• เรื่องเล่าจากยุค 90 ที่กลับมาอีกครั้ง: Settlers II บุก Amiga หลังรอคอยเกือบ 30 ปี

    ย้อนกลับไปในปี 1993 เกม The Settlers ภาคแรกเปิดตัวบนเครื่อง Amiga และกลายเป็นหนึ่งในเกมแนววางแผนสร้างเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น ด้วยกราฟิกน่ารัก ระบบเศรษฐกิจซับซ้อน และการเล่นที่ลื่นไหล มันกลายเป็นตำนานของแฟน Amiga ทั่วโลก

    แต่เมื่อภาคต่อ The Settlers II: Veni, Vidi, Vici เปิดตัวในปี 1996 กลับมีให้เล่นเฉพาะบน PC/DOS เท่านั้น ทำให้แฟน Amiga ต้องมองอย่างอิจฉาและผิดหวังมานานหลายสิบปี

    จนกระทั่งปี 2025 ทีมพัฒนา Look Behind You จากเยอรมนี ได้รับลิขสิทธิ์จาก Ubisoft และนำภาค Gold Edition มาสู่ Amiga อย่างเป็นทางการ พร้อมปรับแต่งให้เหมาะกับฮาร์ดแวร์ของ Amiga โดยเฉพาะ

    เกมเวอร์ชันนี้รองรับทั้ง Amiga แบบ 68k และ PowerPC พร้อมเนื้อหาเต็มรูปแบบ ทั้ง 10 แคมเปญโรมัน 9 แคมเปญโลก และแผนที่โบนัสกว่า 130 แบบ รวมถึง 4 เผ่าพันธุ์ให้เลือกเล่น ได้แก่ โรมัน, เอเชีย, นูเบียน และไวกิ้ง

    สำหรับแฟนพันธุ์แท้ ยังมีให้เลือกซื้อถึง 3 รุ่น: Digital Edition, Boxed Edition และ Collector’s Edition ที่มาในกล่องไม้สุดคลาสสิก พร้อมของสะสมสุดพรีเมียม

    การกลับมาของ The Settlers II บน Amiga
    เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ตุลาคม 2025 โดยทีม Look Behind You
    ได้รับลิขสิทธิ์จาก Ubisoft ซึ่งเป็นเจ้าของ Blue Byte ผู้สร้างเกมต้นฉบับ

    เนื้อหาเกมที่ครบถ้วนและขยายเพิ่มเติม
    มี 10 แคมเปญโรมัน, 9 แคมเปญโลก และแผนที่โบนัสกว่า 130 แบบ
    รองรับ 4 เผ่าพันธุ์: โรมัน, เอเชีย, นูเบียน และไวกิ้ง พร้อมระบบเศรษฐกิจซับซ้อน

    เวอร์ชันที่วางจำหน่าย
    Digital Edition ราคา €29.90 สำหรับดาวน์โหลด
    Boxed Edition ราคา €49.90 มาพร้อม DVD, โค้ดดาวน์โหลด, แผนที่โลก, คู่มือ และโปสการ์ด
    Collector’s Edition ราคา €99.90 มาในกล่องไม้พร้อมแม่เหล็กลายปราสาท และของสะสมครบชุด

    ความต้องการระบบของเวอร์ชัน Amiga
    สำหรับ 68k: ต้องใช้ Amiga AGA พร้อม CPU 68040 ที่ 40 MHz และ RAM 32MB
    สำหรับ PowerPC: ต้องใช้ CPU 175 MHz ขึ้นไป และ AmigaOS 4.1 หรือ 3.1 พร้อม WarpUP
    การเล่นที่ความละเอียดสูงต้องใช้กราฟิกการ์ดและ CPU ที่แรงขึ้น เช่น 68060 หรือ PiStorm

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/after-nearly-30-years-settlers-ii-arrives-on-amiga-classic-rts-sequel-finally-gets-the-commodore-version-it-deserved
    🎮 เรื่องเล่าจากยุค 90 ที่กลับมาอีกครั้ง: Settlers II บุก Amiga หลังรอคอยเกือบ 30 ปี ย้อนกลับไปในปี 1993 เกม The Settlers ภาคแรกเปิดตัวบนเครื่อง Amiga และกลายเป็นหนึ่งในเกมแนววางแผนสร้างเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น ด้วยกราฟิกน่ารัก ระบบเศรษฐกิจซับซ้อน และการเล่นที่ลื่นไหล มันกลายเป็นตำนานของแฟน Amiga ทั่วโลก แต่เมื่อภาคต่อ The Settlers II: Veni, Vidi, Vici เปิดตัวในปี 1996 กลับมีให้เล่นเฉพาะบน PC/DOS เท่านั้น ทำให้แฟน Amiga ต้องมองอย่างอิจฉาและผิดหวังมานานหลายสิบปี จนกระทั่งปี 2025 ทีมพัฒนา Look Behind You จากเยอรมนี ได้รับลิขสิทธิ์จาก Ubisoft และนำภาค Gold Edition มาสู่ Amiga อย่างเป็นทางการ พร้อมปรับแต่งให้เหมาะกับฮาร์ดแวร์ของ Amiga โดยเฉพาะ เกมเวอร์ชันนี้รองรับทั้ง Amiga แบบ 68k และ PowerPC พร้อมเนื้อหาเต็มรูปแบบ ทั้ง 10 แคมเปญโรมัน 9 แคมเปญโลก และแผนที่โบนัสกว่า 130 แบบ รวมถึง 4 เผ่าพันธุ์ให้เลือกเล่น ได้แก่ โรมัน, เอเชีย, นูเบียน และไวกิ้ง สำหรับแฟนพันธุ์แท้ ยังมีให้เลือกซื้อถึง 3 รุ่น: Digital Edition, Boxed Edition และ Collector’s Edition ที่มาในกล่องไม้สุดคลาสสิก พร้อมของสะสมสุดพรีเมียม ✅ การกลับมาของ The Settlers II บน Amiga ➡️ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ตุลาคม 2025 โดยทีม Look Behind You ➡️ ได้รับลิขสิทธิ์จาก Ubisoft ซึ่งเป็นเจ้าของ Blue Byte ผู้สร้างเกมต้นฉบับ ✅ เนื้อหาเกมที่ครบถ้วนและขยายเพิ่มเติม ➡️ มี 10 แคมเปญโรมัน, 9 แคมเปญโลก และแผนที่โบนัสกว่า 130 แบบ ➡️ รองรับ 4 เผ่าพันธุ์: โรมัน, เอเชีย, นูเบียน และไวกิ้ง พร้อมระบบเศรษฐกิจซับซ้อน ✅ เวอร์ชันที่วางจำหน่าย ➡️ Digital Edition ราคา €29.90 สำหรับดาวน์โหลด ➡️ Boxed Edition ราคา €49.90 มาพร้อม DVD, โค้ดดาวน์โหลด, แผนที่โลก, คู่มือ และโปสการ์ด ➡️ Collector’s Edition ราคา €99.90 มาในกล่องไม้พร้อมแม่เหล็กลายปราสาท และของสะสมครบชุด ✅ ความต้องการระบบของเวอร์ชัน Amiga ➡️ สำหรับ 68k: ต้องใช้ Amiga AGA พร้อม CPU 68040 ที่ 40 MHz และ RAM 32MB ➡️ สำหรับ PowerPC: ต้องใช้ CPU 175 MHz ขึ้นไป และ AmigaOS 4.1 หรือ 3.1 พร้อม WarpUP ➡️ การเล่นที่ความละเอียดสูงต้องใช้กราฟิกการ์ดและ CPU ที่แรงขึ้น เช่น 68060 หรือ PiStorm https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/after-nearly-30-years-settlers-ii-arrives-on-amiga-classic-rts-sequel-finally-gets-the-commodore-version-it-deserved
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าหน้าร้อน: มือถือร้อนเกินไป...ไม่ใช่แค่รำคาญ แต่เสี่ยงพังจริง!

    หน้าร้อนปีนี้ หลายประเทศทั่วโลกเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ต้องระวัง—มือถือของเราก็เสี่ยงเช่นกัน!

    มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น iPhone และ iPad ควรใช้งานในช่วง 0–35°C ถ้าเกินกว่านี้ เครื่องอาจเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือระบบปิดตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย

    หลายคนอาจเคยเห็นข้อความเตือน “iPhone needs to cool down” หรือหน้าจอ Android ที่มืดลง ปิดแอป และหยุดชาร์จอัตโนมัติ—นั่นคือสัญญาณว่ามือถือกำลังร้อนเกินไป

    สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือเอาเครื่องไปแช่ตู้เย็น เพราะความชื้นอาจทำให้วงจรเสียหายได้ และการใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้องกลางแดดจัด ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก

    วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ:
    - ปิดเครื่องชั่วคราว
    - ถอดเคสออก
    - วางไว้ในที่เย็น เช่น ห้องแอร์หรือหน้าพัดลม
    - หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนหรือใต้หมอน

    และถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้—ความร้อนยังส่งผลต่อ CPU, GPU, แบตเตอรี่, RAM และหน้าจอโดยตรง เช่น ทำให้เครื่องช้า แบตเสื่อมเร็ว หรือจอเกิด burn-in ได้เลยทีเดียว

    คำเตือนเกี่ยวกับการจัดการความร้อนผิดวิธี
    ห้ามนำมือถือไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพราะอาจเกิดความชื้นและทำให้เครื่องเสีย
    ห้ามใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ กลางแดดจัด เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้อง

    ผลกระทบระยะยาวจากความร้อนต่อมือถือ
    CPU และ GPU จะลดความเร็วลง ทำให้เครื่องช้า
    แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บไฟได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการบวมหรือระเบิด
    หน้าจออาจเกิด burn-in หรือภาพติดถาวร
    RAM ทำงานผิดปกติ ทำให้แอปค้างหรือปิดตัวเอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/15/one-tech-tip-this-summer-don039t-let-your-phone-overheat
    📱เรื่องเล่าหน้าร้อน: มือถือร้อนเกินไป...ไม่ใช่แค่รำคาญ แต่เสี่ยงพังจริง! หน้าร้อนปีนี้ หลายประเทศทั่วโลกเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ต้องระวัง—มือถือของเราก็เสี่ยงเช่นกัน! มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น iPhone และ iPad ควรใช้งานในช่วง 0–35°C ถ้าเกินกว่านี้ เครื่องอาจเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือระบบปิดตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย หลายคนอาจเคยเห็นข้อความเตือน “iPhone needs to cool down” หรือหน้าจอ Android ที่มืดลง ปิดแอป และหยุดชาร์จอัตโนมัติ—นั่นคือสัญญาณว่ามือถือกำลังร้อนเกินไป สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือเอาเครื่องไปแช่ตู้เย็น เพราะความชื้นอาจทำให้วงจรเสียหายได้ และการใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้องกลางแดดจัด ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ: - ปิดเครื่องชั่วคราว - ถอดเคสออก - วางไว้ในที่เย็น เช่น ห้องแอร์หรือหน้าพัดลม - หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนหรือใต้หมอน และถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้—ความร้อนยังส่งผลต่อ CPU, GPU, แบตเตอรี่, RAM และหน้าจอโดยตรง เช่น ทำให้เครื่องช้า แบตเสื่อมเร็ว หรือจอเกิด burn-in ได้เลยทีเดียว ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการจัดการความร้อนผิดวิธี ⛔ ห้ามนำมือถือไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพราะอาจเกิดความชื้นและทำให้เครื่องเสีย ⛔ ห้ามใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ กลางแดดจัด เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้อง ‼️ ผลกระทบระยะยาวจากความร้อนต่อมือถือ ⛔ CPU และ GPU จะลดความเร็วลง ทำให้เครื่องช้า ⛔ แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บไฟได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการบวมหรือระเบิด ⛔ หน้าจออาจเกิด burn-in หรือภาพติดถาวร ⛔ RAM ทำงานผิดปกติ ทำให้แอปค้างหรือปิดตัวเอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/15/one-tech-tip-this-summer-don039t-let-your-phone-overheat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไอที: จากเงินเดือนแสนห้า สู่การสมัครงานที่ Chipotle

    ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน ถ้าคุณเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ วิทยาการข้อมูล หรือวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คุณแทบจะเลือกได้เลยว่าจะทำงานที่ไหน เงินเดือนเริ่มต้นทะลุ $100,000 พร้อมโบนัสและหุ้นอีกหลายหมื่นดอลลาร์ หลายคนจึงมุ่งหน้าเข้าสู่สายนี้ด้วยความหวังว่าจะได้งานดี เงินดี และชีวิตมั่นคง

    แต่ในปี 2025 ภาพนั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    นักศึกษาจบใหม่อย่าง Manasi Mishra จากมหาวิทยาลัย Purdue เล่าว่าเธอเรียนเขียนโค้ดมาตั้งแต่เด็ก ทำเว็บไซต์ตั้งแต่ประถม และตั้งใจเรียนสายคอมเต็มที่ แต่หลังจากจบการศึกษา เธอกลับไม่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีเลย มีเพียง Chipotle ร้านอาหารที่เรียกเธอไปสัมภาษณ์

    เหตุผลหลักคือบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Amazon, Microsoft, Meta และ Intel ต่างลดจำนวนพนักงาน และหันไปใช้เครื่องมือ AI ที่สามารถเขียนโค้ดได้เอง เช่น GitHub Copilot, CodeRabbit หรือ Devin จาก Cognition AI ซึ่งสามารถเขียนและดีบักโค้ดได้จากคำสั่งภาษาธรรมชาติ

    ผลคือ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นที่เคยเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ และทำให้คนรุ่นใหม่ต้องหางานนอกสายที่เรียนมา บางคนสมัครงานที่ McDonald’s แต่ยังถูกปฏิเสธเพราะ “ไม่มีประสบการณ์”

    แม้จะมีความหวังว่า AI จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ แต่ในระยะสั้น นักศึกษาจบใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรง การคัดกรองด้วยระบบอัตโนมัติ และความรู้สึกว่าถูก “หลอก” ให้เรียนในสายที่ไม่มีงานรองรับ

    ความเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานสายเทคโนโลยี
    บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ลดจำนวนพนักงานและหันไปใช้ AI coding tools
    ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นถูกลดลงอย่างมาก ทำให้นักศึกษาจบใหม่หางานยาก

    ความคาดหวังในอดีตที่ไม่เป็นจริง
    นักศึกษาถูกกระตุ้นให้เรียนเขียนโค้ดด้วยสัญญาว่าจะได้งานเงินเดือนสูง
    จำนวนผู้เรียนสายคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

    การใช้ AI ในการเขียนโค้ดและคัดกรองผู้สมัคร
    เครื่องมืออย่าง GitHub Copilot, CodeRabbit, Devin สามารถเขียนโค้ดได้จากคำสั่งภาษา
    บริษัทใช้ AI คัดกรองใบสมัคร ทำให้ผู้สมัครถูกปฏิเสธโดยไม่มีโอกาสแสดงความสามารถ

    ความพยายามปรับตัวของนักศึกษาจบใหม่
    บางคนหันไปเน้นทักษะมนุษย์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้โดดเด่น
    บางคนเปลี่ยนสายงาน เช่น Mishra ที่หันไปทำงานด้านการขายเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/goodbye-us165000-tech-jobs-student-coders-seek-work-at-chipotle
    🎙️เรื่องเล่าจากโลกไอที: จากเงินเดือนแสนห้า สู่การสมัครงานที่ Chipotle ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน ถ้าคุณเรียนจบด้านคอมพิวเตอร์ วิทยาการข้อมูล หรือวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คุณแทบจะเลือกได้เลยว่าจะทำงานที่ไหน เงินเดือนเริ่มต้นทะลุ $100,000 พร้อมโบนัสและหุ้นอีกหลายหมื่นดอลลาร์ หลายคนจึงมุ่งหน้าเข้าสู่สายนี้ด้วยความหวังว่าจะได้งานดี เงินดี และชีวิตมั่นคง แต่ในปี 2025 ภาพนั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นักศึกษาจบใหม่อย่าง Manasi Mishra จากมหาวิทยาลัย Purdue เล่าว่าเธอเรียนเขียนโค้ดมาตั้งแต่เด็ก ทำเว็บไซต์ตั้งแต่ประถม และตั้งใจเรียนสายคอมเต็มที่ แต่หลังจากจบการศึกษา เธอกลับไม่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทเทคโนโลยีเลย มีเพียง Chipotle ร้านอาหารที่เรียกเธอไปสัมภาษณ์ เหตุผลหลักคือบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Amazon, Microsoft, Meta และ Intel ต่างลดจำนวนพนักงาน และหันไปใช้เครื่องมือ AI ที่สามารถเขียนโค้ดได้เอง เช่น GitHub Copilot, CodeRabbit หรือ Devin จาก Cognition AI ซึ่งสามารถเขียนและดีบักโค้ดได้จากคำสั่งภาษาธรรมชาติ ผลคือ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นที่เคยเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ และทำให้คนรุ่นใหม่ต้องหางานนอกสายที่เรียนมา บางคนสมัครงานที่ McDonald’s แต่ยังถูกปฏิเสธเพราะ “ไม่มีประสบการณ์” แม้จะมีความหวังว่า AI จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ แต่ในระยะสั้น นักศึกษาจบใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรง การคัดกรองด้วยระบบอัตโนมัติ และความรู้สึกว่าถูก “หลอก” ให้เรียนในสายที่ไม่มีงานรองรับ ✅ ความเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานสายเทคโนโลยี ➡️ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ลดจำนวนพนักงานและหันไปใช้ AI coding tools ➡️ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นถูกลดลงอย่างมาก ทำให้นักศึกษาจบใหม่หางานยาก ✅ ความคาดหวังในอดีตที่ไม่เป็นจริง ➡️ นักศึกษาถูกกระตุ้นให้เรียนเขียนโค้ดด้วยสัญญาว่าจะได้งานเงินเดือนสูง ➡️ จำนวนผู้เรียนสายคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ✅ การใช้ AI ในการเขียนโค้ดและคัดกรองผู้สมัคร ➡️ เครื่องมืออย่าง GitHub Copilot, CodeRabbit, Devin สามารถเขียนโค้ดได้จากคำสั่งภาษา ➡️ บริษัทใช้ AI คัดกรองใบสมัคร ทำให้ผู้สมัครถูกปฏิเสธโดยไม่มีโอกาสแสดงความสามารถ ✅ ความพยายามปรับตัวของนักศึกษาจบใหม่ ➡️ บางคนหันไปเน้นทักษะมนุษย์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้โดดเด่น ➡️ บางคนเปลี่ยนสายงาน เช่น Mishra ที่หันไปทำงานด้านการขายเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/goodbye-us165000-tech-jobs-student-coders-seek-work-at-chipotle
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Goodbye, US$165,000 tech jobs. Student coders seek work at Chipotle.
    As companies like Amazon and Microsoft lay off workers and embrace A.I. coding tools, computer science graduates say they're struggling to land tech jobs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนาม AI: ลงทุนเป็นพันล้าน แต่ผลลัพธ์ยังไม่มา

    ลองนึกภาพบริษัททั่วโลกกำลังเทเงินมหาศาลลงในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยความหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนเกม ทั้งลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับคล้ายกับ “Productivity Paradox” ที่เคยเกิดขึ้นในยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเมื่อ 40 ปีก่อน—ลงทุนเยอะ แต่ผลผลิตไม่เพิ่มตามที่คาดไว้

    บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เพื่อช่วยงานหลังบ้าน เช่น การเงิน ทรัพยากรบุคคล และบริการลูกค้า แต่หลายโครงการกลับล้มเหลวเพราะปัญหาทางเทคนิคและ “ปัจจัยมนุษย์” เช่น พนักงานต่อต้าน ขาดทักษะ หรือไม่เข้าใจการใช้งาน

    แม้จะมีความคาดหวังสูงจากเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT หรือระบบอัตโนมัติ แต่ผลตอบแทนที่แท้จริงยังไม่ปรากฏชัดในตัวเลขกำไรของบริษัทนอกวงการเทคโนโลยี บางบริษัทถึงกับยกเลิกโครงการนำร่องไปเกือบครึ่ง

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า AI อาจเป็น “เทคโนโลยีทั่วไป” (General Purpose Technology) เหมือนกับไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการปรับตัวก่อนจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง

    การลงทุนใน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    บริษัททั่วโลกเทเงินกว่า 61.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อพัฒนา AI
    อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ธนาคาร และค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ลงทุนมากที่สุด
    บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Microsoft, Google, Amazon และ Nvidia เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักในตอนนี้

    ปรากฏการณ์ Productivity Paradox กลับมาอีกครั้ง
    แม้จะมีการใช้ AI อย่างแพร่หลาย แต่ผลผลิตทางเศรษฐกิจยังไม่เพิ่มขึ้น
    ปัญหาหลักคือการนำ AI ไปใช้งานจริงยังไม่แพร่หลาย และต้องการการปรับตัวในองค์กร

    ตัวอย่างบริษัทที่เริ่มใช้ AI อย่างจริงจัง
    USAA ใช้ AI ช่วยพนักงานบริการลูกค้า 16,000 คนในการตอบคำถาม
    แม้ยังไม่มีตัวเลขผลตอบแทนที่ชัดเจน แต่พนักงานตอบรับในทางบวก

    ความล้มเหลวของโครงการ AI นำร่อง
    42% ของบริษัทที่เริ่มโครงการ AI ต้องยกเลิกภายในปี 2024
    ปัญหาหลักมาจาก “ปัจจัยมนุษย์” เช่น ขาดทักษะหรือความเข้าใจ

    ความคาดหวังที่อาจเกินจริง
    Gartner คาดว่า AI กำลังเข้าสู่ “ช่วงแห่งความผิดหวัง” ก่อนจะฟื้นตัว
    CEO ของ Ford คาดว่า AI จะมาแทนที่พนักงานออฟฟิศครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/companies-are-pouring-billions-into-ai-it-has-yet-to-pay-off
    🎙️เรื่องเล่าจากสนาม AI: ลงทุนเป็นพันล้าน แต่ผลลัพธ์ยังไม่มา ลองนึกภาพบริษัททั่วโลกกำลังเทเงินมหาศาลลงในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยความหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนเกม ทั้งลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับคล้ายกับ “Productivity Paradox” ที่เคยเกิดขึ้นในยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเมื่อ 40 ปีก่อน—ลงทุนเยอะ แต่ผลผลิตไม่เพิ่มตามที่คาดไว้ บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เพื่อช่วยงานหลังบ้าน เช่น การเงิน ทรัพยากรบุคคล และบริการลูกค้า แต่หลายโครงการกลับล้มเหลวเพราะปัญหาทางเทคนิคและ “ปัจจัยมนุษย์” เช่น พนักงานต่อต้าน ขาดทักษะ หรือไม่เข้าใจการใช้งาน แม้จะมีความคาดหวังสูงจากเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT หรือระบบอัตโนมัติ แต่ผลตอบแทนที่แท้จริงยังไม่ปรากฏชัดในตัวเลขกำไรของบริษัทนอกวงการเทคโนโลยี บางบริษัทถึงกับยกเลิกโครงการนำร่องไปเกือบครึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า AI อาจเป็น “เทคโนโลยีทั่วไป” (General Purpose Technology) เหมือนกับไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการปรับตัวก่อนจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง ✅ การลงทุนใน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ บริษัททั่วโลกเทเงินกว่า 61.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อพัฒนา AI ➡️ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ธนาคาร และค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ลงทุนมากที่สุด ➡️ บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Microsoft, Google, Amazon และ Nvidia เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักในตอนนี้ ✅ ปรากฏการณ์ Productivity Paradox กลับมาอีกครั้ง ➡️ แม้จะมีการใช้ AI อย่างแพร่หลาย แต่ผลผลิตทางเศรษฐกิจยังไม่เพิ่มขึ้น ➡️ ปัญหาหลักคือการนำ AI ไปใช้งานจริงยังไม่แพร่หลาย และต้องการการปรับตัวในองค์กร ✅ ตัวอย่างบริษัทที่เริ่มใช้ AI อย่างจริงจัง ➡️ USAA ใช้ AI ช่วยพนักงานบริการลูกค้า 16,000 คนในการตอบคำถาม ➡️ แม้ยังไม่มีตัวเลขผลตอบแทนที่ชัดเจน แต่พนักงานตอบรับในทางบวก ‼️ ความล้มเหลวของโครงการ AI นำร่อง ⛔ 42% ของบริษัทที่เริ่มโครงการ AI ต้องยกเลิกภายในปี 2024 ⛔ ปัญหาหลักมาจาก “ปัจจัยมนุษย์” เช่น ขาดทักษะหรือความเข้าใจ ‼️ ความคาดหวังที่อาจเกินจริง ⛔ Gartner คาดว่า AI กำลังเข้าสู่ “ช่วงแห่งความผิดหวัง” ก่อนจะฟื้นตัว ⛔ CEO ของ Ford คาดว่า AI จะมาแทนที่พนักงานออฟฟิศครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/companies-are-pouring-billions-into-ai-it-has-yet-to-pay-off
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Companies are pouring billions into AI. It has yet to pay off.
    Corporate spending on artificial intelligence is surging as executives bank on major efficiency gains. So far, they report little effect to the bottom line.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณมีแค่ MacBook Pro กับเวลา 5 นาที — คุณจะฝึก AI ได้แค่ไหน?

    Sean Goedecke ตั้งคำถามเล่น ๆ ว่า “ถ้ามีแค่ MacBook Pro กับเวลา 5 นาที จะฝึกโมเดล AI ที่แข็งแกร่งที่สุดได้แค่ไหน?” คำตอบคือ โมเดล GPT-style ขนาด 1.8 ล้านพารามิเตอร์ ที่ฝึกด้วยชุดข้อมูล TinyStories ประมาณ 20 ล้าน token ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ “ไม่แย่เลย” ด้วย perplexity ประมาณ 9.6

    เขาเริ่มจากการทดลองหลายแบบ ทั้ง transformers, LSTM และแม้แต่ diffusion models แต่พบว่า transformers แบบเรียบง่ายให้ผลดีที่สุด โดยใช้ Apple MPS (Metal Performance Shaders) เพื่อเร่งความเร็วการฝึก และเลือก dataset ที่เหมาะกับโมเดลเล็ก เช่น TinyStories ซึ่งมีโครงสร้างเรื่องราวชัดเจนและภาษาง่าย

    เขายังพบว่าเทคนิคอย่าง gradient accumulation หรือ torch.compile ไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกรณีนี้ และการเลือกขนาดโมเดลที่เหมาะสมสำคัญกว่าการใช้เทคนิคซับซ้อน โดยขนาดที่ดีที่สุดอยู่ระหว่าง 1M–1.5M พารามิเตอร์ ซึ่งสอดคล้องกับ Chinchilla scaling laws

    แม้จะเป็นการทดลองที่ดู “ไร้สาระ” แต่ก็ให้บทเรียนสำคัญว่า การฝึกโมเดลเล็กในเวลาจำกัดสามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้ หากเลือก dataset และ architecture อย่างเหมาะสม

    โมเดลที่ดีที่สุดใน 5 นาทีคือ GPT-style ขนาด ~1.8M พารามิเตอร์
    ฝึกด้วย TinyStories ~20M token ได้ perplexity ~9.6

    ใช้ Apple MPS เพื่อเร่งความเร็วการฝึก
    ได้ความเร็ว ~100K token/วินาที สำหรับโมเดลขนาด 1M

    Dataset ที่ใช้คือ TinyStories ซึ่งเหมาะกับโมเดลเล็ก
    มีโครงสร้างเรื่องราวชัดเจนและภาษาง่าย

    ขนาดโมเดลที่เหมาะสมที่สุดอยู่ระหว่าง 1M–1.5M พารามิเตอร์
    ให้อัตราการเรียนรู้และความแม่นยำดีที่สุดในเวลาจำกัด

    Architecture ที่ใช้คือ GPT-style transformer 2–3 layers
    ใช้ SwiGLU activation และ positional embeddings แบบเรียนรู้ได้

    ไม่ใช้ dropout หรือ mixture-of-experts
    เพราะเป้าหมายคือให้โมเดลเรียนรู้เร็วที่สุดในเวลาจำกัด

    การฝึกโมเดลเล็กมีประโยชน์ในงาน edge computing และ embedded AI
    เช่น รันบนมือถือหรืออุปกรณ์ IoT โดยไม่ต้องพึ่ง cloud

    เครื่องมืออย่าง Ollama และ LM Studio ช่วยให้ฝึกโมเดลได้ง่ายขึ้น
    รองรับการโหลดโมเดล open-source เช่น Phi-2, Mistral, Gemma

    OpenAI เปิดตัว GPT-OSS ซึ่งสามารถรันบนเครื่องส่วนตัวได้
    มีเวอร์ชันเล็กสำหรับงานเฉพาะทางและการทดลอง

    การฝึกโมเดลในเวลาจำกัดช่วยทดสอบ scaling laws ได้จริง
    เช่น Chinchilla law ที่แนะนำขนาดโมเดลตามจำนวน token

    https://www.seangoedecke.com/model-on-a-mbp/
    🧠💻 ถ้าคุณมีแค่ MacBook Pro กับเวลา 5 นาที — คุณจะฝึก AI ได้แค่ไหน? Sean Goedecke ตั้งคำถามเล่น ๆ ว่า “ถ้ามีแค่ MacBook Pro กับเวลา 5 นาที จะฝึกโมเดล AI ที่แข็งแกร่งที่สุดได้แค่ไหน?” คำตอบคือ โมเดล GPT-style ขนาด 1.8 ล้านพารามิเตอร์ ที่ฝึกด้วยชุดข้อมูล TinyStories ประมาณ 20 ล้าน token ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ “ไม่แย่เลย” ด้วย perplexity ประมาณ 9.6 เขาเริ่มจากการทดลองหลายแบบ ทั้ง transformers, LSTM และแม้แต่ diffusion models แต่พบว่า transformers แบบเรียบง่ายให้ผลดีที่สุด โดยใช้ Apple MPS (Metal Performance Shaders) เพื่อเร่งความเร็วการฝึก และเลือก dataset ที่เหมาะกับโมเดลเล็ก เช่น TinyStories ซึ่งมีโครงสร้างเรื่องราวชัดเจนและภาษาง่าย เขายังพบว่าเทคนิคอย่าง gradient accumulation หรือ torch.compile ไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกรณีนี้ และการเลือกขนาดโมเดลที่เหมาะสมสำคัญกว่าการใช้เทคนิคซับซ้อน โดยขนาดที่ดีที่สุดอยู่ระหว่าง 1M–1.5M พารามิเตอร์ ซึ่งสอดคล้องกับ Chinchilla scaling laws แม้จะเป็นการทดลองที่ดู “ไร้สาระ” แต่ก็ให้บทเรียนสำคัญว่า การฝึกโมเดลเล็กในเวลาจำกัดสามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้ หากเลือก dataset และ architecture อย่างเหมาะสม ✅ โมเดลที่ดีที่สุดใน 5 นาทีคือ GPT-style ขนาด ~1.8M พารามิเตอร์ ➡️ ฝึกด้วย TinyStories ~20M token ได้ perplexity ~9.6 ✅ ใช้ Apple MPS เพื่อเร่งความเร็วการฝึก ➡️ ได้ความเร็ว ~100K token/วินาที สำหรับโมเดลขนาด 1M ✅ Dataset ที่ใช้คือ TinyStories ซึ่งเหมาะกับโมเดลเล็ก ➡️ มีโครงสร้างเรื่องราวชัดเจนและภาษาง่าย ✅ ขนาดโมเดลที่เหมาะสมที่สุดอยู่ระหว่าง 1M–1.5M พารามิเตอร์ ➡️ ให้อัตราการเรียนรู้และความแม่นยำดีที่สุดในเวลาจำกัด ✅ Architecture ที่ใช้คือ GPT-style transformer 2–3 layers ➡️ ใช้ SwiGLU activation และ positional embeddings แบบเรียนรู้ได้ ✅ ไม่ใช้ dropout หรือ mixture-of-experts ➡️ เพราะเป้าหมายคือให้โมเดลเรียนรู้เร็วที่สุดในเวลาจำกัด ✅ การฝึกโมเดลเล็กมีประโยชน์ในงาน edge computing และ embedded AI ➡️ เช่น รันบนมือถือหรืออุปกรณ์ IoT โดยไม่ต้องพึ่ง cloud ✅ เครื่องมืออย่าง Ollama และ LM Studio ช่วยให้ฝึกโมเดลได้ง่ายขึ้น ➡️ รองรับการโหลดโมเดล open-source เช่น Phi-2, Mistral, Gemma ✅ OpenAI เปิดตัว GPT-OSS ซึ่งสามารถรันบนเครื่องส่วนตัวได้ ➡️ มีเวอร์ชันเล็กสำหรับงานเฉพาะทางและการทดลอง ✅ การฝึกโมเดลในเวลาจำกัดช่วยทดสอบ scaling laws ได้จริง ➡️ เช่น Chinchilla law ที่แนะนำขนาดโมเดลตามจำนวน token https://www.seangoedecke.com/model-on-a-mbp/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถตู้ตรวจจับใบหน้า — เทคโนโลยีล้ำยุคเพื่อความปลอดภัย หรือจุดเริ่มต้นของรัฐเฝ้าระวัง?

    รัฐบาลอังกฤษประกาศแผนขยายการใช้เทคโนโลยี Live Facial Recognition (LFR) โดยจะส่งรถตู้ตรวจจับใบหน้า 10 คันไปยัง 7 กองกำลังตำรวจทั่วประเทศ เช่น Greater Manchester, West Yorkshire และ Thames Valley เพื่อช่วยตามหาผู้ต้องสงสัยในคดีร้ายแรง เช่น ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และฆาตกรรม

    เทคโนโลยีนี้เคยถูกทดลองใช้ในลอนดอนและเซาธ์เวลส์ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 580 รายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยระบบจะเปรียบเทียบใบหน้าของผู้คนกับ “watchlist” ที่จัดทำเฉพาะสำหรับแต่ละภารกิจ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผลลัพธ์ทุกครั้ง

    แม้รัฐบาลจะยืนยันว่ามีการทดสอบความแม่นยำและไม่มีอคติทางเชื้อชาติหรือเพศ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชน เช่น Amnesty International และ Big Brother Watch กลับเตือนว่าเทคโนโลยีนี้ “อันตรายและเลือกปฏิบัติ” โดยเฉพาะกับคนผิวสี และอาจนำไปสู่การจับผิดคนโดยไม่ตั้งใจ

    รัฐบาลจึงเตรียมเปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านการปรึกษาสาธารณะ เพื่อจัดทำกรอบกฎหมายใหม่ที่ชัดเจน ก่อนจะขยายการใช้งานในวงกว้าง

    รัฐบาลอังกฤษเตรียมส่งรถตู้ตรวจจับใบหน้า 10 คันไปยัง 7 กองกำลังตำรวจ
    ใช้เพื่อจับผู้ต้องสงสัยในคดีร้ายแรง เช่น ข่มขืนและฆาตกรรม

    เทคโนโลยี LFR เคยถูกทดลองใช้ในลอนดอนและเซาธ์เวลส์
    นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 580 รายใน 12 เดือน

    การใช้งานจะอิงจาก “watchlist” ที่จัดทำเฉพาะสำหรับแต่ละภารกิจ
    ตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรม

    รัฐบาลจะเปิดการปรึกษาสาธารณะเพื่อจัดทำกรอบกฎหมายใหม่
    เพื่อกำหนดวิธีใช้และมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว

    การทดสอบโดย National Physical Laboratory พบว่าไม่มีอคติทางเชื้อชาติหรือเพศ
    สนับสนุนความแม่นยำของระบบ LFR

    กลุ่ม Liberty สนับสนุนการจัดทำกรอบกฎหมายก่อนขยายการใช้งาน
    เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับการคุ้มครอง

    เทคโนโลยี LFR ใช้การวัดระยะระหว่างจุดบนใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล
    เช่น ระยะระหว่างตา ความยาวกราม

    LFR ถูกใช้ในงานใหญ่ เช่น คอนเสิร์ต Beyoncé และการแข่งขันฟุตบอล
    เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัย

    การใช้งานใน South Wales มีการลบข้อมูลของผู้ที่ไม่ตรงกับ watchlist ทันที
    เป็นมาตรการป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว

    มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประจำชุมชนทั่วประเทศเพื่อรับเรื่องร้องเรียน
    เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูตำรวจท้องถิ่น

    https://news.sky.com/story/facial-recognition-vans-to-be-rolled-out-across-police-forces-in-england-13410613
    🚐🧠 รถตู้ตรวจจับใบหน้า — เทคโนโลยีล้ำยุคเพื่อความปลอดภัย หรือจุดเริ่มต้นของรัฐเฝ้าระวัง? รัฐบาลอังกฤษประกาศแผนขยายการใช้เทคโนโลยี Live Facial Recognition (LFR) โดยจะส่งรถตู้ตรวจจับใบหน้า 10 คันไปยัง 7 กองกำลังตำรวจทั่วประเทศ เช่น Greater Manchester, West Yorkshire และ Thames Valley เพื่อช่วยตามหาผู้ต้องสงสัยในคดีร้ายแรง เช่น ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และฆาตกรรม เทคโนโลยีนี้เคยถูกทดลองใช้ในลอนดอนและเซาธ์เวลส์ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 580 รายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยระบบจะเปรียบเทียบใบหน้าของผู้คนกับ “watchlist” ที่จัดทำเฉพาะสำหรับแต่ละภารกิจ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผลลัพธ์ทุกครั้ง แม้รัฐบาลจะยืนยันว่ามีการทดสอบความแม่นยำและไม่มีอคติทางเชื้อชาติหรือเพศ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชน เช่น Amnesty International และ Big Brother Watch กลับเตือนว่าเทคโนโลยีนี้ “อันตรายและเลือกปฏิบัติ” โดยเฉพาะกับคนผิวสี และอาจนำไปสู่การจับผิดคนโดยไม่ตั้งใจ รัฐบาลจึงเตรียมเปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านการปรึกษาสาธารณะ เพื่อจัดทำกรอบกฎหมายใหม่ที่ชัดเจน ก่อนจะขยายการใช้งานในวงกว้าง ✅ รัฐบาลอังกฤษเตรียมส่งรถตู้ตรวจจับใบหน้า 10 คันไปยัง 7 กองกำลังตำรวจ ➡️ ใช้เพื่อจับผู้ต้องสงสัยในคดีร้ายแรง เช่น ข่มขืนและฆาตกรรม ✅ เทคโนโลยี LFR เคยถูกทดลองใช้ในลอนดอนและเซาธ์เวลส์ ➡️ นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 580 รายใน 12 เดือน ✅ การใช้งานจะอิงจาก “watchlist” ที่จัดทำเฉพาะสำหรับแต่ละภารกิจ ➡️ ตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรม ✅ รัฐบาลจะเปิดการปรึกษาสาธารณะเพื่อจัดทำกรอบกฎหมายใหม่ ➡️ เพื่อกำหนดวิธีใช้และมาตรการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ✅ การทดสอบโดย National Physical Laboratory พบว่าไม่มีอคติทางเชื้อชาติหรือเพศ ➡️ สนับสนุนความแม่นยำของระบบ LFR ✅ กลุ่ม Liberty สนับสนุนการจัดทำกรอบกฎหมายก่อนขยายการใช้งาน ➡️ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับการคุ้มครอง ✅ เทคโนโลยี LFR ใช้การวัดระยะระหว่างจุดบนใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล ➡️ เช่น ระยะระหว่างตา ความยาวกราม ✅ LFR ถูกใช้ในงานใหญ่ เช่น คอนเสิร์ต Beyoncé และการแข่งขันฟุตบอล ➡️ เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัย ✅ การใช้งานใน South Wales มีการลบข้อมูลของผู้ที่ไม่ตรงกับ watchlist ทันที ➡️ เป็นมาตรการป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว ✅ มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประจำชุมชนทั่วประเทศเพื่อรับเรื่องร้องเรียน ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูตำรวจท้องถิ่น https://news.sky.com/story/facial-recognition-vans-to-be-rolled-out-across-police-forces-in-england-13410613
    NEWS.SKY.COM
    Facial recognition vans to be rolled out across police forces in England
    Ten live facial recognition vans will be deployed - but human rights groups argue the tech is "dangerous and discriminatory".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไม OCaml ถึงกลายเป็นภาษาหลักของนักพัฒนาไฟแรงคนหนึ่ง — และอาจเป็นของคุณด้วย

    ผู้เขียนบทความนี้เริ่มใช้ OCaml ตั้งแต่ปี 2012 และหลงรักภาษานี้จนกลายเป็น “OCaml evangelist” ที่พูดถึงมันในงานสัมมนาอย่างสม่ำเสมอ แม้ OCaml จะไม่ใช่ภาษาหลักในอุตสาหกรรม แต่บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Microsoft, Docker, Bloomberg และ Jane Street กลับใช้มันจริงจังในระบบโปรดักชัน

    OCaml เป็นภาษาที่มีรากฐานจากงานวิจัย แต่ถูกพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรม โดยมีจุดเด่นคือระบบ type ที่ปลอดภัยและทรงพลัง, รองรับหลาย paradigm ทั้ง functional, imperative, modular และ object-oriented, มีระบบ module ที่ลึกและยืดหยุ่น, และล่าสุดยังรองรับ multi-core และ user-defined effects

    นอกจากภาษาจะดีแล้ว Ecosystem ก็แข็งแรงขึ้นมากในช่วงหลัง มีเครื่องมืออย่าง OPAM (package manager), Dune (build system), Merlin และ LSP (editor tooling), และ Odoc (documentation generator) ที่ช่วยให้การพัฒนาใน OCaml เป็นเรื่องง่ายและสนุก

    แม้จะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น syntax ที่ไม่คุ้นเคย, ขาด ad-hoc polymorphism, และ module language ที่ซับซ้อน แต่ผู้เขียนเชื่อว่าคุณค่าของ OCaml อยู่ที่ความสามารถในการสื่อสารแนวคิดการออกแบบซอฟต์แวร์ได้อย่างชัดเจน และเป็นภาษาที่ช่วยให้เข้าใจแนวคิดระดับสูงได้ลึกซึ้ง

    ผู้เขียนใช้ OCaml เป็นภาษาหลักตั้งแต่ปี 2012
    ใช้ทั้งในโปรเจกต์ส่วนตัวและงานอาชีพ

    OCaml ถูกใช้งานจริงโดยบริษัทใหญ่หลายแห่ง
    เช่น Meta, Microsoft, Docker, Bloomberg, Jane Street

    OCaml รองรับหลาย paradigm ในการเขียนโปรแกรม
    ทั้ง functional, imperative, modular, object-oriented และ multi-core

    มีระบบ type ที่ปลอดภัยและ expressive มาก
    ช่วยลด bug และออกแบบโค้ดได้ชัดเจน

    ระบบ module ของ OCaml มีความลึกและยืดหยุ่นสูง
    รองรับ encapsulation, functor, และ polymorphism ระดับสูง

    รองรับ user-defined effects ตั้งแต่เวอร์ชัน 5.0
    ช่วยให้จัดการ control flow และ dependency injection ได้ง่าย

    Ecosystem มีเครื่องมือครบครัน
    เช่น OPAM, Dune, Merlin, LSP, Odoc และ library จำนวนมาก

    ชุมชน OCaml มีความเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย
    มีผู้เชี่ยวชาญคอยตอบคำถามและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง

    OCaml มีจุดเด่นด้าน algebraic data types และ pattern matching
    ทำให้เหมาะกับงานวิเคราะห์โครงสร้างภาษาและ AST

    OCaml ถูกใช้ในงานวิเคราะห์ภาษา เช่น CIL, Frama-C และ FFTW
    เพราะมีเครื่องมือ lexing/parsing ที่ใช้งานง่ายและเร็ว

    OCaml มี compiler ที่เร็วมาก
    ช่วยให้การพัฒนาและ build โค้ดเป็นไปอย่างรวดเร็ว

    OCaml ถูกใช้ในวงการการเงิน เช่น Jane Street
    เพราะมีความปลอดภัยสูงและประสิทธิภาพดี

    https://xvw.lol/en/articles/why-ocaml.html
    🧠💻 ทำไม OCaml ถึงกลายเป็นภาษาหลักของนักพัฒนาไฟแรงคนหนึ่ง — และอาจเป็นของคุณด้วย ผู้เขียนบทความนี้เริ่มใช้ OCaml ตั้งแต่ปี 2012 และหลงรักภาษานี้จนกลายเป็น “OCaml evangelist” ที่พูดถึงมันในงานสัมมนาอย่างสม่ำเสมอ แม้ OCaml จะไม่ใช่ภาษาหลักในอุตสาหกรรม แต่บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Microsoft, Docker, Bloomberg และ Jane Street กลับใช้มันจริงจังในระบบโปรดักชัน OCaml เป็นภาษาที่มีรากฐานจากงานวิจัย แต่ถูกพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรม โดยมีจุดเด่นคือระบบ type ที่ปลอดภัยและทรงพลัง, รองรับหลาย paradigm ทั้ง functional, imperative, modular และ object-oriented, มีระบบ module ที่ลึกและยืดหยุ่น, และล่าสุดยังรองรับ multi-core และ user-defined effects นอกจากภาษาจะดีแล้ว Ecosystem ก็แข็งแรงขึ้นมากในช่วงหลัง มีเครื่องมืออย่าง OPAM (package manager), Dune (build system), Merlin และ LSP (editor tooling), และ Odoc (documentation generator) ที่ช่วยให้การพัฒนาใน OCaml เป็นเรื่องง่ายและสนุก แม้จะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น syntax ที่ไม่คุ้นเคย, ขาด ad-hoc polymorphism, และ module language ที่ซับซ้อน แต่ผู้เขียนเชื่อว่าคุณค่าของ OCaml อยู่ที่ความสามารถในการสื่อสารแนวคิดการออกแบบซอฟต์แวร์ได้อย่างชัดเจน และเป็นภาษาที่ช่วยให้เข้าใจแนวคิดระดับสูงได้ลึกซึ้ง ✅ ผู้เขียนใช้ OCaml เป็นภาษาหลักตั้งแต่ปี 2012 ➡️ ใช้ทั้งในโปรเจกต์ส่วนตัวและงานอาชีพ ✅ OCaml ถูกใช้งานจริงโดยบริษัทใหญ่หลายแห่ง ➡️ เช่น Meta, Microsoft, Docker, Bloomberg, Jane Street ✅ OCaml รองรับหลาย paradigm ในการเขียนโปรแกรม ➡️ ทั้ง functional, imperative, modular, object-oriented และ multi-core ✅ มีระบบ type ที่ปลอดภัยและ expressive มาก ➡️ ช่วยลด bug และออกแบบโค้ดได้ชัดเจน ✅ ระบบ module ของ OCaml มีความลึกและยืดหยุ่นสูง ➡️ รองรับ encapsulation, functor, และ polymorphism ระดับสูง ✅ รองรับ user-defined effects ตั้งแต่เวอร์ชัน 5.0 ➡️ ช่วยให้จัดการ control flow และ dependency injection ได้ง่าย ✅ Ecosystem มีเครื่องมือครบครัน ➡️ เช่น OPAM, Dune, Merlin, LSP, Odoc และ library จำนวนมาก ✅ ชุมชน OCaml มีความเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย ➡️ มีผู้เชี่ยวชาญคอยตอบคำถามและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ✅ OCaml มีจุดเด่นด้าน algebraic data types และ pattern matching ➡️ ทำให้เหมาะกับงานวิเคราะห์โครงสร้างภาษาและ AST ✅ OCaml ถูกใช้ในงานวิเคราะห์ภาษา เช่น CIL, Frama-C และ FFTW ➡️ เพราะมีเครื่องมือ lexing/parsing ที่ใช้งานง่ายและเร็ว ✅ OCaml มี compiler ที่เร็วมาก ➡️ ช่วยให้การพัฒนาและ build โค้ดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ✅ OCaml ถูกใช้ในวงการการเงิน เช่น Jane Street ➡️ เพราะมีความปลอดภัยสูงและประสิทธิภาพดี https://xvw.lol/en/articles/why-ocaml.html
    XVW.LOL
    Why I chose OCaml as my primary language
    A detailed explanation of why I chose OCaml as the ‘default’ programming language for every project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ArchWiki กับภารกิจปั้นเอกสารให้ Debian — จากตำนานสู่แรงบันดาลใจ

    ในงาน DebConf25 ที่ฝรั่งเศส ทีมผู้ดูแล ArchWiki อย่าง Jakub Klinkovský และ Vladimir Lavallade ได้รับเชิญจาก Debian เพื่อแชร์กลยุทธ์การจัดการเอกสารของ Arch Linux ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการว่า “แหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดแม้คุณจะไม่ได้ใช้ Arch”

    ArchWiki มีจุดแข็งคือเนื้อหาครอบคลุม อัปเดตเร็ว และมีชุมชนที่มีส่วนร่วมสูง โดยใช้หลักการ SWOT วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคามของระบบเอกสารของตนเอง

    Debian ได้รับแรงบันดาลใจทันที โดยเริ่มเปลี่ยนระบบ wiki จาก MoinMoin ที่ล้าสมัยไปใช้ MediaWiki พร้อมปรับนโยบายการอนุญาตเนื้อหา และตั้ง mailing list ใหม่เพื่อจัดการเอกสารอย่างเป็นระบบ

    แม้ ArchWiki จะมีจุดอ่อน เช่น syntax ที่ซับซ้อนและการพึ่งพา MediaWiki ที่ไม่ยืดหยุ่น แต่ระบบการดูแลเอกสารแบบกระจายอำนาจและการส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม กลับสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง และกลายเป็นต้นแบบให้กับหลาย distro

    ArchWiki ถูกยกให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดในวงการ Linux
    แม้ผู้ใช้จะไม่ได้ใช้ Arch ก็ยังอ้างอิงเอกสารจาก ArchWiki

    Debian เชิญทีม ArchWiki มาแชร์กลยุทธ์ในงาน DebConf25
    นำไปสู่การปฏิรูป wiki ของ Debian โดยเปลี่ยนไปใช้ MediaWiki

    ArchWiki มีมากกว่า 4,000 หน้าเนื้อหา และรวมทั้งหมดเกือบ 30,000 หน้า
    มีผู้แก้ไขกว่า 86,000 คน และมีการแก้ไขเฉลี่ย 2,000 ครั้งต่อเดือน

    หลักการดูแลเนื้อหาของ ArchWiki คือ DRY, atomic editing และการประกาศก่อนเปลี่ยนแปลงใหญ่
    ช่วยรักษาคุณภาพและลดความขัดแย้งในการแก้ไข

    การดูแลเนื้อหาใช้ระบบกระจายอำนาจ
    ผู้ใช้ทั่วไปสามารถตรวจสอบ แก้ไข หรือแจ้งปัญหาได้โดยไม่ต้องเป็น maintainer

    Debian เปลี่ยนนโยบายลิขสิทธิ์เนื้อหา wiki เป็น CC BY-SA 4.0
    เพื่อเปิดให้ชุมชนมีส่วนร่วมและนำไปใช้ต่อได้ง่ายขึ้น

    ArchWiki ใช้ MediaWiki ซึ่งมี API และระบบ template ที่ทรงพลัง
    แม้จะซับซ้อน แต่สามารถปรับแต่งและใช้ร่วมกับ bot ได้ดี

    ArchWiki มีเครื่องมือช่วยแก้ไข เช่น Wiki Monkey และ wiki-scripts
    ช่วยตรวจลิงก์ แก้ markup และปรับปรุงโครงสร้างเนื้อหา

    ArchWiki มีห้อง IRC สำหรับพูดคุยเรื่องการแก้ไข wiki โดยเฉพาะ
    แต่เน้นให้ใช้หน้า talk page เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม

    ArchWiki เป็นศูนย์กลางความรู้ที่ผู้ใช้จาก distro อื่นก็เข้ามาใช้
    เช่น Ubuntu หรือ Fedora ก็อ้างอิงจาก ArchWiki เป็นประจำ

    https://lwn.net/SubscriberLink/1032604/73596e0c3ed1945a/
    📚🐧 ArchWiki กับภารกิจปั้นเอกสารให้ Debian — จากตำนานสู่แรงบันดาลใจ ในงาน DebConf25 ที่ฝรั่งเศส ทีมผู้ดูแล ArchWiki อย่าง Jakub Klinkovský และ Vladimir Lavallade ได้รับเชิญจาก Debian เพื่อแชร์กลยุทธ์การจัดการเอกสารของ Arch Linux ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการว่า “แหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดแม้คุณจะไม่ได้ใช้ Arch” ArchWiki มีจุดแข็งคือเนื้อหาครอบคลุม อัปเดตเร็ว และมีชุมชนที่มีส่วนร่วมสูง โดยใช้หลักการ SWOT วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคามของระบบเอกสารของตนเอง Debian ได้รับแรงบันดาลใจทันที โดยเริ่มเปลี่ยนระบบ wiki จาก MoinMoin ที่ล้าสมัยไปใช้ MediaWiki พร้อมปรับนโยบายการอนุญาตเนื้อหา และตั้ง mailing list ใหม่เพื่อจัดการเอกสารอย่างเป็นระบบ แม้ ArchWiki จะมีจุดอ่อน เช่น syntax ที่ซับซ้อนและการพึ่งพา MediaWiki ที่ไม่ยืดหยุ่น แต่ระบบการดูแลเอกสารแบบกระจายอำนาจและการส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม กลับสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง และกลายเป็นต้นแบบให้กับหลาย distro ✅ ArchWiki ถูกยกให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดในวงการ Linux ➡️ แม้ผู้ใช้จะไม่ได้ใช้ Arch ก็ยังอ้างอิงเอกสารจาก ArchWiki ✅ Debian เชิญทีม ArchWiki มาแชร์กลยุทธ์ในงาน DebConf25 ➡️ นำไปสู่การปฏิรูป wiki ของ Debian โดยเปลี่ยนไปใช้ MediaWiki ✅ ArchWiki มีมากกว่า 4,000 หน้าเนื้อหา และรวมทั้งหมดเกือบ 30,000 หน้า ➡️ มีผู้แก้ไขกว่า 86,000 คน และมีการแก้ไขเฉลี่ย 2,000 ครั้งต่อเดือน ✅ หลักการดูแลเนื้อหาของ ArchWiki คือ DRY, atomic editing และการประกาศก่อนเปลี่ยนแปลงใหญ่ ➡️ ช่วยรักษาคุณภาพและลดความขัดแย้งในการแก้ไข ✅ การดูแลเนื้อหาใช้ระบบกระจายอำนาจ ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถตรวจสอบ แก้ไข หรือแจ้งปัญหาได้โดยไม่ต้องเป็น maintainer ✅ Debian เปลี่ยนนโยบายลิขสิทธิ์เนื้อหา wiki เป็น CC BY-SA 4.0 ➡️ เพื่อเปิดให้ชุมชนมีส่วนร่วมและนำไปใช้ต่อได้ง่ายขึ้น ✅ ArchWiki ใช้ MediaWiki ซึ่งมี API และระบบ template ที่ทรงพลัง ➡️ แม้จะซับซ้อน แต่สามารถปรับแต่งและใช้ร่วมกับ bot ได้ดี ✅ ArchWiki มีเครื่องมือช่วยแก้ไข เช่น Wiki Monkey และ wiki-scripts ➡️ ช่วยตรวจลิงก์ แก้ markup และปรับปรุงโครงสร้างเนื้อหา ✅ ArchWiki มีห้อง IRC สำหรับพูดคุยเรื่องการแก้ไข wiki โดยเฉพาะ ➡️ แต่เน้นให้ใช้หน้า talk page เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม ✅ ArchWiki เป็นศูนย์กลางความรู้ที่ผู้ใช้จาก distro อื่นก็เข้ามาใช้ ➡️ เช่น Ubuntu หรือ Fedora ก็อ้างอิงจาก ArchWiki เป็นประจำ https://lwn.net/SubscriberLink/1032604/73596e0c3ed1945a/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ Meta แอบฟังข้อมูลสุขภาพผู้หญิงจากแอป Flo โดยไม่ได้รับอนุญาต

    เรื่องนี้เริ่มจากแอป Flo Health ซึ่งเป็นแอปติดตามรอบเดือนและสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง ที่มีผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก แอปนี้เก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด เช่น วันมีประจำเดือน อารมณ์ ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์ โดยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม ยกเว้นเพื่อการให้บริการเท่านั้น

    แต่ระหว่างปี 2016–2019 ข้อมูลเหล่านี้ถูกแชร์กับบริษัทต่าง ๆ รวมถึง Meta (เจ้าของ Facebook), Google, AppsFlyer และ Flurry โดยใช้ SDK ที่ฝังอยู่ในแอป ซึ่งจะส่งข้อมูลทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกหรือใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น “กำลังพยายามตั้งครรภ์” โดยไม่มีการควบคุมว่าบริษัทเหล่านี้จะนำข้อมูลไปใช้อย่างไร

    คดีนี้เริ่มต้นจากการฟ้องร้องแบบกลุ่มในปี 2021 โดยมีผู้หญิงกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบ ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 คณะลูกขุนตัดสินว่า Meta ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย “แอบฟังและบันทึกข้อมูล” โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้

    แม้ Flo, Google และ Flurry จะยอมความไปก่อนหน้านี้ แต่ Meta สู้คดีจนถึงที่สุด และแพ้ในที่สุด คดีนี้จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการปกป้องข้อมูลสุขภาพดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่สิทธิการทำแท้งในสหรัฐฯ ถูกจำกัดอย่างหนัก

    Meta ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย
    โดยแอบฟังและบันทึกข้อมูลจากแอป Flo โดยไม่ได้รับความยินยอม

    Flo Health แชร์ข้อมูลสุขภาพผู้หญิงกับ Meta, Google และบริษัทอื่น
    ข้อมูลรวมถึงรอบเดือน ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์

    SDK ของ Meta ถูกฝังในแอป Flo เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งาน
    ส่งข้อมูล “App Event” ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกฟีเจอร์เฉพาะ

    คดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ
    ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนระหว่าง พ.ย. 2016 ถึง ก.พ. 2019

    Flo เคยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลที่สาม
    แต่กลับเปิดช่องให้บริษัทอื่นใช้ข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า

    FTC เคยสอบสวนและบังคับให้ Flo ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว
    พร้อมตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อป้องกันการละเมิดซ้ำ

    คดีนี้เป็นหมุดหมายสำคัญด้านสิทธิข้อมูลสุขภาพดิจิทัล
    โดยเฉพาะหลังการยกเลิกสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในสหรัฐฯ

    SDK เป็นเครื่องมือที่ใช้เก็บพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อการโฆษณา
    แต่สามารถถูกใช้เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวได้หากไม่มีการควบคุม

    การใช้แอปติดตามสุขภาพอาจเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางกฎหมาย
    เช่น การสืบสวนคดีทำแท้งในบางรัฐของสหรัฐฯ

    เว็บไซต์ขายยาทำแท้งก็เคยถูกพบว่าแชร์ข้อมูลกับ Google
    เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยหน่วยงานรัฐ

    https://www.malwarebytes.com/blog/news/2025/08/meta-accessed-womens-health-data-from-flo-app-without-consent-says-court
    📢🕵️‍♀️ เมื่อ Meta แอบฟังข้อมูลสุขภาพผู้หญิงจากแอป Flo โดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องนี้เริ่มจากแอป Flo Health ซึ่งเป็นแอปติดตามรอบเดือนและสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง ที่มีผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก แอปนี้เก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด เช่น วันมีประจำเดือน อารมณ์ ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์ โดยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม ยกเว้นเพื่อการให้บริการเท่านั้น แต่ระหว่างปี 2016–2019 ข้อมูลเหล่านี้ถูกแชร์กับบริษัทต่าง ๆ รวมถึง Meta (เจ้าของ Facebook), Google, AppsFlyer และ Flurry โดยใช้ SDK ที่ฝังอยู่ในแอป ซึ่งจะส่งข้อมูลทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกหรือใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น “กำลังพยายามตั้งครรภ์” โดยไม่มีการควบคุมว่าบริษัทเหล่านี้จะนำข้อมูลไปใช้อย่างไร คดีนี้เริ่มต้นจากการฟ้องร้องแบบกลุ่มในปี 2021 โดยมีผู้หญิงกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบ ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 คณะลูกขุนตัดสินว่า Meta ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย “แอบฟังและบันทึกข้อมูล” โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ แม้ Flo, Google และ Flurry จะยอมความไปก่อนหน้านี้ แต่ Meta สู้คดีจนถึงที่สุด และแพ้ในที่สุด คดีนี้จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการปกป้องข้อมูลสุขภาพดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่สิทธิการทำแท้งในสหรัฐฯ ถูกจำกัดอย่างหนัก ✅ Meta ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย ➡️ โดยแอบฟังและบันทึกข้อมูลจากแอป Flo โดยไม่ได้รับความยินยอม ✅ Flo Health แชร์ข้อมูลสุขภาพผู้หญิงกับ Meta, Google และบริษัทอื่น ➡️ ข้อมูลรวมถึงรอบเดือน ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์ ✅ SDK ของ Meta ถูกฝังในแอป Flo เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งาน ➡️ ส่งข้อมูล “App Event” ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกฟีเจอร์เฉพาะ ✅ คดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ➡️ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนระหว่าง พ.ย. 2016 ถึง ก.พ. 2019 ✅ Flo เคยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลที่สาม ➡️ แต่กลับเปิดช่องให้บริษัทอื่นใช้ข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ✅ FTC เคยสอบสวนและบังคับให้ Flo ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว ➡️ พร้อมตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อป้องกันการละเมิดซ้ำ ✅ คดีนี้เป็นหมุดหมายสำคัญด้านสิทธิข้อมูลสุขภาพดิจิทัล ➡️ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในสหรัฐฯ ✅ SDK เป็นเครื่องมือที่ใช้เก็บพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อการโฆษณา ➡️ แต่สามารถถูกใช้เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวได้หากไม่มีการควบคุม ✅ การใช้แอปติดตามสุขภาพอาจเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางกฎหมาย ➡️ เช่น การสืบสวนคดีทำแท้งในบางรัฐของสหรัฐฯ ✅ เว็บไซต์ขายยาทำแท้งก็เคยถูกพบว่าแชร์ข้อมูลกับ Google ➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยหน่วยงานรัฐ https://www.malwarebytes.com/blog/news/2025/08/meta-accessed-womens-health-data-from-flo-app-without-consent-says-court
    WWW.MALWAREBYTES.COM
    Meta accessed women's health data from Flo app without consent, says court
    A jury has ruled that Meta accessed sensitive information from women's reproductive health tracking app Flo without consent.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡️ Gemma 3 270M — โมเดล AI ขนาดเล็กที่ฉลาดเกินตัว และประหยัดพลังงานสุดขีด

    Google เปิดตัว Gemma 3 270M ซึ่งเป็นโมเดล AI ขนาดเล็กเพียง 270 ล้านพารามิเตอร์ แต่มีความสามารถในการทำงานเฉพาะทางได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง โดยออกแบบมาเพื่อการ fine-tune สำหรับงานที่ชัดเจน เช่น การจัดโครงสร้างข้อความ การวิเคราะห์ความรู้สึก หรือการสกัดข้อมูลจากข้อความ

    Gemma 3 270M มีจุดเด่นคือการประหยัดพลังงานอย่างมาก — จากการทดสอบบน Pixel 9 Pro พบว่าโมเดลแบบ INT4 ใช้แบตเตอรี่เพียง 0.75% สำหรับ 25 บทสนทนา นอกจากนี้ยังรองรับการ quantization-aware training (QAT) ทำให้สามารถรันบนอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัดได้โดยไม่เสียประสิทธิภาพ

    แม้จะไม่เหมาะกับการสนทนาเชิงลึกแบบโมเดลขนาดใหญ่ แต่ Gemma 3 270M เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างระบบที่เร็ว เบา และปลอดภัย โดยสามารถรันแบบ on-device ได้ทั้งหมด ซึ่งช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

    ตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น Adaptive ML ที่ใช้ Gemma 3 4B ในการจัดการเนื้อหาหลายภาษาให้กับ SK Telecom ได้ผลลัพธ์ดีกว่าโมเดลขนาดใหญ่ที่ใช้กันทั่วไป แสดงให้เห็นว่าการเลือกโมเดลที่เหมาะกับงานมีความสำคัญมากกว่าขนาดของโมเดล

    Gemma 3 270M เป็นโมเดลขนาด 270 ล้านพารามิเตอร์
    ประกอบด้วย 170M embedding และ 100M transformer blocks

    รองรับ vocabulary ขนาด 256,000 token
    ช่วยให้เข้าใจคำเฉพาะและภาษายากได้ดี

    ใช้พลังงานต่ำมากเมื่อรันบน Pixel 9 Pro
    ใช้แบตเตอรี่เพียง 0.75% สำหรับ 25 บทสนทนา

    รองรับ INT4 quantization และ QAT checkpoints
    รันบนอุปกรณ์เล็กได้โดยไม่เสียประสิทธิภาพ

    เหมาะกับงานเฉพาะทาง เช่น การจัดโครงสร้างข้อความและการสกัดข้อมูล
    ทำงานได้เร็วและแม่นยำเมื่อ fine-tune แล้ว

    มีทั้งเวอร์ชัน pre-trained และ instruction-tuned ให้เลือกใช้
    พร้อมใช้งานผ่าน Hugging Face, Kaggle, Docker และ Vertex AI

    Gemma 3 270M เป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Gemma 3 ที่รองรับหลายภาษา
    มี support มากกว่า 140 ภาษา

    สามารถรันบนอุปกรณ์ edge เช่น สมาร์ตโฟนหรือโน้ตบุ๊ก
    เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

    โมเดลขนาดเล็กช่วยลดค่าใช้จ่ายในการ inference
    เหมาะกับการ deploy ในระบบ production ขนาดใหญ่

    มีตัวอย่างการใช้งานในงานสร้างสรรค์ เช่น Bedtime Story Generator
    ใช้ Gemma 3 270M รันผ่าน Transformers.js แบบ offline

    https://developers.googleblog.com/en/introducing-gemma-3-270m/
    🧠⚡️ Gemma 3 270M — โมเดล AI ขนาดเล็กที่ฉลาดเกินตัว และประหยัดพลังงานสุดขีด Google เปิดตัว Gemma 3 270M ซึ่งเป็นโมเดล AI ขนาดเล็กเพียง 270 ล้านพารามิเตอร์ แต่มีความสามารถในการทำงานเฉพาะทางได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง โดยออกแบบมาเพื่อการ fine-tune สำหรับงานที่ชัดเจน เช่น การจัดโครงสร้างข้อความ การวิเคราะห์ความรู้สึก หรือการสกัดข้อมูลจากข้อความ Gemma 3 270M มีจุดเด่นคือการประหยัดพลังงานอย่างมาก — จากการทดสอบบน Pixel 9 Pro พบว่าโมเดลแบบ INT4 ใช้แบตเตอรี่เพียง 0.75% สำหรับ 25 บทสนทนา นอกจากนี้ยังรองรับการ quantization-aware training (QAT) ทำให้สามารถรันบนอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัดได้โดยไม่เสียประสิทธิภาพ แม้จะไม่เหมาะกับการสนทนาเชิงลึกแบบโมเดลขนาดใหญ่ แต่ Gemma 3 270M เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างระบบที่เร็ว เบา และปลอดภัย โดยสามารถรันแบบ on-device ได้ทั้งหมด ซึ่งช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น Adaptive ML ที่ใช้ Gemma 3 4B ในการจัดการเนื้อหาหลายภาษาให้กับ SK Telecom ได้ผลลัพธ์ดีกว่าโมเดลขนาดใหญ่ที่ใช้กันทั่วไป แสดงให้เห็นว่าการเลือกโมเดลที่เหมาะกับงานมีความสำคัญมากกว่าขนาดของโมเดล ✅ Gemma 3 270M เป็นโมเดลขนาด 270 ล้านพารามิเตอร์ ➡️ ประกอบด้วย 170M embedding และ 100M transformer blocks ✅ รองรับ vocabulary ขนาด 256,000 token ➡️ ช่วยให้เข้าใจคำเฉพาะและภาษายากได้ดี ✅ ใช้พลังงานต่ำมากเมื่อรันบน Pixel 9 Pro ➡️ ใช้แบตเตอรี่เพียง 0.75% สำหรับ 25 บทสนทนา ✅ รองรับ INT4 quantization และ QAT checkpoints ➡️ รันบนอุปกรณ์เล็กได้โดยไม่เสียประสิทธิภาพ ✅ เหมาะกับงานเฉพาะทาง เช่น การจัดโครงสร้างข้อความและการสกัดข้อมูล ➡️ ทำงานได้เร็วและแม่นยำเมื่อ fine-tune แล้ว ✅ มีทั้งเวอร์ชัน pre-trained และ instruction-tuned ให้เลือกใช้ ➡️ พร้อมใช้งานผ่าน Hugging Face, Kaggle, Docker และ Vertex AI ✅ Gemma 3 270M เป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Gemma 3 ที่รองรับหลายภาษา ➡️ มี support มากกว่า 140 ภาษา ✅ สามารถรันบนอุปกรณ์ edge เช่น สมาร์ตโฟนหรือโน้ตบุ๊ก ➡️ เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ✅ โมเดลขนาดเล็กช่วยลดค่าใช้จ่ายในการ inference ➡️ เหมาะกับการ deploy ในระบบ production ขนาดใหญ่ ✅ มีตัวอย่างการใช้งานในงานสร้างสรรค์ เช่น Bedtime Story Generator ➡️ ใช้ Gemma 3 270M รันผ่าน Transformers.js แบบ offline https://developers.googleblog.com/en/introducing-gemma-3-270m/
    DEVELOPERS.GOOGLEBLOG.COM
    Introducing Gemma 3 270M: The compact model for hyper-efficient AI- Google Developers Blog
    Explore Gemma 3 270M, a compact, energy-efficient AI model for task-specific fine-tuning, offering strong instruction-following and production-ready quantization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลทหารเครียด หนีออกจากหน่วยแนวหน้า ชายแดน อ.กาบเชิง สุรินทร์ ควงปืน M-16 กราดยิงวัยรุ่นดื่มเหล้า บาดเจ็บ 2 ราย โชคดีไม่ถูกจุดสำคัญ ผกก.สภ.กาบเชิง รุดติดตามใกล้ชิด สั่งตำรวจตั้งด่านตรวจสกัดร่วมทหารเฝ้าระวัง ขณะทหารปูพรมล่าตัว คาดอยู่ในพื้นที่ป่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077504

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พลทหารเครียด หนีออกจากหน่วยแนวหน้า ชายแดน อ.กาบเชิง สุรินทร์ ควงปืน M-16 กราดยิงวัยรุ่นดื่มเหล้า บาดเจ็บ 2 ราย โชคดีไม่ถูกจุดสำคัญ ผกก.สภ.กาบเชิง รุดติดตามใกล้ชิด สั่งตำรวจตั้งด่านตรวจสกัดร่วมทหารเฝ้าระวัง ขณะทหารปูพรมล่าตัว คาดอยู่ในพื้นที่ป่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077504 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 3 ประเทศสุดโรแมนติก
    สัมผัสความสวยงามของ อิตาลี – มอนเตเนโกร – โครเอเชีย
    Royal Caribbean พร้อมบริการระดับพรีเมียม ดูแลตลอดทริปสำหรับคุณและครอบครัว

    🛳 Voyager of the SEAs | 12 วัน 9 คืน

    เดินทาง: 18 – 29 ตุลาคม 2568

    เส้นทางไฮไลต์:
    อิตาลีใต้: เมืองโบราณปอมเปอี, เนเปิ้ล, ปากปล่องภูเขาไฟเอทน่า (เมสซิน่า)
    มอนเตเนโกร: เมืองบาร์ และเมืองโคตอร์ริมทะเลแอดรียาติก
    โครเอเชีย: ดูบรอฟนิค เมืองมรดกโลก และเมืองสปลิตสุดคลาสสิก
    อิตาลีเหนือ: ช้อปปิ้งเอาท์เล็ตฟิเรนเซ่, มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน และเสน่ห์เวนิสล่องเรือกอนโดลา

    ราคาเริ่มต้นเพียง: ฿149,900 (ห้องไม่มีหน้าต่าง)

    พักโรงแรมในโรม 1 คืน + เวนิส 1 คืน
    พักบนเรือ Voyager Of The Seas 7 คืน
    รวมตั๋วเครื่องบินไป–กลับ
    หัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดการเดินทาง

    รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYT-QR-12D9N-CVV-VCE-2510181
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/efa9e9

    ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/648705

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือVoyageroftheSEAs #RoyalCaribbean #Mediterranean #Dubrovnik #Croatia #Kotor #Montenegro #Venice #Italy #CruiseDomain #thaitimes #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #เที่ยว #เขมจิราต้องรอด
    ❤️ ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 3 ประเทศสุดโรแมนติก สัมผัสความสวยงามของ อิตาลี – มอนเตเนโกร – โครเอเชีย 🌍 Royal Caribbean พร้อมบริการระดับพรีเมียม ดูแลตลอดทริปสำหรับคุณและครอบครัว 💫 🛳 Voyager of the SEAs | 12 วัน 9 คืน 📆 เดินทาง: 18 – 29 ตุลาคม 2568 📍 เส้นทางไฮไลต์: อิตาลีใต้: เมืองโบราณปอมเปอี, เนเปิ้ล, ปากปล่องภูเขาไฟเอทน่า (เมสซิน่า) มอนเตเนโกร: เมืองบาร์ และเมืองโคตอร์ริมทะเลแอดรียาติก โครเอเชีย: ดูบรอฟนิค เมืองมรดกโลก และเมืองสปลิตสุดคลาสสิก อิตาลีเหนือ: ช้อปปิ้งเอาท์เล็ตฟิเรนเซ่, มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน และเสน่ห์เวนิสล่องเรือกอนโดลา 💰 ราคาเริ่มต้นเพียง: ฿149,900 (ห้องไม่มีหน้าต่าง) ✅ พักโรงแรมในโรม 1 คืน + เวนิส 1 คืน ✅ พักบนเรือ Voyager Of The Seas 7 คืน ✅ รวมตั๋วเครื่องบินไป–กลับ ✅ หัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดการเดินทาง ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYT-QR-12D9N-CVV-VCE-2510181 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/efa9e9 ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/648705 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือVoyageroftheSEAs #RoyalCaribbean #Mediterranean #Dubrovnik #Croatia #Kotor #Montenegro #Venice #Italy #CruiseDomain #thaitimes #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #เที่ยว #เขมจิราต้องรอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันเสาร์ที่ 16 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันเสาร์ที่ 16 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep306 (Live )
    ขอเรียกร้องให้ ต่ออายุราชการท่านแม่ทัพภาคที่ 2 หรือเขิญมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ปัญหาคือ “เก้าอี้ตัวนี้มีคนจองแล้ว” จะเป็นใครต้องติดตาม

    https://www.youtube.com/watch?v=v0nTnPtjxqA

    #Sondhi #Sondhitalk #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #Live
    🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep306 (Live ) ขอเรียกร้องให้ ต่ออายุราชการท่านแม่ทัพภาคที่ 2 หรือเขิญมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ปัญหาคือ “เก้าอี้ตัวนี้มีคนจองแล้ว” จะเป็นใครต้องติดตาม https://www.youtube.com/watch?v=v0nTnPtjxqA #Sondhi #Sondhitalk #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #Live
    Like
    Love
    Yay
    14
    9 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP27 | ปลดล็อกความคิด นราธิวาสเมืองน่าเที่ยว

    นราธิวาสไม่ใช่เพียงปลายด้ามขวานที่เคยถูกมองผ่านมุมเดิม ๆ แต่คือจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ วัฒนธรรมที่หลากหลาย และผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต

    ในตอนนี้ รายการจะพาผู้ชมไป ปลดล็อกความคิดเดิม ๆ ที่เคยมีต่อพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และเปิดมุมมองใหม่ว่า “นราธิวาส” คือเมืองที่น่าค้นหา น่าท่องเที่ยว และน่าเรียนรู้ ทั้งในมิติของธรรมชาติ ศาสนา และวิถีชีวิต

    พบกับสถานที่จริง ผู้คนจริง และเรื่องราวจริง ที่จะทำให้คุณเข้าใจว่า ภายใต้ความเรียบง่ายของผู้คน มีความงดงามของความร่วมมือ ความหวัง และศรัทธาซ่อนอยู่

    ติดตามการเดินทางครั้งนี้ แล้วคุณจะพบว่า บางมุมของประเทศไทยอาจยังรอให้เราเปิดใจไปเรียนรู้

    #สลามเมืองไทย #EP27 #ปลดล็อกความคิด #นราธิวาสเมืองน่าเที่ยว #ชายแดนใต้ #เที่ยววิถีมุสลิม #ThaiMuslimCulture #เที่ยวอย่างเข้าใจ #MuslimFriendlyDestination #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP27 | ปลดล็อกความคิด นราธิวาสเมืองน่าเที่ยว นราธิวาสไม่ใช่เพียงปลายด้ามขวานที่เคยถูกมองผ่านมุมเดิม ๆ แต่คือจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ วัฒนธรรมที่หลากหลาย และผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต ในตอนนี้ รายการจะพาผู้ชมไป ปลดล็อกความคิดเดิม ๆ ที่เคยมีต่อพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และเปิดมุมมองใหม่ว่า “นราธิวาส” คือเมืองที่น่าค้นหา น่าท่องเที่ยว และน่าเรียนรู้ ทั้งในมิติของธรรมชาติ ศาสนา และวิถีชีวิต พบกับสถานที่จริง ผู้คนจริง และเรื่องราวจริง ที่จะทำให้คุณเข้าใจว่า ภายใต้ความเรียบง่ายของผู้คน มีความงดงามของความร่วมมือ ความหวัง และศรัทธาซ่อนอยู่ ติดตามการเดินทางครั้งนี้ แล้วคุณจะพบว่า บางมุมของประเทศไทยอาจยังรอให้เราเปิดใจไปเรียนรู้ #สลามเมืองไทย #EP27 #ปลดล็อกความคิด #นราธิวาสเมืองน่าเที่ยว #ชายแดนใต้ #เที่ยววิถีมุสลิม #ThaiMuslimCulture #เที่ยวอย่างเข้าใจ #MuslimFriendlyDestination #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ภาวะสงครามกับเขมร แต่รัฐบาลไทยไม่เด็ดขาดกับคนเขมร,ไส้ศึกได้ตลอดเวลา,ไม่ส่งกลับก็ต้องกักตัวทันทีเฉพาะจุด อาจเกาะใดเกาะหนึ่งของไทยก็ได้หากสงสารนัก,สงครามสงบจะรับกลับคืนมาตอนไหนใหม่อีกก็ได้,ต้องเอาคนไทยตนไว้ก่อน,ไม่สามารถไว้วางใจคนเขมรทุกๆกรณีนั้นเอง,เพราะจิตใจคนเขมรถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กแล้วนั้นเอง,มองไทยคือศัตรู และเก็บไว้ซ่อนไว้ลึกๆก่อนเพราะโอกาสยังไม่มีความสามารถเหนือกว่าพอตอบโต้คนไทยบนแผ่นดินไทยได้,หมาหางตกก่อนแบบใดก็แบบนั้น,สงสารก็สงสารจริงในคนดีจริงๆของเขมร,แต่เราสแกนใจคนเขมรทุกๆคนว่าใครจริงใจไม่ได้,เขาเข้ามาก็เพื่อเงิน หางานแค่นั้น กอบโกยตังจากแผ่นดินไทย,มีลูกมีเมียบนแผ่นดินไทยคือเรื่องปกติ,แต่อธิปไตยชาติมิอาจล่อเล่นแค่เส้นสงสารทำให้แพ้สงครามและสูญเสียแผ่นดินไทยได้,เพื่อน งาน เมีย ผัว หาใหม่ได้ แต่ญาติ พี่ น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายายเรา ที่ดีที่งามที่จริงใจในครอบครัวเราหาใหม่ไม่ได้,คนนอกคือคนนอก,เรามิใช่พระ เขาก็มิใช่พระที่จริงใจดีงามบริสุทธิ์ผุดผ่อง,พระปัจจุบันเอาสีกากอล์ฟธรรมดาที่ไหน พระดีพระเลวยังต้องแยกแยะอีก นี้คนเขมรสันดานก็รู้ทั่วประเทศอีก.

    https://youtube.com/watch?v=7wJss5hM_iA&si=u0AAixdP42-N_ci7
    ภาวะสงครามกับเขมร แต่รัฐบาลไทยไม่เด็ดขาดกับคนเขมร,ไส้ศึกได้ตลอดเวลา,ไม่ส่งกลับก็ต้องกักตัวทันทีเฉพาะจุด อาจเกาะใดเกาะหนึ่งของไทยก็ได้หากสงสารนัก,สงครามสงบจะรับกลับคืนมาตอนไหนใหม่อีกก็ได้,ต้องเอาคนไทยตนไว้ก่อน,ไม่สามารถไว้วางใจคนเขมรทุกๆกรณีนั้นเอง,เพราะจิตใจคนเขมรถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กแล้วนั้นเอง,มองไทยคือศัตรู และเก็บไว้ซ่อนไว้ลึกๆก่อนเพราะโอกาสยังไม่มีความสามารถเหนือกว่าพอตอบโต้คนไทยบนแผ่นดินไทยได้,หมาหางตกก่อนแบบใดก็แบบนั้น,สงสารก็สงสารจริงในคนดีจริงๆของเขมร,แต่เราสแกนใจคนเขมรทุกๆคนว่าใครจริงใจไม่ได้,เขาเข้ามาก็เพื่อเงิน หางานแค่นั้น กอบโกยตังจากแผ่นดินไทย,มีลูกมีเมียบนแผ่นดินไทยคือเรื่องปกติ,แต่อธิปไตยชาติมิอาจล่อเล่นแค่เส้นสงสารทำให้แพ้สงครามและสูญเสียแผ่นดินไทยได้,เพื่อน งาน เมีย ผัว หาใหม่ได้ แต่ญาติ พี่ น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายายเรา ที่ดีที่งามที่จริงใจในครอบครัวเราหาใหม่ไม่ได้,คนนอกคือคนนอก,เรามิใช่พระ เขาก็มิใช่พระที่จริงใจดีงามบริสุทธิ์ผุดผ่อง,พระปัจจุบันเอาสีกากอล์ฟธรรมดาที่ไหน พระดีพระเลวยังต้องแยกแยะอีก นี้คนเขมรสันดานก็รู้ทั่วประเทศอีก. https://youtube.com/watch?v=7wJss5hM_iA&si=u0AAixdP42-N_ci7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • รั้วสไตล์เวียดนามใช้ชั่วคราวก็ดี.,เราใช้1:50,000ทำเองเลย,ระดมบริจาคตั้งเป็นกองทุนรั้วของชาติโดยเฉพาะเลย จิตศรัทธาเราคนไทยทั่วประเทศได้เท่าไรก็ได้ตลอดปีกันเลยจนเสร็จ กฐินหรือผ้าป่าลงวัดหรือใดๆ โอนมากองทุนรั้วแห่งชาติยิงดี,วัดดังๆทั่วไทยทำถึงแน่นอน,ปัจจุบันที่แฉๆกันวัดทั่วไปเงินกว่า400,000ล้านบาทธรรมดาที่ไหน,นี้คือแรงบริจาคจาคะพื้นฐานของจิตใจที่ดีงามของเราคนไทยปกติอยู่แล้ว,รัฐบาลพึ่งพาไม่ได้ แอ็คชั่นไม่ถึง ปล่อยปะละเลยจนเขมรยึดครองพื้นที่เขตไทยตนเองกว่า11จุดนี้คือกบฎชัดเจน,สาระพัดมากมายยกสมบัติทรัพยากรมีค่าตีมูลค่าเป็นเงินเป็นตังมหาศาลมาใช้พัฒนาประเทศได้มากมายก็ไปยกให้เอกชนต่างชาติเอกชนไทยทำกำไรทำเงินมหาศาลร่ำรวยมั่งคั่งแทนคนไทยตนประเทศไทยตน ให้ต่างชาติผูกขาดได้สิทธิไปหมด ส่วนคนไทยถึงบัตรคนจนเพิ่ม.ทหารบ้านเขมรยึดพื้นที่11จุดมานานขนาดนี้ถึง17ปี สามารถนับย้อนหลังได้ว่าเป็นช่วงของรัฐบาลใครในอดีตบ้าง แน่นอนต้องมียุคกปปส.ถวายพานทหารยึดอำนาจด้วย ซึ่งอำนาจเต็มล่าสุดของตนเต็มมือเต็มตีน ต้องขุดออกมาแฉความจริงทั้งหมดว่าเหตุใดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่สืบต่อกันมายาวนานได้ขนาดนี้.

    https://youtube.com/shorts/8c5Uit7xJKo?si=ECeC-8QywBoJ6052
    รั้วสไตล์เวียดนามใช้ชั่วคราวก็ดี.,เราใช้1:50,000ทำเองเลย,ระดมบริจาคตั้งเป็นกองทุนรั้วของชาติโดยเฉพาะเลย จิตศรัทธาเราคนไทยทั่วประเทศได้เท่าไรก็ได้ตลอดปีกันเลยจนเสร็จ กฐินหรือผ้าป่าลงวัดหรือใดๆ โอนมากองทุนรั้วแห่งชาติยิงดี,วัดดังๆทั่วไทยทำถึงแน่นอน,ปัจจุบันที่แฉๆกันวัดทั่วไปเงินกว่า400,000ล้านบาทธรรมดาที่ไหน,นี้คือแรงบริจาคจาคะพื้นฐานของจิตใจที่ดีงามของเราคนไทยปกติอยู่แล้ว,รัฐบาลพึ่งพาไม่ได้ แอ็คชั่นไม่ถึง ปล่อยปะละเลยจนเขมรยึดครองพื้นที่เขตไทยตนเองกว่า11จุดนี้คือกบฎชัดเจน,สาระพัดมากมายยกสมบัติทรัพยากรมีค่าตีมูลค่าเป็นเงินเป็นตังมหาศาลมาใช้พัฒนาประเทศได้มากมายก็ไปยกให้เอกชนต่างชาติเอกชนไทยทำกำไรทำเงินมหาศาลร่ำรวยมั่งคั่งแทนคนไทยตนประเทศไทยตน ให้ต่างชาติผูกขาดได้สิทธิไปหมด ส่วนคนไทยถึงบัตรคนจนเพิ่ม.ทหารบ้านเขมรยึดพื้นที่11จุดมานานขนาดนี้ถึง17ปี สามารถนับย้อนหลังได้ว่าเป็นช่วงของรัฐบาลใครในอดีตบ้าง แน่นอนต้องมียุคกปปส.ถวายพานทหารยึดอำนาจด้วย ซึ่งอำนาจเต็มล่าสุดของตนเต็มมือเต็มตีน ต้องขุดออกมาแฉความจริงทั้งหมดว่าเหตุใดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่สืบต่อกันมายาวนานได้ขนาดนี้. https://youtube.com/shorts/8c5Uit7xJKo?si=ECeC-8QywBoJ6052
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    สัทธรรมลำดับที่ : 716
    ชื่อบทธรรม :- ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    --ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ;
    เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก.
    --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด.
    +--เพราะว่า #ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด
    เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ;
    นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น
    http://etipitaka.com/read/pali/25/52/?keywords=นรสฺส+นาริสุ
    เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น.
    ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ
    จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว.
    +--คนพาลย่อมคิดผิดว่า
    เราจักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูฝน จักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน ดังนี้
    ย่อมไม่รู้อันตราย มัจจุย่อมพาเอาคนผู้มัวเมาในบุตรและปสุสัตว์
    มีมนัสข้องติดในอารมณ์ต่างๆ เหมือนห้วงน้ำใหญ่พาเอาชาวบ้านผู้หลับไป ฉะนั้น
    +--เมื่อบุคคลถูกมัจจุผู้ทำซึ่งที่สุดครอบงำแล้ว
    บุตรทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทานบิดา
    ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ถึงพวกพ้องทั้งหลาย
    ก็ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ความเป็นผู้ต้านทานไม่มีในญาติทั้งหลาย
    +--บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นี้แล้ว
    พึงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยศีล
    พึงรีบชำระทางเป็นที่ไปสู่นิพพานพลันทีเดียว

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/36/30.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/36/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=716
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน สัทธรรมลำดับที่ : 716 ชื่อบทธรรม :- ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716 เนื้อความทั้งหมด :- --ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน --ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ; เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก. --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด. +--เพราะว่า #ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ; นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น http://etipitaka.com/read/pali/25/52/?keywords=นรสฺส+นาริสุ เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น. ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว. +--คนพาลย่อมคิดผิดว่า เราจักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูฝน จักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน ดังนี้ ย่อมไม่รู้อันตราย มัจจุย่อมพาเอาคนผู้มัวเมาในบุตรและปสุสัตว์ มีมนัสข้องติดในอารมณ์ต่างๆ เหมือนห้วงน้ำใหญ่พาเอาชาวบ้านผู้หลับไป ฉะนั้น +--เมื่อบุคคลถูกมัจจุผู้ทำซึ่งที่สุดครอบงำแล้ว บุตรทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทานบิดา ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ถึงพวกพ้องทั้งหลาย ก็ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ความเป็นผู้ต้านทานไม่มีในญาติทั้งหลาย +--บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นี้แล้ว พึงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยศีล พึงรีบชำระทางเป็นที่ไปสู่นิพพานพลันทีเดียว #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/36/30. http://etipitaka.com/read/thai/25/36/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐. http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=716 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - [สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “ไม่ใช่ของเธอ” นั้น ในสูตรอื่น (๑๘/๑๖๒ /๒๒๐) ทรงแสดงด้วย อาตนะภายนอกหก คือ รูปะ .... สัททะ .... คันธะ .... รสะ .... โผฏฐัพพะ .... ธัมมารัมมณะ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๒/๒๗๙/๒๘๗; ๑๗/๔๒/๗๑-๗๒) ทรงแสดงด้วย เบญจขันธ์ คือ รูป .... เวทนา .... สัญญา .... สังขาร .... วิญญาณ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๘/๑๐๐/๑๔๙) ทรงแสดงด้วย อายตนิกธรรมห้าหมวด คืออายตนะภายในหก .... อายตนะภายนอกหก .... วิญญาณหก .... สัมผัสหก .... เวทนาหก.... รวมเป็นสามสิบ ดังนี้ก็มี].
    -[สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “ไม่ใช่ของเธอ” นั้น ในสูตรอื่น (๑๘/๑๖๒ /๒๒๐) ทรงแสดงด้วย อาตนะภายนอกหก คือ รูปะ .... สัททะ .... คันธะ .... รสะ .... โผฏฐัพพะ .... ธัมมารัมมณะ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๒/๒๗๙/๒๘๗; ๑๗/๔๒/๗๑-๗๒) ทรงแสดงด้วย เบญจขันธ์ คือ รูป .... เวทนา .... สัญญา .... สังขาร .... วิญญาณ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๘/๑๐๐/๑๔๙) ทรงแสดงด้วย อายตนิกธรรมห้าหมวด คืออายตนะภายในหก .... อายตนะภายนอกหก .... วิญญาณหก .... สัมผัสหก .... เวทนาหก.... รวมเป็นสามสิบ ดังนี้ก็มี]. ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ; เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด. เพราะว่า ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ; นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น. ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    สัทธรรมลำดับที่ : 347
    ชื่อบทธรรม :- ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    --ภิกษุ ท. ! อริยสัจมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ:-
    ๑.ทุกขอริยสัจ
    ๒.ทุกขสมุทยอริยสัจ
    ๓.ทุกขนิโรธอริยสัจ
    ๔.ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ #อริยสัจสี่อย่าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=จตฺตาริ+อริยสจฺจานิ
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอริยสัจสี่อย่างเหล่านี้,
    อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้ มีอยู่,
    อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละ มีอยู่.

    -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้นั้น ได้แก่ อริยสัจคือ ทุกข์ ;
    -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละนั้น ได้แก่ อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์.
    ทุกขนิโรธอริยสัจ ควรกระทำให้แจ้ง
    ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ควรให้เกิดมี(เจริญ)

    --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้
    พวกเธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามที่เป็นจริง
    ว่า ‘ทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’, ดังนี้ ;
    ว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’ ;ดังนี้; ...
    เถิด.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก#บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/432/1709
    http://etipitaka.com/read/thai/19/432/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๖/๑๗๐๙
    http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=347
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ สัทธรรมลำดับที่ : 347 ชื่อบทธรรม :- ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ --ภิกษุ ท. ! อริยสัจมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ:- ๑.ทุกขอริยสัจ ๒.ทุกขสมุทยอริยสัจ ๓.ทุกขนิโรธอริยสัจ ๔.ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ #อริยสัจสี่อย่าง. http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=จตฺตาริ+อริยสจฺจานิ --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอริยสัจสี่อย่างเหล่านี้, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้ มีอยู่, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละ มีอยู่. -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้นั้น ได้แก่ อริยสัจคือ ทุกข์ ; -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละนั้น ได้แก่ อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์. ทุกขนิโรธอริยสัจ ควรกระทำให้แจ้ง ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ควรให้เกิดมี(เจริญ) --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามที่เป็นจริง ว่า ‘ทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’, ดังนี้ ; ว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’ ;ดังนี้; ... เถิด.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก​ #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/432/1709 http://etipitaka.com/read/thai/19/432/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๖/๑๗๐๙ http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=347 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    -ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ ภิกษุ ท. ! อริยสัจมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ:- ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทยอริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ อริยสัจสี่อย่าง. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอริยสัจสี่อย่างเหล่านี้, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้มีอยู่, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละ มีอยู่. .... ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้นั้น ได้แก่ อริยสัจคือ ทุกข์ ; อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละนั้น ได้แก่ อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์. .... ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตาที่เป็นจริง ว่า ‘ทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’, ดังนี้ ; ว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’ ; .... ดังนี้เถิด.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/vckH7LWCq2Q?si=t5jVcoEzJ7y9MDEs
    https://youtube.com/shorts/vckH7LWCq2Q?si=t5jVcoEzJ7y9MDEs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/watch?v=kqGsNQC2Hgw&si=qFfdnynu345TOaRl
    https://youtube.com/watch?v=kqGsNQC2Hgw&si=qFfdnynu345TOaRl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/CUVFOkl_WMY?si=ELXuEtFK-_egy2NX
    https://youtu.be/CUVFOkl_WMY?si=ELXuEtFK-_egy2NX
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/2m3V-ETEqvc?si=B0WYbEKjnwPxKds4
    https://youtu.be/2m3V-ETEqvc?si=B0WYbEKjnwPxKds4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/_uhmxq4sJns?si=ij48E2qhbpvqi7_v
    https://youtube.com/shorts/_uhmxq4sJns?si=ij48E2qhbpvqi7_v
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/kChjYqUesWM?si=AJAA2_mlAyXgwQft
    https://youtu.be/kChjYqUesWM?si=AJAA2_mlAyXgwQft
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts