มุกเดิมฮุนเซน งัดคลิปแบล็คเมล์
การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น
นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้"
จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น
#Newskit
การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น
นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้"
จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น
#Newskit
มุกเดิมฮุนเซน งัดคลิปแบล็คเมล์
การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้กัมพูชาใช้วิธีตีสองหน้า ลอบโจมตีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แล้วอ้างต่อประชาคมโลกว่าไม่ได้ทำ ปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและปฎิญญาสันติภาพ แบบเดียวกับเวลาทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 สภาพใหม่เอี่ยม กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเก่า งานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีท่าทีแข็งกร้าว เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนมีมติปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น
นายอนุทินยืนยันว่าไม่เจรจากับกัมพูชาอีกแล้ว จากนี้ไปถ้ากัมพูชาจะหยุดสู้รบกันก็ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยกำหนด รวมถึงถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งลงนามที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่มีแล้ว ไม่คุย และไม่แจ้งนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทยและคู่กรณี และไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ แต่อีกด้านหนึ่ง นายอนุทินยังคงไม่ยกเลิก MOU43 และ MOU44 แต่อย่างใด ทั้งที่ผ่านมากัมพูชามองว่าเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ และมีพฤติกรรมรุกล้ำดินแดนไทยอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจก็คือ มุกเดิมๆ ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ เอาคลิปที่นายอนุทินไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา โดยไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่อย่างแน่ชัด โดยระบุข้อความว่า "ผมไม่คิดเลยว่านายกรัฐมนตรีอนุทินของไทย จะกล้าเอาชีวิตของทหารและประชาชนไปประกาศสงครามกับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อกองทัพกัมพูชาไม่ตอบโต้ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นเพื่อน แต่เมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านกลับลืมมิตรภาพ ผมเข้าใจความรักชาติ แต่เราไม่ควรประกาศสงครามกับผู้ที่ไม่ตอบโต้"
จุดอ่อนของนายฮุน เซน คือไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหยาม เขาประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สนทนาทางโทรศัพท์ ด้วยวลีที่ว่า "แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนละพวกกับเรา" และ "อังเคิลอยากได้อะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดให้" ทำคนไทยทั้งประเทศโกรธและตราหน้าว่า "ขายชาติ" นำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สำหรับนายอนุทิน ขณะนี้ยังไม่พบว่าเคยมีผลประโยชน์อะไรกับกัมพูชา เมื่อเทียบกับตระกูลชินวัตร วิธีการแบล็คเมล์เดิมๆ ของนายฮุน เซน กลายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย และอาจทำให้มิตรประเทศต่างๆ ไม่น่าไว้วางใจยิ่งขึ้น
#Newskit
1 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
45 มุมมอง
0 รีวิว