• ภาค1 ส 12-7-68 ..
    E:\- m1 ภาค ส่ง
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล
    ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน

    ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง

    ภาค1 ส 12-7-68 .. E:\- m1 ภาค ส่ง 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • ยุโรปตะวันตก "กำลังพ่ายแพ้" ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ 2 คู่แข่งสำคัญ จีนและสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก จากความเห็นของเจมี ดิมอน ซีอีโอของสถาบันการเงินเจพีมอร์แกน เชส

    นับตั้งแต่ปี 2022 ครั้งที่สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมเล่นงานพลังงานรัสเซีย ลงโทษเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน การเติบโตทั่วทั้งกลุ่มอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

    มอสโก ระบุว่ามาตรการจำกัดต่างๆของอียูเป็นการกระทำที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของตนเอง กระพือราคาพลังงานพุ่งสูงและก่อความอ่อนแอแก่เศรษฐกิจของทางกลุ่ม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000065526

    #Thaitimes #MGROnline #ยุโรปตะวันตก #สหภาพยุโรป #อียู
    ยุโรปตะวันตก "กำลังพ่ายแพ้" ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ 2 คู่แข่งสำคัญ จีนและสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก จากความเห็นของเจมี ดิมอน ซีอีโอของสถาบันการเงินเจพีมอร์แกน เชส • นับตั้งแต่ปี 2022 ครั้งที่สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมเล่นงานพลังงานรัสเซีย ลงโทษเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน การเติบโตทั่วทั้งกลุ่มอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน • มอสโก ระบุว่ามาตรการจำกัดต่างๆของอียูเป็นการกระทำที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของตนเอง กระพือราคาพลังงานพุ่งสูงและก่อความอ่อนแอแก่เศรษฐกิจของทางกลุ่ม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000065526 • #Thaitimes #MGROnline #ยุโรปตะวันตก #สหภาพยุโรป #อียู
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • Silicon Motion เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD PCIe Gen6 – เร็วกว่าเดิมเท่าตัว รองรับ 512 TB

    Silicon Motion เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD รุ่นใหม่ SM8466 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ MonTitan ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระดับองค์กรและศูนย์ข้อมูล โดยใช้เทคโนโลยี PCIe Gen6 ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 28 GB/s และรองรับ IOPS สูงถึง 7 ล้านครั้งต่อวินาที—มากกว่ารุ่นก่อนถึงเท่าตัว

    ตัวคอนโทรลเลอร์ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm ของ TSMC และรองรับมาตรฐานใหม่ NVMe 2.0+, OCP NVMe SSD Spec 2.5 พร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยครบครัน เช่น Secure Boot, AES-256, TCG Opal และ End-to-End Data Protection

    เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน SM8366 (Gen5):
    - ความเร็ว: 28 GB/s vs 14.2 GB/s
    - ความจุ: 512 TB vs 128 TB
    - IOPS: 7 ล้าน vs 3.5 ล้าน
    - เทคโนโลยีการผลิต: 4nm vs 12nm

    อย่างไรก็ตาม คอนโทรลเลอร์นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเปิดตัวเทคโนโลยีเท่านั้น และผลิตภัณฑ์จริงจะเริ่มใช้งานในตลาดช่วงปี 2026–2027 โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ ส่วนตลาดผู้บริโภคทั่วไปอาจต้องรอถึงปี 2030 กว่าจะได้ใช้ SSD ที่รองรับ PCIe Gen6

    ข้อมูลจากข่าว
    - Silicon Motion เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD รุ่น SM8466 รองรับ PCIe Gen6
    - ความเร็วสูงสุด 28 GB/s และรองรับความจุสูงสุด 512 TB
    - รองรับมาตรฐาน NVMe 2.0+, OCP Spec 2.5 และฟีเจอร์ความปลอดภัยหลายรายการ
    - ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm ของ TSMC
    - IOPS สูงสุด 7 ล้านครั้งต่อวินาที
    - เปรียบเทียบกับรุ่นก่อน SM8366: เร็วขึ้น 2 เท่า, ความจุเพิ่ม 4 เท่า
    - คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในปี 2026–2027 สำหรับตลาดองค์กร
    - ตลาดผู้บริโภคทั่วไปอาจได้ใช้ PCIe Gen6 SSD หลังปี 2030

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - คอนโทรลเลอร์ SM8466 ยังไม่พร้อมใช้งานในตลาดทั่วไป ต้องรออีกหลายปี
    - PCIe Gen5 SSD ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในตลาดผู้บริโภค ทำให้ Gen6 ยิ่งห่างไกล
    - การเปลี่ยนไปใช้ Gen6 ต้องอัปเกรดทั้งเมนบอร์ด, CPU และระบบจัดเก็บข้อมูล
    - ความเร็วสูงอาจมาพร้อมกับความร้อนและการใช้พลังงานที่มากขึ้น
    - องค์กรควรวางแผนล่วงหน้าในการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ Gen6

    https://wccftech.com/silicon-motion-first-pcie-gen6-ssd-controller-enterprise-sm8466-up-to-28-gbps-speeds-512-tb-capacities/
    Silicon Motion เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD PCIe Gen6 – เร็วกว่าเดิมเท่าตัว รองรับ 512 TB Silicon Motion เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD รุ่นใหม่ SM8466 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ MonTitan ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระดับองค์กรและศูนย์ข้อมูล โดยใช้เทคโนโลยี PCIe Gen6 ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 28 GB/s และรองรับ IOPS สูงถึง 7 ล้านครั้งต่อวินาที—มากกว่ารุ่นก่อนถึงเท่าตัว ตัวคอนโทรลเลอร์ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm ของ TSMC และรองรับมาตรฐานใหม่ NVMe 2.0+, OCP NVMe SSD Spec 2.5 พร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยครบครัน เช่น Secure Boot, AES-256, TCG Opal และ End-to-End Data Protection เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน SM8366 (Gen5): - ความเร็ว: 28 GB/s vs 14.2 GB/s - ความจุ: 512 TB vs 128 TB - IOPS: 7 ล้าน vs 3.5 ล้าน - เทคโนโลยีการผลิต: 4nm vs 12nm อย่างไรก็ตาม คอนโทรลเลอร์นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเปิดตัวเทคโนโลยีเท่านั้น และผลิตภัณฑ์จริงจะเริ่มใช้งานในตลาดช่วงปี 2026–2027 โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ ส่วนตลาดผู้บริโภคทั่วไปอาจต้องรอถึงปี 2030 กว่าจะได้ใช้ SSD ที่รองรับ PCIe Gen6 ✅ ข้อมูลจากข่าว - Silicon Motion เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ SSD รุ่น SM8466 รองรับ PCIe Gen6 - ความเร็วสูงสุด 28 GB/s และรองรับความจุสูงสุด 512 TB - รองรับมาตรฐาน NVMe 2.0+, OCP Spec 2.5 และฟีเจอร์ความปลอดภัยหลายรายการ - ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm ของ TSMC - IOPS สูงสุด 7 ล้านครั้งต่อวินาที - เปรียบเทียบกับรุ่นก่อน SM8366: เร็วขึ้น 2 เท่า, ความจุเพิ่ม 4 เท่า - คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในปี 2026–2027 สำหรับตลาดองค์กร - ตลาดผู้บริโภคทั่วไปอาจได้ใช้ PCIe Gen6 SSD หลังปี 2030 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - คอนโทรลเลอร์ SM8466 ยังไม่พร้อมใช้งานในตลาดทั่วไป ต้องรออีกหลายปี - PCIe Gen5 SSD ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในตลาดผู้บริโภค ทำให้ Gen6 ยิ่งห่างไกล - การเปลี่ยนไปใช้ Gen6 ต้องอัปเกรดทั้งเมนบอร์ด, CPU และระบบจัดเก็บข้อมูล - ความเร็วสูงอาจมาพร้อมกับความร้อนและการใช้พลังงานที่มากขึ้น - องค์กรควรวางแผนล่วงหน้าในการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ Gen6 https://wccftech.com/silicon-motion-first-pcie-gen6-ssd-controller-enterprise-sm8466-up-to-28-gbps-speeds-512-tb-capacities/
    WCCFTECH.COM
    Silicon Motion Unveils Its First PCIe Gen6 SSD Controller For Enterprise: SM8466 With Up To 28 GB/s Speeds & 512 TB Capacities
    Silicon Motion has unveiled its next-gen PCIe Gen6 SSD controller which will be used to power the high-end enterprise level storage products.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • กรรมหมู่: พลังเงียบที่กำหนดชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว

    เคยไหม? ตอนแรก เฉยๆ กับใครอยู่
    แต่พอเห็นคนรอบข้างแขวะ เหน็บ ด่า
    เราก็พลอยอยากด่าตาม
    ทั้งที่เขาไม่เคยทำอะไรให้เลย...

    แล้วเคยไหม? ตอนแรก ขี้เกียจๆ อยากนอนยาว
    แต่พออยู่ในทีมที่ใครๆ ก็ขยัน
    เรากลับคึกคักตาม เหมือนได้พลังงานบางอย่าง
    มาสะกิดให้ฮึดขึ้นมาจริงๆ

    สิ่งเหล่านี้แหละ...เรียกว่า
    “กระแสกรรมหมู่”

    คิดพร้อมกัน → มโนกรรมหมู่
    พูดพร้อมกัน → วจีกรรมหมู่
    ทำพร้อมกัน → กายกรรมหมู่

    ไม่ว่าเราจะเข้าร่วมโดยตั้งใจ
    หรือเผลอไหลไปกับกระแส
    ผลกรรมก็จะตามมาแน่นอน
    แม้จะไม่พร้อมกัน
    แต่ก็ไม่หนีหาย

    ถ้าเจอกันบ่อย ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ
    จะถักทอเป็นเครือข่ายกรรม
    จนสุดท้ายกลายเป็นพันธะ
    → เป็นครอบครัวเดียวกัน
    → เป็นเมืองเดียวกัน
    → หรือแม้แต่ “โลกเดียวกัน”
    เพื่อรอรับผลกรรมร่วมกัน

    ผู้ไม่ประมาทในชีวิต
    จะรู้เท่าทันว่า
    “นี่คือกระแสของคนหมู่มาก หรือคือกรรมของเราแท้จริง?”

    ใครรู้ตัวไว
    ตั้งหลักเร็ว
    เลือกทำเฉพาะกรรมขาวกรรมดี
    เขาคือผู้มีสิทธิ์ “หลุดพ้น”
    จากกระแสทุกข์ของโลกอย่างแท้จริง

    ถูกกระแสปั่นหัวง่าย → ทำมาก รับผลมาก
    ถูกกระแสปั่นหัวยาก → ทำน้อย รับผลน้อย

    อยู่กับสติเสมอ
    เลือกเส้นทางกรรมด้วยใจที่ตื่นรู้
    คือทางเดียว...ที่ชีวิตจะไม่เสียของ

    #กรรมหมู่มีจริง
    #ธรรมะวันนี้
    #คิดพิจารณาก่อนคล้อยตาม
    #โพสต์เพื่อเตือนใจ
    🌪️ กรรมหมู่: พลังเงียบที่กำหนดชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว เคยไหม? ตอนแรก เฉยๆ กับใครอยู่ แต่พอเห็นคนรอบข้างแขวะ เหน็บ ด่า เราก็พลอยอยากด่าตาม ทั้งที่เขาไม่เคยทำอะไรให้เลย... แล้วเคยไหม? ตอนแรก ขี้เกียจๆ อยากนอนยาว แต่พออยู่ในทีมที่ใครๆ ก็ขยัน เรากลับคึกคักตาม เหมือนได้พลังงานบางอย่าง มาสะกิดให้ฮึดขึ้นมาจริงๆ สิ่งเหล่านี้แหละ...เรียกว่า “กระแสกรรมหมู่” ✅ คิดพร้อมกัน → มโนกรรมหมู่ ✅ พูดพร้อมกัน → วจีกรรมหมู่ ✅ ทำพร้อมกัน → กายกรรมหมู่ ไม่ว่าเราจะเข้าร่วมโดยตั้งใจ หรือเผลอไหลไปกับกระแส ผลกรรมก็จะตามมาแน่นอน แม้จะไม่พร้อมกัน แต่ก็ไม่หนีหาย 📌 ถ้าเจอกันบ่อย ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ จะถักทอเป็นเครือข่ายกรรม จนสุดท้ายกลายเป็นพันธะ → เป็นครอบครัวเดียวกัน → เป็นเมืองเดียวกัน → หรือแม้แต่ “โลกเดียวกัน” เพื่อรอรับผลกรรมร่วมกัน 👁️ ผู้ไม่ประมาทในชีวิต จะรู้เท่าทันว่า “นี่คือกระแสของคนหมู่มาก หรือคือกรรมของเราแท้จริง?” ใครรู้ตัวไว ตั้งหลักเร็ว เลือกทำเฉพาะกรรมขาวกรรมดี เขาคือผู้มีสิทธิ์ “หลุดพ้น” จากกระแสทุกข์ของโลกอย่างแท้จริง 🌀 ถูกกระแสปั่นหัวง่าย → ทำมาก รับผลมาก 🧘‍♀️ ถูกกระแสปั่นหัวยาก → ทำน้อย รับผลน้อย อยู่กับสติเสมอ เลือกเส้นทางกรรมด้วยใจที่ตื่นรู้ คือทางเดียว...ที่ชีวิตจะไม่เสียของ #กรรมหมู่มีจริง #ธรรมะวันนี้ #คิดพิจารณาก่อนคล้อยตาม #โพสต์เพื่อเตือนใจ
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • เครื่องหั่นกล้วยดิบ (Potato Slicer) สำหรับธุรกิจอาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปกล้วยดิบ
    หั่นกล้วยดิบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ! เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในการหั่นกล้วยดิบ ไม่ว่าจะเป็นการทำกล้วยทอด กล้วยตาก หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้กล้วยเป็นส่วนประกอบหลัก!

    คุณสมบัติเด่น:
    ใช้ไฟฟ้า 220V มอเตอร์ 1 แรงม้า ประหยัดพลังงาน
    กำลังการผลิตสูง 100-300 กก./ชั่วโมง
    ขนาดกะทัดรัด 468 x 572 x 690 MM น้ำหนักเพียง 43 กก.
    หั่นได้หลายรูปแบบ ทั้งแผ่น เส้น หรือแท่ง
    ปรับความหนาบางได้ ตามความต้องการ พร้อมใบมีด 3 ขนาด

    เหมาะสำหรับ:
    ร้านขายกล้วยทอด หรือธุรกิจแปรรูปกล้วย
    โรงงานผลิตขนมจากกล้วย เช่น กล้วยตาก กล้วยฉาบ
    ผู้ที่ต้องการเครื่องมือทำอาหารที่ทนทานและใช้งานง่าย

    สนใจสินค้าหรือทดลองใช้เครื่องหั่นกล้วยดิบ สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลย
    เวลาเปิดทำการ:
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    เสาร์ เวลา 8.00-16.00

    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามเพิ่มเติม:
    โทร: 02-215 3515-9 / 081-318 9098
    LINE Business ID: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า)
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    แชทเลย: m.me/yonghahheng
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    อย่ารอช้า! เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณด้วยเครื่องหั่นกล้วยดิบคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคุณ!
    #เครื่องหั่นกล้วยดิบ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นอาหาร #ธุรกิจแปรรูปกล้วย #กล้วยทอด #กล้วยตาก #กล้วยฉาบ #เครื่องใช้ในครัว #อุปกรณ์ร้านอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #สินค้าคุณภาพ #เครื่องครัวมืออาชีพ #ร้านอาหารต้องมี #อุปกรณ์แปรรูปอาหาร #ร้านกล้วยทอด #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #เครื่องหั่นผัก #อาหารอร่อย #ธุรกิจอาหาร #ผลิตภัณฑ์จากกล้วย #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    ✨ เครื่องหั่นกล้วยดิบ (Potato Slicer) สำหรับธุรกิจอาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปกล้วยดิบ 🍌🍴 🎯 หั่นกล้วยดิบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ! เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในการหั่นกล้วยดิบ ไม่ว่าจะเป็นการทำกล้วยทอด กล้วยตาก หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้กล้วยเป็นส่วนประกอบหลัก! 💥 คุณสมบัติเด่น: 🔌 ใช้ไฟฟ้า 220V มอเตอร์ 1 แรงม้า ประหยัดพลังงาน ⚡ กำลังการผลิตสูง 100-300 กก./ชั่วโมง 📏 ขนาดกะทัดรัด 468 x 572 x 690 MM น้ำหนักเพียง 43 กก. ✂️ หั่นได้หลายรูปแบบ ทั้งแผ่น เส้น หรือแท่ง 🛠️ ปรับความหนาบางได้ ตามความต้องการ พร้อมใบมีด 3 ขนาด 🎉 เหมาะสำหรับ: ร้านขายกล้วยทอด หรือธุรกิจแปรรูปกล้วย โรงงานผลิตขนมจากกล้วย เช่น กล้วยตาก กล้วยฉาบ ผู้ที่ต้องการเครื่องมือทำอาหารที่ทนทานและใช้งานง่าย 📍 สนใจสินค้าหรือทดลองใช้เครื่องหั่นกล้วยดิบ สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลย ⏰ เวลาเปิดทำการ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 เสาร์ เวลา 8.00-16.00 📌 แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 📞 สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามเพิ่มเติม: โทร: 02-215 3515-9 / 081-318 9098 LINE Business ID: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com แชทเลย: m.me/yonghahheng E-mail: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com 📢 อย่ารอช้า! เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณด้วยเครื่องหั่นกล้วยดิบคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคุณ! #เครื่องหั่นกล้วยดิบ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นอาหาร #ธุรกิจแปรรูปกล้วย #กล้วยทอด #กล้วยตาก #กล้วยฉาบ #เครื่องใช้ในครัว #อุปกรณ์ร้านอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #สินค้าคุณภาพ #เครื่องครัวมืออาชีพ #ร้านอาหารต้องมี #อุปกรณ์แปรรูปอาหาร #ร้านกล้วยทอด #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #เครื่องหั่นผัก #อาหารอร่อย #ธุรกิจอาหาร #ผลิตภัณฑ์จากกล้วย #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • ..555,มามองมองดูผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยตนเอง,แบบๆทหารผู้ฝ่ายตรงข้ามเรานะ,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,คนก่อนหน้านั้นก็ไม่ซื่อสัตย์อีก,คือเอาแค่ปัจจุบันนะก็เหี้ยบัดสบสุดๆแล้วก็ว่า,นอกจากมีการกวาดล้างจริงๆทำความสะอาดจริงจึงจะพอเชื่อได้ว่าประเทศเราสามารถก้าวกระโดดจริงได้แบบทหารพระราชาเราปฏิวัตรัฐประหารยึดอำนาจทางอำนาจปกครองที่ไม่ซื่อสัตย์ที่เป็นตัวแทนอำนาจตรงจากประชาชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการประเทศแต่ทำหน้าที่ตนไม่ซื่อสัตย์ร่วมกับระบบราชการที่บังคับบัญชาเป็นไปในทิศทางไม่ซื่อสัตย์ด้วย จนพังทั้งระบบ ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก ทั้งเป็นเหยื่อให้ทุนสามานย์ไซออนิสต์โลภตังโลภทองเข้ามาแสวงหาตังหาทองบนแผ่นดินไทยบิดเบือนวิถีสัมมาชีวิตที่ชอบสัมมาอาชีพที่สุจริต,และเมื่อเราทำการเปลี่ยนแปลงได้จริงกวาดล้างไซออนิสต์ในประเทศไทยได้จริงด้วย อิสระภาพแห่งชีวิตและนวัตกรรมล้ำๆใหม่ๆมากมายจะไม่ถูกปกปิดถูกกดขี่ถูกแอบซ่อนอีกต่อไป เพราะพวกไซออนิสต์ชั่วเลวประจำโลกนี้ต้องการไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะประชาชนนั้นล่ะ จะทำตังทำเงินทำทองไม่ได้จึงพยายามทุกๆวิถีทางผ่านอำนาจการเมืองการปกครองในทุกๆประเทศทั่วโลกตลอดอเมริกาเจ้าพ่อใหญ่คับโลกก็ใช้อำนาจใหญ่โตคับโลกนี้บังคับประเทศอื่นๆทั้งหมดห้ามเปิดเผยนำมาโชว์ออกมาก็ว่า,ปล้นขโมย รวบรวมงานวิจัยที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนไว้,อะไรทำตังมากมันก็เอาออกมาบังคับให้คนใช้ แบบพลังงานเทสล่าทาทาเรีย ก็ด้วยปกปิดไว้,ให้ผู้คนใช้น้ำมันแทนก็ว่า พลังงานฟรีใดๆมันขายทำตังไม่ได้ น้ำมันมันขายทำตังมหาศาลได้นั้นล่ะ สถานะอื่นๆก็เช่นกัน อะไรทำตังทำเงินทำทองแก่พวกมันจึงเอาออกมาหมด,อะไรไม่ทำตังให้พวกมันแล้วสูญเสียรายได้สูญเสียตังมันปกปิดไว้.
    ..ประเทศไทยเราคงไม่นานก็ค้นพบมากมายเช่นกัน เมื่อเวลามาถึงคือผู้นำดีผู้ปกครองดีปรากฎก็ว่า.

    https://youtube.com/watch?v=YDSOCMSszpY&si=aPMVn1JB3p9PRVMX
    ..555,มามองมองดูผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยตนเอง,แบบๆทหารผู้ฝ่ายตรงข้ามเรานะ,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,คนก่อนหน้านั้นก็ไม่ซื่อสัตย์อีก,คือเอาแค่ปัจจุบันนะก็เหี้ยบัดสบสุดๆแล้วก็ว่า,นอกจากมีการกวาดล้างจริงๆทำความสะอาดจริงจึงจะพอเชื่อได้ว่าประเทศเราสามารถก้าวกระโดดจริงได้แบบทหารพระราชาเราปฏิวัตรัฐประหารยึดอำนาจทางอำนาจปกครองที่ไม่ซื่อสัตย์ที่เป็นตัวแทนอำนาจตรงจากประชาชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการประเทศแต่ทำหน้าที่ตนไม่ซื่อสัตย์ร่วมกับระบบราชการที่บังคับบัญชาเป็นไปในทิศทางไม่ซื่อสัตย์ด้วย จนพังทั้งระบบ ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก ทั้งเป็นเหยื่อให้ทุนสามานย์ไซออนิสต์โลภตังโลภทองเข้ามาแสวงหาตังหาทองบนแผ่นดินไทยบิดเบือนวิถีสัมมาชีวิตที่ชอบสัมมาอาชีพที่สุจริต,และเมื่อเราทำการเปลี่ยนแปลงได้จริงกวาดล้างไซออนิสต์ในประเทศไทยได้จริงด้วย อิสระภาพแห่งชีวิตและนวัตกรรมล้ำๆใหม่ๆมากมายจะไม่ถูกปกปิดถูกกดขี่ถูกแอบซ่อนอีกต่อไป เพราะพวกไซออนิสต์ชั่วเลวประจำโลกนี้ต้องการไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะประชาชนนั้นล่ะ จะทำตังทำเงินทำทองไม่ได้จึงพยายามทุกๆวิถีทางผ่านอำนาจการเมืองการปกครองในทุกๆประเทศทั่วโลกตลอดอเมริกาเจ้าพ่อใหญ่คับโลกก็ใช้อำนาจใหญ่โตคับโลกนี้บังคับประเทศอื่นๆทั้งหมดห้ามเปิดเผยนำมาโชว์ออกมาก็ว่า,ปล้นขโมย รวบรวมงานวิจัยที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนไว้,อะไรทำตังมากมันก็เอาออกมาบังคับให้คนใช้ แบบพลังงานเทสล่าทาทาเรีย ก็ด้วยปกปิดไว้,ให้ผู้คนใช้น้ำมันแทนก็ว่า พลังงานฟรีใดๆมันขายทำตังไม่ได้ น้ำมันมันขายทำตังมหาศาลได้นั้นล่ะ สถานะอื่นๆก็เช่นกัน อะไรทำตังทำเงินทำทองแก่พวกมันจึงเอาออกมาหมด,อะไรไม่ทำตังให้พวกมันแล้วสูญเสียรายได้สูญเสียตังมันปกปิดไว้. ..ประเทศไทยเราคงไม่นานก็ค้นพบมากมายเช่นกัน เมื่อเวลามาถึงคือผู้นำดีผู้ปกครองดีปรากฎก็ว่า. https://youtube.com/watch?v=YDSOCMSszpY&si=aPMVn1JB3p9PRVMX
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • LPDDR6 มาแล้ว! หน่วยความจำยุคใหม่ที่เร็วกว่าเดิมเท่าตัว

    หลังจากปล่อย DDR5 มาเมื่อ 5 ปีก่อน ล่าสุด JEDEC (องค์กรกำหนดมาตรฐานอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก) ได้เผยแพร่เอกสาร JESD209-6 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ LPDDR6 หรือ Low Power DDR6 ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา เช่น แล็ปท็อป สมาร์ตโฟน และ edge AI

    LPDDR6 มีการปรับโครงสร้างช่องสัญญาณใหม่:
    - จาก DDR5 ที่ใช้ 2 ช่องย่อยขนาด 32-bit
    - LPDDR6 เปลี่ยนเป็น 4 ช่องย่อยขนาด 24-bit
    - ส่งผลให้ latency ลดลง และสามารถประมวลผลพร้อมกันได้มากขึ้น

    ด้านพลังงานก็มีการปรับปรุง:
    - ลดแรงดันไฟฟ้าให้ต่ำลง
    - เพิ่มฟีเจอร์ Dynamic Voltage Frequency Scaling for Low Power (DVFSL) ที่ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อทำงานที่ความถี่ต่ำ

    ความเร็วของ LPDDR6 อยู่ที่ 10,667–14,400 MT/s หรือประมาณ 28.5–38.4 GB/s ซึ่งเร็วกว่า DDR5 ที่โอเวอร์คล็อกสูงสุดในปัจจุบัน

    บริษัทที่สนับสนุนมาตรฐานนี้มีทั้งผู้ผลิตชิป (MediaTek, Qualcomm, Samsung), ผู้ผลิตหน่วยความจำ (Micron, SK hynix), และบริษัทออกแบบ/ทดสอบระบบ (Cadence, Synopsys, Advantest, Keysight)

    แม้ LPDDR6 จะเน้นอุปกรณ์พกพา แต่ JEDEC ก็เตรียมเปิดตัวมาตรฐาน DDR6 สำหรับเดสก์ท็อปภายในปีนี้เช่นกัน

    ข้อมูลจากข่าว
    - JEDEC เปิดตัวมาตรฐาน LPDDR6 ผ่านเอกสาร JESD209-6
    - LPDDR6 ใช้โครงสร้างช่องสัญญาณแบบ 4x24-bit แทน 2x32-bit ของ DDR5
    - ความเร็วอยู่ที่ 10,667–14,400 MT/s หรือ 28.5–38.4 GB/s
    - มีฟีเจอร์ DVFSL เพื่อประหยัดพลังงานในช่วงความถี่ต่ำ
    - ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ เช่น MediaTek, Qualcomm, Samsung, Micron, SK hynix
    - LPDDR6 เหมาะกับอุปกรณ์พกพาและ edge AI
    - JEDEC เตรียมเปิดตัว DDR6 สำหรับเดสก์ท็อปภายในปี 2025

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - LPDDR6 ยังไม่พร้อมใช้งานในตลาดทันที อาจต้องรออีกประมาณ 1 ปีเหมือนตอน DDR5
    - อุปกรณ์ที่ใช้ DDR4 จะเริ่มถูกเลิกผลิตในปี 2025 ทำให้ผู้ใช้ต้องเตรียมอัปเกรด
    - ราคาหน่วยความจำอาจพุ่งสูงในช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี
    - LPDDR6 ยังไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความจุสูงแบบเซิร์ฟเวอร์หรือเดสก์ท็อป
    - ผู้ผลิตอุปกรณ์ต้องปรับปรุงระบบให้รองรับแรงดันไฟฟ้าและโครงสร้างใหม่ของ LPDDR6

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/jedec-publishes-first-lpddr6-standard-new-interface-promises-double-the-effective-bandwidth-of-current-gen
    LPDDR6 มาแล้ว! หน่วยความจำยุคใหม่ที่เร็วกว่าเดิมเท่าตัว หลังจากปล่อย DDR5 มาเมื่อ 5 ปีก่อน ล่าสุด JEDEC (องค์กรกำหนดมาตรฐานอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก) ได้เผยแพร่เอกสาร JESD209-6 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ LPDDR6 หรือ Low Power DDR6 ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา เช่น แล็ปท็อป สมาร์ตโฟน และ edge AI LPDDR6 มีการปรับโครงสร้างช่องสัญญาณใหม่: - จาก DDR5 ที่ใช้ 2 ช่องย่อยขนาด 32-bit - LPDDR6 เปลี่ยนเป็น 4 ช่องย่อยขนาด 24-bit - ส่งผลให้ latency ลดลง และสามารถประมวลผลพร้อมกันได้มากขึ้น ด้านพลังงานก็มีการปรับปรุง: - ลดแรงดันไฟฟ้าให้ต่ำลง - เพิ่มฟีเจอร์ Dynamic Voltage Frequency Scaling for Low Power (DVFSL) ที่ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อทำงานที่ความถี่ต่ำ ความเร็วของ LPDDR6 อยู่ที่ 10,667–14,400 MT/s หรือประมาณ 28.5–38.4 GB/s ซึ่งเร็วกว่า DDR5 ที่โอเวอร์คล็อกสูงสุดในปัจจุบัน บริษัทที่สนับสนุนมาตรฐานนี้มีทั้งผู้ผลิตชิป (MediaTek, Qualcomm, Samsung), ผู้ผลิตหน่วยความจำ (Micron, SK hynix), และบริษัทออกแบบ/ทดสอบระบบ (Cadence, Synopsys, Advantest, Keysight) แม้ LPDDR6 จะเน้นอุปกรณ์พกพา แต่ JEDEC ก็เตรียมเปิดตัวมาตรฐาน DDR6 สำหรับเดสก์ท็อปภายในปีนี้เช่นกัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - JEDEC เปิดตัวมาตรฐาน LPDDR6 ผ่านเอกสาร JESD209-6 - LPDDR6 ใช้โครงสร้างช่องสัญญาณแบบ 4x24-bit แทน 2x32-bit ของ DDR5 - ความเร็วอยู่ที่ 10,667–14,400 MT/s หรือ 28.5–38.4 GB/s - มีฟีเจอร์ DVFSL เพื่อประหยัดพลังงานในช่วงความถี่ต่ำ - ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ เช่น MediaTek, Qualcomm, Samsung, Micron, SK hynix - LPDDR6 เหมาะกับอุปกรณ์พกพาและ edge AI - JEDEC เตรียมเปิดตัว DDR6 สำหรับเดสก์ท็อปภายในปี 2025 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - LPDDR6 ยังไม่พร้อมใช้งานในตลาดทันที อาจต้องรออีกประมาณ 1 ปีเหมือนตอน DDR5 - อุปกรณ์ที่ใช้ DDR4 จะเริ่มถูกเลิกผลิตในปี 2025 ทำให้ผู้ใช้ต้องเตรียมอัปเกรด - ราคาหน่วยความจำอาจพุ่งสูงในช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี - LPDDR6 ยังไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความจุสูงแบบเซิร์ฟเวอร์หรือเดสก์ท็อป - ผู้ผลิตอุปกรณ์ต้องปรับปรุงระบบให้รองรับแรงดันไฟฟ้าและโครงสร้างใหม่ของ LPDDR6 https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/jedec-publishes-first-lpddr6-standard-new-interface-promises-double-the-effective-bandwidth-of-current-gen
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจคิดว่า Nvidia ยังเป็นเจ้าตลาด GPU แบบเบ็ดเสร็จทุกแพลตฟอร์ม → แต่ถ้าเรามองไปที่ตลาด eGPU (GPU ภายนอกสำหรับโน้ตบุ๊ก), เกมกลับพลิก!

    ล่าสุดบริษัท Onexplayer เปิดตัว OnexGPU Lite ซึ่งใช้ Radeon RX 7600M XT แบบโมบายจาก AMD เป็นตัวประมวลผล → นี่คือ eGPU ตัวที่ 11 แล้วที่ใช้ชิป AMD จากซีรีส์ RX 7000 → ที่น่าสนใจคือยังไม่มี eGPU ที่ใช้ชิป RDNA4 ใหม่เลย — ทุกตัวใช้รุ่นเดิม แต่เปลี่ยนพอร์ตให้รองรับ Thunderbolt 5

    แม้ RX 7600M XT จะไม่ใช่ GPU ที่แรงที่สุด แต่กลับกลายเป็น "มาตรฐานของ eGPU รุ่นใหม่" ที่เน้นความบาง, น้ำหนักเบา, และการประหยัดพลังงาน → ขณะที่ Nvidia แทบไม่มีบทบาทในกลุ่มนี้ → Vendor หลายรายเลือก AMD เพราะจัดการเรื่อง driver ได้ง่ายกว่า, ประหยัดไฟกว่า และราคาอาจคุ้มค่ากว่าในแพลตฟอร์ม eGPU

    จุดขายล่าสุดคือพอร์ต Thunderbolt 5 ที่ทำงานได้ทั้งส่งภาพ, ส่งข้อมูล, และจ่ายไฟผ่านสายเดียว → แม้แบนด์วิดธ์ PCIe ยังเท่ากับ OCuLink (64Gbps) แต่ Thunderbolt 5 ใช้งานง่ายกว่า เพราะรองรับ display + power + data → เหมาะมากสำหรับ creator สายวีดีโอ หรือคนที่ใช้ Photoshop บนโน้ตบุ๊กบาง ๆ

    OnexGPU Lite ใช้ Radeon RX 7600M XT พร้อมพอร์ต Thunderbolt 5  
    • เป็น eGPU ตัวที่ 11 แล้วจาก AMD RX 7000 Series  
    • พัฒนาจาก OnexGPU 2 ที่ใช้ RX 7800M  
    • เน้น balance ระหว่างประสิทธิภาพ & portability

    Thunderbolt 5 รองรับทั้ง PCIe, display output และการจ่ายไฟผ่านสายเดียว  
    • PCIe bandwidth เทียบเท่า OCuLink (64Gbps)  
    • แต่มอบประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายกว่าและเหมาะสำหรับ creator

    AMD ครองตลาด eGPU แบบเงียบ ๆ ขณะที่ Nvidia ยังไม่โดดเข้ามาเต็มตัว

    Vendor หลายรายอาจเลือก AMD เพราะเหตุผลด้าน power efficiency, driver compatibility, และราคาต่อโมบาย GPU

    แม้จะใช้ RX 7600M XT ซ้ำในหลายรุ่น แต่การเปลี่ยน chassis และพอร์ตเป็น Thunderbolt 5 คือทางเลือกที่คุ้มค่าในตลาด eGPU

    https://www.techradar.com/pro/amd-is-surpassing-nvidia-in-one-particular-market-and-i-dont-understand-why-11th-egpu-based-on-amd-radeon-rx-7000-series-debuts-and-even-has-thunderbolt-5
    หลายคนอาจคิดว่า Nvidia ยังเป็นเจ้าตลาด GPU แบบเบ็ดเสร็จทุกแพลตฟอร์ม → แต่ถ้าเรามองไปที่ตลาด eGPU (GPU ภายนอกสำหรับโน้ตบุ๊ก), เกมกลับพลิก! ล่าสุดบริษัท Onexplayer เปิดตัว OnexGPU Lite ซึ่งใช้ Radeon RX 7600M XT แบบโมบายจาก AMD เป็นตัวประมวลผล → นี่คือ eGPU ตัวที่ 11 แล้วที่ใช้ชิป AMD จากซีรีส์ RX 7000 → ที่น่าสนใจคือยังไม่มี eGPU ที่ใช้ชิป RDNA4 ใหม่เลย — ทุกตัวใช้รุ่นเดิม แต่เปลี่ยนพอร์ตให้รองรับ Thunderbolt 5 แม้ RX 7600M XT จะไม่ใช่ GPU ที่แรงที่สุด แต่กลับกลายเป็น "มาตรฐานของ eGPU รุ่นใหม่" ที่เน้นความบาง, น้ำหนักเบา, และการประหยัดพลังงาน → ขณะที่ Nvidia แทบไม่มีบทบาทในกลุ่มนี้ → Vendor หลายรายเลือก AMD เพราะจัดการเรื่อง driver ได้ง่ายกว่า, ประหยัดไฟกว่า และราคาอาจคุ้มค่ากว่าในแพลตฟอร์ม eGPU จุดขายล่าสุดคือพอร์ต Thunderbolt 5 ที่ทำงานได้ทั้งส่งภาพ, ส่งข้อมูล, และจ่ายไฟผ่านสายเดียว → แม้แบนด์วิดธ์ PCIe ยังเท่ากับ OCuLink (64Gbps) แต่ Thunderbolt 5 ใช้งานง่ายกว่า เพราะรองรับ display + power + data → เหมาะมากสำหรับ creator สายวีดีโอ หรือคนที่ใช้ Photoshop บนโน้ตบุ๊กบาง ๆ ✅ OnexGPU Lite ใช้ Radeon RX 7600M XT พร้อมพอร์ต Thunderbolt 5   • เป็น eGPU ตัวที่ 11 แล้วจาก AMD RX 7000 Series   • พัฒนาจาก OnexGPU 2 ที่ใช้ RX 7800M   • เน้น balance ระหว่างประสิทธิภาพ & portability ✅ Thunderbolt 5 รองรับทั้ง PCIe, display output และการจ่ายไฟผ่านสายเดียว   • PCIe bandwidth เทียบเท่า OCuLink (64Gbps)   • แต่มอบประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายกว่าและเหมาะสำหรับ creator ✅ AMD ครองตลาด eGPU แบบเงียบ ๆ ขณะที่ Nvidia ยังไม่โดดเข้ามาเต็มตัว ✅ Vendor หลายรายอาจเลือก AMD เพราะเหตุผลด้าน power efficiency, driver compatibility, และราคาต่อโมบาย GPU ✅ แม้จะใช้ RX 7600M XT ซ้ำในหลายรุ่น แต่การเปลี่ยน chassis และพอร์ตเป็น Thunderbolt 5 คือทางเลือกที่คุ้มค่าในตลาด eGPU https://www.techradar.com/pro/amd-is-surpassing-nvidia-in-one-particular-market-and-i-dont-understand-why-11th-egpu-based-on-amd-radeon-rx-7000-series-debuts-and-even-has-thunderbolt-5
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม AI ต่าง ๆ เช่น ChatGPT, Sora, xAI ฯลฯ ได้กระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วสหรัฐฯ แห่กันสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบเร่งด่วน → โดยเฉพาะในพื้นที่ “Data Center Alley” รัฐ Virginia ที่กลายเป็นศูนย์กลางของโลกในการประมวลผล AI

    ปัญหาคือ...ดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้ใช้พลังงานมหาศาล → ส่งผลให้ความต้องการไฟฟ้าในโซนตะวันออกของสหรัฐฯ ภายใต้การดูแลของ PJM เพิ่มขึ้นเร็วมาก → ราคาพลังงานใน Pennsylvania พุ่งขึ้นกว่า 800% จากการประมูลสิทธิกำลังผลิต → และอาจมี blackout ในหน้าร้อนปี 2025

    ผู้ว่าการรัฐ Josh Shapiro ออกมาเรียกร้องว่า → ถ้า PJM ไม่เร่งอนุมัติโรงไฟฟ้าใหม่ หรือขยายกริดให้ไวขึ้น → รัฐอาจต้อง “ถอนตัว” แล้วสร้างระบบพลังงานแยกของตัวเอง

    PJM Interconnection คือองค์กรจัดการกริดพลังงานครอบคลุม 13 รัฐ รวมถึง Pennsylvania  
    • เป็นผู้ดูแลการซื้อขายพลังงานระดับ wholesale  
    • ต้องรับแรงกดดันจากดาต้าเซ็นเตอร์ AI ทั่วภูมิภาค

    การเปิดตัว ChatGPT และดาต้าเซ็นเตอร์ AI ตั้งแต่ปี 2023 ทำให้ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  
    • Elon Musk ถึงขั้นต้องส่งโรงไฟฟ้าทั้งชุดไปยังสหรัฐฯ เพื่อรองรับโครงการ Colossus ของ xAI

    PJM เคยชะลอการเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าใหม่ในปี 2022 เพราะมีโครงการพลังงานสะอาดเข้ามามากเกินไป → ตรวจสอบไม่ทัน

    PJM ประเมินว่า ภายในปี 2030 จะต้องเพิ่มกำลังผลิตอีก 32 GW  
    • ในจำนวนนี้กว่า 30 GW จะถูกใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ AI ใหม่ทั้งหมด

    เพื่อเร่งแก้ปัญหา รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งให้โรงไฟฟ้าเก่าที่กำลังจะปิดกลับมาเปิดใช้งานหน้าร้อนนี้แทนการปิดตามแผน

    ผู้ว่าการรัฐ Pennsylvania เรียกร้องว่า “PJM ต้องเร็วขึ้น–โปร่งใสขึ้น–และลดต้นทุนพลังงานให้ประชาชน”

    PJM ได้อนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าใหม่กว่า 50 แห่งแล้ว → แต่ส่วนใหญ่จะออนไลน์จริงในช่วงต้นทศวรรษ 2030

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-is-eating-up-pennsylvanias-power-governor-threatens-to-pull-state-from-the-grid-new-plants-arent-being-built-fast-enough-to-keep-up-with-demand
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม AI ต่าง ๆ เช่น ChatGPT, Sora, xAI ฯลฯ ได้กระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วสหรัฐฯ แห่กันสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบเร่งด่วน → โดยเฉพาะในพื้นที่ “Data Center Alley” รัฐ Virginia ที่กลายเป็นศูนย์กลางของโลกในการประมวลผล AI ปัญหาคือ...ดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้ใช้พลังงานมหาศาล → ส่งผลให้ความต้องการไฟฟ้าในโซนตะวันออกของสหรัฐฯ ภายใต้การดูแลของ PJM เพิ่มขึ้นเร็วมาก → ราคาพลังงานใน Pennsylvania พุ่งขึ้นกว่า 800% จากการประมูลสิทธิกำลังผลิต → และอาจมี blackout ในหน้าร้อนปี 2025 ผู้ว่าการรัฐ Josh Shapiro ออกมาเรียกร้องว่า → ถ้า PJM ไม่เร่งอนุมัติโรงไฟฟ้าใหม่ หรือขยายกริดให้ไวขึ้น → รัฐอาจต้อง “ถอนตัว” แล้วสร้างระบบพลังงานแยกของตัวเอง ✅ PJM Interconnection คือองค์กรจัดการกริดพลังงานครอบคลุม 13 รัฐ รวมถึง Pennsylvania   • เป็นผู้ดูแลการซื้อขายพลังงานระดับ wholesale   • ต้องรับแรงกดดันจากดาต้าเซ็นเตอร์ AI ทั่วภูมิภาค ✅ การเปิดตัว ChatGPT และดาต้าเซ็นเตอร์ AI ตั้งแต่ปี 2023 ทำให้ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว   • Elon Musk ถึงขั้นต้องส่งโรงไฟฟ้าทั้งชุดไปยังสหรัฐฯ เพื่อรองรับโครงการ Colossus ของ xAI ✅ PJM เคยชะลอการเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าใหม่ในปี 2022 เพราะมีโครงการพลังงานสะอาดเข้ามามากเกินไป → ตรวจสอบไม่ทัน ✅ PJM ประเมินว่า ภายในปี 2030 จะต้องเพิ่มกำลังผลิตอีก 32 GW   • ในจำนวนนี้กว่า 30 GW จะถูกใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ AI ใหม่ทั้งหมด ✅ เพื่อเร่งแก้ปัญหา รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งให้โรงไฟฟ้าเก่าที่กำลังจะปิดกลับมาเปิดใช้งานหน้าร้อนนี้แทนการปิดตามแผน ✅ ผู้ว่าการรัฐ Pennsylvania เรียกร้องว่า “PJM ต้องเร็วขึ้น–โปร่งใสขึ้น–และลดต้นทุนพลังงานให้ประชาชน” ✅ PJM ได้อนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าใหม่กว่า 50 แห่งแล้ว → แต่ส่วนใหญ่จะออนไลน์จริงในช่วงต้นทศวรรษ 2030 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-is-eating-up-pennsylvanias-power-governor-threatens-to-pull-state-from-the-grid-new-plants-arent-being-built-fast-enough-to-keep-up-with-demand
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • ((( ห นั ก แ ผ่ น ดิ น )))

    อหังกา อีทรัมปป์เหี้ยส่งจดหมายตรงถึงในหลวง ตบหน้ารัฐบาลไทยขายชาติ ตบหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้าระบบข้าราชการไทย ตามระเบียบแล้ว วิธีปฎิบัติสากลทั่วโลก หากจะมีจดหมายจากประเทศใดถึงพระมหากษัตริย์ จะผ่านตัวแทนทางการฑูต ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และตัวแทนรัฐบาลนำทูลเกล้า แต่นี่ ส่งตรงจากทำเนียบขาวถึงวังโดยตรง เอ่ยพระนามชัดเจน แปลว่าสุดทนแล้ว แปลว่าอะไร กูจะไล่เรียงบรรทัดให้มรึงฟัง

    1.อีทรัมปป์ไม่เอารัฐบาลขายชาติชุดนี้ จบมั้ย? คุยไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นงาน เอาเด็กเมื่อวานซืนมานั่นเก้าอี้ผู้นำประเทศ บ่งบอกถึงสมองควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว บ่งบอกคุณภาพประชากรควายประเทศมรึงได้ดี แดร๊กปชต.ตอแหลจนควายเรียกเพ่ มันถึงได้เสียมารยาทอย่างรุนแรง และกร่างเกิน ส่งจดหมายตรงถึงสำนักพระราชวัง ในหลวง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? เค้าคุยกันแค่เฉพาะระดับราชวงศ์

    2.ต้องการสื่อเจตนารมณ์ชัด กูจะเอาภาษีมรึง 36% หากไม่อยากจ่ายขนาดนี้ แนะนำให้ย้ายโรงงานมาผลิตในสหรัฐไปเลย นั่นไง จุดอ่อนโผล่ทันที มันไม่เหลือโรงงานผลิตแล้วไงล่ะ เพราะย้ายหนีออกหมดเกลี้ยง ปิดกิจการกันทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่ไล่เก็บภาษีโหดบัดซบ ก็ต้องการให้นานาชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิต เพราะมันรู้ตัวเองดีแล้วว่า ที่สู้จีนไม่ได้ เพราะกูมัวแต่อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ กำลังการผลิตไม่มี จะเอาอำนาจที่ไหนต่อรองไปสู้เค้าได้

    3.ต้องการแยกไทยออกมาจากจีน เพราะไทยคือยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดในอาเซียน ไทยสนิทกับจีนมากจนเกินไป แต่มรึงหารู้ไม่ พระราชสำนักเชื่อมสัมพันธไมตรีกับจีนมายาวนานกว่าประเทศมรึงจะเกิดซะอีก ดีออก? เค้าคุยกันมากว่า 500 ปี มรึงแค่ 250 ปี ยังไม่ได้เกิดเลย เป็นใครฟ่ะ จะเข้ามาเสือกเนี่ย? ไทยเราได้รับการอุ้มชูอย่างมาก จากจีน รัสเซีย แค่ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ มันคือหลักประกันพลังงานไม่รู้จบ มีแค่ชาติเดียวที่จีนมอบให้ และร่วมค้นคว้ามาด้วยกัน เหตุเพราะฝีมือในหลวงทั้งนั้น พระเทพเยือนจีนถี่ยิบ มาตลอดหลายปีเพื่อ

    4.อีทรัมปป์ส่งสัญญานตรงถึงสำนักราชวัง เรื่องขอบเขตอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยกับการปกครอง เป้าหมายคือ มอ112 ที่ผ่านมา อีส้มเน่า อี 3 นิ้วนรก อีกลุ่มเหี้ยทะลุเหี้ย อี NGO อีแดง และขบวนการล้มเจ้าทั้งหลาย ท่อน้ำเลี้ยงมาจาก NED ทั้งสิ้น ซึ่งอเมริกาเป้นผู้หนุนหลังล้มเจ้านั่นเอง เพื่อต้องการจะเข้ามายึดพระราชสมบัติทั้งหมด อเมริกาเป็นแค่ขี้ข้ายิว มีหน้าที่ปล้นสะดมภ์เค้าแดร๊ก มรึงเข้าใจยังว่า "ศัตรูของแผ่นดินแท้จริงคือใคร" ไม่ใช่แค่ตระกูลเหี้ย และขี้ข้าขบวนการล้มเจ้า มันคือ "อียิวระยำสัดนรก ท่อน้ำเลี้ยงเหี้ยทั้งหมด" กูว่าถึงเวลาเชิญอิหร่านเข้ามาได้แล้วล่ะ ไม่ต้องไปไล่ อียิวอยู่ปายเท่าไหร่ ส่งอิหร่านเข้าไปอยู่เป็นเพื่อน 2 เท่า เดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง

    5.การสื่อสารแบบนี้ การข้ามขั้นตอนแบบนี้ ระดับโลกเค้ามองไม่ให้เกียรติ และไม่เป็นมืออาชีพ แปลว่าอะไร? อีทรัมปป์จนปัญญาแล้ว สู้ขั้วใหม่ไม่ได้ ก็เล่นบทโจรแม่งซะเลย อ้างขาดดุลการค้า ไม่เป็นธรรม นั่นแค่ "หน้าฉาก" ไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายตรงถึงพระราชสำนัก มรึงเข้าใจเกมส์ยัง? มันดิ้นแบบนี้ เพราะรู้แล้วว่า ไทยกำลังจะออกห่างอเมริกานั่นเอง ผลจาก 5 ปีหลัง เทดอลล่าร์กระจาย อุ้มทองคำต่อเนื่องแบบเงียบๆ เหี้ยมันรู้หมด ส่งสัญญานเตรียมจะสั่งขี้ข้ายิวในไทย ออกอาละวาดไงล่ะ สัญญานดอกนี้ บีบให้ทหารต้องทำรัฐประหาร เพื่อดึงความมั่นคงชาติกลับมาอยู่ในมือกองทัพ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองเอาชาติไปขายแดร๊ก ทรงมาเต็มตรีนเลยมรึง มิน่า กองทัพไทย ประกาศแสนยานุภาพก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ให้อีขะแมร์ดู แต่ให้เหี้ยยิวดูต่างหากล่ะ

    บทสรุป : ชัดเจนพอยัง? 93 ปี ศัตรูของแผ่นดินไทยทั้งชาติ คืออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ พ่อทุกสถาบันเหี้ยไอ้อีทุกตัวบนโลกใบนี้ กูชี้เป้าไม่เคยพลาด ด่ามันมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน เพราะเหี้ยมันมีแค่ตัวเดียว ใครล่ะ ที่สามารถสั่งฆ่า ลอบปลงพระชนม์พ่ออยู่หัวร.8 ได้ ใครสั่ง? หากสมเด็จย่าไม่ทรงปรีชาสามารถ เอาตัวรอด และต่อรองให้ยังคงรักษาสายพระโลหิตของราชวงศ์จักรีต่อไว้ได้ ป่านนี้ ไทยเราคงสิ้นชาติไปนานแล้ว ประวัติศาสตร์มันสอน ไม่มีใครทำร้ายแผ่นดินนี้ได้ นอกจากคนไทยกันเอง ถึงเวลาจัดการ ทุกไอ้อีที่ "หนักแผ่นดินรึยัง" กวาดให้เรียบ ย้อนหลัง ย้อนคดีของเก่าที่ผ่านมา 93 ปี ให้หมด ใครเคยทรยศแผ่นดินนี้ไว้ ยึดอำนาจให้สิ้น จับไปตัดหัว 9 ชั่วโคตร กลับมาใช้ "พ่อปกครองลูก" กฎต้องแรง อาญาต้องสะเด็ดน้ำ อย่าให้ไอ้อีหน้าไหนกล้าทรยศแผ่นดินได้อีก ขอเริ่มต้นที่ตระกูลชินจังก่อนเลยเป็นไง 9 ชั่วโคตร เอาให้เลือดชั่วๆ ของตระกูลอัปรีย์จัญไรสิ้นไปจากโลกในพศ.นี้ แม่งซะเลย ดวงดาวแห่งแสง เริ่มฉายปรากฎความจริงเด่นชัดมากขึ้นแล้ว จงเดินตามแสง แล้วความจริงจะปรากฎต่อหน้ามรึง?

    หมี CNN(เปิดหน้ากันหมดแล้วสิมรึง! อีทรัมปป์เร่งเกมส์มากไปหน่อย จีน รัสเซีย บีบจนขี้แตก อ่านทะลุมิติ ไทยเรารอดแล้ว มาทรงนี้คือ "ปะทะแน่นอน" เกมส์การศึกปล่อยให้ทหารจัดการไปซะ ส่วนพวกเรา เกมส์ภายใน จงเร่งมือเป่าประกาศให้โลกรู้ ไอ้อีตัวไหนที่ทุรยศแผ่นดินอโยธยา ไอ้อีทุกตัวต้องโดนโทษหนักประหารชีวิตสถานเดียว พลังแห่งแสง พลังโซเชี่ยลฝ่ายธรรม จะรุกฆาตเหี้ยทุกไอ้อี อย่าให้มันมีที่ยืนในแผ่นดินไทยได้อีก ทหารเอกอโยธยาทั้งหลาย จงกล้าและตามกูมา ตายครั้งเดียว อย่าได้เสียดายชีวิต กูจะตามไปอยู่กับพ่อกูที่สรวงสวรรค์ ขอฝากผลงานมาสเตอร์พีซ ให้โลกประจักษ์ก่อนตาย)
    09 กรกฎาคม 68
    10.00 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    ((( ห นั ก แ ผ่ น ดิ น ))) อหังกา อีทรัมปป์เหี้ยส่งจดหมายตรงถึงในหลวง ตบหน้ารัฐบาลไทยขายชาติ ตบหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้าระบบข้าราชการไทย ตามระเบียบแล้ว วิธีปฎิบัติสากลทั่วโลก หากจะมีจดหมายจากประเทศใดถึงพระมหากษัตริย์ จะผ่านตัวแทนทางการฑูต ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และตัวแทนรัฐบาลนำทูลเกล้า แต่นี่ ส่งตรงจากทำเนียบขาวถึงวังโดยตรง เอ่ยพระนามชัดเจน แปลว่าสุดทนแล้ว แปลว่าอะไร กูจะไล่เรียงบรรทัดให้มรึงฟัง 1.อีทรัมปป์ไม่เอารัฐบาลขายชาติชุดนี้ จบมั้ย? คุยไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นงาน เอาเด็กเมื่อวานซืนมานั่นเก้าอี้ผู้นำประเทศ บ่งบอกถึงสมองควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว บ่งบอกคุณภาพประชากรควายประเทศมรึงได้ดี แดร๊กปชต.ตอแหลจนควายเรียกเพ่ มันถึงได้เสียมารยาทอย่างรุนแรง และกร่างเกิน ส่งจดหมายตรงถึงสำนักพระราชวัง ในหลวง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? เค้าคุยกันแค่เฉพาะระดับราชวงศ์ 2.ต้องการสื่อเจตนารมณ์ชัด กูจะเอาภาษีมรึง 36% หากไม่อยากจ่ายขนาดนี้ แนะนำให้ย้ายโรงงานมาผลิตในสหรัฐไปเลย นั่นไง จุดอ่อนโผล่ทันที มันไม่เหลือโรงงานผลิตแล้วไงล่ะ เพราะย้ายหนีออกหมดเกลี้ยง ปิดกิจการกันทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่ไล่เก็บภาษีโหดบัดซบ ก็ต้องการให้นานาชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิต เพราะมันรู้ตัวเองดีแล้วว่า ที่สู้จีนไม่ได้ เพราะกูมัวแต่อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ กำลังการผลิตไม่มี จะเอาอำนาจที่ไหนต่อรองไปสู้เค้าได้ 3.ต้องการแยกไทยออกมาจากจีน เพราะไทยคือยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดในอาเซียน ไทยสนิทกับจีนมากจนเกินไป แต่มรึงหารู้ไม่ พระราชสำนักเชื่อมสัมพันธไมตรีกับจีนมายาวนานกว่าประเทศมรึงจะเกิดซะอีก ดีออก? เค้าคุยกันมากว่า 500 ปี มรึงแค่ 250 ปี ยังไม่ได้เกิดเลย เป็นใครฟ่ะ จะเข้ามาเสือกเนี่ย? ไทยเราได้รับการอุ้มชูอย่างมาก จากจีน รัสเซีย แค่ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ มันคือหลักประกันพลังงานไม่รู้จบ มีแค่ชาติเดียวที่จีนมอบให้ และร่วมค้นคว้ามาด้วยกัน เหตุเพราะฝีมือในหลวงทั้งนั้น พระเทพเยือนจีนถี่ยิบ มาตลอดหลายปีเพื่อ 4.อีทรัมปป์ส่งสัญญานตรงถึงสำนักราชวัง เรื่องขอบเขตอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยกับการปกครอง เป้าหมายคือ มอ112 ที่ผ่านมา อีส้มเน่า อี 3 นิ้วนรก อีกลุ่มเหี้ยทะลุเหี้ย อี NGO อีแดง และขบวนการล้มเจ้าทั้งหลาย ท่อน้ำเลี้ยงมาจาก NED ทั้งสิ้น ซึ่งอเมริกาเป้นผู้หนุนหลังล้มเจ้านั่นเอง เพื่อต้องการจะเข้ามายึดพระราชสมบัติทั้งหมด อเมริกาเป็นแค่ขี้ข้ายิว มีหน้าที่ปล้นสะดมภ์เค้าแดร๊ก มรึงเข้าใจยังว่า "ศัตรูของแผ่นดินแท้จริงคือใคร" ไม่ใช่แค่ตระกูลเหี้ย และขี้ข้าขบวนการล้มเจ้า มันคือ "อียิวระยำสัดนรก ท่อน้ำเลี้ยงเหี้ยทั้งหมด" กูว่าถึงเวลาเชิญอิหร่านเข้ามาได้แล้วล่ะ ไม่ต้องไปไล่ อียิวอยู่ปายเท่าไหร่ ส่งอิหร่านเข้าไปอยู่เป็นเพื่อน 2 เท่า เดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง 5.การสื่อสารแบบนี้ การข้ามขั้นตอนแบบนี้ ระดับโลกเค้ามองไม่ให้เกียรติ และไม่เป็นมืออาชีพ แปลว่าอะไร? อีทรัมปป์จนปัญญาแล้ว สู้ขั้วใหม่ไม่ได้ ก็เล่นบทโจรแม่งซะเลย อ้างขาดดุลการค้า ไม่เป็นธรรม นั่นแค่ "หน้าฉาก" ไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายตรงถึงพระราชสำนัก มรึงเข้าใจเกมส์ยัง? มันดิ้นแบบนี้ เพราะรู้แล้วว่า ไทยกำลังจะออกห่างอเมริกานั่นเอง ผลจาก 5 ปีหลัง เทดอลล่าร์กระจาย อุ้มทองคำต่อเนื่องแบบเงียบๆ เหี้ยมันรู้หมด ส่งสัญญานเตรียมจะสั่งขี้ข้ายิวในไทย ออกอาละวาดไงล่ะ สัญญานดอกนี้ บีบให้ทหารต้องทำรัฐประหาร เพื่อดึงความมั่นคงชาติกลับมาอยู่ในมือกองทัพ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองเอาชาติไปขายแดร๊ก ทรงมาเต็มตรีนเลยมรึง มิน่า กองทัพไทย ประกาศแสนยานุภาพก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ให้อีขะแมร์ดู แต่ให้เหี้ยยิวดูต่างหากล่ะ บทสรุป : ชัดเจนพอยัง? 93 ปี ศัตรูของแผ่นดินไทยทั้งชาติ คืออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ พ่อทุกสถาบันเหี้ยไอ้อีทุกตัวบนโลกใบนี้ กูชี้เป้าไม่เคยพลาด ด่ามันมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน เพราะเหี้ยมันมีแค่ตัวเดียว ใครล่ะ ที่สามารถสั่งฆ่า ลอบปลงพระชนม์พ่ออยู่หัวร.8 ได้ ใครสั่ง? หากสมเด็จย่าไม่ทรงปรีชาสามารถ เอาตัวรอด และต่อรองให้ยังคงรักษาสายพระโลหิตของราชวงศ์จักรีต่อไว้ได้ ป่านนี้ ไทยเราคงสิ้นชาติไปนานแล้ว ประวัติศาสตร์มันสอน ไม่มีใครทำร้ายแผ่นดินนี้ได้ นอกจากคนไทยกันเอง ถึงเวลาจัดการ ทุกไอ้อีที่ "หนักแผ่นดินรึยัง" กวาดให้เรียบ ย้อนหลัง ย้อนคดีของเก่าที่ผ่านมา 93 ปี ให้หมด ใครเคยทรยศแผ่นดินนี้ไว้ ยึดอำนาจให้สิ้น จับไปตัดหัว 9 ชั่วโคตร กลับมาใช้ "พ่อปกครองลูก" กฎต้องแรง อาญาต้องสะเด็ดน้ำ อย่าให้ไอ้อีหน้าไหนกล้าทรยศแผ่นดินได้อีก ขอเริ่มต้นที่ตระกูลชินจังก่อนเลยเป็นไง 9 ชั่วโคตร เอาให้เลือดชั่วๆ ของตระกูลอัปรีย์จัญไรสิ้นไปจากโลกในพศ.นี้ แม่งซะเลย ดวงดาวแห่งแสง เริ่มฉายปรากฎความจริงเด่นชัดมากขึ้นแล้ว จงเดินตามแสง แล้วความจริงจะปรากฎต่อหน้ามรึง? หมี CNN(เปิดหน้ากันหมดแล้วสิมรึง! อีทรัมปป์เร่งเกมส์มากไปหน่อย จีน รัสเซีย บีบจนขี้แตก อ่านทะลุมิติ ไทยเรารอดแล้ว มาทรงนี้คือ "ปะทะแน่นอน" เกมส์การศึกปล่อยให้ทหารจัดการไปซะ ส่วนพวกเรา เกมส์ภายใน จงเร่งมือเป่าประกาศให้โลกรู้ ไอ้อีตัวไหนที่ทุรยศแผ่นดินอโยธยา ไอ้อีทุกตัวต้องโดนโทษหนักประหารชีวิตสถานเดียว พลังแห่งแสง พลังโซเชี่ยลฝ่ายธรรม จะรุกฆาตเหี้ยทุกไอ้อี อย่าให้มันมีที่ยืนในแผ่นดินไทยได้อีก ทหารเอกอโยธยาทั้งหลาย จงกล้าและตามกูมา ตายครั้งเดียว อย่าได้เสียดายชีวิต กูจะตามไปอยู่กับพ่อกูที่สรวงสวรรค์ ขอฝากผลงานมาสเตอร์พีซ ให้โลกประจักษ์ก่อนตาย) 09 กรกฎาคม 68 10.00 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • นักวิเคราะห์พบเบาะแสของชิป 7 ตัวนี้ในโค้ด iOS 18 รุ่นทดสอบ (internal build) ที่หลุดออกมาทาง Bilibili แล้วถูกถอดรหัสบน YouTube → เป็นครั้งแรกที่เห็นชื่อรหัส–เลข CPID และ “หน้าที่ของแต่ละชิป” พร้อมกันแบบนี้

    แต่ที่น่าสนใจคือ… Apple ไม่ได้แค่เตรียม A19 สำหรับ iPhone 17 → แต่ยังซุ่มทำ A19 Pro, ชิป M5 สำหรับ MacBook Pro รุ่นใหม่, ชิป Bora สำหรับ Apple Watch, ชิป Proxima ที่รวม Wi-Fi + Bluetooth ไว้ในตัวเดียว และแม้แต่ โมเด็ม 5G C2 รุ่นใหม่ของตัวเอง เพื่อปลดพันธนาการจาก Qualcomm ด้วย

    A19 (Codename: Tilos)  
    • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Air (หรือรุ่นพื้นฐานของซีรีส์ iPhone 17)

    A19 Pro (Codename: Thera / CPID T8150)  
    • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Pro และ Pro Max  
    • อาจมาพร้อม Neural Engine และ ISP ที่รองรับ AI และการประมวลผลภาพถ่ายขั้นสูง

    M5 / M5 Pro (Codename: Hidra / Sotra)  
    • ใช้กับ MacBook Pro รุ่นใหม่ (14 และ 16 นิ้ว)  
    • คาดว่าจะเปิดตัวหลัง iPhone 17 ไม่นาน

    Bora (CPID T8320)  
    • อิงจาก A18 → ใช้กับ Apple Watch Series 11  
    • อาจเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพ–อัลกอริธึมที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น

    Proxima (Wi-Fi + Bluetooth integration)  
    • เป็นชิปที่รวม Wi-Fi และ Bluetooth เข้าด้วยกันเป็น SoC  
    • ช่วยลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น AirPods หรือ Vision Pro รุ่นถัดไป

    C2 Modem (5G)  
    • เป็นโมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาเอง (รุ่นที่ 2 ต่อจาก C1)  
    • คาดว่าจะใช้ใน iPhone 17e ปีหน้า แทนที่โมเด็มจาก Qualcomm

    https://wccftech.com/apple-working-on-seven-different-custom-chipsets-reveals-early-ios-18-code/
    นักวิเคราะห์พบเบาะแสของชิป 7 ตัวนี้ในโค้ด iOS 18 รุ่นทดสอบ (internal build) ที่หลุดออกมาทาง Bilibili แล้วถูกถอดรหัสบน YouTube → เป็นครั้งแรกที่เห็นชื่อรหัส–เลข CPID และ “หน้าที่ของแต่ละชิป” พร้อมกันแบบนี้ แต่ที่น่าสนใจคือ… Apple ไม่ได้แค่เตรียม A19 สำหรับ iPhone 17 → แต่ยังซุ่มทำ A19 Pro, ชิป M5 สำหรับ MacBook Pro รุ่นใหม่, ชิป Bora สำหรับ Apple Watch, ชิป Proxima ที่รวม Wi-Fi + Bluetooth ไว้ในตัวเดียว และแม้แต่ โมเด็ม 5G C2 รุ่นใหม่ของตัวเอง เพื่อปลดพันธนาการจาก Qualcomm ด้วย ✅ A19 (Codename: Tilos)   • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Air (หรือรุ่นพื้นฐานของซีรีส์ iPhone 17) ✅ A19 Pro (Codename: Thera / CPID T8150)   • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Pro และ Pro Max   • อาจมาพร้อม Neural Engine และ ISP ที่รองรับ AI และการประมวลผลภาพถ่ายขั้นสูง ✅ M5 / M5 Pro (Codename: Hidra / Sotra)   • ใช้กับ MacBook Pro รุ่นใหม่ (14 และ 16 นิ้ว)   • คาดว่าจะเปิดตัวหลัง iPhone 17 ไม่นาน ✅ Bora (CPID T8320)   • อิงจาก A18 → ใช้กับ Apple Watch Series 11   • อาจเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพ–อัลกอริธึมที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ✅ Proxima (Wi-Fi + Bluetooth integration)   • เป็นชิปที่รวม Wi-Fi และ Bluetooth เข้าด้วยกันเป็น SoC   • ช่วยลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น AirPods หรือ Vision Pro รุ่นถัดไป ✅ C2 Modem (5G)   • เป็นโมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาเอง (รุ่นที่ 2 ต่อจาก C1)   • คาดว่าจะใช้ใน iPhone 17e ปีหน้า แทนที่โมเด็มจาก Qualcomm https://wccftech.com/apple-working-on-seven-different-custom-chipsets-reveals-early-ios-18-code/
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • GlobalFoundries เคยเป็นโรงงานผลิตชิปที่เปิดให้ใครก็ได้มาออกแบบชิป แล้วให้ GF ผลิตให้ (เช่น AMD เคยใช้บริการช่วงแรก) → แต่ตอนนี้ GF ไม่อยากเป็นแค่ “โรงงาน” อีกต่อไป → จึงคว้าตัว MIPS มาเสริมทัพ เพื่อให้สามารถ “ออกแบบและขายซีพียูเองได้” โดยเฉพาะบนพื้นฐานสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังมาแรงมาก

    MIPS เคยโด่งดังจากชิปฝังตัวบนอุปกรณ์เครือข่าย และตอนนี้ก็หันมาใช้ RISC-V เต็มตัว โดยมีซีพียูตระกูล Atlas ที่ครอบคลุมทั้ง
    - งานทั่วไป (general-purpose)
    - งานเรียลไทม์ (real-time)
    - และงาน AI บน edge

    ประโยชน์สำคัญของดีลนี้คือ → MIPS จะได้ใช้งานสายการผลิตของ GF ที่มีความปลอดภัยระดับกลาโหมสหรัฐฯ → ส่วน GF จะสามารถเสนอ “ชิปแบบเบ็ดเสร็จ” ที่รวม IP ซีพียู + AI + การผลิต ไว้ที่เดียวกัน → โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะกับลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์, โรงงานอัจฉริยะ และ edge computing

    GlobalFoundries ประกาศซื้อกิจการ MIPS เพื่อเสริมพอร์ตผลิตภัณฑ์ซีพียู RISC-V และ AI  
    • ไม่เปิดเผยมูลค่าดีล  
    • MIPS จะยังดำเนินงานแยกเป็นธุรกิจอิสระภายใน GF

    เทคโนโลยีจาก MIPS ที่ GF จะได้รับ:  
    • ซีพียู IP แบบ general-purpose  
    • หน่วยเร่ง AI inference  
    • เทคโนโลยีสำหรับระบบเซ็นเซอร์แบบฝังตัว

    RISC-V จาก MIPS รองรับทั้งงานทั่วไป–เรียลไทม์–AI edge  
    • ประหยัดพลังงาน และเหมาะกับระบบฝังตัวที่โหลดหนัก

    GF จะสามารถผลิตชิป RISC-V + AI ได้ครบวงจรในโรงงานของตัวเอง  
    • ช่วยให้ลูกค้าบางกลุ่ม (เช่น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) มั่นใจในความปลอดภัย  
    • ลดระยะเวลานำสินค้าออกสู่ตลาด

    ดีลนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ของ GF → ไม่ใช่แค่โรงงานรับจ้างผลิต แต่เป็น “ผู้พัฒนาโซลูชันแบบครบวงจร” สำหรับอุตสาหกรรม

    คาดว่าการควบรวมจะเสร็จสิ้นช่วงครึ่งหลังของปี 2025 (รอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับ)

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/globalfoundries-to-make-risc-v-cpus-fab-acquires-mips-will-integrate-risc-v-and-ai-ip-into-its-portfolio
    GlobalFoundries เคยเป็นโรงงานผลิตชิปที่เปิดให้ใครก็ได้มาออกแบบชิป แล้วให้ GF ผลิตให้ (เช่น AMD เคยใช้บริการช่วงแรก) → แต่ตอนนี้ GF ไม่อยากเป็นแค่ “โรงงาน” อีกต่อไป → จึงคว้าตัว MIPS มาเสริมทัพ เพื่อให้สามารถ “ออกแบบและขายซีพียูเองได้” โดยเฉพาะบนพื้นฐานสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังมาแรงมาก MIPS เคยโด่งดังจากชิปฝังตัวบนอุปกรณ์เครือข่าย และตอนนี้ก็หันมาใช้ RISC-V เต็มตัว โดยมีซีพียูตระกูล Atlas ที่ครอบคลุมทั้ง - งานทั่วไป (general-purpose) - งานเรียลไทม์ (real-time) - และงาน AI บน edge ประโยชน์สำคัญของดีลนี้คือ → MIPS จะได้ใช้งานสายการผลิตของ GF ที่มีความปลอดภัยระดับกลาโหมสหรัฐฯ → ส่วน GF จะสามารถเสนอ “ชิปแบบเบ็ดเสร็จ” ที่รวม IP ซีพียู + AI + การผลิต ไว้ที่เดียวกัน → โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะกับลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์, โรงงานอัจฉริยะ และ edge computing ✅ GlobalFoundries ประกาศซื้อกิจการ MIPS เพื่อเสริมพอร์ตผลิตภัณฑ์ซีพียู RISC-V และ AI   • ไม่เปิดเผยมูลค่าดีล   • MIPS จะยังดำเนินงานแยกเป็นธุรกิจอิสระภายใน GF ✅ เทคโนโลยีจาก MIPS ที่ GF จะได้รับ:   • ซีพียู IP แบบ general-purpose   • หน่วยเร่ง AI inference   • เทคโนโลยีสำหรับระบบเซ็นเซอร์แบบฝังตัว ✅ RISC-V จาก MIPS รองรับทั้งงานทั่วไป–เรียลไทม์–AI edge   • ประหยัดพลังงาน และเหมาะกับระบบฝังตัวที่โหลดหนัก ✅ GF จะสามารถผลิตชิป RISC-V + AI ได้ครบวงจรในโรงงานของตัวเอง   • ช่วยให้ลูกค้าบางกลุ่ม (เช่น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) มั่นใจในความปลอดภัย   • ลดระยะเวลานำสินค้าออกสู่ตลาด ✅ ดีลนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ของ GF → ไม่ใช่แค่โรงงานรับจ้างผลิต แต่เป็น “ผู้พัฒนาโซลูชันแบบครบวงจร” สำหรับอุตสาหกรรม ✅ คาดว่าการควบรวมจะเสร็จสิ้นช่วงครึ่งหลังของปี 2025 (รอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับ) https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/globalfoundries-to-make-risc-v-cpus-fab-acquires-mips-will-integrate-risc-v-and-ai-ip-into-its-portfolio
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ถ้าคุณคือองค์กรที่ uptime สำคัญกว่าทุกสิ่ง เช่น ธนาคารที่ระบบต้องออนไลน์ตลอด 24/7 แบบไม่มีหลุด → IBM Power11 ถูกออกแบบมาเพื่อลุยงานแบบนี้เต็มตัว → ด้วยความเสถียรระดับ 99.9999% uptime (six nines) และระบบอัตโนมัติที่อัปเดตได้ โดยไม่ต้องดับเครื่อง!

    Power11 ไม่ได้แค่แรง แต่ฉลาดและปลอดภัย → มี Cyber Vault ที่สร้าง snapshot ไม่เปลี่ยนแปลงได้เองอัตโนมัติ → ป้องกัน ransomware, การเข้ารหัส, การทุจริต firmware → IBM เคลมว่า “ตรวจจับภัยคุกคาม ransomware ได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที”

    ด้าน AI ก็ไม่น้อยหน้า → มี Spyre Accelerator แบบ built-in บนชิป → และเตรียมผนวก watsonx.data เข้ามาสิ้นปีนี้ รองรับงาน AI/Data แบบยืดหยุ่น → ส่วนประสิทธิภาพต่อพลังงานก็ขยับขึ้นกว่าเซิร์ฟเวอร์ x86 ทั่วไปถึง 2 เท่า ในโหมดประหยัดพลังงาน

    IBM เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ Power11 ใช้ซีพียูและสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อม virtualization software stack รุ่นปรับปรุง
    • เปิดตัว 25 กรกฎาคม 2025  
    • รองรับ physical และ virtual deployment ทุกระดับ ตั้งแต่ entry → mid → high-end

    ความเสถียรระดับ “six nines” (99.9999% uptime)  
    • มีระบบ workload migration และ auto-patching โดยไม่ต้องปิดระบบ

    มาพร้อม Power Cyber Vault  
    • สร้าง snapshot แบบ immutable อัตโนมัติ  
    • มี quantum-safe cryptography ป้องกันการขโมยข้อมูลไว้ถอดรหัสในอนาคต  
    • ตรวจ ransomware ได้ใน <1 นาที

    มี AI accelerator (Spyre) แบบฝังชิป → เร่งการประมวลผล AI ได้โดยไม่ต้องพึ่ง GPU ภายนอก  
    • รองรับ watsonx.data สิ้นปีนี้

    ประสิทธิภาพดีขึ้น:  
    • เร็วกว่า Power9 สูงสุด 55%  
    • มี core มากขึ้นและความจุสูงกว่า Power10 ถึง 45%  
    • ประสิทธิภาพต่อพลังงานดีกว่าเซิร์ฟเวอร์ x86 2 เท่า  
    • โหมด Energy Efficient เร็วกว่าโหมดเต็มกำลังอีก 28%

    ยังไม่มีข้อมูลว่า Power11 รองรับ GPU accelerator ภายนอกเต็มรูปแบบหรือไม่ → ผู้ใช้ AI ต้องพิจารณาว่างานของตนเหมาะกับ Spyre หรือยังต้องใช้ GPU

    เนื่องจากระบบมีความปลอดภัยสูง → ผู้ดูแลระบบต้องเข้าใจ Cyber Vault อย่างลึกเพื่อไม่ให้การ restore หรือ snapshot กลายเป็นคอขวด

    https://www.techspot.com/news/108599-ibm-introduces-power11-servers-boosts-uptime-security-energy.html
    ถ้าคุณคือองค์กรที่ uptime สำคัญกว่าทุกสิ่ง เช่น ธนาคารที่ระบบต้องออนไลน์ตลอด 24/7 แบบไม่มีหลุด → IBM Power11 ถูกออกแบบมาเพื่อลุยงานแบบนี้เต็มตัว → ด้วยความเสถียรระดับ 99.9999% uptime (six nines) และระบบอัตโนมัติที่อัปเดตได้ โดยไม่ต้องดับเครื่อง! 😮 Power11 ไม่ได้แค่แรง แต่ฉลาดและปลอดภัย → มี Cyber Vault ที่สร้าง snapshot ไม่เปลี่ยนแปลงได้เองอัตโนมัติ → ป้องกัน ransomware, การเข้ารหัส, การทุจริต firmware → IBM เคลมว่า “ตรวจจับภัยคุกคาม ransomware ได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที” ด้าน AI ก็ไม่น้อยหน้า → มี Spyre Accelerator แบบ built-in บนชิป → และเตรียมผนวก watsonx.data เข้ามาสิ้นปีนี้ รองรับงาน AI/Data แบบยืดหยุ่น → ส่วนประสิทธิภาพต่อพลังงานก็ขยับขึ้นกว่าเซิร์ฟเวอร์ x86 ทั่วไปถึง 2 เท่า ในโหมดประหยัดพลังงาน ✅ IBM เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ Power11 ใช้ซีพียูและสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อม virtualization software stack รุ่นปรับปรุง • เปิดตัว 25 กรกฎาคม 2025   • รองรับ physical และ virtual deployment ทุกระดับ ตั้งแต่ entry → mid → high-end ✅ ความเสถียรระดับ “six nines” (99.9999% uptime)   • มีระบบ workload migration และ auto-patching โดยไม่ต้องปิดระบบ ✅ มาพร้อม Power Cyber Vault   • สร้าง snapshot แบบ immutable อัตโนมัติ   • มี quantum-safe cryptography ป้องกันการขโมยข้อมูลไว้ถอดรหัสในอนาคต   • ตรวจ ransomware ได้ใน <1 นาที ✅ มี AI accelerator (Spyre) แบบฝังชิป → เร่งการประมวลผล AI ได้โดยไม่ต้องพึ่ง GPU ภายนอก   • รองรับ watsonx.data สิ้นปีนี้ ✅ ประสิทธิภาพดีขึ้น:   • เร็วกว่า Power9 สูงสุด 55%   • มี core มากขึ้นและความจุสูงกว่า Power10 ถึง 45%   • ประสิทธิภาพต่อพลังงานดีกว่าเซิร์ฟเวอร์ x86 2 เท่า   • โหมด Energy Efficient เร็วกว่าโหมดเต็มกำลังอีก 28% ‼️ ยังไม่มีข้อมูลว่า Power11 รองรับ GPU accelerator ภายนอกเต็มรูปแบบหรือไม่ → ผู้ใช้ AI ต้องพิจารณาว่างานของตนเหมาะกับ Spyre หรือยังต้องใช้ GPU ‼️ เนื่องจากระบบมีความปลอดภัยสูง → ผู้ดูแลระบบต้องเข้าใจ Cyber Vault อย่างลึกเพื่อไม่ให้การ restore หรือ snapshot กลายเป็นคอขวด https://www.techspot.com/news/108599-ibm-introduces-power11-servers-boosts-uptime-security-energy.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    IBM introduces Power11 servers with boosts in uptime, security, and energy efficiency
    To achieve that level of uptime, IBM has implemented advanced technologies like automated workload movement and autonomous patching that enable planned system maintenance to take place without...
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • ลองนึกดูว่าเวลาเราพิมพ์คำถามยาว ๆ ใส่ AI อย่าง ChatGPT แล้วระบบต้องใช้พลังงานมหาศาลขนาดไหนเพื่อ “เข้าใจ–แยกประเด็น–ค้นหาคำตอบ” → ล่าสุด UNESCO เผยว่าการถามคำถามให้ “สั้นลง–ชัดขึ้น” และเลือกใช้โมเดลที่ “เล็กลง–เฉพาะทาง” แทนโมเดลใหญ่แบบ general-purpose จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 90%!

    ยกตัวอย่าง ChatGPT — ผู้บริหาร OpenAI เคยเผยว่า ทุกคำถามที่ถามใช้ไฟฟ้าประมาณ 0.34 Wh ซึ่งมากกว่าการค้นหาบน Google ถึง 10–70 เท่า → ถ้านับคำถามเฉลี่ยวันละพันล้านครั้ง เท่ากับใช้ไฟปีละ 310 GWh = เท่ากับคนเอธิโอเปีย 3 ล้านคนใช้ทั้งปี!

    และที่น่าตกใจคือความต้องการพลังงานของ AI กำลัง “เพิ่มเป็นเท่าตัวทุก 100 วัน” เพราะคนใช้มากขึ้น และ AI ถูกฝังเข้าไปในหลายแอปฯ → เทคโนโลยีที่ควรช่วยโลก อาจกำลังเผาโลกช้า ๆ ถ้าเราไม่จัดการพลังงานที่ใช้

    ข่าวดีคือผู้ผลิต AI หลายรายก็เริ่มปล่อย “เวอร์ชันขนาดเล็ก” เช่น → Google Gemma, Microsoft Phi-3, OpenAI GPT-4o mini, และ Mistral AI กับรุ่น Ministral

    UNESCO เผยวิธีลดพลังงาน AI ได้ 90% โดยไม่ลดคุณภาพ:  
    • ลดความยาวคำถามจาก 300 → 150 คำ  
    • เปลี่ยนจากโมเดลขนาดใหญ่ → เป็นโมเดลเฉพาะทางที่เล็กลง

    ChatGPT ใช้พลังงานประมาณ 0.34 Wh ต่อการถาม 1 ครั้ง  
    • มากกว่า Google Search 10–70 เท่า  
    • วันละ 1 พันล้านคำถาม = 310 GWh/ปี

    การใช้โมเดลขนาดใหญ่ = ต้องโหลดข้อมูลมหาศาลทุกครั้งที่ตอบ  
    • หากใช้โมเดลเล็กเฉพาะทาง จะใช้พลังงานน้อยลงมาก

    ปัจจุบัน Tech Giants ออกโมเดลขนาดเล็กเพื่อประหยัดพลังงานและทำงานเฉพาะทางได้ไวขึ้น:

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/09/study-ai-needs-to-be-smaller-reduce-energy-footprint
    ลองนึกดูว่าเวลาเราพิมพ์คำถามยาว ๆ ใส่ AI อย่าง ChatGPT แล้วระบบต้องใช้พลังงานมหาศาลขนาดไหนเพื่อ “เข้าใจ–แยกประเด็น–ค้นหาคำตอบ” → ล่าสุด UNESCO เผยว่าการถามคำถามให้ “สั้นลง–ชัดขึ้น” และเลือกใช้โมเดลที่ “เล็กลง–เฉพาะทาง” แทนโมเดลใหญ่แบบ general-purpose จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 90%! ยกตัวอย่าง ChatGPT — ผู้บริหาร OpenAI เคยเผยว่า ทุกคำถามที่ถามใช้ไฟฟ้าประมาณ 0.34 Wh ซึ่งมากกว่าการค้นหาบน Google ถึง 10–70 เท่า → ถ้านับคำถามเฉลี่ยวันละพันล้านครั้ง เท่ากับใช้ไฟปีละ 310 GWh = เท่ากับคนเอธิโอเปีย 3 ล้านคนใช้ทั้งปี! และที่น่าตกใจคือความต้องการพลังงานของ AI กำลัง “เพิ่มเป็นเท่าตัวทุก 100 วัน” เพราะคนใช้มากขึ้น และ AI ถูกฝังเข้าไปในหลายแอปฯ → เทคโนโลยีที่ควรช่วยโลก อาจกำลังเผาโลกช้า ๆ ถ้าเราไม่จัดการพลังงานที่ใช้ ข่าวดีคือผู้ผลิต AI หลายรายก็เริ่มปล่อย “เวอร์ชันขนาดเล็ก” เช่น → Google Gemma, Microsoft Phi-3, OpenAI GPT-4o mini, และ Mistral AI กับรุ่น Ministral ✅ UNESCO เผยวิธีลดพลังงาน AI ได้ 90% โดยไม่ลดคุณภาพ:   • ลดความยาวคำถามจาก 300 → 150 คำ   • เปลี่ยนจากโมเดลขนาดใหญ่ → เป็นโมเดลเฉพาะทางที่เล็กลง ✅ ChatGPT ใช้พลังงานประมาณ 0.34 Wh ต่อการถาม 1 ครั้ง   • มากกว่า Google Search 10–70 เท่า   • วันละ 1 พันล้านคำถาม = 310 GWh/ปี ✅ การใช้โมเดลขนาดใหญ่ = ต้องโหลดข้อมูลมหาศาลทุกครั้งที่ตอบ   • หากใช้โมเดลเล็กเฉพาะทาง จะใช้พลังงานน้อยลงมาก ✅ ปัจจุบัน Tech Giants ออกโมเดลขนาดเล็กเพื่อประหยัดพลังงานและทำงานเฉพาะทางได้ไวขึ้น: https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/09/study-ai-needs-to-be-smaller-reduce-energy-footprint
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Study: AI needs to be smaller, reduce energy footprint
    The potential of artificial intelligence is immense – but its equally vast energy consumption needs curbing, with asking shorter questions one way to achieve, said a UNESCO study unveiled on July 8.
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • ถ้าเมื่อก่อนวิดีโอ AI เคยมีข้อบกพร่อง เช่น หน้ามนุษย์บิดเบี้ยว มือมี 6 นิ้ว หรือเส้นผมติดกันเป็นก้อน… วันนี้ AI กำลังทิ้งอดีตเหล่านั้นไว้ข้างหลัง → ลองนึกถึงคลิป “Will Smith กินสปาเกตตี” ที่เคยดังเมื่อ 2 ปีก่อนในเวอร์ชันหลอน ๆ น่าขนลุก → แต่เวอร์ชันล่าสุดบน Veo 3 ของ Google กลับแทบแยกไม่ออกว่าเป็นของปลอม!

    AI วิดีโอตอนนี้พัฒนาไปเร็วมาก → ภายใน 12 เดือน มีการเปิดตัวโมเดลใหม่อย่าง Luma Dream Machine, OpenAI Sora, Runway Gen-4 และ Veo 3 → วงการฮอลลีวูดเริ่มขยับ เช่น Lionsgate ทำดีลกับ Runway เพื่อสร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์ดังอย่าง John Wick หรือ Hunger Games → และ AI ถูกใช้ในการทำ Previs หรือ Storyboard ที่เคยต้องใช้เงินหลักล้าน → ตอนนี้แค่สร้างคลิป 10 วิ ที่มีทหารหมื่นคนก็พอให้ตัดสินใจแล้วว่าจะถ่ายทำจริงไหม

    แม้บางสตูดิโออย่าง Staircase Studio จะก้าวหน้าไปถึงขั้นผลิตภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วย AI ในต้นทุนไม่ถึง $500,000 → แต่ศิลปิน–ผู้กำกับบางคนยังปฏิเสธ AI เพราะมองว่า “ทำลายจินตนาการ” และไม่ต้องการให้เครื่องมือตัดสินแทน

    อย่างไรก็ดี Strickler จาก Georgia State บอกว่า “ต่อต้าน AI ตอนนี้ก็เหมือนทำธุรกิจโดยไม่มีอินเทอร์เน็ต” → แม้จะเข้าใจว่าคนกังวลเรื่องพลังงาน–ลิขสิทธิ์–ผลกระทบต่อแรงงานก็ตาม

    AI วิดีโอพัฒนาเร็วมากในปี 2024–2025 → สร้างภาพที่สมจริงจนแยกไม่ออกจากวิดีโอจริง  
    • เทคโนโลยีจาก Veo, Sora, Gen-4 และ Dream Machine  
    • ตัวอย่างคลิป Will Smith กินสปาเกตตีเวอร์ชันล่าสุดแทบไม่มีข้อผิดพลาด

    Runway AI จับมือ Lionsgate และ AMC สร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์หนังจริง  
    • ใช้ทำ Previsualization แทนการลงทุนหลายล้าน  
    • ช่วยตัดสินใจว่าควรถ่ายทำหรือไม่

    Staircase Studio ตั้งเป้าสร้างภาพยนตร์ AI ทั้งเรื่อง ในงบไม่ถึง $500,000 ต่อเรื่อง  
    • แต่ยังใช้แรงงานจริงจากกองถ่ายและนักสร้างสรรค์แบบ union

    บางคนใช้ AI เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขงาน (unlimited iteration) โดยไม่ต้องถ่ายใหม่

    นักศึกษาหลายคนต่อต้าน AI เพราะพลังงาน–การดูดเนื้อหาจากเจ้าของเดิม–ผลกระทบต่อแรงงาน

    Runway กำลังวางแผนขยายไปสู่ VR–AR และการสร้างโลกเสมือนจริงที่ถ่ายทำหนังได้เลย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/08/ai-video-becomes-more-convincing-rattling-creative-industry
    ถ้าเมื่อก่อนวิดีโอ AI เคยมีข้อบกพร่อง เช่น หน้ามนุษย์บิดเบี้ยว มือมี 6 นิ้ว หรือเส้นผมติดกันเป็นก้อน… วันนี้ AI กำลังทิ้งอดีตเหล่านั้นไว้ข้างหลัง → ลองนึกถึงคลิป “Will Smith กินสปาเกตตี” ที่เคยดังเมื่อ 2 ปีก่อนในเวอร์ชันหลอน ๆ น่าขนลุก → แต่เวอร์ชันล่าสุดบน Veo 3 ของ Google กลับแทบแยกไม่ออกว่าเป็นของปลอม! AI วิดีโอตอนนี้พัฒนาไปเร็วมาก → ภายใน 12 เดือน มีการเปิดตัวโมเดลใหม่อย่าง Luma Dream Machine, OpenAI Sora, Runway Gen-4 และ Veo 3 → วงการฮอลลีวูดเริ่มขยับ เช่น Lionsgate ทำดีลกับ Runway เพื่อสร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์ดังอย่าง John Wick หรือ Hunger Games → และ AI ถูกใช้ในการทำ Previs หรือ Storyboard ที่เคยต้องใช้เงินหลักล้าน → ตอนนี้แค่สร้างคลิป 10 วิ ที่มีทหารหมื่นคนก็พอให้ตัดสินใจแล้วว่าจะถ่ายทำจริงไหม แม้บางสตูดิโออย่าง Staircase Studio จะก้าวหน้าไปถึงขั้นผลิตภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วย AI ในต้นทุนไม่ถึง $500,000 → แต่ศิลปิน–ผู้กำกับบางคนยังปฏิเสธ AI เพราะมองว่า “ทำลายจินตนาการ” และไม่ต้องการให้เครื่องมือตัดสินแทน อย่างไรก็ดี Strickler จาก Georgia State บอกว่า “ต่อต้าน AI ตอนนี้ก็เหมือนทำธุรกิจโดยไม่มีอินเทอร์เน็ต” → แม้จะเข้าใจว่าคนกังวลเรื่องพลังงาน–ลิขสิทธิ์–ผลกระทบต่อแรงงานก็ตาม ✅ AI วิดีโอพัฒนาเร็วมากในปี 2024–2025 → สร้างภาพที่สมจริงจนแยกไม่ออกจากวิดีโอจริง   • เทคโนโลยีจาก Veo, Sora, Gen-4 และ Dream Machine   • ตัวอย่างคลิป Will Smith กินสปาเกตตีเวอร์ชันล่าสุดแทบไม่มีข้อผิดพลาด ✅ Runway AI จับมือ Lionsgate และ AMC สร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์หนังจริง   • ใช้ทำ Previsualization แทนการลงทุนหลายล้าน   • ช่วยตัดสินใจว่าควรถ่ายทำหรือไม่ ✅ Staircase Studio ตั้งเป้าสร้างภาพยนตร์ AI ทั้งเรื่อง ในงบไม่ถึง $500,000 ต่อเรื่อง   • แต่ยังใช้แรงงานจริงจากกองถ่ายและนักสร้างสรรค์แบบ union ✅ บางคนใช้ AI เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขงาน (unlimited iteration) โดยไม่ต้องถ่ายใหม่ ✅ นักศึกษาหลายคนต่อต้าน AI เพราะพลังงาน–การดูดเนื้อหาจากเจ้าของเดิม–ผลกระทบต่อแรงงาน ✅ Runway กำลังวางแผนขยายไปสู่ VR–AR และการสร้างโลกเสมือนจริงที่ถ่ายทำหนังได้เลย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/08/ai-video-becomes-more-convincing-rattling-creative-industry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI video becomes more convincing, rattling creative industry
    Gone are the days of six-fingered hands or distorted faces – AI-generated video is becoming increasingly convincing, attracting Hollywood, artists, and advertisers, while shaking the foundations of the creative industry.
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • อย่าเอา LNG ไปผูกดีลภาษีทรัมป์!
    ผศ.ประสาท มีแต้ม เตือน “ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย”
    หัวโตแน่ ทั้งที่โซลาร์+แบตใช้ไฟได้เกือบทั้งปี

    ผศ.ประสาท มีแต้ม อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค เตือนรัฐบาลว่า

    “ไม่ควรนำเรื่อง การนำเข้า LNG ไปเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ หรือข้อตกลงทางการค้า”
    เพราะนั่นจะทำให้ไทยตกอยู่ในสถานะ ต้องเซ็นสัญญา Take-or-Pay — ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย ซึ่งจะกลายเป็นภาระค่าไฟระยะยาวมหาศาล

    ผศ.ประสาทชี้ว่า ขณะนี้โลกกำลังเปลี่ยนทิศทางไปสู่พลังงานหมุนเวียน และงานวิจัยล่าสุดพบว่า

    “ระบบโซลาร์บวกแบตเตอรี่ (Solar + Storage) ในประเทศที่มีแดดดี 12 ประเทศทั่วโลก สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เกือบครบ 24 ชั่วโมง ตลอด 365 วัน”

    เช่นใน ฟิลิปปินส์ ระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้ถึง 92% ของเวลาทั้งปี ส่วนที่เหลืออีกเพียง 8% จึงค่อยใช้ไฟจากแหล่งอื่น

    นอกจากนี้ ต้นทุนไฟฟ้าจากระบบโซลาร์บวกแบตฯ ก็ถูกลงอย่างรวดเร็ว
    • ปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3.50 บาทต่อหน่วย
    • และจะ ลดลงเฉลี่ยปีละ 22%

    “ลองคิดดูดีๆ เราไม่มีความจำเป็นต้องพึ่ง LNG อีกต่อไป
    แต่ถ้ารัฐยังฝืนพาไทยไปผูกกับดีล LNG ระยะยาว สุดท้ายประชาชนจะต้องจ่ายแพงไปอีกหลายสิบปี”

    https://www.facebook.com/share/p/1Aor22TQZp/?mibextid=wwXIfr
    อย่าเอา LNG ไปผูกดีลภาษีทรัมป์! ผศ.ประสาท มีแต้ม เตือน “ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย” หัวโตแน่ ทั้งที่โซลาร์+แบตใช้ไฟได้เกือบทั้งปี ผศ.ประสาท มีแต้ม อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค เตือนรัฐบาลว่า “ไม่ควรนำเรื่อง การนำเข้า LNG ไปเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ หรือข้อตกลงทางการค้า” เพราะนั่นจะทำให้ไทยตกอยู่ในสถานะ ต้องเซ็นสัญญา Take-or-Pay — ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย ซึ่งจะกลายเป็นภาระค่าไฟระยะยาวมหาศาล ผศ.ประสาทชี้ว่า ขณะนี้โลกกำลังเปลี่ยนทิศทางไปสู่พลังงานหมุนเวียน และงานวิจัยล่าสุดพบว่า “ระบบโซลาร์บวกแบตเตอรี่ (Solar + Storage) ในประเทศที่มีแดดดี 12 ประเทศทั่วโลก สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เกือบครบ 24 ชั่วโมง ตลอด 365 วัน” เช่นใน ฟิลิปปินส์ ระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้ถึง 92% ของเวลาทั้งปี ส่วนที่เหลืออีกเพียง 8% จึงค่อยใช้ไฟจากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ต้นทุนไฟฟ้าจากระบบโซลาร์บวกแบตฯ ก็ถูกลงอย่างรวดเร็ว • ปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3.50 บาทต่อหน่วย • และจะ ลดลงเฉลี่ยปีละ 22% “ลองคิดดูดีๆ เราไม่มีความจำเป็นต้องพึ่ง LNG อีกต่อไป แต่ถ้ารัฐยังฝืนพาไทยไปผูกกับดีล LNG ระยะยาว สุดท้ายประชาชนจะต้องจ่ายแพงไปอีกหลายสิบปี” https://www.facebook.com/share/p/1Aor22TQZp/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • Sparkle เปิดตัวการ์ดจอตระกูล Arc Pro B60 สามรุ่นรวด → รุ่นแรกเป็นแบบพัดลมเป่า (blower) ขนาด 24GB → รุ่นที่สองเป็นแบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ (ไม่มีพัดลม) ขนาด 24GB เหมาะกับ server → รุ่นสุดท้ายคือ “ไพ่ตาย” — การ์ด dual-GPU ขนาด 48GB ที่แรงกว่าและกินไฟน้อยกว่ารุ่นของ MaxSun ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้

    จุดเด่นของแต่ละ GPU คือมี 20 Xe-core + 160 XMX engine (หน่วยเร่ง AI) → ทำให้สามารถประมวลผล AI แบบ INT8 ได้สูงสุด 394 TOPS → รองรับ ray tracing และการเข้ารหัส AV1 ด้วย Xe media engine

    ถึงจะดูคล้ายการ์ดเกม แต่ Arc Pro B60 ถูกออกแบบมาสำหรับ AI inference, media workstation, และ data lab โดยเฉพาะ → ไม่ใช้ multi-GPU แบบ SLI หรือแบ่งงาน render แบบการ์ดเกม → แต่ใช้โครงสร้างที่แชร์ PCIe x16 ด้วยกัน โดยแต่ละชิปใช้ 8 เลนเท่า ๆ กัน

    การมีรุ่นพาสซีฟแสดงให้เห็นว่า Sparkle จับกลุ่ม server/data center ชัดเจน → พร้อมทั้งใช้ไดรเวอร์ Pro ที่เน้นเสถียรภาพสำหรับซอฟต์แวร์เวิร์กสเตชัน → และยังรองรับ consumer driver เผื่อบางงานที่เบาลง หรือใช้ใน mini-AI desktop

    Sparkle เปิดตัว Arc Pro B60 Series แบบมืออาชีพ 3 รุ่น:  
    • Blower 24GB  • Passive cooling 24GB (เงียบและเหมาะกับ rack/server)  
    • Dual-GPU 48GB พร้อมระบายความร้อนแบบ blower

    ทุกรุ่นใช้สถาปัตยกรรม Intel Battlemage พร้อม 20 Xe-core + 160 XMX engine ต่อชิป  
    • INT8 AI throughput สูงถึง 394 TOPS (รวม 2 GPU)  
    • รองรับ ray tracing + AV1 encode

    การ์ด dual-GPU ใช้พลังงาน 300W → แรงแต่ยังควบคุมความร้อนได้ดี  
    • แบ่งเลน PCIe 5.0 x16 แบบ 8+8  
    • ไม่แชร์ RAM ระหว่าง 2 GPU

    รองรับ Linux multi-GPU และ OneAPI → เหมาะกับงาน HPC, วิจัย, AI inferencing ขนาดใหญ่

    เปิดตัวปลายปี 2025 → มาทันช่วงตลาด AI desktop–workstation กำลังโต

    https://www.techradar.com/pro/another-dual-intel-gpu-card-with-48gb-vram-launched-as-arc-pro-emerges-as-cheap-nvidia-and-amd-alternative-for-ai-crowd
    Sparkle เปิดตัวการ์ดจอตระกูล Arc Pro B60 สามรุ่นรวด → รุ่นแรกเป็นแบบพัดลมเป่า (blower) ขนาด 24GB → รุ่นที่สองเป็นแบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ (ไม่มีพัดลม) ขนาด 24GB เหมาะกับ server → รุ่นสุดท้ายคือ “ไพ่ตาย” — การ์ด dual-GPU ขนาด 48GB ที่แรงกว่าและกินไฟน้อยกว่ารุ่นของ MaxSun ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ จุดเด่นของแต่ละ GPU คือมี 20 Xe-core + 160 XMX engine (หน่วยเร่ง AI) → ทำให้สามารถประมวลผล AI แบบ INT8 ได้สูงสุด 394 TOPS → รองรับ ray tracing และการเข้ารหัส AV1 ด้วย Xe media engine ถึงจะดูคล้ายการ์ดเกม แต่ Arc Pro B60 ถูกออกแบบมาสำหรับ AI inference, media workstation, และ data lab โดยเฉพาะ → ไม่ใช้ multi-GPU แบบ SLI หรือแบ่งงาน render แบบการ์ดเกม → แต่ใช้โครงสร้างที่แชร์ PCIe x16 ด้วยกัน โดยแต่ละชิปใช้ 8 เลนเท่า ๆ กัน การมีรุ่นพาสซีฟแสดงให้เห็นว่า Sparkle จับกลุ่ม server/data center ชัดเจน → พร้อมทั้งใช้ไดรเวอร์ Pro ที่เน้นเสถียรภาพสำหรับซอฟต์แวร์เวิร์กสเตชัน → และยังรองรับ consumer driver เผื่อบางงานที่เบาลง หรือใช้ใน mini-AI desktop ✅ Sparkle เปิดตัว Arc Pro B60 Series แบบมืออาชีพ 3 รุ่น:   • Blower 24GB  • Passive cooling 24GB (เงียบและเหมาะกับ rack/server)   • Dual-GPU 48GB พร้อมระบายความร้อนแบบ blower ✅ ทุกรุ่นใช้สถาปัตยกรรม Intel Battlemage พร้อม 20 Xe-core + 160 XMX engine ต่อชิป   • INT8 AI throughput สูงถึง 394 TOPS (รวม 2 GPU)   • รองรับ ray tracing + AV1 encode ✅ การ์ด dual-GPU ใช้พลังงาน 300W → แรงแต่ยังควบคุมความร้อนได้ดี   • แบ่งเลน PCIe 5.0 x16 แบบ 8+8   • ไม่แชร์ RAM ระหว่าง 2 GPU ✅ รองรับ Linux multi-GPU และ OneAPI → เหมาะกับงาน HPC, วิจัย, AI inferencing ขนาดใหญ่ ✅ เปิดตัวปลายปี 2025 → มาทันช่วงตลาด AI desktop–workstation กำลังโต https://www.techradar.com/pro/another-dual-intel-gpu-card-with-48gb-vram-launched-as-arc-pro-emerges-as-cheap-nvidia-and-amd-alternative-for-ai-crowd
    WWW.TECHRADAR.COM
    Sparkle confirms three Arc Pro B60 GPUs for professional workloads
    Sparkle offers three B60 models with blower or passive cooling
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • Nvidia เปิดตัว RTX 5050 แบบเงียบ ๆ และไม่มีใครได้การ์ดมาทดสอบก่อน วันเปิดขายก็ไม่มีรีวิวให้ดู → ส่อแววแปลก ๆ ตั้งแต่ต้น → จนทีม TechSpot ต้อง “ซื้อเอง” มาราว 500 ดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อรีวิว

    ผลคือ…มันคือการ์ดระดับเริ่มต้นที่ใช้แรม 8GB GDDR6 บัส 128 บิต → สถาปัตยกรรม Blackwell เหมือน RTX 5090 แต่ถูกตัดสเปกลงหนัก → ความแรงโดยเฉลี่ยในเกม 18 เกมอยู่ที่ 66 fps ที่ 1080p → ต่ำกว่า Radeon RX 7600 เสียอีก

    ที่น่าผิดหวังคือ ราคาประมาณ $250 นี้ เทียบแล้วแพงกว่า RX 9060 XT (8GB) ที่แรงกว่า 44% → และถ้าไปเล่นรุ่น 9060 XT แบบ 16GB ที่ราคาประมาณ $370 ก็แรงกว่า 80% เลย!

    GeForce RTX 5050 เปิดขาย 1 ก.ค. 2025 ด้วยราคา $250  
    • ไม่มีรีวิวล่วงหน้า  
    • ไม่มีเครื่องเทสต์ให้สื่อ

    สเปกหลักของ RTX 5050:  
    • 8GB GDDR6 @ 20Gbps  
    • บัส 128 บิต, 320 GB/s  
    • ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell (GB207)  
    • 130W TDP, PCIe 5.0 x8  
    • รองรับ DLSS 4

    ค่าเฉลี่ย 1080p เล่นเกม 18 เกม = 66 fps → ต่ำกว่า RX 7600 (~3%)  
    • RX 9060 XT 8GB แรงกว่า 44% ในราคาแพงกว่าเพียง ~20%  
    • RX 9060 XT 16GB แรงกว่า 80% ที่ $370

    ข้อดี:  
    • ประหยัดพลังงาน  
    • รองรับ DLSS4  
    • เย็นพอใช้ (73°C ที่โหลดเต็ม)

    #ลุงฟันธง
    1️⃣ ใครคิดจะ upgrade จาก RTX 3050 อย่าเลยครับ รอซื้อเครื่องใหม่เลย
    2️⃣ ใครคิดจะซื้อเครื่องใหม่เล็งไปที่ APU ของ AMD เช่น 8700G น่าจะโอเคกว่า
    3️⃣ ใครเป็นสาวก CPU Intel ซื้อเลยครับ

    https://www.techspot.com/review/3011-nvidia-geforce-rtx-5050/
    Nvidia เปิดตัว RTX 5050 แบบเงียบ ๆ และไม่มีใครได้การ์ดมาทดสอบก่อน วันเปิดขายก็ไม่มีรีวิวให้ดู → ส่อแววแปลก ๆ ตั้งแต่ต้น → จนทีม TechSpot ต้อง “ซื้อเอง” มาราว 500 ดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อรีวิว ผลคือ…มันคือการ์ดระดับเริ่มต้นที่ใช้แรม 8GB GDDR6 บัส 128 บิต → สถาปัตยกรรม Blackwell เหมือน RTX 5090 แต่ถูกตัดสเปกลงหนัก → ความแรงโดยเฉลี่ยในเกม 18 เกมอยู่ที่ 66 fps ที่ 1080p → ต่ำกว่า Radeon RX 7600 เสียอีก ที่น่าผิดหวังคือ ราคาประมาณ $250 นี้ เทียบแล้วแพงกว่า RX 9060 XT (8GB) ที่แรงกว่า 44% → และถ้าไปเล่นรุ่น 9060 XT แบบ 16GB ที่ราคาประมาณ $370 ก็แรงกว่า 80% เลย! ✅ GeForce RTX 5050 เปิดขาย 1 ก.ค. 2025 ด้วยราคา $250   • ไม่มีรีวิวล่วงหน้า   • ไม่มีเครื่องเทสต์ให้สื่อ ✅ สเปกหลักของ RTX 5050:   • 8GB GDDR6 @ 20Gbps   • บัส 128 บิต, 320 GB/s   • ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell (GB207)   • 130W TDP, PCIe 5.0 x8   • รองรับ DLSS 4 ✅ ค่าเฉลี่ย 1080p เล่นเกม 18 เกม = 66 fps → ต่ำกว่า RX 7600 (~3%)   • RX 9060 XT 8GB แรงกว่า 44% ในราคาแพงกว่าเพียง ~20%   • RX 9060 XT 16GB แรงกว่า 80% ที่ $370 ✅ ข้อดี:   • ประหยัดพลังงาน   • รองรับ DLSS4   • เย็นพอใช้ (73°C ที่โหลดเต็ม) #ลุงฟันธง 1️⃣ ใครคิดจะ upgrade จาก RTX 3050 อย่าเลยครับ รอซื้อเครื่องใหม่เลย 2️⃣ ใครคิดจะซื้อเครื่องใหม่เล็งไปที่ APU ของ AMD เช่น 8700G น่าจะโอเคกว่า 3️⃣ ใครเป็นสาวก CPU Intel ซื้อเลยครับ https://www.techspot.com/review/3011-nvidia-geforce-rtx-5050/
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia GeForce RTX 5050 Review
    Nvidia's RTX 5050 launched with no reviews, no benchmarks, and barely any availability. It's their latest GPU release–and once again, you're expected to buy blind. But we've...
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • ลองนึกภาพว่า SSD หรือ RAM ในอนาคตจะไม่เพียงแค่เร็วจัด แต่ยัง ไม่ต้องจ่ายไฟตลอดเวลาเพื่อเก็บข้อมูล, ไม่ต้องกลัวข้อมูลหายตอนปิดเครื่อง และยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย → เทคโนโลยีแบบนั้นเรียกว่า “Spintronics” หรืออุปกรณ์ที่ใช้อิเล็กตรอนทั้ง “ประจุ” และ “สปินแม่เหล็ก” ในการประมวลผล

    แต่ปัญหาหลักคือ วัสดุ ferromagnetic semiconductor (FMS) ที่ใช้สร้างอุปกรณ์เหล่านี้มักจะใช้งานได้แค่ที่อุณหภูมิต่ำ (ต่ำกว่าอุณหภูมิห้อง) → ทำให้ยังไม่สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์จริงได้

    ล่าสุดทีมนักวิจัยจากโตเกียว นำโดย ศ. Pham Nam Hai แก้ปัญหานี้ได้ → พวกเขาสร้างวัสดุ (Ga₀.₇₆Fe₀.₂₄)Sb ที่มี Curie Temperature สูงถึง 530 เคลวิน (≒ 256°C) → สูงกว่าสถิติก่อนหน้า (420 K) และสามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมปกติสบาย ๆ

    พวกเขาใช้เทคนิค "step-flow growth" บนแผ่นเวเฟอร์ GaAs ที่เอียงเล็กน้อย → ทำให้สามารถเติมเหล็ก (Fe) ได้ถึง 24% โดยไม่ทำลายโครงสร้างผลึก → ส่งผลให้ตัวอย่างบางเพียง 9.8 นาโนเมตรสามารถ “คงคุณสมบัติแม่เหล็กไว้ได้นานกว่า 1.5 ปีแม้เปิดทิ้งในอากาศ”

    ทั้งหมดนี้อาจปูทางสู่การผลิตหน่วยความจำ MRAM หรือหน่วยประมวลผล Spintronic ที่ใช้ได้จริงแบบ mass production ในอนาคตอันใกล้

    นักวิจัยจาก Institute of Science Tokyo พัฒนา FMS ที่ทำงานได้ที่อุณหภูมิสูงสุดเท่าที่มีการรายงาน (530 K / ~256°C)  
    • วัสดุที่ใช้คือ (Ga₀.₇₆Fe₀.₂₄)Sb  
    • สูงกว่าอุณหภูมิห้องมาก → เหมาะกับการใช้งานจริง

    ใช้เทคนิค step-flow growth บนแผ่น GaAs ที่เอียง 10 องศา เพื่อควบคุมโครงสร้าง  
    • เติม Fe ได้มากโดยไม่เสีย crystalline quality  
    • ได้ผลึกคุณภาพสูงที่ยังมีคุณสมบัติแม่เหล็กครบถ้วน

    ยืนยันคุณสมบัติด้วย Magnetic Circular Dichroism และ Arrott plots  
    • ค่าพลังแม่เหล็กต่ออะตอม Fe = 4.5 µB ใกล้เคียงทฤษฎี  
    • ดีกว่าแม่เหล็กโลหะทั่วไปอย่าง α-Fe

    ทดสอบเก็บตัวอย่างในอากาศ 1.5 ปี พบว่ายังรักษาคุณสมบัติได้ดี (TC เหลือ ~470 K)  
    • บ่งชี้ถึงความเสถียรสูง เหมาะกับการใช้งานในเชิงอุตสาหกรรม

    สามารถนำไปใช้พัฒนาอุปกรณ์ Spintronic เช่น MRAM ได้ในระดับ CMOS-compatible  
    • ลด leakage, เพิ่ม endurance, ไม่ volatile, เร็วระดับ SSD, ใช้ไฟต่ำ

    https://www.neowin.net/news/extraordinary-next-gen-ssd--ram-could-be-awaiting-as-scientists-hit-a-milestone-temperature/
    ลองนึกภาพว่า SSD หรือ RAM ในอนาคตจะไม่เพียงแค่เร็วจัด แต่ยัง ไม่ต้องจ่ายไฟตลอดเวลาเพื่อเก็บข้อมูล, ไม่ต้องกลัวข้อมูลหายตอนปิดเครื่อง และยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย → เทคโนโลยีแบบนั้นเรียกว่า “Spintronics” หรืออุปกรณ์ที่ใช้อิเล็กตรอนทั้ง “ประจุ” และ “สปินแม่เหล็ก” ในการประมวลผล แต่ปัญหาหลักคือ วัสดุ ferromagnetic semiconductor (FMS) ที่ใช้สร้างอุปกรณ์เหล่านี้มักจะใช้งานได้แค่ที่อุณหภูมิต่ำ (ต่ำกว่าอุณหภูมิห้อง) → ทำให้ยังไม่สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์จริงได้ ล่าสุดทีมนักวิจัยจากโตเกียว นำโดย ศ. Pham Nam Hai แก้ปัญหานี้ได้ → พวกเขาสร้างวัสดุ (Ga₀.₇₆Fe₀.₂₄)Sb ที่มี Curie Temperature สูงถึง 530 เคลวิน (≒ 256°C) → สูงกว่าสถิติก่อนหน้า (420 K) และสามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมปกติสบาย ๆ พวกเขาใช้เทคนิค "step-flow growth" บนแผ่นเวเฟอร์ GaAs ที่เอียงเล็กน้อย → ทำให้สามารถเติมเหล็ก (Fe) ได้ถึง 24% โดยไม่ทำลายโครงสร้างผลึก → ส่งผลให้ตัวอย่างบางเพียง 9.8 นาโนเมตรสามารถ “คงคุณสมบัติแม่เหล็กไว้ได้นานกว่า 1.5 ปีแม้เปิดทิ้งในอากาศ” ทั้งหมดนี้อาจปูทางสู่การผลิตหน่วยความจำ MRAM หรือหน่วยประมวลผล Spintronic ที่ใช้ได้จริงแบบ mass production ในอนาคตอันใกล้ ✅ นักวิจัยจาก Institute of Science Tokyo พัฒนา FMS ที่ทำงานได้ที่อุณหภูมิสูงสุดเท่าที่มีการรายงาน (530 K / ~256°C)   • วัสดุที่ใช้คือ (Ga₀.₇₆Fe₀.₂₄)Sb   • สูงกว่าอุณหภูมิห้องมาก → เหมาะกับการใช้งานจริง ✅ ใช้เทคนิค step-flow growth บนแผ่น GaAs ที่เอียง 10 องศา เพื่อควบคุมโครงสร้าง   • เติม Fe ได้มากโดยไม่เสีย crystalline quality   • ได้ผลึกคุณภาพสูงที่ยังมีคุณสมบัติแม่เหล็กครบถ้วน ✅ ยืนยันคุณสมบัติด้วย Magnetic Circular Dichroism และ Arrott plots   • ค่าพลังแม่เหล็กต่ออะตอม Fe = 4.5 µB ใกล้เคียงทฤษฎี   • ดีกว่าแม่เหล็กโลหะทั่วไปอย่าง α-Fe ✅ ทดสอบเก็บตัวอย่างในอากาศ 1.5 ปี พบว่ายังรักษาคุณสมบัติได้ดี (TC เหลือ ~470 K)   • บ่งชี้ถึงความเสถียรสูง เหมาะกับการใช้งานในเชิงอุตสาหกรรม ✅ สามารถนำไปใช้พัฒนาอุปกรณ์ Spintronic เช่น MRAM ได้ในระดับ CMOS-compatible   • ลด leakage, เพิ่ม endurance, ไม่ volatile, เร็วระดับ SSD, ใช้ไฟต่ำ https://www.neowin.net/news/extraordinary-next-gen-ssd--ram-could-be-awaiting-as-scientists-hit-a-milestone-temperature/
    WWW.NEOWIN.NET
    Extraordinary next-gen SSD & RAM could be awaiting as scientists hit a milestone temperature
    Scientists have managed to hit a major milestone in terms of temperature, thus making them excited about the possibility of some amazing future SSD and RAM innovations.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทอินเดียมากกว่า 20 แห่ง หลังจากพบว่าพยายามแอบลักลอบส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ต่อไปยังสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ

    คาดว่า หลังจากนี้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักและการเพิ่มขึ้นของราคาสำหรับผู้ผลิตทั่วโลกที่พึ่งพาแร่หายากสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน

    การกระทำของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก (Rare Earth) เนื่องจากจีนควบคุมการขุดและแปรรูปแร่หายากของโลกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จีนเป็น "ผู้เล่นหลัก" ในห่วงโซ่อุปทานโลกสำหรับแร่สำคัญเหล่านี้

    "แร่หายาก" เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ทางการทหาร และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน

    ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาจึงมองจีนว่าใช้แร่หายากเป็นช่องทางในการสร้างอิทธิพลของตนเองต่อข้อพิพาททางการค้าและเพื่อกดดันประเทศต่างๆ
    จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทอินเดียมากกว่า 20 แห่ง หลังจากพบว่าพยายามแอบลักลอบส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ต่อไปยังสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ คาดว่า หลังจากนี้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักและการเพิ่มขึ้นของราคาสำหรับผู้ผลิตทั่วโลกที่พึ่งพาแร่หายากสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน การกระทำของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก (Rare Earth) เนื่องจากจีนควบคุมการขุดและแปรรูปแร่หายากของโลกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จีนเป็น "ผู้เล่นหลัก" ในห่วงโซ่อุปทานโลกสำหรับแร่สำคัญเหล่านี้ "แร่หายาก" เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ทางการทหาร และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาจึงมองจีนว่าใช้แร่หายากเป็นช่องทางในการสร้างอิทธิพลของตนเองต่อข้อพิพาททางการค้าและเพื่อกดดันประเทศต่างๆ
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • AI: พลังขับเคลื่อนความก้าวหน้า... หรือเร่งโลกให้ร้อนขึ้น?

    บทนำ: ยุค AI กับผลกระทบที่มองไม่เห็น
    ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลก จากการค้นหาข้อมูล รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ความก้าวหน้านี้มาพร้อมต้นทุนที่ซ่อนอยู่: การใช้พลังงานมหาศาลและความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้สำรวจสาเหตุที่ AI ใช้พลังงานมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

    AI กับความต้องการพลังงานมหาศาล

    ทำไม AI ถึงใช้พลังงานมาก?
    AI โดยเฉพาะโมเดลกำเนิด เช่น GPT-4 ต้องการพลังการประมวลผลสูง ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) และหน่วยประมวลผลเทนเซอร์ (TPUs) ซึ่งกินไฟมากและสร้างความร้อนที่ต้องระบายด้วยระบบทำความเย็นซับซ้อน การฝึกโมเดล เช่น GPT-3 ใช้ไฟฟ้า ~1,300 MWh และ GPT-4 ใช้ ~1,750 MWh ส่วนการอนุมาน (เช่น การสอบถาม ChatGPT) ใช้พลังงานรวมมากกว่าการฝึกเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก

    ตัวอย่างการใช้พลังงาน
    - ชั้นวาง AI ใช้ไฟมากกว่าครัวเรือนสหรัฐฯ 39 เท่า
    - การฝึก GPT-3 เทียบเท่าการใช้ไฟของบ้าน 120-130 หลังต่อปี
    - การสอบถาม ChatGPT ครั้งหนึ่งใช้พลังงานมากกว่าการค้นหา Google 10-15 เท่า และปล่อย CO2 มากกว่า 340 เท่า
    - ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2022 ใช้ไฟ 460 TWh และคาดว่าในปี 2026 จะเพิ่มเป็น ~1,050 TWh เทียบเท่าการใช้ไฟของเยอรมนี

    ความร้อนจาก AI: ตัวเร่งโลกร้อน

    จากไฟฟ้าสู่ความร้อน
    พลังงานไฟฟ้าที่ AI ใช้เกือบทั้งหมดแปลงเป็นความร้อน โดย 1 วัตต์ผลิตความร้อน 3.412 BTU/ชั่วโมง GPUs สมัยใหม่ใช้ไฟเกิน 1,000 วัตต์ต่อตัว สร้างความร้อนที่ต้องระบาย

    รอยเท้าคาร์บอนและน้ำ
    การฝึกโมเดล AI ปล่อย CO2 ได้ถึง 284 ตัน เทียบเท่ารถยนต์สหรัฐฯ 5 คันต่อปี การระบายความร้อนศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าถึง 40% และน้ำราว 2 ลิตรต่อ kWh โดย ChatGPT-4o ใช้น้ำเทียบเท่าความต้องการน้ำดื่มของ 1.2 ล้านคนต่อปี คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI อาจใช้ไฟมากกว่าฝรั่งเศสทั้งประเทศ

    ความท้าทายด้านความร้อน
    ความร้อนสูงเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง อายุฮาร์ดแวร์สั้นลง และระบบไม่เสถียร การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อความร้อนจาก AI สมัยใหม่ และระบบทำความเย็นใช้พลังงานสูง ตัวอย่างการใช้พลังงาน GPU ในอนาคต:
    - ปี 2025 (Blackwell Ultra): 1,400W, ใช้การระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip
    - ปี 2027 (Rubin Ultra): 3,600W, ใช้ Direct-to-Chip
    - ปี 2029 (Feynman Ultra): 6,000W, ใช้ Immersion Cooling
    - ปี 2032: 15,360W, ใช้ Embedded Cooling

    นวัตกรรมเพื่อ AI ที่ยั่งยืน

    การระบายความร้อนที่ชาญฉลาด
    - การระบายความร้อนด้วยของLikely ResponseHed: มีประสิทธิภาพสูงกว่าอากาศ 3000 เท่า ใช้ในระบบ Direct-to-Chip และ Immersion Cooling
    - ระบบ HVAC ขั้นสูง: ใช้การระบายความร้อนแบบระเหยและท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานและน้ำ
    - ตัวชี้วัด TUE: วัดประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมของศูนย์ข้อมูล

    การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน
    - การตัดแต่งโมเดล/ควอนไทซ์: ลดขนาดโมเดลและพลังงานที่ใช้
    - การกลั่นความรู้: ถ่ายทอดความรู้สู่โมเดลขนาดเล็ก
    - ชิปประหยัดพลังงาน: เช่น TPUs และ NPUs
    - AI จัดการพลังงาน: ใช้ AI วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
    - Edge Computing: ลดการส่งข้อมูลไปยังคลาวด์

    พลังงานหมุนเวียน
    ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รวมถึงนวัตกรรมอย่างการระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลและพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Dispatchable

    ความรับผิดชอบร่วมกัน

    ความโปร่งใสของบริษัท AI
    บริษัทควรเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและรอยเท้าคาร์บอน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ

    นโยบายและกฎระเบียบ
    รัฐบาลทั่วโลกผลักดันนโยบาย Green AI เช่น กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป เพื่อความยั่งยืน

    บทบาทของนักพัฒนาและผู้ใช้
    - นักพัฒนา: เลือกโมเดลและฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงาน ใช้เครื่องมือติดตามคาร์บอน
    - ผู้ใช้: ตระหนักถึงการใช้พลังงานของ AI และสนับสนุนบริษัทที่ยั่งยืน

    บทสรุป: วิสัยทัศน์ Green AI
    AI มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงโลก แต่ต้องจัดการกับการใช้พลังงานและความร้อนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อน การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความโปร่งใสและนโยบายที่เหมาะสม เราสามารถสร้างอนาคต AI ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนา AI หรือรักษาสภาพภูมิอากาศ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🌍 AI: พลังขับเคลื่อนความก้าวหน้า... หรือเร่งโลกให้ร้อนขึ้น? 📝 บทนำ: ยุค AI กับผลกระทบที่มองไม่เห็น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลก จากการค้นหาข้อมูล รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ความก้าวหน้านี้มาพร้อมต้นทุนที่ซ่อนอยู่: การใช้พลังงานมหาศาลและความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้สำรวจสาเหตุที่ AI ใช้พลังงานมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ⚡ AI กับความต้องการพลังงานมหาศาล ❓ ทำไม AI ถึงใช้พลังงานมาก? AI โดยเฉพาะโมเดลกำเนิด เช่น GPT-4 ต้องการพลังการประมวลผลสูง ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) และหน่วยประมวลผลเทนเซอร์ (TPUs) ซึ่งกินไฟมากและสร้างความร้อนที่ต้องระบายด้วยระบบทำความเย็นซับซ้อน การฝึกโมเดล เช่น GPT-3 ใช้ไฟฟ้า ~1,300 MWh และ GPT-4 ใช้ ~1,750 MWh ส่วนการอนุมาน (เช่น การสอบถาม ChatGPT) ใช้พลังงานรวมมากกว่าการฝึกเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก 📊 ตัวอย่างการใช้พลังงาน - ชั้นวาง AI ใช้ไฟมากกว่าครัวเรือนสหรัฐฯ 39 เท่า - การฝึก GPT-3 เทียบเท่าการใช้ไฟของบ้าน 120-130 หลังต่อปี - การสอบถาม ChatGPT ครั้งหนึ่งใช้พลังงานมากกว่าการค้นหา Google 10-15 เท่า และปล่อย CO2 มากกว่า 340 เท่า - ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2022 ใช้ไฟ 460 TWh และคาดว่าในปี 2026 จะเพิ่มเป็น ~1,050 TWh เทียบเท่าการใช้ไฟของเยอรมนี 🔥 ความร้อนจาก AI: ตัวเร่งโลกร้อน 🌡️ จากไฟฟ้าสู่ความร้อน พลังงานไฟฟ้าที่ AI ใช้เกือบทั้งหมดแปลงเป็นความร้อน โดย 1 วัตต์ผลิตความร้อน 3.412 BTU/ชั่วโมง GPUs สมัยใหม่ใช้ไฟเกิน 1,000 วัตต์ต่อตัว สร้างความร้อนที่ต้องระบาย 🌱 รอยเท้าคาร์บอนและน้ำ การฝึกโมเดล AI ปล่อย CO2 ได้ถึง 284 ตัน เทียบเท่ารถยนต์สหรัฐฯ 5 คันต่อปี การระบายความร้อนศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าถึง 40% และน้ำราว 2 ลิตรต่อ kWh โดย ChatGPT-4o ใช้น้ำเทียบเท่าความต้องการน้ำดื่มของ 1.2 ล้านคนต่อปี คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI อาจใช้ไฟมากกว่าฝรั่งเศสทั้งประเทศ 🛠️ ความท้าทายด้านความร้อน ความร้อนสูงเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง อายุฮาร์ดแวร์สั้นลง และระบบไม่เสถียร การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อความร้อนจาก AI สมัยใหม่ และระบบทำความเย็นใช้พลังงานสูง ตัวอย่างการใช้พลังงาน GPU ในอนาคต: - ปี 2025 (Blackwell Ultra): 1,400W, ใช้การระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip - ปี 2027 (Rubin Ultra): 3,600W, ใช้ Direct-to-Chip - ปี 2029 (Feynman Ultra): 6,000W, ใช้ Immersion Cooling - ปี 2032: 15,360W, ใช้ Embedded Cooling 🌱 นวัตกรรมเพื่อ AI ที่ยั่งยืน 💧 การระบายความร้อนที่ชาญฉลาด - การระบายความร้อนด้วยของLikely ResponseHed: มีประสิทธิภาพสูงกว่าอากาศ 3000 เท่า ใช้ในระบบ Direct-to-Chip และ Immersion Cooling - ระบบ HVAC ขั้นสูง: ใช้การระบายความร้อนแบบระเหยและท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานและน้ำ - ตัวชี้วัด TUE: วัดประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมของศูนย์ข้อมูล 🖥️ การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน - การตัดแต่งโมเดล/ควอนไทซ์: ลดขนาดโมเดลและพลังงานที่ใช้ - การกลั่นความรู้: ถ่ายทอดความรู้สู่โมเดลขนาดเล็ก - ชิปประหยัดพลังงาน: เช่น TPUs และ NPUs - AI จัดการพลังงาน: ใช้ AI วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ - Edge Computing: ลดการส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ☀️ พลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รวมถึงนวัตกรรมอย่างการระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลและพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Dispatchable 🤝 ความรับผิดชอบร่วมกัน 📊 ความโปร่งใสของบริษัท AI บริษัทควรเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและรอยเท้าคาร์บอน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ 📜 นโยบายและกฎระเบียบ รัฐบาลทั่วโลกผลักดันนโยบาย Green AI เช่น กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป เพื่อความยั่งยืน 🧑‍💻 บทบาทของนักพัฒนาและผู้ใช้ - นักพัฒนา: เลือกโมเดลและฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงาน ใช้เครื่องมือติดตามคาร์บอน - ผู้ใช้: ตระหนักถึงการใช้พลังงานของ AI และสนับสนุนบริษัทที่ยั่งยืน 🌟 บทสรุป: วิสัยทัศน์ Green AI AI มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงโลก แต่ต้องจัดการกับการใช้พลังงานและความร้อนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อน การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความโปร่งใสและนโยบายที่เหมาะสม เราสามารถสร้างอนาคต AI ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนา AI หรือรักษาสภาพภูมิอากาศ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • MXene เป็นวัสดุโครงสร้างบางเพียงอะตอมเดียว ที่ถูกขนานนามว่า “วัสดุมหัศจรรย์” → เพราะมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น นำไฟฟ้า ทนความร้อน ใช้เป็นฉนวนแม่เหล็ก ตัวเก็บพลังงาน และแม้แต่สารหล่อลื่นสำหรับอวกาศ

    แต่ปัญหาหลักคือ วิธีผลิตแบบเดิมต้องใช้กรดไฮโดรฟลูออริก (HF) ที่อันตรายและยากต่อการจัดการ — ทำให้การผลิตในระดับอุตสาหกรรมแทบเกิดขึ้นไม่ได้

    ทีมจาก TU Wien เลยพัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้ไฟฟ้า (electrochemistry) และ สารเคมีที่ปลอดภัยกว่าอย่าง NaBF₄ + HCl → พร้อมปรับกระแสไฟให้เป็นแบบ "พัลส์สั้น" เพื่อช่วยเร่งปฏิกิริยาและขจัดชั้นอะลูมิเนียมออกจากโครงสร้าง MAX ได้แม่นยำ → ได้ผลผลิตเป็น “Electrochemical MXene” หรือ EC-MXene โดยไม่ก่อให้เกิดของเสียอันตราย

    ผลที่ได้คือผลิต MXene ได้ สูงถึง 60% ต่อรอบ → คุณภาพดีขึ้น, ไม่มีของเสีย, ทำซ้ำได้, และอาจประยุกต์ใช้ในระบบขนาดเล็กอย่าง “เครื่องครัวในอนาคตก็พิมพ์วัสดุนี้ได้”

    MXene เป็นวัสดุ 2 มิติที่บางระดับอะตอม → มีศักยภาพสูงในด้าน:  
    • แบตเตอรี่–ตัวเก็บพลังงาน  
    • การป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI shielding)  
    • ตัวหล่อลื่นระดับนาโนในอุตสาหกรรมและอวกาศ  
    • ตัวตรวจวัดเซนเซอร์

    เทคนิคใหม่ใช้ไฟฟ้า + NaBF₄ + HCl → ไม่ใช้กรด HF ที่เป็นพิษอีกต่อไป

    ใช้พัลส์ไฟฟ้าแบบคาโทดสั้น (cathodic pulsing) เพื่อเร่งการแยกอะลูมิเนียมจากชั้น MAX

    สามารถผลิต EC-MXene ได้สูงถึง 60% โดยไม่มีของเสีย

    ผลการทดสอบผ่านหลายเทคนิค เช่น SEM, EDX, AFM, XRD, XPS ฯลฯ เพื่อยืนยันโครงสร้าง–ความบริสุทธิ์

    ทีมวิจัยหวังให้กระบวนการนี้ “ง่ายพอจะทำในครัวบ้าน” และขยายสู่การผลิตทั่วไปได้ในอนาคต

    https://www.neowin.net/news/the-miracle-material-can-finally-be-built-safely-with-this-new-method/
    MXene เป็นวัสดุโครงสร้างบางเพียงอะตอมเดียว ที่ถูกขนานนามว่า “วัสดุมหัศจรรย์” → เพราะมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น นำไฟฟ้า ทนความร้อน ใช้เป็นฉนวนแม่เหล็ก ตัวเก็บพลังงาน และแม้แต่สารหล่อลื่นสำหรับอวกาศ แต่ปัญหาหลักคือ วิธีผลิตแบบเดิมต้องใช้กรดไฮโดรฟลูออริก (HF) ที่อันตรายและยากต่อการจัดการ — ทำให้การผลิตในระดับอุตสาหกรรมแทบเกิดขึ้นไม่ได้ ทีมจาก TU Wien เลยพัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้ไฟฟ้า (electrochemistry) และ สารเคมีที่ปลอดภัยกว่าอย่าง NaBF₄ + HCl → พร้อมปรับกระแสไฟให้เป็นแบบ "พัลส์สั้น" เพื่อช่วยเร่งปฏิกิริยาและขจัดชั้นอะลูมิเนียมออกจากโครงสร้าง MAX ได้แม่นยำ → ได้ผลผลิตเป็น “Electrochemical MXene” หรือ EC-MXene โดยไม่ก่อให้เกิดของเสียอันตราย ผลที่ได้คือผลิต MXene ได้ สูงถึง 60% ต่อรอบ → คุณภาพดีขึ้น, ไม่มีของเสีย, ทำซ้ำได้, และอาจประยุกต์ใช้ในระบบขนาดเล็กอย่าง “เครื่องครัวในอนาคตก็พิมพ์วัสดุนี้ได้” ✅ MXene เป็นวัสดุ 2 มิติที่บางระดับอะตอม → มีศักยภาพสูงในด้าน:   • แบตเตอรี่–ตัวเก็บพลังงาน   • การป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI shielding)   • ตัวหล่อลื่นระดับนาโนในอุตสาหกรรมและอวกาศ   • ตัวตรวจวัดเซนเซอร์ ✅ เทคนิคใหม่ใช้ไฟฟ้า + NaBF₄ + HCl → ไม่ใช้กรด HF ที่เป็นพิษอีกต่อไป ✅ ใช้พัลส์ไฟฟ้าแบบคาโทดสั้น (cathodic pulsing) เพื่อเร่งการแยกอะลูมิเนียมจากชั้น MAX ✅ สามารถผลิต EC-MXene ได้สูงถึง 60% โดยไม่มีของเสีย ✅ ผลการทดสอบผ่านหลายเทคนิค เช่น SEM, EDX, AFM, XRD, XPS ฯลฯ เพื่อยืนยันโครงสร้าง–ความบริสุทธิ์ ✅ ทีมวิจัยหวังให้กระบวนการนี้ “ง่ายพอจะทำในครัวบ้าน” และขยายสู่การผลิตทั่วไปได้ในอนาคต https://www.neowin.net/news/the-miracle-material-can-finally-be-built-safely-with-this-new-method/
    WWW.NEOWIN.NET
    The "miracle material" can finally be built safely with this new method
    The "miracle material" is called so because of its nature, and scientists have now found a way to create it safely.
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • ลองนึกภาพว่าในแร็กเซิร์ฟเวอร์เดียว เราสามารถวางชิป Xeon รุ่นใหม่ถึง 4 ซ็อกเก็ตได้ → รวมเป็น 768 คอร์เต็ม ๆ → ใช้พลังงานรวม 2,000W → พร้อมรัน LLM หรือ inference workload ได้เลย โดยไม่ต้องพึ่ง GPU

    นี่ยังไม่รวมระบบแรมที่รองรับได้ถึง 16 แชนแนล DDR5 ความเร็ว 12,800 MT/s ต่อ DIMM ด้วยมาตรฐาน MRDIMM Gen 2 → ช่วยระบายข้อมูลเข้า-ออกจากคอร์ระดับ “Panther Cove” ได้แบบไม่ติดขัด

    Intel ยังเพิ่มความสามารถด้าน AI แบบเนทีฟในซีพียูนี้ เช่น
    - รองรับ TF32 แบบของ NVIDIA
    - เพิ่ม support สำหรับ FP8
    - เพิ่มความสามารถของ APX และ AMX → เพื่อเร่ง inference ขนาดเล็กให้รันบนซีพียูได้เลย

    และนี่จะเป็นผลิตภัณฑ์ 18A node ตัวแรกของ Intel ในระดับ mass production → เชื่อมโยงกับการเปิดตัว AI accelerator ของค่าย Jaguar Shores ได้อย่างสมบูรณ์ในระบบเดียว

    Intel Diamond Rapids Xeon 7 จะมีสูงสุด 192 P-Core แท้ใน SKU รุ่นท็อป  
    • แบ่งเป็น 4 tile, tile ละ 48 คอร์  
    • ไม่มี E-Core แบบ Xeon 6

    TDP สูงสุดต่อซ็อกเก็ต = 500W  
    • รองรับระบบระบายความร้อนระดับองค์กร

    รองรับแรม DDR5 แบบ 8 หรือ 16 แชนแนล  
    • ใช้ MRDIMM Gen 2 → Bandwidth ระดับ 12,800 MT/s ต่อ DIMM  
    • ทำงานร่วมกับคอร์ Panther Cove ได้เต็มประสิทธิภาพ

    รองรับเทคโนโลยีใหม่ด้าน AI และคณิตศาสตร์ความละเอียดต่ำ  
    • TF32 (ของ NVIDIA)  
    • FP8 → ลด latency inference model  
    • AMX และ APX รุ่นใหม่

    รองรับ PCIe Gen 6 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator ภายนอก

    วางจำหน่ายปี 2026 ควบคู่กับ AI accelerator รุ่น Jaguar Shores

    ระบบ 4 ซ็อกเก็ตสามารถรวมได้ถึง 768 คอร์ และใช้ไฟ 2,000W

    การผลักดันสู่ TDP 500W ต่อซ็อกเก็ตอาจสร้างความท้าทายให้กับระบบระบายความร้อนและพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์  
    • ต้องใช้ระบบระบายระดับของเหลว (liquid cooling) หรือ sub-ambient

    Intel จะต้องพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพต่อวัตต์จะ “คุ้มพลังงาน” กว่า AMD EPYC รุ่น Zen 6/7 ที่กำลังจะเปิดตัว  
    • เพราะ AMD นำหน้าไปก่อนในประสิทธิภาพและ efficiency ตลาดเซิร์ฟเวอร์ช่วงหลัง

    https://www.techpowerup.com/338664/intel-diamond-rapids-xeon-cpu-to-feature-up-to-192-p-cores-and-500-w-tdp
    ลองนึกภาพว่าในแร็กเซิร์ฟเวอร์เดียว เราสามารถวางชิป Xeon รุ่นใหม่ถึง 4 ซ็อกเก็ตได้ → รวมเป็น 768 คอร์เต็ม ๆ → ใช้พลังงานรวม 2,000W → พร้อมรัน LLM หรือ inference workload ได้เลย โดยไม่ต้องพึ่ง GPU นี่ยังไม่รวมระบบแรมที่รองรับได้ถึง 16 แชนแนล DDR5 ความเร็ว 12,800 MT/s ต่อ DIMM ด้วยมาตรฐาน MRDIMM Gen 2 → ช่วยระบายข้อมูลเข้า-ออกจากคอร์ระดับ “Panther Cove” ได้แบบไม่ติดขัด Intel ยังเพิ่มความสามารถด้าน AI แบบเนทีฟในซีพียูนี้ เช่น - รองรับ TF32 แบบของ NVIDIA - เพิ่ม support สำหรับ FP8 - เพิ่มความสามารถของ APX และ AMX → เพื่อเร่ง inference ขนาดเล็กให้รันบนซีพียูได้เลย และนี่จะเป็นผลิตภัณฑ์ 18A node ตัวแรกของ Intel ในระดับ mass production → เชื่อมโยงกับการเปิดตัว AI accelerator ของค่าย Jaguar Shores ได้อย่างสมบูรณ์ในระบบเดียว ✅ Intel Diamond Rapids Xeon 7 จะมีสูงสุด 192 P-Core แท้ใน SKU รุ่นท็อป   • แบ่งเป็น 4 tile, tile ละ 48 คอร์   • ไม่มี E-Core แบบ Xeon 6 ✅ TDP สูงสุดต่อซ็อกเก็ต = 500W   • รองรับระบบระบายความร้อนระดับองค์กร ✅ รองรับแรม DDR5 แบบ 8 หรือ 16 แชนแนล   • ใช้ MRDIMM Gen 2 → Bandwidth ระดับ 12,800 MT/s ต่อ DIMM   • ทำงานร่วมกับคอร์ Panther Cove ได้เต็มประสิทธิภาพ ✅ รองรับเทคโนโลยีใหม่ด้าน AI และคณิตศาสตร์ความละเอียดต่ำ   • TF32 (ของ NVIDIA)   • FP8 → ลด latency inference model   • AMX และ APX รุ่นใหม่ ✅ รองรับ PCIe Gen 6 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator ภายนอก ✅ วางจำหน่ายปี 2026 ควบคู่กับ AI accelerator รุ่น Jaguar Shores ✅ ระบบ 4 ซ็อกเก็ตสามารถรวมได้ถึง 768 คอร์ และใช้ไฟ 2,000W ‼️ การผลักดันสู่ TDP 500W ต่อซ็อกเก็ตอาจสร้างความท้าทายให้กับระบบระบายความร้อนและพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์   • ต้องใช้ระบบระบายระดับของเหลว (liquid cooling) หรือ sub-ambient ‼️ Intel จะต้องพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพต่อวัตต์จะ “คุ้มพลังงาน” กว่า AMD EPYC รุ่น Zen 6/7 ที่กำลังจะเปิดตัว   • เพราะ AMD นำหน้าไปก่อนในประสิทธิภาพและ efficiency ตลาดเซิร์ฟเวอร์ช่วงหลัง https://www.techpowerup.com/338664/intel-diamond-rapids-xeon-cpu-to-feature-up-to-192-p-cores-and-500-w-tdp
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel "Diamond Rapids" Xeon CPU to Feature up to 192 P-Cores and 500 W TDP
    Intel's next-generation "Oak Stream" platform is preparing to accommodate the upcoming "Diamond Rapids" Xeon CPU generation, and we are receiving more interesting details about the top-end configurations Intel will offer. According to the HEPiX TechWatch working group, the Diamond Rapids Intel Xeon ...
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ลองนึกถึงเซิร์ฟเวอร์ที่สมัยก่อนต้องใช้ชิป 32 คอร์, แรม 8 แชนแนล เต็มแร็ก แต่ตอนนี้… AMD ออกรุ่นน้องใหม่ EPYC 4585PX ในซีรีส์ “Grado” ซึ่งใช้แค่ 2 แถวแรม DDR5 + ระบบจิ๋ว ๆ แบบ NAS ก็ยังแรงกว่า → ในการทดสอบโดย Phoronix บน Ubuntu 25.04 พบว่า:
    - ชิปรุ่นเล็กตัวนี้แรงกว่าชิปรุ่นท็อปดั้งเดิม EPYC 7601 ถึง 2.69 เท่า
    - แถมประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า 2.85 เท่า
    - ใช้พลังงานรวมน้อยลง (จาก 238W → เหลือ 225W) ทั้งที่ CPU เปล่า ๆ กินไฟพอ ๆ กัน

    ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ว่า “สถาปัตยกรรมใหม่เจ๋งกว่าการอัดจำนวน” → EPYC 4585PX บนบอร์ดเล็ก ๆ + DDR5 เพียง 2 แถว ยังชนะเซิร์ฟเวอร์ 8 แชนแนลในอดีต → เหมาะมากสำหรับ NAS, เซิร์ฟเวอร์ประหยัดพลังงาน หรือ infra ที่ต้องการพื้นที่–ความเย็นน้อย

    EPYC 4585PX (ซีรีส์ EPYC 4005 “Grado”) แรงกว่า EPYC 7601 ถึง 2.69 เท่า  
    • ทดสอบบน Ubuntu 25.04 กับ 200+ เวิร์กโหลด: HPC, คอมไพล์, วิดีโอ, สคริปต์ ฯลฯ

    ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (Performance/Watt) ดีกว่า 2.85 เท่า  
    • สะท้อนประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรมที่พัฒนาแล้ว

    วัดพลังงานทั้งระบบ: EPYC 4585PX ใช้ 225W vs EPYC 7601 ใช้ 238W  
    • แสดงให้เห็นว่าประหยัดขึ้นทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ตัวชิป

    แม้มีแค่ 2 แถวแรม DDR5 แต่ยังชนะเซิร์ฟเวอร์ 8 แชนแนลในหลาย ๆ งาน  
    • ชี้ว่าความสามารถของแรมไม่ได้วัดแค่จากจำนวนแชนแนล

    ระบบทดสอบใช้ Supermicro board + RAM น้อย → เหมาะกับ NAS หรือ SOHO infra มาก

    Grado เป็นซีรีส์ประหยัดพลังงาน ราคาถูกกว่า EPYC 9005 สูงมาก แต่ประสิทธิภาพน่าประทับใจ

    https://www.techradar.com/pro/16-core-amd-epyc-4005-cpu-is-almost-3x-faster-than-amds-first-server-flagship-and-i-cant-believe-what-a-bargain-that-is
    ลองนึกถึงเซิร์ฟเวอร์ที่สมัยก่อนต้องใช้ชิป 32 คอร์, แรม 8 แชนแนล เต็มแร็ก แต่ตอนนี้… AMD ออกรุ่นน้องใหม่ EPYC 4585PX ในซีรีส์ “Grado” ซึ่งใช้แค่ 2 แถวแรม DDR5 + ระบบจิ๋ว ๆ แบบ NAS ก็ยังแรงกว่า → ในการทดสอบโดย Phoronix บน Ubuntu 25.04 พบว่า: - ชิปรุ่นเล็กตัวนี้แรงกว่าชิปรุ่นท็อปดั้งเดิม EPYC 7601 ถึง 2.69 เท่า - แถมประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า 2.85 เท่า - ใช้พลังงานรวมน้อยลง (จาก 238W → เหลือ 225W) ทั้งที่ CPU เปล่า ๆ กินไฟพอ ๆ กัน ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ว่า “สถาปัตยกรรมใหม่เจ๋งกว่าการอัดจำนวน” → EPYC 4585PX บนบอร์ดเล็ก ๆ + DDR5 เพียง 2 แถว ยังชนะเซิร์ฟเวอร์ 8 แชนแนลในอดีต → เหมาะมากสำหรับ NAS, เซิร์ฟเวอร์ประหยัดพลังงาน หรือ infra ที่ต้องการพื้นที่–ความเย็นน้อย ✅ EPYC 4585PX (ซีรีส์ EPYC 4005 “Grado”) แรงกว่า EPYC 7601 ถึง 2.69 เท่า   • ทดสอบบน Ubuntu 25.04 กับ 200+ เวิร์กโหลด: HPC, คอมไพล์, วิดีโอ, สคริปต์ ฯลฯ ✅ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (Performance/Watt) ดีกว่า 2.85 เท่า   • สะท้อนประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรมที่พัฒนาแล้ว ✅ วัดพลังงานทั้งระบบ: EPYC 4585PX ใช้ 225W vs EPYC 7601 ใช้ 238W   • แสดงให้เห็นว่าประหยัดขึ้นทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ตัวชิป ✅ แม้มีแค่ 2 แถวแรม DDR5 แต่ยังชนะเซิร์ฟเวอร์ 8 แชนแนลในหลาย ๆ งาน   • ชี้ว่าความสามารถของแรมไม่ได้วัดแค่จากจำนวนแชนแนล ✅ ระบบทดสอบใช้ Supermicro board + RAM น้อย → เหมาะกับ NAS หรือ SOHO infra มาก ✅ Grado เป็นซีรีส์ประหยัดพลังงาน ราคาถูกกว่า EPYC 9005 สูงมาก แต่ประสิทธิภาพน่าประทับใจ https://www.techradar.com/pro/16-core-amd-epyc-4005-cpu-is-almost-3x-faster-than-amds-first-server-flagship-and-i-cant-believe-what-a-bargain-that-is
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ไทยกำลังพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงถูกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงโทษทางภาษีปรับเพิ่มเพดานภาษีสินค้าส่งออกไปยังอเมริกา เป็น 36% ด้วยการเสนอให้สินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของอเมริกาเข้าถึงตลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับการยกระดับการซื้อพลังงานและเครื่องบินของโบอิ้ง ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063728

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ไทยกำลังพยายามครั้งสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงถูกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงโทษทางภาษีปรับเพิ่มเพดานภาษีสินค้าส่งออกไปยังอเมริกา เป็น 36% ด้วยการเสนอให้สินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของอเมริกาเข้าถึงตลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับการยกระดับการซื้อพลังงานและเครื่องบินของโบอิ้ง ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063728 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 930 Views 0 Reviews
More Results