• ผู้ว่าฯพระตะบอง กัมพูชา ส่งเอกสารลับ 2 ฉบับ ถึง ผู้ว่าฯจันทบุรี
    https://www.thai-tai.tv/news/19617/
    ผู้ว่าฯพระตะบอง กัมพูชา ส่งเอกสารลับ 2 ฉบับ ถึง ผู้ว่าฯจันทบุรี https://www.thai-tai.tv/news/19617/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า:
    “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”

    เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น”

    ที่มา : เปิด #เอกสาร#เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์
    https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657

    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    ขณะลงนามใน #MOU2543 #ประเทศไทย มีการใช้ #รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 บัญญัติเอาไว้ชัดเจน ใน #มาตรา224 ว่า: “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่น กับนานาประเทศ หรือกับองค์การระหว่างประเทศ หนังสือสัญญาใด มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตอำนาจแห่งรัฐ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา” เมื่อ #MOU2543 #ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ #ปราศจากพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่า MOU 2543 นั้น #ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา224 ของ #รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ #เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ตอนต้น” ที่มา : เปิด #เอกสาร “ #เบื้องหลัง ” ที่มาของ #MOU2543 !? เผยแพร่: 22 มี.ค. 2554 โดย: #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ https://mgronline.com/daily/detail/9540000036657 #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #อธิปไตยไทย #แผ่นดินไทย #อาณาเขต #ชายแดนไทยเขมร #ราชอาณาจักรไทย #พระบรมราชโองการ #แผ่นที่ #หนึ่งต่อห้าหมื่น #ประเทศไทย #ดินแดนไทย #กองทัพไทย #กองทัพบกไทย #กองทัพเรือไทย #กองทัพอากาศไทย #ข้าราชการไทย #ตำรวจไทย #พลเมืองไทย #คนไทย #ประชาชนของพระราชา #ชาติศาสน์กษัตริย์ไทย
    MGRONLINE.COM
    เปิดเอกสาร “เบื้องหลัง” ที่มาของ MOU 2543!?
    รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้เคยพยายามอธิบายว่าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 หรือ MOU 2543 นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ปัญหาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น ยังคงจำกัดอยู่ในการเจรจาระดับทวิภาคี หรือการเจรจาจะจำกัดอยู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณอาจเคยได้ยินว่า AI เริ่มใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือแต่งเนื้อเพลง…แต่ตอนนี้มันเดินเข้าศาลแล้วแบบจริงจัง! หลายคดีในสหรัฐฯ เริ่มเห็น GenAI ถูกใช้ในหลายรูปแบบ เช่น:

    - ผู้พิพากษาใช้ AI ช่วยค้นคว้าคำพิพากษาเก่า ๆ
    - ทนายใช้ ChatGPT หรือ AI ผู้ช่วยอย่าง LexisNexis Protege, CoCounsel จาก Thomson Reuters ช่วยร่างคำร้อง
    - ฝ่ายที่ไม่มีทนาย (pro se) ใช้ AI เขียนคำร้องเอง

    หนึ่งในกรณีที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือคดีที่เหยื่อถูกยิงเสียชีวิต และญาติของเขาสร้าง “อวตาร AI” ขึ้นมาให้ผู้ตายกล่าวคำอำลาและแสดงความให้อภัยในศาลด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ—ผู้พิพากษาถึงกับบอกว่า “มันรู้สึกเหมือนจริง” มาก

    แต่ในอีกมุม GenAI ก็มีปัญหาเหมือนกัน — มีคดีหนึ่งที่ทนายใช้ AI ช่วยร่างคำฟ้องจนเกิดการอ้างคำพิพากษาปลอม (hallucination) จนโดนปรับไปกว่า $31,000 แบบไม่มีข้อแก้ตัว

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถึงแม้ GenAI จะช่วยให้คนเข้าถึงระบบยุติธรรมง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนไม่มีทนาย แต่ระบบศาลต้องเตรียมรับมือกับ “คดีที่ถูกสร้างด้วยปุ่มเดียว” เพราะ GenAI ทำให้คนสามารถร่างคำฟ้องได้เร็วและมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับศาลที่มีคดีล้นอยู่แล้ว

    ✅ GenAI เริ่มถูกใช้จริงจังในศาลสหรัฐฯ ทั้งโดยผู้พิพากษา ทนาย และประชาชนทั่วไป  
    • ผู้พิพากษาใช้เพื่อค้นข้อมูลทางกฎหมาย  
    • ทนายใช้ AI ผู้ช่วย เช่น LexisNexis Protege และ CoCounsel  
    • ผู้ที่ไม่มีทนายใช้ AI ยื่นคำร้องเอง

    ✅ มีการใช้ Avatar AI เป็นครั้งแรกในศาลอเมริกาเพื่อให้เหยื่อ “กล่าวคำอำลา” หลังเสียชีวิต  
    • เหยื่อถูกยิงเสียชีวิตในปี 2021  
    • พี่สาวสร้างวิดีโอ AI ให้พูดในศาลตอนตัดสินคนร้าย

    ✅ AI ช่วยลดภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม  
    • โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจ้างทนายได้  
    • อาจเพิ่มความเป็นธรรมและลดต้นทุนระบบ

    ✅ นักวิชาการเสนอให้ศาลเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AI อย่างจริงจัง  
    • เช่น การฝึกอบรมผู้พิพากษาให้เข้าใจ AI  
    • อาจช่วยให้คำพิพากษาแม่นยำและไม่ถูกยื่นอุทธรณ์ง่าย

    ‼️ GenAI ยังมีปัญหาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของข้อมูล” (hallucination)  
    • มีกรณีอ้างคำพิพากษาปลอมแล้วศาลลงโทษจริง  
    • ต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้เอกสารที่ AI สร้างขึ้น

    ‼️ การเปิดให้ใช้ AI อย่างเสรี อาจทำให้ “คดีที่ไม่มีเนื้อหา” ท่วมศาล  
    • คนสามารถสร้างคำฟ้องด้วย AI ได้ง่ายและเร็วเกินไป  
    • เพิ่มภาระต่อระบบที่มีทรัพยากรจำกัด

    ‼️ ผู้ที่ไม่มีทนายอาจเชื่อใจ AI มากเกินไปจนทำผิดพลาด  
    • โดยเฉพาะหากไม่เข้าใจว่า AI ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย

    ‼️ อาจเกิดการโน้มน้าวผู้พิพากษาจากข้อมูลที่ AI คัดเลือกมา “โดยไม่ได้ตั้งใจ”  
    • เช่น ถ้า AI เลือกคำพิพากษาเก่าที่บางเฉียบ แต่อิทธิพลสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/justice-at-stake-as-generative-ai-enters-the-courtroom
    คุณอาจเคยได้ยินว่า AI เริ่มใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือแต่งเนื้อเพลง…แต่ตอนนี้มันเดินเข้าศาลแล้วแบบจริงจัง! หลายคดีในสหรัฐฯ เริ่มเห็น GenAI ถูกใช้ในหลายรูปแบบ เช่น: - ผู้พิพากษาใช้ AI ช่วยค้นคว้าคำพิพากษาเก่า ๆ - ทนายใช้ ChatGPT หรือ AI ผู้ช่วยอย่าง LexisNexis Protege, CoCounsel จาก Thomson Reuters ช่วยร่างคำร้อง - ฝ่ายที่ไม่มีทนาย (pro se) ใช้ AI เขียนคำร้องเอง หนึ่งในกรณีที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือคดีที่เหยื่อถูกยิงเสียชีวิต และญาติของเขาสร้าง “อวตาร AI” ขึ้นมาให้ผู้ตายกล่าวคำอำลาและแสดงความให้อภัยในศาลด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ—ผู้พิพากษาถึงกับบอกว่า “มันรู้สึกเหมือนจริง” มาก แต่ในอีกมุม GenAI ก็มีปัญหาเหมือนกัน — มีคดีหนึ่งที่ทนายใช้ AI ช่วยร่างคำฟ้องจนเกิดการอ้างคำพิพากษาปลอม (hallucination) จนโดนปรับไปกว่า $31,000 แบบไม่มีข้อแก้ตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถึงแม้ GenAI จะช่วยให้คนเข้าถึงระบบยุติธรรมง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนไม่มีทนาย แต่ระบบศาลต้องเตรียมรับมือกับ “คดีที่ถูกสร้างด้วยปุ่มเดียว” เพราะ GenAI ทำให้คนสามารถร่างคำฟ้องได้เร็วและมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับศาลที่มีคดีล้นอยู่แล้ว ✅ GenAI เริ่มถูกใช้จริงจังในศาลสหรัฐฯ ทั้งโดยผู้พิพากษา ทนาย และประชาชนทั่วไป   • ผู้พิพากษาใช้เพื่อค้นข้อมูลทางกฎหมาย   • ทนายใช้ AI ผู้ช่วย เช่น LexisNexis Protege และ CoCounsel   • ผู้ที่ไม่มีทนายใช้ AI ยื่นคำร้องเอง ✅ มีการใช้ Avatar AI เป็นครั้งแรกในศาลอเมริกาเพื่อให้เหยื่อ “กล่าวคำอำลา” หลังเสียชีวิต   • เหยื่อถูกยิงเสียชีวิตในปี 2021   • พี่สาวสร้างวิดีโอ AI ให้พูดในศาลตอนตัดสินคนร้าย ✅ AI ช่วยลดภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม   • โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจ้างทนายได้   • อาจเพิ่มความเป็นธรรมและลดต้นทุนระบบ ✅ นักวิชาการเสนอให้ศาลเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AI อย่างจริงจัง   • เช่น การฝึกอบรมผู้พิพากษาให้เข้าใจ AI   • อาจช่วยให้คำพิพากษาแม่นยำและไม่ถูกยื่นอุทธรณ์ง่าย ‼️ GenAI ยังมีปัญหาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของข้อมูล” (hallucination)   • มีกรณีอ้างคำพิพากษาปลอมแล้วศาลลงโทษจริง   • ต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้เอกสารที่ AI สร้างขึ้น ‼️ การเปิดให้ใช้ AI อย่างเสรี อาจทำให้ “คดีที่ไม่มีเนื้อหา” ท่วมศาล   • คนสามารถสร้างคำฟ้องด้วย AI ได้ง่ายและเร็วเกินไป   • เพิ่มภาระต่อระบบที่มีทรัพยากรจำกัด ‼️ ผู้ที่ไม่มีทนายอาจเชื่อใจ AI มากเกินไปจนทำผิดพลาด   • โดยเฉพาะหากไม่เข้าใจว่า AI ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ‼️ อาจเกิดการโน้มน้าวผู้พิพากษาจากข้อมูลที่ AI คัดเลือกมา “โดยไม่ได้ตั้งใจ”   • เช่น ถ้า AI เลือกคำพิพากษาเก่าที่บางเฉียบ แต่อิทธิพลสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/justice-at-stake-as-generative-ai-enters-the-courtroom
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Justice at stake as generative AI enters the courtroom
    Generative artificial intelligence (GenAI) is making its way into courts despite early stumbles, raising questions about how it will influence the legal system and justice itself.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล

    แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน

    กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า

    ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก

    เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่

    ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน

    ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.bbc.com/news/magazine-35409594
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm
    http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid=

    #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.bbc.com/news/magazine-35409594 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid= #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกสารรัฐบาลไทยประท้วงผู้นำกัมพูชา กรณีฮุนเซนเผยแพร่คลิปลับเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่า “กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาว่า “รัฐบาลไทยผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองถือเป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความประพฤติปฏิบัติระหว่างประเทศต่าง ๆ.การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับแนวปฏิบัติที่ยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยความสุจริตใจ
    เอกสารรัฐบาลไทยประท้วงผู้นำกัมพูชา กรณีฮุนเซนเผยแพร่คลิปลับเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่า “กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาว่า “รัฐบาลไทยผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองถือเป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความประพฤติปฏิบัติระหว่างประเทศต่าง ๆ.การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับแนวปฏิบัติที่ยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยความสุจริตใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครที่เคยใช้ Copilot ใน Excel มาก่อน น่าจะเคยรู้สึกว่า—แม้จะพิมพ์ถามว่า “ข้อมูลนี้บอกอะไร” แต่ Copilot จะทำงานแค่ตามเซลล์ที่คุณคลิกไว้ ถ้าเผลอคลิกผิดก็คือไปคนละทิศเลย

    ล่าสุด Microsoft ปรับให้ “Copilot ฉลาดระดับเข้าใจคุณมากขึ้น” ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Smart Context Awareness คือไม่ต้องคลิกเซลล์หรือไฮไลต์ตารางก่อนถาม เช่น คุณสามารถพิมพ์ว่า “Sort the table in the top-right” หรือ “Show insights about the data I was just analyzing” — แล้ว Copilot จะเข้าใจโดยอิงจากทั้งตำแหน่งข้อมูล + ประวัติแชตที่เพิ่งคุยกัน

    แถม Copilot ยังไฮไลต์ให้ดูเลยว่า “ฉันใช้ข้อมูลส่วนไหนในการวิเคราะห์อยู่” เพื่อความโปร่งใสและช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ว่าคำตอบนั้นมาจากตรงไหน

    ทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานแล้วทั้งบน Excel Web และ Excel เวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows / Mac) ที่อัปเดตล่าสุด

    ✅ Copilot in Excel เพิ่ม Smart Context Awareness เข้าใจคำถามแบบรู้บริบท  
    • ไม่จำเป็นต้องเลือกเซลล์ก่อนถามคำถาม  
    • ใช้ทั้งสัญญาณตำแหน่งเซลล์ + ประวัติการสนทนา เพื่อเดาความต้องการของผู้ใช้

    ✅ รองรับคำถามแบบภาษาธรรมชาติ เช่น “จัดเรียงตารางด้านขวาบน” หรือ “แสดงข้อมูลที่วิเคราะห์เมื่อกี้”  
    • ทำให้ไม่ต้องใช้สูตรหรือคำสั่งซับซ้อน  
    • ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน Excel ขั้นสูง

    ✅ Copilot แสดง Highlight ข้อมูลที่ใช้ในการตอบกลับ  
    • ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลต้นทางที่ Copilot ใช้  
    • เพิ่มความเชื่อมั่นและสามารถปรับข้อมูลให้ตรงเป้าหมายได้

    ✅ ฟีเจอร์ Smart Context ใช้งานได้แล้วบน Excel Web และเวอร์ชันเดสก์ท็อป  
    • Windows: Version 2505 (Build 18623.20058)  
    • Mac: Version 16.95 (Build 2506.3090)

    ✅ Visual Highlighting ใช้งานได้ใน Build ล่าสุดเพิ่มเติม  
    • Windows: Version 2505 (Build 18705.20000)  
    • Mac: Version 16.96 (Build 2506.4070)

    ‼️ Smart Context ยังพึ่งพาการเดาความตั้งใจของผู้ใช้ อาจมีพลาดได้ถ้าข้อมูลคลุมเครือ  
    • เช่น ถ้ามีตารางหลายชุดบนหน้าเดียวกัน คำสั่ง “จัดเรียงตารางขวาบน” อาจเดาผิดได้  
    • ควรตรวจสอบ Highlight ให้แน่ใจก่อนใช้คำสั่งที่มีผลกระทบต่อข้อมูล

    ‼️ Copilot ยังไม่รองรับการเข้าใจภาพรวมหลายชีตหรือหลาย workbook ได้เต็มที่  
    • Smart Context ใช้ข้อมูลในชีตเดียวเป็นหลัก  
    • หากมีการเชื่อมโยงหลายแหล่ง คำตอบอาจไม่แม่นยำเท่าการระบุชัด ๆ

    ‼️ ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะ Excel ที่อัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเท่านั้น  
    • ผู้ใช้ที่ยังใช้ Excel เวอร์ชันเก่าอาจไม่เห็นความสามารถนี้  
    • อาจต้องอัปเดต Microsoft 365 ทั้งระบบเพื่อเข้าถึง

    ‼️ ความสามารถของ Copilot ยังคงขึ้นกับความซับซ้อนของข้อมูลและโครงสร้างเอกสาร  
    • ข้อมูลที่ไม่มี header, มีรูปแบบผสม หรือมีสูตรซ้อนซับ อาจทำให้ Copilot สับสน

    https://www.neowin.net/news/copilot-in-excel-just-got-a-major-upgrade/
    ใครที่เคยใช้ Copilot ใน Excel มาก่อน น่าจะเคยรู้สึกว่า—แม้จะพิมพ์ถามว่า “ข้อมูลนี้บอกอะไร” แต่ Copilot จะทำงานแค่ตามเซลล์ที่คุณคลิกไว้ ถ้าเผลอคลิกผิดก็คือไปคนละทิศเลย ล่าสุด Microsoft ปรับให้ “Copilot ฉลาดระดับเข้าใจคุณมากขึ้น” ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Smart Context Awareness คือไม่ต้องคลิกเซลล์หรือไฮไลต์ตารางก่อนถาม เช่น คุณสามารถพิมพ์ว่า “Sort the table in the top-right” หรือ “Show insights about the data I was just analyzing” — แล้ว Copilot จะเข้าใจโดยอิงจากทั้งตำแหน่งข้อมูล + ประวัติแชตที่เพิ่งคุยกัน แถม Copilot ยังไฮไลต์ให้ดูเลยว่า “ฉันใช้ข้อมูลส่วนไหนในการวิเคราะห์อยู่” เพื่อความโปร่งใสและช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ว่าคำตอบนั้นมาจากตรงไหน ทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานแล้วทั้งบน Excel Web และ Excel เวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows / Mac) ที่อัปเดตล่าสุด ✅ Copilot in Excel เพิ่ม Smart Context Awareness เข้าใจคำถามแบบรู้บริบท   • ไม่จำเป็นต้องเลือกเซลล์ก่อนถามคำถาม   • ใช้ทั้งสัญญาณตำแหน่งเซลล์ + ประวัติการสนทนา เพื่อเดาความต้องการของผู้ใช้ ✅ รองรับคำถามแบบภาษาธรรมชาติ เช่น “จัดเรียงตารางด้านขวาบน” หรือ “แสดงข้อมูลที่วิเคราะห์เมื่อกี้”   • ทำให้ไม่ต้องใช้สูตรหรือคำสั่งซับซ้อน   • ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐาน Excel ขั้นสูง ✅ Copilot แสดง Highlight ข้อมูลที่ใช้ในการตอบกลับ   • ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลต้นทางที่ Copilot ใช้   • เพิ่มความเชื่อมั่นและสามารถปรับข้อมูลให้ตรงเป้าหมายได้ ✅ ฟีเจอร์ Smart Context ใช้งานได้แล้วบน Excel Web และเวอร์ชันเดสก์ท็อป   • Windows: Version 2505 (Build 18623.20058)   • Mac: Version 16.95 (Build 2506.3090) ✅ Visual Highlighting ใช้งานได้ใน Build ล่าสุดเพิ่มเติม   • Windows: Version 2505 (Build 18705.20000)   • Mac: Version 16.96 (Build 2506.4070) ‼️ Smart Context ยังพึ่งพาการเดาความตั้งใจของผู้ใช้ อาจมีพลาดได้ถ้าข้อมูลคลุมเครือ   • เช่น ถ้ามีตารางหลายชุดบนหน้าเดียวกัน คำสั่ง “จัดเรียงตารางขวาบน” อาจเดาผิดได้   • ควรตรวจสอบ Highlight ให้แน่ใจก่อนใช้คำสั่งที่มีผลกระทบต่อข้อมูล ‼️ Copilot ยังไม่รองรับการเข้าใจภาพรวมหลายชีตหรือหลาย workbook ได้เต็มที่   • Smart Context ใช้ข้อมูลในชีตเดียวเป็นหลัก   • หากมีการเชื่อมโยงหลายแหล่ง คำตอบอาจไม่แม่นยำเท่าการระบุชัด ๆ ‼️ ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะ Excel ที่อัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดเท่านั้น   • ผู้ใช้ที่ยังใช้ Excel เวอร์ชันเก่าอาจไม่เห็นความสามารถนี้   • อาจต้องอัปเดต Microsoft 365 ทั้งระบบเพื่อเข้าถึง ‼️ ความสามารถของ Copilot ยังคงขึ้นกับความซับซ้อนของข้อมูลและโครงสร้างเอกสาร   • ข้อมูลที่ไม่มี header, มีรูปแบบผสม หรือมีสูตรซ้อนซับ อาจทำให้ Copilot สับสน https://www.neowin.net/news/copilot-in-excel-just-got-a-major-upgrade/
    WWW.NEOWIN.NET
    Copilot in Excel just got a major upgrade
    Microsoft has made Copilot in Excel a whole lot better by giving it smarter context awareness and a visual highlight that makes it easier to trust the AI's responses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ

    แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร

    Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน

    NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม

    สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว

    ✅ Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน  
    • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat  
    • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้

    ✅ NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม  
    • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ  
    • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน

    ✅ Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน  
    • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น

    ‼️ การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน  
    • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ  
    • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง

    ‼️ ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส  
    • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง  
    • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า

    ‼️ ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน  
    • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม

    https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว ✅ Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน   • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat   • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้ ✅ NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม   • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ   • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน ✅ Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน   • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น ‼️ การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน   • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ   • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง ‼️ ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส   • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง   • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า ‼️ ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน   • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    WWW.NEOWIN.NET
    Watchdog finds Microsoft guilty of confusing advertising when it comes to Copilot
    A U.S. watchdog has criticized Microsoft for making statements about Copilot that are not a "good fit" for making objective claims regarding increased productivity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองจินตนาการดูว่าเราย้ายไฟล์สำคัญ—ทั้งรูปถ่าย 30 ปี เอกสารงานหายาก—ไปไว้บน OneDrive เตรียมเปลี่ยนเครื่อง แล้ววันหนึ่ง Microsoft “ล็อกบัญชี” โดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน แถมติดต่อเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ มีแค่บอทตอบกลับซ้ำไปมา จนรู้สึกเหมือนโดนทิ้งไว้ในทะเลเมฆ (Cloud) โดยไร้ห่วงชูชีพ...

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้รายหนึ่งใน Reddit โดยเขาเล่าว่าได้ย้ายข้อมูลสำคัญทั้งหมดขึ้น OneDrive ชั่วคราว ก่อนจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์และทิ้งไดรฟ์เก่า แต่แล้วบัญชี Microsoft ถูกล็อกโดยไม่มีคำอธิบาย และเขาส่งฟอร์มยืนยันตัวตนกว่า 18 ครั้ง แต่ไม่มีใครตอบกลับ มีแค่ระบบอัตโนมัติเท่านั้นที่ตอบ

    กรณีนี้ชี้ให้เห็นความเปราะบางของระบบบัญชี Microsoft และการเข้ารหัส BitLocker ที่เปิดใช้งานแบบอัตโนมัติใน Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด (24H2) ซึ่งเก็บกุญแจถอดรหัสไว้กับ Microsoft Account ของผู้ใช้ ถ้าบัญชีนี้ถูกล็อกหรือปิดถาวร ผู้ใช้ก็อาจ “สูญเสียข้อมูลทั้งหมด” โดยไม่มีทางเอาคืนได้!

    ✅ Microsoft Account ถูกล็อก ทำให้ผู้ใช้สูญเสียข้อมูลสำคัญ  
    • ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งบอกว่าบัญชีถูกล็อกทันทีหลังย้ายข้อมูลทั้งหมดขึ้น OneDrive  
    • ส่งแบบฟอร์มร้องเรียนถึง 18 ครั้ง แต่ไม่มีใครตอบกลับ

    ✅ BitLocker เปิดใช้งานอัตโนมัติใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2  
    • ผู้ใช้จำนวนมากอาจไม่รู้ตัวว่าไฟล์ของตนถูกเข้ารหัส  
    • กุญแจถอดรหัส (recovery key) เก็บไว้ในบัญชี Microsoft เท่านั้น

    ✅ เมื่อบัญชีถูกปิด—ข้อมูลของผู้ใช้อาจถูกลบตาม  
    • ตามข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Use) ของ Microsoft  
    • ข้อมูลจะถูกลบถาวร หรือไม่สามารถเข้าถึงได้อีก  
    • ผู้ใช้จะเสียสิทธิ์ในการใช้บริการที่เชื่อมโยงทั้งหมดทันที เช่น Windows, Office, OneDrive

    ✅ แนวทางที่ควรทำเพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหา  
    • สำรองข้อมูลภายในเครื่องเป็นประจำ ไม่ควรพึ่งพาแค่ Cloud  
    • ควรเก็บ BitLocker recovery key แบบออฟไลน์ เช่น บน Flash drive หรือพิมพ์เก็บไว้

    ‼️ การถูกล็อกบัญชี Microsoft = ความเสี่ยงข้อมูลหายถาวร  
    • การสูญเสียการเข้าถึงบัญชีจะหมายถึงการเข้าถึงไฟล์ที่เก็บไว้บน OneDrive และไฟล์ที่ถูก BitLocker เข้ารหัส ก็จะหายไปด้วย

    ‼️ ไม่มีช่องทางติดต่อมนุษย์ในบางกรณีฉุกเฉิน  
    • ผู้ใช้บางรายระบุว่าไม่สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนแบบคนจริงได้เลย  
    • ระบบตอบกลับอัตโนมัติทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที

    ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา Cloud โดยไม่สำรองข้อมูลในเครื่อง  
    • หาก OneDrive หรือบัญชี Microsoft มีปัญหา จะไม่มีทางกู้คืนข้อมูล  
    • ความเข้าใจผิดว่า Cloud ปลอดภัยเสมอ อาจนำไปสู่การสูญเสียที่แก้ไม่ได้

    ‼️ การเปิดใช้งาน BitLocker โดยอัตโนมัติโดยไม่แจ้งผู้ใช้อย่างชัดเจน  
    • ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าข้อมูลของตนถูกเข้ารหัส  
    • ทำให้ไม่รู้ว่าต้องเก็บ recovery key ไว้แยกต่างหาก

    https://www.neowin.net/news/microsoft-locks-windows-11-user-out-shows-how-easy-losing-data-from-forced-encryption-is/
    ลองจินตนาการดูว่าเราย้ายไฟล์สำคัญ—ทั้งรูปถ่าย 30 ปี เอกสารงานหายาก—ไปไว้บน OneDrive เตรียมเปลี่ยนเครื่อง แล้ววันหนึ่ง Microsoft “ล็อกบัญชี” โดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน แถมติดต่อเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ มีแค่บอทตอบกลับซ้ำไปมา จนรู้สึกเหมือนโดนทิ้งไว้ในทะเลเมฆ (Cloud) โดยไร้ห่วงชูชีพ... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้รายหนึ่งใน Reddit โดยเขาเล่าว่าได้ย้ายข้อมูลสำคัญทั้งหมดขึ้น OneDrive ชั่วคราว ก่อนจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์และทิ้งไดรฟ์เก่า แต่แล้วบัญชี Microsoft ถูกล็อกโดยไม่มีคำอธิบาย และเขาส่งฟอร์มยืนยันตัวตนกว่า 18 ครั้ง แต่ไม่มีใครตอบกลับ มีแค่ระบบอัตโนมัติเท่านั้นที่ตอบ กรณีนี้ชี้ให้เห็นความเปราะบางของระบบบัญชี Microsoft และการเข้ารหัส BitLocker ที่เปิดใช้งานแบบอัตโนมัติใน Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด (24H2) ซึ่งเก็บกุญแจถอดรหัสไว้กับ Microsoft Account ของผู้ใช้ ถ้าบัญชีนี้ถูกล็อกหรือปิดถาวร ผู้ใช้ก็อาจ “สูญเสียข้อมูลทั้งหมด” โดยไม่มีทางเอาคืนได้! ✅ Microsoft Account ถูกล็อก ทำให้ผู้ใช้สูญเสียข้อมูลสำคัญ   • ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งบอกว่าบัญชีถูกล็อกทันทีหลังย้ายข้อมูลทั้งหมดขึ้น OneDrive   • ส่งแบบฟอร์มร้องเรียนถึง 18 ครั้ง แต่ไม่มีใครตอบกลับ ✅ BitLocker เปิดใช้งานอัตโนมัติใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2   • ผู้ใช้จำนวนมากอาจไม่รู้ตัวว่าไฟล์ของตนถูกเข้ารหัส   • กุญแจถอดรหัส (recovery key) เก็บไว้ในบัญชี Microsoft เท่านั้น ✅ เมื่อบัญชีถูกปิด—ข้อมูลของผู้ใช้อาจถูกลบตาม   • ตามข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Use) ของ Microsoft   • ข้อมูลจะถูกลบถาวร หรือไม่สามารถเข้าถึงได้อีก   • ผู้ใช้จะเสียสิทธิ์ในการใช้บริการที่เชื่อมโยงทั้งหมดทันที เช่น Windows, Office, OneDrive ✅ แนวทางที่ควรทำเพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหา   • สำรองข้อมูลภายในเครื่องเป็นประจำ ไม่ควรพึ่งพาแค่ Cloud   • ควรเก็บ BitLocker recovery key แบบออฟไลน์ เช่น บน Flash drive หรือพิมพ์เก็บไว้ ‼️ การถูกล็อกบัญชี Microsoft = ความเสี่ยงข้อมูลหายถาวร   • การสูญเสียการเข้าถึงบัญชีจะหมายถึงการเข้าถึงไฟล์ที่เก็บไว้บน OneDrive และไฟล์ที่ถูก BitLocker เข้ารหัส ก็จะหายไปด้วย ‼️ ไม่มีช่องทางติดต่อมนุษย์ในบางกรณีฉุกเฉิน   • ผู้ใช้บางรายระบุว่าไม่สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนแบบคนจริงได้เลย   • ระบบตอบกลับอัตโนมัติทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา Cloud โดยไม่สำรองข้อมูลในเครื่อง   • หาก OneDrive หรือบัญชี Microsoft มีปัญหา จะไม่มีทางกู้คืนข้อมูล   • ความเข้าใจผิดว่า Cloud ปลอดภัยเสมอ อาจนำไปสู่การสูญเสียที่แก้ไม่ได้ ‼️ การเปิดใช้งาน BitLocker โดยอัตโนมัติโดยไม่แจ้งผู้ใช้อย่างชัดเจน   • ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าข้อมูลของตนถูกเข้ารหัส   • ทำให้ไม่รู้ว่าต้องเก็บ recovery key ไว้แยกต่างหาก https://www.neowin.net/news/microsoft-locks-windows-11-user-out-shows-how-easy-losing-data-from-forced-encryption-is/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft locks Windows 11 user out, shows how easy losing data from forced encryption is
    The forced Microsoft Account requirement and BitLocker auto encryption can lead to catastrophic issues on Windows if you aren't careful, and especially in the case of a lockout.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งใจเสียรู้ ยึดตามเอกสาร ที่เอกสารนั้นอ้างอิงแผนที่แบบหยาบๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดถึง โถ ค.https://www.youtube.com/live/G8GehrSkFgo?si=CTHruoO5fPYtejvT
    ตั้งใจเสียรู้ ยึดตามเอกสาร ที่เอกสารนั้นอ้างอิงแผนที่แบบหยาบๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดถึง โถ ค.https://www.youtube.com/live/G8GehrSkFgo?si=CTHruoO5fPYtejvT
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มแล้วยกระดับคุมเข้มชายแดน จ.สระแก้วห้ามคนไทยทำงานบ่อนปอยเปตผ่าน กองกำลังบูรพา ออกมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในกรุงปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นคำสั่งที่ออกโดยกองกำลังบูรพา มีหนังสือถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เรื่อง “มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร/จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าฯ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว” เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีจุดผ่านแดนสำคัญหลายแห่ง เช่น จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ และจุดผ่อนปรนการค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ โดยสั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ชายแดน เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบุคคลที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทยที่มีสถานะเป็นพนักงาน บ่อนการพนัน กาสิโน สถานบันเทิงทุกประเภท ในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยให้ห้ามออกนอกประเทศผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วไม่ว่ากรณีใด ๆ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากทางกองกำลังบูรพาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ต้องร่วมกันบังคับใช้มาตรการนี้อย่างเคร่งครัด ทำการตรวจสอบเอกสารและจุดประสงค์การเดินทางของผู้ที่ผ่านเข้า-ออกประเทศอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวกองกำลังบูรพาย้ำว่า มาตรการครั้งนี้เป็นเพียงการควบคุมเพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายหรือการเดินทางของประชาชนทั่วไปที่มีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการทำงานในบ่อนและสถานบันเทิง#JBC #ชายแดนไทยเขมร ที่มา : ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
    เริ่มแล้วยกระดับคุมเข้มชายแดน จ.สระแก้วห้ามคนไทยทำงานบ่อนปอยเปตผ่าน กองกำลังบูรพา ออกมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในกรุงปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นคำสั่งที่ออกโดยกองกำลังบูรพา มีหนังสือถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เรื่อง “มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร/จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าฯ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว” เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีจุดผ่านแดนสำคัญหลายแห่ง เช่น จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ และจุดผ่อนปรนการค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ โดยสั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ชายแดน เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบุคคลที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทยที่มีสถานะเป็นพนักงาน บ่อนการพนัน กาสิโน สถานบันเทิงทุกประเภท ในกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยให้ห้ามออกนอกประเทศผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วไม่ว่ากรณีใด ๆ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากทางกองกำลังบูรพาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ต้องร่วมกันบังคับใช้มาตรการนี้อย่างเคร่งครัด ทำการตรวจสอบเอกสารและจุดประสงค์การเดินทางของผู้ที่ผ่านเข้า-ออกประเทศอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวกองกำลังบูรพาย้ำว่า มาตรการครั้งนี้เป็นเพียงการควบคุมเพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายหรือการเดินทางของประชาชนทั่วไปที่มีจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการทำงานในบ่อนและสถานบันเทิง#JBC #ชายแดนไทยเขมร ที่มา : ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## Huione ธุรกิจฟอกเงิน ของ ตระกูลฮุน...!!! ##
    ..
    ..
    ธุรกิจฟอกเงิน Huione ใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านเงินจำนวนมหาศาล...
    .
    พบเบอร์โทรในกลุ่ม Telegram ที่ใช้รับโดนเงินจากเหยื่ออยู่ในประเทศไทย
    .
    พบเส้นทางการโอนเงินที่ไหลเข้าบัญชีไทยหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีชื่อ Huione อยู่ในเอกสารทางการไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว...
    ....
    ....
    นี่คือธุรกิจ ของ ตระกูล ไอ้สมเด็จจากนรก...!!!
    .
    ทำไมเรื่องนี้ในประเทศไทยถึงเงียบนัก...???
    .
    และ ใคร เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Huione ในประเทศไทย...???
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=1WluUJSl8PQ
    ## Huione ธุรกิจฟอกเงิน ของ ตระกูลฮุน...!!! ## .. .. ธุรกิจฟอกเงิน Huione ใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านเงินจำนวนมหาศาล... . พบเบอร์โทรในกลุ่ม Telegram ที่ใช้รับโดนเงินจากเหยื่ออยู่ในประเทศไทย . พบเส้นทางการโอนเงินที่ไหลเข้าบัญชีไทยหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีชื่อ Huione อยู่ในเอกสารทางการไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว... .... .... นี่คือธุรกิจ ของ ตระกูล ไอ้สมเด็จจากนรก...!!! . ทำไมเรื่องนี้ในประเทศไทยถึงเงียบนัก...??? . และ ใคร เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Huione ในประเทศไทย...??? . https://www.youtube.com/watch?v=1WluUJSl8PQ
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนาคตของ HBM: จาก HBM4 สู่ HBM8 และการฝัง NAND
    สถาบันวิจัย KAIST ของเกาหลีใต้ได้เผยแพร่เอกสารความยาว 371 หน้า ที่คาดการณ์การพัฒนาเทคโนโลยี HBM (High-Bandwidth Memory) จนถึงปี 2038 โดยเน้นการเพิ่ม แบนด์วิดท์, ความจุ, ความกว้างของ I/O และการจัดการพลังงาน.

    รายละเอียดการพัฒนา HBM
    ✅ HBM4 จะมีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 348GB ต่อสแต็ก และใช้พลังงาน 75W ต่อสแต็ก.
    ✅ HBM5 จะเปิดตัวในปี 2029 พร้อม I/O 4,096 บิต และแบนด์วิดท์ 4TB/s.
    ✅ HBM6 จะมาถึงในปี 2032 โดยเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลเป็น 16GT/s และแบนด์วิดท์ 8TB/s.
    ✅ HBM8 จะมี I/O สูงถึง 16,384 บิต และแบนด์วิดท์ 64TB/s ต่อสแต็ก.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ HBM รุ่นใหม่ต้องใช้พลังงานสูงขึ้น โดย HBM8 อาจใช้พลังงานถึง 180W ต่อสแต็ก.
    ‼️ การพัฒนา HBM ต้องใช้เทคนิคการระบายความร้อนที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ช่องระบายความร้อนแบบฝังในอินเตอร์โพเซอร์.
    ‼️ HBM7 และ HBM8 จะมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจาก HBM ในปัจจุบัน โดยจะรวม NAND storage เพื่อให้สามารถย้ายข้อมูลโดยไม่ต้องใช้ CPU หรือ GPU.

    แนวทางการพัฒนาและการนำไปใช้
    ✅ HBM5 จะรวม L3 Cache และอินเทอร์เฟซ LPDDR/CXL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ.
    ✅ HBM6 จะใช้การเชื่อมต่อแบบ Direct Bonding แทนการใช้ Microbump.
    ✅ HBM8 จะใช้ AI ในการจัดการพลังงานและสัญญาณแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี HBM
    ✅ Micron เริ่มส่งตัวอย่าง HBM4 ที่มีความจุ 36GB และแบนด์วิดท์ 2TB/s.
    ✅ Intel และ SoftBank กำลังพัฒนา HBM ที่ใช้พลังงานต่ำสำหรับศูนย์ข้อมูล AI.
    ‼️ HBM ที่มี NAND ฝังตัวอาจเปลี่ยนโครงสร้างของระบบประมวลผล โดยลดการพึ่งพา CPU และ GPU.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/hbm-development-roadmap-revealed-hbm8-with-a-16-384-bit-interface-and-embedded-nand-in-2038
    อนาคตของ HBM: จาก HBM4 สู่ HBM8 และการฝัง NAND สถาบันวิจัย KAIST ของเกาหลีใต้ได้เผยแพร่เอกสารความยาว 371 หน้า ที่คาดการณ์การพัฒนาเทคโนโลยี HBM (High-Bandwidth Memory) จนถึงปี 2038 โดยเน้นการเพิ่ม แบนด์วิดท์, ความจุ, ความกว้างของ I/O และการจัดการพลังงาน. รายละเอียดการพัฒนา HBM ✅ HBM4 จะมีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 348GB ต่อสแต็ก และใช้พลังงาน 75W ต่อสแต็ก. ✅ HBM5 จะเปิดตัวในปี 2029 พร้อม I/O 4,096 บิต และแบนด์วิดท์ 4TB/s. ✅ HBM6 จะมาถึงในปี 2032 โดยเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลเป็น 16GT/s และแบนด์วิดท์ 8TB/s. ✅ HBM8 จะมี I/O สูงถึง 16,384 บิต และแบนด์วิดท์ 64TB/s ต่อสแต็ก. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ HBM รุ่นใหม่ต้องใช้พลังงานสูงขึ้น โดย HBM8 อาจใช้พลังงานถึง 180W ต่อสแต็ก. ‼️ การพัฒนา HBM ต้องใช้เทคนิคการระบายความร้อนที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ช่องระบายความร้อนแบบฝังในอินเตอร์โพเซอร์. ‼️ HBM7 และ HBM8 จะมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจาก HBM ในปัจจุบัน โดยจะรวม NAND storage เพื่อให้สามารถย้ายข้อมูลโดยไม่ต้องใช้ CPU หรือ GPU. แนวทางการพัฒนาและการนำไปใช้ ✅ HBM5 จะรวม L3 Cache และอินเทอร์เฟซ LPDDR/CXL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ. ✅ HBM6 จะใช้การเชื่อมต่อแบบ Direct Bonding แทนการใช้ Microbump. ✅ HBM8 จะใช้ AI ในการจัดการพลังงานและสัญญาณแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี HBM ✅ Micron เริ่มส่งตัวอย่าง HBM4 ที่มีความจุ 36GB และแบนด์วิดท์ 2TB/s. ✅ Intel และ SoftBank กำลังพัฒนา HBM ที่ใช้พลังงานต่ำสำหรับศูนย์ข้อมูล AI. ‼️ HBM ที่มี NAND ฝังตัวอาจเปลี่ยนโครงสร้างของระบบประมวลผล โดยลดการพึ่งพา CPU และ GPU. https://www.tomshardware.com/tech-industry/hbm-development-roadmap-revealed-hbm8-with-a-16-384-bit-interface-and-embedded-nand-in-2038
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมนีเตรียมเลิกใช้ Microsoft: "เราพอแล้วกับ Teams!"
    รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือของเยอรมนี กำลังดำเนินการเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์ของ Microsoft ไปใช้ โอเพ่นซอร์ส อย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คน จะเลิกใช้ Teams, Word, Excel และ Outlook ภายในสามเดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระ ความยั่งยืน และความปลอดภัย.

    เหตุผลที่เยอรมนีเลิกใช้ Microsoft
    ✅ ลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ที่มีมูลค่าหลายล้านยูโรต่อปี.
    ✅ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากบริษัทสหรัฐฯ.
    ✅ ปฏิบัติตามกฎหมาย "Interoperable Europe Act" ที่สนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สในหน่วยงานรัฐ.
    ✅ ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลของพลเมือง.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ การเปลี่ยนระบบอาจมีความยุ่งยากในช่วงแรก เนื่องจากต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ใหม่.
    ‼️ อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเอกสารและระบบเดิม ที่ยังใช้ Microsoft Office.
    ‼️ ต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น.

    แนวทางการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส
    ✅ ใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office ซึ่งรองรับไฟล์เอกสารส่วนใหญ่.
    ✅ เปลี่ยนจาก Windows เป็น Linux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่าย.
    ✅ ใช้ Nextcloud แทน OneDrive และ Google Drive สำหรับการจัดเก็บและแชร์ไฟล์.
    ✅ ใช้ Open-Xchange แทน Outlook เพื่อการจัดการอีเมลและปฏิทิน.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเยอรมนี
    ✅ รัฐบาลฝรั่งเศสและอินเดียก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส เช่นเดียวกับเยอรมนี.
    ✅ เมืองมิวนิกเคยเปลี่ยนไปใช้ Linux ในปี 2004 แต่กลับมาใช้ Windows ในปี 2017 เนื่องจากปัญหาด้านการสนับสนุน.
    ‼️ องค์กรที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สควรมีแผนรองรับ เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเข้ากันได้.

    https://www.techspot.com/news/108327-german-state-moves-closer-ditching-microsoft-products-government.html
    เยอรมนีเตรียมเลิกใช้ Microsoft: "เราพอแล้วกับ Teams!" รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือของเยอรมนี กำลังดำเนินการเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์ของ Microsoft ไปใช้ โอเพ่นซอร์ส อย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คน จะเลิกใช้ Teams, Word, Excel และ Outlook ภายในสามเดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระ ความยั่งยืน และความปลอดภัย. เหตุผลที่เยอรมนีเลิกใช้ Microsoft ✅ ลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ที่มีมูลค่าหลายล้านยูโรต่อปี. ✅ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากบริษัทสหรัฐฯ. ✅ ปฏิบัติตามกฎหมาย "Interoperable Europe Act" ที่สนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สในหน่วยงานรัฐ. ✅ ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลของพลเมือง. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ การเปลี่ยนระบบอาจมีความยุ่งยากในช่วงแรก เนื่องจากต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ใหม่. ‼️ อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเอกสารและระบบเดิม ที่ยังใช้ Microsoft Office. ‼️ ต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น. แนวทางการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส ✅ ใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office ซึ่งรองรับไฟล์เอกสารส่วนใหญ่. ✅ เปลี่ยนจาก Windows เป็น Linux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่าย. ✅ ใช้ Nextcloud แทน OneDrive และ Google Drive สำหรับการจัดเก็บและแชร์ไฟล์. ✅ ใช้ Open-Xchange แทน Outlook เพื่อการจัดการอีเมลและปฏิทิน. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเยอรมนี ✅ รัฐบาลฝรั่งเศสและอินเดียก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส เช่นเดียวกับเยอรมนี. ✅ เมืองมิวนิกเคยเปลี่ยนไปใช้ Linux ในปี 2004 แต่กลับมาใช้ Windows ในปี 2017 เนื่องจากปัญหาด้านการสนับสนุน. ‼️ องค์กรที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สควรมีแผนรองรับ เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเข้ากันได้. https://www.techspot.com/news/108327-german-state-moves-closer-ditching-microsoft-products-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    German government moves closer to ditching Microsoft: "We're done with Teams!"
    Plans to go open-source were drawn up by Schleswig-Holstein as far back as 2017. In 2021, the state found another incentive to make the switch: Windows 11's...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • Patch Tuesday ทำให้ DHCP Server ใน Windows Server ขัดข้อง
    Microsoft ได้ปล่อยอัปเดต Patch Tuesday เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2025 ซึ่งมีการปรับปรุงหลายอย่าง เช่น Narrator scan mode, File Explorer, GDI+, Hyper-V และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม พบว่าการอัปเดตนี้ทำให้ DHCP Server ใน Windows Server 2016, 2019, 2022 และ 2025 มีปัญหา.

    รายละเอียดปัญหา
    ✅ DHCP Server อาจหยุดทำงานเป็นระยะๆ หลังจากติดตั้งอัปเดต Patch Tuesday.
    ✅ ปัญหานี้ส่งผลต่อกระบวนการต่ออายุ IP บนเครื่องลูกข่าย ทำให้เกิดความล่าช้าในการเชื่อมต่อเครือข่าย.
    ✅ Microsoft ได้รับรายงานจากผู้ใช้บน Reddit และได้อัปเดตเอกสารเพื่อแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหานี้.
    ✅ การรีบูตระบบสามารถแก้ไขปัญหาได้ชั่วคราว แต่ยังไม่มีการแก้ไขถาวรจาก Microsoft.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ IT Admin อาจต้องเผชิญกับความยุ่งยากในการจัดการเครือข่าย เนื่องจาก DHCP Server ไม่ทำงานตามปกติ.
    ‼️ ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดสำหรับการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มผู้ใช้.
    ‼️ Windows Server เคยมีปัญหาคล้ายกันมาก่อน เช่น Bug ใน Hyper-V ที่ต้องใช้ Out-of-Band (OOB) Hotfix.

    แนวทางแก้ไขเบื้องต้น
    ✅ รีบูตเซิร์ฟเวอร์เป็นวิธีแก้ไขชั่วคราว เพื่อให้ DHCP Server กลับมาทำงาน.
    ✅ ติดตามการอัปเดตจาก Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขที่อาจปล่อยออกมาในอีกไม่กี่วัน.
    ✅ ตรวจสอบการตั้งค่า DHCP Server เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติหลังจากอัปเดต.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาด้าน Windows Server
    ✅ Microsoft เคยปล่อย Hotfix สำหรับ Hyper-V เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อแก้ไขปัญหาที่คล้ายกัน.
    ✅ Windows Server มีระบบ Logging และ Monitoring ที่ช่วยตรวจสอบปัญหา ซึ่ง IT Admin ควรใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาด.
    ‼️ การอัปเดต Windows Server อาจมีผลกระทบต่อบริการอื่นๆ ดังนั้นควรทดสอบก่อนติดตั้งในระบบที่ใช้งานจริง.

    https://www.neowin.net/news/latest-patch-tuesday-has-broken-dhcp-server-in-all-windows-server-editions/
    Patch Tuesday ทำให้ DHCP Server ใน Windows Server ขัดข้อง Microsoft ได้ปล่อยอัปเดต Patch Tuesday เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2025 ซึ่งมีการปรับปรุงหลายอย่าง เช่น Narrator scan mode, File Explorer, GDI+, Hyper-V และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม พบว่าการอัปเดตนี้ทำให้ DHCP Server ใน Windows Server 2016, 2019, 2022 และ 2025 มีปัญหา. รายละเอียดปัญหา ✅ DHCP Server อาจหยุดทำงานเป็นระยะๆ หลังจากติดตั้งอัปเดต Patch Tuesday. ✅ ปัญหานี้ส่งผลต่อกระบวนการต่ออายุ IP บนเครื่องลูกข่าย ทำให้เกิดความล่าช้าในการเชื่อมต่อเครือข่าย. ✅ Microsoft ได้รับรายงานจากผู้ใช้บน Reddit และได้อัปเดตเอกสารเพื่อแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหานี้. ✅ การรีบูตระบบสามารถแก้ไขปัญหาได้ชั่วคราว แต่ยังไม่มีการแก้ไขถาวรจาก Microsoft. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ IT Admin อาจต้องเผชิญกับความยุ่งยากในการจัดการเครือข่าย เนื่องจาก DHCP Server ไม่ทำงานตามปกติ. ‼️ ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดสำหรับการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มผู้ใช้. ‼️ Windows Server เคยมีปัญหาคล้ายกันมาก่อน เช่น Bug ใน Hyper-V ที่ต้องใช้ Out-of-Band (OOB) Hotfix. แนวทางแก้ไขเบื้องต้น ✅ รีบูตเซิร์ฟเวอร์เป็นวิธีแก้ไขชั่วคราว เพื่อให้ DHCP Server กลับมาทำงาน. ✅ ติดตามการอัปเดตจาก Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขที่อาจปล่อยออกมาในอีกไม่กี่วัน. ✅ ตรวจสอบการตั้งค่า DHCP Server เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติหลังจากอัปเดต. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาด้าน Windows Server ✅ Microsoft เคยปล่อย Hotfix สำหรับ Hyper-V เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อแก้ไขปัญหาที่คล้ายกัน. ✅ Windows Server มีระบบ Logging และ Monitoring ที่ช่วยตรวจสอบปัญหา ซึ่ง IT Admin ควรใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาด. ‼️ การอัปเดต Windows Server อาจมีผลกระทบต่อบริการอื่นๆ ดังนั้นควรทดสอบก่อนติดตั้งในระบบที่ใช้งานจริง. https://www.neowin.net/news/latest-patch-tuesday-has-broken-dhcp-server-in-all-windows-server-editions/
    WWW.NEOWIN.NET
    Latest Patch Tuesday has broken DHCP Server in all Windows Server editions
    IT admins are in for a rude awakening yet again as it seems that the latest Patch Tuesday updates have broken the DHCP Server service in numerous versions of Windows Server, including 2025.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มองการประชุม JBC ทำไทยเพลี่ยงพล้ำ เสียเปรียบกัมพูชา เรียกร้องรัฐบาล 7 ข้อ ได้แก่ 1.เปิดเผยเอกสารผลการประชุม 2.เปลี่ยนประธานฝ่ายไทย เนื่องจากมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อประเทศ 3.ยกเลิก MOU2543 และ MOU 2544 4.ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ที่ระบุพิกัดเขตแดน 5.แถลงประท้วงที่เขมรนำ 4 พื้นที่ ให้ศาลโลกพิจารณา 6.รัฐบาลอย่าแทรกแแซงกองทัพ ปล่อยให้กองทัพแก้ปัญหา และ 7.ถ้ารัฐบาลยังเกรงใจอริราชศัตรู ใส่ร้ายประเทศไทย ขอให้กองทัพประกาศกฎอัยการศึก ย้ำ แค่ไทยไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และไม่ขึ้นศาลโลก ก็ถือว่าชัดเจนแล้ว

    -ไทยไม่ยอมถูกข่มขู่
    -กลาโหมเลื่อนแจงกมธ.
    -ข้าราชการปล่อยล้อฟรี
    -ไม่ปิดด่านศุลกากร
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มองการประชุม JBC ทำไทยเพลี่ยงพล้ำ เสียเปรียบกัมพูชา เรียกร้องรัฐบาล 7 ข้อ ได้แก่ 1.เปิดเผยเอกสารผลการประชุม 2.เปลี่ยนประธานฝ่ายไทย เนื่องจากมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อประเทศ 3.ยกเลิก MOU2543 และ MOU 2544 4.ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ที่ระบุพิกัดเขตแดน 5.แถลงประท้วงที่เขมรนำ 4 พื้นที่ ให้ศาลโลกพิจารณา 6.รัฐบาลอย่าแทรกแแซงกองทัพ ปล่อยให้กองทัพแก้ปัญหา และ 7.ถ้ารัฐบาลยังเกรงใจอริราชศัตรู ใส่ร้ายประเทศไทย ขอให้กองทัพประกาศกฎอัยการศึก ย้ำ แค่ไทยไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และไม่ขึ้นศาลโลก ก็ถือว่าชัดเจนแล้ว -ไทยไม่ยอมถูกข่มขู่ -กลาโหมเลื่อนแจงกมธ. -ข้าราชการปล่อยล้อฟรี -ไม่ปิดด่านศุลกากร
    Like
    Love
    Wow
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 38 1 รีวิว
  • เพื่อนเพจที่ได้อ่านนิยาย/ดูละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> คงจำได้ว่า เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่พูดถึงการใช้ข้อมูลจากบันทึกและทะเบียนต่างๆ มาใช้ในการแกะรอยคนร้าย มีหลายประเด็นที่ทำให้ Storyฯ สงสัยเลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม

    เรื่องที่จะเล่าวันนี้มีความ ‘เอ๊ะ’ ตรงไหน เรามาดูจากคำพูดข้างล่างจากในละครเรื่องนี้
    ... สวีปินกล่าว “จากบันทึกทะเบียนบ้านของคนผู้นี้ เขาย้ายมาฉางอันเมื่อปีที่ยี่สิบหกในรัชศกก่อน จดทะเบียนในนามหลงปอ ต่อมาย้ายบ้านหลายครา เมื่อปีที่แล้วย้ายเข้าหวยหย่วนฟาง ที่ดูน่าสงสัยคือ เมื่อปลายปีรัชศกเทียนเป่าปีที่สอง มีการจัดทำสมุดทะเบียนใหม่ กำหนดให้ใส่รายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน แต่ทะเบียนของหลงปอยังคงเป็นทะเบียนเก่าสมัยรัชศกก่อน ไม่เคยระบุรายละเอียดหน้าตา”...

    เพื่อนเพจสงสัยเหมือนกันไหมว่า ทะเบียนราษฎร์ในสมัยราชวงศ์ถัง (รัชศกเทียนเป่าคือช่วงปีค.ศ. 742-756) ถึงขนาดมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจนเชียวหรือ?

    ไปค้นข้อมูลมาจึงพบว่า การนับจำนวนประชากรในจีนโบราณมีมาตั้งแต่กว่าสองพันปีก่อนคริสตกาล เดิมเป็นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อไว้เพื่อช่วยเหลือคนในยามเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเพียงการนับจำนวนประชากรหรือมีการบันทึกรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ปี 1045-771 ก่อนคริสตกาล) มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์ทุกสามปี รายละเอียดที่บันทึกไว้รวมถึงวันเกิด วันตาย เพศ และที่อยู่ของประชาชน

    ในสมัยฉิน มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์อย่างเข้มงวด นอกจากรายละเอียดข้างต้นยังมีการระบุเจ้าบ้าน ชื่อสามี-ภรรยา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อใช้ในการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหาร

    ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 221) ประชาชนมีหน้าที่รายงานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัวทุกปี โดยข้อมูลจะถูกตรวจสอบโดยทางการท้องถิ่นอีกครั้งก่อนจะรวบรวมส่งทางการส่วนกลาง รายละเอียดที่บันทึกรวมถึงชื่อแซ่ อายุ ภูมิลำเนาเดิม สถานะสมรส รายละเอียดหน้าตา รายได้ และจำนวนพื้นที่ของที่ดินที่ถือครอง หากจะย้ายบ้าน ต้องทำการรายงานกับที่ว่าการท้องถิ่นก่อนจึงจะย้ายออกได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนพเนจร ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย (คือโดนฆ่าตายก็ไม่มีการสืบสวนเอาผิดคนฆ่า) ว่ากันว่าทะเบียนราษฏร์สมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ละเอียดถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่าครั้งใดที่จีนเคยทำมาในอดีต

    การจัดทำทะเบียนราษฎร์มีต่อมาเรื่อยๆ และมีการลงรายละเอียดมากขึ้นในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ซึ่งเรื่องราวของ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เกิดขึ้นในสมัยนี้) ในสมัยนั้น ทะเบียนราษฎร์คือการสรุปรวมข้อมูลของทะเบียนบ้านหรือที่เรียกว่า ‘โส่วสือ’ (手实) มีการจัดแยกหมวดหมู่ตามสถานะ กล่าวคือเป็นเจ้าบ้าน เป็นสมาชิกของตระกูล หรือเป็นผู้อยู่อาศัยในเรือนเช่นทาส บ่าว นักดนตรี ฯลฯ และมีการบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมของรูปพรรณสัณฐาน เช่นส่วนสูง สีผิว เป็นต้น โดยมีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่จะมีสิทธิแยกออกมาจัดตั้งครัวเรือนใหม่ได้ (Storyฯ เพิ่งเข้าใจบริบทที่ว่าบางนิยายจีนโบราณกล่าวถึงการ ‘แยกบ้าน’ ของคนในตระกูลเดียวกันที่ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต) สำหรับชาวไร่ชาวนา ข้อมูลจากโส่วสือยังถูกใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยอิงตามจำนวนสมาชิกในบ้าน

    ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกคืออาชีพของคนในบ้าน เช่น นายช่าง ทหาร หรือข้าราชการ ฯลฯ และมีรายละเอียดรายรับและสินทรัพย์ของแต่ละคนเพิ่มเติม เช่นจำนวนที่ดิน บ้าน ร้านค้า รถม้า เรือ ฯลฯ ทะเบียนราษฎร์นี้เรียกว่า ‘หวงเช่อ’ (黄册) แปลตรงตัวว่าสมุดเหลือง เพราะมักใช้ปกสีเหลือง (โนว์... ไม่ใช่สมุดโทรศัพท์ Yellow Pages จ้า) อีกทั้งการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาใช้เพิ่มดีกรีความเข้มข้น ใครจะเดินทางต้องพกเอกสารใบอนุญาตที่มีข้อมูลประจำตัวและบ้าน (Storyฯ นึกถึงในละครที่จะผ่านประตูเมืองแต่ละครั้งต้องควักเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง)

    Storyฯ รู้สึกทึ่งว่า แบบแผนการบริหารงานบ้านเมืองในโลกปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ได้หนีจากของโบราณที่มีมาหลายพันปีแล้วเลย คนโบราณช่างคิดช่างทำ เก่งจริง เพื่อนๆ ว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://luvasianseries.blogspot.com/2020/10/longest-day-in-changan.html
    https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/113664748
    http://www.naradafoundation.org/content/6526
    https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html

    #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ประวัติศาสตร์จีน #ทะเบียนราษฎร์จีน #ราชวงศ์ถัง
    เพื่อนเพจที่ได้อ่านนิยาย/ดูละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> คงจำได้ว่า เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่พูดถึงการใช้ข้อมูลจากบันทึกและทะเบียนต่างๆ มาใช้ในการแกะรอยคนร้าย มีหลายประเด็นที่ทำให้ Storyฯ สงสัยเลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม เรื่องที่จะเล่าวันนี้มีความ ‘เอ๊ะ’ ตรงไหน เรามาดูจากคำพูดข้างล่างจากในละครเรื่องนี้ ... สวีปินกล่าว “จากบันทึกทะเบียนบ้านของคนผู้นี้ เขาย้ายมาฉางอันเมื่อปีที่ยี่สิบหกในรัชศกก่อน จดทะเบียนในนามหลงปอ ต่อมาย้ายบ้านหลายครา เมื่อปีที่แล้วย้ายเข้าหวยหย่วนฟาง ที่ดูน่าสงสัยคือ เมื่อปลายปีรัชศกเทียนเป่าปีที่สอง มีการจัดทำสมุดทะเบียนใหม่ กำหนดให้ใส่รายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน แต่ทะเบียนของหลงปอยังคงเป็นทะเบียนเก่าสมัยรัชศกก่อน ไม่เคยระบุรายละเอียดหน้าตา”... เพื่อนเพจสงสัยเหมือนกันไหมว่า ทะเบียนราษฎร์ในสมัยราชวงศ์ถัง (รัชศกเทียนเป่าคือช่วงปีค.ศ. 742-756) ถึงขนาดมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจนเชียวหรือ? ไปค้นข้อมูลมาจึงพบว่า การนับจำนวนประชากรในจีนโบราณมีมาตั้งแต่กว่าสองพันปีก่อนคริสตกาล เดิมเป็นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อไว้เพื่อช่วยเหลือคนในยามเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเพียงการนับจำนวนประชากรหรือมีการบันทึกรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ปี 1045-771 ก่อนคริสตกาล) มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์ทุกสามปี รายละเอียดที่บันทึกไว้รวมถึงวันเกิด วันตาย เพศ และที่อยู่ของประชาชน ในสมัยฉิน มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์อย่างเข้มงวด นอกจากรายละเอียดข้างต้นยังมีการระบุเจ้าบ้าน ชื่อสามี-ภรรยา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อใช้ในการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหาร ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 221) ประชาชนมีหน้าที่รายงานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัวทุกปี โดยข้อมูลจะถูกตรวจสอบโดยทางการท้องถิ่นอีกครั้งก่อนจะรวบรวมส่งทางการส่วนกลาง รายละเอียดที่บันทึกรวมถึงชื่อแซ่ อายุ ภูมิลำเนาเดิม สถานะสมรส รายละเอียดหน้าตา รายได้ และจำนวนพื้นที่ของที่ดินที่ถือครอง หากจะย้ายบ้าน ต้องทำการรายงานกับที่ว่าการท้องถิ่นก่อนจึงจะย้ายออกได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนพเนจร ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย (คือโดนฆ่าตายก็ไม่มีการสืบสวนเอาผิดคนฆ่า) ว่ากันว่าทะเบียนราษฏร์สมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ละเอียดถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่าครั้งใดที่จีนเคยทำมาในอดีต การจัดทำทะเบียนราษฎร์มีต่อมาเรื่อยๆ และมีการลงรายละเอียดมากขึ้นในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ซึ่งเรื่องราวของ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เกิดขึ้นในสมัยนี้) ในสมัยนั้น ทะเบียนราษฎร์คือการสรุปรวมข้อมูลของทะเบียนบ้านหรือที่เรียกว่า ‘โส่วสือ’ (手实) มีการจัดแยกหมวดหมู่ตามสถานะ กล่าวคือเป็นเจ้าบ้าน เป็นสมาชิกของตระกูล หรือเป็นผู้อยู่อาศัยในเรือนเช่นทาส บ่าว นักดนตรี ฯลฯ และมีการบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมของรูปพรรณสัณฐาน เช่นส่วนสูง สีผิว เป็นต้น โดยมีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่จะมีสิทธิแยกออกมาจัดตั้งครัวเรือนใหม่ได้ (Storyฯ เพิ่งเข้าใจบริบทที่ว่าบางนิยายจีนโบราณกล่าวถึงการ ‘แยกบ้าน’ ของคนในตระกูลเดียวกันที่ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต) สำหรับชาวไร่ชาวนา ข้อมูลจากโส่วสือยังถูกใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยอิงตามจำนวนสมาชิกในบ้าน ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกคืออาชีพของคนในบ้าน เช่น นายช่าง ทหาร หรือข้าราชการ ฯลฯ และมีรายละเอียดรายรับและสินทรัพย์ของแต่ละคนเพิ่มเติม เช่นจำนวนที่ดิน บ้าน ร้านค้า รถม้า เรือ ฯลฯ ทะเบียนราษฎร์นี้เรียกว่า ‘หวงเช่อ’ (黄册) แปลตรงตัวว่าสมุดเหลือง เพราะมักใช้ปกสีเหลือง (โนว์... ไม่ใช่สมุดโทรศัพท์ Yellow Pages จ้า) อีกทั้งการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาใช้เพิ่มดีกรีความเข้มข้น ใครจะเดินทางต้องพกเอกสารใบอนุญาตที่มีข้อมูลประจำตัวและบ้าน (Storyฯ นึกถึงในละครที่จะผ่านประตูเมืองแต่ละครั้งต้องควักเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง) Storyฯ รู้สึกทึ่งว่า แบบแผนการบริหารงานบ้านเมืองในโลกปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ได้หนีจากของโบราณที่มีมาหลายพันปีแล้วเลย คนโบราณช่างคิดช่างทำ เก่งจริง เพื่อนๆ ว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://luvasianseries.blogspot.com/2020/10/longest-day-in-changan.html https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/113664748 http://www.naradafoundation.org/content/6526 https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ประวัติศาสตร์จีน #ทะเบียนราษฎร์จีน #ราชวงศ์ถัง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ##
    ..
    ..
    จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้...
    .
    ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก...
    .
    ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
    .
    เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!!
    .
    MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน)
    .
    เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว
    ....
    ....
    ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า...
    .
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย
    .
    คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ
    .
    ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย
    .
    และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง)
    .
    แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว
    .
    ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย
    .
    และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!!
    .
    คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!!
    .
    ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!!
    .
    ดังนั้น...
    .
    ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...???
    ...
    ...
    เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...???
    .
    https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ## .. .. จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้... . ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก... . ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา . เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!! . MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน) . เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว .... .... ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า... . นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย . คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ . ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย . และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง) . แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว . ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย . และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!! . คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!! . ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!! . ดังนั้น... . ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...??? ... ... เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...??? . https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชุม JBC เพลี่ยงพล้ำ ไทยเสียเปรียบเขมร : [THE MESSAGE]
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    มองการประชุม JBC ทำไทยเพลี่ยงพล้ำ เสียเปรียบกัมพูชา เรียกร้อง 7 ข้อ ถึงรัฐบาล ได้แก่ 1.เปิดเผยเอกสารการผลประชุม JBC 2.เปลี่ยนประธานฝ่ายไทยคนปัจจุบัน เนื่องจากมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อประเทศ 3.ให้ยกเลิก MOU2543 ทางบก ที่กำลังเป็นปัญหา และยกเลิก MOU 2544 4.เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ที่ระบุพิกัดเขตแดนได้ชัดเจน 5.แถลงประท้วงที่เขมรนำ 4 พื้นที่ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเหมือนโต๊ด และสามเหลี่ยมมรกต ให้ศาลโลกพิจารณา 6.รัฐบาลอย่าแทรกแแซงกองทัพ ปล่อยให้กองทัพแก้ปัญหา และ 7.ถ้ารัฐบาลยังเกรงใจอริราชศัตรู ใส่ร้ายประเทศไทย ขอให้กองทัพประกาศกฎอัยการศึก
    ประชุม JBC เพลี่ยงพล้ำ ไทยเสียเปรียบเขมร : [THE MESSAGE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มองการประชุม JBC ทำไทยเพลี่ยงพล้ำ เสียเปรียบกัมพูชา เรียกร้อง 7 ข้อ ถึงรัฐบาล ได้แก่ 1.เปิดเผยเอกสารการผลประชุม JBC 2.เปลี่ยนประธานฝ่ายไทยคนปัจจุบัน เนื่องจากมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อประเทศ 3.ให้ยกเลิก MOU2543 ทางบก ที่กำลังเป็นปัญหา และยกเลิก MOU 2544 4.เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ที่ระบุพิกัดเขตแดนได้ชัดเจน 5.แถลงประท้วงที่เขมรนำ 4 พื้นที่ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเหมือนโต๊ด และสามเหลี่ยมมรกต ให้ศาลโลกพิจารณา 6.รัฐบาลอย่าแทรกแแซงกองทัพ ปล่อยให้กองทัพแก้ปัญหา และ 7.ถ้ารัฐบาลยังเกรงใจอริราชศัตรู ใส่ร้ายประเทศไทย ขอให้กองทัพประกาศกฎอัยการศึก
    Like
    Love
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 46 1 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดตัว Microsoft 365 Copilot Notebooks ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Copilot Chat, ไฟล์, โน้ต และลิงก์ ไว้ในที่เดียวกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ลูกค้าองค์กร ที่มี Microsoft 365 Copilot, SharePoint หรือ OneDrive licenses และสามารถใช้งานได้บน OneNote เวอร์ชัน 2504 (Build 18827.20128) หรือใหม่กว่า

    สรุปเนื้อหาข่าว
    ✅ Microsoft 365 Copilot Notebooks ถูกผนวกเข้ากับ OneNote บน Windows เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลและสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    ✅ ผู้ใช้สามารถสร้าง Copilot Notebook ได้โดยไปที่ Home > Create Copilot Notebook หรือ New notebook และสามารถเพิ่มเอกสารอ้างอิง เช่น OneNote pages, .docx, .pptx, .xlsx, .pdf หรือ .loop files เพื่อให้ Copilot มีบริบทในการให้คำตอบที่แม่นยำขึ้น
    ✅ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สรุปข้อมูล, วิเคราะห์เอกสาร และสร้างเนื้อหาเสียง ได้
    ✅ มีข้อจำกัดบางประการ เช่น สามารถเพิ่มไฟล์อ้างอิงได้สูงสุด 20 ไฟล์ และสามารถเพิ่มได้เฉพาะ หน้า OneNote แต่ไม่สามารถเพิ่ม sections หรือ notebooks ได้
    ✅ ฟีเจอร์บางอย่างของ OneNote ยังไม่สามารถใช้งานได้ใน Copilot Notebooks เช่น tags, section groups, inking, templates, password protection, Immersive Reader และ offline support
    ✅ ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ Insider Preview ซึ่ง Microsoft อาจปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    ✅ AI ในการทำงาน: การใช้ AI เช่น Copilot ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยลดเวลาที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลและสร้างเนื้อหา
    ✅ แนวโน้มของ AI ในองค์กร: หลายองค์กรเริ่มนำ AI มาใช้เพื่อช่วยในการจัดการข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
    ✅ การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น: Copilot Notebooks มีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือจัดการข้อมูลอื่น ๆ เช่น Notion หรือ Evernote แต่มีการผสานรวมกับ Microsoft 365 ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้ที่อยู่ในระบบของ Microsoft

    ‼️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์: ผู้ใช้ควรทราบว่า Copilot Notebooks ยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น จำนวนไฟล์ที่สามารถเพิ่มได้ และฟีเจอร์บางอย่างของ OneNote ที่ยังไม่รองรับ
    ‼️ การใช้งานในองค์กร: เนื่องจากฟีเจอร์นี้ออกแบบมาสำหรับลูกค้าองค์กร ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึงได้
    ‼️ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: การใช้ AI ในการจัดการข้อมูลอาจมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายการใช้งานของ Microsoft เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของตนได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-365-copilot-notebooks-now-integrated-in-onenote-on-windows/
    Microsoft ได้เปิดตัว Microsoft 365 Copilot Notebooks ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Copilot Chat, ไฟล์, โน้ต และลิงก์ ไว้ในที่เดียวกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ลูกค้าองค์กร ที่มี Microsoft 365 Copilot, SharePoint หรือ OneDrive licenses และสามารถใช้งานได้บน OneNote เวอร์ชัน 2504 (Build 18827.20128) หรือใหม่กว่า สรุปเนื้อหาข่าว ✅ Microsoft 365 Copilot Notebooks ถูกผนวกเข้ากับ OneNote บน Windows เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลและสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ผู้ใช้สามารถสร้าง Copilot Notebook ได้โดยไปที่ Home > Create Copilot Notebook หรือ New notebook และสามารถเพิ่มเอกสารอ้างอิง เช่น OneNote pages, .docx, .pptx, .xlsx, .pdf หรือ .loop files เพื่อให้ Copilot มีบริบทในการให้คำตอบที่แม่นยำขึ้น ✅ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สรุปข้อมูล, วิเคราะห์เอกสาร และสร้างเนื้อหาเสียง ได้ ✅ มีข้อจำกัดบางประการ เช่น สามารถเพิ่มไฟล์อ้างอิงได้สูงสุด 20 ไฟล์ และสามารถเพิ่มได้เฉพาะ หน้า OneNote แต่ไม่สามารถเพิ่ม sections หรือ notebooks ได้ ✅ ฟีเจอร์บางอย่างของ OneNote ยังไม่สามารถใช้งานได้ใน Copilot Notebooks เช่น tags, section groups, inking, templates, password protection, Immersive Reader และ offline support ✅ ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ Insider Preview ซึ่ง Microsoft อาจปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ✅ AI ในการทำงาน: การใช้ AI เช่น Copilot ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยลดเวลาที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลและสร้างเนื้อหา ✅ แนวโน้มของ AI ในองค์กร: หลายองค์กรเริ่มนำ AI มาใช้เพื่อช่วยในการจัดการข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ✅ การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น: Copilot Notebooks มีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือจัดการข้อมูลอื่น ๆ เช่น Notion หรือ Evernote แต่มีการผสานรวมกับ Microsoft 365 ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้ที่อยู่ในระบบของ Microsoft ‼️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์: ผู้ใช้ควรทราบว่า Copilot Notebooks ยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น จำนวนไฟล์ที่สามารถเพิ่มได้ และฟีเจอร์บางอย่างของ OneNote ที่ยังไม่รองรับ ‼️ การใช้งานในองค์กร: เนื่องจากฟีเจอร์นี้ออกแบบมาสำหรับลูกค้าองค์กร ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ ‼️ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: การใช้ AI ในการจัดการข้อมูลอาจมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้ควรตรวจสอบนโยบายการใช้งานของ Microsoft เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของตนได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม https://www.neowin.net/news/microsoft-365-copilot-notebooks-now-integrated-in-onenote-on-windows/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft 365 Copilot Notebooks now integrated in OneNote on Windows
    Microsoft has announced the availability of Microsoft 365 Copilot Notebooks in OneNote for Windows as an Insider preview for Enterprise customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาขยายมาตรการจำกัดด้านการเดินทางครั้งใหญ่ โดยเป็นไปได้ที่จะมีการแบนพลเมืองของประเทศต่างๆเพิ่มเติมอีก 36 ชาติ จากการเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ ตามรายงานของรอยเตอร์อ้างอิงเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000056325

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาขยายมาตรการจำกัดด้านการเดินทางครั้งใหญ่ โดยเป็นไปได้ที่จะมีการแบนพลเมืองของประเทศต่างๆเพิ่มเติมอีก 36 ชาติ จากการเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ ตามรายงานของรอยเตอร์อ้างอิงเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000056325 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1066 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts