะไร? แปลว่า "มรึงเขยิบ กูขยับ" รัสเซียไม่จำเป็นต้องรีบแสดงความเป็นเจ้าของภูมิภาค แค่สะกดให้มรึงนิ่งก็ชนะแล้ว กองเรือจีนยิ่งใหญ่มหาศาล แค่แห่ส่งมาเติม มรึงคิดว่าเหี้ยมันจะอยู่ต่อมุย? เกาะแสปรดลี่ย์ ทุกวันนี้คือ ฐานทัพจีนที่ทรงพลังมากที่สุดแห่งนึง เค้าดักทางรอเหี้ยโผล่นานแล้ว อาเซียนจับมือกันมั่น อีปินส์ยังไงก็แหกมติอาเซียนไม่ได้ ถูกถีบทันที อยากออกก็เชิญ มรึงจะหมาหัวเน่าทันที ทำไม อเมริกาไม่กล้าเปิดหน้ากับจีน เพราะศักยภาพเป็นรอง หมายังรู้ แต่ควายไม่รู้ ถึงได้แต่เปิดสงครามการค้าแก้เกี้ยว มรึงคิดว่าอีทรัมปป์มันสนเหรอ? มันแค่ต้องการเป็น KING มีแผ่นดินของตัวเอง แผ่นดินอื่นจะต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงตายเพื่อไอ้อีที่จ้องจะฆ่ากูไปทำไมกันล่ะ? ใช่ อีทรัมปป์มันทิ้งอียิวเหี้ยไซออนนิสต์นานแล้ว ถึงได้โดนไป 200 กว่าคดีไงล่ะ โคตรพ่อง โคตรแม่ ทำอย่างกะขายถั่วต้ม ฟ้องแหลก ขนาดแอบตดยังโดน! แล้วทำไม อีทรัมปป์ ถึงไม่อยากจะเอาคืนบ้างล่ะ? เรื่องบ้านเรา ปล่อยศรีธนญชัย เค้าเล่นแร่แปรวิญญานไป สนุกเค้าล่ะ แค่เหลืองสยองออกมาลงชื่อ สื่อยังตีอย่างกะล้มรัฐบาล กลัวขี้หดตดหายกันใหญ่ ยามใหญ่บอก ยังไม่ต้องรีบกลัว เพราะมรึงยังต้องมีอะไรให้กลัวอีกเยอะ เหี้ัยแบบนี้ กูชอบ! อ่านเกมส์ให้ขาด ทำไม ยามใหญ่ถึงดึงประเด็น "พระบรมราชโองการ" ออกมา ชูแผนที่สคส.ในหลวงร.9 มันชัดซะยิ่งกว่าชัด พ่อยืนยันขอบเขตพื้นที่ด้วยตัวเอง ใครหน้าไหน กล้าขัดราชโองการ โทษ "ประหารชีวิต" มรึงกล้ามั้ยล่ะ? ศาลรอ ปล.2 พระราชโองการ อยู่เหนือกว่ากฎหมาย ซะอีก โปรดเกล้าต้องมีตราตั้ง มรึงไม่ต้องแปล จะแถยังไงดูรากเหง้ามรึงด้วย ใครคือ พระเจ้าแผ่นดิน ชื่อก็บอก ว่าทุกอย่างในแผ่นดินนี้ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว แม้แต่ชีวิตมรึง! เชิญเอาประชาธิปไตยไปแดร๊กแถวอเมริกา ยุโรป ที่กำลังจะบ้าคลั่งไล่ฆ่า แย่งกันแดร๊กอยู่ตอนนี้เหอะ ยังไง กูเอาหัวเป็นประกันได้เลย ในรัชสมัยตั้งแต่พ่อร.10 ขึ้นไป จะมีแต่จะเพิ่มพูลแผ่นดินขยายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีลด ไม่มีเสียดินแดน มีแต่เพิ่ม เพิ่ม และเพิ่ม รวมทั้งประชากรโลก ที่จะขอเข้ามาอาศัยใต้ร่มไพธิ์พ่อท่าน แค่ตอนนี้ ชาวโลกแห่กันเข้ามาขออยู่อาศัยแล้วเท่าไหร่รู้มั้ย? ไม่มีที่ไหน อุ่นใจ สบายใจ เท่าเมืองไทย เราถึงได้เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ไงล่ะ "หยวนๆ อะไรก็ได้ รักสงบ ยิ้มสิจ๊ะ อยากได้อะไรมีหมด แสง สี เสียง แหล่งโลกีย์ ไม่ต้องไปหาที่ไหน ที่นี่คือจบ"ปล.3 ช่วงนี้ จะยังไม่โพสอี FCUK BOOK เพราะมันเพิ่งจะล็อคบัญชีหมี "สัประยุทธ ทะลุฟ้า" ไปหมาดๆ ใครมี FB เอาโพสหมีไปโพสแทนได้เลย นั่นทำให้คนที่ติดตามแต่ใน FB ยังจะพอเห็นหมี CNN ยังอยู่ เห็นใจสว. แต่หากเข้า LINE ได้ เล่น LINE เป็น ก็ไม่จำเป็นต้องมี FB อีกต่อไป กูต่อยอดไปนานแล้ว คนตามหมีใน FB ก็ติดตามนานแล้ว ทำไม เค้าจะไม่รู้ว่ามีช่องทางอื่นให้เลือก หมีจะไม่ลบเพจ มหากาพย์สุดยอด เพราะมันแจ้งมาว่า รออีก 175 วัน ถึงจะกลับมาใช้ใหม่ได้ แปลว่า อีก 6 เดือน ค่อยเจอหมีใหม่ใน FB แต่ตอนนี้ ตามที่อื่นแทนไปก่อนน่ะจ๊ะหมี CNN(มันยากที่จะอธิบายหมากบนกระดานให้ผู้ที่ไม่เข้าใจฟัง เพราะตาดู หูฟัง แต่ละวัน เสพแต่สิ่งที่เหี้ยให้มา ปัญญาจะเกิดได้ ต้องหลุดพ้นจากบ่วงกรรมเหี้ยก่อน การมาเสพเพจหมี ก็เป็น 1 ในเครื่องมือเตือนสติของแสง เพราะกูเน้นปัญญา เอามันส์ เอาฮา และแฝงคติธรรมเสมอ ไม่ได้หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ แค่ 1 คนที่ GET หมดที่กูพูด คือกูได้สร้างหมี CNN ตัวที่ 2 ขึ้นมาสำเร็จแล้ว เพราะกูจะเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย วันที่กูไม่อยู่ จะมีหมี CNN เกลื่อนสยามประเทศ เหมือนที่พ่อครูสอนให้มา กูรับมาแล้วต่อยอด ส่งต่อให้ผู้มีปัญญา แต่ละคน ต่างมีของของตัวเอง ใช้แนวที่ถนัด ต่อยอดปัญญาให้ลูกหลาน แล้วอีก 100 ปี ค่อยเจอกันใหม่)12 ธันวาคม 6711.20 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกอุ๊งอิ๊ง แพรทองธารได้เห็นหนังสือข้อเรียกร้องของนายสนธิ ลิ้มทองกุล และคณะ
    เกี่ยวกับ mou 44เป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงแม้นายกอุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บอกตรง ๆ ว่า
    จะทําตามหรือปฏิเสธข้อเรียกร้องโดยบอกเพียงแค่ว่าจะให้หน่วยงานด้วยกันหรือไม่
    แต่ฟังจากน้ําเสียงก็พอรู้แล้วว่าไม่ทําแน่นอนการตั้งคณะกรรมการเทคนิคเตรียมเจรจากับเขมรก็ยังจะเดินหน้า
    เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดเวทีสาธารณะเอาแต่ละฝ่ายมาดีเบตกันก็คงไม่เปิดอ้างว่าที่ให้ สมคิด เชื้อคง มารับหนังสือจากสนธิเมื่อวันที่เก้าธันวาคมก็คงเป็นการเปิดรับความคิดเห็นต่างคงไม่เปิดเวทีอะไรอีกถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าอุ๋งอิ๋ง
    เล่นบทคุณหนูดื้อเงียบไม่ปฏิเสธข้อเรียกร้องแต่ก็คงไม่ทําตามสักข้อจริงจริงแล้วเรื่องสุ่มเสี่ยงทําให้ประเทศชาติเสียอธิปไตย
    เป็นเรื่องที่คอขาดบาดตุยที่คนไทยทั้งชาติจะยอมไม่ได้คนอายุพึ่งสามสิบแปดอย่างอุ๊งอิ๊ง
    ไม่น่าจะเปรี้ยวแซ่บอะไรขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นแรงหนุนจากพ่อนายทักษิณผู้เป็นต้นเรื่องของmou44
    ย้อนไปเมื่อตอนครม.สัญจรเชียงใหม่วันที่ยี่สิบเจ็ดพฤศจิกายนกายนที่ผ่านมา
    อุ๊งอิ๋งเคยให้สัมภาษณ์เรื่องmou44ว่าจะเดินต่อหรือไม่ต่อให้ผ่านคณะกรรมการที่มีการพูดคุยกันทั้งสองประเทศ
    ส่วนพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่เก้าเรื่องการประกาศเขตไหล่ทวีปก็ได้ดูเนื้อหาโดยละเอียดแล้ว
    อะไรที่เป็นปัญหาก็จะไม่ชนกับปัญหาอย่างแน่นอนต้องค่อยค่อยร่วมกันแก้ไข
    แต่มาวันนี้ อุ๊งอิ๊งจากที่บอกว่าจะไม่ชนกับปัญหาก็กําลังเดินหน้าชนกับปัญหาเข้าอย่างจัง
    ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านการติวเข้มจากพ่อมาหรือเปล่าเพราะคนยโสโอหังอย่างทักษิณไม่เคยฟังใครอยู่แล้ว
    อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ได้สนว่าตัวเองจะพบจุดจบอย่างไรคงลืมไปว่าความยโสโอหังเคยทําให้ทักษิณพังมาแล้วตอนขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปีสี่เก้าได้เงินมาเจ็ดจุดสามหมื่นล้านบาทไม่ยอมเสียภาษีสักบาทอ้างว่ากฎหมายบอกไม่ให้เสีย
    แต่แท้ที่จริงแล้วใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีต่างหากนั่นก็ทําให้กระแสต้านทักษิณจุดติดขึ้นมาทั่วประเทศทันที
    จากเดิมมีแค่เมืองไทยรายสัปดาห์ของสนธิลิ้มทองกุลกลายมาเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
    ต่อต้านระบบทักษิณกระหึ่มหึ่มทั้งแผ่นดินหลังจากนั้นชะตาของทักษิณเป็นยังไงก็รู้รู้กันอยู่
    มารอบนี้ประวัติศาสตร์จะต้องซ้ําประวัติศาสตร์จะไม่เปลี่ยนถ้าทักษิณ ชินวัตรยังยโสโอหัง สั่งลูกสาวเดินหน้า Mou 44ต่อ
    ก็คอยดูเลยว่าความจริงจะสู้กับกิเลสได้หรือไม่ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธ์ดำ
    นายกอุ๊งอิ๊ง แพรทองธารได้เห็นหนังสือข้อเรียกร้องของนายสนธิ ลิ้มทองกุล และคณะ เกี่ยวกับ mou 44เป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงแม้นายกอุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บอกตรง ๆ ว่า จะทําตามหรือปฏิเสธข้อเรียกร้องโดยบอกเพียงแค่ว่าจะให้หน่วยงานด้วยกันหรือไม่ แต่ฟังจากน้ําเสียงก็พอรู้แล้วว่าไม่ทําแน่นอนการตั้งคณะกรรมการเทคนิคเตรียมเจรจากับเขมรก็ยังจะเดินหน้า เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดเวทีสาธารณะเอาแต่ละฝ่ายมาดีเบตกันก็คงไม่เปิดอ้างว่าที่ให้ สมคิด เชื้อคง มารับหนังสือจากสนธิเมื่อวันที่เก้าธันวาคมก็คงเป็นการเปิดรับความคิดเห็นต่างคงไม่เปิดเวทีอะไรอีกถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าอุ๋งอิ๋ง เล่นบทคุณหนูดื้อเงียบไม่ปฏิเสธข้อเรียกร้องแต่ก็คงไม่ทําตามสักข้อจริงจริงแล้วเรื่องสุ่มเสี่ยงทําให้ประเทศชาติเสียอธิปไตย เป็นเรื่องที่คอขาดบาดตุยที่คนไทยทั้งชาติจะยอมไม่ได้คนอายุพึ่งสามสิบแปดอย่างอุ๊งอิ๊ง ไม่น่าจะเปรี้ยวแซ่บอะไรขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นแรงหนุนจากพ่อนายทักษิณผู้เป็นต้นเรื่องของmou44 ย้อนไปเมื่อตอนครม.สัญจรเชียงใหม่วันที่ยี่สิบเจ็ดพฤศจิกายนกายนที่ผ่านมา อุ๊งอิ๋งเคยให้สัมภาษณ์เรื่องmou44ว่าจะเดินต่อหรือไม่ต่อให้ผ่านคณะกรรมการที่มีการพูดคุยกันทั้งสองประเทศ ส่วนพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่เก้าเรื่องการประกาศเขตไหล่ทวีปก็ได้ดูเนื้อหาโดยละเอียดแล้ว อะไรที่เป็นปัญหาก็จะไม่ชนกับปัญหาอย่างแน่นอนต้องค่อยค่อยร่วมกันแก้ไข แต่มาวันนี้ อุ๊งอิ๊งจากที่บอกว่าจะไม่ชนกับปัญหาก็กําลังเดินหน้าชนกับปัญหาเข้าอย่างจัง ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านการติวเข้มจากพ่อมาหรือเปล่าเพราะคนยโสโอหังอย่างทักษิณไม่เคยฟังใครอยู่แล้ว อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ได้สนว่าตัวเองจะพบจุดจบอย่างไรคงลืมไปว่าความยโสโอหังเคยทําให้ทักษิณพังมาแล้วตอนขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปีสี่เก้าได้เงินมาเจ็ดจุดสามหมื่นล้านบาทไม่ยอมเสียภาษีสักบาทอ้างว่ากฎหมายบอกไม่ให้เสีย แต่แท้ที่จริงแล้วใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีต่างหากนั่นก็ทําให้กระแสต้านทักษิณจุดติดขึ้นมาทั่วประเทศทันที จากเดิมมีแค่เมืองไทยรายสัปดาห์ของสนธิลิ้มทองกุลกลายมาเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านระบบทักษิณกระหึ่มหึ่มทั้งแผ่นดินหลังจากนั้นชะตาของทักษิณเป็นยังไงก็รู้รู้กันอยู่ มารอบนี้ประวัติศาสตร์จะต้องซ้ําประวัติศาสตร์จะไม่เปลี่ยนถ้าทักษิณ ชินวัตรยังยโสโอหัง สั่งลูกสาวเดินหน้า Mou 44ต่อ ก็คอยดูเลยว่าความจริงจะสู้กับกิเลสได้หรือไม่ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธ์ดำ
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร
    https://youtu.be/uygFiIn1nt4
    #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร https://youtu.be/uygFiIn1nt4
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร
    https://youtu.be/wLe_fB_0wbo
    #MOU2544 #JC2544 #ขัดรัฐธรรมนูญ #ขัดพระบรมราชโองการ ไม่ทำตาม #กฎหมายสากล #เส้นเขตแดน เราต้องรักษา #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #ของของเรา #ไม่ต้องแบ่งใคร https://youtu.be/wLe_fB_0wbo
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราสู้กับรัฐบาลโจร ต้องสู้ถึงที่สุดและต้องชนะ .เวลาเราสู้กับรัฐบาลโจร เราต้องทำงานด้วยความรอบคอบ ทำไมเราต้องมาร้องเรียนเรื่องนี้เพราะเราร้องเรียนแล้ววางไว้ด้วยว่า ถ้าคุณไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วเราจะร้องเรียนต่อไปที่สภาผู้แทนราษฏร ท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา และสส.ทุกคนรวมทั้ง สว.ด้วย .ผมชี้แจงให้ฟังว่าถ้าท่านไม่ยกเลิก MOU2544 ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขายชาติ เท่ากับว่าเราได้ใส่กุญแจมือพวก สส.ที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ อนาคตข้างหน้า แผ่นดินเปลี่ยนไป ผู้มีอำนาจชุดใหม่เข้ามา ก็สามารถใช้ประเด็นนี้เล่นงานพวก สส.และสว.ตลอดจนคณะรัฐมนตรีในข้อหาขายชาติ รวมถึงการที่ไปร้องเรียนที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ข้าราชการทุกคนได้สำเหนียก รู้ว่าความจริงที่มีหนึ่งเดียวนั้น พระบรมราชโองการ 2516 นั้น จำเป็นต้องยึดถือให้มั่น .ผมอายุมากแล้ว นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทำอะไรงวดนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง สู้ครั้งนี้ ถ้าจะสู้ถึงที่สุดแล้วต้องชนะลูกเดียว .พ่อแม่พี่น้องครับ พวกแกนนำเก่าๆพากันพูดว่า ไม่มีมวลชนแล้วพวกเรา วันนี้ผมไม่ได้ปลุกระดม ทุกคนมาด้วยใจใช่ไหม ถ้าถึงเวลาที่ต้องลงกัน จะมามากกว่านี้พันเท่าหมื่นเท่า
    เราสู้กับรัฐบาลโจร ต้องสู้ถึงที่สุดและต้องชนะ .เวลาเราสู้กับรัฐบาลโจร เราต้องทำงานด้วยความรอบคอบ ทำไมเราต้องมาร้องเรียนเรื่องนี้เพราะเราร้องเรียนแล้ววางไว้ด้วยว่า ถ้าคุณไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วเราจะร้องเรียนต่อไปที่สภาผู้แทนราษฏร ท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา และสส.ทุกคนรวมทั้ง สว.ด้วย .ผมชี้แจงให้ฟังว่าถ้าท่านไม่ยกเลิก MOU2544 ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขายชาติ เท่ากับว่าเราได้ใส่กุญแจมือพวก สส.ที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ อนาคตข้างหน้า แผ่นดินเปลี่ยนไป ผู้มีอำนาจชุดใหม่เข้ามา ก็สามารถใช้ประเด็นนี้เล่นงานพวก สส.และสว.ตลอดจนคณะรัฐมนตรีในข้อหาขายชาติ รวมถึงการที่ไปร้องเรียนที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ข้าราชการทุกคนได้สำเหนียก รู้ว่าความจริงที่มีหนึ่งเดียวนั้น พระบรมราชโองการ 2516 นั้น จำเป็นต้องยึดถือให้มั่น .ผมอายุมากแล้ว นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทำอะไรงวดนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง สู้ครั้งนี้ ถ้าจะสู้ถึงที่สุดแล้วต้องชนะลูกเดียว .พ่อแม่พี่น้องครับ พวกแกนนำเก่าๆพากันพูดว่า ไม่มีมวลชนแล้วพวกเรา วันนี้ผมไม่ได้ปลุกระดม ทุกคนมาด้วยใจใช่ไหม ถ้าถึงเวลาที่ต้องลงกัน จะมามากกว่านี้พันเท่าหมื่นเท่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗ “สามัคคีเป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย”.วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) ผมและอาจารย์ปานเทพได้มอบเอกสารหนังสือร้องเรียนกึ่งๆกล่าวหาว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังทำผิด เพราะ MOU44 มันเป็น MOU ขายชาติ .นี่คือส.ค.ส.๒๕๔๗ ยี่สิบปีที่แล้วที่รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงเขียนขึ้นมา แล้วพระราชทานให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ ทรงเขียนว่า มีระเบิดทั่วไปหมด มีประเทศไทยประเทศเดียวไม่มี และที่สำคัญคือว่าท่านบอกว่า “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย” .พี่น้องลองดู ตรงนี้ถึงตรงนี้ เป็นพื้นที่ประเทศไทยที่พระองค์ทรงเขียนขึ้นมา และตัวจริงคือนี่คือแผนที่ประเทศไทย ถ้าเอาสองแผ่นประกบกันจะตรงกันเป๊ะ และภาพถัดไปเราเอาแผนที่ตัวจริงและพระบรมราชโองการลงตัวกันพอดี มีเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทยชัดเจน .ผมจะอ่านพระบรมราชโองการปี 2516 ให้ฟัง “ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย มีพระบรมราชโองการให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์ของแต่ละจุดที่ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย ซึ่งแนบท้ายประกาศนี้ เป็นเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย .ในการกำหนดเขตไหล่ทวีปนี้ได้ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศอันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปและตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีปซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ.๑๙๕๘ และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๑ .แผนที่และจุดต่อเนื่องที่กำหนดพิกัดภูมิศาสตร์ตามประกาศนี้มีเพื่อแสดงแนวทั่วไปของเส้นกำหนดไหล่ทวีป สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ. ๑๙๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๖ เป็นปีที่ ๒๘ ในรัชกาลปัจจุบัน”
    ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗ “สามัคคีเป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย”.วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) ผมและอาจารย์ปานเทพได้มอบเอกสารหนังสือร้องเรียนกึ่งๆกล่าวหาว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังทำผิด เพราะ MOU44 มันเป็น MOU ขายชาติ .นี่คือส.ค.ส.๒๕๔๗ ยี่สิบปีที่แล้วที่รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงเขียนขึ้นมา แล้วพระราชทานให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ ทรงเขียนว่า มีระเบิดทั่วไปหมด มีประเทศไทยประเทศเดียวไม่มี และที่สำคัญคือว่าท่านบอกว่า “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย” .พี่น้องลองดู ตรงนี้ถึงตรงนี้ เป็นพื้นที่ประเทศไทยที่พระองค์ทรงเขียนขึ้นมา และตัวจริงคือนี่คือแผนที่ประเทศไทย ถ้าเอาสองแผ่นประกบกันจะตรงกันเป๊ะ และภาพถัดไปเราเอาแผนที่ตัวจริงและพระบรมราชโองการลงตัวกันพอดี มีเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทยชัดเจน .ผมจะอ่านพระบรมราชโองการปี 2516 ให้ฟัง “ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย มีพระบรมราชโองการให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์ของแต่ละจุดที่ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย ซึ่งแนบท้ายประกาศนี้ เป็นเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย .ในการกำหนดเขตไหล่ทวีปนี้ได้ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศอันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปและตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีปซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ.๑๙๕๘ และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๑ .แผนที่และจุดต่อเนื่องที่กำหนดพิกัดภูมิศาสตร์ตามประกาศนี้มีเพื่อแสดงแนวทั่วไปของเส้นกำหนดไหล่ทวีป สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ. ๑๙๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๖ เป็นปีที่ ๒๘ ในรัชกาลปัจจุบัน”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9/12/67

    เปิด 7 ข้อเท็จจริง 6 ข้อเรียกร้อง หนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้หยุดดำเนินการตาม MOU 2544 และ JC 2544 (ฉบับย่อ)

    เนื่องด้วยหนังสือของนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่จะยื่นหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันนี้ (9 ธันวาคม 2567) มีความยาวถึง 14 หน้าและยังมีสิ่งที่ส่งมาด้วยอีกจำนวนมาก อันจะทำให้สื่อมวลชนอาจไม่สามารถนำเสนอข่าวตามเนื้อหาทั้งหมดได้ครบถ้วน จึงได้จัดทำสรุปเป็นฉบับย่อลงประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนดังนี้

    วันนี้ (9 มีนาคม 2567) นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะบุคคลได้ยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC 2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป ตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1985 และกฎหมายอื่น รวมทั้งยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และยังไม่มีพระบรมราชโองการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ด้วยเหตุผลดังนี้

    ข้อ 1 ประเทศไทยได้ลงนามในหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1907 และหนังสือสัญญาดังกล่าวระบุว่า “เกาะกูด” เป็นของสยาม

    ข้อ 2 ต่อมาวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2509 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศกำหนดความกว้างของทะเลอาณาเขตประเทศไทยมีระยะ ”12 ไมล์ทะเล“ โดยวัดจากเส้นฐานที่ใช้สำหรับวัดความกว้างของทะเลอาณาเขต เป็นการประกาศ “อำนาจอธิปไตย” ออกไปจากอาณาเขตพื้นดินและน่านน้ำภายในจนถึงแนวทะเลประชิดชายฝั่ง ซึ่งเรียกว่า“ทะเลอาณาเขต” รวมตลอดถึงห้วงอากาศเหนือทะเลอาณาเขต พื้นท้องทะเล และแผ่นดินใต้พื้นท้องทะเลของทะเลอาณาเขต ผู้ใดและชาติใดจะละเมิดมิได้

    ข้อ 3 ต่อมาได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2512 โดยมีผลบังคับใช้สำหรับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2511 ส่งผลการยืนยันประกาศพื้นที่ของประเทศไทยทั้ง “น่านน้ำภายใน” และ “ทะเลอาณาเขต”ว่าเป็น “อำนาจอธิปไตย” ของประเทศไทยตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958

    อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ยังได้กำหนด “เขตต่อเนื่อง” ขยายไปอีก 12 ไมล์ทะเลต่อจากทะเลอาณาเขต สำหรับเป็นพื้นที่ป้องกันการละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับศุลกากร รัษฎากร การเข้าเมือง หรือการอนามัย ภายในอาณาเขตหรือทะเลอาณาเขตของประเทศไทยอีกด้วย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ยังกำหนดด้วยว่าหากไม่มีการตกลงกันเป็นอย่างอื่น รัฐทั้งสองอยู่ตรงข้ามหรือประชิดกันให้ใช้ “เส้นมัธยะ” คือ จุดทุกจุดบนเส้นนั้นมีระยะห่างเท่ากันจากจุดที่ใกล้ที่สุดของเส้นฐานซึ่งใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขตของแต่ละรัฐ

    ต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน 2513 ได้มีประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องเส้นฐานตรงและน่านน้ำภายในของประเทศไทย โดยมีเส้นที่ลากเส้นจาก “หลักเขตที่ 73” ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราดไปยังปลายแหลมด้านใต้สุดของ “เกาะกูด” นั้นเป็น “เส้นฐานตรง” โดยพื้นที่เหนือเส้นฐานตรงบริเวณนี้เป็น “น่านน้ำภายใน” ของราชอาณาจักรไทย มีอำนาจอธิปไตยเหมือนแผ่นดินของราชอาณาจักรไทยทุกประการ

    เมื่อ “เกาะกูด”เป็นของประเทศไทยตามหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส ดังนั้น พื้นที่รอบเกาะกูด 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทย และน่านน้ำภายในของราชอาณาจักรไทย จึงเป็นเขตแดนทางทะเลที่อยู่ใน “อำนาจอธิปไตย” ของราชอาณาจักรไทย ผู้ใดและชาติใดจะละเมิดมิได้

    ดังนั้นพื้นที่เหนือของเส้นฐานตรงที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 ถึงปลายแหลมสุดทิศด้านใต้ของเกาะกูดของราชอาณาจักรไทย จึงอยู่ใน“อำนาจอธิปไตย” ของราชอาณาจักรไทย รวมทั้งทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเส้นฐานของเกาะกูดก็เป็นเขตที่อยู่ใน “อำนาจอธิปไตย” ของราชอาณาจักรไทยเช่นเดียวกัน อันเป็นไปตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ซึ่งผู้ใดหรือชาติใดจะละเมิดมิได้

    ข้อ 4 ต่อมาได้มีพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18พฤษภาคม 2516 เพื่อประกาศสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย โดยได้แนบแผนที่ซึ่งลากเส้นเขตไหล่ทวีปจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดของประเทศไทยกับเกาะกงของกัมพูชา เป็น “เส้นมัธยะ” แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่มีพื้นที่อ้างสิทธิอธิปไตยจากประเทศอื่น ไม่มีการแบ่งปันการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในอ่าวไทยให้กับประเทศอื่นใด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “เส้นมัธยะ” ของมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ค.ศ. 1958 พระบรมราชโองการประกาศฉบับนี้ ยังกำหนดเงื่อนไขวิธีการเจรจาตกลงกระหว่างประเทศใกล้เคียงในอนาคตด้วยว่าต้องเป็นไปตามมูลฐานกฎหมายทะเลสากลเท่านั้นไม่ใช่การเจรจาตกลงกันตามอำเภอใจ

    ทั้งนี้ราชอาณาจักรไทยได้ยึดถือและปกป้องอำนาจอธิปไตยน่านน้ำทะเลภายในและทะเลอาณาเขต ตลอดจนรักษาสิทธิอธิปไตยตามเส้นเขตไหล่ทวีปตามพระบรมราชโองการทุกฉบับ โดยได้ยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 มาโดยตลอด และต่อมาประเทศไทยได้มีการลงนามและยึดถือมูลฐานตามที่กำหนดในอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 (UNCLOS 1982) ที่ได้ให้สัตยาบันเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และมีผลบังคับใช้กับประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2554 ด้วย

    ข้อ 5 อย่างไรก็ตาม MOU 2544 ได้แนบแผนที่ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ “รับรู้” โดย “ไม่ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาตามพระราชกฤษฎีกาประกาศเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อปี 2515 ก่อให้เกิดการอ้างสิทธิในพื้นที่ไหล่ทวีประหว่างไทยกับกัมพูชาที่มีขนาดใหญ่เกินจริง โดยไม่ยึดหลัก “เส้นมัธยะ” อันเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อประเทศกัมพูชาเกินกว่าหลักมูลฐานตามบทบัญญัติของอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958

    การอ้างสิทธิดังกล่าวจึงส่งผลทำให้เป็นการเปลี่ยนแปลง “หลักการ” สำคัญของอำนาจอธิปไตย และสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย คือ เกิดการละเมิดอำนาจอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยบริเวณพื้นที่ “น่านน้ำภายใน”เหนือเส้นฐานตรงด้านทิศตะวันออกของเกาะกูด และการละเมิดอำนาจอธิปไตยทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูด และไม่ยึดหลักเส้น “มัธยะ” เพียงอย่างเดียวที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 ตามพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 แต่กลับไปยึดถือ “เขตแดนแนวทางอื่น” ในการเจรจาตกลงกันเองระหว่างไทยและกัมพูชาในพื้นที่อ้างสิทธิเกินจริงของกัมพูชา รวมพื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร ที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กัมพูชาเป็นหลัก

    ดังนั้นการดำเนินการตาม MOU 2544 ที่ถูกรับรองโดย JC 2544 จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดทะเลอาณาเขต เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2509 และพระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2516 ซึ่งได้ยึดหลัก “เส้นมัธยะ” แห่งมูลฐานตามบทบัญญัติของอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958

    ข้อ 6 นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ซึ่งลงนามใน MOU 2544 ได้เคยเขียนบทความเมื่อเดือนพฤษภาคม 2544 ยอมรับว่า MOU 2544 มีสถานะเป็น “สนธิสัญญา” ในขณะที่ นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ อดีตหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับมาเลเซียได้เขียนบทความ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2554 แนะนำว่า ฝ่ายไทยจะต้องรีบบอกเลิก MOU 2544 โดยเร็ว มิฉะนั้นแล้วฝ่ายไทยจะเสียเปรียบหากเป็นคดีขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล

    ทั้งนี้การที่ประเทศไทยได้ “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” แผนที่ที่มีการอ้างสิทธิเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาตาม MOU 2544 อาจทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบซ้ำรอยการถูกตัดสินโดย “หลักกฎหมายปิดปาก” ที่ประเทศไทยเคย “รับรู้”และ “ไม่ปฏิเสธ” แผนที่แนบท้ายหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส ค.ศ. 1904 เป็นเหตุที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2505 ในการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมาแล้ว

    ข้อ 7 เมื่อพิจารณาตาม MOU 2544 แล้ว จะพบว่าประเทศไทยมีแต่จะเสียประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะไม่ว่าผลการเจรจาจะเป็นประการใด ประเทศไทยก็จะต้องสูญเสียสิทธิอธิปไตยในพื้นที่ในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทยฝ่ายเดียวให้กลายเป็นพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาซึ่งมีพื้นที่อย่างน้อย 16,000 ตารางกิโลเมตรขึ้นไปใต้พื้นที่อ้างสิทธิไหล่ทวีประหว่างไทยกับกัมพูชาใต้ละติจูด 11 องศาเหนือ หรือถึงขั้นสูญเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลไปมากกว่านี้ได้ด้วย

    ผลลัพธ์ดังกล่าวจึงย่อมส่งผลกระทบในทางเสียหายต่อสิทธิอธิปไตยมากกว่าวิธีการเจรจาด้วย “เส้นมัธยะ” ตามมูลฐานที่บัญญัติเอาไว้ภายใต้อนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 เมื่อ MOU 2544 ซึ่งได้รับรองโดย JC 2544 มีผลทำให้เกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตหรือเขตอำนาจแห่งรัฐทางทะเลที่ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภากรณีจึงขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาตั้งแต่แรกและสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

    นอกจากนั้น MOU 2544 ที่รับรองโดย JC 2544 ยังทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดหรือบางส่วน เมื่อไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาจึงย่อมเป็นการขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ด้วยเช่นเดียวกัน

    จึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านหยุดการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการดำเนินการตาม MOU 2544 และ JC 2544 โดยทันที และดำเนินการแก้ไขตามข้อเสนอดังต่อไปนี้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้

    1)ให้ท่านและคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปตามพระบรมราชโองการที่ประกาศตามมูลฐานแห่งอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 (UNCLOS 1982) อันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ตามบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 52 ของหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

    2) ให้ท่านเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณามีมติให้ส่ง MOU 2544 และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ตั้งแต่แรก และขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่ รวมทั้งขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ด้วยหรือไม่ อันเป็นการดำเนินการตามมาตรา 178 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อสงสัยนี้เสียก่อน

    3) หากดำเนินการตาม ๒) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU 2544และ JC 2544 ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ให้ยกเลิกการเจรจาตาม MOU 2544 และ JC 2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาทันที

    4) หากดำเนินการตาม 2) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU 2544 และ JC 2544 ไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ก็ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU 2544 และ JC 2544 ทันที โดยให้เจรจากันใหม่ภายใต้การกำหนดขอบเขตเฉพาะพื้นที่พัฒนาร่วมบนพื้นฐานโดยใช้หลักการของ “เส้นมัธยะ” ในการอ้างสิทธิไหล่ทวีปทับซ้อนตามจริงของมูลฐานแห่งบทบัญญัติอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ประกอบกับอนุสัญญาสหประชาชาติด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 แล้วนำผลของการเจรจาเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้เจรจาเสร็จสิ้น ก่อนนำขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯ ต่อพระมหากษัตริย์เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัยและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศเป็นพระราชโองการ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา 1 และมาตรา 178 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ต่อไป

    5) ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) ตาม MOU 2544 และ JC 2544ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้อง

    6) ให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชนในเรื่อง MOU 2544 และ JC 2544 โดยให้มีความเห็นของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ ทั้งที่มีความเห็นต่างและที่มีความเห็นด้วยในเวทีอภิปรายสาธารณะซึ่งมีความเป็นกลางและเป็นธรรม ในสัดส่วนของเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศไทยต่อไป

    ทั้งนี้ขอให้ท่านเสนอหนังสือฉบับนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และหากคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้วมีผลเป็นประการใดขอได้โปรดแจ้งข้าพเจ้าได้ทราบ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาหนังสือฉบับนี้

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1110891340404565/?
    9/12/67 เปิด 7 ข้อเท็จจริง 6 ข้อเรียกร้อง หนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้หยุดดำเนินการตาม MOU 2544 และ JC 2544 (ฉบับย่อ) เนื่องด้วยหนังสือของนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่จะยื่นหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันนี้ (9 ธันวาคม 2567) มีความยาวถึง 14 หน้าและยังมีสิ่งที่ส่งมาด้วยอีกจำนวนมาก อันจะทำให้สื่อมวลชนอาจไม่สามารถนำเสนอข่าวตามเนื้อหาทั้งหมดได้ครบถ้วน จึงได้จัดทำสรุปเป็นฉบับย่อลงประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนดังนี้ วันนี้ (9 มีนาคม 2567) นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะบุคคลได้ยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC 2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป ตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1985 และกฎหมายอื่น รวมทั้งยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และยังไม่มีพระบรมราชโองการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ด้วยเหตุผลดังนี้ ข้อ 1 ประเทศไทยได้ลงนามในหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1907 และหนังสือสัญญาดังกล่าวระบุว่า “เกาะกูด” เป็นของสยาม ข้อ 2 ต่อมาวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2509 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศกำหนดความกว้างของทะเลอาณาเขตประเทศไทยมีระยะ ”12 ไมล์ทะเล“ โดยวัดจากเส้นฐานที่ใช้สำหรับวัดความกว้างของทะเลอาณาเขต เป็นการประกาศ “อำนาจอธิปไตย” ออกไปจากอาณาเขตพื้นดินและน่านน้ำภายในจนถึงแนวทะเลประชิดชายฝั่ง ซึ่งเรียกว่า“ทะเลอาณาเขต” รวมตลอดถึงห้วงอากาศเหนือทะเลอาณาเขต พื้นท้องทะเล และแผ่นดินใต้พื้นท้องทะเลของทะเลอาณาเขต ผู้ใดและชาติใดจะละเมิดมิได้ ข้อ 3 ต่อมาได้มีพระบรมราชโองการประกาศใช้อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2512 โดยมีผลบังคับใช้สำหรับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2511 ส่งผลการยืนยันประกาศพื้นที่ของประเทศไทยทั้ง “น่านน้ำภายใน” และ “ทะเลอาณาเขต”ว่าเป็น “อำนาจอธิปไตย” ของประเทศไทยตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ยังได้กำหนด “เขตต่อเนื่อง” ขยายไปอีก 12 ไมล์ทะเลต่อจากทะเลอาณาเขต สำหรับเป็นพื้นที่ป้องกันการละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับศุลกากร รัษฎากร การเข้าเมือง หรือการอนามัย ภายในอาณาเขตหรือทะเลอาณาเขตของประเทศไทยอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ยังกำหนดด้วยว่าหากไม่มีการตกลงกันเป็นอย่างอื่น รัฐทั้งสองอยู่ตรงข้ามหรือประชิดกันให้ใช้ “เส้นมัธยะ” คือ จุดทุกจุดบนเส้นนั้นมีระยะห่างเท่ากันจากจุดที่ใกล้ที่สุดของเส้นฐานซึ่งใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขตของแต่ละรัฐ ต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน 2513 ได้มีประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องเส้นฐานตรงและน่านน้ำภายในของประเทศไทย โดยมีเส้นที่ลากเส้นจาก “หลักเขตที่ 73” ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราดไปยังปลายแหลมด้านใต้สุดของ “เกาะกูด” นั้นเป็น “เส้นฐานตรง” โดยพื้นที่เหนือเส้นฐานตรงบริเวณนี้เป็น “น่านน้ำภายใน” ของราชอาณาจักรไทย มีอำนาจอธิปไตยเหมือนแผ่นดินของราชอาณาจักรไทยทุกประการ เมื่อ “เกาะกูด”เป็นของประเทศไทยตามหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส ดังนั้น พื้นที่รอบเกาะกูด 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทย และน่านน้ำภายในของราชอาณาจักรไทย จึงเป็นเขตแดนทางทะเลที่อยู่ใน “อำนาจอธิปไตย” ของราชอาณาจักรไทย ผู้ใดและชาติใดจะละเมิดมิได้ ดังนั้นพื้นที่เหนือของเส้นฐานตรงที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 ถึงปลายแหลมสุดทิศด้านใต้ของเกาะกูดของราชอาณาจักรไทย จึงอยู่ใน“อำนาจอธิปไตย” ของราชอาณาจักรไทย รวมทั้งทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเส้นฐานของเกาะกูดก็เป็นเขตที่อยู่ใน “อำนาจอธิปไตย” ของราชอาณาจักรไทยเช่นเดียวกัน อันเป็นไปตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ซึ่งผู้ใดหรือชาติใดจะละเมิดมิได้ ข้อ 4 ต่อมาได้มีพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18พฤษภาคม 2516 เพื่อประกาศสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย โดยได้แนบแผนที่ซึ่งลากเส้นเขตไหล่ทวีปจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดของประเทศไทยกับเกาะกงของกัมพูชา เป็น “เส้นมัธยะ” แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่มีพื้นที่อ้างสิทธิอธิปไตยจากประเทศอื่น ไม่มีการแบ่งปันการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในอ่าวไทยให้กับประเทศอื่นใด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “เส้นมัธยะ” ของมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ค.ศ. 1958 พระบรมราชโองการประกาศฉบับนี้ ยังกำหนดเงื่อนไขวิธีการเจรจาตกลงกระหว่างประเทศใกล้เคียงในอนาคตด้วยว่าต้องเป็นไปตามมูลฐานกฎหมายทะเลสากลเท่านั้นไม่ใช่การเจรจาตกลงกันตามอำเภอใจ ทั้งนี้ราชอาณาจักรไทยได้ยึดถือและปกป้องอำนาจอธิปไตยน่านน้ำทะเลภายในและทะเลอาณาเขต ตลอดจนรักษาสิทธิอธิปไตยตามเส้นเขตไหล่ทวีปตามพระบรมราชโองการทุกฉบับ โดยได้ยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 มาโดยตลอด และต่อมาประเทศไทยได้มีการลงนามและยึดถือมูลฐานตามที่กำหนดในอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 (UNCLOS 1982) ที่ได้ให้สัตยาบันเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และมีผลบังคับใช้กับประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2554 ด้วย ข้อ 5 อย่างไรก็ตาม MOU 2544 ได้แนบแผนที่ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ “รับรู้” โดย “ไม่ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาตามพระราชกฤษฎีกาประกาศเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อปี 2515 ก่อให้เกิดการอ้างสิทธิในพื้นที่ไหล่ทวีประหว่างไทยกับกัมพูชาที่มีขนาดใหญ่เกินจริง โดยไม่ยึดหลัก “เส้นมัธยะ” อันเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อประเทศกัมพูชาเกินกว่าหลักมูลฐานตามบทบัญญัติของอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 การอ้างสิทธิดังกล่าวจึงส่งผลทำให้เป็นการเปลี่ยนแปลง “หลักการ” สำคัญของอำนาจอธิปไตย และสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย คือ เกิดการละเมิดอำนาจอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยบริเวณพื้นที่ “น่านน้ำภายใน”เหนือเส้นฐานตรงด้านทิศตะวันออกของเกาะกูด และการละเมิดอำนาจอธิปไตยทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูด และไม่ยึดหลักเส้น “มัธยะ” เพียงอย่างเดียวที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 ตามพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 แต่กลับไปยึดถือ “เขตแดนแนวทางอื่น” ในการเจรจาตกลงกันเองระหว่างไทยและกัมพูชาในพื้นที่อ้างสิทธิเกินจริงของกัมพูชา รวมพื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร ที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กัมพูชาเป็นหลัก ดังนั้นการดำเนินการตาม MOU 2544 ที่ถูกรับรองโดย JC 2544 จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดทะเลอาณาเขต เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2509 และพระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2516 ซึ่งได้ยึดหลัก “เส้นมัธยะ” แห่งมูลฐานตามบทบัญญัติของอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ข้อ 6 นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ซึ่งลงนามใน MOU 2544 ได้เคยเขียนบทความเมื่อเดือนพฤษภาคม 2544 ยอมรับว่า MOU 2544 มีสถานะเป็น “สนธิสัญญา” ในขณะที่ นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ อดีตหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับมาเลเซียได้เขียนบทความ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2554 แนะนำว่า ฝ่ายไทยจะต้องรีบบอกเลิก MOU 2544 โดยเร็ว มิฉะนั้นแล้วฝ่ายไทยจะเสียเปรียบหากเป็นคดีขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล ทั้งนี้การที่ประเทศไทยได้ “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” แผนที่ที่มีการอ้างสิทธิเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาตาม MOU 2544 อาจทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบซ้ำรอยการถูกตัดสินโดย “หลักกฎหมายปิดปาก” ที่ประเทศไทยเคย “รับรู้”และ “ไม่ปฏิเสธ” แผนที่แนบท้ายหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศส ค.ศ. 1904 เป็นเหตุที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2505 ในการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมาแล้ว ข้อ 7 เมื่อพิจารณาตาม MOU 2544 แล้ว จะพบว่าประเทศไทยมีแต่จะเสียประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะไม่ว่าผลการเจรจาจะเป็นประการใด ประเทศไทยก็จะต้องสูญเสียสิทธิอธิปไตยในพื้นที่ในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทยฝ่ายเดียวให้กลายเป็นพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาซึ่งมีพื้นที่อย่างน้อย 16,000 ตารางกิโลเมตรขึ้นไปใต้พื้นที่อ้างสิทธิไหล่ทวีประหว่างไทยกับกัมพูชาใต้ละติจูด 11 องศาเหนือ หรือถึงขั้นสูญเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลไปมากกว่านี้ได้ด้วย ผลลัพธ์ดังกล่าวจึงย่อมส่งผลกระทบในทางเสียหายต่อสิทธิอธิปไตยมากกว่าวิธีการเจรจาด้วย “เส้นมัธยะ” ตามมูลฐานที่บัญญัติเอาไว้ภายใต้อนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 เมื่อ MOU 2544 ซึ่งได้รับรองโดย JC 2544 มีผลทำให้เกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตหรือเขตอำนาจแห่งรัฐทางทะเลที่ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภากรณีจึงขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาตั้งแต่แรกและสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น MOU 2544 ที่รับรองโดย JC 2544 ยังทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดหรือบางส่วน เมื่อไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาจึงย่อมเป็นการขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ด้วยเช่นเดียวกัน จึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านหยุดการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการดำเนินการตาม MOU 2544 และ JC 2544 โดยทันที และดำเนินการแก้ไขตามข้อเสนอดังต่อไปนี้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ 1)ให้ท่านและคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปตามพระบรมราชโองการที่ประกาศตามมูลฐานแห่งอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 (UNCLOS 1982) อันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ตามบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 52 ของหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 2) ให้ท่านเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณามีมติให้ส่ง MOU 2544 และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ตั้งแต่แรก และขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่ รวมทั้งขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ด้วยหรือไม่ อันเป็นการดำเนินการตามมาตรา 178 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อสงสัยนี้เสียก่อน 3) หากดำเนินการตาม ๒) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU 2544และ JC 2544 ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ให้ยกเลิกการเจรจาตาม MOU 2544 และ JC 2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาทันที 4) หากดำเนินการตาม 2) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU 2544 และ JC 2544 ไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ก็ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU 2544 และ JC 2544 ทันที โดยให้เจรจากันใหม่ภายใต้การกำหนดขอบเขตเฉพาะพื้นที่พัฒนาร่วมบนพื้นฐานโดยใช้หลักการของ “เส้นมัธยะ” ในการอ้างสิทธิไหล่ทวีปทับซ้อนตามจริงของมูลฐานแห่งบทบัญญัติอนุสัญญากรุงเจนีวา ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1958 ประกอบกับอนุสัญญาสหประชาชาติด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 แล้วนำผลของการเจรจาเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้เจรจาเสร็จสิ้น ก่อนนำขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯ ต่อพระมหากษัตริย์เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัยและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศเป็นพระราชโองการ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา 1 และมาตรา 178 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ต่อไป 5) ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) ตาม MOU 2544 และ JC 2544ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้อง 6) ให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชนในเรื่อง MOU 2544 และ JC 2544 โดยให้มีความเห็นของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ ทั้งที่มีความเห็นต่างและที่มีความเห็นด้วยในเวทีอภิปรายสาธารณะซึ่งมีความเป็นกลางและเป็นธรรม ในสัดส่วนของเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ขอให้ท่านเสนอหนังสือฉบับนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และหากคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้วมีผลเป็นประการใดขอได้โปรดแจ้งข้าพเจ้าได้ทราบ ภายใน 15 วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาหนังสือฉบับนี้ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1110891340404565/?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมกล้าพูดว่า MOU2544 คือ MOU ขายชาติ
    .
    คำถามมีว่า MOU2544 นั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 เกิดขึ้นได้เพราะทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีตอนนั้น ไปจับมือกับฮุนเซน นายกรัฐมนยตรีของเขมร เพื่อร่าง MOU2544 ร่างขึ้นมาทำไม?ร่างเพื่อให้โอกาสเขมรซีซั้วร่างเส้นเขมรเอง เข้ามากินในพื้นที่ของประเทศไทย และคนร่าง MOU2544 คือ ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย ทำไมถึงกล้าร่าง MOU2544 โดยไม่สนใจพระบรมราชโองการเลยแม้แต่นิดเดียว แสดงว่าคุณไม่เห็นความสำคัญของพระบรมราชโองการในปี 2516 เลย แต่ว่าทำไมในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 คุณทักษิณถึงยอมรับพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษให้คุณ
    .
    อะไรที่เป็นพระบรมราชโองการที่ให้ประโยชน์กับคุณ คุณเอาใช่ไหม แต่ถ้าอะไรที่คุณไม่ได้ประโยชน์เหมือนพระบรมราชโองการ 2516 คุณไม่เอา
    .
    พ่อแม่พี่น้องนี่คือความจริง ผมถึงกล้าพูดได้ว่า MOU2544 คือ MOU ขายชาติ ประเทศไทยไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่เรามีนายกรัฐมนตรีทับซ้อน
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว MOU2544 ถ้ายึดตามพระบรมราชโองการปี 2516 จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ารัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สุรเกียรติ เสถียรไทยยอมรับในพระบรมราชโองการนี้ ก็ไม่มีวันที่จะเซ็น MOU2544
    ผมกล้าพูดว่า MOU2544 คือ MOU ขายชาติ . คำถามมีว่า MOU2544 นั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการในปี 2516 เกิดขึ้นได้เพราะทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีตอนนั้น ไปจับมือกับฮุนเซน นายกรัฐมนยตรีของเขมร เพื่อร่าง MOU2544 ร่างขึ้นมาทำไม?ร่างเพื่อให้โอกาสเขมรซีซั้วร่างเส้นเขมรเอง เข้ามากินในพื้นที่ของประเทศไทย และคนร่าง MOU2544 คือ ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย ทำไมถึงกล้าร่าง MOU2544 โดยไม่สนใจพระบรมราชโองการเลยแม้แต่นิดเดียว แสดงว่าคุณไม่เห็นความสำคัญของพระบรมราชโองการในปี 2516 เลย แต่ว่าทำไมในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 คุณทักษิณถึงยอมรับพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษให้คุณ . อะไรที่เป็นพระบรมราชโองการที่ให้ประโยชน์กับคุณ คุณเอาใช่ไหม แต่ถ้าอะไรที่คุณไม่ได้ประโยชน์เหมือนพระบรมราชโองการ 2516 คุณไม่เอา . พ่อแม่พี่น้องนี่คือความจริง ผมถึงกล้าพูดได้ว่า MOU2544 คือ MOU ขายชาติ ประเทศไทยไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่เรามีนายกรัฐมนตรีทับซ้อน . เพราะฉะนั้นแล้ว MOU2544 ถ้ายึดตามพระบรมราชโองการปี 2516 จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ารัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สุรเกียรติ เสถียรไทยยอมรับในพระบรมราชโองการนี้ ก็ไม่มีวันที่จะเซ็น MOU2544
    Love
    Like
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 628 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗ “สามัคคีเป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย”
    .
    วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) ผมและอาจารย์ปานเทพได้มอบเอกสารหนังสือร้องเรียนกึ่งๆกล่าวหาว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังทำผิด เพราะ MOU44 มันเป็น MOU ขายชาติ
    .
    นี่คือส.ค.ส.๒๕๔๗ ยี่สิบปีที่แล้วที่รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงเขียนขึ้นมา แล้วพระราชทานให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ ทรงเขียนว่า มีระเบิดทั่วไปหมด มีประเทศไทยประเทศเดียวไม่มี และที่สำคัญคือว่าท่านบอกว่า “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย”
    .
    พี่น้องลองดู ตรงนี้ถึงตรงนี้ เป็นพื้นที่ประเทศไทยที่พระองค์ทรงเขียนขึ้นมา และตัวจริงคือนี่คือแผนที่ประเทศไทย ถ้าเอาสองแผ่นประกบกันจะตรงกันเป๊ะ และภาพถัดไปเราเอาแผนที่ตัวจริงและพระบรมราชโองการลงตัวกันพอดี มีเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทยชัดเจน
    .
    ผมจะอ่านพระบรมราชโองการปี 2516 ให้ฟัง “ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย มีพระบรมราชโองการให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์ของแต่ละจุดที่ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย ซึ่งแนบท้ายประกาศนี้ เป็นเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย
    .
    ในการกำหนดเขตไหล่ทวีปนี้ได้ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศอันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปและตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีปซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ.๑๙๕๘ และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๑
    .
    แผนที่และจุดต่อเนื่องที่กำหนดพิกัดภูมิศาสตร์ตามประกาศนี้มีเพื่อแสดงแนวทั่วไปของเส้นกำหนดไหล่ทวีป สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ. ๑๙๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๖ เป็นปีที่ ๒๘ ในรัชกาลปัจจุบัน”
    ส.ค.ส.พระราชทาน ๒๕๔๗ “สามัคคีเป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย” . วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) ผมและอาจารย์ปานเทพได้มอบเอกสารหนังสือร้องเรียนกึ่งๆกล่าวหาว่า รัฐบาลชุดนี้กำลังทำผิด เพราะ MOU44 มันเป็น MOU ขายชาติ . นี่คือส.ค.ส.๒๕๔๗ ยี่สิบปีที่แล้วที่รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงเขียนขึ้นมา แล้วพระราชทานให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ ทรงเขียนว่า มีระเบิดทั่วไปหมด มีประเทศไทยประเทศเดียวไม่มี และที่สำคัญคือว่าท่านบอกว่า “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย” . พี่น้องลองดู ตรงนี้ถึงตรงนี้ เป็นพื้นที่ประเทศไทยที่พระองค์ทรงเขียนขึ้นมา และตัวจริงคือนี่คือแผนที่ประเทศไทย ถ้าเอาสองแผ่นประกบกันจะตรงกันเป๊ะ และภาพถัดไปเราเอาแผนที่ตัวจริงและพระบรมราชโองการลงตัวกันพอดี มีเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทยชัดเจน . ผมจะอ่านพระบรมราชโองการปี 2516 ให้ฟัง “ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย มีพระบรมราชโองการให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์ของแต่ละจุดที่ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย ซึ่งแนบท้ายประกาศนี้ เป็นเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย . ในการกำหนดเขตไหล่ทวีปนี้ได้ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศอันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไปและตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีปซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ.๑๙๕๘ และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๑ . แผนที่และจุดต่อเนื่องที่กำหนดพิกัดภูมิศาสตร์ตามประกาศนี้มีเพื่อแสดงแนวทั่วไปของเส้นกำหนดไหล่ทวีป สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขต และเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ค.ศ. ๑๙๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๖ เป็นปีที่ ๒๘ ในรัชกาลปัจจุบัน”
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 589 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ” ย้ำเอ็มโอยู44 คือเอ็มโอยูขายชาติ “ทักษิณ” จับมือ “ฮุนเซน” แบ่งปันผลประโยชน์โดยใช้ “สุรเกียรติ์” ที่อยากเป็นเลขาฯ ยูเอ็นเป็นคนลงนาม ลั่นสู้กับรัฐบาลโจรต้องรอบคอบ เป็นขั้นเป็นตอน อีก 15 วันจะทวงถามความคืบหน้า พร้อมยื่นประธานสภาฯ ให้เอาผิด สส.-สว.หากไม่ยอมยกเลิก จี้ กต.ยึดมั่นพระบรมราชโองการ หากทำสุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่องจึงจะลงถนน และสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000118257

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “สนธิ” ย้ำเอ็มโอยู44 คือเอ็มโอยูขายชาติ “ทักษิณ” จับมือ “ฮุนเซน” แบ่งปันผลประโยชน์โดยใช้ “สุรเกียรติ์” ที่อยากเป็นเลขาฯ ยูเอ็นเป็นคนลงนาม ลั่นสู้กับรัฐบาลโจรต้องรอบคอบ เป็นขั้นเป็นตอน อีก 15 วันจะทวงถามความคืบหน้า พร้อมยื่นประธานสภาฯ ให้เอาผิด สส.-สว.หากไม่ยอมยกเลิก จี้ กต.ยึดมั่นพระบรมราชโองการ หากทำสุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่องจึงจะลงถนน และสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000118257 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    21
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 783 มุมมอง 1 รีวิว
  • “สนธิ” ย้ำเอ็มโอยู44 คือเอ็มโอยูขายชาติ “ทักษิณ” จับมือ “ฮุนเซน” แบ่งปันผลประโยชน์โดยใช้ “สุรเกียรติ์” ที่อยากเป็นเลขาฯ ยูเอ็นเป็นคนลงนาม ลั่นสู้กับรัฐบาลโจรต้องรอบคอบ เป็นขั้นเป็นตอน อีก 15 วันจะทวงถามความคืบหน้า พร้อมยื่นประธานสภาฯ ให้เอาผิด สส.-สว.หากไม่ยอมยกเลิก จี้ กต.ยึดมั่นพระบรมราชโองการ หากทำสุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่องจึงจะลงถนน และสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว

    วันนี้(9 ธ.ค.) ภายหลังจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล
    โดยผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อยกเลิกบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC2544) นายสนธิ ได้ให้สัมภาษณเกี่ยวกับแนวทางการเคลื่อนไหวต่อเนื่องหลังจากยื่นหนังสือแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้

    “พี่น้องครับผมจะตอบคําถามว่า เราจะลงถนนเมื่อไหร่ พี่น้องครับ เวลาเราสู้กับรัฐบาลโจร เราต้องทํางานด้วยความรอบคอบ รอบคอบแปลว่าอะไร

    ทําไมเราต้องมาร้องเรียนเรื่องนี้ เพราะเราร้องเรียนแล้วเราก็วางเอาไว้ด้วยว่าถ้าคุณไม่ทําวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ถ้าคุณไม่ทําอันนี้จะเกิดอะไรขึ้น

    แล้วเราก็จะร้องเรียนต่อไปที่สภาผู้แทนราษฎร ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา และ สส.ทุกคน รวมทั้ง สว.ด้วย ชี้แจงให้ฟังว่า ถ้าท่านไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขายชาติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000118257

    #MGROnline #MOU44 #JC2544 #เกาะกูด #กัมพูชา #ไหล่ทวีป #พื้นที่ทับซ้อน #สนธิลิ้มทองกุล
    “สนธิ” ย้ำเอ็มโอยู44 คือเอ็มโอยูขายชาติ “ทักษิณ” จับมือ “ฮุนเซน” แบ่งปันผลประโยชน์โดยใช้ “สุรเกียรติ์” ที่อยากเป็นเลขาฯ ยูเอ็นเป็นคนลงนาม ลั่นสู้กับรัฐบาลโจรต้องรอบคอบ เป็นขั้นเป็นตอน อีก 15 วันจะทวงถามความคืบหน้า พร้อมยื่นประธานสภาฯ ให้เอาผิด สส.-สว.หากไม่ยอมยกเลิก จี้ กต.ยึดมั่นพระบรมราชโองการ หากทำสุดซอยแล้วยังไม่รู้เรื่องจึงจะลงถนน และสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว • วันนี้(9 ธ.ค.) ภายหลังจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล โดยผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อยกเลิกบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC2544) นายสนธิ ได้ให้สัมภาษณเกี่ยวกับแนวทางการเคลื่อนไหวต่อเนื่องหลังจากยื่นหนังสือแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้ • “พี่น้องครับผมจะตอบคําถามว่า เราจะลงถนนเมื่อไหร่ พี่น้องครับ เวลาเราสู้กับรัฐบาลโจร เราต้องทํางานด้วยความรอบคอบ รอบคอบแปลว่าอะไร • ทําไมเราต้องมาร้องเรียนเรื่องนี้ เพราะเราร้องเรียนแล้วเราก็วางเอาไว้ด้วยว่าถ้าคุณไม่ทําวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ถ้าคุณไม่ทําอันนี้จะเกิดอะไรขึ้น • แล้วเราก็จะร้องเรียนต่อไปที่สภาผู้แทนราษฎร ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา และ สส.ทุกคน รวมทั้ง สว.ด้วย ชี้แจงให้ฟังว่า ถ้าท่านไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขายชาติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000118257 • #MGROnline #MOU44 #JC2544 #เกาะกูด #กัมพูชา #ไหล่ทวีป #พื้นที่ทับซ้อน #สนธิลิ้มทองกุล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปที่ 1 คือแผนที่ ประกาศเขตไหล่ทวีป ของ ประเทศไทย โดยพระบรมราชโองการ ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9
    .
    รูปที่ 2 คือแผนที่ ประกาศเขตไหล่ทวีป ที่ขีดขึ้นตามอำเภอใจ ของ ประเทศกัมพูชา
    รูปที่ 1 คือแผนที่ ประกาศเขตไหล่ทวีป ของ ประเทศไทย โดยพระบรมราชโองการ ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 . รูปที่ 2 คือแผนที่ ประกาศเขตไหล่ทวีป ที่ขีดขึ้นตามอำเภอใจ ของ ประเทศกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิด 7 ข้อเท็จจริง 6 ข้อเรียกร้อง หนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้หยุดดำเนินการตาม MOU 2544 และ JC 2544 (ฉบับย่อ)

    เนื่องด้วยหนังสือของนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่จะยื่นหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันนี้ (9 มีนาคม 2567) มีความยาวถึง 14 หน้าและยังมีสิ่งที่ส่งมาด้วยอีกจำนวนมาก อันจะทำให้สื่อมวลชนอาจไม่สามารถนำเสนอข่าวตามเนื้อหาทั้งหมดได้ครบถ้วน จึงได้จัดทำสรุปเป็นฉบับย่อลงประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนดังนี้

    วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะบุคคลได้ยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC 2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป ตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1985 และกฎหมายอื่น รวมทั้งยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และยังไม่มีพระบรมราชโองการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000118115

    #MGROnline #MOU2544 #JC2544 #สนธิลิ้มทองกุล #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    เปิด 7 ข้อเท็จจริง 6 ข้อเรียกร้อง หนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้หยุดดำเนินการตาม MOU 2544 และ JC 2544 (ฉบับย่อ) • เนื่องด้วยหนังสือของนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่จะยื่นหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันนี้ (9 มีนาคม 2567) มีความยาวถึง 14 หน้าและยังมีสิ่งที่ส่งมาด้วยอีกจำนวนมาก อันจะทำให้สื่อมวลชนอาจไม่สามารถนำเสนอข่าวตามเนื้อหาทั้งหมดได้ครบถ้วน จึงได้จัดทำสรุปเป็นฉบับย่อลงประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนดังนี้ • วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะบุคคลได้ยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์เส้นไหล่ทวีปราชาณาอาณาจักรไทยกับกัมพูชา (MOU 2544) และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกับ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC 2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศเส้นเขตไหล่ทวีป ตามอนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1985 และกฎหมายอื่น รวมทั้งยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และยังไม่มีพระบรมราชโองการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000118115 • #MGROnline #MOU2544 #JC2544 #สนธิลิ้มทองกุล #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยที่ไม่ทันสังเกตว่าสะกดพระบรมราชโองการผิด ไม่ทันสังเกต แต่ได้ลงนามศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111 แล้วในฐานะพลเมืองไทย
    ขออภัยที่ไม่ทันสังเกตว่าสะกดพระบรมราชโองการผิด ไม่ทันสังเกต แต่ได้ลงนามศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111 แล้วในฐานะพลเมืองไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยึดถือตามพระบรมราชโองการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

    ดังนั้นวันที่ 9 ที่จะถึงนี้ คนไทยต้องไปกันเยอะๆครับ
    ยึดถือตามพระบรมราชโองการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ดังนั้นวันที่ 9 ที่จะถึงนี้ คนไทยต้องไปกันเยอะๆครับ
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 29 1 รีวิว
  • 4/12/67

    MOU 2544 นั้นทำให้ประเทศไทย ”ไม่ปฏิเสธ“ เส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเส้นเขตไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล เพราะ

    1.เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชารุกล้ำ ”ทะเลภายใน“ คือพื้นที่ทิศเหนือเส้นฐานตรงจากหลักเขตที่ 73 ถึงทิศใต้สุดของเกาะกูด จึงเท่ากับรุกล้ำดินแดนของราชอาณาจักรไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล
    2.รุกล้ำทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเล รอบเกาะกูด จึงเท่ากับรุกล้ำอธิปไตยไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล
    3.รุกล้ำเขตต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูด จึงเท่ากับรุกล้ำอธิปไตยไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล
    4.รุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย ไม่สนใจเส้นมัธยะฐานแบ่งเกาะกูดกับเกาะกง จึงไม่เป็นปตามกฎหมายทะเลสากล

    การเจรจาตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา ภายใต้ MOU2544 จึงขัดต่อพระบรมราชโองการ พ.ศ. 2516 ในสมัยรัชกาลที่ 9 ซึ่งกำหนดวิธีการเจรจาให้อยู่บนมูลฐานของกฎหมายทะเลสากลเท่านั้น การเจรจาภายใต้ MOU2544 จึงขัดต่อพระบรมราชโองการ และเมื่อไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงย่อมเป็นโมฆะ หากยังฝืนเจรจาต่อไปย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    28 พฤศจิกายน 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1103720854454947/?
    4/12/67 MOU 2544 นั้นทำให้ประเทศไทย ”ไม่ปฏิเสธ“ เส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเส้นเขตไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล เพราะ 1.เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชารุกล้ำ ”ทะเลภายใน“ คือพื้นที่ทิศเหนือเส้นฐานตรงจากหลักเขตที่ 73 ถึงทิศใต้สุดของเกาะกูด จึงเท่ากับรุกล้ำดินแดนของราชอาณาจักรไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล 2.รุกล้ำทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเล รอบเกาะกูด จึงเท่ากับรุกล้ำอธิปไตยไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล 3.รุกล้ำเขตต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลรอบเกาะกูด จึงเท่ากับรุกล้ำอธิปไตยไทย ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล 4.รุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย ไม่สนใจเส้นมัธยะฐานแบ่งเกาะกูดกับเกาะกง จึงไม่เป็นปตามกฎหมายทะเลสากล การเจรจาตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา ภายใต้ MOU2544 จึงขัดต่อพระบรมราชโองการ พ.ศ. 2516 ในสมัยรัชกาลที่ 9 ซึ่งกำหนดวิธีการเจรจาให้อยู่บนมูลฐานของกฎหมายทะเลสากลเท่านั้น การเจรจาภายใต้ MOU2544 จึงขัดต่อพระบรมราชโองการ และเมื่อไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงย่อมเป็นโมฆะ หากยังฝืนเจรจาต่อไปย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 28 พฤศจิกายน 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1103720854454947/?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่มีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่ไทยมีแต่เสียเปรียบกัมพูชามากขนาดนี้ ภาพแรก ด้านซ้ายมือสุด เป็นพื้นที่ตามพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศเขตไหล่ทวีปตามกฎหมายทะเลสากลโดยลากจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดของไทยและ เกาะกงของกัมพูชา ก่อให้เกิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะในอ่าวไทย 88,194 ตารางกิโลเมตร หรือ 55 ล้านไร่ เป็นของประเทศไทยประเทศเดียว ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน สามารถใช้สิทธิทางทะเล ทั้งอ่าวไทย การท่องเที่ยว การทหาร และทรัพยากรโดยไม่เคยถูกรุกล้ำทางกายภาพจากกัมพูชาเลยแม้แต่ครั้งเดียวภาพที่สอง เป็นภาพ MOU 2544 พื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะของไทยตามพระบรมราชโองการ 88,194 ตารางกิโลเมตร กลับหายไปประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร โดยแบ่งเป็นพี้นที่เหนือละติจูดองศาเหนือขึ้นไปประมาณ 10,000 ตารางกิโลเมตร ให้เจรจาแบ่งเขตแดน ส่วนพื้นที่ใต้ละติจูดองศาเหนือลงมา 16,000 ตารางกิโลเมตร ให้แบ่งผลประโยชน์กันระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการภาพที่สาม เป็นภาพ MOU2544 ภาพที่ 3 เป็นสมมุติฐานว่ากัมพูชาได้รับผลการเจรจาได้พื้นที่ทางทะเลมากที่สุด ไทยจะสูญเสียพื้นที่ทางทะเลเหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไป จำนวน 10,000 ตารางกิโลเมตรตกเป็นของกัมพูชา ส่วนพื้นที่ด้านใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมาจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร กลายเป็นพื้นที่แบ่งผลประโยชน์กันในการพัฒนาร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการภาพที่สี่ เป็นภาพ MOU2544 ภาพขวาสุด เป็นสมมุติฐานว่าฝ่ายไทยได้รับผลการเจรจาได้พื้นที่ทางทะเลมากที่สุดตาม MOU 2544 ไทยจะได้เพื้นที่ทางทะเลเหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไป จำนวน 10,000 ตารางกิโลเมตรทั้งๆที่เป็นของไทยตามกฎหมายทะเลสากลอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่ด้านใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมาจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร กลายเป็นพื้นที่แบ่งผลประโยชน์กันในการพัฒนาร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการจะมีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรไทยที่เปลี่ยนหลักการ “สิทธิอธิปไตย” ในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทยที่เสียเปรียบและแตกต่างจากพระบรมราชโองการจนเสียเปรียบขนาดนี้ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ไม่สนใจแผนที่ตามพระบรมราชโองการอีกด้วยถึงเวลาต้องเพิกถอน MOU2544 และ JC2544 แล้วหรือยัง? ขอเชิญทุกท่านร่วมลงนามถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแก้ไขการเสียเปรียบของชาติในครั้งนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 9.00 น. ณ โรงอาหารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ของทำเนียบรัฐบาล (กพ.) และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เวลา 10.00 น.ด้วยจิตคารวะปานเทพ พัวพงษ์พันธ์คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 2 ธันวาคม 2567https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1106546160839083/?
    ไม่มีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่ไทยมีแต่เสียเปรียบกัมพูชามากขนาดนี้ ภาพแรก ด้านซ้ายมือสุด เป็นพื้นที่ตามพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศเขตไหล่ทวีปตามกฎหมายทะเลสากลโดยลากจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดของไทยและ เกาะกงของกัมพูชา ก่อให้เกิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะในอ่าวไทย 88,194 ตารางกิโลเมตร หรือ 55 ล้านไร่ เป็นของประเทศไทยประเทศเดียว ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน สามารถใช้สิทธิทางทะเล ทั้งอ่าวไทย การท่องเที่ยว การทหาร และทรัพยากรโดยไม่เคยถูกรุกล้ำทางกายภาพจากกัมพูชาเลยแม้แต่ครั้งเดียวภาพที่สอง เป็นภาพ MOU 2544 พื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะของไทยตามพระบรมราชโองการ 88,194 ตารางกิโลเมตร กลับหายไปประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร โดยแบ่งเป็นพี้นที่เหนือละติจูดองศาเหนือขึ้นไปประมาณ 10,000 ตารางกิโลเมตร ให้เจรจาแบ่งเขตแดน ส่วนพื้นที่ใต้ละติจูดองศาเหนือลงมา 16,000 ตารางกิโลเมตร ให้แบ่งผลประโยชน์กันระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการภาพที่สาม เป็นภาพ MOU2544 ภาพที่ 3 เป็นสมมุติฐานว่ากัมพูชาได้รับผลการเจรจาได้พื้นที่ทางทะเลมากที่สุด ไทยจะสูญเสียพื้นที่ทางทะเลเหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไป จำนวน 10,000 ตารางกิโลเมตรตกเป็นของกัมพูชา ส่วนพื้นที่ด้านใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมาจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร กลายเป็นพื้นที่แบ่งผลประโยชน์กันในการพัฒนาร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการภาพที่สี่ เป็นภาพ MOU2544 ภาพขวาสุด เป็นสมมุติฐานว่าฝ่ายไทยได้รับผลการเจรจาได้พื้นที่ทางทะเลมากที่สุดตาม MOU 2544 ไทยจะได้เพื้นที่ทางทะเลเหนือละติจูด 11 องศาเหนือขึ้นไป จำนวน 10,000 ตารางกิโลเมตรทั้งๆที่เป็นของไทยตามกฎหมายทะเลสากลอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่ด้านใต้ละติจูด 11 องศาเหนือลงมาจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร กลายเป็นพื้นที่แบ่งผลประโยชน์กันในการพัฒนาร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ทั้งๆที่เคยเป็นพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมด ทั้งตามกายภาพ ตามกฎหมายทะเลสากล และตามพระบรมราชโองการจะมีการเจรจาครั้งใดในประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรไทยที่เปลี่ยนหลักการ “สิทธิอธิปไตย” ในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทยที่เสียเปรียบและแตกต่างจากพระบรมราชโองการจนเสียเปรียบขนาดนี้ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ไม่สนใจแผนที่ตามพระบรมราชโองการอีกด้วยถึงเวลาต้องเพิกถอน MOU2544 และ JC2544 แล้วหรือยัง? ขอเชิญทุกท่านร่วมลงนามถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแก้ไขการเสียเปรียบของชาติในครั้งนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 9.00 น. ณ โรงอาหารศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ของทำเนียบรัฐบาล (กพ.) และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เวลา 10.00 น.ด้วยจิตคารวะปานเทพ พัวพงษ์พันธ์คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 2 ธันวาคม 2567https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1106546160839083/?
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตย4วินาทีนอกนั้นเผด็จการประชาชนหย่อนบัตรเลือกตั้งแค่นั้น...ต่อจากนั้นไม่เคยเห็นหัวประชาชนเลยคนไทยต้องทนอยู่กับระบอบแบบนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหนจากรุ่นสู่รุ่นงั้นหรือ???เห็นมีแต่ผลประโยชน์นักการเมืองทั้งนั้น"คนไทยตกงานเลิกจ้างย้ายฐานไปเวียดนาม "ทรัพยากรในอ่าวไทย"@เกาะกูดปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละไม่ต้องดูดขึ้นมาหรอกคนไทยไม่เคยได้ผลประโยชน์อะไรน้ำมันขุดในไทยอิงราคาตลาดโลกไฟฟ้าผลิตเกินความต้องการของคนไทยเหลือจนล้นต้องขายให้เพื่อนบ้านในราคาถูกกว่าคนไทยเสียอีก😔คนไทยใช้แพงกว่าเพื่อนบ้านอีกนี่มันอะไรกัน"ปตท.กำไรปีๆหนึ่งเท่าไหร่...สงสารคนชาติเดียวกันบ้างไหมกำลังจะตายกันหมดแล้วว่างงาน,ปลดพนักงานกันทั่วประเทศ นี่หรืออยู่ดีกินดีมีศักดิ์ศรี👎"ไม่มีแล้วคนจนเพราะคนจนจะตายหมดไง🤷‍♀️##@พอเหอะ"MOU44,JC44"อะไรเจรจาทำไมของประเทศไทย100%จะไปแบ่ง50/50อะไร"บันทึกความเข้าใจระหว่างคนสองคนไม่ได้ผ่านสภามันโมฆะตั้งแต่ต้นไปดู@"พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านเขียนไว้ว่าอย่างไร?เจรจาในกรอบทะเลสากลรอบเกาะกูด12ไมล์ทะเลและไหล่ทวีปอีก24ไมล์ทะเลของประเทศไทย จะเจรจาในกรอบอะไรเขมรก็ไม่ได้อยู่ในสนธิสัญญาอยู่แล้วใครทำก็ผิด⚖🧲📣
    ประชาธิปไตย4วินาทีนอกนั้นเผด็จการประชาชนหย่อนบัตรเลือกตั้งแค่นั้น...ต่อจากนั้นไม่เคยเห็นหัวประชาชนเลยคนไทยต้องทนอยู่กับระบอบแบบนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหนจากรุ่นสู่รุ่นงั้นหรือ???เห็นมีแต่ผลประโยชน์นักการเมืองทั้งนั้น"คนไทยตกงานเลิกจ้างย้ายฐานไปเวียดนาม "ทรัพยากรในอ่าวไทย"@เกาะกูดปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละไม่ต้องดูดขึ้นมาหรอกคนไทยไม่เคยได้ผลประโยชน์อะไรน้ำมันขุดในไทยอิงราคาตลาดโลกไฟฟ้าผลิตเกินความต้องการของคนไทยเหลือจนล้นต้องขายให้เพื่อนบ้านในราคาถูกกว่าคนไทยเสียอีก😔คนไทยใช้แพงกว่าเพื่อนบ้านอีกนี่มันอะไรกัน"ปตท.กำไรปีๆหนึ่งเท่าไหร่...สงสารคนชาติเดียวกันบ้างไหมกำลังจะตายกันหมดแล้วว่างงาน,ปลดพนักงานกันทั่วประเทศ นี่หรืออยู่ดีกินดีมีศักดิ์ศรี👎"ไม่มีแล้วคนจนเพราะคนจนจะตายหมดไง🤷‍♀️##@พอเหอะ"MOU44,JC44"อะไรเจรจาทำไมของประเทศไทย100%จะไปแบ่ง50/50อะไร"บันทึกความเข้าใจระหว่างคนสองคนไม่ได้ผ่านสภามันโมฆะตั้งแต่ต้นไปดู@"พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านเขียนไว้ว่าอย่างไร?เจรจาในกรอบทะเลสากลรอบเกาะกูด12ไมล์ทะเลและไหล่ทวีปอีก24ไมล์ทะเลของประเทศไทย จะเจรจาในกรอบอะไรเขมรก็ไม่ได้อยู่ในสนธิสัญญาอยู่แล้วใครทำก็ผิด⚖🧲📣
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะเอาพื้นที่ทางทะเลไปแบ่งเขาทำไมก่อน...???
    .
    ยึด พระบรมราชโองการ "ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทยด้านอ่าวไทย" สิครับ
    .
    ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตาม "อนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา" สิครับ
    .
    เมื่อยึดตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แอ่งปัตตานี ตรงนั้น เป็นของประเทศไทย ทั้งหมด...!!!
    .
    ไม่จำเป็นต้องแบ่งให้ใครเลยครับ...!!!
    จะเอาพื้นที่ทางทะเลไปแบ่งเขาทำไมก่อน...??? . ยึด พระบรมราชโองการ "ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทยด้านอ่าวไทย" สิครับ . ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตาม "อนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา" สิครับ . เมื่อยึดตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แอ่งปัตตานี ตรงนั้น เป็นของประเทศไทย ทั้งหมด...!!! . ไม่จำเป็นต้องแบ่งให้ใครเลยครับ...!!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 23 1 รีวิว
  • นายกฯ วอนอย่าก่อม็อบหวั่นกระทบท่องเที่ยว บอก “สนธิ” ยื่นหนังสือ ต้องเป็นตามกระบวนการ ยันเลิก MOU44 ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องคุยกันก่อน ลั่นเกิดแผ่นดินไทย ไม่มีทางเห็นประเทศใดกว่า เผยเห็นพระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปแล้ว อะไรที่เป็นปัญหาจะไม่ชน ต้องค่อยๆ ร่วมกันแก้ไข

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114939

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกฯ วอนอย่าก่อม็อบหวั่นกระทบท่องเที่ยว บอก “สนธิ” ยื่นหนังสือ ต้องเป็นตามกระบวนการ ยันเลิก MOU44 ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องคุยกันก่อน ลั่นเกิดแผ่นดินไทย ไม่มีทางเห็นประเทศใดกว่า เผยเห็นพระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปแล้ว อะไรที่เป็นปัญหาจะไม่ชน ต้องค่อยๆ ร่วมกันแก้ไข อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114939 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    11
    7 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1084 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เพิกถอน MOU 2544 ยึดมั่นพระบรมราชโองการ ##
    ..
    ..
    โดยหลักการ พื้นที่อ้างสิทธิ์ สามารถทับซ้อนกันได้...
    .
    แต่ถ้ามีพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทับซ้อนเกินความเป็นจริงไปมาก ทำให้อีกฝั่ง เสียสิทธิ์ โดยไม่ยึดตามหลักกฎหมายทะเลสากล สิ่งนี้รับไม่ได้...
    .
    MOU44 มีแผนที่แนบท้าย ซึ่งวาดเอาเองตามอำเภอใจ ของ กัมพูชา ตีเส้นผ่านเกาะกูด ทำให้พื้นที่ "น่านน้ำภายในอ่าวไทย" และ “ทะเลอาณาเขต” หายไป รวมทั้ง “เขตต่อเนื่อง” อีกด้วย
    .
    อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพื้นที่อ้างสิทธิ์ที่ถูกต้องไป ทำให้เกิดพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งเกิดการทับซ้อนเกินจริงไปมาก...!!!
    .
    ดังนั้น MOU44 มีโอกาสทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบบนเวทีโลก โดยมี กรณีเข้าพระวิหารเป็นตัวอย่างซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงเพราะแค่ ประเทศไทย ไม่เคยแสดงออก ไม่เคยปฎิเสธ ประเทศไทยก็สูญเสียเขาพระวิหารไปแล้ว สิ่งนี้เขาเรียกว่า “หลักกฎหมายปิดปาก”
    .
    อีกทั้ง MOU44 ซึ่งมีลักษณะ อันอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐได้ ดังนั้น MOU44 จึงถือเป็นหนังสือสัญญา ที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
    .
    ซึ่ง MOU44 ฉบับนี้ ชัดเจนที่สุดมาก ว่าไม่ได้เคยผ่านความเห็นชอบของสภาเลยแม้แต่นิดเดียว จึงเป็นการ ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
    .
    อีกทั้ง MOU44 ฉบับนี้ มีเนื้อหาขัดต่อ พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ที่กำหนดวิธีการ ในการเจรจาไว้แล้ว ว่าจะต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ ว่าด้วยทะเล เท่านั้น
    .
    ดังนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่ามาทั้งหมดนี้ MOU44 จึงเป็น “โมฆะ” มาตั้งแต่ต้น มีผลเสมือนไม่เคยเกิดมีขึ้นบนโลกใบนี้มาก่อน ตั้งแต่โบราณกาลจวบกระทั่งอนาคต ตราบชั่วฟ้าดินสลาย...!!!
    ...
    ...
    12 กรกฎาคม 2515 กัมพูชา ประกาศเขตไหล่ทวีป ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 รุกล้ำอธิปไตยไทย รุกล้ำทะเลอาณาเขต รุกล้ำทะเลต่อเนื่องไทย และ รุกล้ำเศรษฐกิจจำเพาะไทย...
    .
    โดยไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายสากลว่าด้วยทะเล บทบัญญัติแห่งกรุงเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีป ค.ศ.1958...!!!
    .
    มีการนับโขดหิน ขึ้นมาอ้างเพื่อวาดเส้นไหล่ทวีปนี้ ซึ่งขัดกับ กฎหมาย UNCLOS ล่าสุดข้อหนึ่งที่ว่า ไม่ให้นับรวมโขดหินที่มนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตอาศัยอยู่ได้ ในการขีดเส้นไหล่ทวีป...
    .
    ย้อนกลับไปในวันที่ 1 กรกฎาคม 2515 พระราชกฤษฎีกากัมพูชา ประกาศไหล่ทวีปฝ่ายเดียวจากหลักเขตที่ 73 อ้อมเกาะกูดของไทยเป็นรูปตัว U ลงนามโดย นายพล ลอนนอน
    .
    ขีดเส้นไหล่ทวีปประชิดเกาะกูด แต่...!!!
    .
    ยอมรับว่า เกาะกูด เป็นของประเทศไทย...!!!
    .
    โดยหลักกหมายสากลทางทะเล ถ้าเกาะกูดเป็นของประเทศไทยจริง...!!!
    .
    เกาะกูดก็ต้องมี...
    .
    1.ทะเลอาณาเขต รอบเกาะกูด (12 ไมล์ทะเล)
    2.ทะเลต่อเนื่องไทย (24 ไมล์ทะเล)
    .
    ดังนั้น ประเทศไทย เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนครั้งที่เสีย ปราสาทพระวิหาร ให้กัมพูชา...
    .
    จึงแก้เกมด้วยการประกาศ พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทยด้านอ่าวไทย โดย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นพระมหากัตริย์ เป็นพระประมุขแห่งรัฐ เป็นผู้นำสูงสุดแห่งรัฐ
    .
    โดยแผนที่นี้ ขีดเส้นไหล่ทวีปด้วยการ ลากจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเส้นฐานที่ใกล้ที่สุดระหว่าง เกาะกูด และ เกาะกง ลงไป เรียกว่า เส้นมัธยฐาน...
    .
    ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตาม หลักกฎหมายทะเลสากล...!!!
    .
    พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ฉบับบนี้ จึงความหมาย เป็นการ "ปฏิเสธเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ที่ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย"
    .
    โดยใน พระบรมราชโองการ กำหนดชัดเจนว่า "การใช้สิทธิ์อธิปไตย ในการสำรวจแสวงผลประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย" จึงกำหนดเขตไล่ทวีปขึ้น
    .
    ให้เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1958 และ ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2511
    .
    และ กำหนดวิธีการเจรจาไว้แล้วด้วยว่า ส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียง อันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีป
    .
    จะเป็นไปตามที่ตกลงกัน โดย...!!!
    .
    ยึดมูลฐานแห่งบทบัญญัติของ อนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1958
    .
    เมื่อประเทศไทย ยึดหลักตามหลักกฎหมายทะเลสากล เส้นไหล่ทวีปที่ยึดจึงต้องเป็น เส้นไหล่ทวีป ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดไว้เท่านั้น...!!!
    .
    ดังนั้น เมื่อยึดเขตไหล่ทวีปตามหลักกฎหมายสากลทางทะเล...!!!
    .
    พลังงานภายใต้ แอ่งปัตตานี ตรงนั้น จึงต้องเป็นของประเทศไทย ทั้งหมด ตามกฎหมายสากลระหว่างประเทศว่าด้วยทะเล...!!!
    .
    ไม่จำเป็นต้องแบ่งให้ใครเลย...
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=FyksvXqjj1s&t=124s
    ## เพิกถอน MOU 2544 ยึดมั่นพระบรมราชโองการ ## .. .. โดยหลักการ พื้นที่อ้างสิทธิ์ สามารถทับซ้อนกันได้... . แต่ถ้ามีพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทับซ้อนเกินความเป็นจริงไปมาก ทำให้อีกฝั่ง เสียสิทธิ์ โดยไม่ยึดตามหลักกฎหมายทะเลสากล สิ่งนี้รับไม่ได้... . MOU44 มีแผนที่แนบท้าย ซึ่งวาดเอาเองตามอำเภอใจ ของ กัมพูชา ตีเส้นผ่านเกาะกูด ทำให้พื้นที่ "น่านน้ำภายในอ่าวไทย" และ “ทะเลอาณาเขต” หายไป รวมทั้ง “เขตต่อเนื่อง” อีกด้วย . อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพื้นที่อ้างสิทธิ์ที่ถูกต้องไป ทำให้เกิดพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งเกิดการทับซ้อนเกินจริงไปมาก...!!! . ดังนั้น MOU44 มีโอกาสทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบบนเวทีโลก โดยมี กรณีเข้าพระวิหารเป็นตัวอย่างซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงเพราะแค่ ประเทศไทย ไม่เคยแสดงออก ไม่เคยปฎิเสธ ประเทศไทยก็สูญเสียเขาพระวิหารไปแล้ว สิ่งนี้เขาเรียกว่า “หลักกฎหมายปิดปาก” . อีกทั้ง MOU44 ซึ่งมีลักษณะ อันอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐได้ ดังนั้น MOU44 จึงถือเป็นหนังสือสัญญา ที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา . ซึ่ง MOU44 ฉบับนี้ ชัดเจนที่สุดมาก ว่าไม่ได้เคยผ่านความเห็นชอบของสภาเลยแม้แต่นิดเดียว จึงเป็นการ ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ . อีกทั้ง MOU44 ฉบับนี้ มีเนื้อหาขัดต่อ พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ที่กำหนดวิธีการ ในการเจรจาไว้แล้ว ว่าจะต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ ว่าด้วยทะเล เท่านั้น . ดังนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่ามาทั้งหมดนี้ MOU44 จึงเป็น “โมฆะ” มาตั้งแต่ต้น มีผลเสมือนไม่เคยเกิดมีขึ้นบนโลกใบนี้มาก่อน ตั้งแต่โบราณกาลจวบกระทั่งอนาคต ตราบชั่วฟ้าดินสลาย...!!! ... ... 12 กรกฎาคม 2515 กัมพูชา ประกาศเขตไหล่ทวีป ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 รุกล้ำอธิปไตยไทย รุกล้ำทะเลอาณาเขต รุกล้ำทะเลต่อเนื่องไทย และ รุกล้ำเศรษฐกิจจำเพาะไทย... . โดยไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายสากลว่าด้วยทะเล บทบัญญัติแห่งกรุงเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีป ค.ศ.1958...!!! . มีการนับโขดหิน ขึ้นมาอ้างเพื่อวาดเส้นไหล่ทวีปนี้ ซึ่งขัดกับ กฎหมาย UNCLOS ล่าสุดข้อหนึ่งที่ว่า ไม่ให้นับรวมโขดหินที่มนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตอาศัยอยู่ได้ ในการขีดเส้นไหล่ทวีป... . ย้อนกลับไปในวันที่ 1 กรกฎาคม 2515 พระราชกฤษฎีกากัมพูชา ประกาศไหล่ทวีปฝ่ายเดียวจากหลักเขตที่ 73 อ้อมเกาะกูดของไทยเป็นรูปตัว U ลงนามโดย นายพล ลอนนอน . ขีดเส้นไหล่ทวีปประชิดเกาะกูด แต่...!!! . ยอมรับว่า เกาะกูด เป็นของประเทศไทย...!!! . โดยหลักกหมายสากลทางทะเล ถ้าเกาะกูดเป็นของประเทศไทยจริง...!!! . เกาะกูดก็ต้องมี... . 1.ทะเลอาณาเขต รอบเกาะกูด (12 ไมล์ทะเล) 2.ทะเลต่อเนื่องไทย (24 ไมล์ทะเล) . ดังนั้น ประเทศไทย เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนครั้งที่เสีย ปราสาทพระวิหาร ให้กัมพูชา... . จึงแก้เกมด้วยการประกาศ พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทยด้านอ่าวไทย โดย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นพระมหากัตริย์ เป็นพระประมุขแห่งรัฐ เป็นผู้นำสูงสุดแห่งรัฐ . โดยแผนที่นี้ ขีดเส้นไหล่ทวีปด้วยการ ลากจากหลักเขตที่ 73 แบ่งครึ่งมุมระหว่างเส้นฐานที่ใกล้ที่สุดระหว่าง เกาะกูด และ เกาะกง ลงไป เรียกว่า เส้นมัธยฐาน... . ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตาม หลักกฎหมายทะเลสากล...!!! . พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป ฉบับบนี้ จึงความหมาย เป็นการ "ปฏิเสธเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ที่ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย" . โดยใน พระบรมราชโองการ กำหนดชัดเจนว่า "การใช้สิทธิ์อธิปไตย ในการสำรวจแสวงผลประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย" จึงกำหนดเขตไล่ทวีปขึ้น . ให้เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1958 และ ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2511 . และ กำหนดวิธีการเจรจาไว้แล้วด้วยว่า ส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียง อันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีป . จะเป็นไปตามที่ตกลงกัน โดย...!!! . ยึดมูลฐานแห่งบทบัญญัติของ อนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1958 . เมื่อประเทศไทย ยึดหลักตามหลักกฎหมายทะเลสากล เส้นไหล่ทวีปที่ยึดจึงต้องเป็น เส้นไหล่ทวีป ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดไว้เท่านั้น...!!! . ดังนั้น เมื่อยึดเขตไหล่ทวีปตามหลักกฎหมายสากลทางทะเล...!!! . พลังงานภายใต้ แอ่งปัตตานี ตรงนั้น จึงต้องเป็นของประเทศไทย ทั้งหมด ตามกฎหมายสากลระหว่างประเทศว่าด้วยทะเล...!!! . ไม่จำเป็นต้องแบ่งให้ใครเลย... . https://www.youtube.com/watch?v=FyksvXqjj1s&t=124s
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts