คิ้วนั้นสำคัญไฉน? จีนโบราณมีชื่อเรียกสไตล์คิ้วไม่ต่ำกว่า 20 แบบ ซึ่งหลายชื่อมาจากคำบรรยายในบทกวี นอกจากจะแตกต่างด้วยรูปทรงแล้ว ยังมีเรื่องความหนักเบาของลายเส้นอีกด้วย (ตัวอย่างเปรียบเทียบตามที่รูปที่ 1 ด้านล่าง สังเกตความเข้มจางของแต่ละรูปทรง) เราเริ่มคุยกันด้วยตัวอย่างจากนิยายเรื่องนี้
ความมีอยู่ว่า
...นางมีใบหน้ารูปแตง คิ้วสั้นหนานั้นไม่เหมาะกับนาง หว่างคิ้วนางเปิดกว้าง หน้าผากนูนอิ่ม อันเป็นสัญลักษณ์ของคนที่ใจกว้าง ดังนั้น คิ้วโค้งดุจเสี้ยวพระจันทร์ดูจะเหมาะกับนางที่สุด...
- จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
(หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)
‘คิ้วโค้งดุจเสี้ยวพระจันทร์’ ที่เอ่ยถึงข้างต้น มีชื่อเรียกว่า “ซินเยวี่ยเหมย” (แปลว่าคิ้วจันทร์เสี้ยว) ซึ่งเป็นหนึ่งในทรงคิ้วยอดนิยมในยุคสมัยราชวงศ์ถัง รูปทรงโค้งครึ่งวงกลม ลายเส้นเข้มปานกลาง
แต่หากย้อนกลับไปในยุคสมัยราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ฮั่น (221ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ทรงคิ้วที่นิยมคือ ฉางเหมยหรือเอ๋อเหมย ซึ่ง “เอ๋อ” มาจากหนวดที่โปร่งเรียวโค้งของ “ฉานเอ๋อ” (蚕蛾 หรือมอดไหม ดูรูปที่ 2 ด้านซ้ายล่าง) ตรงกับคำบรรยายในยุคสมัยนั้นถึงคิ้วงามของสตรีว่าเป็นคิ้วที่เรียวโค้ง
แต่พอกล่าวถึงตรงนี้ อาจเกิดความสับสน เพราะเพื่อนเพจที่เคยเห็นรูปคิ้วหลากสไตล์ของสมัยราชวงศ์ถังอาจเคยเห็นรูปคิ้วหนาสั้นตามรูปที่ 2 ด้านขวา ซึ่งก็เรียกว่าเอ๋อเหมยเหมือนกัน (แต่ดูแล้ว Storyฯ ว่าน่าจะเป็นปีกมอดมากกว่าหนวดมอดนะนั่น) แต่พอไปหาข้อมูลจริงๆ จะเห็นว่าคิ้วทรงหนาสั้นนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “กุ้ยเยี่ยเหมย” (แปลว่าใบหอมหมื่นลี้) ดังนั้นเอ๋อเหมยที่พูดถึงยุคสมัยฉิน-ฮั่น ควรเป็นรูปทรงเรียวโค้งยาวตามรูปที่ 2 ด้านซ้ายบน
นอกจากนี้ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นยังมีสไตล์คิ้วอีกหลากหลายแบบ พัฒนาไปพร้อมๆ กับการใช้ผงไต้มาผสมน้ำใช้วาดคิ้ว ทำให้สามารถวาดได้ลายเส้นที่เรียวบางมากขึ้น เช่น หย่วนซานเหมย ปาจึ้อเหมย ฯลฯ (ดูรูปที่ 1ด้านล่าง) และเป็นที่นิยมในราชวงศ์ถัดๆ ไป จนเข้าสู่ยุคเรืองรองแห่งการแต่งกายสตรีซึ่งก็คือยุคสมัยของราชวงศ์ถัง ซึ่งแฟชั่นเปลี่ยนแทบทุกปี (ดูรูปที่ 3 ตลอดรัชสมัยตั้งแต่ปีค.ศ. 618-907) ซึ่งแม้จะมีหลายสไตล์ที่เรียกตามแบบในสมัยก่อนๆ เช่น เอ๋อเหมย หย่วนซานเหมย ปาจึ้อเหมย แต่ในสมัยถังดูจะนิยมคิ้วหนาเข้ม และมีช่วงหนึ่งชอบคิ้วสั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมานิยมคิ้วเรียวบางอีกครั้งในช่วงปลายยุคสมัยถังจวบจนสมัยซ่งตอนต้น
เรื่องสไตล์คิ้วจีนโบราณนี้คงคุยกันได้อีกยาว แต่ Storyฯ จะพยายามทำให้กระชับสั้น อาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อนะคะ
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)
Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
http://dramaslot.com/love-and-redemption-review/ https://kknews.cc/zh-cn/history/pv92652.html https://www.gaohaipeng.com/1868.html https://m.sohu.com/n/469737945/ https://www.163.com/dy/article/G1TDP5IP0543L1FT.html #ปลดผนึกหัวใจ #วาดคิ้ว #ประเพณีจีน #ราชวงศ์ถัง StoryfromStory
คิ้วนั้นสำคัญไฉน? จีนโบราณมีชื่อเรียกสไตล์คิ้วไม่ต่ำกว่า 20 แบบ ซึ่งหลายชื่อมาจากคำบรรยายในบทกวี นอกจากจะแตกต่างด้วยรูปทรงแล้ว ยังมีเรื่องความหนักเบาของลายเส้นอีกด้วย (ตัวอย่างเปรียบเทียบตามที่รูปที่ 1 ด้านล่าง สังเกตความเข้มจางของแต่ละรูปทรง) เราเริ่มคุยกันด้วยตัวอย่างจากนิยายเรื่องนี้
ความมีอยู่ว่า
...นางมีใบหน้ารูปแตง คิ้วสั้นหนานั้นไม่เหมาะกับนาง หว่างคิ้วนางเปิดกว้าง หน้าผากนูนอิ่ม อันเป็นสัญลักษณ์ของคนที่ใจกว้าง ดังนั้น คิ้วโค้งดุจเสี้ยวพระจันทร์ดูจะเหมาะกับนางที่สุด...
- จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
(หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)
‘คิ้วโค้งดุจเสี้ยวพระจันทร์’ ที่เอ่ยถึงข้างต้น มีชื่อเรียกว่า “ซินเยวี่ยเหมย” (แปลว่าคิ้วจันทร์เสี้ยว) ซึ่งเป็นหนึ่งในทรงคิ้วยอดนิยมในยุคสมัยราชวงศ์ถัง รูปทรงโค้งครึ่งวงกลม ลายเส้นเข้มปานกลาง
แต่หากย้อนกลับไปในยุคสมัยราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ฮั่น (221ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ทรงคิ้วที่นิยมคือ ฉางเหมยหรือเอ๋อเหมย ซึ่ง “เอ๋อ” มาจากหนวดที่โปร่งเรียวโค้งของ “ฉานเอ๋อ” (蚕蛾 หรือมอดไหม ดูรูปที่ 2 ด้านซ้ายล่าง) ตรงกับคำบรรยายในยุคสมัยนั้นถึงคิ้วงามของสตรีว่าเป็นคิ้วที่เรียวโค้ง
แต่พอกล่าวถึงตรงนี้ อาจเกิดความสับสน เพราะเพื่อนเพจที่เคยเห็นรูปคิ้วหลากสไตล์ของสมัยราชวงศ์ถังอาจเคยเห็นรูปคิ้วหนาสั้นตามรูปที่ 2 ด้านขวา ซึ่งก็เรียกว่าเอ๋อเหมยเหมือนกัน (แต่ดูแล้ว Storyฯ ว่าน่าจะเป็นปีกมอดมากกว่าหนวดมอดนะนั่น) แต่พอไปหาข้อมูลจริงๆ จะเห็นว่าคิ้วทรงหนาสั้นนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “กุ้ยเยี่ยเหมย” (แปลว่าใบหอมหมื่นลี้) ดังนั้นเอ๋อเหมยที่พูดถึงยุคสมัยฉิน-ฮั่น ควรเป็นรูปทรงเรียวโค้งยาวตามรูปที่ 2 ด้านซ้ายบน
นอกจากนี้ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นยังมีสไตล์คิ้วอีกหลากหลายแบบ พัฒนาไปพร้อมๆ กับการใช้ผงไต้มาผสมน้ำใช้วาดคิ้ว ทำให้สามารถวาดได้ลายเส้นที่เรียวบางมากขึ้น เช่น หย่วนซานเหมย ปาจึ้อเหมย ฯลฯ (ดูรูปที่ 1ด้านล่าง) และเป็นที่นิยมในราชวงศ์ถัดๆ ไป จนเข้าสู่ยุคเรืองรองแห่งการแต่งกายสตรีซึ่งก็คือยุคสมัยของราชวงศ์ถัง ซึ่งแฟชั่นเปลี่ยนแทบทุกปี (ดูรูปที่ 3 ตลอดรัชสมัยตั้งแต่ปีค.ศ. 618-907) ซึ่งแม้จะมีหลายสไตล์ที่เรียกตามแบบในสมัยก่อนๆ เช่น เอ๋อเหมย หย่วนซานเหมย ปาจึ้อเหมย แต่ในสมัยถังดูจะนิยมคิ้วหนาเข้ม และมีช่วงหนึ่งชอบคิ้วสั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมานิยมคิ้วเรียวบางอีกครั้งในช่วงปลายยุคสมัยถังจวบจนสมัยซ่งตอนต้น
เรื่องสไตล์คิ้วจีนโบราณนี้คงคุยกันได้อีกยาว แต่ Storyฯ จะพยายามทำให้กระชับสั้น อาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อนะคะ
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)
Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
http://dramaslot.com/love-and-redemption-review/
https://kknews.cc/zh-cn/history/pv92652.html
https://www.gaohaipeng.com/1868.html
https://m.sohu.com/n/469737945/
https://www.163.com/dy/article/G1TDP5IP0543L1FT.html
#ปลดผนึกหัวใจ #วาดคิ้ว #ประเพณีจีน #ราชวงศ์ถัง StoryfromStory