• นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเรื่องระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม โดยบรรจุเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้

    -ไร้ปัญหาข้อกฎหมาย
    -ไม่มีคำตอบจาก"ภูมิธรรม"
    -ภาค 1 ซีลชายแดน 16 กม.
    -การเมืองเซกระทบเบิกงบ
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเรื่องระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม โดยบรรจุเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้ -ไร้ปัญหาข้อกฎหมาย -ไม่มีคำตอบจาก"ภูมิธรรม" -ภาค 1 ซีลชายแดน 16 กม. -การเมืองเซกระทบเบิกงบ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 345 Views 0 0 Reviews
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    บทสรุป
    อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร
    กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ
    เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ
    นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ?
    – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย
    – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration)
    – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu
    การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน
    ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี!
    ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ
    ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa
    ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย)
    ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ?
    นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้
    เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” บทสรุป อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ? – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration) – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี! ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย) ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ? นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้ เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 5
    อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change
    เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ?
    กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ
    เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก)
    เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ?
    ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ !
    ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ
    – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย
    – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด
    – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !)
    – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด
    – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี
    – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม
    – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju
    – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว
    นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !)
    ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว !
    อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !)
    SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ
    สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!)

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 5 อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ? กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก) เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ? ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ ! ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !) – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !) ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว ! อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !) SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!) คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 4
    ยุทธศาสตร์ความมั่นคง National Security Strategy สำหรับปี ค.ศ. 2014 ยังไม่คลอดคาด ว่าจะคลอดประมาณเดือนเมษายน, พฤษภาคม แต่อย่างน้อย อเมริกาก็ใบ้หวยมาหลายครั้งแล้ว คือ
    – เมื่อกลางปี ค.ศ. 2012 อเมริกาบอกว่า จะมีการปรับกองกำลังของอเมริการะหว่าง
    แอตแลนติกกับแปซิฟิก จากที่เคยวางไว้ที่ 50:50 เป็น 40:60 แปลว่าให้น้ำหนักทางแปซิฟิก มากขึ้น
    – มาปลายปี ค.ศ. 2013 อเมริกาย้ำซ้ำว่า เราจะทำการปรับดุลยอำนาจในแถวเอเซีย
    แปซิฟิกเสียใหม่
    – พอต้นปี ค.ศ. 2014 มีข่าวปล่อยว่า อเมริกาอาจจะพิจารณาผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน แบบนี้เซียนการเมืองต่อรองกันน่าดู ฝ่ายที่เล่นว่าอเมริกาไม่พร้อมจะก่อศึก 2 ด้านพร้อมกัน รู้ข่าววงในหรือไง !
    มาดูฝ่ายเหล่าเสือร้ายลายก้างขวางคอกันบ้าง กำลังภายในภายนอก รวมกันแล้วน่า
    ตีมือตบ เป่านกหวีดให้แค่ไหน
    ด้านอิหร่าน ถ้ารวมตัวกับรัสเซีย ซีเรียและพวกที่มีแยะ แต่ยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว
    ขณะนี้ ร่วมกันเล่นมวยหมู่ นักล่าก็จุกได้เหมือนกัน
    ส่วนด้านจีน ถ้ารวมกับกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ (Shanghai Corporation Organization ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วย) บวกกับเด็กแสบแห่งเกาหลีเหนือ
    คราวนี้อเมริกาไม่ใช่แค่จุก แต่อาจจะถึงกับเดี้ยงไปเลย เพราะเกาหลีเหนือพร้อม
    ทุกเมื่อ ที่จะส่งของขวัญ แบบส่งตรงไม่ต้องฝากใคร ไปให้อเมริกาถึงหน้าทำเนียบขาว หรือวอชิงตันดีซี (ไม่รู้ราคาคุยของเด็กแสบหรือเปล่า)
    คิดแบบนี้ นักล่าก็น่าจะคลายมือที่บีบคออิหร่านออกมาสัก 1 หุน และหันมาโชว์พาวใช้โปรแกรมขย่มขวัญอาเฮีย ด้าน Asia Pacific น่าจะเข้าท่ากว่า แล้วนี่ ถ้าบรรดาพวกก้าง เขารวมหัวกันหมด นักล่าจะใช้โปรแกรมไหนเอ่ย นึกว่าเขาไม่คิดรวม หรือไม่กล้าเล่นหรือไง
    ไม่ว่านักล่าตัดสินใจมาทาง Asia Pacific หรือล่ามันทั้งโลก โปรแกรมที่เลือกใช้
    ไม่ว่าโปรแกรมใด แน่นอนต้องมีไทยแลนด์ แดนสมันน้อย เข้าไปเกี่ยวด้วยทุกรายการ สมันน้อย ถูกสัญญาทาสผูกคอมาตั้งแต่สมัยจอมพลคนแปลก หลวมตัวทำเอาไว้ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)ที่เราเรียกกันว่าสัญญา JUSMAC ท่านใดที่ลืมเรื่องนี้ โปรดกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย นะครับ สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2012) นาย Leon Panetta รมว.กลาโหมของนักล่า ขณะนั้น ก็คว้ามือคุณพี่สุกำพล รมว.กลาโหมไทยขณะนั้น
    เอาแปะโป้งซ้ำอีกรอบ ใน Joint Vision Statement ระหว่างอเมริกากับไทย พร้อมออกข่าวแถลงด้วยความดีใจ ว่าเป็นทาสเขาไปอีกรอบแล้ว
    ภายใต้สัญญา JUSMAC อเมริกาสามารถตั้งฐานทัพ ในราชอาณาจักรไทยได้
    เมื่อไทยขอร้อง หรือเมื่ออเมริกาเห็นว่าไทยถูกคุกคาม ไอ้ฉากแบบนี้น่ะ มันสร้างยากนักหรือ เพราะฉะนั้น พี่น้องก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ อย่ามัวแต่นั่งโลกสวย คอยอธิบายแก้ข่าวที่พวกนักล่ามันแกล้งให้ สื่อเฮงซวยลงข่าวบ้านเราผิด ๆ ประเภท ประเทศไทยกำลังทำลายประชาธิปไตย ด้วยการประท้วงไม่ให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ
    เลิกไปอธิบายซ้ำซากกับพวกสื่อต่างชาติได้แล้ว มันรู้อยู่แล้วว่าอะไร เป็นอะไร แต่มันแกล้งสร้างข่าว เพื่อเบนความสนใจของเราไปจากเรื่องจริง คือการมาใช้ฐานทัพและ
    การขะโมยทรัพยากรของเรา ดังนั้นหัดคิดในเชิงรุกกันบ้าง ว่าเราจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้มันมาสาระแนในบ้านเรา เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน
    ข่าวลือมันมีมาตลอดว่า อเมริกาจะมาใช้ฐานทัพอู่ตะเภาของไทย ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2555(ค.ศ. 2012) ข่าวนี้แรกหลุดมาจากการประชุม Shangrila Dialogue ประมาณเดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ International Institute for Strategic Studies (IISS)
    ซึ่งเป็นหน่วยงานประเภท think tank ระหว่างรัฐบาลด้านความมั่นคง (ก็หน่วยงานของพวก CFRนั่นแหละ !) ที่ประชุมกันที่โรงแรม Shangrila สิงคโปร์ทุกปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002
    ฝ่ายไทยที่ไปร่วมประชุม จะมีตัวแทนเป็นนักวิชาการด้านความมั่นคงบ้าง ผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศและผู้แทนจากกองทัพ เท่าที่จำได้ (จากเอกสารครับ ไม่เคยไป !) ขาประจำผูกขาดที่ไปประชุม ชื่อ นิพัท ทองเล็ก
    ในปี พ.ศ. 2555 คุณพี่สุกำพล ควงกะคุณน้องนิพัท ไปนั่งกระหนุง กระหนิง กับนาย Leon Panetta ในที่ประชุม กลับมาเมืองไทยไม่กี่เดือน ก็ยืนคู่กันถ่ายรูปประกาศการลงนามสัญญา Joint Vision Statement!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 4 ยุทธศาสตร์ความมั่นคง National Security Strategy สำหรับปี ค.ศ. 2014 ยังไม่คลอดคาด ว่าจะคลอดประมาณเดือนเมษายน, พฤษภาคม แต่อย่างน้อย อเมริกาก็ใบ้หวยมาหลายครั้งแล้ว คือ – เมื่อกลางปี ค.ศ. 2012 อเมริกาบอกว่า จะมีการปรับกองกำลังของอเมริการะหว่าง แอตแลนติกกับแปซิฟิก จากที่เคยวางไว้ที่ 50:50 เป็น 40:60 แปลว่าให้น้ำหนักทางแปซิฟิก มากขึ้น – มาปลายปี ค.ศ. 2013 อเมริกาย้ำซ้ำว่า เราจะทำการปรับดุลยอำนาจในแถวเอเซีย แปซิฟิกเสียใหม่ – พอต้นปี ค.ศ. 2014 มีข่าวปล่อยว่า อเมริกาอาจจะพิจารณาผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน แบบนี้เซียนการเมืองต่อรองกันน่าดู ฝ่ายที่เล่นว่าอเมริกาไม่พร้อมจะก่อศึก 2 ด้านพร้อมกัน รู้ข่าววงในหรือไง ! มาดูฝ่ายเหล่าเสือร้ายลายก้างขวางคอกันบ้าง กำลังภายในภายนอก รวมกันแล้วน่า ตีมือตบ เป่านกหวีดให้แค่ไหน ด้านอิหร่าน ถ้ารวมตัวกับรัสเซีย ซีเรียและพวกที่มีแยะ แต่ยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ขณะนี้ ร่วมกันเล่นมวยหมู่ นักล่าก็จุกได้เหมือนกัน ส่วนด้านจีน ถ้ารวมกับกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ (Shanghai Corporation Organization ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วย) บวกกับเด็กแสบแห่งเกาหลีเหนือ คราวนี้อเมริกาไม่ใช่แค่จุก แต่อาจจะถึงกับเดี้ยงไปเลย เพราะเกาหลีเหนือพร้อม ทุกเมื่อ ที่จะส่งของขวัญ แบบส่งตรงไม่ต้องฝากใคร ไปให้อเมริกาถึงหน้าทำเนียบขาว หรือวอชิงตันดีซี (ไม่รู้ราคาคุยของเด็กแสบหรือเปล่า) คิดแบบนี้ นักล่าก็น่าจะคลายมือที่บีบคออิหร่านออกมาสัก 1 หุน และหันมาโชว์พาวใช้โปรแกรมขย่มขวัญอาเฮีย ด้าน Asia Pacific น่าจะเข้าท่ากว่า แล้วนี่ ถ้าบรรดาพวกก้าง เขารวมหัวกันหมด นักล่าจะใช้โปรแกรมไหนเอ่ย นึกว่าเขาไม่คิดรวม หรือไม่กล้าเล่นหรือไง ไม่ว่านักล่าตัดสินใจมาทาง Asia Pacific หรือล่ามันทั้งโลก โปรแกรมที่เลือกใช้ ไม่ว่าโปรแกรมใด แน่นอนต้องมีไทยแลนด์ แดนสมันน้อย เข้าไปเกี่ยวด้วยทุกรายการ สมันน้อย ถูกสัญญาทาสผูกคอมาตั้งแต่สมัยจอมพลคนแปลก หลวมตัวทำเอาไว้ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)ที่เราเรียกกันว่าสัญญา JUSMAC ท่านใดที่ลืมเรื่องนี้ โปรดกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย นะครับ สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2012) นาย Leon Panetta รมว.กลาโหมของนักล่า ขณะนั้น ก็คว้ามือคุณพี่สุกำพล รมว.กลาโหมไทยขณะนั้น เอาแปะโป้งซ้ำอีกรอบ ใน Joint Vision Statement ระหว่างอเมริกากับไทย พร้อมออกข่าวแถลงด้วยความดีใจ ว่าเป็นทาสเขาไปอีกรอบแล้ว ภายใต้สัญญา JUSMAC อเมริกาสามารถตั้งฐานทัพ ในราชอาณาจักรไทยได้ เมื่อไทยขอร้อง หรือเมื่ออเมริกาเห็นว่าไทยถูกคุกคาม ไอ้ฉากแบบนี้น่ะ มันสร้างยากนักหรือ เพราะฉะนั้น พี่น้องก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ อย่ามัวแต่นั่งโลกสวย คอยอธิบายแก้ข่าวที่พวกนักล่ามันแกล้งให้ สื่อเฮงซวยลงข่าวบ้านเราผิด ๆ ประเภท ประเทศไทยกำลังทำลายประชาธิปไตย ด้วยการประท้วงไม่ให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ เลิกไปอธิบายซ้ำซากกับพวกสื่อต่างชาติได้แล้ว มันรู้อยู่แล้วว่าอะไร เป็นอะไร แต่มันแกล้งสร้างข่าว เพื่อเบนความสนใจของเราไปจากเรื่องจริง คือการมาใช้ฐานทัพและ การขะโมยทรัพยากรของเรา ดังนั้นหัดคิดในเชิงรุกกันบ้าง ว่าเราจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้มันมาสาระแนในบ้านเรา เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน ข่าวลือมันมีมาตลอดว่า อเมริกาจะมาใช้ฐานทัพอู่ตะเภาของไทย ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2555(ค.ศ. 2012) ข่าวนี้แรกหลุดมาจากการประชุม Shangrila Dialogue ประมาณเดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ International Institute for Strategic Studies (IISS) ซึ่งเป็นหน่วยงานประเภท think tank ระหว่างรัฐบาลด้านความมั่นคง (ก็หน่วยงานของพวก CFRนั่นแหละ !) ที่ประชุมกันที่โรงแรม Shangrila สิงคโปร์ทุกปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 ฝ่ายไทยที่ไปร่วมประชุม จะมีตัวแทนเป็นนักวิชาการด้านความมั่นคงบ้าง ผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศและผู้แทนจากกองทัพ เท่าที่จำได้ (จากเอกสารครับ ไม่เคยไป !) ขาประจำผูกขาดที่ไปประชุม ชื่อ นิพัท ทองเล็ก ในปี พ.ศ. 2555 คุณพี่สุกำพล ควงกะคุณน้องนิพัท ไปนั่งกระหนุง กระหนิง กับนาย Leon Panetta ในที่ประชุม กลับมาเมืองไทยไม่กี่เดือน ก็ยืนคู่กันถ่ายรูปประกาศการลงนามสัญญา Joint Vision Statement! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)
    นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ
    ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190
    ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา
    เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู
    – นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ
    การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี “การปฏิบัติการอื่น” เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด
    – หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย)
    – คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ
    – นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู
    – เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน
    – แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว
    ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขา อย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 มค 57
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย) นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190 ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู – นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี “การปฏิบัติการอื่น” เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด – หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย) – คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ – นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู – เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน – แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขา อย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 มค 57
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 3
    กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans
    จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 – 2009
    จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !)
    ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ
    คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น
    – การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ
    – การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 – 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008)
    นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !)
    แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ
    (มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
    และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร
    ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว !


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 3 กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 – 2009 จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !) ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น – การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ – การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 – 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !) แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ (มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • เอาดีๆนะ ที่จริงอาเชียนเราสมควรร่วมกันปกป้องความสงบสุขในภูมิภาคนี้ได้แล้วจากฝรั่งยุโรปและอเมริกาตะวันตกหรืออาหรับตะวันออกกลางที่ciaอเมริกาชาติยุโรปควบคุมสั่งการอยู่,เราร่วมใจกันถีบส่งพวกฝรั่งๆนี้ออกจากภูมิภาคเราได้แล้ว,มาปล้นชิงแย่งชิงทรัพยากรในชาติภูมิภาคเราเกินงามมากพอแล้วหรือปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยความอุดมสมบูรณ์เราไม่หยุดหย่อน ก่อกวนปั่นป่วนแทรกแซงสร้างโกลาหลให้คนในภูมิภาคแตกแยกยุยงปลุกปั่นไม่ให้แถวนี้มีความสงบสุขนั้นเองเพื่อนตนจะได้เข้ามากอบโกยปูช่องทางเข้ามาอย่างชอบธรรมและจากนั้นก็สาระพัดข่มเหงใช้พลังกำลังตนที่เหนือกว่าข่มเหงพวกเราปล้นชิงทรัพยากรเราในที่สุด,อะไรชั่วเลว ภูมิภาคร่วมกันกำจัดอย่างจริงจัง อเมริกาแทรกแซงชาติไหนอาเชียนเราร่วมต่อต้าน ชาติไหนเลวแบบเขมรคือแหล่งอาชญากรรมระดับโลกก็ร่วมกันกำจัดเลย,บวกเขมรเหี้ยนี้จะดึงอเมริกามาทำสงครามกับจีนอีก ก็กำจัดฮุนเซนก่อนทันทีเป็นต้นตัดตอนสงครามโลกที่สามในภูมิภาคเราได้,ต่างจากฟิลิปปินส์หรือมาเลย์ใกล้ฟิลิปปินส์มีเกาะใกล้กัน เหี้ยพวกนี้ไปกระทบชาติอื่น มันจะเข้าร่วมกับอเมริกาก็เรื่องของมันแล้วเป็นต้น พม่า ไทย ลาว เวียดนาม มันดินแดนเชื่อมกันหมด ซวยแน่นอนหากเขมรเสือกให้อเมริกาตั้งฐานทัพรบกับจีน ซึ่งไทยก็ไม่ยอมอยู่แล้ว จะพังงาหรือสัตหีบอู่ตะเภาอะไรก็ตามทั่วไป,จริงๆต้องออกจากอินโดแปซิฟิกทันทีตอนนี้ เราต้องการเป็นกลาง,ผลักดันกองกำลังอเมริกาทั้งแบบอยู่ไม่เป็นทางการที่อู่ตะเภอที่จอดเรือบนใดๆก็ต้องออกจากราชอาณาจักรไทยเราทันทีทั้งหมดด้วย นี้คือสิ่งที่เราสมควรทำ,เมื่อเราเป็นกลาง จะพม่าจะไทยจะลาวจะเวียดนามจะอินโดฯ เราสามารถอิสระทำสาระพัดกิจกรรมได้บนสถานะการณ์สงครามโลก ,แหล่งอาหารช่วยเหลือใครๆก็ได้นอกจากค้า,ยกเว้นเขมรตัดการช่วยเหลือทั้งหมด.

    ..ชาติอาเชียนเราต้องสามัคคีกันร่วมปกป้องภูมิภาคเราจริงจังได้แล้ว.,ตลอดค้าขายร่วมกัน กำจัดภัยร้ายในอาเชียนเราร่วมกัน กำจัดคนไม่ดีในภูมิภาคอาเชียนเราร่วมกัน.กำจัดสาระพัดเถื่อนๆร่วมกัน สร้างสวรรค์ชุมชนคนคนอาเชียนเราจริงๆ คนอาเชียนเดินทางทุกๆตารางนิ้วทั่วอาเชียนปลอดภัยทั้งทางกายและทางใจ ไม่มีการทำร้ายทำลายร่างกายและจิตใจกันตลอดทรัพย์สินใครมันอยู่ครบ อิสระเสรีการท่องเที่ยวในภูมิภาคเรา,เบื้องต้นแบบนี้ได้ มีแต่ร่วมเจริญรุ่งเรืองทั้งทางวัตถุและจิตใจแน่นอนในอนาคต.

    https://youtube.com/watch?v=SomoERHezNg&si=9o4DFNPnv48M4xMN
    เอาดีๆนะ ที่จริงอาเชียนเราสมควรร่วมกันปกป้องความสงบสุขในภูมิภาคนี้ได้แล้วจากฝรั่งยุโรปและอเมริกาตะวันตกหรืออาหรับตะวันออกกลางที่ciaอเมริกาชาติยุโรปควบคุมสั่งการอยู่,เราร่วมใจกันถีบส่งพวกฝรั่งๆนี้ออกจากภูมิภาคเราได้แล้ว,มาปล้นชิงแย่งชิงทรัพยากรในชาติภูมิภาคเราเกินงามมากพอแล้วหรือปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยความอุดมสมบูรณ์เราไม่หยุดหย่อน ก่อกวนปั่นป่วนแทรกแซงสร้างโกลาหลให้คนในภูมิภาคแตกแยกยุยงปลุกปั่นไม่ให้แถวนี้มีความสงบสุขนั้นเองเพื่อนตนจะได้เข้ามากอบโกยปูช่องทางเข้ามาอย่างชอบธรรมและจากนั้นก็สาระพัดข่มเหงใช้พลังกำลังตนที่เหนือกว่าข่มเหงพวกเราปล้นชิงทรัพยากรเราในที่สุด,อะไรชั่วเลว ภูมิภาคร่วมกันกำจัดอย่างจริงจัง อเมริกาแทรกแซงชาติไหนอาเชียนเราร่วมต่อต้าน ชาติไหนเลวแบบเขมรคือแหล่งอาชญากรรมระดับโลกก็ร่วมกันกำจัดเลย,บวกเขมรเหี้ยนี้จะดึงอเมริกามาทำสงครามกับจีนอีก ก็กำจัดฮุนเซนก่อนทันทีเป็นต้นตัดตอนสงครามโลกที่สามในภูมิภาคเราได้,ต่างจากฟิลิปปินส์หรือมาเลย์ใกล้ฟิลิปปินส์มีเกาะใกล้กัน เหี้ยพวกนี้ไปกระทบชาติอื่น มันจะเข้าร่วมกับอเมริกาก็เรื่องของมันแล้วเป็นต้น พม่า ไทย ลาว เวียดนาม มันดินแดนเชื่อมกันหมด ซวยแน่นอนหากเขมรเสือกให้อเมริกาตั้งฐานทัพรบกับจีน ซึ่งไทยก็ไม่ยอมอยู่แล้ว จะพังงาหรือสัตหีบอู่ตะเภาอะไรก็ตามทั่วไป,จริงๆต้องออกจากอินโดแปซิฟิกทันทีตอนนี้ เราต้องการเป็นกลาง,ผลักดันกองกำลังอเมริกาทั้งแบบอยู่ไม่เป็นทางการที่อู่ตะเภอที่จอดเรือบนใดๆก็ต้องออกจากราชอาณาจักรไทยเราทันทีทั้งหมดด้วย นี้คือสิ่งที่เราสมควรทำ,เมื่อเราเป็นกลาง จะพม่าจะไทยจะลาวจะเวียดนามจะอินโดฯ เราสามารถอิสระทำสาระพัดกิจกรรมได้บนสถานะการณ์สงครามโลก ,แหล่งอาหารช่วยเหลือใครๆก็ได้นอกจากค้า,ยกเว้นเขมรตัดการช่วยเหลือทั้งหมด. ..ชาติอาเชียนเราต้องสามัคคีกันร่วมปกป้องภูมิภาคเราจริงจังได้แล้ว.,ตลอดค้าขายร่วมกัน กำจัดภัยร้ายในอาเชียนเราร่วมกัน กำจัดคนไม่ดีในภูมิภาคอาเชียนเราร่วมกัน.กำจัดสาระพัดเถื่อนๆร่วมกัน สร้างสวรรค์ชุมชนคนคนอาเชียนเราจริงๆ คนอาเชียนเดินทางทุกๆตารางนิ้วทั่วอาเชียนปลอดภัยทั้งทางกายและทางใจ ไม่มีการทำร้ายทำลายร่างกายและจิตใจกันตลอดทรัพย์สินใครมันอยู่ครบ อิสระเสรีการท่องเที่ยวในภูมิภาคเรา,เบื้องต้นแบบนี้ได้ มีแต่ร่วมเจริญรุ่งเรืองทั้งทางวัตถุและจิตใจแน่นอนในอนาคต. https://youtube.com/watch?v=SomoERHezNg&si=9o4DFNPnv48M4xMN
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • เรา..ประชาชนสามารถเข้าใจและพร้อมกับฟันธงได้เลยทันทีว่านอกจากที่เรา..เชื่อว่ามีไส้ศึกในส่วนอื่นๆแล้ว ตัวพ่ออีกตัวคือ กต.นี้เอง เธอมีองค์ข้อมูลสาระพัดกับดิวต่างประเทศทั้งหมด อะไรที่เกี่ยวกับอธิปไตยไทยต่อต่างชาติเธอคนนี้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนใครเพื่อน นักการเมืองจะขายชาติจะแย่งเอาบ่อน้ำมันจากอ่าวไทยเธอในเรื่องอะไรจะไม่รู้ลึกรู้หนารู้ตื้น ช่องทางใดต่างชาติได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบไทยเธอก็รับรู้รายละเอียดความในเราหมดสิ้นมีช่องว่างอะไรที่จะช่วยต่างชาติชนะเราได้,เรามีอะไรปิดช่องนั้นก็ได้อีก สามารถเสนอทางตัดตอนเด็ดขาดก็ได้หรือไม่เด็ดขาดโอนอ่อนผ่อนตามก็ได้อีก,จะเสียดินแดนเสียอธิปไตยไทย กต.มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆเรื่องราวสืบทอดเชื่อมโยงแต่ละรัฐบาลได้นั้นเอง,ปลัดกระทรวงกต.จึงเสมือนกลไกให้คุณให้โทษเต็มที่ต่อการเสียอธิปไตยไทยแก่ต่างชาติใดๆหรือไม่ก็ได้ นอกจากมาจากฝ่ายนักการเมืองด้วย ตัวอันตรายที่สุดนอกจากฝ่ายนักการเมือง ปลัดกระทรวงอธิบดีทบวงกรมก็อันตรายไม่แพ้กัน เขียนสัญญาข้อตกลงได้เสียหมดที่กระทำการใดๆกับต่างชาตินอกอาณาจักรเราทั้งหมด,
    ..คนไทยเรากำลังเล่นงานผิดคนก็ด้วยนอกจากนักการเมือง,คนของกระทรวงต่างประเทศด้วยคือตัวอันตรายตัวจริงอีกตัว,แค่แถลงชี้เป้า แบบสไตล์ผู้ว่าฯสระแก้วก็พอเข้าใจแนวรบของพวกขายชาติไส้ศึกแล้ว จึงพยายามยืนยันทุกๆรูปแบบ ทุกๆช่องทาง ตีหลายด้าน ในที่นี้คือผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ใช้เรือกะรุกขุนเลย เดินเรือค้าขายพาณิชย์มานานกับต่างชาติกะค้ำประกันยืนยันเข้าข้างต่างชาติเสียสะงันว่าต้องใช้1:200,000แน่นอน แม้ ในหลวงร.9เราถือใช้กางออกร่วมกับทหารแนวพรมแดนก็เป็นตกไป กระทรวงการต่างประเทศใหญ่กว่าในหลวงเรา ร.9เราที่ทรงใช้แผนที่1:50,000ตลอดการครองราชพระองค์ท่าน กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าเสียเองแล้ว เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยนี้เสียแล้ว เป็นผู้กำหนดแผ่นดินเขตแดนราชอาณาจักรไทยแล้วว่าต้องใช้อัตราเขตแดน1:200,000นะเพื่อเป็นประโยชน์แก่เขมร เป็นประโยชน์แก่อเมริกาฝรั่งเศสลากเส้นเขตแดนแดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยได้ รับตังมาแล้วต้องเร่งรีบตามแผนเดี๋ยวต่างชาติอเมริกาฝรั่งเศสdeep stateเอากูตาย ,ข้ามีอำนาจเต็มใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับต่างประเทศตลอดข้อตกลงต่างๆข้าเท่านั้นเป็นผู้อนุมัตและกำหนดกฎกติกาเงื่อนไขใดๆจะเข้าข้างต่างชาติจะทำไมทำอะไรกูได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือแล้วตอนนี้ คำโพสต์คำยืนยัน คำใดๆประกาศผ่านกูคือราชโองการโว้ย เขตแดนทั่วราชอาณาจักรไทยกูจะขีดจะรับกฎกติกาสมยอมเลียตีนใครก็เรื่องของกูเพราะกูใหญ่ กูจึงประกาศชัดเจนในที่นี้ว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ในประเทศไทยนี้ใครใหญ่กว่ากูตอนนี้ กูบอกยืนยันใช้ต้องใช้ตามกูบอก ,กูมีอเมริกาฝรั่งเศสหนุนหลังด้วยเรือจอดท่าเรียมแล้วเช่นนั้นกูไม่กล้าเจาะจงโพสต์วันนี้หรอกมันว่า.

    ..ในหลวงเรา ร.9 เสด็จพระราชกรณียกิจทั่วประเทศกางแผนที่กับทหารทั่วประเทศก็ใช้1:50,000 สคส.ก็ขีดวาดแผนที่1:50,000 แสดงว่ากระทรวงต่างประเทศไทยขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สำเร็จราชการบนแผ่นดินไทยแน่นอนแล้ว สามารถสั่งการหนักแน่นว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ทั้งที่ปี2505เราประกาศไม่ยอมรับการตัดสินศาลผีบ้านี้แล้วพร้อมเสือกยื่นเสนอฝ่ายเดียวด้วย,ต้องโมฆะแผนที่นั้นอัตโนมัติตั้งแต่ปี2505แล้วซึ่งต้องเป็นไปในแบบนั้นถึงปัจจุบัน.
    ..สรุปใครก็ตามที่มีแนวคิดและโพสต์ความคิดเห็น แสดงวาจาว่าต้องใช้1:200,000 มันผู้นั้นคือศัตรูภัยร้ายทำลายแผ่นดินไทยประเทศไทยที่แท้จริง,มิอาจให้มันอยู่ร่วมแผ่นดินไทยนี้ต่อไปได้ กบฎทรยศอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เจตนาทำให้สูญเสียดินแดนเขตอธิปไตยไทยแน่นอนแล้ว.,เพราะนั้นคือแผ่นดินไทยที่หายไปถึง1:150,000เลย,ซึ่งในหลวง ร.9เราใช้1:50,000 ,กระทรวงการต่างประเทศบกพร่องโดยทุจริตในใจชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อประเทศชาติตน ไม่แสวงข้อเท็จจริงใดๆที่กูรูไทยมากมายรู้ต้นรู้ปลายสาเหตุและเกิดผลของปัญหา ขาดฝีมือมือไม่ถึง ขลาดเขลาหวาดกลัวต่อนักการเมืองและต่างชาติเสมือนพร้อมทรยศหักหลังทั้งสามารถเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองโดยง่ายให้ศัตรูรู้ความภายในตน, ไร้เกียรติไร้ศักดิ์สุดอัปยศและอัปรีย์จัญไรกว่าใดๆยุดใดสมัยใดที่มีกระทรวงการต่างประเทศในไทยเรา.,ไม่มีก็ได้ในเวลานี้กระทรวงแบบนี้,ยุบไปเลย,เรา..ประชาชนทั่วไทยมีคนเก่งมากความสามารถทั่วประเทศในเวลานี้ยุคนี้สามารถตั้งเป็นกระทรวงใหม่เพื่อเจรจาความต่างๆเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อต่างชาติต่างประเทศทั่วโลกใหม่ได้และอาจรุ่งเรืองรุ่งโรจน์โคตรๆกว่าปัจจุบันอีก,เพราะรากเหง้าอิทธิพลทรามหยาบหนามึนคงเต็มกระทรวงเดิมแล้ว สามารถล้างบางทั้งหมดในคราวเดียวกัน,ตั้งชื่อกระทรวงว่า กระทรวงการรวมเพื่อนทั่วโลก ก็ว่าไป อนาคตใครคือศัตรูตัดสายสัมพันธ์เลย มีแต่เพื่อนๆร่วมปฏิสัมพันธ์กันเท่านั้น,ผีบ้าแบบปัจจุบันเป็นศัตรูแท้ๆก็ยังคบหาอยู่ ไม่เลือกคบนั้นเองจึงนำภัยวุ่นวายเข้าสู่ประเทศตนเองไม่ขาดสายมิใช่ความเจริญรุ่งเรืองสงบสันติสุขอะไรเลย,เจรจาผีบ้าผีบ้าก็ตกลงไปทั่วไร้สติปัญญาความามารถ แยกแยะถูกผิดชั่วเลวไม่เป็น,อะไรตนเสียเปรียบ อะไรตนเอาเปรียบเขาเกินงามก็ไม่กระทำเป็นต้น,เพื่อนมิตรประเทศแม้เขาเสียเปรียบไม่รู้ เราผู้รู้ก็ไม่สามารถเอาเปรียบเอาแต่ได้ในสิ่งที่รู้ได้,มิตรที่ดีก็ระวังภัยให้มิตรได้,แบบอเมริการู้ว่าเรามีน้ำมันมากมาย แต่ก็เอาเปรียบมากมายกับเราในสิ่งที่รู้,
    ..ยุบทิ้งกระทรวงการต่างประเทศเลย
    #กระทรวงการต่างประเทศมีไว้ทำไม.
    ..ใครที่เกี่ยวข้องในการสมยอมสนับสนุบใช้1:200,000 จัดอยู่ในโหมด ม.119ได้เลยสามารถให้ทนายแผ่นดินไทยฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดไว้ก่อนได้เลย.ยิ่งเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ของตนแบบผู้ว่าฯสระแก้ว ที่กล้ามากเก่งมากต่อดินแดนอธิปไตยตนคนเหล่านี้ต้องพร้อมจ่ายราคาที่ตนกระทำออกมาอย่างแสนแพง,ยิ่งรับรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลมามาดมายหลายทศวรรตยิ่งต้องจ่ายราคาแพงและแสนแพงในผลการกระทำของตนที่กล้าหาญท้าทายพระราชอำนาจกษัตริย์เราที่ใช้1:50,000ทั่วราชอาณาจักร,ใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นต้องตกไปทั้งหมดแม้อำนาจศาลสูงสุดขึ้นบัลลังก์ว่าความ อื่นๆใดก็ต้องตกไป ไม่สามารถใช้บังคับได้ นอกจาก1:50,000เท่านั้น.เพราะนี้คืออัตราส่วนที่ในหลวงเรา ร.9ใช้จริงบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้ทุกๆพระองค์ท่านแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=vTKbeqvv0RA&si=QtfSpJJWdJy9bEa5
    เรา..ประชาชนสามารถเข้าใจและพร้อมกับฟันธงได้เลยทันทีว่านอกจากที่เรา..เชื่อว่ามีไส้ศึกในส่วนอื่นๆแล้ว ตัวพ่ออีกตัวคือ กต.นี้เอง เธอมีองค์ข้อมูลสาระพัดกับดิวต่างประเทศทั้งหมด อะไรที่เกี่ยวกับอธิปไตยไทยต่อต่างชาติเธอคนนี้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนใครเพื่อน นักการเมืองจะขายชาติจะแย่งเอาบ่อน้ำมันจากอ่าวไทยเธอในเรื่องอะไรจะไม่รู้ลึกรู้หนารู้ตื้น ช่องทางใดต่างชาติได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบไทยเธอก็รับรู้รายละเอียดความในเราหมดสิ้นมีช่องว่างอะไรที่จะช่วยต่างชาติชนะเราได้,เรามีอะไรปิดช่องนั้นก็ได้อีก สามารถเสนอทางตัดตอนเด็ดขาดก็ได้หรือไม่เด็ดขาดโอนอ่อนผ่อนตามก็ได้อีก,จะเสียดินแดนเสียอธิปไตยไทย กต.มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆเรื่องราวสืบทอดเชื่อมโยงแต่ละรัฐบาลได้นั้นเอง,ปลัดกระทรวงกต.จึงเสมือนกลไกให้คุณให้โทษเต็มที่ต่อการเสียอธิปไตยไทยแก่ต่างชาติใดๆหรือไม่ก็ได้ นอกจากมาจากฝ่ายนักการเมืองด้วย ตัวอันตรายที่สุดนอกจากฝ่ายนักการเมือง ปลัดกระทรวงอธิบดีทบวงกรมก็อันตรายไม่แพ้กัน เขียนสัญญาข้อตกลงได้เสียหมดที่กระทำการใดๆกับต่างชาตินอกอาณาจักรเราทั้งหมด, ..คนไทยเรากำลังเล่นงานผิดคนก็ด้วยนอกจากนักการเมือง,คนของกระทรวงต่างประเทศด้วยคือตัวอันตรายตัวจริงอีกตัว,แค่แถลงชี้เป้า แบบสไตล์ผู้ว่าฯสระแก้วก็พอเข้าใจแนวรบของพวกขายชาติไส้ศึกแล้ว จึงพยายามยืนยันทุกๆรูปแบบ ทุกๆช่องทาง ตีหลายด้าน ในที่นี้คือผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ใช้เรือกะรุกขุนเลย เดินเรือค้าขายพาณิชย์มานานกับต่างชาติกะค้ำประกันยืนยันเข้าข้างต่างชาติเสียสะงันว่าต้องใช้1:200,000แน่นอน แม้ ในหลวงร.9เราถือใช้กางออกร่วมกับทหารแนวพรมแดนก็เป็นตกไป กระทรวงการต่างประเทศใหญ่กว่าในหลวงเรา ร.9เราที่ทรงใช้แผนที่1:50,000ตลอดการครองราชพระองค์ท่าน กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าเสียเองแล้ว เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยนี้เสียแล้ว เป็นผู้กำหนดแผ่นดินเขตแดนราชอาณาจักรไทยแล้วว่าต้องใช้อัตราเขตแดน1:200,000นะเพื่อเป็นประโยชน์แก่เขมร เป็นประโยชน์แก่อเมริกาฝรั่งเศสลากเส้นเขตแดนแดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยได้ รับตังมาแล้วต้องเร่งรีบตามแผนเดี๋ยวต่างชาติอเมริกาฝรั่งเศสdeep stateเอากูตาย ,ข้ามีอำนาจเต็มใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับต่างประเทศตลอดข้อตกลงต่างๆข้าเท่านั้นเป็นผู้อนุมัตและกำหนดกฎกติกาเงื่อนไขใดๆจะเข้าข้างต่างชาติจะทำไมทำอะไรกูได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือแล้วตอนนี้ คำโพสต์คำยืนยัน คำใดๆประกาศผ่านกูคือราชโองการโว้ย เขตแดนทั่วราชอาณาจักรไทยกูจะขีดจะรับกฎกติกาสมยอมเลียตีนใครก็เรื่องของกูเพราะกูใหญ่ กูจึงประกาศชัดเจนในที่นี้ว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ในประเทศไทยนี้ใครใหญ่กว่ากูตอนนี้ กูบอกยืนยันใช้ต้องใช้ตามกูบอก ,กูมีอเมริกาฝรั่งเศสหนุนหลังด้วยเรือจอดท่าเรียมแล้วเช่นนั้นกูไม่กล้าเจาะจงโพสต์วันนี้หรอกมันว่า. ..ในหลวงเรา ร.9 เสด็จพระราชกรณียกิจทั่วประเทศกางแผนที่กับทหารทั่วประเทศก็ใช้1:50,000 สคส.ก็ขีดวาดแผนที่1:50,000 แสดงว่ากระทรวงต่างประเทศไทยขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สำเร็จราชการบนแผ่นดินไทยแน่นอนแล้ว สามารถสั่งการหนักแน่นว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ทั้งที่ปี2505เราประกาศไม่ยอมรับการตัดสินศาลผีบ้านี้แล้วพร้อมเสือกยื่นเสนอฝ่ายเดียวด้วย,ต้องโมฆะแผนที่นั้นอัตโนมัติตั้งแต่ปี2505แล้วซึ่งต้องเป็นไปในแบบนั้นถึงปัจจุบัน. ..สรุปใครก็ตามที่มีแนวคิดและโพสต์ความคิดเห็น แสดงวาจาว่าต้องใช้1:200,000 มันผู้นั้นคือศัตรูภัยร้ายทำลายแผ่นดินไทยประเทศไทยที่แท้จริง,มิอาจให้มันอยู่ร่วมแผ่นดินไทยนี้ต่อไปได้ กบฎทรยศอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เจตนาทำให้สูญเสียดินแดนเขตอธิปไตยไทยแน่นอนแล้ว.,เพราะนั้นคือแผ่นดินไทยที่หายไปถึง1:150,000เลย,ซึ่งในหลวง ร.9เราใช้1:50,000 ,กระทรวงการต่างประเทศบกพร่องโดยทุจริตในใจชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อประเทศชาติตน ไม่แสวงข้อเท็จจริงใดๆที่กูรูไทยมากมายรู้ต้นรู้ปลายสาเหตุและเกิดผลของปัญหา ขาดฝีมือมือไม่ถึง ขลาดเขลาหวาดกลัวต่อนักการเมืองและต่างชาติเสมือนพร้อมทรยศหักหลังทั้งสามารถเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองโดยง่ายให้ศัตรูรู้ความภายในตน, ไร้เกียรติไร้ศักดิ์สุดอัปยศและอัปรีย์จัญไรกว่าใดๆยุดใดสมัยใดที่มีกระทรวงการต่างประเทศในไทยเรา.,ไม่มีก็ได้ในเวลานี้กระทรวงแบบนี้,ยุบไปเลย,เรา..ประชาชนทั่วไทยมีคนเก่งมากความสามารถทั่วประเทศในเวลานี้ยุคนี้สามารถตั้งเป็นกระทรวงใหม่เพื่อเจรจาความต่างๆเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อต่างชาติต่างประเทศทั่วโลกใหม่ได้และอาจรุ่งเรืองรุ่งโรจน์โคตรๆกว่าปัจจุบันอีก,เพราะรากเหง้าอิทธิพลทรามหยาบหนามึนคงเต็มกระทรวงเดิมแล้ว สามารถล้างบางทั้งหมดในคราวเดียวกัน,ตั้งชื่อกระทรวงว่า กระทรวงการรวมเพื่อนทั่วโลก ก็ว่าไป อนาคตใครคือศัตรูตัดสายสัมพันธ์เลย มีแต่เพื่อนๆร่วมปฏิสัมพันธ์กันเท่านั้น,ผีบ้าแบบปัจจุบันเป็นศัตรูแท้ๆก็ยังคบหาอยู่ ไม่เลือกคบนั้นเองจึงนำภัยวุ่นวายเข้าสู่ประเทศตนเองไม่ขาดสายมิใช่ความเจริญรุ่งเรืองสงบสันติสุขอะไรเลย,เจรจาผีบ้าผีบ้าก็ตกลงไปทั่วไร้สติปัญญาความามารถ แยกแยะถูกผิดชั่วเลวไม่เป็น,อะไรตนเสียเปรียบ อะไรตนเอาเปรียบเขาเกินงามก็ไม่กระทำเป็นต้น,เพื่อนมิตรประเทศแม้เขาเสียเปรียบไม่รู้ เราผู้รู้ก็ไม่สามารถเอาเปรียบเอาแต่ได้ในสิ่งที่รู้ได้,มิตรที่ดีก็ระวังภัยให้มิตรได้,แบบอเมริการู้ว่าเรามีน้ำมันมากมาย แต่ก็เอาเปรียบมากมายกับเราในสิ่งที่รู้, ..ยุบทิ้งกระทรวงการต่างประเทศเลย #กระทรวงการต่างประเทศมีไว้ทำไม. ..ใครที่เกี่ยวข้องในการสมยอมสนับสนุบใช้1:200,000 จัดอยู่ในโหมด ม.119ได้เลยสามารถให้ทนายแผ่นดินไทยฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดไว้ก่อนได้เลย.ยิ่งเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ของตนแบบผู้ว่าฯสระแก้ว ที่กล้ามากเก่งมากต่อดินแดนอธิปไตยตนคนเหล่านี้ต้องพร้อมจ่ายราคาที่ตนกระทำออกมาอย่างแสนแพง,ยิ่งรับรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลมามาดมายหลายทศวรรตยิ่งต้องจ่ายราคาแพงและแสนแพงในผลการกระทำของตนที่กล้าหาญท้าทายพระราชอำนาจกษัตริย์เราที่ใช้1:50,000ทั่วราชอาณาจักร,ใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นต้องตกไปทั้งหมดแม้อำนาจศาลสูงสุดขึ้นบัลลังก์ว่าความ อื่นๆใดก็ต้องตกไป ไม่สามารถใช้บังคับได้ นอกจาก1:50,000เท่านั้น.เพราะนี้คืออัตราส่วนที่ในหลวงเรา ร.9ใช้จริงบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้ทุกๆพระองค์ท่านแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=vTKbeqvv0RA&si=QtfSpJJWdJy9bEa5
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • ตอน 7
    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
    อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
    แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
    สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
    สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
    หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง
    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น
    ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ
    อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
    มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ
    หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้
    ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป
    เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้
    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
    ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน!
    เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 7 ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ ! ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.! สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้ เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน! เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง! นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง คนเล่านิทาน
    3 Comments 0 Shares 591 Views 0 Reviews
  • ..แผนฝรั่งและแผนอเมริกาชัดเจน ปัญหาไทยกับเขมร ต้องไทยกับเขมรแก้ไขกันเอง,มวยกำลังชกและผลแพ้ชนะจะจบแล้วเสือกมาโกงแบบสันดานนิสัยฝรั่งที่มักทำกันในทวีปตน,โกงมิให้แก้ไขปัญหาให้จบสิ้นจริงๆ,ปล้นความจะสร้างสันติสุขดีงามที่ดีๆในภูมิภาคนี้,ไทยไม่เคยสงบสุขจากฝรั่งมาช่วยเหลืออะไรจริงใจอะไร,สงครามอินโดฯคือความจริงที่ฝรั่งแบบอเมริกาทิ้งประเทศไทยชัดเจน,รัฐบาลไทยนี้สมควรออกไป.,ไม่เคยจดจำประวัติศาสตร์ที่ชั่วเลวของอเมริกาเลย,จีนเป็นกลางถูกแล้ว,อเมริกาต้องเป็นกลางด้วย,เสือกหวาดกลัวว่าไทยจะยึดปกครองเขมรได้อาณาจักรไทยจะใหญ่โต,ไทยจีนสัมพันธ์ไมตรีกันดีปกติอีก,พื้นที่ปกครองทั้งหมดจีนอาจมีที่ยืนกว่าอเมริกาเหรอ,เกิดสงครามอเมริกากว่าจีนใช้พื้นที่ชนะสงครามนี้ทำสงครามกับอเมริกาถึงฟิลิปปินส์สิงคโปร์มาเลย์สะดวกเหรอ,มาเลย์เกลียดอเมริกาจะตายก็ว่า,อเมริกาแทรกแซงไทยจะยุติความขัดแย้งไม่สมควรจริงๆ,เขมรสันดานชั่วเลวโคตรๆแต่อเมริกาจงใจปกป้องเขมรเสมือนผลักไทยไปร่วมกับจีนชัดเจน,เพราะอเมริกาหมายยึดพื้นที่ไทยทำสงครามกับจีนแบบนี้ใช้ไม่ได้,เราพยายามเป็นกลาง,และจบปัญหากับชาติที่รุกรานอธิปไตยไทยตลอดเวลา,ทรัมป์ควายมากๆฝ่ายแสงผีบ้าพ่อมรึงตาย ถ้าลูกทรัมป์ถูกระเบิดตาย คนอเมริกาตายในพรมแดนไทยจากเขมรยิงระเบิดใส่ลูกชายทรัมป์ลูกสาวทรัมป์จงรีบเจรจาสงบศึกนะ,เจรจาอย่างสันติมิให้เป็นแบบตึกWTCนั้น,เสือกไปกล่าวหาเขาทั้งที่ความจริงปัจจุบันไม่ใช่แล้ว,หรือกล่าวหาอีรักว่ามีนิวเคลียร์ตัวเองเสือกมีกว่าหมื่นลูกได้,จบศึกอีรักเสือกขนทองคำขโมยเงินทองเขาไปพร้อมประตูมิติด้วยเหี้ยอเมริกาจริงๆ,อีรักสุดท้ายก็ไม่พบนิวเคลียร์อะไรนี้คือสันดานอเมริกาที่สร้างแต่ความไม่สงบสุขไปทั่วโลก,เขมรเผ่าพันธุ์นี้เจรจาไม่ได้,คนเขมรต้องจบที่สงครามและปกครองใหม่เท่านั้น,ลาว เวียดนามแบ่งปันพื้นที่ไปปกครองเลย เผ่าพันธุ์นี้ห้ามเป็นประเทศเด็ดขาด,ไร้มนุษยธรรมใดๆในสันดานด้วย อีลิทปกครองเสียนาน นั้นเอง.,ทรัมป์เหี้ยจริงๆ บางประเทศในเผ่าพันธุ์นั้นๆระบบปกครองสวยหรูแบบอเมริกาใช้ไม่ได้หรอก,อเมริกาหนี้เต็มประเทศไปจัดการdeep stateและประชาชนตนก่อนจริงๆเถอะ,ฝ่ายแสงที่หลอกลวงเสือกไม่เห็นจัดการคนชั่วเลวสมุนขี้ข้ารับใช้ซาตานห่าจริงจังอะไรในไทย,ลอยหน้าลอยตาเหมือนเดิมเติมประเทศไทยQผีบ้าแหกตาคนทั้งโลก สภากาแล็กติกจักรวาลผีบ้าคงจะปั้นเรื่องด้วยเช่นกัน,สรุปเหี้ยไม่มีใครดีจริงๆเลย,ประเทศไทยเราต้องพึ่งพาสามัคคีกันเอง เป็นแสงสว่างแห่งธรรมของประเทศไทยเราเองจริงๆได้แล้ว,รัฐบาลเลวขายชาติต้องร่วมกับทหารพระราชาเรากำจัดกันจริงจังจริงๆ
    ..
    ..https://youtube.com/watch?v=Gj3AXuMCYq8&si=3usaBnZijBJ1F1cb
    ..แผนฝรั่งและแผนอเมริกาชัดเจน ปัญหาไทยกับเขมร ต้องไทยกับเขมรแก้ไขกันเอง,มวยกำลังชกและผลแพ้ชนะจะจบแล้วเสือกมาโกงแบบสันดานนิสัยฝรั่งที่มักทำกันในทวีปตน,โกงมิให้แก้ไขปัญหาให้จบสิ้นจริงๆ,ปล้นความจะสร้างสันติสุขดีงามที่ดีๆในภูมิภาคนี้,ไทยไม่เคยสงบสุขจากฝรั่งมาช่วยเหลืออะไรจริงใจอะไร,สงครามอินโดฯคือความจริงที่ฝรั่งแบบอเมริกาทิ้งประเทศไทยชัดเจน,รัฐบาลไทยนี้สมควรออกไป.,ไม่เคยจดจำประวัติศาสตร์ที่ชั่วเลวของอเมริกาเลย,จีนเป็นกลางถูกแล้ว,อเมริกาต้องเป็นกลางด้วย,เสือกหวาดกลัวว่าไทยจะยึดปกครองเขมรได้อาณาจักรไทยจะใหญ่โต,ไทยจีนสัมพันธ์ไมตรีกันดีปกติอีก,พื้นที่ปกครองทั้งหมดจีนอาจมีที่ยืนกว่าอเมริกาเหรอ,เกิดสงครามอเมริกากว่าจีนใช้พื้นที่ชนะสงครามนี้ทำสงครามกับอเมริกาถึงฟิลิปปินส์สิงคโปร์มาเลย์สะดวกเหรอ,มาเลย์เกลียดอเมริกาจะตายก็ว่า,อเมริกาแทรกแซงไทยจะยุติความขัดแย้งไม่สมควรจริงๆ,เขมรสันดานชั่วเลวโคตรๆแต่อเมริกาจงใจปกป้องเขมรเสมือนผลักไทยไปร่วมกับจีนชัดเจน,เพราะอเมริกาหมายยึดพื้นที่ไทยทำสงครามกับจีนแบบนี้ใช้ไม่ได้,เราพยายามเป็นกลาง,และจบปัญหากับชาติที่รุกรานอธิปไตยไทยตลอดเวลา,ทรัมป์ควายมากๆฝ่ายแสงผีบ้าพ่อมรึงตาย ถ้าลูกทรัมป์ถูกระเบิดตาย คนอเมริกาตายในพรมแดนไทยจากเขมรยิงระเบิดใส่ลูกชายทรัมป์ลูกสาวทรัมป์จงรีบเจรจาสงบศึกนะ,เจรจาอย่างสันติมิให้เป็นแบบตึกWTCนั้น,เสือกไปกล่าวหาเขาทั้งที่ความจริงปัจจุบันไม่ใช่แล้ว,หรือกล่าวหาอีรักว่ามีนิวเคลียร์ตัวเองเสือกมีกว่าหมื่นลูกได้,จบศึกอีรักเสือกขนทองคำขโมยเงินทองเขาไปพร้อมประตูมิติด้วยเหี้ยอเมริกาจริงๆ,อีรักสุดท้ายก็ไม่พบนิวเคลียร์อะไรนี้คือสันดานอเมริกาที่สร้างแต่ความไม่สงบสุขไปทั่วโลก,เขมรเผ่าพันธุ์นี้เจรจาไม่ได้,คนเขมรต้องจบที่สงครามและปกครองใหม่เท่านั้น,ลาว เวียดนามแบ่งปันพื้นที่ไปปกครองเลย เผ่าพันธุ์นี้ห้ามเป็นประเทศเด็ดขาด,ไร้มนุษยธรรมใดๆในสันดานด้วย อีลิทปกครองเสียนาน นั้นเอง.,ทรัมป์เหี้ยจริงๆ บางประเทศในเผ่าพันธุ์นั้นๆระบบปกครองสวยหรูแบบอเมริกาใช้ไม่ได้หรอก,อเมริกาหนี้เต็มประเทศไปจัดการdeep stateและประชาชนตนก่อนจริงๆเถอะ,ฝ่ายแสงที่หลอกลวงเสือกไม่เห็นจัดการคนชั่วเลวสมุนขี้ข้ารับใช้ซาตานห่าจริงจังอะไรในไทย,ลอยหน้าลอยตาเหมือนเดิมเติมประเทศไทยQผีบ้าแหกตาคนทั้งโลก สภากาแล็กติกจักรวาลผีบ้าคงจะปั้นเรื่องด้วยเช่นกัน,สรุปเหี้ยไม่มีใครดีจริงๆเลย,ประเทศไทยเราต้องพึ่งพาสามัคคีกันเอง เป็นแสงสว่างแห่งธรรมของประเทศไทยเราเองจริงๆได้แล้ว,รัฐบาลเลวขายชาติต้องร่วมกับทหารพระราชาเรากำจัดกันจริงจังจริงๆ .. ..https://youtube.com/watch?v=Gj3AXuMCYq8&si=3usaBnZijBJ1F1cb
    0 Comments 0 Shares 366 Views 0 Reviews
  • ..ตอนนี้ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น,ชนะกับแพ้คือคำตอบ.
    ..เพราะนี้คือสนามยุทธศาสตร์โลกไปแล้ว,จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่เกิด,สงครามกับอาชญากรสงครามแบบเขมรเท่านั้นคือคำตอบด้วย ซึ่งเราจบสงครามนี้ได้ จะสามารถรักษาความเป็นกลางของภาวะสงครามโลกได้ทันที,จะจีนจะอเมริกาจะไม่มีข้ออ้างใดๆอีกมาใช้อาเชียนเราทำสงครามโลก,อเมริกาจะอ้างว่าเขมรคือฐานทัพจีนแบบจีนสร้างกองทัพเรือย่อยของจีนในเขมรก็ไม่ได้อีก ไทยสามารถขจัดความจะเอาของอเมริกาได้ที่พังงามิให้มีเปรียบเทียบโดยนายกฯพนาเรา ผบ.ปู เดินทางไปเจรจาตกลงกับจีนให้ถอนกองทัพเรือออกจากพื้นที่นี้ที่ไทยชนะสงครามร่วมกับลาวกับเวียดนามรบกวนเชิญออกไปด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีงามจากพื้นที่นี้เพื่อมิให้เหี้ยอเมริกาอ้างใช้ไทยมายึดพังงาตั้งฐานทัพในไทยได้อีกแห่งอย่างถาวรในอนาคตเพราะนั่นจะขัดขวางถาวรทันทีของทางสายไหมของการค้าจีนเองทันทีด้วย,หลังจากไทยขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์อำนาจอเมริกาจะไม่สามารถมีเหนือในเขตพื้นที่นั้นทันทีด้วย,จีนเองก็สามารถค้าขายอิสระในคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นั้น ทุกๆชาติทั่วโลกสามารถค้าขายเสรีอิสระผ่านคลองคอดกระของไทยได้โดยไทยมีอธิปไตย100%ในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่มีอเมริกาหรือชาติฝรั่งตะวันตกใดๆมาแทรกแซงการค้าขายในเอเชียในอาเชียนเราได้อีก,จีนสามารถขนส่งทั้งทางบกทางทะเลทางพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอิสระก็ได้,ทุกๆชาติร่วมมาค้าขายเสรีในราชอาณาจักรไทยได้ เรา..ประเทศไทยเป็นกลางนั้นเอง,แม้อเมริกาจะรบกับจีนจริง ไทยก็เป็นกลางและพื้นที่ชนะสงครามนี้มิให้ใครมาตั้งฐานทัพใดๆก็อเมริกาเพื่อจีนมาสู้รบกันได้,เขตปลิดสงครามโลกคือไทย ลาว เวียดนาม นั้นเอง หากพม่า มาเลย์ สิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์จะร่วมmouเป็นกลางทางสงครามโลกระหว่างอเมริกากับจีน สามารถมาเข้าร่วมลงนามในmouนี้อย่างเปิดเผยและเป็นทางการได้ทันที,จะมิให้อเมริกาใช้ภาษีมาแอบอ้างมีนัยยะแอบแฝงแบบเจรจาอ้างการค้าแต่หมายเอาพังงาไทยมาเป็นฐานทัพรบกับจีนไม่ได้ มาห้ามไทยค้าขายกับใครอิสระเสรีไม่ได้ในอธิปไตยไทยเรา,หรือจีนหมายใช้พื้นที่สงครามที่ไทยชนะยึดทั้งประเทศมันได้แล้วนี้ใช้เป็นฐานทัพรบกับอเมริการก็ไม่ได้หรือหมายใช้ไทยหมายคานกำลังอเมริกาหมายตั้งฐานกำลังสู้กับอเมริกาก็ไม่ได้,นายกฯพระราชทานที่คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยขอถวายพระราชทาน สามารถเจรจาลักษณะนี้แบบเด็ดขาดได้,ตัดตอนหมากทั้งกระดานอเมริการและจีนทันทีด้วย.,อาเชียนเราอย่างด้วยคือไทย ลาว เวียดนามอาจรอดภัยสงครามโลกนี้ พม่ามาเข้าร่วมก็อาจรอด,มาเลย์ก็อิสราเอลมาประจำในมาเลย์แล้ว,สิงคโปร์บ๋อยอเมริกาตัวพ่อ,ฟิลิปปินส์ยิ่งอยากเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาโน้น,อินโดฯก็ไปทางอเมริกากว่า60%อีก,บ่อน้ำมันในอินโดฯอเมริกาเอาไปเกือบหมดประเทศ.ไม่ต่างจากไทยเพราะยุคอดีตนายกฯขายชาติขึ้นมาปกครองเป็นอันมากในประเทศไทยเรานี้.

    ..นีคือภาวะสงคราม มันเขมรอยากเกิดเลยเปิดมา,ต้องพร้อมจ่ายราคาที่แพงแสนแพงคือไทย ลาว และเวียดนาม จะสลายสถานะการเป็นประเทศเขมรในตอนนี้ทันทีร่วมกันนั้นเอง.,คือร่วมกันกำจัดอาชญากรและอาชญากรรมโลก ฮับค้ามนุษย์ ฮับสแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำโจรกรรมก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก,ฮับฟอกเงินสากลโลก แหล่งบ่อนคาสิโนเถื่อนระดับโลกออนไลน์หลอกลวงทั่วโลกด้วยโดยมีประมุขประเทศคุ้มครองคืออาชญากรฮุนเซนและฮุนมาเนตรวมถึงตระกูลฮุนทุกๆตัวนั้นเองบริหารจัดการควบคุมฮับสาระพัดเลวชั่วนี้ร่วมกันทั้งตระกูลและสมุนขี้ข้าคนรับใช้มันด้วยเป็นกองทัพกองกำลังพิเศษมากมายเพื่อปกป้องฮับสาระพัดอาชญากรและอาชญากรรมนี้,ถ้านานาชาติทั่วโลกว่าเขมรดี แล้วปกป้องเขมรเชื่อว่าประเทศนั้นๆคือแหล่งโอนถ่ายรับเนื้องานธุรกรรมกิจกรรมผลประโยชน์กับประเทศเขมรนี้แน่นอน,ชั่วเลวเหมือนกันนั้นเอง,เกาหลีใต้หากให้ที่หลบหนีจริงแก่อาชญากรโลกนี้แสดงว่า เป็นผู้เคยค้าขายการค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์กับฮุนเซนกับประเทศเขมรด้วยตลอดอาจรวมถึงจุดพักเงินของการฟอกเงินระดับสากลโลกด้วย,หรือมีกิจกรรมทางชั่วร่วมกันก็ไม่ทางใดทางหนึ่งนั้นเอง.
    ..เขมรต้องสิ้นนชาติเพราะแต่เดิมก็ไม่เคยมีชาติมีประเทศอะไร,มีแค่ฝรั่งเศสกับไทยทำศึกสงครามกันช่วงล่าอาณานิคมเท่านั้น,ไม่เคยมีชื่อเขมรปรากฎเกิดขึ้นในขณะนั้นแต่ใดๆ.
    https://youtube.com/watch?v=1JD22hWmnV0&si=mXSl0ROdlfSLeGNz
    ..ตอนนี้ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น,ชนะกับแพ้คือคำตอบ. ..เพราะนี้คือสนามยุทธศาสตร์โลกไปแล้ว,จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่เกิด,สงครามกับอาชญากรสงครามแบบเขมรเท่านั้นคือคำตอบด้วย ซึ่งเราจบสงครามนี้ได้ จะสามารถรักษาความเป็นกลางของภาวะสงครามโลกได้ทันที,จะจีนจะอเมริกาจะไม่มีข้ออ้างใดๆอีกมาใช้อาเชียนเราทำสงครามโลก,อเมริกาจะอ้างว่าเขมรคือฐานทัพจีนแบบจีนสร้างกองทัพเรือย่อยของจีนในเขมรก็ไม่ได้อีก ไทยสามารถขจัดความจะเอาของอเมริกาได้ที่พังงามิให้มีเปรียบเทียบโดยนายกฯพนาเรา ผบ.ปู เดินทางไปเจรจาตกลงกับจีนให้ถอนกองทัพเรือออกจากพื้นที่นี้ที่ไทยชนะสงครามร่วมกับลาวกับเวียดนามรบกวนเชิญออกไปด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีงามจากพื้นที่นี้เพื่อมิให้เหี้ยอเมริกาอ้างใช้ไทยมายึดพังงาตั้งฐานทัพในไทยได้อีกแห่งอย่างถาวรในอนาคตเพราะนั่นจะขัดขวางถาวรทันทีของทางสายไหมของการค้าจีนเองทันทีด้วย,หลังจากไทยขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์อำนาจอเมริกาจะไม่สามารถมีเหนือในเขตพื้นที่นั้นทันทีด้วย,จีนเองก็สามารถค้าขายอิสระในคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นั้น ทุกๆชาติทั่วโลกสามารถค้าขายเสรีอิสระผ่านคลองคอดกระของไทยได้โดยไทยมีอธิปไตย100%ในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่มีอเมริกาหรือชาติฝรั่งตะวันตกใดๆมาแทรกแซงการค้าขายในเอเชียในอาเชียนเราได้อีก,จีนสามารถขนส่งทั้งทางบกทางทะเลทางพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอิสระก็ได้,ทุกๆชาติร่วมมาค้าขายเสรีในราชอาณาจักรไทยได้ เรา..ประเทศไทยเป็นกลางนั้นเอง,แม้อเมริกาจะรบกับจีนจริง ไทยก็เป็นกลางและพื้นที่ชนะสงครามนี้มิให้ใครมาตั้งฐานทัพใดๆก็อเมริกาเพื่อจีนมาสู้รบกันได้,เขตปลิดสงครามโลกคือไทย ลาว เวียดนาม นั้นเอง หากพม่า มาเลย์ สิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์จะร่วมmouเป็นกลางทางสงครามโลกระหว่างอเมริกากับจีน สามารถมาเข้าร่วมลงนามในmouนี้อย่างเปิดเผยและเป็นทางการได้ทันที,จะมิให้อเมริกาใช้ภาษีมาแอบอ้างมีนัยยะแอบแฝงแบบเจรจาอ้างการค้าแต่หมายเอาพังงาไทยมาเป็นฐานทัพรบกับจีนไม่ได้ มาห้ามไทยค้าขายกับใครอิสระเสรีไม่ได้ในอธิปไตยไทยเรา,หรือจีนหมายใช้พื้นที่สงครามที่ไทยชนะยึดทั้งประเทศมันได้แล้วนี้ใช้เป็นฐานทัพรบกับอเมริการก็ไม่ได้หรือหมายใช้ไทยหมายคานกำลังอเมริกาหมายตั้งฐานกำลังสู้กับอเมริกาก็ไม่ได้,นายกฯพระราชทานที่คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยขอถวายพระราชทาน สามารถเจรจาลักษณะนี้แบบเด็ดขาดได้,ตัดตอนหมากทั้งกระดานอเมริการและจีนทันทีด้วย.,อาเชียนเราอย่างด้วยคือไทย ลาว เวียดนามอาจรอดภัยสงครามโลกนี้ พม่ามาเข้าร่วมก็อาจรอด,มาเลย์ก็อิสราเอลมาประจำในมาเลย์แล้ว,สิงคโปร์บ๋อยอเมริกาตัวพ่อ,ฟิลิปปินส์ยิ่งอยากเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาโน้น,อินโดฯก็ไปทางอเมริกากว่า60%อีก,บ่อน้ำมันในอินโดฯอเมริกาเอาไปเกือบหมดประเทศ.ไม่ต่างจากไทยเพราะยุคอดีตนายกฯขายชาติขึ้นมาปกครองเป็นอันมากในประเทศไทยเรานี้. ..นีคือภาวะสงคราม มันเขมรอยากเกิดเลยเปิดมา,ต้องพร้อมจ่ายราคาที่แพงแสนแพงคือไทย ลาว และเวียดนาม จะสลายสถานะการเป็นประเทศเขมรในตอนนี้ทันทีร่วมกันนั้นเอง.,คือร่วมกันกำจัดอาชญากรและอาชญากรรมโลก ฮับค้ามนุษย์ ฮับสแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำโจรกรรมก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก,ฮับฟอกเงินสากลโลก แหล่งบ่อนคาสิโนเถื่อนระดับโลกออนไลน์หลอกลวงทั่วโลกด้วยโดยมีประมุขประเทศคุ้มครองคืออาชญากรฮุนเซนและฮุนมาเนตรวมถึงตระกูลฮุนทุกๆตัวนั้นเองบริหารจัดการควบคุมฮับสาระพัดเลวชั่วนี้ร่วมกันทั้งตระกูลและสมุนขี้ข้าคนรับใช้มันด้วยเป็นกองทัพกองกำลังพิเศษมากมายเพื่อปกป้องฮับสาระพัดอาชญากรและอาชญากรรมนี้,ถ้านานาชาติทั่วโลกว่าเขมรดี แล้วปกป้องเขมรเชื่อว่าประเทศนั้นๆคือแหล่งโอนถ่ายรับเนื้องานธุรกรรมกิจกรรมผลประโยชน์กับประเทศเขมรนี้แน่นอน,ชั่วเลวเหมือนกันนั้นเอง,เกาหลีใต้หากให้ที่หลบหนีจริงแก่อาชญากรโลกนี้แสดงว่า เป็นผู้เคยค้าขายการค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์กับฮุนเซนกับประเทศเขมรด้วยตลอดอาจรวมถึงจุดพักเงินของการฟอกเงินระดับสากลโลกด้วย,หรือมีกิจกรรมทางชั่วร่วมกันก็ไม่ทางใดทางหนึ่งนั้นเอง. ..เขมรต้องสิ้นนชาติเพราะแต่เดิมก็ไม่เคยมีชาติมีประเทศอะไร,มีแค่ฝรั่งเศสกับไทยทำศึกสงครามกันช่วงล่าอาณานิคมเท่านั้น,ไม่เคยมีชื่อเขมรปรากฎเกิดขึ้นในขณะนั้นแต่ใดๆ. https://youtube.com/watch?v=1JD22hWmnV0&si=mXSl0ROdlfSLeGNz
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า

    “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี

    สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า

    ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ
    อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ.

    แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ. แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 308 Views 0 Reviews
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า

    “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี

    สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า

    ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ
    อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ.

    แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ. แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 307 Views 0 Reviews
  • ..#ไทยรักสงบแต่รบไม่ขลาดเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และอธิปไตยไทยเรา. ดาวเทียมล็อกเป้าฮุนเซนฮุนหมาเน็ตเลย,ทหาร3ฝ่าย4ฝ่ายของเขมรที่เป็นฝ่ายศัตรูฮุนเซนฮุนหมาเน็ตด้วยในเขมรแบบเตียบันก็ว่า รีบจัดการฮุนเซนทันที ยึดอำนาจฮุนเซนทันที ก่อนที่ไทยเราจะไม่ให้โอกาสอีกและถือว่าเป็นพวกเดียวกันทั้งหมดจะเป็นศัตรูจริงของประเทศไทย,จบศึกคนเขมรทั้งหมดคืออาชญากรต่ออธิปไตยไทยที่รักสงบทั้งหมด,..เราจะเจรจากับลาวและเวียดนามทันทีเพื่อยึดเขมรทั้งหมดร่วมกันจะมิให้เขมรเป็นภัยใดๆก่ออาชญากรรมไปทั่วโลกได้อีกหรือรุกรานคุกคามลาวเวียดนามได้อีกต่อไป,พื้นที่เขมรจะถูกปกครองโดยเวียดนามโดยลาวแทนในอนาคต.จะไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผ่นที่โลกอีกต่อไป...อาเชียนทั้งหมดไม่ยอมรับการมีอยู่ของประเทศเขมร.,ซึ่งก่อนฝรั่งเศสมีเรื่องกับไทยก็ไม่มีชื่อเขมรปรากฎครอบครองดินแดนใดอย่างเป็นทางการลายสักษณ์อักษร.เพราะทัังหมดตือดินแดนราชอาณาจักรไทยแต่เดิมมาก่อน.https://youtu.be/7g7HYhhQKbQ?feature=shared
    ..#ไทยรักสงบแต่รบไม่ขลาดเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และอธิปไตยไทยเรา. ดาวเทียมล็อกเป้าฮุนเซนฮุนหมาเน็ตเลย,ทหาร3ฝ่าย4ฝ่ายของเขมรที่เป็นฝ่ายศัตรูฮุนเซนฮุนหมาเน็ตด้วยในเขมรแบบเตียบันก็ว่า รีบจัดการฮุนเซนทันที ยึดอำนาจฮุนเซนทันที ก่อนที่ไทยเราจะไม่ให้โอกาสอีกและถือว่าเป็นพวกเดียวกันทั้งหมดจะเป็นศัตรูจริงของประเทศไทย,จบศึกคนเขมรทั้งหมดคืออาชญากรต่ออธิปไตยไทยที่รักสงบทั้งหมด,..เราจะเจรจากับลาวและเวียดนามทันทีเพื่อยึดเขมรทั้งหมดร่วมกันจะมิให้เขมรเป็นภัยใดๆก่ออาชญากรรมไปทั่วโลกได้อีกหรือรุกรานคุกคามลาวเวียดนามได้อีกต่อไป,พื้นที่เขมรจะถูกปกครองโดยเวียดนามโดยลาวแทนในอนาคต.จะไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผ่นที่โลกอีกต่อไป...อาเชียนทั้งหมดไม่ยอมรับการมีอยู่ของประเทศเขมร.,ซึ่งก่อนฝรั่งเศสมีเรื่องกับไทยก็ไม่มีชื่อเขมรปรากฎครอบครองดินแดนใดอย่างเป็นทางการลายสักษณ์อักษร.เพราะทัังหมดตือดินแดนราชอาณาจักรไทยแต่เดิมมาก่อน.https://youtu.be/7g7HYhhQKbQ?feature=shared
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • สรุปมาตรการตอบโต้ของไทยที่ทำทันทีหลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวน พัน ร.14 (ลว.พัน ร.14) เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนาย ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

    1. ปิด 4 ด่าน 2 ปราสาท ตามที่กองทัพเสนอ
    ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องสายตะกู ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย

    2.ลดระดับทางการทูต
    รัฐบาลไทยประกาศเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากพนมเปญ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาเดินทางออกจากประเทศไทย ภายในเวลาที่กำหนด

    3.กองทัพประณามการกระทำของกัมพูชา
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรม ซึ่งละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและข้อตกลงระหว่างประเทศ อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา

    4.มีคำสั่งใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ทันที
    โดยกองทัพไทยเตรียมแผน ‘จักรพงษ์ภูวนาถ’ หลัง ‘กัมพูชา’ ลอบวาง ‘ทุ่นระเบิด’ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพล บาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นาย ขาขวาเจ็บสาหัส ขณะเดินลาดตระเวน⁣
    สรุปมาตรการตอบโต้ของไทยที่ทำทันทีหลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวน พัน ร.14 (ลว.พัน ร.14) เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนาย ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี 1. ปิด 4 ด่าน 2 ปราสาท ตามที่กองทัพเสนอ ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องสายตะกู ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย 2.ลดระดับทางการทูต รัฐบาลไทยประกาศเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากพนมเปญ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาเดินทางออกจากประเทศไทย ภายในเวลาที่กำหนด 3.กองทัพประณามการกระทำของกัมพูชา กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรม ซึ่งละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและข้อตกลงระหว่างประเทศ อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา 4.มีคำสั่งใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ทันที โดยกองทัพไทยเตรียมแผน ‘จักรพงษ์ภูวนาถ’ หลัง ‘กัมพูชา’ ลอบวาง ‘ทุ่นระเบิด’ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพล บาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นาย ขาขวาเจ็บสาหัส ขณะเดินลาดตระเวน⁣
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 387 Views 0 Reviews
  • กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาร่อนแถลงการณ์โต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทุ่นระเบิด เผยทหารไทยเข้ามาพื้นที่กัมพูชาโดยละเมิด แม้กัมพูชาจะเตือนถึงทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากความขัดแย้งมาหลายทศวรรษ
    .
    แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
    .
    กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
    .
    กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง “การประท้วงต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้
    .
    รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ในฐานะรัฐภาคีที่ยึดมั่นในหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ ความพยายามและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกัมพูชาในปฏิบัติการทุ่นระเบิดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการกำจัดเศษระเบิดจากสงครามในดินแดนของตน และการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในปฏิบัติการกู้ระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ หลังสงคราม
    .
    กระทรวงฯ ขอย้ำข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจัมโบะ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่กัมพูชายอมรับในระดับสากล ดินแดนนี้ถูกกำหนดโดยแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการผสมฝรั่งเศส-สยาม ตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 แผนที่เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาและไทยมาเป็นเวลานานในฐานะพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่อ้างอิงสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคำพิพากษา ค.ศ. 1962 และการตีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ค.ศ. 2013 อีกด้วย
    .
    เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยได้เข้ามาในพื้นที่นี้โดยละเมิดบันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 2000 ซึ่งกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนร่วมกันอย่างชัดเจน และห้ามมิให้มีกิจกรรมฝ่ายเดียวในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แม้ว่ากัมพูชาจะเตือนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากของความขัดแย้งทางอาวุธหลายทศวรรษ แต่กองทัพไทยกลับเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางลาดตระเวนที่เคยประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างสองประเทศ และสร้างเส้นทางใหม่ผ่านดินแดนกัมพูชา การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบนี้ถือเป็นการละเมิดความเข้าใจทวิภาคี ละเมิดดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เป็นอันตรายต่อชีวิต และบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่ยังไม่รวมถึงเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กองทัพไทยประกาศใช้ในการบังคับใช้กฎเกณฑ์สำหรับการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่เข้าไปในวัดทาโมนธม (ปราสาทตาเมือนธม) โดยอ้างอำนาจอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่วัด
    .
    แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไทยก็ยังคงออกแถลงการณ์ที่ขาดความระมัดระวังและทำให้เข้าใจผิด โดยกล่าวอ้างอย่างเท็จว่าได้กวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดทุ่นระเบิดแล้ว ในความเป็นจริง ทหารกัมพูชายังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีกิจกรรมกวาดล้างทุ่นระเบิดตามที่ไทยอ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แทนที่จะยอมรับความจริงและรับผิดชอบ ไทยกลับยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อทั้งสาธารณชนและประชาคมระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขข้อมูลที่บิดเบือน
    .
    เหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องเร่งดำเนินการหาข้อยุติโดยสันติและมีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านกลไกระหว่างประเทศที่เหมาะสม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอย้ำจุดยืนที่มีมายาวนานว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ เป็นเวทีที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนที่เหลืออยู่ระหว่างสองประเทศ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ โดยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ และด้วยความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนอย่างยุติธรรม เป็นธรรม และสันติ เพื่อประกันสันติภาพที่ยั่งยืน ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีก และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวของทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม
    .
    พนมเปญ 21 กรกฎาคม 2568
    กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาร่อนแถลงการณ์โต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทุ่นระเบิด เผยทหารไทยเข้ามาพื้นที่กัมพูชาโดยละเมิด แม้กัมพูชาจะเตือนถึงทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากความขัดแย้งมาหลายทศวรรษ . แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา . กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล . กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง “การประท้วงต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้ . รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ในฐานะรัฐภาคีที่ยึดมั่นในหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ ความพยายามและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกัมพูชาในปฏิบัติการทุ่นระเบิดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการกำจัดเศษระเบิดจากสงครามในดินแดนของตน และการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในปฏิบัติการกู้ระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ หลังสงคราม . กระทรวงฯ ขอย้ำข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจัมโบะ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่กัมพูชายอมรับในระดับสากล ดินแดนนี้ถูกกำหนดโดยแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการผสมฝรั่งเศส-สยาม ตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 แผนที่เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาและไทยมาเป็นเวลานานในฐานะพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่อ้างอิงสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคำพิพากษา ค.ศ. 1962 และการตีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ค.ศ. 2013 อีกด้วย . เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยได้เข้ามาในพื้นที่นี้โดยละเมิดบันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 2000 ซึ่งกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนร่วมกันอย่างชัดเจน และห้ามมิให้มีกิจกรรมฝ่ายเดียวในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แม้ว่ากัมพูชาจะเตือนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากของความขัดแย้งทางอาวุธหลายทศวรรษ แต่กองทัพไทยกลับเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางลาดตระเวนที่เคยประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างสองประเทศ และสร้างเส้นทางใหม่ผ่านดินแดนกัมพูชา การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบนี้ถือเป็นการละเมิดความเข้าใจทวิภาคี ละเมิดดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เป็นอันตรายต่อชีวิต และบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่ยังไม่รวมถึงเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กองทัพไทยประกาศใช้ในการบังคับใช้กฎเกณฑ์สำหรับการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่เข้าไปในวัดทาโมนธม (ปราสาทตาเมือนธม) โดยอ้างอำนาจอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่วัด . แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไทยก็ยังคงออกแถลงการณ์ที่ขาดความระมัดระวังและทำให้เข้าใจผิด โดยกล่าวอ้างอย่างเท็จว่าได้กวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดทุ่นระเบิดแล้ว ในความเป็นจริง ทหารกัมพูชายังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีกิจกรรมกวาดล้างทุ่นระเบิดตามที่ไทยอ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แทนที่จะยอมรับความจริงและรับผิดชอบ ไทยกลับยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อทั้งสาธารณชนและประชาคมระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขข้อมูลที่บิดเบือน . เหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องเร่งดำเนินการหาข้อยุติโดยสันติและมีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านกลไกระหว่างประเทศที่เหมาะสม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอย้ำจุดยืนที่มีมายาวนานว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ เป็นเวทีที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนที่เหลืออยู่ระหว่างสองประเทศ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ โดยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ และด้วยความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนอย่างยุติธรรม เป็นธรรม และสันติ เพื่อประกันสันติภาพที่ยั่งยืน ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีก และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวของทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม . พนมเปญ 21 กรกฎาคม 2568
    0 Comments 0 Shares 523 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ แถลงการณ์โต้ "กัมพูชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง นำภาพการฝึกภาคสนามมากล่าวหา "ทหารไทย" เป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mines Action Center หรือ TMAC) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงกังวล อย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวรจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างครบถ้วน อันรวมถึง การยุติการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตลอดจนการดำเนินการเก็บกู้ และทำลายทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างภายในประเทศ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมในระยะยาวในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านรวมถึงดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้อีกในอนาคตนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความมั่นคงให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคี ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งต่างมีพันธกิจในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคงของมนุษยชาติ และลดผลกระทบจากอาวุธที่ไร้ความจำแนกต่อพลเรือน
    ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ แถลงการณ์โต้ "กัมพูชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง นำภาพการฝึกภาคสนามมากล่าวหา "ทหารไทย" เป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mines Action Center หรือ TMAC) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงกังวล อย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวรจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างครบถ้วน อันรวมถึง การยุติการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตลอดจนการดำเนินการเก็บกู้ และทำลายทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างภายในประเทศ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมในระยะยาวในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านรวมถึงดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้อีกในอนาคตนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความมั่นคงให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคี ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งต่างมีพันธกิจในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคงของมนุษยชาติ และลดผลกระทบจากอาวุธที่ไร้ความจำแนกต่อพลเรือน
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • ..เขมรนี้เลวชั่วจริงๆนะ,เนรคุณและทรยศ ไม่เคารพอธิปไตยประเทศไทย,ประชาชนเขมรถือว่าสมคบคิดด้วยทั้งหมด,เราต้องเหมารวมด้วย เพราะคนเขมรต้องควบคุมคนเขมรเองเช่นกันมิมาทำสิ่งเลวชั่วกับชาติอื่นเมืองอื่นง่ายๆ, นี้ทำเป็นอุตสาหกรรมทางการค้าเลยนะ รัฐบาลเขมรปล่อยปะละเลยด้วย,รัฐบาลไทยเราที่มิใช่รัฐบาลปัจจุบันนี้ จริงๆต้องสั่งสอนเขมรจริงจังกันจริงๆ,มีสาระพัดอย่างเพื่อทำให้ถึงการจัดการเขมรทุกๆรูปแบบ,เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนายกฯที่ออกคลิปว่า ทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่สามารถจัดการเด็ดขาดใดๆจริงกับเขมรเลย ตลอดนายทุนเจ้าสัวมากมายที่ไปลงทุนในเขมรด้วยต้องเป็นแบบนายกฯที่ว่าทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่ต้องการให้ได้ลงโทษเขมร ตัดขาดเขมรจริงจัง,แต่ยุคนี้เขมรเสื่อมสิ้นจริงๆ,ทหารต้องยึดอำนาจทันทีจากรักษาการรัฐบาลเหี้ยๆนี้มีแต่จะไปทางเขมรสิ้น,เมื่อยึดอำนาจเสร็จจะมีข่องทางมากมายจัดการเขมร,1.ด้วยการคุกคามรุกรานไทยปัจจุบันเป็นภัยความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เราสามารถปิดด่านทั้งหมดถาวรตลอดพรมแดนทันที.2.ไล่ฑูตเขมรและเจ้าหน้าที่ภายในฑูตเขมรกลับประเทศเขมรทั้งหมด เรียกฑูตไทยและเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทยกลับประเทศทันทีทั้งหมดรวมถึงคนไทยทุกๆคนด้วยต้องกลับประเทศทุกๆคน,ผลักดันคนเขมรทั้งหมดออกจากประเทศไทยทันทีส่วนจะกลับประเทศเขมรหรือไม่อีกเรื่องของคนเขมรนัันๆ.3.คว่ำบาตรเขมรทุกๆด้านทั้งหมดในการค้าขาย ตัดน้ำ ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ทำลายถนนหนทางทางรถไฟทั้งหมดที่เชื่อมต่อไปถึงเขมร, ตัดการค้าการลงทุนการเศรษฐกิจที่ติดต่อแล้วก่อนหน้านั้นทุกรูปแบบ,ยุติสกุลเงินเขมรห้ามใช้ในประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย,อายัดบัญชีที่โอนไปเขมรทั้งหมดหรือโอนมาไทย,ล็อกบัญชีธนาคารคนเขมรทั้งหมด,ตัดขาดทุกๆธุรกรรมที่เกี่ยวกับเขมร, เป็นต้น นี้คือมาตราการเบื้องต้นและทหารไทยต้องทำจริงๆได้เสียที,ตลอดข้าราชการไทยต้องเด็ดขาดกับคนเข้าด้วยกับเขมร ทรยศประเทศไทยตนเองด้วย,ปัจจุบันเขมรไม่เคยถูกลงโทษใดๆจริงจากอำนาจประเทศไทยเลย,ปาหี่แหกตาประชาชน,ส่งน้ำส่งไฟฟ้า ส่งเสบียงสาระพัดรูปแบบให้เขมรมีกำลังต่อต้านประเทศไทยเหมือนเดิม,ทั้งยังมั่วเรียกฝรั่งต่างชาติมาแทรกแซงอีกเพื่อให้เขมรชนะไทยแล้วได้อ่าวไทยบ่อน้ำมันมหาศาลและแร่มีค่ามากมายไปจากประเทศไทย,ทหารไทย ตำรวจไทย ไม่จริงจังจัดการคนทรยศประเทศตนเองเลย.,ยังลอยหน้าลอยตาสร้างความหายนะต่อแผ่นดินไทยเราไใ่จบสิ้น.

    https://youtube.com/shorts/5Jy3nDun38c?si=mkEgXPd_ywJijrl3
    ..เขมรนี้เลวชั่วจริงๆนะ,เนรคุณและทรยศ ไม่เคารพอธิปไตยประเทศไทย,ประชาชนเขมรถือว่าสมคบคิดด้วยทั้งหมด,เราต้องเหมารวมด้วย เพราะคนเขมรต้องควบคุมคนเขมรเองเช่นกันมิมาทำสิ่งเลวชั่วกับชาติอื่นเมืองอื่นง่ายๆ, นี้ทำเป็นอุตสาหกรรมทางการค้าเลยนะ รัฐบาลเขมรปล่อยปะละเลยด้วย,รัฐบาลไทยเราที่มิใช่รัฐบาลปัจจุบันนี้ จริงๆต้องสั่งสอนเขมรจริงจังกันจริงๆ,มีสาระพัดอย่างเพื่อทำให้ถึงการจัดการเขมรทุกๆรูปแบบ,เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนายกฯที่ออกคลิปว่า ทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่สามารถจัดการเด็ดขาดใดๆจริงกับเขมรเลย ตลอดนายทุนเจ้าสัวมากมายที่ไปลงทุนในเขมรด้วยต้องเป็นแบบนายกฯที่ว่าทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่ต้องการให้ได้ลงโทษเขมร ตัดขาดเขมรจริงจัง,แต่ยุคนี้เขมรเสื่อมสิ้นจริงๆ,ทหารต้องยึดอำนาจทันทีจากรักษาการรัฐบาลเหี้ยๆนี้มีแต่จะไปทางเขมรสิ้น,เมื่อยึดอำนาจเสร็จจะมีข่องทางมากมายจัดการเขมร,1.ด้วยการคุกคามรุกรานไทยปัจจุบันเป็นภัยความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เราสามารถปิดด่านทั้งหมดถาวรตลอดพรมแดนทันที.2.ไล่ฑูตเขมรและเจ้าหน้าที่ภายในฑูตเขมรกลับประเทศเขมรทั้งหมด เรียกฑูตไทยและเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทยกลับประเทศทันทีทั้งหมดรวมถึงคนไทยทุกๆคนด้วยต้องกลับประเทศทุกๆคน,ผลักดันคนเขมรทั้งหมดออกจากประเทศไทยทันทีส่วนจะกลับประเทศเขมรหรือไม่อีกเรื่องของคนเขมรนัันๆ.3.คว่ำบาตรเขมรทุกๆด้านทั้งหมดในการค้าขาย ตัดน้ำ ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ทำลายถนนหนทางทางรถไฟทั้งหมดที่เชื่อมต่อไปถึงเขมร, ตัดการค้าการลงทุนการเศรษฐกิจที่ติดต่อแล้วก่อนหน้านั้นทุกรูปแบบ,ยุติสกุลเงินเขมรห้ามใช้ในประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย,อายัดบัญชีที่โอนไปเขมรทั้งหมดหรือโอนมาไทย,ล็อกบัญชีธนาคารคนเขมรทั้งหมด,ตัดขาดทุกๆธุรกรรมที่เกี่ยวกับเขมร, เป็นต้น นี้คือมาตราการเบื้องต้นและทหารไทยต้องทำจริงๆได้เสียที,ตลอดข้าราชการไทยต้องเด็ดขาดกับคนเข้าด้วยกับเขมร ทรยศประเทศไทยตนเองด้วย,ปัจจุบันเขมรไม่เคยถูกลงโทษใดๆจริงจากอำนาจประเทศไทยเลย,ปาหี่แหกตาประชาชน,ส่งน้ำส่งไฟฟ้า ส่งเสบียงสาระพัดรูปแบบให้เขมรมีกำลังต่อต้านประเทศไทยเหมือนเดิม,ทั้งยังมั่วเรียกฝรั่งต่างชาติมาแทรกแซงอีกเพื่อให้เขมรชนะไทยแล้วได้อ่าวไทยบ่อน้ำมันมหาศาลและแร่มีค่ามากมายไปจากประเทศไทย,ทหารไทย ตำรวจไทย ไม่จริงจังจัดการคนทรยศประเทศตนเองเลย.,ยังลอยหน้าลอยตาสร้างความหายนะต่อแผ่นดินไทยเราไใ่จบสิ้น. https://youtube.com/shorts/5Jy3nDun38c?si=mkEgXPd_ywJijrl3
    0 Comments 0 Shares 393 Views 0 Reviews
  • ‘ทรัมพ์’ โพสต์ จดหมายถึงไทย ยืนยันเก็บภาษี 36% มีผล 1 สิงหาคมนี้

    7 กรกฎาคม 2025

    ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
    รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ

    เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

    เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าได้ส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของเรา และข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป แม้จะประสบปัญหาขาดดุลการค้ากับประเทศของท่านเป็นอย่างมากก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการค้าที่ สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น เราจึงขอเชิญประเทศไทยเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอันน่าอัศจรรย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องลดเลิกการขาดดุลการค้าเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนโยบายกำแพงภาษีและมิใช่ภาษี ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ของไทย ความสัมพันธ์ของเราในอดีตนั้น น่าเสียดายที่ ไม่เป็นไปอย่างต่างตอบแทน

    ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บ ภาษีนำเข้าในอัตรา 36% สำหรับ สินค้าทุกชนิดจากประเทศไทย ที่ส่งเข้ามายังสหรัฐ แยกจากภาษีตามหมวดหมู่สินค้าโดยสิ้นเชิง สินค้าที่ผ่านการถ่ายโอนจากประเทศที่สามเพื่อเลี่ยงภาษีจะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าตามที่ควร

    โปรดเข้าใจว่า อัตรา 36% นี้ยัง ต่ำกว่าระดับที่จำเป็น เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าที่เรามีกับประเทศของท่าน

    อย่างที่ท่านทราบ หากประเทศไทย หรือบริษัทใดในประเทศของท่าน เลือกที่จะมาตั้งฐานการผลิตหรือประกอบสินค้าในสหรัฐ จะ ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ และเรายังจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการอนุมัติด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

    หากประเทศไทยเลือกที่จะ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ว่าในอัตราใด เราจะเพิ่มอัตรานั้นเข้าไปใน 36% ที่เรากำหนดไว้แล้ว โปรดเข้าใจว่า การจัดเก็บภาษีนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขผลกระทบจากนโยบายภาษีและมิใช่ภาษีของไทยที่มีมานานหลายปี และนำไปสู่การขาดดุลการค้าในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อเศรษฐกิจ และแม้แต่ต่อ ความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา

    เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐฯ และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เรา อาจ พิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าว สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา

    สหรัฐอเมริกาจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง

    ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในเรื่องนี้

    ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง

    ขอแสดงความนับถือ

    โดนัลด์ เจ. ทรัมป์
    ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
    ‘ทรัมพ์’ โพสต์ จดหมายถึงไทย ยืนยันเก็บภาษี 36% มีผล 1 สิงหาคมนี้ 7 กรกฎาคม 2025 ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าได้ส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของเรา และข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป แม้จะประสบปัญหาขาดดุลการค้ากับประเทศของท่านเป็นอย่างมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการค้าที่ สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น เราจึงขอเชิญประเทศไทยเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอันน่าอัศจรรย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องลดเลิกการขาดดุลการค้าเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนโยบายกำแพงภาษีและมิใช่ภาษี ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ของไทย ความสัมพันธ์ของเราในอดีตนั้น น่าเสียดายที่ ไม่เป็นไปอย่างต่างตอบแทน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บ ภาษีนำเข้าในอัตรา 36% สำหรับ สินค้าทุกชนิดจากประเทศไทย ที่ส่งเข้ามายังสหรัฐ แยกจากภาษีตามหมวดหมู่สินค้าโดยสิ้นเชิง สินค้าที่ผ่านการถ่ายโอนจากประเทศที่สามเพื่อเลี่ยงภาษีจะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าตามที่ควร โปรดเข้าใจว่า อัตรา 36% นี้ยัง ต่ำกว่าระดับที่จำเป็น เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าที่เรามีกับประเทศของท่าน อย่างที่ท่านทราบ หากประเทศไทย หรือบริษัทใดในประเทศของท่าน เลือกที่จะมาตั้งฐานการผลิตหรือประกอบสินค้าในสหรัฐ จะ ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ และเรายังจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการอนุมัติด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หากประเทศไทยเลือกที่จะ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ว่าในอัตราใด เราจะเพิ่มอัตรานั้นเข้าไปใน 36% ที่เรากำหนดไว้แล้ว โปรดเข้าใจว่า การจัดเก็บภาษีนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขผลกระทบจากนโยบายภาษีและมิใช่ภาษีของไทยที่มีมานานหลายปี และนำไปสู่การขาดดุลการค้าในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อเศรษฐกิจ และแม้แต่ต่อ ความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐฯ และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เรา อาจ พิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าว สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา สหรัฐอเมริกาจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในเรื่องนี้ ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง ขอแสดงความนับถือ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 441 Views 0 Reviews
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb

    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 Comments 0 Shares 544 Views 0 Reviews
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb

    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 Comments 0 Shares 546 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้ลดราคา
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)
    จากร้าน ซีเอ็ด


    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า
    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    ช่วงนี้ลดราคา ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    WWW.SE-ED.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านดวงดาว และอวกาศทั่วไป สภาวะของอวกาศ กาแล็กซี (ดาราจักร) ดวงดาวต่างๆ ผู้เขียน เนื้อหาโดยสังเขป : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840327581 (-ไม่ระบุ) 1000 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) , T.M.E. , 5522840327581
    0 Comments 0 Shares 514 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้ลดราคา
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)
    จากร้าน ซีเอ็ด


    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า
    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    ช่วงนี้ลดราคา ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    WWW.SE-ED.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านดวงดาว และอวกาศทั่วไป สภาวะของอวกาศ กาแล็กซี (ดาราจักร) ดวงดาวต่างๆ ผู้เขียน เนื้อหาโดยสังเขป : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840327581 (-ไม่ระบุ) 1000 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) , T.M.E. , 5522840327581
    0 Comments 0 Shares 499 Views 0 Reviews
  • เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร
    แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46

    ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า

    1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย]

    วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า:

    "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม"

    เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ

    2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม

    , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้

    3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย

    Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร

    กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC"

    Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2)

    Bora Touch ทนายความ

    The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates:

    1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.

    Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises:

    "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam"

    Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ.

    Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia.

    Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid.

    Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand.

    Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land.

    Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC."

    Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46 ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า 1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า: "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม" เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ 2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้ 3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC" Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2) Bora Touch ทนายความ The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates: 1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand].. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand] (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand]. Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises: "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand] set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam" Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ. Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia. Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid. Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand. Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land. Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC." Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    0 Comments 0 Shares 877 Views 0 Reviews
  • หน้าที่หลักของนายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) มีดังนี้:

    1. **เป็นหัวหน้ารัฐบาล:**
    * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
    * กำหนดนโยบายของคณะรัฐมนตรี (Cabinet) และรับผิดชอบต่อการดำเนินนโยบายนั้น
    * คุมทิศทางและประสานงานการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ

    2. **คัดเลือกและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี:**
    * เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อพระมหากษัตริย์ (ในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) หรือประมุขแห่งรัฐ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
    * มีอำนาจปรับเปลี่ยน (reshuffle) คณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งหรือถอดถอนรัฐมนตรี

    3. **เป็นผู้นำในรัฐสภา:**
    * แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
    * ตอบคำถามและชี้แจงนโยบายในการอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา (เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ)
    * เสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลต่อรัฐสภา

    4. **เป็นโฆษกหลักของรัฐบาล:**
    * ชี้แจงนโยบายและสถานการณ์สำคัญของประเทศต่อสาธารณชน
    * เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการแถลงข่าวหรือสื่อสารในประเด็นเร่งด่วนหรือสำคัญระดับชาติ

    5. **เป็นผู้แทนประเทศในเวทีระหว่างประเทศ:**
    * เป็นตัวแทนสูงสุดของรัฐบาลในการเยือนต่างประเทศและต้อนรับผู้นำต่างประเทศ
    * เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศ (เช่น การประชุมอาเซียน สหประชาชาติ G20)

    6. **เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี:**
    * เรียกประชุมและเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี
    * นำเสนอวาระการประชุมและชี้ขาดในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่ตรงกัน

    7. **รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ:**
    * เป็นประธานในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (เช่น คณะกรรมการนโยบายต่างประเทศ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ - ในบางประเทศ)
    * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในยามสงบ (ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ) หรือประสานงานกับฝ่ายทหาร (ในประเทศที่ประมุขแห่งรัฐเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เช่น ไทย)

    8. **การใช้อำนาจตามกฎหมาย:**
    * ลงนามในพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และเอกสารราชการสำคัญต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ
    * ใช้อำนาจอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด

    9. **การแก้ไขวิกฤต:**
    * เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือภัยธรรมชาติ

    10. **การรับผิดชอบทางการเมือง:**
    * ต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อรัฐสภาและประชาชน หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหรือนโยบายล้มเหลว นายกรัฐมนตรีมักจะเป็นผู้ที่ต้องลาออกหรือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนใคร

    **หมายเหตุ:**
    * รายละเอียดหน้าที่และอำนาจอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและประเพณีทางการเมืองของประเทศนั้นๆ
    * ในประเทศไทย หน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2560) โดยเฉพาะในมาตรา 171, 172, 173 และหมวด 6 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี
    * นายกรัฐมนตรีต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย

    สรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญที่สุดในฝ่ายบริหาร ในการกำหนดทิศทางประเทศ นำการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ของชาติ
    หน้าที่หลักของนายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) มีดังนี้: 1. **เป็นหัวหน้ารัฐบาล:** * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน * กำหนดนโยบายของคณะรัฐมนตรี (Cabinet) และรับผิดชอบต่อการดำเนินนโยบายนั้น * คุมทิศทางและประสานงานการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ 2. **คัดเลือกและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี:** * เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อพระมหากษัตริย์ (ในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) หรือประมุขแห่งรัฐ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี * มีอำนาจปรับเปลี่ยน (reshuffle) คณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งหรือถอดถอนรัฐมนตรี 3. **เป็นผู้นำในรัฐสภา:** * แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา * ตอบคำถามและชี้แจงนโยบายในการอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา (เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ) * เสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลต่อรัฐสภา 4. **เป็นโฆษกหลักของรัฐบาล:** * ชี้แจงนโยบายและสถานการณ์สำคัญของประเทศต่อสาธารณชน * เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการแถลงข่าวหรือสื่อสารในประเด็นเร่งด่วนหรือสำคัญระดับชาติ 5. **เป็นผู้แทนประเทศในเวทีระหว่างประเทศ:** * เป็นตัวแทนสูงสุดของรัฐบาลในการเยือนต่างประเทศและต้อนรับผู้นำต่างประเทศ * เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศ (เช่น การประชุมอาเซียน สหประชาชาติ G20) 6. **เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี:** * เรียกประชุมและเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี * นำเสนอวาระการประชุมและชี้ขาดในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่ตรงกัน 7. **รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ:** * เป็นประธานในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (เช่น คณะกรรมการนโยบายต่างประเทศ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ - ในบางประเทศ) * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในยามสงบ (ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ) หรือประสานงานกับฝ่ายทหาร (ในประเทศที่ประมุขแห่งรัฐเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เช่น ไทย) 8. **การใช้อำนาจตามกฎหมาย:** * ลงนามในพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และเอกสารราชการสำคัญต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ * ใช้อำนาจอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด 9. **การแก้ไขวิกฤต:** * เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือภัยธรรมชาติ 10. **การรับผิดชอบทางการเมือง:** * ต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อรัฐสภาและประชาชน หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหรือนโยบายล้มเหลว นายกรัฐมนตรีมักจะเป็นผู้ที่ต้องลาออกหรือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนใคร **หมายเหตุ:** * รายละเอียดหน้าที่และอำนาจอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและประเพณีทางการเมืองของประเทศนั้นๆ * ในประเทศไทย หน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2560) โดยเฉพาะในมาตรา 171, 172, 173 และหมวด 6 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี * นายกรัฐมนตรีต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย สรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญที่สุดในฝ่ายบริหาร ในการกำหนดทิศทางประเทศ นำการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ของชาติ
    0 Comments 0 Shares 506 Views 0 Reviews
More Results