Mullvad เปิดตัว GotaTun — อนาคตใหม่ของ WireGuard บน Rust เพื่อความเร็ว เสถียร และความเป็นส่วนตัว
Mullvad VPN ประกาศเปิดตัว GotaTun ซึ่งเป็นการนำ WireGuard มาพัฒนาใหม่ด้วยภาษา Rust โดยฟอร์กจากโปรเจกต์ BoringTun ของ Cloudflare จุดมุ่งหมายคือเพิ่มความเร็ว ความเสถียร และลดปัญหาการแครชที่เกิดจาก wireguard-go ซึ่ง Mullvad ใช้มาเป็นเวลาหลายปี การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้สะท้อนการเคลื่อนตัวของอุตสาหกรรม VPN ที่เริ่มหันมาใช้ Rust เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพระดับระบบแกนกลาง
ก่อนหน้านี้ Mullvad ต้องแบกรับปัญหาจำนวนมากจาก wireguard-go โดยเฉพาะบน Android ที่กว่า 85% ของรายงานแครชทั้งหมดมาจากโมดูลนี้ การดีบักก็ทำได้ยากเพราะการเชื่อม Rust ↔ Go ผ่าน FFI มีความซับซ้อนและไม่ปลอดภัย เมื่อ GotaTun ถูกนำมาใช้บน Android ในเวอร์ชัน 2025.10 ผลลัพธ์ชัดเจนทันที — อัตรา crash rate ลดจาก 0.40% เหลือเพียง 0.01% ซึ่งถือเป็นการลดลงแบบ “หายไปเกือบทั้งหมด”
นอกจากความเสถียรแล้ว ผู้ใช้ยังรายงานว่า GotaTun ให้ความเร็วที่ดีขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง Mullvad ยังผสานฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว เช่น DAITA และ Multihop เข้าไปในตัว implementation โดยตรง ทำให้ GotaTun กลายเป็นรากฐานใหม่ของสถาปัตยกรรมความเป็นส่วนตัวของ Mullvad ในอนาคต
ปี 2026 จะเป็นปีสำคัญของ GotaTun — Mullvad เตรียมขยายไปยังทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง desktop และ iOS พร้อมเข้ารับการตรวจสอบความปลอดภัยจาก third-party audit ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในโลก VPN ที่แข่งขันกันด้วยความโปร่งใสและความปลอดภัยเชิงลึก
สรุปประเด็นสำคัญ
GotaTun คือ WireGuard ที่เขียนใหม่ด้วย Rust
ฟอร์กจาก BoringTun ของ Cloudflare
ไม่ใช่โปรโตคอลใหม่ แต่คือ implementation ที่ปลอดภัยและเร็วกว่า
เหตุผลที่ Mullvad ต้องสร้าง GotaTun
wireguard-go ทำให้เกิดกว่า 85% ของ crash บน Android
การเชื่อม Rust ↔ Go ผ่าน FFI ทำให้ดีบักยากและไม่เสถียร
ผลลัพธ์หลังเปิดตัวบน Android
crash rate ลดจาก 0.40% → 0.01%
ผู้ใช้รายงานความเร็วดีขึ้นและกินแบตน้อยลง
ฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว
รองรับ DAITA และ Multihop แบบเนทีฟ
ใช้ Rust เพื่อ multi-threading ที่ปลอดภัยและ zero-copy memory
แผนในปี 2026
ขยาย GotaTun ไปยัง desktop และ iOS
เตรียมเข้ารับ third‑party security audit
คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง
การย้าย implementation อาจมีผลต่อ ecosystem
ผู้ให้บริการที่พึ่ง wireguard-go อาจต้องปรับสถาปัตยกรรมใหม่
Rust implementation แม้ปลอดภัยกว่า แต่ยังต้องผ่าน audit
ความปลอดภัยต้องได้รับการยืนยันจาก third‑party audit ที่กำลังจะเกิดขึ้น
การเปลี่ยน stack อาจกระทบ compatibility ชั่วคราว
ผู้ใช้บางแพลตฟอร์มอาจต้องรอการ rollout ในปี 2026
https://mullvad.net/en/blog/announcing-gotatun-the-future-of-wireguard-at-mullvad-vpn
Mullvad VPN ประกาศเปิดตัว GotaTun ซึ่งเป็นการนำ WireGuard มาพัฒนาใหม่ด้วยภาษา Rust โดยฟอร์กจากโปรเจกต์ BoringTun ของ Cloudflare จุดมุ่งหมายคือเพิ่มความเร็ว ความเสถียร และลดปัญหาการแครชที่เกิดจาก wireguard-go ซึ่ง Mullvad ใช้มาเป็นเวลาหลายปี การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้สะท้อนการเคลื่อนตัวของอุตสาหกรรม VPN ที่เริ่มหันมาใช้ Rust เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพระดับระบบแกนกลาง
ก่อนหน้านี้ Mullvad ต้องแบกรับปัญหาจำนวนมากจาก wireguard-go โดยเฉพาะบน Android ที่กว่า 85% ของรายงานแครชทั้งหมดมาจากโมดูลนี้ การดีบักก็ทำได้ยากเพราะการเชื่อม Rust ↔ Go ผ่าน FFI มีความซับซ้อนและไม่ปลอดภัย เมื่อ GotaTun ถูกนำมาใช้บน Android ในเวอร์ชัน 2025.10 ผลลัพธ์ชัดเจนทันที — อัตรา crash rate ลดจาก 0.40% เหลือเพียง 0.01% ซึ่งถือเป็นการลดลงแบบ “หายไปเกือบทั้งหมด”
นอกจากความเสถียรแล้ว ผู้ใช้ยังรายงานว่า GotaTun ให้ความเร็วที่ดีขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง Mullvad ยังผสานฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว เช่น DAITA และ Multihop เข้าไปในตัว implementation โดยตรง ทำให้ GotaTun กลายเป็นรากฐานใหม่ของสถาปัตยกรรมความเป็นส่วนตัวของ Mullvad ในอนาคต
ปี 2026 จะเป็นปีสำคัญของ GotaTun — Mullvad เตรียมขยายไปยังทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง desktop และ iOS พร้อมเข้ารับการตรวจสอบความปลอดภัยจาก third-party audit ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในโลก VPN ที่แข่งขันกันด้วยความโปร่งใสและความปลอดภัยเชิงลึก
สรุปประเด็นสำคัญ
GotaTun คือ WireGuard ที่เขียนใหม่ด้วย Rust
ฟอร์กจาก BoringTun ของ Cloudflare
ไม่ใช่โปรโตคอลใหม่ แต่คือ implementation ที่ปลอดภัยและเร็วกว่า
เหตุผลที่ Mullvad ต้องสร้าง GotaTun
wireguard-go ทำให้เกิดกว่า 85% ของ crash บน Android
การเชื่อม Rust ↔ Go ผ่าน FFI ทำให้ดีบักยากและไม่เสถียร
ผลลัพธ์หลังเปิดตัวบน Android
crash rate ลดจาก 0.40% → 0.01%
ผู้ใช้รายงานความเร็วดีขึ้นและกินแบตน้อยลง
ฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว
รองรับ DAITA และ Multihop แบบเนทีฟ
ใช้ Rust เพื่อ multi-threading ที่ปลอดภัยและ zero-copy memory
แผนในปี 2026
ขยาย GotaTun ไปยัง desktop และ iOS
เตรียมเข้ารับ third‑party security audit
คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง
การย้าย implementation อาจมีผลต่อ ecosystem
ผู้ให้บริการที่พึ่ง wireguard-go อาจต้องปรับสถาปัตยกรรมใหม่
Rust implementation แม้ปลอดภัยกว่า แต่ยังต้องผ่าน audit
ความปลอดภัยต้องได้รับการยืนยันจาก third‑party audit ที่กำลังจะเกิดขึ้น
การเปลี่ยน stack อาจกระทบ compatibility ชั่วคราว
ผู้ใช้บางแพลตฟอร์มอาจต้องรอการ rollout ในปี 2026
https://mullvad.net/en/blog/announcing-gotatun-the-future-of-wireguard-at-mullvad-vpn
🚀 Mullvad เปิดตัว GotaTun — อนาคตใหม่ของ WireGuard บน Rust เพื่อความเร็ว เสถียร และความเป็นส่วนตัว
Mullvad VPN ประกาศเปิดตัว GotaTun ซึ่งเป็นการนำ WireGuard มาพัฒนาใหม่ด้วยภาษา Rust โดยฟอร์กจากโปรเจกต์ BoringTun ของ Cloudflare จุดมุ่งหมายคือเพิ่มความเร็ว ความเสถียร และลดปัญหาการแครชที่เกิดจาก wireguard-go ซึ่ง Mullvad ใช้มาเป็นเวลาหลายปี การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้สะท้อนการเคลื่อนตัวของอุตสาหกรรม VPN ที่เริ่มหันมาใช้ Rust เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพระดับระบบแกนกลาง
ก่อนหน้านี้ Mullvad ต้องแบกรับปัญหาจำนวนมากจาก wireguard-go โดยเฉพาะบน Android ที่กว่า 85% ของรายงานแครชทั้งหมดมาจากโมดูลนี้ การดีบักก็ทำได้ยากเพราะการเชื่อม Rust ↔ Go ผ่าน FFI มีความซับซ้อนและไม่ปลอดภัย เมื่อ GotaTun ถูกนำมาใช้บน Android ในเวอร์ชัน 2025.10 ผลลัพธ์ชัดเจนทันที — อัตรา crash rate ลดจาก 0.40% เหลือเพียง 0.01% ซึ่งถือเป็นการลดลงแบบ “หายไปเกือบทั้งหมด”
นอกจากความเสถียรแล้ว ผู้ใช้ยังรายงานว่า GotaTun ให้ความเร็วที่ดีขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง Mullvad ยังผสานฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว เช่น DAITA และ Multihop เข้าไปในตัว implementation โดยตรง ทำให้ GotaTun กลายเป็นรากฐานใหม่ของสถาปัตยกรรมความเป็นส่วนตัวของ Mullvad ในอนาคต
ปี 2026 จะเป็นปีสำคัญของ GotaTun — Mullvad เตรียมขยายไปยังทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง desktop และ iOS พร้อมเข้ารับการตรวจสอบความปลอดภัยจาก third-party audit ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในโลก VPN ที่แข่งขันกันด้วยความโปร่งใสและความปลอดภัยเชิงลึก
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ GotaTun คือ WireGuard ที่เขียนใหม่ด้วย Rust
➡️ ฟอร์กจาก BoringTun ของ Cloudflare
➡️ ไม่ใช่โปรโตคอลใหม่ แต่คือ implementation ที่ปลอดภัยและเร็วกว่า
✅ เหตุผลที่ Mullvad ต้องสร้าง GotaTun
➡️ wireguard-go ทำให้เกิดกว่า 85% ของ crash บน Android
➡️ การเชื่อม Rust ↔ Go ผ่าน FFI ทำให้ดีบักยากและไม่เสถียร
✅ ผลลัพธ์หลังเปิดตัวบน Android
➡️ crash rate ลดจาก 0.40% → 0.01%
➡️ ผู้ใช้รายงานความเร็วดีขึ้นและกินแบตน้อยลง
✅ ฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัว
➡️ รองรับ DAITA และ Multihop แบบเนทีฟ
➡️ ใช้ Rust เพื่อ multi-threading ที่ปลอดภัยและ zero-copy memory
✅ แผนในปี 2026
➡️ ขยาย GotaTun ไปยัง desktop และ iOS
➡️ เตรียมเข้ารับ third‑party security audit
⚠️ คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง
‼️ การย้าย implementation อาจมีผลต่อ ecosystem
⛔ ผู้ให้บริการที่พึ่ง wireguard-go อาจต้องปรับสถาปัตยกรรมใหม่
‼️ Rust implementation แม้ปลอดภัยกว่า แต่ยังต้องผ่าน audit
⛔ ความปลอดภัยต้องได้รับการยืนยันจาก third‑party audit ที่กำลังจะเกิดขึ้น
‼️ การเปลี่ยน stack อาจกระทบ compatibility ชั่วคราว
⛔ ผู้ใช้บางแพลตฟอร์มอาจต้องรอการ rollout ในปี 2026
https://mullvad.net/en/blog/announcing-gotatun-the-future-of-wireguard-at-mullvad-vpn
0 Comments
0 Shares
16 Views
0 Reviews