• เลวระยำทุกยุคตระกูลชินวัตร ไอ้แม้วมาก็สมคบปล้นดินแดน ยุคอีปูก็รื้อรั้วปราสาท เพื่อเอื้อให้เหมนเข้ามา พอถึงยุคนังทรยศอิ๊ง ก็เลยอยากปิดจ็อบเสียดินแดนทั้งบกและในทะเล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ตระกูลชินวัตร
    เลวระยำทุกยุคตระกูลชินวัตร ไอ้แม้วมาก็สมคบปล้นดินแดน ยุคอีปูก็รื้อรั้วปราสาท เพื่อเอื้อให้เหมนเข้ามา พอถึงยุคนังทรยศอิ๊ง ก็เลยอยากปิดจ็อบเสียดินแดนทั้งบกและในทะเล #คิงส์โพธิ์แดง #ตระกูลชินวัตร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ชูวิทย์' ชี้ 'ทักษิณ' คำว่ายอมแพ้ไม่มี แต่นับเวลาถอยหลังได้
    https://www.thai-tai.tv/news/19933/
    .
    #ชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ #นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ #ตระกูลชินวัตร #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #แพทองธาร #รัฐประหาร #ม็อบการเมือง #ขายชาติ #softpower #การเมืองไทย #เกมอำนาจ #ศาลรัฐธรรมนูญ
    'ชูวิทย์' ชี้ 'ทักษิณ' คำว่ายอมแพ้ไม่มี แต่นับเวลาถอยหลังได้ https://www.thai-tai.tv/news/19933/ . #ชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ #นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ #ตระกูลชินวัตร #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #แพทองธาร #รัฐประหาร #ม็อบการเมือง #ขายชาติ #softpower #การเมืองไทย #เกมอำนาจ #ศาลรัฐธรรมนูญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • นับหนึ่งไล่อุ๊งอิ๊ง จุดเปราะบางชินวัตร

    การชุมนุมของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ซึ่งมีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่ม ศปปส. กองทัพธรรม ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนอีกหลายภาคส่วน มีข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ ได้แก่ 1. ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2. ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และ 3. ยืนเคียงข้างทหาร ปกป้องแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในลักษณะขายชาติ ทำลายความมั่นคงของรัฐนอกราชอาณาจักร

    แม้ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวหาว่าเป็นข้ออ้างไปสู่รัฐประหาร แต่ก็เป็นเพียงการประดิษฐ์วาทกรรมเพื่อปกป้องตัวเอง แม้ผู้นำเหล่าทัพในยุค พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ไม่ได้มีท่าทีแสดงออกอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตาม ถึงกระนั้นพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านทำได้แค่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา โดยไม่ได้ใช้วิธียื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 3 ก.ค. ที่จะถึงนี้ จึงเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายทักษิณ ชินวัตร

    ทิศทางข่าวในวันอังคารที่จะถึงนี้ (1 ก.ค.) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติรับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 36 คน ยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ออกจากตำแหน่งหรือไม่ กรณีคลิปเสียงกับ ฮุน เซน และจะมีมติให้ น.ส.แพทองธารหยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายเศรษฐา ทวีสิน แม้ น.ส.แพทองธารจะใช้วิธีให้ตัวเองดำรงตำแหน่งควบ รมว.วัฒนธรรม เข้าประชุมคณะรัฐมนตรีก็ตาม ซึ่งกลุ่ม คปท. จะมีการประชุมเพื่อประเมินว่าจะยกระดับการชุมนุมไปในทิศทางใด โดยมีจุดยืนเดิม คือ นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว

    อีกด้านหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนแสวงหาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณกรณีชั้น 14 จำนวน 6 นัด ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่ศาลอาญานัดสืบพยานคดีมาตรา 112 จากกรณีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อปี 2558 จำนวน 7 นัด ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน ซึ่งท่าทีนายทักษิณขณะนี้ นับตั้งแต่คลิปเสียงลูกสาวกับฮุน เซน ปล่อยให้ลูกสาวเผชิญหน้าอย่างโดดเดี่ยว ถือเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางช่วงหนึ่งของตระกูลชินวัตร

    #Newskit
    นับหนึ่งไล่อุ๊งอิ๊ง จุดเปราะบางชินวัตร การชุมนุมของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ซึ่งมีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่ม ศปปส. กองทัพธรรม ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนอีกหลายภาคส่วน มีข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ ได้แก่ 1. ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2. ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และ 3. ยืนเคียงข้างทหาร ปกป้องแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในลักษณะขายชาติ ทำลายความมั่นคงของรัฐนอกราชอาณาจักร แม้ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวหาว่าเป็นข้ออ้างไปสู่รัฐประหาร แต่ก็เป็นเพียงการประดิษฐ์วาทกรรมเพื่อปกป้องตัวเอง แม้ผู้นำเหล่าทัพในยุค พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ไม่ได้มีท่าทีแสดงออกอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตาม ถึงกระนั้นพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านทำได้แค่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา โดยไม่ได้ใช้วิธียื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 3 ก.ค. ที่จะถึงนี้ จึงเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายทักษิณ ชินวัตร ทิศทางข่าวในวันอังคารที่จะถึงนี้ (1 ก.ค.) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติรับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 36 คน ยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ออกจากตำแหน่งหรือไม่ กรณีคลิปเสียงกับ ฮุน เซน และจะมีมติให้ น.ส.แพทองธารหยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายเศรษฐา ทวีสิน แม้ น.ส.แพทองธารจะใช้วิธีให้ตัวเองดำรงตำแหน่งควบ รมว.วัฒนธรรม เข้าประชุมคณะรัฐมนตรีก็ตาม ซึ่งกลุ่ม คปท. จะมีการประชุมเพื่อประเมินว่าจะยกระดับการชุมนุมไปในทิศทางใด โดยมีจุดยืนเดิม คือ นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว อีกด้านหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนแสวงหาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณกรณีชั้น 14 จำนวน 6 นัด ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่ศาลอาญานัดสืบพยานคดีมาตรา 112 จากกรณีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อปี 2558 จำนวน 7 นัด ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน ซึ่งท่าทีนายทักษิณขณะนี้ นับตั้งแต่คลิปเสียงลูกสาวกับฮุน เซน ปล่อยให้ลูกสาวเผชิญหน้าอย่างโดดเดี่ยว ถือเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางช่วงหนึ่งของตระกูลชินวัตร #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อ.ไชยันต์' จี้พรรคส้มยื่นซักฟอก ทั้ง ๆ ที่พรรคมีจำนวน สส. มาก สลัดปมอิงแอบลับ ๆ กับตระกูลชินวัตร!
    https://www.thai-tai.tv/news/19862/
    'อ.ไชยันต์' จี้พรรคส้มยื่นซักฟอก ทั้ง ๆ ที่พรรคมีจำนวน สส. มาก สลัดปมอิงแอบลับ ๆ กับตระกูลชินวัตร! https://www.thai-tai.tv/news/19862/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ แนะ "เท้งเต้ง พรรคส้ม" ยื่นซักฟอกนายกฯ เลย เปิดประชุมสภาฯ 3 ก.ค.นี้ ไม่งั้นเท่ากับยังให้ความไว้วางใจแพทองธาร และถูกมองแอบเป็นพันธมิตรลับๆ กับตระกูลชินวัตร ชี้ถ้าทำตามแบบแผนระบบรัฐสภาของตะวันตก คะแนนนิยมมาแน่ อย่าเล่นการเมืองแบบคนรุ่นก่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061135

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ แนะ "เท้งเต้ง พรรคส้ม" ยื่นซักฟอกนายกฯ เลย เปิดประชุมสภาฯ 3 ก.ค.นี้ ไม่งั้นเท่ากับยังให้ความไว้วางใจแพทองธาร และถูกมองแอบเป็นพันธมิตรลับๆ กับตระกูลชินวัตร ชี้ถ้าทำตามแบบแผนระบบรัฐสภาของตะวันตก คะแนนนิยมมาแน่ อย่าเล่นการเมืองแบบคนรุ่นก่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061135 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 557 มุมมอง 0 รีวิว
  • หุนเสน โอหังคลั่งอำนาจพอๆกับตระกูลชินวัตรเลย
    พรรคเพื่อไทยว่าลุงตู่โอหังคลั่งอำนาจ ทีอุ๊งอิ๊ง ที สทร. ล่ะ ไม่โอหังคลั่งอำนาจไปหน่อยเหรอ
    หุนเสน โอหังคลั่งอำนาจพอๆกับตระกูลชินวัตรเลย พรรคเพื่อไทยว่าลุงตู่โอหังคลั่งอำนาจ ทีอุ๊งอิ๊ง ที สทร. ล่ะ ไม่โอหังคลั่งอำนาจไปหน่อยเหรอ
    "ฮุนเซน" โพสต์โวยสื่อไทยตีข่าวปลด ผบ.ทบ.แล้วตั้งตัวเองเป็นแทน ยันไม่จำเป็น เพราะในกัมพูชาตนเป็นคนที่ 2 รองจากกษัตริย์ ไล่อย่ามารุกรานเฟซบุ๊กตน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060252

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุน มาเนต ดูถูกเครื่องบินรบไทย ที่ซื้อจากตะวันตก นาโต้ ยิว ยูเครน ที่ต้องซื้อของตะวันตกก็เพราะรัฐบาลโทนาฟเซ็นสัญญาทาสไง ถึงว่า ทหารไทยดี ต่อาวุธยานรบไม่ได้เรื่อง เพราะส่วนใหญ่ใช้ของนาโต้ทั้งนั้น รัฐบาลต่อไปที่ไม่ใช่ตระกูลชินวัตรขอซื้ออาวุธยานรบจากจีน-รัสเซีย มาต่อยอดพัฒนา และผลิตอาวุธใช้เอง ดีกว่า ซื้อของตะวันตก
    ฮุน มาเนต ดูถูกเครื่องบินรบไทย ที่ซื้อจากตะวันตก นาโต้ ยิว ยูเครน ที่ต้องซื้อของตะวันตกก็เพราะรัฐบาลโทนาฟเซ็นสัญญาทาสไง ถึงว่า ทหารไทยดี ต่อาวุธยานรบไม่ได้เรื่อง เพราะส่วนใหญ่ใช้ของนาโต้ทั้งนั้น รัฐบาลต่อไปที่ไม่ใช่ตระกูลชินวัตรขอซื้ออาวุธยานรบจากจีน-รัสเซีย มาต่อยอดพัฒนา และผลิตอาวุธใช้เอง ดีกว่า ซื้อของตะวันตก
    ไม่หวั่นตบโบนัสสอย F-16 ทัพฟ้าส่งบินรบใน 5 นาที : [THE MESSAGE]

    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เผยกรณีสภากลาโหมเตรียมแผนเผชิญเหตุสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หากเกิดสถานการณ์สู้รบสามารถนำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการได้ภายใน 5 นาที ส่วนกรณี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศจะให้โบนัสทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบของไทยตก ปฎิบัติการของเราคงไม่ถึงขนาดนั้น หน้าที่ของเราเพื่อปกป้องอธิปไตย ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะเราไม่ได้รุกรานใคร แต่ต้องเตรียมความพร้อมสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ขอประชาชนมั่นใจในประสิทธิภาพกองทัพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • เปิดเบื้องหลัง ฮุนเซน แฉทักษิณ
    สงครามคนชั่วกัดกัน แต่ไทยได้โชคหลายเด้ง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เปิดเบื้องหลัง
    #ฮุนเซน
    #ฮุนเซนแฉทักษิณ
    #ตระกูลชินวัตร
    เปิดเบื้องหลัง ฮุนเซน แฉทักษิณ สงครามคนชั่วกัดกัน แต่ไทยได้โชคหลายเด้ง #คิงส์โพธิ์แดง #เปิดเบื้องหลัง #ฮุนเซน #ฮุนเซนแฉทักษิณ #ตระกูลชินวัตร
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • 28มิถุนามาแน่ อุ๊งอิ๊งค์ต้องลาออก

    สถานการณ์การเมืองไทยร้อนแรงขึ้นทุกนาที นับตั้งแต่การแฉ "คลิปเสียงอังเคิล" ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำนองว่าอยากให้สงบสุข ไม่อยากฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามเรา ซึ่งหมายถึงกองทัพไทย ไปกล่าวหาว่าแม่ทัพภาคที่ 2 อยากจะดูเท่ พูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ พร้อมกับให้ฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะคนไทยไล่ไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว และ "อังเคิลอยากได้อะไรก็บอกมา เดี๋ยวจะจัดการให้"

    แม้แพทองธารจะอ้างตอนแรกว่าเป็นเทคนิคการเจรจา ครั้งที่สองขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ และครั้งล่าสุดอ้างว่า "ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร" แต่คลิปเสียงความยาว 17 นาที สำทับด้วยภาพห้องนอน "ห้องทักษิณ" และ "ห้องยิ่งลักษณ์" ในคฤหาสน์ยักษ์ของฮุนเซน ย่อมทำให้คนไทยอีกส่วนหนึ่งรับไม่ได้ มองว่าแพทองธารและตระกูลชินวัตรกำลังขายชาติ จากกรณีความขัดแย้งเรื่องดินแดนไทย-กัมพูชา ที่ฝ่ายกัมพูชากำลังนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ส่อประเทศไทยเสียดินแดนอีกครั้ง

    การรวมตัวของฝ่ายที่ไม่เอารัฐบาลแพทองธารและตระกูลชินวัตร ในปี 2568 กลับมาในชื่อของ "กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย" จากจุดเริ่มต้นที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) ศปปส. และกองทัพธรรมปักหลักชุมนุมก่อนหน้านี้ แต่กระแสเรื่องดินแดนทำให้คนที่มีจุดยืนเดียวกันรวมตัวกัน โดยนัดชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 16.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยืนยันข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว พร้อมกันนี้ ยังขอประชาชนติดแฮชแทก #28มิถุนามาแน่ ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ติดธงชาติไทย สติกเกอร์ธงชาติไทยที่บ้านหรือยานพาหนะอีกด้วย

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมทั้งหมดไม่มีนายทุนหนุนหลัง แต่ใช้บัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเปิดรับบริจาคทำกิจกรรม โดยมีผู้สนับสนุนกว่า 10,000 ราย ร่วมบริจาคแล้ว 10 ล้านบาท หากจบกิจกรรมแล้วเงินที่เหลือจะบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2 สนับสนุนภารกิจทหารทั้งหมด ยืนยันว่าวัตถุประสงค์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลลาออก โดยไม่แตกประเด็น และการจัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ไม่มีนายทุนหรือพรรคการเมืองใดหนุนหลัง

    ส่วน จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า มีคนสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดว่า จังหวัดใดปล่อยให้ประชาชนเดินทางมาชุมนุมจะมีการคาดโทษ เตือนว่าควรเคารพสิทธิเสรีตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และวาระที่สำคัญครั้งนี้เป็นวาระของบ้านเมืองเป็นหลัก

    #Newskit
    28มิถุนามาแน่ อุ๊งอิ๊งค์ต้องลาออก สถานการณ์การเมืองไทยร้อนแรงขึ้นทุกนาที นับตั้งแต่การแฉ "คลิปเสียงอังเคิล" ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำนองว่าอยากให้สงบสุข ไม่อยากฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามเรา ซึ่งหมายถึงกองทัพไทย ไปกล่าวหาว่าแม่ทัพภาคที่ 2 อยากจะดูเท่ พูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ พร้อมกับให้ฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะคนไทยไล่ไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว และ "อังเคิลอยากได้อะไรก็บอกมา เดี๋ยวจะจัดการให้" แม้แพทองธารจะอ้างตอนแรกว่าเป็นเทคนิคการเจรจา ครั้งที่สองขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ และครั้งล่าสุดอ้างว่า "ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร" แต่คลิปเสียงความยาว 17 นาที สำทับด้วยภาพห้องนอน "ห้องทักษิณ" และ "ห้องยิ่งลักษณ์" ในคฤหาสน์ยักษ์ของฮุนเซน ย่อมทำให้คนไทยอีกส่วนหนึ่งรับไม่ได้ มองว่าแพทองธารและตระกูลชินวัตรกำลังขายชาติ จากกรณีความขัดแย้งเรื่องดินแดนไทย-กัมพูชา ที่ฝ่ายกัมพูชากำลังนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ส่อประเทศไทยเสียดินแดนอีกครั้ง การรวมตัวของฝ่ายที่ไม่เอารัฐบาลแพทองธารและตระกูลชินวัตร ในปี 2568 กลับมาในชื่อของ "กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย" จากจุดเริ่มต้นที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) ศปปส. และกองทัพธรรมปักหลักชุมนุมก่อนหน้านี้ แต่กระแสเรื่องดินแดนทำให้คนที่มีจุดยืนเดียวกันรวมตัวกัน โดยนัดชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 16.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยืนยันข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว พร้อมกันนี้ ยังขอประชาชนติดแฮชแทก #28มิถุนามาแน่ ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ติดธงชาติไทย สติกเกอร์ธงชาติไทยที่บ้านหรือยานพาหนะอีกด้วย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมทั้งหมดไม่มีนายทุนหนุนหลัง แต่ใช้บัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเปิดรับบริจาคทำกิจกรรม โดยมีผู้สนับสนุนกว่า 10,000 ราย ร่วมบริจาคแล้ว 10 ล้านบาท หากจบกิจกรรมแล้วเงินที่เหลือจะบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2 สนับสนุนภารกิจทหารทั้งหมด ยืนยันว่าวัตถุประสงค์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลลาออก โดยไม่แตกประเด็น และการจัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ไม่มีนายทุนหรือพรรคการเมืองใดหนุนหลัง ส่วน จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า มีคนสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดว่า จังหวัดใดปล่อยให้ประชาชนเดินทางมาชุมนุมจะมีการคาดโทษ เตือนว่าควรเคารพสิทธิเสรีตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และวาระที่สำคัญครั้งนี้เป็นวาระของบ้านเมืองเป็นหลัก #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • #28มิถุนามาแน่ อุ๊งอิ๊งค์ต้องลาออก

    สถานการณ์การเมืองไทยร้อนแรงขึ้นทุกนาที นับตั้งแต่การแฉ "คลิปเสียงอังเคิล" ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำนองว่าอยากให้สงบสุข ไม่อยากฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามเรา ซึ่งหมายถึงกองทัพไทย ไปกล่าวหาว่าแม่ทัพภาคที่ 2 อยากจะดูเท่ พูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ พร้อมกับให้ฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะคนไทยไล่ไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว และ "อังเคิลอยากได้อะไรก็บอกมา เดี๋ยวจะจัดการให้"

    แม้แพทองธารจะอ้างตอนแรกว่าเป็นเทคนิคการเจรจา ครั้งที่สองขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ และครั้งล่าสุดอ้างว่า "ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร" แต่คลิปเสียงความยาว 17 นาที สำทับด้วยภาพห้องนอน "ห้องทักษิณ" และ "ห้องยิ่งลักษณ์" ในคฤหาสน์ยักษ์ของฮุนเซน ย่อมทำให้คนไทยอีกส่วนหนึ่งรับไม่ได้ มองว่าแพทองธารและตระกูลชินวัตรกำลังขายชาติ จากกรณีความขัดแย้งเรื่องดินแดนไทย-กัมพูชา ที่ฝ่ายกัมพูชากำลังนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ส่อประเทศไทยเสียดินแดนอีกครั้ง

    การรวมตัวของฝ่ายที่ไม่เอารัฐบาลแพทองธารและตระกูลชินวัตร ในปี 2568 กลับมาในชื่อของ "กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย" จากจุดเริ่มต้นที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) ศปปส. และกองทัพธรรมปักหลักชุมนุมก่อนหน้านี้ แต่กระแสเรื่องดินแดนทำให้คนที่มีจุดยืนเดียวกันรวมตัวกัน โดยนัดชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 16.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยืนยันข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว พร้อมกันนี้ ยังขอประชาชนติดแฮชแทก #28มิถุนามาแน่ ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ติดธงชาติไทย สติกเกอร์ธงชาติไทยที่บ้านหรือยานพาหนะอีกด้วย

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมทั้งหมดไม่มีนายทุนหนุนหลัง แต่ใช้บัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเปิดรับบริจาคทำกิจกรรม โดยมีผู้สนับสนุนกว่า 10,000 ราย ร่วมบริจาคแล้ว 10 ล้านบาท หากจบกิจกรรมแล้วเงินที่เหลือจะบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2 สนับสนุนภารกิจทหารทั้งหมด ยืนยันว่าวัตถุประสงค์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลลาออก โดยไม่แตกประเด็น และการจัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ไม่มีนายทุนหรือพรรคการเมืองใดหนุนหลัง

    ส่วน จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า มีคนสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดว่า จังหวัดใดปล่อยให้ประชาชนเดินทางมาชุมนุมจะมีการคาดโทษ เตือนว่าควรเคารพสิทธิเสรีตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และวาระที่สำคัญครั้งนี้เป็นวาระของบ้านเมืองเป็นหลัก

    #Newskit
    #28มิถุนามาแน่ อุ๊งอิ๊งค์ต้องลาออก สถานการณ์การเมืองไทยร้อนแรงขึ้นทุกนาที นับตั้งแต่การแฉ "คลิปเสียงอังเคิล" ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำนองว่าอยากให้สงบสุข ไม่อยากฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามเรา ซึ่งหมายถึงกองทัพไทย ไปกล่าวหาว่าแม่ทัพภาคที่ 2 อยากจะดูเท่ พูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ พร้อมกับให้ฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะคนไทยไล่ไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว และ "อังเคิลอยากได้อะไรก็บอกมา เดี๋ยวจะจัดการให้" แม้แพทองธารจะอ้างตอนแรกว่าเป็นเทคนิคการเจรจา ครั้งที่สองขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ และครั้งล่าสุดอ้างว่า "ดิฉันไม่ได้อะไร ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร" แต่คลิปเสียงความยาว 17 นาที สำทับด้วยภาพห้องนอน "ห้องทักษิณ" และ "ห้องยิ่งลักษณ์" ในคฤหาสน์ยักษ์ของฮุนเซน ย่อมทำให้คนไทยอีกส่วนหนึ่งรับไม่ได้ มองว่าแพทองธารและตระกูลชินวัตรกำลังขายชาติ จากกรณีความขัดแย้งเรื่องดินแดนไทย-กัมพูชา ที่ฝ่ายกัมพูชากำลังนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ส่อประเทศไทยเสียดินแดนอีกครั้ง การรวมตัวของฝ่ายที่ไม่เอารัฐบาลแพทองธารและตระกูลชินวัตร ในปี 2568 กลับมาในชื่อของ "กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย" จากจุดเริ่มต้นที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) ศปปส. และกองทัพธรรมปักหลักชุมนุมก่อนหน้านี้ แต่กระแสเรื่องดินแดนทำให้คนที่มีจุดยืนเดียวกันรวมตัวกัน โดยนัดชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 16.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยืนยันข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว พร้อมกันนี้ ยังขอประชาชนติดแฮชแทก #28มิถุนามาแน่ ในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ติดธงชาติไทย สติกเกอร์ธงชาติไทยที่บ้านหรือยานพาหนะอีกด้วย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมทั้งหมดไม่มีนายทุนหนุนหลัง แต่ใช้บัญชีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเปิดรับบริจาคทำกิจกรรม โดยมีผู้สนับสนุนกว่า 10,000 ราย ร่วมบริจาคแล้ว 10 ล้านบาท หากจบกิจกรรมแล้วเงินที่เหลือจะบริจาคให้กองทัพภาคที่ 2 สนับสนุนภารกิจทหารทั้งหมด ยืนยันว่าวัตถุประสงค์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลลาออก โดยไม่แตกประเด็น และการจัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ไม่มีนายทุนหรือพรรคการเมืองใดหนุนหลัง ส่วน จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า มีคนสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดว่า จังหวัดใดปล่อยให้ประชาชนเดินทางมาชุมนุมจะมีการคาดโทษ เตือนว่าควรเคารพสิทธิเสรีตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และวาระที่สำคัญครั้งนี้เป็นวาระของบ้านเมืองเป็นหลัก #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่าว..มีการขายสัมปทานอ่าวไทยล่วงหน้า..มันขายชาติกันจริงๆ รับเงินมาแล้ว ตระกูลชินวัตร กับตระกูลฮุน
    อ่าว..มีการขายสัมปทานอ่าวไทยล่วงหน้า..มันขายชาติกันจริงๆ รับเงินมาแล้ว ตระกูลชินวัตร กับตระกูลฮุน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ชัยธวัช” ชี้ สถานการณ์การเมืองแรงตอนนี้ ไม่ได้เกิดจาก “ตระกูลชิน” แต่เป็น “คณะรัฐประหาร-ชนชั้นนำ” ที่ต้องการมีอำนาจเหนือเสียงประชาชน เราต้องไม่หันกลับไปอีก ต้องออกจากการเมืองของชนชั้นนำสร้างการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่
    .
    19 มิ.ย. 2568 - นายชัยธวัช ตุลาธน กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon ระบุว่า “ในสถานการณ์ที่กระแสความไม่พอใจต่อนายกฯ ลุกลามอย่างรุนแรง ประเด็นหนึ่งที่ผมอยากชวนคิด คือ ภาวะที่เราไม่พอใจอยู่นี้ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตระกูลชินวัตร แต่มันเป็นผลพวงจากการเมืองของคณะรัฐประหาร และชนชั้นนำบางกลุ่มที่ต้องการมีอำนาจเหนือเสียงของประชาชน
    .
    “การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังจากนี้ เราจึงต้องไม่หวนกลับไปใช้วิถีทางนอกประชาธิปไตยอีกการเมืองของชนชั้นนำ 20 ปี
    .
    ที่ผ่านมา ทำให้ชีวิตของเราและประเทศตกต่ำอย่างทุกวันนี้ ทำให้เรามีนายกและรัฐบาลแบบนี้ ดังนั้น มีแต่เราต้องชวนกันออกจากการเมืองของชนชั้นนำ แล้วสร้างการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่ของชาติ”
    .
    #MGROnline #ชัยธวัชตุลาธน #กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า #อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล #ตระกูลชินวัตร #คณะรัฐประหาร
    “ชัยธวัช” ชี้ สถานการณ์การเมืองแรงตอนนี้ ไม่ได้เกิดจาก “ตระกูลชิน” แต่เป็น “คณะรัฐประหาร-ชนชั้นนำ” ที่ต้องการมีอำนาจเหนือเสียงประชาชน เราต้องไม่หันกลับไปอีก ต้องออกจากการเมืองของชนชั้นนำสร้างการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่ . 19 มิ.ย. 2568 - นายชัยธวัช ตุลาธน กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon ระบุว่า “ในสถานการณ์ที่กระแสความไม่พอใจต่อนายกฯ ลุกลามอย่างรุนแรง ประเด็นหนึ่งที่ผมอยากชวนคิด คือ ภาวะที่เราไม่พอใจอยู่นี้ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตระกูลชินวัตร แต่มันเป็นผลพวงจากการเมืองของคณะรัฐประหาร และชนชั้นนำบางกลุ่มที่ต้องการมีอำนาจเหนือเสียงของประชาชน . “การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังจากนี้ เราจึงต้องไม่หวนกลับไปใช้วิถีทางนอกประชาธิปไตยอีกการเมืองของชนชั้นนำ 20 ปี . ที่ผ่านมา ทำให้ชีวิตของเราและประเทศตกต่ำอย่างทุกวันนี้ ทำให้เรามีนายกและรัฐบาลแบบนี้ ดังนั้น มีแต่เราต้องชวนกันออกจากการเมืองของชนชั้นนำ แล้วสร้างการเมืองเพื่อคนส่วนใหญ่ของชาติ” . #MGROnline #ชัยธวัชตุลาธน #กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า #อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล #ตระกูลชินวัตร #คณะรัฐประหาร
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ปิดฉากตระกูลชินวัตรจากการเมืองไทยซะที แขกเหรื่อตบเท้าอโหสิกรรมให้ไปผุดไปเกิดใหม่ชดใช้กรรมในภพหน้า
    #7ดอกจิก
    #ปิดฉากตระกูลชินวัตร
    ♣ ปิดฉากตระกูลชินวัตรจากการเมืองไทยซะที แขกเหรื่อตบเท้าอโหสิกรรมให้ไปผุดไปเกิดใหม่ชดใช้กรรมในภพหน้า #7ดอกจิก #ปิดฉากตระกูลชินวัตร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เป็นประเด็นร้อนแรงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมนั้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสื่อสารนี้ นั่นคือ "ล่ามปริศนา" ที่ทำหน้าที่แปลภาษาไทย-เขมร และเขมร-ไทย ให้ผู้นำทั้งสองเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง“พี่ฮวด” เขาคือใคร?จากการตรวจสอบของ "เนชั่นทีวี" ล่ามผู้นี้คือ นาย เคลียง ฮวด หรือที่คนใกล้ชิดในตระกูลชินวัตรเรียกขานอย่างสนิทสนมว่า "ผอ.ฮวด" หรือ "พี่ฮวด" ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตำแหน่งปัจจุบันของเขาไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึงนายกเทศมนตรีของเขตจรอย จองวา และรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จ ฮุน เซน ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแหล่งข่าวจากอดีตคนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตรเล่าว่า "พี่ฮวด" ถือเป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวและผู้ช่วยใกล้ชิดของสมเด็จ ฮุน เซน มานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เนื่องจากเขาสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วมาก ทำให้เขารับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮุน เซน และฝ่ายไทยมาโดยตลอด"พี่ฮวด" ไม่เพียงแค่สนิทสนมกับสมเด็จ ฮุน เซน เท่านั้น แต่เขายังรู้จักและสนิทกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ ในช่วงที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ คอยประสานงานต่างๆ ให้อย่างใกล้ชิด และรับบทบาทเป็นล่ามให้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งของสมเด็จ ฮุน เซน และของตระกูลชินวัตรแสดงให้เห็นว่า "พี่ฮวด" หรือ "ผอ.ฮวด" เป็นบุคคลที่สมเด็จ ฮุน เซน ไว้วางใจอย่างมาก มักจะปรึกษาหารือและสอบถามในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทย
    จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เป็นประเด็นร้อนแรงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมนั้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสื่อสารนี้ นั่นคือ "ล่ามปริศนา" ที่ทำหน้าที่แปลภาษาไทย-เขมร และเขมร-ไทย ให้ผู้นำทั้งสองเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง“พี่ฮวด” เขาคือใคร?จากการตรวจสอบของ "เนชั่นทีวี" ล่ามผู้นี้คือ นาย เคลียง ฮวด หรือที่คนใกล้ชิดในตระกูลชินวัตรเรียกขานอย่างสนิทสนมว่า "ผอ.ฮวด" หรือ "พี่ฮวด" ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตำแหน่งปัจจุบันของเขาไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึงนายกเทศมนตรีของเขตจรอย จองวา และรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จ ฮุน เซน ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแหล่งข่าวจากอดีตคนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตรเล่าว่า "พี่ฮวด" ถือเป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวและผู้ช่วยใกล้ชิดของสมเด็จ ฮุน เซน มานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เนื่องจากเขาสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วมาก ทำให้เขารับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮุน เซน และฝ่ายไทยมาโดยตลอด"พี่ฮวด" ไม่เพียงแค่สนิทสนมกับสมเด็จ ฮุน เซน เท่านั้น แต่เขายังรู้จักและสนิทกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ ในช่วงที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ คอยประสานงานต่างๆ ให้อย่างใกล้ชิด และรับบทบาทเป็นล่ามให้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งของสมเด็จ ฮุน เซน และของตระกูลชินวัตรแสดงให้เห็นว่า "พี่ฮวด" หรือ "ผอ.ฮวด" เป็นบุคคลที่สมเด็จ ฮุน เซน ไว้วางใจอย่างมาก มักจะปรึกษาหารือและสอบถามในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทย
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศก.ทก. ไหวไหมทีมไทยแลนด์

    เมื่อนายกฯ ฟันน้ำนม แพทองธาร ชินวัตร ถูกสังคมก่นด่าที่ไทยเสียท่ากัมพูชาต่อปัญหาชายแดนหลายครั้ง แบบไม่ทันเกมไม่ทันใจ มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจใช้บริการน้องรักลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ เพื่อย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหนึ่งหวังให้คนกลุ่มหนึ่งคลายความหวาดระแวง ที่ตระกูลชินวัตรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลฮุนของกัมพูชา อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า แพทองธารทำงานไม่เป็น ฮุน เซนเย้ยหยันว่าคุมกองทัพไม่ได้

    ในที่สุดทีมไทยแลนด์ของบิ๊กเล็กจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศก.ทก) ประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตอนเช้า ยกเว้นวันประชุม ครม. จะประชุมตอนบ่าย แล้วแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที เหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่รายงานสถานการณ์โควิด-19 เปี๊ยบ เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีประชุม ถ้ามีอะไรให้ทุกคนสแตนบายคุยผ่านออนไลน์แทน ส่วนกรอบการทำงานเน้นบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว แต่ย้ำว่าไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา ทำงานระบบโต๊ะกลม เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ

    ศก.ทก. มีบทบาทให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา และประสานการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างไทยและกัมพูชา จะเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจน กำหนดเวลาเผยแพร่ข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับข้อมูลตรงกัน ลดความสับสนที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจระหว่างสองประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน

    พล.อ.ณัฐพล ยังเห็นว่าในอนาคตอยากให้จัดเวทีสัมมนา ประสานงานกับสมาคมสื่อฯ เชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศทาง รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนเชื่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำตามนักวิชาการก็ถูกต่อว่า จึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายคนมาเป็นข้อสรุป เพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน นำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป

    อย่างไรก็ตาม บทบาทของบิ๊กเล็กในช่วงที่ผ่านมาไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยจำขี้ปากนายใหญ่ว่าแผ่นดินไทยคือ No Man's Land มาแล้ว นับจากนี้ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นและสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ด้วยความหวังว่าสุดท้าย ศก.ทก. จะไม่กลายเป็นศูนย์โศกทุกข์ เพราะไทยแพ้คดีและเสียดินแดน

    #Newskit
    ศก.ทก. ไหวไหมทีมไทยแลนด์ เมื่อนายกฯ ฟันน้ำนม แพทองธาร ชินวัตร ถูกสังคมก่นด่าที่ไทยเสียท่ากัมพูชาต่อปัญหาชายแดนหลายครั้ง แบบไม่ทันเกมไม่ทันใจ มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจใช้บริการน้องรักลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ เพื่อย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหนึ่งหวังให้คนกลุ่มหนึ่งคลายความหวาดระแวง ที่ตระกูลชินวัตรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลฮุนของกัมพูชา อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า แพทองธารทำงานไม่เป็น ฮุน เซนเย้ยหยันว่าคุมกองทัพไม่ได้ ในที่สุดทีมไทยแลนด์ของบิ๊กเล็กจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศก.ทก) ประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตอนเช้า ยกเว้นวันประชุม ครม. จะประชุมตอนบ่าย แล้วแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที เหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่รายงานสถานการณ์โควิด-19 เปี๊ยบ เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีประชุม ถ้ามีอะไรให้ทุกคนสแตนบายคุยผ่านออนไลน์แทน ส่วนกรอบการทำงานเน้นบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว แต่ย้ำว่าไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา ทำงานระบบโต๊ะกลม เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ ศก.ทก. มีบทบาทให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา และประสานการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างไทยและกัมพูชา จะเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจน กำหนดเวลาเผยแพร่ข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับข้อมูลตรงกัน ลดความสับสนที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจระหว่างสองประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน พล.อ.ณัฐพล ยังเห็นว่าในอนาคตอยากให้จัดเวทีสัมมนา ประสานงานกับสมาคมสื่อฯ เชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศทาง รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนเชื่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำตามนักวิชาการก็ถูกต่อว่า จึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายคนมาเป็นข้อสรุป เพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน นำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม บทบาทของบิ๊กเล็กในช่วงที่ผ่านมาไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยจำขี้ปากนายใหญ่ว่าแผ่นดินไทยคือ No Man's Land มาแล้ว นับจากนี้ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นและสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ด้วยความหวังว่าสุดท้าย ศก.ทก. จะไม่กลายเป็นศูนย์โศกทุกข์ เพราะไทยแพ้คดีและเสียดินแดน #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊งอิ๊งค์-ฮุน เซน กินในที่ลับไขในที่แจ้ง

    ท่าทีของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต เพื่อนรักเพื่อนสนิท ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลังไทยเสียท่ากับกัมพูชา จากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่กัมพูชาปล่อยข่าวมีการหารือแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ทำคนไทยทั้งประเทศเดือดดาลมาแล้ว ซ้ำด้วยการยื่นคำขาดของ ฮุน เซน ให้ไทยเปิดด่าน ไม่งั้นจะปิดด่านกลับ ไม่มีอะไรใหม่นอกจากทำตัวเป็นนางเอก อ้างว่าปล่อยข่าวแบบนี้ไม่เป็นผลดีทั้งสองประเทศ

    แพทองธารอ้างว่าคุยกันหลังไมค์มีแน่นอน แต่ที่กัมพูชาสื่อสารผ่านโซเชียลฯ ที่นอกกรอบ พูดไทยคำอังกฤษคำ ไม่เป็นโปรเฟสชันแนล เกิดผลลบทั้งสองประเทศ แต่ก็ทำได้แค่ส่งข้อความไปหา ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชาย ฮุน เซน ให้จัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระดับกองทัพไปเลยไหม และว่าเคยตกลงกันแล้วว่าอย่าเพิ่งปล่อยข่าว เพราะต้องคุยกันก่อนว่าเอาอย่างไร เพราะคนหน้างานกับคนที่รับฟังข่าวสารคนละคนกัน

    แต่ที่แพทองธารพูดให้คนกัมพูชาที่สนับสนุน ฮุน เซน ด่ากลับ คือ วันนี้ถ้าไม่เคารพกฎกติกา ก็จะไม่ถูกยอมรับโดยทั่วโลก เพราะทุกวันนี้ชาวเขมรพยายามท้าทาย หาเรื่องไทยให้ขึ้นศาลโลก กรณีพื้นที่ 3 ปราสาท 1 ดินแดนที่ไทยจะเสียดินแดน ขณะที่ ฮุน เซน ข่มหลานสาวเพื่อนรักทักษิณแบบเรียบๆ เข้าใจสถานการณ์ในไทย นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีอำนาจเปิด-ปิดด่านชายแดน แต่ในกัมพูชา นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มที่ ตั้งแต่รัฐสภาและวุฒิสภา ไปจนถึงฝ่ายบริหารทุกระดับและกองทัพ

    แพทองธารตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหมสายบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ และย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่คนไทยมากกว่าครึ่งหวาดระแวงรัฐบาล จากความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลฮุนของกัมพูชา และตระกูลชินวัตรของประเทศไทย มีแต่คนไว้ใจกองทัพแต่ไม่ไว้ใจรัฐบาล ไม่เชื่อว่าจะรักษาดินแดนอธิปไตยไว้ได้

    ที่น่าสนใจคือ กรณีที่ ฮุน เซน ตอบโต้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ปรากฎว่าพ่วงด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำเสื้อแดงในลักษณะทวงบุญคุณ เคยให้ข้าวให้น้ำ เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี การส่งสัญญาณของ ฮุน เซน แสดงให้เห็นว่าทำไมช่วงนี้เพื่อนรักที่ชื่อทักษิณ บิดานายกฯ แพทองธาร ไม่กล้าขยับปากเรื่องนี้ เพราะอย่างน้อย ฮุน เซน กำความลับของทักษิณเอาไว้ หากวันใดสัมพันธ์ขาดสะบั้น พร้อมส่งสัญญาณ "ไขในที่แจ้ง" ตลอดเวลา

    #Newskit
    อุ๊งอิ๊งค์-ฮุน เซน กินในที่ลับไขในที่แจ้ง ท่าทีของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต เพื่อนรักเพื่อนสนิท ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลังไทยเสียท่ากับกัมพูชา จากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่กัมพูชาปล่อยข่าวมีการหารือแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ทำคนไทยทั้งประเทศเดือดดาลมาแล้ว ซ้ำด้วยการยื่นคำขาดของ ฮุน เซน ให้ไทยเปิดด่าน ไม่งั้นจะปิดด่านกลับ ไม่มีอะไรใหม่นอกจากทำตัวเป็นนางเอก อ้างว่าปล่อยข่าวแบบนี้ไม่เป็นผลดีทั้งสองประเทศ แพทองธารอ้างว่าคุยกันหลังไมค์มีแน่นอน แต่ที่กัมพูชาสื่อสารผ่านโซเชียลฯ ที่นอกกรอบ พูดไทยคำอังกฤษคำ ไม่เป็นโปรเฟสชันแนล เกิดผลลบทั้งสองประเทศ แต่ก็ทำได้แค่ส่งข้อความไปหา ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชาย ฮุน เซน ให้จัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระดับกองทัพไปเลยไหม และว่าเคยตกลงกันแล้วว่าอย่าเพิ่งปล่อยข่าว เพราะต้องคุยกันก่อนว่าเอาอย่างไร เพราะคนหน้างานกับคนที่รับฟังข่าวสารคนละคนกัน แต่ที่แพทองธารพูดให้คนกัมพูชาที่สนับสนุน ฮุน เซน ด่ากลับ คือ วันนี้ถ้าไม่เคารพกฎกติกา ก็จะไม่ถูกยอมรับโดยทั่วโลก เพราะทุกวันนี้ชาวเขมรพยายามท้าทาย หาเรื่องไทยให้ขึ้นศาลโลก กรณีพื้นที่ 3 ปราสาท 1 ดินแดนที่ไทยจะเสียดินแดน ขณะที่ ฮุน เซน ข่มหลานสาวเพื่อนรักทักษิณแบบเรียบๆ เข้าใจสถานการณ์ในไทย นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีอำนาจเปิด-ปิดด่านชายแดน แต่ในกัมพูชา นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มที่ ตั้งแต่รัฐสภาและวุฒิสภา ไปจนถึงฝ่ายบริหารทุกระดับและกองทัพ แพทองธารตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหมสายบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ และย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่คนไทยมากกว่าครึ่งหวาดระแวงรัฐบาล จากความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลฮุนของกัมพูชา และตระกูลชินวัตรของประเทศไทย มีแต่คนไว้ใจกองทัพแต่ไม่ไว้ใจรัฐบาล ไม่เชื่อว่าจะรักษาดินแดนอธิปไตยไว้ได้ ที่น่าสนใจคือ กรณีที่ ฮุน เซน ตอบโต้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ปรากฎว่าพ่วงด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำเสื้อแดงในลักษณะทวงบุญคุณ เคยให้ข้าวให้น้ำ เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี การส่งสัญญาณของ ฮุน เซน แสดงให้เห็นว่าทำไมช่วงนี้เพื่อนรักที่ชื่อทักษิณ บิดานายกฯ แพทองธาร ไม่กล้าขยับปากเรื่องนี้ เพราะอย่างน้อย ฮุน เซน กำความลับของทักษิณเอาไว้ หากวันใดสัมพันธ์ขาดสะบั้น พร้อมส่งสัญญาณ "ไขในที่แจ้ง" ตลอดเวลา #Newskit
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฐมบท ไทยเสียดินแดน?

    7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป

    ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว

    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด

    พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์

    ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร

    #Newskit
    ปฐมบท ไทยเสียดินแดน? 7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาสิโน กล่องดวงใจเขมร

    ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชารอบใหม่ เนื่องจากทหารกัมพูชาเผาศาลาตรีมุข ก่อนนำกำลังบุกยึดสามเหลี่ยมมรกต หรือมุมไบ ล้ำมาถึงช่องบกเข้าเขตดินแดนไทยด้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทำให้ทหารไทยยอมไม่ได้ เกิดการปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย ทหารไทยบาดเจ็บ 1 นาย ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาเตรียมนำช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ให้ตกเป็นของกัมพูชา กระแสสังคมกดดันไปยังรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อย่างหนัก ด้วยข้อหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับสมเด็จฯ ฮุนเซน

    ในที่สุดมาตรการทางทหารที่ออกมา โดยที่รัฐบาลไฟเขียวให้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง หนึ่งในนั้นคือการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวชาวไทย และนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา หนึ่งในนั้นคือด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับฝั่งปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา ปรับเวลาเปิดด่านเหลือ 4 โมงเย็น จากเดิม 4 ทุ่ม และห้ามนักท่องเที่ยวรวมถึงนักพนันชาวไทยออกนอกประเทศ ผลก็คือเกิดความโกลาหล ทั้งคนไทยที่ทำงานอยู่ในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต และชาวกัมพูชาเข้ามาค้าขายฝั่งไทย

    มาตรการควบคุมการเข้าออกด่าน และที่คาดว่าจะตามมา โดยเฉพาะการตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังฝั่งกัมพูชากระทบต่อธุรกิจกาสิโนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กลุ่มเป้าหมายหลักคือนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เข้าไปเสี่ยงโชค และยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของผู้มีอำนาจในกัมพูชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ในที่สุด วันที่ 8 มิ.ย. พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา เชิญ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือฝ่ายทหารกัมพูชา ยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม และกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเปิดทางให้ใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นบริหารจัดการพื้นที่ต่อไป

    ปัจจุบันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีบ่อนกาสิโนให้บริการประมาณ 48 แห่ง ที่โดดเด่นที่สุดคือด่านปอยเปต มีกาสิโนให้บริการประมาณ 10 แห่ง โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง นักเสี่ยงโชคส่วนใหญ่เป็นชาวไทย และชาวต่างชาติที่ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศเท่านั้น เพราะรัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้าไปเสี่ยงโชค ในปี 2566 สร้างรายได้ให้รัฐบาลกัมพูชาราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

    #Newskit
    กาสิโน กล่องดวงใจเขมร ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชารอบใหม่ เนื่องจากทหารกัมพูชาเผาศาลาตรีมุข ก่อนนำกำลังบุกยึดสามเหลี่ยมมรกต หรือมุมไบ ล้ำมาถึงช่องบกเข้าเขตดินแดนไทยด้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทำให้ทหารไทยยอมไม่ได้ เกิดการปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย ทหารไทยบาดเจ็บ 1 นาย ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาเตรียมนำช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ให้ตกเป็นของกัมพูชา กระแสสังคมกดดันไปยังรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อย่างหนัก ด้วยข้อหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ในที่สุดมาตรการทางทหารที่ออกมา โดยที่รัฐบาลไฟเขียวให้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง หนึ่งในนั้นคือการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวชาวไทย และนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา หนึ่งในนั้นคือด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับฝั่งปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา ปรับเวลาเปิดด่านเหลือ 4 โมงเย็น จากเดิม 4 ทุ่ม และห้ามนักท่องเที่ยวรวมถึงนักพนันชาวไทยออกนอกประเทศ ผลก็คือเกิดความโกลาหล ทั้งคนไทยที่ทำงานอยู่ในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต และชาวกัมพูชาเข้ามาค้าขายฝั่งไทย มาตรการควบคุมการเข้าออกด่าน และที่คาดว่าจะตามมา โดยเฉพาะการตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังฝั่งกัมพูชากระทบต่อธุรกิจกาสิโนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กลุ่มเป้าหมายหลักคือนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เข้าไปเสี่ยงโชค และยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของผู้มีอำนาจในกัมพูชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ในที่สุด วันที่ 8 มิ.ย. พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา เชิญ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือฝ่ายทหารกัมพูชา ยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม และกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเปิดทางให้ใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นบริหารจัดการพื้นที่ต่อไป ปัจจุบันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีบ่อนกาสิโนให้บริการประมาณ 48 แห่ง ที่โดดเด่นที่สุดคือด่านปอยเปต มีกาสิโนให้บริการประมาณ 10 แห่ง โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง นักเสี่ยงโชคส่วนใหญ่เป็นชาวไทย และชาวต่างชาติที่ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศเท่านั้น เพราะรัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้าไปเสี่ยงโชค ในปี 2566 สร้างรายได้ให้รัฐบาลกัมพูชาราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปลุกระดม ผนึกกำลังกัน #ดารา #ตลก #ศิลปินนักร้อง #นักแสดง #นักกีฬา #สมาคมทางการแพทย์ #ทหารทุกเหล่าทัพ #ตำรวจทุกหน่วยงาน แจ้งให้ทุกหน่วยงาน เทศบาล นายกเทศมนตรี เขตเทศบาล ทุกเขต ปลุกระดม กำลังพล พวกประชาชน แม่ค้า แม่ขาย นักเรียน นักศึกษา ออก มา ยันเอา ตัว ไอ้เจ๊ก กบฎ ไอ้จัญไร โทนี่ หรือ ไอ้แม้ว ต้นตระกูล จีน แซ่คู ไอ้เจ้าสำนัก อั้งยี่ ที่เคยมีการกวาดล้างกันไปแล้วนะครับในยุคสมัยโน้นๆๆ #เสธแดง (พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล)ถูกรอบสังหาร เป็น มือ ปืน เดียวกันกับที่ ยิง ถล่ม #ลุงสนธิ_ลิ้มทองกุล นั่นแหละครับ หน่วยรบ พิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ที่ จะ.ลพบุรี (รวมถึงสาเหตุการล้มของ #เชื้อชาติ ลูกหลานเตี่ย #นาย_เล็ก_วรรณวัฒน์ #BMWตัวแรกๆรุ่นรถยนต์ สีดำ ที่ อยู่ใน จังหวัด ลพบุรี เสียชีวิตลง แล้ว MOU ไอ้ทักษิณ ก็ก้าว ขึ้นมาเป็น นายก รัฐมนตรี ในปี 43-44 ไม่แน่ใจ แล้วการที่มันขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี พอมี อำนาจ ปุ้บ มันก็ได้ แต่งตั้งสนับสนุน พรรคพวกของมันขึ้นมากัน ใน ตำแหน่ง นั้น ตำแหน่งนี้ ตั้งมากมาย ในแต่ละยุค แต่ละรุ่น ของคน ตระกูลชินวัตร ที่ก้าว ขึ้นมาเป็นผู้นำ เป็น นายก รัฐมนตรี มันก็จะ ฉุดดึง พรรคพวก ของมัน ขึ้นมากัน เยอะแยะ มากมาย ทุกช่วง ทุกยุค สมัย และก็เป็นฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ แก่ ผู้ที่ ก่อเหตุยิง ลุง สนธิ ลิ้มทองกุล และ เสธแดง ด้วย เพราะว่าในช่วงที่มัน เป็น นายกรัฐมนตรี อยู่นั้น ก็มีอำนาจ อยู่ ถูกไหมล่ะครับ จน หน่วยรบพิเศษ ที่ ก่อ เหตุ ยิง พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ แดง ที่ มีการรอบ สังหาร เป็นมือปืน ชุดเดียวกันกับที่ ลุงสนธิลิ้มทองกุล โดน นั่น แหละใช่ อุดมศักดิ์ เชื้อชาติ ลูก หลานเตี่ย หนึ่งในกิตติมศักดิ์ ที่มีหน้าที่ อะไร ที่ เป็น อะไรที่สำคัญมาก ในการปกครองของประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนอะ ขาด เชื้อ ชาติ ราชสีห์ กิตติมศักดิ์ ในระบบ เกมส์ การเมืองและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื้อ ล้ม ลง เมื่อไหร่ ก็ ต้อง แยกย้าย กันกระจายตัวกันออก ไป กันให้ไวเลยครับจำไว้เลย #ขันที #อำมาตยาธิปไตย #ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม #เขตอุดมศักดิ์ ลูกหลานเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร จะมีอำนาจมากหรือเปล่าครับคุณลุงสนธิ ครับ เรียนรุ่นพี่ รุ่นใหญ่ มากัน #เสรีพิศุทธิ #บิ๊กป้อม #บิ๊กตู่ #ม.112 #มหิดล #วชิราลงกรณ์ ผู้ที่สั่งการให้ ล้อมสังหาร เสธแดง และ ลุงสนธิ คือ ทักษิณ ชินวัตร กระทั่ง เรื่องที่เกิดขึ้นกับ เชื้อชาติราชสีห์ ลูกหลานเตี่ย นั้น ล้มลง คนที่อยู่เบื้องหลัง ที่เดินเกมรุกไล่ ล่า ฆ่าผม และ บรรดา เครือญาติพี่น้องของผม ไอ้ทักษิณ มัน สวมรอยเข้ามาโกงกิน ชาติ ใน ขณะ ที่ เป็นนายกรัฐมนตรีและ มีอำนาจ อยู่ในมือ มัน คิด ว่า มันแน่ แล้วหรือ การที่เรียนมารุ่นใหญ่กว่า ท่าน เสรี และ ลุงสนธิ กว่าใครพวก ก็จริง นะครับ แต่ ไอ้เจ๊กหลีตระกูล แซ่คู ที่เป็น กก ของ ไอ้พวก อั้งยี่ กลุ่ม ตัวการใหญ่ ที่ มีการกวาดเก็บ กัน ไปบ้างแล้วนะครับ ใน ยุค สมัยหนึ่ง รัชกาลที่7ถึงอยู่ไม่ได้ ยังต้อง สละราชบัลลังก์ ไปอยู่ต่างประเทศเลยครับ เพราะ ไอ้เจ๊กจีน ตระกูล แซ่คู ก็คือ ตระกูล ชินวัตร ไอ้แม้ว เนี่ยแหละ ไอ้จัญไร เดี๋ยวต้องใช้ ระบบ ปฏิบัติการณ์ ประวัติ ปฏิรูป ระบบ ใช้ รัฐประหาร แล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้น เอากัน ไม่อยู่จริงๆ นะครับ (เรื่องแกงค์มิฉาชีพจีนเทา คอลเซ็นเตอร์ อะไรมันไม่ใช่ปัญหาเลยครับ แก้ไม่หาญ หาญกวาดล้าง ปราบปราม ไม่หมดไม่ได้ หรอกครับ เพราะว่า ระบบ ที่มีการ แทรกแซง การทำงานของหน่วยงานราชการ ที่ เจอ ปัญหา กัน อยู่ทุกวันนี้เนี่ย ก็ ลูกพี่ ลูกน้องของ ผม เป็นผู้ควบคุมระบบ อินเตอร์เน็ต และ เว็บไซต์ Windows google AI Apple TikTok WhatsApp number IG Facebook messenger อะไร พวกนี้ อยู่ เข้าใจนะครับ สภาวะ ตำรวจ ไซเบอร์ ยังโดน หลอก ได้ก็ คิดดูเถอะครับลุง มันจะไม่ได้ อย่างไรกันล่ะครับ องค์กรใหญ่ ที่ สหรัฐอเมริกา และ ในแต่ละประเทศ นั้น เป็นทาง ลูกพี่ลูกน้องของ อุดมศักดิ์ ทั้งนั้นแหละครับ ที่ เป็นใหญ่กันอยู่ เป็นผู้ก่อตั้งและสนับสนุน ฝ่ายพวกผู้นำในแต่ละประเทศกันอยู่นะครับ เพราะว่ามัน จะต้องมี หลัก ที่ เป็นสิ่งที่สำคัญ ยึดมั่น ในการ ปกครอง แบบผู้นำ ที่มีความสำคัญ ในการปกครอง และ เขตอุดมศักดิ์ เสด็จเตี่ย เป็นลูกเต้า เหล่าใครล่ะครับ ไล่เช็ค,ประวัติ หน่อยสิ เออ เบอร์ 5 ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ใช่หรือเปล่าครับ แล้วมี กี่เมีย มเหสี ที่ มีลงประวัติ จารึกไว้ เท่าไหร่ในยุค ปี พ.ศ.อะไร แล้วทุกวันนี้ พ.ศ. อะไรแล้วครับ คิดดูสิครับว่า ลูกพี่ลูกน้องของ อุดมศักดิ์ จะมีมาก น้อย แค่ไหน กันครับ แล้วก็มากไปด้วยเงินทองเกินกว่าใครในโลกนี้ ที่ว่ามีลงประวัติของโลกที่มีทรัพย์สินสมบัติที่ขึ้น แท่น จัดว่า รวยเป็น ระดับ ที่1ของโลก แต่เอาจริงๆนะครับ ถ้าว่ากันจริงๆแล้วเนี่ย ทางฝ่าย ญาติพี่น้องของเรากัน ที่มีกันอยู่ และประกอบกับทุระกิจ รวบรวมทรัพย์สินเงินทอง มรดกสมบัติ รวมกันแล้วเนี่ย ต้นตระกูล ของพวกเรากัน นั้นมีมากเกินกว่าใครในโลกนี้เลยก็ว่าได้จริงๆ นะครับ แต่ มันก็เป็นอย่างว่าแหละครับ ทางลูกพี่ลูกน้องของเรากัน เขาอยู่เป็นกัน เอาจริงๆนะ เขาก็จะมีชีวิตการเป็นอยู่อย่าง คนธรรมดาทั่วไป อย่างเรากันนี่แหละ อยู่แบบ ตาสี ยายสา แต่ไม่ ธรรมดา เป็นอะไรที่มากมาย อย่าให้ เอ๋ย สรรพคุณ เลย เลือดข้นคนจาง ตายเกลื่อนเลย ไม่มีทางที่จะมีผู้ใดล่วงรู้ความจริงที่หลี้ลับ ซับซ้อน ซ่อน เงื่อน สับสน ผู้คนบนโลก ถึงกับ อนละมาด ว้าวุ่น กันไปหมด ไม่มีใครที่จะมาใหญ่เกินไปกว่าของเรากันนั้น ไม่มีหรอกนะครับ แต่เขาอยู่กันเป็น ไม่มีใครที่จะรู้ กระทั่ง ประวัติ ที่จะสืบสาว ราวเรื่อง หรือว่าค้นหา ข้อมูล อย่างทาง เผ่าพันธุ์ได้เลย ว่ามีอยู่ส่วนไหน มุมไหน ประเทศอะไร ชื่อแซ่ อะไรกันบ้าง ไม่ได้เลย ไม่มีเลยที่จะล่วงรู้ ข้อมูล ของ พวกเราได้ เอาจริงๆ ก็จะมี แต่ความตาย เท่านั้นแหละ ที่ ควรจะต้องจะรู้ รู้แจ้ง เห็นจริง ตายจริง ตายเกลื่อนเมืองเลยด้วยล่ะ
    ปลุกระดม ผนึกกำลังกัน #ดารา #ตลก #ศิลปินนักร้อง #นักแสดง #นักกีฬา #สมาคมทางการแพทย์ #ทหารทุกเหล่าทัพ #ตำรวจทุกหน่วยงาน แจ้งให้ทุกหน่วยงาน เทศบาล นายกเทศมนตรี เขตเทศบาล ทุกเขต ปลุกระดม กำลังพล พวกประชาชน แม่ค้า แม่ขาย นักเรียน นักศึกษา ออก มา ยันเอา ตัว ไอ้เจ๊ก กบฎ ไอ้จัญไร โทนี่ หรือ ไอ้แม้ว ต้นตระกูล จีน แซ่คู ไอ้เจ้าสำนัก อั้งยี่ ที่เคยมีการกวาดล้างกันไปแล้วนะครับในยุคสมัยโน้นๆๆ #เสธแดง (พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล)ถูกรอบสังหาร เป็น มือ ปืน เดียวกันกับที่ ยิง ถล่ม #ลุงสนธิ_ลิ้มทองกุล นั่นแหละครับ หน่วยรบ พิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ที่ จะ.ลพบุรี (รวมถึงสาเหตุการล้มของ #เชื้อชาติ ลูกหลานเตี่ย #นาย_เล็ก_วรรณวัฒน์ #BMWตัวแรกๆรุ่นรถยนต์ สีดำ ที่ อยู่ใน จังหวัด ลพบุรี เสียชีวิตลง แล้ว MOU ไอ้ทักษิณ ก็ก้าว ขึ้นมาเป็น นายก รัฐมนตรี ในปี 43-44 ไม่แน่ใจ แล้วการที่มันขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี พอมี อำนาจ ปุ้บ มันก็ได้ แต่งตั้งสนับสนุน พรรคพวกของมันขึ้นมากัน ใน ตำแหน่ง นั้น ตำแหน่งนี้ ตั้งมากมาย ในแต่ละยุค แต่ละรุ่น ของคน ตระกูลชินวัตร ที่ก้าว ขึ้นมาเป็นผู้นำ เป็น นายก รัฐมนตรี มันก็จะ ฉุดดึง พรรคพวก ของมัน ขึ้นมากัน เยอะแยะ มากมาย ทุกช่วง ทุกยุค สมัย และก็เป็นฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ แก่ ผู้ที่ ก่อเหตุยิง ลุง สนธิ ลิ้มทองกุล และ เสธแดง ด้วย เพราะว่าในช่วงที่มัน เป็น นายกรัฐมนตรี อยู่นั้น ก็มีอำนาจ อยู่ ถูกไหมล่ะครับ จน หน่วยรบพิเศษ ที่ ก่อ เหตุ ยิง พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ แดง ที่ มีการรอบ สังหาร เป็นมือปืน ชุดเดียวกันกับที่ ลุงสนธิลิ้มทองกุล โดน นั่น แหละใช่ อุดมศักดิ์ เชื้อชาติ ลูก หลานเตี่ย หนึ่งในกิตติมศักดิ์ ที่มีหน้าที่ อะไร ที่ เป็น อะไรที่สำคัญมาก ในการปกครองของประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนอะ ขาด เชื้อ ชาติ ราชสีห์ กิตติมศักดิ์ ในระบบ เกมส์ การเมืองและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื้อ ล้ม ลง เมื่อไหร่ ก็ ต้อง แยกย้าย กันกระจายตัวกันออก ไป กันให้ไวเลยครับจำไว้เลย #ขันที #อำมาตยาธิปไตย #ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม #เขตอุดมศักดิ์ 👈ลูกหลานเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร จะมีอำนาจมากหรือเปล่าครับคุณลุงสนธิ ครับ เรียนรุ่นพี่ รุ่นใหญ่ มากัน #เสรีพิศุทธิ #บิ๊กป้อม #บิ๊กตู่ #ม.112 #มหิดล #วชิราลงกรณ์ ผู้ที่สั่งการให้ ล้อมสังหาร เสธแดง และ ลุงสนธิ คือ ทักษิณ ชินวัตร กระทั่ง เรื่องที่เกิดขึ้นกับ เชื้อชาติราชสีห์ ลูกหลานเตี่ย นั้น ล้มลง คนที่อยู่เบื้องหลัง ที่เดินเกมรุกไล่ ล่า ฆ่าผม และ บรรดา เครือญาติพี่น้องของผม ไอ้ทักษิณ มัน สวมรอยเข้ามาโกงกิน ชาติ ใน ขณะ ที่ เป็นนายกรัฐมนตรีและ มีอำนาจ อยู่ในมือ มัน คิด ว่า มันแน่ แล้วหรือ 🤣🤣 การที่เรียนมารุ่นใหญ่กว่า ท่าน เสรี และ ลุงสนธิ กว่าใครพวก ก็จริง นะครับ แต่ ไอ้เจ๊กหลีตระกูล แซ่คู ที่เป็น กก ของ ไอ้พวก อั้งยี่ กลุ่ม ตัวการใหญ่ ที่ มีการกวาดเก็บ กัน ไปบ้างแล้วนะครับ ใน ยุค สมัยหนึ่ง รัชกาลที่7👈ถึงอยู่ไม่ได้ ยังต้อง สละราชบัลลังก์ ไปอยู่ต่างประเทศเลยครับ เพราะ ไอ้เจ๊กจีน ตระกูล แซ่คู ก็คือ ตระกูล ชินวัตร ไอ้แม้ว เนี่ยแหละ ไอ้จัญไร เดี๋ยวต้องใช้ ระบบ ปฏิบัติการณ์ ประวัติ ปฏิรูป ระบบ ใช้ รัฐประหาร แล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้น เอากัน ไม่อยู่จริงๆ นะครับ (เรื่องแกงค์มิฉาชีพจีนเทา คอลเซ็นเตอร์ อะไรมันไม่ใช่ปัญหาเลยครับ แก้ไม่หาญ หาญกวาดล้าง ปราบปราม ไม่หมดไม่ได้ หรอกครับ เพราะว่า ระบบ ที่มีการ แทรกแซง การทำงานของหน่วยงานราชการ ที่ เจอ ปัญหา กัน อยู่ทุกวันนี้เนี่ย ก็ ลูกพี่ ลูกน้องของ ผม เป็นผู้ควบคุมระบบ อินเตอร์เน็ต และ เว็บไซต์ Windows google AI Apple 🍎 TikTok WhatsApp number IG Facebook messenger อะไร พวกนี้ อยู่ เข้าใจนะครับ 🤣🤣🤣 สภาวะ ตำรวจ ไซเบอร์ ยังโดน หลอก ได้ก็ คิดดูเถอะครับลุง 🤣🤣 มันจะไม่ได้ อย่างไรกันล่ะครับ🤣🤣🤣 องค์กรใหญ่ ที่ สหรัฐอเมริกา และ ในแต่ละประเทศ นั้น เป็นทาง ลูกพี่ลูกน้องของ อุดมศักดิ์ ทั้งนั้นแหละครับ ที่ เป็นใหญ่กันอยู่ เป็นผู้ก่อตั้งและสนับสนุน ฝ่ายพวกผู้นำในแต่ละประเทศกันอยู่นะครับ เพราะว่ามัน จะต้องมี หลัก ที่ เป็นสิ่งที่สำคัญ ยึดมั่น ในการ ปกครอง แบบผู้นำ ที่มีความสำคัญ ในการปกครอง และ เขตอุดมศักดิ์ เสด็จเตี่ย เป็นลูกเต้า เหล่าใครล่ะครับ ไล่เช็ค,ประวัติ หน่อยสิ เออ เบอร์ 5👈 ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ใช่หรือเปล่าครับ แล้วมี กี่เมีย มเหสี ที่ มีลงประวัติ จารึกไว้ เท่าไหร่ในยุค ปี พ.ศ.อะไร แล้วทุกวันนี้ พ.ศ. อะไรแล้วครับ🤣🤣🤣 คิดดูสิครับว่า ลูกพี่ลูกน้องของ อุดมศักดิ์ จะมีมาก น้อย แค่ไหน กันครับ แล้วก็มากไปด้วยเงินทองเกินกว่าใครในโลกนี้ ที่ว่ามีลงประวัติของโลกที่มีทรัพย์สินสมบัติที่ขึ้น แท่น จัดว่า รวยเป็น ระดับ ที่1ของโลก 🌍 แต่เอาจริงๆนะครับ ถ้าว่ากันจริงๆแล้วเนี่ย ทางฝ่าย ญาติพี่น้องของเรากัน ที่มีกันอยู่ และประกอบกับทุระกิจ รวบรวมทรัพย์สินเงินทอง มรดกสมบัติ รวมกันแล้วเนี่ย ต้นตระกูล ของพวกเรากัน นั้นมีมากเกินกว่าใครในโลกนี้เลยก็ว่าได้จริงๆ นะครับ แต่ มันก็เป็นอย่างว่าแหละครับ ทางลูกพี่ลูกน้องของเรากัน เขาอยู่เป็นกัน 😁เอาจริงๆนะ เขาก็จะมีชีวิตการเป็นอยู่อย่าง คนธรรมดาทั่วไป อย่างเรากันนี่แหละ อยู่แบบ ตาสี ยายสา แต่ไม่ ธรรมดา เป็นอะไรที่มากมาย อย่าให้ เอ๋ย สรรพคุณ เลย เลือดข้นคนจาง ตายเกลื่อนเลย🤭🤣🤣 ไม่มีทางที่จะมีผู้ใดล่วงรู้ความจริงที่หลี้ลับ ซับซ้อน ซ่อน เงื่อน สับสน ผู้คนบนโลก ถึงกับ อนละมาด ว้าวุ่น กันไปหมด ไม่มีใครที่จะมาใหญ่เกินไปกว่าของเรากันนั้น ไม่มีหรอกนะครับ แต่เขาอยู่กันเป็น ไม่มีใครที่จะรู้ กระทั่ง ประวัติ ที่จะสืบสาว ราวเรื่อง หรือว่าค้นหา ข้อมูล อย่างทาง เผ่าพันธุ์🐄⚓👈ได้เลย ว่ามีอยู่ส่วนไหน มุมไหน ประเทศอะไร ชื่อแซ่ อะไรกันบ้าง ไม่ได้เลย ไม่มีเลยที่จะล่วงรู้ ข้อมูล ของ พวกเราได้ เอาจริงๆ ก็จะมี แต่ความตาย เท่านั้นแหละ ที่ ควรจะต้องจะรู้ รู้แจ้ง เห็นจริง ตายจริง ตายเกลื่อนเมืองเลยด้วยล่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 724 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ขออย่าปล่อยเฟกนิวส์ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ รักษาอธิปไตย ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ต้องแบ่งฝ่าย แต่ยืนยันเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมหากเกิดเหตุปะทะ ยอมรับตระกูลชินวัตร สนิท "ฮุนเซน" จริง แต่ไม่เสียหาย ถ้าทะเลาะก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ยันไม่ยกบ้านให้เพื่อน

    วันนี้ (4 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052238

    #MGROnline #นายกรัฐมนตรี #ไทย #กัมพูชา
    นายกฯ ขออย่าปล่อยเฟกนิวส์ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ รักษาอธิปไตย ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ต้องแบ่งฝ่าย แต่ยืนยันเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมหากเกิดเหตุปะทะ ยอมรับตระกูลชินวัตร สนิท "ฮุนเซน" จริง แต่ไม่เสียหาย ถ้าทะเลาะก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ยันไม่ยกบ้านให้เพื่อน • วันนี้ (4 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052238 • #MGROnline #นายกรัฐมนตรี #ไทย #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27 มีนาคม 2568 - รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “นายกสืบสันดาน นิติกรรมอำพราง หลบภาษี?” โดยมีเนื้อหาดังนี้

    ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ได้รับการโอนหุ้นจากแม่ พี่ชาย พี่สาว ลุง และป้า จำนวนรวมกันประมาณ 4,434 ล้านบาท ในปีพ.ศ. 2559 โดยได้ทำหนังสือสัญญาใช้เงิน (PN) ที่ไม่มีดอกเบี้ยและไม่กำหนดวันครบชำระเงิน เพื่อให้เป็นหลักฐานเสมือนการซื้อหุ้นโดยยังไม่จ่ายเงิน (เป็นหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย ไม่กำหนดวันชำระคืน)

    มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไม นางสาวแพทองธาร ในปี 2559 ขณะที่อายุเพียงประมาณ 30 ปีจึงอยากซื้อหุ้นจำนวนมากจากบุคคลในครอบครัวและผู้เกี่ยวดอง
    โดยที่ตนไม่มีเงินที่จะจ่าย แต่ไปออกหนังสือสัญญาใช้เงินเป็นการกู้ยืมเงินที่จะจ่ายค่าหุ้นจำนวน 4,434 ล้านบาท

    เรื่องนี้ต้องเข้าใจ พฤติกรรมของคนในตระกูลชินวัตร รู้ที่มาที่ไปของหุ้น จึงพอจะวิเคราะห์และตั้งเป็นสมมุติฐานได้ว่า

    ในปี 2544 เมื่อนายทักษิณจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ประสงค์จะไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินให้ครบถ้วนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในบางรายการ จึงได้โอนหุ้นจำนวนหนึ่งซุกไว้ในชื่อของ คนสวน คนรับใช้ คนขับรถ และคนเฝ้ายาม จนเกิดคดีซุกหุ้น ดังที่ปรากฎคดีกับนายทักษิณมาแล้ว

    เวลาต่อมา ได้โอนหุ้นจากชื่อของ “ลูกจ้าง”ในบ้านทั้งสามคน ไปให้กับ “ลูกจริง” ทั้ง 3คน แต่เนื่องจากลูกสาวคนเล็กคือแพทองธาร ขณะนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะยังไม่สามารถบริหารจัดการหุ้นในบริษัทต่างๆได้ จึงอาจจะโอนฝากไว้ที่ แม่ พี่ชาย พี่สาว ลุงและป้า

    ต่อมาในปี 2559 เมื่อแพทองธาร บรรลุนิติภาวะแล้ว ประสงค์ให้ญาติที่ถือหุ้นไว้โอนหุ้นมากลับมาให้ แต่ขณะนั้นมีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรในต้นปี 2559 เพื่อให้สอดคล้องกับการเก็บภาษีมรดก ซึ่งระบุให้

    การให้สินทรัพย์ ในระหว่างพ่อ แม่ ลูก ถือเป็นรายได้ของผู้รับ หากมีมูลค่าเกิน 20ล้านบาทส่วนที่เกิน20ล้านจะต้องเสียภาษีเงินได้ 5%
    แต่ หากเป็นพี่ น้อง ลุง ป้า หากมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 10ล้าน บาท จะต้องเสียภาษีเงินได้ 5%

    วิธีการหลีกเลี่ยงหลบภาษี หรือบริหารภาษี ให้จ่ายน้อยหรือไม่ต้องจ่าย คือทำนิติกรรมอำพรางโดยให้ดูเสมือนเป็นการซื้อขาย

    ผู้รับโอนจึงออกตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งก็คือทำสัญญากู้ยืม แต่ที่น่าสังเกตคือไม่มีดอกเบี้ยและไม่มีการกำหนดวันชำระเงิน
    จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด นางสาวแพทองธาร จึงออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (ที่ไม่กำหนดเวลาชำระเงินและไม่มีดอกเบี้ย) เพื่อให้ดูเป็นเรื่องการซื้อขายไม่ใช่การให้ จะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ให้กับรัฐจำนวนมากกว่า 200 ล้านบาท หรือไม่

    น.ส.แพทองธาร ชี้แจงว่า การโอนหุ้นดังกล่าวเป็นการซื้อขายจริงไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใดๆ ยอดหนี้ (ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน) ก็แสดงว่าชัดเจนในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. อยู่แล้ว
    “ เรื่องตั๋วพีเอ็นไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องที่ทำกันมาเป็นเรื่องปกติ.. การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะทำกับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ดำเนินการเปิดเผย ฝ่ายผู้ซื้อผู้ขายรับภาระหนี้สินระหว่างกัน ไม่มีการกระทำนอกกฎหมายใดๆ เพราะการกระทำนอกกฎหมายที่ไหนออกหลักฐานเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ระบุที่มาของเงินไม่ได้ ก็ไม่สามารถทำได้..”

    คำอธิบายของนายกรัฐมนตรีที่ว่า ได้แสดงชัดเจนในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช. แล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไร

    อีกทั้งคำอธิบายว่า ตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ (ใครใครเขาก็ทำกัน ) ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะขึ้นอยู่กับว่าเขาใช้ตั๋วสัญญาใช้เงินโดยสุจริตหรือไม่

    หลายสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม่ได้เพราะจะต้องมีมาตรฐานของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีมาตรฐานจริยธรรมสูงกว่าบุคคลทั่วไป ทั้งนี้เพราะจะต้องรับผิดชอบต่อสังคมและคนจำนวนมาก ใช่หรือไม่?

    ประชาชนส่วนหนึ่งตั้งคำถามว่าครอบครัวรักกันมาก ทำไมจึงใช้วิธีซื้อขายหุ้นระหว่างกันไปมา โดยเฉพาะในช่วงที่นางสาวแพทองธาร จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้โอนหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ จำนวน 22,410,000 หุ้น ไปให้ผู้เป็นแม่ ด้วยวิธีการซื้อขายโดยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) เพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์การซื้อขายแทนการให้ เช่นเดียวกันใช่หรือไม่

    ถ้าจะพิจารณาจากอดีต คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดี หมายเลขแดงที่ อม.1/2553 เรื่อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือคดียึดทรัพย์นายทักษิณ ชินวัตร 46,737 ล้านบาท เห็นว่า การออกตั๋วสัญญาใช้เงินชำระค่าหุ้นมีพิรุธ เป็นการอำพรางการโอนหุ้นชินคอร์ป เพราะสุดท้ายแล้ว หุ้นชินคอร์ป ที่นายทักษิณโอนให้กับบุคคลต่างๆ ดังกล่าวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของนายทักษิณ

    ยิ่งไปกว่านั้นข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพากรเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกสองปีโดยไม่รอลงอาญาในการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามมาตรา157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา กรณี ช่วยบุตรชายและบุตรสาว ของนายทักษิณ ชินวัตร หลบเลี่ยงภาษีกรณีหุ้นชินคอร์ปมาแล้ว

    หากกรมสรรพากรและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ ถูกต้องตามกฏหมายและเหมาะสมตามจริยธรรม ต่อไปการที่จะมีผู้โอนทรัพย์สินให้บุคคลในครอบครัว ก็ทำทีเป็นซื้อขายแล้วทำหนังสือสัญญาใช้เงิน ที่ไม่มีดอกเบี้ยและไม่ต้องระบุวันจ่ายเงิน (หนังสือสัญญาไม่ต้องจ่ายเงิน) ทำให้เกิดช่องโหว่ทางกฎหมายส่งผลให้ ภาษีมรดกที่กำหนดให้ผู้รับมรดกจะต้องจ่ายเป็นอันยกเลิกไปโดยปริยาย
    เท่ากับว่าฝ่ายบริหารโดยกรมสรรพากรได้ตีความให้กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติบังคับใช้ไม่ได้อีกต่อไป.
    27 มีนาคม 2568 - รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “นายกสืบสันดาน นิติกรรมอำพราง หลบภาษี?” โดยมีเนื้อหาดังนี้ ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ได้รับการโอนหุ้นจากแม่ พี่ชาย พี่สาว ลุง และป้า จำนวนรวมกันประมาณ 4,434 ล้านบาท ในปีพ.ศ. 2559 โดยได้ทำหนังสือสัญญาใช้เงิน (PN) ที่ไม่มีดอกเบี้ยและไม่กำหนดวันครบชำระเงิน เพื่อให้เป็นหลักฐานเสมือนการซื้อหุ้นโดยยังไม่จ่ายเงิน (เป็นหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย ไม่กำหนดวันชำระคืน) มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไม นางสาวแพทองธาร ในปี 2559 ขณะที่อายุเพียงประมาณ 30 ปีจึงอยากซื้อหุ้นจำนวนมากจากบุคคลในครอบครัวและผู้เกี่ยวดอง โดยที่ตนไม่มีเงินที่จะจ่าย แต่ไปออกหนังสือสัญญาใช้เงินเป็นการกู้ยืมเงินที่จะจ่ายค่าหุ้นจำนวน 4,434 ล้านบาท เรื่องนี้ต้องเข้าใจ พฤติกรรมของคนในตระกูลชินวัตร รู้ที่มาที่ไปของหุ้น จึงพอจะวิเคราะห์และตั้งเป็นสมมุติฐานได้ว่า ในปี 2544 เมื่อนายทักษิณจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ประสงค์จะไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินให้ครบถ้วนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในบางรายการ จึงได้โอนหุ้นจำนวนหนึ่งซุกไว้ในชื่อของ คนสวน คนรับใช้ คนขับรถ และคนเฝ้ายาม จนเกิดคดีซุกหุ้น ดังที่ปรากฎคดีกับนายทักษิณมาแล้ว เวลาต่อมา ได้โอนหุ้นจากชื่อของ “ลูกจ้าง”ในบ้านทั้งสามคน ไปให้กับ “ลูกจริง” ทั้ง 3คน แต่เนื่องจากลูกสาวคนเล็กคือแพทองธาร ขณะนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะยังไม่สามารถบริหารจัดการหุ้นในบริษัทต่างๆได้ จึงอาจจะโอนฝากไว้ที่ แม่ พี่ชาย พี่สาว ลุงและป้า ต่อมาในปี 2559 เมื่อแพทองธาร บรรลุนิติภาวะแล้ว ประสงค์ให้ญาติที่ถือหุ้นไว้โอนหุ้นมากลับมาให้ แต่ขณะนั้นมีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรในต้นปี 2559 เพื่อให้สอดคล้องกับการเก็บภาษีมรดก ซึ่งระบุให้ การให้สินทรัพย์ ในระหว่างพ่อ แม่ ลูก ถือเป็นรายได้ของผู้รับ หากมีมูลค่าเกิน 20ล้านบาทส่วนที่เกิน20ล้านจะต้องเสียภาษีเงินได้ 5% แต่ หากเป็นพี่ น้อง ลุง ป้า หากมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 10ล้าน บาท จะต้องเสียภาษีเงินได้ 5% วิธีการหลีกเลี่ยงหลบภาษี หรือบริหารภาษี ให้จ่ายน้อยหรือไม่ต้องจ่าย คือทำนิติกรรมอำพรางโดยให้ดูเสมือนเป็นการซื้อขาย ผู้รับโอนจึงออกตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งก็คือทำสัญญากู้ยืม แต่ที่น่าสังเกตคือไม่มีดอกเบี้ยและไม่มีการกำหนดวันชำระเงิน จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด นางสาวแพทองธาร จึงออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (ที่ไม่กำหนดเวลาชำระเงินและไม่มีดอกเบี้ย) เพื่อให้ดูเป็นเรื่องการซื้อขายไม่ใช่การให้ จะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ให้กับรัฐจำนวนมากกว่า 200 ล้านบาท หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ชี้แจงว่า การโอนหุ้นดังกล่าวเป็นการซื้อขายจริงไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใดๆ ยอดหนี้ (ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน) ก็แสดงว่าชัดเจนในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. อยู่แล้ว “ เรื่องตั๋วพีเอ็นไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องที่ทำกันมาเป็นเรื่องปกติ.. การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะทำกับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ดำเนินการเปิดเผย ฝ่ายผู้ซื้อผู้ขายรับภาระหนี้สินระหว่างกัน ไม่มีการกระทำนอกกฎหมายใดๆ เพราะการกระทำนอกกฎหมายที่ไหนออกหลักฐานเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ระบุที่มาของเงินไม่ได้ ก็ไม่สามารถทำได้..” คำอธิบายของนายกรัฐมนตรีที่ว่า ได้แสดงชัดเจนในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช. แล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไร อีกทั้งคำอธิบายว่า ตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ (ใครใครเขาก็ทำกัน ) ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะขึ้นอยู่กับว่าเขาใช้ตั๋วสัญญาใช้เงินโดยสุจริตหรือไม่ หลายสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม่ได้เพราะจะต้องมีมาตรฐานของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีมาตรฐานจริยธรรมสูงกว่าบุคคลทั่วไป ทั้งนี้เพราะจะต้องรับผิดชอบต่อสังคมและคนจำนวนมาก ใช่หรือไม่? ประชาชนส่วนหนึ่งตั้งคำถามว่าครอบครัวรักกันมาก ทำไมจึงใช้วิธีซื้อขายหุ้นระหว่างกันไปมา โดยเฉพาะในช่วงที่นางสาวแพทองธาร จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้โอนหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ จำนวน 22,410,000 หุ้น ไปให้ผู้เป็นแม่ ด้วยวิธีการซื้อขายโดยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) เพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์การซื้อขายแทนการให้ เช่นเดียวกันใช่หรือไม่ ถ้าจะพิจารณาจากอดีต คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดี หมายเลขแดงที่ อม.1/2553 เรื่อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือคดียึดทรัพย์นายทักษิณ ชินวัตร 46,737 ล้านบาท เห็นว่า การออกตั๋วสัญญาใช้เงินชำระค่าหุ้นมีพิรุธ เป็นการอำพรางการโอนหุ้นชินคอร์ป เพราะสุดท้ายแล้ว หุ้นชินคอร์ป ที่นายทักษิณโอนให้กับบุคคลต่างๆ ดังกล่าวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของนายทักษิณ ยิ่งไปกว่านั้นข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพากรเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกสองปีโดยไม่รอลงอาญาในการปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามมาตรา157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา กรณี ช่วยบุตรชายและบุตรสาว ของนายทักษิณ ชินวัตร หลบเลี่ยงภาษีกรณีหุ้นชินคอร์ปมาแล้ว หากกรมสรรพากรและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ ถูกต้องตามกฏหมายและเหมาะสมตามจริยธรรม ต่อไปการที่จะมีผู้โอนทรัพย์สินให้บุคคลในครอบครัว ก็ทำทีเป็นซื้อขายแล้วทำหนังสือสัญญาใช้เงิน ที่ไม่มีดอกเบี้ยและไม่ต้องระบุวันจ่ายเงิน (หนังสือสัญญาไม่ต้องจ่ายเงิน) ทำให้เกิดช่องโหว่ทางกฎหมายส่งผลให้ ภาษีมรดกที่กำหนดให้ผู้รับมรดกจะต้องจ่ายเป็นอันยกเลิกไปโดยปริยาย เท่ากับว่าฝ่ายบริหารโดยกรมสรรพากรได้ตีความให้กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติบังคับใช้ไม่ได้อีกต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 926 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่นกลซ่อนเงื่อนเลี่ยงภาษี เชื้อไม่ทิ้งแถวของตระกูลชินวัตร

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000029251
    เล่นกลซ่อนเงื่อนเลี่ยงภาษี เชื้อไม่ทิ้งแถวของตระกูลชินวัตร บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000029251
    MGRONLINE.COM
    เล่นกลซ่อนเงื่อนเลี่ยงภาษี เชื้อไม่ทิ้งแถวของตระกูลชินวัตร
    ผมนั่งดูอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลบ้างไม่ได้ดูบ้าง ต้องชมว่าฝ่ายค้านส่วนใหญ่ทำหน้าที่ได้ดี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘รังสิมันต์’ โหมโรง ‘ดีลแลกประเทศ ตระกูลชินวัตรได้อะไร’ ชวนร่วมหาคำตอบในศึกซักฟอก
    https://www.thai-tai.tv/news/17779/
    ‘รังสิมันต์’ โหมโรง ‘ดีลแลกประเทศ ตระกูลชินวัตรได้อะไร’ ชวนร่วมหาคำตอบในศึกซักฟอก https://www.thai-tai.tv/news/17779/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เฉลิม” ปัดข่าวร่วมซักฟอก “อุ๊งอิ๊ง” ชี้ ไม่อยากให้ สส.เพื่อไทย อึดอัดใจ แม้มีปัญหากับนายใหญ่ แปลกใจกระแสข่าว แต่ยันไปสภาแน่

    วันนี้ (23 มี.ค.) หลังมีกระแสข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ล่าสุด มีรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และรู้สึกแปลกใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะในขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เอง ยังอยู่พรรคเพื่อไทย จะไปร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างไร คงไม่เหมาะสม

    ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิด ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ทาง ร.ต.อ.เฉลิม จะไปร่วมประชุมสภาตามปกติในวันที่ 24 และ 25 มีนาคม นี้ แต่จะไม่ร่วมอภิปราย แม้จะมีความขัดแย้งกับตระกูลชินวัตร แต่เมื่อยังอยู่พรรคเพื่อไทย ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย เพราะถ้าจะไปร่วมอภิปราย อาจจะทำให้เกิดการประท้วง และทำให้ สส.พรรคเพื่อไทย อึดอัดใจได้ เนื่องจากหลายคนยังให้ความเคารพ นับถือกันอยู่

    #MGROnline #เฉลิมอยู่บำรุง #พรรคเพื่อไทย
    “เฉลิม” ปัดข่าวร่วมซักฟอก “อุ๊งอิ๊ง” ชี้ ไม่อยากให้ สส.เพื่อไทย อึดอัดใจ แม้มีปัญหากับนายใหญ่ แปลกใจกระแสข่าว แต่ยันไปสภาแน่ • วันนี้ (23 มี.ค.) หลังมีกระแสข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ล่าสุด มีรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และรู้สึกแปลกใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะในขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เอง ยังอยู่พรรคเพื่อไทย จะไปร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างไร คงไม่เหมาะสม • ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิด ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ทาง ร.ต.อ.เฉลิม จะไปร่วมประชุมสภาตามปกติในวันที่ 24 และ 25 มีนาคม นี้ แต่จะไม่ร่วมอภิปราย แม้จะมีความขัดแย้งกับตระกูลชินวัตร แต่เมื่อยังอยู่พรรคเพื่อไทย ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย เพราะถ้าจะไปร่วมอภิปราย อาจจะทำให้เกิดการประท้วง และทำให้ สส.พรรคเพื่อไทย อึดอัดใจได้ เนื่องจากหลายคนยังให้ความเคารพ นับถือกันอยู่ • #MGROnline #เฉลิมอยู่บำรุง #พรรคเพื่อไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯถามหายาชูกำลัง รับวันซักฟอกอยู่ลากไม่ถึงตีห้าครึ่ง ซัดกลับเสียงแข็ง “ตระกูลชินวัตรได้อะไร” จากดีลแลกประเทศ ลั่นอย่าใช้แต่อารมณ์ อะไรก็ “ทักษิณ” ไม่มีใครเอาประเทศไปแลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000026763
    นายกฯถามหายาชูกำลัง รับวันซักฟอกอยู่ลากไม่ถึงตีห้าครึ่ง ซัดกลับเสียงแข็ง “ตระกูลชินวัตรได้อะไร” จากดีลแลกประเทศ ลั่นอย่าใช้แต่อารมณ์ อะไรก็ “ทักษิณ” ไม่มีใครเอาประเทศไปแลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000026763
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1057 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts