• ..แผนฝรั่งและแผนอเมริกาชัดเจน ปัญหาไทยกับเขมร ต้องไทยกับเขมรแก้ไขกันเอง,มวยกำลังชกและผลแพ้ชนะจะจบแล้วเสือกมาโกงแบบสันดานนิสัยฝรั่งที่มักทำกันในทวีปตน,โกงมิให้แก้ไขปัญหาให้จบสิ้นจริงๆ,ปล้นความจะสร้างสันติสุขดีงามที่ดีๆในภูมิภาคนี้,ไทยไม่เคยสงบสุขจากฝรั่งมาช่วยเหลืออะไรจริงใจอะไร,สงครามอินโดฯคือความจริงที่ฝรั่งแบบอเมริกาทิ้งประเทศไทยชัดเจน,รัฐบาลไทยนี้สมควรออกไป.,ไม่เคยจดจำประวัติศาสตร์ที่ชั่วเลวของอเมริกาเลย,จีนเป็นกลางถูกแล้ว,อเมริกาต้องเป็นกลางด้วย,เสือกหวาดกลัวว่าไทยจะยึดปกครองเขมรได้อาณาจักรไทยจะใหญ่โต,ไทยจีนสัมพันธ์ไมตรีกันดีปกติอีก,พื้นที่ปกครองทั้งหมดจีนอาจมีที่ยืนกว่าอเมริกาเหรอ,เกิดสงครามอเมริกากว่าจีนใช้พื้นที่ชนะสงครามนี้ทำสงครามกับอเมริกาถึงฟิลิปปินส์สิงคโปร์มาเลย์สะดวกเหรอ,มาเลย์เกลียดอเมริกาจะตายก็ว่า,อเมริกาแทรกแซงไทยจะยุติความขัดแย้งไม่สมควรจริงๆ,เขมรสันดานชั่วเลวโคตรๆแต่อเมริกาจงใจปกป้องเขมรเสมือนผลักไทยไปร่วมกับจีนชัดเจน,เพราะอเมริกาหมายยึดพื้นที่ไทยทำสงครามกับจีนแบบนี้ใช้ไม่ได้,เราพยายามเป็นกลาง,และจบปัญหากับชาติที่รุกรานอธิปไตยไทยตลอดเวลา,ทรัมป์ควายมากๆฝ่ายแสงผีบ้าพ่อมรึงตาย ถ้าลูกทรัมป์ถูกระเบิดตาย คนอเมริกาตายในพรมแดนไทยจากเขมรยิงระเบิดใส่ลูกชายทรัมป์ลูกสาวทรัมป์จงรีบเจรจาสงบศึกนะ,เจรจาอย่างสันติมิให้เป็นแบบตึกWTCนั้น,เสือกไปกล่าวหาเขาทั้งที่ความจริงปัจจุบันไม่ใช่แล้ว,หรือกล่าวหาอีรักว่ามีนิวเคลียร์ตัวเองเสือกมีกว่าหมื่นลูกได้,จบศึกอีรักเสือกขนทองคำขโมยเงินทองเขาไปพร้อมประตูมิติด้วยเหี้ยอเมริกาจริงๆ,อีรักสุดท้ายก็ไม่พบนิวเคลียร์อะไรนี้คือสันดานอเมริกาที่สร้างแต่ความไม่สงบสุขไปทั่วโลก,เขมรเผ่าพันธุ์นี้เจรจาไม่ได้,คนเขมรต้องจบที่สงครามและปกครองใหม่เท่านั้น,ลาว เวียดนามแบ่งปันพื้นที่ไปปกครองเลย เผ่าพันธุ์นี้ห้ามเป็นประเทศเด็ดขาด,ไร้มนุษยธรรมใดๆในสันดานด้วย อีลิทปกครองเสียนาน นั้นเอง.,ทรัมป์เหี้ยจริงๆ บางประเทศในเผ่าพันธุ์นั้นๆระบบปกครองสวยหรูแบบอเมริกาใช้ไม่ได้หรอก,อเมริกาหนี้เต็มประเทศไปจัดการdeep stateและประชาชนตนก่อนจริงๆเถอะ,ฝ่ายแสงที่หลอกลวงเสือกไม่เห็นจัดการคนชั่วเลวสมุนขี้ข้ารับใช้ซาตานห่าจริงจังอะไรในไทย,ลอยหน้าลอยตาเหมือนเดิมเติมประเทศไทยQผีบ้าแหกตาคนทั้งโลก สภากาแล็กติกจักรวาลผีบ้าคงจะปั้นเรื่องด้วยเช่นกัน,สรุปเหี้ยไม่มีใครดีจริงๆเลย,ประเทศไทยเราต้องพึ่งพาสามัคคีกันเอง เป็นแสงสว่างแห่งธรรมของประเทศไทยเราเองจริงๆได้แล้ว,รัฐบาลเลวขายชาติต้องร่วมกับทหารพระราชาเรากำจัดกันจริงจังจริงๆ
    ..
    ..https://youtube.com/watch?v=Gj3AXuMCYq8&si=3usaBnZijBJ1F1cb
    ..แผนฝรั่งและแผนอเมริกาชัดเจน ปัญหาไทยกับเขมร ต้องไทยกับเขมรแก้ไขกันเอง,มวยกำลังชกและผลแพ้ชนะจะจบแล้วเสือกมาโกงแบบสันดานนิสัยฝรั่งที่มักทำกันในทวีปตน,โกงมิให้แก้ไขปัญหาให้จบสิ้นจริงๆ,ปล้นความจะสร้างสันติสุขดีงามที่ดีๆในภูมิภาคนี้,ไทยไม่เคยสงบสุขจากฝรั่งมาช่วยเหลืออะไรจริงใจอะไร,สงครามอินโดฯคือความจริงที่ฝรั่งแบบอเมริกาทิ้งประเทศไทยชัดเจน,รัฐบาลไทยนี้สมควรออกไป.,ไม่เคยจดจำประวัติศาสตร์ที่ชั่วเลวของอเมริกาเลย,จีนเป็นกลางถูกแล้ว,อเมริกาต้องเป็นกลางด้วย,เสือกหวาดกลัวว่าไทยจะยึดปกครองเขมรได้อาณาจักรไทยจะใหญ่โต,ไทยจีนสัมพันธ์ไมตรีกันดีปกติอีก,พื้นที่ปกครองทั้งหมดจีนอาจมีที่ยืนกว่าอเมริกาเหรอ,เกิดสงครามอเมริกากว่าจีนใช้พื้นที่ชนะสงครามนี้ทำสงครามกับอเมริกาถึงฟิลิปปินส์สิงคโปร์มาเลย์สะดวกเหรอ,มาเลย์เกลียดอเมริกาจะตายก็ว่า,อเมริกาแทรกแซงไทยจะยุติความขัดแย้งไม่สมควรจริงๆ,เขมรสันดานชั่วเลวโคตรๆแต่อเมริกาจงใจปกป้องเขมรเสมือนผลักไทยไปร่วมกับจีนชัดเจน,เพราะอเมริกาหมายยึดพื้นที่ไทยทำสงครามกับจีนแบบนี้ใช้ไม่ได้,เราพยายามเป็นกลาง,และจบปัญหากับชาติที่รุกรานอธิปไตยไทยตลอดเวลา,ทรัมป์ควายมากๆฝ่ายแสงผีบ้าพ่อมรึงตาย ถ้าลูกทรัมป์ถูกระเบิดตาย คนอเมริกาตายในพรมแดนไทยจากเขมรยิงระเบิดใส่ลูกชายทรัมป์ลูกสาวทรัมป์จงรีบเจรจาสงบศึกนะ,เจรจาอย่างสันติมิให้เป็นแบบตึกWTCนั้น,เสือกไปกล่าวหาเขาทั้งที่ความจริงปัจจุบันไม่ใช่แล้ว,หรือกล่าวหาอีรักว่ามีนิวเคลียร์ตัวเองเสือกมีกว่าหมื่นลูกได้,จบศึกอีรักเสือกขนทองคำขโมยเงินทองเขาไปพร้อมประตูมิติด้วยเหี้ยอเมริกาจริงๆ,อีรักสุดท้ายก็ไม่พบนิวเคลียร์อะไรนี้คือสันดานอเมริกาที่สร้างแต่ความไม่สงบสุขไปทั่วโลก,เขมรเผ่าพันธุ์นี้เจรจาไม่ได้,คนเขมรต้องจบที่สงครามและปกครองใหม่เท่านั้น,ลาว เวียดนามแบ่งปันพื้นที่ไปปกครองเลย เผ่าพันธุ์นี้ห้ามเป็นประเทศเด็ดขาด,ไร้มนุษยธรรมใดๆในสันดานด้วย อีลิทปกครองเสียนาน นั้นเอง.,ทรัมป์เหี้ยจริงๆ บางประเทศในเผ่าพันธุ์นั้นๆระบบปกครองสวยหรูแบบอเมริกาใช้ไม่ได้หรอก,อเมริกาหนี้เต็มประเทศไปจัดการdeep stateและประชาชนตนก่อนจริงๆเถอะ,ฝ่ายแสงที่หลอกลวงเสือกไม่เห็นจัดการคนชั่วเลวสมุนขี้ข้ารับใช้ซาตานห่าจริงจังอะไรในไทย,ลอยหน้าลอยตาเหมือนเดิมเติมประเทศไทยQผีบ้าแหกตาคนทั้งโลก สภากาแล็กติกจักรวาลผีบ้าคงจะปั้นเรื่องด้วยเช่นกัน,สรุปเหี้ยไม่มีใครดีจริงๆเลย,ประเทศไทยเราต้องพึ่งพาสามัคคีกันเอง เป็นแสงสว่างแห่งธรรมของประเทศไทยเราเองจริงๆได้แล้ว,รัฐบาลเลวขายชาติต้องร่วมกับทหารพระราชาเรากำจัดกันจริงจังจริงๆ .. ..https://youtube.com/watch?v=Gj3AXuMCYq8&si=3usaBnZijBJ1F1cb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ตอนนี้ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น,ชนะกับแพ้คือคำตอบ.
    ..เพราะนี้คือสนามยุทธศาสตร์โลกไปแล้ว,จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่เกิด,สงครามกับอาชญากรสงครามแบบเขมรเท่านั้นคือคำตอบด้วย ซึ่งเราจบสงครามนี้ได้ จะสามารถรักษาความเป็นกลางของภาวะสงครามโลกได้ทันที,จะจีนจะอเมริกาจะไม่มีข้ออ้างใดๆอีกมาใช้อาเชียนเราทำสงครามโลก,อเมริกาจะอ้างว่าเขมรคือฐานทัพจีนแบบจีนสร้างกองทัพเรือย่อยของจีนในเขมรก็ไม่ได้อีก ไทยสามารถขจัดความจะเอาของอเมริกาได้ที่พังงามิให้มีเปรียบเทียบโดยนายกฯพนาเรา ผบ.ปู เดินทางไปเจรจาตกลงกับจีนให้ถอนกองทัพเรือออกจากพื้นที่นี้ที่ไทยชนะสงครามร่วมกับลาวกับเวียดนามรบกวนเชิญออกไปด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีงามจากพื้นที่นี้เพื่อมิให้เหี้ยอเมริกาอ้างใช้ไทยมายึดพังงาตั้งฐานทัพในไทยได้อีกแห่งอย่างถาวรในอนาคตเพราะนั่นจะขัดขวางถาวรทันทีของทางสายไหมของการค้าจีนเองทันทีด้วย,หลังจากไทยขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์อำนาจอเมริกาจะไม่สามารถมีเหนือในเขตพื้นที่นั้นทันทีด้วย,จีนเองก็สามารถค้าขายอิสระในคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นั้น ทุกๆชาติทั่วโลกสามารถค้าขายเสรีอิสระผ่านคลองคอดกระของไทยได้โดยไทยมีอธิปไตย100%ในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่มีอเมริกาหรือชาติฝรั่งตะวันตกใดๆมาแทรกแซงการค้าขายในเอเชียในอาเชียนเราได้อีก,จีนสามารถขนส่งทั้งทางบกทางทะเลทางพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอิสระก็ได้,ทุกๆชาติร่วมมาค้าขายเสรีในราชอาณาจักรไทยได้ เรา..ประเทศไทยเป็นกลางนั้นเอง,แม้อเมริกาจะรบกับจีนจริง ไทยก็เป็นกลางและพื้นที่ชนะสงครามนี้มิให้ใครมาตั้งฐานทัพใดๆก็อเมริกาเพื่อจีนมาสู้รบกันได้,เขตปลิดสงครามโลกคือไทย ลาว เวียดนาม นั้นเอง หากพม่า มาเลย์ สิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์จะร่วมmouเป็นกลางทางสงครามโลกระหว่างอเมริกากับจีน สามารถมาเข้าร่วมลงนามในmouนี้อย่างเปิดเผยและเป็นทางการได้ทันที,จะมิให้อเมริกาใช้ภาษีมาแอบอ้างมีนัยยะแอบแฝงแบบเจรจาอ้างการค้าแต่หมายเอาพังงาไทยมาเป็นฐานทัพรบกับจีนไม่ได้ มาห้ามไทยค้าขายกับใครอิสระเสรีไม่ได้ในอธิปไตยไทยเรา,หรือจีนหมายใช้พื้นที่สงครามที่ไทยชนะยึดทั้งประเทศมันได้แล้วนี้ใช้เป็นฐานทัพรบกับอเมริการก็ไม่ได้หรือหมายใช้ไทยหมายคานกำลังอเมริกาหมายตั้งฐานกำลังสู้กับอเมริกาก็ไม่ได้,นายกฯพระราชทานที่คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยขอถวายพระราชทาน สามารถเจรจาลักษณะนี้แบบเด็ดขาดได้,ตัดตอนหมากทั้งกระดานอเมริการและจีนทันทีด้วย.,อาเชียนเราอย่างด้วยคือไทย ลาว เวียดนามอาจรอดภัยสงครามโลกนี้ พม่ามาเข้าร่วมก็อาจรอด,มาเลย์ก็อิสราเอลมาประจำในมาเลย์แล้ว,สิงคโปร์บ๋อยอเมริกาตัวพ่อ,ฟิลิปปินส์ยิ่งอยากเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาโน้น,อินโดฯก็ไปทางอเมริกากว่า60%อีก,บ่อน้ำมันในอินโดฯอเมริกาเอาไปเกือบหมดประเทศ.ไม่ต่างจากไทยเพราะยุคอดีตนายกฯขายชาติขึ้นมาปกครองเป็นอันมากในประเทศไทยเรานี้.

    ..นีคือภาวะสงคราม มันเขมรอยากเกิดเลยเปิดมา,ต้องพร้อมจ่ายราคาที่แพงแสนแพงคือไทย ลาว และเวียดนาม จะสลายสถานะการเป็นประเทศเขมรในตอนนี้ทันทีร่วมกันนั้นเอง.,คือร่วมกันกำจัดอาชญากรและอาชญากรรมโลก ฮับค้ามนุษย์ ฮับสแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำโจรกรรมก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก,ฮับฟอกเงินสากลโลก แหล่งบ่อนคาสิโนเถื่อนระดับโลกออนไลน์หลอกลวงทั่วโลกด้วยโดยมีประมุขประเทศคุ้มครองคืออาชญากรฮุนเซนและฮุนมาเนตรวมถึงตระกูลฮุนทุกๆตัวนั้นเองบริหารจัดการควบคุมฮับสาระพัดเลวชั่วนี้ร่วมกันทั้งตระกูลและสมุนขี้ข้าคนรับใช้มันด้วยเป็นกองทัพกองกำลังพิเศษมากมายเพื่อปกป้องฮับสาระพัดอาชญากรและอาชญากรรมนี้,ถ้านานาชาติทั่วโลกว่าเขมรดี แล้วปกป้องเขมรเชื่อว่าประเทศนั้นๆคือแหล่งโอนถ่ายรับเนื้องานธุรกรรมกิจกรรมผลประโยชน์กับประเทศเขมรนี้แน่นอน,ชั่วเลวเหมือนกันนั้นเอง,เกาหลีใต้หากให้ที่หลบหนีจริงแก่อาชญากรโลกนี้แสดงว่า เป็นผู้เคยค้าขายการค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์กับฮุนเซนกับประเทศเขมรด้วยตลอดอาจรวมถึงจุดพักเงินของการฟอกเงินระดับสากลโลกด้วย,หรือมีกิจกรรมทางชั่วร่วมกันก็ไม่ทางใดทางหนึ่งนั้นเอง.
    ..เขมรต้องสิ้นนชาติเพราะแต่เดิมก็ไม่เคยมีชาติมีประเทศอะไร,มีแค่ฝรั่งเศสกับไทยทำศึกสงครามกันช่วงล่าอาณานิคมเท่านั้น,ไม่เคยมีชื่อเขมรปรากฎเกิดขึ้นในขณะนั้นแต่ใดๆ.
    https://youtube.com/watch?v=1JD22hWmnV0&si=mXSl0ROdlfSLeGNz
    ..ตอนนี้ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น,ชนะกับแพ้คือคำตอบ. ..เพราะนี้คือสนามยุทธศาสตร์โลกไปแล้ว,จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่เกิด,สงครามกับอาชญากรสงครามแบบเขมรเท่านั้นคือคำตอบด้วย ซึ่งเราจบสงครามนี้ได้ จะสามารถรักษาความเป็นกลางของภาวะสงครามโลกได้ทันที,จะจีนจะอเมริกาจะไม่มีข้ออ้างใดๆอีกมาใช้อาเชียนเราทำสงครามโลก,อเมริกาจะอ้างว่าเขมรคือฐานทัพจีนแบบจีนสร้างกองทัพเรือย่อยของจีนในเขมรก็ไม่ได้อีก ไทยสามารถขจัดความจะเอาของอเมริกาได้ที่พังงามิให้มีเปรียบเทียบโดยนายกฯพนาเรา ผบ.ปู เดินทางไปเจรจาตกลงกับจีนให้ถอนกองทัพเรือออกจากพื้นที่นี้ที่ไทยชนะสงครามร่วมกับลาวกับเวียดนามรบกวนเชิญออกไปด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีงามจากพื้นที่นี้เพื่อมิให้เหี้ยอเมริกาอ้างใช้ไทยมายึดพังงาตั้งฐานทัพในไทยได้อีกแห่งอย่างถาวรในอนาคตเพราะนั่นจะขัดขวางถาวรทันทีของทางสายไหมของการค้าจีนเองทันทีด้วย,หลังจากไทยขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์อำนาจอเมริกาจะไม่สามารถมีเหนือในเขตพื้นที่นั้นทันทีด้วย,จีนเองก็สามารถค้าขายอิสระในคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นั้น ทุกๆชาติทั่วโลกสามารถค้าขายเสรีอิสระผ่านคลองคอดกระของไทยได้โดยไทยมีอธิปไตย100%ในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่มีอเมริกาหรือชาติฝรั่งตะวันตกใดๆมาแทรกแซงการค้าขายในเอเชียในอาเชียนเราได้อีก,จีนสามารถขนส่งทั้งทางบกทางทะเลทางพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอิสระก็ได้,ทุกๆชาติร่วมมาค้าขายเสรีในราชอาณาจักรไทยได้ เรา..ประเทศไทยเป็นกลางนั้นเอง,แม้อเมริกาจะรบกับจีนจริง ไทยก็เป็นกลางและพื้นที่ชนะสงครามนี้มิให้ใครมาตั้งฐานทัพใดๆก็อเมริกาเพื่อจีนมาสู้รบกันได้,เขตปลิดสงครามโลกคือไทย ลาว เวียดนาม นั้นเอง หากพม่า มาเลย์ สิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์จะร่วมmouเป็นกลางทางสงครามโลกระหว่างอเมริกากับจีน สามารถมาเข้าร่วมลงนามในmouนี้อย่างเปิดเผยและเป็นทางการได้ทันที,จะมิให้อเมริกาใช้ภาษีมาแอบอ้างมีนัยยะแอบแฝงแบบเจรจาอ้างการค้าแต่หมายเอาพังงาไทยมาเป็นฐานทัพรบกับจีนไม่ได้ มาห้ามไทยค้าขายกับใครอิสระเสรีไม่ได้ในอธิปไตยไทยเรา,หรือจีนหมายใช้พื้นที่สงครามที่ไทยชนะยึดทั้งประเทศมันได้แล้วนี้ใช้เป็นฐานทัพรบกับอเมริการก็ไม่ได้หรือหมายใช้ไทยหมายคานกำลังอเมริกาหมายตั้งฐานกำลังสู้กับอเมริกาก็ไม่ได้,นายกฯพระราชทานที่คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยขอถวายพระราชทาน สามารถเจรจาลักษณะนี้แบบเด็ดขาดได้,ตัดตอนหมากทั้งกระดานอเมริการและจีนทันทีด้วย.,อาเชียนเราอย่างด้วยคือไทย ลาว เวียดนามอาจรอดภัยสงครามโลกนี้ พม่ามาเข้าร่วมก็อาจรอด,มาเลย์ก็อิสราเอลมาประจำในมาเลย์แล้ว,สิงคโปร์บ๋อยอเมริกาตัวพ่อ,ฟิลิปปินส์ยิ่งอยากเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาโน้น,อินโดฯก็ไปทางอเมริกากว่า60%อีก,บ่อน้ำมันในอินโดฯอเมริกาเอาไปเกือบหมดประเทศ.ไม่ต่างจากไทยเพราะยุคอดีตนายกฯขายชาติขึ้นมาปกครองเป็นอันมากในประเทศไทยเรานี้. ..นีคือภาวะสงคราม มันเขมรอยากเกิดเลยเปิดมา,ต้องพร้อมจ่ายราคาที่แพงแสนแพงคือไทย ลาว และเวียดนาม จะสลายสถานะการเป็นประเทศเขมรในตอนนี้ทันทีร่วมกันนั้นเอง.,คือร่วมกันกำจัดอาชญากรและอาชญากรรมโลก ฮับค้ามนุษย์ ฮับสแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำโจรกรรมก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก,ฮับฟอกเงินสากลโลก แหล่งบ่อนคาสิโนเถื่อนระดับโลกออนไลน์หลอกลวงทั่วโลกด้วยโดยมีประมุขประเทศคุ้มครองคืออาชญากรฮุนเซนและฮุนมาเนตรวมถึงตระกูลฮุนทุกๆตัวนั้นเองบริหารจัดการควบคุมฮับสาระพัดเลวชั่วนี้ร่วมกันทั้งตระกูลและสมุนขี้ข้าคนรับใช้มันด้วยเป็นกองทัพกองกำลังพิเศษมากมายเพื่อปกป้องฮับสาระพัดอาชญากรและอาชญากรรมนี้,ถ้านานาชาติทั่วโลกว่าเขมรดี แล้วปกป้องเขมรเชื่อว่าประเทศนั้นๆคือแหล่งโอนถ่ายรับเนื้องานธุรกรรมกิจกรรมผลประโยชน์กับประเทศเขมรนี้แน่นอน,ชั่วเลวเหมือนกันนั้นเอง,เกาหลีใต้หากให้ที่หลบหนีจริงแก่อาชญากรโลกนี้แสดงว่า เป็นผู้เคยค้าขายการค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์กับฮุนเซนกับประเทศเขมรด้วยตลอดอาจรวมถึงจุดพักเงินของการฟอกเงินระดับสากลโลกด้วย,หรือมีกิจกรรมทางชั่วร่วมกันก็ไม่ทางใดทางหนึ่งนั้นเอง. ..เขมรต้องสิ้นนชาติเพราะแต่เดิมก็ไม่เคยมีชาติมีประเทศอะไร,มีแค่ฝรั่งเศสกับไทยทำศึกสงครามกันช่วงล่าอาณานิคมเท่านั้น,ไม่เคยมีชื่อเขมรปรากฎเกิดขึ้นในขณะนั้นแต่ใดๆ. https://youtube.com/watch?v=1JD22hWmnV0&si=mXSl0ROdlfSLeGNz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า

    “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี

    สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า

    ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ
    อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ.

    แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ. แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า

    “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี

    สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า

    ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ
    อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ.

    แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้

    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงน้ำจิตมุทิตาปราโมทย์ และถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำหรับชาติไทยมานับแต่โบราณกาล การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ย่อมหมายถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรด้วย ธรรมะแห่งพระศาสนานี้ได้หยั่งรากลึกลงเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เป็นหลักชัย และหลักใจของอาณาประชาชน ใต้พระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ เหตุฉะนี้ พระมหากษัตริย์จึงทรงดำรงพระราชธรรมไว้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งพระราชทานอารักขาและพระบรมราชูปถัมภ์แก่การคณะสงฆ์ให้พ้นภยันตรายและให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเนติแบบแผนแห่งอาณาราษฎร เป็นเครื่องเสริมส่งกำลังพระบารมีอันแกล้วกล้า ในอันที่จะทรงพิทักษ์รักษาพระบวรพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ให้สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านเมืองไทยสืบไปได้โดยสวัสดี สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงตั้งพระบรมราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริ พระราชจริยวัตร ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระบรมราชบุพการี เพื่อให้บ้านเมืองไทยประสบความสุขสวัสดิ์ อำนวยผลให้ทรงสำเร็จประโยชน์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาราษฎร จึงทรงสงบพระราชหฤทัยได้ แม้ในยามที่ต้องเผชิญโลกธรรม ทรงเพียรละเว้นบาปธรรม และทรงเจริญในทางพระราชกุศล อันเป็นหนทางควรดำเนินเป็นเนืองนิตย์ สมด้วยโพธิสัตวภาษิต ที่ว่า ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ. แปลความว่า “มหาราช ! ธรรมเป็นทางที่ควรดำเนินตาม ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทางย่อมไม่ควรดำเนินตาม อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.” ด้วยประการฉะนี้ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชะแห่งสัจจวาจา ตลอดจนพระราชกุศลธรรมจริยา ที่ทรงสั่งสมมาด้วยดี โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..#ไทยรักสงบแต่รบไม่ขลาดเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และอธิปไตยไทยเรา. ดาวเทียมล็อกเป้าฮุนเซนฮุนหมาเน็ตเลย,ทหาร3ฝ่าย4ฝ่ายของเขมรที่เป็นฝ่ายศัตรูฮุนเซนฮุนหมาเน็ตด้วยในเขมรแบบเตียบันก็ว่า รีบจัดการฮุนเซนทันที ยึดอำนาจฮุนเซนทันที ก่อนที่ไทยเราจะไม่ให้โอกาสอีกและถือว่าเป็นพวกเดียวกันทั้งหมดจะเป็นศัตรูจริงของประเทศไทย,จบศึกคนเขมรทั้งหมดคืออาชญากรต่ออธิปไตยไทยที่รักสงบทั้งหมด,..เราจะเจรจากับลาวและเวียดนามทันทีเพื่อยึดเขมรทั้งหมดร่วมกันจะมิให้เขมรเป็นภัยใดๆก่ออาชญากรรมไปทั่วโลกได้อีกหรือรุกรานคุกคามลาวเวียดนามได้อีกต่อไป,พื้นที่เขมรจะถูกปกครองโดยเวียดนามโดยลาวแทนในอนาคต.จะไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผ่นที่โลกอีกต่อไป...อาเชียนทั้งหมดไม่ยอมรับการมีอยู่ของประเทศเขมร.,ซึ่งก่อนฝรั่งเศสมีเรื่องกับไทยก็ไม่มีชื่อเขมรปรากฎครอบครองดินแดนใดอย่างเป็นทางการลายสักษณ์อักษร.เพราะทัังหมดตือดินแดนราชอาณาจักรไทยแต่เดิมมาก่อน.https://youtu.be/7g7HYhhQKbQ?feature=shared
    ..#ไทยรักสงบแต่รบไม่ขลาดเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และอธิปไตยไทยเรา. ดาวเทียมล็อกเป้าฮุนเซนฮุนหมาเน็ตเลย,ทหาร3ฝ่าย4ฝ่ายของเขมรที่เป็นฝ่ายศัตรูฮุนเซนฮุนหมาเน็ตด้วยในเขมรแบบเตียบันก็ว่า รีบจัดการฮุนเซนทันที ยึดอำนาจฮุนเซนทันที ก่อนที่ไทยเราจะไม่ให้โอกาสอีกและถือว่าเป็นพวกเดียวกันทั้งหมดจะเป็นศัตรูจริงของประเทศไทย,จบศึกคนเขมรทั้งหมดคืออาชญากรต่ออธิปไตยไทยที่รักสงบทั้งหมด,..เราจะเจรจากับลาวและเวียดนามทันทีเพื่อยึดเขมรทั้งหมดร่วมกันจะมิให้เขมรเป็นภัยใดๆก่ออาชญากรรมไปทั่วโลกได้อีกหรือรุกรานคุกคามลาวเวียดนามได้อีกต่อไป,พื้นที่เขมรจะถูกปกครองโดยเวียดนามโดยลาวแทนในอนาคต.จะไม่มีชื่อประเทศเขมรบนแผ่นที่โลกอีกต่อไป...อาเชียนทั้งหมดไม่ยอมรับการมีอยู่ของประเทศเขมร.,ซึ่งก่อนฝรั่งเศสมีเรื่องกับไทยก็ไม่มีชื่อเขมรปรากฎครอบครองดินแดนใดอย่างเป็นทางการลายสักษณ์อักษร.เพราะทัังหมดตือดินแดนราชอาณาจักรไทยแต่เดิมมาก่อน.https://youtu.be/7g7HYhhQKbQ?feature=shared
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปมาตรการตอบโต้ของไทยที่ทำทันทีหลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวน พัน ร.14 (ลว.พัน ร.14) เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนาย ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

    1. ปิด 4 ด่าน 2 ปราสาท ตามที่กองทัพเสนอ
    ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องสายตะกู ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย

    2.ลดระดับทางการทูต
    รัฐบาลไทยประกาศเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากพนมเปญ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาเดินทางออกจากประเทศไทย ภายในเวลาที่กำหนด

    3.กองทัพประณามการกระทำของกัมพูชา
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรม ซึ่งละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและข้อตกลงระหว่างประเทศ อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา

    4.มีคำสั่งใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ทันที
    โดยกองทัพไทยเตรียมแผน ‘จักรพงษ์ภูวนาถ’ หลัง ‘กัมพูชา’ ลอบวาง ‘ทุ่นระเบิด’ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพล บาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นาย ขาขวาเจ็บสาหัส ขณะเดินลาดตระเวน⁣
    สรุปมาตรการตอบโต้ของไทยที่ทำทันทีหลังเกิดเหตุทหารชุดลาดตระเวน พัน ร.14 (ลว.พัน ร.14) เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกนาย ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี 1. ปิด 4 ด่าน 2 ปราสาท ตามที่กองทัพเสนอ ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม ช่องสายตะกู ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย 2.ลดระดับทางการทูต รัฐบาลไทยประกาศเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากพนมเปญ และขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาเดินทางออกจากประเทศไทย ภายในเวลาที่กำหนด 3.กองทัพประณามการกระทำของกัมพูชา กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันไร้มนุษยธรรม ซึ่งละเมิดต่อหลักมนุษยธรรมสากลและข้อตกลงระหว่างประเทศ อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา 4.มีคำสั่งใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ทันที โดยกองทัพไทยเตรียมแผน ‘จักรพงษ์ภูวนาถ’ หลัง ‘กัมพูชา’ ลอบวาง ‘ทุ่นระเบิด’ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพล บาดเจ็บ 5 นาย โดย 1 นาย ขาขวาเจ็บสาหัส ขณะเดินลาดตระเวน⁣
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาร่อนแถลงการณ์โต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทุ่นระเบิด เผยทหารไทยเข้ามาพื้นที่กัมพูชาโดยละเมิด แม้กัมพูชาจะเตือนถึงทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากความขัดแย้งมาหลายทศวรรษ
    .
    แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
    .
    กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
    .
    กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง “การประท้วงต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้
    .
    รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ในฐานะรัฐภาคีที่ยึดมั่นในหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ ความพยายามและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกัมพูชาในปฏิบัติการทุ่นระเบิดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการกำจัดเศษระเบิดจากสงครามในดินแดนของตน และการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในปฏิบัติการกู้ระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ หลังสงคราม
    .
    กระทรวงฯ ขอย้ำข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจัมโบะ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่กัมพูชายอมรับในระดับสากล ดินแดนนี้ถูกกำหนดโดยแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการผสมฝรั่งเศส-สยาม ตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 แผนที่เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาและไทยมาเป็นเวลานานในฐานะพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่อ้างอิงสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคำพิพากษา ค.ศ. 1962 และการตีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ค.ศ. 2013 อีกด้วย
    .
    เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยได้เข้ามาในพื้นที่นี้โดยละเมิดบันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 2000 ซึ่งกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนร่วมกันอย่างชัดเจน และห้ามมิให้มีกิจกรรมฝ่ายเดียวในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แม้ว่ากัมพูชาจะเตือนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากของความขัดแย้งทางอาวุธหลายทศวรรษ แต่กองทัพไทยกลับเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางลาดตระเวนที่เคยประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างสองประเทศ และสร้างเส้นทางใหม่ผ่านดินแดนกัมพูชา การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบนี้ถือเป็นการละเมิดความเข้าใจทวิภาคี ละเมิดดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เป็นอันตรายต่อชีวิต และบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่ยังไม่รวมถึงเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กองทัพไทยประกาศใช้ในการบังคับใช้กฎเกณฑ์สำหรับการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่เข้าไปในวัดทาโมนธม (ปราสาทตาเมือนธม) โดยอ้างอำนาจอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่วัด
    .
    แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไทยก็ยังคงออกแถลงการณ์ที่ขาดความระมัดระวังและทำให้เข้าใจผิด โดยกล่าวอ้างอย่างเท็จว่าได้กวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดทุ่นระเบิดแล้ว ในความเป็นจริง ทหารกัมพูชายังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีกิจกรรมกวาดล้างทุ่นระเบิดตามที่ไทยอ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แทนที่จะยอมรับความจริงและรับผิดชอบ ไทยกลับยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อทั้งสาธารณชนและประชาคมระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขข้อมูลที่บิดเบือน
    .
    เหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องเร่งดำเนินการหาข้อยุติโดยสันติและมีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านกลไกระหว่างประเทศที่เหมาะสม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอย้ำจุดยืนที่มีมายาวนานว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ เป็นเวทีที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนที่เหลืออยู่ระหว่างสองประเทศ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ โดยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ และด้วยความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนอย่างยุติธรรม เป็นธรรม และสันติ เพื่อประกันสันติภาพที่ยั่งยืน ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีก และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวของทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม
    .
    พนมเปญ 21 กรกฎาคม 2568
    กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาร่อนแถลงการณ์โต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทุ่นระเบิด เผยทหารไทยเข้ามาพื้นที่กัมพูชาโดยละเมิด แม้กัมพูชาจะเตือนถึงทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากความขัดแย้งมาหลายทศวรรษ . แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา . กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล . กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง “การประท้วงต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้ . รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลและไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ในฐานะรัฐภาคีที่ยึดมั่นในหลักการและเจตนารมณ์ของอนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ กัมพูชาขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ว่ากัมพูชาได้ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญานี้ ความพยายามและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกัมพูชาในปฏิบัติการทุ่นระเบิดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการกำจัดเศษระเบิดจากสงครามในดินแดนของตน และการมีส่วนร่วมของกัมพูชาในปฏิบัติการกู้ระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ หลังสงคราม . กระทรวงฯ ขอย้ำข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจัมโบะ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่กัมพูชายอมรับในระดับสากล ดินแดนนี้ถูกกำหนดโดยแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการผสมฝรั่งเศส-สยาม ตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 แผนที่เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลกัมพูชาและไทยมาเป็นเวลานานในฐานะพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการกำหนดเขตแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่อ้างอิงสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคำพิพากษา ค.ศ. 1962 และการตีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ค.ศ. 2013 อีกด้วย . เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยได้เข้ามาในพื้นที่นี้โดยละเมิดบันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 2000 ซึ่งกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนร่วมกันอย่างชัดเจน และห้ามมิให้มีกิจกรรมฝ่ายเดียวในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แม้ว่ากัมพูชาจะเตือนถึงอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งเป็นซากของความขัดแย้งทางอาวุธหลายทศวรรษ แต่กองทัพไทยกลับเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางลาดตระเวนที่เคยประสานงานกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างสองประเทศ และสร้างเส้นทางใหม่ผ่านดินแดนกัมพูชา การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบนี้ถือเป็นการละเมิดความเข้าใจทวิภาคี ละเมิดดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เป็นอันตรายต่อชีวิต และบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นี่ยังไม่รวมถึงเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมายที่กองทัพไทยประกาศใช้ในการบังคับใช้กฎเกณฑ์สำหรับการเข้ามา ของนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่เข้าไปในวัดทาโมนธม (ปราสาทตาเมือนธม) โดยอ้างอำนาจอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่วัด . แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ไทยก็ยังคงออกแถลงการณ์ที่ขาดความระมัดระวังและทำให้เข้าใจผิด โดยกล่าวอ้างอย่างเท็จว่าได้กวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดทุ่นระเบิดแล้ว ในความเป็นจริง ทหารกัมพูชายังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีกิจกรรมกวาดล้างทุ่นระเบิดตามที่ไทยอ้าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แทนที่จะยอมรับความจริงและรับผิดชอบ ไทยกลับยังคงเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อทั้งสาธารณชนและประชาคมระหว่างประเทศ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินการดังกล่าวโดยทันที และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขข้อมูลที่บิดเบือน . เหตุการณ์ข้างต้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องเร่งดำเนินการหาข้อยุติโดยสันติและมีผลผูกพันทางกฎหมายผ่านกลไกระหว่างประเทศที่เหมาะสม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอย้ำจุดยืนที่มีมายาวนานว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ เป็นเวทีที่น่าเชื่อถือและเป็นกลางที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนที่เหลืออยู่ระหว่างสองประเทศ กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศไทยยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ โดยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ และด้วยความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนอย่างยุติธรรม เป็นธรรม และสันติ เพื่อประกันสันติภาพที่ยั่งยืน ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีก และส่งเสริมเสถียรภาพระยะยาวของทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม . พนมเปญ 21 กรกฎาคม 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ แถลงการณ์โต้ "กัมพูชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง นำภาพการฝึกภาคสนามมากล่าวหา "ทหารไทย" เป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mines Action Center หรือ TMAC) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงกังวล อย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวรจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างครบถ้วน อันรวมถึง การยุติการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตลอดจนการดำเนินการเก็บกู้ และทำลายทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างภายในประเทศ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมในระยะยาวในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านรวมถึงดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้อีกในอนาคตนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความมั่นคงให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคี ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งต่างมีพันธกิจในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคงของมนุษยชาติ และลดผลกระทบจากอาวุธที่ไร้ความจำแนกต่อพลเรือน
    ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ แถลงการณ์โต้ "กัมพูชา" บิดเบือนข้อเท็จจริง นำภาพการฝึกภาคสนามมากล่าวหา "ทหารไทย" เป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mines Action Center หรือ TMAC) ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงกังวล อย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ว่า โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทยเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวรจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าทั้งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับนี้ และได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างครบถ้วน อันรวมถึง การยุติการใช้และสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตลอดจนการดำเนินการเก็บกู้ และทำลายทุ่นระเบิดที่ยังตกค้างภายในประเทศ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมในระยะยาวในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านรวมถึงดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้อีกในอนาคตนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความมั่นคงให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคี ของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งต่างมีพันธกิจในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคงของมนุษยชาติ และลดผลกระทบจากอาวุธที่ไร้ความจำแนกต่อพลเรือน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เขมรนี้เลวชั่วจริงๆนะ,เนรคุณและทรยศ ไม่เคารพอธิปไตยประเทศไทย,ประชาชนเขมรถือว่าสมคบคิดด้วยทั้งหมด,เราต้องเหมารวมด้วย เพราะคนเขมรต้องควบคุมคนเขมรเองเช่นกันมิมาทำสิ่งเลวชั่วกับชาติอื่นเมืองอื่นง่ายๆ, นี้ทำเป็นอุตสาหกรรมทางการค้าเลยนะ รัฐบาลเขมรปล่อยปะละเลยด้วย,รัฐบาลไทยเราที่มิใช่รัฐบาลปัจจุบันนี้ จริงๆต้องสั่งสอนเขมรจริงจังกันจริงๆ,มีสาระพัดอย่างเพื่อทำให้ถึงการจัดการเขมรทุกๆรูปแบบ,เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนายกฯที่ออกคลิปว่า ทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่สามารถจัดการเด็ดขาดใดๆจริงกับเขมรเลย ตลอดนายทุนเจ้าสัวมากมายที่ไปลงทุนในเขมรด้วยต้องเป็นแบบนายกฯที่ว่าทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่ต้องการให้ได้ลงโทษเขมร ตัดขาดเขมรจริงจัง,แต่ยุคนี้เขมรเสื่อมสิ้นจริงๆ,ทหารต้องยึดอำนาจทันทีจากรักษาการรัฐบาลเหี้ยๆนี้มีแต่จะไปทางเขมรสิ้น,เมื่อยึดอำนาจเสร็จจะมีข่องทางมากมายจัดการเขมร,1.ด้วยการคุกคามรุกรานไทยปัจจุบันเป็นภัยความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เราสามารถปิดด่านทั้งหมดถาวรตลอดพรมแดนทันที.2.ไล่ฑูตเขมรและเจ้าหน้าที่ภายในฑูตเขมรกลับประเทศเขมรทั้งหมด เรียกฑูตไทยและเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทยกลับประเทศทันทีทั้งหมดรวมถึงคนไทยทุกๆคนด้วยต้องกลับประเทศทุกๆคน,ผลักดันคนเขมรทั้งหมดออกจากประเทศไทยทันทีส่วนจะกลับประเทศเขมรหรือไม่อีกเรื่องของคนเขมรนัันๆ.3.คว่ำบาตรเขมรทุกๆด้านทั้งหมดในการค้าขาย ตัดน้ำ ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ทำลายถนนหนทางทางรถไฟทั้งหมดที่เชื่อมต่อไปถึงเขมร, ตัดการค้าการลงทุนการเศรษฐกิจที่ติดต่อแล้วก่อนหน้านั้นทุกรูปแบบ,ยุติสกุลเงินเขมรห้ามใช้ในประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย,อายัดบัญชีที่โอนไปเขมรทั้งหมดหรือโอนมาไทย,ล็อกบัญชีธนาคารคนเขมรทั้งหมด,ตัดขาดทุกๆธุรกรรมที่เกี่ยวกับเขมร, เป็นต้น นี้คือมาตราการเบื้องต้นและทหารไทยต้องทำจริงๆได้เสียที,ตลอดข้าราชการไทยต้องเด็ดขาดกับคนเข้าด้วยกับเขมร ทรยศประเทศไทยตนเองด้วย,ปัจจุบันเขมรไม่เคยถูกลงโทษใดๆจริงจากอำนาจประเทศไทยเลย,ปาหี่แหกตาประชาชน,ส่งน้ำส่งไฟฟ้า ส่งเสบียงสาระพัดรูปแบบให้เขมรมีกำลังต่อต้านประเทศไทยเหมือนเดิม,ทั้งยังมั่วเรียกฝรั่งต่างชาติมาแทรกแซงอีกเพื่อให้เขมรชนะไทยแล้วได้อ่าวไทยบ่อน้ำมันมหาศาลและแร่มีค่ามากมายไปจากประเทศไทย,ทหารไทย ตำรวจไทย ไม่จริงจังจัดการคนทรยศประเทศตนเองเลย.,ยังลอยหน้าลอยตาสร้างความหายนะต่อแผ่นดินไทยเราไใ่จบสิ้น.

    https://youtube.com/shorts/5Jy3nDun38c?si=mkEgXPd_ywJijrl3
    ..เขมรนี้เลวชั่วจริงๆนะ,เนรคุณและทรยศ ไม่เคารพอธิปไตยประเทศไทย,ประชาชนเขมรถือว่าสมคบคิดด้วยทั้งหมด,เราต้องเหมารวมด้วย เพราะคนเขมรต้องควบคุมคนเขมรเองเช่นกันมิมาทำสิ่งเลวชั่วกับชาติอื่นเมืองอื่นง่ายๆ, นี้ทำเป็นอุตสาหกรรมทางการค้าเลยนะ รัฐบาลเขมรปล่อยปะละเลยด้วย,รัฐบาลไทยเราที่มิใช่รัฐบาลปัจจุบันนี้ จริงๆต้องสั่งสอนเขมรจริงจังกันจริงๆ,มีสาระพัดอย่างเพื่อทำให้ถึงการจัดการเขมรทุกๆรูปแบบ,เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนายกฯที่ออกคลิปว่า ทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่สามารถจัดการเด็ดขาดใดๆจริงกับเขมรเลย ตลอดนายทุนเจ้าสัวมากมายที่ไปลงทุนในเขมรด้วยต้องเป็นแบบนายกฯที่ว่าทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ไม่ต้องการให้ได้ลงโทษเขมร ตัดขาดเขมรจริงจัง,แต่ยุคนี้เขมรเสื่อมสิ้นจริงๆ,ทหารต้องยึดอำนาจทันทีจากรักษาการรัฐบาลเหี้ยๆนี้มีแต่จะไปทางเขมรสิ้น,เมื่อยึดอำนาจเสร็จจะมีข่องทางมากมายจัดการเขมร,1.ด้วยการคุกคามรุกรานไทยปัจจุบันเป็นภัยความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เราสามารถปิดด่านทั้งหมดถาวรตลอดพรมแดนทันที.2.ไล่ฑูตเขมรและเจ้าหน้าที่ภายในฑูตเขมรกลับประเทศเขมรทั้งหมด เรียกฑูตไทยและเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทยกลับประเทศทันทีทั้งหมดรวมถึงคนไทยทุกๆคนด้วยต้องกลับประเทศทุกๆคน,ผลักดันคนเขมรทั้งหมดออกจากประเทศไทยทันทีส่วนจะกลับประเทศเขมรหรือไม่อีกเรื่องของคนเขมรนัันๆ.3.คว่ำบาตรเขมรทุกๆด้านทั้งหมดในการค้าขาย ตัดน้ำ ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ทำลายถนนหนทางทางรถไฟทั้งหมดที่เชื่อมต่อไปถึงเขมร, ตัดการค้าการลงทุนการเศรษฐกิจที่ติดต่อแล้วก่อนหน้านั้นทุกรูปแบบ,ยุติสกุลเงินเขมรห้ามใช้ในประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย,อายัดบัญชีที่โอนไปเขมรทั้งหมดหรือโอนมาไทย,ล็อกบัญชีธนาคารคนเขมรทั้งหมด,ตัดขาดทุกๆธุรกรรมที่เกี่ยวกับเขมร, เป็นต้น นี้คือมาตราการเบื้องต้นและทหารไทยต้องทำจริงๆได้เสียที,ตลอดข้าราชการไทยต้องเด็ดขาดกับคนเข้าด้วยกับเขมร ทรยศประเทศไทยตนเองด้วย,ปัจจุบันเขมรไม่เคยถูกลงโทษใดๆจริงจากอำนาจประเทศไทยเลย,ปาหี่แหกตาประชาชน,ส่งน้ำส่งไฟฟ้า ส่งเสบียงสาระพัดรูปแบบให้เขมรมีกำลังต่อต้านประเทศไทยเหมือนเดิม,ทั้งยังมั่วเรียกฝรั่งต่างชาติมาแทรกแซงอีกเพื่อให้เขมรชนะไทยแล้วได้อ่าวไทยบ่อน้ำมันมหาศาลและแร่มีค่ามากมายไปจากประเทศไทย,ทหารไทย ตำรวจไทย ไม่จริงจังจัดการคนทรยศประเทศตนเองเลย.,ยังลอยหน้าลอยตาสร้างความหายนะต่อแผ่นดินไทยเราไใ่จบสิ้น. https://youtube.com/shorts/5Jy3nDun38c?si=mkEgXPd_ywJijrl3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ทรัมพ์’ โพสต์ จดหมายถึงไทย ยืนยันเก็บภาษี 36% มีผล 1 สิงหาคมนี้

    7 กรกฎาคม 2025

    ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
    รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ

    เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

    เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าได้ส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของเรา และข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป แม้จะประสบปัญหาขาดดุลการค้ากับประเทศของท่านเป็นอย่างมากก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการค้าที่ สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น เราจึงขอเชิญประเทศไทยเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอันน่าอัศจรรย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องลดเลิกการขาดดุลการค้าเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนโยบายกำแพงภาษีและมิใช่ภาษี ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ของไทย ความสัมพันธ์ของเราในอดีตนั้น น่าเสียดายที่ ไม่เป็นไปอย่างต่างตอบแทน

    ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บ ภาษีนำเข้าในอัตรา 36% สำหรับ สินค้าทุกชนิดจากประเทศไทย ที่ส่งเข้ามายังสหรัฐ แยกจากภาษีตามหมวดหมู่สินค้าโดยสิ้นเชิง สินค้าที่ผ่านการถ่ายโอนจากประเทศที่สามเพื่อเลี่ยงภาษีจะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าตามที่ควร

    โปรดเข้าใจว่า อัตรา 36% นี้ยัง ต่ำกว่าระดับที่จำเป็น เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าที่เรามีกับประเทศของท่าน

    อย่างที่ท่านทราบ หากประเทศไทย หรือบริษัทใดในประเทศของท่าน เลือกที่จะมาตั้งฐานการผลิตหรือประกอบสินค้าในสหรัฐ จะ ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ และเรายังจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการอนุมัติด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

    หากประเทศไทยเลือกที่จะ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ว่าในอัตราใด เราจะเพิ่มอัตรานั้นเข้าไปใน 36% ที่เรากำหนดไว้แล้ว โปรดเข้าใจว่า การจัดเก็บภาษีนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขผลกระทบจากนโยบายภาษีและมิใช่ภาษีของไทยที่มีมานานหลายปี และนำไปสู่การขาดดุลการค้าในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อเศรษฐกิจ และแม้แต่ต่อ ความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา

    เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐฯ และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เรา อาจ พิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าว สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา

    สหรัฐอเมริกาจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง

    ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในเรื่องนี้

    ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง

    ขอแสดงความนับถือ

    โดนัลด์ เจ. ทรัมป์
    ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
    ‘ทรัมพ์’ โพสต์ จดหมายถึงไทย ยืนยันเก็บภาษี 36% มีผล 1 สิงหาคมนี้ 7 กรกฎาคม 2025 ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าได้ส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของเรา และข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป แม้จะประสบปัญหาขาดดุลการค้ากับประเทศของท่านเป็นอย่างมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการค้าที่ สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น เราจึงขอเชิญประเทศไทยเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอันน่าอัศจรรย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องลดเลิกการขาดดุลการค้าเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนโยบายกำแพงภาษีและมิใช่ภาษี ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ของไทย ความสัมพันธ์ของเราในอดีตนั้น น่าเสียดายที่ ไม่เป็นไปอย่างต่างตอบแทน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บ ภาษีนำเข้าในอัตรา 36% สำหรับ สินค้าทุกชนิดจากประเทศไทย ที่ส่งเข้ามายังสหรัฐ แยกจากภาษีตามหมวดหมู่สินค้าโดยสิ้นเชิง สินค้าที่ผ่านการถ่ายโอนจากประเทศที่สามเพื่อเลี่ยงภาษีจะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าตามที่ควร โปรดเข้าใจว่า อัตรา 36% นี้ยัง ต่ำกว่าระดับที่จำเป็น เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าที่เรามีกับประเทศของท่าน อย่างที่ท่านทราบ หากประเทศไทย หรือบริษัทใดในประเทศของท่าน เลือกที่จะมาตั้งฐานการผลิตหรือประกอบสินค้าในสหรัฐ จะ ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ และเรายังจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการอนุมัติด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หากประเทศไทยเลือกที่จะ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ว่าในอัตราใด เราจะเพิ่มอัตรานั้นเข้าไปใน 36% ที่เรากำหนดไว้แล้ว โปรดเข้าใจว่า การจัดเก็บภาษีนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขผลกระทบจากนโยบายภาษีและมิใช่ภาษีของไทยที่มีมานานหลายปี และนำไปสู่การขาดดุลการค้าในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อเศรษฐกิจ และแม้แต่ต่อ ความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐฯ และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เรา อาจ พิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าว สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา สหรัฐอเมริกาจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในเรื่องนี้ ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง ขอแสดงความนับถือ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb

    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb

    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน meb ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI2NDU4MSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ):: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ลดราคา
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)
    จากร้าน ซีเอ็ด


    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า
    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    ช่วงนี้ลดราคา ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    WWW.SE-ED.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านดวงดาว และอวกาศทั่วไป สภาวะของอวกาศ กาแล็กซี (ดาราจักร) ดวงดาวต่างๆ ผู้เขียน เนื้อหาโดยสังเขป : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840327581 (-ไม่ระบุ) 1000 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) , T.M.E. , 5522840327581
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ลดราคา
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)
    จากร้าน ซีเอ็ด


    ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ
    จำนวน 1,000 หน้า
    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ

    ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้
    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา

    ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น

    ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ

    เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ


    ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ


    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ


    I have a dream.

    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    ช่วงนี้ลดราคา ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้ด้านจักรวาล และอวกาศ จำนวน 1,000 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่มครับ ความรู้ยิ่งใช้ยิ่งได้ การลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8-(Stars-%26-Space)-2-1dwstd12ckalgcq1kol3
    WWW.SE-ED.COM
    ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านดวงดาว และอวกาศทั่วไป สภาวะของอวกาศ กาแล็กซี (ดาราจักร) ดวงดาวต่างๆ ผู้เขียน เนื้อหาโดยสังเขป : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) เมื่อเรามองดูท้องฟ้า ดูดวงดาวที่มีอยู่มากมาย ดูแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ลึกลับ จนทำให้เราอยากรู้ว่า เราอยู่ตรงไหนของจักรวาล เผ่าพันธุ์เราเป็นใคร ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกไหมนอกเหนือจากเรา ทำให้มนุษย์พยายามสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะบินขึ้นไปท่อง และสำรวจอวกาศ เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในจักรวาล, สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อเราแค่ไหน, หนังสือเล่มนี้จะนำผู้อ่านไปเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ ที่มีความลึกลับเกินจินตนาการของมนุษย์ ฯลฯ ให้รู้จักกับอวกาศมากขึ้น ในเล่มที่ 2 นี้ จะพบกับเรื่องของ สภาพแวดล้อมในอวกาศ, เอกภพ, ดาราจักร, มหานวดารา, เนบิวลา, หลุมดำ, ดาวฤกษ์, ดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ระบบสุริยะจักรวาล, ดาวหาง ฯลฯ เล่มนี้ จะเป็นเล่มจบ แต่การสำรวจ และการค้นหาในห้วงอวกาศยังคงดำเนินอยู่ต่อไป แน่นอนในอนาคต องค์ความรู้ของมนุษยชาติก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากผู้เขียนเรียบเรียงความรู้จนมีมากพอ ก็จะทำเป็นเล่มมาให้อ่านอีกครับ ผู้เขียน และเรียบเรียง พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อาศัยภาพช่วยในการอธิบาย ลองติดตามอ่านดูนะครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840327581 (-ไม่ระบุ) 1000 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (PDF) ดวงดาว และอวกาศ (Stars Space) 2 (PDF) , T.M.E. , 5522840327581
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร
    แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46

    ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า

    1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย]

    วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า:

    "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม"

    เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ

    2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม

    , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้

    3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย

    Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร

    กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC"

    Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2)

    Bora Touch ทนายความ

    The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates:

    1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.

    Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises:

    "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam"

    Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ.

    Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia.

    Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid.

    Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand.

    Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land.

    Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC."

    Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46 ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า 1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า: "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม" เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ 2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้ 3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC" Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2) Bora Touch ทนายความ The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates: 1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand].. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand] (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand]. Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises: "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand] set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam" Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ. Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia. Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid. Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand. Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land. Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC." Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน้าที่หลักของนายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) มีดังนี้:

    1. **เป็นหัวหน้ารัฐบาล:**
    * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
    * กำหนดนโยบายของคณะรัฐมนตรี (Cabinet) และรับผิดชอบต่อการดำเนินนโยบายนั้น
    * คุมทิศทางและประสานงานการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ

    2. **คัดเลือกและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี:**
    * เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อพระมหากษัตริย์ (ในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) หรือประมุขแห่งรัฐ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี
    * มีอำนาจปรับเปลี่ยน (reshuffle) คณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งหรือถอดถอนรัฐมนตรี

    3. **เป็นผู้นำในรัฐสภา:**
    * แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
    * ตอบคำถามและชี้แจงนโยบายในการอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา (เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ)
    * เสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลต่อรัฐสภา

    4. **เป็นโฆษกหลักของรัฐบาล:**
    * ชี้แจงนโยบายและสถานการณ์สำคัญของประเทศต่อสาธารณชน
    * เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการแถลงข่าวหรือสื่อสารในประเด็นเร่งด่วนหรือสำคัญระดับชาติ

    5. **เป็นผู้แทนประเทศในเวทีระหว่างประเทศ:**
    * เป็นตัวแทนสูงสุดของรัฐบาลในการเยือนต่างประเทศและต้อนรับผู้นำต่างประเทศ
    * เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศ (เช่น การประชุมอาเซียน สหประชาชาติ G20)

    6. **เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี:**
    * เรียกประชุมและเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี
    * นำเสนอวาระการประชุมและชี้ขาดในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่ตรงกัน

    7. **รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ:**
    * เป็นประธานในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (เช่น คณะกรรมการนโยบายต่างประเทศ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ - ในบางประเทศ)
    * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในยามสงบ (ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ) หรือประสานงานกับฝ่ายทหาร (ในประเทศที่ประมุขแห่งรัฐเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เช่น ไทย)

    8. **การใช้อำนาจตามกฎหมาย:**
    * ลงนามในพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และเอกสารราชการสำคัญต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ
    * ใช้อำนาจอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด

    9. **การแก้ไขวิกฤต:**
    * เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือภัยธรรมชาติ

    10. **การรับผิดชอบทางการเมือง:**
    * ต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อรัฐสภาและประชาชน หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหรือนโยบายล้มเหลว นายกรัฐมนตรีมักจะเป็นผู้ที่ต้องลาออกหรือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนใคร

    **หมายเหตุ:**
    * รายละเอียดหน้าที่และอำนาจอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและประเพณีทางการเมืองของประเทศนั้นๆ
    * ในประเทศไทย หน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2560) โดยเฉพาะในมาตรา 171, 172, 173 และหมวด 6 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี
    * นายกรัฐมนตรีต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย

    สรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญที่สุดในฝ่ายบริหาร ในการกำหนดทิศทางประเทศ นำการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ของชาติ
    หน้าที่หลักของนายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (เช่น ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) มีดังนี้: 1. **เป็นหัวหน้ารัฐบาล:** * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน * กำหนดนโยบายของคณะรัฐมนตรี (Cabinet) และรับผิดชอบต่อการดำเนินนโยบายนั้น * คุมทิศทางและประสานงานการทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ 2. **คัดเลือกและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี:** * เป็นผู้เสนอชื่อบุคคลเพื่อพระมหากษัตริย์ (ในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) หรือประมุขแห่งรัฐ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี * มีอำนาจปรับเปลี่ยน (reshuffle) คณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งหรือถอดถอนรัฐมนตรี 3. **เป็นผู้นำในรัฐสภา:** * แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา * ตอบคำถามและชี้แจงนโยบายในการอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา (เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ) * เสนอร่างกฎหมายสำคัญของรัฐบาลต่อรัฐสภา 4. **เป็นโฆษกหลักของรัฐบาล:** * ชี้แจงนโยบายและสถานการณ์สำคัญของประเทศต่อสาธารณชน * เป็นตัวแทนของรัฐบาลในการแถลงข่าวหรือสื่อสารในประเด็นเร่งด่วนหรือสำคัญระดับชาติ 5. **เป็นผู้แทนประเทศในเวทีระหว่างประเทศ:** * เป็นตัวแทนสูงสุดของรัฐบาลในการเยือนต่างประเทศและต้อนรับผู้นำต่างประเทศ * เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศ (เช่น การประชุมอาเซียน สหประชาชาติ G20) 6. **เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี:** * เรียกประชุมและเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี * นำเสนอวาระการประชุมและชี้ขาดในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นไม่ตรงกัน 7. **รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ:** * เป็นประธานในคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (เช่น คณะกรรมการนโยบายต่างประเทศ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ - ในบางประเทศ) * เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในยามสงบ (ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ) หรือประสานงานกับฝ่ายทหาร (ในประเทศที่ประมุขแห่งรัฐเป็นผู้บัญชาการสูงสุด เช่น ไทย) 8. **การใช้อำนาจตามกฎหมาย:** * ลงนามในพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง และเอกสารราชการสำคัญต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ * ใช้อำนาจอื่นๆ ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด 9. **การแก้ไขวิกฤต:** * เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือภัยธรรมชาติ 10. **การรับผิดชอบทางการเมือง:** * ต้องรับผิดชอบทางการเมืองต่อรัฐสภาและประชาชน หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหรือนโยบายล้มเหลว นายกรัฐมนตรีมักจะเป็นผู้ที่ต้องลาออกหรือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนใคร **หมายเหตุ:** * รายละเอียดหน้าที่และอำนาจอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและประเพณีทางการเมืองของประเทศนั้นๆ * ในประเทศไทย หน้าที่และอำนาจของนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2560) โดยเฉพาะในมาตรา 171, 172, 173 และหมวด 6 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี * นายกรัฐมนตรีต้องดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในประเทศไทย สรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญที่สุดในฝ่ายบริหาร ในการกำหนดทิศทางประเทศ นำการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ ของชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ชัดเจนว่าเป็นของไทย,ถ้าเราทวงคืนได้ เขมรจะมาอ้างเกาะกูดอีกไม่ได้เลยแถมเด็กๆไปเลย,อาณาเขตราชอาณาจักรไทยเราจะขยายพื้นที่ตรงอ่าวไทยออกไปอีกอย่างมหาศาลทันที,และที่แน่ๆเป็นของไทย100%มีหลักฐานเอกสารยืนยันชัดเจนด้วย.,ถึงเวลาเรียกคืนดินแดนไทยกลับคืนมาแล้วจากเขมรผู้เนรคุณทรยศไม่ซื่อสัตย์นี้โดยมีฝรั่งเศสวางสนุ็คปัญหาไว้ด้วย,ต้องจบที่ยุคเรายิ่งดี,เรารุ่นน้ำหมากแล้ว,จะไว้ใจหนุ่มสาวยุคนี้มากไม่ได้ตราบเท่าเรามีแรงกำลังทำได้อยู่,เพราะพวกมันล้างสมองเยาวชนไทยผ่านกระบวนการศึกษาโรงเรียนสถาบันต่างๆทั่วประเทศด้วยซึ่งบุคลากรครูอาจารย์ที่เป็นฝ่ายไม่ดีก็ปะปนอย่างมากมายในสถานศึกษานี้ตลอดหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้วย.
    ..
    ..https://youtu.be/lxJ5wt0bTOc?si=Xp0AuZ5n2xRdUSL9
    ..ชัดเจนว่าเป็นของไทย,ถ้าเราทวงคืนได้ เขมรจะมาอ้างเกาะกูดอีกไม่ได้เลยแถมเด็กๆไปเลย,อาณาเขตราชอาณาจักรไทยเราจะขยายพื้นที่ตรงอ่าวไทยออกไปอีกอย่างมหาศาลทันที,และที่แน่ๆเป็นของไทย100%มีหลักฐานเอกสารยืนยันชัดเจนด้วย.,ถึงเวลาเรียกคืนดินแดนไทยกลับคืนมาแล้วจากเขมรผู้เนรคุณทรยศไม่ซื่อสัตย์นี้โดยมีฝรั่งเศสวางสนุ็คปัญหาไว้ด้วย,ต้องจบที่ยุคเรายิ่งดี,เรารุ่นน้ำหมากแล้ว,จะไว้ใจหนุ่มสาวยุคนี้มากไม่ได้ตราบเท่าเรามีแรงกำลังทำได้อยู่,เพราะพวกมันล้างสมองเยาวชนไทยผ่านกระบวนการศึกษาโรงเรียนสถาบันต่างๆทั่วประเทศด้วยซึ่งบุคลากรครูอาจารย์ที่เป็นฝ่ายไม่ดีก็ปะปนอย่างมากมายในสถานศึกษานี้ตลอดหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้วย. .. ..https://youtu.be/lxJ5wt0bTOc?si=Xp0AuZ5n2xRdUSL9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • #timeline #ขายชาติ #พลังงาน #ผลประโยชน์ส่วนตน ทุก #รัฐบาล #อธิปไตยไทย #กระทรวงการต่างประเทศ #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ทหารไืทย #MOU2543 #MOU2544 #ชายแดน #ไทยกัมพูชา #แผนที่ #ดินแดนไืทย #แผ่นดินไืทย #ประเทศไทย #ขัดพระบรมราชโองการ #ในหลวง#รัชกาลที่9 #อาณาเขตไทย #อาณาจักรไทย #
    https://youtu.be/eQ49hODhMTQ
    #timeline #ขายชาติ #พลังงาน #ผลประโยชน์ส่วนตน ทุก #รัฐบาล #อธิปไตยไทย #กระทรวงการต่างประเทศ #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ทหารไืทย #MOU2543 #MOU2544 #ชายแดน #ไทยกัมพูชา #แผนที่ #ดินแดนไืทย #แผ่นดินไืทย #ประเทศไทย #ขัดพระบรมราชโองการ #ในหลวง#รัชกาลที่9 #อาณาเขตไทย #อาณาจักรไทย # https://youtu.be/eQ49hODhMTQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 441 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 620 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 607 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 603 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ.ยืนยันฝ่ายไทยดำเนินการปรับปรุงเส้นทางในเขตราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้อง พร้อมทำความเข้าใจกับฝ่ายกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056262

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทบ.ยืนยันฝ่ายไทยดำเนินการปรับปรุงเส้นทางในเขตราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้อง พร้อมทำความเข้าใจกับฝ่ายกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056262 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • หรือว่าตระกูลฮุน ใกล้จะถึงวันอวสานแล้ว

    ช่วงนี้ผมว่ากองทัพไทยทำงานกันดีมาก ฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปทุกด้าน ตั้งแต่กองทัพประกาศกฏอัยการศึกออกมา จากที่ไทยเสียเปรียบเขมรทุกอย่าง จากการทำงานไม่ได้เรื่องของแพรทองธารกับนายภูมิธรรม ก็ปรากฏว่าในปัจจุบัน ไทยขึ้นมาคุมความได้เปรียบเขมร แทบจะเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ***ผมอยากเห็นจริงๆว่า เป็นฝีมือกุนซือจากกองทัพไทยคนไหน ท่านนี้หรือกลุ่มนี้ในอนาคตต้องเป็นที่พึ่งของประเทศชาติได้แน่นอน***

    ความฉลาดแรก คือการตอบโต้สองพ่อลูกตระกูลฮุน แบบเหนือชั้นก็คือ ยังคงตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมาก แม้ทหารเขมรจะถอยออกมาถึงนอกเขตต้นพญาสัตยบรรณแล้วก็ตาม เพราะเหมือนรู้ว่า ฮุนเซน จะต้องโพสต์ข้อความหลอกชาวเขมรต่อไปว่า ไม่ได้ถอยทัพ แค่ปรับกำลังพลใหม่ การตรึงกำลังทหารไทยเอาไว้จำนวนมากและเตรียมความพร้อมเรื่องอาวุธ พรอมตอบโต้ตลอด ทำให้คนเขมรได้เห็นภาพความจริงที่ชัดเจน ว่าทหารฝ่ายตนเองได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ และกองทัพไทยก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว

    ความฉลาดครั้งที่สอง การสั่งปิดพรมแดน ที่เป็นจุดกล่องดวงใจของรายได้หลักของตระกูลฮุน คือห้ามคนไทย เข้าไปเล่นบ่อนคาสิโนในเขมร งดการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคทั้งหมดเข้าไปในจุดสำคัญของเขมร ทำให้ฮุนเซนเดือดดาลอย่างหนัก เลยออกมาตรฐการณ์งดเวลาวีซ่าของไทยให้พำนักในเขมรได้แค่เหลือ 7 วัน จาก29วัน

    กองทัพไทยก็ตอบโต้ ด้วยการผลักดันแรงงานเถื่อนเขมรจำนวนมากกลับเขมรในทันที และสั่งตรวจสอบวีซ่าคนเขมร ให้เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรไทยได้แค่ 7 วันเหมือนกัน จากที่เคยฟรีวีซ่า และถือโอกาสส่งเสริมการกวาดล้างและผลักดันแรงงานเถื่อนของเขมรจำนวนนับล้านคนออกจากราชอาณาจักรไทย ส่งกลับคืนประเทศเขมร ทำให้สองพ่อลูกตระกูลฮุนขาดรายได้อย่างหนัก และต้องแบกรับภาระคนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น

    ความฉลาดครั้งที่สาม นำฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศ เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงพฤติกรรมของฝ่ายเขมร ต่อกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และมีเจตนาชั่วร้ายที่คิดจะนำกองทัพเขมรบุกเข้ามายึดตัวปราสาทของไทย ทำให้ฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กองทัพไทยจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าและตัดสัญญานอินเตอร์เนต และงดการส่งอาหารและเชื้อเพลิงพลังงาน เข้าไปยังเมืองเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขมร เพราะตรวจทราบชัดเจนว่า เป็นแหล่งฟอกเงินขนาดใหญ่ เปิดบ่อนคาสิโน เพื่อสร้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเป็นศูนย์รวมของแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินขนาดใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม และเป็นทุนใหญ่หนุนกองทัพเขมร ให้บุกเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย

    นี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม EU ถึงได้ออกมาตำหนินายฮุนมาเนต เมื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก EU ว่า ระวังจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นมาอีกครั้ง จากพฤติกรรมของตระกูลตนเองได้

    นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสถานฑูตจีน ถึงเปลี่ยนท่าทีไม่สนับสนุนเขมรอีกต่อไป เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขมรมีเจตนารุกล้ำอธิปไตยของไทยจริง และเห็นชอบที่ไทยจะตัดไฟตัดความช่วยเหลือเขมรทุกทาง จากการยกประเด็นเรื่องรัฐบาลเขมรอยู่เบื้องหลังอาชญกรรมทางไซเบอร์ ที่ผู้นำจีน เกลียดเข้าไส้

    ในขณะที่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ไม่พูดมาก พร้อมสนับสนุนไทยทุกด้าน หากไทยเปิดสงครามกับเขมรแบบจริงจัง

    ความฉลาดครั้งที่สี่ การกดดันเขมรทุกทางและตัดความช่วยเหลือทุกอย่างของกองทัพไทย คือการบีบให้ตระกูลฮุน ให้ไปเผชิญหน้าตามลำพังกับฝ่ายค้านของตนเอง และข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขมรว่า ประชาชนเริ่มลุกฮือ ไม่เอาตระกูลฮุน เพราะแพ้สงครามกับไทย ไม่ได้ยึดตัวปราสาทและเกาะกูดของไทย เหมือนอย่างที่คุยเอาไว้ และข่าวลือเริ่มระบาดหนักว่า ตระกูลเตีย ที่มีเชื้อสายคนไทย ที่คุมกำลังทหารทั้งหมดของเขมร จะปฏิวัติรัฐประหารตระกูลฮุน แบบนี้เท่ากับว่า กองทัพไทยเตรียมตัดหางตระกูลฮุนแบบถาวร และให้เขมรไปจัดการปัญหาภายในของตนเอง และงดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลฮุน

    เขมรเพิ่งมีปัญหากับ สปป.ลาว เรื่องพรมแดน นี่คือรอยร้าวที่เกิดขึ้นใหม่ของเขมรกับ สปป.ลาว

    เขมรคือประเทศที่ติดหนี้จีน เป็นอันดับต้นๆของโลกและเงินสกุลเรียว ไม่สามารถใช้ได้ในอาเซี่ยนและทั่วโลก ต่างจากสกุลเงินบาทไทย ที่ในอาเซี่ยนและทั่วโลกยอมรับกันหมด ปัญหาของตระกูลฮุนก็คือ ไม่มีเครดิต ที่จะขอกู้เงินจากที่ไหนได้อีก หากจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็หมายความว่า ทรัพยากรทั้งหมดของเขมรและทุกพื้นที่ของเขมร จะต้องถูกนำมาจำนองหรือถูกขายแบบถาวรให้สองมหาอำนาจนี้ และนั่นคงจะเป็นจุดจบของตระกูลฮุน ที่อาจจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันเองขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเวียดนามส่งทหารเข้ามาช่วยตระกูลฮุน ในขณะที่จีนจะกลับมาสนับสนุนปลุกผีเขมรแดงอีกรอบให้ขึ้นมาจากหลุม

    ในขณะที่ประเทศไทย จะจำบทเรียนสำคัญให้ขึ้นใจ ก็คือต้องหยุดความสงสารต่อคนเขมร เมื่อหากมีการอพยพหนีตายขึ้นมาอีกครั้ง

    แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกองทัพได้ประกาศกฏอัยการศึกออกมาแล้ว ปัญหาเรื่องเขมรกับไทย กองทัพก็ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพไทยเท่านั้น เหตุใดยังเห็นภาพของนายภูมิธรรมกับแพรทองธาร เที่ยวออกมาพูดวุ่นวายไปทั่ว แถมออกมาตีเนียนและเคลมว่า เป็นผลงานของตนเอง ที่แอบเจรจากับเขมรมาตลอด แถมยังยกมือกราบไหว้ขอบคุณสรรเสริญต่อผู้นำเขมร ที่ยอมถอยทหารออกไป

    นี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของตระกูลชิน ที่ต้องการช่วยเหลือญาติทางฝั่งเขมรของตนเอง.

    เดชา นฤนารท.
    10/6/68 08.45 น.

    #ไทยต้องไม่ถอย
    #หยุดเขมรรุกแดน
    #รักชาติพิสูจน์ด้วยการกระทำ
    #พร้อมรบเพื่อแผ่นดิน
    #ศึกนี้เพื่ออธิปไตย
    #ไม่เอา2ตระกูลหนักแผ่นดิน
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม
    #ThammasatPitakTham
    หรือว่าตระกูลฮุน ใกล้จะถึงวันอวสานแล้ว ช่วงนี้ผมว่ากองทัพไทยทำงานกันดีมาก ฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขมรไปทุกด้าน ตั้งแต่กองทัพประกาศกฏอัยการศึกออกมา จากที่ไทยเสียเปรียบเขมรทุกอย่าง จากการทำงานไม่ได้เรื่องของแพรทองธารกับนายภูมิธรรม ก็ปรากฏว่าในปัจจุบัน ไทยขึ้นมาคุมความได้เปรียบเขมร แทบจะเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ***ผมอยากเห็นจริงๆว่า เป็นฝีมือกุนซือจากกองทัพไทยคนไหน ท่านนี้หรือกลุ่มนี้ในอนาคตต้องเป็นที่พึ่งของประเทศชาติได้แน่นอน*** ความฉลาดแรก คือการตอบโต้สองพ่อลูกตระกูลฮุน แบบเหนือชั้นก็คือ ยังคงตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมาก แม้ทหารเขมรจะถอยออกมาถึงนอกเขตต้นพญาสัตยบรรณแล้วก็ตาม เพราะเหมือนรู้ว่า ฮุนเซน จะต้องโพสต์ข้อความหลอกชาวเขมรต่อไปว่า ไม่ได้ถอยทัพ แค่ปรับกำลังพลใหม่ การตรึงกำลังทหารไทยเอาไว้จำนวนมากและเตรียมความพร้อมเรื่องอาวุธ พรอมตอบโต้ตลอด ทำให้คนเขมรได้เห็นภาพความจริงที่ชัดเจน ว่าทหารฝ่ายตนเองได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ และกองทัพไทยก็ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว ความฉลาดครั้งที่สอง การสั่งปิดพรมแดน ที่เป็นจุดกล่องดวงใจของรายได้หลักของตระกูลฮุน คือห้ามคนไทย เข้าไปเล่นบ่อนคาสิโนในเขมร งดการส่งอาหารและสินค้าอุปโภคทั้งหมดเข้าไปในจุดสำคัญของเขมร ทำให้ฮุนเซนเดือดดาลอย่างหนัก เลยออกมาตรฐการณ์งดเวลาวีซ่าของไทยให้พำนักในเขมรได้แค่เหลือ 7 วัน จาก29วัน กองทัพไทยก็ตอบโต้ ด้วยการผลักดันแรงงานเถื่อนเขมรจำนวนมากกลับเขมรในทันที และสั่งตรวจสอบวีซ่าคนเขมร ให้เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรไทยได้แค่ 7 วันเหมือนกัน จากที่เคยฟรีวีซ่า และถือโอกาสส่งเสริมการกวาดล้างและผลักดันแรงงานเถื่อนของเขมรจำนวนนับล้านคนออกจากราชอาณาจักรไทย ส่งกลับคืนประเทศเขมร ทำให้สองพ่อลูกตระกูลฮุนขาดรายได้อย่างหนัก และต้องแบกรับภาระคนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น ความฉลาดครั้งที่สาม นำฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศ เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงพฤติกรรมของฝ่ายเขมร ต่อกรณีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และมีเจตนาชั่วร้ายที่คิดจะนำกองทัพเขมรบุกเข้ามายึดตัวปราสาทของไทย ทำให้ฑูตทหารฝ่ายความมั่นคงของทุกประเทศเข้าใจอย่างถูกต้องว่า กองทัพไทยจำเป็นต้องตัดไฟฟ้าและตัดสัญญานอินเตอร์เนต และงดการส่งอาหารและเชื้อเพลิงพลังงาน เข้าไปยังเมืองเขตเศรษฐกิจสำคัญของเขมร เพราะตรวจทราบชัดเจนว่า เป็นแหล่งฟอกเงินขนาดใหญ่ เปิดบ่อนคาสิโน เพื่อสร้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเป็นศูนย์รวมของแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินขนาดใหญ่ ทั้งค้าอาวุธสงคราม และเป็นทุนใหญ่หนุนกองทัพเขมร ให้บุกเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย นี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไม EU ถึงได้ออกมาตำหนินายฮุนมาเนต เมื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก EU ว่า ระวังจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ขึ้นมาอีกครั้ง จากพฤติกรรมของตระกูลตนเองได้ นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสถานฑูตจีน ถึงเปลี่ยนท่าทีไม่สนับสนุนเขมรอีกต่อไป เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขมรมีเจตนารุกล้ำอธิปไตยของไทยจริง และเห็นชอบที่ไทยจะตัดไฟตัดความช่วยเหลือเขมรทุกทาง จากการยกประเด็นเรื่องรัฐบาลเขมรอยู่เบื้องหลังอาชญกรรมทางไซเบอร์ ที่ผู้นำจีน เกลียดเข้าไส้ ในขณะที่สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ไม่พูดมาก พร้อมสนับสนุนไทยทุกด้าน หากไทยเปิดสงครามกับเขมรแบบจริงจัง ความฉลาดครั้งที่สี่ การกดดันเขมรทุกทางและตัดความช่วยเหลือทุกอย่างของกองทัพไทย คือการบีบให้ตระกูลฮุน ให้ไปเผชิญหน้าตามลำพังกับฝ่ายค้านของตนเอง และข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเขมรว่า ประชาชนเริ่มลุกฮือ ไม่เอาตระกูลฮุน เพราะแพ้สงครามกับไทย ไม่ได้ยึดตัวปราสาทและเกาะกูดของไทย เหมือนอย่างที่คุยเอาไว้ และข่าวลือเริ่มระบาดหนักว่า ตระกูลเตีย ที่มีเชื้อสายคนไทย ที่คุมกำลังทหารทั้งหมดของเขมร จะปฏิวัติรัฐประหารตระกูลฮุน แบบนี้เท่ากับว่า กองทัพไทยเตรียมตัดหางตระกูลฮุนแบบถาวร และให้เขมรไปจัดการปัญหาภายในของตนเอง และงดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลฮุน เขมรเพิ่งมีปัญหากับ สปป.ลาว เรื่องพรมแดน นี่คือรอยร้าวที่เกิดขึ้นใหม่ของเขมรกับ สปป.ลาว เขมรคือประเทศที่ติดหนี้จีน เป็นอันดับต้นๆของโลกและเงินสกุลเรียว ไม่สามารถใช้ได้ในอาเซี่ยนและทั่วโลก ต่างจากสกุลเงินบาทไทย ที่ในอาเซี่ยนและทั่วโลกยอมรับกันหมด ปัญหาของตระกูลฮุนก็คือ ไม่มีเครดิต ที่จะขอกู้เงินจากที่ไหนได้อีก หากจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็หมายความว่า ทรัพยากรทั้งหมดของเขมรและทุกพื้นที่ของเขมร จะต้องถูกนำมาจำนองหรือถูกขายแบบถาวรให้สองมหาอำนาจนี้ และนั่นคงจะเป็นจุดจบของตระกูลฮุน ที่อาจจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันเองขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเวียดนามส่งทหารเข้ามาช่วยตระกูลฮุน ในขณะที่จีนจะกลับมาสนับสนุนปลุกผีเขมรแดงอีกรอบให้ขึ้นมาจากหลุม ในขณะที่ประเทศไทย จะจำบทเรียนสำคัญให้ขึ้นใจ ก็คือต้องหยุดความสงสารต่อคนเขมร เมื่อหากมีการอพยพหนีตายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อกองทัพได้ประกาศกฏอัยการศึกออกมาแล้ว ปัญหาเรื่องเขมรกับไทย กองทัพก็ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพไทยเท่านั้น เหตุใดยังเห็นภาพของนายภูมิธรรมกับแพรทองธาร เที่ยวออกมาพูดวุ่นวายไปทั่ว แถมออกมาตีเนียนและเคลมว่า เป็นผลงานของตนเอง ที่แอบเจรจากับเขมรมาตลอด แถมยังยกมือกราบไหว้ขอบคุณสรรเสริญต่อผู้นำเขมร ที่ยอมถอยทหารออกไป นี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของตระกูลชิน ที่ต้องการช่วยเหลือญาติทางฝั่งเขมรของตนเอง. เดชา นฤนารท. 10/6/68 08.45 น. #ไทยต้องไม่ถอย #หยุดเขมรรุกแดน #รักชาติพิสูจน์ด้วยการกระทำ #พร้อมรบเพื่อแผ่นดิน #ศึกนี้เพื่ออธิปไตย #ไม่เอา2ตระกูลหนักแผ่นดิน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม #ThammasatPitakTham
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 668 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts